Fanboi Channel

ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับการรอคอยอย่างใจจดใจจ่อ พวกเรารอท่านฮิโยโกะอยู่ที่ท่าน้ำทุกวันเลยนะ! [ฤดูกาลผันผ่านครั้งที่31]

Last posted

Total of 1000 posts

696 Nameless Fanboi Posted ID:g4S73adPYC

AU Hanahaki Verse [4]
ความเดิมตอนที่แล้ว >>>/webnovel/7425/600-604

-------------------------------------

“นายควรไปบอกยัยนั่น”

มาซายะเอ่ยขึ้นระหว่างมื้อค่ำของเราสองคนในห้องพักผู้ป่วย

“ผมจะผ่าตัดอีกสามวันข้างหน้าอยู่แล้วนะ” ชูสุเกะส่ายหน้า ตักข้าวต้มในชามขึ้นมาแล้วกลืนลงคอ

อาหารของเขาเป็นของเหลวแบบพวกข้าวต้มกับพวกสิ่งอ่อนนุ่มอย่างพวกเต้าหู้เพราะแผลในลำคอจากการถูกหนามเกี่ยว แม้รสชาติจะดีกว่าอาหารโรงพยาบาลทั่วๆไปเพราะแม่ให้พ่อบ้านไปซื้อมาจากร้านโปรดของเขา แต่ชูสุเกะก็ทานไม่ค่อยลงอยู่ดี

“ฉันอ่านเจอวิธีรักษาโรคมา เขาบอกให้ไปสารภาพรักกับคนที่ชอบ...ถ้าใจตรงกันมันก็จะหายไปเอง”

“ไม่มีทางหรอก เธอชอบคนอื่น”

“ใคร”

เขายิ้มบางเบาแล้วหันไปสนใจข้าวต้มต่อ หลีกเลี่ยงการตอบคำถาม

มาซายะขมวดคิ้วครุ่นคิดแล้วเริ่มไล่รายชื่อเพื่อนผู้ชายที่ใกล้ชิดกับเรย์กะออกมาทีละคน จำนวนนั้นมีน้อยมาก แต่แน่นอนว่าไม่มีชื่อคาบุรากิ มาซายะหลุดออกมาจากปาก คงไม่คิดว่าตัวเองจะเป็นคนที่เธอแอบชอบ

“เลิกพูดเรื่องนี้เถอะ เดี๋ยวปวดใจมากๆผมก็ไอเป็นดอกไม้อีกหรอก”

“ก็ได้” มาซายะพยักหน้าเนิบๆ ทานข้าวของตัวเองจนหมดแล้วก็นั่งดูเขาทานเหมือนจะคุมความประพฤติ

คณะแพทย์มาตรงเวลาเหมือนเคย เอายามาให้พร้อมกับส่องลำคอของเขาไปด้วยเพื่อดูอาการและจดบันทึกประจำวัน และมาซายะก็จะกลับไปในช่วงนี้เพื่อปล่อยให้เขาพักผ่อน

“ฉันไปก่อนนะ”

เขาพยักหน้าให้กับคำอำลาของมาซายะแล้วก้มหน้าลงไปอ่านหนังสือต่อ แต่ก่อนจะออกจากห้อง มาซายะก็หันกลับมามอง จนเขาต้องเป็นฝ่ายเอ่ยปากถาม

“มีอะไรเหรอ”

“ฉันยังยืนยันคำเดิมนะว่าให้บอก”

“....แต่”

“ถึงจะมีความเป็นไปได้ต่ำแต่ก็ต้องลองดูก่อนไม่ใช่เหรอ” มาซายะยิ้มกว้างให้เขา “ยังดีกว่ามาเสียใจทีหลังว่าทำไมตอนนั้นถึงไม่ทำแบบนั้น”

“.....”

“เป็นฉัน ฉันก็จะทำแบบนั้นล่ะ”

มาซายะกลับไปนานแล้ว แต่เขายังนอนลืมตาอยู่ในความเงียบสงบและความมืดของห้องพัก จิตใจยังวนเวียนอยู่กับเรื่องที่เพื่อนพูด

….ให้พูดออกไปอย่างนั้นเหรอ

แม้ใจชูสุเกะจะคล้อยตามมาซายะอยู่บ้าง แต่สมองในส่วนคิดวิเคราะห์เหตุและผลก็ยังคงทำงานได้ดีเยี่ยม มันคอยกระซิบข้างหูให้เลิกคิดเรื่องโง่เง่าแบบนั้น

พูดไปแล้วได้อะไรขึ้นมาล่ะ ยังไงเขาก็ต้องผ่าตัดอยู่อีกไม่กี่วันข้างหน้า ดังนั้นจึงไม่ควรทำให้เรื่องยุ่งยากมากไปกว่านี้แล้ว

ก็แค่ปล่อยให้ลมพัดไป เหมือนที่พัดเอากลีบดอกไม้และหยดน้ำตาของเขาให้หลุดลอยออกไป แบบเมื่อตอนที่อยู่บนดาดฟ้ากับมาซายะก็เท่านั้น

ชูสุเกะมองออกไปนอกหน้าต่าง นึกถึงกลีบดอกไม้พวกนั้น

กลีบดอกไม้ที่ปลิวไปตามลม จะลอยออกไปไกล และจะไม่มีวันกลับมาที่เดิมอีก
.
.
.
.

697 Nameless Fanboi Posted ID:g4S73adPYC

กำหนดการไปต่างประเทศของพ่อทำให้ไม่สามารถอยู่กับเขาและแม่ในวันผ่าตัดได้ เขาฟังแล้วก็พยักหน้าเนิบๆถือว่ารับทราบไปตามนั้น อันที่จริงพ่อจะอยู่หรือไม่อยู่ก็ไม่ได้มีผลอะไรกับการผ่าตัดของแพทย์นักหรอก

พ่อมาเยี่ยมเขาก่อนขึ้นเครื่องตอนบ่าย ครอบครัวอยู่กันชื่นมื่นพร้อมหน้า แต่สำหรับชูสุเกะแล้วเหมือนเวลากำลังนับถอยหลังในการขึ้นสู่ตะแลงแกงอย่างไรชอบกล

แม่กับยูกิโนะจะไปส่งพ่อที่สนามบินแล้วก็จะตรงกลับบ้านเลย ส่วนมาซายะก็มาไม่ได้ รู้สึกว่าจะติดธุระทางบ้าน เท่ากับว่าวันนี้เขาจะได้อยู่สงบๆคนเดียวเป็นระยะเวลานานๆ ซึ่งนั่นก็ดีแล้ว

น้องชายของเขาอ้อนพ่ออย่างเคย ชูสุเกะชอบเวลาที่มียูกิโนะอยู่ด้วยในห้อง เขาเป็นเด็กดีและน่ารัก ถึงจะเอาแต่ใจไปบ้างแต่ก็ทำให้บรรยากาศดูสดใสขึ้นมาจากความช่างพูดช่างเจรจา

จนได้เวลาที่จะต้องไป ยูกิโนะเดินลงไปรอที่รถกับแม่ ส่วนพ่ออยู่คุยกับคณะแพทย์เกี่ยวกับเรื่องเอกสารผ่าตัดในห้องอีกสักหน่อยแล้วจะตามไปทีหลัง

พ่อเซ็นลายเซ็นลงบนเอกสารยินยอมให้ผ่าตัดเรียบร้อยก็คว้าเสื้อสูทขึ้นมาถือ วางมือลงบนหัวเขาเหมือนพ่อที่หยอกล้อกับลูกชายทั่วๆไป แต่ชูสุเกะกลับรู้สึกหนักอึ้งเหมือนถูกตรวนล่ามกดทับ

เขาอยากจะกรีดร้องหรือขัดขืนอาละวาด แต่ที่ทำได้ตอนนี้ก็แค่พูดด้วยน้ำเสียงขมขื่นเพื่อถามในสิ่งที่อัดอั้นตันใจ

“เพราะผมเป็นผู้สืบทอดตระกูลอย่างนั้นสินะ พ่อถึงบังคับให้ผมเข้ารับการผ่าตัดนัก”

พ่อหันหลังกลับมา ก่อนจะตอบคำถามเขาด้วยสีหน้าเรียบเฉย

“นั่นก็มีส่วน”

ชูสุเกะยิ้มขื่นๆกับคำตอบที่ได้รับ

“แกคงคิดมาตลอดว่าฉันเป็นพ่อที่ใจร้ายใจดำ คอยบังคับให้แกทำแต่สิ่งที่ไม่อยากทำสินะ”

พ่อสบตากับเขา ในตอนนี้ รอยยิ้มบางเบาที่พ่อชอบทำได้หายไปจากใบหน้าแล้ว

“แต่ฉันจะบอกให้รู้ไว้ ที่ฉันบังคับให้แกเข้ารับการผ่าตัดนั่นเพราะแกคือลูกของฉัน”

“......”

“ฉันจะไม่ยอมปล่อยให้ลูกฉันตายไปต่อหน้า ถ้ามีหนทางให้รอด ไม่ว่าวิธีไหนฉันก็จะทำ”

เมื่อเขานิ่งเงียบ พ่อก็พูดต่อด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อยเหมือนปกติ

“ตอนนี้แกอาจจะยังไม่เข้าใจ แต่ถ้าโตแล้วก็จะรู้เองว่าความรักไม่ใช่ทุกอย่างในชีวิต ไม่ต้องไปยึดติดกับมันให้มากนักหรอก”

พ่อมองเขาด้วยสายตาที่อ่านอารมณ์ไม่ออกอยู่ครู่หนึ่งก็เป็นฝ่ายละสายตาออกไปเอง

“ทานยาแล้วก็พักผ่อนซะ”

เสียงปิดประตูตามหลังนั้นแผ่วเบาและเงียบสงบ แต่ดังก้องในหูของเขาเสียเหลือเกิน

ชูสุเกะวางมือก่ายหน้าผาก จ้องมองเพดานและหลอดไฟของห้องพัก ครุ่นคิดถึงเรื่องที่พ่อพูดเมื่อสักครู่

เพราะเขาเป็นลูก อย่างนั้นเหรอ

ชูสุเกะไม่เคยคาดคิดกับคำตอบอะไรแบบนี้เลย ยิ่งออกมาจากปากของพ่อด้วยแล้วก็ยิ่งดูเหลือเชื่อไปกันใหญ่

สิ่งที่พ่อพร่ำสอนมาตลอดก็คือหน้าที่และผลประโยชน์ของตระกูลเอ็นโจต้องมาก่อนความรู้สึกของตัวเองเสมอ บางเรื่องที่ไม่อยากทำแค่ไหนแต่ถ้าเพื่อผลประโยชน์ก็จำเป็นต้องทำ เขาคิดว่าถ้าตัวเองออกนอกลู่นอกรอยที่วางไว้ พ่อก็พร้อมจะตัดเขาทิ้งจากตระกูลเช่นกัน

พ่อที่เขาเห็นว่าเลือดเย็นมาตลอด ในตอนนี้กลับพูดว่าพร้อมจะรักษาชีวิตลูกทุกทาง ชูสุเกะไม่แน่ใจเลยว่าสิ่งที่พูดนั้นออกมาจากใจจริงหรือไม่

เขาก็เหมือนพ่อ เก็บซ่อนใจจริงเอาไว้ด้วยรอยยิ้มบางเบาเหมือนไม่มีอะไร และเป็นสิ่งที่เรียนรู้มาตลอด

แต่จากคำพูดเมื่อครู่นี้ก็บ่งบอกว่าพ่อเป็นมนุษย์มีเลือดเนื้อคนหนึ่ง มีความเจ็บปวด มีความกลัวที่จะสูญเสีย ไม่ใช่ไร้หัวใจไปซะหมดทุกอย่างแบบที่เขาเข้าใจ

หรือบางที... พ่ออาจจะเคยเจอกับรักที่ไม่สมหวังแบบเขาในอดีต ก็เลยไม่อยากที่จะให้เจ็บปวดเหมือนตัวเอง อาจจะถึงขั้นต้องผ่าตัดแบบนี้ก็เป็นได้

ถ้าเขามีเวลาเขาอาจจะถามพ่อเกี่ยวกับเรื่องนี้ดู

นั่นคือความคิดสุดท้ายก่อนที่เปลือกตาเขาจะปิดสนิทไปเพราะฤทธิ์ยาอีกหน

698 Nameless Fanboi Posted ID:g4S73adPYC

เขาตื่นมาอีกทีก็ช่วงเกือบบ่ายสาม เป็นเวลาที่คิดว่าสมควรจะออกไปเดินเล่นยืดเส้นยืดสายรอบๆสวนเหมือนทุกวันสักหน่อย

แต่ยังไม่ทันที่จะได้หยิบเสื้อคาดิแกนที่อยู่บนเก้าอี้ มือถือก็ส่งเสียงร้องเตือนว่ามีคนโทรเข้ามา เป็นเจ้าหน้าที่ตรวจสอบภายในที่พ่อเขาเคยมอบหมายหน้าที่ให้ดูแลสอดส่องเรื่องทั่วๆไปในโรงพยาบาลนี้ เขาขมวดคิ้วพลางรับสายแบบนึกสงสัยว่ามีเรื่องอะไรกันแน่

ปลายสายทักทายมาเล็กน้อยแล้วเข้าเรื่อง ซึ่งเรื่องที่ว่าก็คือวันนี้ผู้มารับบริการกับทางโรงพยาบาลในชื่อ “คิโชวอิน เรย์กะ”

รายละเอียดของการรับบริการในครั้งนี้คือ เธอมาพบแพทย์ในช่วงเวลาบ่ายโมงเพื่อรับคำปรึกษาจากแพทย์ที่เชี่ยวชาญในโรคอาเจียนเป็นดอกไม้และจะมีการตรวจในเบื้องต้นเพื่อหาวิธีผ่าตัดต่อไปด้วย

“ผมเห็นข้อมูลถูกคีย์มาในระบบตอนบ่ายโมงของวันนี้” ปลายสายมีเสียงดังต๊อกแต๊กเหมือนกำลังง่วนอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ “เวลาให้คำปรึกษาและการตรวจรักษาเบื้องต้นเพิ่งจะสิ้นสุดลงไปเมื่อห้านาทีที่แล้วเองครับ ผมคิดว่าคุณอาจจะอยากรู้ก็เลยโทรมาแจ้งก่อน”

“ขอบคุณมากเลยนะ”

ชูสุเกะมองหน้าจอโทรศัพท์หลังวางสายแล้วเหลือบมองนาฬิกาบนผนัง นี่ก็ผ่านมาเกือบสิบนาทีแล้ว ไม่รู้ว่าเธอจะออกจากโรงพยาบาลแล้วกลับไปรึยัง

เขาคว้าเสื้อคลุมมาสวมทับแบบลวกๆ เดินออกจากห้องพักผู้ป่วย ข้างนอกค่อนข้างเงียบสงบเพราะเป็นโรงพยาบาลเอกชนที่ให้ความเป็นส่วนตัวสูง หมอและพยาบาลจะมาในช่วงเวลาตรวจเยี่ยมหรือไม่ก็มีการกดเรียกเท่านั้น

ชูสุเกะกดลิฟท์ลงไปชั้นล่าง เขารู้ว่าแผนกตรวจโรคอาเจียนเป็นดอกไม้อยู่ที่ไหน บางทีถ้าเขาเดินไปที่นั่น เขาอาจจะได้พบกับเธอก็เป็นได้

เขาไม่ควรไปพบเธอเพราะมีแต่จะทำให้อาการแย่ลง

สัญญาณไฟจากลิฟท์บ่งบอกว่ากำลังเคลื่อนตัวขึ้นมาจากชั้นล่าง แค่ไม่กี่ชั้นเท่านั้น แต่ให้ความรู้สึกนานเป็นพิเศษในความคิดเขา

ระหว่างรอลิฟท์ ชูสุเกะได้คิดใคร่ครวญเกี่ยวกับเรื่องนี้

การที่เธอมาปรึกษาหมอแบบนี้ อาจจะต้องการที่จะผ่าตัดก็เป็นได้

โรงพยาบาลนี้เป็นโรงพยาบาลในเครือตระกูลเอ็นโจ รวบรวมเอาแพทย์ที่เก่งในแต่ละด้านแบบเฉพาะทางเอาไว้ ซึ่งโรคนี้เองก็เช่นกัน คิดว่าเรย์กะคงค้นหาข้อมูลการรักษาในอินเตอร์เน็ตถึงได้เจอโรงพยาบาลนี้

อันที่จริง ข้อมูลการรักษาของคนไข้จะเป็นความลับอย่างยิ่งยวด แต่เขาก็ได้รับรู้เพราะเป็นนายน้อยของตระกูลผู้บริหารโรงพยาบาลนี้

เขาเคยรับรู้ข้อมูลเรื่องประวัติการรักษาของคิโชวอิน เรย์กะมาแบบไม่ได้ตั้งใจมาก่อนก็ตอนที่เธอมารักษาโรคคิ้วแหว่งจากความเครียด เขาไม่ได้ไปแทรกแซงการรักษาของหมอหรอก แค่กำชับให้ดูแลเธอให้ดีเป็นพิเศษ แต่หลังจากนั้นเขาก็บอกให้พนักงานช่วยรายงานข้อมูลเกี่ยวกับเธอมาเป็นระยะๆหากมีการเคลื่อนไหว

ชูสุเกะแค่นหัวเราะแบบสมเพชเวทนาให้กับตัวเอง

เหมือนสตอล์กเกอร์ไม่มีผิด ถ้าเธอรู้คงยิ่งเกลียดเขาหนักกว่าเดิมแน่ๆ

ลิฟท์เปิดออกพอดี เขาเตรียมที่จะก้าวเข้าไปข้างใน แต่ก็หยุดนิ่งไปเมื่อเห็นคนที่อยู่ภายในลิฟท์ จ้องมองร่างตรงหน้าด้วยความพิศวง

คิโชวอิน เรย์กะยืนอยู่ข้างในนั้น

“สวัสดีค่ะ ท่านเอ็นโจ”

เธอเองก็เลิกคิ้วขึ้นพร้อมมองตอบมาเช่นกัน

----------------------------------------------

ตอนจบที่เขียนไว้มันยาวมากเลยตัดตอนไปจบพาร์ทหน้าละกัน ตัดจบแบบละครไทยให้ค้างเล่นๆ อิอิ

699 Nameless Fanboi Posted ID:g4S73adPYC

>>698 กรี๊ดดด ก็อปข้อความมาไม่ครบ ซอรี่นาจา

"ชูสุเกะกดลิฟท์ลงไปชั้นล่าง เขารู้ว่าแผนกตรวจโรคอาเจียนเป็นดอกไม้อยู่ที่ไหน บางทีถ้าเขาเดินไปที่นั่น เขาอาจจะได้พบกับเธอก็เป็นได้

เขาไม่ควรไปพบเธอเพราะมีแต่จะทำให้อาการแย่ลง แต่ขาทั้งสองข้างก็พาเขาออกไปที่หน้าลิฟท์อยู่ดี ไม่ฟังคำสั่งของสมองในส่วนวิเคราะห์เหตุผลอย่างที่ควรเป็น

สัญญาณไฟจากลิฟท์บ่งบอกว่ากำลังเคลื่อนตัวขึ้นมาจากชั้นล่าง แค่ไม่กี่ชั้นเท่านั้น แต่ให้ความรู้สึกนานเป็นพิเศษในความคิดเขา"

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.