[ถ้ามีคนกล้ามาสารภาพรักกับท่านเรย์กะ]
เวลาพักกลางวัน ขณะที่คิโชวอิน เรย์กะ จักรพรรดินีแห่งโรงเรียนซุยรันกำลังเดินอยู่บนทางเดินในอาคารเรียน ก็มีนักเรียนชายคนหนึ่งตะโกนออกมาว่า
“ผ ผม- ชอบท่านคิโชวอิน มาคบกับผมได้ไหมครับ!!”
จู่ ๆ ก็กลิ่นอายของฤดูใบไม้ผลิก็โชยมาหาคิโชวอิน เรย์กะอย่างไม่คาดคิด
---
รุ่นน้องใจกล้าไม่ระบุนาม
ผมเป็นนักเรียนม.4ที่เพิ่งย้ายเข้ามาใหม่ในโรงเรียนซุยรัน ซึ่งในโรงเรียนแห่งนี้เนี่ย มีกลุ่มอภิสิทธิ์ชนอยู่ กลุ่มนั้นถูกเรียกว่า Pivoine ผมเองก็ไม่ค่อยใส่ใจสักเท่าไรหรอกครับ
ผมรู้เพียงแค่ว่ามีบุคคลที่มีอำนาจซึ่งเป็นสมาชิก Pivoine อยู่ทั้งหมด 3 คน ได้แก่ ท่านคาบุรากิ ท่านเอ็นโจ และท่านคิโชวอิน โดยพวกผู้หญิงมักจะเรียกทั้งสามว่า จักรพรรดิ องค์ชาย จักรพรรดินี จริง ๆ แล้วผมก็ไม่ได้เรียกรุ่นพี่ทั้งสามคนว่าท่านตั้งแต่แรกหรอกนะครับ แต่พอได้ยินคนอื่น ๆ บ่อยเข้าก็ติดเรียกตามจนได้ ผมมักจะได้ยินมาว่าท่านคาบุรากิหล่ออย่างนั้นอย่างนี้ รวมทั้งเรื่องอิจฉาริษยาต่อรุ่นพี่ที่เป็นนักเรียนทุนด้วย ส่วนท่านเอ็นโจนั้น… แต่คนที่ผมให้ความสนใจที่สุดคือท่านคิโชวอินครับ
ท่านคิโชวอินเป็นบุคคลที่ถูกเรียกว่าจักรพรรดินี ด้วยท่าทางและบุคลิกอันสง่างาม ก็ไม่แปลกที่ทุกคนจะพูดว่าเธอเป็นจักรพรรดินี แต่นอกจากบุคลิกแล้ว รูปร่างหน้าตาของเธอก็งดงามราวกับตุ๊กตาเลยล่ะครับ พอเปรียบเทียบแบบนี้ก็อาจจะนึกภาพแล้วหวาดกลัว แต่ความจริงองค์ประกอบบนใบหน้าที่ถูกจัดวางอย่างลงตัวก็ทำให้ท่านคิโชวอินดูน่ารัก และดูเหมือนว่าท่านคิโชวอินจะยังไม่ได้คบหากับใครด้วย
คงเป็นเพราะภาพลักษณ์สง่างามจนเปรียบดั่งดอกฟ้าที่มิอาจเอื้อมถึงสินะ
ผมเก็บมาคิดอยู่หลายวันจนตัดสินใจได้ว่าผมจะบอกความรู้สึกที่มีต่อรุ่นพี่คิโชวอินครับ! ถ้าผมไม่พูดออกไป โอกาสก็จะเป็น0 แต่ถ้าผมพูดออกไป โอกาสที่จะถูกปฏิเสธกับโอกาสที่จะถูกตกลงจะอยู่ที่50/50 เพราะงั้นผมจะต้องพูดออกไปให้ได้!
แต่การจะเข้าไปหาท่านคิโชวอินจะต้องผ่านด่านผู้ติดตามประจำกายของท่านคิโชวอินให้ได้ก่อน แต่จริง ๆ แล้วไม่ต้องฝ่าก็ได้นี่ ขอแค่ท่านคิโชวอินรับรู้ความรู้สึกผม เท่านั้นก็พอใจแล้ว!
“ผ ผม- ชอบท่านคิโชวอิน มาคบกับผมได้ไหมครับ!!”
ในที่สุด… ผมก็บอกออกไปจนได้ครับ ตอนนั้นตื่นเต้นจนแทบจะกัดลิ้นตัวเองแล้วด้วยซ้ำ หลังจากพูดจบไม่ถึงนาที ผู้ติดตามทั้งสองของท่านคิโชวอินก็เดินมาหาพร้อมทั้งถามชื่อ ห้อง ฐานะครอบครัวจนผมรู้สึกอึดอัดใจที่จะตอบ แต่ถ้าหากถามไปเพื่อท่านคิโชวอินแล้ว ผมก็ยินดีตอบ
พอมองไปที่ท่านคิโชวอิน ก็เห็นว่าท่านคิโชวอินยืนนิ่งไปเลยครับ! ตกใจที่มีสามัญชนอย่างผมไปมาบอกชอบงั้นเหรอ?! แต่ใบหน้าของท่านคิโชวอินก็ค่อย ๆ ขึ้นสีจนผมเริ่มจะมีความหวังขึ้นมาบ้าง แต่สุดท้ายความหวังของผมก็ดับลงทันตาเพราะมีคนคนหนึ่งเดินเข้ามาหาท่านคิโชวอิน
ท่านเอ็นโจนั่นเองครับ ท่านเอ็นโจเดินมาพร้อมรอยยิ้มประดับบนใบหน้า ในขณะเดียวกันก็แผ่รังสีดำมืดเดินเข้ามาหาท่านคิโชวอินที่ดูเหมือนจะเขินจนแทบสลบก่อนจะพูดว่า
“คุณคิโชวอิน ผมมีเรื่องจะคุยด้วยน่ะ”
แล้วก็พาท่านคิโชวอินเดินออกไป ก่อนจะหายไปในที่ลับตาคน
เมื่อกลับไปยังห้องเรียนพวกเพื่อนร่วมห้องของผมก็เข้ามาตบไหล่ผมพลางบอกทำนองว่า พลาดแล้วนะ คงเป็นเพราะผมไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก จึงไม่ได้รับรู้ข่าวลือของท่านคิโชวอินกับท่านเอ็นโจหรือท่านคาบุรากิ
ถ้าท่านเอ็นโจไม่เข้ามาขัด ท่านคิโชวอินจะตอบมาว่ายังไงบ้าง ผมทำได้แค่คิดพลางปลอบใจตัวเองว่า อย่างน้อยก็ได้บอกไปนะ
หลังจากนั้นเวลาที่เจอกับท่านคิโชวอินก็ดูเหมือนจะโดนกีดกันไม่ให้เห็น หรือเวลาเจอท่านเอ็นโจก็จะพบรังสีอันดำมืดแผ่กระจายมาทุกครั้งร่ำไป
จบ-
-
/ไหลมาหย่อนเงียบ ๆ
สุดท้ายก็ได้แค่กลิ่นไอโชยพัด ตราบใดที่ไม่ปัดเป่าจอมมารฤดูใบไม้ผลิก็ไม่มาเยือนง่าย ๆ หรอก
ก็นักเรียนนอกม.4อีกแล้ว คือกูคิดว่าคนที่มันจะไม่รู้เหนือรู้ใต้ก็ต้องพวกนักเรียนนอกที่เพิ่งเข้าใหม่นี่แหละ! ถ้าเป็นพวกนักเรียนที่อยู่มาแต่เดิมก็คงไม่กล้ามาพูดหรอก คือถ้ากล้าพูดฤดูใบไม้ผลิก็มาเยือนท่านเรย์กะตั้งนานแล้ววววว
ตอนจบอาจจะแปลกประหลาดหน่อย ๆ จริง ๆ อยากเขียนต่อด้วยว่าจอมมารไปคุยอะไรกับเจ้าแม่ในมิติพิศวง แต่คิดไม่ออก+ผิดคอนเซปต์ว่าจะเขียนถึงการสารภาพของนักเรียนผู้ไม่รู้อะไร
แล้วก็กูอยากอ่านฟิคอีก อยากอ่านน ฮือออ กูอ่านฟิคจากในสารบัญฟิคครบล้าว อยากอ่านอีก แงงง
ปล. ถ้าจะให้มันโดกิโดกิก็คงต้องเขียนในมุมมองของนักเรียนหญิงซุยรันอะนะ เป็นม.6ก็น่าจะได้ฟิลเตอร์สไตล์ซุยรันดี คุณรุ่นน้องอาจจะได้ฉายามาก็ได้ แบบชาวบ้านใจกล้า(???) ไม่มีใครรู้ 5555555555 นั่นแหละ ขอบใจที่อ่านจนจบ เย้