มาอัพฟิคจ้า
AU Hanahaki Verse [3]
ความเดิมตอนที่แล้ว >>>/webnovel/7425/229-232
-----------------------------
สิ่งแรกที่รับรู้เมื่อลืมตาตื่นขึ้นคือเพดานสีขาวสะอาด แสงไฟที่นุ่มละมุนไม่บาดตา และกลิ่นยาฆ่าเชื้อจางๆอวลอยู่ในบรรยากาศ แทรกมาด้วยเสียงเครื่องมืออะไรบางอย่างดังขึ้นเป็นระยะๆในความเงียบงัน
ชูสุเกะนอนจ้องเพดานนั่น พยายามทบทวนว่ามันเกิดอะไรขึ้น เขาถึงได้มาอยู่ที่นี่ ดูจากเครื่องมือและสายระโยงระยางที่โยงมาหาตัวเขา ท่าทางจะเป็นโรงพยาบาลที่ไหนซักแห่ง
ความทรงจำสุดท้ายที่จำได้คือความรู้สึกวิงเวียนและอาการแสบร้อนที่ลำคอ เลือดสดๆที่ไหลออกจากปากพร้อมๆกับกลีบดอกไม้ มันหยดลงกับพื้นเมื่อเขาล้มลง ใบหน้ารับรู้ได้ถึงผิวสัมผัสที่เย็นชืดของพื้นกระเบื้องและกลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งในโพรงจมูกและปาก
อาการอาเจียนเป็นดอกไม้ครั้งนี้คงจะรุนแรงยิ่งกว่าครั้งไหนๆถึงได้ต้องนำมาส่งที่โรงพยาบาลแบบนี้
ชูสุเกะกลอกตามองไปรอบๆ นิ่งไปเมื่อเห็นร่างที่คุ้นเคยนั่งกอดอกหลับตาอยู่บนเก้าอี้อาร์มแชร์ที่อยู่ข้างๆเตียงคนป่วย
ผู้ที่นั่งอยู่ตรงนั้นคือพ่อ
เหมือนพ่อรับรู้ว่าเขาตื่นแล้ว เพราะจากที่นั่งหลับตาอยู่ก็ค่อยๆลืมตาขึ้นมา สายตาสบประสานกันชั่วครู่หนึ่งก่อนที่พ่อจะลุกขึ้นและเดินมาข้างๆเตียง
“เป็นไงบ้าง”
มือของพ่อวางลงบนหน้าผากเขาเหมือนจะวัดไข้
“...พ่อ”
“ยังไหวรึเปล่า”
เขาผงกหัวเล็กน้อย ซึ่งพ่อเองก็พยักหน้ารับทราบ เดินออกไปสั่งงานกับเลขาที่ยืนรออยู่นอกห้องแล้วกลับเข้ามาข้างใน
“ต้องขอบคุณยูกิโนะที่แอบลุกออกจากเตียงตอนดึกไปหาแกที่ห้อง เราถึงได้พาส่งโรงพยาบาลทัน” พ่อพูดยิ้มๆ แต่ดวงตาไม่ได้ยิ้มตาม “แกหลับไปสองวันเต็มๆเลยนะ ยูกิโนะงอแงใหญ่ กลัวพี่ชายจะเป็นอะไรไป”
“งั้นเหรอครับ”
เลขาของพ่อกลับมาพร้อมกับแพทย์กลุ่มใหญ่ที่มาถึงก็เช็คนั่นเช็คนี่ดูวุ่นวายเล็กน้อย นายแพทย์ที่ดูอาวุโสที่สุดในกลุ่มรายงานอาการของเขาให้พ่อฟังที่ตรงมุมห้องไม่ให้เกะกะการทำงานของแพทย์คนอื่นๆ
ชูสุเกะได้ยินถ้อยคำแว่วๆที่ฟังไม่ได้ศัพท์อย่างเช่น “ผลเอ็กซเรย์” “...เรื่องอันตราย” “ผ่าตัด” แต่แค่นี้ก็เข้าใจได้ง่ายๆว่ากำลังจะเกิดอะไรกับตัวเขาในภายภาคหน้า
พ่อเหลือบมองเขาก่อนจะออกจากห้องไปกับคณะแพทย์พวกนั้น ทิ้งท้ายคำพูดเอาไว้
“พักผ่อนซะ”
ความเงียบสงบกลับมาสู่ห้องผู้ป่วยอีกหน
ชูสุเกะนอนเหม่อมองเพดาน พยายามทบทวนความทรงจำของตัวเองก่อนหน้า
มันเป็นค่ำคืนของงานปาร์ตี้ซัมเมอร์ที่มีมาซายะเป็นคนกำกับและควบคุมงาน ทุกอย่างออกมายิ่งใหญ่และงดงามราวกับหลุดออกมาจากเทพนิยาย สมกับเป็นลูกชายของมาดามคาบุรากิผู้ที่นิยมการจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ แขกที่มางานล้วนแล้วแต่ออกปากว่างานปาร์ตี้ซัมเมอร์นั้นหรูหราและอลังการยิ่งกว่าทุกครั้ง เอ่ยชมประธานที่เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการจัดงานกันไม่ขาดปาก
และเขาก็ได้เต้นรำกับเรย์กะ ชูสุเกะขอเธอมาตั้งแต่ครั้งที่ไปดูดอกไม้ไฟบนตึกระฟ้าด้วยกันแล้ว อันที่จริงเขาก็ไม่ได้เอ่ยปากซะทีเดียวหรอก แต่เป็นยูกิโนะต่างหากที่เอ่ยปากขอให้ “คุณพี่เรย์กะ” เต้นรำกับพวกเขาสองพี่น้อง และเธอก็ยอมตกลงง่ายๆ
ถ้าเป็นยูกิโนะขอร้องแล้วล่ะก็ เธอไม่เคยปฏิเสธเลยแม้แต่ครั้งเดียว
ก็ควรจะเป็นค่ำคืนที่มีความสุข ทั้งสถานที่สุดพิเศษ บรรยากาศแสนหวานเต็มไปด้วยความโรแมนติคชวนฝัน งานเต้นรำหน้ากากในคืนพระจันทร์เต็มดวงก็ฟังดูดีมากเกินพอที่จะให้เคลิบเคลิ้มแล้ว
มันคือค่ำคืนของคู่รัก แต่ใจเขาเจ็บปวด หนามจากกิ่งก้านของดอกไม้บีบรัดหัวใจจนเป็นแผลเหวอะหวะเมื่อเห็นภาพที่เรย์กะเอาแต่มองเหม่อไปทางคู่เต้นรำอีกคู่ที่อยู่ในฟลอร์
นั่นคือคู่ของมาซายะและคุณทาคามิจิ
แม้จะมีหน้ากากปิดบังใบหน้าอยู่เกือบครึ่ง แต่เขาก็รู้ว่าเพื่อนเขามีความสุขขนาดไหนที่ได้เต้นรำกับผู้หญิงในดวงใจ
มาซายะได้เซ็ตทุกอย่างนี้ขึ้นเพื่อคนพิเศษเพียงคนเดียวเท่านั้น นั่นคือคุณทาคามิจิ
ตอนที่มาซายะเอาเรื่องนี้มาปรึกษา เขาคิดว่ามันค่อนข้างบ้าระห่ำและงี่เง่า ยอมจัดงานเต้นรำหน้ากากปิดบังใบหน้าเพียงเพื่อจะให้คุณทาคามิจิได้เข้าร่วมงานได้สะดวก แต่เห็นความเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ของเพื่อนสนิทเขาก็ไม่มีอะไรจะไปทัดทาน เพราะอันที่จริงเขาก็กำลังทำเรื่องงี่เง่าอยู่เหมือนกัน
ชูสุเกะรู้มาว่ามีวิธีรักษาอีกวิธีหนึ่งที่จะทำให้หายขาดจากโรคบ้านี่ นั่นคือการที่คนที่เรารัก ต้องรักตอบ
ถึงตอนนี้เรย์กะอาจจะยังไม่รู้ตัว แต่เขาก็รู้ดีว่าเธอชอบใคร เพราะเขามองเธอมาตลอด