ผมเข้าใจแล้วว่าคนเราจะหน้ามืดฆ่าคนเพราะโมโหจนขาดสติได้อย่างไร ผู้หญิงคนนี้ยังคงยั่วโทสะผมได้เก่งเสมอต้นเสมอปลายไม่เคยเปลี่ยน ความโกรธจากเดิมที่คุกรุ่นอยู่แล้ว คำพูดของเธอก็เหมือนสาดน้ำมันเข้ากองไฟให้ไฟนั้นโหมกระพือมากขึ้นไปอีก
แต่เธอคงไม่ได้สังเกตอะไร เพราะกำลังแกล้งทำเป็นถอนหายใจและดึงมือออกจากเสื้อ
“ที่ฉันลงทุนเปลืองตัวขนาดนี้ก็เสียแรงเปล่าสินะคะ”
“ไม่หรอก” ผมตอบกลับด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ รั้งตัวเธอไว้ไม่ให้ลุกขึ้นไป “มันได้ผลดีมากๆเลยล่ะ”
คุณคิโชวอินเลิกคิ้วขึ้น และผมก็ไม่เห็นอะไรอีกนอกจากดวงตาของเธอที่อยู่ใกล้มาก ใกล้กว่าครั้งไหนๆ
ความอ่อนนุ่มคือสิ่งแรกที่รู้สึก ตามมาด้วยความเจ็บเพราะผมกดริมฝีปากเข้ากับปากของเธอ มันแทบไม่ใช่การจูบด้วยซ้ำ เหมือนกับการเอาชนะอะไรซักอย่างมากกว่า
การกระทำแบบนี้มันหยาบช้า แต่ผมไม่เห็นความจำเป็นที่ต้องสุภาพกับคนแบบนี้ เธอล้ำเส้นมากเกินไปและไม่ได้แคร์ความรู้สึกของผม ผมก็ไม่ต้องแคร์ความรู้สึกของเธอเหมือนกัน
เธอพยายามขืนตัวหนี แต่ผมประคองใบหน้านั้นไว้ไม่ให้หนี รวบข้อมือเล็กๆที่พยายามทุบตีไว้ได้ด้วยมือข้างเดียว ผละออกเล็กน้อยก็ตอนที่เอียงหน้าเพื่อจะหามุมที่จูบได้ถนัดกว่าเก่า ไม่ได้กระแทกกระทั้นแบบเมื่อครู่ ไม่ใช่ว่าผมเห็นใจหรือนึกสงสารขึ้นมา แต่เป็นเพราะผมเจ็บปากต่างหาก
เมื่อไม่ได้รุนแรง ความนุ่มนวลก็เข้ามาแทนที่ ผมบดคลึงริมฝีปากลงบนกลีบปากนั่นเบาๆ ความร้อนวาบแผ่จากอกไปจนถึงบริเวณท้องน้อย เป็นความรู้สึกประหลาดบอกไม่ถูก
นี่เป็นครั้งแรกที่ทำแบบนี้มันเลยออกจะดูเก้ๆกังๆไปบ้าง ผมก็ไม่แน่ใจว่าควรทำอย่างไร แต่ฟังจากเสียงครางเบาๆในลำคอของเธอก็รู้สึกได้ว่ากำลังมาถูกทาง
เมื่อฝั่งนั้นเผยอปากขึ้น ผมก็สอดลิ้นเข้าไปด้านในแตะสัมผัสกับลิ้นของเธอ ปฏิกริยาทุกอย่างเป็นไปโดยอัตโนมัติแบบที่ผมก็แปลกใจตัวเองเหมือนกัน
ความอ่อนนุ่มที่อยู่ในมือทำให้หัวใจผมเต้นสั่น กลิ่นหอมที่คลอเคลียอยู่บริเวณจมูกและรสสัมผัสที่ปากเหมือนจะมอมเมาสติ ทั้งหวานและหอมจนบางอย่างในตัวผมมันบอกให้กินเธอซะเดี๋ยวนี้
...ไม่ได้!!
ผมต่อสู้กับความรู้สึกภายในใจ แต่จิตสำนึกในด้านดีก็ยังเป็นฝ่ายชนะ ไม่ใช่ว่าผมเกิดอยากจะมีศีลธรรมขึ้นมา แต่เป็นเพราะกลางวันแสกๆแบบนี้แถมเป็นที่จอดรถที่ใครจะผ่านไปผ่านมาตอนไหนก็ไม่รู้ คงจะไม่เหมาะกับการทำเรื่องอย่างว่านัก
เมื่อผมผละริมฝีปากออก ลึกๆแล้วรู้สึกเสียดายความหวานที่เพิ่งได้ลิ้มรส
คุณคิโชวอินดูมึนงงและกำแขนเสื้อผมไว้แน่น กระพริบตาปริบๆเหมือนไม่แน่ใจว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ สองข้างแก้มแดงก่ำและหอบหายใจเหมือนเพิ่งไปออกแรงวิ่ง
ริมฝีปากเธอยังคงเผยอในลักษณะเดิมเหมือนที่ถูกจูบ มันฉ่ำวาวและเป็นสีแดงระเรื่อเหมือนเชิญชวนให้ผมกระทำความผิดอีกหน
“ทีนี้รู้รึยังว่าผมจะทำอะไรคุณได้” ผมคลายอ้อมแขนออก เธอรีบถอยกรูดไปชิดประตูฝั่งตรงข้ามคนขับให้ได้มากที่สุด “ทีหลังก็อย่าทำแบบนี้อีก”
คุณคิโชวอินเอาหลังมือถูริมฝีปากตัวเอง ถลึงตามองจ้องผมด้วยสายตาเคืองแค้น
“แล้วก็ฟังนะ เจ้าเด็กนั่นก็วางแผนกับเพื่อนที่จะจัดการคุณ ถ้าไม่อยากเป็นนางเอกหนังโป๊แนวรุมข่มขืนมีคลิปว่อนเน็ตก็อย่าไปยุ่งกับเขา แล้วก็อย่ากินอะไรที่หมอนั่นเสนอให้ด้วย”
เมื่อผมจอดส่งที่สถานีรถไฟตามที่บอกไว้ เธอก็วิ่งจ้ำอ้าวหนีไปเลย ดูไปแล้วก็คล้ายๆกระต่ายกระโดดหนีเวลาถูกไล่ล่าเหมือนกัน แถมวันนี้ชุดที่ใส่ก็ยังเป็นสีขาวซะด้วย
...กระต่ายขาว
ภาพเจ้าสัตว์ตัวเล็กๆหูยาวขนฟูนิสัยขี้กลัวปรากฎอยู่ในหัว เมื่อเอามาเปรียบเทียบกับผู้หญิงคนนั้น ผมก็ต้องหัวเราะออกมา เพราะไม่มีอะไรที่ใกล้เคียงกันเลยแม้แต่น้อย
แต่จากจินตนาการไม่เข้าท่านั่นก็ทำให้ผมรู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาหลายเท่าจากเมื่อครู่ แม้จะต้องส่ายหน้าแบบอ่อนใจเล็กน้อยเพราะเรื่องนั้นก็ตาม
“ไม่เห็นจะเหมาะตรงไหนเลย”
---------------------------
ไม่ได้เขียนฟิคนี้ซะนาน รู้สึกว่ามันยาวจังเว้ย แถมยังมีแต่น้ำอีก