Last posted
Total of 1000 posts
>>57 กุอ่านมาแว่บนึง ก็บอกได้นะว่านิยายเมิงน่ะโอเคอยู่... แต่ยังพัฒนาได้อีกเยอะ เขียนเยอะๆ เดี๋ยวก็พัฒนาไปทีละขั้น
อีกอย่าง เมิงโชคดีแล้วล่ะทีี่ลงห้องนั้น ถึงคนอ่านจะน้อยแต่ก็ไม่มีเกรียนคุเห่อหมอยมาระราน
อย่างกุสิ... เชี่ยเหอะ ไอ้พวกเห่อหมอยมาด่าพระเอกกุกันจัง บอกว่าโง่มั่ง ขี้ขลาดมั่ง ง๊องแง๊งมั่ง ทั้งที่แม่งแค่ทำตัวเป็นผู้ใหญ่เนี่ยนะ
เพิ่งรีไรต์สามตอนแรก รบกวนใครว่าง ช่วยสับให้ด้วยครับ ขอบคุณครับผม
---Louis Forest
>>63 มีนะของกูก็มีแบบนั้นมาตอบ อาการนั้นมาแสดงว่าอ่านแล้วแม่งอินจัด ส่วนใหญ่เวลากูตอบกูจะไปขอบคุณมันเลย เพราะกูสึกว่าคนที่อ่านแล้วอินมันเป็นคนที่เสพย์ติดนิยายที่กูเขียนเข้าเส้นไปแล้ว จริงๆฐานแฟนพวกนี้อย่าไปโกรธเค้านะมึง ถึงมึงจะไม่โอเคแต่มันจะกลายเป็นแฟนพันธ์ุแท้ของนิยายมึงไปเลยชนิดว่าตามอ่านมึงทุกเม็ดอ่ะ อันนี้มุมของกูนะเพราะที่กูเขียนได้จนยาวขนาดนี้ก็ไอ้คนพวกนี้แหละตามทวงนิยาย55555 เพียงแต่ปัญหาของกูคืออย่างที่บอกอ่ะ แม่งพอไม่มีคนสับแล้ว ตัวกูเองมองไม่เห็นสิ่งที่มันขาด คือรู้ว่ามีแต่หาไม่เจอ .....ถึงได้มาโผล่อยู่นี่ไง อ่านแล้วเห็นแผลตรงไหนบอกกูบ้างแล้วกันขอบคุณล่วงหน้า
เพิ่งรีไรต์สามตอนแรก รบกวนใครว่าง ช่วยสับให้ด้วยครับ ขอบคุณครับผม
---Louis Forest
กุว่าตัวจริง ถุยมันจะเกรียนแตกเป็นพักๆเวลาที่บ้านลืมให้ยา แต่กุขอบายว่ะอ่านไปรอบนึงแล้วปวดหัวชิบหายนิยายห่าอะไรทำลายเซลล์สมอง ใครอยากลองก็เชิญ
เพิ่งรีไรต์สามตอนแรก รบกวนใครว่าง ช่วยสับให้ด้วยครับ ขอบคุณครับผม
---Louis Forest
เพิ่งรีไรต์สามตอนแรก รบกวนใครว่าง ช่วยสับให้ด้วยครับ ขอบคุณครับผม
---Louis Forest
ถ้าตัวจริง ก็ให้ไปโพสต์ยืนยันหน้านิยายตัวเองซะสิ ง่ายๆ
เลิกเหอะว่ะแบบนี้ ไม่รู้ว่าหลุยหรือถุยเคยทำอะไรให้โม่งหมั่นไส้นะ แต่เล่นแบบนี้กุไม่สนับสนุนว่ะ
กูจะสับให้ แค่มึงต้องไปรีไรต์มาให้ครบ 12 ตอนก่อนไอ้สัด
พูดให้รู้เรื่องมั่งไอ้แม่เย็ด
ลงชื่อ เซฮุน เป็นเหี้ยอะไรมากไหม?
สแปมแม่งทิ้งได้มั้ย รำคาญ ส่งอยู่นั่นล่ะ
ว่าด้วยเรื่องสับ
กูเป็น ญ ที่ไม่ชอบอ่านย้อนเวลาไปเป็นเมียฮ่องเต้ว่ะ หลัก ๆ จะอยู่รักแฟนตาซี ทีนี้กูก็เจอแต่นางร้ายว่ะ เบียวเต็มไปหมด ถ้าโม่งคนไหนจะหานิยายในหมวดนี้มาสับบ้างจะเป็นพระคุณอย่างมากเลยว่ะ กูไม่มีปัญญาไปหาอ่านเอง ตาลายเพราะนางร้าย
เพื่อนโม่ง มีพวกมึงคนไหนที่เขียนตัวเอกหลอกมั้ยวะ กุหมายถึงตัวละครที่โผล่ในบทแรกๆหรือบทนำที่เหมือนจะเป็นตัวเอกแต่เสือกตายหรือมาเฉลยว่าเป็นตัวร้ายแทน
กุอยากรู้ว่าพวกมึงเคยได้ฟีดแบ็กจากคนอ่านตรงนี้ป่ะว่าเขารู้สึกยังไง
>>79 บางคนพูดว่ามีคนอ่านเยอะ แต่หารู้ไม่ว่าในจำนวนยอดวิวเนี่ย บางส่วนแค่หลงเข้ามาไม่ได้อ่านจริง แต่คนยังไม่รู้ข้อเท็จจริงก็ชอบทึกทักว่า คนชอบเยอะ เลยปลูกฝังค่านิยมถูกๆผิดๆ กลายเป็นว่านิยายตัดสินที่ยอดวิวกันหมด
คอมเม้นก็เหมือนกัน บางคนเม้นไป แต่มันเข้าใจสิ่งที่คนเขียนอยากสื่อรึเปล่าล่ะ เม้นทั้งที่ไม่เคยอ่านเลยก็มี
>>78 ของกูพระเอกเป็นคนเลวแต่เขียนให้คนอ่านคล้อยตามว่าเป็นคนดี ส่วนบอสใหญ่คือคนดีแต่เขียนให้คนอ่านคิดว่าเลว
บอทเฉลยกูกะจะใช้ชื่อตอนซ้ำกับ touning point ที่พระเอกกับบอสใหญ่แยกทางกัน แต่ความหมายต่างกัน เพื่อเน้นย้ำว่าขอเพียงความหมายเปลี่ยน มุมมองก็เปลี่ยนไปทันที
กูยังเขียนไม่ถึงนะ แต่ตั้งใจไว้ว่าจะประมาณนี้ ชื่อบทก็คิดไว้แล้วด้วย
มู้นิยาย กลายเป็นมู้อวดพล็อตของพวกเห่อหมอยแล้วหรอวะ?
หวัดดีนี่ เซฮุน เอง
มาสับเรื่อง Supreme ที่หนึ่งหมวดวิทย์ มีคนกล่าวหาว่าปั่นวิว กูเฉยๆ เรื่องของแม่งสิ
กูจะสับชี้แจง 12 ตอน พิสูจน์ให้ดูว่านิยายเรื่องนี้ห่วยยังไงดียังไง เหี้ยตรงไหนอะไรควรเอาเยี่ยงอย่าง
https://writer.dek-d.com/bluesea25/story/view.php?id=880244
บทนำ:
(1)คนเขียนแจ้งว่านิยายเรื่องนี้ใช้ อัตศาสตร์ คือ ความรู้ส่วนตัว ฉนั้น ห้ามเถียง ห้ามด่า ห้ามค้าน... อีลูกกะหรี่ นิสัยเผด็จการแห่งชาติ พ่องตายแม่งตาย กูขอประกาศตรงนี้ การออกตัวแบบนี้ของมึงมันดูตาขาวยิ่งกว่าเกลื้อนบนควยเด็ก ใจตุ๊ดมากยิ่งกว่ากองทัพเลดี้บอยพัทยา ควยครับควย
(2) ออกตัวว่าพระเอก Gary Sue... โอ้ยครับไอ้สัดยินดีด้วย
ลงชื่อ เซฮุน ต่อไปคือตอนที่ 1
คนสับเงียบหายเลย เบื่อจีนย้อนยุคกันแล้วเรอะ
ตอนที่ 1:
เรื่องนี้ยัดข้อมูลให้มึงแบบไร้ยางอายที่สุด เช่นความยาวร้านเอไอ (หมวดวิทย์ไงมึง มีสมองกล A.I. Artificial Intelligence) ร้านระบุเป็นตารางเมตร 26 เมตร ใช้พื้นที่แค่ 16 ตารางเมตร.. นี่มันสำปะหลังสำคัญกับพล็อตตรงไหน? (ไม่ควรเอาเยี่ยงอย่าง) ตามมาด้วยรายละเอียดพระเอก(ยันต์ สูง 186 เซนติเมตร)กับลูกพี่เจ้าของร้าน(Jack ทำไมใช้ภาษาอังกฤษ แจ็คมันไม่ปังหรอ? แต่ชื่อจริงแม่ง ภูมินทร์ เป็นภาษาไทยพ่อง พ่อง พ่อง สูง 181 เซนติเมตร โอ้ยยยย)
ส่วนสูงนิสัยใจคอของคู่นี้ มึงรับรู้ภายใน 6 ย่อหน้า ก่อนบทสนทนาจะขึ้น... คนหนึ่งเป็นคนจริงจัง คนหนึ่งเป็นคนจริง... เอออีสัด มึงจริงจังทั้งคู่ก็ได้นะ หรือคนหนึ่งคนจริง อีกคนเป็นคนไม่จริงหรอไง... ควยครับควย
หนักสุดอีเหี้ยยันต์ (พระเอก) มีแผลเป็นทำให้หน้าเข้มสะดุดตา เหยดดดดดด และคนเขียนที่บรรยายแสนละเอียด แผลจากของมีคม ระบุว่า 3 เซนติเมตร เหยดดดดดด สามเซนต์ น่ากลัวเหี้ยๆ ครับๆแผลยาวสามเซนต์สะดุดตามาก แผลแม่งแค่นิ้วเดียว (1.18 นิ้ว) ตื่นเต้นว่ะ
แล้วไปสนามมวย
สรุปเลยละกัน พล็อตแบบเรื่อง Real Steel ที่ ฮิวจ์ แจ็คแมนเล่น (Hugh Jackman) ไม่เกี่ยวกับไอ้เจ้าของร้านชื่อภูมินทร์ที่ใช้ชื่อ Jack เป็นภาษาอังกฤษ
อีพระเอก ยันต์ มันไปต่อยมวยหาเงิน...
ลงชื่อ เซฮุน ต่อไปเป็นตอน 2
ตอนที่ 2 ผู้มีฝีมือ (คงจะหมายถึง แกรี่ ซู นั่นเอง)
ยันต์ไปสนามยิงปืน จากที่เมื่อคืนไปต่อยมวยหาเงิน(ชนะ แปะๆๆๆๆๆ เก่งสัดๆ)
สนามยิงปืนรายละเอียดยิ่งกว่าร้านเอไอในตอนที่หนึ่ง กูงี้อ่านไปอึนไป ราคากระสุน 300 บาท ระดับกระสุน rank คนยิง บลาๆ 7 ย่อหน้า สนามยิงปืนชื่อ Great Fire Club (fire นี้แปลว่ายิงสินะ ไม่ใช่ไฟ โหสุดยอดการเล่นคำ) ไม่จบมี world building กากๆ รัฐบาลให้พกปืนต้องมีชิบบลาๆ (สองตอนมานี่มึงยัดข้อมูลไม่หยุดจริงๆ)
แล้วก็เล่าความเก่งกาจแกรี่ของยันต์ ชกชนะตลอดไม่เคยเสมอ หาเงินจากมวยมาตลอด ป้า Andrea เลี้ยงมาดีบลาๆ
จบตอนสอง ยันต์น็อคคู่ต่อสู้ง่ายๆ ได้เงินมาเพียบ (ค่าเงินบาท)
ลงชื่อ เซฮุน ต่อไปเป็นตอน 3
ตอน 3: ชื่อเสียง (ก็เก่งนี่นาาาาาา)
ชนะ ชนะ ชนะ ใครเก่งชนะ นั่นคือสามย่อหน้าแรก
บรรยายสรุปด้วย ยันต์ไม่เคยหยุดเรียนรู้ แม้จะเก่งมวยไทยมาก ยังสนใจยูโด จับทุ่ม ปัดขา (จร้าาา) ล็อคยูยิตสู และจับเส้นไอกิโด้ (จร้าาาา) และคาราเต้ความแข็งแกร่งของร่างกาย ฟันไม้แตก ฟันหินกระจาย (โอ้ยจร้าาาา) มีคาราโอเกะไหม ใช้พลังเสียงฆ่าศัตรูไปเลยก็ได้นะสาดดดดด มาขนาดนี้แล้ว ลูกอีเหี้ย!
ยันต์มีเปิดเน็ต (เรียกว่า Earth Net) เพื่อศึกษาทฤษฎีศิลปะการต่อสู้ กับ ฝึกปฏิบัติสู้กับหุ่นที่เก่งกว่าคนยันต์จึง... แกรี่ มาก
มีขึ้นชกอีก... กูไม่ต้องลุ้นเลย... เพชฌฆาตสายฟ้า(ฉายาแม่งตอนขึ้นชก) ชนะอีก ได้เงินมาเพียบบลาๆ
ลงชื่อ เซฮุน ต่อไปตอน 4
>>88 ตอนที่ 4 เล่นเกม (ใช่แว้ว ยันต์ แกรี่ต่อยเก่งต้องไปเล่นเกมออนไลน์เก่งแกรี่ด้วยนาจา)
Image Online กูขี้เกียจพิมพ์มา รายละเอียดแม่งยิ่งกว่าร้านเอไอผสมร้านปืนผสมท่ามวย กูสรุปไงดีวะอีเหี้ย... มีไอเท็ม สัตว์ประหลาด ผู้เล่นค้ากำไรเกินควร บลาๆ สุดท้ายตอนนี้อีเหี้ยยันต์ตบกระจาย
สรุปคือมันเก่งสัดๆ จบ
ลงชื่อ เซฮุน ต่อไปคือตอนที่ 5
เห็นด้วยกับข้างบนว่ะ กุว่าเรื่องนี้ใส่รายละเอียดเยอะเกินอ่ะ ถ้าไม่ใช่นิยายแนวสืบสวนที่จะให้คนอ่านร่วมทายปริศนาไปด้วย ไม่จำเป็นต้องบรรยายละเอียดตารางเมตรขนาดนั้นก็ได้
แถมเนื้อเรื่อวช้วงแรกดูกระจายมาก จากขายของ กลายเป็นเล่าประวัติต่อยมวย แล้วไปเล่นเกมออนไลน์ ซึ่งทั้งสองอย่างถ้ามันไม่จำเป็นต่อพล็อตจริงๆ (กรุอ่านไปแค่ 4 ตอน เลยไม่รู้ว่ามันจะกลับมาโยงกับรายละเอียดที่ใส่ตอนแรกหรือเปล่า) สามารถจบได้ใน 2 ย่อหน้า
จริงๆ แล้วเรื่องนี้ถือเป็นตัวอย่าง show, dont tell ที่ไม่ดีได้เป่าวะ
>>89 ตอนที่ 5 ผู้เล่นที่ไม่ธรรมดา (ครับลูกอีสัดแกรี่ ชั่วโมงนี้มึงตั้งชื่อควยอะไรก็ตามใจมึงเลยครับ)
บลาๆ เก่งๆ ตูมๆ เทพๆ Sho (ชื่อไอ้ห่ายันต์ในเกม อาชีพคนป่า) ปราบมอนสเตอร์เลเวล 65 สามตัว ที่เวลลสูงกว่ามัน 10 ระดับ (มันต้อง 45 สินะ) ปราบได้ก็อัพตัวมันเป็น 52 ได้ของบลาๆ ที่แม่งเน้นคือได้โบนัสท่า อนันตกาล... คือหยุดเวลาคู่ต่อสู้เลเวลต่ำกว่าได้ 3 นาที หรือ พวกที่เลเวลสูงกว่า(แต่ไม่เกินสิบเลเวล) ได้ 2 นาที มี cooldown 1 ชั่วโมง
ยันต์ดีใจสัดๆ "คนป่ามีปืนแล้วนาจา" แล้วก็นึกย้อนไป 40 วันว่าทำไมมาเล่นเกมนี้ (flashback ซะงั้น?)
เออลูกอีห่า... 40 วันก่อน
พี่แกรี่ยันต์ช่วยตา Chon ไว้ อย่างเทพ ปืนก็ไม่กลัว ตา Chon เลยมาเคาะห้องจะเอาเงินให้ 50 ล้าน... นี่คือพล็อตหัวควยอะไรวะ... แกรี่ยันต์รีบปฏิเสธ ผมช่วยไม่ต้องการสิ่งตอบแทน... เหยดดดด แกรี่ใจทองคำ... Chon เลยเสนอ มึงไม่อยากได้เงินไม่เป็นไร เดี๋ยวกูโอนหุ้นให้... เอ้าอีห่า... จะโอนให้ 5 ล้านหุ้น ของบริษัท Great Company ที่ทำเกม Image Online... โอ้ยย อีเหี้ย สะดวกยิ่งกว่าเซเว่น!!!
ยันต์โชว์ความทึ่ม มันยังไงครับ... ผมไม่เคยเล่นเกม หุ้นมันอะไรยังไง ไอ้ Chonเลยบอกว่า หุ้นทั้งหมดมี 400 มึงเอาไป 5 มันดูเล็กน้อยกว่าเงิน 50ล้านในสายตามึงแล้วใช่ไหมยันต์ อ่อ นี่นามบัตรกูมีอะไรมึงติดต่อกูได้นะ เพราะมึงช่วยชีวิตกูไว้
ลงชื่อ เซฮุน ต่อไปเป็นตอนที่ 6 กูขอไปขี้แป๊ป
>>91 ตอนที่ 6 ทำมาหากิน (ถถถถถอีเหี้ยยันต์ ชีวิตดี๊ดีๆๆๆๆๆๆๆๆ)
ท่า อนันตกาล... คือหยุดเวลาคู่ต่อสู้เลเวลต่ำกว่าได้ 3 นาที หรือ พวกที่เลเวลสูงกว่า(แต่ไม่เกินสิบเลเวล) ได้ 2 นาที มี cooldown 1 ชั่วโมง... มันทำให้แกรี่ยันต์ (ชื่อในเกม Sho) เลเวลถึง 60 แล้วนาจาาาาา ไอเท็มเพียบ เงินในเกมเพียบ rare unique legendary โอ้ยยยย อีสัดหมา มึงเขียนแกรี่ได้น่ากระทืบต้นคอมากกกกก นี่ชีวิตในเกม...
ชีวิตจริงเช็คราคาหุ้น ตีเป็นเงินได้ 250 ล้าน โอ้ยยยย โทรไปหาตา Chon Weber เขาก็ไม่เอาคืน เสียใจแทนมึงมาเลยยยยย แกรี่ยันต์ ชีวิตรันทดมาก มึงคงทุกข์ใจมากสิน้าาาาาาาา
สุดๆคือตามชื่อตอน "ทำมาหาแดก" ยันต์พบว่ามวยไม่ต่อยละ กูฟาร์มไอเท็มขายแม่งเงินดีกว่าเยอะ... กูลุกขึ้นปรบมือเลนตรงนี้ มาถอกทางแล้วแกรี่ยันต์
เข้าฉากสู้! ปราบมอน Firefox เลเวล 85 boss กับ firefox เลเวล 70 อีก 50 ตัว (แกรี่ยันต์ 60)
กูเลยข้ามไปดูเลยว่าแม่งได้อะไรตอนฆ่า คือมึงไม่แพ้แน่ๆ กูมั่นใจมากกกก มีบรึ้มๆ ตู้มๆ บลาๆ
ได้ทักษะเพิ่มจร้า ได้เงินเพิ่มจร้า อัพเป็น 63 จร้า
ทักษะไฟประลัยกัลป์ ยิงไฟไม่จำกัด ไม่มีดีเลย์ ใช้พลัง 1000 จุดต่อวินาที
กับ ทักษะธารลาวา ท่าคล้ายกันแต่อันนี้ไม่จำกัดพื้นที่ ใช้ 2000 ต่อวิ
สองท่าเป็น channeling spell หรือเปล่ากูไม่แน่ใจที่ต้องยืนนิ่งเวลา cast หรือเปล่ากูไม่รู้ แต่ช่างแม่ง แกรี่ยันต์ไร้จุดอ่อนจร้าาาาาาา
เปิดไอเท็มตำราที่ได้มา ได้สกิลที่ปรึกษา guild ระดับหนึ่ง (นักวางแผน)ด้วยจร้าาาา... มีสมาชิกได้ 50,000 ขึ้นไป มึงอุตส่าห์อธิบายว่า ระดับต่ำสุดคือ 4 มีได้ 5 พัน ระดับสองไม่เกิน 5 หมื่น แต่เพื่ออะไรอีสัด ในเมื่ออีแกรี่ยันต์มันได้ระดับสูงสุดไปแล้ว
"คุ้มจริงๆดันเจี้ยรนี้ เสียดายเข้ามาได้คนละครั้ง"
อีแกรี่ยันต์ได้กล่าวเอาไว้
แล้วกลับเมืองเอาของไปขาย มีต่อรองราคาโง่ๆ แล้วจบด้วย กูไม่ต้องต่อยมวยแล้ว เล่นเกมดีฝ่า
ลงชื่อ เซฮุน ต่อไปเป็นตอน 7 กูขอไปขี้อีกรอบ แดกอะไรไปวะ
>>95 ตอน 7 จตุยุทธ์ (อ้าวสัดเหี้ย กลับมาศึกชิงเจ้ายุทธจักร มึงมาประลองฝีมือ เป็นเสือนอนกินแดกหุ้นไม่นาน) ตอน 8 การชิงชัย ตอน 9 แชมป์ (ไม่ต้องสืบ)
งานประลอง 4 แขนง (1) Hard Fight ได้ทุกส่วน (2) Soft Fight เน้นเชิง จี้จุดทุ่มห่าเหว (3) อาวุธเดี่ยว (4) อาวุธคู่
สนาม Versus complex มีคนเข้า 68 คนแบ่งสายบลาๆ อธิบายกฎยาวเหยียด อธิบายคู่ต่อสู้เทพๆ มีโฆษก มีฉาบ "ผ่าง!"
สู้สามตอน รอบต่างๆ รอบรอง รอบชิง กูไม่ลุ้นเลย แกรี่ยันต์ซะอย่าง ตอนจบประธาน Rudolf อายุ 50 ปี ผอมสูง ประทับใจงานปีนี้มากนอกจากจะให้เงินพร้อมถ้วยรางวัล ก็เอาสร้อยทองคำขาวที่มีลูกแก้วห้อยคล้องให้ยันต์เป็นการส่วนตัว...
"เธอเก่งมาก"
ยันต์ตอบ "ขอบคุณครับ"
จบตอนที่ 9 อย่างประทับใจ... แปะๆๆๆๆๆ
ลงชื่อ เซฮุน ต่อไปเป็นตอนที่ 10
นี่มันนิยายวิทย์หรอวะ โครตเบียว
>>96 ตอนที่ 10 เส้นทาง
เป็นบทนั่งรถไฟความเร็วสูง รายละเอียดแม่งปัญญาอ่อนเหมือนเดิมห้องขนาด 6×6 ตารางเมตรในรถไฟ สร้างไว้เพื่อคนจน พลังงานต่ำ ราคาตั๋ว ความเร็ว ห้องเบอรฺ 211
เจอมนุษย์กลายพันธุ์บลาๆ
สรุปทุกอย่างเฉลยทีหลังว่าเป็นอดีต... เยี่ยมมากอีสัด!
กูสรุปได้ว่า แกนี่ยันต์เคยโดยมนุษย์กลายพันธุ์ข่วน ไอ้ 3 เซนติเมตร มันถึงแกรี่ยันต์
ลงชื่อ เซฮุน กูตอนแรกจะสับให้จบบท 18 ตอน ตอนนี้ไปสิบแล้ว กูว่ากูพอดีกว่า
นี่เซฮุน เอง สรุปให้คะแนน Supreme ที่หนึ่งหมวดวิทยาศาสตร์ หรือเรียกสั้นๆว่า นิยายหี กะหรี่ยันต์
แฟนคลับ 2,727 ยอดวิวสองแสนห้า เมนท์ 3,607
กูให้ 3.5/10 คือถ่มน้ำลายรดสามครั้ง อีกครึ่งคือด่าควยด้วย นิยายไม่มีความสนุก และหาสาระประโยชน์เหี้ยอะไรไม่ได้เลย ไร้ข้อคิดส้นตีน ลุ้นระทึกห่าเหวไม่มี... พ่องตาย
นี่คือบทสรุป ของ Supreme กะหรี่แกรี่ยันต์...
ส่วนที่หนึ่งหมวดวิทย์อะไรช่างแม่งเหอะ... ที่มีคนกล่าวหาว่าปั่นวิว เอาบ็อทมาเมนท์ กูก็ไม่ปักใจเชื่อ ต่อให้อ่านแล้วกูก็ยังไม่เชื่อนะ เพราะคนเขียนคนนี้ตีพิมพ์แล้ว แถมเป็นท็อปหลายหมวด แต่เขียนเรื่องนี้ได้ห่วยหมาไม่แดก
จบ
ลงชื่อ เซฮุน ขอไว้อาลัยให้นิยายแกรี่
ขอ KY นิดๆ ทีมงานลงหมวดถูกรึเปล่าวะ https://www.dek-d.com/board/view/3792507/
ที่เหลือที่จองจะสับไว้ ของเซฮุน
https://writer.dek-d.com/topduck/writer/view.php?id=785523 (สาวใช้พันธุ์ดุ Maid-at-Arms ... ชื่อเรื่องเพราะดี)
https://writer.dek-d.com/linklight/story/view.php?id=1559849 (จอมราชันย์หลงยุค... ข้าขอคำชี้แนะ เตรียมรับมือ)
https://writer.dek-d.com/BlackMonSterX/writer/view.php?id=1602272 (Evolve ฟองเบียร์)
เพื่อความแฟร์ กูจะใช้ ลูกเต๋า 20 ด้าน เสี่ยงทาย
เลข 1-7 เป็นสาวใช้พันธุ์ดุ
8-14 เป็น จอมราชันย์หลงยุร
15-20 เป็น Evolve (ไม่แฟร์สำหรับมึงนี่หว่า ช่างเหอะ)
เอาล่ะ กูจะทำการทอยเต๋า ณ บัดนี้!
เลขที่ออก คือ 3
จะสับเรื่อง
https://writer.dek-d.com/topduck/writer/view.php?id=785523 (สาวใช้พันธุ์ดุ Maid-at-Arms ... ชื่อเรื่องเพราะดี)
ลงชื่อ เซฮุน ยินดีด้วยมึง
Ky. กูไปอ่านอันดับหนึ่งหมวดแฟนตาซีมา ตอนแรก ๆ มาก็ยาวนะ แต่หลัง ๆ โอ้โห! สั้นมากกกก ประมาณสองหน้าเอสี่ แบบนี้ก็ได้หรอ?
เรื่อง Supreme นี่กูอ่านเป็นเรื่องแรก ๆ ในเด็กดีเลย มาหยุดอ่านตรงแม่งเอาออนไลน์มาใส่ กูรู้สึกว่ามันสิ้นคิดไงไม่รู้
ทั้งๆที่ฟิลลิ่งตอนอ่านแรก ๆ มันก็โอเคนะ แต่พอมาอ่านมึงสับแล้ว เหมือนถูกตบกบาลให้กูตื่นจากความฝันที่กูกำลังแดกอาหารขยะอย่างเอร็ดอร่อยเลย
ตอนนี้อ่านที่มึงสับ รู้สึกสนุกกว่านิยายแม่งอีก ฮ่า ๆๆๆ
คนเขียน Supreme สมควรมีฉายาดีมั้ย ฟองเบียร์หมายเลข 2 หรือฟองเบียว (ย้ำนะ ฟองเบียว)
กุสงสัยว่าลงเด็กดีต้องแนวเบียวจริงๆหรอวะ คนถึงจะเยอะ
>>40 เอาล่ะ อ่านให้แล้วนะ
มีแค่ 3 ตอน สรุปสั้นๆ เลยแล้วกันว่าพอรับได้ในเรื่องของสำนวน ชอบที่เซ็ตธีมเกี่ยวกับดอกไม้ประจำแคว้นหรืออาณาจักรหรืออะไรก็ช่าง แต่สิ่งที่ไม่ชอบแน่ๆ คือมันมีแต่น้ำอะ 3 ตอนนี่ยาวมากเลยนะ แต่เรื่องไม่มีอะไรเลยนอกจาก พระเอกไปเจอนางเอกที่ร้านขายดอกไม้ เล่าเรื่องคำสาปประจำตระกูลพระเอก พี่ชายของพระเอกตาย (แต่ดูทรงแล้วไม่น่าตายจริง น่าจะหนีไปแต่งงานกับเจ้าหญิงทางเหนืออะไรนั่นมากกว่าใช่ปะ) แล้วก็เปิดเผยว่าแท้ที่จริงนางเอกได้สืบเชื้อสายมาจากคนที่สาปตระกูลของพระเอกในอดีต
อีกเรื่องนึงที่ไม่ชอบคือชื่อตัวละคร ชาลีร์ นี่มันอ่านว่ายังไงอะ ไหนลองสะกดเป็นภาษาอังกฤษให้ดูหน่อยได้ไหม ปกติแล้วควรเป็น ชาร์ลี ไม่ใช่เหรอ แล้วชาลีสนี่สะกดยังไง หมายถึงชารีสรึเปล่า แต่นั่นเป็นชื่อผู้หญิงไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงเอามาตั้งเป็นชื่อพระเอกล่ะ หรือจริงๆ แล้วเดี๋ยวมันจะกลายเป็นผู้หญิง งง
อีกเรื่องนึงคือบอกว่าพระเอกเป็นโรคกลัวผู้หญิง แต่ดูจากการแสดงออกแล้วไม่ได้กลัวผู้หญิงเลยนี่หว่า เหมือนมึงพยายามเซ็ตคาแร็คเตอร์คุณชายหมอเนิร์ดๆ เข้าหาผู้หญิงไม่เป็น แต่ดันออกมาเป็นอีกเรื่องนึง นางเอกก็เหมือนกัน อ่านแล้วก็ต้องร้องว่า จย้าาา คือจากที่บรรยายนี่ไม่ได้ดูสวยเท่าไหร่เลยนะ แม่งดูมั่นหน้ามากกว่า เออ ก็สู้ๆ ละกัน คอนเซ็ปต์ได้อยู่ แต่กูคงไม่ชอบอ่านอะไรน้ำเน่าๆ ประหนึ่งทมยันตีฟิวชั่นกัลธิดามั้ง
เราคือ 40
>>42
ที่แก้มานั่นก็เข้าท่าเหมือนกันนะ ขอบคุณมากๆ
>>43
ก่อนอื่นขอบคุณที่ชมว่า “ตัวอย่างสุดยอดของ Show don't tell”
“กูอ่านไปตอนเหมือนแดกก๋วยเตี๋ยวอร่อย ภาษาสวย แต่มีแต่น้ำเส้นน้อยหอยน้อย” ส่วนอันนี้อ่านละขำมาก 55555
>>112
ไม่รู้ว่าคนเดียวกับ 43 มั้ย แต่น่าจะคนเดียวกับ 42 แฮะ
ก่อนอื่นขอบคุณมากๆ ที่สละเวลาอ่านจนจบ แม้ดูทรงแล้วจะไม่ชอบแนวนี้ก็ตาม
วกเข้าเรื่องปัญหาหลักก่อน สามตอนเหมือนมีแต่น้ำ ไม่ค่อยมีอะไร ซึ่งจริงนะ..... พออ่านที่สับมาแล้วตอนแรกก็คิดอยู่ว่า เพราะมันเป็นเซทติ้งแฟนตาซีรึเปล่า เลยเหมือนต้องพยายามใส่ๆ บรรยายอะไรเยอะๆ เพื่อปูบรรยากาศสภาพโลกในเรื่อง แต่นึกไปนึกมาแล้วคงไม่ใช่แฮะ มันเป็นแนวตัวเองมากกว่า เป็นพวกเขียนเวิ่นเว้อเยอะๆ ไรงี้ อันนี้รู้สึกตัวมาพักใหญ่แล้ว แต่เหมือนยังแก้ไม่ได้ คงต้องค่อยๆ แก้ต่อไป
เรื่องที่เป็นปัญหาที่ได้รับการแก้ไขจากตรงนี้คือ พบว่าตัวเองน่าจะใช้คำผิด อันที่จริงร่างแรกมันไม่มีคำว่าพระเอกกลัวผู้หญิงนะ ไม่รู้คิดไงไปใส่ตอนแปะลงเว็บ ไม่เป็นไรใส่ไปเองก็ต้องรับไว้เอง มันน่าจะออกแนวๆที่บอกมาว่า ตัวละครเข้าหาคนไม่เป็นมากกว่า ส่วนนางเอกนั้น พอคนอ่านอ่านแล้วได้ความรู้สึกแบบนี้ ก็เสียใจนะที่เปลี่ยนฉากของนางตอนแก้รอบสุดท้าย ตอนแรกฉากแสดงความเนื้อหอมของนางไม่ได้ออกมาเป็นแบบนี้ แต่รู้สึกมันยาวเกินกว่าจะเป็นส่วนขยายของภาพลักษณ์นางเอกว่านางเนื้อหอม เลยพยายามตัดเปลี่ยนสั้นๆ กลายเป็นดูเชิดๆมั่นๆไปแทนซะนี่ T-T
บางทีเขียนเองอ่านเองมันก็ไม่รู้ตัวจริงๆว่า มันจะออกมาแนวไหนในสายตาคนอ่าน เพราะมันมีเซทภาพในหัวแล้วว่านางเอกเป็นแบบนี้ๆ ในหัวตัวเอง พยายามจะบอกคนอ่านว่านางเอกเป็นแบบไหน แต่ดูเหมือนจะสื่อสารผิดวิธี วิธีแรกที่ตัวเองนึกไว้น่าจะเวิคกว่า ขอบคุณมากๆ ที่ช่วยบอกนะ
เรื่องชื่อตัวละคร ตอนแรกก็สะกด ชาร์ลีแหละ แต่บังเอิญน้องมัน ชาลีส ถ้าจะมี ร์ ตรง ชา รู้สึกว่ามันควรจะมีเหมือนกัน เลยไปแก้ใส่ ร์ ข้างหลัง เป็นชาลีร์ รู้สึกว่าดีกว่าเขียนห้วนๆ เป็น ชาลี
ส่วน ชาลีส ที่บอกว่าชื่อเหมือนผู้หญิง นางไม่กลายเป็นผู้หญิงนะ นางเป็นพระเอก 5555 และเนื้อเรื่องที่เดามาไม่ขอเปิดเผยนะ
เรื่องชื่อพวกนี้ขอดื้อไม่ยอมรับผิดอะไรใดๆ ยังไงมันก็เป็นชื่อเฉพาะในเซทติ้งแฟนตาซี ถ้าเป็นโลกความจริงไว้ค่อยมาถกกันอีกที โอเคนะ
สิ่งที่ได้จากการสับนี้คือ
“เล่าผิดฉาก เล่าผิดวิธี ตัวละครก็แปลงร่างกลายพันธุ์ได้”
คิดว่าคงจะไปแก้ไขสักหน่อย เพราะไม่อยากให้พระเอกเป็นโรคกลัวผู้หญิง และไม่อยากให้นางเอกดูเป็นสาวมั่นเชิดๆ คือไม่อยากให้มันดูน่าหมั่นไส้ ว่างั้นเหอะ 555
ไว้อาลัยตัวเองเบาๆ....
ขอบคุณมากๆ เป็นประโยชน์จริงๆ
https://writer.dek-d.com/magicofpunch/writer/view.php?id=1677327 ฝากสับด้วยจ้า ขอบคุณมาก
>>114 ใช้สัญลักษณ์ได้มั่วมาก ! จะเยอะไปไหน ระวังเรื่องลักษณะการพูดด้วย บางคำเป็นภาษาโบราณ บางคำเป็นภาษาปัจจุบัน ทั้งที่อยู่ในประโยคพูดเดียวกัน แล้วก็ถ้าประโยคพูดมันยาวหลายบรรทัดก็แบ่งช่วงบ้างก็ได้ ใช้การแสดงกิริยาเข้าช่วย เอาแค่นี้ก่อน ที่แน่ ๆ ไปแก้สัญลักษณ์ทั้งหลายแหล่ให้ถูกต้อง
>>122 คือกุไม่อยากจะด่วนสรุปนะ แต่ในมู้นี้ ไอ้คนที่มีนิสัยชอบเอาอดีตคนอื่นมากัดไม่ปล่อย ชอบด่าคนอื่น คิดว่าตัวเองเป็นใหญ่ในโม่งเด็กดีนี้ มีไม่กี่คนหรอก บอกตามตรงกุเข้ามาเล่นตอนมีคนเอาไปแปะในเด็กดีนี่แหละ กุยังไม่รู้เลยว่าดูมู้ล่างๆยังไง และกุคิดว่าคนเล่นโม่งส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีใครไปดูมู้ล่างๆหรอก ส่วนใหญ่ก็จะมาดูมู้ที่ตัวเองกำลังติดตาม ส่วนนิยายกุว่าคนเขียนได้รับอิทธิพลการใช้สัญลักษณ์จากนิยายฝรั่งชัวร์ เออก็ไปแก้ไขตามที่โม่งข้างบนบอกซะ
อืม... ky นิด
เพิ่งสังเกตว่าในโม่งมีการมอบฉายาให้นักเขียนบางคนด้วย ...แล้วตอนนี้ฉายาใครเป็นใครและสาเหตุมาจากอะไรมั่งวะ
กุรู้เพิ่งเข้ามาไม่นาน เลยจักแค่ไอ้ TW เนี่ยล่ะ
มู้นินทาไม่มีใครตั้งอ่ะสิ
ไปมาม่าในมู้เสิ่นเจิ้นก็เงียบไปมาในนี้ดีกว่า
ขอบ่นหน่อยเถอะวะ นิยายท็อปแรกหมวดเสิ่นเจิ้นดันมีมาม่ารับคำติของนักอ่านไม่ได้ คือกูถามหน่อยเถอะว่ะ ไม่เห็นรึไงว่ามีคนแม่งรออ่านอยู่เป็นพัน จะไปใส่ใจอะไรกับคนติไม่กี่คนวะ? กูล่ะงง
>>129 คือยังไงกูก็ไม่เก็ท
ถ้าเป็นกูด่ามาสิบคน แต่มีคนให้กำลังใจเป็นพันนี่คือกูแบบซึ้ง กำลังใจมาเต็ม มีคนรักมากกว่าคนชังไม่รู้กี่เท่า
อันนี้นอกจากจะดิสเครดิตตัวเองแล้วยังทำร้ายความรู้สึกคนที่ตามอ่านอีก
คือความเห็นคนอ่านที่ชอบนิยายมึงนี่คือด้อยกว่า สำคัญน้อยกว่าคนที่ไม่ชอบ?
ตอนแรกกูกะว่าจะลองอ่านดู นี่แม่งไม่อ่านมันละ
ชักรู้สึกเบื่อเด็กเห่อหมอยแฮะ
ในเรื่องคอมเมนท์แทบจะไม่มี พอมีทีก็ดันเป็นเด็กที่ไม่เข้าใจเนื้อเรื่องซะงั้น
อนิจจาเวลาจะสอบ ก็อ่านหนังสือกันทุกคนนะ แต่จะมีสักกี่คนเข้าใจ
นิยายขายดี คนอ่านเยอะส่วนใหญ่ มันต้องโง่ๆเข้าไว้ไงเมิง
บ้านเรา นิยายขายดี คือแนวรัก แนวปี้กัน
มันเน้นอารมณ์ มากกว่าหาอ่านอะไรที่มีสาระนะเพื่อนโม่ง
คนอ่านต้องการความบันเทิงนะ ไม่ได้ต้องการอะไรที่ดีงาม ตามที่ใครบางคนยังคิดแบบไดโนเสาร์หลงยุค
เหมือนวงการโทรทัศน์นั่นแหละ รายการที่อยู่ได้คือวาไรตี้ ตลก ละคร ส่วนรายการสาระแทบไม่มีสปอนเซอร์ และคนดู หรือจะด่าอีกว่าคนดูมันโง่
ถ้าวิเคราะห์ไม่ออก แยกอะไรไม่เป็น ก็ไม่ควรแสดงอะไรที่ตื้นเขินไร้สติออกมา
คุณสมบัติของผู้วิจารณ์
ผู้ที่จะเขียนบทวิจารณ์ควรมีคุณสมบัติดังนี้
1. ต้องมีความรอบรู้ กล่าวคือ ต้องมีความรู้ ความเข้าใจในเรื่องที่จะวิจารณ์เป็นอย่างดี เช่น จะวิจารณ์ดนตรีก็ควรมีพื้นฐานความรู้ดนตรี จะวิจารณ์ละครเวทีก็ต้องเข้าใจลักษณะของละครเวที มิใช่เอาละครโทรทัศน์ไปเปรียบกับละครเวทีแล้ววิจารณ์ว่าผู้แสดงละครเวทีแสดงเกินจริง เป็นต้น ดังนั้นผู้วิจารณ์ควรศึกษาเพื่อให้เกดความรู้ ความเข้าใจอย่างถ่องแท้เสียก่อนรวมทั้งศึกษาถึงหลักการวิจารณ์งานประเภทต่าง ๆ ด้วยจึงจะทำให้บทวิจารณ์น่าเชื่อถือ
2. ต้องติดตามความเคลื่อนไหวของวงการที่จะวิจารณ์ การอ่าน การฟัง การดู การชม อย่างสม่ำเสมอ ทำให้เป็นผู้มีความรู้รอบ ทำให้มีมุมมองกว้างขวางขึ้น เกิดความเข้าใจ เห็นใจ หาเหตุผลมาแสดงทัศนะไม่ค่อนข้างต่างประเด็น เช่น การวิจารณ์ภาพยนตร์ไทยเปรียบเทียบกับ ภาพยนตร์ต่างประเทศถ้าผู้วิจารย์เข้าใจกระบวนการสร้าง และปัจจัยที่เป็นปัญหาในการสร้าง ภาพยนตร์ไทย ก็จะไม่โจมตีหรือติเตียนแต่ด้านเดียว ความเป็นธรรมจึงเกิดขึ้น ผู้อ่านก็จะเข้าใจ เห็นใจวงการภาพยนตร์ไทย เป็นต้น
3. ต้องมีญาณทัศน์ คือ ความคิดเฉียบแหลม หยั่งรู้ถึงแก่นเรื่องไม่พิจารณาแต่เพียง ผิวเผิน และด่วนสรุปเอาง่าย ๆ การจะฝึกฝนตนเองให้เป็นผู้มีญาณทัศน์ทำได้โดยการสังเกต การลองตั้งคำถาม ตั้งสมมติฐาน และติดตามหาคำตอบด้วยความตั้งใจ
4. มีความเที่ยงธรรม การเป็นผู้วิจารณ์ที่ดีต้องตั้งตัวเป็นกลางไม่ชมเพราะเป็นเพื่อนหรือเพราะมีแนวคิดเหมือนกัน หรือเป็นพวกเดียวกัน ไม่ติเพราะไม่ชอบ ไม่ถูกรสนิยมผู้เขียน ต้องตัดอคติออกไปเอาเหตุผลและหลักการมาเป็นที่ตั้ง
ความเป็นกลางและจริยธรรมของผู้วิจารณ์ เป็นหัวใจสำคัญของงานวิจารณ์ ในปัจจุบัน วงการหนังสือ ดนตรี ละครหรือสื่อบันเทิงต่าง ๆ มีคุณค่าทั้งทางด้านศิลปะและเพื่อการค้า บทวิจารณ์จึงเป็นช่องทาง (Channel) หนึ่งที่จะช่วยชี้แนะให้ผู้อ่านเลือกสรรของดีมีคุณค่าประดับสติปัญญา หากผู้วิจารณ์ขาดความรับผิดชอบขาดคุณธรรมข้อนี้ วงการวิเคราะห์คงไม่ได้รับความเชื่อถือ
ผู้เขียนบทวิจารณ์จึงควรตระหนักในเรื่องจริยธรรม ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับคุณธรรมและมโนธรรม ซึ่งอริสโตเติล (Aristotle) ได้กล่าวถึงคุณธรรม 4 ประการ ที่มนุษย์พึงปฏิบัติต่อมนุษย์ด้วยกัน ดังนี้
ความรอบคอบ (Prudence)
ความรู้จักประมาณ (Temperance)
ความกล้าหาญ (Courage)
ความยุติธรรม (Justice)
เมื่อนักวิจารณ์ทำหน้าที่สื่อมวลชน นักวิจารณ์จึงต้องตระหนักในคุณธรรมดังกล่าว นอกจากนี้ เสถียร พันธรังษี ยังได้ย้ำถึงคุณธรรมของนักหนังสือพิมพ์ว่า “ หนังสือพิมพ์ คือ ผู้บันดาลโลก หนังสือพิมพ์ต้องเป็นฝักฝ่ายของธรรมะ ไม่ใช่ของตัวกู ไม่ใช่ของคณะกู ไม่ใช่แม้แต่ประเทศของกู นักหนังสือพิมพ์ต้องอุทิศตนเป็นสมบัติของมนุษย์ทุกคน ทำอะไรต้องไต่ถามธรรมะก่อน ธรรมะที่สำคัญได้แก่ สำนึกแห่งความรู้สึกผิดชอบชั่วดี อันมนุษย์อันพึงปฏิบัติต่อตนเองและผู้อื่น หมายถึง หิริ ( ความละอายต่อบาป ) และโอตัปปะ ( ความเกรงกลัวความชั่ว )
ก็เคยมีคนบอกไง อยากเขีบนนิยายเนื้อเรื่องเข้มข้นแนวgot percy บลาๆ มึงไปฝึกเขียยอังกฤษเถอะมีหวังกว่าเยอะ ถ้าเกิดมึงดังในตปท จะเกิดกระแสคนไทยมาอุดหนุนมึงเอง
ควรแยกนิยายดัง กับนิยายคุณภาพดีออกจากกันวะ
>>147 ใช่ ไม่ใช่ด่าเหมารวม
คนอ่านมีวุฒิภาวะ มีชอบมีเกลียดต่างกัน และเลือกได้ด้วยสำนึกตัวเอง บังคับเค้าไม่ได้หรอก
ไม่งั้นจะมีนิยายหลายหลากแนวได้ยังไง
คนเขียนอยากเสนออะไรก็เสนอไป บางคนแค่อยากได้ความบันเทิง บางคนอยากได้สาระเนื้อหา บางคนอยากได้อะไรที่ทำให้ฉุกคิด ปรัญชา
สุดท้าย คนอ่านที่ยอมซื้อจะเป็นคนตัดสินเอง คนเขียนแค่เขียนงานที่คิดว่าเหมาะกับตัวเองออกมาก็พอ หรือจะเพื่ออะไรก็ตาม
แต่ประเภทด่าคนอ่านที่ชอบในแบบที่เค้าชอบ นี่กูว่าคงยากที่จะเสนออะไรออกมาได้ดี
งานเขียนส่งประกวดหวังรางวัลคุณภาพ กับ งานเขียนสนองอารมณ์คนอ่านหวังยอดขาย แนวคิดวิเคราะห์ก็ต่างกันมากแล้ว
ถ้ามึงไปนวดไปตีกะหรี่ แล้วมึงหวังบรรลุธรรมด้วย มันยิ่งกว่าแจกันลูซิเฟอร์อีกนะมึง
ลงชื่อ เซฮุน
<<149 แจกันลูซิเฟอร์คืออะไรวะ กูมาใหม่ กูงง
>>150 ลองหาอ่านในนี้ลิงค์แล้วกัน กุขี้เกียจหาให้
>>144 มึงก็แม่งอุดมคติไป ขนาดสื่อหลักในประเทศ หรือต่างประเทศ ยังทำกันไม่ได้เลยห่า ไอ้พวกนั้นไม่ได้วิจารย์นิยายด้วยนะ เรื่องจริงๆที่เกิดขึ้นนี่แหละแม่งยังเอียง เอาใกล้ๆบ้านแค่เคสโรฮิงญา ที่พม่าโดนด่าเนี้ย มึงรู้ป่าวว่าจริงๆโรฮิงญาแม่งทำตัวยังไงถึงโดนพม่ามันไล่ฆ่าเอา เอาที่กูเคยเฉียดแม่งทุกคนต้องยอมรับมันแต่พวกมันไม่เคยจะปรับตัวเองให้เข้ากับคนส่วนใหญ่ บ้านเราก็มีค่ายผู้ลี้ภัย ตอนหลังก็ไม่รับเพราะแม่งเหี้ยเกิน สื่อกะแสหลักเอาเอาเลยเย็ดแม่ ฮิวแมนไรท์ มาเต็ม แต่ที่พีคกว่าคือ ไอ้ประเทศเจ้าของสำนักข่าวอย่าง อเมริกาแม่งก็ทำแบบเดียวกันกับพวก อเมริกาใต้ กูไม่เห็นมีข่าวออกมาซักแอะ นี่สื่อแม่เย็ด ขนาด CNN NBC นะมึง แขกมันทนไม่ได้ถึงขนาดตั้ง อัลจาซิร่า มาแข่ง แม่งผ่านไป ไม่กี่ 10 ปี อัลจาซิร่า แม่งก็กลายเป็นเหี้ยพอกัน นี่เรื่องคอขาดบาดตายแท้ๆ ไอ้พวกผู้ใหญ่มันยังทำไม่ได้เลย มึงคิดว่า ควอลิตี้คนวิจารย์ที่มึงยกมา มึงจะหาได้จากที่ไหนวะ ถถถถถถถถถถถถ
>>152 มึงอยากจะดีเบตกับกูเรื่องนี้ไหมล่ะ... เผื่อมึงกับกูจะได้เข้าใจอะไรมากขึ้น มาปรับความคิดตามข้อเท็จจริงที่ยกมา
คือกูได้นะ แต่คนอื่นในมู้อาจจะรำคาญเอาหรือเปล่า นี่มู้นิยาย
แต่ถ้าคนอื่นไม่ซีเรียส และมึงอยากจะดีเบตจริงๆ ก็เอาชุดความคิดของมึงมาวางเลย เดี๋ยวกูมาอ่านแล้วแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้วย
ลงชื่อ เซฮุน
กุขำถ้าไอ้เซฮุนแปะข้อความนั้นจริงตัวแม่งยังทำไม่ได้เลย ตอนนี้ยังพยายามทำตัวเป็นศูนย์กลางจักรวาลในมู้นี้จนคนเอือมไปเยอะละ
กูว่าใครจะดีเบตกับไอ้เซฮุนก็ตั้งมู้ใหม่เถอะ กูขอบาย
ไม่มีใครสับนิยายแล้วหรอวะ หรือคนสับหายหมดแล้ว
เพิ่งเกตว่ามู้นี้ไม่มีรายชื่อนิยายรอสับนี่หว่า
กูกราบก่อน ถ้าจะดีเบตไปหามู้อื่น หรือย้ายไปห้องเล้าจ์เลยป่ะ เปิตแชตรูมไปคุยกันส่วนตัวก็ได้ ทำไงก็ได้ให้พวกกูไม่ต้องเกี่ยวนะ เออ จบ
>>156 ตัวอย่างของคนชอบทำตัวศูนย์กลางจักรวาล
http://bbs.pramool.com/webboard/view.php3?katoo=C71199
http://bbs.pramool.com/webboard/view.php3?katoo=C71203
http://bbs.pramool.com/webboard/view.php3?katoo=C71753
http://bbs.pramool.com/webboard/view.php3?katoo=C107088
http://bbs.pramool.com/webboard/view.php3?katoo=C105506
"กุขำถ้าไอ้เซฮุนแปะข้อความนั้นจริงตัวแม่งยังทำไม่ได้เลย ตอนนี้ยังพยายามทำตัวเป็นศูนย์กลางจักรวาลในมู้นี้จนคนเอือมไปเยอะละ"
ข้อแรก ประโยคแรก = คือกูสับนิยาย... ไม่ได้วิจารณ์นิยาย เปรียบให้ควายอย่างมึงฟังง่ายๆก็
เหมือนกูจะเย็ด และกระแทกหีแม่มึง มันไม่เหมือนกูจะร่วมรักลงซอฟต์แวร์กับแม่มึงนะ
ข้อสอง ประโยคสอง = กูไม่ได้พยายามทำตัวเป็นศูนย์กลางจักรวาล กูพยายามเป็นเซฮุน และ เซฮุนเป็นหนึ่งในสมาชิกวง Exo บอยแบนด์เคป็อป ไม่ใช่ดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะ
แล้วกูจะต้องแคร์ทำไมว่าโม่งจะแคร์กูหรือเปล่า กูไม่ใช่ดาราต้องแคร์สื่อ ไม่ใช่นักการเมืองต้องแคร์ ฐานเสียง กูไม่ได้จะขายอะไร และพวกโม่งไม่มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรกับกู มึงเป็นใครกูก็ไม่รู้
กูสับนิยายแค่เพราะอยากสับ กูมาช่วยเขาสับให้มันหมดลิสต์ มีเพิ่มก็สับไป เลือกจองไปเรื่อย
อ่อ... จำใส่กะโหลกกลวงของมึงนะ กูไม่มีปัญหากับบุคคล กูแค่มีปัญหากับความคิดความเชื่อ สติปัญญาและความไม่รู้เรื่องรู้ราวของสิ่งมีชีวิตในนี้เท่านั้น
ที่นี่ไม่รู้ว่าใครเป็นใคร มึงยึดติดกับกูมากก็ไปหาเพลง Exo ฟังไอ้ชิบหาย
ถ้ามึงไม่แคร์กูมึงควรปล่อยวางนะ
ลงชื่อ เซฮุน สรุปไม่มีใครดีเบตนะ
ไม่มีใครสับนิยายแล้วหรอวะ? มู้เพี้ยนอีกแล้ว
พอเต๊อะ กลับมาสับนิยายกันต่อเหอะ กูกราบเบญจางคประดิษฐ์ให้เลยก็ได้
>>164 คือกูไม่เข้าใจเจตนามึงเซฮุน กูอ่านที่มึงโพสต์ข้อควรทำในการวิจารณ์นิยาย (มึงโพสต์ใช่ไหม?) กูก็นึกว่ามึงเป็นคนนอกมาเขียนแย้งอะไรแบบนั้นว่าสับนิยายแบบนี้มันไม่ถูกต้อง แต่พอเป็นมึงแล้วมึงยังมาพูดแก้น้ำขุ่นๆ อีกว่าที่มึงสับคือสับ ไม่เกี่ยวกับวิจารณ์ มึงต้องการอะไร มึงกำลังเอาบทความนั่นกระแทกหน้าใครอยู่วะ? มึงกำลังด่าใคร หรือมึงแค่นึกครึ้มเอามาแปะให้คนอื่นดูเฉยๆ? หรือก่อนหน้านี้มีพูดเรื่องการวิจารณ์ กูอ่านผ่านๆ แล้วกูจำไม่ได้ เหมือนอยู่ดีๆ มึงเอาบทความมาแปะด่าโดยรวมที่คนอื่นวิจารณ์ไม่ถูกต้องตามอุดมคติ แต่พอมีคนด่ามึงว่ามึงยังวิจารณ์ไม่ได้เหมือนกัน มึงก็มาแก้ตัวน้ำขุ่นๆ ว่าที่มึงทำคือมึงสับ ไม่ได้วิจารณ์ มันไม่เกี่ยวข้องกันแล้วก็ด่าอะไรแรงๆ ของมึงก็ไม่รู้ คือมึงต้องการอะไรกูอยากรู้ อยากให้คนอื่นวิจารณ์ ส่วนมึงสับงั้นเหรอ?
>>168 มันผีเข้าผีออกแถไปแถมาประจำละ อย่าไปคุยกับมันเลย เสียพื้นที่กระทู้เปล่าๆ
>>150 ลูซิเฟอร์มีต่อที่นี่อีก >>>/webnovel/4265/774- กูฮาที่สุดคือยก ref มาดันเป็นนิยายโรมานซ์ พอคนทักก็หัวเราะกลบเกลื่อน
>>169 ก็บอกแล้วให้เลิกคุยกับมัน ดูทรงแล้วแม่งก็เป็นแค่เด็กเกรียนๆ คนนึงในชีวิตจริง ที่อ่านหนังสือมากหน่อยแล้วก็มโนคิดไปว่าตัวเองเก่ง คือจะโชว์พาวโชว์อะไรไม่ว่าหรอกนะ แต่มันรำคาญตรงที่ชอบทำตัววอนนาบีอยากเด่นอย่างดังทั้งที่บอร์ดนี้สร้างขึ้นเพื่อให้แลกเปลี่ยนความเห็นโดยไม่จำเป็นต้องระบุตัวตน คิดดู ทั้งที่จริงๆ แม่งสามารถเปลี่ยนไปใช้ชื่ออื่นเป็นการชุบตัวได้ตอนที่แม่งควายลืมสลับ ip แม่งยังไม่ทำ คงเสียดายเครดิตที่เคยสับนิยายเอาไว้ คนแบบนี้น่าสมเพชนะ
ไอ้เซฮุนนี่คนในบอร์ดหรือเปล่าวะ?
กุแนะนำให้เซฮุนไปเปิดห้องของตัวเองเลย แล้วอยากจะใช้ตัวเองเป็นมาตรฐาน โชว์พาวฉลาด สับนิยาย หรือจะด่ายังไงก็ได้ตามสไตล์มึงเลย ถ้าเจ๋งจริงเดี๋ยวคนก็ไปตามมึงบอร์ดนั้นเองแหละ ในห้องนั้นมึงจะพูดเหี้ยไรก็ไม่มีคนมาต่อว่ามึงแน่นอน ทิ้งคนธรรมดาอย่างพวกกุให้คุยวิจารณ์สับนิยายกันอย่างสงบๆเถอะ
อืม... กุไม่ค่อยสนใจอีเซฮุนนะ แต่กุสงสัยอย่างนึง
หมวด อดีต ปัจจุบัน อนาคต นี่เขาล็อคแค่ธีมจีนเสิ่นเจิ้นอย่างเดียวเลยเหรอ? ถ้าสมมุติกุลงแนวยุโรปยุคกลางอะไรพวกนี้จะไปรอดมั้ยเนี่ย
มู้นี้ไม่ได้ยกลิงค์นิยายที่ยังไม่สับมาหรอ หรือกูอ่านพลาดตรงไหน
งั้นถามเพิ่มต่อหน่อยนะ... มันจำเป็นมั้ยที่ต้องให้ตัวละครตายแล้วไปสิงร่าง หรือเกิดใหม่ในชีวิตอื่น
คือกุเห็นแล้วหมวดนี้แทบไม่ต่างจากหมวดแฟนตาซี ที่เขียนเพื่อเน้นขายกลุ่มผู้อ่านหญิงเลย
แว่บอ่านหลายๆ เรื่องจุดร่วมเหมือนกันหมดคือ เกิดเหตุบางอย่างไปต่างโลกไม่ก็สิงร่างชาวบ้านเขา แล้วจู่ ๆ ก็มีท่านอ๋องหรือคนใหญ่คนโตมาปิ้งเนี่ย
เดี๋ยวสับนิยายหมดลิสต์ กูไปแน่นอน พวกมึงสบายใจได้
ลงชื่อ เซฮุน กษัตริย์ตรัสแล้วไม่คืนคำ
กูคือ 152 ที่ตอบ 144 เพิ่งจะกลับมาดู กูขอโทษเพื่อนโม่งทั้งหลาย ที่ยกตัวอย่างสื่อหลัก ไปซะไกลเลย ประเด็นของกูแค่อยากตอบ 144 ว่า ควอลิตี้คนวิจารณ์ที่พิมพ์มาซะยาว มันหายากมาก ประเด็นมันแค่นั้นจริงๆ
ขอกุพูดอะไรหน่อย ไหนๆมึงก็จะไปแล้ว
กุเป็นโม่งที่สับนิยายในกระทู้แรกๆ แล้วตัดสินใจเลิกเพราะรำคาญเซฮุน กุกลับอ่านมู้11ในช่วงที่เถียงกันเรื่องบาตรกับลูซิเฟอร์นี่แหละ ย้อนๆไปก็สังเกตเห็นว่าเซฮุนรีวิวนิยายแล้วแฮะ แต่รีวิวเป็นแบบสับทีละสองสามตอน (ตามที่กุเห็นในมู้นั้น) ทั้งที่มึงเคยบอกและแซะกุไว้ในมู้ที่ห้า >>>/webnovel/3187/169/ ว่า
"เชื่อกู กูเซฮุน กูไม่ได้อ่านแค่ 4-5 บทแล้วรีวิว กูอ่านเองได้ กูมีความคิดของกู"
แต่มึงกลับมารีวิวสองสามบทในโม่งแบบลวก ๆ โดยการก็อปบทสนทนาในเรื่องมาลงแล้ววงเล็บความคิดมึงสั้นๆที่ไม่ใช่คำวิจารณ์ ปิดท้ายด้วยคะแนนต่ำโดยไม่มีการชี้แจงที่มาที่ไป ไหนล่ะการวิเคราะห์plot holeของมึงหรือการชี้การนำเสนอผิด ๆ
เอาจริงๆกุจะไม่อะไรเลยถ้ามึงวิจารณ์ดี อันที่มึงด่ากุ กุก็เอารสนิยมตัวเองเป็นที่ตั้งจริงๆ(ยังยืนยันว่าตานีของเครื่องบินไม่สนุกเท่าน้องยูเจนีแสนรักกุ) ผิดหวังชิบหายที่สุดท้ายมึงมันก็แค่hypocriteที่พยายามพูดสร้างภาพให้ดูยิ่งใหญ่ มีความรู้มากแต่ความจริงกลวงยิ่งกว่าพล็อตนิยายเย็ดกันในธันวลัย
มู้นี้มันก็แค่พื้นที่ให้โม่งมาแชร์นิยายกัน ชอบเรื่องไหนก็เอามาลง เกลียดเรื่องไหนก็เอาสับ อย่างกุก็แค่ชอบอ่านนิยายแล้วเอามาบ่นกับเพื่อนเป็นทุนเดิมเลยเอามาลงโม่งด้วย
กุเลยไม่เข้าใจจริงๆว่ามึงจะพยายามสร้างตัวตนขึ้นมาให้คนจดจำในเรื่องลบๆ คอยจำผิดชาวบ้านตั้งแต่คำศัพท์ไปจนถึงการวิจารณ์ ตีกรอบทุกคนว่าต้องทำตามมาตรฐานกุ(ซึ่งกุเองก็ทำไม่ได้หรอก)นะ ไปทำไม
น่าสมเพชชิบหาย
>>190 มันเป็นสเต็ปของไอ้เซฮุนน่ะ เวลามันสร้างเรื่องอะไรมาแล้วโดนคนด่า มันก็จะกลับมาสับนิยายเหมือนว่าจะเรียกคะแนนนิยม หรืออะไรทำนองนั้นกลับมา แต่เรื่องนิยายที่มันสับเนี่ยกากคงจะโทษมันไม่ได้ เพราะจริงๆ มันไม่ได้เป็นคนเลือกจากนิยายเด็กดีทั้งหมด แต่มีคนเอาลิ้งมาโปรยๆ ลงในโม่งก่อน ซึ่งส่วนใหญ่มันก็ห่วยนั่นแหละ แล้วไอ้เซฮุนก็ค่อยเลือกจากในลิสต์นั้นอยู่ดี
>>189 อันนี้กูเห็นด้วย โดยเฉพาะการสับของเซฮุน มันสับทีไรกูอ่านผ่านตลอด ถ้าชี้ plot hole หรือวิจารณ์จริงๆ ก็จะอ่านละเก็บข้อมูลตลอด แต่หลังๆ เหมือนแค่เอานิยายมาสรุปเป็นเรื่องย่อว่ะ แถมความเห็นตัวเองหน่อย สำหรับกูคือเสียเวลาเปล่าที่จะอ่าน เพราะไม่ได้อะไรนอกจากเรื่องย่อ
>>191 https://fanboi.ch/webnovel/4435/
ขออัญเชิญท่านเซฮุนกับสาวกครับ ผู้ล้ำเลิศเปี่ยมปัญญาดุจท่าน ไม่คู่ควรกับบอร์ดโง่งมเยี่ยงโม่งเด็กดีแบบนี้
ลงชื่ออัครสาวกที่หนึ่งของท่านเซฮุน แผล่บๆ
>>195 กูไม่อยากทำตัวคาซาม่านะ แต่การที่มึงไปตั้งกระทู้แยกเนี่ยมันรกบอร์ด รู้ป่าว
จริงๆ ถ้าเราไม่สนับสนุนมันเราก็แค่ปล่อยเบลอ ไม่หือไม่อือเวลาที่มันโพสต์ อย่างที่บอกไปว่าที่นี่มีไว้ให้สนใจ คห. มากกว่าสนใจตัวคนเขียน แต่ในเมื่อคนเขียนแม่งเสร่อทำตัววอนนาบีซัมวัน เราก็ถือว่ามันละเมิดกฎ ทำเหมือนมันเป็นอากาศไป แต่ถ้าวันไหนมันสำนึกได้ มาเม้นโดยไม่ลงชื่อเสร่อๆ ไว้ใต้ คห. เราก็ตอบมันปกติเหมือนที่เราตอบทุกคน
แฟร์ๆ ไปเลย ดีกว่ามานั่งแขวะกันไปเรื่อย ไม่ได้อยากไล่ใครหรือบีบใครให้เป็นหมาจนตรอก มันไร้สาระและไม่ใช่จุดประสงค์ของที่นี่น่ะ
ไล่ไปก็ดีเหมือนกัน ใครอยากคุยกับมันก็ไปกระทู้โน้นเอง ที่นี่จะได้สงบสุขหน่อย ถึงกูว่ายังไงมันก็ไม่ไปหรอก
>>196 ตามหลัก admin ก็บอกให้เมินนะ ถ้ามันละเมิดกฎมากๆ ก็ไปขอแบนได้ เช่น>>186
คำลงท้ายก็สุ่มเสี่ยง แต่แค่นี้ admin คงปล่อยผ่านไปนะละ รอมันหนักๆ ก่อนแล้วค่อยแจ้งแบนไปก็ได้
ปล. กูไม่คิดว่ามันจะสำนึกได้
>>196 หากท่านเซฮุนประสงค์จะร่วมสังคมไร้นามแบบโม่งเด็กดีแบบนี้ก็ง่ายนิดเดียวครับ เพียงแค่ถอดนามแล้วแฝงตัวในฝูงชนแบบคนปกติทั่วไปครับ แต่ทำไมท่านต้องทำแบบนั้นครับ เพราะชื่อเซฮุนนี่เป็นตัวแทนความเทพทั้งปวงของท่านครับ และ บอร์ดนี้ไม่คู่ควรกับความเทพของท่าน แผล่บๆ
ลงชื่ออัครสาวกเซฮุนที่หนึ่ง แผล่บๆ
เห็นด้วยว่ะไล่แม่งไปเลยพูดกันตั้งบอร์ดกี่รุ่นแล้ว แม่งก็ไม่สำนึกมีแต่เหี้ยขึ้น คราวหลังใครยังลงชื่อหรือจะท้าดีเบทเปลืองมู้ ก็พ่วงลิ้งไล่แม่งไปบอร์ดนั้นเลย
พวกมึงแม่งควรไปหาจิตแพทย์ว่ะ
ไม่ชอบเซฮุนก็ไม่ต้องไปคุยมันสิ ยิ่งคุยยิ่งชอบเซฮุน ถ้าเห็นว่าเซฮุนสับไม่ได้เรื่อง ก็ให้มึงสับแทนสิ จะตามใจเซฮุนซะทุกเรื่องเรอะ เป็นขี้ข้ารึไง โตๆกันแล้วไม่ใช่เด็กประถม
ถ้าอยากจะสับนิยายเหมือนครั้งที่เซฮุนไม่อยู่ เปิด fb ขึ้นมาเองก็ได้ ชื่อสมาคมสับนิยายอะไรก็ว่าไป ถ้าใครมาทำตัวจัญไรแบบเซฮุนก็ลบทิ้งหรือแบนมันก็ได้ ถ้าอยู่แต่ในโม่ง มึงจะไล่มันยังไง แอดมินโม่งก็ไม่ทำห่าไร
เปิดโม่งสับ ประเด็นจะเบี่ยงไปใส่คนสับแทนที่จะสนใจเนื้อหาที่สับ
>>203 เมินเฉยมากี่รุ่นล่ะ เห็นแม่งสำนึกไหม มีแต่ได้ใจกัดแขวะเขาหนักขึ้น ก็เลยเสนอเลยอยากเซฮุนสไตล์ อยากมีตัวตนก็ไปมู้อื่นเลย ตอนเขากำลังพูดกันดีๆก็ต้องมาหาเรื่องให้ดราม่า ท้าดีเบตจนเปลืองมู้ ส่วนตัวกุไม่ได้ตอบโต้มันมาหลายรุ่นละ คราวนี้มันจะท้าใครดีเบทก็จะยัดลิ้งให้มันไปต่อกันมู้นั้นละ
https://writer.dek-d.com/lookc/writer/view.php?id=1645949
มีใครสับเรื่องนี้ไปรึยังอ่ะ พออ้างอิงรายชื่อยังไม่ได้สักจากอันที่แล้วเลยงงๆ
...ไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองถึงชอบโผล่มาตอนเขามีเรื่อง(?)กันตลอด...
มาบอกว่าเราเป็นคนหนึ่งที่เลิกวิจารณ์เพราะเซฮุน คือตั้งใจสับแต่โดนลากไปเรื่องอื่น มันน่ารำคาญมู้วิจารณ์ไม่เป็นวิจารณ์ เราอาจเรื่องมากแต่มันหมดอารมณ์น่ะ สับไป3-4เรื่องเล็งอีกหลายเรื่องแต่เบื่อเซฮุน
ขอโทษที่ลืมก๊อบรายชื่อนิยายที่ยังไม่ได้สับมาลงในกระทู้นี้นะ ไว้จะเอามาลงให้
แล้วตอนนี้ล่ะ คนสับเหลือกี่คนล่ะ อย่าบอกนะว่าเหลือเซฮุนตัวเดียว?
กุกำลังพิมพ์สับเรื่องที่โม่งเม้น40แปะไว้อยู่ https://my.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=1696724
สับ มนตราเงาบุปผา Always be Youของโม่ง /webnovel/4393/40 จ้า
ออกตัวว่าไม่ชอบแนวรักแรกพบหรือโชคชะตาเท่าไร แต่คิดว่าเรื่องมึงน่าสนใจดี
เริ่มตอนที่ 1
นางเอกเจสก้าเดินทางไปซื้อดอกเรเดียร์ที่ร้านประจำจนได้เจอพระเอกชาลีสแล้วเกิดความรู้สึกประหลาดเหมือนที่กุสรุปได้ว่า คนนี้แหละคู่ชีวิตฉัน ฝ่ายพระเอกได้ยินคำสาปแช่งบรรพบุรุษของตนว่าทายาทตระกูลเซาท์ออทัมน์ต้องช้ำรักเสมอไป ระหว่างมึนๆ พระเอกก็ช่วยนางเอกจากกระถางต้นไม้ที่จะตกลงมา เจ้าของร้านโผล่มาแซวคู่พระนางแล้วพูดถึงดอกเรเดียร์
เอาถึงตรงนี้ก่อนนะ กุว่ามึงใส่expositionได้เนียนดี เพราะปมของเรื่องส่วนนึงก็คือคำสาปตระกูลพระเอกที่ทำให้ดอกเรเดียร์ที่รัฐตนเป็นสีชมพู มึงก็เลยมาเริ่มที่ร้านดอกไม้ เป็นการสร้างบริบทให้ใส่expostionได้เนียนดีมาก ชอบๆ
ที่จะติอย่างแรกคือ มึงสับมุมมองไปมาระหว่างพระเอกนางเอก มันเลยจะงงๆในบางจุด เช่นจุดที่สบตากันแล้วช็อต กุนึกว่านางเอกเป็นคนได้ยินคำสาปเสียอีก แต่เข้าใจว่าต้องการเกริ่นเรื่องดอกไม้ก่อน ถ้าแบบนั้นตัดบทไปหาพระเอกตอนที่แม่พระเอกโทรมาแจ้งเรื่องอาเลยน่าจะลื่นกว่า อาจจะเป็น
ครั้นเจสก้าเดินจากไปมีเสียงโทรศัพท์ดังไล่หลัง ทว่ากว่าชายหนุ่มจะรับสาย เธอก็ก้าวขึ้นรถไฟฟ้าบริการแขกวีไอพีของตนไปเสียแล้ว
-----
“ชาลีส กลับบ้านด่วยเลยนะ ชาเลย์.... ท่านอาของลูก...” ชาลีสหน้าเผือกสีเมื่อได้ฟังคำดังกล่าว ...
อีกเรื่องที่จะติงคือการบรรยาย ทั้งตัวละครและเนื้อเรื่อง
มึงติดคำว่า”ก่อนจะ"นะ บางจุดไม่จำเป็นต้องมีหรืออาจใช้คำว่า”แล้ว"มาแทน
เช่น หญิงสาวเพียงยิ้มรับ ก่อนจะเดินผ่านตัวร้านจุดคิดเงินไปยังสวนเล็กๆ ด้านข้างซึ่งจัดไว้ให้ลูกค้าได้เลือกชม
ปัญหาของประโยคนี้คือยาวมาก ไม่มีเว้นให้คนอ่านหายใจ ทำให้อ่านแล้วเหนื่อย เหนื่อยสะสมมันก็จะเบื่อแล้วชวนปิดหน้านิยาย
หญิงสาวเพียงยิ้มรับแล้วจึงเดินผ่านจุดคิดเงินไปยังสวนขนาดเล็กที่จัดแสดงแก่ลูกค้า
อันนี้ของกุก็ไม่ได้ดีมาก ที่กุคิดคือตรงตัวร้านจุดคิดเงินไม่จำเป็น เพราะจุดคิดเงินก็อยู่ในตัวร้ายอยู่แล้ว(รึเปล่า?) สวนเล็กๆ ... ตรงนั้นกุว่าถ้าขึ้นประโยคใหม่ได้เลยก็ได้ แต่กุชอบอะไรสั้นๆมากกว่า
การบรรยายตัวละคร อืม อันนี้ค่อนข้างsubjectiveแต่ส่วนตัวไม่ชอบคนบรรยายละเอียดจัดๆ เหมือนที่มึงเขียนว่า หญิงสาวผมลอนยาวสลวยสีน้ำตาลเข้มจนออกแดงดัดปลาย เพราะมันคือนิยาย ต่อให้มึงบรรยายละเอียดมากๆๆยังไงคนอ่านก็นึกตามมึงไม่ได้หรอก ยิ่งมาสีน้ำตาลเข้มออกแดงนี่กุหยุดชะงักว่าสีประมาณไหนวะ
ตอนบรรยายพระเอกครั้งแรกด้วย มึงบรรยายซ้ำพอสมควร
"ชายหนุ่มผิวขาวซีด ผมดำสนิทตัดเข้ากับใบหน้า ทว่ากระเซอะกระเซิงชี้ฟูเหมือนคนเพิ่งตื่นและไม่ค่อยถูกดูแลจัดหวีให้เข้าทรง ใส่กางเกงผ้าขายาวสีเทากับเสื้อยืดแขนสั้นสีขาว รองเท้าแตะ มันเหมือนชุดกำลังจะเข้านอนมากกว่าจะออกมาเพ่นพ่านด้านนอก และที่ยิ่งกว่าอะไรทั้งหมดคือนัยน์ตาคมสีม่วงประหลาดๆ คู่นั้นก็มองมาที่เธอด้วยสีหน้าตกตะลึงไม่แพ้กัน”
ผมกระเซอะกระเซิงคือผมที่ไม่ได้หวีให้เข้าทรงอยู่แล้ว รวบไปว่าผมกระเซิงเหมือนคนเพิ่งตื่นไปเลย สีเสื้อกางเกงนี่ไม่สำคัญหรอก มึงก็บอกเสื้อยืดกางเกงขายาวเหมือนจะเข้านอน ก็รู้อยู่แล้วว่าเซอแดก เรื่องตาสีม่วง กุคิดว่าควรเอาไปไว้แรกสุดว่ะ เพราะพระนางก็กึ่งๆมองหน้ากันถึงรู้สึกช็อตป่ะวะ อีกอย่างตาสีม่วงเป็นสัญลักษณ์ของคำสาปพระเอก ดังนั้นมึงควรเน้นและควรเอาไว้ข้างหน้า มันจะได้มีimpactมากที่สุด
(เสนอแนะ ลองเลี่ยงการใช้คำว่า “ถูก” คำว่า “มัน” ดู มันเป็นสำนวนต่างประเทศ จริงๆไม่ได้ร้ายแรงขนาดนั้นแต่ถ้าลองเลี่ยงก็เป็นการฝึกฝีมือการเลือกคำไปในตัว)
(มีต่อ)
ต่อจ้า
ต่อมาพูดถึงงานศพอา พระเอกรำลึกความหลังถึงอาแล้วก็โดนคำสาปเล่นงานอีกรอบ ตรงนี้ไม่มีอะไรแค่จะติตรงที่พูดถึงคำสาป น่าจะทำโทนให้จริงจังหน่อย ที่ว่าคนที่ไม่ได้เป็นเจ้ารัฐจะอกหักรักคุดอยู่เป็นโสดจนตัวตาย ฟังแล้วดูติดตลกมากกว่า
จบตอนที่ 1
ปล. รู้สึกว่าชื่อตอนดูเชยเหมือนนิยายรักน้ำเน่า ฟีลขัดกับชื่อเรื่องมาก แม้แต่ชื่ออังกฤษ always be you ก็ไม่เข้ากัน ชื่อไทยมันดูลึกลับน่าสนใจกว่าเยอะ
ตอนสอง
มีพูดถึงคำสาปบ้าง สรุปคืออาของพระเอกโดนคำสาป พอเสียไป คำสาปเลยเข้าตัวพระเอก พระนางต่างคนต่างถูกใช้ให้มาเอาของจากอีกฝ่าย ตอนจบพระเอกพบว่าพี่ชายที่เป็นว่าที่เจ้ารัฐตายแล้วซะงั้น
แลดูเอื่อยๆ คงเพราะมึงพยายามยัดบทนางเอกเข้ามา ที่ใช้ว่ายัดเพราะตอนพระนางอยู่ด้วยกันเอาจริง ๆ แทบไม่ได้คุยอะไรกันเลย รู้สึกถึงบรรยากาศ awkward ระหว่างสองคน แต่กุเข้าใจว่าการเขียนตัวละครให้เคมีเข้ากันมันยาก (กุเองก็เขียนไม่ได้ว่ะ พยายามเรียนรู้อยู่เหมือนกัน) ที่กุคิดไว้ส่วนนึงก็คือมึงยังกำหนดคาแรกเตอร์ตัวละครไม่ชัดเจน คนอ่านจึงยังจับต้นชนปลายไม่ถูกว่าอีกสองตัวนี้มีนิสัยยังไง คงจะมีปฏิสัมพันธ์กันประมาณไหน
ตอนสาม
ตอนนี้เน้นไปที่คำสาปซึ่งกุว่ามันน่าสนใจกว่าเรื่องรักมากๆอะ นางเอกยังเหมือนตัวละครที่โดนลากไปนู้นนี่ตามบท ว่ากันตามตรงมันพูดกับพระเอกไม่กี่ประโยคเองป่ะ แถมก็ไม่ได้หวานซึ้งไรมาก มีแต่บทโชคชะตากำหนดให้ใจเต้นตุ้มๆต่อมๆกันทั้งคู่ก็แค่นั้น
เออ แต่พี่พระเอกแม่งเห็นแก่ตัวจังวะ ที่ให้ไปรับเอกสารอะไรพวกนี้คือหวังจะทิ้งภาระให้น้องตั้งแต่แรกเลยนี่หว่า
อันนี้ไม่ค่อยมีอะไร ถือว่าค่อนข้างดีด้วย การบรรยายไม่ค่อยติดขัดเพราะส่วนใหญ่เป็นการอธิบายเรื่องราวที่มาที่ไปมากกว่า ซึ่งมึงทำได้ดี
จบแค่นี้
สรุป กุว่าสนุกดี ชอบปมในเรื่องมากๆ แต่งต่อนะๆๆๆ กุอยากรู้ว่ามันสาปทำไม
ที่รู้สึกตะงิดๆมีแค่เรื่องการบรรยายบางส่วนยังไม่ไหลลื่น บทนางเอกยังไม่ค่อยลงตัว พระเอกก็โอเคนะ ดูมุ่งมั่นดีแต่ความสัมพันธ์กับนางเอกยังแปร่งๆ
ถ้ามึงอยากเน้นแฟนตาซี ลงปรับเรื่องรักให้น้อยลงแล้วชูเรื่องคำสาปเป็นเรื่องเด่นดีไหม แบบเรื่องสายสัมพันธ์รักเป็นตัวไขปริศนาไปเรื่อยๆ
ไม่ให้คะแนนนะ ให้ไม่เก่ง แต่ชอบ อย่าลืมเขียนต่อ---
>>216 กูขอทำตัวเซฮุนหน่อยนะ แต่สงสัยว่ามึงใช่คนเดียวกับที่เอาลิ้งนิยายเก่ามาแปะไว้ที่หัวมู้ไหม ทำไมมึงถึงโยงลิ้งค์ไม่เป็นวะ กูว่ามันไม่ได้ยากอะไรเลยนะ แถมมีคนสอนไปแล้วด้วยปะ
ขอโทษที่ต้องพูดแบบนี้ แต่มันขวางหูขวางตาจริงๆ เอางี้ กูจะอธิบายวิธีโยงลิ้งค์ง่ายๆ ให้ จะได้ไม่มีใครโยงลิ้งแล้วดับอีก
1. ถ้ามึงจะโยงไปยัง คห. ในกระทู้เดียวกัน เช่น กรณีนี้ที่มึงจะโยงไปที่ คห. 40 มึงก็แค่กดเครื่องหมาย > ติดกัน 2 อัน แบบนี้ >> จากนั้นก็ตามด้วยเลข คห. "โดยไม่ต้องเว้นวรรค" จะได้ว่า >>40
2. ถ้ามึงจะโยงไปยัง คห. ในกระทู้อื่น เช่น มึงจะโยงไป กระทู้พูดคุย WN มึงก็กดเครื่องหมาย > ติดกัน 3 อัน แบบนี้ >>> จากนั้นตามด้วยเครื่องหมายทับ / แบบนี้ แล้วจากนั้นก็ใส่ url ของห้องนั้นไปโดยที่ไม่ต้องมีคำว่า fanboi ห่าเหว เช่น >>>/webnovel/2400/ และถ้ามึงอยากจะเน้นไปที่ คห. ใด คห. หนึ่งในกระทู้นั้น ก็ใส่เลข คห. ตามหลังไป >>>/webnovel/2400/10 คือ คห. 10 ของกระทู้พูดคุย WN
3. ไม่ว่ามึงจะโยงจากในกระทู้เดียวกัน หรือโยงจากต่างกระทู้ แต่ถ้ามึงต้องการพูดถึงหลายๆ คห. รวมกัน (โดยส่วนใหญ่คือ สับยาวมาก เลยต้องโพสต์ต่อกันเป็นทอดๆ) ให้มึงใช้ - ระหว่างเลข คห. เช่น ต้องการอ่านจาก คห. 15 ถึง คห. 20 ในกระทู้นี้ ก็เป็น >>15-20 หรือถ้าจะโยงไปกระทู้อื่นก็เหมือนกัน >>>/webnovel/2400/15-20 ไม่มี , ห่าเหวอะไร กูไม่รู้ว่าไปเอาไอ้พวกนี้มาจากไหน หรือเพราะอะไรถึงได้คิดว่าทำแบบนั้นแล้วลิ้งจะขึ้น
ตามนี้นะ ถือว่าเป็นไกด์ไลน์ ไม่ได้คิดจะด่า หากใช้คำรุนแรงไปต้องขออภัยไว้ในที่นี้ด้วย
ผมโอเคกับเซฮุนนะ อาจจะเพราะผมไม่เคยทะเลาะกับเขามั้ง คือเซฮุนต่างจากคนสับทั่วไปอย่างหนึ่ง ขณะที่คนสับทั่วไปโดนเซฮุนด่าก็จะเอือม หนีหายไปหมด ส่วนเซฮุนถ้าใครด่าเขาหรือไปแย้งเขา เขาจะเถียงหัวชนฝาก็จริง แต่ไม่ไปไหนนะ---ผมว่าเขาเหมือน ดอนกิโฆเต้นิดๆ
ที่เห็นเขาหัวเราะกลบเกลื่อนเวลาผิด เช่นตอนซ้ำไอดี หรือยกนิยายมาอ้าง มันแสดงให้เห็นว่า เขายอมรับผิดเป็นแล้วยิ้มได้รับนะ ไม่ใช่ผิดหนึ่งอย่างก็ต้องผิดทุกอย่าง หรือผิดก็ต้องคว้านท้องตายอย่างเดียวนี่นา
ผมมองในแง่ดีนะ และถ้าเซฮุนได้อ่านข้อความนี้ก็ขอให้รับรู้ไว้ว่า คุณสับนิยายดีแล้วครับ ผมเคยอ่านเรื่องเดียวกับที่คุณสับแท้ๆ ผมยังมองไม่เห็นอะไรพวกนั้นเลย ถึงที่คุณสับมันจะหยาบคายก็เถอะ
>>216 แปะลิงค์ของเรื่องให้ https://my.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=1696724
เวลาสับรอบหน้าแปะลิงค์ด้วยนะ จะได้คนที่สนใจเข้าไปอ่านได้สะดวกๆ และจะได้รวบรวมในบัญชีลิสต์นิยายสับแล้วง่ายๆ
ว่าแต่ทำไม กูไม่เคยเห็นเรื่องที่แต่งจบในหมวดแฟนตาซีเลยวะ หรือมันมีแต่กูหาไม่เจอ
ในลิสต์ที่เอามาสับก็มีนิ กูเห็นอยู่แวบๆ
>>228 กุว่าคิดฉากเริ่ม พล็อตตรงกลางคร่าวๆกับ ฉากจบนี่ถือเป็นจุดเริ่มต้น ของจริงคือการดำเนินระหว่างพล็อตคร่าวๆนี่แหละ ยากของจริง แล้วต้องทำให้สนุกด้วย นอกจากแนวเบียวๆอ่ะนะอันนั้นไม่ต้องคิดไรเยอะ แต่สายเบียว(รวมการ์ตูนด้วย กุเห็นหลายเรื่องละ ของจีน เกาหลี)นี่หาทางลงยาก เพราะต้องหามุขให้พระเอกไปถล่มเรื่อยๆ แต่สุดท้ายมักออกทะเล หรือตัดจบแบบงงๆ
ส่วนใหญ่ที่คิดว่าดีพออ่านได้
มักจะเป็นเรื่องที่ได้ตีพิมพ์ แล้วนโยบายสนพทั่วไป ก็คงไม่ให้ลงจบด้วย หรือลงแล้วลบ
มึงๆ กูชอบอันนี้ เหี้ยได้โล่เลย ไรท์เงา
https://www.dek-d.com/board/view/3793078/1/?comment=10
แถชิบหาย นางยิ่งเมนต์ยิ่งแสดงตรรกะปลิง คนวาดแม่งโง่เองให้สูบใช้ฟรี กูเครดิตชื่อคนที่ขโมยมาก่อนหน้าก็บุญแล้วจะเอาอะไร จะเอาตังค์อะดินักวาดกากๆ
คือมึงเหี้ยเอารูปเค้ามาใช้ ยังมีหน้าด่าเขาอีกนะสัสหมา ร่ำไปถึงคนเขียนนิยายเลิกกันหมดเพราะไม่มีรูป ตลาดนิยายไม่โต โถ่อีผีนิยายไม่มีรูปก็ได้ป่ะวะ
เวลานักเขียนโดนก๊อปนิยายดิ้นจะเป็นจะตาย พอไปเอาภาพนักวาดมา อุ๊ย! ช่วยโปรโมตไง..... ดอกส์
กุเข้าใจนักวาดนะ กว่าจะวาดได้สวยๆเทพๆ นี่เสียเวลา เสียเงินฝึกมาตั้งเท่าไร ภาพหนึ่งๆนี่อาจจะวาดเป็นสัปดาห์ แต่เจอขโมยแล้วอ้างแบบนี้ก็น่าสงสาร ยิ่งเป็นนักวาดต่างชาติ ถึงเรื่องแดงยังไงนักเขียนก็รอด เพราะเขาขี้เกียจข้ามน้ำข้ามทะเลมาฟ้องเสียเวลา เสียเงินโดยใช่เหตุ
เข้าใจสิทธิ์ของตัวเอง คนอื่นมาละเมิดฉันไมไ่ด้ พอตัวเองไปละเมิดสิทธิ์คนอื่นก็ตรรกะปลิงแบบเดียวกับพวกขี้ก๊อปนิยาย ตลกดี
เรื่องเซฮุนมันอยากมี e-penis กับสับนิยายกากกุอภัยให้นะ อ่านๆ ไปก็เพลินดี
แต่ที่เหี้ยก็คือชอบหาเรื่องเถียงส้นตีนกับคนอื่นนะแหละ มันไม่ใช่ที่
ไรท์เงากับ Earendel Gilmirath เหี้ยพอกันเลย แม่งคิดว่ารูปวาดทั้งหมดทั้งปวงแจกฟรีให้นักเขียนนิยายสามารถทํานาบนหลังคนรึไง เย็ดโด้
ใครไม่รู้ว่าทำนาบนหลังคนคืออะไร ไปอ่านเลย
https://suphasitthaiblog.wordpress.com/2013/09/03/ทํานาบนหลังคน/
มีใครสับเรื่อง จักรพรรดิจอมมารสายซัพพอร์ต ไปยังคับ ขอดูรีวิวหน่อยว่าโอเคมั้ย
เพื่อนโม่งจ๋า สับนิยายต่อได้มั้ย เค้าอยากได้แนวทางเพิ่มเติมไปประดับในเรื่องอ่ะ เค้ากำลังหาความสมเหตุสมผลในเรื่องอยู่ เผื่ออ่านเรื่องที่โม่งสับแล้วจะได้ไอเดียอะไรมั่ง
ขอลิสต์นิยายรอสับหน่อยสิ เผื่อเจอเรื่องน่าสนใจจะได้ลองมาสับเพิ่มเติมบ้าง
>>248 อันนี้เค้าไปก็อปมาอีกที มีเรื่องนึงที่เค้าสนใจอยู่ แต่ไม่บอกเดี๋ยวเพื่อนโม่งหาว่าอวย กลัวโดนด่าอ่ะ5555
https://writer.dek-d.com/audra/story/view.php?id=1541315
https://writer.dek-d.com/Fungq/story/view.php?id=1547378
https://writer.dek-d.com/Nakatokung/story/view.php?id=65732
https://writer.dek-d.com/kittikan111/story/view.php?id=1512736
https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=1582546
https://writer.dek-d.com/popee/story/view.php?id=577118
https://writer.dek-d.com/stima/writer/view.php?id=1501650
https://my.dek-d.com/guillietsig/writer/view.php?id=1401317
https://writer.dek-d.com/oongga/story/view.php?id=1048031
https://writer.dek-d.com/nimamoko/story/view.php?id=1374220
https://writer.dek-d.com/fytius/story/view.php?id=1374209
https://writer.dek-d.com/lonoline/story/view.php?id=1532866
https://writer.dek-d.com/ruijnan/writer/view.php?id=1276392
https://writer.dek-d.com/Maosappy/story/view.php?id=1593123
https://writer.dek-d.com/nn_areya/story/view.php?id=1594693
https://writer.dek-d.com/bluesea25/story/view.php?id=880244
https://my.dek-d.com/Demon1Ce/writer/view.php?id=1416003
https://writer.dek-d.com/Poeei/story/view.php?id=1546832
https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=1383841
https://writer.dek-d.com/topduck/writer/view.php?id=785523
https://writer.dek-d.com/lookc/writer/view.php?id=1645949
https://writer.dek-d.com/Ballaz/writer/view.php?id=1580800
https://writer.dek-d.com/atemisye/story/view.php?id=1517996
https://writer.dek-d.com/p-o-t-a-e/writer/view.php?id=1590881
https://writer.dek-d.com/linklight/story/view.php?id=1559849
https://writer.dek-d.com/BlackMonSterX/writer/view.php?id=1602272
https://my.dek-d.com/gift4869/writer/view.php?id=1616926
กูแก้ให้ (ตัดอันที่ปิดเรื่องกับสับไปแล้วออก)
https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=1582546
https://writer.dek-d.com/popee/story/view.php?id=577118
https://writer.dek-d.com/stima/writer/view.php?id=1501650
https://my.dek-d.com/guillietsig/writer/view.php?id=1401317
https://writer.dek-d.com/oongga/story/view.php?id=1048031
https://writer.dek-d.com/nimamoko/story/view.php?id=1374220
https://writer.dek-d.com/fytius/story/view.php?id=1374209
https://writer.dek-d.com/lonoline/story/view.php?id=1532866
https://writer.dek-d.com/ruijnan/writer/view.php?id=1276392
https://writer.dek-d.com/Maosappy/story/view.php?id=1593123
https://my.dek-d.com/Demon1Ce/writer/view.php?id=1416003
https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=1383841
https://writer.dek-d.com/Ballaz/writer/view.php?id=1580800
https://writer.dek-d.com/atemisye/story/view.php?id=1517996
https://writer.dek-d.com/linklight/story/view.php?id=1559849
https://writer.dek-d.com/BlackMonSterX/writer/view.php?id=1602272
https://my.dek-d.com/gift4869/writer/view.php?id=1616926
>>234 ขอต่อเรื่องหน่อย ไอ้คนที่เข้าล้างไรท์เงาก็ออกมาแถ-ลงการณ์เรื่องเอาภาพลงนิยาย
https://www.dek-d.com/board/view/3793443/
พูดถึงขโมยรูปมาใช้โดยไม่รับอนุญาติ เห็นนิยายจีนเสิ่นเจิ้นทำกันเต็ม เอารูปแนวนักวาดจีนๆ มาตัดต่อใส่ชื่อตัวละครตัวเอง ไม่ให้เครดิตด้วย เรื่องยังไม่ประกาศขายยังพอว่า บางเรื่องนี่ประกาศอีบุ๊คหราล่ะ มันเป็นมาตรฐานว่าใครๆก็ทำกันไปล่ะไม่ทำคือโง่เอง...
ky นับวันกูก็รู้สึกเหนื่อยๆ กับนักอ่านของตัวเองวุ๋ย ไม่รู้จะหวังดีหรือหวังร้าย บอกให้กูไปรีไรท์ใหม่ เดี๋ยวจะไม่มีคนอ่าน แล้วเตือนกูว่าอย่าโลกสวย...เชร็ด...
>>216 >>217
เรา >>40 คนเขียนที่มาแปะเรื่องไว้ เฮ้ยยย ขอบคุณมาก เหมือนมีคนสับไปก่อนหน้านี้แล้วก็เลยนึกว่าจะจบผ่านไปแล้ว ดีนะนึกยังไงไม่รู้วนมาดูอีกรอบ เข้าเรื่องๆ
มีปัญหาเรื่องการบรรยายจริงๆ คือตอนเขียนเรื่องที่แล้วยังไม่ค่อยรู้สึก เริ่มเขียนเรื่องนี้ก็ยังไม่รู้ตัว แต่พอลงเว็บไปสามตอนแล้วกลับไปอ่านของตัวเองซ้ำ คือเริ่มตะหงิดๆ ละ แบบเฮ้ย ทำไมตัวเองเวิ่นเว้อแบบนี้ ปัญหาการใช้คำซ้ำซ้อนซ้ำซากเยอะมากกก บางจุดก็ตัดประโยคแปลกๆ บรรยายไม่ลื่นไหลด้วย คือต้องรีไรท์ใหม่สถานเดียว
เหมือน >>112 บอกไว้ มันดูเป็นสามตอนที่ยาวประมาณหนึ่ง แต่เนื้อเรื่องไม่ค่อยมีอะไรเลย อ่านแล้วก็กลับมาคิด คือเราพยายามอธิบายสิ่งที่คนอ่านจำเป็นต้องรู้ก่อนเข้าเรื่องมากไปมั้ย แต่สุดท้ายมานั่งทบทวนว่า ลองเปิดการดำเนินเรื่องใหม่ที่มันดูมีเนื้อหาเยอะกว่านี้ดีมั้ย แต่ยังไงก็รู้สึกว่ามันต้องปูทางแบบนี้แหละ เป็นการปูทางเพื่อเนื้อเรื่องหลัก และเซทติ้งโลกแฟนตาซีคร่าวๆ (มันอาจจะมีทางอื่นแต่ปัญญามีไม่พอจะคิดออก T-T )
เรื่องชื่อตอน คือคิดสดๆ ตอนเอาลงเว็บอะแหละไม่ได้อะไรมาก จริงๆ อยากเอาออกมาทำเป็น 01 02 03 ด้วยซ้ำ
ส่วนชื่อเรื่องภาษาไทย มนตราเงาบุปผา คือความหมายของเนื้อหาโดยภาพรวม เพราะมันเกี่ยวกับคำสาปที่เกี่ยวข้องกับดอกไม้ในเรื่อง ส่วนชื่อภาษาอังกฤษ Always be you เป็นเนื้อหาที่เป็นความสัมพันธ์ระหว่างพระนางที่อาจจะต้องอ่านจนจบแล้วถึงจะรู้สึกถึงความเชื่อมโยงกับชื่อเรื่องนี้ ถ้าอภัยถ้ามันยุงชุมไปนิดนะ และตอนนี้รู้สึกตัวเองลงผิดหมวด ว่าจะย้ายกลับ รักแฟนตาซี น่าจะดีกว่า
ตอนสองเป็นปัญหาเรื่องความชัดเจนของนิสัยตัวละคร เหมือนใช้ฉาก และคำบรรยาย สื่อภาพลักษณ์ของตัวละครผิดไปหน่อย มันเลยออกมาแกร่วๆ รู้สึกว่าตัวเองบรรยายสภาพแวดล้อมเยอะไป ตอนแรกคิดว่ามันสำคัญ แต่พอได้อ่านซ้ำๆ สักห้ารอบเริ่มรู้สึกแล้วว่า อันที่จริงมันไม่ต้องมีตอนนี้ ค่อยไปยัดใส่ทีหลังก็ได้
ตอนสามเหมือนตอนเริ่มต้นของเนื้อเรื่องจริงๆ แต่ถ้าไม่เกริ่นปูทางอะไรยืดๆ ตอน 1กับ2 ไว้ ตอนที่ 3 คิดว่าก็จะดูงงๆ เหมือนกัน
สรุป
ภาษาต้องทำให้กระชับมากกว่านี้
อันที่จริงสองสามวันก่อนลองรีไรท์ตอนแรกแล้วแต่ยังไม่ได้แก้ลงเว็บ เนื้อหาเท่าเดิม แต่ความยาวเหมือนจะหายไป 1 ใน 4 เลย เพราะแก้บรรยายใหม่ ตัดส่วนเกิน ความยืดเยื้อ พยายามลดนิสัยการใช้คำซ้ำซ้อนออก
ส่วนเนื้อหาบางช่วง อาจจะต้องแก้ฉากเหตุการณ์ให้มันดูมีกราฟขึ้นลงมากกว่านี้หน่อย บรรยายเยอะเกิน ไม่รู้จะเยอะไปไหนไม่เข้าใจตัวเอง =_=
ขอบคุณมากๆ ที่สละเวลาอ่านให้นะ
เราเขียนต่อจนจบไม่ทิ้งแน่นอน คือไม่รู้เป็นบ้าอะไร ตั้งแต่ก่อนเริ่มเขียนจริง คือมีแค่โครงเรื่องคร่าวๆ ของแต่ละตอนตั้งแต่ต้นจนจบที่ร่างไว้ แต่คือบ้าไปสั่งวาดปกนิยายไว้แล้ว แถมจ่ายไปครึ่งหมื่น........ T-T ภาพน่าจะได้เร็วๆ นี้
คนไม่บ้าไม่น่าทำได้........... ให้ตายยังไงก็เขียนจบแน่นอน
ไว้อาลัยตัวเอง.....................
>>223 ขอบคุณที่แปะลิ๊งก์นิยายให้นะ
KY เห้ย พวกมึงๆ กูสงสัยภาษาจีนสมัยนี้กับโบราณนี่มันเหมือนกันเปล่าวะ คือกูจะให้ตัวเอกกูเรียนจีนแล้วถ้าแม่งย้อนกลับไปจะยังรู้เรื่องไหม กูมานั่งคิด เอ แล้ว ภาษามันจะมีการเปลี่ยนแปลงไหมเหมือนของไทยก็มีเปลี่ยนตามกาลเวลาใช่มะ เกาหลีก็มีแบบคำโบราณ คนสมัยใหม่บางทีก็อ่านไม่ออกไรเงี้ย พวกมึงว่ากูจริงจังไปไหม55
>>264 มีการเปลี่ยนแปลงสิ ภาษาจีนโบราณพอมาปัจจุบันบางคำก็เปลี่ยน บางคำก็เลิกใช้ไปแล้ว
จะมาเขียนแนวจีนเหรอ? หาข้อมูลบ้างยัง? นิยายแปลจีนเคยอ่านบ้างหรือเปล่า? รู้ขนบธรรมเนียม/ประเพณีวัฒนธรรมสมัยนั้นบ้างมั้ย?
ก็สมควรจะจริงจังนะ ถ้าข้อมูลพื้นฐานยังไม่รู้ มันก็ไม่น่าเชื่อถือแล้วล่ะ
>>264 ข้อมูลหาแล้วมึง นิยายแปลอ่าน(แต่จะออกแนวกำลังภายในเพราะกูอาศัยอ่านของพ่อ) ขนบธรรมเนียมพอรู้แน่นอนว่าศึกษาอยู่ กูจะไม่พูดว่ารู้เพราะไม่ได้รู้ละเอียดมากมาย ยังไงก็ขอบใจมึงมากที่บอกกู กูจะได้หาวิธีให้ตัวเอกเข้าใจภาษาจีนโบราณถึงจะรู้เรียนภาษาจีนมาแต่น่าจะลำบากพอสมควรเพราะคำบางคำมันเปลี่ยนตามที่มึงบอก เอ่อ ขอถามอีกอย่าง คือกูคิดว่าถ้าสมมติมึงเปลี่ยนร่างไรเงี้ย ถ้าเอาตามที่กูคิดคือความรู้ความสามารถมันไม่ได้ถ่ายทอดให้กันใช่ไหม กูเลยจะหาตรรกะมาสนับสนุนว่า ตัวเอกกูเรียนจีนนะพอสลับไปอยู่อีกร่างก็เลยพอรู้คำบ้างแต่ไม่ทั้งหมด อาจจะมีความทรงจำของร่างเก่าบ้าง ความรู้สึกบ้าง ประมาณนี้มึงว่ามันสมจริงไหมหรือยังวะ กูไม่อยากแต่งแบบ เห้ย มาอยู่ร่างนี้แล้วมีความสามารถเป็นเลิศ ถ้าทางกายมันก็ใช่แต่อย่างอื่นไม่น่าจะเป็นป่ะ กูอยากทำมันออกมาให้ดีที่สุดวะ ในเมื่อกูมีพล็อตเรื่องและเริ่มแต่งแล้ว
>>264 ภาษาจีนมี 2 ส่วนหลักๆ ภาษาพูดกับภาษาเขียน ภาษาพูดก็ตามนั้น ส่วนภาษาเขียนมียิบย่อยตามยุคสมัยอีก แล้วปัจจุบันมีภาษาเขียน 2 แบบ คือตัวเต็มกับตัวย่อ จีนส่วนใหญ่ตอนนี้จะใช้ตัวย่อของจีน ส่วนตัวเต็มจะใช้ในประเทศอื่นที่ไม่ใช่จีน อย่างใต้หวัน สิงคโปร์
ภาษาพูดและเขียนก็มีไวยากรต่างกันอีก และภาษาเขียนจะมีกฎเกนฑ์และความหมายซับซ้อนกว่าภาษาพูด ทำให้สมัยก่อนคนจีนรู้หนังสือน้อย เพราะมันเรียนยาก ไม่ได้เขียนตามภาษาพูด จนหลูซวินเคยกล่าวว่าถ้าภาษาจีนไม่จบสิ้น คนจีนจะจบสิ้นก่อน
มีอีกเรื่องนึงที่ควรพูด ตามหลักแล้ว ภาษาแต้จิ๋ว ฮกเกี้ยนพวกนี้ไม่ใช่ภาษาจีน แต่เป็นภาษาถิ่นที่พัฒนามาพร้อมๆ กับภาษาจีนฮั่น ต่อมาจึงรับอักษรจีนเข้ามา แต่โดยพื้นฐานแล้วไม่ใช่ภาษาจีน (ฮั่น/กลาง) คิดซะว่าคล้ายภาษาในยุโรปนั่นละ มีรากคล้ายกันแต่ไม่ใช่ภาษาเดียวกัน
แต่ตอนเขียนก็ต้องนึกถึงอรรถรสด้วยแหละ บางทีเชียนให้พอรู้ว่าเป็นโบราณอาจจะดีกว่าเป๊ะๆทุกคำก็ได้
>>266 เอางี้นะ สิ่งที่ถ่ายทอดได้คือความคิด ความรู้ ประสบการณ์ที่มันอยู่ในสมองน่ะ
สมมติ A เป็นนักบัลเล่ต์ อายุ 30 พอเข้าร่าง B ที่เป็นคุณหนู ถนัดวาดรูป อายุน้อย ๆ
B ก็จะกลายเป็นคนใหม่ที่มีความรู้เรื่องการเต้นบัลเลต์ แต่จู่ ๆ จะลุกมาเต้นเลยมันก็คงยาก เพราะกว่าจะเต้นได้ ร่างกาย เท้า แขน ขา ไรงี้ต้องได้รับการฝึกมาประมาณหนึ่งใช่ไหมล่ะ
ในขณะเดียวกันก็จะได้เปรียบตรงวิญญาณ A นี่อายุ 30 มาแล้ว มีประสบการณ์ในชีวิต+ความทรงจำเดิมของ B ถ้าจะเขียนให้พูดภาษาโบราณได้คล่องปากเลยก็ไม่แปลก และถ้าจะฉลาดเกินอายุก็ไม่แปลกอีก
แต่ที่คิดนะ B คนใหม่คงวาดรูปได้ไม่ถนัดเท่าเดิม อาจมีความรู้ ความทรงจำว่าควรลากเส้นยังไง วาดแบบไหนตามความเคยชินมือ แต่จะให้แม่นเป๊ะ ๆ เหมือนเดิมก็อาจเป็นไปไม่ได้อีก
คือมันก็แล้วแต่ผู้เขียนเองว่าจะเอายังไงอะ คิดว่าอะไรถ่ายทอดได้บ้าง อะไรไม่ต้องถ่ายทอด อะไรต้องผ่านการฝึกฝน อะไรแค่ใช้สมองก็ทำได้ ไรงี้อะ
ป.ล.ตัวเอกเป็นคนไทยเข้าร่างคนจีนปะ? ง่าย ๆ ที่นิยมใช้กันเลยนะ คือความทรงจำร่างเดิมเทมาเลย ทีนี้ล่ะ ภาษาก็ได้ อะไรก็ได้ ถึงได้มีคนบอกซูไง
>>269 >>271 ขอบคุณพวกมึงมากกูซึ้งใจสุดTT ใช่ คนไทยเพราะถ้ากูไปใช้ชาติอื่นอีกกูต้องหาข้อมูลเพิ่มอีก55 แค่นี้กูก็ตบตีตำแหน่งและประวัติมากมายจนมึนแล้ว แต่กูไม่ได้จะให้ตัวเอกมีความทรงจำของร่างเก่าอาจจะแบบความรู้สึกแต่ก็จางๆ ออกโมเมนต์แบบรู้ว่าใคร มีสายสัมพันธ์แต่ถ้าถามว่าทำอะไรกันมาบ้างรู้จักกันตอนไหนก็ไม่รู้ก็ไม่ใช่เจ้าของร่างจริงๆ ภาษาได้เพราะตัวเอกกูเรียนภาษาทางเลือกเป็นภาษาจีนแต่นั่นแหละมึงก็รู้ว่าเรียนไปมันก็ไม่ได้อะไรมากถ้าเรียนกับโรงเรียนตามความจริงก็อาจจะอ่านออกเขียนได้บ้างแต่ไม่ได้ทุกคำไม่ได้เข้าใจทุกความหมายแต่กูแต่งให้อายุเยอะก็น่าจะพอพูดคล่องแล้ว(แต่พอภาษาเก่าๆโบราณๆก็คงไม่รู้อะไรแบบนั่น) ไม่ได้ความสามารถจากเจ้าของร่างทั้งหมด อาจจะแข็งแรงตามร่างที่เข้ามาอยู่แค่นั่น กูเน้นแต่งออกมาให้คนอ่านคิดกันเองว่าตกลงตัวละครรักกันไหมออกฟีลให้จิ้นกันเอง เน้นความสัมพันธ์กับดราม่าของปมว่าทำไมเกิดเรื่องแบบนี้ บลาๆ เรื่องไม่ได้เน้นความรักมากอ่ะ เดี๋ยวกูแต่งลงแล้วเอามาให้พวกมึงสับนะ555
>>272 ถ้าแต่งย้อนยุคไปถัง หมิง ชิง เรื่องภาษาจีนโบราณกับจีนใหม่จะไม่มีปัญหามาก เพราะมันผ่านการชำระมาเยอะแล้ว แต่ถ้าย้อนไปไกลมากอย่างยุคฮั่น ฉิน หรือก่อนหน้านั้นไปอีก ภาษาเขียนมันไม่เหมือนเดิมแน่นอน ตัวหนังสือยังไม่ใช่รูปแบบปัจจุบันเสียทีเดียว บางตัวคล้าย บางตัวไม่คล้าย อาจจะเพิ่มให้ตัวเอกเคยศึกษาจีนโบราณมานิดๆ พอเข้าใจว่าเส้นสายมันเปลี่ยนแปลงมายังไง ก็จะสมจริงขึ้น หรือไม่ก็รอจนข้ามภพแล้วเห็นตัวหนังสือก็อาจจะให้ตัวเอกตกใจนิดนึง แล้วค่อยๆ จับทางว่าน่าจะเป็นคำไหน อะไรงี้เป็นต้น ก็จะดูสมจริงขึ้นนาจา แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับวิธีข้ามภพด้วย ถ้าอภินิหารมาก ความสมจริงแบบนี้ก็ไม่ต้องมี เพราะเป็นอิทธิฤทธิ์วิเศษอะไรก็ว่าไป เพราะภาษาจีนโบราณมันยาก ขนาดตำราโบราณของจีน นักภาษาศาสตร์ของจีนยังอ่านไม่เข้าใจ ต้องถกเถียงและเดากันมากมายว่ะ
>>273 เรื่องทฤษฏีวิธีการข้ามภพนี่กูได้แล้วแหละ กูนึกออกได้แบบง่อยๆ555(กูไม่ค่อยอ่านแนวนี่ถ้าจีนก็จีนเลยมากกว่าแบบกระบี่มังกรหยก หรืออะไรหยกๆที่เป็นนิยายแปลจีนเล่มหนาๆอ่ะ) อาจจะอุบัติเหตุสักอย่างแล้วช่วงที่เกิดทำให้มิติเกิดการบิดเบี้ยวเกิดรูหนอนข้ามเวลาไรงั้น กูอยาก(แค่อยาก)เริ่มเรื่องด้วยการที่ตัวเอกกูต้องตายเพราะอุบัติเหตุแต่ตายไปแบบไม่เสียใจที่จะตายอะไรแบบนั่น(อันนี่คือกูยังเถียงๆกับตัวเองอยู่มันอาจจะเปลี่ยนได้ เพราะตอนนี้กูคิดได้แบบทวิภพข้ามกระจก555กับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นด้วยความเร็วเหมือนหนังฝรั่งเรื่องหนึ่งแต่อันนั่นไปอนาคตแต่ของกูจะกลับอดีต อ้าวกูสปอยนิยายตัวเอง ช่างมัน55 นั่นแหละกูพยายามคิดว่าจะข้ามไปยังไงได้อีกบ้าง) ส่วนตรงยุคสมัยเดี๋ยวกูศึกษาข้อมูลละเอียดอีกทีแล้วค่อยตัดสินใจ ตรงที่ตัวเอกเรียนจีนโบราณมาบ้างกูค่อนข้างคิดว่าโอเค ขอบคุณมากกUU
ไม่ชอบแนวข้ามภพหรือไปต่างโลกหลังเกิดใหม่ เพราะง่ายต่อการทำ self insert
>>277 self insert มีหลายแบบว่ะแบบที่ว่าก็ถูกคือเขียนให้เทพมาก ได้ทุกอย่างที่ต้องการแบบไม่ต้องพยายาม (แนวนี้เขียนง่ายแต่หาทางจบสวยยาก ส่วนใหญ่จะจบแบบธรรมดาหรืองงๆ) อีกแบบก็แนวๆ ทไวไลน์อธิบายนางเอกแบบไม่ชัดเจนมาก บอกแค่ว่าเป็นคนธรรมดาแต่มีแวมไพร์หล่อรวยสมบูรณ์แบบมารัก กับอีกแบบคือคนเขียนยัดตัวเองไปเลยใส่ไปทั้งข้อดีข้อด้อย ประสบเหตุการณ์ในเรื่องคล้ายๆชีวิตของตัวเอง ประมาณการ์ตูนเรื่องหนึ่งที่ดัดแปลงมาจากนิยายที่คนเขียนฆ่าตัวตาย กุลืมชื่อล่ะ
self insert ไม่ผิดอะไร แต่จงระวังกิเลสของคนเขียนหรือตามใจคนอ่านจนมากเกินไป เด็กดีเป็นบ่อยจนนิยายเน่าลงทุกวี่ทุกวัน
>>277 self insert ก็แปลตามตัว คือการเอาตัวเองใส่เข้าไป (เป็นตัวเอกในนิยาย)
ขยายความง่ายๆ ว่า คนเขียนเอาตัวเองไปเป็นพระเอก นั่นยังไม่เท่าไหร่ แต่พอทำแบบนั้นมันก็อดไม่ได้ใช่ไหมที่จะต้องทำให้ตัวละครนั้นเก่งเทพ เพราะคงไม่มีใครอยากให้ตัวเองกากหรอก
แล้วทีนี้นอกจากคนเขียนจะเอาตัวเองใส่เข้าไป มันยังเอื้อต่อการให้คนอ่านสวมบทบาทเข้าไปด้วย กรณีที่เห็นได้ชัดที่สุดก็พวกนิยายเกมออนไลน์ ประเทศเราเด็กติดเกมมันเยอะ แถมเกมแนว mmorpg ดีๆ มันก็ไม่ค่อยเข้า เพราะงั้นคนอ่านก็เลยสวมบทบาทเป็นพระเอกเก่งเทพต่อสู้กับเหล่าร้าย ฟินน้ำแตกกันไป ถ้านักเขียนคนไหนเขียนพระเอกไม่เก่ง (หรือปกติธรรมดา) ก็ไม่แปลกที่คนจะอ่านน้อยอะนะ
เบื่อว่ะ
กูลองเขียนนิยายแบบสวนกระแส พล็อตที่กูชอบ กูมีความสุขตอนได้เขียน คนอ่านแม่งน้อย
กูเลยลองเขียนอีกเรื่องตามกระแส เน้นฟินๆ พล็อดตลาดๆ ทิ้งสมองอ่านได้ แม่งคนอ่านเยอะฉิบหาย ผลตอบรับก็ดีโคตร
ไม่ใช่ไม่ดีใจนะเว้ย แต่มันไม่มีความสุขเท่าที่ควรจะเป็น
เหมือนคนอ่านมันไม่ได้ชอบนิยายกูหรอก แต่มันชอบพล็อตแนวนั้นต่างหาก
เซ็ง
>>286 เอาจริงๆ พล็อตมันมีมานานละ หนัด้วย แต่กูมาปรับให้มันเบาลง อยากเขียนมั้ย กูก็กะว่าจะเขียนเล่นๆ แก้เซ็งไป ไม่ใช่อะไรมาก แต่ปรากฎว่าคนอ่านตามทวงไม่ต่ำกว่าสิบคนมันทุกวัน จนกูต้องเริ่มจริงจังขึ้นมา
>>287 เอาจริงๆ บางทีมันอาจจะช่วยก็ได้นะมึง เขียนตามกระแสให้ดังๆ ไปก่อน แล้วค่อยล่อแฟนๆ ไปตามอ่านนิยายที่มึงอยากเขียนออกมาทีหลัง
พี่ถุยของเรา
https://www.dek-d.com/board/view/3793708/
>>289 กูเห็นด้วยเรื่องที่เขียนตามกระแสแล้วล่อให้คนอ่านมาตามเรื่องใหม่เราด้วย
แต่สำหรับคนวัยทำงานอย่างกู คงเลือกเขียนเรื่องเดียวที่ชอบว่ะ เพราะเวลาที่มีแม่งก็น้อยอยู่แล้ว ก็ขอเขียนเรื่องที่มันทำให้ตัวเองมีความสุขตอนที่เขียนดีกว่า ยอดวิวเมนต์ยอดเฟบถือว่าเป็นกำไรนิด ๆ หน่อย ๆ ไป
กูนี่หวังจะได้อ่านนิยายแปลก ๆ ใหม่ ๆ จากคนไทยบ้าง ที่กูมาสิงโม่งเพราะมาหานิยายน่าสนใจอ่านเนี่ยแหละ เฮ่อ
วันนี้เทรนมาเครียด ๆ มาอ่านเรื่องเหี้ยนี่ แล้วอารมณ์ดีขึ้นมาเลย กูขอสับละกันนะ สับซ้ำใครไปแล้วก็ขอกูเห๊อะ เรื่องนี้แม่งฮีลสมองกูชิบหาย 555
ชื่อเรื่อง : เกิดใหม่โลกปัจจุบัน
ลิ้งก์: https://writer.dek-d.com/jinpouket/story/viewlongc.php?id=1659865&chapter=1
สถานะ: น่าจะจบแล้ว กูเห็นมันบอกเจอกันใหม่อยู่
ตอนที่ 1 : จุติ
เริ่มต้นด้วยฉากต่อสู้ที่กูต้องเผลอเอามือทาบอก เว่อร์เหี้ย ๆ แม่งสู้กันสิบล้านกระบวนท่า
(กูคาดการณว่ามันน่าจะสู้กันมาประมาณ หนึ่งปีหกเดือน เผื่อเวลาขี้เยี่ยวให้ละ *ให้หลายสิบล้านกระบวนท่า ประมาณเป็น 50 ล้านท่า แล้วให้กระบวนท่าละ 1 วิ*)
ความร้อนจากการต่อสู้ของไอ้สองตัวเนี่ยทำให้ทะเลสาบแห้งได้เลยนะมึง ภูเขาสูงเท่าตึกห้าสิบชั้นแม่งก็ไม่เหลือ จริง ๆ กูควรจะกดปิดตั้งแต่ตอนนี้ละ แต่แม่งเหมือนมีอะไรดึงดูดกูอยู่ (ไม่รู้แม่งเขียนจริงจังหรือประชด)
ที่มันสู้กันก็เพราะเมียที่กำลังตั้งท้องของไอ้ลี่ฟางเนี่ยเป็นปีศาจก็เลยถูกนายเอฆ่า
แล้วไอ้จินกวงก็จัดการเก็บนายเอให้แล้วนะ แต่ไอ้ลี่ฟางแม่งไม่ยอม จะฆ่าลูกหลานนายเอให้ตายตกไปตามกันด้วย ซึ่งกูคิดว่าน่าจะหมายถึงมนุษย์ทุกคน(มั้ง)
ลี่ฟางใช้ท่าห่าอะไรไม่รู้ทำให้มนุษย์ทุกคนหายไม่ออก คือสั่นสะเทือนทั้งโลกแล้วทำให้อากาศเปลี่ยนแปลง ซึ่งกูก็พยายามรีเซิร์ชดูว่ามีอะไรที่พอจะทำให้เป็นไปได้มั่งมั้ย กูนึกได้ว่าน่าจะเป็นเหมือนอุกกาบาตตกแล้วทำให้สภาพอากาศมันเปลี่ยน แบบเดียวกับที่พวกไดโนเสาร์โดน
แต่เดี๋ยวก่อน พี่จินกวงของกูก็เมพไม่หยอกนอกจากจะเพิ่งเป่าเค้กวันเกิดปีที่ร้อยล้านของเฮียแกมาแล้ว แม่งยังมีท่าแก้ทางพี่ลี่ฟาง ทำให้ทุกคนกลับมาหายใจได้อีกครั้ง ซึ่งกูคิดว่ามันอยู่นอกเหนือจากจินตนาการความเป็นไปได้ของกูไปไกลแล้ว ต้องย้อนเวลาอย่างเดียวเท่านั้นที่จะแก้ไขได้
แล้วพี่สองคนนี้ก็พุ่งชนกัน ทำให้ทวีปแอตแลนติกจม และเกิดทวีปใหม่ต่าง ๆ ขึ้นเหมือนในปัจจุบันนี้ แล้วก็จบ
คือกูเห็นยอดวิว เมนต์ เฟบ แล้วตกใจมาก เรื่องเหี้ยนี่แม่งฮิตขนาดนี้ได้ไง เหมือนเด็กเกรียน ๆ หัดเขียนนิยาย คำผิดแบบน่าเกลียด ๆ เช่น "โกรธเกี้ยว" "คำผังเผย" เผยพ่อง คนเมนต์แม่งก็ติงแล้ว แต่อีคนเขียนแม่งทำเป็นหูทวนลม จนกูแอบสงสัยว่าแม่งตั้งใจหรือเปล่าวะ
ข้อไม่ดี: 1. เสียงเอฟเฟคมึงไม่ควรใส่ แม่งทำให้ดูโลว์ชิบหาย ถ้าจะใส่ก็ควรจะเป็นช่วงสำคัญเหี้ย ๆๆๆๆ จริง ๆ ไม่ก็เป็นจังหวะเซอร์ไพรซ์ มึงมาใช้มั่วซั่วมันเหมือนเด็กเอาตุ๊กตุ่นมาสู้กันแล้วพากษ์เสียงปล่อยพลังตู้มมมไปด้วย นึกภาพออกใช่มะ
2. ด้วยความเว่อร์ของพี่เทพจินกวงกับพี่เทพลี่ฟาง ทำให้กูซึ่งอยู่ในวัยทำงานแล้วไม่ค่อยอิน แถมแม่งเว่อร์จนสมองกูจะรองรับได้ไหว คือกูไม่ต้องบอกหรอก แม่งเห็นจะ ๆ กันอยู่แล้ว แต่กูไม่ได้ซีเรียสมากหรอก แม่งก็ขำ ๆ ดีอยู่
ข้อดี: 1. อย่างที่กูบอก กูรู้สึกเหมือนไอ้เรื่องเหี้ยนี่มีอะไรดึงดูดกูอยู่ กูรู้ว่าแม่งโม้เหม็น แต่กูยังอยากอ่านต่อ แถมตอน ๆ นึงก็ไม่ได้ยาวด้วย ไม่ค่อยเสียเวลาเท่าไหร่ ฆ่าเวลาเพลิน ๆ ซึ่งเป็นข้อดีที่กูไม่เคยนึกถึงมาก่อน เด็ก ๆ แม่งน่าจะชอบอะไรย่อยง่ายได้แดกเร็วแบบนี้แหละถึงฮิต
by โม่งเงี่ยน
ต่อนะ
ตอนที่ 2 เกิดใหม่
พี่จินกวงขวัญใจกู กลับมาเกิดในร่างเด็กหนุ่มกาก ๆ ชื่อแอล ซึ่งแม่งบั่นทอนภาพแอลในเดธโน้ตของกูมาก
พี่จินได้ความทรงจำทั้งหมดกลับมาจากการได้ยินเสียงข้อความโทรศัพท์ สงสัยจังว่าถ้าเสียงหมาเห่าพี่จินจะ total recall ได้ไหม ซึ่งแม่งไม่เมกเซนส์ กูว่าเสียงห่าไรก็ ring a bell พี่แกได้
พี่จินในร่างน้องแอลซึ่ง neet เหี้ย แฟลชแบกไปถึงตอนแอลถูกผู้หญิง(ดาวคณะ)ที่แอลมันชอบและเหล่าผองเพื่อนของนางแกล้ง โดยการสั่งให้ถอดเสื้อผ้า แล้วถ่ายรูปแบล็กเมล์ให้ทำตามคำสั่ง ไม่งั้นชั้นจะโพสลงเฟสนะ ซึ่งก็เป็นอะไรที่คลิเช่ ๆๆๆ กูโคตรเบื่อ โตจนหมาจะเลียตูดไม่ถึงแล้วยังปล่อยให้ผู้หญิงแกล้งได้ วัยนี้มันต้องจับหญิงไถนาแล้วสิวะ แต่คงไม่ได้ เดี๋ยวจะผิดคอนเซปเด็ก neet (หลัง ๆ กูว่าแม่งเปิดฮาเร็ม แก้ปมด้อย)
แล้วพี่จินแกก็รู้ตัวแล้วด้วยว่าตัวเองอยู่ในประเทศไม่ยอมพัฒนาอย่างประเทศไทย(คือพัฒนาได้ แต่กูไม่รีบ) พี่จินกวงก็บ่นว่ากากกว่าบ้านเกิดแกอีก ชาติที่แล้วแกเป็นนักประดิษฐ์และนักปกครองด้วยนะ แล้วบริหารเก่งจนเป็นประเทศมหาอำนาจ(หวาว) แล้วก็ถูกชนเผ่าหมั่นไส้ เลยป้ายขี้โดยให้คนในตระกูล(นายเอ)ไปฆ่าเมียพี่ลี่ฟาง นายเอไปโดนปั่นหัวอีท่าไหนนั้นเนี่ย...กูคงอ่านไม่ถึงแน่ ๆ
แล้วพี่จินกวงยังแอบเหน็บเทคโนโลยีของโลกนี้อีก ประมาณว่าอุปกรณ์ที่พี่แกสร้างในสมัยก่อนน่ะ(ซึ่งกูก็ไม่รู้ว่าเป็นช่วงไหนของชีวิตแกเพราะพี่จินกวงแม่งก็อายุร้อยล้านปีแน่ะ)มันเจ๋งกว่าเย๊อะะะ เจ๋งกว่ายังไง กูไม่อยากรู้ เพราะอ่านไม่ถึงแน่
แล้วแม่งก็มีมิกซ์ pov อีก บุรุษสามดี ๆ วกมาหนึ่งเช๊ยย หลังจากคุณแม่เตือนว่าอย่าลืมไปโรงเรียน ซึ่งกูคิดว่าควรเป็นมหาลัยมากกว่า หรือแม่มึงลืมก็ไม่รู้
แล้วแม่งก็วกมาบุรุษสามอีก เฮ่อ...
พี่จินกวงแฟลชแบกคิดถึงคำพูดเพื่อนเลิฟลี่ฟางจอมแก่นก่อนจะเกิดบิ๊กแบง ที่มีใจความว่า "ถ้าเจ้าเกิดใหม่ จงทำเพื่อตัวเองบ้าง เจ้าเสียสละมาเยอะแล้ว" ครับ จะตายแล้วยังห่วงเพื่อน ก็คงซี้กันมากแหละ
ต่อมาพี่จินกวงรู้สึกเลือดลมไม่ดี เดินลมปราณไม่คล่องแคล่วเอาเสียเลย เนื่องจากร่างของน้องแอลมันมีสารพิษเยอะ ต้องทำการดีท็อกซ์ก่อน ซึ่งก็คือการสร้างเอไอ...
เหี้ยไรของมึงเนี่ย...
ยัง กูยังไม่ยอมแพ้ กูขออ่านอีกตอน
ข้อดี: 1. ไม่รู้เหมือนกัน แต่กูอยากอ่านต่อ ว่าจะสร้างเอไอมาทำพ่องอะไร ยุคพี่จินกวงแม่งจะรู้จักนิวรอนเนตเวิร์กแล้วเหรอ แล้วเขียนโปรแกรมเป็นเหรอสัส ใช้วินโดว์เถื่อนป่าว หรือมึงโปรแกรมกันผ่าน OS เสิ่นเจิ้น? นี่แม่งเป็นข้อดีที่ทำให้หงุดหงิดชิบหาย
ข้อเสีย: 1. นั่นแหละ มั่ว pov
2. กูอะ ไม่ชอบตัวละครที่แม่งพูดกับตัวเองเหมือนละครน้ำเน่าเป็นการส่วนตัว ซึ่งกูก็รู้ว่าอยากให้คนอ่านเค้ารู้ด้วย แต่มึงบรรยายเอาก็ได้ปะวะ ไม่รู้เพื่อนโม่งคนไหนชอบทำรึเปล่า แต่กูขอให้มึงลองเปลี่ยน แล้วมึงถามชาวบ้านดูว่าแบบไหนมันดูเป็นผู้เป็นคนมากกว่ากัน
3. เสียงร้อง อ๊าก เอิ๊ก ห่าไรเนี้ย แม่งน่ารำคาญเหมือนเสียงเอฟเฟคแหละ คืออย่างที่โม่งคนอื่นบอก มึงบรรยายเอาเห๊อะ แต่ถ้ามึงเขียนนิยายเย็ด กูแนะนำให้จัดเต็ม เสียงเตียงลั่น เสียงเนื้อกระทบป๊าบ ๆๆๆ เสียงแจ๊ะ ๆๆๆ เหี้ยไรใส่ให้หมด
by โม่งเงี่ยน
โม่งเงี่ยนสับดีกว่าเซฮุนเยอะเลย
ต่อนะ
ตอนที่ 3 สุดยอดโปรแกรม
"ท่านครับมีคนเจาะระบบฐานปล่อยนิวเคลียร์ครับ"
จงหาความเชื่องโยง(20 คะแนน) เดินลมปราณไม่ได้>ต้องล้างพิษ>สร้างเอไอ>แล้วแฮคฐานปล่อยนิวเคลียร์พี่กัน
ใครตอบได้บอกกูทีว่ามันเกี่ยวค.วยไรกันค๊.วยยย!!!
คือกูก็สงสัยนะ ว่าคนที่เมนต์ ๆ ตอนนี้กัน มันจะมีแบบ เอ๊ะ อ๊ะ แบบฉุกคิดมั้ย ว่าเรื่องเหี้ยนี่แม่งไม่ปกติเอามาก ๆ และกูโล่งใจมากที่เห็นคอมเมนต์นึงยังไม่โดนแดกสมองไป หาอ่านเองนะ ดูไม่ยากหรอก
เอาล่ะ กูอาจจะด่วนสรุปไปหน่อย เพิ่งอ่านสามตอนเอง กูจะไปรู้ห่าอะไร จริงมั้ย?
สติปัญญาของกูมันอาจจะมีจำกัด กูคงต้องใช้เวลาให้มากกว่านี้ มันอาจจะมีอะไรลึกซึ้งที่กูต้องถอดรหัสออกมาให้ได้ก่อน หรือบางทีกูอาจจะต้องจัดสักสามหลุมให้ดวงจิตเบิกกว้างพร้อมที่จะก้าวข้ามผ่านไปสู่มิติองค์ความรู้ใหม่แห่งทุกสรรพสิ่ง
"ปล่อยมันเข้ามา เราจะล้วงหาต้นตอของที่มา" หัวหน้าแผนกไอทีของมึงเนี่ยควรโดนยิงเป้าตั้งแต่ปล่อยให้ไอ้บ้าอายุร้อยล้านปีที่ไหนก็ไม่รู้แฮคเข้ามาได้ละ ควายชิบหาย ผ่งแพชอะไรไม่รู้จักหามาลง ไม่จงไม่จ้างแฮคเกอร์มาเพนฯเทส สงสัยเอาเงินไปตีกระหรี่หมด
ไอ้เหี้ย แม่งเพิ่งกลับชาติมาเกิดนะเว้ยย จะเทพห่าอะไรขนาดนั้น คือถ้ามึงศึกษาสักปีสองปีก่อน แล้วค่อยแฮค กูยังพอรับได้ แต่นี่อะไรของมึ๊งงง
แต่เหมือนชะตาหำพี่หัวหน้าแผนกไอทียังคงแข็งแรงอยู่ ไอ้จินกวงแม่งยอมถอย สังเกตได้จากเสียงเตือนภัยที่หยุดดัง เดี๋ยวนะ...สัญญาณเตือนภัย???
คือมึงโดนแฮคได้แล้วสัญญาณเตือนภัยดังขนาดนี้ล่ะก็ คือไอ้ห่าเอ๊ย ถ้าประนาธิบดีประเทศมึงไม่รู้นะ จับแม่งมาไถนาประเทศกูสักสามสี่ปีเหอะ
แล้วไอ้พวกแผนกไอทีแม่งก็โล่งใจด้วยเว้ยเฮ้ย ไอ้ห่า โง่ในโง่ มึงมาช่วยกันไถนาให้หมดนั่นแหละ กูเอาเงินภาษีจ้างพวกมึงมาตีกระหรี่รอบโลกดีกว่า
กลับมาฝั่งคนฉลาดอย่างพี่จินกวงของกูดีกว่า พี่เค้าก็สงสัยเว้ย ว่าแบบแปลนนิวเคลียร์ที่แฮคได้มาเมื่อกี้ มันคืออะไร แล้วก็มีเอไอชื่อโยบอกว่าเนี่ยเค้าไม่มีลมปราณ เลยสร้างอาวุธมาบึ้มบ้านกันเล่น
จริง ๆ กูก็สงสัยนะ สงสัยว่ากูทนอ่านได้ไง
แล้วพี่จินกวงก็ให้โย(เอไอ)คำนวณวัสดุให้ด้วย ว่าแต่คำนวณทำไมวะ หรือมึงจะสร้างนิวเคลียร์? สร้างหาพ่อง?
ตัดมาที่ฝ่ายควายไอทีที่น่าจะ conf call กันไม่รู้กี่ประเทศ แล้วไอทีไอ้กันก็โบ้ยไปฝั่งรัสเซียก่อนเลยเว้ย reference จากของจริงซะด้วย (จริง ๆ เมกาแม่งเหี้ยกว่าเยอะ keyword:โครงการปิ๊ซึ่ม/สโนเดลล) รัสเซียก็ปฏิเสธตามระเบียบ จีนก็บอกว่าไม่ใช่ แล้วฝ่ายรัสเซีย(มั้ง)ก็บอกว่าตามกลิ่นได้แค่มาจากเมืองไทย แล้วก็ขอความร่วมมือจากทุกคนให้ช่วยกันตามล่าหาตัวพี่จินกวง กูบอกเลย มึงไม่ได้แดกพี่จินกวงกูหรอก โง่ขนาดนี้
ตอนนี้สั้น ๆ แต่ความรู้สึกอัดอั้นของกูแม่งเอาไปเขียนเป็นเรื่องสั้น spin off ความเมพของพี่จินกวงขนาดหกหน้าเอสี่ได้เลย
กูคิดว่ากูควรหยุดแค่นี้ก่อน สมองกูมันไม่รับรู้อะไรแล้ว ตามเวลาของกูที่นี่ก็ดึกแล้ว เที่ยงคืนฝ่า ๆ นะ กูควรนอนได้แล้ว
สำหรับน้องเจ้าของเรื่องที่อาจจะเผลอเข้ามาอ่าน ก็อย่าคิดมากเลยนะ พี่หยาบคายด้วยความรักและเอ็นดูจริง ๆ และถ้าให้เขียนนิยายแข่งกันในเด็กดี พี่แม่งแพ้น้องราบคาบแน่นวล ฉะนั้น น้องสบายใจได้นะ สำหรับคำติชม น้องจะเอาไปใช้หรือเปล่าพี่ไม่กิฝอะชิทนะครับ ถ้าอยากไปไกลกว่านี้ก็พัฒนาซะ ถ้าไม่อยาก ก็พายเรือในอ่างเด็กดีต่อไป ส่วนพี่จะลงหม้อสุกี้
สำหรับเพื่อนโม่ง
กูเข้าใจละว่าการสับ(จริง ๆ กูอาจจะไม่ละเอียดพอถึงขั้นเรียกว่าสับ)นิยายสักเรื่อง แม่งใช้พลังงานมากแค่ไหน กูแค่สามตอนสั้น ๆ ยังเหนื่อยแทบตาย พวกมึงเยอะกว่านี้ยังจัดกันไหวเลย ทำได้ไงวะ
Verdict: สำหรับนิยายเรื่องเกิดใหม่ ณ ต่างโลก ไม่เหมาะสำหรับคนซีเรียส จริงจังกับการใช้ชีวิต พลอตก็เดิม ๆ คลิเช่ ๆ แบบที่กูกล้าปากดีไว้ก่อนเลยทั้งที่ยังอ่านไม่จบ นิยายที่ดีอะ แม่งอ่านแค่พารากราฟแรกก็รู้สึกได้แล้ว จะรู้สึกว่าดีช้ากว่านั้นก็ได้ แต่ไม่ควรเกินสามตอน คือมึงควรจะบอกคนอ่านได้ตั้งแต่สามตอนแรกได้แล้ว ว่าเรื่องมึงจะไปทางไหน มี main quest อะไร แต่เรื่องนี้กูรู้สึกได้อย่างเดียวคือพี่จินกวงกูจะเทพ และเทพมากขึ้นเรื่อย ๆ รัว ๆ ไม่มีใครหยุดยั้งพี่เค้าได้ ซึ่งมันไม่ดีอยู่แล้ว เพื่อนโม่งก็บ่นกันจนค.วยเปียกหรีย์แฉะแล้วว่าอย่าซู อย่าแกรี่ เรื่องนี้เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีสำหรับการเขียนนิยายที่มีคุณภาพ แต่เป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับการเขียนนิยายให้ฮิต(ในเด็กดี)
by โม่งเงี่ยน
มึง เรื่อง Incredible Sphere ตอนแรกอยู่วาย ย้ายไปหมวดกำลังภายในแล้วว่ะ แล้วมีหน้ามาตอบคห.เก่าที่ทักว่าวายเหรอว่าทำไมถึงคิดว่าวาย คนแบบนี้จิตใจทำด้วยอะไรวะ
ไม่ใช่ว่ามันเคยอยู่แฟนตาซีเหรอ
กูก็คิดว่าคล้ายนะ แต่ตราบใดที่มันไม่ระรานหรือก่อกวนใครถ่อยๆ กูจะทำเบลอไป
ky แกๆ ตอนหานิยายแฟนฯอ่าน กูเจอนิยายต่างโลกของพี่กวีคนดีศรีบอร์ดด้วยแหละ เปิดใหม่มีแค่สี่ตอน อ่านจบแล้วก็ปิดหน้านิยายอย่างเงียบๆ กูว่านี่เป็นตัวอย่างของคนพยายามเขียนนิยายเบียวแต่ไม่เบียวว่ะ มันดูเฟค กูไปอ่านเรื่องเกิดใหม่ตาม>>296 แม่งถูกต้องหลักสูตรนิยายเบียว พี่กวียังห่างชั้นว่ะ
>>296 เรื่องนี้พอกูอ่านไป กูอยากให้พวกมึงเห็นรีเเอกชั่นตอนนั้นกูมาก! ลูกตาแทบจะถลนมาซูมติดจออะ ทรมานสัสยิ่งอ่านมาตอน 16-17 นี่ เอ่อ อาไรของมึงวะ(ทำหน้าเอ๋อๆแล้วค่อยพูด) แถมเปิดขายด้วยเช็ดโด้ แล้วมีคนซื้อด้วย เหยดเข้
แต่เค้าแม่งจะซื้อจะขายอะไรกันก็ตามสบายมันเป็นสิทธ์ของพวกเค้า และกุไม่มีอะไรมากเเค่อยากบ่น//
เปิดมาเจอ เปร้ง ตูม กูก็ลงไปขำกับพื้นแล้ว แม่งสุดยอดจริงๆ
>>321 น่าจะอันนี้ พี่กวีวันนาเบียวเหรอ เดี๋ยวผมช่วยดูให้นะฮะ
https://my.dek-d.com/digikwe/writer/view.php?id=1695828
พอโตแล้วความเบียวหายก็เป็นเรื่องปกติแหละ
ปัจจุบันกุเองก็ทนเขียนเบียวๆ ไม่ได้เช่นกัน กลับกันแม่งหัวดันไปสายดาร์กแทนซะงั้น
แค่ตอนแรกก็อธิบายห้องเช่าตัวเองซะยาวยืดล่ะ ต่อให้ใช้มาตรฐานนิยายไม่เบียว
เห็นชื่อตอนแล้วรำคาญวงเล็บจัง
หวัดดีเพื่อนโม่ง
หลังจากกูเทรนเสร็จ กูตั้งใจว่าจะขออ่านอะไรที่มันจรรโลงสมองจากพี่กวีวันนาเบียวสุดที่รักของกู เริ่มเลยดีกว่า (กูคาดหวังไว้มากพอดู)
เรื่อง: ถ้าจะให้ไปเป็นผู้กล้าต่างโลกกันแบบนี้... ท่านยก (เหี้ยไรต่อไม่รู้ มือถือกูเห็นแค่นี้)
สถานะ: เห็นมีสี่ตอนถ้วน ถ้ากระแสดี พี่แกคงจัดยาวไป ๆ แน่ ๆ
เกริ่นนำ
ช่วงแรกจะเป็นพระเอกเกริ่นนำว่าโลกแฟนตาซีที่แม่งได้รับเชิญไปเนี่ย มันไม่เหมือนกับที่จิ้นไว้เลย แถมยังตัดพ้ออีกว่า เชิญกูไปทั้งทีเสือกให้แต่สมุดกับปากกาด้ามนึง ไม่ให้สกิลเจ๋ง ๆ หรือไอเท็มเมพ ๆ แบบเรื่องอื่นมั่งวะ แล้วแบบพระเอกก็เป็นรุ่นที่เจ็ดละ ถ้าแม่งยังปราบจอมมารไม่ได้อีกล่ะก็ หลังจากพระเอกไปนอนเฝ้ารากมะขาม พระเจ้าจะทำลายโลกตาซีทิ้ง เอ้อ ถึงตรงนี้กูก็แบบ เอ้อ เหี้ยไรของมึงวะพระเจ้า แม่งอารมณ์แบบกู(พระเจ้า)ก็ปราบจอมมารได้นะ แต่ไม่เอาหรอก มันไม่หนุกอะนาย กูกดดันไอ้พวกผู้กล้าบ่มิไก๊มาปราบจอมมารให้ดีกว่า ถ้าไอ้เหี้ยพระเอกแม่งเฟล กูจะทำลายโลกแฟนตาซีนี่ทิ้ง แล้วขี้ทั้งหมดจะถูกป้ายบนหน้าหลุมศพไอ้พระเอก พระเจ้าเหี้ยไรเกรียนขนาดนี้ แต่กูอาจจะด่วนสรุปไปหน่อย มันจะมีฮิดเด้นอะเจนด้าไรสักอย่าง อาจจะเป็นปริศนาปรัชญาที่คนเหี้ย ๆ อย่างกูเข้าไม่ถึง ยกโทษให้ผมด้วยนะพี่บีม ผมจะพยายามอ่านต่อไป
แล้วก็มาส่วนของพี่บีม พี่แกออกตัวไว้ก่อนเลยนะ เรื่องนี้สนองนี๊ดพี่เค้านะซึ่งจะตรงข้ามเรื่องมีอาเลย(เรื่องนี้โมเอ๊ะ โมเอะ) เพราะมันจะดาร์ก ๆ จิกกัดสังคมนิดหน่อย แล้วที่สำคัญ พระเอกเมพ มีฮาเร็ม แต่ไม่มีฉากเย็ด ซึ่งกูถือว่าดี คนอ่านจะได้ไม่กำค.วยรอเก้อ แล้วพี่แกก็บอกว่าเรื่องเนี้ย มันจะแนวเมะ ๆ มังงะ ๆ หน่อย มีระบบเลเวล สกิล แต่เค้าไม่เน้นตรงนี้นะ เค้าเน้นเรื่องการเมือง ซึ่งกูก็จะรออ่านดู ถ้านิยายพี่เค้าไม่ทำลายสมองกูมากจนเกินไปนะ
ลืมบอกว่าพี่เค้ามีการลงรูปสมุดปากกาให้พวกมึงดูด้วยนะ กลัวพวกมึงจะนึกภาพสมุดปากกันไม่ออกไง ซึ่งช่วยชีวิตคนโง่ ๆ อย่างกูไว้ได้อย่างทันท่วงที ไม่งั้นกูคงต้องเสียเวลาปั๊มตังค์ไปตีกระหรี่มานั่งนึกจินตนาการว่าไอ้สมุดกับปากกาห่าเนี่ยหน้าตามันเป็นยังไง
by โม่งเงี่ยน
>>327 เหี้ย ลืมใส่ลิ้งก์ โทดที ๆ
https://my.dek-d.com/digikwe/writer/view.php?id=1695828
ตอนที่ 1 ว่าที่ผู้กล้ากับห้องเขาวันที่ 0
ทำไมต้องวันที่ 0 คือตามหลักโปรแกรมมิ่งเนี่ย ตำแหน่งแรกของอะเรย์มันมีค่า index เป็น 0 ex. [0][1][2].... ตำแหน่งที่ 0 ก็เลยถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของทุกสรรพสิ่งในทางโปรแกรมมิ่ง เป็นไงล่ะไอ้สัส แค่ชื่อตอนมันก็มีความลึกซึ้งขนาดนี้แล้ว แค่เทคนิกการอุปมาอุปมัยแม่งก็เหลือแดกชิบหายวายวอด กูบอกแล้วว่ากูหวังกับพี่เค้าไว้สูง สวดยวด ไปเลยพี่บีม
เริ่มมากูว่าพี่บีมแม่งแอบเซ๊วอินเสิร์ท เอาความเจ็บช้ำจากที่ทำงานมาระบายในนิยาย แล้วก็บ่นว่าต้องมาทำโอทีเพื่อส่งรีพอร์ทให้พวกผู้บริหาร แหมอีดอก บ้านมึงก็ใกล้ โอทีก็ได้ มึงอย่ามาบ่นเล๊ย กูเนี่ยเห็นพี่เอ็นจิเนียร์บริษัทกูทำงานงก ๆ ไม่ได้โอทีแม่งกลับบ้านสี่ห้าทุ่ม เพราะเครื่องจักรแม่งเจ๊ง แถมบ้านพี่แกแม่งอยู่อยุธยาอีก (โรงงานกูอยู่กทม) กูไม่เคยเห็นพี่เค้าบ่นโอดโอย ทุกวันนี้แม่งเป็นผจกไปแล้ว รวยสัส ๆ เป็นไงล่ะ กูขอเซ๊วอินเสิร์ทมั่งแม่งเลย
แล้วพี่พระเอกของกูก็สาธยายว่าบ้านของแกอย่างโง้นอย่างงี้ มีแบบนั้น มีแบบนี้ เขาอยู่ได้สบาย ๆ ชิล ๆ มินิมัล ๆ กูพนันเลย ตรงนี้พี่บีมแม่งเซ๊วอินเสิร์ทอีกละ แม่งอาจจะเพิ่งกู้บ้านหรือคอนโดผ่านมาหมาด ๆ เลยขอแอบใส่ในนิยายสักนิดนึงน่ะ ให้พอกระชุ่มกระชวยหัวใจ กูก็พอเข้าใจหัวอกคนที่(อาจจะ)เพิ่งจะมีทรัพย์สินเป็นของตัวเอง เลยไม่ถือสาอะไร เพราะกูก็เป็น
แล้วพระเอกแม่งก็เผลอหลับไป
หลับเพลิน ๆ กรน คร่อก ๆ อยู่ดี ๆ แม่งก็มีคนปลุก โดยไอ้คนตัวหนังสือสีแดง ที่แม่งเป็นเงามืด ๆ แต่พี่พระเอกก็ไม่กล้วหรือแต๋วแตกนะ ทั้งที่เค้าน่าจะตกใจแล้วตะโกนออกมาว่า โปนจ้น เอ๊ย โจรปล้น ไอ้เหี้ยยยยยย พวกมึงรู้มั้ยว่ากูนี่ทำท่าโดนไฟช็อตแล้วร้องแฮ่รับมุกเหี้ยนี่แทบไม่ทัน นี่เป็นความวันนาเบียวที่โคตรเฟล กูอ่านไอ้จินกวงยังขำกว่าอีก ทั้งที่แม่งไม่ยิงมุกเลย
แล้วไอ้เงาดำเหมือนในโคนันก็ถามว่า "เจ้าสนใจจะเป็นผู้กล้าไหม?"
ได้ยินเท่านั้น พี่พระเอกกูหายง่วงเลย แต่กูนี่ง๊วงง่วง
ข้อดี: ภาษาพี่แกก็หายห่วง สำนวนพอถูไถ
ข้อไม่ดี: เปิดตัวได้น่าเบื่อ คลิเช่ ชิบหาย กูประหลาดใจว่าพี่แกดูมีความรู้และประสบการณ์ในการเขียนนิยายมามาก และนานจนมอยส์น่าจะมีขาวแซมละ แต่กล้บเปิดตัวนิยายได้ห่วยบรมขนาดนี้ กูบอกเลย อ่านไอ้เหี้ยจินกวงยังบันเทิงกว่า ทั้งที่ภาษาแม่งห่วยแตกชิบหาย ทว่ากูยังไม่สิ้นหวังในต้วพี่บีมง่าย ๆ แค่นี้หรอก เพราะพี่เค้ามีความรู้ คำพูดคม ๆ เท่ห์ ๆ คูล ๆ ที่กูเห็นในบอร์ดยังคอยย้ำเตือนให้กูยังเชื่อในต้วพี่เค้า
by โม่งเงี่ยน
ตอนที่ 2 กูไม่พิมพ์ชื่อตอนละ ไม่อยากพิมพ์อะไรยาว ๆ ที่แม่งไม่มีสาระ
เจ้าสนใจจะเป็นผู้กล้าไหม?
อยู่ ๆ มีไอ้บ้าที่ไหนไม่รู้มาถามมึงแบบนี้ พระเอกแม่งก็ต้องงงดิ แม่งก็ถามกลับเลย มึงเป็นใคร ไอ้ตัวหนังสือแดงตอบกลับทันควัน ว่าแม่งเป็นพระเจ้า กูแบบ เอ๊ย นี่มันพลอตทวิสต์เหี้ย ๆ กูคาดไม่ถึงเลย ว่าแม่งจะได้เจอกับพระเจ้าในนิยายต่างโลก โอว อีเหี้ย แถมไอ้พระเจ้าตัวนี้มันกำลังจะป้ายขี้ให้มึงนะ ถ้ามึงปราบจอมมารไม่ได้ ไอ้พระเอก มึงอย่าไปหลงกลมั๊นนน อยู่เป็นพนักงานกินเงินเดือน เหลือเงินเก็บไว้ไปตีกระหรี่กับกูดีกว่า ฟินเว่อร์
พระเอกแม่งก็ฉลาดเว้ย มันยังไม่เชื่อหรอกว่าไอ้บ้านี่คือพระเจ้า เออ ค่อยยังชั่ว แล้วแม่งเล่นมุกกลับไปว่า "โทษทีเหอะ ผมนับถือศาสนาพุทธ" เป็นไงล่ะ พี่บีมกูยิงอีกมุกนึงแล้ว ยิงได้เลอะเทอะมากไอ้สัส
แล้วไอพระเจ้าก็บอกว่ามันเนี่ย ออกแนวเป็นผู้สร้างอะไรแนวมากกว่าพวกเจ้าลัทธิ แล้วไอ้พระเอกแม่งก็บอกว่าสนใจ เพราะว่าน่าจะเหมือนการ์ตูนฮาเร็มนะ นั่นเป็นการตอบตกลงพระเจ้าโดยอัตโนมัติ เป็นไงล่ะเพราะความเงี่ยนของมึงแท้ ๆ ไอ้ควายเอ๊ย
แล้วพระเจ้าก็แนะนำโลกแฟนตาซีที่พระเอกกำลังจะไปกอบกู้ให้ฟัง
กูขออนุญาตพักไว้ตรงนี้นิดนึง กูมีความฝังใจกับระบบคัดเลือกผู้กล้ามานานแล้ว ว่าแม่งใช้ criteria อะไรในการเลือกเฟ้น กูเห็นเรื่องไหน ๆ แม่งก็มีแต่ neet คุ โม่ย นี่พระเจ้าแม่งโลว์เทสต์ขนาดนั้นเลยเหรอวะ ทำไมมึงไม่เลือกนักกีฬา ทหารนาวิกล่ำ ๆ ไม่ก็นักมวย ไอ้แบบที่แม่งพึ่งพาได้หน่อยดิ ไอ้เหี้ย โลกมึงกำลังถูกจอมมารบุกอยู่นะเว้ย หงุดหงุดเหี้ย ๆ เมื่อไหร่แม่งจะมีพระเจ้าฉลาด ๆ ให้เห็นมั่งวะ ถ้าเพื่อนโม่งคนไหนเคยเห็น ช่วยแนะนำหน่อยนะ
โอเคกลับมาต่อ โลกที่พระเจ้าแม่งแนะนำอยู่ มันชื่อ untitled เว้ย ว้าว กูนี่แฟลชแบกไปตอนที่แอบขโมยเงินแม่มานั่งเล่นเค้าเตอร์ข้ามวันข้ามคืนเลย ถ้าใครแม่งรู้จักด่านนี้ แม่งต้องแก่มอยส์ใกล้หงอกแล้วแน่นวล
แล้วพี่พระเจ้าก็บอกว่า พระเจ้าอะไม่ได้แค่เค้าคนเดียวนะ มีพระเจ้าที่โลกอื่น ๆ อีก เนี่ยกำลังแข่งกันเลยว่าโลกใครจะมีการผจญภัยได้สนุกสนานมากกว่ากัน
พระเอกก็ถามว่ามึงทำไมไม่มาเล่นเอง พระเจ้าก็ตอบว่า เล่นเองแม่งก็ไม่หนุกดิไอ้ควาย มึงไม่น่าถามเลย ถ้ามันอยากเล่นเอง มันจะถ่อมาหามึงทำไมวะไอ้พระเอก มึงอย่าโง่เหมือนไอ้พวกหน่วยไอทีเรื่องไอ้จินกวงได้มะ
ข้อดี: เหมือนของเมนต์ที่แล้ว ภาษาพออ่านได้ไม่หงุดหงิดมาก ไม่ค่อยมีคำผิด เข้าใจง่าย คือถ้าพี่บีมกูไม่มีตรงนี้ สำหรับเรื่องนี้ พี่บีมจะไม่มีเหี้ยไรดีเลยนะครับ ผมพูดตรง ๆ
ข้อไม่ดี: กูก็ยังไม่เห็นความชวนให้อ่านต่อ ถ้าพี่จะบอกว่าผมยังอ่านไม่ถึงตอนไปอยู่โลกโน้น นี่มันเพิ่งเริ่มเอง จะรีบด่าไปไหน ผมก็จะบอกเลยนะครับ คือถ้าพี่เริ่มมาแค่แล้วแม่งยังน่าเบื่อแบบนี้ ผมก็ขอเป็นคนนึงที่จะไม่เสียเวลาอันมีค่าไปอ่านต่อหรอก พี่อาจจะไม่แคร์ผม แต่ผมเชื่อว่านักอ่านคนอื่นแม่งก็ไม่แคร์พี่เหมือนกัน แม่งอ่านบทแรกพี่ก็ขอบายกันหมดแล้ว แต่ผมบอกเลย ว่าผมแคร์เพราะผมยังเชื่อในตัวพี่อยู่ ผมจะอ่านให้จบสี่ตอนเลย
กูอาจจะแวบไปดูบอลก่อน อาจจะมาต่อพรุ่งนี้นะ
by โม่งเงี่ยน
กู>>315 คนคาบข่าวพี่กวีมาบอก นิยายพี่แกมันไม่ได้เหี้ยแต่ถือว่าอ่อนด้อยมากในสายเบียว จังหวะปล่อยมุกแป๊กสัสแต่กูก็ขำในความแป๊กนะ ประมาณมุกสองบาทสามบาทก็กล้าเล่นเนอะ จะด่ากูก็ไม่อยากด่ามากเพราะก็ไม่ได้แย่ พี่แกยังต้นทุนดีกว่าเด็กเห่อหมอยทั่วไป แต่กูขอว่าอย่าเอาดีทางสายเบียวเลยว่ะ ไม่เวิร์คชิบผาย
นี่กูเซฮุนนะ... เดี๋ยวกูกลับมาไล่สับในลิสต์ที่จองไว้ ตอนนี้กูมีโมเดลในการสับใหม่ละ
ลงชื่อ เซฮุน โม่งเงี่ยนนี่สับดีจริงๆ แจกันนะทุกคน
มาต่อละ
ตอนที่ 3
ณ ดาวเคราะห์อันไตเติ้ล
พระเอก(ซึ่งถึงตอนนี้ยังไม่รู้ชื่อ ไม่รู้ว่าหน้าเป็นยังไง น่าจะรู้ในอีกสักพักเนี่ยแหละ) มันก็เล่าว่าโลกนี้มันก็คือ ๆ กับโลกของมันแหละ แต่มันจะอยู่ในยุคกลางหน่อย ๆ ที่ rpg element ครบถ้วน
ประกอบด้วย 4 ทวีป แต่ตอนนี้เห็นแค่ชื่อเดียว คือ ทวีปเอสที และมันมีเกาะด้วยนะ ชื่อเกาะว่าดีบี กูอ่านถึงตรงนี้ ก็รู้สึกสงสัยว่าทำไมพระเจ้ามึงตั้งชื่อได้เห่ยบรมขนาดนี้ st คือลำดับแรก 1st ไรเงี้ย ส่วนดีบีมาจาก ดาร์กเนสบอส บอสแห่งความมืด คือ เรื่องชื่อมันก็ฟรีสไตล์อะนะ แต่ลึก ๆ มันบ่งบอกอะไรหลาย ๆ อย่างเหมือนกัน กูขอเดาว่าพี่บีมตั้งใจตั้งชื่อให้ดูง่าย ๆ สิ้นคิด ๆ จะได้ดูเบียว ๆ ถ้าใครติง แกก็ดีเฟนด์ได้ว่าชื่อที่กู(พี่บีม)ตั้ง มันมีที่มานะเว้ย ส่วนอีกสามทวีปเค้าบอกว่าเป็น ซีซั่นพาส เหมือนนายค่ายเกมจังไรที่ชอบหักหลังชาวบ้านบ่อย ๆ ไอ้สัสกูขอเซ๊วอินเสิรทหน่อย
คือจริง ๆ แล้ว ไอ้พระเจ้าเห่อหมอยเนี่ย มันกำลังแข่งกันกับผองเพื่อนพระเจ้าอยู่ แข่งอะไร? ก็แข่งสร้างโลกให้มันสนุก ๆ ไง ใครดูสนุกสนานกว่าก็ชนะ กูก็ไม่รู้ว่ามึงมีคณะกรรมการตัดสินหรือเปล่า แต่พี่เค้าบอกว่าถ้ามันสนุกพอ ๆ กัน โลกของใครมันเคลียร์ยากกว่า ก็จะชนะไป(จริง ๆ พี่บีมใช้คำว่าเหนือกว่า)
แล้วมันก็มีกฎว่า ต้องเลือกมนุษย์จากต่างโลกเข้ามาในโลกที่มึง ๆ สร้างขึ้นมาเท่านั้น จะหัวแดง หัวดำ มอยส์ขาว มอยส์ทองได้หมด แถมเอาจากยุคไหนก็ได้(พี่แกน่าจะเขียนเผื่อดึงตัวเทพ ๆ มาในภายหลัง) และที่สำคัญคือเลือกได้ตามความเหมาะสม พวกมึงอาจจะอ่านข้ามตรงนี้ไปเพราะไม่เห็นมีห่าอะไร แต่กูยังติดใจอยู่ ไอ้คำว่าความเหมาะสมของมึงคืออะไร ไอ้พระเจ้าตัวอักษรสีแดงมึงอยากจะชนะจริง ๆ หรือเปล่า ถึงเลือกพนักงานออฟฟิศต๊อกต๋อยที่ไหนก็ไม่รู้มาแข่งกับเดอะแก๊งค์ มึงโง่ป่าว เป็นกูนะ จะเอาไอ้พวกครึ่งเทพมาเล่นแทนถ้ากูอยากจะเข้าวินชัวร์ ๆ แต่ไอ้โม่งเงี่ยนหน้าหมีเอ๊ย มึงโง่หรือเปล่า ทำแบบนั้นนิยายแม่งก็ไม่ได้ลุ้นดิ พระเอกเก่งอยู่แล้วจะไปสนุกห่าอะไร เออ กูไม่เถียง แต่มันดูไม่สมเหตุสมผลแค่นั้นเอง ถ้ามึงจะบอกว่าก็แค่นิยายเอาไรมาก คือ ถ้าเป็นคนอื่นเขียน กูจะเฉย ๆ แต่นี่เป็นพี่บีมของกูนะ กูก็หวังไว้เยอะว่าพี่เค้าอาจจะใช้พลอตตลาด มาตีความใหม่ให้มันคูล ๆ ให้มันดูมีอะไร แต่พี่แม่งเสือกเดินซ้ำรอยไอ้พวกเด็กเบียว แถมยังระดับความเบียวยังห่างชั้นพวกแม่งไปหลายขุมอีก เฮ่อ... กูก็แอบเฟลหน่อย ๆ เหมือนกัน
กลับเข้าเรื่อง พระเอกมันบอกว่าไอ้พระเจ้าเนี่ย มันออกแบบ NPC เจ๋งอยู่นา แม่งเป็น NPC ที่สมจริงม่วก ๆ แต่แม่งไม่มีใครเคลียร์ได้สักที จริง ๆ ถ้ากูเป็นไอ้พระเจ้า กูก็คงจะฉุกคิดตั้งแต่ไอ้ผู้กล้าตัวที่สองตายห่าไปนั้นแหละ ว่ากูโลกของกูมันเคลียร์ยากไปจริง ๆ หรือรสนิยมการเลือกผู้กล้าของกูมันห่วยแตกหมาไม่แดกแถมเยี่ยวรดใส่กันแน่
ตัวเกม(โลกแฟนตาซีนั่นแหละ) มันก็เป็นแบบอาร์พีจี คลิเช่ ๆ ทั่วไป พี่พระเอกยังบอกว่าคลิเช่ขนาดนี้จะไปสู้กับเดอะแก๊งค์ยังไงไหวเลย(ว่าแต่ไอ้พระเอกมึงไปสาระแนเห็นเกมของพระเจ้าตัวอื่นตอนไหน แม่งอาจจะกากกว่าพระเจ้าของมึงก็ได้) คือที่มึงอ่านไปทั้งหมดเนี่ย ยังไม่ได้เข้าเกมนะ พระเจ้ามันแค่โชว์พาวเวอร์พ๊อยท์ให้พระเอกดูเฉย ๆ แล้วก็อุบดีเทลและความลับไว้ด้วยเดี๋ยวจะไม่หนุก คือไม่เดี๋ยวอะ นี่กูยังไม่รู้สึกสนุกเลย
แต่แล้ว ถึงไคลแม็กซ์ที่กูรอคอยก็มาถึง
ถึงเวลาส่งตัวพระเอกไปโลกแฟนตาซีแล้ว ตามธรรมเนียมปกติ พระเจ้าต้องมี ชุด starter kit ให้ผู้ถูกเลือกทุกคน ซึ่งแต่ละเรื่องที่กูเคยอ่านมา ไม่มีใครทำให้กูรู้สึกประทับใจได้เท่าของพี่บีมเลย
พระเอกแม่งได้ปากกากับสมุดมาเว้ยพวกมึงงงง ไอ้เหี้ย ตื่นเต้นชิบหาย พี่บีมแม่งเริ่มสร้างความแตกต่างแล้วไอ้สัส เป็นไงล่ะ อย่าให้พี่บีมกูผงาด กูนี่รออ่านตอนต่อไปแทบไม่ไหว
ข้อดี: ปากกากับสมุดเป็นสิ่งที่ดีงาม แม่งแปลกใหม่ จนต้องร้อง ว้าว ว้าว ว้าว (/me ทำท่าแบมือคู่แล้วหงายหลังสี่สิบห้าองศาเหมือนคนดูในห้องส่งชิงร้อยชิงล้าน) ส่วนเรื่องภาษาที่เป็นข้อดี ก็ยังดีไม่เปลี่ยน แต่กูเคยอ่านคนที่เขียนดีกว่านี้สามเท่ามาแล้ว แต่ก็ยังถือว่าพี่อยู่ในระดับที่ดีกว่ามาตรฐานเด็กดี (คำผิดน้อย หลีกเลี่ยงคำซ้ำ ฟุ่มเฟือย อ่านเข้าใจง่าย)
ข้อไม่ดี: กูขอไม่ด่าอะไรในตอนนี้(เพราะกูด่าไปหมดแล้ว) อีกทั้งในช่วงท้าย มันจุดประกายคอสโมความหวังและความเชื่อในตัวพี่บีมให้ลุกโชนในใจของกูขึ้นมาแล้วอีกครั้ง(เพราะนายปากกาและสมุดเนี่ยแหละ)
by โม่งเงี่ยน
ต่อ ๆ
ตอนที่ 4 แล้วว (ตอนล่าสุด)
กูผิดหวังนิดหน่อยที่ยังไม่เข้าเกมสักที แต่หลังจากตอนนี้น่าจะเข้าเกมละ
พระเจ้าบอกว่าที่กูให้ปากกากับสมุดมาเนี่ย เพราะอยากให้เกมมันดูสมดุลย์(กูขอเรียกโลกแฟนตาซีนี่ว่าเกมนะ) แล้วมันยังคอมโบกับข้าวของในห้องพี่พระเอกแกได้ด้วยนะ ตอนนี้กูพอเข้าใจแล้วว่าทำไมตั้งชื่อเรื่องแบบนี้ จริง ๆ แล้วพี่บีมกูอาจจะไม่ได้เห่อบ้านที่เพิ่งกู้ธนาคารมาได้อย่างที่กูเดามั่ว ๆ ก็ได้ มันน่าจะมีอะไรเกี่ยวกับห้องพระเอกจริง ๆ พี่เค้าถึงได้บรรยายห้องตัวเองซะยืดยาวจนคนอ่านหนีหัวซุกหัวซุนหมด กูขอโทษพี่มา ณ ที่ตรงนี้ด้วยครับ
แล้วพระเจ้าก็บอกกฎเหล็กสองข้อ 1. มึงมีเวลาแค่ 96 วันในเกม(เท่ากับ 8 ชม. ในโลกจริง) เพราะหลังจาก 96 วันแล้ววิญญาณจะออกจากร่างแบบถาวร ซึ่งกูก็ลองทำรีเซิรชดูว่าตัวเลข 96 มันมีความหมายอะไรรึเปล่า ปรากฏว่าไม่ได้เกี่ยวเหี้ยไรเลยกับวิญญาณออกจากร่าง พี่ไม่ผิดหรอก มันผิดที่ผมเสือกหาข้อมูลเอง
ข้อ 2. มีฮาเร็มได้ แต่ห้ามปล่อยน้ำว่าวใส่สาวคนไหนในเกมเด็ดขาด ค.วยเหอะ มึงพูดงี้ มึงตัดค.วยพระเอกทิ้งเลยดีกว่า มึงจะมีฮาเร็มไปทำไมถ้ามึงไม่ได้เย็ด หื้อ? หรือมึงจะชักว่าว? หรือยังไง คือ ทำไมอะ พี่บีมผมรู้ว่าพี่บอกแล้วว่านี่ไม่ใช่นิยายฮาเรมนัดเย็ด แต่พี่คิดถึงใจพระเอกนอยายพี่บ้างไหม? น้องว่ามันไม่เมกเซ๊นส์ พี่เหมือนคนเงี่ยนแต่ยังหน้าบางไม่อยากให้คนอื่นรู้ว่าตัวเองเงี่ยน ด้วยการประกาศว่าจะไม่มีการเย็ดกันในเรื่องนี้ แต่เสือกให้เปิดฮาเร็มได้ น้องขอพูดวกไปวนมาหน่อยนะประเด็นนี้ คือน้องแม่งก็เห็นอกเห็นใจคนเงี่ยน พระเอกมันก็น่าจะโสด แล้วคนโสดมันก็ต้องเงี่ยน พอไปเจอสาว ๆ ในเกม ที่แบบจีบได้ แต่ห้ามเย็ดนะ มันก็ awkward นะพี่ เอ...หรือว่าเย็ดได้แต่ห้ามแตกรดโดนตัวสาวที่ไหน แสดงใส่ถุงยางเย็ดได้อะดิ ใช่มะ ๆ พี่บีม ไม่ท้องด้วย นี่น้องเวิ่นเว้อจนหาโซลูชั่นเจอเลย โอ๊ย ดีใจว่ะ เพราะฉะนั้นมึงพกถุงยางไปด้วยนะไอ้พระเอก ที่ในเกมแม่งไม่มีขายหรอก เพราะยังอยู่ในยุคกลาง นี่ถ้ามึงลืมเอาไปเนี่ย อดเย็ดเลยนะ
ว่าแต่พี่บีมนี่คงยสตนตลอดเลยสินะ เลยไม่เห็นพลอตโฮลรูนี้ นี่ถ้าไม่ได้คนจังไร ๆ อย่างน้องมาช่วยบอก พี่ไม่มีทางรู้หรอกนะคับ อริ๊ย์ ๆ
ต่อ ๆ โทษทีนอกเรื่องไปไกล
แล้วไอ้พระเจ้าก็บอกเหตุผลว่าทำไมต้องบึ้มเกมนี้(โลกแฟนตาซีของมันทิ้ง) ถ้าพระเอกยังเฟลเหมือนไอ้หกตัวจ๊าดง่าวที่ผ่านมา เพราะว่าเกมที่มันไม่มีใครเอาชนะได้ คือเกมที่ล้มเหลวดี ๆ นี่เอง เป็นกูจะไม่โทษเกม คงลองเปลี่ยนรสนิยมการเลือกผู้กล้าก่อน ถ้าเลือกตัวเอากลั่นที่เก่ง ๆ มาแล้วยังไม่เวิร์ก ค่อยมาโทษเกมทีหลังยังทัน
ประเด็นสุดท้าย พี่บีมตอบคำถามที่กูสงสัยมาตลอดว่า ไอ้พระเจ้าแม่งใช้ criteria อะไรในการเลือกผู้กล้า มึงสอยดาวมาหรือเปล่า หรืออะไรย้งไง
ไอ้พระเจ้าก็ตอบว่าเนี่ย มันอยากได้คนที่มีอะไรมากกว่าการเล่นเกม แบบมีทักษะการใช้ชีวิตแบบรอบด้าน ได้ทั้งบู๊และบุ๋น และน่าจะเข้าใจโลกของอีพระเจ้าได้เป็นอย่างดี ซึ่งก็ดูเหมือนจะดี แต่...คนแม่งมีเจ็ดพันกว่าล้าน มึงทำไมไม่เลือกคนที่เก่งกว่าไอ้ห่าพระเอกนี่มาวะ นี่ถ้าพระเอกแม่งเก่งทั้งบู๊และบุ๋นป่านนี้แม่งไม่มานั่งเป็นพนักงานต๊อกต๋อยอยู่แบบนี้หรอก สรุปมึงก็ยังโลว์เทสต์อยู่ดี
by โม่งเงี่ยน เดี๋ยวมีอีกเมนต์ แม่งยาวเกินสี่พันตัว ชิบหาย
>>340 ตอนนี้กู ตีสามว่ะ ยังไม่ได้นอนเลย
>>341 ต่อ
verdict: สรุปสั้น ๆ เลยนะครับ สำหรับพี่บีมกวีวันนาเบียวของผม
พี่ยังเบียวไม่สุดพวกหัวเกรียนก็ไม่ชอบ ไอ้ครั้นพวกผมจะมาอ่านมันก็ยิ่งไม่ใช่ไปกันใหญ่ ทักษะทางด้านภาษาของพี่โอเคเลย(คือถ้าพี่อยู่จนหมอยหงอกแล้วยังไม่พัฒนานี่น้องจะด่าซ้ำ) เรื่องพลอตเนี่ย ไหน ๆ พี่จะเขียนแนวตลาดแอ่นสนองนี๊ดตัวเองแล้ว ทำไมทำได้แค่ตามรอยชาวบ้านเค้า พี่ฉีกสักนิดสักหน่อยได้มั้ย แม้น้องจะเห็นแววว่าปากกากับสมุดและห้องที่พระเอกอยู่น่าจะมีอะไรเจ๋ง ๆ อยู่ในภายภาคหน้า แต่น้องก็ยังรู้สึกว่าพี่เปิดตัวได้ไม่โอ อาจจะเป็นเพราะมันไม่ใช่ตัวพี่จริง ๆ พี่อาจจะอุปทานว่าตัวเองเบียว แล้วจะเขียนนิยายเอาใจเบียวได้ แต่มันใช่เหรอ ผมอาจจะพูดแรง แต่ผมคงไม่มีโอกาสพูดกับพี่แบบนี้ในบอร์ดเด็กดีแน่นวล ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าพี่จะบังเอิญมาอ่านในนี้ป่าว ผมเห็นความคิดเห็นดี ๆ เท่ห์ ๆ จากพี่เยอะ ผมก็หวังว่าจะเห็นอะไรแบบนั้นในนิยายพี่มั่ง ผมอาจจะเลือกอ่านเรื่องผิดเอง แต่มันก็เป็นความผิดผมด้วยที่ไม่สามารถเจียดเวลาไปอ่านนิยายทุกเรื่องของพี่ แล้วค่อยเอามาเวจคะแนนใหม่ ในนิยายเรื่องอื่นพี่อาจจะมีสิ่งที่ผมคาดหวังจากพี่ในนั้นก็ได้ แต่ผมคิดว่าอาจจะไม่ใช่เรื่องนี้ ถึงอย่างไร ผมก็จะลองติดตามเรื่องนี้อยู่ห่าง ๆ อย่างห่วง ๆ นะครับ
สำหรับเพื่อนโม่ง กูคงไม่ต้องสาธยายไรมาก มึงอ่านที่กูวิเคราะห์ไปก็น่าจะพอเห็นอะไรบ้าง กูเองก็ได้ประโยชน์จากการอ่านงานชาวบ้านเยอะเหมือนกัน และกูยังรอคอยนิยายน้ำดีในเด็กดีอยู่(กูผูกพันธ์กับเวปนี้) ซึ่งอาจจะมาจากโม่งสักคนที่เรียนรู้จากการสับของเซฮุนและโม่งสับบะช่อ และโม่งท่านอื่น ๆ ก็ได้ ใครจะไปรู้
และคือกูขอบอกก่อน ว่ากูไม่สามารถอ่านนิยายหลาย ๆ ตอน เพื่อจะวิจารณ์พลอตได้เต็มร้อย ซึ่งกูรู้ว่าอาจจะไม่แฟร์ในประเด็นที่ว่ากูอาจจะด่วนส่วนสรุปไป มึงจะเห็นว่ากูอ่านแค่ไม่กี่ตอนแรก ๆ เอง เพราะเวลากูมีจำกัด กูวัยทำงานแล้ว ไหนจะต้องแบ่งเวลาไปหาเมีย หากิ๊ก หากระหรี่ พาแม่ไปเที่ยว ไปทำงาน นั่งปวดขี้ตอนรถติด ฯลฯ อยากให้เข้าใจตรงนี้ด้วยนะจ๊ะ
ปล. กูไม่มีดราม่ากับใครแน่นอน ไม่ต้องห่วง กูคิดแค่ว่าถ้าจะเปลี่ยนสังคมที่เราอยู่ให้มันดีขึ้น แม่งต้องเริ่มที่ตัวเราเองก่อนเลยอีดอก กูก็เลยเริ่มสับ แค่นั้นแหละ
ปล. เวลากูสับชาวบ้านนี่ตั้งใจกว่าเวลาเขียนนิยายตัวเองอีกนะเนี่ย
by โม่งเงี่ยน
อ่านโม่งเงี่ยนสับแล้วกุแอบหันมามองนิยายตัวเองหน่อย ๆ
กลุ้มว่ะ... กุนี่บทแรกมี 5 ตอน กุยัดเนื้อหาให้รู้จักพวกตัวเอกไปแล้ว 2 ตอน ส่วนอีก 3 ตอนเป็นแนว survival เล็กๆ ก่อนที่จะใช้มันเพื่อโยงไปยังเนื้อเรื่องถัดไป ซึ่งพอลองเอามาวิเคราะห์ดูพบว่า... กว่าตัวเอกแม่งจะได้พลังก็ปาไปตอนที่ 10 โน้นแน่ะ
แบบนี้กุดำเนินเรื่องช้าไปสินะ?
พูดรวมๆ กูไม่คิดว่าเบียวแล้วจะแย่ไม่สนุกนะ ลองดูจักรวาล Fate สิ เบียวเหี้ยๆ ใช้หน้าเซเบอร์หากินมาเป็นสิบๆ ปี แม่งก็ขายได้ ถ้าไอเดียและกึ๋นมึงดีพออะนะ
พูดแบบนี้ละกัน อะไรที่ไปสุดทางในทางใดทางหนึ่งจะหลุดพ้นจากคำว่าห่วยได้ เบียวแล้วต้องเบียวให้สุด เว่อแล้วต้องเอาให้ถึงอวกาศ ดูอย่างโทริโกะ จากล่าอาหารธรรมดาๆ แม่งหลุดไปถึงกำเนิดจักรวาลได้ ถ้าทำถึงระดับนั้นมันจะไม่ใช่คำว่าเบียวอีกต่อไป แต่จะข้ามขั้นไปคำว่ากาวแทน
fate มันดังได้ไม่ใช่เพราะเบียวเป็นหลักนะ ตอนแรกเป็นเกมส์18+ ใช้การบรรยายด้วยตัวอักษรกับบทพูดตัวละครเป็นหลัก แต่เนื้อเรื่องซึ้งใจทำให้คนมองข้ามเรื่องเบียวๆไป มึงลองดูเรื่องอื่นที่เน้นเบียวแต่ไม่มีจุดเด่นอื่นมากลบดิ อย่างมากก็ได้คะแนนประมาณ 5 - 6 ไม่เกิน 7 จาก 10 และค่ายสร้างเฟสมันก็ค่อนข้างได้ชื่อจากสึกิฮิเมะล่ะ
>>344 เดี๋ยวนะ Fate เนี่ยนะเบียว?
ถ้าภาค อโพ กับ FGO อะใช่ แต่ภาคหลักโดยเฉพาะรูท HF กับ zero นี่ไม่ใช่นะ
Concept เฟทมันโอเคเว้ยในยุคนั้น (10 กว่าปีก่อน) ยุคนั้นไม่มีนิยายเบียวๆ อะไรให้อ่านมากนัก LN ดังๆ ก็มีแค่พวก ชานะ ฮารุฮิ อะไรพวกนั้นเอง ก่อนจะตามมาด้วยเทพฟอน ฯลฯ
ความจริงนิยายเบียวๆ การ์ตูนเบียวสำหรับญี่มันก็แค่ส่วนหนึ่งของวรรณกรรมเขามีกลุ่มตลาดไว้สนองพวกคุๆเท่านั้น แต่คนไทยเสือกเอามาครอบงำตัวเอง
>>344 คือกูเชื่อว่านิยายที่เบียวแล้วสนุกมันก็มีอยู่แล้ว เวลากูอ่านนิยาย กูแค่ขอความสมจริงพอประมาณ มีที่มาที่ไป เปิดตัวอลัง มึงจะเบียวแค่ไหนกูก็อ่านไหว
เรื่องช่วงแรก สำหรับกู มึงไม่ต้องเซ็ทเวิร์ลด้วยการนั่งเลคเชอร์บรรยายยาว ๆ มึงแค่สอดแทรกวัฒนธรรม เทคโนโลยี หรือเวทมนต์ เข้าไปในการดำเนินชีวิตของตัวเอกสักกะนิด สักกะหน่อย ให้คนอ่านมึงซึมซับไปเรื่อย ๆ มึงจะได้ทั้งการดำเนินพร้อมยัดเยียดเวิร์ลเซ็ตติ้งให้คนอ่่านโดยที่แม่งไม่รู้ตัว แต่มันจะรู้เรื่องแน่นวล
ส่วนที่เป็นหัวใจของฉากเปิดคือ มันต้องเป็นฉากที่บีบคั้นอารมณ์(ที่อาจจะไม่ต้องจำเป็นต้องปูเนื้อเรื่องมาก่อนมากนัก แบบที่คนอ่านพร้อมแดกในทันที) หรือจะเป็น The most intense scene ของเรื่องมึงก็ได้
กูยกตัวอย่างเรื่อง lookism ละกัน ไอเหี้ยพระเอกแม่งถูกบูลลี่จนถึงขั้นต่ำสุดของชีวิต loser เหี้ย ๆ เพราะแม่งอ้วนเตี้ยเหี้ยขี้เหร่ ไร้ค่า ไม่มีใครสนใจ มีแต่คนหัวเราะเยาะเย้ย กูอ่่านไปก็สงสารอึดอัดลุ้นให้เหี้ยพระเอกเอาคืนพวกห่านี่ให้หมด คนเขียนแม่งก็แสดงให้เห็นความน่าสมเพซของพระเอกมาตลอด จนมาถึงตอนจบตอนแรก พระเอกแม่งตื่นมาแล้วส่องกระจก แม่งกลายเป็นอปป้าหล่อวัวตายควายล้ม กลายเป็นคนฮอทไปเลย แถมต่อสู้เก่งเหี้ยระดับ
imba หลังจากนั้นกูติดแม่งงอมแงม
>>344 กูชอบเฟท ซีโร่นะ แม่งดาร์กได้ใจมาก ภาคอื่นมันก็พอไหวอยู่แต่ไม่ได้ติดตามทั้งหมด
>>346 มันขายหี (หน้า) เซเบอร์จนดังนั้นละ แถมรียูสใช้จนหี (หน้า) เปื่อยหมด แต่ก็คนละเรื่องกับเบียว กูบอกว่ามันเบียวแต่ก็ขายได้ ไม่ได้บอกว่าขายได้เพราะเบียว
>>347 เบียวสิ แฟนๆ ยังยอมรับเลยว่าเบียว ทั้งการปกปิดชื่อจริง ขานขานชื่อจริงปลดปล่อยพลัง ตะโกนชื่อโฮกุ ยิ่งลึกลับยิ่งเก่ง ฯลฯ ก็เข้าใจได้ คอนเซ็ปมันเขียนตั้งแต่ม.ต้น วัยกำลังเบียวเลย พอโตขึ้นถึงพยามแถแถดๆ แก้ Canon อยู่ตลอด จนคนเขาเขาล้อกันทั้งบ้านทั้งเมือง
0 นะยิ่งเบียว ตลค.เก็นมีเบียว Element สูงอยู่แล้ว ทั้งคำพูดความคิดการกระทำขาดๆ เกินๆ ไม่เหมือนมนุษย์มนา เอาแค่ไอ้คิริกับไอ้โรคจิตนั่นก็ได้ ถ้าอยู่ในนิยายเด็กดวกซักเรื่องต้องโดนด่าว่าเบียว Edgy แน่นอน
>>349 อยากอ่านเบียวสมจริงเหรอ ไปอ่านเทพทัตสิ มึงจะเจอความเบียวที่สมจริงจนมึงเอียนเลยละ แนวนี้เขียนยากกว่าปกติหรือแนวสมจริงอีกนะ เพราะถ้ามึงไม่ว่างจริงๆ มึงไม่มีทางคิดทฤษฏีห่าเหวได้เป็นหน้าๆ แบบนี้หรอก
ถามจริง พวกมึงคัดเกณฑ์ยังไงว่านิยายเบียวมากเบียวน้อย เบียวกับไม่เบียว ในสายตามึง
ถ้าพวกมึงจะเถียงกันไปมู้ล่างได้ไหม ผิดจุดประสงค์บอร์ดล่ะ
>>356 มู้ล่างเอาไว้คุยกับเซฮุน มึงอยากคุยกับมันเหรอ ที่คุยเรื่องเบียวคือแนวทางของนิยาย ยังอยู่ในเรื่องอยู่
>>354 แฮรี่เป็นพ่อมด มันร่ายคาถาก็ต้องพูดสิ แต่ถ้าแบบใช้พลังแล้วตะโกนชื่อท่านะเขาเรียกว่าเบียว เวลาเจไดใช้พลังหรือกระบวนท่ามันพูดปะละว่า "พลังสายฟ้าแสนโวลต์" "กระบี่แสงช้งเช้ง" ชื่อท่ามันมี แต่ไม่ต้องตะโกนใช้ก็ได้
อะไรคือเบียว มันก็เหมือนอะไรคือคนดำ
ถ้าเป็น discrimination แบบคนชอบความขาว ผิวเข้มนิดเดียวก็เรียกดำหมด ทั้งๆที่จริงๆมันยังไม่เป็นสีน้ำตาลด้วยซ้ำ เหลืองเข้มก็ดำแล้ว
ดำจริงต้องผิวสีเดียวกับเส้นผม
ถ้าใช้ความคิดวิบัติเดียวกันกับ เบียว นิยายอะไรที่มีกลิ่นกระทบจมูกพวกมัน มันก็เรียกเบียวหมด
ลงชื่อ เซฮุน
มึงไปทบทวนนิยามแกรี่เถอะ หรืออีกชื่อเบียว โลกแม่งหมุนตัวละครเปล่า ถ้าโลกดำเนินไปแบบไม่สมเหตุผล ต้องกลั่นแกล้ง หรือ ชื่นชมตัวเอกแบบเกินงาม เพราะตัวละครนั้นเป็นตัวเอก โลกที่ตัวประกอบโง่หมดราวกับทุกคนติดดีบัฟเมื่อพระเอกโผล่หน้า นั่นแหละแกรี่ ถ้าโชคดีแบบ plot armor นี่ยังไม่เข้าขั้น
ชิโร่ fate ในเวอร์ดั้งเดิมไม่แกรี่นะ ตอนแรกกากแต่โชคดีรินช่วยไว้ แล้วค่อยๆฝึกเวท กับ ฝีมือดาบ พัฒนาการเรื่อยๆ ถ้ามึงยกชิกิจากtsuukihime นี่แกรี่กว่า ตอนหลังชนะได้เพราะอยู่ดีสัญชาตญาณนักฆ่าตื่นขึ้นเฉย พัฒนาการก่อนหน้าไม่มีเลย
>>359 แกรี่กับเบียวมันคนละอย่างกันนะ
แกรี่คือ Self-Insert ตลค.เทพทรู ส่วนเบียว ถ้าจะเอาตามนิยามแบบญีปุ่นคือ "เพ้อเจ้อ" ถ้าในนิยายก็ประมาณทำตัวเว่อวังอลังการ เหนือจริง ขี้โม้ เทียบง่ายๆ มึงดูมวย MMA แล้วไปดูไอ้อี๊ดกับไอ้ดำ เด็กอ.1 ปล่อยพลังสู้กัน อย่างหลังนั่นละคือเบียว
นิยายมันเป็นเรื่องแต่ง ยิ่งนิยายแฟนตาซีด้วย มันก็ต้องมีอะไรเว่อๆ กาวๆ หน่อยป่ะ
กุว่าคำว่าเบียวไม่น่าใช้เอามานิยามนิยายว่ะ มันเป็นศัพย์ไว้ด่าคนมากกว่า
https://writer.dek-d.com/yoyotanya/story/view.php?id=1253967
ตัวอย่างของนิยายเบียวที่สนุกเหี้ยๆ อ่านครั้งแรกกุไม่หลับไม่นอนเลยทีเดียว
ตัวละครเบียว pov 1 กับ pov 3
https://youtu.be/8EUuYxXJ6MY
นี่พวกเมิงนิยามนิยายแฟนตาซี = นิยายเบียวกันแล้วเหรอวะ...
เบียวเอาไว้ใช้กับตัวละครที่คนแต่งบรรยายโม้เหม็นไว้ว่าเทพทั่วหล้า ฉลาดไอคิวสามร้อย บลาๆ แต่การกระทำยังกับเด็กอายุสามขวบ
เบียวคือ ความคิดเพ้อฝันนำจิตนาการจากการ์ตูนเกมนิยายบลาๆๆ มายำรวมกันจนเป็นโลกส่วนตัวในจินตนาการขึ้นมา
นิยายเบียวคือนิยายที่สร้างขึ้นโดนความคิดข้างต้น
ผิดหมดเลยมึง
เบียวคือ พฤติกรรมที่เจ้าตัวทำแล้วคิดไปเองว่าโครตเท่ แต่คนอื่นมองว่าเสียวแดก
เมื่อเวลาผ่านไปเจ้าตัวคิด ได้ย้อนไปดูตัวเองก็พบว่าโครตเสียวแดกจนอับอายแทบมุดดินหนี
นิยายเบียวก็คือ คนแต่งคิดว่าโครตเท่(คนแต่งอาจจะไม่เบียวแต่แต่งเพื่อเอาใจ)คนอ่านที่ยังเบียวอยู่ก็จะคิดว่าโครตเท่
แต่คนที่พ้นวัยมาแล้ว หรือคนปรกติจะรู้สึกว่าเสียวแดกชิบหาย
คำผิดอีกสัส เสียว - เสี่ยว
เท่ หมายรวมถึง เจ๋ง ล้ำลึก อะไรพวกนี้ด้วย
ยังเบียวไม่จบอีกหรอวะ
ถามหน่อย ตอบในฐานะคนเขียน คนอ่าน คนสับหรืออะไรก็ได้
คอมเม้นน้อยเกิดจากอะไรได้บ้าง ถ้าเทียบกับบางเรื่องที่จำนวนคนอ่านต่อตอนเท่ากัน คือคอมเม้นต่อตอนของเขามากกว่าเยอะเลย
เพราะเขียนยาวไปเลยหมดอารมณ์เม้น? เพราะไม่พีคพอ? หรือมันยังไงบ้าง
แวะมาถามแต่ขอไม่ฝากสับนะ กลัวแตก
นี่คือตัวอย่างของ self insert อย่างกนึ่ง
https://www.dek-d.com/board/view/3794189/
>> น่าจะไม่พีคพอ หรือเรื่องมึงสมบูรณ์แบบแล้วแบบที่คนอ่านไม่เหลือคำถามให้ถาม อ่านแบบเงาๆ ต่อไป
ที่กูรู้เพราะกูเขียนนิยายหลายเรื่อง กูลองมาหมดละ ทั้งแบบเขียนจนคนอ่านไม่ต้องถามไม่ต้องเม้น รออ่านตอนต่อไป กับเขียนฉากที่มันโคตรกระชากอารมณ์ให้คนอ่านอยากรู้อยากเห็นอยากแสดงความรู้สึกออกมา
>>377
- อ่านแล้วไม่มีตรงไหนอยากให้เม้นต์ ราบเรียบไปซะทั้งตอน พออ่านจบ เห็นช่องคอมเมนต์ กูนึกไม่ออกว่าจะพิมพ์อะไรดีว่ะ
- จุดชวนให้เม้นต์ดันอยู่ต้นตอน ตอนยาวไป พอถึงท้ายตอนก็ลืมว่าจะเม้นต์อะไร เลยขี้เกียจไปขุดมาพิมพ์ ช่างแม่ง <- อันนี้ประสบการณ์ตรงของกูเอง
- จุดชวนให้เม้นต์ดันอยู่ต้นตอน แต่อารมณ์ท้ายตอนมันไม่ให้ พออ่านถึงท้ายตอนก็หมดอารมณ์ที่จะเม้นต์แล้ว <- อันนี้สังเกตจากเม้นต์ของคนอ่าน ตอนต้นๆตอนพีคกว่าเยอะไมไม่เม้นต์กันวะ มาเม้นต์อะไรอารมณ์ด๊อกด๋อยตอนท้ายตอน แล้วคอมเม้นต์ที่ปกติมันน่าจะเยอะกว่านี้มันหายไปไหน
ถ้ากูเขียนเรื่อยเปื่อย อยากเขียนเมื่อไหร่ก็เขียน กูก็จะเครียดในระดับนึงว่างานกาก เขียนสั้นกะจิดริด ได้แค่นี้เองไรงี้ แถมจะไม่มีใครสนใจจะตามอีก แต่ถ้าจะให้กูเขียนบ่อยๆ กูก็ทำไม่ได้ เครียดไปอีกแบบเหมือนกัน เฮ้อ... กูไม่สนุกกับการเขียนเท่าเมื่อก่อนเลยว่ะ คิดแต่จะต้องให้ออกมาดีที่สุด เขียนเบียวๆ ไร้เหตุผลตามใจฉันไม้ได้แล้วแฮะ
มีคำถาม เขียนแบบไหนถึงจะถูกต้องกว่า ระหว่างแบบ 'จริงๆ! ' กับ 'จริงๆ ! '
ky ทำไม Orc ยุ่นถึงต้องเป็นหมูยืนสองขาวะ?
ถามห่าไรในนี้ Google สิวะ
เว้นวรรคเล็กหน้าและหลังเครื่องหมายไปยาลใหญ่ ไม้ยมก เสมอภาคหรือเท่ากับ ทวิภาค วิภัชภาค และเครื่องหมาย + ที่ใช้ในทางภาษา (มิใช่เครื่องหมาย + ที่ใช้ในทางคณิตศาสตร์)
ตัวอย่าง
(๑) เขาเจริญพุทธคุณว่า อิติปิ โส ฯลฯ ภควาติ
(๒) วันหนึ่ง ๆ เขาทำอะไรบ้าง
(๓) อเปหิ = อป + เอหิ
(๔) กฤษณา : กฤษณาสอนน้อง แบบเรียนกวีนิพนธ์
(๕) ในการจัดสัมมนาครั้งนี้ ผู้เข้าร่วมการสัมมนา
มีใครอยากสับเรื่องนี้บ้าง อัพทุกวัน
https://my.dek-d.com/PMMchannel/writer/view.php?id=1694918
วันนี้จะมีใครสับเรื่องอะไรอีกหรือเปล่าวะ
สวัสดีเพื่อน ๆ เห็นมีคนแนะนำเรื่องนี้มา ถ้าพวกมึงเห็นชื่อเรื่องบวกกับอ่านตอนแรกแล้ว โม่งที่มีภูมิคุ้มกันความปัญญาอ่อนต่ำอาจจะกดปิดได้โดยฉับพลัน
แต่กูไม่ กูค่อนข้างจิตแข็ง กูคิดว่าถ้ากูอ่านไอ้จินกวงได้ โลกนี้ก็ไม่มีนิยายเรื่องไหนทำอะไรจิตใจกูได้แน่นวล
แต่กูขออ่าน 6 ตอนพอ
ชื่อเรื่อง: จอมยุทธก๋วยเตี๋ยวท่องยุทธจักร
ลิงก์: https://my.dek-d.com/PMMchannel/writer/view.php?id=1694918
สถานะ: 32 ตอนละ มึงอัพถี่มาก ไม่รู้ฟิตมาจากไหน แดกเหี้ยไรมา ถ้ามีเมียแล้วขยันเย็ดแบบนี้เมียแม่งติดงอมแงมโงหัวไม่ขึ้นแน่อีดอก
เกริ่นนำ
เริ่มมามันเป็นโฆษณาเปิดตัวเกมออนไลน์ชื่อ ศึกชิงจ้าวยุทธภพ โดยแม่งใช้รูปตัวละครที่จิ๊กมาจากเนต แล้วใส่บทสนทนาของต่อท้าย ตอนแรกก็กูงง พออ่านอีกทีถึงร้องอ๋ออีดอก กูสรุปเลยว่า เหล่าชาวยุทธกำลังจะรุมแขกจอมมารเมฆขาว แค่ชื่อแม่งก็ดาเมจแรงละไอ้สัส แต่กูจิตแข็งไง กูไหวอยู่
แล้วแม่งก็ปล่อยมุกแรกเลยเว้ย เสียงโทรเข้าเป็นเพลงคำแพงของพี่แช็คชุมแพ คือแม่งอยู่ ๆ ปล่อยมุกเข้ามาหน้าด้าน ๆ ตอนแรกกูนี่เผลอหัวเราะออกมาเลย แม่งหน้าด้านดีกูชอบ
เพื่อนพระเอกแม่งโทรมาเตือน ว่าอย่าลืมรีบไปลงทะเบียนเกมเหี้ยนี่ด้วย มันรับแค่หมื่นคนเอง เดี๋ยวแห้ว (คือไอ้เจ้าของบริษัทเกมแม่งคิดห่าอะไรไม่รู้ อุปกรณ์เล่นเกมแม่งหลักแสน ถ้ามาเปิดที่ไทย มึงไม่ได้แดกเงินจากพวกเด็กหัวเกรียนชั้นกลางถึงล่างแน่ ๆ) แล้วก็จบตอน
เป็นไงล่ะ พวกมึงยังไหวมั้ย สำหรับกู กูว่ามันยังไม่แย่เท่าไหร่ อ่านตรงนี้แล้วก็ยังอยากอ่านต่ออยู่อีกหน่อย
ข้อดี: ตอนนี้บอกไรไม่ได้มาก ก็อ่านได้เรื่อย ๆ สมองกูยังบอกให้ไปต่อ
ข้อไม่ดี: เกม เกม เกม ท่องไว้ไอ้สัส ไม่มี ส์ เว้ย นี่กูด่าเผื่อตอนต่อไปด้วย แม่งพิมพ์ผิดแบบหลงผิดมาก แค่คำอื่นพิมพ์เสือกพิมพ์ถูก
by โม่งเงี่ยน
>>400 โห นี่มึงดีดป่าว ป่านนี้ไม่นอน ยังไงก็ขอบคุณนะครับ :)
>>399 ต่อนะ
ตอนที่ 1 : ศึกชิงจ้าวยุทธภพออนไลน์
เปิดมาไอ้พระเอกแม่งไม่รู้ฝันถึงเรื่องในเกมได้ไง เพราะน้องอี้หยางแอ่นอี้หยิน เป็น NPC ในเกมห่านี้ แต่กูเข้าใจว่ามันยังไม่เปิดให้บริการเลยไม่ใช่เหรอวะ นี่มึงมีนิมิตรล่วงหน้าเหรออีดอก แต่มันอาจจะมีอะไรเกี่ยวกันก็ได้ในอนาคต(มั้ง)
คือพระเอกมันชื่อว่าเตี๋ยว มันทำงานอยู่กรมสรรพสามิต ซึ่งกูไม่รู้ว่ามันจะมีความเกี่ยวข้องไรกับเนื้อเรื่องมั้ย ฉะนั้นกูขอเก็บไว้ในใจ ถ้ามันไม่เกี่ยวห่าอะไรก็ขอเดาว่าแม่งแอบเซ๊วอินเสิร์ทเอาเรื่องตัวเองมาใส่ในนิยายเฉย ๆ ซึ่งกูขอแนะนำเพื่อนโม่งนิดนึง ไหน ๆ มึงจะเขียนแนวออนไลน์หรือต่างมิติแล้ว อาชีพหรือความสามารถในตอนที่มึงอยู่โลกปัจจุบันอย่ามองข้าม ช่วยเอามาใช้ในมิติอื่นหรือในเกมด้วยเหอะ สมมติโลกนี้เป็นนักบัญชี มึงควรมีสกิลการจัดการเงินได้ดีกว่าชาวบ้านเขา เพราะกูว่ามันดูดีกว่ามึงบรรยายไว้เฉย ๆ ทิ้งเสียเปล่า ไม่มีประโยชน์
เตี๋ยวแม่งก็ดูเป็นคนเงอะ ๆ สะเพร่า ๆ วันนี้วันหยุดแม่งเสือกไปทำงานโดยไม่ดูหีดูแตดอะไรเล๊ย พอมันรู้ว่าหยุด มันก็เซ็ง แล้วเพื่อนมันก็โทรมา ให้ทายเสียงรอสายเป็นเพลงอะไร ใช่ มึงตอบถูก แม่งเล่นมุกนี้อีกละ แต่กูอมยิ้มนิด ๆ แล้วมันก็นัดเจอกัน เพื่อนมันชื่อกล้ากับเดชทำงานที่ศาลเหมือนกันทั้งคู่ ตรงนี้กูว่าไอ้คนเขียนไม่ทำงานรับราชการอยู่ ก็อยากจะทำงานราชการแน่ ๆ แต่ช่างมัน ไม่ใช่ประเด็นอะไร
แล้วมันก็นัดกันเข้าไปเล่นเกมห่านี่ เกมนี่มันมีอะไรที่น่าลงทุนด้วยอยู่(แม่งซื้อชุดอุปกรณ์เล่นเกมมาแสนกว่าบาท) ด้วยเพราะเงินในเกมมันสามารถโอนเข้าบัญชีในโลกจริงด้วยเว้ย เย็ดเป็ด แหล่มจริง ๆ แน่นอนมึงก็ต้องลงทะเบียนด้วยบัตรประชาชน ผูกบัญชีธนาคารไว้ให้เรียบร้อย และมันก็มีระบบรักษาความปลอดภัยสูงด้วยนะ มีโปรแกรมเมอร์ดูแลตลอด 24 ชั่วโมง แต่ตรงนี้กูว่าไม่ใช่ว่ะ คือเวลาของโปรแกรมเมอร์มันมีค่ากว่าการมานั่งมอนิเตอร์ความมั่นคงปลอดภัยนะ ใช้พนักงานไอทีซัพพอร์ทก็พอ แค่เขียนสตรัคเจอร์ให้ชัดเจน มีปัญหาอะไรที่เกินกำลังค่อยแจ้ง 2nd line support ไม่ก็ 3rd support(โปรแกรมเมอร์) ไปตามขั้นตอนความชิบหายของระบบ มึงให้โปรแกรมเมอร์มานั่งทำเพนฯเทสเจาะระบบหาช่องโหว่ระบบดีกว่า ไม่ก็ปล่อยมันไปตีกระหรี่มั่ง แม่งทำงานเครียดจะตายห่าอยู่แล้ว กูกำลังจะบอกว่าถ้าองค์กรมึงต้องจ้างโปรแกรมมานั่งมอนิเตอร์เนี่ย กูในฐานะที่ทำงานสายนี้ขอบอกเลยว่า องค์กรมึงแม่งล้มเหลวละ
ตอนนี้ไม่มีไรมาก เตี๋ยวมันตั้งชื่อในเกมว่าจางซื่อหลง แล้วก็ตั้งค่าเลือกรูปร่างหน้าตาตามไปตามเรื่องตามราว
ข้อดี: ก็ยังอ่านได้เรื่อย ๆ ก็ไม่ได้สนุกจนต้องร้องว้าว แต่ก็ไม่ได้ทำลายสมองมาก ภาษามันก็โอเค อ่านง่าย ไม่เวอร์วังจนน่ารำคาญ
ข้อไม่ดี: ตอนนี้มันก็เฉย ๆ อะ เป็นเรื่องปกติของแนวเกมออนไลน์ ถือว่ามันคลิเช่ขาดจินตนาการละกัน(กูยังเฝ้ารอไอ้คนที่เขียนแม่งแนวตลาดได้แบบเท่ห์ ๆ ไม่ตามใครอยู่ ตลาดแต่แตกต่างอะ ฟังดูย้อนแยงมะ อิอิ)
by โม่งเงี่ยน
อ่านคนสับอื่นก็อยากสับบ้างว่ะ ดีมากโม่งเงี่ยน มึงทำกูหายง่วงเลยว่ะ
ลงชื่อ เซฮุน พระเดชพระคุณก็เซฮุนคนเดิม
>>402 มึงว่างก็มาช่วยกัน มา ๆ กูก็รออ่านโม่งคนอื่นสับอยู่
>>401
ต่อ ๆ
ตอนที่ 2: เมืองเริ่มต้นกับเฒ่าขอทาน
จางซื่อหลง aka เตี๋ยวหรือพระเอกของเราได้เข้ามาในเกมละ แล้วแม่งก็พบว่าถูกไอ้กล้ากับไอ้เดชทิ้ง (เดาว่าแม่งหนีไปตีมอนเอาเวลก่อน) เพราะมึงล็อกอินมาเป็นคนสุดท้ายไง โชคดีชิบหายนะมึง
แล้วก็มีเสียงผู้หญิงแนะนำฟังก์ชั่นต่าง ๆ ในเกม ซึ่งระบบต่าง ๆ ก็ใช้ว๊อยคอนโทรลซิสเต็มเช่นเคย ก็สะดวกสุดแล้วนี่หว่า
สิ่งที่กูชอบคือระบบ NPC ซึ่งในที่นี้ไม่ใช่แค่ตัวละครในเกมที่ไม่ใช่ผู้เล่น แต่มันเป็นพนักงานในบริษัทเว้ย ไม่ก็เป็นคนที่มาร่วมลงทุนด้วย เพื่อมาเป็นตัวประกอบให้ในเกมเพื่อสร้างบรรยากาศอะ เออ เข้าท่า ๆ แบบนี้แม่งจะมีอะไรให้เล่นเยอะในตอนหลัง ซึ่งกูอาจจะอ่านไม่ถึง แต่ไอ้คนเขียนมันน่าจะไม่ปล่อยตรงนี้ให้เสียเปล่าแน่
แล้วมันก็มีระบบหิว คือมึงต้องแดกซาลาเปาหนึ่งลูกเพื่อให้หายหิวไปสามชั่วโมง
แล้วก็มีตัวละครหญิงชื่อบุปฝากับใบหยก ซึ่งอีใบหยกโดน NPC ขอทานเด็กน้อยหลอกแดกซาลาเปาไป อีใบหยกมึงใสซื่อมาก แล้วพี่จางซื่อหลงที่มองอยู่แม่งก็แอบปิ๊ง แหมเป็นกูก็ชอบผู้หญิงรักเด็ก ยิ่งโง่แบบนี้ด้วยยิ่งช๊อบชอบ แล้วจู่ ๆ แม่งก็ถูกขอทานเฒ่าจับขาแน่น ไถซาลาเปาสี่ลูก พระเอกแม่งก็ให้ตามระเบียบ แล้วก็กลายเป็นการเริ่มต้นเควส ที่น่าจะบอกในตอนต่อไปว่าเป็นเควสไร
ข้อดี: คือกูสังเกตมาตั้งแต่ตอนแรก ๆ ละ ว่าไอ้คนเขียนก็เป็นคนอารมณ์ดีในระดับนึง มันถึงใส่มุกมาได้เป็นธรรมชาติสำหรับกู(ขำไม่ขำอีกเรื่อง) ไม่ตั้งใจยัดเยียดมุกให้คนอ่าน เหมือนโปนจ้น เฮ้ย โจรปล้น เฮ้ย ถูกแล้ว ของพี่บีมวันนาเบียวสุดที่รักของกู
ข้อไม่ดี: ติเรื่องเครื่องหมายละกัน ไม้ยมก ๆ มึงต้องเคาะหน้าหลังด้วยเพื่อนโม่งเคยบอกหลายทีละ ex "น้องเปิ้ลเบอร์ตองของเค้าดีจริง ๆ ได้เงินทอนมาเพียบ กูนี่ถึงกับต้องยิงปืนลม"
ส่วน อัญประกาศเดี่ยว ' จริง ๆ เอาไว้ใช้ในอัญประกาศคู่ " แบบอินเซปชั่นอะ (อัญประกาศเอาไว้เน้น บอกความคิด พูด)
ex พี่เมฆกล่าวตัดพ้อกับเพื่อนในวงม้าว่า "กูไม่น่าโง่เลย เหมือนโบราณท่านว่า 'ปลาหมอตายเพราะปาก ไอ้ควายเอ๊ย' กูว่ากูควรกลับไปวิ่งยาเหมือนเดิมดีกว่า" แล้วม้วนฟอยล์ห่อหุ้มเม็ดยาหรรษาอย่างเบามือ
ปกติถ้าเป็นความคิด กูใช้ตัวเอียงเอา แต่อันนี้พวกมึงแย้งมาหน่อย กูไม่มั่นใจว่าที่ถูกควรใช้ไร
by โม่งเงี่ยน
ต่อเลย ยาวไป
>>403
ตอนที่ 3 : ออกล่าสัตว์
ไอ้ตาเฒ่าขอทานมันบอกว่าเนี่ย กูมีตำราที่มีแค่เล่มเดียวในเกมนะเว้ย แต่ต้องเปย์มาสิบชั่ง ซึ่งแปลงเป็นเงินไทยได้ร้อยบาท พระเอกมีตังค์ในบัญชีห้าร้อย พระเอกแม่งก็ทุ่มสุดตัว เติมแม่งหมดห้าร้อย ได้เงินมาห้าสิบชั่งในเกมโดยไม่ต้องคิดอะไรให้เยอะแยะ เพราะแม่งไม่ต้องแบมือขอตังค์พ่อแม่แดกแล้ว
พอตังค์พร้อมเปย์ ตาเฒ่าก็บอกใจเย็น ของดีแม่งต้องลับ ๆ ล่อ ๆ หน่อย มาซื้อขายกันโจ่งแจ้งเดี๋ยวจะเตะตาชาวบ้านเกินไป ตำราลับเนี่ยมันเป็นสีทองซะด้วยนะ หน้าปกเขียนว่า ตำราฟื้นฟูจตุชีวา ซึ่งน่ามีอะไรเทพ ๆ ตามระเบียบ ได้มาปุ๊บ เวลก็อัพเป็นห้าเลยจากตอนแรกอยู่เวลหนึ่งเพราะจบภารกิจแล้ว ยากชิบหายเลยภารกิจนี้
ตัดกลับไปที่โลกจริง คนเขียนมันก็เฉลยว่าตาแก่ขอทานเนี่ย ที่จรืงเป็นประธานบริษัทเอ็นพีซีออนไลน์(ซึ่งกูคิดว่าเป็นบริษัทเจ้าของเกมนี้) ชื่อว่าหยางวู่ นั่นไง อย่างที่กูบอกเมื่อเมนต์ที่แล้ว พอคนแม่งเป็น NPC ได้ แม่งก็ใส่อะไรเข้าไปในเรื่องได้อีกเยอะ
ตัดกลับมาในเกมพระเอกแม่งก็ไม่รู้ว่าจะเอาไงต่อกับชีวิต ซึ่งกูว่ามึงเกรียนมากกว่า ไอ้เหี้ยแม่งมานั่งสแปมช่องแชทถามว่าเก็บเวลที่ไหนดี ตอนนี้เค้าเวลห้าแล้วนะ คือ ไอ้สัส ถ้าเป็นกูนะ กูจะออกเดินแกว่งหำไปหาเองแล้วว่าคนแม่งไปเวลกันที่ไหนบ้าง ไม่ใช่นั่งถอกกระดอรอความช่วยเหลือแบบนี้ มึงควรช่วยตัวเองก่อนจะไปขอความช่วยเหลือจากคนอื่น จำไว้อีดอก
สุดท้ายก็มีผู้เล่นชื่อหงอคงขนทอง (แหม รู้เลยนะว่าหมอยเธอสีอะไร) แนะนำว่ามึงควรไปป่าสนข้างหลังเมืองเริ่มต้นเนี่ยแหละ พระเอกก็ตอบว่าใจมาก เดี๋ยวเจอมึงแล้วจะเลี้ยงก๋วยเตี๋ยวคืน(อาจจะในโลกจริง)
หลังจากมันก็ซื้อของเตรียมตัวไปเก็บเวล แล้วแม่งก็บอกว่าเนี่ย กูซื้อของรวม ๆ แล้ว ก็สามร้อยสิบบาทไทยละ แถมเกมแม่งมีระบบหิวอีก ทุกคนแม่งก็ต้องซื้อซาลาเปาแดกตลอด บริษัทแม่งรวยตายห่าเลย คือกูจะบอกว่าแม่งน่าจะรวยตั้งแต่ขายอุปกรณ์เล่นเกมชุดละแสนแล้วล่ะครับ หมื่นคนคูณแสนเป็นเท่าไหร่ล่ะ นี่ยังไม่ทันทำห่าอะไรเลยนะ
มอนสเตอร์ในเกมนี้มันเป็นสิ่งมีชีวิตที่คิดได้และเจ็บเป็น แม่งเลยไม่ค่อยเดินทะเล่อทะล่าให้ผู้เล่นเห็นเท่าไหร่ พระเอกแม่งก็เลยต้องแกะรอยเท้าเพื่อตัวมอนสเตอร์(หมูป่าหางดอก) ระหว่างนั้นมันก็ได้สกิลสะกดรอยเท้ามาด้วยโดยอัตโนมัติ เพราะน่าจะทำถูกเงื่อนไขในระบบเกม
สุดท้ายมันก็จัดการหมูป่าหางดอกเป็นการเปิดซิงในเกมนี้
ข้อดี: มันก็มีการเอาประเด็นที่เปิดมาก่อนหน้านี้มาใช้ประโยชน์ เรื่อง NPC ที่กูบอกแหละ ซึ่งจริง ๆ มันเป็นเรื่องปกติที่ควรจะทำอยู่แล้วล่ะ
ข้อเสีย: ไอ้สัส ใส่อีโมติค่อนหาพ่อง? ไปลบออกเดี๋ยวนี้เลยนะครับ
by โม่งเงี่ยน
>>404
ต่อ ๆ
ตอนที่ 4 : ภารกิจของตาเฒ่าสมุนไพร
จางซื่อหลงใช้สเต็ปเดิม คือสะกดรอยแล้วค่อยแอบแทงข้างหลังตอนม่อนเผลอ แล้วมันก็ได้ทักษะพรางกายมา จากนั้นก็ยิ้มหล้า... หล้าพ่อง ยิ้มร่าเว้ยย
ส่วนทักษะพรางกายเนี่ย น่าจะออกแนวเสต๊วว ลอบเร้นแฝงกายเข้าใกล้ศัตรูได้ง่ายขึ้น
แล้วอีกสักพักมันก็ได้สกิลถ้ำมองระยะไกลมา
แล้วพระเอกมันก็ไปเจอชายแก่อายุราวแปดสิบสภาพร่อแร่กำลังตกอยู่ในวงล้อมหมาป่า(ด้วยสกิลถ้ำมองระยะไกล) ตาแก่ใช้ไม้แกว่งสะเปะสะปะป้องกันตัวไปเรื่อยแบบกาก ๆ แล้วพอหมาป่าตัวจ่าฝูงแม่งเห็นช่องว่าง ก็กระโจนเข้าไปใส่ชายแก่ทันที พระเอกเห็นท่าไม่ดีจึงต้องเข้าไปช่วย ด้วยการระดมปาหินรัว ๆ ใส่เหล่าหมาป่า(นี่กูนึกภาพสกิลไทนี่ตามไปด้วย) เป็นการเปิดฉากโจมตี จากนั้นจางซื่อหลงก็กวัดแกว่งกระบี่คู่ใจปลิดชีพหมาป่าแดงได้อีกสองตัว มึงตาย ๆ ไปเหอะ เสียชาติหมาป่าชิบหาย ถึงกับต้องรุมคนแก่อายุแปดสิบคนเดียว แล้วเสือกจัดการไม่ได้อีก เอาจริง ๆ พวกมึงเดินเล่นรอสักพักเดี๋ยวตาแก่แม่งก็ลงโลงละ
พอพระเอกจัดการหมาป่าได้หมด ก็ไปช่วยคนแก่ โดยจะใช้ยาเพิ่มเลือด(HP โพชั่นแหละ) แต่ลุงแกบอกว่าแกเป็นโรคต้านยาเพิ่มเลือด (ตอนนี้กูเอาตีนขึ้นมา face palm เลย มึงคิดได้ไงวะ) ช่วยพาแกไปหลาน ๆ หน่อย
พระเอกตอบตกลงทันที
พอไปถึงบ้านตาแก่ หลานฝาแฝดชายหญิงชื่ออี้หยินแอ่นอี้หยางก็ตกใจ ว่าปู่แกเป็นไรทำไมร่อแร่แบบนี่ พระเอกก็ตอบว่าโดนหมาป่าบุฟเฟ่ต์มา ปู่ในสภาพใกล้เฝ้าเง็กเซียนฝากฝังหลานทั้งสองให้กับพระเอกเสร็จก็ตาย จบภารกิจ ได้รางวัลเป็นเงิน exp และผู้ติดตามอี้หยินแอ่นอี้หยาง ที่พระเอกมองว่าเป็นภาระมากกว่า เพราะผู้ติดตามแม่งก็ต้องแดกซาลาเปาไง - -" พระเอกแม่งเลยร้องไห้เสียใจใหญ่ จบตอน (อี้หยินกับอี้หยางคือ NPC ที่พระเอกฝันถึงในตอนแรก คิดว่าแม่งคงต้องมีอะไรเกี่ยวข้องกัน)
ข้อดี: ก็ยังเรื่อย ๆ อ่านง่าย
ข้อไม่ดี: คำผิดประปราย ไอ้พวกตัวเลขทั้งหลาย เขียนเป็นตัวหนังสือก็ได้นะ แล้วก็ไอ้สัส แม่งมีอีโมติค่อนอีกละ
ปล. อีกสองตอนกูติดไว้พรุ่งนี้นะ ตอนนี้กูขอนอนก่อน ง่วง ๆๆ
by โม่งเงี่ยน
ถ้าเราไปติเรื่องชื่อเรื่อง เจ้าของจะมาว่าเราไหม? คือแบบเห็นแล้วขัดใจมานานมาก ทั้งๆ ที่มันมีสองสิ่งแต่ไม่เติม s เนี่ย
ตั้งแต่เช้า โปรโมตนิยายก๋วยเตี๋ยว
"โปรโมตบ่อยนี่จะทำคนรำคาญมากกว่าอยากตามอ่านนะคะ"
อีนี่มันโรคจิตหรอ เขาโปรโมตในพื้นที่โฆษณา ทำบ่อยไม่บ่อยมันไปหนักหัวแม่มันหรือไง?
>>409 รำคาญจนเกลียด? ตรรกะอะไรวะ? กูเข้าไม่ถึงมุมมองตัวละครนี้ว่ะ
คนส่วนใหญ่เขาแค่เฉยๆปะ?
เอาความเห็นส่วนตัวกูนะ คือกูชอบคนที่เขียนได้ทุกวัน กูเห็นคนอัพ คนแปะโฆษณา กูมีแรงบันดาลใจไง แบบเออ แม่งกูเคยเป็นสนุกว่ะ เขียนไปรัวๆ
นี่สะเออะไปทักเขาด้วยเจตนาอะไรก็ไม่รู้ เขาสะดุดเขียนไม่ออก เครียด แม่งสะใจมึงงั้นหรอวะ?
>>411 โฆษณาทุกวันก็ไม่มีใครว่า แต่หากจะเขียนคำอะไรต้องรู้จักดูบ้างหรือเปล่าวะ หากมึงเขียนทุกวันว่า นิยายมึงสนุกจนหยุดไม่อยู่ คนเข้ามาอ่านล้นหลามอย่างคาดไม่ถึง ทั้ง ๆ ที่มันก็ไม่ขนาดนั้น อีกอย่าง ความสนุกมันขึ้นกับบุคคล คนที่ไม่สนุกกับมึงด้วยไม่พาลหมั่นไส้มึงไปด้วยเรอะ
>>411 กูหนึ่งคนละที่ไม่อ่านเรื่องก๋วยเตี๋ยวเพราะรำคาญกับความเยอะ แม่มโปรโมทมันทุกตอน กระทู้บางทีมาติดๆ กัน แล้วก็ดันกระทู้อื่นๆ ตกไปโน่น
ทำอะไร ใช้สิทธิ์อะไรเอาแต่พอดีคิดถึงคนอื่นบ้างก็ได้
จริง ๆ กูเห็นชื่อเรื่องแล้วคิดว่าท่าทางจะเบาสมองดี ว่าง ๆ จะแวะไปส่อง หลัง ๆ มาถี่เกินจนกูเลิกเข้าบอร์ดมาพักนึงละ แต่กูก็ไม่ได้ว่าอะไรนะ กลัวจะเจอคนมาว่าว่าก็เรื่องของเค้าแบบนี้ล่ะ กูยังไม่อยากพลีชีพ
โฆษณาทุกวันก็ได้ไม่มีใครว่า <<< โอเค
แต่ถ้าเขาจะรำคาญ มึงก็ว่าเขาไม่ได้เหมือนกันนะ
ไอ้สัตว์มึงลองนึกภาพทุกคนแม่งคิดจะมาโฆษณาในบอร์ดทุกวันดิ นรกเหี้ย ๆ นรกแห่งขยะ
โฆษณาลงถี่ทุกวันก็ดีอย่าง คนเขียนมั่นหน้ามากยิ่งน่าสับนิยาย จะได้รู้กันว่ามันทำได้อย่างที่คุยมั่ยล่ะ ก๋วยเตี๋ยวกับ TW อยู่เคสนี้เลย
กุไม่รำคาญอิเตี๋ยวนะ มันมาเพื่อโปรโมทอย่างเดียว ไม่คุยเล่นอะไรกะใครเลยเหมือนคนที่รุ้ว่ามีบอรดโฆษณาก้อตะบี้ตะบันใช้ เบื่อมากก้อแค่เบลอมัน ผิดกับTWทำเป้นคุยโน่นนี่แล้วแฝงโฆษณา ตั้งมุ้ให้คนแปะนิยายก้อทำไปงั้นไม่คิดอ่านของคนอื่น มันไม่จริงใจ มั่นหน้าโง่ๆไม่รับคำวิจารณ
มาต่อละ
ตอนที่ 5: หาทางออก
พระเอกแม่งได้อี้หยินอี้หยางมาเป็นผู้ติดตามโดยไม่ได้ตั้งใจ คือแม่งไม่อยากให้มีคนมาดูด exp กับเงิน เพราะต้องคอยซื้อซาลาเปามาใหัสองตัวนี้แดกแก้หิวด้วย
แต่สำหรับกูมองว่าเป็นโอกาสว่ะ มีคนช่วยเก็บเวลแบบนี้ดีจะตายห่า มึงสามารถไปตีม่อนข้ามเวลได้มึงไปไวกว่าชาวบ้านแน่ ๆ แต่แม่งเหมือนจะไม่คิดถึงข้อดีมั่งเลย
เข้าวันที่สองในเกม จางซื่อหลงนั่งอ่านช่องแชทก็เห็นมีคนพูดเรื่องเข้าไปฝึกวิชาในสำนักกันอยู่ ส่วนมันก็เล็งว่าจะเข้าสำนักกระบี่มังกรเพลิงไว้ ไม่มีไรนะ fyi ให้พวกมึงเฉย ๆ
ไอ้เด็กอี้หยินอี้หยางแม่งก็น่ารักนะ ตั้งใจช่วยกันทำงานบ้านขยันขันแข็ง คือเป็นกูก็สงสารว่ะ (กูเป็นคนรักเด็ก) แล้วมันเวลามันหิวมันก็พยายามจะไม่รบกวนให้พระเอกนะ จนไอ้พระเอกมันแอบได้ยินว่าเด็กแม่งหิวเลยแบ่งซาลาเปาให้ แต่ไอ้เหี้ยพระเอกแม่งเสือกวางแผนเอาไอ้เด็กสองตัวนี้ไปขายให้สำนักผู้ติดตาม เพื่อจะตัดปัญหาไปซะ เลวมากอีดอก
แล้วมันก็อธิบายเรื่องผู้ติดตามว่ามันมีสองแบบ แบบแรกกาก ๆ แบบสองเมพ ๆ จำแค่นี้พอง่ายดี แต่พอผู้ติดตามตายห่า มึงก็ต้องเสียค่าชุบตามระดับของผู้ติดตาม ยิ่งเมพยิ่งเวลสูงก็ยิ่งเสียค่าชุบ(ค่าไถ่)แพง แถมถ้าปล่อยให้ผู้ติดตามตายห่าไปเรื่อย ๆ ไม่ชุบสักที ก็จะยิ่งเพิ่มเงินค่าชุบตามเวลาที่ผ่านไปด้วย หน้าเลือดชิบชาย เหมือนพวกปล่อยกู้แถวบ้านกูเลย
พระเอกก็ออกอุบายหลอกเด็กว่าจะพาไปฝึกยุทธ จะได้เก่ง ๆ ไม่ตายห่าง่ายเหมือนปู่มัน(เอาจริง ๆ ปู่ไม่ฝึกห่าอะไรยังอยู่ได้แปดสิบปีเลย ไม่แน่ใจว่าฝึกยุทธแล้วอาจจะตายห่าไวกว่าก็ได้ ไอ้สัสนี่แม่งแค่เกม ทำไมกูอินวะ 555)
แต่แผนจะจับเด็กไปขายก็ต้องปังปิ๊นาจ เพราะพระเอกแม่งลองแอบส่องสถานะของผู้ติดตาม(อี้หยินแอ่นอี้หยาง) แล้วพบว่า อีดอก แม่งขายไม่ได้ เพราะเป็นผู้ติดตามพิเศษขายไม่ได้ กูสมน้ำหน้าชิบหาย แล้วก็จบตอน
เนื้อหาไม่ค่อยมีไรตอนนี้ กูขอยกข้อสรุปไปที่เมนต์ต่อไปนะครับ
by โม่งเงี่ยน
>>421
ต่อ ๆ ตอนท้ายของกูกับเรื่องนี้ละ
ตอนที่ 6: วางแผนฆ่า
คือในเมื่อขายผู้ติดตามไม่ได้ พระเอกเลยวางแผนฆ่าอีเด็กสองตัวแทน จังไรมาก
แม่งก็เลยพาสองศรีพี่น้องไปป่าสน ที่มีหมูป่าหางดอกอยู่ เด็กแม่งก็เชื่อหูตูบเลย ไม่ระแวงห่าอะไรเลยสักนิด จริง ๆ มันก็เป็น AI นั่นแหละ ไม่เหมือนพวก NPC ที่เป็นคนจริง ๆ (สำหรับเกมนี้นะ)
แล้วอีเด็กสองตัวนี้แม่งก็ใช้ได้ว่ะ แบบรู้จักสืบดูรอยเท้ารอย สืบไปสืบมาแม่งก็ได้สกิลสะกดรอยขึ้นมาครบทั้งพี่ทั้งน้อง บอกแล้วว่าแม่งมีประโยชน์ ไม่เชื่อกู
พระเอกแม่งก็เริ่มหงุดหงิด นี่กูพาพวกมึงมาฆ่า ไม่ได้พามาเวล แล้วในที่สุดอีเด็กสองคนก็เจอหมูป่า พระเอกแม่งก็ยิ้มหวาน แบบมั่นใจว่าอีเด็กสองคนนี้โดนดับเบิ้ลคิลแน่ หมูป่าแม่งวิ่งไล่เด็ก(กูนึกภาพวัวกระทิงไล่ขวิดดากมาทาดออะ) แต่อีเหี้ย เด็กแม่งสะดุดเถาวัลย์หน้าฟ่ำ อีหมูแม่งเลยพุ่งเลยป้ายไปชนต้นไม้ (นี่มึงเป็นหมูหรือเป็นควาย โง่ชิบหาย) แล้วไอ้หมูป่ายังไม่ยอมแพ้ แม่งก็พุ่งเข้าเด็กทั้งคู่อีก ไอ้ตัวพี่อี้หยางแม่งกอดน้องสาวพากันม้วนหน้าหลบหมูป่าได้อีก(นึกภาพตอนเล่นดาร์กโซลตาม) คือตอนนี้ อีพระเอกแม่งแอบลุ้นซุ่มดูอยู่ อยากให้อีเด็กสองคนนี้โดนหมูป่าแดกตาย ๆ ไปสักที แต่แม่งเสือกดวงแข็งทั้งพี่ทั้งน้อง ไม่รู้ห้อยพระอะไร
แล้วมาถึงไฟนอลแคลชของหมูป่ากับอี้หยินแอ่นอี้หยาง คราวนี้หมูป่าแม่งเอาจริงละ แล้วอีอี้หยินหันไปเจอไอ้พระเอกที่แอบถ้ำมองอยู่ แล้วร้องให้ช่วยใหญ่เลย
พระเอกแม่งก็ใจไม่ด้านพอ เลยจำใจเข้าไปช่วย ถ้าอีอี้หยินไม่เสือกเห็นมัน แม่งก็คงนั่งดูเด็กถูกหมูแดกอย่างเลือดเย็นแน่นวล
แล้วไป ๆ มา ๆ แม่งกลายเป็นอีเด็กสองคนแม่งเก่งขึ้นเรื่อย ๆ รู้จักจับทางหมูป่า ซึ่งแม่งก็วิ่งโง่ ๆ เหมือนควาย ถ้ามึงจับทางไม่ได้นี่เลิกเป็นเอไอเหอะ ไปไถนาดีกว่า
สรุปแม่งเก่งขึ้นกันทั้งพี่ทั้งน้อง ซึ่งน่าจะเป็นผู้ติดตามที่มีประโยชน์กับพระเอกได้ในอนาคต แถมท่าทางยังนับถือพระเอกมาก ๆ เห็นเป็นผู้มีพระคุณ ในขณะที่พระเอกเห็นพวกมึงเป็นปลิง
จบตอน
ข้อดี: กูว่ามันก็อ่านเพลิน ๆ ดีนะ ไม่หนักหัวมาก
ข้อไม่ดี: มึงผ่าตัดเอาไอ้อีโมติค่อนห่าเหวออกให้หมด แล้วไปหาวิธีบรรยายให้หน้าแบบที่มึงทำเป็นอีโมติค่อนแทน จริง ๆ จะติเรื่องเสียงเอฟเฟคอีก แต่ไม่รู้ทำไมว่าอ่านไปแม่งเสือกเข้ากับเรื่องห่านี่ดีเหมือนกัน คงเพราะมันเป็นนิยายเอาฮานิด ๆ ล่ะมั้ง แต่คนเขียนก็ไม่ได้ใส่เยอะเท่าไหร่ตามความคิดกู
verdict: สำหรับคนเขียน กูคิดว่ามึงก็ทำได้ดีในระดับนึงละนะ ถึงกูจะเป็นคนมาตรฐานต่ำ สนุกกับนิยายทั่ว ๆ ไปได้ แต่กูมีความประทับในความอารมณ์ดีที่ค่อนข้างเป็นธรรมชาติ ภาษามึงก็โอเค รู้สึกถึงความเป็นสำนวนจีน ส่วนพลอต กูไม่ได้หวังอะไรมาก เพราะเหมือนมึงแค่ต้องการปั๊มตังค์จากเกมห่านี่เฉย ๆ ซึ่งมึงเขียนเอาฮา มันก็เป็น goal ที่เหมาะสมกัน เนื้อเรื่องก็ดำเนินได้ไวดี ไม่เวิ่นเว้อ ประดิษฐ์ประดอย
ส่วนข้อไม่ดีที่มึงควรเอาไปปรับปรุง มันก็อย่างที่กูบอกไปแล้ว คือนิยายมึงมันน่าจะขึ้นท็อปได้ กูเข้าใจว่ามึงสต็อกไว้ แล้วกำลังทยอยปล่อยออกมาอยู่ แต่ทำไมนิยายมึงถึงยังไม่ปัง กูคิดว่าเพราะมันไม่มีจุดดึงดูดเด็ก (พระเอกไม่เมพแต่แรก ซึ่งกูว่าช่างแม่งเหอะ) และนิยายออนไลน์จีนเนี่ย แม่งก็ขยันงอกขึ้นมาเหมือนหมอยดก ๆ ยากที่มึงจะได้รับ attention เพราะจะโดนกลบหมด แต่กูว่ามึงยืนระยะอัพถี่ได้แบบนี้ ถ้าติดลมบนแล้วก็น่าจะไปได้สวย กูด่าแรงก็โกรธกูได้ กูไม่กิฝอะชิทอยู่แร้น
สำหรับเพื่อนโม่ง กูว่าเรื่องนี้มันก็พออ่านได้เรื่อย ๆ ไม่ได้ดีเด่ไรมาก ส่วนเรื่องมันอัพถี่ โฆษณาบ่อย ห่าเหวไรเนี่ย แล้วถ้ามึงรำคาญ แล้วมาอ่านนิยายของมันด้วยความหมั่นไส้หรือพกอคติมาด้วยแล้วเนี่ย มึงอ่านยังไงก็ไม่เห็นข้อดีหรอก มันเป็นสิทธิ์ที่จะรำคาญแหละ เป็นกูกูก็รำคาญเวลาเห็นโฆษณาขึ้นบ่อย ๆ แต่มึงลองคิดดู มึงเป็นโนวัน เพิ่งมาเขียนนิยาย เห็นช่องว่ามีให้โปรโมท มันก็เข้ามาโปรโมทวันละครั้ง(ถ้ามากกว่านี้จะด่าพ่อง)เอง คือเป็นกูกูก็ทำ กูอยากให้คนคลิกมาบ้าง กูไม่อยากใช้วิธีสร้างดราม่า หรือทำตัวกวนตีนล่อเป้าให้คนอื่นหมั่นไส้จะได้เข้ามาคลิก หรือใช้วิธีอัพหลอก นี่กูไม่ได้จะดีเฟนด์มันหรอก ไม่ได้รู้จักควยไรกันอยู่แล้ว ซึ่งถ้ามันจะถูกคนหมั่นไส้มันก็สมควร จะทำห่าอะไรแม่งมีรีแอคชันหมดแหละ
สำหรับกูเอง ที่เห็นว่ากูไม่ได้ให้คะแนนเลย เพราะกูแค่วิจารณ์ไปตามความรู้สึกกูเฉย ๆ ไม่ได้วิเคราะห์ลงลึกถึงมิติตัวละครมาก หรือพลอดห่าไรมาก เพราะกูขี้เกียจอ่านเยอะ อย่างที่กูบอก ถ้ามึงทำให้คนอ่านประทับใจได้ตั้งแต่โดยที่มันยังไม่ได้รู้ห่าเหวอะไรมาก สำหรับกู ถือว่ามึงเก่งในระดับนึงละ และจะเก่งกว่านี้ ถ้าทำไปได้ตลอดรอดฝั่ง
by โม่งเงี่ยน
เรื่องต่อไปอะไรดีวะ เดี๋ยวขุดลิสต์มาสืบหน่อย
เดี่ยวนะ กูนึกอะไรออกวะ ถ้าคนเขียนเฉลียวใจกว่านี้น่าจะสร้างความแตกต่างไม่แพ้เกมออนไลน์ดาษดื่น ชีวิตจริงพระเอกอยู่สายงานการเงินนี่ เกมผูกบัญชีธนาคารนอกเกมได้ไม่ใช่เรอะ ลองนี่ดีกว่า
เตี๋ยวทำงานกรมสรรพสามิตตามปกติ นอกเวลางานก็หางานเสริมในเกมแม่งเลย วางมือเส้นทางจอมยุทธเบียวเลิกบ้าเกม ไปเป็นผู้ประกอบกิจการเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวในเกมตาม >>401 ฝึกอี๋หยินอี๋หยางเป็นพนักงานผู้ช่วย แบ่งหน้าที่ทำอาหาร หาวัตถุดิบ เสริฟ ทำบัญชี บริหารส่งของนอกร้านแบบ Lazada เป็นต้น ซื้อเครื่องเล่นเกมแสนกว่าบาทก็หาทางคืนทุนได้แล้ว ไม่ใช่ราคา Steam 329 บาท 599 บาทที่ยังไงโดนดูดเงินผ่านกาชา ไอเทมมอล หรือ DLC ส่วนไอ้กล้าไอ้เดชที่ชวนเตี๋ยวก็ปล่อยแม่งเป็นจอมยุทธตามเดิมแหละ เพราะกิจการของเตี๋ยวดีเมื่อไร กล้ากับเดชแม่งเป็นได้ 2 อย่าง 1.เป็นลูกค้ายอมเสียตังให้เตี๋ยวในเกม 2.เป็นลูกจ้างของเตี๋ยวแบ่งเบาภาระให้อี๋หยินอี๋หยาง เพราะนอกเกมทั้งคู่ทำงานศาล ไม่น่าจะมีความรู้การเงินเท่าเตี๋ยวนัก แบบนี้ค่อยสมกับพระเอกที่ทำงานเกี่ยวกับการเงินอยู่แล้ว ไม่รู้แม่งจบบริหารธุรกิจมาก่อนมั้ยวะ
ซาลาเปาลูกนึงอิ่มถึง 3 ชม. ก็ให้ก๋วยเตี๋ยวเพิ่มระยะเวลาอิ่มตามสูตรและเครื่องปรุงที่พระเอกคิดค้นได้ ความต้องการของก๋วยเตี๋ยวเพิ่มสูงกว่าซาลาเปา เหมือนเกม RO มึงเลือก Red Potion (HP 45) White Potion (HP 325) หรือ Yggdrasil Berry (HP/SP Max) อยากอยู่แบบไหน ต่อให้เหล่าจอมยุทธเก่งกล้าเหนือทางช้างเผือก จะต้องปราชัยให้กับร้านก๋วยเตี๋ยวของพระเอก จอมมารเมฆขาวช่างหัวพ่อหัวแม่ เตี๋ยวขอเป็นเถ้าแก่เศรษฐีอันดับหนึ่งในเกม (บัญชีพระเอกเพิ่มพูน)
>>425 ต่อๆ
ซีซั่น 1 เป็นเรื่องของการกำเนิดร้านก๋วยเตี๋ยวของไอ้เตี๋ยว อยู่ในขั้นสร้างเนื้อสร้างตัว จากร้านเล็กกระจอกเป็นร้านอาหารเทียบเท่าร้านท่าสยามกับก๋วยเตี๋ยวไก่แม่ศรีเรือน
ซีซั่น 2 เป็นสงครามธุรกิจอาหารที่ร้านของไอ้เตี๋ยวต้องสู้กับร้านอาหารที่เทพกว่า (มึงต้องดู Hataraku Maou-sama ถึงจะนึกออกว่า KFC แย่งลูกค้าของร้านแมคจอมมารยังไง) ต้องแข่งกันเพื่อก้าวสู่อันดับ 1 แฟรนไชส์ร้านอาหารดีที่สุดในเกม
ซีซั่น 3 อาจจะเป็นเรื่องของการล่มสลายของเกมออนไลน์ที่กำลังจะปิดตัวลงด้วยเหตุผลบางประการ ร้านก๋วยเตี๋ยวของไอ้เตี๋ยวจะต้องหาทางออก พร้อมชีวิตที่ต้องเลือกว่า ในตอนจบ เตี๋ยวยุบกิจการร้านก๋วยเตี๋ยวในเกมแล้วทำงานกรมสรรพสามิตจนเกษียณอายุเหมือนซีซั่นแรก หรือลาออกจากกรมสรรพสามิตแล้วเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวในชีวิตจริงแทน
ตอนพิเศษก็เป็นเรื่องสั้นฮาๆของพวกไอ้เตี๋ยว เช่น อี๋หยินอี๋หยางใครทำอาหารห่วยกว่ากัน เป็นต้น
>>426 ขอแก้ไขดีกว่า
ซีซั่น 1 เนื้อเรื่อง 6 ตอนแรกที่โม่งเงี่ยนสับไปจะเป็นตอนพิเศษ ตอนที่ 1 จะเป็นเหตุการณ์หลังจากนี้ไป
ซีซั่น 2 ถ้าไอ้เตี๋ยวไม่ได้จบบริหารธุรกิจ คิดสิว่าสภาพไอ้เตี๋ยวจะสู้ร้านคู่แข่งที่จบบริหารธุรกิจโดยตรงยังไง
ซีซั่น 3 ไม่มีอะไรเพิ่มเติม
ตอนพิเศษ ถ้าไอ้เตี๋ยวชีวิตจริงมีแฟน แต่แฟนดันไม่ได้เล่นเกมด้วย เขาทำอาหารให้แฟนยังไง ถ้านอกเกมมีก๋วยเตี๋ยวหมูป่าหางดอกพอจะทำได้ แต่หมูป่าหางดอกหาได้ในเกมเท่านั้นนี่สิ
ขอ KY แวบมาบ่นหน่อย...
ไม่ไหวแฮะ พยายามทำใจลองเขียนแนวจีนๆ แต่สุดท้ายก็แพ้ตัวเองซะงั้น
คือคนไม่ชอบมันก็เขียนไม่ลงแฮะ...
ลูกอีสัด กูไม่เห่าก็ดราม่ากันแจ เดี๋ยวกูจะว่างสับนิยายแล้ว พวกมึงไปหาซื้อเสื้อหนาวมาเตรียมไว้ได้เลย
กูมีมาตรการใหม่แล้วสัด มึงอยากได้ความรู้เดี๋ยวกูจัดให้ ขอบอกแค่ว่า กูจะไม่ตรวจคำผิด ไม่หาพล็อตโฮล กูได้คัมภีร์มาสำเร็จยอดวิชาสับธาตุไฟแตดแล้วมึง
ลงชื่อ เซฮุน กูจองเรื่องเหี้ยไรไว้มั่งวะ...
แปะกันลืม
https://writer.dek-d.com/topduck/writer/view.php?id=785523 (สาวใช้พันธุ์ดุ Maid-at-Arms ... ชื่อเรื่องเพราะดี)
https://writer.dek-d.com/linklight/story/view.php?id=1559849 (จอมราชันย์หลงยุค... ข้าขอคำชี้แนะ เตรียมรับมือ)
https://writer.dek-d.com/BlackMonSterX/writer/view.php?id=1602272 (Evolve ฟองเบียร์)
แกรๆ เราชอบอันนี้อ่ะ บรรเจิดมาก แบบนี้ก็ได้หรอ
https://writer.dek-d.com/96360305/story/viewlongc.php?id=1625334&chapter=10
เออ ไอ้เพล้งๆ ฉัวๆ กูพอเข้าใจ แต่เสียงกุดุสกุดุส คือเสียงเหี้ยไรวะ
นิยายเรื่องนี้ต้องเปลี่ยนชื่อเป็น ฉัวๆๆ มหากาฬ
มาจากกูตุ๊ดๆ ป่าว
เสียงตดคนเขียนแน่
https://www.dek-d.com/board/view/3795112/
โม่งเตรียมมุงกัน
กระทู้หน้าตอนตั้งชื่อขอให้มีคำว่า กุดุส กุดุส ด้วยนะ แม่งฮาดี
>>452 พูดเหมือนคนโง่ มึงไม่รู้เหรอว่าคนเขาเลือกอ่านกันจากป้ายห้อยคอนี่แหละโว้ย มึงทดสอบดูก็ได้ ถ้าอยากจะขายกลุ่มนักอ่านอีโรติก มึงไม่จำเป็นต้องแคร์ห่าเหวอะไรแบบที่มึงเสร่อพิมพ์มาเลย เขียนไปตรงๆว่า nc 18+ ขายฉาก sex คนก็เข้ามากันตรึมละ เยอะกว่าพวกชื่อเรื่องทั่วไปแน่นอน ถ้าเทียบกันด้วยมาตรฐานที่ใกล้เคียง (ฐานแฟนคลับ, จำนวนตอน ฯลฯ)
นานๆกูแวะมา พวกมึงก็สาระกันดีนะ โคตรปลื้มเลยว่ะ มีกุดุสๆ มีตั้งชื่อนิยาย
ลงชื่อ เซฮุน
โม่งอ่ะป่าว https://www.dek-d.com/board/view/3795279/
>>462 เขาก็มีเหตุผลนะ บางทีชื่อเรื่องภาษาอังกฤษที่ตั้งอาจไม่ดึงดูด หรือทั่วๆไปจนไม่รู้ว่าจะสื่ออะไรกันแน่ อย่าง black dragon, the world of mine อะไรแบบนี้ คือมันไม่ผิดหรอกนะ แต่มันไม่ดึงดูด เวลามีหนังฝรั่งเข้า เขาเลยต้องแปลไทยไง
แถมบางเรื่องแม่งยังไม่เขียนเรื่องย่อไว้อีก แล้วใครจะเปิดเข้าไปอ่านวะ
หนังเรื่อง Baby Driver ใช้ชื่อไทย จี้ เบบี้ ปล้น
Equilibrium นักบวชฆ่าไม่ต้องบวช
insidious 1 วิญญาณตามติด
insidious 2 วิญญาณยังตามติด
insidious 3 วิญญาณยังตามมาติดๆ
ถ้าร้านพิซซ่าบริการไม่ถูกใจ มึงควรใส่เต็มในร้านพิซซ่าเลย หรือบ่นกับเพื่อนก่อน บ่นกับที่บ้าน บ่นในพันดริฟ บ่นในที่ๆมึงคิดว่าปลอดภัยไหมวะ?
ที่เขาตั้งกระทู้เว็ปนี้ ไม่ว่าจะอะไรนะ เพราะเขารู้ว่ามีคนคุยด้วย มีคนรับฟังเขา มันเป็นบอร์ดนักเขียน ต่อให้ต่างเว็ปก็ตั้งได้ สามัญสำนึก?
สันดานวิดสวะอย่างมึงนี่นะ เกินเยียวยาจริงๆ คิดส้นตีนอะไรของมึงในหัววะ แคบตีบตันเหี้ยๆ
เฮ้อ.. กลุ้มแฮะ
กุพยายามปรับตัวโดยการทนอ่านนิยายจีน เพื่อเอามาเป็นแนวทางเขียน
แต่พอเห็นมุก Cliche จำพวก ตัวเอกต้องเป็นคนที่สุดยอดต่างไปจากคนอื่น หรือไม่ก็บังเอิญเจออะไรที่สุดยอดมาก ๆ แล้วกุก็อดอคติอ่านต่อไม่ได้เลยว่ะ
แบบนี้เขาเรียกกุปรับตัวไม่ได้รึเปล่าวะ... กุพยายามหลายทีแล้วยังไงก็ไม่ไหวจริงๆ
เออสงสัยเพิ่มเติมนิดนึง เดี๋ยวนี้เขาใช้คำว่า "ชั้น" แทน "ฉัน" ในการเรียกตัวเองแล้วงั้นเหรอวะ
เดี๋ยวนี้เห็นใช้ "ชั้น" กันหมดเลย
>>483 แบบนี้ก็ได้หรอ งั้นกูไม่ใช่นักเขียนเด็กดี (อดีตเคย) ก็ไม่มีสิทธิ์ไปยุ่งกับบอร์ดนั้นอะดิ ‘เพราะจะกลายเป็นผิดที่ผิดทาง’ เดี๋ยวนี้นักเขียนในเด็กดีแบ่งพรรคแบ่งพวกด้วยหรอเนี่ย เปิดโลกทัศน์กูจริง ๆ มิน่าล่ะฝีมือถือได้เกลี่ย ๆ กันไป (ระดับไหนดูในนิยายท๊อป) เพราะมีบางส่วนไม่ยอมรับนักเขียนนอกนี่เอง
กูว่าพวกมึงจะดราม่ากันใหญ่ละ
ที่กูเข้าใจคือ ที่มันตั้งมู้มาแบบนั้น ทั้งๆ ที่ลงนิยายในเว็บอื่น มันอาจจะทำให้คนเข้าใจระบบการทำงานของ วม ของเด็กดอยแบบผิดๆ ได้เท่านั้นเอง ไม่ใช่ว่ามันมาตั้งมู้ระบายไม่ได้ แต่ถ้าจะตั้ง ใส่รายละเอียดให้มันชัดเจนตั้งแต่แรก กูว่าจะดีกว่าตั้งล่อเป้าแบบนี้
กูไม่อยู่ พวกมึงก็ดราม่ากันดีนะ ชอบๆ
ลงชื่อ เซฮุน
(1)นั่นสิ นั่นซี นั่นดิ นั่นแล นั่นแหละ ชั้น ฉัน ดิฉัน เดี้ยน ดั้น ดั๋น ผม กระผม พ้ม โพ้ม
คำว่า ดีจัง กับ ดีจริง ดีจุง มึงกดปิดด้วยนะ อีหน้าหี พ่องชื่อยาวๆมึงตายแล้วนะ อีสัด
(2)มันมา โฆษณาว่านิยายมันได้ตีพิมพ์ปะ? มันเลยปั่นกระแส ควายเอ๋ย ควายเอ๊ย ควายเอย แค่นี้ดูไม่ออก
>>485 กูก็ไม่ได้อะไรหรอกนะ แต่กูแค่รู้สึกว่ารอบนี้พี่เครื่องทำเกินไปหน่อย คนเขาต้องการระบาย แต่กลับมาเหยียบซ้ำ ระดับมันสมองแบบพี่เครื่องมีปัญญาตั้งกระทู้ดักควาย มีความรู้ในการตอบนักเขียนใหม่ แต่...วัตถุประสงค์ของกระทู้นี้ไม่รู้จริง? Wm ที่ถูกพูดถึงไม่ใช่ของเด็กดีจะไม่รู้จริง?
และที่สำคัญทำไมโม่งบางคนต้องด่ากราด จขทก. ด้วย? จะบอกว่าเพราะเขาตั้งกระทู้ที่ไม่เกี่ยวกับเด็กดีงี้หรอ... แบบนี้ก็ได้หรอ? สาวกพรรคเด็กดีหรอ?
พวกมึงไม่รู้เหรอ จขกท.แม่งล่อเป้าสัสๆ ดูวีรเวรกรรมมู้อื่นของแม่งสิ
งดดราม่า
https://writer.dek-d.com/naturecrowns/story/view.php?id=1685517
กูจะสับเรื่องนี้มีใครเห็นแย้งไหม และกูควรจะสับกี่ตอนดี
ปล. กูไม่ใช่แนวสับละเอียดนะ กูดูภาพรวม
https://www.dek-d.com/board/view/3795759/
โม่งไปสมัครดิเพื่อความหรรษา
>>495 ไม่เคยได้ยินเหมือนกัน แต่ถ้าเป็นชื่อเล่นที่เรียกกันจะเป็นเสี่ยวและตามด้วยชื่อจริงๆ อย่างเว่ยอู๋จี๋ ก็จะเป็นเสี่ยวจี๋ (小 = น้อย) ใช่ในกรณีคนอายุมากกว่าเรียกคนเด็กกว่าแบบเอ็นดู อันนี้เท่าที่เจอในนิยายไต้หวันนะ หญิงชายเรียกได้หมด
อีกอันก็อา(啊)+ ชื่อ แต่เหมือนจะไม่นิยมในวัยรุ่นสมัยนี้ เพราะเคยใช้เรียกเพื่อนคนจีน มันไม่หัน บอกเรียกซะโบราณ
ส่วนเอ๋อร์ ตรงตัวจะแปลว่าเด็กหรือลูกอะ อย่าง หนี่วเอ๋อร์ (女儿 ลูกสาว) เอ๋อร์จึ (儿子 ลูกชาย) ไม่เคยเห็นใครใช้เรียกเป็นชื่อเล่น แต่ใช้ได้ไม่ได้นี่ไม่รู้เหมือนกัน
แต่ถามคนที่บ้าน เขาเป็นแต้จิ๋ว เขาบอกว่าคนจีนมีชื่อเล่น เป็นคนละชื่อกับชื่อจริง งั้นอันนี้ก็คงได้มั้ง
*阿 สิ โทษๆ จิ้มผิดตัว
>>500 ขอบคุณมากมึง ปกติกูอ่านนิยายจีนเยอะนะ ส่วนมากผู้ชายก็เจอแต่ขึ้นด้วย อา- หรือ เสี่ยว- ลงด้วย-เอ๋อร์ เจอแต่คนในครอบครัวหรือคนเรียกหยอกๆ เรื่องชื่อเล่นบ้านกูก็แต้จิ๋วเขาตั้งชื่อเล่นแยกจากชื่อจริงเหมือนกัน แต่กูว่าชื่อตลค.ในเรื่องนั้นไม่น่าใช่ภาษาแต้จิ๋วนะ...เดี๋ยวกูอ่านไปเรื่อยๆก่อน คือกูเปิดมาตอนแรกเจอโปรไฟล์ตัวละครเลยสะดุดกะจะมาถามในนี้แล้วเจอว่าจะมีคนสับพอดี
>>481 อันนี้กุเพิ่งไปถามนักแปลมาเขาบอกว่า
"การแปลทุกอย่างว่า ฉัน ตามแนวคิดของราชบัณฑิตยสถาน และสำนักพิมพ์หลายแห่งยอมทำตาม เป็นอะไรที่โง่และทำลายศิลปะทางภาษามากๆ สมัยก่อนงานแปลใช้แต่คำว่า ชั้น ซึ่งเป็นภาษาพูด แทบไม่มีใครใช้คำว่า ฉัน เลย แล้วราชบัณฯก็เข้ามาทักท้วง ทำให้หลายสำนักพิมพ์เริ่มปรับเปลี่ยนกัน ทำให้มีคำว่า ฉัน โผล่มาให้เห็นเยอะขึ้น ส่วนผมก็ยอมตามสำนักพิมพ์ไปอยู่พักหนึ่ง แล้วก็ทนไม่ไหว เลยเริ่มอารยะขัดขืนด้วยการแปลตามใจฉัน ถ้าอยากแก้ก็ไปแก้กันเอาเอง"
สรุปง่าย ๆ มันคือการวิวัฒนาการของภาษา แต่ทาง ราชบัณฑิตยสถาน ยังต้องการคงคำว่า ฉัน เอาไว้เหมือนเดิมนั่นเอง
>>504 กูว่าไม่เกี่ยวงานแปลเก่าเขาก็ใช้ฉันกันมากมาย คนเขียนนิยายในไทยเองก็ใช้ฉันกันปกตินะ เขาใช้กันตามความหมายคำไม่ใช่ตามเสียง คนที่อุตริเริ่มคำว่าชั้นก็นักเขียนในเด็กดีนั่นแหละ กูจำได้ว่ามีนักเขียนคนนึงที่ตั้งกระทู้ว่ายืนยันว่าจะใช่คำว่าชั้นเพราะมันออกเสียงแบบนี้ ไม่ยอมใช้คำว่าฉันเด็ดขาด ก็โต้กันไปมาสรุปได้แค่ว่าใครอยากใช้มึงใช้ไปแต่คนที่เขาไม่อ่านก็สิทธิ์ของเขา สนพ.จะแก้ก็สิทธิ์ของสนพ. ถ้ามึงไม่อยากแก้ก็เรื่องของมึง
อืมมม กุรู้จักนักแปลคนนี้มาสิบกว่าปีแล้ว มีงานแปลเยอะพอควรนะ
แต่ถ้าบรรยากาศในมู้เป็นแบบนี้ กุไม่ขอออกความเห็นเพิ่มล่ะกันเพราะความสนิทมันจะทำให้กลายเป็นกุเข้าข้างเขา
ตามตรงนะ ถ้าเอาตามตรรกะนักแปลคนนี้ว่าภาษามันดิ้นได้ คนที่ด่าภาษาสก๊อยก็โง่หมดอ่ะ
เพราะต้องยอมรับอย่างนึงว่าภาษาสก๊อยพื้นฐานมันไม่ใช่การเขียนวิบัติเพราะเขียนผิดอย่างเดียวแต่มาจากการจงใจผิดด้วย จงใจเปลี่ยนตัวอักษรที่เป็นเสียงเดียวกันยังงี้ ขี้เกลียด หน้าเกลียด ก็ไม่ผิดสิจะสนทำไมความหมายอ่านได้เหมือนกันปะวะ ถ้ากระสันจะใช้ชั้นก็ยื่นเรื่องให้ราชบัณฑิตทำให้มันถูกต้องไปสิ ถึงตอนนั้นจะไม่มีใครบ่นมึงสักคำ
แถวบ้านกูก็ออกเสียงตาม ฉ หมดแบบเสียงฟังชัดเลย ฉันนู้น ฉันนี้ ไม่หรอกชั้นอะไร
กูขอถามหน่อย ไหนๆแล้ว "เค้า" กับ "เขา" เหมือนหรือต่างกันมั้ย แล้วการออกเสียงคนจะรู้ได้ไงว่ากูพูดคำว่า "เค้า" หรือ "เขา"
สรุปคือนักแปลใช้ภาษากรุงเทพแล้วมโนไปว่ามันคือภาษาไทยที่ถูกต้องที่คนไทยทั้งประเทศเห็นพ้องต้องกันนั่นแหละ
กุอยากเขียนแนวต่างโลกเพื่อ"ขาย" เพื่อนโม่งมีอะไรแนะนำบ้าง
>>525 ตอนเด็กพระเอกรถคว่ำ พ่อแม่ตายหมด พระเอกสาหัส ถึงหมอจะช่วยชีวิตได้แต่ก็โชคร้าย เพราะเลือดที่ใช้ระหว่างการผ่าตัดปนเปื้อนเชื้อ hiv ทำให้พระเอกโตมากับเชื้อ เป็นปมด้อย แดกยาไปตลอดชีวิต ไม่กล้าไปเย็ดกับใครเพราะกลัวคนอื่นติดโรค ทำงานบริษัทก็ไม่ได้เลยนั่งเล่นหุ้นอยู่กับบ้าน พออายุได้สามสิบก็เกิดโรคแทรกซ้อนตายห่า ไปเจอยมบาล ยมบาลบอกว่าให้เลือก ว่าจะไปเกิดเป็นพระโพธิสัตว์หรือจะไปเกิดเป็นหนุ่มหล่อขี้เยส แน่นอนว่าพระเอกเลือกอย่างหลังเพราะอยากเยสครับ
กูไม่อยู่พวกมึงก็ สงบสุขกันดีนะ
ลงชื่อเซฮุน ช้านเกิดในร้านพิซซ่า
ดื่มยาสามเวลานะเธอ https://www.dek-d.com/board/view/3795873/
Ky รามเกียรติ์ถือเป็นแนวเกิดใหม่ต่างโลก พระเอกแกรี่สตู หรือเปล่าวะ?
อ้อ เว็บนี้นี่เอง ศูนย์รวมพวกตุ๊ด ไม่กล้าสู้หน้า วันๆเที่ยวเอานิยายคนอื่นมานินทาเล่น
ตั้งเป็นขบวนการห้าสีความหวังของนิยายไทย ทั้งๆที่นิยายตัวเองไม่ได้ดีเด่อะไรเลย เขียนจบสักเรื่องรึยังก็ไม่รู้ เป็นสังคมที่ lovely มาก XD
>>537 น้อมรับคำตินะ แต่
- ทำไมไม่กล้าสู้หน้าต้องเป็นพวกตุ๊ดวะ รู้จักตุ๊ดจริงๆ ป่าว ตุ๊ดใจถึงนะมึง เกิดไปมีปัญหากับมันแม่งตามไปตบยันบ้าน เผลอๆ จะตบแม่มึงด้วยข้อหาเลี้ยงลูกไม่สั่งสอน สงสัยตอนเด็กๆ เอานมข้นหวานชงให้แดกมากไป
- วันๆ เที่ยวเอานิยายคนอื่นมานินทาเล่นก็ไม่ค่อยจริง เพราะเดี๋ยวนี้รู้สึกว่าจะค่อนข้างเรื่อยเปื่อย แทบไม่ได้หยิบนิยายมาสับแล้ว
- แล้วทำไมถึงคิดว่าเขียนนิยายไม่จบสักเรื่อง?
TRIGGERED 5555
เดี๋ยวเขียนไม่จบก็หาว่าขี้แพ้ กล้ามาด่าเขา แต่ถ้าเขียนจบแถมขายได้ก็จะว่าอีกว่าข่ม เอาตัวเป็นใหญ่ จ๊ะ เอาที่สบายใจ 555
ไม่เอาๆ อย่าทะเลาะกันๆ เปลืองพื้นที่ 555
เออ กูถามหน่อย ถ้ากูเอารูปจากเกมโป๊มาใช้เป็นรูปตัวละครนี่ต้องให้เครดิตยังไงวะ
ต้องแปะชื่อเกมโป๊ไว้ให้พวกแม่งดีไหม อิอิกุดุสกุดุส
ในลิสต์สับถึงไหนละอ่ะ เผื่อกูจะสับต่อมั่ง
ช่วงนี้ไม่ค่อยว่างว่ะ
กูรออีเซฮุนกับ 490 ช่วยสับอยู่นะ
กูกำควยรอไปพลาง ๆ ละกัลล
by โม่งเงี่ยน
ต้องบอกก่อนว่านิยายเรื่องนี้สับด้วยความคิดเห็นส่วนตัวล้วน ๆ บางอย่างอาจไม่ตรงใจก็ห้ามโทษกัน และกูไม่ขอสับเรื่องพื้นฐาน (มาก ๆ )หรือสับละเอียดเป็นตอน ๆ แต่จะสับแบบภาพรวมแทน
https://writer.dek-d.com/naturecrowns/story/view.php?id=1685517
เรื่อง Apocalypse Saga : กำเนิดจักรพรรดิมาร สาย Support
ผู้แต่ง : เผ่าอสรพิษฟ้าคนสุดท้าย
งานอวย : เรื่องนี้นับว่าคนเขียนค่อนข้างมีพื้นฐานการเขียนที่ดี เนื้อเรื่องค่อนข้างน่าสนใจ ข้อมูลสกิลแน่นมาก มีการทำกราฟฟิคประกอบน่าสนใจ บ่งบอกถึงความใสใจในจุดนี้เป็นพิเศษ โดยรวมแล้วค่อนข้างน่าดึงดูด
เรื่องย่อ : เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับพระเอกหนุ่มนามว่าแทนคุณที่ถูกเลือกให้เป็นหนึ่งในหนุ่มสาวทั้ง 10,000 คนที่ได้รับเลือกให้รวมการคัดสรรธรรมชาติในโลกที่ชื่อว่า apocalypse saga และพระเอกต้องผ่านเรื่องราวมากมาย ทั้งการต่อสู้กันระหว่างผู้คัดสรร การเอาชีวิตรอดท่ามกลางความโหดร้าย พร้อมกับไขปริศนาของโลกแห่งนี้ไปพร้อมกัน
งานสับ : เอาล่ะ กูจะเริ่มสับล่ะนะ
แนวเรื่อง : เรื่องนี้เป็นการผสมผสานกันระหว่าง Survival ดาร์คแฟนตาซี และแฟนตาซีไซไฟ แต่! ไปไม่สุดสักทาง ทำให้เรื่องค่อนข้างราบเรียบไม่โดดเด่น ไม่หวือหวาอะไร ไม่น่าดึงดูด ซึ่งถ้าหากเน้นไปทางใดทางหนึ่งไปเลยน่าจะดีกว่า แต่ถ้าให้เดาคนเขียนคงอย่างให้เข้าถึงฐานคนอ่านช่วงอายุ 12-35 ปี ดังนั้นจึงเลือกเดินเรื่องแนวทางนี้ซึ่งนับว่าเป็นการกระทำที่ผิดพลาดอย่างรุนแรง (เอาง่าย ๆ จะเบียวแบบดาร์ค ๆ นั่นเอง) แต่บางทีคนเขียนอาจไม่ได้คิดถึงในจุดนี้ก็ได้ (คือกูวิเคราะห์เก้อไปเอง)
ตัวละคร : ตัวละครในเรื่องบอกได้ตามตรงว่าไม่มีจุดเด่นห่าเหวอะไรเลย พระเอกค่อนข้างเป็นแบบสำเร็จรูป คือ เก่ง เทพ ทำอะไรก็ได้ไปหมด ดวงดีฝุด ๆ ส่วนตัวละครอื่น ๆ ที่เป็นตัวประกอบก็รู้สึกได้เลยว่า ทุกตัวโง่กว่าพระเอก ให้ยกตัวอย่างก็ตอนที่ ทุกคนถูกเรียกตัวเพื่อแจกแต้มสกิล พระเอกเสือกยกมือถามเรื่องสกิลแค่เนี๊ยะ ได้มา 50,000 แต้ม คืออ่านแล้วรู้เลยว่าอวยพระเอกแบบสุด จะให้พระเอกเก่งเทพ แล้วการเลือกสกิลของพระเอกก็ค่อนข้างฉลาดมาก แต่! คนอื่นกลับไม่! (ไม่ถึงกับไม่ฉลาดเลือกนะ แต่ที่เลือกมาประโยชน์ใช้สอยน้อยกว่าพระเอกทั้งหมด) ถ้าเป็นกูจะดำเนินเรื่องต่างกัน คือให้ตัวร้ายได้รับผลประโยชน์มากสุดในตอนแรก ส่วนพระเอกต้องกระเสือกกระสน ซึ่งเรียกอีกอย่างว่าการกลั่นแกล้งตัวละคร ในส่วนนี้ตัวละครจะน่าสนใจมากกว่า คนอ่านจะรู้สึกผูกพันธ์กับตัวละครมากกว่า ส่วนอารมณ์ตัวละครก็รู้สึกเฉย ๆ มาก ทุกคนเหมือนเป็นหุ่น อย่างพระเอกตอนถูกพาตัวมา หรือเจอเหตุการณ์ฆ่ากันก็ยัง... เฉย ใจเย็น นิ่งมาก (มันใช่หรอ?) คนอื่นเจอเหตุการณ์โหดร้ายก็ได้รับผลกระทบด้านอารมณ์น้อยเกินไป คาแรคเตอร์ตัวละครก็เรียบ ๆ ไม่มีความโดดเด่น
การบรรยาย : การบรรยายโดยรวมถือว่าดี แต่การบรรยายรายละเอียดปลีกย่อยอย่างสถานที่หรือสภาพแวดล้อมยังไม่ค่อยจัดเจนมาก การบรรยายท่าทางและอารมณ์ตัวละครมีน้อยมาก ซึ่งมันแย้งกับแนวเรื่องที่วางไว้เป็นดาร์คแฟนกับ Survival ที่ต้องเน้นการบรรยายจำพวกรายละเอียด (เท่าที่มุมมองบุคคลจะมองเห็น) อารมณ์ และท่าทางเป็นหลัก Tell และ Show ไม่สัมพันธ์กันอย่างรุนแรง tell บอก พระเอกไม่ใช่อัจฉริยะ ธรรมดาทั่วไป แต่ Show นี่ โอโห! นี่หรอธรรมดา แล้วเรื่องนี้เน้น tell เป็นหลัก ไม่ค่อยเหมาะกับแนวเรื่องที่ต้องเน้นการ Show เพื่อกระตุ้นอารมณ์คนอ่าน (คหสต.)
บทเปิด : เปิดออกมาด้วยฉากพระเอกกับแม่ก็ถือว่าดี แต่ถ้ายกไปบทถัดไป แล้วเปิดด้วยฉากเคลียร์เกม Apocalypse Saga จะดีกว่า อย่างน้อยก็ทำให้คนอ่านรู้สึกตื่นเต้น น่าสนใจ
เนื้อเรื่อง : บอกตามตรงว่าเนื้อเรื่องค่อนข้างน่าสนใจ แต่ในทางเดียวกันก็เดาเรื่องได้ง่าย เหตุการณ์หลายอย่างยังถ่ายทอดออกมาไม่สุด พระเอกเหมือนโรยด้วยกลีบกุหลาบไปหน่อย ถ้าทำให้พระเอกเจอเหตุการณ์สะเทือนอารมณ์ ต้องกระเสือกกระสนเอาชีวิตรอดในช่วงแรก แล้วค่อยมาเทพในช่วงหลังน่าจะดีกว่า แต่ก็นะ เจาะกลุ่มตลาดเด็กวัย 12-18 พระเอกก็ต้องเก่งเทพเป็นธรรมดา อย่างฉากทรยศหักหลังอ่านแล้วรู้สึกเฉย ๆ ไม่ค่อยบีบคั้นอารมณ์ (ประมาณว่า อ้อ ทรยศกันหรอ) และที่สำคัญการเลือกสกิลพระเอกเลือกเป็นสายสนับสนุน แต่ไม่รู้จักใครเลย เหมือนไปตายเอาดาบหน้า แถมคนอื่นยังตกใจว่าพระเอกมีสกิลมีประโยชน์มาก ๆ ใช้งานได้หลากหลาย ขณะที่ตัวประกอบกลับไม่มี (หรือมีแต่น้อย) รู้สึกเหมือนจะหยาบไปเหมือนจงใจให้พระเอกเก่งโดยการให้คนอื่นดูโง่ การเลือกสกิลแบบนี้เหมือนกับพระเอกมีญาณหยั่งรู้ก็ไม่ปาน บางทีพระเอกเลือกสกิลไม่ครอบคลุม หรือบางสถานการณ์ไม่มีสกิลที่เกื้อกูลอาจน่าสนใจกว่าก็ได้นะ ใช้วิธีอื่นรอดจากสถานการณ์นั้นเอา
สรุป : โครงเรื่องดี การบรรยายโอเคแต่ต้องใส่อารมณ์ ท่าทางมากกว่านี้ มีบางอย่างไม่สมเหตุสมผลแต่ก็พอมองข้ามได้ ส่วนเรื่องคำผิดไม่ได้ตรวจดู แต่น่าจะแทบไม่มี ตัวละครไม่มีจุดเด่น
สุดท้ายอยากจะบอกว่า ตอนสั้นไปไหม ยิ่งนับวันยิ่งสั้น
>>556 กูอ่านละกูยอมรับว่าเนื้อเรื่องโครงเรื่องน่าสนใจ แต่ยิ่งอ่านยิ่งขัดใจ กับความไม่สมเหตุสมผล แรกๆมาบรรยายว่าพระเอกเป็นคนดีเป็นคนสุภาพ แต่เสือกเลือกสกิลที่มีเงื่อนไขต้องใช้ชีวิตคน ถ้าค่อยๆเปลี่ยนนิสัยพระเอก หรือมีเหตุการณ์ที่ทำให้พระเอกนิสัยโหดขึ้นก็ว่าไปอย่าง อันนี้อยู่ๆจะฆ่าก็ฆ่าเฉย ยิ่งอ่านยิ่งหงุดหงิดจะไปคอมเม้นนิยายก็ไม่ได้ เดี๋ยวมีพวกส้นตีน อวยไม่ลืมหูลืมตาว่ามึงก็ไปแต่งเองดิ นี่นิยายมาจากจินตนาการจะเอาอะไรมาก ควยเหอะ
อีกเรื่องนึงเรื่องที่พระเอกชื่อฉางซาแรกๆก็อ่านสนุกอยู่ถ้าไม่เลื่อนลงพวกคอมเม้นอวยไม่ลืมหูลืมตาจนวิจารณ์นิยายไม่ได้เลย แต่หลังๆมาความสมเหตุสมผลก็น้อยลงอีก พอมีคนไปทักก็มีลูกหาบออกมาด่า เหี้ยมาก
แต่งเสร็จแล้วจะกดพลับบิกหายไปครึ่งตอนทำไงดีว่ะ สัสเอ้ย
บ๊ะ ห้องเสิ่นเจิ้นเค้ามีแบบนี้ด้วยเว้ยพวกมึง
https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=1706128
https://fanboi.ch/webnovel/4509/
วาร์ปๆ กันมาพวกมึง ห้องนี้มีแต่เรื่องขำขัน
นิยายของโม่ง เชิญพวกมึงสับกันตามสบาย
ไม่มีเด็กดอยสับ ให้โม่งก็ได้
https://www.dek-d.com/board/view/3796169/
พวกมึงลืมนี่ไปแล้วเหรอ
ไอ้ถุย มึงคาดหวังสูงไปป่าว https://www.dek-d.com/board/view/3796084/
ขอสับบ้าง ถ้าไม่ดี ไม่ฮา ยังไงก็โทษทีละกัน กุจะสับแบบภาพรวมนะ มันเยอะ ไล่ทีละตอนไม่ไหว
จะสับเรื่องนี้
https://my.dek-d.com/caio/writer/view.php?id=1625175
"ตำนานสงครามบัลลังก์เหนือ" เห็นมีคนในโม่งนี่แหละ เคยอวยไว้ว่าดี กุเลยตามเข้าไปอ่าน ปัจจุบันกุอ่านถึงตอนล่าสุดที่นักเขียนรีไรต์ล่ะ
แล้วกุก็คันมือ อยากสับมาก ทั้งที่ไม่เคย
เอาคำโปรยกับชื่อเรื่องก่อน
ชื่อเรื่องดีนะ ครอบคลุมเรื่องราวที่เกิดขึ้นในนิยายดี แต่คำว่า 'สงคราม' กับคำโปรย มันดันสื่อให้กุคิดว่า (ไม่รู้คนอื่นคิดเหมือนกุไหมนะ) เนื้อเรื่อง
แม่งต้องมีความอลังการ รบพุ่ง จัดกองทัพ ออกศึก ชิงไหวพริบ หักเหลี่ยม เฉือนคม ซึ่งตอนนี้กุอ่านถึงตอนล่าสุดซึ่งเป็นภาค2 แล้ว จากที่กล่าวมา
กุพบเพียงการชิงไหวพริบ ฉากต่อสู้มีบ้าง แต่ไม่ใช่การทำสงคราม
กุไม่ได้จะหมายความว่าเรื่องนี้ไม่ดี ไม่สนุก แต่กุคิดว่า ชื่อเรื่องกับคำโปรยทำให้กุเข้าใจผิด แล้วพาลไม่อยากอ่านในทีแรก เพราะกุไม่ชอบแนว
สงคราม คำโปรยที่มีภาษาสูงปะปนอยู่บ้าง ยิ่งทำให้กุไม่อยากอ่านอีก เพราะไม่ถูกจริตส่วนตัว กุว่ามันจะทำให้แป๊ก เพราะดึงคนที่ชอบอ่านแนว
นี้มา แต่ข้างในไม่ใช่ไง
เอ้า! พอกันทีกับชื่อและคำโปรย มาที่เนื้อเรื่องกันดีกว่า
เรื่องย่อคร่าว ๆ ให้รู้เรื่องกันก่อนก็คือ พระเอกเป็นเจ้าชายของอณาจักรทางใต้ แต่อณาจักรแม่งก็ล่มสลายไป พระเอกกับแม่รอดมาได้ แต่ราชาที่เป็นพ่อโดนฆ่าตายแม่เลยแต่งงานใหม่กับน้องชายของพ่อ ซึ่งเป็นแม่ทัพ มีลูกใหม่ด้วยกันสองคนอะไรก็ว่าไป แล้วก็ย้ายที่อยู่ไปเรื่อย ๆ จนมาถึงเมืองหนึ่งที่
อณาจักรธีร์ดีเร
เนื้อเรื่องตอนแรกเปิดมาดีเลย ไม่กล่าวประวัติศาสตร์ราชวงศ์ชวนง่วง ตัวละครค่อย ๆ ออกมา ทำให้ไม่สับสน แต่จุดที่จะทำให้กุงงคือชื่อตัวละครบางตัว เช่นพ่อเลี้ยงพระเอกที่เป็นแม่ทัพชื่อ ซิอ์บุล (กุอ่านว่า ซิ บุน ) ไม่รู้ถูกไหม แต่ช่างแม่งมัน นิดหน่อย ไม่ซี
แรก ๆ จะเกี่ยวกับความสัมพันธ์ภายในครอบครัว พระเอกอายุ17 (ถ้ากุจำไม่ผิด) เป็นคนอ่านออกเขียนได้ มีความรู้เรื่องการเมืองการปกครอง เพราะเคยเป็นถึงเจ้าชาย แล้วมันก็อยากจะใช้ความรู้ช่วยเหลืออณาจักรนี้ ไม่อยากให้ล่มเหมือนอณาจักรตัวเอง แต่พ่อเลี้ยงมันก็ไม่เห็นด้วย เพราะห่วง พระเอกมันเป็นโรคกลัวเลือด (ตรงนี้คนเขียนมีการแง้ม ๆ นิดนึงว่า ที่ห่วงเพราะพระเอกมันมีอะไรมากกว่านั้น มันไม่ธรรมดา ถือว่าโอเคเลย เป็นปมให้ชวน
ติดตาม) ทีนี้พระเอกมันก็นอยด์ ว่าพ่อเลี้ยงไม่เคยสนใจความต้องการของมัน เพราะตัวเองมีความสุขแล้ว ได้แม่มันไปเป็นเมีย แถมมีลูกใหม่ด้วย
กันตั้งสองคน คงจะเห็นมันที่เป็นลูกชายอื่นเป็นหนามตำใจ ฉากเถียงกันระหว่างพระเอกกับพ่อ ก็ให้อารมณ์หน่วง ๆ ดี แต่! สำหรับกุจุดที่ไม่
โอเคก็คือ แม่งดันรีบเฉลยว่า จริง ๆ พระเอกอ่ะไม่ใช่ลูกเลี้ยง คือเป็นลูกจริง ๆ ของแม่ทัพคนนี้ เพราะแม่พระเอกก่อนเป็นราชินี แอบชอบกับแม่
ทัพคนนี้(ซึ่งเป็นน้องชายคนละแม่กับพระราชา) มาก่อนแล้ว แต่ก็ต้องแต่งงานกับราชา แล้วก็แอบไปสะประระเห้กับแม่ทัพ สรุปคือพระเอก
แม่งเป็นลูกชู้ กุว่าตรงนี้แม่งพีคนะ ไม่น่ารีบเฉลยเลย มีอีกหลายจุด ที่ไม่น่ารีบเฉลยอีกเหมือนกัน เดี๋ยวกุค่อย ๆ สาธยาย
(ต่อด้านล่างนะ พื้นที่ไม่พอ)
ทีนี้มาฝั่งนางเอกบ้าง นางเอกเป็นเจ้าหญิงของธีร์ดีเร แต่พ่อ แม่ พี่ชายที่เป็นรัชทายาทโดนฆ่าหมด เหลือตัวคนเดียว เลยต้องทำพิธีเลือกคู่ เพื่อ
หาราชาที่เหมาะสม จะได้ช่วยกันบริหารธีร์ดีเร ตัวเก็งที่จะมาเป็นคู่นางเอกก็คือ องค์รักษ์ชื่อดูลัส เป็นลูกของเจ้ามณฑลอะไรสักอย่างชื่อเรียกยาก
บรรลัย ประเด็นก็คือ ตัวละครตัวนี้แม่งฉลาดขั้นเทพมาก ฉลาดเหมือนพระเอก คือพูดง่าย เท่าทันกัน ทันเกมส์กัน แต่ในความคิดของกุคือ
คนอะไรแม่งจะรู้ทันกันทุกเรื่องขนาดนั้นว่ะ แม่งก็ไม่ได้รู้จักกันมาก่อนเลยแท้ ๆ สองคนนี้ในตอนแรกไม่เชิงเป็นศัตรูกันนะ แต่ประมาณไอ้นี้มันระแวงพระเอกที่เป็นคนต่างอณาจักร แต่มันก็คิดของมันได้ว่า คนฉลาดอย่างพระเอกไม่น่าจะทำแบบนี้ อย่างพระเอกน่าจะทำแบบนั้น (แล้วมันก็เข้าใจถูกทุกอย่างด้วย) คือเหมือนแม่งรู้จักกันดีมาก ซึ่งการคิดแทนกัน แล้วคิดถูก มองออกทะลุปรุโปร่ง ระหว่างพระเอกกับตัวละครตัวนี้จะมีให้เห็นตลอด พอเกิดเรื่องอะไรที่พระเอกเป็นผู้ต้องสงสัย หรือพระเอกวางแผนอะไรมันก็จะรู้ความคิดพระเอกได้แบบถูกต้องเป๊ะ ๆ ราวกับเป็นอับดุลย์เห้ย กุอ่านเลยรู้สึกขัด ๆ ไม่ใช่ว่าไม่ชอบตัวละครที่ฉลาดทันพระเอกนะ แต่ไอ้นี่มันเกินไป
แล้วมันจะมีอีกคนเป็นลูกเจ้ามณฑลที่พระเอกทำงานให้ ไอ้นี่ก็ฉลาดเหมือนกัน แต่คนละแนวกับคนแรก เพราะมันอยู่ฝ่ายเดียวกับพระเอก ไม่ได้
รู้เท่าทันเพื่อขัดขวาง แต่ส่งเสริมกันทุกเรื่องไม่มีขัด แล้วก็จะออกแนวกะล่อน ๆ สร้างสีสัน(แต่สำหรับกุว่ามันเยอะไปนิด กุรำคาญ) คอยเป็นแม่สื่อ
แม่ชัก พูดจาเหมือนรู้ทันพระเอกไปทุกเรื่อง (ซึ่งมันก็รู้จริง ๆ ราวกับนั่งอยู่ในใจ) โดยเฉพาะเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ รู้หมดใครชอบใคร ใครแม่งแอบซ่อน
ความรู้สึกเอาไว้ อย่าหวังจะรอดสายตาไอ้นี่ ทั้งที่มันอายุน้อยกว่าพระเอกนิดนึงแท้ ๆ (ประวัติความเป็นมาของมันก็มีอยู่นะ แต่กุไม่ขอพูดถึง)
ความสมเหตุสมผลของเรื่องนี้ กุให้ 90/100 ให้เยอะนะ เพราะทำได้ดี สมแล้วกับที่เขาเป็นนักเขียนมีฝีมือรุ่นก่อนหน้า กุอยากให้เต็มด้วยแต่กุหัก
ทีเดียว10คะแนน ตอนพระเอกนางเอกแม่งเจอกันครั้งแรก กุว่าเหตุผลกลวง ๆ ไปนิด
คือนางเอกเป็นเจ้าหญิงที่กำลังรอเข้ารับพิธีเลือกคู่ ทีนี้นางกำนัลของนางเอกก็มาเล่าให้นางเอกฟังว่า มีผู้ท้าชิงเป็นลูกเจ้าของมณฑลนู้นนี้นั้น
นางเอกมันก็ไม่ได้สนใจอยู่แล้ว เพราะไม่อยากแต่งงานก็ฟังผ่าน ๆ นางกำนัลมันก็บอกว่า หลาย ๆ มณฑลลงทุนจ้างอาจารย์เก่ง ๆ มีฝีมือ
เพราะพิธีเลือกคู่จะต้องทดสอบทั้งบู้และบุ๋น ทีนี้พอมาถึงมณฑลยาร์ลาธ (กุอาจเขียนผิด) ที่พระเอกมันเป็นครูสอนพิเศษให้ลูกเจ้ามณฑลนี้ นาง
กำนัลแม่งก็บอกว่า เป็นอาจารย์ชาวทะเลทราย(พระเอกเป็นชาวทะเลทราย) แล้วนางเอกมันก็นึกแปลกใจว่า ได้ยินว่าคนทรายเป็นพวกป่าเถื่อน
ไม่นึกว่าจะมีความรู้ไปสอนหนังสือลูกเจ้ามณฑลได้ เลยสงสัย จนอยากไปเห็นหน้า แค่นี้เนี่ยนะ!! WHAT!? แล้วนางเอกมันก็ไปอารามแสวงบุญที่มณฑลนี้ ปลอมตัวเป็นนางกำนัลเพื่อไปแอบดูพระเอก คือมณฑลอื่นมันก็จ้างอาจารย์สอนพิเศษป่ะ แต่ก็ไม่เห็นสนใจ ทำไมต้องเป็นที่นี่ คือสำหรับกุเหตุผลมันเบา ๆ ไป แล้วที่หักคะแนนเยอะ เพราะมันเป็นฉากการเจอกันครั้งแรก เป็นสาเหตุที่ทำให้ได้เจอกัน น่าจะทำได้ดีกว่านี้
(ต่อด้านล่างนะ พื้นที่ไม่พอ)
สำหรับเรื่องความรัก เรื่องนี้มีแทรกเข้าไปตลอดนะ ตอนแรกไปอ่านคอมเมนต์ พวกนักอ่านบอกไม่ค่อยมีความรักเข้ามาเกี่ยวข้อง กุก็นึกว่าพะบู้
กันอย่างเดียวทั้งเรื่อง ปรากฎมีสอดแทรกไปตลอด แค่ไม่ได้มีฉากหวาน ๆ คนอ่านมันเลยว่าเรื่องนี้ไม่ค่อยเน้นความรักมั้ง ซึ่งกุว่าเน้นนะ หลาย ๆ อย่าง
ในเรื่องนี้เกิดขึ้นก็เพราะความรักเป็นเหตุ มีทั้งรักแบบในครอบครัว รักต้องห้าม (ไม่ใช่วายนะ) แล้วในเรื่องก็มีซีนอารมณ์ กล่าวถึงความรักพระ-นาง
ตลอด มันแค่ไม่ได้มุ้งมิ้ง หวานแหวว อะไรมากมาย สมกับสถานการณ์ชีวิตที่ค่อนข้างตึงเครียดของพระนาง จะให้มากัดกันง้อแง้มากหรือสวีทกัน
มาก ๆ แม่งก็ไม่ใช่ล่ะ แต่สำหรับกุ แม่งก็ยังไม่สุด ไม่ดีพอในบางซีน เดี๋ยวกุจะพูดรวมในข้อต่อไป
ทีนี้มาตอนใกล้ ๆ จบภาคแรก ก็เฉลยว่า พระเอกมีเวทย์มนต์ ผ่าม! ผ่าม! ผ้าม! กุว่าตรงนี้ก็พีคอยู่นะ เขาปูมาตั้งแต่แรกล่ะ แต่กุไม่ทัน
เฉลียวใจคิดเอง เลยพีคสำหรับกุ พระเอกมีมนต์ดำ แบบว่าแค่นึก เพ่งจิตให้แรงกล้า ก็จะสามารถฆ่าคน ๆ นั้น ได้ (ประมาณนี้นะ) สะเดาะกุญแจได้ อะไรได้ก็ว่ากันไป แล้วคนเขียนก็เฉลย(อย่างรวดเร็ว)ประมาณว่า พระเอกมันเป็นจ้าวแห่งมนต์ดำ (ตรงนี้ทำไมกุรู้สึก เบียว) ซึ่งพระเอกมันก็ยังเทพไม่พอ เริ่มภาคสองได้สักพัก มันก็พบว่าตัวมันเองสามารถรู้อดีตความทรงจำของคนที่มันสัมผัสตัวได้ (เป็นไงล่ะ) กลุ่มของพระเอกตอนนี้มีสามคนคือพระเอก นางเอก แล้วก็ลูกเจ้ามณฑลนิสัยไม่ดีที่แหกคุกออกมาด้วยกันได้ เพราะนางเอกให้ความช่วยเหลือ (ติดคุกเพราะอะไรไปอ่านกันเอา กุขี้เกียจสาธยาย) ที่นี้ระหว่างหนีการตามล่าจากคนทางวังที่จะมาตามตัวนางเอกกลับ มันก็ไปเจอหมู่บ้านถูกโจรปล้น แล้วมันก็แวะไปช่วยเหลือเขา (ทั้งที่ตัวมันก็ต้องรีบหนีไปให้ถึงมณฑลยาร์ลาธ ตามที่นัดกับเพื่อนที่แยกไปอีกทางไว้) พอไปช่วยก็ได้รู้จักกับคนอีกกลุ่มนึง แล้วพระเอกแม่งก็ไปแตะตัวเขา แล้วก็ได้รู้ความทรงจำในอดีตว่า ไอ้คน ๆ นี้กับกลุ่มของมัน ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการฆ่าพ่อแม่นางเอก เพื่อชิงบัลลังก์ โดยขุนนางชั้นผู้ใหญ่คนนึงในวังอยู่เบื้องหลัง(พ่อไอ้องค์รักษ์ฉลาดขั้นเทพ) คือเห็นครบจบในเซ็ตเดียว แทนที่จะให้ลุ้นกันหน่อยว่า ใครมันเป็นคนหักหลังนางเอก คิดจะฮุบบัลลังก์ แต่ภาคสองต้น ๆ พวกเฉลยแกนสำคัญของเรื่องล่ะ คือรีบเฉลยเพื่อ??? แง้ม ๆ ไว้ให้กุลุ้นหน่อยก็ได้ แล้วทีนี้พระเอกมันก็คิดได้อย่างถูกต้องอีกว่า อย่างดูลัส(องค์รักษ์ฉลาดขั้นเทพคนนั้น) คงไม่ได้มีส่วนรู้เห็นหรือร่วมมือกับพ่อแน่ ๆ (อืม...ซึ่งก็เดาถูกนะ)
ยัง! ยังไม่พอ! พระเอกแยกกับคนกลุ่มนั้น แล้วก็เลือกเดินทางไปทางเรือ ระหว่างนี้ก็มีการเปิดตัวละครใหม่สองตัว เป็นแม่มดดำ กับนักบวชขาว ซึ่งนักบวชขาวนี่มันเป็นพระมหาเถระ ของซาเกรดาโซล (เรียกยากอีกล่ะ กุอาจจำผิด) ซึ่งสองคนนี้แม่งก็เฉลยเลยว่า เป็นคนผนึกพลังมืดในตัวพระเอกไว้เมื่อสี่ปีที่แล้ว ตรงนี้เฉลยได้ กุไม่ซีเรียส กุจะได้รู้ว่ามันมีความสำคัญอะไร
กลับมาที่ไอ้พลังมืดในตัวพระเอก คือแม่งก็จ้องจะออกมาควบคุมร่าง มันเป็นเหมือนกับความต้องการลึก ๆในใจพระเอก ซึ่งมันจะบงการให้พระเอกทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ตัวเองปรารถนาโดยปราศจากความยั้งคิด เป็นจิตใจที่บิดเบี้ยวนั่นเอง แล้วมีฉากนึงที่พระเอกถูกควบคุม มันก็เลยทำตามใจตัวเอง ไปล่วงเกินนางเอก (แต่ไม่ได้ซั่มกันนะ) ก็เลยเหมือนจะทะเลาะกัน นางเอกก็กลัว ๆ พระเอกไปนิดนึง แล้วก็โกรธพระเอกด้วย ทีนี้แม่มดดำที่แม่ง
ก็รู้แทบจะทุกอย่างเกี่ยวกับตัวพระเอก ก็ไปหานางเอก ไปบอกสาธยายให้นางเอกฟังเสร็จสรรพเลยว่า นั่นเป็นจิตใจด้านมืดของพระเอกนะ บลา ๆ พระ
เอกไม่ได้ตั้งใจนะ บลา ๆ ต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับพระเอกหน่อยนะ(ทำนองนี้) บลา ๆ ปรากฏนางเอกก็หายงอน หายโกรธ แต่ยังกลัวอยู่
ภายในตอนเดียว ย้ำ! ภายในตอนเดียว ตอนเดียวเท่านั้น เหมือนจะหน่วง จะดราม่า แต่มันก็ไม่สุดอ่ะ คือแม่มดดำคนนี้เพิ่งเจอกันแค่สองครั้ง เขาพูดอะไรนางเอกก็เชื่อหมดเลยทุกอย่างเนี่ยนะ แล้วจะมีเหตุการณ์ประมาณนี้ในเรื่องหลายครั้งอยู่ ที่เหมือนพระเอกนางเอกจะโกรธ จะเข้าใจผิดอะไรกัน แต่สุดท้ายมันจะมีคนมาคอยเคลียร์ให้ตลอด (ไม่รวมลูกเจ้ามณฑลที่ควรไปรับจ๊อบเป็นกามเทพนะ นั่นก็ชงตลอด) กุก็เลยรู้สึกไม่ลุ้นกับความสัมพันธ์เท่าไหร่ จริง ๆ มันก็มีอุปสรรคนะ แต่มันมีคนคอยช่วยเคลียร์ตลอดไง แถมตัวละครหลายตัวในเรื่อง แม่งก็รู้จักรู้เรื่องพระเอกดี ยิ่งกว่าตัวมันเองอีก อะไรจะขนาดนั้น
(ต่อด้านล่างนะ พาร์ทสุดท้าย)
สรุปเถอะ กุพล่ามมาโคตรยาว ยาวมากด้วย
เรื่องนี้กุให้ 8/10 คะแนน ข้อเสียก็ตามที่กุได้จาระนัยไป สำหรับกุแล้ว ถ้าใครมองหา นิยายไฮแฟนตาซี มีเรื่องการชิงไหวพริบ ตัวละครฉลาด
ไม่เว่อร์วัง คนเขียนไม่มัวแต่อวยความสวยหล่อตัวละครด้วยสีผมสีตา และมีการวางปูมหลังตัวละครมาเป็นอย่างดี เรื่องนี้ตอบโจทย์
ที่ดีที่ชอบคือการบรรยายไม่เวิ่นเว้อ แต่ก็มีบางคำที่เผลอใช้ภาษาสูงหรือเปรียบเทียบเปรียบเปรยอะไรมากมายบ้าง แต่ก็อยู่ในระดับที่ไม่น่ารำคาญ
อ่านได้ เนื้อเรื่องเหมือนจะซับซ้อน ปมเยอะ แต่ไม่เลย เพราะมันเฉลยแม่งหมดแล้วจริง ๆ อย่างที่กุบอก สำหรับกุตอนนี้ก็จะรออ่านต่อไป มั่นใจ
ว่าคนเขียนอัพจบแน่นอน อ่านแก้เบื่อได้ไม่เลว แต่ถ้าปรับให้ไม่เฉลย เรื่องบางเรื่องเร็วเกินไป กุว่าเรื่องนี้มันจะน่าติดตามน่าลุ้นกว่านี้มาก บอกตาม
ตรงปัจจุบันนี้ กุก็ลุ้นแค่ว่า ตัวละครมันจะรู้ เหมือนที่กูรู้เมื่อไหร่ แค่นั้น เพราะกุรู้หมดแล้วไง คนเขียนบอก
ไปล่ะ ไว้มีอารมณ์ คันมือ จะยกเรื่องอื่นมาสับใหม่ ขอบคุณที่ให้พื้นที่กุได้พล่าม และอ่านที่กุพล่ามจนจบ มีโม่งเงี่ยนแล้ว งั้นกุเป็นโม่งคันนะ
โดย โม่งคัน
KY อะไรคือไฮแฟนตาซีวะ? มี World building มี กฎ มีสังคม มีตัวละคร มีภาษาสวย มีความเป็นผู้ใหญ่สมเหตุสมผล อะไรแบบนี้หรอ?
สับใช้ได้ แต่อาณาจักรสะกดงี้นะ
High Fantasy คือแฟนตาซีที่ไม่มีกฎหรือฟิสิกข์อะไรเกี่ยวกับโลกนี้เลย
ยกตัวอย่างง่าย ๆ โลกที่มึงใช้เวทมนตร์เป็นชีวิตประจำวัน โลกที่มีเกาะลอยฟ้า โลกที่เพียงแค่ออกจากบ้านไปก็เจอสัตว์ประหลาด โลกที่อาณาจักรถูกปกครองด้วยเผ่าต่างๆ ว่าง่ายๆ มันคือแฟนตาซีที่ไม่ได้ใช้พื้นฐานของความเป็นจริงเข้ามาพิเคราะห์ ยกตัวอย่างเช่น The lord of the ring ที่มีเวทมนตร์ มีสัตว์ประหลาด มีหลักการและเหตุผลในแบบแฟนตาซีเขา
ส่วน Low fantasy คือแฟนตาซีที่ยังเน้นพื้นฐานของความเป็นจริง มีเซ็ตติ้งเหมือนกับโลก มีขนบธรรมเนียมอิงพื้นฐานมาจากความเป็นจริง ยกตัวอย่างก็คือ Game of Throne ที่ใช้ระบบเจ้าขุนมูลนายแบบยุคฟิวดัล แต่เพิ่มอะไรน่าสนใจเข้าไปจำพวกเวทมนตร์ แต่เวทมนตร์ สัตว์ประหลาด แต่มันไม่มีผลกระทบกับธีมของเรื่อง แต่เป็นการใส่เพื่อเป็นสีสันเท่านั้น
เรื่องภาษาไม่เกี่ยวกัน ว่าง่ายๆ High fantasy คือโลกที่เราสร้างใหม่ทั้งหมด ไม่สามารถนำตรรกระในโลกเดิมมาใช้ได้ ส่วน Low fantasy คือโลกที่ยังพอมีเค้าโครงคล้ายกับโลกของเรา แต่อาจจะแต่งเติมบางอย่างเข้าไปเป็นสีสันนั่นเอง
คำที่เขียนผิดบ่อยพบมากในเด็กดีและพบบ้างในโม่ง
เวทย์มนต์ คือ ผิด ที่ถูกคือ เวทมนตร์
ผูกพันธ์ อันนี้ผิด ต้องเขียนเป็น ผูกพัน
บางคนอาจเผลอพิมพ์ผิด บางคนก็เข้าใจผิดเลย ใครยังเข้าใจผิดอยู่ แก้ไขใหม่นะ
>>584 Harry เป็นอะไรได้ไม่มากไปกว่า Shit fantasy ว่ะ ทั้งเซ็ตติ้ง ทั้งเนื้อเรื่อง เหตุผล
ตรรกะรองรับ เผ่าพันธ์ ระบบการใช้งานเวทมนตร์คาถาอะไรนี่ถือว่าเดนมาก พยายามอ่านให้สนุกก็ไม่สนุก แต่ก็ต้องอ่านเพราะเสือกตั้งเป็นงานส่ง ได้แต่คิดในใจตอนอ่านเล่มจบว่า "ทำไมกูไม่เลือกเรื่องอื่น"
กูมั่นใจว่า เด็กดีเขียน low fantasy ไม่ค่อยเป็น
low fantasy ก็วรรณคดีไทยหลาย ๆ เรื่องไง อย่างพระอภัยมณีเงี้ย
>>585 กูถึงนับเฉพาะในโลกเวทมนตร์ไง ไม่ได้นับทั้งเรื่อง มันถือเป็นอีกโลกนึงไม่ต่างจากต่างโลกได้เลย
>>587 เผ่าพันธ์มันก็ใช้ Norm ทั่วไปนะ ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่หรือคิดเองเลย Elf ในเรื่องก็เป็น Elf แบบอังกฤษ Elf สวยหล่อที่ส่วนใหญ่คุ้นเป็น Elf ภาคพื้นทวีปที่โทลคีนแปลงโฉมอีกที
ส่วนเรื่องระบบเวทมนตร์มันกากเดนยังไงเหรอ ถึงกูจะคิดว่าคาถามันจะใช้ละตินแบบง่ายๆ ไปหน่อย แต่ก็ไม่ได้ทิ้งขนบพ่อมดแม่มดตามความเชื่อพื้นบ้านอะไร JK แต่งจากมุมมองคนอังกฤษแท้ๆ เลย พ่อมดแม่ดในเรื่องแทบจะเอามาจากคติชนของอังกฤษทั้งดุ้น ไม่ได้แปลกใหม่ตรงไหน
เห็นพวกมึงพูดถึง Low fantasyแล้วกุก็สนใจอยากอ่านบ้างแฮะ เพื่อนโม่งช่วยแนะนำหน่อย /กราบบบ
เรื่องเดียวสองโลกก็ปวดหัวตายล่ะ โลกนึง high อีกโลก low จะเลือกอันไหนล่ะ หรือ mid เลยล่ะ
พวกมึงดูมีความสุขกันดีนะ มีตั้งวงไฮโล
ลงชื่อ เซฮุน
โดยส่วนตัวแล้ว Low fantasy สำหรับบ้านเรานั้นค่อนข้างยากว่ะ คือวัฒนธรรมไม่ค่อยเอื้อและต่อให้เขียนได้ก็ไม่พ้นเรื่องผีสาง ถ้าถามว่า Low fantasy ของไทยเป็นยังไงนะ... กุแนะนำให้ไปอ่านเพชรพระอุมาโลด
หรือบางทีแนวนั้นอาจไม่ถูกจริตกุ กุเลยเขียนไม่ได้เหมือนกับนิยายจีนล่ะมั้ง
การเขียนแฟนตาซีที่ดี อย่าตีกรอบความคิดตัวเองมากเกินไป ไม่งั้น มึงจะยึดติดเรื่องเดิมๆไม่ต่างอะไรกับเด็กดีที่เขียนจีนโบราณเอะอะก็ NTR ฮ่องเต้
NTR = netorare = การแย่งแฟน/สามี/ภรรยาที่มีเจ้าของอยู่แล้ว
>>604 เราต้องการทราบความเห็นของคุณคนนี้ >>602 กูเกิลเคาะถามไปก็ไม่ได้ดีดออกมาเป็นความคิดเห็นของเขาไงคะ
>>605 คือในประวัติศาสตร์ฮ่องเต้ก็มีทั้งภรรยาหลวงและอนุอยู่แล้ว จีนโบราณนี่ไม่ใช่แค่ฮ่องเต้ ผู้ชายก็นิยมมีหลายภรรยา
เราเลยสงสัยว่า NTR ที่คุณหมายถึงคือเพราะนิยายในเด็กดีทำแบบนี้มันผิด หรือคุณหมายถึงคนที่ไม่เข้าใจเรื่องนี้และหาว่ามันผิดกันแน่
หรือถ้าเป็นเราอ่านไม่แตกเองก็ขอโทษด้วยค่ะ
>>606 มึงควรหัดถามให้เป็นนะ ไม่ใช่ให้เขาขยายความอย่างเดียว คือเขาอธิบายแล้วว่ามันคืออะไร
มึงควรถามว่า ในสังคมที่ยอมรับการมีเมียน้อย มีเมียหลายคน อันนี้นับเป็น notorare ด้วยไหม
เช่นมุสลิม เช่นฮาเร็ม เช่นจีนโบราณ เช่นฝูงสิงโต คำว่า NTR มันจำกัดใช้แค่กรณีสังคมผัวเดียวเมียเดียวหรือเปล่า หรือครอบคลุมหมด
เล่นชู้ มีกิ๊ก อ่อยเรื่อยเปื่อย วันไนท์แสตน Open relationship polygamy
ส่วนกูว่าฮ่องเตัมีเมียเยอะ ๆ ไม่ถือว่าเป็น NTR ว่ะ มันให้อารมณ์ฮาเร็มมากกว่า เพราะมันแฮฝปี้ทุกฝ่าย
NTR ที่แท้ทรูมันต้องปวดตับด้วย เช่น สนมคนนึงของฮ่องเต้ไปแอบเย็ดกับนายพล นายทหาร บลา บลา บลา
ไม่ก็นางเอกที่ควรจะได้เย็ดกับพระเอก แต่เสือกโดนตัวโกง/พระรองจับเย็ด และอาจติดใจ
ว่าง่ายๆ เปรียบคำแบบไม่เรียนรู้วัฒนธรรม ในสังคมของยุคก่อน
ใช้มุมมองคนปัจจุบันไปมองตัดสิน แบบโลกทั้งใบหมุนรอบตัวเอง
เรื่องมีเมียหลายคน ในประเทศแถบเอเซีย ถือเป็นระบบมาตราฐาน ของผู้ชายที่มากบารมีและเงินทอง
มันเกี่ยวกับผลประโยชน์ การเมือง ทายาทสืบสกุล การวางรากฐานให้ตระกูลตัวเองมั่นคงต่อเนื่องไปทั่วแคว้น
แบบราชวงศ์หมิงก็ให้ไปเป็นอ๋องตามเมืองสำคัญทางยุทธศาสตร์จุดต่างๆ
คือเห็นคนอ่านที่ต่อต้านเรื่องฮาเร็มบ่อยมาก แต่คนเขียนที่ดีควรใช้หลักประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และสภาพสังคมในยุคนั้นๆด้วย
ไม่งั้นจะแสดงความด้อยในเชิงความรู้ออกมา หรือไม่สนใจก็เป็นพวกเปียวสนองคนอ่านไปวันๆ
อืมมม มู้นี้เปลี่ยนเรื่องเร็วกันดีแฮะ
ถ้าพูดถึง NTR สิ่งแรกเลยก็คือมึงต้องไปเอาเมียคนอื่นว่ะ ถ้าเป็นนางสนมนางกำนัลอะไรนั่นไม่นับ แต่จะนับเป็นฮาเร็ม
อย่างของเอเชียโบราณ ฮ่องเต้ มุสลิม สิงโต อะไรพวกนี้ไม่นับเป็น NTR แต่มันเป็นฮาเร็มว่ะ
ทว่าถ้าหากฮ่องเต้ เสือกหน้ามืดใช้อำนาจไปเย็ดเมียท่านขุนพลเงี้ยะ อันนี้เรียก NTR ถ้าว่าง่าย ๆ การดูว่า NTR หรือไม่ก็ดูตรงบริบทว่ามันไปผิดลูกผิดเมียชาวบ้านเขารึเปล่าต่างหาก
ตามหลักจะเข้าวังเป็นเมียฮ่องเต้ได้นี่ต้องผ่านกี่ด่าน
ยังจะต้องไต่เต้าขึ้นไปอีก
แถมมีระบบหมุนเวียนเลือกป้ายในแต่ละวันอีก
ระบบของฮ่องเต้จริงๆ มีหญิงงามมากมายให้เลือกเป็นพันๆ คนแล้ว ทุกปีมีเอาะๆเข้าวังตลอด
มันเกี่ยวพันหลายอย่างมาก ทางอำนาจการเมือง
จะมาหลงรักหญิงคนเดียว เทสนมทั้งวังออก ราชบัลลังก์ได้สั่นคลอนแน่
NTR คือ Cuckold ผิดลูกผิดเมียคนอื่น
ลงชื่อ เซฮุน
ใช้กันมั่วๆ อีกและสัส
NTR หรือ Cuckold มันหมายถึง"รสนิยมทางเพศที่ชอบเห็นคนรักของตัวเองโดนคนอื่นเย็ด"
จะเรียกนิยายเป็นแนว NTR ไหม ก็ต้องดูว่านิยายมัน"สร้างความรู้สึกว่าคนรักของตัวเอกถูกแย่ง"ไปได้รึเปล่า
ถ้าไม่มีจุดนี้ก็ไม่ต้องไปเสร่อเรียก NTR
>>*สะเหล่อ
พวกมึงเป็นเหี้ยอะไรกัน!!!!!!
เสร่อ (คำอาการนาม การเสร่อ หรือ ความเสร่อ)
(ภาษาปาก) เชย, ล้าสมัย
ผู้ชายคนนั้นนุ่งกางเกงเอวสูง เสร่อจริง ๆ
อ้างอิง ราชบัณฑิตยสถาน. พจนานุกรมคำใหม่ เล่ม 1 ฉบับราชบัณฑิตยสถาน. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ : ธนาเพรส, 2553. หน้า 159.
ลงชื่อ เซฮุน ควยยยยยนยย ควยยยยยยย อย่าลืมไปเผาพ่องมึงด้วยนะโง่ๆกันแบบนี้น่ะ โอ้ยยยยยสนสยยยยยย สัดดดดดดด
จริง ๆ ไม่ค่อยอยากจะร่วมวงแบบนี้นะ ขี้เกียจดีเบท ลองไปหาคำในนี้เอาก็แล้วกันว่ามันสะกดยังไง
>>615 ไม่ใช่ NTR เป็นตัวย่อของคำ 3 คำ มีความหมาย 3 อย่าง
1. ถูกแย่งแฟนผู้หญิง
2. ถูกแย่งแฟนผู้ชาย
3. Cuckold ชอบเห็นแฟนโดนคนอื่นเย็ด
แต่ละคำมีคำเรียกต่างกัน แต่ย่อว่า NTR ได้ เลยเรียกรวมกัน แต่ไม่ใช่คำเดียวกัน
>>620 อย่าไปคุยกับมันเลย รกบอร์ดเปล่าๆ
ส่วนคำว่าเสล่อ มึงถูกแล้วละ เพราะราชบัณฑิตยสถานปี 54 ยกเลิกคำว่า เสร่อไปแล้ว
แล้ว เสลอร์ปี้ ล่ะ
คราวหน้าเปลี่ยนหัวกระทู้กันมั้ย เพื่อน ๆ
จะ 1000 ละ ไหน สับได้กี่บทแล้ว
ฝนตกวะ เน็ทหอห่วยๆอยู่
ประกาศเลิกใช้อย่างกับรัฐธรรมนูญ ไอ้ฉิบหายนาซี เสร่อมุข
ลงชื่อเซฮุน
>>623 >>627 กูผิดที่ไม่รู้ว่ามันเลิกใช้ เรียกกูควายก็ได้ ถ้ามึงสบายใจนะ มึงเก่งว่ะ แปะๆ
สี่ตีนยังรู้พลาด กูผิดกูยอมรับ กูโง่เองที่เชื่อ
พจนานุกรมคำใหม่ เล่ม 1 ฉบับราชบัณฑิตยสถาน. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ : ธนาเพรส, 2553. หน้า 159.
มันยกเลิกตอน 54 ต่อไปไม่เรียกกูควายแทนเซฮุนก็ได้นะ
เหยียบเลย กูไม่แคร์ จะเอาแพะไหม? จะเอามาให้ขี่ ได้ทีแล้วนี่
ลงชื่อ เซฮุน 53-54 หกปีมานี่ ตอนนี้60 กูเพิ่งรู้ กูควายจริงๆว่ะ ฮ่าๆ
มึงไปไกลๆเหอะเกะกะคนอื่น จะควายจะเหี้ยก็เอาที่มึงสบายใจ ชาวโม่งรู้สันดานมึงหมดแล้วล่ะ
ในชีวิตกูไม่เคยทำเหี้ยไรพลาดเลยว่ะ แม่งเอ๊ยหน้าแหกสัดๆ แถมเป็นในโม่งอีก อายเขาฉิบหาย ออกตัวแรง ไม่รู้ว่า เสร่อยกเลิก ใช้ สะเหล่อกันแล้ว
ถ้าเป็นในชีวิตจริงคงอายแทบมุดหีพ่อหนีแน่นอน
ลงชื่อ เซฮุน อย่าเอาอะไรกะกูเลยมึง
ถ้าเคยอะไรกับกูก็ยกเลิกไป แต่ถ้าไม่เคยอะไรกะกูตั้งแต่แรกมันจะมีอะไรให้ยกเลิกวะ ถ้ามันไม่เคยมีคำว่า เสร่อ ในเล่มปี 53 กูคงไม่เสียหมาพวกมึงว่สไหมวะ?
กุคงตอบมึงครั้งสุดท้ายละนะ มึงยิ่งดิ้นยิ่งอุบาทว์ลูกตา คนพาลยังไงมันก็หาเรื่องพาลชาวบ้านได้เรื่อยๆ มึงจัญไรแล้วชีวิตดีขึ้นป่ะวะ คนสาปส่งแล้วมึงเจริญขึ้นมั้ย โตแล้วคิดให้เป็น อย่าให้ใครด่าว่าบุพการีไม่สั่งสอน
ทำแบบตำหนักเผือกค่ะซิส ชวนคุยเรื่องเป็ดย่าง โทรลกระเจิงเลย
>>537 คุ้นๆนะ ตอนเด็กดีเอาโม่งไปลง คนเขียน Tw ก็มารำพึงรำพันในบอร์ดแหละว่า ไม่รู้คนสับเขียนนิยายจบได้สักเรื่องยัง แถมไอ้สัญลักษณ์ XD นี่โครตคุ้นเลย แต่กุอาจจะคิดไปเอง แต่เห็นมารเทากำลังไปเพ้อในเฟสกลุ่มนักเขียนอยู่ว่าจะเลิกดีไหม ตอนแรกคนอ่านเป็นพัน แต่ตอนล่าสุดเหลือแค่30
ยอดวิวเยอะกว่าอีกยังจะบ่น -_-
กุ 641 เอง เดี๋ยวจะหาว่ากุใส่ความเอง (ขอเซนเซอร์ชื่อกับหน้ามันละกัน) ส่วนตัวกุว่าไม่มีประโยชน์ที่จะไปถามใครหรอก เพราะสุดท้ายพอเขาวิจารณ์ตรงๆ ชี้จุดแย่คนเขียนก็จะไม่ยอมรับ ฟังแต่ความเห็นบวกๆในเด็กดีที่กุว่าไม่ค่อยมีประโยชน์ ส่วนใหญ่ไม่ค่อยจริงใจ พูดชมๆเข้าว่าเผื่อได้เพื่อนมาอ่านนิยายตัวเอง
https://imgur.com/a/D2xo6
>>646 เปล่าหรอกเห็นคนสำนวนคล้ายๆ เลยนึกถึงมัน และนี่ก็เป็นตัวอย่างที่ดีของการตลาดดีจัดแต่คุณภาพงานเขียนดีไม่เท่า มักลงเอยแบบนี้แหละ ถ้าเส้นใหญ่อาจจะลงเอยแบบดรปอบ ปังแต่คนด่าทั้งบ้านทั้งเมือง ส่วนตัวกุเห็นว่างานมันพัฒนาได้อีก โลกที่มันสร้างมีศักยภาพมาก แถมตัวมันก็มีทักษะการเขียนพอตัวแต่ก็ช่างเถอะ...
พวกมืงคุ้นๆชื่อนิยาย จอมยุทธก๋วยเตี๋ยว ที่มาแปะเรียกร้องความสนใจในบอร์ดบ่อยๆ ป่ะวะ
มีใครสับมันบ้างยังวะ กุอยากรู้ว่ามันสนุกยังไง
https://my.dek-d.com/PMMchannel/writer/view.php?id=1694918
บันเทิงสัสๆ ล่าสุดพี่เครื่องต้อนให้อีจขกท.เผยล็อกอิน
กูฮาอิเครื่อง
แม่งมั่นใจมากว่าเวลาโดนแบนจะไม่ขึ้นข้อความแดงในเนื้อหานิยายแบบนั้น เพราะเวบไม่มีสิทธิ์แก้เนื้อหาเอง
กูนี่ร้องควายยยยยยยยยย
>>655 โดนแบนไปสองตอนมึง
ตอนหนึ่ง โดน เพราะ หำ กับ หมอย
อีกตอนโดนเพราะ คราง
คือกูเข้าใจเว้ย ถ้า หำกับหมอยจะโดนแบน
แต่กูแม่งไม่เข้าใจว่า "ครางชื่อข้าสิฮองเฮา"
คราง เนี่ยโดนได้ไง
อย่างที่สองกูอธิบายให้มึงเข้าใจนิดนึง นิยายเนี่ย พวกกูตำหนักเจิ้นช่วยกันยำ กูลอกเอาไปแปะเลนอาจพลาดคำไรไปบ้าง
เนื้อหาเหี้ยเลยแหละมึง แดกดันพวกเสิ่นเจิ้น เวรๆ ที่แม่งลงแต่ฉากเย
ถ้ามึงอยากอ่านฉากที่โดนแบน กูเอามาแปะให้อ่านได้
กูเป็นหนึ่งในผู้แต่งฉากนั้นเองแหละ
หี หมอย หำ เหี้ย รายงานตัวครบ แต่ไม่โดน
โดนคำว่าคราง
5555555
กุว่ามันเป็นระบบตรวจคำอัตโนมัติแน่ๆ และเขาคงคิดว่าไม่มีใครกล้าลงคำเหี้ยๆแบบนั้นแหงๆ
อีดึงสติคน1-2-3กับดึงสติแจ้งแบนนี่คนละคน ไม่ใช่รีเร้าเตอร์มาใช่ไหม กูแม่งเริ่มงง
อีฉากเยแม่งแรงจริง กูว่า wm คงขี้เกียจจะทำตัวแดงให้เมิงอ่ะเลยเอาคำว่าครางละกัน ใกล้ๆง่ายดี
/ทำปากเบะรูปตัวเอ็ม
ครางเหี้ยไรล่ะ คำว่าครางมันสองแง่สองง่ามนิ ? กูแต่งลงหมวดธรรมดา มีคำว่าครางยังไม่โดนเลย กูว่า WM ต้องแบนพวกมึงอยู่แล้ว แล้วหาคำมาอ้างแบนมากกว่า โดยเนื้อหา กับคำมันก็สมควรถูกแบนอยู่แล้วนะ แต่ไม่นึกว่าจะเอา "คราง" มาเล่นมึง
ถถถถถถถ พี่เครื่องนี่น่าจะอยู่บนโลกมาหลายปี ไม่รู้ไปมุดอยู่ไหนมา
ล่าสุดที่สับนิยายไปเมื่อไหร่กันวะ ทำไมกูย้อนอ่านไม่เห็น
ย้ายไปเสิ่นเจิ้นกันหมดแล้วหรอวะ มู้ร้างเชียว... ก็ดีถ้างั้นกุขอ KY เปลี่ยนเรื่องคุยนิด
ช่วงนี้กุรู้สึกเครียดว่ะ กุสังเกตแล้วว่า Webnovel ที่กำลังดีคือต้องมีความยาวประมาณตอนละ 2000 คำว่ะ
แต่กุติดนิสัยมาจากสมัยเขียนเป็นรูปเล่ม มันเลยตกตอนละ 4000 ซึ่งนับว่ายาวไปตลอดเลยเนี่ยล่ะ
กุพยายามหาทางแก้ แต่แก้ไม่ได้ซะที ทำไงดีวะเนี่ย...
>>671 มึงกลัวว่าเขียน 4000 แล้วจะลงไม่ทันใจคนอ่านหรือเปล่าวะ หรือกลัวจะโดนเบียดตกหน้าแรกชะมะ
ที่มึงแต่งต่อไม่ได้เพราะมึงไม่ได้วางพลอตไว้ดีพอหรือเปล่า กูว่ามึงไม่ควรเอาเรื่องข้อจำกัดตัวอักษรหีแตดเนี่ยมาขวางทางตัวเองนะ สำหรับกูนี่ไม่ใช่ข้ออ้างที่ทำให้เขียนนิยายต่อไม่ได้
มึงเอาเวลานั่งกลุ้มไปแต่งนิยายต่อ สต็อกเยอะ ๆ ไม่ต้องนับตัวอักษร พอใจแล้วมึงก็มานั่งไล่ตัดจบตอนที่มันสำคัญเป็นตอน ๆ จะสั้นหรือยาวก็ช่างแม่ง แต่เนื้อหาควรจะครบ เพราะในตอน ๆ นึง นักอ่านมันควรจะได้เนื้อได้หนังอะไรกลับไปบ้าง ที่มึงไม่เลือกลงแบบครึ่ง ๆ กลาง ๆ ก็เห็นด้วย ทำดีแล้ว
ติ้วหีบ้าง ชักว่าวมั่ง จะได้ผ่อนคลายนะเพื่อนโม่ง
by โม่งเงี่ยน
>>671 กุเห็นด้วยกับ 670นะ แต่ก่อนกุก็บ้าพลัง (ตอนนี้กุก็ยังเป็นอยู่) ตอนนึงของกุนี่คือ 6000+ คำ กุว่ามันเยอะมาก แต่กุก็ไม่รู้จะทำยังไงให้สั้นลง ทีนี้กุก็ลงอาทิตย์ละครั้ง มันก็ดีนะ แต่คนอ่านไม่ค่อยติดว่ะ แต่พอซอย แบ่งอัพทีละ 50% แล้วตัดจบพีคๆ แบบที่670บอก เห้ยแม่งโคตรเวิร์กว่ะ ตัดจบให้พีคสำคัญจริงนะเว้ย มันจะทำให้คนรอติดตามตอนต่อไป
>>672 เปล่า กุไม่ได้กลัวว่าจะลงไม่ทันใจ ไอ้ที่ลงทุกวันนี้กุลงตอนละ 4000 คำ อาทิตย์ละ 3 ครั้งด้วยซ้ำ
แต่กุสังเกตคือ มันยาว! ยาวเกินไปจนคนอ่านเขาเบื่อเว้ย
นอกจากนั้นยังมีปัญหาเรื่องจำนวนหน้ากระดาษด้วย อย่างไอ้ที่กุเขียนอยู่เนี่ยตอน 1 บท ก็ปาไป 15-18k คำอะ ถึงกุจะแบ่งตอนย่อยๆ เป็น 5 ตอนแล้ว แต่มันก็ยังยาวใช่มั้ยล่ะ
กุตั้งใจจะเขียนให้อ่านง่าย โดยเฉพาะกับเด็กเห่อหมอยที่อ่านน้อย กุเลยอยากจะหาทางตัดให้มันเป็นตอนย่อย ๆ นี่ล่ะ
แต่ก็เจอปัญหาคือใน 1 บทเนี่ย กุหาจุดตัดจบพีคๆ ได้ไม่บ่อย ซึ่งส่วนใหญ่กุก็ตัดแบ่งเป็นตอนย่อยๆ ไปแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกว่ายาวอยู่ กุเลยพยายามหาทางย่อยให้มันเล็กลงอีกยังไงล่ะ
>>674 กูเข้าใจละ
มึงน่าจะมีปัญหาเรื่องความกระชับเจ้มจ้น
งั้นกูจะบอกว่ามึงควรทำให้ย่อหน้าทุกย่อหน้ามึงมีความหมาย ไม่ใช่เขียนไปส่ง ๆ ยัดห่าข้อมูลที่ไม่น่าบันเทิงให้คนอ่าน(ยกเว้นแต่ข้อมูลพีก ๆ) ถ้าไม่ได้ทุกย่อหน้า ก็ทำให้มันมีได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ กูรู้ว่าพูดมันก็พูดง่าย แต่กูเชื่อว่าใครก็ทำได้ ขึ้นอยู่กับมึงจะยอมทุุ่มเทกับมันมากน้อยแค่ไหน (ใช้เวลานานขึ้นแน่นอน)
ตัวอย่างที่ดีเลยคือเกมออฟโทรนแบบซีรี่ย์
มึงจะสังเกตได้ว่าแต่ละฉากสั้น ๆ มันมีความหมายมีจุดพีกในแต่ละฉาก ย้ำว่ากูเห็นว่ามีทุกฉาก
มึงเขียนให้รู้เรื่องก่อนดีไหมถุย?
ตัดเป็นคำไปก็ได้ ง่ายดี ไม่ต้องสนใจฉากพีคไม่พีคหรอก อัพวันละตอน ตอนละ 2000 คำ กำลังสวย
เออ สงสัยอย่าง ทำไมถึงเรียกเขาว่าถุย?
กุไม่แย้งอะไรเขานะ แต่สำหรับกุ World building ที่ดีคือสร้างโลกสมเหตุสมผล ค้นคว้ามาดีแล้วมีอะไรแปลกใหม่ให้คนอ่านร้องว้าว แล้วนำเสนอให้คนอ่านสำรวจทำความเข้าใจมันผ่านทางตัวละคร หลีกเลี่ยงการ info dump คืออยากร่ายยาวประวัติศาสตร์อะไรก็ได้นะแต่ควรเขียนแยกไปอ่ะ แล้วเขียนคร่าวๆในเนื้อเรื่องหลัก ส่วนใครอยากรู้ลึกค่อยไปอ่านบทแยกแบบละเอียดอีกที
แล้วตอนนำเสนอมันทำได้หลายแบบล่ะควรเน้นอะไรที่มันพีคจริงๆ ส่วนบรรยากาศต่างนาๆ รายละเอียดสภาพความเป็นอยู่ บางทีไม่ต้องให้พระเอกเจอกับตัวก็ได้ เสียเวลาไปหลายหน้า ทำให้เนื้อเรื่องช้าจนคนอ่านบางคนเบื่อซะก่อน เช่นบรรยากาศเมืองเป็นรัฐตำรวจแทนที่จะเสียเวลามาบรรยายฉากตำรวจมาค้นบ้านไปเกือบตอนแต่ไม่มีผลไรกับเนื้อเรื่อง ลองเปลี่ยนเป็นนำเสนอแบบพระเอกเดินตามถนนในเมืองแล้วมีประกาศตำรวจตามเมืองว่าห้าม...... หรือเห็นภาพตำรวจกำลังจับผู้ลักลอบใช้พลังผิดกฏหมาย จากนั้นจินตนาการผู้อ่านจะต่อจิ๊กซอให้เอง มันอยู่ที่ศิลป์การนำเสนอของแบบนี้ ไม่ยืดยาวโดยเกินความจำเป็นและได้รายละเอียดครบ
เรื่องนี้กูเห็นด้วยกับพี่ถุย เรื่องการใช้ POV3 ของตัวละครในการ show แทนที่จะ tell ตรง ๆ ว่าตัวละครนายเอมาจากนครเย็ดมือ ที่มีกฎห้ามแตะตัวสาว ไม่งั้นจะโดนลงโทษหนัก ต้องชักว่าวใส่หลอดแก้วผสมไข่เพื่อสืบพันธุ์ นายเอจึงหวาดระแวงทุกครั้งที่มีหญิงสาวเข้ามาใกล้
เราก็ show แค่นายเอแม่งกลัวผู้หญิงมากผิดปกติ แล้วจะไปเฉลยโดยให้มีฉากนายเอกลับนครเย็ดมือ แล้ว show ฉากคนต่างเมืองโดนลงโทษเพราะไปแตะตัวผญ ไรทำนองนี้
แต่หนึ่งย่อหน้าควรมี POV ของตัวละครเดียวว่ะ ไม่งั้นมันจะแปลก ๆ ไปหน่อย สับสนตอนอ่านด้วยแหละ
สังเกตหลายทีละว่าพี่ถุยของกูน่าจะศึกษามาเยอะ แต่แม่งชอบใช้ต้นทุนและองค์ความรู้ที่มีได้แบบผิดที่ผิดทาง ไม่ค่อยลงตัว
แต่ world building ใช้ไม่ได้กับนิยายที่ใช้โลกจริงมาเดินเรื่อง เพราะคนอ่านอยู่โลกเดียวกับนิยาย กะอีแค่ไม่ได้เล่าผ่านมุมมองของคนอ่านเท่านั้นเอง
>>684 ใช้ได้สิ ขึ้นอยู่กับว่าโลกที่เราสร้างมันเป็นยังไง อย่าง John Wick โลกเบื้องหลังคืออะไร หากินกันยังไง มีหลักการอะไร ของพวกนี้อยู่ในโลกเราก็จริง แต่เป็นโลกที่เราไม่รู้จัก การสร้างโลกที่ไม่มีอยู่จริงให้ปรากฏขึ้นในนิยาย ถือเป็น World Building หมด
เอานิยายเป็นตัวอย่างก็ นิยายของ Stephen Kings มี Universe ของตัวเอง IT เดินเรื่องในในเมืองสมมุติเมืองหนึ่ง แต่ทุกคนรู้ดีว่ามันคือเมกา ไม่ใช่เมไก่
เมพิราบ นี่คือโลกสมมุติที่ใช้ World Building สร้างขึ้นมาเหมือนกัน แต่ทุกคนที่อ่านสามารถผูกโยงมันกับโลกจริงได้อย่างแนบแน่นเช่นกัน
มันเข้ามาดูด้วยว่ะ เห็นกอปไปแปะเองตอบเองอยู่
อธิบายภาษาคนไม่รู้เรื่องกูไม่ว่านะ แต่แม่งชอบเรียกร้องความสนใจ ทำเหมือนตัวเองรู้เยอะข้อมูลแน่นปึ้กแต่ก็ตกม้าตาย
https://www.dek-d.com/board/view/3797083/
>>686 พี่ถุยอาจมีเจตนาดีก็ได้ แต่เพียงแค่ว่าพี่ถุยคงลืมไปว่าในเด็กดอกมีนักเขียนใหม่เยอะ ควรค่อย ๆ อธิยายเป็นประเด็นไป เริ่มเท้าความว่า world building คืออะไร pov. มีอะไร ใช้แบบไหน แล้วค่อยนำประเด็นมารวมกัน คนอ่านจะได้ไม่สับสน แบบที่พี่แกอธิบายตอนนี้คือถ้าไม่มีความรู้อยู่แล้วจะไม่เข้าใจเลย เหมือนที่พี่เยี่ยจาก the king’s avatar ได้กล่าวไว้ “เขียนไกด์ให้คนที่ไม่ต้องการไกด์”
กูว่าบทความวิธีเขียนปล่อยให้พวก WM เขาทำดีกว่าว่ะ มีประโยชน์ทั้งนั้น
เรื่องนี้มีคนสับไปแล้วยัง
https://writer.dek-d.com/-NemuriHime-/story/view.php?id=1593950
รัชทายาทเสิ่นเจิ้นของพวกกูโดนแบนทั้งเรื่องเรียบร้อย
อันเชิญ
https://www.dek-d.com/board/view/3797378/
มึงก็
เล่นบรรยายฉากเยิ๊บกัน อย่างโจ่งแจ้ง มันก็ควรโดนหรอก
มันฮาก็จริง แต่เป็นฮามุขใต้สะดือ ล้วนๆ
คือจะแซะเรื่องอื่น แต่มันบรรยายตรงเกินไป ไม่รู้จักหาคำเบี่ยง หรือคำแทนที่ไม่หยาบ
ง่ายๆ ยังขาดทักษะอีกมาก
เขียนใหม่ดิสัด กลัวเหี้ยอะไร นิยายโม่งเหมือนไฮดร้า ยิ่งตัดยิ่งงอก
ลงชื่อ เซฮุน
พรุ่งนี้จะพูดถึงครางฮ่องเฮานั้นรึเปล่าวะ หรือควรเปลี่ยนเรื่องได้แล้ววะ
>>689 https://www.dek-d.com/board/view/3797415/ มาอีกล่ะ แฮร์รี่
จริง ๆ กูก็ชอบแฮรี่นะ แต่โลกนี้แม่งมีนิยายดี ๆ อีกเยอะแยะ เป็นคอลัมนิสต์ทั้งทีน่าจะช่วยหาอะไรใหม่ ๆ มาให้เด็ก ๆ มันเสพมั่ง
อัพตอนใหม่ ยอดวิวไม่เพิ่มแต่แฟนคลับดันเพิ่ม นานิเดอะฟัก!!
แฮรี่เป็นเสาหลักของเด็กดี เด็กดีของผมหลังใหญ่... ใหญ่มาก เราอยู่กันหลายคน ผมเกิดมาเด็กดีนี้ก็สวยงามมากแล้ว สวยงามและอบอุ่น แต่กว่าจะเป็นแบบนี้ได้บรรพบุรุษ ของแฮรี่ เสียเหงื่อ... เสียเลือด เอาชีวิตเข้าแลกกว่าจะได้เด็กดีนี้มา...
จน มาถึงวันนี้ แฮรี่ถูกมองไม่ดีในสายตาคนในเด็กดี ถ้ามีใครสักคนโกรธใครมาก็ไม่รู้ ไม่ได้ดั่งใจเรื่องอะไรมาก็ไม่รู้ และพาลมาลงที่แฮรี่ เกลียดแฮรี่ ด่าแฮรี่ คิดจะไล่แฮรี่ออกจากเด็กดี
ผมจะเดินไปบอกคนๆนั้นว่า ถ้าเกลียดแฮรี่ ไม่รักแฮรี่แล้ว จงออกไปจากที่นี่ซะ เพราะเด็กดีคือบ้านของแฮรี่ เพราะเด็กดีคือแผ่นดินของแฮรี่
ผมรักแฮรี่ครับ และผมเชื่อว่าทุกคนที่อยู่ในที่นี้รักแฮรี่เหมือนกัน พวกเราสีเดียวกันครับ... ศีรษะนี้มอบให้แฮรี่พ็อตเตอร์!!!
เอาแฮรี่มายกตัวอย่างก็ไม่ผิดหรอก แต่มันยกบ่อยเกิน ไม่แฮรี่ก็ดิสนีย์ จนกูสงสัยว่า wm ทั้งชีวิตอ่านแค่สองเรื่องนี้หรอ (แต่ดิสนีย์มีหลายเรื่องนะ กูแค่เปรียบเปรย) ทำไมไม่เอานิยายในเด็กดีมายกตัวอย่างบ้างล่ะ จะได้ช่วยโปรโมทนิยายในนั้นไปด้วย (แต่นิยายเด็กดีมีแต่นิยายคุณตะพาบ) แบบนี้เหมือนกับเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยว แต่ไปกินก๋วยเตี๋ยวร้านอื่นอะ
กูไม่ได้อยากพูดถึงบุคคลต้องห้ามนะ แต่กูสงสัยว่ะ ไอเรื่อง TW ที่โม่งเคยสับไปให้แม่ง 3/10 บอกว่าพล็อตเรื่องกากเดนมาก แต่ทำไมกูเข้าไปดูในหน้านิยายมัน ไม่มีใครคอมเม้นท์ด่าแม่งเลยวะ ถ้ามันห่วยเรี่ยดินขนาดนั้น เห็นมีพูดแต่ด้านดี หรือมันแล้วแต่คนอ่านวะ
>>714 โม่งวิจารณ์ที่แก่นไม่ใช่เปลือก ในเด็กดีมันมีที่แค่เห็นภาพประกอบอลังการก็บอกว่าดี โปรโมทเก่งหน่อยก็บอกว่าสนุกตามๆกันไป ถามหน่อยใครมันจะกล้าไปด่า พอติหน่อยแล้วเป็นไงนักเขียนด่ากลับบอกไม่ไม่สนจนคนส่ายหน้าขอบายดูจากที่มันตัดพ้อว่ายอดวิวลดลงเรื่อยๆ กะเทาะเปลือกออกจะเห็นความจริง ฝีมือมันไม่ได้ห่วยก็อยู่ในระดับพอใช้แต่ดันคิดไปว่าผลงานตัวเองระดับมาสเตอร์พีซ ไม่ฟังใครแนะนำไม่พัฒนา หลงกับคำอวยหลอกๆ ส่วนมึงก็ไม่ต้องเชื่อโม่งหรือคอมเม้นเด็กดี อ่านเองก็ตรัสรู้แล้ว
>>715 กูลองอ่านแล้ว คิดว่าเรื่องมันอยู่ในระดับพอใช้ว่ะ แต่แค่เฟลตรงลำดับการดำเนินเรื่องที่ไม่ทำให้คนอ่านอยากรู้ +ดำเนินเรื่องช้าไปหน่อย ถ้าพัฒนาเพิ่มอีกนิดกูว่าอาจจะรุ่งก็ได้ เห็นหลังๆ ไอ้ TW มันก็เริ่มยอมรับฟังความคิดเห็นแล้วนะ จากที่กูไปไล่ดูตามบอร์ดว่าฝีมือมันไม่ได้ขั้นเทพแบบที่มันคิด (เทียบกับที่กูตามไปอ่านทู้โม่ง 9) ซึ่งตรงนี้กูโอเคมาก ที่มันลด ego ลงได้สักที
>>716 ส่วนตัวกุว่ามีปัญหาเรื่องตัวละครด้วยว่ะ โลกหมุนรอบตัวพระเอก ทุกคนทำไรไม่ได้ หรือตัวร้ายกลั่นแกล้งพระเอกอย่างไม่มีเหตุผลนอกจากเพราะมันคือพระเอก แถมตอนพระเอกโดนหลอกนี่คือจากที่บิ้วมาแทบตายว่าพระเอกฉลาด แต่พระเอกกลับโง่ลงเหมือนพระเอกละครไทยอ่ะ หลายอย่างในโลกมันเปลี่ยนไปได้เฉย ไอ้กำไลตอนแรกบอกควบคุมการใช้เวท มาตอนล่าสุดบอกกำไลแตกเลยทำให้ใช้เวทไม่ได้ อีกเยอะว่ะแต่ขี้เกียจพิมพ์
จินกวงนี่เรื่องไหนว่ะ
ในลิสต์มีใครสนใจสับเรื่องนี้มั้ยวะ
https://writer.dek-d.com/popee/story/view.php?id=577118
>>723 สับเรื่องนี้มั้ย สั้นดี https://www.youtube.com/watch?v=VB91vBb-Mfw
>>722 เดี๋ยวขอเคลียร์งานก่อนนะ ถ้าใครอยากสับก่อนก็ได้ จะโม่งเงี่ยนหรือเซฮุนหรือใครในโม่งก็ได้ ตอนนี้กูติดงานไปต่างจังหวัด ออกพื้นที่บ่อยชิบหาย กูเศร้า
>>723 ในลิสต์มีตั้งนานแล้ว แต่กูถามว่าใครสนใจสับมั้ย มึงลองสับมั้ยอ่ะ กูอยากสับเองเหมือนกัน แต่ติดงานอ่ะ
สำนวนคนนี้กูจัดว่าดีอยู่นะ เนื้อเรื่องก็น่าสนใจ ถ้ากูจำไม่ผิดเหมือนเคยเอาอีกเรื่องมาให้โม่งสับด้วยปะวะ
>> 725 เดี๋ยวขอเวลาอ่านสองวัน ถ้ามึงยังไม่สับ เดี๋ยวกูสับให้เอง
by โม่งเงี่ยน
ถ้ากูจะสับ ขอหัวโล่งมากๆก่อน เพราะบางเรื่องทำลายเซลล์สมองกูบ้าง แดกบี 12 เหมือนไม่ได้ช่วยอะไร
เรื่องลาสศาสตร์หลอมวิญญาณเลิกแต่งเเล้วเหรอวะ
พูดถึงเรื่อง Show don't Tell กุได้ ref โคตรดีมาใช้อะ
บิเบลีีย เนี่ยทั้งที่เล่าเรื่องเป็นมุมมองบุคคลที่ 1 แต่ใช้ show ภาพชัดมาก แถมกระชับไม่ยาวไม่น้ำด้วย
ตอนนี้กุกำลังศึกษาสำนวนจากเรื่องนี้อยู่ ขอบอกว่าเป็นตัวอย่างดีใช้ได้เลย
ถุยน่าจะชอบ tell don’t show
มีใครเคยเขียนงานแบบ Dual Pratoganist บ้างอะ กูอยากได้คำแนะนำในการเขียนหน่อย หรือแนะนำเรื่องที่มีแบบนี้ก็ได้ ที่พระเอกทั้ง 2 คนต่างกันมากแต่ก็เดินเรื่องคู่กันได้ดีนะ ในเด็กดีกูนึกออกแค่ MSO ที่ีเป็นแบบนี้ หนังสือก็ปชต.บนเส้นขนาน นอกนั้นนึกไม่ออกวะ
ดู Bladerunner ฟินชิบหาย แม่งเอ๊ยเงี่ยน!!!
ลงชื่อ เซฮุน น้ำกามเหนียวกกน
หวัดดีนี่เซฮุนเอง
ตัวอย่าง Tell Don't Show ที่ดี มึงดูไว้นะ
ศาสตร์ลับหลอมวิญญาณ LAS alquimista (สำนักพิมพ์ ขึ้นหิ้ง)
Chapter 19
เส้นทางที่เปิดออก
การเก็บดอกจันทร์เสี้ยวเป็นหนึ่งในเทศกาลสำคัญของเหล่านักล่าวัตถุดิบ เนื่องจากดอกจันทร์เสี้ยวนั้นเป็นวัตถุดิบทำยาที่มีคุณสมบัติดีเยี่ยมไม่ว่าใครก็โหยหา ทั้งปีหนึ่ง ๆ ต้นจันทร์เสี้ยวจะออกดอกเพียงครั้งเดียวก่อนจะร่วงโรยไปอย่างรวดเร็ว...
ป่าซาครอนตั้งอยู่ใจกลางของประเทศเลโธเวน แม้จะมีสัตว์ร้ายระดับสูงอยู่ไม่น้อยแต่ก็เป็นที่นิยมสำหรับการฝึกฝน เพราะสัตว์ร้ายระดับสูงสุดผู้ปกครองป่าแห่งนี้เป็นสัตว์ที่มีสติปัญญาและรักสงบเช่นมังกรมรกตหรือมังกรสีชาด หากไม่มีใครรุกรานอาณาเขตของตนก็จะไม่ยุ่งกับสิ่งมีชีวิตอื่นนัก
นั่นรวมมนุษย์ด้วย...
แต่ถึงอย่างนั้นความอันตรายก็ยังมีอยู่เมื่อที่นั่นมีเหล่าภูติหรือนางไม้ที่พร้อมจะล่อลวงนักเดินทางไปสู่กับดัก หรือกระทั่งสัตว์ร้ายที่โหยหาอาหารอย่างหมีวาร์สซึ่งมีรูปร่างใหญ่โตและยังสามารถเคลื่อนไหวได้คล่องแคล่วรวดเร็วซ้ำยังสามารถใช้เวทมนตร์ได้
ถึงแม้ว่าต้นจันทร์เสี้ยวจะไม่อยู่ในโซนเสี่ยงภัยแต่ก็ไม่สามารถประมาทได้โดยเด็ดขาด เหล่านักล่าวัตถุดิบจึงจำเป็นต้องมีการเตรียมการอย่างดีที่สุด พร้อมรับสถานการณ์พิเศษอันอาจจะเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อโดยเฉพาะในเวลากลางคืนที่เหล่าสัตว์ร้ายออกหาอาหาร ดังนั้นยาที่จะขาดไม่ได้อย่างหนึ่งก็คือยาที่ช่วยเสริมการมองเห็นยามค่ำคืนชื่อว่า
ด้วยข้อจำกัดนี้ทำให้มีกลุ่มคนเพียงน้อยนิดที่พร้อมสำหรับการเดินทาง และมีน้อยยิ่งกว่าที่สามารถทำได้สำเร็จ และยิ่งน้อยไปกันใหญ่ที่จะมีสินค้าออกสู่ตลาดเพราะผู้ที่ได้มาครอบครองมักเก็บไว้ใช้เองเสียมากกว่า...
ซึ่งนั่นอาจไม่ใช่ปีนี้เมื่อปัจจุบันมีการค้นพบครั้งสำคัญสามารถผันเรเทียที่มีอยู่เต็มทุ่งนำมาใช้แทนราสเทเรียได้ด้วยการแปรธาตุ เมืองเทอร์รินมีผู้คนหลั่งไหลมาอีกครั้งเพื่อขอให้สมาคมแปรธาตุช่วยสกัดเรเทียให้ งานตอนนี้นับว่าล้นมือไปอีกเป็นเดือน อย่างน้อย ๆ ก็จนกว่าเทศกาลเทศกาลดอกจันทร์เสี้ยวจะสิ้นสุดลง
หลังจากลาสแจ้งข่าวกับตระกูลเดอมองค์ การต่อรองของลาสกับเบลซ์ที่โต้กันจนเกือบกลายเป็นทะเลาะไม่มีผลตั้งแต่ต้น เมื่อวันรุ่งขึ้นฟรานซ์ได้เข้าไปคุยกับศาสตราจารย์ทรินซ์ด้วยตนเอง ในเวลานั้นทรินซ์เองยังสรุปเอกสารวิชาการไม่เรียบร้อยด้วยซ้ำ แต่ฟรานซ์กลับเชื่อมั่นและยื่นเงื่อนไขให้ส่วนแบ่งร้อยละ
ข้อเสนอนั้นดีมากสำหรับสมาคมแปรธาตุทรินซ์จึงรับปากแล้วให้ฟรานซ์กลับไปร่างสัญญามาให้เรียบร้อย ในขณะที่ตนกำลังร่างเอกสารสำคัญเพื่อส่งสมาคมค้ายาเกี่ยวกับการรับรองคุณสมบัติเรเทียอย่างด่วนที่สุด ความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลเดอมองค์กับสมาคมแปรธาตุดีขึ้นตามลำดับ หลังจากนี้คงมีการติดต่อกันบ่อยขึ้นแน่
ทรินซ์ส่งเอกสารทางการไปยังสมาคมค้ายาในวันที่สอง สมาคมรีบตรวจสอบด้วยความตื่นเต้นและเตรียมประกาศข่าวสำคัญทันที แต่ก็โดนทางอาเธอร์เรียรั้งเอาไว้ก่อนสามวันเพื่อระบายราสเทเรียที่ถือครองออกก่อน วันนั้นอาเธอร์เรียรีบเทขายราสเทเรียทันทีจนตลาดปั่นป่วนไปหมด พร้อมกับไล่ซื้อเรเทียแทนแต่ก็ช้าไปเมื่อตอนนี้เรเทียราคาขึ้นไปบ้างแล้วเพราะเดอมองค์กว้านซื้อตั้งแต่วันแรกที่รู้ข่าวจากลาส... เวลานี้ไม่มีใครได้ยาราคาถูกกว่าเดอมองค์ และไม่มีใครขายเรเทียแปรธาตุแล้วถูกกว่าเดอมองค์ที่เก็บสะสมเรเทียมาตั้งแต่เป็นต้นหญ้าไร้ราคา...
เป็นครั้งแรกที่อาเธอร์เรียขาดทุนเพราะการกักตุนสินค้าตั้งแต่ก่อตั้งโรงเรียน และในทางกลับกันนี่เป็นครั้งแรกในรอบสิบปีที่สมาคมเล่นแร่แปรธาตุมีงานล้นมือ เหล่านักเรียนปีสูงและอาจารย์ต่างฮือฮายกย่องทรินซ์เป็นการใหญ่ที่สามารถคิดค้นเรื่องนี้ขึ้นมาได้ ฐานอำนาจและความเชื่อมั่นในตัวทรินซ์กลับมาอีกครั้ง แต่นั่นเป็นเรื่องเดียวที่ทรินซ์ลำบากใจ เพราะเขาอยากบอกทุกคนใจจะขาดว่าคนที่คิดค้นเรื่องนี้ไม่ใช่ตนแต่เป็นลาสกับอาจารย์ลึกลับ ติดก็แค่ลาสขอไว้ว่าไม่ให้บอกคนอื่นเรื่องนี้...
เมื่อเห็นรุ่นพี่หลายคนกำลังกรำงานหนักช่วยกันแปรธาตุเรเทียแล้วยิ่งรู้สึกว่าสิ่งที่ตนทำอยู่มันไร้สาระ
“เพราะการวาดรูปคือพื้นฐานของการเขียนวงเวทน่ะสิ” ลาสก้มหน้าบรรจงวาดเส้นโค้งอย่างใจจดใจจ่อ สายตายังไม่ละจากกระดาษ
ลงชื่อ เซฮุน จำไว้นะเด็กๆ
เขียนให้เข้าใจง่าย เขียนให้มีพลัง
Tell don’t show กูกำลังฝึกอยู่เพราะกูไม่ค่อยถนัด พยายามจะเขียนสุดท้ายก็วกกลับมา Show don’t tell
>>747 ประเภท] แจ้งโพส
[เหตุผล] โทรลป่วนกระทู้
>>>/webnovel/4393/737/
>>>/webnovel/4393/739/
>>>/webnovel/4393/740/
>>>/webnovel/4393/741/
>>>/webnovel/4393/742/
รบกวนแบนถาวรเลยได้ไหมครับ คนในมู้นั้นเบื่อมันเต็มทนจนเลิกไปก็หลายคนแล้ว
หลังๆ ขนาดไม่มีคนคุยด้วยก็คุยกับตัวเองได้ อยากให้จัดการขั้นเด็ดขาดซักที
ลงชื่อเซฮุน เห็นเพื่อนโม่งทุกข์กูก็เจ็บใจแทน คนมาคอสเป็นกูโดนแบนไปละ กูยังเกาะแจกันอย่างเหนียวแน่น
กูดูเบลดรันเนอร์มา เวิร์ลด์เซ็ตติ้งแม่งดีว่ะ บทพูดแม่งก็ดูดี แม้จะมีฉากแอ็คชั่นแค่หมอยหมา แต่ก็ทำให้กูสนุกได้อย่างน่าแปลกใจ ขอกูกลับจากตีกระหรี่แถวพัทยาก่อนนะ กลับถึงบ้านแล้วจะตั้งใจสับ
by โม่งเงี่ยน
กุแนะนำนะ จะไม่สนใจก็เรื่ืองพวกมึง
เวลาลงชื่อให้ลงเฉพาะตอนสับนิยายหรือจองสับนิยายพอ
ไม่งั้นมันจะเรื้อนนอกเรื่องกับไปหมด โม่งคุณภาพหายไปเยอะแล้ว
เกิดอะไรขึ้นวะ?
>>755 แฟนคลับเยอะ แต่ยังขาดอะไรบางอยู่ กระแสอุดหนุนซื้อเล่มจริงๆ ยังไม่ป้างเท่าไร
ที่ขาดจริงคือ ความรัก ฮาเร็ม โชว์พาวแบบทึ่งไปทั้งโลก(ของเค้า) อะไรแบบนี่
ต้องยอมรับตลาดอย่างหนึ่งว่า คนซื้อไม่ได้ต้องการเฉพาะการบรรยาย แต่เนื้อเรื่องต้องมีอะไรมากกว่านี้
อย่างแฮรรี่ ที่จริงยังมีแทรกเรื่องความรักของคนในกลุ่มตลอด แฮรรี่ รอน โฮไมนี่ กับตัวละครอื่น
กูคิดว่า มันเป็นสิ่งที่ขาดอยู่บ้างสำหรับเรื่องนี้
ซึ่งแนวแฟนตาซีในเด็กดีที่ได้ตีพิมพ์ จะมีอีกเรื่องที่ดูจะผสมปนเปได้ดีกว่า (เรื่องที่มีตัวเอกพยางค์เดียวเหมือนกัน)
จุดดึงดูดของนิยายสำหรับกูคือความรักนะ อยากให้ใส่มันเข้าไปในนิยายด้วย ไม่ต้องเน้นมาก แต่ให้รู้ว่ามี
คือความรักมันเป็นบ่อกำเนิดของความชิบหายอะ
นิยายของท้องฟ้ามันขาดๆ เกินๆ มาตั้งแต่แรกแล้ว ALL นี่เขียนยังกะ Summary บทบรรยายไม่ค่อยมี แต่เนื้อเรื่องสนุกดี มาเรื่อง Las บทบรรยายเยอะมาก เนื้อเรื่องงั้นๆ แต่ก็มีพัฒนาขึ้นหลายด้านนะ อยู่ระดับบนๆ ของเด็กดีเลย
>>759 ถ้าเทียบกับ ALL นะ เรื่องนี้บรรยายน้อย แต่อ่านแล้วกระชับ ได้อารมณ์กว่าในช่วงไคลแม็กซ์ ตอนจบภาคแรกนี่พีคจริงๆ มีประเด็นเรื่องความรักเข้มข้นด้วย ส่วน Las พอบรรยายมากไปแล้วมันไม่ให้อารมณ์ไคลแม็กซ์นะ
ถ้าเทียบกับหนัง ALL จะเป็น Fast ที่เร็วโฉบเฉี่ยว แต่ Las เป็น Inception ที่เนิบๆ แถมขาดเพลงของ Hans Zimmer
สงสัย สรุปว่าถ้า tell โดยไม่ show แล้วมันมีปัญหาตรงไหน มันไม่ใช่แค่ต่างที่แนวการเขียนหรือวิธีการนำเสนอเหรอ หรือว่าถ้า show โดยไม่ tell แล้วจะมีข้อดีอะไรเป็นพิเศษ
>>764 ส่วนตัวกูมองว่าขาดจุดเด่นของตัวละคร การปูพื้นฐานตัวละคร และการถ่ายทอดอารมณ์ตัวละครอะ หลายฉากที่ยังถ่ายทอดอารมณ์เศร้า ดีใจ เสียใจของตัวเอกยังขาด ๆ เกิน ๆ แล้วก็การกลั่นแกล้งตัวละครยังไม่สุด ถ้าตัวเอกมีการสูญเสียคนที่รัก ถูกใส่ร้ายโดยไม่มีความผิด ต้องฟันฝ่าอุปสรรคหลาย ๆ อย่างเอง เนื้อเรื่องอาจน่าสนใจกว่านี้ เพราะเท่าที่อ่านมา มีคนรักและช่วยเหลือตัวเอกเยอะมาก ตัวอาจารย์ก็คอยดูแลตัวเอกราวกับไข่ในหิน และที่สำคัญไม่มีตัวร้ายที่เด่นชัด เหมือนตัวร้ายทุกตัวพร้อมจะกลับตัวเป็นคนดี
>>765 show จะทำให้คนอ่านรู้สึกผูกพันธ์กับตัวละคร และถ่ายทอดอารมณ์ ความรู้สึกตัวละคร ได้ดีกว่า tell เหมาะสำหรับเรื่องที่เน้นการกระตุ้นอารมณ์คนอ่านเป็นพิเศษ ส่วน tell จะเน้นการเดินเรื่องไว เหมาะกับการบรรยายฉากสรุปที่เน้นคนอ่านให้เข้าใจเนื้อหาก็พอ ส่วนใหญ่จะใช้ในกรณีที่เรื่องยาวแต่ถูกบังคับให้สั้น (ประมาณ 6 เล่มจบแล้วถูกบีบให้เหลือ 3 เล่มไรงี้) หรือฉากสุดท้ายของภาค แต่ก็นำมาใช้กรณีจบพล็อตย่อยหรือส่วนที่เน้นการอธิบายประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ ระบอบสังคมได้เช่นกัน
กดผิด
แต่พอบทมันยืดๆ แล้วอารมณ์มันไม่ต่อเนื่อง กว่าอารมณ์ร่วมใหม่จะมา อารมณ์ร่วมเก่าก็หมดไปแล้ว
ลาก่อนบอร์ดนี้ หลังจากสิงมาตั้งแต่บอร์ดแรก แต่ตอนนี้คงเน่าเกินกว่าจะกลับมาเหมือนยุคแรกๆล่ะ กุเจอที่สิงสู่ใหม่ล่ะบายย
กุขอบ่น... เด็กเห่อหมอยนี่มันอ่านข้ามสินะ?
กุอธิบายเอาไว้ซะดิบดีแล้วว่า ทำไมพระเอกถึงสู้ตัวร้ายไม่ได้ ก็ยังไม่วายมีเห่อหมอยมาเม้นท์ว่ากากอีก
เลือกว่าทำใจปล่อยให้พูดไป กับ ถ้าเขียนด่าแรงนักก็ลบเมนต์ออกไป ไม่งั้นจิตใจเขียนต่อไม่สนุกพอดี
กุสงสัยอยู่อย่างนึง ทำไมนิยายหลายเรื่องในเด็กดีที่มีตัวเอกเป็นผู้ชาย พอมีตัวผู้หญิงเข้ามาในเรื่องมายุ่งเกี่ยวกับพระเอกต้องมีคอมเม้นว่าเกลียดอีนี่ รำคาญอีนั่น เอาอีนู่นออกไป ทั้งที่กุอ่านยังไงก็ไม่ได้รำคาญอะไรเลยซักนิด แต่พอเป็นตัวผู้ชายทำมั่งแถมน่ารำคาญกว่าเยอะก็ไม่เห็นแมร่งจะโวยวายกัน
>>776 พลังวาย กล้าแสดงออกและทุ่มเทกว่าสายอื่นไง ไม่งั้นนิยายวายจะมีกระแสด้านการซื้อจริงสูง ในระดับที่สายแฟนธรรมดาสู้ไม่ได้แล้วในตอนนี้
พวกสายปกติเค้าอ่านกันแบบเงียบๆ แล้วเมนต์ให้บ้างนิดหน่อยไม่เท่าไร
แต่สายวายปกติจะเมนต์ให้มากกว่าสายอื่นเยอะมาก เทียบกันได้เห็นชัด
คนเขียนสายแฟนที่ทำหนังสือออกขายแล้ว จะนกฮูก โลกลัลลา พากันหนีไปเขียนวายเป็นหลัก
ถ้าสังเกตจะเห็นตรงนี้และรู้ว่า จำนวนเมนต์และผลตอบรับ มากกว่าเขียนแฟนปกติมากกว่ากันเยอะ
กูเห็นมีคนลงชื่อจะสับนิยายไว้ ไปไหนแล้ววะ
กูจองเรื่องนี้นะ ชอบว่ะ
น่าจะสับได้ประมาณสุดสัปดาห์นี้นะจ๊ะ
https://writer.dek-d.com/popee/story/view.php?id=577118
by โม่งเงี่ยน
https://my.dek-d.com/guillietsig/writer/view.php?id=1401317 กูจองเรื่องนี้
>>783 มีคนเอาเรื่องที่เราอวยมาสับด้วยแหะ เห็นด้วยว่าเรื่องมันไม่สงครามเท่าไหร่ คาดว่าคีย์เวิร์ดของเรื่องน่าจะเป็น ตำนาน กับ บัลลังก์มากกว่า
ส่วนพระเอกลูกใคร เฉลยเร็วอาจจะเพราะคนเขียนไม่นึกว่ามันเป็นความลับก็ได้ว่ะ เพราะใครอ่านภาคหนึ่งก็จะรู้อยู่แล้ว แล้วมันก็มีอะไรมากกว่านั้นมาเฉลยตอนท้าย ๆ ภาคสองด้วย
>>791 กุเป็นคนสับเอง ทุกวันนี้ก็ยังตามอ่านอยู่นะ เมื่อเช้าเพิ่งอ่านตอนล่าสุดไป ตอนที่กูสับนั่นอยู่กลาง ๆ ภาคสอง แต่พอมาตอนนี้ เหมือนนักเขียนจะไม่เฉลยว่าจริง ๆ พระเอกแม่งเป็นลูกใคร มันก้ำกึ่ง เพราะแม่พระเอกแม่งก็ไม่รู้(กรรม) แต่ภาคสองมันก็มีปริศนาอะไรใหม่ ๆ งอกขึ้นมาใหม่ แทนที่อันเก่า ๆ ที่นักเขียนรีบเฉลยเร็วไป สำหรับกุเรื่องนี้ก็โอเคอยู่ แต่ถ้ามันเปลี่ยนชื่อเรื่องเอาคำว่า 'สงคราม' ออกไป ก็น่าจะดีกว่านี้ แว่บแรกที่อ่านยังแอบคิดเลยว่าชื่อเรื่องแม่ง แหม่ง ๆ
>>792 กุเห็นด้วยชื่อเรื่องแม่งไม่น่าดึงดูดสัส ๆ ถ้าเพื่อนโม่งไม่เอามาแปะ แล้วไปมีคนเมนต์ต่อว่าเรื่องโปรด กุก็คงไม่คลิ๊กเข้าไปอ่านตอนแรก ได้นิยายน่าอ่านอีกเรื่องล่ะ
ทำไมระบบใหม่มันมีดราม่าเยอะจังวะ
เห้ย ๆ กูขอโทษที่ต้องโยงเข้ามาหามันอีกแล้วว่ะ แต่กูอดไม่ได้จริงๆ
https://www.dek-d.com/board/view/3798958/
เมนต์ที่8
>>794 เรื่องภาคหนึ่งมีอยู่ว่า แม่ราชาเมืองถูกตีแตก ครอบครัวตายหมู่ ถูกลากมาเป็นชายา มีลูกคือราชา ก็เกลียดทุกคนมาก ดันลูกตัวเองเป็นราชา ทำสัญญากับอสุรเทพให้มีหญิงมนตร์ดำเกิด (เอานางกำนัลให้นักโทษหลายคนรุมโทรมในฤกษ์จนท้อง) จะให้ลูกแต่งกับเด็กนั่นมีหลานเป็นเด็กมนตร์มืดแบบเทพ ๆ (ก็คืออาเมียร์) แต่นางกำนัลหนีไปได้ ไปคลอดลูกหน้าบ้านขุนนางไร้บุตร เลยกลายเป็นลูกบุญธรรมชีวิตดี๊ดีไป--นั้นคือสิมา
พ่อราชาทำนางกำนัลอีกคนท้องไล่เลี่ยชายา ถูกตามฆ่า แต่นางคนนี้ก็หนีมาได้ ออกมาเป็นซิอ์บุล ตอนนั้นชื่อเนมอส ไม่รู้ชาติกำเนิดตัวเอง (ความแตกตอนหลังเพราะหน้าเหมือนพ่อเกิน ชายาจับได้)
ช่วงใส ๆ ราชากับเนมอสเพื่อนกัน เนมอสกับสิมาแฟนกัน วิ่งในทุ่งลาเวนเดอร์สักพัก อิแม่ตัวร้ายรู้เรื่องก็พยายามฆ่าเนมอสเรื่อย ๆ + เอาสิมาให้ลูกตัวเอง ราชาก็ชอบสิมานะ แต่ก็รักเพื่อนก็ขวางแม่เรื่อย
จนเนมอสถูกส่งไปรบ มีข่าวว่าตาย สองคนที่เหลือก็เสียใจ อิแม่อาศัยช่วงลูกเศร้าวางยาปลุกแม่งเลย แล้วขู่ฆ่าพ่อแม่สิมาด้วยมั้ง เลยจับสองคนแต่งงานกันได้ (แต่ราชาเมียการเมืองเพียบเลยนะ)
สิมาก็เกลียด ประชดด่าราชาไปเรื่อย ราชาก็อดทนอยู่ แต่นางมีภาคมืด "อีกคน" ที่จะคอยโผล่มายั่วราชากับวางแผนสังหารโหดนางสนมที่ตีกันในวังด้วย ตอนแรกสิมาภาคจริงก็ไม่รู้ พอราชาบอกก็หาว่าโกหกอีก ราชาก็เริ่มโมโห มึงจะเอาไงแน่ เดี๋ยวด่ากูเดี๋ยวยั่วกู
ข่าวความโหดสิมาไปถึงเนมอสที่อยู่ทะเลทราย เลยวิ่งมาหาสิมา พอเล่าสิมาก็ไม่เชื่อ+จำไม่ได้ว่าตัวเองจะโหด วิ่งไปหาราชา พอดีเป็นคืนฤกษ์กำเนิดเจ้าชายแห่งความมืดอะ สิมากับราชาเถียงกันจบด้วยถูกข่มขืน กลับไปที่ห้องเจอเนมอสคู่นี้ก็ตกลงใจแต่งงานกัน มีอะไรกัน แล้วฆ่าตัวตายคู่เลยจ้า
ปรากฎไม่ตาย ท้องอีกต่างหาก เล่มหนึ่งจบแถวนี้ เรื่องมี 2 เล่ม
นั่นแหละ ทุกคนคิดว่านั่นลูกตัวหมด รักสุด ๆ จนอาณาจักรถูกพวกสุริยเทพตีแตก
เพราะฉะนั้นไม่มีใครรู้ความจริงจ้า นอกจากจะตรวจดีเอ็นเอ คนเขียนยังไม่รู้เลย แต่นางบอกว่าอยากให้เป็นลูกเนมอสเลยบอกว่าตาเหมือน ส่วนกูสงสารราชาเลยอยากให้เป็นลูกราชามากกว่า
>>804 มึงเรียบเรียงได้ดีมาก กุนับถือเลย ส่วนตัวกุเรื่องเป็นลูกใครไม่ค่อยซีเรียสเท่าไหร่ แต่แอบเอนไปทางซิอ์บุลนะ กุนึกถึงที่พระเอกมันดื้อกะซิอ์บุลช่วงแรก ๆ แถมอะไร ๆ เสด็จพ่อตลอด ซิอ์บุลมันก็สะเทือนใจ แต่แม่งราชาก็น่าสงสาร ตรงนี้กุการออกแบบตัวละครของเขานะ ทำให้กุเห็นใจทั้งสองฝ่ายได้
>>805 กุไล่อ่านอยู่ ถ้าดีก็จะบอกต่อเพื่อน ๆ เหมือนกัน
ซิอ์บุล? ภาษาอะไรวะ มันมีรากศัพท์มาจากอะไร ทำไมทัณฑฆาตถึงไปอยู่บนอ.อ่างวะ
ถ้ามีที่มาของชื่อนี่พอเข้าใจได้ แต่ถ้าใส่เก๋ๆ กูว่ามันดูเบียวๆ
>>810 ไม่ใช่อ่านยากหรอก แต่อ่านไม่ได้เลยมากกว่า
อย่าง>>808 ซิอ์บุล ทัณฑฆาตคือไม่ออกเสียง แต่ ซิอ มันไม่ควรออกเสียงอยู่แล้ว จะอ่านว่า ซิ-อะ ก็ไม่ได้ หรือถ้าจะเอาตามภาษาอาหรับ ต้องเป็น ซิ'อฺบุล ใช้ตัว ฺ พินทุทำให้เป็นภาษาอาหรับไป อย่าง อัลลอฮฺ
มีอีกทางคือทัณฑฆาตต์มีให้รู้เวลาผสมคำว่าต้องออกเสียงตัวนี้ด้วย อย่าง การันต์ เสียง การัน ถ้า + -า ก็คือการันตา ไม่ใช่การันนา กูไม่รู้นะว่าภาษาโลกนั้นเป็นยังไง แต่ดูแล้วยังไงก็ไม่ใช่
การคิดภาษาไม่จำเป็นต้องสะกดให้หลุดโลกเสมอไปนะ แค่ออกเสียงตามที่คิดให้ได้ก็พอ ลองถามคนเขียนกูว่ายังไงก็ออกเสียง อ ใน ซิอ์บุล ไม่ได้อยู่ดี ในเรื่องนี้แนะนำให้ดูลวิตเป็นตัวอย่าง ไม่จำเป็นต้องอ่านยากก็สวยได้
เอิ่ม... กุ KY นอกเรื่องนิด ดูเหมือนว่าระบบแจ้งเตืิอนใหม่ของเว็ปเด็กดอยจะมีปัญหาซะแล้วว่ะ เห็นว่ากำลังรีบแก้เลยด้วย กุอัพตอนใหม่ไปเมื่อวันจันทร์ แต่ไม่ขึ้นแจ้งเตือนซะงั้น มีแค่คนที่ตามไลท์กุในเพจเท่านั้นที่รู้ว่าอัพตอนใหม่
ก็ว่าทำไมเปิด dash board มาตกใจคนอ่านหายไปหมด...
เห็นพวกึงถกปัญหาเรื่องชื่อเชียนยากอ่านยาก ละนึกถึงชื่อหนึ่งขึ้นมาเลย แอนนามารี Anna Marie ชื่อนี้มันแยกได้หรือไม่ได้วะ คือแยกเป็นชื่อแอนนา ชื่อกลางหรือนามสกุล มารี หรือรวมเป็นชื่อเดียวกันแต่แค่เขียนต่างกัน ละถ้าจะเรียกชื่อเล่นต้องเป็นแอนนาหรือมารี
นี่คือชื่อปกติสามัญที่จัดว่าโหลนะ บางคำยังมีการเรียกต่างกันไป ถ้าจะคิดชื่อให้แฟนตาซีหลุดโลก ถึงจะเมกเป็นภาษาในโลกนั้นเถอะ แต่มึงก็ต้องใช้อักษรของโลกนี้เขียน ก็ต้องดูความเหมาะเจาะด้วยแหละว่ะ ว่าหลักภาษานี้ต้องใช่สระยังไงหรือเขียนเป็นอังกฤษได้เสียงเก๋ๆแต่พอถอดเป็นไทยละต้องเขียนพิลึก ถ้าอยากจะติต่างให้เป็นภาษาโลกนั้นโดยอิงความหมายสามัญที่รู้จักกันในโลกเรา ก็ลองหาอะไรที่ใกล้เคียงกัน อย่างชื่อ ซาย เพราะถอดเสียงจาก ทราย ซึ่งมึงอาจโม้ว่าชื่อซายนี้เป็นภาษาชาวทะเลทราย มีความหมายว่าก้อนกรวดละเอียดหรือหินป่น ซึ่งคนอ่านบางคนอาจจะเก็ตได้เองว่าชื่อนี้มาจากการถอดเสียง ส่วนโลกในนิยายพวกตัวละครอาจคิดโอเวอร์ถึงจแมพลังที่ป่นหินแหลกเป็นผงได้
พูดถึงเรื่องชื่อตัวละคร กูพยายามตั้งชื่อให้เป็นชื่อคนปกติทั่วไปนะ ใครมันเป็นคนต้นคิดให้ตั้งชื่อประหลาด ๆ เพื่อให้ดูเป็นจุดเด่นวะ
>>813 1. ชื่อแฮร์รี่ พ็อตเตอร์ คนมันเรียกแฮร์รี่ หรือว่า พ็อตเตอร์ล่ะ?
2. มึงไม่ต้องยึดติดภาษาของโลกมึงขนาดนั้นก็ได้ มึงรู้ว่าออกเสียงได้กี่แบบมึงเอามายำเสียงแล้วสร้างตัวอักษรของมึงขึ้นมาเองก็ได้ ตัวอักษรก็เป็นแค่รูปลักษณ์มึง ที่สำคัญคือเสียง
3. จะถอดภาษาไทย์เป็นเสียงพิลึกแค่ไหนกูว่าดูจากเสียงเหมือนเดิม เสียงไหนไม่มีในภาษาไทยมันก็พิลึกหมดแหละ อย่างเสียงควบ ยวา อลา อะไรแบบนี้ ทสึก็แบบนี้ กูหัวไม่แล่นนึกตัวอย่างได้แค่นี้แหละ (และกูงงเช่นกันว่าซิอ์บุลออกเสียงยังไง) แต่ภาษาไทยค่อนข้างมีเสียงกับสระครอบคลุมการออกเสียงสามัญที่ใช้กันทั่วไปพอตัวนะ มีแค่บางเสียงบางภาษาที่ออกเป็นไทยไม่ได้ (แล้วบางที่เสียงเนี่ยมันเอามาเล่นได้เยอะนะ อย่างยกตัวอย่างในภาษาญี่ปุ่นมึงออกเสียง f คล้ายกับเสียง h อะไรแบบนี้ แต่เรื่องพวกนี้กูว่ามันเป็นส่วนประกอบที่ไม่ค่อยพูดถึงในนิยายนะ คิดไว้ได้แต่จะใช้หรือเปล่าก็อีกเรื่อง)
4. เรื่องใช้การถอดเสียงนี่กูไม่ค่อยอยากพูดเท่าไร มันแล้วแต่คนว่าจะใช้ภาษาอะไรเป็นรากฐานในภาษาใหม่ แต่สำหรับกูเพื่อความสมจริงถ้าภาษามันไม่ได้เกี่ยวข้องกันเลย เป็นภาษาของคนละโลก เอาความหมายหรือเสียงอะไรที่คล้ายกันมาใช้มันจะดูอิมพอสซิเบิลหรือเปล่าวะ แบบโผล่มาในตัวสองตัวจากหนึ่งพันคำยังโอเค มันบังเอิญ เป็นไปได้ แต่ถ้าถอดแบบมาหมดเลยแล้วบอกว่าในเนื้อ้รื่องนั้นไม่ได้เอาภาษานี้มาเป็นรากฐานการพัฒนาต่อ มันจะให้ความรู้สึกคล้ายเป็นโลกประดิษฐ์ ยังไงก็ไม่รู้ ไม่ใช่ว่าไม่ดีนะ ในทางศิลปะมันก็ดูโอเคอยู่ อะไรก็เป็นไปได้ แต่ถ้าจะเน้นความสมจริงกูว่าไม่เหมาะ ในเรื่องนี้ถ้ามึงใช้ภาษาไทยเป็นรากฐานคนอ่านเขาอาจไม่รู้สึกว่าเป็นต่างโลกเท่าไรนัก แต่ถ้าใช้ภาษาต่างประเทศที่คนไม่คุ้น ยังไงก็พอไปวัดไปวาได้ล่ะวะ (กูรู้จักภาษาเกมที่ชื่อภาษาฮิมนอสหรืออะไรสักอย่าง ทั้งตัวอักษรทั้งเสียงก็น่าสนใจ กูชอบ ไม่ได้ค้นนะว่าต้นแบบมาจากภาษาอะไรหรือเปล่า แต่พอไม่รู้ที่มาแล้วกูว่ามันเป็นแฟนตาซี ความรู้สึกคือมันน่าค้นหามากอ่ะ เอ้า! มึงใช้รูนเป็นต้นแบบภาษาใหม่ของมึงก็ได้ เอาง่ายๆ ไม่ต้องคิดสระกับเสียงมาก เอาสัญลักษณ์มาแทนเสียงในภาษาอังกฤษนั่นแหละ ศัพท์ก็ไปหาจากภาษาที่คนไม่นิยมใช้อะไรก็ได้ ภาษาไอริช ภาษาโปริชก็ว่ากันไป กูเกิลมีให้มึงหาการออกเสียงตัวอย่างก็เข้าไปดู ไปสร้างภาษาใหม่ในนิยายมาใช้ได้ง่ายๆ เลย แป้บเดียวก็ได้)
เอาง่ายๆ เกี่ยวกับซิอ์บุลไปด้วยเลยคือเหมือนมันจะเข้าใจการใช้ภาษาผิด คือกูว่าการใช้ภาษามันคือการที่มึงมีเสียงแปลกๆ มาแล้วมึงพยายามใช้ภาษาหรือตัวอักษรที่มีอยู่มาอธิบายเสียงนั้น ไม่ใช่คิดอยากจะสร้างคำยังไงให้ดูเท่ห์ๆ ก็ได้ เสียงเป็นยังไงช่างหัวมัน อันนั้นไม่ใช่ภาษา ภาษาเขียนเกิดขึ้นมาเพื่อสื่อภาษาพูดที่เกิดขึ้นมาก่อน ไม่ใช่เพื่อความเท่ห์
ซิอ์บุล ก็อ่านว่า ซิ บุน ว่ะ ไม่รู้ถูกหรือผิดเหมือนกัน กูเป็นพวกอ่านชื่อตามใจฉันมากกว่า บางทีเพี้ยนวรรณยุกต์ไปตามความคิดตัวเองเลย
พูดถึงชื่อที่แปลงมาจากโลกจริง คนเขียนเขาก็ใช้อยู่เหมือนกันนะ เช่นลูกพีรามาจากพีชงี้ แต่ชื่อคนเราว่าเขาพยายามทำให้มันดูอาหรับ ๆ สำหรับคนทราย ส่วนธีร์ดีเร (ขอสารภาพว่าจำชื่ออาณาจักรไม่ได้ เมื่อกี้ไปเปิดดู) ชื่อจากฝรั่ง ๆ
แต่เรื่องที่เขาได้ตีพิมพ์นี้พวกชื่อประเทศ/วัฒนธรรม/สถานที่อิงมาจากโลกเราเต็ม ๆ เลยนะ แต่แปลงชื่อไปหมด เช่นจีนเป็น จงกั๋ว อเมริกาเ็นลิเบอร์โล้ ไรงี้
พูดถึงชื่ออ่านยากกูขอยกให้ sherwood smith คนเขียน crown duel ว่ะ โลกนางชื่อ sartorias-deles สถานที่ชื่อ Athanarel, ama hazanth, bais, feleit, setazhia, selenseh redian, naidhiahi, telyerhas, eneh rual ฯลฯ มีอีกเยอะนะ อันนี้ตัวอย่าง กูอ่านไม่ออกซักชื่อเลย ได้แต่จำตัวอักษร ชื่อคนก็ประหลาดแต่จำง่ายกว่าหน่อย พระเอกชื่อ vidanric นางเอกชื่อ meliara (มีคนโพสต์ถามคนเขียนประจำว่าชื่อนั้นนี้อ่านยังไง)
พอมาเรื่องนี้กูเลยรู้สึกว่าแค่นี้จิ๊บ ๆ ล่ะมั้ง 555
>>818 มึงพูดแล้วเหมือนกูเอาอคติในหัวกูโยนออกไปได้ว่ะ แต่กูก็ยังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไรว่าใส่ อ์ ไปตรงนั้นเพื่ออะไร ส่วนชื่ออังกฤษถ้าเป็นชื่ออื่นๆ กูพออ่านได้นะ จะถูกหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่ naidhiahi กูคิดอยู่ว่ามันแบ่งคำกันตรงไหน เสียงควบหรือเปล่า หรืออ่านตามที่กูเข้าใจ กูเคยเห็นคำที่มันออกเสียงตัวอักษรตัวหนึ่งไปแล้ว แล้วมันก็เอาตัวเดิมนั่นไปใช้ออกเสียงต่ออีกเลยไม่แน่ใจ
ถามหน่อย Fredich มันอ่านว่า ฟรีดิซ หรือ เฟรดิซ หรือไม่ใช่ทั้งสองอย่างวะ ?
เห็นซิอ์บุลเต็มไปหมด แต่กูชอบ Artifact Hunter ของคนเขียนคนนี้นะ (ไม่มีอะไร มาแสดงความติ่ง 555555) แต่กลิ่นสำนวนเขาจะลวิตร์ ๆ หน่อย
https://www.behindthename.com/name/frederick
พวกชื่อน่าจะลองดูรากศัพท์เอาว่ามายังไง แต่ละชาติออกเสียงยังไง ชื่อที่ว่ามาใกล้เคียงสุดก็คงนอร์เวย์คือ FREDRIK ก็ลองไปหาดูว่าภาษานั้นเขาออกเสียงยังไงกัน
เขาตอบมาแล้วอะมึง
.
ชื่อนี้แปลงจากภาษาอาหรับที่แปลว่าหมาป่าค่ะ ไรท์เคยถอดตัวอักษรไปถามน้องที่เขารู้อาหรับ ตอนนั้นได้คำอ่านมาประมาณนี้ (อ เหมือนกลั้วในคอหน่อยๆ)
หลายปีมาค้นซ้ำ เห็นว่าคำว่าหมาป่าจะเขียนประมาณ (Al) Thi'b อัล ธิ อฺ บฺ (ธ ออกคล้ายตัว ซ และเหมือนมีเสียง ล เบาๆ ช่วงท้าย เลยถอดมาเป็นชื่อดังกล่าวค่ะ)
จริงๆ อาเมียร์ ถ้าอ่านตามหลักก็จะอ่านว่า อามีร์ ด้วยค่ะ แต่ไรท์ใช้จนชินแล้วก็คิดว่าไม่น่าจะเปลี่ยนแก้ละ
.
ตามนั้น
ตั้งว่าซิอุบลก็สิ้นเรื่อง มีน้องชื่อซิอุดรแถมไปอีกคน
>>845 งงสิครับ กูจะสับแม่งอยู่เนี่ย รอวันเสาร์ก่อน อีห่า ตัวละครสี่ห้าตัวแม่งใครพูดใครไม่พูดงงชิบหาย แม่งไม่กำกับชื่อด้วย ที่กูบอกชอบนี่คืออ่านแค่เกริ่น และเนื้อเรื่องคร่าว ๆ เหมือนจะโอเคนะ เดี๋ยวมาดูกันว่ากูแม่งตาถั่วเองมั้ย
แต่ถ้าเทียบกับยามกลีบฯ อีเรื่องนี้แม่ง second to none ในเด็กดีจริง ๆ กูอวยเรื่องนี้สุด ๆ เมนต์ให้มันบ่อยอยู่ เนี่ยกูรอดูว่าจะมีคนสับว่าไงมั่ง
by โม่งเงี่ยน
เดี๋ยวนี้ในเด็กดีทำไมมีแต่นิยายพล็อตเกร่อๆวะ มีแต่พวกนางร้าย นางร้าย ถ้าไปฝั่งแนวย้อนยุคก็จะมีแต่พวกย้อนมาเป็นคนไร้ค่าของตระกูล เกร่อมากๆ กูเห็นแล้วเอียน
บัลลังก์โลหิต โดย golfpoovapat
https://writer.dek-d.com/golfpoovapat/story/view.php?id=1705596
แบบนี้มันได้ด้วยเหรอ มันไม่เสี่ยงอะไรเหรอ หรือว่าเขียนได้?
มึง แบบนี้ก็ได้เหรอวะ
https://writer.dek-d.com/mathnee112/writer/view.php?id=1702287
ถถถ ละมีคนอ่านด่าด้วย โม่งปะนั่น
กูว่าปัญหาอยู่ที่ชื่อราชวงศ์วะ ถ้าเปลียนไปใช้ชื่อราชวงศ์ตรีศูลแล้วไม่ใช้พระยศแบบราชวงศ์จักรีก็ไม่น่ามีปัญหา
ดูเหมือนโม่งเงี่ยนจะไม่ใช่เซฮุนจริงๆ
ตามกฎของบอร์ด โทรลกลับมาใหม่ก็ไปขอแบนได้ทันที แค่นี้ก็หมดปัญหาแล้ว
พวกป่วนบอร์ด เกรียน
หวัดดีเพื่อนโม่ง กูเห็นเรื่องนี้น่าสนใจขอลัดคิวหน่อย ตอนแรกว่าจะอ่านให้จบรวดเดียว แต่ท่าจะไม่ไหว กูขออ่านไปสับไปละกัน เอาสัก 6 ตอนแรกพอ น้องคนเขียนน่าจะเป็นผู้หญิง กุไม่อยากจะหยาบคายเลยอีดอก แต่ต้องกลั้นใจ ถ้ามันมีที่ให้ด่าอะนะ
เรื่อง: princess of curse (ชื่อดูเช๊ยเชย)
ลิงก์: https://writer.dek-d.com/popee/story/view.php?id=577118
สถานะ: จบแล้ว
เกริ่นนำ
คือ มันเป็นบทนำ/เกริ่นนำ/คำโปรยที่กูค่อนข้างชอบ มันสั้น กระชับ บอกเล่าว่าจุดประสงค์คืออะไร ก็ง่าย ๆ อีเด็ก ชาร์มาลีน เลไอนา เฟส มาเพื่อล้างคำสาปห่าอะไรสักอย่าง ซึ่งน้องเฟสต้องแลกกับการหายไปจากความทรงจำของทุกคน? ยังไงวะ นี่กูจะอ่านถึงไหมเนี่ย อยากรู้ ๆๆ
พูดถึงเกริ่นนำหรือคำโปรย(มันอันเดียวกันป่าวกูไม่รู้นะ) ถ้ามึงหัดใช้ให้เป็นแม่งก็เรียกแขกเข้ามาอ่านได้ง่าย ๆ เลย ถ้านิยายคือหมอนวด เด็กเชียร์แม่งก็เป็นเหมือนคำโปรยหรือเกริ่นนำ ว่าหมอนวดคนนี้เด็ดแค่ไหน ดูแลดีเอาใจเก่งรึเปล่า ทั้งที่มึงก็ไม่รู้หรอกว่าหมอนวดแม่งดีจริงป่าว แต่เด็กเชียร์แม่งบิ๊วซะควยแข็งตั้งแต่ยังไม่ลงอ่างแล้ว มีหรือที่กูจะไม่ลองเข้าไปใช้บริการ
ซึ่งสำหรับกู อีคำโปรยนี่ถือเป็นศิลปะอย่างหนึ่งเลย กูเองก็ปลุกปล้ำกับมันมาตั้งนาน แต่ไม่เคยทำได้อย่างที่พอใจเลย กูคงแนะนำอะไรไม่ได้มาก เพราะกูยังไม่โปรตรงนี้ แต่จะบอกสิ่งที่ทำให้กูรู้สึกอยากเข้าไปอ่านเมื่อเห็นคำโปรยแทนละกัน
1. กูอ่านแล้วกูรู้เรื่องว่า ใครจะทำอะไร หรือเรื่องนี้มันมีจุดประสงค์อะไร
2. สั้น กระชับ ไม่มีภาษาเวิ่นเว้อ ไม่ต้องมีคุณศัพท์ขยายหีแตดอะไรโดยไม่จำเป็น ปล่อยให้หี ฟิต ๆ กระชับ ๆ เข้าไว้นั่นแหละ
3. ทิ้งคำถาม ให้อยากรู้ สงสัย ฉงน ว่าอ้าวแล้วมึงจะทำไงต่อ แล้วทำไมมันเป็นแบบนั้น อย่างที่กูสงสัยว่าอีเด็กเฟสจะหายไปจากความทรงจำของคนอื่นได้ยังไง
4. อิมแพคกับความรู้สึก เหมือนโดนนมตบหน้าแรง ๆ ซึ่งที่ผ่านมากูยังไม่เคยเห็นคำโปรยนิยายเรื่องไหนทำให้กูรู้สึกแบบนี้ได้ สำหรับกูถ้ามีข้อนี้ กูจะลืม 1 2 3 ไปเลย แต่ถ้าไม่มีอิมแพคมากนัก สมองกูก็จะ validate ว่าเข้า 1 2 3 ครบมั้ย
ยกตัวอย่างประโยคที่ทำให้กูรู้สึกถูกอิมแพค
"Goodbye, mission control. Thanks for trying" ตอนแรกที่เห็นประโยคนี้ กูลองอ่านแล้วคิดตาม มันเหมือนกูอยู่ในสงคราม แล้วเสือกไปติดอยู่กลางดงศัตรู อีศูนย์บัญชาการแม่งก็ทู่ซี้จะช่วยกูให้ได้ โดยพยายามจะส่งคน หรือส่งห่าเหวอะไรมาช่วยก็ตาม ซึ่งกูคิดว่าแม่งก็ไม่เวิร์กทั้งนั้น แถมอาจจะสูญเสียหนักกว่าเดิม เพียงเพื่อจะมาช่วยกูเนี่ยนะ กูก็พระเอกพออยู่แล้ว มึงช่วยปล่อยระเบิดลงมาบึ้มกูกับพวกอีดอกที่ล้อมกูอยู่ไปเฝ้ารากมะขามด้วยกันซะเถอะ คือกูรู้สึกเศร้า หดหู่ และซาบซึ้งในความเสียสละไปด้วย แม่งแปลกมาก เพราะใช้คำแค่ไม่กี่คำเอง
จริง ๆ เรื่องการสร้างอิมแพคนี่แม่งก็ใช้ได้ทุกตอนในการเขียนนิยายแหละ แต่ปัญหาคือแม่งจะทำยังไงวะ นี่แค่ต้องระวัง tell don't show คำซ้ำ ฟุ่มเฟือย คำผิด บรรยายเวิ่นเว้อ พลอตตัน ฯลฯ ก็เครียดจนหีแห้งควยฝ่อแล้ว แต่กูจะบอกว่าพอพวกมึงเขียนนิยายถูกต้องตามหลัก(ที่ควรจะเป็น)แล้วเนี่ย เรื่องการสร้างอิมแพคหรือความประทับใจเนี่ย แม่งก็ถือว่าเป็นssของมึงเลย ซึ่งกูก็บอกเลยว่าตัวเองก็ยังไม่มีปัญญาสร้างอิมแพคขึ้นมาได้ดีพอ แต่กูก็พยายามหาวิธีอยู่ โดยการวิเคราะห์จุดที่ทำให้กูรู้สึกมีอารมณ์ร่วมแบบสุดขีดในงานของนักเขียนท่านอื่น ๆ เอา
ข้อดี: คำโปรยถูกใจกู
ข้อไม่ดี: N/A
ต่อนะ
Preface: Part Beginning of Myth
เปิดฉากด้วยการมีคนรายงานให้ท่านหญิง(เด็กสาว) ว่าจดหมายเชิญถูกไปครบแล้ว ซึ่งแม่งมีเสียงเอฟเฟคนาฬิกาเป็นแบคกราวด์ด้วย กูนี่พ่นลมออกจมูก แล้วพอแม่งมีเสียงเหง่งหง่างตามมา กูก็เอามือขึ้นทำ double facepalm น้องเบลขา...ไม่ดีเลยนะคะ เดี๋ยวพี่หยิกให้แก้มเขียวเลย บรรยายเป็นเสียงน่ารักกว่าเยอะเลยน้า เชื่อพี่เถอะ
ไอ้เสียงเหง่งหง่างเนี่ย มันเป็นเหมือนการตัดริบบิ้นเปิดงาน บอกกูให้รู้ว่าพันธสัญญาและคำสาปกำลังจิคัมแบก ('พันธสัญญา' ไม่ใช่ 'พันธะสัญญา' นะ)
อีขี้ข้าก็เตือนท่านหญิงว่าถอนตัวเหอะ อีท่านหญิงก็ต้องปฏิเสธตามระเบียบ บางทีถ้ามึงเชื่ออีขี้ข้าตั้งแต่แรก เรื่องชิบหาย ๆ อาจจะไม่เกิดขึ้นก็ได้นะ แต่ก็อย่างว่า ความชิบหายคือเสน่ห์ของนิยาย เรื่องไหนแม่งมีแต่สันติสุข มันจะไปสนุกอะไร สรุปคือตนเราแม่งชอบเสพความชิบหายของชาวบ้านนั่นแหละ
คือตอนนี้หลัก ๆ คือจะ info dump เรื่องบัตรเชิญสีทองที่สาส์นคนละสีกัน ก่อนจะเข้าเรื่องนิยาย กูขอเน้นคำว่า "สาส์น" สักนิด กูสะกิดใจคำนี้มาก ลองอ่านต่อนะว่าจะใช้ให้ถูกต้องทำไง http://www.royin.go.th/?knowledges=สาสน์-สาส์น-และ-สาร
แต่กูรู้พวกมึงอาจจะขี้เกียจ กูสรุปให้ว่า เราควรใช้คำว่า สาสน์(สาด) หรือ สาร(สาน) ส่วนอีคำว่า สาส์น เป็นคำที่รุ่นใหญ่เขาอาจจะเขียนผิด เราเป็นผู้น้อยจะไปหืออะไรกับเค้า จึงต้องยอมให้ใช้ในหนังสือ "สาส์นสมเด็จ" only แต่เอาจริง ๆ กูไม่ค่อยแคร์นะ คือราชบัญทิตก็อินดี้เหลือเกินเหมือนแม่งว่าง จะสาสน์ สาร หรือ สาสน์ เลือกใช้เอาเอง แต่ถ้าเป็นคนความรู้น้อยอย่างกู กูจะใช้คำว่า สาร หรือ จดหมาย แทน
และในบริบทของนิยายเรื่องนี้ กูซึ่งตอนนี้อ่านแค่ตอนเดียว จะขอเข้าใจว่า บัตรเชิญ(ซอง)มึงเป็นสีทอง ข้างในมีจดหมาย(สาน์ส or สาร)หลากสีสัน
โอเค กลับมาต่อที่นิยาย มึงก็จะโดน info dump เบา ๆ กูสรุปให้ตามนี้นะ
format บัญเชิญ-สาส์น(เอาตามน้องเบลไปก่อน)
1. ทอง-น้ำเงิน ตระกูลเซ็คเซ็นดาร์ (กูนึกถึง sex and zen ขึ้นมาทันที) พวกนี้มันมีสายเลือดสีน้ำเงิน เป็นตระกูลที่แม่งเก๋าสุด อู้ฟู้สุด คนนับหน้าถือตา
2. ทอง-ทอง ตระกูลอาธีร่าแอ่นเดอเฟนทอล ดูไม่มีหีแตดไรมาก
3. ทอง-ดำ ตระกูลซาเรสเดอะจิ้งจอกขาวติด curse
4. ทอง-แดง ตระกูลฟาโรทีสที่แม่งเกือบโดนล้างบางไปแล้ว เป็นตระกูลที่นางเอกจะเข้ามารับบททดสอบเพื่อเป็นผู้สืบตระกูลต่อ(มั้ง) และตระกูลห่าเนี่ย ก็มีสายเลือดสีน้ำเงินเจ้มจ้นไม่แพ้เซ็คเซ็นดาร์
แต่ปัญหาคือจะส่งบัตรเชิญของฟาโรทีสให้ใคร? (ทุกคนคงเข้าใจว่าแม่งโดนล้างบางไปแล้วมั้ง ไม่น่าจะเหลือใคร)
อีเอนเดอร์เซียมันก็โพล่งขึ้นมาว่า "งั้นของฟาโรทีสก็ยกเลิกสิอีดอก"
อีท่านหญิงก็ไม่ยอม ก็เดินเข้าไปแขวะอีเอนเดอร์เซียคืน คืออีสองคนนี้มีสายเลือดสีน้ำเงินเหมือนกัน ซึ่งน่าจะเป็นปมในอนาคต
แล้วนางเอกของเราก็มาาา
ข้า ชาร์มาลีน เลไอน่า เฟส จะมารับบททดสอบของตระกูลฟาโรทีสเองงง วู้ววว
จบตอน
คือกูสงสัยว่ามึงมารับบทสอบอะไรกันให้วุ่นวายทำไม นอนติ้วหีอยู่บ้านสบายกว่าไหม ซึ่งกูเชื่อว่า กูจะได้คำตอบดี ๆ หลังจากที่กูอ่านต่อไปเรื่อย ๆ ในอนาคตอันใกล้นี้
ข้อดี: ตอนนี้ยังพออ่านง่าย ภาษาก็โอเค บทสนทนาพยายามจะให้เชือดเฉือน แต่กูว่ายังไม่ถึงใจ
ข้อไม่ดี: น้องเบลบอกมีห้าตระกูล แต่พี่นับยังไงก็มีแค่สี่ ไหน ๆ จะ info dump แล้ว ใส่มาให้สุด ให้ครบ สิคะ (หรือเพื่อนโม่งคนไหนช่วยกูดูหน่อยว่ากูอ่านไม่ดีเองหรือเปล่า) ไม่รู้ว่าจงใจมั้ย แต่กูรู้สึกขัดใจอะ ไม่กูก็โชว์โง่เอง
by โม่งเงี่ยน
มีนิยายแฟนตาซีสนุกๆ แนะนำบ้างมั้ยเพื่อนโม่ง ไม่เอาแบบเกิดใหม่ต่างโลกนะ เกมออนไลน์พอได้ คืออยากอ่านพล็อตอื่นนอกจากต่างโลกแต่แม่งที่ติดท็อปเจอแต่ต่างโลก กุเส้า
ต่อจ้ะ
>>868 โทดที กูไม่รอบคอบลืมลิงก์อีกละ
Curse spell 1 จดหมายเปิดผนึก
เริ่มต้นมาด้วยความทรงจำ/ฝันของชาร์เลน ขอเรียกอีชานะ
และก็มีเรื่องให้พี่ด่าละนะ
ร่างเด็กน้อยในชุดกระโปรงสีหวานมึงดังได้เหรอ ดังเป็นคำพูดเลย ห่าา ไม่ใช่เว้ย
ตอนแรกก็คิดว่าพิมพ์ตก แต่หลัง ๆ เห็นว่ามีแบบนี้อีก ก็เลยคิดว่าไม่ใช่ละ
อีเด็กน้อยมึงต้องพูด/ถาม/กล่าว/บอก/เอ่ย ฯลฯ สิวะ ถึงจะมีเสียง หรือว่ามึงขมิบหีปล่อยเสียงออกมาเป็นคำพูด? เหมือนหีตดไรเงี้ยเหรอ มันไม่ใช่นะคะ น้องยังเด็กอยู่นี่
อีชาในวัยเด็กเป็นคุณหนูสายแดกมีเมดชื่อเอลลี่ ซึ่งเอลลี่นี่ดูน่าจะมีซัมติงฮิดเด้น
สองคนนี้กำลังจะไปหาใครสักคน(ซึ่งก็ครอบครัวของอีชานั่นแหละ)
อีชาถามว่าทำไมเอลลี่ถึงดูไม่เหมือนลูกชาวบ้านชาวช่องเค้า เอลลี่ก็ออกอุบายว่าถ้ามึงหยุดตระเวนแดกเมื่อไหร่ กูจะตอบ
อีชาก็ให้สัญญา จะไม่ดื้อไม่ซนด้วย เอลลี่ก็เลยตอบว่านางเกิดมาเพื่อภาระหน้าที่ต่างจากมึง ซึ่งเอาแต่แดกไปวัน ๆ ตามประสาเด็กน้อย
หลังจากนั้นอีสองคนนี่ก็พากันไปยังที่นัดหมายกับพ่อแม่พี่ชายไว้
พอครอบครัวเค้าได้อยู่พร้อมหน้ากัน อีเอลลี่ก็สำนึกได้ว่ากูแม่งเป็นส่วนเกิน เป็นไส้ติ่ง เป็นผักรองจานที่ไม่มีใครอยากแดก ก็เฟดตัวเองออกไป
แต่ทันใดนั้น ก็มีอีบ้าที่ไม่รู้โผล่มาปล่อยพลังเวทใส่ผู้คน คือน้องเบลชอบใช้สรรพนามบ่อย แล้วจะบรรยายประมาณว่า "หญิงสาวกับชายหนุ่มพยายามช่วยเหลือเด็กน้อยทั้งสอง" และนี่เป็นจุดเริ่มแห่งความชิบหายในการอ่านนิยายเรื่องนี้ของกู พวกมึงทดไว้ในใจก่อนนะ
คือกูไม่รู้อะ สรุปหญิงสาวชายหนุ่มและเด็กทั้งสอง พวกมึงคือ พ่อ แม่ พี่ชาย และอีชาใช่มะ หรือครอบครัวอื่น กูยิ่งโง่ ๆ มาอ่านอะไรแบบนี้แล้ว รู้สึกสมองกูต้องประมวลผลเยอะกับห่าอะไรที่ไม่น่าจะทำให้มันงงเล๊ย
กลับมาที่อีบ้าปล่อยพลัง มันบอกว่า อย่ามาล้ำเส้นสายเลือดของกู อันนี้กูก็งง ล้ำเส้นยังไง ซึ่งแน่นอน น้องเบลต้องมีเฉลยให้กูในตอนต่อ ๆ ไปแน่นอน
อีบ้าก็พูดต่อว่า ข้ามารับเจ้า เจ้าหญิงรัชทายาทแห่งโรนาน
แล้วก็ เฟี้ยว (กูยกมือขึ้นทำ face palm) คืออีบ้าน่าจะพุ่งมาโฉบอีชาหนีไป แล้วเฟี้ยวก็คือเสียงเอฟเฟคไง
ตกลงอีชาคือรัชทายาทแห่งโรนาน เข้าใจตรงกันนะ
เฮือก!!!
เด็กสาวคนหนึ่งตื่นมา หล่อนเศร้านิส ๆ รำพึงกับตัวเองว่า อดีต มันคืออดีต(กูว่ามีงคืออีชาชิมิ) อาบน้ำ ล้างหอย แต่งตัวเสร็จสรรพ ก็เก็บของออกไปพบกับใครบางคน
ใครบางคนก็คือเด็กผู้ชายชื่อเร็กซ์ มันบ่นว่าอีชะนีนี่มาช้า นัดกันสิบโมง แม่งมาเที่ยง ถึงมันบ่น แต่มันก็รู้เหตุผลว่าอีชะนีนี่มาสายเพราะฝันถึงเรื่องนั้น(ที่โดนอีบ้าโฉบ) ซึ่งดูเหมือนเร็กซ์จะรู้เรื่องราวของอีชา(กูว่าอีชะนีนี่คืออีชา) แล้วพากันลงไปข้างล่างโรงแรม อีชาก็ควักเอารูปถ่ายร่อนไปให้เร็กซ์ ซึ่งคือรูปถ่าย มันก็มาจากกล้องใช่มะ เรื่องนี้คงเป็นแฟนตาซียุคกลางค่อนทางสมัยใหม่ ที่มีเทคโนโลยีอย่างกล้องถ่ายรูปละสิ หรือมึงใช้เวทมนต์ถ่ายรูปมา? อันนี้สงสัยเฉย ๆ นะ
อีชาเนี่ยอยากให้เร็กซ์ช่วยคุ้มครองคนในรูปนี่ให้ที แล้วมันก็บรีฟงานกัน อีชามองเห็นใครบางคนนอกโรงแรม ไอ้เร็กซ์มองตาม แล้วเห็นคนที่อยู่นอกโรงแรมว่าเป็นคนเดียวกันกับในรูป มันก็เบิกตากว้างเหมือนเห็นหี อีชาบอกว่าถึงเวลาของมึงแล้วไอ้เร็กซ์ แล้วรีบแจ้นออกไปเล่นละคร เพราะเหมือนอีชากำลังจะจัดฉากอะไรสักอย่างอยู่
ไอ้เร็กซ์ใจคอไม่ดีก็รีบวิ่งไป เพราะรู้ว่าอีดอกนี่คิดทำอะไรไม่เข้าท่าแน่ ๆ
อีชาวิ่ง ๆ อยู่แม่งก็โดดขึ้นไปข้างบน กูไม่รู้ว่ามันหลบอะไร
เพล้ง!!!
เร็กซ์หยุดวิ่งเมื่อได้ยินเสียงกรี๊ดกับเสียงกระจกแตก ซึ่งกูก็งงว่าอยู่ ๆ กระจกแตกได้ไง แรงกระโดดจากอีชาทำให้แตก หรือเพราะเสียงกรี๊ดของอีดอกลึกลับ หรือเพราะใครเขวี้ยงอะไรมา หรือกูโง่เอง
แล้วเร็กซ์ก็เห็นว่าตรงหน้ามีสุภาพบุรุษหลายคนกำลังรุมแย่งของจากเด็กผู้หญิง(อีดอกลึกลับ)อยู่ แม๊นแมนอะพวกมึง แถมแย่งไม่สำเร็จอีก เป็นกูนี่คงอายจนต้องหน้ามุดหีหมาละ
เดี๋ยวมีต่อ กูสับไว้ 7 หน้า A4
by โม่งเงี่ยน
ต่อนะ
>>877
สถานการณ์แบบนี้ มีหรือที่เร็กซ์กับเพื่อน(อีชา)จะนิ่งดูดาย
แต่ก่อนจะเข้าไปบวกกับสุภาพบรุษs ก็มีเด็กหนุ่มลึกลับใช้พลังลึกลับอัดสุภาพบุรุษคนนึงกระเด็นไปติดกำแพงอีกฝั่งไปเสียก่อน
แล้วเด็กหนุ่มลึกลับถอดแว่นแล้วปล่อยออร่าจิตสังหารอันรุนแรงออกมา ทำให้เหล่าสุภาพบุรุษsถึงกับขี้ขึ้นหัว แล้วกล่าวถามเด็กหนุ่มลึกลับเจ้าของออร่าเจ้มจ้นนั้นว่า "ตัวเองชื่อไร..."
เป็นกูจะถามว่า "แกเป็นใครกันแน่" แต่ก็เอาเถอะ กูแค่ขัดใจนิดหน่อยเฉย ๆ เดี๋ยวจะหาว่ากูหยุมหยิม
หนุ่มแว่นลึกลับก็เบ่งว่า กูอะ นามสกุลเลนาสตาร์ รู้จักป่าวสัส แล้วน้องเบลก็บรรยานว่าเลนาสตาร์รับราชวงศ์มานาน(ราชวงศ์ไหนไม่รู้) ตระกูลเนี้ย ใคร ๆ ก็รู้ว่าต้องมีคนมีมนต์ดำกันในแต่ละรุ่น ถ้ารุ่นล่าสุดเนี่ยก็ท่านชายเล็กเนี่ยแหละที่มีมนต์ดำ
สุภาพบุรุษของกูคนนึงก็ร้องออกมาด้วยความหวาดกลัวว่า "ชิบหายแล้ว ท่านโรเอนาสนี่หว่า ถอนทัพ ๆๆ"
คือพวกมึงคือไอ้หน้าตัวเมียทีกำลังรุมแย่งของเด็กผู้หญิงคนเดียว ไม่น่าใช้คำว่าถอนทัพนะ หรือมึงคิดว่ากำลังทำสงครามกันอยู่วะ
ไอ้โรเอนาสเนี่ย กูขอเรียกมันว่าหนุ่มแว่นนะ คือชื่อแม่งขัดตาขัดใจมาก ชอบจำสลับกับเรโอนาสตลอด อีดอก
หนุ่มแว่นก็ถามว่าเด็กหญิงว่าเป็นไงเจ็บตรงไหนมั้ย คุยกันโน่นนี่ กูก็รู้ว่าอีเด็กคนนี้ชื่อชาร์เลน ชาร์เลน่า เลไอนาส แถมยังขี้อายนิด ๆ ต้องเอาผ้าคลุมมาปิดหน้าเวลาคุยกับหนุ่มแว่น คือไอ้หนุ่มแว่นแม่งหล่อแหละ ง่าย ๆ และเดี๋ยวก่อน แม่งชื่อชาร์เลนเหมือนกัน กูเริ่มงงละ ตกลงอีดอกที่ยืนอยู่กับไอ้เร็กซ์นี่คืออีชาร์เลนคนเดียวกันมั้ย นี่เป็นหายนะอีกอันของกูละ
แต่เอาไว้ก่อน มาต่อกัน
หนุ่มแว่นบอกจะพาไปหาเพื่อน ๆ ซึ่งน่าจะหมายถึงเร็กซ์และอีชา(ใช่มึงจริง ๆ ใช่มั้ย) แล้วน้องชาร์เลน(ที่โดนสุภาพบุรุษรุม)ก็ตอบว่ากูมาคนเดียว กูมานี่เพราะอีจดหมายเนี่ย พอมันจะหยิบขึ้นมา ไอ้เร็กซ์ก็ร้องว่าอย่าหยิบมาขึ้นมานะอีบ้า ไอ้หนุ่มแว่นเห็นเร็กซ์นัยน์ตาสีม่วงก็ส่องประกายวาววับเหมือนเด็กได้ของเล่น นี่กูคัดตามน้องเบลเลยนะ กูไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ผู้ชายเห็นผู้ชายแล้วดวงตาส่องประกายแวววับนั้น มันหมายความว่าไง ซึ่งสมองจังไร ๆ ของกูก็แปลความหมายออกมาได้อย่างเดียวคือ มันอยากจัดปาร์ตี้ฟักทองบดกัน
จริง ๆ ไอ้หนุ่มแว่นก็เหมือนจะรู้อะไรบางอย่างแหละ(แต่กูไม่รู้) ก็เลยบอกน้องชาร์เลนว่าอย่าเอาจดหมายออกมาเลย
แล้วก็มาถึงย่อหน้าที่ทำให้สติปัญญาอันมีจำกัดเท่าหมอยหมาของกูถูกท้าทาย
และก่อนอื่น ขอประกาศตัวละครตามนี้
ในฉากมี
1. เร็กซ์
2. อีชาที่อยู่ข้าง ๆ เร็กซ์
3. หนุ่มแว่น โรเอนาส
4. น้องชาร์เลน อยู่ข้างหนุ่มแว่น เจ้าของจดหมาย
ย่อหน้ามีดังนี้นะ ตามน้องเบลเด๊ะ ๆ
A"เร็กซ์...? อย่าบอกนะว่าฝ่าบาทส่งพี่มาคุ้มครองคุณชาร์เลน" เด็กสาวมองสองหนุ่มสลับไปมาด้วยสายตาไม่ไว้วางใจ และเตรียมตั้งท่าจะหนี หากไม่ใช่เพราะสองหนุ่มนี้ยกมือขึ้นเหนือหัวเป็นเชิงว่า พวกเขาไม่ใช่คนน่าสงสัยจริง ๆ B"คนนั้นชื่อเร็กซีนัส ทาริออส ครับ เป็นตระกูลสายรองจากเซซีน"
กูครุ่นคิดหลายรอบว่าไอ้อีตัวไหนมันเป็นเจ้าของไดอะล็อก A และมีความสัมพันธ์กันยังไง กูเลยขอแบ่งเสต็ปการวิเคราะห์ดังนี้
1. มันเรียกเร็กซ์ว่าพี่ แล้วมีคำว่าคุณชาร์เลน ฉะนั้น ตัดไอ้เร็กซ์และน้องชาร์เลนออก เราจะเหลืออีชากับหนุ่มแว่น
2. และอีชาอยู่กับไอ้เร็กซ์อยู่แล้ว
3. จึงเหลือแต่หนุ่มแว่นเป็นผู้เข้ารอบ
Aจึงเป็นไดอะล็อกของหนุ่มแว่น และมันรู้จักกันกับเร็กซ์ และรู้จักน้องชาร์เลนด้วย
ที่พี่งงเพราะน้องเบลเสือกบรรยายว่า เด็กสาวมองสองหนุ่มสลับไปมา หลังจาก ไดอะล็อก A ซึ่งพี่ก็โง่ไง ก็ต้องคิดว่าไอ้คนที่อยู่หลังไดอะล็อกต้องเป็นคนพูดเสมอ
โอเค กลับไปที่ B กูมั่นใจละว่าคนพูดคือหนุ่มแว่น ซึ่งถ้าแม่งมีไดอะล็อกของคนมากกว่าหนึ่งแล้วล่ะก็...สับสน อีดอก สับสน
คือพวกมึงบางคนอาจจะเข้าใจย่อหน้านี้ว่าใครพูด แต่กูโง่ไง และกูคิดว่าการเขียนนิยายแม่งต้องไม่ทำให้คนอ่านงงและสับสนในเรื่องที่มึงไม่ได้ตั้งใจให้คนอ่านงง ถ้ามึงต้องให้กูมานั่งวิเคราะห์ว่าประโยคนี้ใครพูดแบบนี้เนี่ย กูอึดอัดนะ และจะพาลหมดความเงี่ยนอยากอ่านไปดื้อ ๆ
ซึ่งกูเริ่มทรมานละ
มีอีกพาร์ทนะ นี่แค่ตอนเดียว
by โม่งเงี่ยน
ต่อ ๆ พาร์ทสุดท้ายของตอนแรกละ
>>878
น้องชาร์เลนพอรู้ว่าเร็กซ์มีนามสกุลทาริออสก็ร้องอ๋อ พ่อ(ฝ่าบาท)ส่งมึงมาคุ้มครองกูนี่
เร็กซ์ก็ขอโทษนะที่มะกี้ไม่ได้ไปช่วย เพราะโดนหนุ่มแว่นปาดหน้าเค้กก่อน แล้วก็เตือนอีกทีว่าอย่าเอาจดหมายออกมานะ
แต่บุญบาป อีดอกน้องชาร์เลนแม่งเสือกเอาจดหมายออกมาเว้ย เร็กซ์แม่งเลยรีบคว้ามือหวังช่วยให้เก็บจดหมายให้ ในใจคงด่าว่าอีห่าเอ๊ยอยู่แน่ ๆ แล้วจู่ ๆ จดหมายแม่งก็ถูกพลังเวทดึงไปอยู่ในมือของหญิงลึกลับที่แอบซุ่มอยู่ที่ชั้นสองของตึกข้าง ๆ ที่พวกมันคุยกันอยู่ น้องชาร์เลนก็ไม่ยอมดิ ใช้เวทดึงจดหมายคืน(มึงมีเวท แต่เมื่อกี้เสือกปล่อยให้สุภาพบุรุษsรุมอยู่ได้ ควายปะวะ)
แต่หญิงลึกลับตวัดมือทีเดียว เวทน้องชาร์เลนแม่งหายเกลี้ยง ไม่รู้ว่าเพราะพลังเวทน้องชาร์เลนกากเกินไปป่าวก็ไม่รู้ กูแอบสมน้ำหน้ามันอยู่นะ ผู้ชายแม่งอุตส่าห์เตือนแล้วว่าอย่าเอาจดหมายออกมา เป็นไงล่ะ อีดอก
คือแล้วกูก็เจอหายนะเหมือนไดอะล็อก A ด้วย เฮ่อ... กูขอข้ามนะเดี๋ยวไม่จบ
สรุปอีหญิงลึกลับคือ ชาร์มาลีน เลไอน่า เฟส นางเอกของเรา ซึ่งกูสงสัยมากว่ามีงคืออีชาที่ยืนข้าง ๆ ไอ้เร็กซ์เมื่อกี้ป่าว ถ้าใช่ ทำไมในฝันมึง พ่อแม่ถึงเรียกมึงว่าชาร์เลน เหมือนอีน้องชาร์เล่นเลนนี่ แล้วมึงกระโดดขึ้นไปอยู่บนตึกตอนไหน น้องเบลไม่เห็นบอกกูเลย หรือที่น้องเบลบอกว่ามึงสองคนหน้าเหมือนกัน จะเป็นการบอกใบ้อะไรบางอย่าง
อีชาร์มาลีนเฟสก็อ่านข้อความในจดหมายนั้นออกมา ใจความว่า จดหมายอะ เชิญมัน(อีชาร์มาลีนเฟส)ไปในฐานะของเจ้าหญิงแห่งราชวงศ์ฟาโรทีส เพื่อรับความลำบากในการทดสอบว่ามึงมีคุณสมบัติเหมาะที่จะเป็นผู้นำแห่งราชวงศ์หรือไม่ ถ้าเบื่อติ้วหีอยู่บ้านก็จงมารับการทดสอบที่เมืองมาราออสเสีย
อีชาเฟสก็ตอแหลว่า ทำไมถึงมีชื่อกูในจดหมายเชิญน้า แทนที่จะเป็นมึง(น้องชาร์เลน) แล้วก็ท้าทายว่า ถ้ามึง(น้องชาร์เลน)เป็นเจ้าหญิงแห่งราชวงศ์ฟาโรทีสจริงล่ะก็ มาเจอกับกูที่มาราออส
แล้วทั้งสาม(หนุ่มแว่น เร็กซ์ น้องชาร์เลน) ก็ตั้งตี้พากันไปมาราออสเพื่อทวงสิทธิ์คืน
จบตอน
(สรุปอีชา น่าจะเป็นชาร์มาลีน เฟส นางเอกของเรื่องนี้ เป็นคนสั่งให้เร็กซ์คุ้มครองน้องชาร์เลน แล้วเสือกไปขโมยจดหมายน้องเค้าหน้าด้าน ๆ ด้วยตัวเอง แถมมึงยังเป็นรัชทายาทแห่งโรนานอีก อนุมานจากตอนที่โดนอีบ้าโฉบในฝัน ซับซ้อนจังเลยนะอีดอก)
และ...กูเหนื่อยมากกกกก น้องเบลแม่งมีปัญหาเวลาบรรยายฉากที่มีตัวละครเกินสองคนจริง ๆ
ขอยกข้อดี ข้อไม่ดีไปอยู่ในหน้าสรุปโน่นละกัน
แต่ตอนนี้กูขอพักไปว่ายน้ำก่อน อาจจะต่อพรุ่งนี้นะ เครียดชิบหาย อ่านไอ้จินกวงแม่งยังบันเทิงกว่านี้เยอะ
นี่แม่งแค่ตอนเดียวเองนะ กูอยากร้องไห้
by โม่งเงี่ยน
>>879 >>880 สมองกูท่าจะมีปัญหาว่ะ อ่านรู้เรื่องแต่ไม่ค่อยเก็ทนะ สรุปตามความเข้าใจกูอีกรอบนะ ตามที่โม่งเงี่ยนบอกแหละตัวละครมี 4 ตัวหลักในบทนี้ คือ
1. คนที่ฝัน (อีนี่คือชาร์มาลีนเฟส ถูกมะ คือกูอ่านจบละเอาจากไดอะล็อคมาวิเคราะห์อีกที) ซึ่งอีนี่มันแย่งจดหมายน้องชาร์เลน และคนที่หลบอยู่พร้อมเร็กซ์ (รึเปล่าวะ))
2. เร็กซ์ คือ คนที่พ่อมันส่งมาคุ้มครองน้องชาร์
3. น้องชาร์เลน (อีนี่คือคนที่โดนแย่งของ โดนโด้จดหมายแบบน่าตบ เป็นคนละคนกับอีชาร์มาลีนเฟส)
4. โรเอนาส คือ อีคนที่ปาดหน้าเค้ก+เบ่งพลังใส่กลุ่มหมาหมู่
กูว่าน้องเบล (ขอเรียกตามโม่งเงี่ยนนะ) มันมีปัญหาเรื่องสรรพนามว่ะ จากที่สังเกตหลายๆ บท (กูอ่านแบบผ่านๆ อ่ะนะ) นางจะใช้กิริยาของผู้กระทำเป็นตัวบอกว่า บริบทนี้ใครแม่งทำไร ยกตัวอย่างจากบทแรกส่วนท้ายๆ นะ
"ทันทีที่พูดจบคนที่คนที่ฉวยข้าวของของชาร์เลนก็หายวับไปกับสายลม..." <--- อันนี้คือกูยกมาบางส่วน
มึงจะเห็นว่ามันไม่ได้บอกว่าใครทำกิริยานี้ตรงๆ แต่มึงต้องอ่านและเข้าใจเหตุการณ์ก่อนหน้าว่าใครกระทำอะไร แล้วถึงจะรู้ว่า อ๋อ...คนที่หายไปกับสายลมคืออีชาร์มาลีนเฟสนะ
แน่นอนว่าการบรรยายแบบนี้สำหรับกูคือพอเข้าใจได้ แต่บางทีมันไม่เก็ทโดยเฉพาะในฉากที่ตัวละครออกมาเยอะอย่างอันนี้ ถ้าถามว่าเป็นเสน่ห์การเขียนได้มั้ย กูว่าได้อยู่แต่ไม่ควรบ่อยเท่าไหร่ เพราะมันมีจุดอ่อนเยอะชิบหาย และมันจะมีปัญหากับนักอ่านด้วย
ขอชมหน่อยนึง บทหลังๆ พวกคำแทนเสียงเหมือนนางจะปรับให้ลดลงอยู่ แต่ก็มีบ้างประปรายไม่พอให้เวียนหัว และเนื้อเรื่อง (เมื่อวันก่อนที่กูบอกว่าไปแง้มตอนจบมาละ วันนี้เลยลองอ่านดูแบบคร่าวๆ อีกที) มันดราม่าไม่ค่อยสุดแต่พอได้อยู่ ปมเรื่องเยอะและงงว่ะ55555
ปล.รอโม่งเงี่ยนสับต่อนะคนับ เดี๋ยวกูอ่านอีกรอบเผื่อจะเข้าใจ
>>880 กูพยายามแล้วนะ แต่แม่งยากเกินไปว่ะ
>>881 กูรู้สึกว่าน้องเบลอาจจะมีของดี เลยยังพออ่านได้ ถ้าอ่านขำ ๆ ก็คงไม่เครียด แต่พอกูเครียดเท่านั้นแหละ แม่งกลับไปขำ ๆ ไม่ได้อีกเลย
>>882 ทีละข้อนะ
1. ใช่แหละ แต่ตอนแรกมันอยู่กับเร็กซ์ดี ๆ ไม่รู้วาร์ปไปอยู่บนระเบียงได้ไง น่าจะลืมบรรยายไปมั้ง
2 3 4. มึงเข้าใจตามที่กูเข้าใจแหละ
ปัญหาของน้องเบล ถ้าแก้ไขได้ มันก็น่าจะเป็นนิยายที่โอเคอยู่นะ(ขนาดนี่กูอ่านไม่กี่ตอนเองนะ)
ไว้พรุ่งนี้จะมาสับต่อนะ เพราะสมองกูบอกว่าพอก่อน
กูอ่านโรเอนาสเป็นเรโอนาสตลอดเหมือนกัน ว่าแต่พอเป็นอิ้ง Roanasนี่กูก็อ่านว่าโรอานาสอีก 555
>>883 สำหรับกูโอเคแบบอ่านกึ่งจริงจังอ่ะ เห็นนางรีไรต์อยู่ กูลองอ่านเปรียบเทียบแบบก่อนรีไรต์กับส่วนที่นางกำลังรีไรต์ ถือว่าเป็นนักเขียนที่พัฒนาได้ เมื่อก่อนน้ำเยอะชิบหายอ่ะ พอรีไรต์ใหม่แลดูเป็นผู้เป็นคน ไอ้เรื่องงงก็ยังมีมาบ้างแหละเหมือนเป็นสไตล์นาง (แม่มอ่านยากชิบหาย ถึงหลังๆ จะปรับลงไปบ้าง แต่ก็นะ กูรอดูแบบรีไรต์ว่าจะดีขึ้นมั้ยในจุดนี้)
>>884 โอเคมึง พักก่อนให้สมองโล่ง
Princess of Curse นี่ไม่ได้หมายถึงนางเอกหรือใครในเรื่อง หมายถึงตัวคนเขียนเองนั่นแหละ อ่านแล้วงงเป็นแถบๆ
เผื่อมีใครอยากสับนิยาย top ดูซิว่ามีเรื่องไหนใช้ได้ไหม โดยมี criteria คือ เป็นนิยายในหมวดตื่นเต้นเร้าใจ (ไม่ใช่นิยายรัก) ที่ติด top 1-3 และเป็นนิยายที่ไม่ได้จั่วหัวว่า y (อาจวายซ่อนๆ ข้างใน ไม่รู้ ไม่ได้เปิดอ่าน) ซึ่งถ้ามีอันดับไหนเป็น y จะข้ามไปอันดับต่อไปทันที (ตัวอย่างเช่น อันดับที่ 2 เป็น y ก็จะเอาอันดับที่ 4 มาแทน)
แฟนตาซี
1. Soul Tower ศึกหอคอยเทพวิญญาณ (140 ตอน / 6,183 เม้น) : https://writer.dek-d.com/ssakun99/story/view.php?id=1584196
2. Apocalypse Saga : กำเนิดจักรพรรดิมาร สาย Support (132 ตอน / 10,062 เม้น) : https://writer.dek-d.com/naturecrowns/story/view.php?id=1685517
3. A Game Of Life ( เกมชีวิต ) (57 ตอน / 5,009 เม้น) : https://writer.dek-d.com/jinpouket/story/view.php?id=1682101
เกมออนไลน์
1. เกมส์นี้ข้าขอเป็นพระเอก (190 ตอน / 18,094 เม้น) : https://writer.dek-d.com/nattione/story/view.php?id=1591957
2. กันต์กับเกมส์ออนไลน์ (85 ตอน / 1,929 เม้น) : https://writer.dek-d.com/DragonBlade/story/view.php?id=1685096
3. พลหอกประจัญบาน (31 ตอน / 161 เม้น) : https://writer.dek-d.com/tuna1998/story/view.php?id=1704765
วิทยาศาสตร์
1. :::The World of The End::: โลกแห่งการสิ้นสุด (10 ตอน / 21 เม้น) : https://writer.dek-d.com/Noeychann/story/view.php?id=1705042
2. Supreme (124 ตอน / 3,634 เม้น) : https://writer.dek-d.com/bluesea25/story/view.php?id=880244
3. Genesis of Magic(ปฐมบทแห่งเวทมนตร์) (64 ตอน / 122 เม้น) : https://writer.dek-d.com/jarernsuk21/story/view.php?id=1670426
ระทึกขวัญ
1. เหมือนฝัน - รัก ลวง ตาย (50 ตอน / 405 เม้น) : https://writer.dek-d.com/Hestia/story/view.php?id=1658335
2. ฝ่ากรุงเทพฯ..เมืองนรก (ภาค1-2-3) ( Hells in Bangkok.) (102 ตอน / 1,348 เม้น) : https://writer.dek-d.com/yodnan69/story/view.php?id=982167
3. เรื่องเล่า(ผี) 100 เรื่อง (104 ตอน / 1,319 เม้น) : https://writer.dek-d.com/ray_ray/story/view.php?id=233049
สืบสวน
1. ปริศนาฆาตกรรมสายเลือดฆาตกร (5 ตอน / 10 เม้น) : https://writer.dek-d.com/prempas/story/view.php?id=1709046
2. กาหลมหรทึก (8 ตอน / 20 เม้น) : https://writer.dek-d.com/prapt/story/view.php?id=1226413
3. มาตา ภูผา (44 ตอน / 20 เม้น) : https://writer.dek-d.com/silence023/story/view.php?id=1663069
กำลังภายใน
1. Martial God Gamer กำเนิดเทพยุทธ์เกมเมอร์ (74 ตอน / 2,710 เม้น) : https://writer.dek-d.com/parizmint/story/view.php?id=1685427
2. เทพเซียนอมตะข้ามโลก [ Immortal god cross the world ] (46 ตอน / 1,248 เม้น : https://writer.dek-d.com/Destruction1/story/view.php?id=1702328)
3. เจาะเวลามาเป็นมือปราบ (141 ตอน / 8,726 เม้น) : https://writer.dek-d.com/senai/story/view.php?id=1518418
สงคราม
1. มังกรอมตะ (134 ตอน / 2,688 เม้น) : https://writer.dek-d.com/bluesea25/story/view.php?id=1187767
2. Black Lagoon : Long Story (140 ตอน / 64 เม้น) : https://writer.dek-d.com/PABCOM/story/view.php?id=1678613
3. Rov นิยาย : อัศวินหนุ่มกับวิญญาณปริศนา (13 ตอน / 14 เม้น) : https://writer.dek-d.com/asama4645/story/view.php?id=1702927
ผจญภัย
1. จอมยุทธ์ก๋วยเตี๋ยวท่องยุทธจักร (45 ตอน / 144 เม้น) : https://writer.dek-d.com/PMMchannel/story/view.php?id=1694918
3. The Scroll of Fantastic Journeys - หนังสือกราบทูลท่านจ้าวเหนือฟ้า (71 ตอน / 271 เม้น) : https://writer.dek-d.com/nopanopaa/story/view.php?id=1671992
6. มาเฟียกลิ่นกะทิ (35 ตอน / 416 เม้น) : https://writer.dek-d.com/The_Heram/story/view.php?id=323252
อดีต ปัจจุบัน อนาคต
1. ภรรยานอกกำแพง (45 ตอน / 4,663 เม้น) : https://writer.dek-d.com/kangorawan/story/view.php?id=1703669
2. จอมใจนางหงส์ (45 ตอน / 1,649 เม้น) : https://writer.dek-d.com/meaw1007/story/view.php?id=1701256
3. ไป๋อิง นางมารวังหลัง (51 ตอน / 7,756 เม้น) : https://writer.dek-d.com/Nanantata/story/view.php?id=1696653
finding
- หมวดแฟนตาซี เกมออนไลน์ กำลังภายใน และอดีตฯ มีนักอ่านตามคอมเมนต์อย่างอุ่นหนาฝาคั่ง
- กลับกัน หมวดสืบสวน แทบจะไม่มีคนเม้น (และคนอ่าน) เลย
- นักเขียนหมวดเกมออนไลน์ สะกดคำว่า "เกม" ผิด (เป็นเกมส์) ทั้งๆ ที่ชื่อหมวดแม่งก็เขียนอยู่ทนโท่
- หมวดอดีตฯ คือหมวดกำลังภายในของนักอ่านหญิง (เน้นย้อนไปโดนเย็ด - ผู้หญิงนำเรื่อง)
- หมวดผจญภัย มีนิยาย y แทรกอยู่มาก
- หมวดบู๊ แอ๊คชั่น ไม่ได้ถูกนำมาจัดในลิสต์ เพราะส่วนใหญ่เป็น fanfic ดาราเกาหลี
recommendation
- The Scroll of Fantastic Journeys - หนังสือกราบทูลท่านจ้าวเหนือฟ้า (เหตุผล : จำนวนตอนมากกว่าเรื่องอื่นในหมวดอย่างมีนัยสำคัญ)
- Rov นิยาย : อัศวินหนุ่มกับวิญญาณปริศนา (เหตุผล : มีแค่ 13 ตอน 14 เม้น แต่เสือกติดท๊อป)
- Supreme (เหตุผล : จำนวนคอมเมนต์มากกว่าเรื่องอื่นอย่างมีนัยสำคัญ)
- :::The World of The End::: โลกแห่งการสิ้นสุด (เหตุผล : อยู่อันดับ 1 ด้วยจำนวนแค่ 10 ตอน)
- พลหอกประจัญบาน (เหตุผล : เปิดเรื่องเมื่อต้นเดือน แต่ขึ้นมาอยู่ top3)
Doombring 5th หนุกป่ะว่ะ
ฝากสับหน่อยดิ กูสุ่มมามั่วๆ นะ แต่มีเรื่องนึงของกูเอง
https://writer.dek-d.com/gift4869/story/view.php?id=1616926
https://writer.dek-d.com/koeawesome1408/story/view.php?id=1694076
https://writer.dek-d.com/princessmild/story/view.php?id=1474848
https://writer.dek-d.com/slimebox/story/view.php?id=1586730
https://writer.dek-d.com/rinrin-07/story/view.php?id=1432331
https://writer.dek-d.com/real_cultivator/story/view.php?id=1705503
>>895 สับเรื่องนึงเลยแล้วกัน ตอนน้อยดี ง่าย
ชื่อเรื่อง หัวฟ้ามหาบรรลัย... กูล้อเล่น Zaritar มหามนตรากาลวารี
สถานะ 8 ตอน ยังไม่จบ
ลิ้งค์ https://writer.dek-d.com/princessmild/story/view.php?id=1474848
เปิดมาตอนแรกด้วยการ info dump เป็นตำราเรียน โคตรไม่ปลื้ม กูเล่าให้ฟังเลยก็ได้ว่าเคยมีจอมมารหัวฟ้าใช้เวทน้ำกับหยำฉาสี่ตัวโดนอัศวินหัวฟ้าใช้เวทไฟฟ้า (ทำไมไม่ใช้สายฟ้า อย่าถาม กูไม่รู้ คิดเอง) บุกเดี่ยวไปฆ่าตายห่าหมด แล้วก็มีโรงเรียนก่อตั้งมาสอน พวกใช้เวทจะโดนดูถูกเพราะจอมมารเป็นพวกใช้เวท (โลกนี้มีประชากรสามแบบ สายเวท สายพลังจิต แล้วก็พวกไร้พลัง ทำไมสายเวทโดนดูถูกแทนที่จะโดนกลัวกูไม่รู้ คิดเอง)
ครึ่งหลังของตอนจะแนะนำตัวละครหลักละ อิแม่เล่านิทานให้อิสามบรรลัยหัวฟ้าฟังแล้วไล่พวกแม่งไปแดกวีต้านอนซะ แม่งเพ้อใช้พลังกัน ซึ่งกูงงมาก ใครเป็นคนไหน ชื่อก็จำยาก เอาง่าย ๆ ที่พอเข้าใจนะ
1. ลูกชายคนโตอายุ 6 ขวบ ใช้พลังจิต
2. อิน้องสาวคนสุดท้องอายุ 3 ขวบ ใช้ได้ทั้งพลังเวทและพลังจิต
3. พี่คนกลางเป็นแฝดกับอิข้างบน น่าจะไม่มีพลัง
แล้วพ่อแม่กับก็เอาอิพี่คนโตกับอิน้องคนเล็กไปทิ้งในงานเทศกาล อิน้องร้อง อิพี่เสือกคิดได้ว่าโดนทิ้งแล้ว
(ตอนหกบวขพวกมึงคิดได้ขนาดนี้ปะ เก่งสัส กูยังนั่งท่องตามารถไฟอยู่เลย)
ตอนสอง ผ่านมานานเท่าไรไม่รู้ (น่าจะเกินเดือน ไม่รู้ คิดเอง) อิสองเปรตกลายเป็นเด็กกำพร้า ขโมยของเขาแดก แล้วก็ทะเลาะกัน
อิพี่ชายอออกไปขโมยอีกแล้วโดนจับ (ตรงนี้ใครก็ได้บอกกูทีว่า "โคมไฟธาตุมนตร์" เป็นยังไง) แต่เจ้าของแอปเปิลแม่งรับอิสองตัวเป็นลูกบุญธรรม
แล้วก็เฉลยว่าลูกคนเดียวของอิแอปเปิลแม่งไม่มีพลัง สืบทอดตระกูลไม่ได้ (พูดต่อหน้าลูกแม่งเลย) จะให้อิพี่ชายมาสืบทอด แม่งตกลง
ตอนสาม อิพี่พลังจิตจะไปเรียนต่อสามปี แล้วก็เฉลยว่าอิแอปเปิลเป็นผอ.ของโรงเรียนด้วย
(ตอนก่อนมึงไปเดินถือถุงแอปเปิลในเมืองดึกๆดื่นๆทำไมวะ งานการไม่ทำ พ่อบ้านเมดมีไม่ใช้ อิสองตัวก็ไม่ใช่โจรดังขนาดต้องมาวางแผนจับ)
แล้วตัดไปจดหมายที่อิพี่เขียนส่งมา ตอนนี้บอกละว่าเวลาผ่านไป 9 ปีจากตอนแรกที่พวกแม่งโดนทิ้ง (เพราะอิน้องอายุ 12 ละ)
จดหมายเล่าเรื่องระบบหอที่อาศัยการจับฉลากสุ่ม ระบบการลงวิชาเรียนที่เลือกได้เอง แม่งลงเรียนเวทเวลาจิตวิทยาด้วยนะ ได้กลิ่นเบียวแล้วสิ
ทีนี้ลูกอิแอปเปิล (คนที่แม่งไม่มีพลังน่ะ) ก็โวยวายว่ามันไม่มีพลัง แต่โรงเรียนแม่มันสอนการใช้พลัง จะเรียนได้ไงวะ
แม่แม่งเลยบอกเดี๋ยวกูใช้เส้นให้ แล้วก็ให้เวลาอีก 2 เดือนไปฝึกร่างกาย จะได้หัดใช้ดาบ จะได้ป้องกันตัวได้
ตอนสี่ อิแอปเปิลใช้เส้นหาคนมาสอนลูก แต่ลูกอิแอปเปิลที่ไม่มีพลังแม่งโคตรกาก รำดาบไม่ได้สักท่า แต่เหมือนจะมีพลังจิต
ส่วนอิน้องสาวหัวฟ้าไปฝึกสู้มือเปล่าแทน โดนเนิร์ฟด้วยว่าใช้พลังได้ทั้งสองสาย แต่แต่ละสายจะมีพลังแค่ครึ่งเดียวของคนปกติ
time skip 3 ปีต่อมา มีอีเวนต์ซิสค่อนพอให้จิ้นนิดหน่อย แล้วแม่งก็ไปสอบกัน เจอคนรู้จักในหมู่บ้านเดิมของอิสองพี่น้องหัวฟ้า
ตอนจบมีอธิบายเพิ่มเรื่องความแตกต่างของสายเวทกับสายธาตุ กูก็งงอยู่ว่าสายพลังจิตไปไหนวะ ช่างเถอะ
ตอนห้า อิน้องสาวเข้าไปทดสอบ แม่งเห็นภาพในอดีตได้ เดินทางข้ามเวลาได้ด้วย (ไปเรียนตอนไหนวะ ไม่เห็นมีบอก)
ทีนี้แม่งก็สลบไปเพราะใช้พลังเกินตัว แล้วอิสามตัว (ลูกอิแอปเปิล อิน้องสาวหัวฟ้า แล้วก็อิเพื่อนเก่าน้องหัวฟ้าที่โผล่มาตอนก่อน) ก็ง้องแง้งกัน
ไปจับฉลากเข้าหอ อิน้องหัวฟ้ากับเพื่อนเก่าตัวผู้ได้อยู่ห้องเดียวกัน ส่วนลูกอิแอปเปิลไปอยู่อีกหอ
ขอสรุปเลยนะ เพราะกูทนอ่านได้แค่นี้
สำนวนภาษาจัดว่าดี มีคำผิดอยู่แต่น้อย แต่หลายอย่างในเรื่องแม่งไม่ make sense บรรยายชวนงง ชื่อตัวละครก็จำยาก
แต่เพราะกูไม่ค่อยชอบอ่านแนวนี้หรือเปล่าเลยอคติไปเองก็ไม่รู้ ไม่ค่อยถูกกับแนวลูกคณหนูผจญโลกสักเท่าไร อย่าเชื่อกูมาก คิดเอง
>>897 ดูๆไป คนเขียนด้นสดแน่
ถ้าสังคมตัดสินว่าคนใช้เวทเป็นพวกจอมมาร จึงดูถูกกัน แล้วอัศวินใช้เวทได้ไงวะ ถ้านั่นคือพลังจิต แม่งเรียกเวทไฟฟ้าให้งงทำไม
ตกลงครอบครัวเก่าของหัวฟ้ามีกี่คนวะ สองคนหรือสามคน (ไม่ใช่ครอบครัวอิแอปเปิ้ล) ถ้ามีสามคน คนกลางไร้พลังหายไปไหน ไม่น่าจะใช่ลูกอีแอปเปิ้ลแน่ๆ ถ้าเป็นคนเดียวกัน ลูกอิแอปเปิ้ลต้องจำหน้าพ่อแม่ของอิหัวฟ้าสิวะ ถูกทิ้งพร้อมหน้ากัน อิแอปเปิ้ลก็ไม่น่ามีลูกตั้งแต่แรกแล้ว
สุดท้าย กูสงสัย คนเขียนแดกร้านสีฟ้าเวลาหิวป่ะ ถึงได้แรงบันดาลใจสร้างอิพี่หัวฟ้ากับอิน้องหัวฟ้า
>>879
กูมาต่อละ วันนี้อากาศครึ้มนิด ๆ แต่สมองกูโล่งและปลอดโปร่ง ชักว่าวมาแล้วด้วย กูไม่มีอะไรต้องเครียด นิยายน้องเบลแม่งทำอะไรกูไม่ได้หรอก ฮ่า ๆๆ
Curse Spell 2
ผู้สืบทอดคนที่สอง
เอาล่ะ ตัวละครตอนนี้มี
1. หนุ่มแว่น(โรเอนาส)
2. เร็กซ์(เพื่อนอีชานางเอก)
3. น้องชาร์เลน ต่อไปนี้กูขอเรียกมึงว่าอีเลนเฉย ๆ นะ เพราะจากตอนที่แล้วแม่งโง่เป็นควายเล่นขี้เลน
4. หน้าใหม่ คารอส เป็นรัชทายาท
5. หน้าใหม่ ลอเรนทร์ เป็นพี่ชายฝาแฝดของหนุ่มแว่น(โรเอนาส) กูเรียก ลอ เฉย ๆ นะ
และอย่างที่กูบอกว่าน้องเบลมีปัญหากับการบรรยายฉากตัวละครที่มีเกินสองตัวขึ้นไป แต่ตอนนี้แม่งมีห้า อีดอก! ห้า! กูเห็นแสงแห่งความบรรลัยที่ปลายอุโมงค์อันมืดมิดนี้ส่องอยู่รำไรละ
เริ่มต้นด้วยไอ้เร็กซ์เปิดห้องในโรงแรมเพิ่มอีกสองห้อง เพื่อมันเอง และอีเลน ส่วนหนุ่มแว่นน่าจะมีห้องของตัวเองด้วยนั่นแหละ รวมเป็นสาม นี่กูต้องจดไว้ตลอดเลย กลัวงงชิบหาย สงสัยถ้าอยากจะอ่านแม่งจนจบเรื่อง คงต้องทำพาวเวอร์พ๊อยต์ประกอบนิยายแม่งด้วยแน่ ๆ
หนุ่มแว่นแนะนำคารอส เซซีนให้อีเลนรู้จัก อีเลนก็เฮ้ย หรือจะเป็นรัชทะ... เดชะบุญ เร็กซ์เอามือปิดปากมันทัน ไม่งั้นอีดอกนี่ปล่อยไก่อีกแน่นอน เซ่อซ่าชิบหาย หนุ่มแว่นเลยต้องปิดม่าน แล้วเปิดอาณาเขตดักฟังด้วย โหยอีดอก เวทมนต์มึงช่างสะดวกสบาย
แล้วหนุ่มแว่นก็แนะนำลอเรนทร์ พี่ชายฝาแฝดมัน กูเรียกว่า ลอ เฉย ๆ นะ
แล้วก็มาถึงช่วงย่อหน้าพิศวง พิศวงว่าไอ้สัสใครแม่งเป็นคนพูดวะ นี่น้องเบลกะไม่ปล่อยให้พี่ได้พักสมองเลยใช่มั้ยคะ ฮือ ๆ
ใจความดังนี้
"โรส่งจดหมายเวทมนต์มาบอกแล้วล่ะ ถ้าเรื่องนั้นไม่มีปัญหา..." น้ำเสียงนิ่ง ๆ จากเจ้าของห้องพักว่าขึ้นมา เขาก็ยกจดหมายในมือขึ้นมาให้ดู ราวกับจะบอกว่าเขาเองก็มีจดหมายเจ้าปัญหาเช่นเดียวกัน "ยังไงพวกฉันคงไม่ใจร้ายปล่อยให้ผู้หญิงถูกรังแกหรอก"
ความชิบหายของย่อหน้านี้มีดังนี้
1. กูไม่รู้ว่าใครพูด มึงบอกเจ้าของห้องพูด แล้วทำไมไม่บอกว่าเจ้าของเป็นใคร นี่กูก็นึกว่าหนุ่มแว่นแม่งเป็นเจ้าของห้องนะเนี่ย ชอบใช้สรรพนามแทนคนแบบไม่สนใจหีแตดคนอ่านเลยว่าเค้าจะรู้เรื่องกะมึงด้วยมั้ย?
2. นอกจากจะไม่รู้ว่าใครพูดแล้ว กูยังไม่เก็ตในความหมายของไดอะล็อกพิศวงห่านี่ด้วย จดหมายเวทมนต์ นี่ใช่จดหมายเชิญสีทองอะไรนั่นรึเปล่า หรือเป็นเหมือนจดหมายที่เอาไว้ติดต่อสื่อสารเฉย ๆ แล้วมึงยกจดหมายเจ้าปัญหาขึ้นมา ปัญหาอะไรวะ หรือเป็นจดหมายเชิญสีทอง? แล้วเสือกบอกอีกว่ายังไงก็ไม่ใจร้ายปล่อยให้ผู้หญิงถูกรังแกหรอก มึงพูดเหมือนมึงเป็นคนช่วยอีเลนยังงั้นแหละ แต่ที่กูจำได้ คือไอ้หนุ่มแว่นเป็นคนช่วยไม่ใช่เหรอวะ ไอ้ห่า
แต่ในเมื่อกูมีประสบการณ์กับตอนก่อนหน้ามาแล้ว กูใช้ทริกรีบอ่านย่อหน้าก่อนและหลังของย่อหน้าพิศวงนี่ แล้วกูก็พบคำตอบ ว่าไอ้คารอสรัชทายาทเป็นคนพูด โดยดูจากย่อหน้าถัดไป
กูขอย้ำพวกมึงอีกที ถึงนิยายมึงพลอตจะดีเลิศแค่ไหน แต่ถ้ามึงสื่อสารออกมาแล้ว ไม่สามารถทำให้คนเข้าใจได้ง่าย ๆ แม่งก็น่าเบื่อนะ นี่กูหงุดหงิดจริง ๆ เรื่องเข้าใจหรือไม่เข้าใจเนื้อหา กูยังพอรับได้ แต่อย่างน้อยก็ขอให้กูเข้าใจว่าใครพูดประโยคนั้น ๆ ได้มั้ย...กูขี้เกียจมานั่งวิเคราะห์หีแตดอะไรแบบนี้ เหนื่อยย
กูไม่แปลกใจเลยที่เห็นคนมาเมนต์ว่างง ๆ คือแม่งงงจริง ๆ ไง จริงจังเลยแหละ ไม่ได้งงเล่น ๆ น้องเบลมึงรีบรีไรต์เลย
โอเคกลับมาต่อ
จริง ๆ หลังจากนี้ก็มีย่อหน้าพิศวงท้าทายสติปัญญาของกูอยู่เนือง ๆ แต่พูดตรง ๆ ว่ากูเริ่มชินชา กูว่าจะไม่ด่าเรื่องนี้ละ
มันก็พูดคุยกันห้าคน หญิงหนึ่งชายสี่ ไอ้ลอไม่เชื่อว่าอีเลนคือเจ้าหญิง(น่าจะของตระกูลฟาโรทีส) อีเลนก็บอกว่าเดี๋ยวกูทำพิธีสาบานกรีดเลือดให้ดู ถ้าไม่ใช่ของจริง มันจะถูกเบิร์นทั้งเป็น กูทำให้ดูตรงนี้เลยก็ได้นะคะ กูคิดว่านี่น่าจะเป็นพ็อยต์นึงที่น้องเบลจะเอาไปใช้ในตอนหลัง น่าสนใจ กูอยากเห็นเด็กสาวถูกเบิร์นทั้งเป็นจริง ๆ
แม่งเกิน 4000 อีกละ
ขอตัดแค่นี้ก่อน
by โม่งเงี่ยน
>>900
คารอสถามว่า อีเลน มึงมาคนเดียวเหรอ อีเลนบอกว่ามากับพี่ชาย ไอ้เร็กซ์ก็เสือกตอบแทนว่าอีเลนพักกับฟอคิวบัส(น่าจะพี่ชายอีเลน) อีเลนก็งง มึงรู้ได้ไง ไอ้เร็กซ์ตอบว่าก่อนรับงานดูแลมึง กูก็เสือกเรื่องมึงมาเรียบร้อยแล้ว อีดอกกกเร็กซ์ ตอแหลปะวะ มึงแอบไปเสือกรู้เรื่องเค้าตอนไหนวะ ถ้ามึงเสือกมาเรียบร้อยแล้ว ทำไมอีชาเพิ่งเอารูปให้มึงดู มึงน่าจะรู้จักหน้าอีเลนอยู่แล้วนี่ หรือมึงรับงานจากคนอื่น หรือน้องเบลแม่งดักควายอย่างกูอีกแล้ววะ ตรงนี้กูอาจด่วนสรุปไปหน่อย เดี๋ยวต้องสืบต่อ
พูดคุยกันสักพัก อีเลนก็นอยด์ รู้สึกผิด มันเป็นต้นเหตุที่ทำให้ถูกชิงจดหมายเชิญไป เออ สำเหนียกซะอีดอก ทำให้พิสูจน์ตัวตนว่าเป็นเจ้าหญิง(หรือรัชทายาทตระกูลฟาร์โรทีส(มั้ง))ลำบากมากขึ้น ไอ้ลอบอกว่าอีดอกมึงอย่าโง่ ไปที่พิธีสาบานตนก็จบแล้ว พกมีดไปกรีดเลือดโชว์ด้วยเลยก็ดีนะ อย่าลืมกลับไปคิดคำด่าอีดอกชามาด้วย อันนี้กูช่วยแนะนำ
ไอ้เร็กซ์แนะนำว่า ทำไมมึงไม่ลองไปหาพี่ชายมึงดูล่ะอีเลน กูรู้จักมันนะ (เออ กูเชื่อมึงละว่ามึงเสือกมาดี ไอ้เร็กซ์) พอได้ยินอย่างงั้น อีเลนก็ดีใจ คว้าจดหมายเวทมนต์(มันคืออะไรวะ บัตรเชิญปะ?) แล้วรีบแจ้นกลับห้อง
เอาล่ะมาถึงช่วงย่อหน้าเกือบพิศวงละ
หลังจากอีเลนออกไป คารอสเรียกดาบมาจ่อคอหอยเร็กซ์ เร็กซ์ก็ใช้ดาบจ่อหอยคารอสเช่นกัน คารอสรู้ว่าเร็กซ์แม่งอยู่กับอีชา หนุ่มแว่นหยิบกระดาษเวทติดตามบุคคลที่กำลังถูกเผาขึ้นมา ซึ่งกูก็ยังไม่แน่ใจว่าเกี่ยวเหี้ยอะไรกัน ใครใช้กระดาษเวทติดใคร อันนี้กูงง แต่เดาว่าเร็กซ์แอบแปะกระดาษที่หนุ่มแว่น แต่ไอ้เร็กซ์ก็ปฏิเสธว่ามันเปล่านะ
ไอ้เร็กซ์บอกคารอสว่าทำไมใจร้ายกับพี่จัง พอไอ้คารอสได้ยินคำว่าพี่ แม่งก็เลือดขึ้นหน้า (แม่งน่าจะมีซัมติงกัน) แล้วตวัดดาบใส่เร็กซ์ทันที เร็กซ์หลบได้ แล้วก่อนมันจะหนีหายไปก็ทิ้งคำพูดไว้บางอย่างใจความว่าจะปกป้องอีชา และพูดประโยคหนึ่งจากนิทานของอาณาจักรออกมา ซึ่งแม่งเป็นสามย่อหน้าหายนะอีกละ แต่คราวนี้กูฉลาดขึ้นมานิด ๆ พอเดาได้ว่าใครพูด ยกเว้นไอ้ไดอะล็อก "หมายความว่าไง?" น้องเบลแม่งไม่มีคำใบ้ให้กูเลย ใจร้ายมาก สงสัยจะเป็นความลับสวรรค์ห้ามแพร่งพราย เออ กูไม่รู้ก็ได้ แต่แม่งต้องเป็นใครสักคนที่ไม่ใช่ไอ้เร็กซ์แน่นอน คือเป็นการปิดฉากที่งงเหี้ย ๆ งงสัสหมา เป็นคอมบิเนชั่นของย่อหน้าหายนะปั่นรวมกับย่อหน้าพิศวงโรยท็อปปิ้งด้วยไดอะล็อกปริศนา กูขอถอนคำพูดตอนแรกเลย น้องเบลแม่งเล่นกูอีกแล้ว
กูเลื่อนลงไปดูคร่าว ๆ แม่งมีอีกสองฉากใหญ่ แล้วจู่ ๆ น้ำตากูก็ไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว
ขอจบพาร์ทนี้ก่อน แต่ตอนนี้ยังไม่จบนะ กูสู้ตายสัส ขอตีโดต้าก่อน ขอเคลียร์สมองหน่อย อาจมาต่อคืนนี้ ไม่ก็พรุ่งนี้เลย
by โม่งเงี่ยน
>>895 ...ตอนแรกกูว่าจะสับ "NSD หน่วยปฏิบัติการพิฆาตอสูร" (https://writer.dek-d.com/rinrin-07/story/view.php?id=1432331) ต่อ
เปิดเข้าไปแล้วท้อเลยว่ะ ระดับตีพิมพ์แล้วแต่ผิดแม่งตั้งแต่คำโปรย (ประจวบพบเจอ???) เลย
เข้าไปตอนแรกก็อัศเจรีย์กระจาย ฟอนต์ตัวเลขกับตัวอักษรอังกฤษเละเทะ พยายามใช้ศัพท์แปลก ๆ ให้ดูเท่ (คลาคล่ำ ท้องฟ้าสีเย็นฉ่ำ อะไรวะ)
แต่คำพื้นฐานก็ยังผิดกระจุย ("เวทมนตร์" แม่งใช้ "เวทย์มนตร์" ส่วน "เคลือบแคลง" แม่งก็ใช้ "แคลบแคลง" อะไรวะx2)
ตอนแรกก็เกริ่นคร่าว ๆ มีโจรขโมยวัตถุโบราณ มีหน่วยพิเศษมาตามจับ มีหยอดข้อมูลนิดหน่อย แนะนำตัวละคร
กูให้บวกตรงไม่ Info Dump เป็นตำราเรียนนะ แต่ใครอยากสับละเอียดก็เอาเลย กูยอมแพ้
ถ้าสำนวน มันต้อง ประสบพบเจอ ปะ
แปะจองสับ
https://writer.dek-d.com/topduck/writer/view.php?id=785523 (สาวใช้พันธุ์ดุ Maid-at-Arms ... ชื่อเรื่องเพราะดี)
https://writer.dek-d.com/linklight/story/view.php?id=1559849 (จอมราชันย์หลงยุค... ข้าขอคำชี้แนะ เตรียมรับมือ)
https://writer.dek-d.com/BlackMonSterX/writer/view.php?id=1602272 (Evolve ฟองเบียร์)
ลงชื่อ เซฮุน อ้าวจะหมดมู้แล้วนี่หว่า... มู้หน้าละกัน
>>897 คนเขียนอิหัวฟ้าเองนะ ส่องมานานละเสือกมีคนเอาเรื่องกูมาลง อยากจะบอกว่ากูไม่ได้ด้นสดเน้อ วางพล็อตแล้วจริงๆ 5555 แต่นั่นแหละ ยอมรับเลยว่ากูมองโลกได้ไม่กว้างพอ เลยมีบางจุดที่ไม่สมเหตุสมผล อ่านน้อยด้วยแหละ เมื่อก่อนอ่านแต่แนวรัก
เข้าประเด็นเลยละกัน อยากรู้ว่าเรื่องความไม่เมคเซนส์นี้ จะแก้ยังไงได้บ้างวะ
แล้วส่วนเปิดเรื่อง นอกจากเล่าโต้งๆ แบบนั่นเลย มีวิธีอะไรอีกบ้าง ไม่ได้จะหาเรื่องนะ อันนี้ถามเอาความรู้เลย
หวัดดี กูสับพี่ตูนมา
เซฮุน: คิดยังไงกับเสียงวิจารณ์
พี่ตูน: การวิพากษ์วิจารณ์เป็นสิทธิส่วนบุคคล เราบังคับให้ใครเห็นด้วยทั้งหมดไม่ได้ แต่อยากบอกว่า ที่ออกมาวิ่ง เราแค่อยากเป็นส่วนเล็กๆ ที่ได้ช่วยเหลือตามกำลังของเรา อยากใช้โอกาสนี้ในการสื่อสารในสิ่งทีเราเห็นมา
เซฮุน: ได้อ่านคำวิจารณ์บ้างไหม
พี่ตูน: มีคนส่งให้อ่านบ้าง ผมเคารพหมด คำวิจารณ์บางครั้งก็เป็นประโยชน์ ผมรับฟังนะครับ ทุกอย่างเป็นเรื่องดี ผมน้อมรับคำติคำวิจารณ์
เซฮุน: ท้อไหม บั่นทอนกำลังใจไหม
พี่ตูน: ไม่เลย คิดว่าเป็นอีกหนึ่งกระบวนการ ไม่ว่าทำอะไรก็ตามก็ต้องเจอปัญหาในงานอยู่แล้ว ต้องก้าวข้ามหรือแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น เป็นสิ่งที่ต้องเจอและจัดการ แม้กระทั่งจัดการกับอารมณ์ตัวเองก็ต้องทำให้ได้ สุดท้ายผมใช้ปลายทางที่เราทำประโยชน์มากกว่า ไม่รู้มากน้อย แต่ขอให้มีประโยชน์สักหน่อย มันอาจจะมีหลายๆชีวิตได้รับการรักษา หลายชีวิตในโรงพยาบาลสบายขึ้น ผมเอาตรงนี้เป็นเป้าหมาย ต้องย้อนกลับไปคิดว่าวันแรก เหตุที่เราออกมาทำนั้นเพื่ออะไร เพราะจริงๆ ผมอยู่เฉยๆ ก็ได้ มีความสุขดี ไม่ต้องออกมาทำอะไรแบบนี้
เซฮุน: ถ้ามีโอกาสได้พูดกับคนที่วิจารณ์ อยากสื่อสารอะไร
พี่ตูน: ไม่มีครับ ผมชอบทำมากกว่าพูดครับ
ลงชื่อ เซฮุน พวกมึงควรเอากูเป็นตัวอย่าง
>>916 สำหรับตอนเปิดเรื่อง กูมักจะยึดองค์ประกอบตามนี้นะ
1. เป็นฉากมีตัวละครสำคัญ
2. intense หน่อย (อารมณ์เจ้มจ้น บีบคั้น) ex โดนตามฆ่า/ไล่ล่า หรือตัวเองไปไล่ล่าเอง หรือฉากเอาชีวิตรอด ฉากอารมณ์ตึงเครียดที่ต้องตัดสินใจ
3. เกี่ยวกับพลอตเรื่องหลัก ว่ามีฉากนี้ไปทำไม เกี่ยวมากเกี่ยวน้อยก็แล้วแต่ (ส่วนใหญ่กูจะเขียนให้มันเกี่ยวไม่ค่อยมาก แต่เลือกเอาฉากเท่ ๆ มาเปิด)
4. มีเซอร์ไพรซ์ จะมีไม่มีก็ได้นะ แล้วแต่ใจเธอ
5. มีอิมแพ็คต่ออารมณ์ ต่อเนื่องจาก 2. แหละ แต่ข้อนี้ยากเหี้ย ๆ
6. promise ให้กับคนอ่าน ว่ามึงเปิดเรื่องโทนแบบนี้ คนอ่านก็จะได้เสพโทนนี้เป็นหลักในเรื่องมึง
ไม่ใช่เปิดตัวโหดสัส แต่สักพักมุ้งมิ้ง
อันนี้ถือเป็น optional แล้วแต่มึง แต่ส่วนตัวกูชอบข้อนี้ และยึดเป็นองค์ประกอบหลักเสมอ
ที่เหลือก็แล้วแต่ใจมึง
>>919 ชอบข้อ 6 เรื่องสมัยนี้ขาด promise ในบทแรก ใครเขียนได้คือเจ๋ง มันบ่งบอกว่านักเขียนได้มอบสัญญากับผู้อ่าน ว่าเขาจะดำเนินเรื่องไปในแนวนี้นะ มึงโอเคไหม ถ้าโอเคก็ตามอ่านเลย กูเห็นนักเขียนส่วนใหญ่จะไปเน้นบรรยายประวัติห่าเหวนืดนาว มันไม่จำเป็นหรอก ไปใส่ทีหลังก็ได้
ไมวันนี้แม่งเงียบๆ วะ..
นวนิยาย-วรรณกรรมเยาวชน แบบไหนที่สำนักพิมพ์จะสนใจ
• เรื่องที่อ่านสนุก วางไม่ลง น่าติดตามตลอดทั้งเล่ม
• มีเนื้อหาแปลกใหม่ น่าสนใจ แตกต่างจากเล่มอื่นๆ ในท้องตลาด
• ไม่ใช่เรื่องที่ลอกเลียน ดัดแปลง หรือมีเนื้อหาใกล้เคียงกับเรื่องของคนอื่นมาก
• เจาะกลุ่มเป้าหมายชัดเจน มองเห็นได้ง่ายว่าจะขายให้ใครอ่าน
• เขียนด้วยภาษาที่สละสลวย อ่านสบาย ไม่ติดขัด
• เป็นงานเขียนที่มีคุณค่าทางวรรณกรรม จรรโลงใจผู้อ่าน ไม่ทำร้ายสังคม
• เป็นเรื่องที่เห็นแนวโน้มว่าจะพัฒนา แก้ไข ปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นได้
เรื่องที่จะไม่ผ่านการพิจารณา
• เรื่องที่ลอกเลียน หรือดัดแปลง หรือแปลมา
• เรื่องที่ไม่สนุก ไม่สมจริง
• อ่านไม่รู้เรื่อง ภาษาไทยแย่มาก
• เรื่องที่ไม่รู้จะให้ใครอ่าน มีเนื้อเรื่องและภาษาที่ไม่เหมาะกับกลุ่มเป้าหมาย
• มีเนื้อหาซ้ำซาก ไม่ต่างจากของคนอื่น มองไม่เห็นโอกาสที่จะโดนใจลูกค้า
• เรื่องที่เฉพาะกลุ่มเกินไป เช่น มีแต่คนเขียนและครอบครัวเท่านั้นที่จะอ่านสนุก
• เรื่องที่ล้าสมัยไปแล้ว หรือมีเนื้อหาล้าสมัยได้ง่าย
• เรื่องที่สุดจะเยียวยา เกินความสามารถของบ.ก.จะช่วยเหลือได้
>>901
มาต่อละ
ต่อจากย่อหน้าที่แล้ว
อีเลนกับไอ้เร็กซ์กำลังจะเข้าไปที่งาน(น่าจะไอ้ส่งบัตรเชิญไปนั่นแหละ)ประกาศผู้เข้าร่วมทดสอบว่าพวกมึงจะได้เป็นผู้นำตระกูลมั้ย แต่ก่อนจะถึงงาน ก็มีคนลึกลับเดินชนอีเลน ไอ้เร็กซ์ที่เป็นองครักษ์ส่วนตัวแม่งทำงานไม่ได้เรื่องเล๊ย กูไม่อยากจะด่า แค่นี้แม่งปกป้องไม่ได้ มึงก็รู้ว่าอีเลนแม่งซื้อบื่อแค่ไหน โดนชนนิดเดียว เลือดแม่งออก จริง ๆ อีเลนโดนฉกเลือดไป ฉกไปทำไม ใครฉก เดี๋ยวรู้ มึงไม่ต้องรอนาน
นิดนึงนะ เวลาตัวละครมันมีแค่สองตัวเนี่ย มันก็พออ่านได้ลื่นไหล ไม่น่าหงุดหงิดเท่าไหร่ คือถ้าอีน้องเบลสามารถทำให้กูงงในขณะที่มีตัวละครแค่สองตัวในฉากได้ล่ะก็ มึงคงต้องมีพลังแฝงอะไรสักอย่างในตัวแน่ ๆ
กูตัดไปที่กลางงานเลยนะ ไอเร็กซ์พาอีเลนวาร์ปมากลางงานเพื่อไปพิสูจน์ตัวตน และหาพี่ชายอีเลนด้วย (สรุปฟอคิวบัสไม่ใช่พี่ชายอีเลนนะ มันเป็นคนเลี้ยงอีเลน และเป็นพ่อบุญธรรมไอ้เร็กซ์) แล้วบิ๊วอีเลนว่า มึงต้องประท้วงนะ ตอนแม่งประกาศชื่อผู้สืบเชื้อสายฟาโรทีส มึงอย่าเสือกไปยอมอีดอกชาเชียว ให้มันรู้กันไปว่ามึงเป็นเจ้าหญิงแห่งฟาโรทีสตัวจริง อีเลนแม่งก็กล้า ๆ กลัว ๆ ตามประสาเจ้าหญิงผู้น่ารำคาญ
คนในงานมีตามนี้นะ
1. แกรนิส ขี้ข้าวัยดึก (ที่เตือนอีนายหญิงในตอนเกริ่นว่าให้ถอนตัว) รับหน้าที่เป็นพิธีกร
2. คารอส สรุปมันเป็นรัชทายาทตระกูลเซ็คเซ็นดาร์ ตระกูลรุ่นใหญ่ อู้ฟู้ ๆ
3. อีเลน เจ้าหญิงแห่งฟาโรทีส
4. ไอ้เร็กซ์ เพื่อนอีชา แต่ตอนนี้รับบทเป็นองครักษ์ของรัชทายาทแห่งฟาโรทีส (ซึ่งเป็นอีชาหรืออีเลนก็ได้ กูว่า) และเป็นเพื่อนยูรีเอล พี่อีเลน
5. ลอ พี่ชายฝาแฝดหนุ่มแว่น
6. เนโลเน่ จาก เดอ เฟนทอล
7. อีชา นางเอก
8. หนุ่มแว่น เป็นองครักษ์อีเลนโดยตรง
9. ยูรีเอล พี่ชายอีเลน
จบตอนด้วยอีชาประกาศชื่อตัวเองและทำความเคารพผู้คนในงาน แหม มีมารยาทนะมึง อีดอก
มึงเห็นมั้ยว่าฉากนี้ตัวละครแม่งเยอะแค่ไหน แต่กูตอนต่อไปกลับไม่ค่อยงงเท่าไหร่(หรืองงน้อยกว่าย่อหน้าหายนะ)
เพราะอะไรเดี๋ยวไปดู
กูขอคอมโบต่อด้วย
Curse spell 3
โลหิตสาบาน
ตอนนี้น้องเบลบอกดุเดือดเจ้มจ้น
พออีชาประกาศตัว อีเลนก็สวนทันควันว่า อีชา มึงมันตอแหล มึงมันไม่ใช่เชื้อสายฟาโรทีส บลา ๆ ๆ อีชากระตุกยิ้มเย็น แล้วสวนกลับว่า แล้วทำไมสร้อยคอประจำตระกูลถึงอยู่กับกู บัตรเชิญก็เขียนชื่อกูไม่ใช่ชื่อมึง อีเลนเงิบแดก อ้ำอึ้ง ๆ ได้แต่คิดว่าอีชามันต้องใช้ทริกอะไรแน่ ๆ (เวทมนต์ไม่สามารถเปลี่ยนชื่อในบัตรเชิญได้)
เมื่อเห็นอีเลนเสียเปรียบ พี่ชายอีเลนก็ช่วยซับว่า ก็มึงไม่ใช่เหรอที่ขโมยสร้อยกับบัตรเชิญจากน้องสาวกูไป (คือ...กูจำได้ว่าอีชาขโมยแค่บัตรเชิญนะ แต่เอาเหอะ ช่างมัน ๆ) แล้วพี่ชายอีเลนก็หยิบจดหมายขึ้นมาเป็นการยืนยัน (ตรงนี้มึงยืนยันเหี้ยอะไรวะ กูงงมาก แต่อ่านไปอีกนิดก็อ๋อ แม่งคิดว่ามันถือจดหมายเชิญของอีเลนที่เป็นของจริงอยู่) แล้วยังบอกอีกว่า ไม่เชื่อก็ลองถามหนุ่มแว่นกับไอ้เร็กซ์ดู ซึ่งไอ้สองคนนี้ก็พยักหน้ายืนยันหงึกหงัก หนุ่มแว่นเล่าว่าอีชาขโมยจริง ลุงแกรนิสเดอะขี้ข้าฟังแล้วก็หันไปหาไอ้เร็กซ์ เป็นเชิงว่ามึงเล่าบ้างอย่ากินแรงเพื่อน แต่ก่อนที่ไอ้เร็กซ์จะเล่า อีชาก็ขอเสือกถามบ้าง ว่าเนี่ย ไอ้จดหมายเชิญเนี่ย แม่ง immune เวทหีแตดทุกชนิดดุจมึงใส่แมงทอง ไม่เชื่อพวกมึงลองดู อีกข้อ ไอ้ที่พี่อีเลนถืออยู่ มันจะใช่จดหมายเชิญของจริงเร้อ ระหว่างทางก่อนจะถึงมือมึง อาจจะมีคนมือบอนไปแก้ไขเนื้อหาให้เข้าข้างพวกมึงเองก็ได้ (พิสูจน์ง่ายมาก มึงยิงเวทใส่จดหมายทั้งคู่ก็รู้แล้วอันไหนของจริง) เพราะถ้ามันสำคัญขนาดนั้น ทำไมจดหมายถึงถูกชิงมาง่าย ๆ ทั้ง ๆ ที่มีองครักษ์ตั้งสองคน(หนุ่มแว่นแอ่นไอ้เร็กซ์)
แล้วน้องเบลก็ชมอีชาว่า ฉลาด!
แต่กูว่า...อืม ก็ฉลาดมั้ง ไม่อยากขัดใจน้องเบล เห็นหีละใจอ่อนทุกที
เดี๋ยวมีอีกพาร์ท
by โม่งเงี่ยน
>>927
แล้วอีชาก็ชูจดหมายขึ้นมา แล้วก็บอกว่า ทำไมกูถึงส่งจดหมายหาพี่อีเลนได้ ทั้งที่กูติดต่อกับมันตลอดเวลา แต่ในวันนั้น จดหมายของกูถูกตีกลับออกมา อันนี้กูงงมาก อุตส่าห์หายงงตอนก่อนหน้านี้แล้ว อีชามึงติดต่อกับอีพี่ชายอีเลนด้วยเหรอ สรุปอีพี่ชายอีเลนมันรู้จักมึงด้วยงั้นสิ หรือพี่ชายแม่งโง่เหมือนน้องสาวที่ไว้ลายความโง่ในสองตอนที่แล้ว
อีเลนถึงกับลมจับ ไอ้เร็กซ์ประคองเซฟไว้ได้ ไอ้ลอกับคารอสก็แค้นแทน แล้วแม่งก็โพล่งออกมาว่า
พิธีหลั่งโลหิตสาบาน!
เอาแล้ว ๆ กูได้เห็นเด็กสาวถูกเบิร์นทั้งเป็นแล้ว
ลุงแกรนิสเดอะขี้ข้าเสกไฟร์พิลล่าร์ แล้วก็บอกให้อีชาหลั่งเลือดในวงเวทด้านนอก แล้วเดินเข้าไปในไฟร์พิลล่าร์ อีชายิ้มมุมปาก กูฉกเลือดโง่ ๆ จากอีเลนมาแล้ว กูก็แค่ทำทีเป็นเอามีด(ที่มีเลือดอีเลน)ปาดมือตัวเอง แต่อีดอกชาก็แอบเยาะเย้ยอีเลน โดยการจับที่ต้นแขนตัวเอง อีเลนจับต้นแขนตาม แต่ต้นแขนมันมีรอยถูกฟัน (ตอนที่มีคนลึกลับชนก่อนเข้างาน) แล้วอีชาก็เดินเข้าไปกลางไฟร์พิลล่าร์แบบเท่ ๆ
แต่พิธีหลั่งโลหิตสาบานตนนั้น แม่งมีปฏิกิริยารุนแรงมาก ทำให้มีสะเก็ดไฟแตกกระจายไปทั่ว และแม่งทำท่าจะระเบิด พวกผู้คนก็กางบาเรียกันจ้าละหวั่น สุดท้ายก็ระเบิดออกเป็นไฟวงกว้าง แล้วเปลวไฟก็ถูกพลังใครสักคนแช่แข็ง และก็ถูกพลังอัดเป็นผุยผง สรุปอีชารอดแบบชิว ๆ หมอยไม่หงิก หนังหีไม่มีริ้วรอย
คือกูว่าอีชาแม่งมีเชื้อสายฟาโรทีสจริง ๆ ไม่เกี่ยวกับเลือดอีเลนหรอก
สรุปพวกสภากลาง(คนจัดงาน) ก็เห็นพ้องว่ายกเลิกงานก่อนดีกว่า
อีเลนก็ยังคิดว่าอีชาเล่นตุกติกอยู่ พี่อีเลนก็บอกว่ากูจะทวงสิทธิ์ของน้องกูคืน อีชายักไหล่ แล้วเดินหลังจากไป แต่...ไอ้ลอกับพี่ชายอีเลนก็ใช้ดาบฟันข้างหลังอีชาซะงั้น แมนชิบหาย แต่มีหรือนางเอกอย่างอีชาจะยอมโดนฟันข้างหลังง่าย ๆ แม่ง parry ออกทันควัน แล้วเหน็บเล็กน้อย ว่าอาจารย์มึงสั่งสอนให้แทงข้างหลังชาวบ้านที่ไม่ได้คิดสู้แบบนี้เหรอ ก่อนจะบอกว่า ไว้อีดอกเลนยึดตำแหน่งคืนจากกูได้เมื่อไหร่ กูจะบอกว่ากูแอบอ้างเป็นเจ้าหญิงไปทำเพื่อ
จบตอน
คือตอนนี้ที่อ่านง่ายเพราะมีบอกชื่อตรง ๆ เลยรู้ว่าใครพูดไดอะล็อกไหน แล้วหลังไดอะล็อกก็ตามด้วยคนพูด ซึ่งเห็นเยอะขึ้น แต่ก็ยังมีหลายไดอะล็อกยังบัดซบไม่เปลี่ยนแปลง
เมนต์ต่อไปกูจะสรุป/วิเคราะห์ละนะ ขอเวลานิด ไม่เกินสัปดาห์นี้แหละ จะขออ่านหลาย ๆ ตอนหน่อย
นอนละ
ปล. และต้องขอโทษที่คราวนี้กูเวิ่นเว้อไปเยอะ กูหงุดหงิดและสับสนกับการบรรยายน้องเบลมากไปหน่อย เลยต้องพยายามอ่านให้ละเอียด และเขียนทดลงบ่อย ๆ แม่งทำกูเป๋เลย อีห่า
by โม่งเงี่ยน
>>929 จริงๆ กูว่าบทความนี้เขียนได้ดีมากเลยนะ คือบอกชัดๆ เลยว่า มันต้องอ่านสนุก และที่สำคัญคือมันต้องมีฐานคนอ่านด้วย ไม่งั้นก็ไม่รู้ว่าจะพิมพ์ไปขายใคร จริงไหม
แต่ที่มัน out of date ไป คือยุคนี้มันมี e-novel อะไรพวกนี้เข้ามา สนพ. ก็อาจจะต้องเข้มขึ้นในเรื่องของการเลือกนิยายตีพิมพ์ คือต้องเน้นว่ามันจะต้องขายได้แน่ๆ ไว้ก่อน ไม่งั้นก็รอวันเจ๊งได้ ประมาณนี้
กุเห็นนิยายพิมพ์ขาย เขียนผิดเขียนถูก เอาเรื่องดังประเทศอื่น(จีน)มายำๆ จะเหลือสักกี่สนพ ที่มาตรฐานดีขนาดนั้นวะ
>>930 จริงๆมันควรเรียกว่า ยุคแห่ง copy & paste novel online
ถ้าแฮรี่พ่องตายไม่ถูกเขียน เด็กดวกจะเขียนโรงเรียนเวทกินนอนในหอยังไง
ถ้าไม่มี sao กับราชาแห่งราชันย์ เด็กดวกจะเขียนนิยายเกมออนไลน์ยังไง
ถ้าไม่มีเกิดใหม่ต่างโลกคิโม่ย เด็กดวกจะเขียนการเกิดใหม่ช่วงแรกยังไง
ถ้าไม่มีการนำนิยายแปลจีนย้อนไปหาจีนโบราณ เด็กดวกยังจะคิดแต่จีนโบราณอีกเรอะ
>>930 กุลองวิจัยตลาดดูพบว่าปัจจุบันผู้ซื้อชายลดลง แต่ผู้ซื้อหญิงมีแต่เพิ่มขึ้น
ส่วนสาเหตุหลักๆ คือผู้หญิงเขาเลือกซื้อแบบไม่สนใจ Quality เลย ประมาณถูกใจก็เปย์ทันที ซึ่งต่างจากผู้ชายที่ต้องมี Quality สูงระดับหนึ่งถึงจะมีเหตุผลให้ตัดสินใจซื้อได้
ซึ่งเจ้านิยายบ้านเราในยุคปัจจุบันเนี่ย Quality มันไม่ถึงขั้นเมื่อเทียบกับนิยายแปลจากต่างประเทศ ผู้ซื้อชายทั้งหลายจึงหันไปเสพนิยายแปลที่มีคุณภาพมากกว่า แทนที่จะซื้อนิยายในไทยที่หาดีได้ค่อนข้างยาก ฉะนั้นเองตลาดนิยายแปลบ้านเราจึงค่อนข้างบูมมากใครบอกซบเซานี่กุไม่เชื่ออะ ขนาดคุเห่อหมอยยังเปย์งานหนังสือหมดกันหลักหมื่น แล้วไอ้พวกอ่านนิยายจริงๆ เก็บสะสมวรรณกรรมนี่จะเปย์หนักกว่ากี่เท่า
ปัญหาหลักคือ Quality ที่สูงเพราะต้องแข่งขันกับตลาดต่างประเทศนั่นล่ะ ทำให้นิยายไทยแนวแฟนตาซีเกิดยากกว่านิยายของผู้หญิงเขา
>>933 กูเห็นผู้ชายก็แม่งซื้อหนังสือกันเยอะแยะ งานหนังสือนี้วิ่งกรูแย่งกันต่อแถว ที่จริงกูว่าปัจจัยมันอยู่ที่กำลังทรัพย์มากกว่า หนังสือจะเรียกว่าแพงก็แพง การ์ตูนเล่มหนึ่งซื้อก๋วยเตี๋ยวชามได้ คือมันไม่ได้เป็นของในชีวิตประจำวันที่คนต้องกินต้องใช้ คนที่มีกำลังทรัพย์น้อยก็เลือกของกินสิ เรื่องเพศกูว่ามันเกี่ยวข้องกับคนผลิต พวกธุรกิจมากกว่า ว่าจะเจาะตลาดกลุ่มไหน อะไรแบบนั้น
มันแล้วแต่คนมากกว่านะมึง
>>927 >>928 เอ่อ...อันนี้กูขอใช้เวิร์บทูเดานะ กูคิดว่าจดหมายที่บอกมีสองอันคือ
1. จดหมายเชิญในบทแรก (บัตรเชิญ)
2. จดหมายเวทมนตร์
ถ้าเป็นแบบนี้มันจะ make sense กว่าปะวะ (กูคิดว่าอาจไม่เหมือนกันว่ะ แบบจดหมายเวทนั่นแม่งเหมือนใช้ติดต่อสื่อสาร แต่น้องเบลมึงเขียนให้นักอ่านเข้าใจหน่อยดิ กูก็อ่านไปงงไป55555) ถ้าเป็นอย่างข้างบนกูว่าจดหมายที่อีชามันเอามาคือจดหมายเวทมนตร์
ปล.กูขอเดาอีกรอบ อีชาต้องสร้างหลักฐานปลอมแน่ๆ อีดอก (เดาจากที่แม่งชกเลือดอีเลนไป กะมั่นหน้าว่ามึงต้องได้ตำแหน่งนี้แน่)
หวังว่านักเขียนมึงไม่หักบทแบบ อีสองคนนี้คือคนเดียวกันแต่โดนแยกร่างนะสลัด
>>941 กูเริ่มไม่ชอบงานเขียนเบลก็ตรงที่ตัวละคร ปรับให้นางเอกเป็นคนฉลาดโดยการกดทุกคนโง่ลงนี่แหละ
ถ้าเปลี่ยนให้อีเลนเป็นนางเอกน่าลุ้นกว่า ไม่ใช่เพราะกูชอบคนโง่ แต่เบลกำลังมีปัญหาติดกับดักแมรี่ซูต่างหาก เหมือนจงใจวางบทให้อีชาชนะตลอด ดูจากคนที่ถูกกระทำก็ได้ ถูกชิงจดหมายก็แหม่งๆล่ะ ไม่รู้ว่าเบลเป็นเบียวคิดว่าตัวเองเป็นอีชารึเปล่า
>>942 ถ้าฉลาดแบบมีเหตุผลกูโอเคนะ แต่ที่กูอ่านๆ ถึงตอนที่มันรีไรต์ล่าสุด เหมือนอีเด็กชาแม่งต้องมีปมอ่ะ ถ่ายบทให้ดูน่าสงสารตัลล๊อดดดดด (กูให้คะแนนความน่าสงสารเพิ่มหน่อยก็ได้)
ไม่แน่น้องเบลแม่งอาจหักมุมคนอ่านก็ได้ เดี๋ยวกูลองอ่านต่ออีกหน่อย
ปล. ยังไงกูก็รอเพื่อนโม่งเงี่ยนมาสับต่ออีกที ละกูจะเสริมตามความเห็นกูอีกหน่อย ตอนนี้กูอยู่ในขั้นตอนตัดสอนใจว่าควรอ่านเรื่องนี้จริงจังรึเปล่า
>>941 ตอนแรกก็เข้าใจแบบนั้นนะ เรื่องจดหมาย แต่ตอนนี้กูไม่แน่ใจจริง ๆ ว่ะ
แต่เรื่องอีชา กูว่ามันอาจจะมีสายเลือดฟาโรทีสจริง ๆ ก็ได้นะ แต่ที่ทำทุกอย่างเพื่อยั่วประสาทอีเลน เพราะอยากให้อีเลนมันฮึดสู้เฉย ๆ ลึก ๆ มันก็หวังดีแหละนะกูว่า
>>942 กูจะด่าในหน้าสรุปอย่างที่มึงว่านั่นแหละ แม่งปล่อยให้นางเอกฉลาดคนเดียว กูไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ แต่หวังว่าหลัง ๆ จะมีคนที่มันฉลาด ๆ อีกเยอะ ๆ นะ สาธุ
>>945 โอเค มึงช่วยเสริมด้วย อยากฟังความเห็นคนที่อ่านเรื่องนี้ไปไกลกว่ากูเหมือนกันนะ
ส่วนตัวกูคิดว่าน้องเบลมีแววพัฒนาได้ดี นี่กูอยากชวนแม่งมาแดกหมูกะทะแล้วนั่งสับให้ฟังสด ๆ เลยนะเนี่ย อย่างน้อยน้องก็น่าจะไม่อีโก้จัดจนเกินไป จากที่ดูข้อความในเมนต์เค้าอะนะ
เอ่อ ไอ้คนที่จะสับ the corola song(ยามกลีบฯ)อะ กูรอมึงอยู่นะ นิยายเรื่องโปรดกูเลย
เดี่ยว โม่วป่าววะ https://www.dek-d.com/board/view/3801027/
นิยายดีคือนิยายที่...
...เน้นเสียว
กูตอบจริงจังนะ
1. อ่านง่าย
2. เนื้อเรื่องดำเนินไว ไม่ยืดเยื้อ
3. มีความรัก15%-30%
4. มีหักมุม
5. มีอิมแพคกับอารมณ์
จริงที่ผู้ชายซื้อหนังสือน้อยกว่าผู้หญิง แต่อย่าพูดเลยว่าเพราะผู้ชายเลือกแต่งานคุณภาพ ที่ผู้ชายไม่ซื้อเพราะมันมีเรื่องอื่นที่มันต้องใช้ตังมากกว่าไง เลี้ยงสาว ซื้อเกม เติมเกม แถมเวลาอ่านหนังสือผู้ชายมักอ่านแค่เอาเนื้อเรื่อง เอารู้เรื่อง อย่างการ์ตูนถ้าไม่ใช่ผู้ชายวันทาำงานหรือมาฐานะหน่อย แม่งก็ไม่ซื้อ เพราะกูอ่านแล้ว รออ่านไปเรื่อย มันไม่เหมือนผู้หญิงที่กลุ่มผู้หญิงเขามีความประดับใจบางอย่างกับเรื่องที่เขาซื้อ หรือบางเรื่องเขาเห็นว่าน่าสนใจเลยซื้อ มันเหมือนกับเขาเลือกซื้อเสื้อผ้านั่นแหละมึง ซื้อมาสวยก็ดีใจ ซื้อมาไม่สวยก็ไม่ค่อยใส่ ส่วนผู้ชาย มึงลองดู ว่าซื้อของพวกนี้น้อยแค่ไหน บางคนทั้งปีไม่ซื้อเสื้อผ้าใหม่เลย ซึ่งถามว่าเสื้อผ้าสำคัญไหม ไอ้ห่า แม่งปัจจัยสี่เลยนะมึง มันต้องสำคัญ แต่ก็ไม่ได้ซื้อไงเพราะใส่เก่าๆได้ ดังนั้นอย่าสรุปว่าผู้ชายมีคุณภาพ มึงควรสรุปว่าชายหญิงมีความชอบต่างกันสิ
ปล.กูเป็นผู้ชาย
>>965 ขยายความนิด คำว่าอ่านง่ายของกูคือกูอ่านรอบเดียวรู้เรื่อง(ไม่นับพวกปริศนาในเรื่อง) เข้าใจว่าจะสื่ออะไรในแต่ละย่อหน้า ภาษาก็ไม่ต้องเวิ่นเว้อจนกูต้อง search google หาความหมาย
กูเคยอ่านนิยายภาษาอังกฤษที่แม่งใช้ศัพท์สูง ๆ แล้วต้องมานั่งเปิด dict หาความหมายทุกคำ กูรู้สึกว่าทรมาน แม่งไม่ใช่ พอการอ่านมันสะดุด กูก็หมดสนุกละ
กูก็ยังมีข้อพิจารณาอื่นอีกนะ ถ้าอ่านง่ายแต่เนื้อเรื่องไม่มีห่าอะไร มันก็ผ่านสมองไปนั่นแหละ แต่ถ้ามันมีองค์ประกอบอื่น เช่นหักมุม หรือมีอิมแพคกับอารมณ์ด้วย กูก็พอใจละนะ ไม่ว่าจะแนวไหนก็เหอะ
กุขอถามมั่ง ตอนนี้กุตั้งใจจะเขียนแนวสโลว์ไลฟ์...
แต่จุดเด่นของแนวนี้มันอยู่ตรงไหนวะ นอกจากเรื่อยเปื่อยไปวันๆ !?
>>968 ดูแถวนี้ก็ได้ ไปหาเอง ร้อยแปดพันเก้าวะ
http://goboiano.com/slice-of-life-anime-to-relax/
>>972 slow life ตามความหมายในเว็บ เลยใกล้เคียงกับ Slice of Life
https://health.kapook.com/view121714.html
มึงคิดยังไงกับนิยายวิทย์ https://www.dek-d.com/board/view/3801161/
>>975 คิดว่าถ้าจะแต่งแนะนำสร้างโลกเอง หรือในธีมอนาคต อวกาศ จะดีกว่า อย่างน้อยบางอย่างมึงก็ไม่จำเป็นต้องหาเหตุผลมากมาย อย่างเช่น ตัวละครสามารถเปลี่ยนเสื้อผ้าได้เพียงแค่กดจิ้มหน้าจอสามมิติ มึงก็แค่บอกว่ามันคือวิทยาการในอนาคตที่สามารถเปลี่ยนสิ่งของเป็นข้อมูลและข้อมูลเป็นสิ่งของได้ จบ!
>>975 ดูไอ้ถุยพูดสิ
คห.12
นี่กระทู้ดักอะไรผมหรือเปล่าครับ?
ผมกำลังดู NBA เปิดฤดูกาลอยู่ Gordon Hayward กระดูกหักเจ็บไปแล้วหนึ่ง ต้องใช้วิทยาศาสตร์การแพทย์ วิทยาศาสตร์การกีฬาด้วยล่ะครับ
คห.24
ไม่นึกว่ากระทู้นี้จะจริงจัง... ขอแก้เขินหน่อย
ผมว่านิยายวิทยาศาสตร์เขียนง่ายนะ สำหรับผม คือของมันมีอยู่แล้ว... เช่นนิยายผมเวลายิงกันในอวกาศ ผมบอกตลอดว่า ไม่มีเสียง เงียบยิ่งกว่าป่าช้า... นิยายผมนับเป็นวิทยาศาสตร์ไหมครับ? ปิ้วๆ เฟี้ยวๆ ไม่มีนะ เงียบกริบขมิบปากเลยล่ะ
บางทีวงเล็บ
(1 parsec = 3.26 light years; 1 light year = 9.4 trillion km; 1 parsec = 30.8 trillion km แสงเดินทางจากดวงอาทิตย์มายังโลก 8นาที 19วินาที— ผู้แต่ง)
ผมว่านะ
ใครจะเขียนอะไร ก็เขียนๆไปเถอะครับ มันเป็นเรื่องโกหกหลอกชาวบ้านทั้งหมดนั่นแหละ ผมยังไม่รู้เลยว่าตัวเลขที่ผมใช้มันจริงแค่ไหน หรือมันแค่นักวิทยาศาสตร์ยอมรับกันเฉยๆตอนนี้หรือเปล่า ข้อมูลมันเปลี่ยนตลอด... เบื่อนะโว้ย!
ดาวพลูโตเป็นแค่ดาวเคราะห์น้อย... อ่อ ตอนแรกเป็น ตอนนี้ไม่เป็น เพราะนักวิทยาศาสตร์ลงความเห็นตรงกัน... อ้าวมันเป็นประชาธิปไตยไปตั้งแต่เมื่อไหร่... ผันผวนอย่างกับราคาตลาดหุ้น
เหยียบดวงจันทร์ หลุมดำชนกัน บลาๆ วิทยาศาสตร์หรอ? ไสยศาสตร์ความเชื่อทั้งนั้น ใครอ้างข้อมูลอะไรก็ช่วยอ่านเยอะๆ อ่านลึกๆหน่อยนะครับ อย่าฟังความข้างเดียวเนอะ อ่านทุกด้านเนอะ ดีกว่า (ผมอ่านได้ภาษาอังกฤษงูๆปลาๆ ผมก็เลยไม่กล้าซ่ามาก เดี๋ยวคนจะเรียกว่าโง่ได้น่ะครับ ผมอ่อนไหวเสียด้วยสิ)
ปล ยุคนี้สำคัญที่สุดคือหน้าตาครับ เหตุผลคือคนเขียนไซไฟส่วนใหญ่จะไม่สวยไม่หล่อครับมันเลยไม่บูม... ประสบการณ์ส่วนตัว
สงสัยไอ้ Louis Forest เพ้อวิทย์ จนเป็นสัตว์ประหลาดไปแล้ว 1 คน ตาม คห.21
เห้ย ๆ น้องเบลอ่านแล้วช็อคไปแล้วมั้งเงียบเลย น้องเขาคงต้องการเวลาสักพัก
>>988 ขอบคุณมากครับน้องเบล พี่โม่งเงี่ยนเองนะ ถ้าน้องมาเองแบบนี้ พี่ก็อยากอ่านให้จบนะ แต่พี่งานยุ่งชิบหายเลยอะ กลัวน้องรอนาน จะอ่านให้ได้มากที่สุดแล้วสรุปให้นะครับ (อาจจะไม่ทันมู้นี้)
ปล. น้องน่ารักมาก เดี๋ยวขอตามอ่าน(ตามสับ)อีกเรื่องด้วยครับ ขอให้เจริญ ๆ นะแม่คุณ ^___^
จะครบ 1000 แล้ว เตรียมย้ายมู้ใหม่เลย
นิยายเด็กดี บทที่ 13 (DDN XIII) ภาคเบื่อเมียฮ่องเต้แล้ว เหล่าโม่งฝากชะตากรรมให้กับน้องเบลและโม่งเงี่ยน
อย่าลืม กุดุสๆ ในชื่อมู้ใหม่ด้วยนะ
คุยกันหวานเชียววววว อิจฉา ๆๆๆๆ
แวะมาถมๆให้เต็ม
วิ่งๆๆๆๆๆๆๆ
เปิดกระทู้ใหม่ คงมีมาสับกันเพิ่มขึ้นอีกนะ
ขอเลขสวย
ปิดมู้
Remember gudus gudus
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.