>>157 ได้ จะเอาเบียวๆ ใช่มะ
ในโลกแห่งโลกต่างมิติที่มีธีมเป็นเกมออนไลน์ มนุษย์และสิ่งมีชีวิตอื่นทุกผู้นามล้วนมีพลังปราณวิเศษเป็นของตนเอง ปราณวิเศษนั้นมีอยู่ด้วยกันทั้งสิ้น 7ขั้น ขั้นแรกมีชื่อว่าปราณทารก ขั้นสูงสุดคือปราณจอมสวรรค์ ส่วนที่เหลืออีกห้าขั้นไม่ต้องสนใจ เพราะเดี๋ยวพระเอกของเราก็จะได้ปราณขั้นสุดท้ายมาแบบง่ายๆ อยู่ดี
พระเอกของเรามีชื่อว่าไคกิระ เป็นชื่อที่พยายามตั้งเลียนแบบญี่ปุ่นด้วยการเอาคำสามพยางค์มาเรียงต่อกันโดยไม่รู้ว่ามันหมายความว่าอะไร บัดนี้ไคกิระน้อยอายุได้สามปี พ่อกับแม่ของมันชื่อเฉินหวิ่นและสเตฟานี่ พวกเขาอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ ชายป่ามนต์ดำ ผู้เป็นหัวหน้าครอบครัวหาเลี้ยงทั้งสามชีวิตด้วยการล่าสัตว์และหาของป่าไปขายในเมือง
ไคกิระนั้นดูเผินๆ คล้ายกับเด็กน้อยสามัญทั่วไป แต่แท้ที่จริงไม่ใช่อย่างนั้น...
สามปีก่อน ในดาวเคราะห์สีน้ำเงินดวงหนึ่งที่เรียกว่าโลก
หวอออออออออ
"เกิดเหตุคนร้ายปล้นธนาคารค่ะ" นักข่าวสาวผู้หนึ่งกรอกเสียงใส่ไมโครโฟนด้วยความตื่นเต้น "ตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังปิดล้อมธนาคารไว้ทุกทิศทาง แต่ฝั่งโจรจับพนักงานและลูกค้าไว้เป็นตัวประกัน ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถบุกจู่โจมได้ค่ะ"
ภายในธนาคาร
"เอาไงดีลูกพี่" ชายสวมโม่งดำคลุมหน้าส่งเสียงตื่นเมื่อมองเห็นไฟกระพริบและได้ยินเสียงไซเรนที่ดังมาจากด้านนอก "พวกหมาต๋าแม่งไวฉิบหายเลย เดี๋ยวพวกมันคงบุกเข้ามาแน่"
"มึงใจเย็นๆ" ผู้เป็นลูกพี่พูดเสียงเข้มขณะกระชากเอาเด็กผู้ชายร่างผอมบางคนหนึ่งขึ้นมาจากพื้น "ตัวประกันเยอะขนาดนี้พ่อมึงไม่บุกเข้ามาหรอก เฮ้ยให้เหี้ยชิต มึงตะโกนบอกพวกเหี้ยนั่นไปสิว่าถ้าแม่งยังไม่หลบไปกูจะยิงตัวประกันทีละคน"
โจรอีกคนหนึ่งพยักหน้าก่อนคว้าเอาเครื่องขยายเสียงที่หามาได้จากที่ไหนก็ไม่รู้ตะโกนข้อความเมื่อครู่ออกไป ฝั่งลูกพี่เองก็ต้องการให้คำขู่นั้นมีน้ำหนัก เขาลากตัวเด็กผู้ชายคนนั้นไปชิดหน้าต่าง รัดคอของเด็กคนนั้นให้กระชับตัวเพื่อเป็นหลักประกันว่าจะไม่มีการยิงเข้ามา "ถ้าภายในสิบนาทีรถทุกคนยังไม่ถอยออกไป" มันตะโกนลั่นขณะยกปืนพกในมือจ่อเข้าที่ขมับของเด็กชาย "กูจะเป่าหัวแม่งให้กระจุย"
เมื่อพูดจบหัวหน้าโจรก็หัวเราะร่าพร้อมขยับกายถอยกลับเข้ามายังที่กำบังด้านใน ตัวประกันภายในธนาคารร่างสั่นระริก ทุกคนถูกจับมัดมือไพล่หลังนอนคว่ำหน้าลงกับพื้น ไม่มีใครกล้าแม้แต่จะผงกศีรษะขึ้นมามองสถานการณ์
แต่ในชั่วขณะที่ฝ่ายโจรกำลังชะล่าใจนั้น สายตาของเด็กชายตัวน้อยก็พลันกระจ่างวูบ เขาพลิกตัวออกจากการรัดรึงของหัวหน้าโจรก่อนบิดแขนอีกฝ่ายไพล่หลัง เสียงกร็อบดังลั่นเมื่อกระดูกหัวไหล่ของชายผู้นั้นหักสะบั้นลง "อ๊าคคคคคคคคคคค" หัวหน้าโจรร้องลั่น ในขณะที่โจรคนอื่นๆ กำลังชะงักไปด้วยความประหลาดใจนั่นเอง เด็กชายก็ฟันศอกซ้ำลงไปที่กลางศีรษะของหัวโจก เลือดฉีดพุ่งราวน้ำพุกระเซ็นเปรอะไปทั่วอาคาร มันสมองสีขาวอมเหลืองผุดออกมาจากบาดแผล
เด็กชายไม่รอให้คนอื่นได้ทันตั้งตัว เขาคว้าปากกาที่ตกอยู่บริเวณนั้นกระโจนเข้าใส่โจรอีกคนหนึ่ง ใช้มันแทงซ้ำๆ เข้าไปที่ลูกตา โจรผู้นั้นร้องเสียงหลง ร่างสั่นเป็นเจ้าเข้าเมื่อถูกโจมตีอย่างเหี้ยมโหด
ปัง ปัง ปัง
เสียงปืนรัวขึ้นสามนัด เด็กชายกระโดดหลบอย่างชำนาญก่อนที่จะตีลังกากลับหลังเข้าใส่โจรคนสุดท้าย ใช้ส้นเท้ากระแทกปลายคางของฝ่ายนั้นจนปืนในมือกระเด็นตกลงพื้น เด็กชายพลิกตัวกลางอากาศ ใช้มือทั้งสองข้างง้างปากของโจรออกพร้อมใช้กำลังแขนกระชากอย่างแรง ฉีกศีรษะของผู้ร้ายออกเป็นสองส่วน
ความเงียบเข้าปกคลุมภายในธนาคารอยู่อึดใจหนึ่งก่อนที่พนักงานคนหนึ่งจะกล้าเงยหน้าขึ้นจากพื้น แต่สิ่งที่เขาเห็นกลับเป็นค้อนปอนด์อันหนึ่งที่กำลังฟาดลงมาอย่างแรง
โพล๊ะ
ศีรษะนั้นถูกทุบราวกับลูกแตงโม เศษกระโหลก เลือดและเนื้อสมองถูกบดกระจายเกลื่อนพื้น เด็กชายยิ้มเหี้ยมเกรียมขณะที่เดินตรงไปทุบศีรษะของผู้เคราะห์ร้ายที่ถูกมัดคว่ำหน้าอยู่กับพื้นคนแล้วคนเล่า "ตัวตุ่นๆ" เด็กชายหัวเราะ ใช้ลิ้นเลียริมฝีปากที่มีเศษเนื้อและเลือดสดๆ เปรอะอยู่ "อยากตีตัวตุ่น"
ไม่กี่อึดใจต่อมา ธนาคารก็ปราศจากเสียงหวีดร้องอีก เด็กชายเหยียบย่ำไปท่ามกลางกองศพที่ยากจะจำแนกได้ว่าใครเป็นใคร รอยยิ้มที่มุมปากดูเคลิบเคลิ้มคล้ายกับเด็กที่ได้ไปเที่ยวสวนสนุกเป็นครั้งแรก
เด็กชายเดินตรงไปยังประตู ในใจคิดปั้นเเต่งเรื่องที่จะใช้โกหกตำรวจ โดยไม่ทันมองว่าตรงหน้าของเขามีปากกาด้ามหนึ่งหล่นอยู่
เด็กชายเผลอเหยียบปากกาด้ามนั้นจนลื่นล้ม โชคไม่ดีที่จังหวะนั้นมือของเขาไพล่ไปโดนไกปืนที่ตกอยู่บริเวณนั้นพอดี เสียงปืนคำรามขึ้นหนึ่งนัด ส่งกระสุนนัดหนึ่งเข้าใส่สมองของเขา
เขาเสียชีวิตโดยที่ไม่ทันรู้ตัว เรียกได้ว่าแทบไม่เกิดความเจ็บปวดเลยแม้แต่น้อย