Fanboi Channel

ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับประกายแสงแห่งความหวัง งานดอกไม้ไฟมันก็ต้องหน้าร้อนสิ!!! [ระเบิดแห่งกาวครั้งที่ 26]

Last posted

Total of 1000 posts

1 Nameless Fanboi Posted ID:SVOuJxMv5A

เอาไว้พูดคุยเรื่อง "นอบน้อมและหนักแน่น คือคติประจำใจในการใช้ชีวิตของฉันค่ะ!"

รักใคร อวยใคร ชอบใคร อยากให้ใครเข้าวิน เชิญได้ที่กระทู้นี้

.

謙虚、堅実をモットーに生きております!
นอบน้อมและหนักแน่น คือคติประจำใจในการใช้ชีวิตของฉันค่ะ!
(RAW) http://ncode.syosetu.com/n4029bs/
(TH) http://www.nekopost.net/novel/3015

♕ คลังกระทู้ ♕
>>>/webnovel/3289 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ [เรือลำที่ 1 : องค์ชายเอ็นโจ]
>>>/webnovel/3364 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำชายามบ่ายของโม่งซุยรัน [ซาลอนที่ 2]
>>>/webnovel/3451 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ(กัญ)ชาซุยรันยามบ่ายกลางจักรวาลแห่งกาว (ยานแม่ลำที่3)
>>>/webnovel/3507 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับสตูดิโอกาวโปรดักชั่นหมายเลข 4
>>>/webnovel/3543 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับปฏิบัติการปลูกไร่กัญชาบนดาวเคราะห์ดวงที่ 5
>>>/webnovel/3572 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับหลุมดำดูดเวลา กาวแลคซี่ที่ 6
>>>/webnovel/3588 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับเรือกาวฟิคที่ไปไกลกว่าเรืออฟช. ลำที่ 7
>>>/webnovel/3600 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับการผนึกกำลังของเหล่าพันธมิตรเรือเพื่อล่มเกาะแห่งคาน ครั้งที่ 8
>>>/webnovel/3628 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับนิทรรศการเรืออับปางใต้ท้องทะเลลึก ครั้งที่ 9
>>>/webnovel/3689 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับฤดูใบไม้ผลิอันฟรุ้งฟริ้งของเรย์กะจัง♡ ~โดขิโดขิ หัวใจของเธอเป็นของฉันนะ! ♡♡ กาวยกกำลัง10! ♡♡ (,,,ゝ∀・,,,)ノシ *:・゚✧*:・゚✧
>>>/webnovel/3786 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับการหายตัวไปอย่างปริศนาของฟิคกาวในห้องซาลอนปิดตาย [คานที่กำลังก่อตัวชั้นที่11]
>>>/webnovel/3805 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับแท็ก love ปริศนา ที่ไม่ตั้งใจจะใส่มาหรอกนะ แค่มันอยู่ใกล้มือเท่านั้นเอง [แท็กที่ 12]
>>>/webnovel/3856 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับกองเรือรบสยบคาน ประจัญบาน​พิชิต​ใจ​เธอ! [ศึกรักที่ 13]​
>>>/webnovel/3899 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ :ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับคำอธิษฐานรักผ่านเส้นผม (ผมลอนสลวยเก๋เส้นที่ 14)
>>>/webnovel/3953 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ :ปาร์ตี้​น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับสูตรอาหารคิวปิดสื่อ​รัก​สุดมิราเคิล​ของยอดเชฟสาวเจ้าเสน่ห์​เร​ย์​กะ​ ~"แค่คำเดียว"เป็นจานที่ 15 แล้วนะ!
>>>/webnovel/4018 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ :ปาร์ตี้​น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับท่านเทพเกศาบันดาลรัก โปรดรับบรรณาการนี้ไปด้วยเถิด!!! (บรรณาการจานที่ 16)
>>>/webnovel/4099 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับการซื้อบ้านพร้อมที่ดินในหมู่บ้านมีรักถวายเจ้าแม่ [หลังที่ 17]
>>>/webnovel/4218 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับไอเดียบรรเจิดเพ้อฝันของเจ้าแม่ [ขอปฏิเสธรอบที่ 18]
>>>/webnovel/4296 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับการขี่โพนี่พุ่งทะยานข้ามแดนไปหาเจ้าชาย [หน้าตาสมัยศตวรรษที่ 19]
>>>/webnovel/4454 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับโอนิวาบังในเงามืด [ชั่วช้าสามานย์ ทุกประการเพื่อฮาเร็มทั้ง 20]
>>>/webnovel/4574 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับสังเวียนความรักของจักรพรรดินี โอ้! ทรุดลงไปแล้วครับ! [กรรมการชูมือนับครั้งที่ 21]
>>>/webnovel/4659 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับศึกแย่งชิงพื้นที่การออกอากาศ [ชัยชนะของ tag food ครั้งที่ 22]
>>>/webnovel/4903 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ (กัญ) ชาซุยรันกับซูชิไข่ปลวกและหนังสือหนังมนุษย์ [หนอนตัวที่ 23 กระดึ๊บออกมาแล้วค่า]
>>>/webnovel/5102/ : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับแผนการล้างสมองของจักรพรรดิจอมมาร [วิ่งเข้าไปซะ! เจ้าสัตว์กีบคู่! รอบที่ 24]
>>>/webnovel/5401 : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับงานชมดอกไม้ไฟในฝัน [ขอตอนต่อไปรอบที่ 25]

2 Nameless Fanboi Posted ID:SVOuJxMv5A

♕ สนธิสัญญา ♕
1) สปอยล์ได้ แต่รบกวนเตือนและจุดลากยาวทุกครั้ง(อย่างน้อย7-8บรรทัด) ช่วยป้องกันให้คนที่ไม่ต้องการอ่านสปอยล์เนื้อเรื่อง
1.1) ไม่สปอยล์เนื้อหาที่แปลไทยใกล้จะถึงแล้ว
1.2) ไม่สปอยล์เนื้อหามากจนเกินไป คนอยากโดนสปอยล์ก็อดใจรอไว้หน่อย ไว้ไปฟินพร้อมๆกัน

2) อย่าเร่ง อย่ากดดันโม่งแปล !!!!

3) งดเว้นการตั้งชื่อกระทู้ด้วยถ้อยคำที่ไม่เป็น​มงคล (หรือถ้อยความ​ที่เป็นแง่ลบ อาทิ คาน, จมเรือ, เรืออับปาง, หักธง, ซากเรือ เป็นต้น) "ห้ามแก้เคล็ดเด็ดขาด" หากฝ่าฝืนตั้งมา ชื่อนั้นก็จะไม่เอามาโหวตนับคะแนนแต่อย่างใด

4) แจ้งดิบตอนใหม่​​หลังเที่ยง เพื่อ​ไม่ให้​ทับซ้อนกับแปลไทย

.

♕ สารบัญแฟนฟิค-แฟนอาร์ต ♕
https://docs.google.com/document/d/1Jtm_XMsTD_t_6GWtvFfN3qDIm3yxYGeJCX29QUS1vIo/edit?usp=sharing

How to: วิธีการใช้และอัพเดตสารบัญ
https://docs.google.com/document/d/1ET-eMchwMQyJ8awYO1Q5yIcKWuTeJrJ0TVhXXVd8eD4/edit?usp=sharing

รวมไฟล์สารบัญ
https://drive.google.com/drive/folders/0BwR6XEqxsnTAZWdSckFqb182VDQ

3 Nameless Fanboi Posted ID:B7lx/Wq4MI

ใครจบด้วยคาน

4 Nameless Fanboi Posted ID:XS+swoSQUg

กระทู้ที่ 25 ที่ระลึกถึงวันคริสมาสต์ดันปิดด้วยคานซามะ เป็นลางดีชิบหาย 55555

5 Nameless Fanboi Posted ID:n7BdZccpvy

ใครเขียนจบมู้เนี้ย โครตโหดร้ายเลย

6 Nameless Fanboi Posted ID:cGa8WtYCui

แหม่ คานซามะยังดีกว่าค้างซามะ โหดสุดคือท่านฮิไม่มาต่อ

7 Nameless Fanboi Posted ID:a1e+1S2xvE

ลางไม่ดี ลางไม่ดี เอาเกลือสาดมุมห้องเดี๋ยวนี้เลยนะ!

8 Nameless Fanboi Posted ID:gx9SH6RnJl

//ทำการโปรยเกลือแบบเทกระสอบ

9 Nameless Fanboi Posted ID:gUy/lzfO+V

กูเริ่มคิดว่าควรจะไปบนวัดไหนที่เฮี้ยนๆ ให้ท่านฮิเขียนตอนต่อไปบ้างว่ะ หรือไม่ก็ไปบนพระตรีมูรติหน้า ctw ให้ความรักท่านเรย์กะสมหวังซะที

10 Nameless Fanboi Posted ID:q+uYqRzlRX

>>9 คิดเหมือนกันเลย รอจนท้อแล้ว หวังว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะช่วยได้บ้าง มีวัดตรงไหนดังๆบ้างวะ

11 Nameless Fanboi Posted ID:A+akIDXnH3

ดิบนิยายที่กูตามสามเรื่อง ดองพร้อมๆกันหมด โคตรเซ็งชีวิต
ตอนนี้หลุดดองไปสองเรื่องละเหลือแต่ท่านเรย์กะนี่แหล่ะไม่หลุดซักที

12 Nameless Fanboi Posted ID:jtnocjk.CL

>>11 อันไหนว่ะที่หลุดดอง

13 Nameless Fanboi Posted ID:A+akIDXnH3

>>12 น้องแมงมุมกะจันทราฯ ท่านเรย์กะดองก่อนชาวบ้านและยังไม่หลุดจากไหซักที

14 Nameless Fanboi Posted ID:7ISO4YOAv7

>>13 จันทราคือเรื่องไรอ่ะ?

15 Nameless Fanboi Posted ID:TkuWFpRUQc

น้องแมงมุมหลุดแล้วเหรอ!? เจ้าเดิมรึเปล่า!?

16 Nameless Fanboi Posted ID:Mc751NkcKZ

>>14 จันทรานำพาสู่ต่างโลกอ่ะ หลุดมาตอนนึงตอนนี้ดองต่อละ
>>15 เจ้าเดิมเปลี่ยนเว็บใหม่ เห็นว่าที่เก่าที่เต็ม ออกมาหลายตอนละ

17 Nameless Fanboi Posted ID:vwuyJhE5zT

จู่ๆก็นึกอะไรไม่รู้ ถ้าวาคาบะความจริงแล้วก็็เป็นคนที่กลับมาเกิดใหม่ล่ะ-----

18 Nameless Fanboi Posted ID:TkuWFpRUQc

>>17 เว็บไหนหรือท่าน แจกวาปที....

19 Nameless Fanboi Posted ID:QvMyUZdS34

>>17 ถ้าสมมติทุกคนในเรื่องคือคนที่กลับมาเกิดใหม่นี่ฮาเลยนะ ต่างคนต่างก็มาเกิดใหม่แล้วพยายามบิดชะตากรรมกันสุดฤทธิ์ วาคาบะก็อาจจะไม่อยากโดนแกล้งเลยทำเป็นหมางเมินคาบุในช่วงแรกๆ เอ็นโจก็จับตามองนางร้ายแล้วหาทางรับมือแต่นางร้ายก็ดันเปลี่ยนไป ส่วนคาบุกูนึกไม่ออกว่ะ 5555555

20 Nameless Fanboi Posted ID:povuPYnd39

>>19 คาบุเป็นบากะระกรี้รักคุด อกหักแล้ว อกหักอีก------

21 Nameless Fanboi Posted ID:i5wkyVbMtS

>>19 ชาติที่แล้วเป็นคนเท่ๆเลยโดนท่านเรย์กะตามตื้อชาตินี้เลยทำตัวตลกแดกใส่ตั้งแต่เด็ก

22 Nameless Fanboi Posted ID:8Z+nzWU.5m

>>21 เฮ้ย เป็นไปได้55555 เป็นไปได้55555

23 Nameless Fanboi Posted ID:QCxBQ2dAz4

>>21 พล็อตนี้กุซื้อ!!!

24 Nameless Fanboi Posted ID:51KQql03hm

>>21 เห้ย ได้! 5555555555555 สามผ่าน มีใครสนใจนำกาวนี้ไปต่อยอดรึไม่คะ

25 Nameless Fanboi Posted ID:8Z+nzWU.5m

>>24 ทำเป็นฟิคเวียนเลยมั้ยมึง

26 Nameless Fanboi Posted ID:i5wkyVbMtS

>>25 ดียยยย์ สนนนนนนนนนนน กุเขียนเอ็นโจจับผิดท่านเรย์กะได้แต่กุเขียนบากะรากิไม่ได้อ่ะ 55555

27 Nameless Fanboi Posted ID:8Z+nzWU.5m

>>26 เดี๋ยวกูลองเขียนไซซายะดู

28 Nameless Fanboi Posted ID:i5wkyVbMtS

>>23 มึงจะเขียนใช่หรือไม่ *-* กุมีสองคำตอบให้ เขียน กับ เขียนอยู่แล้วจ้า

เลือกได้ตามสบาย^_^ /ปูเสื่อรออ่าน

29 Nameless Fanboi Posted ID:i5wkyVbMtS

>>27 กรี๊ดดด โอเคจ้าาาาา *นวดด*

30 Nameless Fanboi Posted ID:pKQk/53lv5

>>17 เคยคิด แต่แบบจำไม่ค่อยได้ แล้วพอเจอเหตุการต่างๆก็พึ่งนึกออกอะไรอย่างงี้เหมือนบากะรินะ

31 Nameless Fanboi Posted ID:R8r292mE.0

ว่าไปบากะรินะตอนแรกก็ออกไล่ ๆ กัน บัดนี้นางออกไปหกเล่มล่ะเจ้าแม่กรูเพิ่ง 299 ตอนเอง...

/แต่อันนั้นออกก็เหมือนไม่ออก คนแปล eng ดรอปเล่มสี่เพราะเห็นว่าเบื่อ ตรงกะรีวิวในอเมซอนเจที่คะแนนเล่มสามสี่ดิ่งลงเหว แต่มันคะแนนดีดเล่มห้ากะหกไปพอๆกะตอนเล่ม1-2เลย กรูก็ไม่รู้ว่ามันจะดีใจดีไหมถ้าเป็นแบบบากะริน่า ออกแต่ไม่มีคนแปล...

32 Nameless Fanboi Posted ID:y8zh2ZvaB8

ไม้ 9 ไม่มาซะที กุเลยแปลมาลงเองอย่างอัดอัน ;_;!

<<Fan Fic : เอ็นโจ ชูสุเกะ PoV Chapter 9 >>

เทอมนี้ผ่านไปได้อย่างราบรื่น

ดูเหมือนว่าโคะโทจะเข้าใจสิ่งที่ผมสื่อและยอมถอยทัพกลับไป น่ายินดีจริงๆ ที่ในที่สุดเธอก็คิดเรื่องของคนอื่นได้บ้างนะ

แน่นอนว่าเมื่อเทอมหนึ่งจบลง เทอมสองก็ต้องมา และเมื่อมีเทอมสอง ก็ต้องมีงานกีฬาสี

ตอนที่ผมลงชื่อแข่งวิ่งผลัด เรย์กะก็เข้ามาถามด้วยสีหน้าสงสัย "ทำไมท่านเอ็นโจถึงไม่ลงแข่งขี่ม้าส่งเมืองล่ะคะ? ทุกท่านต้องตื่นเต้นมากแน่ หากได้เห็นท่านและท่านคาบุรากิแข่งกันในสนาม"

ผมหัวเราะ

"ผมไม่เร่าร้อนกับการแข่งขี่ม้าส่งเมืองเหมือนมาซายะหรอก เห็นหมอนั่นกระเหี้ยนกระหือรือขนาดนั้นก็ไม่นึกอยากลงด้วยแล้วล่ะ" อีกอย่าง ถูกมาซายะไล่ล่าแล้วกระชากลงพื้นเนี่ยเจ็บมากเลยนะรู้มั้ย? แล้วก็น่ากลัวด้วย ให้พูดตรงๆ ก็คือ หมอนั่นไม่รู้จักคำว่าใจเย็นเอาซะเลย ตอนที่เราเล่นด้วยกันสมัยเด็กๆ ขนาดแค่เล่นซ่อนหาก็ยังสยองขวัญสุดๆ ไปเลย...

สุดท้าย ผู้ชายก็เป่ายิ้งฉุบเพื่อหาคนลงแข่งขี่ม้าส่งเมืองกับมาซายะ เหล่าตัวแทนผู้โชคร้ายคุยกันว่าน่าจะฝึกการทำตัวล่องหนในสนามเพื่อเพิ่มโอกาสเอาชีวิตรอด เป็นจังหวะเดียวกับที่ผมหย่อนระเบิดลงไป
"หมอนั่นเครียดน่าดูที่ตัวเองสูสีกับประธานสภานักเรียนปีที่แล้ว ตอนนี้เลยตะลุยอ่านตำราพิชัยยุทธ์อยู่" เหล่าผู้โชคร้ายหมดอาลัยหนักกว่าเก่า อาห์...โชคดีนะ

งานกีฬาสีปีนี้ซึมเซาน่าเบื่อสุดๆ เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ถึงแม้ว่าเรย์กะจะพยายามให้กำลังใจทุกคนแทนที่จะทำตัวเป็นดอกไม้ประดับอย่างปีก่อนๆ แม้แต่ตอนที่เธอลงสนาม กองกำลังของเธอก็ยังเชียร์ได้เบากว่าปีที่มากทีเดียว

ยังไงก็เถอะ ตอนใกล้จบการแข่งขี่ม้าส่งเมือง ผมก็เห็นเรย์กะจ้องมองใครบางคนอีกครั้ง เมื่อเทียบกับการมองอย่างตื่นเต้นปีที่แล้ว ปีนี้เธอดูจะจ้องมองใครสักคนอย่างกระตือรือล้นกว่าเดิมเสียอีก

"นั่นใครน่ะ?"

"นั่น...มิสึซากิ อาริมะ อยู่ปีเดียวกันกับเราและเป็นนักเรียนนอกครับ แล้วก็เป็นสมาชิกสภานักเรียนด้วย"

นักเรียนนอกแถมเป็นสภานักเรียน อีกแล้วเหรอเรย์กะ? คุณอยากให้มีสงครามกลางเมืองจริงๆ ใช่มั้ยเนี่ย...?

-

หลังจากงานกีฬาสีจบลง และหลังจากการสอบกลางภาค ก็ถึงเวลาของงานเทศกาลโรงเรียน

แม้การออกบูธในงานนี้จะไม่บังคับ แต่ดูเหมือนว่าทุกคนคิดว่าการเข้าร่วมจะเป็นการดีที่สุด
ทว่าเมื่อไอเดียต่างๆถูกเสนอออกมาแล้ว อะไรก็ตามที่จะทำให้ผมกลายเป็นศูนย์กลางของความสนใจมากกว่างานห้อง จะถูกสาวๆ ในห้องคัดค้านทันที เอาเถอะ พวกผู้ชายก็ไม่ได้กระตือรือล้นอยากจะแบ่งเรย์กะกับห้องอื่นเหมือนกัน ดังนั้นเราเลยล้มเลิกไปหลายไอเดีย กระทั่งสิ่งสุดท้ายที่เหลืออยู่คือร้านขายเทียนแฮนด์เมด

ห้องเราร่วมกันทำเทียนออกมามากมาย ตั้งแต่เทียนเรียบๆ ไปจนถึงเทียนโมเสครูปดอกไม้ พวกที่หัวศิลป์หน่อยก็ทำสถาปัตยกรรมเล็กๆ บ้างก็ทำแบบหลากสี น่าตื่นตาจนผมต้องขอให้พวกนั้นแสดงวิธีทำให้ผมดูเลยล่ะ

ไม่มีใครคิดถึงกำไรเท่าไหร่นัก เราเลยใช้วัตถุดิบชั้นดี จนออกมาเป็นงานคุณภาพสูงทีเดียวสำหรับเด็กม.ต้น

มีคนคิดอยากจะทำเทียนหอม พวกสาวๆ เลยเริ่มผสมน้ำหอมเข้าไปในเทียนด้วย กลิ่นลอยตลบอบอวลไปทั้งห้องจนผมปวดหัว เลยต้องเปิดหน้าต่างระบายกลิ่นเป็นการใหญ่

ยังไงก็เถอะ ตอนที่ตกลงกันได้ว่าเราจะทำเทียน ผมก็ได้รับรายชื่อของเหล่าผู้ที่อยากจะพรีออเดอร์ ในนั้นมีมากกว่าร้อยรายชื่อ ผมเลยโยนมันทิ้งไปตอนที่กลับบ้าน แล้วสนใจแค่ทำในส่วนของผมให้ครบก็พอ
-

33 Nameless Fanboi Posted ID:y8zh2ZvaB8

เมื่อทุกคนทำเทียนในส่วนของตัวเองจนครบ เราก็พร้อมสำหรับงานเทศกาลโรงเรียนพอดี ไม่แปลกเลยที่แขกผู้เยี่ยมชมจะถูกจำกัดไว้เพียงแค่ครอบครัวและกลุ่มบุคคลชั้นสูง หรือผู้ที่ได้รับการคัดเลือกมาเป็นอย่างดี ยิ่งเมื่อพ่อแม่ของมาซายะอยากจะมาดูห้องเรียนของหมอนั่น การรักษาความปลอดภัยเลยยิ่งเข้มงวดยิ่งกว่าเดิมเสียอีก อืมม์ การเป็นบุตรชายของตระกูลที่ร่ำรวยในญี่ปุ่นนี่ทำให้เห็นชัดๆ เลยนะว่าได้รับการปฏิบัติอย่างแตกต่างจากคนทั่วไปขนาดไหน

ในที่สุดเทียนของผมก็ถูกปล่อยประมูล แต่เมื่อราคาสูงทะลุเพดาน -ซึ่งงี่เง่าชะมัด มันเป็นแค่เทียนเองนะ- คณะกรรมการเลยหยุดประมูลแล้วจับฉลากแทน ผมไม่อยากเป็นตัวหลักในการจับฉลากอะไรนั่น เลยเดินไปทั่วห้องแล้วไล่ดูสินค้าของพวกเราแทน ทุกคนไปมุงงานของผมกันซะหมด เทียนของคนอื่นๆ เลยถูกเมินเฉย น่าแปลกใจที่เทียนของเรย์กะขายดีกว่าเทียนที่อลังการบางอันเสียอีก อ่า ถึงบางคนจะทำเทียนที่ดูดียิ่งกว่านี้ แต่เรย์กะทำเทียนรูปดอกไม้อันเล็กๆ สีแดงกับชมพู ดูแล้วค่อนข้างหรูหราและน่ารักจริงๆ แถมยังมีกลิ่นหอมสุภาพอีกด้วย เป็นกลิ่นที่นุ่มละมุน ที่เมื่อเทียบกับเทียนอันอื่นที่มีกลิ่นฉุนแล้ว ของเรย์กะดูน่าประทับใจกว่าจริงๆ

ผมเลือกซื้อมาสองสามอัน หลังจากที่จัดเก็บลงในกระเป๋าแล้ว ผมก็ออกไปเดินเที่ยวกับมาซายะ ซึ่งกำลังวุ่นวายกับการคุยกับยูริเอะ เมื่อผมเห็นว่าหมอนั่นดูท่าจะอยากรั้งยูริเอะไว้ด้วยมากๆ ผมก็เลยถอยออกมา การเป็นก้างขวางคอมันไม่ดีนี่นะ

-

ในที่สุดก็เดินสำรวจมาจนถึงชมรมศิลปะ ผมกวาดสายตาอ่านบทกลอนบางอัน กระทั่งเห็นของหัวหน้าห้อง...

สงสัยจังว่าหัวหน้าห้องจะสารภาพรักรึเปล่าน้า ก็เล่นเขียนกลอนซะขนาดนี้นี่ หืม ว่าแล้วก็นึกขึ้นได้ ช่วงนี้มาซายะอ่านพวกบทกลอนรักเพียบเลยนี่นา หรือหมอนั่นก็จะเขียนกลอนให้ยูริเอะเหมือนกันนะ

-

"เราติดแล้วล่ะ!"

ยูริเอะกับไอระยิ้มกว้างอย่างมีความสุข

"ยินดีด้วยนะ" น้ำเสียงของมาซายะนั้นผสมปนเประหว่างมีความสุขให้กับยูริเอะ และความเศร้าที่ต้องแยกจากกัน สองสาวดูกระตือรือล้นกับการวางแผนชีวิตมหาวิทยาลัยไปจนแผนหางานทำที่อเมริกาเพื่อเป็นอิสระจากครอบครัว ยิ่งสาวๆ พูด เท่าไหร่ มาซายะก็ยิ่งเปล่งออร่าซึมเศร้าออกมาหนักขึ้นเท่านั้น

"เราจะคอยติดต่อหากันแน่นอนจ้ะ" ยูริเอะยิ้มให้มาซาละ ผมมองหมอนั่นเช่นกัน สายตาเขาดูดำมืด แต่ก็ยังพยักหน้าให้ยูริเอะ

"เอ๋? ยูริเอะ สร้อยนั่น...?" ผมถามเมื่อเห็นสร้อยคอที่มีจี้รูปดอกลิลลี่ที่เธอสวมอยู่ ผมจำได้แม่น มันเป็นผลงานจากดีไซเนอร์ชื่อดังที่มีราคากว่าสามสิบล้านเยน คุณแม่ของผมสนใจ ทว่าตอนที่สั่งซื้อ ปรากฏว่ามีคนอื่นซื้อตัดหน้าไปเรียบร้อยแล้ว

"เอ๊ะ อันนี้เหรอ? มาซายะให้ฉันตอนวันเกิดน่ะ"

ผมจ้องมาซายะนิ่งจนหมอนั่นหันหน้าหนี

"เข้าใจล่ะ เหมาะกับเธอดีนะ ดูสวยมากเลยล่ะ" ผมยิ้มอย่างอ่อนโยนและเอ่ยชมเธอ ทำให้ยูริเอะยิ้มอย่างมีความสุข

ผมจิบชาและจ้องมองพวกเขาคุยกันอย่างเงียบงัน

---

34 Nameless Fanboi Posted ID:y8zh2ZvaB8

เมื่อซากุระเริ่มผลิบาน พวกเราก็เลื่อนชั้นขึ้นมาปีสาม ซึ่งเป็นปีสุดท้ายของมัธยมต้น

ผมกับมาซายะตรวจสอบห้องเรียนด้วยกัน ผมเจอห้องที่มาซายะอยู่อย่างรวดเร็ว แต่ตอนที่ผมกำลังจะสะกิดบอก หมอนั่นก็ชี้อีกชื่อหนึ่งให้ผมดู

คิโชวอิน เรย์กะ

"มาซายะ อย่าสร้างปัญหาให้เธอล่ะ"

"ฉันไม่สร้างปัญหาแค่เพราะฉันนั่งเรียนเฉยๆ หรอกนะ" มาซายะเย้ย สองมือล้วงกระเป๋า ผมถอนใจ พยักหน้ารับ "ตามใจนาย แค่อย่าทำให้สถานการณ์มันแย่ลงก็พอ"

"กังวลมากไปแล้ว"

เออ เรย์กะจะได้เรียนห้องเดียวกับนายเป็นครั้งแรกในตอนที่ความนิยมของนายพุ่งสูงปรี๊ด ฉันล่ะเป็นกังวลขึ้นมาเลยว่าสถานการณ์จะเป็นยังไง อันที่จริงแล้ว...

"ทำหน้าอะไรของนายน่ะ?"

"เปล่า ไม่มีอะไร ฉันต้องไปคุยกับคณะกรรมการหน่อยน่ะ นายไปเรียนเถอะ"

"เข้าใจล่ะ งั้นเจอกันตอนเที่ยง" มาซายะตอบแล้วเดินไปยังห้องเรียนของตัวเอง

--

"ผมว่าคุณคิโชวอินจะเป็นรองหัวหน้าห้องที่วิเศษมาก"

ผมดูโบดะที่ดูจะตัวแข็งไปแล้ว "อาจารย์ครับ คุณคิโชวอินมีประสบการณ์เป็นรองหัวหน้าห้องมายาวนาน ดังนั้นเธอเหมาะสมมาก"

"ปัญหาคือ เธอปฏิเสธไปเมื่อปีก่อนน่ะสิ..."

"ไม่มีปัญหาครับ ผมจะไปเกลี้ยกล่อมคุณคิโชวอินเอง" ผมยิ้มอย่างสุภาพ โน้มน้าวอาจารย์ไปด้วย

เมื่อผมก้าวออกจากห้องพักครู โบดะก็เข้ามาทักผม "ต้องการอะไรเหรอ?"
"ท่านเอ็นโจครับ เรื่องที่จะให้ท่านคิโชวอินเป็นรองหัวหน้าห้องน่ะครับ..." เขาเริ่มพูด "จะไม่เป็นไรจริงๆ เหรอครับ ท่านคิโชวอินเป็นเช่นนั้น...จะไม่ปฏิเสธหรือครับ"

ผมมองหมอนี่ชั่วครู่ แล้วยิ้ม "ถ้าผมไม่รู้ล่ะก็...ฟังดูเหมือนคุณกำลังวิพากษ์วิจารณ์คุณคิโชวอินอยู่เลยนะ...แต่คุณไม่ใช่คนที่จะทำอะไรแบบนั้นหรอกเนอะ ผมขอเตือนคุณไว้อย่าง คุณคิโชวอินน่ะ มีหูอยู่ทุกที่นะ"

สีหน้าสยดสยองปรากฏขึ้นพร้อมกับความซีดขาว "อ๋า! ไม่นะครับ ไม่ใช่การวิพากษ์วิจารณ์แน่นอนครับ! ผมเพียงแค่เป็นห่วงว่าท่านจะปฏิเสธเท่านั้นครับ"

"ไม่เป็นไร ผมจะเป็นคนเกลี้ยกล่อมเอง แค่อย่าโยนงานให้เธอก็พอ โอเคมั้ย?"

"ไม่ทำแน่นอนครับ...ผมยังอยากมีชีวิตอยู่นะครับ..." ผมเมินประโยคสุดท้ายของเขาแล้วกล่าวลา ดูจากที่เธอยอมทำตามคำสั่งของมาซายะแล้ว ผมค่อนข้างแน่ใจเลยล่ะว่าเธอออกจะขี้กลัวหน่อยๆ เดาว่างานนี้เธอน่าจะปฏิเสธแหง

--

35 Nameless Fanboi Posted ID:y8zh2ZvaB8

ระหว่างที่โดนสาวๆ รุมล้อมอยู่นั้น ผมก็พยายามสแกนหาเป้าหมายไปด้วย ให้ตายสิ เธออยู่ไหนเนี่ย?

"ท่านเอ็นโจคะ ท่านเรย์กะอยู่ตรงนั้นค่ะ!" หนึ่งในเด็กผู้หญิงเรียก ผมหันไปมองทิศทางที่ว่าอย่างรวดเร็ว และเห็นเรย์กะกำลังถูกสาวๆ ที่ดูกระตือรือล้นในกองกำลังเธอกึ่งฉุดกึ่งลากอยู่

ผมปราดเข้าไปหา "คุณคิโชวอิน ดีจังเลย มีเรื่องจะคุยด้วย ขอเวลาหน่อยได้ไหม"

"หา?" สีหน้างุนงงผุดขึ้นเมื่อเธอเห็นผม

สาวๆ รอบตัวพวกเราเริ่มส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวอีกแล้ว โอย...หูผม...

"ตรงนี้ไม่ค่อยสะดวก มาด้วยกันทางนี้หน่อยได้ไหม" ผมยิ้มอย่างใจดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ความไม่เต็มใจก็ยังปรากฏขึ้นในแววตาของเรย์กะแม้ใบหน้าจะยังนิ่งสงบ ผมต้องยอมรับว่าความสามารถในการสวมหน้ากากของเธอนั้นดีพอๆ กับผมเลยทีเดียว

ในที่สุดเธอก็ยอมตกลง ผมนำเธอไปที่ปลายบันไดซึ่งอยู่ห่างจากบรรดาเด็กผู้หญิงที่มารุมล้อมเราก่อนหน้านี้

"คือว่านะ มีเรื่องจะขอร้องคุณคิโชวอินหน่อย
"ขอร้อง?"
"อื้อ คราวนี้อยู่ห้องเดียวกับมาซายะใช่ไหมล่ะ? คุณคิโชวอินช่วยเป็นกรรมการห้องหน่อยได้ไหม"
"หา?" เสียงนั้นตายสนิทพอๆ กับสีหน้าอันว่างเปล่าของเธอ
"รู้ใช่ไหมล่ะว่าทุกปีพวกสาวๆ ต้องตามกรี๊ดห้องที่มาซายะอยู่ ปีนี้ก็ปีสุดท้ายของม.ต้นแล้ว แถมยังมีท่องเที่ยวทัศนศึกษาอีก คงลำบากน่าดู ผู้หญิงธรรมดาคงเอาไว้ไม่อยู่หรอก แต่ถ้าเป็นคุณคิโชวอินน่าจะพอไหว"
"เอ๋...ทำไมต้องพูดขนาดนั้นด้วย"

ก็นอกจากเรื่องที่มาซายะเริ่มอารมณ์บูดเพราะยูริเอะกำลังจะเรียนจบ อะไรๆ ที่ทำให้หมอนั่นอารมณ์เสียอาจจะมีผลให้เกิดเขาระเบิดลงแล้วอาละวาดไปทั่วซุยรันก็ได้ นอกนั้นผมก็ไม่เกี่ยวแล้วอะนะ

แต่ผมก็ไม่ควรบอกเธอเรื่องนี้หรอก ใช่มะ?

"อืม~ ความจริงแล้วผมถูกขอร้องมาน่ะ จากคนที่จะเป็นกรรมการห้องร่วมกับคุณคิโชวอินในปีนี้ พอเขาเห็นรายชื่อห้องแล้วก็รู้เลยว่าตัวเองคนเดียวเอาไม่อยู่ ก็เลยอยากมาขอร้องคุณคิโชวอินอีกคน อาจารย์ประจำชั้นก็เหมือนกัน ปีที่แล้วเธอปฎิเสธไปใช่ไหมล่ะ เขาเลยอยากมาขอร้องให้ผมช่วยเกลี้ยกล่อมหน่อย"

อาจจะเพราะเราไม่ได้อยู่ท่ามกลางสายตาผู้คน สีหน้าของเรย์กะเลยเริ่มสลับไปมาหลากหลายอารมณ์ สนุกจังเลย ถึงจะดูเหมือนว่าตอนนี้เธอไม่ได้สนใจผมเลยก็เถอะ นี่เธอคิดเรื่องอะไรอยู่เนี่ย

มองเธอต่ออีกซักแป๊บ ผมก็เริ่มเบื่อสีหน้าแพนิคที่ค้างอยู่บนหน้าเธอมาได้สักพักแล้ว ก็เลยเรียกสติ "คุณคิโชวอิน? เป็นอะไรหรือเปล่า?"

"เอ๋ อ้อ ไม่เป็นไรค่ะ"

อืม พูดงี้แต่คุณยังดูเหม่อๆ อยู่เลยนะ "คุณคิโชวอิน?"

"ไม่มีอะไรค่ะ" เธอตอบเสียงดัง ก่อนจะนิ่งไปชั่วขณะ จากนั้นก็ส่ายหน้าแล้วพูดต่อ "แล้วก็เรื่องกรรมการห้องน่ะ ต้องขอโทษด้วยนะคะ ดิฉันคิดว่าตัวเองมีความสามารถไม่พอ กรุณาไปขอร้องท่านอื่นเถอะนะคะ"

"งั้นเหรอ งั้นก็ช่วยไม่ได้น้า" ผมถอนหายใจเบาๆกับคำปฎิเสธนั้น

คุณทำให้ผมไร้ทางเลือกนี่นา เพราะงั้น...

ผมส่งรอยยิ้มดำมืดไปให้เธอ

"คุณคิโชวอิน ยังมีหนี้อยู่กับผมใช่ไหม"

สีหน้าสงบนิ่งกลายเป็นซีดขาวในทันที "เรื่องริรินะ"

"ช่าย" ผมลากเสียง "จำได้แล้วเหรอ ช่วยชำระหนี้ในครั้งนั้นให้ด้วยนะ"

สีหน้าของเธอซีดขาวและนิ่งเงียบไป โอ้ววว ปฏิกริยาโต้ตอบโอเวอร์ไปมั้ยเนี่ย

"เข้าใจแล้วค่ะ คงไม่มีทางเลือกสินอกจากทำตามคำขอสินะคะ"

"ขอบคุณที่เข้าใจนะ คุณคิโชวอิน" ผมยิ้มใจดีก่อนจะจากมา อืมม์ ผมหยาบคายไปหน่อยมั้ยเนี่ย? เอาเถอะ ถึงเวลาที่เธอต้องดูแลลูกของเราบ้างแล้วนี่นา

36 Nameless Fanboi Posted ID:y8zh2ZvaB8

จบไม้ 9 เชิญไม้ 10 รับช่วงต่อเจ้าค่ะ

37 Nameless Fanboi Posted ID:NikxLdIrHi

>>32-36 กราบบบบบ ;////////;

38 Nameless Fanboi Posted ID:y8zh2ZvaB8

เออ เอาจริงๆกุว่าง แปลตอนสิบต่อเลยแล้วกัน T_T!

39 Nameless Fanboi Posted ID:ccl8M8ldtP

>>35 บรรทัดสุดท้ายทำกูกริ๊ดฟินไปหมดเลย
'ลูกของเรา' อร้ายยยย

40 Nameless Fanboi Posted ID:2w+aNcPhEL

>>39 กุก็ฟิน โอย เล่ยพ่อแม่ลูกตั้งแต่เด็ก ซ้อมไว้เอาจริงตอนโตใช่ไหมคะ คิคิ

41 Nameless Fanboi Posted ID:wCikEMTHce

>>38 กรี๊ดดดด รักมึงงงงงง

>>39 กูก็ฟินประโยคนั้นน ////////////

42 Nameless Fanboi Posted ID:pKQk/53lv5

>>31 อ่าวผมนึกว่าที่เขาเลิกแปลเพราะ WN หมดซะอีก

43 Nameless Fanboi Posted ID:y8zh2ZvaB8

อู้งานแปลสองบท ฮือๆ

หาคนต่อไม้ 11 กับตอนพิเศษของไซซายะนะ กุกลับสู่โลกแห่งความจริงละ

<<Fan Fic : เอ็นโจ ชูสุเกะ PoV Chapter 10 >>

"อ๋า คุณโบดะ เกิดอะไรขึ้นรึเปล่า?" ผมยิ้มอย่างเป็นมิตรเมื่อโบดะปราดเข้ามาหา "ห้องคุณเป็นไงบ้าง?"

"เอ่อ...ไม่ครับ..." โบดะถอนใจ บิดมือไปมา สีหน้าหดหู่ปรากฏขึ้นเมื่อเขาร่ายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในห้องเรียน "...แล้วแม้แต่ประธานนักเรียนก็โผล่มาตำหนิที่เรารับมือกับพวกนั้นไม่ได้"

"เข้าใจล่ะ งานหนักหน่อยนะ คุณคิโชวอินไม่ได้ทำอะไรพวกนั้นเลยเหรอ?"

"ไม่ครับ เธอไม่ทำอะไรเลย ดูเหมือนจะปล่อยพวกนั้นไปก่อน บางครั้งเธอก็ไปตำหนิพวกนั้นบ้างตอนที่ผมขอร้อง แต่พอพวกนั้นบอกปัด เธอก็แค่กลับไปนั่นที่ กลุ่มของเธอก็เริ่มสู้กับกลุ่มของคุณซึรุฮานะบ้างแล้วเหมือนกัน เมื่อไม่นานมานี้คุณซึรุฮานะถึงกับกระแทกคุณคิโชวอินแล้วขอโทษอย่างแกนๆ ด้วย"

ผมหรี่ตาลงเล็กน้อย "คุณคิโชวอินไม่เป็นไรใช่มั้ย?"

"แน่นอนว่าไม่เป็นไรครับ หากคุณคิโชวอินเป็นอะไรไป จะต้องเกิดสงครามระหว่างกลุ่มขึ้นเป็นแน่" โบดะดูยิ่งหดหู่เข้าไปใหญ่

เธอไม่เป็นไร...โอเค ดีแล้ว แต่มาซายะล่ะ ทำไมไม่หยุดพวกนั้นซะที "ดูนายกังวลอยู่นะ มีอะไรผิดปกติเหรอ?"

"อ่า...คือ" โบดะเงียบลงอย่างกระทันหัน

"หรือซึรุฮานะยังทำอะไรอีก?" ถ้าทำล่ะก็...
"ไม่ใช่อย่างนั้นครับ เพียงแต่หลังจากที่ประธานนักเรียนจากไปแล้ว..."

มิซึซากิ หืม หมอนั่นเพิ่งได้รับเลือกให้เป็นประธานนักเรียนปีนี้นี่นะถ้าผมจำไม่ผิด

"คุณคิโชวอินมีความสัมพันธ์อันดีกับเขารึเปล่าครับ?"

ผมสำลักน้ำลายตัวเอง ดวงตาของโบดะเบิกกว้าง เขารีบทุบหลังผมทันที "อั้ก!"

"ท-ท่านเอ็นโจครับ เป็นอะไรมั้ย?!"

ผมยกมือบอกให้เขาหยุดทุบหลังผมก่อน เขาเลยถอยออกไปแล้วมองผมอย่างเป็นห่วง
"ทำไมถามแบบนั้น?"

"คือ หลังจากที่เขาจากไปแล้ว พวกเด็กผู้หญิงก็เริ่มคุยกันว่าเขาเป็นใคร แล้วคุณคิโชวอินก็พูดชื่อเขา จากนั้นก็ยิ้มกับตัวเองเล็กน้อยครับ...อืม ดูเหมือนจะมองเขาในแง่ดีนะ"

ผมเคาะนิ้วกับที่วางแขนบนเก้าอี้เมื่อได้ยินเช่นนั้น มองในแง่ดี? สองคนนั้นไปรู้จักกันตั้งแต่เมื่อไหร่? นักเรียนนอกแถมเป็นพวกสภานักเรียนอีก เขาผ่านกองกำลังของเรย์กะไปได้ยังไง? ผมคิดว่ามีแค่ผมกับมาซายะเสียอีกที่เข้าไปคุยกับเธอได้ตามใจชอบ...จะว่าไป เธอก็ยังเป็นเพื่อนกับหัวหน้าห้องได้นี่นะ แต่ก็เหมือนจะเป็นเพื่อนร่วมงานเสียมากกว่า เพราะงันไม่นับ หรือว่าจะเป็นตอนที่เธอไปห้องสภานักเรียนบ่อยๆ เมื่อปีที่แล้วช่วงเตรียมงานกีฬาสี? แต่สถานะ Pivoine น่าจะทำให้เธอแปลกแยกจากพวกสภานักเรียนนี่นา แถมผมยังไม่เคยได้ยินข่าวลืออะไรเลย...

"ท...ท่านเอ็นโจครับ เกิดอะไรขึ้นรึเปล่า?"

"ไม่มีอะไร ผมแค่นึกได้ว่าคุณมิซึซากิคือคนที่สอบได้ที่สามถัดจากมาซายะกับผม แถมยังเป็นประธานนักเรียนอีก คุณคิโชวอินน่าจะเพียงชื่นชมเขาตามปกติเท่านั้น"

ผมกล่อมโบดะด้วยแบบนั้น หลังจากที่คุยกันอีกเล็กน้อย ผมก็สัญญาว่าจะคุยกับมาซายะให้เรื่องสถานการณ์ในห้องเรียน ก่อนทุกอย่างจะเกินควบคุม

ผมถอนหายใจ เอนหลังลงบนเก้าอี้ เหม่อมองเพดานเมื่อคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้น

-

44 Nameless Fanboi Posted ID:y8zh2ZvaB8

ช่วงเที่ยงวันต่อมา เด็กผู้ชายในห้องกลุ่มหนึ่งก็เริ่มซุบซิบเรื่องที่ได้ยินมาจากห้องเรียนของมาซายะ

"เธอจะต้องลงโทษพวกนั้นแน่! ไม่มีทางอะ จะมาโรงเรียนแบบเพอร์เฟ็คท์ขนาดนั้นแล้วไม่ได้วางแผนอะไรไว้!"

"อาจจะแค่พยายามเรียกร้องความสนใจจากท่านคาบุรากิรึเปล่า? ถึงเขาจะชอบรุ่นพี่สุซุชิโนะ แต่คุณคิโชวอินก็ทั้งสวยทั้งฉลาด ครอบครัวก็สูงส่งอยู่ในระดับเดียวกัน ที่สำคัญยังอายุรุ่นราวคราวเดียวกันอีก เธอน่าจะเป็นผู้ที่มีโอกาสคบกับเขาที่สุดแล้วไม่ใช่เหรอ?"

"นายดูกังวลเรื่องนี้จังนะ"

"ที่จริงแม่ของฉันอยากให้ฉันกับน้องสาวสนิทสนมกับคุณคิโชวอินและท่านคาบุรากิล่ะนะ แต่เมื่อได้ยินว่าทั้งสองท่านสนิทสนมกันมากก็เลยยอมแพ้ น้องสาวฉันยังเป็นเพื่อนกับคุณคิโชวอินอีกด้วย แถมยังสนับสนุนเธออีก"

"แต่ก่อนจะได้รับความสนใจจากท่านคาบุรากิ เธอก็จำเป็นต้องจัดการคู่แข่งก่อนไม่ใช่รึไง?"

"แกเรียกซึรุฮานะว่าคู่แข่งของเธอได้เหรอ? เธอเป็น Pivoine ผู้สูงส่งจากตระกูลคิโชวอิน ฉันว่าซึรุฮานะนั่นแค่ขวางตาเธออยู่เท่านั้น"

"นั่นก็จริง..." พวกเขาพยักหน้าเห็นด้วย

"คุยเรื่องอะไรกันอยู่เหรอ?"

"แว้กกก! ท่านเอ็นโจ!"

ผมยิ้มอย่างใจดี มองพวกเขา "โทษทีนะ บังเอิญได้ยินชื่อมาซายะกับคุณคิโชวอิน ก็เลยสงสัยขึ้นมาน่ะ เกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ?"

"เอ่อ...ไม่..." "ไม่มีอะไรผิดปกติครับ" "ไม่ถึงขนาดนั้น..."

ได้ยินคำตอบประมาณนั้นแล้ว ผมก็ยิ้มเจิดจ้าเสียยิ่งกว่าเดิม "ผมรู้ว่าผมได้ยินอะไรนะ"

"วันนี้คุณคิโชวอินดูสวยกว่าทุกวันครับ แล้วเธอก็พกพัดมาด้วย ดูเหมือนจะหมดความอดทนกับอะไรบางอย่างแล้ว"

"เราแค่สงสัยว่าทำไมเธอดูหมดความอดทน"

ผมมองคนสุดท้ายซึ่งยังไม่ตอบคำถาม

"...เพื่อนของผมจากห้องเดียวกับเธอเล่าว่า วันนี้คุณคิโชวอินยิ้มอย่างมีความสุขมากตอนที่เล่นกับพัดอันนั้น แต่ว่ารอยยิ้มไปไม่ถึงดวงตาสักนิด"

"เข้าใจล่ะ" ผมรับเสียงนุ่ม "ขอโทษที่รบกวนนะ แต่ถ้ามีอะไรสำคัญเกิดขึ้นในห้องนั้นล่ะก็ รบกวนมาแจ้งผมหน่อยได้ไหม?"

พวกเขาไม่ตอบ ผมเลยกวาดตามองอีกครั้ง แล้วยิ้มอย่างใจดีให้กับหนึ่งในนั้นที่ผมจำได้ว่าเป็นแฟนคลับของผมเช่นกัน "รบกวนหน่อยนะ?"
"แน่นอนครับท่านเอ็นโจ!" เขายิ้มและตกลง อีกสองคนที่เหลือมองหน้ากัน จากนั้นก็ตอบตกลงเช่นกัน

"อ๊ะ จริงด้วย ที่ฉันจะบอกก็คือ มาซายะไม่ได้มีความรักใคร่ฉันท์ชายหนุ่มหญิงสาวกับคุณคิโชวอินหรอกนะ"

"เข้าใจแล้วครับ" พวกเขารับพร้อมกัน ผมส่งเสียงอืมอีกครั้งแล้วจากมา

ในที่สุดก็จะเคลื่อนไหวแล้วสินะ

-

45 Nameless Fanboi Posted ID:y8zh2ZvaB8

เมื่อผมนั่งลงในห้องสโมสร Pivoine พร้อมกับมาซายะ หมอนั่นก็เล่าเรื่องที่เจอให้ผมฟัง

"ยัยนั่นยังยิ้มน่าขยะแขยงแบบที่นายทำด้วยนะ!"

"ฉันไม่ได้ยิ้มน่าขยะแขยงนะ มาซายะ" ผมจ้องเขา หมอนั่นยิ้มยิงฟันกว้าง

"แล้ว มีอะไรเกิดขึ้นอีก"

"ฉันว่าพวกนั้นน่าจะกลับไปที่ห้องเรียน ส่วนผู้ติดตามของยัยนั่นก็จัดการเก็บกวาด" เขาหยุดไปชั่วขณะ "ไม่คิดเลยว่ายัยนั่นจะเป็นคนแบบนี้"

"บางทีนะ...เธออาจจะเหนื่อยกับการรับมือกับซึรุฮานะแล้ว ก็เลยตัดสินใจลงโทษเธอ" ผมโคลงหัว อาห์...อยากเห็นบ้างจังเลยน้า

ประตูห้องสโมสรเปิดออก พร้อมกับที่เด็กสาวผมลอนผู้เดือดเป็นฟืนเป็นไฟก้าวเข้ามา ผมหันกลับไปหามาซายะ

"นายไปทำอะไรคุณคิโชวอินไว้รึเปล่า?"
"ไม่นี่ ทำไม?"
"เพราะเธอกำลังมาทางนี้ แถมยังดูโมโหสุดๆ ด้วย" ผมชี้ไปทางเรย์กะที่บุกเข้ามาเหมือนพายุ

รอบกายเธอมีออร่าสีดำทะมึน สีหน้าบ่งบอกชัดเจนว่าเกรี้ยวกราด เธอกำพัดไว้แน่นกระทั่งมือซีดขาว แม้ปกติเธอจะดูบอบบาง ทว่านาทีนี้ เธอช่างเหมาะสมกับคำนิยาม 'จักรพรรดินีพิโรธ' ที่เพื่อนร่วมห้องผมพูดถึงกันไม่ยอมหยุดเสียจริงๆ

เมื่อเธอมาหยุดอยู่เบื้องหน้าเราทั้งคู่ ผมก็เงียบสนิท สีหน้าของเธอเย็นชาเสียจนรู้สึกได้ว่าอุณหภูมิในห้องสโมสรลดลงไปหลายองศา

"ท่านคาบุรากิ มีเรื่องจะคุยด้วยหน่อยค่ะ"
"...อะไร" มาซายะถามด้วยสีหน้างุนงง
"ช่วยจัดการเรื่องของตัวเองด้วยตัวเองเสียทีจะได้ไหมคะ ช่วยคุมสาวๆ ที่มาห้อมล้อมท่านให้อยู่ในระเบียบด้วยนะคะ"

ผมจ้องมาซายะ ซึ่งดูเหมือนจะรำคาญเมื่อเธอพูดถึงเหล่าสาวๆที่รุมล้อม

"ฉันไม่ได้เป็นคนเรียกมาซักหน่อย พวกนั้นกรี๊ดกร๊าดกันเองต่างหาก แล้วฉันก็ไม่ได้เล่นด้วย ไม่ได้ยอมรับให้อยู่ในกลุ่มด้วยเสียหน่อย"

เรย์กะหน้ากระตุก สีหน้าดำทะมึนยิ่งกว่าเดิมเมื่อเธอกล่าว "เพราะเขามากันเองก็เลยไม่เกี่ยวกับตัวเองงั้นเหรอคะ กล้าพูดอะไรไร้ความรับผิดชอบแบบนั้นออกมาได้นะคะ แบบนี้ก็น่าสงสัยแล้วว่าจะมีคุณสมบัติที่จะเป็นทายาทสืบทอดกลุ่มคาบุรากิต่อไปในอนาคตหรือเปล่า"

เข้าจุดตาย! มาซายะเปลี่ยนสีหน้า เขาคำรามตอบ"ว่าไงนะ!"

"ก็แล้วไม่จริงเหรอคะ แค่คนไม่กี่คนแค่นี้ก็คุมไม่อยู่เสียแล้ว ต่อไปในอนาคตคงน่าดูล่ะค่ะ"

ผมรีบเข้าขวางก่อนที่มาซายะจะพุ่งไปหาเธอ

"เอาน่าๆ คุณคิโชวอินก็ใจเย็นหน่อยเถอะ สงสัยจะเลือดขึ้นหน้าไปหน่อยล่ะมั้ง"

เธอหันมามองผมทันที ก่อนจะพูดเสียงเฉียบ "ท่านเอ็นโจก็เหมือนกัน ช่วยอย่าผลักภาระเพื่อนสนิทมาให้ฉันได้ไหมคะ ถ้าเป็นหนี้ล่ะก็น่าจะคืนไปหมดแล้วนะคะ ฉันเหลือจะทนที่ต้องมาตามเช็ดก้นให้แล้ว"

"เฮ้!"

"มาซายะ" ผมเรียกเขา ขยับอีกนิดเพื่อขวางระหว่างเขากับเรย์กะ "อื้อ ขอโทษนะ รบกวนคุณคิโชวอินจริงๆ นั่นแหละ"

สีหน้าของเธอเห็นชัดเลย เธอไม่เชื่อสักนิดว่าผมขอโทษจากใจ

"ฮึ่ม ถ้างั้นฉันต้องขอตัวก่อนนะคะ ขออำลาค่ะ" เธอหมุนตัวจากไปทั้งอย่างนั้น เมื่อเธอหายไปจากประตูห้องสโมสรแล้ว ผมก็หันไปปลอบมาซายะให้ใจเย็นลงซึ่งใช้เวลาอีกชั่วโมงกว่า ในที่สุดเขาก็เย็นลงได้ ถึงขั้นดูจะสำนึกผิดด้วยซ้ำ

ผมจ้องมองประตูอย่างเงียบงันและเจ็บปวด

คราวนี้ผมทำเรื่องใหญ่ลงไปเสียแล้ว...

-

46 Nameless Fanboi Posted ID:y8zh2ZvaB8

ผมถอนหายใจเมื่อกลับเข้ามาในห้องสโมสร "หาเธอเจอมั้ย"

"ไม่" มาซายะทำหน้าบึ้ง กอดอกแน่น

"เราต้องไปขอโทษจริงๆ"

"เธออาจจะกลับบ้านไปแล้วก็ได้ นี่มันจะสี่โมงแล้วนะ"

"แต่-" มาซายะตัดบท "จะขอโทษวันนี้หรือพรุ่งนี้ก็ไม่ต่างกัน อีกอย่างยัยนั่นยังโกรธอยู่ ก็ต้องให้เย็นลงก่อนด้วย ทำไมนายต้องเหนื่อยกับเรื่องนี้้ด้วยฮะ ชูสุเกะ?"

ผมกัดริมฝีปาก ก่อนจะถอนหายใจอย่างหนักหน่วง "ก็ได้ งั้นเราไปหาเธอพรุ่งนี้เช้าแล้วกัน"

"ดีมาก"

"นายก็ต้องขอโทษด้วย"

"รู้แล้วน่า" มาซายะทำหน้าบูด

เราเดินกลับไปยังรถด้วยกัน เมื่อผมมองเข้าไปก็เห็นใครสักคนที่อยู่ภายในรถของผม ผมก็หน้าบูด "มาซายะ เจอกันพรุ่งนี้นะ"

"หืม อ่า" เขามองรถผม ก่อนจะพยักหน้า "เจอกัน"

ผมเดินไปที่รถ ยกรอยยิ้มขึ้นประดับบนใบหน้า

เมื่อโชเฟอร์เปิดประตูรถให้ ผมก็โค้งตัวลงเล็กน้อยและกล่าว "ขอโทษทีนะ ไม่รู้ว่าเธอจะมารับน่ะ"

บุคคลในรถหัวเราะแผ่ว "ไม่เป็นไรหรอกชู ติดธุระอยู่เหรอ?"

"แค่อยากจะคุยกับใครบางคนน่ะ แต่เหมือนเขาจะกลับบ้านไปแล้ว เธอทานข้าวเย็นรึยัง?"

"ยังเลย แต่ท่านพ่อที่เพิ่งกลับจากทริปธุรกิจเหมือนจะอยากทานข้าวเย็นร่วมกันทั้งครอบครัวนะ"

"อา...เข้าใจล่ะ ขอโทษที่สร้างปัญหาให้นะ"

"ไม่เป็นไร~ ไม่เป็นไร~" เธอหัวเราะและขยับเข้าไป ผมเลยเข้าไปในรถแล้วนั่งลง

เงียบกันไปขณะหนึ่ง ผมจึงหันไปมองเธอแล้วถาม "คุณยุยโกะ ผมขอปรึกษาหน่อยได้มั้ย"

"เรื่องอะไรเหรอ?"

"ผมทำเรื่องบางอย่างไปจนเด็กผู้หญิงคนหนึ่งโกรธมาก ผมควรจะทำยังไงดีเพื่อแสดงให้เห็นว่าผมสำนึกผิดจากใจน่ะ?"

"หา?" ดวงตาเธอเบิกกว้างและจ้องมองผม นั่น...หงุดหงิดสินะ

"จำเป็นต้องขอโทษจริงๆเหรอ? บางทีสิ่งที่เธอทำไป อาจจะไม่ได้แย่อย่างที่เธอคิดก็ได้นะ" ยุยโกะตอบพร้อมรอยยิ้มตึงบนริมฝีปาก

ขอคำปรึกษาจากเธอไม่ได้เลยสินะ หืม

-

47 Nameless Fanboi Posted ID:y8zh2ZvaB8

ผมตามมาซายะไปยังห้องของเขา ทันทีที่เราเดินเข้าไป เสียงวี้ดว้ายของสาวๆ ก็ดังลั่น

"กรี๊ด จักรพรรดิกับท่านเอ็นโจล่ะ!"
ผมเมินพวกนั้น และมองหาเรย์กะฝ่าฝูงชน
อยู่นั่นเอง

"คุณคิโชวอิน" ผมกำลังจะพูด แต่มาซายะก็บุกเข้าไปก่อน จะทำอะไรของนายน่ะ?

หมอนั่นกอดอกยืนอยู่หน้าโต๊ะเธอ ก่อนจะคลายแขนลงแล้ว...

เขกหัวเธออย่างแรง

"อุเงี้ยว!" เรย์กะร้องอุทาน ผมเลิกคิ้ว เสียงนั่นสุดยอด~ไม่สมเป็นกุลสตรีเลยนะ
"เท่านี้ก็ถือว่าเมื่อวานหายกันแล้วนะ" หมอนั่นว่างั้น แล้วก็เดินกลับไปที่โต๊ะตัวเอง

ผมมองมาซายะอย่างเหนื่อยใจ ก่อนจะตรงไปหาเรย์กะที่ยังลูบหัวตัวเองป้อยๆ "อ๋า ขอโทษนะคุณคิโชวอิน มีเรื่องจะคุยด้วยนิดหน่อย สะดวกหรือเปล่า?"

เธอดูไม่เต็มใจนัก แต่ก็ลุกจากที่นั่งแล้วตามมาจนได้ เราเดินอย่างเงียบเชียบไปจนถึงปลายบันไดอีกครั้ง โอ้ว นี่มันตรงที่ที่ผมขอให้เธอมาเป็นรองหัวหน้าห้องไม่ใช่เหรอเนี่ย

"หัวเป็นอะไรรึเปล่า? มาซายะก็ไม่น่าจู่ๆ เขกหัวเลยน้า แต่ยังไงนั่นก็เป็นการขอโทษในแบบของมาซายะแล้วนะ"
"ขอโทษ?" เธอทวน สีหน้าไม่ยอมรับ

"เมื่อวานหลังจากนั้นพวกเราก็คุยกัน ก็ต้องยอมรับผิดนะว่าเราสองคนขาดความรับผิดชอบนิดหน่อยจริงๆ แต่มาซายะน่ะเป็นคนมีทิฐิ ไม่ยอมมาขอโทษดีๆ หรอก เลยทำเป็นพูดว่าแค่นี้หายกันไปงั้นแหละ"

เธอยังดูไม่เชื่ออยู่ดี ผมเลยพูดต่อ "เมื่อวานผมอธิบายให้คนที่อยู่ในสโมสรฟังไปแล้วนะว่าพวกเราก่อเรื่องให้คุณคิโชวอินโมโห นับว่าโชคดีที่ไม่มีคนอยู่เยอะเท่าไหร่ ผมปิดปากไว้แล้ว ไม่ต้องกลัวข่าวลือจะแพร่กระจายนะ"

ถึงตรงนี้ ในที่สุดเธอก็ดูผ่อนคลายลงเล็กน้อยจนได้ "เรื่องนั้น ต้องขอบคุณมากค่ะ"

ผมมองเธอชั่วครู่ แล้วก้มหัวลงต่ำ "แล้วผมก็ต้องสำนึกผิดด้วยที่ทำเรื่องแย่ๆ กับคุณคิโชวอินไว้ ขอโทษนะ"

เธอเงียบไปชั่วขณะ ก่อนจะพูด "เอ่อ แปลว่าเรื่องเมื่อวานนี้ถือว่าหายกันใช่ไหมคะ"

ผมเงยหน้าขึ้นมา แล้วพยักหน้า "แน่นอน"

เมื่อมองเข้าไปในดวงตา เธอก็ดูเหมือนจะยังไม่เชื่อผมสักนิด "ทำหน้าแบบนั้นยังระแวงอยู่ชัดๆ เลยนี่ ผมเชื่อใจไม่ได้ขนาดนั้นเลยเหรอ" เมื่อผมถาม เธอก็เมินคำถามนั้นแล้วฮึมฮัมในลำคอ ถือว่าใช่ก็แล้วกันนะ ถ้างัน...

"ผมสำนึกผิดจริงๆ นะ รวมกับมะเหงกมาซายะเมื่อกี๊ คุณคิโชวอินจะต่อยผมซักครั้งก็ไม่เป็นไรนะ"

ผมปลุกใจตัวเอง เธอยังดูเหมือนจะตัดสินใจไม่ถูก ถึงจะว่าอย่างนั้น แต่ดูท่าทางเธอก็เหมือนอยากจะเอาคืนกับสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่เหมือนกัน ผมยิ้มอ่อน "ถ้าไม่ทำแบบนี้ความรู้สึกผมก็ไม่เคลียร์น่ะ ไม่ต้องเกรงใจหรอก เอาเลย แล้วก็ถือว่าหายกันก็แล้วกันนะ ถึงจะไม่ใช่มาซายะก็เถอะ"

"ไม่เก็บมาคิดบัญชีทีหลังแน่นะคะ คงไม่เอาเรื่องนี้มาขู่หรอกนะ"

"ไม่หรอก" ผมผ่อนลมหายใจเมื่อเธอถามแบบนั้น

ผมขยับเข้าไปหาเธอ ก้มลงเล็กน้อยให้เธอชกผมได้ถนัดขึ้น

"อุ่ก!" เจ็บ! เจ็บโคตร!!! นี่เธอเรียนเสริมเรื่องวิธีต่อยคนด้วยรึเปล่าเนี่ย?! ผมกุมท้อง ร้องคราง

"เท่านี้ถือว่าหายกันแน่นะคะ ท่านเอ็นโจ?" ผมได้ยินเธอถามจากด้านบน ทำได้แค่ผงกหัวตอบรับ

ได้ยินเสียงหัวเราะแว่วมา ผมเห็นเท้าเธอหมุนกลับไป คล้ายว่าจะกระโดดหนีไป

ให้ตายเถอะ! นี่เธอเป็นเอสเรอะ?!? เธอหัวเราะเพราะผมเจ็บเลยนะ! ตอนที่มาซายะเล่าว่าเธอตบหน้าซึรุฮานะด้วยพัด ผมยังคิดว่าหมอนั่นพูดเกินจริงซะอีก!

ผมครางและลูบๆ ท้อง จนในที่สุดความเจ็บก็จางลงไปบ้าง

เสียงกริ่งเตือนว่าผมเข้าห้องเรียนสายแล้ว โอ๊ยเว้ย...ผมเดินกลับไปที่ห้องเรียน

"ขอโทษที่มาช้าครับอาจารย์"

"อ่า คุณเอ็นโจ...ไม่เป็นไร คุณเพิ่งเข้าสายเป็นครั้งแรก ดังนั้นผมจะไม่ว่าคุณหรอก ไปนั่งเถอะ"

"ขอบคุณครับ"

ผมเดินกลับไปนั่งที่ ในที่สุดสายตาของคนในห้องก็กลับไปที่อาจารย์จนได้ ผมแอบลูบท้องตัวเอง รู้สึกได้เลย เดี๋ยวมันต้องช้ำแหงๆ

----

จบไม้ 10 จ้าาาา

ต่อไปมีตอนพิเศษของไซซายะนะ รับไม้ต่อทีย์ กุกลับคืนสู่โลกแห่งความเป็นจริงละ อู้งานมาครึ่งวัน อีเหี้ย

48 Nameless Fanboi Posted ID:wCikEMTHce

>>43-47 มึงเอาใจกูไปปป โฮฮฮฮฮ

49 Nameless Fanboi Posted ID:y8zh2ZvaB8

ตรงไหนแปลไม่โอ บอกได้นะ คราวหน้าจะได้ปรับปรุง

50 Nameless Fanboi Posted ID:2w+aNcPhEL

>>43-47 มึงฟิตมาก ดุจดั่งเจ้าแม่ตอนหาของแดก อาาาา กูฟินรัว ๆ

51 Nameless Fanboi Posted ID:fHzp8UDtYu

กรี๊ด เข้ามาทีได้อ่านสองบทเลย ขอบคุณมึงมาก กูว่าเอ็นโจอาจจะแอบซื้อเทียนของเจ้าแม่ไปจุดจริงๆ ก็ได้นะ พอยูกิโนะมาเห็นก็เข้าใจว่าเป็นเทียมหอมไฮโซซื้อไปเป็นของขวัญให้ท่านเรย์กะอีก ฮิฮิ้ว~
...กูเกือบลืมไปแล้วว่าท่านยูริเอะนามสกุลสุซุชิโนะ...

52 Nameless Fanboi Posted ID:T3Y8tlqBWA

ขอบคุณสำหรับกาวนอก มึงฟิตมากที่แปลสองตอนรวด //กอดๆให้กำลังใจมึงน้าาาาา
ตอนที่ไปบอกเด็กคนอื่นๆว่าเรย์กะกับมาซายะไม่ได้คิดอะไรเชิงชู้สาวกันหรอกนะ มีความหึงหวงเกิดขึ้นค่าาาา ดูแผ่ออร่าดำมืดมาเชียว

>>51 กูว่าฮีซื้อว่ะ อาจจะมาแอบเหมาไปหมดตอนใกล้ๆเลิกแล้วเอาไว้ใกล้ๆหัวนอนเอาไว้บูชาไม่ยอมเอามาจุดใช้ แต่ให้กูกาวนะ กูว่าฮีชอบกลิ่นที่เรย์กะทำเลยซื้อตัวที่กลิ่นมันคล้ายๆกันมาใช้แทน เวลาจุดจะได้นึกถึงคุณคิโชวอินเหมือนมาอยู่ใกล้ๆ

53 Nameless Fanboi Posted ID:fHzp8UDtYu

>>52 ถ้าท่านฮิเฉลยมาตามนี้จริงนะกูจะฟินตัวแตกตายหน้าคอมพ์ กูจะรอวันนั้น ฮือออออออออออ

54 Nameless Fanboi Posted ID:y8zh2ZvaB8

จะว่าไป พอนั่งแปลอันนี้เนี่ย กุก็รู้สึกถึงสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันของทั้งกาวไทยทั้งกาวนอก

คือทุกคนมองว่านังยุยโกะน่าหมั่นไส้ 5555555555555555555555

55 Nameless Fanboi Posted ID:2w+aNcPhEL

>>54 +1 น่ารำคาญมาาาก

56 Nameless Fanboi Posted ID:0TsRA.z49o

>>54 ก็นะ เป็นตัวละคนที่จับทางไม่ถูกสุดๆ ออกมาทีไรก็ออกแนวล่องลอยไปมา สวยหวานน่าเคลิบเคลิ้ม หนุ่มๆ ก็ปกป้อง ขณะที่ท่านเรย์กะกูจะเป็นลมยังมีแต่เพื่อนสาวๆ ประคองไปเลย...

57 Nameless Fanboi Posted ID:GcaB+O/qnf

>>56 มึงพูดอย่างกะท่านเรย์กะเป็นคุณหญิงแม่ มีลูกเลี้ยงนางทาสรับใช้คอยถือยาดมยาหม่องให้ ส่วนยุยโกะเป็นนางเอกแสนบอบบางในนิยายแนว reverse harem กูร้องไห้หนักมาก

58 Nameless Fanboi Posted ID:uyNkVp/IDu

>>43-47 อ่านแล้วนึกภาพเอ็นโจนั่งไขว่ห้างอยู่บนเก้าอี้ นั่งฟังโบดะรายงาน.....ได้ข่าวว่าพวกนายอยู่ในโรงเรียน ฮา
แอบคิดนิดๆว่าจริงๆแล้วยุยโกะอาจจะเป็นคนกลับชาติมาเกิดใหม่ ตอนรู้สึกตัวคือ อ่าว เป็นคนไม่มีบทกับเนื้อเรื่องค่ะ งั้นขอชมแบบระยะประชิดล่ะนะ เวลาเจอเรย์กะเลยทักแบบห่างๆ เพราะตามบทเรย์กะเป็นนางร้าย อะไรแบบนี้ //ดมกาวไปอีก

59 Nameless Fanboi Posted ID:GcaB+O/qnf

คือ กูนึกขึ้นมาได้ว่า เพราะชาตินี้ไม่มีนางร้ายขัดขวาง ความสัมพันธ์ของคาบุกับวาคาบะเลยไม่คืบหน้า

แต่นางร้ายที่โผล่ออกมาอย่างยุยโกะนี่ หมายความว่ายังไง ความสัมพันธ์ของเอ็นโจกับนางเอก(คนใหม่)จะก้าวหน้าเหรอ?!

โอย มึนเมาดั่งดมกาวหนักไป

60 Nameless Fanboi Posted ID:mPoV4A/3ab

>>59 แค่เรย์กะคนเดียวก็เป็นอุปสรรคอันใหญ่หลวงสำหรับคาบุรากิแล้ว
ส่วนอุปสรรคที่แท้จริงของเรย์กะกับเอ็นโจคือคานซังกับอาหารซังต่างหาก

61 Nameless Fanboi Posted ID:ZsqahhxoPz

>>60 บ้า เอ็นโจต่างหากที่เป็นอุปสรรคของเรย์กะและคานซัง สองคนนี้เขารักกันดีแท้ๆยังพยายามไปแยกคู่แท้แห่งโชคชะตาออกจากกัน แล้วเป็นไงล่ะ ไม่มีอะไรจะพรากความรักของเรย์กะกับคานซังได้หรอกนะ

62 Nameless Fanboi Posted ID:yCiLBTzUdw

>>43-47 เพิ่งเห็นนนนนฟฟฟฟฟ//กราบบบ
นี่นั่งอ่านด้วยอารมณ์แบบ จะตุ๊ยท้องแล้วๆ//ค่ดเลว5555 เอ็นโจดูน่าเอ็นดูขึ้นหลายระดับแถมฟิลเตอร์ยังมองเจ้าแม่ได้น่ารักชิบหาย555

63 Nameless Fanboi Posted ID:tpIgGPlmZ1

กาวนอกคือดียยยย์ กูชอบ มึงแปลดีแล้ว แต่มีสะดุดนิดๆตรงสรรพนามที่เดี๋ยวผมเดี๋ยวฉัน แต่คงเป็นความชินมือในการพิมพ์ของมึงมั้ง เรื่องนี้ไม่ว่ากัน

กูก็คิดเหมือนโม่งอื่นๆที่จอมมารมันต้องแอบมาซื้อเทียนของเรย์กะเก็บไว้แน่ๆ ไม่รู้จุดใช้ไปมั่งยัง ได้กลิ่นแล้วก็นึกถึงคนทำสินะ ฮุๆๆๆๆๆ

64 Nameless Fanboi Posted ID:2/URbZuMJR

สารภาพว่า ตอนนี้กุมโนว่าการที่จอมมารใกล้ชิดยุยโกะต่อหน้าเจ้าแม่คือหวังให้นางหึง แต่เจ้าแม่ดันไม่แสดงอาการ เลยหลบหลืบเข้ามุมจอมมารผู้ไม่ได้เข้ากระทั่งเฟรนด์โซนต่อไป

65 Nameless Fanboi Posted ID:UPQR.Y5VfJ

>>58 หรือว่าจริงๆ ยุยโกะจะเป็นคิโชวอิน เรย์กะ นางร้ายที่กลับชาติมาเกิด จำได้ว่าชาติก่อนความขี้แซะจองล้างจองผลาญของตัวเองทำให้ครอบครัวล่มสลาย ชาตินี้เลยเปลี่ยนกลยุทธ์เป็นแนวบอบบางอ่อนหวาน พอรู้ว่าตัวเองเป็นญาติเอ็นโจเลยขอหมั้นเพื่อแก้แค้น เอ็นโจก็น้ำท่วมปากปฏิเสธไม่ออก มีแต่ยูกิโนะที่เป็นเอ็นโจ ชูสุเกะในชาติก่อนกลับชาติมาเกิดเหมือนกันที่เดาทางออก เลยพยายามฝืนชะตากรรมทุกทาง โอ๊ยยยยย ขอกาวกุด้วยจ้า

66 Nameless Fanboi Posted ID:8j8VTzM8HJ

>>65 ถ้าเป็นแบบนี้ก็เป็นไปได้นะ โอ๊ยยย ขอกาวอีกคนจ้าาา //เกาะขาโม่งฟิคแถวๆนี้

67 Nameless Fanboi Posted ID:e/pIQdif.A

[กาวนอกตอนพิเศษ]

<<Fan Fic : เอ็นโจ ชูสุเกะ ตอนพิเศษ คาบุรากิ มาซายะ POV >>

ชูสุเกะทำตัวแปลกไปมาก

เมื่อวานนี้คือหลักฐานโคตรดีว่าหมอนั่นทำตัวพิลึกขนาดไหน หมายถึง เห็นกันอยู่ชัดๆ ว่าคิโชวอินกลับบ้านไปแล้วแหงๆ แต่หมอนั่นก็ยังวิ่งตามหายัยนั่นทั่วโรงเรียน ฉันเลยเห็นชัดๆ ว่าหมอนั่นต้องเป็นอะไรไปแน่ๆ

ถึงฉันจะบอกเขาไป หมอนั่นก็แค่ตอบว่า "ฉันทำผิดไป ยังไงฉันก็ต้องแก้ไขเรื่องนี้"

เจ้านี่ดูจะสำนึกผิดมากจริงๆ แถมหดหู่หน่อยๆ ด้วย ตอนที่เรากำลังตามหาอยู่ เราก็ไล่ถามคนที่อาจจะเห็น หรืออาจจะไม่เห็นยัยนั่นไปด้วย ซึ่งคนที่เราถามส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นเพื่อนของเจ้าหล่อนน่ะนะ กระทั่งไปเจอผู้ชายคนนึง อารมณ์ของชูสุเกะก็ดิ่งลงจนถึงขีดสุด

"คิโชวอินเหรอ? เห็นขึ้นรถไปแล้วนะ เพราะงั้นฉันว่าเธอน่าจะกลับบ้านไปแล้วล่ะ พวกนายก็ควรกลับได้แล้วเหมือนกัน นี่ใกล้จะถึงเวลาปิดโรงเรียนแล้ว" สีหน้าของหมอนั่นดูใจเย็นมากตอนที่คุยกับเรา แม้ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับชูสุเกะที่มีรอยยิ้มดำมืดก็ตาม แล้วหมอนั่นก็จากไป

"หมอนี่หน้าตาคุ้นๆ นะ"

"นั่นมิสึซากิ อาริมะ คนที่แข่งขี่ม้าส่งเมืองกับนายเมื่อปีที่แล้ว" ชูสุเกะตอบเสียงพร่าทันทีที่เราหันกลับทางเดิม

"อ้อ! ตอนนั้นเองสินะ ว่าแล้วว่าหมอนี่ดูคุ้นๆ" ฉันพยักหน้า และมองหน้าชูสุเกะ "นายก็ได้ยินแล้วนี่ ยัยนั่นกลับไปแล้วแน่ๆ"

"ฉันจะลองดูอีกที นายกลับก่อนได้เลย"

--

หลังจากนั้นอีกแค่แป๊บเดียว ชูสุเกะก็กลับมาที่ห้องสโมสรอย่างผู้แพ้ ฉันแค่นลมหายใจใส่ตอนที่เราเดินกลับไปที่รถด้วยกัน

ในตอนที่เราเดินกลับ ชูสุเกะก็มองไปที่รถของตัวเองแล้วนิ่วหน้าขนาดหนัก ถอนหายใจอย่างรำคาญ บอกว่าเจอกันวันพรุ่งนี้แล้วจากไป

ฉันมองไปที่รถของหมอนั่น เห็นเงาของเด็กผู้หญิง ไม่งั้นก็ต้องเป็นคนที่ผมยาวมากๆ รออยู่ข้างในรถ ชูสุเกะก้มหัวให้คนในรถก่อนจะจากไปพร้อมกัน หืม...ชูสุเกะบอกว่าวันนี้ต้องนัดเจอผู้หญิงคนนึงวันนี้ หรือจะเป็นคนนี้กันล่ะ?

ฉันคิดเรื่องนี้ไปตลอดทางกลับบ้าน สถานการณ์ของชูสุเกะตอนนี้ลำบากยิ่งกว่าครั้งก่อนที่คุยกันเสียอีก สุดท้าย ฉันก็ถามแม่เรื่องการดูตัว

"แปลกจังนะ ปกติลูกเลี่ยงจะคุยเรื่องนี้ตลอดเลยนี่นา" แม่ว่างั้น ดูงงๆ ตอนที่พูด ฉันแค่ยักไหล่ตอบ

"ก็...อย่างที่ลูกรู้นั่นล่ะจ้ะ การดูตัวเป็นเรื่องของการพูดคุยกันระหว่างสองตระกูล ว่าแล้วก็ ลูกมีคนที่ชอบแล้วรึยัง?"

"ยูริเอะ"

รอยยิ้มเจ็บปวดผุดขึ้นบนใบหน้าของแม่ "คุณยูริเอะเด็กสาวที่ดีจ้ะ แต่ว่า..." ฉันเลิกคิ้ว รอให้แม่พูดต่อ จะบอกว่าฉันไม่เหมาะกับยูริเอะงั้นเรอะ? ฉันพยายามหนักแทบตายเพื่อจะได้เป็นคนที่เหมาะสมกับเธอนะ แม่รู้มั้ยเนี่ย! ทำกระทั่งฝึกฝนเรื่องระเบียบวินัย ความรับผิดชอบ ทั้งนิสัย เพื่อที่จะได้เหมาะสมกับยูริเอะเชียวนะ!

"แล้ว เรย์กะจังล่ะจ๊ะ?" แม่ถาม

ฉันนิ่วหน้า จำได้แม่นว่ายัยนั่นว่าฉันยังไงบ้าง 'ไม่เหมาะสมกับการเป็นผู้สืบทอดเครือคาบุรากิ' งั้นเรอะ? ทำไมต้องพูดแรงขนาดนั้นด้วยหา? "ผมว่าเราไม่มีทางเข้ากันได้หรอก"

"...มีปัญหาอะไรกับเรย์กะจังรึเปล่าจ๊ะ?"

"ไม่ ไม่มีอะไรครับ วันนี้เราแค่มีความเห็นไม่ตรงกันเท่านั้น" ฉันตอบ เมื่อเห็นดวงตาของแม่หรี่ลงฉันก็รีบเสริม "กะว่าวันพรุ่งนี้จะไปขอโทษยัยนั่นตอนเช้าทันทีที่ไปถึงโรงเรียนครับ"

"เข้าใจล่ะจ้ะ" แม่ถอนหายใจ "จำไว้ว่าต้องคืนดีกับเรย์กะจังด้วยนะจ๊ะ เธอเป็นเด็กดี เพราะงั้นต้องให้อภัยทันทีที่ลูกไปขอโทษเธอแน่นอนจ้ะ"

เด็กดีเรอะ? ฉันทำอะไรไม่ได้นอกจากเถียงอยู่ในใจ แม้แต่ก่อนหน้านี้ ยัยนั่นก็มองฉันเป็นคนปัญญาอ่อนมาตลอด ไม่ก็มองฉันด้วยสีหน้าที่บอกชัดๆ ว่าไม่ชอบฉัน ทั้งที่ฉันไม่เคยทำอะไรให้ยัยนั่นแท้ๆ! คนแบบนั้นจะดีได้ไงฮะ?

ฉันกลับไปที่ห้องแล้วล้มตัวลงบนเตียง รู้สึกเหนื่อยจากการวิ่งหาคิโชวอินที่กลับบ้านไปแล้วรอบโรงเรียนพร้อมกับชูสุเกะ

ฉันกระพริบตาทันทีที่สังเกตเห็นข้อความจากมือถือ

"ยูริเอะนี่นา!"

--

68 Nameless Fanboi Posted ID:e/pIQdif.A

เช้าวันต่อมา ฉันก็ทำตามที่คิดไว้และไปขอโทษคิโชวอิน ถึงงั้นก็เหอะ ยัยนั่นพูดจาหยาบคายขนาดนั้นกับฉันเชียวนะ เพราะงั้นฉันเลยเขกหัวยัยนั่นให้เราเสมอกัน รีแอคชั่นหล่อนจะเว่อร์ไปหน่อยมั้ยหา! จริงๆ นี่มันแค่แตะๆ เองนะไม่ใช่ชก ถึงกับต้องร้องเลยเรอะ! เธอจะบอบบางไปถึงไหนเนี่ย?!

หลังจากยัยนั่นหายไปจากห้องพร้อมกับชูสุเกะ ฉันก็มองไปรอบห้องเรียน ไม่เหมือนก่อนหน้านี้ที่พวกซึรุฮานะมาคอยวอแวรอบๆ วันนี้พวกเด็กผู้หญิงดูค่อนข้างรักษาระยะห่างจากฉันอย่างให้เกียรติ ส่วนกลุ่มซึรุฮานะก็หลบอยู่ที่มุมห้องอย่างเงียบเชียบไม่พูดอะไร หืม ฉันเข้าใจๆ ก็เมื่อวานคิโชวอินน่ากลัวโคตรๆ เลยไม่ใช่รึไงล่ะ?

ในขณะที่ฉันกำลังเสพย์สุขกับความสงบสุขในห้องเรียนอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงพวกเด็กผู้หญิงที่รุมล้อมคิโชวอินก่อนหน้านี้คุยกันเรื่องชูสุเกะ

"ท่านเรย์กะเนี่ย อยู่กับท่านเอ็นโจตลอดเลยเนอะ..."
"เธอคิดว่าพวกเขาชอบกันรึเปล่า?"
"แต่ท่านเรย์กะชอบท่านคาบุรากินี่นา ใช่มั้ย!?"
"จะเป็นไปได้ไงเล่า? ท่านเรย์กะอยู่กับท่านเอ็นโจตลอดเลยนะ!"
"แต่เมื่อวัน ทั้งก่อนหน้านี้ ท่านก็พูดถึงแต่ท่านคาบุรากินะ ท่านเรย์กะใส่ใจท่านคาบุรากิจะตาย! ไม่แปลกเลยที่ท่านจะลงมือจัดการซึรุฮานะรุนแรงเช่นนั้น"

ฉันสำลักค่อกแค่กแล้วหันไปอีกทาง ยัยนั่นอะนะชอบฉัน? ฉันมั่นใจมากว่ายัยนั่นก็แค่อยากให้ซึรุฮานะหยุดทำตัวหยิ่งผยองเกินเหตุเท่านั้นล่ะ

พอยัยนั่นกลับมาก็ดูจะอารมณ์ดีสุดๆ ชูสุเกะพูดอะไรกับเธอล่ะเนี่ย?

--

ฉันจ้องชูสุเกะที่ผลักจากออกห่างจากตัวหลังจากที่พวกนั้นเสิร์ฟกลูเต็นให้เรา มาทัศนศึกษาที่โรงเรียนมัธยมปลายที่มีแต่อาหารมังศวิรัติแท้ๆ จะเสิร์ฟสลัดแทนไม่ได้รึไงเนี่ย?

ฉันกินอย่างชืดชา เมื่อถึงเวลาของหวานก็สั่งเค้กแครอทไป ฉันกวาดตามองไปทั่วห้อง สังเกตว่าแทบทุกคนก็สั่งเค้กแครอทแทนที่จะเป็นเค้กมิ้นท์กันทั้งนั้น

ยกเว้นคิโชวอินที่มีเค้กสีฟ้าผิดปกติวางอยู่ตรงหน้า

ไอ้ของพิลึกนั่น...มันอะไรวะ...

ชูสุเกะก็เห็นเหมือนกัน เพราะเมื่อมองนั่นมองไป ก็ทำหน้าเหมือนแหยงๆ อาห์ ใช่ ชูสุเกะเกลียดมิ้นท์ ถึงยังงั้นก็เถอะ กระทั่งตอนที่เราทาน ชูสุเกะก็ยังไม่หยุดมองยัยนั่น

...หืมมม หมอนี่ดูน่าขยะแขยงชะมัด มองยัยนั่นแบบนั้นอะ

--

เมื่อการทัศนศึกษาจบลง ฉันก็ได้รู้เรื่องน่าเหวอบางอย่าง

คิโชวอินตกเป็นเหยื่อของปัญหาได้ง่ายมาก

แรกสุด แรกสุดก็น้ำจากสไลเดอร์ จากนั้นยัยนั่นก็ปวดท้อง เลยต้องนั่งพักตลอดทริป แล้วก็อย่างอื่นอีกสองสามอย่าง น่าสงสารเป็นบ้า...

"โอ้ มาซายะ เป็นไงบ้าง" ชูสุเกะร้องทันทีที่เข้ามาในห้อง
"...นายพูดถูกชูสุเกะ ยัยนั่นโคตรประหลาด"
"หา?" ชูสุเกะเลิกคิ้วมองฉัน จัดผมแล้วมองฉันอีกทีด้วยท่าทางสับสน "ใครน่ะ?"

"ไม่มีอะไร" ฉันบอกปัด แล้วหันไปเล่นเกมต่อ หมอนั่นถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วออกไปซื้อเครื่องดื่ม

ฉันกดพอสเกมเมื่อรู้ว่าเขาเดินออกไปไกลพอแล้ว ช่วยไม่ได้นี่นา ฉันต้องสงสัยอยู่แล้ว ทำไมชูสุเกะถึงมองยัยนั่นตลอดขนาดนั้นล่ะ?

"ทำตัวแปลกทุกทีที่พูดถึงยัยนั่นเลยนะ..."

---

จบ

69 Nameless Fanboi Posted ID:e/pIQdif.A

ในมโนกู มาซายะไม่ใช่คนสุภาพ ก็ไซซายะนี่นา Y_Y!

ถ้าแปลไม่ถูกใจกุขออภัย

70 Nameless Fanboi Posted ID:R+YVQER2Fp

>>67-68 ทำไมตอนสุดท้ายมันดูวายแปลกๆวะ....

71 Nameless Fanboi Posted ID:e/pIQdif.A

>>70 มึงอะคิดม้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

72 Nameless Fanboi Posted ID:+AUjYUidro

>>70 วายยังไงเหรอ ไม่รู้จริงๆ

73 Nameless Fanboi Posted ID:PQ/FxSb9wQ

>>72 มันเหมือนไซซายะหึงจอมมารอ่ะมึ้งงงงง

74 Nameless Fanboi Posted ID:8j8VTzM8HJ

>>67 ขอบคุณสำหรับการแปลค่า กูรักมึงนะ มาให้กอดหน่อย
แต่จริงๆกูก็แอบสงสัยนะ แม่มาซายะดูไม่ค่อยสนับสนุนยูริเอะเท่าไหร่เลย เห็นลูกชายไปตื๊อๆเขา แสดงออกโต้งๆว่าชอบ มาดามยังจะเลี้ยวมาหาเรย์กะที่นานๆครั้งจะได้เจอ แล้วก็คะยั้นคะยอให้ไปเล่นที่บ้านหรือไปร่วมงาน เป็นเพราะอายุที่ห่างกันหรือยูริเอะแสดงออกชัดเจนว่าไม่ได้คิดอะไรกับมาซายะมากไปกว่าน้องหว่า คิดว่าลูกชายต้องถูกหักอกแน่ๆเลยไม่สนับสนุน??

>>70 ได้ฟีลประมาณแฟนหนุ่มของตัวเองกำลังมีกิ๊กแล้วจับพิรุธได้สินะ 5555555555

75 Nameless Fanboi Posted ID:UPQR.Y5VfJ

>>74 กูว่าท่านแม่ไม่น่าสนับสนุนนะ ความห่างของอายุก็เรื่องนึง ท่านแม่ก็อาบน้ำร้อนมาก่อน น่าจะรู้ว่ามันยากมากๆ ที่ปั๊บปี้เลิฟของเด็กอนุบาลจะเป็นจริงอะ

76 Nameless Fanboi Posted ID:dd5qCZH0Xk

>>74 ท่านแม่อาจจะมองว่ามาซายะเป็นแค่น้องชายที่เป็นซิสค่อนก็ได้ แบบไม่ทันได้คิดว่าลูกตัวเองจะมีเฟิร์สเลิฟตอนอนุบาล 55555555

77 Nameless Fanboi Posted ID:Q.vNIxH4vc

>>76 กุว่าท่านแม่รู้ แล้วรู้ด้วยว่ายูริเอะเห็นเป็นแค่น้องชาย เลยพยายามจับคู่ลูกชายกะเรย์กะ นี่ถ้าคนเขียนไม่ใช่ท่านฮิ เรย์กะคงป๊อปไปละ ตามสูตรสำเร็จนิยายย้อนมาเป็นนางร้าย มึงดูบากะริน่าสิ แต่แบบ ท่านฮิเขียน เลยถถถถถถ คานซังคาบไปแดกจ้า

78 Nameless Fanboi Posted ID:m7y+hFLkc1

>>74 กูเดาว่า ท่านแม่คิดว่ามาซายะเป็นแค่เด็กผช.ที่ติดพี่สาว(มากๆ)อะ ใครเข้าหาก็หวงมากเป็นเรื่องปกติของน้องชายงี้ แล้วมาซายะก็แนวพี่ค้าบๆ เดินตามยูริเอะต้อยๆ มาตั้งแต่เด็ก ท่านแม่ไม่น่าไม่คิดหรือเชื่อหรอกว่าเจ้าตัวชอบมากๆ จนจริงจังสุดๆ น่ะ
เป็นกูกูก็ไม่เชื่อ๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕

79 Nameless Fanboi Posted ID:tzxlzmUMMd

กูว่าช่วงแรกๆอย่างอนุบาล ประถม มาดามอาจจะคิดว่ามาซายะติดยูริเอะแบบพี่สาวน้องชายเฉยๆ แต่พอโตขึ้นม.ต้นไรงี้มาดามน่าจะรู้แล้วล่ะว่าลูกชายจริงจังกับสาวคนนี้ แต่มาดามก็ไม่ได้สนใจ เอาแต่ชวนเรย์กะไปบ้าน ไปงานเลี้ยง ดูท่าทางอยากจับคู่เรย์กะมาซายะมากกว่า กูคิดว่าเพราะอายุเท่าๆกัน ดีกว่ายูริเอะที่อายุมากกว่า ยูริเอะคงแสดงชัดเจนว่าคิดกับมาซายะแค่น้อง แต่คนจริงจังมีแค่มาซายะคนเดียว แล้วก็ไม่รู้ว่ากูคิดไปเองรึเปล่าว่ามาดามดูไม่ค่อยชอบยูริเอะยังไงชอบกล แต่กูว่าถ้าไม่ชอบก็น่าจะมาจากตอนมาซายะไปฆ่าตัวตายมั้ง ไปทำลูกชายนางเฮิร์ต แล้วคงไม่ชวนเรย์กะไปนั่นนี่บ่อยๆ ถ้าสนับสนุนความรักของลูกนางคงไม่ชักนำเอาสาวอื่นเข้ามาในชีวิตลูกแหงๆ

ปล. IP กูโดนแบนอีกแหล่ว ฮ่วย

80 Nameless Fanboi Posted ID:ujMl/HR7tb

>>79 กูว่าคนขับรถนี่แหละเป็นหูเป็นตาให้เหล่าผปค.อย่างดี มาดามครับ วันนี้คุณชายพาคุณหนูคิโชวอินแวะไปที่สถานีสองต่อสองครับ มาดามครับ วันนี้คุณชายพาคุณหนูไปสถานที่ร้างตาคน (ซุปเปอร์แถวชานเมือง) ครับ มาดามฟังแล้วเลยออกไฟเขียวเป็นคามิโอชิให้ท่านเรย์กะอย่างแรง

81 Nameless Fanboi Posted ID:tzxlzmUMMd

>>80 อันนั้นมันพักหลังๆนี่ แต่ช่วงแรกๆประถมถึงม.ต้นที่เรย์กะไม่เฉียดใกล้สองหนุ่มคนนี้ มาดามก็ยังเป็นเจ๊ดันเรย์กะให้ลูกชายตั้งแต่ต้น มาชงให้เป็นทามะคัตสึระมั่ง ชวนกินมื้อค่ำมั่ง ชวนมาเล่นที่บ้านมั่ง ชวนเข้าคอร์สอดอาหารบ้าง//ขีดฆ่า ท่าทางนางอยากให้เรย์กะเป็นลูกสะใภ้จะแย่อยู่ละ หรือแปลกใจที่มาซายะตามไปที่โรงเรียนกวดวิชาตอนประถม ทั้งที่ไม่เคยตามใครนอกจากยูริเอะ มาดามเลยสนใจ แถมเห็นว่าฐานะ ชาติตระกูลอะไรก็พอๆกัน เลยอยากดันให้เด็กคนนี้มาเป็นสะใภ้

82 Nameless Fanboi Posted ID:SUm1eEOfny

KY นิด วันนี้เจอคนแชร์เรื่องเชื้อ H. pyroli มาเต็ม feed เลย คิดถึงจริงๆ มาก่อนกาลตลอดเลย ท่านเรย์กะกู

83 Nameless Fanboi Posted ID:tzxlzmUMMd

>>82 เชื้อที่ปนเปื้อนมาจากการทานของดิบจากมือคนที่ไปสัมผัสอุจจาระมาแล้วเอามาจับของกินใช่มะ 5555555

84 Nameless Fanboi Posted ID:Q.vNIxH4vc

>>83 นั่น E.coli หรือ Salmonella

Pyroli นี่เชื้อที่ทำให้เกิดโรคกระเพาะ

85 Nameless Fanboi Posted ID:mRDXFpSk/y

>>81 แล้วดูเหมือนผู้ปกครองที่กล้ามาคุยกับท่านเรย์กะบ่อยๆนี่ก็แค่บ้านคาบุรากินะ บ้านเอ็นโจที่ว่าดังเหมือนกัน เวลาไปงานสังคมไม่ค่อยเห็นบ้านเอ็นโจมาทักบ้านคิโชวอินเลย

หรือท่านเรย์กะแค่ไม่ยอมออกงาน เราเลยไม่รู้เรื่องส่วนนนี้....

กูชอบกาวนอกตรงเอ็นโจคิดว่า คนที่มีสิทธิ์คุยกับเรย์กะได้สบายๆนี่มีแค่ตัวเองกับคาบุ รู้สึกมันเกี่ยวกับฐานะทางบ้านไรงี้อีก เหมือนผชคนอื่นใน Pivoine ก็ไม่ค่อยมีใครกล้าคุยกับท่านเรย์กะยกเว้นพวกรุ่นน้อง 5555 ถ้าในอฟช(กรณีเอ็นโจเป็นพระเอก) พระเอกคิดแบบนี้ก็ควรจะรุกแล้วป้ะ ช้ามากเดี๋ยวคนอื่นทำคะแนนนำ
แต่ในมุมมองกู กูว่าที่คนอื่นไม่ค่อยกล้าเข้าหาเพราะท่านเรย์กะอยู่แต่กับกลุ่มผู้หญิง แล้วดูเป็นคนเรียบร้อยอีก

86 Nameless Fanboi Posted ID:JfgnOpo.8G

>>85 กูว่าเรย์กะไม่ค่อยออกงานเลยไม่เห็นตรงส่วนนั้นมั้ง แต่ท่านแม่ที่ออกงานประจำก็คงจะพบมาดามเอ็นโจในงานเลี้ยงหลายครั้งอยู่ ถึงได้เอาเรื่องลูกสาวทำอาหารเก่งไปโม้ให้มาดามฟังได้

บ้านเอ็นโจกูว่าก็แปลกๆอยู่นะ เพราะไม่ค่อยจะเห็นบ้านนี้จัดงานอีเวนท์อะไรแบบบ้านคาบุเลย ยกเว้นวันเกิดยูกิโนะ มีแต่ไปร่วมงานเลี้ยงชาวบ้านตลอด บ้านคาบุจัดมันทุกเทศกาล คริสต์มาส ทานาบาตะ ชมหิ่งห้อย ชมซากุระ ชมจันทร์ งานไดเอทอดอาหาร หรือธุรกิจคนละแนวกัน บ้านคาบุทำกิจการโรงแรมเลยต้องกระตุ้นการขายด้วยการจัดอีเวนท์บ่อยๆ หรือจริงๆจัดงานแต่เจ้าแม่ปฏิเสธบัตรเชิญไปหมดทุกงานวะ ออกแค่งานสำคัญงานใหญ่ๆจริงๆ 555555

แต่เรื่องรุก กูว่าฮีก็รุกมากขึ้นหลังจากยูกิโนะเข้ามานะ ประมาณว่าได้ช่องทางในการคุย ส่งหิ่งห้อยมาให้ แล้วมามากขึ้นอีกตอนมาเป็นแก๊งค์สามช่า จากเมื่อก่อนพูดยังไม่ถึงสิบคำนุ้งต่ายก็วิ่งหนี ไปๆมาๆไปกินข้าวกันสามคนเฉย แอบดูมือถือเขามั่งล่ะ ตามติดไม่ปล่อยไปนั่งเป็นเพื่อนสาวอีกคนของเขา อยากรู้เขาจะไปไหนทำอะไร กูว่าฮีก็อยากเข้าหานะ แต่ติดตรงไม่ค่อยได้รับความร่วมมือเท่าไหร่เลยดูไม่คืบหน้าอะไรเลย ผ่านกันไปแบบแห้งๆอย่างนี้ล่ะ 555

87 Nameless Fanboi Posted ID:aaDWte+XyE

>>86 อย่าว่าแต่บ้านเอ็นโจไม่ค่อยจัดงานอีเว้นท์เลย บ้านคิโชอินก็พอกันแหละเท่าที่อ่านมาจัดแค่ครั้งเดียว(ตอนที่ริรินะตบพุงเรกะอวดคาบุ)
หรือว่าจริงๆก็จัดแต่นางไม่ได้เข้าร่วมก็ไม่รู้ว่ะ

88 Nameless Fanboi Posted ID:mXKmq.rSu/

>>87 ถ้าที่บ้านจัดจะไม่เข้าร่วมก็คงไม่ได้นะ คิดว่ามาดามคงชอบเล่นใหญ่มากกว่า คาบุนี่ได้ความเล่นใหญ่มาจากแม่นี่เอง

89 Nameless Fanboi Posted ID:DCD/JdvNLz

>>88 กูว่าน่าจะเล่นใหญ่ทั้งพ่อทั้งแม่หรือเปล่านะ ท่านแม่ชอบออกงานสังคมแพรวพราวเป็นเจ้าภาพ ส่วนท่านพ่อ จะเก็บหนังสือเก่าทั้งทีก็ต้องไปตามหาด้วยตัวเอง สร้างคลังหนังสือหายาก ถึงขนาดมีหนังสือหนังมนุษย์....

90 Nameless Fanboi Posted ID:KXElmPfPab

>>87 ถ้าบ้านคิโชวอินจัดงาน นางก็ต้องเข้าร่วมอยู่แล้วเพราะเป็นลูกเจ้าภาพ แบบที่คาบุโดนแม่พาเข้าทุกงานที่แม่จัดขึ้น ขนาดงานลดความอ้วนยังพาลูกชายไปหาคุณหญิงคุณนายทั้งหลายเลย แต่กูคิดว่านานๆครั้งบ้านคิโชวอินจะจัดงานมากกว่า แบบงานสำคัญจริงๆอย่างงานบริษัทอะไรแบบนั้น

91 Nameless Fanboi Posted ID:7jMq2FvUbK

>>90 วันหยุดท่านพ่อก็ต้องรีบกลับบ้านไปเอาใจลูกสาวไง ลูกน้องคงมองด้วยสายตาอบอุ่นว่าประธานคิโชวอินเป็นคนรักครอบครัวจริงๆเลย

92 Nameless Fanboi Posted ID:D4LhTxuNrD

>>91 ในสายตาของคนอ่านอย่างกู ก็มองว่าครอบครัวคิโชวอินนี้รักกันนะ ปกติในการ์ตูนเรื่องอื่นๆ ไม่ค่อยจะมีฉากที่กินข้าวเย็นด้วยกัน ตามสไตล์บ้านคนรวยที่จะค่อนข้างยุ่ง แต่ครอบครัวนี้มีบ่อยจนเรย์กะค่อนขอดว่าท่านพ่อว่างงาน ยิ่งฉากที่ท่านพ่อ ท่านแม่ ท่านพี่ กลับจากท่องเที่ยวให้ตรงกับวันที่เรย์กะกลับจากทัศนศึกษานี่ ยิ่งเห็นชัดเลย

93 Nameless Fanboi Posted ID:NUZCqIEEXy

ท่านแม่ต้องคอยจับตามองลูกสาวเพราะกลัวลูกสาวจะทำอะไรบ้าๆ บอๆ
ท่านพ่อเป็นดอเธอร์ค่อน
ท่านพี่เป็นซิสค่อน

เดี๋ยวนะ นี่มันบากะรีน่าเวอร์ชั่นฮาเร็มอาหารซังและคานซังนี่นา!!!

94 Nameless Fanboi Posted ID:7jMq2FvUbK

>>92 รักกันสิ สนิทกันมากขนาดที่ถามลูกสาวที่คิ้วแหว่งว่าลูกละเมอขึ้นมาโกนเองรึเปล่า 5555555

95 Nameless Fanboi Posted ID:g6DkafKlnH

ไม่ได้เข้านาน ตอนใหม่ยังไม่มาอีกหรอ เขาเทแล้วป่ะเนี่ย

96 Nameless Fanboi Posted ID:JY.hLcxBwz

>>95 บัดสี! ตบปากตัวเองเดี๋ยวนี้นะ!

97 Nameless Fanboi Posted ID:VNyGv9VrW1

ใจเหี่ยวไปหมดแล้ว ทำไมตอนไหนยังไม่มาซะที

98 Nameless Fanboi Posted ID:e87oMMuUsg

>>95 ตบปากตัวเองตามอายุเลยนะ!

99 Nameless Fanboi Posted ID:KXElmPfPab

บางทีแกกลับมางวดนี้อาจจะลงมารวดเดียวสามสิบตอนเลยก็ได้นะ//สูดกาวกลิ่นดอกกุหลาบ

100 Nameless Fanboi Posted ID:7fg59G9DVM

>>99 ลงหนึ่งตอนหายสามสิบวันต่อมากกว่า

101 Nameless Fanboi Posted ID:zGt0UNbCNs

ในเรื่องนี่ บ้านคิโชวอินลุ้นลูกสาวกับคาบุมาก กูสงสัยว่าทำไมเค้าไม่ลุ้นท่านเรย์กะกับเอ็นโจหว่า คือ ตอนเรย์กะไปบ้านก็ดีใจระดับหนึ่ง แต่ไม่ค่อยออกหน้าออกตาเท่าไหร่

102 Nameless Fanboi Posted ID:NUZCqIEEXy

>>101 อาจจะเพราะทางนั้นเล็งยุยโกะไว้อยู่แล้ว แถมฝั่งคาบุรากิเองก็แสดงออกชัดเจนว่าต้องการผูกสัมพันธ์กับบ้านคิโชวอิน เลยไม่อยากไปขัดป่ะ?

อีกแง่นึงคือ เพราะเซ็ตติ้งต้นฉบับมันเป็นอย่างนั้นไงล่ะ!

103 Nameless Fanboi Posted ID:NUZCqIEEXy

แก้เคล็ดด้วยการอู้งานมาแปล
<<Fan Fic : เอ็นโจ ชูสุเกะ PoV Chapter 11 >>
พอเปิดเทอมอีกครั้ง ผมก็หมดเรี่ยวแรงจากการใช้เวลาตลอดช่วงปิดเทอมไปกับการเข้าร่วมงานสังสรรค์ที่ครอบครัวจัดขึ้น คอยดูแลน้องชาย พูดคุยกับเหล่าสตรีที่มาสมัครเป็นตัวเลือกเจ้าสาว และเรียนพิเศษเพื่อเตรียมสอบ สำคัญที่สุดคือยุ่งวุ่นวายกับงานกีฬาสีที่กำลังจะมาถึง
นั่นหมายความว่า ผมต้องคอยแนะนำเจ้าลูกชาย(ปลอมๆ) ไม่ให้เขาเผลอฆ่าใครไปโดยไม่ตั้งใจระหว่างค่ายฝึกโหดแบบสปาตั้น

ผมจิบน้ำผึ้งมะนาวเย็นระหว่างมองมาซาเยอะเพิ่มน้ำหนักตุ้มถ่วงขาเข้าไปอีกปอนด์สองปอนด์ของเหล่าม้าแล้วบังคับให้พวกนั้นวิ่งต่ออีกห้ารอบ รอบๆ คฤหาสน์คาบุรากิ ซึ่งคิดง่ายๆ ก็ใหญ่กว่าคฤหาสน์หลักของบ้านผมประมาณสองเท่า

"มาซายะ ไม่มากไปหน่อยเหรอ?" ผมถามพร้อมกับดึงหมวกลงมาบังแดด เดินออกมาจากใต้ร่มเงาไปหาพวกเขา โอ้ววว ร้อนชะมัด ผมว่าพวกม้าจะต้องผิวไหม้แหงๆ ออกจะแปลกใจด้วยว่าทำไมไม่มีใครเป็นลมแดดจนถึงตอนนี้

"อยากฝึกด้วยมั้ย?" มาซายะพ่นลมออกจากจมูกแล้วเช็ดเหงื่อออกจากหน้า พวกเขาฝึกกันมาตั้งแต่หัววันจนถึงป่านนี้ ทำให้เปียกเหงื่อเสียจนเสื้อกลายเป็นสีดำ แม้แต่มาซายะก็ยังซ้อมไม่หยุดจนเหงื่อแตกพอกัน "ไม่ล่ะขอบใจ ฉันมีความสุขดีกับการดื่มน้ำเย็นๆ ในร่มเงาน่ะนะ"

"ไอ้เวรเอ๊ย"

"เผด็จการ" ผมยิ้มให้เขาที่ไอค่อกแค่ก จากนั้นก็ส่งผ้าเช็ดน้ำและขวดน้ำไปให้ "ไม่คิดว่าควรจะพักแล้วรึไง?"

"อีกสองรอบค่อยพัก"

"มาซายะ เดี๋ยวพวกเขาจะเป็นลมเอานะ แถมบางคนก็ต้องกลับบ้านก่อนห้าโมงด้วย จำได้มั้ย?" ผมดุเมื่อเห็นกลุ่มเด็กผู้ชายปรากฏตัวขึ้นมาอีกครั้งจากระยะไกล พวกนั้นแทบจะหมดแรงวิ่งต่อ หนึ่งในนั้นเหมือนจะถูกเพื่อนอีกคนลากมา น่าสงสารชะมัด...

"ก็ได้..." เขาถอนหายใจพร้อมกับเช็ดเหงื่อ ดื่มน้ำอีกเล็กน้อยแล้วส่งทั้งผ้าขนหนูและขวดน้ำคืนให้ผม แล้ววิ่งไปหาพวกม้า ที่ดูเหมือนจะหมดแรงวิ่งกันไปแล้ว

ผมมองพวกนั้นล้มแหมะลงบนพื้น ส่งเสียงครวญครางอย่างเจ็บปวดทันทีที่มาซายะจากไปเพื่อเอาน้ำ ผมเดินไปหาพวกเขา มองอย่างใจเย็น

"ไม่ต้องห่วงนะ วันนี้พวกนายฝึกเกือบเสร็จแล้วล่ะ"
"เกือบ? ตอนนี้กี่โมงแล้ว?!"
"ประมาณบ่ายโมงน่ะ"
"อ๊ากกก...บ้าเอ๊ย...ฉันขยับขาไม่ได้แล้ว..."

ผมยิ้มอ่อน มาซายะ ทำอะไรลงไปน่ะ? พวกนี้ทุกคนมีกล้ามแล้วนะ...ผมยิ้มอย่างสงสารเมื่อเห็นมาซายะกลับมาพร้อมกับขวดน้ำหลายขวด เขาส่งมันให้พวกม้าที่ดื่มอย่างกระหาย

"ถ้าเป็นแบบนี้ เราต้องชนะการแข่งขี้ม้าส่งเมืองแน่" มาซายะพูดอย่างมั่นใจ ผมจ้องมองเหล่าม้าที่ดูฮึกเหิมดุดัน แต่เหนื่อยจนหมดสภาพ

"แน่นอนล่ะ...แต่จะโอเคจริงๆ เหรอที่นายไม่ได้ฝึกกลุ่มอื่นในห้องด้วยนะ"

"ไม่เป็นไร ฉันแค่ต้องชนะเกมนี้ แล้วห้องฉันก็จะชนะ"

มั่นใจจังนะ ดีจริงๆ

"เราจะเริ่มฝึกเทคนิคกันแล้ว เพราะงั้นนายกลับไปซะ" มาซายะเตือนพร้อมกับโยนขวดน้ำผึ้งมะนาวใส่ ให้ผมรับและถอนใจ "ฉันอุตส่าทำอะไรให้นายตั้งเยอะ แล้วนายก็ทำกับฉันแบบนี้น่ะเหรอ? ไล่ฉันออกจากบ้านอย่างโหดร้ายป่าเถื่อนในวันที่ร้อนขนาดนี้เนี่ยนะ?"

"ไปตายซะ"

"ชิ เป็นเพื่อนที่ดีจริงนะ" ผมแค่นเสียงใส่พร้อมกับดื่มน้ำผึ้งมะนาวไปด้วย ก่อนจะยืนแล้วแล้วกล่าวลาทุกคน

ตอนที่ผมกำลังจะผ่านประตูเข้าไปในบ้านคาบุรากิ ก็รู้สึกว่ามีคนจับแขน พอหันไปก็เจอมาซายะที่รั้งผมไว้ "อะไร?"

"ฉันเพิ่งนึกได้ คิดว่ามีเรื่องที่นายควรจะรู้..."
"หา?" ผมมองมาซายะอย่างงุนงง "เรื่องอะไร?"
"คิโชวอิน"
ผมหรี่่ตาลง หันกลับไปเต็มตัว "เล่าสิ"
"ก็นะ ฉันได้ยินมาจากหัวหน้าห้องอีกที แต่ว่า..."

-

104 Nameless Fanboi Posted ID:NUZCqIEEXy

ในวันกีฬาสี ท้องฟ้าสว่างสดใสเหมาะกับการเข้าสู่สนามรบของจักรพรรดิกับเหล่าม้าศึกเป็นอย่างยิ่ง

เพราะว่ามาซายะลงแข่งวิ่งผลัดด้วย เขาก็เลยฝึกโหดด้วยเหมือนกัน ได้ยินจากแหล่งข้อมูลในห้องเรย์กะมาอย่างนั้นนะ การซ้อมนั้นโหดร้ายสุดๆ มาซายะแทบจะกลายเป็นนายพลที่ย้ำแล้วย้ำอีกให้ทุกคนได้เห็นถึงความสำคัญของการเคลื่อนไหวที่ลื่นไหลและไม่สูญเปล่าแม้แต่นิดเดียว

ช่าย เหมือนที่ผมคิดว่าหมอนั่นต้องพูดเป๊ะๆ

ผมนั่งอยู่ข้างสนาม ดูการของโยนบอลลงตระกร้ากับมาซายะ เรากำลังคุยกันอยู่ มาซายะดูจะมีความสุขกับความสำเร็จในการฝึกฝนเหล่านักกีฬาในห้องตัวเองมาก เป็นจังหวะเดียวกับที่ลูกบอลลอยฝ่าอากาศไปกระแทกใส่หลังหัวใครบางคนเข้า

"โอ๊ย!" ผมหันไปมองต้นเสียงทันที และพบว่าเรย์กะกำลังลูบหัวตัวเองป้อยๆ ที่เท้ามีบอลอยู่สองลูก ผมจ้องเพื่อนร่วมห้องที่กำลังขอโทษขอโพยเธอเป็นการใหญ่

"มาซายะ นั่นใครน่ะ"

"หืม?" เขามองตามปลายนิ้วที่ผมชี้ไป แล้วตอบ "คิดว่าน่าจะเป็นคิชิโดะ เคน อ๊ะ บ้าจริง พวกนั้นทำอะไรเนี่ย? เล่นผิดวิธีนี่!" มาซายะคำรามเมื่อเห็นทุกคนเริ่มปาบอลให้ห่างจากเรย์กะ คือนั่นเป็นโรคกลัวการก่อกวนไรงี้เหรอ? พวกนั้นกลัวโดนเรย์กะเชือดถ้าปาบอลไปโดนเธอใช่ปะ?

ผมมองพวกผู้เล่น เห็นบางคนมองมาทางมาซายะอย่างหวาดกลัว เดี๋ยวนะ อย่าบอกนะว่า...

ผมชี้ให้มาซายะดูบอร์ดคะแนน "ดูนั่นสิ"

สีหน้าของมาซายะยิ่งแย่ลงกว่าเดิมเมื่อเห็นว่าห้องเขาเสียคะแนนไปแค่ไหน ระหว่างที่เขาหมกมุ่นอยู่กับการดูคะแนน ผมก็หันไปสนใจพวกผู้เล่นจากห้องเขา ใช่แล้ว ผมคิดถูก เพราะมาซายะนั่นแหละ

"อย่างน้อยเกมต่อไปก็เป็นแข่งขี่ม้าส่งเมืองนา"

"...ถูกของนาย" เขาตอบเสียงฮึ่มฮั่ม ปีนลงจากที่นั่ง ผมมองไปยังนักเรียนในห้องเขาอีกครั้ง บางคนเล่นแย่ลงกว่าเดิมอีก เหมือนว่าพอมาซายะอารมณ์ไม่ดีจะส่งผลกระทับต่อฝีมือการเล่นนะ

สุดท้ายห้องมาซายะก็เล่นได้ไม่ดีเท่าไหร่ ตอนที่พวกเขากลับมา มาซายะก็นั่งรอพร้อมสีหน้าดำมืด โชคดีล่ะ

-

ผมเดินไปรอบๆ ก่อนจะบังเอิญพบกับคนที่คิดว่าน่าจะชื่อคุณคาซามิที่เป็นเพื่อนของเรย์กะ ก็เลยเล่าเรื่องอุบัติเหตุที่เรย์กะโดนปาบอลใส่หัวให้เธอฟังพร้อมชื่อตัวการ ดวงตาของคู่นั้นทอวาบเป็นประกายกระหายเลือด แล้วเธอก็ขอบคุณผม ก่อนจะวิ่งจากไป

แล้วผมก็รู้มาว่าหลังจากนั้นไม่นาน คุณคิชิโดะก็ถูกกลุ่มองครักษ์ปกป้องจักรพรรดินีรุมล้อม เมื่อเขากลับมาถึงห้องเรียน สีหน้าก็ซีดขาวราวกับกระดาษ ทว่าไม่ยอมเล่ารายละเอียดให้ใครฟังว่าเกิดอะไรขึ้น อืมมม หลังจากนี้ก็ระวังหน่อยล่ะ คุณคิชิโดะ

-

ในที่สุดการแข่งขี่ม้าส่งเมืองก็เริ่มขึ้น

มาซายะที่ปรากฏตัวพร้อมกับเหล่าม้าศึกดูใจเย็น เงาของพวกเขาทาบทับคนอื่นๆ จนมิด ทันทีที่เสียงสัญญาณศึกดังฝ่าอากาศ พวกมาซายะก็เข้าตะลุมบอนกับคู่แข่งทีมอื่นๆ

มาซายะไล่เก็บคู่แข่งไปทีละคน เขาคว่ำคู่แข่งโดยไร้ซึ่งความลังเล แววตาอันตรายปรากฏขึ้นทันทีที่เขาสั่งม้าให้พุ่งใส่นักแข่งคนอื่นในสนามรบ

ผมกวาดตามองทั่วสนาม พยายามมองหาคนที่มาซายะพูดถึง

-

"เหมือนคิโชวอินจะให้ความเป็นกันเองกับประธานนักเรียนอยู่ แม้ว่าจะเป็นดูเป็นศัตรูกันอยู่หน่อยๆ ก็เถอะ แต่หัวหน้าห้องเล่าว่าหมอนั่นเคยชื่นชมเธอตอนปีหนึ่ง"

-

ดวงตาผมหรี่ลง ในที่สุดก็เจอหมอนั่นจนได้ เขาอยู่ที่อีกมุมหนึ่งของสนาม ล้มคู่แข่งคนอื่นๆ ได้อย่างรวดเร็วพอๆ กับมาซายะ ก่อนจะมองไปรอบตัวเพื่อหาศัตรู ดูเหมือนใครก็ตามที่ไม่ใช่มาซายะและมิสึซากิจะหวาดกลัวจนพยายามหลบเลี่ยงสองคนนั้น

เมื่อมองไปอีกทาง ก็เห็นเรย์กะกำลังดูการแข่งอย่างตั้งอกตั้งใจ เป็นจังหวะเดียวกับที่ได้ยินเสียงตะโกนและเห็นใครบางคนร่วงพอดี โอ้ นั่นฮารุกิไม่ใช่เหรอ?

ผมเห็นเขาถูกมาซายะคว่ำจนร่วงลงพื้น อืมม ดูเละเทะจริงๆ มาซายะ นายนี่ไม่มีความเมตตาเลยใช่มั้ย...

ความสนใจของมาซายะกลับไปที่สนามรบอีกครั้ง เขาเผชิญหน้ากับประธานนักเรียนคนนั้นจนได้

ผมเห็นเรย์กะยิ้มให้หมอนั่นแล้วก็เริ่มหวังอยู่ในใจว่ามาซายะจะคว่ำหมอนั่นแบบเดียวกัน บังเอิญให้ม้าเหยียบหมอนั่นเลยก็ได้ แต่ดูจะไม่เหมาะสมสินะ

ท้ายที่สุด แม้ว่าจะแข็งแกร่งขึ้นกว่าปีที่แล้ว แต่มิสึซากิก็ร่วงจากม้า พ่ายแพ้ให้กับมาซายะจนได้

-

105 Nameless Fanboi Posted ID:D4LhTxuNrD

>>101 ในเรื่องนี้บ้านคาบุเป็น no.1 ทั้งเรื่องฐานะ และอิทธิพล บ้านคิโชวอินจะลุ้นบ้านคาบุมากกว่าก็ไม่แปลก

แต่ที่สงสัยมากกว่าคือ ระหว่างบ้านเอ็นโจ กับบ้านคิโชวอิน บ้านไหนเป็น no.2 เพราะถ้าอ่านจากมุมมองเรย์กัเอง เหมือนบ้านตัวเองจะด้อยกว่า แต่ถ้ามองจากมุมคนอื่น เหมือนจะมองว่าบ้านคิโชวอินนั้นยิ่งใหญ่มากๆ

106 Nameless Fanboi Posted ID:NUZCqIEEXy

มาซายะขึ้นยืนที่โพเดียมหลังแข่งชนะ และประกาศว่าจะถอนตัวจากการแข่งขี่ม้าส่งเมืองอย่างเป็นทางการ ด้วยชัยชนะที่ได้รับมา กับความเสียใจที่หมอนั่นจะถอนตัว ทำให้เกิดเป็นเสียงเชียร์สนั่นหวั่นไหว ผมปรบมือเบาๆ เมื่อหมอนั่นก้าวลงจากโพเดียมพร้อมถ้วยรางวัลในมือ

"ชนะได้ดี"

"ขอบใจ" มาซายะยิ้มอย่างมีความสุข หนีบรางวัลไว้ใต้แขน นั่นแหละ เขาดีใจที่ชนะมากจริงๆ

ผมมองเขาอย่างเงียบงันขณะที่ครุ่นคิดถึงคำแถลงการณ์ของเขา

ไอ้การ 'ถอนตัว' ที่ว่าเนี่ย คือบ้าอะไรวะ?

-

หลังจบกีฬาสี วันนั้นผมกำลังเดินในโรงเรียน ก็บังเอิญเห็นฮารุกิที่ดูเหมือนกำลังตะโกนใส่เรย์กะอยู่ ผมอยู่ไกลไปหน่อยเลยไม่ได้ยินว่าเขาพูดอะไร แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ทำให้เรย์กะที่เดินจากไปอย่างใจเย็นใส่ใจนัก

"ฮารุกิ" ผมเรียกทันทีที่เข้าถึงตัว สีหน้าของเขาเปลี่ยนมาเป็นว่านอนสอนง่ายทันทีที่เห็นผมและตอบ "สวัสดีครับท่านเอ็นโจ!"

"นายทำอะไรน่ะ ตะโกนใส่รุ่นพี่ในห้องโถงแบบนี้?" ผมมองเขา นิ่วหน้าอย่างผิดหวัง เขามีสีหน้าย่ำแย่ทันที "ผมแค่ต้องการตักเตือนยัยนั่นเท่านั้นเองครับ"

"ตักเตือนเรื่องอะไรกัน? แล้วน้ำเสียงกับคำที่ใช้นั่นคืออะไร? ถ้าพ่อแม่นายรู้ พวกท่านต้องอับอายกับความหยาบคายไร้มารยาทของนายแน่"

"ฮึ่ย...แต่ว่ายัยนั่นพยายามเข้าหาคุณอยู่นะครับ! ไม่เห็นรึไง?!"

-ถ้าเป็นงั้นจริงนะ- "คุณคิโชวอินเป็นคนดีที่น่าเคารพ ฉันจะยินดีมากถ้านายปฏิบัติตัวกับเธออย่างเหมาะสม ไม่ใช่แค่ในฐานะรุ่นพี่ แต่ในฐานะนักเรียนตัวอย่างของซุยรันด้วย" ผมเสริม "และถ้าฉันต้องการเป็นเพื่อนกับเธอ นายควรอยู่ห่างๆ ซะ"

ฮารุกิทำหน้าไม่พอใจ "แล้วคุณยุยโกะล่ะครับ?!"
ผมนิ่งไปชั่วครู่ ก่อนจะมองเขาอย่างใจเย็นพร้อมรอยยิ้มบิดเบี้ยว "คุณยุยโกะน่ะเหรอ? ทำไมล่ะ นั่นก็ไม่ใช่ธุระของเธอเหมือนกัน ฉันจะมองข้ามเรื่องคราวนี้ไปนะฮารุกิ แต่ถ้าฉันเห็นนายตะคอกใส่คุณคิโชวอินอีกล่ะก็ คิดว่าฉันคงจะต้องยกเลิกการสัมภาษณ์ดูตัวกับพวกอุริวแล้ว"

นั่นทำให้เขาหุบปากฉับ แม้ว่าสีหน้าจะเลวร้าย แต่ก็พยักหน้าอย่างเชื่อฟัง

"ฉันจะไม่บังคับให้นายไปขอโทษเธอ เพราะมั่นใจว่านายคงไม่ทำด้วยความจริงใจแน่นอน แต่อย่าทำแบบนั้นอีก" ผมถอนหายใจบางเบาและยักไหล่ "ฉันจะไม่พูดซ้ำเรื่องพวกนี้อีกแล้วนะ เข้าใจไหม?"

"...ครับ ท่านเอ็นโจ"

"ดี" ผมพยักหน้าและเดินจากมา

หลังจากนั้นไม่นานผมก็รู้ว่าฮารุกิโดนนักรบของจักรพรรดินีลากไปคุยด้วยเหมือนกันต่างจากคนอื่นตรงที่เขาดูจะสบายๆ ผมสงสัยนักว่าพวกนั้นเมตตาปราณีกว่าปกติเพราะเขาอายุน้อยกว่ารึเปล่า ไม่งั้นหมอนี่ก็กระโหลกหนาจนไม่รู้ตัวว่าตัวเองจะเจออันตรายได้ขนาดไหน ถ้าเรย์กะรู้สึกไม่พอใจกับสิ่งที่เขาพูดขึ้นมาจริงๆ

ผมค่อนข้างมั่นใจว่าโรงเรียนนี้แบ่งเป็นผู้ติดตามมาซายะ กับผู้ติดตามเรย์กะอย่างละครึ่ง ถ้าผมจะต้องปกป้องเขา น้ำหนักของฝั่งผมจะต้องแบ่งครึ่งกับมาซายะอีกที (ซึ่งผมก็รู้ว่ามาซายะจะไม่เข้ามายุ่งกับปัญหาแบบนี้แน่) ในขณะที่ทางฝั่งเรย์กะนั้นมีทั้งบรรดาอาจารย์ Pivoine และผู้สนับสนุนของเธอเอง รวมถึงญาติและกลุ่มของญาติเธอด้วย ดังนั้นฮารุกิไม่มีทางรอดแน่ถ้ามีแค่ผมช่วยเป็นแบ็คอัพให้เพียงคนเดียว

ผมถอนหายใจอย่างหนักหน่วงขณะที่ดื่มชา แล้วยังเป็นปัญหากับพวกอุริวอีกด้วย...

---

107 Nameless Fanboi Posted ID:NUZCqIEEXy

วันนี้เป็นวันสุดท้ายของมัธยมต้น หลังจากนี้เราคงต้องละทิ้งความสบายๆ ในช่วงวัยเด็กไป แล้วเริ่มเตรียมตัวรับช่วงต่อดูแลครอบครัว เตรียมเข้าสู่โลกแห่งธุรกิจ

มาซายะขึ้นกล่าวคำอำลาในพิธีจบการศึกษา แม้ว่าจะเป็นคนเพี้ยนที่บ้าคลั่งการแข่งขี่ม้าส่งเมือง แต่ก็จัดเป็นนักเรียนที่โดดเด่นที่สุดในรุ่น เช่นเดียวกับที่เป็นหน้าเป็นตาของซุยรันและ Pivoine

เป็นเรื่องหายากพอสมควรที่ Pivoine จะมีใครสักคนที่โดดเด่นขนาดนี้ ดังนั้นแน่นอนว่าโรงเรียนต้องลำเอียงโยนหน้าที่นี้มาให้เขา ผมเดาว่าตอนนี้ประธานนักเรียนนั่นต้องดือดปุดๆ ด้วยความอิจฉาอยู่แน่นอน ยังไงนี่ก็ครั้งที่สามแล้วที่มาซายะโดดเด่นเกินหน้า ต้องรู้สึกไม่ดีแน่ที่ต้องทนกับอะไรแบบนี้

ถึงยังไงมาซายะก็ยังจัดว่าเป็นคาบุรากิ เขาเกิดมาและได้รับการฝึกฝนจนถึงตอนนี้เพื่อรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ในสังคมอย่างสมบูรณ์แบบ คำกล่าวสุนทรพจน์นั้นออกมาดีมากทีเดียว ผมสังเกตว่ามีสาวๆหลายคนมองเขาอย่างชื่นชม ดูเหมือนภาพลักษณ์ของจักรพรรดิแห่งซุยรันผู้แข็งแกร่งจะฝังอยู่ในใจทุกคนไปเสียแล้ว

-

แม้จะเป็นอย่างนั้น แต่มาซายะก็ไม่ได้พูดถึงการแข่งขี่ม้าส่งเมืองแม้แต่คำเดียว แม้ว่านั่นจะเป็นหนึ่งในความโดดเด่นในช่วงชีวิตมัธยมต้นของเขาก็ตาม ท่าทางเขาจะคิดว่ามันเป็นประวัติศาสตร์อันดำมืดและพยายามจะกลบฝังมันอยู่นะ -มาซายะ ไม่มีใครลืมได้หรอกนะ ก็มันมีเขียนอยู่ในหนังสือรุ่นนี่นา...-

-

เมื่อเขาก้าวลงจากโพเดียมก็ถูกรุมล้อมด้วยบรรดาเด็กผู้ชายที่อยากจะเรียนรู้เทคนิคการแข่งขี่ม้าส่งเมืองทันที แม้แต่ฮารุกิที่ถูกคว่ำก็ด้วย นี่พยายามจะสมัครเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งกันอยู่เหรอ? มาซายะจุดกระแสบ้าแข่งขี่ม้าส่งเมืองในซุยรันขึ้นมาใช่มั้ยเนี่ย?

แต่สุดท้ายเขาก็ปฏิเสธทุกคนไปด้วยการบอกว่า "เทคนิคไม่ใช่สิ่งที่จะสอนกันได้ แต่ต้องช่วงชิงมา!"

อะไรวะน่ะ ไอ้งี่เง่า ไม่สิ ไอ้พวกงั่งนี่เป็นโรคคลั่งขี่ม้าส่งเมืองกันทั้งหมดสินะ ผมขยับออกห่างจากพวกเขาเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกมองว่าเป็นพวกเดียวกัน อย่าสนใจผมเลยครับ ผมไม่มีความเกี่ยวโยงใดๆ กับคนพวกนี้แม้แต่นิดเดียว

ใครจะรู้ บางทีอาจมีสักวันที่มาซายะยอมรับฉายาจักรพรรดิเข้าจริงๆ ก็ได้ถึงได้ทำตัวแบบนั้น ผมเคยคิดว่าถ้าเรื่องนี้แพร่ไปในเมืองก็คงน่าขายหน้า แต่ตอนนี้ในโรงเรียนนี้ ท่ามกลางสายตาของทุกคนที่เฝ้ามอง แค่มีความเกี่ยวข้องกับเจ้าพวกนี้ก็ทำให้ผมรู้สึกอายแล้ว...

-

108 Nameless Fanboi Posted ID:NUZCqIEEXy

พอออกจากหอประชุมเราก็ได้รับถ้อยคำแสดงความยินดีจากทุกคนที่รุมล้อม กระทั่งจากผู้ปกครองของเด็กที่เราไม่รู้จักด้วย อันที่จริงก็เดาได้อยู่แล้วว่าต้องเจออะไรแบบนี้ในฐานะผู้สืบทอดสายเลือดของครอบครัวที่มีอิทธิพล ยิ่งกว่านั้น พ่อแม่บางคนก็ยังมาพร้อมลูกสาวตัวเอง พยายามเชิญให้เราไปที่บ้านอีกด้วย แต่มาซายะก็ปฎิเสธแบบไม่ต้องคิด ส่วนผมก็อ้างว่าไม่มีเวลาว่างจะทำอะไรแบบนั้น พวกเขาก็ดูจะผิดหวังกัน แต่เด็กผู้หญิงเหล่านั้นก็ยังกรูเข้ามาขอจับมือด้วยอยู่ดี มีจุดนึงที่ผมถึงกับรู้สึกว่าอยากจะตัดมือตัวเองทิ้งเพื่อให้ความทรมาณนี้จบสิ้นลงเสียที...

ผมสำรวจไปรอบๆ ก่อนจะได้ยินเสียงน่ารำคาญคุ้นหู แต่คราวนี้ดูจะน่ารักมากขึ้นกว่าเดิม เห็นโคะโทกำลังยืนคุยกับเรย์กะและพี่ชายของเธอ

"ยูริเป็นดอกไม้ของริรินะค่ะ!" เธออธิบายอย่างนั้นกับคิโชวอินคนผู้ชาย พอได้ยินคำว่า "ยูริ" มาซายะก็เลยหันไปมองทางเดียวกัน จากนั้นก็เมินเฉยโดยสิ้นเชิงและหันไปจับมือคนอื่นๆ ต่อ

ผมมัวแต่สนใจมองดูพวกเขานิดหน่อย ก็เลยจับมือและกล่าวแสดงความยินดีอย่างใจลอย แล้วพวกที่มาก็เริ่มถ่ายรูปเรากัน ชิ นี่ผมหรือมาซายะบอกตั้งแต่เมื่อไหร่ว่าให้ถ่ายรูปได้น่ะ?

"ท่านเอ็นโจคะ ขออนุญาตให้ดิฉันถ่ายรูปกับท่านได้ไหมคะ?" เด็กสาวคนหนึ่งเดินมาหา ผมเกือบจะปฎิเสธไปแล้ว แต่ว่าเห็นหัวหน้าห้องตามมาพร้อมกล้องถ่ายรูปเสียก่อน ใบหน้าของเขาขึ้นสีเล็กน้อย อ๋า เดี๋ยวนะ หรือว่า... "ฮนดะซังใช่มั้ย ของคุณที่ดูแลผมเมื่อสองปีก่อนนะ"

"เป็นเกียรติอย่างยิ่งค่ะ ขอบพระคุณที่เป็นเพื่อนร่วมห้องที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีนะคะ ท่านเอ็นโจ"

ผมมองหัวหน้าห้องแล้วพูด "คุณหัวหน้าห้อง มาถ่ายรูปด้วยกันสิ?"

เขาสะดุดเล็กน้อยก่อนจะหน้าแดงก่ำ ในที่สุด ด้วยความพยายามให้กำลังใจของผมและฮนดะ เราก็ถ่ายรูปด้วยกันจนได้ ฮนดะดูจะมีความสุข ในขณะที่หัวหน้าห้องส่งเสียงหึ่งๆ แบบตื่นเต้นสุดขีดที่ได้ถ่ายรูปกับคนที่ตัวเองชอบ ยังกับสาวน้อยเลยนะ ว่าแล้วก็นึกขึ้นได้ เห็นยูริเอะบอกว่าจะไปแสดงความยินดีที่บ้านมาซายะนี่นา

ผมหลบออกมาจากฝูงชนได้สำเร็จในอีกประมาณเกือบชั่วโมงหลังจากนั้น ยังมีนักเรียนอีกหลายคนที่ยังอยู่ต่อเพื่อถ่ายรูป ผมเลยคว้ากล้องถ่ายรูปของตัวเองจากมือผู้ช่วยแล้วกลับ ถ่ายรูปกับคนอื่นอีกคนสองคน แล้วมาซายะกับผมก็บังเอิญเจอเข้ากับรุ่นพี่ที่สนิทเข้าจนได้ ดังนั้นเลยต้องถ่ายรูปกับพวกเขาเช่นกัน

ผมกวาดตามองผ่านทุกคน กระทั่งถึงทางออกโรงเรียนอย่างเงียบเชียบ ดูต่ออีกนิดหน่อยตอนที่เห็นรถของตระกูลคิโชวอินค่อยๆ จางหายไปตามระยะทาง

ผมถอนหายใจ ตัดสินใจกลับเข้าไปในหอประชุม จังหวะนั้นก็ได้ยินเสียงเรียกจากด้านหลัง

"ชู! ยินดีที่จบการศึกษานะ!"
"อาห์...คุณยุยโกะ ขอบคุณที่มานะ" ผมยิ้มขมเมื่อเธอเดินเข้ามาหา เธอถักเปียข้างเข้ากับชุดเดรสสีขาว เธอยื่นช่อดอกไม้มาให้ผมพร้อมรอยยิ้มสุภาพ ผมมองมันคร่าวๆ เห็นว่าเป็นดอกแอนนีโมเน่กับสเตฟาโนไทส์
ผมมองหน้าเธอ แล้วยิ้ม "ขอบใจนะ"

เธอยิ้มหวานตอบ "ไม่เป็นไร วันนี้ฉันไปส่งเธอเองนะ โอเคมั้ย"

พูดแบบนั้น แล้วเธอก็พาผมกลับบ้าน เธออยู่ทานข้าวเย็นด้วยไม่ได้เนื่องจากมีแพลนไว้ก่อนแล้ว แต่ก็สัญญาว่าจะมาร่วมงานเลี้ยงฉลองที่พ่อแม่ผมจะจัดขึ้นในวันพรุ่งนี้

ผมมองช่อดอกไม้แล้วโยนมันลงบนโต๊ะ คำรามเสียงหนัก แอนนีโมเน่กับสเตฟาโนไทส์เหรอ? นี่เธอคิดว่าเราหมั้นกันเรียบร้อยแล้วรึไง?

ผมถอนหายใจ นวดขมับตัวเอง

ระหว่างที่กำลังคิดว่าจะเอายังไงกับช่อดอกไม้ที่ยุยโกะให้ โทรศัพท์ผมก็ร้องเตือนว่าผมได้รับข้อความ

เป็นข้อความจริงหัวหน้าห้อง เขาส่งรูปเรย์กะที่ถือดอกไม้แล้วโพสต์ให้กล้อง เธอยิ้มกว้างอย่างมีความสุข

ถัดมาก็เป็นข้อความที่พิมพ์มาว่า "ขอบคุณสำหรับภาพคู่กับคุณมิฮารุ!"

ผมมองดูภาพสักพัก ก่อนจะเซฟลงเครื่อง

อืมม เหมือนว่าคำสาปโชคร้ายของผมจะบางเบาลงในวันนี้นะ กรรมดีมีอยู่จริง!

---
จบไม้ 11

stephanotise สเตฟาโนไทส์ มีชื่อภาษาไทยว่า ดอกชะลูดช้าง
อยากจะแปลแบบนี้เหลือเกินนนน แต่เดี๋ยวมันจะฮา บ้าเอ๊ย
555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555

109 Nameless Fanboi Posted ID:NUZCqIEEXy

>>105 ฐานะสามบ้านนี้น่าจะพอๆ กันหมดรึเปล่า อาจจะเทียบกันไม่ได้เพราะธุรกิจคนละทางกัน?

หรืออาจจะแบบ บ้านนี้รวย บ้านนี้เชื้อสายเก่าแก่ บ้านนี้ขุนนางเก่า ไรงี้ เพราะดูจากตอนของพวกนักเรียนคนอื่นๆ จะยกให้สามคนนี้พอๆ กันนะ

แต่คาบุรากิดูจะอยู่สูงสุด ส่วนคิโชวอินกับเอ็นโจอยู่เยื้องลงมานิดหน่อย เพราะไซซายะมีความดุเดือดเลือดพล่านให้ทุกคนเห็นมาตั้งแต่เล็กแต่น้อยในกรณีความหัวรุนแรงที่แสดงออกเวลาเจอเรื่องยูริเอะ บวกกับความชอบเล่นใหญ่ของบ้านคาบุรากิด้วย

110 Nameless Fanboi Posted ID:zGt0UNbCNs

>>103-108 แต๊งกิ้วมากโม่ง กู๊ดจ๊อบ!

เอ็นโจ ถ้าจะยิ้มขมหน้าขื่นทุกครั้งที่ยุยโกะออก เปลี่ยนคนไม่ดีกว่าเหรอ

โม่ง อย่าแปลชื่อดอกไม้เลย เห้มาก กุอ่านแล้วเกือบสำลัก จากที่ดราม่า ๆ แม่งฮาเลย

111 Nameless Fanboi Posted ID:g6DkafKlnH

>>98 แปะ แปะ แปะ แปะ แปะ ตบปาก5ที โอเคคร่ะ

กะ ก็ ข่าวคราวเงียบหายเกินครึ่งปีแล้วนี่นา TTvTT

112 Nameless Fanboi Posted ID:NUZCqIEEXy

เพิ่มเติมข้อมูลเรื่องภาษาดอกไม้ เพื่อเติมเชื้อไฟให้หมั่นไส้ยุยโกะ (กูหมั่นเอง)

Anemone เป็นชื่อทางฝรั่งเศส ส่วนทางอังกฤษเรียก Windflower
ภาษาดอกไม้แปลว่า "ความคาดหวัง" เลยถูกนำมาใช้เป็นสัญลักษณ์ของการมีอนาคตร่วมกัน นอกจากนั้นยังหมายถึงความโชคดี การปกป้องจากภยันตรายด้วย ส่วนในญี่ปุ่น ดอกอาเนโมเน่หมายถึงความจริงใจ ความรักที่ไม่จืดจาง

ความหมายอีกทางคือการถูกทอดทิ้งและสิ้นหวัง ก็เลยมักจะถูกนำมาใช้เพื่อแสดงถึงการให้กำลังใจ ให้มีความหวังด้วย

Stephanotis (ชะลูดช้าง หรือ ซ่อนกลิ่นเถา) มีความหมายว่าชีวิตคู่(แต่งงาน) ที่เต็มไปด้วยความสุข เลยมักเป็นตัวเลือกหลักของช่อดอกไม้แต่งงาน

113 Nameless Fanboi Posted ID:KXElmPfPab

>>103-108 ขอบคุณเพื่อนโม่งที่แปลค่ะ รักมึงนะ
กูขำชื่อดอกไม้ จากที่ดราม่านี่แม่ง.....สำลักน้ำเลยกู 5555555555555555

เห็นในตอนมียอมรับเรื่องฉายาจักรพรรดิ จะว่าไปเรย์กะกับเอ็นโจรู้ฉายาที่ตั้งให้ตัวเองกันใช่มั้ย จักรพรรดินีกับองค์ชายน่ะ

114 Nameless Fanboi Posted ID:PkJIXCFdez

>>103-108 รักมึงงง มาจุ๊บโม่งที

ส่วนชื่อดอกไม้ดีแล้วที่ไม่แปล ขืนแปลมาด้วยมันจะโคตรคิลมู้ด 5555555555

115 Nameless Fanboi Posted ID:NUZCqIEEXy

กุเพิ่งสังเกต ฝั่งอิ๊งดูเมาๆป่ะวะ อย่างจริงๆแล้วพวกเด็กผู้ชายมันมาขอเป็นศิษย์หลังประกาศถอนตัว แต่ฝั่งอิ๊งบอกว่ามาขอเป็นศิษย์ในงานจบการศึกษา (แต่เหตุการณ์นี้ก็ถูกเมนชั่นตอนตอนจบการศึกษา-บทที่73)

อันนี้ฝั่งนู้นเมา หรือฝั่งไทยเมา กุสับสน

116 Nameless Fanboi Posted ID:KXElmPfPab

>>115 กูว่าคนเขียนอาจจะเบลอๆเขียนพลาดแล้วลืมเปิดเทียบ หรือไม่ฝั่งอิ๊งก็แปลผิดแบบดำน้ำมั่วๆเข้าใจผิดเลยไทม์ไลน์ไม่ตรงกันกับต้นฉบับรึเปล่า หรือไม่ก็เข้าใจว่าประกาศในวันจบการศึกษาเพราะตอนที่พูดถึงมันก็ตรงกับวันจบพอดี

117 Nameless Fanboi Posted ID:hR9F7+06YG

กูกำลังสงสัยว่าที่ท่านฮิโยโกะไม่อัพต่อสักทีเพราะว่ากำลังเตรียมออกเล่มอยู่รึเปล่า

118 Nameless Fanboi Posted ID:8ms2Z.gUjI

>>112 ดอกไม้นี่... หล่อนยังไม่ได้หมั้นกับเขาว้อยยยย
ว่าแต่นางไม่ใช่ว่าโตกว่าเอ็นโจเหรอ สาวม.ปลายที่มานั่งจริงจังกับหนุ่มม.ต้นนี่น่ากลัวแฮะ

119 Nameless Fanboi Posted ID:aZQj.FbiG+

>>117 ค่ายไหนก็ได้ที่ไม่ใช่คาโดคาว่า

120 Nameless Fanboi Posted ID:lPiPCvkcRB

>>118 แหมแก ห่างกันแค่ปีเดียวเอง ยังน้อยกว่าหนุ่มมอต้น กับสาวมหาลัยเยอะ

121 Nameless Fanboi Posted ID:KffRqVK.oF

>>120 อย่าแซวไซซายะสิ!!!

122 Nameless Fanboi Posted ID:KffRqVK.oF

ว่าแต่ รอนานขนาดนี้ อยากให้จอมมารมอบดอกชะลูดช้างให้เจ้าแม่ในตอนที่300จังเลย ฮือ

123 Nameless Fanboi Posted ID:1qVxQa7Rk4

ดอกไม้ออกจะสวย ใครเป็นคนตั้งชื่อชะลูดช้างวะ 555555

124 Nameless Fanboi Posted ID:PkJIXCFdez

>>122 คราวนี้อาจจะโดนเจ้าแม่แขยงหนักกว่าเดิม 555555

125 Nameless Fanboi Posted ID:KffRqVK.oF

ตอนที่300

เอ็นโจยื่นช่อดอกไม้มาให้ฉีนท่ามกลางพลุที่โปรยปรายอยู่บนท้องฟ้า

“เอ๊ะ? ดอกไม้นี่สวยดีนะคะ ดอกอะไรเหรอ”

“ดอกชะลูดช้างน่ะครับ คุณคิโชวอินรู้ความหมายของมันมั้ย?”

“ห๊ะ?!?” ชะลูดช้าง?!? ดอกอะไรคะเนี่ย? หมายความว่าฉันอ้วนเหมือนช้างงั้นเหรอ?!? รับไม่ได้แล้วค่าาาา

“ยูกิโนะคุง เราไปเดินงานเทศกาลดีกว่าเนอะ”

“ฮะ ท่านพี่ล่ะฮะ?”

“ท่านพี่อยากจะทานอาหารต่ออีกหน่อยน่ะจ้ะ ยูกิโนะคุงไปกับพี่สองคนดีกว่าเนอะ”

ฉันจูงมือยูกิโนะคุงจากมาอย่างนุ่มนวล ส่งช่อดอกไม้ให้บริกรเอาไปประดับโต๊ะตามใจ

ฮึ่ม! ชะลูดช้างเนี่ยนะ!?! ฉันไม่อ้วนขนาดนั้นย่ะ!!!

ถึงจะว่าอย่างนั้น ก็อดลูบๆพุงไม่ได้เหมือนกันนะคะเนี่ย

126 Nameless Fanboi Posted ID:ZwX1wojbjx

>>125 อหห 555555555

กูขอเรียกร้อง ชูสุเกะ pov

127 Nameless Fanboi Posted ID:HO9I+2CWyz

>>125 โอ๊ยยยยยยยย สงสารรรรรรรร โอ๋ๆๆ ไม่ร้องนะ

128 Nameless Fanboi Posted ID:YJTdW0PsMp

>>125 โถ ชูสุมอย 55555555555

129 Nameless Fanboi Posted ID:8YaduLEpBG

>>125 จอมมารกู โดนทุกดอกอ่ะ แต่ชื่อมันก็...แบบ ไม่ไหวจริง ๆ สมมติถ้ามีผู้มาให้ดอกหน้าวัวกู ก็คงแบบ เอิ่ม กุหลาบก็ได้นะ ลิลลี่ก็มี เลือกดอกไม้ชื่อแบบนี้หมายความว่ายังไงวะ!

แต่กูว่าแล้วแต่คนนะ ถ้าเป็นยูกิโนะ กูว่าน้องเด็ดดอกหญ้าขึ้นมาให้ เจ้าแม่ก็คงฟินตัวแตกอ่ะ

130 Nameless Fanboi Posted ID:Co5fCCQyio

>>129
ยูกิโนะ : คุณพี่เรย์กะฮะ ดอกไม้(ดอกหญ้า)อันนี้ผมให้คุณพี่เรย์กะฮะ

เรย์กะ : น่ารักมากเลยจ้ะยูกิโนะคุง พี่จะรักษาไว้อย่างดีเลย!
//หลังจากนั้นเจ้าแม่ก็เอาดอกหญ้าไปหล่อเรซิ่นเคลือบไว้ เพื่อเป็นที่ระลึก---

131 Nameless Fanboi Posted ID:KffRqVK.oF

>>130 ถ้าเป็นชูสุมอยให้ เจ้าแม่คงประมาณ “ห๊ะ? จะบอกว่าฉันเป็นแค่ดอกหญ้ารองมือรองเท้าสินะคะ?!?” ไรงี้แหงๆ

132 Nameless Fanboi Posted ID:g6DkafKlnH

เอาแค่ปฏิกิริยาหิ่งห้อยเหอะ ถ้ายูกิโนะให้ เจ้าแม่คงสร้างกรงเลี้ยงหิ่งห้อยละ หรือไม่ชวนกันไปปล่อยหิ่งห้อยสู่ธรรมชาติ

133 Nameless Fanboi Posted ID:YJTdW0PsMp

>>132 กูว่าเหตุการณ์หดหู่พอๆกับที่มาซายะเอาสร้อยทำเองไปให้วาคาบะแต่เขาดันเอาไปให้น้องสาว ส่วนชูสุเกะตั้งใจจับหิ่งห้อยใส่กรงแล้วส่งไปให้...นางก็เอาไปปล่อย สาวๆเรื่องนี้โครตใจร้ายเลย 5555555555555555555

134 Nameless Fanboi Posted ID:jOUB+lOzPs

เมื่อวานกูฝันเป็นลางว่ะ ฝันว่าท่านฮิอัพสเตตัสที่นาโร่บอกขอโทษที่หายไปนาน จะกลับมาอัพให้จบภายในปีนี้แน่นอน ตอนฝันหนิกูดีใจมากกกกกก ลุกขึ้นมากรี๊ดในโม่ง อัพเพจ กระจายข่าวทุกทาง และก็ตื่นมาพบกับความจริงอันแห้งแล้ง.... T-T

135 Nameless Fanboi Posted ID:FM6nS5AsE6

>>134 กูขอให้ฝันมึงเป็นจริง..

136 Nameless Fanboi Posted ID:86sv/5p7G8

>>134 สาทุๆๆ

137 Nameless Fanboi Posted ID:m/mvy6FXDa

>>105 กูคิดว่าเอ็นโจรองลงไปหน่อย แต่ก็อยู่ระดับ top 3 ของ pivoine อยู่ดี ลำดับที่กูคิด no.1 ก็คาบุ no.2 ก็คิโชวอิน no.3 ก็เอ็นโจ ไม่งั้นเขาไม่เรียกแก๊งค์นี้ว่าสามผู้ยิ่งใหญ่หรอก 555555555555

แต่กูก็แอบสงสัยนะว่าไอ้สองหนุ่มนี่มันไม่โดนคนหมั่นไส้มั่งเหรอ แบบหล่อ รวย เก่ง ชาติตระกูลสูงส่ง ขนาดฝั่งผู้หญิงอย่างซึรุฮานะยังมีแขวะเรย์กะหรือเข้ามาหาเรื่องบ่อยๆ แต่ฝั่งคาบุหรือเอ็นโจดูไม่มีเรื่องเขม่นกันให้ได้ยินเลย ยกเว้นอาริมะที่คาบุดูไม่ค่อยกินเส้นด้วยเพราะเรื่องวาคาบะ เวลามุมมองคนอื่นแบบซาโตมิหรือเซริกะ สองคนนี้ก็ดูได้รับการเทิดทูนยอมศิโรราบจากฝั่งผู้ชายกันหมด ส่วนฝั่งผู้หญิงก็เป็นลัทธิอะไรซักอย่างไปแล้ว ดูคลั่งไคล้กันไม่ลืมหูลืมตามากๆ

หรือผู้หญิงในเรื่องมันสัตว์กินเนื้อ ดุร้าย ต้องออกไล่ล่า แต่ฝั่งผู้ชายเป็นพวกกินพืช รักสงบ นอนอาบแดดกันเอื่อยเฉื่อยในทุ่งหญ้าไม่สู้รบกับใคร 55555

138 Nameless Fanboi Posted ID:gGT1pNynw5

>>137 น่าจะเป็นเพราะเจ้าแม่มีมุมเอ๋อๆ ด้วยมั้ง ไม่เหมือนสองคนนั่นที่ขรึมแทบจะตลอดเวลา

139 Nameless Fanboi Posted ID:RcPDDi.9hz

>>137 เหมือนว่าในตอนของซาโตมิมั้ง พูดถึงว่าสาวๆรร.นี้มีแต่พวกกระหายเลือด ดูฉายาแต่ละคน เจ้าแม่กาลี ฟูจิน ไรจิน วิญญาณแค้นอะไรนั่นของซึรุฮานะเงี้ย
ฝั่งผู้ชายอย่างพวกรุ่นน้องของเรย์กะก็แสบอยู่ แต่ที่ยอมสองคนนั้นคงเพราะเรื่องฐานะทางบ้านล้วนๆ
ส่วนฐานะทางบ้าน เอ็นโจไม่น่าด้อยกว่าคาบุหรอก แต่น่าจะเพราะนิสัยคาบุแหละที่ทำให้ดูเด่น ส่วนเรย์กะก็มีมาดนางพญา เลยกลายเป็นจักรพรรดิ-จักรพรรดินี เอ็นโจภาพลักษณ์นุ่มนวลเลยเป็นเจ้าชาย
ถ้าฐานะบ้านเอ็นโจด้อยกว่าคาบุชัดๆคงไม่เป็นเจ้าชายหรอก อาจเป็นเบ๊อันดับหนึ่งหรือเสนาบดีไปแล้ว

140 Nameless Fanboi Posted ID:KC.7WrFXal

>>137 ให้เดานะ เรื่องที่พวกผู้ชายจะหมั่นไส้สองคนนี้ก็คงมีแหล่ะ ตามธรรมชาติของมนุษย์ แต่ที่ไม่มีใครมาหาเรื่องก็คงเป็นเพราะรู้ตัวดีว่าหาเรื่องไปก็เข้าตัวเปล่า ๆ เพราะว่าชาติตระกูล บุคลิกของทั้งสอง แถมกลุ่มแฟนคลับอีก

ส่วนเรย์กะ ที่มีคนแขวะ + จะพยายามยึคอำนาจก็คงเป็นเพราะเห็นว่าตัวคนเดียว เมื่อเทียบกับฝั่งผู้ชายแล้วมีสองคน กับรู้นิสัยที่แท้จริงของนางว่าป๊อดสุดๆ เลยกล้าล่ะมั้ง

141 Nameless Fanboi Posted ID:fwGq4sVvsb

>>137 เพราะเสน่ห์ผู้นำมั้ง เก่งจริง มีความสามารถ มีความกล้าและมั่นใจในตัวเอง แต่ไม่กร่างหรือโอ้อวด พูดจริงทำจริง ถึงจะหมั่นไส้แต่ก็ต้องยอมรับในความสามารถ แล้วกูว่าสองคนนี้ก็ทรีตคนได้ดีด้วย แบบที่จะพารุ่นน้องไปหาหมอ หรือแนะนำงานคณะกรรมการให้ แล้วอีกอย่างกูว่าสองคนนี้มีอะไรที่ทำให้รู้สึกแบบ...กูจะเอาอะไรไปชนะพวกมันวะ สู้ไปก็ไม่ชนะ ยอมจำนนดีกว่า

142 Nameless Fanboi Posted ID:wTErzW/J4i

>>137 สองหน่อนั่นมันเพอร์เฟคเหมือนออกมาจากมังกะโชโจวครับ เลยไม่มีใครกล้าสู้ด้วย
รูปหล่อ บ้านรวย ผลการเรียนกับผลการแข่งกีฬาก็ติดอันดับtopตลอด

ท่านเรย์กะฐานะทางบ้านดีกับสวยมีออร่านางพญา แต่มีข้อด้อยเยอะ ทั้งอ่อนกีฬา สมรรถนะทางร่างก่ยต่ำเตี้ยติดดิน เรียนได้อันดับกลางๆ โดนสัตว์รุมประจำ ไม่นับความรั่วของเจ้าตัวที่เพื่อนสาวในแก๊งค์ช่วยกลบเกลื่อนเพื่อคงความน่าเกรงขามให้ท่านเรย์กะอยู่บนหิ้งต่อไป เลยมีคนกล้ามาหาเรื่อง

143 Nameless Fanboi Posted ID:ghVETrQvFT

กูว่าเรย์กะผลการเรียนไม่กลางๆนะ มีชื่อติดบอร์ดแทบทุกครั้ง พวกมีชื่อขึ้นบอร์ดนี่ก็เรียนเก่งกันอยู่แล้ว และที่ซึรุฮานะยังแวะเวียนมาหาเรื่องได้ ไม่น่าจะเป็นเพราะความรั่วหรอก น่าจะเป็นเพราะเรย์กะนางไม่แยแสที่จะจัดการขั้นเด็ดขาดมากกว่า ลองเป็นเรย์กะในคิมิดอล ซึรุฮานะน่าจะถูกตบหายไปไม่กลับมาอีกเลย แบบตอนที่นางเอาพัดตบให้เจียมตัวนั่นล่ะ 555555

ส่วนคาบุกับเอ็นโจไม่มีใครกล้าหาเรื่องเพราะทางบ้านด้วย อิทธิพลด้วย แล้วก็แฟนคลับอีก หาเรื่องไปก็ซวยเองเปล่าๆ แล้วอีกอย่างกูว่าเพศหญิงมันดูมีความอิจฉาริษยาหรือต้องการชิงดีชิงเด่นมากกว่าชายมั้ง เลยแสดงออกมากกว่า หรือไม่ก็มีแหล่ะ แต่เรามองในมุมเรย์กะเลยไม่รู้ทางฝั่งผู้ชายว่ามีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นรึเปล่า

144 Nameless Fanboi Posted ID:bPkypnblBZ

ลองหาเรื่องสองหน่อนั่นก็โดนแฟนคลับฝังดิ แค่นึกก็สยองแล้ว เหล่าสาวๆที่มีรักช่างน่ากลัว

145 Nameless Fanboi Posted ID:pcJKRfmq1H

>>144 นอกจากเเฟนเกิร์ลเกือบทั้งโรงเรียน ยังมีแฟนบอยอีกด้วยนะ

146 Nameless Fanboi Posted ID:FTTUTuFsgd

พูดถึงแฟนคลับแล้ว ถ้าเกิดเรย์กะ กับคาบุทะเลาะกัน แบบไม่มองหน้ากัน ในโรงเรียนจะเกิดอะไรขึ้น

147 Nameless Fanboi Posted ID:wqDnNvek0i

>>146 เกิดข่าวลือ—จักรพรรดิกับจักรพรรดินีแตกหัก!!! หรือทั้งสองท่านจะเลิกรากันแล้ว?!?

148 Nameless Fanboi Posted ID:RQuX0jFQds

>>146 กูคิดว่าถ้าเรย์กะแตกหักกับคาบุ คงไม่ค่อยกล้าไปเล่นกับยูกิโนะด้วย เพราะทะเลาะกับเพื่อนพี่ชาย แล้วก็ตาม >>147

149 Nameless Fanboi Posted ID:SXLYg/JW9x

>>146 กูว่าถ้าทะเลาะกันสมัยท่านประธานโยโกะยังอยู่ คนนี้ต้องรีบเข้ามาประสานความขัดแย้ง ในหมู่ Pivoine จะเกิดรอยร้าวขึ้นมาไม่ได้นะคะ! จะกลายเป็นการสร้างจุดอ่อนให้พวกสมาคมนักเรียน! ส่วนเอ็นโจคงยิ้มแห้งๆ รับหน้าที่ประสานงานไกล่เกลี่ยเหมือนเดิม

150 Nameless Fanboi Posted ID:xmRAfvBygg

>>146 กูว่าจะทำลายฐานอำนาจเจ้าแม่เองด้วยว่ะ กลุ่มฝ่ายที่พร้อมจะตั้งตนใหม่จะมารุมง่ายขึ้นด้ว แถมฝ่ายนรหญิงจะถูกบังคับเลือกว่าจะไปขัดใครอีกถถถ

151 Nameless Fanboi Posted ID:86pALWwdpe

>>112 โง้ยยยยยย มีความน่ารำคาญมาก เมื่อไหร่ในเนื้อเรื่องหลักฮีจะปัดนางไปพ้นๆตัวได้ซักทีคะ!?

152 Nameless Fanboi Posted ID:86pALWwdpe

ว่าแต่ใครเป็นบ้าง รีเฟรชหน้าแล้วมันไม่เด้งคอมเม้นต์ใหม่ๆให้เลย แล้วมันมาเด้งตอนตอบกลับนี่แหละ

153 Nameless Fanboi Posted ID:SXLYg/JW9x

>>152 กูไม่เป็นนะ ไปเซ็ทติ้งอะไรไว้เปล่า ไม่ก็เปิดหลาย tab

154 Nameless Fanboi Posted ID:86pALWwdpe

>>153 ปกติเปิดหลายแทปก็ยังเด้งอยู่นะ แต่คราวนี้มาแปลกมาก

155 Nameless Fanboi Posted ID:A4O9eB8XtF

>>154 กุเป็นๆ กดReload postเอานะ

156 Nameless Fanboi Posted ID:05OsYm0dwd

>>150 ซึรุฮานะคงใช้โอกาสนี้โจมตีท่านเรย์กะด้วยอ่ะ ชิบ ทำไมเกิดเป็นหญิงมันลำบากจังวะ เหม็นกันเองก็ง่าย ทะเลาะกันเพราะเรื่องผู้ชายก็ง่ายอีก มันมีดีอะไรให้แย่งนักว้าา ดีนะที่ท่านเรย์กะไม่ลงไปยุ่งด้วย 5555555

157 Nameless Fanboi Posted ID:sWGVF9wCfR

ท่านเรย์กะผู้คิดการใหญ่เช่นจะหนีไปร้านสะดวกซื้อยังไง แอบไปซุปเปอร์ยังไง ไปเดินตลาดยังไง แค่นี้ก็กลุ้มมากแล้ว

158 Nameless Fanboi Posted ID:xmRAfvBygg

>>156 เออ ไม่ต้องดูไกล แค่กลุ่มญเหม็นหน้าในชีวิตประจำวัน กูยังกลัวถถถถ//แม่งตีกันเรื่องอะไรกุยังไม่รู้เลยซ๊าสสส

159 Nameless Fanboi Posted ID:OupwJpXxRw

>>156 ผู้ชายก็ไม่ต่างกันน่า อย่างคาบุยังเขม่นอาริมะเพราะวาคาบะเลย แถมอาริมะยังอยู่ด้านสภานักเรียนที่ถือเป็นอริกับตัวเองอีก แค่อาริมะเป็นคนดีไม่หมั่นไส้ใครแล้วโจมตีหาเรื่องแบบซึรุฮานะก็เท่านั้นเอง

160 Nameless Fanboi Posted ID:saothPA0ep

>>146 กูว่าเรื่องเดียวที่ทำให้เรย์กะทะเลาะกับคาบุได้ก็มีแค่เรื่องวาคาบะนี่ล่ะ แต่คงไม่ใช่เรื่องใหญ่เรื่องโตที่จะแตกหักตัดขาดกันไปเลย นอกนั้นกูก็ไม่รู้ละว่าจะมีเรื่องไหนที่คาบุกับเรย์กะจะแตกหักกันได้ หรือจะเป็นเรื่องโดนด่าว่าอ้วนบ่อยๆเลยฟิวส์ขาด ตั้งตัวเป็นศัตรูแม่ม 55555555555555555555

161 Nameless Fanboi Posted ID:XYXotBn0pn

>>160 แตกหักเพราะวาคาบะหลงรักเจ้าแม่ “ที่ผ่านมาคือแผนการของเธอสินะ คิโชวอิน”!

162 Nameless Fanboi Posted ID:1GanBtL0CQ

>>160 ถ้าทะเลาะเรื่องอ้วน ท่านชูสุเกะต้องเข้ามาช่วนเคลียร์แน่ๆ
" มาซายะ พูดเรื่องนี้กับหญิงสาวไม่ได้นะ *ยิ้มจอมมาร* "
" ถ้าคุณวาคาบะรู้ต้องไม่ชอบแน่ๆเลย ที่นายไปว่าหนึ่งในลูกค้าของบ้านวาคาบะน่ะ "

163 Nameless Fanboi Posted ID:l7sXeIpI5i

>>162 แล้วจอมมารผู้ปกป้องเจ้าแม่ ก็โดนเจ้าแม่เข้าใจผิดว่าไปเยาะเย้ยนาง

เลยโกรธจนแก้แค้นด้วยการเอามือเปื้อนน้ำมันไปจับจอมือถือของทั้งสองคน...

164 Nameless Fanboi Posted ID:H6tXL0ib+i

>>163 ตามด้วยเปิดกระปุกกาวค้างไว้ให้แห้งและเอาลูกปัดไปหย่อนใส่รองเท้า...

165 Nameless Fanboi Posted ID:W6XRj24MWV

>>163
คุณคิโชวอินติดหนี้ผมอีกครั้งแล้วนะครับ---

166 Nameless Fanboi Posted ID:Cj0K7gWfPP

>>165 ขอสาป ขอสาป ขอสาป ขอสาป ขอสาป ขอสาป ขอสาป ขอสาป ขอสาป ขอสาป ขอสาป ขอสาป ขอสาป ขอสาป ขอสาป ขอสาป ขอสาป ขอสาป ขอสาป ขอสาป ขอสาป ขอสาป ขอสาป ขอสาป ขอสาป ขอสาป ขอสาป ขอสาป ขอสาป ขอสาป ขอสาป ขอสาป ขอสาป ขอสาป ขอสาป ขอสาป ขอสาป ขอสาป ขอสาป ขอสาป ขอสาป ขอสาป ขอสาป ขอสาป ขอสาป ขอสาป ขอสาป ขอสาป ขอสาป ขอสาป ขอสาป ขอสาป ขอสาป ขอสาป ขอสาป ขอสาป ขอสาป ขอสาป ขอสาป ขอสาป…

167 Nameless Fanboi Posted ID:fVLKrgca+J

>>166 โอ้ย5555 หลอนโว้ย55555

168 Nameless Fanboi Posted ID:WvVPwncaq8

>>166 ไม่แน่ นางอาจจะเอาผ้าเปียกไปปิดหน้าเอ็นโจอีกคนก็ได้นะ 5555555555

169 Nameless Fanboi Posted ID:tPag1k/hJR

>>168 หรือไม่ก็ผ้าร้อน..

170 Nameless Fanboi Posted ID:X7vqyMgnwe

>>169 ผ้าเปียกร้อนๆ....

171 Nameless Fanboi Posted ID:L4gQYNsPKc

>>170 เลิฟเกจพุ่งพรวดยิ่งกว่าตอนโดนต่อยท้อง...

172 Nameless Fanboi Posted ID:H/+34P/1v4

>>171 เอ็นโจเป็นมาโซเรอะ!----

173 Nameless Fanboi Posted ID:8jEJRKWEJ3

เทียบกับกระทู้แรกแล้วความโชโจะโดขิๆ แม่งเกจลดฮวบเหลือประมาณ 0.01% ได้ป่ะวะ 55555 แท็ก Love ที่น่าสงสารเอ๊ยยย

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.