Fanboi Channel

ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับประกายแสงแห่งความหวัง งานดอกไม้ไฟมันก็ต้องหน้าร้อนสิ!!! [ระเบิดแห่งกาวครั้งที่ 26]

Last posted

Total of 1000 posts

288 Nameless Fanboi Posted ID:6qKW+brGPJ

<<Fan Fic : เอ็นโจ ชูสุเกะ PoV Chapter 12 >>

การเฉลิมฉลองสอบเข้าของนักเรียนมัธยมปลายจัดขึ้นในวันที่เย็นสบายของเดือนเมษายน บรรยากาศงดงามด้วยอากาศสดชื่น และกลีบดอกซากุระที่พลิ้วไหวในสายลม

ผมนั่งอยู่แถวหลัง ล้อมรอบด้วยกลุ่มของผม และเมินเฉยสายตาเร่าร้อนที่จ้องมาจากนักเรียนคนอื่นๆ บนเวที ประธานนักเรียน โทโมเอะ เซ็นจุ กำลังกล่าวต้อนรับนักเรียนใหม่ ต่อด้วยมาซายะ ที่เมื่อก้าวขึ้นเวทีปุ๊บ ผมก็ได้ยินเสียงผู้คนสูดหายใจเข้า ช่าย ลูกชายผมหล่อใช่มั้ยล่ะ?

ผมดูมาซายะขึ้นกล่าวสุนทรพจน์เป็นตัวแทนนักเรียนใหม่ คนบางส่วนดูเหมือนจะตกหลุมเสน่ห์ไปแล้ว ผมรู้ ความป๊อบของมาซายะน่าจะเพิ่มขึ้นอีกแล้ว กลุ่มบางกลุ่มเริ่มส่งเสียงเอะอะทุกครั้งที่มาซายะกวาดตามองรอบเวที และผมก็คิดไอเดียสนุกๆ ออก ประมาณว่าน่าจะลองขว้างอะไรสักอย่างใส่คนพวกนั้นเพื่อบอกให้พวกเขาเงียบซะที

ในที่สุดพิธีต้อนรับก็จบลง มาซายะลงจากเวที แล้วเราก็เดินไปตรวจสอบห้องเรียนที่ถูกแปะไว้ด้านนอกหอประชุมด้วยกัน

พอเจอชื่อตัวเองแล้ว ผมก็ไล่ดูรายชื่อเพื่อนร่วมห้องของผม

เพื่อนร่วมห้องผมไม่มีทั้งมาซายะและเรย์กะ เฮ้อ...

-

"ผมเอ็นโจ ชูสุเกะครับ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ"

ผมยิ้มอย่างสุภาพและเมินเสียงปรบมือจากนักเรียนในไปเสีย เมื่ออาจารย์พยักหน้า ผมก็นั่งลง คนอื่นๆ ก็ทยอยแนะนำตัวต่อทีละคน

ผมเหม่อมองออกนอกหน้าต่างอย่างเบื่อหน่าย ห้องนี้ไม่มีคนน่าสนใจเลยน้า

หลังจากที่อาจารย์เลือกตัวแทนห้องเสร็จแล้ว คนอื่นๆ ก็ต้องตัดสินใจเลือกตำแหน่งหน้าที่ต่างๆ กันไป รวมไปถึงการทัวร์โรงเรียนที่จะจัดขึ้นพรุ่งนี้เช้าในชั่วโมงโฮมรูมด้วย ดังนั้น เราก็เลยยุ่งกับเรื่องพวกนี้จนหมดคาบ

-

เมื่อผมกลับถึงบ้าน ก็เห็นคุณแม่นั่งดื่มชาผ่อนคลายอยู่ในห้องนั่งเล่น ผมทักทายคุณแม่ก่อนจะเดินขึ้นชั้นบนกลับเข้าห้อง

พอจะเข้าไป ก็ได้ยินเสียงคนขยับอยู่ด้านใน เมื่อเปิดประตูก็ได้เห็นน้องชายของผมถูกห้อมล้อมด้วยของที่ถูกรื้อออกมาจากในตู้เสื้อผ้า เท่าที่มองจากด้านหลัง เขากำลังถืออะไรสักอย่างอยู่

"ยูกิโนะ?" ผมเรียกเขา วางกระเป๋าลงบนเตียง น้องชายผู้มีผมบลอนด์สว่างก็หันกลับมาและยิ้มสว่างไสวให้ "ท่านพี่ ยินดีต้อนรับกลับบ้านฮะ"

"ไง...ทำอะไรอยู่น่ะ?" ผมถาม เดินไปหาเขา เลือกทางเดินอย่างระมัดระวังท่ามกลางห้องที่ยุ่งเหยิง "ผมจะหาผ้าพันคอสวยๆ ที่ท่านพี่มีฮะ แต่ผมเจอนี่แทน! สวยจังเลย! ยังกับเจ้าหญิงแน่ะ! คนนี้ใครเหรอฮะ?"

"เจ้าหญิงเหรอ?" ผมก้มมองมือของยูกิโนะ เห็นเขาถือรูปเรย์กะจบการศึกษาอยู่

"ยูกิโนะ อย่าค้นของของพี่!" เผลอขึ้นเสียงใส่ยูกิโนะจนได้ ยูกิโนะสะดุ้ง รูปร่วงจากมือ เขามองผมด้วยดวงตาที่ฉ่ำไปด้วยน้ำตา ก้มหัวพึมพำ "ขอโทษฮะท่านพี่" แล้วไม่พูดอะไรอีก

ถึงจะมารื้อของของผมก็เถอะ...แต่ก็ขอโทษแล้วนี่นะ...

ผมถอนหายใจ ทรุดตัวลงนั่งข้างๆ น้องชายและหยิบรูปขึ้นมา "โทษทีนะยูกิโนะ พี่ไม่ควรขึ้นเสียงใส่นายเลย" ผมลูบหัวเขาอย่างเบามือ "พี่ไม่ได้โกรธนะ ไม่ต้องกังวล"

"ขอโทษฮะ..."

ผมมองหน้า ก่อนจะเอารูปแตะหัวเขาเบาๆ "ถามพี่ว่าคนนี้ใครใช่มั้ย? เจ้าหญิงคนนี้น่ะ"

"...ฮะ"

ผมส่งเสียงอืมในลำคอเบาๆขณะมองรูป

"เธอเป็นคนที่น่าสนใจและสนุกสนานมากที่พี่รู้จักที่โรงเรียน มีหลายคนไม่กล้าเข้าใกล้เธอเพราะลักษณะภายนอก แล้วเธอก็ไม่ได้ให้เวลากับคนพวกนั้นด้วย แต่จริงๆ แล้วเธอเป็นคนชอบเข้าสังคมมาก แล้วก็สวยมากด้วย ดังนั้นเลยมีหลายๆ คนที่ชอบมาที่ห้องเราเพื่อแอบดูเธอ" ผมกัดริมฝีปาก จำได้ว่าหลายๆ ครั้งมีแฟนๆ ของเรย์กะมาที่ประตูห้องเรียนในตอนที่เราอยู่มัธยมต้นด้วยกันเพื่อแอบดูเรย์กะ หรือในชั้นปีสาม ที่พวกเด็กผู้ชายพูดถึงเธอมากมาย ไม่เหมือนมาซายะหรือผม เธออยู่ในกลุ่มที่ปกป้องเธออย่างดุดัน และไม่ยอมให้คนอื่นเข้าใกล้แม้แต่น้อย...

ผมพูดต่อ "จริงๆ แล้วเธอเป็นคนที่อ่อนโยนและเป็นคนดีมาก ถึงจะน่ากลัวสุดๆ เวลาโกรธก็เถอะ"

"โอ๋~" ยูกิโนะยิ้ม มองรูป "ท่านพี่ ชอบเธอรึเปล่าฮะ?"

ผมมองยูกิโนะ ยิ้มตอบ "เธอเป็นแค่เพื่อน"

สีหน้าของยูกิโนะดูสับสัน " แต่ท่านพี่พูดเหมือนชอบ---"

เสียงเคาะประตูขัดจังหวะคำพูดของยูกิโนะ "นายน้อย มื้อเย็นเสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ โปรดลงไปรับประทานอาหารด้วยนะคะ"

ผมพ่นลมหายใจเฮือกหนึ่งและยืนขึ้น เก็บรูปกลับเข้าลิ้นชักขณะมองไปทั่วห้อง ต้องให้คุณเมดมาทำความสะอาดซะแล้ว...

"มาเถอะยูกิโนะ ถึงเวลามื้อเย็นแล้วนะ" ผมจูงมือ ดึงเขาไปทางประตู แม้จะขัดขืนเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็ตามมาเงียบๆ

"เธอจะมาเป็นคุณพี่สาวของผมมั้ยฮะ?"

"อืมม~ เดี๋ยวก็รู้" ผมตอบขณะเดิน

เอ่อออ ดูจากที่เรย์กะหลบเลี่ยงผมแล้วเนี่ย ถ้าผมอยากให้เธอมาเป็นเจ้าสาว ผมคงต้องพยายามหนักสาหัสเชียวล่ะ...

-

289 Nameless Fanboi Posted ID:6qKW+brGPJ

เช้าวันต่อมา ตำแหน่งหน้าที่อื่นๆ ในห้องก็ถูกแจกจ่าย ผมมองในรายชื่อ นึกสงสัยว่าตัวเองต้องทำอะไร

พูดแล้วก็ ปีที่แล้วผมจ่ายงานหลายๆ อย่างให้นักเรียนนอกบางคนเหมือนกัน ผมมองไปรอบห้องเรียน คิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเผยรอยยิ้มมีเสน่ห์ "มีใครอยากอาสามั้ยนะ?"

สายธารแห่งอาสาสมัครถล่มพัดเข้ามา ผมยิ้มอย่างใจดีให้หัวหน้าห้อง ทิ้งที่เหลือให้เขาจัดการจ่ายหน้าที่ ส่วนผมก็นั่งลงมองกลุ่มสาวๆล้อมรอบเขา ระวังอย่าโดนเหยียบล่ะ หัวหน้าห้อง

หลังจากทุกอย่างเสร็จลง เราก็เริ่มเดินทัวร์โรงเรียนไปทีละตึก นักเรียนนอกที่เข้าใหม่ดูจะคัลเจอร์ช็อคอย่างแรง พอดูหอศิลป์ ห้องแล็บ และแนะนำห้องสมุดอย่างคร่าวๆ แล้ว ผมก็ค่อนข้างมั่นใจว่าบางคนน่าจะเริ่มรู้สึกได้ถึงความรวยบ้าบอของโรงเรียนนี้แล้ว แบรนด์ซุยรันไม่ได้มีไว้แค่อวดเฉยๆ หรอกนะ

สำหรับผม เห็นได้ชัดเจนเลยว่าดวงตาของเหล่า Pivoine แห่งซุยรันนั้นเปล่งประกายอย่างภาคภูมิกับอุปกรณ์ทุกชิ้นและตึกทุกหลังในโรงเรียนของพวกเขา ผมรู้สึกได้ถึงชนชั้นที่เกิดขึ้นระหว่างนักเรียนทั่วไปและ Pivoine ที่เกิดขึ้นอย่างเงียบงัน...

-

พวกเรามาถึงห้องสภานักเรียนหลังจากที่ห้องก่อนหน้าเพิ่งจะจากไป เมื่อมองไปที่พวกนั้นก็สังเกตเห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่อ้าปากหวอ เอ่อ...ช่วยปิดปากหน่อยได้มั้ยครับ คุณดูออกจะ...โง่หน่อยๆ น่ะ

ทันทีที่ก้าวเข้าไป เราก็พบกับรุ่นพี่ประธานนักเรียนผู้ใจเย็นและจริงจัง โทโมเอะ เซ็นจุ

"โอ้ หวัดดี" รุ่นพี่โทโมเอะยิ้มอย่างสุภาพ เขาและสภานักเรียนคนอื่นเริ่มแนะนำตัว จากนั้นจึงอธิบายคร่าวๆ เรื่องกฏเกณฑ์ต่างๆ รวมถึงเตือนพวกนักเรียนนอกด้วย

" Pivoine เป็นกลุ่มที่ได้รับการอภิสิทธิ์พิเศษในซุยรันนะ ส่วนรายละเอียดพวกนายถามจากนักเรียนลูกหม้อได้ เข็มกลัดดอกโบตั๋นแบบที่อยู่บนเสื้อของคุณเอ็นโจคือสัญลักษณ์ของความเป็น Pivoine นะ ดังนั้นถ้าเจอใครใส่เข็มกลัดนี้ก็ให้ระวังหน่อยล่ะ"

...นี่คุณเพิ่งจะพูดว่าผมเป็นบุคคลอันตรายไม่ควรเข้าใกล้ใช่มั้ยครับ รุ่นพี่?

"ถ้ามีปัญหาอะไร มาบอกสภานักเรียนได้ทุกเมื่อเลยนะ แต่ฉันว่าคงไม่เป็นไรหรอก พวกนายมีคุณเอ็นโจอยู่แล้ว เขาเป็นคนที่รักษากฏระเบียบและช่วยเหลือทุกคนได้มากเลยล่ะ เพราะงั้นขอให้เขาช่วยเหลือก็ได้ถ้ามีปัญหา"

อย่าโยนผมใส่ใต้ท้องรถเพราะรุ่นพี่ขี้เกียจวุ่นวายกับปัญหาชาวบ้านสิวะครับ!

แม้จะประท้วงอยู่ในใจ แต่ผมก็ยังคงรอยยิ้มไว้บนใบหน้า ก่อนจะจากออกมาพร้อมเพื่อนร่วมห้อง

ผมไม่ใช่เรย์กะนะ อย่ามาโยนงานแปลกๆ ให้ผมได้มั้ย!

-

290 Nameless Fanboi Posted ID:6qKW+brGPJ

เพิ่งจะพ้นปีใหม่มาไม่นาน ทุกสิ่งดูจะราบรื่นดี ไม่ก็ราบรื่นเท่าที่จะเป็นไปได้นั่นแหละ นักเรียนนอกเหล่านี้ยังคงต้องตะเกียกตะกายเหมือนปลาขาดน้ำ ก็อย่างที่คิดไว้แหละนะ ความแตกต่างระหว่างโรงเรียนทั่วไปกับซุยรันมันคนละโลก ดังนั้นพวกเขาน่าจะต้องเจอกับช่วงเวลาที่หนักหนาสาหัสกับโรงเรียนนี้ แต่ยังไงนั่นก็เป็นเรื่องของพวกหัวหน้ากับตัวแทนห้อง ไม่เกี่ยวกับผมอยู่ดี

ขณะที่ผมกำลังทานอาหารกลางวันกับมาซายะที่โต๊ะพิเศษของ Pivoine ก็สังเกตเห็นกลุ่มนักเรียนเกือบสี่สิบคน และมีคนหนึ่งลุกขึ้นยืนคล้ายจะเป็นแม่งาน คนๆ นั้นนั่งลงหลังจากพูดอะไรบางอย่างเสร็จ จากนั้นทุกคนก็เริ่มทานข้าว

โอ๊ะ เดี๋ยวสิ นั่นเรย์กะนี่นา!

ผมมองอย่างเงียบเชียบขณะทานอาหารไปด้วย ครู่เดียวหลังจากที่เริ่มทาน ทุกคนก็เริ่มส่งเสียงพุดคุยกันอย่างมีชีวิตชีวา

"ยัยนั่นเก่งเรื่องแบบนี้นะ"

หา? ผมหันไปมองด้านข้าง เห็นมาซายะกำลังมองดูอยู่เช่นกัน เขายักไหล่แล้วพูด "คิโชวอินไง ยัยนั่นเก่งพวกเรื่องการสื่อสารจัดการคนอื่นๆ มาแต่ไหนแต่ไร ตอนที่เป็นเรียนห้องเดียวกัน ยังกะยัยนั่นเป็นคนควบคุมการเคลื่อนไหวในห้องไม่ใช่ฉันซะอีก ออกจะ...ใหม่"

เขาดูสนอกสนใจเอามากๆ ดวงตาผมหรี่ลงเล็กน้อยขณะที่ถาม "นายเริ่มมองเธอตั้งแต่เมื่อไหร่กัน" น้ำเสียงผมเฉียบคมไปนิด ดังนั้นผมจึงรีบขยับรอยยิ้มขึ้นเพื่อให้คำพูดดูนุ่มนวลขึ้น

มาซายะมองผม คิดช้าๆ ก่อนจะตอบอย่างระมัดระวัง "ฉันเห็นว่านายเอาแต่มองยัยนั่นตลอด ฉันก็เลยสงสัย ก็เลยมองตามบ้าง ฉันไม่ได้สนใจยัยนั่นขนาดนั้นซะหน่อย"

เข้าใจล่ะ ผมยิ้มให้เขาและทานอาหารจนเสร็จ "เฮ้ มาซายะ แล้วคุณคิชิโดะล่ะเป็นไงบ้าง?"

"อ๋า? คิชิโดะเรอะ?" มาซายะคิดอยู่ชั่วครู่ "หมอนั่นเข้าชมรมบาสแน่ะ คิดว่านะ เป็นคนที่ระมัดระวังเวลาเล่นกีฬามากทีเดียว คอยเตือนคนอื่นๆ ให้ระวังคนที่เดินผ่านไปผ่านมาหรือยืนอยู่ขอบสนามด้วย ฉันว่าหมอนั่นยังหลอนที่ปาบอลโดนหัวคิโชวอินเมื่อปีก่อนอยู่แหงๆ"

ผมก็ว่างั้นแหละ ก็หมอนั่นโดนกองกำลังลากไปนี่นะ "เข้าใจล่ะ"

มาซายะมองหน้าผม จากนั้นก็ยักไหล่แล้วทานอาหารจนเสร็จ

"คิโชวอินนั่นทำให้นึกถึงแม่ฉันอยู่เหมือนกัน จัดงานสังคมอะไรงั้น" เขากล่าว

เหมือนคุณน้าเหรอ? หืมมม...ผมเปรียบเทียบงานปาร์ตี้ของกลุ่มคาบุรากิครั้งล่าสุดกับอีเวนต์เล็กๆ ของเรย์กะ แล้วยักไหล่ "ก็คล้ายกันจริงๆ แต่ไม่อลังการเท่า"

"แต่ก็บอกไม่ได้ว่าเธอไม่เหมือนแม่ฉันใช่มั้ยล่ะ? ความคิดแบบ รวมตัวทุกคนมาทานข้าวเที่ยงด้วยกันเนี่ย ถ้าเป็นแม่ฉันก็คงคิดแบบนี้เหมือนกัน"

นั่น... "ก็จริง แม่นายชอบจัดงานสังคมนี่นะ"

มาซายะพยักหน้า แล้วเราก็เดินออกจากโรงอาหาร

-

291 Nameless Fanboi Posted ID:6qKW+brGPJ

"มาซายะคุง คิดออกรึยังจ๊ะ ว่าจะเข้าชมรมไหนดี?"

คุณแม่ถามขึ้นขณะที่เราทานข้าวเย็น ยูกิโนะนั่งอยู่ข้างคุณแม่ ส่วนผมนั่งติดกับมาซายะ ที่นั่งของคุณพ่อนั้้นมักจะว่างเปล่าเสนอ ก็ต้องบินไปทริปธุรกิจอยู่ตลอดนี่นะ

"ผมไม่อยากเข้าชมรมครับ ไม่เห็นชมรมไหนน่าสนใจเลย"

"เข้าใจล่ะ" คุณแม่มองหน้าผม ส่วนผมก็ยักไหล่ตอบ เธอรู้อยู่แล้วว่าผมไม่อยากเข้าชมรม

ข้างๆกัน ยูกิโนะก็เสริม "ถ้าผมเข้าซุยรันเมื่อไหร่ ผมจะเข้าชมรมฮะ!"

"นายเข้าชมรมกีฬาไม่ได้แน่ๆ ยูกิโนะ" มาซายะตอบ ผมเตะหน้าแข้งเขาเข้าให้ แล้วพูด "ไร้สาระน่ะ ถ้าหายป่วยแล้ว อยากจะเข้าชมรมไหนก็เข้าได้หมดเลยนะ ยูกิโนะ" มาซายะลูบหน้าแข้ง ถลึงตามองผม ส่วนผมยิ้มให้ยูกิโนะ

คุณแม่ยิ้มมองเราเงียบๆอย่างสนุกสนาน

"อืมม ฮะ!" ยูกิโนะยิ้มน่าเอ็นดู ผมเห็นเขาเขี่ยผักออกไปไว้ด้านข้าง ก็เลยดุ "กินผักด้วยสิยูกิโนะ มันดีกับสุขภาพนะ"

"หวาา ท่านพี่อย่ามาสั่งผมนะ!" ยูกิโนะทำปากยื่น

"ฉันเป็นพี่นายนะ"

"แต่ก็ยังไม่ใช่เจ้านายผมอยู่ดี!"

คุณแม่หัวเราะ เอ่ยขัด "ไม่เอาน่า ยูกิโนะจ๊ะ ทานผักเถอะ วันนี้ทำออกมาหวานๆ จะได้ไม่รู้สึกขมนะ"

ยูกิโนะทำปากยื่นใส่คุณแม่ที่ตักผักป้อน มาซายะมองอย่างสนุกสนานไปด้วยทานไปด้วย

"อืมม..." ในที่สุดยูกิโนะก็ทานจนเสร็จ หันมาหาผมแล้วยิ้มสดใส อะ ทำไมผมรู้สึกไม่ดียังไงชอบกล...?

"ท่านพี่มาซายะฮะ รู้จักเด็กผุ้หญิงที่ทำผมม้วนๆ ทรงเจ้าหญิงมั้ยฮะ?"

เดี๋ยว อะไรนะ?

"ผมม้วนทรงเจ้าหญิง?" มาซายะมองหน้ายูกิโนะ สับสนไปชั่วขณะ ก่อนจะพูดต่อ "เออ ใช่ ก็รู้จักยู่คนนึง ทำไมเรอะ?"

"ยูกิโนะ อย่า-"

"เพราะท่านพี่เก็บรูปเธอไว้ในห้องด้วยฮะ!" เขาตะโกนออกมาจนได้!

292 Nameless Fanboi Posted ID:6qKW+brGPJ

ผมกลืนอย่างยากลำบาก คว้าแก้วน้ำขึ้นดื่มอั้กๆ ไม่สนใจสายตาว่างเปล่าที่จ้องมาของมาซายะ ส่วนยูกิโนะก็เริ่มถามมาซายะเรื่องเธออย่างมีความสุข

"ที่ท่านพี่บอก เธอสวยมา~ก แล้วก็ป๊อบมากเลยฮะ แต่ท่านพี่ไม่ยอมบอกผมว่าเธอชื่ออะไร! พิลึกเนอะ! รูปเหมือนจะเป็นรูปวันจบการศึกษานะฮะ ถ้าชอบเธอทำไมถึงไม่ถ่ายรูปคู่ด้วยเนอะ?"

"ยูกิโนะ-" ผมพยายามหยุดเขา แต่เจ้าน้องชายก็ยังพูดต่อไม่หยุด ดูเหมือนจะมีความสุขเหลือแสนที่ได้แฉผมต่อหน้าทุกคน ขนาดคุณแม่ยังดูท่าทางสนใจเลย หยู้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

"ตอนที่ถามท่านพี่ว่า เธอคนนี้จะมาเป็นคุณพี่สาวของผมมั้ย ท่านพี่ตอบว่า 'เดี๋ยวก็รู้' ล่ะฮะ! คนนี้เป็นแฟนของท่านพี่ใช่มั้ยฮะ? ท่านพี่มาซายะ เธอเป็นคนดีเหมือนที่ท่านพี่พูดมั้ยฮะ? ท่านพี่มาซายะว่าคนๆ นี้จะเป็นเจ้าสาวที่ดีให้ท่านพี่ผมได้มั้ยฮะ?" ยูกิโนะยิ้มใสซื่อเมื่อแฉผมจบ อาห์ รู้สึกเหมือนกระเพาะปั่นป่วนเลยแฮะ ตอนที่คุณแม่จ้องมองผมเงียบๆ เนี่ย

มาซายะเงียบไปชั่วขณะ แล้วตอบ "คนๆ นั้นชื่อคิโชวอิน เรย์กะ ในสายตาฉัน ฉันว่าธรรมดามาก แต่ก่อนหน้านั้นยัยนั่นก็ช่วยฉันเอาไว้จริงๆ ดังนั้นอย่างน้อยยัยนั่นก็เป็นคนดีคนหนึ่งล่ะนะ ส่วนที่ยัยนั่นเป็นแฟนหรือจะเป็นเจ้าสาวของชูสุเกะรึเปล่าเนี่ย..." มาซายะจ้องมองผมโดยไร้คำพูด เลิกมองฉันด้วยสายตาผิดหวังเหมือนฉันเป็นพวกน่าขยะแขยงซะที! สามีมีรูปภรรยานี่เป็นเรื่องธรรมดานะ!

ผมกระแอม ดึงความสนใจกลับมาที่ตัวเอง และยิ้ม "คุณคิโชวอินเป็นเพื่อนของพี่ รูปที่อยู่ในห้องนั่นก็ไม่ใช่ว่าพี่มีรูปเธอแค่คนเดียวซะหน่อย พี่หารูปนั้นไม่เจอเลยไม่ได้เอาใส่อัลบั้ม จนกระทั่งยูกิโนะไปเจอเข้านั่นแหละ ว่าไปแล้วก็ ยูกิโนะ ค้นข้าวของของคนอื่นมันเสียมารยาทนะรู้มั้ย"

ทุกคนดูสงสัย แต่ผมเตรียมคำตอบเอาไว้ในกรณีที่ยูกิโนะคิดจะแฉให้คุณแม่ฟังแล้วน่า! ผมยิ้มกว้าง "เป็นความจริงนะครับ ผมยังมีอัลบั้มวันจบการศึกษาอยู่ แล้วก็ใส่รูปคุณคิโชวอินเข้าไปแล้วด้วย ถ้าอยากเห็นเดี๋ยวเอาออกมาให้ดูก็ได้"

ผมเมินมาซายะที่จ้องมองมา สนใจกับการพยายามซ่อมสถานการณ์มากกว่า อ๊ากกก ยูกิโนะ ทำไมนายต้องแฉพี่คาโต๊ะทานข้าวด้วย...

"อืม เป็นเรื่องปกตินะจ๊ะที่เรามักจะเก็บรูปภาพของคนที่เราสนิทสนมด้วยเอาไว้" คุณแม่พูดออกมาในที่สุด
ถึงจะโล่งที่เลิกคุยเรื่องนี้ได้ แต่แม่ครับ แม่ทำเสียงเหมือนผมชอบเธอเลยนะ!

"ฮะ..." ยูกิโนะรับอย่างเงียบเชียบ ผมไม่สนใจสีหน้าผิดหวังของเขา

"แต่แม่ออกจะแปลกใจนะจ๊ะ ทำไมลูกไม่ถ่ายรูปกับคุณคิโชวอินล่ะชูสุเกะ? ไหนๆ ก็ถ่ายรูปเธอแล้ว ทำไมไม่ถ่ายคู่กันไปเลยล่ะ?"

ผมยิ้มอย่างใจเย็น "ตอนนั้นผมอยู่กับคุณยุยโกะ เพิ่งจะรู้ว่าคุณคิโชวอินกลับบ้านไปแล้วตอนที่ผมกลับเข้าไปอีกรอบครับ เพื่อนผมก็เลยส่งรูปนั้นมาให้ผมแทน"

คุณแม่พยักหน้ารับคำตอบ อ่าฮะ ผมพลาดแล้ว ฟังยังไงก็โกหกชัดๆ ขนาดผมเองยังรู้สึกเลยว่าเหตุผลฟังไม่ขึ้น ก็ทำไมคนอื่นจะต้องส่งรูปเธอมาให้ผมด้วย ถ้าผมไม่ชอบเธอน่ะ? คุณแม่ต้องคิดว่าผมไม่อยากพูดว่าผมชอบเธอแน่ๆ อ่อก

แต่คุณแม่ก็รับแล้ว ยูกิโนะก็ได้คำตอบจากมาซายะแล้ว ผมก็แค่...ผมถอนใจหนักๆและทานข้าวเย็นจนเสร็จ

มาซายะ นายเลิกมองฉันด้วยสายตาเย็นชาแบบนั้นซะที...

-

293 Nameless Fanboi Posted ID:6qKW+brGPJ

"สรุปว่า...เป็นคิโชวอินสินะ หืม?"

มาซายะเริ่มทันทีที่เราเข้ามาในห้อง หมอนี่กอดอก มองผมอย่างล้อเลียน "นานแค่ไหนแล้ว?"

"รู้มั้ย ฉันชวนนายมาเล่นเกม ไม่ใช่มาคุยเรื่องที่ได้ยินบนโต๊ะอาหารนะ" ผมตอบขณะคุกเข่าค้นหาคอลเล็กชั่นเกมหน้าลิ้นชัก มาซายะไม่ยอมช่วย เขาแค่นั่งอย่างขี้เกียจอยู่บนเก้าอี้ มีอัลบั้มรูปวางบนตัก ก็ในเมื่อเขาไม่ยอมเชื่อ สิ่งแรกที่ผมทำเมื่อเข้ามาในห้องก็คือโยนอัลบั้มใส่หน้าเขาซะ แต่เจ้างั่งนี่ก็ยังดูไม่เชื่อผมอยู่ดี

"แหงสิ ก็นี่ครั้งแรกที่ได้ยินว่านายชอบใครนี่หว่า เป็นครั้งแรกที่ได้ยินด้วยว่านายมีรูปยัยนั่น เล่าหน่อยไม่ได้เรอะ?"

"ฉันไม่ได้ชอบเธอ" ผมตะคอกขณะค้นคอลเล็กชั่นเกม มาซายะแค่นเสียง "แน่น้อนนนนนนนนนนนน นายไม่ชอบเลย แบบว่า มองยัยนั่นตลอดเวลา ตามติดทุกฝีก้าวเวลาได้ยินว่าเกิดเรื่อง แถมยังตื๊อถามคนรอบตัวยัยนั่น ไม่มีอะไรบอกเลยว่านายชอบยัยนั่น ไม่มีเลยซักนิด"

ผมขว้างของชิ้นหนึ่งในลิ้นชักใส่เขา แต่เขารับไว้ได้ด้วยมือเดียว ไอ้งั่งน่ารำคาญเอ๊ย

"ยังกับนายไม่เคยทำ"

"ช่าย ฉันบอกยูริเอะอย่างเปิดเผยว่าฉันชอบเธอ แต่นายน่ะอีกเรื่อง ไม่แค่ปฎิเสธนะ แต่ยังตามสตอล์คยัยนั่นผ่านทางเพื่อนร่วมชั้นอีก"

ผมลุกขึ้น ถือเกมสองเกมไว้ในมือ เดินไปหามาซายะที่นั่งสบายใจเฉิบอยู่บนเก้าอี้ด้วยสีหน้าสบายใจ "ว่าก็ว่าเหอะ นายสองคนไปสนิทกันขนาดนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ ถ้าจำไม่ผิด ยัยนั่นหนีเรายังกะเห็นเราเป็นตัวเชื้อโรค"

ผมเตรียมเครื่องขณะที่เขายังพล่ามต่อไป ฟังเขาพูดต่อสักพัก ผมก็ตอบ "ชีวิตรักของพวกเราเป็นงี้ก็ตลกดีนะว่ามั้ย? แต่ข้อแตกต่างก็คือ ยูริเอะอาจจะชอบนาย คุยกับนาย แต่ก็แค่ในฐานะน้องชายที่เธอทิ้งไม่ลง ส่วนฉันน่ะคนละอย่างกัน ฉันยังมีโอกาสกับคุณคิโชวอินอยู่ ไม่ใช่แค่เราอายุเท่ากันนะ แต่ฉันยังไม่ต้องกลัวเรื่องที่ว่าเธอจะทิ้งไปเข้ามหาลัยก่อนด้วย ไม่เหมือนนาย"

มาซายะมองผมอย่างดุดัน แต่ผมเมินเขา หันไปโหลดเกมแรก

"เกมต่อสู้ เอาจริง?"

"ทำไมจะไม่จริง?" ผมยักไหล่

"ฉันจะขยี้แกให้เละเลย" มาซายะทิ้งตัวลงข้างๆ แล้วคว้าจอย ผมแค่นเสียงขณะเลือกตัวละคร

"เอ๊าะเหรอ? พนันมั้ยล่ะ?"

"เอาเซ่!"

-

294 Nameless Fanboi Posted ID:6qKW+brGPJ

ผมฮึมฮัมเบาๆ ขณะทานอาหารเที่ยงในที่นั่ง Pivoine เนื่องจากชนะเกมเมื่อวานเลยตัดสินใจลงโทษมาซายะด้วยการงดของหวานหนึ่งอาทิตย์

"แกมันปีศาจ" มาซายะด่าผมอย่างเจ็บแค้นพร้อมกับสวาปามข้าวเที่ยงลงไปด้วย อ่าฮะ นายมันคนแพ้ เพราะงั้นก็ยอมรับซะเถอะ

ระหว่างที่แข่งกันเมื่อวานนี้ เราทั้งคู่ก็ตัดสินใจจะไม่พูดถึงเรื่องเหตุการณ์บนโต๊ะอาหารอีก หนึ่ง เพราะเราทั้งคู่ต่างก็พูดถ้อยคำบาดหู (ที่จริงส่วนใหญ่เป็นผม) และสอง ไม่ว่าเราจะชอบใครก็เป็นเรื่องไม่ดีต่อสาวคนนั้นทั้งนั้น ถึงผมจะรู้สึกว่าทุกคนคงยอมรับก็เถอะ แต่ก็ยังรู้สึกว่าน่าจะเกิดการจลาจลย่อมๆ ขึ้นอยู่ดีถ้าเราคนใดคนหนึ่งบอกว่าเราชอบเรย์กะ...และไม่ใช่เพราะแฟนคลับยอมรับแฟนของผมไม่ได้ด้วย

ไม่ไกลจากเรานัก รุ่นพี่ Pivoine กับเรย์กะดูเหมือนกำลังไฟลุกโชน รู้สึกว่าจะเกี่ยวกับงานเลี้ยงอาหารกลางวันของเรย์กะเมื่อวานนะ เหมือนว่าเธอจะไปขออนุญาตจากประธานสภานักเรียนแทนที่จะทำๆ ไปเลย แล้วพวกรุ่นพี่ก็เลยรู้สึกรับไม่ได้ที่นั่นทำให้สภานักเรียนเสมือนมีอำนาจเหนือ Pivoine

แต่ยังไงเราก็ยังเป็นเด็กใหม่ ดังนั้นก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่เราต้องเลี่ยงไม่ทะเลาะกับรุ่นพี่ เรย์กะคงจะเข้าใจเรื่องนี้ดี เธอเลยใช้เรื่องนี้เป็นเหตุผลอธิบาย จากนั้นก็ทำหน้าเหมือนโดนดุและเศร้าสร้อย ซึ่งทำให้พวกรุ่นพี่ยอมรามืออย่างรวดเร็ว ใช่ คุมสถานการณ์ได้ดีมาก เรย์กะ

หัวข้อสนทนาเปลี่ยนไปเป็นเรื่องชมรมแทน มาซายะกับผมก็เข้าร่วมด้วย มีรุ่นพี่สองคนพยายามแนะนำให้เราเข้าร่วมชมรม แต่เราปฎิเสธ

"ท่านเรย์กะมีชมรมไหนที่อยากเข้าหรือเปล่าคะ ได้ยินว่าไปดูๆ มาหลายชมรม"

"ค่ะ แต่ยังตัดสินใจไม่ได้เลย..."

โอ้ ผมก็ได้ยินเรื่องนั้นมาบ้างเหมือนกัน ผมนั่งฟังขณะที่มาซายะดื่มชาของเขาไป

"ชมรมชงชาหรือจัดดอกไม้ล่ะเป็นไง" อ๋า ชมรมตามขนบของกุลสตรี
Pivoine เลยนะ...ผมจินตนาการภาพเรย์กะสวมกิโมโนหรือฟุริโซเดะ จัดดอกไม้และชงชา เหมาะกับภาพลักษณ์เธอดีจริงๆ

"มีอาจารย์ที่ให้การสอนอยู่ตั้งแต่เด็กแล้วค่ะ ก็เลยคิดว่าคงไม่จำเป็นต้องเข้าชมรม"

"เหรอ แล้วมีที่ไหนอยากเข้าอีกหรือเปล่า"

"ตอนแรกก็ตั้งใจจะเข้าชมรมกีฬาน่ะนะคะ..."

มาซายะกับผมหันขวับไปทันทีที่ได้ยิน เรย์กะเข้าชมรมกีฬาอะนะ? แค่ปีนเขาก็แทบไม่รอดแล้วนี่นา จะมีแรงพอเร้อ?

"ได้ยินว่าชมรมกีฬาของซุยรันซ้อมโหดอยู่นะคะ คงไม่เหมาะกับท่านเรย์กะหรอกค่ะ"

"ค่ะ พอไปดูก็เห็นว่าคงไม่ไหวน่ะค่ะ"

ผมหันไปอีกทาง ซ่อนเสียงหัวเราะเอาไว้และตีมาซายะที่พร้อมจะระเบิดเสียงหัวเราะได้ทุกวินาที หยุดเลยนะ เดี๋ยวก็โดนจับได้หรอก!

เราตลกกับการคิดภาพเรย์กะเข้าชมรมกีฬา ซึ่งดูเป็นความคิดที่แปลกประหลาดสำหรับเราเอามากๆ ก็เธอเป็นคนซุ่มซ่ามแถมพลังกายต่ำอีก ผมสงสัยว่านอกจากวิชาพละแล้วเธอจะเข้าชมรมกีฬาชมรมไหนได้ มาซายะก็คิดแบบเดียวกัน ตอนที่พวกเรียนห้องเดียวกัน เวลาที่เขาถามว่าใครเหมาะกับกีฬาอะไร ก็พบว่าเรย์กะนั้นอยู่แค่ในเกณฑ์มาตรฐานจากงานกีฬาสีที่เธอเข้าร่วมปีละครั้ง

เรายังได้เห็นเวลาไปปีนเขากันทุกปี แบบว่า ถึงเราจะเริ่มปีนหลังห้องเธอ แต่สุดท้ายก็ยังแซงเธอไปได้อยู่ดี น่าสงสารเกินไปแล้วนะ

295 Nameless Fanboi Posted ID:6qKW+brGPJ

ระหว่างที่กำลังคุยกัน เราก็ได้ยินเสียงใครบางคนพูดขึ้น "อ้าว ~ ที่นั่งตรงนี้ว่างอยู่ด้วยล่ะ ~"

ทันใดนั้น พวกรุ่นพี่ก็เปลี่ยนเป็นโหมดน่าเกลียดน่ากลัวทันที ทุกคนมองไปยังต้นเสียง เห็นว่ามีเด็กสาวที่ดูธรรมดามากๆ คนหนึ่งใกล้เข้ามาทุกทีและกำลังจะนั่งอยู่แล้ว ยัยนั่นทำอะไรเนี่ย?

ผมมองหาป้าย Pivoine และก็เห็นว่ามันไม่อยู่ หา? ใครเอาป้ายออกไปน่ะ?

บรรยากาศกดดันขึ้นเรื่อยๆ ผมเห็นว่ารุ่นพี่บางคนกำลังจะลุกขึ้นตะโกน

โอ้ยยย แย่แน่ๆ

"ตรงนี้เป็นที่นั่งเฉพาะสำหรับพวกเรา นักเรียนทั่วไปนั่งไม่ได้นะ"

เรย์กะลุกขึ้นเตือนเด็กผู้หญิงคนนั้น

เด็กคนนั้นกระพริบตาก่อนจะหันกลับไปและสังเกตกลุ่มคน น่าจะเป็นเพื่อนของเธอที่ยืนหน้าซีดอยู่ด้านหลัง เฮ้ ถ้ารู้ว่าตรงนี้เป็นที่ของ Pivoine แล้วทำไมไม่เตือนเพื่อนล่ะ?

"ขอโทษค่ะ ไม่ได้สังเกตเลย ต้องขอโทษด้วยนะคะ" เธอขอโทษขอโพยไปด้วย ก้มหัวหงึกๆ ก่อนจะกลับไปหาเพื่อนอย่างเร่งรีบ

หลังจากที่เธอจากไป พวกรุ่นพี่ก็โวยวาย

"เมื่อกี้นี้อะไรน่ะ นักเรียนใหม่ที่เพิ่งเข้ามาเหรอ ไว้ค้นชื่อแล้วเตือนให้หนักๆ หน่อยนะ ไม่รู้อะไรไม่เหมาะไม่ควรเลย"

"เด็กคนนั้นดูไม่ค่อยเหมือนนักเรียนซุยรันเลยนะ สงสัยจะเป็นพวกนักเรียนพิเศษล่ะมั้ง"

"งั้นก็ยิ่งเป็นปัญหาเข้าไปใหญ่"

เหมือนเธอจะกลายเป็นเป้าหมายเล่นงานไปแล้วนะ...

"เอ่อ คงไม่ต้องถึงขนาดนั้นก็ได้มั้งคะ คงแค่ยังไม่ชินนั่นแหละค่ะ ครั้งนี้ปล่อยผ่านไปก่อนก็ได้มั้งคะ"

ผมมองเรย์กะที่พยายามเกลี้ยกล่อมให้ทุกคนใจเย็น อืม พวกรุ่นพี่ดูจะไม่พอใจเท่าไหร่นะ

"แต่ว่า..."

"แน่นอนว่าจะปล่อยไปเฉยๆ ไมได้ ไว้ฉันจะฝากคำเตือนผ่านไปทางหัวหน้าห้องของเธอเองค่ะ แล้วคงต้องอบรมเรื่อง Pivoine กันด้วย นะคะ ขอร้องนะคะ"

เห็นเรย์กะต้องทำขนาดนั้น พวกรุ่นพี่ก็ยอมหยุด ยังไงสถานะทางสังคมของคิโชวอินก็ยังสูงกว่าพวกนั้น ก็ต้องยอมไว้หน้าเรย์กะบ้างอยู่แล้ว

"....งั้นครั้งนี้จะเห็นแก่หน้าคุณเรย์กะก็แล้วกัน"

"...นั่นสินะ ถ้าคุณเรย์กะพูดถึงขนาดนั้นล่ะก็"

"แหม ขอบคุณนะคะ !" เธอยิ้มอย่างสดใสแล้วพยักหน้า

มาซายะกับผมกินไปฟังไป ไม่ได้ใส่ใจนัก จริงๆแล้วถ้าแฟนคลับของเราพยายามบุกเข้ามากวนเราในพื้นที่ของ Pivoine มาซายะต้องอาละวาดอย่างแรงจนกลายเป็นโศกนาฏกรรม ทำให้ Pivoine คนอื่นๆ อาละวาดตามแหงๆ

ผมทานข้าวจนเสร็จและมองไปทางเรย์กะอีกครั้ง หืม นี่ผมคิดไปเองรึเปล่านะ? เหมือนว่าเรย์กะจะปวดท้องอยู่รึเปล่านั่น?

---

จบตอนที่ 12 แร้ว

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.