ระหว่างที่เดินเตร่ไปมาอยู่ที่หน้าอาคารขนาดใหญ่ซึ่งมีรูปปั้นเทพเจ้าโบราณท่าทางดุดันน่าเกรงขามประดับอยู่ที่หน้าทางเข้าของตัวอาคาร
ผมคิดและตัดสินใจเก็บสตุ้งสตางค์มาเนิ่นนานแล้วว่าจะต้องมาที่แห่งนี้ให้ได้ ไม่ว่าหัวเด็ดตีนขาดอย่างไรก็ต้องมา เพราะถ้าไม่มาผมก็ไม่ใช่ลูกผู้ชาย
ไอ้แป๊ะลูกตาป๋วย บ้านอยู่ห้วยขวาง นัดให้ผมมาเจอกับมันที่นี่เวลาหนึ่งทุ่มตรง นี่ก็ใกล้ถึงเวลานัดแล้วยังไม่เห็นแม้แต่เงาหัวของลูกตาป๋วย
ไอ้แป๊ะบอกว่าวันนี้มันจะสอนให้ผมเป็นลูกผู้ชายเต็มตัว ผมก็อยากจะรู้หนักหนาว่าที่มันจะสอนผมนั้นตัวมันเก่งแค่ไหน
คิดสะระตะไม่นาน ก็เห็นท่าทางของคนที่คุ้นเคยซึ่งวิ่งไล่ดีดหำกันมาตั้งแต่ตัวเท่าลูกกรอก เดินอาดอาดด้วยท่าทางยียวน ราวกับว่าชีวิตนี้ไม่เคยโดนส้นตีนประทับที่ใบหน้ามาก่อน ชายในร่างผอมสูงราวกับเสาไฟฟ้า กับท่าเดินที่เหมือนมีแม่เหล็กคอยดึงดูดส้นตีนไว้กับตัวตลอดเวลา ตรงดิ่งเข้ามาหาผมพร้อมกับใบหน้าที่เปื้อนยิ้ม
"เฮ้ย ไอ้ดุ๋ง วันนี้มึงแต่งตัวโก้นี่หว่า"
ใช่แล้วครับ ชายผู้มีพลังดึงดูดส้นตีนติดตัวมาแต่กำเนิดผู้นี้คือเพื่อนรักของผม นามว่าไอ้แป๊ะ ลูกตาป๋วยแห่งห้วยขวางนั่นเอง
"ครั้งแรกมันก็ต้องขอหล่อๆหน่อยซีวะ นี่มึงมาช้าจริง ถ้าช้ากว่านี้กูลุยคนเดียวแล้วโว้ย"
"ก็กูเห็นว่าวันนี้วันสำคัญของชีวิตมึง กูก็ไปหาอะไรติดไม้ติดมือมาเป็นของขวัญมึงหน่อยซีวะ"
"ของขวัญห่าอะไรมึง โตจนหมาเลียดากไม่ถึงยังทำตัวเป็นเด็กไปได้"
ผมตอบพร้อมกับส่ายหัว
ไอ้แป๊ะยิ้มแล้วล้วงกระเป๋าสะพายข้างประจำตัวพร้อมกับหยิบเอาพวงมาลัยมะลิเหี่ยวๆเหมือนกระจู๋หมาแก่หมดแรงออกมาพร้อมกับใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มที่มองไกลๆนึกว่าฟันทองคำ แต่พอลองพินิจพิจารณาดูใกล้ๆกลับเป็นฝักข้าวโพดสีเหลืองอ๋อย เรียงกันเข้าคู่ราวกับเล็บตีนหมาอย่างไงอย่างงั้น
"มาเถอะว่ะ ประสบการณ์ครั้งสำคัญในชีวิตมึงนา ขอกูคล้องพวงมาลัยฉลองให้มึงซักทีเถอว่ะไอ้เกลอ"
"มึงหยุดเสียทีเดียวเลยไอ้ฉิบหาย เอาไปคล้องหัวหมาที่บ้านมึงนู้น"
นอนก่อนเดี๋ยวกูมาแต่งต่อไม่ไหวละ นอนไม่หลับเลยลุกมานั่งเขียนเหี้ยไรเพ้อๆ จะได้ตาลายๆง่วงนอนเหมือนกับชาวบ้านชาวช่องเขาได้เสียที