งานเลี้ยงฉลองวันเกิดปีที่ 20 ของ คิโชวอิน เรย์กะ
_______
วันนี้เป็นวันที่ฉันอายุครบ 20 ปี เป็นสาวมหาวิทยาลัยที่บรรลุนิติภาวะแล้วค่ะ! หลังจากนี้ก็จะสามารถดื่มได้อย่างเต็มที่แล้ว อุฮุฮุ~ อ๊ะ ไม่ได้สิ ตอนนี้ฉันกำลังอยู่ในงานเลี้ยงวันเกิดที่ที่บ้านจัดขึ้นอย่างอลังการอยู่ ถ้าเผลอหลุดสีหน้าแปลก ๆ ออกไปต้องเรื่องใหญ่แน่เลย
งานเลี้ยงวันเกิดของฉันจัดขึ้นที่โรงแรมในเครือคาบุรากิ ได้รับการสนับสนุนจากมาดามคาบุรากิอย่างล้นเหลือ ไม่ว่าจะในด้านสถานที่และอาหาร ทั้ง ๆ ที่บอกไปแล้วว่าไม่ต้องการจะจัดงานใหญ่โตอะไร แต่ท่านพ่อกับท่านแม่ก็ไม่ยอมฟังกันเลย ไปปรึกษามาดามคาบุรากิเรื่องการจัดงานเลี้ยงจนเสร็จสรรพ พอไปเล่าให้ท่านพี่ฟังก็ได้คำตอบมาว่า
“วันเกิดของเรย์กะทั้งที พี่คิดว่ามีหลายคนที่อยากมาแสดงความยินดีให้น้องนะ ทำตามที่พวกท่านพ่อกับท่านแม่จัดการไว้น่าสนุกดีออก”
ท่านพี่.. ที่พึ่งสุดท้ายของน้องก็เห็นดีเห็นงามด้วยหรอคะ...
เพราะท่านพี่เองก็คิดแบบเดียวกันนั้น ฉันจึงหมดหวังและต้องเข้าร่วมงานเลี้ยงสุดอลังการของตัวเองอย่างช่วยไม่ได้
ในช่วงหนึ่งเดือนก่อนงานเลี้ยง คาบุรากิที่ทราบเรื่องมาจากมาดามจึงบังคับให้ฉันออกกำลังกายเป็นบ้าเป็นหลัง บังคับให้ฉันทานอาหารเพื่อสุขภาพ แถมยังสั่งงดขนมอีกต่างหาก
“ถ้าเธอไม่ทำตามที่ฉันบอกต้องเสียใจแน่คิโชวอิน วิ่งเข้าไปเจ้าสัตว์กีบคู่!”
นั่นเขาเรียกว่าให้กำลังใจหรอคะ? แต่ว่าฉันคงไม่งดขนมตามที่บอกหรอก เอ เรียกว่างดไม่ได้มากกว่า ร่างกายของหญิงสาววัยกำลังโตต้องการเค้กอย่างน้อยวันละชิ้นนะคะ
“มาซายะโหดไปหรือเปล่า ถ้าคุณคิโชวอินทำตามตารางฝึกของนายร่างกายต้องไม่ไหวแน่ ๆ”
เอ็นโจที่มาเป็นแพ็คคู่กับคาบุรากิเอ่ยขึ้นมาจากม้านั่งใกล้ ๆ อุส่าแต่งชุดออกกำลังกายเต็มยศแต่กลับมานั่งอยู่เฉย ๆ อย่างน้อยก็ทำตัวมีประโยชน์แหละเนอะ ใช่แล้วย่ะ คาบุรากิ ให้สาวน้อยมาฝึกสปาตันแบบนี้ใครจะไปทำได้กัน!
“ถ้าหยวนให้ทานขนมได้สักหน่อยน่าจะดีกว่านะ คุณคิโชวอินก็เป็นพวกชอบขนมหวานเหมือนมาซายะ ถ้าหักดิบเลยอาจจะหมดกำลังใจก็ได้ จริงสิ ขนมที่บ้านคุณทาคามิจิก็มีเมนูแคลอรี่น้อยด้วยไม่ใช่หรอ”
กู๊ดจ๊อบเอ็นโจ ขนมบ้านวาคาบะจังงั้นหรอ อยากทานจังเลยนะ~ ถ้าไปแล้วได้ทานอาหารฝีมือคันตะคุงด้วยก็คงไม่เลวเลย
อาร๊ะ ดูตาคาบุรากิสิ พอพูดถึงวาคาบะจังก็หลุดเข้าไปในโลกของตัวเองเสียแล้ว หนุ่มน้อยในห้วงรักน่าหมั่นไส้ชะมัด คาบุรากิกับวาคาบะจังคบกันในช่วงเทอมสุดท้ายของม.ปลายปี 3 และเปิดตัวกับทุกคนในโรงเรียนตอนวันจบการศึกษา มีรุ่นพี่โทโมเอะเป็นไอดอลหรอคะ แต่ว่าน่าอิจฉาจังเลยนะ เดทในชุดนักเรียนที่ฉันใฝ่ฝัน ในขณะที่จนกระทั่งตอนนี้ฤดูใบไม้ผลิของคิโชวอิน เรย์กะก็ยังไม่มาสักที.. ฮึก
“หลุดเข้าไปในความคิดของตัวเองทั้งสองคนเลยนะ”
หนวกหูน่า เอ็นโจ
ถึงจะเป็นช่วงเวลาที่หนักหนาสาหัส แต่ก็ต้องขอบคุณการฝึกของคาบุรากิที่ทำให้ฉันสามารถใส่ชุดเผยต้นแขนได้อย่างมั่นใจ ประกอบกับคอร์สบำรุงผิวที่ท่านแม่บังคับให้ฉันไปทำให้ผิวฉันเนียนนุ่มมากกว่าทุกที เมื่อใส่ชุดเดรสผ้าชีฟองเปิดไหล่สีพิงค์แชมเปญก็อยู่กึ่งกลางระหว่างน่ารักกับดึงดูดสายตาพอดี เครื่องประดับบนผมสีดำขลับที่ถักเปียรวบผมครึ่งหัวไว้ด้านหลังเองก็เล่นแสงเด่นเป็นประกาย เครื่องประดับผมชิ้นนี้มาพร้อมกับสร้อยคอ สร้อยข้อมือ และต่างหูที่ฉันใส่อยู่ ทั้งหมดเป็นของขวัญจากท่านพี่ที่วางอยู่หน้าห้องฉันเมื่อเช้า สมกับเป็นท่านพี่! เข้ากับชุดที่ฉันใส่พอดีเลย
หลังจากเช็คเครื่องแต่งกาย เครื่องสำอางและจัดปอยผมเรียบร้อย คิโชวอิน เรย์กะ ก็พร้อมออกจากห้องแต่งตัวไปทักทายคนในงานแล้วค่ะ!
แขกในงานมีทั้งเพื่อนของฉัน ญาติ คนรู้จักของครอบครัว และแน่นอนผู้ที่มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจ เนื่องจากฉันไม่อยากให้งานเป็นทางการมากไปจึงกล่าวทักทายสั้น ๆ บนเวทีและขอบคุณผู้มาร่วมงานทุกท่านก่อนจะปลีกตัวไปทักทายเพื่อน ๆ ของฉันที่มาร่วมงาน แน่นอนว่าต้องไปหาพวกคิคุโนะจังกับเซริกะจังก่อนยังไงล่ะ~
..ไม่ใช่ว่าฉันไม่มีเพื่อนกลุ่มอื่นนะ!
หลังจากจบจากซุยรัน ฉัน คิคุโนะจัง เซริกะจัง พวกเราสามคนเข้าเรียนมหาลัยในคณะเดียวกัน ทำให้พวกเรายังคงไปไหนมาไหนด้วยกันเหมือนสมัยเด็ก แต่สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไป คือ บางวันเวลาไปทานอาหารกลางวันด้วยกัน มักจะมีใครสักคนแยกไปทานกับแฟนของตัวเอง ไม่คิดว่าจะโดนทรยศแบบนี้เลยนะคะ ทำไมทุกคนถึง...
ช่างเรื่องนั้นไปก่อนเถอะ นอกจากพวกคิคุโนะจังกับเซริกะจัง เพื่อน ๆ ที่ซุยรัน พวกมาโอะจัง ซากุระจัง สมาชิกสโมสร Pivoine ฉันยังชวนพวกอุเมวากะคุงมาอีกด้วยค่ะ! เอาเข้าจริงหลังจากเข้ามหาวิทยาลัยก็ไม่ค่อยได้ติดต่อกันแล้วอะนะ ถ้าไม่นับเมลจากเบียทันถึงเรย์ทัน