เมื่อผมนั่งลงในห้องสโมสร Pivoine พร้อมกับมาซายะ หมอนั่นก็เล่าเรื่องที่เจอให้ผมฟัง
"ยัยนั่นยังยิ้มน่าขยะแขยงแบบที่นายทำด้วยนะ!"
"ฉันไม่ได้ยิ้มน่าขยะแขยงนะ มาซายะ" ผมจ้องเขา หมอนั่นยิ้มยิงฟันกว้าง
"แล้ว มีอะไรเกิดขึ้นอีก"
"ฉันว่าพวกนั้นน่าจะกลับไปที่ห้องเรียน ส่วนผู้ติดตามของยัยนั่นก็จัดการเก็บกวาด" เขาหยุดไปชั่วขณะ "ไม่คิดเลยว่ายัยนั่นจะเป็นคนแบบนี้"
"บางทีนะ...เธออาจจะเหนื่อยกับการรับมือกับซึรุฮานะแล้ว ก็เลยตัดสินใจลงโทษเธอ" ผมโคลงหัว อาห์...อยากเห็นบ้างจังเลยน้า
ประตูห้องสโมสรเปิดออก พร้อมกับที่เด็กสาวผมลอนผู้เดือดเป็นฟืนเป็นไฟก้าวเข้ามา ผมหันกลับไปหามาซายะ
"นายไปทำอะไรคุณคิโชวอินไว้รึเปล่า?"
"ไม่นี่ ทำไม?"
"เพราะเธอกำลังมาทางนี้ แถมยังดูโมโหสุดๆ ด้วย" ผมชี้ไปทางเรย์กะที่บุกเข้ามาเหมือนพายุ
รอบกายเธอมีออร่าสีดำทะมึน สีหน้าบ่งบอกชัดเจนว่าเกรี้ยวกราด เธอกำพัดไว้แน่นกระทั่งมือซีดขาว แม้ปกติเธอจะดูบอบบาง ทว่านาทีนี้ เธอช่างเหมาะสมกับคำนิยาม 'จักรพรรดินีพิโรธ' ที่เพื่อนร่วมห้องผมพูดถึงกันไม่ยอมหยุดเสียจริงๆ
เมื่อเธอมาหยุดอยู่เบื้องหน้าเราทั้งคู่ ผมก็เงียบสนิท สีหน้าของเธอเย็นชาเสียจนรู้สึกได้ว่าอุณหภูมิในห้องสโมสรลดลงไปหลายองศา
"ท่านคาบุรากิ มีเรื่องจะคุยด้วยหน่อยค่ะ"
"...อะไร" มาซายะถามด้วยสีหน้างุนงง
"ช่วยจัดการเรื่องของตัวเองด้วยตัวเองเสียทีจะได้ไหมคะ ช่วยคุมสาวๆ ที่มาห้อมล้อมท่านให้อยู่ในระเบียบด้วยนะคะ"
ผมจ้องมาซายะ ซึ่งดูเหมือนจะรำคาญเมื่อเธอพูดถึงเหล่าสาวๆที่รุมล้อม
"ฉันไม่ได้เป็นคนเรียกมาซักหน่อย พวกนั้นกรี๊ดกร๊าดกันเองต่างหาก แล้วฉันก็ไม่ได้เล่นด้วย ไม่ได้ยอมรับให้อยู่ในกลุ่มด้วยเสียหน่อย"
เรย์กะหน้ากระตุก สีหน้าดำทะมึนยิ่งกว่าเดิมเมื่อเธอกล่าว "เพราะเขามากันเองก็เลยไม่เกี่ยวกับตัวเองงั้นเหรอคะ กล้าพูดอะไรไร้ความรับผิดชอบแบบนั้นออกมาได้นะคะ แบบนี้ก็น่าสงสัยแล้วว่าจะมีคุณสมบัติที่จะเป็นทายาทสืบทอดกลุ่มคาบุรากิต่อไปในอนาคตหรือเปล่า"
เข้าจุดตาย! มาซายะเปลี่ยนสีหน้า เขาคำรามตอบ"ว่าไงนะ!"
"ก็แล้วไม่จริงเหรอคะ แค่คนไม่กี่คนแค่นี้ก็คุมไม่อยู่เสียแล้ว ต่อไปในอนาคตคงน่าดูล่ะค่ะ"
ผมรีบเข้าขวางก่อนที่มาซายะจะพุ่งไปหาเธอ
"เอาน่าๆ คุณคิโชวอินก็ใจเย็นหน่อยเถอะ สงสัยจะเลือดขึ้นหน้าไปหน่อยล่ะมั้ง"
เธอหันมามองผมทันที ก่อนจะพูดเสียงเฉียบ "ท่านเอ็นโจก็เหมือนกัน ช่วยอย่าผลักภาระเพื่อนสนิทมาให้ฉันได้ไหมคะ ถ้าเป็นหนี้ล่ะก็น่าจะคืนไปหมดแล้วนะคะ ฉันเหลือจะทนที่ต้องมาตามเช็ดก้นให้แล้ว"
"เฮ้!"
"มาซายะ" ผมเรียกเขา ขยับอีกนิดเพื่อขวางระหว่างเขากับเรย์กะ "อื้อ ขอโทษนะ รบกวนคุณคิโชวอินจริงๆ นั่นแหละ"
สีหน้าของเธอเห็นชัดเลย เธอไม่เชื่อสักนิดว่าผมขอโทษจากใจ
"ฮึ่ม ถ้างั้นฉันต้องขอตัวก่อนนะคะ ขออำลาค่ะ" เธอหมุนตัวจากไปทั้งอย่างนั้น เมื่อเธอหายไปจากประตูห้องสโมสรแล้ว ผมก็หันไปปลอบมาซายะให้ใจเย็นลงซึ่งใช้เวลาอีกชั่วโมงกว่า ในที่สุดเขาก็เย็นลงได้ ถึงขั้นดูจะสำนึกผิดด้วยซ้ำ
ผมจ้องมองประตูอย่างเงียบงันและเจ็บปวด
คราวนี้ผมทำเรื่องใหญ่ลงไปเสียแล้ว...
-