ต่อๆ จาก >>721 -722
หนี้แค้นไฟสวาท ชื่อโดย>>725
Ch.1
"อาห์ สวัสดีครับ คุณคิโชวอิน ไม่นึกว่าจะได้เจอกันอีกนะครับ"
เอ็นโจ ชูสุเกะ เพื่อนรักของคาบุรากิ มาซายะ องค์ชายแห่งซุยรัน ชายผู้มีรอยยิ้มอบอุ่นบนใบหน้าเสมอคนนั้น กำลังยกยิ้มสว่างไสวให้ฉัน
ผมสีน้ำผึ้ง ใบหน้าหล่อเหลาสง่างาม อ่อนโยนต่างจากเพื่อนรักที่เต็มไปด้วยความเย็นชาเผด็จการ
เขายังเหมือนเดิมไม่มีผิด
ฉันกลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคอ มือขยับไปกำพัดในกระเป๋าแน่นโดยไม่ตั้งใจ ก่อนจะยกรอยยิ้มเย็นขึ้นบนใบหน้า "บังเอิญจังนะคะ ท่านชู..."
"ทั้งสองท่านรู้จักกันอยู่แล้วสินะครับ บังเอิญเหลือเกิน" ผู้จัดการร้านดูดีอกดีใจ "เช่นนั้น เชิญตามสบายนะครับท่านคิโชวอิน" เขาหันไปทิ้งท้าย "ฝากด้วยนะ ชู"
"รับทราบ" เอ็นโจยิ้มรับคำ ท่าทีดูสบายอกสบายใจ ก่อนจะขยับเข้ามานั่งบนโซฟาอย่างนิ่มนวล ปล่อยให้ผู้จัดการเดินจากไปในไฟสลัว
"ไม่ได้เจอกันเสียนานนะคะ ชู" ฉันหัวเราะเบา ยิ้มอ่อนหวาน เรียกด้วยชื่อที่เขาแนะนำ กวาดตามองคนตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้า
เขายังดูดีเหมือนเดิม เสื้อผ้าเครื่องประดับบนร่างกายล้วนเป็นของดีราคาดังที่พบเห็นทั่วไปในสังคมชั้นสูง คล้ายกังว่าการล้มละลายของเครือเอ็นโจเป็นเพียงภาพฝัน "ท่าทางสุขสบายดีเหลือเกินนะคะ"
ไม่มี...ในดวงตาคู่นั้นไม่มีร่องรอยความแค้นเคืองแม้แต่น้อย เขาเพียงแค่ยิ้มรับ "ก็ต้องขอบคุณคุณคิโชวอินล่ะนะ ทำให้รู้ว่าตัวผมก็มีมูลค่าไม่น้อยเลย"
ฉันสูดลมหายใจเข้า ความรู้สึกบางอย่างที่ไม่แน่ชัดสะกิดอยู่ในใจ คล้ายหนามแหลมที่ทิ่มแทงอย่างประหลาด แต่ริมฝีปากกลับฉีกยิ้ม "เช่นนั้นคงต้องขอให้คุณแสดงมูลค่าหน่อยแล้วล่ะค่ะ"
ฉันยกพัดสีไวน์ขึ้นแตะปาก "หวังว่าจะไม่ทำให้ผิดหวังนะคะ ชู"
คราวนี้จึงได้เห็น ว่าเขาจับจ้องพัดไม่วางตา ฉันมองไม่เห็นร่องรอยอารมณ์ใด ทว่าความเย็นเยียบที่ส่งมากลับรู้สึกได้
เขาต้องพบอะไรมา แววตาจึงได้ว่างเปล่าถึงเพียงนั้น...
เขาคงเกลียดพัดนี่มาก...เพราะในวันที่ครอบครัวเขาล้มละลาย เป็นฉันที่ยืนโบกพัดอยู่เบื้องหน้าเขา ใช้พัดนี่แตะแก้มเขา กระซิบกับเขาข้างหู
'ขอบคุณที่หลีกทางให้ฉันจนได้นะคะ ท่าน.เอ็น.โจ.'
ในวัยเด็ก วันนั้นเป็นวันที่ฉันโล่งใจที่สุดในชีวิต คิดว่าจะไม่มีสิ่งใดมาขัดขวางฉันกับคุณมาซายะอีก...
แต่ความจริงกลับโหดร้ายยิ่งกว่า...
บางทีที่คุณมาซายะ ไม่เคย-ไม่รัก-และไม่มีวันรัก ฉัน อาจเป็นเพราะสิ่งที่ฉันกระทำไว้มันมากมายเหลือเกินกระมัง...
รอยยิ้มของเอ็นโจ ชูสุเกะดูฝืดเฝื่อนขึ้นมาบ้าง ฉันจึงรู้สึกถึงความสบายใจเล็กๆ น้อยๆ ที่ก่อตัวขึ้น กระทั่งถึงตอนที่เขารินแชมเปญหรูหรายี่ห้อหนึ่งส่งมาให้ พร้อมประโยคที่ส่งมาด้วยน้ำเสียงสบายอกสบายใจเหลือเกิน
"ได้ยินมาว่ามาซายะไปพบรักกับหญิงสามัญชนที่คุณคิโชวอินดูถูกนักหนาไม่ใช่เหรอ" มือของฉันชะงักงันกลางอากาศ ขณะที่เขายังมีรอยยิ้มอ่อนหวานบนหน้า สมกับตำแหน่งโฮสต์อันดับหนึ่งเหลือเกิน "ข่าวนี้คงไม่ผิดสินะ ทำให้คุณถึงกับต้องมาบาร์โฮสต์นี่ แถมยังให้คนอื่นเรียกด้วยนามสกุลเดิมอีก"
"เพราะใช้ชื่อคาบุรากิมาเที่ยวสถานที่เช่นนี้คงไม่เหมาะมากกว่าค่ะ" ฉันรับแก้วแชมเปญด้วยมือข้างหนึ่ง "ไม่ดีเลยนะคะ เป็นถึงโฮสต์อันดับหนึ่ง แต่ซอกแซกเรื่องส่วนตัวลูกค้าเช่นนี้"
"ต้องขออภัยด้วยครับท่านคิโชวอิน" เขารับอย่างง่ายดาย ยกแชมแก้วแชมเปญของตนเองขึ้นแตะปากพร้อมรอยยิ้มบางเบา หากเป็นผู้หญิง คงบรรยายได้ว่ายั่วยวนราวกับจิ้งจอกเก้าหางไม่ผิด "ขอดื่มเพื่อขอโทษแล้วกันนะครับ"
แม้อยากจะคิดว่าเขาคงพูดเรื่อยเปื่อย แต่คนผู้นี้คือเอ็นโจ ชูสุเกะ ที่เต็มไปด้วยแผนการณ์มากมายจนเกือบจะล้มตระกูลฉันได้มาครั้งหนึ่ง
คนที่เกลียดคิโชวอิน เรย์กะเสียจนวางแผนให้ตระกูลล้มละลาย
ฉันไม่มีวัน...ไม่มีทางเชื่อใจเขา
"ชูจะไม่ลองออดอ้อนฉันหน่อยหรือคะ? ได้ข่าวว่าสาวๆ แทบจะทุ่มเททุกอย่างให้คุณเชียวนะคะ"
อยากเห็นนัก คนที่เคยพยายามทำลายฉัน เคยตวาดใส่หน้าให้ฉันเลิกยุ่งกับเพื่อนของเขา เคยประนามว่าฉันเป็นผู้หญิงไร้ยางอายคนนั้น
ให้เขายอมก้มหัวอ้อนวอน ให้ร่ำร้องขอโทษ
ให้เขาอยู่ในโอวาท ไม่ปริปากส่งเสียง แทนที่เพื่อนผู้นั้นของเขาทึี่ไม่เคยแม้แต่จะเหลียวมองฉัน
บางทีฉันอาจยอมให้อภัย
บางทีความเจ็บปวดในหัวใจคงบรรเทาลง