“คุณ คุณ เฮ้ยคุณ!!!” มีเสียงหนึ่งเรียกเธอพลางสะกิด เสี้ยววินาทีเธอคิดได้ว่าอย่างน้อยก็มีคนที่พูดภาคนอยู่ละแวกนี้บ้าง ไม่เรียกเธอว่าน้อง หนู ลูก หรือผู้หญิง
“เฮ้ยคุณเหม่ออะไรวะเนี่ย” เจ้าของเสียงเขย่าเธออีกที เป็นไอ้หนุ่มออมเล็ตเมื่อเช้า
“นี่คุณอย่ามา Sexual Harassment ฉันนะ” แทนที่เธอจะขอบคุณเขาแต่ดันทำท่าทางไม่พอใจ เธอโมโหเพราะการที่เขามาแตะต้องร่างกายเธอโดยไม่ยินยอมนั้นแปลว่ามันคือการล่วงละเมิดทางเพศอย่างไม่มีข้อแม้ ตอนนี้สายตาจับจ้องมาทางพวกเขาทั้งคู่ นายคนนั้นยังคงยืนคิ้วขมวดจ้องหน้าเธอ ในวินาทีนั้นเธอน้ำตาคลอขึ้นมา เธอเชื่ออย่างสุดหัวใจว่ากำลังโดนล่วงละเมิดทางเพศอยู่จริงๆ เธอไม่ทำอะไรอีกนอกเสียจากการเดินไปตบเงินลงบนโต๊ะแม่ค้าแล้วรีบวิ่งกลับหอ ทิ้งนายออมเล็ตยืนงงอยู่ตรงนั้นจนกระทั่งสามีของคุณแม่ค้าเดินมาตบบ่าเขาทีนึง
“หนุ่มเอ้ย ครั้งแรกก็ตกใจแบบนี้แหละ เจอบ่อยๆ เดี๋ยวก็ชิน”
มิลค์กลับมาถึงห้องร้องไห้ฟูมฟายกรีดร้องลงบนหมอน คิดทบทวนทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอตลอดวันที่ผ่านมานี้ ทำไมกัน ประเทศนี้ สังคมนี้ไม่เคยพร้อมที่จะพัฒนาเลยหรืออย่างไร ทำไมถึงมีแต่คนแย่ๆ มากมายในสังคม เธอทำอะไรไม่ได้สักนิดเลยหรือ แม้เพียงเล็กน้อย โอกาสที่จะทำให้เกิดเรื่องดีๆ ขึ้นบ้าง แต่แล้วเธอก็ฉุกคิดขึ้นมา ในช่วงเวลาที่ดำมืดและโดดเดี่ยวที่สุด ก็ย่อมเห็นแสงดาวชัดเจนที่สุด เธอจำสิ่งที่เรียนไปวันนี้ได้ เธอรีบเขียนลงในทวิตเตอร์ลงไปในทันที
“วันนี้เราโดนเจ้าของร้านอาหารเช้าหน้ามอ SH เมื่อตอนเย็น ตอนนี้สภาพจิตใจเราแย่มาก ไม่อยากพบเจอใครเลย เราขอเตือนภัยเพื่อนๆ ไม่อยากให้เจอแบบเดียวกับเรา #sexualharassment #sexualassult #มหาลัยไม่ปลอดภัย #metoo”
ราวสี่สิบหน้านาทีหลังจากนั้น มีคนรีทวีตเธอพร้อมรูปภาพ เป็นร้านของหมอนั่นโดนอิฐปาจนกระจกแตกพร้อมพ่นสเปรย์ด่าเอาไว้ว่า HARASSER MUST DIE และบรรดาของตกแต่งถูกเผาจนวอด และเธอก็ได้รับรู้ว่า สังคมนี้ไม่ใช่ว่าไม่พร้อม แต่มันพร้อมแล้ว ผู้คนพร้อมจะอยู่เคียงข้างเธอ เพียงแค่จากในเงามืดเท่านั้น และเพียงเชื่อแบบนั้น เธอเองก็ไม่โดดเดี่ยวอีกต่อไปแล้ว และวันนี้นี่แหละ คือวันที่เธอมีความสุขอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
HAPPY ENDING