>>>/lifestyle/1579/ โม่งปรึกษาปัญหา&นินทาญาติพี่น้อง
>>>/lifestyle/3178/ โม่งปรึกษาปัญหา&นินทาญาติพี่น้อง ||
Last posted
Total of 1000 posts
>>>/lifestyle/1579/ โม่งปรึกษาปัญหา&นินทาญาติพี่น้อง
>>>/lifestyle/3178/ โม่งปรึกษาปัญหา&นินทาญาติพี่น้อง ||
กูรู้สึกว่า แม่กูเห็นหัวญาติมากกว่ากูว่ะ เฮ้อ เหนื่อย กูควรทำไงดี
กูไม่ชอบป้ากูเลยว่ะ คือกูไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ กูอยู่กะบป้าตั้งแต่เด็ก ป้ากูเป็นคนที่คิดร้าย คิดในแง่ลบมาก ใครเข้าหาก็หาว่าเขาหวังผลประโยชน์งั้นงี้ แต่เรื่องนั้นกูเบื่อจนเลิกสนใจไปละ แต่ที่ทำให้ไม่ชอบสุดๆ รำคาญมากๆคือ คิดแต่ว่าความคิดตัวเองถูกต้อง ตอแหลขี้แถไม่สิ้นสุด
เรื่องแรก กูมีบ้านที่แม่กูให้ไว้ 3 หลัง ตอนนี้กูอายุก็ 22 ละ เรียนจบกูก็จะกลับไปอยู่บ้านตัวเอง แต่บ้านมั้งสามมีคนเช่าอยู่ทุกหลัง กูเลยตั้งใจว่าจะรอให้บ้านหลังนึงที่เป็นนักศึกษาเช่าออกก่อนค่อยกลับไปอยู่ เพราะเขาก็ใกล้จะจบแล้ว ทีนี้ ป้ากูรู้ว่ากูอยากกลับไปอยู่บ้าน ก็ไปไล่เขาออก ไปหาว่าเขาดูแลบ้านไม่ดี ไปพูดจาไม่ดีกับเขา แล้วจบประโยคด้วย "หลานฉันจะกลับมาอยู่แล้ว ออกๆไปเลย" อีห่า กูเสียสิ ละไปไล่เขาออกกูก็แบบ เออ ฝั่งเราผิดสัญญาไง กูก็เลยไม่คิดค่าเช่าเดือนสุดท้าย ไม่เก็บไม่อะไร ค่าน้ำไฟก็เดี๋ยวจ่ายเอง เงินมัดจำก็คืนหมด เพราะ"ฝ่ายกูผิดสัญญา" ผ่านไปเดือนนึง พอป้ากูรู้ว่ากูคืนเงินมัดจำ ไม่เก็บค่าเช่าเดือนสุดท้ายก็ได้ด่าเขางห้องเรียน ที่มหาลัย ไปแจ้งมหาลัยงั้นงี้ ว่าเด็กมันหนีหนี้ ไปทำเขาขายหน้า เด็กมันก็อายจนเหมือนจำใจยอมจ่ายค่าเช่ากับคืนเงินมัดจำมา ละป้ากูก็ไม่เล่าเรื่องนี้ให้กูฟังด้วยนะ จนแม่เด็กโทรมาด่ากูที่ไม่รู้เรื่องห่าเหวอะไรเลยย
เรื่องสอง คนเช่าบ้านอีกแหละ มีหลังนึงที่บ้านจะใกล้บ้านป้ากู ละตอนนั้นกูต้องอยู่ตจวหลายเดือนเลย กูเลยวานให้ป้าไปดูว่า คนเช่าที่จะย้ายเข้าเขาทำอะไรกับโต๊ะเครื่องแป้งของแม่กูไหม กูแค่กลัวเขาเอาออก กูเลยบอกให้ป้าไปดู ย้ำว่า ดูเฉยๆ ว่าของอยู่ไหม สรุป ป้ากูไปขนกลับมา ขนตู้เสื้อผ้า เตียง ตู้เย็น ทีวี ตู้กับข้าว เตาแก๊ส พูดง่ายๆ เฟอร์นิเจอร์ในบ้านป้ากูขนกลับมา จนคนเช่าโทรมาถามกูว่า "ไหนตกลงว่าจะมีเฟอร์นิเจอร์ให้ ทำไมต้องมาขนไปด้วย" กูก็โทรไปหาป้ากู ป้ากูบอก "มันบอกให้เอาไปเลย ไม่ได้ใช้ เอาออกไปให้หมดเลย เพราะมันมีของมันเอง" แบบเนี้ยะะะ เอ้า ละกูต้องเชื่อใคร ป้ากูอาจไปวีนมา แล้วคนเช่าอาจจะพูดจริงแต่ในเชิงประชดประชันหลังป้ากูวีนใส่เขา แต่กูไม่ได้บอกให้เอากละบมา กลายเป็นกูเสียอีก ต้องลดค่าเช่าให้เขาเพราะไม่มีเฟอร์นิเจอร์ให้
เรื่องสาม เรื่องเพื่อน กูคบเพื่อนป้ากูก็มองเพื่อนกูเลววววววววววววทุ้กกกกคน "มันเกาะเรากินน่ะสิ" "มันหวังให้เราเลี้ยงข้าวน่ะสิ(กูไม่เคยเลี้ยงข้าวใคร)" "พามันเข้าออกบ้านบ่อยไง ของเลยหาย(บ้านกูของไม่เคยหาย)" "คบไปทำไมเพื่อนแบบนี้ จะหาเพื่อนทำไมไม่หาเพื่อนที่ดีๆมีเงินเยอะๆมีลู่ทางทำมาหากิน(หาเพื่อนหรือหาผัว)" "คบเพื่อนระวังมันหลอกไปขายตัว" "คบเพื่อนหัดศึกษาครอบครัวเยาด้วย ถ้าจนอย่าไปคบ" บลาๆๆๆๆ อีกเยอะ กูล่ะเพลีย
เรื่องสี่ เรื่องแฟน อีหรอบเดียวกับเพื่อน กลัวเขามาเกาะกู กลัววววววไปหมด แล้วก็บอกว่ามีแฟนไม่ดีอย่างงั้นอย่างงี้ เหมือนๆที่บอกว่าเพื่อนไม่ดีนั่นแหละ
เรื่องห้า เรื่องกินข้าว คือกูจัดฟัน แล้วฟันกูซี่เล็กมากกกกกก ขนาดแปรงที่เป็นซี่ๆที่หมอให้แปรงตามซอกเหล็กยังแปรงไม่สะอาดเลยยยยยยย เอาเศษอาหานออกมายังลำบาก กูเลยไม่ค่อยกินข้าวสวย เพราะเวลาติดฟันเอาออกยาก กูเลยชอบกันข้าวต้มกับปลาบ้าง กุ้งบ้าง ไข่บ้าง กูก็โดนป้าด่า บอกให้กินข้าวสวย กินข้าวเยอะๆ แล้วชอบบังคับให้กูกินข้าว แล้วเวลาตักให้กูที 3 ทัพพีพูนๆ พอกูบอกว่าเยอะไปบ้าง ไม่อยากกินข้าวสวยบ้าง ป้าก็จะพูด "ไม่กินข้าวน่ะเลยโง่ กินแต่กับน่ะถึงได้โง่ กินข้าวเยอะๆสิจะได้ฉลาด" คือ ตรรกะไหนของป้ากูวะเนี่ยยยย แล้วเวลาป้ากูกินนะ ไม่ถึง5นาทีหมด เหมือนยัดเข้าปากแล้วกลืนเลย กูกินกูก็เคี้ยวไง ยิ่งจัดฟันอีก โอ้ยยยยยยยย กูยิ่งช้าไปอี้กกกกก ป้ากูก็ด่ากูอีก "แดกช้าไงเลยโง่ อาหารมันเย็นหมดแล้ว กินแต่อาหารเย็นๆชืดๆมันเลยไม่มีสมอง" อะไรแบบเนี้ยะอะ
กูไม่แปลกใจเลย ที่ป้าไม่มีลูกไม่มีผัว
ละพอกูจะพูดจะอธิบายอะไร ก็ไม่ฟัง หาว่ากูมั่วบ้าง โง่บ้าง ไปเรียนรู้อะไรผิดๆมาบ้าง ขนาดกูป่วย เป็นกล้ามเนื้อที่หลังกับขาฉีก ป้ากูยังบอกเลย "ไปค
ดว่ามันเป็นมันก็เป็น ถ้าคิดว่าไม่เป็นอะไรก็จะไม่เป็น" คือ มึง ...กูโดนรถชนมา จะต้องคิดว่าไม่เป็นไรอีกเหรอ พอกูบอกว่ากูโดนรถชนมา ป้ากูก็บอก "ป้าก็เคยโดนรถช้า ยังไม่เจ็บเลย วันต่อมาก็ทำงานได้ตามปกติ" โอ้ยอีห่า มนุษย์ป้าหรือเทอร์มิเนเตอร์วะ
กูพูดอะไรแกก็ไม่ฟัง ครั้นจะทิ้งแกไปก็ลำบากใจเพราะแกเลี้ยงกูมาตั้งแต่เด็ก ทุกวันนี้ได้แต่คิดว่าอยากให้แกตายเร็ว อีห่า บาปชิบหาย
โอ้ย เหนื่อย
ป้ามึงเค้าระแวงว่ามึงจะทิ้งเค้าปะวะ แล้วรายได้เค้ามาจากไหนหรือว่าเกาะพ่อแม่มึงเหมือนกัน
พักหลังกูทะเลาะกับแม่บ่อยขึ้น ทะเลาะกันแทบจะทุกวัน เพราะกูกำลังจะย้ายไปอยู่หอ ละทีนี้แม่กูก็เลยมาเจ้ากี้เจ้าการใหญ่ นั่นนี่นู่นของต้องเตรียม ซึ่งแค่นั้นกูก็ไม่ว่าอะไร ประเด็นคือกูจองหอได้ชั้นสี่ แม่กูก็ไม่พอใจ จะไปหาผปค.หอ ไปทำเรื่องให้กูย้ายลงมาชั้นต่ำกว่าให้ได้ ซึ่งกูก็บอกไปแล้วว่ามันยุ่งยาก เหตุผลมันไม่เพียงพอ เสือกมาด่าว่ากูไม่เชื่อฟัง ถ้าแม่จะไปหาก็ต้องเดินขึ้นชั้นสี่อีกไรงี้ ซึ่งหอกูเขาไม่ให้ใครขึ้นอยู่แล้วเว้ย แม้กระทั่งผปค.ก็ห้ามขึ้น แต่แม่กูก็ไม่ฟัง เอาตัวเองเป็นหลัก อยากได้ไรต้องได้ ถ้าลูกทำไม่ได้หรือแย้งก็จะด่าว่าไม่เชื่อฟัง โคตรหงุดหงิดเลยห่า
กูทนไม่ไหวกับพ่อตัวเองแล้วว่ะ เขาเริ่มแก่แล้ว(60กว่า) แล้วแม่งชอบหาเรื่องมาทะเลาะกับคนในบ้านตลอด เรื่องเล็กๆก็เอามาทะเลาะหมด ไม่ได้ขึ้นเสียงนะแต่แม่งเอาแต่ใจ แบบกูต้องได้สิ่งที่กูต้องการ กูคิดว่าตัวเองถูกตลอดอะ แล้วแม่งก็พูดประชด โยงไปนู่นนี่ มันทำให้กูปรี๊ดมาก วันนี้ก็ทะเลาะกันแล้วกูก็เดินหนีออกมาแม่ง กูเหนื่อย กูคิดจะฆ่าตัวตายหรือหนีไปไกลๆซะเดี๋ยวนั้น แต่กูก็ทำไม่ได้กูรู้ว่าถ้ากูตายหรือกูหายไปแม่กูต้องเสียใจแน่ๆ กูเลยพักสงบสติชม.นึงละกลับไป สิ่งที่เจอคือแม่กูออกไปตามหากู ส่วนเขาก็อยู่เฉยๆทำนู่นนี่ไป ตอนนั้นกูเศร้ามาก ถ้ากูตายไปแม่กูคงเสียใจ กูรักแม่ แต่กูไม่อยากอยู่กับเขาแล้ว ถึงจะทะเลาะกันเรื่องเล็กๆแต่มันหลายครั้งมากตั้งแต่กูยังเด็ก เมื่อก่อนกูก็สนิทกับเขานะแต่ตอนนี้กูรู้สึกว่าเขาเป็นคนที่กูไม่อยากยุ่งด้วยไปแล้ว ไม่อยากพูด ไม่อยากมีส่วนเกี่ยวข้องอะไรทั้งนั้นในชีวิต กูอยากตัดเขาออกไปจากชีวิต แม้แต่นามสกุลก็ไม่อยากใช้ กูไม่อยากคุยกับเขาอีกแล้ว แต่บ้านที่กูอยู่ก็บ้านเขา ถ้ากูตัดเขา เขาก็คงบอกว่าให้ออกไปจากบ้านเพราะนี่บ้านเขาแน่ๆ ตอนทะเลาะกับแม่เขายังเคยไล่แม่เลย กูควรทำไงดีวะ ถ้าไม่มีแม่กูคงฆ่าตัวตายไปตั้งแต่ 11ขวบ มึงคิดดูละกันว่าพ่อแบบไหนที่ทำให้เด็กอายุ11คิดฆ่าตัวตายได้จนถึงทุกวันนี้ กูเหนื่อยจัง นอกจากแม่พี่ๆกูก็คงเศร้า กูรักพวกเขานะ แต่กูเหนื่อยเหลือเกิน
ทำไงดีกับยายกูว่ะ ยายกูอายุ75 คือยายกูก็ไม่ได้ป่วยติดเตียงอะไรขนาดนั้นนะ พูดรู้เรื่อง แต่ก็ป่วยตามภาษาคนแก่แหละ แต่ที่กูเครียดคือ แกบ่นว่าอยากตายวันละร้อยรอบเห็นจะได้ แล้วแบบ พอใจแกไม่สู้ร่างกายแกก็ทรุดอ่ะ เรื่องซึมเศร้า กูว่าไม่น่าเป็นว่ะ ถึงเป็นแม่กูก็ไม่ยอมให้ไปหาหมอหรอก นี้ขนาดแม่กูเป็นพยาบาลนะ กูก็เคยไปหาจิตแพทย์อยู่ พอแม่กูรู้ ก็น้อยใจ ทำไมปรึกษาแม่ไม่ได้ ทำไมต้องปรึกษาคนอื่น กูล่ะไม่รุ้จะทำยังไง
>>19 ขีดเส้นใต้ พันรอบ ใต้คำว่า “แม่กูเป็นพยาบาล” แม่กูคัดกรอง คนเป็นซึมเศร้า หรือไม่เป็น ได้อยู่แล้ว แต่ปัญหาคือยายกูไม่ได้เป็นซึมเศร้าไง ชัดมากด้วย คือ แกไม่ได้อยากตายๆจริงๆอ่ะ ถ้าตอนแกดีๆ พูดกับกูว่าจะไปงานรับปริญญากู อยากดูหน้าว่าที่ผัวกู (หนูก็อยากเห็นค่ะยาย) ชีวิตประจำวันก็ปกติดีตามภาษาคนแก่ ตอนแกป่วยก็ไม่พูดว่าอยากตายอย่างเดียว แต่พูดแบบ ใจนึงก็อยากจะอยู่ดูกูรับปริญญา มีผัว แต่ใจนึงก็ไม่อยากอยู่ แก่แล้ว อยู่มานานพอแล้ว แต่เพราะความครึ่งๆกลาง ใจนึงก็อยากอยู่ ใจนึงก็อยากตาย มันทำให้แกป่วยแล้ว แกทรุดว่ะ
มีบ้านไหนแบบหัวโบราณมาก แบบกลัวหลานสาวไม่ได้แต่งงานมั่งมะ กูโคตรหนักใจ จนตอนนี้ไม่โผล่หน้าไปหาย่าที่เลี้ยงกูมาเลย วันๆถามถึงแต่เรื่องรักๆใคร่ๆ มีคนมาจีบไหม กูสนิทกะเพื่อนก็คิดว่า เป็นแฟน ไม่เว้นกระทั่งเพื่อนผู้หญิง โคตรเครียด แต่ไม่รู้จะทำยังไง
>>21 พูดรู้เรื่อง เข้าห้องน้ำเองได้ ทำงานบ้านเล็กๆน้อยๆได้ อุ่นกับข้าวให้ตัวเองกินได้ กูว่าแข็งแรงอยู่นะ สำหรับคนอายุ75 ปัญหาก็ตามที่กูบอก แกมองโลกในแง่ร้าย จนแกทรุดเอง แล้วก็ทำให้กูดาวน์ตามแกแล้วเนี่ย แบบแกชอบพูดว่า ไม่รู้จะอยู่ไปทำไม ไม่ได้ทำอะไรให้ อ่าว กระทบกูอีก กูเนี่ยปิดเทอม เป็นนีท วันๆไม่ได้ทำอะไรของแท้555TT555
คือกูเพิ่งจบใหม่ยังไม่ถึงครึ่งเดือนใบเกรดยังไม่ออกด้วยซ้ำ กลับมาอยู่บ้านกลางคืนน่ะก็นอนอยู่ในห้องของกู เปิดแอร์แบบที่กูโอเค 25 องศาธรรมดาๆ แล้วแม่กูเป็นจะต้องเป็นเดือดเป็นร้อนบ่นๆๆๆๆๆๆให้กูปิดแอร์ตอนนั้นตอนนี้ ตอนเช้าๆที่เช้าแบบชิบหายสำหรับกูคือ6โมงก็เดินมาบ่นเสียงดังให้กูตื่นแล้วปิดแอร์กู งงและโกรธมากๆ
>>22 ของกุเปนแบบพ่อกับแม่เหมือนไม่อยากให้กุมีผชสักคนเลยอ่ะ แบบอยุ่หอต้องหอญล้วน เพื่อนผชก็เหมือนไม่ให้กุมีตอนนั้นกุไปอ่านนสกับเพื่อนมีทั้งผชและผญคือสังคมมหาลัยมันต้องเจอหมดปะวะเพื่อนผชกุก้ต้องมีบ้างป แล้วพวกนางก้บ่นกุอ่านนสทำไมต้องมีผช เอ้าเพื่อนกุปะงงชหตอนนั้นแล้วแม่งบอกจะโทรหาเปิดวิดีโอคอลด้วยเหมือนอยากเห็นอ่ะว่าพวกกุทำไรมีใครบ้าง(แต่ไม่ได้โทร) พวกนางชอบห้ามนุ้นห้ามนี่กุแบบอยากไปเที่ยวกับเพื่อนนอยากไปเที่ยงกันเองพวกนางก็ไม่ให้ขนาดกุโตแล้ว กลับบ้านต้องกลับก่อน6โมงบางทีกุอยากเที่ยวเย็นๆดึกๆกับเพื่อนบ้าง แบบเจเจกรีนมันเปิดดึกกุก้อยากไป พอกุชวนพ่อกับแม่เดินแล้วก้เดินแปปเดียวบ่นอยากกลับกันแล้วยังเดินไม่ทั่วไม่ถึงชมด้วยซ้ำ กุถึงอยากไปเที่ยวกัยเพื่อนมากกว่าแล้วนางก็จะแซะแบบทีพ่อกับแม่ชวนทำไมไม่ไป ไปแล้วก็เป็นกันแบบนี้ไง เบื่อสึสสสสส
>>27
พ่อแม่มึงนี่โคตรน่ารำคาญเลย ช่วงprime ของร่างกายผู้หญิงคือ16-20นิดๆนะหลังจากนั้น ทำงานหนักมึงก็โทรมแล้ว บอกเลยอย่าปล่อยซิงถึง 30
เคยมีคนเก็บซิงจนถึง30 แต่งกะผัวอายุ40 สุดท้ายไม่กี่ปีผัวหมดสมรรถภาพ อยากเลิก มาบ่นในพันทิปสุดท้ายคนดีพันทิปรุมด่าจนต้องลบข้อความทิ้งหมด หีแห้งเลยดิ
กูสุดจะทนกับพ่อกูละ ติดเหล้าหนักมาก คือตัวเองก็ป่วยหมอก็ห้ามกิน ก็ยังจะกินอีก ทุกคนเตือนจนปากเปียกปากแฉะก็ไม่ฟัง แถมยังด่าซ้ำ คือพ่อเเม่งเป็นพวกหัวแข็ง ไม่รับฟังใครทั้งนั้นอ่ะ คุยเรื่องนี้ทีไรก็ทะเลาะกันทุกที แล้วคือกูเป็นลูก พอกูเถียงแม่งก็มาด่ากู เคยพูดว่าถ้ากินจนเข้ารพ.ป่วยเป็นโรคก็ปล่อยให้เค้าตายไปเลย ไม่ต้องมารักษา คือแม่งก็พูดได้ปะวะ แต่พอเอาจริงๆก็ต้องรักษาอยู่ดี กูเบื่อ เบื่อๆๆๆๆ สงสารแม่ด้วยที่ต้องมาทนอะไรแบบนี่ กูไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้เพื่อนฟังมาก่อนเลยว่ะ ทุกคนชอบคิดว่าครอบครัวกูแฮปปี้รักกัน แต่จริงๆไม่ใช่ ได้แต่มาบ่นในโม่งนี่แหละ
กูโครตเบื่อพวกคนชวนไปเที่ยว พอเอาจริง คิดทริป ห่าเหวอะไรเสร็จแม่งก็ไม่ไปกันจริงๆ
ปีก่อนกูเป็นคนชวน ก็บอกอยากไปๆๆ จนแม่งจะหมดฤดูเที่ยว กูยังต้องมาตามถามตกลงจะไปไหม ตอบมา ไป ไม่ไป อย่าเงียบ แล้วแม่งก็ไม่ไป(ตามคาดอยู่แล้ว)
มาปีนี้ แม่งมาชวนกู(เพราะกูคงไม่ชวนมันแล้วในชีวิตนี้) บอกอยากไปเที่ยว พูดดิบดี พอกูถามแล้วตกลงว่างกันเมื่อไหร่ ก็ยังบอกกูไม่ได้อีก จนกูต้องจี้ถาม สุดท้ายได้วัน คิดแพลน วางแผนเรียบร้อย แม่งก็อ้ำอึ้งอีก คือรอบนี้กูไม่ถามไรต่อละ กูจองของกูเองไปแล้ว(ที่อื่น) เรื่องของพวกมึงเลยแล้วกัน รอบหน้าถามกู กูจะทำแบบพวกมึงมั่ง
ญาติกับแฟนมันหน่ะนะ แฟนมันอยากเที่ยวมาให้กูคิดแพลนแล้วแม่งก็ไม่ไปกัน
ช่วงนี้กูรำคาญพ่อมากเลย คือครอบครัวหย่ากันตั้งแต่กู 10 ขวบ ตอนนี้ 25 ละ กูอยู่กับพ่อ พ่อเป็นคนตั้งใจทำงาน กลับบ้านตรงเวลา ไม่เที่ยว ไม่ดื่ม ไม่สูบ ให้เวลากับลูกดีมาก ไม่มีเรื่องชู้สาว จนมาปีนี้มีเด็กใหม่เข้า บ. พ่อมา แก่กว่ากูไม่กี่ปี เพิ่งหย่าผัวลูกติดคนนึง สไตล์เปรี้ยวเข็ดฟันมาก ทำกับข้าวมาให้พ่อกูกินทุกวัน ไลน์มาหา ส่งคลิปทำกับข้าว ส่งรูปแต่งตัวโป๊ๆ ให้ เทคแคร์ทุกอย่าง ทีแรกก็ก็ไม่ได้สนใจ จนแม่งมาขอเงินพ่อกูใช้ ขอนะ ไม่ได้ยืม ดอกแรกบอกแม่ป่วย ได้ไป 2 หมื่น อีก 3 วันมาขอค่าเทอมลูกอีก 5 หมื่น วีคต่อมารถพัง จัดไปอีก 3 หมื่น และเงินแค่นี้ไม่ระคายพ่อกูไง เหมือนช่วยเหลือลูกน้องทั่วๆ ไป แต่แบบ มึง เงินเดือนก็ไม่ได้น้อย มาขอพ่อกูไม่มีศักดิ์ศรีเลย แล้วพ่อกูก็นะ หลังๆ หลงหัวปักหัวปำ กลายเป็นเหมือนเลี้ยง ผญ. นั่นกับลูกเพิ่ม ได้วีคละ 2-3 หมื่น
มันจะไม่มีอะไรเลย ถ้าอากูไม่ได้ไปช่วยพ่อปรับปรุงบ้านอีกหลัง แล้วโดนลูกหลงบาดเจ็บที่ขา แต่พ่อกูเลือกที่จะไปหานังนั่นที่โทรมาบอกให้พ่อไปช่วยมันเพราะรถชน แล้วทิ้งให้อากับลูกสาวที่ไม่มีใครขับรถเป็น และบ้านอยู่นอกเมืองเดินทางลำบากมาก พออาขอให้ไปส่ง พ่อแกว่าให้เรียก taxi ไปเอาแล้วออกไปเลย กูแบบ เชี่ยยย เกิดอะไรขึ้นกับพ่อกู!?! มาล่าสุด กูไปหัดขับรถ มีรถของตัวเอง จากน้ำแรงตัวเอง จอดทิ้งไว้ที่บ้าน 2-3 วัน กลับมารถหาย พ่อกูเอาไปให้ ผญ. ใช้โว้ยยย ไม่ถามสุขภาพกูสักคำ แล้วมันมีหลายเรื่องเกิดขึ้นที่ทำให้กูปรี๊ด จนกูด่าออกไปเลยอะ ด่าพ่อนี่ล่ะ ไม่รู้เป็นบ้าบออะไร แก่ตัณหากลับรึไงไม่รู้ โคตรน่ารำคาญ
ที่สยองคือ พ่อไม่สะเทือนกับที่กูด่าไป นึกว่ากูแซ็วขำๆ ทั้งที่ย่า อา น้องบอกกูพูดแรวเกินไป กูไม่กลับแล้ว แม่งเอ๊ย ทุกวันกลับบ้านมาก็พล่ามเรื่องความอร่อยขออาหารที่สาวทำ และจำนวนเงินที่ให้ไปไม่หยุดหย่อน กูบอกไม่ได้อยากรู้ ก็ยังจะชอบเล่า คนในบ้านหนีขึ้นบ้านหมด ยังจะตามขึ้นไปเมาท์ถึงห้อง กูหนีไปอยู่หอ วันดีคืนดี 3-4 ทุ่มก็โทรมาคุยจนกูแม่วต้องเปิดโหมดเครื่องบินทั้งคืนแทน รำคาญสัสๆ
ทำไมบ้านจนแล้วต้องให้กูเกิดมาด้วยวะ มีลูกตั้งสองคนอีเหี้ย คืออยากให้มีคนมาเลี้ยงตัวเองตอนแก่หรอ เลยต้องให้กูมาลำบากตรากตรำด้วย แล้วมาทวงบุญคุณตอนแก่เงี้ยหรอ มันไม่เห็นแก่ตัวไปหน่อยหรอวะ ถ้ากูมีผัวแล้วยังไม่มีเงินในบัญชีหลักแปดกูก็ไม่มีลูกว่า เห็นใจเด็กชิบหาย เป็นแค่อสุจิไม่มีทางเลือก ต้องมาเป็นเครื่องมือให้ผู้ใหญ่ ควัยๆๆ
>>35 คนมีเงินแปดหลักในไทยมีกี่คนกันวะ แม่งก็จนกันทั้งประเทศนั่นแหละ ส่วนที่ไห้มึงเกิดมาเพื่อไห้เลี้ยงตอนแก่บอกเลยไม่มีทาง เพราะมันไม่คุ้ม พ่อแม่ส่งลูกเรียน ไห้ข้าวกิน 18 ปีอย่างต่ำ แต่ลูกเลี้ยงพ่อแม่หลังเกษียณ ราวๆ 10 ปีเท่านั้นก็ไปแล้ว แถมคนเลี้ยงพ่อแม่ปัจจุบันมีนิดเดียวเท่านั้น บอร์ดโม่งมีใครเลี้ยงพ่อแม่บ้าง
ขอระบายหน่อย คือกูเป็นโม่งหญิงที่มีน้องชายคนนึง กูกับน้องสนิทกันมากชนิดที่กูกับมันคุยกันได้ในทุกเรื่องที่ไม่รู้จะคุยกับใคร แล้วทีนี้กูใกล้จะเรียนจบแล้ว แม่กับป้ากูก็คุยกันว่าเออถ้ากูทำงานต่างประเทศไรงี้ก็ทันส่งเสียน้องพอดี ทีนี้เรื่องมันอยู่ที่ป้ากูพูดขึ้นมาว่าฝันเถอะถ้ากูมีผัวกูก็ทิ้งน้องแล้วไม่สนใจมันหรอก คือเขาพูดเล่นไง แล้วกูก็รู้สึกผิดที่กูโกรธ แต่มันเป็นเรื่องsensitiveสำหรับกูอะ ทีนี้พอกูบอกว่าไม่ชอบที่พูดงี้ป้าก็มาโกรธแล้วพูดใส่กูว่าแค่เรื่องเล่นยังรับไม่ได้ก็ไม่ต้องคุยกันแล้ว คือน้องกูก็โกรธเว้ยมันเลยไม่คุยกับป้าแล้วเก็บตัวในห้อง แม่ก็มาบอกว่ากูทำให้น้องเป็นงี้ ถ้ากูไม่โกรธน้องมันก็ไม่โกรธหรอก บอกน้องกูหัวรุนแรงมันคลั่งทำอะไรขึ้นมาจะทำไง แล้วพูดประมาณว่ากูอะโตแล้วเรื่องแค่นี้ทำไมต้องโกรธ กูก็พยายามอธิบายให้ฟังว่ากูไม่ชอบจริงๆเค้าก็พูดอยู่นั่นแหละว่าเรื่องล้อเล่นไม่เห็นต้องจริงจัง คือเรื่องล้อเล่นบางเรื่องมันก็ไม่ใช่เรื่องเล็กสำหรับบางคนป่ะวะ แล้วเค้าก็บอกว่ากูควรไปขอโทษป้า กูรำคาญไม่อยากมีเรื่องแล้วเลยไปขอโทษตามนั้น ป้ากูดันเถียงว่าเค้าไม่ผิด กูผิดเองที่รับไม่ได้ โตแล้วยังไม่รู้จักคิดว่าอะไรควรโกรธไม่ควรโกรธ เรื่องแบบนี้มันบังคับกันได้ด้วยเหรอวะ สุดท้ายกูก็ไม่ได้รับคำขอโทษอะไรทั้งสิ้น กลายเป็นว่าฝ่ายที่ต้องก้มหัวขอโทษคือกูฝ่ายเดียว ทั้งเสียความรู้สึกทั้งเก็บกด ทำไมผู้ใหญ่ไม่คิดว่าตัวเองผิดบ้างวะ
กูเป็นลูกที่เกิดจากความรักนะ พ่อแม่มีตอนพร้อม ตอนที่ความรักเขาสุกงอมเต็มที่เลยล่ะ พอโตมาบ้านก็มีเงิน คุณหนูในระดับนึงเลย เรียนโรงเรียนเอกชน มีคนไปรับไปส่ง ที่บ้านก็ตามใจในระดับหนึ่ง แต่อะไรมันก็ไม่แน่ไม่นอน พ่อแม่ก็เลิกกันไป กูเลยวิมานล่ม ชีวิตลำบากแทน เวลากูแย่ๆ กูไม่คิดโทษพ่อแม่นะว่าให้กูเกิดมาทำไม เพราะการเลี้ยงลูกหรือชีวิตคู่มันมีความเสี่ยง ไม่ใช่ว่าเราจะควบคุมความเสี่ยงทุกอย่างป่ะวะ
>>42 มันก็มีแหละ คือแบบบ้านพ่อกูเป็นกงสีใหญ่ ทำกันหลายธุรกิจ มีกันหลายสิบคนอ่ะ เมื่อก่อนแม่กูคุมเงิน พอเขาเลิกกับพ่อ เขาก็ไปขวนขวายทำธุรกิจของเขาใหม่ เหมือนแม่ต้องเริ่มจาก 0 อีกรอบอ่ะ
ส่วนกงสีมันก็มีคนอื่นที่เป็นญาติกูมาทำแทน เขาแบบบาทนึงก็ไม่ได้อ่ะ ให้รายเดือนจบแล้วจบเลย พ่อกูก็ไม่ได้มีอำนาจอะไร เหมือนเขาไม่ทำงานจริงจังอะ รับแต่งานเบาๆ ในกงสีมาทำ เพราะยังไงลุงกูก็จ่ายเงินเดือนเขาอยู่แล้ว ส่วนกูจะเบิกเรียนพิเศษหรือซื้อเสื้อผ้าก็ให้เอาเงินเดือนไปออกเอง มีปัญหาเยอะมาก มากแบบว่าลูกหลานคนอื่นเขาเรียนจบกลับมาช่วยกงสี เงินเดือน 3-4 หมื่น รถอีกคันน้ำมันเติมฟรี แต่กูที่เรียนเก่งที่สุดในรุ่น กูยอมทำงานหาเลี้ยงตัวเอง เพราะไม่อยากยุ่งกับเงินกงสีอ่ะ ถถถถถถ นี่ยังคิดอยู่เลยว่าถ้าพ่อตาย หุ้นบริษัทเขาจะให้กูไหม ที่ดินของพ่ออีก 30 กว่าไร่เนี่ย กูจะได้ไหม
อยากถูกหวยสักที จะได้ให้แม่ส่วนนึงไปตั้งตัว
แล้วกูก็ขออยู่กับพ่อ2คนละ พ่อกูจะได้ตายอย่างสบายใจ ...
บ้านกูพ่อแม่แยกกันอยู่ แม่กูก่อนนี้ก็ไม่ทำงาน พึ่งมาหาทำช่วงหลัง แต่ก็ยังเสือกขอเงินพ่อกูอยู่ แล้วก่อนนี้รับหลานมาเลี้ยง เพราะแม่เด็กตาย พ่อไม่มีปัญญาเลี้ยง แต่ตัวเองก็ไม่ได้เป็นคนส่งเสียเลี้ยงดู เป็นพ่อกูเองที่ออกทุกอย่างจนเข้ามหาลัยดังได้
แม่กูก็ไปส่งเข้าหอ แต่เสือกจะมาขอเงินล้าน5 เพื่อปลูกบ้านไว้อยู่กับหลานที่เลี้ยงด้วย คือถ้าอยากอยู่ใกล้กันทำไมไม่ให้เข้ามหาลัยใกล้ๆบ้านวะ แม่งสมองกลับเหรอไง
ไม่รู้เลยเหรอว่า สถานะการเงินที่บ้านเป้นยังไง เงินจะหมดและหมุนไม่ทันอยู่แล้ว
เงินก้อนสุดท้ายพ่อกูถอนออกมา เพื่อจะส่งเรียนเนี่ย ..
คู่ชีวิตแม่งควรส่งเสริมกันและกันไม่ใช่เหรอวะ เจองี้กูขออยู่คนเดียวดีกว่า
ขอกูบ่นหน่อย เบื่อพ่อตาตัวเองโว้ยสัด แม่งถือว่าจะตายอยู่แล้วมั้งอยากได้อะไรกูก็ต้องได้ห้ามขัดใจ มึงไม่คิดจะให้ลูกมึงสร้างเนื้อสร้างตัวเลยใช่ไม้วะ
ล้างผลาญชิบหาย เมียกูก็พึ่งพาไม่ได้พอกูมาทำงานต่างจังหวัดไม่อยู่ด้วยง่อยแดกทำห่าอะไรก็ไม่เป็น ทำเป็นแต่ออกจากบ้านไปทำงานไปกินข้าวกะเพื่อนสาวนอกนั้นต้องรอกูกลับมาจากต่างจังหวัดถึงจะได้ทำอะไรทีสัด
เรื่องมันเริ่มมาจากพ่อตากูบ่นอยากไปญี่ปุ่น แม่งงานเข้าคือพ่อตากูเนี่ยน้อยใจง่ายสัดๆดาวน์ง่ายสัดๆ แล้วไม่ฟังใครทำตัวเหมือนเด็กไม่รู้จักโตอ่ะ +เป็นโรคไตทีนี้ใครขัดใจไม่ได้เลย แล้วเป็นพวกใช้เงินเกินตัวฟุ่มเฟือยมาก แม่ยายกูเอือมมากคือนับวันรอว่าเมื่อไหร่จะไปเลย สมัยยังไม่เป็นโรคไต ถึงขนาดกู้เงินมาซื้อบิ๊กไบท์ (???) ซื้อปืนแล้วไม่ใช่กระบอกเดียว 4-5 กระบอก (โคตรพ่อมึงเป็นแรมโบ้หรอวะครับ) โดยไม่บอกที่บ้าน แม่ยายกูนี่ต้องหาเงินไปผ่อน เสือกขี้เบ่งด้วยกูมีปืนโตกูมีปืนเยอะ เดินเอาขยะไปทิ้งหน้าบ้านสะพายลูกซองไป ออกจากบ้านมีปืนเหน็บหลังตลอด หาจังหวะให้กูได้โชว์ปืนตลอด ไปตลาดน้ำเค้ามีให้ยิงปืนลมบอกพ่อถนัดยิงปืนจริงมากกว่าควั้กปืนออกมาโชว์ มึงเป็นเหี้ยอะไรเนี่ย
เมียกูบอกว่าพ่อมันทำไปเพื่อลบปมในใจตัวเอง จริงๆแม่งเป็นคนจิตใจอ่อนแอมากภายนอกเลยต้องเบ่งให้ตัวใหญ่ๆ ควยกูบอกไว้เลยมึงไม่อยู่เมื่อไหร่กูจะขายให้หมดปืนมึง มอไซมึงเนี่ย เอามาใช้เงินที่มึงกู้มาทำชาวบ้านเค้าเดือดร้อน
ทีนี้พอเป็นโรคไตไงล่ะมึง หมอให้คุมน้ำมึงก็คุมไม่ได้ หมอฟอกเอาออกเท่าไหร่ มึงก็ใส่กลับไปเท่าเดิมภายในวันเดียว ใครเตือนก็ไม่ฟัง หมอยังเอือมแทนที่จะอยู่ได้เป็น 10 ปี นี่ฟอกมาขึ้นปีที่ 2 สภาพแม่งทรุดจากปีแรกเร็วมาก คือแม่งฟอกอาทิตย์ล่ะ 3-4 ครั้งเพราะมึงคุมน้ำไม่ได้ร่างกายมึงไม่ไหวไง
ทีนี้เรื่องญี่ปุ่น นอกจากจะไปแล้วกูต้องไปหาคลีนิคฟอกไตที่นู่นให้แม่งด้วยลำบากสัด แล้วก็คงเที่ยวได้แค่ครึ่งวันก็ต้องกลับเอามาพะงาบๆที่รร.และ แล้วกูเห็นเป็นผู้ใหญ่สภาพก็อย่างที่กูบรรยาย กูเลยให้นั่งการบินไทยสบายๆไป แม่งคงลำบากไปมั้ง รีเควสบิซิเนส...ควย คือทั้งชีวิตไม่เคยนั่งบิซิเนสไงเลยขอสักครั้งก่อนตายล่ะมั้ง กูจะจัดให้นั่งกะแม่ยายกู 2 คน แม่งก็น่าจะน้อยใจอีกคือต้องอพยพไปนั่งกันให้หมด 4 คน มึงถึงสบายใจ คือกูไม่ใช่เครื่องผลิตแบงค์ แถมสภาพมึงนี่กูก็ไม่แน่ใจว่ากว่าจะถึงปลายปี สภาพมึงยังสามารถไปไหวไม้
ก็บอกเลยถึงมึงรักกันมากแค่ไหน ก่อนแต่งงานมึงไปจ้างนักสืบตรวจสอบการเงินที่บ้านเมียมึงด้วยก่อนจะโดนแบบตัว ทุกวันนี้แม่งผลาญเงินเก็บกูจนจะหมดตัวแล้ว กูก็นับวันรอแม่งไปๆซักทีไม่ต่างจากแม่ยายกูซักเท่าไหร่
ไปเป็นอะไรที่ญี่ปุ่น ค่าหมอมึงหมดตัวเลยมั้ง
สภาพแบบนี้ประกันเดินทางก็คงไม่รับทำ
อย่างโม่งบนๆบอก ดึงเช็งไปเหอะ จากสภาพที่มึงบอก คงอยู่อีกไม่นาน
>>51 เออว่ะมึงฉลาดมากๆ เดี๋ยวกูลองคุ้ยดูใน pantip ก่อนว่าเคสไหนมันขึ้นเครื่องไม่ได้บ้าง
แต่ติดที่มันจะไม่ยอมนี่สิตะแบงจะไปท่าเดียว กูจำได้ปีก่อนตอนมันเริ่มๆฟอกไตพาไปสิงคโปร์แค่ 3 วัน วันสุดท้ายยังพะงาบๆกว่าจะลากสังขาลมาขึ้นเครื่องกลับได้แทบแย่
พูดถึงสิงคโปร์กูนี่ก็แค้นสัด มึงรู้จักร้านจัมโบ้มะ อีร้านปูผัดผงกระหรี่ที่คนไปสิงคโปรชอบไปกินน่ะ ตอนนั้นกูพาไปกูก็กะว่าจะพากินหรูซักมื้อปูผัดผง+นู่นนี่นิดหน่อย น่าจะแฮปปี้กันแล้ว...อีดอกแม่งสั่งหอยงวงช้าง คือมึงแพงสุดในร้านจานล่ะเกือบหมื่นมั้งกูหน้าซีด ทั้งโต๊ะบอกไม่มีใครกินด้วยนะ แพงนะ ไอ้เหี้ยก็ตะแบงจะกินให้ได้ คือไอ้เหี้ยนี่ไม่ได้ดูราคา มองไม่เห็นไงสัดเห็นแต่รูปหอยกูจะกิน แม่ยายกูรำคาญให้แม่งแดกๆไป ดีนะแม่ยายกูช่วยออกสัด แม่งตอนขากลับคนอื่นไปช็อปรองเท้านู่นนี่กัน แม่ยายกูถามมันว่าจะเอาอะไรแม่งบอกเกรงใจกูไม่อยากซื้ออะไร...ควย มึงควรเกรงใจกูตั้งกะร้านอาหารแล้วว้อย
กูมองว่า พ่อตาแม่ยายมึงนี่ เข้าช่วงวัยทองด้วยนี่แหละ วัยนี่จะน้อยใจง่ายๆ บางรายก็แก่ไปตามวัยอ่ะมึง สติก็เลอะเลือนตาม ไม่ค่อยมีเหตุผลเหมือนเมื่อก่อน เรื่องนี้พูดยากมาก เข้าใจว่าลำบากการเงินมึงจริงๆ วะ แต่ถ้าให้กูตอบแบบนางงามคือ มึงก็จัดให้เขาก่อนตายนั่นแหละ แต่อย่าให้มันเกินงบมากจนเกินไปวะ
มึงอาจจะบอกเลยก็ได้ว่า มีงบเท่านี้นะ หรือไม่ก็ตามโม่งบนบอก บอกเดี๋ยวเก็บเงินพาไป ระหว่างนั้น มึงเลือกพาเขาไปเที่ยวต่างจังหวัด หรือที่อื่นในไทยแทน บอกว่าระหว่างรอเงิน พาไปเที่ยวคั่นเวลา มึงจะดูเป็นลูกเขยที่ดีเชี่ยๆ ในสายตาคนนอกทันที
อีกอย่างคือทำทรงพาพ่อตาแม่ยายมึงไปเช็กสุขภาพก่อนบินด้วย ไปเตี๊ยมกับหมอให้เรียบร้อยว่าไม่ควรเดินทางช่วงีน้ รักษาตัวให้ดีขึ้นก่อนอีกหน่อย อนุโลมให้แค่ในประเทศเท่านั้น กูว่าอาจจะดีกว่านะมึง
>>53 เอาน่า อย่างน้อยต่อมเกรงใจก็มีขึ้นมาบ้าง ดีกว่าไม่เกรงใจเหี้ยห่าอะไร แล้วช็อปต่อเลยนะมึง
>>55 คือกูอ่ะบอกไปจนขี้เกียจบอกแล้ว เมียกูก็ประมาณเคยบอกว่าจะพาแม่งไป คือถ้าไม่ไปปีนี้ก็ไม่น่าจะได้ไปแล้วเพราะปีหน้าสภาพน่าจะเจียนอยู่เจียนไป (ถ้ายังรอดปีนี้นะ)
ตอนนี้กูอ่ะจะสบายใจมากถ้าใกล้ๆจะไปแล้วอาการมันหนักแม่งจนไปไม่ได้เพราะอย่างน้อยกูก็ไม่ต้องไปลุ้นตอนอยู่ที่นู่นว่าจะน็อคไปเมื่อไหร่ ไปขอเปลี่ยนคนไปเอา
ไปหาหมอให้ออกใบรับรองแพทย์ ว่า Fit to Fly
ซึ่งในกรณีมึงถ้า not fit to fly อยู่แล้วก็ไม่มีปัญหา
แต่ถ้าหมอยอมให้บิน ก็ลองคุยดูก่อนว่าอย่าออกใบรับรองให้
แต่จากสภาพที่มึงว่ามาบอกหมอได้มั้งว่าอย่ารับรองให้ เพราะไม่ได้บินไปรักษาโรคหรือบินกลับบ้านแต่จะบินไปเที่ยวเนี่ย
แล้วบอกว่าถ้าไม่มีใบรับรองแพทย์แล้วถ้าเชคอินอเห็นว่าสภาพไม่พร้อมเขาปฏิเสธไม่รับขึ้นเครื่องได้
>>58 สวยถ้าแต่งหน้า คือแต่งหน้าเป็นหว่ะ แต่ถ้าอยู่บ้านไม่แต่งหน้าเมื่อไหร่มึงยายแถวบ้านนี่แหละ
เป็นคนที่เข้าใจกูที่สุดและสัด เพราะเป็นคนทำงานหาเงินเข้าบ้านเหมือนกัน กูเอือมเมียกู แม่ยายกูก็เอือมพ่อตาเข้าใจกันดี เวลากูจะระบายหรือนินทาเมียกูก็เล่าให้แม่ยายกูฟังเนี่ยทั้งบ้านเข้าข้างกูอยู่คนเดียว พ่อแม่กูยังเข้าข้างเมียกูเลยสัดเลียเก่งนะมึง จำไว้กูมันลูกชัง
สอบติดคณะ มหาลัย คนเก่งแย่งกันเข้าหัวขวิด ไม่ดีใจกับกูซักแอะ แซะกูว่าเรียนไม่ไหว มีแต่คนรวยเดี๋ยวเข้ากับเค้าไม่ได้ ทำไมไม่เรียนมรภ.ใกล้ๆบ้าน ด่ากู โอ้ย กูปวดหัว
555 พวกมึงมีแววจะไม่ได้ไปแล้วว่ะ โอซาก้ามันโดนน้ำท่วม+แผ่นดินไหวช่ะ กูเมลล์ไปถามเรื่องฟอกไตกะคลีนิค ทางนั้นบอกว่ายังไม่รับคนไข้ที่เป็นนักเดินทางนะเพราะอีเรื่องแผ่นดินไหวเนี่ย
กูเมลล์ไปถามอีกเจ้าอยู่เนี่ย ถ้าไม่ได้ทั้ง 2 เจ้ากูจะเอาเมลล์ไปยันให้อีเมียกูกะแม่ยายไปคุยกะพ่อตากูเอาสัด 555
ระบายนิดนึงนะโม่ง คือกูอยู่มหาลัย มีรูมเมทอยู่คนนึงอ่ะ นิสัยดีอยู่แต่แกค่อนข้างจุ้นจ้านกูพอสมควร
กูมาคิดดูดีๆแล้วกูน่าจะอยู่คนเดียวดีกว่า กูอยากย้ายออกเพราะรู้สึกไม่เป็นส่วนตัวว่ะ รูมเมทกูชอบมายุ่งเรื่องของกูเกินไปด้วย กูก็พยายามตอบแบบระวังๆรักษาน้ำใจละว่ากูไม่ชอบให้มายุ่งเรื่องตรงนั้นตรงนี้
แต่คือมันมีประวัติเป็นโรคซึมเศร้าว่ะ กูก็ไม่อยากให้อาการมันมาอีกไง ทุกอย่างกูเลยทำแบบรักษาน้ำใจ มันก็ไม่ใช่คนแย่อะไรด้วย
กูว่าจะย้ายออกไปอยู่คนเดียวในครึ่งปีนี้ละ แต่กูจะบอกมันยังไงดีวะว่าไม่ใช่ความผิดมัน กูแค่อยากออกไปอยู่คนเดียวเฉยๆ กลัวมันคิดมากว่ะ
กูไม่รู้ต้องไปบอร์ดไหนดี กูอยากปรึกษา
คือกูเป็นคนเก็บตัวเพราะโดนสังคมในรร.รังแกมาตั้งแต่ม.1 จนม.4 กูก็ทนไม่ไหวจนไม่ยอมไปเรียน
พ่อแม่หรือใครๆเอาแต่บอกว่ากูขี้เกียจไปเรียนไม่คิดจะฟังเหตุผลของกูเลย จนตอนนี้กู อายุ18แล้วกูใช้ชีวิตแบบไม่มีอิสระพ่อแม่ไม่ยอมปล่อยให้กูใช้ชีวิตกับโลกภายนอกเลย กูจะขอไปเรียนกศน.เขาก็ไม่ให้ไป จนตอนนี้กูอยากได้อิสระ อยากออกไปเจอโลกภายนอกบ้าง กูควรจะบอกพวกเขายังไงดีกูไม่อยากอยู่แบบนี้ไปตลอดอ่ะมึง
>>68 อ่อที่กูสงสัยว่ามึงเป็นพวกเก็บตัวอยุ่บ้านเพาาะมึงบอกว่ามีปัญหาม1-4 แล้วตอนนี้อายุ18 ถ้าเข้าใจผิดก็จอโทดละกัน คือ
ถ้ามึงเป็นนีทอยู่บ้านไม่ได้เรียนหนีปัญหาบูลลี่ กูขอบอกเลยว่ามึงขังตัวมึงเอง ไม่ใช่พ่อแม่ ไม่ใช่ว่าพ่อแม่มึงบังคับเลย มึงอยู่บ้านไม่มีที่เรียนไม่ทําห่าอะไรแล้วพ่อแม่ไม่ไล่ออกจากบ้านถือว่าพ่อแม่ตามใจสัสๆแล้ว อีกอย่างมึงโตแล้ว บางอย่างไม่ต้องขอพ่อขอแม่ มึงต้องลงมือทําเองเลยแล้วทําให้ชัดเจนด้วย เพราะจากสภาพมึงพ่อแม่ไม่ให้เรียนกศนไม่ใช่ว่าบังคับขู่เข็ญเลยแต่เขากลัวว่ามึงจะไปไม่รอดมากกว่าอ่ะ
เรื่องเรียนกศนเพราะหลบปัญหาบูลลี่ กูขอบอกเลยว่าผู้ปกครองคงไม่โอเคอ่ะ ผู้ใหญ่จะมีความคิดแบบว่ามึงลูซเซอร์ แล้วมึงไปเปลี่ยนความคิดเขาไม่ได้หรอก กูว่ามึงควรตั้งจุดมุ่งหมายในการเรียนกศนไปทางทิศทางบวกมากกว่า สมุมถติแบบว่าเรียนไปเพื่อจะทํางานอะไร แล้วแสดงแพทชั่นให้เขาเห็น เริ่มจากการหยิบสมุดมาเล่มนึงแล้วเปิดเน็ตเปิดหนังสือเรียนด้วยตนเองให้เขารับรู้ว่ากูอยากเรียนจริงๆ
เรื่องปัญหาการเข้าสังคม อะไรที่เป็นอดีตแล้วก็ให้ผ่านไป ลองเอามาทบทวนด้วยก็ดีว่าทําไมเราถึงโดนอย่างงั้นอย่างนี้ แล้วเอาไปวางแผนเริ่มกับสังคมใหม่ๆซะ เพราะเราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสังคมได้ เราก็ต้องปรับตัวให้อยู่ได้ ลองเอาคู่มือปรับบุคลิกภาพหรือหนังสือจิตวิทยามาอ่านก็ดีช่วยในการเข้าสังคมได้
เรื่องเจอสังคมบูลลี่จริงอยู่ว่ามันมีพวกนี้อยุ่ในทุกสังคมทั้งไม่ใช่การบุลบี่โดยทางตรงก็ทางอ้อม มันหลากหลายมาก ยังไงก็ต้องเจอบ้าง แต่จําไว้ไม่มีอะไรผิดพลาดซํ้าวนเหมือนเดิมไปหรอก ถ้าเราทําถูกทาง(บางครั้งอาจจะไม่ใช่ถูกต้องหรอก แต่มันก็ต้องทํา)
และเรื่องพ่อแม่ไม่ให้ไปไหน กูก็เจอนะ อันนี้กูว่าเป็นพ่อแม่รังแกฉันเกินไป เพราะแม่งจะไปไหนไม่เป็นเลย แต่ต้องทําอะไรซักอย่างไม่งั้นก็ไม่ได้ไปไหนได้ อย่างกูก็เริ่มเอาเวลาช่วงเรียนเกินเถลไถลไปไหนไกลๆบ้าง แล้วโกหกว่ามีทํางานกับเพื่อนนู่นนี่ จนเริ่มไปไกลๆ ดูรถดูเส้นทาง คือรวมๆก็จะบอกให้มึงลองหาทางออกมาบ้าง เพราะอันนี้แม่งบูลชิทเกิน โดนขังในบ้านเพราะห่วงลูกอ่ะ
ลูกพี่ลูกน้องกูอยู่ป.2 บ้านอยู่ใกล้กัน มันเป็นเด็กผู้หญิงที่ไม่มีมารยาทเลย โดยสปอยจนเคยตัว ใครว่าอะไรทำหน้าเชิ่ด เมินเก่ง ปากจัด ชอบทุบแม่ตัวเอง บ้านกูเคยบอกให้แม่มันดุมันนะ แต่แม่มันก็ไม่ค่อยดุ บอกกลัวน้องร้องไห้ เดี๋ยวลูกชั้นเสียใจ พอกูดุ พ่อแม่กูก็ว่ากูว่า ว่าน้องมันทำไม ทำไมต้องดุขนาดนั้น(เอ๊ะ ก็ไหนตอนนั้นบอกเองว่าให้ดุ) ที่กูปรี๊ดมากคือ มันมาเล่นบ้านกูค่ะ แล้วเดินสำรวจบ้านกูไปทั่ว ยายมัน(ก็ยายกูนี่แหละ)เข้ามาตามไปกินข้าว ไม่ตอบ กูเลยช่วยหา ปรากฎว่ามันเดินไปชั้นบนบ้านกู เข้าไปอยู่ในห้องพ่อแม่กู ทำเหี้ยอะไรไม่รู้ กูถามว่า เข้ามาทำอะไร มันมองหน้ากูเฉยๆ ไม่ตอบ เดินหนี ที่โมโหยิ่งกว่าคือประตูห้องกูก็เปิดอ้าอยู่ เหี้ยนี่แม่งค้นทุกห้อง กูนี่เอาไปรายงานพ่อแม่กับคนอื่นๆเลย รบกวนอบรมเด็กด้วย สุดท้าย เมื่อวานมันยังขึ้นไปบนบ้านกูอยู่เลย คือมึงเข้าไปค้นอะไร นี่มันบ้านคนอื่น ห้องคนอื่นมั้ย พ่อแม่ก็ไม่ช่วยดุ กูเกลียดมันมาก อีเด็กเปรต
ทำไมครอบครัวกูเห็นแก่ตัวจังวะ จนแล้วยังมีลูกอีกตั้งสองคน ครอบครัวฝ่ายแม่คือเป็นโรคซึมเศร้าแล้วส่งต่อมาที่แม่กู แล้วตอนนี้กูก็รู้ตัวว่าเป็น แม่กูก็เอาแต่พูดว่าจะฆ่าตัวตาย กูเนี้ยจะฆ่าตัวตายก่อนแม่อีก เบื่ออิสัส
>>68 ลองดูสถาบันการศึกษาทางไกล เป็นกศนเหมือนกันแต่ไม่ต้องเข้าเรียน แล้วใช้วุฒิม.ต้นเรียนพรีดีกรีที่รามควบดีกว่าถ้าอยากเริ่มใหม่เร็วๆ ได้เจอคนหลากหลายและได้พึ่งพาตัวเองเยอะมาก
ปล.ตอนนี้กูจบแล้ว ระหว่างเรียน2ที่ข้างบนก็เตรียมสอบโอเน็ตแกทแพทไปด้วย ติดม.ที่มีกระทู้ของตัวเองในโม่งนี่แหละ เป็นความภูมิใจเรื่องนึงที่ทำให้รู้สึกว่ากูยังมีคุณค่าจะเดินต่อไปอยู่
อาจจะมีช่วงเวลาที่กระอักกระอ่วนหรือรู้สึกเหี้ยอยู่บ้าง แต่ก็ช่างหัวมันเถอะ สู้ๆมึง ขอให้ผ่านไปได้
มึง ไม่รู้ว่ากูมาถูกที่ไหม แต่กูเบื่อบ้านกูอะ ตากูชอบมาจับมาบีบแถวพุงแถวอกเรา บอกว่าอยากให้มันโตสวยบ้างอะไรบ้าง พอไปบอกพ่อแม่เขาก็ตอบกลับมาแค่ตาหวังดี ไม่คิดอกุศลกับหลานตัวเองหรอก แล้วพอกูปฏิเสธเขามาก ๆ เข้าเขาจะทำน้อยใจ ไม่รักก็ไม่มายุ่งมาช่วยเเกหรอก แล้วแม่ก็มาด้าดูว่าอกตัญญู ปฏิเสธความหวังดีของผู้ใหญ่ได้ไง
คือกูว่าข่าวก็ออกโครม ๆ นะเรื่อง sexual harassment / abuse ในครอบครัวเนี่ยยย
กูควรรีบเรียนจบรีบออกจากบ้านไหมวะเพื่อนโม่ง กูโซแซด ;-;
ถ้าญาติผู้หญิงเริ่มโตก็ไม่เล่นจับเนื้อจับตัวแล้ว เป็นที่รู้กัน
>>96 ถ้าไม่อยากมีปัญหาก็ไม่ต้องไปหาเรื่องเขา แต่หนีออกมาเป็นเรื่องที่ดีนะ บ้านมึงมันเพี้ยน คือปกติมันก็ไม่ต้องขนาดพ่อห้ามนอนกะลูกสาวอ่ะ แต่ถ้าลุงตาอะไรปกติเขาไม่มาใกล้ชิดขนาดนี้ มึงเริ่มแตกสาวก็ไม่ควรจับเนื้อต้องตัวละโดยทั่วไป แล้วปกติจับหน้าอกนี่มันก็ไม่ใช่เรื่องปกติด้วย กูไม่รู้ว่าตามึงนิสัยดีจริงไม่จริง แต่แม่งอายุเท่านี้แล้วยังจับกูว่าไม่ใช่ละ
กู 86 เอง ตอนนี้ภาวนาให้ตัวเองได้งานไว ๆ อยู่ว่ะ จะได้ย้ายออก
วันนี้หนักว่ะ แม่กูด่ากูแล้วพูดออกมาประโยคนึงว่ากูเป็นคนทำลายชีวิตแม่ เพราะต้องเอาเงินไปส่งกูเรียน แล้วเสือกไม่เรียนครูให้แม่ เสือกไปเรียนนิติศาสตร์ แล้วแม่บอกกูจะดูถูกมึงอย่างนี้แหละ จบไปเป็นทนายต๊อกต๋อย อีควายยยยยยยย กูแบบไม่รู้จะพูดเหี้ยอะไรละ คณะนี้มหาลัยนี้คนแย่งกันเข้าตายห่า ไม่มีคำแสดงความยินดีตอนกูติด มีแต่ถามจะเรียนได้มั้ย เกือบทุกวันมาพูดดูถูกกู(คิดว่าดูถูกกูแล้วจะเป็นแรงผลักดันให้กูหรอ?) เอาแต่พูดกรอกหูด่ากู เรียนไม่ได้ๆ ทำไมไม่เรียนครู เรียนสบายทำงานสบายๆไม่ชอบ(สบายเหี้ยอะไรล่ะ)
กูหมดคำจะพูด ไม่ได้ไปเข้าฝันให้ทำให้กูเกิดมาเลย เสือกอยากมีกูเอง แล้วมาบอกกูเป็นคนทำลายชีวิต ตลก อีสัส
>>105 ถูก แกคงติดภาพครูยุคแกน่ะแหล่ะ >>102 แม่มึงเป็นประเภทไม่ฟังลูก เรื่องเดียวกันลูกบอกไม่เชื่อแต่คนอื่นจะเชื่อ ถ้ามึงอยากเปลี่ยนความคิดแม่ก็สังเกตดูว่าแกเชื่อใครแล้วผูกมิตรกับคนนั้น แล้วอยากบอกอะไรก็บอกผ่านเอา บ่นลอยๆ ลูกหลานคนข้างบ้านชั้นไปเป็นครู นึกว่าจะสบายเหมือนสมัยเรา ที่ไหนได้ ฯลฯ ลูกอาแปะร้านโจ๊กหน้าตลาดเป็นทนายมา 5 ปี สอบผู้พิพากษาอยู่ แหม มีแต่คนเกรงใจ ฯลฯ เป่าหูไปเรื่อยๆ รับรองเห็นผลก่อนมึงจะเรียนจบ
>>102 อ่านแล้วหงุดหงิดแทนว่ะ คนประเภทที่คิดว่าอาชีพครูดีอย่างนู้นอย่างนี้เมื่อไรจะหายไปหมดสักที ถึงขั้นบอกว่าทำลายชีวิตนี่ก็แรงไปด้วย
เอาจริงๆก็ไม่ควรบังคับลูกหลานตัวเองให้เรียนนู่นเรียนนี่ตามใจตัวเองตั้งแต่แรกแล้ว ผู้ใหญ่บางคนก็ควรจะคิดได้บ้างเสียทีนะว่าเรียนอะไรก็ประสบความสำเร็จได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นหมอบ้าบออะไรอย่างเดียว
>>102 แม่มึงนี่ปัญญาอ่อนไม่ต่างจากแม่กูอ่ะ ให้กูเกิดมาแต่มาบอกว่ากูคือภาระ เป็นเจ้ากรรมนายเวร อีสัสบ้ามากมีด่าๆแบบที่แม่มึงทำนะแต่แม่กูนี่ทั้งทำตัวงี่้เง่า บางวันใช้งานกูแบบกูไม่ทันได้หยุดหายใจพอสุดท้ายกูทำงานเป้าหมายกูไม่ทันคือกลับมาด่าๆๆๆๆๆกูแบบว่ากูงงอ่ะ ถ้ากูเลือกเกิดเลือกจองเวรได้กูไม่เกิดมาจองเวรแล้วกูทุกข์ทรมานทนโดนด่าไร้อิสรภาพแบบนี้หรอกห่าราก
อีเห้ยสมองกูจะระเบิดอยู่แล้ว กูขอหน่อยสัดเรื่องเมียกูเนี่่ย
คืออีดอกนี่เป็นพวกบ่น เป็นพวกเยอะทุกสิ่งอย่างในโลก ความช่างแม่ง=0 อะไรไม่ได้อย่างใจ (ไม่ใช่ว่าผิดนะคือไม่เหมือนที่มันคิดไว้น่ะ) กูด่าไว้ก่อน
แล้วแม่งเหมือนพวกแอ๊บอ่ะสัดก่อนแต่งแม่งกูตรวจดีแล้วแม่ของลูกแน่ๆ สวย7/10 มีเซ็กซ์เกือบทุกวัน ดูแลคอนโดกูดี บอกอยู่ที่ไหนก็ได้ขอแค่มีกู ทำกับข้าวให้กูกิน นานๆไปเที่ยวกันที ประหยัดค่าใช้จ่ายได้เยอะ ให้เกียรติกูตลอด พูดเพราะ
เออกูเอาคนนี้แหละ เพราะหน้าตากูไม่หล่อ หุ่นก็ท้วมๆแม่งคงหาดีแบบนี้ไม่ได้แล้วล่ะ
แล้วไงสัดแต่งมาได้นี่ก็ 3 ปีแล้วลายออก (ที่จริงออกมาตั้งกะปีแรกแล้วแต่ปีนี้คือที่สุดแล้ว)
ความสวยถ้าไม่ได้เครื่องสำอางช่วยมึงก็ป้านี่แหละ เพราะมึงเครียดตลอดเวลา คิ้วแม่งขมวดตลอด
เรื่องเซ็กซ์ลืมได้เลยเดือนละครั้งคือบุญมาก แล้วมีทีคือแค่มีให้จบๆ ไอ้เล้าโลมนานๆ โม็คนานๆเลียทุกส่วนเหมือนสมัยก่อนแต่งนี่ลืมไปได้เลย มันเลียแค่แม่งให้ของกูลื่นเข้าของมันแล้วไม่เจ็บแค่นั้นแหละ กูก็หมดอารมณ์แค่ซอยๆให้จบๆ
กูไปทำงานตจว. 5 วัน คอนโดกูตอนกูออกไปสภาพไหน ตอนกูกลับมาสภาพนั้นแหละสัด บางทีตอนไปมีจานในอ่างกลับมากูนี่แหละต้องกลับมาล้างจาน คือกูอยู่ของกูเองยังไม่ปล่อยให้ห้องเป็นขนาดนี้ อีนี่ต้องรอกูกลับมาถึงได้ฤกษ์จัดห้อง แม่งก็อ้างทำงานเหนื่อยไม่มีเวลาบลาๆๆๆ ได้ข่าวมึงทำงานเลิก 4 โมงแต่ไม่เคยกลับบ้านก่อน 6 โมงเลยต้องมีไปกินข้าวไปช็อปปิ้งกะเพื่อนสาวตลอด เนี่ยนะไม่มีเวลาของมึง
กู้ซื้อเรื่อนหอให้เป็นคอนโดใหม่ ตอนซื้อก็ไม่มีอะไรไง (หางยังไม่โผล่) พอซื้อเสร็จแม่งติทุกอย่าง ทุกอย่างมีปัญหา แล้วก็ด่าๆๆๆๆๆ พาลอีกว่าซื้อคอนโดห่วย ห่วยพ่อง คือถ้ามึงไม่เยอะน่ะมึงจะมีความสุขกะการแต่งห้องมาก ตรงไหนมีต้องแก้ก็ให้แม่งแก้ไปจบ อีดอกนี่แม่งไม่จบไง แล้วเป็นพวกถ้าเจอแก้จุดนึงมันจะพาล จุดที่ไม่น่าแก้แม่งก็จะให้แก้ให้ได้ มึงเป็นเหี้ยอะไรเนี่ย
ข้าวนี่กูจำไม่ได้แล้วว่ามันทำครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ รู้แต่ว่าแม่งชอบซื้อผัก เนื้อ มาดองไว้ในตู้เย็นแล้วก็เก็บไปทิ้ง วนไป เพื่อ??? อีดอกเปลืองตังไม้ไม่คิดจะทำแม่งก็ไม่ต้องทำสัด
เที่ยวนี่ปีนึงต้องมีต่างประเทศ 2 หน...อีดอก 2 หน ใหญ่รอบ (ญี่ปุ่นเกาหลี) เล็กรอบ (สิงคโปร์ ฮ่องกง) คือกูไม่ใช่เครื่องผลิตแบ้งค์สัด
แล้วที่ให้กูจะหมดรักแม่งคือ พอไม่พอใจอะไรขึ้นมึงขึ้นกู ทุกอย่างในชีวิตมันเป็นเพราะกู ชีวิตมันแม่งแย่...แย่พ่องมึง ชีวิตมึงน่ะดีกว่าคนค่อนประเทศแล้วว้อย กูบอกเลยกะอีนี่กูพูดดีด้วยตลอด กูไม่เคยใช้คำหยาบ ตีนก็ถีบถึงยอดอกกูแล้วสัด รอแค่เมื่อไหร่จะจิ้มปากกู กูเคยเดือดให้แม่งขอโทษกูเพราะเอาตีนเหยียบอกกูนี่มึงต้องเห้ยถึงขีดสุดถึงจะทำได้ แม่งก็ทำไม่รู้ไม่ชี้อีสันดาน
กูบอกเลย ตอนนี้กูแทบจะหมดรักแม่งแล้ว ก่อนแต่งกูไม่เคยไปอาบอบนวด ไปนวดกระปู๋ แต่พอมีเรื่องพวกนี้ยิ่งแม่งเรื่องเซ็กซ์ ตอนนั้นกูทนไม่ไหว กูเลยไปนวดกระปู๋ กูเคยคิดว่ากอดผู้หญิงอื่นไงก็ไม่เหมือนกอดเมียตัวเอง แล้วไงกอดพริตตี้สวยๆที่มานวดกูโคตรฟินเลยว่ะสัด แล้วก็ไม่ได้รู้สึกผิดเหี้ยอะไรเลย อาการงี้คือกูหมดรักแม่งรึเปล่าวะ
>>110 มึงเคยมาเล่าแล้วทีนึงป่าววะ คุ้นมาก หมดรักมั้ยคงใช่แหล่ะ แต่มึงไม่จำเป็นต้องทนเว้ย มึงคุยกับเมียมึงไปเลยว่าไม่โอขั้นสุดแล้ว ไม่ปรับปรุงตัวคือหย่า อยู่ด้วยกันไม่ส่งเสริมคุณภาพชีวิตทั้งด้านความรัก-เซ็กส์-เงินแบบนี้ก็เป็นแค่ตัวถ่วงชีวิต ไม่มีลูกนี่หย่าง่ายเลยล่ะ มีปัญหาแค่แบ่งสินสมรสจิ๊บๆ
เห็นบอกผู้หญิงเลือกได้ เลือกคนรวยก็ไม่ผิด แต่ถ้ามึงรวยมึงจะเอาผู้หญิงที่ไม่รู้จักความลำบากจริงๆเหรอวะ
ต้องมีสักวันอะที่กูฆ่ายกครัว บ้านนี้แม่งไม่มีเหี้ยไรดีเลย อยู่ไปก็บั่นทอนกำลังใจ
กู 110 เอง มาๆกูจะมาเล่าเรื่องเหี้ยๆของเมียกูให้ฟังอีก เขียนระบายให้พวกมึงอ่านนี่ดีจริงๆ เพราะไม่รู้จะระบายกะใคร แค่กูสมัครอินสตาแกรมแม่งก็ถามกูและ สมัครทำไม อะไร กลัวกูนอกใจแม่งมั้ง คือถ้ามึงหวงควยกูมากมึงก็ดูแลมันให้ดีๆสัด ไม่ใช่มีแบบขอไปทีเดือนละหน
แล้วไม่ใช่กูไม่พยายามปลุกอารมณ์มัน กูจับแม่งก็ปัดออก ไม่ก็นอนนิ่งๆ มึงคิดสภาพกูดูดนมมันแล้วมันนอนดูทีวีไม่สนใจนะกูก็เซ็งๆ พอคุยกันมันก็บอกมันก็มีอารมณ์นะวันนั้นไง วันที่กูหลับก่อน... คือแม่งอ้างไปเรื่อย สมัยก่อนแต่งนี่กลับมาบ้านได้สบตากันเมื่อไหร่จบที่เตียงแน่ๆสัด จับโดนมาแล้วค่ะครางมาเลยจบที่เตียงอีกแล้ว ดูดนมไม่ได้เลยนะคะมันเสียวแฉะอย่างไว...พูดแล้วคิดถึงวันวาน T_T
จุดแตกหักที่ทำกูต้องไปนวดกระปู๋คือ กูแม่งไม่มีอะไรกะมันมาจะ 2 เดือนแล้วไงคือกูถึงขีดสุดแล้ว กูก็ซื้อชุดนอนเซ็กซี่ให้เป็นของขวัญ (ยี่ห้อแพงด้วยไม่ใช่ซื้อถูกๆตามเน็ต)...มันโยนทิ้งแล้วบอกกูว่ามันไม่ใช่กระหรี่ต้องมาแต่งโป๊ๆเอาใจผัว กูฟิวขาดคือโกรธแม่งมากๆ คือจบกันในเมื่อมึงไม่คิดถึงใจกู กูไม่เอากับมึงก็ได้ ขอแค่กูมีเงินกูจะเอากับผู้หญิงสวยกว่ามึงแค่ไหนก็ได้
เรื่องคำพูดแม่งแบบทำร้ายจิตใจ บั่นทอนความรักนี่อีดอกนี่ถนัดมากๆ ไม่ได้ดั่งใจคือด่าทันทีอีสัด อยู่กับเพื่อนมัน กับพ่อแม่กูแม่งไม่เป็นนะคีฟลุคเป็นเมียแสนดี แต่พอแยกเมื่อไหร่ อยู่กับกูแค่ 2 คน มาเต็มสัดคืออีดอกนี่มันจะมีเรื่องไม่ได้ดั่งใจมันเวลาอยู่กับเพื่อนกับพ่อแม่กู แต่มันแสดงออกไม่ได้ด่าไม่ได้ พอมันด่าได้มันเลยแสดงออกมามากกว่าปกติ คือกูไม่ใช่กระโถนอีดอก กับเพื่อนสาวสนิทๆมึงมึงยังไม่แสดงธาตุแท้มึงเลย คนที่รู้ธาตุแท้มึงมีแค่กูกับแม่มึงเพราะโดนมาทั้งคู่ (กูก็พึ่งมาสัมผัสตอนหลังแต่งนี่แหละ) พ่อมึงเองยังคิดว่ามึงเป็นลูกสาวแสนดีพูดจาเพราะอยู่เลยขนาดอยู่กับมึงมาทั้งชีวิต พอแม่งไม่อยู่สิเรื่องด่าพ่อมันนี่อารมณ์มาเต็มคือมันไม่พอใจพ่อมันมากๆ เข้าขั้นรังเกียจเลยแหละแต่แสดงออกไม่ได้ กูก็พอจะเข้าใจว่าทำไมมันรังเกียจล่ะนะ ทำตัวเหี้ยจริงๆ
ล่าสุดนี่ไปเที่ยวกะพ่อแม่กู แล้วไปนอนโรงแรมคือกูจองเตียงนอนด้วยกันกะมันไป เสือกได้เตียงแยกมา แล้วห้องเป็นแบบห้องที่มันเปิดประตูไปอีกห้องได้น่ะ แต่เค้าเอาที่กั้นมากั้นไว้แล้วไงๆก็เปิดไม่ได้...มันไม่พอใจแรงมาก ด่ากูเช็ด ด่ากูทำไมไม่ดูให้ดีๆตอนเช็คอิน มึงมันโง่ #$@#$@#$@$%^??? มึงจะรู้ไม้วะว่าโรงแรมเค้าจะเอาห้องอะไรให้มึงเนี่ย แล้วเตียงเนี่ยเท่าที่กูดู เตียงนอนคู่แม่งก็แค่เข็นเตียงไปติดกันแค่นั้นแหละ กูรู้เลยมันสะสมความไม่พอใจพ่อแม่กูมาลงกูเนี่ย จนกูต้องเดินไปล็อบบี้ไปนั่งสงบสติอารมณ์อยู่ริมสระ แล้วแม่งพอกูขึ้นมาที่ห้องเสือกจะให้กูขอโทษมันอีก??? ฮะกูผิดเนี่ยนะ กูก็ไม่คุยกะแม่งหรอกเรื่องของมึงสัด
แล้วมึงคิดดูกูทำงาน 5 วันกลับไปกูต้องเจอระเบิดที่แม่งสะสมมาตลอดตอนกูไม่อยู่ห้อง กลับไปกูไม่เคยเจอมันยิ้มแย้มต้อนรับนะฮะ มีแต่ทำหน้าเหมือนกลั้นขี้มาทั้งอาทิตย์ใส่ กูคงอยากกลับไปหรอกสัด นี่ถ้ามึงไม่ท้องกูจะไม่หางานทำในกรุงเทพเลยอีดอก (แน่นอนว่าทำเด็กหลอดแก้ว ลำบากกูชิบหาย)
พี่สาวกูแต่งงานไม่มีลูกเลยไปรับเด็กที่เป็นญาติห่างๆๆๆๆๆๆแบบมากๆๆๆๆๆ มาเลี้ยงตั้งแต่แบเบาะเพราะสงสารเด็กมัน พ่อไปมีเมียใหม่ไม่มาดูดำดูดี แม่ก็เป็นเด็กใจแตกขายตัวมั่วยาเอาแต่เที่ยวเล่นแต่งตัวเสริมสวยไม่สนใจลูก ตอนท้องแม่มันจะทำแท้งด้วยซ้ำแต่โดนห้ามไว้ก่อน พี่สาวกูเขาก็เอามาเลี้ยง รักแบบลูกแท้ๆเลย ส่งเรียนโรงเรียนดีๆแพงๆ อยากได้อะไรก็ซื้อให้ เจ็บป่วยพาเข้าโรงบาลเอกชน ยุงไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม เด็กมันก็ดูโอเค ดูมีความสุขนะ แต่พอมันรู้ว่ามันไม่ใช่ลูกแท้ๆของพี่สาวกูเท่านั้นล่ะ แม่งกลายเป็นเด็กมีปัญหาขึ้นมาทันที น้อยใจเสียใจห่าอะไรนักก็ไม่รู้ อะไรที่หลานคนอื่นๆมีมันก็จะต้องมีให้ได้เหมือนเขา ชอบมาตัดพ้อเวลาเขาดุด่ามันเพราะทำผิดว่าใช่สิ มันไม่ใช่หลานแท้ๆเลยไม่รักมัน มันขโมยเงินไปซื้อตั๋วรถทัวร์เพราะจะกลับไปหาแม่แท้ๆที่ตจว. ซึ่งไม่รู้ว่าอีแม่ห่านี่มันไปอยู่กับผัวใหม่คนไหนแล้ว ช่วงนี้เขาให้เขียนเรียงความวันแม่ก็เอาแต่พร่ำเพ้ออยากเจอพ่อแม่แท้ๆ คิดถึงพ่อแม่ พี่สาวกูเขาก็ถามนะว่าปีนี้เขาจัดงานมั้ย แม่ต้องไปโรงเรียนด้วยรึเปล่า เสือกตอบมาได้ว่าเขาให้แม่ไป ไม่ใช่ให้แม่บุญธรรมไป กูฟังแล้วจี๊ดว่ะ อยากด่าชิบหายแต่พี่กูห้ามไว้ กูไม่เข้าใจว่าแม่งจะยึดติดกับพ่อแม่จริงๆขนาดนั้น แล้วที่พี่สาวกูกับบ้านกูเลี้ยงมึงมาตั้งแต่เล็กๆจนโตมาได้ป่านนี้ไม่มีความหมายเลยใช่มะ อีเด็กดอก
>>128 เปิดสุดๆแล้วมึง ก่อนหน้าที่มันยังไม่รู้มันก็เป็นเด็กดี น่ารัก ว่านอนสอนง่าย รักพี่รักน้อง พอแม่งรู้เท่านั้นล่ะเปลี่ยนไปเป็นคนละคน กลายเป็นเกลียดน้องๆมัน มองเป็นศัตรูเฉย ตาขวางตลอดเวลา ซึ่งน้องๆก็ไม่อยากเล่นกับมันด้วยละ เล่นด้วยก็ไม่สนุก มันเอาแต่ประชดประชันหรือไม่ก็หยิกกับตี บ้านกูก็เลี้ยงมันแบบเลี้ยงหลานคนนึงทุกอย่าง มีห้องส่วนตัว เที่ยวต่างประเทศ นอนโรงแรมดีๆ เสื้อผ้าหรือของกินก็เหมือนหลานคนอื่นๆนั่นล่ะ ดุด่าก็มีบ้างเวลาทำผิดแต่ไม่ได้ด่าหยาบๆคายๆหรือขุดโครตมาด่า แต่หลานคนอื่นก็โดนด่าโดนตีเหมือนกัน มันก็ดันเอาแต่น้อยใจอยู่นั่น รำคาญโครตๆ
>>129 บ้านกูจากรักๆมัน กลายเป็นเอือมมันทั้งบ้านจนถึงขั้นมึงจะไปไหนก็ไปเหอะ มีพี่สาวกูนี่ล่ะที่ยังรักยังโอ๋มันอยู่ ขนาดโดนมันพูดใส่แบบนั้นก็ยังรักมันอีก เป็นกูจะตบให้ฟันร่วง ถ้าไม่เอามึงมาเลี้ยง ปล่อยทิ้งไว้กับแม่กะหรี่ของมัน ป่านนี้แม่งได้ขายตัวแลกเงินหรือเป็นอีขี้ยาแล้วมั้ง
กูของบ่นน้องตัวเองหน่อยละกัน ไม่มีใครช่วยกูได้และกูก็ทำอะไรไม่ได้เหมือนกัน กูไม่รู้อะไรเกี่ยวกับมันมากหรอก ตอนมันยังเด็ก 3-4 ขวบ นิสัยมันชอบโวยวาย งอแง ไม่ได้อะไรจะเอาให้ได้ แบบโมโหแล้วทำลายทุกสิ่งอย่าง ตะโกนลั่นบ้านเหมือนคนบ้า จนกูรำคาญมากๆ กูพูดเลยว่าเกลียดมันซิบหาย พ่อกูทำงานต่างจังหวัด นานๆ ทีจะกลับ น้องกูติดแม่มาก แต่แม่กูติดไพ่(แต่แม่กูก็ทำงานนะ) น้องกูกับแม่กูทะเลาะกันไม่เว้นแต่ละวัน แม่ชอบเอาพวกขนม ของเล่นอะไรมาล่อน้อง แบบห้ามงอแงแล้วแม่จะซื้อ xxx ให้ จนน้องมันได้ทุกอย่างที่มันต้องการ แต่มันก็งอแงไม่ให้แม่ไปเล่นไพ่อยู่ดี ...
พอน้องมัน 5 ขวบ กูไปอยู่หอที่มหาลัย สบายใจหน่อยไม่ต้องฟังมันตะโกน กรี๊ดลั่นบ้าน เหมือนคนบ้าทุกอาทิตย์ กูกลับบ้านเดือนละครั้ง นิสัยมันไม่ต่างจากเดิมเลย และแต่ละครั้งกูก็ได้ยินวีรกรรมมันจากญาติข้างบ้าน + กับแม่ด้วยเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็น ด่าแม่กับยาย เอาแต่ใจ ไม่ได้อะไรก็จะด่า ขโมยของเพื่อนที่โรงเรียน โดยอ้างว่าเพื่อนเอาให้ เห็นเพื่อนมีอะไรใหม่ก็อยากมี แดกทุกอย่างที่ขวางหน้า ไม่รู้จักอิ่ม เห็นอะไรก็อยากกินไปหมด ที่เด็ดสุดก็ขู่ฆ่ายาย
กูก็ไม่สนใจอ่ะ เรื่องของกูยังเอาตัวแทบไม่รอดเลยเพราะอยู่มหาลัยกูเริ่มเป็นโรคซึมเศร้า ที่บ้านกูแทบไม่อยากอยู่เลย กูเลยไม่สนใจห่าไรทั้งนั้น
พอผ่านไป 2-3 ปี จากนั้น (กูไม่ได้กลับบ้านเรื่องมันยาว) กูกลับบ้านปีละครั้ง ประมาณ 10 วัน เพราะกูเริ่มทำงาน ตจว. ญาติๆ บอกว่าไม่ไหวแล้วให้สอนน้องบ้าง ชอบด่าแม่ ด่ายาย แถมใครพูดจาล้อเล่นแล้วมันไม่พอใจมันด่าหมด ไม่สนว่าจะเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ ตอนนั้นมันอายุประมาณ 12 ส่วนแม่กูยังติดไพ่อยู่ แต่อารมณ์เย็นขึ้นมาก เวลาน้องกูด่า แม่ก็พูดจาดีๆ กลับไม่มีโวยวายเสียงดังใส่กัน กูก็เลยเริ่มปรึกษากับแม่ว่าแบบนี้ไม่ได้นะ แม่ต้องควบคุมมัน อย่าตามใจมันมาก บลาๆๆๆ
จากนั้น 13 ก็ยังเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือติดมือถือ แต่พอมันอายุ 14 ปี มันมีพัฒนาการ กลายร่างเป็นสก๊อยละจ้า555555555 อีเหี้ยยย กูนี่วอทเดอะฟัคเลย มันเริ่มเจาะสะดือค่ะ ซ้อนรถแว๊นหลังเลิกเรียนแทบทุกวัน มันสมัครเฟสอีกเฟสนึงแต่บล็อกครอบครัวตัวเองหมดจ้าาา กูแอบดูแล้ว โพสไม่ถึงกับภาษาสก๊อย แต่แชทคุยกับแฟนเรื่องเย็ดเรื่องชักว่าว แต่ดูจากแชทคือผู้ชายมันเงี่ยน แต่น้องกูมันไม่น่าเอาด้วย เวลามันโดนสอนมันก็จะบอกว่ารู้แล้ว โตแล้ว แต่แม่งทำตัว.... ซื้อกระเป๋าใบละ 1000 ได้เงินไปโรงเรียนวันละ 100 ไม่เหลือ มันบอกว่าขอเป็นรายอาทิตย์เอา แล้วพอได้อาทิตย์ละ 500 แต่หมดก่อนวันศุกร์อีก มีหน้ามาบอกว่า ไปขอพ่อเอาก็ได้ (กูไม่พูดถึงพ่อ เพราะพ่อกูก็มีปัญหาเหมือนกัน พ่อกูมีเมียน้อย ไม่สนใจครอบครัว แต่บอกว่าเลิกแล้ว ไม่รู้เลิกจริงป่าว) เสาร์อาทิตย์ได้เงินไปเที่ยว 700 ไม่เหลือ ใช้เงินเก่งเหี้้ยๆ มองย้อนไปตัวเองเมื่อก่อนละแบบ มีแต่คนถามกูว่า มึงโตในครอบครัวแบบนี้้มาได้ไงวะ ถ้าพ่อแม่เลี้ยงอาจจะไม่รอดว่ะ ตอนเด็กตากับยายเป็นคนเลี้ยงกู กูก็เลยไปเปิดใจกับน้องกู แต่มันไม่เปิดใจให้กู กูเลย ช่างแม่ง เพราะกูกลัวว่าเสียผู้เสียคนมา ถ้าพ่อแม่ไม่อยู่แล้วคนซวยก็คือกูไง
>>132 ไม่ได้พูดต่อหน้ามันโว้ย กูแค่มาบ่นในโม่งเฉยๆว่าถ้าอยู่กับแม่มันป่านนี้คงโดนเอาไปเร่ขายให้ฝรั่งแก่ๆแถวพัทยาปี้เอาแล้ว เด็กมันอายุสิบสี่ มันรู้ตอนไปเจอเอกสารรับบุตรบุญธรรมของพี่สาวกู เท่านั้นล่ะดราม่าบังเกิดทันที อะไรที่ทำให้มันคิดว่าแม่ที่คิดจะทำแท้งก่อนมันจะลืมตามาดูโลกจะอ้าแขนรับมันกลับไปก็ไม่รู้สิ เพราะการสอนว่าพ่อแม่มีบุญคุณจนชดใช้ไม่หมดเพราะทำให้เกิดมาเหรอ แล้วคนที่เลี้ยงมันมาไม่มีบุญคุณเลยว่างั้น
>>137 กูอ่านแล้วยังโกรธเด็กเลย แต่ตามประสาเด็กมันคงอยากเจอหน้าแม่แท้ๆตัวเองอ่ะ ลองให้น้ามึงพาไปดูก็ได้ ถ้ารู้ธาตุแท้แม่มันก็คงจ๋อยเอง กูขอบ่นบ้าง อันนี้เคสกู กูมีพี่แท้ๆนะ แล้วพอแม่ท้องกูเป็นคนสุดท้อง ทีนี้ อาของพ่อกูกับเมียเขามีบุตรยากเลยมาขอเลี้ยงกู พ่อแม่กูก็โอเคอ่ะ แล้วมีงคิดดู ทางฝั่งนั้นซื้อของเลี้ยงเด็ก สร้างห้องเด็กไว้เรียบร้อย สุดท้ายแม่กูใจอ่อน บอกพอใหล้คลอดกูไม่อยากให้ลูกแล้ว อยากเลี้ยงเอง สุดท้ายก็ไม่ได้ให้กูไป พอกูโต ญาติก็ชอบล้อว่ากูเป็นลูกเขาน้า เกือบจะได้อยู่กับเขาแล้วน้า ไอ้เหี้ยจี้จุดชิบหาย ทุกวันนี้กูแทบไม่คุยกับอาของพ่อสักคำ ไม่รู้ดิ รู้สึกผิดมาก เหมือนเป็นความหวังของเขาแต่โดนตัดความหวังฉับพลัน
>>137 กู>>132 เองนะ นี่กูต้องพิมยาวๆอธิบายมึงจริงๆเหรอวะ มึงลองโดนทิ้งบ้างมั้ยหละ แล้วก็มีญาติแบบมึงที่คอยแต่จะผลักไปให้แม่แย่ๆ ไอ้สัดกูสงสารเด็กชิบหาย มึงอ่าน>>138 นะ "จิตวิทยาเด็ก" อะสำคัญ คำพูดทุกอย่างมันกระทบหมดแหละ
กูเคยโดนพ่อแม่ที่เลิกกันทิ้ง แล้วกูต้องอยู่กะย่าตั้งแต่เกิดยัน15 เวลาย่าหรืออาๆที่อยู่ด้วยโมโห ก็จะด่ากูและด่าว่ากูมันแย่เหมือนพ่อแม่ มึงไม่เข้าใจหรอกว่ามันกระทบแค่ไหน หลัง15 กูย้ายออกมาอยู่คนเดียว ตั้งแต่นั้นก็ไม่ได้อยู่บ้านย่าอีกเลย จนตอนนี้29แล้ว กูเข้าใจความรู้สึก ไม่เป็นที่ต้องการดี ยังดีที่กูใฝ่ดีบ้าง เข้ามหาลัยตอน22 แต่น้องมึงหละ มึงไม่กลัวมันไปเป็นอาชญากรไรงี้เหรอ อายุ14 กำลังโตเลย
บางทีรับเด็กมีปัญหามาก็ต้องพยายามมากกว่าเดิม ไม่ใช่มีปัญหาปุ๊ปพร้อมผลักไสไปอยู่กะแม่มึงไป อะไรงี้
>>139 กูว่ากูพิมพ์ไปแล้วนะว่าบ้านกูเลี้ยงมันเป็นหลานคนนึง มีดุด่าบ้างเวลาทำผิดแต่ไม่ได้รุนแรงหยาบคายขึ้นมึงกู หลานคนอื่นก็ถูกปฏิบัติแบบเดียวกับมันนี่ล่ะ มึงได้อ่านบ้างมั้ย หรือเห็นกูบ่นๆด่าๆมันในโม่งเลยคิดว่ากูเอาคำด่าพวกนั้นไปพูดกับเด็กมัน กูไม่ได้พูดโว้ย แค่มาบ่นๆระบายความคิดแย่ๆที่พูดให้ใครในโลกจริงๆฟังไม่ได้เฉยๆ ก่อนหน้าที่มันจะเปลี่ยนไปเป็นคนแบบนี้ มันเป็นเด็กที่น่ารักคนนึง รักพี่รักน้อง พอแม่งรู้ว่าไม่ใช่ลูกแท้ๆของพี่สาวกูแม่งพลิกจากหน้ามือเป็นหลังตีนด้วยตัวเอง บ้านกูไม่เคยมีใครปริปากบอกด้วยซ้ำว่ามันเป็นเด็กที่ถูกขอมาเลี้ยงหรือพูดถึงพ่อแม่มันว่าเหี้ยเลวนั่นนี่ ให้มันเข้าใจว่ามันคือลูกพี่สาวกู น้องๆมันยังไม่รู้เลยว่าไม่ใช่พี่แท้ๆ ไอ้พวกโตๆหน่อยก็ไม่พูด และกูยืนยันว่าบ้านกูไม่ได้ทอดทิ้งหรือผลักไสมันโว้ย ไม่เหมือนมึง
กูรู้เว้ยว่าโดนทิ้งมันเจ็บ แต่มันเลือกที่จะทำตัวเหี้ยๆใส่คนที่เลี้ยงมันมาแล้วไปเพ้อหาความรักความอบอุ่นจากคนที่คิดจะฆ่ามันตั้งแต่ยังเป็นวุ้น เท่านี้ล่ะที่กูโกรธ ที่ผ่านมามันไม่เคยมีค่าอะไรสำหรับมันเลยใช่มั้ยวะ บ้านกูดีไม่พอสำหรับมันใช่มั้ย ทุกคนให้ความรักไม่พอเหรอมันถึงได้มองข้ามไป มันรู้สึกเฟลก็ตรงนี้
>>140 เรื่องเกิดขึ้นนานยังวะตั้งแต่ที่เด็กรู้อะ ถ้าไม่นานกุูว่าอาจจะยังอยู่ในช่วงสับสน พอนานกว่านี้หรือโตกว่านี้อาจจะคิดอะไรได้มากขึ้น คงน้อยใจตามประสาเด็กอะ เหมือนถูกหักหลังไรงี้ป้ะ คือเด็กมันก็คิดลบของมันไปเรื่อย หรือไม่ก็ดูละครมากไปตามหาพ่อแม่ที่แท้จริง มึงพูดกับเด็กให้คิดด้วยก็ได้ว่าให้ดููดีว่าพี่สาวโม่งเลี้ยงมาดีขนาดไหน มีอะไรบ้างที่ทำให้รู้สึกน้อยใจ ที่กูพูดโคตรคนดีเลยว่ะ ถ้าเป็นกูกูจะตบหน้ามันไปสักที แล้วไล่ให้ไปหาแม่มัน เดี๋ยวก็ซมซานกลับมาเอง
>>141 ประมาณปีครึ่งมั้งถ้าจำไม่ผิด แต่ช่วงวันแม่จะทำตัวดราม่าเป็นพิเศษ ชอบตั้งสเตตัสแนวๆไม่มีใครรัก อยากเจอแม่แท้ๆ ถ้าอยู่กับแม่จริงๆคงมีความสุขกว่านี้ บ้านกูก็เรียกคุยเรียกถามมาตลอด จะพาไปหาจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาด้วย จะได้ปรึกษาหาทางแก้ไข แต่มันบอกมันไม่ได้บ้าจะไปหาหมอโรคจิตทำไม และอย่างที่กูบอกว่ามันทำตัวน่าเบื่อน่ารำคาญมากจนเขาเอือมระอากันหมดแล้ว ถ้ามันอยากไปหาแม่มันก็ให้มันไป จะได้รู้ว่าที่มึงพิมพ์ๆมามันจะดีแบบที่หวังไว้มั้ย เลี้ยงได้แต่ตัวจริงๆว่ะ
กูมาขอคำปรึกษา กูอยู่หอใกล้กับตัวมหาลัย ถ้าไม่นั่งวินก็ เดินไปแค่ 10 นาทีกว่าๆ ไม่ต้องพึ่งรถประจำทางเลยก็ได้ แต่ข้าวปลาหากินเองทุกมื้อ หอไม่มีเครื่องครัว พวกมึงว่ากูควรขอเงินเดือนเดือนละเท่าไหร่ดีอะ
>>143 แสดงว่ายังไม่เคยเจอแม่ตัวจริงสินะ เพิ่งเห็นว่าน้องมึงผญ.อายุสิบสี่ วัยขนาดนี้ทำใจไปก่อนเลย เด็กผู้หญิงอายุช่วงสิบสี่สิบห้านี้แหละแรงสุดแล้ว อย่าไปถามหาเหตุผลอะไรกะมันช่วงนี้คืออารมย์ล้วนๆ เล่าเคสคล้ายๆกัน(มั้ง) หลานสาวกูอยากย้ายโรงเรียนมโนว่าที่ใหม่มันต้องดีกว่างั้นงี้ ที่เก่าอยู่ไม่ได้ปัญหาเยอะเกินไปยังไงก้อจะย้ายจนพี่สาวกูทนไม่ได้วิ่งเต้นย้ายให้ พอย้ายไปได้เดือนเดียวโดนเล่นซะอ่วมทีนี้มางอแงอยากย้ายกลับ เจอชีวิตจริงเข้าไปไม่สวยงามแบบที่มโนไว้ น้องสาวมึงอาจจะแบบเดียวกันอาจจะต้องปล่อยไปเจอของจริง
>>143 ปล่อยแม่งไปให้เจอของจริงแบบที่ >>146 ว่าอ่ะแหละ แต่ยังไงนะ ถ้ามันยับเยินเพราะโดนแม่แท้ๆกับผัวใหม่เล่นงานกลับมาฝั่งมึงเองควรจะเป็นคนที่ต้อนรับเค้าเสมอไว้ก็ดี เผื่อมันจะคิดได้บ้างว่าคนที่ไม่ทิ้งมันไปไหนคือใคร ว่าก็ว่าเถอะ ลูกผู้หญิงนี่เลี้ยงยากกว่าผู้ชายในบางเรื่องอ่ะ โดยเฉพาะเรื่องอารมณ์กับความละเอียดอ่อนนี่แหละที่มันเยอะกว่าเพศชาย มันเลยปวดกบาลงี้แหละ ขนาดผู้หญิงด้วยกันยังปวกกบาลเลย
เครียดว่ะ เริ่มตั้งแต่ประมาณ 2 เดือนก่อนที่จู่ๆบ้านกูก็จนลงแบบมากถึงมากๆ พ่อกูที่เคยเป็นคนหาเงินหลักติดเพื่อน แล้วก็บอกกับแม่ว่าตาจะบอด(แบบคิดเอง)แล้วก็ย้ายออกไปอยู่กับน้องเขาที่ต่างจังหวัดเฉยๆอย่างนั้นเลย แม่กูก็ขายของชำของร้านที่บ้านกับรับจ้างเย็บผ้านิดหน่อยซึ่งมันไม่พอใช้อยู่แล้ว เลยเป็นครั้งแรกที่กูต้องเอาเงินเก็บตัวเองออกมาช่วย จากที่ปกติเคยแบ่งเงินเดือนให้บ้าง ตอนนี้คือกูต้องให้เงินเดือนกับที่บ้านทั้งหมดเลย ตอนแรกๆพ่อก็บอกว่าที่ไปอยู่กับน้องจะช่วยเค้าทำงานละก็ส่งเงินมาช่วยด้วย แต่สรุปก็ไม่มีเลย โทรไปก็ไม่ค่อยรับ ช่วงวันสองวันก่อนกูลองเข้าไปส่องเฟสพ่อ ปรากฎว่าพ่อเปลี่ยนเฟสแต่มันลิ๊งกับเบอร์เดิมอ่ะ เห็นเค้าคุยกับผู้หญิงคนนึงบ่อยๆแบบจีบกัน กูสงสัยว่าอาจจะเป็นเมียน้อยเขามั้ง ที่อยู่แม่งคือจังหวัดเดียวกับบ้านน้องพ่อด้วย แม่กูอ่ะไม่รู้แน่ๆเพราะแกไม่เล่นเฟส แต่กูนี่ดิ แม่งโคตรเคว้งเลยว่ะ จู่ๆก็รู้สึกชีวิตเหี้ยไรเนี่ย ขณะที่กูพยายามหาเงินช่วยบ้านแทบตาย รับงานนอกจนแทบไม่ได้นอน พ่อกูก็ไปมีชีวิตอิสระเหมือนไม่มีเมียมีลูก คนตาจะบอดยังไงวะเล่นเฟสทุกวัน แล้วคนแบบไหนที่มีครอบครัวแล้วแต่ยังไปจีบกับผู้หญิงคนอื่นอีก กูโกรธมากแต่กูบอกเรื่องนี้กับแม่ไม่ได้ แล้วล่าสุดวันนี้ ตะกี้เองแม่มาบอกกูว่าเดือนหน้าพ่อจะกลับมาที่บ้านเพราะจะไปหาหมอเพราะเรื่องตาจะบอดอะไรนั่น แม่บอกอีกว่าถ้ามันบอดจริงคือเราต้องเลี้ยงดูพ่อแล้ว แต่แบบไอ้เหี้ยเอ๊ย กูรู้ขนาดนี้แล้วอ่ะ ถ้าพ่อกลับมากูจะแกล้งทำตัวเหมือนเดิมได้ยังไง อกจะแตกตายแล้วไอ้เหี้ย
>>151 กูแนะนำให้มึงคุยกับแม่ด่วน อย่าให้แม่มึงโดนสวมเขา เจ็บวันนี้ยังดีกว่าไปรอเจ็บวันที่มันมีปัญหาอื่นเพิ่มมา (ถ้าผู้หญิงคนใหม่ท้อง) หรือถ้าสนิทกับตายาย กูแนะนำให้คุยกับเขา แล้วให้เขามาคุยกับแม่มึง อย่าปล่อยปัญหาทิ้งไว้ รีบหาทางแก้ตั้งแต่ต้นๆดีกว่า เรื่องแบบนี้ยิ่งปล่อยนานปัญหายิ่งเพิ่ม ถ้าพ่อมึงเลือกจะไปจริงๆ มึงก็จะได้เตรียมรับมือ เป็นเสาหลักแทนเขา เป็นกำลังใจให้นะมึง
>>151 มึงรอเอาพ่อมึงไปตรวจก่อนถ้าปกติดีไม่บอดแน่ มึงคุยกับพ่อมึงก่อนเลยยังไม่ต้องถึงแม่ ถ้าพ่อมึงยังแค่จีบๆเล่นยังไม่ถลำลึกก็ยังพอดึงๆกลับมาได้อยู่ คือกูก็มีประสบการณ์ที่พ่อไปติดผู้หญิงเหมือนกัน
กูก็พอจะเข้าใจว่าอารมณ์เหมือนกันว่าแม่กูไม่ตอบสนองพ่อกูแกเลยไปมีกิ๊กข้างนอก กูจับได้กูก็คุยว่าอย่าไปมีกิ๊กเลยครอบครัวจะแตกแล้วจะแย่ซะเปล่าๆ กูก็บอกไปเลยว่าถ้ายังไงแค่ อาบอบนวดหรือนวดกระปู๋พ่อก็จัดไปเลยแต่แค่ไม่ไปมีกิ๊ก มีเมียน้อยก็พอก็รับคำกูนะ หลังจากนั้นกูตามๆดูก็เรียบร้อยดีไม่นอกลู่นอกทาง
คือบางทีไปปิดทางแกเลยไม่ได้อ่ะต้องแง้มๆไว้ให้ดิ้นได้หน่อย
>>151 ของกูเคยแค่พ่อมีเมียน้อยแล้วแม่จับได้ บ้านแตกพ่อบอกว่าเลิกๆ แต่ก็แอบมีอยู่จนแม่จับได้อยู่ร่ำไป แต่ครอบครัวกูก็ปกติดี อยู่ด้วยกันอะไรกัน ไม่มีทะเลาะเบาะแว้ง ส่วนกูก็บอกแม่ไปว่าถ้ามันไม่มีอะไรกระทบถึงเราก็โอเค จนกระทั่งวันหนึ่งเมียน้อยพ่อกูโทรมาด่าแม่กูว่าหน้าด้าน ขับรถมาหาแม่กูถึงบ้านเพื่อมาด่าแม่กูแล้วบังคับให้แม่กูหย่ากับพ่อกู (กูทำงาน ตจว. ถ้ากูอยู่บ้าน บันเทิงแน่มึง พ่อกูเป็นทหารกลับบ้านแค่เสาร์อาทิตย์ วันธรรมดาอยู่บ้านพักในค่าย) แม่กูก็โทรมาร้องห่มร้องไห้ให้กู กูพิมไลน์ไปด่าพ่อกู โทรไปด่าพ่อกู ขอว่าจะมีก็มีได้ แต่ดูแลเมียน้อยด้วยอย่าให้มาระรานลูกเมีย ช่วงนั้นกูก็จัดการรวบรวมหลักฐานให้มากที่สุด กะว่าจะแจ้งความแล้วฟ้องเมียน้อยให้หมดตูด (เพราะกูศึกษามาว่า เมียหลวงสามารถฟ้องเมียน้อยได้) ส่วนพ่อกูก็บอกแม่ว่าจะหย่าก็หย่าได้ แต่เขียนชื่อกูลงใบรับมรกดด้วย แล้วเซ็นโอนที่ดินให้แม่ให้หมด พ่อต้องส่งค่ากินอยู่ให้แม่กับน้องทุกเดือนตามกฎหมายบลาๆๆ อะไรก็ว่าไป 55555+ แต่ระหว่างที่กูบอกให้แม่เก็บหลักฐาน ดูลาดเลาไปเรื่อยๆ หลังจากนั้นกูก็ไม่เห็นแม่กูมาบ่นอะไรอีกเลย
พ่อแม่ขี้เหยียดมากเลยว่ะ เหยียดทั้งคนผิวคล้ำ ผิวสี คนอ้วน คนตัน คนหุ่นลูกแพร์ ตุ๊ด เกย์ กะเทย ทอม ดี้ การแต่งตัวคนอื่น การแต่งหน้า ฯลฯคือพ่อไม่เท่าไหร่ แต่แม่หนักมากๆ ซึ่งตัวเองก็ไม่ได้เพอร์เฟคอะไร กูย้ำ เตือนหลายครั้งแล้วว่าให้หยุด ก็ไม่หยุด เบื่ออ่ะ นี่พวกนั้นยังไม่รู้ด้วยว่ากูเป็น Queer แล้วแฟนกูเป็นเกย์รับ(จีบยากชิบหาย กว่าจะได้มันมาเป็นเมีย+ผัว)แค่คิดว่าแฟนกูดูเป็นผู้ชายไทป์น่ารักเฉยๆ กูเบื่อมาก เมื่อไหร่พวกนั้นจะเลิกเหยียดทุกอย่างบนโลกนี้สักทีวะ บอกหลายรอบก็ไม่จำ หาว่าเป็นเด็กริมาสั่งสอนผู้ใหญ่ ขนาดยังเรียกโอบาม่าว่าไอ้ดำแอฟริกา กูจะบ้าตาย เบื่อโว้ยยนยยนยยนยยยยยยยยยยยยย
เหนื่อย เหนื่อย เหนื่อย....
คืองานกูอะ มันต้องส่งรูปเล่มวันนี้ก่อนห้าโมงแล้วกูทำไม่ทัน กูก็เฟลแล้วนะ ข้าวกูเพิ่งจะกินมื้อแรกของวันก็เมื่อ 20 นาทีที่แล้วนี่เอง แล้วคืออะไรที่กูโดนด่าว่าเห็นแก่ตัวไม่ล้างจานวะ แค่ใบเดียวเองมึง แค่ชามใบเดียว คือกูจะทุกข์จะแย่แม่งไม่รู้ กูหาทางออกไม่ได้ก็ไม่เคยช่วยกู มีแต่ทับถม แล้วมึง คือแบบกูป่วยเป็นโรคประสาทอ่อนๆ แทนที่จะพูดให้กำลังใจกูนะ แม่งกลับด่ากูว่าเป็นผีบ้า สติไม่ดี สมควรแล้วที่ไม่มีใครคบ แม่ง ทำไมกูต้องมีแม่แบบนี้วะ แล้วทำไมกูต้องมีชีวิตแบบนี้ กูก็ไม่ได้อยากป่วย ไม่ได้อยากผิดปกติไหมละมึง ชีวิตเหี้ยๆ แบบนี้กูก็ไม่ได้อยากใช้นักหรอกสัตว์!!! กูเกิดเป็นสัตว์ยังดีกว่าถ้าต้องมาเจออะไรแบบนี้อิเหี้ย
กูเบื่อแม่ชิบหาย ชอบคอลไลน์มาหากูทุกวันตั้งแต่กูมาเรียนมหาลัย (กูคือคนท่ี่มาระบายว่าตอนอยู่บ้านโดนแม่ด่าว่าเป็นคนทำลายชีวิตแม่เพราะต้องเอาเงินมาส่งกูเรียนละเสือกไม่เรียนครูอ่ะ) ความสัมพันธ์กูกับแม่คือกูภาวนาให้เปิดเรียนเร็วๆ อยากอยู่หอชิบหาย จะได้ไม่ต้องได้ยินเสียง ไม่ต้องได้เห็นหน้าแม่อีก หอคือคอมฟอร์ทโซนของกูมาตั้งแต่ ม.4 บ้านไม่ใช่ที่ของกู ไม่รู้จะคอลมาทำไม คอลมาก็บอกคิดถึง ตอนอยู่บ้านแม่งต้องหาเรื่องมาด่ากูทุกวัน แล้วมาบอกคิดถึง สัด รำคาญ โทรมาก็ไม่รู้จะคุยอะไรกัน คือครบอครัวกูเป็นแบบชอบ blame กูตลอด เวลามีเรื่องอะไรมาเล่า ถ้าเป็นเรื่องอะไรที่ไม่ถูกใจ ไม่ถูกจริตพวกนางก็จะด่ากู บางทีอยากเล่าเรื่องขำๆก็ดันเอามาคุยเป็นเรื่องซีเรียสๆแล้วก็ด่ากู คุยเรื่องคนอื่นให้ฟังก็อยู๋ดีๆก็วกกลับมาเปรียบเทียบกูกับเค้าแล้วก็ด่ากู คือเป็นเหี้ยอะไรไม่รู้ ต้องหาเรื่องมาด่ากู ทำเหี้ยอะไรดี ก็จะหาข้อบกพร่องแล้วก็ด่าตรงนั้น แทนที่จะชมข้อดี เป็นเหี้ยอะไรไม่รู้ ทำนิสัยแบบนี้ใส่กูมาตั้งแต่กูอยู่ประถม จะมาขอความคิดถึงจากกูมันยากไปหน่อยว่ะ ชีวิตกูให้แต่ตัวกูว่ะ มีเงินเดี๋ยวจะเอาให้ แต่ถ้าความคิดถึงอาจจะยากนะ ไม่รู้ว่าพวกมึงเข้าใจความรู้สึกกูมั้ย แต่กูอยากให้ีครอบครัวกูเป็นเหมือนครอบครัวของอาหรือลุงกู แม่งโคตรอบอุ่น พ่อแม่ก็ตลก เล่นมุขใส่กัน มีเรื่องอะไรก็เล่าให้กันฟังได้ เป็นคนคอยรับฟัง หรือบางทีก็ให้คำปรึกษา ไม่ใช่ครอบครัวกูที่พอปรึกษาอะไรหน่อยก็ต้องด่ากู เอาแต่พูดว่า "เห็นมั้ยล่ะ พ่อบอกแล้ว" แล้วก็ด่าๆๆ สุดท้ายก็ไม่ได้ช่วยหาทางแก้ด้วยซ้ำ สุดท้ายก็แค่เอาแต่พูดซ้ำเติม ไม่รู้จะพูดไปทำเหี้ยอะไรวะ
>>167 ไหนๆก็พูดแล้วอ่ะมึง คือพอโดนทำแบบนี้มาเรื่อยๆ มันทำให้กูพยายามสร้างตัวเองว่าเป็นคนมีความมั่นใจในตัวเอง แต่จริงๆลึกๆในใจกูโคตรกลัวทุกอย่างบนโลกใบนี้ กูดูถูกตัวเองมาตลอด กูไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองดีพอ กูไม่รู้สึกว่าตัวเองมีค่า ถึงจะทำดีขนาดไหน แล้วเป็นเหี้ยอะไรไม่รู้จะทำอะไรจะได้ที่สองตลอด ไปแข่ง ไปสอบ ลำดับในคณะ ลำดับในห้องเรียน ไม่เคยได้ที่ 1 เลย แล้วแม่งจะโดนพ่อกับแม่พูดแซะอ่ะว่าทำอะไรก็ไม่เต็มที่ ทำไมไม่ทำให้ได้ที่ 1 ทำไมวะ ทำไมกูไม่เคยได้ที่ 1 เลยว่ะ แล้วการได้ที่ 2 มันเแย่ขนาดนั้นเลยหรอ
>>167 กูเข้าใจ แม่กูเป็นคนแข็งๆ วิตกจริต วิตกแม่งทุกอย่าง กูก็โดนเลี้ยงมาแบบคนวิตกจริตเลี้ยงอ่ะ กลัวแม่งทุกอย่าง แต่ไม่เคยแสดงความรักกับกู ทำแค่บ่นกับด่ากู 2 อย่าง กูกระดิกจะทำอะไรก็บ่น จะเดินก็บ่น นั่งก็บ่น กูเบื่อมากๆ เครียดมากๆ ตอนนั้นแม่งจะบ้าแล้วกูต้องบอกกับตัวเองให้ทนไว้ เรียนให้หนักแล้วหนีไปเรียนไกลๆ ตอนนั้นกูเอ็นลงม.ไว้ถ้าไม่ได้ม.ดังกรุงเทพกูขึ้นเหนือแน่นอน ดันได้ม.ดัง เลยแม่งมาหากูทุกอาทิตย์เลยสัด
กูก็เหมือนมึงแหละ คือเรื่องมันก็นานแล้วแต่กูก็แทบจะไม่เหลือความรู้สึกรักแม่อะไรเทือกนั้นแล้ว กับพ่อกูยังคุยด้วยสนิทกว่า ปัจจุบันที่ยังดูแลกูก็แค่ทำตามหน้าที่ลูกที่ดีแค่นั้นแหละ
เบื่อพ่อแม่ตัวเองชิบหายเลย ทำตัวตัณหากลับตลอด พอกูทำนั่นนี่จนดึกดื่นก็บอกว่าอะไรที่ทำแล้วลำบากตัวเองให้รีบไปนอน พอกูไม่ทำเพราะลำบากตัวเองเกินแม่งก็มาแซะโวยวายว่าขี้เกียจสันหลังยาวไม่มีอนาคต สรุปคือจะเอาส้นตีนไรกับกูวะ เบื่อพ่อแม่พรรค์นี้ชิบหายอ่ะ กูเดาไม่ถูกเลยว่าจะมาแบบไหน ตอนพวกแม่งแก่ๆคงไม่เลี้ยงดูแบบดีๆอ่ะ เลี้ยงดูแบบเหี้ยๆเหมือนกับที่มันเลี้ยงๆกูผ่านมานี่แหละ
กูไม่ค่อยมีความสุขในครอบครัวเลย กูสนิทกับแม่นะ แต่ก็เหมือนเพราะผูกพันธ์กันมากกว่า ไม่ได้สนิทใจ กับพ่อแย่มากๆ พ่อชอบดูถูกทุกคน บอกว่าทุกคนแม่งโง่บ้างล่ะ บอกว่ากูทำตัวภาระ เอาแต่พูดสิ่งที่ทำลายสุขภาพจิตคนอื่น ไม่ทำอะไรเลยแต่กลับบอกให้คนอื่นทำ พอกูทะเลาะด้วยแล้วเมินก็มาทำเหมือนปกติทำเหมือนไม่เคยทะเลาะกัน มากอดไรงี้ มาถาม ทั้งๆที่ความรู้สึกกูพังไปหลายรอบ พังจนกูไม่อยากยุ่งเกี่ยวด้วย อยากพูดตัดขาดกันแม่งไปเลย แต่ก็ทำไมได้เพราะกูต้องการที่อยู่และเงิน กูรู้สึกเหมือนกูรักเขาเท่าจำนวนเงินที่เขาให้กูอะ เพราะความสัมพันธ์ที่ให้กันแม่งแย่
ถ้ากูมีลูกกูจะไม่เลี้ยงแบบพ่อแม่ พ่อแม่กูเลี้ยงกูมากับความกลัว ไม่ใช่เหตุผลในการคุยกันหรือสั่งสอนลูก ทำให้กูจะไม่เปิดเผยด้านไม่ดีหรือมีปัญหาให้พ่อแม่เห็นเลย เพราะกูกลัวจะโดนด่า กูรู้ว่ากูไม่สามารถขอความช่วยเหลือจากพ่อแม่กูได้ เพราะพ่อแม่กูไม่เคยให้กำลังใจ มีแต่ซ้ำเติม มีแต่เหยียบกู ถ้ากูทำพลาด
กูเกลียดวันแม่ เพราะถึงวันนี้ทีไรกูต้องโดนแม่ด่าอะไรสักอย่าง อย่างเช่นวันนี้ กูถูกปลุกขึ้นมาแล้วโดนตั้งข้อหาที่กูไม่ได้ทำ แล้วแม่ก็ด่ากูเป็นผู้หญิงเลว แค่ลิปติกพี่กูหาไม่เจออะมึงกูกลายเป็นคนเลวเลย แม่หาว่ากูเอาไปทั้งที่กูเปล่า กูยืมมาใช้แล้วคืนไปแล้ว พอตอนนี้อีก คือกูอะ ทำงานเหนื่อยทั้งวันทั้งคืน แล้วกูก็ต้องมาสอบอีก ทีนี้กูก็เพลีย แถมตอนเช้ากูโดนปลุกมาด้วยเรื่องแบบนี้อีก ปัญหาอยู่ที่กูอาบน้ำแล้วฝนแม่งเสือกตก กูก็นึกขึ้นได้ว่า เออ มีผ้าตากไว้อยู่ กูเลยรีบวิ่งออกมาเก็บให้ทั้งผ้าเช็ดตัว คือผ้าอะ มันโดนฝนนิดเดียว แล้วมันก็ยังไม่แห้งอยู่แล้ว กูก็ไม่ได้คิดอะไร กลับไปอาบน้ำต่อ พอแม่กูกลับมาเจอราวผ้าเปียกน้ำฝนเท่านั้นแหละ จากคนกูกลายเป็นเหี้ยเป็นหมาเป็นสัตว์ คือกูอะโคตรเกลียด เกลียดมาก กูรู้ว่ามันบาปนะ แต่กูไม่ไหววะ คือกูทำห่าอะไรก็ไม่เคยถูก กูป่วยกูก็ผิด กูเรียนกูก็ผิด กูทำงานกูก็ผิด กูต้องตายอย่างเดียวละมังกูถึงจะถูก แล้วคือ ไม่เคยจะฟังกูเลยสักครั้ง กูไม่อยากอยู่แล้วมึง ตอนนี้ หมัดหมายังมีค่ากว่ากูอีก
แม่กูโทรมาก็พูดอยู่สามเรื่องเดิมซ้ำไปซ้ำมา เก็บห้องด้วยนะ ใช้เงินประหยัดๆ อย่าซื้อของไม่จำเป็น พูดอยู่นั่นแหละ รำคาญ อิสัส ในบ้านกูใช้เงินประหยัดที่สุดละ สองปีกูซื้อเสื้อผ้าสี่ห้าตัวครั้งนึง ตัวละ 100-200 แม่กูเดือนนึงตัดชุด 2-3 ตัว ชุดละ 400-500 บ่นกูอยู่ได้ ไอ้สัส บอกตัวเองนู่น
ไม่รู้ว่าถูกมู้ไหมนะ
คือกูอยากระบายว่ะ ก่อนหน้านี้กูได้ทุนเต็มจำนวนของมหาลัยแห่งหนึ่งในแคนาดา เป็นทุนที่อาจารย์แนะนำให้ลองสมัครดูแล้วประกาศว่ากูได้ เป็นคนเดียวของประเทศไทย
กูรู้แหละว่าได้ทุนเต็มจำนวนแต่มันก็ต้องมีค่าใช้จ่ายอื่นอยู่ดี กูเลยทำงานพาร์ทไทม์2ที่ แล้วก็มีขายของออนไลน์เพิ่ม เพราะไม่อยากขอเงินครอบครัว มีเงินเก็บมากอยู่ในความคิดของกู ซึ่งกูคำนวนแล้วว่ามันน่าจะพอสำหรับการใช้ชีวิตที่นู่น
ซึ่งเรื่องไปเรียนต่อ ได้ทุนอะไรพวกนี้กูบอกครอบครัวตลอด แต่ไม่ได้บอกว่าตัวเองทำงานหาเงินเก็บเพิ่ม
จนประมาณเมื่อ2เดือนก่อน (ถ้าเป็นกำหนดเดิมกูต้องเดินทางไปเรียนวันที่20/08) กูเผลอวางสมุดบัญชีไว้บนโต๊ะกินข้าว แล้วกูคิดว่าต้องมีใครสักคนแอบเปิดมันดูแน่ๆ พ่อกับแม่ก็เริ่มพูดเรื่องไม่อยากให้กูไปเรียนต่อ อ้างว่ามันไกล ไปนานบ้างแหละ (บ้านกูไม่ค่อยสนิทกัน กูแยกมาอยู่คนเดียวตั้งแต่ม.6แล้ว กลับบ้านเฉพาะวันหยุด)แล้วอยู่ดีๆวันนึงที่บ้านโทรมาหากูว่าพ่อป่วย ต้องเข้ารพ. ต้องใช้เงินรักษา กูก็โอนเงินไปให้ ไม่ได้คิดอะไร แต่เหมือนเขาเห็นว่าโทรมาขอกูแล้วได้ก็โทรมาขอเรื่อยๆ กูไม่ได้ติดใจอะไรเลยนะโว้ย คิดแหละว่ายังไงก็พ่อแม่ แต่ก็แอบน้อยใจไม่ได้ว่ะ คือกูมีพี่ชายแล้วพี่ชายกูก็ทำงานแล้วเงินเดือนเกือบแสน แต่พ่อกับแม่ไม่เคยโทรขอเลยนะเวลามีปัญหาอะไร ต่างจากกูที่ยังเรียนอยู่ ทำงานสายตัวแทบขาด เงินได้นิดเดียว
ก่อนเดินทางประมาณเดือนนึง ระเบิดก็ลงที่กู กูพูดบอกว่า เออเดี๋ยวเดินทางเดือนหน้าแล้วนะ ไปส่งที่สนามบินด้วยงี้ พ่อแม่กูก็ดราม่าใหญ่ ว่ากูทิ้งเขาไปได้ดีคนเดียว บอกว่าไปเรียนแต่ความจริงหนีตามผช.หรือเปล่า เงินในบัญชีเยอะแยะนี่มีเสี่ยเลี้ยงใช่ไหม ด่ากูเยอะมากจนกูงงว่า กูทำเหี้ยไรผิด
สุดท้ายคือกูก็ไม่ได้ไปเรียนต่อ เพราะพ่อกูบอกว่าเดี๋ยวเขาก็ตายแล้ว ทำไมไม่อยู่ด้วยกัน แทนที่จะเอาเงินไปเสียกับเรื่องไร้สาระ? เอาเงินมาซื้อนั่นนี่ให้พ่อแม่มีความสุขดีกว่า
กูไม่ได้อยากคิดแง่ร้านนะเว้ย แต่แบบทำไมเขาทำกับกูแบบนี้วะ อนาคตกูพังลงแบบ...
>>179 เป็นกู กูบินไปแล้ว อาจเพราะกูหมดหวังกัยที่บ้านแล้วด้วยกูเลยห่วงอนาคตตัวเองมากที่สุด เพราะรู้ดีว่าถ้ากูลำบาก ไม่มรทางที่ครอบครัวกูจะช่วยหรือเป็นกำลังใจให้กูได้ จะว่ากูเนรคุณกูก็ยอมรับ กูเตรียมใจตกนรกมานานแล้ว ทุกวันนี้กูเรียนและหาเงินอย่างเดียว ความสัมพันธ์ระหว่างคนในบ้านก็เลยยิ่งแย่ หลายคนด่ากูว่ากู พวกเขาบอกว่าแกตัวไปก็เหลือเพียงครอบครัวที่อยู่กัลเรา และเงินซื้อความสุขไม่ได้ แต่บังเอิญชีวิตกูไม่เหมือนพวกเขากูเลยไม่ฟัง ไม่สนใจอะไรนอกจากตัวเอง
เชี่ย กูว่าจะปลอบมึง กลายเป็นกูมาบ่นเป็นเพื่อน? เอาเป็นว่า กูเป็นกำลังใจให้ ครั้งนี้มึงชวดครั้งหน้าเอาใหม่ แล้วถ้าเขาด่ามึงอีก ลองถามเขาดูว่า ระหว่างเนื้อปลาแซลมอลกับก้างปลาทู พ่อเลือกจะกินอะไร แซลมอลใช่ไหม เหมือนกันเลย การเรียนต่อจนได้วุฒิและประสบการณ์ดีๆ คือแซลมอล การย่ำอยู่กับที่คือก้างปลา พ่อจะให้ซื้อเนื้อแซลมอลหรือก้างปลาทูมาฝากดีละ??
พวกมึงคิดไงกับแนวคิดเรื่องกตัญญูพ่อแม่ที่เหมือนจะมีสาเหตุมาจากแนวคิดพุทธๆว่าการมีลูกคือมีวิญญาณเข้าท้องมาขอเกิดวะ จริงๆแล้วการเกิดมามันเป็นความรับผิดชอบของพ่อแม่ปะวะเพราะพ่อแม่เป็นคนตัดสินใจจะให้เราเกิดมาเองเพราะเค้าก็หวังผลอะไรสักอย่างกับการให้เกิด ไม่ว่าจะบอกว่าเป็นพยานรัก, เป็นข้อผูกมัดสำหรับชีวิตคู่, เอาไว้เลี้ยงยามแก่เฒ่า พ่อแม่ก็สมควรจะเป็นสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมให้เรามีชีวิตที่ดีปะไม่ใช่สร้างชีวิตนึงขึ้นมาแล้วยังทำให้ชีวิตนั้นต้องเผชิญความทุกข์อีก ไอ้แนวคิดกตัญญูไม่ลืมหูลืมตานี่มันส่งเสริมการไม่มีความรับผิดชอบของชายหญิงคู่นึงยังไงไม่รู้ว่ะ
>>179 ไปแคนาดาเหอะมึง จากนี้ถ้าพ่อแม่โทรมาก็ไม่ต้องรับ กูเชื่อว่าตอนมึงลำบากขึ้นมามึงหมาแน่ ไปอยู่นู่นมึงยังตั้งรกรากอะไรเองได้ อยู่ไม่ยากหรอกถ้ามึงสู้ชีวิตขนาดนี้ เรียนจบชีวิตพร้อมค่อยมาตอบแทนสิ่งที่ควรจะตอบแทนก็ไม่สาย หรือถ้าสาย ก็แล้วไง ในเมื่อตอนมึงไป เค้ารั้งมึงเพื่อเอาเงินมึง
ว่ากันตามตรง อย่าหาว่ากูด่าพ่อด่าแม่มึงเลยนะ แต่พ่อแม่ดีๆเค้าไม่ฉุดความเจริญลูกหรอก พ่อแม่ดีๆเค้าไม่ตั้งคำถามด้วยว่าการที่ลูกไปเรียนจะไปเจอผู้ชายหนีตามผู้ชาย น้ำเน่าชิบ
>>182 กูเจ็บใจสุดตรงที่หาว่ากูหนีตามผู้ชายนี่แหละ เขาพูดเหมือนไม่ใช่พ่อแม่กูเลยอะ ไม่รู้หรอว่าลูกตัวเองเป็นคนยังไง เรื่องไปเรียนคงไปไม่ได้แล้วเพราะกูแจ้งมหาลัยไปแล้ว ตอนนี้กูก็คิดว่าคงหางานทำ เลือกงานที่ไกลบ้านมากที่สุดนั่นแหละ พอมีโอกาสจะกลับมาคิดเรื่องเรียนใหม่อีกรอบ เพราะใจจริงกูอยากเรียนมากกว่า
จะว่ากูเลวมากก็ได้นะ แต่ในใจลึกๆกูแอบคิดว่าเมื่อไหร่เขาจะตายไปจากกูสักที
>>185 อ่อกูเจอจนกูเอือมแล้วฮะ พ่อตากูนี่เป็นโรคไตแนวคิดเดียวกะพ่อแม่มึงเดะ เดี๋ยวกูก็ตายแล้วขอใช้ชีวิตให้คุ้ม หรืออีกนัยคือขอผลาญเงินลูกให้คุ้ม ถ้าแม่ยายไม่อยู่ด้วยคือมียืมเงินแน่ๆ...ไม่ดิขอมากกว่าเพราะไม่เคยคืน จนกูไม่อยากเจอตัวๆต้องมีแม่ยายอยู่ด้วย คือแม่ยายกูคนหาเงินเข้าบ้านยืมเงินลูกนี่มึงโดนแน่ๆบอกเลย
คือคนเป็นไตอ่ะถ้าคุมน้ำดีๆแม่งอยู่กันเป็น 10 ปี แต่แม่งไม่คุมไงเข้าปี 2 เจอฟอกอาทิตย์ละ 4 วัน กำลังจะขึ้น 5 วัน มีแต่ความคิดล้างผลาญเงินลูก ขี้ใจน้อยกลัวตาย มีวิธีที่ทำให้อยู่ได้นานๆคือคุมน้ำแต่ไม่คิดจะทำ ไม่เคยคิดจะทิ้งอะไรไว้ให้ลูกเมีย
ปล.แล้วพ่อแม่มึงเป็นอะไรถึงว่าตัวเองจะตายน่ะ
>>186 เป็นไขมันฟอกตับ กูไปศึกษามาแล้วว่าโรคนี้มันไม่ได้ร้ายแรง แค่ต้องดูพวกอาหารการกินให้ดีๆ แต่บอกอะไรไปเขาก็ไม่ฟังหรอกมึง ทำตัวเหมือนอยากให้ตัวเองตาย กินแต่ของหวานทั้งที่หมอให้งดน้ำตาล แต่พอไปตรวจตามหมอนัดแล้วอาการแย่ลง ก็มาลงที่กู หาว่ากูดูแลไม่ดี ทำให้เขาอาการแย่ลง ญาติพี่น้องกูมาด่ากูอีกว่า พ่อคนเดียวยังไม่มีปัญญาดูแล กูโดนกดดันจนจะเป็นบ้าอยู่แล้ว
*ไขมันพอกตับ
>>187 เรียกร้องความสนใจป่ะวะ เห็นเค้าว่าพวกเป็นโรคพวกนี้ที่ดื้อๆให้ทำอะไรไม่ทำทั้งๆที่รู้ว่าถ้าทำจะดีขึ้น คือเรียกร้องความสนใจอยากให้มีคนคอยดูแลป่ะ คือกูคิดว่าพ่อตากูน่าจะเป็นแบบนั้น คือแม่ยายกูก็ห้ามอย่ากินน้ำๆ นี่ก็ถ้าแม่ยายไม่อยู่ด้วยคือซัดเอาๆ กูลูกเขยก็พูดไรไม่ได้มาก เอือมทั้งบ้าน
แต่ดีที่พ่อตากูมีแต่คนไม่ชอบแก จะเป็นจะตายญาติๆเลยไม่สนซักเท่าไร อยากตายก็ปล่อยตายถือว่ากูห้ามแล้วนะมึงไม่ฟังเอง ตอนนี้ก็ลุ้นว่าถ้าจะไปจะไปเลย หรือนอนไม่ตื่นเป็นภาระพวกกูต่อ
นึกถึงอากู เป็นซึมเศร้าตอนแก่ ยาไม่กิน รักษาไม่ไป คิดแบบนี้เลยแก่แล้วใช้ชีวิตให้คุ้ม วีนเหวี่ยงอยู่กับใครไม่ได้ พ่อกูรับมาอยู่ด้วยเพราะเห็นอายุมากแล้ว แต่ก็ติดนิสัยผู้ดีตีนแดง อยากเที่ยวห้าง อยู่บ้านนอกบ้านนาไม่ำด้ จนาดท้ายพ่อกูต้องปล่อยกลับไปสังคมเดิม
คนแก่เป็นแบบนี้กันทุกคนหรือเปล่าวะ กูเริ่มจะไม่ไหวแล้ว ทั้งๆที่เขาก็ผ่านการใช้ชีวิตมาแล้ว ทำไมเขาไม่รู้วะว่าต้องทำตัวแบบไหน
มีคนแก่บ้านใครพยายามทำตัวเองให้เบาหวานแดกบ้างไหมวะ
ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุจริงๆ
>>194 จากงานวิจัยนะ พวกคนแก่ดื้อๆชุดความคิดเค้าคือ คนแก่จะพยายามจะทำให้คนในบ้านเห็นว่าชั้นแข็งแรงดี ด้วยธิฐิของตัวเอง ส่วนนึงคือกลัวตายน่ะแหละ
ชั้นยังไม่ใกล้ตาย เมื่อก่อนทำอะไรได้เดี๋ยวนี้ก็จะทำให้ได้ เมื่อก่อนชั้นแดกอาหารพวกนี้ได้ทำไมตอนนี้จะแดกไม่ได้ เห็นไม้ชั้นแดกแล้วไม่เห็นเป็นไร
ชั้นยังไม่ใกล้ตาย เอายามาให้ชั้นกินทำไม??? มีแต่คนใกล้ตายเท่านั้นแหละที่จะแดก กูไม่แดก!!! เป็นไงล่ะกูไม่แดกแล้วก็ไม่เห็นเป็นไร ไอ้ลูกโง่ หลานโง่ หมอโง่ มาบอกว่าชั้นใกล้ตายได้ เอายาอะไรมาให้ชั้นแดก
.
.
.
ก็นั่นล่ะฮะความชิบหายก็จะตามมา
เอากระทู้ฮาๆ แต่กูอ่านแล้วเครียดมาให้อ่านสัด https://pantip.com/topic/37969256
คือกูโคตรเข้าใจ จขกท. บางคนในกระทู้ก็เข้าใจ แต่มนุษย์พันทิปส่วนใหญ่ว้อย แม่งไม่เข้าใจ ไม่คิดจะเข้าใจด้วยว่าการตีกรอบหนาๆให้เด็กมันเป็นการทำร้ายเด็ก มีบอกด้วยว่าพ่อแม่เลี้ยงดีก็ดีแล้วนี่ มึงจะออกมานอกกรอบทำไม ขอโทษเหอะชุดความคิดแม่งโคตรไทย
เลี้ยงลูกในกรอบที่กำหนด สมมุติเป็นกรอบของการเรียนจบเป็นหมอ คนไหน fail ประสาทแดก, เรียนไม่จบช่างแม่ง คนไหนทนได้จบมาเป็นหมอ ก็เชิดชูซะแล้วบอกชาวบ้านว่าวิธีเลี้ยงของชั้นดีดูสิลูกชั้นได้เป็นหมอ แล้วก็วนลูปต่อไป มันดีต่อตัวเด็กจริงๆหรอวะ?
พี่สาวกูแม่งน่ารำคาญชิบหาย ชอบมารบกวนง้องแง้งๆ ช่วงที่กูการบ้านสุมหัว พอไม่สนใจก็ทำมาน้อยใจด่าบ้างประชดบ้าง
คือเข้าใจนะว่าเป็นโรคซึมเศร้าอยากได้คนดูแล แต่กูก็ต้องมีชีวิตของกูป่ะวะ กูก็จะไปปฏิเสธตรงๆ ก็กระไร เพราะเหมือนเจ๊แกก็เห็นกูเป็นน้องที่พึ่งได้อ่ะ
แต่พยายามมาหลายวิธีแล้วก็ยังมากวนไม่ดูเวล่ำเวลา บางวันกูมีสอบแม่งก็จะมาให้กูนั่งฟังมันบ่นจนกูจะฆ่าตัวตายแทนละ
กูไม่แปลกใจเลยที่มีข่าวออกมาว่าคนดูแลผู้ป่วยถึงกลายเป็นผู้ป่วยแทน อยู่บ้านเดียวกันทุกวันนี่กูก็ใกล้บ้าแล้ว ไอ้สัดดดดดดดดด
>>198 เราว่าควรเป็นกนอบสี่เหลี่ยมที่มีแค่3ด้าน ด้านสุดท้ายควรให้เขาได้สร้างขึ้นมาเองว่ายังอยากให้เป็นสี่เหลี่ยมเกมือนเดิม หรือเสริมมุมเพิ่มกลายเป็นห้าเหลี่ยม แน่นอนว่าระหว่างที่เขาสร้าง เราควรที่จะคอยมองห่างๆ อย่างห่วงๆ แนะบ้างเล็กน้อย เตือนบ้างในบางเรื่อง แบบนี้น่าจะดีกว่า
ที่มันมีปัญหาคือกรอบแบบหนาจัด รร.เลิกต้องกลับบ้านหรือไปเรียนพิเศษเลย ไปนั่งรอรับกลับหรือตั้งเวลากลับเลย พวกที่พอถึงเวลาเลิกเป๊ะโทรศัพท์จะเข้าตลอดตามกลับบ้านน่ะ ห้ามไปเล่น ไปกินข้าวกับเพื่อน ถ้ามีความรู้คอมนี่เช็ค history เวลาเล่นเวปด้วย ทำเด็กมันเครียดจัด ชีวิตให้ใช้แต่ในบ้านตัวเอง อยู่ในกรอบที่พ่อแม่ต้องการเท่านั้น กูเคยเจอสภาพนี้แม่งจะบ้าเอา
อีดอกเป็นไงล่ะกูบอกแล้วเมียกูมันอยู่กับใครไม่ได้หรอกกับแม่มันยังอยู่ไม่ได้เลยสัด
มึงเคยเจอไม้ผู้หญิงที่โคตรจะขี้หงุดหงิด หงุดหงิดทุกอย่าง คนเดินช้าบังไลน์กูหงุดหงิด ดึกง่วงนอนกูหงุดหงิด ทำอะไรช้ากูหงุดหงิด เวลากูอยู่กับมันกูอ่านอารมณ์มันออกไง แต่นี่แม่มึงเค้าอ่านมึงไม่ได้เหมือนกูไงสัด
เรื่องมันเกิดเพราะกูมาทำงานตจว.แล้วแม่ยายกูเลยไปนอนคอนโดกะเมียกูแทนคืออยู่ใกล้ที่ทำงานแกกว่าบ้านแกชานเมืองแกขี้เกียจเดินทาง แม่ยายกูจะ 60 แล้วทำงานมาเค้าก็เหนื่อยป่ะวะ ทำงานกลับมาเค้าก็อยากพักแล้ว แม่ยายกูก็บอกให้เมียกูซื้อของกินมาด้วย อีเมียกูก็ทำงานเสร็จบ้านช่องไม่กลับไปช็อปปิ้งกับเพื่อน แล้วมึงห้างอ่ะของกินแม่งมีโคตรเยอะ แม่ยายกูแดกห่าอะไรก็ได้ไง อีดอกนี่เสือกบอกไม่มีอะไรกิน สรุปกลับถึงบ้าน 2 ทุ่มไม่ได้ซื้อข้าวไปให้หม่อมแม่ค่ะ ลากแม่ยายกูไปกินข้างนอกต่อ แม่ยายกูก็เดินช้าเพราะเหนื่อยและ อีนี่เกิน 3 ทุ่มก็ง่วงและเริ่มหงุดหงิด แดกเสร็จกลับถึงบ้านเลยเหวี่ยงใส่แม่มัน ขอโทษค่ะแม่มึงนะไม่ใช่กูที่ยอมมึงทุกอย่าง แม่ยายกูก็สวนดิ มันเลยงอนออกมานอนโซฟา ก็ไม่ใช่กูอีกแหละที่จะได้มาคอยง้อมึงเข้าไปนอนในห้อง แม่ยายกูก็นอนหลับสบายเลยคืนนั้น อีนี่ก็หงุดหงิดเช้ามาก็ยังหงุดหงิด แม่ลูกยังไม่คุยกันเลยจ้า
อีดอกไงล่ะทำกูไว้เยอะเจอคนไม่ง้อมึงบ้างสะใจกูจริงๆ 555
น้องสาวกูดูไม่ไหวกับชีวิตกทม.มากว่ะ มันเป็นเด็กบ้านนอกมาตลอดจนเรียนจบมหาลัย แต่ตอนจะเรียนต่อป.โทต้องเข้ากรุงเทพ แม่กูบอกว่าตั้งแต่เข้ากรุงมันโทรกลับมาร้องไห้ที่บ้านทุกวันให้กูไปดูน้องหน่อย กูเลยโทรหาน้องบอกว่าวันหยุดจะพาไปเลี้ยงข้าวห้างนึงแล้วขึ้นBTS(แค่5สถานี)ไปซื้อของที่มันอยากได้อีกห้าง
ปรากฏว่าชีร้องไห้บอกว่า2ห้างนั้นมันห่างกันเกิน ชีเครียดไม่อยากขึ้นรถไฟฟ้าสองต่อ กูนี่แม่งทั้งขำทั้งสงสาร อะไรมันจะเว่อร์ปานนั้นวะ แล้วมันจะอยู่จนเรียนได้ครบปีมั้ยเนี่ย
เห็นข้างบนคุยกันเรื่องเด็กที่เลี้ยงในกรอบหนาจัดจะเป็นยังไง กูว่าน้องกูนี่แหละตัวอย่างที่ดี พ่อแม่เลี้ยงมาแบบไข่ในหินไม่เคยออกนอกกรอบ สุดท้ายพอไม่มีกรอบแล้วเหมือนมันไปต่อเองไม่เป็น ขนาดเรียนป.โทแล้วสกิลปัญหากับจัดการอารมณ์ยังดูไม่ค่อยเป็นผู้ใหญ่เลย
กูว่า>>199พูดได้ดีว่ะ คนเราควรมีกรอบแค่สามด้านพอแล้ว
เรียนพิเศษแล้วแต่เด็กและแล้วแต่ที่เรียนด้วย ไอ้พวกเก่งเทพจริงๆมันไม่เรียนพิเศษกันนะอ่านเองเลย ถ้าคนมันรู้จักเอาใจใส่ก็ไม่ต้องเรียนพิเศษ ไม่ต้องเคี่ยวเข็ญ มันเรียนของมันเอง เรียนพิเศษสำหรับพวกกลางๆ ไม่ฉลาดเกินเรียนและไม่โง่เกินเรียน
>>204 พิษณุโลก แต่กูว่าบ้านกูแม่งไม่ปกติ
ต้องเล่าย้อนความก่อนว่าบ้านญาติกูที่จังหวัดอื่นเลี้ยงลูกแบบปล่อยมากๆ สุดท้ายลูกชายคนโตไปพัวพันกับแก๊งค้ายาโดนจับเข้าคุก คนรองไปทำสาวท้องแล้วทิ้งเกือบโดนญาติผู้หญิงยิงตาย
พอมารุ่นพวกกูพ่อแม่เลยกังวลตีกรอบมากผิดปกติ โดยเฉพาะน้องกูลูกสาวคนเดียวนี่โคตรหวง ไปรับไปส่งเช้าเย็นทั้งโรงเรียนและเรียนพิเศษ เข้ามหาลัยยังไปรับกลับบ้านโคตรบ่อยแทบไม่เคยอยู่หอ
ที่น้องกูได้เข้ากรุงนี่กูกับแม่ช่วยกันกล่อมพ่อว่าสาขาที่มันจะเรียนไม่มีสอนที่อื่นพ่อถึงยอมปล่อย(น่าจะเป็นครั้งแรกในชีวิต)
แม่งพิมพ์แล้วรู้สึกว่าครอบครัวกูนี่โคตรละครเลย
>>206 จับเรียนนู่นนี่ที่ไม่ใช่เนื้อหาวิชาการ พวกดนตรี, คอม, กีฬา, ศิลปะ, ทำอาหาร, เวิร์คช็อปนู่นนี่ มันคือการเปิดโอกาสให้ได้ทดลองทำอะไรหลายๆอย่าง เป็นการให้เด็กได้ค้นหาตัวเองว่ะ อีกอย่างคือถ้าเป็นวัยเด็กเล็กไม่เกินป.2-3จะเรียนรู้ไว จุดติดขึ้นมาคือไปเร็วไปยาวเลย
แต่อีกเหตุผลของหลายๆบ้านที่ลูกไม่ค่อยรู้คือวันเสาร์-อาทิตย์พ่อแม่อยากพัก 555 ทำงานมาทั้งสัปดาห์ วันหยุดต้องมารบกับลูกลิงอีก จับไปเรียนแม่ม เหนื่อยแค่ตอนไปส่งไปรับ
กูตอนเด็ก ช่วงประถม แม่จับให้เรียนรำไทย เล่นไวโอลิน ซึ่งกูก็เรียนๆ ไปงั้น ไม่ได้รู้สึกชอบ/สนุกอะไรเลย
ดีอยู่อย่างคือช่องความสามารถพิเศษมีเขียนใส่ ไม่ว่าง 5555555
ซึ่งตอนนี้แม่งกูลืมๆ มันไปหมดแล้ว ผ่านมานานพอสมควร คิดแล้วเสียดายตัง
บ้านกูเลี้ยงแบบทิ้งๆขว้างๆมาตั้งแต่กูเรียนม.ต้น พูดให้ดีหน่อยคือเลี้ยงแบบปล่อย พอพ้นวันเกิดอายุยี่สิบหกปุ๊บแม่กูก็บ่นๆว่าอายุจะสามสิบละจะเอายังไงกับชีวิต กูเริ่มซีดหน่อยๆ คือตอนนี้กูออกจากงานจะไปเรียนภาษาปีนึงแล้วค่อยต่อโท แต่กว่าจะจบโทก็คงจะสามสิบ ต่อเอกคงสี่สิบซะมั้ง แบบแม่กูอยากให้ไปช่วยงาน เขาอยากขยายกิจการ จะรอน้องกูคงหลายปีเพราะแม่งเพิ่ง 14 ส่วนกูนี่โตทันใช้งานละ แต่แบบกูอยากทำงานสายวิชาการอ่ะ อยากเรียนจบป.เอก อยากเป็นอาจารย์มหาลัย นี่กูก็เบนเป้าจากสายวิชาการเต็มขั้นไปสายการตลาดแทนละ กูเองก็เริ่มจะสับสนกับชีวิตแล้วเนี่ย
เฮ่อ อ่านเรื่องไบท์เกอร์นักธุรกิจยิงตัวตายแม่งคิดถึงตัวเองชิบหาย
พี่แกเจอเมียข่มทุกอย่าง กอบโกยทุกอย่าง ตัวเองบริหารอย่างเดียวไม่ได้เงินซักบาทเป็นเบี้ยล่างเมีย ทุกอย่างเป็นชื่อเมียหมด เมียบอกอยากเลิกก็ได้แต่มาได้แต่ตัว (ไม่ยอมเซ็นหย่าให้ว่างั้น)
พี่แกคงเป็นคนดีเกินไป เลยไม่มีความคิดจะเอาเงินซุกเข้ากระเป๋าตัวเองไม่ให้เมียรู้
แบบธุรกิจเจ๊งช่างแม่ง โกยเข้ากระเป๋าตัวเองเอาไปซุกไว้ให้เรียบ พอได้เงินมาเยอะๆหลายสิบล้าน หรือรอธุรกิจใกล้ๆเจ้ง ก็ชิงเลิกเลยออกมาแต่ตัวกับสมบัติที่ซุกไว้เนี่ยแหละ
หรืออย่างน้อย
ที่กูคิดถึงตัวเองนี่คือเงินเก็บกูตอนนี้อยู่ในกำมือเมียทั้งหมด มีเรื่องขึ้นมากูก็เหลือแต่ตัวเหมือนกัน เฮ่อ RIP ฮะชาติหน้าขอให้พี่ได้เกิดมาเจอเมียสวย นิสัยดีฮะ
>>220 เดี๋ยวนี้ผู้หญิงแม่งน่ากลัวกว่าผู้ชาย ดังนั้นไม่ควรจดทะเบียนกันแล้ว จดไปแม่งก็เอาไปหมด ไอ้วิธีเก็บเงินไว้กับเมียแบบโบราณใช้ในสมัยนี้ไม่ได้ ผู้หญิงมันเปลี่ยน ผู้ชายโง่ๆให้ผู้หญิงเก็บเงินหายโง่มาเยอะ มึงหาเองเก็บเองเลย มันไม่พอใจจะเลิกก็ชั่งแม่งมีเงินยังหาใหม่ได้ ไม่มีเงินผู้หญิงที่ไหนจะเอา
ถ้าตามที่แกเล่าจริงนี่ กะหรี่สัสๆ กูนี่แขยง
อยู่บ้านกับแมวกับหมา สบายใจกว่าเยอะสัส
กูงงกับการที่เมียยึดเงินเดือนผัวแล้วจ่ายให้วันละ 50 วันละ 100 มาก ที่บ้านกูไม่มีระบบนี้ และอนาคต(ถ้ามีผัว)กูคงไม่ทำอะไรแบบนี้อะ เหมือนข่มผัวเลย เงืนใครเงินมันดิวะ งงโว้ย
อีกเหตุผลนึงที่กูไม่มีคู่รักหรือทำลูกอ่ะเพราะ ผญ.สมัยนี้คือถ้าไม่ตรวจพื้นเพจริงๆว่าแม่ศรีเรือนแค่ไหนอาจเจอสก๊อยขยะที่มีหีไว้หาแดกกับพวกคุณหนูพ่อแม่ประเคนทุกสิ่งสรรพจนทำห่าไรไม่เป็น เห็นใครสวยละจ้องจะเย็ดต้องหว่านล้อมให้มั่นใจเลยว่าแค่one night stand จากนั้นถ้าติดใจสองสามสี่ครั้งแล้วไม่ต้องยกระดับความสัมพันธ์อะไรต่อ
....
>>225 พวกฟรีเซ็กซ์นี่จิ๊บๆวะ โดยเฉพาะพวกแรดเปิดเผยสักตัวนี่มันไม่ยุ่งกะคนดีๆอยู่แล้ว มันก็คบคนประเภทเดียวกะมัน อีพวกแรดเงียบนี่ดินรกส่งมาเกิด ไอ้ประเภทเอาแล้วแถว่าไม่ได้ต้องการเลยเอาเพราะรักนี่ละที่เลวที่สุด พวกนี้ทั้งสูบเลือดสูบเนื้อ บีบบังคับให้แต่ง ท้องลมแบบอีมิ้งบ้าง ยัดลูกกาเหว่าแบบพวกแอนนี่ เก๋เมียเก่าโอ หรือ เด็กเก่าบิ๊กแอสกะเด็กเก่าปั๋งแม่งกาเหว่าทั้งนั้น บางคนไม่ยอมตรวจ dna ด้วยนะ แถมกว่าวหาผู้ชายว่าเป็นพ่อด่าผู้ชายอีกนรกมั้ยละ ทั้งๆที่มันตรวจมือถือผู้ชายสารพัดพอโดนตรวจ dna บ้างเสือกโวย
อัพเดตเรื่องเสี่ยเกาะเต่ามีข่าวว่าแกตืดเอดส์จากเมียนะ แต่เมียไม่ยอมรับว่าเป็น น่าจะตรวจเลือดโชว์มาเลย
ถ้าตรวจdnaตรงผู้ชายไม่รับเลี้ยงดูลูกกูด่าผู้ชาย ถ้าไม่ยอมตรวจกูด่าคนที่ไม่ยอมตรวจนะไม่ว่าหญิงหรือชาย
>>230 แล้วถ้าไม่ปล่อยสดจะท้องมั้ยล่ะ ทีเวลาเอากันก้ทำทั้งคู่ พอท้องก็โทษผู้หญิงท่าเดียว
ไม่ใช่ไม่โทษผู้หญิงนะ แต่มึงอย่ามาผลักภาระว่าผู้หญิงเหี้ยฝ่ายเดียว คนมันท้องเองไม่ได้ถ้ามึงไม่ไปเอา ก็ชอบเอามั่วกันแบบนี้ไงสัสมันถึงมีปัญหา ด่าผู้หญิงว่าร่านแต่ตัวเองก็เสือกไปเอากับเขา ผุ้ชายสำส่อน
>>233 ใส่ถุงต่อให้ใส่ถูกวิธียังไงก็มี%การตั้งท้องนะ มีทั้งถุงแตกถุงขาดอีก https://today.line.me/th/pc/article/ถุงยางก็ใส่+ทำไมยังท้องอีก-xvO11j ถ้าแฟนกูบอกว่าท้องต่อให้ใส่ถุงตลอดกูก็ไม่คิดว่าลูกคนอื่นแน่ๆหรอกจนกว่าตรวจdnaซะก่อน
กุเบื่อแม่กุไม่ไหวละมึง
ขยันยุ่งกะชีวิตกู คือกูอยู่ของกูดีๆเฉยๆสบายแล้วไง แม่งก็ขยันทำตัวเหมือนชีวิตกูมาห่าเหวมาก
แม่ง ทำเหมือนอยากทวงบุญคุณว่าอุตส่าทำนั่นนี่ให้ ก็กูไม่ได้ต้องการอ่ะ ห่าเหว แม่ง
กูมาอยู่กับแม่ที่ตปท. แม่กูแต่งงานกับคนที่นี่มาหลายปีละ คือกูก็ไม่ค่อยสนิทกับพ่อเลี้ยงเท่าไร เพราะนานๆจะได้เจอที มาบางรอบก็เคยทะเลาะกันจนกูร้องไห้ไม่คุยกับเขาไปหลายวัน แต่พ่อเลี้ยง (ขอเรียกว่าป๋า) นี่คนละเรื่องกับพ่อแท้ๆคนไทยของกูมาก
ทุกครั้งที่กูมาวันเสาร์ป๋าจะไปซื้ออาหารเช้ามาให้ตลอด ถ้าไม่กินก็จะงอนๆ พอวันอาทิตย์จะเอาค่าขนมรายสัปดาห์มาวางบนโต๊ะทำงานของกู ดูแลทุกระดับประทับใจมาก เขาอาสาจะทำแซนวิชให้กูไปกินที่รร. เพราะปรกติเขาก็ทำให้น้องชายกูอยู่แล้ว
พอมาช่วงนี้อากาศเริ่มหนาว กลางคืน 5-6 องศา กูนอนไปก็งงๆ ว่าทำไมฮีทเตอร์หัวเตียงมันอุ่นๆ สรุปคือป๋าลงมาเปิดฮีทเตอร์ชั้นล่างให้ตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ เปิดมันทุกตัวเลยด้วยตั้งแต่ห้องน้ำ ห้องครัว ห้องนอน ห้องนั่งเล่น คือชั้นล่างกูยึดครองอยู่คนเดียว ส่วนคนอื่นเขาอยู่ชั้นบนกัน มาวันก่อนเพิ่งบอกว่าจะสอนกูจุดเตาผิงชั้นล่าง แต่ถ้าจุดไม่ได้ไม่เป็น ป๋าลงมาทำให้ทุกวันก็ได้
กูนี่แบบ โอ้โหหห ตลอดชีวิตยี่สิบกว่าปีที่ผ่านมา ไม่เคยเจอผู้ชายที่ดีขนาดนี้ พ่อแท้ๆ กูเองเนี่ยยังไม่เคยดูแลกูขนาดนี้เลย แค่ขอสอบใบขับขี่พ่อยังด่าว่ากูอยากได้รถเหรอ แม่เล่าว่าตอนกูไปแลกเปลี่ยนที่แม่ส่งเงินให้เดือนละ 10,000 บาทไทย นั่นคือตอนนั้นแม่ทำงานไม่ได้ ป๋าเลยรับจ็อบขับรถตัดหญ้าให้คนในหมู่บ้าน เอาเงินส่งให้กูใช้ คือแบบ...น้ำตาจะไหล อยากจะเอาพวงมาลัยที่เคยโดนญาติบังคับให้กราบพ่อไปกราบป๋าแทน รู้สึกแม่โชคดีมากที่เลิกกับคนเจ้าชู้ฟาดไม่เลือกแบบพ่อมาแต่งกับป๋า
>>240 นี่อีกหน่อยกูจะเปิดเพจเล่าเรื่องป๋าละ ป๋าแม่งไนซ์เว่อร์
ไหนๆ ก็ไหนๆ ละขอเล่าเรื่องวันนี้หน่อย คือแม่กูเปิดร้านอาหารที่นี่ ไม่ค่อยมีเวลาทำงานบ้าน วันนี้พอแม่ไปทำงาน กูรีดผ้าปูโต๊ะที่ร้านแม่อยู่ สักพักป๋าเอาขยะไปทิ้งแล้วหยิบเครื่องดูดฝุ่นมาทำความสะอาดบ้านจ้าา ป๋าบอกแม่งานเยอะ ไม่มีเวลาทำอะไร ป๋าก็อยากช่วยรีดผ้า แต่รีดไม่เป็น กูบอกนี่ป๋าช่วยงานก็ดีเท่าไรละ ดีกว่าพ่อแท้ๆ กูเยอะ ป๋าตอบกลับมาว่าใช้คำว่าดีกว่าไม่ได้ เพราะมันเป็นความต่างของวัฒนธรรม ถ้าเป็นสักร้อยปีก่อน ผู้ชายที่นี่ก็คงไม่ทำงานบ้านเหมือนกัน โอ้โห คำตอบหล่อไปอีก
ตอนกูนั่งกินข้าวกับน้องข้างบนบ้านป๋าก็ลงมาจุดเตาผิงให้เรียบร้อย เขาบอกคืนนี้จะหนาวนะ 2 องศา ให้ทำตัวอุ่นๆ ไว้เดี๋ยวป่วย กูนี่แบบ ฮือออ กราบป๋า
ข้อเสียของป๋าก็มีนะ คือป๋าแม่งติดบ้าน ชอบอยู่บ้านเล่นเกมไปจิบเบียร์ไป ให้ออกไปไหนก็ไม่ไป มือถือไม่มี เฟซบุ๊ก อตก. ทวิตเตอร์ก็ไม่มี กลับมาจากทำงานเขาก็เล่นเกมของเขาไปไม่ชอบให้ใครกวน เรื่องออกจากบ้านนี่ถึงขั้นว่าแม่จะพาป๋าไปช็อปปิ้ง ป๋าควักเงินให้กู แม่ น้องชาย คนละประมาณ 2,000 บาท แล้วบอกว่า ไปซะ ป๋าไม่ไป ป๋าจะเล่นเกม ว้อยยยยย 555555
กลับบ้านในรอบ 1 เดือนโดนพ่อใช้ทำความสะอาดบ้านที่สกปรกมากๆ คนเดียว กูโมโหจะไม่ทำ
พ่ออารมณ์เสียบอกส่งเรียนสูงๆ ให้มาปีกกล้าขาแข็ง เก่งนักก็ออกจากบ้านไปเลย ไล่กูเหมือนเป็นหมาเก็บมาเลี้ยง แล้วมาขอโทษทีหลังบอกหลังจากกลับจากต่างประเทศมากูดื้อมากเลยต้องพูดแรงๆ จะได้สำนึก นี่ใช่วิธีเลี้ยงลูกที่ถูกต้องหรอวะ?
มีโม่งไหนที่ไม่คุยกับที่บ้านเลยไหมวะ คุยเฉพาะเรื่องสำคัญ
บางทีบ้านรวมเจอกันที ก็ไม่อยากอยู่บ้าน ปลีกตัวออกไปข้างนอก
เอิ่ม กูงงกับแม่กูจริงๆ ทะเลาะกับพ่อมาด้วยเรื่องเดิมๆแล้วก็มาบอกว่าอยากตายๆ ไม่มีใครเข้าใจ บอกว่าให้กุไปพุดกับพ่อหน่อยไม่ให้มายุ่งกับเค้า
ซึ่งกูก็ทำแบบนี้มาเป็นรอบที่ร้อยละแต่ก็ไม่เป็นประโยชน์เหี้ยไร ปัญหาจริงๆไม่ได้อยู่ที่ใครจะมารังควาญใคร หรือทำอะไรใคร แต่มันคือคนที่ไม่ปล่อยวาง ทั้งแม่ทั้งพ่อน่ะแหละ ทำตัวประสาทแดกใส่กันแล้วก้มาให้กูไปทำในเรื่องที่รู้ๆกันอยู่แล้วว่าไร้สาระ เหมือนมีแต่น้ำ เหมือนทะเลาะกันแล้วก็เอากูไปวุ่นวาย ซึ่งน่ารำคาญมากที่ต้องมาทำห่าไรซ้ำไปซ้ำมาและไม่ได้ผล กุเลยบอกว่าไม่เอาแม่งก็หาว่ากูไม่เข้าใจ กุไม่ช่วย กูทอดทิ้ง เออ เอาเหอะ กูรำคาญ กูจะเป็นโรคประสาท กูอยากใช้ชีวิตที่มีความสุขไม่ใช่ไปวุ่นวายกับเรื่องคนอื่น กูเห็นแก่ตัวอ่ะ เคนะ รำคาญญญญ
ดูเลือดข้นคนจางแล้วก็ทำให้นึกขึ้นได้ว่าสมัยเด็กตระกูลตัวเองก็มีเรื่องแปลกๆ ลับลมคมในเกี่ยวกับเจ็กคนนึงที่ผู้ใหญ่ไม่ยอมเล่าให้ฟังเหมือนกัน (แต่ไม่ได้ถึงกับมีใครตายหรอกนะ) บางทีมาคิดดูแล้วไม่รู้ก็ดีเหมือนกัน รู้แล้วก็คงเครียด อาจจะรู้สึกแย่ หรืออะไรก็แล้วแต่ กูยิ่งจิตตกง่ายอยู่ด้วย
ใครเคยรู้สึกเป็นตัวปัญหา เป็นส่วนเกินในบ้านบ้างมั้ยวะ
>>247 ของกูตอนเด็กๆ มีเฮีย(ลูกพี่ลูกน้อง)คนนึงตาย ตอนนั้นผู้ใหญ่ไม่ได้บอกตรงๆ หรอกว่าตายเพราะอะไร
กูก็ไม่กล้าถาม เพราะไม่สนิทกับบ้านนั้นด้วยแหละ นึกว่าป่วยตายไรงี้
โตมาถึงได้รู้ว่าเขาผูกคอตาย
อาโกวมาเล่าทีหลังซะละเอียดเชียว เรื่องบางเรื่องคิดว่าไม่รู้ยังจะดีกว่า
คนในบ้านแม่งเอาแต่บอกให้กูยอม บอกให้กูรับฟัง ทำตาม พอกูไม่ทำก็รุมว่ากูดื้อ เอาแต่ใจ เอาแต่ตัวเองไม่มองความจริง พอความคิดไม่ตรงกันกูนี่ต้องผิดตลอด เป็นคนไม่มองความจริง เป็นเด็ก คนอื่นเป็นผู้ใหญ่ ควย ว่ากุยังงี้กุไม่เคยทำเรื่องให้ตัวเองหรือใครเดือดร้อนเลยด้วยซ้ำ แก้ปัญหาก็แก้เองไม่ได้ยืมมือใคร ในขณะที่คนอื่นทำพลาดนั่นนี่มามากมาย แต่มาบอกว่ากูเนี่ยเละเทะไม่มองความจริงเนี่ยนะ ถ้าเป็นงั้นจริงกูคงพาตัวเองลงเหวไปนานละ
เหมือนงานบ้านเงี้ย จะให้กูทำอยู่คนเดียวเพราะบอกว้าคนอื่นทำงานนอกบ้านหนักแล้ว แล้วกูไม่ได้ทำงานนอกบ้านรึไง คนอื่นรับงานสองจ๊อป แล้วกุมีงานแค่จ๊อปเดียวรึไงตอนนี้กูมีมากกว่าสามจ๊อปอีกมั้ง สัส แล้วกูลงเรียนนั่นนี่ กิจกรรมต่างๆ ตัวแทบไม่อยู่ติดบ้าน ยังจะมาบังคับให้กูทำงานบ้านให้ตลอด ทำไมไม่ช่วยทำ ทำไมต้องยัดเยียด เงินค่าน้ำไฟกุก็จ่าย เรียกร้องให้กูดูแลอย่าเอาแต่สนใจตัวเอง แล้วคนอื่นดูแลอะไรกุวะ คนอื่นเรียกร้องจะเอาจากกูมันก็เอาแต่ตัวเองป่ะวะ กูรับผิดชอบชีวิตตัวเองได้ละกันอ่ะ ทำไมต้องมารับผิดชอบชีวิตคนอื่นด้วยวะ กูเป็นขี้ข้ารึไง กูยุ่งกว่าทุกคนในบ้านซะด้วยซ้ำ
แม่ง กูถามหน่อยว่าทำไมกูต้องทำ ทำไมต้องยอมซัพพอร์ต กูรำคาญมาก ถ้าหาซื้อบ้านได้กูเทแม่งทุกคนเลย เย้ดแม่ ควย
ตอนเด็กๆกูเคยคิดว่า แม่งเอ๊ย กูน่าจะเกิดมาเป็นลูกคนเดียวไม่ต้องมีพี่น้อง พอโตมา กูก็คิดว่า ดีแล้วที่กูมีพี่น้อง ที่บ้านแม่งชอบบ่นกูเอาแต่เล่นเกม กูพิมพ์ตอบข้อความคุยเล่นกับเพื่อนก็หาว่ากูเล่นเกม เล่นเกมห่าอะไรบางทีกูตอบไลน์กับลูกค้า เดินมาแซะกู วันๆเอาแต่เล่นเกม กูทำงาน ตอนเย็นเอาตูดหย่อนโซฟาเอนหลังเข้าเกมตาแรกกูโดนด่าละ กูต้องหนีไปนอนเล่นช่วงดึกๆเพียงลำพังคนเดียว ทั้งที่พี่น้องกูแม่งเอาแต่เล่นเกม วันหยุดก็เอาแต่เล่นเกม เสือกชวนกูเล่นเกมอีก แม่ก็จ้องจะด่ากู ทั้งที่เล่นเกมด้วยกันกับพี่น้อง ทำไมต้องจ้องจะด่าแต่กู กูเล่นอย่างมากก็ลงแรงค์ไม่เกินสองตา แล้วเวลากูอยู่บ้าน กูเดินไปเดินมา นั่งเล่นกับแมว เก็บของไม่เรียกใช้กูหรอก พอกูหยิบมือถือมาส่งข้อความ คุยกับคนนั้นคนนี้ด่ากูละ พอกูบอกว่ากูไม่ได้เล่นกูคุยงานกับลูกค้า กูคุยกับเพื่อน ก็บอกไม่เชื่อเก็นจ้องมือถือแบบนั้นยังไงก็ต้องเล่นเกม
อะไรวะ ทั้งที่พี่น้องกูเอาแต่เล่นเกม ขนาดไปห้างยังเดินเล่นเกมตลอด เขายังไม่เคยด่า นี่หละความรักลูกไม่เท่ากัน กูเคยบอกเขาแท้ๆว่าเขารักลูกไม่เท่ากัน เขายังบอกว่าเขารักลูกเท่ากัน แล้วที่เอาแต่ด่ากู ใช้งานแต่กู กูทำมากมายแค่ไหนก็บอกกูเอาแต่อยู่เฉยๆเล่นเกมอย่างเดียว บ้าบอ
>>253 ถ้าวัยทำงานแล้วมึงไม่ต้องยอมพ่อแม่ขนาดนั้นแล้วอะ มึงมีสิทธิ์ที่จะพูดหรือทำอะไรเต็มที่ กูเนี่ยบ้านอยู่ตจวเป็นร้านขายของ กูทำงานในกทม บางสัปดาห์กลับบ้านเค้าก็จะบังคับให้กูเฝ้าร้านให้แล้วตัวเองจะไปจัดการธุระปะปังอะไรของเค้า จำเป็นบ้างไร้สาระบ้าง กูก็บอกเลย ไม่เฝ้าแล้ว ไม่ได้กลับมาเพื่อเฝ้า ไม่ใช่เด็กปิดเทอมอยู่ว่างๆ ทำงานเหนื่อยก็อยากกลับมาพักผ่อน กลับมาเพื่ออยู่กับคน จะให้กลับมาเฝ้าร้านแล้วคนที่บ้านหนีไปทำอย่างอื่นจะกลับมาทำไม เค้าก็นอยๆแต่ก็ยอม
เพื่อนโม่งกูมีไรปรึกษา พ่อกับแม่กูจะเลิกกันเพราะแม่กูเล่นเฟสแล้วไปเจอแฟนเก่าแล้วลำรึกความหลังกันง่ายๆแม่กูหมดรักพ่อแล้วเหมือนไปคบกับแฟนเก่าสถานะตอนนี้คืออยู่บ้านเดียวกันแต่ทำเหมือนอีกฝ่ายไม่มีตัวตน กูรู้สึกเสียหลักมากไม่พูดกับแม่มาเป็นปีเพราะเคยมีแม่เป็นไอดอล ตอนนี้ผิดหวังในตัวแม่ชิบหายจนเหมือนกูเป็นบ้า รู้สึกไม่เกลียดแต่ก็ไม่รักพ่อแม่ตัวเองพอได้ยินเรื่องพ่อแม่แล้วกูจะอคติมาก กูควรทำไงดีให้สถานะการทางบ้านดีขึ้น
ญาติขอให้ค้ำประกันเงินกู้ให้สามแสนว่ะ บอกจะไปกู้แบงค์มาจ่ายหนี้ปิดบัตรเครดิตทุกใบ คือญาติกูไม่มีวินัยทางการเงินเอามากๆ ซื้อรถแล้วไม่มีเงินผ่อนปล่อยโดนยึด ออกไอโฟนกินหรูอยู่สบาย รูดบัตร กดเงินสดจากบัตรเครดิต ทีแรกจากยอดหนี้บัตรราวๆสองแสน ดอกทะลุไปกลายเป็นสามแสนกว่าๆ ไม่มีปัญญาจ่าย ทีแรกกูก็ปฏิเสธไปนะว่าจะไม่ค้ำประกันให้ใครเด็ดขาด แต่มันก็มาหว่านล้อมบอกว่าเดี๋ยวจ่ายเอง ไม่ให้รบกวนคนค้ำหรอก ซึ่งกูไม่เชื่อเด็ดขาดว่ามันจะทำได้
พอกูไม่ยอมค้ำให้มันก็บอกว่าบ้านมันเคยมีบุญคุณกับบ้านกู ถ้าไม่มีบ้านมันช่วยเหลือ กูจะมานั่งตรงนี้ได้เหรอ ป่านนี้กูคงไปคุ้ยขยะแดกอยู่เลยมั้ง แล้วก็โทรไปบอกแม่กูให้มากดดันกูอีกคน แม่กูก็บอกยอมๆค้ำให้น้องมันไปเหอะ บ้านเขาก็เคยช่วยเหลือเรามาก่อน มีบุญคุณต่อกัน ซึ่งกูอึดอัดใจมากว่ะ แล้วเป็นคนอื่นไม่ได้นะ ต้องกูคนเดียวเท่านั้นเพราะกูคือคนเดียวในบ้านที่ทำงานในบริษัทที่เป็นหลักแหล่งตรวจสอบได้ มีสลิปเงินเดือน เข้าเงื่อนไขคนค้ำประกันเงินกู้ทุกอย่าง แต่กูดูแววแล้วว่ากูได้ใช้หนี้แทนมันแน่นอน จะทำยังไงดีวะ
>>258 มึงมีคำตอบอยู่ในใจอยู่แล้วไม่น่ามาถามนะ แต่กูจะตอบให้ว่า ถ้ามึงคํ้าให้ มึงโคตรควายเลย มึงจะได้รับเขาควายงอกบนหัวมึงทันที
แถมข้อเสนอสุดพิเศษหลังตอนคํ้าคือ มึงจะเครียด จิตตก กดดัน เพราะแม่งไม่มีปัญญาหาเงินมาใช้หนี้แบงค์แน่นอนกูเอาส้นตรีนเป็นประกัน
มึงจะเสียเครดิตธุรกรรมทางการเงิน มีปัญหากับธนาคาร คนที่เสียมีแต่มึง มึงยอมมันครั้งนี้ครั้งต่อไปก็มีอีกแน่นอนกูบอกได้เลย
ป้ากูเป็นครู 20ปีที่แล้วไปเซ็นคํ้าซื้อรถให้เพื่อนครู ปรากฎว่าอีห่านั่นเป็นหนี้ไม่มีเงินจ่ายค่างวดรถ ลาออกแล้วชิ่ง ป้ากูซวยเพราะเป็นคนคํ้า
ต้องผ่อนค่ารถกระบะส่วนที่เหลือของอีเวรนั่นจนหมดอะ เกือบ10ปี ป้ากูแทบบ้า เสียสุขภาพจิตมาก โดนแบงค์ตามจี้ เสียเงินอีกไอสัส เข็ดจนถึงทุกวันนี้
เนื้อก็ไม่ได้กิน หนังก็ไม่ได้รอง ยังต้องเอากระดูกมาแขวนคอตัวเอง ไม่ได้เหี้ยไรกลับมาเลย
กูแนะนำเลยว่า แข็งไปเลย เป็นกูกระทืบแม่งและมาพูดจาแบบนี้ใส่ มึงต้องแข็งๆหน่อย อย่าไปยอม อย่าไปหงอ
มันข่มมึงครั้งนี้ได้ ครั้งหน้ามันก็กล้าทำอีก บุญคุณต้องตอบแทนก็จริง แต่มึงต้องดูด้วยว่าการตอบแทนบุญคุณมันต้องไม่เดือดร้อนมึงและครอบครัวด้วย
เงินตั้ง3แสนไอสัสไม่ใช่น้อยๆเลย แค่ที่แม่งจะกู้แบงค์เอามาโปะหนี้บัตรเครดิตนี่ก็เหี้ยแล้ว เป็นงูกินหางแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ
มึงก็เลือกเอานะ ว่าจะยอมตามใจคนอื่น แล้วมึงต้องเป็นทุกข์ เสียสุขภาพจิต เครียด ทรมาน หวาดระแวงว่าแม่งจะเบี้ยวหนี้แบงค์ ซึ่งแม่งไม่จ่ายแน่ๆกูว่าดูจากพฤติกรรมที่มึงเล่ามา มึงซวยแน่นอน
กับอีกทาง มึงไม่ต้องไปสนใจ แล้วด่าพ่อมันไปด้วยซักที มันไม่กล้าทำห่าไรหรอก ได้แค่ด่า มึงไม่ต้องไปสนใจ เลือกเอาว่าอนาคตมึง สุขภาพจิตมึง ชีวิตมึงที่จะไม่ต้องมาแบกรับหนี้สินคนอื่นและ ตัดคนเหี้ยๆแบบนี้ออกไปได้ในตอนนี้ เลือกเอาแล้วกัน
>>256 แบ่งก่อน ว่าปัญหาพ่อแม่ก็เรื่องนึง ปัญหาที่มึงไม่รักพ่อแม่ก็เรื่องนึง ตอนนี้มึงมีสองปัญหาถูกมะ
เรื่องพ่อแม่ คนเขาไม่รักกันแล้ว ไม่ว่าจะเหตุผลไร ก็ปล่อยให้เขาตัดสินใจกันเอง จะอยู่แบบอึดอัดรักษาหน้าตาในสังคม หรือจะปล่อยมือกันแล้วไปตามทางที่ใช่
ในฐานะลูก กูอยากปลอบใจมึงนะ บ้านกูก็หย่ากันเพราะแม่ไปคบซ้อน พ่อกูตัดสินใจหย่าทั้งที่ยังรัก กูอยู่กับพ่อ พ่อไม่เคยสอนให้เกลียดแม่ แต่กูรับรู้ความเศร้าของพ่อ แค่นั้นก็ทำให้กูเกลียดแม่แล้ว มีคำพูดที่พ่อบอกกูบ่อยๆ "พ่อแม่ไม่รักกัน แต่ไม่ได้แปลว่าไม่รักลูก" ขอให้มึงคิดว่ายังไงเขาก็รักมึงนะ
ปัญหามึงไม่รักพ่อแม่ อันนี้คงต้องเปลี่ยนวิธีคิดของมึง หรือทนรับให้ได้ พ่อกูตายแล้ว ตอนนี้อยู่กับแม่ที่ทำให้พ่อเสียใจ พ่อที่ไม่ได้ทำผิดอะไร ทำให้กูมีอคติกับแม่ ไม่ว่าแม่จะทำอะไร กูจะรำคาญไปหมด มันเป็นปัญหาจากส่วนลึกของจิตใจ พฤติกรรมกูคือลูกเหี้ยรำคาญแม่ กูเลยแก้ปัญหาโดยการไม่เข้าหาแม่ ไม่ยุ่งกับแม่ ถ้ากูเจอแม่น้อยลง กูก็จะรำคาญเขาน้อยลง แต่กูไม่ได้ทอดทิ้งไปเสียทีเดียว ยังไงเขาก็รักกูมาก มีแค่กูที่รีกเขาน้อยลง
>>259 >>260 คือในใจกูยืนยันว่าไม่ค้ำ ยังไงก็ไม่ค้ำ แต่กูแค่อึดอัดกับรำคาญใจที่ทุกคนมารุมกดดันกูให้ค้ำ พอกูบอกใครอยากค้ำก็ค้ำเองสิ เขาก็ว่ากูใจดำ เหี้ย เห็นแก่ตัว แม่กูก็ร้องห่มร้องไห้ว่าไม่ได้สอนให้กูเป็นคนไม่เอาพี่เอาน้องแบบนี้ แล้วก็ขุดเรื่องบ้านเขาเคยให้บ้านกูยืมเงินตอนบ้านกูลำบากก็หลายแสนอยู่ แต่กูไม่ยอมช่วย พอกูกลับบ้านก็เจอแต่เรื่องนี้จนกูเบื่อ ไม่อยากกลับบ้าน อยากไปให้พ้นๆ พวกที่มารุมกดดันกูแม่งก็ไม่เห็นมีใครเสนอตัวช่วยเลยซักคน เหี้ยชิบหาย
>>261 กอดมึง ขอบคุณที่แนะนำ ทุกวันนี้กูไม่พูดกับแม่มาเป็นปีในบ้านแม่งไม่มีใครพูดกันเลย ใจนึงกูก็อยากให้เค้าเลิกกันไปเลยดีกว่ามาอยู่ด้วยกันให้บรรยากาศมันเสีย แต่บ้านกูติดเรื่องแบ่งทรัพย์นู้นนี่แม่งจุกจิกหมอย เค้าเลยเลือกอยู่แบบรอให้คนใดคนนึงตายจากไปเอง กูถามหน่อยมึงรู้สึกผิดป่าววะที่เกลียดแม่ กูรู้สึกผิดแต่กูก็ทำใจรักเค้าไม่ได้กูไม่รู้จะปรับปรุงตัวยังไง
>>262 พ่อแม่กูสอนว่า เรื่องเงินไม่เข้าใครออกใคร จะรักอค่ไหน ห้ามค้ำประกันให้ขาวบ้าน ยังไงก็ตามอย่าค้ำเด็ดขาด เพราะงั้นต่อให้แม่ จะร้องไห้ยังไงก็ช่างเหอะ ทำไม ไม่มีเหตุผลมั่งว่า ลูกจะลำบากวะ ถ้ารำคาญมาก ดราม่าใส่ไปเลยว่า ทำไมเห็นคนนอกดีกว่าลูก บุญคุณแม่งทวงบ่อยๆ ก็หมดเพราะคำทวงว่ะ
มึงแม่กูพึ่งโทรมาบอกว่าพ่อกูโดนจับสักพักแล้ว พ่อไม่ยอมรับ พรุ่งนี้จะไปประกันตัวออกมา แต่ว่าพ่อกูบอกกับแม่ว่าถ้าออกมาพ่อจะหนี แต่แม่กูไม่เห็นด้วยไม่อยากให้หนีเพราะอาจจะไม่มีโอกาสได้เจอกันอีกก็ได้ อย่างน้อยติดคุกก็ยังไปเยี่ยมหาได้อะไรได้ กูไม่รู้จะตอบยังไงดีเหมือนกันว่ะ กูไม่รู้ว่ากูรู้สึกยังไงด้วยซ้ำ กูคิดว่าพรุ่งนี้แม่กับพ่อกูต้องโทรมาคุยกับกูแน่ๆ แต่กูควรจะพูดกับพ่อยังไงดีวะ เพราะกูไม่รู้ว่าทางไหนมันจะดีกว่ากันกันแน่ ถ้าเกิดพ่อกูจะหนีไปจริงๆ กูไม่รู้จะพูดโน้มน้าวพ่อกูยังไงดีว่ะมึง
>>268 ยัดเงินคงไม่มีปัญญาขนาดนั้นว่ะ แค่ค่าประกันตัวก็หนักแล้ว โดนคดีสงสัยค้าอาวุธสงครามว่ะ มีของแต่ยังไม่มีหลักฐาน พ่อกูพอมีเส้นสายตอนนี้เห็นว่าคนอื่นก็พยายามช่วยอยู่ กูหาข่าวไม่เจอแสดงว่าปิดข่าวได้ค่อนข้างเงียบว่ะ กูกลัวจะขาดรายได้หลักครอบครัว เพราะลำพังแค่แม่กูไม่ได้รายได้เยอะขนาดนั้น ต้องเลี้ยงน้องเลี้ยงยายอีก ส่วนกูพึ่งจะเริ่มทำงานอยู่ ตจว.
อยู่ๆก็นึกขึ้นมาได้ ตอนอายุ 15 เคยนั่งรถไปโรงเรียน พ่อจอดส่งหน้าประตูแล้วนึกได้ว่าลืมของมาเปิดประตูกะทันหัน
พ่อขับรถทับเท้า พอหยิบของได้พ่อก็ขับรถไปเลย ก็เดินกะเผลกๆไปเรียน ไม่ได้ไปรพ. เพราะคิดว่าไม่เป็นอะไรมาก
ตอนเย็นบอกพ่อ พ่อจะตีซ้ำ จับเรานั่งที่โซฟาเอาไม้เรียวชี้หน้าอบรมเป็นชั่วโมงจนร้องไห้ โดนรถเหยียบแล้วยังต้องมาโดนไม้เรียวชี้หน้าอีก
แบบนี้เป็นเรื่องปกติเหรอ ถ้าเป็นพ่อแม่คนอื่นคงพาไปรพ.เอ็กซเรย์กระดูกแตกแล้วมั้ง นี่โดนรถทับนะเนี่ย
นึกว่าถ้าตัวเองสักวันมีลูกแล้วขับรถเหยียบลูก ต้องคิดยังไงถึงด่าซ้ำ เป็นเราคงกอดลูกไว้แน่นๆ ดีไม่ทับแม่งพิการไปทั้งขารึเปล่า
พ่อกูก็
กูโดนรถชนแบบทั้งตัว เขาไปดูคู่กรณีก่อน ว่าเจ็บไหม หันมาด่ากูว่าไม่ดู แต่มันชนกูบนทางม้าลายไง กูเดินๆ มันเร่งเครื่องมาชนกู
ไม่พอเป็นคนดีสัสๆ ไม่ฟ้อง รับค่าใช้จ่ายเอง แล้วก็มาด่ากูทีหลังว่าความผิดกูทำเขาเสียตังให้ค่าคนเหี้ยๆแบบกูนอนโรงบาล
นี่แค่เรื่องเดียวนะ
จบมหาลัยกูจะทิ้งเขาละ
กูเบื่อบ้านกูมาก เป็นไรชอบมาบังคับให้แดกนู่นแดกนี่ คือวันนี้กูแดกข้าวเที่ยงเยอะมาก คือไปแดกบุฟเฟ่ต์กับเพื่อนมา ละลามยันตอนนี้มันยังไม่หิวอะมึง เขาก็จะกินsizzlerกันวันนี้ให้ได้ ก็กูเลี่ยนกูไม่อยากแดก พอกูไม่ไปก็โมโหใส่กูมาก แบบคืออีสัส กูแดกไม่ไหว กูไม่อยากอ้วก คือจะเป็นเหี้ยอะไรกับกูนัก นี่ก็คือขออยู่บ้านคนเดียวละ ปล่อยเค้าสองคนไปแดกกันเอง เป็นงี้หลายรอบอยู่ คือกูเดี๋ยวนี้ไม่อยากกินเนื้อสัตว์แล้วอะมึง เป้นฟิลกึ่งๆมัง ละสิ่งที่บ้านกูชอบคือบาร์บีก้อน สั่งเซ็ตหมูมหาศาล ละชอบโยนมาให้กูแดกเยอะๆ เพราะมันเหลือ กูก็ไม่ไหว ก็ไม่แดกบาร์บีกอนกับเค้ามาซักพักละ วันก่อนกูเดินทางรถเมล์ทั้งวัน อยากกลับคอนโดนอน แต่เขาอยากแดกบาร์บีกอน กูก็ต้องถ่อมาสยามเพื่อแดก แล้วค่อยหอบสารร่างโทรมๆกูกลับคอนโดแถวบางหว้า คือจะตาย เหนื่อมาก มาก็ไม่ได้แดกอะไรเพราะแดกไม่ลง เหนื่อยอะ คือกูไม่อยากแดกแบบไม่อยากแดก ไม่ใช่โรคคลั่งผอมอีเหี้ย คือแค่อิ่ท เพราะแดกข้าวไม่ตรงเวลาไง งานกูยุ่ง
>>270 ปกติมึง คือปกติที่มึงเกิดมาดวงซวย บางทีเจ้ากรรมนายเวรก็มาในรูปบุพการี เพื่อนกูป่วยไปหาหมอ ได้มา1โรคเบาหวาน ต้องคุมอาหาร ฉีดอินซูลินจริงจัง พ่อนางตรรกะประหลาด บ่นว่ารู้งี้ไม่พาไปหาหมอดีกว่า จะได้ไม่เป็น ไม่ต้องคุมอาหาร ไม่ต้องเสียเวลามาหาหมอ แบบWTF ได้เหรอว่ะ
คนที่บ้านกูไม่รู้เป็นอะไรชอบให้ส้ตว์เลี้ยงทำลายกระดาษชำระ คือแบบก็รู้ว่ามันชอบมาเล่นทำไมไม่เก็บให้มันดีๆวะ ใส่กล่องทับเปอร์แวร์หรือกล่องอะไรก็ได้ไม่ให้มันมาข่วนกัด มันไม่ใช่เงินกูก็รู้นะแต่ใช้ของล้างผลาญไม่เกิดประโยชน์อะไรเลยเนี้ย
บ้านกูทำธุรกิจแล้วขาดทุน เจ๊งบ๊ง พอกูบอกให้เลิกทำแล้วทำอย่างอื่นดีกว่ามั้ย มันไม่เห็นทางรุ่งเลยจากการบริหารงานของเขา มีแต่ขาดทุนยับ กลายเป็นโดนด่ากลับมาว่าปากหมา ไม่ส่งเสริมพ่อแม่ระวังเป็นเปรต แล้วก็ตั้งหน้าตั้งตากู้หนี้ยืมสินมาลงทุนแต่ไม่ส่งเงินจนโดนแบงก์เขาแบล็คลิสต์กันหมดแล้ว พอกู้ในระบบไม่ได้ก็พากันไปกู้นอกระบบ กู้มาสี่แสน แต่ดอกวิ่งไปจะเป็นล้าน แต่พ่อแม่กูก็ยังคงเที่ยวกู้หนี้ยืมสินญาติต่อไปจนเขาไม่อยากคบค้าสมาคมด้วย ไปไหนเขาก็นินทากับรังเกียจ เอ่ยปากกับกูตอนกลับบ้านก็พูดแต่เรื่องเงิน จะมาพูดดีด้วยก็คือจะเอาเงินจากกู โทรมาตอนทำงานก็คือจะให้โอนเงินมาให้ ไม่มีก็บอกให้กูไปยืมเพื่อนร่วมงานมาให้ได้ จนกูต้องไปกดบัตรเครดิตแล้วทยอยผ่อนเอา แต่ให้ไปเท่าไหร่ก็ไม่เคยพอแล้วก็ไม่สิ้นสุดซักที
วันนี้กูโดนบอกให้ไปกู้เงินซื้อคอนโดล้านกว่าๆเพื่อจะเอาส่วนต่างสามแสนกว่าๆมาอุดดอกนอกระบบ กูเงินเดือนแค่สองหมื่นจะเอาปัญญาจากไหนมาจ่ายเงินผ่อนคอนโดวะ เครียดมาก พอกูบอกว่าไม่ได้หรอกก็โดนด่าเนรคุณ ไม่น่าให้มึงเกิดมาเลย น่าจะตายห่าไปตั้งแต่ยังไม่คลอด แล้วถามกูมั้ยว่ากูอยากเกิดมาเป็นลูกรึเปล่า นั่งพิมพ์ไปน้ำตาไหลไปในห้องน้ำออฟฟิศ กูจะให้เขาหยุดสร้างหนี้ได้ยังไงวะ เหนื่อยกับท้อไปหมดแล้ว
>>276 เลิกให้เงินพ่อแม่ บอกไปว่ามึงก็มีชีวิตของมึงไม่ได้อยากเอาใครเข้ามาเป็นภาระ คนเป็นพ่อแม่มันควรรบริหารจัดการเรื่องของตัวเองด้วยตัวเอง
ธุรกิจถ้าพยายามยื้อพยายามกู้เงินมาต่อลมหายใจแล้วมันไปไม่รอดก็ทำได้แค่ปล่อยมันเจ๊งไป แล้วไปเริ่มต้นทำงานหาเงินใหม่ ตอนนี้เหมือนเค้ายังไม่
อยากยอมรับความจริง มันเลยยิ่งเลวร้ายลงเรื่อยๆ
พี่กู = เหี้ย 1ea ไปที่ชอบที่ชอบซะ กูขอสาปส่ง
จำเอาไว้เลยว่าเรื่องเงินมันไม่เข้าใครออกใคร ถ้ามึงทำงานมีเงินเดือนมีสเตทเม้นท์ที่ดีอยู่แล้ว แล้วดันมีคนในครอบครัวมาขอให้ช่วยค้ำช่วยผ่อนอะไรก็ตาม ให้ปฏิเสธไปซะ ถ้าเห็นใจมากๆก็ช่วยด้วยการกดเงินสดออกมาให้อย่างเดียวห้ามค้ำแทนหรือหักเงินจากบัญชีโดยอัตโนมัติ เพราะมันจะทำให้
มึงต้องเหนื่อยทำงานเพื่อจ่ายเงินให้คนอื่น สเตทเม้นท์ที่เคยวิ่งเยอะๆก็โดนหักไปอัตโนมัติเหลือไม่กี่บาท ชีวิตมึงจะไม่ได้เป็นอิสระอย่างแท้จริง
เหมือนมึงแบกรับภาระหนี้เอาไว้แต่ไม่ใช่หนี้ที่เกิดจากตัวเอง เป็นหนี้จากคนอื่นที่เค้าจะทำดีกับมึงแค่ตอนมาขอให้ช่วยเหลือเท่านั้น เวลามึงลำบาก
มึงก็ไม่มีสิทธิ์เลือกที่จะเก็บเงินไว้ มึงจะขอความช่วยเหลือใครๆแม้จะเป็นคนในครอบครัวที่มึงเคยช่วยก็ตาม เค้าจะปฎิเสธทันที มึงต้องดิ้นรนเอง
ทั้งๆที่ทำงานก็เหนื่อยอยู่แล้ว เจอปัญหาชีวิตก็หนักอยู่แล้ว ยังขอความช่วยเหลือจากใครไม่ได้อีก ไม่มีแม้เเต่สิทธิ์ที่จะเลือกบริหารทรัพย์สินของตัวเอง
ต้องยอมเอาทุกอย่างออกมาขายทิ้งเพื่อประทังชีวิต ยื้อชีวิตต่อไป ขณะคนที่มึงเคยช่วยยังคงใช้ชีวิตปกติดีมีสุข. ถ้าย้อนเวลากลับไปได้
กูจะเลือกปฏิเสธในภาระที่กูไม่ได้ต้องการ ต่อให้มาทำดีมาหว่านล้อมแค่ไหนก็ต้องใจเเข็งไว้ ต่อให้ถูกด่าว่าใจดำ อกตัญญู เลี้ยงเสียชาติเกิด
ก็ต้องห้ามใจอ่อน เพราะถ้าพิจารณาดูแล้วครอบครัวก็ไม่ได้ลำบากอะไรถึงขนาดต้องหาภาระเพิ่ม มันเป็นแค่ความอยากได้อยากมีเพราะเห็นราคาถูก
บวกกับความอยากมีไว้อวดไว้คุยในวงญาติตัวเอง แล้วยัดเยียดภาระแบกหนี้สินมาให้มึงที่ต้องเหนื่อยทำงานเพิ่มแทน.
ถ้าทนคำว่าเนรคุณได้มึงจะสบายใจสุดๆ อยากทำไรก็ทำได้ มีอิสระทางการเงิน เหม็นหน้าญาติคนไหนก็ไม่ต้องทนอยู่ใกล้ อายุมากหน่อยก็หาคู่ชีวิตดีๆแต่งงาน แล้วก็เลี้ยงลูกอย่าให้ไปสุงสิงกับครอบครัว เดี๋ยวติดสันดานรากหญ้า
>>281 >>282 คือมันเข้ามาในช่วงชีวิตกูขาขึ้นมากๆไง เงินก็ดี งานกำลังไปได้สวย ตอนนั้นก็ประเมินแล้วว่าช่วยผ่อนช่วยค้ำอาจจะมีปัญหามาทีหลัง
แต่คิดว่าคนในครอบครัวกันเองคงไม่ใจร้ายขนาดปล่อยให้แก้ปัญหาคนเดียวหรอก บวกกับยังอ่อนยังโง่เรื่องเงินค้ำเงินกู้ยืมและสิทธิต่างๆทางบัญชี
พอโดนทำดีด้วย ทำกับข้าวของโปรดให้ทุกมื้อ พูดคุยดีๆด้วย เอาพ่อมาพูดคุยด้วย ก็เลยยอมเซ็นค้ำไป สุดท้ายพอมีปัญหาชีวิตขึ้นมาแล้วไงล่ะ
ไม่มีใครแยแสช่วยสักคน นี่กะว่าทำงานแอบเก็บเงินเล็กๆน้อยๆได้สักก้อนกูจะหายไปจากบ้านละ ตอนนี้ศึกษาเรื่องการยกเลิกค้ำหนี้ไว้แล้ว
ถึงเวลากูคงเดินเรื่องเงียบๆ แล้วจากไปแบบเงียบๆว่ะ จะโดนด่าว่ายังไงมันก็คงช่วยไม่ได้เพราะทุกอย่างมันกระจ่างแล้วว่าพอเวลากูลำบาก
ไม่มีหมาแมวที่ไหนสักตัวยื่นมือมาช่วยเลย ชีวิตกูจะไม่ยอมสูญเสียอะไรไปมากกว่านี้แล้ว
ลงมู้นี้ได้ปะวะ ไม่ใช่ครอบครัวนะ แต่เป็นเพื่อนบ้าน กูโคตรเซ็งเลย
คือบ้านกูเป็นตึกแถวและส่วนใหญ่จอดรถกันหน้าบ้านใช่มะ คือถ้ารถบ้านกูจะจอดแล้วข้างบ้านแม่งจอดอยู่ก่อน บ้านกูต้องดันคันของแม่งไปหน่อยนึงถึงจะมีเนื้อที่จอดได้ แต่วันดีคืนดีแม่งเสือกกวนตีนล็อครถทำให้ดันไม่ได้ก็ต้องออกไปจอดที่อื่นซึ่งแม่งไกลไง
โอเคมึงอาจจะบอกว่านั่นเนื้อที่บ้านเค้าเค้ามีสิทธิ์ก็ถูก ที่กูหงุดหงิดคือก่อนบ้านกูจะมีรถแม่งก็ชอบมาจอดแดกเนื้อที่บ้านกูมาแต่ไหนแต่ไรแล้วไง วันดีคืนดีจอดปิดหน้าบ้านเลย พอไม่กี่ปีนี้บ้านกูมีรถบ้าง จะขอให้แม่งจอดเขยิบๆไปหน่อยเสือกใจแคบไง จะจอดต้องมาเข็นเอง เหี้ยสุดคือเคสแม่งล็อครถนี่แหละ
น้องกูเริ่มนิสัยเสีย มีนิสัยรุนแรง (หัวร้อนง่าย) ทั้งที่พึ่งอายุ 13 กุจะสอนมันยังไงดี กลัวมันจะนิสัยเสียไปมากกว่านี้ บ่นกูทั้งๆ ที่งานบ้านกูทำเองหมด อารมณ์เสียที่กูไม่รีบซักเสื้อให้ ทั้งๆ ที่มันก็ควรทำเองได้แล้วมั้ย? รีดผ้ากูกะแม่ก็ต้องรีดให้ พอกูบ่นก็ตีมึน กูขี้เกียจทะเลาะกับมัน จะทำไงดี (เวลามันอยู่กับเพื่อนจะเป็นคนละคน ยอมเพื่อน ออกเเนวเก็บกดกะเพื่อนละมาลงกะกู) กูเบื่อที่ต้องมาทะเลาะกับมัน จะทำไงดี
จับโม้กแม่งเลย มันยอมฟังมึงแน่
พ่อแม่จะรู้สึกยังไงเวลาโกหกลูกตัวเองวะ
แม่ไม่สนใจกุเลย สนใจแต่ถ่ายรูปเซลฟี่ ดูละครซีรีส์ไร้สาระ กุเก็บกดมากเลยว่ะ ตอนนี้เริ่มทำลายข้าวของเรียกร้องความสนใจละ มีหวังทำต่อไปแม่กุรำคานไล่ออกบ้านกุคงไม่ได้กลับมาอีกจริงๆ
กูไม่อยากบวชว่ะ จะด้วยเหตุผลแสดงความกตัญญู มอบบุญกุศลให้พ่อแม่ 48 อะไรก็ไม่สนทั้งนั้น สำหรับกูคิดว่าบวชไปมันก็เท่านั้นอ่ะ
เอาเวลามาทำงานหาเงินยังจะดีซะกว่า แต่ญาติๆกับพ่อแม่ก็ถามเรื่อยๆกดดันกูอยู่นั้นอ่ะ ถ้าบังคับมากๆกูจะบวชยาวไม่ออกมาทำงานละแม่ง
>>300 เอาเวลามาทำงานหาเงิน? โถ่ ข้ออ้างปะวะ ยกเว้นมึงต้องแบกภาระหนี้ให้ที่บ้านด้วย แค่รายได้หายไปเดือนเดียวมันไม่มีผลอะไรขนาดนั้น มึงอาจมีเหตุผลอื่นเยอะแยะแต่สรุปก็คือ มึงแค่ไม่ให้ใจกับคนที่บ้านแค่นั้นแหล่ะ
กูไม่ได้นับถือพุทธจริงจังกูก็ยังบวชให้ได้ ด้วยเหตุผลแค่ว่าให้เค้าสบายใจ เคลียร์งานกับที่บ.เรียบร้อยก็ลามาเดือนนึง มันไม่ได้แย่หรือทำให้ชีวิตมึงสะดุดอะไรขนาดนั้น ตอนบวชก็หาไรทำไปเรื่อย(ในขอบเขตของพระ)ถือว่าเปลี่ยนบรรยากาศ สึกมาก็กลับมาเป็นคนเดิม
>>302 กูมีค้ำผ่อนบ้านให้แม่อยู่ กูเองก็ไม่นับถือศาสนาอะไรเลยจึงมองว่ามันเป็นเรื่องเสียเวลาเปล่าประโยชน์ว่ะ การบวชมันไม่ได้วิชาอะไรเพิ่มเติม
ที่จะเอามาเป็นประโยชน์ในชีวิตประจำวันอ่ะ เป็นแค่พิธีทำให้คนอื่นๆสบายใจเพราะคิดว่าได้บุญเฉยๆ
>>303 ในมุมมองพ่อแม่ก็อาจจะบวชเอาบุญกุศล บวชให้พ้นวัยเบญจเพศ หรือบวชเพื่อความสบายใจ แต่ในมุมมองกูคือบวชเพื่อเอาเวลาไปทิ้งเปล่าๆว่ะ
บวชตลอดชีวิตเพื่อความกตัญญู ให้แม่ผ่อนบ้านเองแลกกับบุญ เย้ๆๆ
>>304 งั้นถ้ามีคนออกเงินผ่อนให้เดือนนึงมึงจะบวชมั้ย ถ้าไม่ คำตอบก็เหมือนเดิมคือ มึงแค่ไม่ให้ใจกับคนที่บ้านแค่นั้นแหล่ะ
คนที่มาตอบมึงทุกคนรู้ว่าบวชมันไม่ได้ให้อะไรกับชีวิต ใช่ แต่มึงจะทำเพื่อคนที่บ้านได้มั้ยล่ะ แค่นั้นเองงงงง
เอาจริงๆมันก็ได้อะไรกลับมาประมาณนึงอะนะ ถ้าช่วงที่บวชมึงข้ามๆพิธีกรรมนู่นนี่แล้วเอาเวลาไปคุยแลกเปลี่ยนมุมมองชีวิตกับหลายๆคนหลายๆมุม แต่มึงต้องเปิดใจบ้างอะนะ นี่ไม่ได้ชวนเข้าลัทธิละเว้ย มันได้มาจริงๆ เอามาปรับใช้เอง
>>304 ถ้ามีเรื่องค้ำผ่อนบ้านงั้นขอข้อแลกเปลี่ยนแบบสุดโต่งเลยละกันว่า ถ้าให้บวชก็จะบวชตลอดชีวิตเลยเพราะไหนๆก็ชวนเข้าทางธรรมแล้วควรจะทำให้ถึงที่สุด แล้วก็ตัดพ้อไปว่าเป็นพระรายได้คงไม่เยอะและมาเลี้ยงดูพ่อแม่บ่อยๆไม่ได้เหมือนเก่านะ ภาระทางโลกก็แบกรับกันเองนะไรประมาณนี้ ดูซิว่าแม่งจะยังไง ทางที่ดีควรต่อรองก่อน ถ้าหยวนๆได้ก็ว่ากันไป ลองยกเรื่องภาระที่มึงแบกรับอยู่และอาจส่งผลมาถึงพ่อแม่มึงมาพูดให้ฟังซะนะ ส่วนในเคสที่ว่าจะเป็นพระไปตลอดชีพจริงๆกูว่ามันคงจะไม่เลวร้ายมากหรอก แค่เงี่ยนหีไม่ได้ทั้งในการ์ตูนกับทางโลกแค่นั้น
>>308 +1 บวชมีรายได้
เลือกวัดที่อยู่ในชุมชนหน่อย คนชวนไปงานบุญ ขึ้นบ้าน ฯลฯ ญาติโยมใส่ซองใส่ปัจจัยถวายกันหน้าตาผ่องใสอิ่มบุญ
เพื่อนกูบวช 2 อาทิตย์วัดอยู่ใกล้ชุมชนอิสลามยังได้มาหมื่นห้า
ถ้าเขาตื้อมากก็บวชจิ้มจุ่มๆไป งานบริษัทบวชได้14วันอยู่แล้ว แต่ถ้างานพาร์ททามก็รอสึกหาที่ใหม่ เผลอๆเมิงหาได้เยอะกว่าทำพาร์ททามอีก
รวยกว่าไปเกณฑ์ทหารอีก 5555555555
>>307 ออกเงินให้ก็ไม่อยู่ดีว่ะ ถถถถ เออกูคงไม่ใจกับที่บ้านแหละ แต่ในมุมมองของกูคือช่วงที่บวชมันไม่ได้อะไรเลยไง แม้จะได้เงินบวชใส่ย่ามแต่เวลาที่เสียไปมันก็ไม่คุ้มอยู่ดีว่ะ อีกอย่างเรื่องมุมมองชีวิตกูเคยคุยกับคนหลายประเภทมาละจึงคิดว่าไม่จำเป็นต้องเข้าไปแสวงหาอะไรในวัดละ
>>309 ถ้าเล้าหลือมากๆกูอาจจะถามไปแบบนี้แหละ คือถ้ายอมให้กูทิ้งภาระทุกอย่างเพื่อไปบวชกูก็คิดว่าสบายกูนะ ไม่ต้องทำงาน ไม่ต้องคำนวนค่าใช้จ่าย แค่ตื่นกินข้าว ไปรับจ๊อบสวดมนต์ เย็นก็อ่านหนังสือละนอน ชีวิตสบายแอบเก็บเงินย่ามไปตีอีหนูได้อีก แต่มันไม่ใช่ชีวิตแบบที่กูต้องการไง ดังนั้นแค่เข้าไปลองศึกษา สำหรับกูคิดว่ามันเสียเวลามากๆเลยว่ะ
โม่ง สวัสดี, คือแม่กูจะทำบุญบ้านแล้วไม่ได้กะจะเชิญใครมาหรอกเพราะชอบส่วนตัวและก็คิดว่าคนแถวบ้านคงไม่คบบ้านกูเท่าไรเขาเลยอยากทำเงียบๆ เป็นส่วนตัวเป็นครอบครัว แล้วที่นี้ยายแม่งบอกว่าคนน้อยเดี๋ยวพระก็เอาไปนินทาหรอก แบบนี้มันใช่เหรอว่ะ แล้วยายแม่งไม่ใช่ดีด้วยนะ เคยทำบุญแล้วเชิญคนมาเยอะยายก็ทำตัวไม่ให้เกียรติแม่กูเลย ตอนโดนแม่ไล่ให้ไปแต่งตัวสวยก็บอกว่าไม่ใช่งานฉันทำไมต้องแต่ง เอ๊า แบบนี้ก็ได้เหรอ ยายแก่สุดในบ้านก็อยากให้แต่งสวยมาเป็นประธานในงานแบบนี้แล้วดูทำตัวดิ
พ่อแม่กูไม่จบว่ะฝัสเอ้ยยยยยย บอกกับกูว่าถ้ายืนยันจะไม่บวช งั้นพ่อแม่คงตกนรกเพราะบาปที่ทำให้ลูกเกิดมาแล้วบวชทดแทนไม่ได้แล้วก็บ่นๆเรื่อง
กูเห็นแก่เงินมากกว่าบุญ เงินทองมันของนอกกายหาไว้เยอะแค่ไหนก็เอาไปไม่ได้ แต่ถ้าบวชก็จะได้บุญได้ตอบแทนแผ่นดิน ตอบแทนพ่อแม่
ลากยาวเลย ทีนี้กูเลยตัดบทไปว่า งั้นก็จะบวชแล้วไม่สึกออกมาเลยนะ เพราะสะสมเงินไว้ก็เท่านั้น สะสมบุญดีกว่าใช่มั้ยจากที่บอกมา
พ่อแม่กูก็ด่าใส่กลับมาว่าโตแล้วก็หัดมีสมองคิดมั่งว่าเรื่องอะไรควรทำไม่ควรทำ เอ้า? กูงงเลย
>>317 มันน่ารำคาญเพราะมันเป็นปัญหาโง่ๆที่แก้ได้ง่ายๆ ที่ไม่ทำเพราะอีโก้ตัวเองล้วนๆไง
ง่ายๆบวชคือการ "ทำให้พ่อแม่สบายใจ" จบ ไม่ได้ทำเพราะนับถือห่าอะไรหรอก มึงไม่ทำก็เจอปัญหาเดิมๆ
แต่นี่มึงถืออีโก้ตัวเองเป็นใหญ่ไง อ่อจะให้กูบวชหรอ งั้นกูบวชตลอดชีวิตเลยป่ะ ไม่ได้มีห่าอะไรแค่อยากเอาชนะพ่อแม่ตัวเอง
>>318 มันถืออีโก้??? มึงไปอ่านใหม่นะ มันต้องค้ำผ่อนบ้านให้แม่มันแล้วการขาดส่งเงินนี่เจอเสียประวัติได้ มึงจะมาจ่ายเงินผ่อนบ้านแทนมันช่วงมันไปบวชไหม? คำตอบก็คือไม่อยู่ละ ถ้ามึงทำให้ได้นี่กูไลฟ์สดฆ่าตัวตายในเว็บโม่งfanboi.chเลย มันแค่ออกความเห็นว่ามันไร้ประโยชน์แค่นั้นอีโก้ตรงไหน แล้วมานั่งทำให้พ่อแม่สบายใจเนี่ย ถ้ามันทำแล้วไม่มีปัญหาทางโลกทีหลังก็โอเคนะ แต่ถามมันก่อนเถอะว่ามีอะไรอีกไหมที่ไม่โอเคเลยถ้ามันต้องไปบวชเป็นพระ นี่กูคุยกับโทรลอยู่ไหมวะเนี่ย ถ้าใช่กูไม่คุยกับมึงแม่งละ
ขอบคุณชาวโม่งที่เถียงกันนะ กูมาสรุปให้ละ สรุปกูก็บอกว่าไม่บวชแหละแต่ถ้าอยากได้บุญจะพาทัวร์ทำบุญ9วัดบ่อยๆละกัน
สำหรับกูตอนบวชมันไม่ใช่แค่เสียโอกาสด้านเงินไง กูมีเรียนต่อโทอยู่ บ้านก็ต้องจ่ายทุกเดือน ไหนธุรกิจที่เพิ่งจะลงขันทำกับเพื่อนอีก
ถ้ามองในมุมพุทธศาสนาคือกูก็ยังละทิ้งทางโลกไม่ได้แหละ ถ้าในมุมของกูคือ เวลาที่เสียไปตอนบวชกูเอาไปทำไรอย่างอื่นดีกว่าว่ะ ถถถถถถ
เอาแรงๆก็บอกไปเลยเลิกนับถือพุทธแล้ว
อะไรคือการซื้อของขวัญให้กูเป็นสร้อยทอง3บาทแล้วเอาไปเก็บไว้เองวะ?
กูคิดว่าไม่นับถือศาสนาอะไรเลย ก็เหมือนการนับถือศาสนาอื่นอ่ะ
สภาพมึงตอนนี้เหมือนคนอิสลามที่เคร่ง แต่แม่งถูกสั่งให้บวชพุทธ
แต่คนมีศาสนายังมีศาสนาเป็นเกราะกำบังไงว่านับถืออย่างอื่นแล้ว
คนไม่มีศาสนาอย่างมึงคือคนนอกมองมาเหมือนพวกเอ้อระเหยลอยชาย
พวกลอยชายอยู่ว่างๆ งั้นก็มีเวลาว่างมาบวชได้น่ะซิ แบบนี้เป็นต้น
ทั้งที่ความจริงคือมึงก็มีความเชื่อของมึงอยู่เหมือนกัน และกำลังถูกละเมิดความเชื่อ
>>325 กูตลกเม้นท์มึง
ใจเย็นๆอย่างน้อยศาสนาพุทธ ไม่ต้องโดนตัดหนังควย/หนังหี
มีแม่ใครเป็นมนุษย์ป้าหรือผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตเลเวล1บ้างวะ แบบชอบแชร์อะไรเงิบๆ ไปเม้นด่าดาราด่าคนตามเพจข่าว บ้าการเมือง โพสท์ทุก10นาที แชร์แต่คลิปคนด่ากันตีกัน ทะเลาะกับคนในเฟสบุ๊คไปวันๆ โดนคนหลอกให้โอนเงินให้ในเฟสบุ๊ค คุยกับเพื่อนต่างชาติ(ต้มตุ๋นสวมรอย) โอนเงินให้เขาเกือบ3แสนแล้ว บอกก็ไม่เชื่อ คือเลเวล1มากๆกูควรทำไง
ทำโทสัพตก เปิดไม่ติดเลยว่ะ ใช้ได้ 3 ปีเอง บอกแม่ไงดี กลัวแม่ด่า กุพึ่งทะเลาะกับแม่มาด้วยเนี่ย ซวยชิบหาย5555555
โทรศัพท์เด๋วนี้อายุ 1 ปีไปแล้วเมิง 3 ปี ใช้คุ้มแล้ว บอกแม่ มันพัง ซื้อใหม่ จบ
เหล่าญาติๆหัวโบราณชอบมาแซะเรื่องเข้ามาเรียนสายภาษา ทั้งที่กูเข้ามาสองปีล่ะแม่งก็ยังแวะมาแซะ แซะไม่พอเสือกเอาไปเทียบกับลูกๆสายวิทย์ของเค้าอีกคือกูแหกคอกจากหมู่คณะญาติที่เข้าสายภาษามาคนแรกเลยโดนแซะยับ ในใจกูพุ่งไปตบปากเรียงตัวแต่ขีวิตจริงได้แต่เจี๋ยมเจี้ยมยิ้มแห้งๆแล้วตอบรับไปแกนๆ สัสเอ้ย
>>342 พ่อแม่กูไม่อยากให้มีปัญหาอ่ะเลยบอกให้กูหูทวนลมไป กูเองก็ไม่อยากบวกในงานอ่ะ ไม่อยากให้คนที่เหลือต้องมาอึมทึมไปด้วย 5555
บวกกับญาติที่ขี้แซะแต่ละคนแม่งแก่จนขาแม่งก้าวลงโลงไปข้างนึงล่ะ กูก็แค่รออีกข้างให้ลง ส่วนตัวกูไม่ได้มีปัญหาอะไรกับลูกๆพวกเค้านะ คือคุยกันได้แต่เวลาคุยกันในงานรวมญาติชอบมีผู้ใหญ่เข้ามาพูดสอดจนบทสนทนาเจื่อนเฉย
สอนการบ้านน้องชายอายุ 14 แล้วหัวร้อนตลอด คือน้องกูโตที่เยอรมัน พูดภาษาไทยกระท่อนกระแท่น แล้วที่บ้านก็ชอบให้กูสอนภาษาอังกฤษมันเวลามันจะสอบ แม่งคือชอบเถียงกูในเรื่องปัญญาอ่อนมากๆ แบบมันเองก็ไม่ได้รู้ แต่ขอเถียงไว้ก่อน สุดท้ายโดนกูแดกหัวทุกที ไม่มีวันไหนที่สอนแล้วไม่โดนด่าโดนตวาด ใจแม่งก็สงสารที่ต้องมาเรียนกับกูแล้วโคตรเครียด อีกใจก็แบบหัวร้อนนนนน แม่งทำไมต้องให้ด่าตลอดๆ โว้ย
กูเบื่ออีแม่เลี้ยงกูว่ะ เป็นพวกอารมณ์เสียโมโหง่ายพออะไรไม่ได้ดังใจตัวเองก็โวยวายเสียงดังก่อน พอตัวเองผิดก็ทำขำกลบเกลื่อน
แล้วเป็นพวกงกเขี้ยวลากดิน มาขอกูให้ช่วยจ่ายค่านั้นค่านี่ตกลงกันที่ราคานี้ๆพอถึงวันจ่ายจริงมีบวกเพิ่มห่าเหวตลอดแล้วชอบอ้างว่า
เงินส่วนเกินเดี๋ยวจะคืนให้ในบัญชีเงินเก็บ แต่กูเห็นมึงก็อ้างได้ตลอดว่าต้องจ่ายเพิ่มๆๆเงินส่วนเกินเลยไม่ได้เอาไปเก็บให้กูตลอด
กูเบื่อชิบหาย เป็นอีกคนที่คิดว่าถ้ามีงานศพกูก็ไม่โผล่ไปเผาผีแม่ง
>>346 อายุ 14 ยังโตไม่เต็มที่เลยมึง มันก็หน้าตาดี ไม่ได้อ้วน ไม่ได้ผอม ออกอวบๆ หน่อย ยังแก้มกลมๆ อยู่ ถามไมเนี่ยยยย
สรุปคือเมื่อคืนแม่กลับมาเห็นเศษซากอารยธรรมที่กูสอนมัน แบบฝึกหัดที่ตัวแดงเถือก 3 แผ่น แม่เลยมีบัญชาว่าจากนี้ไปมันต้องมาเรียนภาษาอังกฤษกับกูทุกวัน แม่งงานงอกเลยทีนี้ แม่บอกแต่ว่าให้ใจเย็นๆ กับน้อง อย่าไปดุ อย่าไปแดกหัวมันมาก มันกลัวจนลนหมดแล้ว กูละอยากจะคิดตังค์ค่าสอน แต่ทำไม่ได้ เดี๋ยวโดนแม่ด่าอีกว่ากับน้องก็ยังจะเอาเงิน
กูที่เคยมาปรึกษาเรื่องพ่อแม่ให้เรียนต่อตปท. โดยอ้างว่าตัวเองป่วย แล้วก็ชอบขอเงินกูไปใช้ นะ ไม่รู้จำกันได้เปล่า
จะมาอัพเดตว่าชีวิตกูหลังจากตัดสินใจไม่เรียนต่อแล้วย้ายเข้ามาอยู่บ้าน เหมือนกราฟชีวิตกูดิ่งลงนรกเลยว่ะ กูโคตรไม่มีความสุขเลยว่ะ ต้องดูแลพ่อที่บอกว่าตัวเองป่วยหนัก ต้องลาออกจากงาน เพื่อนฝูงไม่ได้พบปะ วิถีชีวิคแบบนี้แม่งโคตรแย่
ตื่นเช้ามาวันๆกูไม่ได้ทำอะไรเลย มีหน้าที่หาข้าวให้เขากิน 3มื้อ แล้วก็ล้างจานหุงข้าว ซักผ้า คือแม่งโคตรไม่ใช่กูเลย นิสัยกูเป็นคนชอบเจอคน ชอบกิจกรรมแอคทีฟๆ เข้าใจใช่ปะมาเจอแบบนี้แล้วเหมือนกูตกนรกเลย
ล่าสุดพี่ชายกู ด้วยความหวังดีเหี้ยอะไรไม่รู้ลงทุนเปิดร้านให้กู เป็นงานเกี่ยวกับพวกออกแบบ... ร้านมี2ชั้นพอร้านเสร็จพ่อแม่กูก็ย้ายจากบ้านมาอยู่กับกู! กูนอนชั้นบน พ่อแม่กูอยู่ชั้นล่าง ถ้าพวกมึงเข้าใจจะรู้ว่าอีพวกงานออกแบบนี้แม่งใช้สมาธิสูงมาก วันไหนกูได้งานมา กูก็จะปั่นอยู่ข้างบน
แต่พ่อแม่แม่งไม่เข้าใจ ชอบเรียกกูให้ลงมาชั้นล่าง ลงมาเฉยๆอะมึง มานั่งอยู่ข้างล่าง พอลูกค้ากูหลุด ก็มาลงที่กู หาว่ากูไม่มีความรับผิดชอบ พอกูบอกว่าไม่ทำงานออกแบบนี้แล้ว พี่ชายก็มาด่ากูหาว่ากูเนรคุณ เขาอุตส่าลงทุนให้ (ใครแม่งขอวะ) อ้อ งานออกแบบที่ทำนี่เงินไม่เคยเข้ากระเป๋ากูสักบาทเลยนะ ทำมา4เดือนแล้ว พอกูถามไปก็บอกว่า มันยังไม่มีกำไร ต้องจ่ายค่าเช่าร้าน จ่ายค่าไฟ(บางเดือนกูก็จ่ายเอง) ค่านี่นั่น...
มึงคิดดูว่าเงินเก็บกูห้าแสนกว่าบาท เหลือค่อ2หมื่นภายใน4เดือนอะ มึงคิดดูว่าพ่อแม่ขอกูเยอะขนาดไหน แล้วคำพูดตอนขอเงินกับตอนนี้ที่เงินกูใกล้หมดแล้ว คนละอย่างกันเลยนะเว้ย
ในหัวกูตอนนี้คิดแต่เรื่องฆ่าตัวตาย ห้องกูอยู่ชั้น2 อยากเอาเชือกผูกคอห้อยกับรั้วระเบียงลงมา เอาแม่งถ้าถ้าพวกเขาคิดจะขายที่นี่ก็ไม่ให้ใครกล้ามาซื้อต่อ ติดแค่ว่าตอนนี้ใจกูยังไม่กล้าพอ กูยังอดทนได้อีกนิดมั้งนะ
>>350 อย่าเพิ่งฆ่าตัวตาย เอาเงินก้อนสองหมื่นที่เหลือออกมาหาเช่าหอพักอยู่ได้ประมาน1-2เดือน(แล้วแต่ราคา) ระหว่างนั้นก็หางานทำ ค่อยๆเก็บเริ่มต้นชีวิตใหม่ ตัดการติดต่อจากครอบครัว ให้เหตุผลเค้าไปว่านี่มันชีวิตมึง มึงไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นทาสของพวกเค้า มึงก็ต้องมีชีวิตของตัวเอง
กูเชื่อว่ามึงพอจะรู้ลู่ทางไปตปท.อยู่แล้ว
KY กูมีปัญหาเรื่องญาติ คือพ่อกูเค้าซื้อบ้านให้ย่าอยู่ แล้วทีนี้ป้ากูก็ขนครอบครัวลูกหลานเค้ามาอยู่ด้วย ยึดห้องนอนไปหมด ให้อาม่ากูเอาเตียงมาตั้งนอนในห้องนั่งเล่น เท่านั้นไม่พอ ยังหาทางยึดบ้านเป็นของตัวเองด้วย หลอกให้พ่อกูเซ็นยกบ้านให้เค้า แต่รู้ทันก่อนเลยไม่ได้เซ็น
ป้าคนนี้แต่ก่อนเคยยืมเงินพ่อไปหลายแสนแล้วไม่คืนจนมีเรื่องมาแล้ว แต่ตอนนี้ก็ยังไม่คืนอยู่ดีแล้วก็หาทางแย่งเพิ่มอีก กูจะทำยังไงได้บ้างวะ พ่อกูก็ไม่กล้าทำอะไรมากเพราะเป็นพี่สาว แล้วเค้าบอกจะไปฟ้องศาลขอครอบครองปรปักษ์ด้วย
>>354 ครอบครองปรปักษ์นี่เลิกไปได้เลยเพราะถ้าพ่อมึงย่ามึงอนุญาติให้เข้ามาอยู่บ้านอยู่แล้วทุนเดิม ละครอบครองปรปักษ์ต้อง10ปีอัพนะ ละอีกอย่างนึงก็คือ เป็นไปได้ไหมที่จะกล่อมพ่อมึงให้โอนมอบอำนาจมาให้มึงแทน บ้านมึงเป็นเจ้าของละป้ามึงมันคงไม่กล้าด้วย เท่าที่อ่านๆมานะ สันดานป้ามึงนี่ระยำตำบอนมาก
>>354 กุมีปัญหาเดียวกะมึง ตอนแรกซื้อให้ยายอยู่ มีครอบครัวป้ามาดูแลยาย ก็ไม่ได้ว่าอะไร ตอนหลังยายเสีย ป้ามาบอกว่าขอเช่า แต่ไม่เคยจ่ายค่าเช่า แล้วก็เพิ่มมาอีกครอบครัว ก็ไม่เคยจ่ายไรเหมือนเดิม จนบ้านเริ่มโทรมเพราะคนอยู่ก็ไม่ดูแล ทางออกเดียวสำหรับกุคือรอให้แม่โอนให้แล้วกุจะขายทิ้งว่ะเพื่อจบปัญหา แต่ของเพื่อนโมงอาจติดเรื่องอาม่า เปลี่ยนเป็นซื้อบ้านใหม่นอกตัวเมืองให้ม่าอยู่ป้าจะได้รู้สึกเดินทางไปมาลำบากก็น่าจะดีนะ
ญาติเฮงซวยนี่หนียากจริง เลี้ยงดูก็ทุกข์ใจ จะทิ้งก็มีตราบาปอีก
ไม่รู้จะบ่นในไหนบ่นในนี้ล่ะกัน ใครเคยโดนลากไปดูหมอดูมั่งมะวะ
คือกูดูหมอกี่เจ้าๆ แม่งก็จะพูดคล้ายๆกันคือกูจะได้ไปทำงานเมืองนอก
คือกูไม่ได้เชื่อเรื่องพวกนี้ไง คือพวกนี้เค้ามีจัดสัมนากับป่าววะ
ให้เวลาดูหมอคนถามเรื่องงานให้บอกไปว่าได้ไปทำงานเมืองนอกให้เหมือนๆกันน่ะ 555
ปรึกษาหน่อยว่ะ กูเครียดเรื่องที่บ้านมากช่วงนี้ ไม่ใช่เรื่องญาติเเต่เป็นพ่อเเม่กูเอง
คืองี้ครอบครัวกูเเยกทางกันตั้งเเต่ กูอายุ 14 กูก็ไม่ได้อะไรกูเด็กผู้ชายเเต่โชคยังดีที่พ่อกูยังส่งกูเรียน(ด้วยเศษเงิน) ส่วนพ่อกูก็ไปมีชีวิตใหม่ กูอาศัยอยู่กับเเม่เเละไปทางเเม่มากกว่า ซึ่งก่อนที่จะเเยกทางพ่อกูเนี่ยพลาดไปทำหนี้ไว้จำนวนล้านกว่าๆจนตอนนั้นเเทบจะต้องขายบ้าน หนี้มาจากเมียน้อยเอาไปปรนเปรอทางนั้นหมด เเล้วก็เลยเเยกทาง เเต่เเม่ก็เอาไปปรึกษายืมชื่อญาติไว้ก่อนเเล้วจ่ายส่ง ทีนี้พอผ่านไปหลายปีตอนนี้กูเรียนจบเเล้วพ่อกูก็ไม่ส่งกูเเล้ว บ้านก็ผ่อนหมดเเล้ว(ทั้งพ่อเเละเเม่เป็นคนผ่อนจ่าย) เเม่กูเลยชิงอาศัยโอนชื่อบ้านเป็นชื่อกูก่อน
ทีนี้พ่อกูก็พยายามมาทวงเอาบ้านกับกูบ่อยๆ จะให้โอนเป็นชื่อพ่อ ชอบนานๆทีมาตะล่อมเอาพวกสำเนาทะเบียนไปบ้าง เอาสำเนาบัตรประชาชนไปบ้าง กูสงสัยว่ะว่าไอพวกนี้มันเอาไปทำธุรกรรมอะไรได้บ้างวะ กูกลัวพ่อกูเอาชื่อกูไปทำธุรกรรมหนี้อะไรพวกนี้ว่ะ กูลองหาข้อมูลในเกิ้ลก็ดูทำอะไรได้หลายอย่างอยู่ มันสามารถเอาไปทำอะไรได้บ้างวะกูกลัว
ปกติตัดพ่อเเม่กันได้ปะวะ คือพ่อกูก็ส่งกูเรียนจนจบ ส่งเงินใช้นะ(เศษเงิน) เเต่อนาคตกูว่าพ่อกูต้องมาเอากับกูเยอะเเน่ๆไปปรนเปรอทางเมียน้อย เเล้วพ่อกูจะเกษียณเเล้วด้วยบวกกับทางนั้นก็มีลูก กูว่าถ้าพ่อกูมาขอเงินเยอะๆกูจะให้เเค่เศษเงินจะตัดพ่อละ ถ้าเจ็บป่วยก็ดูเเลเเค่นั้น เลวไหมวะเเบบนี้ เฮ้อ ใจก็อยากตัดพ่อ เเต่อีกใจก็คิดว่าเขาก็ส่งเงินค่าเทอม ส่งค่ากินมาให้ใช้ ถึงเเม้จะเศษเงินก็เถอะนะ เศษเงินในที่นี้คือกูได้เงินสัปดาห์ละ300 ค่าเทอมเทอมละหมื่นห้า รวมค่ารถค่ากิน ยังไงมันก็ไม่พออยู่ละ สุดท้ายก็มาหนักที่เเม่ กูก็หางานพิเศษทำช่วยตัวเองด้วย บ้านไม่ได้รวย
ละอีกข้อกูสงสัยเรื่องบ้าน ถ้าอนาคตพ่อกูจะเอาเมียน้อยมาอยู่บ้านกูนี่ กูไล่ได้ไหมวะ ชื่อตอนนี้มีเเค่กู เเต่พ่อไม่ได้อยู่ในชื่อ กูอยากรู้เรื่องธุรกรรมพวกนี้จะศึกษายังไง
>>361 นี้มันกุชัดๆ 5555เหมือนสัสๆทั้งเรื่องบ้านกับหนี้ ประมาณ14เหมือนกุเดะๆ มึงนี้อววตารกุชัดๆ เรื่องบ้านคงให้คำเเนะนำมึงไม่ได้เพราะกุโดนไปทั้งหลังเลย ตอนนี้เลยต้องเช่าอยุ่ พ่อกุก้ส่งเหมือนกันเเต่หลังๆด้ไม่ละเหมือนมึงเดะ กุตัดได้นะเพราะมางั้นมาสร้างปัญหายาวกับกุเเน่ๆ กุไม่สนหรอกไม่รุ้วะมันอยุ่ว่ามึงผูกพันเเค่ไหน หน้าที่ความรับผิดชอบของเขาที่มีต่อเราก็ต้องช่วยเราอยุ่เเล้วไม่มีบุญคุณ เพราะเสือกทำให้กุเกิดเองนิ เเต่ส่วนกุตัดได้เเน่ๆ ส่วนถ้าเกิดมึงให้พ่อมึงมาอยุ่บ้านได้เเล้วเขาเกิดเอาเมียเขามา มึงไล่อะไล่ได้เเต่ไปไหมอีกเรื่องนึง วุ่นวายเเน่เพราะฉะนั่นอย่าให้มาอยุ่เถอะ ตัดขาดไปซะอนุโลมมากสุดก้มาเจอหน้าเป็นบางคราวพอ
>>361 ถ้าเป็นกุนะ ถ้าแม่ยังอยู่ให้แม่เป็นคนคุยดีที่สุดว่ะเพราะรายละเอียดต่างๆแม่น่าจะรู้มากกว่าใคร
เอาเรื่องบ้านก่อนก็เช่นเงินที่ซื้อบ้านเป็นของใคร การผ่อนชำระหนี้เป็นของใครสัดส่วนเท่าไหร่ ถ้ามึงจะตัดขาดและจะเก็บบ้าน ขอให้หาเงินที่พ่อเอามาลงกับบ้าน เป็นส่วนของเค้าเอาให้ไปเลยก้อนนึงแล้วก็บอกเลยว่าเค้าไม่มีกรรมสิทธิ์ในบ้านแล้ว ซึ่งก็ไม่มีแต่แรกแค่อยากทำให้เคลียร์ เขียนสัญญาก็ได้ การจะเอาอิน้อย+ลูก มาอยู่บอกเลยว่าหายนะ
ตอนนี้เค้าก็ไม่มีสิทธิ์ไรในบ้านหรอกเพราะไม่มีชื่อ ไม่มีกรรมสิทธิ์ในบ้าน สถานภาพก็หย่าแล้ว ถ้าเอาอิน้อยเข้าบ้านมามามึงจะแจ้งบุกรุกก็ทำได้เพราะมึงเป็นเจ้าของ+เจ้าบ้าน แต่สังคมจะมองว่ามึงทำงี้กะพ่อแท้ๆได้ไง ตำรวจอาจให้ลงได้แค่บันทึกประจำวันว่ะ เพราะมองเป็นเรื่องในครอบครัว
คือกูแม่เสียและมีญาติมารับเป็นลูกบุญธรรม สิ่งต่างๆที่เค้าเคยทำกับกูไม่เหี้ยเท่ากับการฝากคำพูดเหี้ยๆในหัวที่แม่งติดหัวกูจนถึงวันนี้ว่าแม่ตายเพราะมีลูกอย่างมึงจากปากน้องสาวแท้ๆของแม่กู
กูขอถามหน่อย ทุกวันนี้คือกูยังเป็นนักเรียนอยู่ เรียนจ-ศ.แล้วก็เรียนพิเศษตอนเย็น ตอนเสาร์เรียนพิเศษอีก กลับถึงห้องก็นั่งเล่นเกม ทำการบ้าน แล้วก็นอน วันอา.ก็คลุกตัวอยู่ในห้อง ไม่ออกไปไหน ชีวิตประจำวันซำ้ซากเดิมๆ ตลอด 5 ปี เพื่อนมีแค่ตอนไปพักเที่ยงกินข้าว ไม่มีสักคนที่เรียกว่าเพื่อนสนิทได้เดิมปาก ไม่เคยปรึกษาปปัญหาชีวิตกับใครเพราะพูดไปก็กลัวเขามองว่าเราแปลก วันๆก็วนอยู่แค่นั้น วันไหนที่ไม่ก็อะไรทำก็คว้างเหมือนมีอะไรมาทับสมองไว้ นึกอะไรไม่ออก ยังดีที่ยังพอมีเพื่อนคุยในเน็ตบ้าง แต่ไม่เคยพูดถึงเรื่องส่วนตัว ตอนนี้กูรู้สึกเหมือนจะเป็นโรคซึมเศร้าหรืออาจจะใกล้เป็น สรุปกูแค่คิดไปเองว่าเป็นหรือกูเป็นไปแล้ววะ
>>369 ขอเสริมหน่อย ปัญหาชีวิตที่ว่านั้นก็มีหลายๆเรื่อง แต่เรื่อง 3 เรื่องที่เหมือนจะกวนใจกูมากก็เรื่องเรียน เรื่องครอบครัว เรื่องเพื่อน
ตอนนี้กูเรียนอยู่กลางๆ แต่กูรู้สึกห้องที่กูอยู่มันเก่งเกินไป กูตามคนอื่นเขาไม่ทัน ในปีหน้ากูก็ต้องสอบเข้ามหาลัยแล้ว กูกลัวว่ากูจะสอบไม่ได้ แต่กระทั่งตอนนี้ความคิดที่อยากจะเรียนอะไรก็ยังไม่รู้จุดหมายปลายทางเลย เป็นนร.ธรรมดาๆ ที่กิจกกรมก็ไม่ได้โดดเด่น ใบเกียรติบัตรอะไรก็ไม่มี ทุกวันๆที่กูกลับมาถึงห้อง กูก็ไม่มีกะจิตกะใจจะทำอย่างอื่น ได้แต่นอนมองเพดานว่าพรุ่งนี้กูต้องทำอะไรต่อ ให้เวลามันไหลไปเรื่อยๆแล้วกูก็นึกถึงตอนที่โดนพ่อกับแม่บอกว่าสอบเข้ามหาลัยดีๆให้ได้นะ แล้วถามว่าอยากเรียนอะไร กูก็บอกว่ากูยังไม่รู้ แต่ในความหมายที่นี้คือกูยังไม่รู้อะไรเลย กูยังไม่รู้ว่ากูจะสอบเข้าได้มั้ย กูจะยังเป็นกูแบบในตอนนี้อยู่อีกรึเปล่า กูไม่รู้ว่าตัวกูจะทนกับสภาพแบบนี้ไปได้จนจบม.6เลยรึเปล่า ทุกๆวันกูก็ได้แต่บอกตัวเองว่าไม่เป็นไรๆ กูยังเดินไปข้างหน้าได้ กูแค่ตื่นมาทำตัวเป็นคนเดิมที่บ้าบอและดูไม่มีเรื่องอะไรต้องคิด กูแค่เดินไปเรื่อยๆก็พอ แล้วเวลาจะเป็นคนบอกกูเอง กูรู้ตัวว่าทำได้อยู่แค่นั้น กูก็แค่ต้องทนไปให้ถึงที่สุด กูอยากร้องไห้ แต่นำ้ตากูไม่ไหลออกมา กูไม่รู้จะทนได้อีกนานแค่ไหนแล้ว กูไม่รู้ว่ามันเป็นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไร ประกอบกับเรื่องครอบครัว ครอบครัวกูมีลูกหลายคน เพราะแบบนั้นกูต้องไปให้สูงที่สุดเท่าที่กูฝืนได้ กูเบื่อพ่อที่ไม่เคยฟังที่กูพูดเวลาทะเลาะกัน กูเบื่อแม่่ที่พอกูพูดอะไรไม่ถูกใจกับพ่อ พออยู่ด้วยกันก็เดินมาว่ากูทั้งๆที่กูคิดแล้วคิดอีกว่าที่กูพูดมันผิดตรงไหนรึเปล่า กูเบื่อพี่ พี่ที่ต้องการแต่จะเอาสมบัติพ่อไปขายเพื่อพี่เขยกับพี่สะใภ้ไปเสวยสุข ทั้งงานการก็ดีอยู่แล้วกลับโง่ตามก้นฝ่ายนั้นตลอด พยายามโน้มน้าวกูให้กูขอนั้น ขอนี้ให้ ทำเหมือนกูไม่รู้เรื่องอะไรแล้วใช้กูเป็นเครื่องมือเอาประโยชน์ใส่ตัว อิจฉากูกันใหญ่พอรู้ว่ากูได้โทรศัพท์เครื่องใหม่ ได้นั้นได้นี่ ทั้งที่ๆที่กูขอเพราะมันจำเป็น กูคิดว่าอีกไม่นานคงมีเรื่องทรัพย์สินส่งมอบตอนกูทำเอกสารธุรกรรมได้แล้ว
ส่วนเรื่องเพื่อน ก็อย่างที่กล่าว ไม่เคยมีเพื่อนสนิท ที่โรงเรียนแค่เพื่อนที่ไปกินข้าวตอนเที่ยงด้วยกันบ่อยๆ ในเน็ตก็มีเพื่อนกลุ่มที่เล่นเกมด้วยกันบ่อยๆกับกลุ่มแชทกลุ่มหนึ่ง เป็นเพื่อนในเน็ตถึงจะคุยเล่นด้วยกันมานาน กูเองก็ไม่เคยเปิดเผยตัวจริง เพราะกูกลัว แต่เพราะแบบนั้นปัญหามันก็เกิดขึ้นจนได้ เพื่อนกลุ่มที่เล่นเกมด้วยกันบ่อยๆ เพื่อนคนนั้นเขาทำงานอยุ่ ต่างกับกูที่ยังเรียนอยู่ วิธีได้กับใช้เงินยอมต้องต่างกันอยู่แล้ว มีอยู่ครั้งหนึ่งกูได้เสียเงิน(เก็บ)ไปจำนวนหนึ่ง จนถึงตอนนี้เขาก็ยังล้อกูไม่เลิกว่าเสียไป****บ. แต่ก็ยังไม่ได้ ก่อนหน้านี้กูเองก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะกูก็เรียกทางนั้นด้วยชื่อแปลกๆเหมือนกัน จนเร็วๆนี้เกิดคำพูดที่ว่า มึงนอนเกา***อยู่ที่ห้องก็มีเงินใช้แล้วนิ แต่คนอื่นๆก็ไม่อะไร จนกระทั่งกูทนไม่ไหว กูก็สวนไปว่า แล้วไงกูมีเงินใช้แล้วอิจฉากูรึไง อยากมีเหมือนกูรึไง แต่ตอนนั้นแม่งก็กัดกูไม่ปล่อยเหมือนตอนกูใช้เงินแล้วไปเกี่ยวข้องกับอวัยวะของมัน ตอนนี้กูเองก็ยังเล่นยังคุยปกติอยู่ แต่ความรู้สึกกูคือกูไม่อยากคุยกับมันอีก คือกูผิดรึไงที่กูใช้เงินไป กูไม่เข้าใจเลยจริงๆ
>>370 ครอบครัวมึงโคตรtoxic ตอนนี้มคงเหมือนคนที่เดินเเบบไม่รุ้จุดหมาย เท่าที่กุอ่านมากุว่ามึงน่าจะเก่งในระดับนึง ม.ห้าใช่ไหม ถ้ามึงยังไม่รุ้จะทำอะไรลองคิดเป้าหมายระยะยาวว่ามึงอยากทำอะไร เอาให้เเม่งเหนือกว่าคนอื่น ไม่ต้องกลัวจะทำไม่ได้1ปีเป็นเวลาที่นานมากพอที่จะเปลี่ยนจากทุกอย่างกลายเป็นจริงถ้ามึงทำจริง อ่านอย่างบ้าคลั่ง จัดการเวลาตัวเองอย่างปีศาจ มึงทำได้ทุกอย่างอยุ่เเล้ว คริบครัวมึงมีลุกหลายคนเเล้วพ่อเเม่มึงพูดนู้นนี้นั่นมากใช่ไหม กุไม่รุ้มึงสายวิทย์หรือปล่าว ถ้าใช่มึงรู้ไหมมึงจะเข้าivy league ยังทำได้เลยทำมึงจะเอาจริงเอาจังกับชีวิทมึงจริง เเล้วค่อยไปตบหน้าเเม่งด้วยความเหนือกว่าเเบบคูลๆ
>>370 วางตัวยากแหะ แต่คิดว่ายังไม่อยากทำอะไรให้ลองสังเกตจากงานอดิเรกก็ได้นะว่าชอบทำอะไร หรือไม่ก็ลองๆดูว่าอาชีพแบบไหนอยากจะเป็น ตอนที่อยู่ม. 5 เราอ่านแต่หนังสืออยู่ทุกวันอะ มันอาจจะดูต่างกันนะ แต่ว่างๆลองเข้าห้องสมุดแล้วไปหาหนังสือมาอ่านเป็นเพื่อนตอนอยู่บ้านก็ได้นะ คือเล่นเกมด้วยก็ได้แต่หาอะไรอีกอย่างมาพักสมองนอกจากเกมด้วยอะ เครียดแต่เรื่องที่บ้านอย่างเดียวมันกดดันหลายๆอย่างในชีวิตแต่ว่าลองหางานอดิเรกอีกสักอย่างมาช่วยคลายเครียดก็ดีนะ
ส่วนเรื่องพี่ๆช่างหัวแม่งอะ คือมันโตแล้วคิดได้แต่เอาสมบัติไปหาเป็นเวรกรรมมันละกัน ตั้งใจเรียนตั้งใจสอบดูก่อน หรือไม่ก็ไปเรียนสายสามัญก็ได้ เรียนเก่งๆตามที่ข้างบนบอกแหละ น่าจะดีกับอนาคตที่สุดละ เรียนมหาลัยอาจจะไม่ใช่คำตอบของทุกอย่างแต่ขึ้นอยู่กับว่าอนาคตจะเป็นคนแบบไหนมากกว่าหลายๆอย่างทำให้เราเติบโตขึ้นเอาสิ่งพวกนั้นมาใช้ก็พอแล้ว เอาทีละนิดๆมาใช้เดี๋ยวก็เก่งขึ้นเอง
อีกเรื่องที่เตือนนะ เวลาหาเพื่อนสนิทให้หาคนที่มันดีกับเราแล้วดีกับคนอื่นด้วย ถ้ามันเหี้ยกับคนอื่นแล้วดีกับเราอย่าไปเอาคนแบบนั้นเป็นเพื่อน มันโครตปัญหาชีวิตเลย เวลาไว้ใจใครดูให้ดีๆก่อน อย่าคบคนที่ประจบคนอื่นเยอะๆก็พอ อย่าเข้าข้างเพื่อน มองให้เป็นกลางเข้าไว้ แนะนำไม่ได้เยอะอะ แนะนำได้แค่นี้แหละ สงสัยอะไรก็ถามได้
>>371 ก็สนใจอาชีพจำพวกเซฟ/บาร์อยู่นะ เป็นคนชอบทำอาหารอยู่แล้วด้วย แต่ทางนี้ก็โดนขัดด้วยความคิดหัวโบราณของพ่อที่มองว่าเซฟก็เหมือนคนทำอาหารที่ร้านอาหารตามบ้าน จบมาก็ได้แต่คงไม่เป็นชิ้นเป็นอัน ไม่ได้มองว่าจะเป็นเชฟฝึกหัดอะไรเลย
>>372 สายวิทย์-คณิตแบบเต็มหน่วยเลย ระดับการเรียนก็อยู่กลางๆ ตอนนี้ก็พยายามดันตัวเองขึ้นเรื่อยๆ ให้ทันเวลาที่เหลืออยู่ ก่อนหน้านี้คือเรียนบ้างปล่อยบ้าง เพราะรู้สึกทุกอย่างรอบตัว มันหนักเกินไป ไม่อยากรับอะไรอีกแล้ว แต่ถ้าภายใน 1 ปี ที่เร่งตัวเองได้ก็จะลอง ขอบคุณมากๆ
>>373 งานอดิเรก ส่วนมากจะเป็นการอ่านหนังสือทุกแบบ ยกเว้นตำราเรียนเพราะอ่านแล้วง่วง(...) กับเล่นหมากรุกไทยงี้ หมากรุกฝรั่งงี้ แต่ก็อย่างว่าชอบแต่ไม่มีเพื่อนเล่น ก็เหมือนไม่มีเป็นงานอดิเรก ปกติก็เข้าห้องสมุดนะ แต่ตั้งแต่ขึ้นม.ปลายมา ไม่มีคาบว่าง เลิก 4.00+ ทุกวัน มีเรียนต่อ 5.00 เวลาผ่อนคลายต่อวัน ถ้าไม่นับที่กลับถึงห้องแล้วคงหาแทบไม่ได้เลย ส่วนเรื่องครอบครัว ตอนนี้ก็พยายามปล่อยวางให้มากเท่าที่ทำได้ ช่วงนี้ก็รู้สึกว่าไม่ค่อยมาก่อกวนชีวิตมากเท่าไหร่ ก็รู้สึกสบายใจขึ้นหน่อย ส่วนเรื่องสอบเข้า คงมีแต่ต้องเข้ามหาลัยล่ะมั้ง อยากเรียนบ้างอย่างก็ต้องใช้เงินพ่อแม่ด้วย รู้ได้เลยว่าจะเรียนอะไรที่ไม่ใช่มหาลัยคงโดนขัดเหมือนตอนอยากเรียนวิศวะการบินของอู่ตะเภาด้วยเหตุผลที่ว่าไม่เหมาะหรอก ต่างๆนานา เพื่อนนี่ก็เรื่อยๆ ไม่มีสนิทคนไหนเกินไปเป็นพิเศษ 555..
>>374 เชฟมึงต้องเก่งจริงเเละงานวุ่รวายเเละยากเเละเปะ พ่อมึงจะมองเเ้บบนั่นก็ไม่แปลกอ่ารมเดียวกับนักดนตรี จริงเเล้วๆมึงมีสิทธิเรียนอะไรที่มึงอยากเรียนก็ได้นะอย่าให้พ่อเเม่เป็นกรอบอะไรขนาดนั่น เเต่จะทำอย่างงั้นได้มึงต้องหาเงินเองเเละไม่ขอเงินจากเขาก่อน ถ้าทำไม่ได้มึงก็คงได้ อยุ่เเต่ในกรอบที่เข้าวางไว้ละ เป็นปัญหาที่มึงไม่ยอมเตรียมเงินวางเเผนชีวิตมึงเอง เเต่จริงๆเเล้วถ้าสิ่งที่มึงอยากเรียน เรียนออกมาเเล้วสร้างproductที่คุ้้มกับvalue มึงก้กุ้เรียนสิเรียนจบค่อยคืน ที่อเมริกาทำกันเป็นเรื่องปรกติ มึงอยากเรียนไรก็เรียนเถอะเเต่ขอให้มึงได้คิดถี่ถ้วนเเล้วจริงๆว่าในอนาคตหลังจบมาจะทำยังไงวางแผ้นใช้ชีวิตให้ดี
ปล.ถ้าให้กุเดามึงอยุ่ห้องกิฟพิเศษด้วยใช่ ถ้าไหม ถ้่างั้นทางบ้านมึงนะจะมีเงินในระดับนึง ถ้าชี้เเจงเหตุผลดีๆเเละมีหลักฐานประกอบพรีเซ้นพ่อเเม่มึงดีๆเรื่องการเรียนเเละอนาคต กุว่าเขาให้เงินมึงไปเรียนด้านนั่นอยุ่ละถ้ามึงตั้งใจจริง
กูเหมือนเป็นแกะดำของตระกูลอ่ะ บ้านพ่อกูเป็นกงสีใหญ่ ทำธุรกิจหลายอย่าง มีเงินหมุนเวียนประมาณ 2 พันล้าน ลูกหลานทำงานให้ที่บ้านหมด แตกยอดทำธุรกิจใกล้เคียงกันต่อ แม่กูทำร้านอาหารอยู่ตปท. จะแตกยอดทำอาหารสำเร็จรูปขายในซูเปอร์มาร์เก็ตในต่างประเทศ
ส่วนกู ตั้งแต่เด็กกูรำคาญกงสีที่บ้านมากๆ รำคาญความเรื่องเยอะ ความแก่งแย่งชิงดีระหว่างญาติพี่น้อง คือพ่อกูขี้เกียจมาก ไม่ยอมทำงาน ลุงซื้อปั๊มน้ำมันให้ก็ไม่ทำ ปล่อยทิ้ง เอาแต่เที่ยว ทุกวันนี้กินเงินกงสีเลี้ยงเมียน้อยไปวันๆ กูเลยโดนแซะตลอด ทำให้กูตัดสินใจว่าจะไม่ทำงานกงสี เขาให้เรียนสายวิทย์ กูก็ไปเรียนสายศิลป์ เขาให้เรียนจีน ก็เรียนฝรั่งเศส เขาให้เรียนนิติ ก็เรียนนิเทศ แต่กูเรียนเก่งมาก คือต้องเก่งเพื่อได้เงินมาเรียน ไม่งั้นคือไม่มีคนส่ง กูกัดฟันจนเข้า ฬ ได้จบมายอมเงินเดือนน้อยทำงานนอกบ้าน ขณะที่คนอื่นเงินเดือน 40-50k มีรถขับ น้ำมันฟรี
ตอนนี้กูมาเรียนต่อตปท. กว่าจะมาได้น้ำตาไหลแล้วไหลอีก พ่ออิดออดมากเรื่องส่งเรียน วันก่อนญาติมาเรียนประเทศเดียวกัน พูดแบบว่าเนี่ยถ้าใครเรียนไหว กงสีส่งหมดนะ ลูกพี่ลูกน้องก็ไปเรียนภาษาที่อังกฤษแล้ว คือกูเนี่ย น้ำตาไหลอาบแก้มเลย สงสารตัวเองขึ้นมา กูอดทนขยันเรียนแทบตายไม่มีใครสนับสนุน ไม่เคยเหลวไหล ไม่เคยเกเร ผลการเรียนก็ออกมาดีทุกครั้ง ตอนเรียนก็ได้รางวัลมาสารพัด ตอนทำงานก็ทำบ.ใหญ่ หน้าที่การงานดี คนอื่นเละเทะกันแค่ไหน แต่ไม่เคยมีใครขัด ไม่เคยต้องมาเครียดว่าค่าเทอมแพงไปมั้ย ไม่เคยต้องมาคิดว่าถ้าไม่มีใครส่งเรียนจะทำยังไง แต่สุดท้ายกูก็ทำอะไรไม่ได้ กัดฟันทนไป
สุดท้ายทุกคนมาทำธุรกิจหมด มีเงิน ได้กำไรนั่นนี่ แต่ตัวกูไม่เคยอยากทำธุรกิจสักนิด แม่อยากให้ทำร้านต่อกูก็อึดอัด กูอยากเป็นแค่อาจารย์มหาลัย อยากเรียนจนจบด็อกเตอร์ อยากให้ความรู้กับคนอื่นต่อๆ ไป ตอนนี้กูรู้สึกเศร้าที่ตัวเองเป็นแบบนี้ ไม่รู้ว่ามันเพราะอะไรกันแน่ เพราะน้อยใจด้วยหรือเปล่าก็ไม่รู้
>>378 มันอารมณ์แบบน้อยใจแหละ เหมือนกูพยายามมาแต่ไม่มีใครเห็นค่า ไม่มีใครสนับสนุนกูเลย เหมือนรู้สึกที่ทำมามันไร้ค่า มันไม่มีคุณค่าอะไรเลย ขณะที่คนอื่นมีโอกาสมากกว่ากู
>>379 ส่วนหนึ่งก็ใช่ มรดกจากพ่อ ขนาดที่ดินที่ตกทอดมาสมัยปู่ย่า กูยังไม่คิดว่าตัวเองจะได้เลย ไม่ต้องห่วงเรื่องหุ้นที่เขาเป็นกรรมการ ไม่มีทางได้ ดีไม่ดีพ่อตายเขาฮุบเลยแหละ อีกส่วนหรือส่วนใหญ่คือกูโดนกีดกันเยอะด้วย ตอนเรียนมัธยมจะขอเงินเรียนพิเศษก็ไม่ให้ ให้กูออกเงินเอง หรือไม่ก็พูดใส่กูว่าพ่อไม่มีตังค์นี่ เหมือนเด็กๆวัยเดียวกันมันเยอะ ญาติๆก็จิ้มกูคนละแผลสองแผล ตั้งแต่ 13-14 กูเคยขอพ่อซื้อคอนโด เพราะจ่ายค่าหอในกทม.อยู่ 6 ปี ดราม่าใหญ่มาก ทะเลาะกันจนกูเลิกพูดเรื่องคอนโดไปเลย กูรู้ว่าในกงสีกูได้น้อยสุดมาตลอด ไม่ว่าจะรถ เงิน หรืออะไรก็ตาม กูรับได้ ทนได้มาตลอด พอมาเรื่องเรียน กูทำใจไม่ได้ ยอมรับไม่ได้ กูต้องพยายามขนาดไหนเหรอ ถึงจะมีคนให้โอกาสกู
>>374 ตอนนี้กูไม่ไหวแล้วจริงๆวะ ตอนนี้พ่อทะเลาะกับแม่เรื่องเมียน้อยแล้วจะเลิกกัน แม่กูก็บอกว่าจะให้กูจบม.6ก่อนแล้วค่อยแยกย้ายแล้วสักพักกูก็ต้องเข้าไปเกี่ยวด้วย เข้าไปพูดกันไม่รู้เรื่องเหมือนเดิม กูเลยถามพ่อตลอดที่ผ่านมาพ่อรู้รึเปล่าว่าหัวใจกูมันอ้างว้างแค่ไหน กูไม่เคยได้ความอบอุ่นจากครอบครัวที่จะเข้ามาในหัวใจกูเลยสักครึ่งตั้งแต่กูเกิดมา กูมีเงินพอใช้ก็จริง แต่หัวใจกูมันไม่มีอะไรเลย ก็วนก็อยู่งี้ไปชม. 2ชม. กูเลยบอกพ่อไปถ้างั้นปกติก็ไม่ค่อยจะคุยกันอยู่แล้ว ก็อย่ามาคุยกับกู ไปคุยกับลูกเมียน้อยนู้น ตอนนั้นกูร้องไห้เสียใจมากกว่าทำไมวะ เพราะกูเป็นเด็กอยุ่เหรอ พ่อแม่ถึงไม่ให้กูรู้อะไรเลย ตลอดเวลาที่ผ่านมาคิดว่าเด็กคนหนึ่งไม่มีสมองอะไรเลยรึไง แล้วสักพักก็ประชดพ่อเรื่องเก็บเงินว่าจะเอาไปใช้ให้หมดแล้วหันมาพูดกับกูว่าเอาไปใช้ให้หมดกันดีกว่า ด้วยความที่กูมีโปรแกรมที่อยากได้(เพราะมันต้องใช้ทำงาน) กูก็เลยซื้อมา สักพักแม่เรียกกูเข้าไปคุยเรื่องวันหยุด กูก็บอกเรื่องที่กูใช้ตังไป แล้วแม่กูก็ด่ากูว่าใช้ไปทำไม ตอนนี้แม่เครียดเรื่องเงินจะตายอยู่แล้ว ยังจะเอาไปใช้อีกเหรอ แล้วมาถามกูว่าเรื่องออะไรที่มันต้องใช้เงินประชดชีวิตด้วย กูก็บอกไปเพราะกูไม่รู้จะทำยังไง ตอนนั้นกูกลับเข้าห้องกูยังนั่งร้องไห้อยู่เลย คือตอนนั้นกูไม่คิดอะไรเลย กูคิดแค่กูจะทำยังไงดีกับตอนนี้ สักพักก็สาวความยาวยืดจนถามว่าทำไมถึงเป็นคนแบบนี้ กูก็พยายามเล่าถึง >>370 ที่มันเกิดขึ้นกับชีวิตของกู กูไม่เคยมีใครสักคนที่มานั่งรับฟังปัญหาของกู กุอยู่คนเดียวมาตลอด จากเด็กที่ร่าเริงกลับกลายเป็นคนซึมเศร้าตอนอยู่คนเดียวในห้องมืดๆ กูไม่เคยเชื่อใจสักใครสักคนที่อยู่รอบตัวกูมากพอที่จะเล่าเรื่องนี้ได้ กูไม่เคยอยากเก็บปัญหาพวกนี้เข้ามา สุดท้ายมันก็กองรวมกันเรื่อยๆ จนกระทั้งตอนนี้ ณ เวลานี้ทุกอย่างที่กูรู้สึก กูพูดออกไป กูไม่อยากตื่นมาอีกแล้ว กูอยากให้วันพรุ่งนี้เป็นวันตายของกูสักที อยากให้กูหนีทุกอย่างด้วยการฆ่าตัวตาย หนีออกจากบ้าน เป็นเด็กเกเรหนักรึไง เหมือนตอนที่แม่ด่ากูว่าเด็กเนรคุณ เด็กอกตัญญู เด็กที่ไม่สมควรเกิดมา กูรู้ว่ามันเป็นเพราะอารมณ์ กุไม่เคยโกรธ แต่สุดท้ายมันก็เหมือนมีดที่กรีดทับแผลเดิมซำ้แล้วซำ้อีกตลอด 5 ปีที่ผ่าน แล้วแกก็สวนมาว่าก็บอกไปแล้วว่าไม่ต้องเก็บไปคิด กูก็บอกไปว่ากูพยายามแล้ว ตั้งแต่ม.1-3 กูพยายามไม่นึกถึงมันอีก จนมาถึงม.4 ที่กูเปลี่ยนไปเป็นคนละคนระหว่างที่บ้านกับโรงเรียน สุดท้ายเรื่องที่กูพยายามปล่อยมัน มันก็กลับมาอีกเมื่อเจอมีการพูดถึง ถึงจะน้อยแค่ไหนก็ตาม กูบอกแล้วให้พากูไปหาจิตแพทย์ตั้งแต่ม.4 แต่ไม่เคยพาไป กูพยายามบอกแกหลายครั้งแล้ว แต่แกไม่เคยสนใจ แล้วแกถามว่ามันเป็นอะไรมันถึงต้องไปหา กูก็บอกไป ว่าอยากรู้ว่าลูกตัวเองนี่จะบ้ารึยังก็ลองไปหาจิตแพทย์สิ แล้วต่อด้วยประโยคสุดเบสิทว่า แม่เลี้ยงแกมาไม่ดีรึไง แม่เป็นคนผิดใช่มั้ย กูก็ถามว่าแล้วที่เล่าไปแม่เข้าใจอะไรบ้าง กูถามซำ้ๆแบบนี้หลายๆรอบ แกก็ตอบกลับมาอย่างเดียวก็กูแม่มึง กูจะไม่เข้าใจมึงได้ยังไง มึงเป็นลูกกู กูเกิดมึงมา ทำไมกูจะไม่รู้ ตอนนี้กูเหนื่อยเหลือเกิน กูไม่อยากจะทำอะไรอีกแล้ว กูไม่อยากเจอใครอีกแล้ว กูอยากหลับ กูอยากตายไปให้พ้นๆสักที กูไม่อยากมีวันพรุ่งนี้อีกแล้ว กูรู้สึกได้ว่าที่ๆกูจะอยุ่ได้มันเหลือน้อยเหลือเกิน กูไม่อยากเห็นแสงของวันพรุ่งอีก ตอนนี้ที่กูพิมอยุ่ กูรู้สึกได้ว่าใจกูที่อยู่ในอกเหมือนถูกบีบ สมองกูเหมือนมีคนเอาอะไรสักอย่างมากดไว้ อีกไม่นานกูว่ากูคงทนไม่ไหวแล้ว
>>381 กุ372 376เอง สิ่งเดียวในตอนนี้ที่มึงต้องทำคือระบายให้หมด จนกว่าอารมณ์ทุกอย่างจะหายไป หลังจากนั่งเอากระดาษขึ้นมาเขียนสิ่งที่ต้องทำ *โดยใช้เหตุผล* มึงอาจจะทำไม่ได้ทันทีหรอกกุรุ้ดี กุเคยผ่านมันมาเเล้วเหมือนมึงนี้ละ555เเต่เเค่มัน8ปีผ่านมาเเล้ว กุไม่รุ้นะคนอื่นใช้วิธีไหน เเต่กูฟังเพลงร็อก ตอนนั่นก้ของLP ที่ช่วยชีวิตกุไว้ เเล้วเเหกปากตะโกน มันช่วยมึงได้มากจริงๆ ทำให้กุมีสติมันเหมือนกุได้ระบายจากอารมณ์ในตอนนนั่นอะนึกเเล้วก้ขำร้องไห้ไปว้ากไปทั้งๆที่ตอนนั่นทั้งจิตใจกุเกือบจะไปหมดเเล้ว เเต่ที่สำคัญมึงอย่าตายนะ หาจุดประสงค์ของการมีชีวิตอยุให้เจอ สู้ๆเว้ย
อยากให้วันหนึ่งพ่อได้สำเหนียกถึงผลของความเห็นแก่ตัวของพ่อที่เอาแต่ตัวเองสบายจนไม่เคยคิดถึงคนอื่น ไม่เคยคิดถึงแม้กระทั่งอนาคตของคนเป็นลูก อยากให้วันหนึ่งพ่อต้องเจ็บช้ำเท่ากับน้ำตาทุกหยดที่กูเสียไปตลอดเวลา 26 ปี เพราะสิ่งที่พ่อทำกับกู แต่คงไม่มีวันนั้นหรอก คนอย่างพ่อคือคนที่เกิดมาเพื่อเสพสุข คนที่ถูกสปอยจนไม่รู้จักเห็นอกเห็นใจคนอื่น ส่วนคนที่เป็นทุกข์ก็คือกูที่เลือกเกิดไม่ได้และเสือกเกิดมาเป็นลูกของพ่อ กูที่ต้องพยายามทำตัวเข้มแข็ง พยายามทำให้ตัวเองอยู่เหนือกว่าคนอื่นให้ได้เพื่อไม่ให้ใครดูถูก กูที่จริงๆ แล้วข้างในยังเป็นเด็กผมเปียกอดตุ๊กตากระต่าย เด็กที่อยากให้ใครสักคนช่วยพยุงเวลาล้ม เด็กทึ่ร้องไห้ด้วยความคับแค้นใจ เด็กที่อยากให้ใครสักคนบอกว่าไม่เป็นไร ที่ผ่านมาทำได้ดีแล้ว ต่อจากนี้ไปไม่ต้องพยายามขนาดนั้นแล้วก็ได้
>>384 ถ้าวันนึงเราบังเอิญได้เจอกันในโลกความจริง กูอยากจะเดินเข้าไปจับมือมึงแน่นๆ สักครั้ง (ถ้าไม่โดนหาว่าเป็นบ้าน่ะนะ) ถึงแม้ว่าของกูจะไม่เจอเหมือนมึงเป๊ะๆ แต่กูก็โตมาด้วยวัยเด็กที่ร้องไห้ด้วยความแค้นใจเหมือนกัน แม่ก็บอกกูนะว่าอย่าเกลียดพ่อ มันบาป แต่กูไม่ได้เกลียดไรนะ มันเลยจุดนั้นมาแล้ว เคยเกลียดเขามากเพราะกูหวังว่าวันนึงเราจะเป็นครอบครัวที่อบอุ่นอย่างที่กูต้องการ แต่ความจริงมันไม่ใช่ เขาบอกว่ารักแม่กูนะ แต่การกระทำทุกอย่างมันทำให้กูรู้สึกว่าคนๆนี้น่าสมเพช ความคิดยังไม่โต หลายๆอย่างตัดสินด้วยตรรกะประหลาดมาก กูรู้เลยว่าผู้ชายแบบนี้ฝากชีวิตด้วยไม่ได้ ยังไม่รวมที่ติดเหล้า ติดบุหรี่ บ้านกูเคยจนมากๆแบบที่แม่ต้องไปขอยืมเงินเขามาซื้อข้าวสารกรอกหม้อ กูจำได้เลยว่ากูก็พนมมือขอเขาด้วย ให้เขาเห็นใจ ความรู้สึกนั้นยังชัดเจนอยู่เลย มันไม่ได้ชัดเพราะกูยกมือขอเงิน แต่กูสมเพชตัวเองที่เห็นแม่แทบจะไหว้เขาเพื่อขอยืมเงินซื้อข้าวให้กูกับพี่กูกิน มันเลยกลายเป็นปมในใจว่ากูเกลียดความจน กูเกลียดที่ตัวเองไม่มี กูเกลียดที่ผู้ชายรอบตัวกูมันพึ่งพาไม่ได้ กูโตขึ้นมาแบบเบี้ยวๆข้างในด้วยความเห็นแก่ตัวที่ว่ากูไม่สนใจใคร กูต้องอิ่มก่อน แม่กูต้องมีกิน พี่กูต้องไม่ลำบาก ส่วนพ่อน่ะเหรอ แค่ไม่มาทำร้ายหรือด่าแม่กูก็แทบจะกราบพระทุกองค์บนโลกแล้ว อนาคตที่กูวางแผนไว้ไม่มีเขาอยู่ในนั้น
พูดตามตรงเขาเป็นจุดเริ่มต้นของฝันร้ายทุกอย่างในชีวิตกูเลย กูลองคิดนะว่าถ้าเขาตายกูจะเสียใจมั้ย ก็คงเสียใจเพราะความผูกพัน แต่ก็เชื่อว่าจะไม่เสียดายแน่นอน เคยคิดจะฆ่าเขาด้วย แต่กูคิดได้ว่าอนาคตกูมีค่ากว่า กูจะไม่เอามันไปทิ้งเพื่อแลกกับหินโง่ๆก้อนนึงหรอก
>>381 สำหรับโม่งปัญหาครอบครัวนะ อยากแชร์ชีวิตกู
แม่ท้องไม่มีพ่อ ทำงานเป็นเด็กดริ้ง ไม่รู้ว่าขายบริการด้วยเปล่า แล้วแม่ทิ้งกูให้ต้องไปอยู่กับตายายเป็นคนใช้ อาศัยบ้านคนอื่นอยู่ ไม่เคยได้อะไรเหมือนคนอื่น หน้าพ่อก็ไม่เคยเห็น แต่กูก็กัดฟันผ่านมาได้
โชคดีกูได้ทุนเรียนฟรีๆ ยันจบ ม.6 เข้าเรียนมหาลัยได้ทุนต่อโท ตอนนี้ทำงานที่ดีพอควร
แต่กูก็ไม่โกรธแม่ กลับมาอยู่กับแม่ที่มีผัวใหม่ มีลูกใหม่ 1 คน แต่ แม่กับผัวแม่กูติดเชื้อ hiv ทั้งคู่ กูก็ต้องสู้ชีวิตต่อไปว่ะ แล้วก็หวังว่ามึงจะผ่านปัญหาของมึงมาได้นะ สู้ๆ
มึงยังดีมีพ่อ กูเนี่ยหน้าพ่อยังไม่เคยเห็น ชื่อก็ไม่รู้ ไม่อยากถามแม่ด้วย
>>385 ของมึงทวิสต์กับกูมากเลยว่ะ เอาแค่เรื่องแม่เค้าบอกว่าไม่เคยรักแม่กูเลย แต่แม่เป็นคนดีและขยัน และบังเอิญท้องกุ ก็เลยต้องรับผิดชอบ เหล้าไม่กิน บุหรี่ไม่สูบ มีแค่เรื่องหน้าใหญ่ และเรื่องหญิง....5555 ตั้งแต่กุโตมานับไม่ถ้วน มีแม้กระทั่งเอามาอยู่ในบ้านด้วย ทะเลาะทำร้ายน้องกุยังมี แม่กุโคตรอดทนชิบหายกุยังทึ่ง
รายล่าสุดคือแบ่งเวลาอยู่บ้านกุกะบ้านนั้น ผญคนนั้นแม่งก็พยายามทุกวิถีทางที่จะเอาไปอยู่ด้วยจะได้เชิดหน้าชูตาว่ามีผัวเป็นตัวตนไม่ต้องหลบซ่อน ปั่นประสาทบ้านกุแต่แม่กุก็เฉยๆอ่ะ อย่างมากแค่มาบ่นให้กุฟัง ผ่านมาหลายปีก็ทนอยู่ไปแบบนี้ ส่วนเงินเค้าไม่เหลือนะ อะไรที่ลงทุนไว้เพื่อกุเพื่อน้องเค้าเอาไปถลุงกะมันหมดละ มายืมกุหลายครั้งกุละเซ็ง กุเลยโฟกัสว่ากุต้องทำไงก็ได้ให้มั่นคงกว่านี้
มีคนบอกกุว่าไม่ต้องคิดในแง่ทำอะไรไม่ดีกับพ่อแม่แล้วโยงไปเรื่องบาป ให้คิดว่าก่อนมาเป็นพ่อแม่คน เค้าก็เป็นมนุษย์ธรรมดา เค้าก็ต้องทำอะไรผิดพลาดส่วนแก้ไขปรับปรุงบางทีบัวมันก็มีหลายเหล่า พอกุคิดแบบนี้ก็ดีขึ้นพอจะให้อภัยและปล่อยผ่านได้ แต่ยอมรับว่ามันมีเอฟเฟคกับกุในเรื่องการจะแต่งงานมีชีวิตคู่เหมือนกัน ตอนนี้กุก็พยายามอยู่ เป็นกำลังใจให้มึงด้วยนะขอให้พ้นปัญหาไปได้
>>387 นี่กู >>385 เอง จริงๆไม่ได้เล่าละเอียดว่าเค้าทำอะไรกับแม่กับกูบ้าง สั้นๆก็คือเขาโทษความผิดทุกอย่างว่าเป็นความผิดของแม่กู หลอนไปว่าแม่กูจะมีชู้ เค้าทำอะไรได้หมดไปกินเหล้าคุยกับเพื่อน แต่ลองแม่กูทำบ้างคือไม่ได้ ด่า บางทีแม่ก็คุยกับเพื่อนบ้านผู้หญิงยังเฮี้ยนด่าขึ้นมาเลย กูอยู่ด้วยความรู้สึกที่ว่าต้องได้ยินว่าเค้าหลับก่อน กูกับแม่ถึงจะกล้านอน ทุกวันนี้ก็ยังระวังอยู่ ก็เหมือนหมามันโดนตีปางตายสักครั้งนึง ถ้ามันไม่แว้งกัดเจ้าของ ก็คงกลัวจนจำไปตลอดชีวิตนั่นแหละ
แล้วก็ขอบคุณมาก กูจะรีบเรียนจบ สร้างชีวิตตัวเองขึ้นมาไวๆ กูกับแม่กับพี่จะไม่อยู่เป็นหมาแบบนั้นไปตลอดชีวิต
ขอความเข้มแข็งจงสถิตอยู่กับท่าน
อยากบ่นเรื่องพ่อแม่ตัวเองบ้าง แต่ไล่อ่านที่พวกมึงบ่นกันแล้วรู้สึกว่าปัญหาของกูมันดูเล็กน้อยไปอ่ะนะ 555
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.