ฟีบี้เป็นหงส์ตัวหนึ่งที่อยากจะเป็นฟีนิกซ์ แต่หาเพลิงอมตะไม่ได้...ก็เลยลองเพลิงนรกดูก่อน เพราะไหนๆ ก็เป็นเพลิงศักดิ์สิทธิ์เหมือนกัน เลยคิดว่าน่าจะใช้แทนกันได้อยู่
ดั้นด้นตั้งไกลไปจนถึงนรก ฟีบี้กระโจนเข้าไปในกองเพลิงโดยไม่รอช้า แต่ด้วยความร้อนแทบบ้าที่เหมือนจะแผดเผาไปจนถึงจิตวิญญาณทำให้ความอดทนขาดสะบั้น ฟีบี้ต้องกระโจนออกมาดิ้นทุรนทุรายอยู่กับพื้น
ก่อนที่จะมอดไหม้กลายเป็นไก่เชสเตอร์กริลล์ก็มีน้ำสาดซ่าลงมาช่วยชีวิตเอาไว้
“อ๋า! ยังไม่สุกพร้อมกินอีกเหรอ??”
“ยังไม่ตายว้อย!!” ฟีบี้ตะโกนกลับ
"อืมๆ นึกว่าจะไม่รอดแล้ว กำลังดูน่ากินเลย” อีกฝ่ายทำเสียงแจ๊บๆ กลับมาเหมือนว่าจะหิวจริง “มาทำอะไรที่นี่เหรอ หรืออยากฆ่าตัวตายแบบคูลๆ ด้วยไฟนรก”
ฟีบี้ที่ขนไหม้ไปครึ่งตัวได้ฟังมากเข้าก็รู้สึกอยากเหนี่ยวอีกฝ่ายขึ้นมาในข้อหากวนตีนเกินเหตุ พอหันกลับไปมองก็ต้องตกใจ..
เพนกวิน!
แถมยังถืออมยิ้มอยู่ด้วย!
ฟีบี้ชะงักมองเพนกวินตัวสีขาวที่ยังไม่โตเต็มวัยด้วยสายตายากจะบรรยาย หงส์โผล่มาในนรกก็แปลกอยู่แล้ว แต่เพนกวิน! เพนกวินโผล่มาในนรกได้ยังไง? มันควรจะเดินเตาะแตะอยู่ขั้วโลกไม่ใช่เหรอ
“แผล็บๆ” เพนกวินเลียอมยิ้มในมือ ดวงตากลมใสมองฟีบี้ตาแป๋วเหมือนรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่ “ทดลองมาอยู่ในนรกอะ เผื่อวันไหนโลกร้อนน้ำแข็งละลายหมดจะได้ปรับตัวได้”
“อ๋อออ” พอฟีบี้รู้เหตุผลแล้วก็ค่อยสบายใจขึ้นหน่อย ช่างเป็นเพนกวินที่มองการณ์ไกลดีจริงๆ ตัวเขาเองยังไม่ทันได้คิดเลยว่าถ้าสภาพอากาศเปลี่ยนจนที่อยู่อาศัยถูกทำลายแล้วจะทำยังไงต่อไป...
ไม่ใช่แล้วว้อยยยย
เพนกวินบ้าอะไรมาทดลองอยู่ในนรกวะ ผิดจุดไปหมดแล้ว!!!
“มันไม่ร้อนเกินไปหรือไง” ขนาดเขายังเกือบสุก เพนกวินนี่ไม่ต้องพูดถึง
“ฮาดี้ก็ว่างั้นเลยให้เสื้อบุชนวนกันความร้อนมา” เพนกวินกระพือเสื้อให้ดูเบาๆ ก่อนจะบุ้ยใบ้ไปอีกทาง “แล้วก็มีวังน้ำแข็งอยู่ตรงโน้นน ฮาดี้ทำให้”
ถ้าถึงขั้นมีวังน้ำแข็งในนรกแล้วมันจะย้ายมาอยู่นี่หาพระแสงอะไรวะ??
“แล้วสรุปมาทำอะไรที่นี่ง่ะ”
ฟีบี้อ้ำอึ้ง เริ่มอับอายขึ้นมาบ้าง แต่พอเห็นดวงตาใสของเด็กน้อยที่รอฟังอย่างตั้งใจก็ยอมเล่าออกมา “มาตามหาเพลิงนรกเผื่อจะได้เป็นนกฟีนิกซ์น่ะ”
เพนกวินมองด้วยสายตาเห็นใจ
“โตแล้วยังจูนิเบียวอยู่อีกเหรอ”
ไม่เบียวว้อยยยย
ฟีบี้โดนทำร้ายจิตใจขั้นสุดจนน้ำตาตกใน อย่าให้เผลอนะไอ้กวินสารเวร พ่อจะสกายคิกเตะลงไฟนรกให้กลายเป็นกวินย่างเลยคอยดู