ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับการบนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอให้เจ้าแม่กลับมา [ตั้งจิตภาวนาครั้งที่ 27]
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับการบนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอให้เจ้าแม่กลับมา [ตั้งจิตภาวนาครั้งที่ 27]
กูโหวต 911
กูฟังเพลงนี้กูก็นึกถึงท่านเรย์กะตอนนี้เลยว่ะ กูต้องภาวนากับดาวแบบเพลงนี้ป่ะวะ 55555555555
"ทำให้ในช่วงเวลาที่ดาวตก
ฉันจึงไม่เคยได้ลืมตา
มันกำลังภาวนาหลับตาลง
เพื่ออธิษฐานให้เธอคืนกลับ
เพราะเธอไม่กลับ
ไม่กลับมามันนานเกินไป"
กาวนอกมีใครแปลต่ออยู่ป่าว
ไปขอตรงโซนราชประสงค์มั้ย
โหวต ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับการบนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอให้เจ้าแม่กลับมา [ตั้งจิตภาวนาครั้งที่ 27]
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับการบนบานกินแกงกะหรี่มิคาเคิลขอให้เจ้าแม่กลับมา [โม่งเสี่ยงตายครั้งที่ 27]
กาวนอกถึงแปลกันถึงไหนละ ในสารบัญถึง 13 เองเหรอ
อันนี้ลองคุ้ยๆ จิ้มมารวมไว้ให้ตรงนี้ก่อนแล้วกันนะ จะเข้าไปแปะเพิ่มก็กลัวทำหายวับทั้งหมดด้วยสกิลเทคโนโลยีที่ต่ำเตี้ยติดดิน
กาวนอก
CH 14
https://fanboi.ch/webnovel/5719/397-400/
CH 15
https://fanboi.ch/webnovel/5719/408-410/
CH 16
https://fanboi.ch/webnovel/5719/423-424/
CH 17
https://fanboi.ch/webnovel/5719/447-449/
CH 18
https://fanboi.ch/webnovel/5719/454-456/
CH 19
https://fanboi.ch/webnovel/5719/477-479/
CH 20
https://fanboi.ch/webnovel/5719/480-481/
โหวต 906 จ้าาา
กูเหงา กูอยากเสพอยากกาวฟิค
กูคือคนกำลังเขียนฟิคไดนากงที่เคยบนไว้ ขอโทษด้วยที่กูขี้เกียจแต่งแล้ว มันยาวเกินไปกูจบไม่ล๊งงง ฉะนั้นเลยตัดๆๆๆๆออกแล้วก็เหลือเป็นวันช็อทโง่ๆยยให้แทน
หัวหน้าชมรมฟุตบอล pov
ผมชื่ออาซึมิ ปัจจุบันเป็นนักเรียนม.ปลายปีสุดท้าย รับตำแหน่งเป็นหัวหน้าชมรมฟุตบอลและเอซของชมรม เป็นนักเรียนชายที่ธรรมดาที่สุดเท่าที่จะธรรมดาได้แล้ว
แต่ผมกุมความลับของหนึ่งในสามผู้ยิ่งใหญ่เอาไว้ นั่นก็คือคิโชวอิน เรย์กะไม่ใช่คนน่ากลัวแบบที่ทุกคนคิด
อืม จริง ๆ จะเรียกมันว่าความลับก็ไม่เชิงในเมื่อเธอแสดงออกมาอย่างชัดเจน เรียกได้ว่าเหลือเพียงแค่สารภาพรักเท่านั้นที่คิโชวอินยังไม่ทำ พวกคนโง่รอบข้างต่างหากที่ไม่สังเกตเห็น
ถ้าจะให้เท้าความว่าความลับชิ้นนี้เป็นมายังไงต้องย้อนไปตั้งแต่สมัยพวกเราทั้งคู่ยังอยู่ชั้นม.5
ผมได้ยินกิตติศัพท์ของเธอมาตั้งนานแล้ว เจ้าแม่กาลีเอย ดอลลี่เกิร์ลเอย แต่พวกเราไม่เคยอยู่ห้องเดียวกันมาก่อน ไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว สำหรับผม เธอก็คล้าย ๆ ไอดอลสาวที่คุณทั้งรู้จักและไม่รู้จักในเวลาเดียวกันนั่นแหล่ะ
เพียงแต่...เทียบ คิโชวอิน เรย์กะ กับไอดอล เรื่องนี้เล่าให้ใครฟังต้องหาว่าผมเสียสติไปแล้วแน่ ๆ
...ช่างเถอะ ผมแค่จะบอกว่าจะบอกว่าใครน่ากลัวจากเพียงแค่ชื่อเสียงของคน ๆ นั้น ออกจะเป็นเรื่องที่น่าหัวเราะอยู่บ้าง
แต่ อืม ความจริง ไม่นับชื่อเสียงของคิโชวอินดูจากท่าทีของเธอเวลาเดินโถงทางเดินก็รู้แล้วว่าเป็นผู้หญิงที่ห้ามมีเรื่องด้วยเด็ดขาด ไม่รู้เพราะมีเชื้อสายขุนนางเก่ารึยังไง เจ้าตัวถึงได้เพี้ยนขนาดที่ชอบตั้งขบวนผู้หญิงล้วนเดินแห่กันไปไหนต่อไหน
มีเรื่องด้วยต้องยุ่งยากแน่ ๆ แต่ผมไม่ได้กลัวเธอหรอกนะ
เพื่อนผมที่เคยอยู่ห้องเดียวกันมีแต่คนกลัวเธอทั้งนั้น เพื่อนร่วมชมรมผมก็เหมือนกัน ผมหัวเราะเยาะพวกเขาไปไม่รู้ตั้งกี่คน จนกระทั่งวันนั้น
สภานักเรียนจัดประชุมบรรดาหัวหน้าชมรมต่าง ๆ ขึ้นเพื่อปรึกษาเรื่องงานเทศกาลโรงเรียนที่จะจัดขึ้นในอีกไม่นาน หัวข้อการประชุมไหลไปอย่างต่อเนื่อง น่าเบื่อจนผมต้องหันไปชวนคนข้าง ๆ ที่เป็นหัวหน้าชมรมกีฬาซักชมรมคุย พอกำลังง่วงได้ที่พอดีก็ถึงหัวข้อเรื่องสถานที่จัดกิจกรรม
ผมตาสว่างขึ้นมาทันที เรื่องนี้แหละ ปีที่แล้ววันงานฝนตก ชมรมพวกเราที่จัดที่ด้านนอกเรียกได้ว่าขาดทุน เปียกม่อล่อกม่อแลกกันเกือบทุกคน ผมที่ยังเป็นแค่สมาชิกชมรมธรรมดารู้สึกเสียดายลูกค้าพวกนั้นจริง ๆ ชมรมกีฬาของเรานับว่ามีผลงานยอดเยี่ยม พวกสาว ๆ ด้านนอกที่มาชมโรงเรียนก็มาดูหนุ่มหน้าตาดีรูปร่างดีในชมรมกีฬาแน่อยู่แล้ว ส่วนพวกผู้ชายก็มาดูอุปกรณ์สวัสดิการนักกีฬาในชมรม รุ่นน้องเขาบางคนถึงกับบอกว่าปีที่แล้วเห็นชมรมเราเปียกเป็นลูกหมาตกน้ำขนาดนั้น ยังเกือบจะเลือกไม่เข้าชมรมแล้ว อย่างนี้ต้องเสียคนมีฝีมือไปหลายคนน่ะสิ อยู่ด้านนอกนี่เสียเปรียบชะมัด ไม่นับว่าปีนี้พวกเราได้สูตรขนมอร่อยมา คนต้องเยอะแน่ ๆ ผมต้องชิงที่ด้านในมาให้ได้
พอผมพูดเรื่องนี้ขึ้นมา สบตากับพวกหัวหน้าชมรมกีฬาคนอื่น ๆ แน่แหล่ะว่าทุกคนคิดถึงประสบการณ์ปีที่แล้วกันหมดถึงได้มีใครซักคนสนับสนุนแล้วเสนอให้เอาพวกชมรมเล็ก ๆ อย่างชมรมวัฒนธรรมออกมารวมไว้ด้านนอกแทน
อย่าหาว่าพวกนั้นใจร้ายเลยนะ แต่ชมรมพวกนั้นถ้าไม่ใช่พวกเนิร์ดกับผู้หญิงน่าเบื่อใครจะไปเข้ากันเล่า ผมฟังหัวหน้าคนอื่นพูดชื่อชมรมต่าง ๆ ออกมาพลางมองพวกหัวหน้าชมรมวัฒนธรรมที่ทำตัวลีบเล็กกันไปหมด
เฮ้อ จะว่าไปก็น่าสงสารอยู่หรอกนะ...เอะ
ผู้หญิงผมม้วนเป็นเกลียวแน่นที่ก้มหน้าหาของในกระเป๋าอยู่ตรงนั้น ไม่ใช่ว่านั่นคิโชวอิน เรย์กะหรอกเหรอ ยัยนั่นมาทำอะไรตรงนี้
ผมถึงกับตัวแข็งทื่อด้วยความตกใจ ไม่มีทางเด็ดขาดที่คิโชวอินจะเป็นหัวหน้าชมรมกีฬา แต่จะหัวหน้าชมรมชงชากับชมรมจัดดอกไม้ที่สมาชิก pivoine ชอบเข้าร่วมก็อยู่ตรงนั้น
ผมหาข้อมูลมาดีแล้วแท้ ๆ ว่าคนพวกนั้นแค่เด็กธรรมดาไม่ใช่สมาชิก pivoine ขอแค่ไม่ไปหาเรื่องเข้า คนพวกนั้นไม่มีทางก้าวก่าย แต่คิโชวอิน เรย์กะ...ยัยนั่น หัวหน้าชมรมอะไรกันนะ
เธอเหมือนจะหาของได้แล้ว ใบหน้ามีรอยยิ้มน้อย ๆ แต่ดวงตากับเป็นประกายระยับ โดดเด่นออกมาราวกับเด็กคนอื่นเป็นแค่พื้นหลัง ไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้เพราะผมจะง่วงเกินไปถึงไม่ได้เห็นทั้งที่เธอออกจะโดดเด่นขนาดนี้ได้ยังไง
เขาถึงกับเหม่อลอยไปชั่วขณะหนึ่ง
ใครซักคนก็ตะโกนออกมา “ที่เหลือก็นั่นไง! ชมรมงานฝีมือ!”
พรึ่บ!
เสียงสะบัดพัดปลุกผมขึ้นมาจากภวังค์
“ชมรมงานฝีมือทำไมไม่ทราบคะ” คิโชวอินที่สะบัดพัดออกมาถือคลี่ยิ้มมาให้ทางพวกเรา ฉายแววความพอใจออกมากระทั่งดวงตาก็โค้งเป็นรอยยิ้ม
แต่เธอจะเจาะจงมาทางผมเกินไปไหมนะ
ตัวของผมเริ่มแข็งทื่ออีกครั้ง นึกถึงตำนานปราบกบฏซึรุฮานะสมัยมัธยมต้นขึ้นมาได้ เหตุการณ์นั้นคนเห็นอยู่แค่ไม่กี่คน เรื่องเล่าปากต่อปากย่อมจะเชื่อถือไม่ได้ซะเกือบครึ่งอยู่แล้ว
ผมคิดว่าความน่ากลัวในตอนนั้นเป็นแค่เรื่องเล่า ดีไม่ดีคิโชวอิน เรย์กะนั่นเผยแพร่ข่าวลือเกินจริงเองด้วยซ้ำ ตรรกะเดียวกับตอนตั้งขบวนแสดงอำนาจ เธอยังต้องแพร่ข่าวประหลาดพวกนั้นให้อำนาจเธอมากขึ้นไปอีก
แต่พอเจอกับตัวจริง ๆ ถึงจะไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น แต่ก็น่ากลัวจริง ๆ นั่นแหล่ะ
เหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ซุยรันครั้งนี้ผมอยู่ด้วย...เสียดายที่เหมือนเป้าหมายของเธอเหมือนจะเป็นพวกผม...ผมไม่อยากมีเรื่องกับผู้หญิงสติไม่ดีคนนี้ซะหน่อย จนผมอดสบถด่าไอ้ชมรมปากมากข้าง ๆ ในใจไม่ได้ ใครมันโง่ถึงขั้นเสนอชื่อชมรมพวกนั้น ความจริงผมลองวิเคราะห์ดูแล้ว ความสำคัญของชมรมกีฬาเรามากกว่าชมรมวัฒนธรรมอยู่ไม่น้อย สภาต้องยอมโยกย้ายสถานที่ให้แน่ ไม่จำเป็นต้องลากเรียงรายชื่อชมรมวัฒนธรรมเล็ก ๆ พวกนั้นออกมาเลยด้วยซ้ำ
แต่นี่ดันไปแตะเกล็ดย้อนมังกรหลับเข้า
คิดในใจอยู่นาน ผมรู้ตัวอีกทีก็ ไม่รู้ว่าคิโชวอิน เรย์กะที่ยืนยิ้มเมื่อกี้เดินไปไหนแล้ว แต่พอกำลังจะหันกลับไป ก็มีอะไรบางอย่างมาสัมผัสไหล่ของผม ความเย็นของมันค่อย ๆ แผ่ออกมาผ่านเครื่องแบบนักเรียนจนผมขนลุกซู่
ผมชะงัก นี่คงไม่ใช่พัดด้ามนั้นหรอกนะ...?
พัดเคาะเข้ากับกระดูกบนไหล่ผมดังต๊อก ต๊อก ต๊อก
ให้ตายเถอะ นี่มันเจ็บนะเฟ้ย ยัยนี่ดูหนังมากเกินไปรึเปล่า...คิดว่าตัวเองเป็นเจ้าแม่อย่างนั้นใช่ไหม เดาว่าตอนนี้เธอต้องกระหยิ่มยิ้มย่องอยู่ในใจมากแน่ ๆ ผมพยายามบังคับให้ตัวเองให้ทำตัวปกติ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าความรู้สึกที่มีคนยืนจ้องอยู่ด้านหลังโดยเฉพาะคนที่ว่าเป็นคิโชวอิน เรย์กะคนนั้นก็ชวนให้คนรู้สึกเสียวสันหลังจริง ๆ
คำถามแรกที่เธอถามเป็นอะไรธรรมดา ๆ เหมือนกับถามสารทุกข์สุกดิบประสาหัวหน้าชมรมทั่วไป แต่อย่างนั้นผมยังประหม่า มือชื้นเหงื่อจนตอบออกมาอย่างตะกุกตะกัก แต่เธอก็ยังชมต่อ บอกว่าไม่ต้องถ่อมตัว ผมที่สงบลงบ้างแล้วก็เลยขอบคุณตามมารยาท แต่แล้วเธอก็ดันพูดเรื่องที่มีชมรมฟุตบอลไปปิดร้านกินเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กันมา
...
แน่นอนอยู่แล้วว่าปฏิเสธไม่ได้ แต่นี่เธออินถึงขั้นมีสปายด้วยเรอะ คิโชวอิน เรย์กะคิดว่าตัวเองเป็นหัวหน้าแก๊งมาเฟียหญิงของโรงเรียนจริง ๆ สินะ...
เรื่องสำคัญกว่าถูกข่มขู่คือสภานักเรียนใส่ใจเรื่องนี้รึเปล่าต่างหาก
ผมเหลือบตามองประธานนักเรียนมิซึซากิที่นั่งอยู่ตรงหัวโต๊ะ เขาไม่ได้มองมาที่ผมแต่ผ่านไปจับอยู่ที่คนที่เดินจากผมไปข่มขู่หัวหน้าชมรมเบสบอลต่อ สีหน้าของเขาฉายแววอ่อนใจแต่ดวงตากับริมฝีปากยกยิ้มขึ้นนิด ๆ บอกว่าเขาเห็นชอบกับการกระทำนี้อย่างแน่นอน นอกจากเขาแล้วก็มีนักเรียนทุนอีกคนที่ทำสีหน้าปกติ รู้สึกว่าเด็กคนนั้นจะสอบได้ในห้าอันดับแรกเสมอชื่อทาคามิจิ
คนหนึ่งต้องตีกับพวก pivoine เป็นประจำ ส่วนอีกคนก็มีจักรพรรดิมาติดพัน ไม่กลัวเธอก็ไม่แปลกอะไร
แต่ถึงขั้นเห็นด้วยกับการกระทำของเธอ...
ผมหลุบตาลงพิจารณา ผมไม่คิดงัดข้อกับเธออยู่ตั้งแต่แรกแล้ว ผมเลยยอมอยู่ข้างนอกแต่โดยดี ขืนไปทำอะไรขัดใจเธอเข้า เห็นได้ชัดว่าชีวิตในโรงเรียนหลังจากนี้จะยากลำบาก
คิโชวอิน เรย์กะที่กุมชัยชนะเอาพัดป้องปาก ส่งเสียงหัวเราะโฮะโฮะโฮะออกมาดังก้องในห้องประชุม
ผมเหลือบตามองสภานักเรียนสองคนนั้นอีกครั้ง ประธานนักเรียนถอนหายใจ ส่วนเด็กผู้หญิงคนนั้นอ้าปากหวอ อืม ดีแล้วล่ะ ถ้าพวกนายยังมองว่าเสียงหัวเราะประหลาดเมื่อครู่ปกติดี ผมคงไม่เชื่อถือสภานักเรียนอีกต่อไป
นี่ไม่นับว่าพอออกมาจากห้องประชุมแล้ว ยัยหัวสว่านคนนั้นก็ไอค่อกแค่กค่อกแค่กคว้าน้ำมาดื่มด้วยท่าทีเหมือนได้ขึ้นสวรรค์
ถ้าจะต้องเจ็บคอแบบนี้ เธอจะเก๊กเสียงหัวเราะแบบนั้นตั้งแต่แรก ทำไมไม่ทราบ
พอถึงงานวันเทศกาล ในขณะที่ผมกำลังเดินชมงานของห้องต่าง ๆ ผมก็รู้สึกได้ถึงรังสีชั่วร้ายที่โผล่ออกมาจากประตู
ผมม้วนหลอดสะบัดไปสะบัดมาเหมือนกำลังหาเหยื่อสังเวยผู้โชคร้าย วันนี้คิโชวอิน เรย์กะไม่ได้ใส่ชุดเครื่องแบบแต่ใส่เป็นกี่เพ้ากับกางเกงขายาว
...มันไม่เข้ากันที่สุดของที่สุด เหมือนเวลาต้องกินสปาเกตตี้ซอสขาวแล้วเชฟใส่น้ำปลาแทนเกลือ ทั้งที่ทำผมม้วนหลอดที่น่าจะฮิตสมัยวิคตอเรียนศตวรรษที่ 17 แต่ดันใส่ชุดกี่เพ้า นี่ไม่มีคนบอกยัยนี่เลยรึไง...
เอ๊ะ ด้านในนั่นมีคนทำผมแอฟโฟรกำลังสีไวโอลินอยู่ใช่ไหมนะ...จะทำอะไรเอาแต่ใจก็ควรจะมีขอบเขตบ้าง ที่ไม่มีใครเตือนใครต้องเป็นเพราะไอ้ห้องพวกนี้มันเพี้ยนกันทั้งห้องใช่ไหม ต้องรีบเดินหนีแล้ว! อยู่ไปเจ้าแม่หัวม้วนนั่นอาจจะจับผมไปใส่น้ำเต้ากลั่นออกมาเป็นน้ำอมฤตที่โมเมว่ามาจากเผิงไหลเอาก็ได้
อะแฮ่ม ล้อเล่นน่ะ ความจริงคิโชวอินก็ไม่ได้ดูน่าสยดสยองขนาดนั้น มันแค่เหมือนตัดเอาหัวตุ๊กตาฝรั่งเศสมาต่อกับหุ่นในกังฟูแ*น***เท่านั้นแหล่ะ
ชวนให้นึกถึงปีที่แล้วที่เธอลงวิ่งแฟนซีแต่ดันแต่งเป็นหนูจริง ๆ ตอนนั้นคนถึงกับเงียบกริบ เป็นการแข่งขันวิ่งแฟนซีที่เครียดที่สุดแล้ว ไม่นับว่ายัยนั่นยังวิ่งช้าจนเรียกได้ว่าเหมือนแข่งเดินเร็วอวดโฉมมากกว่า พวกห้องอื่นที่แข่งด้วยก็ละล้าละลังจะวิ่งแซงได้รึเปล่าหรือถ้าวิ่งตามหลังคือเหมือนหัวเราะเยาะเธอไหม
พูดง่าย ๆ คือประหลาดยิ่งกว่าตอนนี้สิบเท่า ตอนนี้เป็นแค่พระนางมารี อังตัวเนต์ที่ใส่ชุดกังฟู ตอนนั้นน่ะเป็นพระนางมารี อังตัวเนต์ที่ใส่ชุดวันพีซสีเทา ใส่ที่คาดผมหนู รองเท้าแตะหนู แล้วยังจะถุงมือหนูเชียวนะ
ขณะกำลังนินทาคนอยู่ในใจ หัวของมารี อังตัวเนต์ก็หันขวับมาสบตากับผม ดวงตาเรียวรีเปล่งประกายก่อนจะโค้งเป็นรอยยิ้ม
หวา นั่นเธอกวักมือเรียกผมทำไมน่ะ
ผมไม่อยากไปยุ่งกับร้านที่ดูน่าสงสัยแบบนั้นหรอกนะ
“ฮึย พระนางบูเช็กเทียน” ผมตะโกนกลับแล้วรีบหนีไป ถ้าโดนลากเข้าไปในร้านต้องซวยแน่ ๆ ถึงผมจะบอกว่ากลั่นน้ำอมฤตจากการใส่คนในน้ำเต้าเป็นเรื่องเหลวไหลก็จริง แต่คาเฟ่ที่ขนาดแค่คอสตูมก็ผสมกันมั่ว ๆ แบบนี้ ใครจะรู้ว่าเมนูนั่นเอาชาจีนผสมกับอะไรให้ผมกินบ้าง เรียกว่าพระนางบูเช็กเทียน ยัยคนที่คิดว่าตัวเองน่ากลัวและวันนี้คอสเพลย์เป็นชาวจีน...ถึงจะประหลาด แต่ก็น่าจะพอใจกับคำตอบของผมสินะ
ปากท้องน่ะเป็นเรื่องซีเรียสนะ!
ผมชะโงกหน้าไปมองตอนที่หนีมาหลบอยู่ไม่ไกล แหงล่ะว่ายัยนั่นต้องไม่วิ่งตามมาแน่ ต่อให้วิ่งตามมาก็คงหนีไม่พ้นการวิ่งที่ดูเหมือนเดินแบบนั้น ริมฝีปากของเธอก็เบะคว่ำลงน้อย ๆ ดูน่าหยอกไม่เลว พอท่าทีมาเฟียนั่นหายไปจะยอมให้เป็นพระนางหยางกุ้ยเฟยก็ได้นะ ฮึ
ในงานเทศกาลวันที่สองผมก็ได้ยินข่าวลือถึงเรื่องในเย็นเมื่อวาน เอ็นโจ ชูสุเกะมอบลาเต้อาร์ต แบบพิเศษให้คิโชวอิน เรย์กะโดยไม่ต้องมีบัตรคิว เอ แต่ถ้าเป็นอย่างนี้เธอก็ต้องเป็นเตียวเสี้ยน** จันทร์หลบโฉมสุดาแทนหยางกุ้ยเฟยน่ะสิ
หึๆ
ในตอนบ่ายที่ผมได้พักชั่วคราว สมาชิกในชมรมผมก็ลากไปดูห้องของฝั่งชมรมวัฒนธรรมบอกว่าจะไปดูหน้าไอ้พวกที่บังอาจมาแย่งที่พวกเราไปดูซิว่าจะมีคนมาดูซักกี่คน เฮ้ย พวกนายจะไปหาเรื่องใส่ตัวทำไมน่ะ ที่สำคัญคือจะลากผมไปด้วยทำไมเล่า แต่ผมก็ดันเป็นหัวหน้าชมรมที่ดี...ยังไงซะต่อให้ไม่ลากก็ต้องตามไปช่วยรับเพลิงพิโรธอยู่แล้ว ก็ได้แต่ภาวนาว่าหัวหน้าชมรมฝั่งนู้นจะไม่อยู่ล่ะนะ
พอไปถึงนิทรรศการของชมรมงานฝีมือจริง ๆ ผมก็พบว่าต่อให้เดินเข้าไปกลุ่มใหญ่ คิโชวอิน เรย์กะยังไม่หันมามองซักนิด เพราะรอบตัวเธอมีนักเรียนนอกที่ทางซุยรันเปิดให้เข้ามาด้วยระบบตั๋ว แต่นักเรียนนอกพวกนั้นไม่ใช่แบบแฟนของอาคิสะวะ พวกนั้นมันเด็กที่ฐานะทางบ้านจนชัด ๆ เลยนี่นา
ทำสีผม เจาะหูหลาย ๆ รู ขนาดต่างหูยังเป็นรูปเขี้ยวเลย เป็นกุ๊ยขนานแท้ ขนาดผมยังว่าพวกเขาดูคุกคามน่ากลัวอยู่หน่อย ๆ ยังไงก็ไม่ใช่คนประเภทที่คิโชวอินจะไปเป็นเพื่อนด้วยได้เลย นี่คงไม่ใช่ว่าโดนหลอกหรือโดนข่มขู่เอาเงินหรอกนะ เธอไม่กลัวโดนจับไปเรียกค่าไถ่บ้างเลยเรอะ
ผมเกือบจะเดินตรงไปขวางอยู่แล้วเชียว ถ้าไม่ใช่ว่าคิโชวอินคลี่ยิ้มออกมา แล้วผู้ชายคนที่เจาะหูก็ทำท่ารบเร้าขออะไรซักอย่างแล้วไถ ๆ หัวไปกับตุ๊กตาหมา-
...ก็คงเป็นเพื่อนกันนั่นแหล่ะ
ซักพักประธานนักเรียนก็มาเรียกคุณคิโชวอินออกไปด้วยหน้าตาเคร่งขรึม แล้วยังเอาตัวมาบังสายตาให้ด้วย หืม ใครกันนะที่ว่า pivoine กับ สภานักเรียนไม่สนิทกันนะ เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าความสัมพันธ์ระหว่างประธานนักเรียนกับหนึ่งในสามผู้สูงส่งของซุยรันไม่เลวเลย
“อาซึมิ! เหม่ออะไรของนายอยู่น่ะ ทุกคนจะไปกันแล้วนะ”
“เฮ้ย พวกนายจะทิ้งฉันไว้ตรงนี้ไม่ได้นะเฟ้ย” ผมเงยหน้ามาอีกทีพวกชมรมไม่รักดีก็เดินไปอยู่ที่ประตูทางเดินกันหมดแล้ว ทรยศกันนี่นา ตอนลากก็ลากออกมาพร้อมกัน ไหงตอนกลับถึงทิ้งผมไว้คนเดียวล่ะ
“นายชอบงานเย็บปักถักร้อยชิ้นไหนล่ะ อาซึมิ มองตาค้างเชียว”
“...พูดอะไรของนาย ฉันจะไปชอบอะไรในนั้นได้ยังไง”
“อ้าว ผมเห็นนายนิ่งอยู่นานเลยนึกว่าชอบชิ้นไหนเป็นพิเศษซะอีก งานปักทาเพสตรี้รูปพระแม่มารีย์กับพระบุตรก็สวยดีนะ ชุดแต่งงานตรงกลางก็อลังการจริง ๆ”
“เอ๊ะ นายก็คิดอย่างนั้นเหมือนกันเหรอ ตอนแรกผมก็ว่าจะมาเยาะเย้ยพวกนั้นที่เป็นนิทรรศการเงียบเหงา แต่พอเห็นฝีมือก็พูดไม่ออกเลยล่ะ ความจริงงานของพวกนั้นก็ใช้ได้นะ”
ผมปล่อยให้พวกเขาพูดแล้วเดินตามต่อไปเงียบ ๆ จำไม่เห็นได้เลยแฮะว่างานเทพาสตรี้ของพระแม่มารีย์กับพระบุตรอะไรนั่นอยู่ด้วย ที่จำได้น่ะมีแต่เซอบิรุสเท่านั้นแหละ
หือ เซอบิรุสไหนน่ะเหรอ ก็ต้องเป็นตัวที่คิโชวอินพกมาโรงเรียนก่อนวันประชุมแน่อยู่แล้ว วันนั้นตอนที่ผมเดินเล่นอยู่ก็เห็นผู้หญิงผมม้วนสะดุดล้มลงกับพื้น หัวกลม ๆ สีน้ำตาลสามหัวกลิ้งหลุน ๆ ออกมาจากถุง ถือว่าเป็นภาพที่ชวนหัวเราะใช้ได้ อยากจะช่วยอยู่หรอกนะ แต่ก็เห็นเขามองมาแล้วยิ้ม ๆ เหมือนกันนี่นา
เฮ้อ ขนาดเขายังได้แค่ยิ้มแล้วมอง ผมมันบุคคลธรรมดายังจะอะไรอีก รีบ ๆ เดินไปดีกว่าน่า
ตกบ่าย ๆ เย็น ๆ ของวันนั้น ตุ๊กตาฝรั่งเศสเวอร์ชั่นปกติก็เดินมาดูงานของชมรมผม ซ้ายขวาขนาบข้างด้วยสองขุนนางคู่กาย อย่างกับพวกคุณนายคนทวงหนี้ในละคร ตลกเป็นบ้- เอ๊ะ ลูกค้าเริ่มหนีกันแล้ว! กลุ่มคนที่ต่อคิวเริ่มจะแหวกออกเป็นสองข้างเหมือนโมเสกแหวกทะเล! เฮ้ย ไม่ได้นะ ยอดขายของชมรมจะกลายไปเป็นกับงบอุปกรณ์ที่ใช้ในชมรมนะเฟ้ย ถึงไม่ใช่ว่าผู้ปกครองจะไม่มีเงินจ่าย แต่เก็บเงินเองมันคูลกว่ากันตั้งเยอะ พวกเด็กโง่ในชมรมมีแต่พวกมีความคิดอย่างนี้ทั้งนั้น
เอาล่ะ ส่งบรรณาการให้แล้วก็รีบ ๆ ออกไปซะนะ ผมไม่คิดเงินด้วย แต่ได้โปรดอย่าเดินเฉียดมาแถวนี้อีกรอบเลย ขอร้องล่ะ!
จบแล้ว ทาดา! เอาถึงแค่เทศกาลพอ ตรงดอกโบตั๋นมันไปไกลเกิน ถถถถถถถ
ถึงโม่งคนนั้น ไม่รู้คนไหน กูแต่งเสร็จแล้วนาจาาาา
ถ้าแปลกๆก็ขอโทษด้วย ตอนแรกตั้งใจจะให้นายนี่เข้าใจผิดว่าท่านเรย์กะแอบชอบ แต่เอาเหอะ ขกแล้ว เอาเป็น พีโอวี ที่มีท่านเรย์กะประกอยฉากไปละหัน
>>953 ขอบคุณสำหรับกาวค่ะ กอดๆมึงน้า
อ่านๆไปนี่แอบสงสารนางอยู่เบาๆ ตอนแต่งพ่อบ้านก็บอกเหมือนดูหนังสยองขวัญ แต่งชุดจีนก็ว่าแปลกมั่ง น่ากลัวมั่ง ไดนากงยังบอกเป็นบูเช็คเทียนที่เจ๊แกขึ้นชื่อเรื่องความโหด ตกลงนางดูไม่น่ารักในสายตาหนุ่มๆซุยรันเหรอวะ แต่มุมมองคนนอกทีไรก็บอกสวย น่ารักเหมือนตุ๊กตาทุกที แถมจอมมารยังบอกน่ารักทุกครั้งที่มีโอกาสชม//แค่กๆๆ คนหน้าตาแบบนี้น่าจะคนจีบเยอะนะ
ปล. ถ้าเรย์กะหน้าสวยเหมือนตุ๊กตา กูแอบจิ้นอยู่เบาๆว่าท่านพี่เป็นหนุ่มหน้าสวยเหมือนกัน ไม่แน่ทานุกิสมัยหนุ่มๆอาจจะเป็นหนุ่มหน้าสวยหุ่นเพรียวบางเหมือนตุ๊กตาที่ท่านแม่เห็นแล้วปิ๊งเลยตามจีบก็ได้นะ 555555
กรุว่าดูมีความหวังอยู่นะ ฟิคนี้เอ็นโจเป็นมารความรักสินะ
อยู่ดีๆก็อยากอ่านฟิคท่านอิมาริกะท่านพี่ อยากแต่งเองเหมือนกันนะ แต่คิดพล็อตไม่ออกเลย T^T
โอ๊ยยย กลับมาคึกคักแล้ว ดีใจ ทุกคนเฉาๆ รอกาวกันอยู่สินะ TvT
สาเหตุที่ไม่มีคนแต่งอิมาริกะท่านพี่ออกมาซักทีอาจจะเป็นเพราะท่านอิมาริ คือคำพูดท่านอิมาริมันแบบเลี่ยนโว้ยย แต่งไม่ได้โว้ยยย แบบนี้5555555555
>>969 เรืออิมาริท่านพี่นี่แบบ...เรื่อยๆมาเรียงๆ แต่มั่นคงแบบไม่มีอะไรจะสั่นคลอนได้ ใครเขาจะตื่นมารอเพื่อนที่หนีเที่ยว ไล่ออกจากห้องตัวเปล่า ไปกับน้องก็ไม่ค่อยสนใจน้องเอาแต่จิ้มโทรศัพท์ ออกไปดื่มกับเพื่อนหลังเลิกงานตลอด ตอนพูดถึงเรื่องแฟนสาวๆของอิมาริ ท่านพี่ชอบทำหน้าหงุดหงิดด้วย ทำเอากูเผลอคิดเลยว่าที่อิมาริทำตัวเจ้าชู้ จีบสาวไปทั่ว เต๊าะเรย์กะบ่อยๆเพื่อเรียกร้องความสนใจจากท่านพี่ใช่มะ เพราะชอบทำต่อหน้าท่านพี่ตลอด จะดูปฏิกริยาเขาล่ะสิ 5555555555
ขอบอกก่อนนะว่ากูไม่ใช่สาววาย ดังนั้นตอนที่อ่านเรื่องราวระหว่างท่านพี่ กับท่านอิมารินั้น กูไม่ได้คิดอะไรเลย อย่างตอนที่
- พาน้องไปเที่ยว ก็ต้องพาอิมาริไปด้วย ก็เฉพาะตอนที่ไม่ได้ไปกันสองคนพี่น้องเท่านั้น เลยคิดว่าที่ชวนอิมาริมาด้วยคงเป็นเพราะให้มาช่วยกันดูสาว ๆ
- ที่หงุดหงิดตอนพูดถึงแฟนสาวของอิมาริ อันนี้ตำไม่ได้ว่าช่วงไหน พอจำได้ก็ตอนไปเที่ยวสวนสนุกด้วยกัน แล้วนางพูดว่าทั้งสองคน (ท่านพี่ ท่านอิมาริ) ป้อบน่าดู แล้วท่านพี่หงุดหงิด อันนั้นคิดว่าแค่ไม่อยากให้น้องรู้เรื่องนี้
- ส่วนตอนทัศนศึกษา ตอนที่อ่านก็เข้าใจว่าต่างคนต่างเที่ยว แค่ท่านพี่ถึงห้องพักก่อนเลยเข้านอนเลยไม่ได้รอเพื่อน พอตื่นเช้ามาเห็นเพื่อนยังไม่กลับห้องเลยกังวล + เป็นห่วงตามประสาเพื่อน เพราะอยู่ต่างแดนด้วยติดต่อยาก พอเห็นเพื่อนกลับห้องแบบลั้นลาก็คงอดโมโหไม่ได้ ประมาณว่าตรูกังวลแทบแย่ แต่มรึงกลับมาลั้นลาอยู่ได้
- ไอ้เปิดไฟสลัว ๆ กินเหล้ากับเพื่อน อันนี้ก็ no comment จริง ๆ เพราะกูไม่กินเหล้า เลยไม่รู้ว่าบรรยากาศกินเหล้ากับเพื่อนมันเป็นยังไง
แต่พอเข้ามาอ่านกระทู้โม่งซุยรันนี่ คนละเรื่องกับที่คิดเลยแฮะ คือ อ่านเจอฉากสองคนนี้ทีไร ก็ติดมากทุกที 555
ปล กูไม่ใช่สาววายก็จริง แต่ถ้าการ์ตูน หรือนิยายที่อ่านมีคู่วาย ก็ไม่ซีเรียสนะ รับได้
>>971 กูว่าบางคนก็จิ้นเอาสนุกๆนะสองคนนี้ ไม่ได้จริงจังหรอก จะมีแซวๆกันเล่นบ้างเพราะโมเมนต์มันส่อจริงๆ ท่านพี่ก็ทำตัวเหมือนเมียหลวงคอยตามเช็ดล้างเวลาผัวมีเมียน้อย อิมาริก็หลั่นล้าไปทั่ว แต่เวลาท่านพี่ข่มขู่หรือต่อยเอา อิมาริก็ยอมลงให้ไม่ตอบโต้ แถมยังแกล้งแซวแกล้งแหย่เล่นด้วยความบันเทิง เหมือนพวกผู้ชายที่ยอมลงให้แฟนน่ะ
กูก็จิ้นอิมาริท่านพี่นะ แต่ถ้าเปิดตัวแฟนสาวของอิมาริหรือท่านพี่กูก็รับได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นกูขอให้เขาสองคนเป็นแฟนกัน เท่านี้กูก็แฮปปี้ละ 55555555555
>>974 เดี๋ยวจะเข้าใจผิด คือกูก็ไม่ได้ซีเรียสเรื่องใครจะจิ้นใคร หรือใครจะจิ้นวายหรอก อ่านหลาย ๆ เม้นก็พอรู้ว่าบางเม้นก็เอาจริง บางเม้นก็เอาฮา
คือรู้สึกว่านิยายเรื่องนี้มันสนุกถึงขนาเคุยกันหลายกระทู้ได้ ก็ตรงมีการตีความได้หลายแบบ แบบวาย ชช ญญ หรือจะนอมอล ซึ่งคงเป็นเพราะดำเนินเรื่องโดยมุมมองของคนคนเดียว เลยทำให้ต้องตีความทุกแง่ทุกมุม
การที่สาววายตีความแบบนั้น ก็เป็นการเปิดมุมมองของตัวเองเหมือนกันว่า ฉากบางฉากมันอาจจะซ่อนอะไรไว้ก็ได้
สาเหตุที่ทุกคนจิ้นก็เพราะสถานการณ์มันเหมาะเจาะเกินไปน่ะสิ เกร็ดเล็กๆ ไอ้ไฟสลัวๆ ท่าทีหงุดหงิด กับท่าทีMของท่านอิมารินี่มันเกินทนจริงๆน้า~ เจอราชินีสายเอสแบบท่านพี่ กูนี้ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เสมือนอ่านนิยายวาย แค่ก!--
บางทีกูก็สงสัยนะว่าอิมาริดูจะยอมๆท่านพี่มากเลย ถึงจะบอกว่าท่านพี่แบล็คเมล์ความลับอิมาริอยู่ก็เหอะ แต่โดนทำรุนแรงขนาดเกือบตายได้มันก็น่าจะมีตอบโต้ไปบ้าง แต่ไม่มีเลยซักครั้ง แถมตอนท่านพี่ปาลูกดอกใส่ อิมาริยังไม่พูดเลยว่าตัวเองเจ็บ บอกแค่เดี๋ยวโดนเรย์กะ แถมรู้ว่าถ้าไปเต๊าะเรย์กะต่อหน้าท่านพี่จะโดนกระทืบฮีก็ยังทำ ...ตกลงชอบที่จะถูกท่านพี่กระทำสินะ 555555555555
ต้องอ่านมุมมองของท่านอิมาริ ตลก5555555 เหมือนแกล้งๆแหย่ท่านพี่ไปงั้น กลัวนิดๆหน่อยๆพอเป็นพิธี เพราะปกติท่านพี่ใส่หน้ากาก ว่าแล้วก็อยากอ่านตอนสองคนนี้เด็กๆ ตั้งแต่สมัยอนุบาล ท่านอิมาริตีสนิทท่านพี่ยังไง ไปจนถึงสมัยมัธยมปลายกัปตันทีมบาสVSกัปตันชมรมธนู(รึเปล่าวะ คือท่านอิมาริอะใช่ แต่ท่านพี่นี่กาวรึเปล่า กูสับสน) สาวๆยุคนั้นต้องไปเชียร์กรี๊ดสลบกันแน่นอน ไม่เหมือนไอ้สองหน่อปัจจุบันที่อยู่ชมรมกลับบ้าน ถถ ดูเป็นคนหาตัวจับยาก นอกเวลาเรียนก็อยู่แต่ในสโมสร หรือจะเป็นตอนทำงานแล้วของท่านพี่ท่านอิมาริก็ได้ นัดมาดินเนอร์กันหลังทำงานเสร็จงี้ ไม่วายโจ่งแจ้ง แค่แบบ โชเน็นไอหรือโบรแมนซ์ยังได้เลย---ขอกาวด้วย โม่งฟิคโปรดเมตตาาา
มึงกูลองสรุป แต่ไม่รู้พลาดตรงไหนป่าวนะ
906 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับเสียงโหยหวนของเหล่าโม่ง [กรีดร้องขอตอนใหม่รอบที่ 27]
932 933 938 939 940 944 (6 โหวต)
907 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับการที่นักเขียนหนีไปไดเอท(มั้ง)จนไม่ได้เขียนต่อสักที [กรีดร้องขอตอนใหม่รอบที่ 27]
910 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับการความสงสัยของเหล่าโม่งและนักเขียนที่หายไป [หาเรื่องคุยครั้งที่ 27]
911 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับการบนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอให้เจ้าแม่กลับมา [ตั้งจิตภาวนาครั้งที่ 27]
913 921(2โหวต)
925 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับการบนบานกินแกงกะหรี่มิคาเคิลขอให้เจ้าแม่กลับมา [โม่งเสี่ยงตายครั้งที่ 27]
926 927 928 929 930 947(6โหวต)
โคตร Satanic cult ฆ่าตัวตายหมู่ สังเวยชีวิตให้เจ้าแม่ด้วยแกงกะหรี่มิราเคิล แล้วจะซัมมอนตอนที่300ได้มั้ยวะ
เริ่มสร้างมู้กันได้แล้ว รอลิ้งมู้มาลงก่อนค่อยวิ่งนะทุกคน!
เปิดวาร์ป >>>/webnovel/5876/
จากนี้เชิญวิ่งควายกันได้ตามสบาย
ขอให้มีชีวิตอยู่จนได้เห็นตอนใหม่
คล้ายๆ ขอให้มีชีวิตอยู่จนโคนันโตสินะ
กาวจ้า เธออยู่ไหน
คานมาแน่
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.