Fanboi Channel

ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับการรอคอยอย่างใจจดใจจ่อ พวกเรารอท่านฮิโยโกะอยู่ที่ท่าน้ำทุกวันเลยนะ! [ฤดูกาลผันผ่านครั้งที่31]

Last posted

Total of 1000 posts

617 Nameless Fanboi Posted ID:03z7reMFsq

>>572 กู >>581 นะ กาวไม่เหมือนซะทีเดียวแต่ก็ประมาณนั้น
(1)

“คิโชวอิน เรย์กะ” นายตัวสำร- อะแฮ่ม ก็คืออาริมะคุงที่ฉันต้องพยายามคิดให้ชินสมอง เรียกชื่อฉันเสียงหนักแน่น แถมยังพูดออกมาด้วยเสียงดังฟังชัด ต่างกับเสียงพูดสุนทรพจน์เรียบเรื่อยที่ยาวยืดจนฉันเกือบจะสัปหงกไปอยู่แล้ว

แต่หมอนั่นพึ่งจะพูดชื่อฉันออกไมค์ไป

ฉันที่ตื่นเต็มตาจ้องมองขึ้นไปสบตาเขาบนเวทีอย่างงุนงง

Pivoine ที่ได้รับสิทธิ์นั่งตรงด้านหน้าสุด เหมือนได้ดูคอนเสิร์ตกับบัตรระดับเฟิร์สตคลาส ถึงจะไม่เหมือนคาบุรากิที่นั่งตรงกลางพอดีเป๊ะแต่เก้าอี้ของฉันก็ถัดมาเพียงแค่เก้าอี้เดียวเท่านั้น ก็เห็นหน้าอาริมะคุงชัดไม่ต่างกันเท่าไหร่

ใบหน้าของเขาแดงก่ำ ดวงตาไหวระริก เฮ้ คนที่จะต้องอายหรือกลัวอะไรมันคือทางนี้มากกว่าหรือเปล่า ฉันน่ะคือคนที่พึ่งจะถูกประธานนักเรียนเรียกชื่อเต็มออกไมค์ในวันจบนะคะ ส่วนนายคือคนที่พึ่งจะพูดชื่อฉันใส่ไมค์โดยเจตนา

แล้วนี่จะเรียกฉันเพื่อประจานหรือเปล่าเนี่ย อาริมะคุง ฉันน่ะยังไม่ทันจะหลับเลยนะคะ หรือต่อให้ฉันหลับไปจริง ๆ ก็น่าจะเห็นแก่ที่เราร่วมมือกันมาอย่างดีเกือบตลอดสองเทอมหน่อยสิคะ

หรือประเด็นที่สำคัญมากกว่านั้นคือ อาริมะคุง นายกำลังพูดในฐานะประธานนักเรียนนะคะ เขาให้ประธานนักเรียนมาพูดสุนทรพจน์จบ ไม่ได้ให้ใช้ไมค์เพื่อเรียกชื่อประจานพร่ำเพรื่อนะค๊า

ฉันสัมผัสได้ถึงสายตาที่จับจ้องมาทางนี้ คาบุรากิที่นั่งติดกันก็ยังจะหันหน้ามาเลิกคิ้วใส่

อย่ามองฉันเลยค่ะ ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าอาริมะคุงเรียกฉันทำไม ถ้าอยากรู้หันไปมองทางอาริมะคุงดีกว่านะคะ

“คิโชวอิน เรย์กะ” อาริมะคุงเรียกชื่อของฉันอีกครั้ง คราวนี้มันออกมาสั่น ๆ อย่างบอกไม่ถูก “ตลอดหลายปีที่เข้าซุยรันมา ผมเคยคิดมาตลอดว่า Pivoine น่ะมีแต่พวกหัวสูง หยิ่งยะโสและเห็นแก่ตัว”

เสียงหึ่ง ๆ ดังขึ้นมาทั่วฮอลล์ทันที แม้แต่คาบุรากิก็เบนหน้ากลับไปขมวดคิ้วจ้องอาริมะคุงแล้ว ฉันหวังว่านายจะรู้ตัวนะคะว่ากำลังทำอะไรอยู่ อย่าทำอะไรให้ความปรองดองประหลาด ๆ ที่ช่วยกันทำมาอย่างยากเย็นแตกหักลงเชียวนะคะ

หัวข้อเรื่องนี้มันยังคงเปราะบางอยู่

แต่หมอนั่นยังคงไม่สนใจ สองตาจ้องตรงมาที่ฉันแล้วก็ค่อย ๆ พูดต่อ “รุ่นพี่โทโมเอะบอกว่าผมน่ะใจแคบ” เหมือนเขาจะไม่สนใจว่าจะมีรุ่นน้องปีหนึ่งอีกหลายคนไม่รู้จักรุ่นพี่โทโมเอะ “บอกผมว่าไม่ใช่ทุกคนที่เป็นอย่างนั้นหรอกนะ อย่างเช่นคุณคิโชวอินที่อยู่ในปีผมน่ะก็ไม่ใช่คนอย่างนั้นเลย”

ขอบคุณนะคะรุ่นพี่โทโมเอะ ไม่เสียแรงที่เป็นรักแรกของฉัน

“ตอนนั้นผมก็ยังคงไม่เชื่อ จริงอยู่ที่คิโชวอินจะเป็นกรรมการห้องมาหลายครั้ง แต่ผมก็ยังคิดว่านั่นน่ะก็เพราะบ้าอำนาจไม่ใช่รึไงกัน” แม้ฉันจะรู้สึกแปลก ๆ ที่อาริมะคุงจะเรียกฉันว่าคิโชวอินที่ไม่ได้เรียกมานาน แต่คำพูดนั่นน่ะทำร้ายฉันกว่าหลายเท่าตัว บ้าอำน-บ้าอำนาจ? ฉันคนนี้นี่น่ะหรือคะ

“แต่คิโชวอินก็พิสูจน์ให้ผมเห็นว่าผมคิดผิด เธอเกือบถูกใส่ร้ายในเหตุการณ์ล็อกเกอร์ที่หลายคนคงจะจำได้ ผมขอประกาศความบริสุทธิ์ของคิโชวอินในตอนนี้ว่าไม่มีการบังคับหาแพะมาสารภาพอะไรทั้งสิ้น ความเชื่อของผมในตอนนั้นก็เริ่มสั่นคลอนแล้ว และต่อมาผมก็ยังได้อยู่ในเหตุการณ์พิเศษ...” อาริมะคุงลากเสียงยาว

หมายถึงเหตุการณ์สมาคมนิยมทีวีไดเรกต์สินะคะ แหม อย่างน้อยก็ทราบสินะคะว่านี่เป็นเรื่องที่ไม่สมควรจะพูดในที่สาธารณะสุด ๆ ไปเลย “ตอนนั้นทำให้ผมเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อเธอไปจริง ๆ และก็ถือว่าอยู่ในสถานะที่ค่อนข้างเป็นมิตร แม้ว่า Pivoine กับสภานักเรียนในตอนนั้นไม่เหมาะสมจะใช้คำว่าความสัมพันธ์อันดีมาบรรยายเท่าไหร่นัก”

“และต่อมาก็เป็นเรื่องที่ทุกคนรู้กัน จากคิโชวอินก็กลายเป็นเรย์กะสำหรับผม” อาริมะคุงชะงักไปนิดหนึ่ง แต่ก็นับว่าเขามีทักษะการใช้คำพูดที่ยอดเยี่ยมไปเลย ใครฟังเข้าคงจะนึกว่าฉันกับอาริมะคุงคบกันจริง ๆ ใครจะรู้ว่าเขาไม่ได้โกหกและพวกเราก็ไม่ได้คบกัน

ก็แค่ความร่วมมือนิดหน่อยเท่านั้นเองน่า

ความสัมพันธ์อันมั่นคงระหว่างผู้ใหญ่บ้านคานทองกับลูกบ้านที่ดูเหมือนจะจองที่ดินไว้ตั้งแต่เกิดมาเป็นนายตัวสำรองยังไงล่ะ

“แต่เพราะความสัมพันธ์ระหว่างสองฝั่งมันช่างเปราะบางในตอนนั้น ทำให้ผมกับเรย์กะ...” เป็นการหยุดจังหวะที่ดราม่าสุด ๆ ไปเลย ฉันโห่ร้องพร้อมกับแอบชูนิ้วโป้งให้ในใจ “เอาเป็นว่าผมดีใจที่ในที่สุดในวันที่ผมจบวันนี้ความสัมพันธ์ของทุกฝ่ายดีขึ้นมากจริง ๆ เรย์กะ ในที่สุดพวกเราก็ทำได้แล้วนะ”

618 Nameless Fanboi Posted ID:03z7reMFsq

อาริมะคุงยิ้มกว้างสุด ๆ ส่งมาให้ ความเงียบโรยตัวลงมาชั่วขณะ แต่ก็มีใครไม่รู้ตะโกนว่าโรมิโอกับจูเลียตขึ้นมา มุมปากที่ส่งยิ้มกลับไปของฉันแข็งทื่อทันที ในมุมมองของคนอื่นก็คงเหมือนจะใช่อยู่นะคะ แต่เบื้องหลังโศกนาฏกรรมความรักหว่างประธานนักเรียนกับ Pivoine ที่ทุกคนคิดน่ะความจริงมันคือการฮึดสู้ต่อโชคชะตาของนางร้ายกับตัวสำรองต่างหากเล่า

ใบหน้าของฉันของคงจะว่างเปล่าจนดูไม่ได้ นายตัวสำรองถึงได้หลุดหัวเราะขึ้นมาหนึ่งครั้งก่อนจะทำหน้าจริงจังขึ้นมา ทำเอาทุกคนพลอยเงียบตามไปด้วย

“แต่ว่าผมกำลังจะจบไปแล้ว พวกเราถึงจะติดมหาวิทยาลัยที่เดียวกันแต่ก็ต่างคณะ ผมถึงคิดได้ว่าบางทีต่อไปอาจจะไม่ได้เจอทุกคนในเกือบทุกวันอย่างนี้อีก ผมกับเรย์กะก็เหมือนกัน ผมกลัวจะไม่ได้เจอเธอในแบบตอนนี้”

อาริมะคุงนี่สมควรได้รางวัลตุ๊กตาทองจริง ๆ เลยนะ ตั้งแต่ต้นจนจบหมอนี่ยังคีพคาแรกเตอร์ไม่เปลี่ยนจริง ๆ

“เพราะงั้นเรย์กะ ผมไม่อยากให้คุณเป็นแค่เรย์กะของผมในโรงเรียนนี้”

...ฮะ ฉันได้ยินอะไรไปผิดรึเปล่า

“เรย์กะ ไม่ใช่แค่ในโรงเรียนนี้ แต่ได้โปรดเป็นเรย์กะของผมตลอดไปเลยได้หรือเปล่า” นายตัวสำรองที่สบตาฉันมาพลันตลอดหลุบสายตาลงแล้วเบือนไปมองที่อื่น

“ผมขอโทษที่ผมทำอะไรไร้มารยาทแบบนี้โดยไม่ได้บอกคุณก่อน ผมรู้ว่าการเค้นคำตอบของคุณในที่สาธารณะมันเป็นเรื่องที่น่าอึดอัด เพราะงั้นผมจะรอเรย์กะที่เดิม ให้คำตอบกับผมในตอนนั้นก็แล้วกัน”

“เพื่อนนักเรียนทุกคน ผมขออภัยที่ใช้เวลาของทุกคนไป แต่ผมคงต้องใช้โอกาสนี้ก่อนจะไม่มีโอกาสอีก” อาริมะคุงยิ้มเศร้า ๆ “ทุกคนได้ให้ประสบการณ์อันมีค่ากับผม เปลี่ยนผมเป็นคนที่ดีขึ้น ใจกว้างยิ่งขึ้น ขอบคุณมากครับ”

อาริมะคุงยังคงพูดอะไรต่อท้ายอีกนิดหน่อย แต่สมองฉันขาวโพลนไปทั้งหมด ไม่รับรู้เสียงของหมอนั่นโดยสิ้นเชิง

“เมื่อกี้...คืออะไรน่ะ” แว่วเสียงนักเรียนผู้หญิงที่นั่งด้านหลังฉันดังขึ้น “ประธานนักเรียนขอท่านเรย์กะคบเหรอ ไม่ใช่สิ! พวกเขาคบกันอยู่แล้วนี่นา”

“ก็ขอหมั้นไว้ก่อนยังไงเล่า เธอไม่ได้ยินเหรอ เรย์กะของผมตลอดไปน่ะ”

“อ๊ะ นั่นสินะ นี่...”

แต่ยังไม่ทันจะได้ยินอะไรอีก คาบุรากิก็กระแอมออกมาเสียงดังลั่น แบบที่สองคนที่ซุบซิบกันอยู่นั่นคงจะสะดุ้งโหยง ขอบใจที่เป็นห่วงนะยะ แต่ฉันหวังว่าทีนี้นายก็จะรู้แล้วนะว่าเวลาทำอะไรโอเวอร์ไม่เกรงใจชาวบ้านชาวช่องน่ะทำเอาอีกฝ่ายกระอักกระอ่วนได้ขนาดไหน

ทั้ง ๆ ที่ฉันด่านิสัยคาบุรากิแบบนั้นมาตลอดแท้ ๆ แต่หัวใจฉันดันมาโดขิโดขิกับละครที่อาริมะยังแสดงไม่เลิกอยู่บนเวทีนั่นจนได้ ฉันว่าถ้าจบไปแล้วนายนั่นเกิดทำธุรกิจล้มละลายหรือเกิดเบื่ออะไรขึ้นมา จะผันตัวไปเป็นนักแสดงก็น่าจะรุ่งแบบฉุดไม่อยู่แหง ๆ

คิโชวอินกรุ้ป (ถ้ายังไม่ล้มละลาย) จะเป็นนายทุนทำหนังทำละครให้เลยเอ้า

ไม่รู้ว่าสุดท้ายที่อาริมะคุงเรียกไปคุยจะมีเรื่องอะไรอีกก็เถอะ ในเมื่ออย่างที่หมอนั่นพูด Pivoine กับสภาก็ดีกันแล้ว พวกเรากำลังจะเรียนจบแล้ว จะยังมีเรื่องอะไรให้ปรึกษาอีกนะ หรืออยากจะฝากฝังให้ฉันอบรมยัยรินะอีกซักหน่อย?

แต่ความร้อนแรงของนักเรียนมอปลายเนี่ย…จั๊กจี้หัวใจผู้ใหญ่บ้านคานทองของฉันดีจริง ๆ

ฉันปล่อยสมองให้ล่องลอยไปถึงจุดเริ่มต้นที่ฉันไม่คิดว่ามันจะทำให้เหตุการณ์มันบานปลายมาถึงจุดนี้

619 Nameless Fanboi Posted ID:03z7reMFsq

(2)

เรื่องมันเริ่มในวันแรกของการเปิดเทอมสอง หลังจากปิดเทอมฤดูร้อนที่ข่าวเรื่องคาบุรากิคบกับวาคาบะจังได้เผยแพร่ไปในวงกว้าง เอ๋ ถามว่าทำไมเรื่องมันถึงได้แดงออกมางั้นหรือคะ นั่นน่ะต้องโทษความไม่มีหัวคิดของอีตานั่น แหม เล่นควงไปเปิดตัวในงานเลี้ยงตั้งหลายงาน ทั้งที่ปกติเจ้าตัวออกจะเซ็ง ๆ ไม่แยแส แถมยังพาไปเต้นกลางฟลอร์ซะด้วย

ควงเหมือนกลัวคนจะไม่รู้เลยนะคะว่าคบกัน ทั้งที่เป็นปิดเทอมฤดูร้อนอันแสนล้ำค่าของนักเรียนมัธยมปลายปีสาม เจ้าลูกบ้านหมู่บ้านมีรักก็ยังจะทำตัวเรื่อยเฉื่อย แต่ละวันส่งเมล์มาเล่าเดทให้ฟังแล้วถามสถานที่เดทของเดทครั้งต่อไป

“วันนี้ฉันไปอควาเรียม xxx กับวาคาบะ ได้ดูโชว์เพนกวิน...แล้วก็นะ พึ่งรู้ว่า ค่าอาหารในโชว์แมวน้ำมันราคาถูกขนาดนี้...หลังจากนั้น...แล้วก็...ได้ไปลองให้อาหารฉลามด้วยล่ะ ชุดนั่นอึดอัดเป็นบ้า ผู้จัดการยังให้ตุ๊กตากับพวงกุญแจปลาฉลามมาเป็นที่ระลึกด้วย โดยรวมแล้วก็ถือว่าไม่เลวเลย แต่ยังมีจุดที่ต้องปรับปรุง อย่างเช่นมัคคุเทศน์ที่ให้ความรู้นั่นยังไม่ลึกมากพอ...เทียบกับครั้งก่อนแล้ว... แนะนำสถานที่ของสามัญชนมาอีกซิ”

เมล์ของฉันไม่ใช่ล็อกเก็บไดอารี่เดทของนายนะเฮ้ย แต่ที่มากกว่านั้นคือคำวิจารณ์เดทห่วย ๆ ข้อดีข้อเสียของนายนั่นมันอะไรกันยะ นี่นายไปเดทหรือไปตรวจกิจการของที่บ้าน แล้วผู้จัดการ...ความจริงคือนายพาวาคาบะจังไปทัศนศึกษาที่อควาเรียมมากกว่ามั้ง เด็กอนุบาลอย่างยูกิโนะคุงก็คงจะพาไปเดทได้ดีกว่า ฮึ่ม แข็งทื่อขนาดนี้ยังมีหน้าส่งเมล์มาอวดอีก

อีกอย่างก็คือนายน่ะลากวาคาบะจังไปลำบากด้วยชัด ๆ ไหนจะต้องไปเดทด้วย ไหนจะไปงานเลี้ยงราตรียามค่ำคืน ระดับงานเลี้ยงที่คาบุรากิจะไปร่วมน่ะ ดีไม่ดีก็ทั้งแต่งหน้า ฟิตติ้งชุด เพราะความจู้จี้จุกจิกของหมอนั่นไปแค่งานเดียวเหมือนเสียเวลาไปทั้งวัน เช้าวันต่อมาของวาคาบะจังน่ะยังต้องตื่นมาช่วยคุณป้าคุณลุงเปิดร้าน

ถึงนายจะขี้เหงา ขี้อวดขนาดไหนก็ต้องสนใจคนอื่นบ้าง ตัวเองว่างมากก็แค่ควงเอ็นโจไปซะ รับรองว่าคนสนใจกว่านายลากวาคาบะจังไปไหนมาไหนอีก หมอนี่ช่างไม่มีความเป็นมนุษย์เอาซะเลย

แต่แน่นอนว่าฉันไม่กล้าพิมพ์อย่างนี้ตอบเมล์ไปหรอกค่า หลังจากไดอารี่เดทครั้งที่สามถูกส่งมาฉันก็พิมพ์บอกอ้อม ๆ ว่าช่วงเวลาปิดเทอมของนักเรียนปีสามน่ะเอาไว้อ่านหนังสือเตรียมสอบนะคะ ใครจะรู้ว่าอีตานั่นดันเข้าใจว่าฉันอยากได้โจทย์ฝึกเพิ่มเติม ส่งลิสต์หนังสือมาให้เป็นสิบเล่ม แถมยังมีหน้ามาตบท้ายว่านัดครั้งหน้าที่ฟิตเนสจะควิซไปด้วย ถ้าฉันตอบไม่ได้ละก็จะเพิ่มเวลาวิ่งขึ้นไปอีก

ไม่มีมนุษยธรรมอะไรหลงเหลืออยู่แล้วจริง ๆ ด้วย

ฉันแบกร่างที่ระโหยโรยแรงของตัวเองไปฟิตเนสอย่างยากลำบากด้วยขอบตาดำคล้ำ คาบุรากิที่หน้าตาเปล่งปลั่งส่งยิ้มสาวน้อยในห้วงรักให้กับฉัน แล้วทารุณกรรมฉันไปพลางเล่าประสบการณ์ห่วย ๆ ของตัวเองไปพลาง

หนวกหูจนเกือบจะหันไปบอกให้หุบปากเชียวล่ะค่ะ แต่ทำยังไงได้ตอนนั้นน่ะแค่หายใจอย่างเดียวฉันก็หอบเหมือนจะตายแล้ว

620 Nameless Fanboi Posted ID:03z7reMFsq

เมื่อช่วงเวลาปิดเทอมอันแสนดำมืดได้ผ่านพ้นไปก็ถึงเวลาของวันเปิดเทอมอันแสนสดใส ไม่มีข้อความน่ารำคาญที่คอยต้องตอบ ไม่มีป๊อปอัพควิซระหว่างฟิตเนสทุกสามวัน ฉันที่เมื่อคืนตั้งใจบำรุงหน้ามาอย่างดีเฝ้ารอเช้าวันนี้อย่างใจจดใจจ่อ

แต่พอก้าวเท้าลงจากรถ ก็ปะทะสายตากับนายตัวสำรองที่ยืนจังก้าทำหน้าที่อยู่หน้าประตูโรงเรียน หมอนี่หน้าดำคร่ำเครียดตั้งแต่วันแรกของเปิดเทอมเลยแฮะ

“คิโชวอิน” นายตัวสำรองเรียกขึ้น อา ฉันเข้าใจแล้ว ท่าทางอ่อนแรงแบบนี้ ขอบตาหมีแพนด้าแบบนี้ เมื่อคืนนายวินโดว์ช้อปปิ้งระบายความเครียดหลังอ่านหนังสือจนเช้าล่ะสิท่า

ฉันน่ะเข้าใจสหายร่วมรบผู้นี้เป็นอย่างดีเลยล่ะ หลังการอ่านหนังสือเตรียมสอบเข้าอย่างคร่ำเคร่ง ไฟลุกโชนที่เริ่มมอดดับในเวลารุ่งสางก็ต้องการเติมเชื้อฟืนเหมือนกัน ฉันเองวันก่อนหน้าจะไปฟิตเนสน่ะทั้งต้องอ่านหนังสือเตรียมโดนคาบุรากิควิซทั้งต้องเตรียมตัวเตรียมใจไปถูกเคี่ยวเข็ญจนหมดแรง ก็เลยต้องซัดของหวานไปเตรียมเป็นพลังงานและช้อปปิ้งไล่ความเครียดที่ตึงแน่นสะสมในกล้ามเนื้อยังไงล่ะ

คนเราจะต้องมีบาลานซ์อย่างนี้แหล่ะค่ะ จะได้ไม่เสียทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิต

“มิซึซากิคุง” ฉันพยักหน้าตอบรับนายตัวสำรองอย่างเข้าใจ แต่หมอนั่นดันทำหน้าอิหลั่กอิเหลื่อกลับมา คงไม่ใช่ว่าฉันแปลสารผิด ความจริงขอบตาดำคล้ำของนายมาจากการกินของผิดสำแดงแล้วต้องวิ่งเข้าห้องน้ำตลอดคืน? จากประสบการณ์ของว่าที่นักกรูเม่ต์อย่างฉัน อาหารน่ะยังไงก็กินสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้หรอกนะคะ โดยเฉพาะอาหารที่มาจากโฆษณาออนไลน์เนี่ย โดนหลอกลวงกันมานักต่อนักแล้ว

แหม แต่จะมาขอร้องให้ Pivoine ทำหน้าที่แทนมันก็ยังไงอยู่นะคะ ดังนั้นฉันจึงทำเพียงแค่ส่งสายตาเห็นอกเห็นใจให้แล้วเดินผ่านไป แต่คราวนี้นายตัวสำรองถึงขั้นคว้าแขนฉันไว้

“คิโชวอิน เดี๋ยวก่อน” นายตัวสำรองที่เห็นฉันชะงักรีบปล่อยมือทันที ถูกต้องแล้วล่ะค่ะ อยู่ ๆ จะมาจับมือถือแขนกันสุ่มสี่สุ่มห้าได้ยังไงล่ะคะ

“ขอโทษครับ มันเป็นความเคยชิน...ปกติเด็กนักเรียนที่ไม่ฟังจะรีบหนีน่ะ ก็เลยต้องคว้าไว้” นายตัวสำรองพูดไปก็ก้มหัวไปด้วย สีหน้านั่นดูรู้สึกผิดปนละอายใจ “ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้ตกใจนะ ขอโทษจริง ๆ ”

“ไม่เป็นไรค่ะ ว่าแต่มิซึซากิคุงมีเรื่องอะไรกับดิฉันหรือคะ” ฉันรีบตอบกลับ นายตัวสำรองที่แต่ไหนแต่ไรก็มองว่าเด็กซุยรันเหมือนคุณหนูที่ถูกประคบประหงมเป็นไข่ในหินน่ะคงจะรู้สึกเหมือนล่วงเกินอะไรเข้า แบบเดียวตอนที่ช่วยเข้ามากันนายบ้าหมาในงานโรงเรียนนั่น มาดก็สุภาพผิดปกติ สงสัยจะมีเรื่องอะไรจะขอให้ Pivoine ให้ความร่วมมือแน่เลย

“ฉันมีเรื่องจะคุยด้วยนิดหน่อย เกี่ยวกับทาคามิจิ” นายตัวสำรองมองซ้ายมองขวา ก่อนจะกระเถิบมาใกล้แล้วพูดเบา ๆ “หลังเลิกเรียนเจอกันที่เดิมล่ะ”

เสียงไม่ดังไม่เบา ไม่เรียกว่าเป็นการกระซิบ แต่พอเสร็จแล้วหมอนั่นก็รีบส่งสายตาไล่ให้ฉันรีบเดินไป ...นายตัวสำรอง ท่าทางเหมือนใช้เสร็จแล้วเฉดหัวทิ้งนั่นดูไร้มารยาทกว่าที่นายมาจับแขนฉันอีก แล้วอะไรคือเจอกันที่เดิม กรุณาอย่ามาทำเหมือนกับว่าพกเรานัดเจอกันตลอดได้ไหมคะ ถ้าใครได้ยินจะคิดว่าฉันเป็นยังไง

ฉันมองไปรอบ ๆ อย่างหวาดระแวง แต่โชคดีที่วันนี้ฉันตัดสินใจมาเช้าคนเลยไม่ค่อยเยอะมากนัก จะมีพวกปีหนึ่งปีสองตัวจ้อยที่หลบตากันเป็นพัลวันตอนที่ฉันจ้องกลับ

หวังว่าคงจะไม่มีใครกล้าเผยแพร่ข่าวลือบ้า ๆ หรอกนะคะ ดิฉันจำหน้าไว้หมดแล้ว

———To be continued
ก็ตอนสั้นๆสองตอนนน ประมาณนี้ กูวางไว้ ถ้าไม่ออกทะเลไม่น่าเกินหกตอน? ฮื่ออ แต่เอาจริงกูคิดตรงกลางไม่ออกว่าจะมีอีเว้นท์อะไรบ้างดี ด้านหลังเลยจะรวบๆละตัดจบ

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.