AU Hanahaki Verse [End]
ความเดิมตอนที่แล้ว >>>/webnovel/7425/696-699
-------------------
หลังจบการทักทายที่ดูอิหลักอิเหลื่อที่หน้าลิฟท์ เขาและเรย์กะก็มานั่งอยู่บนม้านั่งที่สวนของโรงพยาบาล มองดูวิวทิวทัศน์ในช่วงที่แดดร่มและอากาศกำลังเย็นสบายใต้ร่มไม้ใหญ่ของสวน
และตอนนี้พวกเขาก็นั่งเงียบๆกันมาเกือบห้านาทีแล้ว
ชูสุเกะคิดว่าตัวเองควรจะพูดอะไรสักอย่างไม่ให้มันเงียบจนน่าอึดอัดขนาดนี้ แต่จะพูดอะไรดีล่ะ...
น่าแปลกที่ปกติที่เขาก็เป็นคนที่เข้ากับทุกคนได้ง่าย เรื่องอะไรก็สามารถตามน้ำได้ลื่นไหล แต่พอเป็นเรื่องที่ไม่คาดฝันมาก่อนแบบเรื่องนี้ เขากลับไม่รู้จะทำอะไรต่อไป
“สะ สวนที่นี่สวยดีจังเลยนะคะ” เรย์กะเป็นฝ่ายเริ่มต้นก่อน มองไปรอบๆเหมือนพยายามจะหาเรื่องคุย
มันเหมือนตอนที่พบกันในห้องสโมสรเหลือเกิน ตอนนั้นพวกเขาก็พบกันโดยบังเอิญแบบไม่คาดคิดเหมือนกัน
“นั่นสินะ” ชูสุเกะพยักหน้า ชี้มือไปยังทิศทางฝั่งตรงข้าม “ตรงนั้นมีซุ้มดอกกุหลาบเลื้อยด้วยนะ ปลูกไว้ได้สวยเลยล่ะ”
“งะ งั้นเหรอคะ”
“คุณคิโชวอินอยากไปดูมั้ย” เขาลุกขึ้นจากม้านั่ง เรย์กะเดินตามมาอย่างว่าง่าย ระหว่างทางก็ชี้ชวนให้เธอดูดอกไม้อื่นๆที่บานริมทางไปด้วย
มันช่างเหมือนความฝัน ..ชูสุเกะคิดในใจ เขานึกถึงค่ำคืนงานทานาบาตะที่เคยแอบจินตนาการว่าอยากเป็นคนพาเธอเดินชมสวนแทนที่มาซายะ แตกต่างตรงที่สวนนี้คงทำให้เกิดความโรแมนติคได้ยากหน่อย เพราะเป็นช่วงเวลากลางวัน และเป็นสวนในโรงพยาบาลไม่ใช่สวนจัดงานเลี้ยงหรูหราประดับไฟสวยงามแต่อย่างใด
ชูสุเกะมองเธอที่ดูจะตื่นตาตื่นใจกับซุ้มดอกกุหลาบเลื้อย ถึงจะไม่ได้งดงามเท่าซุ้มกุหลาบในสถานที่จัดงานปาร์ตี้ซัมเมอร์ แต่ก็บานได้สวยไม่เลวเลยทีเดียว
“ว่าแต่คุณคิโชวอินมาโรงพยาบาลทำไมเหรอ”
เขาจ้องหน้าเรย์กะ นึกวิธีตะล่อมถามหาเหตุผล
“....หรือจะไม่สบายตรงไหน”
“เอ่อ คือ…” เรย์กะดูกระอักกระอ่วนใจที่จะตอบ ก็คงแน่นอนอยู่แล้วว่าคงไม่อยากให้ใครรู้อาการป่วยของตัวเอง “พอดีมาตรวจเช็คร่างกายประจำปีน่ะค่ะ”
คำตอบโกหกแบบเห็นได้ชัด แถมท่าทางเวลาพูดโกหกของเธอก็ไม่เคยแนบเนียนเลยสักนิด แต่เขาก็เออออตามน้ำไปเพราะไม่อยากให้เธอรู้เหมือนกันว่าเขารู้หมดแล้ว
“แล้วท่านเอ็นโจล่ะคะ”
“ผมน่ะเหรอ...ก็ไม่สบายนิดหน่อย แต่เดี๋ยวก็หายแล้วล่ะ”
“งั้นเหรอคะ”
อาการแสบในลำคอและช่วงอกที่หายไปหลายวันเหมือนจะกลับมาอีกหน ชูสุเกะจิกเล็บเข้ากับฝ่ามือเพื่อข่มอาการ เขาจะไอต่อหน้าเรย์กะไม่ได้เป็นอันขาด
แต่การที่เธอขึ้นลิฟท์มาถึงชั้นที่เขาอยู่ได้แบบนี้ คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรอก
“ว่าแต่คุณคิโชวอินมาเยี่ยมเพื่อนที่โรงพยาบาลเหรอ”
“มะ ไม่ใช่เพื่อนคนไหนหรอกค่ะ” เรย์กะตอบโดยไม่มองหน้าเขา “พอดียูกิโนะคุงโทรไปบอกว่าท่านเอ็นโจเข้าโรงพยาบาล…”
“อื๋อ ยูกิโนะน่ะเหรอ” เขาเลิกคิ้วขึ้น หัวใจเต้นโครมครามแทบจะควบคุมไม่ได้
เรย์กะตั้งใจมาเยี่ยมเขา
ความยินดีแผ่ไปทั่วร่างแทบจะเก็บอาการไว้ไม่อยู่ มันเต้นพล่านไปทั่วร่างเหมือนน้ำเดือดๆ สูบฉีดแล่นโลดไปตามกระแสเลือด ปลุกชีวิตชีวาที่แห้งผากให้กลับมาอีกหน
“ค่ะ” เธอพยักหน้า “แล้วท่านคาบุรากิก็ส่งเมล์มากำชับอีกที ฉันก็เลย…”
อะไรที่เขาเรียกว่าความหวังเมื่อครู่นี้ มอดดับลงเหมือนมีใครเอาน้ำสาดใส่ เป็นความจริงอันเยียบเย็นที่เหมือนปลุกให้ตื่นจากความฝัน
เขาไม่ควรคิดไกลไปเลย เธอมาตามคำชวนของมาซายะต่างหาก ที่มาก็คงเพราะจะได้พบมาซายะ เขาไม่ได้สำคัญอะไรกับเธอขนาดนั้นหรอก
“แต่วันนี้มาซายะไม่ได้มาหรอก” เขาพูดห้วนๆ ในลำคอเริ่มคันขึ้นมาแล้ว
“เอ๋!!”
“ผิดหวังเหรอ” ชูสุเกะถาม รู้สึกว่าตัวเองกำลังจะเริ่มอารมณ์เสียและกำลังจะทำเรื่องโง่ๆอย่างการหึงหวงจนพาลใส่คนอื่นเหมือนอย่างตอนนั้น
“เปล่านี่คะ” เธอขมวดคิ้วใส่ “แค่สงสัยว่าทำไม…”