สปอยเทียนกวาน อาร์ค 2 ต่อจาก >>223 เทียนกวาน Part.66
.
.
.
.
.
เซี่ยเหลียนต่อสู้กับหลางอิง เขาบอกอีกฝ่ายให้ยุติการรบแล้วรับเสบียงกับน้ำดื่มกลับบ้านเกิดของตัวเอง โดยเขาสัญญาว่าทหารเซียนเล่อจะไม่ทำร้ายชาวหย่งอัน แต่หลางอิงกลับถามกลับว่าเซี่ยเหลียนคิดว่าสิ่งที่ตัวเองถูกต้องหรือไม่ คำถามนั้นทำให้เซี่ยเหลียนอึ้ง เพราะลึกๆ ในใจเขาก็คิดว่าสิ่งที่ตนทำมีบางอย่างไม่ถูกต้องเช่นกัน เขาถามว่าอีกฝ่ายต้องการอะไรให้มาคุยกันเพื่อหาเส้นทางที่สามซึ่งจะสามารถยุติสงครามได้ ทว่าหลางอิงกลับตอบทันทีว่าเขาไม่ต้องการอะไรนอกจากการทำให้อาณาจักรเซียนเล่อหายไป เซี่ยเหลียนเลยขู่ว่าอีกฝ่ายไม่มีโอกาสที่จะเอาชนะได้ และผู้ติดตามของหลางอิงจะพากันตายหมด ถึงอย่างนั้นหลางอิงก็ยังตอบอย่างใจเย็นว่าเขารู้ และรู้ด้วยว่าเซี่ยเหลียนเป็นเทพเจ้า แต่ถึงจะเป็นเทพก็ไม่สามารถหยุดเขาได้
เซี่ยเหลียนรู้สึกเหมือนเห็นภาพตัวเองตอนพูดกับจวินอู๋ว่าสวรรค์หยุดเขาไม่ได้ซ้อนบนตัวของหลางอิง แต่ในตอนที่เขาหันมาจับกระบี่ด้วยสองมือพร้อมจัดการขั้นเด็ดขาดก็มีเสียงหัวเราะดังมาจากเบื้องหลัง เซี่ยเหลียนรีบหันกลับไป ข้างหน้าของเขาคือร่างในชุดไว้ทุกข์สีขาวร่างหนึ่งกำลังนั่งบนเถาวัลย์ที่แขวนระหว่างต้นไม้ บนใบหน้านั้นมีหน้ากากสีขาวที่ครึ่งหนึ่งร่ำไห้ ส่วนอีกครึ่งแย้มยิ้ม พอเห็นเซี่ยเหลียนหันมาร่างนั้นก็ปรบมือ และมันก็ทำให้ขนบนหลังของเซี่ยเหลียนถึงกับลุกชัน รู้ว่าอีกฝ่ายไม่มีทางเป็นมนุษย์อย่างแน่นอน ในตอนที่เขาถามอีกฝ่ายว่าเป็นตัวอะไร จู่ๆ พื้นก็แยกเป็น 2 ฝั่ง แล้วหลางอิงที่นอนบาดเจ็บก็หล่นลงไปในช่องว่างนั้น เซี่ยเหลียนที่พลาดการสังหารหลางอิงไม่แน่ใจว่าตัวเองโล่งใจหรือเสียดายกันแน่ แต่เมื่อเสียงหัวเราะดังขึ้นอีก เขาก็รีบพุ่งกระบี่ใส่ ทว่าสิ่งที่กระบี่ของเขาเสียบติดกับต้นไม้กลับมีเพียงชุดสีขาวเท่านั้น
เซี่ยเหลียนรู้สึกว่าสถานการณ์ยิ่งไม่น่าไว้ใจ เขาดึงฉีหรงให้ลุกขึ้นยืน แต่อีกฝ่ายกลับเสนอให้เผาภูเขานี้เสียก่อนเพราะมันเป็นที่ซ่อนตัวของชาวบ้านหย่งอัน ก่อนถามว่าทำไมเซี่ยเหลียนไม่ฆ่าชาวหย่งอันเหมือนที่ทำในสนามรบ เซี่ยเหลียนจึงด่าญาติผู้น้องว่าชาวบ้านกับทหารไม่เหมือนกัน แต่ฉีหรงถามกลับว่าต่างกันตรงไหน เพราะต่างก็เป็นคนเหมือนกัน ทำเอาเซี่ยเหลียนที่ถูกจี้ใจดำมีน้ำโหขึ้นมา แต่ตอนนั้นเองก็มีมือข้างหนึ่งมาจับข้อเท้าของเขาไว้ ก่อนที่จะมีมนุษย์ร่วงหล่นลงมาจากต้นไม้ราวห่าฝน แต่ถึงจะมีรูปร่างเหมือนคน พวกมันกลับเคลื่อนไหวราวกับหนอนยักษ์กระดึ๊บเข้าหาพวกเซี่ยเหลียน พวกมันคือปีศาจบินุซึ่งก่อนหน้านี้ไม่เคยถูกพบใกล้เมืองหลวงมาก่อน แสดงว่าพวกมันต้องถูกพามาที่นี่โดยใครบางคน
เซี่ยเหลียนไม่นึกมาก่อนว่าสงครามครั้งนี้จะมีปีศาจเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย พอนึกถึงเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นแล้วก็มีความเป็นไปได้อย่างมากที่พวกมันจะร่วมมือกับหลางอิง แม้เซี่ยเหลียนจะฆ่าพวกมันไปมากมาย แต่พวกมันก็ยังเข้ามาไม่หมดสิ้น ตอนนั้นเองก็มีกระบี่เล่มหนึ่งเข้ามาฟันปีศาจตัวหนึ่งที่กำลังจะโจมตีใส่หลังของเซี่ยเหลียน อีกฝ่ายคือทหารเด็กที่เขาทิ้งไว้ระหว่างทางนั่นเอง เซี่ยเหลียนกัดริมฝีปาก เอาเลือดทาลงบนกระบี่เพื่อเป็นคาถาป้องกันแล้วส่งให้ฉีหรง สั่งให้ทั้งสองคนรีบหนีกลับไปที่เมืองหลวงเพื่อรายงานสถานการณ์ให้ทุกคนรู้ แม้ฉีหรงจะรีบวิ่งไปอย่างรวดเร็ว แต่ทหารเด็กกลับไม่ยอมไปไหน เซี่ยเหลียนที่ไม่มีเครื่องรางอื่นให้แล้วจึงต้องให้อีกฝ่ายอยู่ด้วย เมื่อได้เห็นฝีมือของเด็กหนุ่มเขาก็อดเอ่ยชมไม่ได้ ทั้งยังแนะนำว่าอีกฝ่ายน่าจะเหมาะกับดาบโค้ง
ทั้งสองมุ่งหน้าจัดการพวกปีศาจบนเขา ทหารเด็กคนนั้นส่งกระบี่ของตัวเองให้เซี่ยเหลียนเพราะอีกฝ่ายมอบอาวุธให้ฉีหรงไปแล้ว แต่เซี่ยเหลียนที่ใช้พลังทิพย์ได้ก็บอกให้เด็กชายเก็บมันไว้ป้องกันตัวเอง ทันในนั้นก็มีปีศาจตัวใหญ่กระโดดใส่เซี่ยเหลียน เขาฮาโดเคนใส่มันทันที แล้วเขาก็ได้กลิ่นเลือดมาจากร่างของมันทั้งๆ ที่บินุมีเพียงของเหลวเหนียวข้นในร่างกาย เมื่อสังเกตดีๆ จึงเห็นว่าเลือดไหลออกมาจากศีรษะมนุษย์ที่อยู่ในปากของมัน เขารีบเดินตามรอยเลือดทีปีศาจตัวนั้นเดินมา สักพักก็ได้ยินเสียงร้องไห้อย่างอ่อนแรง และกลิ่นเลือดที่คลุ้งกระจาย ทหารเด็กรีบเดินขึ้นไปด้านหน้าเซี่ยเหลียนเพื่อปกป้อง แต่เขาก็จัดการดึงอีกฝ่ายกลับไปข้างหลัง แล้วทั้งสองก็มาถึงถ้ำขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่แห่งหนึ่งซึ่งเต็มไปด้วยซากศพและบินุกว่า 20-30 ตัว โดยมีหญิงสาวคนหนึ่งกำลังถูกกัดกินทั้งเป็น
.
.
.
.
.