Fanboi Channel

[รวมมิตรโม่เซียง] เม้าท์เรื่อง ปรมาจารย์, ตัวร้าย​อย่างข้า, เทียน​กวาน​ ฯลฯ​ เล่มที่​ 13 [นิยาย อนิเม ดราม่า ละคร สปอย]

Last posted

Total of 1000 posts

1 Nameless Fanboi Posted ID:sSGkJzR96I

กระทู้ 1​ >>>/801/5933/
กระทู้ 2 >>>/801/6012/
กระทู้ 3 >>>/801/6083/
กระทู้ 4 >>>/801/6178/
กระทู้ 5 >>>/801/6235/
กระทู้ 6 >>>/801/6331/
กระทู้ 7 >>>/801/6492/
กระทู้ 8 >>>/801/6709/
กระทู้ 9 >>>/801/7090/
กระทู้ 10 >>>/801/7386/
กระทู้ 11 >>>/801/7776/
กระทู้ 12 >>>/801/8159/

สาระน่ารู้ ข้อห้าม และข้อควรระวัง
(มีคนอื่นสรุปทุกอย่างไว้ที่นี่เป็นข้อ ๆ สรุปดีและชัดเจน ครอบคลุมทุกประเด็นดราม่าด้วย พิมพ์ในนี้เองเสร็จหมดแล้วเพิ่งเห็น
https://twitter.com/Sinnerdarker/status/1056487008174915595ดีงาม เก็บไว้ดูได้ สั้นดีด้วย )
---------------------------------------------
1. แม่โม่ห้ามทำของขายเชิงพาณิชย์ ห้ามเรี่ยไรเงิน/ระดมทุนด้วยการอ้างชื่อ/นิยาย/ตัวละคร
---------------------------------------------
สรุปภาษาไทยเรื่องทางอฟช. ของปรมาจารย์ลัทธิมาร "ไม่อนุญาต" ให้ทำงาน Fan Made ขาย
https://twitter.com/Sinnerdarker/status/1052084168375422980
*ข้อมูลเพิ่มเติม*
มีคนสรุปเป็นภาษาอังกฤษเรื่องแม่โม่ไม่อนุญาตให้ทำสินค้าปรมจ. ขาย
https://twitter.com/rossogattino/status/1049632239913295873
แปลแบบสรุป ๆ คือคุณโม่เซียงถงซิ่วแจ้งว่าห้ามขายของแฟนเมด ห้ามเอาชื่อเรื่อง ชื่อตัวละคร หรือตัวละครไปใช้ในเชิงพาณิชย์หรือหาเงิน และแฟน ๆ ที่รู้เรื่องกฎนี้ก็ควรแบน ไม่ไปอุดหนุนของพวกนั้นด้วย
ส่วนสาเหตุที่ห้าม ก็คือเรื่อง ปรมจ. (MDZS) นี่มันติดสัญญาลิขสิทธิ์อยู่กับ Jinjiang และทางนั้นก็เป็นผู้ถือสิทธ์โดยเด็ดขาดเกี่ยวกับสินค้าทุกอย่างที่มาจากเรื่องนี้
ส่วนอันนี้เป็นข้อความจากแม่โม่ มีคนเอามาแปลอังกฤษ
https://twitter.com/YSFYC_CRT/status/1052545036045283329
ลิ้งก์นี้มีรูปต้นฉบับ เป็นข้อความของแม่โม่จากใน Weibo แล้วก็มีแปลภาษาอังกฤษให้ ถ้าแปลเป็นไทยคร่าว ๆ ก็ประมาณนี้
1. เกี่ยวกะเรื่องเข้าร่วมโหวตอันดับอะไรสักอย่าง ขอข้ามละกัน มึน
2. ห้ามรวมตัวเรี่ยไรเงินหรือระดมทุน หรือระดมเงินบริจาคใด ๆ โดยอ้างชื่อแม่โม่หรือผลงานของแม่โม่ หรือตัวละครของแม่โม่ ห้ามชักชวนรวมกลุ่มกันไปจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อเฉลิมฉลอง หรือซื้อสินค้า หรือไปโหวตอันดับ หรือหาเงินการกุศล หรือกิจกรรมใด ๆ โดยใช้ชื่อหรือตัวละครที่เกี่ยวกับแม่โม่หรือนิยายของแม่โม่
3. ห้ามตั้งโฮมเพจใหม่ใด ๆ โดยใช้ชื่อเกี่ยวข้องเกี่ยวพันกับงานนิยายของแม่โม่ ห้ามอ้างชื่อไปจัดตั้งกลุ่มเรียกผู้อ่านเพื่อไปฉลอง ซื้อของ โหวตอันดับ จัดงานการกุศล หรือกิจกรรมอื่น ๆ (เช่น ห้ามจัดงานใหญ่ที่เปลืองเงินหรือใช้เงิน สมตติ งานวันเกิดตัวละคร (จัดได้ แต่ห้ามใหญ่โตและห้ามเปลืองเงิน - เค้าคงกลัวคนฉวยโอกาสหากำไรจากติ่งนิยายสายเปย์พร่ำเพรื่อ และถ้าเป็นไปได้อยากให้วาดรูปหรือเขียนอะไรเพื่อฉลองดีกว่า อย่าไปเปย์เลย))
ท้ายข้อความมีแปลบอกแม่โม่บ่นแบบน้อยใจด้วย ว่าห้ามจนปากเปียกปากแฉะจนเบื่อจะพูดแล้ว ถ้าคนจะหัดฟังบ้างก็คงดี ถถถ คับแค้นเหลือคณา
อันนี้ละเมิดไม่ได้ เพราะเป็นกฎหมายว่าด้วยเรื่องลิขสิทธิ์และทรัพย์สินทางปัญญา
อ้อ ไหน ๆ พูดถึงลิขสิทธิ์แล้ว แถมอีกเรื่อง คือเรื่องการแต่ง cosplay เนื่องจากบริษัทที่ถือลิขสิทธิ์นั้นออกชุด "เลียนแบบตัวละคร" มาเป็นสินค้าอฟช. ดังนั้นจึงห้ามคอสเพลย์โดยตัดชุดเองหรือสั่งจากร้านอื่น เพราะถือว่าละเมิดลิขสิทธิ์ ใครอยากแต่งตัวตามแบบตัวละครก็สั่งจากอฟช. จากร้าน Uwowo เถอะจ้ะ
อันนี้มีแฟน (มั้ง) ประกาศเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าเขาแปลมาถูกต้องแม่นยำแค่ไหน แต่ก็คงพอจะใช้อ่านไว้เป็นแนวทางได้
https://twitter.com/aubrey8810/status/1035823028444098560
คนแปลจีนเป็นอังกฤษอีกคนหนึ่งสรุปให้ว่า แต่งได้ (โดยใช้ชุดจากอฟช.) ถ่ายรูปไปเผยแพร่ได้ แค่อย่าใช้คำว่าคอสเพลย์ ให้เรียกว่าแต่งตัวเลียนแบบตัวละครxxx อะไรก็ว่าไป (บางคนอาจงงหรือเห็นว่ามันประหลาด แต่ก็เป็นกฎจากผู้ถือลิขสิทธิ์อะนะ ยอม ๆ เขาไปเถอะ)
https://twitter.com/ManhuaAssistant/status/1036148201651204101
อ้างอิงข้อมูลและความคิดเห็นจากในโม่งที่มีการพูดคุยเรื่อง "คอสเพลย์"
>>>/801/6178/860/
>>>/801/6178/868/
>>>/801/6178/869/
>>>/801/6178/873/
>>>/801/6178/878/

2 Nameless Fanboi Posted ID:sSGkJzR96I

---------------------------------------------
2. ไม่ควรโรลเพลย์สาธารณะหรือทำบอทตัวละคร
---------------------------------------------
อันนี้จากที่เคยคุย ๆ กันว่าแม่โม่ห้ามบอท วันนี้เพิ่งเห็นทวิตคนอื่น (อันเดิมที่คุยต่อจากคนที่เขียนสรุปข้อห้ามไว้นั่นแหละ) เขาไปทราบมาว่า ที่บอก ๆ กันว่าห้ามบอทนี่ที่จริงเป็นการที่ด้อมฝั่งฝรั่งเขาตีความกันเองจากที่แม่โม่บอกว่าไม่ให้ OOC เพราะการโรลเพลย์หรือทำบอทมันมักจะ OOC
ก็ไม่รู้จริงเท็จอย่างไร แต่ฝากไว้ให้พิจารณาด้วยก็แล้วกัน
ถ้าใครอ่านจีนคล่องแล้วหาต้นฉบับที่บอกว่าห้ามทำบอทเจอจริง ๆ ก็ช่วยแปะให้ดูที
อ้างอิงเรื่องแม่โม่ห้ามบอท และเหตุที่ห้าม (เพราะมันจะ OOC)
>>>/801/6012/962/
>>>/801/6012/963/
>>>/801/6083/172/
อ้างอิงเรื่องบอทคืออะไร เผื่อใครยังไม่เก็ต
>>>/801/6012/972/
>>>/801/6012/973/
>>>/801/6083/173/
---------------------------------------------
3. เขียนฟิกชั่น โดจิน แฟนอาร์ตได้ แต่ห้ามแหก(แยก)คู่หลักของแต่ละเรื่อง ห้ามสลับตำแหน่งเมะ-เคะ
---------------------------------------------
ข้อมูลอ้างอิง ภาษาจีน มีคนแปลรวบย่อเป็นอังกฤษ
https://twitter.com/_momokame/status/1046859622982799361
ข้อมูลอ้างอิงเหมือนอันบน แต่เป็นภาษาจีนเอามาแปลไทยแบบละเอียด
https://twitter.com/fay_13666/status/1056077697984557056
สำหรับอันนี้เนื่องจากเรื่องจิตใจจะชอบใครจะชิปคู่ไหนมันห้ามกันไม่ได้ และโม่งก็ไม่ประสงค์จะทำตัวเป็นตำรวจด้อม ไม่มีสิทธิ์บังคับหรือสั่งใครได้ จึงได้เพียงขอความร่วมมือ ได้โปรดอย่าแหกคู่หรือสลับโพ
เพราะถ้าใครรักและเคารพเจ้าของผลงาน ก็จะให้เกียรติคำขอของเขา ไม่ทำไอ้ที่เขาห้าม
*ข้อสำคัญ* แฟนฟิกชั่น แฟนอาร์ต โดจิน ฯลฯ ต้องไม่นำไปใช้ในเชิงพาณิชย์
แม่โม่ไม่ได้ห้ามต่อยอด ไม่ได้ห้ามจิ้น ไม่ได้ห้ามกาว ไม่ได้ห้ามมโน ใครใคร่จิ้นจิ้น ใครใคร่เขียนเขียน จะเขียนจะวาดอะไรก็ทำได้ตามใจชอบ อยากกาวคู่ไหนก็ตามสบาย แม่โม่ไม่สน ตราบที่ไม่ได้ใช้หาเงินและไม่แหกหรือสลับโพคู่หลัก

3 Nameless Fanboi Posted ID:sSGkJzR96I

---------------------------------------------
4. การใช้ hashtag (#) ใน twitter และการ mute
---------------------------------------------
หากสายผลิตจะกรุณาเมตตา เวลาเขียนฟิกชั่นมาลง โปรดช่วยติดแท็ก #ฟิคปรมจ ด้วย
(ส่วนแฟนอาร์ตเชิญตามสะดวก ใช้แท็กหลักต่อก็ได้ เพราะนักวาดที่เป็นแฟนตปท.ก็ลงอาร์ตในแท็กหลักของเขาเหมือนกัน แต่คนตั้งแท็กไทยอันนี้เขาก็เชื้อเชิญให้ไปใช้ของเขาด้วยถ้าใครอยากใช้และเห็นว่าใช้แล้วสะดวก)
ส่วนจะติดแท็กหลักหรือไม่ติดแท็กหลัก ก็เชิญพิจารณาเอาเองตามความเหมาะสมและอัธยาศัย
เคยเห็นบางท่านกล่าวว่าจะติดแท็กหลักเฉพาะตอนแรกของฟิกชั่น เพื่อให้ฟิกชั่นเข้าไปอยู่ในสารบบการเซิร์ชแท็กหลักก่อน คนอื่นจะได้มีโอกาสหาเจอง่าย แล้วหลังจากนั้นค่อยเลิกใช้แท็กหลัก ใส่แต่แท็ก#ฟิคปรมจอย่างเดียว หรือให้ผู้อ่านคอยติดตามด้วยแท็กของชื่อฟิกชั่นเอาเอง เอออันนี้ก็ไอเดียดี น่าสนใจ แลดูสะดวกและดีกับทั้งสองฝ่าย ยังไงก็ขอฝากไว้ให้พิจารณาเป็นอีกทางเลือกหนึ่งแล้วกัน
*สำหรับการติดแท็กแฟนฟิก ไม่ว่าจะติดเดี่ยว หรือติดเพิ่มเข้าไปควบคู่กับแท็กหลัก จะมีผลดีคือ*
1. คนที่อยากอ่านแต่แฟนฟิกชั่นสามารถใช้คำนี้หาเฉพาะฟิกได้เลย ง่ายดี
2. คนที่อยากคุ้ยแท็กหลักแบบไม่อยากได้ผลลัพธ์จาก #ฟิคปรมจ ก็จะสามารถใช้ระบบ mute ช่วยตนเองกรองฟิกชั่นทิ้งไปตั้งแต่ต้นได้ ทำให้เวลาเซิร์ชแล้วจะได้มองไม่เห็น #ฟิคปรมจ ทั้งหมด
เผื่อมีฟิกชั่นใดปนอยู่ในแท็กหลัก ผลการค้นหาที่ถูกกรองแล้วนี้ก็จะช่วยลดปริมาณผลลัพธ์ที่แสดงขึ้นมา ช่วยย่นระยะเวลาในการไถหน้าจอหรือขุดหาข้อมูลที่ต้องการได้เร็วขึ้น ง่ายขึ้น สบายขึ้น
+ การติดแท็กระบุคู่ ก็จะสามารถช่วยให้ผู้ไม่ประสงค์จะเห็นบางคู่ที่เฉพาะเจาะจง สามารถ mute แท็กของคู่นั้น ๆ ได้ด้วยเช่นกัน
วิธีตั้งค่าใน twitter ให้ mute บางคำ (mute = ทำให้เป็นใบ้ - หมายถึงกรองคีย์เวิร์ดคำนั้น ๆ ทิ้ง ทำให้ไม่เห็นโพสต์ใด ๆ ที่มีคำนี้หรือแฮชแท็กนี้)
https://help.twitter.com/en/using-twitter/advanced-twitter-mute-options
เลื่อนลงไปดูตรงกรอบสีฟ้า ๆ ที่เขียนว่า "How to mute words and hashtags" จะมีวิธีอย่างละเอียดสอนอยู่
สั้น ๆ คือเข้าไปที่ Settings and privacy เลือก Muted words แล้วกด add
***แนะนำให้สั่ง mute แบบมี hashtag ระบุตรง ๆ ไปเลย*** เพราะไม่งั้นระบบมันจะดูเนื้อหาของทวีตด้วย แล้วกรองทิ้งหมดเลย
เช่น สมมติถ้าไปสั่ง mute "ฟิคปรมจ" เวลารีทวีตคุยกับใครแล้วเขาพิมพ์มาในคำตอบว่า "เออว่าแต่เรื่องฟิคปรมจน่ะตกลงมันดราม่าได้ไง" อิระบบ mute ก็จะทำให้คำตอบนั้นเป็นใบ้ไปเลย คุณก็จะมองไม่เห็นข้อความนั้น
แต่ถ้าสั่ง mute เจาะจงไปเลยว่า "#ฟิคปรมจ" ระบบจะกรองทิ้งเฉพาะทวีตที่ติดแท็ก #ฟิคปรมจ เท่านั้น
หรือถ้ารำคาญ user ไหนในทุกทวีต อยากหลบสปอยล์ อยากหลีกเลี่ยงบางคน แม้ไม่ได้ฟอลโล่ว์แต่ก็เห็นเพราะคนอื่นรีมา แล้วไม่อยากเห็นอีกต่อไป ก็ใช้ mute account ได้เช่นกัน
https://help.twitter.com/en/using-twitter/twitter-mute

4 Nameless Fanboi Posted ID:sSGkJzR96I

สปอยเทียนกวานอาร์ค 3 ต่อจาก >>>/801/8159/990/ เทียนกวาน Part.114
.
.
.
.
.
ก่อนไปรวมกับพวกผี ฮวาเฉิงก็เอาหน้าผากของตนถูกับหน้าผากของเซี่ยเหลียนเพื่อให้อายมารติดตัวอีกฝ่ายจะได้ไม่ถูกสงสัย เมื่อเซี่ยเหลียนถามว่าที่นี่มีแลนด์มาร์กหรือเปล่า อ๋องผีก็บอกว่ามี แต่อย่าเชื่อสิ่งที่เห็น ทว่าก่อนขอคำอธิบาย พวกผีก็เริ่มโวยวายเพราะพบว่าข้างหน้ามีภูเขาขวางทางไว้ แต่พอนกผีจะบินข้ามก็กลับตกลงมาตาย แล้วก็มีผีตนหนึ่งกล่าวว่าได้กลิ่นเจ้าหน้าที่สวรรค์ ผีทุกตนจึงเริ่มแตกตื่น พวกผีสั่งให้คนที่ใส่หน้ากากหรือเสื้อหลายชั้นถอดเครื่องแต่งกายออกเพื่อพิสูจน์ว่าไม่ใช่เทพ ก่อนที่ผีผู้เปิดประเด็นและแนะนำตัวว่าเป็นวิญญาณกระบี่ของเพชรฆาตจะหันมาสงสัยเซี่ยเหลียน เขาจึงแถว่าตนเป็นผีช่างทำตุ๊กตา เพราะเป็นผีที่มีกลิ่นมนุษย์ติดบนร่างมาก แถมบางตนยังเปรี้ยวอยากได้ผมของเจ้าหน้าที่สวรรค์มาทำตุ๊กตา หากมีกลิ่นเทพบ้างก็ไม่แปลก แต่ผีกระบี่เพชฌฆาตก็ยังตั้งข้อสังเกตว่าอายมารของเซี่ยเหลียนเหมือนฉาบแค่ภายนอก

อีกฝ่ายหยิบยันต์ออกมา อ้างว่าตนฆ่านักพรตแล้วรูดทรัพย์มา อันนี้เป็นแค่ยันต์กากๆ ไม่ทำอันตรายมาก ลองเอามาแปะหัวพิสูจน์ดูว่าจะมีผลอะไรหรือเปล่า ว่าเสร็จเจ้าตัวก็สาธิตเปะหัวตัวเอง ยันต์ที่ไหม้ เหลือเพียงรอยจางๆ บนหน้าบ่งบอกว่าเขาเป็นผี พอเซี่ยเหลียนเปะยันต์ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ฮวาเฉิงจึงช่วยแถว่าที่จริงเขาคือผีช่างทำตุ๊กตาตัวจริง ส่วนเซี่ยเหลียนเป็นตุ๊กตาต่างหาก แต่ผีกระบี่เพชฌฆาตก็จะขอเอากระบี่แทงดูอีก ฮวาเฉิงเลยขู่ว่าอย่าคิดแตะต้องของรักของเขาแล้วชี้ไปที่ผีผ้าคลุมใกล้ๆ ว่าให้ไปสงสัยพวกนั้นบ้าง ผีตนนั้นยอมถอดเสื้อคลุมออกแต่โดยดีเผยให้เห็นหน้าตาธรรมดาดาดๆ ซึ่งฮวาเฉิงคิดว่าเป็นใบหน้าปลอม เพราะคนที่จำแลงร่างปกปิดตัวจริงมักจำแลงหน้าตาให้โคตรสามัญเพื่อไม่ให้เป็นที่เตะตาจนมีใครจำได้ แต่พอถูกยันต์แปะ ยันต์ก็ไหม้ อย่างน้อยก็แสดงว่าอีกฝ่ายเป็นผีจริงๆ จนผีตนอื่นคิดว่าผีกระบี่เพชฌฆาตมโนไปเองว่ามีเทพปลอมเข้ามา ถึงอย่างนั้นเจ้าตัวก็ยืนยันคำเดิม แล้วจู่ๆ เขาก็ถูกโจมตีท้องเป็นรู แถมบาดแผลก็มีอายทิพย์จางๆ ราวอาวุธที่ใช้โจมตีเป็นของเจ้าหน้าที่สวรรค์

พวกผีแตกตื่น ก่อนโอดครวญว่าน่าจะมียันต์มาใช้พิสูจน์มากกว่านี้ ผีกระบี่เพชฌฆาตที่บาดเจ็บหนักจึงบอกว่าตนมีอีกเยอะ จากนั้นก็หยิบยันต์ออกมาอีกปึกใหญ่ให้พวกผีแจกจ่ายยันต์กัน แต่พอแปะบนหน้าผากกลับไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วพวกเซี่ยเหลียนที่นึกอะไรออกจึงรีบอุดหูคุกเข่าลง ทันใดนั้นยันต์ก็ระเบิดเสียงดังสนั่นปลิดชีพพวกผีไปเป็นจำนวนมาก พอเซี่ยเหลียนหยิบเศษยันต์มาพิจารณาก็ได้รู้ว่าที่แท้มันมี 2 ชั้น และชั้นที่ซ่อนอยู่คือคาถาที่แรงมาก พวกผีที่เหลือรอดเริ่มโวยวายที่ถูกหลอก เอ่ยว่าไหนตกลงกันแล้วว่าจะเริ่มสู้หลังเข้าไปข้างในเขาตงลู่ได้ แต่ก็มีเสียงหัวเราะตอบว่ายังไงก็ต้องฆ่ากัน สู้ตัดกำลังกันมันตรงนี้เลยดีกว่า

เมื่อฝุ่นควันจางลง ทุกคนก็ต้องตกใจเมื่อพบว่าจู่ๆ ภูเขาที่ขวางทางไว้ได้หายไปแล้ว แต่พอดูดีๆ จึงพบว่าแท้จริงมันเปลี่ยนมาอยู่ด้านหลังปิดกั้นทางไม่ให้ออกไปข้างนอกได้แทน เซี่ยเหลียนจึงเข้าใจที่ฮวาเฉิงบอกว่าอย่าเชื่อสิ่งที่เห็นนั้นหมายถึงภูเขาซึ่งสามารถเคลื่อนที่ได้เองพวกนี้ แต่แล้วเขาก็ได้ยินเสียงผีกระบี่เพชฌฆาตดังขึ้นข้างหลัง บอกว่ายังอยากพิสูจน์ว่าเซี่ยเหลียนเป็นตุ๊กตาจริงๆ หรือไม่ แต่ก่อนที่เซี่ยเหลียนจะทันโต้กลับ ผีกระบี่เพชฌฆาตกลับถูกฟันขาดเป็น 2 ท่อน ปรากฏว่าคนที่ช่วยเซี่ยเหลียนไว้คือผีที่ใส่เสื้อคลุมตนนั้น เห็นท่าทางดูคุ้นๆ ก็ถามไปว่าอีกฝ่ายคือใคร แต่พอเห็นผีสาว 2 ตน ฝ่ายนั้นกลับเลิกสนใจเซี่ยเหลียนแล้วหันไปโอบเอวกอดปลอบขวัญสาวๆ แทน ตอนแรกผีสองตนนั้นจะเอ่ยขอบคุณ แต่จู่ๆ พวกเธอก็มีสีหน้ารังเกียจบอกให้อีกฝ่ายไปห่างๆ แล้วพากันเดินหนีไป ทำเอาผีเสื้อคลุมถึงกับงง เอ่ยว่าหน้าตาของตนตอนนี้ก็ไม่ได้น่าเกลียดไม่ใช่หรือ เห็นท่าทางขี้หม้อเช่นนั้นเซี่ยเหลียนก็รู้ทันทีว่าอีกฝ่ายคือเผยหมิงจึงเอ่ยทักทายไป

แม่ทัพเผยเปลี่ยนหน้ากลับไปเป็นหน้าเดิม กล่าวว่าจวินอู๋สั่งให้เขามาช่วยงานเซี่ยเหลียน กระนั้นฮวาเฉิงก็เตือนเซี่ยเหลียนไม่ให้ซาบซึ้ง เพราะอีกฝ่ายคงไปทำดีลเรื่องเผยซู่กับมหาเทพไว้จึงยอมมาช่วยเหลือ ซึ่งเผยหมิงก็ไม่ได้ปฏิเสธแถมยังเดาออกด้วยว่าเด็กชายตรงหน้าจะต้องเป็นฮวาเฉิงอย่างแน่นอน แต่แล้วเซี่ยเหลียนก็สงสัยในตัวอีกฝ่าย เพราะหากคนตรงหน้าคือเผยหมิงจริง เหตุใดพอโดนยันต์แปะหน้า ยันต์ถึงไหม้ได้กัน
.
.
.
.
.

5 Nameless Fanboi Posted ID:GVlzbJqU7u

>>4 เจิมโม่งสปอยด์ เขาจีบกัน อหหหห กำลังใจเล็กน้อยๆสงสัยฟาฟาจะลืมว่าเซี่ยเหลียนมาอายมารที่ปากด้วะ มาๆเเล้วอดีตของเผยหมิง ขำความขี้หม้อแต่โดนสาวๆรังเกียจ

6 Nameless Fanboi Posted ID:NkCO2LdrW.

>>4 พอเห็นหม้อสาว ในใจกูรู้เลยว่าใคร ทั้งเรื่องมีอยู่คนเดียว 555555

7 Nameless Fanboi Posted ID:H+bxD/wLxT

>>4 ได้เวลาหัวหน้าเรือทำงานจริงๆซักที

8 Nameless Fanboi Posted ID:x/a1b4JJi+

>>4 จีบกันต่อหน้าผีเป็นร้อยยยยยยยย อหหหหห

9 Nameless Fanboi Posted ID:Cz6AVTUe/B

>>4 ขอบคุณสำหรับสปอย อูย กูเขิลลลลล

10 Nameless Fanboi Posted ID:No6nyDNsx5

เพิ่งสังเกตว่าโม่งสปอยล์ทั้งตั้งกระทู้เองแล้วก็ลงสปอยล์เลย ฮือออ ขอบคุณมากนะโม่งสปอยยย กุรักมึง

11 Nameless Fanboi Posted ID:sPLhGjjpxI

เย้ เข้าได้แล้ว เขาบอกว่าสัญญาเปิดเซิร์ฟมีถึงสิ้นปี 2021 อยู่ด้วยกันไปยาวๆ นะเพื่อนโม่ง T^T

12 Nameless Fanboi Posted ID:kJGPF9fgpV

ดีใจมากที่เข้าได้แล้ว
หายไป 3 วัน รู้สึกโหวง ๆ มากเลยเพื่อนโม่ง
ดีใจที่จะได้อยู่กันยาว ๆ ถึงสิ้นปีหน้า

13 Nameless Fanboi Posted ID:gJRRbQ8iyj

รอลุ้นน่ามึง มองแง่ดีอาจได้เจอโม่งเวอร์ชันยกเครื่องใหม่ก็ได้5555

14 Nameless Fanboi Posted ID:WshHz9TjtM

ขอบ่นหน่อย กูไปอ่านทดลองอ่านเรื่องอร่อยล้นวังที่ ลวด คนแปลเรื่องตัวร้าย แล้วก็แปลเรื่องเทียนกวานเขาลงไว้ในเด็กดีแล้วเจอทับศัพท์ว่าเจิ้นนี่กูหมดอารมณ์อ่านเลยอะ (คือคำไทย กษัตริย์เรียกตัวเองก็แปลว่า "เรา" ได้ไหม มันไม่ใช่ไม่มีคำนี้ในไทยเลย) ยิ่งนึกถึงคำว่าซือจุน แล้วก็ก็พาลระแวงเรื่องเทียนกวานด้วยว่าจะออกมายังไง คือกูก็ทำใจส่วนหนึ่งแล้วว่าเกอเกอ (อันนี้ไม่น่าทับศัพท์ที่สุดล่ะ แต่ดูเรื่องตัวร้ายแล้วนางทับแน่) ไท่จื่อเตี้ยนเซี่ย (องค์ชายรัชทายาท ซึ่งเวลาดูละครจีนก็ได้ยินเรียกว่ารัชทายาทกันนะ แต่คงทับอีก) เฮยสุ่ยเฉินโจว (ธาราทมิฬล่มเรือ) เซวี่ยอวี่ทั่นฮวา (ฝนโลหิตตามหาดอกไม้) เกาจื่อ (ราชครู) อะไรพวกนี้ ลวด ทับศัพท์แล้วใส่เชิงอรรถแน่ แต่กูแพนิกว่า เทพแห่งลม เทพแห่งน้ำ แม่ทัพ อะไรพวกนี้ ไม่ใช่นางจะไม่ยอมแปล ใช้คำทับศัพท์ไปด้วยหรอกนะ

15 Nameless Fanboi Posted ID:9MSbdp85Nb

>>14 เรื่องทับศัพท์ในนิยายจีนนี่แม่งปัญหาโลกแตกว่ะ พูดกันมาหลายรอบละ บางคนก็ชอบแบบนี้ บางคนก็ไม่ชอบ กูก็ทีมไม่ชอบนะ แต่บ่นไปมันก็เท่านั้นอ่ะ

16 Nameless Fanboi Posted ID:j+ZlAA4U0q

>>14 ตอนตัวร้ายมันยังพอรับได้แต่เทียนกวานกูไม่โอเค กูยังไม่อยากอ่านไปเมาไปนะ

17 Nameless Fanboi Posted ID:NSluTNU44B

>>14 ยังสงสัยว่าถ้าไม่ทับศัพท์ว่าเกอเกอจะให้ฮวาเฉิงเรียกเซี่ยเหลียนว่าอะไรในภาษาไทยอ่ะ อันนี้กุแอบคิดคนเดียวมานานละ พี่เฉยๆมันก็หายไปพยางค์นึง ดูไม่ขี้เล่นเท่าเวลาฮวาเฉิงเรียกเกอเกอด้วย เรียกพี่ชาย อันนี้ก็ห่างเหิน เรียกพี่ครับ อันนี้ก็อ้อนไป

ส่วนเป็นสไตล์ชอบทับศัพท์แล้วใส่เชิงอรรถอ่ะ

18 Nameless Fanboi Posted ID:9MSbdp85Nb

>>17 แล้วทำไมจำนวนพยางค์มันต้องเท่ากันด้วยล่ะ? นิยายนะ ไม่ใช่บทพากย์หนัง โดยส่วนตัวกูว่าการแปลภาษานึงมาเป็นอีกภาษานึง ฟีลลิ่งมันไม่ได้เท่าภาษาเดิมร้อยเปอร์เซนต์อยู่แล้ว แต่ถ้ามันมีคำในภาษาไทยที่ความหมายใช้ได้ ก็ควรจะใช้คำไทยมากกว่านะ

19 Nameless Fanboi Posted ID:NSluTNU44B

>>18 อ่อ ที่หมายถึงจำนวนพยางค์คือถ้าอย่างน้อยมันมีคำที่เอามาใส่ได้ครบพยางค์มันก็เก็บฟีลลิ่งได้มากกว่าอ่ะ ส่วนตัวกุมองว่าถ้าหาคำไทยที่เก็บฟีลลิ่งคนพูดได้ไม่ครบ หรือขาดหายเยอะเกินไป อย่างเช่นที่กุบอกว่าไม่รู้คำไทยจะให้ฮวาเฉิงมันเรียกเซี่ยเหลียนว่าอะไรอ่ะ ถ้ามันขาดฟีลลิ่งไปเยอะๆแอบทับศัพท์บ้างก็ได้ แล้วฮวาเฉิงมันก็เรียกเกอเกอกับเตี้ยนเซี่ย(ฝ่าบาท?)อยู่สองคำจนเหมือนจะเป็นคำศัพท์เฉพาะของเรื่องนี้ไปอยู่แล้วว่าเรียกสองคำนี้มันรีเฟอร์ถึงเซี่ยเหลียน เลยไม่อยากให้ฟีลลิ่งของคำว่าเกอเกอมันต้องตกหล่นหายไปทั้งเรื่องอ่ะ

แต่กุบอกแล้วอ่าว่ากุเป็นพวกชอบทับศัพท์ใส่เชิงอรรถ แล้วแต่คนชอบจริงๆอ่ะ

20 Nameless Fanboi Posted ID:WshHz9TjtM

>>17 ควรแปลว่าพี่ชายอะ เห็นคนอื่นก็แปลอย่างนี้ อย่างนิยายเรื่อง นิยายเรื่องนี้ข้าไม่ได้เขียน ก็แปลว่าพี่ชาย แล้วในเรื่องก็บอกว่าเรียกแบบนี้ดูสนิทกว่าพี่ใหญ่ กูว่าที่รู้สึกว่าคำว่าพี่ชายดูห่างเหินเป็นเพราะคนไทยชอบเรียกคนแปลกหน้าด้วย พี่ น้อง ป้า ลุง พอพูดพี่ชายเต็มๆ ไม่ย่อ เลยรู้สึกไปว่าดูจริงจังเป็นทางการไป

21 Nameless Fanboi Posted ID:QEdXZRhWKw

>>19 เตี้ยนเซี่ย แปลว่า ฝ่าบาท ก็โอเคอยู่นะ ที่กุคิดไม่ตกคือเรียก ไท่จื่อเตี้ยนเซี่ย แบบเต็มยศจะแปลออกมาไงให้สลวย แปลเป็น ฝ่าบาทรัชทายาท ฟังแล้วดูยืดยาวมาก ตัดเหลือแค่ฝ่าบาท หรือ รัชทายาท มันก็ไม่ได้ฟิลลิ่งที่แม่โม่อยากสื่ออีก

22 Nameless Fanboi Posted ID:9MSbdp85Nb

>>19 กูเข้าใจฟีลมึงนะ แต่สำหรับกู ถ้าอยากเก็บฟีลจากต้นฉบับให้ได้ครบถ้วนขนาดนั้นก็ควรไปอ่านต้นฉบับเลยดีกว่า อันนี้กูไม่ได้กวนตีน เพราะกูก็ทำแบบนี้กับภาษาที่กูอ่านออก ทั้งอังกฤษญี่ปุ่นเกาหลี ส่วนจีนกูอ่านไม่ออกเลยไม่มีฟีลแบบนี้กับภาษาจีน และไม่ได้อยากเรียนภาษาจีนผ่านนิยายฉบับแปลไทย เลยคิดว่าคำไหนมีภาษาไทยก็แปลไทยมาเถอะ กูไม่ได้จะท่องศัพท์ไป dictation กับเหล่าซือ กูอ่านนิยายเพื่อความบันเทิง

23 Nameless Fanboi Posted ID:SbuOTCxCeI

>>21 ก็แปลองค์รัชทายาทเฉยๆ ไม่ได้เรอะ

24 Nameless Fanboi Posted ID:NSluTNU44B

>>22 ไม่เป็นไรๆ ไม่ได้กวนตีน 555 กุเข้าใจมึงเหมือนกัน แต่กุเองโอเคกับการนั่งจำชื่อด้วยแหละ อย่างตอนเด็กๆอ่านบลีชที่แปลทับศัพท์แล้วใส่วงเล็บไว้ มานั่งอ่านแล้วจำกุรู้สึกว่ามันเบียวๆเท่ๆดี 55555

25 Nameless Fanboi Posted ID:QEdXZRhWKw

>>14 ปกติกุก็ไม่ชอบคำแทนตัวพวกเจิ้นกัยเปิ่นหวางเท่าไหร่ แต่อร่อยล้นวังนี้ถ้าไม่ใช่คำว่า เจิ้น กุเป็นคนแปลก็ไม่รู้จะแปลว่ายังไง ให้คนอ่านรู้ได้ทันทีว่าแมวตัวนี้มันเป็นแมวฮ่องเต้ ไม่ใช่แมวอ๋อง แมวองค์ชาย

26 Nameless Fanboi Posted ID:HBxwCYa.Vh

>>14 ชอบฉาขาธาราทมิฬล่มเรือมาก ฝนโลหิตด้วย ราชครูก็สื่อความดีแล้ว ไม่อยากให้ทับศัพท์เลย
>>19 มันไม่ใช่คำศัพท์เฉพาะ มันเป็นชื่อตำแหน่งไม่ใช่ชื่อเช่นที่ต้องทับศัพท์ ยิ่งทับศัพท์ก็ยิ่งทอนความหมายลงเหมือนซือจุนที่อ่านไปเหมือนชื่อเล่นมากกว่าจะย้ำความสัมพันธ์บาปๆศิษย์อาจารย์ การแปลไทยจะยิ่งเก็บความรู้สึกของการอ่านได้ดีกว่าทับศัพท์ว่ะ ย้ำความหมายทุกครั้งที่ใช้ไม่ใช่การเรียกศัพท์จีนจนเหมือนชื่อเล่น
ถ้าอยากจะจำศัพท์จีนขนาดนั้นกูคงไปเรียนภาษาจีนไม่รออ่านแปลไทยหลังจีนออกจบไปเป็นชาติหรอก
>>23 +1 >>21 กูว่าอย่าอ้างแม่โม่เลย บางทีถ้าแม่โม่รู้ว่าแปลไทยเป็นไงอาจเสียใจที่จากอาจารย์กลายเป็นทับศัพท์ชื่อเล่นซือจุนเกร๋ๆ ไม่บาปแล้วก็ได้

27 Nameless Fanboi Posted ID:VfwEbwIp7j

>>26 พวกฉายาทับศัพท์กูยังโอเคนะ แต่ถ้าแปลไทยได้ก็น่าจะดีกว่า อย่างชื่อธาราทมิฬล่มเรือ อ่านปุ๊บก็รู้ปั๊บว่าต้องเป็นผีน้ำ ตอนไปบุกเกาะแล้วเรือเริ่มจมก็เก็ตที่มาของฉายาทันที ในหัวไม่ต้องแปลจีนมาไทย หรือต้องอ่านเชิงอรรถอีก

28 Nameless Fanboi Posted ID:g9EyrWmb3z

📌 #รับสมัครทีมวิจัยออนไลน์ด่วนจำนวนมาก !!! #พร้อมเริ่มงานทันที #ไม่มีค่าสมัคร ไม่จำกัด อายุ อาชีพ เพศ วุฒิการศึกษา ประสบการณ์ ว่างงาน/ทำงานประจำ 👉มีเพียงบัญชี PayPal
🌍📝🌍 สมัครออนไลน์เริมงานเลย >>https://th.viewfruit.com/.../MTgxMzIwOlgxTUw4RzQ5RUw2SDU4...

*****************************
ขอคำแนะนำนำสำหรับผู้สนใจ
สอบถามข้อมูล Viewfruit Global - Admin
Email:support-th@viewfruit.com
https://www.facebook.com/ViewfruitGlobal
#ต้องการรับสมัครด่วน #สมัครงาน #งานตอบแบบสอบถาม #ไม่เสียค่าสมัคร #มีรายได้เสริม #งานประจำ #งานพาร์ทไทม์ #LimDecor #ลิ้มกีหลีคลองตัน #บันไดวน #บันไดเวียน #ไม่จำกัดอายุ #ไม่ต้องมีประสบการณ์ #Viewfruit #OnlineSurvey #WorkatHome #ทำงานที่บ้าน

29 Nameless Fanboi Posted ID:lpsg3jaMpJ

>>27 กูเห็นคล้าย ๆ กับมึง พวกฉายาจะทับศัพท์แล้ววงเล็บแปลก็ได้ กูชอบอารมณ์ประมาณบลีชอ่ะดูมีความขลังของต้นฉบับแล้วความสละสลวยของคำแปล หรือจะแปลตลอดเลยก็ได้
แต่กูสงสัยขอยกตัวอย่างนะ อย่างธาราทมิฬล่มเรือเนี่ย... แปลสวยมากจนแทบเรียกว่ายึดติดกับคำแปลฉายานี้ไปแล้ว แต่ถ้าคนแปล(ที่ไม่รู้ว่าใคร)​ไม่ยึดแปลตามนี้ล่ะ จะยังโอเคกันอยู่หรือเปล่า คนแปลอาจจะแปลทื่อ ๆ หรืออาจแปลสวยอลังการแต่ใช้ศัพท์คำอื่นแทนอะไรแบบนี้

30 Nameless Fanboi Posted ID:D+b0MK+8rz

>>29 กูคนหนึ่งที่ไม่โอเค //ใครเป็นแปลคนแรกว่ะ คำสวยสัส

31 Nameless Fanboi Posted ID:Uo1qD1mRIr

>>29 ถ้าคำแปลใหม่มันสวยก็โอเค แต่กุอยากเก็บธาราทมิฬล่มเรือกับเศวตไร้หน้าไว้ เออ ใครแปลคนแรกวะ สวยสัส สนพ.เอาสองอันนี้ไปใช้เลยเหอะ กุขอ

32 Nameless Fanboi Posted ID:pv.z3WHhQ8

>>29 กูชอบการแปลชื่อแบบในนารูโตะ กระสุนกงจักร
กูติดฉายาของเจวี๋ยทั้งสี่แล้ว แปลเพราะอ่ะ หายนะชุดขาว ธาราทมิฬล่มเรือ ผีเขียวฉีหรง ฝนโลหิตตามหาดอกไม้ อยากให้แปลชื่อนี้ในนิยายด้วย ถ้าไม่แปลกูจะเขียนโน้ตกำกับสอดไปในเล่มด้วยเองเลย

33 Nameless Fanboi Posted ID:Uo1qD1mRIr

เออกูสงสัยอ่ะ ไป๋อู๋เซียง เศวตไร้หน้ามันคือชื่อเรียกของเจวี๋ยตัวนั้นจริงๆ ส่วนหายนะชุดขาวมันคือชื่อเล่นอีกทีใช่ป่ะ เห็นในเรื่องเรียกปนๆกันหมดเลย

34 Nameless Fanboi Posted ID:MV3Ys7k1ug

>>29 โอเคกว่าทับศัพท์ อยากรู้เหมือนกันว่าใครแปลคนแรก สวยมากๆ ถ้าสนพ.เอาไปใช้ผ็อยากให้ไปขออนุญาตดีๆจะดีมากถ้าให้เครดิตไม่ใช่เอาไปใช้ดื้อๆเพราะคนฮิต แบบนั้นกูไม่โอเคยิ่งกว่า

35 Nameless Fanboi Posted ID:EJSUyqbhfm

ถ้ามาขออนุญาต จะใส่เครดิตยังไง ถ้าบอกชื่อจริง = โม่งแตก แต่ถ้าไม่บอกชื่อจริงคือ Credit by fanboi งี้เหรอ (อันนี้สงสัยนะ ไม่ได้กวน)

36 Nameless Fanboi Posted ID:Uo1qD1mRIr

>>35 คนแปลชื่อนี้คนแรกคือโม่งอ่อวะ อันนี้ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าข้างนอกเค้าพูดกันมาก่อนมั้ย แต่ถ้าโม่งสปอยล์เป็นคนแรกที่แปลคงตลกดี สนพจะมาขอยังไง 5555

37 Nameless Fanboi Posted ID:MV3Ys7k1ug

ไม่รู้ว่ามาจากโม่งหรือที่ไหน กูใช้หลักการเดียวกับรีโพสต์ภาพว่ะ เมื่อคุณชอบงานเขามากๆอยากเผยแพร่ก็ต้องไปขออนุญาตเจ้าของ ไม่ใช่แค่ยุ่งจังหาไม่เจอ เครดิตกูเกิ้ลเครดิตpinterest ทุกอย่างมีลิขสิทธิ์มีเจ้าของของมัน คำแปลก็เหมือนกัน กฎหมายลิขสิทธิ์ไทยไม่เข้มแข็งการฟ้องมันยุ่งยากไม่คุ้มเสีย ดังนั้นใช้ไปก็ไม่โดนดำเนินคดีหรอก แต่ความจริงมันไม่ต่างจากขโมยเลย
ส่วนเจ้าของคำแปลจะเปิดเผยตัวตนก็เป็นทางเลือก หรือถ้าไม่อยากเปิดเผยก็ตกลงเอาไปใช้ไม่ต้องให้เครดิต และถ้าไม่มีใครออกมาแสดงตัวอนุญาตสนพ.ก็ไม่ควรเอาไปใช้ อยากให้คนใส่ใจกับเรื่องลิขสิทธิ์มากขึ้นมากกว่าจะมองว่าเรื่องแค่นี้เองนะ ถ้าคนแปลคนแรกเป็นโม่งจริง สนพ.ก็มีหลายวิธี ไม่ว่าจะประกาศตามหาคนในหน้าสนพ.ตัวเองเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์พิมพ์เรื่องนี้ยังไงคนก็ตามเยอะกระจายข่าวไปได้อยู่แล้ว หรือไม่ก็มาถามในโม่งเลย หรือถ้าคนแปลคนแรกในทวิตเตอร์ แอคดังๆหลายแอคก็มีให้ติดต่อกระจายข่าว แฟนงานแม่โม่ไม่น้อยเลย

38 Nameless Fanboi Posted ID:VfwEbwIp7j

กูโม่งสปอยนะ คือส่วนมากกูยึดตามที่มีคนแปลไว้ในเด็กดีตอนแรกอะ แต่ธาราทมิฬล่มเรือ กูจำผิดมาเพราะเขาแปลเป็นธารากาฬล่มเรือ (แต่ความหมายเหมือนกันเนอะ เพราะกาฬก็แปลว่าสีดำเหมือนกัน เลยเลยตามเลยไป) ส่วนฝนโลหิตตามหาดอกไม้ เขาแปลไว้ว่า พิรุณโลหิตเสาะหาบุปผา แต่มันยาวไปขี้เกียจพิมพ์ (5555) แล้วนี่เป็นแค่สปอย กูเลยเปลี่ยนให้เป็นคำง่ายๆ แทน หายนะชุดขาวก็เอามาจากเขา แต่เศวตไร้หน้า อันนี้กูเป็นคนแปลเอง แต่กูว่าแปลไทย อฟช ยังไงอย่าง ลวด คงทับศัพท์อะ

>>33 สปอยนะ
.
.
.
.
.
จริงๆ ไป๋อู๋เซียง หรือ เศวตไร้หน้าก็เป็นฉายาเหมือนกันนั่นแหละ เพราะเจ้าตัวไม่เคยบอกชื่อจริง ส่วนหายนะชุดขาวที่จริงเป็นคนละคนกับไป๋อู๋เซียง แต่เพราะทั้งสองมีลักษณะคล้ายๆ กัน คนในเรื่องส่วนมากเลยไม่รู้ว่าเป็นคนละคนแล้วเรียกไป๋อู๋เซียงว่าหายนะชุดขาวไปด้วย กลายเป็นไป๋อู๋เซียงคือชื่อ ส่วนหายนะชุดขาวเป็นฉายาไป
.
.
.
.
.

39 Nameless Fanboi Posted ID:Uo1qD1mRIr

>>38 อหโม่งสปอยล์ กุรักคำว่าเศวตไร้หน้าของมึงมากกกกกกกก ขอกอดซักที มันสวยจริงๆ ส่วนธาราทมิฬมึงก็จำผิดได้สวยมากกกเหมือนกัน อยากให้สนพใช้ของมึงเลยเนี่ย แต่ถ้าใช้ก็โม่งแตกถูกไหม ฮืออออ

40 Nameless Fanboi Posted ID:Eos0Uk+stv

กูโอเคนะถ้าสำนักพิมพ์จะใช้คำอื่นที่นักแปลคิดใหม่ เคสแบบนี้กูเห็นใจสำนักพิมพ์เหมือนกันว่ะ ถ้าแปลมาไม่สวยพวกมึงก็งอแงอีกว่าโม่งสปอยแปลสวยกว่า

41 Nameless Fanboi Posted ID:lWT/tJRuNb

กูก็ยังสงสัยอีกนั่นแหละ (ก็ไม่รู้จะสงสัยอะไรนักหนา อย่าเพิ่งด่ากรูน้าาาา) คือถ้าสนพ ประกาศหาตัวโม่งสปอยล์เพื่อให้เครดิต เกิดมีพวกหัวใสอยากได้ชื่อ มาแอบอ้างเป็นโม่งสปอยล์ จะแสดงหลักฐานว่ากูนี่คือโม่งสปอยล์ตัวจริงยังไง

42 Nameless Fanboi Posted ID:H1SwhA6mKK

ประเด็นกูคือขออนุญาตน่ะ ถ้าโม่งสปอยอยากปกปิดตัวตนก็บอกหลังจากสปอยเสร็จเลยว่าอนุญาตเชิญใช้ตามสบายไม่อยากเปิดเผยตัวตนไม่ต้องให้เครดิต ถ้าอยากให้มีการให้เครดิตก็ลงไว้ว่าอยากให้ให้เครดิตว่าอะไรหรือทิ้งอีเมลล์เจรจาหลังไมค์ก็ได้ เรื่องแอบอ้าง กูมองว่าถ้ามีคนที่ไม่ใช่โม่งสปอยมาอ้าง โม่งสปอยเห็นแล้วไม่เห็นด้วยก็ทักเอง คือโม่งสปอยยังมีชีวิตวนเวียนอยู่ไงไม่ใช่หายสาบสูญ คุยกันไม่ได้อ่ะก็วนๆในบอร์ด

ที่กูทักเรื่องนี้เพราะคนแปลในเน็ตคนแรกก็ออกตัวไว้ว่าชื่อเรื่องแปลไทยที่เขาคิดเขาไม่โอเคที่ใครจะเอาไปใช้หน้าตาเฉยน่ะ กูก็เห็นด้วยว่าชื่อพวกนี้มันไม่ใช่การแปลตรงไปตรงมาใครๆก็แปลได้ ต้องอาศัยศิลปะดังนั้นถ้าเอาของเขามาก็ต้องขออนุญาตก่อน จะหยิบมาใช้เฉยๆในผลงานที่ขายเชิงพาณิชย์ก็ไม่โอเค นอกจากขออนุญาตแล้วจ่ายค่าตอบแทนยังได้เลย

ถ้านึกภาพไม่ออกก็แทนสำนวนแปลเป็นมีคนวาดแฟนอาร์ทสวยสัสลงโม่งเป็นประจำ คนก็ชอบกันมาก สนพ.เห็นภาพสวยมากอย่างเอามาประกอบในหนังสือ สนพ.ไม่ควรเอาภาพลงเล่มโดยไม่ได้รับอนุญาต ถ้าขออนุญาตไม่ได้ก็ไม่ควรลง ส่วนคนวาดจะไม่อนุญาต ให้เครดิตไม่ให้เครดิต จะคิดค่าวาดกับสนพ.ที่เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์อย่างถูกกฎหมายมั้ยก็เป็นสิทธิ์ของเขา

43 Nameless Fanboi Posted ID:7GF1Ndkndb

>>42 หายข้องใจแล้ว ขอบใจมากสำหรับคำตอบ จุ๊บๆ

กูจะจดฉายานี้ไว้เรียกเองคนเดียว ชอบมากกกกก
ธาราทมิฬล่มเรือ
พิรุณโลหิตเสาะหาบุปผา
เศวตไร้หน้า
ผีเขียวฉีหรง (ไม่จด กูลำเอียง 555)

44 Nameless Fanboi Posted ID:2OhJyW+7L4

>>43 ขอกูใช้ด้วยอีกคน เพราะๆทั้งนั้น ถ้าสนพส่องโม่งอยู่ลองขออนุญาตหรือหาทางติดต่อโม่งสปอยล์ไปใช้ในนิยายดูมั้ย ชื่อเจวี๋ยแม่งแปลออกมาดีมากจนไม่มีใครบอกให้ทับศัพท์เลยอ่ะ 5555

45 Nameless Fanboi Posted ID:7Y2vDzdjY/

>>43 จริงๆ แล้วฉายาทางการของฉีหรงไม่ใช่ผีเขียวนะ แต่ในเรื่องชอบเรียกกันสั้นๆ ว่าผีเขียว ฉายาจริงๆ ของฉีหรงมันประมาณ "ประทีปเขียวท่องราตรี" แต่กูจำไม่ได้ว่าในเด็กดีเขาแปลว่าอะไร แล้วกูก็นึกคำสวยๆ ไม่ออก เลยเขียนแต่ผีเขียว

>>44 ถ้าให้เครดิท น่าให้คนที่แปลในเด็กดีมากกว่าอะ เพราะกูก็ได้จากเขามา บางอันแปลงนิดหน่อย แต่ก็คือเขาเป็นต้นฉบับ แต่เศวตไร้หน้า ถ้า อฟช อยากใช้ก็ใช้ไปได้เลยไม่ต้องให้เครดิท (ถึงกูจะคิดว่าเขาจะทับศัพท์ 99 เปอร์เซนท์ก็เถอะ) แค่ไม่มีคนอื่นมาแอบอ้างก็โอเคแล้ว

ปล. ฉีหรงไม่ได้เป็นเจวี๋ยนะ 5555 เห็นพูดกันว่าฉายาเจวี๋ย 4 ตน แค่ถูกจัดในกลุ่มภัยพิบัติทั้ง 4 กับเจวี๋ยอีก 3 ตนเอง

46 Nameless Fanboi Posted ID:UZNjHY.vjQ

>>42 คนแปลคนแรกเริ่มแปลวันที่เท่าไหร่เดือนไหนอ่ะ

47 Nameless Fanboi Posted ID:2OhJyW+7L4

>>45 ตอนกูบอกว่าชื่อเจวี๋ยเพราะกูก็คิดถึงแค่สามตัวไม่รวมฉีหรงนี่แหละ 555555 กูเปล่าลำเอียงจิงจิ๊งงง

48 Nameless Fanboi Posted ID:7apIJ5NjgD

กูชอบธารากาฬล่มเรือมากกว่าแฮะ มันเป็นสระอาเหมือนกัน ฟังดูลื่นไหลดี

49 Nameless Fanboi Posted ID:7Y2vDzdjY/

สปอยเทียนกวานอาร์ค 3 ต่อจาก >>4 เทียนกวาน Part.115
.
.
.
.
.
แม่ทัพเผยโยนลูกอมให้เซี่ยเหลียน กล่าวว่าเขาซื้อมาจากเมืองผี เมื่ออมแล้วจึงมีอายมารออกมาจากตัว พอเขาเรียกให้เซี่ยเหลียนลองชิม ฮวาเฉิงก็ห้ามไว้ บอกว่ามันเป็นอันตรายต่อร่างกาย อีกทั้งยังทำให้ตัวมีกลิ่นเหม็นซึ่งเทพไม่ได้กลิ่น ด้วยเหตุนี้พี่สาวที่เผยหมิงเต๊าะก่อนหน้าจึงมีท่าทีรังเกียจเช่นนั้น คำอธิบายอันหลังทำให้แม่ทัพเผยรีบโยนลูกอมที่เหลือทิ้งอย่างว่องไว เซี่ยเหลียนคุยเรื่องที่เกิดขึ้นกับเผยหมิง แต่ก็พบว่าคนที่โจมตีกระบี่เพชรฆาตก่อนแจกยันต์ไม่ใช่อีกฝ่าย พอทั้งคู่หันไปมองบริเวณที่ร่างของกระบี่เพชรฆาตเคยอยู่ก็พบเพียงความว่างเปล่า ฮวาเฉิงจึงบอกให้เซี่ยเหลียนระวังตัว เพราะในเขาตงลู่ยิ่งฆ่าคนอื่นมากเท่าไรก็ยิ่งมีพลังเพิ่มขึ้น และกระบี่เพชฌฆาตก็เพิ่งฆ่าผีตนอื่นไปหลายร้อย

เซี่ยเหลียนรีบจับมือของอ๋องผีไว้ สังเกตว่าอีกฝ่ายตัวร้อนขึ้นมาก ซึ่งฮวาเฉิงก็อธิบายว่าเป็นเพราะเขาใกล้กลับร่างจริงแล้ว เซี่ยเหลียนเลยใช้รั่วเย่มาวางเป็นวง ตอนที่ใช้ฟางซิ่นปักทำเขตคุ้มกันเขาก็รู้สึกว่ามีอะไรมาถูด้านหลัง พอหันไปก็เจอเอ้อมิ่งที่ไซส์มินิลงตามตัวเจ้านายเหมือนจะมาขอทำหน้าที่แทน แต่เซี่ยเหลียนบอกว่าให้ฟางซิ่นทำหน้าที่ดีกว่า ยิ่งพอถูกอ๋องผีด่าว่าไร้ประโยชน์ก็ทำเอาเอ้อมิ่งทิ้งตัวบนพื้นอย่างชี้ช้ำจนเซี่ยเหลียนต้องรีบปลอบ แม่ทัพเผยทนบรรยากาศกุ๋งกิ๋งไม่ได้จึงเดินออกจากวงคุ้มกัน แถมยังบอกว่าสกิล Luck E ของเซี่ยเหลียนดึงดูดให้เรื่องวุ่น ฮวาเฉิงเลยตอกกลับว่ากระบี่เพชฌฆาตอาจตามเผยหมิงก็ได้ ยังไม่ทันขาดคำดีแม่ทัพเผยก็ถูกโจมตี แม้จะหลบได้ แต่หน้าก็ได้แผลมาเส้นหนึ่ง เงานั้นโจมตีใส่เผยหมิงต่อรัวๆ เมื่อถูกโจมตีกลับร่างก็แบ่งเป็นสอง พอตกลงมาที่พื้นจึงเห็นว่าเป็นกระบี่เพชฌฆาต ส่วนหนึ่งคือร่างกายครึ่งบน อีกส่วนคือร่างกายท่อนล่าง กระบี่เพชฌฆาตใช้มือเปล่าหักกระบี่ของเผยหมิง ปรามาศว่าอีกฝ่ายใช้อาวุธกระจอก แถมแม้จะมีร่างกายแค่ครึ่งบนมันก็ยังรับการโจมตีของแม่ทัพเผยได้หมดราวรู้ทุกกระบวนท่าของอีกฝ่ายดี

เผยหมิงห้ามเซี่ยเหลียนช่วย บอกว่าในฐานะเทพสงครามแห่งทิศเหนือเขาจะจัดการผีตรงหน้าเอง จนเซี่ยเหลียนบอกว่าอีกฝ่ายรู้จักวิธีสู้ของเผยหมิงจนผิดสังเกต แม่ทัพเผยเลยยอมกลับไปหลบในวงคุ้มกันก่อน พอถูกถามว่าไปเก็บอาวุธเทพกลับมาก่อนไหม เขาก็บอกว่ามันเป็นแค่กระบี่ธรรมดาที่เขาหยิบมาส่งๆ นั่นเป็นเพราะตั้งแต่ขึ้นสวรรค์มาเขาก็ไม่เคยใช้พลังทิพย์ตีบวกอาวุธชิ้นไหนเลย แล้วกระบี่เพชรฆาตจึงเอ่ยว่านั่นเป็นเพราะอาวุธประจำกายของเผยหมิงไม่อยู่แล้ว เนื่องจากในอดีตอีกฝ่ายหักเขาเป็นสองท่อน ได้ยินแบบนั้นแม่ทัพเผยก็หน้าเครียด ถามว่าแท้จริงกระบี่เพชฌฆาตคือหมิงกวง อาวุธคู่ใจของเขาในตอนเป็นมนุษย์หรือ อีกฝ่ายยิ้มไม่ตอบ แต่ก็เพียงพออธิบายได้ว่าเหตุใดมันจึงรู้จักวิธีต่อสู้ของเผยหมิงเป็นอย่างดี เป็นเพราะเผยหมิงหักมันตอนกำลังขึ้นสวรรค์พอดีจึงเหลืออายทิพย์ที่รอยหักบนท้อง และที่ร่างกายแบ่งเป็นสองท่อนโดยไม่เป็นอะไรก็เป็นเพราะร่างจริงของมันหักมาก่อนแล้ว

กระบี่เพชฌฆาตหรือหมิงกวงพยายามทำลายเขตคุ้มกัน เห็นท่าทางแบบนั้นเซี่ยเหลียนก็อดถามเผยหมิงไม่ได้ว่าเหตุใดอีกฝ่ายจึงแค้นเจ้าของจนเกิดเป็นจิตมาร มีเรื่องราวอะไรเกิดขึ้นเบื้องหลังตำนานแม่ทัพผู้หักกระบี่กันแน่ แต่แม่ทัพเผยไม่อยากพูดถึง ด้วยความที่ทั้งฟางซิ่นกับหมิงกวงต่างเป็นกระบี่มีอายุ หากไม่มีใครมาสอดมือพวกเขาคงพอต้านต่อไปได้อีกพักหนึ่ง แต่ตอนนั้นก็มีผีร่างใหญ่ยักษ์ตนหนึ่งโผล่มา พอเห็นหน้าอีกฝ่ายทั้งเซี่ยเหลียนกับเผยหมิงก็พยายามปิดบังใบหน้าตัวเองทันที เพราะผีตนนั้นคือเค่อหมอ แม่ทัพผีแห่งแคว้นปั้นเยวี่ยที่หนีออกมานั่นเอง หมิงกวงเอ่ยขอความช่วยเหลือจากเค่อหมอให้ช่วยทำลายเขตคุ้มกัน แต่ด้วยความที่เค่อหมอไม่เข้าใจภาษาภาคกลางจึงเกิดความเข้าใจผิดจนทั้งสองฮึ่มๆ ใส่กัน ทำให้เซี่ยเหลียนกับเผยหมิงแอบยินดี Let them fight!! กันไปเลย

ทว่าเค่อหมอกลับหันมาจ้องพวกเซี่ยเหลียนแล้วดันรู้ว่าเป็นนักพรตเก็บขยะกับเจ้านายของเผยซู่ โจทย์เก่าของตน เลยเข้ามาพยายามทำลายเขตคุ้มกันด้วย ด้วยความที่เซี่ยเหลียนต้องปกป้องฮวาเฉิง ส่วนเผยหมิงก็ไม่มีอาวุธ โดนรุมคงไม่ไหวแน่ พอเห็นหมิงกวงด่าเค่อหมอที่โจมตีไม่ดูจังหวะจนโดนตนไปด้วย เซี่ยเหลียนก็นึกแผนบางอย่างออก
.
.
.
.
.

50 Nameless Fanboi Posted ID:2OhJyW+7L4

>>49 ขอบคุณโม่งสปอยล์ กูเกือบจำไม่ได้ว่าเค่อหมอนี่คือใครมีปมอะไรแล้ว ตัวละครเทียนกวานเยอะชิบหาย แถมเอากลับมาใช้หมดทุกตัว ไม่ต้องถามว่าทั้งเรื่องมีปมอะไรบ้างที่แก้แล้วกับยังไม่แก้ ลืมเหี้ยน 5555

51 Nameless Fanboi Posted ID:oaqyQz+uZq

>>46 ถามวันไปตีเลขหวยเหรอ

52 Nameless Fanboi Posted ID:IvFOIMNG2/

>>49 ผีป่วยดาบก็มา

53 Nameless Fanboi Posted ID:+gIXIzxC/r

Kyหน่อยนะ หายนะชุดขาวนี้ใครสปอยกูที

54 Nameless Fanboi Posted ID:mam+b.5gW3

>>53 สปอยแบบอภิมหาอัครฮาร์ดคอร์
.
.
.
.
.
เซี่ยเหลียน
.
.
.
.
.

55 Nameless Fanboi Posted ID:HDTttY/1+n

>>54 ขุ่นพระ
จะมีเฉลยตอน arc ไหนอ่ะ

56 Nameless Fanboi Posted ID:mam+b.5gW3

>>55 อาร์ค 4 อ่ะ

57 Nameless Fanboi Posted ID:HDTttY/1+n

>>56 ขอบคุณ​อีกครั้ง อยากอ่านเล่มไวๆ จัง

58 Nameless Fanboi Posted ID:mAf/ARhn3g

สปอยเทียนกวานอาร์ค 3 ต่อจาก >>49 เทียนกวาน Part.116
.
.
.
.
.
เซี่ยเหลียนบอกให้เผยหมิงทำท่าเคารพแบบปั้นเยวี่ยตามที่เขาบอกเพื่อขอสงบศึกกับเค่อหมอ แต่ขณะที่แม่ทัพเผยจะทำตาม หมิงกวงที่ได้ยินก็รีบทำท่าเคารพนั้นก่อนเพื่อหาพวก ทว่าเขากลับถูกแม่ทัพผีซัดกระเด็น นั่นเป็นเพราะมันคือแผนของเซี่ยเหลียนที่หลอกผีกระบี่ให้ทำท่าเยาะเย้ยฉบับปั้นเยวี่ยจะได้แตกคอกัน แต่ทั้งสองก็สู้กันได้ไม่นานก็เหมือนจะใช้ภาษามือพอสื่อสารกันได้ แต่ยังไม่ทันที่จะช่วยกันสหบาทา เซี่ยเหลียนก็ร้องเป็นภาษาปั้นเยวี่ยว่าเผยซู่กับปั้นเยวี่ยมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร ให้ทั้งสองรีบหนีไป เค่อหมอที่หลงเชื่อเลยวิ่งออกไปตามหาศัตรูคู่แค้นทำเอาหมิงกวนต้องสบถด่า

พอเหลือศัตรูคนเดียว เผยหมิงก็โชว์ร่างกายท่อนล่างของหมิงกวงที่เขาอาศัยตอนชุลมุนกันเมื่อครู่ไปลากเข้ามาในเขตคุ้มกันเพื่อใช้เป็นตัวประกันสั่งให้อีกฝ่ายออกไปห่างๆ โดยทั้งเขากับเซี่ยหลียนไม่ทันคิดเลยว่าหมิงกวงจะบังคับร่างกายท่อนล่างได้ ผีกระบี่สะบัดจนหลุดจากการจับกุม ด้วยความที่ไร้อาวุธอื่น เซี่ยเหลียนเลยเรียกเอ้อมิ่งมาเป็นอาวุธ หมิงกวงเปลี่ยนท่อนล่างกลับไปเป็นกระบี่ แต่ขณะที่กำลังจะเปิดฉากบู๊ เผยหมิงก็บอกเซี่ยเหลียนว่าฮวาเฉิงที่นั่งหลับตานิ่งอยู่นานดูสีหน้าไม่ค่อยดี เขาเลยปล่อยให้เอ้อมิ่งต่อสู้เองขณะที่รีบเข้าไปดูอ๋องผี แต่แม้พยายามเรียกก็ไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับจากคนตรงหน้า

พอเอ้อมิ่งโต้กลับหมิงกวงได้ เซี่ยเหลียนก็เอ่ยชม เผยหมิงสังเกตได้ว่าพอถูกเซี่ยเหลียนชมเอ้อมิ่งก็มีขนาดใหญ่ขึ้น เซี่ยเหลียนเลยรีบชมมันรัวๆ ซึ่งเอ้อมิ่งก็ขยายใหญ่ขึ้นจริงๆ เมื่อกลายเป็นฝ่ายเสียเปรียบ หมิงกวงก็รวบรวมพลังทั้งหมดส่งไปที่ร่างกายท่อนล่าง เห็นอย่างนั้นแม่ทัพเผยก็คว้าเอ้อมิ่งที่กลับไปอยู่ในมือเซี่ยเหลียนแล้วกดมันกับหน้าของเซี่ยเหลียนให้เขาจุ๊บด้ามจับของมัน ส่งผลให้ขนาดของเอ้อมิ่งเพิ่มขึ้นทันที ก่อนที่มันจะพุ่งไปสู้กับหมิงกวงอย่างฮึกเฮิมอย่างมาก และด้วยความที่หมิงกวงโยกพลังไปที่ร่างท่อนล่าง ร่างท่อนบนย่อมอ่อนแอลง เผยหมิงจึงจะอาศัยจังหวะนั้นไปจัดการกับอีกฝ่าย ทว่าเค่อหมอกลับกลับมาพอดี คำรามด่าที่เซี่ยเหลียนหลอกตนแล้วอัดเขตคุ้มกันจนแตก

หมิงกวงรวมร่างกายทั้งสองท่อนกลับดังเดิม ผีกระบี่ด่าอดีตเจ้าของว่าฆ่าพี่น้องและผู้ติดตามร่วมรบไปมากมาย ทุกคนช่างตาบอดที่เห็นว่าตำนานแม่ทัพผู้หักกระบี่สวยงาม แต่เผยหมิงก็บอกว่าเขาไม่เคยคิดว่ามันเป็นเรื่องสวยงามเลยสักครั้ง ทางด้านเซี่ยเหลียน เขาบอกเค่อหมอว่าตนไม่ได้โกหก ก่อนร้องอย่างแปลกใจว่าทำไมปั้นเยวี่ยมาอยู่ที่นี่ ขณะที่แม่ทัพผีบอกว่ากลเดิมใช้ไม่ได้ผล ราชครูปั้นเยวี่ยกลับปรากฏตัวขึ้นจริงพร้อมงูหางแมงป่องจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีเผยซู่ที่เข้ามาร่วมวงด้วย เมื่อถูกถามว่ามาที่นี่ได้อย่างไร ปั้นเยวี่ยก็เล่าว่าพวกตนติดตามเทพแห่งฝนมา พอได้ยินชื่อนั้นเผยหมิงก็ถึงกับหน้าเครียดขึ้นมาทันที ส่วนทางด้านหมิงกวงพออีกฝ่ายมีจำนวนมากกว่า เขาจึงเปลี่ยนร่างกลับไปเป็นกระบี่ให้เค่อหมอใช้ตนเป็นอาวุธ

เผยซู่กับปั้นเยวี่ยแทคทีมสู้กับผีทั้งสองขณะที่คนแก่ยืนดูอยู่วงนอก เมื่อเห็นว่าปั้นเยวี่ยกับเผยซู่น่าจะได้เปรียบ เพราะเค่อหมอกลัวงูหางแมงป่อง อีกทั้งยังไม่ถนัดการใช้กระบี่ เซี่ยเหลียนก็แอบย่องกลับไปหาฮวาเฉิง คิดว่าเมื่อครู่พอเขาจุ๊บเอ้อมิ่ง ดาบโค้งก็มีขนาดใหญ่ขึ้น แม้จะไม่เข้าใจว่าทำไม แต่วิธีนี้อาจทำให้อ๋องผีอาจกลับร่างเดิมได้ เขาเอ่ยขอโทษก่อนจุ๊บที่หน้าผากของอีกฝ่าย ตอนนั้นเองก็มีเสียงดังข้างๆ ว่า ฝ่าบาทท่านจุ๊บผิดที่แล้ว จุ๊บหน้าผากไปมันจะได้อะไร พอหันไปก็เห็นเผยหมิงกำลังนั่งยองๆ มองตนอย่างใกล้ชิด จึงด่าไปว่าอย่ามอง แม่ทัพเผยเลยหันไปดูการต่อสู้ของเด็กๆ ต่อ ก่อนเข้าไปร่วมวงซัดหมิงกวงจรงรอยหักจนอีกฝ่ายแยกเป็นสองท่อนอีก จากนั้นปั้นเยวี่ยก็หยิบไหสองใบขึ้นมาผนึกผีทั้งสองตน จากนั้นเธอก็ถามเซี่ยเหลียนว่าเด็กคนนั้นเป็นลูกของเซี่ยเหลียนหรือ เพราะเมื่อครู่เธอเห็นเขาจุ๊บอีกฝ่าย ทำเอาเซี่ยเหลียนไปต่อไปถูก แล้วเผยซู่จึงเดินมาบอกให้เธออย่ารบกวนเซี่ยเหลียนอีก เผยหมิงที่ไม่เคยเจอปั้นเยวี่ยตรงๆ มาก่อน พอรู้ว่าเธอเป็นใครก็ตรงเข้ามาหาพร้อมดันเผยซู่ที่เดินมาขวางไว้ออกไปด้านข้าง

Note 1 : กูรักแม่ทัพเผย 5555
Note 2 : ปาร์ตี้มีสมาชิก 5 คนแล้ว เย้
.
.
.
.
.

59 Nameless Fanboi Posted ID:pi6EMohHwP

>>58 มาเสริมขำๆว่าตอนเซี่ยเหลียนจุ๊บเออร์มิ่งนี่เมื่อวันก่อนเพิ่งโดนรีพอร์ตจนโดนล็อคตอนไป กุคิดตั้งแต่ตอนอ่านละว่าแม่งโคตรส่อ กุคิดลึกไปเองคนเดียวรึเปล่า5555

60 Nameless Fanboi Posted ID:VDLrxrZT0I

>>58 ขำอีแม่ทัพเผย เชียร์ออกนอกหน้ามาก เอ้อมิ่งน่ารักดีนะ เหมือนลูกหมาน้อย รอความรักจากเจ้าของ เจ้าของบอกให้ทำอะไรก็ทำ

61 Nameless Fanboi Posted ID:mAf/ARhn3g

>>59 ส่วนตัวกูไม่ได้คิดลึกอะ 555 เพราะว่าเอ้อมิ่งมีจิตของตัวเอง แถมนิสัยก็เป็นเด็กๆ แต่ถ้าเอ้อมิ่งไม่มีจิตของตัวเอง เป็นแค่อาวุธของฮวาเฉิงแล้วเซี่ยเหลียนเอามาจุ๊บอะจะคิด

62 Nameless Fanboi Posted ID:kZOcu0lgOT

>>58 ถ้าเป็นนิยาย เผยหมิงคือแฟนบอยจ้ะ กูเปลี่ยนมาเมนเผยหมิงแปป

63 Nameless Fanboi Posted ID:SgUbL9XMNK

>>58 ความแม่ทัพเผยอ่ะ โคตรชง ชอบเฮียแกจัง55555 ดูเป็นพ่อหนุ่มคาสโนว่าโก๊ะๆ

64 Nameless Fanboi Posted ID:MaCckzXXOm

สปอยเทียนกวานอาร์ค 3 ต่อจาก >>58 เทียนกวาน Part.117
.
.
.
.
.
พอเผยหมิงเข้าใกล้ ปั้นเยวี่ยก็รีบไปหลบหลังเซี่ยเหลียนเพราะกลิ่นตัวจากลูกอมมารบนร่างแม่ทัพเผยยังไม่หมดฤทธิ์ เซี่ยเหลียนเลยเปลี่ยนเรื่องถามว่าเหตุใดเทพแห่งฝนถึงมาที่เขาตงลู่ เผยซู่เล่าว่าเพราะพอเขาตงลู่เปิด ผีจำนวนมากก็เดินทางผ่านอาณาจักรอวี้ซือ แถมยังจับพวกชาวนามาเลยตามมาช่วย เมื่อได้ยินเสียงเซี่ยเหลียนเรียกชื่อพวกตนจึงแยกตัวออกมาเชค เผยหมิงถามว่าเผยน้อยไปอยู่กับเทพแห่งฝนได้อย่างไร เขาก็บอกว่าเนื่องจากตนไปถล่มลูกน้องของฉีหรงไว้เยอะ อีกฝ่ายเลยรวมตัวกันมารุมยำจนเขาถูกจับตัว พอดีเทพแห่งฝนเดินทางผ่านแถวนั้นพอดีเลยช่วยเหลือตนไว้แล้วพาไปอยู่อาณาจักร์อวี้ซือเพื่อรักษาตัว

ตอนนั้นจู่ๆ หมิงกวงในไหก็พูดเยาะเย้ยเผยหมิงที่ลูกหลานตัวเองต้องอาศัยความช่วยเหลือจากคนของอวี้ซือ พอรู้จากปั้นเยวี่ยว่าสมัยเป็นมนุษย์แม่ทัพเผยเป็นคนของอาณาจักรซูหลี่ ส่วนเทพแห่งฝนเป็นผู้ครองอาณาจักรคนสุดท้ายของอวี้ซือ เซี่ยเหลียนก็เก็ดท่าทีแปลกๆ ที่เผยหมิงมีต่อเทพแห่งฝนทันที เพราะนอกจากเรื่องทายาทคนก่อนที่โดนเทพแห่งฝนจัดการจนถูกเนรเทศแล้ว อาณาจักรอวี้ซือยังถูกทำลายโดยอาณาจักรซูหลี่ด้วย เมื่อหมิงกวงด่าเรื่องที่แม่ทัพเผยพยายามช่วยปิดเรื่องที่เผยซู่ทำ แต่กับพี่น้องร่วมรบกลับสังหารทิ้ง เผยหมิงก็เอ่ยว่าเขาคิดว่าอีกฝ่ายไม่น่าใช่หมิงกวง แต่น่าจะเป็นหรงกวงที่เข้ามาสิงในกระบี่ต่างหาก เมื่อถูกจับได้ผีกระบี่ก็เงียบทันที เซี่ยเหลียนหันไปถามเผยน้อยว่าหรงกวงคือใคร เผยซู่เลยเล่าว่า ตอนที่เผยหมิงยังไม่ได้ขึ้นสวรรค์ อีกฝ่ายคือรองแม่ทัพที่ติดตามแม่ทัพเผยมานานที่สุด ทั้งสองรู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก สนิทกันอย่างมาก ขนาดชื่อกระบี่คู่ใจ หมิงกวง ก็เกิดจากการนำชื่อของเพื่อนรักคนนี้มารวมกับชื่อตัวเอง

แต่ไม่ว่าเผยหมิงจะสู้รบหรือบริหารเก่งเพียงใด สุดท้ายเส้นทางของเขาก็ไม่อาจเป็นเกินกว่าแม่ทัพ ในขณะที่คนความสามารถธรรมดากลับครองอาณาจักร แม้ตัวแม่ทัพเผยจะพอใจกับสถานะที่เป็นอยู่ สนใจเพียงพิชิตสงครามกับสาวๆ แต่หรงกวงกับเหล่าทหารกลับไม่คิดเช่นนั้น หรงกวงโน้มน้าวพวกทหารให้ร่วมกันก่อกบฏเพื่อดันเผยหมิงขึ้นครองราชย์แทน ถึงเผยหมิงจะไม่เห็นด้วย แต่สุดท้ายหากพวกตนล้มราชาได้ แม่ทัพเผยก็คงต้องยอมเลยตามเลยอยู่ดี เขาใช้ชื่อของเผยหมิงนำกองทัพบุกไปยังราชวัง เมื่อแม่ทัพเผยทราบเรื่องจึงไม่อาจยอมได้ เขานำกองทัพเล็กๆ ที่เชื่อใจบุกตามไปปลิดชีพเหล่าพี่น้องที่เคยเป็นตายมาด้วยกันซึ่งคิดก่อกบฏเหล่านั้นจนหมด แต่แม้จะชนะ เขากลับรู้สึกเหมือนพ่ายแพ้ เผยหมิงที่ยืนอยู่ท่ามกลางศพและเลือดของพี่น้องร่วมรบของตนถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ก่อกบฏ และถูกทหารล้อมไว้ เป็นตอนนั้นเองที่แม่ทัพเผยที่ไม่อยากสู้แล้วได้หักอาวุธของตน ก่อนได้ขึ้นสวรรค์ตามตำนานแม่ทัพผู้หักกระบี่

เผยหมิงอุ้มไหของหรงกวงไว้ พึมพำว่าเชาน่าจะรู้ว่าอีกฝ่ายคือใครตั้งแต่แรก แต่อีกฝ่ายกลับตอบกลับมาว่าหรงกวงตายไปแล้ว และตนเป็นแค่กระบี่เท่านั้น พอเซี่ยเหลียนเข้าไปปลอบไม่ให้คิดมาก แม่ทัพเผยก็ส่งไหไปให้เผยซู่ถือแทน บอกว่าเทพแห่งฝนไม่ใช่เทพแห่งการต่อสู้ ต้องรีบตามไปสมทบเพราะอาจเกิดอันตรายกับอีกฝ่าย เซี่ยเหลียนเลยหันไปอุ้มฮวาเฉิงแล้วทั้ง 5 ก็ออกเดินทางด้วยกัน

ผ่านไปหลายวันพวกเขาก็พ้นเขตป่า เผยหมิงเห็นว่าพวกตนเริ่มเข้าใกล้ใจกลางเขาจึงเสนอให้พักระหว่างรอให้ฮวาเฉิงตื่น อีกทั้งเซี่ยเหลียนกับเผยซู่ก็มีคำสาปพันธนาการจำเป็นต้องพักร่างกายบ้าง ระหว่างปั้นเยวี่ยก่อไฟ ส่วนเผยซู่ไปล่าสัตว์ เซี่ยเหลียนก็มองฮวาเฉิงอย่างเป็นห่วง พอหันไปก็เห็นเผยหมิงจ้องพวกตนอยู่ แม่ทัพเผยเลยหัวเราะบอกว่าเดี๋ยวตนจะไปที่อื่นให้ แต่เซี่ยเหลียนก็บอกว่าไม่เป็นไร พอดีกับที่ปั้นเยวี่ยถือหม้อกับไก่เข้ามาหาเซี่ยเหลียน บอกว่าเผยซู่จับไก่มาให้ แต่ด้วยความที่ไม่เคยมีใครสอนเธอเลยทำอาหารไม่เป็น พอผู้ชายหัวโบราณอย่างเผยหมิงต่อว่าที่ผู้หญิงทำอาหารไม่เป็น เซี่ยเหลียนเลยเข้าไปช่วย บอกว่าเขาจะสอนเธอทำอาหารเอง

Note 1 : เห็นประวัติของเทพหลายองค์แล้วมาเจอของแม่ทัพเผย เพื่อนโม่งรู้สึกยังไงกันบ้าง พอนึกย้อนไปฉากเปิดตัวที่ราวกับบอสประจำด่านในอาร์คแรก พอมาตอนนี้คิดยังไงกับแม่ทัพเผย

Note 2 : ขอย้ำอีกรอบว่ากูรักแม่ทัพเผย 55555 ทุกคนจงหยิบผ้าสามสีและน้ำแดงมาร่วมบูชาแม่ทัพเผยกับกูซะ
.
.
.
.
.

65 Nameless Fanboi Posted ID:zExxpbRojG

>>64 เดี๋ยวนะพี่เซี่ยจะสอนทำอาหาร (ไว้อาลัยพวกแม่งแปบ) คงมีแต่ฮวาเฉิงคนเดียวที่อิ่ม 55555555
ส่วนแม่ทัพเผย กูกรี๊ดแปบ ไม่ผิดหวังที่แกช่ำชอนเรื่องความรักจริงๆ ชงเก่ง อวยเก่ง กูขอคารวะสามจอก หยิบผ้าสามสีบูชาด้วยกันกับโม่งสปอยเลย

66 Nameless Fanboi Posted ID:gjp12DSSOq

>>64 แม่ทัพเผยโผล่มาตอนแรกออร่าอย่างกับบอส ตอนหลังตัวเรียกตีนชัดๆมีแต่คนแกล้ง5555

67 Nameless Fanboi Posted ID:ZtCIaUUe47

ถ้าจะสมัครแอพอ่านม่านฮวาเทียนกวานแบบจ่ายเงินต้องทำยังไงอ่ะ มันไม่มีให้ใส่เบอร์ภาษาไทยเลยเหรอตอนสมัคร

68 Nameless Fanboi Posted ID:iTY.nN26Dh

สปอยเทียนกวานอาร์ค 3 ต่อจาก >>64 เทียนกวาน Part.118
.
.
.
.
.
เผยหมิงเชือดไก่ด้วยมือเปล่า ส่วนเซี่ยเหลียนถอนขน พอถามหามีดสะอาดมาหั่นไก่ พวกเขาก็มองไปที่ไหของหรงกวง หรงกวงจึงโวยวายทันที เห็นหรงกวงด่าแม่ทัพเผย เซี่ยเหลียนก็แสดงความเข้าอกเข้าใจ บอกว่าเขาเองก็มีลูกพี่ลูกน้องที่ชอบด่าอย่างนั้น ทำให้ค่ามิตรภาพของทั้งสอง +++ จนเริ่มถามคำถามส่วนตัวขึ้นได้ เผยหมิงถามว่าทำไมหลังได้ขึ้นสวรรค์ครั้งที่ 3 เซี่ยเหลียนถึงไม่ขอให้จวินอู๋เอาคำสาปพันธนาการทั้ง 2 วงออกให้ หลังจากมองปั้นเยวี่ยเติมงูหางแมงป่องลงให้หม้อ เซี่ยเหลียนก็ถามแม่ทัพเผยบ้างว่าทำไมถึงไม่ตีบวกอาวุธใหม่หลังได้ขึ้นสวรรค์ ทั้งสองต่างไม่อยากตอบคำถามของอีกฝ่าย แต่ก็เข้าใจความอึดอัดใจของแต่ละคน แล้วตอนนั้นเองฮวาเฉิงก็ตื่นขึ้นพร้อมร่างกายที่โตขึ้นเป็นเด็กอายุราว 14-15 ปี

อ๋องผีบอกต้องรีบหนีไปที่อื่นเพราะเขาสัมผัสได้ว่ามีอะไรบางอย่างกำลังมาจากทิศตะวันออก เมื่อตัดสินใจจะไปทางตะวันตก เผยซู่ที่เพิ่งกลับมาจากทางนั้นก็บอกว่ามีผีจำนวนมากกำลังวิ่งมา แต่ฮวาเฉิงยืนยันให้ไปทางนั้นดีกว่า พวกเขาเจอกับกลุ่มผีที่เหมือนกำลังวิ่งหนีเอาชีวิตรอดจากอะไรบางอย่าง ไม่นานนักก็พบกับศพเกลื่อนกลาด พอเจอผีที่รอดชีวิตหลบซ่อนอยู่ ก็จับมาถามว่าเกิดอะไรขึ้น มันเล่าว่าข้างหน้ามีชายเสื้อสีดำที่ฆ่าพวกผีไปแล้วกว่าพันตนอยู่ พอเผยหมิงเสนอให้เปลี่ยนไปทางตะวันออกแทน ผีตนนั้นก็ร้องว่าทางนั้นมีชายชุดขาวที่ฆ่าพวกผีไปมากกว่า 2000 ตน พวกเซี่ยเหลียนเลยไปทางตะวันตกต่อ

ทั้ง 5 เดินทางทั้งคืน พอพบหมู่บ้านร้างก็ตัดสินใจพัก ปั้นเยวี่ยถือหม้ออาหารที่ทำก่อนหน้ามาให้เซี่ยเหลียนกับเผยซู่ แต่พอเปิดฝาออกมาทุกคนก็ติดสตั้น ขณะที่เซี่ยเหลียนเอ่ยชมราชครูสาว เผยหมิงก็สะพรึงบอกว่านี่มันเหนือกว่าที่เขาคาดการณ์ ส่วนฮวาเฉิงบอกว่าในเมื่อเซี่ยเหลียนเป็นคนทำหลักเขาก็จะกิน เห็นอ๋องผีกินอย่างไม่สะทกสะท้าน เผยหมิงเลยบอกให้เผยซู่กิน เผยน้อยจึงต้องรับหม้อมาจากปั้นเยวี่ย เซี่ยเหลียนพยายามไม่สนใจทั้ง 3 แล้วสอบถามเรื่องเมืองแห่งนี้กับฮวาเฉิง อ๋องผีเล่าว่าเมื่อนานมาแล้วเขาตงลู่เคยเป็นที่ตั้งของอาณาจักรโบราณ 7 อาณาจักร และที่ๆ พวกเขาอยู่ตอนนี้ก็คืออาณาจักรอู๋หย่งที่อยู่ใกล้ใจกลางเขาที่สุด และในตอนนั้นเองแม่ทัพเผยก็ร้องโวยวายขึ้นมา

เผยหมิง : เผยน้อย ทำอะไรของเจ้าน่ะ ลูกผู้ชายไม่คุกเข่าง่ายๆ นะ ลุกขึ้นเร็ว ฝ่าบาท ฝ่าบาท ท่านมียาแก้พิษหรืออะไรบางไหม ท่านจะปล่อยเขาไว้อย่างนี้ไม่ได้นะ แล้วเจ้าน่ะ เจ้าเอาอะไรให้เขากินหะ งูนี่มันอะไรกัน ทำไมมันยังขยับได้ทั้งๆ ที่ต้มตั้งนานแล้วล่ะ มันกลายเป็นผีงั้นเหรอ

ปั้นเยวี่ยเอ่ยขอโทษไม่หยุด ขณะที่เซี่ยเหลียนไม่สนใจเสียงของตัวละครประกอบฉากแล้วถามเรื่องอาณาจักรอู๋หย่งต่อ ฮวาเฉิงบอกว่าอาณาจักรนี้น่าจะมีอายุมากกว่า 2000 ปี และด้วยความที่เขาตงลู่ไม่ได้เปิดบ่อยๆ บ้านเรือนจึงยังดูดี แล้วเผยหมิงก็มาร่วมวงสนทนาถามว่าฮวาเฉิงไปได้ข้อมูลของอาณาจักรนี้มาจากไหน เพราะเขาไม่เคยได้ยินชื่ออู๋หย่งมาก่อน อ๋องผีบอกว่าตนรวบรวมข้อมูลได้เอง การที่ข้อมูลจะออกไปสู่โลกภายนอกได้จะต้องผ่านผีที่รอดจากเขา ซึ่งก็มีเพียงเจวี๋ยเช่นเขาที่เข้าข่าย และในเมื่อเขาไม่พูดก็ย่อมไม่มีใครรู้เรื่องนี้ แต่แล้วเซี่ยเหลียนกลับนึกออกว่าตนเคยได้ยินชื่ออาณาจักรอู๋หย่งมาก่อน ราชครูเป็นผู้เล่าเรื่องนี้ให้เขาฟัง

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วมีอาณาจักรโบราณแห่งหนึ่งซึ่งมีองค์ชายรัชทายาทผู้เฉลียวฉลาดและมากด้วยความสามารถ เขารักประชาชนและประชาชนก็รักเขา แม้ว่าเขาจะตายไปนานแล้วผู้คนจึงไม่เคยลืมเลือนอีกฝ่าย ราชครูบอกว่าอยากให้เซี่ยเหลียนเป็นเช่นองค์ชายรัชทายาทคนนั้น แต่เซี่ยเหลียนบอกว่าเขาอยากเป็นเทพ จึงไม่อยากเป็นเหมือนคนๆ นั้น หากคนๆ นั้นมีฝีมือจริงทำไมถึงไม่ได้เป็นเทพ หากผู้คนไม่ลืมเลือนองค์ชายรัชทายาทจริง ทำไมเขาถึงไม่เคยได้ยินชื่อของคนผู้นี้ คำตอบนั้นทำให้ราชครูมีสีหน้าหมองลง และคืนนั้นเซี่ยเหลียนก็ถูกอีกฝ่ายสั่งให้คัดพระธรรม 100 จบ พอเผยหมิงถามถึงราชครู เซี่ยเหลียนก็บอกว่าหลังเซียนเล่อล่มสลายเขาก็ไม่ได้ยินข่าวคราวของอีกฝ่ายอีกเลย

ตอนนั้นเองจู่ๆ เผยซู่ก็เข้ามาหาทั้ง 3 แม้ฤทธิ์ของพิษ (?) จะส่งผลให้เขาพูดตะกุกตะกักไม่เป็นประโยค แต่เขาก็ชี้ให้เห็นถึงรอยกีบเท้าวัวซึ่งเป็นสัตว์เทพของเทพแห่งฝน
.
.
.
.
.

69 Nameless Fanboi Posted ID:lB5KaTDKQm

>>68 เผยหมิงยังคงท๊อปฟอร์ม รักลุงแกจัง ดูมุ้งมิ้ง จะบอกว่าไม่แปลกเลยว่าทำไมลุงแกมีเมียเยอะ เพราะกุยังหลงแกเลย 555555555555

70 Nameless Fanboi Posted ID:sQrX8dmrGC

สปอยเทียนกวานอาร์ค 3 ต่อจาก >>68 เทียนกวาน Part.119
.
.
.
.
.
ปรกติคาถาคุ้มครองของเทพแห่งฝนทำให้วัวไม่ทิ้งรอยเท้า เป็นไปได้ว่านี่จะเป็นรหัสบอกว่าอีกฝ่ายได้ต่อสู้กับอะไรบางอย่างซึ่งอาจเป็นชายชุดดำที่ฆ่าผีไป 1000 ตนที่ว่าก็ได้ ขณะเดียวกันฮวาเฉิงก็สัมผัสได้ว่าสิ่งที่อยู่ทางตะวันออกได้เปลี่ยนทิศการเคลื่อนไหว พวกเขาจึงออกเดินทางไปตะวันตกต่อด้วยความระวัง จนกระทั่งมาถึงอารามศักดิ์สิทธิ์ของอู๋หย่ง แม้ป้ายอารามจะเขียนด้วยภาษาที่พวกเขาอ่านไม่ออก แต่ด้วยความที่ฮวาเฉิงเคยติดอยู่ในเขาตงลู่ถึง 10 ปีจึงพอแกะตัวอักษรได้บ้าง นอกจากชื่อสถานที่ยังมีประโยคที่พอจับใจความได้ว่าองค์ชายรัชทายาทขึ้นสวรรค์พร้อมแสงสว่างที่สาดส่องอู๋หย่ง แสดงว่าชาวอู๋หย่งบูชาองค์ชายรัชทายาทซึ่งได้เป็นเทพ เช่นนั้นทำไมราชครูถึงได้โกหกเซี่ยเหลียนว่ารัชาทายาทสิ้นพระชนม์ ไม่ได้ขึ้นสวรรค์กัน

เผยหมิงเปรยว่าถ้ามหาเทพอยู่ด้วยก็น่าจะพอถามได้ แต่ฮวาเฉิงก็บอกว่าจวินอู๋เพิ่งได้ขึ้นสวรรค์เมื่อราว 1500 ปีก่อน อีกทั้งเทพที่มีอายุมากกว่านั้นก็ล้วนถูกลืมเลือนหายไปแล้วจนสิ้นเลยไม่มีใครที่น่าจะให้ถามเรื่องของอาณาจักรอู๋หย่งได้ พอเข้าไปในอารามพวกเขาก็พบว่าทุกอย่างเป็นสีดำ ซึ่งอ๋องผีบอกว่าอารามทุกแห่งในอู่หย่งเป็นเช่นนี้ทั้งหมด เซี่ยเหลียนที่เคยเห็นอารามของตัวเองถูกเผามาหลายครั้งสังเกตออกทันทีว่าที่นี่คงถูกไฟไหม้ไม่ต่างกัน แล้วเขาก็นึกขึ้นได้ว่าหินจารึกด้านนอกก็มีร่องรอยเหมือนถูกกระบี่ฟัน หรือว่าอารามแห่งนี้จะถูกทำลายโดยชาวอู๋หย่งเอง

ขณะที่ซีเรียสกันจู่ๆ แม่ทัพเผยก็โวยวายเพราะถูกงูหางแมงป่องของปั้นเยวี่ยกัด พอเค้นความจริงถึงได้รู้ว่าอีกฝ่ายแต๊ะอั๋งราชครูสาวโดยอ้างว่าพออยู่ในที่มืดดูน่ากลัว เลยเผลอกอดปลอบสาวไม่ให้วิตกโดยสัญชาตญาณ ตอนที่เซี่ยเหลียนบอกว่าในเมื่อเป็นเทพเดี๋ยวพิษงูก็สลายเอง เขาก็หันไปเห็นภาพใบหน้าบนกำแพงที่ยังไม่เสียหายเพราะไฟไหม้เลยเข้าไปพยายามแกะส่วนที่ไหม้ออก เพราะพวกเขาอาจได้ข้อมูลว่าเขาตงลู่เกิดขึ้นได้อย่างไร ทำไมถึงสร้างเจวี๋ยขึ้นได้จากภาพพวกนี้ เมื่อฮวาเฉิงชมว่าถ้ามีเซี่ยเหลียนช่วยสืบต้องได้ความมากกว่าที่เขาเคยได้แน่ เซี่ยเหลียนก็ชมอีกฝ่ายกลับว่าสืบเก่งกว่า สักพักแม่ทัพเผยก็ทนไม่ไหวแล้วขอตัวออกไปสูดอากาศข้างนอก

ทั้งสองช่วยกันแกะสีที่ไหม้ออกจนได้เห็นภาพที่ยังคงเหลืออยู่ ทว่าพอพิจารณาสีดีๆ ก็รู้สึกได้ว่าภาพนี้น่าจะถูกวาดเมื่อไม่กี่ร้อยปีนี่เอง ด้านล่างของภาพคือชาวเมืองที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาชื่นชมบูชา ด้านบนมีแสงสีทองส่องจากท้องฟ้าและจากชายหนุ่มรูปงามในชุดสีขาวซึ่งน่าจะเป็นองค์ชายรัชทายาทแห่งอู๋หย่ง ตำแหน่งที่ต่ำกว่าเล็กน้อยมีชาย 4 คนซึ่งมีแสงจากร่างกายเช่นกัน พวกเขาน่าจะเป็นเจ้าหน้าที่สวรรค์ที่องค์ชายรัชทายาทพาขึ้นสวรรค์ไปด้วย เซี่ยเหลียนรู้สึกได้ว่าหากไปที่อารามอื่นจะต้องพบภาพพวกนี้อีกและได้ข้อมูลมากขึ้นเลยจะออกเดินทางกันต่อ แต่ก็สังเกตได้ว่าเผยหมิงยังไม่กลับมา พอออกมาข้างนอกก็ไม่พบอีกฝ่าย ร้องเรียกแล้วก็ไม่มีการตอบกลับ เห็นเซี่ยเหลียนกังวล ฮวาเฉิงเลยเอาผีเสื้อออกมาตัวหนึ่ง บอกว่าความจริงเมื่อวานตนส่งผีเสื้อให้ตามติดทุกคนไว้ และสามารถใช้มันบันทึกเสียงที่ปลายสายกลับมา หากแต่ไม่สามารถคุยกับอีกฝั่งได้

เสียงของเผยหมิงดังออกมาจากผีเสื้อ กล่าวว่าเขาไม่นึกว่าจะมาพบอีกฝ่ายที่นี่ พอได้ยินเสียงคนที่คุยกับแม่ทัพเผยอยู่เซี่ยเหลียนก็ต้องเบิกตากว้างเพราะคนๆ นั้นคือหลิงเหวินร่างชาย แล้วเขาก็เก็ตทันทีว่าชายชุดดำที่ฆ่าผีไป 1000 ตนก็คือเทพอักษรนั่นเอง หลิงเหวินบอกเพื่อนให้เงียบเพราะเสื้อคลุมอมตะอารมณ์เสีย ไป๋จิงไม่ชอบเผยหมิงมาก และเอ่ยว่าตอนนี้ตนไม่สามารถควบคุมร่างกายของตัวเองได้ พอได้ยินแม่ทัพเผยบอกว่าตนก็ไม่สามารถขยับตัวได้เหมือนกัน เซี่ยเหลียนเลยรู้ว่าทั้งคู่ถูกใครบางคนจับตัวไว้อยู่
.
.
.
.
.

71 Nameless Fanboi Posted ID:ef6EwDLjwH

>>70 เชี่ย ทำไมเรื่องรัชทายาทอู่หย๋งมันคุ้นๆแบบนี้...รู้สึกเหมือนกำลังจะเกิดอะไรขึ้น (ว่าแต่มันใช่ถ้ำรูปปั้นที่ฮวาเฉิงปั้นให้เซี่ยเหลี่ยนไหมวะ..)

ปล.บูชาแม่ทัพเผยนี่ใช้ธูปกี่ดอก ดอกไม้กี่ดอก ผลไม้อะไรบ้าง กุอยากบูชา555555 กูจะเป็นผู้ศรัทธาที่ดี

72 Nameless Fanboi Posted ID:sQrX8dmrGC

>>71 ถ้ำรูปปั้นยังไม่ถึงอะ แต่อยู่ในเขาตงลู่นี่แหละ

แค่ใช้ความรักในการไหว้ แม่ทัพเผยก็น่าจะโอเคแล้วนะ 55555

73 Nameless Fanboi Posted ID:NHuy88JO74

>>70 กราบ ช่วงนี้ขยันสปอย ชอบมาก

74 Nameless Fanboi Posted ID:fCmH5kCYpG

>>70 ชอบหลิงเหวินเวอร์ชั่นผช ว่ะ

75 Nameless Fanboi Posted ID:6ng0Inyun3

สปอยเทียนกวานอาร์ค 3 ต่อจาก >>70 เทียนกวาน Part.120
.
.
.
.
.
เผยหมิงต่อว่าหลิงเหวินที่ทำเรื่องวุ่น ถามมาที่นี่เพราะถูกเสื้อคลุมอมตะควบคุมหรือ แต่เทพสาว (ในร่างชาย) ก็บอกว่าตนต้องการมาที่เขาตงลู่เอง พอแม่ทัพเผยเล่าว่าเป็นเพราะตนบาดเจ็บเลยถูกใครไม่รู้จับมาที่นี่ หลิงเหวินเลยบอกว่าตเธอบังเอิญพบกับเทพแห่งฝนและต่อสู้กัน หลังจากนั้นจึงมึนๆ แล้วถูกใครก็ไม่รู้ลอบทำร้ายจับตัวมา เมื่อเซี่ยเหลียนฟังดีๆ ก็ได้ยินเสียงน้ำไหล อาจเป็นไปได้ว่าทั้งสองจะถูกจับตัวอยู่ทางน้ำใต้ดิน ตอนนั้นเองก็มีเสียงของใครอีกคนดังขึ้น เรียกทั้งสองด้วยชื่อจริง ด่าว่าอย่ามาจีบกันต่อหน้าตน น้ำเสียงนั้นทำให้หลิงเหวินนึกออกว่าร่างตรงหน้าน่าจะเป็นจิงเหวินเจินจวิน อดีตเทพฝ่ายบุ๋นลำดับ 1 ผู้พาเธอขึ้นสวรรค์ในตอนแรก จิงเหวินบอกว่าเขาก็มีคดีกับแม่ทัพเผยเช่นกัน และกล่าวหาว่าหลิงเหวินยืมมือคนรักอย่างเผยหมิงให้ส่งคนมาช่วยเผาอารามของเขาจนหมดด้วย

จิงเหวินเอ่ยว่าทั้งๆ ที่เขามีเมตตาพาขึ้นสวรรค์ แต่เทพสาวกลับตอบแทนเขาเช่นนี้ หลิงเหวินเลยเถียงว่าที่เขาพาเธอขึ้นสวรรค์ไม่ใช่เพราะเห็นแก่ความสามารถ ฮวาเฉิงเลยเล่าว่าทั้งจิงเหวินและหลิงเหวินมาจากอาณาจักรซูหลี่ ในปีหนึ่งอาณาจักรซูหลี่ได้จัดงานประกวดเขียนเรียงความเกี่ยวกับบ้านเมือง จิงเหวินอยากจะเซอร์ไพรส์เหล่าผู้ศรัทธาด้วยการร่วมประกวด แล้วพอชนะก็จะเฉลยความจริงเรียกคะแนนความศรัทธามากขึ้น แต่งานของเขากลับแพ้เรียงความของผู้เขียนไม่ออกนาม ไม่ใช่เพราะเขาเขียนได้ไม่ดี แต่เป็นเพราะในขณะที่เขาเขียนยกย่องความดีงามของซูหลี่ ผลงานชิ้นนั้นกลับเขียนวิจารณ์ความล้มเหลวในการทำงานของรัฐ ด้วยความที่ในเวลานั้นซูหลี่มีปัญหาการปกครองอยู่จริงๆ ทำให้โดนใจชาวเมืองจนชนะโหวต ต่อมาเมื่อทางการจับเจ้าของผลงานที่บังอาจวิจารณ์การทำงานของรัฐ ความจริงก็ทำให้จิงเหวินยิ่งช็อค

หลิงเหวินหรือนานกงจี่เป็นเพียงสาวช่างทำรองเท้า แต่เธอกลับมีความสามารถในงานบุ๋นเป็นอย่างมาก ปรกติจึงมักรับงานฟรีแลนซ์เป็นรายได้เสริม พอหนึ่งในลูกค้าเห็นเรียงความก็จำได้ว่าเป็นสไตล์งานของเธอจึงแจ้งทางการจับเธอเข้าคุก เมื่อจิงเหวินใช้พลังพานานกงจี่ออกจากคุกขึ้นสวรรค์มาเป็นเทพชั้นกลาง ให้ทำงานเป็นลูกน้องของตนก็สร้างความฮือฮาเป็นอย่างมาก เพราะในเวลานั้นเจ้าหน้าที่สวรรค์ที่เป็นสตรีมีน้อยมาก อีกทั้งยังเป็นเพียงดอกไม้ประดับให้เทพชายเสียมากกว่า ทุกคนจึงชื่นชมเขาที่กล้าแหกกฎ ให้โอกาสทุกคนที่มีความสามารถ

หลิงเหวินด่าจิงเหวินว่าหากเขาชื่นชมความสามารถของเธอจริง คงไม่ใช้งานเป็นสารพัดเบ๊ ให้ทำแต่งานใช้แรงแม้แต่ในวันหยุดจนไม่มีเวลาได้อ่านหรือเขียนอะไรเลย แท้จริงแล้วเขาพาเธอขึ้นสวรรค์เพื่อบูลลี่มากกว่า จิงเหวินโต้กลับว่าที่เขาให้เธอทำงานเช่นนั้นก็เพื่อฝึกฝน เป็นเธอที่หลงตัวเอง คิดว่าที่ไม่มีตำแหน่งเพราะเขาไม่สนับสนุน แต่ไม่ว่าอย่างไรเธอก็เป็นเพียงผู้หญิง ไม่มีวันได้ตำแหน่งสูงอยู่ดี หลิงเหวินเลยจี้ใจว่าในช่วงรุ่งโรจน์ที่สุดของจิงเหวินก็ยังมีผู้ศรัทธาไม่เท่าเธอในตอนนี้

ด้วยความกลัวว่าจิงเหวินจะลงมือทำอะไร เซี่ยเหลียนเลยไล่ชกพื้นหาตำแหน่งของทั้งสาม พอจิงเหวินเริ่มใช้คำหยาบคาย เผยหมิงก็ด่าอีกฝ่าย จิงเหวินเลยกล่าวหาว่าแม่ทัพเผยปกป้องคนรัก หลิงเหวินก็ตอกว่าอีกฝ่ายก็ใส่ความเธอว่าใช้เต้าไต่ นอนกับคนนู้นคนนี้ไปทั่วมาตลอด เมื่อเผยหมิงเอ่ยว่าเสียงอะไรดังอยู่เหนือศีรษะ เซี่ยเหลียนก็ทั้งต่อย ทั้งเอาฟางซิ่นมาช่วยเจาะพื้นลงไปจนลงมาถึงทางน้ำที่ทั้งสามอยู่ เขาเห็นหลิงเหวินกับเผยหมิงซึ่งถูกม้วนคัมภีร์มัดเอาไว้ แต่ร่างของจิงเหวินกลับเป็นเพียงรูปปั้นหิน

เซี่ยเหลียนถามว่าอีกฝ่ายมาอยู่ในสภาพนี้ได้อย่างไร จิงเหวินจึงระบิดด่าว่าเป็นเพราะหลังจากผู้ศรัทธาหายจนพลังของเขาถดถอย หลิงเหวินก็ไล่ฆ่าจนเขาต้องเอาชีวิตรอดด้วยการมาสิงรูปปั้น หลิงเหวินจึงบอกว่าสาสมแล้ว เพราะเมื่อก่อนเขาก็ชอบใช้ให้เธอทำงานถึงเที่ยงคืน แล้วกุข่าวว่าเธออยู่ดึกเพื่อยั่วยวนเขา เธอเตะอีกฝ่ายทำให้ผ้าที่ปกปิดท่อนร่างของจิงเหวินหลุด เลยได้รู้ว่ารูปปั้นที่เขาสิงอยู่เป็นขันที หลิงเหวินหัวเราะลั่น จิงเหวินโกรธมาก เขาจิกหัวของหลิงเหวินขึ้นมา ขณะที่แม่ทัพเผยด่าอีกฝ่าย เซี่ยเหลียนก็พยายามประนีประนอมว่าถึงมีหรรมหรือไม่มีก็ไม่แตกต่าง แต่จิงเหวินกลับบอกให้เซี่ยเหลียนตัดของตัวเองพิสูจน์ ไม่อย่างนั้นเขาจะตัดหรรมของแม่ทัพเผยแทน ทำเอาเผยหมิงกรีดร้องว่านี่มันเรื่องเหี้ยอะไรกัน เพื่อสวัสดิภาพของเผยน้อยที่ไม่ใช่เผยซู่ เซี่ยเหลียนเลยพยายามเจรจาบอกว่าในเมื่อทั้งหลิงเหวินกับจิงเหวินต่างเคยทำไม่ดีต่อกัน จึงขอให้แล้วกันไป แต่จู่ๆ จิงเหวินก็นึกอะไรออก แล้วหันไปถามเทพสาวว่าเธอมีส่วนทำให้อาณาจักรซูหลี่ต้องล่มสลายใช่หรือไม่

Note : #SAVEเผยน้อย
.
.
.
.
.

76 Nameless Fanboi Posted ID:/MawZwGxJP

ขอkyโม่งสปอยล์นิดนึง ตอนพิเศษของตัวร้ายที่แต่งงานกันนี่กาวหรือของของจริงอ่ะ หาอ่านเป็นอังกิดไม่เจอเลย

77 Nameless Fanboi Posted ID:NAB0WODbPd

>>76 กุเคยเจออันนี้อ่ะ ไม่แน่ใจใช่ที่มึงตามหาป่าว

https://pizziccato.tumblr.com/post/180944707156/a-tale-of-the-marriage

>>75 ขอบคุณโม่งสปอยมากฮืออออ อ่านช่วงแรกดูเครียดๆ เจอตรงเผยน้อยไปกุขำกร๊ากเลย5555555

78 Nameless Fanboi Posted ID:/MawZwGxJP

>>75 กุโคตรรักเจ๊หลิงเหวิน แท่ทัพเผยคงงง เกี่ยวอะไรกับกู๊ 555555555

79 Nameless Fanboi Posted ID:/MawZwGxJP

>>77 ขอบคุณมากเพื่อนโม่ง

80 Nameless Fanboi Posted ID:l9lxeXMtCU

>>75 แม่ทัพเผยบอก พวกมึงมีเรื่องกัน อย่าดึงกูเข้าไปซวยดิว้าาาาา โถถถถถถ

81 Nameless Fanboi Posted ID:.vmV+9tpj7

>>75 เด้วๆๆ มึงอย่าทำเผยน้อยสิวะ55555

82 Nameless Fanboi Posted ID:iTbltXf6kt

>>75 ท่านแม่ทัพ ท่านมาเพื่อเป็นที่รองมือรองเท้าทุกคนจริงๆ เอ็นดูววว รักษาเผยน้อยไว้ให้ดีนะท่าน 5555555555

83 Nameless Fanboi Posted ID:mONdzEfusG

>>75 แต๊งกิ้วมากนะเพื่อนโม่ง มาสปอยให้รัวๆเลย

84 Nameless Fanboi Posted ID:EexKG2x1zq

สปอยเทียนกวานอาร์ค 3 ต่อจาก >>75 เทียนกวาน Part.121
.
.
.
.
.
เนื่องจากจิงเหวินมาจากอาณาจักรซูหลี่ ผู้ศรัทธาส่วนมากย่อมเป็นคนบ้านเดียวกัน หากอาณาจักรซูหลี่ล่มสลาย แหล่งพลังของจิงเหวินย่อมต้องหายไปด้วย พอหลิงเหวินปิดปากไม่ปฏิเสธสิ่งที่อดีตเจ้านายกล่าวหา จิงเหวินก็ได้ทีด่าว่าเขาสงสัยมานานแล้วว่าอาณาจักรซูหลี่ล่มสลายเร็วกว่าที่ควร นั่นเป็นเพราะหลิงเหวินวางแผนสังหารแม่ทัพปัญญาอ่อนผู้นั้นเพื่อให้บ้านเมืองอ่อนแอจนเขาสิ้นพลัง เมื่อถูกกล่าวถึงว่าปัญญาอ่อน ไป๋จิง วิญญาณในเสื้อคลุมอมตะก็โมโหจนเกิดแรงฮึดกระชากคัมภีร์ที่พันธนาการอยู่จนขาด เขาใช้ร่างของหลิงเหวินซัดรูปปั้นของจิงเหวินจนแตกเป็นชิ้นๆ แล้วเข้าไปหาเผยหมิงต่อ เป็นเพราะจิงเหวินกล่าวว่าอีกฝ่ายเป็นแฟนของหญิงที่เขารัก ไป๋จิงจึงเกิดความหึงหวง แม้หลิงเหวินกับแม่ทัพเผยจะยืนยันว่าพวกตนไม่เคยพิศวาสกันก็ไม่ยอมเชื่อ เซี่ยเหลียนรีบใช้กระบี่ตัดคัมภีร์ที่มัดเผยหมิง แล้วรีบหนีขึ้นพื้นดินด้านบน แต่ไป๋จิงก็ยังตามมา ด้วยความที่อีกฝ่ายฆ่าผีไปกว่า 1000 ตนทำให้มีพลังเพิ่มขึ้นมาก เซี่ยเหลียนบอกให้หลิงเหวินเปลี่ยนกลับเป็นผู้หญิงเพื่อลดอายอาฆาต แต่เทพสาวบอกว่าไป๋จิงไม่ยอมให้เธอเปลี่ยนร่าง เซี่ยเหลียนกับเผยหมิงเลยต้องพากันโกยจนลืมสังเกตรอบข้าง เลยไปติดกับดักตาข่ายของพวกผีกี๊ๆ เข้า อีกทั้งฟางซิ่นยังหลุดมือหล่นไปพอดีอีก

ขณะที่ไป๋จิงจะซัดพลังใส่ พวกผีกี๊ๆ ก็ถูกลมอะไรบางอย่างซัดขึ้นไปในอากาศ พวกมันร้องลั่นก่อนที่จู่ๆ เสียงจะเงียบหายไป เซี่ยเหลียนได้กลิ่นดอกไม้ ทว่าแม่ทัพเผยกลับได้กลิ่นเลือด เพียงครู่เดียวฝนก็ตกลงมาเป็นโลหิต เผยหมิงที่ถูกแขวนเหนือเซี่ยเหลียนเลยอาบเลือดไปเต็มๆ ส่วนไป๋จิงที่ไหวตัวทันก็รีบหลบฝนเลือดนั้น ตาข่ายที่จับเซี่ยเหลียนไว้ขาด พอลงมาถึงพื้นแล้วคิดว่าจะต้องโดนฝนนั้นแน่ๆ ฝนกลับเปลี่ยนกลายเป็นเป็นกลีบดอกไม้สีแดงพร้อมกับที่มีเสียงหัวเราะเบาๆ ดังขึ้น ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเป็นใคร พอหันไปเขาก็พบฮวาเฉิงที่ร่างกายกลับมาเป็นไซส์ปรกติแล้ว

เซี่ยเหลียนเอ่ยชมที่อีกฝ่ายเปลี่ยนฝนเลือดเป็นดอกไม้ได้ ซึ่งอ๋องผีก็บอกว่าเขาไม่อยากให้เซี่ยเหลียนเลอะจึงลองเปลี่ยนพวกมันเป็นดอกไม้ดู จนเผยหมิงต้องเตือนให้ทั้งสองช่วยตัดตาข่ายช่วยตน ดูเหมือนว่าเสื้อคลุมอมตะจะไม่อยากสู้กับฮวาเฉิง แล้วอ๋องผียังใช้ผีเสื้อไปเกาะหลิงเหวิน ทำให้เธอขยับตัวไม่ได้และสลบไป แต่พอเผยหมิงจะไปถอดเสื้อคลุมอมตะออกจากร่างของหลิงเหวิน ไป๋จิงก็กัดมือของเขา ไม่ยอมปล่อยตัวเทพสาวไป สุดท้ายแม่ทัพเผยเลยต้องแบกเพื่อนทั้งอย่างนั้นตามเซี่ยเหลียนกับฮวาเฉิงกลับไปยังอารามศักดิ์สิทธิ์ของอู่หย่งซึ่งปั้นเยวี่ยกับเผยซู่รออยู่ เผยซู่รีบบอกพวกเซี่ยเหลียนว่าจู่ๆ ภาพวาดในอารามก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย พอเซี่ยเหลียนตามไปดูก็พบว่าเป็นความจริง แสดงว่ามันต้องถูกสร้างขึ้นด้วยคาถา

ถึงจะยังพูดได้ตะกุกตะกัก แต่ร่างกายของเผยน้อยก็กลับมาเป็นปรกติแล้วเขาจึงรับหน้าที่แบกหลิงเหวินแทน พอเธอได้สติ เซี่ยเหลียนก็ถามถึงเฉวียนอี้เจินที่ตามเธอมาจากอารามผูจี้ว่าเป็นอย่างไร แต่เทพสาวก็บอกว่าหลังเข้ามาในเขาตงลู่ ด้วยความที่มีผีจำนวนมาก เฉวียนอี้เจินจึงพลัดไป ตอนนี้ไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไรเช่นกัน แล้วเซี่ยเหลียนก็หันไปถามฮวาเฉิงว่าเตาของเขาตงลู่ที่แท้แล้วมีหน้าตาเป็นเช่นไร อ๋องผีจึงชี้ไปไปภูขาไฟสูงตะง่านซึ่งเห็นอยู่ลิบๆ เบื้องหน้า บอกว่าด้วยเหตุนี้ทุกครั้งที่มีเจวี๋ยกำเนิดใหม่จึงมาพร้อมภูเขาไฟระเบิดและภัยพิบัติ ตอนนั้นเองพวกเขาก็มาถึงอารามศักดิ์สิทธิ์ของอู๋หย่งอีกแห่งหนึ่งซึ่งมีขนาดใหญ่มาก แต่กลับตั้งอยู่กลางถนนของเมืองเล็กๆ ถนนแคบๆ ปิดทางขึ้นเขา ผิดหลักฮวงจุ้ยสุดๆ แต่ถึงจะรู้สึกว่าผิดปรกติ เซี่ยเหลียนก็ยังตัดสินใจเข้าไปดูข้างในว่ามีภาพวาดอยู่หรือไม่ หลังกะเทาะส่วนที่ไหม้ไฟบนกำแพงออกก็พบภาพวาดอยู่จริงๆ คราวนี้เป็นภาพองค์ชายรัชทายาทแห่งอู๋หย่งซึ่งกำลังนอนอยู่บนฟูก คิ้วขมวดแน่น เหงื่อออกเต็มใบหน้า ผู้ติดตามทั้ง 4 รอบๆ ตัวเขาก็มีสีหน้าเคร่งเครียด ส่วนเบื้องล่างของภาพซึ่งเป็นภพมนุษย์กลับเต็มไปด้วยไฟและลาวา บ้านเมืองถูกเผา ผู้คนกรีดร้องดูไม่ต่างจากขุมนรก

Note : หลิงเหวิน กับ ไป๋จิง เข้าร่วมปาร์ตี้ มีสมาชิก 6 คน + 1 เสื้อคลุมแล้ว
Note 2 : ก่อนอ่านสปอยตอนนี้ ทุกคนลืมไปแล้วหรือยังว่าเฉวียนอี้เจินวิ่งตามหลิงเหวินมา 5555
.
.
.
.
.

85 Nameless Fanboi Posted ID:x11ggZPTJG

>>84 สารภาพว่าลืมไปแล้ว กุอ่านสปอยล์นำหน้าไปก่อนยังสงสัยว่าอี้เจินมาจากไหนวะ ลืมด้วยว่าผ้าคลุมชื่อไป๋จิง ขอบคุณเพื่อนโม่งที่เตือน 55555

ถามอีกสองคำถามนะ คนที่เซี่ยเหลียนสมัยเป็นราชครูชื่ออะไรนะ อันนี้กุก็ลืม

กับอีกคำถาม ขอทวนอีกทีว่าฮวาเฉิงเป็นเจวี๋ยตัวเดียวที่เกิดมาจากตงลู่ป่ะวะ เศวตไร้หน้ากุยังไม่รู้ (พลีสอย่าสปอยล์) ส่วนเฮ่อเสวียนก็แดกแหลกเลยอัพเวลเป็นเจวี๋ย? ที่เรียก3เจวี๋ย+ฉีหรงว่า4ภัยพิบัติไม่เกี่ยวกับภัยพิบัติเขาตงลู่นี่ชะ

จริงๆอ่านบทตงลู่แล้วนึกถึงตอนฮวาเฉิงออกมาตากตงลู่กลายเป็นเจวี๋ยแม่งต้องเปิดตัวอลังการแน่ๆเลยอ่ะ ภาพในหัวกุโคตรเท่เลย ดงฮวากับม่านฮวาจะมีให้ดูมั้ย ฮึ่ย

86 Nameless Fanboi Posted ID:XGQTydFP2x

>>84 สารภาพว่ากูจำตัวละครไม่ได้หลายคนละ ชื่อแต่ละคนก็ชวนจำยากเหลือเกิน (หรือกูความจำไม่ดีเอง 555) แต่ก็ขอบคุณมากที่มาสปอยล์อยู่ตลอด นี่ไม่รู้ว่าจะได้อ่านฉบับเล่มภายในปีนี้มั้ย รอกันต่อไป

87 Nameless Fanboi Posted ID:EexKG2x1zq

>>85 คนที่เซี่ยเหลียนสมัยเป็นราชครู หมายถึง หลางเชียนชิว เหรอ หรือหมายถึงราชครูของเซี่ยเหลียน เหม่ยเนียนชิง อะ ส่วนเจวี๋ย เจวี๋ยทุกตนออกมาจากเขาตงลู่ เฮ่อเสวียนก็เข้ามาแดรกในเขานี่แหละ ติดอยู่ในเขา 20 ปีถึงอัพคลาสสำเร็จ ฉีหรงนี่สวรรค์แค่หากลุ่มให้อยู่จะได้เรียกชื่อเป็นก้อนๆ ได้อะ 5555

>>86 กูก็อยากได้ฉบับรวมเล่มเร็วๆ เหมือนกัน

88 Nameless Fanboi Posted ID:I469+oefBW

แม่ง เจ๊หลิงเหวินคนแมนกูก็ยังเป็นตาฮัก น้อนชิงเวียนกูก็น่าสงสาร กูตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ย้ายเมนแล้ว แต่กูจะจุดธูปบูชาลุงเผยเพิ่ม ชิปเปอร์godมันหน้าตาหยั่งงี้นี่เอง

ขอบคุณโม่งสปอยจ้า จ๊วฟๆ

89 Nameless Fanboi Posted ID:vmaohHvVME

สปอยเทียนกวานอาร์ค 3 ต่อจาก >>84 เทียนกวาน Part.122
.
.
.
.
.
จากการช่วยกันตีความ ภาพนี้คงเล่าเรื่องราวว่าเมื่อได้ขึ้นสวรรค์ องค์ชายรัชทายาทแห่งอาณาจักรอู๋หย่งก็มีนิมิตว่าบ้านเกิดของตนจะได้รับภัยจากภูเขาไฟระเบิด แต่ใครกันที่อยากให้พวกเขารู้เรื่องราวพวกนี้ ตอนนั้นเองหลิงเหวินก็สังเกตว่าภูเขาที่อยู่ใกล้ๆ เหมือนเข้ามาชิดอารามกว่าตอนที่พวกตนเข้ามา พอได้ยินเสียงกำแพงแตกก็รู้ว่ามันคือภูเขาเคลื่อนที่ได้ซึ่งกำลังเบียดหมายบี้ผู้ที่อยู่ด้านในเป็นแซนวิช ทุกคนเลยต้องสปีดรันหนีไปตามทางเดินยาวของอาราม ด้วยห้องหับมากมาย ทำให้พวกเขาต้องคอยถีบประตูเปิดจนเขา 2 ลูกยิ่งเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ ฮวาเฉิงเรียกเซี่ยเหลียนเข้ามาหลบซากหลังคาที่หล่นลงมาใต้ร่มกับตน แต่พอคนอื่นขอหลบด้วยก็ได้รับการปฏิเสธ อ๋องผีเล่าว่าภายในเขาตงลู่มีภูเขาผีอยู่ด้วยกัน 3 ลูก ชื่อว่า แก่ เจ็บ และตาย ภูเขาที่ปิดทางเข้าเขาตงลู่ในตอนแรกก็คือ 1 ในพวกมัน และที่อารามแห่งนี้ดูตั้งอยู่ในที่แปลกๆ ก็เป็นเพราะพวกมันเคลื่อนตัวมาขนาบนั่นเอง พอเซี่ยเหลียนถามว่าไม่มี เกิด อยู่ในกลุ่มด้วยหรือ ฮวาเฉิงก็บอกว่าไม่มี หรืออย่างน้อยเขาก็ไม่เคยเห็นมันมาก่อน

ภูเขาทั้ง 2 บีบเข้ามาเรื่อยๆ จนเหลือทางแคบแค่ความสูงของคนๆ เดียว ตอนนั้นจู่ๆ เผยหมิงก็แหกปากร้องลั่นแล้วเอามือเท้ายัน ใช้ตัวเองขัดกลางระหว่างเขาทั้งสองลูก ก่อนตะโกนบอกให้ทุกคนรีบคิดวิธีหนีระหว่างที่เขาถ่วงเวลาไว้ให้ การกระทำโคตรพระเอกทำให้ทุกคนตะลึง หลิงเหวินถึงกับยกนิ้วชมว่าแม่ทัพเผยช่างแมนอะไรเช่นนี้ แม้จะไร้พลังทิพย์แล้ว แต่เผยซู่ก็ส่งหลิงเหวินให้ปั้นเยวี่ยอุ้มต่อแล้วเข้าไปช่วยเผยหมิงยันภูเขา พอเห็นแบบนั้นราชครูสาวเลยทิ้งหลิงเหวินไว้บนพื้นแล้วเข้าไปช่วยอัดพลังใส่ร่างของเผยซู่ ไม่นานนักเซี่ยเหลียนก็ปิ๊งไอเดียขุดดินหนีลงไป เขากระหน่ำฟางซิ่นใส่พื้นไม่ยั้ง แล้วฮวาเฉิงที่มีท่าทีชิลๆ หมุนร่มเล่นอยู่ก็หันมาบอกให้เซี่ยเหลียนนั่งพักเฉยๆ รออีกหน่อยก็รอดกันแล้ว

เพียงครู่หนึ่งพลั่วของเทพแห่งดินก็โผล่พ้นพื้นขึ้นมาพร้อมกับอุโมงค์ใหญ่พอให้คนลงไป ด้วยเหตุนี้ทุกคนจึงรอดมาได้อย่างหวุดหวิด พอเซี่ยเหลียนเห็นชายชุดดำยืนถือพลั่วอยู่ก็คิดว่าว่าอีกฝ่ายคือธาราทมิฬล่มเรือ เขารีบเข้าไปถามหาซือชิงเสวียนจากอีกฝ่ายทันที พอหลิงเหวินถามว่าทำไมเขาถึงคิดว่าชายชุดดำคือเฮ่อเสวียน เซี่ยเหลียนก็อธิบายว่าเป็นเพราะคนๆ นี้มีพลั่วของเทพแห่งดิน อีกทั้งยังมีหน้าตาโคตรสามัญแบบที่ชาวประชานิยมใช้ปลอมตัว คำตอบนั้นทำเอาทุกคนแดกจุด ก่อนที่ชายคนนั้นจะเอ่ยขอโทษ บอกว่านี่เป็นใบหน้าของตนจริงๆ พอฮวาเฉิงช่วยยืนยันว่าอีกฝ่ายไม่ใช่เฮ่อเสวียน และนั่นคือใบหน้าจริง เซี่ยเหลียนก็หน้าแตกหมอไม่รับเย็บรีบกล่าวขอโทษชายชุดดำทันที จากนั้นหลิงเหวินก็เอ่ยทักทายชายชุดดำพร้อมเรียกเขาว่าอวิ๋นอวี้

พอได้ยินชื่อนั้น เซี่ยเหลียนเลยนึกได้ว่าเสียงอีกฝ่ายฟังดูคุ้นๆ พอมองที่ข้อมือก็เห็นคำสาปพันธนาการบนนั้น ที่แท้คนตรงหน้าก็คือผู้ตรวจการเมืองผีคนนั้นนั่นเอง อวิ๋นอวี้เอ่ยทักทายทุกคนอย่างมีมรรยาท กแต่แล้วหรงกวงในไหก็ปากเสีย ถามว่าเขาคืออวิ๋นอวี้ อดีตเทพสงครามแห่งทิศตะวันตกที่พ่ายแพ้ให้ศิษย์น้องของตัวเอง แล้วถูกเนรเทศหรือเปล่า ไม่คิดเลยว่าจะตกต่ำมาเป็นเสมียนผีอย่างนี้ ถึงเผยซู่จะรีบปิดผนึกไหแน่นหนาขึ้นเพื่อไม่ให้ผีกระบี่พูดจาเสียมรรยาทอีก แต่บรรยากาศก็เสียไปแล้ว สักพักอวิ๋นอวี้จึงเอาพลั่วไปขุดทางต่อโดยไม่พูดอะไร

ระหว่างทางเผยหมิงก็ถามฮวาเฉิงว่าในเมื่ออีกฝ่ายมีพลั่วของเทพแห่งดิน ก็แสดงว่ายังติดต่อกับธาราทมิฬล่มเรืออยู่ใช่ไหม หากอีกฝ่ายยังไม่ฆ่าซือชิงเสวียนก็ช่วยบอกให้ปล่อยตัวมาหน่อย แต่อ๋องผีก็บอกว่าตนไม่รู้เรื่อง พอไม่ต้องปลอมเป็นหมิงอี้อีก เฮ่อเสวียนก็เอาพลั่วมาโยนทิ้งไว้ที่เมืองผี เขาจึงมีมันอยู่ในมือ ตอนจะเข้ามาในเขาตงลู่ก็คิดได้ว่ามันน่าจะมีประโยชน์เวลาต้องเจอภูเขาผีพวกนั้นเลยให้คนช่วยเอามันมาให้ พอเซี่ยเหลียนถามว่าภูเขาผีพวกนั้นคืออะไรกันแน่ ทำไมถึงต้องโจมตีพวกตน อ๋องผีก็บอกว่าตนไม่รู้ แต่พวกมันอยู่ที่นี่มานานมากแล้ว ปรกติพวกมันจะคอยขวางทางพยายามไม่ให้ใครเข้ามาในเขาตงลู่ได้ หากไม่สำเร็จก็จะเริ่มโจมตีใส่ คำตอบนั้นทำให้เซี่ยเหลียนอดแปลกใจไม่ได้ เพราะดูเหมือนพวกมันจะมีจุดประสงค์ไม่ต่างจากพวกเขาเลย

Note : อวิ๋นอวี้ เข้าร่วมปาร์ตี้ เผื่อจำกันไม่ได้ อวิ๋นอวี้คือศิษย์พี่ของเฉวียนอี้เจินที่พาศิษย์น้องขึ้นสวรรค์มาด้วยในตอนแรก คอยปกป้องช่วยเหลือมาตลอด แต่ต่อมาเฉวียนอี้เจินดันเริ่มเก่งกว่าจนผู้คนไม่ศรัทธาอวิ๋นอวี้อีก แล้วอวิ๋นอวี้ก็เอาเสื้อคลุมอมตะให้ศิษย์น้องจนถูกเนรเทศมา

Note 2 : ตอนเผยหมิงเอาตัวยันภูเขา ตอนกูอ่านครั้งแรกกรีดร้องมาก คนอะไรวะโคตรหล่อ หล่อเว้ยยย หล่อฉิบหาย หล่ออะไรอย่างนี้ กูนี่ยกนิ้วให้แบบหลิงเหวินเลย
.
.
.
.
.

90 Nameless Fanboi Posted ID:k2m3tXeSP7

>>89 ขอบคุณมึงโม่งสปอยล์ กุมานั่งรีเฟรชโม่งทุกวันรอมึงเลย 5555

ขอถามหน่อยว่าเค้าได้บอกมั้ยอ่ะว่าอวิ๋นอวี้เอาเสื้อคลุุมมาจากไหน

91 Nameless Fanboi Posted ID:vmaohHvVME

>>90 ไปจับมาได้น่ะ

92 Nameless Fanboi Posted ID:e4IhXusoTU

>>89 โอ๊ย แม่ทัพเผยโคตรหล่ออ่ะ กรี๊ดกร๊าดดดด แต่ถ้าหน้าตาและนิสัยเดียวกัน กูเลือกเผยน้อยนะ แม่ทัพเผยเจ้าชู้ไป ศรีรับไม่ด๊ายยยยย ช่วงนี้โม่งปสอลย์มาทุกวัน ขอบคุณมาก ทำให้เรามีอะไรให้รอคอย

93 Nameless Fanboi Posted ID:JiRRTm2Fkj

>>89 กรี๊ดด ขอบคุณโม่งสปอยมั้กๆ ยิ่งอ่านยิ่งรักแม่ทัพเผย 555555 เอ็นดูวได้ทุกตอนจริงๆ พี่แกเท่จริงๆแถมฮาด้วย จะบูชาท่านตลอดปัยยย

94 Nameless Fanboi Posted ID:ZO0WTMw2O1

สปอยเทียนกวานอาร์ค 3 ต่อจาก >>89 เทียนกวาน Part.123
.
.
.
.
.
เซี่ยเหลียนเปรยว่าขอให้เทพแห่งฝนกับเฉวียนอี้เจินไม่เป็นอะไร พอได้ยินชื่อศิษย์น้องอวิ๋นอวี้ก็ชะงักไปนิดหนึ่ง หลิงเหวินเลยถามอีกฝ่ายว่าได้เจอกับเฉวียนอี้เจินหรือยัง เพราะหลายปีที่ผ่านมาเฉวียนอี้เจินมาขอให้เธอช่วยตามหาเขามาตลอด แต่พอเห็นอวิ๋นอวี้เหมือนไม่อยากพูดเรื่องนี้ เธอก็ไม่ได้คาดคั้นต่อ พอขุดดินไปได้ไกลพอสมควร พวกเขาก็ตัดสินใจกลับขึ้นไปด้านบนดู ระหว่างปืนขึ้นไปก็เจอกับโครงกระดูก เผยหมิงวิจารณ์อย่างคนขี้หม้อไม่ได้ว่ากระดูกในมือของเขาจะต้องเป็นของสาวงามขาเรียวสวยแน่เลย แต่ฮวาเฉิงก็ขัดบอกว่านั่นมันกระดูกผู้ชาย แถมยังเสริมว่าคงมีพิษด้วย แม่ทัพเผยเลยโยนกระดูกในมือทิ้ง ด้วยความเป็นเทพทำให้ไม่ได้รับผลจากพิษเท่าใด แต่ครู่หนึ่งก็เปลี่ยนใจฉีกผ้าไปหยิบกระดูกชิ้นนั้นกลับมาใช้ต่างอาวุธ ด้วยสกิล Luck E ของเซี่ยเหลียนทำให้ถึงเขาจะจับกระดูกเหมือนกัน แต่เพราะเคยผ่านมาเยอะแล้วเลยมีภูมิต้านทานจนไม่เป็นอะไร ทว่าฮวาเฉิงกลับมีท่าทีอารมณ์ไม่ดีกับเรื่องนั้นขึ้นมา

พอออกมาจากใต้ดินพวกเขาก็พบว่าทุกอย่างมืดสนิท เมื่อฮวาเฉิงใช้ผีเสื้อส่องแสงก็พบว่าที่นี่อาจเป็นถ้ำ แต่หลังจากเดินวนกันเป็นชั่วโมงก็หาทางออกไปไม่ได้ ตอนนั้นเซี่ยเหลียนกับฮวาเฉิงที่เดินนำหน้าก็หันมาพบว่าคนที่เหลือหายไปหมดทั้งๆ ที่เพิ่งคุยกัน ทั้งสองรีบชิดกันเพื่อระวังภัยทันที เดินกันต่อสักพักจู่ๆ ก็มีกำแพงหินมากั้นทางไว้ แล้วฮวาเฉิงก็ขอมือเซี่ยเหลียน ก่อนใช้เชือกสีแดงบนนิ้วของตัวเองผูกกับนิ้วของเซี่ยเหลียนเพื่อเชื่อมต่อกัน เซี่ยเหลียนหน้าแดง แต่ก็รีบเปลี่ยนไปถามว่ามันคือคาถาอะไร ฮวาเฉิงอธิบายว่าเชือกนี้ไม่มีวันขาดหรือสั้นลง ดังนั้นหากเชือกไม่ขาดก็บ่งบอกว่าคนที่อยู่อีกด้านไม่เป็นอะไร ถ้าไม่สูญสลายตายจากกันไปอย่างไรก็จะถูกนำพามาพบกัน

ยังไม่ทันซึ้ง พวกเซี่ยเหลียนก็ได้ยินเสียงเหมือนคนชกผนังถ้ำ ดูจากแรงแล้วน่าจะเป็นเทพสงคราม พอคิดว่าเผยหมิงหายไปด้านหลัง ทว่าเสียงนั้นกลับมาจากข้างหน้า ทั้งสองเลยระวังตัวมากขึ้นจนกระทั่งเสียงนั้นเงียบไป พวกเขาเจองูหางแมงป่องของปั้นเยวี่ยหัวปักอยู่กับผนังหางสะบัดไปมา ไม่นานนักทั้งสองก็ได้ยินเสียงลมหายใจเลยมองตามเสียงไปจนเห็นร่างครึ่งบนของมนุษย์โผล่ออกมาจากผนังถ้ำ แต่เมื่อเซี่ยเหลียนหันไปหาฮวาเฉิงก็พบว่าอีกฝ่ายหายไปแล้ว เชือกบนนิ้วที่ยังอยู่ดีทำให้เขาหายตระหนกนิดหน่อย พอพบว่าปลายเชือกฝังอยู่ในผนังหิน เขารีบหยิบฟางซิ่นหมายเจาะผนังถ้ำ ทันใดนั้นผนังหินก็คล้ายอ้าปากกลืนเขาเข้าไปด้านใน ตอนแรกเซี่ยเหลียนจะพยายามชกหินหนีออกมา แต่พอคิดว่าอ๋องผีติดอยู่ในนี้เลยพยายามแหวกทางตามเชือกเข้าไปด้านในต่อ ในที่สุดเขาก็เจอมือข้างหนึ่ง พอได้ยินเสียงของฮวาเฉิง ทั้งสองก็ดึงแขนอีกฝ่ายเข้ามากอดกันแน่น ต่างบอกว่าในที่สุดก็หาอีกฝ่ายเจอ

เมื่อคุยกันถึงได้รู้ว่าตอนแรกแค่มีกำแพงหินมากั้นทั้งสองไว้ พอต่างคนเห็นเชือกอีกฝั่งหายไปในผนังก็พยายามค้นหาอีกฝ่าย เซี่ยเหลียนเอ่ยว่าโชคดีจริงๆ ที่พวกตนมีด้ายแดงผูกกันไว้อยู่ แล้วก็คิดได้ว่าพวกตนแจคพอตขุดดินขึ้นมาในท้องของภูเขาผีพอดี พวกแม่ทัพเผยก็คงถูกดูดเข้าไปในผนังเป็นแน่ ตอนนั้นดินทรายรอบๆ ก็บดพวกเขาราวกับกำลังพยายามย่อย ถึงฮวาเฉิงปล่อยมุกว่าเราคงถูกฝังร่างตายเคียงข้างกัน เซี่ยเหลียนก็ยิ้มออกมา พอคิดถึงร่างครึ่งหนึ่งบนผนังที่พวกเขาเห็นก่อนหน้าอีกรอบ เซี่ยเหลียนก็นึกได้ว่านั่นน่าจะเป็นเฉวียนอี้เจิน อ๋องผีบอกให้เซี่ยเหลียนใจเย็น เนื่องจากอีกฝ่ายแค่สลบเท่านั้น เขารู้ได้เพราะผีเสื้อที่ปล่อยไว้ด้านนอกส่งภาพที่พวกมันเห็นผ่านตาขวาของเขา พอเขาเอาหน้าผากแตะกับเซี่ยเหลียน เซี่ยเหลียนก็เห็นภาพพวกนั้นด้วย ผีเสื้อที่ซึ่งหลบอยู่ที่ผมของเฉวียนอี้เจินฉายภาพเงาของใครบางคนกำลังเดินเข้ามาใกล้ เป็นอวิ๋นอวี้นั่นเอง

ด้วยควาที่อวิ๋นอวี้มีพลั่วของเทพแห่งดินอยู่ พอถูกถ้ำกลืนเลยหลุดออกมาได้ง่ายๆ เมื่อเฉวียนอี้เจินทำท่าเหมือนจะได้สติ อวิ๋นอวี้ก็รีบเอาหน้ากากผีของตนมาใส่ พอฟื้นขึ้นมาเทพหนุ่มก็พยายามใช้มือข้างที่ไม่ได้ถูกกลืนไปด้วยชกผนังถ้ำแต่ก็ไม่เป็นผลแถมยังถูกดูดเข้าไปเรื่อยๆ จนเหลือแค่หัวโผล่พ้นออกมา ตอนนั้นเองเขาถึงสังเกตเห็นคนถือพลั่วเลยขอให้ช่วยขุดช่วยตนออกไปโดยไม่ถามสักนิดว่าอีกฝ่ายเป็นใคร เมื่อเซี่ยเหลียนสังเกตว่าอวิ๋นอวี้กำพลั่วแน่นขึ้นก็อดกังวลไม่ได้ว่าอีกฝ่ายจะฆ่าเฉวียนอี้เจินเป็นศุกร์ 13 ฝันหวาน พอฮวาเฉิงยืนยันว่ามีโอกาสที่อวิ๋นอวี้จะทำอย่างนั้น เซี่ยเหลียนเลยถามอ๋องผีว่าทั้งสองมีความแค้นอะไรต่อกัน แต่ฮวาเฉิงบอกว่าการอยากฆ่าใครไม่จำเป็นต้องมีความแค้น แค่มีเรื่องเล็กๆ ก็เพียงพอ เรื่องเล็กๆ ที่บางทีเราก็ไม่ทันรู้ตัว
.
.
.
.
.

95 Nameless Fanboi Posted ID:74CZc4br0x

>>94 กินใจประโยคสุดท้าย เรื่องเล็กในสายตาเขา อาจเป็นเรื่องใหญ่ในสายตาเราได้
ขอบคุณสำหรับสปอยล์เช่นเคย
งานหนังสือนี้นิยายก็ยังไม่ออก สงสัยต้องลุ้นงานหนังสือปลายปี ฮือๆ

96 Nameless Fanboi Posted ID:ZO0WTMw2O1

>>95 ส่วนตัวกูว่ากรณีของอวิ๋นอวี้กับเฉวียนอี้เจิน มันเป็นเรื่องเล็กๆ ที่ค่อยๆ สะสมมาเรื่อยๆ ถ้าจับทุกเรื่องแยกกันมันก็อาจไม่เป็นอะไร แต่พอเอาทุกอย่างมารวมกันปุ๊บมันก็กลายเป็นโกโก้ครันช์อะ

>>92 แต่เผยซู่ไม่มีออร่าน่ารังแกเหมือนแม่ทัพเผยนะ 5555
>>93 เราจะบูชาแม่ทัพเผยไปด้วยกัน 5555

97 Nameless Fanboi Posted ID:74CZc4br0x

>>96 ไม่เป็นไร ได้เผยน้อยเป็นสามี เราก็ยังรังแกพ่อสามีได้นิ 555555

98 Nameless Fanboi Posted ID:BfD46okNKk

>>94 ขอบคุณเพื่อนโม่งสำหรับสปอย์เช่นเคย กุล่ะหมั่นไส้ฟาฟา หาเรื่องผูกด้ายแดงแบบโคตรเนียน

พูดถึงหนังสือ ที่ไทยมีตั้ง8เล่ม กุว่าเล่ม3ได้แยกเป็น3เล่มแน่เลยว่ะ แม่งโคตรหนา ไม่รู้เมื่อไรแม่โม่จะรีไรท์เสร็จ รอต่อยาวๆๆ

99 Nameless Fanboi Posted ID:vPhLuTgOIk

สปอยเทียนกวานอาร์ค 3 ต่อจาก >>94 เทียนกวาน Part.124
.
.
.
.
.
ฮวาเฉิงบอกว่าการที่เขาจะรับใครมาเป็นลูกน้องย่อมต้องสืบประวัติมาดีแล้ว ว่าเสร็จเขาก็ใช้พลังตาขวาฉายภาพอดีตของอวิ๋นอวี้ให้เซี่ยเหลียนดูด้วย อวิ๋นอวี้ในวัยแรกรุ่นเป็นศิษย์ของสำนักฝึกตนแห่งหนึ่ง ส่วนเฉวียนอี้เจินเป็นเด็กข้างถนนไร้ญาติขาดมิตรที่รักการต่อยตีจึงมาก่อกวนพวกศิษย์ในสำนัก แต่แม้พวกศิษย์จะสหบาทาสั่งสอนอย่างไรก็ไม่ยอมสำนึก จนอวิ๋นอวี้ต้องเข้าไปช่วยห้าม ทว่าถึงจะถูกช่วยไว้ เด็กชายก็ยังเข้าไปหาเรื่องท้าตีกับอวิ๋นอวี้ต่อ บอกว่าตนรักการต่อสู้มาก ด้วยความใจดีอวิ๋นอวี้เลยพาเฉวียนอี้เจินเข้าสำนักเพื่อเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้ให้เป็นเรื่องเป็นราว

ในเวลาปัจจุบัน จู่ๆ อวิ๋นอวี้ก็เอาพลั่วปักผนังถ้ำห่างจากคอเฉวียนอี้เจินไปเพียงนิดเดียว ทำให้เทพหนุ่มงุนงง ถามว่าอีกฝ่ายต้องการฆ่าเขาหรือ “ข้าทำอะไรผิดหรือ”

ฮวาเฉิงเรียกให้เซี่ยเหลียนดูอดีตของทั้งสองต่อ ในสำนักฝึกตน ศิษย์คนอื่นต่างพากันมาฟ้องอวิ๋นอวี้ถึงพฤติกรรมของเฉวียนอี้เจิน ทั้งกินเยอะจนคนอื่นได้กินไม่อิ่ม ท้าต่อยตีตั้งแต่ตื่นนอน ไม่ยอมให้ความร่วมมือในการฝึก ไม่ยอมโตเป็นผู้ใหญ่ ไม่มีวันใดที่ไม่ก่อเรื่อง แถมด้วยความสามารถ ทำให้พวกอาจารย์พากันสปอยยกแต่ของดีๆ ให้ อวิ๋นอวี้พยายามให้ทุกคนใจเย็นบอกว่าเดี๋ยวจะหาวิธีจัดการให้ ถึงอย่างไรเฉวียนอี้เจินก็ฝึกตนอย่างหนัก หากคิดว่าอาจารย์ลำเอียงก็จงฝึกให้หนักกว่า ได้ยินอย่างนั้นเจียนอี้ เพื่อนสนิทของเขาก็เตือนไว้วันนี้อวิ๋นอวี้ปกป้องเฉวียนอี้เจิน แต่ในอนาคตระวังจะถูกอีกฝ่ายแทงข้างหลัง พอทุกคนออกไปหมดแล้ว เฉวียนอี้เจินก็เข้ามาทางหน้าต่างห้อง อีกฝ่ายถามกับเขา “ศิษย์พี่ ข้าน่ารำคาญหรือ” ด้วยความไม่อยากให้ศิษย์น้องเสียความรู้สึก ทั้งรู้ดีว่าที่ทุกคนจับผิดอีกฝ่ายในทุกๆ เรื่องเป็นเพราะอิจฉา อวิ๋นอวี้จึงบอกว่าอย่าได้ใส่ใจคำพูดของศิษย์คนอื่น

เมื่อได้ขึ้นสวรรค์ อวิ๋นอวี้ก็พาเจียนอี้กับเฉวียนอี้เจินติดตามมาด้วย ในงานเลี้ยงเปิดตำหนัก ฮวาเฉิงก็ชี้ให้ดูว่าในช่วงนี้ธาราทมิฬล่มเรือก็ได้แอบแฝงตัวมาเป็นลูกน้องในตำหนักของพวกเทพแล้ว ทว่าระหว่างบรรยากาศมงคล จู่ๆ ก็มีเทพเข้ามาโวยวายว่าเฉวียนอี้เจินไปก่อเรื่องชกต่อยเทพชั้นสูง พอถูกยั่วยุมากเข้าเฉวียนอี้เจินก็พุ่งไปชกต่อยคนอื่นอีกจนงานเละ ตกเย็นเจียนอี้จึงด่าศิษย์น้องไม่ยั้ง ในขณะที่อวิ๋นอวี้ยังใจเย็นบอกว่าเป็นฝ่ายนั้นที่มาหาเรื่องก่อน เจียนอี้ก็ยังโมโหบอกว่าอีกฝ่ายทำชื่อเสียงของตำหนักอวิ๋นอวี้เน่าตั้งแต่วันแรก ตอนนี้พวกตนไม่ใช่มนุษย์แล้ว ทำไมถึงไม่ยอมอดทนเพื่อไม่ให้เกิดเรื่องในวันสำคัญแบบนี้

พอเจียนอี้จากไปเฉวียนอี้เจินก็เข้ามาหาอวิ๋นอี้ทางหน้าต่างอีก อ้างว่าฝ่ายนั้นมาดูถูกตนก่อน ตนบอกให้หยุดก็ไม่ยอมจนต้องต่อยในเงียบ เขาบอกศิษย์พี่ว่าไม่ชอบสวรรค์ซึ่งมีแต่ต้องทำงานพิธีรีตองจนไม่ได้ฝึก มีคนดูถูกก็สู้กลับไม่ได้ พออวิ๋นอวี้บอกว่าตนก็ไม่ชอบเช่นกัน เขาก็ชวนศิษย์พี่กลับภพมนุษย์ ทว่าอวิ๋นอวี้กลับเอ่ยว่าถึงอย่างไรเขาต้องการอยู่ที่นี่เพราะกว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ช่างยากลำบาก และการได้เป็นเทพเป็นความฝันของเขา กระนั้นศิษย์น้องของเขากลับเหยียด บอกว่าการได้ขึ้นสวรรค์มันดีตรงไหน ใครจะไปสนว่าใครจะได้ขึ้นสวรรค์ ในเวลานั้นอวิ๋นอวี้ยังไม่นึกโกรธสิ่งที่อีกฝ่ายพูด แต่เมื่อเฉวียนอี้เจินขึ้นสวรรค์ด้วยตัวเอง ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป

ในงานเลี้ยงฤดูใบไม้ร่วง อวิ๋นอวี้นั่งข้างๆ หมิงอี้ซึ่งตอนนั้นถูกเฮ่อเสวียนสวมรอยแล้วเรียบร้อย ไม่นานนักก็มีเทพเข้ามาทักทาย แต่ฝ่ายนั้นกลับนึกว่าเขาคือเฉวียนอี้เจินที่ตอนนี้ชื่อเสียงโด่งดังจนผู้ศรัทธามากขึ้นเรื่อยๆ ถึงกับติด 1 ใน 10 กิจกรรมขิงโคม พอรู้ว่าทักผิดก็รีบขอโทษ แต่ก็ยังเรียกชื่ออวิ๋นอวี้ผิดๆ ถูกๆ ก่อนที่เขาจะรีบเข้าไปทักทายเฉวียนอี้เจินซึ่งเพิ่งมาถึงงานแต่กลับมีเทพองค์อื่นรุมล้อมมากมาย ตอนที่อวิ๋นอวี้จะกลับตำหนักเพราะรู้สึกเจ็บลึกๆ ซือชิงเสวียนก็เข้ามาชวนคุย แต่พออวิ๋นอวี้บอกว่ารู้สึกไม่สบาย อีกทั้งเทพแห่งลมยังหันไปเห็นหมิงอี้มุ่งมั่นแดรกพอดี อีกฝ่ายเลยเบนความสนใจไปทางนั้นแทน เจียนอี้ยังคงหงุดหงิดด่าเทพพวกนั้นที่แต่ก่อนมีเรื่องชกต่อยกับเฉวียนอี้เจินจนอวิ๋นอวี้ต้องคอยตามเช็ดเรื่องให้ แต่มาตอนนี้กลับเลียเอาอกเอาใจ ทั้งยังด่าเฉวียนอี้เจินที่ขโมยผู้ศรัทธาของอวิ๋นอวี้ไป อวิ๋นอวี้บอกว่าศิษย์น้องไม่ได้ทำความผิดอะไร เป็นเพราะเขาจัดการปีศาจหมาป่าไม่ได้ ผู้คนจึงหันไปศรัทธาเฉวียนอี้เจินซึ่งจัดการมันได้แทน ทว่าไม่นานพวกเขาก็พบว่าเฉวียนอี้เจินตามมาที่ตำหนัก วันนี้เป็นวันเกิดของเฉวียนอี้เจิน ด้วยความที่ทุกปีที่ผ่านมาศิษย์พี่มอบของขวัญให้เขาตลอด ในปีนี้จึงตามมาทวงอย่างไม่ได้เข้าใจเลยว่าที่อีกฝ่ายไม่มอบของให้อีกย่อมหมายความว่าต้องหารห่างด้วยแล้ว
.
.
.
.
.

100 Nameless Fanboi Posted ID:zmT2wDk9ae

>>99 สงสารอวิ๋นอวี้เลยอ่ะ สองคนนี้ให้ความรู้สึกแบบเหมือนพี่น้องกันจริงๆอ่ะ พี่ย่อมให้น้องเสมอ น้องก็จะเอาแต่ใจหน่อยๆ แต่พอมันสะสมไปเรื่อยๆก็ตูมม ระเบิดเป็นโกโก้ครั้น ก็นะตอนแรกบอกไม่เห็นจะดีตรงไหนที่เป็นเทพ แต่พอขึ้นมาเองแล้วแซงหน้าอีกคนมันก็เหมือนหยามกันอ่ะ..

ปล.ฮวาเฉิงนี่คัดคนดีจริมๆ แต่ละคนคือเคยมี ปัญหากับสวรรค์ทุกคน อารมณ์แบบป๋ารู้ป๋าเข้าใจ มามะ มาร่วมมือกับป๋า 55555 //หยอกๆๆ

101 Nameless Fanboi Posted ID:tSYw7mUH8O

อยากกินข้าวหลามจัง

102 Nameless Fanboi Posted ID:vSRGhzVhDz

>>99 เฉวียนอี้เจินนี่ออกแนวทำอะไรตามใจตัวเอง มีคนอุปถัมภ์ก็ไม่รู้จักสำนึกบุญคุญ ถ้าศิษย์พี่เดือดร้อนเพราะเรามารอบสองรอบแล้ว คนทั่วไปก็จะน่าจะสำนึกตัวเองได้แล้วนะว่าก่อความเดือดร้อนให้เขา ถ้าไม่ตอบแทนก็ควรอยู่เฉยๆ ซะ

103 Nameless Fanboi Posted ID:jdP0+BjBSo

>>100 เรื่องฮวาเฉิงพอพูดมาก็ใช่แหะ 5555 แต่นี่แอบคิดว่าความสามารถของนางค่อนข้างแมรี่ ซู ไปหน่อยแฮะ ทำนู้นนี่ได้หมด

>>102 ปัญหาคือเฉวียนอี้เจินไม่รู้ว่าตัวเองทำผิดนี่สิ เหมือนที่นางชอบถามบ่อยๆ ว่าศิษย์พี่ ข้าทำผิดอะไรหรือ (ตอนสปอย กูเลยเน้นคำพูดของนาง เพราะถ้ากูเป็นอวิ๋นอวี้ ทุกครั้งที่ถูกถามคำถามนี้กูคงจี๊ดมาก) คือนางความคิดเด็กมาก คิดอะไรก็ทำ รู้สึกยังไงก็แสดงออก ซื่อๆ ตรงๆ ไม่คิดรอบด้าน โตแค่ตัว นิสัยเหมือนเด็กเล็กๆ นี่ก็ไม่รู้ว่าตัวเองทำศิษย์พี่เดือดร้อน ไม่สังเกตสีหน้าบรรยากาศของคนอื่น แถมเวลามีคนว่าก็ไม่คิดเรียนรู้ด้วย ที่มีเรื่องต่อยตีกับเทพองค์อื่นก็ไม่ใช่ครั้งเดียว อวิ๋นอวี้ต้องไปคอยจัดการให้ตลอด ชอบพูดทำร้ายจิตใจโดยไม่คิด ทั้งๆ ที่จริงๆ นางเคารพรักอวิ๋นอวี้มากนะ

104 Nameless Fanboi Posted ID:qrWWNNlJXA

>>103 ฮวาเฉิงนี่ซูจริงอ่ะ ทุกปัญหาของเตี้ยนเซี่ยแก้ได้ด้วยพลังของฮวาเฉิงหมดเลย(กูอ่านไปถึงหลังๆละ) ยืมพลังได้ไม่มีวันหมด แถมรู้มาก รู้เกือบทุกอย่างบนโลกด้วย 55555 เหมือนนอกจากคัดลายมือแล้วแม่งสามารถทำได้ทุกอย่างบนโลกนี้แล้วอ่ะ

ส่วนอี้เจิน กุรำคาญยิ่งกว่าฉีหรงอีก ฉีหรงยังสร้างสีสันให้เรื่องได้ แต่พาร์ทอี้เจินอ่านแล้วเหมือนที่เซี่ยเหลียนคิดเลยอ่ะว่าawkwardจนทนดูไม่ได้แล้ว

105 Nameless Fanboi Posted ID:jdP0+BjBSo

>>104 ใช่เลย ตัวละครในเรื่องเทียนกวาน มี 2 คนที่กูคิดว่าแมรี่ ซู คือฮวาเฉิงกับเทพแห่งฝน รายหลังบทน้อยแต่ดูแม่โม่อวยมาก ท่าทางจะชอบตัวละครแนวนี้ เพราะเรื่อง ปรมจ เป้าซานส่านเหริน อาจารย์ของแม่เว่ยอิงกับเสี่ยวซิงเฉินที่ถึงแค่กล่าวถึงแต่กูก็รู้สึกว่าให้อารมณ์คล้ายกัน ส่วนอี้เจิน มองในแง่ดีอย่างน้อยตอนหลังก็มีแนวโน้มว่าจะยอมปรับปรุงตัวนะ

106 Nameless Fanboi Posted ID:qrWWNNlJXA

>>105 เทพฝนก็ซูจริง ขนาดxxxยังไม่ค่อยกล้าแตะ แต่เหตุผลที่ว่าทำไมซูกูพอรับได้อ่ะ พอเป็นเหตุเป็นผลอยู่ แถมนางบทน้อยก็เลยเฉยๆ แต่ฮวาเฉิงคือพอตั้งแต่อัพเลเวลเป็นเจวี๋ยแล้วซูจัดขนาดนี้มันทำให้ปัญหาทุกอย่างในเรื่องไม่หนักหนาแบบที่คิดอ่ะ ถ้าเป็นปัญหาเล็กๆอย่างในหลุมเมืองงูมินิบอสตัวเล็กๆมันก็ได้อยู่ ยังไงผีปกติมันก็ห่างกับเจวี๋ยลิบๆ แต่พอเป็นปัญหาอย่างไคลแม็กซ์ท้ายๆเรื่องยังได้ฮวาเฉิงมาช่วยมันก็แอบง่ายไปหน่อยอ่ะ

หรือกูมานั่งคิดเกี่ยวกับสเกลพลังของพวกเจวี๋ยเทียบกับเทพสวรรค์ธรรมดา เทพที่แค่บำเพ็ยจนถึงจุดนึงหรือบรรลุเงื่อนไขบางอย่างก็ได้ขึ้นสวรรค์แล้วมันเลยเกร่อๆ เทพชั้นกลางชั้นบนเต็มไปหมด แถมพลังก็ขึ้นๆลงๆแล้วแต่คนศรัทธา แต่ถ้าจะเป็นเจวี๋ยต้องเข้าไปอัพเลเวลในตงลู่ ตีกับผีด้วยกันเป็นหมื่นๆแสนๆตัว แถมต้องเจาะเตาหลอมออกมาอีก มันเลยทำให้เจวี๋ยเก่งกว่าพวกเทพแบบชิบหายรึเปล่าวะ? พอเทียบๆกันแล้วพวกเจวี๋ยน่าจะเก่งกว่าเทพชั้นบนๆอย่างแม่ทัพเผยอะไรงี้รึเปล่าวะ ยิ่งฮวาเฉิงเป็นผีที่มีมนุษย์กราบไว้ด้วย หรือฮวาเฉิงมันจะเก่งเป็นรองแค่จวิ๋นอู๋??? ไม่งั้นมันก็อธิบายความซูจัดขนาดนี้ไม่ได้อ่ะ

107 Nameless Fanboi Posted ID:jdP0+BjBSo

>>106 ฮวาเฉิงเทียบกับจวินอู๋แล้วก็ไม่น่าด้อยกว่าอะ นี่ยังไม่เห็นว่าเฮ่อเสวียนถ้าบู๊กับพวกเทพสงครามแล้วจะเป็นยังไง เพราะพลังพี่แกดูเน้นไปทางปลอมตัวมากกว่า กับซืออู๋ตู้นั่นก็ไม่ใช้เทพสายบู๊ หมิงอี้ที่ไปจับตัวเขามาสวมรอย รายนั้นก็บอกว่าความสามารถแค่กลางๆ เลยกะพลังไม่ได้ว่าการเป็นเจวี๋ยคือเงื่อนไขที่ทำให้ซูหรือเปล่า ถ้าเปลี่ยนเป็นว่าฮวาเฉิงไม่ได้ใช้พลังผีเสื้อ แต่ไปได้ไอเทมเทพมาใช้ยังพอลดความซูได้หน่อย ที่จริงควรลดสเกลพลังมาให้พอๆ กับเทพสงครามสักคน เอาแค่เผยหมิงก็ได้ ยังไงรายนั้นก็ฝีมือรองแค่จวินอู๋กับเซี่ยเหลียน (ตอนท๊อปฟอร์ม) แล้วก็ไม่ต้องมีความสามารถครอบจักรวาลขนาดนี้ก็น่าจะดีขึ้นมาก

108 Nameless Fanboi Posted ID:bNe/upw8Cv

>>107 ถ้าฮวาเฉิงเทียบจวินอู๋ได้นี่โคตรโกงอ่ะ 5555 อาจจะได้จริงๆก็ได้ แต่นี่ว่าบทยังปูมาไม่น่าเชื่อขนาดนั้นอ่ะ อย่างจวินอู่คือเทพสงครามที่เก่งสุด อยูานานสุด คนเคารพมากสุด ฯลฯ แถมแบร็คกราวของจวินอู๋ก็อีปิคดีด้วย แต่ฮวาเฉิงรวมๆแล้วเป็นแค่เจวี๋ย+เจ้าเมืองผีแค่นั้น แถมเดิมก็เป็นแค่เด็กคนนึงที่มีชะตาตรงกับดาวอะไรซักอย่างเฉยๆ เออ พูดแล้วก็นึกขึ้นได้ หรือเพราะฮวาเฉิงมันมีชะตาตรงกับดาวนั่นด้วยวะมันเลยซูได้ แต่พลังรอบจักรวาลจริง มันไปได้ทุกสายด้วยไม่ใช่แค่เรื่องสู้ พอจะบอกว่าเด็กธรรมดาคนนึงที่โดยบุลลี่อัพเลเวลมาได้ขนาดเทียบกับจวินอู๋ยังไงก็ขัดใจอ่ะ 55555 แต่ถ้าจะให้ลดเสกลพลังฮวาเฉิงบางทีก็ไม่รู้จะแก้ปัญหาไคลแม็กอันท้ายๆยังไงอ่ะ เพราะบอสก็โกงจัดอีก บวกกับปกติเวลาเซี่ยเหลียนโดนผนึกพลังก็แอบกากด้วยอ่ะ

ส่วนเฮ่อเสวียน นี่ว่าเฮ่อเสวียนเน้นไปทางเขตแดนแข็งแกร่งไรงี้นะ รอบๆเกาะของเฮ่อเสวียนป้องกันหนาพวกกระดูกที่ว่ายรอบๆเกาะก็ดูopอยู่ แต่ฮวาเฉิงส่วนใหญ่คือlonewolf เน้นลุยเดี่ยวไม่เลี้ยงลูกมือ นี่คิดว่าถ้าฮวาเฉิงเดี่ยวกับเฮ่อเสวียนฮวาเฉิงน่าจะชนะ แต่ถ้าเริ่มตั้งแต่ฮวาเฉิงต้องบุกเข้าเกาะเลยอันนี้ก็ไม่แน่ (แต่เฮ่อเสวียนก็ยังใช้ฮวาเฉิงชนะอยู่ดีเพราะเดี๋ยวไม่มีคนให้ยืมตัง 5555555)

109 Nameless Fanboi Posted ID:jdP0+BjBSo

>>108 นั่นสิ ขัดใจอะ ยังไงฮวาเฉิงก็ไม่ควรความสามารถ OP แมรี่ ซู ขนาดนี้ นายจะไปสุดทุกสายไม่ได้ ส่วนดาวนั่น อจ เหม่ย บอกว่าถ้าไม่ดวงซวยสุด ก็จะเฮงสุด เพราะฉะนั้นถ้าจะมีค่าอะไร Max มันก็ควรเป็นค่า Luck แล้วใช้จุดนั้นสู้เอาอะ ส่วนตอนท้ายๆ ก็ใช้ไหวพริบ วางแผนพลิกแพลงสู้แบบเรื่อง HxH หรือ Jojo หรือไม่ก็ใช้พลังมิตรภาพ ตอนนั้นในตี้ก็อยู่กันหลายคน ช่วยๆ กันยำบอสก็ได้

เรื่องเฮ่อเสวียนจะว่าไปก็ใช่แฮะ เป็นแนวเหมือนกิลล์ไอนส์ อูว โกลว เรื่อง Overlord ที่เน้นป้องกันฐาน เพราะถ้าไม่เอาคำสาปล่มเรือออกนี่แทบถึงตัวไม่ได้เลย พวกผีที่ต้องใช้น้ำส่องถึงเห็นอีก ถ้าเดี่ยวกันจริง บนบก ฮวาเฉิงคงชนะ แต่ว่าถ้าเป็นในน้ำ เฮ่อเสวียนน่าจะได้เปรียบกว่า แต่ค่าข้าวกับค่าอาหารปลามันค้ำคออยู่จริง 55555

110 Nameless Fanboi Posted ID:qrWWNNlJXA

>>109 จะว่าไปแล้วอำนาจทางการเงินก็เป็นอีกหนึ่งความซูของฮวาเฉิง ตอนหลังจบเรื่องที่ฮวาเฉิงกล้าขึ้นๆลงๆสวรรค์แบบไม่เกรงใจใครก็เพราะนางจ่ายเงินช่วยบูรณะไปเยอะด้วยนี่นา ถึงฮวาเฉิงมันจะไม่เกรงใจแต่แรกอยู่แล้วก็เถอะ 555555555

111 Nameless Fanboi Posted ID:jdP0+BjBSo

สปอยเทียนกวานอาร์ค 3 ต่อจาก >>99 เทียนกวาน Part.125
.
.
.
.
.
พอถูกทวงของขวัญ อวิ๋นอวี้ก็ถึงกับไปไม่ถูก เขารีบกลับเข้าไปหลังตำหนักหาของที่พอใช้การได้ สั่งให้เจียนอี้ไปนำชุดเกราะที่เพิ่งได้มาใส่กล่องขณะที่ตัวเองมานั่งคุยกับเฉวียนอี้เจิน แสดงความยินดีที่มีผู้ศรัทธามากขึ้น แต่อีกฝ่ายกลับพูดอย่างไม่ใส่ใจว่าตนไม่สนใจผู้ศรัทธา ไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆ คนพวกนั้นก็เห่กันมาที่วัดของเขาหลังเขาฆ่าปีศาจได้ ทั้งยังพูดต่อโดยไม่ได้ดูสีหน้าศิษย์พี่ด้วยว่าตนได้ยินว่ามีคนทักอวิ๋นอวี้ผิดคน ตลกจริงๆ พอเจียนอี้เข้ามาส่งกล่องให้ อวิ๋นอวี้ก็รีบมอบมันให้เฉวียนอี้เจิน ไล่อ้อมๆ ให้อีกฝ่ายไปเปิดดูที่ตำหนักตัวเอง ขณะที่เจียนอี้ด่าไม่ยั้ง อวิ๋นอวี้กลับไม่เอ่ยอะไรออกมาสักคำ

3 วันต่อมา ระหว่างอวิ๋นอวี้ที่ค้นหาของในห้อง เขากลับพบว่าชุดเกราะยังอยู่ เมื่อสอบถามจึงเพิ่งทราบว่าเจียนอี้นำเสื้อคลุมอมตะใส่กล่องให้ด้วยความชิงชัง อวิ๋นอวี้กลัวว่าศิษย์น้องจะได้รับอันตรายจีงรีบไปหา แต่ก็ได้รู้ว่าอีกฝ่ายอยู่ที่หอมหายุทธ์ซึ่ง “เทพสงครามชั้นสูง” กำลังประชุมอยู่ เขาไปรอพบศิษย์น้องที่หอ เห็นหลิงเหวินยืนเหงื่อแตกคอยเหลือบมองเฉวียนอี้เจินที่ใส่ชุดเกราะซึ่งแท้จริงคือเสื้อคลุมอมตะจนทำงานผิดๆ ถูกๆ แต่ก็ไม่ได้นึกสงสัยอะไร

เมื่อเฉวียนอี้เจินออกมา อวิ๋นอวี้ก็รีบขอชุดคืนโดยอ้างว่าชุดมีจุดชำรุดจะนำไปซ่อมก่อน ด้วยความที่เขาขอไม่ได้ออกคำสั่ง เสื้อคลุมอมตะจึงไม่ได้ทำให้เฉวียนอี้เจินต้องทำตาม นอกจากไม่ยอมคืนแล้ว อีกฝ่ายยังชวนศิษย์พี่ไปลาดตระเวนด้วยกันในเดือนหน้า บอกว่าตนขอจวินอู๋ให้แล้ว คำพูดนั้นเหมือนหยามศักดิ์ศรีว่าไร้ความสามารถจนต้องให้คนอื่นช่วยพูด แถมคนๆ นั้นยังเป็น ศิษย์น้องที่ตอนแรกตัวเองพาขึ้นสวรรค์มา ฟางเส้นสุดท้ายของอวิ๋นอวี้ขาด เขาตะคอกด่าเฉวียนอี้เจินว่าตนไม่ได้ขอร้อง เฉวียนอี้เจินที่เพิ่งเคยเห็นศิษย์พี่โกรธเป็นครั้งแรกถึงกับชอค ก่อนพูดออกมาว่า “ศิษย์พี่ ท่านโกรธเรื่องอะไร ข้าทำอะไรผิดหรือ”

อวิ๋นอวี้ทึ้งผมตัวเองอย่างเหลืออด สั่งให้ศิษย์น้องกลับเข้าไปในหอประชุมแล้วอย่ามาสร้างปัญหาให้ตนอีก แต่พออีกฝ่ายทำตามอย่างว่าง่ายถึงเพิ่งนึกออกว่าเฉวียนอี้เจินใส่เสื้อคลุมอมตะอยู่ เมื่อจวินอู๋เห็นเฉวียนอี้เจินตาลอยเหมือนถูกคาถาก็เรียกให้เข้าไปหา อวิ๋นอวี้ที่ตระหนกอยู่จึงสั่งให้ศิษย์น้องหนี มหาเทพเลยบอกให้จับทั้งสองคนไว้แล้วเทพสงครามชั้นกลางก็ถูกเฉวียนอี้เจินชกร่างเละเสียชีวิตไป 10 กว่าคนเพราะขัดไม่ให้เขาทำตามคำสั่งของศิษย์พี่ อวิ๋นอวี้รีบสั่งไม่ให้ศิษย์น้องทำร้ายคนอื่น เขาถูกมู่ฉิงหักแขนจับตัวไว้ ส่วนเฉวียนอี้เจินวิ่งหนีไปทางตำหนักอวิ๋นอวี้ เทพสงครามช่วยกันรุมเฉวียนอี้เจินจนตำหนักของอวิ๋นอวี้พังพินาศ เมื่ออวิ๋นอวี้ร้องให้ทุกคนหยุดสู้ เฉวียนอี้เจินก็ทำตามทันทีจนถูกจับ ขณะที่อวิ๋นอวี้เข่าทรุดมองภาพเบื้องหน้า พอเฉวียนอี้เจินซึ่งบาดเจ็บหนักที่ได้สติเห็นศิษย์พี่นั่งกับพื้นก็จะไปช่วยพยุง อวิ๋นอวี้มองหน้าศิษย์น้องโดยมีฉากหลังเป็นภาพตำหนักของตัวเองที่ราบเป็นหน้ากลองสักพักใบหน้าของเขาก็เริ่มบิดเบี้ยว เฉวียนอี้เจินจึงถามคำถามเช่นทุกที “ศิษย์พี่ ท่านเป็นอะไรไป” แล้วอวิ๋นอวี้ก็หัวเราะพร้อมตาแดงก่ำ ตะโกนใส่หน้าอีกฝ่ายว่า “ไปตายซะ”

คำของของอวิ๋นอวี้ทำให้เฉวียนอี้เจินที่ใส่เสื้อคลุมอมตะอยู่รีบหยิบกระบี่มาหมายปาดคอตนเองทันที โชคดีที่จวินอู๋ซัดใส่สลบไปก่อนจึงรอดมาได้ ตอนแรกอวิ๋นอวี้พยายามบอกว่าตนไม่รู้เรื่อง แต่สุดท้ายก็เงียบไปเพราะสำนึกได้ว่าเมื่อครู่ตนเองเผลอกล่าวอะไรกับศิษย์น้องต่อหน้าทุกคน

อวิ๋นอวี้คู้ตัวกุมศีรษะ รอบตัวคือเสียงของทุกคนที่ต่อว่าถึงความชั่วช้าที่คิดฆ่าเจ้าหน้าที่สวรรค์ด้วยกัน เจียนอี้ที่เพิ่งมาถึงพอดีเดาเรื่องราวออกจึงรีบสารภาพว่าเป็นความผิดของตน แต่ด้วยคำพูด “ไปตายซะ” ที่อวิ๋นอวี้พูดไป คำของเขาจึงไร้น้ำหนัก พอได้ยินว่าอวิ๋นอวี้พูดคำนั้นกับเฉวียนอี้เจิน เจียนอี้เองก็ยังไม่อยากเชื่อเพราะเพื่อนของตนปกป้องศิษย์น้องมาตลอด ทุกคนนินทาอวิ๋นอวี้ว่าทำร้ายเฉวียนอี้เจินเพราะอิจฉาจิตใจคับแคบจนเจียนอี้ทนไม่ได้ พยายามตะโกนบอกว่าเรื่องนี้เป็นความผิดของตนแต่เพียงผู้เดียว แต่สุดท้ายอวิ๋นอวี้กลับเอ่ยให้เพื่อนหยุด บอกว่าเขาไม่อยากพูดเรื่องนี้อีก เจียนอี้ยิ่งร้องไห้ กล่าวว่าอวิ๋นอวี้พยายามอย่างหนักมาตลอด เก่งกว่าเฉวียนอี้เจินเป็นไหนๆ ทำไมเฉวียนอี้เจินถึงได้สถานะนั้น แต่อวิ๋นอวี้กลับตกอยู่ในสภาพนี้ ทำไมคนที่ถูกเนรเทศถึงไม่ใช่เฉวียนอี้เจินกัน แล้วอวิ๋นอวี้ก็ยกมือปิดหูสะอื้นไห้ “พอสักที อย่าพูดอะไรอีกเลย ได้โปรดให้ข้าไปเถอะ อย่าย้ำเรื่องพวกนั้นกับข้าอีก ไม่เอาแล้ว ได้โปรดเถอะ ข้าขอร้อง ทุกคนอย่าพูดอะไรอีกเลย”
.
.
.
.
.

112 Nameless Fanboi Posted ID:jdP0+BjBSo

>>110 ว่าแต่เงินของฮวาเฉิงมาจากไหนนะ การกราบไหว้ก็คงได้มาส่วนหนึ่ง แต่ก็คงไม่ทำให้รวยเป็นสกูซ แมคดั๊ก แบบนี้ เก็บค่าเช่าที่ในเมืองผี? ขูดรีดดอกจากเฮ่อเสวียน?

113 Nameless Fanboi Posted ID:qrWWNNlJXA

>>112 คิดดอกกับเฮ่อเสวียนนี่น่าจะหนี้เน่ามากกว่านะ55555555 เฮ่อเสวียนของกูเลยต้องทำงานใช้หนี้งกๆ ปล่อยฮวาเฉิงพังบ้านตัวเองตามใจอีกต่างหาก

นี่ว่าน่าจะรวยมาจากเป็นเจ้าเมืองนี่แหละ เก่งจนเป็นเจ้าเมืองได้ พอเป็นเจ้าเมืองก็คุมบ่อนพนัน (หรือจริงๆLuckSขนาดนี้อาจจะเล่นพนันจนได้เป็นเจ้าเมืองมั้ย 55555) เก็บส่วย ขูดรีดร้านแผงลอย ผีตัวเร้กตัวน้อยก็ไม่กล้าแหยม อห กูพูดซะฮวาเฉิงเป็นมาเฟียเลย

114 Nameless Fanboi Posted ID:jdP0+BjBSo

>>113 จู่ๆ กูก็นึกภาพฮวาเฉิงเป็นคิวเบย์ หาดาวน์ไลน์จนรวย 55555 สนใจมาเป็น สนวม ไหมจ้ะ แต่คิดตามมึงก็อาจจะเล่นพนันได้จนรวยเนอะ แล้วก็เก็บค่าดูแลในเมืองเป็นรายได้อีกทาง

115 Nameless Fanboi Posted ID:.m0YtOkFz/

>>111 โอยยยย ดราม่า น้ำตาไหล จะบอกว่าใครผิด ใครถูกก็ชี้ชัดไม่ได้ เพราะไม่มีเจตนาร้ายต่อกัน แต่ปัญหาและความไม่เข้าใจมันหนักขึ้นๆๆๆ รวมถึงคราวซวยได้ของวิเศษด้วย

116 Nameless Fanboi Posted ID:zmT2wDk9ae

>>111 สงสารอวิ๋นอวี๋อ่ะ อ่านไปแล้วทรมานแทน นี่สินะข้อเสียของคนที่หวังดีและตามใจคนอื่นเกินไป เป็นอะไรแล้วไม่บอกไม่พูด จนสุดท้ายก็ตูมเดียว และอีตูมนั่นเล่นซะไปต่อไม่ถูกเลยเพราะแม่งน้องมันเหี้ยจริงๆอ่ะ นี่เฉวียนอี้เจินนี่มึงจะซื่อเกินไปแล้วววว!!!แกเป็นน้องที่ไม่คิดเหี้ยไรเลยจริงๆ โคตรน่าโมโห แต่เหตุการณ์มันทำให้เข้าใจผิดอย่างมหันต์แล้วแหละนะ เหมือนชะตาเล่นตลกเลย

ขอบคุณโม่งสปอยมากๆ ช่วงนี้มาถี่มากชอบๆๆ

117 Nameless Fanboi Posted ID:eTI4I.y+Nf

>>116 สงสารอวิ๋นอวี๋จริง ถ้าเป็นกุกุก้คงระเบิดเหมือนกัน เฮ้ออออ
ช่วงนี้โควิดระบาดหนักมาก ได้โม่งสปอยนี่ล่ะมาคลายเครียด (หรือเครียดกว่าเดิมก็ไม่รู้ 55555555)

118 Nameless Fanboi Posted ID:jVmo63uTQj

สปอยเทียนกวานอาร์ค 3 ต่อจาก >>111 เทียนกวาน Part.126
.
.
.
.
.
พออวิ๋นอวี้เอาพลั่วฟาดหัวเฉวียนอี้เจินสลบ เซี่ยเหลียนก็แอบกลัวว่าจะเกิดฉากฆาตกรรม แต่พอได้ยินเสียงขุดผนังถ้ำเพื่อเอาศิษย์น้องออกมาก็โล่งอก เข้าใจว่าเป็นเพราะอีกฝ่ายไม่อยากให้เฉวียนอี้เจินรู้ว่าตัวเองเป็นใครเลยต้องทำเช่นนี้ แต่ตอนที่อ๋องผีกำลังจะระเบิดพลังเปิดทางออกจากกำแพงหิน เซี่ยเหลียนก็ยินเสียงใครบางคนพูดอยู่ด้านนอกผนังฝั่งตรงข้ามกับอวิ๋นอวี้ เสียงนั้นใกล้มากราวกับแนบกับผนัง แต่พวกเขากลับไม่ได้ยินเสียงของคนที่ชายคนนี้พูดด้วยเลย พอแหวกทางเข้าไปใกล้ถึงได้ยินว่า “องค์ชายรัชทายาทเสด็จมาแล้ว ข้าไม่อยากให้เรื่องมาถึงขั้นนี้ และข้าก็มั่นใจว่าพวกเจ้าเองก็คงคิดเหมือนกัน แต่พระองค์ก็ใกล้จะได้รับการช่วยเหลือแล้ว” เซี่ยเหลียนถึงกับงงว่าอีกฝ่ายกำลังพูดถึงตัวเองหรือ ทั้งเสียงนั้นก็โคตรคุ้นเหมือนเคยได้ยินมาก่อน พออีกฝ่ายพูดต่อว่า “ถ้าอย่างนั้นมาจบเรื่องของพระองค์ที่นี่กันเถอะ” เซี่ยเหลียนก็จำได้ว่านี่มันเสียงของราชครูเหม่ยเนียนชิงนี่หว่า

นิ้วของเซี่ยเหลียนสั่น พอได้ยินชายที่อยู่ข้างนอกพูดต่อว่า “แล้วสองคนนั้นล่ะ พวกเขาไปไหนกัน” ก็สงสัยว่าอีกฝ่ายยังมีพรรคพวกอีก 2 คนหรือ ราชครูบอกใครบางคนว่าให้พาทุกคนที่อยู่ในภูเขาไปที่เตาภายใน 2 วัน แล้วเดี๋ยวเขาจะหาทางจัดการทีละคนเอง “ตามทั้ง 2 คนมาที่นี่ พวกเราจะได้ไปที่เตาด้วยกัน การเผชิญหน้ากับองค์ชายรัชทายาทจะต้องไม่มีพวกเราคนใดคนหนึ่งขาดไป ตอนนี้พระองค์ยังทรงตื่นไม่เต็มที่ หากพระองค์ทรงตื่นขึ้นมาล่ะก็... คราวนี้จะทรงทำอะไรบ้างก็ไม่รู้”

ขณะที่เซี่ยเหลียนกำลังตั้งใจฟัง จู่ๆ อีกฝั่งของกำแพงก็มีเสียงระเบิดดังขึ้น พอฮวาเฉิงเตะหน้าผากของตนกับเซี่ยเหลียน เซี่ยเหลียนก็เห็นภาพทางฝั่งอวิ๋นอวี้ ดูเหมือนพออวิ๋นอวี้ดึงเฉวียนอี้เจินออกมาจากผนังถ้ำแล้วถึงได้รู้ว่าอีกฝ่ายแค่แกล้งสลบ พอหลุดมาได้ก็กระชากหน้ากากของอีกฝ่ายออกเพราะคุ้นท่าทางวิธีการพูด ขณะที่อวิ๋นอวี้ยืนอึ้งด้วยความตกใจ เฉวียนอี้เจินก็กระโดดเข้าหาเรียกศิษย์พี่ทันที อวิ๋นอวี้มีสีหน้าหวาดกลัว เอามือกุมหัววิ่งหนี ร้องไล่ให้ศิษย์น้องออกไปห่างๆ และอย่าตามตนมา ก่อนปล่อยพลังใส่ผนังเพื่อกั้นทางไว้ แต่เฉวียนอี้เจินที่ไม่ได้เข้าใจอะไรเลยก็วิ่งตาม จนเกิดสียงปะทะตูมตามไปตลอดทาง

เมื่อชายที่น่าจะเป็นราชครูกล่าวขอตัว บอกว่าค่อยไปสมทบกันที่เตาภายหลัง ฮวาเฉิงก็ระเบิดพลังเปิดทางออกไป แต่บริเวณนั้นก็ไม่มีผู้ใดยืนอยู่แล้ว ยังไม่ทันทำอะไร พวกเขาก็เจออวิ๋นอวี้ที่กำลังวิ่งหนีเฉวียนจี้เจินซึ่งไล่ตามอย่างไม่ลดละ ฮวาเฉิงเลยช่วยสาปเฉวียนอี้เจินให้กลายเป็นตุ๊กตาล้มลุก ตอนที่เซี่ยเหลียนจะเข้าไปอุ้มตุ๊กตาขึ้นมาก็รู้สึกเหมือนแผ่นดินไหว ฮวาเฉิงจึงสั่งให้อวิ๋นอวี้เจาะผนังเพื่อออกไปนอกภูเขา แต่เมื่อเห็นด้านนอกจึงได้รู้ว่าเป็นเพราะภูเขากำลังเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง ดูทรงแล้วอีกเพียง 2 วันก็น่าจะถึงเตา นั่นทำให้คำพูดของชายปริศนากลับเข้ามาในความคิดของเซี่ยเหลียน แล้วเขาก็คิดได้ว่าที่ตนไม่ได้ยินเสียงคนที่อีกฝ่ายพูดด้วยเป็นเพราะแท้จริงแล้วราชครูกำลังคุยกับวิญญาณของภูเขาลูกนี้นั่นเอง

เซี่ยเหลียนคิดหนักว่าคำว่ายังไม่ตื่นหมายถึงอะไร ฮวาเฉิงพยายามปลอบว่าอีกฝ่ายอาจไม่ใช่ราชครู และองค์ชายรัชทายาทอาจไม่ได้หมายถึงเซี่ยเหลียน แต่เซี่ยเหลียนไม่คิดเช่นนั้น เพราะถ้าคนๆ นั้นเป็นราชครูจริงๆ พอรวมกับภูเขาผีทั้ง 3 ลูก แก่ เจ็บ และตาย ก็เข้ามาเสริมตำแหน่ง เกิด ที่หายไปพอดี ยิ่งคุยกันได้ย่อมแสดงว่าเป็นแก็งค์เดียวกัน ภูเขาตงลู่อยู่ในเขตการปกครองของอู๋หย่ง องค์ชายรัชทายาทของอู๋หย่งมีผู้ช่วยอยู่ 4 คน สมัยอยู่ในเซียนเล่อเขาก็มีราชครูสอนสั่งอยู่ 4 คนเช่นกัน ทั้งๆ ที่ปรกติรัชทายาทอาณาจักรอื่นก็ไม่มีราชครูมากมายเท่านี้ หรือว่าเรื่องนี้จะมีความหมายอะไรซ่อนอยู่ ถ้าราชครูทั้ง 4 เป็นผู้ติดตามขององค์ชายรัชทายาทแห่งอู๋หย่งจริง ทำไมพวกเขาถึงต้องมาเซียนเล่อเป็นราชครูให้เขา หรือจะมีอะไรบางอย่างเกี่ยวกับตนเองที่เขายังไม่รู้ หรือว่าเขาจะเป็น...!!
.
.
.
.
.

119 Nameless Fanboi Posted ID:GJHkKJMEri

>>118 เชี่ยย!! พีคเข้าไปอีก ตัดจบได้ค้างคามากอ้าาาา!! เหมือนกำลังดูโคนันไขคดี คนร้ายก็คือ...!!

120 Nameless Fanboi Posted ID:kEX9svQP79

ขอkyหนึ่งที กูสงสัยว่าถ้าวิธีบำเพ็ญของเซี่ยเหลียนมันต้องงดเรื่องทางเพศ แล้วตอนหลังไปป้าบกับฟาฟานี่ไม่เป็นไรเหรอวะ

121 Nameless Fanboi Posted ID:7haGFH8yeu

>>120 ในเรื่องไม่ได้มีบอกไว้ แต่ส่วนตัวกูคิดว่าเซี่ยเหลียนเปลี่ยนสายบำเพ็ญมานานแล้วอะ เพราะสถานะตอนนี้คือเทพเก็บขยะ ไม่ใช่เทพสงคราม เพราะฉะนั้นจะไม่รักษาจิ้นก็ได้ ถ้าอยากรักษาก็ได้แต้มศรัทธาเพิ่ม แต่ถ้าไม่อยากเก็บจิ้นแล้วก็ไม่ติดลบเหมือนเมื่อก่อน ที่ตอนนี้เซี่ยเหลียนยังเก็บจิ้นไว้น่าจะเพราะทำตามความเคยชิน แถมตอนหลังคนก็ไหว้คู่กับฮวาเฉิง ก็รู้ๆ กันแล้วล่ะว่าไม่จิ้นล่ะ ไม่ต้องรักษาภาพลักษณ์บริสุทธิ์ไว้

122 Nameless Fanboi Posted ID:YDGgBNqzlP

>>121 กุเองที่สงสัยเรื่องนี้ กุยังงงๆประมาณว่าถ้าบำเพ็ญมาสายนี้แล้วต้องอยู่สายนี้ตลอดไปงี้รึเปล่า ไม่งั้นต้องเริ่มนับ1ใหม่ถ้าจะเปลี่ยนสาย แต่เซี่ยเหลียนมีเวลาตั้ง800ปี อาจจะเปลี่ยนสายแล้วเริ่มนับ1ใหม่ไปตั้งนานแล้วก็ได้?
กุลองไปหาอ่านที่เค้าพูดๆกันมาดูตามทวิต เค้าแซวกันประมาณว่ามันมีลิมิตว่าอะไรทำได้ไม่ได้ กุคิดเล่นๆว่าถ้าซิงของผชมันแปลว่าต้องไปจิ้มคนอื่น ถ้าโดนจิ้มก็อาจจะแปลได้ว่ายังไม่เสียซิงป่ะวะ 555555555

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.