หลับตาลงเถอะคนดี...ปล่อยให้คืนนี้ผ่านพ้นไป
เมื่อเธอตื่นมาพบกับเช้าวันใหม่...ขอให้วันนั้นเป็นวันที่สวยงาม...
เสียงหวูดร้องดังลั่นพร้อมกับร่างเล็กในอ้อมกอดของฉันที่กระตุกตาม เธอตื่นเสียแล้วน้องสาวตัวน้อยของฉัน เธอใช้เวลาเพียงไม่นานในการฟื้นคืนจากโลกนิทรา ดวงตาสีม่วงเข้มสมชื่อไลแลคจ้องมองฉันด้วยความงุนงง ริมฝีปากบางขยับขึ้นคล้ายจะเอ่ยถาม แต่ฉันใช้ปลายนิ้วชี้แตะมันอย่างแผ่วเบา ส่งสัญญาณให้เธอรู้ว่าเธอควรจะเงียบเสียงเอาไว้ มือเล็กจับลงบนข้อศอกของฉัน เธอคงต้องการที่พักพิง..ซึ่งตอนนี้ไม่เหลือใครแล้วนอกจากฉันเพียงคนเดียว
ฉันยกมือขึ้นแตะใบหน้ากลมอย่างแผ่วเบา ฝุ่นควันจับเป็นคราบเปื้อนเปรอะไปทั่วแก้มใส ไม่ต่างอะไรกับฉันเลยสักนิด แต่สิ่งที่เด็กหญิงตัวเล็กมีมากไปกว่าฉันคือความสดใสของวัยเยาว์ สำหรับฉันมันจางหายไปนานเหลือเกิน นานนับตั้งแต่วันที่เขาแยกพ่อและแม่ของเราออกไป
สองปีก่อนฉันยังมีความสุขภายใต้บ้านหลังเล็กกับพ่อผู้ขยันขันแข็ง แม่ผู้แสนดีและน้องสาวตัวเล็กผู้มีรอยยิ้มสดใสเกินใคร หากแต่ทุกสิ่งเกิดขึ้นเร็วเกินคาด...พวกเขาก้าวเข้ามาในบ้านและประกาศว่าเด็กทั้งหญิงชายที่มีอายุต่ำกว่าสิบแปดปีจากครอบครัวที่ยากจนจำเป็นต้องเข้าไปอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของรัฐ ฉันในวัยสิบสี่ปีและน้องสาวในวัยแปดปีถูกส่งเข้าเมืองหลวงก่อนได้บอกลาพ่อและแม่ด้วยซ้ำ ท่ามกลางเสียงร้องไห้ฉันเฝ้าแต่บอกเธอว่าสักวันเราจะได้กลับไปหาพ่อแม่
แต่ฉันรู้ดี เราไม่มีวันได้กลับหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งนั้นอีกแล้ว
ในตอนแรกฉันไม่รู้ว่าพวกเขาจับเด็กอย่างฉันมารวมกันเพื่อประโยชน์อันใด เราถูกส่งไปยังโรงเรือนขนาดใหญ่ที่เป็นทั้งที่พักและโรงเรียน เขาเรียกสถานที่นี้ว่าผลึกเพชรตามชื่อโครงการ ในตอนเช้าเราต่างถูกฝึกและร่ำเรียนในหน่วยงานตามความถนัด ตกดึกจึงได้กลับไปยังห้องพัก ถึงแม้จะไม่ได้อยู่ด้วยกันตลอดเวลา แต่นั่นเป็นโชคอันดีแล้วที่ฉันกับน้องสาวยังอยู่ด้วยกันได้ในตอนกลางคืน เด็กชายคนหนึ่งบอกกับฉันว่าเขาถูกแยกกับพี่ชายและไม่เคยได้พบเจอกันอีกเลย
ที่โรงเรียนเขาบอกกับฉันว่าจำนวนเด็กในเมืองหลวงกำลังลดลงอย่างมหาศาล ทำให้รัฐบาลต้องเร่งสร้างแรงงานโดยการคัดเลือกเด็กจากพื้นที่ต่าง ๆ มาอบรมเพื่อกลายเป็นเด็กที่มีคุณภาพ พวกเขาเรียกโครงการนี้ว่าโครงการเจียระไนเพชร และเรียกพวกเราที่ยังไม่กลายเป็นเพชรเต็มตัวว่าสมาชิก
ไม่ใช่สมาชิกทุกคนที่สามารถกลายเป็นเพชรน้ำงามได้สมใจโครงการ ในกระบวนการคัดเลือกหน่วยงานเด็กหลายคนกลายเป็นเถ้าถ่าน เพราะพวกเขาไม่สามารถเปลี่ยนภาพเป็นเพชรได้...
"ไอริส...พี่ว่าพวกเขาจะตายไหม" เด็กหญิงกระซิบถามฉันอย่างแผ่วเบาจนแทบจับใจความไม่ได้ เธอรู้ตัวดีว่าหากเพิ่มเสียงดังอีกสักนิดอาจทำให้เจ้าหน้าที่พิทักษ์สันติพร้อมกับกระบอกปืนในมือหันกลับมาสนใจและเราสองคนพี่น้องคงกลายเป็นเป้าหมายต่อไปของกระสุนปืน อาจเป็นโชคอันดีของเราก็ได้...ท่ามกลางเด็กที่ถูกกวาดต้อนมารวมกันในห้องโถง เจ้าหน้าที่คนใกล้ที่สุดเลือกจะสนใจเด็กหนุ่มผิวคล้ำที่ห่างออกไปมากกว่า
"พี่ไม่รู้...พี่หวังว่าพวกเขาจะปลอดภัย นอนต่อเถอะนะคนดี" ฉันลูบเส้นผมเนียนละเอียดของน้องสาว พยายามกล่อมให้เธอนอนหลับไปจนกว่าค่ำคืนนี้จะผ่านพ้นไป ฉันรู้ดีว่ามันยากเย็นขนาดไหนกับการข่มตานอนในคืนเช่นนี้...คืนที่เสียงดังสนั่นหวั่นไหวของปืนยังดังอยู่ภายนอก
กลุ่มคนรุ่นราวคราวเดียวกับฉันจากหน่วยงานสร้างสันติซึ่งรวบรวมเด็กชายหญิงผู้มีหัวด้านการต่อสู้พร้อมใจกันหนีออกจากผลึกเพชร พวกเขามีอาวุธอยู่ในมือ แม้ไม่ใช่ปืนอย่างที่ผู้พิทักษ์สันติใช้กัน แต่ดาบ ธนู มีดสั้นก็ทรงอานุภาพพอสำหรับการเข่นฆ่าชีวิตใครสักคนหนึ่ง...โดยเฉพาะด้วยฝีมือของพวกเราที่ฝึกมาเพื่อการนั้นโดยเฉพาะ
ฉันเป็นคนหนึ่งที่ถูกชักชวนให้หนีไปในคืนนี้ หากฉันตัวคนเดียวเหมือนกับคนอื่น ๆ ฉันคงมีความกล้าพอที่จะเข้าร่วมกลุ่มกับพวกเขาแล้วหนีออกไป แต่ฉันทำแบบนั้นไม่ได้...ฉันจะหนีรอดไปตัวคนเดียวโดยทิ้งน้องสาวไว้ในผลึกเพชรได้อย่างไร...ยิ่งตอนนี้เรามีกันเพียงแค่สองคนเท่านั้น การพาไลแลคหนีไปด้วยยิ่งเป็นเรื่องที่ยากเข้าไปใหญ่ น้องสาวไม่ได้อยู่ในหน่วยงานสร้างสันติอย่างฉัน เธอเป็นเพียงเด็กหญิงที่ยังไม่เข้าเกณฑ์เลือกหน่วยงานใดทั้งสิ้น จวบจนกว่าเธอจะอายุครบสิบสองปีและเข้ารับการคัดเลือกในอีกหลายปีข้างหน้า