แต่ทั้งหมดนี้กำลังจะหายไปในอีกไม่กี่วันข้างหน้า หลังการผ่าตัดเขาคงจะจำอะไรพวกนี้ไม่ได้อีกแล้ว และเรย์กะก็จะเป็นแค่เพื่อนร่วมชั้นปี เป็นคนแปลกหน้าที่ไม่มีความหมายใดๆกับเขาอีกต่อไป และเขาก็สามารถที่จะมองดูเธอแต่งงานไปกับคนที่เธอรักโดยที่ไม่ต้องมีอาการไออย่างเจ็บปวดทุกข์ทรมานอยู่อย่างนี้
เขาอาจจะไปงานแต่งของเธอเป็นมารยาททางสังคมแต่ก็ไม่ได้รู้สึกอะไรเพราะเธอไม่ได้มีความสำคัญกับเขานัก อีกทั้งเขาคงแต่งกับยุยโกะตามที่ทางบ้านกำหนดให้ ตอนแรกชูสุเกะอาจจะไม่ได้รักเธอ แต่อยู่ๆกันไปเขาก็คงรักขึ้นมาเอง
ทุกอย่างจะกลับเข้าสู่สิ่งที่ควรจะเป็นโดยที่ไม่ต้องมีใครเจ็บปวดและได้ผลประโยชน์กันทุกฝ่าย
“นายไม่คิดจะบอกยัยนั่น...”
“ไม่มีประโยชน์หรอก”
ชูสุเกะยิ้มอย่างเคย พอเห็นเพื่อนทำหน้านิ่วคิ้วขมวดใส่อย่างไม่เห็นด้วยก็อธิบายต่อ
“คุณคิโชวอินน่ะ เธอมีคนที่ชอบอยู่แล้ว ผมพูดไปก็มีแต่จะสร้างความอึดอัดให้เปล่าๆ พอผ่าตัดเสร็จผมก็จะลืมเรื่องนี้ แต่เธอต้องอยู่กับคำสารภาพรักจากคนที่เธอไม่ได้ชอบ มันคงกระอักกระอ่วนน่าดู”
เขาไม่ได้บอกว่าคนที่เรย์กะชอบคือใคร แต่อีกไม่นานมาซายะก็คงจะรู้เอง
“...ปล่อยไปแบบนี้จะดีเหรอ”
“ดีสิ” เขาพยักหน้า เมื่อไอออกมาอีกหน กลีบดอกไม้สีขาวก็พรั่งพรูออกจากปาก “แบบนี้ล่ะ ดีที่สุดแล้ว”
ใช่แล้ว นั่นคือทางที่ดีที่สุด เป็นทางเดียวที่จะแก้ปัญหาเรื่องทั้งหมดนี่ได้ เขาต้องยุติเรื่องบ้าๆนี่ได้แล้ว
มาซายะเงียบอยู่ครู่หนึ่งก็เรียกชื่อเขาด้วยเสียงแผ่วเบา
“นายร้องไห้...”
“มาซายะ”
เขาตอบกลับด้วยเสียงที่แผ่วเบายิ่งกว่า
“บอกหน่อยสิ ผมควรจะทำยังไงดี”
มาซายะเองก็ไม่มีคำตอบ ได้แต่มองเขาด้วยสายตาที่หลากหลายความรู้สึกและนั่งเงียบๆอยู่อย่างนั้น
ชูสุเกะพร่ำบอกกับตัวเองว่านี่คือทางที่ดีที่สุด ถ้าเขาเป็นฝ่ายลืมเรื่องนี้เองมันก็จะจบที่ไม่มีใครต้องเจ็บทั้งนั้น แต่ดอกไม้ที่เบ่งบานในร่างกายกลับคอยทิ่มแทงหนามใส่ ราวกับจะสั่งให้เขาจดจำความเจ็บนี้ให้ฝังลึกลงไปถึงกระดูก และบังคับไม่ให้ลืมความทรงจำพวกนั้นไปได้ง่ายๆ
เขาไม่อยากลืมเรย์กะ ไม่อยากเข้ารับการผ่าตัด แต่ก็ไม่เห็นหนทางอื่นที่จะแก้ไขสิ่งที่เป็นอยู่ได้เลยสักนิด
-------------------------
ทีแรกว่าจะให้จบพาร์ทนี้ แต่กูติดนิสัยบรรยายยืดๆยาวๆเลยจบไม่ลงซักที ต้องขออภัยเป็นอย่างสูง
แต่ตอนหน้าก็จบแล้วจริงๆจ้า