Fanboi Channel

[รวมมิตรโม่เซียง] เม้าท์เรื่อง ปรมาจารย์, ตัวร้าย​อย่างข้า, เทียน​กวาน​ ฯลฯ​ เล่มที่​ 12 [นิยาย อนิเม ดราม่า ละคร สปอย]

Last posted

Total of 1000 posts

1 Nameless Fanboi Posted ID:asHNnV9AsO

กระทู้ 1​ >>>/801/5933/
กระทู้ 2 >>>/801/6012/
กระทู้ 3 >>>/801/6083/
กระทู้ 4 >>>/801/6178/
กระทู้ 5 >>>/801/6235/
กระทู้ 6 >>>/801/6331/
กระทู้ 7 >>>/801/6492/
กระทู้ 8 >>>/801/6709/
กระทู้ 9 >>>/801/7090/
กระทู้ 10 >>>/801/7386/
กระทู้ 11 >>>/801/7776/

2 Nameless Fanboi Posted ID:Ubkmk8g3+C

สาระน่ารู้ ข้อห้าม และข้อควรระวัง
(มีคนอื่นสรุปทุกอย่างไว้ที่นี่เป็นข้อ ๆ สรุปดีและชัดเจน ครอบคลุมทุกประเด็นดราม่าด้วย พิมพ์ในนี้เองเสร็จหมดแล้วเพิ่งเห็น
https://twitter.com/Sinnerdarker/status/1056487008174915595ดีงาม เก็บไว้ดูได้ สั้นดีด้วย )
---------------------------------------------
1. แม่โม่ห้ามทำของขายเชิงพาณิชย์ ห้ามเรี่ยไรเงิน/ระดมทุนด้วยการอ้างชื่อ/นิยาย/ตัวละคร
---------------------------------------------
สรุปภาษาไทยเรื่องทางอฟช. ของปรมาจารย์ลัทธิมาร "ไม่อนุญาต" ให้ทำงาน Fan Made ขาย
https://twitter.com/Sinnerdarker/status/1052084168375422980
*ข้อมูลเพิ่มเติม*
มีคนสรุปเป็นภาษาอังกฤษเรื่องแม่โม่ไม่อนุญาตให้ทำสินค้าปรมจ. ขาย
https://twitter.com/rossogattino/status/1049632239913295873
แปลแบบสรุป ๆ คือคุณโม่เซียงถงซิ่วแจ้งว่าห้ามขายของแฟนเมด ห้ามเอาชื่อเรื่อง ชื่อตัวละคร หรือตัวละครไปใช้ในเชิงพาณิชย์หรือหาเงิน และแฟน ๆ ที่รู้เรื่องกฎนี้ก็ควรแบน ไม่ไปอุดหนุนของพวกนั้นด้วย
ส่วนสาเหตุที่ห้าม ก็คือเรื่อง ปรมจ. (MDZS) นี่มันติดสัญญาลิขสิทธิ์อยู่กับ Jinjiang และทางนั้นก็เป็นผู้ถือสิทธ์โดยเด็ดขาดเกี่ยวกับสินค้าทุกอย่างที่มาจากเรื่องนี้
ส่วนอันนี้เป็นข้อความจากแม่โม่ มีคนเอามาแปลอังกฤษ
https://twitter.com/YSFYC_CRT/status/1052545036045283329
ลิ้งก์นี้มีรูปต้นฉบับ เป็นข้อความของแม่โม่จากใน Weibo แล้วก็มีแปลภาษาอังกฤษให้ ถ้าแปลเป็นไทยคร่าว ๆ ก็ประมาณนี้
1. เกี่ยวกะเรื่องเข้าร่วมโหวตอันดับอะไรสักอย่าง ขอข้ามละกัน มึน
2. ห้ามรวมตัวเรี่ยไรเงินหรือระดมทุน หรือระดมเงินบริจาคใด ๆ โดยอ้างชื่อแม่โม่หรือผลงานของแม่โม่ หรือตัวละครของแม่โม่ ห้ามชักชวนรวมกลุ่มกันไปจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อเฉลิมฉลอง หรือซื้อสินค้า หรือไปโหวตอันดับ หรือหาเงินการกุศล หรือกิจกรรมใด ๆ โดยใช้ชื่อหรือตัวละครที่เกี่ยวกับแม่โม่หรือนิยายของแม่โม่
3. ห้ามตั้งโฮมเพจใหม่ใด ๆ โดยใช้ชื่อเกี่ยวข้องเกี่ยวพันกับงานนิยายของแม่โม่ ห้ามอ้างชื่อไปจัดตั้งกลุ่มเรียกผู้อ่านเพื่อไปฉลอง ซื้อของ โหวตอันดับ จัดงานการกุศล หรือกิจกรรมอื่น ๆ (เช่น ห้ามจัดงานใหญ่ที่เปลืองเงินหรือใช้เงิน สมตติ งานวันเกิดตัวละคร (จัดได้ แต่ห้ามใหญ่โตและห้ามเปลืองเงิน - เค้าคงกลัวคนฉวยโอกาสหากำไรจากติ่งนิยายสายเปย์พร่ำเพรื่อ และถ้าเป็นไปได้อยากให้วาดรูปหรือเขียนอะไรเพื่อฉลองดีกว่า อย่าไปเปย์เลย))
ท้ายข้อความมีแปลบอกแม่โม่บ่นแบบน้อยใจด้วย ว่าห้ามจนปากเปียกปากแฉะจนเบื่อจะพูดแล้ว ถ้าคนจะหัดฟังบ้างก็คงดี ถถถ คับแค้นเหลือคณา
อันนี้ละเมิดไม่ได้ เพราะเป็นกฎหมายว่าด้วยเรื่องลิขสิทธิ์และทรัพย์สินทางปัญญา
อ้อ ไหน ๆ พูดถึงลิขสิทธิ์แล้ว แถมอีกเรื่อง คือเรื่องการแต่ง cosplay เนื่องจากบริษัทที่ถือลิขสิทธิ์นั้นออกชุด "เลียนแบบตัวละคร" มาเป็นสินค้าอฟช. ดังนั้นจึงห้ามคอสเพลย์โดยตัดชุดเองหรือสั่งจากร้านอื่น เพราะถือว่าละเมิดลิขสิทธิ์ ใครอยากแต่งตัวตามแบบตัวละครก็สั่งจากอฟช. จากร้าน Uwowo เถอะจ้ะ
อันนี้มีแฟน (มั้ง) ประกาศเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าเขาแปลมาถูกต้องแม่นยำแค่ไหน แต่ก็คงพอจะใช้อ่านไว้เป็นแนวทางได้
https://twitter.com/aubrey8810/status/1035823028444098560
คนแปลจีนเป็นอังกฤษอีกคนหนึ่งสรุปให้ว่า แต่งได้ (โดยใช้ชุดจากอฟช.) ถ่ายรูปไปเผยแพร่ได้ แค่อย่าใช้คำว่าคอสเพลย์ ให้เรียกว่าแต่งตัวเลียนแบบตัวละครxxx อะไรก็ว่าไป (บางคนอาจงงหรือเห็นว่ามันประหลาด แต่ก็เป็นกฎจากผู้ถือลิขสิทธิ์อะนะ ยอม ๆ เขาไปเถอะ)
https://twitter.com/ManhuaAssistant/status/1036148201651204101
อ้างอิงข้อมูลและความคิดเห็นจากในโม่งที่มีการพูดคุยเรื่อง "คอสเพลย์"
>>>/801/6178/860/
>>>/801/6178/868/
>>>/801/6178/869/
>>>/801/6178/873/
>>>/801/6178/878/

3 Nameless Fanboi Posted ID:Ubkmk8g3+C

---------------------------------------------
2. ไม่ควรโรลเพลย์สาธารณะหรือทำบอทตัวละคร
---------------------------------------------
อันนี้จากที่เคยคุย ๆ กันว่าแม่โม่ห้ามบอท วันนี้เพิ่งเห็นทวิตคนอื่น (อันเดิมที่คุยต่อจากคนที่เขียนสรุปข้อห้ามไว้นั่นแหละ) เขาไปทราบมาว่า ที่บอก ๆ กันว่าห้ามบอทนี่ที่จริงเป็นการที่ด้อมฝั่งฝรั่งเขาตีความกันเองจากที่แม่โม่บอกว่าไม่ให้ OOC เพราะการโรลเพลย์หรือทำบอทมันมักจะ OOC
ก็ไม่รู้จริงเท็จอย่างไร แต่ฝากไว้ให้พิจารณาด้วยก็แล้วกัน
ถ้าใครอ่านจีนคล่องแล้วหาต้นฉบับที่บอกว่าห้ามทำบอทเจอจริง ๆ ก็ช่วยแปะให้ดูที
อ้างอิงเรื่องแม่โม่ห้ามบอท และเหตุที่ห้าม (เพราะมันจะ OOC)
>>>/801/6012/962/
>>>/801/6012/963/
>>>/801/6083/172/
อ้างอิงเรื่องบอทคืออะไร เผื่อใครยังไม่เก็ต
>>>/801/6012/972/
>>>/801/6012/973/
>>>/801/6083/173/
---------------------------------------------
3. เขียนฟิกชั่น โดจิน แฟนอาร์ตได้ แต่ห้ามแหก(แยก)คู่หลักของแต่ละเรื่อง ห้ามสลับตำแหน่งเมะ-เคะ
---------------------------------------------
ข้อมูลอ้างอิง ภาษาจีน มีคนแปลรวบย่อเป็นอังกฤษ
https://twitter.com/_momokame/status/1046859622982799361
ข้อมูลอ้างอิงเหมือนอันบน แต่เป็นภาษาจีนเอามาแปลไทยแบบละเอียด
https://twitter.com/fay_13666/status/1056077697984557056
สำหรับอันนี้เนื่องจากเรื่องจิตใจจะชอบใครจะชิปคู่ไหนมันห้ามกันไม่ได้ และโม่งก็ไม่ประสงค์จะทำตัวเป็นตำรวจด้อม ไม่มีสิทธิ์บังคับหรือสั่งใครได้ จึงได้เพียงขอความร่วมมือ ได้โปรดอย่าแหกคู่หรือสลับโพ
เพราะถ้าใครรักและเคารพเจ้าของผลงาน ก็จะให้เกียรติคำขอของเขา ไม่ทำไอ้ที่เขาห้าม
*ข้อสำคัญ* แฟนฟิกชั่น แฟนอาร์ต โดจิน ฯลฯ ต้องไม่นำไปใช้ในเชิงพาณิชย์
แม่โม่ไม่ได้ห้ามต่อยอด ไม่ได้ห้ามจิ้น ไม่ได้ห้ามกาว ไม่ได้ห้ามมโน ใครใคร่จิ้นจิ้น ใครใคร่เขียนเขียน จะเขียนจะวาดอะไรก็ทำได้ตามใจชอบ อยากกาวคู่ไหนก็ตามสบาย แม่โม่ไม่สน ตราบที่ไม่ได้ใช้หาเงินและไม่แหกหรือสลับโพคู่หลัก

4 Nameless Fanboi Posted ID:Ubkmk8g3+C

---------------------------------------------
4. การใช้ hashtag (#) ใน twitter และการ mute
---------------------------------------------
หากสายผลิตจะกรุณาเมตตา เวลาเขียนฟิกชั่นมาลง โปรดช่วยติดแท็ก #ฟิคปรมจ ด้วย
(ส่วนแฟนอาร์ตเชิญตามสะดวก ใช้แท็กหลักต่อก็ได้ เพราะนักวาดที่เป็นแฟนตปท.ก็ลงอาร์ตในแท็กหลักของเขาเหมือนกัน แต่คนตั้งแท็กไทยอันนี้เขาก็เชื้อเชิญให้ไปใช้ของเขาด้วยถ้าใครอยากใช้และเห็นว่าใช้แล้วสะดวก)
ส่วนจะติดแท็กหลักหรือไม่ติดแท็กหลัก ก็เชิญพิจารณาเอาเองตามความเหมาะสมและอัธยาศัย
เคยเห็นบางท่านกล่าวว่าจะติดแท็กหลักเฉพาะตอนแรกของฟิกชั่น เพื่อให้ฟิกชั่นเข้าไปอยู่ในสารบบการเซิร์ชแท็กหลักก่อน คนอื่นจะได้มีโอกาสหาเจอง่าย แล้วหลังจากนั้นค่อยเลิกใช้แท็กหลัก ใส่แต่แท็ก#ฟิคปรมจอย่างเดียว หรือให้ผู้อ่านคอยติดตามด้วยแท็กของชื่อฟิกชั่นเอาเอง เอออันนี้ก็ไอเดียดี น่าสนใจ แลดูสะดวกและดีกับทั้งสองฝ่าย ยังไงก็ขอฝากไว้ให้พิจารณาเป็นอีกทางเลือกหนึ่งแล้วกัน
*สำหรับการติดแท็กแฟนฟิก ไม่ว่าจะติดเดี่ยว หรือติดเพิ่มเข้าไปควบคู่กับแท็กหลัก จะมีผลดีคือ*
1. คนที่อยากอ่านแต่แฟนฟิกชั่นสามารถใช้คำนี้หาเฉพาะฟิกได้เลย ง่ายดี
2. คนที่อยากคุ้ยแท็กหลักแบบไม่อยากได้ผลลัพธ์จาก #ฟิคปรมจ ก็จะสามารถใช้ระบบ mute ช่วยตนเองกรองฟิกชั่นทิ้งไปตั้งแต่ต้นได้ ทำให้เวลาเซิร์ชแล้วจะได้มองไม่เห็น #ฟิคปรมจ ทั้งหมด
เผื่อมีฟิกชั่นใดปนอยู่ในแท็กหลัก ผลการค้นหาที่ถูกกรองแล้วนี้ก็จะช่วยลดปริมาณผลลัพธ์ที่แสดงขึ้นมา ช่วยย่นระยะเวลาในการไถหน้าจอหรือขุดหาข้อมูลที่ต้องการได้เร็วขึ้น ง่ายขึ้น สบายขึ้น
+ การติดแท็กระบุคู่ ก็จะสามารถช่วยให้ผู้ไม่ประสงค์จะเห็นบางคู่ที่เฉพาะเจาะจง สามารถ mute แท็กของคู่นั้น ๆ ได้ด้วยเช่นกัน
วิธีตั้งค่าใน twitter ให้ mute บางคำ (mute = ทำให้เป็นใบ้ - หมายถึงกรองคีย์เวิร์ดคำนั้น ๆ ทิ้ง ทำให้ไม่เห็นโพสต์ใด ๆ ที่มีคำนี้หรือแฮชแท็กนี้)
https://help.twitter.com/en/using-twitter/advanced-twitter-mute-options
เลื่อนลงไปดูตรงกรอบสีฟ้า ๆ ที่เขียนว่า "How to mute words and hashtags" จะมีวิธีอย่างละเอียดสอนอยู่
สั้น ๆ คือเข้าไปที่ Settings and privacy เลือก Muted words แล้วกด add
***แนะนำให้สั่ง mute แบบมี hashtag ระบุตรง ๆ ไปเลย*** เพราะไม่งั้นระบบมันจะดูเนื้อหาของทวีตด้วย แล้วกรองทิ้งหมดเลย
เช่น สมมติถ้าไปสั่ง mute "ฟิคปรมจ" เวลารีทวีตคุยกับใครแล้วเขาพิมพ์มาในคำตอบว่า "เออว่าแต่เรื่องฟิคปรมจน่ะตกลงมันดราม่าได้ไง" อิระบบ mute ก็จะทำให้คำตอบนั้นเป็นใบ้ไปเลย คุณก็จะมองไม่เห็นข้อความนั้น
แต่ถ้าสั่ง mute เจาะจงไปเลยว่า "#ฟิคปรมจ" ระบบจะกรองทิ้งเฉพาะทวีตที่ติดแท็ก #ฟิคปรมจ เท่านั้น
หรือถ้ารำคาญ user ไหนในทุกทวีต อยากหลบสปอยล์ อยากหลีกเลี่ยงบางคน แม้ไม่ได้ฟอลโล่ว์แต่ก็เห็นเพราะคนอื่นรีมา แล้วไม่อยากเห็นอีกต่อไป ก็ใช้ mute account ได้เช่นกัน
https://help.twitter.com/en/using-twitter/twitter-mute

5 Nameless Fanboi Posted ID:St0ZKlt8M3

สปอยเทียนกวาน อาร์ค 2 ต่อจาก >>>/801/7776/975 เทียนกวาน Part.55
.
.
.
.
.
เมื่อเซี่ยเหลียนเห็นปริมาณเลือดที่ไหลจากตัวเด็กชายเขาก็ตัดสินใจตะโกนบอกชาวบ้านว่าความเสียหายทั้งหมดเขาจะเป็นคนรับผิดชอบเอง ก่อนบอกให้เฟิงซิ่นกับมู่ฉิงจับฉีหรงไว้แล้วตามเขามา เขารีบอุ้มเด็กชายวิ่งไปหาหมอหลวง แต่เด็กชายกลับไม่ยอมเอามือออกจากใบหน้าข้างขวา เซี่ยเหลียนพยายามทำให้อีกฝ่ายสบายใจโดยการถามชื่อ เด็กชายพึมพำออกมาว่าหง (แดง) เมื่อถามอายุก็บอกว่า 10 ขวบ แต่พอเซี่ยเหลียนบอกให้เอามือออกจากหน้าให้หมอดูก็ได้รับการปฏิเสธ เด็กชายอ้างว่ามันน่าเกลียด เขาจึงบอกว่าจะหันหลังให้ระหว่างที่อีกฝ่ายตรวจ เด็กชายเลยยอมให้หมอดูอาการ และหมอหลวงก็อดเอ่ยด้วยความทึ่งไม่ได้ว่าอาการบาดเจ็บของเด็กชายหนักมาก แต่อีกฝ่ายกลับยังมีสติ ยังพูดคุยได้อย่างปรกติ

ตอนที่หมอหลวงทำแผลให้เด็กชายเรียบร้อย ราชากับราชินีที่นึกว่าลูกชายได้รับบาดเจ็บก็เข้ามาพอดี เช่นเดียวกับฉีหรงที่ร้องเรียกให้ป้าช่วยเหลือ เซี่ยเหลียนเล่าเรื่องที่ลูกพี่ลูกน้องทำลงไปให้พ่อแม่ฟัง ราชาโกรธมาก เขาสั่งยึดรถม้าและกักบริเวณฉีหรง 1 เดือน ฉีหรงโวยวาย แต่แล้วเขากลับยอมรับโทษง่ายๆ ก่อนเอ่ยให้ลงโทษเฟิงซิ่นที่ทำแขนของเขาหักด้วย เมื่อถูกราชาต่อว่า แม้เซี่ยเหลียนจะห้ามเฟิงซิ่นก็รีบคุกเข่า ท่าทางต่อต้านไม่เชื่อฟังของลูกชายทำให้ราชาไม่พอใจ บอกว่าหากเขาจะสั่งโบยเฟิงซิ่น 100 ครั้งก็ไม่ได้เป็นเรื่องไม่เหมาะสม ฉีหรงรีบเอ่ยเสริมว่าถ้าเฟิงซิ่นหักแขนตัวเอง เขาจะยอมไม่เอาเรื่อง เซี่ยเหลียนไม่พอใจมาก บอกว่าหากจะลงโทษเฟิงซิ่นต้องลงโทษเขาก่อน เพราะเขาเป็นคนสั่งให้เฟิงซิ่นทำเช่นนั้น เขาจะรับโทษของเฟิงซิ่นไว้เอง

ราชายิ่งโกรธลูกชาย เมื่อตอนยังเล็กเซี่ยเหลียนมองพ่อเป็นไอดอลจึงเชื่อฟังทุกอย่าง แต่ยิ่งโตขึ้น เขาก็ยิ่งมีคำถามเกี่ยวกับการการกระทำของผู้เป็นบิดา บางครั้งก็ถึงขั้นรังเกียจ และเหตุผลหลักที่เขาไปบำเพ็ญที่เขาไท่ชางก็เป็นเพราะรู้สึกว่าตนเข้ากับราชาไม่ได้ ทั้งคู่ไม่ยอมคุยกันนัก ทำให้ราชินีต้องคอยเป็นสื่อกลางให้ แล้วพ่อลูกก็เริ่มทะเลาะกันจนราชินีกังวล เมื่อเห็นดังนั้นเฟิงซิ่นเลยหักแขนตัวเอง ทั้งยังคุกเข่าโขกหัวให้ฉีหรงเพื่อจบปัญหา ขณะที่มู่ฉิงยืนนิ่งหน้าเครียด เซี่ยเหลียนก็หันไปหาพ่อ ตะโกนด้วยความโกรธ เฟิงซิ่นกับราชินีจึงมาช่วยกันจับแขนเขาไว้ เมื่อราชาไปแล้ว ราชินีก็เอ่ยขอโทษเฟิงซิ่น เซี่ยเหลียนต่อว่าแม่ว่าถ้าจัดการฉีหรงไม่ได้ก็ให้ขังอีกฝ่ายไว้ ราชินีถอนหายใจ พยักหน้าก่อนจะส่ายหน้าแล้วเดินจากไป

เฟิงซิ่นเตือนเซี่ยเหลียนว่าคนรุ่นก่อนมีวิธีคิดไม่เหมือนพวกตน และบอกว่าราชินีก็ลำบากใจเช่นกัน เซี่ยเหลียนเองก็พอเข้าใจความรู้สึกของแม่ ราชินีกับน้องสาวสนิทกันมาก แม่ของฉีหรงเป็นคนเชื่อมั่นในรักแท้ ไม่ยอมฟังคำของผู้ใหญ่ สุดท้ายก็หนีตามกันไปกับคนรักซึ่งเป็นองครักษ์ ทว่าหลังจากครึ่งปีผ่านไปฝ่ายชายก็เริ่มเผยธาตุแท้ออกมา เขาเป็นคนขี้เหล้าชอบทำร้ายผู้อื่น ในที่สุดฝ่ายหญิงก็ทนไม่ไหวตัดสินใจอุ้มลูกชายวัย 5 ขวบกลับบ้านของตน แต่การที่เธอทำเรื่องเสื่อมเสียให้กับราชวงศ์ทำให้แม่ของฉีหรงได้แต่อยู่ในห้องไม่กล้าออกไปพบหน้าผู้ใด ใช้ชีวิตที่เหลืออย่างหดหู่ซึมเศร้า มีเพียงความรักให้ลูกชาย ทว่าในช่วงที่เกิดความโกลาหลในราชวัง แม่ของฉีหรงได้สละชีพช่วยเหลือพี่สาว ราชินีจึงเลี้ยงดูฉีหรงนับแต่นั้น ด้วยความที่มีบิดาเช่นนั้นทำให้ฉีหรงติดนิสัยไม่ดีมา แต่อย่างไรฉีหรงก็ไม่ใช่ลูกชายของตัวเอง หากเข้มงวดเกินไปจะถูกหาว่ารังแกหลานซึ่งกำพร้าไร้ทั้งพ่อและแม่ สุดท้ายก็เลยทำให้ฉีหรงกลายเป็นเด็กเปรตลูกเทพอย่างในปัจจุบัน

เซี่ยเหลียนนึกได้ว่าลืมเด็กชายที่ช่วยเหลือมา เขาหันมาปลอบอีกฝ่ายที่ทำให้ต้องเห็นภาพคนทะเลาะกัน แล้วถามถึงบ้านของเด็กชาย แต่เด็กชายกลับบอกว่าตนไม่มีบ้าน เมื่อคิดว่าอีกฝ่ายอาจเป็นเด็กเร่ร่อน เขาก็ตั้งใจจะพาเด็กชายกลับเขาไท่ชางด้วย แต่ตอนนั้นเองมู่ฉิงที่เงียบมานานก็พูดขึ้นมาว่าเด็กชายโกหก เพราะเด็กเร่ร่อนในเมืองหลวงมักรวมกลุ่มกันเป็นแก็งค์ อีกทั้งเขาก็รู้จักเด็กพวกนั้นทุกคน หากแต่ไม่เคยเห็นหน้าเด็กชายตรงหน้ามาก่อน
.
.
.
.
.

6 Nameless Fanboi Posted ID:BqztxDqJBO

>>5 ขอบคุณ​เช่นเคยนะโม่สปอย ดีใจฟาฟามีบทเยอะกว่าที่คิด คิดว่าช่วยจากกำแพงแล้วหายไปเลย ตาขวาบอดตั้งแต่ตอนนี้สินะ

7 Nameless Fanboi Posted ID:+qIwgbslcD

>>5 ขอบใจโม่งสปอย ฟาฟานี่น่าจะเป็นลูกท่านหลานเธอหรือไม่ก็พวกพวกขุนนางกบฏโดนใส่ร้าย เอาว่ะ ยิ่งอ่านยิ่งซับซ้อน ทุกตัวละครมีเหตุผลของการกระทำ ตัดสินไม่ได้ว่ะว่าใครผิดถูก

>>6 เหมือนจะไม่ได้บอกไว้นะว่าสาเหตุที่ฟาฟาตาบอดมาจากเหตุการณ์นี้อ่ะ กูเคยถามโม่งสปอยอยู่

8 Nameless Fanboi Posted ID:4Qdocf/MBe

>>6 ฮวาเฉิงไม่ได้ตาบอดตอนที่ยังเป็นคน

9 Nameless Fanboi Posted ID:mgvYJmRAin

ขอบคุณโม่งสปอยจ้า มาไวอีกแล้ว

10 Nameless Fanboi Posted ID:In8CCyDIf+

>>7 >>8 อ้าวเหรอ เห็นพยายามปิดหน้าด้านขวา คิดว่ามันคือสาเหตุ​ที่ต้องมีผ้าปิดตาตอนโต
โอเช รอดูต่อปาย

11 Nameless Fanboi Posted ID:mgvYJmRAin

จากทู้ที่แล้ว สายสะสมกลายเป็นเหมือนทวิตตั้งแต่เมื่อไหร่ ออกความเห็นส่วนทางโม่งก็โดนอีก ยังไม่ได้บอกสักคำว่าซื้อเวียต กุซื้อเล่มเกา แล้วเค้าทำดีจริงๆ เทียบกับราคา จบ มาพูดแค่นี้ ใครจะคิดยังไงก็ช่าง กุน้อยใจของไทยจบ

12 Nameless Fanboi Posted ID:O8hr281klb

>>5 Thanks นะโม่งสปอย กูรออ่านสปอยทุกเช้าเลยเนี่ย

13 Nameless Fanboi Posted ID:ReRcVZeTNI

>>11 มึงพูดยกเวียตมาเองนี่หว่า
ปาดนะมึง

14 Nameless Fanboi Posted ID:ReRcVZeTNI

>>13 *ปสด

15 Nameless Fanboi Posted ID:Hfu8i21Rrq

>>11 มึงต้องเยียวยาใจตัวเองอะ คนส่วนมากไม่สะสมนี่หว่า ไม่ได้ดั่งใจก็ต้องฮีลตัวเองต่อไป กูยังต้องฮีลตัวเองเรื่องซบ.ได้เทียนกวานเลย (ห่าาา)(ไม่ได้ด่ามึงนะ กูสบถ)

16 Nameless Fanboi Posted ID:u/Gyvn.Kii

>>11 มึงพูดเวียดเกา กูเลยค้านเวียดให้ไง ถ้าไม่อยากรับผิดชอบคำพูดตัวเองก็อย่ามโนเองสิ มึงงงงง นี่บอร์ดสำหรับพูดคุยไม่ใช่สเตตัสลอยๆในทวิตน้า มึงต้องการอะไรจากการคุยในบอร์ดอ่ะ ต้องการให้คนพยักหน้าเห็นด้วยๆช่วยกันกดบกรที่ไม่แจกของแถมเหรอ และอีกอย่างถึงมึงพูดลอยๆก็เป็นการเผยแพร่ความเชื่อผิดๆมั้ยว่าของเวียดดีควรเอาเป็นแบบอย่าง มีคนมาให้ข้อมูลว่ามันไม่ได้ดี คนอื่นจะไม่เข้าใจผิดก็ถูกแล้วนี่ กูก็ออกความเห็นเหมือนกันว่าจะให้ลดคุณภาพหนังสือไปทำของแถมไม่เอา สนพไหนอย่าคิดทำเชียว กูจะด่าาา

และกูก็ไม่ได้พูดผิดจากความจริงเลย มึงไม่ได้ซื้อเวียดจริงๆ เหอๆ กูสะสมแต่ไม่ต้องการของแถมจากเล่มเท่าไหร่เพราะแต่ละคนมีรสนิยมต่างกันและปรมาจารย์ก็มีหลายอาร์ทหลายสินค้าให้เลือกตามใจ ดังนั้นไม่เห็นจำเป็นต้องบังคับให้ทุกคนซื้อของที่ไม่อยากซื้อเลย

17 Nameless Fanboi Posted ID:fSQh5nVkR.

>>16 +1 จริง กูไม่ได้ต้องการของแถม กูเน้นเล่ม ถ้าเอาของแถมออกแล้วลดราคา กูไม่เอาของแถมก็ได้

18 Nameless Fanboi Posted ID:hLmtweLrgG

>>16 กูเห็นด้วย กูซื้อนิยายกูต้องการอ่านเนื้อหาไม่ใช่ของแถม ขอแค่แปลดี ไม่มีคำผิดเยอะ สันกาวหนังสือมาให้ดีๆ หน่อยแค่นั้นก็พอแล้ว ถ้าสนพ.ต้องการเอาใจพวกสายสะสมด้วยก็ทำชุดสะสมแยกไปก็ได้

แล้วพวกที่ออกมาบ่นนั่น นี่ โน่น คือกูอยากให้พวกมึงใจเย็นก่อน หนังสือเพิ่งออกมาแค่สองเล่มเอง ยังไม่ทันครบเลย มึงรู้ได้ไงจะไม่มีของแถมมาให้มึงสะสม เค้าอาจจะมาทีเดียวพร้อมเล่มสุดท้ายก็ได้ รีบบ่นอะไรขนาดนั้นวะ

19 Nameless Fanboi Posted ID:jTZBlP7eMa

>>16 เออ คือมันน่าจะทำแยกไปตั้งนานละ ของแถมรกบ้านชิบหาย ไม่ได้ต้องการ กูซื้อเพื่อเสพนิยายเท่านั้น

20 Nameless Fanboi Posted ID:gWRTlXXVxM

พวกอ้างตัวว่าเป็นสายสะสม อยากมีพิเศษมาพร้อมกับหนังสือ ถ้าเป็นตัวร้ายกับเทียนกวานกูพอเข้าใจนะเพราะไม่มีกู้ดส์ให้ซื้อแยกเลยฝากความหวังกับของแถมหนังสือ แต่ปรมจของขายเยอะมาก ระหว่างซื้อของจากบริษัทผลิตสินค้าขายเป็นงานหลักรู้โรงงานมีคุณภาพ กับสนพที่หน้าที่หลักพิมพ์หนังสือ คิดว่าไรน่าสะสมกว่ากัน

กูงงอีกอย่างตรงชมซบเรื่องของแถม ที่ไม่แถมไรนอกจากการ์ดภาพปกซ้ำๆ มีอาร์ทใหม่แค่ภาพแขวนกับกล่อง เทียบบกรมีที่คั่นsd อาร์ทใหม่เล่มละสองรูป หรือชอบสะสมภาพเดิมๆหลายขนาดวะ ส่วนกล่องกูว่าออกจบน่าจะมี เทียนซือของบกรทำกล่องรึเปล่าวะ กูไม่แน่ใจ

21 Nameless Fanboi Posted ID:hLmtweLrgG

>>20 มีทำด้วย มีกล่องแล้วก็เซ็ตโปสการ์ด

22 Nameless Fanboi Posted ID:QQpkm98QFm

Ky สปอยล์หน่อยสิ ว่าทำไมวั่งจีถึงเล่นพิณหาเว่ยอิงไม่ได้อะ แล้วก็ทำไมวั่งจีมีแผลที่หลัง
กูไม่ได้ดูซีรี่ย์อะ ขอบคุณล่วงหน้า แต้งกิ้วว

23 Nameless Fanboi Posted ID:G1n9jQpy/c

>>22 ไต่ถามวิญญาณเว่ยอิงแล้วเว่ยอิงไม่ตอบ อันนี้ไม่รู้เหมือนกัน ส่วนแผลเป็นที่หลัง พี่วั่งพาเว่ยอิงไปซ่อนในถ้ำตอนที่เว่ยอิงสติแตก ควบคุมศพไม่ได้ แล้วผู้อาวุโสในสกุลมาเจอก็ปกป้องเว่ยอิง ทำร้ายผู้อาวุโส 33 คน แล้วไปรับโทษโดนแส้ 33 รอย

24 Nameless Fanboi Posted ID:JjY4OcUCHt

>>23 อันนี้แม่โม่เฉลยมั้ยว่าทำไมไม่ตอบ? กุแอบสงสัย ถถถถถ

25 Nameless Fanboi Posted ID:+c5BAKuMBg

>>23 ในเล่มก็ไม่มีบอกหรอ

26 Nameless Fanboi Posted ID:G1n9jQpy/c

>>24 >>25 ในนิยายไม่มีบอกว่าทำไมไต่ถามแล้วไม่ตอบ

27 Nameless Fanboi Posted ID:qFb8wzUjbi

>>24 ประมาณว่าเว่ยอิงไม่ได้มีห่วงหรือสนใจอะไรทางนี้แล้ว เลยไม่ตอบ

28 Nameless Fanboi Posted ID:tkU5L0FPyo

สปอยเทียนกวาน อาร์ค 2 ต่อจาก >>5 เทียนกวาน Part.56
.
.
.
.
.
มู่ฉิงยังตั้งข้อสังเกตอีกว่าเสื้อผ้าของเด็กชายมีรอยปะชุน ย่อมต้องมีผู้ใหญ่ทำให้ เพราะฉะนั้นต่อให้สถานการณ์ที่บ้านไม่ดี แต่เด็กชายก็ไม่ใช่เด็กเร่ร่อน เซี่ยเหลียนจึงถามที่อยู่ของอีกฝ่ายอีกครั้ง ทว่าเด็กชายกลับจับเซี่ยเหลียนไว้แน่น บอกว่าตนทะเลาะกับทางบ้านและถูกไล่ออกมาตอนนี้จึงไม่มีที่ไป หลังจากใคร่ครวญดูแล้วเซี่ยเหลียนก็ตัดสินใจที่จะดูแลอีกฝ่ายจนกว่าบาดแผลจะหายดีก่อน เฟิงซิ่นรู้สึกไม่ดีที่องค์ชายรัชทายาทมาอุ้มเด็กจร ขณะที่กำลังถกเถียงกันอยู่ ชาวบ้านที่สังเกตเห็นเซี่ยเหลียนก็ตะโกนเรียกกันเพื่อจับตัวเขาไว้

พวกเซี่ยเหลียนตกใจคิดว่าพวกชาวบ้านไม่พอใจที่เมื่อวานเขาทำหน้ากากหลุดซึ่งอาจพาโชคร้ายมาจึงพากันวิ่งหนี แต่ด้วยจำนวนคนทำให้ทั้ง 4 คนโดนล้อมอย่างรวดเร็ว แล้วเซี่ยเหลียนก็ถูกชาวบ้านรุมยกตัวเขาโยนขึ้นไปบนอากาศพร้อมส่งเสียงเชียร์ยกย่องการแสดงของเขา และยังชื่นชมที่องค์ชายรัชทายาทช่วยเหลือชีวิตเด็กชายชาวบ้านยากไร้ แม้ราชครูจะไม่พอใจในสิ่งที่เกิดขึ้น แต่เมื่อเห็นท่าทีของชาวบ้านเซี่ยเหลียนก็รู้สึกว่าสิ่งที่ตัวเองทำลงไปเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว กว่าพวกเซี่ยเหลียนจะปลีกตัวจากฝูงชนมาได้ก็เป็นเวลาเย็น ระหว่างที่กำลังไต่ขึ้นเขากันเซี่ยเหลียนก็ถามชื่อเด็กชายให้แน่ใจอีกครั้ง อีกฝ่ายจึงบอกว่ามารดาเรียกตนว่าหงหงเอ๋อร์ หากแต่เธอเสียชีวิตไปแล้ว

เมื่อขึ้นมาถึงยอดเขา ศิษยร่วมสำนักคนหนึ่งก็วิ่งมาแจ้งว่าราชครูต้องการพบเซี่ยเหลียนที่หอมหายุทธ์ เซี่ยเหลียนจึงให้เฟิงซิ่นกับมู่ฉิงพาหงหงเอ๋อร์กลับไปที่ตำหนักเซียนเล่อก่อน ตอนที่เขาไปถึงหอมหายุทธ์ก็พบว่าราชครู กับรองราชครูทั้ง 3 กำลังจุดธูปไหว้มหาเทพ หลังจากทักทายแล้วเขาจึงเข้าไปจุดธูปด้วย ราชครูกล่าวว่าพวกเขาหารือวิธีแก้เคล็ดได้ 2 วิธี วิธีแรกให้พาเด็กชายที่หล่นจากกำแพงคนนั้นมาผนึก 1 ในสัมผัสทั้ง 5 เป็นการไถ่โทษ แต่พวกเขารู้ดีว่าเซี่ยเหลียนไม่มีทางยอมจึงคิดวิธีที่ 2 ขึ้นมา นั่นคือให้เซี่ยเหลียนแสดงความสำนึกผิดต่อหน้าสาธารณะชน ขอให้สวรรค์ยกโทษ แล้วหันหน้าเข้าหากำแพงเป็นเวลา 1 เดือน ทว่าเซี่ยเหลียนก็ยังปฏิเสธอยู่ดี เขากล่าววันนี้ชาวบ้านในเมืองต่างยกย่องที่เขาช่วยเหลือเด็กชายไว้ หากเขาทำตามที่ราชครูว่าและถูกลงโทษเพราะทำในสิ่งที่ถูกต้อง ประชาชนจะคิดอย่างไรกัน

ราชครูแย้งว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับว่ามันถูกหรือผิดเพราะโลกนี้ไม่ได้สมบูรณ์แบบ เซี่ยเหลียนบอกว่าหากเช่นนั้นเขาขอเลือกทางเลือกที่ 3 เซี่ยเหลียนกล่าวกับอาจารย์ว่าตั้งแต่ที่เขาบำเพ็ญอยู่ที่นี่เขาก็คิดมาตลอดว่าการที่พวกเขากราบไหว้เทพเจ้าเช่นนี้เป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้วหรือ ก่อนขึ้นสวรรค์พวกเขาต่างก็เป็นมนุษย์ พระเจ้าอาจเปรียบดั่งผู้อาวุโส เปรียบดั่งอาจารย์ เป็นดั่งแสงนำทาง แต่ก็ไม่ใช่นายเหนือหัว มนุษย์สมควรแสดงความกตัญญูชื่นชมขอบคุณ แต่ก็ไม่น่าต้องกราบไหว้ ไม่น่าจะต้องเกรงกลัว ไม่น่าจะต้องร้องขอความเมตตา ไม่น่าจะต้องฝืนให้ตัวเองต้องลำบาก เขายินดีถวายตะเกียง 1000 ดวงแสดงความเคารพ แต่ขอปฏิเสธการก้มหัวในเมื่อสิ่งที่เขาทำถูกต้อง หากสวรรค์มีตาก็ไม่ควรลงโทษเขาด้วยเรื่องนี้ เมื่อราชครูถามว่าแล้วถ้าสวรรค์ต้องการทำโทษจริงๆ เซี่ยเหลียนจะยอมขอโทษหรือไม่ เซี่ยเหลียนก็ตอบว่าหากเป็นเช่นนั้นเขาก็จะต่อต้านสวรรค์เอง

ได้ยินดังนั้นใบหน้าของราชครูกลับปรากฏรอยยิ้มขึ้น เขากล่าวว่าเซี่ยเหลียนกล้าหาญมากที่พูดอย่างนั้น ตอนนั้นเองสัญญาณเตือนภัยก็ดังออกมาจากข้างนอก ราชครูทั้ง 4 กับเซี่ยเหลียนจึงพากันรีบวิ่งออกไปที่เจดีย์กาฬซึ่งประตูถูกเปิดออก ไอสีดำพวยพุ่งออกมาจากด้านใน ราชครูตะโกนถามเรื่องราวจากพวกลูกศิษย์ ก่อนได้รับคำตอบว่าจู่ๆ ประตูเจดีย์ก็เปิดออกเอง ภาชนะผนึกวิญญาณร้ายที่เก็บอยู่ด้านในพากันสั่นสะเทือน ยันต์คาถาที่ปิดผนึกพวกมันหลุดออก ราชครูสั่งให้พวกลูกศิษย์ไปนำไหผนึกวิญญาณใบใหม่มาให้เขา แต่ดูเหมือนจะสายไปเสียแล้ว
.
.
.
.
.

29 Nameless Fanboi Posted ID:BQBZWVATEI

>>28 ขอบคุณ​โม่งสปอย ขอให้นอนหลับ​ฝันดีนะจุ๊บๆ
หงหงมีบทเยอะกว่าที่คิดเยอะจริงๆ ว่ะ เซี่ยเหลียนสมัยอดีตก็แอบหัวแข็งนะ ปัจจุบัน​ self esteem ต่ำมาก คงเจออะไรมาเยอะจริงๆ //เศร้าแทน

30 Nameless Fanboi Posted ID:tkU5L0FPyo

>>29 อืม หัวแข็งจนทำให้อดคิดไม่ได้ว่าหลางเชียนชิวนี่ก็แอบคล้ายเซี่ยเหลียนตอนเด็กหลายอย่าง เซี่ยเหลียนถึงได้เซนซิทีฟกับเรื่องของลูกศิษย์ ไม่อยากให้ต้องเจออะไรเหมือนที่ตัวเองเคยเจอมา

31 Nameless Fanboi Posted ID:bKF+9lSif2

กูอยากรู้ว่าระหว่างตายไปสิบสามปีพี่เว่ยไปอยู่ไหนเอามากๆ เลย คือ 13 ปีนะมึง ถ้าช้ากว่านี้อีกนิด คงไปเกิดใหม่แล้วอ่ะ

32 Nameless Fanboi Posted ID:1GRcU0dAXX

>>31 กูคิดว่าตายไปเฉยๆเลย ไม่รับรู้ พอแล้วกับโลกนี้
สงสัยอย่างตรงที่เจียงเฉิงไปหาศพแต่ก็ไม่เจอ ศพไปไหน แล้วทำไมโม่ถึงเรียกวิญญาณมาได้ แต่วั่งจีเรียกไม่ได้

33 Nameless Fanboi Posted ID:4JMfbmEixG

>>32 เหมือนร่างโดนวิชาย้อนกลับมั้ง วิชาที่โม่ใช้เป็นวิชาของพวกมารอะ(และไม่น่าจะมีคนใช้หรือรู้จักมาก)จุดนี้ไม่แน่ใจ แต่ วั่งจีใช้ฉินเรียก ถามวิญญาณ เป็นวิชาของสกุลหลาน

34 Nameless Fanboi Posted ID:2gyEsp4NH.

>>32 ถ้าตามฉบับนิยายไม่ได้ตกเหว แต่โดนวิชามารย้อนกลับมากัดกินจนร่างสลายหายไปเลย ส่วนเรื่องถามวิญญาณพี่วั่งแต่ดีดฉินถามเหมือนโทรศัพท์ไปแล้วเขาไม่รับอ่ะ(อาจจะไม่มีสัญญาณ แบตหมดไรงี้)แต่ของน้องโม่คือเหมือนเปลี่ยนซิมเลย วิชาน้องโม่ก็เป็นวิชามาร เป็นการบังคับเอาวิญญาณคนตายมาสิงสู่ร่างตัวเองโดยมีค่าจ้างแลกเปลี่ยนเป็นวิญญาณของน้องโม่เอง

35 Nameless Fanboi Posted ID:zQ3nPIF.XW

>>32 น่าตะเป็นเรื่องของวิชาหรือเปล่ามึง ของโม่ที่เรียกเหมือนการอัญเชิญปีศาจของตะวันตกแล้วทำสัญญาณ คืออยากมา ไม่อยากมาก็ต้องมา ส่วรของพี่วั่งเหมือนวิชาที่สะอาดกว่าคือถ้าดวงจิตเดิมทีไม่อยากพบเจอใครอยู่แล้ว ไม่อยากตอบ ก็แล้วเลยกันไป ? ? เป็นคำถามที่น่าสนใจ ในนิยายมีบอกไหมวะ

36 Nameless Fanboi Posted ID:LwwRuiauQW

>>34 มิน่าน้องหนิงถึงบอกเว่ยอิงตายอย่างอนาจ T T เรื่องนี้คนดีอายุสั้น งืออออ

37 Nameless Fanboi Posted ID:3gXgdeg3Vs

>>33-35 โฮฮฮฮ ขอบใจเมิงกูยังไม่ได้อ่านหนังสือ
ฉากตกหน้าผานั่นก็ทำมาเพื่อขยี้สินะ ;_;

38 Nameless Fanboi Posted ID:2gyEsp4NH.

กูว่าฉบับซีรีย์ทำให้พี่เว่ยดูเป็นฮีโร่มากไปหน่อยจริงๆน่ะแหละ ทั้งเรื่องเปลี่ยนจากควบคุมศพคนตาย(มองในมุมนึงคือเป็นการไม่เคารพคนตาย บังคับใช้ร่างเขาโดยที่จริงๆเขาอาจจะไม่ยินยอม )เป็นเปลี่ยนเป็นควบคุมจิตหรือผีดิบเฉยๆ ทั้งเรื่องที่ว่าพี่เว่ยควบคุมพลังไม่ได้จนทำร้ายตัวเองและคนรอบข้าง ก็เปลี่ยนเป็นมีคนมาซ้อนแผนแทน แถมผลร้ายของการใช้วิชามาร+ความทะนงตนของพี่เว่ยก็ไม่ค่อยชัดด้วย(เปลี่ยนจากโดนวิชาย้อนเข้าตัวจนร่างสลายเป็นตกผา) แต่อย่างว่าถ้าทำตามนิยายน่าจะดาร์กไปหน่อย คนดูที่คิดวิเคราะห์แยกแยะได้ก็ใช่จะมีเยอะด้วยนี่สิ

39 Nameless Fanboi Posted ID:cXnUr7DiyR

>>38 ขนาดชอบกินกระต่ายย่าง ในซีรีย์พี่เว่ยยังโดนเปลี่ยนเป็นอุดหูกระต่ายตอนเจียงเฉิงพูดถึงกระต่ายย่างเลย (แต่ก็น่ารักดีนะ)

40 Nameless Fanboi Posted ID:dGWTm5TLC1

>>38 กุก็ไม่ชอบจุดนี้ ที่พาชิบหายคือนิสัยทะนงตัวของพี่เว่ย พอซีรีส์เปลี่ยนว่ามีคนยุยงก็ฉอดกันใหญ่ว่าพี่เว่ยเป็นคนดี มีคนร้ายตั้งหาก ชีวิตเลยพลิกผัน ในนิยายคือทำตัวเองทั้งนันพ่อ ถถถถถ

41 Nameless Fanboi Posted ID:9eVCh4qb1W

>>40 กูดูแต่ซีรี่ส์ก็ว่าทำตัวเองทั้งนั้น แรกๆนี่ซ่าเหลือเกิน มีหลังๆที่ดูเป็นเหยื่อเป็นแพะรับบาป
>>39 เพิ่งรู้เรื่องกระต่าย ในซีรี่ส์แม่งเหมือนเป็นลูกเลยนะเว้ย เหมือนทิ้งไว้เป็นโซ่ทองคล้องใจ เมียไม่อยู่ผัวก็เลี้ยงกระต่ายไป นิยายเอามาแดกเลยเรอะะะ

42 Nameless Fanboi Posted ID:QxBCC2eBUD

เว่ยอิงทำตัวเองทั้งนั้นแหละ ผลที่ได้รับก็สมควรกับการกระทำแล้ว แต่บ้านเจียงซวยสัดๆ ไม่ได้ทำห่าไรเลย แต่ต้องมารับกรรมที่อิพี่เว่ยทำทั้งนั้น สุดท้ายอิพี่เว่ยไปมีความสุขกับหลัว เจียงเฉิงทูนหัวของบ่าวระทมทุกข์ โดดเดี่ยวต่อไป ร้องห้าย

43 Nameless Fanboi Posted ID:4/HPzRvSer

>>42 //กอดมึงร้องห้ายด้วย ลูกรักแม่โม่ก็สบายปลิวเลย แล้วอาเฉิงกูล่ะ ฮือ

44 Nameless Fanboi Posted ID:7nHBvHjhso

>>41 ก็น่าจะเคยกินอยู่ หรือจะพูดหยอกๆ วะ ไม่แน่ใจ ยังไงก็เถอะ ในนิยายคนพูดคือพี่เว่ยเลยล่ะ ไม่ได้ชอบแบบเอ็นดูขนาดซีรีย์

45 Nameless Fanboi Posted ID:e8SBocrC47

กูงงการแปลปรจ. ชื่อสถานที่ ชื่อกระบี่มีการแปล แต่ทำไมชื่อหมาไม่แปลหรืออธิบาย เซียนจื่อ โมลี่ เพ่ยเพ่ย คนทั่วไปจะรู้มั้ยอ่ะ (ตรงนี้คือมุกที่บอกว่าจินหลิงและเจียงเฉิงมีเซ้นท์การตั้งชื่อที่แย่มาก)

46 Nameless Fanboi Posted ID:9287CLCK79

>>45 แอปเปิ้ลด้วยทำไมต้องแปลทับศัพท์ ไม่รู้เล่ม 2 แก้ยัง

47 Nameless Fanboi Posted ID:dGWTm5TLC1

>>42 บ้านเจียงซวยสัดๆ เลยนะ เพราะความปากดี ซ่าไม่หยุดพี่เว่ย แต่พอมารุ่นเจียงเฉิง play safe เน้นความมั่นคง เสือกด่าว่าไม่เชื่อในตัวพี่น้องที่โตมาด้วยกัน เอาอะไรมาเชื่อ ถามห่าไรก็บ่ายเบี่ยงไม่ตอบ กุขึ้นนนน

อาเฉิงซีรีส์ยังดี บทดูมุฟออน แต่นิยายกุอ่านจบตอนเฉลยเรื่องเสียจินตาน กุไปต่อไม่ได้เลย น้องไห้เหมียนหมา คนดีไม่มีใครเห็นที่แท้คือลูกกุ

48 Nameless Fanboi Posted ID:3gXgdeg3Vs

>>47 เรื่องเสียจินตานกูดูซีรี่ส์แล้วรักอาเฉิงมากกกก ตอนแรกคือหงุดหงิดแม่งแส่หาเรื่องออกไปแท้ พอเฉลยแล้วรักน้องเลย ช่วยกันไปช่วยกันมาโฮรววว เฉลยเสร็จจบเรื่องพอดี
คนที่มีฝ่ามือสลายจินตานกูก็ติดใจนิดๆนะ เหมือนจะคนดี กูเชียร์ให้กลับใจมาก

49 Nameless Fanboi Posted ID:d/77WTxPvS

>>45 กูเคยไปพูดในมู้ปรมจ.ล่ะติ่งแย้งกูรัวๆบอกใข้กูอธิบายว่าแปลกยังไงบลาๆ ดุเหมียนหมา

50 Nameless Fanboi Posted ID:d/77WTxPvS

>>49 คนเดิมนะ กุก็ติ่งนะ แต่กุยังคิดว่าการแปลมันแปลกๆเลย กุพูดในมู้ก่อนๆนะ ไม่ใช่มู้นี้

51 Nameless Fanboi Posted ID:2C8Q39TP4z

กูมาตอนมู้วายอีก่ะ ขอถามนิดนึงสรุปที่น้องหนิงฆ่าจินจื่อเซวียนนี่เพราะพี่เว่ยแกคุมพลังไม่ได้จริงๆหรือมีคนเสี้ยม เพราะตอนช่วงซีรีส์ฉายกูเคยเห็นคนพูดว่าคุมพลังไม่ได้เอง ไม่ได้มีใครเสี้ยม แต่กูเพิ่งนั่งดูอนิเมะซีซั่น 2 จบ ก็สรุปว่ามีคนเสี้ยมเหมือนกัน กูเลยงง เพราะอนิเมะซีซั่นแรกมันตรงกับม่านฮวาซึ่งตรงกับนิยายพอสมควร ตอนแรกกูเลยคิดจะเชื่ออนิเมะมากกว่านิยาย แต่สรุปตอนนี้คือกูงงไปหมดว่ายังไงกันแน่ หรือสุดท้ายอนิเมะจะไม่อิงม่านฮวาแต่มาอิงบทนิยายแทน

52 Nameless Fanboi Posted ID:2wpAq.L6wk

แล้วเฉิงมันไม่สบายตรงไหนอะมึง ถึงเรื่องปัจจุบันเนี่ย พ่อแม่พี่สาวตายก็เอาชีวิตคืนมาไม่ได้แล้ว มึงต้องการให้มันเป็นไปในทางไหนอะหรือต้องให้เว่ยอิงตายให้จบแบด?? กูไม่รู้ความคิดพวกมึงจริงๆอย่าพึ่งด่ากูแค่บอกกูก็พอ ถ้าเรื่องตอนจบยังดูไม่คืนดี แต่มันก็เคลียร์กันแล้วนะคงต้องรอเวลา

53 Nameless Fanboi Posted ID:CYdQLUuvtw

>>46 แอปเปิ้ลมันก็ทับศัพท์ภาษาอังกฤษ พอเรื่องมันแปลจากนิยายจีนโบราณ แปลมาใช้ศัพท์ฝรั่งอ่านแล้วมันก็แปลกๆดิไม่เข้ากับบรรยากาศความโบราณ
แต่กูเห็นด้วยเรื่องชื่อหมานะ ทำไมไม่แปลชื่อหว่า

54 Nameless Fanboi Posted ID:QxBCC2eBUD

>>51 ในนิยายเว่ยอิงควบคุมพลังไม่ได้เอง

55 Nameless Fanboi Posted ID:/cgXhzKBxs

>>53 เรื่องแอปเปิ้ลก็ควรแปลเป็นแอปเปิ้ลไปนะ เพราะนี่แปลไทย คนไทยเรียกแอปเปิ้ล ไม่ได้เรียกผิงกั่ว

56 Nameless Fanboi Posted ID:v2JOmxrb1w

>>55 แต่นิยายจีนโบราณแปลไทยใช้ผิงกั่วมาชาติกว่าแล้ว บอกแบบนั้นเหมือนบอกว่าฮ่องเต้ต้องแปลว่าพระมหากษัตริย์ เสี่ยวต้องแปลว่าน้อย

จริงๆชื่อเฉพาะเนี่ยไม่แปลน่ะถูกแล้ว แต่การแปลชื่อสถานที่หรือสิ่งของเฉพาะบางอย่างจำเป็นเพื่ออรรถรส ชื่อสัตว์เลี้ยงถ้าจะเล่นมุกก็ใส่เชิงอรรถไว้ก็ได้เถอะ สนพ.จะแปลไม่แปลก็จริตเขา ไม่ถูกจริตมึงก็อาจจะถูกจริตคนอื่น กูว่าถ้ามันไม่ใช่เรื่องอย่างแปลผิดหรือแปลมาแล้วอ่านไม่ได้เลยก็ไม่ใช่เรื่องมหญ่ขนาดนั้นนะ

57 Nameless Fanboi Posted ID:WFtf.18KgT

>>53 ค้านว่ะ กูอ่านนิยาย/การ์ตูนญี่ปุ่นโบราณเรื่องไหนก็แปลเป็นแอปเปิ้ล ไม่เห็นแปลเป็นริงโกะเลย ทั้งที่ญี่ปุ่นปิดประเทศห่างไกลต่างชาติกว่าจีน อันไหนแปลได้ก็แปลเถอะขนาดชื่อเฉพาะอย่างกระบี่ยังแปลได้คำนี้แปลตรงๆง่ายกว่าอีก กูไม่จำเป็นต้องรู้ศัพท์ภาษาจีนวันละคำว่าด้วยชื่อผลไม้ทับศัพท์ กูมองเหตุผลเดียวกึบแปลชื่อกระบี่ว่ะ ในเรื่องก็เล่นมุกตั้งเป็นชื่ออาหารด้วย

กูมองว่าทับศัพท์แบบเป็นอันรู้กันแค่ที่คนทั่วไปที่ไม่ใช่สายอ่านนิยายรู้จักกันว่ะ พวกฮ่องเต้ ฮองเฮา ไม่ใช่อ่านนิยายทีต้องริเริ่มบทเรียนจีนวันละคำ เสี่ยว เอ๋อก็แปลเป็นหนูเป็นน้อยไปตามเรื่อง เชิงอรรถมีไว้สำหรับคำที่จนปัญญาแปลไม่ได้จริงๆไม่ใช่ใช้เรี่ยราด

58 Nameless Fanboi Posted ID:/cgXhzKBxs

>>57 +111111111111111111

59 Nameless Fanboi Posted ID:CYdQLUuvtw

>>57 งั้นใบเฟิงก็ต้องแปลว่าใบเมเปิล เพราะคนไทยไม่เรียกใบเฟิงแต่เรียกใบเมเปิล แปลทับศัพท์อิ้งคำนึงที่เหลือก็ต้องทับด้วยเป็นมาตราฐานเดียวกัน

60 Nameless Fanboi Posted ID:TOLYC0bz1v

>>59 ใช่

61 Nameless Fanboi Posted ID:edacJ4/T8v

>>59 ก็ไม่เห็นเป็นไรนี่

62 Nameless Fanboi Posted ID:CYdQLUuvtw

>>61 เอางี้ถ้ามึงจะให้แปลผิงกั่วเป็นแอ๊ปเปิ้ลเพราะไทยใช้คำนี้ มึงลองนึกบทบรรยายสวนในนิยาย จีนมันเมืองหนาวมีพืชที่เมืองร้อนอย่างไทยไม่มี แล้วพืชเมืองหนาวพวกนี้ไทยก็ทับศัพท์ชื่อเป็นอิ้งหมด จื่อถิงหลัวต้องแปลว่าวิสเทอเรีย อิงฮวาก็ต้องแปลว่าซากุระ สุ่ยเซียนต้องแปลว่านาร์ซิสซัส ฉาฮวาแปลเป็นดอกคามิเลีย ซิ่งฮวาเป็นแอพพิคอท จากสวนจีนแม่งกลายเป็นสวนยุโรปเฉย

63 Nameless Fanboi Posted ID:v2JOmxrb1w

>>57 ก็การ์ตูนญี่ปุ่นมันแปลเป็นแอปเปิ้ลมาแต่แรกปะ กูพูดถึงนิยายจีนโบราณ มึงดันพูดถึงการ์ตูนญี่ปุ่นโบราณคือมึงงงหรือกูงง การ์ตูนญี่ปุ่นนิยายญี่ปุ่นกูก็อ่านอะไรที่มันทับได้เขาก็ทับเพื่ออรรถรสกันบ่อยไปว่ะ แล้วเรื่องชื่อเนี่ยถ้าหมานางเอกชื่อริงโกะต้องแปลว่าน้องแอปเปิ้ลมั้ย ถ้าแมวนางเอกชื่อทามะต้องแปลว่าน้องแมวมั้ย บริบทเรื่องชื่อง่ายๆแค่นี้เองนะมึง ถ้าจะทู่ซี้ว่าชื่อเรียกเฉพาะบางอย่างก็ต้องแปลให้หมด แล้วแบบนั้นชื่อตัวละครต้องแปลด้วยเลยมั้ย

เล่นมุกเรื่องชื่อมันก็ใส่เชิงอรรถแค่ครั้งเดียวปะ มึงจะใส่มันทุกเล่มเลยเหรอ นิยายเรื่องอื่นเล่นมุกชื่อใส่เชิงอรรถได้ เรื่องนี้ใส่เชิงอรรถ=เรี่ยราด ?? แล้วใครบอกมึงว่าเชิงอรรถคือใช้กับคำที่จนปัญญา พวกมุก สำนวนทั้งหลายมันก็ลงเชิงอรรถทั้งนั้นนะ แล้วปัญหาการแปลชื่อโดยไม่ทับศัพท์เลยก็คือโดนด่าไงว่าไม่เหมือนอ่านนิยายจีน เวลามึงขายหนังสิอมึงจะเจาะกลุ่มไหนล่ะ คนทั่วไปที่ไม่รู้จะซื้อจริงๆมั้ยกับลูกค้าประจำที่ซื้อแน่ๆอยู่แล้ว

64 Nameless Fanboi Posted ID:9287CLCK79

>>56 ไม่ใช่ทุกคนจะอ่านนิยายจีนมาก่อนนะมึง อย่างกูก็เพิ่งมาตามจากเรื่องนี้

65 Nameless Fanboi Posted ID:Em3hNI4L1m

กูว่าสนพ พลาดตรงที่ไม่ใส่เชิงอรรถ ไม่ต้องใส่ตลอดก็ได้ เอาเฉพาะตรงที่มันเล่นมุขก็พอ
ถ้าไม่ได้ดูจากทวิตภพ กูนี่งงไปกับหลายๆ มุขเลยนะ

66 Nameless Fanboi Posted ID:GAeUOpfXDr

>>63 กูไม่รู้จักทั้งจื่อถิงหลัว สุ่ยเซียน ซิ่งฮวา ฉาฮวา อิด๊อกกกก อ่านนิยายกูจำเป็นต้องจำชื่อพรรณไม้เพิ่มเหรอ เข้าสวนทีกูต้องเงยหน้าขึ้นๆลงๆ ท่องศัพท์ปานอ่านหนังสือสอบแล้วค่อยจินตนาการตามนิยาย นิยายแปลก็แปลให้เข้าใจเถิดอย่าได้ให้จำเลย กูเอาการ์ตูนญี่ปุ่นมาเพื่อชี้ให้เห็นการแปลว่ะ ว่าปกติชื่อผลไม้มันไม่ทับศัพท์ถ้ามีคำไทยอยู่แล้ว ในแง่ชื่อเฉพาะตัวอย่างสัตว์สามารถแปลและทับศัพท์ได้ทั้งคู่ แต่เรื่องนี้คนแปลเลือกแปลชื่อ กระบี่'แล้วแต่' ของเว่ยอิงเพื่อเล่นมุกทางภาษา แต่กลับไม่แปล'แอปเปิ้ล'ที่เล่นมุกด้วย กูมองว่าการแปลควรใช้มาตรฐานเดียวกันในการแปลเรื่องนึงว่ะไม่ใช่เดี๋ยวแปลเดี๋ยวไม่แปล

การทับศัพท์ใส่เชิงอรรถคือการลดทอนความหมายของชื่อว่ะ จากที่ตั้งใจเล่นมุกก็กลายเป็นชื่อจีนๆชื่อนึง ผ่านไปคนไม่ได้สนใจความหมายก็สูญเสียความหมายนั้นไป เรื่องอื่นใส่เชิงอรรถเรี่ยราดกูก็บ่น ตอนนี้พูดถึงปรมาจารย์กูก็บ่นปรมาจารย์ ตัวร้ายกูก็นั่งเสียดายนามแฝงของเสิ่นหยวนกับซั่งชิงหัวจะตาย

จากกูผู้ชมชื่อกระบี่แปลไทย นิยายแปลไม่ใช่หนังสือเรียนจีนแสนสนุกวันละคำ จะอ่านทีต้องมานั่งจำชื่อ กูเลิกรากับเอะอะก็เชิงอรรถจนเชิงอรรถหนาเป็นนิ้วแล้ว และคนชอบแปลไทยมันก็คนอ่านหนังสือแหละจ้า

67 Nameless Fanboi Posted ID:v2JOmxrb1w

>>64 แล้วไงวะ ในเมื่อไม่ว่ามึงจะตามมาจากเรื่องไหนมันก็ใช้ผิงกั่วเกือบหมด บางทีอ่านไปสักสองสามเรื่องมึงก็ต้องรู้บ้างแล้วนะ ทุกคนเขาก็มาจากการไม่เคยอ่านทั้งนั้นไม่มีใครคลอดมาแล้วรู้เลยหรอกว่าผิงกั่วคือแอปเปิ้ล มันก็มาจากการอ่านการสังเกตุการเรียนรู้หรือบางทีต้องค้นคว้าต่อมั้ย ยิ่งอ่านเยอะยิ่งรู้มาก จะมาอ่านเล่มเดียวรู้ทุกอย่างมันก็ไม่ใช่นะ อะไรไม่รู้ก็ขวยขวายหาคำตอบกันบ้างสิจะรอให้ทุกอย่างมาป้อนตรงปากก็ไม่ใช่มั้ยวะ

ถ้าสมมติชีวิตมึงไม่เคยดูหนังจีนเลยไม่มีเชื้อจีนไม่สนเรื่องจีนๆ แต่มึงมาอ่านนิยายจีนครั้งแรกในชีวิต เจอศัพท์ง่ายๆอย่างฮ่องเต้ ฮองเฮา อ๋อง กงกง มึงก็ต้องมีงงปะว่าคืออะไรแต่ก็ไม่เห็นใครมีปัญหานี่ ก็ล้วนแต่ต้องค่อยๆเรียนรู้กันไปทั้งนั้น

68 Nameless Fanboi Posted ID:v2JOmxrb1w

>>66 ก็มึงยกตัวอย่างญี่ปุ่นมา กูก็ถามมึงกลับนี่ไง แมวนางเอกชื่อทามะมึงเห็นเขาแปลกันมั้ยล่ะทั้งที่นี่ก็เล่นมุกเหมือนกันว่าตั้งชื่อมักง่าย หรือหมาพระเอกชื่อวังโกะงี้ เต่าชื่อคาเมะงี้ นกชื่อโทริ นี่เล่นมุกทั้งนั้นเลยนะ กูถึงบอกไงเรื่องมุกชื่อจะแปลไม่แปลมันไม่ใช่ปัญหาใหญ่ขนาดนั้น แล้วเอาจริงๆ ถ้าเสือกแปลชื่อหมาว่านางฟ้ามาก็โดนด่าอยู่ดีว่าแปลมาทำไม ทำไมไม่เชิงอรรถเอา ถ้ามันจะพลาดก็พลาดตรงดันไม่เก็ตว่ามันคือมุกเลยปล่อยผ่านมานี่แหละ

ถ้ามึงยกว่านิยายแปลไม่ใช่หนังสือเรียนจีนวันละคำ งี้ชื่อของตัวละครที่เสือกเป็นมุกมีความหมายแฝงก็ต้องแปลหมดเหรอ หรือแค่เชิงอรรถเอาก็เข้าใจกันแล้ว การแปลมันก็มียุคสมัยของมันนะมึง ถ้ามาตามยุคลูกปลาน้อย ไม่ต้องเรียกพี่เว่ยว่าไร้ริษยาเว่ยอู๋เซี่ยนมันทั้งเรื่องเลยเรอะ

69 Nameless Fanboi Posted ID:9287CLCK79

>>66 +1
>>67 กูอ่านนิยายนะไม่ใช่อ่านหนังสือเรียนภาษาวันละคำ อีกอย่างกูไม่ได้มีเวลามาอ่านนิยายจีนตลอดเปล่าวะ เวลาอ่านไปกูต้องมาระลึกชาติงี้เหรอ

70 Nameless Fanboi Posted ID:9287CLCK79

>>68 มึงออกทะเลแล้ว ที่เขาว่ากันเนี่ยคือทำไมไม่แปลแอปเปิ้ลกับหมาเพราะเป็นมุกคำ แต่กระบี่สถานที่เสือกแปลตรงตัว

71 Nameless Fanboi Posted ID:wHZAvQ+ULB

กูยังไม่ได้อ่านนะ ขอถามหน่อยว่าที่ไม่แปลแอปเปิ้ล/ชื่อหมานี่ เค้าใส่เชิงอรรถไว้หรือเปล่า ถ้าไม่ใส่ก็น่าด่าอยู่ แต่ถ้าใส่ก็ไม่มีปัญหานะ เรื่องอื่นก็ทำแบบนี้

72 Nameless Fanboi Posted ID:v2JOmxrb1w

>>69 ปกติมันก็มีเชิงอรรถตลอดนะ สำหรับคำที่เขาคิดว่ายากเกินไป มึงไม่โอเคก็เรื่องของมึงสิ ในเมื่อคนส่วนมากมันไม่มีปัญหากับเรื่องแค่นี้นี่ กูพูดถึงคำว่าผิงกั่วคำเดียวเลยนะ ระลึกไม่ได้ก็งงต่อไปนั่นแหละ

แล้วกูก็บอกอยู่นะว่าการแปลหรือไม่แปลไม่ใช่ปัญหาใหญ่ กูบอกว่ามันพลาดที่เสือกไม่เก็ตมุกแล้วไม่ใส่เชิงอรรถมา ส่วนตัวกูไม่มีปัญหาว่าจะแปลหรือไม่แปลมา แต่ถ้าไม่แปลแล้วเป็นมุก กรุณาใส่เชิงอรรถมาด้วย

แต่ถึงมันแปลมาแล้วยังกับว่าพวกมึงจะเก็ตทันทีน่ะว่ามันเป็นมุก แว่บแรกเห็นชื่อเก็ตเลยเหรอว่ามุกนี่ขนาดไม่รู้ภาษาจีนกันนะเนี่ยหรือไปอ่านที่เขารวบรวมข้อมูลมาให้(ซึ่งเทียบแล้วมันก็เชิงอรรถนั่นแหละ)เลยรู้ว่าเป็นมุกกันแน่คิดให้ดีๆ

ส่วนเรื่องภาษาญี่ปุ่น ก็ข้างบนยกมาว่ามันไม่เห็นแปลริงโกะว่าแอปเปิ้ลเลย กูก็เลยถามไงว่าแล้วริงโกะที่เป็นชื่อสัตว์เลี้ยงมันแปลมั้ยล่ะ มันก็ไม่แปลมั้ย

กูแยกให้ง่ายๆเลย ไม่ว่าจะงานแปลไหนๆ โดยส่วนมากชื่อสิ่งมีชีวิตจะคนสัตว์เลี้ยงเขาไม่ค่อยแปลหรอกยกเว้นจะเป็นมุกหรือมีเชิงอรรถไว้

ชื่อสถานที่หรือชื่อพลังส่วนมากจะยาวจำยากเข้าใจยาก จึงแปลเพื่อให้เข้าใจง่าย

ชื่อตำแหน่ง ต้นไม้ สั้นๆ ที่ไม่ค่อยคุ้นหูมักทับศัพท์แล้วใส่เชิงอรรถไว้

ชื่อสิ่งของเฉพาะที่ถ้าไม่แปลก็ไม่รู้เรื่องมักจะแปล
ที่เหลือจริตคนแปลล้วนๆ เช่น ชื่อดาบ ที่แปลก็ได้ไม่แปลก็ไม่ตายอ่ะ

กูก็งงว่ามันเป็นเรื่องปกติ ปกติมากๆชิบหาย ปกติชิบหาย โคตรจะปกติ ในงานแปลจีน พวกมึงงอะไรกัน...

73 Nameless Fanboi Posted ID:1aPoVb4g72

ทู้ลากยาวเชียว กูยังไม่ได้อ่าน แต่เท่าๆที่ตามๆมา เสี่ยวผิงกั๋ว คือ แอปเปิ้ลน้อย นี่ตั้งใจเรียกให้เป็นนิกเนมไปเลยป่าว แบบ ฉายาอะ คนแปลเลยไม่แปลมั้ย ชื่อหมา ก็เหมือนกัน ใช้ทัพศัพย์เพราะมันเปนชื่อป่าว (กูไม่รู้นะ)

เหมือน เรียกคนว่า เสี่ยวหลี่ อะไรก็ว่าไป

คนแปลใส่เชิงอรรถไหมว่า ผิงกั๋ว คืออะไรงี้

ส่วนพวกชื่อกระบี่ ก็ปกติที่จะต้องแปลอยู่แล้วอ่ะ

74 Nameless Fanboi Posted ID:DKqZEzd/96

ขอ KY สปอยเทียนกวาน อาร์ค 2 ต่อจาก >>28 เทียนกวาน Part.57
.
.
.
.
.
เซี่ยเหลียนวิ่งไปปิดประตูเจดีย์ ใช้กระบี่วาดคาถาก่อนปักมันบนพื้นเพื่อกันไม่ให้วิญญาณข้างในออกมาอีก แต่ส่วนที่ออกมาแล้วก็รวมตัวกันเป็นกลุ่มควันสีดำพุ่งไปยังตำหนักเซียนเล่อ ราชครูถามเซี่ยเหลียนว่าเอาอะไรมาไว้ในตำหนัก ทำให้เซี่ยเหลียนนึกออกว่าตนพาเด็กชายคนนั้นกลับมาด้วย ตอนนั้นเองพวกลูกศิษย์ก็ตะโกนบอกว่าตำหนักของเซี่ยเหลียนถูกไฟไหม้ ทุกคนรีบช่วยตักน้ำดับไฟ เมื่อไม่เห็นผู้ติดตามทั้งสอง เซี่ยเหลียนก็ฝาดงควันวิญญาณเข้าไป เฟิงซิ่นกับมู่ฉิงช่วยกันกางเขตคุ้มกันอยู่ที่ห้องโถงหลักโดยมีวิญญาณล้อมรอบ เฟิงซิ่นตะโกนห้ามไม่ให้เซี่ยเหลียนเข้ามา และบอกว่าพวกวิญญาณมีเป้าหมายที่เด็กชาย หงหงเอ๋อร์นั่งคุกเข่ากับพื้นกรีดร้องว่า “ไม่ใช่ช้า”

เซี่ยเหลียนรีบเข้าไปจับวิญญาณร้ายตัวหัวหน้าไว้ก่อนบดขยี้มันหายไปในฝ่ามือ วิญญาณลูกกระจ๊อกเลยยอมแพ้กลับเข้าไปในภาชนะผนึกซึ่งพวกราชครูถือมา เมื่อสถานการณ์เริ่มสงบลง ราชครูก็ถามเรื่องของเด็กชาย เซี่ยเหลียนตอบไปตามจริงว่าหงหงเอ๋อร์คือเด็กที่หล่นจากกำแพง อีกฝ่ายจึงเข้ามาสอบถามวันเดือนปีและเวลาเกิดของเด็กชาย ราชครูเหม่ยเนี่ยนชิงมีชื่อเสียงด้านการดูดวงมาก เขารีบคำนวณดวงชะตาของเด็กชาย ในที่สุดก็บอกว่าหงหงเอ๋อร์มีดวงเกิดในช่วงดาวมฤตยู จะนำพาโชคร้ายและความเสียหายติดตามตัว ผู้คนใกล้ชิดจะถูกดึงให้ต้องพบกับหายนะและอาจถึงขั้นเสียชีวิต เมื่ออีกฝ่ายพูดจบหงหงเอ๋อร์ก็ร้องเสียงดังด้วยความเจ็บปวด เด็กชายพุ่งเข้าไปจะเอาหัวกระแทกราชครู ก่อนที่ราชครูจะสั่งห้ามผู้ใดเข้าไปสัมผัสถูกตัวของอีกฝ่าย หงหงเอ๋อร์เอาแต่ตะโกนว่า “ไม่ใช่ช้า” เซี่ยเหลียนเลยรีบเข้าไปกอดปลอบเด็กชายซึ่งน้ำตาไหลพลั่งพลูร้องไห้ออกมาเสียงดังราวจะขาดใจ พร้อมบอกว่าไม่ใช่ความผิดของเจ้า

ราชครูกับเฟิงซิ่นบอกให้เซี่ยเหลียนปล่อยเด็กชาย ศิษย์ในสำนักหลายคนพยายามมาดึงหงหงเอ๋อร์ซึ่งเกาะเซี่ยเหลียนแน่นออก แต่เซี่ยเหลียนก็บอกทุกคนว่าไม่เป็นไร แล้วหันไปถามว่ามีใครในตำหนักได้รับบาดเจ็บหรือไม่ จึงทราบว่ามีเพียงตำหนักที่ได้รับความเสียหาย ส่วนกระบี่ในคอลเลคชันทั้ง 200 เล่มของเขาที่สร้างจากวัสดุทนไฟก็ไม่น่าจะเป็นอะไร เด็กชายร้องไห้จนหลับไป จากนั้นราชครูก็เรียกเขาไปคุยในที่พักของตน เซี่ยเหลียนถามอาจารย์ว่ามีวิธีเปลี่ยนดวงชะตาให้หงหงเอ๋อร์ได้หรือไม่ ทำให้ราชครูบ่นว่าเพราะเซี่ยเหลียนไม่เข้าใจศาสตร์เกี่ยวกับโชคชะตาจึงได้ไม่เข้าใจอะไรเลย

ราชครูถามเซี่ยเหลียนว่ายังจำคำถามที่เขาเคยถามในวันที่เขาไปดูดวงชะตาให้ตอนเซี่ยเหลียน 6 ขวบหรือไม่ หลังจากนึกสักพักเซี่ยเหลียนจึงถามว่าใช่เรื่องของคน 2 คนกับน้ำ 1 ถ้วยหรือเปล่า ในวันนั้นราชครูชื่นชมคำตอบของเขาหลายครั้ง มีเพียงคำถามข้อนั้นที่ราชครูไม่พูดอะไรออกมา คนสองคนกำลังเดินอยู่กลางทะเลทรายและกำลังจะขาดน้ำตาย ผู้ที่ได้รับน้ำจะมีชีวิตรอด ส่วนอีกคนจะเสียชีวิต หากเซี่ยเหลียนเป็นเทพเจ้า เขาจะมอบน้ำถ้วยนั้นให้กับคนใด ราชครูหันไปบอกให้เฟิงซิ่นกับมู่ฉิงลองตอบคำถาม ในขณะที่มู่ฉิงขอข้อมูลของคนทั้งสองเพื่อประกอบการตัดสินใจ เฟิงซิ่นกลับบอกให้ทั้งสองคนไปตัดสินกันเอาเอง ส่วนเซี่ยเหลียนในตอนเด็กตอบไปว่าหากเขาเป็นพระเจ้า เขาจะมอบน้ำอีกถ้วยหนึ่งให้กับทั้งสองคน

ราชครูกล่าวว่าในโลกนี้ไม่ว่าจะเป็นโชคชะตาที่ดีหรือแย่ล้วนแต่มีจำกัดเหมือนน้ำหนึ่งถ้วย หากคนหนึ่งได้ดื่ม อีกคนย่อมไม่ได้ หากคนหนึ่งได้มากขึ้น อีกคนย่อมได้น้อยลง ทุกปัญหาล้วนเกิดจากการที่มีผู้คนอยู่มากมาย หากแต่มีน้ำเพียงแค่ถ้วยเดียว ทว่าการที่คนๆ หนึ่งได้รับน้ำถ้วยนั้นไปก็ย่อมมีเหตุผลของมัน ถ้าเปลี่ยนดวงชะตาของเด็กชายย่อมทำให้ชะตาของใครบางคนต้องเปลี่ยนไปด้วย ซึ่งนั่นย่อมนำมาซึ่งความแค้น การที่เซี่ยเหลียนต้องการมอบน้ำเพิ่มอีกถ้วยหนึ่งเช่นเดียวกับที่วันนี้ต้องการทางเลือกที่ 3 แม้จะทำไปด้วยเจตนาดี แต่เรื่องนั้นไม่มีทางเป็นไปได้

ถึงจะไม่เห็นด้วยแต่เซี่ยเหลียนก็ตอบรับอาจารย์ ราชครูกล่าวเสริมว่าเซี่ยเหลียนเป็นลูกศิษย์ที่เขาภูมิใจ แต่เขาก็ยังกลัวว่าจะมีบททดสอบบางอย่างที่เซี่ยเหลียนไปอาจผ่านได้ มีหลายเรื่องที่เซี่ยเหลียนไม่เข้าใจและไม่อาจให้ใครสอน ที่เซี่ยเหลียนกล่าวเกี่ยวกับการไม่ยอมก้มหัวให้พระเจ้านั้นก็เคยมีผู้อื่นเคยเอ่ยมาก่อนแล้ว แต่ความคิดเหล่านั้นกลับไม่อาจเป็นรูปร่าง เซี่ยเหลียนเลยบอกว่าเป็นเพราะคนเหล่านั้นได้เพียงคิดแต่ไม่ลงมือกระทำ หากวันหนึ่งเขาได้ขึ้นสวรรค์ เขาจะทำอย่างที่ได้พูดในวันนี้ และจะไม่มีอะไรห้ามเขาได้
.
.
.
.
.

75 Nameless Fanboi Posted ID:+hO5Y3fdNz

>>74 ขอบคุณ​มากโม่งสปอย
ฟาฟาก็เหมือนเจออะไรมาเยอะนะ กว่าเซี่ยเหลียนกันฟาฟาจะพบเจอความสุขในชีวิตนี่แม่ง ยาวนานจนเขียนเป็นหนังสือได้หนาแปดเมตร 555
กูอ่านสปอยตอนนี้ บอกเลยว่าราชครูทำนายไม่แม่น เพราะถ้าแม่นจริงต้องทายได้สิว่าเด็กคนนี้คือเนื้อคู่ของเจ้าชายในอนาคต 555

76 Nameless Fanboi Posted ID:LmHX/S6yql

>>55 โถ่อีควาย นิยายโบราณเรียก Apple ใช้หัวไหนคิด

77 Nameless Fanboi Posted ID:VjymokhRMo

>>76 หัวหน่าวแม่มึงมั้ง

78 Nameless Fanboi Posted ID:dk4q4KbJDw

เมื่อวานม่านฮวาเทียนกวานมาแล้ว ภาพ โคตร สวย เล้ย!

79 Nameless Fanboi Posted ID:dnFhQ68YA5

>>78 สวยมาก

80 Nameless Fanboi Posted ID:AQhOvHa11E

เหมือนปลอบใจ ปรจ ดราม่าเรดิโอ จบ ม่านฮวาเทียนกวานก็มาพอดี มีอะไรให้ติดตาม
ตอนนี้มีม่านฮวาปรจและเทียนกวาน ขาดแต่ตัวร้าย ทวิตภพแซวกันใหญ่ ออกจากไมโครเวฟแล้วก็กลับเข้าไปใหม่ โถถถถถถถ

81 Nameless Fanboi Posted ID:JBmtbAc77u

กูขอย้อนกลับไปที่ซีรีส์ปรมจ.แป้บนะ ในซีรีส์ดัดแปลงให้พี่เว่ยใช้วิชาพิศดาร ไม่ใช่วิชามาร วิชาออกเทาๆ ไม่ถึงกับดำเลย ยังพอจะเข้ากับบริบทที่ว่า 'ใครถูกใครผิด ใครขาวใครดำ' ได้อยู่ แต่ในหนังสือเห็นบอกกันว่าพี่เว่ยไม่ได้วีรบุรุษขนาดนี้ พี่เขาใช้วิชามารเลยป่ะ หรือก้ใช้คำว่าวิชาพิศดารอีก เล่นกับศพ โดนวิชาย้อนกลับจนร่างสลาย กูว่าอันนี้จะไม่เข้ากับคำว่าใครขาวใครดำแล้วนะ มันก็ดำชัดๆไปเลยนี่ หรือในหนังสือไม่ได้ชูประเด็นว่าการกระทำขึ้นกับมุมมองของคน

82 Nameless Fanboi Posted ID:VI+IMtcA4J

>>75 อาจารย์เหม่ยเขาทำนายได้แต่ช่วงที่ยังมีชีวิตน่ะ หลังกลายเป็นผีก็ไม่รู้ชะตาแล้ว เหมือนเซี่ยเหลียนกลายเป็นเทพก็ดูชะตาให้ไม่ได้เหมือนกัน แต่เซี่ยเหลียนนี่อาจารย์เหม่ยห้ามอะไรไว้ทำหมด ห้ามไม่ให้ยุ่งกับเด็ก ตอนหลังก็ไปได้กับเด็ก 5555

83 Nameless Fanboi Posted ID:8x0hQ+6eUr

>>76 จริง นิยายเรื่องเรื่องไหนเซตติ้งโบราณใช้แอปเปิ้ลกุนี่ปิดเลย ไม่เข้ากันอย่างแรง

84 Nameless Fanboi Posted ID:nz+UJOl/P5

>>81 กูว่าตรงเปรียบขาวเปรียบดำ สำหรับกูหมายถึงการกระทำการนำสิ่งนั้นนี่มาใช้ในทางใดพี่เว่ยพยายามจะใช้มันในทางที่ดี แต่ขึ้นชื่อว่าพลังมารอะเนอะ

มันน่าจะสื่อประมาณอารมณ์ไม่ใช่มารทุกคนจะเลว ไรงี้ ไม่ใช่เซียนทุกคนจะดี ถึงสำหรับกู...กูจะมองว่าพี่เว่ยไม่ค่อยดี55555 กูไบแอสเก่ง

85 Nameless Fanboi Posted ID:dLPcxB+QEp

>>84 เกือบคิดเหมือนมึง แต่ก็คิดเหมือนมึงแหละ 55555 กูคิดว่าเขาพยายามเล่นประเด็นว่ามารไม่ได้เลวทุกคน เว่ยแม่งจำเป็นต้องใช้มารเพราะใช้กระบี่ต่อไม่ได้ แต่แค่ใช้มารก็เลวเลยซะงั้น แต่กูก็ไม่ได้มองมันเป็นคนดีหรอก มันก็เป็นจูนิเบียวมาก่อนแล้วค่อยมาเป็นนางเอกแจ่มใสทีหลัง

86 Nameless Fanboi Posted ID:1g0A.eDmmv

>>82 กูก็คิดว่าเซี่ยเหลียนตอนเป็นองค์ชายก็แอบรั้น ห้ามไม่ฟัง ถึงขนบบางอย่างไม่เมคเซนส์จริงๆ ก็เหอะ ตอนต่อจากนี้คงต้องเจอเหตุการณ์​ที่จนปัญญา​จะช่วยทุกคนตามอุดมคติ หลายครั้งเข้า เลยใจฝ่อไปเลย

87 Nameless Fanboi Posted ID:O2Y0MPBp/2

>>81 จริงๆในซีรีย์กูนับเป็นขาวกิ๊งเลย แค่ขัดวิถีเซียน แต่ในนิยายอ่ะเทาจริง เพราะด้วยเจตนาแล้วพี่เว่ยก็ไม่ได้จะใช้วิชานี้ในทางที่ผิดขนาดนั้น แต่จุดที่เสียจริงๆของนางคือนิสัยที่ค่อนข้างทะนงตนมั่นใจในตัวเองสูงว่าข้าเก่งข้าแน่จัดการทุกอย่างได้ด้วยตัวคนเดียว เอาแต่ใจตัวเองและไม่ค่อยคำนึงถึงความรู้สึกของคนรอบข้าง อิพี่มันเลยต้องเรียนรู้จากความผิดพลาดและสูญเสียสิ่งสำคัญไปนี่แหละถึงค่อยกลายเป็นเว่ยอิงฉบับที่มาเข้าร่างน้องโม่แล้ว กูว่าแม่โม่น่าจะเป็นจำพวกรำคาญตัวเอกแบบนิยายแฟนตาซี จำพวกทำเรื่องเอาแต่ใจตัวเองแล้วเสือกเกิดผลดี มีอะไรผิดพลาดมาก็โทษสิ่งรอบข้างไม่ยอมรับว่าจริงๆตัวเองน่ะแหละที่ประมาท กูยกตัวเองง่ายๆเช่นเฟมีลจากเซวีน่า รายนั้นก็แนวๆนี้เลย เก่ง ทำได้ทุกอย่างทะนงตัวว่าฉันสามารถจัดการทุกเรื่องได้ แต่รายนั้นมีนักเขียนให้ท้ายไง ถ้าอ่านสมัยยังเด็กๆเบียวๆก็ชอบหรอกตัวเอกโชว์เทพ แต่พอมาอ่านตอนโตแล้วนี่เหลือกตามองรัวๆ แค่เรื่องที่ว่าตัวเองเป็นพวกชอบหลงทางแล้วยังเสือกรั้นจนหลงทางจนเกือบไปแดกของไม่ดี ยังไม่ยอมรับตัวเองแล้วโทษว่าเป็นความผิดของสิ่งรอบข้างเลย

88 Nameless Fanboi Posted ID:Rb3DhP6s63

>>87 +1 กูว่าพี่เว่ยในนิยายก็ไม่ถึงกับดำจริงๆ นั่นแหละ แม้จะฆ่าคนตายแต่ก็ไม่ได้เจตนา คิดดีอยากช่วยทุกคนแต่ออกแนวอวดเก่ง ทำเองทุกอย่าง มั่นใจ ไม่ปรึกษาใคร ผลที่ได้คือความชิบหายนี่เอง

89 Nameless Fanboi Posted ID:DGQIC8RVm3

>>87 +1 กูชอบในจุดนี้มาก ที่สุดท้ายพี่เว่ยแกก็คิดได้ 555 สิ่งที่กูชอบคือพี่เว่ยไม่ใช่คนที่ดีแบบร้อยเปอร์เซ็น แต่ก็ไม่ได้เลว แก่นของเรื่องดีมาก

90 Nameless Fanboi Posted ID:KjsLZ.CN9m

>>87 กุนึกข้อเสียพี่เว่ยได้อีกอย่างคือปากแม่งล่อตีนมาก แล้วไม่ใช่แค่เรียกตีนให้ตัวเองมันเรียกตีนให้คนรอบข้างด้วย กุว่าถ้าพี่เว่ยแกพูดจาซอฟกว่านี้ไม่หักหน้าใครชีวิตอาจจะไม่เหี้ยขนาดนี้ก็ได้

91 Nameless Fanboi Posted ID:ixvDfwUkrB

>>90 นิยายมันสนุกตรงนี้แหละมึง รอวันกระทืบพี่เว่ยแล้วฉุดขึ้นมาอีกครั้งด้วยความรัก 55555

92 Nameless Fanboi Posted ID:npD/1phO4R

สปอยเทียนกวาน อาร์ค 2 ต่อจาก >>74 เทียนกวาน Part.58
.
.
.
.
.
ได้ยินเจ้านายตัวเองพูดแบบนั้นทั้งเฟิงซิ่นกับมู่ฉิงก็รู้สึกเต็มเปี่ยมด้วยพลังใจ แต่ราชครูก็ยังกล่าวว่าเซี่ยเหลียนไม่ควรได้ขึ้นสวรรค์เร็วเกินไป และจำเป็นต้องเห็นสิ่งต่างๆ มากกว่านี้ก่อน แล้วเขาก็อนุญาตให้เซี่ยเหลียนลงจากเขาเพื่อหาประสบการณ์ เซี่ยเหลียนที่รู้สึกเหนื่อยหน่ายกับสิ่งรอบตัว รวมถึงพ่อแม่กับฉีหรงรู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก ราชครูเตือนเพิ่มว่าคำกล่าวที่ว่า “เมื่อมนุษย์ขึ้นสวรรค์ พวกเขาจะได้เป็นเทพ เมื่อล้มเหลว พวกเขาจะกลายเป็นผีร้าย” ล้วนไม่เป็นความจริงเพราะ “เมื่อมนุษย์ขึ้นสวรรค์พวกเขาก็ยังคงเป็นมนุษย์ และเมื่อมนุษย์ล้มเหลว พวกเขาก็ยังคงเป็นมนุษย์อยู่ดี” เขาบอกเซี่ยเหลียนว่าอย่ากังวลเรื่องของหงหงเอ๋อร์เกินไป ทุกคนมีโชคชะตาของตนเอง หลายครั้งเราก็ไม่อาจช่วยใครได้เพียงเพราะเราต้องการช่วย ถ้าเกิดอะไรขึ้นก็ค่อยๆ แก้กันทีหลัง

ในคืนนั้นเด็กชายได้หนีออกจากเขาไท่ชางและหายไปอย่างไร้ร่องรอย ส่วนเซี่ยเหลียนในวัย 17 ปีก็ได้ปราบผีร้ายที่สะพานอี้เนี่ยน เขาได้ขึ้นสวรรค์พร้อมแสงเจิดจ้าและเสียงฟ้าผ่าดังกัมปนาท

3 ปีหลังจากเซี่ยเหลียนได้ขึ้นสวรรค์ ในที่สุดรูปปั้นทองคำสูง 5 เมตรของเทพองค์ชายรัชทายาทแห่งเซียนเล่อก็เสร็จสมบูรณ์ พวกเขานำมันเข้าไปในอารามหลังที่ 8000 ด้วยความยินดี เซี่ยเหลียนมีผู้ศรัทธามากมายนับไม่ถ้วน กลิ่นธูปแทบไม่เคยจางหาย กล่องบริจาคเงินใบใหญ่มักเต็มอย่างรวดเร็ว ในสระน้ำในสวนด้านหลังอารามมีคนโยนเหรียญทองเพื่อขอพร ต้นไม้ก็มีผ้าแดงอธิษฐานผูกเต็มต้น อารามของเซี่ยเหลียนไม่มีหมอนรองให้ผู้ศรัทธาคุกเข่า เพราะเขาเข้าฝันแจ้งเจ้าอาวาสทุกอารามว่าไม่ต้องการให้ผู้ศรัทธากราบไหว้ แต่ผู้คนกลับเชื่อไปว่ามันเป็นแค่ข่าวลือและพากันคุกเข่าโดยไม่ใช้หมอน เซี่ยเหลียนใช้กายทิพย์ลอบมองคนภายในอาราม เสียงขอพรจากผู้ศรัทธาดังเข้ามาในหัวของเขาไม่หยุด แม้ตอนแรกเขาจะฟังทุกคำขอด้วยตัวเอง แต่ด้วยปริมาณที่มากมายทำให้สุดท้ายเขาเลยจำเป็นต้องแบ่งงานให้เฟิงซิ่นกับมู่ฉิงช่วยฟังและคัดเลือกคำขอสำคัญ ไม่นานนักเมื่อผู้ศรัทธาได้ยินว่าเจ้าชายฉีหรงเสด็จมา ทุกคนก็รีบพากันออกจากอารามราวกลัวผีร้าย ฉีหรงสร้างอารามให้เซี่ยเหลียนในทุกหนแห่ง มักบริจาคทรัพย์สินและตะเกียงให้อารามอย่างสม่ำเสมอ แต่ถึงเซี่ยเหลียนจะเคยส่งสาสน์ผ่านฝันให้อีกฝ่ายประพฤติตนดีๆ ฉีหรงก็ยังชอบสร้างปัญหาไปทั่วเหมือนเดิม

ฉีหรงขอพรว่าอยากพบกับเซี่ยเหลียน และบอกว่าราชากับราชินีก็คิดถึงลูกชายมาก เฟิงซิ่นที่อยู่ข้างๆ จึงเตือนเจ้านายว่าจวินอู๋บอกว่าหากไม่ได้มีเรื่องสำคัญก็ห้ามปรากฏตัวให้มนุษย์เห็นแม้แต่กับครอบครัว ในขณะที่เซี่ยเหลียนมองญาติผู้น้องเขียนคำขอพรลงบนตะเกียงก็ทำให้เขานึกถึงเรื่องในอดีตขึ้นมา ในตอนที่ฉีหรงมาที่ราชวังครั้งแรก ด้วยชื่อเสียงไม่ดีที่แม่ของเขาหนีตามผู้ชาย ทำให้ไม่มีเด็กเชื้อพระวงศ์คนใดยอมเล่นหรือพูดคุยกับเขา ขณะที่ทุกคนหันมาคุย ช่วยดันหลังให้เซี่ยเหลียนเล่นชิงช้า เขาก็เห็นสายตาที่เต็มไปด้วยความอิจฉาของฉีหรงซึ่งหลบอยู่ด้านหลังมารดา และวันหนึ่งที่พวกเขามาขอพรที่อาราม พวกเด็กคนอื่นก็แกล้งหลอกให้ฉีหรงเขียนขอพรลงบนตะเกียงให้ตนกับแม่รีบตายไปขึ้นสวรรค์ เซี่ยเหลียนโกรธเด็กพวกนั้นมาก ก่อนช่วยญาติผู้น้องเขียนคำขอพรใหม่ หลังจากนั้นฉีหรงก็บูชาในตัวเซี่ยเหลียนมาก เวลาเล่นชิงช้าก็จะมาช่วยดันหลังให้และมักคอยติดตามเสด็จพี่องค์ชายรัชทายาทของตนไม่ห่าง

ในตอนที่ฉีหรงกำลังจะกลับเขาก็เดินชนเข้ากับคนผู้หนึ่งจึงโวยวายด่าอีกฝ่ายทันที คนๆ นั้นเป็นชายหนุ่มวัยเบญจเพส แต่งตัวมอซอ ริมฝีปากของเขาแห้งผาก แม้จะผอมแต่ก็ไม่ได้ดูอ่อนแอ ทั้งดวงตาก็มีประกายแรงกล้า แล้วชายคนนั้นก็ถามขึ้นมาว่าที่นี่คือที่ใด และเขาต้องการไปพระราชวังเพื่อขอเข้าเฝ้าราชา แม้จะถูกฉีหรงหัวเราะดูถูกแต่ชายคนนั้นก็ยังอยากลองขอเข้าเฝ้า ฉีหรงจึงแกล้งบอกทางผิดให้ ชายคนนั้นกล่าวขอบคุณ ทำท่าจะจากไป แต่เมื่อเห็นเหรียญทองในสระน้ำ จู่ๆ เขาก็กระโดดลงไปเก็บพวกมันอย่างไม่เกรงกลัว ฉีหรงสั่งให้ทหารไปจับชายคนนั้นขึ้นมา แต่อีกฝ่ายก็สามารถหลบหนีแล้วเก็บเหรียญเต็มย่าม ทว่าสุดท้ายเขาก็ลื่นขณะปีนขึ้นฝั่งจนถูกกุมตัว ชายคนนั้นบอกว่าแทนที่จะปล่อยให้เหรียญอยู่ในสระ เหตุใดจึงไม่ให้เขานำไปช่วยเหลือผู้คน เมื่อถูกถามว่าเป็นใคร มาจากไหน ชายคนนั้นจึงตอบว่าตนมีชื่อว่าหลางอิง มาจากหย่งอันซึ่งเป็น 1 ในเมืองของอาณาจักรเซียนเล่อ
.
.
.
.
.

93 Nameless Fanboi Posted ID:FDHXw9BvNN

>>92 ฉีหรงแม่งโครตแฟนบอย กูอ่านแล้วแอบเอ็นดู 555
ระบบการขึ้นสวรรค์ไปเป็นเทพของเรื่องนี้แปลกดี กูเข้าใจว่าต้องตายก่อน นี่เล่นมารับต้ังแต่ยังหนุ่ม มีสาดแสงพร้อมซาวด์เอฟเฟกต์อีกต่างหาก แหวกแนวดีว่ะ
ปอลอ นอนดึกนะมึง รักษาสุขภาพด้วย

94 Nameless Fanboi Posted ID:npD/1phO4R

>>93 เนอะ เข้าใจมาตลอดว่าขึ้นสวรรค์ต้องตายก่อน แต่เรื่องนี้เหมือนใครบำเพ็ญถึงจุดหนึ่งจู่ๆ ก็ได้จะได้ขึ้นสวรรค์เลย กูไม่ได้เขียนลงในสปอย แต่เซี่ยเหลียนไม่ใช่ปราบผีแล้วได้ขึ้นเลยนะ คือไปเดินทางอยู่พักหนึ่งกลับมานอนที่วัง แล้วได้ขึ้นสวรรค์ตอนนอนอยู่ หรืออย่างเผยหมิง ในเรื่องมีบอกว่าไว้ว่าไม่เคยแพ้ในศึกไหน แต่ศึกสุดท้ายในฐานะมนุษย์ตอนนั้นโดนล้อมกำลังจะถูกฆ่าแล้ว จู่ๆ แกก็ได้ขึ้นสวรรค์

อีกเรื่องที่กูตัดออกจากสปอยคือในเรื่องจะมีฉายาที่ใช้เรียกเทพ 4 องค์ที่ได้ขึ้นสวรรค์หลังทำวีรกรรมน่าจดจำ เรียกว่าทิวทิศน์ทั้ง 4 ประกอบด้วย องค์ชายรัชทายาทผู้เป็นที่รักของเทพเจ้า (เซี่ยเหลียน) แม่ทัพผู้หักดาบ (เผยหมิง) ชายหนุ่มผู้เทเหล้า (ซือชิงเสวียน) กับเจ้าหญิงผู้เฉือนคอตัวเอง (คนนี้ยังไม่มีบทออกมา)

95 Nameless Fanboi Posted ID:Qe1AY4VKvk

ทำไมเรื่องไม่แปลคำว่าผิงกั่วเป็นแอปเปิ้ลมันกลับมาอีกแล้ววะ โธ่ อีฟาย มันเป็นจีนโบราณไหม แล้วแอปเปิ้ล มันเป็นคำภาษาอะไร บริบทในเรื่องมีตัวละครฝรั่งหรือโยงหาฝรั่งไหม

กูนี่อยากจะทึ้งหัว ทีคำแปลกระบี่แปลเป็นไทยบ่นจะเป็นจะตาย กระเหี้ยนกระหือรือจะให้เขาทับศัพท์กันให้ได้ นี่อยากเรียนภาษาจีนผ่านนิยายแปลกันขนาดนั้นเลยอ่อ มึงไปลงเรียนคอร์สจีนเลยเหอะ ดีกว่ามาหาเศษเล็กเศษน้อยในนิยาย สมองกลับกันอ่อถามจริง

96 Nameless Fanboi Posted ID:PtrLlY6lfG

>>94 ฉายาท่านเทพลมกับเจ้าหญิงผู้เฉือนคอตนเองนี่เท่มากอ่ะ อยากรู้สตอรี่สุดๆ แต่ตอนแรกนี่ก็นึกว่าต้องตายก่อนถึงได้ขึ้นสวรรค์ ตอนแรกยังนึกเลยว่าทำไมเซี่ยเหลียนตายไว 5555555555

97 Nameless Fanboi Posted ID:JhtepX+swU

>>94 ฉายาแม่งเท่แบบจูนิเบียวดี กูชอบว่ะ

98 Nameless Fanboi Posted ID:0Cbc2KYnBQ

>>94
.
.
.
.
.​
กูประทับใจที่มาของฉายาลุงเผยกับองค์หญิงมาก วีรกรรมแมร่งเท่ห์จริงคูลจริงหล่อเสียของคืออะไรไม่รู้จัก ดราม่าสตอรี่สมควรแก่การขึ้นสวรรค์
ส่วนฉายาของเซี่ยเหลียนกับซือชิงเสวียนเป็นเรื่องของโชคชะตาจริง ๆ โดยเฉพาะซือชิงเสวียนเมื่อรู้ที่มาของโชคอันเรียบง่ายนี้แล้วกลายเป็นตลกร้ายสุด ๆ กับใครอีกคนหนึ่งไปเลย จนกูทำใจยอมรับไม่ไหวจริง ๆ ....
.​
.
.
.
.

99 Nameless Fanboi Posted ID:eDT2FykGSj

>>95 แต่ๆๆๆ คนที่บ่นเรื่องผิงกั่วเป็นแอปเปิ้ลคือพวกที่ชอบแปลชื่อกระบี่เป็นไทยนะ ก่อนด่าได้อ่านเม้นข้างบนหมดไหมหรือโควต้าแปดบรรทัดหมดจ๊ะ แล้วกูอ่านนิยายจีนทำไมต้องเรียนภาษาจีนวันละคำว่าด้วยชื่อผลไม้วะ อยากเรียนภาษาจีนผ่านนิยายแปลกันขนาดนั้นเลยอ่อ มึงไปลงเรียนคอร์สจีนเลยเหอะ ดีกว่ามาหาเศษเล็กเศษน้อยในนิยาย สมองกลับกันอ่อถามจริง

100 Nameless Fanboi Posted ID:XEGbqfRuxX

>>98
.
.
.
.
.​
ที่มาฉายาแม่ทัพเผยหล่อสมตำนานวีรบุรุษจริง อีกชอตหนึ่งตอนที่จู่ๆ เอาตัวไปยันภูเขานี่กูอ้าปากค้าง ยกนิ้วให้แบบหลิงเหวินเลย เผยใหญ่โคตรแมน หล่อมั่กๆ FC แม่ทัพเผยคร่ะ 555 ของเจ้าหญิงก็เท่ ตอนอ่านประทับใจมาก ส่วนของซือชิงเสวียนนี่พอนึกถึงคนๆ นั้นก็รู้สึกประทับใจไม่ลงจริงๆ
.
.
.
.
.​

101 Nameless Fanboi Posted ID:4XM0s9PrKE

>>99 ไม่ใช่กุคนนึงแล้วกัน กุโอเคที่แปลอาวุธ ฉายา สถานที่ แต่อย่ามาทับอิ้งในนิยายโบราณ

102 Nameless Fanboi Posted ID:oeKxjmgQxS

>>99 แล้วไม่ให้แปลผิงกั่วมุงจะให้แปลว่าไงคะคิดสิคิดๆๆๆ แอปเปิ้ลเหรอ มันก็ทับศัพท์อิ้งแต่นี่นิยายจีนไง คริสๆๆๆ แปลไรดีจ๊ะแม่คุณคนเก่ง

103 Nameless Fanboi Posted ID:Eq4EqmSxz0

>>101 +1 ไม่ใช่กูเช่นกัน ถถถถ

104 Nameless Fanboi Posted ID:q2JttjfcFz

>>101 เฉพาะนิยายจีนโบราณได้มั๊ยมึง ถ้าฝรั่งโบราณกูโอเคนะมันไม่มีคำเรียกภาษาไทยอะ TT - TT

105 Nameless Fanboi Posted ID:KX9AYj0k92

>>101 +1 กูโอเคกับการแปลชื่อกระบี่ ชื่อสถานที่ แต่กับแอปเปิ้ลในเซตติ้งจีนโบราณมันแปลกไง ไม่เข้ากันอย่างแรง กูงงมากว่ามันเป็นประเด็นขนาดนี้ได้ยังไง 555

106 Nameless Fanboi Posted ID:t1Nt.TRRfi

แต่พอจุดประเด็นมากูก็สงสัยนะว่านิยายญี่ปุ่นโบราณเรื่องไหนมันใช้แอปเปิ้ล ทำไมพอเป็นญี่ปุ่นแล้วถึงทับศัพท์ได้ ทำไมจีนทับศัพท์แล้วถึงไม่ได้

107 Nameless Fanboi Posted ID:zd1dh72E3f

>>99 มึงจะทู่ซี้เอาชนะไปก็ดูโง่เปล่าๆว่ะ พยายามโยนไปนั่นไปนี่ แต่สุดท้ายนิยายแปลจีนโบราณส่วนมากทั้งในอดีตปัจจุบันและอนาคตมันก็จะแปลเป็นผิงกั่วอยู่ดี มึงไม่ชอบรู้สึกว่าเหมือนต้องมาเรียนจีนวันละคำห่าเหวไรนี่ก็เรื่องของมึงเถอะ ดีดดิ้นให้ตายก็ไม่มีใครมานั่งเปลี่ยนให้มึงหรอกว่ะ ไร้สาระไป แล้วมาถามคนอื่นว่าโควต้าอ่านแปดบรรทัดหมดแล้วเหรอกูก็ถามมึงกลับบ้างว่าความสามารถในการสื่อสารตีความระบบความคิดและตรรกะมีปัญหาขนาดนี้ สนใจพิจารณาสมองตัวเองใหม่บ้างมั้ย

ปล. อิชื่อเสี่ยวผิงกั่วเนี่ยเวลามันโดนแปลไทยในนิยายจริงๆเขาก็ไม่แปลว่าแอปเปิ้ลน้อยหรอกนะ เขาจะแปลว่าผิงกั่วน้อยแทนตะหาก 😆😆

108 Nameless Fanboi Posted ID:zd1dh72E3f

>>106 อรรถรสล้วนๆเลย ต่อให้มันแปลมาว่าแอปเปิ้ลจริงๆก็อาจจะไม่ได้มีปัญหาขนาดนั้นหรอก แต่มีโอกาสโดนด่าเยอะเหมือนกันเพราะสำหรับหลายคนมันดูขัดตา มันค่อนข้างเป็นคำเฉพาะที่คุ้นชินในงานแปลจีนแล้วน่ะ เหมือนฮ่องเต้ ฮองเฮา อ๋อง แปลว่า จักรพรรดิ มเหสี องค์ชายมาก็ไม่ผิด แต่ยังไงฮ่องเต้ ฮองเฮา อ๋อง ผิงกั๋วก็ได้อรรถรสกว่า

แต่ไอ้การให้เหตุผลว่าไม่ควรแปลมาเพราะเหมือนมาเรียนศัพท์จีนวันละคำไรนี่ประสาท ยกมาแบบนี้เหมือนบอกว่าต้องแปลทุกอย่างไม่ให้มีคำจีนเลยไง ลองสนพ.ทำแบบนั้นได้โดนด่ายันชาติหน้าอ่ะ

109 Nameless Fanboi Posted ID:fMB14txja1

ขนาดกูเรียนจีน รู้ว่าคำนี้แปลว่าอะไรยังโหวตให้แปลเป็นแอปเปิลอะ นึกถึงมุมมองคนจีนอ่านดิ คนจีนอ่านชื่อเขาก็นึกถึงลูกแอปเปิ้ลเลย มันสื่อว่าตั้งชื่ออย่างง่ายๆ เห็นภาพชัดเจนน่ารักๆ ไทยนี่ยังต้องมาแปลความจากผิงกั่ว เป็นแอปเปิ้ลอีกที อ้างจีนโบราณแปลงี้หมด แปลแบบนี้ทุกเล่มจริงเหรอ มั่นใจเหรอว่าอ่านนิยายจีนโบราณทุกเรื่องที่มีการแปลเป็นภาษาไทยแล้ว แล้วมันมีตรากฎเกณฑ์ไว้เหรอว่าแนวจีนโบราณห้ามแปลชื่อผลไม้
อรรถรสหรืออุปทานหมู่กันเอาเองวะ เอะอะทับศัพท์ยันเนี่ย งานแปลภาษาอื่นเขาก็แปลเป็นภาษาตัวเอง แอปเปิลในทีนี้มันก็คือภาษาไทยแล้ว เพราะคนไทยเรียกแอปเปิล ไม่มีชื่อเรียกอื่น หรือเมิงเรียกหมากเปิ้น ฝรั่งไม่ออกเสียงแอปเปิ้นๆ หรอกนะ มันแอพเพิลมั้ย
แล้วบรรดาชื่อตำแหน่งที่ทัพศัพท์อะ เอาจริงๆ เพราะมันไม่มีคำแปลเป็นภาษาไทยโดยตรงนะ ที่แปลกัน มเหสี อัครชายาอะ มันคือการเทียบตำแหน่งกับตำแหน่งในไทยมากกว่า ส่วนคำว่าจักรพรรดิน่ะ ถ้าเป็นฮ่องเต้ต้องมีคำพ่วงท้ายว่าจักรพรรดิจีนด้วยนะ คำว่าฮ่องเต้คือคำที่จิ๋นซีฮ่องเต้บัญญัติขึ้นมาเรียกตัวเองเพราะเป็นผู้รวบรวมแผ่นดินแล้ว จะได้แตกต่างจากคำว่าหวัง(อ๋อง) กษัตริย์ปกครองเมืองสมัยยังแบ่งเป็นแว่นแคว้น
แต่ในเมื่อเรื่องนี้ตัดสินใจทับศัพท์เป็นผิงกั่วแล้ว ก็ไม่ผิด ถือเป็นสำนวนเขาแล้วกัน แต่คนอ่านก็มีสิทธิ์วิจารณ์ได้นี่หว่า คนชอบผิงกั่วก็ผิงกั่ว ชอบแอปเปิลก็แอบเปิล แต่พวกมาด่าคนให้แปลเป็นแอปเปิลว่าโง่ ว่าควายเนี่ย พิจารณาตัวเองเถอะ

110 Nameless Fanboi Posted ID:oeKxjmgQxS

>>109 มึงสิควาย

111 Nameless Fanboi Posted ID:jeRj/41gb4

>>109 เห็นด้วย จริงๆคำแปลถ้าเอาให้คนเข้าใจได้ก็พอ ผิงกั่ว ถ้าคนไม่เคยอ่านเลยมาอ่านครั้งแรกก็ไม่เข้าใจต้องมองเชิงอรรถ แต่ถ้าแปลเป็นแอปเปิ้ลไปเลยก็เข้าใจเพราะบ้านเราเรียกแอปเปิ้ล มันเป็นคำทับศัพท์ที่ใช้กันทั่วไปไปแล้ว คำไทยใช้แทนแอปเปิ้ลก็ไม่มี

112 Nameless Fanboi Posted ID:B4NF4VhCyX

Ky แป๊ป ในนิยายหลังจบที่บอกพี่ซีเฉินกักตนนี่กี่ปีวะ แล้ววั่งเซี่ยนที่จูงลาไปจากวัดกวนอิม กว่าจะกลับกูซูนี่กี่เดือนอะ

113 Nameless Fanboi Posted ID:zd1dh72E3f

>>109 ก็ไม่มีใครห้ามแปลเลยนะ ที่คุยกันตอนนี้คือส่วนมากมันไม่แปลไง และคนอ่านส่วนมากก็รู้สึกว่าแบบนี้มันโอเคกว่าแปลทับศัพท์อิงค์ไง คนที่มีปัญหาตอนนี้คือคนที่มาร้องว่าต้องแปล มึงต้องแปลให้กู เพราะกูไม่อยากรู้สึกเหมือนเรียนจีนวันละคำ แล้วด่าว่าคนที่ชอบผิงกั่วอยู่แล้วสมองกลับ มึงงงใช่มั้ย พักก่อนนะ

กูพูดสักคำหรือยังว่า นิยายจีนแปลโบราณทุกเรื่องใช้คำว่าผิงกั่ว กูบอกว่าส่วนมากมั้ย และใช่กูอ่านนิยายจีนแปลโบราณเกือบทุกเรื่องนะ ด้วยหน้าที่การงานกูแล้ว มึงประชดแบบนี้ก็เสียเปล่าว่ะ กูอ่านมาตั้งแต่ยุคที่มันแปลทุกอย่างจนถึงรุ่นที่มีปัญหาเจิ้น เปิ่นกงเลยนี่แหละ มึงอาจจะมองว่าแปลไปสิคนไม่เคยอ่านจะได้เข้าใจ แต่ถ้ามองมุมรวมการไม่แปลไม่ตายไง แถมได้อรรถรสกว่าไง อิปัญหาผิงกั่วเนี่ย ในมุมมองสนพ. บก. นักแปลแล้ว มันไม่ใช่ปัญหาใหญ่ไงมึง ในเมื่อคน'ส่วนมาก'ชอบ การแสดงความเห็นแบบสุดโต่งโดยไม่คำนึงถึงบริบทสังคมของงานนั้นๆ แถมใช้เหตุผลแบบข้างๆคูๆมันก็ดูไร้สมองจริงๆนี่ ถ้าคุยแบบมีเหตุมีผลมีสมองแต่แรกไม่มีใครด่ามันหรอก

เรื่องแบบนี้ก็เหมือนโต้วาทีปะ มึงเองยังอยากวิจารณ์เลยแล้วทำไมพวกกูจะแย้งไม่ได้

114 Nameless Fanboi Posted ID:clqJoz788A

กูว่า ผิงกั่ว เยอะไป ต่อจากนี้มึงยาวเลยค่ะ อิงเถา ผลไม้อะไรมึงไม่ต้องแปลเลยค่ะ จำเอา เรียนศัพท์ภาษาจีน 101 ต่อจากนี้ลามเป็นสรรพนาม สถานที่ แล้วก็สิ่งของ สุดท้ายคนแปลมึงนึกคำอะไรไม่ออกไม่ต้องค้นคว้าค่ะ ใช้วิธีแปะเสียงพินอินแล้วอธิบายเชิงอรรถ

กูว่าชุ่ยไปหน่อยนะ มันมีวิธีที่ทำให้คนอ่านรู้สึกว่าเป็นนิยายจีนได้โดยไม่ต้องทับศัพท์ เหมือนนิยายตะวันตกที่ไม่ต้องใช้สรรพนามว่าไอ ยู เวลาพูด เหมือนสมมติถ้าคนแปลนิยายตต.มาแนว

“ไอไม่โอเคเลยนะ ยูอิ๊กนอร์แอฟแฟร์แบบนี้”
“โอ้ว ออเรนจ์ผลนั้นมันดีมาก ๆ โซเวรี่กู๊ด”

ต้องประมาณนี้ไหม ก็ไม่ต้อง เพราะงั้นกูเชียร์ให้แปล ถ้ากูอยากรู้ศัพท์ลับสมอง กูเปิด google หรือเรียนจากแอพได้

แต่พวกฮ่องเต้ ฮองเฮา อะไรประมาณนี้ไม่ต้องแปลก็ได้

115 Nameless Fanboi Posted ID:fMB14txja1

>>113 นี่กูก็ไม่ได้แทคใครนะ กูตอบความเห็นรวมๆ ที่ผ่านตามาทั้งหมดนั่นแหละ กูว่าสายงานกูก็สายงานเดียวกับเมิง แต่อันนี้มันเป็นเรื่องความชอบของแต่ละบุคคลเพราะมันไม่มีกฎตายตัวว่ะว่าต้องแปลหรือไม่แปลยังไง ส่วนใหญ่คือปรึกษากันกับนักแปลและฟังเสียงส่วนใหญ่ในทีม
ก็ต่างฝ่ายต่างพูดกันด้วยเหตุผลก็จบ แต่เมิงดูฝั่งที่โหวตผิงกั่วดิ หยาบคายแค่ไหน ก็อย่างที่มึงว่า มันเหมือนโต้วาที ก็คุยกันด้วยเหตุผลแค่นั้น ยังไงมันก็แก้ไขอะไรไม่ได้อยู่แล้ว

116 Nameless Fanboi Posted ID:fMB14txja1

>>114 +1

117 Nameless Fanboi Posted ID:cm8d4hArdc

กูเป็นคนเดียวเหรอที่โอเคกับทั้งผิงกั่วและแอปเปิ้ล 555555 หรือเพราะกูไม่รู้ภาษาจีนวะ จะใช้ผิงกั่วไปเลยกูก็ไม่ติดขัดนะ แต่ลองคิดเล่นๆสมมติว่าถ้ากูอ่านนิยายญี่ปุ่นย้อนยุคเจอคนแปลใช้ ริงโกะ ทับศัพท์มาเลยเพราะแอปเปิ้ลมันดูฝรั่งไป อันนี้กูน่าจะรู้สึกขัดๆแฮะ

118 Nameless Fanboi Posted ID:zd1dh72E3f

>>114 เอางี้ ข้อแรกมึงต้องเก็ตก่อนว่าเขาไม่ได้ให้มึงมาเรียนจีน 101 ในนิยาย เพราะงั้นมึงยกเหตุผลนี้มาอีกแปดพันรอบมันก็ดูงี่เง่า มึงเก็ตมั้ย มึงต้องเข้าใจก่อนว่าเขาพยายามคุยกันในเรื่องของความชอบ ความเคยชิน อรรถรส ความเหมาะสม ไม่ใช่เรื่องเรียนจีนห่าไรนั่น ไม่มีนิยายเรื่องไหนที่เขาเลือกใช้การทับศัพท์โดยมีวัตถุประสงค์ในการให้มึงเรียนจีน 101 และการอ่านนิยายจีนที่ทับศัพท์ก็ไม่ได้ช่วยให้มึงฉลาดขึ้นง่ายๆขนาดนั้นด้วย ดูจากการที่มึงยังไม่เก็ตสักทีว่าทำไมเขาแปลผลไม้อย่างอื่นได้แต่เลือกไม่แปลผลไม้หรือพืชที่ชื่อไทยมันทับศัพท์อิงค์ และยังมีปัญหาในเรื่องผิงกั่วโง่ๆนี่ แปลว่ามึงไม่เห็นจุดที่ใหญ่กว่าชื่อผลไม้โง่ๆอันนี้คือชื่อสมุนไพร ชื่อสมุนไพรจีนแม่งมีชื่อไทยเยอะมากแต่เขาเลือกทับศัพท์เกือบหมดเลยว่ะ มึงคิดว่าเพราะอะไรล่ะ มึงยังคิดว่ามันเป็นการทับศัพท์เพื่อเรียนจีน 101 โง่ๆนั่นอยู่อีกเหรอ

>>115 ข้อความส่วนมากของมึงตอบกู และใช่มันไม่มีกฎตายตัว ไม่ใช่ทุกสนพ.ที่ทับศัพท์และใช่มันแก้อะไรไม่ได้ เพราะแฟคมันคือคนอ่านนิยายจีนส่วนมากโอเคกับการทับศัพท์ไง กูเคยอยู่ในจุดที่รู้สึกว่าทับห่าไรเยอะแยะวะ และอยู่ในจุดที่เห็นคนโดนด่าเละเทะเพราะแปลแบบไม่ทับศัพท์เลยมาหลายรายแล้ว ดราม่านี่ก็เหมือนยุคที่คนนิยมเขียนนิยายเชตติ้งฝรั่งแล้วโดนด่าว่าเขียนเหมือนสำนวนแปลคนไม่ชอบน่ะแหละ การไม่ทับเลยก็โดนด่าว่าเหมือนนิยายจีนเสินเจิ้น อ่านแล้วไม่อิน อ่านแล้วขัดตาเช่นกัน ชอบไม่ชอบอยู่ที่จริต เขาคุยกันเรื่องนี้แหละ เก็ตแล้วเนอะ ขอบคุณ

ส่วนพวกที่หยาบคายมากๆ อืม นี่โม่งน่ะนะ คนที่อยากด่าหยาบจริงๆก็มี โทรลก็มี โง่โดยสันดานจนน่าด่าก็มี มันก็แล้วแต่ว่ามึงจะใส่ใจแค่ไหนล่ะนะ

119 Nameless Fanboi Posted ID:zd1dh72E3f

>>117 บริบทเรื่องการแปลการใช้คำในนิยายแปลแต่ละชาติมันค่อนข้างมีรากฐานต่างกันอยู่ อีกอย่างแอปเปิ้ลในญี่ปุ่นโบราณมันก็ไม่ค่อยมีด้วยไง แอปเปิ้ลเข้าไปมีบทบาทที่ญี่ปุ่นจริงๆช่วงปี 18xx กว่าๆ เอง ไม่พอ นิยายญี่ปุ่นโบราณก็ใช่จะหาอ่านได้ง่ายๆเหมือนนิยายจีนหรือตะวันตกโบราณด้วยน่ะ

120 Nameless Fanboi Posted ID:fMB14txja1

>>119 ไม่รากฐานอะไรหรอก อุปทานหมู่นั่นแหละ เหมือนใครจุดกระแสอะไรมาก่อนก็เฮโลตามๆ กัน นิยายจีนที่เด็กเพิ่งมาอ่านกันหลังๆ ดันนิยมทับศัพท์ เลยเห็นดีเห็นงามกันไป คิดว่าดูเท่ ดูคูล ดูจีน อย่างลม.ที่เนื้อหาครึ่งหน้า เชิงอรรถครึ่งหน้า ดันถูกใจกัน เฮ้อ
นิยายจีนโบราณสำหรับกูคือ ไม่เขียนขนมปังแทนหมั่นโถวก็พอละ อันนี้คือปิดทิ้ง
>>118 เรื่องสมุนไพรถ้ามีชื่อไทย กูแปลไทยว่ะ แต่สมุนไพรจีนคือส่วนใหญ่มันไม่มีชื่อไทย มีแต่ชื่อจีนในภาษาถิ่นอื่นๆ ก็จะเลือกคำที่คนไทยคุ้น ใช้ประจำ ถ้าไม่มีแม่งจริงๆ ถึงค่อยทับศัพท์และใส่ฟุตโน้ต

121 Nameless Fanboi Posted ID:.uTlIPt85M

แอปเปิลมันเป็นผลไม้เอเลี่ยนในไทย มันไม่มีชื่อไทย ก็ต้องเบือกระหว่างผิงกั่วกับแอปเปิล ซึ่งมันนิยายจีน กูว่าเรียกผิงกั่วก็ไม่ได้แน่อะไรนะ

122 Nameless Fanboi Posted ID:.uTlIPt85M

>>121 ไม่ได้แย่* สิ โอ๊ย ผิดอะไรเยอะแยะ

123 Nameless Fanboi Posted ID:zd1dh72E3f

>>120 ก็สมัยนิยมถูกแล้วนิ แล้วผิงกั่วมันก็แปลงี้มาตั้งแต่แนวรักจีนโบราณยุคแรกๆแล้วนะ อุปทานหมู่กันมาเป็นสิบกว่าปีเลยอ่ะ สุดยอดดดด มึงแยกยุคผิงกั่วกับยุคเจิ้นออกก่อนมั้ยวะ ไม่งั้นถกยาวกว่านี้อีกนะ ถ้ามึงจะไฟท์ว่าอุปทานหมู่นี่คือลากสนพ.ใหญ่มาทั้งยวงเลยนะมึง แล้วเจิ้น หนูปี้ เปิ่นกง เกอ นี่ก็เป็นยุคที่ได้อิทธิพลจากการที่เราเริ่มดูหนังจีนจากซับไทยด้วยซ้ำนะ จากเดิมที่เราโตมากับหนังจีนพากย์ไทย ยุคสมัยเปลี่ยนจริตความชอบความเคยชินของคนก็เปลี่ยน เทียบญี่ปุ่นงี้ก็เริ่มทับคำว่าเซนเซย์คำว่าซามะเพื่ออรรถรสกันมากขึ้น เพราะบางอย่างคำไทยมันแทนไม่ได้ยิ่งเป็นคำทับจากอิงค์ยิ่งไม่เข้าก็มีไงมึง

นี่กูยังไม่ได้พูดถึงการดีดดิ้นการแปลชื่อสัตว์เลี้ยงนะเพราะจุดเริ่มต้นมันมาจากการบ่นเรื่องไม่แปลชื่อสัตว์เลี้ยง เนี่ยถามมึงจริงๆเลย ม้าพระเอกชื่อเสี่ยวเฮยมึงแปลมั้ย แปลว่าดำน้อยงี้เหรอ

124 Nameless Fanboi Posted ID:8P/4SKaKb2

>>123 เจ้าดำน้อยมันแย่ตรงไหนหรอ เรื่องกระบี่เทพสังหารก็มีชื่อเจ้าเทานะ

125 Nameless Fanboi Posted ID:nn3wE0zBW1

>>120 ไม่น่าจะเหมาะกับการแปลทุกชื่อไทยจนหมดหรอก ยกตัวอย่าง ถ้ามีสมุนไพรที่มีชื่อไทยมากๆ เวลาอ่านมันไม่สะดุดบ้างหรือ เช่นประคำดีควาย ข้าวเย็นเหนือข้าวเย็นใต้ หนุมานประสานกาย เพชรสังฆาต เป็นต้น ใส่ชื่อจีนแล้วลงเชิงอรรถน่าจะเหมาะกว่า

126 Nameless Fanboi Posted ID:kKdBTNDHnK

>>123 ชื่อสัตว์แปลมากูก็โอเคนะ ถถถถ

127 Nameless Fanboi Posted ID:ZBSojBLZAF

>>123 ky เดี๋ยวนี้ญี่ปุ่นแปลเป็นเซนเซย์แล้วเหรอวะ กูเห็นแต่อาจารย์อยู่เลย ซามะก็ยังแปลว่าท่าน ทั้งสายการ์ตูนและนิยาย อย่างสนพไลท์โนวที่ลูกค้าเป็นกลุ่มโอตาคุเยอะเรื่องที่กูตามก็แปลเลย คนแปลพยายามหาคำให้ใกล้เคียงที่สุดไม่ใช่แค่ใส่เชิงอรรถแล้วจบๆไป มึงช่วยตัวอย่างสนพ.และเรื่องที่แปลทับศัพท์ได้มั้ย
กูเคยเห็นคนแปลชื่อสัตว์เป็นเจ้าขาว เจ้าดำบ่อยนะ
เห็นความเห็นวันนี้ กูต้องทำใจล่วงหน้าเลยสินะว่าคงไม่มีคำว่าอาจารย์แล้ว มีแต่ซือจุน ซือฝุเพราะเคยชินมาสิบกว่าปี กูกูผู้ชื่นชอบการทับศัพท์ก็แปลมาสิบกว่าปีแล้ว เหตุผลนี้เอามาใช้ได้ ต่อไปก็เตรียมรับมือการก้มๆเงยๆอ่านเชิงอรรถกันนะ

128 Nameless Fanboi Posted ID:LS/fmii.3C

เรื่องชื่อที่มีคำไทยจะแปลไม่แปลกูให้ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณผู้แปล ถ้าไม่แปลต้องมีเชิงอรรถ ส่วนใครใช้ทับศัพท์อิ้ง แอปเปิ้ล เชอร์รี่ แดนดิไลออน ทิวลิปในจีนโบราณกูปัดตก

129 Nameless Fanboi Posted ID:cm8d4hArdc

>>127 ถ้าสายญี่ปุ่น กูเห็นพวกแปลทับศัพท์คือพวกซับอิ๊งนะ ซับอิ๊งจะชอบใช้ oniisan sensei senpai -sama -san อะไรแบบนั้นไปเลย พวกแฟนซับอนิเมะไทยบางเจ้าก็อาจจะทำแบบนั้นมั้ง ตรงนี้กูเดาละเพราะกูไม่ดูแฟนซับของไทย

ส่วนของสำนักพิมพ์กูยังไม่เคยเจอคนทับศัพท์พวกนี้ อย่างมากก็แค่ซัง จัง คุง ยังไม่เคยเจอทับศัพท์ซามะหรือเซนเซ ถ้าเจอทับศัพท์จะเป็นพวกศัพท์เฉพาะบางวงการ อย่าง เมย์จิน ในวงการหมากรุก เทือกๆนั้น

130 Nameless Fanboi Posted ID:kKdBTNDHnK

>>129 จริง สนพ.ไม่ทับซับกัน คำว่า ซัง ยังหายากเลย

131 Nameless Fanboi Posted ID:qrdYbc/Q2a

>>127 >>129 +1 พวกที่ว่าสมัยนี้ใช้เซนเซ เซนไป ซามะนี่น่าจะชินจากการอ่านแปลอิ้งไม่ก็แปลไทยเว็บเถื่อนอะ กูอ่านไลท์โนเวลแปลไทยไม่เคยเจอนะ อย่าสับสนเอามาปนกันเด้อ

กูเห็นหลายสนพ.กับนข.ไทยเริ่มใช้เจิ้นกัน แต่ซือจุนเพิ่งเจอในตัวร้าย มีสนพ.อื่นเริ่มบ้าจี้ใช้ตามแล้วหรอวะ orz เพิ่งอ่านจีนโบราณของโรสไปสองเรื่อง ยังใช้อาจารย์อยู่นะ

132 Nameless Fanboi Posted ID:DxWrUswv5a

ซือจุนทำกุเสียอรรถรสในการฟินศิษย์อาจารย์มากบอกตรงๆ

133 Nameless Fanboi Posted ID:B+uHnQNLrv

>>131 ก่อนหน้านี้นิยายที่กูกูแปลชอบทับซือฝุ กูกลัวว่าฮัสกี้กับจารย์แมวกูจะโดนแปลเป็นซือจุนเหมือนกัน กูต้องการความบาปไม่ใช่เพ็ทเนมน่ารักๆ

134 Nameless Fanboi Posted ID:B+uHnQNLrv

>>131 ก่อนหน้านี้นิยายที่กูกูแปลชอบทับซือฝุ กูกลัวว่าฮัสกี้กับจารย์แมวกูจะโดนแปลเป็นซือจุนเหมือนกัน กูต้องการความบาปไม่ใช่เพ็ทเนมน่ารักๆ

135 Nameless Fanboi Posted ID:aGM3iY7E9i

ขอ KY สปอยเทียนกวาน อาร์ค 2 ต่อจาก >>92 เทียนกวาน Part.59
.
.
.
.
.
หลางอิงเล่าว่าตอนนี้หย่งอันแห้งแล้งไม่อาจทำการเพาะปลูก ผู้คนขาดรายได้และอดอยากล้มตาย ในเมื่อเมืองหลวงหล่อรูปปั้นทองคำ โยนเหรียญขอพรลงในสระน้ำได้ เหตุใดจึงไม่บริจาคให้หย่งอันบ้าง ฉีหรงด่าอีกฝ่ายว่าใช้ความจนมาอ้างเพื่อขโมยของของเทพเจ้า หลางอิงเลยบอกว่าเช่นนั้นเขาจะคุกเข่าโขกหัวคำนับเพื่อให้องค์เทพแบ่งปันทรัพย์สินช่วยเหลือ ฉีหรงเอ่ยอีกว่าเซี่ยเหลียนงานเยอะ ไม่มีเวลาสนใจคนต่ำต้อยอย่างอีกฝ่าย ซึ่งหลางอิงก็เห็นด้วย เพราะพวกเขาสวดภาวนาขอร้องแล้วก็ไม่เห็นมีอะไรดีขึ้น คำพูดนั้นทำให้ฉีหรงโกรธมาก เขาสั่งให้ทหารซ้อมหลางอิง แต่เฟิงซิ่นก็ใช้พลังช่วยทำให้การโจมตีของพวกเขาเบาลง ตอนนั้นเองมู่ฉิงก็มาถึงพอดี แต่เขาก็ไม่เคยได้ยินเรื่องภัยแล้งในหย่งอันเช่นกัน พอฉีหรงสั่งให้คนจับหลางอิงไปขัง เซี่ยเหลียนจึงใช้พลังทำให้รูปปั้นโยก ฉีหรงที่กลัวว่ารูปปั้นของเซี่ยเหลียนจะล้มจึงสั่งให้พวกทหารไปช่วยตนจับรูปปั้นไว้ หลางอิงเลยอาศัยจังหวะนั้นหลบหนีไปได้

เมื่อหลางอิงหยุดพักที่ใต้ต้นไม้ในป่า เซี่ยเหลียนก็จำแลงกายเป็นนักพรตเข้าไปหาอีกฝ่ายซึ่งกำลังใช้มือเปล่าขุดดิน เขายื่นน้ำดื่มให้ชายหนุ่มที่รับมันไปดื่มอย่างกระหายก่อนเอ่ยขอบคุณ หลังจากสอบถามความเป็นมา หลางอิงก็บอกว่าพวกตนมาจากอ่าวหลางเอ๋อร์ในหย่งอัน พอเห็นเซี่ยเหลียนสงสัยคำว่าพวกตน ชายหนุ่มจึงปลดย่ามลงมาเปิดให้เซี่ยเหลียนเห็นศพของเด็กชายอายุราว 2-3 ขวบด้านใน หลางอิงเล่าว่าเขาไม่รู้เลยว่าลูกของตนตายเพราะกระหายน้ำ หิว ป่วย หรือว่าทุกอย่างรวมกัน เขาแบกอีกฝ่ายที่ร้องไห้และไอไม่หยุดออกจากเมือง ตอนที่บุตรเงียบเสียงก็นึกว่าหลับไป แต่หลังจากนั้นถึงเขาพยายามปลุกเท่าไรอีกฝ่ายก็ไม่ตื่นขึ้นมาอีกเลย หากภรรยาที่จากไปทราบคงด่าเขาไม่หยุด แต่เขาก็ยังอยากให้เธออยู่ตรงนี้ด้วย

หลางอิงขอตัวกลับไปขุดหลุมเพื่อฝังลูกชาย สักพักเซี่ยเหลียนก็คิดได้ว่าให้น้ำอย่างเดียวคงไม่พอจึงส่งตุ้มหูปะการังสีแดงที่เหลือข้างเดียวของตนให้ หลางอิงไม่ปฏิเสธ เขารับมันไปพร้อมเอ่ยขอบคุณอีก มู่ฉิงที่สืบได้ความแล้วตามมาแจ้งว่าที่หย่งอันมีอารามของเซี่เหลียนเพียงน้อยนิด และมีกฎว่าถ้าใครจะขอพรต้องบริจาคเงินด้วยทำให้พวกเขาไม่ได้ยินเสียงสวดภาวนาของชาวบ้านหย่งอัน จากนั้นเซี่ยเหลียนก็สั่งให้ผู้ติดตามทั้งสองไปดูสถานการณ์ในหย่งอัน ส่วนตัวเขาจะไปสอบถามราชครูให้ได้ความ

แม้จะมีกฎห้ามเทพปรากฏตัวต่อหน้ามนุษย์ แต่ก็มีข้อยกเว้นสำหรับนักพรตชั้นสูง เมื่อรับรู้การมาของอดีตลูกศิษย์ ราชครูก็ให้คนอื่นออกจากหอแล้วปิดประตูคุยกับเซี่ยเหลียนสองคน เขาบอกว่าราชารู้เรื่องที่เกิดขึ้นในหย่งอันดี และเป็นเขาเองที่คนแนะนำไม่ให้ราชาหรือราชินีบอกเรื่องนี้กับเซี่ยเหลียน เพราะถึงเซี่ยเหลียนรู้ไปก็ไม่เกิดประโยชน์อันใด เซี่ยเหลียนบอกว่าจะไม่ให้เขาสนใจประชาชนของตัวเองได้อย่างไร เขาขอให้อาจารย์แจ้งราชาว่าไม่ต้องสร้างอารามให้เขาอีก ส่วนรูปปั้นทองคำก็สามารถนำไปหลอมเอาเงินไปช่วยขุดคลองส่งน้ำ พอได้ยินดังนั้นราชครูก็บ่นว่าเซี่ยเหลียนได้ขึ้นสวรรค์เร็วเกินไป ตอนนี้ประชาชนยังไม่ตายทั้งหมดเสียหน่อย

เซี่ยเหลียนโกรธผู้เป็นอาจารย์มาก แต่ราชครูก็ต่อว่าเซี่ยเหลียนที่ไม่ยอมตัดขาดสถานะบนภพมนุษย์ ทั้งยังบอกว่าอีกฝ่ายไร้พลัง การมายุ่งจะพาลทำให้เรื่องยุ่งยากกว่าเดิม เซี่ยเหลียนไม่เชื่อว่าหากเขาพยายามลงมือจะไม่เกิดผลอะไรเลยจึงตั้งใจจะไปคุยกับบิดาด้วยตนเอง ราชครูบอกว่าอย่าได้ทำอะไรโง่ๆ เซี่ยเหลียนเลยถามว่าถ้าเช่นนั้นเขาทำอะไรได้บ้าง เทพถูกเรียกว่าเทพเพราะช่วยเหลือมนุษย์ไม่ใช่หรือ ถ้าอย่างนั้นเขาจะขึ้นสวรรค์มาเพื่ออะไร
ราชครูบอกว่าเขาเห็นอนาคตของเซี่ยเหลียนมีแต่ความดำมืด หากเซี่ยเหลียนช่วยเหลือประชาชนไม่ได้ คนเหล่านั้นจะลากเซี่ยเหลียนลงจากแท่นบูชา แต่เซี่ยเหลียนเชื่อว่าคนของเขาจะไม่เป็นเช่นนั้น แต่ถ้าเขาไม่อาจช่วยเหลือประชาชนได้ก็ไม่ควรได้อยู่บนแท่นบูชาอยู่ดี สักพักราชครูก็ถอนหายใจ อธิบายว่าแม้สิ่งที่พ่อเซี่ยเหลียนทำอาจไม่ถูกต้อง แต่ก็ไม่อาจกล่าวได้ว่าผิด ไม่ใช่ว่าราชาไม่เคยคิดจะส่งเงินไปช่วยหย่งอัน เขาบอกให้เซี่ยเหลียนลองไปดูด้วยตนเองว่าหากเป็นตัวเองจะทำอะไรได้หรือไม่ เซี่ยเหลียนจึงขอบคุณอีกฝ่ายแล้วเดินทางไปหย่งอันทันที
.
.
.
.
.

136 Nameless Fanboi Posted ID:GHCJxP42dF

>>123 ก็อุปทานหมู่กันมาเป็นสิบปีนั่นแหละ สมัยที่นิยายจีนสมัยใหม่เริ่มบูม ลม.เริ่มมีชื่อที่เริ่มกระแสทับศัพย์ยัน สิบปีนี่ระยะเวลาสั้นๆ เองนะ สำหรับกูยังรู้สึกมันคือนิยายสมัยใหม่ สมัยเก่าสำหรับกูคือยุคกิมย้ง หม่าหยงเฉิง สามก๊ก

137 Nameless Fanboi Posted ID:GHCJxP42dF

>>123 ลืมตอบเรื่องสัตว์เลี้ยง เป็นกูแปลว่ะ อย่างที่พูดคือ ลองคิดตามมุมมองของคนจีนอ่าน ที่เขาตั้งชื่อง่ายๆ แบบนี้คือพอคนจีนอ่านปุ๊บ เห็นภาพปั๊บ และให้ความรู้สึกว่ามันง่าย แต่ถ้าเป็นคนไทยอ่านทับศัพท์ มันต้องมาแปลงสารอีกที มันไม่ได้อารมณ์ง่ายๆ แบบที่คนเขียนตั้งใจ
เจ้าดำน้อยไม่น่ารักยังไงวะ

138 Nameless Fanboi Posted ID:XvFjeN+ofx

>>135 ขอบคุณ​โม่งสปอย เป็นเทพนี่มันปวดหัวอิ๊บอ๋าย อยู่ให้สุขสบายไม่ได้เลย หรือเซี่ยเหลียนอยู่ไม่สุขเอง 555 ฝ่ายคนจะขอพรก็ต้องบริจาคอีก กฎอะไรวะ

139 Nameless Fanboi Posted ID:CGFD.CbVqx

>>135 สงสารเซี่ยเหลียนว่ะ มีกฏไม่ให้เทพมายุ่งเรื่องในโลกมนุษย์เพราะเหตุนี้รึเปล่าวะ

140 Nameless Fanboi Posted ID:pIbdcZGrn.

>>135 เออ อ่านล่ะก็ได้แต่คิดว่าถ้าเป็นเทพแล้วไม่ให้ช่วยเหลือมนุษย์ แล้วมีเทพไว้ทำไมวะ เพื่อยึดเหนี่ยวจิตใจอย่างเดียวเหรอ หรือว่าช่วยได้บางเคสที่แบบไม่ได้กระทบโชคชะตาใคร

141 Nameless Fanboi Posted ID:VH.BDiROBt

>>140 ในตอนแรกจะมีบอกไว้ว่าเทพช่วยเหลือมนุษย์ได้ในเคสที่เกี่ยวข้องกับผีหรือมารเท่านั้น ถ้าเป็นปัญหาระหว่างมนุษย์เองไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยว

142 Nameless Fanboi Posted ID:ewxj3G2ork

>>138 เป็นเซี่ยเหลียนที่อยู่ไม่สุขเองน่ะ 555 ส่วนเรื่องบริจาคนี่เป็นเพราะถ้าไม่มีคนบริจาคเลย อารามจะไม่มีปัจจัยไว้ดูแลสถานที่ซื้อธูปเทียนเข้าวัด หย่งอันตอนนี้เหลือแต่คนจนเลยไม่มีใครบริจาคเงิน ทางอารามเลยตั้งกฎขึ้นมาเอง

>>139 กฎมีมานานแล้วอะ เพราะโลกมีวัฏจักรของมันถ้าเทพมามีเกี่ยวเดี๋ยวมันจะยุ่ง

>>140 เสริมจาก >>141 นอกจากนั้นก็อาจช่วยอำนวยพรนิดๆ หน่อยๆ อย่างเทพสงครามอย่างเซี่ยเหลียนสามารถอำนวยพรด้านการป้องกันคุ้มภัย เทพแห่งน้ำช่วยอำนวยพรด้านการเงิน การเดินทางค้าขาย เทพแห่งดินอำนวยพรด้านการก่อสร้าง เทพวรรณกรรมช่วยด้านการงาน อะไรพวกนั้น

143 Nameless Fanboi Posted ID:a0wzr+M+wO

สนพ. บอกว่า ปรมจ.กำหนดออก 3-4 เดือนเล่ม เล่มสองออกตอนเดือนไหนนะ กูจะได้นับเดือนรอ คิดถึงหานกวงจวิน

144 Nameless Fanboi Posted ID:7RCOYT6y26

>>143 เหมือนกุจะได้กันยา วันที่ 18 แต่คนที่พรีรอบแรก น่าจะได้ก่อน 15มั้ง

145 Nameless Fanboi Posted ID:u1jxeah8gX

สปอยเทียนกวาน อาร์ค 2 ต่อจาก >>135 เทียนกวาน Part.60
.
.
.
.
.
สถานการณ์ในหย่งอันแย่มาก เฟิงซิ่นกับมู่ฉิงที่สืบข่าวได้แล้วรีบรายงานเซี่ยเหลียนว่าภัยแล้งในเซียนเล่อมีเค้าลางมาตั้งแต่เมื่อ 2 ปีก่อน แต่ปีนี้น้ำน้อยกว่าปรกติมากโดยเฉพาะในภาคตะวันตกอย่างหย่งอัน ครอบครัวคนรวยยังพอหาซื้ออาหารกับน้ำดื่มจากที่อื่น และพากันย้ายบ้านได้ คนที่เหลือจึงมีเพียงคนยากไร้ ราชาเคยส่งเงินมาช่วยนานแล้ว แต่ทุกครั้งที่ผ่านมือข้าราชการมันก็ถูกยักยอกออกไปจนสุดท้ายก็ไม่เหลืออะไร หากฝืนส่งมาอีกก็มีแต่จะเป็นอาหารให้พวกปรสิต ราชาจึงเลิกส่งเงินมาช่วย มู่ฉิงคิดว่าสิ่งที่เกิดในภพมนุษย์คือความรับผิดชอบของราชาไม่ใช่เซี่ยเหลียน การเข้าไปยุ่งจะเป็นการเอาปัญหามาสู่ตัวเองมากกว่า และถึงแม้เซี่ยเหลียนจะไปสั่งให้ข้าราชการพวกนั้นคืนเงินมาก็ไม่ได้ช่วยแก้ต้นเหตุของปัญหา

เฟิงซิ่นเสนอให้ขุดคลองส่งน้ำ แต่พอเซี่ยเหลียนมาเห็นสถานที่จริงจึงรู้ว่าไม่มีทางเป็นไปได้ ตอนนี้ทุกที่ล้วนประสบภัยแล้งจะให้แบ่งน้ำจากที่อื่นมาคงไม่ได้ อีกทั้งการสร้างก็ต้องใช้เวลาหลายปี แต่ในเมือใช้วิธีสามัญไม่ได้ แม้ก่อนหน้านี้นอกจากจวินอู๋แล้วเขาจะไม่เคยไปพยายามผูกมิตรหรือเยี่ยมเยียนเทพองค์ใดเพราะอยากปฏิบัติต่อทุกคนอย่างเท่าเทียม แต่เขาจะบากหน้าไปขอยืมอุปกรณ์เทพจากเทพแห่งฝนเพื่อโยกย้ายน้ำจากภาคตะวันออกของเซียนเล่อมาช่วยหย่งอัน ทว่ามู่ฉิงแย้งว่านอกจากหย่งอันแล้วที่อื่นในเซียนเล่อก็ล้วนมีน้ำน้อย การนำน้ำจากตะวันออกมาให้หย่งอันจะทำให้ที่นั่นรับเคราะห์ไปแทน และด้วยจำนวนประชากรที่มากกว่าก็จะทำให้มีคนเสียชีวิตมากขึ้น

เซี่ยเหลียนคิดไม่ตก เขาเห็นชาวหย่งอันที่ผอมแห้งใกล้ขาดน้ำและอาหารตายอยู่เต็มเมือง เขาบอกให้เฟิงซิ่นและมู่ฉิงพยายามขนน้ำมาที่นี่ระหว่างที่เขาคิดหาวิธีแก้ไข แม้เฟิงซิ่นจะรับคำสั่งอย่างเต็มใจ แต่มู่ฉิงก็ยังไม่เห็นด้วย เขาบอกว่าพวกตนไม่อาจช่วยเหลือคนเหล่านี้ไปตลอด และไม่อาจช่วยได้ทั้งหมด เซี่ยเหลียนเป็นเทพสงครามไม่ใช่เทพแห่งน้ำ แต่ถึงจะเป็นเทพแห่งน้ำก็ไม่สามารถสร้างน้ำจากความว่างเปล่าได้อยู่ดี และพวกเขาไม่มีพลังมากพอ คำพูดนั้นทำให้เซี่ยเหลียนชะงัก แต่สุดท้ายเขาก็ยังเดินหน้าต่อไป

เซี่ยเหลียนไม่แน่ใจว่าทำไมตัวเองกลับมาที่ราชวังทั้งๆ ที่ปรากฏตัวให้คนอื่นเห็นไม่ได้ อีกทั้งก็ไม่ได้ต้องการมาหาพ่อแม่ เขาเดินไปตามสถานที่คุ้นเคยจนกระทั่งพบราชากับราชินีอยู่ด้วยกันเพียงลำพัง เแม่ของเขากำลังลูบหน้ากากทองที่ลูกชายเคยสวมใส่ เส้นผมที่กลายเป็นสีเทาของบิดาทำให้เซี่ยเหลียนอดสงสัยไม่ได้ เพราะตอนที่อีกฝ่ายไปที่อารามของเขาเมื่อไม่นานมานี้ผมก็ยังเป็นสีดำ หลังจากฟังทั้งสองพูดจึงได้รู้ว่าทุกครั้งที่จะไปอาราม ราชาจะย้อมผมก่อนเสมอเพื่อไม่ให้ลูกชายเห็น ราชินีบอกให้สามีไปพักผ่อน แต่ราชาบอกว่าเขายังต้องทำงานเพราะวันนี้มีชาวหย่งอันจำนวนหนึ่งอพยพมาที่เมืองหลวง หากมาเฉยๆ และมีจำนวนแค่หลัก 10 หลัก 100 ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้ามีคนอพยพมาเป็นพันเป็นหมื่น รวมไปถึงขโมยเงินวัดอย่างเรื่องที่เกิดในวันนี้ นั่นอาจเกิดปัญหาตามมา ราชินีอดเปรยไม่ได้ว่าหากเซี่ยเหลียนยังอยู่ก็จะได้ช่วยแบ่งเบางานให้พ่อ ราชาแย้งว่าแค่อีกฝ่ายไม่สร้างปัญหาให้เขามากขึ้นก็ดีแล้ว แต่คงเป็นการดีกว่าที่จะปล่อยให้บุตรได้ทำทุกอย่างตามที่ใจปรารถนา ใช้ชีวิตอย่างอิสระไม่ต้องรู้เรื่องอะไรอยู่บนสวรรค์

ได้ยินดังนั้นราชินีก็ยิ้มบอกว่าเป็นราชาเองที่ชอบสปอยลูกชายตั้งแต่เด็ก ก่อนบ่นว่าตั้งแต่อยู่ที่เขาไท่ชางเซี่ยเหลียนก็ไม่ค่อยยอมกลับมาเยี่ยมที่บ้าน พอเป็นเทพก็ยิ่งได้เจอกันยาก พวกเขาไม่ได้เจอลูกชายมา 3 ปีและไม่รู้จะได้พบอีกเมื่อไร แต่เธอจะไม่ด้วยเกรงว่าหากขอให้อีกฝ่ายมาปรากฏตัวจะทำให้ลูกชายทำผิดกฎสวรรค์จนเดือดร้อน ตอนนี้แค่เธอได้มองรูปปั้นของลูกชายก็เพียงพอแล้ว

ยิ่งฟังทั้งสองคนพูดเซี่ยเหลียนก็ยิ่งรู้สึกผิด แต่เขาก็ยังนึกไม่ออกอยู่ดีว่าจะคุยอะไรกับพ่อแม่ เขาจำแลงกลายเป็นนักพรตสืบหาข้อมูลปริมาณน้ำในเมืองหลวงแล้วก็พบที่มู่ฉิงบอกว่าทุกแห่งในเซียนเล่อมีปริมาณน้ำน้อยลงมากเป็นเรื่องจริง เขายืนเครียดอยู่ข้างแม่น้ำจนกระทั่งฝนเริ่มตก พอเห็นเซี่ยเหลียนยืนนิ่งก็มีชายสองคนดึงเขาไปหาที่หลบด้วย เมื่อฝนเริ่มซาชายคนหนึ่งจึงยกร่มของตนให้เซี่ยเหลียน ก่อนใช้ร่มคันเดียวกับเพื่อนวิ่งจากไป สักพักเซี่ยเหลียนก็เห็นอารามเล็กๆ ที่มีป้ายติดว่า “กายอยู่ในนรก ใจอยู่บนสวรรค์” เป็นอารามของเขานั่นเอง ที่นี่ไม่มีนักพรตประจำการ อีกทั้งรูปปั้นดินเหนียวก็บิดเบี้ยวน่าตลกเป็นอย่างมาก ดอกไม้สีขาวที่ปักอยู่ในมือของรูปปั้นสะดุดตาเซี่ยเหลียน นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นดอกไม้จริงๆ บนรูปปั้นของตัวเองจึงอดเดินเข้าไปดูใกล้ๆ ไม่ได้
.
.
.
.
.

146 Nameless Fanboi Posted ID:SaJ+rTXoLH

>>145 Many thx นะโม่งสปอย กูเตรียมใจมาพอสมควรนะว่า arc นี้แม่งต้องดราม่า แล้วก็ดราม่าหน่วงๆ จริงว่ะ เรื่องแล้งน้ำนี่ก็บทเรียนเดียวกับที่ราชครูเคยเตือนเลย ปวดใจ รู้สึกเหมือนดูปรมจ.ฉากย้อนอดีต แม่งอยากให้รีบขึ้นว่า 16 ปีผ่านไป ฉิบหาย 555

147 Nameless Fanboi Posted ID:CitU25ZizR

>>145 ขอบคุณสำหรับสปอยเหมือนเดิมนะเพื่อนโม่ง กูว่าเทียนกวานมันแบบเหมือนเป็นบทเรียนของเซี่ยเหลียนอ่ะว่าบทโลกนี้มันไม่มีทางที่ทุกอย่างจะได้อย่างใจ แม้ว่าเราจะพยายามแค่ไหนก็เถอะ ชอบอ่ะ ยิ่งอ่านยิ่งชอบงานแม่โม่ คือเขาปั้นคาร์ตัวละครมาดีจริงๆ คือไม่ได้เป็นคาร์ที่มาแค่จากการเขียนบรรยายนิสัยบรรทัดเดียว แต่เป็นคาร์ที่เราสัมผัสได้ผ่านวิธีการคิด การแสดงออกจริงๆอ่ะ

148 Nameless Fanboi Posted ID:sxmw3wJfTi

>>145 อ่านถึงตรงชายที่ให้ร่มเซี่ยเหลียนแล้วปวดใจเลย พอรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับนางก็...

149 Nameless Fanboi Posted ID:xBHTUdSmkQ

>>146 นี่แค่สปอยล์นะ ถ้าอ่านเต็มๆ จริงๆ คงหน่วงน่าดู กูจะไปเพิ่มความแข็งแกร่งของตับรอไว้เลย

150 Nameless Fanboi Posted ID:EWabiMS3Eh

ตอนตัวร้ายนี่เขาออกแต่ละเล่มห่างกันแค่ไหนอ่ะ ไม่ใช่อะไรคือกูต้องเกียมตังให้เทียนกวานไง แล้วมีปรจ ฮัสกี้และฆ่าหมาป่าอีกที่ออกปีหน้าพร้อมกัน นี่ยังไม่รู้นะว่าสองเรื่องหลังกี่เล่มจบออกปีหน้าด้วยมั้ยแต่เตรียมตัวก่อนเลย แถมเทียนกวานมีบ็อกด้วย / นิพพาน

151 Nameless Fanboi Posted ID:TOcfc9vOd6

>>146 กูก็ชอบงานแม่โม่มากที่ตัวละครของเขามีมิติ โดยเฉพาะในเรื่อง ปรมจ กับเทียนกวาน สำหรับกูแล้วประเด็นหลักของเรื่องเทียนกวานคือความมั่นคงอะ คือชีวิตมันมีอะไรจำกัด มีขึ้น มีลง มีดี มีร้าย มีสมหวัง มีผิดหวัง บางครั้งก็ทำถูก บางครั้งก็ทำผิด ทำดีไม่ได้ดี ทำดีคนอื่นไม่เห็นค่า ทำดีแล้วกลายเป็นทำร้ายคนอื่น บางครั้งก็ถูกทำร้ายจนแทบทนไม่ไหว แต่เราจะยังมั่นคงกับความคิดของเราอยู่หรือเปล่า เหมือนที่อาจารย์เหม่ยบอก “เมื่อมนุษย์ขึ้นสวรรค์พวกเขาก็ยังคงเป็นมนุษย์ และเมื่อมนุษย์ล้มเหลว พวกเขาก็ยังคงเป็นมนุษย์อยู่ดี” ไม่ว่าเราจะประสบความสำเร็จ (เป็นเทพ) หรือล้มเหลว (เป็นมาร) ยังไงนั่นก็คือตัวเราเอง สิ่งที่กำหนดให้เราเป็นเราไม่ได้เกี่ยวกับผลลัพท์ของสิ่งที่เราทำ แต่เป็นเราที่เลือกว่าจะทำดี (เป็นเทพ) หรือทำเลว (เป็นมาร)

>>150 ถ้าจำไม่ผิดน่าจะทุกๆ 3 เดือนนะ

152 Nameless Fanboi Posted ID:BF3NwOPIwo

โม่งสปอยหรือใครก้ได้กุขอถามหน่อย เทียนกวานมีฉากอย่างว่ามั้ยอ่ะ คือกุเป็นพวกวิญญูชนจอมปลอม อ่านเอ็นซีได้แหละแต่ไม่ชอบซื้อเก็บไว้ในบ้านเพราะกลัวเสียภาพพจน์ กูซื้อแต่ที่พวกบรรยายปย.เดียวตัดเข้าโคมไฟงี้ งานโม่เซียงกุยังไม่เคยอ่านนอกจากตัวอย่างในเว็บไม่รู้ว่าฉากอย่างว่ามันลึกล้ำขนาดไหน

153 Nameless Fanboi Posted ID:UKXhn1YXcA

>>152 เทียนกวานไม่รู้ แต่ตัวร้าย HD มาก ระดับหนังโป๊ เห็ดเป็นเห็ดจนกูอ่านแล้วรับไม่ได้เลย ดีที่มีแค่ตอนพิเศษกูเลยข้ามยาวๆ ชัดเกินไม่อีโรติกแบบนิยายทั่วไปด้วย แต่ถ้าใครอ่านเพื่อกามก็คงชอบ กามมาก

154 Nameless Fanboi Posted ID:tYZ/pUih3a

>>152 รู้สึกจะไม่มีนะ มีแต่บอกเป็นนัย แอบเสียดายเล็กน้อยถึงปานกลางเพราะแม่โม่บอกเองเลยว่าฮวาเฉิงเก่งที่สุดในพระเอกทั้งสามคน

155 Nameless Fanboi Posted ID:2sCL0hMuM7

>>152 ไม่มี ฉวาเฮิงไม่ให้ดู

156 Nameless Fanboi Posted ID:2sCL0hMuM7

>>155 ฮวาเฉิง*

157 Nameless Fanboi Posted ID:uNXg1K6Jp.

>>153 อ้าว ตัวร้ายมีฉากเยอะเหรอวะ กูอ่านเล่มสามถึงตอนเจ็บ แล้วก็ยังไม่ได้อ่านตอนพิเศษเพราะกว่าจะเข็นให้จบก็เหนื่อยมาก รู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ตรงจริตเท่าไหร่

158 Nameless Fanboi Posted ID:uNXg1K6Jp.

>>157 พิมพ์ผิด อ่านถึงตอนจบ ไม่ใช่ตอนเจ็บ

159 Nameless Fanboi Posted ID:oKslPW/E9M

>>155 ฮวาเฉิงงก :P
จริงๆ คือรัฐบาลจีนเริ่มปรามพวก Y พอดี โถ่ อดเลย

160 Nameless Fanboi Posted ID:hVZqYVzi7K

สปอยเทียนกวาน อาร์ค 2 ต่อจาก >>145 เทียนกวาน Part.61
.
.
.
.
.
ตอนนั้นเองก็มีเสียงคนวิ่งอย่างรีบเร่งเข้ามาในอาราม เซี่ยเหลียนจึงกลับไปใช้กายทิพย์ซ่อนไม่ให้คนๆ นั้นเห็น อีกฝ่ายเป็นเด็กชายแต่งกายสกปรก ใบหน้าเต็มไปด้วยผ้าพันแผล มือทั้งสองประคองดอกไม้สีขาว แม้จะจำใบหน้าและชื่อของอีกฝ่ายไม่ได้แล้ว แต่เซี่ยเหลียนก็คิดว่าคนๆ น่าจะเป็นเด็กชายที่ตกจากกำแพงคนนั้น เด็กชายนำดอกไม้เปลี่ยนให้กับรูปปั้น ยืนประสานมือทำความเคารพ ไม่ได้คุกเข่าคำนับอย่างที่คนอื่นทำ ทำตามที่เซี่ยเหลียนกล่าวว่าไม่อยากให้มนุษย์กราบไหว้ และมันก็ทำให้เซี่ยเหลียนประทับใจมาก

ไม่นานนักก็มีเด็กชายรุ่นราวคราวเดียวกันกลุ่มหนึ่งเข้ามาพูดจารังแกเด็กชาย เด็กชายโกรธจนเข้าไปเปิดฉากกับฝ่ายตรงข้าม แต่เด็กกลุ่มนั้นมีจำนวนมากกว่า เซี่ยเหลียนที่ไม่อาจทนดูได้เลยใช้พลังแยกพวกเด็กๆ ออก น้ำบนพื้นสาดโดนเด็กพวกนั้นจนล้มลงก่อนหนีกลับบ้าน เด็กชายจัดผ้าพันแผลใหม่แล้วนั่งกอดเข่าอยู่ข้างรูปปั้นดินเหนียว เซี่ยเหลียนส่งสัญญาณเรียกเฟิงซิ่นกับมู่ฉิงมาปรึกษา ก่อนจะได้ยินเสียงท้องของเด็กชายร้อง เขาเลยหยิบผลไม้ในถาดเซ่นไหว้โยนใส่อีกฝ่าย แต่เด็กชายนึกว่าผลไม้หล่นออกมาเองจึงนำไปวางที่เดิม

ตอนนั้นเฟิงซิ่นกับมู่ฉิงก็มาถึง พอเห็นหน้าเด็กชายมู่ฉิงก็คิดเหมือนกันว่าน่าเป็นเด็กที่หนีออกจากเขาไท่ชางเมื่อ 3 ปีก่อน เซี่ยเหลียนอยากหาวิธีให้เด็กชายกลับบ้าน แต่พอคิดว่าสถานการณ์ที่บ้านของอีกฝ่ายก็ไม่น่าจะดี อย่างน้อยเขาก็ยังอยากให้เด็กชายได้กินอะไรสักหน่อย เมื่อมู่ฉิงได้ยินอย่างนั้นจึงต่อว่าเซี่ยเหลียนที่ไม่จัดลำดับความสำคัญแล้วมาใส่ใจเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ เซี่ยเหลียนไม่โต้แย้ง เขาเดินออกไปด้านหน้าอาราม กางร่มออกแล้ววางทิ้งไว้ เสียงฝนกระทบบางอย่างทำให้เด็กชายเดินออกไปดู พอเห็นร่มที่โผล่มาอย่างไม่มีที่มาที่ไป เด็กชายก็หยิบมันขึ้นมาแล้วตะโกนใส่รูปปั้น ถามว่าเป็นเซี่ยเหลียนใช่หรือเปล่า ถ้าใช่ก็ช่วยตอบคำถามของเขาที

เด็กชายบอกว่าทุกวันของเขามีแต่ความเจ็บปวด ทุกวันล้วนนึกอยากให้ตัวเองตาย เขาอยากจะฆ่าทุกคนบนโลกนี้แล้วฆ่าตัวตายตาม เขามีชีวิตอยู่อย่างทุกข์ทรมาน เขาจะมีชีวิตไปเพื่ออะไร มีชีวิตต่อไปจะมีความหมายอะไร หลังสิ้นคำถามทุกอย่างก็เงียบสงัดจนเด็กชายก้มหัวลงอย่างสิ้นหวัง แต่ตอนนั้นเองก็มีเสียงๆ หนึ่งดังออกมาจากรูปปั้น

“ถ้าเจ้าไม่รู้ว่าจะมีชีวิตเพื่ออะไรอีกก็จงมีชีวิตเพื่อข้า ข้าไม่มีคำตอบให้กับคำถามของเจ้า ยังไงก็ตาม ถ้าเจ้าไม่รู้ว่าความหมายของชีวิตของเจ้าคืออะไร ก็ให้ข้าเป็นความหมายนั้น และใช้ข้าเป็นเหตุผลที่จะมีชีวิตต่อไปเถอะ” เฟิงซิ่นและมู่ฉิงตกใจมาก รีบห้ามไม่ให้เจ้านายพูดอะไรอีกเพราะจะผิดกฎสวรรค์ แต่เซี่ยเหลียนก็ยังเอ่ยต่อ “ขอบคุณสำหรับดอกไม้นะ มันงดงามจริงๆ ข้าชอบมันมาก”

เฟิงซิ่นกับมู่ฉิงรีบลากเซี่ยเหลียนออกมาขณะที่เด็กชายยืนอึ้ง แต่เมื่อเห็นเด็กชายตัดสินใจยื่นมือไปหยิบผลไม้ในถาดเซ่นไหว้มากินก็ทำให้เซี่ยเหลียนพอใจ ก่อนที่เขาจะเปิดประเด็นกับทั้งสองว่าหากน้ำในเซียนเล่อมีไม่พอ ก็ต้องไปเอาน้ำมาจากอาณาจักรอื่น แต่มู่ฉิงคิดว่าด้วยระยะทางที่ไกล การทำเช่นนั้นจะเสียเวลามาก อีกอย่างการเข้าไปยุ่งในเขตแดนของเทพองค์อื่นก็ไม่ใช่เรื่องที่ดี แต่เซี่ยเหลียนก็บอกเขาจะขึ้นไปคุยบนสวรรค์เอง ระหว่างนี้ให้ทั้งสองช่วยดูแลจุดที่ได้รับผลกระทบแย่ที่สุดไปก่อน มู่ฉิงจึงบอกได้เพียงให้เจ้านายอย่าใช้เวลานานเกินไป เซี่ยเหลียนรีบกลับไสวรรค์เพื่อไปพบเทพที่ควบคุมน้ำ แต่น่าแปลกที่ตอนนี้มีเพียงเทพแห่งฝนที่ดูแลเรื่องนี้อยู่ หากแต่อีกฝ่ายไม่ได้อาศัยอยู่บนสวรรค์ โชคดีที่เทพชั้นกลางสาวซึ่งทำงานเกี่ยวกับข่าวสาร หนานกงจี่ เข้ามาทักทายเขาพอดี เขาจึงได้ทราบว่าเทพแห่งฝนอยู่ที่อาณาจักรอวี้ซือ

ปล 1 ยังจำได้ไหมว่าฉากในวัดนี้เซี่ยเหลียนเคยพูดถึงในสปอย Part.28 >>>/801/7776/539 และคิดถึงในสปอย Part.36 >>>/801/7776/651

ปล 2 หนานกงจี่ คือชื่อจริงของหลิงเหวิน (หลิงเหวินเป็นชื่อตำแหน่ง)
.
.
.
.
.

161 Nameless Fanboi Posted ID:ElSfL3yt.Y

>>160 กรี้ดดดดดดด ประโยคเด็ดของเรื่องมาแล้ว ตอนฟังครั้งแรกใน amv ของเทียนกวานคือกรี้ดเป็นบ้า น้องฟาฟาตอนเด็กคือแบบ แงงงงง อยากดูแล อยากปกป้องน้องงง น้องไม่ควรโตมาเจอเรื่องแบบนี้

162 Nameless Fanboi Posted ID:ka5NxODojr

>>160 ประโยคเด็ดมาแล้ว คืออ่านครั้งแรกนี่น้ำตาจะไหล แล้วฟาฟาก็ทำอย่างที่เซี่ยเหลียนบอกไว้จริงๆ

163 Nameless Fanboi Posted ID:F5.sSOaqCl

>>160 โอ๊ย มึงโคตรละเอียดอ่ะ สปอยล์แล้วมีการเน้นให้กลับไปอ่านตรงจุดพีคๆ ด้วย (เรียกไม่ถูก) เป็นคนละเอียดรอบคอบจริงๆ กราบแบบเบญจางคประดิษฐ์

164 Nameless Fanboi Posted ID:s2n6d7jw4k

153-159 ขอบคุณมาก กูรอซื้อได้อย่างสบายใจละ

165 Nameless Fanboi Posted ID:q4Oawiix9K

กูสงสารคนจองปรจ 2 หน้าร้านว่ะ จนบัดนี้ยังได้กันไม่ครบเลย กูสั่งในทวิตภพ ได้ตั้งแต่เดือนก่อนแล้วพร้อมที่คั่น

166 Nameless Fanboi Posted ID:TTeu1ek7ns

>>163 +1 กราบด้วยคน ชอบความละเอียดนี้
โอยน้ามตาคลอ สงฟาฟาตอนเด็กอ่ะ ถ้าอ่านเต็มๆในเล่ม กุว่ากุร้อง แง

167 Nameless Fanboi Posted ID:Tgb0A/H2z.

ฟาฟาแงงงง ไม่ไหวแล้วน้ำตากุ ขอบใจมากโม่งสปอยกุจะกลับไปอ่านย้อนอีกรอบ

168 Nameless Fanboi Posted ID:M3rBt1YZgD

สปอยเทียนกวาน อาร์ค 2 ต่อจาก >>160 เทียนกวาน Part.62
.
.
.
.
.
เซี่ยเหลียนถามหนานกงจี่ว่าเทพแห่งฝนชอบอะไร เป็นเพราะเขาได้ขึ้นสวรรค์เร็วเลยไม่ทันมีคนสอนเขาว่าควรไปทักทายเอาของขวัญให้เทพทุกองค์เพื่อเส้นสายอันดี แม้ภายหลังราชครูจะบอกแต่ก็สายเกินไปแล้ว ทว่าด้วยความที่เทพแห่งฝนเป็นคนเก็บตัวทำให้เทพสาวก็ไม่รู้เช่นกัน เซี่ยเหลียนขอบคุณหนานกงจี่ก่อนเดินทางไปที่พักของเทพแห่งฝนในอาณาจักรอวี้ซือ แต่นอกจากทุ่งข้าวเขียวขจีกว้างไกล ชาวนาและวัวแล้วเขาก็ไม่เห็นอะไรเลย พอเห็นวัวสีดำตัวหนึ่งลุกขึ้นยืนสองขาก่อนจำแลงร่างเป็นชาวนา เซี่ยเหลียนจึงเข้าไปสอบถาม

ชาวนาบอกว่าเทพแห่งฝนไม่ชอบพบปะผู้คน แต่อีกฝ่ายรู้ข่าวน้ำแล้งในเซียนเล่ออยู่แล้วเพราะเทพองค์อื่นเองต่างก็จับตาดูและเข้าใจสถานการณ์ในเซียนเล่อมากกว่าตัวเซี่ยเหลียนเสียอีก เซี่ยเหลียนได้รู้ว่าที่เขาไม่เจอเทพที่ควบคุมน้ำบนสวรรค์เลยเป็นเพราะทุกคนหลีกเลี่ยงไม่ยากยุ่ง เขาเลยบอกว่าถ้าเทพแห่งฝนไม่สะดวกเขาก็จะไม่รบกวน ชาวนาคนนั้นกล่าวว่าเรื่องนี้เกี่ยวกับกับความเป็นตายในเซียนเล่อ ทำไมถึงไม่ยอมลดทิฐิลงบ้าง และไม่ว่าเทพองค์อื่นจะยอมช่วยเหลือหรือไม่ เซี่ยเหลียนก็ไม่มีสิทธิ์ไม่พอใจ คำพูดนั้นทำให้เซี่ยเหลียนโกรธที่อีกฝ่ายมาตัดสินว่าเขาเป็นคนอย่างไร แต่จู่ๆ ชาวนาก็โยนหมวกไม้ไผ่ให้เซี่ยเหลียน บอกว่าสิ่งนี้คืออุปกรณ์เทพซึ่งเทพแห่งฝนฝากให้เขามอบมันให้เซี่ยเหลียนยืม เขาอธิบายว่าอุปกรณ์นี้ใช้ขนน้ำได้ แต่สร้างน้ำไม่ได้ และเพราะอาณาจักรอวี้ซือมีการกักเก็บน้ำมาหลายปี เทพแห่งฝนเลยอนุญาตให้นำน้ำจากอาณาจักรอวี้ซือไปใช้ได้

เซี่ยเหลียนรู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก เขาฝากอีกฝ่ายขอบคุณเทพแห่งฝนแล้วรีบใช้หมวกไม้ไผ่ขนน้ำเทลงบนเมฆที่อ่าวหลางเอ๋อร์ในหย่งอัน ไม่นานนักฝนก็เริ่มตกและประชาชนก็รีบนำภาชนะมารองน้ำ ตอนนั้นเองมู่ฉิงก็ปรากฏตัวขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ถามว่าทำไมเซี่ยเหลียนถึงหายไปหลายวัน เขากับเฟิงซิ่นไม่อาจจัดการงานทุกอย่างให้เซี่ยเหลียนได้ เซี่ยเหลียนตอบว่าหากสถานการณ์ในหย่งอันไม่ดีขึ้น ในที่สุดอารามของเขาก็ย่อมโดนผลกระทบตามไปด้วย มู่ฉิงจึงบอกว่ามันเกิดเรื่องขึ้นแล้วต่างหาก เซี่ยเหลียนรีบกลับมายังเมืองหลวงซึ่งทหารกำลังลากคนกลุ่มหนึ่งมาตามถนนท่ามกลางสายตาโกรธแค้นของประชาชน แล้วเฟิงซิ่นที่คอยดูสถานการณ์ด้วยความระวังอยู่เล่าว่าคนที่ถูกจับทุกคนเป็นชาวหย่งอัน

เป็นเพราะชาวหย่งอันจำนวนมากอพยพหนีภัยแล้งมาเมืองหลวง ตอนที่ยังมีคนไม่มากก็ไม่เกิดอะไร แต่ตอนนี้พวกเขามีมากกว่า 500 คน ทุกคนรวมกลุ่มลงมือปักหลักสร้างที่อยู่ในท้องทุ่งทางตะวันตกจนกลายเป็นชุมชนแออัด ความสกปรกและยากจนของอีกฝ่ายทำลายทัศนียภาพของเมืองหลวง สร้างมลพิษทางสายตา หู และกลิ่นจนชาวเมืองท้องถิ่นไม่พอใจมากขึ้นเรื่อยๆ แม้ผู้นำอาวุโสของหย่งอันจะอยากย้ายออกไป แต่ด้วยจำนวนคน ทั้งคนเจ็บ คนป่วย สตรี และเด็ก อีกทั้งเมืองหลวงก็ไม่มีพื้นที่อื่นแล้ว พวกเขาจึงไม่อาจย้ายไปโดยง่าย

หญิงคนหนึ่งตะโกนว่าชาวหย่งอันขโมยของและทำร้ายสามีของเธอ ชาวบ้านคนอื่นเห็นด้วยบอกว่าเป็นคนต่างถิ่นแล้วยังกล้ามาสร้างปัญหาอีก แต่ชาวหย่งอันที่ถูกจับกุมคนหนึ่งก็บอกว่าพวกตนไม่ได้เป็นคนขโมยของและถูกทำร้ายเช่นกัน แต่ผู้อาวุโสที่เกรงว่าจะทำให้เรื่องแย่ลงก็ตะโกนห้ามไม่ให้อีกฝ่ายพูด เฟิงซิ่นอธิบายว่าขโมยตัวจริงคือสุนัขจรจัด แต่ด้วยความที่เคยมีเด็กชาวหย่งอันขโมยเป็ดของชาวบ้านไปกินด้วยความหิว ทำให้ชาวเมืองโยนความผิดให้ชาวหย่งอันโดยไม่คิดสืบ ทางด้านชาวหย่งอันเองก็ถูกสุนัขขโมยของ ความเข้าใจผิดและความบาดหมางที่ดำเนินมานานทำให้เรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่ แล้วทั้งสองฝ่ายก็ปะทะกันจนก่อให้เกิดเหตุการณ์ตรงหน้า อย่างไรทหารก็มีหน้าที่ปกป้องเมืองหลวง การที่จะเข้าข้างชาวเมืองของตนจึงไม่ใช่เรื่องแปลก

ชาวบ้านต่างพากันขว้างปาขยะใส่นักโทษกลุ่มนั้น ผู้อาวุโสชาวหย่งอันได้เพียงร้องขอความเมตตาและกล่าวขอโทษไม่หยุด แต่ชาวบ้านก็ยังก่นด่าว่าไม่อยากให้มีชาวหย่งอันอพยพมาเพิ่ม ชายคนหนึ่งบอกว่าราชาต้องไม่ยอมอนุญาตรับชาวหย่งอันอีกเพราะอีกฝ่ายขโมยของจากบ้านของเขาไป ตอนนั้นเองเซี่ยเหลียนก็สังเกตเห็นหลางอิงอยู่ในกลุ่มนักโทษกลุ่มนั้นด้วย ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นถามชายคนนั้นว่าเห็นกับตาหรือว่าชาวหย่งอันเป็นคนขโมยของไป
.
.
.
.
.

169 Nameless Fanboi Posted ID:i2RziZMaH0

อฟซ.ออกชุดเลโก้นี่จริงเปล่า? กูเห็นภาพแต่หาข้อมูลไม่เจอ กูไม่ได้ใช้พวกsnsจีนด้วย ใครมีลิ้งหรือภาพจากอฟซ.มั้ง

170 Nameless Fanboi Posted ID:V/qEfLMi8V

>>168 ขอบคุณ​โม่งสปอย ปัญหาน้ำแล้งไม่ทันหาย มาเจอปัญหาชนกลุ่มน้อยอีก กูนึกตอนจบแบบดีๆ ไม่ได้เลยว่ะ

171 Nameless Fanboi Posted ID:jJrLm2+8W+

>>168 เข้าใจว่าเซี่ยเหลียนอยากช่วยทุกฝ่าย แต่บางสถานการณ์มันก็ยากที่จะแก้ไขนะ สงสารเซี่ยเหลียนจัง T T

172 Nameless Fanboi Posted ID:RdU8WVoH8P

>>168 แงงงงทางไหนก็แย่ กุไม่แปลกใจทำไมเซี่ยเหลียนถึงไม่เชื่อในคน เพราะเคยเชื่อจนถึงที่สุดและก็ผิดหวัง

173 Nameless Fanboi Posted ID:uXo+55PsFy

>>172 ที่จริงตอนนี้เซี่ยเหลียนยังก็เชื่อในมนุษย์นะ แต่ไม่ได้เชื่อแบบโลกสวยเหมือนสมัยหนุ่มๆ แล้ว

174 Nameless Fanboi Posted ID:scWv2PvlL4

>>173 ใช่ๆ คือเซี่ยเหลียนเขายังมีจุดยืนที่จะช่วยเหลือคนอื่นเหมือนเดิม แต่แค่ไม่ได้โลกสวยจะช่วยทุกคนให้ได้แล้ว ช่วยแค่คนที่ตัวเองพอจะช่วยได้

175 Nameless Fanboi Posted ID:SbHWW72T2e

สปอยเทียนกวาน อาร์ค 2 ต่อจาก >>168 เทียนกวาน Part.63
.
.
.
.
.
ชาวบ้านบอกว่าแม้ไม่เห็นกับตาว่าชาวหย่งอันขโมยของ แต่ก่อนหน้านี้เมืองหลวงสงบสุขมาตลอดจนกระทั่งชาวหย่งอันอพยพมา หลางอิงปรามาสว่าอีกฝ่ายคงเป็นขโมยเลยโยนความผิดมาให้พวกเขา ทำให้ชายหนุ่มถูกชกเลือดกลบปาก ชาวหย่งอันกลุ่มนั้นถูกชาวบ้านรุมต่อว่าปาของใส่จนถึงตอนเย็นพวกทหารจึงปล่อยตัว หลางอิงเดินแยกตัวออกจากกลุ่ม เซี่ยเหลียนรีบจำแลงกายเป็นนักพรตไปปรากฏตัวให้เห็น ถามว่าในเมื่อเขาให้มุกสีแดงเม็ดนั้นไปแล้วเหตุใดจึงไม่กลับหย่งอัน หลางอิงตอบว่าในเมื่อลูกชายของเขาอยู่ที่นี่ เขาก็จะอยู่ที่นี่ด้วย ก่อนส่งมุกเม็ดนั้นคืนให้เซี่ยเหลียน เซี่ยเหลียนไม่รับ เขาบอกว่าวันนี้ที่อ่าวหลางเอ๋อร์มีฝนตกลงมาแล้ว และเขาสัญญาว่าพรุ่งนี้ก็จะมีฝนตกอีกเช่นกัน ทว่าหลางอิงกลับกล่าวว่าฝนจะตกหรือไม่ไม่สำคัญแล้ว ตอนนี้ไม่มีทางให้เขาย้อนกลับไปแล้ว

เซี่ยเหลียนยืนบื่ออย่างไม่เข้าใจ ก่อนหน้านี้เขาทำทุกอย่างสำเร็จโดยง่าย เหตุใดหลังขึ้นสวรรค์การจะทำอะไรให้สำเร็จช่างยากเย็นเหลือเกิน เขาพยายามขนน้ำมาสร้างฝน ทว่าก็ช่วยไม่ได้มากนัก หลังจากผ่านไป 1 เดือนชาวหย่งอันก็อพยพมาที่เมืองหลวงหลายพัน และหลังจากนั้นอีกเดือนหนึ่ง เพื่อรักษาความสงบราชาก็สั่งปิดประตูเมืองหลวง ประกาศให้ชาวหย่งอันออกไปโดยจะมอบสิ่งจำเป็นสำหรับการเดินทางให้ แต่ชาวหย่งอันที่ละทิ้งบ้านเกิดมาหลายคนบาดเจ็บหรือป่วย ล้มตายระหว่างทางก็ไม่น้อย แล้วพวกเขาจะมีแรงเดินทางต่อได้อย่างไร เพื่อความอยู่รอดพวกเขาจึงเกาะประตูเมือง ขอร้องให้อีกฝ่ายรับพวกตนเข้าไป ขณะที่ทหารบนหอคอยประตูเมืองพยายามตะโดนไล่

ชาวหย่งอันบางส่วนยอมตัดใจออกเดินทางต่อ แต่ส่วนมากยังคงไม่ไปไหนด้วยหวังว่าราชาจะมีเมตตา เมื่อเห็นอย่างนั้นคนที่อพยพมาเพิ่มเลยรวมกลุ่มรอด้วย ผ่านไปไม่กี่วันชาวหย่งอันก็มีจำนวนมากมาย พวกเขาสร้างที่พักอยู่หน้าประตูเมือง เซี่ยเหลียนต้องรับฟังคำขอของผู้ศรัทธา สร้างฝนให้หย่งอัน และดูแลชาวหย่งอันที่นอกเมือง แม้มีใจแต่เขาก็รู้สึกล้ามาก และในวันที่เขาไม่ได้อยู่ดูที่ประตูเมือง ในที่สุดก็เกิดเรื่องขึ้น

ชายคนหนึ่งอุ้มลูกชายไปทุบประตูขอร้องให้ลูกชายเข้าไปให้หมอรักษาอาการป่วย แต่ทหารรู้ดีว่าหากเปิดประตูให้คนอื่นย่อมอาศัยโอกาสพากันกรูเข้าเมือง หรือถ้าส่งหมอออกไปใครจะไปรู้ว่าชาวหย่งอันจะจับอีกฝ่ายเป็นตัวประกันบังคับให้เปิดประตูเมืองหรือเปล่า ทหารจึงแสร้งหลอกไปว่าจะไปแจ้งเรื่องให้ราชาทราบ แต่ความจริงคือไม่ได้ทำอะไรเลย หลังจากผ่านไปหลายชั่วโมงพ่อของเด็กชายก็ไม่อาจทนได้ เขาเอาเชือกผูกบุตรไว้ที่หลัง ก่อนที่ชายหนุ่มจะพยายามปีนกำแพงขึ้นไปด้วยมือเปล่าโดยมีชาวหย่งอันคนอื่นช่วยต่อตัวให้ ในที่สุดเขาก็คว้าเชือกที่พวกทหารใช้ส่งเสบียงมาให้ผู้อพยพเอาไว้ได้

เสียงเชียร์ดังกระหึ่มทำให้พวกทหารรู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้น หากปล่อยให้อีกฝ่ายเข้ามาคนอื่นย่อมทำตาม พวกเขาตะโกนข่มขู่ให้หยุดการกระทำ ทว่าชายคนนั้นก็ยังไต่เชือกขึ้นมาอยู่ดี ทหารคนหนึ่งจึงใช้กระบี่ตัดเชือกทิ้ง ชายคนนั้นจึงร่วงหล่นหลังกระแทกพื้นอย่างรุนแรง สภาพศพน่ากลัวนั้นไม่ต้องเอ่ยถึงลูกชายที่เขาแบกไว้บนหลัง ตอนที่เสียงหวีดร้องดังขึ้นเซี่ยเหลียนก็มาถึงพอดี เครื่องรางบนคอที่บิดหักของชายหนุ่มมาจากอารามของเซี่ยเหลียน ก่อนที่ชายคนนั้นจะปีนกำแพง เขาและภรรยาต่างสวดขอพรให้เทพคุ้มครอง เซี่ยเหลียนที่ได้ยินจึงรีบมา ทุกอย่างดูไม่เหมือนเรื่องราวที่เขาเคยได้ยินซึ่งผู้กล้าล้วนมาได้ทันการณ์เสมอ เมื่อเห็นสภาพของสามีและลูกชาย ฝ่ายภรรยากรีดร้องวิ่งเอาศีรษะกระแทกกำแพงเมืองเสียชีวิตต่อหน้าต่อตาทุกคน

เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้ชาวหย่งอันไม่อาจทนได้อีกต่อไป พวกเขาด่าทอราชาที่พลักพวกตนเข้าหาความตาย พวกเขาล้วนจ่ายภาษีทุกปีแต่พอถึงคราวเคราะห์กลับไม่ได้รับเงินช่วยเหลือ สงสัยคงเอาแต่นำเงินไปสร้างอารามให้ลูกชาย หากเมืองหลวงไม่รับพวกเขาเข้าไปก็หวังว่าจะมีใครได้ออกมา พวกเขารวมตัวกันเอาตัวพุ่งขนจนกำแพงเมืองสั่นสะเทือน ใบหน้าบิดเบี้ยวกรีดร้องร่ำไห้ของชาวหย่งอันทำให้เซี่ยเหลียนที่คิดมาตลอดว่าประชาชนของตัวจิตใจดีรักสงบรู้สึกเหมือนอยู่อีกโลกที่ไม่รู้จัก และโดยไม่ทันรู้ตัวก็มีชายหนึ่งปีนขึ้นไปบนกำแพงหักคอของทหารที่ตัดเชือก อีกฝ่ายคือหลางอิง และหลังจากวันนั้นอาณาจักรเซียนเล่อก็ตกสู่ความโกลาหล
.
.
.
.
.

176 Nameless Fanboi Posted ID:KHN85m3cH6

อยากอ่านฉากนั้นเทียนกวานเลย :| >>154

177 Nameless Fanboi Posted ID:rAm71BinoJ

>>175 โอ้โห พร์ทอดีตนี่ดำมืดขึ้นเรื่อยๆเลยอ่ะ แงงงงงงงงงง

178 Nameless Fanboi Posted ID:s3U5P6iLNE

>>175 บีบหัวใจสัสๆ เซี่ยเหลียนหมดศรัทธา​ในชีวิตก็สมควรแล้ว

179 Nameless Fanboi Posted ID:to7ufiL64A

>>175 แม่โม่โหดจัง ความรู้สึกกูตอนนี้คือเหมือนโดนนักเขียนเอาสีดำผสมสีแดงเทรดหัวใจ บอกทีมีหนักกว่านี้อีกมั้ย TOT

180 Nameless Fanboi Posted ID:M2GKZq30C9

>>179 ถ้าเป็นฟูลคอร์สนี่ก็แค่อาหารเรียกน้ำย่อยอะมึง ระดับความปวดตับในชีวิตเซี่ยเหลียนกูให้เหตุการณ์นี้ราวๆ Level 99 (ซ้อมตับรอช่วงปวดตับ Level 9999)

181 Nameless Fanboi Posted ID:to7ufiL64A

>>180 โอเค กูจะอัพเลเวลไตไว้ด้วยการอ่านนิยายจีนดราม่าเรื่องอื่นรอไปก่อน กว่าเล่มจะออกไตกูคงแกร่งขึ้นเยอะ

182 Nameless Fanboi Posted ID:K44nwFgiqN

>>175 อิเหี้ยย กุร้องแล้ว คู่พ่อลูกน่าสงสาร อิทหารที่ตัดเชือกคือใจมึงได้มาก เหี้ยมมาก ฮือ
สงสารเซี่ยเหลียนด้วย นี่เวล 99 ช่ะ? เวล 9999 คืออารายยย

183 Nameless Fanboi Posted ID:e3xASWtIh3

>>182 แต่ก็ต้องเข้าใจทางฝั่งทหารด้วยนะ ถ้าปล่อยให้คนหนึ่งเข้ามาได้ คนอื่นเห็นอย่างนั้นก็จะพากันปีนกำแพงเข้าเมืองกัน เดี๋ยวก็อ้างว่าทำไมคนนั้นทำได้ ทำไมกูทำไม่ได้ ยอมให้คนเจ็บคนป่วยเข้าไป เดี๋ยวคนอื่นแกล้งทำให้ตัวเองป่วย ทำให้ตัวเองบาดเจ็บ จะได้มีข้ออ้างเข้าไปบ้าง (ลองทำตัวเองเจ็บป่วยดูแล้วไปเสี่ยงหาทางรอดในเมืองดีกว่า ในเรื่องก็มีบอกว่าชาวหย่งอันคิดว่าไม่มีอะไรจะเสียแล้ว เดินทางต่อก็ตาย สู้ก็ตาย งั้นขอสู้ดีกว่า) หรือถ้ายอมให้เด็กกับผู้หญิงเข้าเมือง พ่อเด็กก็จะยิ่งไม่ยอมไปไหน ก็จะอยู่รอบๆ กำแพงเมืองอย่างนั้นกันไป (มู่ฉิงบอก) มันเป็นสถานการณ์ที่ไม่ปราบไว้ก็แย่ แต่ถ้าทำแบบในเรื่องก็แย่ มันมาถึงจุดที่ไม่ว่าจะทำอะไรก็ผิด มีอะไรสะกิดนิดหนึ่งก็พร้อมบวกกันแล้วล่ะ

184 Nameless Fanboi Posted ID:rAm71BinoJ

อันนี้กูแอบสงสัยนะ คือเหมือนว่ามีแต่คนไม่อยากให้เซี่ยเหลียนไปยุ่งเรื่องนี้ แต่พูดถึงว่าถ้าเซี่ยเหลี่ยนนิ่งเฉยไม่ช่วย แต่สุดท้ายยังไงคนที่ลำบากก็ต้องอพยพมาอยู่ดีป่ะ คือยังไงกูรู้สึกว่าเหตุการณ์​มันก็ต้องเกิดอ่ะ ถ้าอย่างนั้นสุดท้ายวิหารอะไรของเซี่ยเหลียนก็คงถูกทำลายเหมือนเดิม คนกราบไหว้ไม่มีพลังก็หดหาย อย่างนี้ก็ไม่ต่างกับว่านี่เป็นชะตาของเซี่ยเหลียนเลยป่ะที่ต้องเจออ่ะ

185 Nameless Fanboi Posted ID:M2GKZq30C9

>>182 คุณทหารไม่ได้เหี้ยมหรอก เป็นคนธรรมดาคนหนึ่งที่ถูกบีบให้เลือกสักทางก็แค่นั้น คดีอาชญากรรมถึงบางส่วนจะถูกใส่ความแต่บางส่วนก็เป็นชาวหย่งอันทำจริงๆ ปล่อยเข้ามาก็ไม่ต่างจากชักศึกเข้าบ้าน ตอนนี้ก็ต้องเลือกระหว่างน้ำใจกับการปกป้องบ้านเกิดเมืองนอน จะเลือกทางไหนก็ไม่มีผลลัพธ์สวยๆ ให้

186 Nameless Fanboi Posted ID:M2GKZq30C9

>>184
.
.
.
.
.
ถ้าเซี่ยเหลียนหยุดแค่ตรงช่วยส่งน้ำ ไม่เข้าไปก้าวก่ายศึกเซียนเล่อvsหย่งอัน กูว่าชาวหย่งอันเองนั่นแหละที่จะบูชาเซี่ยเหลียนต่อจากชาวเซียนเล่อ
หรือถ้าไม่ช่วยใครเลยแต่แรกก็อาจจะเป็นเทพที่ค่อยๆ ถูกลืมเลือนไปตามกาลเวลา แต่ก็ไม่ต้องตกระกำลำบาก ไม่ต้องโดนคนประณามเหยียดหยาม
.
.
.
.
.

187 Nameless Fanboi Posted ID:e3xASWtIh3

>>184 อันนี้ความจริงจะมีอธิบายเพิ่มเติมในตอนต่อๆ ไป แต่ขอสปอยไปเลยเนอะ
.
.
.
.
.
คือจักรวาลมีวัฏจักร มีเกิด มีดับ ตอนนี้เป็นคราวของเซียนเล่อที่จะต้องล่มสลายแล้ว เซี่ยเหลียนอาจช่วยเหลือนิดๆ หน่อยๆ พอเป็นขวัญกำลังใจได้ แต่ไม่ควรไปยุ่งทุ่มสุดตัวฝืนธรรมชาติไว้ สุดท้ายถึงคนศรัทธาจะน้อยลง แต่ก็จะไม่ถูกประชาชนโกรธจนทำลายอารามไม่เหลืออย่างที่เป็นในปัจจุบัน อาจพอมีคนกราบไหว้เหลืออยู่นิดหน่อย
.
.
.
.
.

188 Nameless Fanboi Posted ID:T2QPGf5FZt

สรุปคือชาวบ้านโกรธที่เทพไม่ช่วยเหรอ???

189 Nameless Fanboi Posted ID:e3xASWtIh3

>>188 โกรธเพราะว่าเข้าไปช่วยแล้วเรื่องมันยุ่งกว่าเดิมเนี่ยแหละ เหมือนที่บอกตั้งแต่เกริ่นเรื่องยิ่งเซี่ยเหลียนช่วยเท่าไร อะไรๆ มันก็ยิ่งแย่ลง เซี่ยเหลียนถูกยกกลายเป็น Little misfortune เทพแห่งความโชคร้ายไปเลย

190 Nameless Fanboi Posted ID:K44nwFgiqN

อ่าว เซี่ยเหลี่ยนกลายเป็นน้องจูน แจกความฝลดใฝล๋ไปอีก เวง

191 Nameless Fanboi Posted ID:kcfyNMy9xR

สปอยเทียนกวาน อาร์ค 2 ต่อจาก >>175 เทียนกวาน Part.64
.
.
.
.
.
ชาวหย่งอันถอยห่างจากประตูเมืองเพื่อสร้างค่าย หยิบจับทุกอย่างที่พอเป็นอาวุธเตรียมต่อสู้ทุกเมื่อ อีกทั้งหลางอิงยังลอบเข้าไปขโมยอาวุธจากหอคอยกำแพงเมืองไปได้ชุดใหญ่ อีกฝ่ายมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นและรับมือยากขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุดเซี่ยเหลียนก็ทนมองอยู่เฉยๆ ไม่ได้ เขาพุ่งตรงไปที่หอมหายุทธ์ ไม่สนใจว่าจวินอู๋กำลังคุยงานกับเจ้าหน้าที่สวรรค์คนอื่นอยู่ เขาแจ้งมหาเทพว่าจะกลับลงสู่ภพมนุษย์ จวินอู๋บอกว่าจักรวาลมีวัฏจักรเป็นของตัวเอง หากเซี่ยเหลียนกลับลงไปจะทำผิดกฎสวรรค์ร้ายแรง และเซี่ยเหลียนไม่มีทางช่วยเหลือทุกคนได้ แต่เซี่ยเหลียนไม่ฟัง เขากล่าวขอโทษอีกฝ่ายและบอกว่าเมื่อเขาจัดการเรื่องเรียบร้อยแล้วจะยอมกลับมารับโทษแต่โดยดี

เซี่ยเหลียนกลับไปที่ราชวัง เมื่อเห็นลูกชายราชินีก็รีบเข้ามาหาด้วยความดีใจ แต่ราชากลับโกรธและไล่ให้เขากลับสวรรค์ ทำเอาความไม่พอใจของเซี่ยเหลียนพวยพุ่ง เขาต่อว่าว่าเป็นเพราะการทำงานที่ไร้ประสิทธิภาพของบิดาจึงทำให้เรื่องราววุ่นวายเช่นทุกวันนี้ คำพูดนั้นทำให้ราชาโกรธ เขาด่าและไล่ลูกชายอีกครั้ง ตอนที่เซี่ยเหลียนเดินออกมาจากท้องพระโรง แม่ของเขาก็วิ่งตามมา เธอกล่าวว่าเซี่ยเหลียนไม่เข้าใจเรื่องของการเมืองดีพอ และถึงแม้ราชาอาจมีความสามารถไม่มากพอจริงๆ ก็ไม่ควรไปว่าบิดาอย่างนั้น มีหลายอย่างในโลกนี้ที่ไม่อาจมีใจอย่างเดียว การจะจัดการคนใต้บัญชาไม่อาจใช้แต่ความสามารถ แต่คนเหล่านั้นต้องมีใจฝักใฝ่ในสิ่งเดียวกันด้วย

เซี่ยเหลียนฝากแม่บอกพ่อว่าเขาไม่ต้องการอารามหรือรูปปปั้นทองคำ ให้อีกฝ่ายเลิกสร้างเสียที ราชินิอธิบายว่าแม้ราชาจะพยายามสร้างอารามให้เซี่ยเหลียนดูดีที่สุดเพื่อไม่ให้ลูกต้องน้อยหน้าใครบนสวรรค์ แต่จากอารามทั้ง 8000 แห่ง พ่อของเขาสร้างอารามเพียงประมาณ 20 แห่งเท่านั้น ส่วนที่เหลือเป็นฝีมือของคนอื่นต้องการเอาใจราชา ราชาอาจไม่ได้เป็นราชาที่เยี่ยมที่สุด แต่เขาก็พยายามสุดความสามารถแล้ว ทว่าในโลกนี้แค่มีความพยายามไม่พอ ตอนนี้เซี่ยเหลียนสงสารชาวหย่งอันเลยโทษบิดา แต่คนเหล่านั้นก็เป็นประชาชนของราชา คิดว่าเขาต้องการรังแกอีกฝ่ายหรือ ขณะที่เซี่ยเหลียนที่นึกว่าพ่อของตนเป็นคนสั่งสร้างอารามสัก 4000 แห่งกำลังอึ้ง ราชาก็ตะโกนด่าตามมาอีก ราชินีจึงขอร้องให้ลูกชายกลับสวรรค์ และอย่ากลับสู่ภพมนุษย์

เมื่อเซี่ยเหลียนจากราชวังมา มู่ฉิงก็รีบมาต่อว่าเรื่องที่เซี่ยเหลียนกลับสู่ภพมนุษย์โดยไม่ถามความเห็นของเขาก่อน เฟิงซิ่นจึงด่าไปว่าทำไมเซี่ยเหลียนต้องรายงานอีกฝ่ายด้วย มู่ฉิงบอกว่าเป็นเพราะชะตาของพวกเขาขึ้นกับเจ้านาย ถ้าเกิดอะไรผิดพลาดขึ้นพวกเขาก็จะได้ผลกระทบไปด้วย ทั้งสองคนเริ่มทะเลาะกัน ตอนนั้นเองพวกเขาก็เห็นกลุ่มคนเดินขบวนสนับสนุนให้สังหารชาวหย่งอันให้สิ้นซาก อีกทั้งคนที่เดินนำหน้าขบวนยังมีสตรีอยู่คนหนึ่ง มู่ฉิงเล่าว่าผู้หญิงคนนั้นเคยเป็น 1 ในคนที่ถูกคัดเลือกจะให้มาเป็นสนมของเซี่ยเหลียน ก่อนที่ราชาจะไล่ชาวหย่งอันออกจากเมืองหลวง ชายชาวหย่งอันคนหนึ่งที่ไม่อยากออกจากเมืองได้ลักพาตัวหญิงสาวมาขืนใจ หวังให้เธอต้องยอมรับตนเป็นสามีจะได้อยู่เมืองหลวงต่อ ตอนนี้ชายชาวหย่งอันคนนั้นถูกญาติฝ่ายหญิงตีจนตายไปแล้ว เมื่อผนวกเรื่องนี้กับเรื่องที่มีชาวหย่งอันขโมยของและปล้นชาวเมือง ทำให้ราชาต้องสั่งไล่ชาวหย่งอันออกไป

ผู้หญิงคนนั้นถูกญาติมาลากกลับด้วยความอับอายที่เธอมีราคีก่อนแต่งงาน เซี่ยเหลียนเริ่มเข้าใจความยากลำบากในการตัดสินใจของพ่อมากขึ้น ทั้งเมื่อคิดดูแล้วเมื่อครู่เขาก็เห็นหนวดของบิดาหงอกขาวมากกว่าที่เคย อย่างไรพ่อของเขาก็เป็นเพียงแค่คนธรรมดาคนหนึ่งที่ทำเรื่องผิดพลาดบ่อยๆ ไม่ได้เก่งกาจอะไรมากมาย และก็เป็นคนๆ หนึ่งที่ไม่อยากให้ลูกชายเห็นความล้มเหลวของตัวเอง อีกฝ่ายจึงไม่อาจทนได้ยินสิ่งที่เซี่ยเหลียนกล่าวในท้องพระโรงได้ มู่ฉิงเสนอให้เซี่ยเหลียนกลับไปขอโทษจวินอู๋ เขาเข้าใจดีว่าทุกคนไม่อยากให้เขาก้าวสู่บททดสอบนี้ แต่จะให้เขานั่งเฉยๆ ได้อย่างไร เขาเดินไปที่ถนนใจกลางเมือง เมื่อทุกคนได้เห็นเขาก็ต่างยินดีว่าเทพเจ้าได้ลงมายังภพมนุษย์เพื่อช่วยเหลือพวกตนแล้ว เซี่ยเหลียนประกาศต่อหน้าสาธารณะว่าเขามาเพื่อปกป้องเซียนเล่อ และประชาชน ขอให้ทุกคนเชื่อในตัวของเขา คำพูดนั้นสร้างความปิติยินดีให้ทุกคนเป็นอย่างยิ่ง ต่างร้องตะโกนว่าจะขอติดตามอีกฝ่าย ชาวเมืองกรูเข้ามาอยากสัมผัสเซี่ยเหลียน แต่สุดท้ายก็ถูกทหารกันออกไปจนหมด และเซี่ยเหลียนก็พบดอกไม้สีขาวซึ่งถูกเหยียบจนเละ แต่เขาก็ก้มลงหยิบมันขึ้นมาและพบว่ามันยังคงมีกลิ่นหอมจางๆ หลงเหลืออยู่
.
.
.
.
.

192 Nameless Fanboi Posted ID:OvzPKmhcUN

>>191 เซี่ยเหลียนอีโก้ยังสูง+หัวร้อน เห็นแล้วปวดใจแทน ชาวเมืองสองฝั่งแม่งก็ไม่ขาวไม่ดำ สีเทาๆ กันทั้งนั้น ยังอุตส่าห์​ไปปรากฏ​ตัวให้เค้ากรี๊ด​เป็นจัสติน​บี​เบอร์​อี๊กกก

193 Nameless Fanboi Posted ID:mD2LBJdTEQ

>>191 คงเป็นแบบที่เหล่าราชครูของเซี่ยเหลียนว่า เซี่ยเหลียนยังเด็กอยู่จริงๆ แม่งบางทีจิตใจดีแต่สองมือของมนุษย์คงไม่พอจริงๆ โอ๊ยขอฟาฟาเติมความหวายในชีวิตได้ไหม ตอนนี้คือหายต๋อมเล๊ยๆ

194 Nameless Fanboi Posted ID:fY.xQOHHZV

>>191 สงสารเซี่ยเหลียน เจอสถานการณ์แบบนี้มันกลืนไม่เข้าคายไม่ออกจริงๆ จัดการไม้อ่อนคงไม่ได้แล้ว แต่ถ้าใช้ไม้แข็งต้องนองเลือดแน่เลย

195 Nameless Fanboi Posted ID:n5z/m9.clI

>>193 ดอกไม้สีขาวนั่นก็ฟาฟาเอามาไง แต่คนเยอะ เลยเข้าถึงตัวเซี่ยเหลียนไม่ได้

196 Nameless Fanboi Posted ID:e7FXCtEp8d

เทพไม่ควรเลือกที่รักมักที่ชัง เซี่ยเหลียนก็ทำผิดเพราะความเอาแต่ใจและเห็นแก่ตัวจริงๆ สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่เพราะทำดีได้เลวแต่กรรมตามสนองนั่นแหละ คนอื่นก็พยายามห้ามพยายามอธิบายแล้วทั้งฝั่งเทพและมนุษย์

197 Nameless Fanboi Posted ID:nbSG4B79IP

>>195 ฮือ กูเพิ่งรู้ว่าดอกไม้ของฟาฟา เศร้าว่ะ เซี่ยเหลียนเธอเป็นเซเลปเกินไป เอื้อมไม่ถึง

198 Nameless Fanboi Posted ID:mD2LBJdTEQ

>>195 เออจริงว่ะ ซีบบีบคั้นอารมณ์สุดๆ คิดขำๆกูว่านิยายเเม่โม่คือนายเอกแม่งวีรบุรุษเลือกชาติไม่เลือกเธอจริงๆนะ

199 Nameless Fanboi Posted ID:/XoZ56GSSx

>>198 กุนึกถึงเสี่ยวกู่ ‘ท่านเมตตาใต้หล้า แต่ไม่้คยเมตตาข้า’ ถถถถุ

200 Nameless Fanboi Posted ID:J8Tvw7lKAT

กูขอถามนิดนึงคาใจมานาน ทำไมถึงพูดไม่ได้วะ ว่า ฮวาเฉิงรอเซี่ยเหลียนมา 800 ปี ทำไมถึงใช้คำว่ารอไม่ได้อ่ะ ไม่ใช่การรอ แล้วควรใช้เป็นอะไร 800 ที่จากกัน หรืออะไรดี อันนี้สงมานานมาก

201 Nameless Fanboi Posted ID:42+mSfCRxk

>>200
.
.
.
.
.
ฮวาเฉิงไม่ได้รอ เพราะว่ารอคือไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่ความจริงแล้วฮวาเฉิงอยู่ข้างๆ เซี่ยเหลียนมาตลอด แต่เซี่ยเหลียนไม่เคยรู้ (ช่วงที่แยกกันจริงๆ ก็มี) ถึงฮวาเฉิงจะแอบๆ แต่ถ้าใส่ใจจริงๆ เซี่ยเหลียนก็ควรรู้ตัวมานานแล้ว ที่กูเคยบอกว่าคิดว่าใจความเรื่องนี้คือความมั่นคง กูไม่ได้หมายถึงความมั่นคงต่ออุดมการณ์ของเซี่ยเหลียนอย่างเดียวว่าถ้าทำอะไรแล้วผิดพลาด คนไม่เห็นค่า จะยังเป็นเหมือนเดิมหรือเปล่า แต่หมายถึงความรักของฮวาเฉิงที่มีต่อเซี่ยเหลียนด้วยว่าถ้าเซี่ยเหลียนมีมุมที่ไม่ได้ดีอย่างที่คิด แถมไม่เคยมองมาที่ตัวเองอีกต่างหาก ฮวาเฉิงจะยังมั่นคงต่อความรักนั้นหรือเปล่า
.
.
.
.
.

202 Nameless Fanboi Posted ID:YFFGZs+FB1

>>200 ถ้า 'รอ' น่ะ ใช้คำนั้นได้ แต่ไม่ใช่บอกว่ารอเซี่ยเหลียน แต่รอให้ตัวเองมีความกล้ามากพอที่จะเผชิญหน้ากับเซี่ยเหลียนตรงๆ น่ะ
.
.
.
.
.
คิดมาตลอดว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเซี่ยเหลียน แถมมีช่วงนึงเคยโดนเซี่ยเหลียนเย็นชาใส่ยังกะน้ำแข็งขั้วโลก จะป๊อดก็ไม่แปลก
.
.
.
.
.

203 Nameless Fanboi Posted ID:MJrC2J+6pt

>>202 ขอยาดขำเย็นชายังกะน้ำแข็งขั้วโลก เปรียบซะเห็นภาพเลย 55555555555555 ก็จริง ตอนนั้นกูอ่านเเล้วยังอึ้งว่าเซี่ยเหลียนเปลี่ยนไปขนาดนี้เลยเหรอ

204 Nameless Fanboi Posted ID:x8Ggxyzkbz

>>200 เห็นคุณส.ต้นทางที่ว่านั้นมาอธิบายล่ะ ละเอียดยิบ ละกุเพิ่งรู้ว่า
.
.

.
.
.
.
.
.
.
ฮวาเฉิงเคยสัญญาไว้ด้วย ว่าจะไม่ออกตัวไปเจอกันเค้าให้เค้ารู้ตัว
โอย กูจะร้องไห้

.
.
.
.
.

.
.

205 Nameless Fanboi Posted ID:8JOMljhdwP

d
d
e
e
.e
gw
ge
h
tj
yk
yk
r
.j
rh
h
rhr
h
e
g
ge
.gw
h
j
t
j
ktj
k
il
io;
.p
il
uyk
h
gr
g
dv
db
g
jl
;
oi;
ppo
.ky
t
r
te
e
d
db
.hg
j
ly
iop
p
9
i
u
u
yre
g
g
s
s
s
db
db
f
h,
kjl
l
o;
p'
a
s
s
s
fw
wq
w
w
g
a
a
ssb
.gewq
khq
2
;u
;uwsg
dh
d
d
z
vz
ga
q
sqr
wt
f
rb
d
f
ga
hg
p
iyu
k
r
dsg
sqr
fsg
fw
fw
f
fq
c
ascv
sqr
sqr
sqr
dh
fj
qx
rvsa
a
wt
q
r
q
rt
y
eu
r
r
f
z
x
c
vz
b
n
m
,
.
/
d
;
l
k
j
h
g
f
d
s
a
q
w
e
r
t
y
ui
o
p
[
]
as
d
hyl
ul
i
ut
j
e
he
w
gw
w
gw
ge
ghrf
ju
k
l
l
u
l
l
l
l
l
lu
lu
lu
lu
l
f
h
e
g
g
sdg
d
d
hd
d
g
s
gs
gs
gs
g
gg
sg
dg
dg
d
gg
e
y
ut
k
o
pop
[
p[
8o
7
u
4y
y
te
te
f
sf
sf
d
nv
b
,
.m
,/
l
ik
te
43
t
r
2
w
fs
fs
fs
xv
xv
vc
bc
n
mg
t
r
e
t2
21
1
rw
s
fs
gv
b
cn
mn
gv
k
l
u
l
p
u
oy
t
jr
f
hd
b
d
xb
cn
n
mn
jk
l
p
ip
op[
1
f
j
w
r
w
w
w
w
r2w
3
y64
uit
t
uit
r
ssf
ssf
wr
wr
r
r
r
wr
wr
21
43w
54
8i8y
oy
t
jf
dh
dh
fjk
gj
j
j
fdh
dh
gsg
wtg
wtg
tt
wet4
et
y
ru
t
iyi
o96
6i
u
ery
e
eg
sg
s
gsg
gd
ghf
fu
tu
tu
hf
hf
hf
hyd
u
ti
y
i[
io
i[p
8p
o
y
t
r
y
e
t
tgs
gsg
x
n
bm
n
jl
up
u
py
o
a
4
y
wyw
t2
2
qf
af
s
fs
g
ghj
ghk
l
io[
op[
9
-8
6
i5
u4
t
w2t
rw
fs
dg
fs
fs
i
y
iy
i
u4
y
t
w2t
sg
d
ghdf
j
ghdf
y
uyp
u
[oi
]0
9p
i
5
4y
3t
t
w
fs
fs
s
gh
gh
gh
iyu
ou
ou
ou
iyu
u
y
e
t
fg
s
x
f
h
gh
j
k
y
o
y
it
u
e
g
dsg
dg
d
h
r
u
y
ye
s
wqr
dg
dg
d
g
ge
t
t
t
u
ti
yo
o
69
5
u
h
g
g
r
af
f
sdg
dh
fg
u
ti
5
y
wr
wf
fh
j
iyu
o7f
stg
dh
ty
uo
uip
o7f
;go
yd
dtu
y
sy
et
at
wt
s
gdr
ht
ut
iy7
it
i
dtu
d
jh
sf
sz
fh
gdr
gdr
hgs
ga
a
wa
fw
agw
afg
sg
seg
dgh
sh
eh
j
ty
tuj
e
wt
wf
a
sbh
fj
uil
io[
8
oi
8
5uy
e
42
4
qe
ad
af
s
fdh
fdh
y
io78
6
8
u
e
ad
sf
g
e
rt
tu
yui
o
ip
ip
o
w
rt
r3
rw
fs
g
h
j

d
d
e
e
.e
gw
ge
h
tj
yk
yk
r
.j
rh
h
rhr
h
e
g
ge
.gw
h
j
t
j
ktj
k
il
io;
.p
il
uyk
h
gr
g
dv
db
g
jl
;
oi;
ppo
.ky
t
r
te
e
d
db
.hg
j
ly
iop
p
9
i
u
u
yre
g
g
s
s
s
db
db
f
h,
kjl
l
o;
p'
a
s
s
s
fw
wq
w
w
g
a
a
ssb
.gewq
khq
2
;u
;uwsg
dh
d
d
z
vz
ga
q
sqr
wt
f
rb
d
f
ga
hg
p
iyu
k
r
dsg
sqr
fsg
fw
fw
f
fq
c
ascv
sqr
sqr
sqr
dh
fj
qx
rvsa
a
wt
q
r
q
rt
y
eu
r
r
f
z
x
c
vz
b
n
m
,
.
/
d
;
l
k
j
h
g
f
d
s
a
q
w
e
r
t
y
ui
o
p
[
]
as
d
hyl
ul
i
ut
j
e
he
w
gw
w
gw
ge
ghrf
ju
k
l
l
u
l
l
l
l
l
lu
lu
lu
lu
l
f
h
e
g
g
sdg
d
d
hd
d
g
s
gs
gs
gs
g
gg
sg
dg
dg
d
gg
e
y
ut
k
o
pop
[
p[
8o
7
u
4y
y
te
te
f
sf
sf
d
nv
b
,
.m
,/
l
ik
te
43
t
r
2
w
fs
fs
fs
xv
xv
vc
bc
n
mg
t
r
e
t2
21
1
rw
s
fs
gv
b
cn
mn
gv
k
l
u
l
p
u
oy
t
jr
f
hd
b
d
xb
cn
n
mn
jk
l
p
ip
op[
1
f
j
w
r
w
w
w
w
r2w
3
y64
uit
t
uit
r
ssf
ssf
wr
wr
r
r
r
wr
wr
21
43w
54
8i8y
oy
t
jf
dh
dh
fjk
gj
j
j
fdh
dh
gsg
wtg
wtg
tt
wet4
et
y
ru
t
iyi
o96
6i
u
ery
e
eg
sg
s
gsg
gd
ghf
fu
tu
tu
hf
hf
hf
hyd
u
ti
y
i[
io
i[p
8p
o
y
t
r
y
e
t
tgs
gsg
x
n
bm
n
jl
up
u
py
o
a
4
y
wyw
t2
2
qf
af
s
fs
g
ghj
ghk
l
io[
op[
9
-8
6
i5
u4
t
w2t
rw
fs
dg
fs
fs
i
y
iy
i
u4
y
t
w2t
sg
d
ghdf
j
ghdf
y
uyp
u
[oi
]0
9p
i
5
4y
3t
t
w
fs
fs
s
gh
gh
gh
iyu
ou
ou
ou
iyu
u
y
e
t
fg
s
x
f
h
gh
j
k
y
o
y
it
u
e
g
dsg
dg
d
h
r
u
y
ye
s
wqr
dg
dg
d
g
ge
t
t
t
u
ti
yo
o
69
5
u
h
g
g
r
af
f
sdg
dh
fg
u
ti
5
y
wr
wf
fh
j
iyu
o7f
stg
dh
ty
uo
uip
o7f
;go
yd
dtu
y
sy
et
at
wt
s
gdr
ht
ut
iy7
it
i
dtu
d
jh
sf
sz
fh
gdr
gdr
hgs
ga
a
wa
fw
agw
afg
sg
seg
dgh
sh
eh
j
ty
tuj
e
wt
wf
a
sbh
fj
uil
io[
8
oi
8
5uy
e
42
4
qe
ad
af
s
fdh
fdh
y
io78
6
8
u
e
ad
sf
g
e
rt
tu
yui
o
ip
ip
o
w
rt
r3
rw
fs
g
h
j

206 Nameless Fanboi Posted ID:x7dVhU5Rr7

00000

207 Nameless Fanboi Posted ID:x7dVhU5Rr7

00000

208 Nameless Fanboi Posted ID:x7dVhU5Rr7

00000

209 Nameless Fanboi Posted ID:x7dVhU5Rr7

00000

210 Nameless Fanboi Posted ID:x7dVhU5Rr7

00000

211 Nameless Fanboi Posted ID:5QeJ45Ikr+

เม้นบนๆนี่คือไรวะะะะ งอง

212 Nameless Fanboi Posted ID:Hrao.iCL+.

ม่านฮวาเทียนกวานตอนสองโคตรสั้น บรรยากาศทะมึนเหมือนหนังผีซึ่งก็ดีมาก เหมือนม่านฮวาจะดำเนินเรื่องโคตรเร็วเลยนะ หรืออาจจะตัดให้กระชับฉับไว ตอนแรกฟาฟามาอย่างหล่อ โดนแซวว่าเอาเงินไปติดสินบนนักวาดเลย 55555555555

213 Nameless Fanboi Posted ID:r/wXC.sVoc

>>211 มันเงี่ยนของขาดเลยเอาอารมณ์มาลงที่โม่ง สำเร็จความใคร่ทางกายไม่ได้เลยต้องหาทางสำเร็จความใคร่ทางจิตไง ถือซะว่าเห็นใจหมาเดือนสิบสองว่ะ 🙏🙏🙏

214 Nameless Fanboi Posted ID:9ve+kHIWYz

มึง ปรมจ. เล่ม 1 หน้า 56 เขาพระสังกัจจายน์ในย่อหน้า 1 กับ เขาพระฉันกระจายในบทบรรยายพี่เว่ยย่อหน้ารองสุดท้ายนี่มันเขาเดียวกันแล้วพิมพ์ผิด หรือเป็นมุก หรือคนละเขากันวะ

215 Nameless Fanboi Posted ID:HKTagHa7m3

>>214 เขาเดียวกัน คุ้นๆว่าอ่านหน้าถัดไปในเรื่องก็อธิบายมุกไว้ทันทีเลยรึเปล่า

216 Nameless Fanboi Posted ID:9ve+kHIWYz

กู >>214 กู้รู้และ มันมีเฉลย เอาซะกูเงิบ อ่านมาเพลิน ๆ ถึงกับชะงัก ใส่เครื่องหมาย '.....' ให้กูหน่อยก็ไม่ได้

217 Nameless Fanboi Posted ID:HKTagHa7m3

>>216 ต้นฉบับน่าจะไม่ใส่มั้ง กูว่าเครื่องหมาย '...' มันทำให้ดูเหมือนตัวละครเน้นคำนั้นอะ ซึ่งในเรื่องพี่เว่ยคิดอย่างเป็นธรรมชาติมากจนกูเอ๊ะชื่อ ถ้าใส่เครื่องหมายไปอาจทำให้อารมณ์เปลี่ยน จากพี่เว่ยเรียกชื่อนั้นในใจเป็นปกติกลายเป็นพี่เว่ยจงใจเล่นมุก

218 Nameless Fanboi Posted ID:PCPm0UoOPo

>>214 กูนึกถึงอีพวกร้องแรกแหกกระเชอให้ทับศัพท์ เพราะมันมีมุกแบบนี้ถึงต้องแปลเป็นไทย ถ้าดอกจันอธิบายมุกตลกไว้ ให้คนอ่านเลื่อนมาอ่านท้ายหน้ามันจะยังตลกอยู่ไหม กูอยากอ่านนิยาย ไม่ใช่ตำราภาษาจีน

219 Nameless Fanboi Posted ID:r/wXC.sVoc

>>218 กูมีปัญหากับพวกร้องแรกแหกกระเชอให้แปลทุกอย่างจนแค่เพราะคิดว่าถ้าทับศัพท์=เป็นตำราภาษาจีนมากกว่า กับแค่คำว่าผิงกั่ว(โง่ๆ)คำเดียวก็ดิ้นทุรนทุรายจะเป็นจะตายให้ได้

220 Nameless Fanboi Posted ID:r/wXC.sVoc

>>218 แล้วอิเขาพระสังกัจจายน์กับเขาพระฉันกระจายนี่มันเป็นการมุกเล่นเสียงว่ะเกี่ยวห่าไรกับแปลไม่แปลวะ อยากโยงจนตัวสั่นเลยนะมึง แยกแยะว่าอะไรแปลแล้วมีผลกับเนื้อเรื่องหรือไม่มีผลกับเนื้อเรื่องไม่ได้กูก็ไม่องแปลกใจว่าทำไมถึงดิ้นจะเป็นจะตายขนาดนี้น่ะนะ

221 Nameless Fanboi Posted ID:BroCjzb5rf

>>220 เกี่ยวดิถ้าไม่แปลไทยก็ไม่มีเขาพระฉันกระจาย ใช้ชื่อจีนใส่*ให้ไปอ่านเชิงอรรถเอาเอง
เกณฑ์เดียวกับคนบ่นไม่แปลชื่อดาบนายเอก
สำหรับกูไม่แปลก็ได้แต่ขอ*ด้วย บางทีก็ไม่เก็ท ถ้าแปลก็ขอด้วยก็ดี อยากรู้ว่ามุกต้นฉบับเป็นแบบไหน

222 Nameless Fanboi Posted ID:J6wYcpUQxt

สปอยเทียนกวาน อาร์ค 2 ต่อจาก >>191 เทียนกวาน Part.65
.
.
.
.
.
เมื่อกลับไปยังราชวังด้วยอารมณ์ที่เย็นลง ในที่สุดราชาก็เห็นชอบที่จะให้ลูกชายมอบความช่วยเหลือ ส่วนราชครูกลับไม่ได้กล่าวอะไร หลังจากที่ได้มาทำงานจริงแล้วก็ทำให้เซี่ยเหลียนเข้าใจถึงความยากลำบากในการปกครองคนขึ้นมา รับรู้ว่าหลายเรื่องกว่าจะตกลงกันได้ต้องใช้เวลาคุยกันนานแค่ไหน จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหากส่งทหารออกไปจัดการชาวหย่งอันก็จะเปิดโอกาสให้อาณาจักรอื่นอ้างว่าเซียนเล่อโหดร้ายต่อประชาชนแล้วเข้ามาแทรกแซงทางการเมืองได้ แต่พอคิดว่าชาวหย่งอันขาดเสบียงและอาวุธก็ไม่ได้มีมากมาย พวกเขาจึงตัดสินใจที่เป็นฝ่ายตั้งรับดึงเวลาให้ฝ่ายตรงข้ามสิ้นกำลังไปเอง

หลังจากผ่านไป 2 เดือนชาวหย่งอันก็เข้ามาโจมตีเมืองหลวงอีกครั้ง แต่แค่เซี่ยเหลียนใช้กระบี่เนื้อบาง โดยไม่ต้องสวมเกราะ ไม่ถึง 2 ชั่วโมงชาวหย่งอันก็ต้องพ่ายแพ้ ทหารและประชาชนชาวเซียนหล่อต่างพากันดื่มเฉลิมฉลองในชัยชนะ เต็มเปี่ยมด้วยกำลังใจที่มีเทพมาอยู่ข้างเดียวกันกับพวกตน ขณะที่เซี่ยเหลียนหลบไปอยู่ที่มุมหนึ่งของหอคอยกำแพงเมืองด้วยใจที่เจ็บปวดและนิ้วมือสั่นเทา นี่เป็นครั้งแรกที่เขาฆ่าคน และเขาก็สังหารไปหลายพัน ตอนนั้นเองเฟิงซิ่นกับมู่ฉิงก็ตามมา ทั้งสองก็จะไม่ได้ยินดีกับผลการรบเท่าไร ทั้งยังสังเกตได้ว่าการโจมตีครั้งนี้ของหย่งอันรุนแรงกว่าครั้งก่อนๆ มาก อีกฝ่ายมีจำนวนเพิ่มขึ้น มีอาวุธกับเกราะมากขึ้น อีกทั้งยังมีการจัดรูปแบบทัพดีขึ้น ราวกับพวกเขากลายเป็นกองทัพขนาดย่อมจริงๆ มู่ฉิงบอกว่ามีบางอย่างไม่ปรกติ ส่วนเฟิงซิ่นก็คิดว่าศัตรูได้รับการสนับสนุนจากที่อื่น

เมื่อเห็นสีหน้าไม่สู้ดีของเจ้านาย เฟิงซิ่นก็ถามว่าเซี่ยเหลียนยังไปสร้างฝนที่หย่งอันอีกใช่ไหม มู่ฉิงบอกว่าตอนนี้ถึงจะแก้ภัยแล้งได้ ชาวหย่งอันก็ไม่ยอมกลับบ้านเกิดกันแล้ว ถึงจะรู้ดีแต่เซี่ยเหลียนก็คิดว่าอย่างน้อยช่วยให้ประชาชนที่ยังอยู่ในหย่งอันไม่ขาดน้ำตาย แล้วเขาก็ดึงผู้ติดตามมาใกล้ เอ่ยขอบคุณที่ทั้งสองยังอยู่เคียงข้างและหวังว่าพวกเขา 3 คนจะยืนต่อสู้เคียงบ่ากันจนกลายเป็นตำนานเล่าขาน ตอนนี้ค่ามิตรภาพกำลังบวก จู่ๆ เซี่ยเหลียนก็ได้ยินเสียงบางอย่าง เขาชักกระบี่สะบัดไปที่ต้นเสียงแล้วดึงร่างๆ หนึ่งออกมา ใช้กระบี่ดันอีกฝ่ายไปที่ขอบกำแพง ก่อนจะสังเกตได้ว่าคนๆ นี้เป็นเด็กชายอายุน่าจะราว 15-16 ปี สวมชุดทหารของเซียนเล่อ เด็กชายเสียศูนย์จนเกือบจะหล่นจากกำแพง แต่โชคดีที่เซี่ยเหลียนกับเฟิงซิ่นช่วยดึงขึ้นมาได้ทัน

แขนและศีรษะของเด็กชายเต็มไปด้วยผ้าพันแผล การที่อีกฝ่ายมาซ่อนตัวดูน่าสงสัยมากจนมู่ฉิงคิดว่าเด็กชายอาจเป็นสายลับของหย่งอัน แต่เฟิงซิ่นจำได้ว่าตอนปะทะกัน เด็กชายต่อสู้อยู่ในทัพด้านหน้าของเซี่ยเหลียน ทันใดนั้นเด็กชายก็พุ่งเข้าหาเซี่ยเหลียน แต่เขาก็หลบไปด้านข้างได้อย่างรวดเร็ว ก่อนรับรู้ถึงอะไรบางอย่างที่พุ่งใส่หลัง เมื่อเขาจับไว้ก็พบว่ามันคือธนูดอกหนึ่ง ที่แท้เด็กชายต้องการจะช่วยเหลือเขาจะการลอบโจมตี เขารีบกระโดดไปที่กำแพงเพื่อก้มดูจุดที่ธนูดอกนั้นถูกยิงมา ซึ่งก็พอเห็นชายในชุดสีเข้มกลืนกับความมืดคนหนึ่งกำลังวิ่งหนีไป แม้เฟิงซิ่นจะยิงธนูไล่ตามก็ไม่ทันสียแล้ว

เซี่ยเหลียนรู้ในทันทีว่าอีกฝ่ายต้องเป็นหลางอิง แล้วเขาก็สังเกตว่าที่ธนูดอกนั้นมีเศษผ้าผูกไว้ เมื่อแกะออกอ่านก็เห็นตัวอักษร ฉี เขาจึงรีบสั่งให้ทหารไปตามหาว่าญาติผู้น้องของเขายังอยู่ในวังหรือไม่ แต่ถ้าฉีหรงถูกลักพาตัวไปจริงก็จะชักช้าไม่ได้ เขาสั่งให้เฟิงซิ่นกับมู่ฉิงคอยอยู่กำแพงเมือง เพราะหากพาคนอื่นหรือทหารไปด้วยอาจเกิดการปะทะกันรุนแรง เขาวิ่งไปตามทางที่หลางอิงมุ่งไป แต่แล้วเซี่ยเหลียนก็ได้ยินเสียงฝีเท้าวิ่งตามมา เมื่อหันไปดูก็พบว่าอีกฝ่ายคือทหารเด็กคนนั้น เซี่ยเหลียนสั่งให้อีกฝ่ายกลับไปแต่เด็กชายก็ยังคงตามมา เขาจึงเพิ่มความเร็ว ทิ้งอีกฝ่ายไว้เบื้องหลังจนพ้นจากระยะสายตา ในที่สุดเขาก็มาถึงยอดเขาเล็กๆ ชื่อว่าเป้ยจื่อซึ่งเป็นป่ารกทึบ เขาพบฉีหรงถูกแขวนห้อยหัวไว้บนต้นไม้ จากสภาพแล้วคงถูกทุบตีมาไม่น้อย เซี่ยเหลียนรีบใช้กระบี่ตัดเชือก ตบหน้าเรียกสติ ก่อนช่วยแก้มัดให้ญาติผู้น้อง ตอนนั้นเองเขาก็สัมผัสได้ถึงความเย็นยะเยือกจากเบื้องหลัง เมื่อหันไปก็เห็นหลางอิงกำลังเสือกดาบยาวพุ่งเข้าใส่เขา
.
.
.
.
.

223 Nameless Fanboi Posted ID:J6wYcpUQxt

สปอยเทียนกวาน อาร์ค 2 ต่อจาก >>191 เทียนกวาน Part.65
.
.
.
.
.
เมื่อกลับไปยังราชวังด้วยอารมณ์ที่เย็นลง ในที่สุดราชาก็เห็นชอบที่จะให้ลูกชายมอบความช่วยเหลือ ส่วนราชครูกลับไม่ได้กล่าวอะไร หลังจากที่ได้มาทำงานจริงแล้วก็ทำให้เซี่ยเหลียนเข้าใจถึงความยากลำบากในการปกครองคนขึ้นมา รับรู้ว่าหลายเรื่องกว่าจะตกลงกันได้ต้องใช้เวลาคุยกันนานแค่ไหน จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหากส่งทหารออกไปจัดการชาวหย่งอันก็จะเปิดโอกาสให้อาณาจักรอื่นอ้างว่าเซียนเล่อโหดร้ายต่อประชาชนแล้วเข้ามาแทรกแซงทางการเมืองได้ แต่พอคิดว่าชาวหย่งอันขาดเสบียงและอาวุธก็ไม่ได้มีมากมาย พวกเขาจึงตัดสินใจที่เป็นฝ่ายตั้งรับดึงเวลาให้ฝ่ายตรงข้ามสิ้นกำลังไปเอง

หลังจากผ่านไป 2 เดือนชาวหย่งอันก็เข้ามาโจมตีเมืองหลวงอีกครั้ง แต่แค่เซี่ยเหลียนใช้กระบี่เนื้อบาง โดยไม่ต้องสวมเกราะ ไม่ถึง 2 ชั่วโมงชาวหย่งอันก็ต้องพ่ายแพ้ ทหารและประชาชนชาวเซียนหล่อต่างพากันดื่มเฉลิมฉลองในชัยชนะ เต็มเปี่ยมด้วยกำลังใจที่มีเทพมาอยู่ข้างเดียวกันกับพวกตน ขณะที่เซี่ยเหลียนหลบไปอยู่ที่มุมหนึ่งของหอคอยกำแพงเมืองด้วยใจที่เจ็บปวดและนิ้วมือสั่นเทา นี่เป็นครั้งแรกที่เขาฆ่าคน และเขาก็สังหารไปหลายพัน ตอนนั้นเองเฟิงซิ่นกับมู่ฉิงก็ตามมา ทั้งสองก็จะไม่ได้ยินดีกับผลการรบเท่าไร ทั้งยังสังเกตได้ว่าการโจมตีครั้งนี้ของหย่งอันรุนแรงกว่าครั้งก่อนๆ มาก อีกฝ่ายมีจำนวนเพิ่มขึ้น มีอาวุธกับเกราะมากขึ้น อีกทั้งยังมีการจัดรูปแบบทัพดีขึ้น ราวกับพวกเขากลายเป็นกองทัพขนาดย่อมจริงๆ มู่ฉิงบอกว่ามีบางอย่างไม่ปรกติ ส่วนเฟิงซิ่นก็คิดว่าศัตรูได้รับการสนับสนุนจากที่อื่น

เมื่อเห็นสีหน้าไม่สู้ดีของเจ้านาย เฟิงซิ่นก็ถามว่าเซี่ยเหลียนยังไปสร้างฝนที่หย่งอันอีกใช่ไหม มู่ฉิงบอกว่าตอนนี้ถึงจะแก้ภัยแล้งได้ ชาวหย่งอันก็ไม่ยอมกลับบ้านเกิดกันแล้ว ถึงจะรู้ดีแต่เซี่ยเหลียนก็คิดว่าอย่างน้อยช่วยให้ประชาชนที่ยังอยู่ในหย่งอันไม่ขาดน้ำตาย แล้วเขาก็ดึงผู้ติดตามมาใกล้ เอ่ยขอบคุณที่ทั้งสองยังอยู่เคียงข้างและหวังว่าพวกเขา 3 คนจะยืนต่อสู้เคียงบ่ากันจนกลายเป็นตำนานเล่าขาน ตอนนี้ค่ามิตรภาพกำลังบวก จู่ๆ เซี่ยเหลียนก็ได้ยินเสียงบางอย่าง เขาชักกระบี่สะบัดไปที่ต้นเสียงแล้วดึงร่างๆ หนึ่งออกมา ใช้กระบี่ดันอีกฝ่ายไปที่ขอบกำแพง ก่อนจะสังเกตได้ว่าคนๆ นี้เป็นเด็กชายอายุน่าจะราว 15-16 ปี สวมชุดทหารของเซียนเล่อ เด็กชายเสียศูนย์จนเกือบจะหล่นจากกำแพง แต่โชคดีที่เซี่ยเหลียนกับเฟิงซิ่นช่วยดึงขึ้นมาได้ทัน

แขนและศีรษะของเด็กชายเต็มไปด้วยผ้าพันแผล การที่อีกฝ่ายมาซ่อนตัวดูน่าสงสัยมากจนมู่ฉิงคิดว่าเด็กชายอาจเป็นสายลับของหย่งอัน แต่เฟิงซิ่นจำได้ว่าตอนปะทะกัน เด็กชายต่อสู้อยู่ในทัพด้านหน้าของเซี่ยเหลียน ทันใดนั้นเด็กชายก็พุ่งเข้าหาเซี่ยเหลียน แต่เขาก็หลบไปด้านข้างได้อย่างรวดเร็ว ก่อนรับรู้ถึงอะไรบางอย่างที่พุ่งใส่หลัง เมื่อเขาจับไว้ก็พบว่ามันคือธนูดอกหนึ่ง ที่แท้เด็กชายต้องการจะช่วยเหลือเขาจะการลอบโจมตี เขารีบกระโดดไปที่กำแพงเพื่อก้มดูจุดที่ธนูดอกนั้นถูกยิงมา ซึ่งก็พอเห็นชายในชุดสีเข้มกลืนกับความมืดคนหนึ่งกำลังวิ่งหนีไป แม้เฟิงซิ่นจะยิงธนูไล่ตามก็ไม่ทันสียแล้ว

เซี่ยเหลียนรู้ในทันทีว่าอีกฝ่ายต้องเป็นหลางอิง แล้วเขาก็สังเกตว่าที่ธนูดอกนั้นมีเศษผ้าผูกไว้ เมื่อแกะออกอ่านก็เห็นตัวอักษร ฉี เขาจึงรีบสั่งให้ทหารไปตามหาว่าญาติผู้น้องของเขายังอยู่ในวังหรือไม่ แต่ถ้าฉีหรงถูกลักพาตัวไปจริงก็จะชักช้าไม่ได้ เขาสั่งให้เฟิงซิ่นกับมู่ฉิงคอยอยู่กำแพงเมือง เพราะหากพาคนอื่นหรือทหารไปด้วยอาจเกิดการปะทะกันรุนแรง เขาวิ่งไปตามทางที่หลางอิงมุ่งไป แต่แล้วเซี่ยเหลียนก็ได้ยินเสียงฝีเท้าวิ่งตามมา เมื่อหันไปดูก็พบว่าอีกฝ่ายคือทหารเด็กคนนั้น เซี่ยเหลียนสั่งให้อีกฝ่ายกลับไปแต่เด็กชายก็ยังคงตามมา เขาจึงเพิ่มความเร็ว ทิ้งอีกฝ่ายไว้เบื้องหลังจนพ้นจากระยะสายตา ในที่สุดเขาก็มาถึงยอดเขาเล็กๆ ชื่อว่าเป้ยจื่อซึ่งเป็นป่ารกทึบ เขาพบฉีหรงถูกแขวนห้อยหัวไว้บนต้นไม้ จากสภาพแล้วคงถูกทุบตีมาไม่น้อย เซี่ยเหลียนรีบใช้กระบี่ตัดเชือก ตบหน้าเรียกสติ ก่อนช่วยแก้มัดให้ญาติผู้น้อง ตอนนั้นเองเขาก็สัมผัสได้ถึงความเย็นยะเยือกจากเบื้องหลัง เมื่อหันไปก็เห็นหลางอิงกำลังเสือกดาบยาวพุ่งเข้าใส่เขา
.
.
.
.
.

224 Nameless Fanboi Posted ID:J6wYcpUQxt

อ้าว ตอนแรกโพสแล้วมันไม่ไป พอรีเฟรซแล้วโพสใหม่ดันเบิ้ลโพสซะงั้น T^T

225 Nameless Fanboi Posted ID:/pzyL7l89s

>>223 เซี่ยเหลียนกู่ไม่กลับแล้วแม่ง ฆ่าคนเป็นพัน ถ้ากูเป็นเฟิงซิ่นกับมู่ฉิงคงอยู่ด้วยไม่ไหวแล้วว่ะ ฮือ...

226 Nameless Fanboi Posted ID:H.PMMqEytn

>>225 แต่กูว่าเซี่ยเหลียนก็ไม่มีทางเลือกนะ ถ้าปล่อยให้เข้ามาได้ คนตายทั้งสองฝ่าย หนักกว่านี้อีก

227 Nameless Fanboi Posted ID:wiHqoNgaoP

สยองมาก กูเคยสงสารเซี่ยเหลียนนะจากเรื่องรั่วเย่และหลายๆเรื่อง แต่เมื่อฆ่าคนเป็นพันเพื่อผลประโยชน์ของพวกตัวเอง ถือว่ากรรมตามสนองว่ะ ถ้ายังเป็นมนุษย์มันคือหน้าที่ของรัชทายาท แต่ในฐานะเทพไม่มีสิทธิ์มายุ่งขนาดนี้โว้ย

228 Nameless Fanboi Posted ID:n39yL.S96Q

>>223 ขอบคุณจ้า... ถ้าเป็นโชเน็นมังงะโลกสวยสดใสเซี่ยเหลียนคงทำสำเร็จไปแล้ว แต่ในชีวิตจริงมันไม่ง่าย ในนิยายแม่โม่ก็ไม่ง่ายเหมือนกัน //หัวเราะทั้งน้ำตา
>>227 หลายอย่างที่เจอก็เพราะทำตัวเองด้วยนั่นแหละ ถ้าต้องรับกรรมเพราะคนอื่นล้วนๆ เซี่ยเหลียนในปัจจุบันคงไม่ self esteem ต่ำขนาดนั้น เซี่ยเหลียนขึ้นเป็นเทพตอนยังเด็กเกินไปจริงๆ ว่ะ ตัดสินใจตามอารมณ์ หัวรั้นไม่ฟังที่หลายๆ คนเตือน ด้วยตำแหน่งรัชทายาท+เทพ มีแต่คนเคารพบูชาเลยเหลิงด้วยว่าถ้าเป็นตัวเองจะทำได้ทุกอย่างช่วยได้ทุกคน พอความพยายามล้มเหลวมาถึงจุดแตกหักที่ต้องเลือกสักทางก็เลือกทางที่เห็นแก่ตัวจริงๆ ฆ่าคนคราวนี้ก็เหมือนโดมิโน่ตัวแรกล้มลงมาแล้ว หลังจากนี้ก็ยิ่ง...... %^&%&#%^& ......
แต่กูก็ชอบที่แม่โม่เขียนบทเซี่ยเหลียนมาแบบนี้นะ ถ้าเซี่ยเหลียนดีทุกอย่าง ไม่เคยแปดเปื้อนเนื้อเรื่องคงไม่น่าสนใจขนาดนี้ แล้วความรู้สึกของฮวาเฉิงในมุมมองคนอ่านก็จะไม่ชัดเจน ว่านี่คือเซี่ยเหลียนคนที่เค้ารัก ไม่ว่าจะสูงส่งหรือตกต่ำจะดีงามหรือเลวร้ายใจของฮวาเฉิงก็มั่นคงไม่เคยเปลี่ยนแปลง (กูเห็นคอมเม้นต์ในด้อมเทียนกวานประเภทเซี่ยเหลียนเป็นคนดีใสซื่อสะอาดบริสุทธิ์ผุดผ่องไร้มลทิน 100% ทีไรกูเบ้ปากทุกที บอกว่าชอบเค้ารักเค้า แต่ทำไมถึงรักเซี่ยเหลียนที่เป็นเซี่ยเหลียนไม่ได้ล่ะ ทำเป็นมองไม่เห็นว่าเค้าก็มีข้อเสีย มีมุมเห็นแก่ตัว มีล้มเหลว มีผิดพลาด มีหลงทางไปทำเรื่องร้ายๆ ...เพราะต้องไม่มีรอยด่างพร้อยถึงจะรักได้ ก็เลยทำเป็นว่าด้านไม่ดีของเซี่ยเหลียนไม่มีจริงเหรอ? สรุปแล้วรักเค้าที่ตรงไหนกันนะ?)

229 Nameless Fanboi Posted ID:YnfjwlesH1

>>228 ยังไม่ได้อ่านสปอยเพราะรอเล่ม 555 เรื่องน่าสนใจตรงทีีนายเอกไม่ได้ดีเลิศเลอ กูชอบแนวๆนี้ นี่รอเล่มแปลไทย จาลงแดงแล้ว ไม่อยากตบะแตกแล้วไปอ่านอิ้ง

230 Nameless Fanboi Posted ID:3lNoTi0YSj

>>228
.
.
.
.
.
นิสัยเสียอีกอย่างหนึ่งของเซี่ยเหลียนที่กูเห็น คือเซี่ยเหลียนโดยเฉพาะในสมัยยังเด็กเป็นคนที่เหมือนจะใส่ใจสังเกตคน แต่จริงๆ แล้วก็ไม่ได้ใส่ใจคนอื่นขนาดนั้นนะ โดยเฉพาะในอาร์ค 4 ที่ถึงบอกว่าตัวเองลำบากอยู่จะไม่คิดถึงคนอื่นก็ไม่แปลก แต่ถ้าเป็นคนที่ปรกติใส่ใจคนอื่นมาจริงๆ ก็ควรสังเกตเห็นฮวาเฉิงบ้างนะ อีกอย่างคือเรื่องของเฟิงซิ่น กูเห็นบางคนด่าที่เฟิงซิ่นทิ้งเซี่ยเหลียนไป คือ ณ ตอนนั้นกูว่ามันจำเป็นต้องห่างกันสักพักแล้วอะ เฟิงซิ่นดีแค่ไหนแล้วที่อยู่กับเซี่ยเหลียนมาถึงขนาดนั้น แล้วในมุมของเฟิงซิ่น เซี่ยเหลียนตอนนั้นไม่ไหวจะเคลียร์จริงๆ ถ้าบอกว่าเฟิงซิ่นไม่ใส่ใจเซี่ยเหลียนเลยไม่รู้ว่าเซี่ยเหลียนไปเจอเรื่องโคตรแย่มา เซี่ยเหลียนเองก็ไม่ต่างกันอะ เซี่ยเหลียนก็ไม่เคยสังเกตว่าเฟิงซิ่นมีความรัก (ทั้งๆ ที่ตัวเองก็คิดว่าแปลกๆ) ไม่เคยคิดจะให้อะไร แต่มาให้ของเพราะกลัวอีกฝ่ายจะทิ้งตัวเอง (แต่ส่วนหนึ่งก็รู้ว่ายังเด็ก เลยไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้) ไม่สนใจว่าถ้าตัวเองไม่ยอมพูดอะไรแล้วทำกับเฟิงซิ่นแบบนั้นอีกฝ่ายก็รู้สึกแย่เหมือนกัน (ถ้าไม่เล่าใครจะไปรู้เหตุผลที่เหวี่ยงขนาดนั้น อีกอย่างก่อนหน้านั้นเซี่ยเหลียนก็ทำอะไรแปลกๆ แย่ๆ มาก่อนด้วย ทั้งจะปล้นคน ทั้งไปกินเหล้าเมาปลิ้นไม่กลับบ้าน แถมทำท่าเหมือนจะประสาทหลอนอีก) ทั้งสองคนต่างลำบากและมีเรื่องกลุ้มใจเหมือนกัน จะมองแต่ในมุมของเซี่ยเหลียนว่าลำบากขนาดนี้มาทิ้งกันได้ยังไงมันก็ไม่น่าใช่ ถ้าบอกว่าแล้วไม่นึกถึงราชากับราชินีเหรอ ทั้งสองคนก็ไม่ใช่พ่อแม่หรือเปล่า เป็นหน้าที่ของเซี่ยเหลียนที่ต้องดูทั้งสองคน ที่ผ่านมาก็ให้เฟิงซิ่นดูแลแทนมานานเท่าไร อย่างน้อยก่อนไปเฟิงซิ่นก็ลาทั้งสองคน และทั้งราชากับราชินีก็เข้าใจถึงได้บอกให้เซี่ยเหลียนไปง้อเฟิงซิ่นกลับมา ความผิดเดียวของเฟิงซิ่นที่กูรู้สึกคือการที่พอได้เป็นเทพแล้วไม่กลับมาส่องเซี่ยเหลียนบ้าง ปล่อยให้อีกฝ่ายระหกระเหิรอยู่คนเดียวหลายร้อยปี เรื่องนี้เรื่องเดียวเลย
.
.
.
.
.

231 Nameless Fanboi Posted ID:3N1Pc8MUt2

สถานการณ์เซี่ยเหลียนตอนนี้คล้ายๆพี่เว่ยตรงที่ฆ่าคนเป็นเบือ แต่รายละเอียดต่างกันตรงพี่เว่ยควบคุมตัวเองไม่ได้ แต่เซี่ยเหลียนมีสติรับรู้ แต่ทำเพราะจำเป็น
เจ็บอ่ะ ตัวเอกแม่โม่นี่จิตใจดี แต่เจอประสบการณ์ชีวิตโหดสัสตลอด

232 Nameless Fanboi Posted ID:zp80SKJXD2

>>230 กูสงสารเฟิงซิ่นชิบหาย บิ่งตอนหลังเซี่ยเหลี่ยนให้อภัยคนด่ามากกว่าเดิมอีก

233 Nameless Fanboi Posted ID:EpPQ2UpVYd

โอ้โห สถานการณ์​แม่งแบบกลืนไม่เข้าคายไม่ออกฉิบหาย พอมาถึงจุดนี้กูถึงเข้าใจว่าทำไมใครๆก็ไม่อยากให้เซี่ยเหลียนยุ่ง คือถ้าไม่ลงมายุ่งถึงขั้นฆ่าคนอย่างนี้อ่ะก็อาจจะไม่มีปัญหาไง แต่นี่แบบลงมาแล้ว แล้วฆ่าคนเพื่อปกป้องเมืองตัวเอง ถึงจะพูดว่าพยายามจะช่วยอีกฝั่งด้วยการสร้างฝนให้ก็เถอะ แต่แบบ นี่มันก็เหมือนลำเอียงเลือกข้างแล้วอ่ะว่าจะช่วยฝั่งเมืองตัวเอง แต่เจตนาก็ไม่ได้มุ่งร้ายจะฆ่าประชาชนอีกฝั่งมาตั้งแต่แรก เจตนาเริ่มต้นก็ดีแต่พอเซี่ยเหลียนลงมาเรื่องมันเลยยิ่งยุ่งจริงๆนั่นแหละ แต่จะว่าน้องเต็มปากก็ไม่ได้ เฮ้อ นี่ว่าที่ฝั่งหย่งอันตั้งทัพอะไรได้ดีขึ้นนี่ว่าต้องมีเทพองค์อื่นช่วยมั้ย แบบเพราะที่เคยบอกว่ามันถึงคราวที่เซียนเหล่อต้องล่มสลาย พอเซี่ยเหลียนมาขวางแบบนี้ เทพเลยต้องมาช่วยฝั่งหย่งอันให้ชนะจะได้เป็นไปตามวัฏจักรด้วยมั้ย

234 Nameless Fanboi Posted ID:3lNoTi0YSj

>>233
.
.
.
.
.
เป็นอาณาจักรข้างเคียงอื่นให้การสนับสนุนด้านอาวุธกับอาหารเพราะอยากซ้ำเติมให้เซียนเล่อล่มจม กับมีอะไรอย่างอื่นที่ไม่ใช่เทพหนุนหลังด้านกำลังอยู่
.
.
.
.
.

235 Nameless Fanboi Posted ID:n39yL.S96Q

>>230 กับเฟิงซิ่นกูไม่โกรธเรื่องเซี่ยเหลียนเลยนะ (ส่วนที่โกรธก็มี แต่ไม่ใช่เรื่องเซี่ยเหลียน)
.
.
.
.
.
โดนเซี่ยเหลียนพูดตอกย้ำว่าไม่ต้องการเขาขนาดนั้น เป็นกูกูก็ไม่กล้าหน้าด้านอยู่หรอกว่ะคิดว่าถูกเกลียดแล้วด้วยซ้ำ ในเมื่ออีกฝ่ายไม่ต้องการเขา จะทนอยู่ไปให้ทรมานใจทั้งสองฝ่ายทำไม เฟิงซิ่นอ่านใจเซี่ยเหลียนไม่ได้นี่นาจะไปรู้ได้ไงว่าตอนนั้นเซี่ยเหลียนอยากให้เขาอยู่ ไอ้เรื่องที่ไม่ไปดูดำดูดีอีกฝ่ายหลังจากนั้นกูก็เข้าใจนะ จากกันได้แย่มาก ไม่กล้าไปเสนอหน้าในชีวิตอีกฝ่ายก็เป็นเรื่องธรรมดา จะให้แอบตามดูแล เฟิงซิ่นก็ไม่ใช่พวกประเภทปิดทองหลังพระแบบฟาฟาด้วย ที่ปลอมตัวมาช่วยเซี่ยเหลียนส่วนนึงก็น่าจะเพราะเป็นภารกิจของสวรรค์ ถ้าเป็นเรื่องชีวิตส่วนตัวเซี่ยเหลียนก็คงไม่มา

เซี่ยเหลียนไม่ใส่ใจคนอื่นอะโคตรจริง... อย่าว่าแต่ไม่สังเกตเห็นฟาฟาสักทีเลย แค่กับฉีหรงกูก็มองอ่อนแล้ว กูไม่ค่อย bias กับนิสัยฉีหรงเท่าไหร่ เพราะสมัยก่อนเทิดทูนเซี่ยเหลียนปานนั้น ขอแค่เซี่ยเหลียนมีใจจะอบรมสั่งสอนให้ดีจริงๆ ใช้เวลาสร้างความสัมพันธ์กับอีกฝ่ายบ้าง ไม่ใช่แค่ต่อว่าดุด่าแล้วก็เมิน นิสัยฉีหรงคงไม่บิดเบี้ยวไปถึงขั้นนั้น สถาบันครอบครัวห่วยแตก เปลี่ยนตัวผู้ปกครองก็โดนสปอยจนกลายเป็นเด็กเกรียนชอบเรียกร้องความสนใจ แต่คนที่เขาให้ความสำคัญมากที่สุดดันไม่เห็นเขาอยู่สายตาอีก
.
.
.
.
.

236 Nameless Fanboi Posted ID:wiHqoNgaoP

กูชอบที่ตัวเอกโม่เซียงไม่จำเป็นต้องดีต้องบริสุทธิ์ เรื่องร้ายก็ทำสุดอะไรสุดนะ แต่กูเบื่อพวกบอกลูกฉันเป็นคนดี พี่เว่ยเป็นคนดีถูกใส่ร้าย โดนกระทำ แค่ใช้วิธีมารก็ดูชั่วช้า ทั้งที่เอาศพคนอื่นมาใช้สู้ก็แย่ปะ เกิดอนาคตพี่วั่งตายแล้วมีใครเอาพี่วั่งไปทำศพเดินได้สู้ให้โดนฉีกขาเล่น พี่เว่ยจะพูดว่าดีแล้วที่เอาคนตายมาใช้สู้เพื่อคนเป็น ลดความเสียหายของคนเป็นเหรอ เซี่ยเหลียนก็เหมือนกัน ไม่ใช่ไม่มีทางเลือก โดนสถานการณ์บีบบังคับแต่เป็นคนเลือกมายุ่งเอง สิ่งที่ทำไม่ใช่เพื่อคนอื่นหรอกแต่เป็นความทะนงตนเอาตัวเองเป็นใหญ่ทั้งที่หลายคนพยายามเตือน แนวเทพเซียนเรื่องอื่นยุ่งกับชะตาแค่คนเดียวชดใช้กันชิบหายวายว่อง นี่ฆ่าเป็นพันๆคน เคสเจ้าสาวบทแรกฆ่าไม่ถึงร้อยยังโดนจับ นี่ฆ่าโจ่งแจ้งมาก มีชีวิตอยู่จนตอนนี้ก็บุญแล้ว และเซี่ยเหลียนก็ได้บทเรียนจนนิสัยเปลี่ยน อย่ามาบอกว่าชะตาไม่ดีเลยในเมื่อตัวเองเป็นคนเลือกทำเอง

237 Nameless Fanboi Posted ID:3lNoTi0YSj

>>235
.
.
.
.
.
แต่เฟิงซิ่นก็แอบยกหนี้ให้เซี่ยเหลียนโดยไม่บอกนะ ก็คงช่วยแบบเงียบๆ อยู่ ไปตามหาดาบที่เซี่ยเหลียนสั่งให้เอาไปจำนำกลับมาเก็บไว้ด้วย ส่วนกรณีฉีหรงกูพอเข้าใจนะ เพราะว่ากูก็มีญาติที่จิตไม่ค่อยปรกติเท่าไร ก็เข้าใจว่าเขาเป็นแบบนี้เพราะป่วย แต่พออยู่ด้วยมันก็รู้สึกแย่แล้วก็รำคาญอะ (คนที่ดูแลผู้ป่วยทางจิตถึงต้องคอยผลัดเวรกันดู ไม่อย่างนั้นจิตจะตกด้วย) ยิ่งตอนแรกเซี่ยเหลียนก็ยังเด็กอยู่ จะทำอย่างนั้นกับฉีหรงก็ไม่แปลก แต่ถ้าเซี่ยเหลียนเป็นคนที่ใส่ใจคนอื่นจริงๆ ก็ควรจะช่วยจัดการกับนิสัยฉีหรงบ้าง เพราะฉีหรงก็ฟังเซี่ยเหลียนด้วย กับพ่อแม่ตอนแรกก็บอกรำคาญนู้นนี่ ไม่อยากมาเจอหน้า ไม่สังเกตว่าพ่อแม่แก่ขึ้นแค่ไหน พอตอนตัวเองลำบากขึ้นมาก็นึกถึงทั้งสองคนก่อน อยากกลับไปเด็กงุ้งงิ้งให้ทั้งสองคนดูแลไม่ต้องรับรู้เผชิญกับปัญหาอะไร แต่ก็นั่นแหละ สุดท้ายกูก็คิดว่าเป็นเพราะตอนที่เกิดเรื่องพวกนั้นเซี่ยเหลียนยังเด็กเกินไปจริงๆ เรื่องราวมันถึงได้ผิดพลาดไปหมดอย่างนี้
.
.
.
.
.

238 Nameless Fanboi Posted ID:d36UKCXxfT

>>236 +1 กูว่าปัญหาของพี่เว่ยเกิดจากความรั้น เชื่อมั่นในตัวเองสูง ไม่ยอมฟังคำแนะนำของใครนี่แหละ เอ๊ะ เซี่ยเหลียนด้วยสิ แต่ทั้งคู่ก็ได้รับบทเรียนและเปลี่ยนคนที่ดีขึ้นแล้ว ตัวเอกที่เปลี่ยนนิสัยเพราะได้รับบทเรียนมันเรียลดี มีความเป็นมนุษย์ดี

239 Nameless Fanboi Posted ID:jk+bvnNQH3

กูว่าตัวละครไม่เฉพาะตัวเอกของโม่เซียงคือเทาๆหมด ทุกคนถูกชะตาชีวิตทำร้าย และทางเลือกของแต่ละคนก็ส่งผลต่ออนาคต มีทั้งหยุดตัวเอง มีทั้งถลำลึก

240 Nameless Fanboi Posted ID:2M4696/Uv0

>>230
.
.
.
.
.
ความจริงเรื่องของเฟิงซิ่นกับมู่ฉิงกูรู้สึกโกรธอยู่ลึก ๆ มาตลอด ด้วยความที่หายไป 800 ปีไม่มาดูดำดูดี มันไม่ใช่แค่ 8 ปี หรือ 80 ปีอ่ะ แต่เป็น 800 ปีตัวเลขเวลามันน่าหดหู่โดดเดี่ยวเกินไป.... แล้วพอเซี่ยเหลียนกลับมา อยู่ ๆ ก็โผล่มาใส่ใจช่วยเหลือเหมือนช่องว่าง 800 ปีไม่เคยเกิดขึ้น มันเลยเป็นอะไรที่กวนใจกูกับบทสองคนนี้มาตลอด
แต่กรณีเฟิงซิ่นกูพอทำใจได้เพราะอย่างน้อยเฟิงซิ่นก็เคยพยายามแล้วแต่มันก็มาถึงจุดที่ดันทุรังกันต่อไม่ไหวอยู่ดี ทำให้กูพอโอเคที่สุดท้ายอภัยให้กันได้ แต่กับกรณีมู่ฉิงยังไงกูก็ยอมรับไม่ได้เหตุผลการละทิ้งเซี่ยเหลียนมันไร้น้ำหนักเกินไปแล้วสุดท้ายเซี่ยเหลียนดันให้อภัยและกลับมาสนิทเหมือนเดิมอีก //อันนี้กูยอมรับว่าโกรธเพราะสำหรับคนบางคนหรือเรื่องบางเรื่องอาจสามารถอภัยให้ได้แต่จะให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมโดยทำเป็นไม่เห็นรอยร้าวกูรับไม่ได้จริง ๆ
.
.
.
.
.​

241 Nameless Fanboi Posted ID:Qw6CIwYSRT

กูว่าตัวเอกโม่เซียงดำ เป็นตัวร้ายเลยล่ะ แต่งานสื่ออกมาว่าถึงร้ายก็มีที่มาที่ไปมีเหตุผล

242 Nameless Fanboi Posted ID:ApuXLRtz2J

>>240
.
.
.
.
.
.
.
จริงเว้ย กูก็โกรธมู่ฉิงมากกว่าเฟิงซิ่นอะ เฟิงซิ่นนี่ยังพอเข้าใจ แต่มู่ฉิงที่ทิ้งไปเพราะลำบากมาด้วยกัน พอได้เป็นเทพกลับไม่มาช่วยเซี่ยเหลียน พอเจอเซี่ยเหลียนในถ้ำนั้นถึงได้รู้สึกผิดแล้วเอาข้าวของมาให้

แต่เห็นด้วยเรื่องเซี่ยเหลียนเด็กไปจริงๆ หลายๆอย่างที่ตัวเองคิดว่าทำได้แต่ความจริงมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น

อีกอย่างตอนนี้เซี่ยเหลียนยังไม่เข้าสู่ด้านมืดขนาดนั้น ต้องอาร์คที่สี่จริงๆที่โคตรจอยเดอะดาร์คไซด์ 55555
.
.
.
.
.
.

243 Nameless Fanboi Posted ID:3lNoTi0YSj

>>240
.
.
.
.
.
กูไม่ได้บอกว่ามู่ฉิงนิสัยดีนะ แต่กูเข้าใจอารมณ์ของมู่ฉิง ณ โมเมนท์นั้น เพราะกูก็เคยผ่านอะไรที่คล้ายๆ กันมาก่อน หลักๆ เลยคือมู่ฉิงมีแนวคิดการใช้ชีวิตที่ต่างกับเซี่ยเหลียน + เฟิงซิ่นมากเกินไป การที่มู่ฉิงทิ้งเซี่ยเหลียนมันไม่ได้เกิดเพราะความยากลำบากหลังเซี่ยเหลียนถูกเนรเทศ แต่มันเป็นอะไรที่สะสมมานานมากแล้ว เฟิงซิ่นจะไม่ค่อยขัดเซี่ยเหลียน สองคนนี้เลยไปกันได้ แต่มู่ฉิงพูดขัดความคิดของเซี่ยเหลียนมาตั้งนานแล้ว เตือนอะไรก็ไม่เคยจะฟัง (แล้วส่วนใหญ่ก็เป็นความจริง) พอโดนเนรเทศ ทั้งๆ ที่มู่ฉิงมีความเชี่ยวชาญในงานใช้แรงงานหาเงินมากกว่า แต่ตอนแรกเซี่ยเหลียนกับเฟิงซิ่นก็มีอีโก้ ไม่เชื่อ ไม่ทำตาม ด่าอีกต่างหาก (โดยเฉพาะเรื่องที่ให้ไปแสดงข้างถนน ซึ่งสุดท้ายสองคนก็ต้องทำอยู่ดี) คือตอนที่ชีวิตยังดีๆ อยู่มันก็อาจจะพอข่มใจให้เรื่องมันผ่านๆ ไปได้ แต่ตอนนี้อะไรมันลำบากไปหมด ความอดทนมันก็ต่ำตาม (มึงลองคิดว่าระหว่างมึงอารมณ์ดีๆ อยู่แล้วมีอะไรมากวนใจ กับตอนที่มึงโคตรจะเหนื่อย แล้วมีอะไรมากวนใจ อะไรที่ทำให้มึงเหวี่ยงได้มากกว่ากัน) มู่ฉิงก็เริ่มแสดงออกมากขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ก่อนช่วงเซียนเล่อล่มสลายแล้ว แต่ก่อนเคยกล้ากลอกตาใส่เซี่ยเหลียนที่ไหน ตอนหลังๆ เริ่มทำบ่อยขึ้น

แต่ก่อนกูเป็นคนเดียวในกลุ่มเพื่อนที่มีนิสัยจริงจัง คนอื่นจะเฮฮาปาร์ตี้ตลอด สุดท้ายกูก็อยู่กับเพื่อนกลุ่มนั้นไม่ได้ ตอนนั้นกูโกรธเพื่อนมากๆ ว่าสิ่งที่กูพูดมันคือสิ่งที่ถูกที่ควรไม่ใช่เหรอ แต่พออายุมากขึ้นมาคิดๆ ดูมันก็แค่หลักการใช้ชีวิตของกูกับเพื่อนมันต่างกันมากเกินไปเท่านั้น ไม่มีใครผิดใครถูก เป็นเพื่อนกันได้ แต่ไม่ควรสนิทกัน อยู่กันห่างๆ ดีกว่า

อีกอย่างถึงมู่ฉิงจะเอาแม่มาอ้างเพื่อกลับสวรรค์ แต่มู่ฉิงก็มีแม่ที่ต้องดูแลจริงๆ อาจไม่ใช่เหตุผลหลักแต่มันก็ยังเป็นส่วนหนึ่งในเหตุผลอะ แล้วลักษณะตอนนั้นมันเตี้ยอุ้มค่อมมาก ถ้ามู่ฉิงนิสัยดีกว่านี้ ใจแคบน้อยกว่านี้ เปิดใจพูดกับเซี่ยเหลียนไปเลยว่าจะไป แล้วแอบมาเอาของช่วยแบบที่เคยทำหนหนึ่งนั่นคือจะวินวินกันมาก อยู่ห่างๆ ลดการกระทบกระทั่งกัน ช่วยแบบห่างๆ ไปแทน

สิ่งที่ทำให้กูโกรธมู่ฉิงแบบมากๆ เลยคือสิ่งที่มู่ฉิงทำในถ้ำ มู่ฉิงมีตัวเลือกอื่นเยอะมาก จะไม่พูดเลยก็ได้ หรือเข้าไปพูดให้ออกไปในเชิงขอร้องก็ได้ อย่างมากก็คงแค่ถูกเทพ 33 องค์นั่นเหน็บแนมไปพักหนึ่ง แต่มู่ฉิงเลือกจะทำอย่างนั้น ถึงจะรู้สึกผิดรีบมาพยายามแก้ทันทีมันก็ช่วยเปลี่ยนความรู้สึกที่เสียไปแล้วไม่ได้ แถมไอ้นิสัยชอบประชดประชันปากปีจอนั่นก็ยิ่งทำให้หลายๆ เรื่องผิดพลาดคนเข้าใจผิดไปใหญ่ (จริงๆ กูว่ามู่ฉิงนี่ออกจากคล้ายเสิ่นจิ่วผสมปิงเหมยเลยล่ะ) แล้วไอ้นิสัยขอเอาตัวรอดก่อนนั่นก็น่าตบจริงๆ แต่ความผิดก็มู่ฉิงก็ไม่ได้ร้ายแรงจนถึงขนาดต้องเอาไปฆ่าแกงกัน ถ้ากูเป็นเซี่ยเหลียนกูคงไม่กลับไปสนิทด้วยอีก คบห่างๆ พูดกันเท่าที่จำเป็น ส่วนเรื่องการให้อภัยพออายุมากขึ้นมันก็มองอะไรไม่เหมือนเดิม สิ่งที่มึงโกรธเพื่อนมากๆ ในวัยเด็ก พอผ่านไปนานๆ บางทีก็ทำให้คิดได้นะว่าแทนที่จะมานั่งคิดเรื่องไม่ดีในอดีตในอารมณ์ขุ่นมัว ก็ช่างมันไปให้ไม่ต้องเครียดดีกว่า ตอนนี้คนจากบ้านเดียวกันก็เหลือกันแค่นี้ แล้วมันก็เคยมีช่วงชีวิตที่ทั้งสามคนเคยอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขอยู่จริงๆ ไม่ได้มีแค่เรื่องแย่ๆ อย่างเดียว แค่ช่วงชีวิตคนธรรมดาความคิดยังเปลี่ยนได้ แต่เซี่ยเหลียนผ่านมา 800 ปีมันก็ต้องคิดตกได้มากกว่าคนธรรมดา แล้วมู่ฉิงก็ทำท่าจะเริ่มปรับปรุงนิสัยตัวเองด้วย คนๆ นั้นทำเหี้ยกับเซี่ยเหลียนมาเยอะกว่ามู่ฉิงอีก เซี่ยเหลียนก็ยังเอาหมวกสานให้ แล้วปล่อยไปเลย
.
.
.
.
.​

244 Nameless Fanboi Posted ID:cNftLPiLbK

>>243
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
สิ่งที่ทำให้กูไม่โอเคจริงๆกับมู่ฉิงคือ

เรื่องที่ไปกับพวก33คนนั้น ไม่ต้องพูดแล้วเนอะ ที่กูให้เหี้ยขึ้นอีก คือที่จากนั้น ปากพล่อยแฉเซี่ยเหลียนต่อหน้าเฟิงซิ่น กูบายเลยฉากนั้น
แถมเป็นเทพที่800ปีมานี้ลงมาที่โลกบ่อยมาก แต่ไม่เคยอะไรกับเซี่ยเหลียนเลย คือมึงคิดออกป่ะ ตอนนั้นปากดีว่าจะเป็นเทพเพื่อจะมาช่วย แต่สุดท้ายก็แค่ลมปาก

แล้วที่เอาเรื่องเก่าๆของเซี่ยเหลียนมาพูดอีกกับเฟิงซิ่นที่ภูเขาหิมะ อันนี้กูให้ระดับสิบเหี้ยเลย ว่าสรุปแล้ว800ปีที่ผ่านมาของมึงคืออะไร กะทั้งหมด+ฉากสุดท้ายที่เราเห็นว่ามู่ฉิงไปเชื่อคำพูดของคนๆนั้น หรือที่สารภาพเปิดอกกับเซี่ยเหลียน ขอโทษนะ แต่กูนี้อ่านไปไม่ได้อินเลย ได้แต่ร้องว่าอีดอก ถ้าไม่มีเรื่อง แต่จะเอาเค้าเป็นแค่มาตรวัดความก้าวหน้าในชีวิตของแกหรือไง บอกอยากเป็นเพื่อนกับเค้า? หรอ???? อีห่า แต่ที่ผ่านมาๆล่ะ เคยทำตัวเป็นเพื่อนของเค้ามั้ย

คือกูเข้าใจที่มึงว่ามานะ ว่าเซี่ยเหลียนเป็นคนที่ใจดี ไม่เอาเรื่อง กลับมาเฮฮากันอีกก็ได้
แต่อันนี้กูพูดในมุมคนอ่าน คือกูไม่ชอบแคแรกเตอร์แบบนี้ว่ะ ไม่โอเคเลยจริงๆ

ส่วนเฟิงซิ่นแบบที่บนๆว่า ไม่ได้ไม่ชอบเพราะเรื่องเซียเหลียน แต่ไม่ชอบเพราะกรณีอื่น
คือถ้าขนาดคนที่บอกว่ารักยังไม่ได้กลับมาหาเค้า กูก็ไม่ได้หวังอะไรกับผู้ชายแบบนี้แล้วล่ะ ว่าเป็นเทพแล้วจะคิดถึงเซี่ยเหลียนอะไรมั้ย
.
.
.
.
.
.
.
.
.

245 Nameless Fanboi Posted ID:n39yL.S96Q

>>242 ถ้าเข้ารูทนั้นจริงๆ แบบกู่ไม่กลับ เราก็จะได้เซี่ยเหลียนเคะราชินี 1ea สินะ
.
.
.
.
.
นายwm(นามสมมุติ)คะ นายอยากจะจุมพิตเลียไล้ฝ่าพระบาทของควีน เอ๊ย เตี้ยนเซี่ยมั้ยคะ... ถ้าเซี่ยเหลียนได้คบกับนายwmตอนนั้นจริงๆ คงมองเป็นทรัพย์สินไม่ได้มองเป็นคนรักแหงๆ สภาพจิตใจตอนนั้นพังมาก ต่อให้อีกฝ่ายพูดอะไรไปก็ไม่เชื่อหรอก พิสูจน์ยังไงก็คงไม่เชื่ออยู่ดี...... ไปรูทนั้นก็ระทึกดีนะ แต่ขมอิ๊บอ๋าย เป็นฮวาเหลียนน่ะดีแล้ว
.
.
.
.
.

246 Nameless Fanboi Posted ID:3lNoTi0YSj

>>244
.
.
.
.
.
กูก็ไม่ได้ชอบมู่ฉิงนะ คิดว่าเป็นตัวละครเทาที่ค่อนไปทางดำ แต่พอเข้าใจเหตุผลในการกระทำ เรื่องแฉเซี่ยเหลียนชอตแรกนั่น มู่ฉิงไม่รู้ไม่ใช่เหรอว่าเฟิงซิ่นไม่รู้ เพราะมู่ฉิงขี้มโน ตอนนี้ก็ยังไม่เชื่อเลยว่าเซี่ยเหลียนไม่ได้บอกเฟิงซิ่นเรื่องทองแผ่นที่หายไป แล้วก็ยังคิดว่าทั้งสองคนไม่เขื่อว่าตัวเองไม่ได้ขโมยไข่มุก คิดว่ามีอะไรเซี่ยเหลียนก็บอกเฟิงซิ่น แล้วกีดกันไม่ให้ตัวเองรู้ (คือรู้สึกแปลกแยกกับทั้งสองนั่นแหละ ซึ่งเหตุผลก็เหมือนที่กูเขียนไปใน >>243) คือเรื่องที่แฉการกระทำมันแย่จริง แต่มู่ฉิงไม่ได้เจตนา

เรื่อง 800 ปีไม่มาแลอันนี้ก็คล้ายๆ กับเฟิงซิ่นที่กูว่าที่จริงมันก็น่าจะมาส่องหน่อยเปล่าวะ แต่ถ้ามองว่าเฟิงซิ่นกับเซี่ยเหลียนจากกันไม่ดี เฟิงซิ่นเลยเลยไม่อยากสู้หน้า มู่ฉิงเองตอนนั้นก็โดนเซี่ยเหลียนกับเฟิงซิ่นไล่แบบฮาร์ดคอร์ แถมพลังมโนว่าเซี่ยเหลียนเกลียดตัวเองอีกก็เลยไม่มา (กูแค่เข้าใจเหตุผล แต่ก็ไม่เห็นด้วย)

เรื่องที่ภูเขาสองคนนี้เวลาทะเลาะกันก็ชอบขุดเรื่องอยู่แล้ว กูเลยไม่ได้อะไรตรงนี้มาก เพราะในชีวิตจริงดูอย่างพ่อแม่ หรือคนรักกัน แม้แต่ผู้หญิงตอนมีเมนส์ก็มีนิสัยชอบขุดเอาเรื่องที่น่าจะจบไปแล้วหรือเรื่องแย่ๆ กลับมาพูดอีก (เออ จะว่าไปถ้าเฟิงซิ่นบอกว่ามู่ฉิงนิสัยชอบคิดเล็กคิดน้อยยิ่งกว่าพวกนางใน กูก็ว่าเป็นนางในตอนกำลังเมนส์มาด้วย 555) ส่วนฉากเปิดอกกูก็ไม่อินว่ะ รู้สึกพูดออกมาก็ไม่ได้ทำให้การกระทำที่ผ่านมาดูดีมากขึ้น แต่ก็ไม่ได้อะไรกับฉากนี้เหมือนกัน เพราะบางทีคนเรามันก็อดเปรียบเทียบตัวเองกับเพื่อนไม่ได้อะ มันก็อาจมีอารมณ์อิจฉา มู่ฉิงมีริษยาบ้าง แต่ก็ไม่ได้มากมายขนาดนั้น สรุปคือกูว่ามู่ฉิงเป็นคนค่อนข้างเหี้ย ชอบทำอะไรเหี้ยๆ แต่เจตนาไม่ได้เหี้ย กูเลยคิดว่ามู่ฉิงก็ไม่ได้เหี้ยขนาดนั้น 5555 พอทำความเข้าใจและไม่ได้เกลียดตัวละครนี้ ถ้าต้องเป็นเพื่อน ก็ขอเป็นแบบเพื่อนห่างๆ

ส่วนกรณีนั้นของเฟิงซิ่น อืม มันก็ดูเป็นผู้ชายไม่มีความรับผิดชอบเนอะ แต่ตอนนั้นผู้หญิงก็เป็นฝ่ายขอเลิก ไล่ออกไปเอง (ไม่แน่ใจว่าหลอกว่ามีคนซื้อตัวไปแต่งงานด้วยหรือเปล่า เพราะเห็นเฟิงซิ่นบอกว่านึกว่าแต่งงานมีความสุขไปแล้ว) ส่วนเฟิงซิ่นก็ดั๊นเป็นคนตรงๆ ทื่อๆ ไม่ชอบคิดอะไรซับซ้อน ซึ่งก็ไม่ใช่แค่เรื่องนี้เรื่องเดียว แถมไม่รู้ด้วยว่าอีกฝ่ายท้องลูกตัวเอง กูเลยเข้าใจที่ไม่กลับไปหาผู้หญิง แต่ก็ไม่เห็นด้วยเหมือนกัน คือไม่มีห่วงอะไรเลยเหรอวะ อย่างน้อยก็น่าจะไปส่องว่าเขาชีวิตดีจริงหรือเปล่า เหมือนที่กูคิดในกรณีเซี่ยเหลียน
.
.
.
.
.

247 Nameless Fanboi Posted ID:NUo.StM0/6

กูอ่านสปอยล์ละเป็นงงมาก ถ้ารอเล่มแปลไทยออก กูจะได้คุยกับเหล่าโม่งละเอียดๆ แบบนี้อีกมั้ยอ่ะ TOT บอร์ดโดนยุบก่อนเล่มหนึ่งออกด้วย

248 Nameless Fanboi Posted ID:84P6tBxdPC

.
.
.
.
.
.
>>245 รูทนั้นปวดตับชห. ขนาดแค่ตอนที่เซี่ยเหลียนเหยียบดอกไม้อันนั้นยังหน่วงใจกูเลย

>>246 เปรียบเทียบดีวะมึง สนมนางในมีเมน 55555

>>247 น่าจะมีคนมาเม้าท์มอยแหละมึง นี่ก็รอเม้าท์อยู่ 5555
.
.
.
.
.

249 Nameless Fanboi Posted ID:VP89CDA7lM

พวกมึง กู KY มากๆ กูเพิ่งจะเริ่มดูปรมจในเน็คฟลิกไปตอนนึง ทีนี้กูเลยอยากอ่านนิยายมากกว่า ตอนนี้มันมีแค่ สองเล่มใช่ป่ะวะ
ถ้ากูรอซื้อตอนออกเล่มห้าทีเดียว เค้าจะมีบ๊อกเซทรวมทุกเล่มขายให้ใช่ป่ะ

250 Nameless Fanboi Posted ID:Q0J9k.QD6P

>>249 เท่าที่กูดูนะ น่าจะมีขายบล็อกพร้อมเล่ม5 แต่บล็อกรวมอาจจะมีแยกขายอีกทีก็ได้ กูก็ไม่แน่ใจเขาไม่ได้แจ้ง...แค่บอกเรื่องบล็อกออกพร้อมเล่มห้า

251 Nameless Fanboi Posted ID:0j5I8KsuGt

>>250 ขอบใจจ้า ระหว่างนี้คงดูซีรีย์ไปก่อน แม่ม อุตส่าหนีได้เป็นนาน ไม่อยากติด 5555

252 Nameless Fanboi Posted ID:a1mz3vgV3J

เวลาดูในเนตฟลิกมีคอมเม้นมั้ยมึง กูตลกเวลาดูใน wetv ละมีคอมเม้นวิ่ง บางเม้นแม่งฮาชิบหาย (แต่บางเม้นก็น่ารำคาญนะ ^^" ) แต่กูก็ยังดูแบบเปิดคอมเม้นอยู่ดี เหมือนมีคนร่วมหวีดด้วย 55555

253 Nameless Fanboi Posted ID:0j5I8KsuGt

>>252 ไม่มีคอมเม้นนะมึงใน netflix

254 Nameless Fanboi Posted ID:+w8SkOUSJF

>>252 กูดูของ Wetv ก็ฮาคอมเมนต์เหมือนกัน ถึงมันจะรก ๆ ก็เหอะ ข้อเสียคือดูแล้วปวดตาชิบหาย ไหนจะตัวละครบนหน้าจอไหนจะคอมเมนต์อีก 3 บรรทัด แต่ฮาจริงอะไรจริง พี่วั่งกูโดนแซวว่ายืนหลับตลอด

255 Nameless Fanboi Posted ID:dmFMyu6aaV

>>254 วงวาร 555
ถ้าจะดูแบบจริงจังใน wetv ต้องปิดคอมเม้น แต่ถ้าจะเอาฮาเปิดคอมเม้นท์ ส่วนกูดูแบบเปิดตลอด ;P

256 Nameless Fanboi Posted ID:0j5I8KsuGt

เออกู ky อีกรอบ งานของนักเขียนคนนี้เรื่องไหนสนุกสุดในความคิดพวกมึง กูยังไม่เคยอ่านซักเรื่อง ไปอ่านรีวิวมาคร่าวๆ เหมือนจะกรี๊ดกับเทียนกวานสุด แต่ก็ไม่แน่ใจว่ะ

257 Nameless Fanboi Posted ID:+w8SkOUSJF

>>256 กูก็ได้ยินมาว่าเทียนกวานเป็นงานของแม่โม่ที่ทำยอดวิวได้สูงมาก (อาจเพราะมันยาวด้วยมั้ง ?) แต่กูอ่านที่โม่งสปอยช่วยมาลงให้แล้ว กูว่าตัวร้ายฯ ถูกจริตมากกว่าว่ะ เพราะมันไม่ยาว ไม่ซับซ้อนเกินไปด้วยมั้ง โดยส่วนตัวกูนะ ตัวร้าย > ปจมจ > เทียนกวาน

258 Nameless Fanboi Posted ID:XUq7/e70iz

>>257 ปรมจกับตัวร้ายถูกแบนในเวบเขียวตั้งแต่ต้นปีว่ะ นับไม่ได้หรอก ไม่งั้นกระแสละครแบบนี้ยอดน่าจะต้องพุ่งทะลุไปแล้ว

259 Nameless Fanboi Posted ID:+w8SkOUSJF

>>258 อ้าวทำไมโดนแบนอ่ะ ? จีนปราบปรามเหรอ ?

260 Nameless Fanboi Posted ID:XUq7/e70iz

>>259 เหมือนว่าโดนข้อหาเรื่องขัดกับกม.สิ่งพิมพ์ออนไลน์ ติดล๊อคแบนในจิ้นเจียงทั้งคู่เลย

261 Nameless Fanboi Posted ID:GDYrWtKW.n

>>260 กู 259 นะ Thx ที่ช่วยอธิบาย กูก็เข้าใจ (เอาเอง)​ ว่านิยายลงเว็บเขียวจะไม่เขียนฉากแบบโจ่งแจ้ง ไปลงอีกทีเป็นตอนพิเศษในรวมเล่มที่พิมพ์ไต้หวัน 555

262 Nameless Fanboi Posted ID:v1T43ieRk1

>>256 เท่าที่กูสังเกตกระแสคนพูดถึงอะไรอย่างนี้ ปรมจ น่าจะดังที่สุดใน 3 เรื่อง (เป็นอย่างนี้ตั้งแต่ก่อนซีรียืฉาย) เรื่องเทียนกวานจะเครียดอึดอัดจริงจังที่สุด บางคนก็ว่าน่าเบื่อ (คงเพราะเซี่ยเหลียนกับฮวาเฉิงมีความเป็นผู้ใหญ่ทั้งคู่ด้วยล่ะมั้ง) ส่วนตัวร้ายจะใสสุด เน้นอารมณ์เฮฮา

สำหรับกูจะเป็น เทียนกวาน > ปจมจ > ตัวร้าย เทียนกวานกูให้คะแนนสูงเพราะพัฒนาการของตัวละคร มิติของตัวละคร รายละเอียดแต่ละจุดในเรื่อง แทบไม่มีตัวละครตัวไหนใช้แล้วทิ้งเฉยๆ เลย

263 Nameless Fanboi Posted ID:gT29mvqfJa

>>248
.
.
.
.
.
ฉากดอกไม้นั่นทำกูหลอนได้โดยไม่ต้องมีศพ ไม่ต้องมีเลือด ไม่ต้องมีใครบาดเจ็บ ทารุณจิตใจชิบหาย ถ้าเป็นกูเจอแบบนั้นคงร้องไห้ไม่หยุดสิบวันสิบคืน (แต่ 'เค้าคนนั้น' ตอนอยู่ลับหลังเซี่ยเหลียนคงอาการหนักกว่าที่กูจะเป็นนะ)
.
.
.
.
.

264 Nameless Fanboi Posted ID:gT29mvqfJa

>>256 กูให้ เทียนกวาน > ปรมาจารย์ = ตัวร้าย
ปรมาจารย์กับตัวร้ายมันคนละแนวไม่อยากเทียบกันเท่าไหร่ แต่กูอ่านแล้วก็สนุกพอๆ กัน อ่านคลายเครียดก็ตัวร้าย จริงจังขึ้นมาหน่อยก็ปรมจ. ให้คะแนนเทียนกวานเยอะสุดเพราะกูละสายตาจากใครไม่ได้เลยแม้กระทั่งตัวประกอบ อีกสองเรื่องพวกตัวประกอบกับตัวละครที่กูไม่ชอบหรือเฉยๆ บางทีก็หายไปจากความทรงจำดื้อๆ อะ ต้องอ่านทบทวนใหม่... แต่ไม่ใช่ว่ากูชอบเทียนกวานมากสุดแล้วเรื่องนี้จะดีสุดสำหรับทุกคนนะ ลางเนื้อชอบลางยาว่ะ แล้วแต่ว่าใครถูกจริตเรื่องไหนมากกว่ากัน

265 Nameless Fanboi Posted ID:v1T43ieRk1

>>248 >>263
.
.
.
.
.
ต้องลดความปวดตับด้วยการเปลี่ยนภาษา
เซี่ยเหลียน : โอมาเอะ วะ โม ชินเดอิรุ
WM : หน่าหนี๊!!
.
.
.
.
.

266 Nameless Fanboi Posted ID:X/dsUGQCcx

กูเอง >>256 ขอบคุณเพื่อนๆ โม่งที่แนะนำ กูจะเริ่มอ่านเทียนกวานก่อน อิอิ

267 Nameless Fanboi Posted ID:ehRbW7xKqQ

>>265 โค้กพุ่งออกปากเลยกู เปลี่ยนภาษา อารมณ์เปลี่ยนจริงๆ แต่อย่าไปทำกล้ามล่ำบึ้กตามพวกนั้นนะคะเตี้ยนเซี่ย ตัวบางๆ หน้าหวานๆ คอนทราสต์กับความถึกต่อไปน่ะดีแล้ว 555+

268 Nameless Fanboi Posted ID:3IiE89KrBd

>>267 5555 แต่เอาจริงๆ ตอนบทน้ำดำ เซี่ยเหลียนบอกว่าตัวเองเป็นเทพสงครามตัวหนัก ตอนเฮียตู้เจอหินบล็อคทางทำอะไรไม่ได้ แต่เซี่ยเหลียนมากระทืบ 2 ตีหินแตกนี่ ความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในหัวกูเลยว่าหรือว่าอิมเมจของเซี่ยเหลียนในหัวกูจะผิดมาตลอดวะ ความจริงแล้วเซี่ยเหลียนอาจจะล่ำบึ้กแบบเคนชิโรก็เป็นไปได้

269 Nameless Fanboi Posted ID:ehRbW7xKqQ

>>268 อิมเมจมโนกูว่าเตี้ยนเซี่ยออกแนวซ่อนรูปว่ะ มองเผินๆ เหมือนตัวบาง แต่จริงๆ ฟิต&เฟิร์มกล้ามเนื้อแน่นๆ สมชายชาตรีแต่ก็ไม่ได้ล่ำแบบพวกเพาะกล้าม ไม่ได้นุ่มนิ่มไปทั้งตัวแบบมาร์ชเมโล่ แต่บางส่วนอาจจะนุ่มเป็นพิเศษ (เช่นริมฝีปาก ฯลฯ ...อยากรู้ลึกรู้จริงต้องไปสัมภาษณ์ฟาฟา 555+)

270 Nameless Fanboi Posted ID:3IiE89KrBd

สปอยเทียนกวาน อาร์ค 2 ต่อจาก >>223 เทียนกวาน Part.66
.
.
.
.
.
เซี่ยเหลียนต่อสู้กับหลางอิง เขาบอกอีกฝ่ายให้ยุติการรบแล้วรับเสบียงกับน้ำดื่มกลับบ้านเกิดของตัวเอง โดยเขาสัญญาว่าทหารเซียนเล่อจะไม่ทำร้ายชาวหย่งอัน แต่หลางอิงกลับถามกลับว่าเซี่ยเหลียนคิดว่าสิ่งที่ตัวเองถูกต้องหรือไม่ คำถามนั้นทำให้เซี่ยเหลียนอึ้ง เพราะลึกๆ ในใจเขาก็คิดว่าสิ่งที่ตนทำมีบางอย่างไม่ถูกต้องเช่นกัน เขาถามว่าอีกฝ่ายต้องการอะไรให้มาคุยกันเพื่อหาเส้นทางที่สามซึ่งจะสามารถยุติสงครามได้ ทว่าหลางอิงกลับตอบทันทีว่าเขาไม่ต้องการอะไรนอกจากการทำให้อาณาจักรเซียนเล่อหายไป เซี่ยเหลียนเลยขู่ว่าอีกฝ่ายไม่มีโอกาสที่จะเอาชนะได้ และผู้ติดตามของหลางอิงจะพากันตายหมด ถึงอย่างนั้นหลางอิงก็ยังตอบอย่างใจเย็นว่าเขารู้ และรู้ด้วยว่าเซี่ยเหลียนเป็นเทพเจ้า แต่ถึงจะเป็นเทพก็ไม่สามารถหยุดเขาได้

เซี่ยเหลียนรู้สึกเหมือนเห็นภาพตัวเองตอนพูดกับจวินอู๋ว่าสวรรค์หยุดเขาไม่ได้ซ้อนบนตัวของหลางอิง แต่ในตอนที่เขาหันมาจับกระบี่ด้วยสองมือพร้อมจัดการขั้นเด็ดขาดก็มีเสียงหัวเราะดังมาจากเบื้องหลัง เซี่ยเหลียนรีบหันกลับไป ข้างหน้าของเขาคือร่างในชุดไว้ทุกข์สีขาวร่างหนึ่งกำลังนั่งบนเถาวัลย์ที่แขวนระหว่างต้นไม้ บนใบหน้านั้นมีหน้ากากสีขาวที่ครึ่งหนึ่งร่ำไห้ ส่วนอีกครึ่งแย้มยิ้ม พอเห็นเซี่ยเหลียนหันมาร่างนั้นก็ปรบมือ และมันก็ทำให้ขนบนหลังของเซี่ยเหลียนถึงกับลุกชัน รู้ว่าอีกฝ่ายไม่มีทางเป็นมนุษย์อย่างแน่นอน ในตอนที่เขาถามอีกฝ่ายว่าเป็นตัวอะไร จู่ๆ พื้นก็แยกเป็น 2 ฝั่ง แล้วหลางอิงที่นอนบาดเจ็บก็หล่นลงไปในช่องว่างนั้น เซี่ยเหลียนที่พลาดการสังหารหลางอิงไม่แน่ใจว่าตัวเองโล่งใจหรือเสียดายกันแน่ แต่เมื่อเสียงหัวเราะดังขึ้นอีก เขาก็รีบพุ่งกระบี่ใส่ ทว่าสิ่งที่กระบี่ของเขาเสียบติดกับต้นไม้กลับมีเพียงชุดสีขาวเท่านั้น

เซี่ยเหลียนรู้สึกว่าสถานการณ์ยิ่งไม่น่าไว้ใจ เขาดึงฉีหรงให้ลุกขึ้นยืน แต่อีกฝ่ายกลับเสนอให้เผาภูเขานี้เสียก่อนเพราะมันเป็นที่ซ่อนตัวของชาวบ้านหย่งอัน ก่อนถามว่าทำไมเซี่ยเหลียนไม่ฆ่าชาวหย่งอันเหมือนที่ทำในสนามรบ เซี่ยเหลียนจึงด่าญาติผู้น้องว่าชาวบ้านกับทหารไม่เหมือนกัน แต่ฉีหรงถามกลับว่าต่างกันตรงไหน เพราะต่างก็เป็นคนเหมือนกัน ทำเอาเซี่ยเหลียนที่ถูกจี้ใจดำมีน้ำโหขึ้นมา แต่ตอนนั้นเองก็มีมือข้างหนึ่งมาจับข้อเท้าของเขาไว้ ก่อนที่จะมีมนุษย์ร่วงหล่นลงมาจากต้นไม้ราวห่าฝน แต่ถึงจะมีรูปร่างเหมือนคน พวกมันกลับเคลื่อนไหวราวกับหนอนยักษ์กระดึ๊บเข้าหาพวกเซี่ยเหลียน พวกมันคือปีศาจบินุซึ่งก่อนหน้านี้ไม่เคยถูกพบใกล้เมืองหลวงมาก่อน แสดงว่าพวกมันต้องถูกพามาที่นี่โดยใครบางคน

เซี่ยเหลียนไม่นึกมาก่อนว่าสงครามครั้งนี้จะมีปีศาจเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย พอนึกถึงเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นแล้วก็มีความเป็นไปได้อย่างมากที่พวกมันจะร่วมมือกับหลางอิง แม้เซี่ยเหลียนจะฆ่าพวกมันไปมากมาย แต่พวกมันก็ยังเข้ามาไม่หมดสิ้น ตอนนั้นเองก็มีกระบี่เล่มหนึ่งเข้ามาฟันปีศาจตัวหนึ่งที่กำลังจะโจมตีใส่หลังของเซี่ยเหลียน อีกฝ่ายคือทหารเด็กที่เขาทิ้งไว้ระหว่างทางนั่นเอง เซี่ยเหลียนกัดริมฝีปาก เอาเลือดทาลงบนกระบี่เพื่อเป็นคาถาป้องกันแล้วส่งให้ฉีหรง สั่งให้ทั้งสองคนรีบหนีกลับไปที่เมืองหลวงเพื่อรายงานสถานการณ์ให้ทุกคนรู้ แม้ฉีหรงจะรีบวิ่งไปอย่างรวดเร็ว แต่ทหารเด็กกลับไม่ยอมไปไหน เซี่ยเหลียนที่ไม่มีเครื่องรางอื่นให้แล้วจึงต้องให้อีกฝ่ายอยู่ด้วย เมื่อได้เห็นฝีมือของเด็กหนุ่มเขาก็อดเอ่ยชมไม่ได้ ทั้งยังแนะนำว่าอีกฝ่ายน่าจะเหมาะกับดาบโค้ง

ทั้งสองมุ่งหน้าจัดการพวกปีศาจบนเขา ทหารเด็กคนนั้นส่งกระบี่ของตัวเองให้เซี่ยเหลียนเพราะอีกฝ่ายมอบอาวุธให้ฉีหรงไปแล้ว แต่เซี่ยเหลียนที่ใช้พลังทิพย์ได้ก็บอกให้เด็กชายเก็บมันไว้ป้องกันตัวเอง ทันในนั้นก็มีปีศาจตัวใหญ่กระโดดใส่เซี่ยเหลียน เขาฮาโดเคนใส่มันทันที แล้วเขาก็ได้กลิ่นเลือดมาจากร่างของมันทั้งๆ ที่บินุมีเพียงของเหลวเหนียวข้นในร่างกาย เมื่อสังเกตดีๆ จึงเห็นว่าเลือดไหลออกมาจากศีรษะมนุษย์ที่อยู่ในปากของมัน เขารีบเดินตามรอยเลือดทีปีศาจตัวนั้นเดินมา สักพักก็ได้ยินเสียงร้องไห้อย่างอ่อนแรง และกลิ่นเลือดที่คลุ้งกระจาย ทหารเด็กรีบเดินขึ้นไปด้านหน้าเซี่ยเหลียนเพื่อปกป้อง แต่เขาก็จัดการดึงอีกฝ่ายกลับไปข้างหลัง แล้วทั้งสองก็มาถึงถ้ำขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่แห่งหนึ่งซึ่งเต็มไปด้วยซากศพและบินุกว่า 20-30 ตัว โดยมีหญิงสาวคนหนึ่งกำลังถูกกัดกินทั้งเป็น
.
.
.
.
.

271 Nameless Fanboi Posted ID:3IiE89KrBd

>>227 เมื่อกี้ว่าจะพิมพ์แต่ลืมไปเลยขอมาเพิ่มตรงนี้ ไม่มีอะไรสำคัญหรอก แค่อยากย้ำว่าเอ้อมิ่งเป็นดาบโค้ง

272 Nameless Fanboi Posted ID:3IiE89KrBd

เอ้ย โควทผิด ต้องเป็น >>270 T^T

273 Nameless Fanboi Posted ID:Rj1NRmHij2

>>265 ขำน้ำพุ่งจริง เชี่ยมาก555555555 ตอนกูอ่านฉากนี้นี่ขำแห้งที่ฟาฟาโดนตอบกลับแบบนั้น แต่พอเปลี่ยนภาษาปุ๊ปไหงแม่งขำวะ 55555

274 Nameless Fanboi Posted ID:rFOpXi1F3b

>>270 ฟาฟานี่บูชาเซี่ยเหลียนเป็นไอดอลจีๆ สั่งดอกไม้ก็เอาดอกไม้มาให้ สั่งดาบโค้งก็เปลี่ยนไปฝึกดาบโค้งตามสั่ง 555

275 Nameless Fanboi Posted ID:rgrHr8RvyV

>>274 อารมณ์ชี้นกเป็นไม้ ชี้ไม้เป็นนก อะไรที่เซี่ยเหลียนบอกดี ฟาฟาพร้อมมมมจะทำ

276 Nameless Fanboi Posted ID:0Dz.lE.6.Q

>>274 เซี่ยเหลียนไม่ได้สั่ง ฟาฟาแค่อยากทำให้ นี่แหละน้าความร้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

ทำไมสปอยฮวาเฉิงรอเซี่ยเหลียนมาหลายชาติหลายภพมันระบาดไม่หยุดสักทีวะ มั่วซั่วชิบ (ʘ言ʘ╬)

277 Nameless Fanboi Posted ID:wYle/cjo0o

>>276 แอคไหนวะ มั่วชิบหาย

278 Nameless Fanboi Posted ID:0Dz.lE.6.Q

>>277 ในทวีตภพน่ะ โผล่มาเรื่อยๆ เลย พอกูหรือคนอื่นๆ ไปอธิบายว่าเนื้อเรื่องมันไม่ใช่อย่างนั้นก็จะหายไปเป็นพักๆ แล้วก็จะมีแอคใหม่โผล่มาสปอยมั่วอยู่เรื่อยๆ

279 Nameless Fanboi Posted ID:amNYc2CB92

>>276 >>277 พอมีคนอธิบาย ดันมีพวกช่างแถมาด่าคนทักด้วยนะมึง ว่ามันไม่เห็นจะผิดตรงไหน ด่ากลับว่าคนอธิบายเรื่องมากอีก กูเห็นแล้วละเหี่ยใจแทน

280 Nameless Fanboi Posted ID:YxnwxNmOSq

>>278 กูไม่ค่แยได้ตามเท่าไหร่ กูแต่แค่แอคคุณ ส อะ เห็นเขาไฟท์สุดๆ 555 พแนิยายดังมันก็จะมีพวกปบบนีัแหละ พอแย้งก็จะหาว่าโชว์ภูมิ หลายเป็นว่าคนอิ่นๆเข้าใจสารของเรื่องผิดไป

281 Nameless Fanboi Posted ID:9fHKCl1.vL

>>280 ก็โชว์ภูมิจริงจริงนินา อีส้มสมหวัง

282 Nameless Fanboi Posted ID:0Dz.lE.6.Q

ถ้าอยากจะด่าใครแบบระบุตัวชัดๆ ไปไฟท์กับแอคนั้นตรงๆ ไม่ก็ไปห้อง netwatch เหอะ โดยส่่วนตัวกูไม่ขัดอะไรกับที่บอกว่า 'ไม่ได้รอ' หรือ 'รอเซี่ยเหลียน' นะ เพราะถึงฮวาเฉิงไม่ได้รอ แต่ในมุมมองเซี่ยเหลียน การที่ตัวเองไม่ได้ใส่ใจว่ามีใครคนนึงที่อยู่ข้างๆ เค้า มีใครคนนึงที่ทำเพื่อเค้ามาตลอดแต่เค้ากลับไม่รู้อะไรเลย จนถึงเวลาที่เซี่ยเหลียนรับรู้ทุกอย่างได้สักที จะนับว่าเป็นการรอก็ได้...
.
.
.
.
.
Hua Cheng waited for him for over eight hundred years, so what did it matter if he waited for Hua Cheng for another eight hundred?
ก็อย่างที่บรรยาย ฮวาเฉิงไม่ได้รอ ไม่ได้หวังว่าเซี่ยเหลียนจะหันมาแลหรือให้ใจตอบมา แต่ใจเซี่ยเหลียนก็คิดว่าปล่อยทิ้งให้เค้ารออยู่นาน ถ้าใช้มุมมองฮวาเฉิงคือไม่ได้รอเซี่ยเหลียนแต่รอตัวเองให้กล้ามาพบ แต่ถ้าใช้มายด์เซ็ตมุมมองเซี่ยเหลียนนี้จะบอกว่ารอก็ไม่ผิดหรอก บางทีนิยามของคำว่า 'รอ' มันก็กว้างกว่าแค่ความหมายตรงๆ ห้วนๆ
.
.
.
.
.
ไอ้ที่กูรับไม่ได้น่ะ เป็นสปอยประเภทเซี่ยเหลียนตายแล้วตายอีก ฮวาเฉิงต้องรอเซี่ยเหลียนเกิดใหม่หลายชาติ กูล่ะกลุ้ม เซี่ยเหลียนไม่เคยตายนะเฮ้ย!!

283 Nameless Fanboi Posted ID:WUElueJQle

>>282 เพื่อน กูขอถามต่ออีกนิด
แล้วทำไมเซี่ยเหลียนต้องรอฮวาเฉิงอ่ะ ตาย? จากเหตุการณ์อะไร
ถ้ามันจะสปอยใส่จุดยาวๆเลยก็ได้ ละกว่าจะได้เจอกันอีกทีนี่ นานไหม เหตุการณ์นี้คือตอนใกล้จบเลยป่ะหรือกลางๆค่อนๆเรื่อง
กูถามไม่นิดแฮะ 5555 ตอบเท่าที่ตอบได้ละกัน ^^"

284 Nameless Fanboi Posted ID:0Dz.lE.6.Q

>>283 ตอนใกล้จบเรื่องเลย... ถ้าสปอยคือระดับ super deadly ultimate spoil กูขอจุดยาวหน่อยแล้วกัน
.
.
.
.
.
.
.
.
.
เหตุการณ์ - ฟาฟาแบตหมด ไปชาร์จแบต (ไม่ขอบอกสาเหตุนะ เดี๋ยวอ่านเองแล้วไม่อิน)
กว่าจะได้เจอกันนานแค่ไหน - ไม่ถึง 800 ปีหรอก เด็กชายซานหลางไม่กล้าให้เกอเกอรอนานขนาดนั้น 555+
.
.
.
.
.
.
.
.

285 Nameless Fanboi Posted ID:WUElueJQle

ขอบคุณค้าบบบ

286 Nameless Fanboi Posted ID:UfwxQFRpjo

>>284 โอโห กว่าจะได้ he ทิชชู่หมดไปกี่ม้วน แต้งเพื่อนโม่ง

287 Nameless Fanboi Posted ID:aBo2tO4jxb

กูอ่านมาจากที่ไหนสักแห่งเขาวิเคราะห์ว่าน้องเนี่ยไม่ได้จริงใจกับพี่เว่ยตั้งแต่ตอนเรียนแล้ว เหมือนคบหาเพื่อผลประโยชน์มากกว่า คิดว่าไงกัน

288 Nameless Fanboi Posted ID:IX.jDfOTcx

>>287 กูว่าไม่ใช่ น้องเนี่ยก่อนล้างแค้นน้องก็ใสใสนะ

289 Nameless Fanboi Posted ID:jynNe/IYSV

>>287 แหม่ อันนี้ก็ปรักปรำน้องเกินไป 5555
ลองมองย้อนดูวีรกรรมกันดี ๆ มันไม่ใช่พฤติกรรมที่คบเพียงเพื่อหาผลประโยชน์เลยนะ พากันซน สุ่มหัวดูหนังสือโป๊(ไอ้หนังสือเจ้ากรรมน้องหิ้วมาเองยกแผง)​ แอบชะเง้อลอกข้อสอบพี่เว่ย (หรือจะนับเรื่องนี้เป็นการคบหาเพื่อผลประโยชน์? 555)

เอาจริง ๆ น้องเนี่ยก็แค่เด็กสปอยล์ลอยชายอยู่ใต้ร่มเงาพี่ชายอย่างเป็นสุข มีความสามารถแต่เอาไปใช้กับสิ่งที่ตัวเองสนใจซึ่งดูไร้สาระก็เท่านั้น
ซึ่งกูว่าการที่น้องโตมาแบบนี้ได้ก็เพราะพี่เนี่ยไม่เคยโหดจริงจังด้วยแหล่ะ เหมือนเพิ่งมาจริงจังตอนที่รู้ว่าตัวเองไม่น่าอายุยืน... แต่ก็นั่นแหล่ะน้องไม่รู้ไม่ได้ใส่ใจจนรู้ตัวอีกทีต้นไม้ใหญ่ที่ให้ร่มเงาตัวเองหายไป คนที่เชื่อใจหักหลัง เข้าดาร์กโหมดทันที....
ความสามารถอะไรที่มีก็เอามาใช้ในจุดที่ควร แล้วไม่รู้ว่าเป็นเอกลักษณ์คนสกุลเนี่ยหรือเปล่าที่เป็นพวกอารมณ์รุนแรง หรือนิสัยน้องเองที่รักแรงเกลียดแรง เพื่อแก้แค้นให้คนสำคัญที่สุดที่โดนคนสำคัญอีกคนหักหลังเลยเททุกอย่างหมดหน้าตักแม้แต่มิตรภาพเก่า ๆ...

290 Nameless Fanboi Posted ID:4Cb7kmxQtr

โม่งสปอยหายไปหลายวัน หวังว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นนะ

291 Nameless Fanboi Posted ID:hXsSr5CC61

สปอยเทียนกวาน อาร์ค 2 ต่อจาก >>270 เทียนกวาน Part.67
.
.
.
.
.
แม้ท้องจะถูกเปิด เครื่องในกระจายเต็มพื้นแต่หญิงสาวยังมีชีวิตอยู่ เซี่ยเหลียนรีบยิงพลังทิพย์อัดพวกปีศาจ ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าศพที่เกลื่อนกลาดเป็นชาวหย่งอัน แต่ถ้าร่างในชุดขาวนั่นเป็นพวกเดียวกับหลางอิงแล้วทำไมพวกปีศาจถึงได้ทำร้ายคนหย่งอัน หรือหลางอิงจะถวายคนของตัวเองเซ่น God Hand แลกกับการช่วยเหลือ หลังจากตรวจสอบแล้วว่าหญิงคนนั้นเป็นมนุษย์จริงๆ เซี่ยเหลียนก็หยิบยาของสวรรค์มาช่วยรักษาแล้วรีบสอบถามเหตุการณ์ หญิงสาวบอกว่าตอนแรกทุกอย่างก็ปรกติดี แต่จู่ๆ พ่อกับพี่ชายของเธอก็ตาย เซี่ยเหลียนถามต่อว่าใครเป็นคนฆ่า เธอจึงตอบว่าคนๆ นั้นคือท่าน

สิ้นคำหญิงสาวก็คว้าร่างของเซี่ยเหลียนเข้าไปกอดแน่น ทหารเด็กจึงรีบใช้กระบี่แทงเธอจนแน่นิ่ง เซี่ยเหลียนรู้สึกมึนหัวแถมยังรู้สึกร้อนผ่านในร่างกาย ตอนนั้นเองเสียงผู้หญิงหัวเราะคิกคักก็ดังจากดอกไม้บนผมของหญิงสาวคนนั้น เซี่ยเหลียนจึงรู้ตัวว่าติดกับของศัตรูเพราะมันคือปีศาจดอกไม้ที่กินพลังของผู้ชาย เขารีบห้ามไม่ให้เด็กชายสูดกลิ่นดอกไม้ แต่เขาโดนพิษไปแล้วเรียบร้อย เมื่อผู้ชายสูดกลิ่นนี้เข้าไปก็เหมือนโดนยาปลุก แต่เขาใช้ยาช่วยหญิงสาวหมดขวดแล้ว เหมือนมองรอยยิ้มบนศพของเธอเขาก็รู้โดยทันทีว่าอีกฝ่ายสมัครใจยอมใช้ตัวเองเป็นเหยื่อล่อ ปีศาจดอกไม้เริ่มผุดขึ้นจากดินด้วยความตื่นเต้น ทหารเด็กจึงพยายามฟันพุ่มของพวกมันจนกระบี่เริ่มทื่อเลยตั้งใจจะหันไปเผาอีกฝ่ายแทน แต่เซี่ยเหลียนห้ามไว้เพราะถ้าทำอย่างนั้นปีศาจดอกไม้จะสร้างก๊าซพิษออกมา

ปีศาจสาวต่างกระเซ้าเย้าแหย่ทั้งสองอย่างสนุกสนาน อยากจะพรากเวอร์จิ้นของเซี่ยเหลียนกันเต็มที วิธีการบำเพ็ญของเซี่ยเหลียนจำเป็นต้องรักษาความบริสุทธิ์ไว้ หากเขารักษาจิ้นไว้ไม่ได้ ผู้ศรัทธาที่เชื่อว่าเทพละซึ่งกิเลสตัณหาแล้วจะพากันเสื่อมศรัทธา ส่งผลให้พลังของเขาต้องลดลง ถึงแม้อาจไม่ใช้เรื่องใหญ่ถึงขนาดทำให้หมดความเป็นเทพ และหากบำเพ็ญต่ออีกหลายปีก็อาจเรียกศรัทธากลับมา ทว่าในช่วงที่สถานการณ์บ้านเมืองเป็นอย่างนี้เขาจะมีเวลาไปทำอย่างนั้นได้อย่างไร

เซี่ยเหลียนทร้อนรุ่มและอับอายจนลุกไม่ไหว เขาจึงเรียกทหารเด็กมาช่วยพยุงเขาหนีกลับเมืองหลวง แต่ปีศาจดอกไม้เรียกเขาไว้ บอกว่าหากเขากลับไปที่ถนนจะต้องเจอกับเขาคนนั้นซึ่งเป็นคนที่พาพวกเธอมายังที่แห่งนี้ เซี่ยเหลียนเข้าใจทันทีว่าเขาคือเจ้าหน้ากากครึ่งร้องไห้ครึ่งยิ้มตนนั้น พวกปีศาจสาวอาจโกหก แต่เขาก็ยังห่วงสวัสดิภาพของทหารเด็กและจิ้นของตัวเอง เซี่ยเหลียนเลยบอกให้ทหารพาเขาเข้าไปในถ้ำ แล้วใช้กระบี่แทงแขนของเขาเพื่อที่จะได้ใช้เลือดมาวาดเขตคุ้มกัน เมื่อได้ยินดังนั้นอีกฝ่ายก็บอกให้ใช้เลือดของตนแทน ยังไม่ทันที่เซี่ยเหลียนจะบอกว่าเลือดของอีกฝ่ายใช้ไม่ได้ผล ทหารก็จัดการกรีดแขนตัวเองแล้ว เซี่ยเหลียนที่ไม่อยากให้อีกฝ่ายเสียหน้าจึงบอกไปว่าอย่างไรก็ต้องใช้เลือดของเขาผสมลงไปด้วย เขาเอากระบี่ของเด็กชายมาแล้วแทงแขนตัวเองลงไป ก่อนใช้เลือดกางเขตอาคมที่ปากทางเข้าถ้ำ

แสงจากคบเพลิงทำให้ร่างกายของเซี่ยเหลียนยิ่งรู้สึกไม่ดี เขาเลยสั่งให้เด็กชายดับไฟก่อนมอบหมายงานเพิ่มเติม เขาอธิบายว่าตนกางเขตป้องกันไว้ 2 ชั้น ชั้นนอกเพื่อไม่ให้ใครเข้ามา และชั้นในไม่ให้คนที่อยู่ข้างในออกไป ให้เด็กชายเข้าไปยืนอยู่ระหว่างชั้นอาคมทั้งสอง ไม่ว่าจะได้ยินเสียงอะไรข้างนอกก็ห้ามออกไป และหากได้ยินเสียงอะไรจากเขาก็ห้ามเข้ามาในถ้ำเช่นกัน ในตอนนั้นเองผลไม้ปีศาจก็สุกงอม กลิ่นของมันฟุ้งกำจายไปทั่วบริเวณ ก่อนที่ร่างเปลือยเปล่าของหญิงสาวจะพากันดึงตัวออกมาจากผืนดิน หลังจากปัดเศษดินและจัดผมของตัวเองเรียบร้อย พวกเธอก็มุ่งหน้ามาที่ปากถ้ำเรียกร้องหาเซี่ยเหลียน เด็กชายเลยพยายามแทงกระบี่ใส่โดยที่เท้ายังอยู่ในเขตอาคม ปีศาจสาวจึงหันไปหยอกล้อเขาแทน เปลี่ยนรูปร่างหน้าตาไปมาเพื่อหลอกให้ทหารเด็กออกไปหาพวกตน แล้วปีศาจสาวก็เปลี่ยนไปใช้ร่างแบบหนึ่งที่ทำให้ทหารเด็กแทบหยุดหายใจ เมื่อเห็นอาการนั้นพวกเธอต่างก็พากันหัวเราะอย่างเริงร่าด้วยไม่คาดว่าเด็กชายจะมีรสนิยมเช่นนี้ ทั้งยังเสริมว่าให้รีบคว้าโอกาสนี้ไว้ เพราะถึงจะฝันไปอีก 800 ปีอีกฝ่ายก็คงไม่มีโอกาสได้ลิ้มลองสัมผัสนี้อย่างแน่นอน ขณะที่เด็กชายกำลังโกรธ เซี่ยเหลียนก็เริ่มทนไม่ไหวจนเผลอส่งเสียงครางออกมา
.
.
.
.
.

292 Nameless Fanboi Posted ID:hXsSr5CC61

>>290 กูไม่เป็นไร ขอบคุณที่เป็นห่วงมากเลย แค่ช่วงนี้งานเยอะ + อากาศร้อน ก็เลยขอพักก่อนน่ะ

293 Nameless Fanboi Posted ID:uzl5sRg2Vk

>>291 ขอบคุณ​โม่งสปอย อากาศเปลี่ยนเป็นเริ่มเย็นแล้ว รักษาสุขภาพ​ด้วย
กูไม่นึกเลยว่า​เซี่ยเหลียนในอดีตจะมี Virgin crisis เรท 18+ อย่างนี้ด้วย 555 กูอ่านแล้วไม่รู้จะขำหรือสงสารดี

294 Nameless Fanboi Posted ID:7aPaNFoZkG

>>291 กูนี่อ่านแล้วอยากร้อง ไอ้หยา เลย เซี่ยเหลียนทนไว้ ทนนนนน
ส่วนร่างที่ทำให้เด็กชายตะลึง >> กูคิดดีไม่ได้อ่ะ

295 Nameless Fanboi Posted ID:bvMo7Wp+6D

>>294 นายคิดอย่างที่กูคิดใช่ปะละ 5555555 ขำตรงที่นางบอกว่าอีก800ปีก็ไม่ได้กิน สรุปเป็นไงล่ะ

296 Nameless Fanboi Posted ID:5Tcvm2eR7I

>>295 ปีศาจพยากรณ์แน่เลยว่ะ รู้อนาคตด้วย 555

297 Nameless Fanboi Posted ID:yoEpSumJ+h

อิเหี้ย สปอยตอนนี้ คือเหตุการณ์แม่งเป็นจังหวะแบบ critical แล้วอะ แต่อ่านละกุขำ 55555

298 Nameless Fanboi Posted ID:upp+KNADrL

ขอบคุณโม่งสปอย รักษาสุขภาพด้วยนะ

299 Nameless Fanboi Posted ID:jcO6GP3bQq

KY กูโม่งบนๆ ที่บอกว่าเพิ่งจะตามดูปรมจในเน็ตฟลิก กูยังดูไม่จบแต่มีคำถามว่าวั่งเซียนจะได้กันยังไงวะ กูนึกภาพไม่ออก ในซีรีย์ไม่วายแต่คาแรคเตอร์คงตรงตามนิยายเลยป่ะคือวั่งจีซึนมาก แล้วนางจะชอบพี่เว่ยตอนไหน
กูเสิชกูเกิลเจอลิ้งไปทวิตเตอแต่ก็โดนลบไปแล้ว ฮืออยากรู้อะ แบบใครชอบใครก่อน แล้วตอนชาติที่สองใช่มั้ยวะที่ได้กัน
ในนิยายแปลไทยมีถึงตอนได้กันยังวะ
กูขอโทษด้วยถ้าถามไรง่าวๆ รบกวนซักคนชี้ทางหน่อยนะ TT

อีกคำถามคือในอนิเมะก็ไม่วายใช่ป่ะ ถ้างั้นกูคงดูแค่ซีรีย์กับอ่านอิ๊งไปก่อน บ้าเอ๊ย แค่นี้ก็ติดงอมแงมแล้ว กูจะร้อง กูไม่น่าเริ่มดูเลยมึง

300 Nameless Fanboi Posted ID:w8gj5ZywA6

>>299 เรื่องใครชอบใครก่อนไม่แน่ชัด ชอบกันตอนไหนยิ่งไม่ชัดเข้าไปใหญ่ ในสัมแม่โม่ก็เคยพูดว่าจุดนี้แล้วแต่คนอ่านจะตัดสินว่าเขาจะรักกันตอนไหน ใครชอบใครก่อนนี่ที่ไม่ชัดเพราะว่าเคยเห็นคนพูดว่า เราจะนึกว่าพี่วั่งชอบพี่เว่ยก่อน แต่ตั้งแต่เด็กนี่พี่เว่ยก็วอแวหลายจ้านตลอด คืออาจจะเป็นประเภทพวกชอบใครแล้วชอบแกล้ง ชอบแหย่เขางี้ ก็เลยตามแหย่หลานจ้านมาตลอด แต่แค่ไม่รู้ว่าตัวเองชอบเขางี้
ได้กันชาติไหน ก็ชาติสองแหละ แปลไทยน่าจะมีฉากนั้นแต่ว่าตอนนี้เพิ่งออกมา 2 เล่มยังไม่น่าถึง
อนิเมะก็ไม่วายใช่มั้ย เอาจริงๆในความรู้สึกกูพื้นฐานมันมาจากนิยายวายอ่ะ มองด้วยสายตาคนที่รู้ว่ามันเป็นนิยายวายไม่ว่ามันจะตัดฉากวาย ตัดฉากจิ้นออกยังไงกูก็ยังนับว่าเป็นวายหมดนะ แต่อาจจะไม่ได้โจ่งแจ้ง แต่ถ้าเทียบกันซีรีส์กับอนิเมะ อนิเมะนี่ถ้าคนไม่รู้ว่าเป็นวายก็คงดูได้แบบเป็นอนิเมะโชเน็นปกติเลยอ่ะ เพราะเหมือนเขาเน้นทำพวกฉากต่อสู้ไรงี้มากกว่า แล้วถ้าจะมีให้หวีดก็คือมันจะซ่อนๆอยู่อ่ะ อย่างซีซั่นแรกคือมีฉากในถ้ำให้พอกรี้ดกร้าดในใจ กับตอนไปปราบผีน้ำ แล้วก็อาจจะนับตอนที่เรียกให้กลับกูซูด้วยก็ได้ แต่ที่กูมาตายจริงๆคือเพลงปิดตอนเป็นไม่ริษยาคือถ้าฟังแบบไม่ดูคำแปลเพลงก็คือไม่รู้เลย
ส่วนตัวกูชอบนะ มันดูเป็นอะไรที่แบบ something only we know ดีอ่ะ แต่ถ้ามึงมาจากซีรีส์ที่ชงหนัก ชงเข้ม และคาดหวังจะเห็นเขารักกัน จีบกันจริงจังอนิเมะอาจจะไม่ใช่ทางนะกูว่า

301 Nameless Fanboi Posted ID:bqlIrA.e+Q

สปอยเทียนกวาน อาร์ค 2 ต่อจาก >>291 เทียนกวาน Part.68
.
.
.
.
.
เห็นเงาของเซี่ยเหลียนนั่งขดตัวสั่น เด็กชายก็ทำท่าจะเดินเข้าไปหาด้วยความเป็นห่วง แต่เซี่ยเหลียนตะโกนห้ามไว้ สักพักเขาก็ฉีกทึ้งเสื้อตัวเองออกหวังให้อากาศเย็นๆ ช่วย พิษของปีศาจดอกไม้อาศัยกระแสเลือดสูบฉีดไปที่สมองเพื่อให้เหยื่อคุมตัวเองไม่ได้ แล้วทำไมตอนนี้เขายังรู้ตัว เพื่อพิสูจน์ทฤษฎีที่นึกออกเขาเลยเรียกทหารเด็กให้เข้ามาหา ทำเอาเด็กชายรู้สึกกล้าๆ กลัวๆ ไม่แน่ใจว่าควรทำตามหรือไม่เพราะจะเป็นการขัดคำสั่งที่ได้รับในตอนแรก เซี่ยเหลียนสั่งให้อีกฝ่ายทิ้งกระบี่ไว้แล้วช่วยพยุงเขานั่งพิงกับพนังถ้ำ พอทหารเด็กสัมผัสโดนผิวที่ไร้อาภรณ์ของอีกฝ่ายก็รู้สึกได้ถึงความผิดปรกติเลยจะรีบออกไป แต่เซี่ยเหลียนก็รั้งไว้ให้ช่วยตัดเชือกรัดผม ทว่าด้วยความมืดทำให้เด็กชายจับไปโดนส่วนอื่นจนเซี่ยเหลียนเผลอครางเบาๆ ทหารเด็กเลยรีบชักมือกลับ เซี่ยเหลียนสั่งให้เด็กชายพยายามตัดเชือกอีก เมื่อทำสำเร็จเขาก็บอกให้คนตรงหน้ายื่นมือมาแล้วใช้เชือกที่เพิ่งตัดผูกบนนิ้วมือของเด็กชาย อธิบายว่าเขาจำเป็นต้องยืมอาวุธของอีกฝ่ายไว้ ให้ใช้เชือกสีเป็นเครื่องรางป้องกันตัวไปก่อน

เมื่อเด็กชายไปประจำตำแหน่งเดิม เซี่ยเหลียนก็ใช้กระบี่ฟันแขนซ้ายของตัวเอง เป็นดังคาดว่าเมื่อเลือดออกฤทธิ์ของพิษก็เจือจางลงด้วย วิธีรับมือกับพิษดอกไม้ต้องใช้เจตนาสังหารเทพหรือมนุษย์เป็นตัวต้าน เช่นเดียวกับก่อนหน้านี้ที่เขากรีดแขนตัวเองเพื่อวาดเขตอาคม ตัณหากับความกระหายเลือดเป็นความต้องการรุนแรงคล้ายกันเลยหักล้างกันได้พอดี เขากรีดแผลอีกเส้นบนแขน แต่แล้วพิษในร่างกายกลับยิ่งรุนแรงขึ้น ทำให้เซี่ยเหลียนเพิ่งนึกได้ว่าเด็กชายใช้กระบี่เล่มนี้ฟันลำต้นของปีศาจมาก่อน ใบกระบี่จึงเต็มไปด้วยยางของพวกมัน ร่างกายของเขาร้อนขึ้นจนแทบคลั่ง เขารีบใช้แขนเสื้อข้างหนึ่งเช็ดใบกระบี่ กัดแขนเสื้ออีกข้างไว้เพื่อไม่ให้ส่งเสียงประหลาดออกไป แต่เสียงเบาๆ ก็สะท้อนพนังถ้ำไปจนถึงหูของเด็กชายอยู่ดี

บางทีแค่ทำร้ายร่างกายตัวเองอาจยังไม่เพียงพอที่จะเติมเต็มความกระหายเลือด เซี่ยเหลียนจึงแทงกระบี่ลงบนขาซ้าย เสียงกระบี่เฉือนเนื้อ ทำให้ทหารเด็กทนไม่ไหวแล้ววิ่งเข้ามาดูเซี่ยเหลียน เขารีบห้ามอีกฝ่ายด้วยเสียงหวาดกลัวเพราะเกรงว่าจะเผลอฆ่าเด็กชายโดยไม่ตั้งใจ แล้วเขาก็แทงกระบี่ใส่ท้อง ตรึงตัวเองแน่นิ่งกับพื้นถ้ำ ภาพที่เห็นทำให้เด็กชายถึงกับเข่าทรุด ตอนนั้นเองก็มีเสียงคำรามด้วยความโกรธดังมาจากหน้าถ้ำ เป็นเสียงของเฟิงซิ่น ส่วนเสียงงึมงำที่ตามมาทีหลังคือเสียงของมู่ฉิง

เฟิงซิ่นจัดการเผาพวกปีศาจสาวจนหมดสิ้น เมื่อได้ยินเสียงของเจ้านาย เฟิงซิ่นกับมู่ฉิงก็รีบตามเข้ามาในถ้ำ เมื่อเห็นสภาพของเซี่ยเหลียนก็พากันตกใจ รีบดึงกระบี่ออกแล้วพยุงอีกฝ่ายนั่ง เซี่ยเหลียนถามถึงฉีหรง เฟิงซิ่นจึงบอกว่าตอนนี้ฉีหรงถูกราชาสั่งกักตัวอยู่ในวังแล้ว ในตอนที่อีกฝ่ายวิ่งมาหาพวกเขา พอเห็นกระบี่เปื้อนเลือดของเซี่ยเหลียนในมือของฉีหรง พวกเขาเลยรีบตามมาจนถึงที่แห่งนี้ ตอนที่เฟิงซิ่นแบกเจ้านายขึ้นหลัง เซี่ยเหลียนก็ถามว่าระหว่างทางได้เจออะไรหรือเปล่า แต่ยังไม่ทันที่เขาจะเล่าเรื่องของอมนุษย์ใส่หน้ากากตนนั้น ความเหนื่อยล้าและความโล่งใจที่เห็นทหารเด็กเดินตามพวกเขามาโดยปลอดภัยก็ทำให้เซี่ยเหลียนเผลอหลับไป

เซี่ยเหลียนสลบไปนาน 3 วัน หลังจากฟื้นขึ้นมาเขาก็เรียกผู้ติดตามทั้งสองมาคุย เฟิงซิ่นเล่าว่า 3 วันที่ผ่านมาหย่งอันไม่ได้โจมตีเมืองหลวง พวกเขาลองไปสืบเรื่องที่เขาเป้ยจื่อจนพบกับชาวบ้านแต่งตัวเหมือนชาวเซียนเล่อ แต่เมื่อจับตัวมาสืบสวนแล้วถึงได้รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นคนจากอาณาจักรอื่นที่มามอบเสบียงและอาวุธแก่ชาวหย่งอันเพราะอยากให้เซียนเล่อล่มจม เมื่อเซี่ยเหลียนถามถึงทหารเด็กคนนั้น เฟิงซิ่นก็บอกว่าวันนั้นพวกตนไม่ได้สนใจอีกฝ่ายนัก ตอนนี้คงกลับไปที่กองกำลังที่สังกัดแล้ว เซี่ยเหลียนเอ่ยชมฝีมือของเด็กชายให้ทั้งสองฟัง บอกว่าน่าจะใช้ดาบโค้งได้เก่ง ทั้งยังบอกมู่ฉิงว่าหากมีโอกาสให้ช่วยตามหาอีกฝ่ายให้เขาหน่อย เพราะเขาอยากให้เด็กชายมาทำงานด้วย ซึ่งนั่นก็ทำให้มู่ฉิงมีสีหน้าอ่านไม่ออกขึ้นมา

Note. จำได้หรือไม่ว่าฮวาเฉิงมีเชือกสีแดงผูกอยู่ที่นิ้วกลาง
.
.
.
.
.

302 Nameless Fanboi Posted ID:KXOXLzQu9E

>>301 ขอบคุณ​โม่งสปอย
เซี่ยเหลียนอุตส่าห์​กรีดเลือดไล่พิษ ​แต่เสือกติดเชื้อเพิ่มเพราะดาบไม่สะอาด น่าสงสาร (แต่ทำไมกูเชียร์ให้เรียกทหารเด็กมารีดพิษออกด้วยกันแม่งเลย 555)
เพิ่งรู้ที่มาของเชือกบนนิ้วฟาฟา //กรี๊ด

303 Nameless Fanboi Posted ID:qSJYhdmnco

>>301 ขอบคุณเช่นเคย
หูย ของและคำพูดของเซี่ยเหลียนที่ให้กับฟาฟา ฟาฟาไม่เคยลืมจริงๆ ด้วย
เซี่ยเหลียนนี่แก่กว่าฟาฟาใช่ป่ะ ภาพลักษณ์ภายนอกเซี่ยเหลียนดูบอบบางนุ่มนิ่มจนกูลืมไปทุกที แถมในทวิตยังมีคนบอกว่า เซี่ยเหลียน มีหน้าตาแบบเจ้าหญิงดิสนีย์ บอดี้มาร์เวล กูขรรม 5555555

304 Nameless Fanboi Posted ID:mURUAd7n2J

อะไรคือแทงท้องตัวเองตรึงกับผนังถ้ำ โหดสัสส กูจะเพนลม

305 Nameless Fanboi Posted ID:dd6W63bUWR

จำได้ว่ามีคนบอกว่าเรื่องนี้เทพตายได้ช้ะ ยกเว้นโดนคำสาป อย่างตอนนี้เซี่ยเหลียนยังไม่โดนสาป เล่นเอาดาบแทงท้องตัวเองงี้ไม่ตายเหรอวะ หรือว่าเงื่อนไขการตายไม่เหมือนมนุษย์

306 Nameless Fanboi Posted ID:ANuCOLTjCb

>>305 ดาบธรรมดาทำดาเมจได้ไม่มากพอให้เทพตายน่ะ

307 Nameless Fanboi Posted ID:L/KwtPFCZA

>>305 กูอ่านเรื่องนี้จบยังงงๆเรื่องการตายของเทพเหมือนกัน ไม่รู้ว่าแม่โม่อธิบายไว้ที่โน้ตท้ายเรื่องมั้ยเพราะกูไม่ได้อ่าน 555555 คือตอนแรกเข้าใจว่าเทพเป็นอมตะนะ แต่
.
.
.
.
.
.
.
เทพน้ำดันถูกกระชากคอขาดตายอีก ทำเอากูงง
.
.
.
.
.

308 Nameless Fanboi Posted ID:L/KwtPFCZA

>>305 ขอบใจนะมึง กระจ่างแล้ว

309 Nameless Fanboi Posted ID:L/KwtPFCZA

>>308 เชี่ย ตอบกลับผิดอัน อันนี้จะตอบ >>306

310 Nameless Fanboi Posted ID:ANuCOLTjCb

เสริมจาก >>305 อีกอย่างหนึ่งคือเทพสงครามอึด+ฟื้นตัวได้เร็วกว่าเทพทั่วไปด้วย

311 Nameless Fanboi Posted ID:ANuCOLTjCb

อ้าว ตอบผิดอันเหมือนกัน เป็น >>306 นะ 5555

312 Nameless Fanboi Posted ID:dd6W63bUWR

>>310 อ๋อ เหมือน ability ที่มาพร้อมตำแหน่งสินะ แล้วงี้เวลาโดนเนรเทศเงี้ย คือเท่ากับว่าตำแหน่งก็หายช้ะ แบบเป็นเทพแห่งสงครามมาพอโดนเนรเทศ ability ความอึดอะไรพวกนี้ก็หายหมดช้ะ

กูมีคำถามเกี่ยวกับเทพเรื่องนี้เป็นกระบุงเลยอ่ะ วานใครที่รู้ช่วยตอบที
- พวกเทพที่โดนสาปแล้วเนรเทศลงมานี่ ยังนับเป็นเทพอยู่แต่แค่ไม่มีตำแหน่งใช่มั้ย แล้วพวกขอบเขตพลังที่ใช้ได้มีอะไรมั่ง
- แล้วเวลาเทพโดนเนรเทศลงมานี่มนุษย์​จะรู้ป่ะว่าองค์ไหนโดน โดนเรื่องอะไร
- แล้วอย่างที่ว่าตอนเป็นเทพห้ามปรากฏตัวให้มนุษย์​เห็น แล้วตอนโดนเนรเทศลงมานี่ยังยึดกฏนี้เหมือนเดิมป่ะ
- แล้วถ้าความศรัทธาของผู้ศรัทธาแปรผันกับพลังของเทพ ในกรณีที่โดนเนรเทศลงมา (แล้วมนุษย์​ไม่รู้)​ อย่างนี้ถ้ายังเป็นเทพที่มีผู้ศรัทธาอยู่เยอะ ก็ยังได้รับพลังจากผู้ศรัทธาอยู่ใช่ป่ะ

313 Nameless Fanboi Posted ID:ANuCOLTjCb

>>312
.
.
.
.
.
ไม่แน่ใจว่า ability นี้มันติดมากับคลาส หรือว่าเพราะว่ามี ability แบบนี้เลยได้ลงคลาสเทพสงครามอะ แต่เห็นเซี่ยเหลียนหลังโดนเนรเทศแล้วถึงพลังทิพย์มีน้อย ก็ยังฟื้นตัวได้เร็วกว่าคนธรรมดาเยอะนะ

- จะเรียกอย่างนั้นก็น่าจะได้มั้ง แต่ไม่มีใครให้ค่าเคารพนับถือว่าเป็นเทพแล้ว เอาจริงๆ ก็แทบไม่ต่างจากมนุษย์ธรรมดา พลังก็อาจจะมีนิดๆ อย่างเซี่ยเหลียนที่พอใช้เครือข่ายโทรจิตได้บ้าง หรืออวิ๋นอวี้ที่ใช้อาวุธเทพได้นิดหน่อย ยกเว้นจะไปใช้พลังสายอื่นที่ไม่ใช่พลังทิพย์ อย่างรั่วเย่ก็ไม่ได้ใช้พลังทิพย์ในการสร้างเหมือนกัน เซี่ยเหลียนเลยใช้ได้

- รู้สึกในเรื่องจะไม่ได้บอกไว้ตรงๆ นะ เห็นกรณีของเซี่ยเหลียน อวิ๋นอวี้ กับคนๆ นั้น คนน่าจะรู้กัน แต่กรณีเผยซู่ไม่ได้พูดถึงว่ามนุษย์รู้หรือเปล่า เลยไม่แน่ใจว่าตกลงแล้วคนจะรู้หรือเปล่า

- โดนเนรเทศก็ไม่ต้องทำตามกฏนี้ เพราะยังไงก็ใช้ร่างทิพย์ไม่ได้ แต่ถึงจะไปบอกว่าเป็นเทพก็ไม่มีใครเชื่อเพราะว่าไม่มีพลังแล้ว

- ถึงยังมีผู้ศรัทธาแต่คำสาปพันธนาการล็อกไว้ให้เดินพลังในร่างกายไม่ได้ แถมพอไม่ประทานพรให้อย่างที่เคยเดี๋ยวมนุษย์ก็จะค่อยๆ เสื่อมศรัทธาจนเลิกบูชาไปเอง เพราะอย่างนี้เผยหมิงเลยไม่อยากให้เผยซู่โดนเนรเทศนาน เพราะถ้าไม่มีผู้ศรัทธาเหลือแล้วโอกาสจะกลับสวรรค์ก็แทบเป็นศูนย์ ถึงได้พยายามจะโยนความผิดไปให้ปั้นเยวี่ยแทน
.
.
.
.
.

314 Nameless Fanboi Posted ID:ns0VRN8JVb

เมียเผยหมิงนี่มีบอกไว้มั้ยว่าใคร ดูเผยหมิงจะรักลูกมากเลย

315 Nameless Fanboi Posted ID:ANuCOLTjCb

>>314 เมียแม่ทัพเผยมีมากมายมิอาจนับได้หมด แต่แม่ทัพเผยรักทุกคนนะครัช ใครเป็นเมียแก แกช่วยให้มีชีวิตดีๆ หมด 55555 (มีแค่เซวียนจีที่เป็นข้อยกเว้น)
.
.
.
.
.
แต่เผยซู่นี่ไม่ได้เป็นลูกหลายสายตรงของเผยหมิงนะ เป็นลูกหลานของพี่น้องของเผยหมิง ก่อนหน้าเผยซู่ก็เคยมีลูกหลานตระกูลเผยขึ้นสวรรค์มาเหมือนกัน ซึ่งแม่ทัพเผยก็ดูแลดี แต่คนนั้นโดนเนรเทศ และเพราะใช้เวลานานเกินไปผู้ศรัทธาเลยหมดจนขั้นสวรรค์ไม่ได้อีก เผยหมิงเลยกลัวประวัติศาสตร์ซ้ำรอยกับเผยซู่มากจนพยายามช่วยทุกทาง

ไม่ใช่เฉพาะกับลูกหลาน เพราะเพื่อนอย่างซืออู๋ตู้กับหลิงเหวิน แม่ทัพเผยก็พยายามช่วยเหลือตลอดนะ เป็นชิปเปอร์ฮวาเหลียนที่ดี วันเกิดฮวาเฉิงก็ส่งของขวัญให้ ที่จริงแกเป็นคนดีเลยล่ะ ถ้าไม่ขี้หลี ขี้หม้อ มั่นหน้ามั่นโหนกคงไม่โดนคนหมั่นไส้แบบนี้ (แล้วกูก็โมเอะเวลาแกถูกทุกคนรุมรังแก 55555)
.
.
.
.
.

316 Nameless Fanboi Posted ID:WD4mfP2pFQ

>>315 หูยยย กูต้องเปลี่ยนมุมมองใหม่ละ นึกว่าขี้หลีหน้าหม้ออย่างเดียว

317 Nameless Fanboi Posted ID:L/KwtPFCZA

>>315 กูเอ็นดูความโบ๊ะบ๊ะของลุงด้วย โดนแกล้งเเล้วเด๋อด๋าน่ารัก อย่างตอนที่
.
.
.
.
.
โดนทิ้งให้สร้างโลงหนีจากรังเฮ่อเสวียนอยู่คนเดียว สุดท้ายไม่ได้ใช้ เทพน้ำก็จะทิ้งลุง ไหนจะตอนที่ได้เทพฝนช่วยไว้ตั้งหลายครั้งแล้วเสียหน้าอีก 5555
.
.
.
.
.

318 Nameless Fanboi Posted ID:Fs09vlx4Hf

ขอแทรกหน่อย ในfanboi มีมู้ของ MDZS โดยเฉพาะปะ ที่ไม่ใช่รวมมิตรแม่โม่ นี่เลื่อนหาละไม่เจอ
อยากคุยเรื่อง MDZS แต่กลัวโดนสปอยเทียนกวานฯอะ

319 Nameless Fanboi Posted ID:W9m3A1K2wm

>>318 ค้นมู้เก่าเลยเพื่อนโม่ง

320 Nameless Fanboi Posted ID:Y9W4otZPK6

>>301 ขอบคุณโม่งสปอย ไนท์ไนท์

321 Nameless Fanboi Posted ID:7/CiAECOUi

สปอยเทียนกวาน อาร์ค 2 ต่อจาก >>301 เทียนกวาน Part.69
.
.
.
.
.
เซี่ยเหลียนเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนเขาเป้ยจื่อให้ผู้ติดตามทั้งสองคน ซึ่งทั้งสามมีความเห็นตรงกันว่าควรรายงานเรื่องนี้ให้สวรรค์รับรู้ เซี่ยเหลียนรีบเดินทางไปที่ศาลาหลวงบนเขาไท่ชาง ก่อนหน้านี้เขาอาจไปรายงานกับจวินอู่ได้โดยตรง แต่สถานการณ์ในตอนนี้ทำให้เขากลับสวรรค์ไม่ได้ อีกทั้งเขาก็ไม่กล้าสู้หน้ามหาเทพด้วย เขาเลยจำเป็นต้องแจ้งเรื่องผ่านทางรูปปั้นไปแทน แม้วิธีนี้อาจมีโอกาสที่จวินอู๋ซึ่งมีคำขอพรมากมายจะไม่ได้ยินเสียงของเขาก็ตาม

หลังจากนั้นหลายเดือนชาวหย่งอันก็แทบไม่โจมตีเมืองหลวงอีก อีกทั้งอมนุษย์หน้ากากนั่นก็ไม่ได้ปรากฏกายออกมา เซี่ยเหลียนเลยมีโอกาสได้เข้าไปเดินเล่นในเมือง ตอนที่เขากำลังยืนชมวิวบนสะพานก็รู้สึกได้ว่ามีสายตากำลังจับจ้องมาที่ตน พอจับตัวอีกฝ่ายไว้ก็ได้รู้ว่าเป็นทหารเด็กคนนั้น เขาถามว่าทำไมทหารอย่างอีกฝ่ายถึงมาเดินเล่นอยู่ในเมือง เด็กชายตอบว่าเขาถูกไล่ออกจากกองทัพแล้ว และพอเห็นเซี่ยเหลียนไม่รู้เรื่องนี้ก็มีท่าทียินดี แต่ยังไม่ทันที่เขาจะเล่าที่มาที่ไปก็มีชายคนหนึ่งใช้มือกุมใบหน้าไว้มิดวิ่งกรีดร้องมาตามถนน ก่อนตะโกนเสียงดังขอให้ใครก็ได้มาฆ่าตน เมื่อแรกผู้คนต่างคิดว่าชายคนนั้นวิกลจริต ทว่าเมื่อมองใบหน้าของอีกฝ่าย ชาวบ้านก็ร้องลั่นว่าชายคนนั้นเป็นปีศาจ ทุกคนวิ่งมาหลบด้านหลังเซี่ยเหลียนซึ่งจัดการถีบชายคนนั้นกลิ้งไปหลายตลบ เพราะเขาเองก็เห็นว่าชายหนุ่มคนนี้มีใบหน้าของชายชราขนาดเล็กเท่าฝ่ามือปรากฏที่แก้มข้างหนึ่ง เขาหยิบกระบี่ฮองจิ้นขึ้นมา แต่ภาพที่ใบกระบี่ซึ่งสามารถสะท้อนร่างจริงของสิ่งมีชีวิตก็ยังเป็นภาพของชายที่มีสองหน้าคนนั้น แสดงว่าอีกฝ่ายเป็นมนุษย์จริงๆ แล้วเซี่ยเหลียนก็ส่งสัญญาณเรียกเฟิงซิ่นกับมู่ฉิงให้มาสมทบกับตน

ชายคนหนึ่งทำท่าอยากจะบอกอะไรกับเซี่ยเหลียน เมื่อเซี่ยเหลียนอนุญาตเขาก็เล่าให้ฟังว่าเมื่อไม่กี่วันก่อนมีจุดผื่นขึ้นบนหน้าอกของเขา ด้วยความที่ไม่ได้รู้สึกคันหรือเจ็บเขาเลยไม่ได้สนใจพวกมัน เขาถอดเสื้อออกเผยให้เห็นว่าที่หน้าอกของเขามีใบหน้าของผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ ก่อนที่เขาจะวิ่งมาเกาะแขนเสื้อของเซี่ยเหลียนขอร้องให้ช่วยตน พอได้ยินเซี่ยเหลียนบอกว่าไม่ต้องกังวลก็สบายใจว่าเทพอย่างอีกฝ่ายคงมีวิธีจัดการ ทั้งๆ ที่ในใจของเซี่ยเหลียนเต็มไปด้วยความสับสน เขาหันไปสั่งเฟิงซิ่นกับมู่ฉิงให้ไปรายการเรื่องนี้กับทางราชวัง และช่วยค้นให้ทั่วเมืองว่ามีใครมีอาการเช่นนี้อีกหรือเปล่า

เรื่องนี้เป็นเรื่องน่าตกใจมาก ราชาจึงรีบสั่งให้ทหารช่วยกันสอบสวนและค้นหาผู้ป่วยทั่วทั้งเมือง เมื่อถึงตอนกลางคืนพวกเขาก็ยืนยันได้ว่ามีคน 5 คนที่มีใบหน้าอีกอันปรากฏบนร่างกาย และมีอีก 10 กว่าคนที่มีผื่นแดงขึ้น ในกลุ่มนี้ส่วนมากเป็นผู้หญิงและเด็ก พอเห็นทุกคนทักทายปลอบกันและกัน เซี่ยเหลียนเลยได้รู้ว่าทุกคนต่างอาศัยอยู่ที่ขอบรอบนอกของเมืองหลวง พอคิดว่าสิ่งนี้อาจเป็นโรคระบาด เขาก็รีบสั่งให้กักตัวทุกคนไว้และกันไม่ให้คนอื่นเข้าใกล้บริเวณนั้น จากนั้นก็นำคนไปสำรวจพื้นที่ที่ผู้ป่วยอาศัยอยู่ เมื่อเดินเข้าไปในป่า เซี่ยเหลียนและผู้ติดตามทั้งสองของเขาก็นึกออกว่าที่นี่คือที่ที่หลางอิงฝังศพลูกชายของตนไว้

พวกเขารีบตามหาสถานที่ฝังศพทันที จนถึงจุดหนึ่งทุกคนก็ได้กลิ่นเหม็นเน่ารุนแรงออกมาจากใต้ต้นไม้ เซี่ยเหลียนสั่งไม่ให้ทหารธรรมดาเข้ามาใกล้ ในขณะที่เฟิงซิ่นหยิบพลั่วไปขุดดิน ในที่สุดพวกเขาก็พบศพลูกชายของหลางอิงซึ่งบวมอึดใหญ่โตผิดปรกติ แม้จะไม่รู้ว่าสิ่งนี้เป็นคำสาปที่ทำให้เกิดโรคหรือไม่ เซี่ยเหลียนก็ใช้พลังทิพย์จุดไฟเผาศพของเด็กชาย

คืนนั้นชาวหย่งอันก็เข้าโจมตีเมืองหลวงอีก แม้พวกเขาจะไม่ได้เตรียมตัวแต่ก็ยังเอาชนะอีกฝ่ายได้ ทว่ากลับไม่มีชาวเซียนเล่อคนใดที่ดีใจต่อชัยชนะเลย เพราะพวกเขาต่างกังวลกับโรคประหลาดที่ถูกเรียกว่า “โรคหน้าคน” แม้ราชาจะพยายามปกปิดเรื่องนี้ไม่ให้ประชาชนรับรู้ แต่สุดท้ายข่าวก็แพร่สะพัดไปทั่วทั้งเมืองหลวงอยู่ดี
.
.
.
.
.

322 Nameless Fanboi Posted ID:QKwfX8hSa2

>>321 ขอบคุณ​โม่งสปอย
พักรบได้ไม่กี่เดือน โรคระบาดมาอีก อ๊ากกก ไอ้ arc.2 นี่อีกยาวมั้ยวะ ปวดหัวใจเห้ๆ
เหมือนดูปรมจ. ตอนย้อนอดีต กูนี่แม่งอยากโยนเว่ยอิงลงเหวปู๋เย่เทียนให้มันจบ Part ปวดตับนี้สักที T_T

323 Nameless Fanboi Posted ID:TLA/kQHgzK

ขอบคุณนะโม่งสปอย

324 Nameless Fanboi Posted ID:TLA/kQHgzK

>>295 พยากรณ์แบบแทงไฮโลว่าสูงต้องออกต่ำ 100% ถูกแบบตรงกันข้าม
>>301 ถ้ายัยดอกพวกนี้รอดมาได้ถึง 800 ปี ฟาฟาต้องอุ้มเซี่ยเหลียนไปอวดแล้วหัวเราะเยาะเย้ยแน่ๆ เป็นไงล่ะ เกอเกอรักข้าหลงข้าเอ็นดูข้าที่สุด
>>303 ขนาดในสปอยย้ำคำว่า เด็ก เด็กหนุ่ม โคตรบ่อย ยังไม่แน่ใจอีกเร้อว่าฟาฟาเด็กกว่าน่ะ 555

อ่านสปอยล่าสุดแล้วความใจร้าวก็มาเยือนกูอีกแล้ว ย้อนอดีตทีไรอยากกอดอยากโอ๋เซี่ยเหลียนทุกที

325 Nameless Fanboi Posted ID:TLA/kQHgzK

สำหรับเรื่องการตายของเทพที่โม่งข้างบนสงสัยกัน กูขอไขข้อข้องใจตรงนี้หน่อยนะ
.
.
.
.
.
เป็นเทพก็ตายได้ถ้าดาเมจมากพอ ส่วนเทพที่โดนเนรเทศลงจากสวรรค์นอกจากอายุยืนกว่ามนุษย์ปกติก็ไม่สิทธิพิเศษอื่นๆ อีก เหตุผลความเป็นอมตะของเซี่ยเหลียนมาจากตรวนคำสาป [ผนึกพลังเทพ ผนึกอายุร่างกายให้คงเดิม และทำให้ไม่สามารถตายได้] ตรวนคำสาปโมดิฟายโดยท่านมหาเทพจวินอู๋ ลงคำสาปแบบนี้ไว้เพราะรอให้เซี่ยเหลียนกลับสวรรค์ คงเพราะกลัวเซี่ยเหลียนที่ตัวเองเอ็นดู(?)จะตายหรือหมดอายุขัยก่อนได้กลับมา

เช็คพ้อยนต์ ตอนที่ 181
Once banished to become a mortal, other than aging slower than normal humans, there weren’t many other privileges. However, when Jun Wu first fabricated Xie Lian’s cursed shackle, he still showed some mercy and left him room to accommodate.
While this cursed shackle locked away his spiritual powers, it also sealed his age and flesh body at the same time, allowing him to neither age nor die. Furthermore, Jun Wu told him, if you managed to ascend again, then everything in your previous life shall be forgiven, and this thing would be removed.

.
.
.
.
.

326 Nameless Fanboi Posted ID:RmVlh6NV4A

>>325 โม่งสปอยอ่านอิ๊งหรอ กูนึกว่าอ่านจาากจีนสะอีกยังกล้ามาสปอยอีกหรอวะ

327 Nameless Fanboi Posted ID:9M3S4QjVnh

>>326 >>325 ไม่ใช่โม่งสปอย ดูเลข ID สิ ตรงกับ >>323 ที่เขาก็บอกขอบคุณโม่งสปอยอยู่

328 Nameless Fanboi Posted ID:eqIkf+2uRf

>>326 "..ยังกล้ามาสปอย..."
ใช้คำไม่ดีเลยเด้อ จะอ่านจากจีนหรือจากอิ้ง เขามาเสียเวลาเล่าให้กลุ่มฟังก็ดีแล้ว กลุ่มนี้กลุ่มคนชอบงานโม่เซียง เทียนกวานมันยาวและอีกนานกว่าแปลไทยจะออกจบ เขามาสปอยจะได้พอเม้ากันได้ก่อน เผื่อซีรี่ส์อนิเมะมันออกละจะได้พอดูรู้เรื่องกัน กูคนนึงที่อ่านจีนไม่ออก อิ้งไม่กระดิก อาศัยเกาะสปอยเอา ก็มีคนมาแซะอีกละ กูล่ะเบื่อ

329 Nameless Fanboi Posted ID:nj0X1ELeCH

>>326 อีโม่งปสด.กลับมาอีกแล้ว?

330 Nameless Fanboi Posted ID:ihehEqEDAg

>>328 กูก็อ่านโดยรู้แต่แรกแล้วว่าเค้าสรุปจาก Eng นะ ขนาดติดขัดในการถอดเสียงอ่านชื่อ เค้าก็ยังมาเล่าให้ฟัง ดีเทลหรืออีสเตอร์เอ็กก์ที่มันเชื่อมกัน เค้าก็ยังไปขุดสปอยเก่ามาโยงให้
คือกูก็ไม่กล้าขออะไรมากกว่านี้แล้วว่ะ นอกจากขอขอบคุณ​มากๆ

331 Nameless Fanboi Posted ID:TLA/kQHgzK

>>326 กูไม่ใช่โม่งสปอย กูเป็นแค่ผู้ฟังโม่งสปอยเล่านิทานฮวาเหลียน ก่อนที่จะหาเรื่องใครก็หาสติตัวเองให้เจอก่อนเถอะ

แค่คนสงสัยเรื่องเซี่ยเหลียนทำไมไม่ตายกันเยอะ กูเลยแปะข้อความในเนื้อเรื่องไว้ให้ว่ามันมีบอกสาเหตุในนิยาย ทำไมกูแค่แปะประโยคแบบ eng กลายเป็นว่าโม่งโทรลเล็งเป้าไปที่โม่งสปอยได้วะ เห็นคนเชียร์โม่งสปอยเยอะเลยพาลเป็นขี้แพ้ชวนตีเหรอ? แต่โม่งสปอยก็ eng นะ เห็นโพสต์ถามเรื่องวิธีสะกดชื่อแต่ละคนอยู่เพราะไม่มีตัวพินอิน แต่ eng แล้วไง ถึงไม่เป๊ะสมบูรณ์แบบเท่าต้นฉบับจีน แต่ถ้าไม่ใช่ซับนรกไม่ได้บิดเบือนเนื้อเรื่องหรือทำสาระสำคัญหล่นหายก็ ok แล้ว

สู้ต่อไปนะ กูเป็นกำลังใจให้ อย่าไปสนโทรลเลย ไฟท์โตะโม่งสปอย

332 Nameless Fanboi Posted ID:PA0SOFSfc8

กูก็เป็นคนนึงที่อ่านอิ้งจนจบนะ แล้วรู้สึกว่าอิ้งเขาก็แปลดีด้วย(ค่อนข้างมั่นใจว่าเจ้าเดียวกัน) แล้วถ้าอ่านิ้งแล้วมาสปอยมันผิดเหรอ แล้วโม่งสปอยก็สปอยคร่าวๆไม่ได้เจาะจงทุกตัวอักษรถึงขั้นต้องอ่านจีนใฟ้เป๊ะๆเลยปะล่ะ
.
.
.
.
แต่ช่วงย้อนอดีตนี่หน่วงหัวใจจริงๆวะ ขนาดมาอ่านซ้ำยังจะร้องไห้เลย

333 Nameless Fanboi Posted ID:L.XANT0437

มึง ตอนเจอกันครั้งแรกจริงๆของเซี่ยเหลียนกะ ฮวาเฉิง
คือตอนตกกำแพง ตอนนั้นคือฮวาเฉิงคือ ดช.หงหงเอ๋อร์ เซี่ยเหลียนถามว่าอายุเท่าไหร่ หงหงตอบว่าสิบ ซึ่งตอนนั้นเป็นก่อนเซี่ยเหลียนขึ้นสวรรค์ครั้งแรก เซี่ยเหลียนก้อน่าจะประมาณเกือบๆ 17?

ละผ่านไปสามปี ตอนเกิดเหตุชาวหย่งอัน ทหารเด็กที่มาช่วยเซี่ยเหลียนรบ ก้อคือเด็กชายหงหง อายุ ณ ขณะนั้นก้อน่าจะประมาณ 14 มะ (เซี่ยเหลียนเป็นเทพไปแล้ว ร่างก้อน่าจะหยุดอยู่ 17)

แล้วสปอยตอนนี้มาได้ครึ่งทางอาร์คสองยัง กุมีคำถาม
ตอนจบอาร์คสอง ตัวทหารเด็ก ดช.หงหง
.
.
.
.
.
ตายไหม?
ในเรื่องทั้งหมด ฟาฟาตายกี่ครั้งวะ ตายแบบร่างเวอชั่นฮวาเฉิงสลายนี่ อาร์คสุดท้าย? อ่อ อีกคำถาม เค้าได้กันอาร์คไหน 55555
.
.
.
.
.
มึงจะสปอยถึงแค่จบอาร์คสองจิงอะ แง อยากอ่านไปเรื่อยๆจนจบเลย สนุกอะมึง
กุชอบคู่เทพดินกะเทพลม 5555 ชอบความครอสเดรสสายแทรป เฟิงซิ่นกะมู่ฉิงก้อฟีลคู่กัดดีนะ
แต่ตอนนี้อยากรู้ว่า มันจะมีคู่นึงที่ถ้าเฉลยนี่โคดเมเจอร์สปอยคือคู่ใคร? เห็นมึงเคยบอกเจอ fa คู่นี้จากทวิตอะ บอกเหอะกุอยากรู้วว ไหนๆจะสิ้นปีละ ถ้าโม่งปิดจริงนี่กุทำไงวะ คุยต่อยังไงฮรือ

334 Nameless Fanboi Posted ID:9M3S4QjVnh

>>333
.
.
.
.
.
ใช่ ช่วงหย่งอันตีเมือง ด.ช. หงหงเอ๋อร์ อายุประมาณ 14 (แต่ในเรื่องบอกว่าตัวสูงเหมือนอายุ 15-16) ตอนนี้ใกล้จบอาร์ค 2 แล้ว ด.ช. หงหงเอ๋อร์ตายช่วงเซียนเล่อล่มสลาย ซึ่งในเรื่องไม่มีฉากที่หงหงเอ๋อร์ตาย ถ้าจำไม่ผิดคือตายตอนอายุ 18 ไม่แน่ใจว่าเพราะใช้เวลาหลายปีกว่าเมืองจะแตก หรือว่ากูจำผิดเอง ฟาฟาก็ตายครั้งเดียวจากที่มนุษย์กลายเป็นผีนั่นแหละ ส่วนตอนเป็นผีแล้วมีแบบที่วิญญาณเกือบสลายไป 2 หน ทั้งสองได้กันตอนจะจบเรื่อง แต่ว่าเริ่มคบเป็นแฟนกันตั้งแต่ช่วงปลายอาร์คที่ 3 ส่วนคู่โคตรเมเจอร์สปอย... อืม เอาเป็นว่าคือ คนๆ นั้น x อาจารย์เหม่ย (ช่วยหรือเปล่าเนี่ย 555 เพราะเอาจริงๆ คนๆ นั้นใช้ชื่อปลอมจนจบแล้วก็ไม่ได้บอกชื่อจริงออกมา ความจริงอาจารย์เหม่ยก็ใช้ชื่อปลอมเหมือนกัน เสริมอีกอย่างคือคนๆ นั้นถูกกล่าวถึงมาตั้งแต่อาร์คแรกแล้ว)
.
.
.
.
.

335 Nameless Fanboi Posted ID:lJ5fBr.ZlO

>>333 ไปต่อในไลน์เลย มีกรุ๊ปไว้แล้วแต่ตอนนี้โม่งยังไม่ปิด ไลน์จึงเงียบเหงามาก
กูว่าคุยในไลน์ต้องลำบากแน่ โดยเฉพาะการสปอยล์และข้อความยาวๆ

336 Nameless Fanboi Posted ID:L.XANT0437

>>334 >>335 ขอบคุณพวกมึง
คือสำหรับกุถ้าไม่รู้สปอยนิยายก่อนกุดูสื่ออื่นไม่รู้เรื่อง อย่างปรมาจารย์นี่ถ้าไม่ขวนขวายอ่านสปอยมาก่อน คือกุดูทั้งอนิเมะทั้งซีรี่ย์ไม่รู้เรื่องนะ คืออาจจะรู้คร่าวๆแต่ความอินความก๊าวจะไม่เท่าอ่านสปอยเตรียมไว้ก่อน
นี่กุไปอ่านม่านฮวาเทียนกวานมาหน่อย อห แม่มึงเอ๊ยยย ตัดสั้นเหี้ยๆ ใครว่าอนิเมะปรมจตัดสั้นแล้ว มึงลองมาดูม่านฮวาเทียนกวาน สั้นจัดๆ คือถ้าไม่อ่านสปอยไปก่อนนี่ไม่มีทางรู้เรื่องเด็ดขาด ม่านฮวาปรมจกุว่ายังวาดลงเนื้อหากว่าอีก แต่ถึงตัดสั้นกุก้ออยากอ่านอะ อยากเห็นหน้าฮวาเฉิงง 5555 แต่เซี่ยเหลียนแม่งวาดออกมาหน้าสวยไปป่ะวะ แต่ฮวาเฉิงเท่ดีชอบ กรี๊ดกร๊าด

เออ ใกล้จบอาร์ค 2 ภาคย้อนอดีต มันจะย้อนอีกที คืออาร์ค 4 ช่ะ ตอนนั้นคือจะย้อนอดีตฮวาเฉิงด้วยว่าผ่านอะไรมา กว่าจะเป็นอ๋องผีได้ ? อาร์ค 4 นี่เนื้อเรื่องพูดถึงอะไรเป็นหลักวะ กุพยายามจับจุดโยงแต่ละช่วง เตรียมความพร้อมรอ media อื่นลงจอ
อยากรออ่านสปอยตอนนี้ด้วย กุสงสารฮวาเฉิง ตอนสิบขวบที่หนีเซี่ยเหลียนออกจากเขาไท่ซาน ผ่านไปสามปีกลับมาเจอกันอีกที ตอนไปไหว้เซี่ยเหลียนในอารามยังร้องอยู่เลยว่าไม่อยากมีชีวิตอยู่ จนตายตอนเซียนเล่อล่ม
คือก่อนสิบขวบอยู่มายังไง พ่อแม่ไปไหน หลังตายยังไงต่อ กุสงสาร อยากทะลุเข้าไปกอดอิเหี้ย

337 Nameless Fanboi Posted ID:9M3S4QjVnh

>>336 กูก็ว่าเซี่ยเหลียนหน้าสวยไปเหมือนกัน ปากแดงมาก
.
.
.
.
.
ใช่ ย้อนอีกทีที่อาร์ค 4 เป็นเนื้อเรื่องช่วงหลังจากเซี่ยเหลียนถูกเนรเทศจนถึงตอนที่เซี่ยเหลียนถูกเนรเทศครั้งที่ 2 ซึ่งเนื้อเรื่องค่อนข้างหนักกว่าอาร์คที่ 2 เยอะ มีฉาก gore และฉากทำร้ายจิตใจหลายฉาก

ส่วนประวัติฮวาเฉิงเอาจริงๆ เรื่องไม่ค่อยบอกนะ บอกก็จะเป็นแนวเล่าผ่านๆ มากกว่า จากที่แพลมๆ ในเนื้อเรื่องกับสัมภาษณ์แม่โม่ กูพอเดาได้ว่าฮวาเฉิงน่าจะเป็นลูกอนุ มีพี่ชายคนละแม่อยู่ 2 คน เพราะเป็นคนดวงอับขนาดนี้ แม่แท้ๆ (ที่รักลูก) เลยตายตั้งแต่ฮวาเฉิงยังเด็ก ที่บ้านมีแม่เลี้ยงที่ชอบด่าว่า กับพ่อที่ชอบทำร้ายร่างกาย ส่วนพี่ชายสองคนไม่ได้กล่าวถึงแต่ก็คงไม่ดีเท่าไร หลังตายในฐานะทหารก็กลายเป็นวิญญาณกีกี้มาคอยตามเซี่ยเหลียน
.
.
.
.
.

338 Nameless Fanboi Posted ID:alQTCHQTb8

>>337 ที่ปากแดงแปร๊ดขนาดนั้นเพราะน้องเสี่ยวอิ๋งจับโบ๊ะหน้ามาไม่ใช่เหรอ ภาพตอนไม่แต่งหน้าก็ไม่ได้แดงแจ๊ดแจ๋นะ ในนิยายตอนแต่งเองออกมาสภาพดูไม่จืด เราอยากเห็นตอนเซี่ยเหลียนแต่งหญิงเองด้วยลายเส้นคุณ starember มาก เสียดายไม่มี (ถ้าตอนนี้จุ๊บฟาฟาแล้วรอยลิปติด ฟาฟาต้องไม่ยอมล้างหน้าจนเซี่ยเหลียนต้องจับล้างแหงเลย 555+)

339 Nameless Fanboi Posted ID:uFS9h24/3O

>>338 คิดเหมือนกัน ที่สวยขนาดนี้คือโดนจับแต่งหน้าแล้ว 5555 กูเลยขำคนที่อ่านม่านฮวาแล้วบอกว่าเซี่ยเหลียนเป็นเคะหน้าสวย แต่ความจริงเขาไม่ได้สวยขนาดนั้น แต่เมคอัพมันดีไง

340 Nameless Fanboi Posted ID:iTmtb5oBIg

สปอยเทียนกวาน อาร์ค 2 ต่อจาก >>321 เทียนกวาน Part.70
.
.
.
.
.
หลังจากนั้นชาวหย่งอันก็โจมตีเมืองหลวงถี่ขึ้นเรื่อยๆ จนเซี่ยเหลียนแทบหาเวลาไปสร้างฝนที่หย่งอันไม่ได้ อีกทั้งยังต้องใช้ทั้งพลังงานและพลังทิพย์ในการช่วยเหลือผู้ป่วยโรคหน้าคนที่เพิ่มจำนวนขึ้นไม่หยุด แม้จะไม่สามารถรักษาให้หายขาด แต่ก็ช่วยทำให้ใบหน้าแปลกปลอมพวกนั้นยุบลง ขณะที่เขากำลังเดินผ่านผู้ป่วย ชายคนหนึ่งก็จับชายเสื้อคลุมของเขาไว้ ร้องถามว่าตนจะไม่ตายใช่หรือไม่ หลังจากมองอีกฝ่ายพักหนึ่งเซี่ยเหลียนก็จำได้ว่าชายคนนี้คือคนที่เคยมอบร่มให้กับเขา เมื่อเซี่ยเหลียนตอบว่าเขาจะพยายามทำให้ดีสุด ดวงตาก็ชายคนนั้นก็มีความหวังขึ้นมา แต่มันกลับทำให้เซี่ยเหลียนรู้สึกผิดมากขึ้นที่ไม่สามารถช่วยเหลือคนของตนได้

เซี่ยเหลียนเดินไปนั่งข้างกองไฟกับมู่ฉิง ได้ยินเสียงทหารคุยกันว่ามีผู้ป่วยเสียชีวิตไป 4-5 คนแล้ว ไม่ใช่ด้วยโรค แต่เพราะไม่อาจทนรับสภาพตัวเองได้จึงฆ่าตัวตาย ไม่นานนักเฟิงซิ่นก็มานั่งด้วย เขาบอกว่าไม่ว่าจะสืบอย่างไรก็ไม่พบร่องรอยของหลางอิงกับอมนุษย์ชุดขาว ส่วนชาวหย่งอันเท่าที่แอบสังเกตดูก็ไม่มีใครเป็นโรคหน้าคนแม้แต่คนเดียว นั่นยิ่งตอกย้ำว่าหย่งอันเป็นผู้อยู่เบื้องหลังโรคประหลาดนี้ แล้วเซี่ยเหลียนก็ตั้งข้อสังเกตว่าหากมันเป็นคำสาปจริงๆ เหตุใดจึงสาปใส่ประชาชนแทนที่จะเป็นทหาร โรคหน้าคนเหมือนจะสามารถติดต่อผ่านการสัมผัสใกล้ชิด แต่ทำไมทหารที่ทำกิจวัตรต่างๆ ด้วยกันจึงไม่ติดโรค เขาเลยอยากสืบหาว่าคนประเภทใดที่มีภูมิต้านทานจะได้หาวิธีหยุดยั้งการแพร่ระบาด

คนป่วยที่พบมักเป็นผู้หญิง เด็ก คนหนุ่มสาว หรือชายร่างเล็ก แต่จะคิดว่าคนป่วยมีแต่คนร่างกายอ่อนแอก็ไม่น่าจะใช่ เพราะคนป่วยที่พบคนแรกก็เป็นชายซึ่งมีร่างกายแข็งแรงดี พอคิดว่าทหารทำอะไรต่างจากประชาชนทั่วไปเซี่ยเหลียนก็รู้สึกไม่ดีขึ้นมา เขาพยายามปฏิเสธความคิดของตัวเอง แต่ก็ยังอยากพิสูจน์อยู่ดี แต่พอมู่ฉิงถามว่าจะให้เขาไปหาคนมาหรือไม่ เซี่ยเหลียนที่ไม่อยากใช้คนเป็นๆ เป็นหนูทดลองก็ไม่ยอม มู่ฉิงบอกว่ามันคือวิธีที่ดีสุดในตอนนี้แล้ว เฟิงซิ่นจึงด่าอีกฝ่ายที่ทำให้เจ้านายลำบากใจ แต่มู่ฉิงก็ตอกว่าตนแค่พูดความจริง เพราะมาถึงจุดนี้แล้วมามัวยืนสงสัยโดยไม่ทำอะไรได้อย่างไร ทั้งสองเริ่มทะเลาะกันหนักขึ้น เซี่ยเหลียนจึงสั่งให้ทั้งคู่แข่งต่อคำเพื่อที่จะได้หยุดโต้เถียงกัน ส่วนเขาก็ตัดสินใจเดินไปสอบถามทหาร 3 คนที่ติดโรคด้วยตัวเอง เมื่อกลับมาเขาก็สั่งให้ทั้งสองคนไปพาทหารทุกคนที่อยู่ในหน่วยเดียวกับทหารที่ป่วยมาพบเขาทีละคน

วันต่อมาเซี่ยเหลียนเริ่มสัมภาษณ์ทหารมากกว่า 300 คน การที่ทุกคนตอบคำถามของเขาเหมือนกันทั้งหมดยิ่งทำให้ใบหน้าของเซี่ยเหลียนเครียดขึ้นเรื่อยๆ หลังจากเสร็จสิ้นเขาก็สั่งให้เฟิงซิ่นกับมู่ฉิงปกป้องประตูเมืองในขณะที่เขาไปเขาไท่ชาง เมื่อมู่ฉิงถาม เขาก็บอกอีกฝ่ายไปว่าโรคหน้าคนเป็นคำสาปจริงๆ และตอนนี้เขาก็ได้คำตอบแล้วว่าคนประเภทใดที่จะไม่ติดโรค แม้จะรู้สาเหตุแล้ว แต่เมื่อเห็นสีหน้าของเจ้านายไม่มีความยินดีปรากฏอยู่เลย เฟิงซิ่นกับมู่ฉิงที่เข้าใจว่าคงเป็นเรื่องที่จัดการไม่ได้ง่ายๆ เลยไม่คิดจะถามออกไป

เซี่ยเหลียนไปหอมหายุทธิ์เพื่อพบกับราชครู เขาต้องการให้อาจารย์ซึ่งเป็นนักบวชชั้นสูงช่วยติดต่อขอความช่วยเหลือจากจวินอู๋ เพราะตอนนี้เซียนเล่อกำลังเผชิญกับคำสาปที่ไม่เคยพบมาก่อน และต้องเป็นฝีมือของอมนุษย์อย่างแน่นอน ทว่าราชครูกลับตอบว่าไม่ใช่ว่าตนไม่อยากช่วย แต่ถึงเขาจะใช้ตัวเองเป็นร่างทรงให้มหาเทพได้พูดคุยกับเซี่ยเหลียน เขาก็เชื่อว่าคำตอบของจวินอู่จะต้องทำให้เซี่ยเหลียนผิดหวังอย่างแน่นอน
.
.
.
.
.

341 Nameless Fanboi Posted ID:eX+rmClRpc

>>340 ขอบคุณ​โม่งสปอย
กูว่าชายเจ้าของร่มไม่รอดแหงๆ ฮือ ปวดใจแทน
เซี่ยเหลียนเป็นเทพแต่ไม่กลับสวรรค์สักที ลงมาอยู่กับชาวบ้านกะทหารยาวๆ อย่างนี้แทบไม่ต่างจากสมัยเป็นเจ้าชายเลย

342 Nameless Fanboi Posted ID:vTvtvy0sOe

>>338 เอออ กุลืมไปเลยว่าโดนเสี่ยวอิ๋งจับแต่งหน้า บอกแล้วม่านฮวามันตัดฉับๆฉากแต่งหน้าไม่มี ที่กุเห็นคือเตี้ยนเซี่ยกุหน้าเต็มพร้อมขึ้นสเตจเลยจ้ะ
>>340 ชายหน้ากากชุดขาวนี่ ปล่อยคำสาปช่ะ ทำเพื่อรัยวะ อยากรู้เบื้องหลัง แต่วิธีหยุดคนทะเลาะกันคือการสั่งให้แข่งต่อคำ เอ้อดี

กุยังคาใจ คู่เมเจอร์สปอย ใช่
.
.
.
.
.
อจ กะ จวินอู๋ ป่ะ
.
.
.
.
.
กุจะเดาไปเรื่อยๆ ถูกเมื่อไหร่บอกด้วย กุไปไถทวิตแล้วแต่ไม่เจอง่า
เพื่อนโม่งคนดี ยังไงก่อนโม่งดับถ้ากุยังเดาไม่ถูก เฉลยก่อนจากลากันด้วยนะ 55555

343 Nameless Fanboi Posted ID:99T4AK7PtT

>>342 ขออนุญาตตอบแทนนะ
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ใช่ บอกแค่นี้ละกัน ไม่สปอยมากเดี๋ยวไม่ลุ้นต่อ
.
.
.
.
.
.
.
.

344 Nameless Fanboi Posted ID:cxvJ4AX/j+

>>343 จิงดิ้!?! ข่อมค่าาาา
โอ๊ยกุคิดมาตลอดเลยนะว่าคู่เมเจอร์สปอยจะเป็นใคร พอรู้ละจากนี้จะได้จับตาดูการกระทำ 5555 ใครไม่อยากรู้สปอยอย่าอ่านที่กุถามข้างบนนะ แต่กุใส่จุดไว้ หลบๆเอาเด้อ

345 Nameless Fanboi Posted ID:vuO5ZQ4./l

ขอบคุณโม่งสปอย ไนท์ไนท์ >>343 พอเห็นเรื่องคู่เมเจอร์สปอยแล้วกุนอนตาหลับเลย เดาไว้! ต่อไปจะจับตาไม่กระพริบ

346 Nameless Fanboi Posted ID:3u1ThLf7bZ

สปอยเทียนกวาน อาร์ค 2 ต่อจาก >>340 เทียนกวาน Part.71
.
.
.
.
.
ราชครูถามเซี่ยเหลียนว่ายังจำเรื่องที่เขาบอกว่าในโลกนี้โชคชะตาทั้งดีและร้ายล้วนถูกกำหนดไว้แล้วได้หรือเปล่า เดิมทีชาวหย่งอันถูกลิขิตให้ตาย แต่การที่เซี่ยเหลียนไปสร้างฝนเป็นการช่วยต่อชีวิตให้อีกฝ่าย แม้ไม่สามารถแก้ภัยแล้ง แต่ตอนนี้คนเหล่านั้นก็คือทหารหย่งอันที่กำลังต่อสู้อยู่ ในตอนแรกเมืองหลวงถูกกำหนดให้ต้องเสื่อมโทรมลง แต่การที่เซี่ยเหลียนลงมาจากสวรรค์เป็นการทำให้ชาวเมืองมีความหวัง ถึงอย่างนั้นเซี่ยเหลียนกลับไม่ใจแข็งพอที่จะจำกัดศัตรู และหลังจากผ่านสมรภูมิครั้งแล้วครั้งเล่ามันก็ก็ทำให้ชาวหย่งอันแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ เซี่ยเหลียนทำทั้งหมดนี้ไปเพื่ออะไร เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายสำนึกแล้วมาเริ่มต้นกันใหม่ กลายเป็นหนึ่งเดียวกันอีกอย่างนั้นหรือ

แม้จะรู้สึกอับอาย แต่ใจหนึ่งเซี่ยเหลียนก็สับสน เขาช่วยเหลือผู้คนเพราะคนเหล่านั้นเป็นผู้บริสุทธิ์ไม่สมควรตาย ทุกการกระทำผ่านการตัดสินใจหลังใคร่ครวญเป็นอย่างดี แต่ทำไมพอฟังจากปากคนอื่นแล้วกลับช่างดูน่าขันราวกับว่าสิ่งที่เขาทำมาทั้งหมดเป็นเรื่องล้มเหลว ราชครูกล่าวต่อว่าเซี่ยเหลียนแทรกแซงเรื่องในภพมนุษย์ทำให้ชะตาของเซียนเล่อพลิกพันยุ่งเหยิง เพื่อรักษาสมดุล ธรรมชาติจึงสร้างสิ่งที่จะทำให้เรื่องกลับไปเป็นอย่างที่ควร แม้เขาจะไม่รู้ว่าอมนุษย์ตนนั้นเป็นเช่นไร แต่ก็คิดว่ามันเกิดขึ้นมาเพราะเซี่ยเหลียน เพราะอย่างนั้นมหาเทพจึงได้ห้ามไม่ให้เซี่ยเหลียนลงมาภพมนุษย์ แต่คนหนุ่มกลับไม่ยอมฟังคำแนะนำ ไม่เชื่อว่าตัวเองจะเดินผ่านไปไม่ได้จนกว่าจะล้ม

เซี่ยเหลียนไม่อยากจะเชื่อ เขาถามอาจารย์ว่าเป็นเพราะต้นเหตุของโรคหน้าคนคือตัวเขา และสิ่งที่อมนุษย์หน้ากากทำก็เป็นความผิดของเขา สวรรค์เลยไม่มาช่วยอย่างนั้นหรือ ราชครูบอกว่าจะโทษตัวเองก็ไม่ผิด แต่หากดูที่โชคชะตาจะโทษว่าเป็นเพราะพ่อแม่เซี่ยเหลียนให้กำเนิดเขาขึ้นมาก็ได้ และหากมองในแง่นี้ก็สามารถโทษบรรพบุรุษของเซียนเล่อได้เช่นกัน การจะมานั่งบอกว่าใครเป็นคนผิดเป็นสิ่งที่ไม่มีความหมาย เซียนเล่อถูกกำหนดให้ต้องล่มสลาย เซี่ยเหลียนเป็นคนทำให้เรื่องวุ่นวายจึงไม่มีใครบนสวรรค์คิดจะมาตามจัดการให้ เซี่ยเหลียนข่มตาลงก่อนถามว่าถ้าเขาหายไป อมนุษย์ตนนั้นจะหายไปด้วยหรือเปล่า ราชครูตอบว่าคงไม่เป็นอย่างนั้น เมื่อทราบว่าถึงพูดคุยต่อก็ไม่มีอะไรดีขึ้น เซี่ยเหลียนจึงกล่าวลาอีกฝ่าย ราชครูถามเขาว่าคิดจะทำอย่างไรต่อไป เซี่ยเหลียนเลยตอบไปว่าในเมื่อถึงเขาจะหายไปก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง สิ่งเดียวที่เขาทำได้ก็มีแต่สู้ต่อไปให้ถึงที่สุดเท่านั้น ไม่ว่าจะยากลำบากแค่ไหน เขาก็จะปกป้องคนของเขาไว้ให้ได้

ครึ่งเดือนหลังจากนั้นหลางอิงก็นำคนเข้าโจมตีเมืองหลวงอีก เมื่อเห็นอีกฝ่าย เซี่ยเหลียนก็พุ่งฝ่าคนเข้าไปหาพร้อมตะโกนถามถึงอมนุษย์ตนนั้น หลางอิงไม่ตอบแต่กลับถามเขากลับว่าเซี่ยเหลียนเคยบอกว่าฝนจะตกในหย่งอันอีกไม่ใช่หรือ เป็นเพราะผู้ป่วยโรคหน้าคนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เซี่ยเหลียนที่อยู่ช่วยทางนี้เลยไม่ได้ไปสร้างฝน และในเมื่อทำเช่นนั้นไม่ได้เขาเลยฝากหมวกไม้ไผ่ให้เฟิงซิ่นนำไปคืนเทพแห่งฝนแล้ว เขาตอบหลางอิงด้วยความโกรธว่าเขาเป็นคนสร้างฝน คิดไม่ออกหรือว่าเพราะอะไรฝนถึงไม่ตกลงมาอีก หลางอิงเอ่ยด้วยความเยือกเย็นว่าเขารู้ว่าถึงไม่มีโรคหน้าคนพลังของเซี่ยเหลียนก็เริ่มลดลงแล้ว มีคนน้อยมากที่รอดชีวิตในหย่งอัน การกระทำของเซี่ยเหลียนเป็นสิ่งเปล่าประโยชน์ ทำไมถึงได้คิดว่าไม่ว่าจะทำอะไรก็จะประสบความสำเร็จ แทนที่จะมอบชะตาของเขาให้อยู่ในมือของเซี่ยเหลียน เขาขอเป็นคนกำหนดชะตาของตัวเองดีกว่า

คำพูดนั้นทำให้เซี่ยเหลียนโกรธ เขาแทงกระบี่ใส่อีกฝ่าย ทว่าถึงจะมีเลือดออกแต่กลับไม่สามารถทะลุหัวใจของหลางอิงได้ สำหรับผู้ที่ถูกกำหนดให้มีชะตาอันยิ่งใหญ่ เมื่อถึงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานร่างกายของพวกเขาจะแผ่พลังป้องกันที่แม้แต่เทพก็ทำอะไรไม่ได้ และในตอนนี้หลางอิงก็มีแสงรัศมีแห่งราชันอยู่รอบตัว เขาไม่สามารถฆ่าหลางอิงได้แล้ว หลางอิงแทงดาบอกของเซี่ยเหลียนท่ามกลางสายตาของทหารทั้งฝ่ายเมืองหลวงและหย่งอัน เทพแห่งสงครามถูกแทง คนของเขาที่คิดว่าตนเป็นกองทัพของเทพจะคิดอย่างไร จะยังมั่นใจว่าจะได้รับชัยชนะเหมือนเคยได้อย่างไร แม้สุดท้ายพวกเขาจะเป็นฝ่ายชนะ แต่เซี่ยเหลียนกลับรู้สึกว่าตนพ่ายแพ้แล้ว อีกทั้งมู่ฉิงยังมาแจ้งอีกว่าแค่วันนี้วันเดียวก็มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอีกนับร้อย เมื่อถูกเฟิงซิ่นถามว่าทำไมวันนี้เขาถึงไม่ฆ่าหลางอิงทั้งๆ ที่ได้เปรียบ เซี่ยเหลียนก็ไม่อยากบอกความจริงว่าตอนนี้หลางอิงมีรัศมีราชัน และในตอนนั้นเองก็มีเสียงกรีดร้องเรียกให้เซี่ยเหลียนช่วยตน พอเซี่ยเหลียนที่ไม่มีเวลาแม้แต่จะดื่มน้ำรีบวิ่งไปก็พบว่าอีกฝ่ายคือชายที่ให้ร่มกับเขาในตอนนั้น
.
.
.
.
.

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.