"มาหาตอนตีสองแบบนี้ ไม่เมาก็เงี่ยนถูกไหม?"เขาดักคอ
"ดูพูดเข้า อุตส่าห์หนีร้อนมาพึ่งเย็นนะ"ฉันออดอ้อน
"หนีร้อนจากคนที่หักอกคุณมารอบที่ร้อยอ่ะนะ?"เขารู้ทัน
"หนีไม่พ้นหรอก คุณชอบแบบนั้นล่ะ ผมดูออก"
"ชอบแบบไหนไม่ทราบ"
"แบบเจ็บแล้วเจ็บอีก เจ็บซ้ำซากเหมือนพวกที่เชื่อในความรัก"
.
หมดคำจะโต้
ไร้คำจะตอบ
ก้อนสะอื้นขวางทุกประโยคที่มี
.
"เห็นหรอกนะ ว่าเดี๋ยวนี้ไม่ฉอดร้าบาลแล้ว รับบทคนคลั่งรัก เวิ่นเว้อคำคมรัว ๆ ผมคิดว่าแอคไลฟ์โค้ช" เขาแซะ
"พูดซะดูเราเป็นสลิ่มเลย" ฉันจ๋อย
ส่วนเขาหัวเราะเอ็นดู
.
"เรื่องการเมืองคุณคงไม่สลิ่มหรอก
แต่ถ้าความรักผมว่าคุณใกล้ละ"
"ใกล้สลิ่ม?"
"อื้อ ใช่"
ไอ้นี่กวนตีนซะแล้ว คิดว่าจะหักมุม
เสือกตอบตามจริงอีก
.
"โห จะไม่หักมุมโบ๊ะบ๊ะให้หัวเราะหน่อยเลยหรอ ชงไปเต็มที่เลย นี่คนเศร้านะะะ"
ฉันไม่วายอ้อนต่อ
พลางกระเถิบตัวเข้าใกล้
.
"ก็คุณคลั่งรักเหมือนพวกคลั่งเจ้า งมงายกับเขาเหมือนคนที่งมงายว่าเผด็จการเป็นประชาธิปไตย อ้อ
หลงเขายิ่งกว่าคนที่ศรัทธาประชาธิปัตย์ด้วยนะ"
"เจ็บอ่ะคุณ"
ฉันตีหน้าเศร้ากว่าเดิมสามเท่าหลังจากเขากระหน่ำความจริงชุดใหญ่ใส่
ถ้าไม่ตาสว่างก็คงเป็นพวกคลั่งรักยิ่งกว่าลัทธิคลั่งเจ้าจริงอย่างเขาว่า ต่างตรงที่ไม่มีกฎหมายบังคับให้ฉันรัก ฉันเต็มใจเป็นทาสปล่อยไม่ไปของแท้
.
"เป่าหน่อยสิ เจ็บตรงนี้"
ฉันกระเง้ากระงอด แล้วชี้ไปตรงตำแหน่งของหัวใจ ประหนึ่งว่ามีแผลสดเลือดซิบแสบเจียนตายอยู่ตรงนั้น
แล้วฉันก็ถอดชุดคลุมเบาแผ่ว เหมือนแมวตัวน้อย ๆ ที่บาดเจ็บแล้วสำออยเพื่ออ้อนใครสักคน
แล้วชุดนอนลายดอกไม้ที่ใส่มาจากบ้านก็แบ่งบานต่อหน้าเขา
.
กลีบดอกแดงฉ่ำ
ลำก้านแข็งตระหง่านชูเด่น
หยาดฉ่ำเยิ้มแฉะ
และเมล็ดพันธุ์สั่นระริก
.
"ผมไม่เป่าให้ ไม่ต้องมาอ้อน"
ถ้อยความปฏิเสธชัดแจ้ง
แต่ปฏิกิริยาเขาแพ้พ่ายชัดกว่า
ลมหายใจพ่นไออุ่นเจียนร้อนราวจะเผาไหม้
เป็นสัญญาณว่าร่างกายเราต้องการกันแทบบ้า
.
"เจ็บไม่จำแบบคุณต้องโดนทำโทษนะ รู้ใช่ไหม"
"หรอ กลัวจัง"
ความหมายว่ากลัว
แต่สีหน้าไม่บอกอย่างนั้น
ฉันมองลึกลงไปในดวงตาเขาอย่างท้าทาย
ลึกเท่าลึก
ริมฝีปากฉันแนบริมฝีปากเขา
แน่นเท่าแน่น
นานเท่านาน
เราโผเข้าหากัน
ไวเท่าไว
อย่างโหยหา
อย่างกระหายหิว
อย่างตะกรุมตะกราม
.
ไม่มีคำพูดอื่นใดอีก
เรือนร่างฉันคุยกับเรือนร่างเขา
ผลุบเข้า
ช้า
ผลุบออก
เร็ว
ร้อนเร่ง
กระตุกเร้า
ร่ายรำไปในจังหวะของบทสนทนา
บางจังหวะเราแทบกระซิบแผ่ว
แล้วสลับเป็นเน้นหนัก
สะเทือนเลื่อนลั่นในวินาทีหนึ่ง
และเบาหวิวลอยล่องในอีกวินาทีหนึ่ง
.
"อยากรักเขาก็รักไปเถอะ
ใครจะห้ามคุณได้ รักเองก็เจ็บเอง"
"เอ้า ไม่ดุเราแล้วหรอ"
"อื้อ ไม่ดุแล้ว วันไหนทนพิษบาดแผลไม่ไหวก็มาให้ผมเป่าแผลนะ"
.
อบอุ่นเป็นบ้า
มิน่าฉันต้องซมซานมาให้เขาเลียแผลใจทุกรอบ
.
"ผมมาคิด ๆ ดูแล้ว กว่าสลิ่มจะเปลี่ยนใจยังต้องใช้เวลา กว่าคนจะตาสว่างยังต้องค่อยเป็นค่อยไป จะให้คนใต้เลิกศรัทธาประชาธิปัตย์ยังต้องใช้เป็นชั่วอายุคนเลยนี่ จริงไหม?"
เหมือนเขาจะใจดีใส่
แต่...
เดี๋ยวนะ
ไอ้เวรเอ๊ย!
.
ไม่เสียเวลาคุยด้วยต่อแม้แต่คำเดียว กระโจนเข้าใส่เขาอีกหนให้สมกับความโกรธที่ถูกตราหน้าว่างมงายในรักเหมือนคนที่ยังดันทุรังเชียร์ประชาธิปัตย์ ทั้งที่มีสารพัดเรื่องเหม็นเน่า ขัดกับภาพลักษณ์ไอ้ต้าวคนดีถึงเพียงนั้น...