ขอนุญาตลงกาวช่วงเก็บตัวนะคะ ;---; เพิ่งแต่งฟิคเรื่องนี้ครั้งแรก น่าจะOOC แน่นอน555555555555
เมื่อคิมิดอลเป็นการ์ตูนติดเรท
-----------------
ตอนที่รู้ว่าตัวเองกลายเป็นคิโชวอิน เรย์กะ--นางร้ายในการ์ตูนผู้หญิงที่มีตอนจบไม่สวย ฉันก็แทบจะร้องไห้
ยังไม่พอแค่นั้น ฉันยังจำได้อย่างแม่นยำว่านี่เป็นการ์ตูน 18+
ฉากที่ครอบครัวคิโชวอินตกต่ำจนเรย์กะต้องไปขายตัวเองเลี้ยงชีพยังคงติดตาฉันอยู่เลยค่ะ ขนาดพยายามลืม ๆ ไปแล้วก็ยังตามมาหลอกหลอนยัน
ตอนล้มป่วย แค่คิดว่าสักวันตัวเองจะกลายเป็นแบบนั้นก็รู้สึกปวดท้องขึ้นมาแล้ว
ดังนั้นฉันจึงเตรียมแผนการเพื่อหนีหายนะ
และโชคดีที่ครอบครัวคิโชวอินก็ อืม ดีอยู่นะคะ
แม้ทานูกิจะขี้โม้แต่ก็ชอบซื้อขนมมาฝากฉันบ่อยๆ(ถึงเวลาฉันบอกว่าจะทำอาหารตอบแทนให้บ้างจะชอบทำสีหน้าแปลก ๆ ก็เถอะ) ท่านแม่ผู้งดงามถึงจะเข้มงวดไปบ้างแต่ก็มีบางครั้งที่แพ้ลูกอ้อนยอมตามใจ ส่วนท่านพี่ไม่ต้องพูดถึงเลยค่ะ คนอะไรกันช่างดีเลิศไปหมดทุกอย่าง หล่อเหลาสง่างามไม่พอ ยังหัวดีทำงานเก่งอีกต่างหาก
ถึงตอนแรกฉันจะแอบกังวลเรื่องจะได้พี่สะใภ้ก่อนวัยอันควรอยู่บ้าง แต่ข้างท่านพี่ยังมีท่านอิมาริคอยประกบติดไม่ห่าง เพราะงั้นน่าจะไม่เป็นอะไรหรอกมั้งคะ อีกอย่างท่านพี่ของฉันแสนดีขนาดนี้ ถึงนี่จะเป็นการ์ตูนติดเรทแค่ไหนก็ฝ่าศีลธรรมเข้ามาไม่ได้หรอก ให้พูดตรง ๆ แล้วท่านอิมาริยังพอจะมีแววมากกว่าเหล่าหญิงสาวรอบตัวท่านพี่อีก
…
...เหมือนจะทะแม่ง ๆ นะคะ?
อย่างไรก็ตาม เอาเป็นว่าโดยรวมครอบครัวคิโชวอินไม่มีปัญหา(ถึงจะต้องคอยให้คำแนะนำสู่หนทางสุจริตแก่ทานูกิอยู่เนือง ๆ ก็ตาม) ฉันเองก็หมั่นเก็บหอมรอมริบ ทำตามแผนหนีหายนะอย่างเคร่งครัด เรื่องเรียนก็...อืม พยายามสุดความสามารถ ชีวิตต่อจากนี้ก็ไม่น่าจะมีปัญหา
แต่ฉันดูถูกไอ้ตัวเลข18 มากเกินไป
(1)
ข้อแรกไม่สร้างศัตรูโดยไม่จำเป็น, ข้อสองหมั่นออมเงิน, ข้อสามไม่ยุ่งเกี่ยวกับจักรพรรดิและคุณนางเอก, ข้อสี่สนับสนุนในความสัมพันธ์ของทั้งสองคน และข้อห้า หาเลี้ยงตัวเองให้ได้
ข้อหนึ่ง สอง สี่ ห้า ฉันก็ทำได้ไม่มีปัญหาอะไรหรอกค่ะ---แต่มันดันมามีปัญหาในข้อที่สาม เพราะฉันเริ่มเกี่ยวข้องกับบากะรากิและเอ็นโจ ชูสุเกะครั้งแรกด้วยเรื่องท่านยูริเอะ
จะว่ากลัวก็กลัว จะว่าหงุดหงิดก็หงุดหงิด สมเป็นบากะรากิเลยนะคะ ตามติดทุกฝีก้าวเหมือนสตอล์กเกอร์แบบนี้ใครที่ไหนจะไม่อึดอัดเล่า
แม้ในการ์ตูนจะมีหลายฉากที่ตัดเข้าเรื่อง...อย่างว่าด้วยเหตุผลที่ทำให้ต้องขมวดคิ้ว แต่ก็พอหักล้างได้ด้วยมุมเท่ ๆ ของจักรพรรดิและฉากรักหวานซึ้ง ทำให้ฉันไม่ค่อยรู้สึกตะหงิดในเท่าไหร่
จนมาเจอกับคาบุรากิและเอ็นโจในชีวิตจริง ความคิดต่อคิมิดอลที่ผ่านมาก็พลิกตลบไปหะมด
ไม่เพียงแต่มีความสนใจเรื่องอย่างว่า---อะไรคือการที่บังเอิญไปได้ยินเสียงคนพลอดรักกันในซุยรัน? อะไรคือเด็กตัวเท่านี้เริ่มสนใจเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ? อะไรคือมีชายสวมสูทดำถูกทำร้ายสะบักสะบอมนอนซมข้างถังขยะ เปล่งออร่าเหมือนกำลังรอให้ใครมาเก็บไป?….ที่ทำฉันอึ้งกว่านั้นคือถูกเก็บไปจริง ๆ ด้วยล่ะค่ะ ยังไม่นับเสียงแปลก ๆ ข้างพุ่มไม้ในสวนสาธารณะอีกนะคะ
ฉากที่ไม่ได้ปรากฏในการ์ตูนเห็นเต็มไปหมด เหมือนเอาหลายเรื่องมายำรวมกันอย่างไรอย่างนั้น
โอ๊ย ไม่ใช่ว่าที่โรงเรียนติดกล้องวงจรปิดหรือคะ ทำไมถึงกล้า...อืม กลางวันแสก ๆ พวกเธออายุเท่าไหร่กัน โรงเรียนคุณหนูไม่น่าจะมีใครกล้าทำเรื่องงามหน้าแบบนี้ไม่ใช่เหรอ
ฉันพยายามคิดในแง่ดีว่าอาจจะไม่ใช่เสียงนักเรียนแต่เป็นพวกอาจารย์แทนก็ได้---แต่ดีที่สุดที่คิดได้ก็ยังออกมาเลวร้ายอยู่ดี
ถ้าที่บ้านไม่มีท่านพี่แสนดีรออยู่ ฉันก็คงสติแตกแน่นอน
“คิโชวอิน เธอรู้หรือเปล่าว่าจูบแรกรสอะไร”
...หรืออาจจะสติแตกไปแล้ว
ดีที่เมื่อกี้ฉันกลืนน้ำชาลงคอทัน ไม่งั้นใบหน้าของจักรพรรดิวัยมัธยมคงเปียกไปหมดแน่นอน
“ทำไมถึงถามอย่างนั้นล่ะคะท่านคาบุรากิ”
อุตส่าห์หลบเลี่ยงเรื่องพวกนี้มาได้ตลอดแท้ ๆ โธ่เอ๊ย ไม่น่าวางใจเพราะเห็นคาบุรากิเงียบ ๆ เลย ถ้าในหัวไม่มีอะไรความคิดอะไรแปลก ๆ ก็คงไม่ได้ชื่อบากะรากิหรอก
ไม่ใช่สิ
...พวกเราเพิ่งจะอยู่ชั้นมัธยมเองนะ?
มาสนใจเรื่องแบบนี้ทำไมกันเล่า!
“ฉันได้ยินเพื่อนของยูริเอะถาม...แล้วยูริเอะก็ตอบยิ้ม ๆ บอกว่าน่าจะรสหวาน”
คาบุรากิทำหน้าหม่นเศร้า แต่ฉันสงสารไม่ลง นี่ยังไม่เลิกนิสัยสตอล์กเกอร์อีกหรือคะ แค่โดนหลบหน้ายังไม่เข็ดอีกหรือไง