ฟิคนายตัวสำรอง
(5)
นายตัวสำรองเดินนำฉันจนมาถึงหน้าห้องเรียน
“ไม่รู้ว่าเธอกับเอ็นโจมีปัญหาอะไรกันหรอกนะ แต่ถ้าโดนข่มขู่…” พูดถึงตรงนี้นายตัวสำรองก็ทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก “อะแฮ่ม หรือ…หรือ อืม เอาเป็นว่าฉันก็อยู่ห้องสภาล่ะนะ”
พูดจบแล้วหมอนั่นก็หมุนตัวกลับไปด้วยหูแดง ๆ
อ่า ที่แท้ประธานนักเรียนที่เคร่งขรึมก็มีด้านน่ารักกับเขาเหมือนกันนี่! หูแดง ๆ ก็ทำให้ฉันรู้สึกขยุกขยิกในหัวใจอย่างบอกไม่ถูก
ฉันยืนซาบซึ้งกับมิตรภาพของสองเราอยู่ซักพัก ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าหน้าห้องเรียนของฉันนี่…มีหูตาสับปะรดของนักเรียนซุยรันจำนวนมาก ก็เลยสะบัดพัดที่ซุกไว้ในกระเป๋ากระโปรงออกมาดังพรึ่บ แล้วเดินเข้าห้องไป
“แหม อากาศในห้องเรียนที่ร้อนจริง ๆ นะคะ” ฉันส่งยิ้มไปให้เซริกะจังพลางโบกพัดในมือไปมาช้า ๆ เอาล่ะ ข้ออ้างเรียบร้อย เมื่อกี้ฉันแค่ออกไปเดินเล่นสูดอากาศบริสุทธิ์แทนอากาศที่ร้อนอบอ้าวในห้องเรียนเองน้า ไม่มีอะไรเลยจริงจริ๊ง~ เก่งมาก เรย์กะ!
“ค…ค่ะ ท่านเรย์กะ” เซริกะจังที่เหม่อไปชั่วครู่ ตอบรับฉันอย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับคิคุโนะจังและสาว ๆ คนอื่น ๆ ที่ทยอยตอบกลับมาว่า “นั่นสินะคะ” “ร้อนจริงๆด้วยค่ะ”
และหลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง ฉันก็นึกเสียใจที่พูดออกไป เพราะในระหว่างชั่วโมงเรียน อยู่ ๆ ห้องเรียนที่ร้อยวันพันปีไม่เคยจะหนาวไปหรือร้อนไป วันนี้กลับรู้สึกร้อนขึ้นมาซะเฉย ๆ แถมยังร้อนขึ้นเรื่อย ๆ ไปจนจบคาบพักเที่ยง
ฉันแบกร่างอ่อนระโหยโรยแรงของตัวเองไปที่โรงอาหาร
แม้แต่โรงเรียนหรูหราอย่างซุยรันก็มีวันที่ห้องเรียนแอร์เสียสินะคะ แล้วนี่คาบบ่ายยังจะเสียอีกรึเปล่า แบบนั้นน่ะไม่ไหวนะคะ
แต่วันซวย ๆ ของฉันยังไม่จบแค่นั้น เมนูของหวานวันนี้ที่เป็นลิมิตเต็ด52837390394ก็หมดไปด้วย
ฉันใช้สายตาอาฆาตส่งไปที่แผ่นหลังของนายคนที่อยู่หน้าฉันที่หยิบของชิ้นสุดท้ายไป
ขอให้ตก ขอให้ตก ขอให้ตก ขอให้ตก ขอให้ตก ขอให้ตก ขอให้ตก ขอให้ตก ขอให้ตก ขอให้ตก ขอให้ตก ขอให้ตก ขอให้ตก ขอให้ตก ขอให้ตก ขอให้ตก ขอให้ตก ขอให้ตก
ขอให้ตก ขอให้ตก ขอให้ตก ขอให้ตก ขอให้ตก ขอให้ตก ขอให้ตก ขอให้ตก ขอให้ตก
“คุณคิโชวอิน”
การคิดอะไรร้าย ๆ ทำให้โชคไม่ดีจริงด้วย
ฉันหันไปมองเอ็นโจที่ยืนส่งยิ้มบาดตามาให้ฉันจากทางขวามือ แต่ที่บาดตาฉันมากกว่านั้นคือขนม-ลิ-มิต-เต็ด-อยู่ในถาดของหมอนั่นสองถ้วย!
สองถ้วย! สองถ้วยแปลว่าอะไร
สองถ้วยแปลว่าขนมลิมิตเต็ดที่ให้ได้มากที่สุดคนละชิ้น แม้แต่คุณป้าปาติซิเยร์ที่ยืนหลังเคาน์เตอร์ก็ถูกนายนี่ล่อลวง
นี่มันไม่ยุติธรรมที่สุด ฉันจะฟ้อ-
“คุณคิโชวอิน” เอ็นโจเรียกอีกครั้ง “วันนี้ผมกินข้าวเที่ยงด้วยนะ” ว่าแล้วก็เดินไปนั่งตรงที่ฉันมักจะนั่งกับสาว ๆ เป็นประจำ
“แหม อยู่ ๆ ดิฉันก็นึกได้ว่าลืมของไว้ที่ห้องเรียน ท่านเรย์กะไปนั่งก่อนเลยนะคะ” เซริกะจังที่ต่อจากฉันวางถาดอาหารที่หยิบมาแล้วอย่างไม่ใยดี คิคุโนะจังกับคนอื่น ๆ ก็พยักหน้า ปิดปากยิ้มบอกว่าไปเข้าห้องน้ำบ้าง วันนี้จะไปนั่งกับเพื่อนคนอื่นบ้าง
…ทุกคนคิดว่าดิฉันไม่รู้หรอคะว่ากำลังทำอะไรอยู่
แต่ยังไงก็ไม่อาจปฏิเสธคุณเจ้าชายในที่ ๆ มีพยานมากขนาดนี้ได้อยู่ดี ฉันที่หลบเลี่ยงไม่ได้เพราะโดนเจาะจงชื่อก็ต้องเดินไปนั่งตรงข้ามกับเอ็นโจอย่างจำยอม
“ท่านเอ็นโจมีธุระอะไรกับดิฉันเหรอคะ”
“ต้องมีธุระอะไรถึงจะมานั่งกินข้าวกับคุณคิโชวอินได้เหรอ” เอ็นโจเลิกคิ้วถาม วิธีการพูดนี่ช่างเหมาะกับการเป็นลูกบ้านหมู่บ้านคาสโนว่าจริง ๆ แต่ฉันที่มีภูมิต้านทานจากท่านอิมาริจะไม่ยอมแพ้หรอกย่ะ ฉันใช้สายตาปลาตายจ้องตอบจนเอ็นโจหัวเราะขึ้นมา
“ล้อเล่นน่ะครับ” เอ็นโจยกยิ้ม “ความจริงคือมาซายะไปกินข้าวกับ อื้อ คุณคิโชวอินก็รู้”
ฉันพยักหน้าตอบรับแต่ในใจด่าอีตาคาบุรากิเอาแต่ใจ หมอนี่น่ะ บ้านก็ออกจะรวย ยังจะต้องให้วาคาบะจังตื่นเช้ามาเตรียมข้าวเที่ยงให้สำหรับสองคนแม้แต่วันเปิดเทอมเนี่ยนะ หมอนี่ไม่คิดถึงคนอื่นอีกแล้ว
“ก็เป็นคู่รักกันแล้วนี่ครับ” เอ็นโจเสริมยิ้ม ๆ เหมือนรู้ทันว่าฉันกำลังคิดอะไรอยู่ ก่อนจะทำหน้าประหลาดตอนพูดต่อ “มาซายะ…ไปศึกษาข้อมูลมาจาก…หนังสือน่ะครับ”