Fanboi Channel

[รวมมิตรโม่เซียง] เม้าท์เรื่อง ปรมาจารย์, ตัวร้าย​อย่างข้า, เทียน​กวาน​ ฯลฯ​ เล่มที่​ 12 [นิยาย อนิเม ดราม่า ละคร สปอย]

Last posted

Total of 1000 posts

1 Nameless Fanboi Posted ID:asHNnV9AsO

กระทู้ 1​ >>>/801/5933/
กระทู้ 2 >>>/801/6012/
กระทู้ 3 >>>/801/6083/
กระทู้ 4 >>>/801/6178/
กระทู้ 5 >>>/801/6235/
กระทู้ 6 >>>/801/6331/
กระทู้ 7 >>>/801/6492/
กระทู้ 8 >>>/801/6709/
กระทู้ 9 >>>/801/7090/
กระทู้ 10 >>>/801/7386/
กระทู้ 11 >>>/801/7776/

2 Nameless Fanboi Posted ID:Ubkmk8g3+C

สาระน่ารู้ ข้อห้าม และข้อควรระวัง
(มีคนอื่นสรุปทุกอย่างไว้ที่นี่เป็นข้อ ๆ สรุปดีและชัดเจน ครอบคลุมทุกประเด็นดราม่าด้วย พิมพ์ในนี้เองเสร็จหมดแล้วเพิ่งเห็น
https://twitter.com/Sinnerdarker/status/1056487008174915595ดีงาม เก็บไว้ดูได้ สั้นดีด้วย )
---------------------------------------------
1. แม่โม่ห้ามทำของขายเชิงพาณิชย์ ห้ามเรี่ยไรเงิน/ระดมทุนด้วยการอ้างชื่อ/นิยาย/ตัวละคร
---------------------------------------------
สรุปภาษาไทยเรื่องทางอฟช. ของปรมาจารย์ลัทธิมาร "ไม่อนุญาต" ให้ทำงาน Fan Made ขาย
https://twitter.com/Sinnerdarker/status/1052084168375422980
*ข้อมูลเพิ่มเติม*
มีคนสรุปเป็นภาษาอังกฤษเรื่องแม่โม่ไม่อนุญาตให้ทำสินค้าปรมจ. ขาย
https://twitter.com/rossogattino/status/1049632239913295873
แปลแบบสรุป ๆ คือคุณโม่เซียงถงซิ่วแจ้งว่าห้ามขายของแฟนเมด ห้ามเอาชื่อเรื่อง ชื่อตัวละคร หรือตัวละครไปใช้ในเชิงพาณิชย์หรือหาเงิน และแฟน ๆ ที่รู้เรื่องกฎนี้ก็ควรแบน ไม่ไปอุดหนุนของพวกนั้นด้วย
ส่วนสาเหตุที่ห้าม ก็คือเรื่อง ปรมจ. (MDZS) นี่มันติดสัญญาลิขสิทธิ์อยู่กับ Jinjiang และทางนั้นก็เป็นผู้ถือสิทธ์โดยเด็ดขาดเกี่ยวกับสินค้าทุกอย่างที่มาจากเรื่องนี้
ส่วนอันนี้เป็นข้อความจากแม่โม่ มีคนเอามาแปลอังกฤษ
https://twitter.com/YSFYC_CRT/status/1052545036045283329
ลิ้งก์นี้มีรูปต้นฉบับ เป็นข้อความของแม่โม่จากใน Weibo แล้วก็มีแปลภาษาอังกฤษให้ ถ้าแปลเป็นไทยคร่าว ๆ ก็ประมาณนี้
1. เกี่ยวกะเรื่องเข้าร่วมโหวตอันดับอะไรสักอย่าง ขอข้ามละกัน มึน
2. ห้ามรวมตัวเรี่ยไรเงินหรือระดมทุน หรือระดมเงินบริจาคใด ๆ โดยอ้างชื่อแม่โม่หรือผลงานของแม่โม่ หรือตัวละครของแม่โม่ ห้ามชักชวนรวมกลุ่มกันไปจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อเฉลิมฉลอง หรือซื้อสินค้า หรือไปโหวตอันดับ หรือหาเงินการกุศล หรือกิจกรรมใด ๆ โดยใช้ชื่อหรือตัวละครที่เกี่ยวกับแม่โม่หรือนิยายของแม่โม่
3. ห้ามตั้งโฮมเพจใหม่ใด ๆ โดยใช้ชื่อเกี่ยวข้องเกี่ยวพันกับงานนิยายของแม่โม่ ห้ามอ้างชื่อไปจัดตั้งกลุ่มเรียกผู้อ่านเพื่อไปฉลอง ซื้อของ โหวตอันดับ จัดงานการกุศล หรือกิจกรรมอื่น ๆ (เช่น ห้ามจัดงานใหญ่ที่เปลืองเงินหรือใช้เงิน สมตติ งานวันเกิดตัวละคร (จัดได้ แต่ห้ามใหญ่โตและห้ามเปลืองเงิน - เค้าคงกลัวคนฉวยโอกาสหากำไรจากติ่งนิยายสายเปย์พร่ำเพรื่อ และถ้าเป็นไปได้อยากให้วาดรูปหรือเขียนอะไรเพื่อฉลองดีกว่า อย่าไปเปย์เลย))
ท้ายข้อความมีแปลบอกแม่โม่บ่นแบบน้อยใจด้วย ว่าห้ามจนปากเปียกปากแฉะจนเบื่อจะพูดแล้ว ถ้าคนจะหัดฟังบ้างก็คงดี ถถถ คับแค้นเหลือคณา
อันนี้ละเมิดไม่ได้ เพราะเป็นกฎหมายว่าด้วยเรื่องลิขสิทธิ์และทรัพย์สินทางปัญญา
อ้อ ไหน ๆ พูดถึงลิขสิทธิ์แล้ว แถมอีกเรื่อง คือเรื่องการแต่ง cosplay เนื่องจากบริษัทที่ถือลิขสิทธิ์นั้นออกชุด "เลียนแบบตัวละคร" มาเป็นสินค้าอฟช. ดังนั้นจึงห้ามคอสเพลย์โดยตัดชุดเองหรือสั่งจากร้านอื่น เพราะถือว่าละเมิดลิขสิทธิ์ ใครอยากแต่งตัวตามแบบตัวละครก็สั่งจากอฟช. จากร้าน Uwowo เถอะจ้ะ
อันนี้มีแฟน (มั้ง) ประกาศเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าเขาแปลมาถูกต้องแม่นยำแค่ไหน แต่ก็คงพอจะใช้อ่านไว้เป็นแนวทางได้
https://twitter.com/aubrey8810/status/1035823028444098560
คนแปลจีนเป็นอังกฤษอีกคนหนึ่งสรุปให้ว่า แต่งได้ (โดยใช้ชุดจากอฟช.) ถ่ายรูปไปเผยแพร่ได้ แค่อย่าใช้คำว่าคอสเพลย์ ให้เรียกว่าแต่งตัวเลียนแบบตัวละครxxx อะไรก็ว่าไป (บางคนอาจงงหรือเห็นว่ามันประหลาด แต่ก็เป็นกฎจากผู้ถือลิขสิทธิ์อะนะ ยอม ๆ เขาไปเถอะ)
https://twitter.com/ManhuaAssistant/status/1036148201651204101
อ้างอิงข้อมูลและความคิดเห็นจากในโม่งที่มีการพูดคุยเรื่อง "คอสเพลย์"
>>>/801/6178/860/
>>>/801/6178/868/
>>>/801/6178/869/
>>>/801/6178/873/
>>>/801/6178/878/

3 Nameless Fanboi Posted ID:Ubkmk8g3+C

---------------------------------------------
2. ไม่ควรโรลเพลย์สาธารณะหรือทำบอทตัวละคร
---------------------------------------------
อันนี้จากที่เคยคุย ๆ กันว่าแม่โม่ห้ามบอท วันนี้เพิ่งเห็นทวิตคนอื่น (อันเดิมที่คุยต่อจากคนที่เขียนสรุปข้อห้ามไว้นั่นแหละ) เขาไปทราบมาว่า ที่บอก ๆ กันว่าห้ามบอทนี่ที่จริงเป็นการที่ด้อมฝั่งฝรั่งเขาตีความกันเองจากที่แม่โม่บอกว่าไม่ให้ OOC เพราะการโรลเพลย์หรือทำบอทมันมักจะ OOC
ก็ไม่รู้จริงเท็จอย่างไร แต่ฝากไว้ให้พิจารณาด้วยก็แล้วกัน
ถ้าใครอ่านจีนคล่องแล้วหาต้นฉบับที่บอกว่าห้ามทำบอทเจอจริง ๆ ก็ช่วยแปะให้ดูที
อ้างอิงเรื่องแม่โม่ห้ามบอท และเหตุที่ห้าม (เพราะมันจะ OOC)
>>>/801/6012/962/
>>>/801/6012/963/
>>>/801/6083/172/
อ้างอิงเรื่องบอทคืออะไร เผื่อใครยังไม่เก็ต
>>>/801/6012/972/
>>>/801/6012/973/
>>>/801/6083/173/
---------------------------------------------
3. เขียนฟิกชั่น โดจิน แฟนอาร์ตได้ แต่ห้ามแหก(แยก)คู่หลักของแต่ละเรื่อง ห้ามสลับตำแหน่งเมะ-เคะ
---------------------------------------------
ข้อมูลอ้างอิง ภาษาจีน มีคนแปลรวบย่อเป็นอังกฤษ
https://twitter.com/_momokame/status/1046859622982799361
ข้อมูลอ้างอิงเหมือนอันบน แต่เป็นภาษาจีนเอามาแปลไทยแบบละเอียด
https://twitter.com/fay_13666/status/1056077697984557056
สำหรับอันนี้เนื่องจากเรื่องจิตใจจะชอบใครจะชิปคู่ไหนมันห้ามกันไม่ได้ และโม่งก็ไม่ประสงค์จะทำตัวเป็นตำรวจด้อม ไม่มีสิทธิ์บังคับหรือสั่งใครได้ จึงได้เพียงขอความร่วมมือ ได้โปรดอย่าแหกคู่หรือสลับโพ
เพราะถ้าใครรักและเคารพเจ้าของผลงาน ก็จะให้เกียรติคำขอของเขา ไม่ทำไอ้ที่เขาห้าม
*ข้อสำคัญ* แฟนฟิกชั่น แฟนอาร์ต โดจิน ฯลฯ ต้องไม่นำไปใช้ในเชิงพาณิชย์
แม่โม่ไม่ได้ห้ามต่อยอด ไม่ได้ห้ามจิ้น ไม่ได้ห้ามกาว ไม่ได้ห้ามมโน ใครใคร่จิ้นจิ้น ใครใคร่เขียนเขียน จะเขียนจะวาดอะไรก็ทำได้ตามใจชอบ อยากกาวคู่ไหนก็ตามสบาย แม่โม่ไม่สน ตราบที่ไม่ได้ใช้หาเงินและไม่แหกหรือสลับโพคู่หลัก

4 Nameless Fanboi Posted ID:Ubkmk8g3+C

---------------------------------------------
4. การใช้ hashtag (#) ใน twitter และการ mute
---------------------------------------------
หากสายผลิตจะกรุณาเมตตา เวลาเขียนฟิกชั่นมาลง โปรดช่วยติดแท็ก #ฟิคปรมจ ด้วย
(ส่วนแฟนอาร์ตเชิญตามสะดวก ใช้แท็กหลักต่อก็ได้ เพราะนักวาดที่เป็นแฟนตปท.ก็ลงอาร์ตในแท็กหลักของเขาเหมือนกัน แต่คนตั้งแท็กไทยอันนี้เขาก็เชื้อเชิญให้ไปใช้ของเขาด้วยถ้าใครอยากใช้และเห็นว่าใช้แล้วสะดวก)
ส่วนจะติดแท็กหลักหรือไม่ติดแท็กหลัก ก็เชิญพิจารณาเอาเองตามความเหมาะสมและอัธยาศัย
เคยเห็นบางท่านกล่าวว่าจะติดแท็กหลักเฉพาะตอนแรกของฟิกชั่น เพื่อให้ฟิกชั่นเข้าไปอยู่ในสารบบการเซิร์ชแท็กหลักก่อน คนอื่นจะได้มีโอกาสหาเจอง่าย แล้วหลังจากนั้นค่อยเลิกใช้แท็กหลัก ใส่แต่แท็ก#ฟิคปรมจอย่างเดียว หรือให้ผู้อ่านคอยติดตามด้วยแท็กของชื่อฟิกชั่นเอาเอง เอออันนี้ก็ไอเดียดี น่าสนใจ แลดูสะดวกและดีกับทั้งสองฝ่าย ยังไงก็ขอฝากไว้ให้พิจารณาเป็นอีกทางเลือกหนึ่งแล้วกัน
*สำหรับการติดแท็กแฟนฟิก ไม่ว่าจะติดเดี่ยว หรือติดเพิ่มเข้าไปควบคู่กับแท็กหลัก จะมีผลดีคือ*
1. คนที่อยากอ่านแต่แฟนฟิกชั่นสามารถใช้คำนี้หาเฉพาะฟิกได้เลย ง่ายดี
2. คนที่อยากคุ้ยแท็กหลักแบบไม่อยากได้ผลลัพธ์จาก #ฟิคปรมจ ก็จะสามารถใช้ระบบ mute ช่วยตนเองกรองฟิกชั่นทิ้งไปตั้งแต่ต้นได้ ทำให้เวลาเซิร์ชแล้วจะได้มองไม่เห็น #ฟิคปรมจ ทั้งหมด
เผื่อมีฟิกชั่นใดปนอยู่ในแท็กหลัก ผลการค้นหาที่ถูกกรองแล้วนี้ก็จะช่วยลดปริมาณผลลัพธ์ที่แสดงขึ้นมา ช่วยย่นระยะเวลาในการไถหน้าจอหรือขุดหาข้อมูลที่ต้องการได้เร็วขึ้น ง่ายขึ้น สบายขึ้น
+ การติดแท็กระบุคู่ ก็จะสามารถช่วยให้ผู้ไม่ประสงค์จะเห็นบางคู่ที่เฉพาะเจาะจง สามารถ mute แท็กของคู่นั้น ๆ ได้ด้วยเช่นกัน
วิธีตั้งค่าใน twitter ให้ mute บางคำ (mute = ทำให้เป็นใบ้ - หมายถึงกรองคีย์เวิร์ดคำนั้น ๆ ทิ้ง ทำให้ไม่เห็นโพสต์ใด ๆ ที่มีคำนี้หรือแฮชแท็กนี้)
https://help.twitter.com/en/using-twitter/advanced-twitter-mute-options
เลื่อนลงไปดูตรงกรอบสีฟ้า ๆ ที่เขียนว่า "How to mute words and hashtags" จะมีวิธีอย่างละเอียดสอนอยู่
สั้น ๆ คือเข้าไปที่ Settings and privacy เลือก Muted words แล้วกด add
***แนะนำให้สั่ง mute แบบมี hashtag ระบุตรง ๆ ไปเลย*** เพราะไม่งั้นระบบมันจะดูเนื้อหาของทวีตด้วย แล้วกรองทิ้งหมดเลย
เช่น สมมติถ้าไปสั่ง mute "ฟิคปรมจ" เวลารีทวีตคุยกับใครแล้วเขาพิมพ์มาในคำตอบว่า "เออว่าแต่เรื่องฟิคปรมจน่ะตกลงมันดราม่าได้ไง" อิระบบ mute ก็จะทำให้คำตอบนั้นเป็นใบ้ไปเลย คุณก็จะมองไม่เห็นข้อความนั้น
แต่ถ้าสั่ง mute เจาะจงไปเลยว่า "#ฟิคปรมจ" ระบบจะกรองทิ้งเฉพาะทวีตที่ติดแท็ก #ฟิคปรมจ เท่านั้น
หรือถ้ารำคาญ user ไหนในทุกทวีต อยากหลบสปอยล์ อยากหลีกเลี่ยงบางคน แม้ไม่ได้ฟอลโล่ว์แต่ก็เห็นเพราะคนอื่นรีมา แล้วไม่อยากเห็นอีกต่อไป ก็ใช้ mute account ได้เช่นกัน
https://help.twitter.com/en/using-twitter/twitter-mute

5 Nameless Fanboi Posted ID:St0ZKlt8M3

สปอยเทียนกวาน อาร์ค 2 ต่อจาก >>>/801/7776/975 เทียนกวาน Part.55
.
.
.
.
.
เมื่อเซี่ยเหลียนเห็นปริมาณเลือดที่ไหลจากตัวเด็กชายเขาก็ตัดสินใจตะโกนบอกชาวบ้านว่าความเสียหายทั้งหมดเขาจะเป็นคนรับผิดชอบเอง ก่อนบอกให้เฟิงซิ่นกับมู่ฉิงจับฉีหรงไว้แล้วตามเขามา เขารีบอุ้มเด็กชายวิ่งไปหาหมอหลวง แต่เด็กชายกลับไม่ยอมเอามือออกจากใบหน้าข้างขวา เซี่ยเหลียนพยายามทำให้อีกฝ่ายสบายใจโดยการถามชื่อ เด็กชายพึมพำออกมาว่าหง (แดง) เมื่อถามอายุก็บอกว่า 10 ขวบ แต่พอเซี่ยเหลียนบอกให้เอามือออกจากหน้าให้หมอดูก็ได้รับการปฏิเสธ เด็กชายอ้างว่ามันน่าเกลียด เขาจึงบอกว่าจะหันหลังให้ระหว่างที่อีกฝ่ายตรวจ เด็กชายเลยยอมให้หมอดูอาการ และหมอหลวงก็อดเอ่ยด้วยความทึ่งไม่ได้ว่าอาการบาดเจ็บของเด็กชายหนักมาก แต่อีกฝ่ายกลับยังมีสติ ยังพูดคุยได้อย่างปรกติ

ตอนที่หมอหลวงทำแผลให้เด็กชายเรียบร้อย ราชากับราชินีที่นึกว่าลูกชายได้รับบาดเจ็บก็เข้ามาพอดี เช่นเดียวกับฉีหรงที่ร้องเรียกให้ป้าช่วยเหลือ เซี่ยเหลียนเล่าเรื่องที่ลูกพี่ลูกน้องทำลงไปให้พ่อแม่ฟัง ราชาโกรธมาก เขาสั่งยึดรถม้าและกักบริเวณฉีหรง 1 เดือน ฉีหรงโวยวาย แต่แล้วเขากลับยอมรับโทษง่ายๆ ก่อนเอ่ยให้ลงโทษเฟิงซิ่นที่ทำแขนของเขาหักด้วย เมื่อถูกราชาต่อว่า แม้เซี่ยเหลียนจะห้ามเฟิงซิ่นก็รีบคุกเข่า ท่าทางต่อต้านไม่เชื่อฟังของลูกชายทำให้ราชาไม่พอใจ บอกว่าหากเขาจะสั่งโบยเฟิงซิ่น 100 ครั้งก็ไม่ได้เป็นเรื่องไม่เหมาะสม ฉีหรงรีบเอ่ยเสริมว่าถ้าเฟิงซิ่นหักแขนตัวเอง เขาจะยอมไม่เอาเรื่อง เซี่ยเหลียนไม่พอใจมาก บอกว่าหากจะลงโทษเฟิงซิ่นต้องลงโทษเขาก่อน เพราะเขาเป็นคนสั่งให้เฟิงซิ่นทำเช่นนั้น เขาจะรับโทษของเฟิงซิ่นไว้เอง

ราชายิ่งโกรธลูกชาย เมื่อตอนยังเล็กเซี่ยเหลียนมองพ่อเป็นไอดอลจึงเชื่อฟังทุกอย่าง แต่ยิ่งโตขึ้น เขาก็ยิ่งมีคำถามเกี่ยวกับการการกระทำของผู้เป็นบิดา บางครั้งก็ถึงขั้นรังเกียจ และเหตุผลหลักที่เขาไปบำเพ็ญที่เขาไท่ชางก็เป็นเพราะรู้สึกว่าตนเข้ากับราชาไม่ได้ ทั้งคู่ไม่ยอมคุยกันนัก ทำให้ราชินีต้องคอยเป็นสื่อกลางให้ แล้วพ่อลูกก็เริ่มทะเลาะกันจนราชินีกังวล เมื่อเห็นดังนั้นเฟิงซิ่นเลยหักแขนตัวเอง ทั้งยังคุกเข่าโขกหัวให้ฉีหรงเพื่อจบปัญหา ขณะที่มู่ฉิงยืนนิ่งหน้าเครียด เซี่ยเหลียนก็หันไปหาพ่อ ตะโกนด้วยความโกรธ เฟิงซิ่นกับราชินีจึงมาช่วยกันจับแขนเขาไว้ เมื่อราชาไปแล้ว ราชินีก็เอ่ยขอโทษเฟิงซิ่น เซี่ยเหลียนต่อว่าแม่ว่าถ้าจัดการฉีหรงไม่ได้ก็ให้ขังอีกฝ่ายไว้ ราชินีถอนหายใจ พยักหน้าก่อนจะส่ายหน้าแล้วเดินจากไป

เฟิงซิ่นเตือนเซี่ยเหลียนว่าคนรุ่นก่อนมีวิธีคิดไม่เหมือนพวกตน และบอกว่าราชินีก็ลำบากใจเช่นกัน เซี่ยเหลียนเองก็พอเข้าใจความรู้สึกของแม่ ราชินีกับน้องสาวสนิทกันมาก แม่ของฉีหรงเป็นคนเชื่อมั่นในรักแท้ ไม่ยอมฟังคำของผู้ใหญ่ สุดท้ายก็หนีตามกันไปกับคนรักซึ่งเป็นองครักษ์ ทว่าหลังจากครึ่งปีผ่านไปฝ่ายชายก็เริ่มเผยธาตุแท้ออกมา เขาเป็นคนขี้เหล้าชอบทำร้ายผู้อื่น ในที่สุดฝ่ายหญิงก็ทนไม่ไหวตัดสินใจอุ้มลูกชายวัย 5 ขวบกลับบ้านของตน แต่การที่เธอทำเรื่องเสื่อมเสียให้กับราชวงศ์ทำให้แม่ของฉีหรงได้แต่อยู่ในห้องไม่กล้าออกไปพบหน้าผู้ใด ใช้ชีวิตที่เหลืออย่างหดหู่ซึมเศร้า มีเพียงความรักให้ลูกชาย ทว่าในช่วงที่เกิดความโกลาหลในราชวัง แม่ของฉีหรงได้สละชีพช่วยเหลือพี่สาว ราชินีจึงเลี้ยงดูฉีหรงนับแต่นั้น ด้วยความที่มีบิดาเช่นนั้นทำให้ฉีหรงติดนิสัยไม่ดีมา แต่อย่างไรฉีหรงก็ไม่ใช่ลูกชายของตัวเอง หากเข้มงวดเกินไปจะถูกหาว่ารังแกหลานซึ่งกำพร้าไร้ทั้งพ่อและแม่ สุดท้ายก็เลยทำให้ฉีหรงกลายเป็นเด็กเปรตลูกเทพอย่างในปัจจุบัน

เซี่ยเหลียนนึกได้ว่าลืมเด็กชายที่ช่วยเหลือมา เขาหันมาปลอบอีกฝ่ายที่ทำให้ต้องเห็นภาพคนทะเลาะกัน แล้วถามถึงบ้านของเด็กชาย แต่เด็กชายกลับบอกว่าตนไม่มีบ้าน เมื่อคิดว่าอีกฝ่ายอาจเป็นเด็กเร่ร่อน เขาก็ตั้งใจจะพาเด็กชายกลับเขาไท่ชางด้วย แต่ตอนนั้นเองมู่ฉิงที่เงียบมานานก็พูดขึ้นมาว่าเด็กชายโกหก เพราะเด็กเร่ร่อนในเมืองหลวงมักรวมกลุ่มกันเป็นแก็งค์ อีกทั้งเขาก็รู้จักเด็กพวกนั้นทุกคน หากแต่ไม่เคยเห็นหน้าเด็กชายตรงหน้ามาก่อน
.
.
.
.
.

6 Nameless Fanboi Posted ID:BqztxDqJBO

>>5 ขอบคุณ​เช่นเคยนะโม่สปอย ดีใจฟาฟามีบทเยอะกว่าที่คิด คิดว่าช่วยจากกำแพงแล้วหายไปเลย ตาขวาบอดตั้งแต่ตอนนี้สินะ

7 Nameless Fanboi Posted ID:+qIwgbslcD

>>5 ขอบใจโม่งสปอย ฟาฟานี่น่าจะเป็นลูกท่านหลานเธอหรือไม่ก็พวกพวกขุนนางกบฏโดนใส่ร้าย เอาว่ะ ยิ่งอ่านยิ่งซับซ้อน ทุกตัวละครมีเหตุผลของการกระทำ ตัดสินไม่ได้ว่ะว่าใครผิดถูก

>>6 เหมือนจะไม่ได้บอกไว้นะว่าสาเหตุที่ฟาฟาตาบอดมาจากเหตุการณ์นี้อ่ะ กูเคยถามโม่งสปอยอยู่

8 Nameless Fanboi Posted ID:4Qdocf/MBe

>>6 ฮวาเฉิงไม่ได้ตาบอดตอนที่ยังเป็นคน

9 Nameless Fanboi Posted ID:mgvYJmRAin

ขอบคุณโม่งสปอยจ้า มาไวอีกแล้ว

10 Nameless Fanboi Posted ID:In8CCyDIf+

>>7 >>8 อ้าวเหรอ เห็นพยายามปิดหน้าด้านขวา คิดว่ามันคือสาเหตุ​ที่ต้องมีผ้าปิดตาตอนโต
โอเช รอดูต่อปาย

11 Nameless Fanboi Posted ID:mgvYJmRAin

จากทู้ที่แล้ว สายสะสมกลายเป็นเหมือนทวิตตั้งแต่เมื่อไหร่ ออกความเห็นส่วนทางโม่งก็โดนอีก ยังไม่ได้บอกสักคำว่าซื้อเวียต กุซื้อเล่มเกา แล้วเค้าทำดีจริงๆ เทียบกับราคา จบ มาพูดแค่นี้ ใครจะคิดยังไงก็ช่าง กุน้อยใจของไทยจบ

12 Nameless Fanboi Posted ID:O8hr281klb

>>5 Thanks นะโม่งสปอย กูรออ่านสปอยทุกเช้าเลยเนี่ย

13 Nameless Fanboi Posted ID:ReRcVZeTNI

>>11 มึงพูดยกเวียตมาเองนี่หว่า
ปาดนะมึง

14 Nameless Fanboi Posted ID:ReRcVZeTNI

>>13 *ปสด

15 Nameless Fanboi Posted ID:Hfu8i21Rrq

>>11 มึงต้องเยียวยาใจตัวเองอะ คนส่วนมากไม่สะสมนี่หว่า ไม่ได้ดั่งใจก็ต้องฮีลตัวเองต่อไป กูยังต้องฮีลตัวเองเรื่องซบ.ได้เทียนกวานเลย (ห่าาา)(ไม่ได้ด่ามึงนะ กูสบถ)

16 Nameless Fanboi Posted ID:u/Gyvn.Kii

>>11 มึงพูดเวียดเกา กูเลยค้านเวียดให้ไง ถ้าไม่อยากรับผิดชอบคำพูดตัวเองก็อย่ามโนเองสิ มึงงงงง นี่บอร์ดสำหรับพูดคุยไม่ใช่สเตตัสลอยๆในทวิตน้า มึงต้องการอะไรจากการคุยในบอร์ดอ่ะ ต้องการให้คนพยักหน้าเห็นด้วยๆช่วยกันกดบกรที่ไม่แจกของแถมเหรอ และอีกอย่างถึงมึงพูดลอยๆก็เป็นการเผยแพร่ความเชื่อผิดๆมั้ยว่าของเวียดดีควรเอาเป็นแบบอย่าง มีคนมาให้ข้อมูลว่ามันไม่ได้ดี คนอื่นจะไม่เข้าใจผิดก็ถูกแล้วนี่ กูก็ออกความเห็นเหมือนกันว่าจะให้ลดคุณภาพหนังสือไปทำของแถมไม่เอา สนพไหนอย่าคิดทำเชียว กูจะด่าาา

และกูก็ไม่ได้พูดผิดจากความจริงเลย มึงไม่ได้ซื้อเวียดจริงๆ เหอๆ กูสะสมแต่ไม่ต้องการของแถมจากเล่มเท่าไหร่เพราะแต่ละคนมีรสนิยมต่างกันและปรมาจารย์ก็มีหลายอาร์ทหลายสินค้าให้เลือกตามใจ ดังนั้นไม่เห็นจำเป็นต้องบังคับให้ทุกคนซื้อของที่ไม่อยากซื้อเลย

17 Nameless Fanboi Posted ID:fSQh5nVkR.

>>16 +1 จริง กูไม่ได้ต้องการของแถม กูเน้นเล่ม ถ้าเอาของแถมออกแล้วลดราคา กูไม่เอาของแถมก็ได้

18 Nameless Fanboi Posted ID:hLmtweLrgG

>>16 กูเห็นด้วย กูซื้อนิยายกูต้องการอ่านเนื้อหาไม่ใช่ของแถม ขอแค่แปลดี ไม่มีคำผิดเยอะ สันกาวหนังสือมาให้ดีๆ หน่อยแค่นั้นก็พอแล้ว ถ้าสนพ.ต้องการเอาใจพวกสายสะสมด้วยก็ทำชุดสะสมแยกไปก็ได้

แล้วพวกที่ออกมาบ่นนั่น นี่ โน่น คือกูอยากให้พวกมึงใจเย็นก่อน หนังสือเพิ่งออกมาแค่สองเล่มเอง ยังไม่ทันครบเลย มึงรู้ได้ไงจะไม่มีของแถมมาให้มึงสะสม เค้าอาจจะมาทีเดียวพร้อมเล่มสุดท้ายก็ได้ รีบบ่นอะไรขนาดนั้นวะ

19 Nameless Fanboi Posted ID:jTZBlP7eMa

>>16 เออ คือมันน่าจะทำแยกไปตั้งนานละ ของแถมรกบ้านชิบหาย ไม่ได้ต้องการ กูซื้อเพื่อเสพนิยายเท่านั้น

20 Nameless Fanboi Posted ID:gWRTlXXVxM

พวกอ้างตัวว่าเป็นสายสะสม อยากมีพิเศษมาพร้อมกับหนังสือ ถ้าเป็นตัวร้ายกับเทียนกวานกูพอเข้าใจนะเพราะไม่มีกู้ดส์ให้ซื้อแยกเลยฝากความหวังกับของแถมหนังสือ แต่ปรมจของขายเยอะมาก ระหว่างซื้อของจากบริษัทผลิตสินค้าขายเป็นงานหลักรู้โรงงานมีคุณภาพ กับสนพที่หน้าที่หลักพิมพ์หนังสือ คิดว่าไรน่าสะสมกว่ากัน

กูงงอีกอย่างตรงชมซบเรื่องของแถม ที่ไม่แถมไรนอกจากการ์ดภาพปกซ้ำๆ มีอาร์ทใหม่แค่ภาพแขวนกับกล่อง เทียบบกรมีที่คั่นsd อาร์ทใหม่เล่มละสองรูป หรือชอบสะสมภาพเดิมๆหลายขนาดวะ ส่วนกล่องกูว่าออกจบน่าจะมี เทียนซือของบกรทำกล่องรึเปล่าวะ กูไม่แน่ใจ

21 Nameless Fanboi Posted ID:hLmtweLrgG

>>20 มีทำด้วย มีกล่องแล้วก็เซ็ตโปสการ์ด

22 Nameless Fanboi Posted ID:QQpkm98QFm

Ky สปอยล์หน่อยสิ ว่าทำไมวั่งจีถึงเล่นพิณหาเว่ยอิงไม่ได้อะ แล้วก็ทำไมวั่งจีมีแผลที่หลัง
กูไม่ได้ดูซีรี่ย์อะ ขอบคุณล่วงหน้า แต้งกิ้วว

23 Nameless Fanboi Posted ID:G1n9jQpy/c

>>22 ไต่ถามวิญญาณเว่ยอิงแล้วเว่ยอิงไม่ตอบ อันนี้ไม่รู้เหมือนกัน ส่วนแผลเป็นที่หลัง พี่วั่งพาเว่ยอิงไปซ่อนในถ้ำตอนที่เว่ยอิงสติแตก ควบคุมศพไม่ได้ แล้วผู้อาวุโสในสกุลมาเจอก็ปกป้องเว่ยอิง ทำร้ายผู้อาวุโส 33 คน แล้วไปรับโทษโดนแส้ 33 รอย

24 Nameless Fanboi Posted ID:JjY4OcUCHt

>>23 อันนี้แม่โม่เฉลยมั้ยว่าทำไมไม่ตอบ? กุแอบสงสัย ถถถถถ

25 Nameless Fanboi Posted ID:+c5BAKuMBg

>>23 ในเล่มก็ไม่มีบอกหรอ

26 Nameless Fanboi Posted ID:G1n9jQpy/c

>>24 >>25 ในนิยายไม่มีบอกว่าทำไมไต่ถามแล้วไม่ตอบ

27 Nameless Fanboi Posted ID:qFb8wzUjbi

>>24 ประมาณว่าเว่ยอิงไม่ได้มีห่วงหรือสนใจอะไรทางนี้แล้ว เลยไม่ตอบ

28 Nameless Fanboi Posted ID:tkU5L0FPyo

สปอยเทียนกวาน อาร์ค 2 ต่อจาก >>5 เทียนกวาน Part.56
.
.
.
.
.
มู่ฉิงยังตั้งข้อสังเกตอีกว่าเสื้อผ้าของเด็กชายมีรอยปะชุน ย่อมต้องมีผู้ใหญ่ทำให้ เพราะฉะนั้นต่อให้สถานการณ์ที่บ้านไม่ดี แต่เด็กชายก็ไม่ใช่เด็กเร่ร่อน เซี่ยเหลียนจึงถามที่อยู่ของอีกฝ่ายอีกครั้ง ทว่าเด็กชายกลับจับเซี่ยเหลียนไว้แน่น บอกว่าตนทะเลาะกับทางบ้านและถูกไล่ออกมาตอนนี้จึงไม่มีที่ไป หลังจากใคร่ครวญดูแล้วเซี่ยเหลียนก็ตัดสินใจที่จะดูแลอีกฝ่ายจนกว่าบาดแผลจะหายดีก่อน เฟิงซิ่นรู้สึกไม่ดีที่องค์ชายรัชทายาทมาอุ้มเด็กจร ขณะที่กำลังถกเถียงกันอยู่ ชาวบ้านที่สังเกตเห็นเซี่ยเหลียนก็ตะโกนเรียกกันเพื่อจับตัวเขาไว้

พวกเซี่ยเหลียนตกใจคิดว่าพวกชาวบ้านไม่พอใจที่เมื่อวานเขาทำหน้ากากหลุดซึ่งอาจพาโชคร้ายมาจึงพากันวิ่งหนี แต่ด้วยจำนวนคนทำให้ทั้ง 4 คนโดนล้อมอย่างรวดเร็ว แล้วเซี่ยเหลียนก็ถูกชาวบ้านรุมยกตัวเขาโยนขึ้นไปบนอากาศพร้อมส่งเสียงเชียร์ยกย่องการแสดงของเขา และยังชื่นชมที่องค์ชายรัชทายาทช่วยเหลือชีวิตเด็กชายชาวบ้านยากไร้ แม้ราชครูจะไม่พอใจในสิ่งที่เกิดขึ้น แต่เมื่อเห็นท่าทีของชาวบ้านเซี่ยเหลียนก็รู้สึกว่าสิ่งที่ตัวเองทำลงไปเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว กว่าพวกเซี่ยเหลียนจะปลีกตัวจากฝูงชนมาได้ก็เป็นเวลาเย็น ระหว่างที่กำลังไต่ขึ้นเขากันเซี่ยเหลียนก็ถามชื่อเด็กชายให้แน่ใจอีกครั้ง อีกฝ่ายจึงบอกว่ามารดาเรียกตนว่าหงหงเอ๋อร์ หากแต่เธอเสียชีวิตไปแล้ว

เมื่อขึ้นมาถึงยอดเขา ศิษยร่วมสำนักคนหนึ่งก็วิ่งมาแจ้งว่าราชครูต้องการพบเซี่ยเหลียนที่หอมหายุทธ์ เซี่ยเหลียนจึงให้เฟิงซิ่นกับมู่ฉิงพาหงหงเอ๋อร์กลับไปที่ตำหนักเซียนเล่อก่อน ตอนที่เขาไปถึงหอมหายุทธ์ก็พบว่าราชครู กับรองราชครูทั้ง 3 กำลังจุดธูปไหว้มหาเทพ หลังจากทักทายแล้วเขาจึงเข้าไปจุดธูปด้วย ราชครูกล่าวว่าพวกเขาหารือวิธีแก้เคล็ดได้ 2 วิธี วิธีแรกให้พาเด็กชายที่หล่นจากกำแพงคนนั้นมาผนึก 1 ในสัมผัสทั้ง 5 เป็นการไถ่โทษ แต่พวกเขารู้ดีว่าเซี่ยเหลียนไม่มีทางยอมจึงคิดวิธีที่ 2 ขึ้นมา นั่นคือให้เซี่ยเหลียนแสดงความสำนึกผิดต่อหน้าสาธารณะชน ขอให้สวรรค์ยกโทษ แล้วหันหน้าเข้าหากำแพงเป็นเวลา 1 เดือน ทว่าเซี่ยเหลียนก็ยังปฏิเสธอยู่ดี เขากล่าววันนี้ชาวบ้านในเมืองต่างยกย่องที่เขาช่วยเหลือเด็กชายไว้ หากเขาทำตามที่ราชครูว่าและถูกลงโทษเพราะทำในสิ่งที่ถูกต้อง ประชาชนจะคิดอย่างไรกัน

ราชครูแย้งว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับว่ามันถูกหรือผิดเพราะโลกนี้ไม่ได้สมบูรณ์แบบ เซี่ยเหลียนบอกว่าหากเช่นนั้นเขาขอเลือกทางเลือกที่ 3 เซี่ยเหลียนกล่าวกับอาจารย์ว่าตั้งแต่ที่เขาบำเพ็ญอยู่ที่นี่เขาก็คิดมาตลอดว่าการที่พวกเขากราบไหว้เทพเจ้าเช่นนี้เป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้วหรือ ก่อนขึ้นสวรรค์พวกเขาต่างก็เป็นมนุษย์ พระเจ้าอาจเปรียบดั่งผู้อาวุโส เปรียบดั่งอาจารย์ เป็นดั่งแสงนำทาง แต่ก็ไม่ใช่นายเหนือหัว มนุษย์สมควรแสดงความกตัญญูชื่นชมขอบคุณ แต่ก็ไม่น่าต้องกราบไหว้ ไม่น่าจะต้องเกรงกลัว ไม่น่าจะต้องร้องขอความเมตตา ไม่น่าจะต้องฝืนให้ตัวเองต้องลำบาก เขายินดีถวายตะเกียง 1000 ดวงแสดงความเคารพ แต่ขอปฏิเสธการก้มหัวในเมื่อสิ่งที่เขาทำถูกต้อง หากสวรรค์มีตาก็ไม่ควรลงโทษเขาด้วยเรื่องนี้ เมื่อราชครูถามว่าแล้วถ้าสวรรค์ต้องการทำโทษจริงๆ เซี่ยเหลียนจะยอมขอโทษหรือไม่ เซี่ยเหลียนก็ตอบว่าหากเป็นเช่นนั้นเขาก็จะต่อต้านสวรรค์เอง

ได้ยินดังนั้นใบหน้าของราชครูกลับปรากฏรอยยิ้มขึ้น เขากล่าวว่าเซี่ยเหลียนกล้าหาญมากที่พูดอย่างนั้น ตอนนั้นเองสัญญาณเตือนภัยก็ดังออกมาจากข้างนอก ราชครูทั้ง 4 กับเซี่ยเหลียนจึงพากันรีบวิ่งออกไปที่เจดีย์กาฬซึ่งประตูถูกเปิดออก ไอสีดำพวยพุ่งออกมาจากด้านใน ราชครูตะโกนถามเรื่องราวจากพวกลูกศิษย์ ก่อนได้รับคำตอบว่าจู่ๆ ประตูเจดีย์ก็เปิดออกเอง ภาชนะผนึกวิญญาณร้ายที่เก็บอยู่ด้านในพากันสั่นสะเทือน ยันต์คาถาที่ปิดผนึกพวกมันหลุดออก ราชครูสั่งให้พวกลูกศิษย์ไปนำไหผนึกวิญญาณใบใหม่มาให้เขา แต่ดูเหมือนจะสายไปเสียแล้ว
.
.
.
.
.

29 Nameless Fanboi Posted ID:BQBZWVATEI

>>28 ขอบคุณ​โม่งสปอย ขอให้นอนหลับ​ฝันดีนะจุ๊บๆ
หงหงมีบทเยอะกว่าที่คิดเยอะจริงๆ ว่ะ เซี่ยเหลียนสมัยอดีตก็แอบหัวแข็งนะ ปัจจุบัน​ self esteem ต่ำมาก คงเจออะไรมาเยอะจริงๆ //เศร้าแทน

30 Nameless Fanboi Posted ID:tkU5L0FPyo

>>29 อืม หัวแข็งจนทำให้อดคิดไม่ได้ว่าหลางเชียนชิวนี่ก็แอบคล้ายเซี่ยเหลียนตอนเด็กหลายอย่าง เซี่ยเหลียนถึงได้เซนซิทีฟกับเรื่องของลูกศิษย์ ไม่อยากให้ต้องเจออะไรเหมือนที่ตัวเองเคยเจอมา

31 Nameless Fanboi Posted ID:bKF+9lSif2

กูอยากรู้ว่าระหว่างตายไปสิบสามปีพี่เว่ยไปอยู่ไหนเอามากๆ เลย คือ 13 ปีนะมึง ถ้าช้ากว่านี้อีกนิด คงไปเกิดใหม่แล้วอ่ะ

32 Nameless Fanboi Posted ID:1GRcU0dAXX

>>31 กูคิดว่าตายไปเฉยๆเลย ไม่รับรู้ พอแล้วกับโลกนี้
สงสัยอย่างตรงที่เจียงเฉิงไปหาศพแต่ก็ไม่เจอ ศพไปไหน แล้วทำไมโม่ถึงเรียกวิญญาณมาได้ แต่วั่งจีเรียกไม่ได้

33 Nameless Fanboi Posted ID:4JMfbmEixG

>>32 เหมือนร่างโดนวิชาย้อนกลับมั้ง วิชาที่โม่ใช้เป็นวิชาของพวกมารอะ(และไม่น่าจะมีคนใช้หรือรู้จักมาก)จุดนี้ไม่แน่ใจ แต่ วั่งจีใช้ฉินเรียก ถามวิญญาณ เป็นวิชาของสกุลหลาน

34 Nameless Fanboi Posted ID:2gyEsp4NH.

>>32 ถ้าตามฉบับนิยายไม่ได้ตกเหว แต่โดนวิชามารย้อนกลับมากัดกินจนร่างสลายหายไปเลย ส่วนเรื่องถามวิญญาณพี่วั่งแต่ดีดฉินถามเหมือนโทรศัพท์ไปแล้วเขาไม่รับอ่ะ(อาจจะไม่มีสัญญาณ แบตหมดไรงี้)แต่ของน้องโม่คือเหมือนเปลี่ยนซิมเลย วิชาน้องโม่ก็เป็นวิชามาร เป็นการบังคับเอาวิญญาณคนตายมาสิงสู่ร่างตัวเองโดยมีค่าจ้างแลกเปลี่ยนเป็นวิญญาณของน้องโม่เอง

35 Nameless Fanboi Posted ID:zQ3nPIF.XW

>>32 น่าตะเป็นเรื่องของวิชาหรือเปล่ามึง ของโม่ที่เรียกเหมือนการอัญเชิญปีศาจของตะวันตกแล้วทำสัญญาณ คืออยากมา ไม่อยากมาก็ต้องมา ส่วรของพี่วั่งเหมือนวิชาที่สะอาดกว่าคือถ้าดวงจิตเดิมทีไม่อยากพบเจอใครอยู่แล้ว ไม่อยากตอบ ก็แล้วเลยกันไป ? ? เป็นคำถามที่น่าสนใจ ในนิยายมีบอกไหมวะ

36 Nameless Fanboi Posted ID:LwwRuiauQW

>>34 มิน่าน้องหนิงถึงบอกเว่ยอิงตายอย่างอนาจ T T เรื่องนี้คนดีอายุสั้น งืออออ

37 Nameless Fanboi Posted ID:3gXgdeg3Vs

>>33-35 โฮฮฮฮ ขอบใจเมิงกูยังไม่ได้อ่านหนังสือ
ฉากตกหน้าผานั่นก็ทำมาเพื่อขยี้สินะ ;_;

38 Nameless Fanboi Posted ID:2gyEsp4NH.

กูว่าฉบับซีรีย์ทำให้พี่เว่ยดูเป็นฮีโร่มากไปหน่อยจริงๆน่ะแหละ ทั้งเรื่องเปลี่ยนจากควบคุมศพคนตาย(มองในมุมนึงคือเป็นการไม่เคารพคนตาย บังคับใช้ร่างเขาโดยที่จริงๆเขาอาจจะไม่ยินยอม )เป็นเปลี่ยนเป็นควบคุมจิตหรือผีดิบเฉยๆ ทั้งเรื่องที่ว่าพี่เว่ยควบคุมพลังไม่ได้จนทำร้ายตัวเองและคนรอบข้าง ก็เปลี่ยนเป็นมีคนมาซ้อนแผนแทน แถมผลร้ายของการใช้วิชามาร+ความทะนงตนของพี่เว่ยก็ไม่ค่อยชัดด้วย(เปลี่ยนจากโดนวิชาย้อนเข้าตัวจนร่างสลายเป็นตกผา) แต่อย่างว่าถ้าทำตามนิยายน่าจะดาร์กไปหน่อย คนดูที่คิดวิเคราะห์แยกแยะได้ก็ใช่จะมีเยอะด้วยนี่สิ

39 Nameless Fanboi Posted ID:cXnUr7DiyR

>>38 ขนาดชอบกินกระต่ายย่าง ในซีรีย์พี่เว่ยยังโดนเปลี่ยนเป็นอุดหูกระต่ายตอนเจียงเฉิงพูดถึงกระต่ายย่างเลย (แต่ก็น่ารักดีนะ)

40 Nameless Fanboi Posted ID:dGWTm5TLC1

>>38 กุก็ไม่ชอบจุดนี้ ที่พาชิบหายคือนิสัยทะนงตัวของพี่เว่ย พอซีรีส์เปลี่ยนว่ามีคนยุยงก็ฉอดกันใหญ่ว่าพี่เว่ยเป็นคนดี มีคนร้ายตั้งหาก ชีวิตเลยพลิกผัน ในนิยายคือทำตัวเองทั้งนันพ่อ ถถถถถ

41 Nameless Fanboi Posted ID:9eVCh4qb1W

>>40 กูดูแต่ซีรี่ส์ก็ว่าทำตัวเองทั้งนั้น แรกๆนี่ซ่าเหลือเกิน มีหลังๆที่ดูเป็นเหยื่อเป็นแพะรับบาป
>>39 เพิ่งรู้เรื่องกระต่าย ในซีรี่ส์แม่งเหมือนเป็นลูกเลยนะเว้ย เหมือนทิ้งไว้เป็นโซ่ทองคล้องใจ เมียไม่อยู่ผัวก็เลี้ยงกระต่ายไป นิยายเอามาแดกเลยเรอะะะ

42 Nameless Fanboi Posted ID:QxBCC2eBUD

เว่ยอิงทำตัวเองทั้งนั้นแหละ ผลที่ได้รับก็สมควรกับการกระทำแล้ว แต่บ้านเจียงซวยสัดๆ ไม่ได้ทำห่าไรเลย แต่ต้องมารับกรรมที่อิพี่เว่ยทำทั้งนั้น สุดท้ายอิพี่เว่ยไปมีความสุขกับหลัว เจียงเฉิงทูนหัวของบ่าวระทมทุกข์ โดดเดี่ยวต่อไป ร้องห้าย

43 Nameless Fanboi Posted ID:4/HPzRvSer

>>42 //กอดมึงร้องห้ายด้วย ลูกรักแม่โม่ก็สบายปลิวเลย แล้วอาเฉิงกูล่ะ ฮือ

44 Nameless Fanboi Posted ID:7nHBvHjhso

>>41 ก็น่าจะเคยกินอยู่ หรือจะพูดหยอกๆ วะ ไม่แน่ใจ ยังไงก็เถอะ ในนิยายคนพูดคือพี่เว่ยเลยล่ะ ไม่ได้ชอบแบบเอ็นดูขนาดซีรีย์

45 Nameless Fanboi Posted ID:e8SBocrC47

กูงงการแปลปรจ. ชื่อสถานที่ ชื่อกระบี่มีการแปล แต่ทำไมชื่อหมาไม่แปลหรืออธิบาย เซียนจื่อ โมลี่ เพ่ยเพ่ย คนทั่วไปจะรู้มั้ยอ่ะ (ตรงนี้คือมุกที่บอกว่าจินหลิงและเจียงเฉิงมีเซ้นท์การตั้งชื่อที่แย่มาก)

46 Nameless Fanboi Posted ID:9287CLCK79

>>45 แอปเปิ้ลด้วยทำไมต้องแปลทับศัพท์ ไม่รู้เล่ม 2 แก้ยัง

47 Nameless Fanboi Posted ID:dGWTm5TLC1

>>42 บ้านเจียงซวยสัดๆ เลยนะ เพราะความปากดี ซ่าไม่หยุดพี่เว่ย แต่พอมารุ่นเจียงเฉิง play safe เน้นความมั่นคง เสือกด่าว่าไม่เชื่อในตัวพี่น้องที่โตมาด้วยกัน เอาอะไรมาเชื่อ ถามห่าไรก็บ่ายเบี่ยงไม่ตอบ กุขึ้นนนน

อาเฉิงซีรีส์ยังดี บทดูมุฟออน แต่นิยายกุอ่านจบตอนเฉลยเรื่องเสียจินตาน กุไปต่อไม่ได้เลย น้องไห้เหมียนหมา คนดีไม่มีใครเห็นที่แท้คือลูกกุ

48 Nameless Fanboi Posted ID:3gXgdeg3Vs

>>47 เรื่องเสียจินตานกูดูซีรี่ส์แล้วรักอาเฉิงมากกกก ตอนแรกคือหงุดหงิดแม่งแส่หาเรื่องออกไปแท้ พอเฉลยแล้วรักน้องเลย ช่วยกันไปช่วยกันมาโฮรววว เฉลยเสร็จจบเรื่องพอดี
คนที่มีฝ่ามือสลายจินตานกูก็ติดใจนิดๆนะ เหมือนจะคนดี กูเชียร์ให้กลับใจมาก

49 Nameless Fanboi Posted ID:d/77WTxPvS

>>45 กูเคยไปพูดในมู้ปรมจ.ล่ะติ่งแย้งกูรัวๆบอกใข้กูอธิบายว่าแปลกยังไงบลาๆ ดุเหมียนหมา

50 Nameless Fanboi Posted ID:d/77WTxPvS

>>49 คนเดิมนะ กุก็ติ่งนะ แต่กุยังคิดว่าการแปลมันแปลกๆเลย กุพูดในมู้ก่อนๆนะ ไม่ใช่มู้นี้

51 Nameless Fanboi Posted ID:2C8Q39TP4z

กูมาตอนมู้วายอีก่ะ ขอถามนิดนึงสรุปที่น้องหนิงฆ่าจินจื่อเซวียนนี่เพราะพี่เว่ยแกคุมพลังไม่ได้จริงๆหรือมีคนเสี้ยม เพราะตอนช่วงซีรีส์ฉายกูเคยเห็นคนพูดว่าคุมพลังไม่ได้เอง ไม่ได้มีใครเสี้ยม แต่กูเพิ่งนั่งดูอนิเมะซีซั่น 2 จบ ก็สรุปว่ามีคนเสี้ยมเหมือนกัน กูเลยงง เพราะอนิเมะซีซั่นแรกมันตรงกับม่านฮวาซึ่งตรงกับนิยายพอสมควร ตอนแรกกูเลยคิดจะเชื่ออนิเมะมากกว่านิยาย แต่สรุปตอนนี้คือกูงงไปหมดว่ายังไงกันแน่ หรือสุดท้ายอนิเมะจะไม่อิงม่านฮวาแต่มาอิงบทนิยายแทน

52 Nameless Fanboi Posted ID:2wpAq.L6wk

แล้วเฉิงมันไม่สบายตรงไหนอะมึง ถึงเรื่องปัจจุบันเนี่ย พ่อแม่พี่สาวตายก็เอาชีวิตคืนมาไม่ได้แล้ว มึงต้องการให้มันเป็นไปในทางไหนอะหรือต้องให้เว่ยอิงตายให้จบแบด?? กูไม่รู้ความคิดพวกมึงจริงๆอย่าพึ่งด่ากูแค่บอกกูก็พอ ถ้าเรื่องตอนจบยังดูไม่คืนดี แต่มันก็เคลียร์กันแล้วนะคงต้องรอเวลา

53 Nameless Fanboi Posted ID:CYdQLUuvtw

>>46 แอปเปิ้ลมันก็ทับศัพท์ภาษาอังกฤษ พอเรื่องมันแปลจากนิยายจีนโบราณ แปลมาใช้ศัพท์ฝรั่งอ่านแล้วมันก็แปลกๆดิไม่เข้ากับบรรยากาศความโบราณ
แต่กูเห็นด้วยเรื่องชื่อหมานะ ทำไมไม่แปลชื่อหว่า

54 Nameless Fanboi Posted ID:QxBCC2eBUD

>>51 ในนิยายเว่ยอิงควบคุมพลังไม่ได้เอง

55 Nameless Fanboi Posted ID:/cgXhzKBxs

>>53 เรื่องแอปเปิ้ลก็ควรแปลเป็นแอปเปิ้ลไปนะ เพราะนี่แปลไทย คนไทยเรียกแอปเปิ้ล ไม่ได้เรียกผิงกั่ว

56 Nameless Fanboi Posted ID:v2JOmxrb1w

>>55 แต่นิยายจีนโบราณแปลไทยใช้ผิงกั่วมาชาติกว่าแล้ว บอกแบบนั้นเหมือนบอกว่าฮ่องเต้ต้องแปลว่าพระมหากษัตริย์ เสี่ยวต้องแปลว่าน้อย

จริงๆชื่อเฉพาะเนี่ยไม่แปลน่ะถูกแล้ว แต่การแปลชื่อสถานที่หรือสิ่งของเฉพาะบางอย่างจำเป็นเพื่ออรรถรส ชื่อสัตว์เลี้ยงถ้าจะเล่นมุกก็ใส่เชิงอรรถไว้ก็ได้เถอะ สนพ.จะแปลไม่แปลก็จริตเขา ไม่ถูกจริตมึงก็อาจจะถูกจริตคนอื่น กูว่าถ้ามันไม่ใช่เรื่องอย่างแปลผิดหรือแปลมาแล้วอ่านไม่ได้เลยก็ไม่ใช่เรื่องมหญ่ขนาดนั้นนะ

57 Nameless Fanboi Posted ID:WFtf.18KgT

>>53 ค้านว่ะ กูอ่านนิยาย/การ์ตูนญี่ปุ่นโบราณเรื่องไหนก็แปลเป็นแอปเปิ้ล ไม่เห็นแปลเป็นริงโกะเลย ทั้งที่ญี่ปุ่นปิดประเทศห่างไกลต่างชาติกว่าจีน อันไหนแปลได้ก็แปลเถอะขนาดชื่อเฉพาะอย่างกระบี่ยังแปลได้คำนี้แปลตรงๆง่ายกว่าอีก กูไม่จำเป็นต้องรู้ศัพท์ภาษาจีนวันละคำว่าด้วยชื่อผลไม้ทับศัพท์ กูมองเหตุผลเดียวกึบแปลชื่อกระบี่ว่ะ ในเรื่องก็เล่นมุกตั้งเป็นชื่ออาหารด้วย

กูมองว่าทับศัพท์แบบเป็นอันรู้กันแค่ที่คนทั่วไปที่ไม่ใช่สายอ่านนิยายรู้จักกันว่ะ พวกฮ่องเต้ ฮองเฮา ไม่ใช่อ่านนิยายทีต้องริเริ่มบทเรียนจีนวันละคำ เสี่ยว เอ๋อก็แปลเป็นหนูเป็นน้อยไปตามเรื่อง เชิงอรรถมีไว้สำหรับคำที่จนปัญญาแปลไม่ได้จริงๆไม่ใช่ใช้เรี่ยราด

58 Nameless Fanboi Posted ID:/cgXhzKBxs

>>57 +111111111111111111

59 Nameless Fanboi Posted ID:CYdQLUuvtw

>>57 งั้นใบเฟิงก็ต้องแปลว่าใบเมเปิล เพราะคนไทยไม่เรียกใบเฟิงแต่เรียกใบเมเปิล แปลทับศัพท์อิ้งคำนึงที่เหลือก็ต้องทับด้วยเป็นมาตราฐานเดียวกัน

60 Nameless Fanboi Posted ID:TOLYC0bz1v

>>59 ใช่

61 Nameless Fanboi Posted ID:edacJ4/T8v

>>59 ก็ไม่เห็นเป็นไรนี่

62 Nameless Fanboi Posted ID:CYdQLUuvtw

>>61 เอางี้ถ้ามึงจะให้แปลผิงกั่วเป็นแอ๊ปเปิ้ลเพราะไทยใช้คำนี้ มึงลองนึกบทบรรยายสวนในนิยาย จีนมันเมืองหนาวมีพืชที่เมืองร้อนอย่างไทยไม่มี แล้วพืชเมืองหนาวพวกนี้ไทยก็ทับศัพท์ชื่อเป็นอิ้งหมด จื่อถิงหลัวต้องแปลว่าวิสเทอเรีย อิงฮวาก็ต้องแปลว่าซากุระ สุ่ยเซียนต้องแปลว่านาร์ซิสซัส ฉาฮวาแปลเป็นดอกคามิเลีย ซิ่งฮวาเป็นแอพพิคอท จากสวนจีนแม่งกลายเป็นสวนยุโรปเฉย

63 Nameless Fanboi Posted ID:v2JOmxrb1w

>>57 ก็การ์ตูนญี่ปุ่นมันแปลเป็นแอปเปิ้ลมาแต่แรกปะ กูพูดถึงนิยายจีนโบราณ มึงดันพูดถึงการ์ตูนญี่ปุ่นโบราณคือมึงงงหรือกูงง การ์ตูนญี่ปุ่นนิยายญี่ปุ่นกูก็อ่านอะไรที่มันทับได้เขาก็ทับเพื่ออรรถรสกันบ่อยไปว่ะ แล้วเรื่องชื่อเนี่ยถ้าหมานางเอกชื่อริงโกะต้องแปลว่าน้องแอปเปิ้ลมั้ย ถ้าแมวนางเอกชื่อทามะต้องแปลว่าน้องแมวมั้ย บริบทเรื่องชื่อง่ายๆแค่นี้เองนะมึง ถ้าจะทู่ซี้ว่าชื่อเรียกเฉพาะบางอย่างก็ต้องแปลให้หมด แล้วแบบนั้นชื่อตัวละครต้องแปลด้วยเลยมั้ย

เล่นมุกเรื่องชื่อมันก็ใส่เชิงอรรถแค่ครั้งเดียวปะ มึงจะใส่มันทุกเล่มเลยเหรอ นิยายเรื่องอื่นเล่นมุกชื่อใส่เชิงอรรถได้ เรื่องนี้ใส่เชิงอรรถ=เรี่ยราด ?? แล้วใครบอกมึงว่าเชิงอรรถคือใช้กับคำที่จนปัญญา พวกมุก สำนวนทั้งหลายมันก็ลงเชิงอรรถทั้งนั้นนะ แล้วปัญหาการแปลชื่อโดยไม่ทับศัพท์เลยก็คือโดนด่าไงว่าไม่เหมือนอ่านนิยายจีน เวลามึงขายหนังสิอมึงจะเจาะกลุ่มไหนล่ะ คนทั่วไปที่ไม่รู้จะซื้อจริงๆมั้ยกับลูกค้าประจำที่ซื้อแน่ๆอยู่แล้ว

64 Nameless Fanboi Posted ID:9287CLCK79

>>56 ไม่ใช่ทุกคนจะอ่านนิยายจีนมาก่อนนะมึง อย่างกูก็เพิ่งมาตามจากเรื่องนี้

65 Nameless Fanboi Posted ID:Em3hNI4L1m

กูว่าสนพ พลาดตรงที่ไม่ใส่เชิงอรรถ ไม่ต้องใส่ตลอดก็ได้ เอาเฉพาะตรงที่มันเล่นมุขก็พอ
ถ้าไม่ได้ดูจากทวิตภพ กูนี่งงไปกับหลายๆ มุขเลยนะ

66 Nameless Fanboi Posted ID:GAeUOpfXDr

>>63 กูไม่รู้จักทั้งจื่อถิงหลัว สุ่ยเซียน ซิ่งฮวา ฉาฮวา อิด๊อกกกก อ่านนิยายกูจำเป็นต้องจำชื่อพรรณไม้เพิ่มเหรอ เข้าสวนทีกูต้องเงยหน้าขึ้นๆลงๆ ท่องศัพท์ปานอ่านหนังสือสอบแล้วค่อยจินตนาการตามนิยาย นิยายแปลก็แปลให้เข้าใจเถิดอย่าได้ให้จำเลย กูเอาการ์ตูนญี่ปุ่นมาเพื่อชี้ให้เห็นการแปลว่ะ ว่าปกติชื่อผลไม้มันไม่ทับศัพท์ถ้ามีคำไทยอยู่แล้ว ในแง่ชื่อเฉพาะตัวอย่างสัตว์สามารถแปลและทับศัพท์ได้ทั้งคู่ แต่เรื่องนี้คนแปลเลือกแปลชื่อ กระบี่'แล้วแต่' ของเว่ยอิงเพื่อเล่นมุกทางภาษา แต่กลับไม่แปล'แอปเปิ้ล'ที่เล่นมุกด้วย กูมองว่าการแปลควรใช้มาตรฐานเดียวกันในการแปลเรื่องนึงว่ะไม่ใช่เดี๋ยวแปลเดี๋ยวไม่แปล

การทับศัพท์ใส่เชิงอรรถคือการลดทอนความหมายของชื่อว่ะ จากที่ตั้งใจเล่นมุกก็กลายเป็นชื่อจีนๆชื่อนึง ผ่านไปคนไม่ได้สนใจความหมายก็สูญเสียความหมายนั้นไป เรื่องอื่นใส่เชิงอรรถเรี่ยราดกูก็บ่น ตอนนี้พูดถึงปรมาจารย์กูก็บ่นปรมาจารย์ ตัวร้ายกูก็นั่งเสียดายนามแฝงของเสิ่นหยวนกับซั่งชิงหัวจะตาย

จากกูผู้ชมชื่อกระบี่แปลไทย นิยายแปลไม่ใช่หนังสือเรียนจีนแสนสนุกวันละคำ จะอ่านทีต้องมานั่งจำชื่อ กูเลิกรากับเอะอะก็เชิงอรรถจนเชิงอรรถหนาเป็นนิ้วแล้ว และคนชอบแปลไทยมันก็คนอ่านหนังสือแหละจ้า

67 Nameless Fanboi Posted ID:v2JOmxrb1w

>>64 แล้วไงวะ ในเมื่อไม่ว่ามึงจะตามมาจากเรื่องไหนมันก็ใช้ผิงกั่วเกือบหมด บางทีอ่านไปสักสองสามเรื่องมึงก็ต้องรู้บ้างแล้วนะ ทุกคนเขาก็มาจากการไม่เคยอ่านทั้งนั้นไม่มีใครคลอดมาแล้วรู้เลยหรอกว่าผิงกั่วคือแอปเปิ้ล มันก็มาจากการอ่านการสังเกตุการเรียนรู้หรือบางทีต้องค้นคว้าต่อมั้ย ยิ่งอ่านเยอะยิ่งรู้มาก จะมาอ่านเล่มเดียวรู้ทุกอย่างมันก็ไม่ใช่นะ อะไรไม่รู้ก็ขวยขวายหาคำตอบกันบ้างสิจะรอให้ทุกอย่างมาป้อนตรงปากก็ไม่ใช่มั้ยวะ

ถ้าสมมติชีวิตมึงไม่เคยดูหนังจีนเลยไม่มีเชื้อจีนไม่สนเรื่องจีนๆ แต่มึงมาอ่านนิยายจีนครั้งแรกในชีวิต เจอศัพท์ง่ายๆอย่างฮ่องเต้ ฮองเฮา อ๋อง กงกง มึงก็ต้องมีงงปะว่าคืออะไรแต่ก็ไม่เห็นใครมีปัญหานี่ ก็ล้วนแต่ต้องค่อยๆเรียนรู้กันไปทั้งนั้น

68 Nameless Fanboi Posted ID:v2JOmxrb1w

>>66 ก็มึงยกตัวอย่างญี่ปุ่นมา กูก็ถามมึงกลับนี่ไง แมวนางเอกชื่อทามะมึงเห็นเขาแปลกันมั้ยล่ะทั้งที่นี่ก็เล่นมุกเหมือนกันว่าตั้งชื่อมักง่าย หรือหมาพระเอกชื่อวังโกะงี้ เต่าชื่อคาเมะงี้ นกชื่อโทริ นี่เล่นมุกทั้งนั้นเลยนะ กูถึงบอกไงเรื่องมุกชื่อจะแปลไม่แปลมันไม่ใช่ปัญหาใหญ่ขนาดนั้น แล้วเอาจริงๆ ถ้าเสือกแปลชื่อหมาว่านางฟ้ามาก็โดนด่าอยู่ดีว่าแปลมาทำไม ทำไมไม่เชิงอรรถเอา ถ้ามันจะพลาดก็พลาดตรงดันไม่เก็ตว่ามันคือมุกเลยปล่อยผ่านมานี่แหละ

ถ้ามึงยกว่านิยายแปลไม่ใช่หนังสือเรียนจีนวันละคำ งี้ชื่อของตัวละครที่เสือกเป็นมุกมีความหมายแฝงก็ต้องแปลหมดเหรอ หรือแค่เชิงอรรถเอาก็เข้าใจกันแล้ว การแปลมันก็มียุคสมัยของมันนะมึง ถ้ามาตามยุคลูกปลาน้อย ไม่ต้องเรียกพี่เว่ยว่าไร้ริษยาเว่ยอู๋เซี่ยนมันทั้งเรื่องเลยเรอะ

69 Nameless Fanboi Posted ID:9287CLCK79

>>66 +1
>>67 กูอ่านนิยายนะไม่ใช่อ่านหนังสือเรียนภาษาวันละคำ อีกอย่างกูไม่ได้มีเวลามาอ่านนิยายจีนตลอดเปล่าวะ เวลาอ่านไปกูต้องมาระลึกชาติงี้เหรอ

70 Nameless Fanboi Posted ID:9287CLCK79

>>68 มึงออกทะเลแล้ว ที่เขาว่ากันเนี่ยคือทำไมไม่แปลแอปเปิ้ลกับหมาเพราะเป็นมุกคำ แต่กระบี่สถานที่เสือกแปลตรงตัว

71 Nameless Fanboi Posted ID:wHZAvQ+ULB

กูยังไม่ได้อ่านนะ ขอถามหน่อยว่าที่ไม่แปลแอปเปิ้ล/ชื่อหมานี่ เค้าใส่เชิงอรรถไว้หรือเปล่า ถ้าไม่ใส่ก็น่าด่าอยู่ แต่ถ้าใส่ก็ไม่มีปัญหานะ เรื่องอื่นก็ทำแบบนี้

72 Nameless Fanboi Posted ID:v2JOmxrb1w

>>69 ปกติมันก็มีเชิงอรรถตลอดนะ สำหรับคำที่เขาคิดว่ายากเกินไป มึงไม่โอเคก็เรื่องของมึงสิ ในเมื่อคนส่วนมากมันไม่มีปัญหากับเรื่องแค่นี้นี่ กูพูดถึงคำว่าผิงกั่วคำเดียวเลยนะ ระลึกไม่ได้ก็งงต่อไปนั่นแหละ

แล้วกูก็บอกอยู่นะว่าการแปลหรือไม่แปลไม่ใช่ปัญหาใหญ่ กูบอกว่ามันพลาดที่เสือกไม่เก็ตมุกแล้วไม่ใส่เชิงอรรถมา ส่วนตัวกูไม่มีปัญหาว่าจะแปลหรือไม่แปลมา แต่ถ้าไม่แปลแล้วเป็นมุก กรุณาใส่เชิงอรรถมาด้วย

แต่ถึงมันแปลมาแล้วยังกับว่าพวกมึงจะเก็ตทันทีน่ะว่ามันเป็นมุก แว่บแรกเห็นชื่อเก็ตเลยเหรอว่ามุกนี่ขนาดไม่รู้ภาษาจีนกันนะเนี่ยหรือไปอ่านที่เขารวบรวมข้อมูลมาให้(ซึ่งเทียบแล้วมันก็เชิงอรรถนั่นแหละ)เลยรู้ว่าเป็นมุกกันแน่คิดให้ดีๆ

ส่วนเรื่องภาษาญี่ปุ่น ก็ข้างบนยกมาว่ามันไม่เห็นแปลริงโกะว่าแอปเปิ้ลเลย กูก็เลยถามไงว่าแล้วริงโกะที่เป็นชื่อสัตว์เลี้ยงมันแปลมั้ยล่ะ มันก็ไม่แปลมั้ย

กูแยกให้ง่ายๆเลย ไม่ว่าจะงานแปลไหนๆ โดยส่วนมากชื่อสิ่งมีชีวิตจะคนสัตว์เลี้ยงเขาไม่ค่อยแปลหรอกยกเว้นจะเป็นมุกหรือมีเชิงอรรถไว้

ชื่อสถานที่หรือชื่อพลังส่วนมากจะยาวจำยากเข้าใจยาก จึงแปลเพื่อให้เข้าใจง่าย

ชื่อตำแหน่ง ต้นไม้ สั้นๆ ที่ไม่ค่อยคุ้นหูมักทับศัพท์แล้วใส่เชิงอรรถไว้

ชื่อสิ่งของเฉพาะที่ถ้าไม่แปลก็ไม่รู้เรื่องมักจะแปล
ที่เหลือจริตคนแปลล้วนๆ เช่น ชื่อดาบ ที่แปลก็ได้ไม่แปลก็ไม่ตายอ่ะ

กูก็งงว่ามันเป็นเรื่องปกติ ปกติมากๆชิบหาย ปกติชิบหาย โคตรจะปกติ ในงานแปลจีน พวกมึงงอะไรกัน...

73 Nameless Fanboi Posted ID:1aPoVb4g72

ทู้ลากยาวเชียว กูยังไม่ได้อ่าน แต่เท่าๆที่ตามๆมา เสี่ยวผิงกั๋ว คือ แอปเปิ้ลน้อย นี่ตั้งใจเรียกให้เป็นนิกเนมไปเลยป่าว แบบ ฉายาอะ คนแปลเลยไม่แปลมั้ย ชื่อหมา ก็เหมือนกัน ใช้ทัพศัพย์เพราะมันเปนชื่อป่าว (กูไม่รู้นะ)

เหมือน เรียกคนว่า เสี่ยวหลี่ อะไรก็ว่าไป

คนแปลใส่เชิงอรรถไหมว่า ผิงกั๋ว คืออะไรงี้

ส่วนพวกชื่อกระบี่ ก็ปกติที่จะต้องแปลอยู่แล้วอ่ะ

74 Nameless Fanboi Posted ID:DKqZEzd/96

ขอ KY สปอยเทียนกวาน อาร์ค 2 ต่อจาก >>28 เทียนกวาน Part.57
.
.
.
.
.
เซี่ยเหลียนวิ่งไปปิดประตูเจดีย์ ใช้กระบี่วาดคาถาก่อนปักมันบนพื้นเพื่อกันไม่ให้วิญญาณข้างในออกมาอีก แต่ส่วนที่ออกมาแล้วก็รวมตัวกันเป็นกลุ่มควันสีดำพุ่งไปยังตำหนักเซียนเล่อ ราชครูถามเซี่ยเหลียนว่าเอาอะไรมาไว้ในตำหนัก ทำให้เซี่ยเหลียนนึกออกว่าตนพาเด็กชายคนนั้นกลับมาด้วย ตอนนั้นเองพวกลูกศิษย์ก็ตะโกนบอกว่าตำหนักของเซี่ยเหลียนถูกไฟไหม้ ทุกคนรีบช่วยตักน้ำดับไฟ เมื่อไม่เห็นผู้ติดตามทั้งสอง เซี่ยเหลียนก็ฝาดงควันวิญญาณเข้าไป เฟิงซิ่นกับมู่ฉิงช่วยกันกางเขตคุ้มกันอยู่ที่ห้องโถงหลักโดยมีวิญญาณล้อมรอบ เฟิงซิ่นตะโกนห้ามไม่ให้เซี่ยเหลียนเข้ามา และบอกว่าพวกวิญญาณมีเป้าหมายที่เด็กชาย หงหงเอ๋อร์นั่งคุกเข่ากับพื้นกรีดร้องว่า “ไม่ใช่ช้า”

เซี่ยเหลียนรีบเข้าไปจับวิญญาณร้ายตัวหัวหน้าไว้ก่อนบดขยี้มันหายไปในฝ่ามือ วิญญาณลูกกระจ๊อกเลยยอมแพ้กลับเข้าไปในภาชนะผนึกซึ่งพวกราชครูถือมา เมื่อสถานการณ์เริ่มสงบลง ราชครูก็ถามเรื่องของเด็กชาย เซี่ยเหลียนตอบไปตามจริงว่าหงหงเอ๋อร์คือเด็กที่หล่นจากกำแพง อีกฝ่ายจึงเข้ามาสอบถามวันเดือนปีและเวลาเกิดของเด็กชาย ราชครูเหม่ยเนี่ยนชิงมีชื่อเสียงด้านการดูดวงมาก เขารีบคำนวณดวงชะตาของเด็กชาย ในที่สุดก็บอกว่าหงหงเอ๋อร์มีดวงเกิดในช่วงดาวมฤตยู จะนำพาโชคร้ายและความเสียหายติดตามตัว ผู้คนใกล้ชิดจะถูกดึงให้ต้องพบกับหายนะและอาจถึงขั้นเสียชีวิต เมื่ออีกฝ่ายพูดจบหงหงเอ๋อร์ก็ร้องเสียงดังด้วยความเจ็บปวด เด็กชายพุ่งเข้าไปจะเอาหัวกระแทกราชครู ก่อนที่ราชครูจะสั่งห้ามผู้ใดเข้าไปสัมผัสถูกตัวของอีกฝ่าย หงหงเอ๋อร์เอาแต่ตะโกนว่า “ไม่ใช่ช้า” เซี่ยเหลียนเลยรีบเข้าไปกอดปลอบเด็กชายซึ่งน้ำตาไหลพลั่งพลูร้องไห้ออกมาเสียงดังราวจะขาดใจ พร้อมบอกว่าไม่ใช่ความผิดของเจ้า

ราชครูกับเฟิงซิ่นบอกให้เซี่ยเหลียนปล่อยเด็กชาย ศิษย์ในสำนักหลายคนพยายามมาดึงหงหงเอ๋อร์ซึ่งเกาะเซี่ยเหลียนแน่นออก แต่เซี่ยเหลียนก็บอกทุกคนว่าไม่เป็นไร แล้วหันไปถามว่ามีใครในตำหนักได้รับบาดเจ็บหรือไม่ จึงทราบว่ามีเพียงตำหนักที่ได้รับความเสียหาย ส่วนกระบี่ในคอลเลคชันทั้ง 200 เล่มของเขาที่สร้างจากวัสดุทนไฟก็ไม่น่าจะเป็นอะไร เด็กชายร้องไห้จนหลับไป จากนั้นราชครูก็เรียกเขาไปคุยในที่พักของตน เซี่ยเหลียนถามอาจารย์ว่ามีวิธีเปลี่ยนดวงชะตาให้หงหงเอ๋อร์ได้หรือไม่ ทำให้ราชครูบ่นว่าเพราะเซี่ยเหลียนไม่เข้าใจศาสตร์เกี่ยวกับโชคชะตาจึงได้ไม่เข้าใจอะไรเลย

ราชครูถามเซี่ยเหลียนว่ายังจำคำถามที่เขาเคยถามในวันที่เขาไปดูดวงชะตาให้ตอนเซี่ยเหลียน 6 ขวบหรือไม่ หลังจากนึกสักพักเซี่ยเหลียนจึงถามว่าใช่เรื่องของคน 2 คนกับน้ำ 1 ถ้วยหรือเปล่า ในวันนั้นราชครูชื่นชมคำตอบของเขาหลายครั้ง มีเพียงคำถามข้อนั้นที่ราชครูไม่พูดอะไรออกมา คนสองคนกำลังเดินอยู่กลางทะเลทรายและกำลังจะขาดน้ำตาย ผู้ที่ได้รับน้ำจะมีชีวิตรอด ส่วนอีกคนจะเสียชีวิต หากเซี่ยเหลียนเป็นเทพเจ้า เขาจะมอบน้ำถ้วยนั้นให้กับคนใด ราชครูหันไปบอกให้เฟิงซิ่นกับมู่ฉิงลองตอบคำถาม ในขณะที่มู่ฉิงขอข้อมูลของคนทั้งสองเพื่อประกอบการตัดสินใจ เฟิงซิ่นกลับบอกให้ทั้งสองคนไปตัดสินกันเอาเอง ส่วนเซี่ยเหลียนในตอนเด็กตอบไปว่าหากเขาเป็นพระเจ้า เขาจะมอบน้ำอีกถ้วยหนึ่งให้กับทั้งสองคน

ราชครูกล่าวว่าในโลกนี้ไม่ว่าจะเป็นโชคชะตาที่ดีหรือแย่ล้วนแต่มีจำกัดเหมือนน้ำหนึ่งถ้วย หากคนหนึ่งได้ดื่ม อีกคนย่อมไม่ได้ หากคนหนึ่งได้มากขึ้น อีกคนย่อมได้น้อยลง ทุกปัญหาล้วนเกิดจากการที่มีผู้คนอยู่มากมาย หากแต่มีน้ำเพียงแค่ถ้วยเดียว ทว่าการที่คนๆ หนึ่งได้รับน้ำถ้วยนั้นไปก็ย่อมมีเหตุผลของมัน ถ้าเปลี่ยนดวงชะตาของเด็กชายย่อมทำให้ชะตาของใครบางคนต้องเปลี่ยนไปด้วย ซึ่งนั่นย่อมนำมาซึ่งความแค้น การที่เซี่ยเหลียนต้องการมอบน้ำเพิ่มอีกถ้วยหนึ่งเช่นเดียวกับที่วันนี้ต้องการทางเลือกที่ 3 แม้จะทำไปด้วยเจตนาดี แต่เรื่องนั้นไม่มีทางเป็นไปได้

ถึงจะไม่เห็นด้วยแต่เซี่ยเหลียนก็ตอบรับอาจารย์ ราชครูกล่าวเสริมว่าเซี่ยเหลียนเป็นลูกศิษย์ที่เขาภูมิใจ แต่เขาก็ยังกลัวว่าจะมีบททดสอบบางอย่างที่เซี่ยเหลียนไปอาจผ่านได้ มีหลายเรื่องที่เซี่ยเหลียนไม่เข้าใจและไม่อาจให้ใครสอน ที่เซี่ยเหลียนกล่าวเกี่ยวกับการไม่ยอมก้มหัวให้พระเจ้านั้นก็เคยมีผู้อื่นเคยเอ่ยมาก่อนแล้ว แต่ความคิดเหล่านั้นกลับไม่อาจเป็นรูปร่าง เซี่ยเหลียนเลยบอกว่าเป็นเพราะคนเหล่านั้นได้เพียงคิดแต่ไม่ลงมือกระทำ หากวันหนึ่งเขาได้ขึ้นสวรรค์ เขาจะทำอย่างที่ได้พูดในวันนี้ และจะไม่มีอะไรห้ามเขาได้
.
.
.
.
.

75 Nameless Fanboi Posted ID:+hO5Y3fdNz

>>74 ขอบคุณ​มากโม่งสปอย
ฟาฟาก็เหมือนเจออะไรมาเยอะนะ กว่าเซี่ยเหลียนกันฟาฟาจะพบเจอความสุขในชีวิตนี่แม่ง ยาวนานจนเขียนเป็นหนังสือได้หนาแปดเมตร 555
กูอ่านสปอยตอนนี้ บอกเลยว่าราชครูทำนายไม่แม่น เพราะถ้าแม่นจริงต้องทายได้สิว่าเด็กคนนี้คือเนื้อคู่ของเจ้าชายในอนาคต 555

76 Nameless Fanboi Posted ID:LmHX/S6yql

>>55 โถ่อีควาย นิยายโบราณเรียก Apple ใช้หัวไหนคิด

77 Nameless Fanboi Posted ID:VjymokhRMo

>>76 หัวหน่าวแม่มึงมั้ง

78 Nameless Fanboi Posted ID:dk4q4KbJDw

เมื่อวานม่านฮวาเทียนกวานมาแล้ว ภาพ โคตร สวย เล้ย!

79 Nameless Fanboi Posted ID:dnFhQ68YA5

>>78 สวยมาก

80 Nameless Fanboi Posted ID:AQhOvHa11E

เหมือนปลอบใจ ปรจ ดราม่าเรดิโอ จบ ม่านฮวาเทียนกวานก็มาพอดี มีอะไรให้ติดตาม
ตอนนี้มีม่านฮวาปรจและเทียนกวาน ขาดแต่ตัวร้าย ทวิตภพแซวกันใหญ่ ออกจากไมโครเวฟแล้วก็กลับเข้าไปใหม่ โถถถถถถถ

81 Nameless Fanboi Posted ID:JBmtbAc77u

กูขอย้อนกลับไปที่ซีรีส์ปรมจ.แป้บนะ ในซีรีส์ดัดแปลงให้พี่เว่ยใช้วิชาพิศดาร ไม่ใช่วิชามาร วิชาออกเทาๆ ไม่ถึงกับดำเลย ยังพอจะเข้ากับบริบทที่ว่า 'ใครถูกใครผิด ใครขาวใครดำ' ได้อยู่ แต่ในหนังสือเห็นบอกกันว่าพี่เว่ยไม่ได้วีรบุรุษขนาดนี้ พี่เขาใช้วิชามารเลยป่ะ หรือก้ใช้คำว่าวิชาพิศดารอีก เล่นกับศพ โดนวิชาย้อนกลับจนร่างสลาย กูว่าอันนี้จะไม่เข้ากับคำว่าใครขาวใครดำแล้วนะ มันก็ดำชัดๆไปเลยนี่ หรือในหนังสือไม่ได้ชูประเด็นว่าการกระทำขึ้นกับมุมมองของคน

82 Nameless Fanboi Posted ID:VI+IMtcA4J

>>75 อาจารย์เหม่ยเขาทำนายได้แต่ช่วงที่ยังมีชีวิตน่ะ หลังกลายเป็นผีก็ไม่รู้ชะตาแล้ว เหมือนเซี่ยเหลียนกลายเป็นเทพก็ดูชะตาให้ไม่ได้เหมือนกัน แต่เซี่ยเหลียนนี่อาจารย์เหม่ยห้ามอะไรไว้ทำหมด ห้ามไม่ให้ยุ่งกับเด็ก ตอนหลังก็ไปได้กับเด็ก 5555

83 Nameless Fanboi Posted ID:8x0hQ+6eUr

>>76 จริง นิยายเรื่องเรื่องไหนเซตติ้งโบราณใช้แอปเปิ้ลกุนี่ปิดเลย ไม่เข้ากันอย่างแรง

84 Nameless Fanboi Posted ID:nz+UJOl/P5

>>81 กูว่าตรงเปรียบขาวเปรียบดำ สำหรับกูหมายถึงการกระทำการนำสิ่งนั้นนี่มาใช้ในทางใดพี่เว่ยพยายามจะใช้มันในทางที่ดี แต่ขึ้นชื่อว่าพลังมารอะเนอะ

มันน่าจะสื่อประมาณอารมณ์ไม่ใช่มารทุกคนจะเลว ไรงี้ ไม่ใช่เซียนทุกคนจะดี ถึงสำหรับกู...กูจะมองว่าพี่เว่ยไม่ค่อยดี55555 กูไบแอสเก่ง

85 Nameless Fanboi Posted ID:dLPcxB+QEp

>>84 เกือบคิดเหมือนมึง แต่ก็คิดเหมือนมึงแหละ 55555 กูคิดว่าเขาพยายามเล่นประเด็นว่ามารไม่ได้เลวทุกคน เว่ยแม่งจำเป็นต้องใช้มารเพราะใช้กระบี่ต่อไม่ได้ แต่แค่ใช้มารก็เลวเลยซะงั้น แต่กูก็ไม่ได้มองมันเป็นคนดีหรอก มันก็เป็นจูนิเบียวมาก่อนแล้วค่อยมาเป็นนางเอกแจ่มใสทีหลัง

86 Nameless Fanboi Posted ID:1g0A.eDmmv

>>82 กูก็คิดว่าเซี่ยเหลียนตอนเป็นองค์ชายก็แอบรั้น ห้ามไม่ฟัง ถึงขนบบางอย่างไม่เมคเซนส์จริงๆ ก็เหอะ ตอนต่อจากนี้คงต้องเจอเหตุการณ์​ที่จนปัญญา​จะช่วยทุกคนตามอุดมคติ หลายครั้งเข้า เลยใจฝ่อไปเลย

87 Nameless Fanboi Posted ID:O2Y0MPBp/2

>>81 จริงๆในซีรีย์กูนับเป็นขาวกิ๊งเลย แค่ขัดวิถีเซียน แต่ในนิยายอ่ะเทาจริง เพราะด้วยเจตนาแล้วพี่เว่ยก็ไม่ได้จะใช้วิชานี้ในทางที่ผิดขนาดนั้น แต่จุดที่เสียจริงๆของนางคือนิสัยที่ค่อนข้างทะนงตนมั่นใจในตัวเองสูงว่าข้าเก่งข้าแน่จัดการทุกอย่างได้ด้วยตัวคนเดียว เอาแต่ใจตัวเองและไม่ค่อยคำนึงถึงความรู้สึกของคนรอบข้าง อิพี่มันเลยต้องเรียนรู้จากความผิดพลาดและสูญเสียสิ่งสำคัญไปนี่แหละถึงค่อยกลายเป็นเว่ยอิงฉบับที่มาเข้าร่างน้องโม่แล้ว กูว่าแม่โม่น่าจะเป็นจำพวกรำคาญตัวเอกแบบนิยายแฟนตาซี จำพวกทำเรื่องเอาแต่ใจตัวเองแล้วเสือกเกิดผลดี มีอะไรผิดพลาดมาก็โทษสิ่งรอบข้างไม่ยอมรับว่าจริงๆตัวเองน่ะแหละที่ประมาท กูยกตัวเองง่ายๆเช่นเฟมีลจากเซวีน่า รายนั้นก็แนวๆนี้เลย เก่ง ทำได้ทุกอย่างทะนงตัวว่าฉันสามารถจัดการทุกเรื่องได้ แต่รายนั้นมีนักเขียนให้ท้ายไง ถ้าอ่านสมัยยังเด็กๆเบียวๆก็ชอบหรอกตัวเอกโชว์เทพ แต่พอมาอ่านตอนโตแล้วนี่เหลือกตามองรัวๆ แค่เรื่องที่ว่าตัวเองเป็นพวกชอบหลงทางแล้วยังเสือกรั้นจนหลงทางจนเกือบไปแดกของไม่ดี ยังไม่ยอมรับตัวเองแล้วโทษว่าเป็นความผิดของสิ่งรอบข้างเลย

88 Nameless Fanboi Posted ID:Rb3DhP6s63

>>87 +1 กูว่าพี่เว่ยในนิยายก็ไม่ถึงกับดำจริงๆ นั่นแหละ แม้จะฆ่าคนตายแต่ก็ไม่ได้เจตนา คิดดีอยากช่วยทุกคนแต่ออกแนวอวดเก่ง ทำเองทุกอย่าง มั่นใจ ไม่ปรึกษาใคร ผลที่ได้คือความชิบหายนี่เอง

89 Nameless Fanboi Posted ID:DGQIC8RVm3

>>87 +1 กูชอบในจุดนี้มาก ที่สุดท้ายพี่เว่ยแกก็คิดได้ 555 สิ่งที่กูชอบคือพี่เว่ยไม่ใช่คนที่ดีแบบร้อยเปอร์เซ็น แต่ก็ไม่ได้เลว แก่นของเรื่องดีมาก

90 Nameless Fanboi Posted ID:KjsLZ.CN9m

>>87 กุนึกข้อเสียพี่เว่ยได้อีกอย่างคือปากแม่งล่อตีนมาก แล้วไม่ใช่แค่เรียกตีนให้ตัวเองมันเรียกตีนให้คนรอบข้างด้วย กุว่าถ้าพี่เว่ยแกพูดจาซอฟกว่านี้ไม่หักหน้าใครชีวิตอาจจะไม่เหี้ยขนาดนี้ก็ได้

91 Nameless Fanboi Posted ID:ixvDfwUkrB

>>90 นิยายมันสนุกตรงนี้แหละมึง รอวันกระทืบพี่เว่ยแล้วฉุดขึ้นมาอีกครั้งด้วยความรัก 55555

92 Nameless Fanboi Posted ID:npD/1phO4R

สปอยเทียนกวาน อาร์ค 2 ต่อจาก >>74 เทียนกวาน Part.58
.
.
.
.
.
ได้ยินเจ้านายตัวเองพูดแบบนั้นทั้งเฟิงซิ่นกับมู่ฉิงก็รู้สึกเต็มเปี่ยมด้วยพลังใจ แต่ราชครูก็ยังกล่าวว่าเซี่ยเหลียนไม่ควรได้ขึ้นสวรรค์เร็วเกินไป และจำเป็นต้องเห็นสิ่งต่างๆ มากกว่านี้ก่อน แล้วเขาก็อนุญาตให้เซี่ยเหลียนลงจากเขาเพื่อหาประสบการณ์ เซี่ยเหลียนที่รู้สึกเหนื่อยหน่ายกับสิ่งรอบตัว รวมถึงพ่อแม่กับฉีหรงรู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก ราชครูเตือนเพิ่มว่าคำกล่าวที่ว่า “เมื่อมนุษย์ขึ้นสวรรค์ พวกเขาจะได้เป็นเทพ เมื่อล้มเหลว พวกเขาจะกลายเป็นผีร้าย” ล้วนไม่เป็นความจริงเพราะ “เมื่อมนุษย์ขึ้นสวรรค์พวกเขาก็ยังคงเป็นมนุษย์ และเมื่อมนุษย์ล้มเหลว พวกเขาก็ยังคงเป็นมนุษย์อยู่ดี” เขาบอกเซี่ยเหลียนว่าอย่ากังวลเรื่องของหงหงเอ๋อร์เกินไป ทุกคนมีโชคชะตาของตนเอง หลายครั้งเราก็ไม่อาจช่วยใครได้เพียงเพราะเราต้องการช่วย ถ้าเกิดอะไรขึ้นก็ค่อยๆ แก้กันทีหลัง

ในคืนนั้นเด็กชายได้หนีออกจากเขาไท่ชางและหายไปอย่างไร้ร่องรอย ส่วนเซี่ยเหลียนในวัย 17 ปีก็ได้ปราบผีร้ายที่สะพานอี้เนี่ยน เขาได้ขึ้นสวรรค์พร้อมแสงเจิดจ้าและเสียงฟ้าผ่าดังกัมปนาท

3 ปีหลังจากเซี่ยเหลียนได้ขึ้นสวรรค์ ในที่สุดรูปปั้นทองคำสูง 5 เมตรของเทพองค์ชายรัชทายาทแห่งเซียนเล่อก็เสร็จสมบูรณ์ พวกเขานำมันเข้าไปในอารามหลังที่ 8000 ด้วยความยินดี เซี่ยเหลียนมีผู้ศรัทธามากมายนับไม่ถ้วน กลิ่นธูปแทบไม่เคยจางหาย กล่องบริจาคเงินใบใหญ่มักเต็มอย่างรวดเร็ว ในสระน้ำในสวนด้านหลังอารามมีคนโยนเหรียญทองเพื่อขอพร ต้นไม้ก็มีผ้าแดงอธิษฐานผูกเต็มต้น อารามของเซี่ยเหลียนไม่มีหมอนรองให้ผู้ศรัทธาคุกเข่า เพราะเขาเข้าฝันแจ้งเจ้าอาวาสทุกอารามว่าไม่ต้องการให้ผู้ศรัทธากราบไหว้ แต่ผู้คนกลับเชื่อไปว่ามันเป็นแค่ข่าวลือและพากันคุกเข่าโดยไม่ใช้หมอน เซี่ยเหลียนใช้กายทิพย์ลอบมองคนภายในอาราม เสียงขอพรจากผู้ศรัทธาดังเข้ามาในหัวของเขาไม่หยุด แม้ตอนแรกเขาจะฟังทุกคำขอด้วยตัวเอง แต่ด้วยปริมาณที่มากมายทำให้สุดท้ายเขาเลยจำเป็นต้องแบ่งงานให้เฟิงซิ่นกับมู่ฉิงช่วยฟังและคัดเลือกคำขอสำคัญ ไม่นานนักเมื่อผู้ศรัทธาได้ยินว่าเจ้าชายฉีหรงเสด็จมา ทุกคนก็รีบพากันออกจากอารามราวกลัวผีร้าย ฉีหรงสร้างอารามให้เซี่ยเหลียนในทุกหนแห่ง มักบริจาคทรัพย์สินและตะเกียงให้อารามอย่างสม่ำเสมอ แต่ถึงเซี่ยเหลียนจะเคยส่งสาสน์ผ่านฝันให้อีกฝ่ายประพฤติตนดีๆ ฉีหรงก็ยังชอบสร้างปัญหาไปทั่วเหมือนเดิม

ฉีหรงขอพรว่าอยากพบกับเซี่ยเหลียน และบอกว่าราชากับราชินีก็คิดถึงลูกชายมาก เฟิงซิ่นที่อยู่ข้างๆ จึงเตือนเจ้านายว่าจวินอู๋บอกว่าหากไม่ได้มีเรื่องสำคัญก็ห้ามปรากฏตัวให้มนุษย์เห็นแม้แต่กับครอบครัว ในขณะที่เซี่ยเหลียนมองญาติผู้น้องเขียนคำขอพรลงบนตะเกียงก็ทำให้เขานึกถึงเรื่องในอดีตขึ้นมา ในตอนที่ฉีหรงมาที่ราชวังครั้งแรก ด้วยชื่อเสียงไม่ดีที่แม่ของเขาหนีตามผู้ชาย ทำให้ไม่มีเด็กเชื้อพระวงศ์คนใดยอมเล่นหรือพูดคุยกับเขา ขณะที่ทุกคนหันมาคุย ช่วยดันหลังให้เซี่ยเหลียนเล่นชิงช้า เขาก็เห็นสายตาที่เต็มไปด้วยความอิจฉาของฉีหรงซึ่งหลบอยู่ด้านหลังมารดา และวันหนึ่งที่พวกเขามาขอพรที่อาราม พวกเด็กคนอื่นก็แกล้งหลอกให้ฉีหรงเขียนขอพรลงบนตะเกียงให้ตนกับแม่รีบตายไปขึ้นสวรรค์ เซี่ยเหลียนโกรธเด็กพวกนั้นมาก ก่อนช่วยญาติผู้น้องเขียนคำขอพรใหม่ หลังจากนั้นฉีหรงก็บูชาในตัวเซี่ยเหลียนมาก เวลาเล่นชิงช้าก็จะมาช่วยดันหลังให้และมักคอยติดตามเสด็จพี่องค์ชายรัชทายาทของตนไม่ห่าง

ในตอนที่ฉีหรงกำลังจะกลับเขาก็เดินชนเข้ากับคนผู้หนึ่งจึงโวยวายด่าอีกฝ่ายทันที คนๆ นั้นเป็นชายหนุ่มวัยเบญจเพส แต่งตัวมอซอ ริมฝีปากของเขาแห้งผาก แม้จะผอมแต่ก็ไม่ได้ดูอ่อนแอ ทั้งดวงตาก็มีประกายแรงกล้า แล้วชายคนนั้นก็ถามขึ้นมาว่าที่นี่คือที่ใด และเขาต้องการไปพระราชวังเพื่อขอเข้าเฝ้าราชา แม้จะถูกฉีหรงหัวเราะดูถูกแต่ชายคนนั้นก็ยังอยากลองขอเข้าเฝ้า ฉีหรงจึงแกล้งบอกทางผิดให้ ชายคนนั้นกล่าวขอบคุณ ทำท่าจะจากไป แต่เมื่อเห็นเหรียญทองในสระน้ำ จู่ๆ เขาก็กระโดดลงไปเก็บพวกมันอย่างไม่เกรงกลัว ฉีหรงสั่งให้ทหารไปจับชายคนนั้นขึ้นมา แต่อีกฝ่ายก็สามารถหลบหนีแล้วเก็บเหรียญเต็มย่าม ทว่าสุดท้ายเขาก็ลื่นขณะปีนขึ้นฝั่งจนถูกกุมตัว ชายคนนั้นบอกว่าแทนที่จะปล่อยให้เหรียญอยู่ในสระ เหตุใดจึงไม่ให้เขานำไปช่วยเหลือผู้คน เมื่อถูกถามว่าเป็นใคร มาจากไหน ชายคนนั้นจึงตอบว่าตนมีชื่อว่าหลางอิง มาจากหย่งอันซึ่งเป็น 1 ในเมืองของอาณาจักรเซียนเล่อ
.
.
.
.
.

93 Nameless Fanboi Posted ID:FDHXw9BvNN

>>92 ฉีหรงแม่งโครตแฟนบอย กูอ่านแล้วแอบเอ็นดู 555
ระบบการขึ้นสวรรค์ไปเป็นเทพของเรื่องนี้แปลกดี กูเข้าใจว่าต้องตายก่อน นี่เล่นมารับต้ังแต่ยังหนุ่ม มีสาดแสงพร้อมซาวด์เอฟเฟกต์อีกต่างหาก แหวกแนวดีว่ะ
ปอลอ นอนดึกนะมึง รักษาสุขภาพด้วย

94 Nameless Fanboi Posted ID:npD/1phO4R

>>93 เนอะ เข้าใจมาตลอดว่าขึ้นสวรรค์ต้องตายก่อน แต่เรื่องนี้เหมือนใครบำเพ็ญถึงจุดหนึ่งจู่ๆ ก็ได้จะได้ขึ้นสวรรค์เลย กูไม่ได้เขียนลงในสปอย แต่เซี่ยเหลียนไม่ใช่ปราบผีแล้วได้ขึ้นเลยนะ คือไปเดินทางอยู่พักหนึ่งกลับมานอนที่วัง แล้วได้ขึ้นสวรรค์ตอนนอนอยู่ หรืออย่างเผยหมิง ในเรื่องมีบอกว่าไว้ว่าไม่เคยแพ้ในศึกไหน แต่ศึกสุดท้ายในฐานะมนุษย์ตอนนั้นโดนล้อมกำลังจะถูกฆ่าแล้ว จู่ๆ แกก็ได้ขึ้นสวรรค์

อีกเรื่องที่กูตัดออกจากสปอยคือในเรื่องจะมีฉายาที่ใช้เรียกเทพ 4 องค์ที่ได้ขึ้นสวรรค์หลังทำวีรกรรมน่าจดจำ เรียกว่าทิวทิศน์ทั้ง 4 ประกอบด้วย องค์ชายรัชทายาทผู้เป็นที่รักของเทพเจ้า (เซี่ยเหลียน) แม่ทัพผู้หักดาบ (เผยหมิง) ชายหนุ่มผู้เทเหล้า (ซือชิงเสวียน) กับเจ้าหญิงผู้เฉือนคอตัวเอง (คนนี้ยังไม่มีบทออกมา)

95 Nameless Fanboi Posted ID:Qe1AY4VKvk

ทำไมเรื่องไม่แปลคำว่าผิงกั่วเป็นแอปเปิ้ลมันกลับมาอีกแล้ววะ โธ่ อีฟาย มันเป็นจีนโบราณไหม แล้วแอปเปิ้ล มันเป็นคำภาษาอะไร บริบทในเรื่องมีตัวละครฝรั่งหรือโยงหาฝรั่งไหม

กูนี่อยากจะทึ้งหัว ทีคำแปลกระบี่แปลเป็นไทยบ่นจะเป็นจะตาย กระเหี้ยนกระหือรือจะให้เขาทับศัพท์กันให้ได้ นี่อยากเรียนภาษาจีนผ่านนิยายแปลกันขนาดนั้นเลยอ่อ มึงไปลงเรียนคอร์สจีนเลยเหอะ ดีกว่ามาหาเศษเล็กเศษน้อยในนิยาย สมองกลับกันอ่อถามจริง

96 Nameless Fanboi Posted ID:PtrLlY6lfG

>>94 ฉายาท่านเทพลมกับเจ้าหญิงผู้เฉือนคอตนเองนี่เท่มากอ่ะ อยากรู้สตอรี่สุดๆ แต่ตอนแรกนี่ก็นึกว่าต้องตายก่อนถึงได้ขึ้นสวรรค์ ตอนแรกยังนึกเลยว่าทำไมเซี่ยเหลียนตายไว 5555555555

97 Nameless Fanboi Posted ID:JhtepX+swU

>>94 ฉายาแม่งเท่แบบจูนิเบียวดี กูชอบว่ะ

98 Nameless Fanboi Posted ID:0Cbc2KYnBQ

>>94
.
.
.
.
.​
กูประทับใจที่มาของฉายาลุงเผยกับองค์หญิงมาก วีรกรรมแมร่งเท่ห์จริงคูลจริงหล่อเสียของคืออะไรไม่รู้จัก ดราม่าสตอรี่สมควรแก่การขึ้นสวรรค์
ส่วนฉายาของเซี่ยเหลียนกับซือชิงเสวียนเป็นเรื่องของโชคชะตาจริง ๆ โดยเฉพาะซือชิงเสวียนเมื่อรู้ที่มาของโชคอันเรียบง่ายนี้แล้วกลายเป็นตลกร้ายสุด ๆ กับใครอีกคนหนึ่งไปเลย จนกูทำใจยอมรับไม่ไหวจริง ๆ ....
.​
.
.
.
.

99 Nameless Fanboi Posted ID:eDT2FykGSj

>>95 แต่ๆๆๆ คนที่บ่นเรื่องผิงกั่วเป็นแอปเปิ้ลคือพวกที่ชอบแปลชื่อกระบี่เป็นไทยนะ ก่อนด่าได้อ่านเม้นข้างบนหมดไหมหรือโควต้าแปดบรรทัดหมดจ๊ะ แล้วกูอ่านนิยายจีนทำไมต้องเรียนภาษาจีนวันละคำว่าด้วยชื่อผลไม้วะ อยากเรียนภาษาจีนผ่านนิยายแปลกันขนาดนั้นเลยอ่อ มึงไปลงเรียนคอร์สจีนเลยเหอะ ดีกว่ามาหาเศษเล็กเศษน้อยในนิยาย สมองกลับกันอ่อถามจริง

100 Nameless Fanboi Posted ID:XEGbqfRuxX

>>98
.
.
.
.
.​
ที่มาฉายาแม่ทัพเผยหล่อสมตำนานวีรบุรุษจริง อีกชอตหนึ่งตอนที่จู่ๆ เอาตัวไปยันภูเขานี่กูอ้าปากค้าง ยกนิ้วให้แบบหลิงเหวินเลย เผยใหญ่โคตรแมน หล่อมั่กๆ FC แม่ทัพเผยคร่ะ 555 ของเจ้าหญิงก็เท่ ตอนอ่านประทับใจมาก ส่วนของซือชิงเสวียนนี่พอนึกถึงคนๆ นั้นก็รู้สึกประทับใจไม่ลงจริงๆ
.
.
.
.
.​

101 Nameless Fanboi Posted ID:4XM0s9PrKE

>>99 ไม่ใช่กุคนนึงแล้วกัน กุโอเคที่แปลอาวุธ ฉายา สถานที่ แต่อย่ามาทับอิ้งในนิยายโบราณ

102 Nameless Fanboi Posted ID:oeKxjmgQxS

>>99 แล้วไม่ให้แปลผิงกั่วมุงจะให้แปลว่าไงคะคิดสิคิดๆๆๆ แอปเปิ้ลเหรอ มันก็ทับศัพท์อิ้งแต่นี่นิยายจีนไง คริสๆๆๆ แปลไรดีจ๊ะแม่คุณคนเก่ง

103 Nameless Fanboi Posted ID:Eq4EqmSxz0

>>101 +1 ไม่ใช่กูเช่นกัน ถถถถ

104 Nameless Fanboi Posted ID:q2JttjfcFz

>>101 เฉพาะนิยายจีนโบราณได้มั๊ยมึง ถ้าฝรั่งโบราณกูโอเคนะมันไม่มีคำเรียกภาษาไทยอะ TT - TT

105 Nameless Fanboi Posted ID:KX9AYj0k92

>>101 +1 กูโอเคกับการแปลชื่อกระบี่ ชื่อสถานที่ แต่กับแอปเปิ้ลในเซตติ้งจีนโบราณมันแปลกไง ไม่เข้ากันอย่างแรง กูงงมากว่ามันเป็นประเด็นขนาดนี้ได้ยังไง 555

106 Nameless Fanboi Posted ID:t1Nt.TRRfi

แต่พอจุดประเด็นมากูก็สงสัยนะว่านิยายญี่ปุ่นโบราณเรื่องไหนมันใช้แอปเปิ้ล ทำไมพอเป็นญี่ปุ่นแล้วถึงทับศัพท์ได้ ทำไมจีนทับศัพท์แล้วถึงไม่ได้

107 Nameless Fanboi Posted ID:zd1dh72E3f

>>99 มึงจะทู่ซี้เอาชนะไปก็ดูโง่เปล่าๆว่ะ พยายามโยนไปนั่นไปนี่ แต่สุดท้ายนิยายแปลจีนโบราณส่วนมากทั้งในอดีตปัจจุบันและอนาคตมันก็จะแปลเป็นผิงกั่วอยู่ดี มึงไม่ชอบรู้สึกว่าเหมือนต้องมาเรียนจีนวันละคำห่าเหวไรนี่ก็เรื่องของมึงเถอะ ดีดดิ้นให้ตายก็ไม่มีใครมานั่งเปลี่ยนให้มึงหรอกว่ะ ไร้สาระไป แล้วมาถามคนอื่นว่าโควต้าอ่านแปดบรรทัดหมดแล้วเหรอกูก็ถามมึงกลับบ้างว่าความสามารถในการสื่อสารตีความระบบความคิดและตรรกะมีปัญหาขนาดนี้ สนใจพิจารณาสมองตัวเองใหม่บ้างมั้ย

ปล. อิชื่อเสี่ยวผิงกั่วเนี่ยเวลามันโดนแปลไทยในนิยายจริงๆเขาก็ไม่แปลว่าแอปเปิ้ลน้อยหรอกนะ เขาจะแปลว่าผิงกั่วน้อยแทนตะหาก 😆😆

108 Nameless Fanboi Posted ID:zd1dh72E3f

>>106 อรรถรสล้วนๆเลย ต่อให้มันแปลมาว่าแอปเปิ้ลจริงๆก็อาจจะไม่ได้มีปัญหาขนาดนั้นหรอก แต่มีโอกาสโดนด่าเยอะเหมือนกันเพราะสำหรับหลายคนมันดูขัดตา มันค่อนข้างเป็นคำเฉพาะที่คุ้นชินในงานแปลจีนแล้วน่ะ เหมือนฮ่องเต้ ฮองเฮา อ๋อง แปลว่า จักรพรรดิ มเหสี องค์ชายมาก็ไม่ผิด แต่ยังไงฮ่องเต้ ฮองเฮา อ๋อง ผิงกั๋วก็ได้อรรถรสกว่า

แต่ไอ้การให้เหตุผลว่าไม่ควรแปลมาเพราะเหมือนมาเรียนศัพท์จีนวันละคำไรนี่ประสาท ยกมาแบบนี้เหมือนบอกว่าต้องแปลทุกอย่างไม่ให้มีคำจีนเลยไง ลองสนพ.ทำแบบนั้นได้โดนด่ายันชาติหน้าอ่ะ

109 Nameless Fanboi Posted ID:fMB14txja1

ขนาดกูเรียนจีน รู้ว่าคำนี้แปลว่าอะไรยังโหวตให้แปลเป็นแอปเปิลอะ นึกถึงมุมมองคนจีนอ่านดิ คนจีนอ่านชื่อเขาก็นึกถึงลูกแอปเปิ้ลเลย มันสื่อว่าตั้งชื่ออย่างง่ายๆ เห็นภาพชัดเจนน่ารักๆ ไทยนี่ยังต้องมาแปลความจากผิงกั่ว เป็นแอปเปิ้ลอีกที อ้างจีนโบราณแปลงี้หมด แปลแบบนี้ทุกเล่มจริงเหรอ มั่นใจเหรอว่าอ่านนิยายจีนโบราณทุกเรื่องที่มีการแปลเป็นภาษาไทยแล้ว แล้วมันมีตรากฎเกณฑ์ไว้เหรอว่าแนวจีนโบราณห้ามแปลชื่อผลไม้
อรรถรสหรืออุปทานหมู่กันเอาเองวะ เอะอะทับศัพท์ยันเนี่ย งานแปลภาษาอื่นเขาก็แปลเป็นภาษาตัวเอง แอปเปิลในทีนี้มันก็คือภาษาไทยแล้ว เพราะคนไทยเรียกแอปเปิล ไม่มีชื่อเรียกอื่น หรือเมิงเรียกหมากเปิ้น ฝรั่งไม่ออกเสียงแอปเปิ้นๆ หรอกนะ มันแอพเพิลมั้ย
แล้วบรรดาชื่อตำแหน่งที่ทัพศัพท์อะ เอาจริงๆ เพราะมันไม่มีคำแปลเป็นภาษาไทยโดยตรงนะ ที่แปลกัน มเหสี อัครชายาอะ มันคือการเทียบตำแหน่งกับตำแหน่งในไทยมากกว่า ส่วนคำว่าจักรพรรดิน่ะ ถ้าเป็นฮ่องเต้ต้องมีคำพ่วงท้ายว่าจักรพรรดิจีนด้วยนะ คำว่าฮ่องเต้คือคำที่จิ๋นซีฮ่องเต้บัญญัติขึ้นมาเรียกตัวเองเพราะเป็นผู้รวบรวมแผ่นดินแล้ว จะได้แตกต่างจากคำว่าหวัง(อ๋อง) กษัตริย์ปกครองเมืองสมัยยังแบ่งเป็นแว่นแคว้น
แต่ในเมื่อเรื่องนี้ตัดสินใจทับศัพท์เป็นผิงกั่วแล้ว ก็ไม่ผิด ถือเป็นสำนวนเขาแล้วกัน แต่คนอ่านก็มีสิทธิ์วิจารณ์ได้นี่หว่า คนชอบผิงกั่วก็ผิงกั่ว ชอบแอปเปิลก็แอบเปิล แต่พวกมาด่าคนให้แปลเป็นแอปเปิลว่าโง่ ว่าควายเนี่ย พิจารณาตัวเองเถอะ

110 Nameless Fanboi Posted ID:oeKxjmgQxS

>>109 มึงสิควาย

111 Nameless Fanboi Posted ID:jeRj/41gb4

>>109 เห็นด้วย จริงๆคำแปลถ้าเอาให้คนเข้าใจได้ก็พอ ผิงกั่ว ถ้าคนไม่เคยอ่านเลยมาอ่านครั้งแรกก็ไม่เข้าใจต้องมองเชิงอรรถ แต่ถ้าแปลเป็นแอปเปิ้ลไปเลยก็เข้าใจเพราะบ้านเราเรียกแอปเปิ้ล มันเป็นคำทับศัพท์ที่ใช้กันทั่วไปไปแล้ว คำไทยใช้แทนแอปเปิ้ลก็ไม่มี

112 Nameless Fanboi Posted ID:B4NF4VhCyX

Ky แป๊ป ในนิยายหลังจบที่บอกพี่ซีเฉินกักตนนี่กี่ปีวะ แล้ววั่งเซี่ยนที่จูงลาไปจากวัดกวนอิม กว่าจะกลับกูซูนี่กี่เดือนอะ

113 Nameless Fanboi Posted ID:zd1dh72E3f

>>109 ก็ไม่มีใครห้ามแปลเลยนะ ที่คุยกันตอนนี้คือส่วนมากมันไม่แปลไง และคนอ่านส่วนมากก็รู้สึกว่าแบบนี้มันโอเคกว่าแปลทับศัพท์อิงค์ไง คนที่มีปัญหาตอนนี้คือคนที่มาร้องว่าต้องแปล มึงต้องแปลให้กู เพราะกูไม่อยากรู้สึกเหมือนเรียนจีนวันละคำ แล้วด่าว่าคนที่ชอบผิงกั่วอยู่แล้วสมองกลับ มึงงงใช่มั้ย พักก่อนนะ

กูพูดสักคำหรือยังว่า นิยายจีนแปลโบราณทุกเรื่องใช้คำว่าผิงกั่ว กูบอกว่าส่วนมากมั้ย และใช่กูอ่านนิยายจีนแปลโบราณเกือบทุกเรื่องนะ ด้วยหน้าที่การงานกูแล้ว มึงประชดแบบนี้ก็เสียเปล่าว่ะ กูอ่านมาตั้งแต่ยุคที่มันแปลทุกอย่างจนถึงรุ่นที่มีปัญหาเจิ้น เปิ่นกงเลยนี่แหละ มึงอาจจะมองว่าแปลไปสิคนไม่เคยอ่านจะได้เข้าใจ แต่ถ้ามองมุมรวมการไม่แปลไม่ตายไง แถมได้อรรถรสกว่าไง อิปัญหาผิงกั่วเนี่ย ในมุมมองสนพ. บก. นักแปลแล้ว มันไม่ใช่ปัญหาใหญ่ไงมึง ในเมื่อคน'ส่วนมาก'ชอบ การแสดงความเห็นแบบสุดโต่งโดยไม่คำนึงถึงบริบทสังคมของงานนั้นๆ แถมใช้เหตุผลแบบข้างๆคูๆมันก็ดูไร้สมองจริงๆนี่ ถ้าคุยแบบมีเหตุมีผลมีสมองแต่แรกไม่มีใครด่ามันหรอก

เรื่องแบบนี้ก็เหมือนโต้วาทีปะ มึงเองยังอยากวิจารณ์เลยแล้วทำไมพวกกูจะแย้งไม่ได้

114 Nameless Fanboi Posted ID:clqJoz788A

กูว่า ผิงกั่ว เยอะไป ต่อจากนี้มึงยาวเลยค่ะ อิงเถา ผลไม้อะไรมึงไม่ต้องแปลเลยค่ะ จำเอา เรียนศัพท์ภาษาจีน 101 ต่อจากนี้ลามเป็นสรรพนาม สถานที่ แล้วก็สิ่งของ สุดท้ายคนแปลมึงนึกคำอะไรไม่ออกไม่ต้องค้นคว้าค่ะ ใช้วิธีแปะเสียงพินอินแล้วอธิบายเชิงอรรถ

กูว่าชุ่ยไปหน่อยนะ มันมีวิธีที่ทำให้คนอ่านรู้สึกว่าเป็นนิยายจีนได้โดยไม่ต้องทับศัพท์ เหมือนนิยายตะวันตกที่ไม่ต้องใช้สรรพนามว่าไอ ยู เวลาพูด เหมือนสมมติถ้าคนแปลนิยายตต.มาแนว

“ไอไม่โอเคเลยนะ ยูอิ๊กนอร์แอฟแฟร์แบบนี้”
“โอ้ว ออเรนจ์ผลนั้นมันดีมาก ๆ โซเวรี่กู๊ด”

ต้องประมาณนี้ไหม ก็ไม่ต้อง เพราะงั้นกูเชียร์ให้แปล ถ้ากูอยากรู้ศัพท์ลับสมอง กูเปิด google หรือเรียนจากแอพได้

แต่พวกฮ่องเต้ ฮองเฮา อะไรประมาณนี้ไม่ต้องแปลก็ได้

115 Nameless Fanboi Posted ID:fMB14txja1

>>113 นี่กูก็ไม่ได้แทคใครนะ กูตอบความเห็นรวมๆ ที่ผ่านตามาทั้งหมดนั่นแหละ กูว่าสายงานกูก็สายงานเดียวกับเมิง แต่อันนี้มันเป็นเรื่องความชอบของแต่ละบุคคลเพราะมันไม่มีกฎตายตัวว่ะว่าต้องแปลหรือไม่แปลยังไง ส่วนใหญ่คือปรึกษากันกับนักแปลและฟังเสียงส่วนใหญ่ในทีม
ก็ต่างฝ่ายต่างพูดกันด้วยเหตุผลก็จบ แต่เมิงดูฝั่งที่โหวตผิงกั่วดิ หยาบคายแค่ไหน ก็อย่างที่มึงว่า มันเหมือนโต้วาที ก็คุยกันด้วยเหตุผลแค่นั้น ยังไงมันก็แก้ไขอะไรไม่ได้อยู่แล้ว

116 Nameless Fanboi Posted ID:fMB14txja1

>>114 +1

117 Nameless Fanboi Posted ID:cm8d4hArdc

กูเป็นคนเดียวเหรอที่โอเคกับทั้งผิงกั่วและแอปเปิ้ล 555555 หรือเพราะกูไม่รู้ภาษาจีนวะ จะใช้ผิงกั่วไปเลยกูก็ไม่ติดขัดนะ แต่ลองคิดเล่นๆสมมติว่าถ้ากูอ่านนิยายญี่ปุ่นย้อนยุคเจอคนแปลใช้ ริงโกะ ทับศัพท์มาเลยเพราะแอปเปิ้ลมันดูฝรั่งไป อันนี้กูน่าจะรู้สึกขัดๆแฮะ

118 Nameless Fanboi Posted ID:zd1dh72E3f

>>114 เอางี้ ข้อแรกมึงต้องเก็ตก่อนว่าเขาไม่ได้ให้มึงมาเรียนจีน 101 ในนิยาย เพราะงั้นมึงยกเหตุผลนี้มาอีกแปดพันรอบมันก็ดูงี่เง่า มึงเก็ตมั้ย มึงต้องเข้าใจก่อนว่าเขาพยายามคุยกันในเรื่องของความชอบ ความเคยชิน อรรถรส ความเหมาะสม ไม่ใช่เรื่องเรียนจีนห่าไรนั่น ไม่มีนิยายเรื่องไหนที่เขาเลือกใช้การทับศัพท์โดยมีวัตถุประสงค์ในการให้มึงเรียนจีน 101 และการอ่านนิยายจีนที่ทับศัพท์ก็ไม่ได้ช่วยให้มึงฉลาดขึ้นง่ายๆขนาดนั้นด้วย ดูจากการที่มึงยังไม่เก็ตสักทีว่าทำไมเขาแปลผลไม้อย่างอื่นได้แต่เลือกไม่แปลผลไม้หรือพืชที่ชื่อไทยมันทับศัพท์อิงค์ และยังมีปัญหาในเรื่องผิงกั่วโง่ๆนี่ แปลว่ามึงไม่เห็นจุดที่ใหญ่กว่าชื่อผลไม้โง่ๆอันนี้คือชื่อสมุนไพร ชื่อสมุนไพรจีนแม่งมีชื่อไทยเยอะมากแต่เขาเลือกทับศัพท์เกือบหมดเลยว่ะ มึงคิดว่าเพราะอะไรล่ะ มึงยังคิดว่ามันเป็นการทับศัพท์เพื่อเรียนจีน 101 โง่ๆนั่นอยู่อีกเหรอ

>>115 ข้อความส่วนมากของมึงตอบกู และใช่มันไม่มีกฎตายตัว ไม่ใช่ทุกสนพ.ที่ทับศัพท์และใช่มันแก้อะไรไม่ได้ เพราะแฟคมันคือคนอ่านนิยายจีนส่วนมากโอเคกับการทับศัพท์ไง กูเคยอยู่ในจุดที่รู้สึกว่าทับห่าไรเยอะแยะวะ และอยู่ในจุดที่เห็นคนโดนด่าเละเทะเพราะแปลแบบไม่ทับศัพท์เลยมาหลายรายแล้ว ดราม่านี่ก็เหมือนยุคที่คนนิยมเขียนนิยายเชตติ้งฝรั่งแล้วโดนด่าว่าเขียนเหมือนสำนวนแปลคนไม่ชอบน่ะแหละ การไม่ทับเลยก็โดนด่าว่าเหมือนนิยายจีนเสินเจิ้น อ่านแล้วไม่อิน อ่านแล้วขัดตาเช่นกัน ชอบไม่ชอบอยู่ที่จริต เขาคุยกันเรื่องนี้แหละ เก็ตแล้วเนอะ ขอบคุณ

ส่วนพวกที่หยาบคายมากๆ อืม นี่โม่งน่ะนะ คนที่อยากด่าหยาบจริงๆก็มี โทรลก็มี โง่โดยสันดานจนน่าด่าก็มี มันก็แล้วแต่ว่ามึงจะใส่ใจแค่ไหนล่ะนะ

119 Nameless Fanboi Posted ID:zd1dh72E3f

>>117 บริบทเรื่องการแปลการใช้คำในนิยายแปลแต่ละชาติมันค่อนข้างมีรากฐานต่างกันอยู่ อีกอย่างแอปเปิ้ลในญี่ปุ่นโบราณมันก็ไม่ค่อยมีด้วยไง แอปเปิ้ลเข้าไปมีบทบาทที่ญี่ปุ่นจริงๆช่วงปี 18xx กว่าๆ เอง ไม่พอ นิยายญี่ปุ่นโบราณก็ใช่จะหาอ่านได้ง่ายๆเหมือนนิยายจีนหรือตะวันตกโบราณด้วยน่ะ

120 Nameless Fanboi Posted ID:fMB14txja1

>>119 ไม่รากฐานอะไรหรอก อุปทานหมู่นั่นแหละ เหมือนใครจุดกระแสอะไรมาก่อนก็เฮโลตามๆ กัน นิยายจีนที่เด็กเพิ่งมาอ่านกันหลังๆ ดันนิยมทับศัพท์ เลยเห็นดีเห็นงามกันไป คิดว่าดูเท่ ดูคูล ดูจีน อย่างลม.ที่เนื้อหาครึ่งหน้า เชิงอรรถครึ่งหน้า ดันถูกใจกัน เฮ้อ
นิยายจีนโบราณสำหรับกูคือ ไม่เขียนขนมปังแทนหมั่นโถวก็พอละ อันนี้คือปิดทิ้ง
>>118 เรื่องสมุนไพรถ้ามีชื่อไทย กูแปลไทยว่ะ แต่สมุนไพรจีนคือส่วนใหญ่มันไม่มีชื่อไทย มีแต่ชื่อจีนในภาษาถิ่นอื่นๆ ก็จะเลือกคำที่คนไทยคุ้น ใช้ประจำ ถ้าไม่มีแม่งจริงๆ ถึงค่อยทับศัพท์และใส่ฟุตโน้ต

121 Nameless Fanboi Posted ID:.uTlIPt85M

แอปเปิลมันเป็นผลไม้เอเลี่ยนในไทย มันไม่มีชื่อไทย ก็ต้องเบือกระหว่างผิงกั่วกับแอปเปิล ซึ่งมันนิยายจีน กูว่าเรียกผิงกั่วก็ไม่ได้แน่อะไรนะ

122 Nameless Fanboi Posted ID:.uTlIPt85M

>>121 ไม่ได้แย่* สิ โอ๊ย ผิดอะไรเยอะแยะ

123 Nameless Fanboi Posted ID:zd1dh72E3f

>>120 ก็สมัยนิยมถูกแล้วนิ แล้วผิงกั่วมันก็แปลงี้มาตั้งแต่แนวรักจีนโบราณยุคแรกๆแล้วนะ อุปทานหมู่กันมาเป็นสิบกว่าปีเลยอ่ะ สุดยอดดดด มึงแยกยุคผิงกั่วกับยุคเจิ้นออกก่อนมั้ยวะ ไม่งั้นถกยาวกว่านี้อีกนะ ถ้ามึงจะไฟท์ว่าอุปทานหมู่นี่คือลากสนพ.ใหญ่มาทั้งยวงเลยนะมึง แล้วเจิ้น หนูปี้ เปิ่นกง เกอ นี่ก็เป็นยุคที่ได้อิทธิพลจากการที่เราเริ่มดูหนังจีนจากซับไทยด้วยซ้ำนะ จากเดิมที่เราโตมากับหนังจีนพากย์ไทย ยุคสมัยเปลี่ยนจริตความชอบความเคยชินของคนก็เปลี่ยน เทียบญี่ปุ่นงี้ก็เริ่มทับคำว่าเซนเซย์คำว่าซามะเพื่ออรรถรสกันมากขึ้น เพราะบางอย่างคำไทยมันแทนไม่ได้ยิ่งเป็นคำทับจากอิงค์ยิ่งไม่เข้าก็มีไงมึง

นี่กูยังไม่ได้พูดถึงการดีดดิ้นการแปลชื่อสัตว์เลี้ยงนะเพราะจุดเริ่มต้นมันมาจากการบ่นเรื่องไม่แปลชื่อสัตว์เลี้ยง เนี่ยถามมึงจริงๆเลย ม้าพระเอกชื่อเสี่ยวเฮยมึงแปลมั้ย แปลว่าดำน้อยงี้เหรอ

124 Nameless Fanboi Posted ID:8P/4SKaKb2

>>123 เจ้าดำน้อยมันแย่ตรงไหนหรอ เรื่องกระบี่เทพสังหารก็มีชื่อเจ้าเทานะ

125 Nameless Fanboi Posted ID:nn3wE0zBW1

>>120 ไม่น่าจะเหมาะกับการแปลทุกชื่อไทยจนหมดหรอก ยกตัวอย่าง ถ้ามีสมุนไพรที่มีชื่อไทยมากๆ เวลาอ่านมันไม่สะดุดบ้างหรือ เช่นประคำดีควาย ข้าวเย็นเหนือข้าวเย็นใต้ หนุมานประสานกาย เพชรสังฆาต เป็นต้น ใส่ชื่อจีนแล้วลงเชิงอรรถน่าจะเหมาะกว่า

126 Nameless Fanboi Posted ID:kKdBTNDHnK

>>123 ชื่อสัตว์แปลมากูก็โอเคนะ ถถถถ

127 Nameless Fanboi Posted ID:ZBSojBLZAF

>>123 ky เดี๋ยวนี้ญี่ปุ่นแปลเป็นเซนเซย์แล้วเหรอวะ กูเห็นแต่อาจารย์อยู่เลย ซามะก็ยังแปลว่าท่าน ทั้งสายการ์ตูนและนิยาย อย่างสนพไลท์โนวที่ลูกค้าเป็นกลุ่มโอตาคุเยอะเรื่องที่กูตามก็แปลเลย คนแปลพยายามหาคำให้ใกล้เคียงที่สุดไม่ใช่แค่ใส่เชิงอรรถแล้วจบๆไป มึงช่วยตัวอย่างสนพ.และเรื่องที่แปลทับศัพท์ได้มั้ย
กูเคยเห็นคนแปลชื่อสัตว์เป็นเจ้าขาว เจ้าดำบ่อยนะ
เห็นความเห็นวันนี้ กูต้องทำใจล่วงหน้าเลยสินะว่าคงไม่มีคำว่าอาจารย์แล้ว มีแต่ซือจุน ซือฝุเพราะเคยชินมาสิบกว่าปี กูกูผู้ชื่นชอบการทับศัพท์ก็แปลมาสิบกว่าปีแล้ว เหตุผลนี้เอามาใช้ได้ ต่อไปก็เตรียมรับมือการก้มๆเงยๆอ่านเชิงอรรถกันนะ

128 Nameless Fanboi Posted ID:LS/fmii.3C

เรื่องชื่อที่มีคำไทยจะแปลไม่แปลกูให้ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณผู้แปล ถ้าไม่แปลต้องมีเชิงอรรถ ส่วนใครใช้ทับศัพท์อิ้ง แอปเปิ้ล เชอร์รี่ แดนดิไลออน ทิวลิปในจีนโบราณกูปัดตก

129 Nameless Fanboi Posted ID:cm8d4hArdc

>>127 ถ้าสายญี่ปุ่น กูเห็นพวกแปลทับศัพท์คือพวกซับอิ๊งนะ ซับอิ๊งจะชอบใช้ oniisan sensei senpai -sama -san อะไรแบบนั้นไปเลย พวกแฟนซับอนิเมะไทยบางเจ้าก็อาจจะทำแบบนั้นมั้ง ตรงนี้กูเดาละเพราะกูไม่ดูแฟนซับของไทย

ส่วนของสำนักพิมพ์กูยังไม่เคยเจอคนทับศัพท์พวกนี้ อย่างมากก็แค่ซัง จัง คุง ยังไม่เคยเจอทับศัพท์ซามะหรือเซนเซ ถ้าเจอทับศัพท์จะเป็นพวกศัพท์เฉพาะบางวงการ อย่าง เมย์จิน ในวงการหมากรุก เทือกๆนั้น

130 Nameless Fanboi Posted ID:kKdBTNDHnK

>>129 จริง สนพ.ไม่ทับซับกัน คำว่า ซัง ยังหายากเลย

131 Nameless Fanboi Posted ID:qrdYbc/Q2a

>>127 >>129 +1 พวกที่ว่าสมัยนี้ใช้เซนเซ เซนไป ซามะนี่น่าจะชินจากการอ่านแปลอิ้งไม่ก็แปลไทยเว็บเถื่อนอะ กูอ่านไลท์โนเวลแปลไทยไม่เคยเจอนะ อย่าสับสนเอามาปนกันเด้อ

กูเห็นหลายสนพ.กับนข.ไทยเริ่มใช้เจิ้นกัน แต่ซือจุนเพิ่งเจอในตัวร้าย มีสนพ.อื่นเริ่มบ้าจี้ใช้ตามแล้วหรอวะ orz เพิ่งอ่านจีนโบราณของโรสไปสองเรื่อง ยังใช้อาจารย์อยู่นะ

132 Nameless Fanboi Posted ID:DxWrUswv5a

ซือจุนทำกุเสียอรรถรสในการฟินศิษย์อาจารย์มากบอกตรงๆ

133 Nameless Fanboi Posted ID:B+uHnQNLrv

>>131 ก่อนหน้านี้นิยายที่กูกูแปลชอบทับซือฝุ กูกลัวว่าฮัสกี้กับจารย์แมวกูจะโดนแปลเป็นซือจุนเหมือนกัน กูต้องการความบาปไม่ใช่เพ็ทเนมน่ารักๆ

134 Nameless Fanboi Posted ID:B+uHnQNLrv

>>131 ก่อนหน้านี้นิยายที่กูกูแปลชอบทับซือฝุ กูกลัวว่าฮัสกี้กับจารย์แมวกูจะโดนแปลเป็นซือจุนเหมือนกัน กูต้องการความบาปไม่ใช่เพ็ทเนมน่ารักๆ

135 Nameless Fanboi Posted ID:aGM3iY7E9i

ขอ KY สปอยเทียนกวาน อาร์ค 2 ต่อจาก >>92 เทียนกวาน Part.59
.
.
.
.
.
หลางอิงเล่าว่าตอนนี้หย่งอันแห้งแล้งไม่อาจทำการเพาะปลูก ผู้คนขาดรายได้และอดอยากล้มตาย ในเมื่อเมืองหลวงหล่อรูปปั้นทองคำ โยนเหรียญขอพรลงในสระน้ำได้ เหตุใดจึงไม่บริจาคให้หย่งอันบ้าง ฉีหรงด่าอีกฝ่ายว่าใช้ความจนมาอ้างเพื่อขโมยของของเทพเจ้า หลางอิงเลยบอกว่าเช่นนั้นเขาจะคุกเข่าโขกหัวคำนับเพื่อให้องค์เทพแบ่งปันทรัพย์สินช่วยเหลือ ฉีหรงเอ่ยอีกว่าเซี่ยเหลียนงานเยอะ ไม่มีเวลาสนใจคนต่ำต้อยอย่างอีกฝ่าย ซึ่งหลางอิงก็เห็นด้วย เพราะพวกเขาสวดภาวนาขอร้องแล้วก็ไม่เห็นมีอะไรดีขึ้น คำพูดนั้นทำให้ฉีหรงโกรธมาก เขาสั่งให้ทหารซ้อมหลางอิง แต่เฟิงซิ่นก็ใช้พลังช่วยทำให้การโจมตีของพวกเขาเบาลง ตอนนั้นเองมู่ฉิงก็มาถึงพอดี แต่เขาก็ไม่เคยได้ยินเรื่องภัยแล้งในหย่งอันเช่นกัน พอฉีหรงสั่งให้คนจับหลางอิงไปขัง เซี่ยเหลียนจึงใช้พลังทำให้รูปปั้นโยก ฉีหรงที่กลัวว่ารูปปั้นของเซี่ยเหลียนจะล้มจึงสั่งให้พวกทหารไปช่วยตนจับรูปปั้นไว้ หลางอิงเลยอาศัยจังหวะนั้นหลบหนีไปได้

เมื่อหลางอิงหยุดพักที่ใต้ต้นไม้ในป่า เซี่ยเหลียนก็จำแลงกายเป็นนักพรตเข้าไปหาอีกฝ่ายซึ่งกำลังใช้มือเปล่าขุดดิน เขายื่นน้ำดื่มให้ชายหนุ่มที่รับมันไปดื่มอย่างกระหายก่อนเอ่ยขอบคุณ หลังจากสอบถามความเป็นมา หลางอิงก็บอกว่าพวกตนมาจากอ่าวหลางเอ๋อร์ในหย่งอัน พอเห็นเซี่ยเหลียนสงสัยคำว่าพวกตน ชายหนุ่มจึงปลดย่ามลงมาเปิดให้เซี่ยเหลียนเห็นศพของเด็กชายอายุราว 2-3 ขวบด้านใน หลางอิงเล่าว่าเขาไม่รู้เลยว่าลูกของตนตายเพราะกระหายน้ำ หิว ป่วย หรือว่าทุกอย่างรวมกัน เขาแบกอีกฝ่ายที่ร้องไห้และไอไม่หยุดออกจากเมือง ตอนที่บุตรเงียบเสียงก็นึกว่าหลับไป แต่หลังจากนั้นถึงเขาพยายามปลุกเท่าไรอีกฝ่ายก็ไม่ตื่นขึ้นมาอีกเลย หากภรรยาที่จากไปทราบคงด่าเขาไม่หยุด แต่เขาก็ยังอยากให้เธออยู่ตรงนี้ด้วย

หลางอิงขอตัวกลับไปขุดหลุมเพื่อฝังลูกชาย สักพักเซี่ยเหลียนก็คิดได้ว่าให้น้ำอย่างเดียวคงไม่พอจึงส่งตุ้มหูปะการังสีแดงที่เหลือข้างเดียวของตนให้ หลางอิงไม่ปฏิเสธ เขารับมันไปพร้อมเอ่ยขอบคุณอีก มู่ฉิงที่สืบได้ความแล้วตามมาแจ้งว่าที่หย่งอันมีอารามของเซี่เหลียนเพียงน้อยนิด และมีกฎว่าถ้าใครจะขอพรต้องบริจาคเงินด้วยทำให้พวกเขาไม่ได้ยินเสียงสวดภาวนาของชาวบ้านหย่งอัน จากนั้นเซี่ยเหลียนก็สั่งให้ผู้ติดตามทั้งสองไปดูสถานการณ์ในหย่งอัน ส่วนตัวเขาจะไปสอบถามราชครูให้ได้ความ

แม้จะมีกฎห้ามเทพปรากฏตัวต่อหน้ามนุษย์ แต่ก็มีข้อยกเว้นสำหรับนักพรตชั้นสูง เมื่อรับรู้การมาของอดีตลูกศิษย์ ราชครูก็ให้คนอื่นออกจากหอแล้วปิดประตูคุยกับเซี่ยเหลียนสองคน เขาบอกว่าราชารู้เรื่องที่เกิดขึ้นในหย่งอันดี และเป็นเขาเองที่คนแนะนำไม่ให้ราชาหรือราชินีบอกเรื่องนี้กับเซี่ยเหลียน เพราะถึงเซี่ยเหลียนรู้ไปก็ไม่เกิดประโยชน์อันใด เซี่ยเหลียนบอกว่าจะไม่ให้เขาสนใจประชาชนของตัวเองได้อย่างไร เขาขอให้อาจารย์แจ้งราชาว่าไม่ต้องสร้างอารามให้เขาอีก ส่วนรูปปั้นทองคำก็สามารถนำไปหลอมเอาเงินไปช่วยขุดคลองส่งน้ำ พอได้ยินดังนั้นราชครูก็บ่นว่าเซี่ยเหลียนได้ขึ้นสวรรค์เร็วเกินไป ตอนนี้ประชาชนยังไม่ตายทั้งหมดเสียหน่อย

เซี่ยเหลียนโกรธผู้เป็นอาจารย์มาก แต่ราชครูก็ต่อว่าเซี่ยเหลียนที่ไม่ยอมตัดขาดสถานะบนภพมนุษย์ ทั้งยังบอกว่าอีกฝ่ายไร้พลัง การมายุ่งจะพาลทำให้เรื่องยุ่งยากกว่าเดิม เซี่ยเหลียนไม่เชื่อว่าหากเขาพยายามลงมือจะไม่เกิดผลอะไรเลยจึงตั้งใจจะไปคุยกับบิดาด้วยตนเอง ราชครูบอกว่าอย่าได้ทำอะไรโง่ๆ เซี่ยเหลียนเลยถามว่าถ้าเช่นนั้นเขาทำอะไรได้บ้าง เทพถูกเรียกว่าเทพเพราะช่วยเหลือมนุษย์ไม่ใช่หรือ ถ้าอย่างนั้นเขาจะขึ้นสวรรค์มาเพื่ออะไร
ราชครูบอกว่าเขาเห็นอนาคตของเซี่ยเหลียนมีแต่ความดำมืด หากเซี่ยเหลียนช่วยเหลือประชาชนไม่ได้ คนเหล่านั้นจะลากเซี่ยเหลียนลงจากแท่นบูชา แต่เซี่ยเหลียนเชื่อว่าคนของเขาจะไม่เป็นเช่นนั้น แต่ถ้าเขาไม่อาจช่วยเหลือประชาชนได้ก็ไม่ควรได้อยู่บนแท่นบูชาอยู่ดี สักพักราชครูก็ถอนหายใจ อธิบายว่าแม้สิ่งที่พ่อเซี่ยเหลียนทำอาจไม่ถูกต้อง แต่ก็ไม่อาจกล่าวได้ว่าผิด ไม่ใช่ว่าราชาไม่เคยคิดจะส่งเงินไปช่วยหย่งอัน เขาบอกให้เซี่ยเหลียนลองไปดูด้วยตนเองว่าหากเป็นตัวเองจะทำอะไรได้หรือไม่ เซี่ยเหลียนจึงขอบคุณอีกฝ่ายแล้วเดินทางไปหย่งอันทันที
.
.
.
.
.

136 Nameless Fanboi Posted ID:GHCJxP42dF

>>123 ก็อุปทานหมู่กันมาเป็นสิบปีนั่นแหละ สมัยที่นิยายจีนสมัยใหม่เริ่มบูม ลม.เริ่มมีชื่อที่เริ่มกระแสทับศัพย์ยัน สิบปีนี่ระยะเวลาสั้นๆ เองนะ สำหรับกูยังรู้สึกมันคือนิยายสมัยใหม่ สมัยเก่าสำหรับกูคือยุคกิมย้ง หม่าหยงเฉิง สามก๊ก

137 Nameless Fanboi Posted ID:GHCJxP42dF

>>123 ลืมตอบเรื่องสัตว์เลี้ยง เป็นกูแปลว่ะ อย่างที่พูดคือ ลองคิดตามมุมมองของคนจีนอ่าน ที่เขาตั้งชื่อง่ายๆ แบบนี้คือพอคนจีนอ่านปุ๊บ เห็นภาพปั๊บ และให้ความรู้สึกว่ามันง่าย แต่ถ้าเป็นคนไทยอ่านทับศัพท์ มันต้องมาแปลงสารอีกที มันไม่ได้อารมณ์ง่ายๆ แบบที่คนเขียนตั้งใจ
เจ้าดำน้อยไม่น่ารักยังไงวะ

138 Nameless Fanboi Posted ID:XvFjeN+ofx

>>135 ขอบคุณ​โม่งสปอย เป็นเทพนี่มันปวดหัวอิ๊บอ๋าย อยู่ให้สุขสบายไม่ได้เลย หรือเซี่ยเหลียนอยู่ไม่สุขเอง 555 ฝ่ายคนจะขอพรก็ต้องบริจาคอีก กฎอะไรวะ

139 Nameless Fanboi Posted ID:CGFD.CbVqx

>>135 สงสารเซี่ยเหลียนว่ะ มีกฏไม่ให้เทพมายุ่งเรื่องในโลกมนุษย์เพราะเหตุนี้รึเปล่าวะ

140 Nameless Fanboi Posted ID:pIbdcZGrn.

>>135 เออ อ่านล่ะก็ได้แต่คิดว่าถ้าเป็นเทพแล้วไม่ให้ช่วยเหลือมนุษย์ แล้วมีเทพไว้ทำไมวะ เพื่อยึดเหนี่ยวจิตใจอย่างเดียวเหรอ หรือว่าช่วยได้บางเคสที่แบบไม่ได้กระทบโชคชะตาใคร

141 Nameless Fanboi Posted ID:VH.BDiROBt

>>140 ในตอนแรกจะมีบอกไว้ว่าเทพช่วยเหลือมนุษย์ได้ในเคสที่เกี่ยวข้องกับผีหรือมารเท่านั้น ถ้าเป็นปัญหาระหว่างมนุษย์เองไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยว

142 Nameless Fanboi Posted ID:ewxj3G2ork

>>138 เป็นเซี่ยเหลียนที่อยู่ไม่สุขเองน่ะ 555 ส่วนเรื่องบริจาคนี่เป็นเพราะถ้าไม่มีคนบริจาคเลย อารามจะไม่มีปัจจัยไว้ดูแลสถานที่ซื้อธูปเทียนเข้าวัด หย่งอันตอนนี้เหลือแต่คนจนเลยไม่มีใครบริจาคเงิน ทางอารามเลยตั้งกฎขึ้นมาเอง

>>139 กฎมีมานานแล้วอะ เพราะโลกมีวัฏจักรของมันถ้าเทพมามีเกี่ยวเดี๋ยวมันจะยุ่ง

>>140 เสริมจาก >>141 นอกจากนั้นก็อาจช่วยอำนวยพรนิดๆ หน่อยๆ อย่างเทพสงครามอย่างเซี่ยเหลียนสามารถอำนวยพรด้านการป้องกันคุ้มภัย เทพแห่งน้ำช่วยอำนวยพรด้านการเงิน การเดินทางค้าขาย เทพแห่งดินอำนวยพรด้านการก่อสร้าง เทพวรรณกรรมช่วยด้านการงาน อะไรพวกนั้น

143 Nameless Fanboi Posted ID:a0wzr+M+wO

สนพ. บอกว่า ปรมจ.กำหนดออก 3-4 เดือนเล่ม เล่มสองออกตอนเดือนไหนนะ กูจะได้นับเดือนรอ คิดถึงหานกวงจวิน

144 Nameless Fanboi Posted ID:7RCOYT6y26

>>143 เหมือนกุจะได้กันยา วันที่ 18 แต่คนที่พรีรอบแรก น่าจะได้ก่อน 15มั้ง

145 Nameless Fanboi Posted ID:u1jxeah8gX

สปอยเทียนกวาน อาร์ค 2 ต่อจาก >>135 เทียนกวาน Part.60
.
.
.
.
.
สถานการณ์ในหย่งอันแย่มาก เฟิงซิ่นกับมู่ฉิงที่สืบข่าวได้แล้วรีบรายงานเซี่ยเหลียนว่าภัยแล้งในเซียนเล่อมีเค้าลางมาตั้งแต่เมื่อ 2 ปีก่อน แต่ปีนี้น้ำน้อยกว่าปรกติมากโดยเฉพาะในภาคตะวันตกอย่างหย่งอัน ครอบครัวคนรวยยังพอหาซื้ออาหารกับน้ำดื่มจากที่อื่น และพากันย้ายบ้านได้ คนที่เหลือจึงมีเพียงคนยากไร้ ราชาเคยส่งเงินมาช่วยนานแล้ว แต่ทุกครั้งที่ผ่านมือข้าราชการมันก็ถูกยักยอกออกไปจนสุดท้ายก็ไม่เหลืออะไร หากฝืนส่งมาอีกก็มีแต่จะเป็นอาหารให้พวกปรสิต ราชาจึงเลิกส่งเงินมาช่วย มู่ฉิงคิดว่าสิ่งที่เกิดในภพมนุษย์คือความรับผิดชอบของราชาไม่ใช่เซี่ยเหลียน การเข้าไปยุ่งจะเป็นการเอาปัญหามาสู่ตัวเองมากกว่า และถึงแม้เซี่ยเหลียนจะไปสั่งให้ข้าราชการพวกนั้นคืนเงินมาก็ไม่ได้ช่วยแก้ต้นเหตุของปัญหา

เฟิงซิ่นเสนอให้ขุดคลองส่งน้ำ แต่พอเซี่ยเหลียนมาเห็นสถานที่จริงจึงรู้ว่าไม่มีทางเป็นไปได้ ตอนนี้ทุกที่ล้วนประสบภัยแล้งจะให้แบ่งน้ำจากที่อื่นมาคงไม่ได้ อีกทั้งการสร้างก็ต้องใช้เวลาหลายปี แต่ในเมือใช้วิธีสามัญไม่ได้ แม้ก่อนหน้านี้นอกจากจวินอู๋แล้วเขาจะไม่เคยไปพยายามผูกมิตรหรือเยี่ยมเยียนเทพองค์ใดเพราะอยากปฏิบัติต่อทุกคนอย่างเท่าเทียม แต่เขาจะบากหน้าไปขอยืมอุปกรณ์เทพจากเทพแห่งฝนเพื่อโยกย้ายน้ำจากภาคตะวันออกของเซียนเล่อมาช่วยหย่งอัน ทว่ามู่ฉิงแย้งว่านอกจากหย่งอันแล้วที่อื่นในเซียนเล่อก็ล้วนมีน้ำน้อย การนำน้ำจากตะวันออกมาให้หย่งอันจะทำให้ที่นั่นรับเคราะห์ไปแทน และด้วยจำนวนประชากรที่มากกว่าก็จะทำให้มีคนเสียชีวิตมากขึ้น

เซี่ยเหลียนคิดไม่ตก เขาเห็นชาวหย่งอันที่ผอมแห้งใกล้ขาดน้ำและอาหารตายอยู่เต็มเมือง เขาบอกให้เฟิงซิ่นและมู่ฉิงพยายามขนน้ำมาที่นี่ระหว่างที่เขาคิดหาวิธีแก้ไข แม้เฟิงซิ่นจะรับคำสั่งอย่างเต็มใจ แต่มู่ฉิงก็ยังไม่เห็นด้วย เขาบอกว่าพวกตนไม่อาจช่วยเหลือคนเหล่านี้ไปตลอด และไม่อาจช่วยได้ทั้งหมด เซี่ยเหลียนเป็นเทพสงครามไม่ใช่เทพแห่งน้ำ แต่ถึงจะเป็นเทพแห่งน้ำก็ไม่สามารถสร้างน้ำจากความว่างเปล่าได้อยู่ดี และพวกเขาไม่มีพลังมากพอ คำพูดนั้นทำให้เซี่ยเหลียนชะงัก แต่สุดท้ายเขาก็ยังเดินหน้าต่อไป

เซี่ยเหลียนไม่แน่ใจว่าทำไมตัวเองกลับมาที่ราชวังทั้งๆ ที่ปรากฏตัวให้คนอื่นเห็นไม่ได้ อีกทั้งก็ไม่ได้ต้องการมาหาพ่อแม่ เขาเดินไปตามสถานที่คุ้นเคยจนกระทั่งพบราชากับราชินีอยู่ด้วยกันเพียงลำพัง เแม่ของเขากำลังลูบหน้ากากทองที่ลูกชายเคยสวมใส่ เส้นผมที่กลายเป็นสีเทาของบิดาทำให้เซี่ยเหลียนอดสงสัยไม่ได้ เพราะตอนที่อีกฝ่ายไปที่อารามของเขาเมื่อไม่นานมานี้ผมก็ยังเป็นสีดำ หลังจากฟังทั้งสองพูดจึงได้รู้ว่าทุกครั้งที่จะไปอาราม ราชาจะย้อมผมก่อนเสมอเพื่อไม่ให้ลูกชายเห็น ราชินีบอกให้สามีไปพักผ่อน แต่ราชาบอกว่าเขายังต้องทำงานเพราะวันนี้มีชาวหย่งอันจำนวนหนึ่งอพยพมาที่เมืองหลวง หากมาเฉยๆ และมีจำนวนแค่หลัก 10 หลัก 100 ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้ามีคนอพยพมาเป็นพันเป็นหมื่น รวมไปถึงขโมยเงินวัดอย่างเรื่องที่เกิดในวันนี้ นั่นอาจเกิดปัญหาตามมา ราชินีอดเปรยไม่ได้ว่าหากเซี่ยเหลียนยังอยู่ก็จะได้ช่วยแบ่งเบางานให้พ่อ ราชาแย้งว่าแค่อีกฝ่ายไม่สร้างปัญหาให้เขามากขึ้นก็ดีแล้ว แต่คงเป็นการดีกว่าที่จะปล่อยให้บุตรได้ทำทุกอย่างตามที่ใจปรารถนา ใช้ชีวิตอย่างอิสระไม่ต้องรู้เรื่องอะไรอยู่บนสวรรค์

ได้ยินดังนั้นราชินีก็ยิ้มบอกว่าเป็นราชาเองที่ชอบสปอยลูกชายตั้งแต่เด็ก ก่อนบ่นว่าตั้งแต่อยู่ที่เขาไท่ชางเซี่ยเหลียนก็ไม่ค่อยยอมกลับมาเยี่ยมที่บ้าน พอเป็นเทพก็ยิ่งได้เจอกันยาก พวกเขาไม่ได้เจอลูกชายมา 3 ปีและไม่รู้จะได้พบอีกเมื่อไร แต่เธอจะไม่ด้วยเกรงว่าหากขอให้อีกฝ่ายมาปรากฏตัวจะทำให้ลูกชายทำผิดกฎสวรรค์จนเดือดร้อน ตอนนี้แค่เธอได้มองรูปปั้นของลูกชายก็เพียงพอแล้ว

ยิ่งฟังทั้งสองคนพูดเซี่ยเหลียนก็ยิ่งรู้สึกผิด แต่เขาก็ยังนึกไม่ออกอยู่ดีว่าจะคุยอะไรกับพ่อแม่ เขาจำแลงกลายเป็นนักพรตสืบหาข้อมูลปริมาณน้ำในเมืองหลวงแล้วก็พบที่มู่ฉิงบอกว่าทุกแห่งในเซียนเล่อมีปริมาณน้ำน้อยลงมากเป็นเรื่องจริง เขายืนเครียดอยู่ข้างแม่น้ำจนกระทั่งฝนเริ่มตก พอเห็นเซี่ยเหลียนยืนนิ่งก็มีชายสองคนดึงเขาไปหาที่หลบด้วย เมื่อฝนเริ่มซาชายคนหนึ่งจึงยกร่มของตนให้เซี่ยเหลียน ก่อนใช้ร่มคันเดียวกับเพื่อนวิ่งจากไป สักพักเซี่ยเหลียนก็เห็นอารามเล็กๆ ที่มีป้ายติดว่า “กายอยู่ในนรก ใจอยู่บนสวรรค์” เป็นอารามของเขานั่นเอง ที่นี่ไม่มีนักพรตประจำการ อีกทั้งรูปปั้นดินเหนียวก็บิดเบี้ยวน่าตลกเป็นอย่างมาก ดอกไม้สีขาวที่ปักอยู่ในมือของรูปปั้นสะดุดตาเซี่ยเหลียน นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นดอกไม้จริงๆ บนรูปปั้นของตัวเองจึงอดเดินเข้าไปดูใกล้ๆ ไม่ได้
.
.
.
.
.

146 Nameless Fanboi Posted ID:SaJ+rTXoLH

>>145 Many thx นะโม่งสปอย กูเตรียมใจมาพอสมควรนะว่า arc นี้แม่งต้องดราม่า แล้วก็ดราม่าหน่วงๆ จริงว่ะ เรื่องแล้งน้ำนี่ก็บทเรียนเดียวกับที่ราชครูเคยเตือนเลย ปวดใจ รู้สึกเหมือนดูปรมจ.ฉากย้อนอดีต แม่งอยากให้รีบขึ้นว่า 16 ปีผ่านไป ฉิบหาย 555

147 Nameless Fanboi Posted ID:CitU25ZizR

>>145 ขอบคุณสำหรับสปอยเหมือนเดิมนะเพื่อนโม่ง กูว่าเทียนกวานมันแบบเหมือนเป็นบทเรียนของเซี่ยเหลียนอ่ะว่าบทโลกนี้มันไม่มีทางที่ทุกอย่างจะได้อย่างใจ แม้ว่าเราจะพยายามแค่ไหนก็เถอะ ชอบอ่ะ ยิ่งอ่านยิ่งชอบงานแม่โม่ คือเขาปั้นคาร์ตัวละครมาดีจริงๆ คือไม่ได้เป็นคาร์ที่มาแค่จากการเขียนบรรยายนิสัยบรรทัดเดียว แต่เป็นคาร์ที่เราสัมผัสได้ผ่านวิธีการคิด การแสดงออกจริงๆอ่ะ

148 Nameless Fanboi Posted ID:sxmw3wJfTi

>>145 อ่านถึงตรงชายที่ให้ร่มเซี่ยเหลียนแล้วปวดใจเลย พอรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับนางก็...

149 Nameless Fanboi Posted ID:xBHTUdSmkQ

>>146 นี่แค่สปอยล์นะ ถ้าอ่านเต็มๆ จริงๆ คงหน่วงน่าดู กูจะไปเพิ่มความแข็งแกร่งของตับรอไว้เลย

150 Nameless Fanboi Posted ID:EWabiMS3Eh

ตอนตัวร้ายนี่เขาออกแต่ละเล่มห่างกันแค่ไหนอ่ะ ไม่ใช่อะไรคือกูต้องเกียมตังให้เทียนกวานไง แล้วมีปรจ ฮัสกี้และฆ่าหมาป่าอีกที่ออกปีหน้าพร้อมกัน นี่ยังไม่รู้นะว่าสองเรื่องหลังกี่เล่มจบออกปีหน้าด้วยมั้ยแต่เตรียมตัวก่อนเลย แถมเทียนกวานมีบ็อกด้วย / นิพพาน

151 Nameless Fanboi Posted ID:TOcfc9vOd6

>>146 กูก็ชอบงานแม่โม่มากที่ตัวละครของเขามีมิติ โดยเฉพาะในเรื่อง ปรมจ กับเทียนกวาน สำหรับกูแล้วประเด็นหลักของเรื่องเทียนกวานคือความมั่นคงอะ คือชีวิตมันมีอะไรจำกัด มีขึ้น มีลง มีดี มีร้าย มีสมหวัง มีผิดหวัง บางครั้งก็ทำถูก บางครั้งก็ทำผิด ทำดีไม่ได้ดี ทำดีคนอื่นไม่เห็นค่า ทำดีแล้วกลายเป็นทำร้ายคนอื่น บางครั้งก็ถูกทำร้ายจนแทบทนไม่ไหว แต่เราจะยังมั่นคงกับความคิดของเราอยู่หรือเปล่า เหมือนที่อาจารย์เหม่ยบอก “เมื่อมนุษย์ขึ้นสวรรค์พวกเขาก็ยังคงเป็นมนุษย์ และเมื่อมนุษย์ล้มเหลว พวกเขาก็ยังคงเป็นมนุษย์อยู่ดี” ไม่ว่าเราจะประสบความสำเร็จ (เป็นเทพ) หรือล้มเหลว (เป็นมาร) ยังไงนั่นก็คือตัวเราเอง สิ่งที่กำหนดให้เราเป็นเราไม่ได้เกี่ยวกับผลลัพท์ของสิ่งที่เราทำ แต่เป็นเราที่เลือกว่าจะทำดี (เป็นเทพ) หรือทำเลว (เป็นมาร)

>>150 ถ้าจำไม่ผิดน่าจะทุกๆ 3 เดือนนะ

152 Nameless Fanboi Posted ID:BF3NwOPIwo

โม่งสปอยหรือใครก้ได้กุขอถามหน่อย เทียนกวานมีฉากอย่างว่ามั้ยอ่ะ คือกุเป็นพวกวิญญูชนจอมปลอม อ่านเอ็นซีได้แหละแต่ไม่ชอบซื้อเก็บไว้ในบ้านเพราะกลัวเสียภาพพจน์ กูซื้อแต่ที่พวกบรรยายปย.เดียวตัดเข้าโคมไฟงี้ งานโม่เซียงกุยังไม่เคยอ่านนอกจากตัวอย่างในเว็บไม่รู้ว่าฉากอย่างว่ามันลึกล้ำขนาดไหน

153 Nameless Fanboi Posted ID:UKXhn1YXcA

>>152 เทียนกวานไม่รู้ แต่ตัวร้าย HD มาก ระดับหนังโป๊ เห็ดเป็นเห็ดจนกูอ่านแล้วรับไม่ได้เลย ดีที่มีแค่ตอนพิเศษกูเลยข้ามยาวๆ ชัดเกินไม่อีโรติกแบบนิยายทั่วไปด้วย แต่ถ้าใครอ่านเพื่อกามก็คงชอบ กามมาก

154 Nameless Fanboi Posted ID:tYZ/pUih3a

>>152 รู้สึกจะไม่มีนะ มีแต่บอกเป็นนัย แอบเสียดายเล็กน้อยถึงปานกลางเพราะแม่โม่บอกเองเลยว่าฮวาเฉิงเก่งที่สุดในพระเอกทั้งสามคน

155 Nameless Fanboi Posted ID:2sCL0hMuM7

>>152 ไม่มี ฉวาเฮิงไม่ให้ดู

156 Nameless Fanboi Posted ID:2sCL0hMuM7

>>155 ฮวาเฉิง*

157 Nameless Fanboi Posted ID:uNXg1K6Jp.

>>153 อ้าว ตัวร้ายมีฉากเยอะเหรอวะ กูอ่านเล่มสามถึงตอนเจ็บ แล้วก็ยังไม่ได้อ่านตอนพิเศษเพราะกว่าจะเข็นให้จบก็เหนื่อยมาก รู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ตรงจริตเท่าไหร่

158 Nameless Fanboi Posted ID:uNXg1K6Jp.

>>157 พิมพ์ผิด อ่านถึงตอนจบ ไม่ใช่ตอนเจ็บ

159 Nameless Fanboi Posted ID:oKslPW/E9M

>>155 ฮวาเฉิงงก :P
จริงๆ คือรัฐบาลจีนเริ่มปรามพวก Y พอดี โถ่ อดเลย

160 Nameless Fanboi Posted ID:hVZqYVzi7K

สปอยเทียนกวาน อาร์ค 2 ต่อจาก >>145 เทียนกวาน Part.61
.
.
.
.
.
ตอนนั้นเองก็มีเสียงคนวิ่งอย่างรีบเร่งเข้ามาในอาราม เซี่ยเหลียนจึงกลับไปใช้กายทิพย์ซ่อนไม่ให้คนๆ นั้นเห็น อีกฝ่ายเป็นเด็กชายแต่งกายสกปรก ใบหน้าเต็มไปด้วยผ้าพันแผล มือทั้งสองประคองดอกไม้สีขาว แม้จะจำใบหน้าและชื่อของอีกฝ่ายไม่ได้แล้ว แต่เซี่ยเหลียนก็คิดว่าคนๆ น่าจะเป็นเด็กชายที่ตกจากกำแพงคนนั้น เด็กชายนำดอกไม้เปลี่ยนให้กับรูปปั้น ยืนประสานมือทำความเคารพ ไม่ได้คุกเข่าคำนับอย่างที่คนอื่นทำ ทำตามที่เซี่ยเหลียนกล่าวว่าไม่อยากให้มนุษย์กราบไหว้ และมันก็ทำให้เซี่ยเหลียนประทับใจมาก

ไม่นานนักก็มีเด็กชายรุ่นราวคราวเดียวกันกลุ่มหนึ่งเข้ามาพูดจารังแกเด็กชาย เด็กชายโกรธจนเข้าไปเปิดฉากกับฝ่ายตรงข้าม แต่เด็กกลุ่มนั้นมีจำนวนมากกว่า เซี่ยเหลียนที่ไม่อาจทนดูได้เลยใช้พลังแยกพวกเด็กๆ ออก น้ำบนพื้นสาดโดนเด็กพวกนั้นจนล้มลงก่อนหนีกลับบ้าน เด็กชายจัดผ้าพันแผลใหม่แล้วนั่งกอดเข่าอยู่ข้างรูปปั้นดินเหนียว เซี่ยเหลียนส่งสัญญาณเรียกเฟิงซิ่นกับมู่ฉิงมาปรึกษา ก่อนจะได้ยินเสียงท้องของเด็กชายร้อง เขาเลยหยิบผลไม้ในถาดเซ่นไหว้โยนใส่อีกฝ่าย แต่เด็กชายนึกว่าผลไม้หล่นออกมาเองจึงนำไปวางที่เดิม

ตอนนั้นเฟิงซิ่นกับมู่ฉิงก็มาถึง พอเห็นหน้าเด็กชายมู่ฉิงก็คิดเหมือนกันว่าน่าเป็นเด็กที่หนีออกจากเขาไท่ชางเมื่อ 3 ปีก่อน เซี่ยเหลียนอยากหาวิธีให้เด็กชายกลับบ้าน แต่พอคิดว่าสถานการณ์ที่บ้านของอีกฝ่ายก็ไม่น่าจะดี อย่างน้อยเขาก็ยังอยากให้เด็กชายได้กินอะไรสักหน่อย เมื่อมู่ฉิงได้ยินอย่างนั้นจึงต่อว่าเซี่ยเหลียนที่ไม่จัดลำดับความสำคัญแล้วมาใส่ใจเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ เซี่ยเหลียนไม่โต้แย้ง เขาเดินออกไปด้านหน้าอาราม กางร่มออกแล้ววางทิ้งไว้ เสียงฝนกระทบบางอย่างทำให้เด็กชายเดินออกไปดู พอเห็นร่มที่โผล่มาอย่างไม่มีที่มาที่ไป เด็กชายก็หยิบมันขึ้นมาแล้วตะโกนใส่รูปปั้น ถามว่าเป็นเซี่ยเหลียนใช่หรือเปล่า ถ้าใช่ก็ช่วยตอบคำถามของเขาที

เด็กชายบอกว่าทุกวันของเขามีแต่ความเจ็บปวด ทุกวันล้วนนึกอยากให้ตัวเองตาย เขาอยากจะฆ่าทุกคนบนโลกนี้แล้วฆ่าตัวตายตาม เขามีชีวิตอยู่อย่างทุกข์ทรมาน เขาจะมีชีวิตไปเพื่ออะไร มีชีวิตต่อไปจะมีความหมายอะไร หลังสิ้นคำถามทุกอย่างก็เงียบสงัดจนเด็กชายก้มหัวลงอย่างสิ้นหวัง แต่ตอนนั้นเองก็มีเสียงๆ หนึ่งดังออกมาจากรูปปั้น

“ถ้าเจ้าไม่รู้ว่าจะมีชีวิตเพื่ออะไรอีกก็จงมีชีวิตเพื่อข้า ข้าไม่มีคำตอบให้กับคำถามของเจ้า ยังไงก็ตาม ถ้าเจ้าไม่รู้ว่าความหมายของชีวิตของเจ้าคืออะไร ก็ให้ข้าเป็นความหมายนั้น และใช้ข้าเป็นเหตุผลที่จะมีชีวิตต่อไปเถอะ” เฟิงซิ่นและมู่ฉิงตกใจมาก รีบห้ามไม่ให้เจ้านายพูดอะไรอีกเพราะจะผิดกฎสวรรค์ แต่เซี่ยเหลียนก็ยังเอ่ยต่อ “ขอบคุณสำหรับดอกไม้นะ มันงดงามจริงๆ ข้าชอบมันมาก”

เฟิงซิ่นกับมู่ฉิงรีบลากเซี่ยเหลียนออกมาขณะที่เด็กชายยืนอึ้ง แต่เมื่อเห็นเด็กชายตัดสินใจยื่นมือไปหยิบผลไม้ในถาดเซ่นไหว้มากินก็ทำให้เซี่ยเหลียนพอใจ ก่อนที่เขาจะเปิดประเด็นกับทั้งสองว่าหากน้ำในเซียนเล่อมีไม่พอ ก็ต้องไปเอาน้ำมาจากอาณาจักรอื่น แต่มู่ฉิงคิดว่าด้วยระยะทางที่ไกล การทำเช่นนั้นจะเสียเวลามาก อีกอย่างการเข้าไปยุ่งในเขตแดนของเทพองค์อื่นก็ไม่ใช่เรื่องที่ดี แต่เซี่ยเหลียนก็บอกเขาจะขึ้นไปคุยบนสวรรค์เอง ระหว่างนี้ให้ทั้งสองช่วยดูแลจุดที่ได้รับผลกระทบแย่ที่สุดไปก่อน มู่ฉิงจึงบอกได้เพียงให้เจ้านายอย่าใช้เวลานานเกินไป เซี่ยเหลียนรีบกลับไสวรรค์เพื่อไปพบเทพที่ควบคุมน้ำ แต่น่าแปลกที่ตอนนี้มีเพียงเทพแห่งฝนที่ดูแลเรื่องนี้อยู่ หากแต่อีกฝ่ายไม่ได้อาศัยอยู่บนสวรรค์ โชคดีที่เทพชั้นกลางสาวซึ่งทำงานเกี่ยวกับข่าวสาร หนานกงจี่ เข้ามาทักทายเขาพอดี เขาจึงได้ทราบว่าเทพแห่งฝนอยู่ที่อาณาจักรอวี้ซือ

ปล 1 ยังจำได้ไหมว่าฉากในวัดนี้เซี่ยเหลียนเคยพูดถึงในสปอย Part.28 >>>/801/7776/539 และคิดถึงในสปอย Part.36 >>>/801/7776/651

ปล 2 หนานกงจี่ คือชื่อจริงของหลิงเหวิน (หลิงเหวินเป็นชื่อตำแหน่ง)
.
.
.
.
.

161 Nameless Fanboi Posted ID:ElSfL3yt.Y

>>160 กรี้ดดดดดดด ประโยคเด็ดของเรื่องมาแล้ว ตอนฟังครั้งแรกใน amv ของเทียนกวานคือกรี้ดเป็นบ้า น้องฟาฟาตอนเด็กคือแบบ แงงงงง อยากดูแล อยากปกป้องน้องงง น้องไม่ควรโตมาเจอเรื่องแบบนี้

162 Nameless Fanboi Posted ID:ka5NxODojr

>>160 ประโยคเด็ดมาแล้ว คืออ่านครั้งแรกนี่น้ำตาจะไหล แล้วฟาฟาก็ทำอย่างที่เซี่ยเหลียนบอกไว้จริงๆ

163 Nameless Fanboi Posted ID:F5.sSOaqCl

>>160 โอ๊ย มึงโคตรละเอียดอ่ะ สปอยล์แล้วมีการเน้นให้กลับไปอ่านตรงจุดพีคๆ ด้วย (เรียกไม่ถูก) เป็นคนละเอียดรอบคอบจริงๆ กราบแบบเบญจางคประดิษฐ์

164 Nameless Fanboi Posted ID:s2n6d7jw4k

153-159 ขอบคุณมาก กูรอซื้อได้อย่างสบายใจละ

165 Nameless Fanboi Posted ID:q4Oawiix9K

กูสงสารคนจองปรจ 2 หน้าร้านว่ะ จนบัดนี้ยังได้กันไม่ครบเลย กูสั่งในทวิตภพ ได้ตั้งแต่เดือนก่อนแล้วพร้อมที่คั่น

166 Nameless Fanboi Posted ID:TTeu1ek7ns

>>163 +1 กราบด้วยคน ชอบความละเอียดนี้
โอยน้ามตาคลอ สงฟาฟาตอนเด็กอ่ะ ถ้าอ่านเต็มๆในเล่ม กุว่ากุร้อง แง

167 Nameless Fanboi Posted ID:Tgb0A/H2z.

ฟาฟาแงงงง ไม่ไหวแล้วน้ำตากุ ขอบใจมากโม่งสปอยกุจะกลับไปอ่านย้อนอีกรอบ

168 Nameless Fanboi Posted ID:M3rBt1YZgD

สปอยเทียนกวาน อาร์ค 2 ต่อจาก >>160 เทียนกวาน Part.62
.
.
.
.
.
เซี่ยเหลียนถามหนานกงจี่ว่าเทพแห่งฝนชอบอะไร เป็นเพราะเขาได้ขึ้นสวรรค์เร็วเลยไม่ทันมีคนสอนเขาว่าควรไปทักทายเอาของขวัญให้เทพทุกองค์เพื่อเส้นสายอันดี แม้ภายหลังราชครูจะบอกแต่ก็สายเกินไปแล้ว ทว่าด้วยความที่เทพแห่งฝนเป็นคนเก็บตัวทำให้เทพสาวก็ไม่รู้เช่นกัน เซี่ยเหลียนขอบคุณหนานกงจี่ก่อนเดินทางไปที่พักของเทพแห่งฝนในอาณาจักรอวี้ซือ แต่นอกจากทุ่งข้าวเขียวขจีกว้างไกล ชาวนาและวัวแล้วเขาก็ไม่เห็นอะไรเลย พอเห็นวัวสีดำตัวหนึ่งลุกขึ้นยืนสองขาก่อนจำแลงร่างเป็นชาวนา เซี่ยเหลียนจึงเข้าไปสอบถาม

ชาวนาบอกว่าเทพแห่งฝนไม่ชอบพบปะผู้คน แต่อีกฝ่ายรู้ข่าวน้ำแล้งในเซียนเล่ออยู่แล้วเพราะเทพองค์อื่นเองต่างก็จับตาดูและเข้าใจสถานการณ์ในเซียนเล่อมากกว่าตัวเซี่ยเหลียนเสียอีก เซี่ยเหลียนได้รู้ว่าที่เขาไม่เจอเทพที่ควบคุมน้ำบนสวรรค์เลยเป็นเพราะทุกคนหลีกเลี่ยงไม่ยากยุ่ง เขาเลยบอกว่าถ้าเทพแห่งฝนไม่สะดวกเขาก็จะไม่รบกวน ชาวนาคนนั้นกล่าวว่าเรื่องนี้เกี่ยวกับกับความเป็นตายในเซียนเล่อ ทำไมถึงไม่ยอมลดทิฐิลงบ้าง และไม่ว่าเทพองค์อื่นจะยอมช่วยเหลือหรือไม่ เซี่ยเหลียนก็ไม่มีสิทธิ์ไม่พอใจ คำพูดนั้นทำให้เซี่ยเหลียนโกรธที่อีกฝ่ายมาตัดสินว่าเขาเป็นคนอย่างไร แต่จู่ๆ ชาวนาก็โยนหมวกไม้ไผ่ให้เซี่ยเหลียน บอกว่าสิ่งนี้คืออุปกรณ์เทพซึ่งเทพแห่งฝนฝากให้เขามอบมันให้เซี่ยเหลียนยืม เขาอธิบายว่าอุปกรณ์นี้ใช้ขนน้ำได้ แต่สร้างน้ำไม่ได้ และเพราะอาณาจักรอวี้ซือมีการกักเก็บน้ำมาหลายปี เทพแห่งฝนเลยอนุญาตให้นำน้ำจากอาณาจักรอวี้ซือไปใช้ได้

เซี่ยเหลียนรู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก เขาฝากอีกฝ่ายขอบคุณเทพแห่งฝนแล้วรีบใช้หมวกไม้ไผ่ขนน้ำเทลงบนเมฆที่อ่าวหลางเอ๋อร์ในหย่งอัน ไม่นานนักฝนก็เริ่มตกและประชาชนก็รีบนำภาชนะมารองน้ำ ตอนนั้นเองมู่ฉิงก็ปรากฏตัวขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ถามว่าทำไมเซี่ยเหลียนถึงหายไปหลายวัน เขากับเฟิงซิ่นไม่อาจจัดการงานทุกอย่างให้เซี่ยเหลียนได้ เซี่ยเหลียนตอบว่าหากสถานการณ์ในหย่งอันไม่ดีขึ้น ในที่สุดอารามของเขาก็ย่อมโดนผลกระทบตามไปด้วย มู่ฉิงจึงบอกว่ามันเกิดเรื่องขึ้นแล้วต่างหาก เซี่ยเหลียนรีบกลับมายังเมืองหลวงซึ่งทหารกำลังลากคนกลุ่มหนึ่งมาตามถนนท่ามกลางสายตาโกรธแค้นของประชาชน แล้วเฟิงซิ่นที่คอยดูสถานการณ์ด้วยความระวังอยู่เล่าว่าคนที่ถูกจับทุกคนเป็นชาวหย่งอัน

เป็นเพราะชาวหย่งอันจำนวนมากอพยพหนีภัยแล้งมาเมืองหลวง ตอนที่ยังมีคนไม่มากก็ไม่เกิดอะไร แต่ตอนนี้พวกเขามีมากกว่า 500 คน ทุกคนรวมกลุ่มลงมือปักหลักสร้างที่อยู่ในท้องทุ่งทางตะวันตกจนกลายเป็นชุมชนแออัด ความสกปรกและยากจนของอีกฝ่ายทำลายทัศนียภาพของเมืองหลวง สร้างมลพิษทางสายตา หู และกลิ่นจนชาวเมืองท้องถิ่นไม่พอใจมากขึ้นเรื่อยๆ แม้ผู้นำอาวุโสของหย่งอันจะอยากย้ายออกไป แต่ด้วยจำนวนคน ทั้งคนเจ็บ คนป่วย สตรี และเด็ก อีกทั้งเมืองหลวงก็ไม่มีพื้นที่อื่นแล้ว พวกเขาจึงไม่อาจย้ายไปโดยง่าย

หญิงคนหนึ่งตะโกนว่าชาวหย่งอันขโมยของและทำร้ายสามีของเธอ ชาวบ้านคนอื่นเห็นด้วยบอกว่าเป็นคนต่างถิ่นแล้วยังกล้ามาสร้างปัญหาอีก แต่ชาวหย่งอันที่ถูกจับกุมคนหนึ่งก็บอกว่าพวกตนไม่ได้เป็นคนขโมยของและถูกทำร้ายเช่นกัน แต่ผู้อาวุโสที่เกรงว่าจะทำให้เรื่องแย่ลงก็ตะโกนห้ามไม่ให้อีกฝ่ายพูด เฟิงซิ่นอธิบายว่าขโมยตัวจริงคือสุนัขจรจัด แต่ด้วยความที่เคยมีเด็กชาวหย่งอันขโมยเป็ดของชาวบ้านไปกินด้วยความหิว ทำให้ชาวเมืองโยนความผิดให้ชาวหย่งอันโดยไม่คิดสืบ ทางด้านชาวหย่งอันเองก็ถูกสุนัขขโมยของ ความเข้าใจผิดและความบาดหมางที่ดำเนินมานานทำให้เรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่ แล้วทั้งสองฝ่ายก็ปะทะกันจนก่อให้เกิดเหตุการณ์ตรงหน้า อย่างไรทหารก็มีหน้าที่ปกป้องเมืองหลวง การที่จะเข้าข้างชาวเมืองของตนจึงไม่ใช่เรื่องแปลก

ชาวบ้านต่างพากันขว้างปาขยะใส่นักโทษกลุ่มนั้น ผู้อาวุโสชาวหย่งอันได้เพียงร้องขอความเมตตาและกล่าวขอโทษไม่หยุด แต่ชาวบ้านก็ยังก่นด่าว่าไม่อยากให้มีชาวหย่งอันอพยพมาเพิ่ม ชายคนหนึ่งบอกว่าราชาต้องไม่ยอมอนุญาตรับชาวหย่งอันอีกเพราะอีกฝ่ายขโมยของจากบ้านของเขาไป ตอนนั้นเองเซี่ยเหลียนก็สังเกตเห็นหลางอิงอยู่ในกลุ่มนักโทษกลุ่มนั้นด้วย ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นถามชายคนนั้นว่าเห็นกับตาหรือว่าชาวหย่งอันเป็นคนขโมยของไป
.
.
.
.
.

169 Nameless Fanboi Posted ID:i2RziZMaH0

อฟซ.ออกชุดเลโก้นี่จริงเปล่า? กูเห็นภาพแต่หาข้อมูลไม่เจอ กูไม่ได้ใช้พวกsnsจีนด้วย ใครมีลิ้งหรือภาพจากอฟซ.มั้ง

170 Nameless Fanboi Posted ID:V/qEfLMi8V

>>168 ขอบคุณ​โม่งสปอย ปัญหาน้ำแล้งไม่ทันหาย มาเจอปัญหาชนกลุ่มน้อยอีก กูนึกตอนจบแบบดีๆ ไม่ได้เลยว่ะ

171 Nameless Fanboi Posted ID:jJrLm2+8W+

>>168 เข้าใจว่าเซี่ยเหลียนอยากช่วยทุกฝ่าย แต่บางสถานการณ์มันก็ยากที่จะแก้ไขนะ สงสารเซี่ยเหลียนจัง T T

172 Nameless Fanboi Posted ID:RdU8WVoH8P

>>168 แงงงงทางไหนก็แย่ กุไม่แปลกใจทำไมเซี่ยเหลียนถึงไม่เชื่อในคน เพราะเคยเชื่อจนถึงที่สุดและก็ผิดหวัง

173 Nameless Fanboi Posted ID:uXo+55PsFy

>>172 ที่จริงตอนนี้เซี่ยเหลียนยังก็เชื่อในมนุษย์นะ แต่ไม่ได้เชื่อแบบโลกสวยเหมือนสมัยหนุ่มๆ แล้ว

174 Nameless Fanboi Posted ID:scWv2PvlL4

>>173 ใช่ๆ คือเซี่ยเหลียนเขายังมีจุดยืนที่จะช่วยเหลือคนอื่นเหมือนเดิม แต่แค่ไม่ได้โลกสวยจะช่วยทุกคนให้ได้แล้ว ช่วยแค่คนที่ตัวเองพอจะช่วยได้

175 Nameless Fanboi Posted ID:SbHWW72T2e

สปอยเทียนกวาน อาร์ค 2 ต่อจาก >>168 เทียนกวาน Part.63
.
.
.
.
.
ชาวบ้านบอกว่าแม้ไม่เห็นกับตาว่าชาวหย่งอันขโมยของ แต่ก่อนหน้านี้เมืองหลวงสงบสุขมาตลอดจนกระทั่งชาวหย่งอันอพยพมา หลางอิงปรามาสว่าอีกฝ่ายคงเป็นขโมยเลยโยนความผิดมาให้พวกเขา ทำให้ชายหนุ่มถูกชกเลือดกลบปาก ชาวหย่งอันกลุ่มนั้นถูกชาวบ้านรุมต่อว่าปาของใส่จนถึงตอนเย็นพวกทหารจึงปล่อยตัว หลางอิงเดินแยกตัวออกจากกลุ่ม เซี่ยเหลียนรีบจำแลงกายเป็นนักพรตไปปรากฏตัวให้เห็น ถามว่าในเมื่อเขาให้มุกสีแดงเม็ดนั้นไปแล้วเหตุใดจึงไม่กลับหย่งอัน หลางอิงตอบว่าในเมื่อลูกชายของเขาอยู่ที่นี่ เขาก็จะอยู่ที่นี่ด้วย ก่อนส่งมุกเม็ดนั้นคืนให้เซี่ยเหลียน เซี่ยเหลียนไม่รับ เขาบอกว่าวันนี้ที่อ่าวหลางเอ๋อร์มีฝนตกลงมาแล้ว และเขาสัญญาว่าพรุ่งนี้ก็จะมีฝนตกอีกเช่นกัน ทว่าหลางอิงกลับกล่าวว่าฝนจะตกหรือไม่ไม่สำคัญแล้ว ตอนนี้ไม่มีทางให้เขาย้อนกลับไปแล้ว

เซี่ยเหลียนยืนบื่ออย่างไม่เข้าใจ ก่อนหน้านี้เขาทำทุกอย่างสำเร็จโดยง่าย เหตุใดหลังขึ้นสวรรค์การจะทำอะไรให้สำเร็จช่างยากเย็นเหลือเกิน เขาพยายามขนน้ำมาสร้างฝน ทว่าก็ช่วยไม่ได้มากนัก หลังจากผ่านไป 1 เดือนชาวหย่งอันก็อพยพมาที่เมืองหลวงหลายพัน และหลังจากนั้นอีกเดือนหนึ่ง เพื่อรักษาความสงบราชาก็สั่งปิดประตูเมืองหลวง ประกาศให้ชาวหย่งอันออกไปโดยจะมอบสิ่งจำเป็นสำหรับการเดินทางให้ แต่ชาวหย่งอันที่ละทิ้งบ้านเกิดมาหลายคนบาดเจ็บหรือป่วย ล้มตายระหว่างทางก็ไม่น้อย แล้วพวกเขาจะมีแรงเดินทางต่อได้อย่างไร เพื่อความอยู่รอดพวกเขาจึงเกาะประตูเมือง ขอร้องให้อีกฝ่ายรับพวกตนเข้าไป ขณะที่ทหารบนหอคอยประตูเมืองพยายามตะโดนไล่

ชาวหย่งอันบางส่วนยอมตัดใจออกเดินทางต่อ แต่ส่วนมากยังคงไม่ไปไหนด้วยหวังว่าราชาจะมีเมตตา เมื่อเห็นอย่างนั้นคนที่อพยพมาเพิ่มเลยรวมกลุ่มรอด้วย ผ่านไปไม่กี่วันชาวหย่งอันก็มีจำนวนมากมาย พวกเขาสร้างที่พักอยู่หน้าประตูเมือง เซี่ยเหลียนต้องรับฟังคำขอของผู้ศรัทธา สร้างฝนให้หย่งอัน และดูแลชาวหย่งอันที่นอกเมือง แม้มีใจแต่เขาก็รู้สึกล้ามาก และในวันที่เขาไม่ได้อยู่ดูที่ประตูเมือง ในที่สุดก็เกิดเรื่องขึ้น

ชายคนหนึ่งอุ้มลูกชายไปทุบประตูขอร้องให้ลูกชายเข้าไปให้หมอรักษาอาการป่วย แต่ทหารรู้ดีว่าหากเปิดประตูให้คนอื่นย่อมอาศัยโอกาสพากันกรูเข้าเมือง หรือถ้าส่งหมอออกไปใครจะไปรู้ว่าชาวหย่งอันจะจับอีกฝ่ายเป็นตัวประกันบังคับให้เปิดประตูเมืองหรือเปล่า ทหารจึงแสร้งหลอกไปว่าจะไปแจ้งเรื่องให้ราชาทราบ แต่ความจริงคือไม่ได้ทำอะไรเลย หลังจากผ่านไปหลายชั่วโมงพ่อของเด็กชายก็ไม่อาจทนได้ เขาเอาเชือกผูกบุตรไว้ที่หลัง ก่อนที่ชายหนุ่มจะพยายามปีนกำแพงขึ้นไปด้วยมือเปล่าโดยมีชาวหย่งอันคนอื่นช่วยต่อตัวให้ ในที่สุดเขาก็คว้าเชือกที่พวกทหารใช้ส่งเสบียงมาให้ผู้อพยพเอาไว้ได้

เสียงเชียร์ดังกระหึ่มทำให้พวกทหารรู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้น หากปล่อยให้อีกฝ่ายเข้ามาคนอื่นย่อมทำตาม พวกเขาตะโกนข่มขู่ให้หยุดการกระทำ ทว่าชายคนนั้นก็ยังไต่เชือกขึ้นมาอยู่ดี ทหารคนหนึ่งจึงใช้กระบี่ตัดเชือกทิ้ง ชายคนนั้นจึงร่วงหล่นหลังกระแทกพื้นอย่างรุนแรง สภาพศพน่ากลัวนั้นไม่ต้องเอ่ยถึงลูกชายที่เขาแบกไว้บนหลัง ตอนที่เสียงหวีดร้องดังขึ้นเซี่ยเหลียนก็มาถึงพอดี เครื่องรางบนคอที่บิดหักของชายหนุ่มมาจากอารามของเซี่ยเหลียน ก่อนที่ชายคนนั้นจะปีนกำแพง เขาและภรรยาต่างสวดขอพรให้เทพคุ้มครอง เซี่ยเหลียนที่ได้ยินจึงรีบมา ทุกอย่างดูไม่เหมือนเรื่องราวที่เขาเคยได้ยินซึ่งผู้กล้าล้วนมาได้ทันการณ์เสมอ เมื่อเห็นสภาพของสามีและลูกชาย ฝ่ายภรรยากรีดร้องวิ่งเอาศีรษะกระแทกกำแพงเมืองเสียชีวิตต่อหน้าต่อตาทุกคน

เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้ชาวหย่งอันไม่อาจทนได้อีกต่อไป พวกเขาด่าทอราชาที่พลักพวกตนเข้าหาความตาย พวกเขาล้วนจ่ายภาษีทุกปีแต่พอถึงคราวเคราะห์กลับไม่ได้รับเงินช่วยเหลือ สงสัยคงเอาแต่นำเงินไปสร้างอารามให้ลูกชาย หากเมืองหลวงไม่รับพวกเขาเข้าไปก็หวังว่าจะมีใครได้ออกมา พวกเขารวมตัวกันเอาตัวพุ่งขนจนกำแพงเมืองสั่นสะเทือน ใบหน้าบิดเบี้ยวกรีดร้องร่ำไห้ของชาวหย่งอันทำให้เซี่ยเหลียนที่คิดมาตลอดว่าประชาชนของตัวจิตใจดีรักสงบรู้สึกเหมือนอยู่อีกโลกที่ไม่รู้จัก และโดยไม่ทันรู้ตัวก็มีชายหนึ่งปีนขึ้นไปบนกำแพงหักคอของทหารที่ตัดเชือก อีกฝ่ายคือหลางอิง และหลังจากวันนั้นอาณาจักรเซียนเล่อก็ตกสู่ความโกลาหล
.
.
.
.
.

176 Nameless Fanboi Posted ID:KHN85m3cH6

อยากอ่านฉากนั้นเทียนกวานเลย :| >>154

177 Nameless Fanboi Posted ID:rAm71BinoJ

>>175 โอ้โห พร์ทอดีตนี่ดำมืดขึ้นเรื่อยๆเลยอ่ะ แงงงงงงงงงง

178 Nameless Fanboi Posted ID:s3U5P6iLNE

>>175 บีบหัวใจสัสๆ เซี่ยเหลียนหมดศรัทธา​ในชีวิตก็สมควรแล้ว

179 Nameless Fanboi Posted ID:to7ufiL64A

>>175 แม่โม่โหดจัง ความรู้สึกกูตอนนี้คือเหมือนโดนนักเขียนเอาสีดำผสมสีแดงเทรดหัวใจ บอกทีมีหนักกว่านี้อีกมั้ย TOT

180 Nameless Fanboi Posted ID:M2GKZq30C9

>>179 ถ้าเป็นฟูลคอร์สนี่ก็แค่อาหารเรียกน้ำย่อยอะมึง ระดับความปวดตับในชีวิตเซี่ยเหลียนกูให้เหตุการณ์นี้ราวๆ Level 99 (ซ้อมตับรอช่วงปวดตับ Level 9999)

181 Nameless Fanboi Posted ID:to7ufiL64A

>>180 โอเค กูจะอัพเลเวลไตไว้ด้วยการอ่านนิยายจีนดราม่าเรื่องอื่นรอไปก่อน กว่าเล่มจะออกไตกูคงแกร่งขึ้นเยอะ

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.