.
หลังจากที่ผมเข้านอนได้สักพัก ผมได้ยินเสียงกุกกักๆ ออกมาตรงห้องนั่งเล่นรวม ผมหันไปข้างๆก็เจอเพื่อนสนิทผมนอนอยู่ที่เดิม อะไรกัน คนร้ายงั้นหรอ เป็นไปไม่ได้ โรงแรมในเครือคาบุรากิไม่น่าจะมีระบบรักษาความปลอดภัยหละหลวมขนาดนี้ หรือจะเป็นวิญญาณรึป่าว.. ไม่หรอกมั้ง อย่างไรก็ตาม ถ้าเกิดมันทำร้ายคุณคิโชวอินที่อยู่ห้องข้างๆล่ะ! ไม่ได้การ ผมลงจากเตียงเงียบๆ แล้วค่อยๆย่องออกจากห้องไปอย่างเงียบๆ พร้อมกับหยิบโทรศัพท์แล้วเปิดไฟฉาย
ผมเดินไปไม่กี่ก้าวก็เจอเจ้าของที่มาของเสียงปริศนาเมื่อกี้กำลังค้นของในกระเป๋าของคุณคิโชวอินที่วางไว้ของนอก
“นั่นใครน่ะ!” ผมรีบส่องไฟฉายไปที่หัวขโมยที่กำลังรื้อของในกระเป๋าคุณคิโชวอินอยู่ แต่เมื่อเขาหันมาทำให้ผมต้องตกใจจนหงายหลัง
หน้าที่ขาวซีดราวกับกระดาษ รอบปากที่ทีคราบสีแดง ผมที่ยุ่งและกระเซิง มีสีหน้าตกใจไม่ต่างจากผมในตอนนี้
“ว๊ากกกกก!!//กรี้ดดดดดด!!”
“เกิดอะไรขึ้นชูสุเกะ!”
พรึ่บ! คาบุรากิรีบวิ่งมาเปิดไฟห้องนั่งเล่นทันทีหลังจากได้ยินเสียงร้องของพวกเรา เมื่อไฟสว่างทำให้ผมเห็นหน้าของคนร้ายได้ชัดขึ้น เอ๋..
“คิโชวอิน?//คุณคิโชวอิน?”
ผมกับมาซายะพูดขึ้นพร้อมกัน ตอนนี้ใบหน้าของคุณคิโชวอินถูกปิดด้วยแผ่นมาร์กหน้าสีขาว ส่วนในมือถือขนมที่ผมไม่รู้จักอยู่ ทั้งมือและปากเปื้อนซอสสีแดง…
“อุ้ป!” ผมพยายามกลั้นขำจนตัวสั่น ไม่คิดเลยว่าคุณหนูอย่างเธอจะลุกขึ้นมาทำอะไรแบบนี้ตอนกลางคืน ตลกเกินไปแล้วนะคุณคิโชวอิน
“นี่เธอ เวลากลางค่ำกลางคืนยังลุกขึ้นมาหาของกินอีกเรอะ ไม่รู้รึไงว่ากินของตอนกลางคืนมันยิ่งอ้วนน่ะ เดี๋ยวก็ได้เดินเข้าสู่หนทางสัตว์เท้ากีบหรอก ตอนนี้เองก็ใกล้เคียงแล้วนะ”
มาซายะบ่นคุณคิโชวอินเรื่องที่เธอมาหาของกินตอนกลางคืน ก็ตอนกลางวันเราแทบไม่ได้แวะซื้อของว่างหรือขนมระหว่างทางเพราะต้องรีบหาตัวมาซายะนี่นา แก้มของคุณคิโชวอินค่อยๆป่องขึ้นอย่างงอนๆ
“เอาน่ามาซายะ หยวนๆหน่อยน่า วันนี้คุณคิโชวอินคงหิวนิดหน่อย ส่วนคุณคิโชวอินเองตอนนี้ก็ผอมขาวน่ารักอยู่แล้ว กินนิดหน่อยไม่เป็นไรหรอกมั้งนะ”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันทานแค่นี้แหละค่ะ ขอตัว!”
หลังจากนั้นคุณคิโชวอินก็เก็บซองขนมไปทิ้งแล้วก็เข้าห้องนอนของตัวเองไป
.
.