Fanboi Channel

[รวมมิตรโม่เซียง] เม้าท์เรื่อง ปรมาจารย์, ตัวร้าย​อย่างข้า, เทียน​กวาน​ ฯลฯ​ เล่มที่​ 13 [นิยาย อนิเม ดราม่า ละคร สปอย]

Last posted

Total of 1000 posts

1 Nameless Fanboi Posted ID:sSGkJzR96I

กระทู้ 1​ >>>/801/5933/
กระทู้ 2 >>>/801/6012/
กระทู้ 3 >>>/801/6083/
กระทู้ 4 >>>/801/6178/
กระทู้ 5 >>>/801/6235/
กระทู้ 6 >>>/801/6331/
กระทู้ 7 >>>/801/6492/
กระทู้ 8 >>>/801/6709/
กระทู้ 9 >>>/801/7090/
กระทู้ 10 >>>/801/7386/
กระทู้ 11 >>>/801/7776/
กระทู้ 12 >>>/801/8159/

สาระน่ารู้ ข้อห้าม และข้อควรระวัง
(มีคนอื่นสรุปทุกอย่างไว้ที่นี่เป็นข้อ ๆ สรุปดีและชัดเจน ครอบคลุมทุกประเด็นดราม่าด้วย พิมพ์ในนี้เองเสร็จหมดแล้วเพิ่งเห็น
https://twitter.com/Sinnerdarker/status/1056487008174915595ดีงาม เก็บไว้ดูได้ สั้นดีด้วย )
---------------------------------------------
1. แม่โม่ห้ามทำของขายเชิงพาณิชย์ ห้ามเรี่ยไรเงิน/ระดมทุนด้วยการอ้างชื่อ/นิยาย/ตัวละคร
---------------------------------------------
สรุปภาษาไทยเรื่องทางอฟช. ของปรมาจารย์ลัทธิมาร "ไม่อนุญาต" ให้ทำงาน Fan Made ขาย
https://twitter.com/Sinnerdarker/status/1052084168375422980
*ข้อมูลเพิ่มเติม*
มีคนสรุปเป็นภาษาอังกฤษเรื่องแม่โม่ไม่อนุญาตให้ทำสินค้าปรมจ. ขาย
https://twitter.com/rossogattino/status/1049632239913295873
แปลแบบสรุป ๆ คือคุณโม่เซียงถงซิ่วแจ้งว่าห้ามขายของแฟนเมด ห้ามเอาชื่อเรื่อง ชื่อตัวละคร หรือตัวละครไปใช้ในเชิงพาณิชย์หรือหาเงิน และแฟน ๆ ที่รู้เรื่องกฎนี้ก็ควรแบน ไม่ไปอุดหนุนของพวกนั้นด้วย
ส่วนสาเหตุที่ห้าม ก็คือเรื่อง ปรมจ. (MDZS) นี่มันติดสัญญาลิขสิทธิ์อยู่กับ Jinjiang และทางนั้นก็เป็นผู้ถือสิทธ์โดยเด็ดขาดเกี่ยวกับสินค้าทุกอย่างที่มาจากเรื่องนี้
ส่วนอันนี้เป็นข้อความจากแม่โม่ มีคนเอามาแปลอังกฤษ
https://twitter.com/YSFYC_CRT/status/1052545036045283329
ลิ้งก์นี้มีรูปต้นฉบับ เป็นข้อความของแม่โม่จากใน Weibo แล้วก็มีแปลภาษาอังกฤษให้ ถ้าแปลเป็นไทยคร่าว ๆ ก็ประมาณนี้
1. เกี่ยวกะเรื่องเข้าร่วมโหวตอันดับอะไรสักอย่าง ขอข้ามละกัน มึน
2. ห้ามรวมตัวเรี่ยไรเงินหรือระดมทุน หรือระดมเงินบริจาคใด ๆ โดยอ้างชื่อแม่โม่หรือผลงานของแม่โม่ หรือตัวละครของแม่โม่ ห้ามชักชวนรวมกลุ่มกันไปจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อเฉลิมฉลอง หรือซื้อสินค้า หรือไปโหวตอันดับ หรือหาเงินการกุศล หรือกิจกรรมใด ๆ โดยใช้ชื่อหรือตัวละครที่เกี่ยวกับแม่โม่หรือนิยายของแม่โม่
3. ห้ามตั้งโฮมเพจใหม่ใด ๆ โดยใช้ชื่อเกี่ยวข้องเกี่ยวพันกับงานนิยายของแม่โม่ ห้ามอ้างชื่อไปจัดตั้งกลุ่มเรียกผู้อ่านเพื่อไปฉลอง ซื้อของ โหวตอันดับ จัดงานการกุศล หรือกิจกรรมอื่น ๆ (เช่น ห้ามจัดงานใหญ่ที่เปลืองเงินหรือใช้เงิน สมตติ งานวันเกิดตัวละคร (จัดได้ แต่ห้ามใหญ่โตและห้ามเปลืองเงิน - เค้าคงกลัวคนฉวยโอกาสหากำไรจากติ่งนิยายสายเปย์พร่ำเพรื่อ และถ้าเป็นไปได้อยากให้วาดรูปหรือเขียนอะไรเพื่อฉลองดีกว่า อย่าไปเปย์เลย))
ท้ายข้อความมีแปลบอกแม่โม่บ่นแบบน้อยใจด้วย ว่าห้ามจนปากเปียกปากแฉะจนเบื่อจะพูดแล้ว ถ้าคนจะหัดฟังบ้างก็คงดี ถถถ คับแค้นเหลือคณา
อันนี้ละเมิดไม่ได้ เพราะเป็นกฎหมายว่าด้วยเรื่องลิขสิทธิ์และทรัพย์สินทางปัญญา
อ้อ ไหน ๆ พูดถึงลิขสิทธิ์แล้ว แถมอีกเรื่อง คือเรื่องการแต่ง cosplay เนื่องจากบริษัทที่ถือลิขสิทธิ์นั้นออกชุด "เลียนแบบตัวละคร" มาเป็นสินค้าอฟช. ดังนั้นจึงห้ามคอสเพลย์โดยตัดชุดเองหรือสั่งจากร้านอื่น เพราะถือว่าละเมิดลิขสิทธิ์ ใครอยากแต่งตัวตามแบบตัวละครก็สั่งจากอฟช. จากร้าน Uwowo เถอะจ้ะ
อันนี้มีแฟน (มั้ง) ประกาศเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าเขาแปลมาถูกต้องแม่นยำแค่ไหน แต่ก็คงพอจะใช้อ่านไว้เป็นแนวทางได้
https://twitter.com/aubrey8810/status/1035823028444098560
คนแปลจีนเป็นอังกฤษอีกคนหนึ่งสรุปให้ว่า แต่งได้ (โดยใช้ชุดจากอฟช.) ถ่ายรูปไปเผยแพร่ได้ แค่อย่าใช้คำว่าคอสเพลย์ ให้เรียกว่าแต่งตัวเลียนแบบตัวละครxxx อะไรก็ว่าไป (บางคนอาจงงหรือเห็นว่ามันประหลาด แต่ก็เป็นกฎจากผู้ถือลิขสิทธิ์อะนะ ยอม ๆ เขาไปเถอะ)
https://twitter.com/ManhuaAssistant/status/1036148201651204101
อ้างอิงข้อมูลและความคิดเห็นจากในโม่งที่มีการพูดคุยเรื่อง "คอสเพลย์"
>>>/801/6178/860/
>>>/801/6178/868/
>>>/801/6178/869/
>>>/801/6178/873/
>>>/801/6178/878/

2 Nameless Fanboi Posted ID:sSGkJzR96I

---------------------------------------------
2. ไม่ควรโรลเพลย์สาธารณะหรือทำบอทตัวละคร
---------------------------------------------
อันนี้จากที่เคยคุย ๆ กันว่าแม่โม่ห้ามบอท วันนี้เพิ่งเห็นทวิตคนอื่น (อันเดิมที่คุยต่อจากคนที่เขียนสรุปข้อห้ามไว้นั่นแหละ) เขาไปทราบมาว่า ที่บอก ๆ กันว่าห้ามบอทนี่ที่จริงเป็นการที่ด้อมฝั่งฝรั่งเขาตีความกันเองจากที่แม่โม่บอกว่าไม่ให้ OOC เพราะการโรลเพลย์หรือทำบอทมันมักจะ OOC
ก็ไม่รู้จริงเท็จอย่างไร แต่ฝากไว้ให้พิจารณาด้วยก็แล้วกัน
ถ้าใครอ่านจีนคล่องแล้วหาต้นฉบับที่บอกว่าห้ามทำบอทเจอจริง ๆ ก็ช่วยแปะให้ดูที
อ้างอิงเรื่องแม่โม่ห้ามบอท และเหตุที่ห้าม (เพราะมันจะ OOC)
>>>/801/6012/962/
>>>/801/6012/963/
>>>/801/6083/172/
อ้างอิงเรื่องบอทคืออะไร เผื่อใครยังไม่เก็ต
>>>/801/6012/972/
>>>/801/6012/973/
>>>/801/6083/173/
---------------------------------------------
3. เขียนฟิกชั่น โดจิน แฟนอาร์ตได้ แต่ห้ามแหก(แยก)คู่หลักของแต่ละเรื่อง ห้ามสลับตำแหน่งเมะ-เคะ
---------------------------------------------
ข้อมูลอ้างอิง ภาษาจีน มีคนแปลรวบย่อเป็นอังกฤษ
https://twitter.com/_momokame/status/1046859622982799361
ข้อมูลอ้างอิงเหมือนอันบน แต่เป็นภาษาจีนเอามาแปลไทยแบบละเอียด
https://twitter.com/fay_13666/status/1056077697984557056
สำหรับอันนี้เนื่องจากเรื่องจิตใจจะชอบใครจะชิปคู่ไหนมันห้ามกันไม่ได้ และโม่งก็ไม่ประสงค์จะทำตัวเป็นตำรวจด้อม ไม่มีสิทธิ์บังคับหรือสั่งใครได้ จึงได้เพียงขอความร่วมมือ ได้โปรดอย่าแหกคู่หรือสลับโพ
เพราะถ้าใครรักและเคารพเจ้าของผลงาน ก็จะให้เกียรติคำขอของเขา ไม่ทำไอ้ที่เขาห้าม
*ข้อสำคัญ* แฟนฟิกชั่น แฟนอาร์ต โดจิน ฯลฯ ต้องไม่นำไปใช้ในเชิงพาณิชย์
แม่โม่ไม่ได้ห้ามต่อยอด ไม่ได้ห้ามจิ้น ไม่ได้ห้ามกาว ไม่ได้ห้ามมโน ใครใคร่จิ้นจิ้น ใครใคร่เขียนเขียน จะเขียนจะวาดอะไรก็ทำได้ตามใจชอบ อยากกาวคู่ไหนก็ตามสบาย แม่โม่ไม่สน ตราบที่ไม่ได้ใช้หาเงินและไม่แหกหรือสลับโพคู่หลัก

3 Nameless Fanboi Posted ID:sSGkJzR96I

---------------------------------------------
4. การใช้ hashtag (#) ใน twitter และการ mute
---------------------------------------------
หากสายผลิตจะกรุณาเมตตา เวลาเขียนฟิกชั่นมาลง โปรดช่วยติดแท็ก #ฟิคปรมจ ด้วย
(ส่วนแฟนอาร์ตเชิญตามสะดวก ใช้แท็กหลักต่อก็ได้ เพราะนักวาดที่เป็นแฟนตปท.ก็ลงอาร์ตในแท็กหลักของเขาเหมือนกัน แต่คนตั้งแท็กไทยอันนี้เขาก็เชื้อเชิญให้ไปใช้ของเขาด้วยถ้าใครอยากใช้และเห็นว่าใช้แล้วสะดวก)
ส่วนจะติดแท็กหลักหรือไม่ติดแท็กหลัก ก็เชิญพิจารณาเอาเองตามความเหมาะสมและอัธยาศัย
เคยเห็นบางท่านกล่าวว่าจะติดแท็กหลักเฉพาะตอนแรกของฟิกชั่น เพื่อให้ฟิกชั่นเข้าไปอยู่ในสารบบการเซิร์ชแท็กหลักก่อน คนอื่นจะได้มีโอกาสหาเจอง่าย แล้วหลังจากนั้นค่อยเลิกใช้แท็กหลัก ใส่แต่แท็ก#ฟิคปรมจอย่างเดียว หรือให้ผู้อ่านคอยติดตามด้วยแท็กของชื่อฟิกชั่นเอาเอง เอออันนี้ก็ไอเดียดี น่าสนใจ แลดูสะดวกและดีกับทั้งสองฝ่าย ยังไงก็ขอฝากไว้ให้พิจารณาเป็นอีกทางเลือกหนึ่งแล้วกัน
*สำหรับการติดแท็กแฟนฟิก ไม่ว่าจะติดเดี่ยว หรือติดเพิ่มเข้าไปควบคู่กับแท็กหลัก จะมีผลดีคือ*
1. คนที่อยากอ่านแต่แฟนฟิกชั่นสามารถใช้คำนี้หาเฉพาะฟิกได้เลย ง่ายดี
2. คนที่อยากคุ้ยแท็กหลักแบบไม่อยากได้ผลลัพธ์จาก #ฟิคปรมจ ก็จะสามารถใช้ระบบ mute ช่วยตนเองกรองฟิกชั่นทิ้งไปตั้งแต่ต้นได้ ทำให้เวลาเซิร์ชแล้วจะได้มองไม่เห็น #ฟิคปรมจ ทั้งหมด
เผื่อมีฟิกชั่นใดปนอยู่ในแท็กหลัก ผลการค้นหาที่ถูกกรองแล้วนี้ก็จะช่วยลดปริมาณผลลัพธ์ที่แสดงขึ้นมา ช่วยย่นระยะเวลาในการไถหน้าจอหรือขุดหาข้อมูลที่ต้องการได้เร็วขึ้น ง่ายขึ้น สบายขึ้น
+ การติดแท็กระบุคู่ ก็จะสามารถช่วยให้ผู้ไม่ประสงค์จะเห็นบางคู่ที่เฉพาะเจาะจง สามารถ mute แท็กของคู่นั้น ๆ ได้ด้วยเช่นกัน
วิธีตั้งค่าใน twitter ให้ mute บางคำ (mute = ทำให้เป็นใบ้ - หมายถึงกรองคีย์เวิร์ดคำนั้น ๆ ทิ้ง ทำให้ไม่เห็นโพสต์ใด ๆ ที่มีคำนี้หรือแฮชแท็กนี้)
https://help.twitter.com/en/using-twitter/advanced-twitter-mute-options
เลื่อนลงไปดูตรงกรอบสีฟ้า ๆ ที่เขียนว่า "How to mute words and hashtags" จะมีวิธีอย่างละเอียดสอนอยู่
สั้น ๆ คือเข้าไปที่ Settings and privacy เลือก Muted words แล้วกด add
***แนะนำให้สั่ง mute แบบมี hashtag ระบุตรง ๆ ไปเลย*** เพราะไม่งั้นระบบมันจะดูเนื้อหาของทวีตด้วย แล้วกรองทิ้งหมดเลย
เช่น สมมติถ้าไปสั่ง mute "ฟิคปรมจ" เวลารีทวีตคุยกับใครแล้วเขาพิมพ์มาในคำตอบว่า "เออว่าแต่เรื่องฟิคปรมจน่ะตกลงมันดราม่าได้ไง" อิระบบ mute ก็จะทำให้คำตอบนั้นเป็นใบ้ไปเลย คุณก็จะมองไม่เห็นข้อความนั้น
แต่ถ้าสั่ง mute เจาะจงไปเลยว่า "#ฟิคปรมจ" ระบบจะกรองทิ้งเฉพาะทวีตที่ติดแท็ก #ฟิคปรมจ เท่านั้น
หรือถ้ารำคาญ user ไหนในทุกทวีต อยากหลบสปอยล์ อยากหลีกเลี่ยงบางคน แม้ไม่ได้ฟอลโล่ว์แต่ก็เห็นเพราะคนอื่นรีมา แล้วไม่อยากเห็นอีกต่อไป ก็ใช้ mute account ได้เช่นกัน
https://help.twitter.com/en/using-twitter/twitter-mute

4 Nameless Fanboi Posted ID:sSGkJzR96I

สปอยเทียนกวานอาร์ค 3 ต่อจาก >>>/801/8159/990/ เทียนกวาน Part.114
.
.
.
.
.
ก่อนไปรวมกับพวกผี ฮวาเฉิงก็เอาหน้าผากของตนถูกับหน้าผากของเซี่ยเหลียนเพื่อให้อายมารติดตัวอีกฝ่ายจะได้ไม่ถูกสงสัย เมื่อเซี่ยเหลียนถามว่าที่นี่มีแลนด์มาร์กหรือเปล่า อ๋องผีก็บอกว่ามี แต่อย่าเชื่อสิ่งที่เห็น ทว่าก่อนขอคำอธิบาย พวกผีก็เริ่มโวยวายเพราะพบว่าข้างหน้ามีภูเขาขวางทางไว้ แต่พอนกผีจะบินข้ามก็กลับตกลงมาตาย แล้วก็มีผีตนหนึ่งกล่าวว่าได้กลิ่นเจ้าหน้าที่สวรรค์ ผีทุกตนจึงเริ่มแตกตื่น พวกผีสั่งให้คนที่ใส่หน้ากากหรือเสื้อหลายชั้นถอดเครื่องแต่งกายออกเพื่อพิสูจน์ว่าไม่ใช่เทพ ก่อนที่ผีผู้เปิดประเด็นและแนะนำตัวว่าเป็นวิญญาณกระบี่ของเพชรฆาตจะหันมาสงสัยเซี่ยเหลียน เขาจึงแถว่าตนเป็นผีช่างทำตุ๊กตา เพราะเป็นผีที่มีกลิ่นมนุษย์ติดบนร่างมาก แถมบางตนยังเปรี้ยวอยากได้ผมของเจ้าหน้าที่สวรรค์มาทำตุ๊กตา หากมีกลิ่นเทพบ้างก็ไม่แปลก แต่ผีกระบี่เพชฌฆาตก็ยังตั้งข้อสังเกตว่าอายมารของเซี่ยเหลียนเหมือนฉาบแค่ภายนอก

อีกฝ่ายหยิบยันต์ออกมา อ้างว่าตนฆ่านักพรตแล้วรูดทรัพย์มา อันนี้เป็นแค่ยันต์กากๆ ไม่ทำอันตรายมาก ลองเอามาแปะหัวพิสูจน์ดูว่าจะมีผลอะไรหรือเปล่า ว่าเสร็จเจ้าตัวก็สาธิตเปะหัวตัวเอง ยันต์ที่ไหม้ เหลือเพียงรอยจางๆ บนหน้าบ่งบอกว่าเขาเป็นผี พอเซี่ยเหลียนเปะยันต์ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ฮวาเฉิงจึงช่วยแถว่าที่จริงเขาคือผีช่างทำตุ๊กตาตัวจริง ส่วนเซี่ยเหลียนเป็นตุ๊กตาต่างหาก แต่ผีกระบี่เพชฌฆาตก็จะขอเอากระบี่แทงดูอีก ฮวาเฉิงเลยขู่ว่าอย่าคิดแตะต้องของรักของเขาแล้วชี้ไปที่ผีผ้าคลุมใกล้ๆ ว่าให้ไปสงสัยพวกนั้นบ้าง ผีตนนั้นยอมถอดเสื้อคลุมออกแต่โดยดีเผยให้เห็นหน้าตาธรรมดาดาดๆ ซึ่งฮวาเฉิงคิดว่าเป็นใบหน้าปลอม เพราะคนที่จำแลงร่างปกปิดตัวจริงมักจำแลงหน้าตาให้โคตรสามัญเพื่อไม่ให้เป็นที่เตะตาจนมีใครจำได้ แต่พอถูกยันต์แปะ ยันต์ก็ไหม้ อย่างน้อยก็แสดงว่าอีกฝ่ายเป็นผีจริงๆ จนผีตนอื่นคิดว่าผีกระบี่เพชฌฆาตมโนไปเองว่ามีเทพปลอมเข้ามา ถึงอย่างนั้นเจ้าตัวก็ยืนยันคำเดิม แล้วจู่ๆ เขาก็ถูกโจมตีท้องเป็นรู แถมบาดแผลก็มีอายทิพย์จางๆ ราวอาวุธที่ใช้โจมตีเป็นของเจ้าหน้าที่สวรรค์

พวกผีแตกตื่น ก่อนโอดครวญว่าน่าจะมียันต์มาใช้พิสูจน์มากกว่านี้ ผีกระบี่เพชฌฆาตที่บาดเจ็บหนักจึงบอกว่าตนมีอีกเยอะ จากนั้นก็หยิบยันต์ออกมาอีกปึกใหญ่ให้พวกผีแจกจ่ายยันต์กัน แต่พอแปะบนหน้าผากกลับไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วพวกเซี่ยเหลียนที่นึกอะไรออกจึงรีบอุดหูคุกเข่าลง ทันใดนั้นยันต์ก็ระเบิดเสียงดังสนั่นปลิดชีพพวกผีไปเป็นจำนวนมาก พอเซี่ยเหลียนหยิบเศษยันต์มาพิจารณาก็ได้รู้ว่าที่แท้มันมี 2 ชั้น และชั้นที่ซ่อนอยู่คือคาถาที่แรงมาก พวกผีที่เหลือรอดเริ่มโวยวายที่ถูกหลอก เอ่ยว่าไหนตกลงกันแล้วว่าจะเริ่มสู้หลังเข้าไปข้างในเขาตงลู่ได้ แต่ก็มีเสียงหัวเราะตอบว่ายังไงก็ต้องฆ่ากัน สู้ตัดกำลังกันมันตรงนี้เลยดีกว่า

เมื่อฝุ่นควันจางลง ทุกคนก็ต้องตกใจเมื่อพบว่าจู่ๆ ภูเขาที่ขวางทางไว้ได้หายไปแล้ว แต่พอดูดีๆ จึงพบว่าแท้จริงมันเปลี่ยนมาอยู่ด้านหลังปิดกั้นทางไม่ให้ออกไปข้างนอกได้แทน เซี่ยเหลียนจึงเข้าใจที่ฮวาเฉิงบอกว่าอย่าเชื่อสิ่งที่เห็นนั้นหมายถึงภูเขาซึ่งสามารถเคลื่อนที่ได้เองพวกนี้ แต่แล้วเขาก็ได้ยินเสียงผีกระบี่เพชฌฆาตดังขึ้นข้างหลัง บอกว่ายังอยากพิสูจน์ว่าเซี่ยเหลียนเป็นตุ๊กตาจริงๆ หรือไม่ แต่ก่อนที่เซี่ยเหลียนจะทันโต้กลับ ผีกระบี่เพชฌฆาตกลับถูกฟันขาดเป็น 2 ท่อน ปรากฏว่าคนที่ช่วยเซี่ยเหลียนไว้คือผีที่ใส่เสื้อคลุมตนนั้น เห็นท่าทางดูคุ้นๆ ก็ถามไปว่าอีกฝ่ายคือใคร แต่พอเห็นผีสาว 2 ตน ฝ่ายนั้นกลับเลิกสนใจเซี่ยเหลียนแล้วหันไปโอบเอวกอดปลอบขวัญสาวๆ แทน ตอนแรกผีสองตนนั้นจะเอ่ยขอบคุณ แต่จู่ๆ พวกเธอก็มีสีหน้ารังเกียจบอกให้อีกฝ่ายไปห่างๆ แล้วพากันเดินหนีไป ทำเอาผีเสื้อคลุมถึงกับงง เอ่ยว่าหน้าตาของตนตอนนี้ก็ไม่ได้น่าเกลียดไม่ใช่หรือ เห็นท่าทางขี้หม้อเช่นนั้นเซี่ยเหลียนก็รู้ทันทีว่าอีกฝ่ายคือเผยหมิงจึงเอ่ยทักทายไป

แม่ทัพเผยเปลี่ยนหน้ากลับไปเป็นหน้าเดิม กล่าวว่าจวินอู๋สั่งให้เขามาช่วยงานเซี่ยเหลียน กระนั้นฮวาเฉิงก็เตือนเซี่ยเหลียนไม่ให้ซาบซึ้ง เพราะอีกฝ่ายคงไปทำดีลเรื่องเผยซู่กับมหาเทพไว้จึงยอมมาช่วยเหลือ ซึ่งเผยหมิงก็ไม่ได้ปฏิเสธแถมยังเดาออกด้วยว่าเด็กชายตรงหน้าจะต้องเป็นฮวาเฉิงอย่างแน่นอน แต่แล้วเซี่ยเหลียนก็สงสัยในตัวอีกฝ่าย เพราะหากคนตรงหน้าคือเผยหมิงจริง เหตุใดพอโดนยันต์แปะหน้า ยันต์ถึงไหม้ได้กัน
.
.
.
.
.

5 Nameless Fanboi Posted ID:GVlzbJqU7u

>>4 เจิมโม่งสปอยด์ เขาจีบกัน อหหหห กำลังใจเล็กน้อยๆสงสัยฟาฟาจะลืมว่าเซี่ยเหลียนมาอายมารที่ปากด้วะ มาๆเเล้วอดีตของเผยหมิง ขำความขี้หม้อแต่โดนสาวๆรังเกียจ

6 Nameless Fanboi Posted ID:NkCO2LdrW.

>>4 พอเห็นหม้อสาว ในใจกูรู้เลยว่าใคร ทั้งเรื่องมีอยู่คนเดียว 555555

7 Nameless Fanboi Posted ID:H+bxD/wLxT

>>4 ได้เวลาหัวหน้าเรือทำงานจริงๆซักที

8 Nameless Fanboi Posted ID:x/a1b4JJi+

>>4 จีบกันต่อหน้าผีเป็นร้อยยยยยยยย อหหหหห

9 Nameless Fanboi Posted ID:Cz6AVTUe/B

>>4 ขอบคุณสำหรับสปอย อูย กูเขิลลลลล

10 Nameless Fanboi Posted ID:No6nyDNsx5

เพิ่งสังเกตว่าโม่งสปอยล์ทั้งตั้งกระทู้เองแล้วก็ลงสปอยล์เลย ฮือออ ขอบคุณมากนะโม่งสปอยยย กุรักมึง

11 Nameless Fanboi Posted ID:sPLhGjjpxI

เย้ เข้าได้แล้ว เขาบอกว่าสัญญาเปิดเซิร์ฟมีถึงสิ้นปี 2021 อยู่ด้วยกันไปยาวๆ นะเพื่อนโม่ง T^T

12 Nameless Fanboi Posted ID:kJGPF9fgpV

ดีใจมากที่เข้าได้แล้ว
หายไป 3 วัน รู้สึกโหวง ๆ มากเลยเพื่อนโม่ง
ดีใจที่จะได้อยู่กันยาว ๆ ถึงสิ้นปีหน้า

13 Nameless Fanboi Posted ID:gJRRbQ8iyj

รอลุ้นน่ามึง มองแง่ดีอาจได้เจอโม่งเวอร์ชันยกเครื่องใหม่ก็ได้5555

14 Nameless Fanboi Posted ID:WshHz9TjtM

ขอบ่นหน่อย กูไปอ่านทดลองอ่านเรื่องอร่อยล้นวังที่ ลวด คนแปลเรื่องตัวร้าย แล้วก็แปลเรื่องเทียนกวานเขาลงไว้ในเด็กดีแล้วเจอทับศัพท์ว่าเจิ้นนี่กูหมดอารมณ์อ่านเลยอะ (คือคำไทย กษัตริย์เรียกตัวเองก็แปลว่า "เรา" ได้ไหม มันไม่ใช่ไม่มีคำนี้ในไทยเลย) ยิ่งนึกถึงคำว่าซือจุน แล้วก็ก็พาลระแวงเรื่องเทียนกวานด้วยว่าจะออกมายังไง คือกูก็ทำใจส่วนหนึ่งแล้วว่าเกอเกอ (อันนี้ไม่น่าทับศัพท์ที่สุดล่ะ แต่ดูเรื่องตัวร้ายแล้วนางทับแน่) ไท่จื่อเตี้ยนเซี่ย (องค์ชายรัชทายาท ซึ่งเวลาดูละครจีนก็ได้ยินเรียกว่ารัชทายาทกันนะ แต่คงทับอีก) เฮยสุ่ยเฉินโจว (ธาราทมิฬล่มเรือ) เซวี่ยอวี่ทั่นฮวา (ฝนโลหิตตามหาดอกไม้) เกาจื่อ (ราชครู) อะไรพวกนี้ ลวด ทับศัพท์แล้วใส่เชิงอรรถแน่ แต่กูแพนิกว่า เทพแห่งลม เทพแห่งน้ำ แม่ทัพ อะไรพวกนี้ ไม่ใช่นางจะไม่ยอมแปล ใช้คำทับศัพท์ไปด้วยหรอกนะ

15 Nameless Fanboi Posted ID:9MSbdp85Nb

>>14 เรื่องทับศัพท์ในนิยายจีนนี่แม่งปัญหาโลกแตกว่ะ พูดกันมาหลายรอบละ บางคนก็ชอบแบบนี้ บางคนก็ไม่ชอบ กูก็ทีมไม่ชอบนะ แต่บ่นไปมันก็เท่านั้นอ่ะ

16 Nameless Fanboi Posted ID:j+ZlAA4U0q

>>14 ตอนตัวร้ายมันยังพอรับได้แต่เทียนกวานกูไม่โอเค กูยังไม่อยากอ่านไปเมาไปนะ

17 Nameless Fanboi Posted ID:NSluTNU44B

>>14 ยังสงสัยว่าถ้าไม่ทับศัพท์ว่าเกอเกอจะให้ฮวาเฉิงเรียกเซี่ยเหลียนว่าอะไรในภาษาไทยอ่ะ อันนี้กุแอบคิดคนเดียวมานานละ พี่เฉยๆมันก็หายไปพยางค์นึง ดูไม่ขี้เล่นเท่าเวลาฮวาเฉิงเรียกเกอเกอด้วย เรียกพี่ชาย อันนี้ก็ห่างเหิน เรียกพี่ครับ อันนี้ก็อ้อนไป

ส่วนเป็นสไตล์ชอบทับศัพท์แล้วใส่เชิงอรรถอ่ะ

18 Nameless Fanboi Posted ID:9MSbdp85Nb

>>17 แล้วทำไมจำนวนพยางค์มันต้องเท่ากันด้วยล่ะ? นิยายนะ ไม่ใช่บทพากย์หนัง โดยส่วนตัวกูว่าการแปลภาษานึงมาเป็นอีกภาษานึง ฟีลลิ่งมันไม่ได้เท่าภาษาเดิมร้อยเปอร์เซนต์อยู่แล้ว แต่ถ้ามันมีคำในภาษาไทยที่ความหมายใช้ได้ ก็ควรจะใช้คำไทยมากกว่านะ

19 Nameless Fanboi Posted ID:NSluTNU44B

>>18 อ่อ ที่หมายถึงจำนวนพยางค์คือถ้าอย่างน้อยมันมีคำที่เอามาใส่ได้ครบพยางค์มันก็เก็บฟีลลิ่งได้มากกว่าอ่ะ ส่วนตัวกุมองว่าถ้าหาคำไทยที่เก็บฟีลลิ่งคนพูดได้ไม่ครบ หรือขาดหายเยอะเกินไป อย่างเช่นที่กุบอกว่าไม่รู้คำไทยจะให้ฮวาเฉิงมันเรียกเซี่ยเหลียนว่าอะไรอ่ะ ถ้ามันขาดฟีลลิ่งไปเยอะๆแอบทับศัพท์บ้างก็ได้ แล้วฮวาเฉิงมันก็เรียกเกอเกอกับเตี้ยนเซี่ย(ฝ่าบาท?)อยู่สองคำจนเหมือนจะเป็นคำศัพท์เฉพาะของเรื่องนี้ไปอยู่แล้วว่าเรียกสองคำนี้มันรีเฟอร์ถึงเซี่ยเหลียน เลยไม่อยากให้ฟีลลิ่งของคำว่าเกอเกอมันต้องตกหล่นหายไปทั้งเรื่องอ่ะ

แต่กุบอกแล้วอ่าว่ากุเป็นพวกชอบทับศัพท์ใส่เชิงอรรถ แล้วแต่คนชอบจริงๆอ่ะ

20 Nameless Fanboi Posted ID:WshHz9TjtM

>>17 ควรแปลว่าพี่ชายอะ เห็นคนอื่นก็แปลอย่างนี้ อย่างนิยายเรื่อง นิยายเรื่องนี้ข้าไม่ได้เขียน ก็แปลว่าพี่ชาย แล้วในเรื่องก็บอกว่าเรียกแบบนี้ดูสนิทกว่าพี่ใหญ่ กูว่าที่รู้สึกว่าคำว่าพี่ชายดูห่างเหินเป็นเพราะคนไทยชอบเรียกคนแปลกหน้าด้วย พี่ น้อง ป้า ลุง พอพูดพี่ชายเต็มๆ ไม่ย่อ เลยรู้สึกไปว่าดูจริงจังเป็นทางการไป

21 Nameless Fanboi Posted ID:QEdXZRhWKw

>>19 เตี้ยนเซี่ย แปลว่า ฝ่าบาท ก็โอเคอยู่นะ ที่กุคิดไม่ตกคือเรียก ไท่จื่อเตี้ยนเซี่ย แบบเต็มยศจะแปลออกมาไงให้สลวย แปลเป็น ฝ่าบาทรัชทายาท ฟังแล้วดูยืดยาวมาก ตัดเหลือแค่ฝ่าบาท หรือ รัชทายาท มันก็ไม่ได้ฟิลลิ่งที่แม่โม่อยากสื่ออีก

22 Nameless Fanboi Posted ID:9MSbdp85Nb

>>19 กูเข้าใจฟีลมึงนะ แต่สำหรับกู ถ้าอยากเก็บฟีลจากต้นฉบับให้ได้ครบถ้วนขนาดนั้นก็ควรไปอ่านต้นฉบับเลยดีกว่า อันนี้กูไม่ได้กวนตีน เพราะกูก็ทำแบบนี้กับภาษาที่กูอ่านออก ทั้งอังกฤษญี่ปุ่นเกาหลี ส่วนจีนกูอ่านไม่ออกเลยไม่มีฟีลแบบนี้กับภาษาจีน และไม่ได้อยากเรียนภาษาจีนผ่านนิยายฉบับแปลไทย เลยคิดว่าคำไหนมีภาษาไทยก็แปลไทยมาเถอะ กูไม่ได้จะท่องศัพท์ไป dictation กับเหล่าซือ กูอ่านนิยายเพื่อความบันเทิง

23 Nameless Fanboi Posted ID:SbuOTCxCeI

>>21 ก็แปลองค์รัชทายาทเฉยๆ ไม่ได้เรอะ

24 Nameless Fanboi Posted ID:NSluTNU44B

>>22 ไม่เป็นไรๆ ไม่ได้กวนตีน 555 กุเข้าใจมึงเหมือนกัน แต่กุเองโอเคกับการนั่งจำชื่อด้วยแหละ อย่างตอนเด็กๆอ่านบลีชที่แปลทับศัพท์แล้วใส่วงเล็บไว้ มานั่งอ่านแล้วจำกุรู้สึกว่ามันเบียวๆเท่ๆดี 55555

25 Nameless Fanboi Posted ID:QEdXZRhWKw

>>14 ปกติกุก็ไม่ชอบคำแทนตัวพวกเจิ้นกัยเปิ่นหวางเท่าไหร่ แต่อร่อยล้นวังนี้ถ้าไม่ใช่คำว่า เจิ้น กุเป็นคนแปลก็ไม่รู้จะแปลว่ายังไง ให้คนอ่านรู้ได้ทันทีว่าแมวตัวนี้มันเป็นแมวฮ่องเต้ ไม่ใช่แมวอ๋อง แมวองค์ชาย

26 Nameless Fanboi Posted ID:HBxwCYa.Vh

>>14 ชอบฉาขาธาราทมิฬล่มเรือมาก ฝนโลหิตด้วย ราชครูก็สื่อความดีแล้ว ไม่อยากให้ทับศัพท์เลย
>>19 มันไม่ใช่คำศัพท์เฉพาะ มันเป็นชื่อตำแหน่งไม่ใช่ชื่อเช่นที่ต้องทับศัพท์ ยิ่งทับศัพท์ก็ยิ่งทอนความหมายลงเหมือนซือจุนที่อ่านไปเหมือนชื่อเล่นมากกว่าจะย้ำความสัมพันธ์บาปๆศิษย์อาจารย์ การแปลไทยจะยิ่งเก็บความรู้สึกของการอ่านได้ดีกว่าทับศัพท์ว่ะ ย้ำความหมายทุกครั้งที่ใช้ไม่ใช่การเรียกศัพท์จีนจนเหมือนชื่อเล่น
ถ้าอยากจะจำศัพท์จีนขนาดนั้นกูคงไปเรียนภาษาจีนไม่รออ่านแปลไทยหลังจีนออกจบไปเป็นชาติหรอก
>>23 +1 >>21 กูว่าอย่าอ้างแม่โม่เลย บางทีถ้าแม่โม่รู้ว่าแปลไทยเป็นไงอาจเสียใจที่จากอาจารย์กลายเป็นทับศัพท์ชื่อเล่นซือจุนเกร๋ๆ ไม่บาปแล้วก็ได้

27 Nameless Fanboi Posted ID:VfwEbwIp7j

>>26 พวกฉายาทับศัพท์กูยังโอเคนะ แต่ถ้าแปลไทยได้ก็น่าจะดีกว่า อย่างชื่อธาราทมิฬล่มเรือ อ่านปุ๊บก็รู้ปั๊บว่าต้องเป็นผีน้ำ ตอนไปบุกเกาะแล้วเรือเริ่มจมก็เก็ตที่มาของฉายาทันที ในหัวไม่ต้องแปลจีนมาไทย หรือต้องอ่านเชิงอรรถอีก

28 Nameless Fanboi Posted ID:g9EyrWmb3z

📌 #รับสมัครทีมวิจัยออนไลน์ด่วนจำนวนมาก !!! #พร้อมเริ่มงานทันที #ไม่มีค่าสมัคร ไม่จำกัด อายุ อาชีพ เพศ วุฒิการศึกษา ประสบการณ์ ว่างงาน/ทำงานประจำ 👉มีเพียงบัญชี PayPal
🌍📝🌍 สมัครออนไลน์เริมงานเลย >>https://th.viewfruit.com/.../MTgxMzIwOlgxTUw4RzQ5RUw2SDU4...

*****************************
ขอคำแนะนำนำสำหรับผู้สนใจ
สอบถามข้อมูล Viewfruit Global - Admin
Email:support-th@viewfruit.com
https://www.facebook.com/ViewfruitGlobal
#ต้องการรับสมัครด่วน #สมัครงาน #งานตอบแบบสอบถาม #ไม่เสียค่าสมัคร #มีรายได้เสริม #งานประจำ #งานพาร์ทไทม์ #LimDecor #ลิ้มกีหลีคลองตัน #บันไดวน #บันไดเวียน #ไม่จำกัดอายุ #ไม่ต้องมีประสบการณ์ #Viewfruit #OnlineSurvey #WorkatHome #ทำงานที่บ้าน

29 Nameless Fanboi Posted ID:lpsg3jaMpJ

>>27 กูเห็นคล้าย ๆ กับมึง พวกฉายาจะทับศัพท์แล้ววงเล็บแปลก็ได้ กูชอบอารมณ์ประมาณบลีชอ่ะดูมีความขลังของต้นฉบับแล้วความสละสลวยของคำแปล หรือจะแปลตลอดเลยก็ได้
แต่กูสงสัยขอยกตัวอย่างนะ อย่างธาราทมิฬล่มเรือเนี่ย... แปลสวยมากจนแทบเรียกว่ายึดติดกับคำแปลฉายานี้ไปแล้ว แต่ถ้าคนแปล(ที่ไม่รู้ว่าใคร)​ไม่ยึดแปลตามนี้ล่ะ จะยังโอเคกันอยู่หรือเปล่า คนแปลอาจจะแปลทื่อ ๆ หรืออาจแปลสวยอลังการแต่ใช้ศัพท์คำอื่นแทนอะไรแบบนี้

30 Nameless Fanboi Posted ID:D+b0MK+8rz

>>29 กูคนหนึ่งที่ไม่โอเค //ใครเป็นแปลคนแรกว่ะ คำสวยสัส

31 Nameless Fanboi Posted ID:Uo1qD1mRIr

>>29 ถ้าคำแปลใหม่มันสวยก็โอเค แต่กุอยากเก็บธาราทมิฬล่มเรือกับเศวตไร้หน้าไว้ เออ ใครแปลคนแรกวะ สวยสัส สนพ.เอาสองอันนี้ไปใช้เลยเหอะ กุขอ

32 Nameless Fanboi Posted ID:pv.z3WHhQ8

>>29 กูชอบการแปลชื่อแบบในนารูโตะ กระสุนกงจักร
กูติดฉายาของเจวี๋ยทั้งสี่แล้ว แปลเพราะอ่ะ หายนะชุดขาว ธาราทมิฬล่มเรือ ผีเขียวฉีหรง ฝนโลหิตตามหาดอกไม้ อยากให้แปลชื่อนี้ในนิยายด้วย ถ้าไม่แปลกูจะเขียนโน้ตกำกับสอดไปในเล่มด้วยเองเลย

33 Nameless Fanboi Posted ID:Uo1qD1mRIr

เออกูสงสัยอ่ะ ไป๋อู๋เซียง เศวตไร้หน้ามันคือชื่อเรียกของเจวี๋ยตัวนั้นจริงๆ ส่วนหายนะชุดขาวมันคือชื่อเล่นอีกทีใช่ป่ะ เห็นในเรื่องเรียกปนๆกันหมดเลย

34 Nameless Fanboi Posted ID:MV3Ys7k1ug

>>29 โอเคกว่าทับศัพท์ อยากรู้เหมือนกันว่าใครแปลคนแรก สวยมากๆ ถ้าสนพ.เอาไปใช้ผ็อยากให้ไปขออนุญาตดีๆจะดีมากถ้าให้เครดิตไม่ใช่เอาไปใช้ดื้อๆเพราะคนฮิต แบบนั้นกูไม่โอเคยิ่งกว่า

35 Nameless Fanboi Posted ID:EJSUyqbhfm

ถ้ามาขออนุญาต จะใส่เครดิตยังไง ถ้าบอกชื่อจริง = โม่งแตก แต่ถ้าไม่บอกชื่อจริงคือ Credit by fanboi งี้เหรอ (อันนี้สงสัยนะ ไม่ได้กวน)

36 Nameless Fanboi Posted ID:Uo1qD1mRIr

>>35 คนแปลชื่อนี้คนแรกคือโม่งอ่อวะ อันนี้ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าข้างนอกเค้าพูดกันมาก่อนมั้ย แต่ถ้าโม่งสปอยล์เป็นคนแรกที่แปลคงตลกดี สนพจะมาขอยังไง 5555

37 Nameless Fanboi Posted ID:MV3Ys7k1ug

ไม่รู้ว่ามาจากโม่งหรือที่ไหน กูใช้หลักการเดียวกับรีโพสต์ภาพว่ะ เมื่อคุณชอบงานเขามากๆอยากเผยแพร่ก็ต้องไปขออนุญาตเจ้าของ ไม่ใช่แค่ยุ่งจังหาไม่เจอ เครดิตกูเกิ้ลเครดิตpinterest ทุกอย่างมีลิขสิทธิ์มีเจ้าของของมัน คำแปลก็เหมือนกัน กฎหมายลิขสิทธิ์ไทยไม่เข้มแข็งการฟ้องมันยุ่งยากไม่คุ้มเสีย ดังนั้นใช้ไปก็ไม่โดนดำเนินคดีหรอก แต่ความจริงมันไม่ต่างจากขโมยเลย
ส่วนเจ้าของคำแปลจะเปิดเผยตัวตนก็เป็นทางเลือก หรือถ้าไม่อยากเปิดเผยก็ตกลงเอาไปใช้ไม่ต้องให้เครดิต และถ้าไม่มีใครออกมาแสดงตัวอนุญาตสนพ.ก็ไม่ควรเอาไปใช้ อยากให้คนใส่ใจกับเรื่องลิขสิทธิ์มากขึ้นมากกว่าจะมองว่าเรื่องแค่นี้เองนะ ถ้าคนแปลคนแรกเป็นโม่งจริง สนพ.ก็มีหลายวิธี ไม่ว่าจะประกาศตามหาคนในหน้าสนพ.ตัวเองเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์พิมพ์เรื่องนี้ยังไงคนก็ตามเยอะกระจายข่าวไปได้อยู่แล้ว หรือไม่ก็มาถามในโม่งเลย หรือถ้าคนแปลคนแรกในทวิตเตอร์ แอคดังๆหลายแอคก็มีให้ติดต่อกระจายข่าว แฟนงานแม่โม่ไม่น้อยเลย

38 Nameless Fanboi Posted ID:VfwEbwIp7j

กูโม่งสปอยนะ คือส่วนมากกูยึดตามที่มีคนแปลไว้ในเด็กดีตอนแรกอะ แต่ธาราทมิฬล่มเรือ กูจำผิดมาเพราะเขาแปลเป็นธารากาฬล่มเรือ (แต่ความหมายเหมือนกันเนอะ เพราะกาฬก็แปลว่าสีดำเหมือนกัน เลยเลยตามเลยไป) ส่วนฝนโลหิตตามหาดอกไม้ เขาแปลไว้ว่า พิรุณโลหิตเสาะหาบุปผา แต่มันยาวไปขี้เกียจพิมพ์ (5555) แล้วนี่เป็นแค่สปอย กูเลยเปลี่ยนให้เป็นคำง่ายๆ แทน หายนะชุดขาวก็เอามาจากเขา แต่เศวตไร้หน้า อันนี้กูเป็นคนแปลเอง แต่กูว่าแปลไทย อฟช ยังไงอย่าง ลวด คงทับศัพท์อะ

>>33 สปอยนะ
.
.
.
.
.
จริงๆ ไป๋อู๋เซียง หรือ เศวตไร้หน้าก็เป็นฉายาเหมือนกันนั่นแหละ เพราะเจ้าตัวไม่เคยบอกชื่อจริง ส่วนหายนะชุดขาวที่จริงเป็นคนละคนกับไป๋อู๋เซียง แต่เพราะทั้งสองมีลักษณะคล้ายๆ กัน คนในเรื่องส่วนมากเลยไม่รู้ว่าเป็นคนละคนแล้วเรียกไป๋อู๋เซียงว่าหายนะชุดขาวไปด้วย กลายเป็นไป๋อู๋เซียงคือชื่อ ส่วนหายนะชุดขาวเป็นฉายาไป
.
.
.
.
.

39 Nameless Fanboi Posted ID:Uo1qD1mRIr

>>38 อหโม่งสปอยล์ กุรักคำว่าเศวตไร้หน้าของมึงมากกกกกกกก ขอกอดซักที มันสวยจริงๆ ส่วนธาราทมิฬมึงก็จำผิดได้สวยมากกกเหมือนกัน อยากให้สนพใช้ของมึงเลยเนี่ย แต่ถ้าใช้ก็โม่งแตกถูกไหม ฮืออออ

40 Nameless Fanboi Posted ID:Eos0Uk+stv

กูโอเคนะถ้าสำนักพิมพ์จะใช้คำอื่นที่นักแปลคิดใหม่ เคสแบบนี้กูเห็นใจสำนักพิมพ์เหมือนกันว่ะ ถ้าแปลมาไม่สวยพวกมึงก็งอแงอีกว่าโม่งสปอยแปลสวยกว่า

41 Nameless Fanboi Posted ID:lWT/tJRuNb

กูก็ยังสงสัยอีกนั่นแหละ (ก็ไม่รู้จะสงสัยอะไรนักหนา อย่าเพิ่งด่ากรูน้าาาา) คือถ้าสนพ ประกาศหาตัวโม่งสปอยล์เพื่อให้เครดิต เกิดมีพวกหัวใสอยากได้ชื่อ มาแอบอ้างเป็นโม่งสปอยล์ จะแสดงหลักฐานว่ากูนี่คือโม่งสปอยล์ตัวจริงยังไง

42 Nameless Fanboi Posted ID:H1SwhA6mKK

ประเด็นกูคือขออนุญาตน่ะ ถ้าโม่งสปอยอยากปกปิดตัวตนก็บอกหลังจากสปอยเสร็จเลยว่าอนุญาตเชิญใช้ตามสบายไม่อยากเปิดเผยตัวตนไม่ต้องให้เครดิต ถ้าอยากให้มีการให้เครดิตก็ลงไว้ว่าอยากให้ให้เครดิตว่าอะไรหรือทิ้งอีเมลล์เจรจาหลังไมค์ก็ได้ เรื่องแอบอ้าง กูมองว่าถ้ามีคนที่ไม่ใช่โม่งสปอยมาอ้าง โม่งสปอยเห็นแล้วไม่เห็นด้วยก็ทักเอง คือโม่งสปอยยังมีชีวิตวนเวียนอยู่ไงไม่ใช่หายสาบสูญ คุยกันไม่ได้อ่ะก็วนๆในบอร์ด

ที่กูทักเรื่องนี้เพราะคนแปลในเน็ตคนแรกก็ออกตัวไว้ว่าชื่อเรื่องแปลไทยที่เขาคิดเขาไม่โอเคที่ใครจะเอาไปใช้หน้าตาเฉยน่ะ กูก็เห็นด้วยว่าชื่อพวกนี้มันไม่ใช่การแปลตรงไปตรงมาใครๆก็แปลได้ ต้องอาศัยศิลปะดังนั้นถ้าเอาของเขามาก็ต้องขออนุญาตก่อน จะหยิบมาใช้เฉยๆในผลงานที่ขายเชิงพาณิชย์ก็ไม่โอเค นอกจากขออนุญาตแล้วจ่ายค่าตอบแทนยังได้เลย

ถ้านึกภาพไม่ออกก็แทนสำนวนแปลเป็นมีคนวาดแฟนอาร์ทสวยสัสลงโม่งเป็นประจำ คนก็ชอบกันมาก สนพ.เห็นภาพสวยมากอย่างเอามาประกอบในหนังสือ สนพ.ไม่ควรเอาภาพลงเล่มโดยไม่ได้รับอนุญาต ถ้าขออนุญาตไม่ได้ก็ไม่ควรลง ส่วนคนวาดจะไม่อนุญาต ให้เครดิตไม่ให้เครดิต จะคิดค่าวาดกับสนพ.ที่เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์อย่างถูกกฎหมายมั้ยก็เป็นสิทธิ์ของเขา

43 Nameless Fanboi Posted ID:7GF1Ndkndb

>>42 หายข้องใจแล้ว ขอบใจมากสำหรับคำตอบ จุ๊บๆ

กูจะจดฉายานี้ไว้เรียกเองคนเดียว ชอบมากกกกก
ธาราทมิฬล่มเรือ
พิรุณโลหิตเสาะหาบุปผา
เศวตไร้หน้า
ผีเขียวฉีหรง (ไม่จด กูลำเอียง 555)

44 Nameless Fanboi Posted ID:2OhJyW+7L4

>>43 ขอกูใช้ด้วยอีกคน เพราะๆทั้งนั้น ถ้าสนพส่องโม่งอยู่ลองขออนุญาตหรือหาทางติดต่อโม่งสปอยล์ไปใช้ในนิยายดูมั้ย ชื่อเจวี๋ยแม่งแปลออกมาดีมากจนไม่มีใครบอกให้ทับศัพท์เลยอ่ะ 5555

45 Nameless Fanboi Posted ID:7Y2vDzdjY/

>>43 จริงๆ แล้วฉายาทางการของฉีหรงไม่ใช่ผีเขียวนะ แต่ในเรื่องชอบเรียกกันสั้นๆ ว่าผีเขียว ฉายาจริงๆ ของฉีหรงมันประมาณ "ประทีปเขียวท่องราตรี" แต่กูจำไม่ได้ว่าในเด็กดีเขาแปลว่าอะไร แล้วกูก็นึกคำสวยๆ ไม่ออก เลยเขียนแต่ผีเขียว

>>44 ถ้าให้เครดิท น่าให้คนที่แปลในเด็กดีมากกว่าอะ เพราะกูก็ได้จากเขามา บางอันแปลงนิดหน่อย แต่ก็คือเขาเป็นต้นฉบับ แต่เศวตไร้หน้า ถ้า อฟช อยากใช้ก็ใช้ไปได้เลยไม่ต้องให้เครดิท (ถึงกูจะคิดว่าเขาจะทับศัพท์ 99 เปอร์เซนท์ก็เถอะ) แค่ไม่มีคนอื่นมาแอบอ้างก็โอเคแล้ว

ปล. ฉีหรงไม่ได้เป็นเจวี๋ยนะ 5555 เห็นพูดกันว่าฉายาเจวี๋ย 4 ตน แค่ถูกจัดในกลุ่มภัยพิบัติทั้ง 4 กับเจวี๋ยอีก 3 ตนเอง

46 Nameless Fanboi Posted ID:UZNjHY.vjQ

>>42 คนแปลคนแรกเริ่มแปลวันที่เท่าไหร่เดือนไหนอ่ะ

47 Nameless Fanboi Posted ID:2OhJyW+7L4

>>45 ตอนกูบอกว่าชื่อเจวี๋ยเพราะกูก็คิดถึงแค่สามตัวไม่รวมฉีหรงนี่แหละ 555555 กูเปล่าลำเอียงจิงจิ๊งงง

48 Nameless Fanboi Posted ID:7apIJ5NjgD

กูชอบธารากาฬล่มเรือมากกว่าแฮะ มันเป็นสระอาเหมือนกัน ฟังดูลื่นไหลดี

49 Nameless Fanboi Posted ID:7Y2vDzdjY/

สปอยเทียนกวานอาร์ค 3 ต่อจาก >>4 เทียนกวาน Part.115
.
.
.
.
.
แม่ทัพเผยโยนลูกอมให้เซี่ยเหลียน กล่าวว่าเขาซื้อมาจากเมืองผี เมื่ออมแล้วจึงมีอายมารออกมาจากตัว พอเขาเรียกให้เซี่ยเหลียนลองชิม ฮวาเฉิงก็ห้ามไว้ บอกว่ามันเป็นอันตรายต่อร่างกาย อีกทั้งยังทำให้ตัวมีกลิ่นเหม็นซึ่งเทพไม่ได้กลิ่น ด้วยเหตุนี้พี่สาวที่เผยหมิงเต๊าะก่อนหน้าจึงมีท่าทีรังเกียจเช่นนั้น คำอธิบายอันหลังทำให้แม่ทัพเผยรีบโยนลูกอมที่เหลือทิ้งอย่างว่องไว เซี่ยเหลียนคุยเรื่องที่เกิดขึ้นกับเผยหมิง แต่ก็พบว่าคนที่โจมตีกระบี่เพชรฆาตก่อนแจกยันต์ไม่ใช่อีกฝ่าย พอทั้งคู่หันไปมองบริเวณที่ร่างของกระบี่เพชรฆาตเคยอยู่ก็พบเพียงความว่างเปล่า ฮวาเฉิงจึงบอกให้เซี่ยเหลียนระวังตัว เพราะในเขาตงลู่ยิ่งฆ่าคนอื่นมากเท่าไรก็ยิ่งมีพลังเพิ่มขึ้น และกระบี่เพชฌฆาตก็เพิ่งฆ่าผีตนอื่นไปหลายร้อย

เซี่ยเหลียนรีบจับมือของอ๋องผีไว้ สังเกตว่าอีกฝ่ายตัวร้อนขึ้นมาก ซึ่งฮวาเฉิงก็อธิบายว่าเป็นเพราะเขาใกล้กลับร่างจริงแล้ว เซี่ยเหลียนเลยใช้รั่วเย่มาวางเป็นวง ตอนที่ใช้ฟางซิ่นปักทำเขตคุ้มกันเขาก็รู้สึกว่ามีอะไรมาถูด้านหลัง พอหันไปก็เจอเอ้อมิ่งที่ไซส์มินิลงตามตัวเจ้านายเหมือนจะมาขอทำหน้าที่แทน แต่เซี่ยเหลียนบอกว่าให้ฟางซิ่นทำหน้าที่ดีกว่า ยิ่งพอถูกอ๋องผีด่าว่าไร้ประโยชน์ก็ทำเอาเอ้อมิ่งทิ้งตัวบนพื้นอย่างชี้ช้ำจนเซี่ยเหลียนต้องรีบปลอบ แม่ทัพเผยทนบรรยากาศกุ๋งกิ๋งไม่ได้จึงเดินออกจากวงคุ้มกัน แถมยังบอกว่าสกิล Luck E ของเซี่ยเหลียนดึงดูดให้เรื่องวุ่น ฮวาเฉิงเลยตอกกลับว่ากระบี่เพชฌฆาตอาจตามเผยหมิงก็ได้ ยังไม่ทันขาดคำดีแม่ทัพเผยก็ถูกโจมตี แม้จะหลบได้ แต่หน้าก็ได้แผลมาเส้นหนึ่ง เงานั้นโจมตีใส่เผยหมิงต่อรัวๆ เมื่อถูกโจมตีกลับร่างก็แบ่งเป็นสอง พอตกลงมาที่พื้นจึงเห็นว่าเป็นกระบี่เพชฌฆาต ส่วนหนึ่งคือร่างกายครึ่งบน อีกส่วนคือร่างกายท่อนล่าง กระบี่เพชฌฆาตใช้มือเปล่าหักกระบี่ของเผยหมิง ปรามาศว่าอีกฝ่ายใช้อาวุธกระจอก แถมแม้จะมีร่างกายแค่ครึ่งบนมันก็ยังรับการโจมตีของแม่ทัพเผยได้หมดราวรู้ทุกกระบวนท่าของอีกฝ่ายดี

เผยหมิงห้ามเซี่ยเหลียนช่วย บอกว่าในฐานะเทพสงครามแห่งทิศเหนือเขาจะจัดการผีตรงหน้าเอง จนเซี่ยเหลียนบอกว่าอีกฝ่ายรู้จักวิธีสู้ของเผยหมิงจนผิดสังเกต แม่ทัพเผยเลยยอมกลับไปหลบในวงคุ้มกันก่อน พอถูกถามว่าไปเก็บอาวุธเทพกลับมาก่อนไหม เขาก็บอกว่ามันเป็นแค่กระบี่ธรรมดาที่เขาหยิบมาส่งๆ นั่นเป็นเพราะตั้งแต่ขึ้นสวรรค์มาเขาก็ไม่เคยใช้พลังทิพย์ตีบวกอาวุธชิ้นไหนเลย แล้วกระบี่เพชรฆาตจึงเอ่ยว่านั่นเป็นเพราะอาวุธประจำกายของเผยหมิงไม่อยู่แล้ว เนื่องจากในอดีตอีกฝ่ายหักเขาเป็นสองท่อน ได้ยินแบบนั้นแม่ทัพเผยก็หน้าเครียด ถามว่าแท้จริงกระบี่เพชฌฆาตคือหมิงกวง อาวุธคู่ใจของเขาในตอนเป็นมนุษย์หรือ อีกฝ่ายยิ้มไม่ตอบ แต่ก็เพียงพออธิบายได้ว่าเหตุใดมันจึงรู้จักวิธีต่อสู้ของเผยหมิงเป็นอย่างดี เป็นเพราะเผยหมิงหักมันตอนกำลังขึ้นสวรรค์พอดีจึงเหลืออายทิพย์ที่รอยหักบนท้อง และที่ร่างกายแบ่งเป็นสองท่อนโดยไม่เป็นอะไรก็เป็นเพราะร่างจริงของมันหักมาก่อนแล้ว

กระบี่เพชฌฆาตหรือหมิงกวงพยายามทำลายเขตคุ้มกัน เห็นท่าทางแบบนั้นเซี่ยเหลียนก็อดถามเผยหมิงไม่ได้ว่าเหตุใดอีกฝ่ายจึงแค้นเจ้าของจนเกิดเป็นจิตมาร มีเรื่องราวอะไรเกิดขึ้นเบื้องหลังตำนานแม่ทัพผู้หักกระบี่กันแน่ แต่แม่ทัพเผยไม่อยากพูดถึง ด้วยความที่ทั้งฟางซิ่นกับหมิงกวงต่างเป็นกระบี่มีอายุ หากไม่มีใครมาสอดมือพวกเขาคงพอต้านต่อไปได้อีกพักหนึ่ง แต่ตอนนั้นก็มีผีร่างใหญ่ยักษ์ตนหนึ่งโผล่มา พอเห็นหน้าอีกฝ่ายทั้งเซี่ยเหลียนกับเผยหมิงก็พยายามปิดบังใบหน้าตัวเองทันที เพราะผีตนนั้นคือเค่อหมอ แม่ทัพผีแห่งแคว้นปั้นเยวี่ยที่หนีออกมานั่นเอง หมิงกวงเอ่ยขอความช่วยเหลือจากเค่อหมอให้ช่วยทำลายเขตคุ้มกัน แต่ด้วยความที่เค่อหมอไม่เข้าใจภาษาภาคกลางจึงเกิดความเข้าใจผิดจนทั้งสองฮึ่มๆ ใส่กัน ทำให้เซี่ยเหลียนกับเผยหมิงแอบยินดี Let them fight!! กันไปเลย

ทว่าเค่อหมอกลับหันมาจ้องพวกเซี่ยเหลียนแล้วดันรู้ว่าเป็นนักพรตเก็บขยะกับเจ้านายของเผยซู่ โจทย์เก่าของตน เลยเข้ามาพยายามทำลายเขตคุ้มกันด้วย ด้วยความที่เซี่ยเหลียนต้องปกป้องฮวาเฉิง ส่วนเผยหมิงก็ไม่มีอาวุธ โดนรุมคงไม่ไหวแน่ พอเห็นหมิงกวงด่าเค่อหมอที่โจมตีไม่ดูจังหวะจนโดนตนไปด้วย เซี่ยเหลียนก็นึกแผนบางอย่างออก
.
.
.
.
.

50 Nameless Fanboi Posted ID:2OhJyW+7L4

>>49 ขอบคุณโม่งสปอยล์ กูเกือบจำไม่ได้ว่าเค่อหมอนี่คือใครมีปมอะไรแล้ว ตัวละครเทียนกวานเยอะชิบหาย แถมเอากลับมาใช้หมดทุกตัว ไม่ต้องถามว่าทั้งเรื่องมีปมอะไรบ้างที่แก้แล้วกับยังไม่แก้ ลืมเหี้ยน 5555

51 Nameless Fanboi Posted ID:oaqyQz+uZq

>>46 ถามวันไปตีเลขหวยเหรอ

52 Nameless Fanboi Posted ID:IvFOIMNG2/

>>49 ผีป่วยดาบก็มา

53 Nameless Fanboi Posted ID:+gIXIzxC/r

Kyหน่อยนะ หายนะชุดขาวนี้ใครสปอยกูที

54 Nameless Fanboi Posted ID:mam+b.5gW3

>>53 สปอยแบบอภิมหาอัครฮาร์ดคอร์
.
.
.
.
.
เซี่ยเหลียน
.
.
.
.
.

55 Nameless Fanboi Posted ID:HDTttY/1+n

>>54 ขุ่นพระ
จะมีเฉลยตอน arc ไหนอ่ะ

56 Nameless Fanboi Posted ID:mam+b.5gW3

>>55 อาร์ค 4 อ่ะ

57 Nameless Fanboi Posted ID:HDTttY/1+n

>>56 ขอบคุณ​อีกครั้ง อยากอ่านเล่มไวๆ จัง

58 Nameless Fanboi Posted ID:mAf/ARhn3g

สปอยเทียนกวานอาร์ค 3 ต่อจาก >>49 เทียนกวาน Part.116
.
.
.
.
.
เซี่ยเหลียนบอกให้เผยหมิงทำท่าเคารพแบบปั้นเยวี่ยตามที่เขาบอกเพื่อขอสงบศึกกับเค่อหมอ แต่ขณะที่แม่ทัพเผยจะทำตาม หมิงกวงที่ได้ยินก็รีบทำท่าเคารพนั้นก่อนเพื่อหาพวก ทว่าเขากลับถูกแม่ทัพผีซัดกระเด็น นั่นเป็นเพราะมันคือแผนของเซี่ยเหลียนที่หลอกผีกระบี่ให้ทำท่าเยาะเย้ยฉบับปั้นเยวี่ยจะได้แตกคอกัน แต่ทั้งสองก็สู้กันได้ไม่นานก็เหมือนจะใช้ภาษามือพอสื่อสารกันได้ แต่ยังไม่ทันที่จะช่วยกันสหบาทา เซี่ยเหลียนก็ร้องเป็นภาษาปั้นเยวี่ยว่าเผยซู่กับปั้นเยวี่ยมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร ให้ทั้งสองรีบหนีไป เค่อหมอที่หลงเชื่อเลยวิ่งออกไปตามหาศัตรูคู่แค้นทำเอาหมิงกวนต้องสบถด่า

พอเหลือศัตรูคนเดียว เผยหมิงก็โชว์ร่างกายท่อนล่างของหมิงกวงที่เขาอาศัยตอนชุลมุนกันเมื่อครู่ไปลากเข้ามาในเขตคุ้มกันเพื่อใช้เป็นตัวประกันสั่งให้อีกฝ่ายออกไปห่างๆ โดยทั้งเขากับเซี่ยหลียนไม่ทันคิดเลยว่าหมิงกวงจะบังคับร่างกายท่อนล่างได้ ผีกระบี่สะบัดจนหลุดจากการจับกุม ด้วยความที่ไร้อาวุธอื่น เซี่ยเหลียนเลยเรียกเอ้อมิ่งมาเป็นอาวุธ หมิงกวงเปลี่ยนท่อนล่างกลับไปเป็นกระบี่ แต่ขณะที่กำลังจะเปิดฉากบู๊ เผยหมิงก็บอกเซี่ยเหลียนว่าฮวาเฉิงที่นั่งหลับตานิ่งอยู่นานดูสีหน้าไม่ค่อยดี เขาเลยปล่อยให้เอ้อมิ่งต่อสู้เองขณะที่รีบเข้าไปดูอ๋องผี แต่แม้พยายามเรียกก็ไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับจากคนตรงหน้า

พอเอ้อมิ่งโต้กลับหมิงกวงได้ เซี่ยเหลียนก็เอ่ยชม เผยหมิงสังเกตได้ว่าพอถูกเซี่ยเหลียนชมเอ้อมิ่งก็มีขนาดใหญ่ขึ้น เซี่ยเหลียนเลยรีบชมมันรัวๆ ซึ่งเอ้อมิ่งก็ขยายใหญ่ขึ้นจริงๆ เมื่อกลายเป็นฝ่ายเสียเปรียบ หมิงกวงก็รวบรวมพลังทั้งหมดส่งไปที่ร่างกายท่อนล่าง เห็นอย่างนั้นแม่ทัพเผยก็คว้าเอ้อมิ่งที่กลับไปอยู่ในมือเซี่ยเหลียนแล้วกดมันกับหน้าของเซี่ยเหลียนให้เขาจุ๊บด้ามจับของมัน ส่งผลให้ขนาดของเอ้อมิ่งเพิ่มขึ้นทันที ก่อนที่มันจะพุ่งไปสู้กับหมิงกวงอย่างฮึกเฮิมอย่างมาก และด้วยความที่หมิงกวงโยกพลังไปที่ร่างท่อนล่าง ร่างท่อนบนย่อมอ่อนแอลง เผยหมิงจึงจะอาศัยจังหวะนั้นไปจัดการกับอีกฝ่าย ทว่าเค่อหมอกลับกลับมาพอดี คำรามด่าที่เซี่ยเหลียนหลอกตนแล้วอัดเขตคุ้มกันจนแตก

หมิงกวงรวมร่างกายทั้งสองท่อนกลับดังเดิม ผีกระบี่ด่าอดีตเจ้าของว่าฆ่าพี่น้องและผู้ติดตามร่วมรบไปมากมาย ทุกคนช่างตาบอดที่เห็นว่าตำนานแม่ทัพผู้หักกระบี่สวยงาม แต่เผยหมิงก็บอกว่าเขาไม่เคยคิดว่ามันเป็นเรื่องสวยงามเลยสักครั้ง ทางด้านเซี่ยเหลียน เขาบอกเค่อหมอว่าตนไม่ได้โกหก ก่อนร้องอย่างแปลกใจว่าทำไมปั้นเยวี่ยมาอยู่ที่นี่ ขณะที่แม่ทัพผีบอกว่ากลเดิมใช้ไม่ได้ผล ราชครูปั้นเยวี่ยกลับปรากฏตัวขึ้นจริงพร้อมงูหางแมงป่องจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีเผยซู่ที่เข้ามาร่วมวงด้วย เมื่อถูกถามว่ามาที่นี่ได้อย่างไร ปั้นเยวี่ยก็เล่าว่าพวกตนติดตามเทพแห่งฝนมา พอได้ยินชื่อนั้นเผยหมิงก็ถึงกับหน้าเครียดขึ้นมาทันที ส่วนทางด้านหมิงกวงพออีกฝ่ายมีจำนวนมากกว่า เขาจึงเปลี่ยนร่างกลับไปเป็นกระบี่ให้เค่อหมอใช้ตนเป็นอาวุธ

เผยซู่กับปั้นเยวี่ยแทคทีมสู้กับผีทั้งสองขณะที่คนแก่ยืนดูอยู่วงนอก เมื่อเห็นว่าปั้นเยวี่ยกับเผยซู่น่าจะได้เปรียบ เพราะเค่อหมอกลัวงูหางแมงป่อง อีกทั้งยังไม่ถนัดการใช้กระบี่ เซี่ยเหลียนก็แอบย่องกลับไปหาฮวาเฉิง คิดว่าเมื่อครู่พอเขาจุ๊บเอ้อมิ่ง ดาบโค้งก็มีขนาดใหญ่ขึ้น แม้จะไม่เข้าใจว่าทำไม แต่วิธีนี้อาจทำให้อ๋องผีอาจกลับร่างเดิมได้ เขาเอ่ยขอโทษก่อนจุ๊บที่หน้าผากของอีกฝ่าย ตอนนั้นเองก็มีเสียงดังข้างๆ ว่า ฝ่าบาทท่านจุ๊บผิดที่แล้ว จุ๊บหน้าผากไปมันจะได้อะไร พอหันไปก็เห็นเผยหมิงกำลังนั่งยองๆ มองตนอย่างใกล้ชิด จึงด่าไปว่าอย่ามอง แม่ทัพเผยเลยหันไปดูการต่อสู้ของเด็กๆ ต่อ ก่อนเข้าไปร่วมวงซัดหมิงกวงจรงรอยหักจนอีกฝ่ายแยกเป็นสองท่อนอีก จากนั้นปั้นเยวี่ยก็หยิบไหสองใบขึ้นมาผนึกผีทั้งสองตน จากนั้นเธอก็ถามเซี่ยเหลียนว่าเด็กคนนั้นเป็นลูกของเซี่ยเหลียนหรือ เพราะเมื่อครู่เธอเห็นเขาจุ๊บอีกฝ่าย ทำเอาเซี่ยเหลียนไปต่อไปถูก แล้วเผยซู่จึงเดินมาบอกให้เธออย่ารบกวนเซี่ยเหลียนอีก เผยหมิงที่ไม่เคยเจอปั้นเยวี่ยตรงๆ มาก่อน พอรู้ว่าเธอเป็นใครก็ตรงเข้ามาหาพร้อมดันเผยซู่ที่เดินมาขวางไว้ออกไปด้านข้าง

Note 1 : กูรักแม่ทัพเผย 5555
Note 2 : ปาร์ตี้มีสมาชิก 5 คนแล้ว เย้
.
.
.
.
.

59 Nameless Fanboi Posted ID:pi6EMohHwP

>>58 มาเสริมขำๆว่าตอนเซี่ยเหลียนจุ๊บเออร์มิ่งนี่เมื่อวันก่อนเพิ่งโดนรีพอร์ตจนโดนล็อคตอนไป กุคิดตั้งแต่ตอนอ่านละว่าแม่งโคตรส่อ กุคิดลึกไปเองคนเดียวรึเปล่า5555

60 Nameless Fanboi Posted ID:VDLrxrZT0I

>>58 ขำอีแม่ทัพเผย เชียร์ออกนอกหน้ามาก เอ้อมิ่งน่ารักดีนะ เหมือนลูกหมาน้อย รอความรักจากเจ้าของ เจ้าของบอกให้ทำอะไรก็ทำ

61 Nameless Fanboi Posted ID:mAf/ARhn3g

>>59 ส่วนตัวกูไม่ได้คิดลึกอะ 555 เพราะว่าเอ้อมิ่งมีจิตของตัวเอง แถมนิสัยก็เป็นเด็กๆ แต่ถ้าเอ้อมิ่งไม่มีจิตของตัวเอง เป็นแค่อาวุธของฮวาเฉิงแล้วเซี่ยเหลียนเอามาจุ๊บอะจะคิด

62 Nameless Fanboi Posted ID:kZOcu0lgOT

>>58 ถ้าเป็นนิยาย เผยหมิงคือแฟนบอยจ้ะ กูเปลี่ยนมาเมนเผยหมิงแปป

63 Nameless Fanboi Posted ID:SgUbL9XMNK

>>58 ความแม่ทัพเผยอ่ะ โคตรชง ชอบเฮียแกจัง55555 ดูเป็นพ่อหนุ่มคาสโนว่าโก๊ะๆ

64 Nameless Fanboi Posted ID:MaCckzXXOm

สปอยเทียนกวานอาร์ค 3 ต่อจาก >>58 เทียนกวาน Part.117
.
.
.
.
.
พอเผยหมิงเข้าใกล้ ปั้นเยวี่ยก็รีบไปหลบหลังเซี่ยเหลียนเพราะกลิ่นตัวจากลูกอมมารบนร่างแม่ทัพเผยยังไม่หมดฤทธิ์ เซี่ยเหลียนเลยเปลี่ยนเรื่องถามว่าเหตุใดเทพแห่งฝนถึงมาที่เขาตงลู่ เผยซู่เล่าว่าเพราะพอเขาตงลู่เปิด ผีจำนวนมากก็เดินทางผ่านอาณาจักรอวี้ซือ แถมยังจับพวกชาวนามาเลยตามมาช่วย เมื่อได้ยินเสียงเซี่ยเหลียนเรียกชื่อพวกตนจึงแยกตัวออกมาเชค เผยหมิงถามว่าเผยน้อยไปอยู่กับเทพแห่งฝนได้อย่างไร เขาก็บอกว่าเนื่องจากตนไปถล่มลูกน้องของฉีหรงไว้เยอะ อีกฝ่ายเลยรวมตัวกันมารุมยำจนเขาถูกจับตัว พอดีเทพแห่งฝนเดินทางผ่านแถวนั้นพอดีเลยช่วยเหลือตนไว้แล้วพาไปอยู่อาณาจักร์อวี้ซือเพื่อรักษาตัว

ตอนนั้นจู่ๆ หมิงกวงในไหก็พูดเยาะเย้ยเผยหมิงที่ลูกหลานตัวเองต้องอาศัยความช่วยเหลือจากคนของอวี้ซือ พอรู้จากปั้นเยวี่ยว่าสมัยเป็นมนุษย์แม่ทัพเผยเป็นคนของอาณาจักรซูหลี่ ส่วนเทพแห่งฝนเป็นผู้ครองอาณาจักรคนสุดท้ายของอวี้ซือ เซี่ยเหลียนก็เก็ดท่าทีแปลกๆ ที่เผยหมิงมีต่อเทพแห่งฝนทันที เพราะนอกจากเรื่องทายาทคนก่อนที่โดนเทพแห่งฝนจัดการจนถูกเนรเทศแล้ว อาณาจักรอวี้ซือยังถูกทำลายโดยอาณาจักรซูหลี่ด้วย เมื่อหมิงกวงด่าเรื่องที่แม่ทัพเผยพยายามช่วยปิดเรื่องที่เผยซู่ทำ แต่กับพี่น้องร่วมรบกลับสังหารทิ้ง เผยหมิงก็เอ่ยว่าเขาคิดว่าอีกฝ่ายไม่น่าใช่หมิงกวง แต่น่าจะเป็นหรงกวงที่เข้ามาสิงในกระบี่ต่างหาก เมื่อถูกจับได้ผีกระบี่ก็เงียบทันที เซี่ยเหลียนหันไปถามเผยน้อยว่าหรงกวงคือใคร เผยซู่เลยเล่าว่า ตอนที่เผยหมิงยังไม่ได้ขึ้นสวรรค์ อีกฝ่ายคือรองแม่ทัพที่ติดตามแม่ทัพเผยมานานที่สุด ทั้งสองรู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก สนิทกันอย่างมาก ขนาดชื่อกระบี่คู่ใจ หมิงกวง ก็เกิดจากการนำชื่อของเพื่อนรักคนนี้มารวมกับชื่อตัวเอง

แต่ไม่ว่าเผยหมิงจะสู้รบหรือบริหารเก่งเพียงใด สุดท้ายเส้นทางของเขาก็ไม่อาจเป็นเกินกว่าแม่ทัพ ในขณะที่คนความสามารถธรรมดากลับครองอาณาจักร แม้ตัวแม่ทัพเผยจะพอใจกับสถานะที่เป็นอยู่ สนใจเพียงพิชิตสงครามกับสาวๆ แต่หรงกวงกับเหล่าทหารกลับไม่คิดเช่นนั้น หรงกวงโน้มน้าวพวกทหารให้ร่วมกันก่อกบฏเพื่อดันเผยหมิงขึ้นครองราชย์แทน ถึงเผยหมิงจะไม่เห็นด้วย แต่สุดท้ายหากพวกตนล้มราชาได้ แม่ทัพเผยก็คงต้องยอมเลยตามเลยอยู่ดี เขาใช้ชื่อของเผยหมิงนำกองทัพบุกไปยังราชวัง เมื่อแม่ทัพเผยทราบเรื่องจึงไม่อาจยอมได้ เขานำกองทัพเล็กๆ ที่เชื่อใจบุกตามไปปลิดชีพเหล่าพี่น้องที่เคยเป็นตายมาด้วยกันซึ่งคิดก่อกบฏเหล่านั้นจนหมด แต่แม้จะชนะ เขากลับรู้สึกเหมือนพ่ายแพ้ เผยหมิงที่ยืนอยู่ท่ามกลางศพและเลือดของพี่น้องร่วมรบของตนถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ก่อกบฏ และถูกทหารล้อมไว้ เป็นตอนนั้นเองที่แม่ทัพเผยที่ไม่อยากสู้แล้วได้หักอาวุธของตน ก่อนได้ขึ้นสวรรค์ตามตำนานแม่ทัพผู้หักกระบี่

เผยหมิงอุ้มไหของหรงกวงไว้ พึมพำว่าเชาน่าจะรู้ว่าอีกฝ่ายคือใครตั้งแต่แรก แต่อีกฝ่ายกลับตอบกลับมาว่าหรงกวงตายไปแล้ว และตนเป็นแค่กระบี่เท่านั้น พอเซี่ยเหลียนเข้าไปปลอบไม่ให้คิดมาก แม่ทัพเผยก็ส่งไหไปให้เผยซู่ถือแทน บอกว่าเทพแห่งฝนไม่ใช่เทพแห่งการต่อสู้ ต้องรีบตามไปสมทบเพราะอาจเกิดอันตรายกับอีกฝ่าย เซี่ยเหลียนเลยหันไปอุ้มฮวาเฉิงแล้วทั้ง 5 ก็ออกเดินทางด้วยกัน

ผ่านไปหลายวันพวกเขาก็พ้นเขตป่า เผยหมิงเห็นว่าพวกตนเริ่มเข้าใกล้ใจกลางเขาจึงเสนอให้พักระหว่างรอให้ฮวาเฉิงตื่น อีกทั้งเซี่ยเหลียนกับเผยซู่ก็มีคำสาปพันธนาการจำเป็นต้องพักร่างกายบ้าง ระหว่างปั้นเยวี่ยก่อไฟ ส่วนเผยซู่ไปล่าสัตว์ เซี่ยเหลียนก็มองฮวาเฉิงอย่างเป็นห่วง พอหันไปก็เห็นเผยหมิงจ้องพวกตนอยู่ แม่ทัพเผยเลยหัวเราะบอกว่าเดี๋ยวตนจะไปที่อื่นให้ แต่เซี่ยเหลียนก็บอกว่าไม่เป็นไร พอดีกับที่ปั้นเยวี่ยถือหม้อกับไก่เข้ามาหาเซี่ยเหลียน บอกว่าเผยซู่จับไก่มาให้ แต่ด้วยความที่ไม่เคยมีใครสอนเธอเลยทำอาหารไม่เป็น พอผู้ชายหัวโบราณอย่างเผยหมิงต่อว่าที่ผู้หญิงทำอาหารไม่เป็น เซี่ยเหลียนเลยเข้าไปช่วย บอกว่าเขาจะสอนเธอทำอาหารเอง

Note 1 : เห็นประวัติของเทพหลายองค์แล้วมาเจอของแม่ทัพเผย เพื่อนโม่งรู้สึกยังไงกันบ้าง พอนึกย้อนไปฉากเปิดตัวที่ราวกับบอสประจำด่านในอาร์คแรก พอมาตอนนี้คิดยังไงกับแม่ทัพเผย

Note 2 : ขอย้ำอีกรอบว่ากูรักแม่ทัพเผย 55555 ทุกคนจงหยิบผ้าสามสีและน้ำแดงมาร่วมบูชาแม่ทัพเผยกับกูซะ
.
.
.
.
.

65 Nameless Fanboi Posted ID:zExxpbRojG

>>64 เดี๋ยวนะพี่เซี่ยจะสอนทำอาหาร (ไว้อาลัยพวกแม่งแปบ) คงมีแต่ฮวาเฉิงคนเดียวที่อิ่ม 55555555
ส่วนแม่ทัพเผย กูกรี๊ดแปบ ไม่ผิดหวังที่แกช่ำชอนเรื่องความรักจริงๆ ชงเก่ง อวยเก่ง กูขอคารวะสามจอก หยิบผ้าสามสีบูชาด้วยกันกับโม่งสปอยเลย

66 Nameless Fanboi Posted ID:gjp12DSSOq

>>64 แม่ทัพเผยโผล่มาตอนแรกออร่าอย่างกับบอส ตอนหลังตัวเรียกตีนชัดๆมีแต่คนแกล้ง5555

67 Nameless Fanboi Posted ID:ZtCIaUUe47

ถ้าจะสมัครแอพอ่านม่านฮวาเทียนกวานแบบจ่ายเงินต้องทำยังไงอ่ะ มันไม่มีให้ใส่เบอร์ภาษาไทยเลยเหรอตอนสมัคร

68 Nameless Fanboi Posted ID:iTY.nN26Dh

สปอยเทียนกวานอาร์ค 3 ต่อจาก >>64 เทียนกวาน Part.118
.
.
.
.
.
เผยหมิงเชือดไก่ด้วยมือเปล่า ส่วนเซี่ยเหลียนถอนขน พอถามหามีดสะอาดมาหั่นไก่ พวกเขาก็มองไปที่ไหของหรงกวง หรงกวงจึงโวยวายทันที เห็นหรงกวงด่าแม่ทัพเผย เซี่ยเหลียนก็แสดงความเข้าอกเข้าใจ บอกว่าเขาเองก็มีลูกพี่ลูกน้องที่ชอบด่าอย่างนั้น ทำให้ค่ามิตรภาพของทั้งสอง +++ จนเริ่มถามคำถามส่วนตัวขึ้นได้ เผยหมิงถามว่าทำไมหลังได้ขึ้นสวรรค์ครั้งที่ 3 เซี่ยเหลียนถึงไม่ขอให้จวินอู๋เอาคำสาปพันธนาการทั้ง 2 วงออกให้ หลังจากมองปั้นเยวี่ยเติมงูหางแมงป่องลงให้หม้อ เซี่ยเหลียนก็ถามแม่ทัพเผยบ้างว่าทำไมถึงไม่ตีบวกอาวุธใหม่หลังได้ขึ้นสวรรค์ ทั้งสองต่างไม่อยากตอบคำถามของอีกฝ่าย แต่ก็เข้าใจความอึดอัดใจของแต่ละคน แล้วตอนนั้นเองฮวาเฉิงก็ตื่นขึ้นพร้อมร่างกายที่โตขึ้นเป็นเด็กอายุราว 14-15 ปี

อ๋องผีบอกต้องรีบหนีไปที่อื่นเพราะเขาสัมผัสได้ว่ามีอะไรบางอย่างกำลังมาจากทิศตะวันออก เมื่อตัดสินใจจะไปทางตะวันตก เผยซู่ที่เพิ่งกลับมาจากทางนั้นก็บอกว่ามีผีจำนวนมากกำลังวิ่งมา แต่ฮวาเฉิงยืนยันให้ไปทางนั้นดีกว่า พวกเขาเจอกับกลุ่มผีที่เหมือนกำลังวิ่งหนีเอาชีวิตรอดจากอะไรบางอย่าง ไม่นานนักก็พบกับศพเกลื่อนกลาด พอเจอผีที่รอดชีวิตหลบซ่อนอยู่ ก็จับมาถามว่าเกิดอะไรขึ้น มันเล่าว่าข้างหน้ามีชายเสื้อสีดำที่ฆ่าพวกผีไปแล้วกว่าพันตนอยู่ พอเผยหมิงเสนอให้เปลี่ยนไปทางตะวันออกแทน ผีตนนั้นก็ร้องว่าทางนั้นมีชายชุดขาวที่ฆ่าพวกผีไปมากกว่า 2000 ตน พวกเซี่ยเหลียนเลยไปทางตะวันตกต่อ

ทั้ง 5 เดินทางทั้งคืน พอพบหมู่บ้านร้างก็ตัดสินใจพัก ปั้นเยวี่ยถือหม้ออาหารที่ทำก่อนหน้ามาให้เซี่ยเหลียนกับเผยซู่ แต่พอเปิดฝาออกมาทุกคนก็ติดสตั้น ขณะที่เซี่ยเหลียนเอ่ยชมราชครูสาว เผยหมิงก็สะพรึงบอกว่านี่มันเหนือกว่าที่เขาคาดการณ์ ส่วนฮวาเฉิงบอกว่าในเมื่อเซี่ยเหลียนเป็นคนทำหลักเขาก็จะกิน เห็นอ๋องผีกินอย่างไม่สะทกสะท้าน เผยหมิงเลยบอกให้เผยซู่กิน เผยน้อยจึงต้องรับหม้อมาจากปั้นเยวี่ย เซี่ยเหลียนพยายามไม่สนใจทั้ง 3 แล้วสอบถามเรื่องเมืองแห่งนี้กับฮวาเฉิง อ๋องผีเล่าว่าเมื่อนานมาแล้วเขาตงลู่เคยเป็นที่ตั้งของอาณาจักรโบราณ 7 อาณาจักร และที่ๆ พวกเขาอยู่ตอนนี้ก็คืออาณาจักรอู๋หย่งที่อยู่ใกล้ใจกลางเขาที่สุด และในตอนนั้นเองแม่ทัพเผยก็ร้องโวยวายขึ้นมา

เผยหมิง : เผยน้อย ทำอะไรของเจ้าน่ะ ลูกผู้ชายไม่คุกเข่าง่ายๆ นะ ลุกขึ้นเร็ว ฝ่าบาท ฝ่าบาท ท่านมียาแก้พิษหรืออะไรบางไหม ท่านจะปล่อยเขาไว้อย่างนี้ไม่ได้นะ แล้วเจ้าน่ะ เจ้าเอาอะไรให้เขากินหะ งูนี่มันอะไรกัน ทำไมมันยังขยับได้ทั้งๆ ที่ต้มตั้งนานแล้วล่ะ มันกลายเป็นผีงั้นเหรอ

ปั้นเยวี่ยเอ่ยขอโทษไม่หยุด ขณะที่เซี่ยเหลียนไม่สนใจเสียงของตัวละครประกอบฉากแล้วถามเรื่องอาณาจักรอู๋หย่งต่อ ฮวาเฉิงบอกว่าอาณาจักรนี้น่าจะมีอายุมากกว่า 2000 ปี และด้วยความที่เขาตงลู่ไม่ได้เปิดบ่อยๆ บ้านเรือนจึงยังดูดี แล้วเผยหมิงก็มาร่วมวงสนทนาถามว่าฮวาเฉิงไปได้ข้อมูลของอาณาจักรนี้มาจากไหน เพราะเขาไม่เคยได้ยินชื่ออู๋หย่งมาก่อน อ๋องผีบอกว่าตนรวบรวมข้อมูลได้เอง การที่ข้อมูลจะออกไปสู่โลกภายนอกได้จะต้องผ่านผีที่รอดจากเขา ซึ่งก็มีเพียงเจวี๋ยเช่นเขาที่เข้าข่าย และในเมื่อเขาไม่พูดก็ย่อมไม่มีใครรู้เรื่องนี้ แต่แล้วเซี่ยเหลียนกลับนึกออกว่าตนเคยได้ยินชื่ออาณาจักรอู๋หย่งมาก่อน ราชครูเป็นผู้เล่าเรื่องนี้ให้เขาฟัง

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วมีอาณาจักรโบราณแห่งหนึ่งซึ่งมีองค์ชายรัชทายาทผู้เฉลียวฉลาดและมากด้วยความสามารถ เขารักประชาชนและประชาชนก็รักเขา แม้ว่าเขาจะตายไปนานแล้วผู้คนจึงไม่เคยลืมเลือนอีกฝ่าย ราชครูบอกว่าอยากให้เซี่ยเหลียนเป็นเช่นองค์ชายรัชทายาทคนนั้น แต่เซี่ยเหลียนบอกว่าเขาอยากเป็นเทพ จึงไม่อยากเป็นเหมือนคนๆ นั้น หากคนๆ นั้นมีฝีมือจริงทำไมถึงไม่ได้เป็นเทพ หากผู้คนไม่ลืมเลือนองค์ชายรัชทายาทจริง ทำไมเขาถึงไม่เคยได้ยินชื่อของคนผู้นี้ คำตอบนั้นทำให้ราชครูมีสีหน้าหมองลง และคืนนั้นเซี่ยเหลียนก็ถูกอีกฝ่ายสั่งให้คัดพระธรรม 100 จบ พอเผยหมิงถามถึงราชครู เซี่ยเหลียนก็บอกว่าหลังเซียนเล่อล่มสลายเขาก็ไม่ได้ยินข่าวคราวของอีกฝ่ายอีกเลย

ตอนนั้นเองจู่ๆ เผยซู่ก็เข้ามาหาทั้ง 3 แม้ฤทธิ์ของพิษ (?) จะส่งผลให้เขาพูดตะกุกตะกักไม่เป็นประโยค แต่เขาก็ชี้ให้เห็นถึงรอยกีบเท้าวัวซึ่งเป็นสัตว์เทพของเทพแห่งฝน
.
.
.
.
.

69 Nameless Fanboi Posted ID:lB5KaTDKQm

>>68 เผยหมิงยังคงท๊อปฟอร์ม รักลุงแกจัง ดูมุ้งมิ้ง จะบอกว่าไม่แปลกเลยว่าทำไมลุงแกมีเมียเยอะ เพราะกุยังหลงแกเลย 555555555555

70 Nameless Fanboi Posted ID:sQrX8dmrGC

สปอยเทียนกวานอาร์ค 3 ต่อจาก >>68 เทียนกวาน Part.119
.
.
.
.
.
ปรกติคาถาคุ้มครองของเทพแห่งฝนทำให้วัวไม่ทิ้งรอยเท้า เป็นไปได้ว่านี่จะเป็นรหัสบอกว่าอีกฝ่ายได้ต่อสู้กับอะไรบางอย่างซึ่งอาจเป็นชายชุดดำที่ฆ่าผีไป 1000 ตนที่ว่าก็ได้ ขณะเดียวกันฮวาเฉิงก็สัมผัสได้ว่าสิ่งที่อยู่ทางตะวันออกได้เปลี่ยนทิศการเคลื่อนไหว พวกเขาจึงออกเดินทางไปตะวันตกต่อด้วยความระวัง จนกระทั่งมาถึงอารามศักดิ์สิทธิ์ของอู๋หย่ง แม้ป้ายอารามจะเขียนด้วยภาษาที่พวกเขาอ่านไม่ออก แต่ด้วยความที่ฮวาเฉิงเคยติดอยู่ในเขาตงลู่ถึง 10 ปีจึงพอแกะตัวอักษรได้บ้าง นอกจากชื่อสถานที่ยังมีประโยคที่พอจับใจความได้ว่าองค์ชายรัชทายาทขึ้นสวรรค์พร้อมแสงสว่างที่สาดส่องอู๋หย่ง แสดงว่าชาวอู๋หย่งบูชาองค์ชายรัชทายาทซึ่งได้เป็นเทพ เช่นนั้นทำไมราชครูถึงได้โกหกเซี่ยเหลียนว่ารัชาทายาทสิ้นพระชนม์ ไม่ได้ขึ้นสวรรค์กัน

เผยหมิงเปรยว่าถ้ามหาเทพอยู่ด้วยก็น่าจะพอถามได้ แต่ฮวาเฉิงก็บอกว่าจวินอู๋เพิ่งได้ขึ้นสวรรค์เมื่อราว 1500 ปีก่อน อีกทั้งเทพที่มีอายุมากกว่านั้นก็ล้วนถูกลืมเลือนหายไปแล้วจนสิ้นเลยไม่มีใครที่น่าจะให้ถามเรื่องของอาณาจักรอู๋หย่งได้ พอเข้าไปในอารามพวกเขาก็พบว่าทุกอย่างเป็นสีดำ ซึ่งอ๋องผีบอกว่าอารามทุกแห่งในอู่หย่งเป็นเช่นนี้ทั้งหมด เซี่ยเหลียนที่เคยเห็นอารามของตัวเองถูกเผามาหลายครั้งสังเกตออกทันทีว่าที่นี่คงถูกไฟไหม้ไม่ต่างกัน แล้วเขาก็นึกขึ้นได้ว่าหินจารึกด้านนอกก็มีร่องรอยเหมือนถูกกระบี่ฟัน หรือว่าอารามแห่งนี้จะถูกทำลายโดยชาวอู๋หย่งเอง

ขณะที่ซีเรียสกันจู่ๆ แม่ทัพเผยก็โวยวายเพราะถูกงูหางแมงป่องของปั้นเยวี่ยกัด พอเค้นความจริงถึงได้รู้ว่าอีกฝ่ายแต๊ะอั๋งราชครูสาวโดยอ้างว่าพออยู่ในที่มืดดูน่ากลัว เลยเผลอกอดปลอบสาวไม่ให้วิตกโดยสัญชาตญาณ ตอนที่เซี่ยเหลียนบอกว่าในเมื่อเป็นเทพเดี๋ยวพิษงูก็สลายเอง เขาก็หันไปเห็นภาพใบหน้าบนกำแพงที่ยังไม่เสียหายเพราะไฟไหม้เลยเข้าไปพยายามแกะส่วนที่ไหม้ออก เพราะพวกเขาอาจได้ข้อมูลว่าเขาตงลู่เกิดขึ้นได้อย่างไร ทำไมถึงสร้างเจวี๋ยขึ้นได้จากภาพพวกนี้ เมื่อฮวาเฉิงชมว่าถ้ามีเซี่ยเหลียนช่วยสืบต้องได้ความมากกว่าที่เขาเคยได้แน่ เซี่ยเหลียนก็ชมอีกฝ่ายกลับว่าสืบเก่งกว่า สักพักแม่ทัพเผยก็ทนไม่ไหวแล้วขอตัวออกไปสูดอากาศข้างนอก

ทั้งสองช่วยกันแกะสีที่ไหม้ออกจนได้เห็นภาพที่ยังคงเหลืออยู่ ทว่าพอพิจารณาสีดีๆ ก็รู้สึกได้ว่าภาพนี้น่าจะถูกวาดเมื่อไม่กี่ร้อยปีนี่เอง ด้านล่างของภาพคือชาวเมืองที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาชื่นชมบูชา ด้านบนมีแสงสีทองส่องจากท้องฟ้าและจากชายหนุ่มรูปงามในชุดสีขาวซึ่งน่าจะเป็นองค์ชายรัชทายาทแห่งอู๋หย่ง ตำแหน่งที่ต่ำกว่าเล็กน้อยมีชาย 4 คนซึ่งมีแสงจากร่างกายเช่นกัน พวกเขาน่าจะเป็นเจ้าหน้าที่สวรรค์ที่องค์ชายรัชทายาทพาขึ้นสวรรค์ไปด้วย เซี่ยเหลียนรู้สึกได้ว่าหากไปที่อารามอื่นจะต้องพบภาพพวกนี้อีกและได้ข้อมูลมากขึ้นเลยจะออกเดินทางกันต่อ แต่ก็สังเกตได้ว่าเผยหมิงยังไม่กลับมา พอออกมาข้างนอกก็ไม่พบอีกฝ่าย ร้องเรียกแล้วก็ไม่มีการตอบกลับ เห็นเซี่ยเหลียนกังวล ฮวาเฉิงเลยเอาผีเสื้อออกมาตัวหนึ่ง บอกว่าความจริงเมื่อวานตนส่งผีเสื้อให้ตามติดทุกคนไว้ และสามารถใช้มันบันทึกเสียงที่ปลายสายกลับมา หากแต่ไม่สามารถคุยกับอีกฝั่งได้

เสียงของเผยหมิงดังออกมาจากผีเสื้อ กล่าวว่าเขาไม่นึกว่าจะมาพบอีกฝ่ายที่นี่ พอได้ยินเสียงคนที่คุยกับแม่ทัพเผยอยู่เซี่ยเหลียนก็ต้องเบิกตากว้างเพราะคนๆ นั้นคือหลิงเหวินร่างชาย แล้วเขาก็เก็ตทันทีว่าชายชุดดำที่ฆ่าผีไป 1000 ตนก็คือเทพอักษรนั่นเอง หลิงเหวินบอกเพื่อนให้เงียบเพราะเสื้อคลุมอมตะอารมณ์เสีย ไป๋จิงไม่ชอบเผยหมิงมาก และเอ่ยว่าตอนนี้ตนไม่สามารถควบคุมร่างกายของตัวเองได้ พอได้ยินแม่ทัพเผยบอกว่าตนก็ไม่สามารถขยับตัวได้เหมือนกัน เซี่ยเหลียนเลยรู้ว่าทั้งคู่ถูกใครบางคนจับตัวไว้อยู่
.
.
.
.
.

71 Nameless Fanboi Posted ID:ef6EwDLjwH

>>70 เชี่ย ทำไมเรื่องรัชทายาทอู่หย๋งมันคุ้นๆแบบนี้...รู้สึกเหมือนกำลังจะเกิดอะไรขึ้น (ว่าแต่มันใช่ถ้ำรูปปั้นที่ฮวาเฉิงปั้นให้เซี่ยเหลี่ยนไหมวะ..)

ปล.บูชาแม่ทัพเผยนี่ใช้ธูปกี่ดอก ดอกไม้กี่ดอก ผลไม้อะไรบ้าง กุอยากบูชา555555 กูจะเป็นผู้ศรัทธาที่ดี

72 Nameless Fanboi Posted ID:sQrX8dmrGC

>>71 ถ้ำรูปปั้นยังไม่ถึงอะ แต่อยู่ในเขาตงลู่นี่แหละ

แค่ใช้ความรักในการไหว้ แม่ทัพเผยก็น่าจะโอเคแล้วนะ 55555

73 Nameless Fanboi Posted ID:NHuy88JO74

>>70 กราบ ช่วงนี้ขยันสปอย ชอบมาก

74 Nameless Fanboi Posted ID:fCmH5kCYpG

>>70 ชอบหลิงเหวินเวอร์ชั่นผช ว่ะ

75 Nameless Fanboi Posted ID:6ng0Inyun3

สปอยเทียนกวานอาร์ค 3 ต่อจาก >>70 เทียนกวาน Part.120
.
.
.
.
.
เผยหมิงต่อว่าหลิงเหวินที่ทำเรื่องวุ่น ถามมาที่นี่เพราะถูกเสื้อคลุมอมตะควบคุมหรือ แต่เทพสาว (ในร่างชาย) ก็บอกว่าตนต้องการมาที่เขาตงลู่เอง พอแม่ทัพเผยเล่าว่าเป็นเพราะตนบาดเจ็บเลยถูกใครไม่รู้จับมาที่นี่ หลิงเหวินเลยบอกว่าตเธอบังเอิญพบกับเทพแห่งฝนและต่อสู้กัน หลังจากนั้นจึงมึนๆ แล้วถูกใครก็ไม่รู้ลอบทำร้ายจับตัวมา เมื่อเซี่ยเหลียนฟังดีๆ ก็ได้ยินเสียงน้ำไหล อาจเป็นไปได้ว่าทั้งสองจะถูกจับตัวอยู่ทางน้ำใต้ดิน ตอนนั้นเองก็มีเสียงของใครอีกคนดังขึ้น เรียกทั้งสองด้วยชื่อจริง ด่าว่าอย่ามาจีบกันต่อหน้าตน น้ำเสียงนั้นทำให้หลิงเหวินนึกออกว่าร่างตรงหน้าน่าจะเป็นจิงเหวินเจินจวิน อดีตเทพฝ่ายบุ๋นลำดับ 1 ผู้พาเธอขึ้นสวรรค์ในตอนแรก จิงเหวินบอกว่าเขาก็มีคดีกับแม่ทัพเผยเช่นกัน และกล่าวหาว่าหลิงเหวินยืมมือคนรักอย่างเผยหมิงให้ส่งคนมาช่วยเผาอารามของเขาจนหมดด้วย

จิงเหวินเอ่ยว่าทั้งๆ ที่เขามีเมตตาพาขึ้นสวรรค์ แต่เทพสาวกลับตอบแทนเขาเช่นนี้ หลิงเหวินเลยเถียงว่าที่เขาพาเธอขึ้นสวรรค์ไม่ใช่เพราะเห็นแก่ความสามารถ ฮวาเฉิงเลยเล่าว่าทั้งจิงเหวินและหลิงเหวินมาจากอาณาจักรซูหลี่ ในปีหนึ่งอาณาจักรซูหลี่ได้จัดงานประกวดเขียนเรียงความเกี่ยวกับบ้านเมือง จิงเหวินอยากจะเซอร์ไพรส์เหล่าผู้ศรัทธาด้วยการร่วมประกวด แล้วพอชนะก็จะเฉลยความจริงเรียกคะแนนความศรัทธามากขึ้น แต่งานของเขากลับแพ้เรียงความของผู้เขียนไม่ออกนาม ไม่ใช่เพราะเขาเขียนได้ไม่ดี แต่เป็นเพราะในขณะที่เขาเขียนยกย่องความดีงามของซูหลี่ ผลงานชิ้นนั้นกลับเขียนวิจารณ์ความล้มเหลวในการทำงานของรัฐ ด้วยความที่ในเวลานั้นซูหลี่มีปัญหาการปกครองอยู่จริงๆ ทำให้โดนใจชาวเมืองจนชนะโหวต ต่อมาเมื่อทางการจับเจ้าของผลงานที่บังอาจวิจารณ์การทำงานของรัฐ ความจริงก็ทำให้จิงเหวินยิ่งช็อค

หลิงเหวินหรือนานกงจี่เป็นเพียงสาวช่างทำรองเท้า แต่เธอกลับมีความสามารถในงานบุ๋นเป็นอย่างมาก ปรกติจึงมักรับงานฟรีแลนซ์เป็นรายได้เสริม พอหนึ่งในลูกค้าเห็นเรียงความก็จำได้ว่าเป็นสไตล์งานของเธอจึงแจ้งทางการจับเธอเข้าคุก เมื่อจิงเหวินใช้พลังพานานกงจี่ออกจากคุกขึ้นสวรรค์มาเป็นเทพชั้นกลาง ให้ทำงานเป็นลูกน้องของตนก็สร้างความฮือฮาเป็นอย่างมาก เพราะในเวลานั้นเจ้าหน้าที่สวรรค์ที่เป็นสตรีมีน้อยมาก อีกทั้งยังเป็นเพียงดอกไม้ประดับให้เทพชายเสียมากกว่า ทุกคนจึงชื่นชมเขาที่กล้าแหกกฎ ให้โอกาสทุกคนที่มีความสามารถ

หลิงเหวินด่าจิงเหวินว่าหากเขาชื่นชมความสามารถของเธอจริง คงไม่ใช้งานเป็นสารพัดเบ๊ ให้ทำแต่งานใช้แรงแม้แต่ในวันหยุดจนไม่มีเวลาได้อ่านหรือเขียนอะไรเลย แท้จริงแล้วเขาพาเธอขึ้นสวรรค์เพื่อบูลลี่มากกว่า จิงเหวินโต้กลับว่าที่เขาให้เธอทำงานเช่นนั้นก็เพื่อฝึกฝน เป็นเธอที่หลงตัวเอง คิดว่าที่ไม่มีตำแหน่งเพราะเขาไม่สนับสนุน แต่ไม่ว่าอย่างไรเธอก็เป็นเพียงผู้หญิง ไม่มีวันได้ตำแหน่งสูงอยู่ดี หลิงเหวินเลยจี้ใจว่าในช่วงรุ่งโรจน์ที่สุดของจิงเหวินก็ยังมีผู้ศรัทธาไม่เท่าเธอในตอนนี้

ด้วยความกลัวว่าจิงเหวินจะลงมือทำอะไร เซี่ยเหลียนเลยไล่ชกพื้นหาตำแหน่งของทั้งสาม พอจิงเหวินเริ่มใช้คำหยาบคาย เผยหมิงก็ด่าอีกฝ่าย จิงเหวินเลยกล่าวหาว่าแม่ทัพเผยปกป้องคนรัก หลิงเหวินก็ตอกว่าอีกฝ่ายก็ใส่ความเธอว่าใช้เต้าไต่ นอนกับคนนู้นคนนี้ไปทั่วมาตลอด เมื่อเผยหมิงเอ่ยว่าเสียงอะไรดังอยู่เหนือศีรษะ เซี่ยเหลียนก็ทั้งต่อย ทั้งเอาฟางซิ่นมาช่วยเจาะพื้นลงไปจนลงมาถึงทางน้ำที่ทั้งสามอยู่ เขาเห็นหลิงเหวินกับเผยหมิงซึ่งถูกม้วนคัมภีร์มัดเอาไว้ แต่ร่างของจิงเหวินกลับเป็นเพียงรูปปั้นหิน

เซี่ยเหลียนถามว่าอีกฝ่ายมาอยู่ในสภาพนี้ได้อย่างไร จิงเหวินจึงระบิดด่าว่าเป็นเพราะหลังจากผู้ศรัทธาหายจนพลังของเขาถดถอย หลิงเหวินก็ไล่ฆ่าจนเขาต้องเอาชีวิตรอดด้วยการมาสิงรูปปั้น หลิงเหวินจึงบอกว่าสาสมแล้ว เพราะเมื่อก่อนเขาก็ชอบใช้ให้เธอทำงานถึงเที่ยงคืน แล้วกุข่าวว่าเธออยู่ดึกเพื่อยั่วยวนเขา เธอเตะอีกฝ่ายทำให้ผ้าที่ปกปิดท่อนร่างของจิงเหวินหลุด เลยได้รู้ว่ารูปปั้นที่เขาสิงอยู่เป็นขันที หลิงเหวินหัวเราะลั่น จิงเหวินโกรธมาก เขาจิกหัวของหลิงเหวินขึ้นมา ขณะที่แม่ทัพเผยด่าอีกฝ่าย เซี่ยเหลียนก็พยายามประนีประนอมว่าถึงมีหรรมหรือไม่มีก็ไม่แตกต่าง แต่จิงเหวินกลับบอกให้เซี่ยเหลียนตัดของตัวเองพิสูจน์ ไม่อย่างนั้นเขาจะตัดหรรมของแม่ทัพเผยแทน ทำเอาเผยหมิงกรีดร้องว่านี่มันเรื่องเหี้ยอะไรกัน เพื่อสวัสดิภาพของเผยน้อยที่ไม่ใช่เผยซู่ เซี่ยเหลียนเลยพยายามเจรจาบอกว่าในเมื่อทั้งหลิงเหวินกับจิงเหวินต่างเคยทำไม่ดีต่อกัน จึงขอให้แล้วกันไป แต่จู่ๆ จิงเหวินก็นึกอะไรออก แล้วหันไปถามเทพสาวว่าเธอมีส่วนทำให้อาณาจักรซูหลี่ต้องล่มสลายใช่หรือไม่

Note : #SAVEเผยน้อย
.
.
.
.
.

76 Nameless Fanboi Posted ID:/MawZwGxJP

ขอkyโม่งสปอยล์นิดนึง ตอนพิเศษของตัวร้ายที่แต่งงานกันนี่กาวหรือของของจริงอ่ะ หาอ่านเป็นอังกิดไม่เจอเลย

77 Nameless Fanboi Posted ID:NAB0WODbPd

>>76 กุเคยเจออันนี้อ่ะ ไม่แน่ใจใช่ที่มึงตามหาป่าว

https://pizziccato.tumblr.com/post/180944707156/a-tale-of-the-marriage

>>75 ขอบคุณโม่งสปอยมากฮืออออ อ่านช่วงแรกดูเครียดๆ เจอตรงเผยน้อยไปกุขำกร๊ากเลย5555555

78 Nameless Fanboi Posted ID:/MawZwGxJP

>>75 กุโคตรรักเจ๊หลิงเหวิน แท่ทัพเผยคงงง เกี่ยวอะไรกับกู๊ 555555555

79 Nameless Fanboi Posted ID:/MawZwGxJP

>>77 ขอบคุณมากเพื่อนโม่ง

80 Nameless Fanboi Posted ID:l9lxeXMtCU

>>75 แม่ทัพเผยบอก พวกมึงมีเรื่องกัน อย่าดึงกูเข้าไปซวยดิว้าาาาา โถถถถถถ

81 Nameless Fanboi Posted ID:.vmV+9tpj7

>>75 เด้วๆๆ มึงอย่าทำเผยน้อยสิวะ55555

82 Nameless Fanboi Posted ID:iTbltXf6kt

>>75 ท่านแม่ทัพ ท่านมาเพื่อเป็นที่รองมือรองเท้าทุกคนจริงๆ เอ็นดูววว รักษาเผยน้อยไว้ให้ดีนะท่าน 5555555555

83 Nameless Fanboi Posted ID:mONdzEfusG

>>75 แต๊งกิ้วมากนะเพื่อนโม่ง มาสปอยให้รัวๆเลย

84 Nameless Fanboi Posted ID:EexKG2x1zq

สปอยเทียนกวานอาร์ค 3 ต่อจาก >>75 เทียนกวาน Part.121
.
.
.
.
.
เนื่องจากจิงเหวินมาจากอาณาจักรซูหลี่ ผู้ศรัทธาส่วนมากย่อมเป็นคนบ้านเดียวกัน หากอาณาจักรซูหลี่ล่มสลาย แหล่งพลังของจิงเหวินย่อมต้องหายไปด้วย พอหลิงเหวินปิดปากไม่ปฏิเสธสิ่งที่อดีตเจ้านายกล่าวหา จิงเหวินก็ได้ทีด่าว่าเขาสงสัยมานานแล้วว่าอาณาจักรซูหลี่ล่มสลายเร็วกว่าที่ควร นั่นเป็นเพราะหลิงเหวินวางแผนสังหารแม่ทัพปัญญาอ่อนผู้นั้นเพื่อให้บ้านเมืองอ่อนแอจนเขาสิ้นพลัง เมื่อถูกกล่าวถึงว่าปัญญาอ่อน ไป๋จิง วิญญาณในเสื้อคลุมอมตะก็โมโหจนเกิดแรงฮึดกระชากคัมภีร์ที่พันธนาการอยู่จนขาด เขาใช้ร่างของหลิงเหวินซัดรูปปั้นของจิงเหวินจนแตกเป็นชิ้นๆ แล้วเข้าไปหาเผยหมิงต่อ เป็นเพราะจิงเหวินกล่าวว่าอีกฝ่ายเป็นแฟนของหญิงที่เขารัก ไป๋จิงจึงเกิดความหึงหวง แม้หลิงเหวินกับแม่ทัพเผยจะยืนยันว่าพวกตนไม่เคยพิศวาสกันก็ไม่ยอมเชื่อ เซี่ยเหลียนรีบใช้กระบี่ตัดคัมภีร์ที่มัดเผยหมิง แล้วรีบหนีขึ้นพื้นดินด้านบน แต่ไป๋จิงก็ยังตามมา ด้วยความที่อีกฝ่ายฆ่าผีไปกว่า 1000 ตนทำให้มีพลังเพิ่มขึ้นมาก เซี่ยเหลียนบอกให้หลิงเหวินเปลี่ยนกลับเป็นผู้หญิงเพื่อลดอายอาฆาต แต่เทพสาวบอกว่าไป๋จิงไม่ยอมให้เธอเปลี่ยนร่าง เซี่ยเหลียนกับเผยหมิงเลยต้องพากันโกยจนลืมสังเกตรอบข้าง เลยไปติดกับดักตาข่ายของพวกผีกี๊ๆ เข้า อีกทั้งฟางซิ่นยังหลุดมือหล่นไปพอดีอีก

ขณะที่ไป๋จิงจะซัดพลังใส่ พวกผีกี๊ๆ ก็ถูกลมอะไรบางอย่างซัดขึ้นไปในอากาศ พวกมันร้องลั่นก่อนที่จู่ๆ เสียงจะเงียบหายไป เซี่ยเหลียนได้กลิ่นดอกไม้ ทว่าแม่ทัพเผยกลับได้กลิ่นเลือด เพียงครู่เดียวฝนก็ตกลงมาเป็นโลหิต เผยหมิงที่ถูกแขวนเหนือเซี่ยเหลียนเลยอาบเลือดไปเต็มๆ ส่วนไป๋จิงที่ไหวตัวทันก็รีบหลบฝนเลือดนั้น ตาข่ายที่จับเซี่ยเหลียนไว้ขาด พอลงมาถึงพื้นแล้วคิดว่าจะต้องโดนฝนนั้นแน่ๆ ฝนกลับเปลี่ยนกลายเป็นเป็นกลีบดอกไม้สีแดงพร้อมกับที่มีเสียงหัวเราะเบาๆ ดังขึ้น ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเป็นใคร พอหันไปเขาก็พบฮวาเฉิงที่ร่างกายกลับมาเป็นไซส์ปรกติแล้ว

เซี่ยเหลียนเอ่ยชมที่อีกฝ่ายเปลี่ยนฝนเลือดเป็นดอกไม้ได้ ซึ่งอ๋องผีก็บอกว่าเขาไม่อยากให้เซี่ยเหลียนเลอะจึงลองเปลี่ยนพวกมันเป็นดอกไม้ดู จนเผยหมิงต้องเตือนให้ทั้งสองช่วยตัดตาข่ายช่วยตน ดูเหมือนว่าเสื้อคลุมอมตะจะไม่อยากสู้กับฮวาเฉิง แล้วอ๋องผียังใช้ผีเสื้อไปเกาะหลิงเหวิน ทำให้เธอขยับตัวไม่ได้และสลบไป แต่พอเผยหมิงจะไปถอดเสื้อคลุมอมตะออกจากร่างของหลิงเหวิน ไป๋จิงก็กัดมือของเขา ไม่ยอมปล่อยตัวเทพสาวไป สุดท้ายแม่ทัพเผยเลยต้องแบกเพื่อนทั้งอย่างนั้นตามเซี่ยเหลียนกับฮวาเฉิงกลับไปยังอารามศักดิ์สิทธิ์ของอู่หย่งซึ่งปั้นเยวี่ยกับเผยซู่รออยู่ เผยซู่รีบบอกพวกเซี่ยเหลียนว่าจู่ๆ ภาพวาดในอารามก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย พอเซี่ยเหลียนตามไปดูก็พบว่าเป็นความจริง แสดงว่ามันต้องถูกสร้างขึ้นด้วยคาถา

ถึงจะยังพูดได้ตะกุกตะกัก แต่ร่างกายของเผยน้อยก็กลับมาเป็นปรกติแล้วเขาจึงรับหน้าที่แบกหลิงเหวินแทน พอเธอได้สติ เซี่ยเหลียนก็ถามถึงเฉวียนอี้เจินที่ตามเธอมาจากอารามผูจี้ว่าเป็นอย่างไร แต่เทพสาวก็บอกว่าหลังเข้ามาในเขาตงลู่ ด้วยความที่มีผีจำนวนมาก เฉวียนอี้เจินจึงพลัดไป ตอนนี้ไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไรเช่นกัน แล้วเซี่ยเหลียนก็หันไปถามฮวาเฉิงว่าเตาของเขาตงลู่ที่แท้แล้วมีหน้าตาเป็นเช่นไร อ๋องผีจึงชี้ไปไปภูขาไฟสูงตะง่านซึ่งเห็นอยู่ลิบๆ เบื้องหน้า บอกว่าด้วยเหตุนี้ทุกครั้งที่มีเจวี๋ยกำเนิดใหม่จึงมาพร้อมภูเขาไฟระเบิดและภัยพิบัติ ตอนนั้นเองพวกเขาก็มาถึงอารามศักดิ์สิทธิ์ของอู๋หย่งอีกแห่งหนึ่งซึ่งมีขนาดใหญ่มาก แต่กลับตั้งอยู่กลางถนนของเมืองเล็กๆ ถนนแคบๆ ปิดทางขึ้นเขา ผิดหลักฮวงจุ้ยสุดๆ แต่ถึงจะรู้สึกว่าผิดปรกติ เซี่ยเหลียนก็ยังตัดสินใจเข้าไปดูข้างในว่ามีภาพวาดอยู่หรือไม่ หลังกะเทาะส่วนที่ไหม้ไฟบนกำแพงออกก็พบภาพวาดอยู่จริงๆ คราวนี้เป็นภาพองค์ชายรัชทายาทแห่งอู๋หย่งซึ่งกำลังนอนอยู่บนฟูก คิ้วขมวดแน่น เหงื่อออกเต็มใบหน้า ผู้ติดตามทั้ง 4 รอบๆ ตัวเขาก็มีสีหน้าเคร่งเครียด ส่วนเบื้องล่างของภาพซึ่งเป็นภพมนุษย์กลับเต็มไปด้วยไฟและลาวา บ้านเมืองถูกเผา ผู้คนกรีดร้องดูไม่ต่างจากขุมนรก

Note : หลิงเหวิน กับ ไป๋จิง เข้าร่วมปาร์ตี้ มีสมาชิก 6 คน + 1 เสื้อคลุมแล้ว
Note 2 : ก่อนอ่านสปอยตอนนี้ ทุกคนลืมไปแล้วหรือยังว่าเฉวียนอี้เจินวิ่งตามหลิงเหวินมา 5555
.
.
.
.
.

85 Nameless Fanboi Posted ID:x11ggZPTJG

>>84 สารภาพว่าลืมไปแล้ว กุอ่านสปอยล์นำหน้าไปก่อนยังสงสัยว่าอี้เจินมาจากไหนวะ ลืมด้วยว่าผ้าคลุมชื่อไป๋จิง ขอบคุณเพื่อนโม่งที่เตือน 55555

ถามอีกสองคำถามนะ คนที่เซี่ยเหลียนสมัยเป็นราชครูชื่ออะไรนะ อันนี้กุก็ลืม

กับอีกคำถาม ขอทวนอีกทีว่าฮวาเฉิงเป็นเจวี๋ยตัวเดียวที่เกิดมาจากตงลู่ป่ะวะ เศวตไร้หน้ากุยังไม่รู้ (พลีสอย่าสปอยล์) ส่วนเฮ่อเสวียนก็แดกแหลกเลยอัพเวลเป็นเจวี๋ย? ที่เรียก3เจวี๋ย+ฉีหรงว่า4ภัยพิบัติไม่เกี่ยวกับภัยพิบัติเขาตงลู่นี่ชะ

จริงๆอ่านบทตงลู่แล้วนึกถึงตอนฮวาเฉิงออกมาตากตงลู่กลายเป็นเจวี๋ยแม่งต้องเปิดตัวอลังการแน่ๆเลยอ่ะ ภาพในหัวกุโคตรเท่เลย ดงฮวากับม่านฮวาจะมีให้ดูมั้ย ฮึ่ย

86 Nameless Fanboi Posted ID:XGQTydFP2x

>>84 สารภาพว่ากูจำตัวละครไม่ได้หลายคนละ ชื่อแต่ละคนก็ชวนจำยากเหลือเกิน (หรือกูความจำไม่ดีเอง 555) แต่ก็ขอบคุณมากที่มาสปอยล์อยู่ตลอด นี่ไม่รู้ว่าจะได้อ่านฉบับเล่มภายในปีนี้มั้ย รอกันต่อไป

87 Nameless Fanboi Posted ID:EexKG2x1zq

>>85 คนที่เซี่ยเหลียนสมัยเป็นราชครู หมายถึง หลางเชียนชิว เหรอ หรือหมายถึงราชครูของเซี่ยเหลียน เหม่ยเนียนชิง อะ ส่วนเจวี๋ย เจวี๋ยทุกตนออกมาจากเขาตงลู่ เฮ่อเสวียนก็เข้ามาแดรกในเขานี่แหละ ติดอยู่ในเขา 20 ปีถึงอัพคลาสสำเร็จ ฉีหรงนี่สวรรค์แค่หากลุ่มให้อยู่จะได้เรียกชื่อเป็นก้อนๆ ได้อะ 5555

>>86 กูก็อยากได้ฉบับรวมเล่มเร็วๆ เหมือนกัน

88 Nameless Fanboi Posted ID:I469+oefBW

แม่ง เจ๊หลิงเหวินคนแมนกูก็ยังเป็นตาฮัก น้อนชิงเวียนกูก็น่าสงสาร กูตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ย้ายเมนแล้ว แต่กูจะจุดธูปบูชาลุงเผยเพิ่ม ชิปเปอร์godมันหน้าตาหยั่งงี้นี่เอง

ขอบคุณโม่งสปอยจ้า จ๊วฟๆ

89 Nameless Fanboi Posted ID:vmaohHvVME

สปอยเทียนกวานอาร์ค 3 ต่อจาก >>84 เทียนกวาน Part.122
.
.
.
.
.
จากการช่วยกันตีความ ภาพนี้คงเล่าเรื่องราวว่าเมื่อได้ขึ้นสวรรค์ องค์ชายรัชทายาทแห่งอาณาจักรอู๋หย่งก็มีนิมิตว่าบ้านเกิดของตนจะได้รับภัยจากภูเขาไฟระเบิด แต่ใครกันที่อยากให้พวกเขารู้เรื่องราวพวกนี้ ตอนนั้นเองหลิงเหวินก็สังเกตว่าภูเขาที่อยู่ใกล้ๆ เหมือนเข้ามาชิดอารามกว่าตอนที่พวกตนเข้ามา พอได้ยินเสียงกำแพงแตกก็รู้ว่ามันคือภูเขาเคลื่อนที่ได้ซึ่งกำลังเบียดหมายบี้ผู้ที่อยู่ด้านในเป็นแซนวิช ทุกคนเลยต้องสปีดรันหนีไปตามทางเดินยาวของอาราม ด้วยห้องหับมากมาย ทำให้พวกเขาต้องคอยถีบประตูเปิดจนเขา 2 ลูกยิ่งเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ ฮวาเฉิงเรียกเซี่ยเหลียนเข้ามาหลบซากหลังคาที่หล่นลงมาใต้ร่มกับตน แต่พอคนอื่นขอหลบด้วยก็ได้รับการปฏิเสธ อ๋องผีเล่าว่าภายในเขาตงลู่มีภูเขาผีอยู่ด้วยกัน 3 ลูก ชื่อว่า แก่ เจ็บ และตาย ภูเขาที่ปิดทางเข้าเขาตงลู่ในตอนแรกก็คือ 1 ในพวกมัน และที่อารามแห่งนี้ดูตั้งอยู่ในที่แปลกๆ ก็เป็นเพราะพวกมันเคลื่อนตัวมาขนาบนั่นเอง พอเซี่ยเหลียนถามว่าไม่มี เกิด อยู่ในกลุ่มด้วยหรือ ฮวาเฉิงก็บอกว่าไม่มี หรืออย่างน้อยเขาก็ไม่เคยเห็นมันมาก่อน

ภูเขาทั้ง 2 บีบเข้ามาเรื่อยๆ จนเหลือทางแคบแค่ความสูงของคนๆ เดียว ตอนนั้นจู่ๆ เผยหมิงก็แหกปากร้องลั่นแล้วเอามือเท้ายัน ใช้ตัวเองขัดกลางระหว่างเขาทั้งสองลูก ก่อนตะโกนบอกให้ทุกคนรีบคิดวิธีหนีระหว่างที่เขาถ่วงเวลาไว้ให้ การกระทำโคตรพระเอกทำให้ทุกคนตะลึง หลิงเหวินถึงกับยกนิ้วชมว่าแม่ทัพเผยช่างแมนอะไรเช่นนี้ แม้จะไร้พลังทิพย์แล้ว แต่เผยซู่ก็ส่งหลิงเหวินให้ปั้นเยวี่ยอุ้มต่อแล้วเข้าไปช่วยเผยหมิงยันภูเขา พอเห็นแบบนั้นราชครูสาวเลยทิ้งหลิงเหวินไว้บนพื้นแล้วเข้าไปช่วยอัดพลังใส่ร่างของเผยซู่ ไม่นานนักเซี่ยเหลียนก็ปิ๊งไอเดียขุดดินหนีลงไป เขากระหน่ำฟางซิ่นใส่พื้นไม่ยั้ง แล้วฮวาเฉิงที่มีท่าทีชิลๆ หมุนร่มเล่นอยู่ก็หันมาบอกให้เซี่ยเหลียนนั่งพักเฉยๆ รออีกหน่อยก็รอดกันแล้ว

เพียงครู่หนึ่งพลั่วของเทพแห่งดินก็โผล่พ้นพื้นขึ้นมาพร้อมกับอุโมงค์ใหญ่พอให้คนลงไป ด้วยเหตุนี้ทุกคนจึงรอดมาได้อย่างหวุดหวิด พอเซี่ยเหลียนเห็นชายชุดดำยืนถือพลั่วอยู่ก็คิดว่าว่าอีกฝ่ายคือธาราทมิฬล่มเรือ เขารีบเข้าไปถามหาซือชิงเสวียนจากอีกฝ่ายทันที พอหลิงเหวินถามว่าทำไมเขาถึงคิดว่าชายชุดดำคือเฮ่อเสวียน เซี่ยเหลียนก็อธิบายว่าเป็นเพราะคนๆ นี้มีพลั่วของเทพแห่งดิน อีกทั้งยังมีหน้าตาโคตรสามัญแบบที่ชาวประชานิยมใช้ปลอมตัว คำตอบนั้นทำเอาทุกคนแดกจุด ก่อนที่ชายคนนั้นจะเอ่ยขอโทษ บอกว่านี่เป็นใบหน้าของตนจริงๆ พอฮวาเฉิงช่วยยืนยันว่าอีกฝ่ายไม่ใช่เฮ่อเสวียน และนั่นคือใบหน้าจริง เซี่ยเหลียนก็หน้าแตกหมอไม่รับเย็บรีบกล่าวขอโทษชายชุดดำทันที จากนั้นหลิงเหวินก็เอ่ยทักทายชายชุดดำพร้อมเรียกเขาว่าอวิ๋นอวี้

พอได้ยินชื่อนั้น เซี่ยเหลียนเลยนึกได้ว่าเสียงอีกฝ่ายฟังดูคุ้นๆ พอมองที่ข้อมือก็เห็นคำสาปพันธนาการบนนั้น ที่แท้คนตรงหน้าก็คือผู้ตรวจการเมืองผีคนนั้นนั่นเอง อวิ๋นอวี้เอ่ยทักทายทุกคนอย่างมีมรรยาท กแต่แล้วหรงกวงในไหก็ปากเสีย ถามว่าเขาคืออวิ๋นอวี้ อดีตเทพสงครามแห่งทิศตะวันตกที่พ่ายแพ้ให้ศิษย์น้องของตัวเอง แล้วถูกเนรเทศหรือเปล่า ไม่คิดเลยว่าจะตกต่ำมาเป็นเสมียนผีอย่างนี้ ถึงเผยซู่จะรีบปิดผนึกไหแน่นหนาขึ้นเพื่อไม่ให้ผีกระบี่พูดจาเสียมรรยาทอีก แต่บรรยากาศก็เสียไปแล้ว สักพักอวิ๋นอวี้จึงเอาพลั่วไปขุดทางต่อโดยไม่พูดอะไร

ระหว่างทางเผยหมิงก็ถามฮวาเฉิงว่าในเมื่ออีกฝ่ายมีพลั่วของเทพแห่งดิน ก็แสดงว่ายังติดต่อกับธาราทมิฬล่มเรืออยู่ใช่ไหม หากอีกฝ่ายยังไม่ฆ่าซือชิงเสวียนก็ช่วยบอกให้ปล่อยตัวมาหน่อย แต่อ๋องผีก็บอกว่าตนไม่รู้เรื่อง พอไม่ต้องปลอมเป็นหมิงอี้อีก เฮ่อเสวียนก็เอาพลั่วมาโยนทิ้งไว้ที่เมืองผี เขาจึงมีมันอยู่ในมือ ตอนจะเข้ามาในเขาตงลู่ก็คิดได้ว่ามันน่าจะมีประโยชน์เวลาต้องเจอภูเขาผีพวกนั้นเลยให้คนช่วยเอามันมาให้ พอเซี่ยเหลียนถามว่าภูเขาผีพวกนั้นคืออะไรกันแน่ ทำไมถึงต้องโจมตีพวกตน อ๋องผีก็บอกว่าตนไม่รู้ แต่พวกมันอยู่ที่นี่มานานมากแล้ว ปรกติพวกมันจะคอยขวางทางพยายามไม่ให้ใครเข้ามาในเขาตงลู่ได้ หากไม่สำเร็จก็จะเริ่มโจมตีใส่ คำตอบนั้นทำให้เซี่ยเหลียนอดแปลกใจไม่ได้ เพราะดูเหมือนพวกมันจะมีจุดประสงค์ไม่ต่างจากพวกเขาเลย

Note : อวิ๋นอวี้ เข้าร่วมปาร์ตี้ เผื่อจำกันไม่ได้ อวิ๋นอวี้คือศิษย์พี่ของเฉวียนอี้เจินที่พาศิษย์น้องขึ้นสวรรค์มาด้วยในตอนแรก คอยปกป้องช่วยเหลือมาตลอด แต่ต่อมาเฉวียนอี้เจินดันเริ่มเก่งกว่าจนผู้คนไม่ศรัทธาอวิ๋นอวี้อีก แล้วอวิ๋นอวี้ก็เอาเสื้อคลุมอมตะให้ศิษย์น้องจนถูกเนรเทศมา

Note 2 : ตอนเผยหมิงเอาตัวยันภูเขา ตอนกูอ่านครั้งแรกกรีดร้องมาก คนอะไรวะโคตรหล่อ หล่อเว้ยยย หล่อฉิบหาย หล่ออะไรอย่างนี้ กูนี่ยกนิ้วให้แบบหลิงเหวินเลย
.
.
.
.
.

90 Nameless Fanboi Posted ID:k2m3tXeSP7

>>89 ขอบคุณมึงโม่งสปอยล์ กุมานั่งรีเฟรชโม่งทุกวันรอมึงเลย 5555

ขอถามหน่อยว่าเค้าได้บอกมั้ยอ่ะว่าอวิ๋นอวี้เอาเสื้อคลุุมมาจากไหน

91 Nameless Fanboi Posted ID:vmaohHvVME

>>90 ไปจับมาได้น่ะ

92 Nameless Fanboi Posted ID:e4IhXusoTU

>>89 โอ๊ย แม่ทัพเผยโคตรหล่ออ่ะ กรี๊ดกร๊าดดดด แต่ถ้าหน้าตาและนิสัยเดียวกัน กูเลือกเผยน้อยนะ แม่ทัพเผยเจ้าชู้ไป ศรีรับไม่ด๊ายยยยย ช่วงนี้โม่งปสอลย์มาทุกวัน ขอบคุณมาก ทำให้เรามีอะไรให้รอคอย

93 Nameless Fanboi Posted ID:JiRRTm2Fkj

>>89 กรี๊ดด ขอบคุณโม่งสปอยมั้กๆ ยิ่งอ่านยิ่งรักแม่ทัพเผย 555555 เอ็นดูวได้ทุกตอนจริงๆ พี่แกเท่จริงๆแถมฮาด้วย จะบูชาท่านตลอดปัยยย

94 Nameless Fanboi Posted ID:ZO0WTMw2O1

สปอยเทียนกวานอาร์ค 3 ต่อจาก >>89 เทียนกวาน Part.123
.
.
.
.
.
เซี่ยเหลียนเปรยว่าขอให้เทพแห่งฝนกับเฉวียนอี้เจินไม่เป็นอะไร พอได้ยินชื่อศิษย์น้องอวิ๋นอวี้ก็ชะงักไปนิดหนึ่ง หลิงเหวินเลยถามอีกฝ่ายว่าได้เจอกับเฉวียนอี้เจินหรือยัง เพราะหลายปีที่ผ่านมาเฉวียนอี้เจินมาขอให้เธอช่วยตามหาเขามาตลอด แต่พอเห็นอวิ๋นอวี้เหมือนไม่อยากพูดเรื่องนี้ เธอก็ไม่ได้คาดคั้นต่อ พอขุดดินไปได้ไกลพอสมควร พวกเขาก็ตัดสินใจกลับขึ้นไปด้านบนดู ระหว่างปืนขึ้นไปก็เจอกับโครงกระดูก เผยหมิงวิจารณ์อย่างคนขี้หม้อไม่ได้ว่ากระดูกในมือของเขาจะต้องเป็นของสาวงามขาเรียวสวยแน่เลย แต่ฮวาเฉิงก็ขัดบอกว่านั่นมันกระดูกผู้ชาย แถมยังเสริมว่าคงมีพิษด้วย แม่ทัพเผยเลยโยนกระดูกในมือทิ้ง ด้วยความเป็นเทพทำให้ไม่ได้รับผลจากพิษเท่าใด แต่ครู่หนึ่งก็เปลี่ยนใจฉีกผ้าไปหยิบกระดูกชิ้นนั้นกลับมาใช้ต่างอาวุธ ด้วยสกิล Luck E ของเซี่ยเหลียนทำให้ถึงเขาจะจับกระดูกเหมือนกัน แต่เพราะเคยผ่านมาเยอะแล้วเลยมีภูมิต้านทานจนไม่เป็นอะไร ทว่าฮวาเฉิงกลับมีท่าทีอารมณ์ไม่ดีกับเรื่องนั้นขึ้นมา

พอออกมาจากใต้ดินพวกเขาก็พบว่าทุกอย่างมืดสนิท เมื่อฮวาเฉิงใช้ผีเสื้อส่องแสงก็พบว่าที่นี่อาจเป็นถ้ำ แต่หลังจากเดินวนกันเป็นชั่วโมงก็หาทางออกไปไม่ได้ ตอนนั้นเซี่ยเหลียนกับฮวาเฉิงที่เดินนำหน้าก็หันมาพบว่าคนที่เหลือหายไปหมดทั้งๆ ที่เพิ่งคุยกัน ทั้งสองรีบชิดกันเพื่อระวังภัยทันที เดินกันต่อสักพักจู่ๆ ก็มีกำแพงหินมากั้นทางไว้ แล้วฮวาเฉิงก็ขอมือเซี่ยเหลียน ก่อนใช้เชือกสีแดงบนนิ้วของตัวเองผูกกับนิ้วของเซี่ยเหลียนเพื่อเชื่อมต่อกัน เซี่ยเหลียนหน้าแดง แต่ก็รีบเปลี่ยนไปถามว่ามันคือคาถาอะไร ฮวาเฉิงอธิบายว่าเชือกนี้ไม่มีวันขาดหรือสั้นลง ดังนั้นหากเชือกไม่ขาดก็บ่งบอกว่าคนที่อยู่อีกด้านไม่เป็นอะไร ถ้าไม่สูญสลายตายจากกันไปอย่างไรก็จะถูกนำพามาพบกัน

ยังไม่ทันซึ้ง พวกเซี่ยเหลียนก็ได้ยินเสียงเหมือนคนชกผนังถ้ำ ดูจากแรงแล้วน่าจะเป็นเทพสงคราม พอคิดว่าเผยหมิงหายไปด้านหลัง ทว่าเสียงนั้นกลับมาจากข้างหน้า ทั้งสองเลยระวังตัวมากขึ้นจนกระทั่งเสียงนั้นเงียบไป พวกเขาเจองูหางแมงป่องของปั้นเยวี่ยหัวปักอยู่กับผนังหางสะบัดไปมา ไม่นานนักทั้งสองก็ได้ยินเสียงลมหายใจเลยมองตามเสียงไปจนเห็นร่างครึ่งบนของมนุษย์โผล่ออกมาจากผนังถ้ำ แต่เมื่อเซี่ยเหลียนหันไปหาฮวาเฉิงก็พบว่าอีกฝ่ายหายไปแล้ว เชือกบนนิ้วที่ยังอยู่ดีทำให้เขาหายตระหนกนิดหน่อย พอพบว่าปลายเชือกฝังอยู่ในผนังหิน เขารีบหยิบฟางซิ่นหมายเจาะผนังถ้ำ ทันใดนั้นผนังหินก็คล้ายอ้าปากกลืนเขาเข้าไปด้านใน ตอนแรกเซี่ยเหลียนจะพยายามชกหินหนีออกมา แต่พอคิดว่าอ๋องผีติดอยู่ในนี้เลยพยายามแหวกทางตามเชือกเข้าไปด้านในต่อ ในที่สุดเขาก็เจอมือข้างหนึ่ง พอได้ยินเสียงของฮวาเฉิง ทั้งสองก็ดึงแขนอีกฝ่ายเข้ามากอดกันแน่น ต่างบอกว่าในที่สุดก็หาอีกฝ่ายเจอ

เมื่อคุยกันถึงได้รู้ว่าตอนแรกแค่มีกำแพงหินมากั้นทั้งสองไว้ พอต่างคนเห็นเชือกอีกฝั่งหายไปในผนังก็พยายามค้นหาอีกฝ่าย เซี่ยเหลียนเอ่ยว่าโชคดีจริงๆ ที่พวกตนมีด้ายแดงผูกกันไว้อยู่ แล้วก็คิดได้ว่าพวกตนแจคพอตขุดดินขึ้นมาในท้องของภูเขาผีพอดี พวกแม่ทัพเผยก็คงถูกดูดเข้าไปในผนังเป็นแน่ ตอนนั้นดินทรายรอบๆ ก็บดพวกเขาราวกับกำลังพยายามย่อย ถึงฮวาเฉิงปล่อยมุกว่าเราคงถูกฝังร่างตายเคียงข้างกัน เซี่ยเหลียนก็ยิ้มออกมา พอคิดถึงร่างครึ่งหนึ่งบนผนังที่พวกเขาเห็นก่อนหน้าอีกรอบ เซี่ยเหลียนก็นึกได้ว่านั่นน่าจะเป็นเฉวียนอี้เจิน อ๋องผีบอกให้เซี่ยเหลียนใจเย็น เนื่องจากอีกฝ่ายแค่สลบเท่านั้น เขารู้ได้เพราะผีเสื้อที่ปล่อยไว้ด้านนอกส่งภาพที่พวกมันเห็นผ่านตาขวาของเขา พอเขาเอาหน้าผากแตะกับเซี่ยเหลียน เซี่ยเหลียนก็เห็นภาพพวกนั้นด้วย ผีเสื้อที่ซึ่งหลบอยู่ที่ผมของเฉวียนอี้เจินฉายภาพเงาของใครบางคนกำลังเดินเข้ามาใกล้ เป็นอวิ๋นอวี้นั่นเอง

ด้วยควาที่อวิ๋นอวี้มีพลั่วของเทพแห่งดินอยู่ พอถูกถ้ำกลืนเลยหลุดออกมาได้ง่ายๆ เมื่อเฉวียนอี้เจินทำท่าเหมือนจะได้สติ อวิ๋นอวี้ก็รีบเอาหน้ากากผีของตนมาใส่ พอฟื้นขึ้นมาเทพหนุ่มก็พยายามใช้มือข้างที่ไม่ได้ถูกกลืนไปด้วยชกผนังถ้ำแต่ก็ไม่เป็นผลแถมยังถูกดูดเข้าไปเรื่อยๆ จนเหลือแค่หัวโผล่พ้นออกมา ตอนนั้นเองเขาถึงสังเกตเห็นคนถือพลั่วเลยขอให้ช่วยขุดช่วยตนออกไปโดยไม่ถามสักนิดว่าอีกฝ่ายเป็นใคร เมื่อเซี่ยเหลียนสังเกตว่าอวิ๋นอวี้กำพลั่วแน่นขึ้นก็อดกังวลไม่ได้ว่าอีกฝ่ายจะฆ่าเฉวียนอี้เจินเป็นศุกร์ 13 ฝันหวาน พอฮวาเฉิงยืนยันว่ามีโอกาสที่อวิ๋นอวี้จะทำอย่างนั้น เซี่ยเหลียนเลยถามอ๋องผีว่าทั้งสองมีความแค้นอะไรต่อกัน แต่ฮวาเฉิงบอกว่าการอยากฆ่าใครไม่จำเป็นต้องมีความแค้น แค่มีเรื่องเล็กๆ ก็เพียงพอ เรื่องเล็กๆ ที่บางทีเราก็ไม่ทันรู้ตัว
.
.
.
.
.

95 Nameless Fanboi Posted ID:74CZc4br0x

>>94 กินใจประโยคสุดท้าย เรื่องเล็กในสายตาเขา อาจเป็นเรื่องใหญ่ในสายตาเราได้
ขอบคุณสำหรับสปอยล์เช่นเคย
งานหนังสือนี้นิยายก็ยังไม่ออก สงสัยต้องลุ้นงานหนังสือปลายปี ฮือๆ

96 Nameless Fanboi Posted ID:ZO0WTMw2O1

>>95 ส่วนตัวกูว่ากรณีของอวิ๋นอวี้กับเฉวียนอี้เจิน มันเป็นเรื่องเล็กๆ ที่ค่อยๆ สะสมมาเรื่อยๆ ถ้าจับทุกเรื่องแยกกันมันก็อาจไม่เป็นอะไร แต่พอเอาทุกอย่างมารวมกันปุ๊บมันก็กลายเป็นโกโก้ครันช์อะ

>>92 แต่เผยซู่ไม่มีออร่าน่ารังแกเหมือนแม่ทัพเผยนะ 5555
>>93 เราจะบูชาแม่ทัพเผยไปด้วยกัน 5555

97 Nameless Fanboi Posted ID:74CZc4br0x

>>96 ไม่เป็นไร ได้เผยน้อยเป็นสามี เราก็ยังรังแกพ่อสามีได้นิ 555555

98 Nameless Fanboi Posted ID:BfD46okNKk

>>94 ขอบคุณเพื่อนโม่งสำหรับสปอย์เช่นเคย กุล่ะหมั่นไส้ฟาฟา หาเรื่องผูกด้ายแดงแบบโคตรเนียน

พูดถึงหนังสือ ที่ไทยมีตั้ง8เล่ม กุว่าเล่ม3ได้แยกเป็น3เล่มแน่เลยว่ะ แม่งโคตรหนา ไม่รู้เมื่อไรแม่โม่จะรีไรท์เสร็จ รอต่อยาวๆๆ

99 Nameless Fanboi Posted ID:vPhLuTgOIk

สปอยเทียนกวานอาร์ค 3 ต่อจาก >>94 เทียนกวาน Part.124
.
.
.
.
.
ฮวาเฉิงบอกว่าการที่เขาจะรับใครมาเป็นลูกน้องย่อมต้องสืบประวัติมาดีแล้ว ว่าเสร็จเขาก็ใช้พลังตาขวาฉายภาพอดีตของอวิ๋นอวี้ให้เซี่ยเหลียนดูด้วย อวิ๋นอวี้ในวัยแรกรุ่นเป็นศิษย์ของสำนักฝึกตนแห่งหนึ่ง ส่วนเฉวียนอี้เจินเป็นเด็กข้างถนนไร้ญาติขาดมิตรที่รักการต่อยตีจึงมาก่อกวนพวกศิษย์ในสำนัก แต่แม้พวกศิษย์จะสหบาทาสั่งสอนอย่างไรก็ไม่ยอมสำนึก จนอวิ๋นอวี้ต้องเข้าไปช่วยห้าม ทว่าถึงจะถูกช่วยไว้ เด็กชายก็ยังเข้าไปหาเรื่องท้าตีกับอวิ๋นอวี้ต่อ บอกว่าตนรักการต่อสู้มาก ด้วยความใจดีอวิ๋นอวี้เลยพาเฉวียนอี้เจินเข้าสำนักเพื่อเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้ให้เป็นเรื่องเป็นราว

ในเวลาปัจจุบัน จู่ๆ อวิ๋นอวี้ก็เอาพลั่วปักผนังถ้ำห่างจากคอเฉวียนอี้เจินไปเพียงนิดเดียว ทำให้เทพหนุ่มงุนงง ถามว่าอีกฝ่ายต้องการฆ่าเขาหรือ “ข้าทำอะไรผิดหรือ”

ฮวาเฉิงเรียกให้เซี่ยเหลียนดูอดีตของทั้งสองต่อ ในสำนักฝึกตน ศิษย์คนอื่นต่างพากันมาฟ้องอวิ๋นอวี้ถึงพฤติกรรมของเฉวียนอี้เจิน ทั้งกินเยอะจนคนอื่นได้กินไม่อิ่ม ท้าต่อยตีตั้งแต่ตื่นนอน ไม่ยอมให้ความร่วมมือในการฝึก ไม่ยอมโตเป็นผู้ใหญ่ ไม่มีวันใดที่ไม่ก่อเรื่อง แถมด้วยความสามารถ ทำให้พวกอาจารย์พากันสปอยยกแต่ของดีๆ ให้ อวิ๋นอวี้พยายามให้ทุกคนใจเย็นบอกว่าเดี๋ยวจะหาวิธีจัดการให้ ถึงอย่างไรเฉวียนอี้เจินก็ฝึกตนอย่างหนัก หากคิดว่าอาจารย์ลำเอียงก็จงฝึกให้หนักกว่า ได้ยินอย่างนั้นเจียนอี้ เพื่อนสนิทของเขาก็เตือนไว้วันนี้อวิ๋นอวี้ปกป้องเฉวียนอี้เจิน แต่ในอนาคตระวังจะถูกอีกฝ่ายแทงข้างหลัง พอทุกคนออกไปหมดแล้ว เฉวียนอี้เจินก็เข้ามาทางหน้าต่างห้อง อีกฝ่ายถามกับเขา “ศิษย์พี่ ข้าน่ารำคาญหรือ” ด้วยความไม่อยากให้ศิษย์น้องเสียความรู้สึก ทั้งรู้ดีว่าที่ทุกคนจับผิดอีกฝ่ายในทุกๆ เรื่องเป็นเพราะอิจฉา อวิ๋นอวี้จึงบอกว่าอย่าได้ใส่ใจคำพูดของศิษย์คนอื่น

เมื่อได้ขึ้นสวรรค์ อวิ๋นอวี้ก็พาเจียนอี้กับเฉวียนอี้เจินติดตามมาด้วย ในงานเลี้ยงเปิดตำหนัก ฮวาเฉิงก็ชี้ให้ดูว่าในช่วงนี้ธาราทมิฬล่มเรือก็ได้แอบแฝงตัวมาเป็นลูกน้องในตำหนักของพวกเทพแล้ว ทว่าระหว่างบรรยากาศมงคล จู่ๆ ก็มีเทพเข้ามาโวยวายว่าเฉวียนอี้เจินไปก่อเรื่องชกต่อยเทพชั้นสูง พอถูกยั่วยุมากเข้าเฉวียนอี้เจินก็พุ่งไปชกต่อยคนอื่นอีกจนงานเละ ตกเย็นเจียนอี้จึงด่าศิษย์น้องไม่ยั้ง ในขณะที่อวิ๋นอวี้ยังใจเย็นบอกว่าเป็นฝ่ายนั้นที่มาหาเรื่องก่อน เจียนอี้ก็ยังโมโหบอกว่าอีกฝ่ายทำชื่อเสียงของตำหนักอวิ๋นอวี้เน่าตั้งแต่วันแรก ตอนนี้พวกตนไม่ใช่มนุษย์แล้ว ทำไมถึงไม่ยอมอดทนเพื่อไม่ให้เกิดเรื่องในวันสำคัญแบบนี้

พอเจียนอี้จากไปเฉวียนอี้เจินก็เข้ามาหาอวิ๋นอี้ทางหน้าต่างอีก อ้างว่าฝ่ายนั้นมาดูถูกตนก่อน ตนบอกให้หยุดก็ไม่ยอมจนต้องต่อยในเงียบ เขาบอกศิษย์พี่ว่าไม่ชอบสวรรค์ซึ่งมีแต่ต้องทำงานพิธีรีตองจนไม่ได้ฝึก มีคนดูถูกก็สู้กลับไม่ได้ พออวิ๋นอวี้บอกว่าตนก็ไม่ชอบเช่นกัน เขาก็ชวนศิษย์พี่กลับภพมนุษย์ ทว่าอวิ๋นอวี้กลับเอ่ยว่าถึงอย่างไรเขาต้องการอยู่ที่นี่เพราะกว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ช่างยากลำบาก และการได้เป็นเทพเป็นความฝันของเขา กระนั้นศิษย์น้องของเขากลับเหยียด บอกว่าการได้ขึ้นสวรรค์มันดีตรงไหน ใครจะไปสนว่าใครจะได้ขึ้นสวรรค์ ในเวลานั้นอวิ๋นอวี้ยังไม่นึกโกรธสิ่งที่อีกฝ่ายพูด แต่เมื่อเฉวียนอี้เจินขึ้นสวรรค์ด้วยตัวเอง ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป

ในงานเลี้ยงฤดูใบไม้ร่วง อวิ๋นอวี้นั่งข้างๆ หมิงอี้ซึ่งตอนนั้นถูกเฮ่อเสวียนสวมรอยแล้วเรียบร้อย ไม่นานนักก็มีเทพเข้ามาทักทาย แต่ฝ่ายนั้นกลับนึกว่าเขาคือเฉวียนอี้เจินที่ตอนนี้ชื่อเสียงโด่งดังจนผู้ศรัทธามากขึ้นเรื่อยๆ ถึงกับติด 1 ใน 10 กิจกรรมขิงโคม พอรู้ว่าทักผิดก็รีบขอโทษ แต่ก็ยังเรียกชื่ออวิ๋นอวี้ผิดๆ ถูกๆ ก่อนที่เขาจะรีบเข้าไปทักทายเฉวียนอี้เจินซึ่งเพิ่งมาถึงงานแต่กลับมีเทพองค์อื่นรุมล้อมมากมาย ตอนที่อวิ๋นอวี้จะกลับตำหนักเพราะรู้สึกเจ็บลึกๆ ซือชิงเสวียนก็เข้ามาชวนคุย แต่พออวิ๋นอวี้บอกว่ารู้สึกไม่สบาย อีกทั้งเทพแห่งลมยังหันไปเห็นหมิงอี้มุ่งมั่นแดรกพอดี อีกฝ่ายเลยเบนความสนใจไปทางนั้นแทน เจียนอี้ยังคงหงุดหงิดด่าเทพพวกนั้นที่แต่ก่อนมีเรื่องชกต่อยกับเฉวียนอี้เจินจนอวิ๋นอวี้ต้องคอยตามเช็ดเรื่องให้ แต่มาตอนนี้กลับเลียเอาอกเอาใจ ทั้งยังด่าเฉวียนอี้เจินที่ขโมยผู้ศรัทธาของอวิ๋นอวี้ไป อวิ๋นอวี้บอกว่าศิษย์น้องไม่ได้ทำความผิดอะไร เป็นเพราะเขาจัดการปีศาจหมาป่าไม่ได้ ผู้คนจึงหันไปศรัทธาเฉวียนอี้เจินซึ่งจัดการมันได้แทน ทว่าไม่นานพวกเขาก็พบว่าเฉวียนอี้เจินตามมาที่ตำหนัก วันนี้เป็นวันเกิดของเฉวียนอี้เจิน ด้วยความที่ทุกปีที่ผ่านมาศิษย์พี่มอบของขวัญให้เขาตลอด ในปีนี้จึงตามมาทวงอย่างไม่ได้เข้าใจเลยว่าที่อีกฝ่ายไม่มอบของให้อีกย่อมหมายความว่าต้องหารห่างด้วยแล้ว
.
.
.
.
.

100 Nameless Fanboi Posted ID:zmT2wDk9ae

>>99 สงสารอวิ๋นอวี้เลยอ่ะ สองคนนี้ให้ความรู้สึกแบบเหมือนพี่น้องกันจริงๆอ่ะ พี่ย่อมให้น้องเสมอ น้องก็จะเอาแต่ใจหน่อยๆ แต่พอมันสะสมไปเรื่อยๆก็ตูมม ระเบิดเป็นโกโก้ครั้น ก็นะตอนแรกบอกไม่เห็นจะดีตรงไหนที่เป็นเทพ แต่พอขึ้นมาเองแล้วแซงหน้าอีกคนมันก็เหมือนหยามกันอ่ะ..

ปล.ฮวาเฉิงนี่คัดคนดีจริมๆ แต่ละคนคือเคยมี ปัญหากับสวรรค์ทุกคน อารมณ์แบบป๋ารู้ป๋าเข้าใจ มามะ มาร่วมมือกับป๋า 55555 //หยอกๆๆ

101 Nameless Fanboi Posted ID:tSYw7mUH8O

อยากกินข้าวหลามจัง

102 Nameless Fanboi Posted ID:vSRGhzVhDz

>>99 เฉวียนอี้เจินนี่ออกแนวทำอะไรตามใจตัวเอง มีคนอุปถัมภ์ก็ไม่รู้จักสำนึกบุญคุญ ถ้าศิษย์พี่เดือดร้อนเพราะเรามารอบสองรอบแล้ว คนทั่วไปก็จะน่าจะสำนึกตัวเองได้แล้วนะว่าก่อความเดือดร้อนให้เขา ถ้าไม่ตอบแทนก็ควรอยู่เฉยๆ ซะ

103 Nameless Fanboi Posted ID:jdP0+BjBSo

>>100 เรื่องฮวาเฉิงพอพูดมาก็ใช่แหะ 5555 แต่นี่แอบคิดว่าความสามารถของนางค่อนข้างแมรี่ ซู ไปหน่อยแฮะ ทำนู้นนี่ได้หมด

>>102 ปัญหาคือเฉวียนอี้เจินไม่รู้ว่าตัวเองทำผิดนี่สิ เหมือนที่นางชอบถามบ่อยๆ ว่าศิษย์พี่ ข้าทำผิดอะไรหรือ (ตอนสปอย กูเลยเน้นคำพูดของนาง เพราะถ้ากูเป็นอวิ๋นอวี้ ทุกครั้งที่ถูกถามคำถามนี้กูคงจี๊ดมาก) คือนางความคิดเด็กมาก คิดอะไรก็ทำ รู้สึกยังไงก็แสดงออก ซื่อๆ ตรงๆ ไม่คิดรอบด้าน โตแค่ตัว นิสัยเหมือนเด็กเล็กๆ นี่ก็ไม่รู้ว่าตัวเองทำศิษย์พี่เดือดร้อน ไม่สังเกตสีหน้าบรรยากาศของคนอื่น แถมเวลามีคนว่าก็ไม่คิดเรียนรู้ด้วย ที่มีเรื่องต่อยตีกับเทพองค์อื่นก็ไม่ใช่ครั้งเดียว อวิ๋นอวี้ต้องไปคอยจัดการให้ตลอด ชอบพูดทำร้ายจิตใจโดยไม่คิด ทั้งๆ ที่จริงๆ นางเคารพรักอวิ๋นอวี้มากนะ

104 Nameless Fanboi Posted ID:qrWWNNlJXA

>>103 ฮวาเฉิงนี่ซูจริงอ่ะ ทุกปัญหาของเตี้ยนเซี่ยแก้ได้ด้วยพลังของฮวาเฉิงหมดเลย(กูอ่านไปถึงหลังๆละ) ยืมพลังได้ไม่มีวันหมด แถมรู้มาก รู้เกือบทุกอย่างบนโลกด้วย 55555 เหมือนนอกจากคัดลายมือแล้วแม่งสามารถทำได้ทุกอย่างบนโลกนี้แล้วอ่ะ

ส่วนอี้เจิน กุรำคาญยิ่งกว่าฉีหรงอีก ฉีหรงยังสร้างสีสันให้เรื่องได้ แต่พาร์ทอี้เจินอ่านแล้วเหมือนที่เซี่ยเหลียนคิดเลยอ่ะว่าawkwardจนทนดูไม่ได้แล้ว

105 Nameless Fanboi Posted ID:jdP0+BjBSo

>>104 ใช่เลย ตัวละครในเรื่องเทียนกวาน มี 2 คนที่กูคิดว่าแมรี่ ซู คือฮวาเฉิงกับเทพแห่งฝน รายหลังบทน้อยแต่ดูแม่โม่อวยมาก ท่าทางจะชอบตัวละครแนวนี้ เพราะเรื่อง ปรมจ เป้าซานส่านเหริน อาจารย์ของแม่เว่ยอิงกับเสี่ยวซิงเฉินที่ถึงแค่กล่าวถึงแต่กูก็รู้สึกว่าให้อารมณ์คล้ายกัน ส่วนอี้เจิน มองในแง่ดีอย่างน้อยตอนหลังก็มีแนวโน้มว่าจะยอมปรับปรุงตัวนะ

106 Nameless Fanboi Posted ID:qrWWNNlJXA

>>105 เทพฝนก็ซูจริง ขนาดxxxยังไม่ค่อยกล้าแตะ แต่เหตุผลที่ว่าทำไมซูกูพอรับได้อ่ะ พอเป็นเหตุเป็นผลอยู่ แถมนางบทน้อยก็เลยเฉยๆ แต่ฮวาเฉิงคือพอตั้งแต่อัพเลเวลเป็นเจวี๋ยแล้วซูจัดขนาดนี้มันทำให้ปัญหาทุกอย่างในเรื่องไม่หนักหนาแบบที่คิดอ่ะ ถ้าเป็นปัญหาเล็กๆอย่างในหลุมเมืองงูมินิบอสตัวเล็กๆมันก็ได้อยู่ ยังไงผีปกติมันก็ห่างกับเจวี๋ยลิบๆ แต่พอเป็นปัญหาอย่างไคลแม็กซ์ท้ายๆเรื่องยังได้ฮวาเฉิงมาช่วยมันก็แอบง่ายไปหน่อยอ่ะ

หรือกูมานั่งคิดเกี่ยวกับสเกลพลังของพวกเจวี๋ยเทียบกับเทพสวรรค์ธรรมดา เทพที่แค่บำเพ็ยจนถึงจุดนึงหรือบรรลุเงื่อนไขบางอย่างก็ได้ขึ้นสวรรค์แล้วมันเลยเกร่อๆ เทพชั้นกลางชั้นบนเต็มไปหมด แถมพลังก็ขึ้นๆลงๆแล้วแต่คนศรัทธา แต่ถ้าจะเป็นเจวี๋ยต้องเข้าไปอัพเลเวลในตงลู่ ตีกับผีด้วยกันเป็นหมื่นๆแสนๆตัว แถมต้องเจาะเตาหลอมออกมาอีก มันเลยทำให้เจวี๋ยเก่งกว่าพวกเทพแบบชิบหายรึเปล่าวะ? พอเทียบๆกันแล้วพวกเจวี๋ยน่าจะเก่งกว่าเทพชั้นบนๆอย่างแม่ทัพเผยอะไรงี้รึเปล่าวะ ยิ่งฮวาเฉิงเป็นผีที่มีมนุษย์กราบไว้ด้วย หรือฮวาเฉิงมันจะเก่งเป็นรองแค่จวิ๋นอู๋??? ไม่งั้นมันก็อธิบายความซูจัดขนาดนี้ไม่ได้อ่ะ

107 Nameless Fanboi Posted ID:jdP0+BjBSo

>>106 ฮวาเฉิงเทียบกับจวินอู๋แล้วก็ไม่น่าด้อยกว่าอะ นี่ยังไม่เห็นว่าเฮ่อเสวียนถ้าบู๊กับพวกเทพสงครามแล้วจะเป็นยังไง เพราะพลังพี่แกดูเน้นไปทางปลอมตัวมากกว่า กับซืออู๋ตู้นั่นก็ไม่ใช้เทพสายบู๊ หมิงอี้ที่ไปจับตัวเขามาสวมรอย รายนั้นก็บอกว่าความสามารถแค่กลางๆ เลยกะพลังไม่ได้ว่าการเป็นเจวี๋ยคือเงื่อนไขที่ทำให้ซูหรือเปล่า ถ้าเปลี่ยนเป็นว่าฮวาเฉิงไม่ได้ใช้พลังผีเสื้อ แต่ไปได้ไอเทมเทพมาใช้ยังพอลดความซูได้หน่อย ที่จริงควรลดสเกลพลังมาให้พอๆ กับเทพสงครามสักคน เอาแค่เผยหมิงก็ได้ ยังไงรายนั้นก็ฝีมือรองแค่จวินอู๋กับเซี่ยเหลียน (ตอนท๊อปฟอร์ม) แล้วก็ไม่ต้องมีความสามารถครอบจักรวาลขนาดนี้ก็น่าจะดีขึ้นมาก

108 Nameless Fanboi Posted ID:bNe/upw8Cv

>>107 ถ้าฮวาเฉิงเทียบจวินอู๋ได้นี่โคตรโกงอ่ะ 5555 อาจจะได้จริงๆก็ได้ แต่นี่ว่าบทยังปูมาไม่น่าเชื่อขนาดนั้นอ่ะ อย่างจวินอู่คือเทพสงครามที่เก่งสุด อยูานานสุด คนเคารพมากสุด ฯลฯ แถมแบร็คกราวของจวินอู๋ก็อีปิคดีด้วย แต่ฮวาเฉิงรวมๆแล้วเป็นแค่เจวี๋ย+เจ้าเมืองผีแค่นั้น แถมเดิมก็เป็นแค่เด็กคนนึงที่มีชะตาตรงกับดาวอะไรซักอย่างเฉยๆ เออ พูดแล้วก็นึกขึ้นได้ หรือเพราะฮวาเฉิงมันมีชะตาตรงกับดาวนั่นด้วยวะมันเลยซูได้ แต่พลังรอบจักรวาลจริง มันไปได้ทุกสายด้วยไม่ใช่แค่เรื่องสู้ พอจะบอกว่าเด็กธรรมดาคนนึงที่โดยบุลลี่อัพเลเวลมาได้ขนาดเทียบกับจวินอู๋ยังไงก็ขัดใจอ่ะ 55555 แต่ถ้าจะให้ลดเสกลพลังฮวาเฉิงบางทีก็ไม่รู้จะแก้ปัญหาไคลแม็กอันท้ายๆยังไงอ่ะ เพราะบอสก็โกงจัดอีก บวกกับปกติเวลาเซี่ยเหลียนโดนผนึกพลังก็แอบกากด้วยอ่ะ

ส่วนเฮ่อเสวียน นี่ว่าเฮ่อเสวียนเน้นไปทางเขตแดนแข็งแกร่งไรงี้นะ รอบๆเกาะของเฮ่อเสวียนป้องกันหนาพวกกระดูกที่ว่ายรอบๆเกาะก็ดูopอยู่ แต่ฮวาเฉิงส่วนใหญ่คือlonewolf เน้นลุยเดี่ยวไม่เลี้ยงลูกมือ นี่คิดว่าถ้าฮวาเฉิงเดี่ยวกับเฮ่อเสวียนฮวาเฉิงน่าจะชนะ แต่ถ้าเริ่มตั้งแต่ฮวาเฉิงต้องบุกเข้าเกาะเลยอันนี้ก็ไม่แน่ (แต่เฮ่อเสวียนก็ยังใช้ฮวาเฉิงชนะอยู่ดีเพราะเดี๋ยวไม่มีคนให้ยืมตัง 5555555)

109 Nameless Fanboi Posted ID:jdP0+BjBSo

>>108 นั่นสิ ขัดใจอะ ยังไงฮวาเฉิงก็ไม่ควรความสามารถ OP แมรี่ ซู ขนาดนี้ นายจะไปสุดทุกสายไม่ได้ ส่วนดาวนั่น อจ เหม่ย บอกว่าถ้าไม่ดวงซวยสุด ก็จะเฮงสุด เพราะฉะนั้นถ้าจะมีค่าอะไร Max มันก็ควรเป็นค่า Luck แล้วใช้จุดนั้นสู้เอาอะ ส่วนตอนท้ายๆ ก็ใช้ไหวพริบ วางแผนพลิกแพลงสู้แบบเรื่อง HxH หรือ Jojo หรือไม่ก็ใช้พลังมิตรภาพ ตอนนั้นในตี้ก็อยู่กันหลายคน ช่วยๆ กันยำบอสก็ได้

เรื่องเฮ่อเสวียนจะว่าไปก็ใช่แฮะ เป็นแนวเหมือนกิลล์ไอนส์ อูว โกลว เรื่อง Overlord ที่เน้นป้องกันฐาน เพราะถ้าไม่เอาคำสาปล่มเรือออกนี่แทบถึงตัวไม่ได้เลย พวกผีที่ต้องใช้น้ำส่องถึงเห็นอีก ถ้าเดี่ยวกันจริง บนบก ฮวาเฉิงคงชนะ แต่ว่าถ้าเป็นในน้ำ เฮ่อเสวียนน่าจะได้เปรียบกว่า แต่ค่าข้าวกับค่าอาหารปลามันค้ำคออยู่จริง 55555

110 Nameless Fanboi Posted ID:qrWWNNlJXA

>>109 จะว่าไปแล้วอำนาจทางการเงินก็เป็นอีกหนึ่งความซูของฮวาเฉิง ตอนหลังจบเรื่องที่ฮวาเฉิงกล้าขึ้นๆลงๆสวรรค์แบบไม่เกรงใจใครก็เพราะนางจ่ายเงินช่วยบูรณะไปเยอะด้วยนี่นา ถึงฮวาเฉิงมันจะไม่เกรงใจแต่แรกอยู่แล้วก็เถอะ 555555555

111 Nameless Fanboi Posted ID:jdP0+BjBSo

สปอยเทียนกวานอาร์ค 3 ต่อจาก >>99 เทียนกวาน Part.125
.
.
.
.
.
พอถูกทวงของขวัญ อวิ๋นอวี้ก็ถึงกับไปไม่ถูก เขารีบกลับเข้าไปหลังตำหนักหาของที่พอใช้การได้ สั่งให้เจียนอี้ไปนำชุดเกราะที่เพิ่งได้มาใส่กล่องขณะที่ตัวเองมานั่งคุยกับเฉวียนอี้เจิน แสดงความยินดีที่มีผู้ศรัทธามากขึ้น แต่อีกฝ่ายกลับพูดอย่างไม่ใส่ใจว่าตนไม่สนใจผู้ศรัทธา ไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆ คนพวกนั้นก็เห่กันมาที่วัดของเขาหลังเขาฆ่าปีศาจได้ ทั้งยังพูดต่อโดยไม่ได้ดูสีหน้าศิษย์พี่ด้วยว่าตนได้ยินว่ามีคนทักอวิ๋นอวี้ผิดคน ตลกจริงๆ พอเจียนอี้เข้ามาส่งกล่องให้ อวิ๋นอวี้ก็รีบมอบมันให้เฉวียนอี้เจิน ไล่อ้อมๆ ให้อีกฝ่ายไปเปิดดูที่ตำหนักตัวเอง ขณะที่เจียนอี้ด่าไม่ยั้ง อวิ๋นอวี้กลับไม่เอ่ยอะไรออกมาสักคำ

3 วันต่อมา ระหว่างอวิ๋นอวี้ที่ค้นหาของในห้อง เขากลับพบว่าชุดเกราะยังอยู่ เมื่อสอบถามจึงเพิ่งทราบว่าเจียนอี้นำเสื้อคลุมอมตะใส่กล่องให้ด้วยความชิงชัง อวิ๋นอวี้กลัวว่าศิษย์น้องจะได้รับอันตรายจีงรีบไปหา แต่ก็ได้รู้ว่าอีกฝ่ายอยู่ที่หอมหายุทธ์ซึ่ง “เทพสงครามชั้นสูง” กำลังประชุมอยู่ เขาไปรอพบศิษย์น้องที่หอ เห็นหลิงเหวินยืนเหงื่อแตกคอยเหลือบมองเฉวียนอี้เจินที่ใส่ชุดเกราะซึ่งแท้จริงคือเสื้อคลุมอมตะจนทำงานผิดๆ ถูกๆ แต่ก็ไม่ได้นึกสงสัยอะไร

เมื่อเฉวียนอี้เจินออกมา อวิ๋นอวี้ก็รีบขอชุดคืนโดยอ้างว่าชุดมีจุดชำรุดจะนำไปซ่อมก่อน ด้วยความที่เขาขอไม่ได้ออกคำสั่ง เสื้อคลุมอมตะจึงไม่ได้ทำให้เฉวียนอี้เจินต้องทำตาม นอกจากไม่ยอมคืนแล้ว อีกฝ่ายยังชวนศิษย์พี่ไปลาดตระเวนด้วยกันในเดือนหน้า บอกว่าตนขอจวินอู๋ให้แล้ว คำพูดนั้นเหมือนหยามศักดิ์ศรีว่าไร้ความสามารถจนต้องให้คนอื่นช่วยพูด แถมคนๆ นั้นยังเป็น ศิษย์น้องที่ตอนแรกตัวเองพาขึ้นสวรรค์มา ฟางเส้นสุดท้ายของอวิ๋นอวี้ขาด เขาตะคอกด่าเฉวียนอี้เจินว่าตนไม่ได้ขอร้อง เฉวียนอี้เจินที่เพิ่งเคยเห็นศิษย์พี่โกรธเป็นครั้งแรกถึงกับชอค ก่อนพูดออกมาว่า “ศิษย์พี่ ท่านโกรธเรื่องอะไร ข้าทำอะไรผิดหรือ”

อวิ๋นอวี้ทึ้งผมตัวเองอย่างเหลืออด สั่งให้ศิษย์น้องกลับเข้าไปในหอประชุมแล้วอย่ามาสร้างปัญหาให้ตนอีก แต่พออีกฝ่ายทำตามอย่างว่าง่ายถึงเพิ่งนึกออกว่าเฉวียนอี้เจินใส่เสื้อคลุมอมตะอยู่ เมื่อจวินอู๋เห็นเฉวียนอี้เจินตาลอยเหมือนถูกคาถาก็เรียกให้เข้าไปหา อวิ๋นอวี้ที่ตระหนกอยู่จึงสั่งให้ศิษย์น้องหนี มหาเทพเลยบอกให้จับทั้งสองคนไว้แล้วเทพสงครามชั้นกลางก็ถูกเฉวียนอี้เจินชกร่างเละเสียชีวิตไป 10 กว่าคนเพราะขัดไม่ให้เขาทำตามคำสั่งของศิษย์พี่ อวิ๋นอวี้รีบสั่งไม่ให้ศิษย์น้องทำร้ายคนอื่น เขาถูกมู่ฉิงหักแขนจับตัวไว้ ส่วนเฉวียนอี้เจินวิ่งหนีไปทางตำหนักอวิ๋นอวี้ เทพสงครามช่วยกันรุมเฉวียนอี้เจินจนตำหนักของอวิ๋นอวี้พังพินาศ เมื่ออวิ๋นอวี้ร้องให้ทุกคนหยุดสู้ เฉวียนอี้เจินก็ทำตามทันทีจนถูกจับ ขณะที่อวิ๋นอวี้เข่าทรุดมองภาพเบื้องหน้า พอเฉวียนอี้เจินซึ่งบาดเจ็บหนักที่ได้สติเห็นศิษย์พี่นั่งกับพื้นก็จะไปช่วยพยุง อวิ๋นอวี้มองหน้าศิษย์น้องโดยมีฉากหลังเป็นภาพตำหนักของตัวเองที่ราบเป็นหน้ากลองสักพักใบหน้าของเขาก็เริ่มบิดเบี้ยว เฉวียนอี้เจินจึงถามคำถามเช่นทุกที “ศิษย์พี่ ท่านเป็นอะไรไป” แล้วอวิ๋นอวี้ก็หัวเราะพร้อมตาแดงก่ำ ตะโกนใส่หน้าอีกฝ่ายว่า “ไปตายซะ”

คำของของอวิ๋นอวี้ทำให้เฉวียนอี้เจินที่ใส่เสื้อคลุมอมตะอยู่รีบหยิบกระบี่มาหมายปาดคอตนเองทันที โชคดีที่จวินอู๋ซัดใส่สลบไปก่อนจึงรอดมาได้ ตอนแรกอวิ๋นอวี้พยายามบอกว่าตนไม่รู้เรื่อง แต่สุดท้ายก็เงียบไปเพราะสำนึกได้ว่าเมื่อครู่ตนเองเผลอกล่าวอะไรกับศิษย์น้องต่อหน้าทุกคน

อวิ๋นอวี้คู้ตัวกุมศีรษะ รอบตัวคือเสียงของทุกคนที่ต่อว่าถึงความชั่วช้าที่คิดฆ่าเจ้าหน้าที่สวรรค์ด้วยกัน เจียนอี้ที่เพิ่งมาถึงพอดีเดาเรื่องราวออกจึงรีบสารภาพว่าเป็นความผิดของตน แต่ด้วยคำพูด “ไปตายซะ” ที่อวิ๋นอวี้พูดไป คำของเขาจึงไร้น้ำหนัก พอได้ยินว่าอวิ๋นอวี้พูดคำนั้นกับเฉวียนอี้เจิน เจียนอี้เองก็ยังไม่อยากเชื่อเพราะเพื่อนของตนปกป้องศิษย์น้องมาตลอด ทุกคนนินทาอวิ๋นอวี้ว่าทำร้ายเฉวียนอี้เจินเพราะอิจฉาจิตใจคับแคบจนเจียนอี้ทนไม่ได้ พยายามตะโกนบอกว่าเรื่องนี้เป็นความผิดของตนแต่เพียงผู้เดียว แต่สุดท้ายอวิ๋นอวี้กลับเอ่ยให้เพื่อนหยุด บอกว่าเขาไม่อยากพูดเรื่องนี้อีก เจียนอี้ยิ่งร้องไห้ กล่าวว่าอวิ๋นอวี้พยายามอย่างหนักมาตลอด เก่งกว่าเฉวียนอี้เจินเป็นไหนๆ ทำไมเฉวียนอี้เจินถึงได้สถานะนั้น แต่อวิ๋นอวี้กลับตกอยู่ในสภาพนี้ ทำไมคนที่ถูกเนรเทศถึงไม่ใช่เฉวียนอี้เจินกัน แล้วอวิ๋นอวี้ก็ยกมือปิดหูสะอื้นไห้ “พอสักที อย่าพูดอะไรอีกเลย ได้โปรดให้ข้าไปเถอะ อย่าย้ำเรื่องพวกนั้นกับข้าอีก ไม่เอาแล้ว ได้โปรดเถอะ ข้าขอร้อง ทุกคนอย่าพูดอะไรอีกเลย”
.
.
.
.
.

112 Nameless Fanboi Posted ID:jdP0+BjBSo

>>110 ว่าแต่เงินของฮวาเฉิงมาจากไหนนะ การกราบไหว้ก็คงได้มาส่วนหนึ่ง แต่ก็คงไม่ทำให้รวยเป็นสกูซ แมคดั๊ก แบบนี้ เก็บค่าเช่าที่ในเมืองผี? ขูดรีดดอกจากเฮ่อเสวียน?

113 Nameless Fanboi Posted ID:qrWWNNlJXA

>>112 คิดดอกกับเฮ่อเสวียนนี่น่าจะหนี้เน่ามากกว่านะ55555555 เฮ่อเสวียนของกูเลยต้องทำงานใช้หนี้งกๆ ปล่อยฮวาเฉิงพังบ้านตัวเองตามใจอีกต่างหาก

นี่ว่าน่าจะรวยมาจากเป็นเจ้าเมืองนี่แหละ เก่งจนเป็นเจ้าเมืองได้ พอเป็นเจ้าเมืองก็คุมบ่อนพนัน (หรือจริงๆLuckSขนาดนี้อาจจะเล่นพนันจนได้เป็นเจ้าเมืองมั้ย 55555) เก็บส่วย ขูดรีดร้านแผงลอย ผีตัวเร้กตัวน้อยก็ไม่กล้าแหยม อห กูพูดซะฮวาเฉิงเป็นมาเฟียเลย

114 Nameless Fanboi Posted ID:jdP0+BjBSo

>>113 จู่ๆ กูก็นึกภาพฮวาเฉิงเป็นคิวเบย์ หาดาวน์ไลน์จนรวย 55555 สนใจมาเป็น สนวม ไหมจ้ะ แต่คิดตามมึงก็อาจจะเล่นพนันได้จนรวยเนอะ แล้วก็เก็บค่าดูแลในเมืองเป็นรายได้อีกทาง

115 Nameless Fanboi Posted ID:.m0YtOkFz/

>>111 โอยยยย ดราม่า น้ำตาไหล จะบอกว่าใครผิด ใครถูกก็ชี้ชัดไม่ได้ เพราะไม่มีเจตนาร้ายต่อกัน แต่ปัญหาและความไม่เข้าใจมันหนักขึ้นๆๆๆ รวมถึงคราวซวยได้ของวิเศษด้วย

116 Nameless Fanboi Posted ID:zmT2wDk9ae

>>111 สงสารอวิ๋นอวี๋อ่ะ อ่านไปแล้วทรมานแทน นี่สินะข้อเสียของคนที่หวังดีและตามใจคนอื่นเกินไป เป็นอะไรแล้วไม่บอกไม่พูด จนสุดท้ายก็ตูมเดียว และอีตูมนั่นเล่นซะไปต่อไม่ถูกเลยเพราะแม่งน้องมันเหี้ยจริงๆอ่ะ นี่เฉวียนอี้เจินนี่มึงจะซื่อเกินไปแล้วววว!!!แกเป็นน้องที่ไม่คิดเหี้ยไรเลยจริงๆ โคตรน่าโมโห แต่เหตุการณ์มันทำให้เข้าใจผิดอย่างมหันต์แล้วแหละนะ เหมือนชะตาเล่นตลกเลย

ขอบคุณโม่งสปอยมากๆ ช่วงนี้มาถี่มากชอบๆๆ

117 Nameless Fanboi Posted ID:eTI4I.y+Nf

>>116 สงสารอวิ๋นอวี๋จริง ถ้าเป็นกุกุก้คงระเบิดเหมือนกัน เฮ้ออออ
ช่วงนี้โควิดระบาดหนักมาก ได้โม่งสปอยนี่ล่ะมาคลายเครียด (หรือเครียดกว่าเดิมก็ไม่รู้ 55555555)

118 Nameless Fanboi Posted ID:jVmo63uTQj

สปอยเทียนกวานอาร์ค 3 ต่อจาก >>111 เทียนกวาน Part.126
.
.
.
.
.
พออวิ๋นอวี้เอาพลั่วฟาดหัวเฉวียนอี้เจินสลบ เซี่ยเหลียนก็แอบกลัวว่าจะเกิดฉากฆาตกรรม แต่พอได้ยินเสียงขุดผนังถ้ำเพื่อเอาศิษย์น้องออกมาก็โล่งอก เข้าใจว่าเป็นเพราะอีกฝ่ายไม่อยากให้เฉวียนอี้เจินรู้ว่าตัวเองเป็นใครเลยต้องทำเช่นนี้ แต่ตอนที่อ๋องผีกำลังจะระเบิดพลังเปิดทางออกจากกำแพงหิน เซี่ยเหลียนก็ยินเสียงใครบางคนพูดอยู่ด้านนอกผนังฝั่งตรงข้ามกับอวิ๋นอวี้ เสียงนั้นใกล้มากราวกับแนบกับผนัง แต่พวกเขากลับไม่ได้ยินเสียงของคนที่ชายคนนี้พูดด้วยเลย พอแหวกทางเข้าไปใกล้ถึงได้ยินว่า “องค์ชายรัชทายาทเสด็จมาแล้ว ข้าไม่อยากให้เรื่องมาถึงขั้นนี้ และข้าก็มั่นใจว่าพวกเจ้าเองก็คงคิดเหมือนกัน แต่พระองค์ก็ใกล้จะได้รับการช่วยเหลือแล้ว” เซี่ยเหลียนถึงกับงงว่าอีกฝ่ายกำลังพูดถึงตัวเองหรือ ทั้งเสียงนั้นก็โคตรคุ้นเหมือนเคยได้ยินมาก่อน พออีกฝ่ายพูดต่อว่า “ถ้าอย่างนั้นมาจบเรื่องของพระองค์ที่นี่กันเถอะ” เซี่ยเหลียนก็จำได้ว่านี่มันเสียงของราชครูเหม่ยเนียนชิงนี่หว่า

นิ้วของเซี่ยเหลียนสั่น พอได้ยินชายที่อยู่ข้างนอกพูดต่อว่า “แล้วสองคนนั้นล่ะ พวกเขาไปไหนกัน” ก็สงสัยว่าอีกฝ่ายยังมีพรรคพวกอีก 2 คนหรือ ราชครูบอกใครบางคนว่าให้พาทุกคนที่อยู่ในภูเขาไปที่เตาภายใน 2 วัน แล้วเดี๋ยวเขาจะหาทางจัดการทีละคนเอง “ตามทั้ง 2 คนมาที่นี่ พวกเราจะได้ไปที่เตาด้วยกัน การเผชิญหน้ากับองค์ชายรัชทายาทจะต้องไม่มีพวกเราคนใดคนหนึ่งขาดไป ตอนนี้พระองค์ยังทรงตื่นไม่เต็มที่ หากพระองค์ทรงตื่นขึ้นมาล่ะก็... คราวนี้จะทรงทำอะไรบ้างก็ไม่รู้”

ขณะที่เซี่ยเหลียนกำลังตั้งใจฟัง จู่ๆ อีกฝั่งของกำแพงก็มีเสียงระเบิดดังขึ้น พอฮวาเฉิงเตะหน้าผากของตนกับเซี่ยเหลียน เซี่ยเหลียนก็เห็นภาพทางฝั่งอวิ๋นอวี้ ดูเหมือนพออวิ๋นอวี้ดึงเฉวียนอี้เจินออกมาจากผนังถ้ำแล้วถึงได้รู้ว่าอีกฝ่ายแค่แกล้งสลบ พอหลุดมาได้ก็กระชากหน้ากากของอีกฝ่ายออกเพราะคุ้นท่าทางวิธีการพูด ขณะที่อวิ๋นอวี้ยืนอึ้งด้วยความตกใจ เฉวียนอี้เจินก็กระโดดเข้าหาเรียกศิษย์พี่ทันที อวิ๋นอวี้มีสีหน้าหวาดกลัว เอามือกุมหัววิ่งหนี ร้องไล่ให้ศิษย์น้องออกไปห่างๆ และอย่าตามตนมา ก่อนปล่อยพลังใส่ผนังเพื่อกั้นทางไว้ แต่เฉวียนอี้เจินที่ไม่ได้เข้าใจอะไรเลยก็วิ่งตาม จนเกิดสียงปะทะตูมตามไปตลอดทาง

เมื่อชายที่น่าจะเป็นราชครูกล่าวขอตัว บอกว่าค่อยไปสมทบกันที่เตาภายหลัง ฮวาเฉิงก็ระเบิดพลังเปิดทางออกไป แต่บริเวณนั้นก็ไม่มีผู้ใดยืนอยู่แล้ว ยังไม่ทันทำอะไร พวกเขาก็เจออวิ๋นอวี้ที่กำลังวิ่งหนีเฉวียนจี้เจินซึ่งไล่ตามอย่างไม่ลดละ ฮวาเฉิงเลยช่วยสาปเฉวียนอี้เจินให้กลายเป็นตุ๊กตาล้มลุก ตอนที่เซี่ยเหลียนจะเข้าไปอุ้มตุ๊กตาขึ้นมาก็รู้สึกเหมือนแผ่นดินไหว ฮวาเฉิงจึงสั่งให้อวิ๋นอวี้เจาะผนังเพื่อออกไปนอกภูเขา แต่เมื่อเห็นด้านนอกจึงได้รู้ว่าเป็นเพราะภูเขากำลังเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง ดูทรงแล้วอีกเพียง 2 วันก็น่าจะถึงเตา นั่นทำให้คำพูดของชายปริศนากลับเข้ามาในความคิดของเซี่ยเหลียน แล้วเขาก็คิดได้ว่าที่ตนไม่ได้ยินเสียงคนที่อีกฝ่ายพูดด้วยเป็นเพราะแท้จริงแล้วราชครูกำลังคุยกับวิญญาณของภูเขาลูกนี้นั่นเอง

เซี่ยเหลียนคิดหนักว่าคำว่ายังไม่ตื่นหมายถึงอะไร ฮวาเฉิงพยายามปลอบว่าอีกฝ่ายอาจไม่ใช่ราชครู และองค์ชายรัชทายาทอาจไม่ได้หมายถึงเซี่ยเหลียน แต่เซี่ยเหลียนไม่คิดเช่นนั้น เพราะถ้าคนๆ นั้นเป็นราชครูจริงๆ พอรวมกับภูเขาผีทั้ง 3 ลูก แก่ เจ็บ และตาย ก็เข้ามาเสริมตำแหน่ง เกิด ที่หายไปพอดี ยิ่งคุยกันได้ย่อมแสดงว่าเป็นแก็งค์เดียวกัน ภูเขาตงลู่อยู่ในเขตการปกครองของอู๋หย่ง องค์ชายรัชทายาทของอู๋หย่งมีผู้ช่วยอยู่ 4 คน สมัยอยู่ในเซียนเล่อเขาก็มีราชครูสอนสั่งอยู่ 4 คนเช่นกัน ทั้งๆ ที่ปรกติรัชทายาทอาณาจักรอื่นก็ไม่มีราชครูมากมายเท่านี้ หรือว่าเรื่องนี้จะมีความหมายอะไรซ่อนอยู่ ถ้าราชครูทั้ง 4 เป็นผู้ติดตามขององค์ชายรัชทายาทแห่งอู๋หย่งจริง ทำไมพวกเขาถึงต้องมาเซียนเล่อเป็นราชครูให้เขา หรือจะมีอะไรบางอย่างเกี่ยวกับตนเองที่เขายังไม่รู้ หรือว่าเขาจะเป็น...!!
.
.
.
.
.

119 Nameless Fanboi Posted ID:GJHkKJMEri

>>118 เชี่ยย!! พีคเข้าไปอีก ตัดจบได้ค้างคามากอ้าาาา!! เหมือนกำลังดูโคนันไขคดี คนร้ายก็คือ...!!

120 Nameless Fanboi Posted ID:kEX9svQP79

ขอkyหนึ่งที กูสงสัยว่าถ้าวิธีบำเพ็ญของเซี่ยเหลียนมันต้องงดเรื่องทางเพศ แล้วตอนหลังไปป้าบกับฟาฟานี่ไม่เป็นไรเหรอวะ

121 Nameless Fanboi Posted ID:7haGFH8yeu

>>120 ในเรื่องไม่ได้มีบอกไว้ แต่ส่วนตัวกูคิดว่าเซี่ยเหลียนเปลี่ยนสายบำเพ็ญมานานแล้วอะ เพราะสถานะตอนนี้คือเทพเก็บขยะ ไม่ใช่เทพสงคราม เพราะฉะนั้นจะไม่รักษาจิ้นก็ได้ ถ้าอยากรักษาก็ได้แต้มศรัทธาเพิ่ม แต่ถ้าไม่อยากเก็บจิ้นแล้วก็ไม่ติดลบเหมือนเมื่อก่อน ที่ตอนนี้เซี่ยเหลียนยังเก็บจิ้นไว้น่าจะเพราะทำตามความเคยชิน แถมตอนหลังคนก็ไหว้คู่กับฮวาเฉิง ก็รู้ๆ กันแล้วล่ะว่าไม่จิ้นล่ะ ไม่ต้องรักษาภาพลักษณ์บริสุทธิ์ไว้

122 Nameless Fanboi Posted ID:YDGgBNqzlP

>>121 กุเองที่สงสัยเรื่องนี้ กุยังงงๆประมาณว่าถ้าบำเพ็ญมาสายนี้แล้วต้องอยู่สายนี้ตลอดไปงี้รึเปล่า ไม่งั้นต้องเริ่มนับ1ใหม่ถ้าจะเปลี่ยนสาย แต่เซี่ยเหลียนมีเวลาตั้ง800ปี อาจจะเปลี่ยนสายแล้วเริ่มนับ1ใหม่ไปตั้งนานแล้วก็ได้?
กุลองไปหาอ่านที่เค้าพูดๆกันมาดูตามทวิต เค้าแซวกันประมาณว่ามันมีลิมิตว่าอะไรทำได้ไม่ได้ กุคิดเล่นๆว่าถ้าซิงของผชมันแปลว่าต้องไปจิ้มคนอื่น ถ้าโดนจิ้มก็อาจจะแปลได้ว่ายังไม่เสียซิงป่ะวะ 555555555

123 Nameless Fanboi Posted ID:ZzKtuQ0043

>>122 แต่กูเหมารวมนะ โดนจิ้มหรือไปจิ้มเขาก็นับหมดว่าไม่ซิง

124 Nameless Fanboi Posted ID:qjKBUdH+Ru

เมื่อไหร่จะมีข่าวอัพเดตม่านฮวาตัวร้ายว่ะ คิดถึงอ่ะ ฮือออ

125 Nameless Fanboi Posted ID:z31r6xN.RK

ปรมจเล่มสี่ ชาติไหนจะออกอะ มีใครรู้มั้ย

126 Nameless Fanboi Posted ID:8PQW4lUBPG

>>125 ชาตินี้แหละถ้ามึงไม่รีบตายก่อน

127 Nameless Fanboi Posted ID:IlAL5GL5mr

>>125 กูคือรอบ๊อกซ์ล่ะ ค่อยเก็บทีเดียว นานสัส

128 Nameless Fanboi Posted ID:.nZEv/pmcf

เค้าบอกคนพรูฟหรืออะไรนี่แหละมีปัญหาสุขภาพป่ะ แต่มันก็นานจริงๆ กุอยากอ่านให้จบแล้วอ่ะ บางตอนพิเศษกุเก็บไว้รออ่านในเล่มเฉพาะเลย แต่เล่ม4ยังไม่ออก เล่ม5ที่กุรอนี่ไม่รู้เมื่อไร

เทียนกวานเล่มไทยจะออกก่อนหรือปรมจจะพิมพ์จบก่อน

129 Nameless Fanboi Posted ID:fp3GOTBXEt

>>125 เล่ม 4 ออกหรือกูตายเพราะโควิด อะไรจะเกิดก่อนกัน

130 Nameless Fanboi Posted ID:OxkRI.5N9r

กูมาบ่น กูอ่านเทียนกวานจบแล้วว่ะ กูอ่านแล้วรู้สึกขำๆกับคสพคู่หลักดี เหมือนเซี่ยเหลียนชอบวิ่งเข้าหาปัญหาตลอดเวลาทั้งรู้ตัวมั่งไม่รู้ตัวมั่ง ยิ่งตอนพิเศษเกือบทุกตอนคือเซี่ยเหลียนก่อเรื่องหมดเลย เจ็บตัวตลอดทั้งเรื่อง แล้วฮวาเฉิงก็ต้องวิ่งไปวิ่งมาช่วยแก้ปัญไม่ก็ช่วยซับพอร์ททุกครั้ง ปล่อยเซี่ยเหลียนออกนอกบ้านทีนึงคือพาเรื่องกลับมาด้วยตลอด ฮวาเฉิงแม่งน่าจะปวดหัวจัด 5555

ทำไมมันจะมีปัญหาเกิดกับฮวาเฉิงในเนื้อเรื่องหลักมั่งไม่ได้วะ อีเว้นท์ที่ฮวาเฉิงมีปัญหาแล้วเซี่ยเหลียนไปช่วยแก้งี้อ่ะ กุอยากอ่านแบบนี้บ้าง กูสงสารเซี่ยเหลียนแล้วสงสารฮวาเฉิงยิ่งกว่าต้องมาเห็นเซี่ยเหลียนเจ็บตัวบ่อยขนาดนี้

131 Nameless Fanboi Posted ID:HY1wjVKSFA

>>130 เหมือนปรจ เลย ในทวิตมีแซวว่าเว่ยอิงมีปัญหาเสมอ หลานจ้านต้องมาช่วยเคลียร์ จับขังที่กูซูไปเลย 555 วุ่นวายทั้งยุทธภพเพราะเธอคนเดียววววว

132 Nameless Fanboi Posted ID:pFZ1A4Zrqh

>>130 ตอนฮวาเฉิงเป็นเด็กไง

133 Nameless Fanboi Posted ID:8odfE12Oz/

>>130 กูว่าแม่โม่เขามีสเปคคนที่ชอบว่าต้องเป็นคนที่ซัพพอร์ทตัวเองได้ จะเห็นได้จากฮวาเฉิงที่แม่โม่ยอมรับว่าอวยตัวละครตัวนี้มาก หรือเทพแห่งฝน ก็เป็นพวก Stand Alone อยู่ได้ด้วยตัวเอง แล้วคอยซัพคนอื่น โดยไม่ต้องมีใครมาช่วยซัพตัวเอง (ซึ่งทั้ง 2 คน เป็นตัวละครที่กูคิดว่าแมรี่ ซู ตามคอมเมนท์บนๆ) เรื่อง ปรจ ก็มีหลานจ้านที่ต้องคอยซัพให้เว่ยอิง พอมาแต่งในนิยายก็แต่งตัวละครตามลักษณะที่ตัวเองชอบจนลืมคิดถึงมิติที่ว่าเราเองก็ต้องซัพพอร์ทอีกฝ่ายเหมือนกัน ตามหลักแมรี่ ซู ที่สนองนี้ดลึกๆ ของตัวเอง

134 Nameless Fanboi Posted ID:pLX0QZBxs2

>>128 ท้อใจชิบหาย กูเบื่อหน่ายสำนักพิมพ์นี้จริงๆ

135 Nameless Fanboi Posted ID:OxkRI.5N9r

>>131 เซี่ยเหลียนนี่คนละเลเวลกับเว่ยอิงเลยมึง เว่ยอิงนี่ยังปล่อยให้ไปนำพวกเด็กๆล่าราตรีได้ แต่เซี่ยเหลียนคือออกไปตบมอนเลเวลปกติยังเอาเรื่องกลับมาได้(ตอนพิเศษ) ทั้งที่ความจริงตอนหลังเซี่ยเหลียนนี่ควรจะโคตรopด้วยซ้ำ หรือเป็นเพราะเซี่ยเหลียนเจ็บตัวบ่อยจนเลิกระวังตัวไปแล้วก็ไม่รู้

>>132 ก็คือพอมันโตมาแล้วมันไม่เคยเจอปัญหาอีกเลยอ้ะ กูอ่านทั้งเรื่องนอกจากพาร์ทอดีตแล้วฮวาเฉิงมันไม่เจอปัญหาหนักๆอีกเลย ทุกอย่างที่มันเคยเจอเป็นอดีตไปหมดแล้ว กลายเป็นว่าลำบากแค่ไม่กี่สิบปี สบายไปอีก800ปีเลยนะ

>>133 กูเองแหละที่คุยเรื่องฮวาเฉิงซูไม่ซูข้างบน กูว่าพี่วั่งแม่งก็แมรี่ซูว่ะ นิดนึง แต่เพราะเนื้อเรื่องมันเลยไม่ซูเท่าฮวาเฉิง มีคนที่ตามซีรี่ส์อย่างเดียวเคยทักมาถามกุเหมือนกันว่าทำไมคนอื่นๆในเรื่องไม่ค่อยกล้าแตะพี่วั่งกันเลย

136 Nameless Fanboi Posted ID:yYipDDrn2M

>>135 กูอาจจะพูดไม่ชัด ตอนที่ฮวาเฉิงตัวหดไง

แต่ล่ะช่วงส่วนมาก กูมองต่างไปเพื่อนโม่งทีว่าเซี่ยเหลียนแก้ปัญหาเองได้เกือบทุกอย่าง แต่ว่ามีฮวาเฉิงมาช่วยมันก็แค่เร็วขึ้น คือไม่ได้ต้องพึ่งพาฮวาเฉิงอะไรขนาดนั้น แต่แค่ฮวาเฉิงเทพเกินไป

137 Nameless Fanboi Posted ID:tIeWrbseXY

>>130 กูเห็นด้วยนะ ตลอดเวลาที่กูอ่านกูรู้สึกเหมือนฮวาเฉิงมาเที่ยวเล่นกับเซี่ยเหลียนเฉยๆอ่ะ แบบ คอยตามเค้าไปทำนู่นนี่ ติดปัญหาอะไรก็คอยช่วย อยากรู้อะไรก็ถามมา คือในความรู้สึกกูมันดูชิวมาก 5555

138 Nameless Fanboi Posted ID:bnUK4qCKRj

ดันหน่อย โทรลแมร่งติดเชื้อคลั่งแล้ว

139 Nameless Fanboi Posted ID:.H8828I4Au

KY ปรมจ.หน่อย ใครดูภาคชิงเหอแล้วบ้าง สัส ร้องเหมียนหมากว่าที่คิด ใจกูไม่ไหวแล้ว ฮืออออ

140 Nameless Fanboi Posted ID:w4773BgoIQ

>>139 กุก็ร้องเหมียนหมา จ่ายเงินไปเพื่อดูเหยาเหยาลูกกุที่ออกมาได้ 5 นาที พร้อมบทร้ายแบบooc ให้กุช้ำใจเล่น

141 Nameless Fanboi Posted ID:J6KSSYl.LR

>>140 oocเลยเหรอวะ อาเหยานี่น่าสงสารสุด ภาคหลักในซีรีส์ก็กลายเป็นตัวร้ายไปทุกอย่าง ภาคนี่ยังจะโดนอีกเหรอวะ

142 Nameless Fanboi Posted ID:q6qeE8E/MQ

>>141 ได้บทสอนเพลงวิญญาณกลหลหลอกใช้น้องเนี่ยฆ่าพี่หมิง

143 Nameless Fanboi Posted ID:J6KSSYl.LR

>>142 หะ ถึงกับเปลี่ยนบทขนาดนี้เลย? กุนึกว่าอ่านฟิค อห

144 Nameless Fanboi Posted ID:hjEO+oEYgi

>>142 คิดถูกจริงๆที่กูไม่ดู

145 Nameless Fanboi Posted ID:y/MIPoT82T

บทพี่น้องกูว่าทำได้ดีมากเลย ในภาคหลักเห็นบทความผูกผันสกุลเนี่ยยังไม่ลึกซึ้ง หนังก็เอามาขยายตรงนี้ได้ดีมาก ต้าเกอสุดยอดพี่ชายแห่งยุทธภพ ความจริงกูรู้สึกตั้งแต่ในหนังสือแล้วว่าคนสปอยล์น้องสุดก็พี่แหล่ะ แล้วพอมีภาคนี้ยิ่งเห็นชัด ตราบใดที่พี่ยังอยู่น้องอยากทำอะไรก็ทำไปพี่จะปกป้องเอง บ้าเอ้ยยย ยิ้มแต่น้ำตาไหลถึงตรีน5555

ส่วนอาเหยาแทบเรียกได้ว่ามาเป็นของแถม ชนิดไม่ต้องขึ้นโปสเตอร์โปรโมทยังได้ แต่ถึงบทจะน้อยแต่มากนะทิ้งอารมณ์ได้ดี ประมาณหนังมาเวลที่ทิ้งจุดเชื่อมไว้ท้ายเรื่องให้อยากตามต่อ
มันจะมีต่อเปล่าวะ กูว่าทำได้เลยนะเป็นจุดเชื่อมสำคัญด้วย เล่าเรื่องสกุลจินก็ได้แก้กรรมอาเหยาบ้างเถอะหลังถูกปู้ยี่ปู้ยำมานาน นอกจากนี้จะเชื่อมถึงคุณชายโม่+แผนการของน้องเนี่ยยังได้เลย

146 Nameless Fanboi Posted ID:oPfI7h1uaO

>>145 จริง กูอยากรู้เรื่องคุณชายโม่อ่ะ เรื่องคัมภีร์ที่เรียกพี่เว่ยกลับมาด้วย อยากให้เขามาเฉลยปมตรงนี้อ่ะ

147 Nameless Fanboi Posted ID:oPfI7h1uaO

คิดถึงโม่งสปอยย

148 Nameless Fanboi Posted ID:yk.mQZerTK

>>145 เอองี้กูว่าอาเหยายังเล่นได้อีก มาแก้กรรมให้เป็นคนดีแต่บิดเบี้ยวได้ อยากให้น้องได้บทดีๆหน่อย โดนด่าตลอด 555

149 Nameless Fanboi Posted ID:fSqtl6hhOs

kyม่านฮวาเทียนกวานเลททุกอาทิตย์เลยว่ะ กุกลัวคนวาดตายก่อนจริงๆ

150 Nameless Fanboi Posted ID:Qu4iMWckF0

>>149 จีงง กุเอ็นดูเขานะ งานเขาละเอียดมาก เปลี่ยนมาลง 2 อาทิต หนึ่งตอนกุก็ไม่ว่าอ่ะ

151 Nameless Fanboi Posted ID:fSqtl6hhOs

>>150 กุชอบงานเค้ามากกก งานละเอียด ภาพสวยสัสทุกตอน ขนาดทำไม่ได้ทันขนาดนี้ยังไม่มีงานเผาแบบเห็นชัดๆเลย เปลี่ยนมาลง2อาทิตย์ก็ได้ อยากให้รักษาสุขภาพมาก่อน หรือไม่ก็อยากให้เค้าหาผู้ช่วยดีๆซักคนว่ะ สไตล์ภาพอาจจะเปลี่ยนนิดหน่อยก็ได้

152 Nameless Fanboi Posted ID:FGiJWw.YJr

ดันนนนนนนนนน

153 Nameless Fanboi Posted ID:v0j961yJt3

มาดันด้วยยย ดันนนนน

154 Nameless Fanboi Posted ID:9f0C9Aeh65

มึง กูรู้จักปรมาจารย์เพราะซีรีย์ ตอนที่ดูรู้สึกชอบมากนะ แต่พอไปอ่านนิยายแล้วกลับมาดูซีรีย์อีกที กูรู้สึกว่าซีรีย์มันเวิ่นเว้อไปเลย 5555 ยิ่งเพิ่มเรื่องเหล็กทมิฬเข้ามา เลยยิ่งยืดเข้าไปอีก

155 Nameless Fanboi Posted ID:A5hHRiFB7Z

แมวอวิ๋นอี้กับหมีอี้เจินน่ารักมากเลยว่ะ ฮีลใจจากคู่นี้ในนิยายมากๆๆๆๆๆๆ

>>154 เวิ่นเว้อจริง แต่มันต้องยืดอยู่แล้วอ่ะไม่งั้นคงทำไม่ถึง50ตอน แต่บางอย่างที่ใส่มานี่โคตรงง อย่างเหล็กดำ เวินฉิงเป็นรักแรกของเจียงเฉิง แต่กุชอบมุกเหมียนเมียนนะ

156 Nameless Fanboi Posted ID:g8.QLPbxLf

กูชอบที่ซีรีย์เน้นความสัมพันธ์สามพี่น้องเยอะกว่าในนิยาย เซี่ยนเซี่ยนน้อยของศิษย์พี่ T T

157 Nameless Fanboi Posted ID:nCFMpgBa5B

>>154 ซีรีย์ทำดีตรงความสัมพันธ์โดยเฉพาะพี่น้องกับโมเม้น ดำเนินเรื่องอย่างง่วงเลย

158 Nameless Fanboi Posted ID:fGa7xurbCj

เมื่อไรกูจะได้ ปรมจ เล่ม 4 วะ
หรือกูอาจจะติดไวรัส ก่อนได้ซื้อเล่ม 4 ก็ได้

159 Nameless Fanboi Posted ID:pF.QnU6sQu

สปอยเทียนกวานอาร์ค 3 ต่อจาก >>118 เทียนกวาน Part.127
.
.
.
.
.
เห็นเซี่ยเหลียนเริ่มมโนหนัก ฮวาเฉิงก็พยายามพูดว่าเซี่ยเหลียนก็คือเซี่ยเหลียน ไม่มีทางเป็นคนอื่นไปได้ แต่ไม่ว่าอะไรจะเกิด เขาก็จะอยู่ข้างเซี่ยเหลียน พอเซี่ยเหลียนสบายใจขึ้น ยังไม่ทันทำอะไร ภูเขาก็ถุยแม่ทัพเผยออกมาจากผนังถ้ำ ก่อนตามมาด้วยเผยซู่ที่กำลังกอดคุ้มครองปั้นเยวี่ยซึ่งถือไหของหรงกวนกับเค่อหมอไว้ ทำให้เซี่ยเหลียนอดสงสัยไม่ได้ว่าเป็นเพราะมีคนบอกให้วิญญาณในภูเขาปล่อยพวกตนออกมา ทว่าพวกเขากลับไม่พบหลิงเหวิน คาดว่าเทพสาวน่าจะอาศัยโอกาสหลบหนีไปแล้ว แต่พอคิดว่าอย่างไงอีกฝ่ายก็มุ่งไปที่เตาเหมือนกันจึงตั้งวงนั่งพัก ตอนนั้นเองจู่ๆ เผยซู่ก็ล้มลง พอเซี่ยเหลียนเชคถึงรู้ว่าเผยน้อยเหนื่อย อีกทั้งไม่มีอาหารตกถึงท้องเลยหมดแรงเป็นลม ปั้นเยวี่ยจึงหยิบหม้อต้มงูที่ทำก่อนหน้าออกมาจนเผยหมิงต้องสั่งให้เธอทิ้งมันไป

เพราะไม่มีใครมีเสบียงอื่น เซี่ยเหลียนเลยออกไปส่องด้านนอกภูเขา แต่แล้วเขาก็ต้องขนลุกเมื่อเห็นใบหน้าขนาดใหญ่มนุษย์ปรากฏอยู่บนพื้น แต่พอมองดีๆ ถึงได้รู้ว่าเป็นแค่ภูมิทัศน์ที่บังเอิญคล้ายหน้าคนเท่านั้น เมื่อฮวาเฉิงบอกว่ามีอารามศักดิ์อยู่ในพื้นที่ที่คล้ายจมูก อีกทั้งเพื่อหาของกินให้เผยซู่ ทุกคนเลยตัดสินใจจะออกไปจากภูเขาผี แต่เผยหมิงก็ชี้ถามก่อนว่าด้ายแดงที่นิ้วของเซี่ยเหลียนกับฮวาเฉิงคืออะไร ผูกไว้อย่างนั้นเดี๋ยวจะไปเกี่ยวไปพันอะไรเข้าจนเกิดอุบัติเหตุได้ ฮวาเฉิงจึงใช้พลังทำให้ด้ายหายไปจนเซี่ยเหลียนอดรู้สึกหวิวๆ ในใจไม่ได้

อ๋องผีบอกว่าเมืองในบริเวณอยู่ใต้ดิน จากนั้นเขาก็ใช้เอ้อมิ่งเจาะพื้นกระโดดนำลงไป เขาอธิบายในเซี่ยเหลียนฟังว่าเมืองนี้ถูกเถ้าของภูเขาไฟปริมาณมากทับฝังทั้งเมือง พิสูจน์ได้ว่าสิ่งที่องค์ชายรัชทายาทเคยนิมิตไว้เป็นความจริง พอเผยหมิงกับปั้นเยวี่ยเดินนำไปหาแหล่งน้ำใต้ดิน ฮวาเฉิงก็ชี้ให้เซี่ยเหลียนดูว่าแท้จริงแล้วด้ายแดงระหว่างพวกตนยังอยู่ ตนเพียงใช้คาถาทำให้มองไม่เห็น จะได้ไม่ต้องกังวลกับมันมากไป แต่ก็ย้ำว่าถึงอีกฝ่ายจะตายไม่ได้ แต่ก็เจ็บเป็น ถ้าเจออะไรที่น่าจะอันตรายให้เรียกเขาทันที เซี่ยเหลียนจึงบอกว่าถ้าคนตรงหน้าเจอเรื่องอันตรายก็ให้เรียกตนเช่นกัน

เซี่ยเหลียนเห็นว่าร่างของชาวเมืองดูราวกับรูปปั้นหิน ส่วนมากอยู่ในท่าทางราวกำลังหวาดกลัวอะไรบางอย่าง ฮวาเฉิงอธิบายว่าพวกเขาล้วนเสียชีวิตเพราะสำลักเถ้าภูเขาไฟ แล้วเถ้าเหล่านั้นก็ปกคลุมทั่วร่างจนหนา เมื่อเวลาผ่านไปจึงกลายเป็นหินเช่นนี้ เซี่ยเหลียนสังเกตว่ารูปปั้นของคู่สามีภรรยาซึ่งกอดกันอยู่โดยมีลูกนอนอยู่ตรงกลางเหมือนจะถืออะไรไว้ในมือข้างหนึ่ง ฮวาเฉิงเลยช่วยทำลายรูปปั้นแล้วหยิบของในมือของรูปปั้นส่งในเซี่ยเหลียน มันคือแผ่นทองที่มีลายดาวมฤตยูซึ่งเป็นเครื่องหมายของความตาย อ๋องผีบอกว่าก่อนหน้าเขาเคยสำรวจรูปปั้นชาวเมืองแล้วพบสิ่งนี้จะเป็นเครื่องรางของชาวอู๋หย่ง นั้นเป็นเพราะองค์ชายรัชทายาทที่พวกเขาบูชาประสูติในวันที่มีดาวมฤตยู พอได้รู้อย่างนั้นเซี่ยเหลียนก็ถึงกับสะอึก เพราะเขาเองก็เกิดในวันที่มีดาวมฤตยูเช่นเดียวกัน

ที่อารามศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาพบรูปภาพถึง 3 รูป ภาพแรกเป็นภาพขององค์รัชาทายาทของอู๋หย่งกำลังใช้พลังบอกนิมิตรที่เมืองจะถูกภัยจากภูเขาไฟทำลายให้ขุนนางทราบ แม่ทัพในภาพเหมือนต้องการก่อสงครามขยายพื้นที่เพื่ออพยพชาวเมือง ทว่าการทำเช่นนั้นย่อมต้องทำลายชีวิตของผู้คนของอาณาจักรข้างเคียง รัชทายาทในภาพจึงมีสีหน้าท่าทางเหมือนไม่เห็นด้วย ทว่าในภาพที่สอง อู๋หย่งก็ได้เข้าสู้สงครามเสียแล้ว ภาพของเลือดไหลซึ่งนองราวแม่น้ำ ศพของทหารอาณาจักรข้างเคียงตั้งสูง และทหารอู๋หย่งที่เข้าไปลวนลามรังแกสตรีและเด็กทำให้ใบหน้าขององค์ชายรัชทายาทบนสวรรค์เต็มไปด้วยความโกรธ
.
.
.
.
.
Note : กูกลับมาแล้ว พอดีช่วงอาทิตย์ที่แล้งหงุดเงี้ยว อากาศก็ร้อน หาซื้อ มาม่า ยำยำ ไวไว รสที่กินไม่ได้สักยี่ห้อ ดึกๆ หิวอยากกินมาม่าก็ไม่กล้าเอาที่มีเหลืออยู่มากิน กลัวเดี๋ยวสถานการณ์มันแย่กว่านี้แล้วไม่มีกิน ตอนนี้ก็ยังหามาตุนไม่ได้ + นิยายที่สั่งไว้มาส่งพอดี เลยไปจัดการกองนิยายมา

160 Nameless Fanboi Posted ID:LphlWbuXJX

>>159 ขอบคุณมาก นั่งรอสปอยล์ทุกวันเลย

ไปดูม่านฮวาเทียนกวานมา ฮวาเชิงโคตรอ่อย (หรือกูรู้สึกไปเอง 555) ส่วนเซี่ยเหลียนโคตรน่ารักอ่ะ งื้อๆๆๆ คุณสตาร์วาดสวยก็สวยจัดเต็ม วาดจิบิก็น่ารักมาก โดยเฉพาะก้อนเซี่ยเหลียนกับจิ้งจอกน้อยฮวาเชิง อยากบีบแก้มมมม
อยากอ่านแปลไทย จะมีใครซื้อ LC มาบ้างมั้ยน้าาาา

161 Nameless Fanboi Posted ID:pF.QnU6sQu

>>160 ไม่รู้เป็นที่กูเองคนเดียวหรือเปล่า คือตอนดูดูคุณสตาร์เขาวาดภาพโปรโมทเรื่องเทียนกวานกูก็ชอบมาก คิดว่าสวยมากๆ แต่พอเป็นม่านฮวาแล้วกูกลับรู้สึกไม่ชอบอย่างที่คิดอะ พอมีตัวละครหลายๆ ตัวแล้วรู้สึกว่าเขาวาดหน้าตาเหมือนๆ กันไปหมด แล้วเขาก็ตีความฮวาเฉิงต่างจากอิมเมจที่กูมีในนิยายเหมือนที่กูชอบบ่นในนี้บ่อยๆ อะว่าฮวาเฉิงควรยิ้มตอแหล แล้วเซี่ยเหลียนเขาก็วาดดูอ้อนแอ้นออกสาวไปหน่อย เซี่ยเหลียนควรมีกล้ามบ้างอะ

162 Nameless Fanboi Posted ID:VcGG99pZaq

>>161 กูยอมรับเรื่องหน้าตาว่าเขาวาดทุกตัวเหมือนกันหมด 555

163 Nameless Fanboi Posted ID:f12FNAay2Q

>>159 ขอบคุณเพื่อนโม่ง กุอยากส่งมาม่าที่บ้านกูไปเป็นกำลังใจให้จังเลยย สู้ๆนะ เราจะผ่านไปด้วยกันจนวันที่เทียนกวานเล่มจริงออก

>>160 >>161 กุชอบงานคุณสตอบนะ เรื่องเซี่ยเหลียนตัวบาง นี่ว่าเค้าแค่ชอบวาดหน้าสวยจัดเฉยๆ เซี่ยเหลียนนี่สวยขึ้นทุกตอน อย่างตอนใส่ชุดแต่งงานก็ดูบึกอยู่นะ แต่รู้สึกเค้าไม่ค่อยเก่งเรื่องสตอรี่บอร์ดแบบที่เค้าบอกอ่ะมันเลยอ่านไม่ค่อยลื่น

ส่วนยิ้มตอแหลของฮวาเฉิง ยังไม่ค่อยเห็นฮวาเฉิงยิ้มกับคนอื่นในม่านฮวาเลยอ่ะ เห็นแต่ยิ้มให้เซี่ยเหลียน บางทีเพราะยังมีแต่ฉากยิ้มให้เซี่ยเหลียนฮวาเฉิงมันเลยเก๊กหล่ออยู่ตลอดป้ะ เกอเกอ ข้าหล่อพอรึยัง 555555

164 Nameless Fanboi Posted ID:QI5XSYqv.a

สปอยเทียนกวานอาร์ค 3 ต่อจาก >>159 เทียนกวาน Part.128
.
.
.
.
.
เมื่อพวกเซี่ยเหลียนเดินไปดูภาพวาดอันสุดท้ายก็อดตกใจไม่ได้เพราะใจกลางของภาพคือสะพานขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อระหว่างภพมนุษย์กับสวรรค์ การที่เทพจะพาใครขึ้นติดตามขึ้นสวรรค์ด้วยจะต้องใช้พลังทิพย์เป็นจำนวนมาก เพราะฉะนั้นการที่องค์ชายรัชทายาทแห่งอู๋หย่งจะพาประชาชนทั้งอาณาจักรหนีภัยพิบัติไปสวรรค์จึงเป็นเรื่องฮาร์ดคอร์มาก พอเซี่ยเหลียนมองเผยซู่ที่สลบอยู่ก็เสนอให้ทิ้งอีกฝ่ายให้อยู่ที่นี่กับปั้นเยวี่ย เพราะยิ่งใกล้เตาก็น่าจะอันตรายขึ้น จากนั้นเขาก็สังเกตว่าอวิ๋นอวี้ที่ออกไปหาน้ำไม่กลับมาสักที เขากับฮวาเฉิงเลยออกไปตามหาอีกฝ่าย พอทั้งคู่เดินมาถึงแม่น้ำใต้ดินเซี่ยเหลียนก็หยิบไหที่เก็บได้มาล้างหมายจะตักน้ำกลับไปให้เผยซู่ ทว่าขณะที่เขากำลังจะยกไหจิบน้ำดื่มอ๋องผีก็ห้ามไว้ พร้อมกันนั้นเขาก็ได้ยินเสียงของใครบางคนดังมาจากไหว่า ร้อน พอเซี่ยเหลียนสังเกตเห็นดวงตาของอะไรบางอย่างในไหก็เขวี้ยงมันทิ้ง หลังจากฮวาเฉิงอธิบายว่าสิ่งนั้นไม่ใช่มนุษย์ เซี่ยเหลียนก็ได้ยินเสียงไอ และเสียงผู้คนมากมายร้องขอความช่วยเหลือ “ฝ่าบาท พระองค์ทรงอยู่ที่ไหนกัน ช่วยข้าด้วย ได้โปรดช่วยข้าที”

เห็นเซี่ยเหลียนขนลุก อ๋องผีก็ส่งผีเสื้ออกไปส่องว่าสิ่งนั้นคืออะไร ปรากฏว่าพวกมันคือหนูตัวใหญ่ฝูงหนึ่ง และที่พวกมันมีขนาดใหญ่เช่นนั้นก็เป็นเพราะกินศพของชาวเมืองอู๋หย่ง ความเจ็บปวดทรมานของชาวเมืองจึงหลงเหลืออยู่ในตัวพวกมันจนสามารถเอ่ยคำกล่าวในยามสิ้นลมของคนแหล่านั้นออกมา พอได้ยินคำอธิบายจากฮวาเฉิง เซี่ยเหลียนจึงเข้าใจทันทีว่าทำไมเขาจึงได้ยินคำพวกนั้นจากหนู แต่พอเห็นท่าทีแปลกใจของอ๋องผี เขาก็เพิ่งตระหนักว่ามีสิ่งที่ไม่ถูกต้องอยู่ หนูพวกนั้นพูดแทนชาวเมืองอู๋หย่งซึ่งย่อมต้องใช้ภาษาอู๋หย่ง แล้วทำไมเขาถึงเข้าใจได้ พอฮวาเฉิงลองกล่าวคำตามพวกหนูดู เซี่ยเหลียนกลับไม่เข้าใจสิ่งที่อีกฝ่ายพูด อ๋องผีจึงสรุปว่าเซี่ยเหลียนไม่ได้เข้าใจภาษาอู๋หย่ง แต่สามารถเข้าใจความรู้สึกของคนตายได้ และนั่นหมายความว่ามีใครบางคนที่เข้าใจภาษาอู๋หย่งได้จดจำความรู้สึกเหล่านั้นและถ่ายทอดมันให้เซี่ยเหลียน หรือว่าคนๆ นั้นจะคือราชครูกัน

การจะถ่ายทอดความทรงจำและความรู้สึกให้แก่คนอื่น อีกฝ่ายจะต้องมีความเชื่อมั่นในตัวเจ้าของความทรงจำเป็นอย่างมาก อีกทั้งต้องรู้สึกว่าตัวเองด้อยพลังกว่าเมื่ออยู่ด้วย ซึ่งเซี่ยเหลียนก็บอกว่ามีคนที่เข้าข่ายอยู่ 3 คน คนแรกคือราชครู คนที่สองคือจวินอู๋ ส่วนคนที่สาม แม้เขาจะไม่เชื่อใจอีกฝ่าย แต่เขารู้สึกว่าตัวเองไร้พลังและกลัวอีกฝ่ายมาก นั่นทำให้ฮวาเฉิงรู้ทันทีว่าเซี่ยเหลียนหมายถึงเศวตไร้หน้า หลังจากปลอบใจว่านั่นไม่ใช่เรื่องน่าอาย อ๋องผีก็ถามต่อว่ามีคนอื่นอีกหรือไม่ เซี่ยเหลียนเลยบอกว่าจริงๆ แล้วมีอีกคนที่เขาเชื่อใจมาก แต่ไม่ได้รู้สึกไร้พลังเมื่ออยู่กับอีกฝ่าย คนๆ นั้นไม่มีทางที่จะเอาความทรงจำพวกนั้นมาใส่เขา และเขาก็เชื่อในตัวคนๆ นี้มากกว่าอาจารย์ของตนหรือจวินอู๋เสียอีก เวลาที่เขาเผชิญปัญหาอะไรก็มักนึกถึงคนๆ นี้ก่อนเสมอ

จู่ๆ ฉวาเฉิงก็หน้าเสีย แนะนำเซี่ยเหลียนว่าอย่าเชื่อใจใครง่ายๆ เซี่ยเหลียนจึงแอบเลียบเคียงว่าไม่ถามหน่อยเหรอว่าเป็นใคร อ๋องผีบอกว่าไม่จำเป็น ทั้งสองเลยออกเดินทางหาอวิ๋นอวี้กันต่อ แต่สุดท้ายอ๋องผีก็แถามว่าคนๆ นั้นใช่เฟิงซิ่นหรือเปล่า หรือว่ามู่ฉิง แล้วก็หันมายิ้มตอแหลบอกว่าเขาคิดว่าไอ้คนที่ 4 เนี่ยแหละน่าสงสัยที่สุด บอกมาทีว่าเป็นใคร ทว่าตอนนั้นเองพวกเขาก็สัมผัสได้ว่ามีอะไรบางอย่างเข้ามาใกล้จึงไปซ่อนอยู่ข้างทาง เซี่ยเหลียนเสียงหนักกระทบพื้นเป็นจังหวะที่ฟังดูคุ้นๆ ไม่นานนักพวกเขาก็เห็นหญิงสาวในชุดเจ้าสาวสีแดงซึ่งมีไฟสีเขียวลอยอยู่เหนือศีรษะ มีเด็กชายหน้าซีดคนหนึ่งอยู่ในอ้อมแขนของเธอ อีกฝ่ายคือผีสาวเซวียนจี กิ๊กเก่าแม่ทัพเผยผู้ก่อคดีเจ้าบ่าวผีนั่นเอง ส่วนเด็กคนนั้นคือกู่จือไม่ผิดแน่ และนั่นย่อมหมายความว่าฉีหรงต้องอยู่แถวนี้ด้วย
.
.
.
.
.

165 Nameless Fanboi Posted ID:JpmFmQcR.H

>>164 ฮวาเหลียนนี่มีหยอดกันตลอดด หวานจริ้งงงง ครั้งก่อนซานหลางก็บอก คนที่ข้าต้องใจเป็นคนสูงศักดิ์ ครั้งนี้พี่เซี่ยก็บอก คนที่ไว้ใจแบบทั้งใจมีคนเดียว แหน่ะ แหน่ะ ไม่รู้เลยยย มุมมองพระเจ้าอย่างเราๆไม่รู้เลยยย 55555555555555555555 โอ้ยยยยยย ชอบความยิ้มตอแหลของฮวาเฉิง แต่กำลังจะหวานได้ที่มีเรื่องให้กังวลอีกแล้ววว

166 Nameless Fanboi Posted ID:jOXp+6aEoJ

>>164 เทียนกวานแม่งชอบหึงตัวเองกันทั้งคู่เลยแม่ง อย่างเซี่ยเหลียนก็หงอยที่ฮวาเฉิงมีคนที่ชอบแล้ว ฮวาเฉิงก็หมั่นไส้คนที่เซี่ยเหลียนไว้ใจออกนอกหน้ามากๆๆ 55555 โว้ย พวกแกรักกันนนน พวกแกนั่นแหละะะะะ ไม่ต้องหึงกันแล้วววววว

167 Nameless Fanboi Posted ID:WQM/Gcwad0

สปอยเทียนกวานอาร์ค 3 ต่อจาก >>164 เทียนกวาน Part.129
.
.
.
.
.
เซวียนจีอุ้มกู่จือเข้าไปในบ้านหรูหราหลังหนึ่งซึ่งฉีหรงกำลังกินศพในรูปปั้น ที่ด้านข้างของห้องมีกลุ่มชาวนา ลูกน้องของเทพแห่งฝนและอวิ๋นอวี้ซึ่งเหนือศีรษะของทุกคนมีลูกไฟสีเขียวลอยอยู่ ฮวาเฉิงอธิบายว่ามันคือคำสาปของฉีหรง หากมีใครคิดหนีมันจะแผดเผาร่างของคนผู้นั้นจนตาย พอผีเขียวเห็นเด็กชายก็รีบโยนชิ้นส่วนมนุษย์ในมือทิ้งพร้อมเช็ดครบเลือดบนปาก แต่กู่จือที่ได้กลิ่นเหม็นจากปากบิดาก็ยังงอแง ฉีหรงจึงหันไปด่าเซวียนจีที่กลับมาเร็ว หลังจากนั้นก็ไล่กู่จือให้ออกไปเล่นหน้าบ้าน ผีสาวถามว่าทำไมเขาถึงต้องพาเด็กมาด้วย แต่ผีเขียวก็อ้างว่าเขาจะขุนกู่จือให้อ้วนแล้วค่อยกินทีหลัง จากนั้นเซวียนจีจึงชี้ไปทางอวิ๋นอวี้ บอกว่าคนๆ นี้น่าสงสัย อวิ๋นอวี้โกหกว่าตนเป็นคนของเทพแห่งฝน พอเห็นเซวียนจีเอ่ยถึงเทพแห่งฝนอย่างกึ่งดูแคลน ทำให้เซี่ยเหลียนทราบว่าเธอก็เป็นชาวอาณาจักรอวี้ซือเช่นกัน แต่ไม่ทราบว่าเหตุใดแม่ทัพอย่างเธอจึงกล่าวถึงราชวงศ์เช่นนั้น

ฉีหรงเผยถึงภาพฝันหวานว่าหากตนได้เป็นเจวี๋ยแล้วจะไปถล่มเมืองผี จมเกาะธาราทมิฬ แม้แต่จวินอู๋ก็ยังต้องกริ่งเกรง แล้วยังเสนอว่าจะตัดหรรมของแม่ทัพเผยมาให้เซวียนจีใช้เป็นของเล่น แต่ผีสาวก็ปฏิเสธไป บอกว่าเพียงส่งอีกฝ่ายมาให้เธอจัดการก็พอ ด้วยความห่วงความปลอดภัยของตัวประกัน พวกเซี่ยเหลียนจึงบุกไปจัดการผีเขียวตรงๆ ไม่ได้ พวกเขาเลยใช้แผนส่งผีเสื้อไปล่อกู่จือ พอได้ยินเสียงของเซี่ยเหลียนจากผีเสื้อเด็กชายก็จำได้ว่าคือพี่ชายเก็บขยะ เขาบอกให้เด็กชายแอบพ่อมาหาเขาที่ข้างๆ บ้าน พอฉีหรงเห็นอีกฝ่ายจะออกไปพ้นสายตา ก็ตะโกนเรียกให้อยู่ที่เดิม ขู่ว่าเดี๋ยวถูกหนูจับไปกิน แต่พอกู่จือโกหกว่าจะไปปล่อยเบาก็ไม่ได้ห้ามอีก

เซี่ยเหลียนบอกกู่จือว่าเป็นเพราะพ่อของอีกฝ่ายไปจับคนของบ้านอื่นมาทำให้ถูกตามล่า เลยขอให้เด็กชายร่วมมือปล่อยตัวคนเหล่านั้น กู่จือบอกว่าพ่อของเขาบอกว่าไม่สบายจึงจำเป็นต้องกินเนื้อมนุษย์ และหากเด็กชายโตกว่านี้ก็จะสอนให้กินเช่นกัน ทำเอาเซี่ยเหลียนยิ่งไม่อาจปล่อยให้กู่จืออยู่กับฉีหรงได้อีก เขาโกหกว่าหากพ่อของอีกฝ่ายยิ่งกินเนื้อมนุษย์ก็จะยิ่งป่วย อีกทั้งวิญญาณศพพวกนั้นก็จะตามรังควาน หากไม่รีบหาทางหยุดเด็กชายจะต้องกำพร้าพ่อ เขาเตี๊ยมคำพูดกับกู่จือ ส่วนฮวาเฉิงก็ส่งผีเสื้อไปหลบที่ผมของเซวียนจี เซี่ยเหลียนขอโทษแม่ทัพเผยในใจก่อนทำการสังเวยอีกฝ่ายเป็นเหยื่อล่อผีสาวออกไปด้วยการตัดต่อเสียงที่ผีเสื้อที่ฮวาเฉิงทิ้งไว้ที่อารามศักดิ์สิทธิ์บันทึกมา ดูเหมือนว่าเผยหมิงกำลังกำกับปั้นเยวี่ยให้ทำอาหารให้เผยซู่อยู่

ต้นฉบับ : ถ้าอย่างนั้นก็จัดการย่างหนูนี่ก่อน เจ้ายังมีงูมากกว่านี้อีกหรือเปล่า ส่งมานี่ซิ
หลังตัดต่อ : ถ้าอย่างนั้น... นี่ก่อน... เจ้ายัง... มากกว่านี้อีก... มานี่ซิ

พอได้ยินเสียงชายคนรัก เซวียนจีที่กำลังจับผิดอวิ๋นอวี้ก็ตกใจรีบตามหาต้นเสียง เมื่อฉีหรงบอกว่าอีกฝ่ายมโนไปเอง ผีสาวก็เหมือนจะคล้อยตาม เซี่ยเหลียนเลยให้ผีเสื้อส่งต่อคำพูดต่อไป

เผยหมิง : เด็กโง่เอ้ย มานี่ ข้าจะสอนเจ้าเอง
ปั้นเยวี่ย : ขอร้องเถอะเจ้าค่ะ แม่ทัพเผย ข้าเคยทำแล้วครึ่งหนึ่ง ตอนนี้ข้ามีประสบการณ์แล้ว ให้ข้าเป็นคนทำเถอะเจ้าค่ะ

คำพูดนั้นทำให้เซวียนจีที่ไม่เห็นภาพจินตนาการไปไกลถึงสิบโยชน์ ลมเพชรหึงออกหูรีบพุ่งออกไปตามหาเผยหมิงทันทีโดยไม่ฟังเสียงเรียกของเจ้านายอย่างฉีหรงแม้แต่น้อย เซี่ยเหลียนให้ผีเสื้อหลอกนำเธอไปฝั่งตรงข้ามกับจุดที่แม่ทัพเผยอยู่ พอผีสาวไปแล้วกู่จือก็รีบวิ่งเข้าไปหาพ่อ ช่วยนวดขาตามที่อีกฝ่ายสั่งอย่างว่าง่าย ก่อนถามคำถามที่เซี่ยเหลียนสอนให้พูดเพื่อหลอกถามวิธีถอนไฟคำสาปออกจากพวกอวิ๋นอวี้ เห็นฉีหรงพูดจาโม้เหม็นอวดความเก่งกาจของตัวเองกับลูกชาย ทั้งด้วยความเป็นเด็กกู่จือก็เชื่อและชื่อชมอีกฝ่ายจากใจจริงก็ทำให้เซี่ยเหลียนอดนึกถึงพ่อของตัวเองขึ้นมาไม่ได้ พอฟังไปเรื่อยๆ เซี่ยเหลียนก็อดแปลกใจไม่ได้ว่าเหตุใดญาติผู้น้องถึงไม่หลุดด่าเขาออกมาเลย แต่พอฉีหรงอวดลูกชาย บอกรหัสถอดคำสาปซึ่งเป็นคำด่าเซี่ยเหลียน ทั้งเซี่ยเหลียนกับฮวาเฉิงก็ถึงกับแดกจุด ก่อนตัดสินใจปรากฏตัวเพราะไม่มีความจำเป็นต้องซ่อนตัวแล้ว

Note : มีแต่คนอยากทำร้ายเผยน้อยจริง #SAVEเผยน้อย
.
.
.
.
.

168 Nameless Fanboi Posted ID:JpmFmQcR.H

>>167 ขอความเป็นธรรมให้แม่ทัพเผยด้วยค่ะ 55555555 เผยน้อยของท่านช่างน่าสงสารยิ่งนั้น ฮาออกเสียงหนักมาก เฮียแกเป็นที่รองมือรองเท้าของทุกคนจริงๆ เอ็นดูววว
แต่ฉีหรงเอ็งนะเอ็งไม่จบไม่สิ้นสักที ไม่ด่าพี่เซี่ยสักครั้งได้ไหมม

169 Nameless Fanboi Posted ID:9cAKD96L0S

>>167 ช่วงแรกๆ หมั่นไส้แม่ทัพเผย แต่ช่วงหลังนี่สงสาร ความเกรียงไกรน่าเกรงขามหายไปไหนหมด 5555555

170 Nameless Fanboi Posted ID:IqnIwG60E.

อยากรู้รหัสถอดคำสาปเลยอะ 555555 ถึงกับแดกจุดกันทีเดียว

171 Nameless Fanboi Posted ID:oNCV+Dpysw

>>170 ลองด่าๆ ไปน่าจะถูกสักคำ ไม่ก็ต้องย้อนนึกว่าฉีหรงเคยด่าอะไรไปบ้าง มั่นใจว่าอยู่ในคำด่าเก่าๆ นั่นแหละ

172 Nameless Fanboi Posted ID:Hb17iGOnj0

>>170 รหัสคือ.....
.
.
.
.
.
.
"XIELIAN,YOU'R DOG FUCKER!!"
น่าจะประมาณ เซี่ยเหลียน ไอ้เ*ดหมา
.
.
.
.
ประมาณนี้ กุอ่านอิงมาซักพักละ

173 Nameless Fanboi Posted ID:4g0WifF1fL

>>172 หวังว่าจะไม่ด่าต่อหน้าเด็กนะ

กูสงสัยอย่างนึง กู่จือถูกฉีหรงหิ้วไปไหนมาไหนเนี่ย น้องได้กินดีอยู่ดีมั้ย มีเนื้อเรื่องที่บอกถึงความเป็นอยู่ของน้องมั้ย

174 Nameless Fanboi Posted ID:Hb17iGOnj0

>>173 กุไม่ใช่โม่งสปอยล์นะ
.
.
.
.
.
ก็ด่าต่อหน้าเด็กนั่นแหละ กู่จือเนียนๆถามว่าปะป๊าจะถอดรหัสต้องทำยังไง ฉีหรงเลยด่าเซี่ยเหลียนที่เป็นคำถอดรหัสให้ดู ฮวาเฉิงนี่แทบจะลงไปกระทืบฉีหรงเดี๋ยวนั้น5555

กู่จืออยู่ดีกินดี ดีกว่าตอนที่อยู่กับพ่อแท้ๆอีก จำไม่ได้แน่ๆว่ากู่จือน่าจะบอกว่า พ่อไม่เคยตบตีตัวเองอีกเลย เด็กมันถึงรักฉีหรง
.
.
.
.
.
.

175 Nameless Fanboi Posted ID:2xN5dsXrLT

>>173 ส่วนกูโม่งสปอย ขอเสริมจาก >>174 นะ
.
.
.
.
.
นอกจากไม่ตบตีแล้ว กู่จือบอกว่าฉีหรงหาของกินดีๆ อย่างพวกเนื้อสัตว์ให้กินด้วย บอกว่าอนาคตจะพาไปอยู่บ้านสวยๆ หลังใหญ่ๆ มีขี้ข้าให้ใช้งาน เวลาคุยด้วยก็เรียกตัวเองว่าพ่อ เรียกอีกฝ่ายว่าไอ้ลูกชาย แต่ฉีหรงก็ไม่เคยเลี้ยงเด็ก เลยมีมุมที่เลี้ยงผิดๆ อยู่ สรุปจริงๆ แล้วฉีหรงรักกู่จือในแบบตัวเองแหละ เพราะว่ากู่จือเป็นคนๆ เดียวที่รักฉีหรงแบบที่ฉีหรงเป็นจริงๆ ด้วยความเป็นเด็กก็เชื่อที่พ่อพูด หวังพึ่งพาพ่อ อยากอยู่กับพ่อ ชื่นชมพ่อ มองเป็นไอดอลจากใจจริง กูคิดว่าสิ่งที่ฉีหรงต้องการมาตลอดก็คือได้รับการยอมรับจากใครบางคน เพราะตั้งแต่เด็กนอกจากแม่กับป้าก็ไม่มีใครรักสนใจ เพราะแม่หนีตามผู้ชายตัวเองเลยถูกดูถูกมาตั้งแต่เด็ก พ่อก็ตบตีด่าทอ ทำตัวเกรียนเรียกร้องความสนใจก็ยิ่งมีแต่คนรังเกียจ ไม่มีใครอยากอยู่ด้วย คนที่ตัวเองชื่นชมแบบเซี่ยเหลียนก็ดูถูก เป็นผีแล้วก็ถูกผีด้วยกันเหยียด อยากยิ่งใหญ่เด่นดังให้คนอื่นสนใจยอมรับ ได้เป็นคนที่มีความสำคัญกับเขาบ้าง
.
.
.
.
.

176 Nameless Fanboi Posted ID:Hb17iGOnj0

>>175 ส่วนตัวกุว่ากู่จือยังเด็กมากเลยแอบโดนฉีหรงหลอกนะ แบบพ่นอะไรกู่จือก็เชื่อหมดเลยถล่มเมืองผี จมเกาะธารา จวินอู๋ยังต้องหลีกทางเงี้ยะ 55555 เหมือนที่เซี่ยเหลียนบอกว่าตอนเด็กๆตัวเองก็ชื่นชมพ่อ แต่พอโตขึ้นมารู้ว่าอะไรเป็รอะไรก็เลิกชื่นชมพ่อแล้ว กู่จือเองถ้าโตขึ้นมาก็คงไม่มองฉีหรงเหมือนเดิมเพราะแต่ละอย่างที่โม้ไว้นี่โคตรโม้
.
.
.
.
.
แต่ก็นะ เพราะได้กู่จือฉีหรงเลยไปสู่สุขคติได้ป่ะ สงสารแต่กู่จือที่ยังไม่เข้าใจว่าพ่อตัวเองหายไปไหน
.
.
.
.
.

177 Nameless Fanboi Posted ID:2xN5dsXrLT

>>176
.
.
.
.
.
ไม่ได้สู่สูุขคตินะ แต่วิญญาณสลายแบบไม่น่ากลับมาได้แล้ว
.
.
.
.
.

178 Nameless Fanboi Posted ID:2xN5dsXrLT

>>176 อีกนิดหนึ่ง
.
.
.
.
.
ส่วนตัวกูคิดว่าการที่ฉีหรงสลายไปอย่างนี้ เป็นสิ่งที่จะทำให้หลางเขียนชิวเข้าใจเซี่ยเหลียนและเป็นผู้ใหญ่ขึ้น เพราะเซียนเล่อถูกหย่งอันทำลาย แล้วเซี่ยเหลียนก็ต้องมาเป็นอาจารย์ดูแลคนหย่งอันอย่างหลางเชียนชิว ตอนนี้หลางเชียนชิวก็ต้องมาเลี้ยงกู่จือให้ฉีหรงที่วางแผนทำให้ราชวงศ์หย่งอันล่มสลาย แถมยังต้องช่วยพยายามรวบรวมเศษวิญญาณให้ด้วย ถึงจุดหนึ่งหลางเชียนชิวก็คงปล่อยวางได้เหมือนกับเซี่ยเหลียน
.
.
.
.
.

179 Nameless Fanboi Posted ID:wNbya5BGPh

สปอยเทียนกวานอาร์ค 3 ต่อจาก >>167 เทียนกวาน Part.130
.
.
.
.
.
แม้จะตกใจที่เซี่ยเหลียนกับฮวาเฉิงจู่ๆ ก็ปรากฏตัว แต่ฉีหรงก็ยังยั้งปากไม่ให้ด่าเซี่ยเหลียนทัน เซี่ยเหลียนพูดทวนคำด่าเหล่านั้นอย่างไม่ยี่หระจนพวกชาวนาชื่นชมในความแมน ทว่าคำสาปกลับไม่ถูกถอนออกเพราะต้องให้ฉีหรงเป็นคนพูดเท่านั้น แต่พอฮวาเฉิงใช้ผีเสื้อแอบโจมตีเบาๆ ผีเขียวก็หลุดปากด่าญาติผู้พี่ ทำให้ไฟสีเขียวบนศีรษะของอวิ๋นอวี้หายไป จากนั้นอ๋องผีก็ซัดใส่รัวๆ จนฉีหรงขู่ว่าจะฆ่าพวกชาวนา แต่ปรากฏว่าฮวาเฉิงให้ผีเสื้ออัดเสียงของอีกฝ่ายไว้ เลยเอามาถอนคำสาปให้ทุกคนเรียบร้อยแล้ว จากนั้นอ๋องผีก็อัดผีเขียวจมดินพร้อมสาปให้กลายเป็นตุ๊กตาล้มลุก แต่หลังจากเซี่ยเหลียนเข้าไปอุ้มกู่จือ จู่ๆ ฮวาเฉิงก็บอกให้รีบกลับไปที่อารามศักดิ์สิทธิ์ เพราะตอนนี้เกิดเรื่องขึ้นแล้ว

ด้วยความที่เคยมีดีกรีเป็นถึงแม่ทัพหญิง หลังถูกหลอกได้พักหนึ่งเซวียนจีก็รู้ตัวแล้วมุ่งหน้าไปทางตรงข้ามแทนจนเจอกับพวกแม่ทัพเผยที่อยู่ในอารามศักดิ์สิทธิ์ พอเห็นหน้าผีสาวเผยหมิงผู้มากเมียก็ดันจำไม่ได้ ถามว่าอีกฝ่ายเป็นใคร เซวียนจีคิดเข้าข้างตัวเองว่าอีกฝ่ายยั่วโมโห ทว่าเมื่อเธอสังเกตเห็นปั้นเยวี่ยก็ปรี๊ดแตกจนทำให้แม่ทัพเผยจำเธอได้แล้วถามว่าเธอกลายเป็นเช่นนี้ได้อย่างไร ผีสาวจึงยิ่งโมโหกล่าวหาว่าทั้งหมดเป็นเพราะเขา ด้วยความที่เซี่ยเหลียนใช้รั่วเย่กางเขตคุ้มครองให้ผีร้ายเลยเข้าไปไม่ได้ เซวียนจีจึงหันไปทำลายหลังคาอารามแทน แม้เผยหมิงจะใช้ตัวป้องกันซากอาคารให้ปั้นเยวี่ยกับเผยซู่ แต่เศษหลังคาก็หล่นลงมาทำให้ไหของหรงกวงแตก หลังได้รับการปลดปล่อยผีกระบี่ก็แทงอกแม่ทัพเผยจนได้รับบาดเจ็บ ทว่าหลังฮวาเฉิงฟังรายงานจากผีเสื้อแล้ว เขาก็หันมาบอกเซี่ยเหลียนว่าไม่ต้องรีบไปก็ได้เพราะกำลังมีใครบางคนไปที่นั่นพอดี

พอเซวียนจีเห็นเผยซู่ก็จำได้ว่าเป็นคนที่มาจับเธอในคดีเจ้าบ่าวผี ผีสาวเลยโจมตีใส่แต่ปั้นเยวี่ยก็เข้ามาขวางไว้ได้ทัน หลังอุ้มเผยซู่หนีก็หันมาสั่งให้ผีเจ้าสาวปล่อยตัวแม่ทัพเผย เซวียนจีจึงหันไปบีบคอเผยหมิงด้วยแรงหึงหวงไม่เชื่อคำของอีกฝ่ายว่าเขากับปั้นเยวี่ยไม่ได้เป็นอะไรกัน อีกด้านหนึ่งพวกเซี่ยเหลียนที่มาถึงก็มองสถานการณ์ด้วยความเครียดจากไกลๆ เห็นพวกชาวนาหยิบเมล็ดแตงโมมากินพลางดูมหรสพเบื้องหน้า (?) อย่างเมามัน แม้เซี่ยเหลียนจะคิดว่าเสียมรรยาท แต่ก็เผลอจกเมล็ดแตงโมที่มีคนส่งให้มานั่งชมเหตุการณ์ด้วย ผีสาวเริ่มรำลึกบุญคุณที่เธอยอมหักหลังอาณาจักรของตนนำข้อมูลกองทัพไปให้อีกฝ่าย และยอมแม้กระทั่งหักขาของตัวเอง แต่เผยหมิงก็ตอกกลับว่าที่ตนไม่ไปพบเธอเลยก็เพราะรู้ว่าเธอจะต้องบ้าอย่างนี้ เซวียนจีจึงจับหมิงกวงปักอกอีกฝ่ายลึกขึ้น สั่งให้แม่ทัพเผยสาบานว่าจะไม่มองหญิงอื่นนอกจากเธออีก แน่นอนว่าเผยหมิงไม่ยอมทำตาม แต่ก่อนที่ผีสาวจะทำอะไรต่อ ร่างกายของเธอก็แข็งค้างราวถูกคาถาบางอย่าง

เสียงควบเท้าดังขึ้นพร้อมกับการปรากฏตัวของวัวสีดำซึ่งมีหญิงสาวท่าทางใจเย็นคนหนึ่งนั่งอยู่ เมื่อเห็นอีกฝ่ายเผยหมิงก็ทักอย่างไม่อย่างเชื่อ เรียกเธอว่าราชินีอวี้ซือ ซึ่งอีกฝ่ายก็โค้งศีรษะทักทายตอบ เธอคือเทพแห่งฝนคนปัจจุบัน เจ้าหญิงลำดับที่ 16 ราชินีคนสุดท้ายผู้ปกครองอาณาจักรอวี้ซือ อวี้ซือหวง เจ้าของฉายาเจ้าหญิงผู้เฉือนคอตัวเอง

อวี้ซือหวงใช้อาวุธเทพ กระบี่อวี้หลง ซึ่งเป็นกระบี่คู่เมืองของอาณาจักรอวี้ซือ มีความสามารถในการควบคุมคนจากอาณาจักรอวี้ซือทุกคนให้ทำตามคำสั่ง ด้วยเหตุนั้นจึงทำให้เซวียนจีไม่สามารถขยับร่างกายของตน ระหว่างนั้นเฮวาเฉิงก็สาปให้หรงกวงกลายเป็นกระบี่จิ๋วไม่สามารถทำอะไรได้อีก แต่แม้เทพแห่งฝนจะสั่งให้ผีสาวปล่อยมือจากคอของเผยหมิง เซวียนจีกลับพยายามต่อต้าน เทพสาวจึงเอ่ยว่าถ้าต้องการไขว่คว้าอะไรที่ทำให้รู้สึกดีขึ้น เหตุใดจึงไม่เก็บสิ่งที่เคยทิ้งไปกลับมา และสุดท้ายเซวียนจีก็ต้านพลังของกระยี่อวี้หลงไม่ไหวจนต้องปล่อยมือ แต่ก็ยังโวยวายว่าเธอไม่ยอมรับอวี้ซือหวงซึ่งได้ขึ้นเป็นราชินีเพราะสถานการณ์บังคับ จากนั้นเธอก็ถูกปั้นเยวี่ยผนึกลงไห เซี่ยเหลียนรีบเข้าไปถามอาการของเผยหมิงซึ่งบอกว่าแผลเท่านี้ไม่ทำให้ตนตาย ถามกลับว่าเซี่ยเหลียนมาถึงนานแล้ว แต่ดูอยู่เฉยๆ ใช่ไหม ทำให้เซี่ยเหลียนต้องแถว่าไม่รู้เรื่อง จากนั้นเขาก็หันไปทำความเคารพทักทายเทพแห่งฝน และเผลอเหลือบสายตามองแผลเป็นที่คอของเธอ
.
.
.
.
.

180 Nameless Fanboi Posted ID:N01QQIde25

>>179 ปรากฏตัวอย่างเท่ กรี๊ดๆๆๆ ชูป้ายไฟ

181 Nameless Fanboi Posted ID:g9lachRou3

>>179 ชอบเทพฝนนในที่สุดก็ปรากฎตัวสักที
ปล.ก็ยังเอนดูวแม่ทัพเผยทุกตอน 5555555

182 Nameless Fanboi Posted ID:g9lachRou3

>>179 จริงๆก็อยากมีพลังแบบฮวาเฉิงบ้างว่ะ เหมือนมีโดรนเป็นผีเสื้อส่วนตัว สโตกเกอร์เบาๆ 555555

183 Nameless Fanboi Posted ID:pjGVn12yKY

สปอยเทียนกวานอาร์ค 3 ต่อจาก >>179 เทียนกวาน Part.131
.
.
.
.
.
หลังจากเซี่ยเหลียนกล่าวขอบคุณเทพแห่งฝนที่เคยให้ตนยืมหมวกนำน้ำไปสร้างฝนที่หย่งอัน หรงกวงไซส์มินิก็ถากถางเผยหมิงที่ต้องให้ผู้หญิงมาช่วย อีกทั้งคนๆ นั้นยังเป็นอวี้ซือหวงอีกต่างหาก พอเห็นบรรยากาศชักไม่ดี เซี่ยเหลียนก็ผนึกหรงกวงไม่ให้พูด แล้วเดินไปยืนบังฮวาเฉิงจากวัวของเทพแห่งฝน เพราะกลัวว่าวัวจะมาขวิดอ๋องผีเพราะใส่เสื้อสีแดง แล้วเผยหมิงก็เอ่ยขอบคุณที่อวี้ซือหวงเคยให้การช่วยเหลือเผยซู่ด้วยท่าทีกระอักกระอ่วน

หลังจากเทพแห่งฝนใช้พลังทำให้พืชผลงอกงามจนได้กินอิ่มกันแล้วทุกคนก็กลับขึ้นมาบนพื้นด้านบน เซี่ยเหลียน ฮวาเฉิง เผยหมิง กับอวี้ซือหวงต่างมีความเห็นตรงกันว่าจะปล่อยคนอื่นไว้ที่นี่แล้วไปที่เตากัน 4 คน เทพแห่งฝนเอ่ยเตือนเซี่ยเหลียนต้องระวังชายหนุ่มในชุดสีขาวซึ่งพันศีรษะทั้งหมดด้วยผ้าพันแผล ได้ยินอย่างนั้นเซี่ยเหลียนก็ตกใจ แอบคิดว่าหรือว่าอีกฝ่ายจะคือหลางอิ๋ง แต่พออวี้ซือหวงก็เสริมว่าอีกฝ่ายน่าจะอายุราว 16-17 ปี ก็คิดว่าไม่น่าจะใช่ เมื่อเทพแห่งฝนเห็นว่าแม่ทัพเผยไม่มีอาวุธ เธอจึงส่งกระบี่อวี้หลงให้อีกฝ่าย ทว่าเผยหมิงกลับรีบปฏิเสธ

ขณะพักผ่อนก่อนเดินทางต่อ เซี่ยเหลียนซึ่งพักในเตนท์นอนที่ฮวาเฉิงเอามาจากไหนไม่รู้ก็ถามเรื่องราวของแม่ทัพเผยกับเทพแห่งฝนจากอีกฝ่าย

อวี้ซือหวงเป็นเจ้าหญิงที่เกิดจากสนมระดับล่างจึงมีฐานะไม่สูง อีกทั้งยังเป็นคนชอบเก็บตัวไม่สุงสิงกับใครจึงยิ่งไร้ตัวตน ด้วยความที่อาณาจักรอวี้ซือมีธรรมเนียมในการส่งตัวลูกหลานราชวงศ์ไปบำเพ็ญที่อารามอวี้หลง แต่เพราะวิธีบำเพ็ญของอวี้ซือคือการทำงานหนักโดยห้ามมีคนรับใช้คอยช่วยเหลือ ตามปรกติจึงไม่มีผู้ใดอยากไป ทว่าเมื่อการคัดเลือกมาถึง อวี้ซือหวงกลับเสนอตัวไปที่นั่นด้วยตนเอง อวี้ซือหวงใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายในอาราม วันหนึ่งขณะที่เธอขึ้นทำความสะอาดหลังคาก็ถูกคนแกล้งด้วยการนำบันไดไปซ่อนจนเธอลงมาไม่ได้ และนั่นก็ทำให้เธอได้พบกับเผยหมิง แม่ทัพจากอาณาจักรซูหลี่ซึ่งถูกส่งมาร่วมงานเลี้ยงเจริญสัมพันธ์กับอาณาจักรอวี้ซือ

แม้จะถูกผนึก แต่ด้วยความอยากเมาท์จัดทำให้หรงกวงแหกผนึกของเซี่ยเหลียนมาเล่าให้ฟังว่าทั้งๆ ที่ตอนนั้นก็รู้แล้วว่าซูหลี่มีแผนจะรุกรานอวี้ซือ แต่เผยหมิงก็ยังไปแจกขนมจีบให้เซวียนจีและบรรดาเจ้าหญิง พอเจออวี้ซือหวงก็ทำหล่อไปช่วยเธอลงมาจากหลังคา แต่เสน่ห์ขุดแผนกลับไม่ได้ผลกับอีกฝ่าย ถึงตอนนั้นแม่ทัพเผยก็ไม่คิดมากไม่นานก็ลืมเธอไป แต่หลังจากนั้นการกระทำของเธอก็ยิ่งไปกระเทือนศักดิ์สรีความเป็นชายของเผยหมิงมากขึ้นเรื่อยๆ

เมื่อซูหลี่กับอวี้ซือเปิดศึกกัน ด้วยความเก่งกาจของแม่ทัพเผยทำให้เขาสามารถบุกถึงราชวังอวี้ซือได้ หรงกวงแนะนำให้เผยหมิงกดดันราชาซึ่งซ่อนตัวอยู่ข้างในวัง ขู่ว่าภายใน 3 วัน ให้ผู้ครองอาณาจักรออกมาโขกศีรษะขอโทษประชาชนของตน 3 ครั้งก่อนฆ่าตัวตาย แล้วเขาจะไว้เชื้อพระวงศ์ที่เหลือ แต่หากไม่ยอมทำตามเขาจะตัดหัวของชาวเมืองที่จับมาวันและกลุ่ม สุดท้ายก็จะเข้าไปสังหารทุกคนให้หมดวัง ซึ่งการกระทำนี้จะทำให้ซูหลี่มีความชอบธรรมในการรุนรานอวี้ซือมากขึ้น ขณะเดียวกันหากราชาไม่ทำตาม ความศรัทธาต่อราชวงศ์ของประชาชนก็จะลดลง และสุดท้ายเชื้อพระวงศ์ทุกคนก็ต้องตายอยู่ดี

เพียงวันแรกที่คำสั่งถูกประกาศออกไป ก็มีคนผู้หนึ่งถือกระบี่อวี้หลงออกมาที่ประตูราชวัง ฝ่ายนั้นคุกเข่าโขกศีรษะ 3 ครั้งแล้วเฉือนคอตัวเอง คนๆ นั้นคืออวี้ซือหวง

สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เผยหมิงและหรงกวงตกใจมาก หลังจากนั้นจึงสอบจนได้ความว่าราชาของอวี้ซือรักตัวกลัวตายจนไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ยอมทำตามคำสั่งของศัตรู เมื่อบรรดาลูกหลานพยายามกดดันก็โมโหเหวี่ยงคทาตีจนมีคนสู้กลับ ราชาผู้ชราล้มหัวแตกลุกไม่ขึ้น ขณะที่ลูกหลานกำลังจะจับอีกฝ่ายบังคับให้ออกไปฆ่าตัวตายหน้าประตูวัง ตอนนั้นเองอวี้ซือหวงจึงขอให้บิดายกบัลลังก์ให้กับตน เนื่องจากอวี้ซือบรรลุข้อตกลง ซูหลี่จึงไม่สามารถฆ่าราชวงศ์อวี้ซือและประชาชนได้แล้ว ทว่าทหารซูหลี่ก็ทนเห็นภาพราชินีอวี้ซือนอนจมกองเลือดไม่ได้จึงเข้าไปช่วยทำแผลและรักษา เมื่อรู้ว่าอย่างไรเธอก็ไม่มีทางรอด พวกเขาจึงพาเธอไปที่อารามอวี้หลง เพื่อที่ยามสิ้นใจพวกเขาจะได้ฝังเธอที่สุสานราชวงศ์บนนั้นได้เลย ไม่มีใครคาดคิดเลยว่าในตอนที่อวี้ซือหวงสูดลมหายใจครั้งสุดท้ายเธอจะได้ขึ้นสวรรค์กลายเป็นเทพแห่งฝน และนั่นก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เผยหมิงไม่มีทางรับกระบี่อวี้หลงจากอวี้ซือหวงมาใช้
.
.
.
.
.

184 Nameless Fanboi Posted ID:ZllF3Yq0tt

เทพสี่องค์กับวีรกรรมอันน่าจดจำ องค์ชายรัชทายาทผู้เป็นที่รักของเทพเจ้า แม่ทัพผู้หักดาบ ชายหนุ่มผู้เทเหล้า เจ้าหญิงผู้เฉือนคอตัวเอง
ทำไมดูจากฉายาแล้ววีรกรรมของคนที่ 2 กับ 4 ดูยิ่งใหญ่ดีจัง

185 Nameless Fanboi Posted ID:HvZYSZkzxb

>>184 ท่านแม่ทัพกับองค์หญิงวีรกรรมเด็ดจริงดราม่าจริงจากสงคราม ส่วนอีกสองคน อืม... เอาจริง ๆ ส่วนหนึ่งก็มาจากเส้น (ตลกร้ายแต่จริงจัง)​

186 Nameless Fanboi Posted ID:jraGRhR1Lm

>>183 นี่ว่าใน4ทิวทัศน์(เรียกงี้มั้ยอ่ะ?) อวี้ซือเนี่ยepicสุด สมเป็นเทพสุด ส่วนชิงเสวียนกับเซี่ยเหลียนนี่เส้นจริง 555 โดยเฉพาะเซี่ยเหลียนอ่ะ

187 Nameless Fanboi Posted ID:DLzwkDzwTY

สปอยเทียนกวานอาร์ค 3 ต่อจาก >>183 เทียนกวาน Part.132
.
.
.
.
.
วัวของเทพแห่งฝนขยายร่างใหญ่ขึ้นเพื่อให้ทุกคนสามารถนั่งได้ แต่แม้เผยหมิงจะนั่งตรงกลาง วัวก็ยังพยายามสลัดเฉพาะเขาจนได้ หลังแม่ทัพเผยถูกเหวี่ยงหล่นไป 7-8 ครั้ง ทั้ง 4 ก็มาถึงใจกลางเขาตงลู่ หลังฮวาเฉิงชี้อารามศักดิ์สิทธิ์ที่ตั้งอยู่ข้างบนให้เซี่ยเหลียนดู ตอนนั้นจู่ๆ วัวของอวี้ซือหวงก็ร้องอย่างเจ็บปวด เทพแห่งฝนรีบใช้กระบี่อวี้หลงฟันอะไรบางอย่างออกจากหลังของมัน ปรากฏว่าสิ่งนั้นคือหนูกินศพนั่นเอง หนูจำนวนมหาศาลกรูกันเข้าล้อมพวกเซี่ยเหลียน ต่างกรีดร้องด้วยภาษาอู๋หย่งถึงความทรมาน บ้างขอความช่วยเหลือจากองค์ชายรัชทายาท บ้างก็กล่าวว่าพวกตนไม่น่าเชื่อสิ่งที่อีกฝ่ายพูดเลย ขณะที่เผยหมิงจะโชว์หล่อเป็นเหยื่อล่อพวกหนูไว้แล้วให้คนอื่นๆ หนีไป เทพแห่งฝนกลับกระโดดขึ้นหลังวัว โปรยเศษธัญพืช กระตุ้นวัวให้วิ่งนำพวกหนูไปทางอื่นแล้ว พอฮวาเฉิงกับเซี่ยเหลียนจะเดินทางต่อ แม่ทัพเผยผู้รู้สึกเสียเชิงชายที่ต้องให้ผู้หญิงช่วยเหลือจึงขอแยกตัวตามอวี้ซือหวงเพราะไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะจัดการกับสถานการณ์นี้ได้ บอกว่าหากจัดการพวกหนูได้แล้วก็จะตามไปสมทบพวกเซี่ยเหลียนที่อารามศักดิ์สิทธิ์

ภายในอารามศักดิ์สิทธิ์มีรูปปั้นศพของประชาชนชาวอู๋หย่งที่เข้ามาหลบภัยอยู่เต็มไปหมด รูปภาพในอารามก็ถูกฟันทำลายโดยใครบางคน แต่เมื่อเซี่ยเหลียนพยายามดูภาพที่หลงเหลือยู่ก็ถึงกลับขนลุก ภาพอันดำมืดนี้มีบุคคลเพียงคนเดียวอยู่บนนั้น ใบหน้าบิดเบี้ยวเจ็บปวด ฉีกทึ้งเสื้อผ้าของตัวเองเผยให้เห็นผิวหนังที่มีใบหน้าเล็กๆ ปรากฏอยู่ องค์ชายรัชาทายาทแห่งอู๋หย่งติดโรคหน้าคน เซี่ยเหลียนยิ่งตื่นตระหนกที่อีกฝ่ายมีสิ่งที่คล้ายกับตัวเองมากมายถึงขนาดนี้จนฮวาเฉิงต้องกอดปลอบให้ใจเย็น การที่ใครบางคนทำลายภาพอีก 2 ภาพ แต่กลับเหลือภาพนี้ไว้ อาจเพราะไม่อยากให้เห็นเรื่องราวในอีก 2 ภาพนั้น หรือไม่ภาพภาพนี้ก็อาจเป็นภาพปลอมที่ถูกวาดขึ้นใหม่หลังทำลายทั้ง 3 ภาพแล้ว พอเซี่ยเหลียนเริ่มใจเย็นก็รู้สึกอาย จึงดันตัวออกจากอ๋องผี ทว่าฮวาเฉิงกลับดึงเขามากอดอีก กระซิบว่ามีความเป็นไปได้ว่าที่ภาพที่ 3 ยังอยู่ เป็นเพราะคนที่ทำลายภาพนี้ทำการไม่ทัน และอีกฝ่ายอาจซ่อนตัวอยู่ภายในรูปปั้นชาวอู๋หย่ง

เซี่ยเหลียนรีบกวาดตามองไปรอบๆ อย่างระแวดระวัง รูปปั้นของชาวอู๋หย่งบ้างกอดกัน บ้างกุมศีรษะไว้ด้วยความหวาดกลัว แต่กลับมีร่างหนึ่งยืนตรงอย่างไม่หวั่นเกรงด้วยใบหน้าครึ่งหนึ่งที่แย้มยิ้ม ส่วนอีกครึ่งร่ำไห้

เซี่ยเหลียนรีบคว้าฟางซิ่นเข้าไปฟันใส่รูปปั้นนั้นอย่างบ้าคลั่ง แต่กลับไม่มีสิ่งใดอยู่ข้างในนั้น เขาบอกฮวาเฉิงว่าอีกฝ่ายจะต้องเป็นเศวตไร้หน้าอย่างแน่นอน แต่พออ๋องผีหยิบใบหน้ารูปปั้นมาดูก็พบว่าเป็นใบหน้าธรรมดา ทั้งคู่ไล่ทำลายรูปปั้นแต่สุดท้ายก็ไม่เจอว่ามีใครหลบซ่อนตัวอยู่ พอคิดว่าอาจมีใครบางคนแอบตามพวกตน ทั้งสองจึงออกเดินทางต่อโดยไม่รอเผยหมิง ยิ่งขึ้นไปสูงอากาศก็ยิ่งเย็นลง หิมะบนพื้นก็เริ่มหนาขึ้นเรื่อยๆ ฮวาเฉิงจึงบอกให้เซี่ยเหลียนอยู่ใกล้ๆ ตนเพราะหากเกิดอะไรขึ้นจะไม่สามารถตะโกนเรียกกันได้ เนื่องจากอาจทำให้หิมะถล่ม แต่ตอนนั้นเองพวกเขาก็ได้ยินเสียงตะโกนของใครบางคน พอมองขึ้นไปด้านบนก็เห็นคนสองคนกำลังต่อสู้กันอยู่ พอได้ยินคนหนึ่งร้องว่าตนไม่ได้ฆ่าเด็กคนนั้น และกำลังตามหาตัวทั้งสองเช่นกัน เซี่ยเหลียนก็รู้ว่าอีกฝ่ายคือหนานเฟิง กับฝูเหยา

เซี่ยเหลียนอยากตะโกนให้ทั้งสองคนหยุดเสียงดัง แต่ก็ไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ ฮวาเฉิงเลยส่งผีเสื้อขึ้นไป ทว่าก่อนที่เซี่ยเหลียนจะส่งเสียงพูดกับอีกฝั่ง จู่ๆ ฮวาเฉิงก็มีสีหน้าเย็นชา ก่อนจะเปลี่ยนเป็นตกใจ ไม่นานนักภูเขาก็เริ่มสั่นเพราะหิมะกำลังถล่มลงมา เซี่ยเหลียนรีบจับมืออ๋องผีวิ่งหนี พอมองกลับไปก็เห็นฝูเหยาหล่นลงไปในหลุมใต้หิมะ หนานเฟิงเองก็พลอยชะงักเหมือนอยากกลับไปช่วย แม้ฮวาเฉิงจะห้ามไว้ แต่เซี่ยเหลียนก็ยังส่งรั่วเย่ไปมัดทั้งสองไว้ ส่งผลให้ทั้ง 4 ถูกคลื่นหิมะกวาดเรียบ ไม่ทราบว่าเวลาผ่านไปนานเท่าใด เมื่อทุกอย่างสงบลง เซี่ยเหลียนก็แหวกหิมะโผล่หัวขึ้นมาได้ เขาไม่เห็นใคร แม้แต่รั่วเยก็หลุดออกไปจากแขน เซี่ยเหลียนเดินออกตามหาทุกคน สักพักเขากเห็นใครบางคนเดินอยู่เบื้องหน้า ชุดสีขาวโบกสะบัด เมื่อได้ยินเสียงเรียก อีกฝ่ายก็เงยหน้าที่ครึ่งหนึ่งแย้มยิ้ม ครึ่งหนึ่งร่ำไห้ขึ้นมา
.
.
.
.
.

188 Nameless Fanboi Posted ID:/KJMFTVmNP

>>187 ตัดสปอยได้ค้างมากแม่

189 Nameless Fanboi Posted ID:2iEI8ZDVyC

>>188 เชี่ยยยยย เศวตไร้หน้านี่แม่งโคตรเจ้ากรรมนายเวร โอ้ยย สงสารเซี่ยเหลียน

190 Nameless Fanboi Posted ID:SeOJxMFG.+

>>187 แม่ทัพเผย x เทพฝน กูลงเรือนี้

191 Nameless Fanboi Posted ID:DLzwkDzwTY

>>190 ถึงกูจะแอบไม่อยากให้แม่ทัพเผยมีคู่ อยากให้บุคคลสาธารณะของสาวๆ ทุกคน (?) แต่ถ้าแม่ทัพเผยจะต้องแต่งเมียสักคนจริงๆ ก็เชียร์ให้เป็นคู่นี้นะ นางจะได้กลัวเมีย เกรงใจเมีย กลายเป็นพ่อบ้านใจกล้าไป 5555

192 Nameless Fanboi Posted ID:2iEI8ZDVyC

>>190 >>191 จริงงง 5555 เห็นด้วยกับพวกมึงมาก

193 Nameless Fanboi Posted ID:guhBIJGTEh

กุกลับรู้สึกว่าแม่ทัพไม่ควรคู่กับเทพน้ำเลย แม่ทัพเผยคือคนที่ทำให้อวี้ซือหวงต้องปาดคอตัวเองนะ หรือถ้าอวี้ซือหวงไม่ปาดคอตัวเอง ตอนนั้นก็ต้องจับตัวราชาของแคว้นตัวเองไปสังเวยช่วยคนในแคว้นนะ (._.) ถึงจะไม่ใช่คนวางแผนก็เหอะ อวี้ซือหวงคงไม่แค้นแม่ทัพหรอก แต่ให้คู่กับคนที่เคยทำแบบนี้กับแคว้นตัวเองกุรู้สึกแหม่งๆ

194 Nameless Fanboi Posted ID:DLzwkDzwTY

>>193 กูมองในมุมว่าสงครามของอวี้ซือกับซูหลี่เป็นเรื่องการเมือง มีหลายคนเกี่ยวข้อง ไม่ใช่ความผิดของเผยหมิง การที่แม่ทัพเผยใช้แผนของหรงกวงเพื่อให้ได้ผลประโยชน์ดีที่สุดกับอาณาจักรตัวเอง และการฆ่าหัวหน้าของอีกฝ่าย ถึงจะดูเลือดเย็นแต่ก็เป็นเรื่องปรกติโดยเฉพาะในสมัยโบราณ เผลอๆ ถ้าทำอะไรครึ่งๆ กลางๆ ใจดีเกินไปมันจะเหมือนกรณีของเซี่ยเหลียน ที่ไม่ยอมจัดการในหย่งอันให้เด็ดขาด แถมเรื่องก็ผ่านมานานแล้วด้วย แต่กูก็เข้าใจในมุมมองของมึงนะ เพราะว่ามันก็คงมีตะขิดตะขวงใจ เหมือนกรณีเฮ่อเสวียนกับซือชิงเสวียนอะ

ปล เทพน้ำ คือ เฮียตู้สิ อวี้ซือหวงเป็นเทพแห่งฝน 5555

195 Nameless Fanboi Posted ID:bwaATO8O7d

>>194 เอ้า กุมึนเอง ใช่เทพฝนสิ เรียกเทพน้ำนี่อวี้ซือหวงกลายเป็นแก๊งไร้เพื่อนไปเลย 55555

นี่รู้สึกว่าแม่ทัพก็อึดอัดเวลาอยู่กับอซหด้วยอ่ะเพราะในอดีตก็เคยไปมีเรื่องกับแคว้นเค้า แต่พอบทตงลู่กับลาสไฟท์ยังต้องให้เค้าช่วย แม่ทัพเผยนี่ก็ยึดติดกับMasculinityของตัวเองเกินไป แต่อซหนี่เหยียบmasculinityของแม่ทัพแบบไม่ตั้งใจจนแบนอ่ะ นี่เลยว่าอซหคือคนที่ทำให้แม่ทัพเผยเปลี่ยนแนวคิดตัวเองไปในทางที่ดีขึ้น แต่ไม่ใช่คนที่จะคู่กันได้เลย

196 Nameless Fanboi Posted ID:5NZY9VugEn

>>195 อืม ให้แม่ทัพเผยเป็นบุลคลสาธารณะของสาวๆ ทุกคนมีสิทธิ์รังแกด้วยความรักอย่างนี้ต่อไปแหละดีแล้ว 5555

197 Nameless Fanboi Posted ID:1bLxhAkcUh

>>190 เออ คู่นี้น่ารัก ตีตั๋วเรือให้กูใบนึง

198 Nameless Fanboi Posted ID:8fLttpQOnn

สปอยเทียนกวานอาร์ค 3 ต่อจาก >>187 เทียนกวาน Part.133
.
.
.
.
.
เซี่ยเหลียนสะดุ้งตื่นจากความฝัน เมื่อมองไปรอบๆ ก็รู้ว่าที่นี่เป็นถ้ำ ไม่นานนักฮวาเฉิงก็กลับมา บอกว่าที่นี่เป็นถ้ำในภูเขาซึ่งเขาเองก็ไม่รู้จักเช่นกัน ด้วยความเป็นห่วงหนานเฟิงกับฝูเหยา แม้ฮวาเฉิงจะบอกให้ไม่ต้องไปสนใจ แต่เซี่ยเหลียนก็ออกตามหาทั้งสองคนอยู่ดี ระหว่างทางเขาเห็นรูปปั้นเทพตั้งอยู่เป็นจำนวนมาก แต่กลับมีผ้าโปร่งคลุมหน้าไว้ทุกอัน พอเซี่ยเหลียนจะไปเปิดผ้าดูก็ถูกอ๋องผีห้ามไว้ อ้างว่าไม่รู้ว่าหากเปิดผ้าจะเกิดอะไรขึ้น ให้ป้องกันไว้ก่อนดีกว่า อีกทั้งที่นี่ก็คืออู๋หย่ง รูปปั้นพวกนั้นก็น่าจะเป็นองค์ชายรัชทายาทแห่งอู๋หย่ง แต่เซี่ยเหลียนกลับไม่คิดเช่นนั้น เพราะเสื้อผ้าของรูปปั้นดูเป็นศิลปะสมัยราวเซียนเล่อมากกว่า

ฮวาเฉิงมีท่าทางเครียดขึ้น เร่งให้เซี่ยเหลียนเดินต่อ เห็นอีกฝ่ายเดินนำลิ่วๆ เซี่ยเหลียนเลยถามอีกครั้งว่าอีกฝ่ายไม่รู้จักที่นี่จริงๆ หรือ แต่อ๋องผีก็ยังยืนยันคำเดิม ตอนนั้นเองเซี่ยเหลียนก็ได้ยินเสียงคนแว่วๆ มา พอคิดว่าน่าจะเป็นหนานเฟิงกับฝูเหยาเขาก็รีบวิ่งตามเสียงไป ในที่สุดเขาก็เจอเทพทั้งสองติดกับดักอยู่ในหลุมแห่งหนึ่ง แต่หลุมนั้นก็มืดมากจนมองไม่เห็นข้างล่าง แต่พอเซี่ยเหลียนบอกว่าจะปีนลงไป ทั้งหนานเฟิงกับฝูเหยาก็ร้องห้าม แม้ฮวาเฉิงจะไม่ตามมา แต่ก็มีผีเสื้อตัวหนึ่งก็อยู่ใกล้ๆ เซี่ยเหลียนเลยบอกให้มันลงไปส่องไฟที่ข้างล่างหลุม ถึงได้เห็นว่าทั้งคู่อยู่บนเส้นอะไรบางอย่างคล้ายใยแมงมุม อีกทั้งร่างกายก็ถูกใยขาวพวกนั้นห่อไว้จนขยับตัวไม่ได้ เซี่ยเหลียนผูกฟางซิ่นกับรั่วเย่ลองหย่อนลงไป แต่แล้วเขากลับถูกใยกระชากดึงตกลงไปในหลุมแล้วเข้ามาห่อร่างเขาไว้เช่นกัน

ฝูเหยาหงุดหงิดมากจึงเริ่มประชดประชันเซี่ยเหลียนจนถูกหนานเฟิงด่า พอเซี่ยเหลียนถามว่าทั้งคู่มาเขาตงลู่ได้อย่างไร ฝูเหยาเลยบอกว่าตนตามจับหลันฉางกับวิญาณตัวอ่อนจนมาถึงที่นี่ โวยวายถามหนานเฟิงว่าทำไมต้องโจมตีตน แต่อีกฝ่ายก็ตอกกลับว่าแม่ทัพของฝูเหยาน่าสงสัยเชื่อถือไม่ได้ ทั้งคู่เริ่มทะเลาะกัน คำเรียกว่าแม่ทัพของข้า แม่ทัพของเจ้า เริ่มกลายเป็น ข้ากับเจ้าแทน สักพักถึงรู้สึกตัวหันมามองเซี่ยเหลียนซึ่งรีบเนียนบอกว่าตนไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น เห็นท่าทางแบบนั้นฝูเหยาก็รู้ว่าเซี่ยเหลียนรู้ตัวจริงของพวกตนอยู่แล้วเลยพาลโกรธ จี้ถามว่ารู้ตั้งแต่ตอนไหน รู้ได้ยังไง แม้เซี่ยเหลียนจะอยากบอกเหลือเกินว่าทั้งคู่นิสัยไม่เปลี่ยนสักนิด ตนเลยตงิดมาตั้งแต่คดีเจ้าบ่าวผี ตอนไปปั้นเยวี่ยก็ฟันธงได้ว่าใช่แน่ๆ แต่เห็นว่าทำเหมือนไม่รู้จักแบบนี้ก็ต่างฝ่ายต่างสบายใจดีเลยทำเป็นไม่รู้มาตลอดว่าหนานเฟิงกับฝูเหยาไม่เคยมีตัวตนอยู่จริง ทั้งคู่คือเฟิงซิ่นกับมู่ฉิงที่จำแลงร่างมาต่างหาก

มู่ฉิงกลับมาใช้ร่างจริงของตน เริ่มชวนดรามาหาว่าเซี่ยเหลียนแสร้งทำเป็นไม่รู้ แอบหัวเราะเยอะพวกตน พอเฟิงซิ่นด่าว่าใจแคบ มู่ฉิงจึงหันไปชวนทะเลาะเรื่องลูกชายของอีกฝ่ายแทน ตอนที่ทั้งคู่เถียงกันจนหน้าแดง เซี่ยเหลียนก็บอกให้มู่ฉิงที่อยู่ใกล้ตนเอียงตัวเพื่อที่เขาจะได้ลองช่วยกัดใยที่มัดอีกฝ่ายให้ขาด แต่มู่ฉิงกลับงอนพูดจิกกัดไม่ให้ความร่วมมือเลยถูกเฟิงซิ่นด่าจนทะเลาะกันอีก เซี่ยเหลียนบอกให้ทั้งสองกลับมาสนใจว่าจะมีใครมาช่วยหรือเปล่า แต่แล้วก็นึกได้ว่าตนกับฮวาเฉิงมีด้ายแดงผูกกันไว้ เดี๋ยวอีกฝ่ายก็คงตามมาช่วย พอเห็นเฟิงซิ่นกับมู่ฉิงทำหน้าบิดเบี้ยว ก็อธิบายว่าด้ายแดงนี่ไม่ใช่ด้ายแดงผูกชะตา หากแต่เป็นอุปกรณ์พลังทิพย์ แต่พออธิบายว่าเอาไว้ใช้ทำอะไร ทั้งสองก็โวยวายพร้อมกันว่าแล้วมันจะต่างจากด้ายแดงผูกชะตาตรงไหน แต่ยังไม่ทันที่เซี่ยเหลียนจะอาย ฮวาเฉิงก็มาถึงพอดี

ฮวาเฉิงกระโดดลงมาในหลุม ระหว่างช่วยแกะใยจากร่างเซี่ยเหลียนก็ให้ผีเสื้อช่วยสู้กับใยจุดอื่น พอเรียบร้อยแล้วก็จูงมือพาเซี่ยเหลียนขึ้นไป จนเฟิงซิ่นกับมู่ฉิงต้องถามว่าลืมอะไรไปหรือเปล่า เซี่ยเหลียนจึงใช้รั่วเย่ดึงทั้งสองคนขึ้นมา พอเฟิงซิ่นบอกว่าทำกระบี่หล่นไว้ เซี่ยเหลียนก็ช่วยเก็บขึ้นมาด้วย หลังช่วยแกะใยออกแล้วส่งกระบี่คืนถึงได้เห็นว่ามันคือกระบี่ฮ่องจินที่ฮวาเฉิงเคยหักระหว่างทางไปปั้นเยวี่ย ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะซ่อมแซมมันแล้วเรียบร้อย เฟิงซิ่นกลับไปใช้ร่างจริง แล้วจู่ๆ มู่ฉิงก็จ้องฮวาเฉิงที่เพิ่งเคยเห็นร่างจริงครั้งแรกด้วยสีหน้าประหลาด แต่พอเซี่ยเหลียนถามเขาก็ปฏิเสธว่าไม่มีอะไร
.
.
.
.
.

199 Nameless Fanboi Posted ID:kMxD7ErU93

>>198 ถึงถ้ำนี่แล้ว กุชอบฮวาเฉิงบทในถ้ำที่สุดเลย แม่งcreepyดี 5555

200 Nameless Fanboi Posted ID:7WGklSeo3K

>>198 ฮวาเฉิงมีเลิ่กลั่กนะเรา 555555555 ขำอีสองคนนั้นทะเลาะกันอีกแล้วว

201 Nameless Fanboi Posted ID:4CSN7mOyNn

สปอยเทียนกวานอาร์ค 3 ต่อจาก >>198 เทียนกวาน Part.134
.
.
.
.
.
เซี่ยเหลียนบอกเฟิงซิ่นกับมู่ฉิงว่าที่นี่คือถ้ำ 1 พันเทวะ พอมู่ฉิงทำท่าจะไปดึงผ้าคลุมหน้าของรูปปั้นออก ฮวาเฉิงก็ตวัดเอ้อมิ่งขู่ไม่ให้ทำเช่นนั้น กล่าวว่าอย่าจับอะไรสุ่มสี่สุ่มห้าในแดนของคนอื่น เซี่ยเหลียนกับเฟิงซิ่นต้องพยายามไกล่เกลี่ยทั้งสองถึงยอมถอย พวกเขาเดินทางใน้ถ้ำต่อ เห็นฮวาเฉิงเดินนำแบบไม่สะดุด ทั้งเฟิงซิ่นกับมู่ฉิงก็อดสงสัยไม่ได้ ทั้ง 3 มีปากเสียงกัน สุดท้ายฮวาเฉิงก็บอกว่าตนจะเดินนำหน้าไปไกลๆ ให้ห่างจากทั้งสอง ตอนนั้นเองจู่ๆ มู่ฉิงก็คว้าแขนเซี่ยเหลียน ส่วนเฟิงซิ่นชกผนังถ้ำให้หินปิดทางกั้นอ๋องผีไว้ ก่อนที่ทั้งสองจะถล่มยันต์กันผีแปะบนหินพวกนั้น เซี่ยเหลียนรีบขอคำอธิบายจากทั้งสอง มู่ฉิงเลยด่าเซี่ยเหลียนว่าตาบอด ไม่เห็นเลยหรือว่าอีกฝ่ายมีท่าทางแปลกๆ แค่ไหน เฟิงซิ่นตะโกนให้ทั้งสองวิ่ง พลางชกผนังถ้ำปิดกั้นทางเป็นระยะ สักพักเซี่ยเหลียนจึงเค้นถามว่าอ๋องผีมีอะไรแปลก มู่ฉิงถามกลับว่าไม่เห็นมุกที่ผมของฮวาเฉิงเลยเหรอ มันคือตุ้มหูมุกปะการังสีแดงที่เซี่ยเหลียนทำหายไปในเทศกาลซ่างหยวนเมื่อ 800 ปีก่อน

เซี่ยเหลียนถึงกับอึ้ง ถามว่าอีกฝ่ายจำผิดหรือเปล่า แต่มู่ฉิงก็บอกว่าเพราะเซี่ยเหลียนกับเฟิงซิ่นสงสัยว่าเขาเป็นคนขโมย เขาเลยเครียดตามหาสิ่งนั้นอยู่เป็นปีๆ จะจำผิดได้ยังไง ถึงอย่างนั้นเซี่ยเหลียนก็อ้างว่าอาจแค่เหมือนกันก็ได้ มู่ฉิงเลยหันไปดึงผ้าคลุมหน้าของรูปปั้นออก ปรากฏว่ามันคือใบหน้าของเซี่ยเหลียน รูปปั้นทุกตัวในถ้ำนี้ล้วนเป็นเทพองค์เดียวกัน เซี่ยเหลียนยิ่งทำอะไรไม่ถูก ถามว่าอีกฝ่ายรู้ได้ยังไงว่าทุกชิ้นคือรูปปั้นของเขา มู่ฉิงยิ่งเดือด บอกว่าเมื่อก่อนตนเป็นคนดูแลเสื้อผ้า เครื่องประดับให้เซี่ยเหลียน ทั้งจัด ทั้งซัก ทั้งซ่อม จนจำได้ทั้งหมด ถึงได้รู้ว่ารูปปั้นพวกนี้ล้วนใส่เสื้อผ้าของใคร การที่ฮวาเฉิงพยายามขัดขวางไม่ให้พวกตนสำรวจรูปปั้น บอกว่าตนไม่รู้จักที่นี่จึงเป็นเรื่องตอแหลทั้งนั้น

ยิ่งมองรูปปั้นก็ยิ่งเห็นรายละเอียดสมจริงเหมือนต้นฉบับจนเฟิงซิ่นถึงกับขนลุก มู่ฉิงเสนอให้ทำลายรูปปั้นทิ้งให้หมดเพราะอาจมีคาถาครอบงำเซี่ยเหลียน แต่เซี่ยเหลียนก็บอกว่าถึงฮวาเฉิงจะโกหก แต่เขาก็ยังเชื่อว่าอีกฝ่ายไม่ได้ทำร้ายเขาด้วยการใช้คาถาอย่างแน่นอน ตอนนั้นเองเฟิงซิ่นก็เจอใยแมงมุมเหมือนในหลุม พอคิดว่ามันมีไว้เพื่อบล็อกทางปกปิดบางสิ่งไว้ด้านหลัง ทั้งสามเลยช่วยกันแกะใยเข้าไปด้านใน พวกเขาพบกับรูปภาพขนาดใหญ่มากมาย เห็นลายมือน่าเกลียดบนนั้นก็แน่ใจว่าเป็นของฮวาเฉิง พอเห็นภาพร่างสีขาวสว่างเข้าไปอุ้มเด็กชายในชุดสีแดงที่หล่นจากกำแพง ทั้งสามก็อึ้ง ไม่อยากเชื่อว่าอ๋องผีจะคือเด็กชายที่หล่นจากกำแพงเมื่อ 800 ปีก่อนคนนั้น พอดูภาพอื่นเห็นพบว่าในทุกๆ ภาพ ร่างในชุดสีแดงนี้จะคอยมองเซี่ยเหลียนอยู่เสมอ หลายสถานที่ หลายเวลา ยังมีรูปปั้นมากมายพวกนั้นอีก นี่มันสตอล์กเกอร์โรคจิตชัดๆ

ทั้งสามแยกกันสำรวจรูปภาพ ความทรงจำมากมายในอดีตกลับเข้ามาในหัวของเซี่ยเหลียน เขาได้ยินเฟิงซิ่นกับมู่ฉิงแหกปากเสียงดัง แต่พอจะเข้าไปดู เฟิงซิ่นกลับห้ามเขาไว้ มู่ฉิงเองก็หน้าดำบอกให้รีบออกไปจากที่นี่โดยไม่ยอมอธิบายอะไรให้เซี่ยเหลียนฟัง ทั้งคู่คว้าแขนเซี่ยเหลียนคนละข้างลากออกไปให้ห่างจากสถานที่นั้น เห็นเซี่ยเหลียนอยากดูรูปนั้นให้ได้ เฟิงซิ่นก็ตะคอกว่าสิ่งนั้นไม่ควรถูกใครพบเห็น ส่วนมู่ฉิงโวยวายว่าอนาคตอย่าไปเข้าใกล้ฮวาเฉิงอีก เจ้าหมอนั้นมันเป็นโรคจิตวิปริต แต่พอขอคำอธิบายเพิ่ม ทั้งคู่กับอึกอักไม่ยอมบอก ตอนนั้นเองทั้งสามก็เห็นร่างสีแดงยืนขวางทางอยู่เบื้องหน้า มือหนึ่งหมุนผมที่มีไข่มุกสีแดงห้อยประดับอยู่ ส่งยิ้มแสแสร้งบอกว่าตนเตือนแล้วว่าอย่าไปจับอะไรในถิ่นของคนอื่น เพราะไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง

เฟิงซิ่นระดมยิงธนูใส่อีกฝ่ายไม่ยั้ง แล้วมู่ฉิงก็นึกได้ว่าเป็นเพราะด้ายแดงทำให้ฮวาเฉิงตามพวกตนเจอเลยพยายามหันมาแกะเชือกออกจากมือเซี่ยเหลียน แต่เซี่ยเหลียนก็ต่อต้าน บอกว่าเดี๋ยวเขาจะคุยกับอ๋องผีตรงๆ เอง พอทั้งสองก็ไม่ยอม เซี่ยเหลียนเลยท้าต่อยแก้ปัญหากัน มู่ฉิงร้องให้เฟิงซิ่นเข้าไปลุยก่อน แล้วอาศัยจังหวะแอบแปะอะไรบางอย่างบนหลังของเซี่ยเหลียนอย่างรวดเร็ว

Note : ตามที่กูบอกในหลังสปอยพาร์ทที่ 53 >>>/801/7776/969 ว่าพาร์ท 34 >>>/801/7776/621 มีบางอย่างที่เชื่อมโยงกันอยู่ รู้แล้วเนอะว่าใครเป็นหัวขโมยมุกตัวจริง ส่วนเรื่องรูปที่เฟิงซิ่นกับมู่ฉิงไม่ยอมให้เซี่ยเหลียนดูนั่น ตามสัมภาษณ์แม่โม่ มันก็คือภาพ... แบบที่พวกมึงคิดอยู่นั่นแหละ 5555
.
.
.
.
.

202 Nameless Fanboi Posted ID:VOI6WTcZ2l

>>201 นี่มันสตอล์กเกอร์โรคจิตชัดๆ >> ประโยคนี้ความในใจใช่ป่ะ 555
.
.
.
.
.
ตามสัมภาษณ์แม่โม่ มันก็คือภาพ... แบบที่พวกมึงคิดอยู่นั่นแหละ 5555 >>> อห ฮวาเฉิง แม่งโรคจิตอ่ะ 555555555555 เซี่ยเหลียนหนีไปลูก หนีปายยยย
.
.
.
.
.

203 Nameless Fanboi Posted ID:IzdTWU8No0

กูเพิ่งเห็นโพสของสนพ.ที่ได้ lc เทียนกวาน กูเห็นเพื่อนกูบ่นหงุงหงิงทุกวันว่าอิสนพ.มันดองมันช้าไม่ออกมาสักทีได้แอลซีแล้วก็ดอง แต่จริงๆคือสนพ.ยังไม่ได้ต้นฉบับจากจีนเลยจ้าาา กูลั่นแรงมากต้นฉบับยังไม่มามึงจะให้เขาเอาอะไรมาออกกก โว้ยยยย

204 Nameless Fanboi Posted ID:pk.j5ZWkAt

>>201 ฮวาเฉิงโอตาคุสัสๆ พี่เซี่ยหนีไปปปป 555555
ปล.รอยสักของพี่แกนี่เขียนว่าอะไรอ่ะ?

205 Nameless Fanboi Posted ID:44GhDXX0RV

>>204 สปอย
.
.
.
.
.
เขียนชื่อเซี่ยเหลียนไว้ แต่ด้วยลายมือไก่เขี่ยของเจ้าตัว ทำให้มองแล้วดูไม่ออกว่าเขียนว่าอะไร
.
.
.
.
.

206 Nameless Fanboi Posted ID:44GhDXX0RV

สปอยเทียนกวานอาร์ค 3 ต่อจาก >>201 เทียนกวาน Part.135
.
.
.
.
.
สิ่งที่มู่ฉิงนำมาแปะเซี่ยเหลียนคือยันต์ที่ทำให้อีกฝ่ายต้องทำตามคำสั่งเจ้าของยันต์ เมื่อถูกสั่งให้อยู่นิ่งๆ และห้ามพูดเซี่ยเหลียนเลยไม่อาจขัดขืน มู่ฉิงสั่งให้เซี่ยเหลียนวิ่งตามพวกตน แต่ด้วยความไม่รู้ทางพวกเขาจึงวนกลับมาที่เดิม และถูกฮวาเฉิงดักหน้า เฟิงซิ่นกับมู่ฉิงรีบบังหน้าเซี่ยเหลียนทันที พออ๋องผีถามว่าทั้งคู่ทำอย่างนี้ไปเพื่ออะไร เฟิงซิ่นก็ตะคอกบอกว่าพวกตนเห็นทุกอย่างแล้ว และสั่งไม่ให้อีกฝ่ายเข้าใกล้เซี่ยเหลียนอีก

อ๋องผีบอกว่าทั้งสองไม่มีสิทธิ์พูดอย่างนั้นกับเขาแล้วสั่งให้ผีเสื้อโจมตีใส่ อีกฝ่ายบุกเข้ามาประชิดขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุดก็ตั๊นหน้ามู่ฉิงไปทีหนึ่ง ก่อนจะมีใยพุ่งมาห่อเฟิงซิ่นกับมู่ฉิงเป็นดักแด้อีกครั้ง ทั้งสองเลยถึงบางอ้อว่าที่แท้คนที่จับพวกตนไว้ในหลุมก็คืออีกฝ่าย และสิ่งนี้ก็คือใยของผีเสื้อต่างหาก ฮวาเฉิงเต็มไปด้วยความโกรธ แขวะมู่ฉิงว่าตนมีความสามารถในการใช้ดาบโค้งมากกว่า มู่ฉิงจึงนึกได้ว่าอีกฝ่ายคือทหารเด็กที่เซี่ยเหลียนอยากสนับสนุนในตอนนั้น อ๋องผีต่อยหน้ามู่ฉิงอีกรอบ กล่าวว่ามู่ฉิงโกหกหัวหน้ากองว่าเซี่ยเหลียนสั่งให้ไล่เขาออกจากกองทัพ พอมู่ฉิงแถว่าเขาช่วยให้อีกฝ่ายไม่ต้องเสี่ยงอันตรายต่างหาก ฮวาเฉิงก็ประเคนหมัดใส่หน้าของมู่ฉิงอีก แต่มู่ฉิงก็ด่ากลับว่าตอนนั้นตนตัดสินใจถูกจริงๆ ที่ไล่ฉวาเฉิงออกจากกองทัพ เพราะขืนปล่อยให้เข้าใกล้เซี่ยเหลียนก็มีแต่เอาแค่คิดเรื่องบัดสี ช่างน่ารังเกียจจริงๆ

พอถูกด่าว่าน่ารังเกียจฮวาเฉิงก็ยกหมัดค้าง ถามว่าสิ่งที่เฟิงซิ่นกับมู่ฉิงเถียงกันบนภูเขาก่อนหิมะถล่มเป็นความจริงหรือ ทำเอาทั้งสองเลิกลั่กตกใจ แล้วมู่ฉิงก็สั่งให้เซี่ยเหลียนวิ่งหนีไป แต่อ๋องผีก็ใช้ใยผีเสื้อมัดเซี่ยเหลียนไว้ได้ทัน พอเห็นฮวาเฉิงจะเข้าไปหาเซี่ยเหลียน เฟิงซิ่นก็ขอให้อีกฝ่ายปล่อยเซี่ยเหลียนไป บอกว่าเซี่ยเหลียนทนทุกข์มามากพอแล้ว แต่อ๋องผีก็ไม่ฟัง เขาเข้าไปอุ้มเซี่ยเหลียนเดินไปอีกทาง ทิ้งเฟิงซิ่นกับมู่ฉิงไว้เบื้องหลังจนในที่สุดก็เดินออกห่างจนไม่ได้ยินเสียงของทั้งสอง

ฮวาเฉิงพาเซี่ยเหลี่ยนมาถึงส่วนที่เหมือนห้องนอนภายในถ้ำ พอวางเซี่ยเหลียนลงบนเตียงหินก็เจอยันต์ที่มู่ฉิงแปะไว้ แต่กลับไม่ยอมช่วยดึงออกเพราะกลัวว่าท่าทีเซี่ยเหลียนที่มีต่อตนอาจเปลี่ยนไปแล้ว เขาพยายามบอกว่าตนไม่ได้คิดไม่ดีขณะถอนเสื้อเซี่ยเหลียนเพื่อช่วยรักษาแผลนำแข็งกัดให้ แต่แล้วก็มีเสียงพูดด่าฮวาเฉิงดังขึ้น พอมองไปก็เจอมู่ฉิงกับเฟิงซิ่นยืนอยู่หน้าทางเข้าห้อง อ๋องผีรีบดึงเสื้อกลับให้เซี่ยเหลียนแล้วไปฉะปากกับทั้งสอง ถึงจะหงุดหงิดแต่เซี่ยเหลียนก็รู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกๆ เพราะมู่ฉิงเหมือนจะใช้คำหยาบคายทั้งยังปลุกปั่นมากกว่าปรกติ เห็นฮวาเฉิงง้างเอ้อมิ่งก็ร้องห้ามไว้ แต่ไม่ทัน เฟิงซิ่นกับมู่ฉิงตัวขาดเป็น 2 ท่อนเสียแล้ว อ๋องผีเดินกลับมากอดเซี่ยเหลียนที่นั่งอึ้งแข็งเป็นหิน แล้วดึงยันต์บนหลังออกให้ เซี่ยเหลียนรีบพุ่งไปหาทั้งสองทันที ดูเหมือนว่ามู่ฉิ่งจะสิ้นใจไปแล้ว เมื่อเฟิงซิ่นพยายามบอกเขาว่าอ๋องผีเป็นปีศาจ อย่ายุ่งกับอีกฝ่าย เซี่ยเหลียนก็หยิบฟางซิ่นแทงใส่หัวใจของคนตรงหน้า ก่อนรีบกลับไปสมทบกับฮวาเฉิง บอกให้อีกฝ่ายเผยตัวจริงออกมา

ตอนที่ช่วยดึงยันต์ออก ฮวาเฉิงได้แอบกระซิบบอกเซี่ยเหลียนแล้วว่าเฟิงซิ่นกับมู่ฉิงตัวจริงยังถูกห่อเป็นดักแด้อยู่ที่เดิม เซี่ยเหลียนจึงรู้ว่าสิ่งที่อยู่ต่อหน้าไม่ใช่เพื่อนของตน ร่างปลอมที่จำแลงเป็นมู่ฉิงกับเฟิงซิ่นหัวเราะ เอ่ยว่าจะทำตามที่เซี่ยเหลียนต้องการ จากนั้นกองเลือดบนพื้นก็ก่อตัวเป็นชายคนหนึ่งซึ่งทำให้เซี่ยเหลียนขนลุก เมื่อร่างของเฟิงซิ่นและมู่ฉิงหายไป ตรงหน้าก็มีชายหนุ่มในชุดขาวคนหนึ่งยืนอยู่ บนใบหน้าคือหน้ากากครึ่งแย้มยิ้ม ครึ่งร่ำไห้ กล่าวทักทายด้วยเสียงอบอุ่นว่า “เป็นอย่างไรบ้าง เซี่ยเหลียน”

เซี่ยเหลียนหัวชาทำอะไรไม่ถูก เมื่อฮวาเฉิงออกไปโจมตีใส่ อีกฝ่ายก็พลิ้วหลบอย่างว่องไว ยื่นมือหมายจะสัมผัสหน้าของเซี่ยเหลียน แต่อ๋องผีก็กลับมาตัดมือของชายคนนั้นไว้ได้ทัน ทว่าพอฝ่ายนั้นสะบัดแขน มือข้างใหม่ก็งอกออกมาแล้วยื่นไปที่ตาขวาของฮวาเฉิงอย่างรวดเร็ว แม้จะหลบทัน บนแก้มของอ๋องผีก็ปรากฏแผลขึ้นมา พอเขาส่งผีเสื้อเข้าจู่โจม เมื่อพวกมันห่อร่างในชุดขาวนั้นไว้ไม่นานก็ระเบิดกลายเป็นผง ก่อนที่มือข้างนั้นจะยื่นมาที่ตาขวาของฮวาเฉิงอีกครั้ง
.
.
.
.
.

207 Nameless Fanboi Posted ID:H191ICT9Fh

>>206 กำลังมันมากเลย ขอบคุณมากๆโม่งสปอย

208 Nameless Fanboi Posted ID:xj/KXp0+xt

>>206 ขอบคุณค่า อียันต์นี่ดูใช้ประโยชน์ได้หลากหลายดีนะ หุหุหิหิหิ

209 Nameless Fanboi Posted ID:X663sfQBzb

>>206 สองคนนี้ดูเป็นห่วงและเทคแคร์เซี่ยเหลียน (ในแบบของตัวเอง)ดีนะ จบค้างและลุ้นตลอดเลย

เห็นจากในม่านฮวาสปอยว่าวาดถึงราชครูปั้นเยวี่ยแล้วจบเล่มหนึ่ง เนื้อเรื่องนิยายจบเล่มหนึ่งตอนนี้ทั้งที่ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นเท่าไหร่เลย จริงเหรอ

210 Nameless Fanboi Posted ID:nBbubrfUp9

>>209 ไม่สิ นี่เพิ่ง1/5ของเล่ม1เองมั้ง นิยายเล่ม1ยาวอยู่นะ อีเว้นท์เยอะด้วย ที่เค้าบอกจบเล่มคือจบเล่ม2ของม่านฮวาน่ะ

211 Nameless Fanboi Posted ID:X663sfQBzb

>>210 เอ๊า เข้าใจผิดนี่เอง ขอบคุณมาก กูก็งงไปสิ

212 Nameless Fanboi Posted ID:Qg2IKHUBMO

แวะมาดันหน่อย คิดไปเองหรือโทรลแม่งเยอะมาก

อนึ่ง ขอบคุณโม่งสปอยเด้ออ

213 Nameless Fanboi Posted ID:ZvJ12bLpf0

>>212 ชักรำคาญแล้วเหมือนกัน เยอะแบบผิดปกติ สงสัยอยู่บ้านว่างกันมาก

214 Nameless Fanboi Posted ID:lz6vPfP/er

ช่างโทรลล์มันไปเหอะ เดี๋ยวพอไม่มีใครพูดถึงเดี๋ยวมันก็ไปโทรลที่อื่นเอง

215 Nameless Fanboi Posted ID:40F/dgM/JI

สปอยเทียนกวานอาร์ค 3 ต่อจาก >>206 เทียนกวาน Part.136
.
.
.
.
.
เซี่ยเหลียนรีบใช้ฟางซิ่นฟันไป๋อู๋เซียง ก่อนที่เขากับฮวาเฉิงจะรีบวิ่งหนี แม้อ๋องผีจะบอกว่าอาจเป็นตัวปลอม แต่เซี่ยเหลียนรู้สึกได้ว่านั่นคือตัวจริง สงสัยว่าใครฟื้นชีพให้อีกฝ่าย แล้วทำไมอีกฝ่ายถึงได้จำแลงเป็นเฟิงซิ่นกับมู่ฉิงได้เหมือนขนาดนั้น ฮวาเฉิงพยายามปลอบให้เซี่ยเหลียนใจเย็น แต่ขณะที่กำลังพูดว่าอีกฝ่ายอาจรู้จักกับเซียนเล่อทรีโอ้ดีถึงได้ปลอมเหมือนขนาดนั้น พอรู้ตัวว่าเผลอจับมือเซี่ยเหลียนก็รีบปล่อย เซี่ยเหลียนเลยถามว่าคนพิเศษที่ฮวาเฉิงเคยกล่าวถึงคือใคร อ๋องผีอึกอัก ก่อนถามว่าในเมื่อรู้แล้วจะถามอีกทำไม เซี่ยเหลียนกล่าวต่อว่าแล้วอยากรู้คำตอบของเขาไหม ถึงฮวาเฉิงจะกลัวจนบอกว่าไม่อยาก แต่เซี่ยเหลียนก็เอ่ยว่าเรื่องแบบนี้ต้องเคลียร์ๆ กันไปเลย ไม่นานนักก็เข้าไปกอดอีกฝ่ายจากด้านหลัง ต่างคนต่างเงียบไปพักใหญ่ แล้วฮวาเฉิงก็หันกลับมากอดเซี่ยเหลียนแน่น

พอได้ยินเสียงตูมตามดังตามมาจากด้านหลัง ทั้งสองก็วิ่งหนีกันต่อ พอเซี่ยเหลียนบอกว่าให้รีบไปปล่อยเฟิงซิ่นกับมู่ฉิงก่อน ฮวาเฉิงก็ไปทำตามโดยไม่ขัด เมื่อทั้งคู่เห็นเซี่ยเหลียนยังอยู่กับฮวาเฉิงก็อดสงสัยไม่ได้ แต่เซี่ยเหลียนบอกว่าไว้อธิบายทีหลัง เพราะตอนนี้ศัตรูกำลังไล่ตามมา ถึงอย่างนั้นทั้งสองก็ยังตั้งแง่ เซี่ยเหลียนเลยเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างคร่าวๆ ให้ฟัง เมื่อรู้ว่าคนที่ตามมาคือเศวตไร้หน้า ทั้งเฟิงซิ่นกับมู่ฉิงก็หน้าซีด และเพราะไป๋อู๋เซียงบล็อคทางออกไว้ พวกเขาเลยต้องวิ่งหนีไปเรื่อยๆ เพื่อล่อให้อีกฝ่ายออกห่างจากจุดนั้น จะได้พอให้ใครในกลุ่มหนีออกไปแจ้งสวรรค์ว่าเศวตไร้หน้ายังมีตัวตนอยู่ และเนื่องจากยังไงอีกฝ่ายก็คงไล่ตามเซี่ยเหลียน เขาเลยบอกว่าจะเป็นตัวล่อ ให้เฟิงซิ่นกับมู่ฉิงอาศัยจังหวะหนีไป

ตอนแรกเฟิงซิ่นจะขออยู่กับเซี่ยเหลียน แต่เซี่ยเหลียนก็บอกว่าเขามีฮวาเฉิงอยู่ด้วยแล้ว ถึงจะไม่เห็นด้วย แต่สุดท้ายเฟิงซิ่นก็ต้องยอมหนีออกไปพร้อมมู่ฉิง เมื่อเซี่ยเหลียนกับฮวาเฉิงสามารถทิ้งห่างจากไป๋อู๋เซียงได้แล้ว ทั้งสองก็หลบซ่อนตัวช่วยกันคิดแผนรับมือ แต่พอเหลือกันสองต่อสองก็เขิน เซี่ยเหลียนเลยชวนคุยเรื่องรูปปั้นแก้เก้อ เห็นเซี่ยเหลียนอยากสำรวจรูปปั้นมากกว่านี้ ฮวาเฉิงก็บอกว่าไว้เขาจะพาไปดูอันที่เขาปั้นได้ดีที่สุด อันอื่นอย่าไปดูเลย พอเซี่ยเหลียนพูดเรื่องรูปขึ้นมา ฮวาเฉิงก็หน้าบอกว่าเดี๋ยวจะไปทำลายให้ แต่เซี่ยเหลียนห้ามไว้ เมื่ออ๋องผีรู้ว่าที่แท้เซี่ยเหลียนยังไม่เห็นภาพๆ นั้นก็โล่งใจ

พอมาคิดๆ ดูแล้ว หลังจากถูกจวินอู๋กำจัดไป 1 ครั้ง พลังของเศวตไร้หน้าอาจโดนเนิร์ฟไปแล้ว ไม่อย่างนั้นคงไม่มาเขาตงลู่เพื่ออัพคลาสอีก ฮวาเฉิงเลยว่าจะไปลองบวกดู แต่เซี่ยเหลียนเกรงว่าเจวี๋ยตีกันเองจะทำให้สมดุลโลกผีเสีย และไม่อยากให้อ๋องผีได้รับอันตรายจึงห้ามไว้ บอกว่ายังไงฝ่ายนั้นก็ไม่ฆ่าเขา เลยจะไปลองเชิงเอง ฮวาเฉิงบอกว่ายังไงตนก็ซ่อนเถ้ากระดูกไว้แล้ว ยังไงก็ไม่มีทางเป็นอะไรไป พอเซี่ยเหลียนถามว่าซ่อนไว้ดีแล้วใช่ไหม แน่ใจหรือเปล่าว่าจะไม่ถูกพบ อ๋องผีก็ตอบว่าเขาคิดว่าสถานที่นั้นเป็นที่ที่ปลอดภัยที่สุด หากสถานที่นั้นถูกทำลาย เขาก็ไม่มีเหตุผลที่จะคงอยู่ต่อไป เซี่ยเหลียนอยากถามว่าอีกฝ่ายตายได้อย่างไร ทำไมถึงไม่ไปสู่สุขคติ แต่ก็กลัวว่าจะไปกระทบจิตใจของฮวาเฉิง สุดท้ายเลยเปลี่ยนไปถามว่าหลังจากเซียนเล่อล่มสลายไป พวกตนเคยได้พบกันมาก่อนหรือเปล่า อ๋องผีตอบว่าแม้เขาพยายามตามหาอีกฝ่าย แต่ก็ไม่เคยพบกัน แล้วถามกลับว่าเหตุใดจู่ๆ ถึงถามคำถามนี้ เซี่ยเหลียนบอกว่าเป็นเพราะในช่วงนั้นเขาดูไม่ดีเลย เป็นเพียงคนล้มเหลวคนหนึ่งจึงไม่อยากให้อีกฝ่ายเห็น แต่ฮวาเฉิงก็กล่าวคำพูดที่เซี่ยเหลียนเคยกล่าวเอาไว้ว่า ไม่ว่าจะรุ่งโรจน์หรือตกต่ำ สิ่งสำคัญคือตัวของท่าน ไม่ใช่สถานะที่ท่านเป็น และเขาก็คิดอย่างนั้นเช่นกัน

ทั้งสองหยอกล้อกันเล็กน้อยก่อนออกจากที่ซ่อน เซี่ยเหลียนกล่าวว่าหลังจากออกจากเขาตงลู่ได้แล้วมีหลายเรื่องที่เขาอย่างบอกกับฮวาเฉิง พอถามถึงเฟิงซิ่นกับมู่ฉิง อ๋องผีก็เชคให้ว่าทั้งสองออกไปจากเขาลูกนี้แล้ว แต่เมื่อเชคหาไป๋อู๋เซียง เขากลับไปหาอีกฝ่ายไม่พบ บางทีอาจจะผละไปอัพคลาสที่เตาแล้ว เมื่อได้ยินอย่างนั้นเซี่ยเหลียนก็ตัดสินใจว่าต้องไปหยุดเศวตไร้หน้าไว้ให้ได้ แต่เมื่อทั้งสองเดินไปพักหนึ่งก็พบกับว่ากระบี่บนรูปปั้นที่ยังไม่ได้ดึงผ้าคลุมหน้าออกอันหนึ่งกำลังมีโลหิตสดใหม่หยดไหลลงมา

Note 1 : ยินดีกับเซี่ยเหลียนกับฮวาเฉิงที่ในที่สุดก็เจอว่าใจตรงกัน แต่มันใช่เวลาจีบกันเหรอฟร้า ไป๋อู๋เซียงมันกำลังไล่ตามมาอยู่นะเฮ้ย
Note 2 : พาร์ทหน้าก็จบอาร์ค 3 แล้ว
.
.
.
.
.

216 Nameless Fanboi Posted ID:4JqfSfNYdS

>>215 เห็นด้วย มันใช่เวลามั้ย (แอบหมั่นไส้ปนดีใจแทนทั้งคู่)

217 Nameless Fanboi Posted ID:ue8JGq5o0y

>>215 พวกเอ็งอย่าเพิ่งจีบกันโว้ยยยย หนีก๊อนนน!! ปล.อาร์ค 3 เยอะจริงๆด้วยแหะ ยาวจนลืมไปเลย ขอบคุณโม่งมากๆฮะ

218 Nameless Fanboi Posted ID:d/13.r2DT4

>>215 บรรยากาศเปลี่ยนเร็วจนกูตั้งตัวไม่ทันเลย5555

219 Nameless Fanboi Posted ID:d2nk9SBLjL

>>215 กรี้ดดดดดดดดดดด ตอนกอดกันกุไหลเลย มันปิ้มปิ่ม TvT แต่จีบไปวิ่งหนีไปอ่ะนะ 55555555555555

220 Nameless Fanboi Posted ID:CRzFhYX0XS

สปอยเทียนกวานอาร์ค 3 ต่อจาก >>215 เทียนกวาน Part.137
.
.
.
.
.
เมื่อฮวาเฉิงใช้พลังเปิดผ้าคลุมบนรูปปั้นออก เขากับเซี่ยเหลียนก็เห็นหลางอิ๋งถูกเสียบอยู่บนกระบี่ในมือรูปปั้นนั้น หลางอิ๋งค่อยๆ ดึงตัวเองออกมาจากคมกระบี่ตกลงบนพื้น คิดยังไงคนตรงหน้าย่อมต้องเป็นเศวตไร้หน้าปลอมตัวมา พอเซี่ยเหลียนถามว่าหลางอิ๋งตัวจริงอยู่ที่ไหน อ๋องผีก็บอกสมมติฐานว่าบางทีไป๋อู๋เซียงอาจปลอมตัวเป็นหลางอิ๋งมาตลอด แต่เมื่อเซี่ยเหลียนนึกถึงความผูกผันที่เด็กชายแสดงต่อเสี่ยวอิ๋งก็คิดถึงความเป็นไปได้อีกอย่างว่าเศวตไร้หน้าอาจกินหลางอิ๋งเข้าไป

ไป๋อู๋เซียงกลับสู่ร่างเดิม บอกว่าเซี่ยเหลียนเดาได้ถูกต้อง เป็นเพราะเคยถูกจวินอู๋จัดการไปจนวิญญาณอ่อนแอ อีกฝ่ายจึงจำเป็นต้องสิงร่างคนอื่นเพื่อฟื้นฟูพลัง การที่ผีจะสิงร่างผีด้วยกันย่อมต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของร่าง แสดงว่าหลางอิ๋งน่าจะถูกหลอกล่อให้ยินยอม แต่เมื่อเศวตไร้หน้าฟื้นพลังได้ก็กินเด็กชายไป พอฮวาเฉิงถามว่าเหตุใดหลางอิ๋งจึงยอมให้อีกฝ่ายสิงร่าง ไป๋อู๋เซียงก็หันไปมองเซี่ยเหลียน พูดปั่นประสาทว่าอีกฝ่ายแซ่หลาง เป็นคนหย่งอัน มีโรคหน้าคน เดาไม่ออกเลยหรือว่าทำไมเด็กชายถึงยิมยอมให้ตนกิน คำพูดนั้นทำให้เซี่ยเหลียนของขึ้นแทงกระบี่ใส่อีกฝ่าย แต่เศวตไร้หน้าก็หลบอย่างชิลๆ ก่อนหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย

เซี่ยเหลียนกับฮวาเฉิงรีบออกจากถ้ำเพื่อหยุดยั้งไม่ให้ไป๋อู๋เซียงอัพคลาสสำเร็จ ในที่สุดก็ขึ้นมาถึงยอดปล่องภูเขาไฟ พอเห็นว่าเตาปิดแล้วก็แน่ใจว่าเศวตไร้หน้าอยู่ในนั้นเรียบร้อย ขณะเดียวกันการที่เตาปิดโดยไม่รอให้มีผีเข้าไปมากๆ ก็หมายความว่าอีกฝ่ายต้องมีพลังสูงส่ง หากปล่อยให้อัพคลาสอีกก็จะยิ่งแข็งแกร่งทวีคูณ ฮวาเฉิงจูบเซี่ยเหลียน อ้างว่าให้ยืมพลังทิพย์จนเซี่ยเหลียนรู้สึกอายจนเกือบจะวิ่งหนีไปอีกทาง จากนั้นทั้งสองก็กระโดดลงไปในปล่องด้วยกัน

แม้จะจับมือไว้แน่น แต่ระหว่างทางจู่ๆ ในมือของเซี่ยเหลียนก็ว่างเปล่า ถึงจะตะโกนเรียกหาก็ได้ยินเพียงเสียงสะท้อนของตนเอง มองขึ้นไปก็เห็นประตูเตาที่เคลื่อนตัวปิดอีกครั้ง เมื่อเห็นเงาร่างสีขาวของไป๋อู๋เซียงก็รีบเรียกหาอ๋องผีเพราะกลัวอีกฝ่ายเป็นอะไรไป เมื่อไม่ได้เสียงตอบกลับก็หันไปบู๊กับคนตรงหน้า ถามว่าอีกฝ่ายทำอะไรฮวาเฉิง ไป๋อู๋เซียงจึงปั่นว่าอีกฝ่ายจากไปแล้ว พอเซี่ยเหลียนโกรธจึงบอกว่าตนแค่ส่งอ๋องผีออกไปนอกเตา แต่ไม่รู้ว่าพอกลับมาเห็นสภาพเซี่ยเหลียนจะรับได้หรือเปล่า เซี่ยเหลียนยิ่งเดือด ระดมโจมตีอีกฝ่ายไม่ยั้ง ถามว่าเหตุใดจึงมาที่นี่ แล้วเศวตไร้หน้าก็ตอบว่าเขามาที่นี่เพราะเซี่ยเหลียน

เซี่ยเหลียนโมโหมาก แต่ยิ่งโจมตีก็ยิ่งรู้ว่าตนไม่มีทางชนะ เขาถูกอีกฝ่ายใช้กระบี่ฟันเฉี่ยวลำตัวไป ความเจ็บทำให้เผลอปล่อยกระบี่ ไป๋อู๋เซียจับหัวของเซี่ยเหลียนกระแทกแนบกับพื้น กล่าวว่าช่างน่าเศร้าเสียจริง น่าสงสารเสียจริง ทุกครั้งที่เขาเจอเซี่ยเหลียน เซี่ยเหลียนมักตกอยู่ในสภาพนี้ ชวนเจ็บปวดและตื่นเต้นในคราวเดียว พอเซี่ยเหลียนบอกว่าเดี๋ยวก็มีคนมา อีกฝ่ายไม่มีทางอัพคลาสได้เด็ดขาด เศวตไร้หน้าก็พูดว่าใครว่าเขาจะอัพคลาสเอง คนที่ต้องอัพคลาสคือเซี่ยเหลียนต่างหาก นี่เป็นหนทางที่ 3 อย่างที่เซี่ยเหลียนชอบไม่ใช่หรือ ฆ่าตัวเองกลายเป็นผีแล้วมาฆ่าไป๋อู๋เซียงต่อ หลอมรวมกับเตาเป็นเจวี๋ยคนต่อไป

พอได้รู้ความตั้งใจจริงของอีกฝ่ายเซี่ยเหลียนบังเกิดความหวาดกลัว เมื่อเห็นเศวตไร้หน้าเสกหน้ากากครึ่งแย้มยิ้ม ครึ่งร่ำไห้อีกชิ้นหนึ่งขึ้นมาก็พยายามดิ้นหนีสุดชีวิต ไป๋อู๋เซียงหัวเราะ บอกว่าจะช่วยฟื้นความรงจำให้ ก่อนแนบหน้ากากในมือเข้ากับใบหน้าของเซี่ยเหลียนอย่างพอดิบพอดี
.
.
.
.
.
จบอาร์คที่ 3

221 Nameless Fanboi Posted ID:CRzFhYX0XS

จบอาร์ค 3 แล้วเว้ยยยย ยาวนานมาก พาร์ทนี้มีหลายอย่างเกิดขึ้น ทั้งเรื่องของซือชิงเสวียน เฮ่อเสวียน กับซืออู๋ตู้ หลิงเหวินกับเสื้อคลุมอมตะ เฟิงซิ่น เจียงหลันกับลูกชาย เผยหมิง หรงกวงกับเทพแห่งฝน อวิ๋นอวี้กับเฉวียนอี้เจิน ฉีหรงกับกู่จือ องค์ชายรัชทายาทแห่งอู๋หย่งกับราชครูที่ออกมาแค่เสียง ไป๋อู๋เซียงกับหลางอิ๋ง ปมต่างๆ เริ่มคลายออก พร้อมกับปมใหม่ที่จะเชื่อมโยงไปถึงตอนจบ ต่อไปก็คือพาร์ท 4 อันเลื่องลือ ประเด็นในพาร์ทนี้ส่วนมากก็คุยๆ กันระหว่างคอมเมนท์แล้วเนอะ มีใครอยากถกเรื่องไหนกันอีกไหม ส่วนกูตอนนี้มีเรื่องที่อยากพูดเกี่ยวกับอาร์ค 3 อย่างเดียวนั่นคือ กูรักแม่ทัพเผย 555555

222 Nameless Fanboi Posted ID:8NZ+pGCqt0

>>221 กราบบบบ กูมานั่งรอสปอยล์ทุกวัน รอฉบับแปลก็ไม่มีกำหนด T T

223 Nameless Fanboi Posted ID:/.uBiP/xFT

>>220 เชรดเขร้ มันส์ขึ้นทุกตอนจริงๆอ่ะ โอ้ยยย ไป๋อู่เซี่ยงคือเจ้ากรรมนายเวรของจริง อาร์คนี้ยาวนานจริงๆ ตัวละครเยอะชิบหาย 55555
ขอบคุณโม่งสปอยมากๆๆ

>>221 จีงงง FC แม่ทัพเผย คนอะไรน่าแกล้งเพียงนี้ พ่อหนุ่มไฟแรงฮาเร็มพระเอกคาสโนว่าการ์ตูนโชเน็น 555555

224 Nameless Fanboi Posted ID:MirXMo5rwS

>>220 ขอบคุณโม่งสปอยล์นะ ขนาดกุอ่านจบแล้วกุยังมารอมึงสปอยล์ทุกวัน รักมึงนะ

ส่วนArc4 จับมือกันไว้แน่นๆนะเพื่อนโม่ง

225 Nameless Fanboi Posted ID:MjHKobF66Q

>>220 กูแปลกใจอย่างหนึ่ง ถ้าเซี่ยเหลียนไม่มาอีกฝ่ายจะทำไงวะ หรือเพราะรู้ว่ามาเลยปรากฏตัวเหรอ🤔🤔

226 Nameless Fanboi Posted ID:CRzFhYX0XS

>>225 อีกฝ่ายนี่หมายถึงไป๋อู๋เซียงหรือเปล่า ถ้าใช่ นางรู้ รู้ดีเลยล่ะ

227 Nameless Fanboi Posted ID:d2nk9SBLjL

>>221 กราบมึง กุรอสปอยที่ท่าน้ำทุกวันเลย อาร์คนี้เนื้อหาแน่นจริง กุไปเห็นแฟนอาร์ตสปอยอาร์ค4แต่ล่ะอันมากุแบบ ตับกูวววว

228 Nameless Fanboi Posted ID:0MlHOLEErV

>>226 ใช่ ไป๋อู่เซียง กูพิมตกเอง555 ไหมรู้ดีวะ

229 Nameless Fanboi Posted ID:UEMd0ITh//

>>228 คำถามของมึงมันสปอยล์ระดับโคตรอภิมหาเมเจอร์สปอยล์ ให้มึงแน่ใจอีกทีว่ายังอยากรู้มั้ย

230 Nameless Fanboi Posted ID:h9/Q1uEBEa

สปอยเทียนกวานอาร์ค 4 ต่อจาก >>222 เทียนกวาน Part.138 (เหตุการณ์อาร์คนี้เป็นเรื่องหลังเซียนเล่อล่มสลาย และเซี่ยเหลียนเพิ่งถูกเนรเทศครั้งแรกได้ไม่นาน)
.
.
.
.
.
เซี่ยเหลียนสะดุ้งตื่นจากความฝันวที่เขาจะฆ่าตัวตายตามพ่อแม่ ความรู้สึกที่เชือกรัดคอยังแจ่มชัด พอเอามือเตะลำคอก็สัมผัสถูกคำสาปพันธนาการ เพราะยังไม่ชินกับการนอนเสื่อทำให้รู้สึกไม่สบายตัว สักพักก็ออกไปกินอาหารเช้าตามที่เฟิงซิ่นเรียก พอเห็นหมั่นโถ่วแข็งแห้งก็ไม่รู้สึกอยากอาหาร มู่ฉิงเลยเอ่ยว่าไม่กินนี่ก็ไม่มีอย่างอื่นให้กินแล้ว เดี๋ยวถ้าเป็นลมอีก สุดท้ายก็ต้องกินอยู่ดี เฟิ่งซินเลยเตือนอีกฝ่ายให้ระวังคำพูด หลังจากนั้นทั้งสามก็ออกหางานทำ เซี่ยเหลียนพบว่าไม่ว่าจะพยายามทำงานหนักเท่าไรเงินที่ได้ก็ไม่เคยพอ มู่ฉิงเสนอให้ไปหางานที่มีระดับขึ้นมาหน่อยอย่างยาม แต่เพราะเซี่ยเหลียนต้องปกปิดใบหน้าไม่ให้ชาวบ้านที่เคียดแค้นเทพองค์ชายรัชทายาทเข้ามาทำร้าย แม้แต่ตอนนี้ก็ต้องเอาผ้าขาวผืนหนึ่งคอยปิดบังใบหน้าไว้ พวกเขาจึงรับงานเช่นนั้นไม่ได้

ตั้งแต่เกิดมา นี่เป็นครั้งแรกที่เซี่ยเหลียนต้องกังวลเรื่องปากท้อง เพิ่งเข้าใจความรู้สึกของผู้ศรัทธาที่หิวโหย สักพักทั้งสามก็เจอกลุ่มนักแสดงข้างถนนที่มีคนมุงดู มู่ฉิงเลยเสนอให้ไปทำการแสดงแบบนั้นบ้าง แต่ก็ถูกเฟิงซิ่นด่าว่าจะให้เชื้อพระวงศ์สูงส่งแบบเซี่ยเหลียนไปทำงานน่าอายสร้างความบันเทิงให้ผู้อื่นได้อย่างไร พอเซี่ยเหลียนเห็นพวกนักแสดงก้มเก็บเศษเงินที่มีคนโยนให้ก็ไม่อยากทำเช่นกัน มู่ฉิงกลอกตา คิดว่าในเมื่องานแบกอิฐหามปูนก็ทำมาแล้ว สิ่งนี้จะต่างตรงไหน นู้นก็ไม่เอา นี่ก็ไม่ได้ บอกให้เอาของไปจำนำ เฟิงซิ่นก็ไม่ยอมอีก อ้างว่าจำนำไปเยอะแล้ว ต้องพยายามเก็บที่เหลือไว้ สักพักพวกเขาก็เห็นกลุ่มทหารหย่งอันตามล่าจับตัวราชวงศ์เซียนเล่อที่เหลือ ด้วยความเป็นห่วงพ่อแม่ เซี่ยเหลียนเลยรีบกลับไปที่ซ่อนตัวของพวกตน

ราชินีพยายามทำอาหาร แต่เพราะไม่เคยทำมาก่อนเลยเกือบทำไฟไหม้ เซี่ยเหลียนจึงต่อว่าว่าควันจะทำให้เป็นจุดเด่นเรียกคนมา เขาไม่อยากไปพบหน้าบิดา ก่อนหน้านี้ทั้งคู่ก็มักทะเลาะกันอยู่แล้ว พอต้องตกต่ำลงกันทั้งพ่อลูกเลยยิ่งไม่อยากเห็นหน้ากันเนื่องจากต่างอับอายในตนเอง พอรู้ว่าลูกชายยังไม่ได้กินอะไร ราชินีก็เรียกทุกคนเข้าไปกินโจ๊กที่เธอเพิ่งทำ เมื่อเห็นหน้าตาโจ๊กทั้งสามก็ถึงกับติดสตั๊น หลังกลับเข้าไปหางานต่อ เซี่ยเหลียนก็ต้องลูบหลังให้เฟิงซิ่นกับมู่ฉิงที่อาการย่ำแย่

ไม่นานนักทั้งสามก็หางานดำนาได้ หลังทำไปได้สักพักมู่ฉิงก็บอกให้เซี่ยเหลียนไปพัก เขาจะทำงานส่วนของเซี่ยเหลียนเอง เพราะหากเสื้อผ้าของเซี่ยเหลียนสกปรกเขาต้องเป็นคนซัก แต่ก็ถูกหัวหน้างานสั่งไม่ให้คุยกัน พอตกเย็นก็เหนื่อยทั้งกายใจ เมื่อได้ยินเสียงผู้คนตื่นเต้นกันก็หันไปดู จึงได้เห็นว่าคนกำลังมุงดูเห็นรูปปั้นองค์ชายรัชทายาทแห่งเซียนเล่อคุกเข่า ชาวบ้านคนหนึ่งบอกว่าเอารูปปั้นเทพแห่งโชคร้ายมาทำไม คนที่แบกมาก็บอกว่าถ้าเหยียบรูปปั้นของเทพแห่งโคร้ายจะได้โชคดี เฟิงซิ่นเกือบออกไปบวก แต่มู่ฉิงก็ห้ามไว้ เมื่อมีคนบอกว่าทำอย่างนี้ไม่ค่อยเหมาะสม อย่างไรอีกฝ่ายก็เคยเป็นเทพและองค์ชายรัชทายาทมาก่อน คนกลุ่มนั้นก็บอกเซียนเล่อล่มสลายแล้วจะมาองค์ชายอะไรอีก และเซี่ยเหลียนควรต้องขอบคุณพวกตนด้วยซ้ำ เพราะหากพวกตนเหยียบย่ำ ถ่มน้ำลายใส่แล้วมีโชค เซี่ยเหลียนก็ย่อมได้กุศลด้วย

เซี่ยเหลียนทนฟังไม่ได้แล้วเข้าไปต่อยตีชายคนนั้น เฟิ่งซิ่นที่รอคนเปิดมานานแล้วรีบเข้าร่วมวงทันที ส่วนมู่ฉิงก็ไม่แน่ใจว่าถูกลากไปร่วมวงด้วยหรือตั้งใจเข้าไปเอง หลังอุตลุดพักหนึ่ง มู่ฉิงก็หิ้วอีก 2 คน ออกมา บอกว่าฆ่ามนุษย์ไม่ได้ไม่อย่างนั้นจะมีความผิดเพิ่มขึ้น และเพราะพวกตนเข้าไปก่อวิวาทจนต้องหนีออกมา ทำให้สุดท้ายจึงไม่ได้รับค่าจ้างของวันนี้เลย มู่ฉิงจึงเดือดโทษทั้งสองคน เฟิงซิ่นก็ด่าว่าทำไมต้องคุยเรื่องเงินในเวลาเช่นนี้ มู่ฉิงยิ่งโมโห บอกว่าเวลาแบบไหน ก็เวลาที่ทุกคนหิวอย่างนี้ไงล่ะถึงต้องพูดเรื่องเงิน เฟิงซิ่นเลยถามกลับว่าเซี่ยเหลียนถูกดูถูกขนาดนี้จะให้ทนอยู่ได้ยังไง มู่ฉิงตอกกลับว่าสิ่งนี้เป็นเรื่องธรรมดาหลังพ่ายแพ้สงคราม อนาคตย่อมยิ่งกว่านี้ ถ้าเซี่ยเหลียนไม่เรียนรู้ที่จะชินกับมันก็ไม่มีทางมีชีวิตต่อไปหรอก เมื่อเฟิงซิ่นเถียงว่าจะให้เซี่ยเหลียนชินกับเรื่องทุเรศพวกนี้ได้ยังไง เซี่ยเหลียนก็สั่งให้ทั้งสองหยุดทะเลาะกันแล้วกลับไปเตรียมหารถเข็นไปรับพ่อแม่ของเขาเพื่อหนีออกจากเมืองในคืนนี้ เฟิงซิ่นรีบตอบรับ แต่พอเดินไปสักพักก็สังเกตว่ามู่ฉิงไม่ได้เดินตามมา อีกฝ่ายบอกว่าเขาไม่อยากติดตามเซี่ยเหลียนแล้ว ขออนุญาตให้เขาจากไปด้วย
.
.
.
.
.

231 Nameless Fanboi Posted ID:FYDdh0H0dc

>> 230 โอ้โห... เปิดมาก็อยากร้องเลย กลิ่นดราม่าคละคลุ้ง...

232 Nameless Fanboi Posted ID:/1pjqrXKye

>>230 ตกต่ำเฉยๆ ก็ลำบากแล้ว นี่ทั้งตกต่ำทั้งโดนเหยียบย่ำ T T

233 Nameless Fanboi Posted ID:6rjeYwL5yx

>>230 สงสารทุกคนเลยอะ

234 Nameless Fanboi Posted ID:xJ2adTXCgy

Arc4 มาแล้ว โอยยย ตับจะแตก

235 Nameless Fanboi Posted ID:NOEsdHQ21h

วันพีซดังจากการสอนให้รู้จักว่าครอบครัวที่บิดเบี้ยวเเหลกเหลว​ พ่อแม่หัวควยเป็นยังไง

ลูฟี่ถูกพ่อแม่ทิ้งให้อยู่กับปู่ที่เป็นทหาร​ แต่กลับโตมากลายเป็นคนที่ไม่รู้จักความเดือดร้อนของคนอื่นที่โดนพังข้าวของเสียหาย​ มีความคิดนอกลู่นอกทางแทนที่จะเป็นทหาร​ กลับอยากเป็นโจร​ เนื่องจากลูฟี่ถูกทอดทิ้งไม่ได้รับการสั่งสอนจากพ่อแม่​ จึงกลายเป็นสวะสังคมที่ต้องหาจุดเด่นให้ตัวเองเป็นที่ยอมรับ​

ซัน​จิ​มีพ่อบ้ากาม​ มีเมียน้อยมากมาย​ โรคจิต​ พี่เป็นพวกตายด้าน​ ชอบบุลลี่ทำให้ซันจิกลายเป็นพวกเก็บกด​ ลักเพศ​ สับสนในเพศและชีวิตตัวเอง​ วิถีสุภาพบุรุษที่ไม่เตะผู้หญิงคือได้จากเชฟขาแดง​ แท้จริงแล้วตอนโดนพุดดิ้งเยาะเย้ย​ ซันจิอยากจะเตะพุดดิ้งให้หน้ายับ​ ต่อยหีบิ๊กมัมให้มดลูกแตก

ดอฟฟี่มีพ่อโง่ที่อยากออกจากการเป็นชาวมังกรฟ้า​ แต่เสือกง่อยทำไรไม่เป็นเนื่องจากพ่อดอฟฟี่เกิดมาบนปุยเมฆ​ มีพี่เลี้ยงคอยเช็ดตูด​ ก่อนกินข้าวก็มีคนบดอาหารให้ทำให้เมื่อเป็นคนธรรมดาแล้ว​ พ่อของดอฟฟี่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองและครอบครัว​ จนดอฟฟี่โดนชาวบ้านกลั่นแกล้ง​ ทรมานกลายเป็นโดนด้านมืดครอบงำจิตใจ

ไอ้ราชาเก๊โรเจอร์​ปั้มลูกเพื่อให้ลูกสานต่อความฝันวันพีซ​ รู้เต็มอกว่าสิ่งที่อยู่ที่ลาฟเทลมันยังไม่ถึงเวลาครอบครอง​ แต่เสือกทำตัวคลิกเบทโม้ประหนึ่งว่ากูได้เจอ​ กูได้ครอบครอง​ ทำให้ผลกรรมมาตกที่เมียต้องอั้นลูก​อั้นขี้ไว้​จนตาย​ ลูกชายเกิดมาก็มีปมพ่อจ๋า​ โดนชาวบ้านรังเกียจ​ เหยียดหยาม​ อายุก็สั้น​ เมียไม่มี สานฝันพ่อพินอคคิโอ้ขี้โม้ไม่ได้เลย

นี่คือตัวอย่างที่ทำให้วันพีซดังเพราะความสาระยำให้ไอ้พวกพ่อแม่กร๊วกเวรครับ

236 Nameless Fanboi Posted ID:UEMd0ITh//

>>235 คับ ด้อมโม่เซียงก็มีคับ ประมุขเจียงก็โตมาเป็นเด็กมีปัญหาเพราะพ่อแม่เลี้ยงไม่ถูกเหมือนกันครับ

มึงผิดมาจากมู่ไหนคับ 555555

237 Nameless Fanboi Posted ID:Kcvx6EuDBJ

>>235 ปกติกูจะเมินโทรลนะ แต่มึงอัพเกรดมาจนกูต้องอ่าน 5555
ไหน ๆ โทรลคุงก็อุตสาห์เปิดให้ เพื่อนโม่ง >>236 ก็ต่อน่าสนใจ ด้อมโมเซียงมีบ้านไหนเลี้ยงลูกมาดี ๆ ชีวิตไม่มีปัญหาบ้างวะ

238 Nameless Fanboi Posted ID:PrJtdkenCy

>>237 เซี่ยเหลียนก็นับว่าพ่อแม่เลี้ยงมาดีนะ หลางเชียนชิวด้วย

239 Nameless Fanboi Posted ID:D7qjhCCwjL

>>230 เปิดมากลิ่นดราม่ามาเลย

>>237 ถ้าในปรมจ.กูว่าไม่มีซักคน ส่วนเทียนกวานตาม >>238 เลย

240 Nameless Fanboi Posted ID:MLz3ExOMiA

นิยายโม่เซียงมันต้องมีอะไรสักอย่างที่อิหยังวะมาก โดยเฉพาะปรมจ เว่ยอิงตัวหาเรื่องขนานแท้ ถ้าไม่ก่อเรื่อง สกุลเจียงจะชิบหายแบบนี้มั้ย

241 Nameless Fanboi Posted ID:D7qjhCCwjL

>>240 ตอนนั้นยังวัยรุ่นด้วยแหละ เลือดมันร้อน

242 Nameless Fanboi Posted ID:5kuIn3dA59

>>237 กุเอง >>236 กุว่าไม่โทรลมั้ง แต่อาจจะผิดมู้มาไกลมากกก

กุพยามจะนึกถึงด้อมโม่เซียงที่พ่อแม่เลี้ยงมาดีๆ แต่ส่วนใหญ่พ่อแม่ไม่ครบทั้งนั้นเลย 5555 เซี่ยเหลียนนี่ฝั่งแม่เลี้ยงดีมาก แต่ฝั่งพ่อเหมือนจะทำตัวไม่ค่อยถูกกับลูก ตีกันเนืองๆ แต่ตัวเซี่ยเหลียนเองก็ดูถูกพ่อนิดๆด้วย แต่เซี่ยเหลียนตอนเด็กๆก็นิสัยอ่อนต่อโลกด้วยแหละ

ยิ่งarc4 ช่วงท้ายๆปมปัญหาพ่อแม่คือแย่มาก toxicใส่ลูกตัวเองชิบหาย(กุหมายถึงหลังจากเฟิ่งซิ่นเลิกติดตามเซี่ยเหลียนไปแล้ว ฉากนั้นแหละ)

243 Nameless Fanboi Posted ID:5kuIn3dA59

>>240 กุสงสัยมานานละ กุเมนเว่ยอิง ขอกุปกป้องเมนกุหน่อย เว่ยอิงมันทำตระกูลเจียงล่มตรงไหนวะ ตระกูลเวินมันจะขยายอำนาจอยู่แล้วเรื่องเล็กๆน้อยๆแม่งก็หาเรื่องได้หมด หรือถ้ามันขัดตีนตระกูลเวินจริงๆแล้วตระกูลเวินจะล้างแค้นก็ลงกับเว่ยอิงคนเดียวมั้ย ลงกับทั้งตระกูลแม่งโคตรข้ออ้างอ่ะ แล้วคนก็เกลียดเมนกุเพราะเหตุผลนี้เยอะเลย ทั้งที่เมนกุแค่โดนvictim blaming

244 Nameless Fanboi Posted ID:PrJtdkenCy

>>242 เพราะว่าตอนเซี่ยเหลียนเด็ก พ่อโม้ไว้เยอะว่าตัวเองเก่งอย่างนู้นอย่างนี้ พอลูกโตมาเห็นความจริงว่าพ่อก็แค่คนธรรมดาก็เลยไม่เคารพ ยิ่งความเห็นหลายอย่างไม่ตรงกัน พอลูกชายทำอย่างนั้นใส่ พ่อเซี่ยเหลียนไม่อยากเสียหน้ากับลูกชายก็เลยพาลชวนทะเลาะกัน แต่ก็อยู่แค่ระดับแค่นี้ โดยรวมยังถือว่าเลี้ยงดี

ส่วนปมท้ายอาร์ค 4 กูว่าพ่อแม่เซี่ยเหลียนน่าจะคิดว่าตัวเองเป็นตัวถ่วงและเป็นต้นเหตุที่ทำให้เซี่ยเหลียนเปลี่ยนไป จริงๆ มันเป็นความหวังดีนะ แต่เป็นความหวังดีที่ทิ้งปมให้ลูก ไม่ได้คิดในมิติว่าเซี่ยเหลียนจะเจ็บแค่ไหน

245 Nameless Fanboi Posted ID:PrJtdkenCy

>>243 มองในอีกแง่หนึ่งก็คือเป็นเพราะเว่ยอิงไปทำเรื่องขัดกับตระกูลเวินในถ้ำเต่านั่นไว้ ถ้าเว่ยอิงทนใจดำไม่ยอมออกหน้าช่วยเหมียนเหมียนทั้งๆ ที่เจียงเฉิงก็ห้ามแล้ว ตระกูลที่โดนฆ่าล้างอาจจะเป็นตระกูลจิน หรือตระกูลหลานแทน ซึ่งพอมีตระกูลอื่นรับกรรมเป็นไก่ที่ถูกเชือดให้ลิงตัวอื่นดูแล้ว ตระกูลเจียงก็จะไม่โดนแบบนี้ ถึงตระกูลเวินจะหาทางกดขี่ ก็น่าจะแค่ระดับเดียวกับที่ทำกับตระกูลอื่นๆ เว่ยอิงอาจไม่ใช่ปัจจัยหลักตรงๆ ที่ทำให้ตระกูลเจียงล่ม แต่ก็เป็นฟันเฟืองตัวหนึ่งที่มีส่วนทำให้เรื่องออกมาเป็นอย่างนี้

246 Nameless Fanboi Posted ID:brKzF5qqfW

>>245 คือกุไม่ปฏิเสธว่าเพราะเว่ยอิงตระกูลเวินเลยได้ทาร์เก็ตเป็นตระกูลเจียง แต่มันก็เป็นปัจจัยที่อ้อมมากๆอ่ะแทบไม่รีเลทกันเลย พอเห็นคนโทษเว่ยอิงตรงๆว่าเพราะเว่ยอิงตระกูบเจียงเลยชิบหายกุก็ปวดใจว่ะ สมมติกุโทษคุณแม่ว่าถ้าตอนนั้นยอมใจแข็งตัดแขนเว่ยอิงเอาใจตระกูลเวิน ตระกูลเวินคงไม่ฆ่าล้างตระกูลเจียงงี้ได้มั้ยอ่ะ แต่คุณแม่ก็ไม่ผิดไง เว่ยอิงก็ไม่ผิดเหมือนกัน คนผิดคือตระกูลเวินที่มันตั้งใจจะเลวฆ่าล้างตระกูลไหนซักตระกูลเพื่อเชือดไก่ให้ลิงดูไง

247 Nameless Fanboi Posted ID:86IU3sNoVL

กูว่าตระกูลเวินมันตั้งใจมานานแล้ว เหิมเกริม บ้าอำนาจมากขึ้นเรื่อยๆ แค่รอเวลาเท่านั้นแหละ

248 Nameless Fanboi Posted ID:jgnsQ9OShf

>>246 คนน่าจะมองว่าที่พี่เว่ยทำตัวเป็นวีรบุรุษขัดกับเวินเฉาตอนนั้น ทำให้หวยที่สกุลเวินอยากเชือดไก่ให้ลิงดูมาลงที่สกุลเจียงพอดี ถ้าพี่เว่ยไม่มาขัดอาจจะเป็นสกุลอื่นที่โดนล้างตระกูลแทนก็ได้ อะไรแบบนี้

249 Nameless Fanboi Posted ID:/V0gvXc.cV

สปอยเทียนกวานอาร์ค 4 ต่อจาก >>230 เทียนกวาน Part.139
.
.
.
.
.
คำพูดของมู่ฉิงทำให้เซี่ยเหลียนเซไปพิงกำแพง เฟิงซิ่นเลยถามว่าอีกฝ่ายหมายความว่ายังไง มู่ฉิงอ้างว่าราชากับราชินีเป็นพ่อแม่ของเซี่ยเหลียน ซึ่งเขาเองก็มีแม่ที่ต้องดูแลเช่นกัน จะให้เขาดูแลพ่อแม่คนอื่นแต่ไม่ดูบุพการีตัวเองหรือ พอเฟิงซิ่นถามว่านั่นคือเหตุผลหลักเหรอ มู่ฉิงก็บอกว่า อีกสาเหตุหนึ่งก็คือเขารู้สึกอึดอัด ทัศนคติของพวกเขาต่างกันเกินไป อยู่ด้วยกันไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น พอเฟิงซิ่นโวยวาย ก็บอกเพิ่มว่าคนอย่างเฟิงซิ่นอาจมีความสุขกับการได้อยู่รอบผู้อื่น แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนจะรู้สึกแบบนั้น ในที่สุดเซี่ยเหลียนก็บอกให้ทั้งคู่หยุด เขาไม่อยากบังคับจิตใจใคร แล้วบอกให้มู่ฉิงไป

เฟิงซิ่นด่ามู่ฉิงว่าพอมีสุขร่วมเสพย์ แต่พอมีทุกข์ไม่ยอมอยู่ด้วยกัน แล้วบอกว่าตนจะไม่มีทางทิ้งเซี่ยเหลียนไปเด็ดขาด ระหว่างที่เขาออกไปหารถเพื่อพาราชากับราชินีหนี เซี่ยเหลียนก็เดินไปตามริมแม่น้ำ เขาเชื่อมั่นในคำว่าตลอดไปมาตลอด เป็นเพื่อนกันตลอดไป ไม่มีการหักหลัง ไม่มีวันเลิกรา ตามตำนานเรื่องเล่าขานของผู้กล้ามีเพียงการถูกชะตาบังคับหรือความตายที่ทำให้ต้องแยกทางกับใคร ไม่มีตำนานไหนเล่าว่าคนสองคนแยกกันเพราะมีความเห็นไม่เหมือนกัน เพราะอีกฝ่ายใช้เงินฟุ่มเฟือยหรือเพราะอีกฝ่ายนิสัยเสีย

เห็นโคมลอยตามน้ำกับเหล่าเด็กๆ เล่นริมน้ำเซี่ยเหลียนก็คิดได้ว่าวันนี้คือเทศกาลซ่งหยวน พอหันไปเจอชายชรากำลังหลอกขายโคมที่มีวิญญาณของคนตายให้เด็กๆ เขาก็เข้าไปขัดขวาง พ่อค้าด่าเซี่ยเหลียนที่มาทำให้การค้าเสียหาย พออีกฝ่ายทำท่าจะจากไป เซี่ยเหลียนก็รั้งไว้ ถามว่าไปจับวิญญาณพวกนั้นมาจากที่ไหน พ่อค้าบอกว่าจับมาจากสนามรบเก่า เซี่ยเหลียนเลยสั่งห้ามอีกฝ่ายขายโคมต่อ เพราะวิญญาณทหารเหล่านั้นคือวีรชนที่ป้องปกบ้านเมือง พ่อค้าไม่ยอม บอกว่าตนก็ต้องหาเงินไว้กินไว้ใช้ เซี่ยเหลียนเลยควักเงินที่มีติดตัวเพียงน้อยนิดซื้อโคมพวกนั้นมาถอนผนึกออก ทำพิธีส่งวิญญาณอย่างง่ายๆ ขณะปล่อยโคมลอยไปตามแม่น้ำ แต่ กลับมีวิญญาณดวงหนึ่งลอยมาอยู่รอบๆ ตัวเขาไม่จากไป ส่งเสียงเรียกเขาว่าฝ่าบาท ท่าทางยินดีที่ได้พบกับเซี่ยเหลียน

เซี่ยเหลียนถามวิญญาณดวงนั้นว่าทำไมถึงไม่ไปสู่สุขคติ อีกฝ่ายตอบว่าเป็นเพราะคนที่เขารักยังอยู่บนโลกใบนี้ แม้คนๆ นั้นอาจจำเขาไม่ได้เพราะเคยพูดกันไม่กี่ครั้ง แต่เขาก็ยังต้องการอยู่เพื่อปกป้องอีกฝ่าย พอเซี่ยเหลียนบอกว่าเช่นนั้นเจ้าจะไม่มีวันได้สู่สุขคตินะ หากคนๆ นั้นรู้เรื่องนี้เข้าคงรู้สึกแย่และรู้สึกผิด วิญญาณตอบกลับว่าเช่นนั้นเขาก็จะไม่ให้อีกฝ่ายรู้ว่าทำไมเขาถึงยังไม่จากไป พอเซี่ยเหลียนบอกว่าถ้าเห็นอีกฝ่ายตามปกป้องบ่อยๆ สักวันคนๆ นั้นก็คงรู้อยู่ดี วิญญาณก็เอ่ยว่าถ้าอย่างนั้นเขาจะพยายามไม่ให้คนๆ นั้นรู้ว่าตนตามปกป้องอยู่ เมื่อเห็นความมั่นรักของวิญญาณตรงหน้า นึกว่าอีกฝ่ายคงต้องพรากจากคนที่รักเพราะเขาแพ้สงคราม เซี่ยเหลียนก็เอ่ยขอโทษ แต่วิญญาณดวงนั้นก็ตอบกลับมาว่าการได้ตายเพื่อเซี่ยเหลียนถือเป็นเกียรติของเขา

การที่แม้ตัวตายก็ยังภักดีต่อตนทำให้เซี่ยเหลียนยิ่งรู้สึกผิด เขาเอ่ยขอโทษอีกครั้งและบอกให้อีกฝ่ายลืมตน แต่วิญญาณดวงนั้นก็ยืนยันว่าเขาจะไม่มีวันลืมเซี่ยเหลียน และจะเป็นผู้ศรัทธาของเซี่ยเหลียนตลอดไป แต่เซี่ยเหลียนที่สูญเสียผู้ศรัทธาไปจนหมด แม้แต่เพื่อนคนหนึ่งก็ทอดทิ้งกลับไม่เชื่อ เพราะแม้แต่ตอนนี้เขาก็ยังไม่เชื่อในตนเองเลย

เมื่อเดินทางมาถึงอีกเมืองและหาที่ซ่อนตัวให้พ่อแม่ได้แล้ว เซี่ยเหลียนกับเฟิงซิ่นก็ออกหางานทำ แต่พอขาดคนที่เคยอยู่ด้วยกันไปคนหนึ่งก็เริ่มรู้สึกว่ายากลำบากขึ้น เพราะปรกติมู่ฉิงจะเป็นคนนับเงิน และเก็บกระเป๋า พอให้คนที่ไม่ละเอียดอ่อนอย่างเฟิงซิ่นรับหน้าที่แทนก็มักเผลอทำกระเป๋าหาย เซี่ยเหลียนเลยต้องรับหน้าที่มาเป็นของตน พอมู่ฉิงไม่อยู่ ก็ไม่มีคนทำหน้าที่ส่งอาหารให้ราชากับราชินี เซี่ยเหลียนกับเฟิงซิ่นเลยต้องทำหน้าที่เอง ราชินีขยันทำอาหารให้ทั้งสองคน แต่ด้วยสกิลของเธอทำให้ของที่ทำออกมาดูไม่ได้ทั้งนั้น พอราชินีละสายตาไปดูสามี เซี่ยเหลียนกับเฟิงซิ่นก็แอบเอาของในชามไปทิ้ง เมื่อราชินีถามถึงมู่ฉิง เซี่ยเหลียนเลยโกหกไปว่าเขาส่งอีกฝ่ายไปทำงานที่อื่น จากนั้นเฟิงซิ่นจึงสังเกตว่ามือของราชินีมีเลือดออก ราชินีบอกว่าไม่เป็นอะไรมาก เพียงแค่เธอไม่เคยซักผ้ามาก่อน เซี่ยเหลียนถึงนึกว่าออกปรกติมู่ฉิงเป็นคนซักเสื้อให้เขากับพ่อแม่มาตลอด เซี่ยเหลียนไม่อยากเห็นแม่ลำบากจึงบอกว่าต่อไปเขาจะเป็นคนทำเอง แต่ราชินีก็บอกว่าไม่อยากเพิ่มงานให้ลูกชาย อีกทั้งเธอก็มีเวลามากจึงอยากทำงานพวกนี้ให้ พอเห็นทั้งสองกินอาหารของเธออย่างเอร็ดอร่อยก็มีความสุขแล้ว ทำเอาเซี่ยเหลียนกับเฟิงซิ่นรู้สึกผิดขึ้น แล้วราชินีก็เอ่ยว่าถ้ามีโอกาส พรุ่งนี้ช่วยซื้อยามาให้เธอหน่อย
.
.
.
.
.

250 Nameless Fanboi Posted ID:86IU3sNoVL

>>249 เศร้า ซึ้ง ดราม่า อะไรว้าาาาา แงๆๆๆๆ ครบทุกอารมณ์เลย T T

251 Nameless Fanboi Posted ID:4o.3fKqRL7

วันพีซดังจากการสอนให้รู้จักว่าครอบครัวที่บิดเบี้ยวเเหลกเหลว​ พ่อแม่หัวควยเป็นยังไง

ลูฟี่ถูกพ่อแม่ทิ้งให้อยู่กับปู่ที่เป็นทหาร​ แต่กลับโตมากลายเป็นคนที่ไม่รู้จักความเดือดร้อนของคนอื่นที่โดนพังข้าวของเสียหาย​ มีความคิดนอกลู่นอกทางแทนที่จะเป็นทหาร​ กลับอยากเป็นโจร​ เนื่องจากลูฟี่ถูกทอดทิ้งไม่ได้รับการสั่งสอนจากพ่อแม่​ จึงกลายเป็นสวะสังคมที่ต้องหาจุดเด่นให้ตัวเองเป็นที่ยอมรับ​

ซัน​จิ​มีพ่อบ้ากาม​ มีเมียน้อยมากมาย​ โรคจิต​ พี่เป็นพวกตายด้าน​ ชอบบุลลี่ทำให้ซันจิกลายเป็นพวกเก็บกด​ ลักเพศ​ สับสนในเพศและชีวิตตัวเอง​ วิถีสุภาพบุรุษที่ไม่เตะผู้หญิงคือได้จากเชฟขาแดง​ แท้จริงแล้วตอนโดนพุดดิ้งเยาะเย้ย​ ซันจิอยากจะเตะพุดดิ้งให้หน้ายับ​ ต่อยหีบิ๊กมัมให้มดลูกแตก

ดอฟฟี่มีพ่อโง่ที่อยากออกจากการเป็นชาวมังกรฟ้า​ แต่เสือกง่อยทำไรไม่เป็นเนื่องจากพ่อดอฟฟี่เกิดมาบนปุยเมฆ​ มีพี่เลี้ยงคอยเช็ดตูด​ ก่อนกินข้าวก็มีคนบดอาหารให้ทำให้เมื่อเป็นคนธรรมดาแล้ว​ พ่อของดอฟฟี่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองและครอบครัว​ จนดอฟฟี่โดนชาวบ้านกลั่นแกล้ง​ ทรมานกลายเป็นโดนด้านมืดครอบงำจิตใจ

ไอ้ราชาเก๊โรเจอร์​ปั้มลูกเพื่อให้ลูกสานต่อความฝันวันพีซ​ รู้เต็มอกว่าสิ่งที่อยู่ที่ลาฟเทลมันยังไม่ถึงเวลาครอบครอง​ แต่เสือกทำตัวคลิกเบทโม้ประหนึ่งว่ากูได้เจอ​ กูได้ครอบครอง​ ทำให้ผลกรรมมาตกที่เมียต้องอั้นลูก​อั้นขี้ไว้​จนตาย​ ลูกชายเกิดมาก็มีปมพ่อจ๋า​ โดนชาวบ้านรังเกียจ​ เหยียดหยาม​ อายุก็สั้น​ เมียไม่มี สานฝันพ่อพินอคคิโอ้ขี้โม้ไม่ได้เลย

นี่คือตัวอย่างที่ทำให้วันพีซดังเพราะความสาระยำให้ไอ้พวกพ่อแม่กร๊วกเวรครับ

252 Nameless Fanboi Posted ID:q4iDIUsTyo

>>251 โทรลอันนี้มึงตั้งใจ??? ไม่ใช่ละ

253 Nameless Fanboi Posted ID:s5ZfPn/sGP

เมื่อไหร่กูจะได้อ่านเล่ม 4 วะ

254 Nameless Fanboi Posted ID:GkNRiD34Tz

>>249 ขอบคุณโม่งสปอยมาก สงสารทุกคนเลยอ่ะ
>>253 กูยังสงสัยว่าปีนี้จะออกครบ 5 เล่มมั้ยวะ เพราะไม่มีข่าวคราวของเล่ม 4 เลย เฮ้อ

255 Nameless Fanboi Posted ID:05gjF2aYrU

กูเห็นมังฮวาเทียนกวานระงับจริงไหมวะ

256 Nameless Fanboi Posted ID:WNJbtwNY+9

>>255 งดชั่วคราวมั้ง คนวาดวาดอลังเกิน แล้วเขาบอกว่าเขียนสตอรี่บอร์ดไม่เก่ง เลยรับคนเขียนสตอรี่บอร์ดโดยเฉพาะมา คาดว่าน่าจะทำให้เนื้อเรื่องดีขึ้น เพราะภาพสวยอยู่แล้ว

257 Nameless Fanboi Posted ID:osUiIVNimP

>>255 หยุดสองเดือน แค่นั้น

258 Nameless Fanboi Posted ID:NB857HaVZh

>>256 >>257 โล่งอก นึกว่าโดนหิ้ว5555

259 Nameless Fanboi Posted ID:s1pHLoplYY

ดันนนน

260 Nameless Fanboi Posted ID:wCWNpnn4eZ

ดันด้วยยย

261 Nameless Fanboi Posted ID:zpyBI7tqDg

มาดัน

262 Nameless Fanboi Posted ID:abjHZt3ZVP

สปอยเทียนกวานอาร์ค 4 ต่อจาก >>249 เทียนกวาน Part.140
.
.
.
.
.
พอรู้ว่ายาที่แม่ต้องการคือยารักษาอาการไอเป็นเลือด เซี่ยเหลียนก็เสียงสูงด้วยความตกใจทำให้ราชาได้ยินแล้วดุภรรยาทันทีว่าตนบอกแล้วว่าไม่ให้บอก เซี่ยเหลียนรีบเข้าไปต่อว่าพ่อว่าทำไมถึงไม่รรีบบอก ปล่อยให้อาการทรุดหนักจนยากจะรักษาแล้วเช่นนี้ ทั้งสองทะเลาะกัน แต่พอเซี่ยเหลียนบอกว่าต้องรีบพาไปหาหมอ เฟิงซิ่นก็เตือนว่าหากทำเช่นนั้นทหารหย่งอันจะพบตัว ราชินีเสริมว่าเพราะเช่นนั้นพวกตนจึงไม่ได้บอกเรื่องนี้กับเซี่ยเหลียน และขอให้ช่วยซื้อยามาลองดูก่อน

เซี่ยเหลียนไปหยิบกระบี่ฮ่องจินแล้วส่งให้เฟิงซิ่นนำมันไปจำนำเพื่อนำเงินไปซื้อยา ด้วยความที่กระบี่เล่มนั้นเป็นสิ่งที่จวินอู๋มอบให้ทำให้เฟิงซิ่นพยายามห้ามไว้ ระหว่างทางทั้งคู่เจอกลุ่มชาวบ้านกำลังมุงดูบางอย่าง เมื่อสอบถามก็ได้ความว่าบ่าวรับใช้ผู้หนึ่งกำลังซ้อมเจ้านาย เนื่องจากบ่าวผู้นั้นติดตามรับใช้นายอย่างภักดีมานาน ทว่าเจ้านายกลับไม่เห็นค่า ทั้งๆ ที่รู้ว่าครอบครัวของบ่าวยากจนก็ยังไม่ยอมจ่ายเงินเดือนและใช้งานหนัก ในที่สุดบ่าวผู้นั้นก็ทนไม่ไหว ได้ยินดังนั้นเซี่ยเหลียนก็ตัวสั่น ยิ่งเฟิงซิ่นเอ่ยเห็นด้วยกับการกระทำของบ่าวคนนั้นก็ยิ่งรู้สึกหวาดกลัว

ด้วยความที่ไม่ได้พาคนไข้มา หมอจึงจ่ายยาสุ่มตามอาการให้ แต่โรคหนัก ค่ายาจึงแพง เงินที่ได้จากการจำนำจึงซื้อยาได้พอใช้ไม่นาน ขณะที่เฟิงซิ่นไปต้มยา เซี่ยเหลียนก็รีบกลับไปหาผ้าผูกเอวทองคำผืนสุดท้ายมามอบให้เพราะเพิ่งตระหนักได้ว่าทั้งๆ ที่เฟิงซิ่นติดตามตนมานาน ยามยากก็ไม่ทิ้งไปไหน แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขากลับไม่เคยมอบอะไรให้อีกฝ่ายเลย ด้วยความกลัวว่าเฟิงซิ่นจะทอดทิ้งตนไปอีกคนจึงมอบของซื้อใจโดยไม่ได้บอกเหตุผล ตอนแรกเฟิงซิ่นปฏิเสธ บอกว่าภายหน้าอาจต้องนำไปจำนำซื้อยาอีก แต่พอเซี่ยเหลียนคะยั้นคะยอมากเข้า ในที่สุดเขาก็รับไว้โดยอธิบายว่าหากต้องการใช้ก็มาเอาคืนไปได้เลย

เซี่ยเหลียนรู้สึกผิดต่อพ่อ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะไปขอโทษยังไง พวกเขาไม่อาจหยุดพักนาน จำต้องออกเดินทางหนีการจับกุมเป็นระยะ แต่พอออกมาไกลเซียนเล่อมากขึ้นก็พบว่าชาวบ้านต่างดูสงบสุขไร้ความทุกข์ร้อน แม้จะมีการพลัดเปลี่ยนแผ่นดินก็ไม่ได้รู้สึกแตกต่าง เงินที่ได้จากการจำนำฮ่องจิ้นใกล้หมดแล้ว ทรัพย์สมบัติที่พอจำนำได้ก็ไม่เหลือแล้ว พอเห็นการแสดงข้างถนนที่ตนเคยไม่ยอมทำก่อนหน้า เซี่ยเหลียนจึงชวนเฟิงซิ่นให้ลองแสดงหาเงินดู เฟิงซิ่นบอกว่าตนทำคนเดียวก็พอ แต่สุดท้ายเซี่ยเหลียนก็ต้องออกไปร่วมแสดงด้วยอยู่ดี แต่ตอนก้มลงเก็บเศษเหรียญก็อดรู้สึกเหมือนได้สูญเสียอะไรบางอย่างไปไม่ได้ ทว่าเฟิงซิ่นกลับโชว์ยิงธนูไปปักธงประดับของคนอื่นโดยไม่ทันคิด ทั้งสองจึงถูกพาเข้าไปในบ้านหลังนั้นซึ่งเป็นสถานเริงรมย์เพื่อให้ชดใช้ค่าเสียหาย พอแม่เล้าเห็นพวกเขาไม่มีเงินจึงตั้งใจพาเซี่ยเหลียนไปบริการลูกค้า โชคดีที่เฟิงซิ่นรีบลากเซี่ยเหลียนหนีออกมาได้ก่อน

เซี่ยเหลียนกับเฟิงซิ่นเปลี่ยนสถานที่ตั้งการแสดง ด้วยความที่การแสดงสดใหม่ทำให้พวกเขาได้เงินมาค่อนข้างมาก แต่สุดท้ายก็ถูกนักแสดงเจ้าถิ่นตามมาหาเรื่องถึงที่พักเพราะทั้งสองไปแย่งพื้นที่ทำมาหากินจนพวกเขาไม่ได้เงินเลย เซี่ยเหลียนพยายามเถียงว่าไม่ใช่ความผิดของพวกตน พออีกฝ่ายจะรุม เฟิงซิ่นก็ต่อยกำแพงเป็นหลุมให้อีกฝ่ายหงอไป สุดท้ายพวกนักแสดงเจ้าถิ่นจึงเสนอให้ทำการแสดงอกหินผาแข่งกัน ผู้ใดชนะก็จะได้อยู่ต่อ ส่วนผู้แพ้ต้องออกไปจากบริเวณนั้น แต่ด้วยความที่เซี่ยเหลียนกับเฟิงซิ่นเป็นเทพ สกิลสูงกว่าอีกฝ่ายอย่างเห็นได้ชัด ทว่าด้วยเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับปากท้อง หากไม่พยายามตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าต่อไปจะใช้ชีวิตต่ออย่างไร ชายนักแสดงที่เข้ามาแข่งด้วยจึงฝืนตัวเอง แม้กระอักเลือดบาดเจ็บก็หมายสู้ตาย เซี่ยเหลียนเห็นว่าหากแข่งต่อไปอีกฝ่ายต้องตายแน่ จึงเป็นฝ่ายขอยอมแพ้เองแม้เฟิงซิ่นจะไม่เห็นด้วยก็ตาม

ด้วยความที่อาการป่วยของราชาแย่ลง ทำให้พวกเซี่ยเหลียนไม่อาจย้ายเมืองเพื่อหาที่ทำการแสดงใหม่ พอเซี่ยเหลียนเห็นเฟิงซิ่นที่กำลังต้มยาร้องเพลงอารมณ์ดีก็รู้สึกว่ามีอะไรแปลกๆ พอนึกว่าหลังจากเหตุการณ์มีเรื่องกับพวกนักแสดงเจ้าถิ่นตอนนั้น บางทีอีกฝ่ายก็ชอบยิ้มคนเดียวโดยไม่มีเหตุผล บางทีก็ทำอะไรพลาดบ่อยๆ แต่ด้วยความเหนื่อยเซี่ยเหลียนจึงคร้านจะสอบถาม พอเขาเห็นว่ายาชุดนี้เป็นชุดสุดท้ายที่เหลืออยู่ เซี่ยเหลียนก็บอกเฟิงซิ่นว่าตนจะหาวิธีหาเงินมาเอง ให้อีกฝ่ายคุ้มครองราชากับราชินีไว้ และห้ามตามเขามาเด็ดขาด

Note 1 : เผื่อลืมไปแล้ว ที่ตอนหลังเฟิงซิ่นมีอาการแปลกๆ เป็นเพราะกำลังมีความรักกับเจียนหลันที่เจอที่ซ่อง พอไม่ต้องย้ายเมืองก็เลยแอบดีใจ
Note 2 : สุดท้ายทั้งสองก็ต้องมาแสดงข้างถนน ทั้งๆ ที่ตอนแรกมู่ฉิงก็ชวนแล้ว แถมยังด่าอีกฝ่ายด้วย
.
.
.
.
.

263 Nameless Fanboi Posted ID:LTgsuamhhr

>>262 ปวดใจ ช่วงตกระกำลำบากแท้ๆ

264 Nameless Fanboi Posted ID:QrE3wfnCt5

>>262 ขอบคุณโม่งสปอย อาร์คนี้ปวดตับสุดเลยไหมเนี่ย

265 Nameless Fanboi Posted ID:uLxgTTaZwi

>>264 สุดเลยสำหรับกุอ่ะ 20ตอนแม่งไม่มีตอนไหนที่ผ่อนคลายเลย ยิ่งจุดพีคคือกุต้องอ่านแล้วพัก

266 Nameless Fanboi Posted ID:duqebcQzWT

>>262 ขอบคุณโม่งสปอย กลิ่นมาม่าโชยมาเลย

267 Nameless Fanboi Posted ID:9FWIt9FONA

สปอยเทียนกวานอาร์ค 4 ต่อจาก >>262 เทียนกวาน Part.141
.
.
.
.
.
ด้วยปัญหาที่บีบคั้นทำให้เซี่ยเหลียนตัดสินใจดักปล้นชาวบ้าน แต่ด้วยความรู้สึกผิดทำให้เขาไม่อาจทำใจลงมือกระทำได้ทันที หลังจากปล่อยผ่านคนไปหลายคน เมื่อทำใจได้ชายที่เขาตัดสินใจชิงทรัพย์กลับมีเครื่องรางอยู่เต็มตัว ทำให้เมื่อเขาร้องตะโกนขอความช่วยเหลือจึงมีเทพราว 33 องค์มาตามคำอธิษฐานอย่างว่องไว เห็นสายตาของทุกคน เซี่ยเหลียนก็ตัวแข็งด้วยความหวาดกลัว มีเทพบางองค์จำเซี่ยเหลียนได้ ต่างตะลึงกล่าวว่าไม่นึกว่าเซี่ยเหลียนจะทำเรื่องเช่นนี้ ก่อน บอกว่าเข้าใจว่าเซี่ยเหลียนกำลังอยู่ในช่วงยากลำบาก พวกตนจะไม่นำเรื่องนี้ไปบอกคนอื่น เซี่ยเหลียนกล่าวขอบคุณอย่างตะกุกตะกัก จำไม่ได้ว่าตนผละจากจุดนั้นมาอย่างไร ระหว่างที่ยืนฝั่งหน้ากับฝ่ามือก็เหมือนเห็นร่างสีขาวที่สวมหน้ากากอยู่ข้างหน้า แต่พอมองดีๆ ก็ไม่เห็นผู้ใด

เซี่ยเหลียนไม่อยากให้เฟิงซิ่นผิดหวังในตัวของเขาจึงไม่ยอมเล่าอะไรให้ฟัง พออีกฝ่ายชวนออกไปหาที่แสดงในวันต่อไปเซี่ยเหลียนก็ไม่อยากออกไปพบหน้าผู้ใด เฟิงซิ่นคิดว่าเซี่ยเหลียนคงเหนื่อย จึงบอกว่าไม่เป็นไร ตนจะไปแสดงคนเดียว เซี่ยเหลียนจะได้มีสมาธิกับการบำเพ็ญด้วย แม้ตอนแรกเซี่ยเหลียนจะพยายามบำเพ็ญเพื่อจะได้กลับขึ้นสวรรค์อีกครั้ง แต่เหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นทำให้เขาไม่มีหน้ากลับไปเจอใครบนสวรรค์อีกแล้ว เขาไม่เชื่อว่าเทพกลุ่มนั้นจะไม่นำเรื่องที่องค์ชายรัชทายาทแห่งเซียนเล่อตั้งใจขโมยของชาวบ้านไปพูดให้คนอื่นฟัง เมื่อถึงห้องนอนก็นอนหลับฝันร้าย รู้สึกว่าทำให้พ่อแม่ต้องขายหน้าที่มีลูกชายเช่นนี้

เมื่อเซี่ยเหลียนตื่นขึ้นมาก็ออกไปหาสถานที่สงบใจ ในที่สุดก็มาถึงสุสานแห่งหนึ่ง อากาศหนาวเย็นจนเขาต้องกอดร่างของตัวเอง พอหันไปเจอไหเหล้าที่มีคนเอามาไหว้สุสานก็หยิบมากระดกโดยไม่สนใจว่าจะเป็นการทำผิดวิถีบำเพ็ญ ระหว่างนั่งกอดไหดื่มเหล้าไปเรื่อยๆ ก็เห็นดวงไฟวิญญาณดวงหนึ่งมาลอยอยู่ใกล้ๆ เซี่ยเหลียนคิดว่านั่นอาจเป็นวิญญาณเจ้าของเหล้าที่ตนหยิบมาดื่มซึ่งไม่พอใจในการกระทำของเขา เซี่ยเหลียนเลยบอกว่าตนจะไปแล้ว แต่ด้วยความเมามายทำให้เขาตกลงไปในหลุมศพเปล่าที่มีคนขุดเตรียมไว้ แข้งขาที่อ่อนยวบเพราะฤทธิ์สุราทำให้เขาปีนขึ้นไปไม่ได้สักทีทั้งๆ ที่หลุมก็ลึกนิดเดียว เซี่ยเหลียนสบถคำหยาบด้วยความโมโห สุดท้ายก็ตะโกนเรียกหาคนช่วยดึงเขาขึ้นไป แม้ไฟวิญญาณจะเหมือนอยากช่วย แต่ก็ไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ หลังจากทุ่มพลังทั้งหมด ในที่สุดเซี่ยเหลียนก็ปีนขึ้นมาได้สำเร็จ เขาหอบหายใจ คู้ตัวกอดร่างของตนเอง พึมพำเสียงแผ่วเบาว่าหนาว ไฟวิญญาณเลยพยายามเปล่งแสง แต่ด้วยความที่มันเป็นไฟวิญญาณจึงไม่มีความอุ่นออกมาเลย ระหว่างที่เซี่ยเหลียนกำลังเคลิ้มๆ จะหลับ เขาก็ได้ยินเสียงสะอื้นเสียงหนึ่ง “พระเจ้า โปรดรอข้าที ขอข้าด้วยเถอะ ขอเวลาข้าอีกหน่อย ข้าจะ... ข้าจะ...”

เซี่ยเหลียนตื่นขึ้นมาเพราะถูกเฟิงซิ่นปลุก หลังจากโล่งใจที่เซี่ยเหลียนไปเป็นอะไรอีกฝ่ายก็เปลี่ยนไปโกรธจัด ต่อว่าที่เซี่ยเหลียนจู่ๆ ก็หายไป 2 วัน ทำเอาเซี่ยเหลียนถึงกับงง พอเฟิงซิ่นเล่าว่าเขาเมายำเป เที่ยวไปไล่ต่อยตีชาวบ้าน แถมยังไปขวางขบวนทหารหย่งอัน โชคดีที่เฟิงซิ่นไปเจอพอดีเลยรอดมาได้ พอเฟิงซิ่นกล่าวว่าเขาต้องโกหกราชากับราชินีเพื่อไม่ให้ทั้งสองเครียด เซี่ยเหลียนทำเช่นนี้แล้วจะกลับขึ้นสวรรค์ได้ยังไง เซี่ยเหลียนก็รีบเดินหนี เฟิงซิ่นเลยรู้สึกเอะใจถามว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่เซี่ยเหลียนก็ไม่ยอมตอบอีกฝ่าย สักพักถึงเพิ่งสังเกตว่าแก้มของเฟิงซิ่นบวมช้ำ แขนข้างหนึ่งก็มีผ้าพันแผล พอสอบถามถึงได้รู้ว่าอีกฝ่ายถูกนักแสดงเจ้าถิ่นทำร้ายเพราะทำผิดสัญญา เซี่ยเหลียนเลยบอกไม่ให้เฟิงซิ่นไปแสดงอีก แต่อีกฝ่ายก็ดื้อ ไม่ยอมล้มเลิกหาเงินเด็ดขาด

เซี่ยเหลียนยิ่งรู้สึกผิดต่อเฟิงซิ่น กล่าวขอโทษอีกฝ่ายที่เขาปล่อยให้ไปทำงานคนเดียว ขอโทษที่สร้างปัญหาให้ คราวนี้พอเฟิงซิ่นเอ่ยว่าถ้าเพื่อทำให้เซี่ยเหลียนสามารถบำเพ็ญจนขึ้นสวรรค์ได้อีก เขาก็ยินดี คราวนี้เซี่ยเหลียนพยักหน้ารับอย่างแข็งขัน แม้แต่อาหารฝีมือราชินี เขาก็ช่วยเฟิงซิ่นกินจนหมด หลังจากนั้นขณะที่เฟิงซิ่นออกไปทำการแสดง เซี่ยเหลียนก็จะพยายามบำเพ็ญเพิ่มพลังทิพย์แต่ก็ไม่สามารถทำได้อยู่ดี เมื่อผ่านไป 2 เดือน เขาจึงตัดสินใจขอตัวเดินทางไปหาสถานที่บำเพ็ญที่มีพลังทิพย์ การฝึกจะได้คืบหน้า และพาทุกคนพ้นจากความลำบากนี้เร็วขึ้น ระหว่างนั้นของให้เฟิงซิ่นช่วยดูแลพ่อแม่ของเขาให้หน่อย ซึ่งเฟิงซิ่นก็รับปากอย่างดี วันต่อมาเซี่ยเหลียนก็บอกลาทั้งสามแล้วออกเดินทาง
.
.
.
.
.

268 Nameless Fanboi Posted ID:4Fk2LtIuSX

>>267 แงงงงงงง น้ำตาไหลเป็นน้ำตก T T

269 Nameless Fanboi Posted ID:91Ijx6iJaC

>>267 ถึงฉากนั้นแล้วสินะ จุกรัวๆ

270 Nameless Fanboi Posted ID:zWg547Klnn

ตามโม่งสปอยตลอดนะ กดเข้ามาดูทุกวันขอบคุณมากกกกก รู้สึกถึงความจุกแบบอึดอัดเลยอ่ะตอนต่อๆไป TT

271 Nameless Fanboi Posted ID:mG3hIBGYX2

โอ๊ย กูอยากรีบข้ามไปพาร์ท 5 เลย กำลังลุ้น ส่วนพาร์ทนี้ไม่อยากอ่านเลยถึงจะรู้ว่าเป็นอดีตแต่แม่งบีบหัวใจชิบหาย

272 Nameless Fanboi Posted ID:Nc8CcqsZiG

กูไม่เข้าใจ
ปรมจ เล่ม 4 5 มันช้าเพราะไรวะ
แปลช้า ตรวจงานช้า หรือไร
ชาวบ้านชาวช่องต่างประเทศเค้า ตีพิมพ์ทีหลังแต่จบก่อน งงมั้ย
ทำไมช้าแบบนี้ ต้องการดึงลูกค้าให้อยู่กับสนพนานๆหรอ
กูเสียความรู้สึกกับบกรมากอะ วันหลังไม่ซื้อกับสนพนี้แล้ว

273 Nameless Fanboi Posted ID:FK7v847yZe

>>272 เห็นว่าคนแปล หรือ บก. หรือใครสักคนไม่สบายป้ะ งานเลยออกช้า (หรือกูจำผิดเรื่องวะ)

274 Nameless Fanboi Posted ID:Amqm2MBHgL

พวกมึงเลิกฉอดตอแหลๆว่าคงไม่ซื้อแล้วสักที555 มันตลก เพราะเค้าได้จีนดีๆมาก็ซื้ออยู่ดี ทำนานก็คงมีเหตุผลสิวะ

275 Nameless Fanboi Posted ID:Amqm2MBHgL

เออแต่กูก็เบื่ออ่านพาทอดีตของปรมจแล้วว่ะ อยากอ่านปัจจุบัน

276 Nameless Fanboi Posted ID:UOOG97mBHs

>>275 +1 กูอยากให้เข้าพาร์ทปัจจุบัน กุอยากมุ้ปอร
บางทีกูก้ไม่เข้าใจ ทำไมกระเหี้ยกระหือรือกับแบบนิยายนักวะ ซรจบไปแล้ว เนื้อเรื่องก็ไม่มีอะไรแล้วนอกจากความวายที่เพิ่มขึ้นมา แต่เห็นด้วยนะว่าทำงานช้าจริง เค้าคงอยากทำออกมาให้ดีที่สุดนั่นแหละ ติดอยู่ที่คนไม่พอ

277 Nameless Fanboi Posted ID:smN2ajI8P7

กูเห็นบ่นจะเทๆกัน พอมีทอปปิคใหม่ก็ออกมาฉอดเหมือนเดิม เมื่อไหร่จะเทจริงๆซะทีวะ
อีกอย่างทำนานไม่น่ากลัวเท่าทำชุ่ยนะมึง เร่งสนพ.แต่พอดีๆเถอะ เดี๋ยวเกิดบ้าจี้เร่งออกมาแล้วชุ่ยจะซวยกันหมด

278 Nameless Fanboi Posted ID:.Cy+RlR7SZ

>>277 บกรไม่น่าจะบ้าจี้ เพราะทวงกันแบบนี้ทุกเล่ม ก็ยังช้าทุกเล่ม 555

279 Nameless Fanboi Posted ID:SN6s91ncN+

>>277 เท่าที่เห็นคือนานแต่ก็ยังชุ่ยนะ 55555

280 Nameless Fanboi Posted ID:MntEb6gbZu

กูอยากเก็บให้มันครบๆ 5 เล่ม จะได้ปิดจ็อบไป
นี่เก็บมาปีกว่า ได้แค่ 3 จาก 5
มันเหมือนคนขี้ แต่ขี้ไม่สุดอะมึง
ค้างคา
ถ้าไม่เก็บ 1-3 มาก่อน คงเลือกไม่ซื้อเลย เพราะหมดอารมณ์อ่านแล้ว
เห็นว่าเก็บมาเกินครึ่ง เลยเก็บให้มันครบๆ
ถ้าเป็นสนพอื่น คงครบ 5 เล่มตั้งแต่ปีที่แล้วแล้วมั้ง

281 Nameless Fanboi Posted ID:MntEb6gbZu

เรื่องวายที่เคยดังขนาดติดเทรนทวิตอันดับ1ทุกสัปดาห์
แต่สนพกลับได้รับเสียงด่ามากกว่าเสียงชม
แบบนี้ไม่เรียกว่าทำตัวเองแล้วให้เรียกว่าไรวะ
แทนที่จะสร้างชื่อเสียงให้สนพตัวเองให้เป็นที่รู้จัก
วันนี้กูบอกเลย ถ้าพูดถึง บกร กูจะนึกได้แค่ว่า
บกร = ดอง

282 Nameless Fanboi Posted ID:SKfhDS3pMA

สปอยเทียนกวานอาร์ค 4 ต่อจาก >>267 เทียนกวาน Part.142
.
.
.
.
.
เซี่ยเหลียนเดินทางมาถึงภูเขาเงียบสงบมีพลังทิพย์เหมาะกับการฝึกบำเพ็ญ ขณะที่เขากำลังสำรวจถ้ำด้วยความยินดี ไม่นานก็มีเทพชั้นล่างกลุ่มเล็กๆ ตามเข้ามา เขาจำได้ว่าบางคนเป็นคนที่อยู่ในเหตุการณ์ที่เขาพยายามปล้นชาวบ้านเมื่อตอนนั้น อีกฝ่ายบอกว่าพวกตนก็ต้องการฝึกบำเพ็ญที่นี่เช่นกัน เซี่ยเหลียนมาถึงที่นี่ก่อน แม้ไม่อยากฝึกกับคนอื่นอีกทั้งยังระเวงสายตาที่ฝ่ายนั้นมองตน แต่เพื่อเลี่ยงการปะทะเขาเลยยอมแบ่งปันสถานที่ให้ ทว่าเทพกลุ่มนั้นกลับอ้างว่าในเมื่อในอดีตเซี่ยเหลียนเคยยิ่งใหญ่ คราวนี้ก็ควรเสียสละให้คนอื่นแล้วออกไปจากที่นี่ซะ คำพูดรังแกกันเช่นนั้นเซี่ยเหลียนเดือดขึ้นมาโต้เถียงกับอีกฝ่าย เทพกลุ่มนั้นเอ่ยอ้อมๆ ว่าเดี๋ยวจะมีเพื่อนคนอื่นตามมาสมทบ แต่ไม่ว่าอย่างไรเซี่ยเหลียนก็ไม่ยอม ฝ่ายนั้นจึงงัดเรื่องที่เซี่ยเหลียนไปดักปล้นคนขึ้นมา เนื่องจากคนที่พูดคำนี้ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ตอนนั้น ทำให้เซี่ยเหลียนรู้ทันทีว่าเทพพวกนั้นเอาเรื่องของเขาไปบอกคนอื่น แต่พอหันไปหาเทพที่อยู่ในเหตุครั้งนั้น อีกฝ่ายกลับบอกว่าเพื่อนของตนไม่ใช่คนอื่นเลยไม่ถือว่าผิดคำพูด

พอเซี่ยเหลียนระเบิดอารมณ์ใส่ เทพกลุ่มนั้นก็รีบอ้างว่าคนทำผิดคือเซี่ยเหลียน เซี่ยเหลียนจะมาโทษว่าเป็นความผิดของคนอื่นได้อย่างไร เพราะเช่นนี้พวกตนจึงไม่อยากบำเพ็ญกับเซี่ยเหลียน เซี่ยเหลียนอยากเถียงกลับแต่ก็เถียงไม่ออก แต่เพื่อพ่อแม่กับเฟิงซิ่น เขาเลยจะไม่ยอมไปจากที่นี่เด็ดขาด การทะเลาะกันเริ่มดุเดือด ในที่สุดเซี่ยเหลียนก็คว้ากิ่งไม้มาสู้กับพวกที่เป็นเทพสงคราม แต่ด้วยความเมพเขาก็สามารถปัดกระบี่อีกฝ่ายกระเด็นทุกคน เทพพวกนั้นไม่อยากเชื่อว่าจะแพ้เทพตกสวรรค์ พอเห็นไฟวิญญาณดวงหนึ่งพยายามชนตนก็อ้างว่าเซี่ยเหลียนเล่นทริก อีกฝ่ายจับลูกไฟนั่นไว้ ส่วนเซี่ยเหลียนก็ตะคอกด้วยความโกรธว่าเขาไม่เกี่ยว มีชื่อเขาสลักบนวิญญาณนั่นหรืออย่างไรถึงมากล่าวหากัน ตอนนั้นเองพวกเทพก็เรียกใครบางคนให้เข้ามาช่วย คนๆ นั้นคือมู่ฉิง

ทั้งเซี่ยเหลียนกับมู่ฉิงต่างติดสตั๊น เป็นเพราะตอนที่เฟิงซิ่นกับมู่ฉิงเป็นผู้ติดตามของเขาบนสวรรค์ ฝีมือของทั้งสองเข้าตาเทพองค์อื่นจนอยากได้ไปเป็นลูกน้องตัวเอง ตอนเขาถูกเนรเทพถึงกับมีบางคนมาขอตัวทั้งสองไป จึงมีความเป็นไปได้ที่จะมีเทพองค์ใดองค์หนึ่งพามู่ฉิงกลับขึ้นสวรรค์ไปเป็นลูกน้อง เทพที่สู้กับเซี่ยเหลียนรีลเล่าเรื่องให้มู่ฉิงฟัง พอเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ได้เล่าเรื่องที่เขาปล้นคนตั้งแต่ตน ก็รู้ว่ามู่ฉิงต้องรู้เรื่องนั้นแล้วอย่างแน่นอน ฝ่ายนั้นบอกให้มู่ฉิงไล่เซี่ยเหลียน เซี่ยเหลียนที่ถูกไส่สีว่าจะยึดจะยึดถ้ำไว้คนเดียวแล้วไล่คนอื่นออกไปจึงร้องว่าเรื่องไม่ได้เป็นเช่นนั้น พอพวกเทพองค์อื่นเริ่มตะโกนด่ามู่ฉิงว่ายืนเฉยอยู่ทำไม เซี่ยเหลียนก็แอบดีใจว่าอย่างไรพวกตนก็เพื่อนกัน แต่พอถูกพูดเหน็บแหนมอีกมู่ฉิงกลับยกดาบฟันกิ่งไม้ในมือเซี่ยเหลียน ก่อนบอกให้เซี่ยเหลียนไปจากที่นี่

เซี่ยเหลียนอึ้ง หลังเงียบไปครู่หนึ่งก็บอกว่าตนไม่ได้อยากขโมยของใคร ไม่ได้ยึดที่นี่ไว้คนเดียว และเป็นเขาที่มาถึงที่นี่ก่อน รู้ใช่ไหมว่าเขาไม่ได้โกหก เขาไม่อาจทนต่อไปได้จึงยอมจากออกมาจากที่นั่น แต่กลับมีเทพองค์หนึ่งแกล้งขัดขาให้เขาล้มลงไปในหลุมโคลนบนพื้นเชา มู่ฉิงยังยืนอยู่ในกลุ่มเทพที่หัวเราะเยาะเซี่ยเหลียนโดยไม่ยอมมองมา ไม่แม้แต่ช่วยยื่นมือมาช่วยให้เขาลุกขึ้น เซี่ยเหลียนหยิบย่ามที่แม่ของเขาจัดให้แล้วลุกขึ้นเดินลงจากเขา ค่อยๆ เพิ่มความเร็วขึ้นเรื่อยๆ จนออกวิ่งแล้วล้มอีก คราวนี้เขากระอักเลือดเพราะความโกรธออกมาด้วย เขานั่งนิ่งอยู่ตรงนั้นโดยไม่มีความคิดจะลุกขึ้น ก่อนจะมีมือข้างหนึ่งยื่นมาให้ พอเงยหน้าขึ้นก็เห็นว่าอีกฝ่ายคือมู่ฉิง

แม้อีกฝ่ายจะถามว่าเขาเป็นอะไรไหม เซี่ยเหลียนก็เอาแต่จ้องหน้าเฉยๆ แต่พอมู่ฉิงเริ่มหน้าตึงขึ้นเรื่อยๆ แล้วทำท่าจะชักมือกลับ เซี่ยเหลียนก็กระชากอีกฝ่ายลงมาคลุกพื้นด้วย มู่ฉิงโกรธ บอกว่าเขาไม่มีทางเลือก ที่เซี่ยเหลียนปล้นคนก็เพราะไม่มีทางเลือกเหมือนกันไม่ใช่เหรอ เซี่ยเหลียนจึงคว้าทุกสิ่งที่คว้าได้ปาใส่จนมู่ฉิงจากไป จากนั้นเขายังนั่งอยู่ที่เดิมจนมืดค่ำก็ไม่ไปไหน แต่แล้วก็มีใครบางคนเข้ามาใกล้ พอเซี่ยเหลียนมองก็เห็นร่างในชุดสีขาว ใบหน้าสวมหน้ากากครึ่งร่ำไห้ครึ่งแย้มยิ้มยืนอยู่ตรงหน้า พร้อมเอ่ยทักอย่างยินดีว่า “ทรงสบายดีหรือเปล่า ฝ่าบาท”

Note : ตอนมู่ฉิงขอไม่อยู่กับเซี่ยเหลียนแล้ว ถึงจะรู้สึกไม่ดีแต่กูเข้าใจและยอมรับเหตุผลของนางได้นะ ตอนสิ่งที่นางทำในตอนนี้ทำให้กูอยากจิกหัวมากระทืบซ้ำ ไอ้เหี้ย ไอ้ข้อศอกหมา มึงไม่กล้าขัดคนอื่นมึงก็ยืนอยู่เฉยๆ ไปสิวะ
.
.
.
.
.

283 Nameless Fanboi Posted ID:Bf74uNux.7

พูดถึงบกร กูจะนึกถึงติ่งประสาทแดกคิดว่าหนังสือเสกได้ประกาศLC=พึ่งได้LC ที่สนพมันออกได้เร็วเบื้องหลังมันผ่านกระบวนการมาตั้งนานเป็นปีๆ เสร็จแล้วค่อยออกโว้ย เพราะความประสาทแดกของพวกมึงตอนนี้ที่ไหนได้ลิขสิทธิ์เรื่องอะไรก็ไม่กล้าประกาศได้แต่กระมิดกระเมี้ยนกระซิบคนแปลเถื่อนว่าลบเถอะนะได้LCแล้วแต่ห้ามประกาศว่าสนพไหนได้ จนวันนี้กูยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฮัสกี้กับซือจุนที่ไหนได้ไป
ถ้าเป็นสายอ่านนิยายสักหน่อยไม่ใช่ตามแต่ซีรีส์แล้วมางอแงหาว่านิยายออกช้าเพราะดอง ก็จะเห็นว่านิยายแปลหลายเรื่องที่โดนขอให้ลบเพราะติดลิขสิทธิ์หายเป็นปีกว่าจะออกทีละเล่ม ซบ.ที่มาเป็นข้อพิสูจน์ว่าออกเร็วได้ ขอโทษเหอะ ป่านนี้กูยังไม่เห็นเงาฆ่าหมาป่าที่ได้ลิขสิทธิ์เป็นปีเลย
กูเคืองพวกโวยสุดตรงทำให้วงการวายสนพไม่กล้าประกาศลิขเลยหัวร้อนเป็นพิเศษ

284 Nameless Fanboi Posted ID:rLYJf9SVmI

>>282 +1 มู่ฉิงตอนนี้น่าตบจริงๆ
.
.
.
.
.
ตอนนี้ทำให้คนคิดว่า เซี่ยเหลี่ยนยกโทษให้มู่ฉิงง่ายไป กูว่าเซี่ยเหลี่ยนปล่อยว่างได้แล้วอะ แต่ให้คบกันเป็นเพื่อนอีกครั้ง กูไม่โอ5555 อยากให้เหมือนเจียงเฉิงกับพี่เว่ยมากกว่า ที่ให้อภัยกันแต่เป็นแบบเดิมไม่ได้อีกแล้ว
.
.
.
.
.

285 Nameless Fanboi Posted ID:SqlTn8YakU

>>282 ตอนนี้กูเข้าใจที่มาของเทพในบัญชีหนังหมาที่อ๋องแกไปไล่ทุบศาลและ ก็ว่าถ้าแค่เห็นว่าดักปล้นไม่น่าจะถึงกับโดนคิดบัญชีแบบนี้

286 Nameless Fanboi Posted ID:zCw+if9Vzt

>>281 จริงมึง แต่ก่อนกูเฉยๆกับบกร. แต่เพราะเรื่องนี้แหละเวลามีใครพูดถึงสนพนี้ขึ้นมา กูด่าได้ 3 วัน 3 คืน

287 Nameless Fanboi Posted ID:SKfhDS3pMA

>>284 อืม เป็นกูกูอาจจะยกโทษให้แต่ไม่กลับไปสนิทเหมือนเดิม คบแค่ห่างๆ พอ แต่อีกแง่หนึ่งมันก็ตั้ง 800 ปีแล้วอะ เวลานานขนาดนั้น แถมด้วยนิสัยของเซี่ยเหลียนเองก็อาจไม่เก็บมาใส่ใจแล้ว ยังไงคนบ้านเดียวกันก็เหลืออยู่แค่นี้ แถมมู่ฉิงก็ยังปลอมเป็นฝูเหยามาช่วยงานเจ้าบ่าวผีกับตอนปั้นเยวี่ย (ถึงจะแอบหนีไปก่อน แต่รู้ว่าอาจทำให้มีปัญหากับเผยหมิงก็ยังมา) ตอนรู้ว่าฮวาเฉิงเป็นสตอล์กเกอร์ก็พยายามหวังดีพาหนี (ถึงเซี่ยเหลียนจะไม่ต้องการก็เถอะ 5555) แต่อย่างน้อยด็อยากให้เซี่ยเหลียนจับมาซ้อมสักยกก่อน อารมณ์พวกผู้ชายตีกันแล้วความบาดหมางคลายอะ

288 Nameless Fanboi Posted ID:SqlTn8YakU

>>282 แต่กูสงสัยตอนที่มู่ฉิงมันไปมันอ้างว่ามีแม่ต้องดูแล ตอนนี้เป็นเทพเขาห้ามเจอมนุษย์โดยตรงนี่ แล้วอย่างงี้ดูแลยังไงวะ ให้พรให้ร่ำรวยงี้หรอ

289 Nameless Fanboi Posted ID:SKfhDS3pMA

>>285 33 คนนั่นสมควรโดนและ แต่ฮวาเฉิงจำหน้าแม่นจริงจัง 555

290 Nameless Fanboi Posted ID:fu7JZRql.P

>>281 เว่อมาก แต่กูติดใจแค่ บกร พิมปรมจ หลักหมื่นเล่ม ต้นทุนลดลงเยอะมากกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ลดเยอะกว่าพวกพิมหลักพันอีก โรงพิมแทบจะรำถวาย แต่ก็ขายแพงกว่าจำนวนหน้า เพราะไงคนก็ซื้อ อุอิ

291 Nameless Fanboi Posted ID:SqlTn8YakU

>>289 แค้นฝั่งลึกสลักในวิญญาณเลยมั้ง ถึงเคยพูดว่าสิ่งที่เสียใจที่สุดคือการที่เห็นคนที่ตนรักถูกทำร้ายแต่ทำอะไรไม่ได้ ก็แน่สิตอนนั้นเอ็งเป็นแค่ลูกไฟ

292 Nameless Fanboi Posted ID:SqlTn8YakU

>>290 แต่กูดีใจนะที่แม่งพิมพ์เยอะ
อย่างน้อยกูที่มาตามที่หลังจะได้ไม่เจอคำว่าของหมดกระแทกใส่หน้า

293 Nameless Fanboi Posted ID:SKfhDS3pMA

>>288 กูก็สงสัยเหมือนกันเพราะในเรื่องไม่ได้บอกไว้ ถ้าพยายามหาเหตุผลให้ ตอนที่เทพองค์อื่นพาขึ้นสวรรค์อีกรอบ ก็คงขอให้อีกฝ่ายช่วยให้พรดูแลแม่ ไม่ก็ขอให้ทำนิมิตรให้พวกนักบวชในศาลของตัวเองช่วยดูแลหญิงตาบอดคนนี้ แล้วให้แม่ของมู่ฉิงมาอาศัยในเขตอาราม มีน้ำอาหารให้กิน หรือไม่เจ้าตัวก็อาจแอบๆ มาช่วยเอง เพราะเทพเล็กๆ แอบทำอาจไม่มีคนรู้

294 Nameless Fanboi Posted ID:fu7JZRql.P

>>292 มันหมดก็พิมใหม่มึง มันจะปล่อยให้ของหมดทำไมในเมื่อขายได่้ มีตลอดแหละเชื่อสิ

295 Nameless Fanboi Posted ID:DxLPMS0Tc4

>>282 >>284 กูจำได้ว่าพอกูอ่านบทนี้จบ กูเกลียดมู่ฉิงไปเลยอ่ะ กูรับไม่ได้ด้วยที่เซี่ยเหลียนกลับไปเป็นเพื่อนกัน คือเซี่ยเหลียนตอนนั้นไม่เหลืออะไรเลย ชื่อเสียง เกียรติยศ จากคนที่เคยอยู่สูงสุดตกลงมาจุดต่ำสุด แม่งยังทำได้ลงคออ่ะ ไม่เห็นแก่มิตรภาพที่เคยมีมาด้วยซ้ำ
จะแยกตัวออกไป ไม่ว่ากัน เพราะการเอาตัวเองให้รอดไม่ผิด แต่เหตุการณ์ที่ถ้ำคือสุดๆละ

แต่อีกอารมณ์นึงหลังจากอ่านบทนี้คือ กูสะใจมากที่ฮวาเฉิงจัดการอิเทพพวกนั้นตอนหลัง สมน้ำหน้าาาาา

296 Nameless Fanboi Posted ID:SKfhDS3pMA

>>295 แต่คิดในอีกมุมหนึ่งคือมู่ฉิงมันมีนิสัยเอาตัวรอดก่อนจนไม่คิดถึงคนรอบข้าง แล้วตัวเองก็มาเสียใจทีหลัง
.
.
.
.
.
อย่างในอาร์ค 5 ที่ไปตบเฟิงซิ่นสลบ ทำให้อีกฝ่ายไปเจออันตราย ก็กลัวจนทำอะไรผิดๆ ถูกๆ แต่พอพวกเซี่ยเหลียนจะไปช่วยก็ขอตามไป หรือตอนที่เจอเฟิงซิ่นแล้ว แต่กำแพงในถ้ำกำลังปิดทาง นางก็ชิงหนีก่อน แล้วก็มาเสียใจทีหลัง เพราะชอบทำผิดซ้ำๆ อย่างนี้ เลยไม่ค่อยมีคนเชื่อคำพูดด้วยว่าไม่ตั้งใจ ทำไปตามสัญชาตญาณ อย่างในอาร์ค 4 ที่ไล่เซี่ยเหลียน ตอนหลังก็รู้สึกผิดจนต้องแอบเอาของไปให้ แล้วก็ยอมขอโทษ (ซึ่งปรกติไม่เคยทำ ในอาร์ค 5 ก็ไม่พูด) จะว่าไปแล้วก็เป็นสันดานเสียซึ่งนางก็พอรู้ตัว ก็หวังว่าต่อๆ ไปจะหาทางแก้นิสัยนี้ได้นะ
.
.
.
.
.

297 Nameless Fanboi Posted ID:SqlTn8YakU

>>295 จนกูเริ่มคิดว่าการที่อ๋องผีแกต่อยมูฉิงไปซะหลายหมัดเลยเริ่มคิดว่ามันคงมีเรื่องนี้ด้วยรึเปล่า

298 Nameless Fanboi Posted ID:Tu0aMUq1+d

>>297 ฮวาเฉิงกับมู่ฉิงนี่ฮวาเฉิงน่าจะแค้นเก็บมาตัังแต่เล่ม2ละป่ะที่ไปออกปากไล่ฮวาเฉิง มีเรื่องหน้าถ้ำนี่อีก ฮวาเฉิงแม่งได้จังหวะเลยต่อยด้วยความแค้น เฟิ่งซิ่นยังโดนน้อยกว่าอ่ะ 555

กุจะบอกว่ากุเนี่ยคนชอบมู่ฉิง กุรักนางกรอกตา ส่วนตัวกุว่ามู่ฉิงไม่เคยทำร้ายใครจริงจังด้วย คือนางแม่งทำตัวน่าจิกหัวมาตบก็จริง แต่ความน่าจิกหัวมาตบแล้วก็จบอ่ะ มู่ฉิงเองก็ไม่ได้คิดร้ายกับใครแบบจะฆ่าจะแกง ประกอบกับมู่ฉิงเข้าใจว่าเซี่ยเหลียนกับเฟิ่งซิ่นเกลียดตัวเองด้วยนะ นึกสภาพว่ามึงต้องติดตามเค้าแต่คิดว่าเค้าเกลียดตัวเองอ่ะ เฟิ่งซิ่นแม่งก็ชอบซุบซิบด่ามู่ฉิงให้เซี่ยเหลียนฟัง แล้วที่นางทำก็รู้สึกผิดสัสๆ รู้สึกผิดมา800ปี ที่ทำดีก็เยอะสร้างสาธารณะประโยชน์ก็เยอะ ไอที่สับคอเฟิ่งซิ่นก็เจตนาดี อย่างเล่ม5ที่ผนังถ้ำจะปิดกุเข้าใจว่านางไม่ได้ชิ่งนะ แต่โดนOOOดึงตัวออกไปให้คนอื่นเข้าใจว่านางหนี
.
.
.
.
.
.
แล้วเล่ม5นั่นอ่ะ มู่ฉิงตั้งใจจะตายนะ บอกให้เซี่ยเหลียนหนีไปคนเดียวเพราะคิดว่าไปกันสองคนยังไงก็คงไม่รอด เลยตั้งใจจะตายให้เซี่ยเหลียนรอดนะ ตอนที่OOOวางยาให้สามหน่อเข้าใจผิดกันเอง มู่ฉิงก็ไม่ได้ทรยศเซี่ยเหลียนเลยนะ ตั้งแต่เซี่ยเหลียนบึ้นสวรรค์รอบ3มานางก็แสดงอออกว่าเป็นห่วงเยอะแต่ทำตัวกับเค้าไม่ถูกเฉยๆ

นางปรับปรุงตัวขนาดนี้แล้วให้อภัยนางเถอะ YwY

299 Nameless Fanboi Posted ID:SKfhDS3pMA

>>298 อืม กูก็ว่างั้นอะ ถึงนางจะขี้อิจฉา ปากปีจอ ชอบเอาตัวรอดก่อน แต่ก็ไม่เคยอยากทำร้ายใครให้ถึงตาย กับเฟิงซิ่นที่ไม่ถูกกัน นางก็ไม่เคยอยากให้อีกฝ่ายเป็นอะไรไป กูอภัยให้นาง แต่ถ้าเป็นเซี่ยเหลียนก็ไม่อยากกลับไปสนิทมากอะ

300 Nameless Fanboi Posted ID:PtJqaWZo5G

ดันหน่อย ตกหน้าแรกละ

301 Nameless Fanboi Posted ID:bimFRGTA5n

ขอ ky กูพึ่งมาตามอ่านงานของคุณโม่แล้วกูอยากรู้ว่า นิยายตัวร้ายนี่เล่มสองกูยังสามารถตามหามือ 1 ได้อยู่ไหม กูเห็นนายอินทร์ขายแต่เล่ม 1 กับ 3

302 Nameless Fanboi Posted ID:kkzSEb6Uj3

>>301 หาได้ทั่วไป สนพ.เอง ร้านในช้อปปี้ ร้านหนังสือที่ไม่ใช่นอ.อะ หาได้ชิลๆเลยจ้า ลองดูๆ

303 Nameless Fanboi Posted ID:fUCFuAzWi5

>>301 ในเว็บโลดดด

304 Nameless Fanboi Posted ID:szjug0pAEJ

ขุดหน่อยจ้า

305 Nameless Fanboi Posted ID:B+mEl7f/lu

>>301 มือ1ยังได้แต่หาboxมือ1ไม่ได้แล้ว แล้วถ้าไม่ได้ตั้งใจจะเก็บboxอยากได้แค่หนังสือเฉยๆก็ไม่แนะนำมือ1อ่ะเพราะแม่งแพงสัส มือ2สภาพเกือบ100 หรือสภาพแบบยังไม่ได้แกะแล้วลดราคาเหลือ3เล่ม900งี้มีเยอะแยะ เลือกเอาละกัน

306 Nameless Fanboi Posted ID:3gWgnFxcp6

>>302 >>303 >>305 ขอบใจพวกมึงมาก

307 Nameless Fanboi Posted ID:916S/xkhoy

สปอยเทียนกวานอาร์ค 4 ต่อจาก >>282 เทียนกวาน Part.143
.
.
.
.
.
เซี่ยเหลียนได้แต่ยืนตัวสั่น พอเศวตไร้หน้าเข้ามาใกล้ก็ยกมือโจมตี แต่ก็ถูกอีกฝ่ายจับไว้ เตะเซี่ยเหลียนล้ม ก่อนจะใช้มือข้างเดียวจับหัวของเซี่ยเหลียนยกเขาลอยกลางอากาศ ลูกไฟวิญญาณดวงหนึ่งพุ่งชนไป๋อู๋เซียงแต่ก็ทำอะไรไม่ได้แม้แต่น้อย แล้วเซี่ยเหลียนก็ต้องตัวแข็งเมื่อจู่ๆ เศวตไร้หน้าก็กอดเขา ลูบหัวราวกับปลอบประโลม กล่าวว่าถูกคนทำอย่างนั้น เซี่ยเหลียนช่างน่าสงสาร พออีกฝ่ายชักชวนให้มาอยู่ด้วยกัน เซี่ยเหลียนก็ปัดหน้ากากนั่นออก บอกว่าใครจะไปอยู่กับเอ็ง ไป๋อู๋เซียงยกมือปิดหน้าหัวเราะ บอกว่ายังไงสักวันเซี่ยเหลียนก็ต้องมาอยู่กับตน เพราะว่าในโลกนี้ไม่มีใครเข้าใจเซี่ยเหลียนไปมากกว่าเขา และเขาจะเป็นคนๆ เดียวที่อยู่ข้างเซี่ยเหลียนตลอดไป เซี่ยเหลียนไล่อีกฝ่ายที่มโนว่าเขาจะไม่มีใครอยู่เคียงบ่าเคียงไหล่ ไม่สนใจลูกไฟที่ขยับขึ้นลงราวพนักหน้าเห็นด้วย ไป๋อู๋เซียงเลยกล่าวว่าในอดีตน่ะใช่ แต่ต่อแต่นี้ไปก็ไม่แน่

เศวตไร้หน้าปล่อยบังไคทำให้เซี่ยเหลียนกระเด็น ส่วนตัวเองก็ไปจับลูกไฟมาถามชื่อ แต่เซี่ยเหลียนที่เป็นห่วงพ่อแม่กับเฟิงซิ่นก็ไม่สนใจเหตุการณ์ตรงหน้า แล้วรีบวิ่งกลับไปยังที่พัก พอกลับมาถึงเขาก็เจอเฟิงซิ่นกำลังคุยกับมู่ฉิง เลยหันไปถามมู่ฉิงว่ามาที่นี่ทำไม เฟิงซิ่นตอบแทนว่าอีกฝ่ายเอาเสบียงมาให้ แล้วมู่ฉิงยังเสริมอีกว่าจะหาโอกาสนำยามา ตอนที่เฟิงซิ่นบอกว่าไม่นึกว่าอีกฝ่ายจะมาช่วย แต่ก็ต้องขอบคุณ เซี่ยเหลียนก็ขัดขึ้นมาว่าเขาไม่ต้องการความช่วยเหลือจากมู่ฉิง และไล่ให้อีกฝ่ายออกไป ทำให้มู่ฉิงหน้าซีดแล้วกล่าวคำขอโทษออกมา

เซี่ยเหลียนหยิบกระสอบพวกนั้นไล่ฟาดมู่ฉิง ทำเอาเฟิงซิ่นงง พอถามเรื่องราวเซี่ยเหลียนก็บอกให้ไปถามมู่ฉิงเอาเองว่าทำไมเขาที่ไปฝึกบำเพ็ญถึงต้องกลับมา เมื่อมู่ฉิงเล่าคราวๆ ว่าตนขอให้เซี่ยเหลียนไปจากภูเขา ด้วยสถานการณ์ตอนนั้นแล้วหากเซี่ยเหลียนไม่ไป เรื่องก็คงไม่จบ ได้ยินแค่นั้นเฟิงซิ่นก็ปะติดปะต่อเรื่องราวออก เลยหยิบกระสอบมาไล่ฟาดมู่ฉิงอีกคน ปากก็ด่าไม่หยุด แม้มู่ฉิงบอกว่าตนรู้ว่าตัวเองทำผิด ตอนนี้ก็พยายามแก้ไขแล้ว แต่เฟิงซิ่นก็ไม่ฟัง มู่ฉิงเลยถามว่าทีเซี่ยเหลียนดักปล้นคนทำไมถึงยอมรับได้ แต่พอเขาทำผิดบ้างถึงรับไม่ได้ คำพูดนั้นทำให้เซี่ยเหลียนถึงกับหยุดหายใจ ส่วนเฟิงซิ่นก็ช็อคมาก เห็นท่าทางของทั้งสองมู่ฉิงเลยเพิ่งรู้ว่าเซี่ยเหลียนไม่ได้บอกเฟิงซิ่นว่าไปทำเรื่องอะไรไว้

เซี่ยเหลียนไม่อาจคุมอารมณ์ได้อีกเลยคว้าไม้กวาดไล่ตีมู่ฉิงจนได้แผล มู่ฉิงยอมจากไปแต่ก็ยังยกกระสอบของมาวางไว้ด้านหน้าพวกเซี่ยเหลียน พอเฟิงซิ่นถามว่ามู่ฉิงโกหกใช่ไหม เซี่ยเหลียนก็ขอร้องไม่ให้อีกฝ่ายถามอะไรอีก พอถูกบอกให้เล่าความจริง เซี่ยเหลียนก็กรีดร้องเอามือปิดหูวิ่งเข้าห้องตัวเองไป แม้ความจริงอยากหนีไปไกลๆ แต่ก็หลัวว่าไป๋อู๋เซียงจะมาทำร้ายพ่อแม่กับเฟิงซิ่นจึงไม่ได้ไปไหน แม้เฟิงซิ่นกับแม่จะมาเคาะประตูเรียกก็ไม่ยอมออกไปหา ผ่านไปสองวันถึงใจเย็นลงแล้วยอมออกมา เฟิงซิ่นเอาอาหารมาให้ พยายามชวนคุยเรื่องอื่นให้บรรยากาศผ่อนคลาย ทำเป็นว่าไม่เคยเกิดเรื่องอะไรขึ้น ผ่านไปหลายวันก็พอรู้ว่าเฟิงซิ่นไม่ได้เล่าเรื่องที่เขาปล้นคนให้พ่อแม่ของเขาฟัง เซี่ยเหลียนเลยสบายใจขึ้น

พอเซี่ยเหลียนเอ่ยปากจะไปแสดงกับเฟิงซิ่น อีกฝ่ายก็บอกให้เขาพักอีกหน่อย เซี่ยเหลียนเลยสารภาพว่าตอนนี้เขาไม่มีกะจิตกะใจจะบำเพ็ญเลย อย่างน้อยก็ให้เขาทำตัวเป็นประโยชน์บ้าง ขอตัวไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อก่อน แต่ตอนที่ส่องกระจก เซี่ยเหลียนกลับเห็นว่าบนใบหน้าของตนมีหน้ากากครึ่งแย้มยิ้มครึ่งร่ำไห้สวมอยู่ เขาร้องเสียงดังจนเฟิงซิ่นรีบมาดู แต่คราวนี้พอมองกระจกอีกครั้งหน้ากากนั่นก็หายไปแล้ว เห็นเซี่ยเหลียนหลอน เฟิงซิ่นก็เลยยืนยันให้เซี่ยเหลียนพักต่ออีกสัก 2-3 วัน เซี่ยเหลียนไม่กล้าบอกอีกฝ่ายว่าตนได้เจอกับเศวตไร้หน้ามา เพราะกลัวว่าเฟิงซิ่นจะทิ้งตนไปอีกคน สุดท้ายเพราะยืนเหม่อเลยถูกทิ้งให้อยู่บ้านไม่ได้ไปไหน

เซี่ยเหลียนเพิ่งสังเกตว่าตัวเองเหม็นมากเพราะไม่ได้อาบน้ำมา 2 สัปดาห์ จึงจัดการไปอาบน้ำ ตอนที่กำลังจะหยิบชุดมาใส่ก็สังเกตว่าเสื้อตัวนักพรตสีขาวของเขากลับกลายเป็นชุดไว้ทุกข์สีขาวหรูหราเหมือนของเศวตไร้หน้า เขาตะโกนหาคนที่แอบมาเปลี่ยนเสื้อด้วยความโกรธ ทำให้ราชากับราชินีที่อยู่ห้องข้างๆ รีบมาดูด้วยความตกใจ แต่แม้ลูกชายที่โตเป็นผู้ใหญ่แล้วจะยืนเปลือยกายอยู่ ราชินีก็ยังรีบเขาไปกอดปลอบ เซี่ยเหลียนกอดมารดา บอกว่ามีผีร้ายตามตนเองอยู่แล้วเรียกให้ดูเสื้อของตน แต่เมื่อทั้งสามมองไปที่เสื้อตัวนั้น ก็พบว่ามันเป็นแค่ชุดนักพรตไร้ความผิดปรกติใดๆ ทำให้เซี่ยเหลียนยิ่งเดือด ร้องว่าอีกฝ่ายต้องการอะไรจากตน อยากปั่นหัวตนนักหรือ เห็นอย่างนั้นราชินีก็พยายามกลั้นน้ำตา แล้วกอดลูกชายเอาไว้
.
.
.
.
.

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.