ตอนที่ 4
หลังจากเราทานมื้อเช้าเสร็จ เราก็เดินทางไปชมซากุระบานที่สวนสาธารณะใกล้ๆ ระหว่างทางก็มีซากุระบานอยู่ข้างทางประปราย
“ท่านคาบุรากิ ท่านเอ็นโจดูซากุระสิคะ ดูแล้วชวนให้ใจดูสงบยังไงก็ไม่รู้นะคะ”
“นั่นสินะ ซากุระตอนกลางวันเนี่ยสวยงามน่ามองไปตลอดก็จริง แต่ถ้าเป็นตอนกลางคืน..”
“พอเลยค่ะท่านเอ็นโจ หยุดพูดแค่นั้นแหละ ท่านคาบุรากิคิดว่ายังไงบ้างคะ”
“... ซากุระบานเหมือนตอนที่..สารภาพรักกับทาคามิจิเลย..”
อุหวา ดันไปกระตุ้นต่อมเศร้าของคาบุรากิเข้าแล้วไง
“ร รีบไปกันเถอะค่ะ เดี๋ยวคนจะเยอะหาที่นั่งดูซากุระดีๆไม่ได้น้า ฮะๆๆ”
ฉันรีบดันหลังคาบุรากิให้ถึงที่หมายไวๆ
ถึงสวนสาธารณะที่เราจะมาดูซากุระกันแล้ว โชคดีที่มาเร็วจึงมีที่ว่างดีๆให้ชมซากุระอยู่เต็มเลย เราเลือกที่นั่งตรงที่จะดูซากุระได้ชัดๆที่นึงแล้วจัดการปูผ้าและนั่งดูซากุระ
อ่าา..ซากุระตอนกลางวันเนี่ยยังไงก็ดูดีกว่าจริงๆด้วย แต่รู้สึกเหมือนขาดอะไรซักอย่างไป
“เดี๋ยวฉันขอตัวไปซื้อชาซักครู่นะคะ ท่านทั้งสองอยากฝากซื้ออะไรมั้ยคะ”
“อ๊ะ ให้ผมไปเป็นเพื่อนมั้ย”
“ไม่เป็นไรค่ะ ท่านเอ็นโจนั่งรอกับท่านคาบุรากินี่แหละ”
อย่าตามมาเลยเหอะ คือฉันจะไปซื้อแผงลอยอ่ะ ไม่อยากให้สองคนนั้นเห็นเลยว่าจะไปซื้อแล้วแอบกินที่ไหนซักที่แล้วค่อยกลับมา
“ไม่ได้หรอก ให้ผู้หญิงไปซื้อคนเดียวในที่ต่างถิ่น ถ้าเกิดอันตรายผมจะได้ช่วยทันไง นะ”
“ไม่ ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันเองก็โตแล้ว”
“ฉันจะไปด้วย…”
จู่ๆคาบุรากิก็โผล่งขึ้นมา แล้วลุกขึ้น
“ไหนๆก็ไปแล้วไปด้วยกันสามคนเลยละกัน”
ใครขอให้ตามมาหรอคะ..
หลังจากตกลงกันได้ เราสามคนก็เดินไปตู้ขายน้ำ ระหว่างทางก็มีร้านแผงลอยตั้งบ้างประปราย กลิ่นหอมของอาหารต่างๆโชยเข้าจมูกมา.. น่ากินจัง ฉันอดทนมองไปที่ร้านทาโกะยากิบ้าง ยากิโซบะบ้าง ปลาหมึกย่างก็น่าอร่อย อุ๊ นั่นยากิโทรินี่นา
ฉันมองที่ร้านแผงลอยที่ตั้งขายอยู่ด้วยตาเป็นประกาย เอ็นโจจู่ๆก็พูดขึ้นมา
“หืม.. มีร้านแผงลอยตั้งอยู่ด้วยหรอเนี่ย”
“ใช่แล้วค่ะปกติแล้วเวลามีจัดงานเทศกาลอะไรมักจะมีร้านแผงลอยตั้งขายบ้างน่ะค่ะ”
“คุณคิโชวอินนี่รู้อะไรเยอะจัง เคยมางานอะไรแบบนี้หรอ”
คิดว่าฉันเป็นใครล่ะ ถ้าเป็นชาติที่แล้วก็มาบ่อยนะ แต่คิโชวอินเรย์กะน่ะ..
“ไม่เคยหรอกค่ะ แต่ก็พอรู้มาจากในเน็ตบ้าง..”
“ผมอยากลองกินร้านแผงลอยบ้างจัง คุณคิโชวอินมีอะไรแนะนำบ้างมั้ยนะ”
โอ้ เอ็นโจอยากลองทานอาหารแผงลอยหรอเนี่ย
“งั้นฉันแนะนำเป็นร้านนี้เลยค่ะ!”
ฉันพาเอ็นโจกับคาบุรากิไปร้านนู้นร้านนี้ รู้ตัวอีกทีเราก็มีของกินเต็มทั้งสองมือ เมื่อเรากลับมาที่เดิมก็พบว่ามีคนแย่งที่นั่งเราไปซะแล้ว
“ฉันไม่นั่งเบียดกับคนอื่น”
นิสัยคุณชายของคาบุรากิออกมาอีกแล้ว อืม ทำไงดีที่นั่งแถวนี้ก็เต็มหมดแล้ว
“งั้นไปนั่งตรงม้านั่งตรงนั้นมั้ย”
เอ็นโจเสนอพร้อมกับชี้ไปที่ม้านั่งที่ว่างตัวนึง พวกเราจึงไปนั่งแล้วทานอาหารอย่าง เอร็ดอร่อยพร้อมกันชมซากุระไปด้วย ถึงอย่างนั้นเราก็ไม่ได้ทานกันอย่างสงบเท่าไหร่ เพราะมีหลายสายตาจับจ้องมาทางเรา เป็นเพราะเอ็นโจกับคาบุรากิเจิดจ้าเกินไปไงล่ะ ทีฉันหันไปมองผู้ชายคนอื่นหันหน้าหนีกันเป็นแถว ความยุติธรรมมันอยู่ตรงไหนหรอคะพระเจ้า ทำไมต้องส่งความเพอร์เฟ็คไปอยู่กับสองคนนี้ด้วย แบ่งให้หนูบ้างไม่ได้หรอคะ
พวกเรานั่งทานอาหารจนหมดก็กลับที่พักพร้อมเช็คอินและเตรียมเดินทางกลับ คงต้องบอกลาทริปเดินทางสั้นๆแล้วล่ะ ถึงตอนขามาออกจะทุลักทุเลไปบ้าง แต่โดยรวมก็สนุกดีได้กินอาหารอร่อยๆด้วย หลังจากนั้นก็มีรถทางบ้านคาบุรากิมารับพวกเรา
ได้กินทั้งข้าวเช้าและอาหารแผงลอยไปเยอะ พอหนังท้องตึง หนังตาก็หย่อนแถมเดินจากโรงแรมไปสวนสาธารณะก็เหนื่อยนิดหน่อย ฉันทนความง่วงไม่ไหวก็ผลอยหลับไป…