“คุณว่ายังไงนะ?”เขากอดอกและพิงกรอกประตูฉันเห็นเขาอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีเบจและกางเกงสีดำดูสุภาพและเกียจคร้าน แต่ใบหน้าที่ยิ้มน้อยๆดวงตาหรี่ลงให้ความรู้สึกอันตรายจนฉันแทบอยากคุกเข่าแล้วยอมรับผิด
“ป เปล่าค่ะ”ฉันถอนหนึ่งก้าว ฉันมองเขาพยายามข่มความอับอายเอาไว้
“ผมไม่ยินดีหรอกนะที่คุณจะไม่รับผิดชอบผมแบบนี้”เขาแสดงรอยยิ้มยุ่งยากใจ
“คะ?”ฉันขานรับเสียงสูง ฉันไม่รับผิดชอบยังไงไม่ทราบยะ
“คุณทำอะไรไว้เมื่อคืน”เขายิ้ม “ผมขัดขืนคุณไม่ได้หรอกนะ”
“อะ”ใบหน้าฉันร้อนวาบ จะว่าไปเมื่อคืนฉันรังแกเขาจริงๆนั้นล่ะ แต่เขาก็ควร ง่า
“จะให้ฉันรับผิดชอบยังไงหรือคะ”ฉันกลืนน้ำลายรู้สึกคอแห้งไปหมดเลย
“ตอนนี้ก็คบกันไปก่อน ต่อจากนี้ค่อยคุยกัน”เสียงของเขาอ่อนโยน เรียบเรื่อย
“คะ?”ฉันมองเขาอย่างอึ้งๆ
“คบกัน เป็นคนรัก ขั้นตอนของเราข้ามขั้นเกินไปถ้างั้นตอนบ่ายเราไปเลือกดูแหวนหมั้นกัน คุณเห็นด้วยใช่ไหม”เขาพูดอย่างปลอบโยน ฉันพยักหน้ามึนๆ
“อืม เรื่องเมื่อคืนที่นี่เป็นโรงแรมที่ผมบริหารได้กำไรสูงพอซื้อหุ้นจากท่านพ่อได้แล้วเมื่อกล้องวงจรปิดผมให้คนจัดการให้แล้วเรื่องนี้ไม่ต้องห่วง อีกสักครู่จะมีคนเอาชุดมาให้เราเปลี่ยนถึงจะอาบน้ำแล้วก็ไม่ควรสวมชุดเดิม”เขาเดินเข้ามาใกล้แตะที่ข้อศอกฉันอย่างนุ่มนวล
“มื้อเช้าก็ทานรูมเซอร์วิช ผมได้ยินมาว่าท่านพ่อของคุณชื่นชอบอาหารรสเลิศคุณก็น่าจะเคยชิน เช่นนั้นก็รบกวนให้คำแนะนำกับโรงแรมที่ ‘เรา’ พักด้วย”
“เอ่อ ค่ะ”ฉันมึนงงไปหมด “แล้วเราจะไปที่ไหนหรอคะ”
“ผมได้ยินมาว่าคุณได้รับร้านเพชรจากท่านแม่ ‘เรา’ไปดูที่ร้านของคุณดีไหม แต่คงเป็นแหวนหมั้นสำรองก่อน เพราะ เราคงไม่สามารถหมั้นกันเองง่ายๆ การหมั้นทางการต้องรอท่านแม่ผมและท่านแม่คุณหาเวลาที่เหมาะสมอีกที”เขาพูดเสียงอ่อนโยน ฉันนั่งลงอย่างมึนๆกลิ่นหอมของอาหารที่มาเมื่อไหร่ไม่ทราบ ฉันจัดท่านั่งโดยอัตโนมัติ เอ็นโจผายมือให้ทานได้พวกเราก็ทานอย่างเงียบเชียบจนหมดเรียบร้อยฉันก็ตอบเขาไปว่าอร่อย เสียดายที่ของหวานควรปรับปรุงอีกนิด เขาพยักหน้าครู่หนึ่งก็มีคนนำชุดมาให้ฉันกับเขาแยกเปลี่ยนชุดที่ห้องน้ำคนละห้อง ฉันนิ่งขึ้นกับชั้นในที่พอเหมาะพอดีหน้าร้อนไปหมด แต่สวมชุดเก่าก็ไม่ดี ชุดที่เขาเลือกมาก็เป็นเดรสสั้นคอเต่าสีขาวประดับด้วยลายดอกไม้เรียบหรู โชคดีที่ช่วงนี้อากาศเย็นการสวมชุดคอเต่าจึงไม่แปลกนักและมีเนื้อโค้ตที่อบอุ่นอีกตัว ฉันสวมรองเท้าส้นสูงคู่เดิมเพราะเข้ากับชุดมากกว่า ประดับต่างหู เนื่องจากไม่มีอุปกรณ์ลอนของฉันจึงคลายเล็กน้อยดีนะที่เมื่อคืนม้วนอย่างแน่นหนา ออกไปด้านนอกฉันก็เห็นเขาที่สวมชุดเข้ากับฉันอย่างยิ่งเหมือนคู่รักที่หวานแหวว
“ไปกันเถอะครับ”เขาผายมือฉันวางมือที่เขาอย่างมึนงง เอ็นโจปรับองศาทำให้มือของเราแนบกันสนิทขึ้น ฉันรู้สึกหน้าร้อนผ่าว เอ๋ แต่ แค่คืนเดียวฉันกำลังคบเขาเป็นแฟนและกำลงจะไปซื้อแหวนหมั้น นี่มัน ฉันกำลังจะอ้าปากถามแต่เอ็นโจก็เปิดประเด็นเรื่องของยูกิโนะคุง รู้ตัวอีกทีก็ถึงที่ห้างแล้ว เดินนิดหน่อยขึ้นลิฟต์แปบเดียวก็ถึงร้านสมาธิขิงฉันก็หมดไปกับการเลือกแหวนที่เหมาะสมกับเขาและเข้ากับแบบที่ฉันชอบ พอตั้งสติได้เราก็อยู่ที่เพนต์เฮาส์ของเขา เอ๋!? นี่มันอะไรกันเนี่ย