อ่าวขอโทษ ไม่ติด พิมพ์ยังไงวะ ;w;
อ่าวขอโทษ ไม่ติด พิมพ์ยังไงวะ ;w;
>>>/webnovel/3689/412 เออ น่าจะถูกแล้วมั้ง
>>23 >>>/webnovel/3689/412 กูแก้ให้ละ
ขอบคุณมึงมาก กูก็พิมพ์เรื่อยๆ เจอก็จดลิสต์ไว้
ต่อจาก >>>webnovel/3899/987
---------------------
"ไม่นะ! เบียทัน!"
อุเมวากะตื่นตระหนกคิดว่าอาจจะมีใครลักพาตัวเบียทันไป เขาถอนเชือกล่ามคอมาตรวจดูก็พบว่ามันถูกกัดจนขาด ท้องฟ้าส่งเสียงครืนๆน่ากลัว นี่อาจจะเป็นสาเหตุให้เบียทันตกใจตื่นตัวจนเผ่นหนีไป
"เบียทัน! อยู่ที่ไหนน่ะ เบียทัน!"
อุเมวากะไม่ชักช้ารีบตะโกนเสียงดังลั่นแม้จะถูกเสียงฟ้าร้องกลบไป แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้ วิ่งไปตามเส้นทางที่คุ้นเคยที่สุนัขของเขาอาจจะวิ่งผ่าน
สายฝนซัดกระหน่ำจนกระทั่งร่มต้านทานไม่อยู่ ตอนนี้เขาเปียกโชกไปทั้งตัว ไม่ต้องพูดถึงข้าวของที่เพิ่งซื้อมาจากซูเปอร์มาร์เก็ตเลย ถึงบ้านแล้วจะต้องโดนแม่ด่ายับไปหลายชั่วโมงแน่ แม้จะรู้แบบนั้นแต่อุเมวากะก็ไม่ได้สนใจนัก
"เบียทัน!"
เขาวิ่งไปตะโกนไปอย่างต่อเนื่อง มันก็เคยมีบ้างที่เบียทันผลัดหลงกับเขา แต่ทุกครั้งที่เขาตะโกนเรียก เบียทันก็เห่ารับแล้วรีบวิ่งมาหาเสมอ เพียงแต่สถานการณ์ที่มีพายุแบบนี้ทำเอาทุกอย่างเลวร้ายลงไปนัก
อุเมวากะวิ่งไปตามทางจนถึงที่บ้าน เขาโยนข้าวของที่ซื้อมาไว้ตรงทางเข้า แล้วก็รีบเข้าไปตรวจดูว่าเรย์ทันวิ่งกลับเข้ามาที่นี่หรือเปล่า แต่ก็ไร้ร่องรอยที่บ้านไม่มีใครเลย
ทำไงดี ทำไงดี
เขาคิดอย่างร้อนรนขณะวิ่งกลับออกไปข้างนอกพร้อมเสื้อคลุมกันฝน พร่ำตะโกนเรียกหาและวิ่งไปเรื่อยอย่างไร้ทิศทาง
ถ้าหากเบียทันเป็นแบบตอนนั้นอีกล่ะ?
เขาย้อนนึกถึงอดีต
มันเป็นครั้งแรกที่เขาได้พบกับเบียทัน
+++++
วันนั้นเองก็เป็นวันที่ฝนตกเช่นกัน อุเมวากะวัยประถมปลายได้พบกับเรื่องสุดช็อกที่สุดในชีวิตตอนนั้น เมื่อ เบียทริกซ์ อาจารย์ฝรั่งผมสีน้ำตาลสาวสวยสุดเซ็กซี่ที่เขาปลื้ม ประกาศว่าเธอกำลังจะเข้าพิธีวิวาห์
"ไม่จริ๊ง!!"
เขาเดินถือร่มร้องไห้ขี้มูกโป่งอย่างโศกเศร้าท่ามกลางสายฝนหลังเลิกเรียน คิดว่าหากตัวเองเกิดเร็วกว่านี้สักสิบปี ยี่สิบปีก็คงจะดี
ขณะที่เขาเดินก้มหน้าร้องไห้ ก็ได้ยินเสียงของสุนัขดังแว่วมา ในตอนแรกเขาไม่ได้สนใจนัก แต่สักพักเขาก็จับได้ว่าเสียงสุนัขที่ดังมานั้นฟังดูอ่อนแรงเหลือเกิน อุเมวากะหันรีหันขวาง แม้จะเป็นพื้นที่ละแวกบ้าน แต่ก็ใช่ว่าเขาจะคุ้นเคยทุกพื้นที่
เขาค่อยๆเดินไปตามทางค้นหาทิศทางที่ได้ยินเสียงแว่วมา จนกระทั่งพบลูกสุนัขขนสีน้ำตาลตัวน้อยนอนอยู่กับพื้นริมทาง พื้นที่เจิ่งนองน้ำฝนนั้นมีสีแดงปะปนอยู่
"เอ๋!?"
เด็กชายค่อยๆขยับเข้าไปใกล้ๆ เสียงร้องครางแผ่วเบากว่าเมื่อสักครู่เสียอีก เขาเข้าไปใกล้จนมองเห็นได้ว่ามันบาดเจ็บ ตัวสั่นหงึกๆดูน่าสงสาร บางทีมันอาจจะโดนรถชนหรืออาจจะโดนคนใจร้ายทำร้ายมา อุเมวากะก็ไม่แน่ใจนัก
ทำยังไงดีล่ะ?
นั่นคือสิ่งที่เขากังวล หากอุ้มมันไปที่บ้านเขาเองก็ไม่แน่ใจนักว่าที่บ้านจะว่ายังไง เมื่อปีที่แล้ว เขาเคยอุ้มแมวที่โรงเรียนกลับมาที่บ้าน ก็โดนตำหนิไปค่อนวันทั้งจากที่บ้านและที่โรงเรียนทำเอาเขาไม่กล้าทำอีก แล้วถ้าเป็นตัวนี้ล่ะ? แม้เขาจะมั่นใจว่าที่บ้านไม่ได้เป็นคนใจจืดใจดำที่จะไล่สุนัขบาดเจ็บได้ลงคอ แต่เขาก็ยังหวาดกลัวอยู่ดีตามประสาเด็กๆ
เด็กชายหันรีหันขวางอย่างลังเล ก่อนที่จะตัดสินใจวางร่มของเขาลงข้างลูกสุนัขเป็นกำบัง ก่อนที่ตัวเองจะวิ่งฝ่าฝนจากไป
+++++
"เบียทัน!!!"
เขารู้ดีถึงความผิดพลาดในอดีตที่ได้ทำลงไปและไม่อยากที่จะผิดซ้ำอีก อุเมวากะตะโกนอย่างบ้าคลั่งจนคอเริ่มแสบ ฝนเองก็กระหน่ำตกอย่างไม่ลืมหูลืมตา เขาวิ่งจนกระทั่งมาใกล้ๆกับที่ที่เขาได้พบกับเบียทันครั้งแรก
อุเมวากะเดินลัดเลาะไปตามซอกซอย จนกระทั่งทะลุมาถึงถนน ใกล้กับจุดที่เขาเคยวางร่มทิ้งไว้ก่อนจะวิ่งหนี
"เอ๋!?"
เขาไม่พบเบียทัน แต่กลับพบหญิงสาวคนหนึ่งนอนสลบอยู่กับพื้น
+++++
"ทำยังไงต่อล่ะทีนี้..."
อุเมวากะพ่นลมหายใจออกมา ขณะมองร่างของหญิงปริศนาที่นอนอยู่บนพื้นห้องน้ำในบ้านตัวเอง
เขาเคยแอบพาสัตว์เข้าบ้านมามากมาย แต่กะคนนี่เพิ่งจะเป็นครั้งแรกเนี่ยแหละ
แม้ว่าชายหนุ่มจะยังกังวลถึงสุนัขของเขาอยู่ แต่จะให้นิ่งดูดายปล่อยผู้หญิงคนนี้ทิ้งไปอย่างที่เคยก็เป็นไปไม่ได้ หลังตรวจสอบดูแล้วว่าเธอไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆและพยายามปลุกเรียกแล้ว เขาก็ตัดสินใจพาเธอมาที่บ้านอย่างไร้ทางเลือก
ถึงตอนนี้ เพราะว่าเธอตัวชุ่มโชกไปด้วยฝน ทำให้ชุดเดรสสีดำนั้นแนบลำตัวจนเห็นสรีระเด่นชัด นั่นทำให้เขาสับสนว้าวุ่นไปหมด
เมื่อสักครู่นี้เขาเพิ่งได้เช็คข้อความโทรศัพท์ พบว่าแม่ส่งข้อความมาว่าติดฝนหนักคงจะกลับดึก ตอนนี้ที่บ้านจึงไม่มีใครอื่นอีกเลย เขาลองโทรศัพท์ไปหาเพื่อนสาวที่สนิทกัน แต่กลับโดนตัดสายทิ้ง ท่าทางว่าจะยังโดนโกรธไม่หายจากการที่เขาไปล้อเลียนเรื่องความเป็นทอมบอยของเธอ
"โว้ย! ช่วยไม่ได้ล่ะ ขอโทษทีนะ แต่ฉันสาบานเลยว่าไม่ได้มีเจตนาไม่ดีน่ะ!"
อุเมวากะตะโกนกล่าวสาบาน ฟ้าก็ร้องดังครืนคล้ายกับจะตอบรับพอดี
ท้ายที่สุดแล้วเขาก็จัดการช่วยเปลี่ยนเสื้อผ้าให้สาวปริศนาใหม่อย่างทุลักทุเลด้วยพยายามหลับตาและไม่ให้เผลอสัมผัสส่วนสำคัญ ชุดเดรสแขนยาวถูกแทนที่ด้วยเสื้อยืดที่สกรีนรูปลูกหมาน่ารักๆ กางเกงขาสั้นและชั้นในที่เขาแอบไปขโมยมาจากห้องของพี่สาว จากนั้นก็พาร่างนั้นมานอนบนฟูกที่ห้องนั่งเล่นที่ปูไว้ก่อนแล้ว จัดแจงเปิดฮีตเตอร์คลายความเย็นจากฝน
มองดูเรือนผมหนาสีดำยาวที่ลีบเพราะซับน้ำ พอคิดว่ามันอาจจะทำให้ไม่สบายหรือเป็นปอดบวมอย่างที่เบียทันเคยเป็น เขาก็อดไม่ได้ที่ไปเอาไดร์เป่าผมของแม่มาเป่าให้แห้ง เกือบจะหยิบไดร์และหวีของเบียทันมาแล้ว โชคดีที่ยั้งตัวเองได้ทันควัน
"เฮ้อ...."
ชายหนุ่มถอนหายใจอีกครั้ง การดูแลคนนี่ยากกว่าดูแลหมาเสียอีก ขณะเป่าผมไปก็จ้องมองไปที่หน้าต่าง ฝนยังตกอย่างไม่มีท่าทีว่าจะหยุดเร็วๆนี้ เบียทันจะเป็นยังไงบ้างนะ... ในใจเขายังคงร้อนรน แต่ก็คิดว่าสภาพอากาศแบบนี้มันลำบากเกินไปจริงๆ ได้แต่หวังว่าจะไม่มีอุบัติเหตุอะไรเกิดขึ้นล่ะนะ
"เบียทัน รออาทันก่อนนะ..."
ผ่านไปสักพักจนผมของเธอแห้งสนิทฟูขึ้นอย่างที่เขาพึงพอใจ เขาก็กลับมาสังเกตหญิงปริศนาผู้นี้ชัดๆครั้งแรก ในตอนแรกที่พบที่พื้นข้างนอกนั้นสภาพของเธอแทบดูไม่ได้ แต่ตอนนี้หน้าที่ซีดเผือดนั้นก็เริ่มมีสีเลือดขึ้นมาบ้างแล้ว โครงหน้ารูปไข่สวย ขนตาเป็นแพยาว ปากสีกุหลาบ ทุกอย่างดูสวยงามลงตัวราวกับตุ๊กตาผู้หญิงในห้องของพี่สาว
อุเมวากะชักรู้สึกตัวเองเสียมารยาทไปเยอะแล้ว ถอนสายตาตัวเองออกมา รีบออกจากห้องนั่งเล่น เอาเสื้อผ้าที่เปียกฝนโยนเข้าเครื่องซักผ้า ก่อนจะไปยังห้องครัวเพื่อหาอะไรทานเป็นมื้อเย็น
ด้วยความขี้เกียจ ท้ายที่สุดจึงออกมาเป็นเมนูสุดง่ายอย่างบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เขากลับมาที่ห้องนั่งเล่นเปิดโทรทัศน์ที่กำลังฉายข่าวสกู๊ปใหญ่ที่กำลังเป็นประเด็นในช่วงนี้ทิ้งไว้ แล้วนั่งซดบะหมี่ ก่อนจะนึกได้ว่าเมื่อสักครู่เจอกระเป๋าสตางค์ในชุดเดรส เขาก็ถือวิสาสะเปิดดู
"หือ? คุ้นๆจังแฮะ..."
เขาพบกับบัตรนักเรียนที่มีรูปชัดเจนว่าเป็นผู้หญิงคนนั้น ส่วนชื่อสกุลนั้น ช่างดูคุ้นเคยคลับคล้ายคลับคราว่าเคยได้ยินมาก่อน...
"อ๊ะ!?"
อุเมวากะหยิบบัตรนักเรียนนั้นขึ้นมาเปรียบเทียบกับชื่อของสกู๊ปข่าวในทีวี ตัวอักษรคันจินั้นตรงเป๊ะไม่ผิดพลาด
"คิโชวอิน..."
ใช่แล้ว! คดีการฉ้อโกงยักยอกทรัพย์ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์วงการธุรกิจของญี่ปุ่นที่เพิ่งถูกเปิดโปงเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาจนกลายเป็นข่าวดังครึมโครมทั่วประเทศ! บริษัทคิโชวอินไงล่ะ!
____________________
ทำไมเบียทันดราม่าจังวะ ถถถถ
ข้างบนไม่ติด เอาใหม่ >>>/webnovel/3899/987
เชี่ย มีหลุดชื่อเรย์ทัน 555555
เสร็จซักทีโว้ยสารบัญ ทำหมดทุกตัวก็หนักไม่ใช่เล่น กูต้องสำนึกในบุญคุณโม่งสารบัญมากๆที่เมื่อก่อนคอยทำให้ //ทำท่าสนุกจังโว้ยยยยย 555555555
อาริมะหาโมเมนต์ยากชิบหาย กูต้องไล่อ่านเผื่อตกหล่นอันไหนไป บางทีโผล่มาแค่ชื่อจนกูไม่รู้จะเขียนยังไงดี ทำไมบทน้อยขนาดนี้
แปลไทยตอนใหม่มาแล้นนนน ขอบคุณโม่งแปลมากๆ
โอยยย กริ๊ดดดดด อ่านแปลไทยตอนใหม่แล้วท่านพี่แม่งน่ากลัวมาก นี่สิ น่าจะเป็นจอมมารสต๊อกเกอร์เบอร์หนึ่งของท่านเรย์กะ
ไปอ่านแปลไทยมาตะกี๊ ขอบคุณโม่งแปลล
อูยยยย ท่านพี่เจ้าคะ บ่าวในเรือนกราบขออภัยที่ไปเรียกใครก็ไม่รู้นอกเรือนว่าจอมมาร แต่ตอนนี้สัญญาแล้วเจ้าค่ะว่าท่านพี่นั้น เป็นผู้อยู่สูงสุดของห่วงโซ่อาหารอย่างชัดเจน
>>34 ม้วนเป็นหลอดอัตโนมัติ....กูนึกถึงก้นหอยมรณะว่ะ ม้วนเองไม่ต้องรอให้ใครมาม้วน
ท่านพี่ขา ท่านพี่คือผู้อยู่จุดสูงสุดของเรื่องอย่างจริงแท้ ร่างอวตารของท่านพี่ที่แบ่งภาคออกไป ความสามารถยังด้อยกว่ามากนัก ร่างอวตารเป็นจอมมาร แต่ท่านพี่คือพญามารเจ้าค่ะ ยุยโกะเป็นบอสใหญ่ แต่ท่านพี่คือบอสลับชัดๆ
แต่เรย์กะแม่งแกล้งนี่หว่า รู้ว่าทาคากิกลัวตัวเองขี้หดตดหาย ยังไปยืนล้อมกรอบคุยกับเขา ติดนิสัยเอ็นโจมาใช่มั้ยนั่น เจ้าแม่กาลีกับไรจิน ฟูจิน มาโปรดสัตว์ถึงที่ ดีใจไว้ซะ ทาคากิคุง ถถถถถถถถถถถถถถถ
แต่ท่านพี่ยิ้มมีนัยแบบนี้แปลว่ารู้อะไรเกี่ยวกับยุยโกะแน่ๆ แล้วใช่มะ ท่าทางยิ้มๆ ตอนบอกว่าเป็นญาติกับเอ็นโจนี่ดูจะไม่ธรรมดา
แล้วที่บอกว่ามีอะไรให้เรย์กะมาบอกตัวเองนี่คือเตรียมหนุนน้องสาวเต็มที่เลยใช่มั้ยคะ ทั้งชีวิตไม่ต้องกลัวล่ะเรย์กะ
>>42 กูว่าสกิลล์ Enchantment ของยุยโกะใช้กับท่านพี่ไม่ได้ผล เพราะมีเกราะซิสค่อน lv.99 เท้าเรืองแสงกำบังอยู่ ลดทอนเสน่ห์ที่ผู้หญิงอื่นทอดสะพานมาหาท่านพี่เกือบหมด อีกคนที่ใช้ไม่ได้ผลน่าจะเป็นท่านอิมาริ เพราะชิงโดนร่ายเวทย์กลอนเสี่ยวจนแม่มดยุยโกะสตันท์ไปเองก่อน ถถถถถถถถ
เชี่ย ท่านพี่โคตรน่ากลัว ร้ายกาจ! ร้ายกาจมาก! ไม่มีอะไรเล็ดลอดสายตาได้เลยสินะ เอ็นโจดูไร้พิษภัยขึ้นมาเลยค่ะ กูสับสนกับฟิคหนักมาก นี่ออฟฟิเชียลจริงๆสินะ เลื่อนขึ้นเลื่อนลง ทำไมท่านพี่แผ่รัศมีจอมมารชัดขนาดนี้
คำว่าพักนี้น้องสาวปิดบังอะไรอยู่ทำกูคิดไกลมาก จะว่าไปเรย์กะไปบ้านวาคาบะจังนี่ต้องรู้แหงๆ คดีล็อคเกอร์ก็ด้วย เดือดร้อนเรื่องใหญ่ขนาดนี้แต่เรย์กะไม่เล่าให้ฟังเลย ท่านพี่ไม่น้อยใจนะ//ตบบ่าแปะๆ
ในที่สุดก็ขึ้น ม.6 แล้ว จะว่าไปก็ผ่านอะไรมาเยอะเหมือนกันนะ! ความสัมพันธ์กับหนุ่มๆในเรื่อง เทียบตอน ป.1 ก็พัฒนามาเยอะเหมือนกัน อย่างน้อยๆก็ได้แตะขอบเข้ามาในเฟรนด์โซนแล้ว!
แต่โรงเรียนก็ใจดีเหมือนกันนะ ส่งฟูจินไรจินมาให้ด้วย ถึงอาจจะเพราะอยากทดแทนให้จากคดีล็อคเกอร์ก็เถอะ โดนแยกห้องเพื่อทอนอำนาจมาตั้งนาน มีปีที่เรืองอำนาจมากๆถึงขั้นเกือบจะไม่มีกลุ่มเดียวกันอยู่ในห้องด้วยเลยนี่? ที่จริงวิธีแบ่งห้องนี่โรงเรียนก็พิจารณาพยายามบริหารทุกปีแฮะ คาบุรากิกับเอ็นโจนี่ก็โดนแยกกันตลอด นายตัวสำรองนี่ก็โดนแยกไม่ให้ไปปะทะกับ 3 แกนนำ Pivoine มาก
>>50 จริงๆ กูก็อยากเห็นห้องที่มีนายตัวสำรอง วาคาบะ คาบุรากิอยู่ด้วยกันนะ อยากรู้ว่าจะพังขนาดไหน สาวๆ มารุมล้อมกรี๊ดกร๊าดคาบุรากิ นายตัวสำรองพยายามห้ามแต่เอาไม่อยู่ คาบุตวาดคำเดียวเงียบ นายตัวสำรองแค้นเล็กๆ เลยไปชวนวาคาบะคุยด้วยบ่อยๆ นั่งติดกัน อ้างว่าอยู่สภานักเรียนเหมือนกันมีเรื่องต้องคุยกันเยอะ คาบุมองแค้นๆ มาไกลๆ ใครเป็นหัวหน้าห้องคงเยินหนัก
อยากให้เรย์กะกะอาริมะบทน้อยอยู่ห้องเดียวกันบ้าง ต้องการบทและโมเมนต์บ้าง ;_;
อ่านแปลไทยล่าสุดแล้ว อย่าดูถูกความเป็นซิสคอลของท่านพี่ ที่ถามเรื่อง 2 คนนี้กะเน้นว่าเรย์กะคิดยังไงคงพอจับสีหน้าได้อยู่ คงเป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่คงจะจับหมั้นหมายแล้วล่ะแต่ท่านพี่เป็นห่วงความรู้สึกเรย์กะด้วยมั้งเลยถามเพื่อดูอาการ หรือไม่ก็ความเป็นซิสคอลทำให้หวงเรย์กะว่าจะไปหลงไอ้ 2 คนนี้หรือเปล่า ดูท่าเอ็นโจนายจะโดนท่านพี่จับตาดูแล้วล่ะพลังจอมมารช่วยนายไม่ได้แล้วเมื่อเจอเทพมาร
มวยคู่หยุดโลก ท่านพี่ vs เอ็นโจ นี่จะมีมาให้ดูเมื่อไหร่น้า~
ตอนใหม่นี่สัมผัสได้ถึงพลังงานบางอย่างระหว่างรุ่นพี่กับเอ็นโจ.... นี่คงมองเห็นอะไรแอบแฝงน่าห่วงกว่าคาบุรากี้อีกสินะถึงได้เทคำถามไปที่ฝั่งเอ็นโจเป็นส่วนใหญ่
ไม่มีใครทำสารบัญท่านพี่ ท่านมหาเทพบ้างเหรอ ถถถ
ความโปรดปรานของเรย์กะ.....กับคนเคยเห็นหน้ากูว่าน่าจะติดลบไปซักล้าน Orz
กูเรือเอ็นโจนะ แต่กูยังมองไม่เห็นทางที่เรย์กะจะมาลงเอยกับเอ็นโจได้ยังไงเลยว่ะ อนาคตโครตมืดมน 5555555555555555555
>>64 "หืม 'ความโปรดปรานของเรย์กะ' ฮะฮะฮะ...เหล่าซุนรันยุคนี้ช่างมีอารมณ์ขันเหลือเกินที่ล้อเล่นกันเยี่ยงนี้ คุณชายตระกูลเอ็นโจเองคงไม่พลอยเป็นไปด้วยหรอกสินะครับ ไอ้เรื่องเหลวใหลละเมอเพ้อพกว่าน้องสาวผมจะมีใจให้ตัวเองเนี่ย แหม...ก็นะ เท่าที่ทราบมาก็ดูเหมือนจะสำเหนียกบุญคุณของญาติที่รู้จักดี...คงไม่อาจหาญขนาดนั้นแน่ๆ จริงมั้ยครับคุณชายเอ็นโจ"
มโนว่าคงโดนท่านพี่ตอกราวๆ นี้
สุดท้ายก็คงจบกับคานซังที่หลายๆคนเคยพูดถึงอ่ะ
ไม่ก็ไปลงเอยกับตัวประกอบ A ที่ไม่เคยมีบท แบบ
10 ปีผ่านไป พวกเรามารวมตัวกันที่งานเลี้ยงรุ่น คุณสามีที่รักของฉันไม่ยอมมาเพราะเห็นว่ามีแค่ศิษย์เก่าของซุยรันเท่านั้น แหมจะเกรงใจอะไรไม่เข้าท่าก็ไม่รู้ ฉันอุตส่าห์อยากอวดคนรักให้คนอื่นๆเห็นบ้างจัง อ๊ะ นั่นตาคาบุรากิกับวาคาบะจังนี่ แหม ยังหวานชื่นกันเหมือนเดิมเลยนะ ส่วนทางนั้นก็ตาเอ็นโจ จะว่าไปเหมือนตานั่นจะยังไม่ได้แต่งงานสินะ แปลกจังเลย แต่ฉันชนะ โฮะโฮะโฮะ...
อะไรประมาณนี้
>>69 บร้าาาา เขาเห็นกันมาตั้งแต่เล็กแต่น้อยเป็นสิบปี ชมไปก็เท่านั้นไม่เคยรู้สึกรู้สาอะไรซักครั้ง แต่แค่มาใส่คาดิแกนอยู่บ้านแบบสบายๆ ชมว่าน่ารักเหมือนกระต่าย เรย์กะถึงกับโดขิ โดขิเปิดโหมดฉุกเฉินเนี่ยนะ 55555555555555555
เรื่องนี้กูว่าคานซังมีลุ้นพระเอกที่สุดแล้ว น่าจะอันดับหนึ่งเลยด้วย
กูก็มีเพื่อนหล่อนะ ลูกครึ่งด้วย ขาว สูง เห็นกันมาตั้งแต่เล็กๆ ทุกท่วงท่า ทุกสถานการณ์ บ้านอยู่ใกล้กัน พ่อแม่ยังแซวๆเลยว่าเป็นแฟนกันรึเปล่า เหมาะดีนะ ทั้งกูและมันขนลุกเลย กูไม่สามารถใจเต้นกับคนที่ตดอัดหน้ากูได้จริงๆ ต่อให้มันจะแต่งตัวหล่อมาขนาดไหนก็เหอะ
จริงๆ น้องคันตะก็น่ารักดีนะ แอบคิดว่าพอวาคาบะแต่งออกไปแล้ว ในฐานะที่เป็นลูกชายคนโต น้องก็อาจจะสืบต่อร้านเค้ก เรย์กะมาเรียนรู้วิถีสามัญชนด้วยการทำงานพิเศษที่ร้านแล้วกลายเป็นมาสค็อตเรียกแขก กลายเป็นว่าโคโรเน่ขายดิบขายดี แต่นางทำได้แต่งานหน้าร้าน เพราะคันตะขีดเส้นตายประตูห้องครัวไว้ไม่ให้เข้า พอเสร็จงานคันตะก็ทำกับข้าวให้กินไปปฎิเสธไอเดียทำขนมบ้าๆ บอๆ ของเรย์กะไป ง้วย~~ น่าร้ากกกก
>>79 ก็ถ้าไม่เคยรู้จักมันมาก่อนเลย กูก็คงใจเต้นอะนะ เพราะมันหล่อจริง แต่เสือกเห็นกันมาตั้งแต่เล็ก พ่อแม่สนิทกัน เล่นด้วยกัน เรียนโรงเรียนเดียวกัน บ้านใกล้กันพ่อแม่เลยให้กลับบ้านพร้อมกัน พอขึ้นมัธยมแม่งชอบชิ่งไปหาแฟนที่อยู่อีกโรงเรียนหรือไปเถลไถลนั่นนี่แล้วให้กูช่วยโกหกแม่มัน เรื่องป่วงๆเลวๆเอามาทำกับกูหมด เรื่องดีๆหล่อๆเอาไปโชว์สาวอื่น ดอกมาก 555555555
>>81 คนละเรื่องกับกูเลย เพื่อนกูแบบเจอกันทีเอาใจกูสารพัด แถมจีบกู อ่อยกูตลอด กูเลยไม่ค่อยอยากยุ่งมาก กลัว555555555 พอโตมา มันก็ยังทำท่าเหมือนจีบกูอยู่ทั้งๆที่กูมีแฟนแล้ว แล้วพอมาเจอมันในงานพรอมก็เลยแอบใจเต้นเล็กๆแต่ท่องไว้ในใจแฟนนั่งอยู่ข้างๆหายใจเข้าลึกๆ555555555
ky เห็นพูดเรื่องทวงบุญคุณแล้ว กูคิดอยู่ว่าวันจันทร์กูจะได้เงินคืนจากเพื่อนกูไหม กูให้มันยืมเงิน 20 บาทไปเล่นไพ่ ถ้าสมมติไม่ได้ กูควรทวงมันยังไงดีวะ?
เมื่อเช้ากูเข้าไม่ได้เหมือนเว็บจะล่ม(?) ใช่ป่าววะ
เป็นเพราะอำนาจจอมมารอีกรึเปล่า 555
แค่โดนแซวว่าแต้มต่อสู้ท่านพี่ไม่ได้ก็งอนแล้วเหรอวะ ว้ายๆ จอมมารขี้ใจน้อย
กูกลับไปอ่านเรย์กะตอนแรกๆรอบใหม่อ่ะมึง ละโมเม้นต์ที่อิมาริอธิบายท่านพี่คือแบบภายนอกอ่อนโยนแต่ภายในดำมืดมาก โอ้ยยยชอบตัวละครนี้ละตอนล่าสุดแบบบอสลับมากๆ เป็นแบ็คให้เรย์กะที่ทรงอานุภาพมากจริง
มีความแอบมโน ว่าอนใหม่ที่ท่านพี่เน้นตรงเอ็นโจกะยุยโกะเป็นญาติกัน อาจสื่อว่าญาติกันยังจะหมั้นเลย พี่น้องก็.... รึท่านพี่อาจไม่ใช่ลูกแท้ๆของทานุกิ เรือท่านพี่ก็มาอีกครั้ง
สงสัยกูเป็นคนเดียวที่คิดว่าพล็อตล่าสุดมันแบบ ท่านพี่รู้จักกับยุยโกะแล้วบังเอิญเป็นจอมมารเหมือนกัน มีภาพลักษณ์อ่อนโยนแต่จิตใจดำมืด เลยดูกันออก ยุยโกะบอกท่านพี่ว่าเอ็นโจเป็นคู่หมั้น ท่านพี่เลยแอบสืบจากเรย์กะนิดหน่อยแต่จริงๆก็มีข้อมูลแล้ว เจอกันรอบหน้าค่อยบลัฟกันใหม่ ออกแนวคู่กัดที่ต้องเจอกันบ่อยๆเพราะทำธุระกิจด้วยกัน 55555
ยุยโกะรู้ว่าเอ็นโจชอบเรย์กะ ตอนงานชมซากุระก็แกล้งพูดเหมือนจะให้เรย์กะเข้าใจผิดว่าเอ็นโจกำลังคบกับยุยโกะ เอ็นโจเลยขมวดคิ้ว แต่ทำไรไม่ได้มากเพราะถ้าทำให้อีกฝั่งไม่พอใจมันจะส่งผลกระทบต่อด้านอื่นๆ
เรื่องราวผ่านไปเอ็นโจต้องเข้าพิธีแต่งงานกับยุยโกะ คาบุรากิก็ยืนตบบ่าเรย์กะปุๆอยู่ในงาน แล้วท่านพี่ก็มาเปิดโปงการทุจริตของตระกูลยุยโกะ(โดยได้ความช่วยเหลือจากตระกูลคาบุรากิและ ตระกูลเอ็นโจที่คอยช่วยเหลือลับๆ)
เกิดเป็นตำนานใหม่ของซุยรัน สามตระกูลผู้ยิ่งใหญ่ผนึกกำลังช่วยเหลือกัน ตระกูลคิโชวอิน+ตระกูลเอ็นโจช่วยเหลือทายาทตระกูลคาบุรากิให้ได้ครองรักกับหญิงสาวต่างชนชั้น ตระกูลคิโชวอิน+ตระหูลคาบุรากิร่วมมือกันพาตระกูลเอ็นโจหลุดพ้นจากมารร้าย สายสัมพันธ์สามตระกูลแน่นแฟ้น ภาคต่อมาติดตามได้ในรุ่นลูกที่น่าจะวายป่วงมากกว่ากัน
สรุปคือท่านพี่กลับดึกเพราะไปดินเนอร์กับเอ็นโจในวันไวท์เดย์
กูว่าท่านไอระหรือยูริเอะไม่ใช้อะ ถ้าใช้ท่านพี่คงพามาแนะนำเรย์กะแล้ว
>>113 ก็เป็น "ผู้หญิงคนเดียว" ที่มีบทกับท่านพี่หลายหนอ่ะ ไอระก็สนิทกับเรย์กะ ตอนมัธยมท่านพี่กับไอระก็อยู่ในสโมสรด้วยกันก็คงมีคุยกันบ้างล่ะ ท่านพี่ก็เคยไปขอร้องไอระให้ช่วยสอนทำช๊อกโกแลตให้เรย์กะ ไอระมาบ้านคิโชวอินกี่ครั้งไม่รู้ไม่มีบรรยายถึง แต่ที่แน่ๆมาครั้งนึงชัวร์ ท่านพี่ก็คิดจะพึ่งพาไอระในเรื่องนี้ ไปเที่ยวสวนสนุกด้วยกัน ไอระก็ดูสนิทสนมกับอิมาริด้วย ก็ตามเหตุผลนั้นล่ะ ไม่งั้นท่านพี่คงได้ลงเอยกับอิมาริแน่ๆเพราะไม่มีใครอีกแล้ว
กูมายกมือเรือท่านพี่ท่านไอระ อย่างหลายโม่งที่บอก บทกับท่านพี่ก็มีท่านไอระนี่แหละที่กูเห็นอยู่ด้วยกันบ่อยกว่าผู้หญิงคนอื่น กูเดานะ ถ้าคบกันหรือเดตกันเค้าอาจจะไม่ได้ปิดแต่ท่านเรย์กะไม่รู้เองมากกว่า555555 คือกูเห็นนางไม่ค่อยลงมือสืบอะไรเองเท่าไหร่(น้องแว่นไม่นับ อันนั้นยกข้อมูลให้เป็นของขออภัยโทษให้ริรินะ) แต่ถ้าสมมติเดต กูว่าท่านพี่ก็ไม่น่าจะบอกล่ะมั้ง ฟีลแบบว่าถ้าน้องถามพี่ก็บอกถ้าน้องไม่ถามพี่ก็ไม่อะไร ซึ่งกูคิดว่าแบบนี้เป็นไปได้โคตรสูง กูเดาใจท่านพี่ไม่ออก แต่แค่กาวเล่นๆ มองแบบที่เอี่ยวกะท่านพี่นะ >ด้วยความที่ท่านไอระน่าจะสนิทกับพี่น้องบ้านคิโชวอินในระดับนึง(มากกว่าสาวๆคนอื่นข้างนอก) ละดูจากที่สนิทกับท่านอิมาริด้วยแสดงว่ามากกว่าระดับนึงไปแน่นอน แล้วดูจากที่ท่านพี่พูดคุยด้วย ดูจากที่ไปเที่ยวไปไหนด้วยกัน ความสัมพันธ์ค่อนข้างดีมากเลยนะถ้าเทียบท่านพี่กับผู้หญิงคนอื่นๆ กูว่าถ้าเป็นท่านไอระจริงๆ สองคนนี้น่าจะคุยๆหรือเดตกันอยู่ท่านพี่ถึงไม่ได้พูดอะไร(วันที่เกี่ยวกับความรักบางวันที่พี่ก็ดูยุ่งๆใช่ไหม? ถ้าไม่เกี่ยวกับทำตัวให้ยุ่งเองเลี่ยงช็อกโกแลตก็น่าจะต้องมีคู่ล่ะ) แต่สำหรับกูนะ ถ้าท่านพี่จะคบใครถ้าใครไม่ถามคงไม่บอกอะ อันนี้ความรู้สึกกูล้วนๆไม่มีตรรกะใดๆ แต่ก็เคยลองคิดดูนะ ถ้าพี่ชายกูที่กูชอบอ้อนบ่อยๆมาบอกว่าคนที่เราชอบปลื้มมโนบ่อยๆว่าเป็นอัศวินงู้นงี้ตอนนี้เดตกันอยู่ กูว่ากูตกใจอะ แต่คงไม่ถึงขนาดเป็นเหตุผลที่บอกไม่ได้ ตอนนี้กูหาอะไรมาอ้างอิงท่านพี่กับท่านไอระไม่ได้เลย แต่กูชิพเพราะกูชอบ มั้งๆที่โมเมนต์ก็แทบไม่มีแท้ๆ ถถถถถถถถถถ
เอาจริงนะ มันไม่มีทางใช้ท่าไอระหรือท่านยูริเอะแน่ๆ ต่อให้ท่านพี่ไม่พูดแต่ท่านไอระหรือท่านยูริเอะ(ที่ยังติดต่อเรย์กะอยู่เรื่อยๆ)ยังไงก็ต้องมีมาบอกบ้างว่าคบกับท่านพี่อยู่นะอะไรแบบนี้
ปล.แต่ถ้าชอบยังไงก็มโนกันตามใจชอบเลยมึง
ต่อจาก >>>/webnovel/3899/943-944 ตอนแรกก็ว่าจะเขียนดีๆไม่ออกทะเล แต่พอเขียนจริงนี่เข้า New world นำหน้าพวกลูฟี่เลยทีเดียว
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เช้าวันต่อมาข่าวก็แพร่กระจายไปทั้งโรงเรียนเหมือนกระแสน้ำตอนเขื่อนแตก ข่าวอุบัติเหตุที่ฉันเตะบอลใส่หน้าคิโชว์อิน เรย์กะ จนล้มหัวฟาดพื้นถูกตัดแต่งเป็นฉันจงใจเตะใส่คิโชว์อิน เรย์กะจนล้มหัวฟาดพื้นเพื่อล้างแค้นกับเรื่องเมื่อตอนงานโรงเรียน…
และมันช่างน่าตลกที่หลายๆคนเชื่ออย่างหลังกันเป็นส่วนใหญ่ จนตอนนี้ ไม่มีผู้หญิงคนไหนกล้าเข้าใกล้ฉันและผู้ชายที่ไม่ใช่ผู้อยู่ในเหตุการณ์ก็เริ่มมองฉันแปลกๆ โดยเฉพาะพวกสภานักเรียนที่มองฉันด้วยสายตาที่แปลกกว่าคนอื่นๆมากจนฉันกลัว…
แต่ฉันก็พยายามทำตัวเป็นปรกติที่สุดเท่าที่จะทำได้ ตอนนี้คิโชว์อิน เรย์กะนอนโคม่าอยู่ที่โรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง ในความดูแลของหมอที่เก่งที่สุดในประเทศ แน่นอนว่าตระกูลของฉันออกค่ารักษาทั้งหมด รวมทั้งค่าเสียหายที่ทางฝั่งตระกูลคิโชว์อินเรียกร้องมาด้วย
ที่จบลงแค่จ่ายค่าเสียหายนั้นต้องขอบคุณสมาชิกในชมรมฟุตบอลทุกๆคนที่ทำให้ฉันรอดพ้นจากชะตากรรมอันเลวร้ายมาได้ สมาชิกชมรมที่เห็นเหตุการณ์ช่วยกันยืนยันจนท่านประธานคิโชวิอินใจอ่อน
แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ยังคงต้องไปเยี่ยมคิโชว์อิน เรย์กะทุกวัน ดังนั้นหลังจากซ้อมเสร็จ ฉันก็ออกไปหาซื้อของฝากสำหรับเยี่ยมผู้ป่วยและไปหาคิโชว์อินที่โรงพยาบาล…ฉันทำแบบนี้มาราวๆ 2-3 วันแล้วล่ะ
“มาได้ซักทีนะ…” คนแรกที่ออกมาต้อนรับฉันที่หน้าห้องของคิโชว์อิน เรย์กะคือพี่ชายของเธอชื่อคิโชว์อิน ทาคาเทรุ นับตั้งแต่คิโชว์อิน เรย์กะนอนเป็นผักอยู่บนเตียง เจ้าตัวก็อยู่เฝ้าเกือบทั้งวัน ทุกวัน
และสายตาที่เขาจ้องมองมาที่ฉัน มันเหมือนกับพญายมราชกำลังจ้องมองคนบาปอยู่เลย…
“วันนี้ผมติดซ้อมใหญ่เลยมาช้าน่ะครับ”
“คงไม่ได้ทำใครเจ็บเพิ่มหรอกนะ?”
“…”
ฉันพูดอะไรไม่ออก ในขณะที่คุณทาคาเทรุมองฉันไม่วางตาระหว่างที่นั่งอยู่บนโซฟาที่มุมหนึ่งของห้อง ฉันก็ได้แต่เดินตัวสั่นไปเปลี่ยนดอกไม้ในแจกันและเลื่อนเก้ามานั่งข้างเตียงของคิโชว์อิน
ในวันนี้คิโชว์อิน เรย์กะก็ยังคงสวยงามเหมือนเดิม เหมือนตุ๊กตาฝรั่งเศสขนาดเท่าคนจริงที่สวมชุดผู้ป่วยอยู่ ฉันนั่งเฝ้าและมองใบหน้าอันวิจิตรงดงามหาสิ่งใดเปรียบจนเวลาผ่านพ้นไประยะหนึ่ง ฉันจึงสำเหนียกตนเองได้ว่า…เมื่อก่อนฉันกลัวคิโชว์อิน เรย์กะเพราะอะไร?
เพราะเธอเป็นลูกสาวของประธานคิโชว์อิน เพราะเธอเป็น Pivoine หรือเพราะเธอเป็นเธอ……ฉันกลัวเพราะฉันแค่ไม่เข้าใจตัวเธอเท่านั้นเอง…พอได้อยู่ใกล้ๆและทำความเข้าใจสิ่งรอบตัวเธอแล้ว ฉันไม่รู้สึกกลัวเธอแม้แต่น้อย
“หมดเวลาของนายแล้ว…กลับไปได้แล้ว”
“…ครับ”เพราะฉันกลัวพี่ของเธอมากกว่าอะนะ…
หลังจากเหตุการณ์วันนั้นก็ผ่านได้ 5 วันแล้ว คิโชว์อินก็ยังนอนโคม่าเหมือนเคย แต่ที่โรงเรียนฉันกลับต้องเจอเรื่องที่ฉันไม่เคยได้เจอกับตัวเองมาก่อน
“ฝีมือใครเนี่ย…”
บนโต๊ะของฉันในห้องเรียน มีคนมาเขียนคำว่า ‘ไอ้ฆาตกร’ ตัวโตๆไว้ ตอนพักเที่ยงก็มีคนสกัดขาฉันจนล้ม ข้าวที่ซื้อมาก็หกเลอะเต็มพื้นจนอดกิน ตกเย็นก็มีคนแอบเอากระเป๋าของฉันไปซ่อน กว่าจะหาเจอเสียเวลาไปเยอะ จนคุณทาคาเทรุหัวเสีย…
ทำไมฉันต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วยเนี่ย…แต่ว่า…ก็สมควรแล้วล่ะ ฉันพยายามจะแก้มือด้วยการมาโรงเรียนตอนเช้าตรู่ ตอนเที่ยงก็ห่อข้าวมากินเองไม่วุ่นวายที่โรงอาหารและสุดท้ายตอนซ้อมก็เอากระเป๋าไปซ่อนเอง เป็นแบบนี้ไปจนถึงจบสัปดาห์แรก…
พอเริ่มสัปดาห์ต่อมาก็มีเรื่องเซอไพรซ์กับฉันอีกแล้ว…ในเช้าวันจันทร์ ครบรอบ 1 สัปดาห์ของเหตุการณ์นั้น สมาชิกสภานักเรียนคนนึงก็เข้ามาทักทายฉัน
“ว่าไงครับท่านประธานชมรมฟุตบอล?”
“ก็เรื่อยๆ ถึงช่วงนี้จะมีเรื่องลำบากเล็กๆน้อยๆพอเป็นสีสันชีวิตก็เถอะ”
“ม่ายๆ ผมไม่ได้หมายถึงเรื่องที่คุณโดนแกล้ง…ผมหมายถึงเรื่องของยัยคิโชว์อิน…รู้สึกยังไงบ้างที่ได้ล้างแค้นพวก Pivoine?”
“หา!? ล้างแค้น!? พูดเรื่องอะไรน่ะ!?”
“ชูว์…อย่าเสียงดังไป…ผมรู้นะครับว่าในใจลึกๆคุณอยากทำแบบนี้มานานแล้ว หลายคนในซุยรันก็เหมือนกัน อยากจะกระชากหน้ากากผู้ดีจอมปลอมของพวก Pivoine อยากจะผลักพวกมันลงเหว…อยากจะทำลายล้างพวกหนอนติดปีกอย่าง Pivoine..”
“เอ่อ…ผมว่าคุณว่า Pivoine แรงไปนะ จริงพวกนั้นนิสัยไม่ดีแต่ก็แค่บางคน อย่างคุณคิโชว์อินเองก็ช่วยคนอื่นๆมามากนี่”
“ใช่ คิโชว์อิน เรย์กะ ต่อหน้าทำเป็นคุณหนูแสนดีแสนบอบบาง แต่ลับหลังก็เป็นได้แค่นังร่านเที่ยวหาผู้ชายไปวันๆ นั่นแหละ”
“นี่!”
“เอาเป็นว่า..”สมาชิกสภานักเรียนจู่ๆก็ยื่นการ์ดเชิญแปลกๆให้ฉัน การ์ดเชิญร่วมงานเลี้ยงน้ำชาเวลา สี่โมงเย็น ที่อาคารเก่าที่ถูกปิดร้างรอวันรื้อทิ้งนี่…ได้ยังไงกัน… “ผมเชื่อว่าคุณต้องมา…”
“…” แล้วตลอดวันนั้นฉันก็ได้คิดว่าจะไปไม่ไปดี จะเอาไปปรึกษาใครคงไม่ได้..แต่จะทิ้งไปเฉยๆก็ไม่ได้เหมือนกัน…ทำไมฉันต้องมาพัวพันกับเรื่องบ้าๆพวกนี้ด้วยเนี่ย…แค่เรื่องบังเอิญเรื่องเดียวแท้ๆ…
.
.
“สมแล้วที่เป็นกองหน้าอันดับหนึ่งของประเทศ คุณไม่ทำให้ผมผิดหวังจริงๆด้วย” สมาชิกสภานักเรียนคนเดิมออกมาต้อนรับฉันด้วยหน้ากากจิ้งจอกแบบที่ขายในงานวัดปิดบังใบหน้า
“ฉันไม่ว่างทั้งวัน มีธุระอะไรก็ว่ามา”
“รุนแรงจังนะ แต่ไม่เป็นไร เข้ามาร่วมงานเลี้ยงก่อนสิและขอโทษด้วยที่ลืมแนะนำตัวแต่ผมคงเปิดเผยตนเองไม่ได้ เรียกผมว่า ’ลูคุง’ แล้วกันนะ” เฮ้อ..แต่ว่าแล้วลูคุงก็พาฉันเข้าในอาคารที่เหมือนจะพังลงมาได้ทุกเมื่อ ลูคุงพาฉันเดินลึกเข้าไปในอาคารและลงไปชั้นใต้ดิน
ชั้นใต้ดินของอาคารมีประตูที่ใช้การได้เพียงบานเดียว ลูคุงเปิดประตูออกเผยให้เห็นถึงความลับที่ถูกซ่อนอยู่ที่นี่ ที่ซุยรันแห่งนี้…
ในห้องสี่เหลี่ยมกว้างพอๆกับห้องเรียน 2 ห้อง มีไฟส่องสว่างเจิดจ้า บนกำแพงฝั่งซ้ายมีจอมอนิเตอร์มากมายราวๆ 100 จอเห็นจะได้ ถัดจากจอก็เป็นบอร์ดขนาดใหญ่ที่มีรูปของสมาชิก Pivoine ทุกคนอยู่ กำแพงตรงกลางด้านหน้าของฉันเป็นธงผืนใหญ่ ธงดอกโบตั๋นที่ถูกกากบาททับไว้ และกำแพงฝั่งขวามีประตูเหล็กหนาด้วย
กลางห้องมีนักเรียนชายทั้งหมด 9 คน แต่ละคนก็สวมหน้ากากปิดบังใบหน้าไว้เหมือนลูคุง… ทั้งหมดนั่งล้อมโต๊ะกลมกันที่กลางห้อง…
“ห้องนี้มัน..”
“เชิญนั่งครับ…”ลูคุงไม่ฟังคำถามของฉัน แต่ฉันก็จำใจนั่งในโต๊ะที่ว่างอย่างจำยอม ลูคุงพยักหน้า ทุกคนที่นั่งพยักหน้าและลูคุงก็เริ่มอธิบายสถานการณ์ให้ฉันฟัง
“เอาล่ะ เพื่อความปลอดภัยของคุณเอง ผมขอเรียกคุณว่าเอสคุงแล้วกันนะ เอาล่ะ เอสคุง ผมขอต้อนรับเข้าสู่ ‘สภานักเรียนใต้ดิน’ และผมคือประธานคนปัจจุบันชื่อลูคุง “
“สภานักเรียนใต้ดิน?”
“ใช่แล้ว เนิ่นนานหลายทศวรรษ ซุยรันตกอยู่ภายใต้อำนาจมืดของ Pivoine พวกเราสภานักเรียนก็ได้ต่อกรกับพวกมันแค่บางครั้งบางคราว จนกระทั่งท่านประธานนักเรียนคนหนึ่งชื่อ อุเมซึกิ หรือที่รู้กันในชื่อ อุซึกิคุง ประธานสภานักเรียนใต้ดินรุ่นแรก ได้ก่อตั้งสภานักเรียนใต้ดินขึ้นมาเพื่อเป็นอีก 1 กำลังในการต่อกรกับอำนาจมืดของ Pivoine!”
“..แล้ว”
“ในเมื่อพวก Pivoine มักใช้อำนาจมืดของครอบครัวเล่นงานและสร้างความเดือดร้อนให้นักเรียนคนอื่น ไฟต้องเจอไฟ ความมืดต้องเจอกับความมืด ความชั่วต้องเจอกับความชั่ว พวกเราเล่นเกมนอกกฎกับพวก Pivoine เพื่อทำลายพวกมันให้สิ้นซาก…ถ้ายังไม่เชื่อ..บูตะคามิคุง..เอายัยนั่นออกมาโชว์ซะสิ”
ว่าแล้วคนที่อ้วนที่สุดในกลุ่มก็เดินไปเปิดประตูเหล็ก และเดินเข้าไป ไม่ช้าก็ได้ยินเสียงลาก เสียงใกล้เข้ามาเรื่อยๆ และยิ่งใกล้เข้ามาเท่าใด หัวใจของฉันก็เต้นรัวไม่เป็นจังหวะ..อย่าเป็นสิ่งที่ฉันคิดเชียว…แต่มันดันใช่…
บูตะคามิคุงลากเด็กผู้หญิง ม.ต้นคนหนึ่งออกมาจากห้อง เธอโดนมัดไว้ด้วยโซ่เหล็ก เสื้อผ้าก็ขาดจนเกือบเปลือย ทั้งตัวเต็มไปด้วยแผลฟกช้ำและแผลอื่นๆ อีกมากจนนับไม่ไหว ปากก็ถูกมัดปิดด้วยเชือกที่ถูกมัดจนแน่นมากๆ แน่นพอจนเห็นเลือดซึมออกมาเล็กน้อย ถึงตรงนี้ หัวใจของฉันก็ราวกับหยุดเต้นเมื่อบูตะคามิคุงโยนเด็กผู้หญิงมาตรงหน้าผม
“เธอคนนี้คือ ฟูจิวาระ มิซากิ เป็นสมาชิก Pivoine ชั้น ม.ต้น และเป็นของเล่นชิ้นใหม่ของพวกเรา เราจับเธอได้เมื่อราวๆ อาทิตย์ก่อน ครอบครัวของเธอปิดข่าวได้ดีจริงๆ ผ่านมาขนาดนี้ยังไม่มีใครรู้เรื่องเลย”
“นายทำไปได้ยังไง…ถึงจะเป็น Pivoine…แต่ก็เป็นนักเรียนซุยรัน..”
“อย่าเหมารวมนักเรียนทั่วไปแสนน่ารักกับ Pivoine อันน่ารังเกียจสิ ที่ผมชวนมาร่วมงานเลี้ยงก็เพื่อสิ่งนี้…เชิญมาเพื่อให้คุณได้เป็นส่วนหนึ่งของพวกเราสภานักเรียนใต้ดิน เพื่อทำลาย Pivoine ให้สิ้น…ทำตามที่ซ้อมไว้ ไทคุง”
จู่ๆ เจ้าคนผอมก็เดินเข้าไปในห้องหลังประตูเหล็กและเดินออกมาพร้อมคีม ไทคุงเดินมาหาฉันและยัดคีมลงมาในมือฉัน บูตะคามิคุงปลดเชือกที่ปากของฟูจิวาระ เมื่อเชือกออกจากปาก เด็กที่น่าสงสารก็ร้องขอความช่วยเหลือแทบทันที
“ฟุจิวาระจังน่ะฟันสวยมากเลยนะ ผมเดาได้เลยว่าคุณต้องอยากได้มันมาประดับห้องแน่ๆ”
“ฉันไม่ทำแน่…”
“ไม่ คุณต้องทำ”
“ไม่มีวันซะหรอก”
“งั้นแผน 2 ทุกๆคนเอาเลย”
“เฮ้ พวกนายจะทำอะไรน่ะ!?”
สมาชิกสภานักเรียนใต้ดินคนอื่นๆกรูเข้าและล็อกตัวฉันไว้และบังคับให้ฉันถอนฟันของฟูจิวาระ…หมดทุกซี่ ใบหน้าที่บิดเบี้ยวเพราะความเจ็บปวดทรมานของฟูจิวาระยังคงหลอกหลอนตัวฉันแม้จะออกจากอาคารมาแล้วก็ตาม
“ 5 โมงเย็นพอดี ผมว่าคุณคงไปเยี่ยมนังนั่นทันนะ”
“,,อืม”
“ไม่ต้องห่วง คุณมอบความกล้าให้พวกเรา สภานักเรียนใต้ดินในการโจมตีเหล่า 3 ผู้ยิ่งใหญ่แห่ง Pivoine หลังจากเล่นงานพวกปลาซิวปลาสร้อยมาเสียนาน ตอนนี้พวกเราเริ่มวางแผนการใหญ่และคุณก็เป็นหนึ่งในตัวหมากสำคัญของพวกเรา…คิโชว์อิน เรย์กะหายดีเมื่อไหร่…ผมรับประกันเลยว่าคุณจะเป็นแรกที่ได้เล่นกับเธอและเป็นเจ้าของเธอไปจนถึงวันสุดท้ายของชีวิต…โชคดีและเก็บฟันพวกนั้นไว้ดีๆล่ะ”
ลูคุงเดินจากไปปล่อยให้ฉันยืนอึ้งเพียงลำพัง เวลา 1 ชั่วโมงที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตของฉันเลย…ฉันเอากล่องที่เก็บฟันของฟูจิวาระไปเก็บในกระเป๋านักเรียน ไปเยี่ยมคิโชว์อินตามปกติ ก่อนจะเอากล่องฟันไปฟังดินและทำการสวดส่งวิญญาณ…เช้าวันต่อมา จักรพรรดิ คาบุรากิ มาซายะก็เรียกฉันไปพบ…
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------จบละ
>>129-131 น่ากลัวเชี่ย แถมกล้ามาก ทำร้ายร่างกายแถมทรมานอีก พ่อแม่เขามารู้เข้าได้เจอคำว่านรกแน่ๆ(กูเชื่อว่า Pivoineทุกคนไม่กระจอก พ่อแม่พร้อมที่จะลากคนที่มันทำร้ายลูกออกมา แค่ถอนหุ้นที่ถืออยู่ของบริษัทพ่อแม่สภาใต้ดินพวกนั้น พวกตระกูลอื่นที่เป็นPivoineช่วยกันแบน ก็ตกนรกทั้งเป็นแล้วแหละ)
ตอนใหม่ล่ะ เย้! ขอบคุณคนแปลนะ อีการดักเจอ เข้าประชิดตัวเพื่อต่อกลอนรักนี่หลุดจำดังมาก เนิร์ดใช่เล่นนะนาย ชูสุเกะไม่ยอมเล่นอะไรแบบนี้ด้วยสินะ คงอยากหาคนมาเล่นแบบนี้ด้วยตลอดเลยสินะ //ลูบหัวเอ็นดู
สังหรณ์ว่าต้องมีคนเข้าใจผิดไปไกลแหง มีคนปกติเค้าต่อกลอนรักตอนเจอหน้ากันเรอะ!! คาบุรากิ นายให้หนังสือผิดคนแล้ว
โคโระจังสอนคาบุรากิเป็นเรื่องเป็นราวกว่าที่คิดแหะนึกว่าจะสอนแบบส่งๆไปซะอีก
โคตรขำตอนต่อกลอนรัก กูเคยมีฝรั่งมาจีบแนวนี้นะ
แต่ต่อกลอนของเชคสเปียร์แทน ตอนนั้นก็ขนลุกพอกัน55555
อิตาบากะรากินี่ไม่ไหวแล้ว โคตรฮาาา
ปล, ตอนที่แล้วกูมโนกาวเอนโจหนักมากว่าเรย์กะอาจจะหลงนางเข้าแล้วแต่ไม่รู้ตัว วี้ดวั้ยยย
กรมข่าวลือซุยรันได้เวลาทำหน้าที่แล้วค่ะ
แหมๆ นั่งจิบชาสองต่อสองในสโมสรของPivoine แถมตอนเดิมสวนกันยังกระซิบถ้อยคำแห่งรักให้กัน
กูเชื่อว่าอีกไม่นานมันจะกลายเป็นข่าวลือที่ยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน
อ่านตอนล่าล่ะ คือจริงๆมันก็สั่งสมมาหลายตอนล่ะนะ ตั้งตารอตอนพิเศษความเห็นบุคคลที่ 3 เลยค่ะ ลือกันฮาแน่นอน
โอ๊ย เจ้าคู่บ้านี่ขนาดต่อกลอนรักกันแล้วได้ๆกันไปเถอะ
ขอบคุณโม่งแปลมากๆ
ต่อกลอนนี่ประชันปัญญา ลองภูมิท่านอาจารย์เรอะ ถถถ
ปรึกษาทั้งตอนพีคไม่เท่าเจอหน้าแล้วต่อกลอนรักคืออะไร บ้าบอโว้ย555555555555555
"คิโชวอิน ความรักคืออะไร"
"รักคือ... ตะวัน รักคือไฟอันร้อนแรงไร้จุดหมาย~" //เต้นด้วย
ขอบคุณโม่งแปล!!
อุ๊ย. นี่มัน บทเริ่มต้นความรักของคู่ต๊องนี้นี่นา
สมกันราวกิ่งทองใบหยก 5555
ความสนุกเริ่มต้นแล้วสินะ^^
มีต่อกลอนรักกันด้วยยย
ทางเดินยังไงก็มีคน ต้องมีคนได้ยินแน่ๆ
จักรพรรดิกับจักรพรรดินีกระซิบต่อกลอนรักกันล่ะค่ะ!
ว่าแต่ไอ้ขนม Ispahan นี่มันหาทานที่ไหนในกทม.ได้มั่งวะ พวกดาราเทวีช็อปไรงี้มีไหมนะ
KY พวกมึงว่าฟูจินไรจินจะได้ยินท่านเรย์กะต่อกลอนกับคาบุรากิมั้ยวะ หรือทั้งสองคนพอเห็นคาบุรากิมาคุยกับท่านเรย์กะก็ถอยห่างให้อัตโนมัติ
สาวๆอาจจะไม่อยู่ แต่มี(อดีต?)จอมมารยิ้มดำมืดอยู่เบื้องหลัง
ว่าแต่ยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกว่าท่านฮิโยโกะนี่น่าจะเป็นไฮโซตัวจริงยังไงชอบกล ที่ไม่ยอมตีพิมพ์เพราะไม่อยากให้ทางบ้านรู้ว่าคุณหนูไฮโซตระกูล xxx ลดตัวลงมาเขียนนิยาย LN หรือเปล่าววะ เดี๋ยวท่านแม่มาอ่านแล้วลมจับกันพอดี
ทางนี้แค่มาการองก็แย่งกันหัวแตกกับเพื่อนแล้ว.....//หารออกกันคนละครึ่ง ซื้อมา3ชิ้นได้แล้วมาแบ่งๆกันกินให้ครบทุกรส......
ป่ะ มีตติ้งแล้วหารกันกิน ทัวร์กินตามรอยท่านเรย์กะ ถถถถ
ดิบตอนใหม่มาล่ะ
ดิบตอนใหม่
.
.
.
.
.
.
ไม่มีค่อยอะไรเพิ่มเติม แค่ทัวร์กินของเรย์กะซามะ
.
.
.
.
.
จบสปอย
ขอโทษนะครับ แต่กรุณาอย่าพิมพ์จุดยาวๆ ติดกันหลายๆ คห. ได้ไหมครับ มันดันกระทู้ข้างล่าง เลื่อนหาลำบากน่ะ เห็นใจกันนิดนึงเนอะ
>>182 กูว่าอ.แกรู้ว่านักอ่านต้องการอะไร แกเลยไม่ให้ว่ะ อ.ฮิโยโกะนี่ก็โครตโทรลเหมือนกันนะนั่น 5555555555555555555555
แต่แกชอบมาในจุดที่ทุกคนหมดหวัง ไม่มีหวัง ขว้างใส่หน้าแล้วตัดฉับเลย ให้ฟินไปแบบงงๆ
ดังนั้นอย่าไปคาดหวังจะดีที่สุด ปล่อยให้มันเป็นไปด้วยมือของอ.แกเหอะ กูเชื่อว่าอ.ฮิโยโกะไม่ใจร้ายแน่ๆ
กระทู้แอบหายไปวูบนึงด้วยนะ กูตกใจ มันขึ้นว่า Guru meditation ยังไม่ทันได้นินทาท่านจอมมารเลยแท้ๆ
เมื่อกี้ก็ขึ้น Guru meditation อีกแล้ว 55555555555555555
แค่โปรยปลวกก็ขึ้นอีกแล้วเหรออออ5555 สรุปจะมีใครบ้างน้อที่อำนาจสูงขนาดทำเว็บสะดุด5555555
>>186 รู้ครับว่ากันสปอย แต่ถ้าจะกันสปอยก็ทำแต่พองามไม่ได้เหรอ เช่น
สปอย
.
.
.
กล่าวถึงเรื่องที่จะสปอย
ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องระดมจุดล่างจุดบนรัวๆ เลยนี่ครับ แค่เห็นคำว่าสปอยก็น่าจะมองผ่านไปได้แล้ว
รบกวนให้เกียรติเพื่อนร่วมห้องด้วยครับ อย่าถือแต่ว่ากระทู้นี้วิ่งไวกว่า จะทำอะไรก็ได้
>>188 ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะครับ แต่อย่างไรก็รบกวนรักษามารยาทด้วย
จะเป็นอะไรมั้ย ถ้ากูเขียนฟิคท่านพี่แบบที่ท่านพี่เป็นทั้งพระเอกทั้งตัวร้ายในคราวเดียวกันอ่ะ พวกมึงรับได้มั้ย
ดูหนังแนวจิตวิทยาแล้วชอบเลยอยากลองเขียนดูบ้าง
>>197 ไม่ใช่คนสปอยแต่เราชอบให้มีจุดบนล่างมากกว่า เพราะเวลาที่เราอ่านเราจะได้รู้ว่าจบสปอยของคห.นี้แล้วชัวร์แล้วนะ แล้วอีกอย่างเผื่อคห.ต่อมาไม่ได้สปอยแต่เขียนต่อมาเลยไม่ได้มีจุดเว้นสายตากันสปอยของคห.บนที่สปอย มันทำให้เวลาอ่านคห.ด้านล่างสปอยแล้วดันเห็นสปอยไปด้วยเพราะอยู่ใกล้กัน
อีกอย่างสปอยไม่ได้มีมาบ่อยๆด้วย แค่เลื่อนผ่านๆไป ไม่นานถึงกับทันไม่ได้เลยเหรอ งั้นคนสปอยเว้นจุดน้อยลงไหม แต่ควรมีจุดไว้เพื่ออย่างที่เขียนด้านบน..สำหรับเรา เราคิดงั้น
ปล.ไม่ได้มีใครถือว่ากระทู้วิ่งไวแล้วจะทำอะไรก็ได้อย่างที่คุณว่าเลยคุณ คุณไปเอาใครมาพูดคิดไปเองแล้วไหม
แวะมากระซิบบอกเบาๆ ว่า.... ชอบให้มีจุดล่างด้วยเหมือนกัน ลดจุดก็ได้นะแต่อย่าหายหมดเหอะ
>>197 ไม่ใช่คนสปอยแต่ที่มีใส่จุดเยอะเพราะเลื่อนหลบได้ง่ายกว่าค่ะ แค่สามจุดอย่างที่คุณว่าเลื่อนหลบไม่ทันค่ะ ทางนี้ก็อยากให้คุณช่วยให้เกียรติกันด้วยค่ะ เราไม่ได้ใส่จุดเยอะกันเล่นๆนะคะ(จริงๆการใส่จุดประมาณ 7 จุดเป็นข้อตกลงของกระทู้นี้ด้วยซ้ำค่ะ) และดิฉันไม่เห็นว่าเป็นการเสียมารยาทตรงไหน เพราะปกติเราควรหากระทู้จาก All Topics ไม่ใช่หรอคะ
ky แฟนอาทล่าสุดใน Pixiv....กรี๊ดดดด ท่านเรย์กะน่ารักสัสๆ ตรงตามสเป๊คหญิงในฝันของกูเลย กูอยากกระโดดทะลุจอเข้าไปกอดไปน้วยมาก https://www.pixiv.net/member_illust.php?mode=manga&illust_id=63067751
อย่าพยายามดราม่าเลยครับ ไม่ได้อยากจะหาเรื่องทะเลาะ แค่พูดถึงกฎของการอยู่ร่วมกันเท่านั้น
ส่วนเรื่องที่บอกว่าวิ่งไวจะทำอะไรก็ได้ ผมคิดว่า >>186 สื่อไว้ชัดมากนะ ยกตัวอย่างเลยแล้วกัน
"เอ่อ ห้องนี้ก็ร๊างร้าง ยังมีประเด็นปัญหาแบบเดียวกับกระทู้ตำหนักจีนอีกเหรอ?..."
มันหมายความว่า ที่ห้อง lit เคยเกิดปัญหาแบบนี้ เพราะมีคนใช้เยอะ แต่ห้องนี้มัน "ร้าง" ไม่น่าจะต้องมีปัญหาแบบนั้น ก็สื่อออกมาชัดเจนนะครับว่าไม่เห็นหัวเพื่อนร่วมห้อง ไม่ใช่แค่ถือว่ากระทู้นี้วิ่งไวกว่า เผลอๆ จะคิดเอาว่าห้องนี้มีกระทู้นี้กระทู้เดียวที่ active อยู่ด้วย
ไม่ได้อยากดราม่า ชัดนะครับ แต่อยากให้ช่วยเกรงใจกันหน่อย พวกคุณไม่ได้ใช้ห้องนี้อยู่แค่กลุ่มเดียวนะครับ
>>197 อยากทราบรายละเอียดเพิ่มเหมือน >>202 เหมือนกันค่ะ เข้าใจว่าปกติถ้าจำนวนบรรทัดเกินที่กำหนดไว้ระบบมันจะตัดให้ไปกดอ่านต่อเอาเอง เห็นหลายโพสต์ถ้ายาวๆเกินโดนตัดหมดนะคะกระทู้อื่นในห้องนี้ก็มีโพสต์แบบที่ว่าเหมือนกัน พอดีมาไม่ทันเห็นตอนโพสต์ที่...ขึ้นหน้าห้องเลยสงสัยว่าระบบไม่ตัดหรือยังไง แล้วถือเป็นการกระทำเสียมารยาทไม่ให้เกียรติกระทู้อื่นร่วมห้องจริงรึเปล่า เพราะกระทู้อื่นในห้องนี้ก็มีโพตส์ยาวหลายบรรทัดเช่นกัน
เรางงค่ะ คือว่าถ้าเกิดห้องอื่นคุยกัน ถกกันยาวๆ รึลงฟิกติดกันเงี้ย ก็จะมีปัญหาเดียวกันรึเปล่าคะ
1. >>207 ไม่ใช่ >>186 แต่เราอ่านแล้วเข้าใจว่าความหมายถึงว่า ในห้องwebnovel กระทู้ที่active หลักๆก็มีแค่ห้องนี้กับเด็กดี 2กระทู้เท่านั้นที่ก็สลับกันดันอยู่แค่นี้ยังเกิดปัญหากัน ไม่ใช่เจตนาว่าเราใหญ่จะทำอะไรก็ได้
2. เรื่องตัดความยาวโพสต์ เท่าที่สังเกตน่าจะเป็นการตัดแบบนับจำนวนตัวอักษร เรื่องนี้ได้ถามไปที่ >>>/meta/3581/292 แล้ว รอการยืนยันจากwm
kyนิดนึง
เราเข้าแต่กระทู้ท่านเรย์กะเลยงงกับเรื่องห้องอ่ะ คือมันดันกระทู้อื่นยังไงหรอคะ ปกติไม่ใช่ว่าเวลาดูกระทู้ไหนก็ควรเข้าไปในกระทู้นั้นหรอคะ หรือว่าคนอื่นดูที่ห้องอย่างเดียวหรอ จะได้อ่านหลายๆกระทู้พร้อมกันหรอคะ
>>209 ปัญหาของคุณคือ ขี้เกียจเลื่อนลูกกลิ้งเมาส์หรือสไลด์นิ้วยาวๆใช่มั้ย เราเข้าใจว่าแบบนั้นนะ คุณเจอปัญหานี้บ่อยเลยหรือเพิ่งเข้ามาที่นี่ก็เจอแบบนี้เลย ไม่ได้ดราม่า แค่จะถามว่าเจอบ่อยจนทำให้รำคาญหรืออะไรยังไง พวกเราในกระทู้จะได้มาหารือกันปรับปรุงไป เราเองก็ไม่อยากมีปัญหากับใครเหมือนกัน
>>216 ประเด็นคือกระทู้อื่น (โดยทั่วไป) มันไม่เป็นพรืดแบบ >>176-182 น่ะครับ คือถ้ายาวก็จะยาวไปเลย แล้วโดนย่อเอา แต่บังเอิญการสปอยของกระทู้นี้มันไปไม่ถึงจุดที่จะโดนตัด + สปอยติดกัน 6 คห. ติด โปรดเข้าใจถึงความลำบากด้วย
>>217 ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงคิดแบบนั้น จริงอยู่ว่าห้องนี้มีกระทู้ไม่มาก แต่โดยปกติแต่ละห้องจะถูกแบ่งเป็นหมวดอย่างชัดเจนครับ เช่น ห้อง lit ก็เกี่ยวข้องกับวรรณกรรมทั้งหมด ซึ่งก็มีให้เลือกดูหลายแนว อย่างห้องนิยายไทย ห้องนิยายจีน ห้องนิยายญี่ปุ่น ห้องสารคดี ซึ่งไม่ใช่ทุกคนจะอ่านหนังสือประเภทเดียวนะครับ อย่างตัวผมอ่านทั้งนิยายไทย นิยายจีน และก็สารคดี รวมไปถึงเทคนิคและข่าวสารงานเขียน เพราะฉะนั้นผมก็จะเข้าไปที่หน้าหลัก เพื่อดู feed ว่าตอนนี้ในห้องไหนที่ผมสนใจ มีการอัพเดตบ้าง
ส่วนปุ่ม All topics มักใช้สำหรับกรณีที่หากระทู้ที่ต้องการไม่เจอ อาจเกิดจากการโดนดันตกไปไกลมาก เช่นในห้อง netwatch ที่มีกระทู้เยอะ และ active บ่อย กระทู้ไม่ได้ตอบแค่ครึ่งวัน ก็อาจหล่นหายไปแล้วก็ได้ครับ
จาก >>221 แก้คำว่าห้องเป็นคำว่ากระทู้
"...แต่โดยปกติแต่ละห้องจะถูกแบ่งเป็นหมวดอย่างชัดเจนครับ เช่น ห้อง lit ก็เกี่ยวข้องกับวรรณกรรมทั้งหมด ซึ่งก็มีกระทู้ให้เลือกดูหลายแนว อย่างกระทู้นิยายไทย กระทู้นิยายจีน กระทู้นิยายญี่ปุ่น กระทู้สารคดี ซึ่งไม่ใช่ทุกคนจะอ่านหนังสือประเภทเดียวนะครับ อย่างตัวผมอ่านทั้งนิยายไทย นิยายจีน และก็สารคดี รวมไปถึงเทคนิคและข่าวสารงานเขียน เพราะฉะนั้นผมก็จะเข้าไปที่หน้าหลัก เพื่อดู feed ว่าตอนนี้ในกระทู้ที่ผมสนใจกระทู้ไหน มีการอัพเดตบ้าง..."
>>221 ขอบคุณค่ะ เราหม่ได้จะหาเรื่องนะคะ สงสัยจริงๆ คือเราลองเข้าไปดูห้องของกระทู้นี้ซึ่งก็คือหน้านี้ https://fanboi.ch/webnovel/ ใช่มั้ยคะ ไม่แน่ใจว่าเพราะเราเปิดในโทรศัพท์หรือเปล่า แต่เราเห็นแต่ละกระทู้ขึ้นแค่ 5 โพสต่อกระทู้ทุกกระทู้น่ะค่ะ แล้วมันจะไปดันกระทู้อื่นได้ยังไงหรอคะ (คืออยากให้เข้าใจทางฝั่งเราด้วยว่าการใส่จุดเยอะๆมันเพื่อให้คนไม่อ่านสปอยหลบง่ายๆน่ะค่ะ) หรือบรรทัดมันเยอะขึ้นเลยเลื่อนยากขึ้นหรอคะ
>>223 เสริมนะคะ เราลองไปนับดูระบบจะตัดเมื่อพิมพ์เต็มๆ 15-16 บรรทัด(เราไม่ทราบจำนวนตัวอักษรนะคะ) แล้วเราลองขึ้นไปนับตรงที่สปอยก็อยู่ที่ประมาณ15-16บรรทัดเช่นกันค่ะ ซึ่งเราคิดว่าถ้าอยู่ใน15-16บรรทัดควรจะเป็นขอบเขตที่รับได้รึเปล่าคะ เพราะยังไงระบบก็ไม่ตัด หรือเพราะแค่คุณเห็นจุดเยอะเลยไม่ชอบคะ
>>223 คงเป็นโชคไม่ดีที่ผมดันเปิดมาเจอ 5 โพสต์ที่ดันเป็น 5 ใน 6 โพสต์สปอยจุดยาวๆติดกันล่ะมั้งครับ ต้องบอกว่าไม่ค่อยเห็นกระทู้ไหนนะที่จะเขียนยาวๆ ติดกันเป็นพรืดได้ขนาดนี้ จะดราม่าใส่กันยังไงส่วนใหญ่ก็มักจะยาวประมาณ 4-5 บรรทัดเท่านั้น แต่สปอยจุดของที่นี่เล่นซะ คห. ละ 13-14 บรรทัด 5 คห. ก็ร่วมๆ 70 บรรทัด ถึงได้บอกว่ามันไม่ตลกไง
ย้ำว่าไม่ได้อยากจะดราม่า แต่แค่คิดว่าต่อไปยังไงก็ต้องมีสปอยแบบนี้อีก อยากจะให้เห็นใจกันหน่อยเท่านั้นเองครับ
>>221 ยังไงก็ใจเย็นๆก่อนนะคะ หลายๆคนที่เข้ามาถามเขาไม่ได้จะหาเรื่องคุณ พอดีคนในกระทู้นี้หลายคนเลยที่เพิ่งเคยเล่นโม่งแล้วเล่นกระทู้นี้กระทู้เดียวอาจจะไม่รู้จริงๆ พอดีเห็นคุณเหมือนจะเข้าใจว่าพวกเรากำลังดราม่า หาเรื่อง ไม่ให้เกียรติคุณ
>>223 ปกติก็ขึ้นแค่นั้นแหละค่ะ ในคอมก็ด้วย แต่โพสต์แต่ละโพสต์จะสั้นยาวตามบรรทัดที่พิมพ์ พอดีโพสต์ที่เป็น...มันอยู่ติดกันรัวๆ เขาเห็นว่ามันยาวเกินไป เวลาจะเลื่อนไปดูกระทู้ข้างล่างมันต้องเลื่อนเยอะเลยเข้ามาบอกน่ะค่ะ
ถ้างั้นลด . กันไหมคะ เช่น
ต่อจากนี้สปอยล์จ้า
.
.
.
เนื้อหา
.
.
.
>>225 ไม่ได้อยากจะดราม่าเหมือนกันค่ะ แต่พอเราลองไปนับบรรทัดเลยรู้ว่าระบบจะตัดที่ 15-16บรรทัด(บางทีมากกว่านั้น)
ดังนั้นถ้าที่โพสไม่ใช่สปอยแต่เป็นฟิคยาวๆ5โพสก็จะเป็นการไม่ให้เกียรติคนในห้องอย่างที่คุณว่าอยู่ดีให้มั้ยคะ คุณไม่เคยเล่นกระทู้นี้อาจจะไม่ทราบ แต่กระทู้นี้มีการโพสฟิคด้วยค่ะ
>>231 ไม่นะ ลองไปดู https://fanboi.ch/lounge/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 4 ดู
มีอันนึงเกิน17บรรทัด(ในโทรศัพท์กู)ด้วยซ้ำ
>>230 ปกติโพสต์ฟิคเวลาดูหน้าห้องรวมๆหลายกระทู้มันจะตัดบรรทัดให้เหลือประมาณ 7 แต่คราวนี้เขาเข้ามาพูดเพราะโพสต์ที่เป็น . สปอยล์เวลาดูในหน้ารวมดันไม่ตัดบรรทัดแต่มาแบบเต็มๆยาวๆอะ
ว่าจะลองดูคำตอบแอดมินก่อนว่าระบบมันมีเกณฑ์ตัดยังไง ถ้าจุดน้อยลงแต่ตรงกลางยาวก็มีโอกาศไม่ตัดอีกรึเปล่า
เอางี้มั้ยล่ะ ถ้าจะสปอยดิบก็กดเครื่องหมายหน้า Bump this topic ออก มู้จะได้ไม่โดนดันมาก เพราะสปอยฟิคมันก็กินพื้นที่จริงๆ
>>235 อ่าว ในโทรศัพท์กู https://drive.google.com/open?id=0B1XCqInoDMwcNjc2VmtRS0xqQUU งี้อ่ะ
>>230 เดี๋ยว สงสัยเข้าใจไม่ตรงกัน โพสต์ที่ยาวปกติหน้ารวมมันจะตัดเหลือแบบนี้อะ http://imgur.com/a/Q98T3 ที่มี See full post
ทีนี้เขาบอกว่าโพสต์ที่เป็น...สปอยล์มันไม่ตัดบรรทัดให้ในหน้ารวม แต่โผล่ยาวมาเลยทั้งโพสต์ แล้วตอนนั้นมันดันอยู่ติดกันหลายๆโพสต์เลยมีปัญหา
>>238 โอเคกูเข้าใจละ ถ้าเปิดในคอมมันจะตัดแค่5-6บรรทัดใช่มั้ย พอเขาเจอ...มันเลยไม่ตัด
ปัญหาต่อมาคือ ถ้ามีคนอื่นใช้โทรศัพท์เล่นแบบกู ถึงเป็นฟิคมันก็จะตัดที่ 15-16บรรทัดอยู่ดีอ่ะ มันจะมีปัญหาด้วยรึเปล่าว่ะ เข้าใจกูกันมั้ย
มีคนเสนอให้เอา bump this topic ออก
กูเลยคิดว่าถ้าจะสปอย, โพสฟิค, หรืออะไรก็ตามที่ยาวๆก็ กดออกให้หมดเลยดีมั้ย
ทำไมกด bump this topicออกละมันยังไปห้องรวมง่ะ...
>>240 กูก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะแก้ได้รึเปล่า ถ้าเกิดวันนั้นไม่มีคนเข้ามาโพตส์ดันกระทู้อื่นๆในห้องนี้ถึงกดปิดดันกระทู้ไปกระทู้เราก็จะค้างเติ่งอยู่ข้างบนอยู่ดี เพราะกูเห็นว่ากระทู้เราโดนดันขึ้นมาอยู่ข้างบนแทบตลอดอะ แล้วคนที่ใช้กระทู้อื่นบางคนอาจจะเข้ามาดูมาอ่านเฉยๆไม่โพสต์อะไรด้วยเปล่า
งั้นเอางี้มั้ย คือยังไงกูก็ชอบจุดเยอะๆเหมือนเดิมอ่ะ เพราะมันหลบง่ายกว่า สามจุดมันน้อยไป
กูเลยขอเสนอให้ ถ้าใครสปอยต้องส่งสองโพส โพสแรกเป็นการสปอยปกติ อีกโพสอาจจะแค่ส่งแค่จุดเดียวอ่ะ
เพราะเขาบอกว่าเจอสปอยติดกัน 5 อันแล้วไม่โอเคใช่ป่ะ ถ้าทำแบบนี้อย่างมากที่สุดก็จะแค่ 3อัน น่าจะโอเครึเปล่า
เช่น
.
.
.
.
.
ยังไงเรือคานซังคงเข้าวินสินะ
.
.
.
.
.
.....
หรือไม่ก็เอา bump this topic ออกกันให้หมดทุกเม้นท์ทุกคน ให้กระทู้นี้ดำดิ่งในซอกหลืบ อย่าได้โผล่ขึ้นไปเป็นกระทู้แรกของห้องอีก ถถถ
>>256 อ๋อ แต่กูไม่แน่ใจว่าเวลาพิมพ์ยาวๆมันจะแสดงผลบนหน้าเว็บยังไงเวลาจัดบรรทัดอะ (คอมกับมือถือดันแสดงผลไม่เหมือนกันอีก) แต่กูว่าคนมาอ่านหรือโพสต์ต่อไม่น่าจะหลบสปอยล์ของโพสต์ล่างสุดพ้นนะ
.....เทสแปปนะ ฮัลโหลๆ เทสๆ ท่านเรย์กะ ท่านเรย์ก่าาาาาาาา เรย์กะซาม๊าาาาาาาาาาาา หัวเด็ดตีนขาดยังไงก็กรุณาอย่าไปลงเอยกับคานซังเด็ดขาดเลยนะคะ ขอร้องล่ะค่ะ อย่างน้อยก็ขอรูทมิตรภาพกับเหล่าเพื่อนสาวหรือจะเข้ารูทท่านพี่ก็ยังดีนะค๊าาาาาา (สมมุติว่าโพสต์นี้ต่อจากโพสต์จุดสปอยล์ยาวๆ).....
อะไรแบบนี้หรอ
หรือต่อจากนี้ไป ถ้าดิบออกก็รีบๆคุยกันแล้วหาประเด็นอื่นที่ไม่เกี่ยวกับสปอยมาเม้าต่อ จะได้ไม่ต้องจุดยาวๆให้มันรกหน้ารวม
หรือไม่ก็ทำแบบกระทู้แรกๆ ดิบออกก็ปล่อยให้ออกไป นอกจากว่าน่าสนใจจริงๆค่อยเอามาเม้ามอย แต่มันก็จะดูเป็นการจำกัดกันเกินไปนี่สิ ใครมีวิธีไหนแจ่มๆแนะนำมั้ย
กูคิดว่าการส่งสองโพสต์มันเปลืองพื้นที่บอร์ด จุดประสงค์หลักของบอร์ดโม่งหลักๆคือการเข้ามาคุยแลกเปลี่ยนความคิดกัน
ยังไงกูก็คิดว่าการสปอยกด bump this topic ออกดีกว่า เพราะมันไม่ยาวพอที่จะตัดบรรทัด
แล้วที่มู้เรามันอยู่บนๆตลอด เพราะมันมีคนคุยกันบ่อยกว่ามู้อื่นไง
ถ้าตอนสปอยไม่ดันมู้ มู้อื่นที่คุยกันก็จะขึ้นมาด้านบนได้ สปอยมันมีคนคุยกันไม่กี่เม้นท์ มันก็คงไม่ตกลงไปมาก ฝั่งเราก็พอจะเลื่อนหาได้ง่ายอยู่
Ky พวกมึงยังถกเถียงเรื่องจุดสปอยไม่เสร็จอีกหรอ 55555555 กูกะจะมาถามเหล่าโม่งซุยรันสักหน่อยว่ามีร้านขนมฝรั่งเศสเด็ดๆแนะนำไหม พวกแบบหน้าตาน่ารักอ่ะ >< ที่กูรู้จักก็แค่อยู่แถวๆสุขุมวิท ชิดลมเอง
>>259 เพิ่มเติม กูก็คนหนึ่งที่เข้ากระทู้จากหน้าห้องรวม เห็นด้วยกับคนจากมู้อื่นว่าจุดเยอะๆมันทำให้รกจริง ตอนที่พวกมึงสปอยล์เยอะๆ กูเลื่อนนานพอควรตอนเลื่อนไปอ่านมู้อื่น (กูไม่อ่านสปอยล์) ในโทรศัพท์ถ้าอยู่หน้าห้องรวมไม่ได้กดเข้ามู้ มันจะโชว์ เม้นท์ล่าสุด5อันไง พอสปอยล์มาจุดรัวๆ แถมข้อความไม่โดนตัดเพราะไม่ยาวพอมันก็เลยเลื่อนหามู้ล่างๆยากนิด
แต่ก็ไม่เห็นด้วยที่จะเปลี่ยนวิธีกันสปอยล์เพราะมีจุดทั้งบนทั้งล่างมันทำให้หลบได้ง่ายขึ้น(นอกจากว่าจะมีวิธีใหม่มากัน)
นี่คือความยาวที่จะให้ดูว่ามันยาวขนาดไหนเมื่อดูจากโทรศัพท์ของกู *แคปสปอยจาก >>176-180
https://www.mx7.com/i/b76/SKx20i.JPG
>>261 เพิ่มอีก ถ้ารูปเมื่อกี้มันใหญ่ไป https://www.mx7.com/view2/zTkGP54accxywaAL ตัวนี้น่าจะทำให้เห็นภาพชัดขึ้นว่ามันยาว
>>260 คราวนีัมันรบกวนคนอื่นด้วยไง บอร์ดโม่งไม่ได้เล่นแค่เฉพาะคนกลุ่มเดียว
กูก็เข้าใจนะ ตอนแรกๆที่พวกมึงเริ่มใช้จุดกัน กูก็นั่งเลื่อนอ่ะ(จริงๆกูไม่ซีเรื่องจุด เพราะกูทำเลื่อนไวๆได้ อันที่) บางคนก็จุดยาวเกินแล้วเม้นสปอยมานิดนึงแล้วก็จุดยาวต่อ แต่วันนี้มันติดกันเกินมั้งแล้วมาหลายเม้น คนอื่นเห็นแล้วไม่โอเค บางทีกูก็แบบ มาเป็นพืชเลย แหะๆ แล้วก็นั่งเลื่อน
แต่กูเลื่อนอ่านกระทู้จนชินแล้วเลยเพลินๆไป กระทู้ก่อนๆหน้านี้ที่ไหลเร็วมากๆกูก็ไปตามอ่านเกือบครึ่งกระทู้ น้ำตาจะไหลแต่ก็อยากรู้พวกมึงคุยไรกัน
สรุป กูยังไงก็ได้ถ้าพวกมึงจะเปลี่ยนนะ กูเคารพการตัดสินใจเสียงส่วนใหญ่แหล่ะ เพราะส่วนใหญ่กูก็คงนั่งอ่านที่พวกมึงพิมพ์คุยกันอยู่ดี แต่ก็ไม่อยากให้พวกมึงเครียดๆกันอ่า เข้าใจที่กูพิมพ์ไหมอ่าา กูไปนอนก่อนนะมีนัดเช้า TT
กูว่าเอางี้ไหม ถ้าสปอยล์โพสต์นึงแล้วให้โพสต์อะไรก็ได้สั้นๆตามอีกโพสต์ แบบนี้มันจะโชว์สปอยล์สูงสุดแค่ 2 โพสต์เวลาอยู่หน้ารวม แต่กูไม่รู้ว่ามันจะเป็นการปั้นโพสต์ปั้นกระทู้รึเปล่า ถ้าไม่โอเคกันก็ไม่เป็นไรนะ
ตื่นเช้ามาอ่านแบบงงๆ ไม่ได้จะดราม่าเหมือนกัน แต่เห็นสุดท้ายทางตำหนักจีนก็ใช้จุดบนจุดล่างเวลาจะสปอยล์ต่อไปนะ ขอเสนอแบบเดิมแต่ลดจำนวนจุดลงเป็นบน 5 จุด ล่าง 3 จุด ช่วงไหนสปอยล์เพลินๆ ก็กดติ๊ก Bump this topic ข้างล่างออก
...แต่กฎนี้จะได้ใช้ก็ต่อเมื่อท่านฮิโยโกะอัพดิบรัวๆ ละมั้งเนี่ย เหอๆ
ky พวกมึงกูขอพื้นที่งอแงนิดนึง กูว่าจะเขียนฟิคต่อ แต่คราวก่อนก็ช่วงสอบ คราวนี้ก็ช่วงฝึกงาน ขึ้นรถไปโรงงานหกโมงเช้า ลงจากรถหน้าที่พักหกโมงเย็น หาของกิน อาบน้ำเป่าผม สี่ทุ่มนอน โฮรววววว
กูว่าสปอยโดยใส่จุดน้อยกว่าเดิมแต่ใส่ล่างบนเหมือนเดิมแล้วเอา Bump this topic ออกแบบที่มู้บนๆเสนอมาก็พอแล้ว ไม่จำเป็นต้องคิดมากเลย
ปล. คิดถึงฟิคท่านพี่แวมไพร์ไนท์มาก อยากอ่านต่อ
>>267 ซักพักก็สบายเอง จากใจโม่งที่แต่งฟิคฯ ชมรมฟุตบอลไร้ชื่อ ไอ้เรื่องนั้นแต่งตอนนั่งประชุมเลยนะมึง
สถานะตอนนี้โคตรชิล เช้าขับรถมาแดกกาแฟสั่งงานลูกน้องแล้วเข้าประชุม เบรค บ่ายประชุม สี่โมงเก็บงานนั่งอ่านนิยายเก็บโอรอเวลากลับบ้าน ชีวิตโรงงานแม่งดี๊ดี สบายกว่าตอนเป็นพนักงานใส่สูทอีก
>>272 ชีวิตพนักงานโรงงานนี่แม่งประหยัด ยูนิฟอร์มมีให้ใส่ รถโรงงานมีให้นั่งหลับ ข้าวโรงงานก็ถูก หรูยังไงก็ไม่เกินสามสิบบาท นี่มาเป็นพนง.ออฟฟิสแล้วเจอศูนย์อาหารจานละไม่ต่ำกว่าสี่สิบ + ชากาแฟอีก เปลืองชิบหาย อยากกลับไปอยู่โรงงานเหมือนกันวุ้ย แต่ตอนกูอยู่กูงานยุ่งนะ ไม่สบายขนาดมึ้ง
ชิบหาย เผลออ่านเรื่องจุดไม่จุดแล้วดันกดลิงค์ตามไปดูว่าไอ้จุดเยอะที่ว่ามันคือขนาดไหน โดนสปอยล์ไปเต็มๆ เลยกู ประโยคนึง 55555 โชคดียังรีบเด้งสายตาหลบทัน
พวกมึงได้ข้อสรุปกันยังนิ กูอ่านมาตั้งแต่เมื่อคืน (กูก็ชอบจุดล่าง) ดูๆ ก็น่าจะโอเคแล้วป่าว เออนะ กูเนี่ยแหละหนึ่งในโม่งที่เข้ากระทู้นี้แค่กระทู้เดียว มีแบบกูอีกหลายคนเหรอเนี่ย (กูเปิด tab มู้นี้คาไว้เลย ไม่ก้อพิมพ์คีย์เวิร์ดชื่อมู้หาเอาในอากู๋ แบบว่า ลอนที่ 14 แค่คำเดียว จานที่ 15 ไรเงี้ย เพราะงั้นพวกมึงจะทำยังไงให้มู้ตกไปซอกหลืบไหนกูก็หาเจอ ตามสบายเลยนะ ถถถถถถถถ)
ก็เพิ่งรู้เหมือนกันว่าพอจุดเยอะๆ แล้วมันจะไปโผล่จนรบกวนคนอื่นในห้อง อืม แต่พวกมึงน่ารักอะ มีวุฒิภาวะดีมาก กูชอบมากๆ เลยนะกับการแก้ปัญหาแบบถ้อยทีถ้อยอาศัย มีอะไรก็ปรึกษาหารือกัน ช่วยกันหาทางออกที่ดีอะ ยิ่งอ่านก็ยิ่งรักพวกมึงมากๆ เลยน๊า~!! >w< วุ๊ย บอกรักเองก็เขินเองว่ะ 555
เข้ามาแบบมึนๆหลังไม่ได้เข้าหลายวันมากเพราะงานยุ่ง ดราม่าอะไรกันหว่า ทำไมกูอ่านแล้วรู้สึกมึนงงว่านี่กูกำลังไม่เคารพคนห้องอื่นที่ใช้มู้อยู่หรอ ด้วยประเด็นจุดยาว? มึงเลื่อนนาน? แล้วมึงเคารพพวกกูบ้างมั้ยถามจริงๆ คือเอาก่อนเลยว่าจุดนี่มันลำบากชีวิตขนาดนั้นเลยหรอวะ กูไม่ดราม่านะแค่แบบเวลาเข้าเว็บอะไรดูหนังฟังเพลง อ่านนิยายเอย พันทิปบอร์ดสนทนารวมๆ หรือกระทั่งตามเฟสตามทวิต
กูถามจริงนะ มึงอ่านทุกคำ ทุกความเห็น ทุกเม้นป่ะ โฆษณาแปะๆกันมึงก็อ่านด้วยมั้ย ตามเฟสตามอะไรยิ่งเยอะบางโพสเราก็ไม่ได้สนใจป่ะ แล้วจากนั้นทำไงอะ มึงเลื่อนๆผ่านไปหรือมึงไปโพสบอกทุกคนในโลกว่าช่วยอย่าเอาอะไรที่กูไม่สนใจมาแปะได้ป่ะ พอดีเปิดในคอมกู/มือถือกูแล้วคือมันยาวว่ะ กูเลื่อนนาน กูลำบากมากกกกก
กูไม่ได้ประชดนะแต่แค่สงสัยว่าถ้ามึงใช้ตรรกะนี้ในการตัดสินและออกมาบ่นมาโวย มึงใช้ชีวิตปกติประจำวันได้ยังไงวะ หรือถ้าปกติมึงเลื่อนได้แต่พอเป็นมู้นี้มึงเลื่อนไม่ได้ กูก็สงสัยว่าเพราะอะไร คิดว่ามึงคงเข้าใจที่กูจะสื่อนะ ประเด็นมันคือไม่ได้เกิดขึ้นทุกวัน และไม่ได้เกิดขึ้นทั้งวัน มันเป็นแค่เหตุการณ์เล็กๆส่วนนึงที่นานๆเกิดที ถ้าทุกวันมึงเล่นเน็ตแล้วสไลด์นิ้วหรือเลื่อนสกรอลเมาส์ผ่านสารพันสิ่งที่มึงไม่สนใจไปได้ มึงเลื่อนกับทู้นี้ด้วยคือไม่ได้หรอ? กูงง
มึงให้กูเคารพให้เกียรติมึง รักษามารยาท และ บลาๆๆๆ แต่กูขอย้อนถามมั่งว่าในเคสที่ที่นี่ก็บอร์ดสาธารณะ การจุดไม่ใช่ไม่มีเหตุผล และไม่บ่อย ไม่ทุกวัน ไม่ทั้งวัน ไม่ได้เยอะเป็นสามสิบสี่สิบอันต่อกันจนมึงต้องเลื่อนจนนิ้วแม่งตะคริวแดกนิ้วล็อก กูก็ไม่ได้จะอะไรนะแค่อยากเสนอมุมมองนิดนึงว่าไอจุดยาวๆของที่มึงว่าเนี่ย มึงเลื่อนผ่านให้ตายยังไงก็ไม่เกิน 10 วิ ส่วนเวลาที่มาพิมพ์ดราม่าและโต้ตอบกันเนี่ยไม่ต้องนับมั้งว่ากี่นาที มากกว่ากี่เท่า ถ้ามาตราวัดความลำบากมึงคือวัดด้วยระยะเวลาที่เสียไปตอนเลื่อนนี่คงไม่ใช่แล้วล่ะ มึงวัดด้วยอารมณ์รึเปล่า
มันต้องมีความพยายามในการบังคับทุกคนให้ได้ดั่งใจมึงขนาดนั้นเลยหรอ นี่มันคือการอยู่ร่วมกันเหมือนกันนะว่าอะไรที่มึงไม่ชอบ แล้วมันมีทางจัดการที่ไม่ได้เหนือบ่ากว่าแรงเลยแค่เลื่อนๆๆไป จะสกรีนเนื้อหาก็เห็นชัดว่ามีจุดมันคงไม่ใช่สิ่งที่มึงหาอยู่ ก็เลื่อนผ่าน แค่นี้คือมันต้องกลายเป็นเรื่องใหญ่ขนาดที่ออกมาพูดเพื่อต้องการเปลี่ยนทุกคนยกเว้นตัวมึงเองเลยหรอ ใครๆก็ต้องเปลี่ยนแต่มึงจะไม่เปลี่ยน กูคิดเสมอว่าบางเรื่องถ้ามองชัดแล้วว่าปัญหาไม่ใช่ที่ตัวเรื่องนั้นๆโดยตรง ปัญหามันแค่กูไม่ชอบแบบนี้ กูไม่เห็นด้วย แล้วมึงจะต้องออกไปบังคับทุกคน เรียกร้องให้ทุกคนปรับเปลี่ยนตามที่มึงต้องการนี่ ปรับแค่ตัวมึงเองง่ายกว่านะ อย่าบอกกลับมานะว่านี่คือปัญหาที่ห้องนี้จริงๆเพราะไม่ได้ผิดกฎอะไรของโม่งเท่าที่กูจำได้ หรือถ้าคิดว่านี่คือปัญหาจริงๆก็เป็นที่ระบบมากกว่า แนะนำว่ามึงควรไปคุยกับแอดมินเลยว่ากูรำคาญ กูลำบาก มึงช่วยนับการตัดเป็นบรรทัดได้มั้ย ส่วนเค้าจะตอบยังไงมีความคิดเห็นอะไรกับเรื่องนี้คือมึงไปจัดการชีวิตตัวเองเอาแล้วกันนะ
แต่ในโลกจริงชีวิตจริงมึงก็ปรับทุกคนไม่ได้อยุ่แล้ว มันเป็นสิทธิเค้าด้วยป่าววะว่านี่มันไม่มีอะไรเกินกว่าเหตุเลยนะ กูจะไม่พูดวนๆเรื่องว่าไม่บ่อยและแก้ง่ายแค่เลื่อน แต่กูยังสงสัยเรื่องเวลามึงใช้เนตดูอย่างอื่นเหมือนกัน ว่ามึงไม่เคยต้องลำบากลำบนมากตามที่มึงว่าในการเลื่อนผ่านอะไรที่ไม่สนใจเลยจริงๆหรอ ถ้าปกติทำได้แต่ตอนนี้ทำไม่ได้มันคืออคติรึเปล่ามึง
>>275 กูว่าปัญหาของเขาก็คงเกิดจากขี้เกียจสไลด์นิ้วเพื่อเลื่อนยาวๆแบบที่มีคนพูดไว้ข้างบนนั่นล่ะ อ่านๆที่เขามายืดยาวกูจับใจความได้ประมาณนั้นล่ะ ถ้าขี้เกียจก็บอกกันตรงๆได้ ไม่เห็นต้องพิมพ์อ้อมโลกขนาดนั้น
แต่ก็เอาเหอะ ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน อะไรพอจะปรับตัวได้ก็ปรับกันไป จุดๆให้น้อยลงกว่าเดิมหน่อยก็ละกันนะ
>>277 5555 พอโพสเสร็จกูก็เห็นเม้นมึงอยู่ข้างบนพอดีเหมือนกัน ก็ยังแบบอ้าวโทษทีนะ กูมาพลิกมู้ดแล้วล่ะ ถถถ แต่ความคิดกูคือมองว่ามันมีขีดเส้นแบ่งสิทธิของมึง เส้นแบ่งสิทธิของกู กับพื้นที่อื่นที่อยู่นอกเส้นนั้นมันคือขอบเขตอยู่ร่วมกันแบบสาธารณะ ถ้ามาอยู่ในพื้นที่กลางแล้วจะใช้เกณฑ์เดียวกันกับตอนอยู่ในโลกของมึงคือมันก็ไม่ได้นะ แต่นี่ที่เม้นไปคือไม่ได้ดุเดือดเลยนะในมุมมองกูเอง 5555 กูออกจะเป็นคนซอฟท์ๆ คือมาดราม่างอแงเอาแต่ใจใส่กูนี่สวนกลับนุ่มนวลมากแล้วล่ะ เพราะถ้าข้างบนๆออกไปใช้โลจิกแบบนี้ในชีวิตจริงโดยเฉพาะถ้าตอนทำงานกูเชื่อว่าซักวันต้องไปเจอสายแซ่บ สวนกลับมาแล้วมึงเงิบแดกแน่นอน
.
.
.
.
.
.
.
ไม่มีอะไรกูแค่อยากกวนตีนคน
.
.
.
.
.
.
.
.
.......เพื่อนๆใจเย็นๆนะ//สาดน้ำเย็น
>>278 อือ กูเข้าใจว่ะ ที่มึงพูดมากูก็คิดว่ามีคนเห็นด้วยเยอะนะ แค่เค้าอาจจะเลือกวิธีแก้ปัญหาที่แตกต่างกันไป อย่างกูเนี่ยสายขี้เกียจอะ มีคันปากอยากพูดมั่งเหมือนกันแต่คิดไปคิดมาก็เฉยซะดีกว่า ขอแค่เกาะขอบจอคอยอ่านความคิดเห็นที่หลากหลาย กะคอยบอกรักชาวบ้านก็พอละ ยังยืนยันคำเดิม กูชอบพวกมึงมากๆ จริงๆ นะเว้ย
>>275 กูไม่ใช่คนที่เข้ามาดราม่าตอนแรกนะ แต่อ่านแล้วรู้สึกว่ามึงสันดานไม่ดีว่ะ ประมาณพวกที่ชอบพูดว่าเรื่องนี้ทนไม่ได้ต่อไปจะไปทำอะไรกิน คือต่างคนต่างก็มีจริตที่ต่างกันปะ เขาเห็นว่ามันรบกวนเขาก็เลยมาบอก แล้วกูก็เห็นเขาเข้ามาพูดด้วยดีๆ คนอื่นก็เข้ามาตอบดีๆ ช่วยหาทางแก้ไข มีมึงเนี่ยล่ะที่จู่ๆก็ผ่าเหล่าเข้ามาดิ้น เป็นอะไรเหรอ
เล่นบอร์ดสาธารณะมันก็ต้องมีกระทบกระทั่งหลายคนแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว กูว่ามันควรพบกันครึ่งทางว่ะ มาหาทางแก้ไขที่ฝั่งเราจะดีกว่า แต่ถ้าเราแก้แล้วฝั่งเขายังไม่พอใจกูก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน
เอาน่า ใจร่มๆ อย่าทะเลาะกันภายในต่อเลย
ในเมื่อเขาเข้ามาชี้แจงว่ามันมีปัญหารบกวนพื้นที่หน้ารวม เราก็รับฟัง เรื่องนี้มันเป็นเรื่องต้องประณีประนอมหน่อยอะนะ
ส่วนแนวทางแก้ปัญหา อันนี้กูนึกไม่ออก แต่คิดว่าไอ้จุดสปอยล์ที่ผ่านมาอันก็โอเคดีอยู่แล้ว และเรื่องสปอยล์ติดกันเป็นพรืด มันก็ไม่ได้มีบ่อยหรือทุกวัน มีความเห็นว่าก็แบบเดิมไป แต่ถ้าความเห็นสปอยล์มันติดๆๆกัน ก็ช่วยๆกันดันมันเก็บเข้ากระทู้ไปไม่ให้รบกวนหน้ารวม หาประเด็นอื่นมาคุย หรือไม่ก็บอกเลยว่าเม้นท์ดัน
อยากออกความเห็นมั่ง จอที่ทำงานกู 1900+ บอกตรงๆทุกวันนี้ จุดที่พวกมึงจุดมาช่วยไรกูไม่ได้นะบอกเลย
แต่มันปัญหาของกูไง กูไม่บอกให้มึงจุดเพิ่มหรอก กุก้อต้องจัดการตัวเองป่ะ
และกุก้คิดว่าพวกมึงมีความพยายามที่จะไม่สปอยใส่คนอื่น กุก้เลยไม่ได้เคืองที่ต้องเห็นสปอยขนาดนั้น
คือมันรู้สึกว่าเออมึงใส่ใจ ว่ายังมีคนไม่ชอบสปอยอยู่นะ กุเลยเฉยๆ
มากบอกเฉยๆ ว่ารู้สึกยังไงกับการจุดของพวกมึง
ปล. กุ ไม่เข้าใจว่ะ ว่ามันดันลงยังไง กู กด All topic ตลอด กูเล่นหลายห้องว่ะ มันหน้าตายังไงว่ะตอนดันลง
>>289 คิดว่าเขาคงเข้าหน้านี้อ่ะมึง https://fanboi.ch/webnovel/ แล้วกระทู้เราดันอยู่บนสุด มันโชว์5ข้อความต่อกระทู้ แล้วเขาดันบังเอิญเจอสปอยติดกัน5ข้อความพอดี กว่าจะเลื่อนลงไปหากระทู้ด้านล่างมันเลยนานกว่าปกติอ่ะมึง
>>292 เอ่อ กูจะบอกกูเป็นเจ้าของข้อความนั้นเองแหละ 5555 คือกูไม่ได้บอกว่ากระทู้นี้วิ่งไวแล้วจะทำอะไรก็ได้นะ เหมือนอย่างที่บนๆ บอกอ่ะ คือกูแปลกใจที่ห้องนี้กระทู้มันวิ่งอยู่สองกระทู้หลักๆ สลับกันขึ้นลง เลยไม่เคยคิดว่ามันจะเป็นประเด็นกับใคร ไม่คิดว่าจะเอาไปตีความให้หัวร้อนแบบนั้นเหมือนกัน โทษทีที่มาบอกช้า
>>284 กู 275 เอง กูกำลังงงว่ามีตรงไหนในโพสกูวะที่ออกมาถึงขั้นมึงเรียกดิ้นได้ ไม่มีตรงไหนด่าคนที่มาบ่นกูแค่ถามว่าแล้วสิทธิกูในการใช้ห้องอยู่ตรงไหน มาถึงก็ขอให้เปลี่ยนๆๆ กับการแค่วันนี้เปิดมาวันเดียวเจอ 5 เม้นติดกัน นอกจากพยายามเปลี่ยนคนอื่นกูเลยสงสัยว่าเค้าปรับอะไรจากทางฝั่งเค้าเองมั่งยัง มันครั้งเดียวและวันเดียวนะอย่าลืม ไม่ใช่มีงี้ทุกวันและไม่เคยมีติดกันป่ะวะ เหมือนเปิดมาเจอก็บู้มมม มาบ่นใส่ทันที นี่คือเคารพคนอื่นที่ใช้พื้นที่ด้วยกันแล้วหรอ กูเลยพูดถึงครั้งอื่นถ้าเจอจากเวบอื่นเรื่องคอนเทนต์ไม่สนใจว่าทำไง เพราะสำหรับกูนะ การที่เจออะไรแบบนี้ครั้งเดียวและด้วยจำนวน 5 เม้นแล้วพุ่งมาบ่นทันทีมันรู้สึกถึงอคติ ยิ่งแบบแต่ละมู้ในโม่งมีเต็มที่พันนึง ความเร็วในการไหลนี่ก็วันๆนึงปาไปกี่เม้น มึงเจอ 5 เม้นนี่ถึงขั้นอีกฝ่ายต้องปรับแก้ไขตัวเองแล้วนี่มันก็เกินไปนะ จะมาให้ปรับแก้อะไรคือไม่ว่า แต่ไม่ใช่โบ้ยความผิดและการเป็นฝ่ายควรปรับ"อยู่ฝ่ายเดียว" มาให้คนอื่นโดยตัวเองยังไม่เริ่มทำอะไรซักอย่าง โลกจะต้องหมุนรอบมึงมากเกินไปละ ถ้าเจอทุกวันมึงทนมานานกูจะไม่ว่าเลยเพราะมึงพยายามปรับตัวในการอยู่ร่วมกันแล้ว
แล้วตรงไหนที่กูพูดจาไม่ดี มั่นใจว่าทั้งเม้นนั้นของกูคือโลจิกล้วน 100% กูไม่เคยเอาอารมณ์มาใส่เวลาตอบหรือแสดงความเห็น แล้วก็ไม่มีตรงไหนในเม้นนั้นที่พูดเรื่องแค่นี้ทนไม่ได้จะไปทำไรกิน พูดตอนไหนวะ หรือมีอะไรเชื่อมไปถึงหรอนี่วนอ่านจะสิบรอบกูยังงงว่าอะไรทำให้มึงมโนไปถึงประโยคนี้ได้ นิสัยกูดีมั้ยนี่ก็จะคิดไงเรื่องของมึง แต่กูบอกเลยว่าการที่มึงอ่านเม้นคนอื่นแล้วมโนอะไรที่ไม่มีในเม้นแม้แต่คำเดียวแล้วเอามาวนด่าคนอื่นไปถึงว่าสันดานไม่ดีนี่มันก็ไม่โอเคป่ะวะ ประเด็นเดียวที่พูดถึงชีวิตจริงมีแค่มึงปรับทุกคนในชีวิตจริงไม่ได้ แล้วก็ควรเรียนรู้ความเคารพซึ่งกันและกันในการอยู่ร่วมกันมากกว่าเรียกร้องให้ทุกคนปรับเข้าหาตัวมึงเองแค่นั้น
ถ้าเผื่อยังไม่ชัดกูขอสรุปเม้น 275 ของกูเองว่าเป็นเรื่องสิทธิที่คนอื่นก็มีในการใช้พื้นที่ และแค่สงสัยว่า 5 เม้นติดกันทำให้รำคาญมากขนาดนั้นหรือว่าอคติอะไรอยู่แล้ว ถ้า 5 เม้นติดมึงปรี๊ดหนักเซ็งเหลือเกิน เวลามึงเล่นเว็บอื่นนี่รำคาญมั้ย ถ้าไม่คือมันคงเป็นที่ห้องแล้วรึเปล่า ยังงี้ปรับไปก็ไม่ช่วยป่ะวะคือเรื่องเล็กแค่นี้ยังเป็นประเด็น อนาคตมีอย่างอื่นก็เก็บมาได้อีกเพราะสาเหตุมันอาจจะไม่ใช่แค่ลำบากเลื่อนแต่แรก ก็แค่นั้น
ตอนนี้เริ่มอยากเล่นเป็นเอลซ่าเสกตุ๊กตาหิมะร้องเพลง let it go ล่ะอ่ะ
เพิ่งจะเคลียร์ ประเด็นสปอย์ ตกลงกันลงตัว
มีประเด็น จุดไปเกะกะกระทู้คนอื่นตกอีกละ
บอร์ดนี้ปัญหาเยอะจังนะ ไปขอ ปุ่ม/โค้ด สปอย์จาก WM เลยดิมั้ย ไม่ดันไม่รก ไม่สปอย
เอาน่าๆ ตอนแรกกูเจอดราม่ากูก็รำคาญล่ะ อย่าต่อความยาวสาวความยืดกันทั้งสองฝ่ายเลยนะ บ่องตง กูเบื่อสัด!!!!
ถอยกันคนละก้าวดีมั๊ย กุมันสายรักสงบ กินพืชเป็นหลัก ทางนี้ก็จะเอา bump topic ออกเวลาสปอย แต่คิดว่าคงไม่ได้สปอยติดๆกันขนาดนั้นบ่อยๆหรอก ทางโน้นก็ใจร่มๆนิดนึง เหตุการณ์พรรค์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นทุกวันซะหน่อย นั่งหายใจเข้าออกซักห้านาทีก่อนพิมพ์ก็ไม่เสียหายนะ
ตอนแรกกูก็ขึ้นเหมือนกันแหละจากที่ว่ากระทู้วิ่งไวจะทำอะไรก็ได้ คือ มันส่อไปทางว่า มองว่าพวกกูแบบเอาจำนวนคนมาข่ม แต่ที่จริงโม่งทู้นี้รักสงบนะ ส่วนมากจิบชา ชวนหาไรแดกตลอด ไม่ด่า ไม่ตี ไม่ไฟท์ เป็นบอร์ดที่กูชอบเข้ามาเวลาอยากผ่อนคลายน่ะ
ชีวิตงานจริงๆก็ก็เครียด ฉ.ห.อยู่แล้ว ขอสงบๆกันเหอะ เม้นอันไหนที่บั่นทอนจิตใจ หรืออะไรที่มันรกหูรกตา บางทีการมองข้ามบ้างไรบ้างก็ช่วยให้สบายใจได้นะมึง กูเองก็หงุดหงิดเวลามันมีโฆษณาหน้าเว็บหรือในแอปที่มันเด้งบ่อยๆเหมือนกันแหละ แต่มึงต้องอดทนนะ คนสมัยนี้ใจร้อนกันมากขึ้นการรู้จักอดทนรอลดลง มีเรื่องด่ากันทะเลาะกันยิงกันบ่อยขึ้น มึงก็อย่าทำตัวให้เป็นพวกนั้นกันสิวะ
กูยังยืนยันคำเดิมนะ ถอยกันคนละก้าว แล้วค่อยมาดูอีกทีตอนใจเย็นๆ บางทีปัญหาพวกนี้ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรขนาดนั้นหรอกว่ะ
>>291 เออแต่พอกูย้อนไปดู ก็งงว่าเค้าตัดย่อกันยังไง เพราะอย่าง >>295 ที่พิมพ์ยาวๆตัวหนังสือล้วนเต็มเป็นพารากราฟๆไป พอเปิดไปดูก็ขึ้นเต็มทั้งพารากราฟแรก 20 บรรทัดตัวหนังสือเพียบ กูว่าถ้าปกติมันย่อแบบนี้คือก็ยาวกว่าสปอยอีกป่าววะ ไม่น่าใช่นับจากตัวอักษรนะ
ไล่ดูห้องอื่นก็ย่ออยู่ 14-15 บรรทัดก็มี นับรวมกับที่เว้นๆ เลยงงว่าเค้านับวิธีย่อจากอะไรหว่า แต่นี่คือถ้ายึดตามเดิมสปอยใส่จุด 7 บรรทัด รวมจุดล่างอีกตีไปเหลือๆคือ 7 เท่ากันแม้ว่าอ่านมาจะย่งไม่เคยเจอใครใส่จุดล่างขนาดนี้ ก็เป็น 14 พิมพ์เวิ่นสปอยอีกซัก 6 บรรทัดนี่ส่วนใหญ่ก็พิมพ์ไม่ถึงด้วยซ้ำ ดูไปแล้วมันก็ไม่ได้จะทำให้เกิดเคสยาวผิดปกติเลยป่าววะ มีความงง ดูแบบน้อยมากที่สปอยจะยาวเกินการย่อปกติของระบบ ต่อให้เกินก็ไม่น่าเยอะอะไรขนาดนั้น กูกลับมางงว่ามันคือยังไง
ปอลอว่านับบรรทัดอิงจากโทรศัพท์กูที่เป็นไอโฟนพลัส ของคนอื่นอาจจาไม่เท่า แต่ของเม้นบนที่ยาวๆนี่ชัดอยุ่ดีว่าอักษรเยอะกว่าเม้นที่ตัดเหมือนกันเม้นอื่น ระบบนับไงหว่า
มันโชว์ 5 อันแรกใช่ป่ะ งั้ยเราก็ . เหมือนเดิมแหละ อันนี้กรุเอ็นดูโม่ง . ที่พยายามนับมาให้ แต่คนพิมพ์สปอยเสร็จก็ให้พิมใหม่อีกอันนึง เช่น ดันจ้า เพื่อไม่ให้มันมายาวๆพรืดๆติดๆกันหลายอัน มันจะได้เป็น สปอยล์ ดันจ้า สปอยล์ ดันจ้า เม้นอื่นๆ ได้ลดระยะยาวพรืดๆเพราะจุด เอางี้ได้ป่ะ
bump topic ช่วยได้ในระดับหนึ่งในกรณีนี้กระทู้เพื่อนบ้านเราเขา active เป็นกระทู้แรกของหน้ารวม คือเราจะไม่ไปดันกระทู้เขาลงมา
อันนี้ไปขุดมาจากห้อง meta
เรื่องตัดโพสต์สั้น >>>/meta/3581/104-105
เรื่องแท็กสปอยล์หรือซ่อนข้อความ >>>/meta/686/58-62
กูเห็นด้วย พูดกันตามตรงแบบไม่ดราม่า ก็ห้องนี้เราใช้กันเยอะสุดจริงๆนี่ และก็ไม่ได้มีกระทู้อื่นมากมายอะไรด้วย เป็นความผิดเหรอถ้าอยากจะกันสปอย ถ้าไม่อยากเห็นกระทู้นี้ทำไมไม่กด all topics หรือ bookmark กระทู้ที่อยากอ่านไว้เลยวะ แถมนอกจากไอ้เหี้ยนั่นแล้วก็ไม่เห็นมีใครลำบากอะไร หัดสงบปากหน่อยก็ดีนะ ขึ้นว่ะ
กูว่าไม่เห็นต้องทำอะไร... ก็แค่ถ้าเห็นสปอยด์ติดๆกันก็คุยอย่างอื่นแทรกบ้างเท่านั้นเอง ยังไงก็ไม่ใช่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อยนี่นา ไม่น่าไปลดจุด แล้วก็ไม่ต้องปั้มเม้นเพิ่มให้รกด้วย
ถ้ากุไปบ่นรำคาญที่กระทู้อื่นบ้าง เค้าจะ ด่ากุ หรือ หาทางแก้ปัญหาให้กูแบบห้องนี้วะ
กุว่าพวกมึงนี่ก็ดีนะพร้อมจะรับฟังแก้ไข ก็เป็นข้อดีของพวกมึงนะ ตอนแรกกุขึ้นๆ
จะด่าละ ก็ใจเย็นลง มานั่งอ่านพวกมึงถกอย่างจริงจัง ประนึงวาระแห่งชาติ เอานั่นมั้ย ลดจุดมั้ย มีอะไรขั้นตรงกลางมั้ย
เออพวกมึงดูจริงจังในการแก้ปัญหาดีนะ ก็ดี...
แต่บอกตรงๆมันไม่ได้น่ารำคาญขนาดนั้นหรือเปล่าว่ะ เพราะ ดิบ มันไม่ได้ออกทุกวัน บางทีเป็นเดือนมาที
แล้วถ้าห้องนี้ กระทู้ขึ้นใหม่วันละเป็นร้อยๆดันขึ้นดันลงวันต่อวันเยอะ กุจะไม่แปลกใจนะ ถ้าจะรำคาญ
แต่ในกรณีนั้น มึงมีกระทู้ที่เข้าประจำมึงจะไม่บุคมาร์กเข้าโดยตรงเหรอวะ กุคนนึงอ่ะ ไม่มานั่งสไลด์ ปกติกุบุคมาร์กเข้าตรงเลย
ไม่ว่าจะเว็บบอร์ดที่กระทู้รันทุกวัน วันละเป็นร้อย หรือบอร์ดที่กระทู้น้อยๆ ก็เถอะ
>>310 มึงช่างคิดเหมือนกู กูคือคนที่ถามเขาว่าทำไมไม่เลือกกระทู้ที่ชอบละ เขาตามนี้ >>221
">>217 ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงคิดแบบนั้น จริงอยู่ว่าห้องนี้มีกระทู้ไม่มาก แต่โดยปกติแต่ละห้องจะถูกแบ่งเป็นหมวดอย่างชัดเจนครับ เช่น ห้อง lit ก็เกี่ยวข้องกับวรรณกรรมทั้งหมด ซึ่งก็มีให้เลือกดูหลายแนว อย่างห้องนิยายไทย ห้องนิยายจีน ห้องนิยายญี่ปุ่น ห้องสารคดี ซึ่งไม่ใช่ทุกคนจะอ่านหนังสือประเภทเดียวนะครับ อย่างตัวผมอ่านทั้งนิยายไทย นิยายจีน และก็สารคดี รวมไปถึงเทคนิคและข่าวสารงานเขียน เพราะฉะนั้นผมก็จะเข้าไปที่หน้าหลัก เพื่อดู feed ว่าตอนนี้ในห้องไหนที่ผมสนใจ มีการอัพเดตบ้าง
ส่วนปุ่ม All topics มักใช้สำหรับกรณีที่หากระทู้ที่ต้องการไม่เจอ อาจเกิดจากการโดนดันตกไปไกลมาก เช่นในห้อง netwatch ที่มีกระทู้เยอะ และ active บ่อย กระทู้ไม่ได้ตอบแค่ครึ่งวัน ก็อาจหล่นหายไปแล้วก็ได้ครับ"
กูก็พูดไม่ออก ถ้าเป็นเพื่อนกันจะบอกว่า"ทำไมมึงเรื่องเยอะจังว่ะแล้ว"
เอาจริงๆถ้าขี้เกียจเลื่อนผ่านกระทู้เราก็กดลูกศรลงที่ขวาบนให้มันลงไปล่างสุดของหน้าเว็บแล้วเลื่อนขึ้นแทนก็ได้ ตอนแรกว่าจะพูดแต่เดี๋ยวฟังดูเหมือนใจร้ายไม่รับผิดชอบอีก
เดี๊ยวดิ ปกติ ถึงจะเข้าหลายห้องก็เหอะ แต่ก็ต้องเลือกห้องก่อนป่ะแล้วถึงจะเห็นกระทู้ห้องนั้นๆ
ห้องนี้มีกระทู้น้อยแบบที่จอกุไม่มีสกอร์ให้เลื่อนอ่ะ(นี่ออลโทปิกแล้วนะ)
รึกูเข้าใจผิด มันกดดูได้แบบรวมทุกห้องเหรอ
ยังไงวะ กุงง มันดันกันขนาดนั้นเลยเหรอ เอ๊ะ...
กูคิดว่ามันแถวะ
>>315 ใช่จอกุใหญ่มาก
จริงๆก็ก็พอรู้ละ ว่ายังไง กุแค่อยากแน่ใจไรหลายๆอย่างว่ากุพลาดไรมั้ย
เพราะจริงๆกุอ่านโม่งในที่ทำงาน เพราะเปิดไรมากไม่ได้ละโม่งมันมีแต่ตัวหนังสือ กุเอฟ 5ทุก 5-10 นาที รึว่างๆก็กด
ทำไมกุจะไม่รู้ว่า วันๆนึงกระทู้วิ่งแค่ไหน บางวันไม่กระดิกสักกระทู้ เหอะๆ
บางทีเปิดมา รีเซนท์ 3 วันไม่มีอะไรอัพเดทเลยนะ...อืมม
แล้ววันนี้ที่กระทู้นี้ไหลเป็นน้ำก็เพราะมีประเด็นหรอก... กระทู้อื่นยังคอมมเม้นเดิมๆคาอยู่เลย
แล้วจะบอกว่าดันกระทู้อื่นตก กุเลยไม่เข้าใจอยู่นี่ไง...อืมมมม
แค่นี้แหละ...
ว่าจะมาแจมเมนท์ตั้งแต่เย็น แต่เน็ตดีแท็คเสือกโดนแบนอีกแล้ววุ้ย
ตกลงเรื่องนี้ได้ข้อสรุปว่าไงเรอะ เอาเหมือนเดิมหรืออะไรยังไง
ไม่รู้สิ ยังไม่ใครสรุปด้วยอะนะ แต่กูว่าไม่ดันกระทู้แล้วปล่อยตกลงไปเลยกูก็โอเคนะ หรือจะโพสต์ดันโพสต์สปอยล์ให้มันไม่ติดกันก็โอเค เปิดโหวตกันเลยดีปะ
wm ตอบแล้ว เรื่องการตัดย่อโพสต์ >>>/meta/3581/295
>>320 กูคิดว่าเหมือนเดิมเพราะปกติมันก็ไม่ได้มีสปอยล์บ่อยอะไรขนาดนั้นอยู่แล้ว
งั้นทำตามปกติไป แต่ถ้าใครเห็นเมนท์สปอยล์อยู่ติดกันก็พิมพ์อะไรขั้นๆไปหน่อยก็ดีมั้ง เพราะปัญหาไม่ได้อยู่ที่จุดสปอยล์เพียวๆด้วย
รักโม่งซุยรันทุกคน กูเห็นหลายรอบละ พอมีปัญหาหรือดราม่า พวกมึงคุยสุภาพชนมากทั้งๆที่ใส่โม่ง ถกกันด้วยเหตุและผล รักพวกมึง
ส่วนเรื่องสปอยกูว่าเอาเหมือนเดิม
มันไม่ได้บ่อยขนาดนั้นสักหน่อยนะ...
นานๆครั้ง
ถือว่าเข้าสู่ภาวะปกติแล้วใช่มะ จะได้ไปปั่นฟิคต่อ
กูเห็นแว้บๆเมื่อวานใครจะเขียนฟิคท่านพี่เป็นตัวร้ายนะ กูรออยู่นะเว้ย
จะบอกว่า. เมื่อยนิ้วมาก ไถไม่อ่านตอนถกเรื่องจถดสปอยเนี่ย 555
ปกติกูสิงอยู่ห้องนี้นะ
ถ้าให้พูดในฐานะโม่งซุยรัน กูเห็นด้วยและเข้าใจพวกมึง
แต่ถ้าพูดในฐานะโม่งธรรมดาที่สิงอยู่หลายบอร์ด กูบอกตามตรงเลยว่าเวลาดิบมาแต่ละทีนี่มันจะรกบอร์ดจริงว่ะ คือส่วนตัวกูมองในแง่แบบถ้ามึงมาแค่ความเห็นจำพวก 'เรื่องนี้มันวันๆของท่านเรย์กะ' ซึ่งมันเป็นความเห็นของสปอยด์แต่แม่งไม่ใช่การสปอยด์เลย มึงไม่จุดก็ได้นะ เพราะเอาตรงๆคือต่อให้มึงบอกว่าสังคมในนี้แม่งต่างจากโม่งทั่วไปยังไง ที่นี่มันก็ยังเป็นโม่งอยู่นะมึง ซึ่งโม่งแม่งก็มีรูปแบบที่เป็นเหมือนธรรมเนียมไรงี้อยู่ว่ะเอาจริง
ปล.ในโม่งกูว่าตัวเปิดนั่นมาแนวเรียบร้อยชหแล้วนะมึง กูยังไม่อยากในเราตีกันจนไปลากพวกโทรลมาป่วนห้องว่ะ แม่งไม่สนุกเลยนะมึง
ปลล.ถ้าในนี้เรียบร้อยแบบห้องนี้จริง พวกมึงคิดว่าบอร์ดอื่นจะด่าโม่งกันให้วายวอดเพื่ออะไรวะ
>>334 กูไม่อยากทะเลาะจนมีโทรลมาป่วนกระทู้เหมือนกัน เมื่อวานเลยตั้งรับไปอย่างเดียว ดูจากโทรลห้องอื่นที่กูอยู่แล้วอะนะ ห้องนี้ดีไม่มีโทรลเลย ส่วนเรื่องรูปแบบธรรมเนียม กูว่าแค่เปลี่ยนห้องสไตล์ของแต่ละที่ก็ไม่เหมือนกันแล้วอะ กูเลยเฉยๆนะ กูว่าโพสต์...มันก็ไม่ได้เลวร้อยอะไรขนาดนั้นถ้ามันไม่มาอยู่ติดกันเป็นพรืด แต่ตอนนั้นมันบังเอิญติดจริงๆเพราะไม่เคยมีตอนไหนมันมา...ติดกันขนาดนั้นมาก่อนอะ กูเลยคิดว่าแค่คั่นๆไปไม่ให้มันติดกันแบบวันนั้นก็น่าจะโอเค
ถ้าพูดถึงพื้นที่สายตามันอาจจะดูยาวดูเยอะ แต่ถามว่าเปลืองพื้นที่บอร์ดไหมกูว่าไม่ ส่วนตัวกูว่ากระทู้ห้องอื่นบางห้องรกกว่าอีกนะ ยิ่งห้องที่มีโทรลเยอะๆด้วยแล้วอะ แล้วกูก็ไม่ได้คิดว่าบอร์ดโม่งเรียบร้อยหรอก มีห้องนี้นี่แหละเรียบร้อยสุดละที่กูเล่นมา 5555
ส่วนคอมเมนท์...ที่ไม่มีสปอยล์มีด้วยหรอ พอดีกูไม่ได้ตามอ่านสปอยล์ทุกรอบเลยไม่แน่ใจ ถ้าไม่อยากให้โพสต์...เยอะเกินไปอะไรที่ไม่เกี่ยวกับสปอยล์ก็ไม่ต้อง... แต่เอาจริงกูไม่อยากให้คนในกระทู้เราไปตอบโต้อะไรมากมาเหมือนกัน ถึงหลายๆคำที่เขาเลือกใช้มาจะชวนให้ขึ้นจริงๆก็เถอะ เพราะเดี๋ยวโดนส่งโทรลมาป่วนกระทู้ไม่คุ้มกัน (เอาจริงๆกูเฉยๆกับโทรลเพราะมู้ห้องอื่นที่กูสิงก็โดนเลยชินแล้ว กูเห็นโทรลเป็นแค่ธาตุอากาศ แต่กลัวโม่งมือใหม่ในนี้รับไม่ได้นี่แหละ)
>>334 สปอยที่ไม่เป็นสปอยของมึง แต่กูมองเป็นสปอยนะ สมมติกูบอกว่าตอนที่400แค่เป็นตอนวันๆของท่านเรย์กะ ไม่มีไรเลย มันก็ยังเป็นการบอกเนื้อหาของตอนนั้นๆอยู่ดีอ่ะ คือกูก็ไม่รู้จะจำกัดความคำว่าสปอยยังไงดี แต่กูมองว่าถ้าเกิดไม่ได้อยากรู้ว่าตอนที่400เป็นยังไง ถ้าไม่ใส่จุด มัยก็เป็นการสปอย(มึงเข้าใจกูป่ะ)
ส่วนเรื่องรกบอร์ด คือกูเข้าใจนะว่าบรรทัดมันเพิ่มขึ้น มันรก แต่จะให้ทำยังไงอ่ะ ถ้าสปอยแล้วไม่ใส่จุดหรือใส่จุดแค่ขำๆสองสามจุด มันก็ไม่ให้เกียรติคนที่เขาไม่อยากอ่านสปอยรึเปล่า
ตอนนี้มันเลยกลายเป็นถ้าสปอยแบบเดิม รกบอร์ด ไม่ให้เกียรติคนในห้อง
ถ้าสปอยแค่จุดสองสามจุด ก็ไม่ให้เกียรติคนไม่อ่านสปอย
ถ้าสปอยแล้วดันจะได้ไม่ไปรกตรง recent topics ก็กลายเป็นรกในกระทู้นี้ ปั่นโพส
(ถึงแม้กูอยากจะชูเรื่อง ดิบก็ไม่ได้มาบ่อยๆ บังเอิญเจอครั้งเดียวไม่น่าถือเป็นการไม่ให้เกียรติคนอื่น แต่กูอาจจะเห็นแก่ตัวไปมั้งที่คิดแบบนี้)
ยังไม่จบอีกเหรอ กูก็ตามหลายกระทู้แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะต้องมาถกกันเป็นวันๆ
หลักๆคือกูอ่านดิบ ก็อยากจะสกรีมหาคนคุยด้วยบ้าง พูดเกริ่นๆกรี๊ดๆ ไม่ได้เล่าเรื่องก็โดนหาว่าไม่จุด, จุดน้อยไปฝ่ายนึงก็ไม่โอเค, จุดมากไปก็โดนติอีก ถ้าจะวุ่นวายขนาดนี้กูกลับไปกรี๊ดคนเดียวในทวิตก็ได้วะ
กูละสงสารคนอ่านดิบแล้วอยากหาคนคุยด้วย มาคุยในโม่งส่วนใหญ่รอแปลไทย คนอ่านดิบคุยกันมากไปก็โดนหาว่ารกมู้-_- ต้องทำยังไงมันถึงจะวินวินกันวะ คนคุยดิบจะได้คุยอย่างสบายใจ คนรอแปลไทยก็ไม่ต้องกังวลจะโดนสปอย
กูว่าไอ้โพสต์...มันไม่ได้รกขนาดนั้นหรอก เว้นมึงจะรำคาญพื้นที่ว่าง คือห้องอื่นก็ไม่ใช่ไม่มีอะไอ้โพสต์เว้นบรรทัดยาวๆที่ไม่โดนตัดหรือแม้แต่โพสต์.... แต่มันไม่ได้ติดกันหลายโพสต์เฉยๆไง แค่ทำให้มันไม่ติดๆกันหลายอันเกินไปก็พอมั้งกูว่า มึงอย่าไปเครียดมาก
ky กูคนโพสต์งอแงเรื่องฝึกงานเองนะ พอคิดว่าน่าจะแบ่งเวลามาเขียนฟิคได้ แล้วทำไมบอร์ดต้องบล็อคipมือถือกูด้วยยยยย แง
กูเพิ่งเข้าบอร์ดมา แต่กูว่าทำแบบเดิมอ่ะดีแล้ว
แต่มันมีปัญหาว่ายาวไป งั้นก็ตามความคิดกูนะ สปอยล์ต่อกันได้แค่สามความเห็นจากนั้นรออีกสิบห้านาทีจากโพสต์ที่สามแล้วค่อยเม้นสปอยด์ต่อ ให้เวลามู้อื่นโพสต์มั่ง คิดว่าใช้ได้ไหม
ky แปลไทยตอนใหม่มาแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะกูเคยเรียนตอน ม.5 นี่กูงงแตกเรื่องบันไดสเปนนะ 555
ขอบคุณโม่งแปลสำหรับไทยตอนใหม่ ท่านเรย์กะนี่พอเรื่องอาหารเข้าหัวเรื่องอื่นๆ ลืมไปเลยสินะ แต่ชอบ 2 สาวสนิทกันจนโทรหากันได้เลย //ว่าแล้วก็มองบากะรากิ
ขอบคุณโม่งแปลมากน้าาา ตอนนี้ช่างเป็นความแตกต่างของคาบุกะท่านเรย์กะจริงๆอ่ะ55555 นี่!งานชวนเดทของจริงมันต้องแบบนี้ ชวนมากินข้าวกับที่บ้านงี้5555//หันไปตบบ่าคาบุ
ศัตรูตัวจริงด้านความรักของคาบุรากิคือท่านเรย์กะนี่เอง เปลี่ยนบทจากนางร้ายศัตรูนางเอกเป็นศัตรูหัวใจพระเอกแทน 😱....
ตอนล่าสุดวาคาบะกะเรย์กะน่ารักมาก
tagloveกลายร่างเป็นtagfoodอีกจนได้...
ปกติโรงเรียนม.ปลายญี่ปุ่นนี่เขาไปทัศนศึกษาต่างประเทศกันหรือเปล่าววะ นี่แม่งล่อยุโรปสามประเทศเป็นชะโงกทัวร์เลย
บากะรากิ นายปรึกษาศัตรูทางความรักทำไม ;_;
เทียบกับคาบุรากิและนายตัวสำรองแล้ว เรย์กะนี่ยังนับว่าไปเดทกับวาคาบะจังได้มากกว่าอีกล่ะมั้งเนี่ย เหมือนตีเนียนไปกินข้าวบ้านเค้าบ่อยจนแบบสนิทกันมากๆแล้วอ่ะ ค่าความสนิทสมพุ่งปรี๊ด
>>351 อ่านแปลไทยตอนล่าสุดแล้วแบบว่า..........
- เหมือนเรย์กะคิดกับวาคาบะแค่เพื่อน แต่วาคาบะคิดกับเรย์กะเกินเพื่อนแต่ไม่ได้ชอบแบบคนรัก อารมณ์อยากสนิทด้วยมากมาย
- วาคาบะจับจุดเรย์กะได้เลยล่อลวงด้วยของกินเพื่อสานสัมพันธ์ ในขณะที่บากะรากิพยายามจีบวาคาบะแต่ชีเห็นเป็นแค่เพื่อนชาย
- ไอ้บากะเลยไปข่มขู่เรย์กะให้มาเป็นแม่สื่อ โดยที่ไม่รู้เลยว่าที่ไปขอความร่วมมือนี่ศัตรูตัวเอ้
- เอ็นโจกัดผ้าเช็ดหน้ามองดูห่างๆ พยายามจับคู่วาคาบากะเพื่อให้เรย์กะว่าง
- บางทีการไปติวที่ห้องสมุดอาจจะเป็นการลองเชิงเพื่อลดระยะห่างระหว่างเปย์ว้อยกับนักเรียนนอกก็เป็นได้......โดยการเอาบากะไปลองยากับประธานดูก่อน ถ้าไม่ตีกันตายก็มีลุ้น
- ท่านพี่(akaจอมมาร) นั่งบนภูดูห่างๆ อย่างซิสคอน............
กูมโน
เด็กซุยรันนี่ดูชิลๆกะการไปดูละครดูโอเปร่าที่ต่างประเทศดันสุดๆเลยนะ
เรื่องภาษานี่ชิลขนาดนั้นเลยรึ ภาษาอังกฤษเอยฝรั่งเศสเอย
>>357 กูว่าพวกคุณหนูคุณชายก็คงมีคอร์สเรียนภาษาต่างประเทศกันว่ะ เพื่อการเข้าสังคม ติดต่อสื่อสารไรเงี้ย อย่างน้อยๆก็ต้องได้ภาษาอังกฤษอ่ะ กูดู F4 ญี่ปุ่น กลุ่มพระเอกสี่คนก็พูดภาษาต่างชาติคล่องปรื๋อเลย มีนางเอกฟังไม่เข้าใจอยู่คนเดียว
ปล.โอเปร่าส่วนใหญ่เป็นภาษาอิตาลีนะ เป็นต้นตำรับ ถัดๆมาคือเยอรมันและฝรั่งเศส (ภาษาอังกฤษก็มีแหล่ะแต่มีน้อยกว่า) แต่กูคิดว่าถ้าเรย์กะชอบดูโอเปร่าและฟังเข้าใจ ก็คงได้ภาษาที่กล่าวๆมาล่ะมั้ง
กูขำ สงสารสองหนุ่มชะมัด เหมือนวาคาบะจังให้ความสำคัญกับท่านเรย์กะเหนือหนุ่มๆทุกคน ปักธงมิดด้ามแล้วก็เงี้ยะ 5555
Ky นิดนึง เห็นมีพูดเรื่องบ้านเรย์กะล่ม
ถ้าเป็นความเป็นจริงนะ มันเป็นไปได้หรอที่ตระกูลใหญ่ขนาดนั้นจะล้มละลายได้อ่ะ มึงเคยได้ยิน Too big too fail ป่ะ ตระกูลใหญ่ขนาดนั้นล้มละลายทีนึง เศรษฐกิจทั้งญี่ปุ่นกระทบหมดเลยนะ ยังไงตระกูลคาบุ เอ็นโจก็ต้องโดน(นี่ยังไม่พูดถึงอาจจะเป็นหุ้นส่วน บริษัทคู่ค้าอะไรแบบนี้นะ) แถมระหว่างตระกูลก็ต้องถ่วงดุลอำนาจกันอยู่แล้ว ล้มไปหนึ่งขั่วอำนาจ เสียหายหนักมาก ยังไงก็เป็นไปไม่ได้ที่จะล้มละลาย ถึงจะทุจริตแค่ไหน ก็มีวิธีจัดการลับๆไม่ให้ล้ม(ใครจะยอมทำตัวเป็นคนดี จัดการเรื่องทุจริต แต่ตัวเองขาดทุนหลายสิบล้านอ่ะ อีกอย่างรัฐบาลไม่มีวันยอมให้ล้มละลายเด็ดขาดเพราะมันกระทบทั้งระบบ)
แต่ก็อย่างว่า มันเป็นพล็อตการ์ตูนโชโจทั่วไป ไม่ค่อยอิงความจริงอยู่แล้ว(ส่วนแบบนิยายก็คงไม่ล้มละลายเพราะความสัมพันธ์อันดี)
>>362 >>363 บริษัท กิจการต่างๆมีนอกมีในทั้งนั้น จะบริหารให้เหมือนเดิมยากโคตร ยังไงก็ขาดทุนแน่ๆ แถมเครือบริษัทคิโชวอินไม่น่าจะน้อย มันใหญ่เกินไป มีความลับในนั้นมากเกินไป ถึงจะเก่งแค่ไหนจับคุมบังเหียนให้เหมือนเดิมมันยากมาก
(ตัวอย่างง่ายๆก็แอปเปิ้ลอ่ะมึง เปลี่ยนผู้บริหารมันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ)
อีกอย่างคืออำนาจถ้าโอนไปอยู่ที่ตระกูลคาบุหมด มันทำให้ตระกูลคาบุใหญ่เกินไป ขั่วอำนาจไม่สมดุลด้วย
>>361 ตระกูลคิโชวอินล้มละลาย แต่คิโชวอินกรุ๊ปยังอยู่ภายใต้การนำของประธานคนใหม่ และประธานคนนั้นอาจเป็นหุ่นเชิดของตระกูลคาบุรากิอีกทอดหนึ่ง + กับที่คนในรัฐบาลญี่ปุ่นคือคนของตระกูลคาบุรากิด้วยแล้วก็เป็นเรื่องง่ายๆเลย (ตระกูลคาบุรากิสืบเชื้อสายจากขุนนางเก่าแก่ที่สูงส่งจนเรียกชื่อมาห้วนๆไม่ได้ แสดงว่าต้องระดับโชกุนยันจักรพรรดิหรือเชื้อพระวงศ์ มันการันตีเรื่องเส้นสายทางการเมืองได้เลย ถึงในเรื่องจะไม่บอกไว้แต่มันก็เป็นไปได้ที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลญี่ปุ่นในเรื่องจะเป็นหุ่นเชิดหรือคนในตระกูลคาบุรากิ)
จากในเรื่องที่บอกว่าที่บอกว่าทานุกิชอบดูถูกคน คิดว่าต้องมีพวกวางแผนรอเสียบหรือพวกหวังกระทืบซ้ำเมื่อยามล้มอยู่มากแน่ๆ พอได้จังหวะเลยจัดไปชุดใหญ่ไฟกระพริบ และยังไงๆ คนที่มาเป็นประธานใหม่แทนทานุกิก็ต้องเป็นคนที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกน้องเก่าของทานุกิอยู่แล้ว
>>365 ถึงคิโชวอินกรุ๊ปยังอยู่ แต่เปลี่ยนผู้บริหาร แนวทางการบริหารมันก็ไม่เหมือนเดิมแล้ว ถึงผู้บริหารคนใหม่จะเก่งแค่ไหนแต่ไม่มีประสบการณ์ทำงาน"ในบริษัทคิโชวอิน"ก็เป็นไปได้ยากที่จะบริหารได้ดี(โครงสร้างแต่ละบริษัทไม่เหมือนกัน ฝึกงานบริษัทคาบุมาแต่มาบริหารบริษัทคิโชวอินแล้วทำได้ดีเหมือนประธานคิโชวอินคนก่อนแทบเป็นไปไม่ได้) แถมถ้าบอกว่าคนในรัฐบาลเป็นคนของตระกูลคาบุ ก็ต้องมีคนของตระกูลคิโชวอินด้วย คือมันต้องถ่วงดุลอำนาจกันอ่ะ ถ้าบอกสุดท้ายคนของคิโชวอินกลายเป็นคนของตระกูลคาบุ อำนาจของตระกูลคาบุจะเพิ่มขึ้น แน่นอนส่งผลลบต่อตระกูลอื่น(ตระกูลเอ็นโจก็ด้วย ถึงจะเป็นพันธมิตรกันแต่ไม่มีใครอยากให้คนอื่นมีอำนาจมากขึ้นไปอีก)
>>368 แนวทางไม่เหมือนเดิมก็ใช่ว่าจะมีแต่แย่ลงอย่างเดียวเสียเมื่อไหร่ ผู้บริหารคนใหม่ผมอธิบายเพิ่มเติมใน >>366 แล้ว ส่วนของรัฐบาลนั้นไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะมีคนที่ภักดีต่อตระกูลอื่นในพรรคของตระกูลคาบุรากิ และส่วนสุดท้าย ตระกูลเอ็นโจ ไม่สิ ผมว่าไม่มีตระกูลไหนในญี่ปุ่นที่กล้าฉะกับตระกูลคาบุตรงๆ โดยเฉพาะในช่วงที่กำลังรุ่งเรือง เพราะจะมีแต่เสีย พวกตระกูลล่างๆหรือกลางที่ได้เห็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับตระกูลคิโชวอินคงไม่มีใครกล้าหือ ตระกูลใหญ่อย่างเอ็นโจหรือตระกูลPivoine อื่นๆคงถือโอกาสช่วยขยี้ตระกูลคิโชวอินด้วยซ้ำ เพราะนอกจากจะกำจัดคู่แข่งได้แล้ว ยังช่วยสร้างความสัมพันธ์อันดีกับตระกูลคาบุมันด้วย แทนที่จะปักธงเป็นศัตรู
>>369 ถึงจะเป็นคนที่ลูกน้องเก่าทานุกิวางใจ แต่เป็นไปไม่ได้ที่ลูกน้องเก่าร้อยเปอเซนจะยอมรับ(หรือบริษัทคิโชวอินไม่มีคนที่เป็นพวกแท้ๆของตัวเองเลย? เป็นไปไม่ได้หรอก อีกอย่างทานุกิไม่ใช่พวกทำงานไม่เป็น โดนคนอื่นควบคุม ยังไงฐานอำนาจในบริษัทต้องมีอยู่แล้ว)
แนวทางไม่เหมือนเดิมใช่ว่าบริษัทจะแย่ลง จริงค่ะ แต่ทุกบริษัทไม่ว่าจะตำแหน่งไหนต้องมีการฝึกงานเพื่อเรียนรู้งาน คนที่จะขึ้นเป็นประธานต้องเรียนรู้งานกับประธานเก่า อย่างที่บอกบริษัททุกที่"มีนอกมีใน"มีโครงสร้างที่ซับซ้อน มี"ความลับ"ที่ประธานรู้เท่านั้น และพวกนั้นคือตัวที่ทำให้บริษัทมีกำไร
เพราะฉะนั้นการเอาคนที่ไม่รู้อะไร หรือรู้แค่เปลือกนอกมาบริหาร เริ่มต้นยังไงก็ต้องติดขัด ขาดทุน หลังๆอาจจะดีขึ้น แต่ส่วนที่ขาดทุนตอนแรกถามว่ามีใครอยากแบกรับบ้าง
พูดตรงๆรัฐบาลไม่มีทางมีแค่คนของคาบุ ไม่มีทาง เป็นไปไม่ได้ ตระกูลคาบุอาจจะใหญ่ที่สุด แต่ไม่มีทางที่กษัตริย์จะยอมใหญ่ใหญ่อยู่ตระกูลเดียว(ถึงความสัมพันธ์จะดีแค่ไหน ก็ไม่มีทางยอมได้ มันใหญ่เกินไป) ไม่รู้จะพูดยังไงดี แต่ความสัมพันธ์ของบริษัทใหญ่ๆมันต้องถ่วงดุลกันนะ(ยกเว้นรัฐบาลแบบสังคมนิยมที่ไม่ถ่วงดุล ซึ่งนี่ไม่ใช่)
จริงๆมันมองได้หลายมุมแหละ...
>>370 เสริมนะ โดยปกติถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้จริง เกิดการทุจริต รับไม่ได้ อยากให้ตระกูลซักตระกูลล้มจริงๆ
มักจะใช้วิธีแบล็กเมล์มากกว่า ปล่อยให้ทานุกิบริหารต่อไป ส่งคนมาควบคุมดูแล เรียนรู้งานจากทานุกิ ซักสามถึงห้าปีก็สามารถลดอำนาจตระกูลคิโชวอินได้เกือบหมดแถมได้รู้แนวทางการบริหาร ก็ค่อยปลดออกทีหลัง
คือของแบบนี้มันต้องใช้เวลา จะรีบปลด รีบทำ riskมันสูงเกินไป
riskในที่นี้ไม่ใช่แค่ขาดทุน เครือบริษัทใหญ่ขาดทุนมันกระทบทั้งระบบ ลูกจ้างในนั้นกี่พันคน(อาจจะถุงหมื่นด้วยซ้ำ) พอขาดทุนแล้ว คุณภาพชีวิตลูกจ้างในนั้นลดลง ร้านค้ารอบด้านกำไรลดลง ทุกอย่างมันกระทบหมดเลย
>>370 ปัจจุบันจักรพรรดิญี่ปุ่นมีพระราชอำนาจแค่ในนาม มันใช่ว่าจะเป็นไปได้ เพราะการเมืองของญี่ปุ่นคือระบบเส้นสายและอุปถัมภ์ ดังนั้นการจะมีพรรคการเมืองที่ภักดีต่อตระกูลคาบุที่มากล้นด้วยเงินและอำนาจบารมีจึงเป็นไปได้ ต่อให้ไม่ถึง 100% เป๊ะ แต่ถ้าเป็นเสียงส่วนใหญ่ โดยเฉพาะในบอร์ดผู้บริหารระดับสูงหรือผู้ถือหุ้นเห็นไปในทางเดียวกันก็เพียงพอ แล้วคุณคิดจริงๆเหรอว่าเขาจะเอาไก่กาไปแทนที่ประธานคิโชวอิน ยังไงก็ต้องเป็นคนในกลุ่มวงในอยู่แล้ว และคนที่ประธานไว้วางใจก็ใช่ว่าจะไม่หวั่นไหวพอมีเงินก้อนโตวางตรงหน้า ยิ่งในสังคมคนแบบประธานคิโชวอินที่ศักดิ์ศรีกับความภักดีมันกินไม่ได้แล้ว ก็ยิ่งมีความเป็นไปได้สูงเลยว่าคนที่ประธานคิโชวอินไว้ใจจะเป็นคนขายข้อมูลการทุจริตของประธานคิโชวอินแล้วเสียบตำแหน่งซะเอง เพราะอย่างที่คุณบอก ""มีนอกมีใน"มีโครงสร้างที่ซับซ้อน มี"ความลับ"ที่ประธานรู้เท่านั้น และพวกนั้นคือตัวที่ทำให้บริษัทมีกำไร" เรื่องการคอรัปชั่นของประธานคิโชวอินคงไม่เรื่องที่ปล่อยหลุดมาง่ายๆหรอกนะ ยิ่งที่คุณย้ำตรงที่ "ทานุกิไม่ใช่พวกทำงานไม่เป็น โดนคนอื่นควบคุม" มันตอกย้ำแล้วว่าคนที่ประธานไว้ใจหรือคนสนิทของประธานหรือผู้เกี่ยวข้องกับการคอรัปชั่นเป็นคนปล่อยเรื่องหลุดถึงทางตระกูลคาบุรากิด้วยตนเอง
เฮ้อ แต่เอาเฮอะ บางทีกูก็มานั่งคิดกับตัวเองได้แล้วว่าทำไมถึงมานั่งคิดหาเหตุผลให้นิยายที่ตัวเองกลับชาติมาเกิดเป็นนางร้ายในการ์ตูนโชโจที่ตัวเองเคยอ่าน...
>>372 เรื่องคอรัปชั่นก็มีทุกบริษัทค่ะ แต่ละบริษัทใหญ่ก็ถือข้อมูลลับบริษัทอื่นเป็นเรื่องปกติด้วยซ้ำ มันถึงเป็นการถ่วงดุลอำนาจไงคะ แต่การที่อยู่ๆเอามาเปิดเผย นั่นแสดงว่าไม่กลัวว่าข้อมูลของบริษัทลับของคาบุจะโดนเปิดเผยตามหรือไม่ก็กลัวอะไรซักอย่าง(ไม่ขอพูดถึงตรงนี้มากเพราะรายละเอียดไม่มี)
ที่อย่างบอกคือ เรื่องเอาข้อมูลคอรัปชั่นไปเป็นเรื่องง่ายมากอยู่แล้ว ถ้าบอกว่าคนใกล้ตัวเป็นคนเอาไปก็เป็นไปได้ก็จริง แต่เรื่องมีนอกมีในนั้นไม่ใช่แค่เรื่องคอรัปชั่นค่ะ ทั้งเส้นสาย ทั้งคู่ค้าลับๆ ทั้งการติดต่อด้านมืด ทั้งธนาคารที่ฝากแบบลับๆ อะไรพวกนี้มันมีแต่ประธานที่รู้ ถึงคนอื่นใกล้ตัวจะรู้บ้าง แต่หนทางการจัดการให้ได้ดีมันยาก(ไม่มีบริษัทใหญ่ๆบริษัทไหนทำเหมือนกันด้วย)
มันhigh riskมากเกินไปกับการลงทุนครั้งนี้
ตระกูลคาบุทั้งๆที่ก็ใหญ่โตอยู่แล้วแต่ทำไมต้องลงทุนอะไรที่เสี่ยงๆ โดยที่ผลตอบแทนก็ไม่ได้การันตีว่าจะออกมาดี(ตระกูลคาบุต้องกว้านซื้อหุ้น(ตามการ์ตูนบอก) พอได้บริษัทมาก็ไม่มีอะไรการันตีว่าจะบริหารได้กำไรแน่ๆ มันคุ้มหรอที่จะลงทุนแค่เพื่อสะใจอยากล้มตระกูลหนึ่ง? คนที่มาแทนอาจจะเก่งมากกกกก แต่มีอะไรการันตีว่าจะไม่ขาดทุนนิ)
>>375 เสริม(ทำไมมือชอบกดส่งก่อนพิมพ์เสร็จทุกที)
นี่ยังไม่พูดถึงเรื่องคิโชวอินกรุ๊ปน่าลงทุนด้วยรึเปล่า กิจการจะเติบโตได้อีกรึเปล่า หรือตอนนี้แค่ประคับประคองกินเงินพื้นฐานเฉยๆ การจะกว้านซื้อหุ้นทั้งบริษัทเป็นการลงทุนอย่างหนึ่ง อยู่ๆมาซื้อเอาสะใจ ทำตัวเป็นคนดีมีคุณธรรม แต่ผลตอบแทนที่ได้มันคุ้มค่าแน่หรอ ยิ่งคาบุรากิกรุ๊ปเติบโตมาขึ้น ก็ยิ่งเสี่ยงที่จะมีส่วนขาดทุนเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น เพราะทั้งกรุ๊ปมันอยู่แบบพึ่งพากันด้วย
>>376 ตรงนี้ทางนิยายไม่ได้บอกสถานภาพของคิโชวอินกรุ๊ปไว้ กูพึ่งนึกได้ตอนไปหาข้อมูลมาดีเบตกับมึงพอดีเลยไปถอนหายใจใน>>373 ในชีวิตจริงน่ะ อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาเนาะๆ 10 ปีขึ้นไปถ้าจะกำจัดตระกูลระดับคิโชวอินแบบไม่กระทบกันทั้งระบบ แต่ถ้าคิดแบบโชโจแบบการ์ตูนแบบนิยายแฟนตาซีละก็ รู้จักตระกูลนิชิซาว่าในเคโรโระ หรือตระกูลซันเซงอินในฮายาเตะพ่อบ้านประจัญบานหรือเปล่า? ถ้าตระกูลคาบุมันรวยระดับนั้น กะอีแค่ซื้อบริษัทใหญ่ทั้งบริษัทเพื่อสนองนี๊ดหรือเพราะแค่อยากผลาญเงินเล่นเพราะไม่รู้จะใช้ยังไงให้หมดก็เป็นไปได้หมดเลย
กูคนแต่งเอสไร้พ่าย v.ที่มีสภานักเรียนใต้ดินนะ คืนนี้กูว่างเลยว่าจะแต่งมาลง แล้วบังเอิญว่ากูจะให้คาบุรากิมันพูดอะไรกับเอสไร้พ่ายดี (คือเวลาแต่งฟิคกูแต่งสด ไม่ได้คิดก่อนแต่ง)
>>378 น่าจะเป็นเครือธุรกิจที่ครอบคลุมกิจการหลายประเภทว่ะ ดูจากความมั่นคง เป็นตระกูลเก่าแก่ด้วย แปลว่าน่าจะมีรากฐานมาตั้งแต่สมัยกลุ่มไซบัตสึนู่นเลย ประมาณเครือมิตซุย สุมิโตโม โนมูระ ยาซูดะอะไรพวกนั้นที่อยู่บนๆ เทียบเป็นตระกูลคาบุรากิ คิโชวอิน .... เอ็นโจด้วยมั้ยวะ ที่จริงกูแอบรู้สึกเหมือนในระดับศักดินาแล้วเอ็นโจดูด้อยกว่านิดหน่อย หรือเพราะบุคลิกด้วยไม่รู้ แต่ตั้งแต่แรกๆ ท่านพ่อท่านแม่ก็พูดชื่อคาบุรากิออกมาก่อนนะ
พวกนี้สายสัมพันธ์ซับซ้อน มากเข้าบางทีร่วมทุนตั้งบริษัทลูกด้วยกันอีก
>>383 กุว่าน่าจะออกเเนวข่มขู่เเบบมาดจักรพรรดิอะไรงี้นะ ประมาณว่าเอสไร้พ่ายไปถูกคาบุข่มขู่จนกลัวหัวหด พวกสภาใต้ดินเห็นเเล้วเลยมาเกลี่ยกล่อมต่อไรงี้ไหม กุอ่านเเล้วรู้สึกว่าคาบุมันน่าจะว่าอะไรเอสไร้พ่ายหน่อยอ่ะ เพื่อน(?)ถูกทำร้ายทั้งทีนี่นะ
//เข้าใจฟีลเลย กุก็เเต่ฟิคสดเหมือนกันนะ ตบบ่าเพื่อนโม่ง
>>386 กูว่าตระกูลคาบุรากิน่าจะเหนือกว่าทุกคนผู้สูงศักดิ์ใน pivoine ว่ะ รุ่นพี่รุ่นน้องคนอื่นก็ดูเกรงอกเกรงใจกันอยู่ อย่างตอนเสนอตัวเป็นประธานก็ไม่มีใครคัดค้านด้วย ท่านโยโกะก็เคยคิดจะขอร้องให้เป็น ในคิมิดอลก็ปูมาว่าฮีคือที่หนึ่งในทุกด้าน ชาติตระกูลก็คงตามนั้นนั่นล่ะ ตระกูลอื่นๆใน pivoine ก็เป็นรองลงไป แต่คิดว่าไม่น่าจะมีใครเทียบเทียมสามผู้ยิ่งใหญ่นี่ได้อ่ะ ถึงคนอื่นจะเป็น pivoine เหมือนกัน แต่ก็ดูไม่มีพาวเวอร์เท่าสามหน่อนี่เลย เช่นท่านฟุยุโกะ ท่านซาราระอะไรแบบนี้อ่ะ ขนาดอิมาริเป็น pivoine เหมือนกัน กูยังแอบรู้สึกว่าอิมาริด้อยกว่าท่านพี่ยังไงไม่รู้ดิ
แต่ลึกลับสุดกูว่าเอ็นโจนี่ล่ะ บ้านทำงานอะไรยังไม่รู้เลย ในมังงะคิมิดอลก็ไม่ได้โฟกัสตัวหมอนี่ซะด้วย คาบุยังมีแพลมๆว่าบ้านทำนั่นทำนี่ อย่างเป็นกลุ่มเงินทุน มีกิจการโรงแรมหลายที่ บลาๆๆๆ เอ็นโจไม่มีแง้มออกมาเลย
ต่อจาก>>>webnovel/3953/129-131 กูยังไม่ได้ตรวจทานนะ เจอคำผิดหรือลืมลบก็อย่าแปลกใจนะ
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
“นายคือประธานชมรมฟุตบอลสินะ” หลังจากที่มาถึงโรงเรียนได้ไม่นาน ดวงชะตาก็เล่นตลกกับฉัน เมื่อวานนี้ฉันพึ่งไปถอนฟันกับรับรู้ตัวตนของกลุ่มต่อต้าน Pivoine มาหยกๆ พอเช้าวันต่อมาก็มาเจอว่าที่ประธาน Pivoine และนักเรียนชายผู้ทรงอำนาจที่สุดในโรงเรียนอย่างคาบุรากิ มาซายะ อีก…เฮ้อ “หน้านายดูซีดๆนะ…ไหวหรือเปล่า?”
“มะ ไม่เป็นไรครับ ผมไหวอยู่…” ฉันพยายามจะบ่ายเบี่ยงและถอยห่างจากชายผู้ได้รับสมญา ‘จักรพรรดิ’ ที่กำลังแผ่ออร่าออกมาอย่างรุนแรงภายใต้คำพูดอันปกติ
“เดี๋ยวก่อน! ฉันมีเรื่องต้องคุยกับนาย…ตามฉันมา” จักรพรรดิประกาศกร้าวออกมาและเดินนำฉันไป ฉันจึงจำใจเดินตามไปต้อยๆด้วยความหวาดระแวง พอคาบุรากิหันหลังให้ พวกสาวๆก็พากันกรี๊ดกร๊าดเรื่องเมื่อครู่แทบทันที
“เข้าไป!”
“ครับ!”
คาบุรากิพาฉันมายังห้องประชุมในอาคาร ห้องประชุมที่ป้องกันเสียงออกมาข้างนอก 100 % ฉันเปิดประตูแล้วนำเข้าไป ห้องนี้มันไม่มีหน้าต่าง พอปิดไฟเลยมืดสนิทแม้จะเป็นกลางวัน ฉันเดินหาสวิทซ์ไฟอยู่ครู่หนึ่ง จึงหาเจอแล้วเปิดไฟให้ห้องสว่างไสว จักรพรรดิปิดประตูดัง ปัง! แล้วไปนั่งบนที่นั่งของประธานอย่างองอาจ
ฉันจึงเดินไปนั่งตรงที่ว่างทางขวาใกล้ๆด้วยความตื่นกลัว…กลัวว่าวันนี้จะเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นอีก…จักรพรรดิหลับตาเหมือนกำลังนึกคิดบางสิ่ง ฉันได้แต่นั่งดูเงียบๆ รอจนกว่าจักรพรรดิจะเป็นฝ่ายพูดออกมาเอง
“ประธานชมรมฟุตบอล”
“ครับ”
“นายรู้หรือเปล่าว่าฉันแอบชอบใครอยู่?” อา…เรื่องนี้สินะ
“ทาคามิจิ…วาคาบะ…?”
“ใช่แล้วล่ะ…ฉันหลงยัยนั่นจนโงหัวเกือบไม่ขึ้นเลย ฉันเจอยัยนั่นครั้งแรกตอน….”แล้วจักรพรรดิก็เล่าเรื่องการพบพานแห่งโชคชะตาของเขากับทาคามิจิ และการม้วนตัวตีลังกา แล้วเขาก็เล่าต่อถึงความรู้สึกที่เขามีและสิ่งที่เขาทำและให้กับทาคามิจิแต่ก็เหมือนจะไม่สำเร็จในหลายๆความหมาย…”เรื่องก็อย่างที่เล่ามา…”
“แล้วยังไงต่อครับ…”
“จากนั้นฉันก็ไปขอร้องคิโชวอินให้มาเป็นที่ปรึกษาด้านความรักน่ะสิ”
“เอ๋!?”
“ใช่แล้ว พวกคนรู้จักของยัยนั่นพูดกันว่ายัยนั่นเป็น ‘ท่านเทพเกศาบันดาลรัก’ หากได้แตะผมม้วนๆนั่นแล้วจะบันดาลให้ความรักสมหวัง”
“จะ จริงเหรอครับ…” ฉันเองก็แอบแตะๆบ้างเหมือนกันนะ…แต่มันคงจะสูงเกินพลังของเทพเกศาละมั้ง…
“แล้วตอนนี้ยัยนั่นก็ถูกนายเล่นงานจนต้องนอนไม่ได้สติที่โรงพยาบาล”
“นะ นั่นเป็นอุบัติเหตุ!”
“และนั่นทำให้นายต้องชดใช้ความผิดที่นายทำไป!” จักรพรรดิลุกขึ้นทุบโต๊ะอย่างรุนแรง ฉันจึงรีบขึ้นและวิ่งหนีไปทางประตู แต่ขาเจ้ากรรมดันสะดุดไรฝุ่น ฉันล้มลงไป ก่อนจะถูกจักรพรรดิกระชากคอเสื้อและถูกโยนชนกับกำแพงห้อง
ระหว่างที่มึนๆอยู่ คาบุรากิก็เอามือข้างหนึ่งดันกำแพงไว้ ฉันกับคาบุรากิ มาซายะจึงได้สบตากัน ในแววตาของจักรพรรดินั้นเต็มไปด้วยความโกรธาที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
“ตั้งแต่วันที่เกิดเรื่อง…ฉันอยากจะฆ่าแกเสียด้วยซ้ำไป…แต่ว่าถ้าทำแบบนั้นคิโชวอินกับทาคามิจิคงไม่ชอบใจแน่…จงสานต่อซะ…จงสานต่องานของคิโชวอิน ทำให้รักของฉันสมหวัง…ให้ตายสิ!…”
คาบุรากิเดินกระฟัดกระเฟียดออกไปจากห้องด้วยความไม่พอใจ…ฉันรู้สึกเหนื่อยล้าสุดๆ จนต้องนั่งหอบหายใจบนพื้นห้องอันเย็นเชียบ…
หลังจากปิดห้องเรียบร้อยแล้ว ฉันจึงเดินกลับไปที่ห้องเรียนของฉันเอง ฉันใช้เวลาตั้งสตินานไปหน่อย นี่ก็น่าจะคาบ 3 แล้วมั้ง…แต่มันซวยซ้ำซวยซ้อนจริงๆ
“ประธานชมรมฟุตบอลสินะครับ กำลังหาตัวอยู่พอดีเลย” เอ็นโจ ชูซุเกะยืนดักอยู่ตรงทางเดินด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ที่ทำให้ฉันกลัว…เหมือนพวกสภานักเรียนใต้ดิน “ไปเดินเล่นกันหน่อยไหมครับ?”
“แต่ว่าผมมีชั่วเรีย---“
“ของแบบนั้นขาดไปนิดหน่อยก็คงไม่เป็นไรหรอกครับ…”
“ครับ ครับ”
และแล้วฉันก็เดินตามเอ็นโจ 1 ใน 3 ผู้ยิ่งใหญ่แห่งซุยรัน ทัดเทียมจักรพรรดิคาบุรากิหรือคิโชวอิน เอ็นโจพาฉันไปที่สวนหลังโรงเรียนใกล้ๆอาคารเก่าที่มั่นของพวกสภานักเรียนใต้ดิน…ฉันเริ่มกลัวแล้วแฮะ
“คุณเชื่อเรื่องพระเจ้าหรือเปล่าครับ?”
“พระเจ้าหรอครับ…ก็ไม่เชิงนะครับ ผมนับถือลัทธิชินโต”
“งั้นหรอครับ แหม๋น่าเสียดายจัง ผมกำลังจะบอกเลยว่าพระผู้เป็นเจ้ารู้เห็น’เกือบ’ทุกอย่างนะครับ ผมว่าเองก็คิดว่าท่านเทพต่างๆในชินโตก็เหมือนกัน พวกเขามองจากบนฟ้า บนดินและบนต้นไม้ กระทั่งในน้ำหรือในห้องน้ำ ฮ่าๆ “
“ฮะ ฮ่าๆ”
“พวกเขาเฝ้ามองพวกเรา ผมเองก็อยากเป็นแบบพวกเขา แต่คงทำได้แค่เสแสร้งเป็นพระเจ้าแล้วเฝ้ามองมวลมนุษย์รอบตัว เช่นว่ามนุษย์คนนั้นเขาแอบมีความลับอะไรที่น่ากลัวๆบ้าง แต่ผมเองก็รู้ไม่ทั้งหมดหรอก แต่ผมว่าพระผู้เป็นเจ้าและเจ้าตัวคงรู้อยู่แก่ใจว่า…’ทำอะไรลงไป’ น่ะครับ “จู่ๆน้ำเสียงนิ่งๆก็มาเข้มเน้นตรง ’ทำอะไรลงไป’ ทำเอาขนลุกไปทั้งตัวเลยวุ๋ย…แต่ว่าเรื่องพวกนี้…มันคุ้นๆ “และที่สำคัญเลย ผมว่าพระผู้เป็นเจ้าคงกำลังเฝ้ามองพวกเราอยู่แน่ครับ อยู่ในที่ไหนซักแห่งระหว่างที่เรากำลังคุยกันอยู่ ก็ช่วยไม่ได้นะ ขอให้โชคดีนะครับ”
เอ็นโจเดินจากไปปล่อยให้ฉันงวยงงเพียงลำพัง…ไม่เข้าใจเลยวุ๋ย
“โอ๊ะ ไปได้เสียที” จู่ๆลูคุงก็โผล่มาจากทางด้านหลังฉัน เล่นเอาสะดุ้งเลย
“ลูคุงเองเหรอ…อย่าโผล่มาไม่ให้สุ้มให้เสียงแบบนี้สิ”
“ก็นะ แต่ว่าคุณนี่โชคร้ายจังนะครับ”
“หืม?”
“เตะบอลอัดจักรพรรดินี โดนผู้หญิงทั้งโรงเรียนแบน โดนพวกผู้ชายกลั่นแกล้ง โดนจักรพรรดิข่มขู่หมายเอาชีวิตหากทำให้รักของเขาไม่สมหวัง แล้วยังโดนลอยแพให้งงเล่นจากองค์ชายอีก…รู้อะไรไหมครับ คาบ 4 ของคุณน่ะเป็นวิชาภาษาอังกฤษเลยนะ”
“ภาษาอังกฤษ…สอบเก็บคะแนนวันนี้นี่หว่า!?” บ้าเอ๊ย หวังว่าคงจะทันนะ ฉันหันไปทางอาคารเรียนและตั้งท่าพร้อมจะวิ่งออกไป แต่ลูคุงก็มาหยุดฉันไว้
“ไปตอนนี้ก็ไม่ทันแล้วครับ เพราะมันหมดคาบไปแล้ว…เหมือนโดนจัดฉากนะครับ”
“หมายความว่ายังไง…”
“คุณถูกจักรพรรดิกระทำการรุนแรงจนสติแตกขาดไป 3 คาบและยังถูกองค์ชายลากตัวมาไกลจนขาดสอบเก็บคะแนน ต่อให้เป็นสอบย่อยก็เถอะ…เท่ากับว่าคุณขาดไป 4 คาบรวมของเก่าก็ 6 คาบพอดี…”
“ 6 คาบ…อะ!?” ถ้าขาดเกิน 5 คาบจะถูกตัดสิทธิ์ในการเป็นตัวจริง…ไม่จริงน่า แล้วความพยายามที่ผ่านของฉันล่ะ…
“รู้แล้วสินะครับ…ว่าคุณถูกถอดชื่อออกจากการเป็นตัวจริงแล้ว กฎชมรมเคร่งยิ่งกว่ากฏโรงเรียนซะอีก คนเคยดื่มเหล้าก่อนวัยอันควรอย่างคุณคงรู้ดีนะ…หรือไม่ล่ะ?”
“…”
“เอาเป็นว่าผมมาเพื่อทักทายเล็กน้อยแล้วกัน…ยังไงก็ตาม…ผมยังรอคุณที่ห้องของเรานะ สมาชิกสภานักเรียนใต้ดินคนที่ 12 ของผม ผมรอคุณได้เสมอ…แล้วเราจะขยี้เจ้าพวก Pivoine ไปด้วยกัน”
สุดท้ายก็เอาจนได้…หลังจากแยกทางกับลูคุงฉันก็เล่นตรงดิ่งมาหาคิโชวอินเลย…ฉันไม่มีอารมณ์จะเรียนคาบบ่ายแล้ว…พอไปถึง คุณทาคาเทรุไม่อยู่ คงไปหาอะไรทาน ทำให้ทั้งห้องมีเพียงฉันกับคิโชวอินที่นอนอยู่บนเตียง
ฉันไปเปลี่ยนดอกไม้ในแจกันแล้วนั่งลงตรงที่ประจำ….เทพเกศาบันดาลรักเหรอ?
“…ขอร้องให้คิโชว ไม่สิ….ขอให้เรย์กะจังฟื้นขึ้นแล้วทำให้รักของพวกเราทุกคนสมปรารถนาด้วยเทอญ ถ้าหากสมปรารถนาแล้วจะถวายเค้กให้ทุกวันไม่ขาดเลย”
ฉันหยิบผมม้วนเกลียวนั้นใส่มือ พนมมือแล้วสวดไอ้บทข้างต้นซ้ำ 4-5 รอบ คิโชวอินก็ยังนิ่งไม่ไหวติง…นี่ฉันทำบ้าอะไรอยู่วะเนี่ย…ลองเปลี่ยนบทใหม่ดีกว่า
“เฮ้อ…เรย์กะจัง เทพเกศาผู้ยิ่งยง หากฟื้นขึ้นมาละจะเลี้ยงด้วยอาหาร 999 อย่างจากทั่วทุกมุมโลกเลย…”
“จริงเหรอ! โอ๊ยเจ็บ! ใครดึงผมฉันเนี่ย!? แล้วที่นี่ที่ไหนเนี่ยแล้วทำไมฉันถึง…”
ในขณะที่คิโชวอินกำลังนั่งงวยงงพร้อมตั้งคำถามกับทุกสิ่งรอบตัว ฉันได้แต่ตาค้าง สมองเบลอ…คนที่นอนเป็นผักมา 1 อาทิตย์จู่ๆก็พุ่งพรวดขึ้นมา หลังฉันท่องบทสวดเล่นๆเนี่ยนะ…โลกเราช่างวิปริตจริงๆ….
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
จบละตอนนี้
เมื่อวันก่อนจะมากรี๊ดท่านเรย์กะ แต่เจอจุดสปอยล์จนตัวแข็งวิ่งหนีไป โถโถ กูกลัวความขัดแย้ง // รักโม่งแปลที่สุดดด ตอนนี้ กูว่าวาคาบะเริ่มรู้ทางเอาอาหารมาล่อท่านเรย์กะแล้วเปล่าวะ? แบบไม่ต้องคิดเลย ยังไงๆ ก็ต้องไป อาหารสามัญชนแอนด์ฮอทเพลทนี่มันช่างเป็นคอมบิเนชั่นล่อซื้อมากกกก // ว่าแต่ว่าพวกมึงก็เริ่มจริงจังไปเรื่องคอร์รัปชั่นเศรษฐกิจแล้วนะ โม่งห้องนี้ช่างมีความรู้ เลิฟๆ
กูนั่งย้อนอ่านตอนที่1ใหม่คือพอเห็นตอนนึงจำไม่ได้ว่าช่วงไหนที่นางแพลมๆมาว่ามีรุ่นพี่ผู้ชายเข้ามาหาเหมือนกัน แสดงว่า'ช่วงนั้น'ชีวิตรัก(?)ของนางก็ไม่ได้จะแห้งเหี่ยวอะไรรึเปล่าวะ แต่นางเคยบอกอยู่ว่าไม่อยากได้คนรักที่เข้าหาเพราะผลประโยชน์ พูดแล้วกูก็นั่งนึกไปว่าอย่างท่านเรย์กะนี่คงมองออกจริงๆสินะว่าใครเข้าหาเพราะผลประโยชน์(???) //ใส่เครื่องหมายคำถามรัวๆ
แต่น่าแปลกที่ช่วงหลังประเด็นมีผู้ชายเข้าหาเพราะผลประโยชน์นี่ไม่มีลอยเข้ามาเลย ไม่รู้ว่าถูกอำนาจมืดหรือแฟนคลับของนางซิวไปแล้วหรือเปล่า บางทีอาจเพราะมีข่าวลือรักๆใคร่ๆของนางกับคาบุ/เอ็นโจลอยมาบ่อยๆ พวกผู้ชายที่หวังเข้าหานางเพราะผลประโยชน์เลยแอบเกรงๆ
วันนี้ที่ฝึกงานกูเขาให้กูช่วยแปลโฆษณาสินค้าแบรนนอกของเขา(แต่กูเรียนวิศวะ) มันเป็นที่ม้วนผมแบบโคตรเลอค่า แปลไปๆมาๆเจอคำสาปผมหลอดของท่านเรย์กะ
มื้อเย็นเลยเหมือนองค์ลงจัดสเต็กและเฟรนชฟรายไปชุดใหญ่ไฟกะพริบ เจ้าแม่นี่น่ากลัวจริงๆ
ชิบหายยยยย ไอ้สร้อยของตุ๊กตาหมีนั่นเสือกเป็นสร้อยเพชรจริงๆ ด้วยว่ะ 555555555 กูอุตส่าห์คิดว่าอย่างมากก็เป็นสร้อยคริสตัลสุดหรู กลายเป็นสร้อยเพชรแฮนด์เมด แม่งโคตรจะเซอเรียล จำได้ว่าตอนนั้นมีโม่งทายว่าเป็นสร้อยเพชร แต่จะมีใครคิดมั้ยว่าอิสร้อยนี่เป็นของทำมืออะ สกิลสูงถึงขั้นทำจิวเวลรี่เองได้เลยนะมึง...
แปลไทยตอนใหม่ออกแล้ว ขอบคุณโม่งแปลจ้า บากะรากิสมเป็นบากะรากิจริงๆ จริงๆถ้าเรื่องสามัญสำนึกคนธรรมดาในเรื่องเงินทองนี่ปรึกษาท่านเรย์กะถูกแล้วนะ ดูแต่ละอย่างที่บากะรากิเสนอมาสิโฮ้ย...ตรูจะบ้าตาย ส่วนเอ็นโจหรอ...ปล่อยให้จอมมารรับกรรมจากข่าวลือไปค่ะ//มองเอ็นโจด้วยสายตาเย็นชา
น่ากลัว คาบุรากิแม่งน่ากลัว-บหาย ความรักอันหนักอึ้งนั่นมันอะไรกันวะ ไม่ว่สใครก็อึดอัดด้วยกันทั้งนั้นล่ะ แหวนเอย ดอกไม้เอย แถมยังไม่ได้แม้แต่จะเป็นแฟนอีก รู้สึกสงสารวาคาบะจังขึ้นมาตงิดๆ
แปลไทยล่าสุด...ปรึกษาผิดคน?
อย่ามางี่เง่าไอ้บากะรากิ เอ็งปรึกษาถูกคนที่สุดแล้วว้อย นอกจากวาคาบะแล้วจะมีใครในซุยรันเจนจัดในชีวิตสามัญชนขนาดท่าเรย์กะอีกวะหา
ให้สร้อยเพชรแฝงดราม่า...หึ๋ยยยยยยยยย......................บักจ๊าดง่าว งัวแต๊ๆ บ่มีควายผสม ง่าวอี้ล้ำฮ๊ายต๋ายเฮี๋ยะบ่ะ บ่าผย๋าปึก
เชี่ยยยยย กูว่าแล้วอิสร้อยนี่ไม่ธรรมดา แต่ของแฮนเมดนี่แหละที่กูช็อคหนัก หนักอึ้ง โคตรหนักอึ้ง เป็นความรักที่หนักอึ้งเกินไปแล้วววว กูประเมินคาบุรากิว่าบ้ามากแล้ว แต่ในความเป็นจริงยังหนักได้กว่านั้นอีก ฟหกด
จริงๆแล้วคาบุรากิไม่ได้บ้า แค่จริงจังมันทุกเรื่อง ความรักของนายช่างหนักอึ้งจนอยากหนีเลย
เคยโดนคนตามจีบแบบคาบุรากินี่แหละ เอาช่อดอกไม้มาให้ ซื้อสร้อยให้ น่ากลัวสุดคือเอาแหวนประจำตระกูลมาให้ อึดอัดมาก น่ากลัวชิบหาย ผู้หญิงที่ไหนเขาจะชอบวะ
กุเดาถูกด้วยว่าคาบุให้สร้อยเพชร เเต่ไม่คิดว่าจะเเฮนเมด โครตช๊อก ฟฟฟฟ เเต่ละอย่างที่คาบุคิดนี่สุดๆ อ่ะ เเค่ตุ๊กตาหมีหมื่นเยนวาคาบะยังผวาเลย ขืนทำจริงละก็สาวยิ่งหนีสิไม่ว่า
ว่าเเต่อีสร้อยนั่นกลายเป็นของเล่นน้องวาคาบะไปแล้วนะ วงวารคาบุจริงๆ
แล้วในคิมิดอล คาบุรากิจีบวาคาบะยังไงถึงติดวะ คือกูสงสัยมาก ว่ามันไม่น่าจะสุดโต่งแบบนี้ป่าววะ ท่านเรย์กะน่าจะพยายามขุดคุ้ยความทรงจำแล้วเอาวิธีที่เคยอ่านเจอไปบอกให้คาบุรากิทำ เผื่อมีหวังชนะใจสาวน้อยได้มากกว่านี้หน่อย แบบนี้แม่งดูโคตรสิ้นหวังเลย
>>411 สมมติว่าเป็นรักห้าเส้า
คาบุรากิ : ฉันรักเธอวาคาบะ
วาคาบะ : แต่ฉันรักคุณเรย์กะ
เอ็นโจ : ผมก็รักคุณเรย์กะ
คาบุรากิ : งั้นนายไปจีบเรย์กะให้ติดฉันจะปลอบวาคาบะเอง
ยุยโกะ : เอ็นโจน่ะของฉันหนอยยัยเรย์กะยัยแมวขโมย
ริรินะ : ใครมันมีปัญหากะคุณเรย์กะแม่จะเชือดให้
วาคาบะ : อย่ามาพูดจาเหลวใหลน่า
---------------------------------------------------------------
นอกวง...
เรย์กะ : เมื่อไหร่จะมีคนมาจีบน้า~
บากะรากิเป็นคนตรงๆ... แต่บางทีก็ทำอะไรอ้อมค้อมซะเหลือเกิน ไหนจะเรื่องไม่กล้าสารภาพรักอีก
กูเริ่มสงสัยว่าที่ผ่านมาไม่มีใครเคยรู้ว่าเนื้อในคาบุรากิเป็นไงเป็นเพราะเอ็นโจช่วยกลบเกลื่อนให้เพื่อน หรือคาบุมันเพิ่งเปลี่ยนเป็นบ้าๆ บอๆ ประมาณนี้จากการรู้จักกับเรย์กะวะ...
แล้วที่ตอนท้ายมันสลดตอนพูดถึงยูริเอะ สุดท้ายนี่ก็คือยังมีเยื่อใยป่ะ อย่างแหวนที่ให้วาคาบะตอนนี้ พูดโหดๆ ก็เหมือนของที่เหลือมาจากยูริเอะ ยูริเอะไม่ยอมรับเลยนะเว้ย
>>414 นี่คิดว่าคาบุรากิมันไม่มีเพื่อนสนิทจริงๆนอกจากเอ็นโจอ่ะ เลยไม่มีใครรู้ธาตุแท้ เพื่อนคนอื่นๆเหมือนอย่างมากสุดก็แค่คุยเข้าสังคม แต่เพื่อนที่จะสนิทกันถึงขนาดปรึกษาได้นี่มีไม่มาก เวลาส่วนใหญ่ไม่อยู่กับที่บ้าน ยูริเอะ ก็มักจะเป็นเอ็นโจเกือบตลอด เหมือนที่เรย์กะชอบแซวว่าตานี่ไม่มีคนคบอ่ะ ยิ่งเห็นนิสัยชอบส่งเมลยาวๆ ตามจิกทุกๆ 5 นาทีนี่ยิ่งเหมือนมีเรื่องอยากเมาท์แต่ไม่มีคนคุยด้วย เอ็นโจก็ปัดผ่าน เลยมาลงที่เรย์กะอ่ะ 5555
บากะรากิเป็นคนตรงๆ... แต่บางทีก็ทำอะไรอ้อมค้อมซะเหลือเกิน ไหนจะเรื่องไม่กล้าสารภาพรักอีก
ถถถถถ บากะรากิที่เพื่อนไม่คบ น่าวงวารซะจริงๆ
แต่พฤติกรรมคาบุแม่งน่ากลัวนะ เมลล์ตามเรย์กะทุกๆ5นาที กูนี่ยกป้ายเลยที่เรย์กะบอกว่าตัวเองมีกำหนดการส่วนตัว จะเอาแต่ที่คาบุสะดวกอย่างเดียวไม่ได้ ครือ เป็นกูคงด่าไปนานแล้ว เหมือนเป็นโรคย้ำคิดย้ำทำ ตื้อฉิบหาย สาวไม่แลเพราะเงี้ยแหละว้าาาาาาา
กระทู้ที่แล้วกูทายถูกว่าเป็นสร้อยเพชร ฮรี่ๆๆๆ ว่าแล้วว่าคนอย่างคาบุมันต้องอลังการงานสร้าง จัดเต็มทุกสถานการณ์ เล็กๆไม่ใหญ่ๆทำ ไม่งั้นเสียชื่อหมด แต่นึกไม่ถึงว่าจะเป็นของทำมือ โครตลงทุนเลยโว้ย 5555555555 เพื่อความรักแล้วยอมไปเรียนทำจิวเวอรี่เลยเหรอ แต่เสียใจด้วยนะที่สร้อยเส้นนั้นมันไปอยู่กับคนอื่นแล้ว //ตบบ่าปุๆ
>>415 กูก็คิดว่างั้นว่ะ เพื่อนที่จะปรึกษาไม่ค่อยมี เลยต้องมาเร่งตามเรย์กะยิกๆเพื่อกูจะเม้า กูอัดอั้นโว้ย ประมาณนั้นอ่ะ 55555555555555555
กูว่าลับหลังคงมีซีนคาบุไปง้องแง้งเรื่องนี้กับเอ็นโจมากๆเข้าเหมือนที่ทำกับเรย์กะ ทำให้เอ็นโจรำคาญจนแผ่รังสีจอมมารใส่ คาบุเลยแบบ...กูไม่คุยเรื่องนี้กับมึงก็ได้วะ จะปรึกษายูริเอะก็คงแปลกๆอ่ะ ไปปรึกษาว่าเราชอบคนนั้นคนนี้จากคนที่หักอกเราก็กระไรอยู่ แถมจากพฤติกรรมทั้งหลายที่มันไปทำใส่ยูริเอะ...จะโดนบอกเลิกก็ไม่แปลกเลย
ที่กูแปลกใจคือดูสถานการณ์อื่นๆ คาบุมันก็ดูเป็นผู้เป็นคนดี ตอนรถชนวาคาบะก็ยังรู้จักมาขอขมา ทำตามบรรทัดฐานสังคม ทำไมพอมาเป็นเรื่องรักๆ มันถึงบื้อได้ขนาดนั้น
>>423 ด้านอื่นๆน่าจะถูกอบรมมา แต่ด้านความรัก... เพราะที่ผ่านมายูริเอะใจดีป่ะ? ทนมันมาตั้งนาน เห็นเป็นน้องชายที่น่ารัก เลยไม่รู้ตัวสักทีว่าทำผิด
อย่างของขวัญเนี่ยถ้าวาคาบะรู้ว่าให้สร้อยคงปฎิเสธไปแล้ว ยูริเอะรับมาสองรอบทั้งสร้อยทั้งต่างหูจนจวนตัวจะถึงด่านแหวนถึงตัดสัมพันธ์
กูขำตอนนี้ที่เจ้าแม่กล้าต่อปากต่อคำคาบุรากิมากขึ้นเรื่อยๆนี่แหละ คาบุรากิมีแอบอึ้งไปนิดนึงด้วย ที่เหลือก็ฮาความคิดคาบุรากิกับความอยากเมาท์ของพี่แกนี่แหละ เหมือนเก็บกดมานาน 55555
ป.ล.กูแอบคิด
>>429 กูว่ามันเป็นความคิดในมังงะโชโจของแท้อ่ะ ประเภทสร้างฝันเว่อร์ๆให้คนอ่านว่าซักวันจะมีคนมาทำอะไรยิ่งใหญ่ๆโรแมนติคๆเซอร์ไพรส์ๆ เรื่องแบบนี้เกิดกับฉันบ้างก็ดีน่ะสิ เช่นมีหนุ่มหล่อส่งดอกกุหลาบมาเต็มบ้านหรือสารภาพรักแบบเว่อร์วังหวานเลี่ยน แต่โลกความจริงแม่งคือการรบกวนและสร้างความรำคาญของแท้ 55555555555555
เจอคาบุสารภาพรัก วาคาบะอาจมีอาการแบบนี้.... https://youtu.be/Gzcev3LIyRk
>>407 เพื่อนกูก็เคยโดนตามจีบแบบคาบุคนจีบหล่อด้วยนะ แต่ขอบอกเลยว่าหลอนชิบหายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
น่ากลัวสัดเพื่อนกูหวาดผวามาก กูตัวใหญ่เลยต้องมากันเจ้าตัวผู้นั่นออกจากเพื่อนกู ตอนนั้นกูยังกลัวอยู่เลยว่ามันจะเรียกคนมายิงกูไหมข้อหาขัดขวางความรักมัน
แต่ให้ดอกไม้ก็ยังดีกว่าให้หิ่งห้อยนะ อันนั้นให้มาทำไมก็ไม่รู้วว //แค่กๆๆ
ทำไมกูมองว่าคาบุมันก็ไม่ได้บ้ามากแบบที่พวกมึงบอกวะ ยอมรับนะว่ามันใจปล้ำเป็นพวกทำไรเต็มที่ แต่คือกูก็มองเห็นความเต็มใจที่มันอุตส่าห์ทำมาให้นะ
>>440 กูคิดคล้ายมึง กูก็มองว่ามันไม่ได้ขนาดนั้นมันแค่ค่อนข้างทุ่มเกินไปนิดๆแต่ยังรู้สึกเอ็นดูอยู่นะ อาจจะเพราะรู้ว่าสภาพแวดล้อมมันเป็นยังไงละมั้ง เพราะมีเงินเยอะและใช้เงินเพื่อทำให้คนสยบบ่อยๆ เงินสามารถทำทุกอย่างได้ตามใจ เลยกลายเป็นอย่างที่เห็น ที่เรย์กะด่าตรงๆอ่ะดีแล้ว
ไร้กาวเสริมแรง ก็ไร้ไฟแต่งฟิคต่อว่ะ ถถถ
>>440 เพราะส่วนใหญ่ที่เม้นๆกันคือลูกเรือเอ็นโจไงมึง มุมมองมันก็ต้องไม่เหมือนคนที่เป็นลูกเรือคาบุ หรือคนที่อ่านไปเรื่อยๆไม่ได้ลงเรือไหนเป็นพิเศษอยู่ละ พอกับกูที่อ่านกลางๆไม่ได้เชียร์ใครเป็นพิเศษเพราะชอบที่เรื่องมันไปเรื่อยๆชีวิตประจำวัน กูว่ามันแปลกดี แบบถ้ามีความนักมีอะไรมาเกี่ยวก็ดูเป็นโชโจดาดๆทั่วไป รู้สึกแบบนี้โอเคละ เพรา้งั้นที่กูอ่านมาก็ไม่เคยรู้สึกว่าเอ็นโยมันจอมมารตรงไหน จอมมารประสาอะไรดูจัดการอะไรไม่ค่อยได้เลย จอมมารตัวจริงสำหรับกูคือต้องแบบท่านพี่ และมองต่างอีกอย่างคืออ่านมาทั้งเรื่องก็ไม่เห็นตรงไหนว่าเอ็นโจจะชอบหรือหลงรักเรย์กะเลยซักนิด เอาจริงในเรื่องดูยังไม่มีใครดูจะชอบนางเลยซักกะคน ที่มีก็แนวผลประโยชน์ ก็เลยแบบนะ อ่านเม้นนี่มึงต้องนั่งกรองฟิลเตอร์ไปด้วยรัวๆว่ะ
>>446 มึงก็ตรงไป๊ 555555 แต่เอ็นโจกูว่ามีโอกาสพัฒนาเป็นจอมมารนะ ต้องให้นางโตกว่านี้ บางอย่างนางยังไม่จัดการขาด ปั่นหัวใช้คนไม่เก่งเท่าท่านพี่อ่ะ ส่วนกับท่านเรย์กะกูมองว่าเอ็นโจอยากสนิทด้วย มาจากตระกูลใหญ่ยังไงก็อยากสนิทไว้ใช้ประโยชน์ ที่บางครั้งเอ็นโจสองมาตรฐานก็คงเพราะคิโชวอินระดับเหนือกว่าคนในโรงเรียนหรือสโมสรอ่ะนะ ต้องเอาใจกันบ้างแต่ท่านเรย์กะไม่ตกหลุมซักทีเลยใช้ยูกิโนะแทน
ปล.กูเคยเรือเอ็นโจเพราะฟิลเตอร์ในมู้เนี่ยแหล่ะ 55555555 แต่ตอนนี้ย้ายมายูกิโนะกับคันตะคุงแทนเซฟโซน+หมั่นไส้เอ็นโจ (แต่กูชอบชูสุมอยส์นะ//กัดเหนียงด้วยความรัก)
กูรู้สึกว่ากระทู้ซุยรันหลังๆนี้แม่งหดหู่อึมครึมกันชิบเป๋ง มีบรรยากาศมาคุที่อึดอัดลอยล่องในกระทู้ คุยก็ไม่สนุกเท่าเก่า สายผลิตที่กูตามๆฟิคอยู่ก็หายไปเกือบหมดเลยด้วย เป็นความเห็นแก่ตัวของกูเอง แต่กูอยากให้พวกเขากลับมาว่ะ คิดถึง อยากอ่านฟิคต่อ ไม่อยากร่ายคาถาอัญเชิญว่ากูอยากอ่านเรื่องไหนบ้าง เดี๋ยวจะเป็นการกดดันทวงฟิคกันเกินไป ทั้งที่จริงกูอยากอ่านหมดนั่นล่ะ 555555555555555
เอ่อ คือกูอยากเข้ามากระซิบเบาๆว่ากู 1 เข้ามาเมนท์แต่ไม่ใช่ลูกเรือเอ็นโจ กูลงเกือบทุกเรือ อยากให้มึงใจเย็นๆกัน แต่ละคนอาจจะตีความไม่เหมือนกันเฉยๆ กูไปละ.........
ป.ล. กูไม่ใช่คนเมนท์ว่าคาบุบ้าหรือเอ็นโจจอมมารหรอกนะ แต่กูกลัวมีสงครามกองเรือเฉยๆ อยากให้สามัคคีกันไว้มากกว่า แค่นี้ก็แห้งแล้งแย่แล้ว ;w;
กูก็ลงเกือบทุกเรือนั่นล่ะ เรื่องเอ็นโจเป็นจอมมารก็แซวกันขำๆตั้งแต่กระทู้แรกในความเป็นสตอล์กเกอร์ของพี่แกที่เรย์กะไปทำอะไรหรือคิดอะไรอยู่ก็รู้หมดไม่ใช่เรอะ ไม่ได้จะหมายความอะไรจริงจัง หรือมีนิสัยโหดร้ายอำมหิตขนาดนั้นซักหน่อย คาบุก็แล้วแต่มุมมองเหมือนกันว่าใครจะมองว่ามันบ้าก็ได้ หรือมองไม่บ้าก็ได้ ที่แน่ๆคาบุกับเรย์กะสองคนนี้อยู่ด้วยกันแล้วแม่งฮากระจาย ตบมุกกันรัวๆ กูขำชิบหายในแต่ละมุกที่รับส่งกัน แม่งบ้าบอโครตๆ 55555555
พูดตรงๆว่ากูชอบความเฮฮาเมนท์กระทู้หยอกกันเล่น แซวกันเองแบบเลวๆเหมือนเมื่อก่อนมากกว่าอ่ะ คุยอะไรกันมาหัวเราะรับส่งมุกกันตลอด
อ่านฟิคต้มกาวเมาน้ำชาหัวเราะคิกคักๆกัน หลังๆมาแม่งดราม่าทะเลาะกันเองเกือบทุกกระทู้ สายผลิตก็หดหายลงไปเรื่อยๆ ความสนุกในการคุยก็ไม่ค่อยมีแล้ว ทำนั่นทำนี่จะเมนท์อะไรก็ต้องระวังไม่ให้ไปกระทบคนอื่น บางคนก็ดูเซนซิทีฟจริงจังเกิน ดูพร้อมจะมีเรื่องตลอดเวลา กูกลัว กูไม่ชอบที่กระทู้เป็นแบบนี้เลย แต่ก็ไม่มีสิทธิ์ทำอะไร ตอนดราม่ากันกูก็พาตัวเองไปจากกระทู้จนกว่าจะสงบแล้วค่อยกลับมา
หมดเรื่องที่จะพูดละ กลับไปขุดรูอยู่ต่อ มีใครลงฟิคหรือคุยกันฮาๆ กูค่อยเสนอหน้ามาใหม่ กูไม่ชอบความดราม่า ชอบความฮากับเสียงหัวเราะมากกว่า
กูเข้ามาอ่านคือก็ไม่ได้รู้สึกนะว่า >>446 มีความดราม่าหรืออ่านแล้วอึดอัดทางอารมณ์ มีชนวนสงครามเรือแฝง ยิ่งถ้ามึงบอกว่าอ่านแล้วมันก็แล้วแต่คนคิดและตีความ กูอ่านอันนี้ก็ก็รุ้สึกว่ามันก็คือความคิดและตีความแบบนึงนะ ไม่ได้ดูหัวร้อนหรือต้มมาม่าอะไร อ่านแล้วกูเฉยๆมากอะ 5555 หรือประเด็นจอมมารต้องโหดร้ายกูอ่านก็ไม่รุ้สึกแบบนั้นนะ แค่รุ้สึกว่าที่เม้นนั้นจะสื่อคือจอมมารต้องเก่งกว่านี้ โดยเฉพาะการแมเนจคนหรืออะไรแนวชักใยเบื้องหลังแบบท่านพี่ที่อิมาริยังออกปากว่าชอบดูคนเต้นอยู่บนฝ่ามือ กับนิสัยหลายอย่างของฮีดูแบบเออเนี่ยแหละ คนข้างหลังฉากตัวจริง ถถถถ
สำหรับกูเองคืออ่านแล้วจะมองว่าดราม่ามันก็ดราม่า อ่านแล้วรู้สึกเฉยๆมันก็เฉยๆ บางทีเม้นคุยกันกูรู้สึกไม่มีอะไรเลยแต่คนมาเม้นว่าเครียดว่าอาจนำไปสู่การทะเลาะกัน คิดว่าอันนี้ก็ต่างคนต่างตีความและจิตปรุงแต่งต่างๆกันไป อาเมน~ ดูศาสนาไปมั้ยวะ แค่แบบกูจะสื่อว่าบางทีดราม่าตามโซเชียลเริ่มมามันไม่ดราม่าหรอก มันมาดราม่าเอาตอนคนตีความกันเองทีหลังเนี่ยแหละทั้งที่ดูๆไปก็ไม่ได้มีอะไรเลย
>>453 เข้าใจว่าแค่แซวกันเฉยๆเหมือนกัน กูก็รู้สึกเหมือนมึง กูชอบแบบเฮฮาแบบเมื่อก่อนอะ หลังๆชอบมีเรื่องให้อึมครึ่มเป็นพักๆ
>>454 กูติดใจประโยคนี้อะ "เพราะส่วนใหญ่ที่เม้นๆกันคือลูกเรือเอ็นโจไงมึง" คือสงครามกองเรือด้อมอื่นหลายๆครั้งมันชอบเริ่มจากประโยคประมาณนี้แหละ มันดูเป็นประโยคแบ่งพรรคแบ่งพวกอะ ถ้าจะอธิบายว่าแต่ละคนมองไม่เหมือนกันมันไม่จำเป็นต้องใช้คำนี้ก็ได้นี่นา อีกอย่างกูเห็นในกระทู้นี้ก็มีเรือปนๆกันตลอดสารพัดเรืออะ คนที่เคยอยู่เรือเอ็นโจหลายคนโดดไปอยู่เรืออื่นก็เยอะ ที่ย้ายไปเรือคาบุก็มี มาเมนท์แบบนี้ดูเหมือนโยนไปหาเรือเอ็นโจอะ กูอาจจะคิดมากไปเองก็ได้ เพราะกูหนีสงครามเรือด้อมอื่นมาด้วยมั้ง กูเลยกลัวที่นี่เป็นไปกับเขาด้วย
เออเพิ่มความเห็นกูเองเรื่องความอึมครึมของมู้ กูว่าเพราะคนหายไปเยอะมากกว่า ซึ่งกูเป็นคนนึงที่หายเหมือนกัน แต่ก่อนมีช่วงที่ติดมากรีเฟรชเข้ามารัวๆชม.นึงเกิน 2-3 ครั้ง ตอนหนักมากนี่รีรัวมากยังเคย แต่ ณ ปจบ. คือสามวันเปิดทียังดูจะเรียกว่าเกินจริง 5555 ไม่มีอะไรมากแต่แค่เบื่อๆอะ กูเริ่มเบื่อตั้งแต่มีประเด็นนั่นนี่ ต้องตกลงอะไรกันเยอะแยะมากมาย ข้อห้ามนู่นนี่งอกมาเยอะ เดี๋ยวๆก็มีคนโผล่มาเพิ่มดราม่าที่นำไปสู่กติกาอะไรอีกมากมายเยอะแยะไปหมด
กูไม่ใช่ว่าจะแบบเออชอบสังคมไร้กติกา ก็เข้าใจว่าอยู่ร่วมกันก็ต้องมีกติกาแต่คือสำหรับกูนี่แต่ชีวิตจริงก็พอละว่ะ พอกระทั่งในเนตในบอร์ดยังกระดิกตัวลำบากทุกองศา กูไม่ได้เห็นแย้งหรือจะบอกให้ใครเปลี่ยนเพราะมันยาก กูก็เลยแค่เปลี่ยนตัวเองแบบไม่ต้องเข้าบ่อย ถึงจุดที่มันอึดอัดและกูเหนื่อยกูก็คิดว่าไม่เข้ามาจะดีกว่า เข้าใจว่าหลายคนก็ฟีลลิ่งเดียวกันเพราะหลังๆมู้วิ่งช้ามาก และคนหายไปเยอะดูรุ้สึกโพสกันอยุ่ไม่กี่คน จากสำนวนและภาษาอะนะ
อีกอย่างกูคือคนที่ไม่เสพฟิลเตอร์คนอื่น กูชอบอ่านหนังสือหรือดูหนังแล้วมาคุยมาอะไรกันขำๆ แชร์นั่นนี่หรือคิดอะไรต่อ อ่านเรื่องอื่นเกี่ยวข้องที่มีคนหามา อย่างช่วงลงเพลงลงขนม เอาเนื้อหามาตั้งคำถามหรือนั่งวิเคราะห์ หรือเปิดประเด็นรายละเอียดในเรื่องแล้วมาแชร์กันว่าคิดยังไง เรย์กะอ้วนมั้ย ทรงผมจริงๆเป็นยังไง แบบนี้อะกูชอบและโอเคมาก
แต่พอหลังๆพวกแนวนี้หายไปหมดจะด้วยสาเหตุอะไรก็ตาม กูก็เริ่มรุ้สึกว่ามู้ไร้สาระเกินไปสำหรับกู ทั้งนี้ก่อนใครจะดราม่ากูขออธิบายคำว่าไร้สาระ ว่าหมายถึงไม่มีสิ่งที่ตัวเราสนใจ ไม่มีคอนเทนต์ที่อยากอ่าน อันนี้คือไร้สาระแบบกูเข้ามาก็ไม่รุ้จะอ่านอะไรจะคุยจะแชร์อะไร ยิ่งหลังๆมีแต่ฟิลเตอร์คนอื่นซึ่งกูไม่รุ้จะอ่านไปทำไมอยุ่แล้วอะ มันเลยยิ่งแบบนะ เข้ามาก็เลื่อนผ่านหมด ไม่เข้าก็คงไม่ต่าง ยิ่งพักหลังคนหายเยอะมากมันดูเงียบๆยิ่งไม่มีอะไรให้คอยตามไปอีก กูเองก็เริ่มเฟดตัวเหมือนกัน
ไม่ใช่ว่ามันไม่ดีหรือกูอยากปรับอะไร แค่แบบมันไม่ตรงความชอบอีกต่อไป ซึ่งกูความความอิสระเสรีทางความคิด ถ้ามันไม่เสรีแล้วก็ขอไม่อยู่ อย่าว่าแต่ที่นี่พักหลังนอกจากไม่เสรีมีข้อจำกัดเยอะ ยังมีประเด็นเรื่องคิดต่างไม่ได้ด้วยในบางครั้ง ซึ่งกูเห็นตั้งแต่มีคนมาวิเคราะห์หรือหยิบประเด็นมาถาม ตั้งแต่มีคนแบบกูไม่ชอบเรื่องหนักๆพวกมึงจะอะไรกันนักหนา มีบางเม้นที่ด่าด้วยอันนี้ย้อนไปอ่านกันได้ สำหรับกูที่ชอบตามอ่านอะไรแบบนี้เลยแบบเฮ้ย คือไรวะ คือกูไม่ชอบอ่านฟิลเตอร์ก็ยังไม่เคยโพสและไม่เคยเห็นใครโพสเลยว่ากูไม่อ่านฟิลเตอร์ พวกมีงอย่าเพ้อเยอะ คือไม่อ่านก็ไม่อ่าน ก็เลื่อนข้ามไป มันพื้นที่กลางต้องมีทั้งอะไรที่ชอบและไม่ชอบอยุ่ละ แต่อยุ่ร่วมกันได้แค่มึงก็เลือกอ่านเอาเองโดยไม่ต้องเม้นติงหรือบ่นว่าอะไรใคร เพราะฟากที่ชอบแนวสาระกูไม่เห็นมีใครพิมพ์อะนะ
แล้วอย่างตอนนี้ที่หายไปกันหมดเลยจย้าาาา ไม่มีใครโผล่มาอะไรแนวนั้นอีกเลย ซึ่งคิดว่าทั้งคนชอบคุยชอบแชร์เปิดประเด็น กับคนที่ชอบตามอ่านแบบกู ก็คงพากันหายไปหมดเพราะรุ้สึกมันผิดที่ผิดทาง กูเห็นหลังๆคนเริ่มพูดกันเรื่องมู้นิ่งมู้เงียบ ก็ขอออกมาบอกเล่าละกันว่าทำไมถึงเงียบไป อย่างน้อยสำหรับตัวกูเองว่าสาเหตุเป็นงี้ๆนะ และขอเหมาสวมบางส่วนที่หายไปว่าเป็นแนวๆเดียวกับกูเนี่ยแหละ เพราะพักหลังหายกริบกันหมดเลยจริงๆ แค่รู้สึกว่ามันไม่ใช่แล้วแค่นั้นแหละ
>>455 แต่มองอีกแบบคือประโยคนั้นจริงมั้ย กูว่ามันก็จริงนะ 5555 ไม่ต้องดูเรื่องแบบการสื่อสารออกมาเป็นยังไง แต่เอาแค่ว่ามันเป็น fact แค่ไหน กูเลื่อนขึ้นไปอ่านกูก็คิดว่ามันคือข้อเท็จจริงทุกประการ ถถถถ แบบเออภาษาอาจจะไม่ดอกไม้ แต่ก็ก็เห็นด้วยกับเม้นบนๆว่ามันคือการพูดตรงๆไม่ใช่พูดเหวี่ยงๆไรงี้
คือตอนนี้กูเข้าใจว่าเหลือแต่คนชอบเสพกาวแล้วนะ ทั้งกาวมโนและกาวฟิค แต่คือขนาดกาวไม่ตรงกันก็ยังมีคนโพสบ่นเป็นระยะ แถมพอพวกไม่กาวโผล่มานี่กลายเป็นโกโก้ครั้นช์~~~เลยแจ้ เป็นโพสที่ถูกดันไปจุดสตาร์ทของดราม่าทันที กูอ่านก็รู้สึกว่ามันไม่มีอะไร พอมีคนลุกมาบอกว่าอึดอัดอึมครึมแล้วด้วยเรื่องแค่นี้ มันรู้สึกนะว่าแบบเฮ้ยคิดต่างไม่ได้เลยใช่ปะ โดนดีดเข้าหมวดดราม่าเป็นโพสพาเสียบรรยากาศไปทันที บางทีมันก็รู้สึกว่ายากเกินแล้วเหมือนกันนะ
>>458 กูเองอ่ะ ที่โพสต์ว่าพักหลังๆกระทู้มันดูอึดอัดอึมครึม ไม่ได้จะว่าเมนท์นั้นเป็นต้นเหตุก่อดราม่าหรือเห็นต่างอะไรไม่ได้หรอก แต่มันดูร้างๆ ดูไม่น่าเข้ามาคุยเล่นเหมือนแต่ก่อน กูทำอะไรกูก็ต้องระวังตัวว่าจะไปกระทบใครรึเปล่า ถ้ากูทำให้เสียบรรยากาศก็ต้องขอโทษด้วยแล้วกัน
>>455 กูว่ามึงไม่ต้องกลัวเรื่องสงครามกองเรือ แฟนด้อมตีกันเองหรอกคิดว่า ถ้าในโม่งอะนะ เพราะกูทำนายด้วยตรรกะตามสายตาของตัวกูเองเลยว่าอีกไม่นานมันจะเหลืออยู่กองเรือเดียว และเป็นคนที่มีไลฟ์สไตล์การคุยและเสพโพสในแบบเดียวกันทั้งหมด ซึ่งกูว่ามันก็จะเป็น unity ไปเองอะคงไม่ทะเลาะกันหรอก คือแค่ตอนนี้คนก็หายไปเยอะมากละ แนวอื่นหรือการคุยทอปปิคแบบอื่นคือหายไปนานมากแล้วและคิดว่าคงไม่รีเทิร์นกันกลับมาง่ายๆ
ปล. ถ้ามีใครไปเปิดคอมมูคุยกันที่อื่นเพิ่มช่วยเปิดวาร์ปให้กูที คือช่วงก่อนมีแนวคุยและรุปแบบประเด็นที่หลากหลายและคนเยอะมาก คงไม่อยู่ดีๆก็อารยธรรมล่มสลายเป็นชาวแอตแลนติสกันไปหมดใช่มั้ยวะ ถ้ามีที่อื่นก็แปะๆมั่งละกันเพราะกูยังชอบอะไรที่หลากหลายๆอยู่ พอไปทางเดียวกันหมดมากๆและไม่เปิดรับอะไรแบบอื่นอีกกูรู้สึกมันไม่มีอะไรที่พัฒนาต่อยอดแล้วอะ มันนิ่งละ
กูขอโทษที่เปิดประเด็น จริงๆมันจะมองว่าเป็นกลางหรือไม่กลางก็ได้แหละ แต่กูเห็นเคยมีคนบ่นเรื่องทำไมต้องมาว่าคาบุรากิบ้าอยู่เป็นพักๆ อีกอย่างกูเคยเห็นคนเหวี่ยงใส่เรือเอ็นโจมาแล้วรอบนึงไง หาว่าทำไมต้องมาว่าคาบุบ้าด้วย หาว่าเรือเอ็นโจมาระรานเรือคาบุไรงี้ แต่นานแล้วพวกมึงอาจจะจำไม่ได้มั้ง หลังจากนั้นก็คนหายแต่ยังไม่เยอะมาก น่าจะเป็นรอบแรกๆที่คนเริ่มหายด้วย กูกลัวครั้งนี้มันเป็นอีกรอบเท่านั้นแหละ เอาเป็นว่ากูขอโทษอีกทีแล้วขอจบประเด็นนี้แล้วกัน แต่ถ้ามึงอยากเมนท์เรื่องนี้กันต่อก็ไม่เป็นไร
>>459 โอเคกูไม่ได้อะไรกับมึงหรอกไม่ต้องขอโทษก็ได้ แค่อยากบอกว่ากูคิดว่าคนหายไปเป็นเพราะแบบนี้แค่นั้นอะ อาจจาไม่ใช่ทำให้เสียบรรยากาศแต่คือทำให้คนบางกลุ่มหายทำนองนั้น คือกูยังไม่หายเพราะเป็นพวกอ่านมากกว่าโพสอะเลยยังไม่เคยมีอารมณ์กูไมาอยากเม้นอะไรแล้ว แต่ตอนนี้ที่จะหายเพราะพวกที่จะเม้นมันหายหมดแล้วกูไม่มีอะไรอ่านเฉยๆ ซึ่งจากการตามมาก็รู้สึกว่าเริ่มหายกันหลังอะไรทำนองนี้น่ะแหละ
กับเรื่องดราม่าด้วยส่วนนึง คือดราม่ากันเองแล้วยังมีคนอื่นเข้ามาดราม่าเพิ่มให้อีก อันนี้ส่วนตัวกูนะคือเจอครั้งเดียวกูชักไม่โอละ คิดว่าอีกหน่อยอาจจะมีมาอีก มันรุ้สึกเหมือนกูอ่านดราม่าแอดดิคมากกว่าโม่งอีกบางที คืออืดมาม่ามากๆก็ไม่ไหวว่ะ
สำหรับกูมองคือรู้สึกว่าคนหายไป 4 รอบแฮะ รอบแรกคือตามที่ว่ามาตอนปนะเด็นคาบุ คิดว่าเรือคาบุหายไปเยอะ รอบสองคือช่วงดราม่าหนักๆก็คนหายอีกรอบ สำหรับใครที่ไม่ชอบอ่านอะไรดราม่า และตอนนี้ที่หายไปซักพักใหญ่คือฝั่งที่อ่านแล้วชอบวิเคราะห์เปิดประเด็น หายสุดท้ายที่กูรู้สึกจากความเร็วทู้คือตอนดราม่าจากห้องอื่นแล้วรู้สึกแบบเฮ้ย กระดิกตัวอะไรแทบจะไม่ได้ ตอนนี้รู้สึกเลยว่าคนเหลือน้อยมากละ
กูยังอยู่นะ ยังไม่หายไปไหน ฟิคกูก็ยังเขียนเหมือนเดิม แต่เขียนลงในความถี่เท่าเดิมไม่ได้ละ แถมบางทีงานกูยุ่งๆไม่ได้เขียนฟิคหรือมาตอบกระทู้เลย เดี๋ยวนี้พอเปิดมาเจอดราม่า เจออะไรด้านลบๆที่มันบั่นทอนสุขภาพจิตกูตลอด กูก็แทบไม่อยากเข้ามาอ่านมาตอบกระทู้แล้วล่ะ
ปล.ทีแรกกูว่าจะลงฟิคอ่ะ แต่เห็นพวกมึงยังคุยกันอยู่ กูก็เลยให้พวกมึงคุยกันไปก่อน ส่วนกูจะไปนอนเกาดากดูซีรีย์แล้วพรุ่งนี้ค่อยกลับมา 5555555555
>>461 ที่จริงกูมองว่าในบางครั้งการเถียงกันก็คือความพยายามในการอยู่ร่วมกันอย่างสงบเหมือนกันนะ เพราะเป็นการแสดงออกว่าอะไรมี่เค้าไม่โอเคก็จะพูดมา เหมือนเป็นการสื่อสารเพื่อจะอยู่ร่วมกัน กูไม่ใช่เรือคาบุนะ ไม่มีเรือที่ลงใดๆเลยอะแหละแค่อยากดูว่าเรย์กะจะดิ้นให้พ้นหายนะได้ยังไงด้วยความบ๊องๆของตัวนาง แต่เรื่องเรือคาบุนี่กูอ่านมานานก็สงสัยนะว่าถ้าไม่ได้คิดจะกระทบหรืออะไรอีกฝ่ายเลย เวลาพิมพ์อม้นกันจะลากพาดโยงไปถีงคาบุทำไม แบบจะชมเอ็นโจหรืออวย มันก็มีวิธีเขียนโดยไม่ต้องพาดถึง ไม่ต้องพูดเรื่องบ้าบอบากะหรืออื่นๆ เพราะเห็นหลายเรือก็อวยเรือตัวเองได้โดยไม่พาดก็มีนะ คือบางทีอ่านแล้วก็ตงิดปนสงสัยๆเหมือนกัน
กูเคยคิดไปด้วยซ้ำว่านี่คือขนาดมีออกมาเปิดอกจับเข่าคุยกันไปรอบนึงแล้วคือมันก็ยังเหมือนเดิมอะ แล้วด้วยกูมองว่าเวลาคนเราเถียงหรือทะเลาะมันคือความพยายามในการปรับตัวเข้าหากัน เพราะงั้นตอนหล่งที่เงียบๆนิ่งๆไม่มีแฟนคาบุออกมาพูดอะไร กูก็คิดละว่าเงียบๆนี่แหละตัวดี เหมือนเวลาคนเรามีปัญหากันถ้ายังพูดยังเถียงกันอยู่คือก็ยังมีเยื่อใยและพยายามอยู่ด้วยกัน แต่ถ้าเงียบๆเฉยๆเมื่อไหร่นี่คือไปเลยกันทั้งงั้น และก็จริงคือหลังๆคนน้อยจนรู้สึกได้ ยิ่งเรื่องคาบุเงียบมากกูยิ่งชัวมากว่าคนจะลุกมาเถียงคงไม่อยู่แล้วล่ะ ชาตินึงจะโผล่มาทีนี่รู้เลยว่าส่วนใหญ่คงไม่เข้ามาละ
คือไม่ได้จะเปิดประเด็นดราม่าหรือต่อความยาวสาวความยืดนะ ส่วนนึงเพราะกูว่ามันไม่มีประโยชน์อะไรจะมาเปิดประเด็นถึงคนที่เค้าคงไม่อยู่แล้ว แต่แบบไม่อยากให้มีประเด็นนี้กับเรื่องอื่นอีกอะ ซึ่งตอนนี้ก็ไม่รู้จะเหลือเรื่องไหนอีกมั้ยเพราะอีกฝั่งที่มีเรื่องแย้งกันคือพวกชอบเปิดประเด็นวิเคราะห์เนื้อเรื่อง ซึ่งก็เงียบๆไม่ตอบโต้แล้วหายเงียบไปเลยอีกเหมือนกัน
แบบ 2 ครั้งแล้วอะถ้าไม่รวมประเด็นดราม่าอื่นๆที่มีแล้วคนหายๆไปนะ เอาแค่เรื่องไลฟ์สไตล์ในการพูดคุยไรงี้ ซึ่งถ้าเอาเพิ่มอีกประเด็นก็คือคนคุยดิบที่ต่อให้ใส่จุด ปากบอกโอเคและกติกาโอเค แต่เอาจริงคนก็ไม่โอเค มีมาพูดเรื่องเฮ้ย สปอยกันเต็มไปหมดเลยมาเป็นพักๆ ล่าสุดก็มีดราม่าลากจุดอีก
คือมันดูแบบปากพูดว่าเราอยู่ด้วยกันได้แบบมีกติกาคือ 1.อย่าพาดพิงเรืออื่น 2.สปอยใส่จุดแล้วโอเค แต่เอาจริงต่อให้บอกว่าเราจะโอเคกันแต่คือความจริงมันไม่เคยโอเค และมันก็มีคนที่ไม่ทำตามนั้นโผล่มาตลอด ไม่รวมเรื่องพื้นที่เสรีพูดถึงอะไรก็ได้แต่ทุกครั้งที่มีเรื่องสาระมาก็จะมีคนมาโวยทั้งดีๆสุภาพและหยาบคายว่าพวกมึงจะอะไรกันนักหนาอยู่ตลอด เอาจริงๆกูไม่แปลกใจนะที่มันร้างอะ ในเมื่อตลอดมาดูแบบที่นี่จะต้อนรับแต่คนแบบเดียวกันที่คิดเหมือนกัน ทำอะไรเหมือนกัน ชอบอะไรเหมือนกัน แถมบางทีการออกมาเปิดประเด็นเถียงกันก็ยังไม่โอเคด้วยซ้ำคือมึงเริ่มพาเสียบรรยากาศ
สุดท้ายคือมีทั้งเรื่องที่คนออกมาพูดขอตรงๆว่าช่วยเลิกได้มั้ยบ้าง มีมาตัดพ้อว่ามำอะไรได้มั่งบ้าง ไปยันนิ่งเฉย แต่ในเมื่อทุกเคสผลออกมาคือไม่โอเคมันก็เหมือนเราอยู่กันไม่ได้อะแหละ รู้สึกตัวอีกทีก็คนหายไปขนาดนี้ละ ก็นั่นแหละยิ่งเงียบๆสำหรับกูคือยิ่งต่อกันยาก เพราะมันหมดความพยายามมี่จะอยู่กันไปละ ปิดหน้าทู้ออกไปเลยบางทีมันคงง่ายกว่า
กูไม่อยากให้มันเกิดอีกครั้งอะถึงจะยังไม่รู้ว่าจะมีประเด็นอะไรให้เกิดได้อีกก็เหอะ แต่แบบตอนนี้ร้างมาก และคิดว่าเป็นต่อไปแบบนี้ก็คงร้างมากหนักกว่านี้ พอคิดถึงตอนคุยกันไฟแลบทู้วิ่งปรู๊ดและเฮฮาเมาท์มอยกันทั้งมีสาระและไร้สาระ คิดแล้วก็เหงาๆเหมือนกัน
แอบเสริม จำได้ว่ามีคนบอกที่ญี่ปุ่นคุยกันนี่ปาไปบอร์ดที่เป็น 50 กว่า กูว่าเค้าเก่งมากที่อยู่กันได้ แต่ก็จำได้อีกว่ามีคนบอกเค้าไฟต์กันดุเดือดกว่าทางไทย ซึ่งอันนี้สำหรับกูมันวนกลับไปที่ข้อสังเกตเดิมว่าตราบใดที่คนเรายังเถียงกันมีความเห็นแย้งกัน และคนยังโอเคกับการเถียง มันก็อยู่กันได้เรื่อยๆ แต่ถ้าถึงจุดที่เงียบๆไม่เถียง หรือเถียงไปก็ไม่โอเค ตอนนั้นคือมันจบจริงแบบแยกย้าย รู้สึกว่าญี่ปุ่นนี่ก็เก่งเหมือนกันนะ
กู >>440 เองนะ ไม่คิดว่าที่กูคิดอีกแบบจะกลายเป็นแบบนี้ คือกูแค่เปิดประเด็นในความคิดกูอีกมุมนึงไง เพราะกูก็เคยเห็นคนที่ทำไรเว่อร์แบบคาบุ(พวกมีเงิน) คนๆนั้นเขาก็บอกว่าเป็นค่าเสียเวลา กับแค่อยากเห็นคนที่เค้าจีบยิ้ม คุยกับเขา มีความสุขเขาก็พอใจแล้ว และพวกนี้มันก็ทำกันเกือบทุกคนอ่ะ แต่กับคนที่เขาไม่สนใจเขาก็ไม่ยุ่งให้เสียเวลาของเขาหรอก
แต่วาคาบะคือเป็นพวกที่เห็นคุณค่าของเงินและคาบุมันยังใช้เงินที่บ้าน(รึเปล่า) วาคาบะก็คงไม่ปลื้มเท่าไหร่และวาคาบะน่าจะเป็นแนวผู้หญิงแกร่งดังนั้นให้บอกรักธรรมดาไม่พิธีรีตองอะไรแบบที่ท่านเรย์กะบอกดีแล้ว
สรุปในความเห็นกู บอกรักแบบคาบุไม่ได้ผิดปกติอะไรในสายตาคนมีเงิน(แบบที่เขียนในนิยาย) เพราะผู้ชายบางกลุ่มก็ทำไรเว่อร์ๆแบบคาบุมันนั่นแหล่ะ (พวกที่กูเจอเค้าเป็นสุภาพบุรุษอยู่นะ ออกแนวให้ความสำคัญกับผู้หญิง ไม่ใช่เพลบอย คนไทยแต่หัวนอก)
>>464 เพิ่งเห็น กูว่าเรือคาบุหายว่ะ เพราะช่วงที่รุ้สึกว่าเรือคาบุออกมาเยอะๆก็แค่หลังจากตอนนั้นที่มีคนมาเปิดอกแปบนึง หลังจากนั้นคือคนยังไม่อวยหนักเว่อวังจนกระทบคนอื่น แต่ซักพักก็กลับเป็นเหมือนเดิมอะ แต่คราวนี้ไม่ค่อยมีคนมาโวยละ นานๆโผล่มาทีด้วยซ้ำ มันแบบอืมมม หายว่ะ จริงๆแบบเห็นชัด
แถมกูอ่านได้ทุกอย่างและทุกแบบ ทุกเรือ ทุกเม้น แต่กูรู้สึกเลยว่ามันมีความมาคุหลบซ่อน คือช่วงหลังคนเปิดอกเรื่องอย่าง่าคาบุมากได้มั้ยแล้วเริ่มมีเรือคาบุโผล่มาเยอะๆ หลังจากนั้นมีโมเม้นดิบมาและคนกรี้ดคาบุ เรือคาบุออกมารัวๆ ถัดจากนั้นแปบเดียวมีประเด็นสปอยดิบตามมาทันที ทั้งที่อยู่กันมานานมากกกกคือไม่มีใครเปิดประเด็นอย่างซีเรียสขนาดนั้นทั้งพวกสปอยดีๆมีจุดกับหลุดสปอย มาหนักมากหลังช่วงกรี้ดคาบุจากดิบกัน ต่อจากนั้นคนออกมาเยอะเลยชนิดที่กูอ่านหมดกูยังรู้สึกว่าเออ สรุปคือดิบมันไปขัดมโนกาวใครใช่มั้ยมันถึงกลายเป็นดราม่าหลบกันแบบนี้
จากนั้นหลังตกลงสปอยใส่จุดกันได้จนโอเค พอมีโมเม้นเอ็นโจคนจะเงียบๆไม่ได้อะไร บางทีผ่านไปแทบทั้งวัน แต่พอมีคนเปิดประเด็นโมเม้นคาบุและมีเรือคาบุมากรี๊ดๆ จะมีกระแสดีดกลับทันทีเรื่องฟิลเตอร์มากเอย วันนี้สปอยกันเยอะเอย ต่อให้สปอยใส่จุดแล้วก็ย่งมีบ่นเรื่องสปอย กูคิดว่าเพราะกูอ่านหมดและไม่ได้คิด ะไรเป็นพิเศษกับฝ่ายไหนกูเลยรู้สึกถึงดราม่าซ่อน ซึ่งกูไม่ได้มโนเองนะ อันนี้ท้าให้ย้อนไปอ่านตามทู้เก่าๆได้เลย เป็นงี้จริงๆ "ทุกครั้ง"
และตามมาด้วยเรืออื่นมาหวีดจะไม่เป็นไร แต่ถ้าเรือคาบุมาหวีดจะมีมาม่าปนเป็นระยะ ซัดฟิคเอ็นโจตามทันทีบ้าง หรือไม่ก็ขุดจุดอื่นมาเม้นกระทบคาบุงี้ คือตัวละครอื่นไม่มีใครโดน เอ็นโจเองเวลามีประเด็นที่โดนคนบ่นแปบๆจะมีเสียงมาถล่มทับจนเงียบกันไป ปนเม้นฟิลเตอร์ออกทะเลไปเลยรัวๆบ้าง
คือสำหรับกูตัดเนื้อหาในเม้นทิ้ง เอาแค่จังหวะและการโพส เห็นถึงแทคติคชัดเจน คือมันก็แบบไม่รู้สินะ เป็นประเด็นที่มีความทริคกี้ปนแปลก กูอ่านอยู่ได้และยังสิงทู้ได้เพราะไม่ได้ลงเรือใครเป็นพิเศษ แต่คิดอยุ่ง่ากูอ่านยังรู้สึก เรือคาบุคงไปแหล่ว และเงียบจริงหายจริง ยิ่งนานๆไปยิ่งเงียบมากขึ้นๆ
จนพอมันถึงจุดที่ทั้งกระทู้วันๆแทบมีแต่เรือเอ็นโจ คือก็ชัดเลยนะกูว่า ว่าพวกแฟนคาบุนี่หายจ้อยกันไปละ
>>469 ไม่เป็นไรจ้ามึง ปกติกูชอบเวลาคนในมู้ถกกันได้ความรู้ ได้มองอีกมุมนึง ซึ่งประเด็นดราม่ากูมาทันนะ แต่ไม่คิดว่าพวกมึงยังอ่อนไหวกันกูก็ขอโทษด้วย ที่กูถกไปไม่ใข่ตัวคาบุโดยตรง แต่เป็นเรื่องที่มันเป็นไฮโซ แล้วความคิดบางอย่างมันปกติในสายตาพวกเขา แต่ในสายตาเรามองว่าแม่งเว่อร์ไป ทุ่มไปรึเปล่า กูก็เคยเป็น5555555
>>472 ตอนนี้พวกในมู้แทบไม่มีคนถกแล้วสิมึง กูก็ชอบอ่านนะแต่หลังๆนี่ก็หายไปไม่ต่างจากช่วงที่แฟนคาบุหายไปก่อนหน้านี้ มันมีวันนึงที่คนมาด่าพวกเปิดประเด็นถกกันรัวๆ รุ้สึกเป็นวันเดียวกับที่เปิดตัวอาชีพกันอะแหละ หลังจากวันนั้นคือแม่งชัดมากกกกก หายหมดไม่มีมาอีกเลย ถ้ามีก็จะพวกเปิดมาถกนิดหน่อยไม่ได้เป็นกลุ่มที่อ่านละเอียดและจับประเด็นมาคิดกันลึก ซึ่งกูอ่านแล้วรู้ว่ามันไม่ใช่คนกลุ่มเดิมอะ เรื่องการวิเคราะห์ยังไม่แน่นเท่าพวกนั้นที่หายไปเลยหลังจากโดนด่าแบบมีหยาบคาย ซึ่งแบบตอนมึงเพ้อกันไม่มีใครด่าพวกมึง แต่พอเค้าวิเคราะห์กันมึงไม่ชอบก็ไม่ต้องอ่านได้มั้ยล่ะ คือกูอ่านอยู่ดีๆเจอด่าหยาบก็แบบ เฮ่ย แม่งอะไรของมึง ทำเหมือนโดนเค้าด่าทั้งที่เม้นพวกนั้นมีแต่ประเด็นเนื้อเรื่อง ประเด็นเรือยังไม่มีด้วยซ้ำ กูอ่านอยู่ดีๆพอหนีหายไปกันหมดนี่กูเซ็งเหมือนกันนะบอกเลย คือจะไม่ว่าเรื่องแบบทำไมพวกมึงไม่สตรองงงงกัน ทนไปสิ ทนซะ! มันก็ไม่ใช่เรื่องว่ะ ใครๆก็เลือกจะอยู่จะไปกันได้เองถ้ารุ้สึกอารมณ์ไม่ดี ไม่ฟีลกู้ดกับทู้อีกต่อไป แต่ก็ขอบ่นพวกด่าหยาบว่ามึงเป็นอะไรรรร กูไม่เข้าใจจริงๆ จะว่าพวกกองเรือก็ไม่ใช่เพราะไม่มีเรื่องเรือ คือแบบไม่เข้าใจจริงๆว่ะ ถ้าแค่ไม่ชอบคือไม่ต้องอ่านนี่ไม่ได้ใช่มะ ต้องไล่ออกไปจากอาณาเขตมึงให้หมด พอตอนนี้หมดจริงๆนี่มึงสบายใจแล้วป่ะวะ แต่กูไม่เลยและคิดว่าอีกหลายคนที่ก็เซ็ง พอสุดท้ายทุกอย่างไปทางเดียวกันหมดนี่มันโคตรยูโทเปีย หนักมากกูว่าอยู่นานไปมันก็น่าเบื่อนะ
>>475 พวกที่ด่าคนอื่นแบบหยาบคายแบบที่มึงว่า คงเห็นว่าเพราะเป็นโม่งมั้ง จะหยาบใส่ก็ไม่มีใครรู้ว่ามึงเป็นใคร แต่คนโดนด่าอ่ะเค้าก็คงสะเทือนใจแหล่ะ ที่อยู่ๆใครที่ไหนก็ไม่รู้โยนระเบิดใส่สวนน้ำชาของชาวเรา โม่งซุ่มแบบกูนี่กรอกตาเลขแปดเลย ถึงจะด่าแทนแต่กูก็ไม่รู้ว่าคนเก่าๆจะกลับมาไหม ขนาดกูที่เข้ามู้นี้บ่อยๆเพื่อดูว่าพวกเราชาวซุยรันคุยอะไรกัน บางครั้งก็ยังไม่ว่างอ่านท่านเรย์กะหรือมู้นี้เป็นเดือนมั้ง จนต้องย้อนอ่านเป็นวันๆไม่หลับไม่นอน เพราะกูรักพวกมึงนั่นแหล่ะ ผูกพันธ์ทางตัวอักษรไปแล้ว เวลาเจอคนมาด่าพวกมึงก็เหมือนคนด่าเพื่อนตัวเอง
เอิ่มกู >>475 นะ พอกูย้อนไปอ่าน >>471 ที่เพิ่งเห็นโพสนี้เพราะนั่งพิมพ์อยู่นานไม่ได้รีเฟรช กูร้องเหี้ยหนักมากกกกก แม่งคิดอีกทีตอนพวกวิเคราะห์ก็มีประเด็นคาบุว่ะจะว่าไป นี่ถึงกับเปิดย้อนไปอ่านจนเจอว่าการวิเคราะห์ตอนนั้นทีกูบอก มีประเด็นทับซ้อนถึงเรื่องว่าคาบุเชื่อเรย์กะมั้ย ซึ่งถ้าตามวิเคราะห์มามันเอนไปทางเชื่อมาก่อนแล้ว และก่อนหน้าที่ด่าๆคาบุว่าฟาวล์เรื่องสงสัยเรย์กะ ประเด็นนี้ที่ด่ากันจะตกไปทันที เหี้ยเลยค่ะอารมณ์กูตอนนี้ เหี้ยมากกูเซ็งมาก แม่งกูโง่เองสินะที่คิดว่ามันคือดราม่าคนละอันกัน ที่จริงแม่งเรื่องเดียวกันนี่ เปิดหูเปิดตาเลยไงคะ กูคิดว่ามันไม่ได้มีอะไรสรุปมันก็การเมืองภายในของทู้ที่มีมานาน อ้อกูแค่ไม่รู้เรื่องเอง สรุปดราม่าซ่อนนี่พอคุ้ยไปท่าจะเยอะเลยมั้ยวะ สรุปเรือคาบุ ดราม่าสปอยดิบ ดราม่าวิเคราะห์เรื่อง มึงไม่ต้องนั่งแยกประเด็นให้เสียเวลา จริงๆแม่งคงเรื่องเดียวกัน กูโง่เองกูไม่ทันสังเกต ต้องรอจนมีคนมาบอกเล่าเบิกเนตรกู ยิ่งย้อนไปอ่านกูยิ่งขึ้น คือเอาจริงว่าอยู่กันแบบนี้ใช่มั้ยที่พวกมึงต้องการ ถ้างั้นแม่งอยู่กันต่อไปค่ะเอาให้เหลือแค่พวกมึง คนอื่นแนวอื่นอย่าอยู่เลยถ้าซักวันมีเรื่องคาบุมากระทบอะไรแนวอื่น ขนาดวิเคราะห์กันมาไปแตะประเด็นคาบุเข้านิดเดียวมึงโดนด่าเสียหมาเลยนะคะ ปล่อยอยู่กันไปดีกว่ามั้ยนี้ กูมโนไปเองด้วยว่ากระทู้เงียบคงเซ็งๆเฟลๆกัน ที่จริงคงแฮปปี้ดี ในที่สุดพวกกูก็มีวันนี้ แม่งกูเองที่อยู่ผิดที่
>>476 กูขอโทษนะ กูเองก็หยาบคายแล้วล่ะมึง เข้าใจอารมณ์มึงและกูเองก็ไม่ได้อยากหยาบ และกูไม่ชอบคนหยาบด้วย แต่จุดนี้กูแม่งเป็นเองหลังย้อนไปอ่าน รู้สึกเหมือนเห็นโลกใบใหม่ชัดขึ้นกว่าเดิม กูเข้าใจนะว่าเม้นบนกูนี่มีความเป็นมลภาวะทางสายตามาก โทษทีจริงๆว่ะเพื่อน ตอนนี้กูคงออกไปพักใหญ่เพื่อสงบสติตัวเองเพราะตอนนี้แม่งอารมณ์กูพังชิบหาย กูคิอมาตลอดว่าไม่เกี่ยวกันแต่เหมือนมันจะไม่ใช่ เหมือนโดนหักหลังยังไงไม่รู้ กูเสียใจแทนพวกวิเคราะห์ด้วยว่ะ ถ้ายังมีใครอ่านอยุ่อยากบอกว่าพวกมึงไม่ผิดเลยนะ มึงแต่ไปแตะโดนผิดประเด็น แม่งตายยกแผงแค่เพราะมันโดนเรื่องอ่อนไหว ถ้ามึงดลับมาแล้ววิเคราะห์เรื่องอื่นกันกูเชื่อว่ามึงจะไม่โดนด่า แต่ถ้าวันนั้นมาถึง วันที่มึงวิเคราะห์ประเด็นอื่นแล้วอยู่รอดได้อย่างสุขสงบ วันนั้นคงเป็นกูเองที่อารมณ์เหี้ยอีกรอบ เพราะแม่งชัดเบยค่ะว่าหางเลข
ขนาดนี้แล้วเรือเอ็นโจยังเยอะกว่าลำอื่นอีกเหรอวะ -_- กูว่าไม่ใช่นะ
ตอนแรกๆที่มันมีดราม่าเรือคาบุ ช่วงนั้นอะเรือเอ็นโจเยอะจริงแล้วพอมีคนเปิดประเด็นคาบุเรย์กะจะโดนเรือเอ็นโจตอกกลับตลอดว่าเป็นแค่ไอ้บ้าหรือได้แค่เพื่อนเท่านั้นแหละ แล้วก็มีคนมาเตือนๆว่าให้นึกถึงใจเขาใจเราบ้าง ช่วงนั้นเรือลำอื่นก็เริ่มผุดขึ้นมา
มู้หลังๆกูว่าหาคนเรือเอ็นโจนี่แทบจะแรร์ไอเทมนะ
ออกมาอวยทีก็โดนแขวะเรื่องยุยโกะ ทำตัวกำกวมบ้าง
>>479 งั้นข้างบนๆนี่อะไรกันหรอมึง กูอ่านไม่ติดฟิลเตอร์มองว่านี่เรือเอ็นโจกูยังรู้สึกเลยว่านี่แหละเรือเอ็นโจยกทั้งแผง จนมีคนมาเบรกว่าอ่านแล้วไม่เห็นคิดแบบนั้น อันนี้แหละเรืออื่นจริง และมันมีประเด็นการเรียกสรรพนามแบะใช้คำด้วยที่กูอ่านมานานรู้ว่านี่เรือเอ็นโจ ก็คนเดิมๆกันทั้งงั้น และยังแซะกันอยู่แบบเดิม คือกูเห็นด้วยว่าเรือคาบุหาย อ่านแบบไม่อคติอะไรเลยไม่พยายามฟิลเตอร์สันติภาพ เรือเอ็นโจแทบล้วนจริงๆช่วงหลังนี่ และจะไม่มีประเด็นแบบบนๆว่าเลยถ้าไม่ใช่ว่าเปิดอกไปแล้วก็ยังคงเม้นกันในแบบเดิม แฟนด้อมเค้าจะเซ็งและหายก็ไม่แปลก
>>477 >>478 ใจเย็นๆนะมึง หายใจเข้าลึกๆ โอเคแล้วค่อยกลับมาก็ได้นะ อย่าหายกันไปมากกว่านี้เลย กูเข้าใจฟีลมีงนิดๆเพราะกำลังย้อนอยู่เหมือนกัน และเยอฟีลลิ่งช็อคๆทำกูค้างเหมือนกัน พอดีก่อนหน้านี้ไม่ทันสังเกต ยิ่งย้อนเยอะกูยิ่งอึ้งจริงๆ อยากจะอาละวาดอยู่แต่พอเจอคนอาละวาดแทนแล้วคือก็สงบขึ้นได้ประมาณนึงนะ 555 ใจเย็นๆ อยากบอกแค่กูพอเข้าใจมึง ถึงจะไม่หนักหรือเฟลเท่าแต่พอเข้าใจ กูคิดว่านะ
.....นี่ดราม่าอะไรกัน หนีไปนั่งเล่นเกมแปปเดียวเอง กรุควรหลบหลืบต่อไหม
>>483 คิดว่าที่ปรี้ดแตกอยู่นี่ไม่ใช่เพราะประเด็นมึงหรอก ที่จริงชนวนให้วนมาถึงเรื่องนี้ได้เป็นอีกคนที่กูขอไม่จิ้มอ้างอิงถึงเพราะกูอ่านกูว่าเค้าไม่ได้ผิดอะไรเลย และความเห็นเค้าไม่ได้จุดชนวนทะเลาะ แค่แบบตรงมากจนมันเหมือนเปิดทอปปิคขึ้นมาได้ และพอมีคนเปิดก็มีคนสาน ออกมาบอกเล่าหลายๆอย่างที่กูเองก็ไม่เคยรู้และไม่เคยสังเกต ส่วนที่มีคนบรึ้มไปนี่คงเพราะย้อนไปอ่านแล้วอื่ม คือมันมีจริงๆว่ะ ประเด็นที่ขึ้นเพราะย้อนไปมากกว่า เพราะกูก็ย้อนไปเหมือนกัน เหอเหอ
ไม่ใช่ความผิดมีงหรอก เรื่องมันก็เกิดขึ้นมานานแล้ว พอดีว่ากูและคนอื่นมีความดีเลย์รู้ช้าเอง พอรู้เลยมีรีแอคชั่นกันบ้างเป็นธรรมดา ไม่ต้องเครียดนะ
เสริมเพิ่มว่าจริงๆคนที่สังเกตเห็นและรู้มานานแต่ยังเฉยๆนี่แบบบ คือมึงก็สงบร่มเย็นดีจริงจริ๊งงงงง จนคนหายขนาดนี้กว่ามึงจะพูด แม่งน้ำใสไหลเย็นมากเลยจ้าาาา กูบอกก่อนจะดราม่านะว่ากูไม่ได้ว่ามึงหรืออะไรนะ แค่แบบตกใจกับความนิ่งสนิทร่มเย็น อุเบกขาโคตรๆของมึง ซึ่งมันก็ดีเหมือนกันตรงถ้าหัวร้อนกันหมดมันก็อยู่กันลำบาก กูแบบเชื่อจริงๆว่ามึงอ่านได้ทุกเม้นทุกเรื่องทุกอย่าง
แต่คือแบบว่าทีหลังถ้ามีประเด็นอะไร บางทีเปิดๆมาก่อนให้รู้และปรับแก้กันก็ดีเหมือนกันนะมึงในบางมุม ก่อนที่จะเกิดเรื่องขึ้นจริงอะ เพราะบางทีเหตุมันเกิด คนมันหายไปละ จะยังไงบางทีก็เอากลับคืนมาที่จุดเดิมกันยากว่ะ ไม่ดราม่านะขอเสนอเฉยๆ
>>488 โทษทีนะมึงถ้าทำตกใจ กูแค่ไม่ได้อยากจิ้มระบุอะไรใครเพราะกูคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องที่ใครเป็นคนเริ่มอะ มันคือมีมานานและเพิ่งรู้แค่นั้นจริงๆ คือจิ้มไปเลยว่าเริ่มที่คนนี้ๆมันดูบีบคั้นกดดันในอารมณ์มาก เพราะจะคนไหนที่พูดคือก็ไม่ได้ผิดทั้งนั้นแหละ
คือมันมาถึงจุดนี้เพราะมันเกิดมานานละเลยไม่อยากลากคนในปัจจุบันคนไหนๆมาเอี่ยวว่ะ แต่ลืมไปว่าถ้ามึงเฟลอยู่ก่อนอาจจะรู้สึกผิดมากขึ้น โทษทีว่ะ
กูจะไม่บอกให้ใครใจเย็นว่ะ เพราะกูแม่งขึ้นนนนเหมือนกัน เชี่ยพอกันกูคงไม่กล้าปรามใครในขณะที่กูเองก็หัวไฟลุกอยู่
บอกเร็วบอกช้าที่จริงเรื่องอารมณ์กูว่าไม่มีผลว่ะมึง ไม่ต่างเลย รู้เร็วก็เหี้ยเร็ว รู้ช้าก็เหี้ยเหมือนกัน มันอาจจะดีที่พอแก้ทัน รึเปล่านะ บางมุมกูมองแล้วมันแก้ไม่ได้ป่ะวะ ไม่ใช่ว่าไม่มีความพยายามจะแก้หนิ
ไม่ใช่มึงหรอก >>483 กูว่ากูเอง >>440 เพราะกูเป็นคนแย้งอีกอย่าง กูมองว่ามันออกจะไม่ยุติธรรมกับคาบุ กูเลยบอกไปอีกแบบที่กูคิดว่าถ้ามองในมุมนั้นมันเรื่องปกติ แล้วไม่มีคนพูดเลยกูเลยออกความเห็นบ้าง ว่าเออเนี่ยกูคิดงี้คาบุก็ไม่ได้บ้าหรอกแต่เอ็นโจกับท่านเรย์กะคงมองอีกแบบว่าคาบุทำอะไรน่ะ
เพราะนิสัยเอ็นโจมันอีกขั้ว ถ้าบอกรักขอเป็นแฟนอย่างเอ็นโจคงไม่ป่าวประกาศแบบคาบุ แต่ก็คงให้ของหรูพาไปดินเนอร์(แน่นอนคิดว่านัดบอกด้วย) เอ็นโจมันไม่ถึงขั้นจอมมารแต่มันพัฒนาร่างไปเป็นได้ ดังนั้นเรื่องแบบนี้เอ็นโจน่าจะใส่ใจถึงอีกฝ่าย (คาบุก็ใส่ใจแต่บางเรื่องคงไม่รู้ ตามนิสัยผู้ชายทั่วไปอย่าลืม)
ส่วนท่านเรย์กะนางเคยเป็นสามัญชนเป็นผู้หญิง นางก็คงรู้ว่าต้องทำแบบไหนถึงจะเหมาะกับนิสัยวาคาบะ
เพิ่มจากอดีตลูกเรือเอ็นโจวที่ผันตัวไปหาเรือยูกิโนะ คันตะคุง นายตัวสำรอง น้องชายท่านอิมาริ
เพราะตอนอ่านกูไม่ได้ไรล่ะมั้ง แล้วเห็นเม้นไปทางเดียวเลยบอกอีกอย่างที่กูคิดไป (อ่านแล้วแย้งในใจ หืม ไม่ใช่ม้างงง~ แบบนี้ก็มีนะบลาๆ)
อยากรู้ว่ามีคนคิดแบบเดียวกับกูไหมแค่นั้น ซึ่งกูหมายถึงทุกคนทุกเรือนะ
กูจิ้มให้ มึงไม่ต้องแย่งกันนอย คนเริ่มมาเลยคือ >>446 กูว่ากูไม่พลาด แต่มึงไม่ผิดนะ 446 สำหรับกูต้องขอบใจมึงมากกว่าที่นำประเด็นมาสู้จุดนี้ที่มีมาเล่า และเผื่อมึงจะยังไม่รู้กันอีก คนเล่าคือ >>471 ซึ่งกูก็ขอบคุณมึงมาด้วยเหมือนกันที่ทำให้กูเห็นอะไรแบบที่มันเป็นจริงๆซักที
กูจะไม่บอกหรอกนะว่ามึงไม่ต้องทำเป็นเลี่ยงพูดระบุคนกัน คนควรเฟลไม่ใช่สองคนนี้ คนผิดก็ไม่ใช่สองคนนี้ สำหรับกูคงแทบโค้งสดุดีให้ ขอบคุณที่ทำให้กูตาสว่างซะทีว่าจริงๆมันเกิดบ้าอะไรขึ้นอยู่คนถึงหายไปกันหมด ไม่เห็นต้องกังวลหรือกูเค้าอาย เป็นกูกูก็ไม่อายถ้าก็คือคนพูด คนต้องอายไม่ใช่กู
กูว่าบางทีเราควรไปนอนกันว่ะถ้าอารมณ์จะนิ่งกันขึ้น คือกูเข้าใจหมดเลยนะทั้งคนปรี๊ดคนเฟล แบบคิดว่าพอเห็นภาพว่าทำไมเป็นงี้กันอะ แต่ตอนนี้เส้นอารมณ์แกว่งๆกัน ตอนเช้ามันอาจจะซอฟท์ลงมั้ย คือเอาเถอะกูไม่พูดเรื่องใจเย็นละ แต่แบบไปนอนพักก็ดีเหมือนกัน กับตัวกูเองก็ด้วยว่ะ
.......//ขนาดชี้เป้าแล้วกรุก็ยังตามไม่ทัน ;_;
อ่านไล่ๆลงมาตั้งแต่จุดเกิดเหตุคือ 446 ถ้ากลัวงงก็ย้อนไปมากกว่านั้นว่าเค้าคุยอะไรตอบอะไรกัน แล้วมึงเริ่มอ่านละเอียดตั้งแต่ 446 ไล่ลงมา คีย์เวิร์ดอยู่ที่ >>471 และมีการขยายเหตุการณ์อยู่ที่ >>477 >>478 ถ้าอยากรู้ละเอียดกว่านี้มึงต้องลองย้อนกระทู้ไปไทม์ไลน์ช่วงที่คนพูดถึงทั้งหมดดู แล้วมึงจะเก็ทเองว่าแม่งเกิดเหี้ยอะไรขึ้นอยู่
อืม กูก็ว่างั้นนี่ตี3 แล้วป่ะ งั้นกูขอไปหาอะไรกินก่อนนะ >>498 แล้วก็กูไม่ได้เฟลไรอย่าเพิ่งหัวร้อนเน้อ แต่คิดว่าถ้ากูผิดกูต้องขอโทษก่อน เพราะกูมองคนในกลุ่มแบบเพื่อน ไม่อยากให้มีปัญหา ถ้าไม่ยุติธรรมสำหรับอีกคนอยากให้ไกล่เกลี่ยกันดีๆก่อน ที่>>446 เม้นตอบกู กูก็ตอบไปความเห็นที่45. ว่าตรงไป๊ แล้วพูดเรื่องเอ็นโจยังไม่ใช่จอมมารแบบที่เค้าพูดอ่ะ เพราะกูก็คิดเหมือนกันว่าถ้านางยังจับคนมาเล่นในมือไม่ได้แบบท่านพี่ กูก็ยังไม่ย้ายกลับเรือเอ็นโจ กูยังงอนนางอยู่เพราะเรื่องยุยโกะหรือที่เอ็นโจชอบผลักปัญหาให้ท่านเรย์กะไรงี้ ไม่ยอมแก้เอง สำหรับเอ็นโจกูก็ต้องดูความประพฤตินางไปอีกหลายตอน ถ้าแก้ได้กูอาจกลับเรือไปสักครึ่งตัว //กระตุกแว่น
คือกูก็ปึดส์เหมือนกันนะ แต่ในเลเวลที่คิดว่ากูยังไหวไม่ต้องอาละวาดฟาดงวงมาก คิดว่ากูยังพอพิมพ์แบบมีตรรกะได้อยู่มั้ง บอกแค่ว่ากูโมโหและกูเซ็งมาก คือแม่งเด็กไปป่ะไอเรื่องแบบนี้ อยากอยู่กันแต่คนคิดเหมือนกันมึงจั่วหัวทู้ไว้เลยทีหลังว่านี่เป็นชมรมของมึง รับเฉพาะคนคิดเหมือนกัน คนจะคุยถึงเรื่องอื่นประเด็นอื่น หรือพวกเชียร์คนอื่นจะได้ไม่ต้องเสียเวลาเข้ามา
จะว่าไปก็มีหัวทู้จะให้โหวตตั้งอวยเรือตัวเองเป็นระยะป่ะล่ะ เรืออื่นมีใครตั้งอวยตัวเองกันบ้างป่ะ ยิ่งย้อนเยอะยิ่งเห็นประเด็น แม่งทำไมก่อนหน้ากูไม่เคยเห็น ก็รู้อยู่ว่าทู้อยู่ร่วมกันหลายคนหลายฝ่าย ไม่มีใครเสนออะไรที่มันเฉพาะ ก็มีอยู่พวกเรือเดียวที่เสนออวยตัวเองกัน มึงอยู่ร่วมกับคนอื่นไม่เป็นใช่มะ ไม่คิดถึงความรู้สึกคนอื่น จริงๆแม่งส่งสัญญาณมานานและกูแค่มองผ่านเอง มาอ่านย้อนแล้วกูงงว่ากูมองผ่านไปได้ไง เหอะๆ อีกหน่อยชื่อทู้คงสมใจพวกมึงแล้วล่ะ คนจะโหวตแย้งคงไปหมดละ
แม่งพังหนักสุดคือคนที่คุยประเด็นอื่นไม่ได้อวยเรือ จนถึงตอนนี้ก็คงหนีออกนอกทู้ไปเพราะโดนด่าแบบแม่งคงยังงงว่ากูผิดอะไร สัส แค่แตะโดนเรื่องอ่อนไหว แต่กูบอกเลยนะว่าอ่อนไหวเชี่ยอะไรของมึง แม่งพาล ยิ่งอ่านย้อนยิ่งพาล สารพัดวิธี คิดว่าฉลาดแล้วมั้งไม่มีคนเห็นไม่มีใครจับได้ เออแม่งกูโง่อะ เพราะคนฉลาดๆที่รู้ทันคงหนีกันไปหมดแล้ว ก็อยู่รวมแต่พวกพาลเชี่ยๆกับคนโง่ๆไม่รุ้เรื่องเหี้ยอะไรเลยแบบกูเนี่ยแหละ ว่าใครไม่ได้คือกูโง่เอง ไอพวกที่หนีออกไปก็โง่เองงี้ป่ะล่ะ อ่อนแอก็แพ้ไป ไม่ต้องรู้หรอกว่าแม่งโดนด่าเรื่องเหี้ยอะไร อยู่ดีๆก็โดนด่าเป็นใครมันจะทนอยู่วะ
ผ่านมาอ่านผ่านๆ กูชอบคาร์แรกเตอร์ป่วงๆของคาบุ แต่ไม่ได้เป็นเมน กูก็มีมาแซวคาบุบ่อยๆทั้งเม้นท์ทั้งฟิค ออกแนวลูกรักมักถูกคนเขียนรังแกประมาณั้น ถ้าการแซวเล่นของกูทำให้คนที่ลงเรือคาบุเป็นเมน ไม่พอใจก็ขอโทษทีว่ะ
แค่คิดว่าที่บอกว่ามีการพูดว่าร้าย มันไม่ใช่เจตนาโจมตีทั้งหมดอะ กูแซวอย่างเอ็นดูนะ ไซซายะ... (;_;
>>504 ย้อนไปประเด็นคาบุ กูไม่ได้ตอนมึงตอนนั้น จริงๆกูก็ไม่ได้คิดว่ามันบ้าอะไร แค่มันชอบทำอะไรก็ทำให้มันสุดๆ จริงจังพิถีพิถันเกินไป บางทีเลยดูสุดโต่งหรือโอเวอร์เฉยๆ ตอนนั้นคุยแค่ว่าถ้าอยู่ในหนังหรือการ์ตูนจะดูโรแมนติกแต่มาทำในชีวิตจริงสาวๆคงหนี ผวาหมดอะไรงี้ แต่ที่มึงมาพูดคงหมายถึงโพสต์ที่อยู่บนๆขึ้นไปอีกมั้ง
ป.ล.มึงกินข้าวไม่ตรงเวลาบ่อยๆไม่ดีนะ อย่างน้อยเว้นก่อนนอนสักช.ม.
>>508 กูก็ขอโผล่มาโอ๋มึงอีกรอบก่อนดื่มวีต้า เอาน้ำแข็งโปะหัวดับไฟแล้วไปเข้านอน คือกูว่ามันไม่ใช่เรื่องแซวหรอกมึง แซวนี่ประเด็นยิบย่อยเล็กน้อยที่นำไปสู่การเปิดอกครั้งแรกของเรือคาบุอะ แต่หลังจากนั้นที่เกิดคือไม่ใช่ละ มีความเล่นแทคติคจริงๆตามที่คนมาเล่า เหมือนในเกมส์กีฬาว่ะคือไม่ได้ผิดกฎอะไร ยิ่งดูผ่านๆยิ่งไม่ผิดบางทีไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีสิ่งนี้เกิดขึ้น แต่ถูกมั้ยก็คงไม่ถูก คนที่จะรู้ว่ากูโดนเล่นงานเข้าให้แล้วคงมีแค่ตัวนักกีฬาที่โดนเล่นแทคติคใส่เข้าเองกับตัว นอกนั้นก็ต้องคนดูนอกสนามที่เห็นภาพรวมเหตุการณ์หน่อย
ที่ขึ้นๆกันนี่แซวคือเรื่องเล็กแทบไม่มีผลอะไรเลยมึง ยกเว้นแค่ตอนเปิดอกจริงๆ สำหรับมุมมองกูคือหลังเปิดอกมีแซวแบบบางทีไม่ใช่แซวขำๆนี่กูมองว่ามันแค่หลักฐานแสดงทัศนคติบางอย่าง แต่รวมๆที่ไม่โอเคนี่มันแฝงมาเป็นลูกเล่นมากกว่าว่ะ
พอดีกูก็ไม่ใช่เรือคาบุเลยไม่เคยเจออะไร คือไม่รู้สึกเพราะไม่ใช่เป้าโจมตีโดยตรง ซึ่งถ้าคิดตามคนมาบอกว่าเรือคาบุหายไปแทบหมดแล้วนี่ก็ชัดอยู่นะว่าเค้าได้รับผลกันว่ะ คนนอกไม่รู้สึกอะไรว่ามาคุยกเว้นมึงวางตัวเองไว้นอกสนามมากๆจนเห็นภาพทั้งหมดอะ นิกนั้นพวกเดียวที่จะรู้ตัวว่าโดนบีบโดนโจมตีคือเป้าโดยตรงมากกว่า มันเหมือนโจมตีแบบเล่นกับความรู้สึก กูบอกเลยนะว่าพวกมึงก็เก่งแต่มันไม่ควรเอามาใช้แบบนี้ป่ะ
นอกนั้นที่เซ็งกันอยู่นี่คือรู้หลังคนมาเล่าแล้วย้อนไปดูเองทั้งงั้นแหละ มันเป็นอะไรที่เหมือนสงครามจิตวิทยา การแซวกันนี่ไม่ใช่ปัจจัยหลักว่ะ
>>509-510 กูคงนอนหลังโม่งแปลเอาท่านเรย์กะมาลงสักพักอ่ะ ขอบคุณที่เป็นห่วงน้าา
>>508 กูเข้าใจคาแรกเตอร์คาบุว่าทำไมมึงชอบ คาบุก็ไม่ใช่เมนหลักแต่กูก็ชอบนิสัยมันเพราะเพื่อนกูก็แบบคาบุแต่มันเป็นผู้หญิง พอมันทำไรแปลกๆแบบคนปกติไม่ทำกัน กูจะห้ามแล้วบอกพร้อมเหตุผลไปเลย ซึ่งคาบุถ้าบอกว่าเพราะอะไรมันจะเก็บไปคิดแบบเพื่อนกู
>>511 คงแบบที่มึงพูดอ่ะ พวกเราอาจไม่รู้จริงๆว่าเมนคาบุได้รับผลจนบางคนไม่ได้มาตอบไรหรือหายไป ซึ่งบางครั้งคงจะข้ามๆเม้นไปกูเลยไม่ได้สังเกตว่ามาคุแบบคนนอกมอง (สารภาพว่าข้ามอ่านสองเหตุการณ์ใหญ่ไปเกือบทั้งกระทู้ ไม่แน่ใจว่าอ่านหรือลืมไปแล้ว เพราะกูไม่รู้จะลงความเห็นยังไง)
ตอนนี้กูไม่รู้จะสงสารใครมากกว่าดีระหว่างเป้าโจมตีโดยตรงแบบเรือคาบุ หรือพวกรับผลกระทบอาฟเตอร์ช็อคเป็นหางเลขจากการกวาดล้างเรือคาบุแบบพวกสปอยดิบ/อ่านสปอยดิบ กับพวกวิเคราะห์ถกประเด็นอื่นๆ แม่งพังอะ
ที่แน่ๆคือพวกไหนๆก็คงไม่กลับมาแล้วล่ะมึง ก็อยู่กันแบบนี้ต่อไป หรือจะมีรีเทิร์นในอนาคต? แต่คงไม่ใช่เร็วๆนี้ว่ะสำหรับความคิดกู
เรือคาบุ อันนี้เป้าโดยตรง อาจจะรู้สึกว่าโดนบีบเยอะ กูก็ไม่รู้ว่าจะโดนอะไรมั่งแต่ที่แน่ๆจากที่อ่านย้อนมาคือรู้สึกว่าที่นี่ไม่ค่อยต้อนรับเค้า ดูมีแรงต้านมาตลอด พวกนี้คงไม่กลับมั้ยนะ ดูอยู่กันยาก เราเข้ากันไม่ได้
พวกสปอยดิบ เจอดราม่าไปสองเรื่อง กูว่าอิ่มหมีพีมันกันไปยาวๆแบบฟาดไปอืดๆสองชามในเวลาไม่ห่างกันมาก ปนกับมีกระแสต้านมาเป็นระยะอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะถ้าดิบมีโมเม้นคาบุ แถมพวกนี้มีเม้นแนวๆเราทำอะไรได้บ้าง กูไปหวีดในทวิตดีกว่า กรี๊ดคนเดียวเงียบๆก็ได้ อะไรแนวนี้เป็นระยะ กูว่าก็คงไม่กลับ หรือต่อให้บางส่วนยังอยู่ก็คงไม่ทำอะไรเกี่ยวกับดิบอีก หลังๆขนาดคนบอกข่าวดิบยังรู้สึกว่าไม่ใช่คนเดิมเลย ถถถถ ดูจากภาษาเอาอ่านะ กูเลยเดาว่าพวกนี้หายๆไปเหมือนกัน
กลุ่มสุดท้ายพวกสายวิเคราะห์กับหยิบประเด็นยิบย่อยมาถกกัน กับพวกแปะสาระ สามอันนี้ที่คนพูดถึงสำหรับกูมองว่าค่อนข้างมีจุดร่วมเป็นคนกลุ่มเดียวกันบางส่วน เพราะหายทีนี่หายเกือบหมดเลยทั้งวิเคราะห์จริงจังและเปิดประเด็นแปลกๆอย่างพวกเรื่องหุ่น ความสูง ทรงผม ซึ่งงง สำหรับกูแล้วรู้สึกว่านี่ไม่ใช่พวกเล่นโม่งอยู่เดิม มีความไม่คล้ายในหลายประเด็น โม่งมือใหม่แล้วเจอด่าหยาบไปทีคือแตกพ่ายเสียกระบวนทัพ กูว่าพวกนี้เจอคัลเจอร์ช็อค บวกกับโม่งก็มีชื่อเสียมากอยู่แล้วด้วย พอเข้ามาเหมือนห้องซุยรันนี่จะไม่เป็นแนวนั้น แต่สุดท้ายก็เจอไปเต็มๆจนได้ กูว่านี่ก็ไม่กลับเหมือนกัน ถ้าจะกลับคงใช้เวลาทำใจกันนาน
สรุปคือ หายกันไปหมดดดดดดกลุ่มพวกนี้ ถ้าเหลือก็น้อยมาก พวกจะกลับก็คงน้อยมากกว่าไปอีก หดหู่เหมือนกันว่ะ
อ้อ กูคือคนที่เคยลงพวกเรื่องเพลง, ดอกไม้, อาหาร ฯลฯ ในเรื่องเอง และเพราะว่าไม่รู้จะเอาประเด็นไรอีกก็เลยไม่ได้มีต่ออะนะ
ตอนใหม่มาแว๊วว. บันไซ \\(^_^)//
ขอบคุณโม่งแปลมว้ากกกๆๆ
ตอนนี้ก็เป็นตอนที่น่ารักขำๆดีนะ. ท่านเรยกะสตรองขึ้นทุกทีแล้ว สงสัยเป็นผลมาจากอยู่กับคาบุนานๆเลยเริ่มเป็นตัวของตัวเองมีความกล้ามากขึ้น
อ่านเม้นบนๆทำให้เริ่มสงสัยว่าตกลงเอ็นโจวชอบเรยกะจริงๆป่าวนะ. เห็นเรยกะลำบากเรื่องมาซายะก็ไม่มีทีท่าจะช่วย. หรือหึงแต่อย่างใด. รึมั่นใจว่าสองคนนี้ยังไงก็ไม่มีทาง. หรือไม่ได้สนใจเรยกะจริงจัง. ชักงง
โม่งๆด้านบนอย่าซีเรียสกันมากเกินไป คุยกันเพื่อความบันเทิงเถอะ
อ่าาา กูเป็นคนนึงที่หายไปนาน กลับมาส่องๆบ้างเป็นบางครั้ง กูไม่รู้คนอื่นคิดไงนะเว้ย แต่คือกูชอบบรรยากาศมู้นี้ตอนที่ต่างคนต่างหวีดของตัวเองอ่ะ ล่ะมาแลกเปลี่ยนมุมมองกัน มีสปอยให้ลุ้นบ้างไรบ้าง กับการวิเคราะห์ที่บางทีกูมองผ่านๆไป แต่กูชอบมากที่พวกมึงนั่งคุยกันเป็นเรื่องเป็นราว กูมาแบบไม่มีเรือ จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีเรือ ชอบทุกลำ คาบุกูก็เอ็นดู กูก็คิดว่าคาบุแม่งคือไอ่บ้าคนนึง แต่กูมองด้วยความเอ็นดูนะ ส่วนเอ็นโจกูชอบความนิ่งแต่ลึก ทุกตัวละครมีเสน่ห์หมดอ่ะ ล่ะคนอ่านก็ต่างคนต่างมุมมองด้วย แต่พอหลังๆมา เหมือนบรรยากาศมันหายไป คุยกันไม่ค่อยสนุกเหมือนเมื่อก่อน กูก็เลยไม่ได้มาตามทู้แบบเดิมๆว่ะ
ตอนใหม่นี่มีโมเมนท์เอ็นโจวออกมาต้นตอน
แต่พออ่านจบตอนนี่โมเมนต์ท่านพ่อกลืนหมด55555 ถ้าท่านพ่อมาได้ยินต้องดีใจจนร้องไห้แหงๆ
สรปท่านเรย์กะฟาเธอร์ค่อนจริงๆสินะ55555
กุเหมือนมาเควายเลย กำลังดราม่ากันแท้ๆ
จริงๆ กูว่าไม่ต้องซีเรียสมากหรอกเรื่องร้างไม่ร้าง โม่งไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนรายงานตัวทุกวัน โม่งไม่เคยปฎิเสธผู้ที่เข้ามา (ยกเว้นว่ามึงจะใช้เครือข่ายเดียวกับโทรลล์ที่โดนแบน) และไม่เหนี่ยวรั้งผู้ที่จากไป ช่วงกระทู้แรกๆ มันก็มีพลังอึดอัดสะสมจากการอยากคุยไม่ได้คุยเป็นร้อยๆ ตอนอยู่ด้วยอ่ะนะ จะระเบิดตูมกระทู้วิ่งฉิวๆ กูว่าไม่แปลก ช่วงไหนกาวน้อย ดีแทคโดนแบนก็ห่างหายกันไปมั่ง งานยุ่งติดสอบอะไรก็ว่ากันไป ถึงตอนไหนจี๊ดใจอยากกรี๊ด กรี๊ดคนเดียวบนทวิตไม่มันก็ค่อยกลับมา อย่างช่วงก่อนหน้านี้ที่มีคุยกันเรื่องกระทู้อาชีพเกมออนไลน์กูว่าก็ฉิวอยู่นะ แถมในเรื่องตอนนี้แม่งมีฮีลเล่อร์โผล่มาอีก ถถถถถถถถ
ฮีลเลอร์ที่โผล่มานี่กูนึกถึงธรรมกายเลย5555 ลัทธิอะไรแปลกๆป่าววะ ไม่นะท่านฟุยุโกะ
ตอนนี้ท่านเรย์กะอย่างเท่เลย ชอบความสั่งเค้กสามชนิด ความคำสาปลูกทานุกิ โอ้ยยยย 5555555555555 ถึงจะชอบแอบแขวะท่านพ่อแต่ก็รักสินะ แหม ท่านเรย์กะ~ สุดท้ายที่จะกำจัดนี่ของกินใช่มะ
ท่านฟุยุโกะ!!!! พกฮีลเลอร์ส่วนตัวมาให้ท่านเรย์กะด้วย
โอย แต่ตลกคำสาปทานุกิสิงสู่ แทกฟู้ดจงเจริญ
ฮีลเลอร์ล่ะ อ่านไปก็อดคิดไม่ได้ว่าช่วงนี้คนแต่งโดนเพื่อนเก่ามาชักชวนเข้าลัทธิสินะ ฮา ตอนหลังท่านเรย์กะอย่างเท่อ่ะ
อ้าว จะมาเมาท์ตอนใหม่ซะหน่อย พวกมึงมาคุอะไรกันเนี่ย กูคงความรู้สึกช้าว่ะไม่เห็นรู้เรื่องอะไรที่มึงพูดๆ มากันเลยอะ นี่กูลั้นลาฝ่ามรสุมมาตลอดโดยไม่รู้ตัวเลยเรอะวะ แต่แหมช่างเหอะ ไดนามิกของมู้มันก็ต้องเป็นไปอย่างที่มันเป็นนี่หว่า ที่เปิดแบบนี้มันก็เป็นที่ๆ คนเลือกเข้ามาและออกไปตามความพอใจของเจ้าตัวปะ อ่อ
แต่เรื่องที่ว่าพอมีโมเมนต์คาบุหนักๆ แล้วมักมีดราม่าตามมานี่กูว่ามึงคิดมากไปมั้ง มันบังเอิญมากกว่าป่าว กูไม่รุ้นะเพราะกูไม่อ่านสปอยล์ ที่มึงวิเคราะห์มากูยังงงๆ ว่ามันขนาดนั้นเลยเหรอวะ
ว่าแต่ ตอนนี้มันอะไรกันวะ วันๆ ของท่านเรย์กะนี่เรื่อยเปื่อยไปจนเจอลัทธิประหลาดๆ ด้วยเหรอเนี่ย ถถถถ
ท่านเรย์กะตอนนี้ดี๊ดีย์ ดูเหมือนจะเชี่ยวชาญวิธีรับมือกับสถานะการณ์อื่นๆเพิ่มขึ้นแบบเลเวลอัพแล้วอ่ะ ไอ้ที่ถูกชวนเข้าลัทธิเนี่ย เป็นกูคงจะเกรงใจ ไม่กล้าปฏิเสธชัดๆ ได้แต่เออออไปก่อนแหงม ท่านเรย์กะนี่ตัดฉับได้ใจมาก แถมให้เหตุผลว่าวิญญาณทานุกิอีก 555 ไม่แน่บางทีวิญญาณจิ้งจอกที่ว่านี่อาจจะท่านพี่ก็ได้
กรุไม่ได้ย้อนเยอะอ่ะ แต่บางความเห็นก็ว่าคาบุแรงไปจริงๆนะเออ เรือใคร ใครก็รัก นี้ก็เป็นพวกฝ่ามรสุมมาแบบไม่รู้เหนือรู้ใต้เหมือนกัน
แต่ท่านฟุยุโกะนี่โครตแรร์ของซุยรัน คนที่มองออกว่าท่านเรย์กะไม่มีความสุขเวลาอยู่ใกล้เจ้า 2 หน่อจะมีซักกี่คนเชียว
ตอนใหม่พีคจังวะ กูไม่คืดว่าจะเล่นงี้นะเนี่ย 555555555555555
ท่านฟุยุโกะออกครั้งแรกนี่น่าจะประมาณตอนที่ร้อยต้นๆ ได้ป่ะ ปล่อยให้ออกโรงครั้งแรกเพื่อที่จะมามีบทอีกทีในอีกร้อยตอนให้หลัง ท่านฮิโยโกะนี่ใจเย็นโคตร...
>>524 เรื่องดราม่าคาบุจะว่าคิดเยอะก็คงไม่ว่ะ กูย้อนไม่เยอะแต่กูเจอเหมือนกัน ทีสองทียังพอว่าว่ะแต่นี่ลูกเล่นแบบนั้นมาทุกทีเลยเท่าที่กูย้อน ก็เลยยังไงๆอยู่เหมือนกัน คือจะใช้ว่าบังเอิญได้นี่มันต้องทีสองทีสำหรับกู พอมันรัวเลยเริ่มเหวอ แถมตอนแรกกูก็คิดว่ามู้ร้างเพราะคนคงหมดเรื่องคุย แต่อ่านย้อนไปหน่อยคือมันไม่มีคนเปิดประเด็นคุยมากกว่า 55555 จะว่าไปก็เหมือนหลังๆเม้นจะแนวๆเดียวกันไม่มีอะไรใหม่เท่าไหร่จริงๆเลยคิดว่าคงเหลือคนอยู่กลุ่มนึงที่เล่นเรื่อยๆตลอด อยากให้คึกคักกว่านี้ก็ต้องรอคนอ่านท่านเรย์กะใหม่ๆค้นพบแล้วเข้ามู้มาร่วมหวีดกันแทนมั้งนะ
มู้วิ่งฉิวๆมันไม่เฉพาะช่วงแรกนะมึง กูเห็นมันฉิวยาวจรเริ่มมีดราม่าอะแหละที่หาย กับเน็ตดีแทคโดนแบนนี่กูเห็นช่วงที่คนบ่นกันว่าอยากเม้นแต่เม้นไม่ได้เพราะโดนแบน ก็เป็นช่วงทู้วิ่งฉิวเหมือนกันว่ะ คิดว่าเงียบคงไม่ใช่พวกสาเหตุนี้อะนะ
บรรยากาศกระทู้ร้างและอึมครึมจริง กูก็รู้สึก แต่ยังไงถึงมันจะเหมือนคำร้องขอที่ไม่สามารถทำอะไรได้ก็ตาม แต่กูก็ยังอยากให้เราอยู่ต่อกันไปเรื่อยๆ กูผูกพันกับพวกมึงมากๆๆๆๆ และคิดว่าพวกมึงคือเพื่อน ดังนั้น ถึงมันจะเป็นไปไม่ได้ก็ขอให้กูได้พูดเถอะ ไม่ว่าต่อไปนี้กระทู้จะวิ่งช้ามากถึงขนาดสามเดือนครั้ง กูก็ยังจะเข้ามาแต่ไม่บ่อยเพราะติดหลายๆอย่าง หรือกระทู้จะปิดไปเลย ไม่มีคนต่อ กูก็เสียใจอะ เริ่มวกวนละความรู้สึกกู มึงอ่านจะงงๆ กูก็งง เอาเป็นว่ารักนะ!
พวกมึงรู้ใช่ไหมว่าโม่งไม่ใช่กรุ๊ปแชท ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมาตอบเม้น ยกมือเช็คชื่อกันตลอดเวลา เพราะฉะนั้นจะหายไปก็ไปเถอะว่ะ มีประเด็นเมื่อไหร่ค่อยเข้ามาถกกันก็ได้
มันก็ไม่ใช่อยู่แล้วแหละมึง แค่ว่าจะที่ไหนสังคมอะไรก็ตามพอคนหายไปนี่บางทีมันก็ต้องมองว่ามีอะไรเกิดขึ้น มีปัญหาอะไรรึเปล่า กูเข้าใจว่าคนปกติทั่วไปจะแคร์อยู่บ้างที่คนหาย อย่างน้อยคือปริมาณความเห็นความหลากหลาย แนวคิดมุมมองอะไรใหม่ๆมันหาย ส่วนในกรณีมึงไม่แคร์ก็ไม่แปลก มันแค่ทำเอากูเริ่มคิดถึงเม้นบนๆที่ว่าอยากให้ทั้งทู้เหลือแต่พวกเดียวกัน คนกลุ่มเดียว แม่งอ่านมาตอนแรกกูเข้าใจว่าเป็นฟีลลิ่งคนกำลังขึ้น อ่านมาตอนนี้กูกระจ่างละว่าสรุปมีจริงว่ะ การที่มู้ร้างจริงๆคงไม่ใช่ปัญหาเพราเสำหรับบางคนคือโอเคอยู่แล้ว ไปถึงนี่คือเป้าหมายอยู่แล้วไรงี้ป่ะวะ บอร์ดกลุ่มปิดสินะที่ต้องการจริงๆ
อีกอย่างมันไม่เรื่องมีหรือไม่มีประเด็น ที่ไหนมีคนและคนมันจะคุยมันก็เปิดประเด็นได้เรื่อยๆแหละ ผ่านมาเป็นสิบทู้ประเด็นคุยก็มาเรื่อยๆ พอมันเงียบไม่ใช่ไม่มีเรื่องคุยแต่กูว่ามันคือไม่มีคนจะคุย หายไง
สรุปคือกูก็อยู่ผิดที่เองเหมือนกันสินะ พวกที่ไปแล้วคือรู้ตัวเร็วกัน กูคือพวกรู้สึกช้าเองป่าววะ แม่งรู้สึกมันเริ่มไม่ใช่
เอิ่ม กูไม่ได้ว่าใครนะ แต่พูดไปก็คงเหมือนว่าแหงๆ คือกูรู้สึกว่าที่มาเปิดประเด็นย้ำๆ บอร์ดร้างคนหายแบบนี้แม่งจะยิ่งกลับทำให้คนที่มาอ่านรู้สึกไม่ดีป่ะวะ อย่างน้อยก็กูคนนึงล่ะ กลายเป็นว่าไอ้พวกที่ยังอยู่เหมือนไปข่มเหงใครเขาซะฉิบ ถึงกูจะมั่นใจว่าไม่เคยไปตีเรือใครเลยนะเว้ย ออกจะรักและเอ็นดูเหมือนญาติผู้ใหญ่ เอาเป็นว่ากูคิดว่านี่คือไดนามิคบอร์ดอิสระแบบนึง มีช่วงขึ้นและช่วงลง ถ้าขึ้นแบบพีคๆ ไปแล้วจะมีขาลงก็ไม่แปลก ส่วนตัวกูว่าคนไม่ได้หายไปไหน แค่ตอบน้อยลง รีเฟรชน้อยลงเฉยๆ เพราะมันไม่มีที่อื่นให้ไป นอกจากช่องคอมเมนต์ในแมวดุ้น 5555555
ปล. บอร์ดท่านเรย์กะของ 2ch ที่ญี่ปุ่นก็ตีกันจนพังไปรอบเหมือนกันนะ ถ้าบอร์ดไทยจะซ้ำวงจรกูก็จะไม่แปลกใจเหมือนกัน เรียกว่าเป็นอานุภาพท่านเรย์กะ ที่แทบไม่มีเรื่องรักๆ ในชีิวิต แต่ทำให้กองเรือเปิดสงครามกันเองได้ ถถถถถถถถถ
>>540 กูเข้าใจว่าที่เปิดประเด็นเพราะให้เห็นปัญหาและปรับแก้กันนะ อย่างบนๆก็มีบอกหลายเม้นว่าอยากให้ปรับ ไม่อยากให้เกิดซ้ำรอย แต่พอไปๆมาๆมันไม่มีคนออกมาเฮ้ยเราอบากปรับเลย แถมมีแบบเออมันไม่เห็นมีอะไรเกิดขึ้น คิดมากป่าว ซึ่งกูว่าปัญหามันเห็นอยู่ทนโท่ว่ะ พอมีคนทำเบลอกับคนบอกจะไปก็ไปเถอะ กูก็เลยรุ้สึกเหมือนกันว่าไม่ได้จะพยายามแก้กันอยุ่ละ แสดงว่ามันไม่ใช่ปัญหาป่ะ ไม่ได้มองว่ามันกระทบหรือมีผลเสียอยู่แล้ว แสดงว่าตอนนี้โอเคแล้วอ่ะดิ กูก็เลยรุ้สึกเหมือนกันว่าอ้าว สรุปคือมึงจะคัดคนกันสินะ
>>540 ตรงไดนามิคขาขึ้นขาลงสำหรับกูก็ไม่เชิงว่ะมึง ถ้ามันขึ้นลงด้วยปัจจัยภายนอกอะกูรู้สึกปกติ เช่นแต่ไหนแต่ไรมาก็วันธรรมดาเม้นวิ่งฉิว วันหยุดจะเงียบ ยิ่งหยุดยาวยิ่งเงียบโดยไม่มีเรื่องในบอร์ด อันนี้กูว่าคือช่วงขึ้นลงตามปกติของมัน แต่ตอนนี้มันหายกันแบบมีเหตุในทู้ก่อนและคนหายตาม มีเหตุและคนหาย เกิดซ้ำกันและหายไปกันหลังมีเรื่องตลอด คือมันไม่ใช่ไดนามิคว่ะ มันคือมีปัญหาในบอร์ดละ มีเรื่องเกิดขึ้น สำหรับกูนะ
>>541 >>542 กูเป็นพวกที่หลั่นล้าผ่านมาโดยไม่ได้รู้ตัวว่ามันมีคลื่นใต้น้ำกันอยู่อ่ะนะ เหมือนบนๆ คือ อ้าว มีพายุพัดผ่านไปเหรอวะ งง โดยรวมๆ กูว่าโม่งในกระทู้นี้นิสัยดีกันโดยพื้นฐานอยู่ล่ะ เห็นจากเวลามีโทรลล์หรือมีอื่นๆ มากวนก็ตอบกันแบบสุภาพตลอด กูเลยคิดว่าไม่น่าจะมีใครจงใจเบียดเรือใครโดยตรง ทีนี้เลยจะถามต่อว่า ถ้าคิดว่ามีปัญหา อยากให้แก้ยังไงล่ะ อันนี้ถามจริงๆ แบบไม่ได้ประชด เพราะกูไม่ได้มองว่าการมีบอร์ดปิดเหลือคนกลุ่มเดียวเป็นเรื่องดีกับใครนิ ถ้ากระทู้วิ่งๆ มีอะไรให้อ่านเยอะๆ เหมือนเมื่อก่อนก็ดีอยู่แล้ว แต่เมื่อมันบังคับใจกันไม่ได้จะให้ทำยังไงล่ะหว่า
>>543 เอาจริงๆกูว่าแก้ยาก เพราะเริ่มเลยคือประเด็นคาบุมีเปิดอกไปทีก็ดูพยายามแก้แล้วนะ สุดท้ายหลังๆมายันจนปัจจุบันถามว่าต่างไปจากก่อนเปิดอกก็ไม่วะ หรืออื่นๆตามที่ >>471 เล่ามาซึ่งกูเองย้อนไปอ่านก็เจอ จริงตามนั้น มีเกิดขึ้นทุกอย่าง ซึ่งคือทำมาขนาดนี้และนานขนาดนี้จะมาแก้ก็ยากว่ะ เอาจริงตั้งแต่แรกว่าทำไปทำไมถ้าอยากอยู่ร่วมกันดีๆคงไม่มีแต่แรก ถ้ามันมีคือก็ไม่ได้อยากอยู่ด้วยกันในความต่างอยู่แล้วป่ะ ถ้าจะแก้ปัญหาในความคิดกูคงทำได้แค่อย่างเดียวคือตามที่เค้าเล่ามาทุกอย่างเลยอะ อย่าทำอีก มันก็ได้แค่นี้
>>544 อันนี้กูเห็นด้วยกับมึง แก้ยากโดยเฉพาะกับคนเก่าๆที่เจอประเด็นนี้แล้วหนีออกไปกันคงน้อยมากและยากมากที่จะกลับมาให้ได้แก้ปัญหาด้วยกันอีก แถมเรื่องมันมีมานานจริงๆว่ะ ถ้าโอเคกับความต่างแต่แรกคงไม่มีป่ะ มีมานานและมีมาเรื่อยๆ และถ้าไม่มีคนมาเล่าก็คงยังมีต่อไป หรือเผลอๆมีมา้ล่าแล้วก็ยังอาจจะมีต่อไปด้วยซ้ำ กูก็ไม่รู้ว่ะ
แต่นอกจากเหตุการณ์ทั้งหมดที่เคยทำกันมานี่ขอให้อย่าทำอีก กูก็นึกไม่ออกละเหมือนกัน
เสริมเพิ่มว่าใครที่ยังรู้สึกงงๆกับเหตุการณ์หรือคิดว่ามันคือคิดมากพวกที่หายนี่เซ้นซิทีฟกันไปเอง คือมันแบบโหคนเราช่างเซ้นซิทีฟกันพร้อมเพรียงเป็นหมู่คณะอะไรขนาดนั้นวะ
กูคงพูดได้แค่มึงลองย้อนไปอ่านดู มึงย้อนรึยัง ไม่เห็นอะไรเลยจริงเหรอ แค่นั้นแหละ คือถ้าย้อนไปอ่านนี่กูว่าไม่น่ามีใครงงหรือตามไม่ทันแล้วนะ มีความชัดอยู่เหมือนกัน ยิ่งคนชี้พิกัดไทม์ไลน์เหตุการณ์ที่เกิดเรื่องขึ้นมาให้แล้วนี่ย้อนไปดูคือแบบชัดมากมึง
>>543 ตอบเรื่องที่มึงถาม สำหรับตัวกูเองกูว่าแก้ไม่ได้ คนโอเคกับแนวนี้ก็อยู่ไป คนไม่โอเคก็คือหายไปและกูว่าคงไม่กลับมากัน มันคือปัญหาที่ฝังในทัศนคติด้วยซ้ำจะแก้ไงวะ ไปผ่าหัวพวกคนที่ทำออกมาเขียนโปรแกรมใหม่รึไง ก็อยู่กันไปแบบนี้แต่รับรู้ว่าปัญหาอะมันมี และสังรมในนี้ไม่ได้สวยฟรุ้งฟริ้งแบบที่มีงคิดภาพก็แค่นั้น
พวกที่รับมือกับโทรลกับพวกที่ทำเรื่องนี้อาจจะคนละคนกันก็ได้นี่นา กูคิดว่าคนในกระทู้นี้เป็นเพื่อนกันมาตลอด ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะมีเรื่องแบบนี้ในกระทู้ เหมือนกูไม่ระแวงสงสัยหรืออะไรด้วยมั้ง แบบว่าไว้ใจเลยไม่ได้สังเกต
พอมีคนรู้ตัวเยอะก็คงทำยากขึ้นแล้วแหละ ถ้ามีคนช่วยกันดูช่วยกันขัดขวางก็น่าจะดีขึ้น กูเป็นหนึ่งในคนที่เคยโดนมาคุใส่แต่แบบเบาๆไม่เท่าพวกเรือคาบุ แต่กูดันโง่ไม่รู้เรื่อง คิดแค่ว่าดูมาคุแปลกๆแล้วไม่ได้สนใจ 55555
แต่พวกที่โดนหลายๆรอบคงไม่ชอบแหละ กูเข้าใจนะ เพราะหลังจากนั้นกูก็ไม่แตะประเด็นนั้นถ้าไม่จำเป็น ไม่มีใครชอบโดนมาคุใส่เวลาคุยกับคนอื่นหรอก
>>548 คิดเหมือนกันว่ะว่าคนทำกับคนรับมือโทรลอาจจาคนละกลุ่ม พวกคนคุยโทรลมีพวกที่ดูรอมชอมโอนอ่อนคุยอย่างสุภาพกับพวกดูใจเย็นคุยด้วยเหตุผล ซึ่งสองกลุ่มนี้ดูนิสัยไม่น่าใช่พวกก่อเรื่อง มันดูคนละสไตล์เหมือนกันอะ เพราะงั้นจะเหมารวมว่าสังคมดีจากคนกลุ่มนี้คงไม่ได้ว่ะกูว่า คนที่ทำสังคมแย่ก็มีอยู่และดูไปน่าจะคนละกลุ่มเงี้ย
เหวี่ยงใส่นี่กูก็เคยโดน กูไม่ค่อยรู้เรื่องพอกับมึงเลย เคยออกมาช่วยเถียงแทนพวกคนที่เปิดประเด็นมาถกด้วยว่าแบบในโพสเค้าไม่ได้ดูยัดเยียดคใามคิดและเพ้อขนาดนั้น ก็ดูพูดดีๆมีอะไรอ้างอิง มีหลักฐานในเนื้อเรื่องสนับสนุนเงี้ย และไม่ได้แบบแนวกูถูกกก มีงต้องเชื่อตามกู อะไรแบบนี้อะ พอตอนคนมาด่ากูเลยยังงงอยู่ว่าทำไปเผ็ดกันจริง เม้นพวกนั้นมันดูไม่มีอะไรเลยแท้ๆ คือกูทึ่มเองเลยอ่านไม่เจอว่ามีประเด็นอะไรทำให้โดนด่า ถถถถถ
เอ้อ จะว่ากูซื่อบื้อหรืออะไรก็ตามเถอะ กูไม่รู้สึกจริงๆ นะไอ้ที่มึงว่ามา ไม่ใช่แกล้งปล่อยเบลอด้วย กูว่ากูก็อยู่มานานแล้วนะตั้งแต่มู้ต้นๆ อ่านก็ครบหมดทุกเม็ดยกเว้นสปอยล์ ผ่านร้อนผ่านหนาวมาทุกอีเว้นท์ละ แต่กูไม่ยักกะรู้สึกว่าใครจงใจทำอะไรใครแบบที่ว่ามาเลยแฮะ ซึ่งถ้ามันมีจริงการที่กูเบลอๆ แบบนี้กูก็เลยมีความสุขดีอยู่ละมั้ง
แต่กูก็จำได้ทุกเหตุการณ์นะเออ
พอจบแต่ละอีเวนท์กูก็ปฏิบัติตามข้อสรุปของอีเวนท์นั้นๆ นะ จะว่ากูซื่อบื้อหรือประสาทด้านเกินไปก็เอาเหอะ แต่กูก็แฮบปี้กับที่นี่ดีอยู่ ด้วยความที่เป็นคนไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรของกูแหละมั้ง ก็ขอโทษที่ช่วยอะไรไม่ได้นะ ได้แต่แชร์มุมมองเฉยๆ ยังไงก็เป็นกำลังใจให้คนที่ยังไม่สบายใจนะ ขอให้หาทางออกที่สบายใจได้ไวๆ
ที่ไม่สบายใจอยู่นี่กันคงส่วนน้อยว่ะมึง เพราะส่วนใหญ่กูว่าคงเลิกไปหมดละ ไม่แน่ว่าอีกไม่นานที่ยังบ่นกันอยู่นี่ก็คงเงียบไปเหมือนกันกับพวกที่เงียบไปก่อนหน้านี้
กูเป็นคนนึงที่อ่านมาตั้งแต่มู้แรกและอ่านตลอด สปอยล์กูก็อ่าน คือกูอ่านหมดจริงๆก็ไม่เจออะไร แต่พอคนบอกแล้วย้อนไปดูก็เจอตามแบบไม่อุปาทานด้วยนะ มันแค่เป็นข้อสังเกตว่าพอเกิด A จะมี B ตามมาทันที อ่านรวมๆไม่เคยเห็นแต่พอแยกมองกูเห็นทันที พอ A>B ตลอดเวลากูก็เริ่มอื้มมมมมเหมือนกัน ไม่ใช่ไม่กี่ทีแต่แม่งทุกทีเลยนี่หว่า ก็เซ็งกันไป แต่พักหลังกูไม่ค่อยเข้าอยู่แล้วหลังมีดราม่า ทั้งงานยุ่งและรู้สึกเนือยๆ พอเจองี้คือเนือยหนักกว่าเดิม
ก็คิดว่าทนกับบรรยากาศแบบนี้ไปกันไม่นานหรอก คงไม่ต้องอึดอัดอึมครึมนานเพราะอีกซักพักคงหายหมดแล้วจริงๆ
เปิดทู้มาบรรทัดแรกๆมันขึ้นว่า รักใคร อวยใคร ชอบใคร อยากให้ใครเข้าวิน เชิญได้ที่กระทู้นี้ แล้วพอมาเทียบกับเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นนี่คือกรอกตามองบนแล้วยิ้มอ่อน เปิดมาแค่บรรทัดแรกก็พลาดแล้วจ้า ไม่ใช่ตั้งแต่เริ่ม
ทำไมถึงกลายเป็นอย่างนี้ได้น้อ กูพิมแบบนี้ทั้งๆที่รู้แก่ใจว่าอะไรเป็นอะไร ยังไงก็อยากยื้อไว้ให้นานที่สุด มึงรู้ใช่ไหม ไม่ว่าเราจะปรับแก้อะไร หรือจะปล่อยผ่านไปก็บอกกัน ให้ทู้ท่านเรย์กะอยู่ไปนานๆในฐานะคนที่อยู่มาแต่ต้น สุดท้ายคนจะออกจะเข้ากูก็ยังอยู่จนมันไม่มีใครคุยกับกูแล้วนั่นแหละ
กูพยายามย้อนไปอ่าน แต่ก็ผ่านๆ กูก็คนตั้งแต่ทู้แรกๆนะ แต่กูยังเด็ก ก็ไม่ได้คิดอะไรผู้ใหญ่มาก กูเข้าใจว่า ที่หวีดๆกันไปก็ตอนโมเม้นนั้นๆ อันที่จริงเรื่องฉายาเรียกๆกัน กูไม่มีปัญหาอะไร แต่กูดันโง่ไม่รู้ว่าเขามีดราม่ากัน หลังๆแต่ละคนเริ่มอวยแรงขึ้น กูเลยอืดๆ แต่ก่อนกูแซะทุกคนที่ออกมาอ่ะ หลังๆกูอ่านเฉยๆ ผ่านๆว่ะ อันที่จริงกูว่าการเข้ามู้ต้องทำใจยอมรับอ่ะว่าต่างคนต่างอวย คือคนอวยคาบุก็มี เอ็นโจก็มี เอสบ้าง ประธาน โชตะ บลาๆ มาเม้นในนี้ก็เพื่อหาที่เพ้อระบายอะไรแบบนั้น คือในใจทุกคนคาแรคเตอร์ที่ตัวเองมองมันไม่เหมือนกันร้อยเปอร์หรอก อย่าดราม่ากันเลย เหล่าโม่ง กลับมาแซะทุกคนกันเถอะ แต่หลังๆที่ไม่มีการแซะกูว่าเพราะไม่มีอะไรให้แซะด้วยล่ะ จะแซะว่าท่านเรย์กะอ้วน หรืออะไรแบบนี้มันก็เดิมๆด้วย อีกอย่างบางทีเรือติดอาวุธมา อาจมีคนแบบกูคืออ่านเฉยๆ ไม่ตอบอะไร ไม่ขวาง พาเมนตัวเองมาค่อยออกมาแสดงตนไรงี้ เอาจริงๆถึงเราจะเถียงกันไปก็เท่านั้น ตราบใดที่ดิบไม่จบเถียงไปก็เท่านั้น ศัตรูที่แท้จริงคือภูเขาน้ำแข็งคานโน้น ที่มีท่านพี่นั่งบนบัลลังก์ยกพระบาทกระดิกน้อยๆ กร๊าวใจ
ไม่รู้ว่าคนอื่นเป็นยังไงกันนะ เเต่สำหรับกูคือช่วงนี้เข้ามาทีไรกูเจอดราม่าตลอดเลยอ่ะ เลยไม่ค่อยอยากเข้ามาดูเท่าไหร่ (เเต่กูก็เช็คกระทู้วันเว้นวันนะ) คือกูไม่ค่อยถูกกับเรื่องเครียดๆ เท่าไหร่ สำหรับกูที่นี่คือที่ที่เข้ามาเเล้วสบายใจดี มีคนหวีด มีถกวิชาการ กูชอบอ่านเม้นที่พวกมึงคุยกันอ่ะ บางทีก็รอโม่งฟิคบ้างไรบ้าง
เเต่หลังๆ มานี้โม่งฟิคหายไปกันหมดเลย ไม่มีคนเปิดประเด็นคุย กระทู้ก็เงียบ กูก็คิดถึงกระทู้ช่วงเเรกๆ เหมือนกัน คือกูชอบที่นี่มาก ตอนกูเข้ามากูไม่รู้สึกเหมือนเป็นเว็บโม่งเลย เหมือนมาคุยสนุกๆ กับเพื่อนมากกว่า
คือกุก็คงอยู่จนมู้มันไม่มีคนเข้าเเล้วเหมือนกันเเหละ อยู่มานานเปิดมู้จนชินเเล้ว อ่านที่พวกมึงคุยเเล้วกูรู้สึกว่าเออเนอะ คนหายไปเยอะมากจริงๆ... เพราะเรื่องอะไรก็เเล้วเเต่เถอะ ถึงอยากให้ทุกอย่างมันกลับมาดีเหมือนเดิมเเต่ก็คงรั้งคนที่เค้าเดินจากไปไม่ได้เเหละ ก็เข้าใจ
กูเเค่อธิบายความรู้สึกกูเฉยๆ นะ ไม่อยากมีปัญหาอะไรกับใคร ถ้ามันไปกระทบอะไรก็ขอโทษด้วย (กูเห็นเม้นบนๆ มีปัญหากันเเล้วกุกลัวคนเข้าใจผิด เลยเขียนไว้ก่อนนะ)
>>554 กูอยากยื้อเหมือนกัน ยื้อทั้งที่มองไปก็รู้แหละว่าเกิดอะไรขึ้น คือกูยังเชื่อมั่นในคนไทยขี้ลืม ถถถถ พยายามไม่เครียดอะนะ แต่ถึงระยะเวลานึงความเซ็งคนหายไป กูเชื่อว่าต่อให้คนที่หายไปจากโม่งก็คงยังอ่านท่านเรย์กะอยู่ดี มันไม่ได้เกี่ยวกันเลย พอถึงจุดนึงที่ความละเหี่ยมันเริ่มซา ความจี๊ดที่อยู่กูโดนด่าเฉ๊ยมันเริ่มหายไป คิดว่าคงมีเริ่มกลับกันมาได้บ้าง ตอนนี้เรื่องยังใหม่ คนโดนด่าก็โดนไปยังไม่นาน คนเพิ่งรุ้ก็ยิ่งสถานการณ์สดใหม่เข้าไปใหญ่ ยังเชื่อว่าถ้าอยู่กันได้ต่อไปอาจจาแผ่วเนือยๆทู้แล่นอืดเอื่อยไปพักนึง แต่จุดที่โอเคและคนแบบ เออช่างมันเถอะ และกลับมา กูว่าโอกาสยังมี คิดถึงวันวานอันหวานชื่นของเราสิ ;A;
>>554 ไม่ต้องห่วง กูคนนึงที่จะอยู่กับมึงไปจนกว่าจะท่านเรย์กะจะออกเรือน หรือไม่ก็จนกว่าโม่งจะล่ม พักนี้แม่งเห็นเข้า medutation บ่อย กูละหวาดเสียว เอาเป็นว่าใครยังอยู่ก็ช่วยกันรักษาบรรยากาศของกระทู้ด้วยนะจุ๊ ชีวิตท่านเรย์กะยังหลั่นล้าบันเทิง อย่าอมทุกข์อมโศกกันเล้ย
Ky หน่อยนะ แปลตอนใหม่ทำไมท่านเรย์กะเท่จังงง เหยียบขยี้แล้วเตะให้กระเด็นนน -//\\-
กูชอบตอนท่านเรย์กะพูดถึงทานุกินะ จากตอนแรกๆที่ระแวงทานุกิมาตลอดมาถึงขั้นพูดจาแบบนี้ให้คนอื่นฟังนี้รู้สึกซาบซึ้งจริงๆ ถ้าท่านพ่อมาได้ยินนี่ตัวลอยแน่นวล 55555
แต่กูก็แปลกใจอยู่นะที่ท่านฟุยุโกะสังเกตด้วยว่าท่านเรย์กะรู้สึกเหนื่อยเวลาอยู่กับคาบุกับเอ็นโจ ปกติมีเด็กซุยรันแต่คนจิ้นแม้แต่คนใกล้ตัวท่านเรย์กะเองก็เถอะ ไม่มีใครสังเกตเรื่องแนวๆนี้มาก่อนเลย
แต่กูดันคิดว่าท่านฟุยุโกะอาจมองท่านเรย์กะผ่านฟิลเตอร์ฮีลเลอร์ก็ได้ว่ะ คือจริงๆ อาจไม่ได้ดูออกอะไรหรอก แต่เพ้อไปเองเลยถึงกะชักชวนมาเข้าลัทธิ ถถถถ แต่ตอนท่านเรย์กะบอกว่าโดนทานุกิสาป กับเป็นลูกทานุกินี่ก็น่ารักจริงๆ นะ อรั๊ย
คือตอนนี้นางฟาเธอร์ค่อนชัดอ่ะ เลยน่ารัก ><
แต่รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีเล็กน้อยตอนนางบอกเตรียมใจจะอยู่กับวิญญานทานุกิไปชั่วชีวิตนี่แหละ ไม่ใช่ว่าสุดท้ายแล้วคนเข้าวินคือ...ท่านพ่อ... เกลียดอะไรได้อย่างนั้นจริงๆ
Ky ตอนคาบุต่อกลอนกับเรย์กะ อย่างฮา อะไรของมันเนี่ย555555 หล่อระทม หล่อเสียของ มาหมด
ป.ล. ขอบคุณโม่งแปลที่แปลให้อ่านและอ้างอิงยังแน่นเหมือนเดิม กุรักมึงงง
อะๆ สาระ(?)วันหยุด
ขึ้น ม.6 กันแล้ว เลยมาอัพเดทอีกที (จาก >>>/webnovel/3805/30)
________________________
ท่านเรย์กะกับเพื่อนร่วมห้อง (เนื่องจากส่วนมากไม่มีระบุว่าอยู่ห้องเลขอะไรบ้าง ขอแทนค่าเป็น X Y Z)
ประถมซุยรันมีห้องเรียน 4 ห้อง เปลี่ยนห้องเรียนตอนขึ้น ป.3 และ ป.5
• ประถมชั้นปีที่ 1
ห้อง X : เรย์กะ, เซริกะ, คิคุโนะ
• ประถมชั้นปีที่ 3
ห้อง X : เรย์กะ, เซริกะ, คิคุโนะ
ห้อง Y : เอ็นโจ, อาคิสะวะ
• ประถมชั้นปีที่ 5
ห้อง X : เรย์กะ, เซริกะ, หัวหน้าห้อง, มิฮารุ
ห้อง 3 : คาบุรากิ, คิคุโนะ
________________________________________________
มัธยมต้น มีนักเรียนใหม่เพิ่มเข้ามา 3 ส่วน (~200คน) ไม่มีบอกจำนวนห้อง, เปลี่ยนห้องเรียนทุกปี
• มัธยมชั้นปีที่ 1
ห้อง X : เรย์กะ, หัวหน้าห้อง
ห้อง Y : เอ็นโจ, มิฮารุ, เณรน้อย
ห้อง Z : โมชิดะ, ซึรุฮานะ, อายาเมะ
• มัธยมชั้นปีที่ 2
ห้อง X : เรย์กะ, เอ็นโจ
ห้อง Y: คาบุรากิ, หัวหน้าห้อง
• มัธยมชั้นปีที่ 3
ห้อง X : เรย์กะ, คาบุรากิ, เซริกะ, ซึรุฮานะ, เณรน้อย
ห้อง 5 : หัวหน้าห้อง
________________________________________________
มัธยมปลาย มีนักเรียนใหม่เพิ่มเข้ามาประมาณร้อยคน (~300คน)
• มัธยมชั้นปีที่ 4
ห้อง 1 : วาคาบะ
ห้อง X : เรย์กะ, ซาโตมิ, อิโคมะ, ดิเท, อิวามุโระ
• มัธยมชั้นปีที่ 5
ห้อง X : เรย์กะ, หัวหน้าห้อง, รุเนะ, โนโนเซะ, ดิเท, ฟุยุโกะ
ห้อง Y : เอ็นโจ, วาคาบะ, ทากาคิ, หมายเลข 2 (กลุ่มซึรุฮานะ), สมาชิกกลุ่มซึรุฮานะอีกหนึ่ง
ห้อง Z : คาบุรากิ
ห้อง A : อิวามุโระ
ห้อง B : มิฮารุ
• มัธยมชั้นปีที่ 6
ห้อง X : เรย์กะ, เซริกะ, คิคุโนะ, ซาโตมิ, ทาคากิ
ห้อง Y : คาบุรากิ
ห้อง Z : เอ็นโจ
ห้อง A : มิซึซากิ
ห้อง B : หัวหน้าห้อง, มิฮารุ
(วาคาบะยังไม่รู้อยู่ห้องไหนกะใคร แต่กูขี้เกียจรอแล้ว ถถถถ)
ถ้าจะขอให้คุยกันเฉพาะส่วนที่เกี่ยวกับนิยายได้ป่าวนิ. เรื่องดราม่าแบบทำไมคนหายไรงี้บางทีมันก็น่าเบื่อนะ. ลากยาวๆกว่าจะพ้น
อ้อ ม.5 กูลืมเติมอีกห้องนึง
ห้อง C : มิซึซากิ, ชายที่ตามตื้ออาโออิจนเรย์กะจัดการ
Ky หน่อย เห็นแปลไทยมาเรื่องความเชื่อ ต่อไปจะมีใครหลอกพานางไปดูลายมือหรือไพ่ยิปซีไหมเนี่ย 555
ว่าแต่ แอบกลับเข้าประเด็นเอ็นโจได้มั้ยเนี่ย กูแอบขัดใจฮีอีกแล้วนะ ที่ว่าฝากมาซายะด้วยนะตอนท้ายนี่คือไร จงใจชงเพื่อนอีกละป่ะเนี่ย ทำแบบนี้กูไม่เคลียร์นะจอมมาร
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ :ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับวิญญาณแค้นทานุกิที่สิงอยู่ข้างหลังน่ะ จะจัดการให้หมดเลย [ทาร์ตถาดที่ 16] //ชื่อห้องก็มา ปล่อยผ่านได้เลยนะเออ 555555
เอ็นโจชอบเรยกะจริงๆรึเปล่านะ. รึเราแค่กาวกันไปเอง
จะว่าไปตอนล่าสุด ท่านเรย์กะสั่งเค้กสามชิ้นกะน้ำชา กินเสร็จก็เชิดไปเลยใช่มั้ย... มีคนชักดาบค่าาา
นึกขึ้นมาได้ว่ากระทู้แรกของเรื่องนี้มันตั้งวันคริสต์มาส เชี่ย นี่เดือนหกแล้ว นี่เราอยู่กันมาครึ่งปีแล้วนะคะคุณขาาา
ปกติกูคลั่งไคล้อะไรได้ไม่เกิน 2เดือนก็เบื่อละ อันนี่ยาวนานมาก ถถถถ แต่พักหลังก็ไม่ค่อยได้เข้ามาบ้าง ยอมรับว่าส่วนหนึ่งเพราะมาก็เจอแต่ดราม่า
และอีกส่วนคือกูก็ไปเถลไถล ติดนิยายเรื่องอื่นแทนงี้ว่ะ 55555555
ช่วงหลังๆกูงานยุ่ง ไม่ค่อยเข้ามาเท่าไหร่ แต่เข้ามาทีก็เจอแต่ดราม่าจนกูเบื่อ มันทำให้กูเครียดพาลไม่อยากเข้ากระทู้เลย ว่าจะลงฟิคก็ไม่ค่อยมีเวลา แถมบางทีเห็นคุยกันติดพันก็เลยไม่อยากขัดจังหวะ ข้างบนๆเลื่อนอ่านผ่านๆเห็นมีประเด็นลงฟิคเพื่อเบี่ยงหัวข้ออะไรอีก ตอนนี้กูก็ไม่รู้จะทำยังไง เลยตัดสินใจไม่ลงแม่งละ แถมตอนนี้ก็เริ่มเบื่อๆเหนื่อยๆที่จะตาม เอาไว้มันมีตอนพีคๆไคลแมกซ์หรือมันจบกูค่อยมาอ่านก็คงยังไม่สายไป
ปล.กูคงไม่มีเวลาทำสารบัญต่ออีกแล้ว ขอโทษโม่งสารบัญที่กูรับมาแล้วรักษาสัญญาไม่ได้นะ
ใครจะทำต่อก็เชิญได้เลย กูทำจนถึงแปลไทยล่าสุดแล้วล่ะ
>>594 อือ เห็นเรื่องฟิคเบี่ยงเบนอยู่เหมือนกัน กูก็รู้สึกว่า มันไม่ใช่ง่ายๆเลยนะฟิคเนี่ย กว่าจะแต่งเสร็จ ;w;)!
อาจจะหมายถึงกูมั้ยนะ เพราะแต่งฟิคกูไม่เคยเซฟ พิมพ์เสร็จเมื่อไหร่กูก็ลงตอนนั้น ซึ่งก็มีไปขัดบทสนทนาเขาบ้าง kyอยู่บ่อยๆ
คือกระทู้มันก็คุยกันไปต่อเนื่องอยู่แล้วน่ะ ซึ่งกูก็ชักคิดว่าหรือมันต้องมีเม้นท์บอกว่าคุยจบแล้วนะ ลงฟิคได้เลย จะได้ไม่ไปแทรกเขาหรือไง....
>>596 โอ๋ๆ กูเป็นหนึ่งในโม่งฟิคที่หายกลางทางเหมือนกัน คือไม่ได้งอนหรือไรนะ คือกูตันกลางทาง ไปต่อไม่ถูก ถถถภถถ ในฐานะคนที่เคยปั่น กูก็รู้สึกว่าโม่ฟิคนี่กินเวลาและสมาธิชิบหาย กูถึงนับถือโม่งฟิคทุกคนเลยนะ ฮือออออ อยากบอกว่าลงก็ลงมาเถ้อ กาวยิ่งขาดแคลนอยู่ อีกอย่างโม่งไม่ใช่ห้องแชท แม้เวลาจะโคตรคุยแบบเรียลไทม์ ฟิคนี่เก็บไว้อ่านทีหลังได้นาจา ขอให้ทราบว่าสิ่งที่ท่านเขียนจะเผื่อไว้ให้คนรุ่นหลังอ่านตลอดไป
>>598 กูก็ว่าบอร์ดมันไม่ใช่ห้องแชท ยิ่งที่นี่จะไปลากเอาประเด็นในกระทู้แรกโยงมาคุยก็ยังได้ ถ้าจะคุยกัน
อ่านดราม่าย้อนแล้วกูก็ระแวงไปหมดว่าหมายถึงกูรึเปล่านะ เพราะกูkyบ่อยมาก 1คือกระทู้มันชักอืดๆ กูก็หาประเด็นอื่นมาชวนคุย 2คือกูความจำสั้น บางทีนึกอะไรได้ก็เม้นท์เปิดประเด็นเลย ไม่งั้นเดี๋ยวกูลืม ก็ไปแทรกอยู่บ่อยๆ... ;_:"
>>594 อ๊ะ มีคนรู้ทักอีกว่ากูชอบkyลงฟิคขัดกลางวงดราม่า 55555
ก็กูไม่ชอบเห็นคนทะเลาะกันอะ กูชอบบรรยากาศครื้นเครง เห็นดราม่าแล้วอดไม่ได้kyแม่งเลย!!
ปล.1กูเป็นโม่งที่มางอแงเรื่องฝึกงานเมื่อวันนู้นนะ ตอนนี้เริ่มจัดเวลาชีวิตได้แล้ว น่าจะมีเลาแต่งฟิดคนเขียนkimidolceต่อ แต่เนื้อหาอาจรวบรัดตัดจบเลยเพราะกูงอกโปรเจ็คต์นิยายสั้นเรื่องใหม่มาอีกละ ฮ่วย
ปล.2ipกูกลับมาโดนแบนอีกแล้วว่ะ
>>599 กอดๆ นะ มึงไม่ต้องซีเรียสมากหรอก กูก็เป็น ประเภทชอบโยนประเด็นใหม่ลงไปกลางวงสนทนา บางทีก็แป้กบ้างอะไรบ้าง บางทีก็มีคนรับลูกต่อ มันก็ไปได้เรื่อยๆ นะ บางทีช่วงนี้กูยุ่งๆ พอมารีเฟรชบอร์ดเจอประเด็นที่อยากตามแล้วเขาคุยกันจบไปนานแล้วก็เสียดายเหมือนกัน แต่กูก็จะมานั่งเฝ้าบอร์ดเรื่อยๆ แหละ เพราะเรื่องนี้มันยังมีประเด็นที่อยากสครีมอีกเยอะ สำหรับกูนะ wwww
อุตส่าห์รอจนเทีายงเพื่อจะเข้ามาบอกสครีมดิบตอนใหม่
.
.
.
ในที่สุดเรย์กะก็เริ่มไดเอทกะคาบุรากิซะที แถมมีเอ็นโจพ่วงไปด้วย เป็นแก็งสามทหารเสือเช่นเคย แถมเหมือนจะเหมาฟิทเนทใช้ส่วนตัวดันสามคนอีก
.
.
.
จบการสครีม จริงๆมันมีเรื่องมากกว่สนี้แต่อ่านไม่ค่อยออก ปล่อยผ่านไป 5555
ช่วงนี้โดนเคมีคู่คาบุรากิเรย์กะอัดใส่จนจากที่นอนพาดทุกเรือจะกลายเป็นขนย้ายไปอยู่เรือนั้นเต็มตัวละ ถึงคาบุจะดูตั้งน่าตั้งตาจีบวาคาบะก็เถอะ แต่ดูไม่น่าจะมีแนวโน้มว่าจีบติดเลย เว้นว่าจะมีเหตุการณ์อะไรที่มันชวนปักธงมากกว่านี้ ไม่แน่คาบุอาจจะอกหักแล้วย้ายมาเป็นรองผู้ใหญ่หมู่บ้านคานแทนอาริมะผู้ไร้บทก็ได้นะ
>>602 แต๊งกิ้ววววว ไปอ่านมาล่ะ สปอยล์เพิ่มเติม
.
.
.
.
วันๆ ของสาวๆ ของท่านเรย์กะมาตั้งหลายตอน เปลี่ยนมาเป็นวันๆ กับหนุ่มๆ บ้างซักที ตอนต้นๆ ทานุกิควงลูกสาวไปอวดใครต่อใครใหญ่เลย น่ารักโว้ย
ตอนนี้คาบุมันมีพัฒนาการแล้วด้วยนะ มันรู้จักซื้อของน่ารักๆ มาฝากท่านเรย์กะ นางถึงกับตะลึง จะว่าไปนี่ก็เป็นเรื่องแนว Growin up ได้นะเนี่ย ตัวละครมีการเปลี่ยนแปลงหมดเลย ยกเว้นจอมมารอ่อนหัดที่ไม่รู้คิดอะไรไว้คน....
.
.
.
พวกมึงว่ากี่ปีเรื่องนี้จะจบวะ
>>609 กูว่ารวมเล่มคงไม่แก้หรอก อ.แกดูอินดี้จะตาย สนพ.น่าจะต้องง้อเพราะเรื่องนี้ก็อันดับสูงอยู่ ชาวบ้านชาวช่องที่ติด top เขาก็รวมเล่มทำมังงะ ทำอนิเมะกันไปหมดแล้ว เหลือเรื่องนี้ล่ะที่ยัง
>>608 มีหลายฉากที่กูอยากเห็นนะ แต่กูเชื่อว่าอ.ฮิโยโกะหักหลังกูอีกแน่นวล แกรู้ว่าคนอ่านต้องการอะไรแกเลยไม่ให้ โทรลชิบหาย
ขอ ky ถามหน่อยดิ คือกูเห็นคนกรี๊ดๆท่านเรย์กะในทวิตแบบที่ท่าทางกูกับเขาจะคลิกกันได้ กูก็อยากเข้าไปเม้าด้วยว่ะ แต่กูจะทักไปยังไงดีไม่ให้เขาตกใจ ถ้าเป็นพวกมึงมีใครไม่รู้จักทักมาจะกลัวกันป่ะวะ กูไม่ได้มีเจตนาร้ายนะ แค่อยากคุยด้วยเฉยๆอ่ะ เห็นเขาเม้าน่าสนุกดีเลยอยากลองเป็นเพื่อนด้วย
>>611 มึงกูเข้าไป สวัสดี เราอ่านเหมือนกัน ไรงี้ซิ กูว่าทวิตมันเป็นแหล่งพบปะของคนแปลกหน้าอยู่แล้วนะ ถถถถ
(พูดไปอย่างงั้น แต่เอาเข้าจริงกูก็ไม่กล้าเหมือนกัน 5555 ยิ่งไอ้ตอนตั้งกระทู้ใหม่ๆ แล้วมีคนพูดถึงกระทู้นี้ในทวิต โคตรอยากจะเข้าไป กูก็โม่งซุยรันเหมือนกัน! มาก 55555)
ในทวิตก็โม่งนั้นแหละน่า...
บางทีพวกมึงอาจจะเจอกูผ่านๆบ้าง555555 เพราะกูหวีดในทวิตก็มี ถ้าเป็นช่วงที่ดีแทกโดนแบนอาจจะบ่อยพิเศษแต่ไม่ค่อยติดแฮลแท็กเท้าไหร่
ขอบคุณพวกมึงมาก กูพยายามรวบรวมความกล้าไปทักหลังไมค์เขาอยู่ว่ะ คงเป็นโม่งคนใดคนหนึ่งนี่ล่ะ ช่วยอ่อนโยนกับกูด้วยนะ 5555555555555
กูก็ส่องในทวิตอยู่นะ ไม่เคยโพสรีอย่างเดียว ถ้าเป็นรูปกูก็กดเฟบ
เอ่อ เพิ่งนึกขึ้นได้ จะมีคนคิดว่ากูเบี่ยงประเด็นสนทนามั้ยวะ คือ ขอโทษที่ไม่ได้ชวนคุยสปอยดิบล่าสุดนะ พอดีกูไม่อ่านสปอยน่ะ เชิญคุยสปอยกันต่อได้ตามสบายเลย กูไม่รบกวนแล้ว
.
.
.
.
กรี้ดดดดดดกสปอยยย เย้. ดีมาก! คาบุ
อ่าว. เอ็นโจอยู่ด้วยหรา 5555
ปล เคยเรือเอ็นโจ แต่เบื่อในความลำไย. ไปชอบความร้อนแรงบ้าคลั่งของคาบุ แม้ว่ามันจะร้อนแรงกับคนอื่นก็เถอะ
.
.
.
.
กูเคยหาในทวิตเหมือนกัน แล้วที่มาหวีดๆกัน กูก็พอจะรู้นะว่าใครเป็นใครในโม่งบ้าง ไม่ต้องห่วง โม่งกูไม่มีทางแตกแน่ๆเพราะกูไม่เคยสครีมอะไรเกี่ยวกับท่านเรย์กะลงทวิตเลยซักครั้ง 555555555555555555
แต่กูไม่กล้าทักไปว่ะ กูเขิน จะบอกว่ากูโม่งซุยรันเองเขาจะตกใจป่ะวะ บางคนก็ดูไม่น่าจะเล่นโม่ง กูกลัวหน้าแหก กลัวเขาขยาดความติ่งความกาวของกูด้วย
>>620 กูว่าเรื่องเบี่ยงประเด็นที่พูดกันนี่หมายถึงมันต้องมีประเด็นเอ็นโจตามหลังเวลาคนสครีมโมเม้นคาบุแทบทุกทีมากกว่ามั้ง เท่าที่ย้อนไปเห็นอะนะ เรื่องแปะฟิคก็ด้วยว่ะ
ส่วนสปอยล์นี่ที่อ่านคือหมายถึงถ้าสปอยล์อย่างอื่นคนไม่อะไร แต่พอสปอยล์มีหวีดโมเม้นคาบุจะมีคนโผล่มาบ่นว่าสปอยล์กันเยอะแยะไปหมดเลยอะไรแบบนั้น ทั้งที่ในวันเดียวกันที่ดิบออกใหม่คนสครีมเอ็นโจกันเช้าสายบ่ายเย็นจะไม่ม่ใครโผล่มาโวย อะไรแนวนี้ที่กูเข้าใจและย้อนเจอ
ไม่มีคนบ่นเรื่อง KY เปลี่ยนประเด็นนะ คิดว่ากูอ่านถูกมั้ง หรือยังไงวะไม่ชัวร์เหมือนกัน แต่จับใจความได้ตามที่แปะไปข้างต้นนี่แหละ
>>619 กูหาด้วยคำว่าเรย์กะในทวิต ขึ้นรูปสาวไอดอลจากวงหนึ่งมาตรึม ทีแรกกูไม่รู้ กูก็นึกว่าเป็นเรย์กะกับวาคาบะเวอร์ชั่นคนแสดงกำลังจะทำหนังสินะ 5555555555 ไปๆมาๆก็ อ้อ ไอดอลนี่เอง ถึงว่าไม่เห็นแคสต์คาบุ เอ็นโจ หรือคนอื่นๆเลย เกือบปล่อยไก่แล้วมั้ยล่ะ
ต้องหาด้วยคำว่าท่านเรย์กะถึงจะเจอที่สครีมกัน ใช้เรย์กะอย่างเดียวมันไปปนกับไอดอลด้วย
ทำไมอยู่ดีๆ ในทวีตก็มีการหวีดท่านเรย์กะขึ้นมาอย่างมีนัยสำคัญ 555
กูกลับมาต่อละ >>webnovel/3899/502/
ช่วงนี้น่าจะลงเรื่อยๆได้จนจบ เนื้อเรื่องรวมไม่ยาวหรอก อย่าคาดหวังกับกูมาก
ส่วนเรื่องที่บอกว่ารวบรัดนี่ลืมๆไปเถอะนะ กูเพิ่งรู้ว่าแค่เนื้อหาจึ๋งเดียวกูเขียนยาวยืดขนาดไหน เลยบอกไม่ได้ว่าจะจบเมื่อไหร่ แต่กูเตรียมทางลงสำหรับตอนจบไว้แล้วล่ะนะ(โดนสอนมาว่าต้องมีฉากจบก่อนถึงจะเริ่มเขียนได้) อะ เอาไปวันละนิดพอ กูต้องรีบนอน 5555
------------------------------------------------------------------------------
“น--- นี่มันเลวร้ายสุดๆ...”ฉันกรีดร้องโหยหวนในใจ มือไม้อันสั่นเทาของฉันยื่นออกไปสัมผัสกับสิ่งตรงหน้าอย่างช้าๆ ข- ของจริงล่ะ... นี่ฉันทำผิดพลาดไปอย่างนั้นเหรอ...? ไม่นะ!! ไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่านี้อีกแล้ว!! ชีวิตนักเขียนการ์ตูนของฉันมันจบสิ้นกันแล้ววว
อะแฮ่ม... ลืมตัวไปนิดนึง ต้องขออภัยด้วย สวัสดีอีกครั้งค่ะทุกท่าน นักเรียนซุยรันธรรมดาๆคนเดิมกลับมาแล้วค่ะ พิธีเปิดการศึกษาก็ผ่านมาได้สองสามวันแล้ว ตอนนี้ฉันยังไม่สามารถฝ่าทะลวงกำแพงมนุษย์ที่รายล้อมรอบเหล่าตัวละครหลักได้ เนื่องด้วยเป็นเพียงแค่เด็กม.4กลุ่มนอกที่ไม่อาจหาญเข้าไปประชันกับแฟนคลับรุ่นพี่ น่าเสียดายจริงๆค่ะ
ระหว่างที่กำลังเดินเรื่อยเปื่อยชมประติมากรรมราคาแพงที่ประดับประดาอยู่ตามโถงอาคารก็นึกขึ้นได้ ถ้าเราไปหาตัวละครหลักไม่ได้ ก็ให้เขามาหาเราแทนสิ...? ใช่แล้ว!! ไปดักสังเกตการณ์ตรงจุดที่จะเกิดฉากเนื้อเรื่องหลักดีกว่า ว่าแต่... เอ๊~ มีตรงไหนแถวๆนี้ที่มักจะเกิดฉากสำคัญบ้างไหมนะ?
กลับมาที่จุดเกิดเหตุ ณ ปัจจุบันค่ะ หลายๆท่านอาจสงสัยว่าผนังใกล้ๆล็อคเกอร์ตรงนี้มีดีอะไร ตรงนี้เป็นจุดอับสายตาของเหล่านักเรียนค่ะ อาจจะเห็นได้ว่าเป็นผนังโล่งๆไม่มีอะไรเลย หืม?? ฝุ่นก็ไม่มีด้วยแฮะ สมกับเป็นโรงเรียนคุณหนูเลยค่ะ... เดี๋ยวนะ นี่ไม่ใช่เวลามาชื่นชมความสะอาดนี่นา สถานที่นี้คือจุดสำคัญของเนื้อเรื่องค่ะ เป็นที่ที่มาซายะคุงทำท่าคาเบะด้ง(ยันกำแพง)ใส่วาคาบะจังครั้งแรกค่ะ เป็นฉากชวนใจเต้นที่ได้รับเสียงตอบรับจากแฟนๆมามากมายเลยค่ะ
นอกจากนี้ยังมีฉากทะเลาะกันของทั้งสองคน ฉากชูสุเกะคุงให้กำลังใจวาคาบะจัง ฉากอาริมะคุงแอบมองวาคาบะจังอยู่ห่างๆ และฉากที่คิโชวอิน เรย์กะสั่งการลูกน้องของเธอ... เอ๊ะ? ไม่ได้ขี้เกียจวาดฉากนะคะ!! ไม่ได้เผางานเพราะอยากออกไปกินบุฟเฟ่ต์เค้กเฉพาะเทศกาลหรอกนะคะ!!
“หน้าซีดเชียว เป็นอะไรหรือเปล่าคะ?”ยังไม่ทันขาดคำตัวละครหลักก็ปรากฏตัว... ทาคามิจิ วาคาบะจัง นางเอกของเรื่องkimidolceค่ะ เด็กสาวสามัญชนที่สอบชิงทุนเข้ามาเรียนในโรงเรียนซุยรันและโดนกลั่นแกล้งต่างๆนานา เนื่องมาจากมีความสนิทสนมกับจักรพรรดิของโรงเรียนแห่งนี้จนเป็นที่ริษยาของสาวๆทั้งหลาย อิย๊า!! พอได้มองใกล้ๆแล้วยิ่งเหมือน เหมือนกับคอนเซ็ปท์ตัวละครที่จินตนาการไว้เป๊ะเลยค่ะ ดีจังเลยน้า...
“ม--- ไม่เป็นไรค่ะ รุ่นพี่”ตายล่ะ... นี่ออกอาการมาเกินไปเลยหรือเปล่านะ? แย่จริงๆเลยตัวฉัน
“ถ้าไม่รังเกียจ จะให้ช่วยพาไปห้องพยาบาลไหมคะ? อยู่ใกล้ๆแค่นี้เองด้วย”สมแล้วที่เป็นนางเอก!! ช่างจิตใจงดงามอะไรเช่นนี้ ได้เห็นตัวเป็นๆแบบนี้ยิ่งรู้สึกผิดค่ะ อุก... น้ำตามัน...
“ขอบคุณค่ะ แต่ไม่เป็นไรจริงๆนะคะ พอดีแค่ตกใจที่เห็นผนังมันเบี้ยว...”ฉันชี้ไปที่จุดด่างพร้อยของชีวิต... ที่ผ่านมาฉันวาดผนังเบี้ยวมาตลอดเลยเหรอ?? ทำไมไม่มีใครท้วงเลยล่ะ!? นี่มันฉากสำคัญเลยนะ... นิตยสารเอาไปขยายภาพด้วยนะ!!
“เอ๋... ไม่เห็นจะเบี้ยวเลยนี่คะ?”วาคาบะจังเอื้อมมือไปสัมผัสผนังที่อยู่ตรงหน้า อย่าน้า!! มันเอียงอยู่ชัดๆเลยไม่ใช่หรือไงกัน อย่าตอกย้ำกันไปมากกว่านี้เลยนะวาคาบะจัง แง...
“เอียงตั้ง30อาศานะคะ...”
“ก็ตั้งฉากปกตินี่นา?”
“...”
ยิ่งรู้สึกผิดสุดๆไปเลยค่ะ...
----------------------------------------------------------------------------------------
นอนละ บัย
อ้าว กูลงลิ้งค์ผิดสินะ ลงแบบนี้หรือเปล่าหว่า? >>>/webnovel/3899/502/
ตกลงผนังมันตรงหรือมันเบี้ยวกันแน่....
Ky กูเนี่ยล่ะเพิ่งหวีดไป ทักมาเม้าท์ในทวิต รูปที่ก้มๆหน้าอ่ะ 5555
ky กูไม่ได้เข้าโม่งมา 2-3 วันแล้ว มีอะไรเพิ่มเติมหรือเปลี่ยนแปลงมะ?
เออ ขอ ky แปปนะ กูไม่แน่ใจว่าลิงค์สารบัญฟิคมันเป็นอย่างนั้นอยู่แล้วรึเปล่า เพราะปกติกูเข้าแล้วกดไปหัวข้อที่กูต้องการเอาเลยไม่ได้ไล่ดูทุกอัน แต่เหมือนตอนนี้ลิงค์ของหลายๆฟิคมันหายกูกำลังตามแก้อยู่ พอดีเห็นสีมันเปลี่ยนไปเลยลองไปกดดู
กูให้ข้อแนะนำคนไปค้นฟิคนิดนึงว่าเวลากดลิงค์อย่ากดนำออกเพราะกดแล้วลิงค์มันจะหาย ถ้าเผลอกดให้กด Undo เลิกทำ หรือ Ctrl+z มันจะกลับมาเหมือนเดิม
ป.ล.เดี๋ยวกูแก้พวกสีตัวอักษรอันอื่นๆไปด้วยเลยละกัน
>>645 ถ้าหมายถึงพวกข้อปฏิบัติก็ไม่มีนะ
แก้เสร็จละ น่าจะไม่มีอันไหนหายแล้วมั้ง ถ้าอันไหนลิงค์หายอีกหรือลิงค์ผิดแล้วแก้ไม่ถูกก็พิมพ์ๆมาให้คนช่วยกันแก้ได้นะ
อุกผนังเบี้ยว พลังของคนวาดช่างน่าเกรงขาม
เพิ่มๆ เพิ่งไปกดส่องแทค #นอบน้อมและหนักแน่นมาคนเยอะอยุหนา
เอาจริงๆแม้กูอยากแหกโม่งตัวเองไปเป็นเพื่อนกับพวกมึงในโลกจริงแค่ไหน ไปส่องทีไร กูก็ไม่กล้าทักไปว่ะ กลัวเขาคิดว่ากูจะไปตีซี้ อีนี่มึงมาจากไหน ไม่สนิทอย่าลามปามรึเปล่า จดๆจ้องๆมาหลายทีมาก แล้วก็ปอดแหกเองทุกที Orz
>>656 งั้นเดี๋ยวกูทักมึงไปเองดีไหม 'ขอโทษนะคะเด็กซุยรันรึเปล่าคะ' ถ้าเป็นโม่งซุยรันคงรู้กัน ถ้าไม่ใช่อ่ะ กูหน้าแตกไม่เป็นไร๊รรร //กัดฟัน
แต่มึงใช้ดิสไรอ่ะอย่างน้อยน่าจะทวีตไรที่มีคำว่าท่านเรย์กะให้กูรู้ เช้าๆนี้โม่งแปลมาพอดีก็สกรีมกันล่ะกัน
ปล.มึงจะหาว่ากูทำสนิทรึเปล่าเนี่ย 55555 ซอรี่เด้อ
โม่งกูมาสารภาพบาป
เพิ่งเริ่มอ่าน ทันทีที่เห็น อาคิสะวะ กูอ่านเป็น อาคิสวะ
พวกมึงๆ กุสงสัย แบบถ้าเรียงลำดับหนุ่มหล่อเรื่องนี้
แบบตัดความรวยและฟิลเตอร์กาวออกไป ใครจะหล่อสุดวะ
กุว่า
1.คาบุ (ขนาดไม่เซอวิส สาวก็กรี้ด คงหล่อจริง)
2.ท่านพี่? (กุว่าท่านพี่น่าจะหล่ออยู่นะ )
3.นายตัวสำรอง (กุบอกไม่ถูก แต่ฟีลลิ่งน่าจะประมาณนี้)
4.รุ่นพี่โทโมเอะ
5.เอ็นโจ (น่าจะหน้าตาดีแบบกลางๆค่อนไปทางดีมาก ถ้าหล่อมากอาจจะความนิยมสูงกว่าคาบุไปแล้ว)>>659 >>659
6.ท่านอิมาริ
7.อิชิโนคุระซัง
8.อาคิสะวะคุง
9. อาสุกะ(นายบ้าหมา)
10. ท่านพ่อ(ทานุกิ)
กุว่ากุมโน อันดับในใจพวกมึงเป็นไงกันมั่งอ่ะ
>>660 กูแอบขำที่ลิสต์มึงมีท่านพ่อติดมาด้วยนี่แหละ ครอบคลุมจริงๆ ของกูน่าจะราวๆ นี้
1. คาบุ
2. เอ็นโจ
3. ท่านพี่
4. รุ่นพี่โทโมเอะ (จริงๆ พูดถึงหล่อแบบเถื่อนๆ ไวลด์ๆ คนนี้นี่เสป็คกูเลย แต่เกรงใจท่านพี่เลยจับเลื่อนลงมา)
5. นายตัวสำรอง (ภาพในใจกูเป็นผมสีเงินตลอด ทำใจให้ผมดำไม่ได้จริงๆ กรณีเอ็นโจก็เช่นเดียวกัน)
6. ท่านอิมาริ
นอกนั้นก็ปนๆ คละๆ กันมา โดยมีวิญญาณทานุกิเป็นฐานปิรามิด 55555
>>660 กูให้งี้
1. ท่านพ่อของคาบุ - คุณป๊ะป๋ามาดเท่แสนอร่อย (*/∇\*)
2. คาบุ - ให้สมกับเป็นพระเอกมังงะ
3. เอ็นโจ - เพราะเป็นตัวละครที่ได้รับความนิยมสูงสุดของมังงะ
4. อิมาริ - ให้กับเป็นคาสโนว่าที่น่าจะมีออร่าความหล่อพวยพุ่งกว่าท่านพี่เล็กน้อย ช่วยเบี่ยงเบนความสนใจของสาวๆให้ท่านพี่ (เพราะแบบนี้ฉันถึงคบกับนายไง -ท่านพี่ไม่ได้กล่าว)
5. ท่านพี่ -เพราะเป็นท่านพี่
6. นายตัวสำรอง - เพราะความนิยมของหมอนี่ไม่ได้มาจากหน้าตา ตอนมอต้นที่เป็นปธ.ยังไม่มีใครรู้จักเลย มาดังเพราะการกระทำตอนปรามซึรุฮานะกะวิ่งแข่งม้า
7. โทโมเอะ - เพราะเทียบนายตัวสำรอง ไม่เคยได้ยินเรื่องแฟนคลับเดนตายมากนัก ดังในหมู่รุ่นน้องตอนแข่งวิ่งม้าเช่นกัน
อุกี๊ ตอนใหม่มาแล้ว ขอบคุณนะโม่งแปล อ่านแปบ
แปลไทยตอนใหม่ออกแย้วววววววว //วิ่งไปอ่าน
กูอุตส่าห์เตรียมใจไว้แล้วต้องเจอภาพเทปันยากิ แล้ว่ทำไมกลายเป็นเนื้อวะ โม่งแป๊ลลล!!!!!!! //เกรี้ยวกราดหนักมาก
ไปลวนลามน้องหมีเขาสนุกไหมล่ะท่านเรย์กะ เดี๋ยววาคาบะจังก็เข้าใจผิดว่าอยากได้บ้างหรือไม่ก็แอบสนใจคาบุอยู่นิดหรอก!!
โม่งแปลล กุขำคำว่า "น้ำตามายา"
ขอบคุณสำหรับตอนใหม่นะ /กราบโม่งแปล
อ่านแปลไทยล่าสุด กูอยากจะไปตบไหล่ปลอบคาบุรากิเบาๆเลยว่ะ น่าสงสารผุดๆ
ขอบคุณโม่งแปลลล \\(^_^)//
ตอนนี้นึกภาพตามแล้วขำดีชะมัด. รอยยิ้มของพี่น้องทาคามิจิเป็นแบคกราวน. ท่านเรยกะหลั่งน้ำตาแห่งความเวทนาให้คาราบุกิ 5555.
คาบุ นายได้ใจท่านเรยกะไปหน่อยนึงแล้วนะ
ปล คันตะคุงน่ารักเหมือนเดิมมม แอบชอบมากกว่ายุคิโนะนิดนุงแล้วในความใส. ขอให้มีบทเยอะๆน้าา
ขอบคุณโม่งแปลน้าาา ตอนนี้สงสารคาบุจริงจังอ่ะ ทำไมนายน่าสงสารงี้วะ5555555ทุ่มเทเหลือเกิน ท่านเรย์กะค่อดฮาอ่ะ น้ำตามายา55555 คันตะคุงก็น่าร้ากกกกก ชอบบบบ ปล.ภาพเนื้อนั้นดาเมจช่างร้ายแรงเอื้อกกก
โอ้ยน้ำตามายาก็ไหลตามท่านเรย์กะไป ;_; คาบุนายนี่มัน....//ตบบ่าเบาๆ
ตอนนี้คันตะคุงมาสองบรรทัดแต่เราพร้อมแจวเรือนะเออ
เออ เกือบลืม ใครจะสานต่อประเด็นจัดแรงค์หนุ่มหล่อด้านบนก็ต่อได้นะ กูลืมใส่น้องคันตะ ขอตีประเด็นว่าตอนนี้เป็นเด็กเกรียนๆ แสบๆ แต่ความหล่อมาพุ่งตอนเข้าม.ปลายแล้วกันว่ะ พอท่านเรย์กะเข้ามหาลัยก็ร้องเพลง พี่สาวครับ ผมเป็นหนุ่มแล้วจีบกันไป ถถถถถถ
ขอบคุณโม่งแปลนะคะะะ ตลกตอนใหม่มากอะ ความรู้สึกอันเปี่ยมล้นของคบรก.พังพินาศไม่มีชิ้นดี เจ้าตัวรู้จะรู้สึกยังไงเนี่ย555 ตอนนี้คันตะคุงเท่จังงงงง
ตื่นมาแล้วเอะใจว่าผนังเบี้ยวเมื่อคืนยังไม่จบดีเท่าไหร่ เดี๋ยวกูต่อส่วนที่เหลือให้ช่วงหัวค่ำภายในวันนี้นะ น่าจะมีพาร์ทต่อด้วยอีกหน่อยถ้ายังไหว
ต่อไปเล่นประเด็นอะไรดี... คิ้วแหว่งอีกจะโดนตบไหม 5555
แบบว่า อุ๊ย ละครที่พระเอกคนโปรดเล่นกำลังจะฉาย รีบๆวาดแล้วกัน อ้าว คิ้วนางร้ายหายไปข้างนึง ช่างมันเถอะน่า
แต่เล่นซ้ำก็น่าเบื่อแฮะ...
>>660 กูให้
1.คาบุ ในเรื่องอีนี่ก็อันดับ 1 ในทุกทางอยู่แบ้ว
2.เอ็นโจ คนที่มีแฟนคลับเดนตายคลั่งไคล้พอๆกันกับคาบุ ก็ควรจะหล่อมากนั่นล่ะ
3.อาริมะ เห็นบอกมีคนมาสารภาพรักเยอะอยู่ นอกจากนิสัยดีแล้วก็ต้องหน้าตาดีแหล่ะ
4.ท่านพี่ ถ้าท่านพี่ใส่แว่นตลอดเวลา กูให้เป็นอันดับหนึ่งเลย 55555555555 กูรักหนุ่มแว่น
5.อิมาริ หนุ่มคาสโนว่าก็ต้องหล่อและดูดีอยู่แล้ว
6.อุเมวากะ กูว่าออกแนวน่ารักแบบบุคลิกน้องชายๆที่ดูซนๆเกรียนๆว่ะ
7.โทโมเอะ คนนี้กูว่าไม่หล่อ แต่ออกแนวเท่
เห็นคำถามแล้วนึกถึงกระทู้นี้เลยว่ะ คิดว่าหนุ่มๆจะมีหน้าไทป์ไหนกันบ้างวะ
https://pantip.com/topic/30467390/
ความทุ่มเทของคาบุรากินี่มันสุดยอดเลยนะ ระดับเมพๆของพระเอกโชโจมังงะแล้วอ่ะ คือถ้าเป็นแฟนกันยังไงก็ต้องแอบใจเต้นตึกตักบ้างล่ะ เสียทีแต่ความมุ่งมั่นของพี่แกมาลงผิดจังหวะและผิดคน มันเลยเขวและนกได้ขนาดนี้ น่าสงสารจริงๆคาบุ
พอเห็นเรียงอันดับความหล่อแล้วก็คิดขึ้นมาว่า ถ้าสมมุติว่าท่านพี่อายุห่างกับเรย์กะไม่มาก แบบ แค่ปีสองปีนี่ คงจะน่าสนุกพิกลนะ ลองนุกภาพดูดิ ถ้าทายาทตระกูลคิโชวอินกับคาบุรากิ อยู่ในรุ่นใกล้ๆกัน สาวๆจะเลือกกรี๊ดใครมากกว่ากัน เอาจริงๆคือเท่าที่กูอ่าน กูคิดภาพว่าท่านพี่ต้องหล่อมากนะ ขนาดน้องสาวยังน่ารักเหมือนตุ๊กตาขนาดนั้น ท่านพี่จะไปเหลืออะไร เพียงแต่มันไม่มีบอกเล่าเรื่องราวของท่านพี่ไปมากกว่านี้ เราเลยไม่รู้ เรย์กะก็เคยพูดถึงบ่อยๆว่ามีสาวๆจ้องจะจับท่านพี่อยู่เยอะอีก ท่านอิมาริเคยบอกว่าท่านพี่ไม่ชอบให้ใครมาใกล้ชิดมากเกินไป แสดงว่าสาวๆน่าจะล้อมพอสมควรเหมือนกัน นี่ถ้ารุ่นใกล้ๆกัน คงได้เปรียบเทียบให้เห็นชัดๆไปเลย
ว่าแล้วลองจินตนาการชีวิตในโรงเรียนเรย์กะคงสบายขึ้นเป็นกองถ้าท่านพี่อยู่ใกล้ๆ เรื่องราวปัญหาอะไรท่านพี่เคลียให้หมด สองหนุ่มนั่นคงไร้บทชัว 555
ไม่มีชายใดมาเข้าใกล้ คานยกกำลังสอง...
@686 น่ากลัวมากอ่ะ
มึงงงงง กูมาเช็คไทม์ไลน์เนื้อเรื่องอีกทีแล้วค้นพบว่ากูตั้งไทม์ไลน์ผิดอะ งอแง
ต่อจาก >>>/webnovel/3953/636/
กูปรับเนื้อหาให้อิงตามไทม์ไลน์หลักละ พาร์ทต่อที่ร่างไว้ในหัวพังเละไม่เป็นท่าเลย แง่มมมม
แต่แอบโชคดีที่สุ่มมาเจอช่วงคุณอิชิโนะคุระพอดี เอามาอ้างอิงได้ อุฮิ
คิดว่าถ้าสปีดแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆน่าจะได้ตอนยาวประมาณตอนนี้+ตอนที่แล้วต่อสองวันล่ะมั้ง ถ้าสมองไม่ตันซะก่อน
..........................................................................
“แน่ใจนะคะว่าไม่เป็นไร ให้ไปส่งที่ห้องเรียนแค่นี้เองเหรอคะ?”หลังจากบ่ายเบี่ยงเรื่องผนังเบี้ยวๆที่ไม่มีใครสังเกต วาคาบะจังก็อาสาไปส่งถึงห้องเรียนชั้นม.4 ช่างเป็นคนดีอะไรอย่างนี้ สมแล้วที่เป็นนางเอกผู้แสนใจดีมีเมตตา!! ในฐานะนักเขียน--- ไม่สิ!! ในฐานะแม่ผู้ให้กำเนิด... รู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างมากค่ะ!!
“ค่ะ เท่านี้ก็รู้สึกขอบคุณมากแล้วค่ะ รุ่นพี่ทาคามิจิ”ฉันตอบกลับอย่างสบายๆ ได้มีโอกาสเดินคุยเล่นกับตัวละครหลักนี่ดีจังเลยนะคะ มีเรื่องอยากคุยด้วยเยอะแยะเลยค่ะ ถ้ามีโอกาสอีกก็คงจะดี ขอช่องทางติดต่อเลยได้ไหมนะ? อยู่ๆก็ขอเลยแบบนี้จะตกใจหรือเปล่า?? อยากได้อีเมลจังเลยค่ะ~
“หืม... รู้จักฉันด้วยเหร--”
ผลั่ก!!
... วาคาบะจังถูกนักเรียนหญิงที่เดินสวนมากระแทกจนล้ม... นี่เธอทำอะไรกับลูกสาวของฉันน่ะ!! ขอโทษมาเดี๋ยวนี้เลยนะ!! อ๊ะ... ลืมไปเลย คนที่ใส่ตัวละครจอมกลั่นแกล้งเต็มไปทั่วโรงเรียนก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ลืมๆมันไปเถอะค่ะ ขอโทษนะวาคาบะจัง...
“อุ๊ยตายจริง... มีสามัญชนเดินอยู่แถวนี้ด้วยเหรอเนี่ย คราวหลังเดินดูตาม้าตาเรือหน่อยสิยะ”
...
ขอถอนคำพูดค่ะ... ฝ่ายนั้นจงใจเดินมาชนชัดๆเลยนะ!! หาเรื่องกันนี่นา!! มันจะเกินไปแล้วนะ!!
“ส่วนเธอ... เด็กม.4คนนั้นน่ะ อย่าเข้าไปใกล้ผู้หญิงคนนี้จะดีกว่านะ เดี๋ยวจะติดกลิ่นเหม็นสาปคนจน”นักเรียนหญิงคนนั้นปรายตามองมาทางนี้แล้วเดินจากไป ทิ้งท้ายด้วยเสียงหัวเราะแหลมๆดังก้องกังวาลอยู่ตามโถงทางเดิน
“เอ่อ... รุ่นพี่เจ็บตรงไหนหรือเปล่าคะ?”ฉันยื่นมือส่งให้วาคาบะจังที่ลงไปกองอยู่กับพื้น มาซายะคุงล่ะอยู่ไหน?? ข้อหาทำร้ายวาคาบะจังน่ะมีโทษหนักนะ มาจัดการยัยนั่นเดี๋ยวนี้เลย นี่คือคำสั่ง!! ... โวยวายไปก็ไม่ได้อะไร เพราะฉันก็เขียนเรื่องนี้จบไปนานแล้ว คงต้องปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินไปตามเนื้อเรื่องค่ะ
“อื๋อ ไม่เป็นไรๆ ไปกันต่อเถอะ”วาคาบะจังลุกขึ้นปัดตามเนื้อตามตัวแล้วยิ้มร่า
“...”รู้สึกจะมีอะไรที่ต่างออกไปนิดหน่อยนะคะ...?
“อ๊ะ...”บอกแล้วไงคะว่าตรงนี้เป็นสถานที่สำคัญของเนื้อเรื่อง จะมีตัวละครหลักเดินป้วนเปี้ยนไปมาก็ไม่แปลกอะไร แค่หันหลังไปก็เจออีกคนแล้วค่ะ คิโชวอิน เรย์กะ... ดูเหมือนจะมองอยู่ตลอดเลยด้วยล่ะค่ะ หวาๆๆ ผ่านมาได้นิดเดียวก็เจอบอสใหญ่แล้วเหรอเนี่ย ทำยังไงดีล่ะ!?
“...”คิโชวอิน เรย์กะก้าวฝีเท้าช้าลงเมื่อเดินผ่านพวกเรา เธอขนตาหนาเป็นแพกระพือเล็กๆเมื่อกะพริบตาลงช้าๆ ในดวงตาฉายแววเย็นชาอยู่ไม่น้อยเมื่อจดจ้องมาที่วาคาบะจัง บรรยากาศรอบตัวก็เปลี่ยนไปทันที ลูกสมุนซ้ายขวาที่เดินหัวเราะคิกคักมาตลอดทางก็หยุดเงียบลง ยิ่งทวีความกดดันให้รู้สึกชวนอึดอัด ไม่ดีแน่ๆ... สถานการณ์ตอนนี้แย่สุดๆไปเลย วาคาบะจังตัวแข็งไปแล้วนะ!!
“... รุ่นพี่ทาคามิจิคะ...?”ฉันตีเนียนไม่สถานการณ์แล้วทำลายความเงียบทิ้งซะ ยังไงตรงนี้ก็มีฉันอยู่ทั้งคน คิโชวอิน เรย์กะคงไม่กล้าทำอะไรโจ่งแจ้งหรอกค่ะ คิดว่านะคะ?
“อะ... อื้ม!! เราไปกันต่อเถอะ”วาคาบะจังเดินนำหน้าฉันไปอย่างรวดเร็ว อื้อๆ แบบนี้แหละดีแล้ว ถึงมาซายะคุงจะไม่อยู่ แต่ฉันก็จะปกป้องเอาไว้เองค่ะ เชื่อมือได้เลย!!
“... เย็นนี้จะกินอะไรดีนะ...”
“...!?”เอ๋?? เมื่อกี้ใครพูดน่ะ? ... หันหลังกลับไปก็เห็นแค่คิโชวอิน เรย์กะเดินออกไปพร้อมลูกสมุนอยู่ไกลๆ... อ๊า!! ขนาดมองไกลๆยังดูน่ากลัว สมกับเป็นนางร้ายที่ทุกคนเกลียดกันจริงๆ เมื่อกี้เล่นเอาซะเกือบหยุดหายใจเลยค่ะ
ว่าแต่ขนตาที่คุณผู้ช่วยแนะนำเทคนิคให้สวยดีนะคะ...
..........................................................................
เย็นนี้เจ๊จะท่านอะไรดี
>>693 กูว่าคุณนักเขียนทีแรกอาจจะสร้างเรย์กะมาเป็นนางร้ายประจำตอน ตัวประกอบใช้แล้วทิ้งอะไรแบบนี้ เลยบรรจงวาดผมหลอดๆจะได้ดูเป็นคุณหนูๆไฮโซๆ กะว่าวาดครั้งเดียวจบ เป็นตอนเปิดตัวพระเอกนางเอกให้ได้พบกัน แต่ไปๆมาๆขี้เกียจดีไซน์ตัวละครนางร้ายขึ้นใหม่เลยจับมารียูส จากทีแรกติ๊งต๊อง หัวเราะโอ๊ะโฮะโฮะ วิ่งดุ๊กๆไปหาจักรพรรดิขา ก็อัพเกรดความร้ายที่ต้องแจกรางวัลเปลือกทุเรียนอวอร์ดส์ แล้วก็บ่นทุกตอนว่าผมหล่อนมันวาดยากชะมัด ติดสกรีนก็ยาก งั้นรีบๆพบจุดจบไปเลยก็แล้วกันนะ
หูฝาดค่ะ มีคนหูฝาดตาฝาดหลายคนแล้ว สักพักคงเห็นฝูงนกและขบวนแผ่นซีดี
ว่าแต่ ตกลงมีใครไปทักใครใน twitter มั่งยังหว่า ลองไปส่องๆ ดูเห็นการสครีมท่านเรย์กะกันอยู่เล็กน้อย
กระทู้โคตรเงียบ ไปคุยในทวิตกันหมดแล้วเหรอ..
https://twitter.com/hashtag/謙虚堅実?src=hash
ไปส่องทวิตมา เจอแฟนอาร์ตอันนี้แล้วโคตรดีงาม
ท่านเรย์กะน่ารักมาก
>>705 กูขอโทษ ผิดลิงค์5555
https://twitter.com/t0e0i0r0a/status/817761279293018113/photo/1
ส่วนใหญ่ที่เจอก็โม่งแฟนอาร์ตที่กูเดาได้นะ ถถถถถถถถถ
แอแร๊ะ เด็กซุยรันตกค้างใน twitter ที่เข้าร่วมวงน้ำชาไม่ได้คนนั้นน่ะ กูจะบอกถ้ามึงใช้เน็ทดีแทค อาจโดนแบนติดร่างแหไปกับโทรลล์ว่ะ เป็นมาซักพักล่ะ อีก 2-3 วันก็ปลดแบนมั้ง ใช้ wifi ต่อไปก่อนนะ
เน็ตดีแท็คแชร์hotspotเข้าคอมแล้วไม่โดนแบนนะ กูทำหลายรอบละ แต่ขี้เกียจเปิดคอม~
สปอยท้ายตอนนั่นมันอะไรกันน่ะโม่งแปลลลลลลลลลลล
มั่ยนะ ท่านเรย์กะต้องคู่กับท่านพี่สิ!!
ขอบคุณโม่งแปล ครอบครัวอบอุ่นดีจัง ท่านเรย์กะก็ฟาดเรียบ เรย์กะxวาคาบะฟินดีจริงๆ
ปล. ท่านพี่สุดยอดหยังกะรู้ทุกอย่างเลย
กูขำแปลไทยล่าสุด เรย์กะทำหยั่งกะคบวาคาบะเป็นแฟนแล้วต้องปิดบังหลบๆซ่อนๆจากที่บ้านเลยว่ะ ปัดโธ่ พาวาคาบะมาแนะนำที่บ้านเลยค่ะ คนนี้แฟนตัวจริง น่ารัก จริงใจ เอาใจใส่ แสนดี ไม่มีปัญหาเรื่องเข้ากับครอบครัวเขาไม่ได้ด้วย อย่าปล่อยให้หลุดมือเด็ดขาดนะคะ
ตอนเรย์กะบอกอยากแนะนำวาคาบะให้ท่านพี่ กูเผลอจิ้นท่านพี่ x วาคาบะไปวูบหนึ่ง พอทั้งคู่ประกาศตัว ท่านเรย์กะก็เงิบ คาบุก็เงิบ คาบุฉีกสัญญาเลือดทิ้ง ท่านเรย์กะกรี๊ด นึกว่าบ้านจะโดนตามจองล้างจองผลาญ แต่คาบุประกาศลั่น "ฉันจะแย่งของรักของหมอนั่นมา นั่นก็คือเธอ คิโชวอิน หัวใจของเธอต้องเป็นของฉัน!" ติดตามตอนต่อไปได้ในนอบน้อมและหนักแน่น ภาคจำเลยรัก
กูว่าสร้อยคอของคาบุรากิมันก็ได้ผลอยู่นะ ถึงจะจบเห่ไปแบบนั้นก็เถอะ ถ้ามันไม่ทุ่มทุนขนาดนั้น เรย์กะไม่เห็นใจแน่นอน ก็ถือว่าสำเร็จ ในทิศทางที่ผิดไปหน่อย ถถถถถถ
โหลๆ เทสๆ ดีแท็คถูกปลดแบนยังวะ
อ้าว โพสต์ได้แล้วนี่หว่า ฮูเร่ =w= โทษทีที่ฟลัดบอร์ด กูนึกว่ายังโดนแบนอยู่
ตอนนี้กูฟินวาคาบะเรย์กะจังว่ะ น่ารักอ่ะ ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นชายกูเชียร์สุดใจ นี่ล่ะพระเอกตัวจริง
เออ กูสงสัยมาพักหนึ่งล่ะเวลาอ่านคอมเมนต์ ทำไมมีคนชอบเข้าใจผิดว่าต้นฉบับดั้งเดิมของ Kimi Dolce มันมาจากเกมหว่า มีนิยายแนวๆ กลับชาติไปเกิดเป็นนางร้ายในเกมเยอะสินะ...
กูลองคิดเล่นๆดู วันนี้ท่านเรย์กะกินอะไรไปบ้างวะพุดดิ้ง+ื้เนื้อย่าง(อันนี้ไม่น่าใช่น้อยๆ)+ถึงบ้านมาตอนมืดๆแล้วยังซัดเคักสตอเบอรี่อีก
เดี๋ยวก็โดนทักว่าท้องอีกหรอกเธอ.....
>>732 กูว่าเรื่องนี้เป็นเกมจีบสาวท่าทางจะรุ่งกว่าว่ะ ถถถถถถถถถถถถถถถถถถ
มีให้เลือกหลายไทป์ สาวสไมล์ฮีลลิ่ง(วาคาบะ) สาวซึน(ริรินะ) กุลสตรีตีสองหน้า(ซากุระ) สาวหล่อ(ไอระ) สาวหวาน(ยูริเอะ) สาวคลั่งเรื่องสยองขวัญและลัทธิแปลกๆ(ท่านฟุยุโกะ) สาวคูลคลั่งหนังสือ(ท่านซาราระ) สาวแกล(ซึรุฮานะ) ปลาซิวปลาสร้อย(ไมฮามะ) ถ้าจีบได้หมดจะปลดล็อก trophy ปลดล็อก Achievement สามารถจีบบอสใหญ่อย่างยุยโกะได้
คนจีบยากสุดน่าจะท่านซาราระนะ ต้องเข้าหาด้วยเรื่องหนังสืออย่างเดียวเลยนางถึงจะแลเหลียว
เรยย์กะจะเป็นตัวละครคู่แข่งกับผู้เล่น หากผู้เล่นมัวแต่จองร้านดินเนอร์หรู ทำเครื่องประดับแฮนเมด ห่อดอกไม้ช่อโต และไปหาโดยไม่นัดล่วงหน้า
ตัวละครคู่แข่งนี้จะแย่งปักธงรัวๆ จนผู้เล่นเข้าสู่คานทองเอ็นดิ้ง
แต่ถ้าผู้เล่นชวนตัวละครนี้ไปทานของอร่อย ผู้เล่นจะได้รับพรจากเกศาบันดาลรัก คิดจะจีบใครก็จีบติดไร้ความนกมาย่างกราย
เพิ่งได้มาอ่านตอนนี้ รู้สึกว่าตราบใดที่มีท่านพี่อยู่ ชีวิตเรย์กะนี่ต่อไปจะเจออะไรก็ไม่น่าเป็นห่วงเลย เรื่องธุรกิจท่านพี่ก็ดูแลหมดอยู่แล้ว เรื่องยุยโกะก็ดูท่าจะรู้ความนัยอยู่ลึกๆ นี่ขนาดคบหาเพื่อนสามัญชนท่านพี่ยังไม่ว่าอะไรเลย ปูพรมกลีบกุหลาบให้เดินชัดๆ
เออ คำว่าบันดาลนี่ เขียนว่า 'บันดาล' หรือ 'บรรดาล' อ่ะ oั oั )
กูเขียนเป็น บันดาล มาตลอดเลย ตกลงบรรดาลเหรอวะ กูงง5555555555
พวกมึงเถียงกันเรื่องบันดาลแล้วทำให้กูนึกถึงไอนี่น่ะ บันดาลลงบันได บันทึกให้ดูจงดี รื่นเริง บันเทิงมี เสียงบันลือ สนั่นดัง
ปล. กูพิมพ์ถูกทุกอันหรือเปล่าวะ55555
Ky พวกมึงๆ นอกจากท่านเรย์แล้วพวกมึงอ่านเรื่องอะไรบ้าง แนะนำหน่อย
คือมาถามทู้นี้เพราะรู้สึกแบบน่าจะชอบแนวสไตล์เรื่องคล้ายๆกันไรงี้55555
>>769 ไม่ค่อยอ่านนิยายของญี่ปุ่นเท่าไหร่ มันแนวผู้ชายเยอะมาก มีแต่เซอร์วิส ฮาเร็ม พระเอกโคตรเทพโคตรโกง หรือไม่ก็เนื้อเรื่องเนื่อยๆชวนหลับ
ถ้าแนวผู้ชายเลยกูอยากอ่านแบบโชเน๋นจ๋ามากๆ ฟีลลิ่งวันพีซอะไรงี้ แต่ไม่เคยเจอ
แต่แนวโชโจของท่านแคทที่แปลในเว็บนายท่านก็โอเคอยู่นะ แนวผู้หญิงหวานๆน้ำตาลสูงมาจรรโลงใจ~ (ไม่คานแบบตัวละครแถวนี้) คำผิดคำงงประมานนึง แต่มันก็อ่านรู้เรื่องล่ะนะ
บากะรีน่าก็ดีนะ แต่สั้นมาก
ส่วนเว็บแมวดุ้นกูกำลังสุ่มอ่านแต่ไม่เจอที่ถูกใจ
>>769 ถ้าเอาแนวไลท์โนเวล กูซื้ออ่านตามลิสต์หิ้งโม่งในห้อง LN ว่ะ มีลิสต์หิ้งอยู่ เป็นคอมเมนต์หิ้งที่กูเห็นด้วยแทบทุกอันเลย ถถถถถถถถถถถถถถ
นิยายไทยก็อ่านพวกว.วินิจฉัยกุล ทมยันตี กิ่งฉัตร ม.มธุการี คึกฤทธิ์ หรือดอกไม้สดไรงี้
นิยายฝรั่งก็อ่านหลายแนว กลอนกวีของไฮน์ริช เฮนก็อ่าน(ที่โม่งแปลเรียกไฮเน่นั่นล่ะ) แล้วก็พวกวรรณกรรมคลาสสิคทั้งหลาย จริงๆกูอยากเม้าเรื่องพวกนี้ที่ห้องลิทมากกว่าว่ะ
แปลไทยมาละ ขอบคุณโม่งแปลมาก ตอนนี้ก็ฮาเหมือนเดิม
เห็นเรย์กะบอก ดีแต่ใช้วัตถุเป็นตัวล่ออีกฝ่าย แล้วกูอยากตบมุกว่าบ้านทาคามิจิเองใช้อาหารมาล่อเรย์กะให้มาเที่ยวบ้านน่ะ หรืออาหารไม่นับเป็นวัตถุวะ ถถถถถถถถถถ
อ่านๆมาถึงคาบุเล่นหุ้นด้วยก็นึกถึงฟิคเอ็นโจเลี้ยงต้อยขึ้นมา แล้วก็อยากอ่านต่อว่ะ อยากรู้ว่าพวกคาบุจะใช้วิธีไหนมาซื้อหุ้นจากบริษัทคิโชวอินจนล้มละลายได้ ในแปลไทยเห็นบอกถึงรู้ก็ทำไม่ได้ ตอนนี้บริษัทคิโชวอินคงทรัพย์สินมูลค่าสูงลิบลิ่วเกินกว่าจะซื้อได้แหงๆ
กูสังเกตว่าเอ็นโจชอบกลับบ้านก่อน ทำไมวะ รึเพราะ ท่านฮิไม่รู้จะเอามาเล่นอะไร 555 เอ็นโจหนึ่งบรรทัดกลับมาแล้ว
>>775 โคตรน่างสาน จอมมาร 1 บรรทัด 5555 คนในสโมสรคงดูว่าท่านเอ็นโจเพลี่ยงพล้ำในเกมรัก ปล่อยท่านคาบุรากิให้ทำคะแนนนำรัวๆ ไปก่อนแล้วนะเนี่ย
แต่คู่หูบ้าบอสองคนนี้แท่งเคมีเข้ากันดีจริงๆ ว่ะ คุยกันทีไรยาวทุกที มองกันดีๆ แล้ว นี่นางอุตส่าห์เอาของที่ได้จากคาบุไปถนอมรักษาเคลือบพลาสติกไว้อย่างดี เก็บไม่ให้ห่างตัวเลยนะนั่น ดีใจด้วยนะคาบุ ของที่นายให้สาว เขาดูแลอย่างดีเลย
จักรพรรดิกับจักรพรรดินีเคมีเข้ากันมาก มองด้วยฟิลเตอร์ซุยรันคงประมาณทั้งคู่กระเซ้าเย้าแหย่กันแหง
แต่ยิ่งเห็นเคมีเข้ากันแบบนี้เหมือนเรือคู่นี้จะล่มเลยว่ะ คือสันดานมันเข้ากันเกินไปจนไม่เหมาะกับเรื่องหวานๆ แล้ว มันเหมาะแก่การเป็นคู่หูคู่ฮามากกว่า.......
กูแอบสงสารท่านพี่ท่านพ่ออีกแล้ว พอน้องทำท่าจะอาการดีขึ้น ก็โดนไล่ซักเรื่องกว้านซื้อหุ้นอีกรอบ โถ....
โอ๊ย ตอนล่าสุดฮาเกินไปแล้ว
ท่านเรย์กะก็เน้นย้ำสัญญาจังเลย มันยิ่งตอกย้ำความน่าสงสัยนะ 5555555555
>>769 ถ้าแนวแบบกลับชาติมาเกิด+โชโจ(? เรียกว่าแค่ตัวเอก ญ แล้วกัน ถถถ) ที่กูยังตามอ่านตอนนี้ก็มี
Akuyaku Tensei Dakedo Doushite Kou Natta.
It Seems Like I Got Reincarnated Into The World of a Yandere Otome Game
Omae Mitai na Hiroin ga Ite Tamaruka!
Otome Game Rokkushuume, Automode ga Kiremashita
By A Slight Mistake
ส่วนใหญ่ออกดาร์ก เกิดใหม่ชีวิตบัดซบทั้งนั้น เท่าที่อ่านแนวนี้มาก็มีท่านเรย์กะกับบากะรีน่าเนี่ยแหละที่ลั้ลลาที่สุดละ ...
*ตั้งใจ
พระพุทธรูปปางลีลาอะไร!!!? ท่านเรย์กะนี่นับวันกูนี่ยิ่งไม่เข้าใจวงจรความคิดของนางมากขึ้น ระดับความเหมาะสมในการเป็นคู่หูตบมุกของท่านเรย์กะกับมาซายะนี่ให้ระดับ +100 ไอพวกบ้าาาาาา
>>782 Akuyaku Tensei Dakedo Doushite Kou Natta. เรื่องแนวเกิดใหม่ที่ทำลายมิติโชโจเกิดใหม่ของกูมักมาก ก็นะเป็นดาร์ทแฟนตาซี เรื่องที่อ่านแล้วดูหลั่นล้าก็มีเรย์กะกับบากะรีน่าที่ชีวิตดีสุดจริงๆ
ส่วนแปลตอนใหม่ เรย์กะว่าคาบุรากิว่าหล่อเสียของหล่อนเองก็ด้วยนะ แต่2 คนนี้มันคู่หูคาเฟ่หรอ ฮาได้โล่ไอ้ท่าปางลีลานั่นอีก คาบุรากิที่แกนกเพราะขาดศรัทธาไงล่ะ!! เจ้าแม่อุตสาห์ให้คำแนะนำถ้าไม่ทำตามจะนกนะ ส่วนเอ็นโจรีบซิ่งเลยนะ
แต่คาบุรากิต้องหวาดๆบ้านคิโชวอินไปแล้วที่แน่ๆเลย555555555555 แบบบ้านนี้ธุรกิจมืด สัญญาเลือด ห้ามเกี่ยวข้อง บรื๋อ
ตอนอ่านคำอธิบายคาบุรากิ คิมิ รู้สึกว่าไม่เห็นต่างอะไรจากภาพที่คนในซุยรันมองคาบุรากิปัจจุบันเลยว่ะ 5555 คาบุติดฟิลเตอร์ชัดๆ ชั้นว่าจริงๆนิสัยมันไม่ได้พึ่งมาเพี้ยน แต่เพี้ยนมาตั้งแต่สมัยในการ์ตูนแล้ว แค่ไม่มีการพูดถึงเลยดูไม่ออกมากกว่ามั้ง
>>769 แมวดุ้น ตอนนี้มีเรื่องเอริซ่า กับฟี่ ที่กูตามนอกจากท่านเรย์กะในตอนนี้
ส่วยในนายท่านกูชอบเรื่องพี่ชายตัวร้าย พี่ชายคาวาอิเดสมาก แค่กๆ
ในเด็กดีกูตามเรื่อง เลี้ยงตัวร้ายให้เป็นน้องสาว(ดาร์ก)/ really otome(ฮาเร็ม)/ ชาติที่สามเกิดเป็นนางร้าย/จำชื่อเรื่องไม่ได้ แต่นางเอกเกมโอโตเมะเพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองเป็นหนึ่งในตัวที่จีบได้ของพระเอกแล้วพระเอกกำลังสร้างฮาเร็มรูทเลยปฏิบัติการพังฮาเร็ม ไอ้พวกเหยียบย่ำความรู้สึกหายไปให้หมด(นิยายแปลนะ) // อีกเรื่องจำชื่อไม่ได้เหมือนกันถ้ามันเด้ง Fav ก็นึกออก มันเป้นนางเอกวนลูปแก้ปมให้พวกพระเอกจนครบแล้ว แต่ครั้งล่าสุดดันวนกลับมาตอนเด็กเลย นางเอกเลยแก้ปมปัญหาวัยเด็กให้ทุกคน แล้วตั้งใจว่าจะไม่แต่งงานอีก // ช่วยด้วยค่ะฉันพยายามเป็นนางร้าย(อย่าสับสนกับอีกเรื่องที่ชื่อคล้ายๆกันนะ เรื่องนี้ฟิลลิ่งท่านเรย์กะเลยมั้ง ขำมากกก)// ความอิ่มเอมของวาแทน(วายและดาร์ก) ชีวิตผมได้โปรจืดจาง(วาย ดาร์กรั่ว ผสมกันหมด) ตัวประกอบร้ายใจประกอบรัก(วายสีเทา)
ในบล๊อคกุแนะนำเรื่องจับแม่ทัพไปไถนา เป็นนิยายจีน ชีวิตชิวๆ ของกินเพียบ กูโคตรชอบตอนนางเอกพาน้องๆไปเก็บผักแล้วใช้ความรู้ยุคปัจจุบันทำการเกษตร(นางจบด้านนี้มา) อ่านไปกุมท้องกุมใจ น่ากินนนน
ส่วนถ้าออกเล่มแล้ว กูแนะนำนิยายรักอลเวงของมากกว่ารัก สำหรับกูขึ้นหิ้งมากเรื่อี้ นางเอกไปอยู่ในนิยายที่มีเดรัจฉานทั้งเจ็ด เรื่องมันแอบดาร์กนะ แต่นางเอกมันสายฮา ความดาร์กเลยปลิวหาย 90% 5555
>>772 แนวโชเน็นแนะนำนิยายจีนเรื่องเทพยุทธ์เซียนกลอรี่ของสยามเลย เด็ดดวงมาก ผู้ชายดีงามไม่ขายเซอวิส คามเทพของพระเอกมีที่มาที่ไป และนื้อเรื่องมันไม่ได้สนุกที่ความเทพของพี่ แต่มันสนุกตรงการวางแผน ตลบหลัง กับความไร้ยางอายของพวกพี่ และลูกสมุนแค่กๆ
กูอ่านท่านเรย์กะตอนล่าสุดกูมองเห็นแสงออร่าจากท่านเรย์กะเลยอ่ะ แบบนี่สิเทพธิดา โดนเหรียญขอพรเร็วเข้า แงงงงงงงงงง ขำ
ไม่มีใครเชียร์ยูกิโนะเหมือนกูบ้างหรอวะ5555555
เห็นบอกว่าเอ็นโจหนึ่งบรรทัด แล้วก็นึกได้ว่า ตั้งแต่คดีล็อกเกอร์ อาริมะยังไม่มีบทบาทเป็นตัวเป็นตนเลยนะเว้ยยย มีแต่โดนพูดถึง บทพระรองที่โคตรตัวประกอบ orz
ถ้าอาริมะมาปรึกษาปัญหาความรักจากเรย์กะด้วยจะเป็นยังไงวะ 55555555
โม่ง ฟิค ทะลุ มิติ ท่านอยู่แห่งหนใด หายหน้าหายตาไปนานเหลือเกิน
เพิ่งจะได้มีโอกาสเข้ามากาวกับเพื่อนโม่งบ้างเพราะหลงเข้าไปอ่านนี่แหละ เห็นว่าตอนเยอะดี
ตอนอ่านก็คิดไว้ว่าถ้าไม่ปักธงบากะก็เอ็นโจ แต่อ่านไปได้ 170 กว่าก็แบบว่า มาซายะเอ๊ย เออปล่อยธงหมอนี่ไปเถ๊อะ 5555555
ก็เหลือแต่ท่านเอ็นโจที่ทำกูกาวมากเหลือเกินแต่จะออกน้อยไปไหน นี่ถ้าไม่ติดว่ายูกิโนะคุงโตไม่ทันกินก็จะปักธงให้ด้วยอีกคนนะเออ
>>810 ฟิคในนี้เขียนดีทุกคนมึง โดยเฉพาะเอ็นโจside story ที่กูเผลอนึกไปว่าเป็นอฟช. ต้องท่องไว้ว่ามันคือฟิคๆๆ เป็นกาวขวดแรกที่กูสูดดมตอนเข้ามากระทู้นี้ครั้งแรก ทำให้กูประทับใจมาก
ว่าไปก็คิดถึงเหล่าโม่งฟิคทั้งหลายจัง กูยังรอหลายๆฟิคอยู่นะ หรือจะต้องให้วาดวงเวทย์แล้วท่องคาถาซัมม่อน พวกเขาถึงจะปรากฎตัวขึ้นมาตามคำอัญเชิญวะ บับแวร่กูยังอยากอ่านฟิคเอ็นโจside story ฟิคเกอิชา ฟิคกาลครั้งหนึ่งในฝัน ฟิครุ่นลูก ฟิคหมา ฟิคแบดเอนด์ ฟิคทะลุมิติ ฟิครักลวงป่วนใจ ฟิคเทพนิยายอลเวง ฟิคเวียนกูก็อยากอ่าน ท่องคาถาซัมม่อนแล้วนะ จะได้ผลมั้ย 55555555555555555555
นี่ก็800กว่าๆละนะ
ต้องโหวตชื่อทู้หน้ามั้ย หรือรอซัก900กว่าๆค่อยรวม
....... (เรื่องEG นั่นคนแปลก็อยู่แถวๆนี้แหละ แปลตั้งแต่ที่มันยังออกไม่ครบ เป็นเรื่องสั้นแต่เรือกูก็ยังล่ม เลยขี้เกียจแปลต่อ
แอร๊ยยยย)
>>811 โดนทวงฟิค แกล้งตายแพพ.....
กาลครั้งหนึ่งในฝันน่าจะลงได้ราวๆอาทิตย์หน้ามั้ง ถ้าไม่ติดงานกระทันหันนะ กูเขียนไปจวนๆจะจบแล้ว เหลือหาทางแลนดิ้งให้มันดีๆนี่ล่ะ ที่ยากสำหรับกู ฟิคอื่นกูเป็นแบบนี้หมด หาทางจบตัดตอนสวยๆไม่ได้ซักที เลยต้องเขียนไปเรื่อยๆแบบไม่มีจุดหมาย
ช่วงนี้กูก็ผลุบๆโผล่ๆไม่ค่อยเข้ากระทู้เท่าไหร่ แป๊บเดียวก็แปดร้อยกว่าเมนท์แล้วเหรอเนี่ย มาไกลเหมือนกันนะ
>>812 กูรักชูสุมอย อยากจะอวดมึงว่ากูมีบุญได้น้วยซามอยด์ของจริงแล้ว ฟินสัสๆ อยากพากลับบ้านแล้วตั้งชื่อว่าชูสุมอย ถถถถถถถถถถถถถ เสียอย่างเดียวที่ซามอยด์ขนร่วงเยอะชิบหาย ใครเป็นภูมิแพ้ไม่ควรเข้าใกล้เด็ดขาด
>>818 >>812 กรี๊ด เหล่าโม่งฟิคโผล่ กูดีใจนะ ฉันมารอคอยฟิคที่กระทู้นี้ทุกวันเลย สะดวกเมื่อไหร่ก็โผล่มาน้วยๆ กันนะ อิจฉาว้อยได้น้วยซามอยด์ด้วย
จริงๆ เราก็มาไกลกว่าที่คาดเหมือนกันนะ กูสิงมาตั้งกะกระทู้แรก ยังคิดว่าไม่น่ามาเกินสามกระทู้อยู่เลย แต่แว้บไปดูห้องข้างๆ กระทู้พี่เยี่ยก็มาแรงเหมือนกันนี่หว่า กูคิดว่าโม่งฟิคที่หายไปบางส่วนต้องแอบไปปั่นฟิคอยู่กระทู้โน้นแน่นวล เป็นการถ่ายโอนมวลสารอย่างมีนัยสำคัญ
ไม่ว่าจะเรือไหนก็ชอบมีตอนบทหาย ไอ้ที่มีบทมากที่สุดนอกจากเจ้าแม่ก็ของกินน่ะแหล่ะ
แววคานลอยมาเห็นๆ
ยัยคนนั่นที่ชื่อยุยโกะดูหลอนมาก พอมีแววที่ท่านเอ็นโจกับเรย์กะจะได้ปักธงกันก็มาเบียดเบียนไม่พอ ท่านเอ็นโจกับเรย์กะยังหักธงกูไม่พอเหรออออ
>>826 ใครๆ (กูคนหนึ่งล่ะ) คิดว่านางต้องใช้อำนาจมืดหรืออะไรข่มขู่เอ็นโจให้เป็นว่าที่คู่หมั้นด้วย แต่หลังๆ มาเห็นการหักปากกาเซียนของท่านฮิโยโกะ กูถึงกับเริ่มคิดว่าจริงๆ แล้วอาจไม่มีอะไรในกอไผ่ ที่ยุยโกะดูหลอนๆ เพราะบรรยากาศส่ง ที่เอ็นโจดูห่างเหินกับนาง จริงๆ แล้วเป็นเพราะตัวจริงเฮตาเระเรื่องความรักเลยทำอะไรไม่ถูก ส่วนน้องยูกิโนะที่ดูเกร็งๆ เพราะแอบชอบคุณพี่ยุยโกะ ถ้ามางี้จริงกูคงจมลงก้นมหาสมุทรพร้อมเรือเอ็นโจแน่ๆ...
>>827 ไม่ก็จริงๆแล้งน้องก็คงกลัวจริงนั่นแหละ แต่ยุยโกะอาจจะเป็นโชตะค่อนขั้นรุนแรงแบบห้ามแทบไม่อยู่ เวลาอยู่ด้วยกันเองญาติสนิทกันก็จับน้วยจับน้วย แต่อยู่ข้างนอกต้องข่มใจไว้ ยูกิโนะคุงเลยกลัวตัวสั่นว่าจะโดนมั้ย /เรย์กะชอบเด็กแต่ได้ออกหน้าอะไรมากไง ดูน่าหลบภัยดีเกาะมือโหน่ยย--- แค่ก
ช่วงแปลไทยล่าสุดก็นับว่ามีโมเม้นให้ขอนไม้ได้พ้นน้ำนะ แต่ท่านเรย์กะไม่คิดจะโดขิจริงๆจังๆกับใครบ้างเลยรึไง หรือว่าเรื่องนี้มันมีถึงหนึ่งพันตอน!? ที่ผ่านมาท่านเรย์กะก็ดูไม่เคยรักใครจริงจังเลยนะเนี่ย..
หรือยุยโกะอาจจะเป็นสาวดุ้น ชายแต่งหญิง .... ยูกิโนะเลยผวา เอ็นโจเลยได้แต่ตอบอ้อมแอ้ม ไม่อยากจะเผยความจริง
พวกมึงต่อซะสงสารพี่น้องตระกูลเอ็นโจเลย 555 เทวดาน้อยยูกิโนะใช้การ์ดโชตะใส่หญิงทุกคนดันซวยเจอหลอนซะงั้น กรรมเลย
มาประกาศตามหามิตรแท้ค่ะ ใช้ไม่ได้เลยทิ้งเพื่อนไว้คนเดียว 55555
ทำไมอ่านตอนล่าสุดแล้วรู้สึกว่าอาของมาโอะจังอาจได้เลิกกับแฟนแล้วมาคู่กับอาคิมิหว่า สาวอวบทำอาหารเก่งกับหนุ่มบ้ากิน ในที่สุดก็พบรักแท้ กูโดนมาโอะจังล้างสมองละ
ส่วนข่าวลือท่านเรย์กะแม้แต่เด็กประถมก็รู แต่คนแรกนี้ น่าจะตายก่อนเพื่อนด้วยฝีมือท่านพี่
มิตรแท้อย่างพริ้ว มีเรื่องทีไรหายก่อนตลอดทุกที ถถถถถถถ
แปลไทยวันนี้ เรย์กะต่อยฮุดขวาโดนบากะรากิอย่างจังจนล้มกลิ้งหลุนๆไปแล้ว โอ๊ะ! บากะรากิยังลุกขึ้นมาได้นับถือๆ ส่วนพี่เลี้ยงเอ็นโจดันหายไปไหนไม่มาดูแลบากะรากิเลย
>>839 อ่านแล้วรู้สึกว่าทั้งชีวิตคาบุนี่คงไม่เคยมีใครมาตำหนิมันตรงๆ ต่อหน้าต่อตามาก่อนเลยนะเนี่ย พ่อแม่ก็คงยุ่งงานสังคม คนรอบข้างก็เกรงบารมี มีตรแท้ก็โอนอ่อนผ่อนตามอย่างเดียว เจอท่านเรย์กะตอกเข้าตรงๆ คงถึงขั้นเป็นแผลใจ
แต่กูแอบฮาตรงให้ขนมปลอบใจตอนท้ายนี่แหละ นี่เห็นคาบุมันเป็นเด็กประถมเรอะท่านเรย์กะ!
ในที่สุดเรย์กะก็จี้ประเด็นหลักกับคาบุซะที แบบนี้หวังว่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงนะ ว่าแต่ข่าวลือของท่านเรย์กะนี่มันน55555555555
มาโอะจังแอบร้ายแต่เด็กแบบนี้ในอนาคตหนูจะกลายเป็นมาโอ (จอมมาร) ไหมลูก....
กูฮาตรงจะชิ่งแล่วเอาขนมมาปลอบใจเหมือนกัน ท่านเรย์กะ 5555555
ป.ล.จริงๆกูก็เห็นมาพักนึงละ อะไรที่รู้ว่าไม่ควรทำใส่คนอื่นหรืออะไรที่ไม่ทำใส่คนอื่นนี่คาบุรากิทำใส่ท่านเรย์กะตลอดเลยนี่หว่า ตอนนี้ยิ่งชัดตอนโดนบ่นเรื่องส่งเมล์ยิ่งเห็นชัด อยู่กับคนอื่นที่ทำตัวสมเป้นคุณชายตระกูลคาบุรากิดีแท้ๆ จะว่าสนิทกันดีหรืออะไรดีเนี่ย
จะว่าไป มันจะมีอีเว้นท์งานหมั้นแบบในมังงะคิมิดอลป่าววะ กุ... กุนึกภาพไม่ค่อยออก แถมถ้ามีกุคิดว่าคงโผล่ช่วงมหาลัยซุยรันแล้วมั้ง... ถ้าฮิโยโกะซามะไม่ตัดจบตอนม.6 อ่ะนะ
ปล. แปลไทยล่าสุดแม่งคาบุรากิน่วมเป็นหมอนเลยเว้ย มีส่งสายตาตัดพ้อ แหม้
ขอบใจโม่งแปลน้าาาา
คาบุตอนอยู่กับคนอื่นปกติ ตอนอยู่กับเรยกะบ๊องบวมตามเคย. เรยกะตอนนี้เก่งมาก พูดตรงๆกระแทกอย่างไม่เกรงกลัว. สงสัยความกลัวหายเพราะมีความเวทนามาแทน 555
ถ้าคาบุจะบทเยอะขนาดนี้(รองจากขนม)ช่วยเป็นพระเอกให้ทีเถ้ออ. กุว่าสองคนนี้สมกันดีออก
แบบเอากลยุทธที่แม่สื่อสอนมาจีบแม่สื่อ. เจ๋งดีออก
ตอนนี้เป็นตอนจี้ใจคาบุอ่ะ คือคนแต่งก็แต่งแหม่งๆมาตั้งแต่เวอร์ชั่นการ์ตูนแล้วถึงความคาใจของวาคาบะที่มีต่อคาบุรากิที่ยังมีต่อยูริเอะ ท่านเรย์กะขยี้ปมนี้ให้มิดเลยค่ะ ใช้น้ำหนักตัวกระแทกลงไป----//โดนพัดเสียบคอ
>>855 ก่อนหน้านั้นมันไม่มีเรื่องอะไรมาให้ใกล้ชิดกันไง คาบุก็อยู่ส่วนคาบุ วาคาบะก็อยู่ส่วนวาคาบะไม่ข้องเกี่ยวกัน เป็นคนละสังคม คนละโลก เจอกันก็แค่ตอนประกาศผลสอบ คาบุอาจจะมีสนใจบ้างนิดนึงที่ผู้หญิงคนนี้ขึ้นมาเทียบเคียงฮีได้ในเรื่องการเรียน แต่พอมีเรื่องรถชน พาไปโรงบาล รับผิดชอบนั่นนี่ ได้เจอกันบ่อย ได้คุยกันเยอะ วาคาบะเองก็น่ารัก นิสัยดี มีอีเวนท์ผ่านมุมมองของเรย์กะ คนอ่านยังชอบเลย แล้วคาบุได้เห็นมากกว่าคนอ่าน มีเหตุการณ์อะไรที่มากกว่าเรย์กะรู้หรือเห็น จะไม่ชอบเร้อออ
จะรู้ได้ชัดก็ต่อเมื่ออ.ฮิโยโกะแกเขียนมุมมองคาบุออกมาให้คนอ่านเห็นนั่นล่ะ ซึ่งกูก็อยากเห็นเหมือนกัน
อยากได้สารบัญว่าตอนไหนมีอาหารโผล่มาบ้าง ไว้อ่านตอนกินข้าว55555555555
ชาฮิบิคัสในตอนล่าสุดนี่ก็น้ำกระเจี๊ยบนี่หว่า ถ้าเรย์กะมาไทยแลนด์แดนของกิน คงได้กินรัวๆ กินไม่หยุด กูล่ะอยากให้นางลองชานมของไทยจริงๆ ติดอันดับเครื่องดื่มที่อร่อยที่สุดในโลกด้วย
พอเห็นพวกมึงพูดถึงงานหมั้นท้ายคิมิดอลแล้วกูรู้สึกเหมือนตอนจบทุกคนจะมีคู่หมดยกเว้นเจ้าแม่จังเลยว่ะ แล้วเจ้าแม่ก็อวยพร (หรือสาปแช่ง) ให้แก่ความรักของทุกคน.....
ไก่เคี่ยวซอสมะเขือเทศนี่ คล้ายๆกับไก่น้ำแดงป่าววะ
คาบุลุยจีบเอง%ล่มสูงมาก แต่กูว่าถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆแล้วความแตกว่าทุกอย่างที่ใช้จีบวาคาบะล้วนมาจากไอเดียเรย์กะ กูว่าแห้วล้าน%
กูอยากเห็นวันที่ได้รู้ว่าโคโระจังเป็นใครว่ะ
>>866 กูไม่ใช่ >>864 นะ แต่คิดว่าถ้าคาบุลงมือจีบเองในชาตินี้ด้วยความเว่อร์วังสไตล์คาบุนี่มีสิทธิแห้วสูงว่ะ เพราะวาคาบะคงผวากับสไตล์พ่อบุญทุ่มหลายๆ อย่านะกูเดา ยิ่งชาตินี้ไม่มีตัวร้ายอย่างท่านเรย์กะคอยสร้างสถานการณ์ความเห็นใจให้เกิดระหว่างทั้งคู่นี่ยิ่งยาก นี่กูยังอยากรู้เลยว่าอีเวนท์เดินจูงมือไปตามชายหาดตอนกลางคืนที่ว่าตอนที่แล้วนี่จะเกิดขึ้นได้ไหมในชาตินี้
>>866 ก็ดูรีแอ็คชั่นของเรย์กะตอนรู้ว่าเมเปิ้ลไซรัปคาบุไม่ได้เลือกเองแต่เพื่อนเลือกให้ ความน่าชื่นชมมันตกวูบเลยนะ
แล้วแบบ... พอเอาคำแนะนำไปใช้แล้วมันเวิร์ค หลังจากนี้คงเชื่อไปตลอด แล้วถ้ามันลามไปถึงดีไซน์แหวนหมั้น/แหวนแต่งงานล่ะมึงเอ๊ยยย คนเลือกให้เป็นผู้หญิงอื่นด้วยนะ ตายแน่ๆ ถ้ากูเป็นเจ้าสาวนะ ขอเลื่อนพิธีแต่งงานแบบไม่มีกำหนดเลยล่ะ
ปล.แต่คาบุคงเก็บแต้มหัวใจไม่ขึ้นหรอก โดนแย่งไปหมดละ
>>873 กูก็ว่างั้นแหล่ะ เรย์กะจีบวาคาบะเอง ติดล้านเปอร์เซนต์แน่นอน แค่นี้ก็แทบจะเป็นลูกบ้านเขาอยู่ละ ควรจบกับวาคาบะจริงๆ ถถถถถถถถถถถ
>>872 กูว่ามันคงไม่ลามไปถึงช่วยเลือกแหวนหมั้นหรือเครื่องประดับอะไรขนาดนั้นหรอก และคิดว่าดีไซน์แหวนหมั้น แหวนคู่ไรงี้ กูว่าคาบุมันคงคิดไว้เรียบร้อยแล้วล่ะ เหลือแค่มาทำจริงๆ แล้วก็โดนสกัดดาวรุ่งไป.......
กูว่าเรื่องเครื่องประดับเนี่ยคาบุก็เซนส์ดีนะ น้องวาคาบะเห็นแล้วยังชอบทันทีเลย ก็ต้องสวยและฝีมือดีแหล่ะ
>>871 อ๋อ เออ ถ้างั้นกูว่ามีสิทธิไม่ล่มนะ ถ้าเรย์กะเป็นผู้ชายนี่แววดราม่ามาสูง คนที่รู้ใจฉันที่แท้จริงคือท่านคนนั้น.../ปากสั่นน้ำตาคลอเล่นใหญ่สไตล์โชโจ แต่นี่เป็นวาคาบะไง นางอาจจะเอ็นดูความไม่เอาไหนของบากะรากิมันก็ได้ แบบจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่แห่งซุยรันก็มีด้านบื้อๆ ที่คาดไม่ถึงอยู่ด้วย กลายเป็นแก็ปโมเอะไปอีก 55555
เอาซักหน่อยละกัน ห๊ะ!? ฟิคที่ดองไว้เหรอ ไม่มี๊ไม่มี
-----------------------------------------
หลังจากเรียนจบมัธยมปลายที่ซุยรันก็ผ่านมาหลายปีแล้ว ความทรงจำในรั้วโรงเรียนตลอดสิบสองปีช่างแสนมีค่า ไม่ว่าอะไรก็ล้วนแต่เป็นประสบการณ์ที่ดี ทั้งความสุขจากชัยชนะในงานแข่งขันกีฬา ความตื่นเต้นเมื่อพบคู่แข่งในการชิงลำดับหนึ่งบนบอร์ดคะแนน ความหอมหวานและขมขื่นของรักแรก และความหวังในรักครั้งใหม่ ผม... คาบุรากิ มาซายะ ด้วยความมุมานะพยายามมาตลอดหลายปีนี้ ตอนนี้ความรักของผมสมหวังแล้วครับ
คำกล่าวสาบานรักดังกังวาลในโบสถ์สไตล์ยุโรปท่ามกลางแสงระยิบระยับของแสงแดดที่ส่องลอดผ่านกระจกโมเสค ผมประทับริมฝีปากลงไปอย่างแผ่วเบา เมื่อสัมผัสรสหวานอ่อนๆได้เพียงเล็กน้อยก็ต้องผละออกมาอย่างน่าเสียดาย เจ้าสาวของผมยิ้มเขินอายอย่างน่ารัก เสียงดนตรีเริ่มบรรเลงท่วงทำนองพร้อมกับเสียงแสดงความยินดีของแขกเหรื่อจำนวนมาก เป็นบรรยากาศงานแต่งงานที่สมบูรณ์แบบไร้ที่ติ น่าเสียดายที่แขกคนหนึ่งไม่สามารถมาร่วมงานได้
หลังจากทักทายแขกในงานจนครบก็มีงานเลี้ยงเล็กๆต่ออีกนิดหน่อย ดูเหมือนเจ้าสาวของผมเริ่มอ่อนล้าเนื่องจากยังไม่คุ้นเคยกับงานสังคมนัก โชคดีที่งานเลิกเร็วผมจึงพาเธอออกมาได้ในเวลาไม่นาน มุ่งหน้าสู่เรือนหอของเรา ผมรู้สึกร้อนผ่าว หัวใจเต้นระรัวยิ่งกว่าที่เคยเป็น เจ้าสาวของผมก็คงเป็นเช่นเดียวกัน นี่ไม่ใช่ตอนจบ แต่นี่คือจุดเริ่มต้นที่แท้จริงของชีวิตคู่
ผมเปิดบานประตูออกช้าๆ พยายามเก็บความลนลานไว้ให้มิด ผู้ชายอย่างเราต้องเป็นฝ่ายนำและเป็นสภาพบุรุษ ต้องใจเย็นๆเข้าไว้...
"คิ- คิโชวอิน??"ผมแทบไม่เชื่อสายตาเมื่อเห็นแขกที่ไม่ได้ร่วมงานนั่งจิบชาอยู่ในรักรังของเรา ทำไมมาอยู่ตรงนี้ล่ะ ทำไมไม่มาร่วมงานพิธี
"คะ? ท่านคาบุรากิ"คิโชวอินวางแก้วน้ำชาลงบนโต๊ะอย่างอ้อยอิ่ง เธอสบตาอย่างเฉื่อยชาราวกับไม่ได้บุกรุกบ้านคนอื่น
"เธอ... มาทำอะไรที่นี่"ผมกระชับเจ้าสาวในอ้อมแขนไว้แน่น
"ก็มาเป็นที่ปรึกษาด้านความรักเหมือนทุกครั้งยังไงคะ"เธอมองหน้าผมด้วยใบหน้าฉงน
"นี่มันไม่จำเป็นต่อไปแล้วนะ เธอน่ะออกไ---"
"คุณคิโชวอินต้องอยู่ด้วยสิคะ คุณมาซายะ"เจ้าสาวของผมแย้งขึ้นก่อนที่ผมจะพูดจบ
"เอ๋??"
"เธอไม่ใช่คนนอกนะคะ!!"
"หมายความว่ายังไง??"
"คุณทาคามิจ--- ไม่สิ คุณวาคาบะจับได้เรื่องที่ดิฉันเป็นคนแนะนำคุณเกือบทุกอย่างเรื่องคุณวาคาบะจนถึงปัจจุบัน จึงได้เชิญให้ดิฉันมาที่นี่ค่ะ"
"คุณมาซายะไม่ได้จีบฉันด้วยตัวเองแต่อาศัยความช่วยเหลือคุณคิโชวอินมาตลอด เพราะฉะนั้นในการแต่งงานครั้งนี้ ฉันไม่ได้เป็นของคุณมาซายะคนเดียวนะคะ"
"..."
"ฝากตัวด้วยนะคะ วาคาบะจัง"
"อื้ม ฝากตัวด้วยนะ เรย์กะจัง"
แล้วคืนนั้นไซซายะก็นอนข้างนอก
อวสาน
ปล.กูเรือท่านพี่นะ กูไม่ได้ตั้งใจยูริเลยยยย
>>876 ไปให้ชูสุมอยปลอบใจนะไซซายะ
http://imgur.com/8ESe7F2
http://imgur.com/RoA7RT9
เออ พูดถึงไซซายะ วันก่อนเจอทวีตนี้
https://twitter.com/BabyAnimalPics/status/872969822107303936
....55555555555
>>887 กูบวกเพิ่มท่านฟุยุโกะอีกคน ดูมีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ
จะ 900 และ เสนอชื่อกระทู้ใหม่กันได้แล้วมั้ยอ่ะ บนๆ มีคนเสนอชื่อ "ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ :ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับท่านเทพเกศาบันดาลรัก โปรดรับบรรณาการนี้ไปด้วยเถิด!!! (บรรณาการจานที่ 16)"
ใครอยากเสนอชื่ออื่นๆ เพิ่มเติมหรือโหวตก็จัดเลยเน้อ
ผมชอบชอบชื่อนั้นนะ+1ให้เลย
(บลาๆๆ)กับยุทธการหยุดแผนเซอร์ไพรซ์อันน่าสิ้นหวังของจักรพรรดิ์ แผนที่ 16
กูยังคงทำร้ายไซซายะเช่นเคย 5555
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ :ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันข้างการประชุมแผนการจีบสาวของเจ้าแม่และจักรพรรดิ(น้ำหนักขึ้นกิโลที่ 16)
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ :ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันเพื่อบังหน้าการแอบส่องชีวิตชิลไปวันๆของเจ้าแม่ ท่านจักรพรรดิ และท่านจอมมาร (กล้องส่องทางไกลอันที่ 16)
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ :ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับฤดูใบไม้ผลิที่ควรมาเยือนจักรพรรดินีได้แล้ว //คานแท่งที่ 16 จงแตกย่อยยับไปซะะะ!!!
รู้สึกน่าจะเป็นมงคลดี
ลองรวมชื่ออันบนๆมา ถ้าขาดอันไหนก็ขอโทษนะ
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ :ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับวิญญาณแค้นทานุกิที่สิงอยู่ข้างหลังน่ะ จะจัดการให้หมดเลย [ทาร์ตถาดที่ 16]
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ :ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับท่านเทพเกศาบันดาลรัก โปรดรับบรรณาการนี้ไปด้วยเถิด!!! (บรรณาการ 16 จาน)
+4
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ :ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับยุทธการหยุดแผนเซอร์ไพรซ์อันน่าสิ้นหวังของจักรพรรดิ์ แผนที่ 16
+2
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ :ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันข้างการประชุมแผนการจีบสาวของเจ้าแม่และจักรพรรดิ(น้ำหนักขึ้นกิโลที่ 16)
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ :ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันเพื่อบังหน้าการแอบส่องชีวิตชิลไปวันๆของเจ้าแม่ ท่านจักรพรรดิ และท่านจอมมาร (กล้องส่องทางไกลอันที่ 16)
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ :ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับฤดูใบไม้ผลิที่ควรมาเยือนจักรพรรดินีได้แล้ว //คานแท่งที่ 16 จงแตกย่อยยับไปซะะะ!!!
ตอนล่าสุด กูรักกัปตันยูกิโนะ!!!
แต่ไอ้จิบชาแก้วเดียวกันแล้วคิ้วตกนี่คือไรวะ ไม่อร่อย หรืออะไร(อัดกาวรัวๆ)
บรรยากาศกร่อยเพราะโทรศัพท์เลย ท่านเอ็นโจสำนึกผิดมาซ้าาาาาา!!!
ตอนล่าสุดกัปตันยูกิโนะนี่ใช้กลยุทธ์เดียวกับมาโอะจังเลยว่ะ ไม่รู้ใครลอกใครมา เปอติต์นี่เป็นรังปีศาจน้อยจริงๆ
>>901 เรื่องชาลาเวนเดอร์กูเคยชิมแล้ว ขอบอกว่ากูไม่ชอบกลิ่นมันอย่างแรงมันกลิ่นฉุนเกินไปสำหรับกู ส่วนใหญ่ผู้ใหญ่จะดื่มกันเด็กๆจะไม่ชอบเพระากลิ่นมันนี่แหล่ะ
ยูกิโนะนี่จงใจจับคู่เรย์กะกับเอ็นโจอย่างออกนอกหน้าเลยนี่หว่า หรือว่าสองพี่น้องนี่ร่วมมือกันน่ะ? แต่บรรยากาศกร่อยเพราะสายเข้าใครกันนะที่โทรมา ยุยโกะ?
แด่ความยิ่งใหญ่ของชาวเราเรือเอ็นโจและกัปตัน
ฮือออ กูจะไปซื้อชาลาเวนเดอร์มาดื่มอวยพร
แงงงง ท่านกาลีต้องได้สละเรือคานแน่นวล
คานจะต้องหักลงด้วยน้ำมือของกัปตัน
บทเอ็นโจไม่โผล่ก็มาแค่บรรทัดเดียว บทจะโผล่มาก็ประหนึ่งนิวเคลียร์ลงจนราบคาบ
>>901 บร้าาาา มึงงงงงง เอ็นโจไม่ได้ทำอะไรเลยเว้ย อยู่ๆโทรศัพท์มันก็ดังเองต่างหาก เขากำลังมุ้งมิ้งพ่อแม่ลูกกัน คุยกันหัวเราะกันสนุกสนาน แล้วจู่ๆก็.... เอ็นโจถึงกับหุบยิ้มเลยนะ ไอ้โทรศัพท์ ky ไอ้โทรศัพท์ไม่มีมารยาท ไอ้โทรศัพท์ขัดจังหวะ ไอ้โทรศัพท์ไม่รู้จักกาลเทศะ
แต่เส้นผมเป็นประกายระยิบระยับเลยเหรอ นายควรไปย้อมหัวทองได้แล้วนะ เพื่อความเป็นเจ้าชายที่เพอร์เฟคมากยิ่งขึ้น
ยูกิโนะคุงงงงงง มาแนวเดียวกับมาโอะจังเลยนะแหม่55555พวกเด็กๆนี่ร้ายกันจริงๆ ฮาที่ท่านเรย์กะบอกว่าสภาพจิตคาบุพอๆกะเด็กๆอ่ะ55555ยังอุตส่าห์โยงไปได้นะ ส่วนเอ็นโจนี่ดูมีเลศนัยตอนที่ทักเรื่องหนังสือจริงๆประหนึ่งว่ารู้เหตุผลว่าทำไมท่านเรย์กะถึงแนะนำไปแบบนั้น ปล.ตอนนี้อะไรๆก็ดียกเว้นโทรศัพท์ตอนท้ายกับตอนขึ้นรถละบอกกลิ่นหอมอวลๆนี่กาวไปว่ายุยโกะนั่งรถมาด้วยก่อนรึป่าว แต่ก็อยากให้แค่หอมน้ำหอมรถอ่ะนะเฮ้ออออ//ฟรุ๊งไม่สุดสะดุดตอ
>>914 กูรู้สึกเหมือนยูกิโนะจะแอบตัดคะแนนเรย์กะเล็กน้อยข้อหาเอาอะไรไม่อร่อยมาให้ดื่ม ถึงขั้นคิ้วตกเลยเหรอลูก ถถถถถ ส่วนกลิ่นหอมนี่เพิ่งคิดแฮะว่าอาจจะเป็นกลิ่นน้ำหอมยุยโกะก็ได้ เหมือนเรื่องจีนเลยว่ะ ประมาณฮ่องเต้เพิ่งไปตำหนักนางในคนอื่นมาแล้วกลิ่นเครื่องหอมตำหนักนั้นติดตัวไรงี้
เห็นเมนท์ในแมวดุ้นว่ายูกิโนะจูบทางอ้อม....เด็กป.2 คิดอะไรแบบนี้ได้แล้วเรอะ กูแอบอยากรู้ความคิดน้องเขาเบาๆ 5555555555555555555
>>920 สังคมญี่ปุ่นเหมือนเขาจะจริงจังกับจูบทางอ้อมมากนะเด็กชายหญิงค่อนข้างต่างกันชัดเจน (ต่างจากไทยที่เล่นต่อยกันไม่แยกเพศตอนเด็กๆ มาแยกเอาตอนโต) เด็ก ป.สองรูเรื่องจูบแล้ว สื่อบันเทิงมากมายก็ชอบเล่นมุกจูบทางอ้อมทั้งการ์ตูนทั้งวาไรตี้ กูว่ารู้ได้นะ มันไม่ได้ยากหรือซีับซ้อน แต่จะมองในมุมเด้กๆแบบริสุทธิ์กว่าผู้ใหญ่
กัปตันยูกิโนะ. ผู้นำทางสู่โชโจ
ตกลงสองคนนี้จะรักกันชอบกันต้องพึ่งเด็ก ป 2 รึ ถถถถถถ
กูเป็นคนเดียวรึเปล่า แบบฉากที่เอ็นโจวเอาโกโก้ให้ยูกิโนะกิน แล้วยูกิโนะบอกหลับไปไม่รู้ตัว
กูรู้สึกเหมือนเอ็นโจวเอายานอนหลับให้น้องกิน Y Y
กูคงติดฟิลเตอร์มองเอ็นโจวในแง่ร้ายมาจากเรย์กะ โซซอรี่นะเอ็นโจว
>>923 กูว่าน้องเขาพยายามพรีเซนต์ว่าพี่ชายผมอ่อนโยน ดี๊ดี เอาใจใส่ ดูดาวอยู่คนเดียวก็รู้ แล้วก็ชงโกโก้มาให้ นั่งดูดาวด้วยกัน อีกอย่างเด็กฝืนนอนดึกมากไม่ไหวหรอก จะเผลอหลับไปไม่แปลก ฮีจะวางยาน้องตัวเองตะไม ถถถถถถถถถถถถถถถถ
>>921 เรอะ ไม่มีอะไร กูแค่นึกถึงความใสๆของเด็กวัยขนาดนี้ จะรู้เรื่องรู้ความหมายของจูบทางอ้อมแล้วงั้นเร้ออออ มึงว่ามาแบบนั้นกูก็เชื่อตามนั้นล่ะ
เหมือนโม่งแปลและพวกมึงรู้ว่ากูจะแต่งพาร์ทเอ็นโจกัน อะ เอาปัยยย ฟิคคนเขียนคิมิดอลพาร์ทเอ็นโจครึ่งแรก ครึ่งหลังมาพรุ่งนี้ กูนอนละบั๊ยย
ปล.ส่วนพาร์ทคาบุรากิยังไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ กูเขียนล้อตามไทม์ไลน์เรื่องหลักนะ
-----------------------------------------------
สุดท้ายก็ยังไม่กล้าขออีเมลของวาคาบะจังค่ะ เสียดายจัง ไม่รู้ว่าจะได้เจอกันอีกเมื่อไหร่ ทุกวันนี้ก็พยายามมองหาตลอดนะคะ แต่ไม่เจอสักครั้งเลย ดูเหมือนว่าจะหลีกเลี่ยงการมาทานอาหารกลางวันที่โรงอาหารค่ะ แย่จังนะ... อ๊ะ!! โต๊ะตัวนั้นว่างนี่นา อยู่ใกล้ที่นั่งอภิสิทธิ์ของPivoineซะด้วย ทำเลทองเหมาะสำหรับส่องมาซายะคุงกับชูสุเกะคุง ลัคกี้~
“อืม... ไม่เห็นแฮะ”หลังจากกวาดตามองไปรอบๆก็ไม่พบทั้งสองคนอย่างที่หวังไว้ เพราะอย่างนี้หรือเปล่านะวันนี้จึงไม่มีแฟนคลับมานั่งเบียดกันจนโต๊ะไม่พอ แต่ยังไงสมาชิกPivoineก็หน้าตาดีๆกันทั้งนั้นเลยนะคะ เช่นสาวสวยที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ริมหน้าต่าง หนุ่มหล่อมาดเข้มทางนั้นที่นั่งพูดคุยกับเพื่อนอีกคนอย่างสนุกสนาน อาหารก็อร่อย วิวก็ดี รักโรงอาหารซุยรันที่สุดเลยค่ะ
“ขอร่วมโต๊ะด้วยได้ไหมคะ?”เพื่อนร่วมห้องหญิงคนหนึ่งปรากฏตัวพร้อมกับชุดอาหารอิตาเลี่ยนหน้าตาน่าทาน หวาๆ มีเมนูแบบนี้ด้วยเหรอเนี่ย จะตะล่อมหลอกถามชื่อเมนูได้ไหมนะ อยากลองทานบ้างจังเลย พรุ่งนี้ลองสั่งมาบ้างดีกว่า
“ด้วยความยินดีค่ะ”ฉันคลี่ยิ้มพร้อมทั้งผายมือไปยังเก้าอี้ที่ว่างอยู่ ฉันเองก็เรียนจบไปตั้งนานแล้ว การปรับตัวให้เข้ากับเพื่อนร่วมชั้นนี่น่าลำบากใจไม่น้อยเลยค่ะ ไม่รู้ว่าจะเข้ากับเด็กวัยรุ่นได้หรือเปล่ายิ่งเป็นคุณหนูลูกผู้ดียิ่งแล้วใหญ่ ถึงทางบ้านของเจ้าของร่างนี้จะไม่ได้เป็นเศรษฐีก็เถอะค่ะ แต่การเป็นลูกสาวเจ้าของสำนักพิมพ์ขนาดกลางก็ต้องวางตัวให้ดีสินะคะ
“...”เธอจัดแจงวางถาดอาหารลงบนโต๊ะอย่างแผ่วเบาและไม่ยอมละสายตาออกจากฉัน เอ๋?? นี่ทำพลาดอะไรไปหรือเปล่านะ หรือว่าเมื่อกี้ไม่ควรผายมือแต่ควรจะลุกขึ้นเชิญแล้วนั่งลงพร้อมกัน? เมื่อเห็นฉันลุกลี้ลุกลนเธอก็นั่งลงทางด้านซ้ายมือในมุมที่มองเห็นหนุ่มหล่อคนที่ฉันแอบมองอยู่
“...สง่างามดีนะคะ”เธอพูดด้วยน้ำเสียงเคลิ้มฝันพลางจ้องมองไปยังหนุ่มหล่อคนเดิม
“เอ๊ะ...? ค่ะ สง่างามจริงๆค่ะ”พูดถึงหนุ่มหล่อคนนั้นใช่ไหมนะ คงต้องไหลตามน้ำไปก่อนล่ะค่ะ
“เป็นแฟนคลับของท่านคาบุรากิเหรอคะ?”อ๋อ... ที่แท้ก็เรื่องนี้นี่เอง
“ท่านคาบุรากิน่าชื่นชมอยู่ก็จริง แต่ฉันชื่นชอบท่านเอ็นโจมากกว่าค่ะ”ใช่แล้วค่ะ มาซายะคุงน่ะเป็นพระเอกของเรื่อง แต่ถ้าเป็นลูกรักของฉันแล้วล่ะก็ต้องเป็นชูสุเกะคุงอย่างแน่นอน การแสดงออกที่นุ่มนวลและคำพูดอ่อนหวาน เส้นผมสีน้ำผึ้งที่เข้ากับรอยยิ้มดุจเจ้าชาย เป็นชายหนุ่มในอุดมคติที่ไม่อาจละสายตาได้ นี่แหละค่ะพลังของตัวละครที่มีคะแนนนิยมอันดับหนึ่ง
“ดิฉันอยู่ฝั่งท่านคาบุรากิค่ะ”ก็แหม... พระเอกผู้รูปโฉมงดงามและเพรียบพร้อมไปด้วยความสามารถก็ต้องมีแฟนคลับเป็นธรรมดาสินะคะ
“ค่ะ”ฉันตอบรับสั้นๆ ถึงแม้จะไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายต้องการจะสื่ออะไร
“แล้วทำไมมานั่งตรงนี้ล่ะคะ?”เธอจ้องมองมาที่ฉันอีกครั้งด้วยสายตาสงสัย
“เอ๋...??”นี่ฉันทำอะไรผิดไปจริงๆเหรอคะ?
“นั่งฝั่งนี้จะมองไม่เห็นใบหน้าท่านเอ็นโจนะคะ ถ้าอยากมองชัดๆควรจะนั่งฝั่งนั้น...”เธอเริ่มขยายความ
“หือ...?”
“ก็ทั้งสองท่านนั่งอยู่ตรงนั้น ท่านเอ็นโจหันหลังให้ตรงนี้ ยังไงตรงนี้ก็ไม่ใช่ทำเลที่ดีของคุณไม่ใช่เหรอคะ?”นั่นสินะคะ... เอ๊ะ!? ตรงนั้นคือชูสุเกะคุงกับมาซายะคุงงั้นเหรอ ฉันก็มองหาแต่ผมสีน้ำผึ้งจนไม่ได้สนใจผมสีดำแม้แต่น้อย พอมองดูดีๆแล้วหนุ่มหล่อตรงนั้นคือมาซายะคุงจริงๆด้วย!! ชูสุเกะคุงทำไมผมถึงกลายเป็นสีดำล่ะคะ!?
“อะ... อ้อ นานๆทีก็เปลี่ยนบรรยากาศนิดหน่อยน่ะค่ะ”แหม... ‘ชายหนุ่มในอุดมคติที่ไม่อาจละสายตาได้’เผลอละสายตาไปซะแล้วค่ะ
“...อย่างนั้นเหรอคะ”เธอละสายตาออกจากฉันแล้วเริ่มหยิบช้อนส้อมขึ้นมา อ๊ะ!! จังหวะนี้แหละ!!
“น่าทานจังเลยนะคะ ไม่ทราบว่า...”
“พ่อครัวที่นี่เชี่ยวชาญอาหารอิตาเลี่ยนมากค่ะ Pasta primaveraจานนี้ก็เยี่ยมยอดมาก ขอแนะนำเลยค่ะ”
“ไว้วันหลังจะลองทานบ้างนะคะ”สำเร็จ!!
------------------------------
มึง กูแนะนำให้กูเกิ้ลหารูปดู มันน่ากินมากกกกกกกกกกก
อุ๊ย ลืมเว้นบรรทัด ฝากแปะสารบัญด้วยน่อ
กูว่าถ้าเรื่องนี้เป็นอนิเม ต้อนท้ายต้องมีจิบิท่านเรย์กะออกมาแนะนำเมนูอาหารแน่เลย
อยู่ๆก็นึกได้55555
ky นะคะ ต่อจาก https://fanboi.ch/webnovel/3899/672-673/ ฟิคคู่หูทะลุมิติ
ตอนนี้เราปั่นโปรเจ็ทที่ต้องส่งหลังสอบเสร็จอยู่เลยไม่ค่อยได้เข้ามากระทู้นี้เท่าไหร่ พอดีเราดองงานนี้ไว้มาตลอดทั้งเทอม เลยต้องมาเผาเอาช่วงนี้ 555 แอบเขียนได้เท่าที่เห็นนะคะ ถ้าไม่ลงตอนนี้อาจจะไม่มีโอกาสลงอีกสักพัก เพราะอาจต้องไปพื้นที่ที่ไม่มีเน็ต
ป.ล. เราอาจเขียนแปลกไปเพราะง่วง+เมางานนะคะ
...............
ฉันทั้งเมลล์ทั้งโทรไปหาคาบุรากิ แต่อีกฝ่ายไม่ตอบสนองอะไรเลยสักนิด
พอฉันบ่นอย่างกังวล มาซายะคุงก็บอก "ทำตกน้ำน่ะ" อื้ม ที่มาซายะคุงเดาก็อาจเป็นไปได้ เก่งจังเลยนะ
พอฉันถามมาซายะคุงว่ามาที่นี่ยังไง เขาก็บอกว่ามาทางเฮลิคอปเตอร์พร้อมเอ็นโจ อย่าบอกนะว่าคาบุรากิเจอญาติแล้วปล่อยไว้คนเดียวไม่ได้เลยพามาด้วยกันหรือเปล่านะ จะว่าไปหมอนั่นก็เอ็นดูเด็กๆอยู่นะ
ฉันลองเสี่ยงตายเดินไปถามเอ็นโจว่าเห็นคาบุรากิครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ เอ็นโจก็ยิ้มๆแล้วบอกว่า "นั่นสิน้า ตอนนี้หมอนั่นอยู่แถวๆนี้แหละ"
"คาบุรากิคุงคงไม่ได้ไปกินยาล่องหนอะไรมาหรอกใช่ไหมคะ..."
โลกนี้มีทั้งยาลบความทรงจำ ยาสลับร่าง อาจจะมียาล่องหนอีกก็ได้!
เอ็นโจทำท่าเหมือนแทบกลั้นขำเอาไว้ไม่อยู่ มันก็เป็นเรื่องปกติในมังงะไม่ใช่หรือไง! ฉันไม่รู้ว่าโลกนี้อะไรเป็นเรื่องปกตินี่นา...
"จริงๆนะ ไม่ต้องตามหาหรอก..." มาซายะคุงที่อยู่ข้างๆงึมงำ
"ท่านเอ็นโจติดต่อเขาได้บ้างไหมคะ"
"อื้ม จะว่าไงดีล่ะ" เอ็นโจเหลือบมองมาซายะคุง "ตอนขึ้นเฮลิคอปเตอร์ ช่วงใกล้ถึงและส่งเมลล์เสร็จแล้ว มาซายะอยากทดลองอะไรสักอย่างจนไม่ทันระวังทำมือถือหล่นทะเลน่ะ"
ฉันฟังอึ้งๆ แต่มันฟังดูเป็นเขามากๆเลยนะคะ... แล้วแบบนี้เอ็นโจจะไม่ทำตัวติดหนึบกับคาบุรากิอีกหรือไง! ทำหมอนั่นหายไหนไม่รู้แล้วนะคะ รู้ทั้งรู้ว่าจะติดต่อหมอนั่นไม่ได้ไม่ใช่หรือไงกัน!!!
คาบุรากิกลายเป็นเด็กหลง เถลไถลเดินเล่นจนถูกดึงดูดความสนใจให้ทำอะไรแปลกๆหรือเปล่านะ ยิ่งคนแบบหมอนั่นยิ่งอยากเอาชนะซะด้วย คงไม่ยอมแพ้จนกว่าจะสำเร็จ
"เป็นห่วงเขาน่าดูเลยนะครับ"
"ท่านเอ็นโจไม่เป็นห่วงเลยหรือไงคะ! ติดต่อเขาไม่ได้แบบนี้"
"นั่นสิน้า"
เอ็นโจเอ่ยรับสบายๆ นายเป็นเพื่อนสนิทคาบุรากินะ! เป็นมิตรแท้ยาวนาน ไม่รู้ร้อนรู้หนาวมากเกินไปแล้วนะคะ!!!
ฉันหมายหัวเอ็นโจในใจ ถึงทำอะไรเขาไม่ได้ก็เถอะ เลยได้แต่สวดขับไล่ปีศาจแทน
เมื่อนึกถึงว่าคนตรงๆแบบคาบุรากิมาเป็นเพื่อนกับจอมมารแบบนี้ถือเป็นเรื่องแปลกอย่างบอกไม่ถูก แต่ว่าเอ็นโจที่เป็นแบบนี้ล่ะนะที่จะรับมือกับเรย์กะ ตัวร้ายในคิมิดอลได้
แต่ถึงจะเจ้าเล่ห์ เลวร้าย จอมมารมากแค่ไหน เอ็นโจคงไม่ได้ทำท่าทางสบายๆแบบนี้หรอกมั้งถ้าคาบุรากิเป็นอันตรายอะไรจริงๆ อย่างน้อยเอ็นโจในคิมิดอลที่ฉันอ่านมาก็เป็นแบบนั้น
ฉันขมวดคิ้วอย่างไม่รู้ตัว ไม่ใช่ว่าคาบุรากิวางแผนอะไรกับเอ็นโจไว้ เตรียมเชอร์ไพส์ฉันอะไรแบบนั้นนะ
ตอนติวเรื่องจีบวาคาบะจังก็บอกไปแล้วไงว่าอย่าทำอะไรอย่างนั้น... หายตัวไปไม่บอกกล่าว ทำเอาคนอื่นเขาเป็นห่วงแบบนี้ใช้ไม่ได้นะคะ
แต่หมอนั่นดูโรแมนติคมีความฝัน วิธีจีบเหมาะกับการอยู่แค่ในมังงะเอามากๆเลยนะ แต่มาทำในชีวิตจริงก็ดูลำบากในหลายๆอย่าง แต่โลกนี้ก็นับว่าเป็นโลกมังงะอยู่นะ
ฉันได้แต่ลังเลว่าควรกลุ้มใจต่อดีไหม...
“จะยังไง ถ้าติดต่อคาบุรากิคุงได้ช่วยบอกฉันด้วยนะคะ” ฉันผลักความกังวลให้เอ็นโจแบกรับบ้าง
“แต่ผมไม่มีเมลล์หรือเบอร์มือถือคุณคิโชวอินเลยนะครับ”
เอ็นโจพูดด้วยรอยยิ้ม ฉันชะงัก พลาดแล้วค่ะ ทั้งๆที่ระวังมาโดยตลอดแท้ๆ ให้ตายเถอะ! คาบุรากิหายไปไหนนะ
แบบนี้จะนินทาเอ็นโจในมือถือก็เริ่มไม่ค่อยวางใจเท่าไหร่ก็ไม่รู้ ฉันมองเมลล์เอ็นโจในมือถือตัวเองแล้วรู้สึกเสียววาบๆขึ้นมา
“ขอโทษนะครับคุณคิโชวอิน แต่ผมขอยืมตัวมาซายะสักพักได้หรือเปล่า”
เอ็นโจพูด เรียกชื่อคาบุรากิกับมาซายะคุงเหมือนกันแบบนี้ไม่สับสนแย่หรือไงกันนะคะ
มาซายะคุงที่ยืนอยู่ข้างๆฉันสะดุ้ง
ฉันมองมาซายะคุงที่ทำหน้าไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ก็จับมืออีกฝ่ายเบาๆ อย่าข่มขู่มาซายะคุงนะ! ฉันทำใจกล้ายืนเผชิญหน้ากับเอ็นโจ เพื่อปกป้องมาซายะคุง อือ รอยยิ้มน่ากลัวไปแล้วนะคะ... แต่ยังไงก็ไม่ยอมให้เขาทำอะไรมาซายะคุงหรอกนะ!!!
แต่คิดๆดูแล้ว เอ็นโจคงไม่ได้คิดจะข่มขู่อะไรเด็กน้อยคนนี้หรอกมั้ง ปกติก็ดูแลยูกิโนะคุงดีนี่นา ถึงจะทำตัวน่ากลัวยังไง แต่ก็ดูแลน้องชายตัวเองออกมาได้เป็นเทวดาน้อยนี่นะ คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง
“ไว้ทีหลังได้ไหม...”
มาซายะคุงพูดต่อรอง
“ก็ได้ แต่ขอแนะนำหน่อยล่ะกันนะ ตอนนี้เหมาะมากๆที่จะทำแบบนั้น”
“อื้อ...”
ทำอะไรกันคะ นายสอนอะไรแปลกๆให้มาซายะคุงหรือเปล่าน่ะ
พอสบโอกาสฉันก็รีบบอกลาแล้วหนีออกมาโดนลากมาซายะคุงหลบหลีกจอมมารมาด้วยอีกคน
มือของมาซายะคุงเล็กกว่าฉันอีกนะ ถึงจะเป็นผู้ชาย แต่ก็เป็นเด็กที่อายุห่างกันแบบสุดๆเลยนี่นา ฉันกุมมือเล็กๆของมาซายะคุงไว้ อุ่นจังเลย ได้ใกล้ชิดเด็กน้อยแบบนี้รู้สึกเป็นกำไรชีวิตยังไงไม่รู้นะคะ
มาซายะคุงหน้าแดงนิดๆ แต่พอฉันจะเอามือออก เขาก็จับมือฉันไว้แน่น ดึงเบาๆ ตากลมโตจ้องมองมาที่ฉัน แล้วถาม "อยู่แบบนี้สักพักได้หรือเปล่า"
เลือดกำเดามายาของฉันไหลทะลักจนแทบหมดตัว หัวใจอ่อนยวบ อยากกอดมาซายะคุงแรงๆสักทีแล้วอุ้มกลับบ้านจังเลยค่ะ
ยกเลิกหมั้นกับคาบุรากิแล้วหมั้นกับมาซายะคุงแทนได้ไหม พอมานั่งพัก มาซายะก็มานั่งแปะอยู่ข้างๆฉัน แล้วเงยหน้าขึ้นมอง เขาท่าทางดีใจอย่างบอกไม่ถูก ก่อนจะซุกตัวอย่างออดอ้อน ไม่ไหวแล้วค่ะ ศีลธรรมในใจฉันเริ่มสับสน
"มาซายะคุงปีนี้อายุเท่าไหร่หรอจ๊ะ" ฉันถามดู จะได้รู้ว่าเมื่อไหร่จะถูกกฎหมาย
"ก็พอๆกับเธอนั่นแหละ..." มาซายะคุงบอก
"เอ๋"
หัวใจฉันระทึกนึกถึงพระเอกในนิยายรักที่อ่านเมื่อหลายวันก่อน เขาพูดกับนางเอกอย่างจริงจังว่าระยะห่างอายุไม่เป็นอุปสรรคต่อความรัก อย่าบอกนะว่ามาซายะคุงเองก็ชอบฉันในรูปแบบนั้น!!! นี่มันโมเม้นต์ฤดูใบไม้ผลิในฝันของฉันเลยนี่คะ! บางทีครอบครัวหรือคนรอบข้างก็อาจจะต่อต้าน แต่ทว่าความรักที่เรามีให้แก่กันก็จะทำให้ผ่านพ้นอุปสรรคทั้งหมดไปได้!!!
แต่ว่าในโลกคิมิดอล เรย์กะกลับไปหลงรักคาบุรากิเสียก่อน ถ้าชอบมาซายะคุงอะไรๆอาจไม่เลวร้ายถึงขั้นในมังงะก็ได้นะคะ...
"คิดอะไรแปลกๆอยู่นั่นน่ะ..."
พอเห็นฉันเงียบไปนาน มาซายะคุงก็ทักถามขึ้น แย่ล่ะ เพ้อเจ้อจนหลุดยิ้มโลกส่วนตัวออกไปอีกแล้วสินะคะ...
"ไม่เชื่อจริงๆหรอว่าฉันเป็นมาซายะ คาบุรากิคนเดียวกับที่เธอรู้จัก..."
"เชื่อสิจ๊ะ" ฉันยิ้มตอบไป ก็คงคนเดียวกับที่เรย์กะโลกคิมิดอลรู้จักนั่นแหละนะคะ
"..."
มาซายะคุงทำท่าเหมือนพูดอะไรไม่ออก ทำไมกันนะ? เรย์กะในโลกคิมิดอลไปทำอะไรมาหรือเปล่านะคะ
วันนี้ฉันสำรวจร้านอาหารที่ดูน่ากินมาส่วนหนึ่งแล้ว เลยพามาซายะคุงไปกินด้วยกัน มาซายะคุงท่าทางชอบกินอะไรคล้ายๆคาบุรากิ แถมยังสั่งของหวานแบบเดียวที่เขาชอบอีก ท่าทางตอนกิน ลักษณะการพูดคุย ยิ่งดูก็ยิ่งเหมือนคาบุรากิเอามากๆ
หรือมาซายะคุงเป็นคนเดียวกับคาบุรากิ?
...ไม่หรอกค่ะ! ไม่มีทางเป็นไปได้!!! ฉันคิดอะไรแฟนตาซีหลุดโลกเข้าไปทุกที เป็นเพราะคุยกับคาบุรากิบ่อยๆแน่ๆทำเอาฉันเปลี่ยนไปทีละนิด! ไม่ได้การล่ะ! หลังจากนี้คงต้องดึงสติกลับมาเป็นพักๆแล้วล่ะมั้งคะ
หลังกินอาหารเย็นด้วยกันเสร็จ มาซายะคุงก็พาไปเดินแถวชายหาด บริเวณเป็นกึ่งๆชายหาดส่วนตัวของโรงแรม และคนส่วนใหญ่ก็นั่งเรือไปที่เกาะแล้ว จึงมีคนอยู่ไม่มากนัก
บรรยากาศตอนนี้ดูสวยงามจริงๆเลยนะคะ คาบุรากิมาเห็นจะต้องนึกถึงกลอนรักแสนหลอนพวกนั้นแน่ๆ
"เธอคงลืมไปแล้ว" มาซายะคุงเริ่มต้นพูด เสียงของเขาเคร่งขรึม แต่ก็ดูเล็กๆน่ารักอย่างบอกไม่ไม่ถูก "ตอนนี้ฉันขอพูดอีกรอบแล้วกันนะ"
แววตาจริงจังปรากฏขึ้น มาซายะคุงหันมาหาฉัน
"ฉันรักเธอนะ"
“เอ๋!!!”
ฉันชะงัก มองอีกฝ่ายพักใหญ่กว่าจะเริ่มประมวลสิ่งที่เกิดขึ้นได้
หัวใจฉันแทบหยุดเต้น ลืมวิธีการพูดไปชั่วขณะราวกับปรับตัวรับมือกับเหตุการณ์ตรงหน้าไม่ทัน
นี่เป็นโมเม้นต์ที่ฉันรอคอยมาโดยตลอดเลยนี่คะ คำสารภาพรักท่ามกลางบรรยากาศโรแมนติค พระอาทิตย์ที่ใกล้ลาลับฟ้า เปล่งประกายแสงสีส้มสะท้อนผิวน้ำ เสียงคลื่นกระทบฝั่งแผ่วเบา พร้อมสายลมที่อบอุ่นหัวใจ
แต่ว่านะ...
ฉันมองมาซายะคุง อีกฝ่ายดูไม่ได้ล้อเล่นเลยสักนิด เอาจริงงั้นหรอ...
"อือ ไม่ชอบหรอ..." มาซายะคุงพูดอย่างลนลาน "จริงๆอยากปิดโรงแรมแล้วให้มาบรรเลงออเคสตราอะไรแบบนี้นะ แต่เธอเคยบอกว่าให้สารภาพรักตรงๆไม่ใช่หรอ"
ฉันตกตะลึง บริบทคุ้นๆอย่างบอกไม่ถูกยังไงไม่รู้นะคะ
ความน่ารักอบอุ่นของมาซายะคุงทำหัวใจฉันละลาย แต่ทว่าฉันได้ยิ้มฝืนๆกึ่งขอโทษให้อีกฝ่าย
นี่หรือเปล่านะความรู้สึกของท่านยูริเอะตอนเห็นน้องชายที่เอ็นดูมาหลงรัก...
"พี่มีคนที่ชอบแล้ว ขอโทษจริงๆนะ"
มาซายะคุงทำหน้าช็อกราวกับโลกจะถล่ม แล้วเค้นเสียงออกมา "ใครกัน"
พอฉันไม่ตอบ เขาก็ทำหน้าซึมจ๋อย ท่าทางเหมือนพยายามพูด แต่ก็พูดอะไรออกมาไม่ได้ พร้อมจะร้องไห้ตลอดเวลา ตากลมๆใสๆเผยแววเศร้าสร้อยออกมาชัดเจน เห็นแล้วอยากเข้าไปกอดปลอบเขาจริงๆ แต่ถ้าทำแบบนั้นก็จะยิ่งไปกันใหญ่...
"คู่หมั้นของพี่คนนั้นนั่นแหละนะ"
ฉันกลั้นใจพูดเมื่อโดนอีกฝ่ายเค้นคำตอบมาอีกรอบ แม้ไม่อยากยอมรับตรงๆ แต่ว่ามันก็เป็นความจริง หน้าฉันแดงไปหมดแล้ว ให้ตายเถอะ!
"เอ๋!!!" มาซายะคุงอุทานอย่างตกตะลึง แล้วมองฉันด้วยแววตาเป็นประกาย ท่าทางดีใจสุดๆ ทำไมกันน่ะ?
หรือว่ามาซายะคุงกะจะเป็นพ่อสื่อให้พี่ชาย(ญาติ?)ตัวเองตั้งแต่ต้น ท่าทางเศร้าซึมเมื่อกี้หายไปเกลี้ยงไม่เหลือร่องรอยสักนิด! อะไรกันน่ะ!!!
ทำไมเด็กๆถึงชอบจับคู่กันจังเลยนะคะ...
มาซายะคุงหัวเราะร่าเริงมีความสุขแล้วกอดฉันแรงๆครั้งหนึ่ง ท่าทางสดใสทำหัวใจฉันอ่อนยวบ แย่แล้วค่ะ รู้สึกดีชะมัด อบอุ่นจัง แต่ปฏิเสธเขาไปชัดเจนแล้วนี่นะ คงไม่เป็นไร
ฉันลูบหัวมาซายะคุงอย่างแผ่วเบา ถ้าเขาแค่เป็นพ่อสื่อ ไม่ได้คิดรักฉันในรูปแบบนั้นก็ดีล่ะนะ ถ้าต้องมองเด็กน้อยคนนี้ทำหน้าเศร้าไปตลอด ฉันต้องใจสลายไปแน่ๆ ไม่อยากทำร้ายรอยยิ้มสดใสร่าเริงนั่นเลยล่ะนะคะ
ฉันเริ่มคิดได้ขึ้นมา อย่าบอกนะคะว่าเรย์กะในโลกคิมิดอลก็ถูกมาซายะคุงเป็นพ่อสื่อ! ด้วยความน่ารักน่าเอ็นดู เรย์กะเลยพยายามจีบคาบุรากิอย่างเต็มที่ไม่ให้มาซายะคุงผิดหวัง!
แต่คิดไปคิดมาเรย์กะโลกคิมิดอลคงไม่ได้รักเด็กขนาดนั้นหรอกมั้งคะ
จนถึงตอนกลางคืนคาบุรากิก็ยังไม่กลับมา แต่กลับมีเมลล์ของเขาส่งมาให้ว่า “ซื้อมือถือได้แล้ว นี่เบอร์ใหม่ฉันนะ” ไม่คิดจะอธิบายสักนิดหรือไงว่านายหายไปไหน! พอฉันอ่านไม่ตอบ หมอนั่นก็ลนลานส่งเมลล์กลับมาหลายฉบับ ฉันเลยปิดมือถือหนี
พอฉันกำลังจะนอน ก็มีคนมาเคาะประตูห้อง ตอนแรกนึกว่าเป็นคาบุรากิ แต่กลับเป็นมาซายะคุง
เขาเริ่มต้นพูด “ฉันกลายเป็นเด็กน่ะ...”
-------------- (จบตอน 46) -------------
โม่งทะลุมิติกลับมาแล้ว ขอบคุณค่ะ //เช็ดน้ำตาแปป ถ้างานมันหนักก็ไปทำเถิด รู้สึกผิดที่ถามถึงเลย ;_;
โม่งฟิคคู่หูทะลุมิติอิสแบ็คคค /จุดพลุให้อย่างอลังการยังกะออกมาจากความคิดคาบุ
เหมือนช่วงนี้ไม่ค่อยได้อ่านฟิค เยสสสส
>>933 ขอบคุณที่เกลียดกู มีความสุขมากค่ะ 5555
นี่กูกำลังคิดอยู่เลยว่าจะเดินสายทัวร์กินดีไหม แต่เวลากูเขียนเนื้อหามันจะยืดๆเดินช้า ถ้าทัวร์กินแบบเนื้อเรื่องหลักนี่อาจจะหาทางกลับไม่ถูก
แต่มันก็น่าทำน้า~ เพราะกูแต่งเสร็จช่วงสามสี่ทุ่มตลอด ลงของกินทุกตอนก็ไม่เลวอยู่~
โอ้ยย ตอนล่าสุดยูกิโนะโคตรน่ารักกกก
>>939-941 มึงกลับแล้ววว ดีใจจจ ไม่นึกว่าจะได้อ่านอีกแบบนี้ //กอด
ว้ายยยย สาวยอมรับแล้ว! ฟินไปเลยไหมล่ะคาบุรากิ จริงๆ คาบุรากิพูดตรงๆตลอดนะว่าตัวเองเป็นใคร ตั้งแต่ต้นเลย แต่เรย์กะดูไม่เอ๊ะใจเลยสักนิด 5555 โชตะค่อนบังตาจริงๆ คาบุรากิร่างเด็ก ได้โอกาสก็น้วยเอาๆ พอสาวไม่ว่าก็อ้อนต่อ เป็นเด็กทีได้กำไรหลายต่อ
>>945 ใจร้ายยยยย กะให้โม่งซุยรันท้อง 5 เดือนตามเจ้าแม่เลยเรอะ
อยู่ๆก็คิดว่า ถ้าคาบุกับยูกิโนะสลับร่างกัน มันอาจจะลงตัวก็ได้นะ 5555555555
มันจะเข้ากันเหรอวะ อย่าลืมนะว่าอาวุธที่ร้ายแรงที่สุดของยูกิโนะคุงคือรอยยิ้มเทวดา ซึ่งคงจะใช้ท่านั้นตอนอยู่ในร่างคาบุรากิไม่ได้แน่ๆ ไม่งั้นสยองกันทั้งโรงเรียน จักพรรดิยิ้มสดใส แถมอ้อนเรย์กะกับเอ็นโจเนี่ย
สรุปชื่อกระทู้ยังไงกันบ้าง 950แล้วนะ
อ้างอิงจาก >>899 ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ :ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับท่านเทพเกศาบันดาลรัก โปรดรับบรรณาการนี้ไปด้วยเถิด!!! (บรรณาการ 16 จาน) เป็นผู้ชนะไป ใครจะตั้งกระทู้ใหม่ก็อปข้างล่างไปใช้นะจ๊ะ
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ :ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับท่านเทพเกศาบันดาลรัก โปรดรับบรรณาการนี้ไปด้วยเถิด!!! (บรรณาการ 16 จาน)
เอาไว้พูดคุยเรื่อง "นอบน้อมและหนักแน่น คือคติประจำใจในการใช้ชีวิตของฉันค่ะ!"
รักใคร อวยใคร ชอบใคร อยากให้ใครเข้าวิน เชิญได้ที่กระทู้นี้
.
謙虚、堅実をモットーに生きております!
นอบน้อมและหนักแน่น คือคติประจำใจในการใช้ชีวิตของฉันค่ะ!
(RAW) http://ncode.syosetu.com/n4029bs/
(TH) http://www.nekopost.net/novel/3015
♕ คลังกระทู้ ♕
>>>/webnovel/3289 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ [เรือลำที่ 1 : องค์ชายเอ็นโจ]
>>>/webnovel/3364 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำชายามบ่ายของโม่งซุยรัน [ซาลอนที่ 2]
>>>/webnovel/3451 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ(กัญ)ชาซุยรันยามบ่ายกลางจักรวาลแห่งกาว (ยานแม่ลำที่3)
>>>/webnovel/3507 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับสตูดิโอกาวโปรดักชั่นหมายเลข 4
>>>/webnovel/3543 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับปฏิบัติการปลูกไร่กัญชาบนดาวเคราะห์ดวงที่ 5
>>>/webnovel/3572 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับหลุมดำดูดเวลา กาวแลคซี่ที่ 6
>>>/webnovel/3588 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : วงน้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับเรือกาวฟิคที่ไปไกลกว่าเรืออฟช. ลำที่ 7
>>>/webnovel/3600 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับการผนึกกำลังของเหล่าพันธมิตรเรือเพื่อล่มเกาะแห่งคาน ครั้งที่ 8
>>>/webnovel/3628 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับนิทรรศการเรืออับปางใต้ท้องทะเลลึก ครั้งที่ 9
>>>/webnovel/3689 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับฤดูใบไม้ผลิอันฟรุ้งฟริ้งของเรย์กะจัง♡ ~โดขิโดขิ หัวใจของเธอเป็นของฉันนะ! ♡♡ กาวยกกำลัง10! ♡♡ (,,,ゝ∀・,,,)ノシ *:・゚✧*:・゚✧
>>>/webnovel/3786 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับการหายตัวไปอย่างปริศนาของฟิคกาวในห้องซาลอนปิดตาย [คานที่กำลังก่อตัวชั้นที่11]
>>>/webnovel/3805 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับแท็ก love ปริศนา ที่ไม่ตั้งใจจะใส่มาหรอกนะ แค่มันอยู่ใกล้มือเท่านั้นเอง [แท็กที่ 12]
>>>/webnovel/3856 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ : ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับกองเรือรบสยบคาน ประจัญบานพิชิตใจเธอ! [ศึกรักที่ 13]
>>>/webnovel/3899 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ :ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับคำอธิษฐานรักผ่านเส้นผม (ผมลอนสลวยเก๋เส้นที่ 14)
>>>/webnovel/3953 : ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ :ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับสูตรอาหารคิวปิดสื่อรักสุดมิราเคิลของยอดเชฟสาวเจ้าเสน่ห์เรย์กะ ~"แค่คำเดียว"เป็นจานที่ 15 แล้วนะ!
.
♕ สนธิสัญญา ♕
1) สปอยล์ได้ แต่รบกวนเตือนและจุดลากยาวทุกครั้ง(อย่างน้อย7-8บรรทัด) ช่วยป้องกันให้คนที่ไม่ต้องการอ่านสปอยล์เนื้อเรื่อง
1.1) ไม่สปอยล์เนื้อหาที่แปลไทยใกล้จะถึงแล้ว
1.2) ไม่สปอยล์เนื้อหามากจนเกินไป คนอยากโดนสปอยล์ก็อดใจรอไว้หน่อย ไว้ไปฟินพร้อมๆกัน
2) อย่าเร่ง อย่ากดดันโม่งแปล !!!!
3) งดเว้นการตั้งชื่อกระทู้ด้วยถ้อยคำที่ไม่เป็นมงคล (หรือถ้อยความที่เป็นแง่ลบ อาทิ คาน, จมเรือ, เรืออับปาง, หักธง, ซากเรือ เป็นต้น) "ห้ามแก้เคล็ดเด็ดขาด" หากฝ่าฝืนตั้งมา ชื่อนั้นก็จะไม่เอามาโหวตนับคะแนนแต่อย่างใด
4) แจ้งดิบตอนใหม่หลังเที่ยง เพื่อไม่ให้ทับซ้อนกับแปลไทย
.
♕ สารบัญแฟนฟิค-แฟนอาร์ต ♕
https://docs.google.com/document/d/1Jtm_XMsTD_t_6GWtvFfN3qDIm3yxYGeJCX29QUS1vIo/edit?usp=sharing
How to: วิธีการใช้และอัพเดตสารบัญ
https://docs.google.com/document/d/1ET-eMchwMQyJ8awYO1Q5yIcKWuTeJrJ0TVhXXVd8eD4/edit?usp=sharing
รวมไฟล์สารบัญ
https://drive.google.com/drive/folders/0BwR6XEqxsnTAZWdSckFqb182VDQ
มีข่าวลือแน่นอนขึ้นรถคาบุรากิงี้ ประมาทไปนะท่านเรย์กะ!
เอ็นโจสร้างกระแสมาไม่ทันไร โดนคาบุรากิตีกลบไปหมดแล้ว ทำให้กูนึกถึงอีเวนผ้าขนหนูคู่เลย และนึกถึงฟิตยูสุเกะคิมิกลับชาติมาเกิดเป็นยูกิโนะ ยูกิโนะคงจะบอกแบบนี้ "ถ้าไม่มีผม สงสัยพี่ชูสุเกะก็คงได้แต่วนลูปอยู่แบบนี้ร่ำไป น่าสงสาร น่าสงสาร เอ้า เชิญใช้งานผมได้เต็มที่เลย พี่ครับ!!"
เดี๋ยวก็มีข่าวท่านเรย์กัคบซ้อน สับรางแทบมิทัน ^^;
กูว่าเคมีคู่นี้มันน่ารักจริงๆ น่ะแหละ ท่านเรย์กะเหมือนอาจารย์พาลูกศิษย์ผู้ไร้เดียงสาไม่รู้อิโหน่อิเหน่ออกเรียนรู้โลกกว้าง คาบุแม่งซื่อทุกเรื่องจริงๆ ต้องแบบนี้แหละจะได้เข้าใจความรู้สึกวาคาบะเวลาเข้าร้านหรูๆ แล้วทำตัวไม่ถูกบ้าง
ผมรู้สึกว่าเรือของบากะรากิกำลังมา
เดทที่ร้านฟาสฟู้ดนี่มันอะไรกัน แล้วยังไอ้คอมโบชีสเบอร์เกอร์ตอนท้ายนั่นอีก แมร่ง..... //น้ำลายหก
อ่านตอนล่าสุดแล้วแอบคิดถึงพล็อตแนวตำหนักในของจีน สนมเอกเรย์กะผู้เฉิดฉันได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้คาบุรากิมากกว่าใครๆ มักจะเสด็จไปใช้เวลาร่วมกันบ่อยๆ หารู้ไม่ว่าฮ่องเต้คาบุรากิไปขอคำแนะนำในการเรียนรู้วิถีสามัญชนนอกวังหลวงเพื่อหาทางเกี้ยวแม่นางวาคาบะสามัญชน เรื่องนี้เป็นความลับ รู้อยู่แค่อ๋องแปดเอ็นโจ แม้สนมเอกเรย์กะจะเบื่อๆ เซ็งๆ ฮ่องเต้ แต่ก็ต้องเอาใจไว้ก่อนเพื่อรักษาเกียรติยศของตระกูล ยาวๆ ไป
ท่านเรย์กะบอกว่าตัวเองบอบบางดั่งพุดดิ้งเต้าหู้...หมายถึงพุงในตอนนี้ชิมิ
ฟาสท์ฟู้ดอ่ะแคลฯ โคตรอำมหิตเลยนาท่านเรย์ก๊าาาาาา
มื้อเที่ยงของกูวันนี้เลยต้องเป็นเบอร์เกอร์เลย แม่งเอ้ยยยย อยากกินแบบชีสเยอะๆ เนื้อเยอะๆ
>>966 กูจัดเบอร์เกอร์เซเว่นว่ะ ฮรือ อยากจิครายยยยยยยยยยย จะให้ถ่อไปซื้อแมคหรือเบอร์เกอร์คิงก็ไกลจากที่ทำงานเกินไป
ว่าไปกูก็คิดถึงเบอร์เกอร์เซเว่นสมัยก่อน แบบที่มันยังไม่เอาใส่ซองเหมือนตอนนี้ เบอร์เกอร์กุ้งกับเบอร์เกอร์ไก่นี่อร่อยสุดๆ แต่หลังจากมันเอาใส่ซอง รสชาติแม่งก็เลวร้ายขึ้นทันตา ใครใช้ให้มันเอาของทอดไปฟรีซแล้วเวฟซ้ำวะ หาความอร่อยแทบไม่มี อยากทวงคืนเบอร์เกอร์สมัยก่อนกลับมาจริงๆ
>>967 ตอนเย็นพุ่งไปร้านฟาสต์ฟู้ดเลยมึง
เรย์กะ โชคดีจริงที่เกิดมามีแม่เป็นสาวงามเกียวโตผู้ผอมบาง เลยสืบทอดพันธุ์กรรมอ้วนยากมา เธอติดนิสัยรักการกินมาชาติก่อนที่เป็นสาวอ้วนอวบ พอมาเป็นเรย์กะกินเยอะขนาดนั้นก็มาอ้วนหน่อยๆ งดอาหารออกกำลังกายหน่อย วิ่งมากหน่อย ใช้เวลาไม่นานก็เป็นสาวผอมหุ่นดีเหมือนเดิม
กรูนี่อ่านตอนต่อคิวซื้อข้าวแกงในฟาสฟู๊ด เลยต้องเปลี่ยนไปเข้าแมค ฯ แทน T-T
อ่านตอนล่าสุดแล้วโคตรอยากอ่านมุมมองคนนอก มันต้องกร๊าวมากแน่ๆ ท่านเรย์กะ วันก่อนขึ้นรถเอ็นโจ วันนี้ขึ้นรถคาบุรากิ
ขอบใจโม่งแปลน้าาา
ท่านเรยกะ แก้แค้น 10 ปียังไม่สายนะ...
รึอาจจะเกิน? 555
โดกิๆกับคาบุแล้นน. แต่น่าสงสารตรงที่ฝ่ายชายบอกชอบคนอื่น จะไปโดกิทำไมเล่า ท่านเรยกะ
โดกิหน้าตาล้วนๆเลยนะนั่น
ทางนี้ก็เหมือนกัน เป็นคนที่อ้วนง่าย แต่พอไม่ค่อยได้กินอะไรมากก็ลดแล้ว และส่วนใหญ่จะไปกองที่พุงกับขาซะมากกว่า แขนนี่เล็กเชียว......
แวะเอาฟิคมาแปะ
ห้องน้ำชาบ้านคาบุรากิ I
ฉันเป็นสาวใช้บ้านท่านคาบุรากิค่ะ บ้านของเรารับใช้ท่านคาบุรากิมาตั้งแต่สมัยคุณยายแล้ว สมัยโน้นคุณตาของฉันไปออกรบแล้วก็ไม่ได้กลับมาอีก คุณยายได้ท่านคาบุรากิรับเข้ามาทำงานในบ้านทั้งที่ท้องโตทำอะไรไม่ได้มาก แถมยังเมตตาช่วยดูแลค่าทำคลอด ดังนั้นก็เลยสาบานว่าบ้านของเราจะรับใช้ท่านคาบุรากิตลอดไป
อันที่จริงฉันก็ไม่ได้รังเกียจฐานะสาวใช้หรอกค่ะ ออกจะชอบด้วยซ้ำ หลังจากที่พวกคุณท่านส่งฉันเรียนจนจบมัธยมปลาย ฉันออกมาเป็นสาวใช้เต็มตัวที่บ้านของท่านคาบุรากิ เพราะฉันชงชาได้อร่อยตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว ดังนั้นหน้าที่ของฉันก็คือการรับใช้ในห้องน้ำชา
ถึงแม้ฉันจะอบขนมได้ แต่ในบ้านนี้มีแต่คุณหนูที่ชอบทานขนม ทว่าคุณหนูรสนิยมสูงมาก ดังนั้นถ้าเป็นขนมของมือสมัครเล่นก็จะไม่ยอมทานเด็ดขาด ทุกวันจะมีเค้กหรือขนมจากร้านชื่อดังซื้อเข้ามาในบ้านเสมอ ทั้งคุณหนูซื้อมาเองหรือเป็นของฝากจากคนอื่น บางครั้งนายท่านที่กลับมาจากต่างประเทศก็จะซื้อขนมมาฝากคุณหนูด้วย
“อันนี้ฉันชิมแล้ว เธอเอาไปลองชิมก็แล้วกัน” ในขณะที่ฉันกำลังจัดเตรียมห้องน้ำชาเพื่อรอคุณหนูกลับมา คุณหนูก็เดินเข้ามาในห้องน้ำชาพร้อมกับคุณสึกิที่แบกถุงจำนวนมาก ถึงแม้บ้านคาบุรากิจะรวย แต่คุณหนูก็ไม่ใช่พวกที่ชอบซื้อไปเรื่อย พอเห็นฉัน คุณหนูก็ยื่นถุงใบหนึ่งมาให้
แม้ว่ามาดามจะให้ของฉันอยู่หลายครั้ง แต่นี่เป็นครั้งแรกที่มาจากคุณหนู ฉันรับของมาแล้วก็รีบวางไว้เพราะต้องจัดน้ำชาให้กับคุณหนู “จัดสตรอเบอร์รี่ช็อตเค้กกับมองบลังค์มา” คุณหนูสั่งแล้วก็ไปนั่งบนโซฟา ดังนั้นฉันจึงรีบกระวีกระวาดเรียกให้คุณสึกิที่แบกถุงตามเข้ามาในแพนทรี่เตรียมน้ำชา
ปกติแล้วขนมที่คุณหนูซื้อกลับมาจะเป็นขนมของร้านชื่อดัง แม้จะอ่านชื่อร้านไม่ออก แต่ฉันก็จำลักษณะและตัวอักษรที่เป็นภาษาต่างประเทศพอได้ หากเป็นขนมญี่ปุ่น ก็จะเป็นขนมของร้านขนมชื่อดัง ทว่าขนมที่คุณหนูซื้อมาวันนี้ดู...บ้าน...กว่าที่คิด ถุงขนมเป็นแบบเรียบ ๆ ขนมข้างในก็หน้าตาธรรมดา
อาจจะเป็นร้านในตำนานที่ฉันไม่เคยได้ยินชื่อก็ได้ อย่างคุณหนูของที่ไม่อร่อยไม่มีทางซื้อกลับมามากมายขนาดนี้หรอก ฉันจัดเค้กไปให้คุณหนูที่นั่งเหม่อลอยพิกล พอเห็นหน้าคุณหนูแบบนั้นฉันก็ใจไม่ดีเลย คราวก่อนเรื่องท่านยูริเอะคุณหนูก็มีท่าทีแปลก ๆ ทำเอานายท่านกับมาดามร้อนใจแทบแย่ ดีที่ได้ท่านเอ็นโจช่วยตามตัวกลับมา
พอฉันเสิร์ฟชาให้คุณหนูเสร็จก็กลับไปยังแพนทรี่เพราะคุณหนูไม่ชอบให้ใครวุ่นวายเวลาพักผ่อน ก็เห็นคุณสึกิมองถุงขนมพวกนั้น เมื่อเห็นฉัน คุณสึกิก็เล่าให้ฟังว่าวันนี้คุณยาเตะคนขับรถเล่าให้ฟังว่าขับรถไปชนจักรยานเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง คุณหนูเลยจ่ายเงินค่าเสียหายให้เธอและซื้อขนมพวกนี้กลับมา
ฉันมองขนมกองโตอย่างเป็นกังวล ปกติแล้วถ้ากินถูกขนมไม่อร่อย คุณหนูจะอารมณ์ไม่ดีไปตลอดวัน
รอจนกระทั่งคุณหนูกลับขึ้นห้อง ฉันที่ไปเก็บกวาดก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นขนมเค้กในจานถูกกินจนเรียบ ฉันเก็บภาชนะเข้าไปล้างเสร็จก็ลองเอาขนมที่คุณหนูให้มาจัดใส่จานลองชิม
เค้กที่ได้รับมาคือสปันจ์เค้กชาเขียวหน้าตาสุดธรรมดา พอลองชิมดูแล้วก็ต้องแปลกใจ
เนื้อขนมนุ่มนวล ไม่ฉ่ำเหมือนขนมตะวันตก ทว่าฟูเบาละลายในปาก ชาเขียวก็เข้มข้นเข้ากับรสหวานกำลังพอดี แม้จะกลืนลงไปแล้วก็ยังได้กลิ่นชาเขียวอวลอยู่ในปาก จัดว่ารสชาติดี ถึงกระนั้นหากให้เทียบกับขนมราคาแพงของโปรดของคุณหนูก็ยังห่างชั้นอยู่
‘ทาคามิจิ’ ฉันอ่านชื่อขนมบนถุง แล้วสงสัยว่าบางทีอาจจะเป็นร้านขนมที่กำลังดังมากในหมู่ไฮโซก็เป็นได้
..........
ห้องน้ำชาบ้านคาบุรากิ II
วันนี้ฉันก็ยังคงรับใช้อยู่ในห้องน้ำชาบ้านท่านคาบุรากิอย่างแข็งขัน
เพราะว่าวันนี้นายท่านกลับมาจากต่างประเทศ ดังนั้นมาดามจึงกลับมาเร็วกว่าปกติ ฉันเตรียมต้าหงเผาที่ดีที่สุดออกมาต้อนรับนายท่าน ส่วนของมาดามเป็นเกียะคุโระ พอเห็นนายท่านกับมาดามนั่งเคียงคู่กันแล้วก็อดทอดถอนหายใจไม่ได้ คุณท่านทั้งสองสง่างามราวกับจักรพรรดิและจักรพรรดินี เพียงแค่ได้มองก็เป็นบุญตาแล้ว
“มาซายะยังไม่กลับมารึ?” นายท่านถามคุณแม่บ้านที่มาช่วยฉันรับใช้คุณท่านทั้งสอง
“คุณหนูอยู่ข้างบนเจ้าค่ะ เห็นว่าเตรียมตัวจะออกไปข้างนอก แต่ดิฉันแจ้งให้ทราบแล้วว่านายท่านกลับมา”
นายท่านพยักหน้า คุณท่านทั้งสองพูดถึงเรื่องสารทุกข์สุขดิบกันพักใหญ่ คุณหนูก็เข้ามาในห้องน้ำชาในชุดที่เตรียมออกนอกบ้าน ทักทายคุณท่านทั้งสองอย่างสง่างาม ฉันได้แต่เหลือบตามอง รู้สึกเหมือนแก้มทั้งสองข้างร้อนผ่าว ทั้ง ๆ ที่เห็นคุณหนูมาตั้งแต่เด็ก ทว่าพอเห็นคุณหนูใส่กางเกงสแล็คของฮิวโก้บอสตัวเก่งทีไรหัวใจก็หวั่นไหวอย่างควบคุมไม่ได้ทุกที พลันเอาสงสัยไปด้วยว่าจะออกไปพบท่านยูริเอะรึเปล่า เพราะแต่งตัวได้หล่อเหลากว่าปกติที่ออกไปกับท่านเอ็นโจ
ดูเหมือนว่าข้อสังเกตนั้นจะไม่ได้พ้นจากสายตาอันเฉียบคมของมาดาม มาดามยิ้มน้อย ๆ “มาซายะ จะออกไปเที่ยวกับชูสุเกะคุงเหรอจ๊ะ?”
คุณหนูทำท่าอึกอัก ดูท่าว่าคนที่คุณหนูออกไปด้วยต้องไม่ใช่ท่านเอ็นโจแน่ ดูเหมือนมาดามเองก็ทราบเช่นกัน ทว่าท่านไม่ได้คาดคั้นต่อ ลดสายตามองหนังสือในมือของคุณหนูแล้วทำหน้าแปลกใจเล็กน้อย “พักนี้เปลี่ยนมาชอบเช็คสเปียร์แล้วหรือคะ พักก่อนเห็นถือบทกวีของไฮเน่ไม่ได้ห่างอยู่เชียว” ฉันมองตามมาดาม ตั้งแต่คุณหนูกลับมาจากการออกเดินทางครั้งก่อน ก็เอาแต่อ่านหนังสือเล่มเดิม ๆ แล้วก็ถอนหายใจด้วยความเศร้าสร้อย และเป็นอย่างที่มาดามพูดจริง ๆ เพราะหนังสือในมือของคุณหนูเป็นคนละเล่มกับหนังสือเล่มนั้น
พอเปลี่ยนบทสนทนา คุณหนูก็มีท่าทีผ่อนคลายขึ้น “เล่มนั้นยกให้คิโชวอินไปแล้วครับ” ฉันเห็นสายตาของมาดามประกายวาบครู่หนึ่ง ดูท่านอยากพูดเรื่องนี้ต่อ แต่เบนไปพูดเรื่องโปรแกรมดีท็อกซ์ที่กำลังจะจัด และขอให้คุณหนูไปทักทายมาดามที่เข้าร่วมคอร์สแทน
พอคุณหนูออกไปได้ซักพัก นายท่านก็หัวเราะ “เธอวางแผนอะไรอีกแล้วสินะ”
มาดามยิ้มอย่างเบิกบานใจ “คุณคิดยังไงกับคุณหนูบ้านคิโชวอินหรือคะ?”
คุณท่านทำท่านึก “ลูกสาวบ้านคิโชวอินงั้นหรือ น่าอิจฉาท่านคิโชวอินจริง ๆ เห็นว่าลูกสาวติดแจเอง เสียดายที่เราไม่มีลูกสาวเพิ่มอีกคน ไม่อย่างนั้นฉันก็คงมีลูกสาวน่ารัก ๆ มาคอยออดอ้อนบ้างเหมือนกัน”
“ถึงไม่มี ก็ไม่ใช่ว่าหาไม่ได้หรอกนะคะ” มาดามบอก ยกชาขึ้นจิบอย่างสง่างามแล้วจึงพูดต่อ “งานชมหิ่งห้อยครั้งนี้จะต้องชวนคุณเรย์กะมาให้ได้เลยทีเดียว ทั้งสองคนจะได้สนิทสนมกันมากกว่านี้”
นายท่านส่ายหน้า แกล้งทำหน้าระอา แต่ก็แอบสนุกไปกับภรรยาไม่ได้ “เรื่องของเด็ก ๆ เข้าไปยุ่งจะไม่งามนะ”
มาดามปรายตาให้กับนายท่าน “มาซายะของเราซื่อขนาดนั้น ถ้าฉันไม่ช่วยคุณเรย์กะก็คงถูกแย่งไปก่อน ฉันได้ยินจากพวกเด็ก ๆ ว่าคุณหนูบ้านคิโชวอินน่ะมีแต่หนุ่ม ๆ รุมล้อมให้เลือกจนไม่หวาดไหว ถึงมาซายะจะดีพร้อม แต่เด็กผู้หญิงถ้ามีคนมาใกล้ชิด ทำดีด้วยบ่อย ๆ ก็อดไม่ได้แน่ที่จะต้องหวั่นไหวนะคะ”
“ถ้าเธอว่าดีฉันก็ว่าดี” นายท่านยิ้ม “เด็กคนนั้นก็เป็นคุณหนูที่เพียบพร้อม อีกอย่างกิจการของคิโชวอินก็ไปได้สวย ยิ่งได้ลูกชายคนโตช่วยงานก็ดูเหมือนจะขยายการลงทุนได้อีกมาก อีกอย่าง...เจ้านั่นจะได้เลิกคิดถึงยูริเอะเสียที”
ฉันเติมชาให้กับมาดาม นึกสงสัยว่าคุณหนูคิโชวอินเป็นคนยังไงกันหนอ ถึงได้ถูกใจมาดามที่ระมัดระวังเรื่องการคบหาของคุณหนูกับบรรดาสาว ๆ ที่จ้องจะจับคุณหนูเพื่อครอบครองสมบัติบ้านคาบุรากิเหลือเกิน ดูท่าว่าจะต้องเป็นหญิงสาวที่งดงามเพียบพร้อมราวกับยามาโตะ นาเดชิโกะแน่ ๆ
จบ
ดาเมจอาหารวันนี้มันช่างหนักหนายิ่งนัก!! อะฮึกๆ กูขอกลับไปวิจัยหาเมนูอาหารที่รุนแรงกว่านี้มาใส่ฟิคแปบ //เขวี้ยงสมุดทิ้งแล้ววิ่งออกปัยยยย
เป็นคุณเมดที่น่ารักดีจังงง แต่คุณเมดเข้าใจผิดแล้วค่ะ นาเดชิโกะนี่เทียบราชินีแห่งจังค์ฟู้ดไม่ได้หรอกนะคะ
คุณเมดก็อย่าติดฟิลเตอร์ไปอีกคนน่า...
แปลไทยล่าสุดนี่ดีนะที่เพิ่งมาอ่านตอนกินข้าวเสร็จอิ่มๆ ถถถ
ดีนะกูอ่นตอนใหม่ตอนกำลังกินข้าว...
มีหนุ่มๆรุมล้อม....จนให้เลือกไม่หวาดไม่ไหว...ค่ะ
จริงเหรอคะมาดาม
อย่าลืมตั้งกระทู้ใหม่...
ตั้งกระทู้ใหม่แล้วน้า จะลงฟิควิ่งควายกรีดร้องถมกระทู้ก็เชิญตามสะดวก
ฮาเร็มของเจ้าแม่เรย์กะ :ปาร์ตี้น้ำ(กัญ)ชาซุยรันกับท่านเทพเกศาบันดาลรัก โปรดรับบรรณาการนี้ไปด้วยเถิด!!! (บรรณาการจานที่ 16)
https://fanboi.ch/webnovel/4018/
ตอนแรกนึกว่าจะมีคนวิ่งควาย แต่มันเงียบมากกก สวสัยวันหยุดนะคุณ
ขอให้เจ้าแม่เกษาบันดาลรักรับเครื่องเซ่นบรรณาการแล้วลงจากคานในเร็ววัน สาธุ
ช่วยวิ่ง
วาคาบะ x เรย์กะ
บันไซ
คิดถึงอาริมะจังค่าาาาาาา
อาริมะคุงกับบทที่หายไป
จอมมารตกกระป๋องกับมิตรแท้ที่หายไป
เจ้าแม่บันดาลรักสุดฮอตแต่แห้งแล้ง(?)
ปิดทู้ เจ้าแม่กับท้อง 5 เดือนที่กลับมาา!!
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.