ช่วยสำนึกชื่อ คาบุรากิ มาซายะ ผู้นี้เข้ากะโหลกด้วยล่ะ แค่วันนี้เท่านั้นนะที่ฉันจะมีน้ำใจให้ยืมร่มไปใช้ก่อนอย่างสุภาพบุรุษน่ะ!
“จะยืนตากฝนก็ไม่อยากขัดหรอก แต่ถ้าเธอป่วยขึ้นมาเพราะทำแบบนั้นล่ะก็คงน่าเวทนาน่าดู”
ฉันยื่นร่มเข้าไปบังตัวคิโชวอิอย่างรวดเร็ว ร่มใหญ่ไม่พอเลยต้องแอบขยับเอนไปให้คิโชวอินมากกว่านิดหน่อย ท่าทีของเธอสับสนไม่ใช่น้อย เอาเถอะ ก็ไม่แปลกเท่าไหร่หรอก
“ท่านคาบุรากิ?” สายตาของคิโชอินไม่เหมือนเดิมจนตัวฉันถึงกับชะงักตอนมองเข้าไป มันทิ้งสิ้นหวัง หม่นหมอง เศร้าสร้อย น้ำที่ไหลผ่านแก้มซีดๆนั่นทำเอาฉันแยกไม่ออกเลยว่าเป็นน้ำตาหรือฝนกันแน่
อะไรน่ะ นี่ยัยคิโชอินเป็นอะไรไป
มีใครแย่งเธอเก็บนักษัตรหรอ?
“ท่านคาบุรากิมาทำอะไรที่นี่หรอคะ” เธอพยายามแค่นเสียงตอบให้ดูเหมือนปกติที่สุด แต่นั่นมันโง่มาก เสียงแหบๆแบบนั้นน่ะต่อให้เอาไปหลอกเด็กอนุบาลยังไม่น่าเชื่อเลย แล้วอีกอย่างนะ…..จากที่ดูแล้วคนที่ต้องถามมันควรเป็นฉันสิ
“แค่ผ่านทางมาเท่านั้นแหละ เธอต่างหากที่มาทำอะไร คนบ้านคิโชวอินหายไปไหนหมด” ฉันถามด้วยความเป็นห่วงออกไปทันที ไม่ว่ายังไงสถานการณ์ตอนนี้มันก็จะน่าสงสัยเกินไปแล้ว
รอยยิ้มของคิโชวอินดูฝืดเคืองอย่างประหลาด และในท้ายที่สุดเธอก็ยอมรับเสียงแผ่วว่าออกมาลำพังโดยที่ไม่ได้บอกใคร
นี่เธอ ช่วยตระหนักความสำคัญของตัวเองในฐานะคุณหนูบ้านคิโชวอินให้มากกว่านี้หน่อยได้ไหมเนี่ย ทำเรื่องเสี่ยงๆแบบนี้ได้ไงกันน่ะ ฉันขอยอมรับในตัวเธอจริงๆ มีไม่กี่คนนะที่ทำฉันตกตะลึงได้ถึงขนาดนี้ คิโชวอิน เธอมันเกินความเข้าใจของฉันไปแล้วสินะ