เย็นวันนั้น ผมโทรหาไอระ ถามเธอว่าคุยกับเรย์กะเป็นยังไงบ้าง
แม้จะดูลังเล แต่เรย์กะก็ตกลงช่วยเราให้กำลังใจมาซายะ ผมถอนใจโล่งอกและผ่อนคลายขึ้น
ถ้าเรย์กะเป็นคนช่วย เขาอาจจะดีขึ้นก็ได้...
"นายจะทำยังไง ถ้าเกิดสองคนนั้นเกิดมีอะไรกันขึ้นมา" อยู่ๆ ไอระก็ถามขึ้น
ผมยิ้มจริงจัง "นั่นความคิดเธอไม่ใช่รึไง...แต่ถ้าเกิดระหว่างสองคนนั้นมีอะไรขึ้นมาแล้ว..."
ผมคิดถึงสภาพมาซายะ ตอนนี้หมอนั่นเละเทะมาก และคิดถึงความอ่อนโยนของเรย์กะ สงสัยว่าเธอจะตกหลุมรักเขาไหม เมื่อรู้ว่าเขาจะเป็นยังไงกับคนที่ตัวเองตกหลุมรัก
แต่ถ้าระหว่างสองคนนั้นมีอะไรกันขึ้นมา...
ผมหลับตา จินตนาการถึงรอยยิ้มเรย์กะ--แต่ว่าคราวนี้ มันส่งมอบให้มาซายะ และหมอนั่นยิ้มตอบเธอ เรย์กะเป็นคนที่เข้าอกเข้าใจคนอื่น ยังมีออร่าสุภาพอ่อนโยนแต่ว่าขี้ขลาด ส่วนมาซายะหัวแข็งเป็นผู้นำ แต่มักจะมีปัญหาในการควบคุมอารมณ์ของตนเองเสมอ
ผมว่านิสัยของทั้งสองคนขัดกันมากเกินไป แต่ถ้ามาซายะทำตัวดีขึ้นกว่านี้ล่ะก็...
ผมคิดถึงสิ่งที่แทบทุกคนเห็นตรงกันเวลาเห็นทั้งสองคน
'ทั้งสองคนเหมาะสมกันมากเลย'
"ถ้าสองคนนั้นมีความสุข ฉันก็พร้อมจะสนับสนุนด้วยทุกสิ่งที่มี"
ผมรู้สึกได้ว่าไอระกำลังสงสารผม แต่ผมไม่สนใจความรู้สึกหดหู่ที่ผุดขึ้นมานั่น
ตราบใดที่ทั้งสองคนมีความสุข ผมก็ไม่เป็นไร
----
วันต่อมา ผมรอให้เรย์กะมาหาเราอย่างกังวล คิดถึงการเรื่องที่เกิดกับมาซายะในคราวก่อน ผมจำต้องคอยระวังเขาให้ดี ถ้าไม่ใช่คิชิโดะบอกผมว่ามาซายะหายไปใน ผมคงหัวใจวายตายไปหลายรอบแล้ว
ผมยังเด็กเกินกว่าจะมีปัญหาหัวใจแบบนี้นะ...
ในที่สุดเมื่อเรย์กะปรากฏตัว ผมก็กำลังนั่งอยู่กับมาซายะในห้องสโมสร
"เอ่อ ท่านคาบุรากิคะ"
เธอเรียกมาซายะเมื่อเข้ามาถึง ต่างจากปกติที่ดูจะลังเล ในคราวนี้เธอดูมั่นใจกว่าปกติเล็กน้อย ผมส่งยิ้มให้เธอ หวังว่าอีกฝ่ายจะนึกอะไรดีๆ ได้
"ลืมทุกข์โศกทางโลกไปเข้าร่วมนิกายฝึกตนตัดกิเลสจากสตรีที่ยุโรปดีไหมคะ ท่านคาบุรากิต้องเหมาะกับเสื้อคลุมยาวแน่ๆ เลยค่ะ เป็นโลกแบบในนิยาย "สมัญญาแห่งดอกกุหลาบ" เลยนะคะ"
เสื้อคลุมยาวกับนิกายฝึกตนในยุโรปเรอะ?! นั่นมันคำแนะนำอะไรกันน่ะเรย์กะ! แล้วยัง 'สมัญญาแห่งดอกกุหลาบ' นั่นอีก? เธอจะสอนให้ลูกของเราเป็นเกย์รึไง?!
ผมรีบลุกขึ้นจับแขนเรย์กะ "คุณคิโชวอิน ขอเวลาหน่อยสิ" ผมรู้สึกว่ารอยยิ้มบนใบหน้าแข็งทื่อขณะลากเรย์กะออกจากมาซายะที่นิ่งงันไร้ปฏิกริยา
พอห่างมากพอ ผมก็ปล่อยแล้วถามเรย์กะ "ทำไมมาซายะต้องไปเข้าร่วมนิกายอะไรนั่นด้วยล่ะ แถมเป็นที่ยุโรปด้วย"
"ระดับท่านคาบุรากิต้องไปสถานที่ต้นตำรับเท่านั้นค่ะ"
"ขอปฎิเสธ" ผมสัมผัสได้ถึงรอยยิ้มพิกลบนใบหน้าตัวเอง ผมไม่ได้ลากหมอนั่นกลับมาให้เธอส่งเขาออกจากบ้านไปไกลๆ นะ!
ผมเห็นเธอทำปากยื่น แต่ก็ไม่ยอมใจอ่อน รีบเข้าหน่อย พูดอะไรที่มันไม่อันตรายเซ่! ถ้าหมอนั่นทำจริงๆ ผมจะโทษเธอด้วย!
เรย์กะเดินกลับไปหามาซายะ ผมเดินตามหลังไป
"ท่านคาบุรากิคะ ที่ญี่ปุ่นยังมีวัดฝึกตนที่เขาฮิเอย์กับเขาโคยะอยู่ ว่าไงคะ ละทิ้งโลกียโลกปลงผมเข้ารับใช้พระพุทธศาสนาดีไหมคะ ท่านคาบุรากิต้องเหมาะกับหัวล้านเลี่ยนแน่เลยค่ะ อาจจะได้พบกับโฮมุนครูสที่ไซเกียวสร้างขึ้นด้วยก็ได้นะคะ"
".........."
มาซายะไปทำอะไรให้เธออยากกำจัดเขาขนาดนั้นหาาา?!
ผมรีบคว้าแขนเธอ "คุณคิโชวอิน ขอเวลาหน่อย"
ผมลากเธอออกมา ถามอีกครั้ง "ช่วยเอาความคิดจะจับมาซายะบวชไปห่างๆ ได้ไหม คุณคิโชวอิน นี่คิดจะเอาเรื่องวุ่นวายไปปิดผนึกไว้ไกลๆ ตัวใช่ไหมล่ะ"
"อะไรกันคะ ฉันแค่อยากแนะนำให้เปลี่ยนบรรยากาศดูบ้างเท่านั้นเอง หวังดีนะคะ"
"โกหก" เขียนอยู่เต็มหน้าแล้วเห้ย แค่อยากจะเอาหมอนั่นไปเก็บไว้ที่ไกลๆ ไม่ให้มาวุ่นวายชัดๆ
สีหน้าเธอเปลี่ยนไปเล็กน้อย แก้มแดงๆ พองขึ้นยามจ้องมองผม
"เสื้อคลุมยาว...หัวล้าน...."
ได้ยินเจ้าลูกโง่พึมพำ ผมรีบหันไปมองเขา ไม่นะ!
"เห็นไหมคะ ท่านคาบุรากิเริ่มสนใจแล้วนะ ท่านคาบุรากิคะ ฉันแนะนำเสื้อคลุมยาวนะคะ !"
"คุณคิโชวอิน พอแล้วล่ะ"
หลังจากนั้น ผมรีบไล่เธอออกไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
มาซายะ ถ้านายโกนหัวเข้าลัทธิล่ะก็ ฉันจะฆ่านาย!
---
หลังจากนั้น พอผมเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ไอระฟังแล้ว ผมก็บอกให้เธอรีบยกเลิกบริการปลอบใจของเรย์กะให้ไวที่สุดเท่าที่จะทำได้
จบCh25
แปลไปขำไป อุแงงง 55555555555555