Fanboi Channel

โปรแกรมเมอร์ที่รัก [โปรแกรมที่ 2]

Last posted

Total of 1000 posts

631 Nameless Fanboi Posted ID:QPq4VtLfBl

จะซื้อโต๊ะปรับระดับมา มีแบรนด์ไหนแนะนำบ้าง

632 Nameless Fanboi Posted ID:9otTybPErW

>>630 จ่ายเรทดีถ้ามึงต่อรองเก่งตอนสมัครเข้า แต่แรงงานทาส

633 Nameless Fanboi Posted ID:qEu5I81Dpu

>>632 งั้นกูว่าก็เหมาะแค่เข้าไปอัพเงินเดือนแล้วก็รีบลาออกหนีไปที่อื่นต่อใช่ป่ะ

634 Nameless Fanboi Posted ID:W8/mv6rG/t

ปาฎิหาริย์มาก รีพลายกูหาย

635 Nameless Fanboi Posted ID:KN2Jxmo/Tj

เกลียดวงในว่ะ

636 Nameless Fanboi Posted ID:W60w12Y4Yd

>>635 ว่าไงไหนเหลา

637 Nameless Fanboi Posted ID:yKq9tpMMHH

>>636 เมื่อก่อนมันไม่รับกู แล้วตอนนี้จะมาชวนกูไปสัม ควาย

638 Nameless Fanboi Posted ID:N3K2Kz.ClI

ช่วงก่อนหน้านี้คนทีมกูลาออกกันไปเกือบหมด แล้วก็มีจะรับ dev team lead เข้ามาใหม่คนนึง
ตอนหัวหน้าแผนกบอกชื่อ ชื่อเค้าเล่นซ้ำกับพี่ในทีมที่กูเคยทำงานในบริษัทเก่าเมื่อนานมาแล้ว แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร
วันนี้เห็นชื่อจริงที่มัน register เข้ามาในระบบก่อนเค้าจะเข้ามาทำงาน ปรากฏว่าแม่งเป็นพี่คนนั้นจริงๆ
ซึ่งคนเค้าบอกกันว่าวงการนี้มันแคบนี่ กูทำงานสายนี้มาเกือบๆ 10 ปี เพิ่งเจอคนรู้จักเวียนมาเจอกันเป็นครั้งแรก
แต่ปัญหาคือกูว่าเค้าไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ว่ะ เป็นคนขี้ลืมมาก ทำงานมาตกๆหล่นๆตลอด คุยก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง ทักษะด้านคนก็ไม่ดี (ซึ่งกูเองก็ไม่ได้ดีหรอก)
รวมๆคือไม่เหมาะกับงานเป็น lead เลย แต่กูก็ไม่ได้เจอเค้ามา 5 ปีแล้วนะ ไม่รู้มันแฟร์มั้ยที่จะเอาอดีตมาตัดสิน
แต่ด้วยความที่เค้าก็อายุไม่ได้น้อยแล้ว (น่าจะเกิน 45) ส่วนตัวไม่ค่อยเชื่อว่าเค้าจะเปลี่ยนไปได้มากเท่าไหร่
ตอนนี้แค่นึกถึงอนาคตตอนต้องทำงานกับเค้าก็เครียดแล้วว่ะ ไม่พ้นกูต้องแบกงานเองแล้วต้องนั่งเถียงเรื่องไม่เป็นเรื่องทั้งวันแหงๆ OTL

639 Nameless Fanboi Posted ID:0n/Pv+hCiq

>>638 ไม่เปลี่ยนหรอกว่ะ รอดูก็ได้ มึงหางานใหม่ตามคนที่ออกๆเตรียมรอไว้เลย

640 Nameless Fanboi Posted ID:f66HwLQ0Ko

>>25

641 Nameless Fanboi Posted ID:kpYKSF/L/I

>>25 เคยเจอคนจบวิศวะเคมีเปลี่ยนสายมาทำเดฟ แต่จบนอกนะ เขาเลยรับมั้ง

642 Nameless Fanboi Posted ID:kpYKSF/L/I

>>641 แถม เพื่อนๆกูวิศวะชมพูก็มีย้ายมาทำสายนี้เยอะ ทั้งภาคเครื่องกล ไฟฟ้า อุตสาหการ นาโน สำรวจ มีเยอะแยะ

643 Nameless Fanboi Posted ID:c5CjEHCtEl

ไม่รู้ว่าใครเป็นเหมือนกูหรือเปล่านะ แบบทำงานถ้าบอกว่านัดประชุมตอน 10 โมง ช่วง 8-9 โมงจะเขียนโปรแกรมไม่ได้เลยจนกว่าจะประชุมเสร็จ

หรือถ้าบอกว่าเดี๋ยวให้ stand by support ช่วงบ่ายแล้วทำงานรอไปด้วย อันนี้สำหรับกูคือ ช่วงบ่ายงานไม่กระเตื้องแล้วหวาดระแวงตลอด อีกประเภททำงานอยู่ดีๆ โทรมาห้องรวม teams หรือ zoom อะไรแล้วพอเข้าไปแล้วบอกไม่เกี่ยวออกไปได้เลย อันนี้สมาธิแตก ต้องใช้เวลาเกือบชั่วโมงกว่าสติจะฟื้นกลับมาทำงานได้ต่อ

644 Nameless Fanboi Posted ID:lRb9QlAaFU

>>643 กูก็เป็นเหมือนกันอะ

645 Nameless Fanboi Posted ID:f6vrVZC8/G

>>643 กูเป็น แต่เพิ่งเป็นได้ประมาณ 2 ปี ก่อนหน้านี้ไม่เป็น ไม่รู้เป็นเพราะทำงานสภาพแบบนั้นนานๆแล้วมีผลทำให้สมาธิแย่ลงมั้ย

646 Nameless Fanboi Posted ID:ERiRfYYmkw

https://imgur.com/II5HGAK

647 Nameless Fanboi Posted ID:G1/GaYlFwB

ปกติพวกมึงเขียน return กับแบบไหนวะ สมมติแบบนี้

ResponseModel response = new RepsonseModel();

if(model == null){
status = 501;
success = false;
message = "model is null";
return repsonse;
}
}

if(GetResultById(model.id)){
status = 501;
success = false;
message = "id not found";
return repsonse;
}
}

หรือ

try{
ResponseModel response = new RepsonseModel();

if(model == null){
throw new Exception("model is null");
}

if(GetResultById(model.id) == null){
throw new Exception("id not found");
}

}
catch(Exception ex){
response.status = 501;
response.success = false;
message = ex.message;
return response;
}

หรือแล้วแต่ระบบเราว่าไม่ควรโยนเข้า catch ทุกเคส
แต่เคยอ่านๆมา try..catch ใช้เยอะๆ ก็ช้าเหมือนกัน

648 Nameless Fanboi Posted ID:eBaqqd6I88

>>647 กูว่าถึง try catch จะช้ากว่าการใช้ if else แต่ความต่างมันในการใช้งานจริงมันไม่ได้มากขนาดนั้น
ถ้าใช้แล้วมึงรู้สึกว่ามันทำให้โค้ดเข้าใจง่ายกว่าก็ใช้ๆไปเถอะ แถมเอาไว้ดู stacktrace ทำให้แก้ปัญหาได้ง่ายขึ้นด้วย

สำหรับกูการใช้ try catch เพื่อดักจับ exception ที่ throw มาจากใน method เดียวกันมันไม่ผิดนะ แค่รู้สึกไม่ค่อยจำเป็น
ถ้าอยากใช้ try catch ก็รวบส่วน logic ไปอีก method เลยดีกว่า แล้วใน try ก็ให้มีแค่ไป call อย่างเดียวพอ

จากโค้ดที่ให้มาเดาว่าที่มึงถามนี่คือพวกปลายทางตอนปั้น response ของ service
จะเสริมว่าในการทำงานจริง ถึงจะดูผิดหลักการจากที่เรียนในห้องเรียนไปบ้าง
แต่กูคิดว่าการสร้าง Exception กลางๆขึ้นมาซัก class แล้วเอาข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการปั้น error response เช่น code, message ยัดในนั้นให้หมด
แล้วก็ใช้สำหรับ exception ที่เราตั้งใจดักทุกอย่างไปเลยมันง่ายกว่ามาก
โค้ดส่วนที่เอา exception ไปแปลงเป็น error response จะได้เขียนทีเดียวรียูสได้ทุกที่ด้วย

ภาษาอื่นๆนี่กูไม่แน่ใจ ถ้าเป็น Java Spring นี่แนะนำว่าลองไปดูของที่ framework มันมีให้ดู
มันมีตัวช่วยสามารถเอาโค้ดส่วนแปลง exception เป็น error response แยกไปไว้อีกที่หรือเขียนทีเดียวใช้กับหลายที่ด้วยการ config ได้
https://www.baeldung.com/exception-handling-for-rest-with-spring

649 Nameless Fanboi Posted ID:4m21MD02tE

java? ถ้าไม่มั่นใจว่า test ครบทุกกระบวนการจะใช้ try catch ก็ได้ อย่างน้อยก็ไม่ error โดนถีบหลุดมากลางทาง

ว่าแต่ เขียนงงนะ คือ if เงื่อนไขรวมกันแล้วไป switch case code error หรือ regex code error เร็วกว่าเยอะ ทั้งความเร็ว ทั้งเวลาแก้
มันต่างกันแค่ message แค่น้ันเองนิ ฝึกเขียนให้เป็นระเบียบให้ติดเป็นนิสัยไว้ดีกว่า ถ้าเขียน code เปลืองโดยใช้เหตุโปแกรมใหญ่ขึ้นจะอ่าน code ตัวเองลำบากเอา

650 Nameless Fanboi Posted ID:DzVurbjfT5

>>647 เอาอันบนครอบ try อีกทีละ catch return 501 สำหรับ unexpected exception แต่จะไม่สร้าง exception ใหม่

651 Nameless Fanboi Posted ID:3nHaevol8s

[แจ้งทราบ]
เปิดรับสมัครผู้ที่สนใจเข้าร่วมทีม We Love Bug Biz จำนวน 2 คน โดย
แยกเป็น
Software Tester 1 คน
Programmer 1 คน
-----------
มาทำอะไร?
-----------
1. ซ่อม Automated Tests ทั้ง Functional Tests และ Nonfunctional Tests
2. ซ่อม Automation Works
3. สร้าง Automated Tests ทั้ง Functional Tests และ Nonfunctional Tests
4. สร้าง Automation Works
5. ส่งมอบประสบการณ์ผ่านเวิร์คชอปต่าง ๆ
---------------
เงินเดือนเท่าไร?
---------------
ถ้าเรื่องนี้เป็น เรื่องสำคัญลำดับหนึ่งจะตัดสินใจมาร่วมงาน
ก็ขอบคุณที่อ่านมาถึงบรรทัดนี้ครับ
ถ้าไม่ใช่ อ่านต่อด้านล่าง
----------------------------------------
ความรู้ ทักษะ และประสบการณ์ที่มีติดตัวมา
----------------------------------------
น่าจะใช้ไม่ได้กับโจทย์ที่จะเจอ คือ ซ่อม และสร้าง
ดังนั้น
3 เดือน จะถูกฝึก ฝึก และฝึก
------------
ถ้ารับได้กับ
------------
1. อ่านหนังสือ
2. ฝึก ฝึก และฝึก
3. คิด วิเคราะห์ และออกแบบ
4. บอกว่ารู้ และไม่รู้อะไร
5. ไม่กลัวงานยาก
6. จะถูกครอบงำให้ลด ละ เลิก กับการคิดว่าตัวเองไม่เก่ง
7. ทำงานภายใต้สภาวะความกดดัน
8. ต้องบริหารเวลาของตัวเองได้
ส่ง Email มาหาผมที่ prathan@welovebug.biz
เพื่อนัด วัน และเวลา ในการพูดคุยกัน

652 Nameless Fanboi Posted ID:1EYmbclSJ3

>>651 สรุปคือหลอกเด็กหาแรงงานโค้ดราคาถูก

653 Nameless Fanboi Posted ID:vexGDVIbJ3

>>651 ได้รับแรงงานถึกทนราคาถูก

654 Nameless Fanboi Posted ID:E2HJs6aH5l

เห็นชาว Go บ่นการเขียน Go แบบ Java-esque แล้ว จับมือ
ผมนี่ตั้งแต่เขียน JS หลายปีที่แล้ว ก็ไปเถียงกับคนอื่นว่าอย่าพยายามทำ JS เป็น Java-esque, DotNet-esque เลยมันไม่เวิร์คหรอก แล้วก็โดนด่ากลับมาว่าไม่เข้าใจ OOP ไม่เข้าใจ Good software engineering practice มันต้องแบ่งแบบนี้
จนตอนนี้ทำคอร์สสอน OOP ออกไปพูดเรื่อง SOLID กำลังจะหาเวลาสอนพวก MVC, Clean Architecture แล้ว พวกแพทเทิร์นที่มันใช้กันในโลกจาวากับดอทเนทที่เขาบอกว่าเราไม่รู้จักไม่เข้าใจเลยต่อต้านอ่ะ ไม่รู้จักจนจะสอนได้แล้วเนี่ย
ตั้งใจจะสอนโดยที่เข้าใจว่ามันมีไว้ทำไมแล้วเมื่อไหร่ไม่ต้องใช้ไง ไม่ได้สอนแบบเห้ยนี่มันคือสิ่งที่ดีที่สุดในโลกที่ทุกคนต้องใช้ถึงจะเป็นโปรแกรมเมอร์ที่ดี
ผมเป็นคนขายคอร์ส OOP ที่กล้าพูดว่าโดยส่วนตัวแบบส่วนตัวจริงๆ แล้วผมเบื่อ OOP Pattern, Practice หลายอย่างมากเลย แล้วอยากเขียนโปรแกรมที่ Main paradigm เป็น Functional มากกว่าเยอะ
แต่สุดท้าย OOP มันมีคุณค่าตรงที่มันเป็น Collaboration scheme & structure ไง ใช้เพื่อทำงานกับเพื่อนได้ ดังนั้นมันมีประโยชน์มากๆ ที่จะรู้จะเข้าใจและจะสอน ซึ่งนั่นอ่ะคือปัญหาที่ใหญ่ที่สุดในโลก Software engineering ทำงานเป็นทีมทำยังไง

655 Nameless Fanboi Posted ID:TSfj5jJcrl

โปรแกรมเมอร์แบ่งเป็น 5 ประเภท

https://www.youtube.com/watch?v=z-9YlsON0u0

656 Nameless Fanboi Posted ID:nL38o6dVJY

>>654 เหตุผลเดียวกับที่ Java ยังมีความนิยมใช้อยู่ในองค์กรหลายๆที่ ทั้งๆที่มีภาษาอื่นที่ดีกว่าเยอะแยะทั้งใช้ jvm และไม่ใช้ เพราะคนส่วนใหญ่แม่งเขียนได้แค่นั้นแหละ ไม่ใช้อันนี้แม่งก็ทำงานกันไม่ได้

657 Nameless Fanboi Posted ID:dUUOvZZj2K

เพื่อน ๆ เราเริ่มศึกษา web 3 กันดีป่ะ

658 Nameless Fanboi Posted ID:UE18agr.sA

>>656 ส่วนมากในบริษัทใหญ่ๆคนบนๆเป็นฝ่ายเลือกเทคโนโลยีไม่ใช่เรอะ
แล้วที่ Java มันฮิตในบริษัทใหญ่ๆมาก่อนก็เพราะมีภาพลักษณ์ว่าเป็นของเหมาะใช้ในองค์กร ดูเป็นของแบรนด์ น่าเชื่อถือ

659 Nameless Fanboi Posted ID:QyCfDRPoJf

>>658 ถ้าเป็นบริษัทใหญ่ๆ ประเภทโรงงานใช้ .net กัน และ สมัยก่อนที่มี .net ก็ใช้ Delphi ประเด็นสำคัญ คือ ใช้อะไรก็ได้ที่มี ide เขียนงานได้เร็ว และต่อ oracle ได้ก็ตอบโจทย์ แน่นอนว่า Java ตกไปตั้งแต่ประสิทธิภาพห่วยแตกแล้ว

660 Nameless Fanboi Posted ID:SjwRoe8Xni

>>658 มันก็ไม่ใช่จะเลือกอะไรก็ได้ตามใจ ให้เซฟๆก็ต้องเลือกพวก java, c# นี่แหละ หาคนง่าย ไม่ต้องเทรนเยอะ

661 Nameless Fanboi Posted ID:r+33HAXlsV

ไอ้ future skill สอนเขียนโปรแกรมนี่ดีรึเปล่าวะ
เห็นโฆษณาขึ้นบนเฟสบุ้ครัวๆ จนน่ารำคาญ

662 Nameless Fanboi Posted ID:BLORIUnGo3

>>651 บ.กูนี้เคยเอามา consult อยู่ แม่งไม่ค่อยได้เรื่องอะ แต่แรงโม้เยอะ

663 Nameless Fanboi Posted ID:Hv3.FO/mCe

>>662 แค่ดูจากการโพสต์รับคนของมันแล้ว กูก็รู้เลยว่าไม่ได้เรื่อง

664 Nameless Fanboi Posted ID:is+vC41PJx

>>661 udemy ดีกว่าเพื่อน

665 Nameless Fanboi Posted ID:6S8f7f0VTE

>>661 ถ้าความรู้มึง 0 เลยมันก็พอว้าวๆอะแบบเห็นภาพคร่าวๆ แต่ถ้าหวังไปเพื่ออัพสกิลเนี่ยเสียตังค์ฟรี
สรุปถ้าฟังภาษาอังกฤษออก ไป udamy เถอะ

666 Nameless Fanboi Posted ID:yGCGFnVGm8

udemy นี่กูดูกี่ทีก็หลับ สงสัยไม่ใช่ทาง

667 Nameless Fanboi Posted ID:sxW+ZL9IV6

>>666 พวกขายที่นี่ความยาว video ต้องยาวระดับหนึ่งถึงขายดี และนำให้กดข้ามไอ้ที่บ่นที่มาที่ไปโลดเสียเวลาเปล่า หรือไม่ก็ซื้อคอร์สอันดับรองลงมาที่ไม่ใช้เวลามาก

668 Nameless Fanboi Posted ID:utevkQW.W/

พวกมึงเคยเจอแบบนี้ปะวะ
ทำโค้ดให้อ่านง่าย แยกเป็นสัดส่วน พยายามทำให้เข้า code standard แล้วก็ duplicate น้อยๆ เขียนเทสแบบเข้าใจง่าย ไม่ใช้ท่าพิศดารที่ชาวบ้านเขาไม่ทำกัน
แต่พอส่ง source code ให้ลูกค้า เสือกโดนฝ่าย it ตรวจรับ แล้วบอกว่า ผมรีวิวโค้ดละ code ง่ายๆแบบนี้ทำไมเก็บแพง แล้วใช้เวลานาน
คือกููต้องเขียนให้มันซับซ้อนๆ อ่านไม่เข้าใจ กูเข้าใจคนเดียวงี้หรอวะ ถึงเรียกว่าเทพ

669 Nameless Fanboi Posted ID:RnJTK0LGNB

>>668 คิดแบบนี้ก็ส้นตีนเกิน ทีหลังเอาโค้ดโยนใส่พวก Obfuscator แล้วค่อยส่งให้แม่งเลยละกัน

670 Nameless Fanboi Posted ID:ilvx.0whJo

>>668 มันแค่กดมึงเฉยๆ ง่ายจริงทำไมมึงไม่ทำเอง ไอ้ห่า!

671 Nameless Fanboi Posted ID:2uMEqcGOWX

>>668 เคยเจอแบบหัวหน้าตรวจงานเราที่เขียนอ่านง่าย กับพี่อีกคนที่เขียนอ่านไม่รู้เรื่อง แล้วเหมือนเขาจะรู้สึกกว่าพี่คนนั้นเก่งกว่าเรา

672 Nameless Fanboi Posted ID:XO8ALtC5np

เขียน code แบบทั่นเทพ John Carmack ไง ดูสั้นแต่รับรอง noob อ่านไม่ออก

i = 0x5f3759df - (i >>1); // What the fuck? เชรี้ยไรฟระเนี่ย

673 Nameless Fanboi Posted ID:OpcWcOR228

Sigma male ใช้ Lisp

674 Nameless Fanboi Posted ID:FkOASc2xZq

Chad ใช้ Brainfuck, Whitespace

675 Nameless Fanboi Posted ID:9S0wpMtQ5z

Lbgtq ใช้อะไร

676 Nameless Fanboi Posted ID:eB7RxCQaWp

>>673 อะไรของมึงวะกลับห้อง Lifestyle นู่นไป

677 Nameless Fanboi Posted ID:Zij8ldX6ba

แนะนำหน่อยพี่โม่ง เด็กจบใหม่ทำ AI/ML/DS เป็นควรเรียก salary เท่าไหรหรอ

678 Nameless Fanboi Posted ID:JaneHiBvFd

>>677 salary ขึ้นอยู่กับงานที่ทำ ถ้างานที่ทำไม่ใช้พวกนั้น ถึงทำเป็นก็ไม่มีผล แต่ถ้างานใช้พวกนั้นจริงๆก็น่าจะได้ 35++ นะ อยากได้เท่าไหร่ก็เรียกๆไป

679 Nameless Fanboi Posted ID:5odMH/5I4n

>>677 ขึ้นกับที่ทำงาน แล้วพวกบริษัทที่ใช้พวกนี้ทำงานจริงๆ เด็กใหม่ก็ไม่ค่อยสนเท่าไหร่หรอก เพราะถ้าแค่เขียนไปดูตามยูเดมี่ซัก 10-20 ชม. ก็ทำได้แล้ว ปัญหาคือประยุกต์ใช้ที่ต้องอาศัยประสบการณ์ซะ หาชิ้นส่วนมาต่อให้เหมาะกับการทำงานซะส่วนใหญ่

แล้วอีกอย่าง ML บ้านเราส่วนมากจะเอาไปใช้วิเคราะห์การใช้งานของลูกค้าซะมากกว่า ซึ่งไอ้พวกนี้จริงๆ เอาข้อมูลโยนใส่ google , fb api เดี๋ยวก็ได้รายงานมา ใช้ง่ายและดีกว่าเขียนเองด้วย

680 Nameless Fanboi Posted ID:.m2+a5A6Gi

>>678 >>679 ขอบคุณนะพี่โม่ง

681 Nameless Fanboi Posted ID:FDpQqNFaYN

ขอถามเพื่อน ๆ โม่งหน่อย ทางนี้เป็นคนที่ไม่มีประสบการณ์อะไรเลย แต่เหมือนแบบมีความรู้สึกว่ากุอยากพัฒนาทักษะตัวเองว่ะ ซึ่งก็ว่าจะมาทางโปรแกรมมิ่ง เพื่อนโม่งช่วยชี้ช่องหน่อยได้ไหมว่าไปเริ่มยังไง (Preferably แบบที่กุนั่งอ่าน ทำตามบทเรียนทางเน็ตได้ฟรี ๆ ภาษาอังกฤษได้) ภาษาอะไรดี? กุรู้สึกว่าโลกแม่งกว้างมากขนาดจะเริ่มกุยังเริ่มไม่ถูก

682 Nameless Fanboi Posted ID:8dTrsd0PoC

>>681 web , app , game ชอบอะไรที่ใช้บ่อยๆ แล้วลองดูโครงสร้างไม่ซับซ้อนมาก ลองหาทางก็อปมันดู
อ่อแล้วตัวฟรีมันเสียเวลาเกินไป ลงทุนซัก 300 ซื้อคอร์ส udemy เถอะ

683 Nameless Fanboi Posted ID:hPd.faCJz1

>>681 ต้องดูก่อนว่าอยากเอาไปใช้ทำไรต่อ

684 Nameless Fanboi Posted ID:XAIIzeg7Yu

>>681 แค่ความรู้สึกส่วนตัวนะว่าการเขียนโปรแกรมมันเป็นเรื่องเฉพาะทางมาก ไม่ใช่อะไรแนวๆทักษะที่ควรมีในชีวิตประจำวันทั่วๆไปเท่าไหร่
ถ้าสนใจลองเริ่มจากอะไรที่ไม่ใช่การเขียนโปรแกรมโดยตรงอย่าง html ก่อนดีมั้ยว่าลองน้ำจิ้มแนวนี้แล้วรู้สึกชอบมั้ย ถ้าชอบแล้วอยากจริงจังค่อยต่อยอด

685 Nameless Fanboi Posted ID:lAWj1eXsfm

>>684 เออกุว่าเริ่มจาก html css javascript แล้วต่อยอดไป wordpress น่าสนใจนะ

686 Nameless Fanboi Posted ID:oiL7f8jBzc

บริษัทที่กูสมัครเขารับงานนอกแล้วรับงานเกี่ยวพวกยิงปลาสล็อต กูควรเข้าไปทำมั้ยวะ

687 Nameless Fanboi Posted ID:Wap/KbGgsj

>>686 ไม่ควร

688 Nameless Fanboi Posted ID:hRq4PjT8bz

งานที่ทำตอนนี้รู้สึกไม่ค่อยเป็นตัวเองและไม่ค่อยชาเลนจ์ อยากย้ายงาน แต่ไม่รู้ไปไหนดี เพื่อนโม่ง มีที่ไหนแนะนำปะ กูจบเกือบใหม่ เป็นเป็ด ทำอะไรก็ได้แค่ไม่เก่งสักอย่าง และยังหาตัวเองไม่เจอ TT

689 Nameless Fanboi Posted ID:liqSEwGTNc

ตอนนี้แม่งเบื่องานสัสๆ รู้สึกโคตรหมดไฟ งานแม่งมีเรื่องเอกสารกับประชุมเยอะชิบหาย
ไม่ได้รู้สึกว่าเบื่อการเขียนโปรแกรมนะ มีโปรเจคที่เองเล่นๆแล้วยังอยากทำอันนั้นต่ออยู่ แต่มันดันไม่ทำเงินนี่แหละ 555

690 Nameless Fanboi Posted ID:laHLIUzXit

>>688 เป็นเกือบทุกที่แหละ งาน Challenge มันไม่ค่อยมี หาที่เงินเดือนดี เพื่อนร่วมงานดี สวัสดิการดี โอเคแล้ว

691 Nameless Fanboi Posted ID:kzTqCsZsQ3

พวกมึงเคยเป็น contract outsource แล้วไปทำ site ลูกค้า แล้วเค้าสนใจ convert เป็นประจำป่าววะ
อันนี้เกี่ยวกับบริษัท finance พวกบัตร ก็มีชื่ออยู่
แล้วกุเปน outsource ตอนนี้ก็ได้เยอะอยุ่ (สวัสดิการก็ตาม outsource อะนะ)
ถ้าเค้า convert to in house สวัสดิการดีนะ + โบนัสก็โอเค(เท่าที่ฟังพี่ๆ in house)
หัวหน้ากุ(in house) ให้โทรคุยกับ hr แล้วเหมือน hr ดูกดๆ ฐานเงินเดือนจัง ตอนแรกที่กุกะคือ เงินเท่าเดิม หรือ ลดกว่าเดิมนิดหน่อย แต่ hr พูดประมาณว่า น่าจะต้องลดลงเยอะอยุ่นะ กุเริ่มลังเลนะ นี่พิจารณาอยุ่ พวกมึงว่าไงวะ เคยมีประสบการณ์แบบนี้ไหม
ซึ่งหัวหน้ากุก็ไม่รุ้เรทเงินเดือนเหมือนกัน เค้าประสานงานให้

692 Nameless Fanboi Posted ID:jOPCvn1kPa

>>691 กูเพิ่ง convert เป็นประจำเมื่อไม่นานมานี้ เรื่องเงินเดือนกูได้เพิ่มนะ แต่เพิ่มไม่ได้เยอะมาก ไม่ถึง 10%
คือของแบบนี้มันขึ้นกับหลายปัจจัยมาก ทั้งหัวหน้ามึงที่ไซต์ลูกค้าเค้าช่วยมั้ย มึงมีอำนาจต่อรองเยอะมั้ย
ของกูโชคดีที่หัวหน้าเค้าตั้งนโยบานทีมเลยว่าคนที่จะ convert ขั้นต่ำต้องไม่โดนลดเงินเดือน
แล้วอำนาจต่อรองกูเยอะ เพราะในทีมคนลาออกเยอะมาก เค้าก็พยายามซื้อใจให้กูเลือกอยู่เต็มที่ ไม่งั้นคนหายหมด
ถ้ามึงบอกตัวเลขแล้วเค้ากด ก็ต้องลองคิดบวกลบดูว่าเลขที่เค้าให้เทียบกับพวกสวัสดิการแล้วคุ้มมั้ย
ส่วนโบนัสส่วนตัวกูไม่เอาเป็นปัจจัยหลัก เพราะของแบบนี้บริษัทชอบหาข้ออ้างจ่ายน้อยอยู่แล้ว ยิ่งสภาพ ศก. แบบนี้ได้เจอข้ออ้างสารพัด

แต่ตอนนี้เริ่มรู้สึกไม่แน่ใจแล้วว่าคิดถูกมั้ยวะที่มาเป็นประจำ เหมือนไม่คุ้มยังไงไม่รู้ กูย้ายปลายปีเลยไม่ได้โบนัสปีนี้
ไหนจะเจองานเอกสารประเมินพนักงาน เทรนนิ่งเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับงานเป็นกอง ทั้งที่งานก็ยุ่งจะตายห่า
ต้องมานั่งแงะโค้ดเก่าๆของคนที่ออกไปแล้ว แล้วไม่มีคนให้ถาม แบบของเก่าๆที่เขียนแม่งก็อ่านแล้วมีจุดที่แบบอะไรวะเยอะมาก

693 Nameless Fanboi Posted ID:8kqIqiyp+o

วันนี้ทำงานส่วนที่เกี่ยวกับ datetime แล้วปวดหัวกับเรื่อง time zone ชิบหาย
จะดีกว่านี้มั้ยวะถ้าไม่ต้องมีระบบ time zone ไม่ต้องมีพวก daylight saving ห่าเหวอะไรพวกนี้ ทั้งโลกอิงเวลาเดียวกันหมด
แต่เวลาที่คนจะทำอะไรต่างๆก็ยังอิงกับฟ้าสว่าง ฟ้ามืด ในแต่ละท้องที่เหมือนเดิม
อย่างประเทศไทย time zone +7 ก็ เคารพธงชาติเช้าเวลา 15.00 พักเที่ยง 19.00 เคารพธงชาติเย็นเวลา 01.00 วันถัดไป
ไปก่อนนะ หมอเรียกละ

694 Nameless Fanboi Posted ID:cOgAE.vWV0

มีใครเคยทำ appmxn ป่ะพี่โม่ง รีวิวหน่อย

695 Nameless Fanboi Posted ID:d7RzCTU5QJ

>>691 กุเอง รุ้เรทมาละ หายไป 25% จากเงินเดือน outsource ตอนนี้เลย บร๊ะเจ้า ตอนคุยกับ hr เค้าแจ้งว่ามีโบนัสเฉลี่ย* ประมาณ 3 เดือนขึ้น กุลองมาคำนวณดูแล้ว เงินเดือนที่เค้า fix มาให้ คือต้องได้โบนัส 4 เดือนอ่ะ ถึงจะเท่าเงินเดือน outsource ตอนนี้
แต่สวัสดิการอื่นๆ ก็โอเคนะ
แต่คิดว่าจะบายก่อนว่ะ บริษัทนี้ เมื่อก่อนก็เคยรุ้เรทเงินเดือนมาบ้าง พี่ที่ทำงานเก่าเล่าว่า รุ่นพี่เคยไปสมัคร ผ่านทุกอย่าง พอเรียกเงิน เค้าก็ fix ให้เท่านั้น คือ 1 ปีผ่านไป เงินเดือนที่รุ่นพี่ในที่ทำงานเก่าเคยบอกกุ ก็ยังเท่ากับที่เค้าเสนอให้กุปัจจุบันอยู่เลย เหมือน Fix cost ไว้แล้ว
สงสัยโครงสร้างองค์กรเค้า fix rate แบบนั้น บวกกับเราก็ไม่ได้เทพมากมาย

696 Nameless Fanboi Posted ID:zPoQ6PQGI7

แต่ก่อนทำงานแต่พวก API หลังบ้านจ๋าๆ รู้สึกแม่งเอาแต่เขียนโค้ดอย่างเดียว ไม่รู้เรื่องการวางระบบหรืออะไรพวกนี้เลย
พอได้มาทำงานพวกแนวๆ Open API จริงๆแล้วอยากกลับไปทำหลังบ้านจ๋าๆชิบหาย วันๆแม่งมีแต่งานนั่ง config gateway กับรับ issue จากคนใช้งาน

697 Nameless Fanboi Posted ID:HNWQpWvkqQ

ใครเขียน Java โดนสั่งแก้เรื่อง log4j ด่วนกันบ้างมั้ย
เรื่องมาตอนไหนไม่มา แม่งเสือกมาตอนใกล้ปีใหม่ เลยรอบ deploy ไปแล้วอีก

698 Nameless Fanboi Posted ID:Yzb6tWxE5L

ได้เงินเดือนเพิ่ม 5% ตอนนี้เงินเดือนกูเกิน 120,000 แล้ว

699 Nameless Fanboi Posted ID:f86NWuTQ2D

>>698 แบ่งหน่อยสิโม่ง

700 Nameless Fanboi Posted ID:5ai+jwOWvX

>>699 มึงเป็นสาวสวยน่ารักนิสัยดีหรือเปล่า

701 Nameless Fanboi Posted ID:pmPdyS./kE

log4j แม่งเจอช่องโหว่ใหม่อีกละ แล้วทำ spring boot แยกหลายๆตัวต้องมานั่งแก้ version ทีละโปรเจค deploy ทีละโปรเจคอีก สัส

702 Nameless Fanboi Posted ID:sJcBvE.lsY

>>700 Simp

703 Nameless Fanboi Posted ID:ssQ/UMnQa1

https://thematter.co/brief/163257/163257
อ่านข่าวแล้วสงสัยคือเอาเซลสมองมาเพาะเลี้ยงแล้วใช้กระบวนการอะไรทำให้เซลสิ่งมีชีวิตทำหน้าที่เหมือน CPU วะ

704 Nameless Fanboi Posted ID:a3SW4ObUYi

>>703 แบบ dark หน่อย ถ้าทำบอลตกโดนช็อตสมอง

705 Nameless Fanboi Posted ID:ssQ/UMnQa1

>>704 ประเด็นคือมันไม่ใช่สมองทั้งก้อนอ่ะ(มีแค่แสนกว่าเซล) เหมือนเอาแค่เซลสมองส่วนหนึ่งมาทำ CPU แต่กูงงว่า CPU มันประมวลผลแบบฐานสอง แล้วนักวิทย์ใช้วิธีไหนทำให้เซลสมองทดลองประมวลผลได้ ซึ่งการประมวลผลแบบชีวภาพ มันคือการสื่อสารระหว่างเซลประสาท แต่การประผลแบบกลไกมันคืออ่านค่า 1,0

706 Nameless Fanboi Posted ID:PuVd529bUo

>>705 การเขียนแบบนี้มันต้องเปลี่ยนวิธีการเขียนโปรแกรมโดยอิง gates electronics แบบดั้งเดิม and nand not เป็น gates แบบ quantum แทนเลย

707 Nameless Fanboi Posted ID:hCNkwNuACu

>>703 Gundam IBO ลอยมาในหัวเลยสัส มีคนจริงขับหุ่น ข้างหลังเบาะเป็นสมองในโหลช่วยประมวลผลลดภาระคนขับ

708 Nameless Fanboi Posted ID:qC1kGDjJBF

>>705 แปลงสัญญาณไฟฟ้าอนาล็อกเป็นดิจิตอล

709 Nameless Fanboi Posted ID:uXN6Xmw5Ti

https://youtube.com/watch?v=luvFbaimbyI

710 Nameless Fanboi Posted ID:u6K6l4Wb3e

อ่านของคนอื่นเยอะแล้ว เขียนของตัวเองบ้าง ปี 2021

ด้านงาน

เคยนิยามไว้ว่าเราโตเป็นผู้ใหญ่ต่อเมื่อให้ความสำคัญกับเป้าหมายมากกว่าเรียนรู้ ตามนิยามนี้ ปีนี้จะเป็นปีแรกที่โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว

ทำงานในบริษัทใหญ่เป็นครั้งแรกในชีวิต Pace เปลี่ยนไปจากชีวิตสมัยก่อนมากจนรู้สึกประหลาด บางครั้งก็ตื่นตระหนกด้วยซ้ำว่ามันไปเร็วแบบเดิมไม่ได้ นี่ทำอะไรผิดอยู่หรือเปล่า นี่ขนาด ThoughtWorks นี่ค่อนข้างคล่องตัวแล้วนะถ้าเทียบกับบริษัทใหญ่อื่นๆ จนรู้เลยว่าตัวเองทำงานกับบริษัทที่คล่องตัวน้อยๆ Hierarchy เข้มข้นถือยศถืออย่างมีไซโลเยอะๆ นี่อยู่ไม่ไหวชัวร์ ตอนนี้กำลังปรับตัวทำความเข้าใจกับ Pace แบบนี้อยู่

งานราบรื่นดีตาม Pace ของมัน Project แรกที่ทำลูกค้าฟีดแบ็คว่า I think you are already perfect. ซึ่งน่าดีใจแต่เราเองก็ต้องหาจุดที่จะพัฒนาต่อไปเอง

เริ่มมองออกว่า Tech lead ถ้าตัวงานคือทำให้คนทำงานดีขึ้น เป็น Multiplier force เนี่ย มันมีสามธีมหลักที่ต้องดูแลคือ Collaboration, Morale กับ Competency ซึ่งแต่ละทีมที่ไปดูจะมีจุดที่น่าเติมที่สุดคนละแบบกันหมด และไม่ต้องเติม Competency ถ้า Collaboration, Morale พังอยู่ (ซึ่งอันนี้เมื่อก่อนชอบเติมผิด)

งานราบรื่นดี แต่ต้องปรับตัวกับความคาดหวังที่มีต่อตัวเองเยอะ

ครอบครัว

ดี ทะเลาะกันใหญ่ครั้งนึงแต่ใหญ่มาก แต่พอเข้าใจกันแล้วก็ราบรื่น ปีหน้าก็มีภารกิจของครอบครัวใหญ่รออยู่ มีเรื่องส่วนตัวเยอะที่ไม่อยากเขียนลงรายละเอียดมาก ขอบคุณที่ร่วมผ่านกันมาอีกปีนึง

เติบโตอะไรบ้าง
- ค่อยๆ รียนรู้ว่าเราพักผ่อนยังไง
- เห็นมากขึ้นว่าในชีวิต อะไรสำคัญกว่าอะไร ลำดับยังไง อย่างซื่อสัตย์กับตัวเองมากขึ้นด้วย
- เรียนรู้ที่จะรอบ้าง
- เขียนบล็อกภาษาอังกฤษบ่อยขึ้นเยอะเลยทำให้รู้ว่าที่เคยเขียนบล็อกคล่องๆ เนี่ยเพราะเราเชี่ยวชาญภาษา ตอนเขียนบล็อกภาษาไทยเมื่อก่อนเขียนระหว่างนั่งรถไฟฟ้ายังได้เลย ภาษาอังกฤษคือต้องเปิดคอม ค่อยๆ วางเลย์เอาท์ ต่างกันเยอะ
- เริ่มชินกับการทำงานจากบ้านมากขึ้น
- ที่ยังบอกตัวเองไม่ค่อยได้คือ Enjoy moment ปัจจุบัน ยังต้องเตือนตัวเองบ่อยๆ และยังดึงตัวเองออกจากหล่มที่คิดไปข้างหน้าตลอดได้ไม่ดีนัก (การวางแผนไว้ก่อนก็ดี แต่การ Overthinking จนปวดหัวและเครียดทั้งๆ เนี่ยมันไม่ใช่นะ เวลาที่ไม่จำเป็นก็กลับมาอยู่กับปัจจุบันบ้าง)
- และยิ่งเข้าใจมากขึ้นว่าสิ่งที่บล็อกตัวเองส่วนมากมาจากจิตใจและความยึดติดภายใน วางได้ก็จะได้มีอิสระ (และต้องขอย้ำว่า ปล่อยวางไม่เท่ากับเพิกเฉย ปล่อยวางคือมองตรงๆ เลยว่าเราทุกข์แล้วจับมันเท่าที่ควรต้องจับ ไม่แรงไปกว่านั้น เพิกเฉยคือไม่คิดถึงมัน) แต่การปล่อยวางน่ะมันยาก อย่าไปบอกให้ใครปล่อยวางชุ่ยๆ นะ เสียมากกว่าได้ เขาจะปล่อยวางไม่ได้แล้วยังจะยิ่งขยาย

ขอให้ทุกท่านโชคดีในปีนี้

สายลมแห่งความเปลี่ยนแปลงจะพัดพาโลกทั้งใบไปที่อยู่จุดไหนกันในปี 2022 นี้

711 Nameless Fanboi Posted ID:xSbqha.a9H

tor, vpn เล่นโม่งไม่ได้ กูต้องทำยังไงดีวะ อย่าบอกนะว่าต้องไปร้านเนท

712 Nameless Fanboi Posted ID:hCURGL2RQN

>>711 มึงไปจ่ายตังสมัครสมาชิก VIP ก่อน

713 Nameless Fanboi Posted ID:WnJfsGIogK

https://www.bleepingcomputer.com/news/security/dev-corrupts-npm-libs-colors-and-faker-breaking-thousands-of-apps/
มีงานโม่งคนไหนโดนบ้างมั้ยเนี่ย

714 Nameless Fanboi Posted ID:sSWl.20kJ9

ใครเคยทำ easy buy บ้างวะ ปกติโบนัสกี่เดือน hr โม้ว่าเฉลี่ยน 4-5 เดือน อันนี้จริงป่าว ไปสมัครแต่โดนกดเงินอยู่

715 Nameless Fanboi Posted ID:4Y4EHHB0.X

ถามหน่อยดิเพื่อนๆถ้าไม่มีความรู้เรื่องทางด้านโค้ดเลยเรียนพวกDataquest,Datacampนี่มันพอจะไปได้ถึงขั้นสมัครงานสายนี้ได้เลยมั้ย?

716 Nameless Fanboi Posted ID:1zOhJNHO7D

>>715 จะไปสมัครอะไร ถ้า AE , Sale Support ก็พอได้

แต่ถ้าไปเป็น Programmer คือไม่ ถ้าเป็นสายเขียนโปรแกรมอันนี้ ความต้องการส่วนมากคือ โยนงานมาให้ต้องทำได้เลย อย่างน้อยถ้าไม่มีประสบการณ์ ต้องเขียนโปแกรมเป็น Project ซักตัวแล้วเอาไปเสนอ

717 Nameless Fanboi Posted ID:9c0OyN8S7c

ปกติกูเป็น backend ถ้าอยากลองเขียน Desktop App เล่นๆเป็นงานอดิเรกนี่ลอง electron ดีมั้ย หรือมีตัวไหนแนะนำบ้าง

718 Nameless Fanboi Posted ID:kvL+pqVTg.

อยากได้คอมมูที่เรียนรู้ data sci อะ พอมีแนะนำปะ

719 Nameless Fanboi Posted ID:I9cP.XPyCG

ตอนนี้เราเป็น it support อยู่
ทำมา 10 ปีแล้วแต่ดูทรงแล้วน่าจะโดนเอาออกซักวัน ตอนนี้เลยกะว่าจะปัดฝุ่นการเขียนโปรแกรมใหม่ แล้วย้ายสายไปเป็นโปรแกรมเมอร์ จบตรีไอทีสายตรง เคยเรียนเขียน c++ มา
ขอถามว่าตอนนี้ตลาด c++ ยังดีอยู่มั้ย
ถ้าไม่ดีแล้วตอนนี้มีภาษาอะไรดี
ถ้ามีคำแนะนำอะไรเพิ่มก็บอกมาได้เลย

720 Nameless Fanboi Posted ID:MPs01pUNTe

>>719 อืม c++ ตัวไหนหว่า ถ้า c++ จอ dos เลยไปใช้ .NET ก็อ่า... ฝึกหน่อยคงได้มั้ง แต่มันจะได้แต่งาน consult กับพวกโรงงานน่ะ วันๆ ทำแต่เขียนโปรแกรมออก report แต่ช่วงโควิทจะยากนิดนึง เพราะไม่ค่อยเปิด ต้องรอหลังโรคระบาดแล้ว

ส่วนถ้า app web พวกนี้ ช่วงนี้อาจจะหางานง่ายกว่า แต่ภาษาไหนๆ เริ่มใหม่ก็ไม่ยากนักหรอก มันก็แค่ if else for while function class เดิมๆ MVC ก็แค่บังคับเก็บเป็นสัดส่วน ตามโครงที่ framework ที่วางไว้ ส่วนภาษาก็ HTML กับ javascript ล่ะมั้ง แต่ถ้า web เอาทางลัดก็ไปใช้ CMS สำเร็จรูปแบบ wordpress ก็ได้ แต่ขั้นต่ำก็วาง HTML ให้ถูก

721 Nameless Fanboi Posted ID:ROfEwiHhEv

>>719 อย่าไปยึดที่เคยเรียนมาเลย ที่ใช้เรียนกับใช้ทำงานแทบไม่เหมือนกันเลย ภาษามันใช้ยากด้วย เรียนภาษาง่ายๆใหม่ไปเลยยังจะเป็นเร็วกว่า อยากได้แบบหางานง่ายก็ java, c#, javascript

722 Nameless Fanboi Posted ID:e8bgN6aX7V

java นี่

723 Nameless Fanboi Posted ID:n3CyYISxjt

>>720 >>721 c++ ที่เอาท์พุทเป็นคอนโซลอย่างที่ว่าแหละ
คิดว่าถ้ามีพื้นแล้วมารื้อฟื้นน่าจะไปได้เร็วกว่าเริ่มใหม่ตั้งแต่ต้นน่ะ ตอนนี้อายุเริ่มมากแล้วกลัวตามเด็กจบใหม่ไม่ทัน แต่ถ้าไม่เวิร์คก็จะได้มูฟออนไปเลย
ส่วนพวก web เคยใช้ joomla, wordpress อยู่ แถมเคยพยายามหัด typo3 ด้วยแต่ยากเกินเลยเลิกไป
เอาไปเป็นว่าจะลองศึกษาพวก java ดู แล้วจะลอง python ด้วย ตลาดยังดูมีโอกาสอยู่
ขอบคุณสำหรับคำตอบ

724 Nameless Fanboi Posted ID:V8A9s3j1e+

มีใครเป็น front end(html css JavaScript + bootstrap 4) ไหม อยากถามว่าเวลาประกาศ tag หรือใส่คลาสนี้ดูยังไงวะว่าต้องใส่ tag หรือคลาสตังไหน คือกุพยายามอ่าน doc แล้วลองเขียนเองก็ยังไม่ค่อยเข้าใจอยู่ดี แต่กุชอบเวลาที่ได้แบบนั่งแก้โค้ดไปเรื่อยๆแล้วจู่ๆก็แก้ได้ว่ะ

725 Nameless Fanboi Posted ID:TgV8nfmOuM

>>724 กู full stack จับฉ่าย แต่ขอเผือกตอบให้นะ

bootstrap ไม่ว่า ver ไหนมันก็มีตัวอย่างอยู่ในหน้า doc ในส่วน examples ตรงตัวเลย ตัวอย่างเยอะจนไม่รู้ยังไงแล้ว ถ้าตัวอย่างยังไม่พอก็เปิด google search free boostrap template แล้วลอกมาดิ

แต่ๆ ถ้ายังไม่เข้าใจอีก เท่ากับมึงผิดผี ทะเร่อทะล่าไปอ่าน bootstrap ก่อนเข้าใจพื้นฐานของ html ก็จงหยุดอ่าน bootstrap เดียวนี้
เปิด w3schools แล้วไล่อ่าน ไล่ทำความเข้าใจให้ครบก่อน
https://www.w3schools.com/html/default.asp

ส่วน JavaScript พวก Class นี้ขึ้นอยู่กับ UI ที่ใช้นิ อ่านใน doc ของ UI ที่ใช้โลด ส่วนมากก็อปมาวางได้เลย ถ้าทำงานไม่ได้แสดงว่ามึงโหลด UI มาผิด version แต่ก่อนจะเอามายำกันหลายตัว ให้ลองหัดเขียน Class เอาไว้ใช้เองก่อน

แต่ถ้าไม่เข้าใจอีก Udemy เสียตังค์ซัก 3-4 ร้อย ซื้อคอร์สเลือกคนกด like เยอะๆ มาซั๊กคอร์ส แล้วเสียเวลาดูมันพร่ามซัก 20 ชั่วโมงหน่อย ทฤษดีน้ำก็กดข้ามๆ ไปบ้าง ทำได้ตอนไหนให้หยุดดู แล้วเริ่มเขียนเองโลด เพราะบางคอร์สดูมากกว่านี้ก็เสียเวลาเปล่า

726 Nameless Fanboi Posted ID:0yknVq.CJi

ถ้า Framework ยังไงมึงก็ต้องอ่าน Doc เพื่อให้ใช้ตรงกัน

727 Nameless Fanboi Posted ID:IRYkHnQYeC

โม่งมีใครต้องทำ Privacy Policy ใส่แอปหรือเว็บของตัวเองกันบ้าง กูลองหาๆดูเห็นมีพวกระบบ auto gen อยู่หลายเจ้าเลย
ไม่รู้ว่าเจ้าไหนดี-ไม่ดีต่างกันยังไงบ้าง มีใครมีแนะนำมั้ย

728 Nameless Fanboi Posted ID:lBk0du1CXe

>>727 ถ้าจะเอาแบบจริงจังต้องเขียนเอาเองอ่ะมึง ไอ้แบบ auto gen มันเอาไว้เผาทำหลอกแต่ให้คลิก cookie ปิดเฉยๆ อ่ะ lol

729 Nameless Fanboi Posted ID:sKsmAWY/+L

ไม่รู้กูมาถูกมู้ไหม แนะนำโปรแกรมป้องกันไวรัสให้กูหน่อยได้ไหม

730 Nameless Fanboi Posted ID:nBY2OY09qM

>>729 ใช้OSอะไร

731 Nameless Fanboi Posted ID:TDB8.1R0H8

รู้สึกมีคนคิดว่าโปรแกรมเมอร์คือช่างซ่อมคอมหรือ it support เยอะแฮะ

732 Nameless Fanboi Posted ID:sKsmAWY/+L

>>729 Window10

733 Nameless Fanboi Posted ID:m.rDF79kX5

>>732 defenderของตัวosเองก็พอ ถ้ามึงไม่ได้ชอบเข้าเว็บแอดเป็อปอัพเยอะๆ เว็บเสี่ยงๆหรือลงโปรแกรมเถื่อนอะนะ

734 Nameless Fanboi Posted ID:UM7XiKX.dn

>>729 OS แท้ กับ windows defender ก็พอละมั้ง win 11 เปลี่ยนชื่อเปน windows security แล้ว นอกจากจะลงโปรแกรม crack อันนั้นก็ต้องระวังหน่อย เมื่อก่อนกุก็ติดลงนะ พวก แบบ subscribe free ของ bitdefender อันอื่นๆ ไรงี้ เดวนี้ไม่ใช้ละ

735 Nameless Fanboi Posted ID:qgkcKP52uc

เมื่อวานหาอะไรไปเรื่อยแล้วไปเจอดราม่าในตำนานเลยเอามาแปะ เผื่อโม่งอยากเข้าไปอ่านรำลึกความหลังกัน
https://www.blognone.com/node/4385
https://deans4j.wordpress.com/2007/04/12/against-idiot/
https://deans4j.wordpress.com/2007/04/14/against-idiot-ii/
https://www.blognone.com/node/4426
http://pphetra.blogspot.com/2010/11/drama-3.html

แถม
https://www.blognone.com/node/23524

736 Nameless Fanboi Posted ID:F0I3pstGCg

>>735 เหยดเข้ เรื่องราวนานกว่า13ปี เด็กเกิดปีนั้นแม่งตามไม่ทันอ่ะ 55555

737 Nameless Fanboi Posted ID:+5vYrmLqQx

>>735 ขอบใจ กำลังจะศึกษาเกี่ยวกับภาษาคอมเป็นงานอดิเรกอยู่พอดีเลย

738 Nameless Fanboi Posted ID:4/G64LdfR3

>>737 ไปศึกษาอันอื่นเถอะ อันนี้มัน outdated เกินไปละ

739 Nameless Fanboi Posted ID:0NoGtdbJ8J

ก็รู้นะว่าปัญหาเรื่อง format datetime นี่แม่งปัญหาคลาสสิก
แต่เจอต้องไปเรียก service นึง request มี field datetime 3 field แม่งใช้ format ไม่เหมือนกันซัก field
แล้วที่พีคคือมีอันนึงที่ให้ส่ง date กับ time แยกกันคนละ field แต่ field ที่เป็น date แม่งให้ส่งเป็น ISO 8601 แบบเต็มที่มีทั้ง datetime
แล้วหลังบ้านเค้าจะเอา time ไปตัดทิ้ง แล้วดึงเฉพาะส่วน date แล้วเอา time จาก อีก field มาใช้แทน
แถมตอน response มีอันนึงมาเป็น ISO 8601 แบบเต็มที่มีทั้ง datetime timezone มาครบ
แต่ timezone ที่ส่งมากับเนื้อ data จริงๆไม่ตรงกันนะ คนรับต้องรู้เองว่าไอ้ data นี้ timezone ผิดแล้วมาแก้เอาเอง
ตอนแรกที่กูทำแล้วงงว่าทำไมมันออกมาแปลกๆเลยไปถาม dev ทีมนั้นแม่งก็อธิบายหน้าตาเฉยเหมือนเป็นเรื่องปกติ กูล่ะเหนื่อย

740 Nameless Fanboi Posted ID:gkvO0XtoKd

>>739 ของกุเจอปัญหา เวลาในเครื่องไม่เท่ากัน ห่างกันหลักวินาที แล้วแนบ token ไป ปรากฏว่าตี Error ทุกวันนี้ยังต้องแก้มือ มันเรียกผ่านหลายเครื่อง ทาง infra ก็บอกให้แก้เฉพาะหน้าไปก่อน เค้าไปหาวิธี นานแล้วนะเนี่ย 55555 เซิฟเวอร์ จอยโดนเมน มีเวลาปิด เปิด อะไรไม่รุ้ของทางฝุ่งนุ่น กุก้อยังไม่ค่อยเข้าใจ ทนๆ ใช้ไปก่อน

741 Nameless Fanboi Posted ID:xh1ODwEn3V

สอบถามโม่งหน่อย front end จ้าๆเลย แต่ไม่ปสก. มันยากในการหางานในช่วงนี้ไหม

742 Nameless Fanboi Posted ID:cCf/fawXki

>>741 ไม่มี ปสก. ก็เอาพอร์ตงานที่ทำไปให้เค้าดูสิ ถ้างานใช้ได้ก็รับ

743 Nameless Fanboi Posted ID:bxLC/B/Mr5

>>742 ขอบคุณที่ตอบครับ

744 Nameless Fanboi Posted ID:eCClNgpDqv

จบไม่ตรงสาย ไม่มีประสบการณ์ พอร์ตกลางๆ จะหางานยากไหม

745 Nameless Fanboi Posted ID:0CvZmIgLA.

>>744 จบตรงสายหรือไม่เรื่องเล็ก พอร์ตเป็นตัวที่แสกนคร่าวๆ ว่าจะเรียกมาคุยหรือเปล่า ที่สำคัญสำหรับกรณีที่ไม่มีประสบการณ์ คือ test ผ่านไหม มากกว่า

746 Nameless Fanboi Posted ID:9tjU4Sl8U0

>>744 หาได้อยู่ละ ทุกวันนี้ความต้องการ dev เยอะ ถ้าไม่เกี่ยงงานพวกบริษัทเล็กๆจ่ายไม่เยอะก็หาได้แน่นอน งานแรกก็เข้าไปเก็บเวลก่อน มีประสบการณ์ปุ๊บก็หาทางหนี

747 Nameless Fanboi Posted ID:/C4o5bbhgN

โม่งมีใครใช้ Windows แล้วลองอัพ Win 11 กันแล้วบ้าง อยากลองของใหม่ เห็นมันก็ออกมาพักใหญ่ๆแล้ว ปัญหาน่าจะเริ่มเบาๆลง
แต่อีกใจนึงก็กลัวอัพแล้วพังต้องมาเซ็ตใหม่หมดทุกอย่างคงไม่สนุกเท่าไหร่

748 Nameless Fanboi Posted ID:eVmDQWaqd8

>>747 หนีไปเลยมึง อยู่ที่win 10ก็อยู่ตรงนั้นไป อัพwin 11 อย่างแรกละคือvirtualboxใช้ไม่ได้

749 Nameless Fanboi Posted ID:IcBW/MhINg

ffjaafllfa

750 Nameless Fanboi Posted ID:RDdSEE4buU

>>748 ตอนนี้ผมใช้ virtualbox ใน win11 มาตอบคุณอยู่

751 Nameless Fanboi Posted ID:t7xgk+4HcE

>>750 ba baka na

752 Nameless Fanboi Posted ID:DqVUZpC1Rc

>>164 กุเจ้าของเม้นเอง สืบรู้มาละ โบนัสแจกประมาณ 3 ครั้ง ต่อปี รวมๆ อยุ่ประมาณ 4-5 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยุ่กับการประเมิน/ตำแหน่ง ด้วย ถ้าได้ประเมินคะแนนดีๆ อาจได้พุ่งถึง 6-7 เดือน แต่เงินเดือนเริ่มต้นแม่งน้อยวะ

753 Nameless Fanboi Posted ID:0JaH8jA/x.

โม่ง network ถามหน่อย
งงเรื่อง Vlan เราจะแบ่ง vlan ทำไมในเมื่อตอนเซ็ท ip อุปกรณ์ก็เซ็ทให้มันคนล่ะ subnet กันได้อยุ่แล้ว

754 Nameless Fanboi Posted ID:csxq3o9MdV

กูไม่รู้มาถูกมู้ไหม​ https://www.hackerservice2021.com/post/สำหร-บท-านใดท-เคยจ-างงาน-สามารถร-ว-วได-ท-โพสน-เลยนะคร-บ-เพ-อเป-นแนวทางในการต-ดส-นใจในจ-างงาน โกงปะ

755 Nameless Fanboi Posted ID:SgiAJDFRnc

>>753 คนละอย่างกันเลยหรือเปล่า vlan มันเอาไว้ให้ทำเหมือนอุปกรณ์หลายตัวๆอยู่ Lan เดียวกันได้

756 Nameless Fanboi Posted ID:8vmkNWC.T.

>>754 ถ้างานจริง ก็คือมันจะไปหาฝรั่งในเว็บ .onion จ้างต่ออีกทอดนึง ซึ่งแม่งไม่ต่างห่าไรกับพวกdropshippingเลยสัส ข้อดีคืออย่างน้อยๆเขามีการบ้านส่งให้มึง ข้อเสียคือมึงจ่ายแพงกว่าจ้างคนทำงานจริงโดยตรง

757 Nameless Fanboi Posted ID:iplEOjAUdm

>>754 https://imgur.com/ufbmbL2

758 Nameless Fanboi Posted ID:GRDWYGrp0m

matlab จะมาแทน javascript ได้ไหมครับ

759 Nameless Fanboi Posted ID:43zaOfha+9

>>758 มันใช้งานคนละด้านเลยไม่ใช่เรอะ

760 Nameless Fanboi Posted ID:JByEd8053n

>>752 มึงสืบนานจังวะหรือพึ่งนึกได้ว่าจะมาแบ่งข้อมูล

761 Nameless Fanboi Posted ID:JByEd8053n

เรียนไม่จบเพราะเบื่อก่อน ปี 3 ละไม่ได้ลงเรียนต่อ ดรอปไว้ ถ้าอยากทำ fullstack นี่ควรมีงานให้เค้าดูเยอะขนาดไหน

762 Nameless Fanboi Posted ID:4eIc8uZ8hT

>>761 เยอะๆ ไม่มีปริญญาจะติดตรง recruiter ไม่เรียกมากกว่าตอนไปสัมกับ engineer

763 Nameless Fanboi Posted ID:o/tfacGxi.

>>761 ไหนๆเรียนมาถึงปี 3 แล้วกูว่ายอมๆกัดฟันไปต่อให้มันจบๆเถอะ
สังคมไทยยังไงใบปริญญาก็ยังสำคัญไปอีกนาน โดยเฉพาะสำหรับการหางานแรก

แต่ถ้าจะเลือกทางทำงานเลย จะไม่เรียนแล้วมึงจะต้องแก้ปัญหาอีก 2 เรื่อง

- มึงคือต้องหาที่ๆเค้าเปิดกว้าง ไม่กีดกันคนไม่มีปริญญา ซึ่งกูไม่รู้จะแนะนำยังไงเหมือนกัน
เพราะส่วนมาก requirement คนสมัคร เค้ามักจะเขียนว่าเรียนจบตรีสาขาที่เกี่ยวข้องหรือใกล้เคียงไว้ก่อน
ส่วนจริงๆจะซีเรียสกับเรื่องนี้แค่ไหนมันก็แล้วแต่

- เวลาโดนถามว่าทำไมไม่เรียนต่อให้จบ มึงเตรียมคำตอบสวยๆไว้ด้วย บอกไปตรงๆว่าเบื่อนี่มึงจะโดนมองว่าไม่มีความอดทน
เค้าก็จะคิดต่อว่าทำงานไปเกิดเบื่อก็จะทิ้งงานไปดื้อๆ หรือทำไปแป๊ปๆก็ลาออกมั้ยอะไรแบบนี้ แล้วโอกาสรับก็จะน้อยลง

764 Nameless Fanboi Posted ID:dlVBNTNF/A

เลือกเรียนgo หรือ typescript อยู่ อันไหนน่าจะหางานได้ง่ายกว่ากัน

765 Nameless Fanboi Posted ID:cJwtPlJm9r

>>764 typescript หางานง่ายกว่า

766 Nameless Fanboi Posted ID:cJwtPlJm9r

justify-content and align-items
ตั้งชื่อห่วยมาก

767 Nameless Fanboi Posted ID:uqo1.qJ0ZQ

>>764 typescript งานกว่าเยอะ go หลายเท่า แต่ต้องฝึกใช้ framework ด้วยนะไม่ใช่แค่ภาษา

768 Nameless Fanboi Posted ID:/uDUweIicO

กุใช้เวลาสืบนานอยุ่ เพราะไม่ค่อยมีข้อมูลพวก โบนัสเลย บริษัทนี้ 555

769 Nameless Fanboi Posted ID:/uDUweIicO

>>760 กุใช้เวลาสืบนานอยุ่ เพราะไม่ค่อยมีข้อมูลพวก โบนัสเลย บริษัทนี้ 555 ***อันบนซ้ำ***

770 Nameless Fanboi Posted ID:yqpFh+EhsH

Backend/frontend/fullstack อันไหนน่าจะหางานง่ายกว่าสำหรับคนจบไม่ตรงสาย+First jobberอ่ะ

771 Nameless Fanboi Posted ID:93b.fzFCX3

>>770 คิดว่า fullstack

พวกบริษัท outsource เล็กๆอ่ะ จบไม่ตรงสายน่าจะหาได้

772 Nameless Fanboi Posted ID:1hxO9SRLTz

>>770 fullstack ยังไงก็ง่ายสุดเพราะมันคือทำได้ทั้ง front และ back แต่เวลาสมัครงานใส่ไปแบบนี้ไม่ได้แปลว่าจะได้ทำงานเป็น fullstack จริงๆ
บางทีอาจจะโดนให้ไปทำ back หรือ front อย่างเดียวไปเลยก็ได้ ก็ต้องไปคุยตอนสัมภาษณ์เอาว่ามึงโอเคมั้ย
แต่เนื้องาน front กับ back มันต่างกันเยอะ ถ้ามึงไม่ใช่คนที่แบบยังไงก็ได้จริงๆก็ควรดูตัวเองด้วยนะว่ามึงชอบแบบไหน
เวลาทำงานจริงมีเรื่องชวนให้ละเหี่ยใจอีกเยอะ ถ้ามาเซ็งกับต้องมาทำส่วนที่ไม่ชอบอีกมันก็ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่

773 Nameless Fanboi Posted ID:9zZwuF+Otm

>>772 คำถามกูนะ เก็บประสบการณ์งานยังไงให้ไปถึงfullstackได้วะ?

774 Nameless Fanboi Posted ID:T.VDTVZXrT

>>773 front/back/fullstack มันไม่ใช่ตำแหน่ง มันคือการบอกว่าทำงานสายไหน
fullstack โดยนิยามมันคือคนที่ทำได้ทั้ง front และ back
การจะเป็น fullstack ถ้าเริ่มจากสมัครงานแรกก็คงต้องรู้พื้นฐานของงานทั้ง front ทั้ง back
และมึงโอเคกับการต้องเรียนรู้งานและทำทั้ง 2 อย่างแหละ

775 Nameless Fanboi Posted ID:Ed67J8JhgV

>>773 รับโปรเจคนอก แล้วทำคนเดียว

776 Nameless Fanboi Posted ID:9Ar.lau5IF

มีใครเป็นโปรแกรมเมอร์อยู่ต่างจังหวัด(ที่ไม่ใช่กรุงเทพ)มั่งวะ back-end ปสก 3-5 ปีนี่ เงินเดือนประมาณเท่าไหร่กัน

777 Nameless Fanboi Posted ID:EdFq7c8XxN

>>776 15000

778 Nameless Fanboi Posted ID:edKpTdrnMi

>>776 หางานรีโมทจะได้เรตเท่ากรุงเทพ

779 Nameless Fanboi Posted ID:qPdg67/q9a

https://www.facebook.com/groups/ThaiPGAssociateSociety/permalink/2052348808309711/

Based

780 Nameless Fanboi Posted ID:TaH5twnw6j

ฐานเงินเดือน swe ที่ไทย(กทม)ขึ้นบ้างยังวะ?

2 ปีก่อนกุเห็น base salary new grad อยู่ที่ 25k-50k range จาก no name ไปถึง international ส่วนเพดานอยู่ที่ 150k-200k

ตอนนี้เป็นไงบ้าง ฐานหรือเพดานปรับขึ้นบ้างปะวะ?

781 Nameless Fanboi Posted ID:TaH5twnw6j

>>780 แก้ เพดานกุหมายถึง level แบบ senior/lead ไรงี้นะสัส

782 Nameless Fanboi Posted ID:fKALUkAiQb

>>780 เหมือนๆเดิมกุว่า

783 Nameless Fanboi Posted ID:+lv2Uv4Pqf

>>780 มันจะขึ้นด้วยสาเหตุไรวะ

784 Nameless Fanboi Posted ID:/.kttHHK5l

>>783 เพดานเงินต่ำ ดึงคนเก่งไว้ในประเทศไม่ได้ หนีออกนอกประเทศหมด

785 Nameless Fanboi Posted ID:syMSIKb921

>>780 ส่วนตัวกูรู้สึกว่ายังขึ้นอยู่เรื่อยๆนะ ถามเพื่อนๆน้องๆ New grad 40k กลายเป็นตัวเลขมาตรฐานไปแล้ว ต้อง 50++ ถึงจะน่าสนใจ ได้ยินว่าหลายที่ turnover rate สูงด้วย ส่วนคนที่เลือกได้ก็หนีไปเรียนไปทำงานต่างประเทศกันหมด
ส่วนตัวกูเพิ่งทำงานครบ 1 ปีแหละเพื่อนโม่ง รู้สึกสกิลไม่เพิ่มขึ้นเท่าไร อาจจะเป็นเพราะเสียเวลาย้ายงาน แต่ก็รู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ไม่ค่อยมีเวลาว่างมาเล่นเลย คิดถึงห้องนี้มาก เคยมาโพสขอคำแนะนำเรื่องหางานอยู่ ตอนนี้กูได้งานที่ค่อนข้างโอเคแล้ว ;-;

786 Nameless Fanboi Posted ID:XL3+dKnFt.

>>784 new grad เนี่ยนะ

787 Nameless Fanboi Posted ID:pW59yqI4B/

>>786 มีเพื่อนกูในคณะคนนึงได้ 40k ทำงานอยู่บริษัท ag**a มันบอกว่าไม่ใช่ทุกคนที่เข้าได้ ต้องมีผลงานแบบจับต้องได้มาก่อน ทักษะต้องเยี่ยม ภาษาอังกฤษต้องเด่น เขียนอีเมลเป็นภาษาอังกฤษได้ และก็สัมพาษณ์หลายรอบ แต่มันอาศัยคนในชวนเข้าไปก็เลยง่ายหน่อย

ถ้าเป็นบ.ต่างชาติ 40k นี่จิ๊บๆ จ้างคนไทยหรืออินเดียยังไงก็ถูกกว่า ถ้าเป็นบ.ไทยไม่มีทางได้ขนาดนี้ 30-35k ก็หรูแล้วสำหรับ new grad

788 Nameless Fanboi Posted ID:pW59yqI4B/

ลืมบอก สมัยกูจบใหม่กูได้ 32k ว่ะ อยู่บ.ไทยแห่งหนึ่ง ใบ้ให้ว่าสายธนาคารและการเงิน พูดชื่อแล้วใครๆ ก็รู้จัก

789 Nameless Fanboi Posted ID:5SNd4YAInl

>>788 ให้เดาว่าไม่เขียวก็ม่วงหรือไม่งั้นก็ไอที่เพิ่งควบรวบกิจการ รู้สึกว่าสองเจ้านี้พยายามผลักเรื่องเทคมาก กูเคยอยากเข้านะถ้าฝีมือพร้อมแต่สงสัยเลยหว่ะ รายได้แบบนั้น มันให้อะไรมึงอีกบ้าง? แล้วที่เหี้ยๆสัสหมามีอะไรบ้าง? เช่น มันตามงานมึงหลังเลิกงานจนมึงต้องมานอน บ. ตลอด หรือวันๆมันสนแต่โค้ดมึงจัดช่องไฟไม่ถูกใจมันจนงานไม่เดิน, มันให้มึงทำโอ ทำงานแบบสไตล์คาโรชิของยุ่นอะไรทำนองงี้ป้ะ

790 Nameless Fanboi Posted ID:i8C1+i43Q/

ไม่โปรแกรมเมอร์แต่ถามหน่อย สาย netsec ในไทยอนาคตดูเป็นไงมั่ง

791 Nameless Fanboi Posted ID:aU/wxZMkvX

>>790 ความจำเป็นน้อยลงเรื่อยๆ เพราะบริการทุกวันนี้ใช้ระบบเช่าเอา เรื่องความปลอดภัยก็ไม่ต้องดูแลเอง

792 Nameless Fanboi Posted ID:OK0Ntp67T/

>>791 โทษทีหมายถึง infosec (โดยเฉพาะด้าน cyber sec) แต่เรียก netsec จนชินไปหน่อย พอดีผมสอบ oscp ได้แล้วแต่ยังเรียนไม่จบ อยากรู้สถานการณ์สายอาชีพหน่อย

793 Nameless Fanboi Posted ID:aU/wxZMkvX

>>792 เราว่าเหมือนเดิมอยู่ดีน่ะ ปริมาณงานที่จำเป็นที่ต้องใช้ cyber sec ในยุคที่เริ่มย้าย service ไปใช้ cloud แทน มันน้อยลงกว่าแต่ก่อนนะ

ตัวอย่างเช่น แต่เดิมเราใช้ drive กลางที่ตั้งในบริษัทแม่ แต่เปลี่ยนไปใช้ one drive หรือแต่เดิมตั้ง mail server ดูแลความปลอดภัยเอง ตอนนี้ไปใช้ google service แทน เรื่องความปลอดภัยต้องต้องดูแลมันน้อยลงกว่าแต่เดิม เพราะโยนไปให้ผู้บริการดูแลแทน

794 Nameless Fanboi Posted ID:i1SEItl.EZ

>>785 ยินดีด้วยที่ได้งานใหม่ดีๆ จะว่าไปเงินเดือนสายนี้เปลี่ยนเร็วเหมือนกันแฮะ
ของกูกว่าจะได้ถึง 50k นี่ก็ทำงาน 3 ปีแล้ว แถมแลกมาด้วยสวัสดิการโคตรบัดซบอีก
แต่เพราะกูเลือก work life balance เป็นหลัก ไม่เอางานหนักเองด้วยแหละ

795 Nameless Fanboi Posted ID:Ll3XspUqXx

new gradสมัยนี้ได้เยอะขนาดนั้นเลยเหรอวะ สมัยกูจบวิศวะได้เเค่19kเอง วิศวะโรงงาน ถามเพื่อนๆก็ส่วนใหญ่ได้ประมาณนี้ อย่างหรูเลยก็25kเเบบในฐานะคนความสามารถกลางๆ ไม่ได้มีอะไรโดดเด่นนะ

796 Nameless Fanboi Posted ID:ArEGh1UrGC

>>795 ปัจจุบันสายงานนี้มันขาดแคลนอย่างรุนแรง บริษัทไม่อยากจ่ายแพงหรอก แต่ทำไงได้ คนเก่งๆมีอยู่นิดเดียว
พูดถึง range เงินเดือนเด็กจบใหม่มันกว้างมาก มีตั้งแต่ 8000 ยังไม่คุ้ม ยัน 60000 ก็ยอมจ่ายก่อนที่บริษัทคู่แข่งจะคว้าตัวไป

ถ้าอยากได้เงินเดือนเยอะๆต้องเลือกบริษัทเกรด A ที่ core business คือเทคโนโลยี พวกนี้สวัสดิการอู้ฟู่มาก
แจก macbook ให้ dev คนละเครื่อง บางที่แจกข้าวฟรี น้ำฟรี เบิกเงินไปซื้อเก้าอี้เพื่อสุขภาพได้ แถมให้ wfh อีกต่างหาก

แต่ตัว dev เองต้องเก่งมากๆ ภาษาอังกฤษเป็น requirement ขั้นต่ำ ต้องอ่านออกเขียนได้ ไม่ใช่ความสามารถพิเศษ
ต้องมีประสบการณ์เขียนโปรแกรมของจริง เช่น รับงาน freelance ไม่ต่ำกว่า 1-2 ปี และต้องทำโจทย์อัลกอริทึมยากๆได้ตอนสัมภาษณ์งาน

797 Nameless Fanboi Posted ID:K1zZ9kI8BL

จบบัญชีมา แต่ไม่ชอบทำงานสายนี้เลย อยากทำงานเกี่ยวกับ data science มากๆ ควรเริ่มจากไหนดี
ว่าจะไปเรียนป.ตรีเพิ่มอีกใบ comsci หรือ สถิติศาสตร์และวิทยาการจัดการข้อมูล อันไหนดีกว่ากัน

798 Nameless Fanboi Posted ID:wO+CY8i9+1

>>795 เอาไปเทียบวิศวะทั่วไปไม่ค่อยได้นะ

>>797 หางานที่ใกล้ๆ data sci ให้ได้ก่อน อาจจะ data analyst

แล้วระหว่างนั้นก็ศึกษาเอง data sci นี่อ่านเองได้ง่ายสุดละถ้าเทียบกับเรื่องอื่นในสายคอม

มีปสกสักปีนึงก็หางาน data sci ตรงๆได้ สายนี้ปสกสำคัญสุด ไม่ต้องเรียนอีกใบก็ได้ มีปสกเอาไว้ให้เวลายื่นสมัครจะได้ไม่โดน reject ตั้งแต่ recruiter

799 Nameless Fanboi Posted ID:PUIBxywfZP

ไหนๆแล้วก็ขอถามด้วยเลย สาย infra นี่ให้แตะ30Kพอเป็นไปได้มั๊ย นี่ new grad ปสก 1 ปี ได้ประมาณ 18k เองถ้าไม่นับค่าอื่นที่บอเพิ่มให้รวมๆ 21-22 รู้แหละว่าเป็นงานรูทีน ดูแลระบบ แก้เคสลูกค้า คิดโซลูชั่นใหม่นานๆที แต่เพิ่มเงินเดือนให้หน่อยเถอะน้อยเกิ๊นนน งานหนักอีก แม่ม

800 Nameless Fanboi Posted ID:Uf6Ldc1t8Q

>>799 ได้สิ ขึ้นอยู่กับบริษัท มีหลายที่ให้ได้แน่นอน

801 Nameless Fanboi Posted ID:j62V+a14J/

>>797 สอนใช้ program r หน่อย เดี๋ยวจ้าง

802 Nameless Fanboi Posted ID:Oy98EbUs4a

>>801 ทัมมัยไม่ไพทอน

803 Nameless Fanboi Posted ID:rrO7F/NMLx

>>802 จะเอามาคำนวนสแตทธีสิส

804 Nameless Fanboi Posted ID:.97rAWdDeI

คนจริงต้องเขียน Assembly

805 Nameless Fanboi Posted ID:mtn+XtXliG

>>804 มึงเป็นพวกชอบอะไรต่ำๆสินะ

806 Nameless Fanboi Posted ID:2TLbx6gyri

คนจริงต้องเขียน wolfram

807 Nameless Fanboi Posted ID:t8XQy/1XsU

ก็เว่อไป new grad ได้เกิน 30k นี่นับบ.ได้เลย

808 Nameless Fanboi Posted ID:Y9pZOF0EFc

เอาจริงๆจะหางานเงินเดือนดีๆมันแล้วแต่จังหวะด้วย ส่วนตัวกูทำอยู่ agoda ก่อนมาทำก็มีประสบการณ์มาประมาณ 8 เดือน คำถามตอนสัมภาษณ์จริงๆก็เรียนในมหาลัยเป็นพื้นฐานมาหมดแหละ พวก design pattern, database ไรงี้ ภาษาอังกฤษก็กลางๆ ถ้าไปสอบ ielts ก็ไม่เกิน 4-4.5 หรอก แต่ก็ยังติดมาได้

809 Nameless Fanboi Posted ID:kw2fimj1Hh

เงินเดือนดีๆ ถ้าบริษัทเล็ก กลาง พวกนี้เค้าดูว่าจ้างแล้วบริษัททำกำไรโป๊ะเงินเดือนไหวหรือเปล่า ถ้าดูแล้วเก่งพอที่จะเอามาทำงานปิดงานที่ขายได้สมน้ำสมเนื้อมากกว่ารายจ่ายเงินเดือนบวกค่าโสหุ้ยค่าเช่าบริษัทแล้วได้กำไรซัก 2-3 เท่าตัว แสนนึงก็ถูก แต่ถ้าทำอะไรไม่ได้ไม่เป็นเลย 8 พันก็แพง

แต่กรณีบริษัทใหญ่แล้วมีส่วน r&d จะอีกเรื่องนึง พวกนี้ต่อให้จบใหม่ก็ไม่มีปัญหา (ถ้าไม่โง่เกินไปนะ) เพราะงบมันเหลือที่ต้องจ้างคนให้ครบตามจำนวน แล้วเอามาฝึกอีกที พวกนี้เป้ากดดันมันจะน้อยกว่า

810 Nameless Fanboi Posted ID:zLhAaWL1u+

new grad 30k-40k เป็นเรตปกติ ไม่ใช่เงินเดือนพันทิป มีไม่เยอะมากแต่ก็เกินสิบบริษัท ไม่เชื่อไปเปิด linkedin หรือ jobsdb ก็ได้
เด็กจบใหม่ที่ได้เงินเดือนเรตนี้ต้องมีความสามารถมาโชว์ มีผลงานที่จับต้องได้ ซึ่งคนที่ทำแบบนี้ได้ก็เหมือนกับมีประสบการณ์มาแล้ว 0.5-2 ปี

811 Nameless Fanboi Posted ID:XZ1XLhK2.g

กุจบ 2019 ตอนนั้น แบบค์เขียวtg 29k วงไม่นอก(ยังไม่เป็นแชทแมน) 35k

812 Nameless Fanboi Posted ID:XZ1XLhK2.g

>>811 แบงค์*

813 Nameless Fanboi Posted ID:5sburFwdgv

new grad 30k-40k ยังไงก็ไม่ใช่เรทปกติว่ะ กูก็จบมาจากม.ที่มีชื่อเสียงมากๆนะ แต่คนที่ทำงานที่แรกได้เท่านี้เลยก็ไม่เยอะว่ะ มันจะปกติยังไงวะ

814 Nameless Fanboi Posted ID:BNYpAYh1.p

ทำโปรเจคจบเป็นเว็บโม่งแบบที่Sirn ทำหลังจบใหม่ได้นี่ จะเรียกรายได้ได้กี่ตังค์วะ?

815 Nameless Fanboi Posted ID:ucBR2.4R7c

>>814 เรียกหมายศาลได้

816 Nameless Fanboi Posted ID:llVNf0ybPb

>>813 เพราะว่ามึงคิดแบบนี้ไง 30-40k เลยเป็นเรื่องไกลตัว ทั้งที่มันเป็นเรื่องโคตรของโคตรปกติของสายงานนี้ ถ้ามึงได้น้อยกว่า 30k แสดงว่ามึง underrated ตัวเองอยู่ เตรียมย้ายงานได้เลย
บริษัทสายไอทีทั้งหมดไม่สนใจว่ามึงเรียนจบอะไรมา มึงจะจบฮาวาร์ดหรือมหาลัยRที่โดนดูถูกบ่อยๆก็ไม่มีผล เขาสนใจแค่ว่ามึงมีปัญญาทำอะไรได้บ้าง มึงต้องมีผลงานที่จับต้องได้มาก่อน เคยทำโปรเจคอะไรไว้ก็ยัดใส่ github ให้หมด อย่าลืมฝึกทำโจทย์ leet code ด้วยเพราะมีถามตอนสัมภาษณ์

817 Nameless Fanboi Posted ID:llVNf0ybPb

ต่อจากเมนต์ข้างบน ลืมบอก มึงต้องเลือกบริษัทที่เป็นเทคโนโลยีเต็มตัวนะ อย่าไปเลือกพวกโรงงานกากๆหรืองานออฟฟิศเกรด C เพราะพวกนั้นเขามองโปรแกรมเมอร์เป็นเหมือนเสมียนหรือพนักงานพิมพ์ดีด เงินเดือนไม่ถึง 15000 แต่ใช้งานหนักกว่าบริษัทที่กล้าให้ new grad 40k

818 Nameless Fanboi Posted ID:YJa64MYYsf

>>816 กุว่ามหาลัยก็มีผลอยู่บ้างถ้าจบใหม่แล้วไม่มีผลงานไปอวด/จบอย่างอื่นมา แต่ leetcode นี่ในไทยเรียกว่านับที่ได้ที่ถามได้เลย น้อยมาก เพราะคนสัมภาษณ์ส่วนใหญ่แม่งก็ทำกันไม่เป็นเหมือนกัน

819 Nameless Fanboi Posted ID:gJXNy5I.CR

>>818 เชี่ยไรเนี่ย มึงมาปั่นเหรอ? มึงไม่เอาโค้ดสตาร์มาอวยด้วยเลยละสัส

820 Nameless Fanboi Posted ID:YJa64MYYsf

>>819 ปั่นไรวะ มึงลิสต์มาสิที่ไหนถาม leetcode กุสัมมาหลายที่แม่งแทบไม่ถาม

821 Nameless Fanboi Posted ID:ttliPvfaQy

>>816 มึงอย่าเอาแค่บริษัทแค่ไม่ถึง 10% ในอุตสาหกรรมมา แล้วมาบอกว่า 30-40k สำหรับ new grad มันเรื่องปกติ มึงลอง list มาเลย จะถึง 100 บ.หรือเปล่าที่ให้ถึง อ้อกูไม่เคย underrated ตัวเองว่ะ จบมากูก็สตาร์ทที่ 65k แล้ว

822 Nameless Fanboi Posted ID:1mgR5dKmpw

>>821 100 บ. 10% แปลว่ามีบ.ในอุตสาหกรรมถึง 1000 บ.เลยเหรอ ใช่เหรอ

823 Nameless Fanboi Posted ID:28FuKE7bma

>>822 ถ้ามึงไม่โม้ก็ลอง list มาเท่าที่นึกออกดูสิ ไม่ต้องไปไล่จับคำผิดเขาเหมือนโม่งขี้โม้ นักมโนที่หลวมว่าตัวเองเงินเดือนเยอะทั้งที่ยังช่วยแม่กรอกน้ำอยู่เหมือนโม่งที่โดนจับในห้อง Lounge ก็ได้

824 Nameless Fanboi Posted ID:1mgR5dKmpw

>>823 แต่กูไม่ใช่ >>816 ว่ะ ลิสต์ให้ได้ไม่ถึง 100 บ.หรอก อุตสาหกรรมไม่ได้มีเยอะขนาดนั้น

825 Nameless Fanboi Posted ID:rwdkArnAmw

พวกมึง กูไม่เก่งพวกโค้ดเพราะไม่ค่อยตั้งใจเรียน+เคยตั้งใจเรียนแล้วได้เกรดมากสุดแค่ B เรียน nodejs ตอนนี้จบมาเป็น helpdesk ทำมาปีนึงแล้ว เงินเดือน start 19000 กูอยากลองพยายามกับโค้ดอีกครั้งนึง เพราะรู้สึก helpdesk สมองกูแม่งไม่พัฒนาเลย อยากเก่งกว่านี้ ถ้าไปฝึกเขียนในยูทูป ลองทำโจทย์จนคล่อง พอจะสมัครงานใหม่เริ่มใหม่ได้ไหมวะ เพราะประสบการณ์ helpdesk 1 ปี แล้วไปสายโค้ดมันน่าจะไม่มีประโยชน์อะไร

826 Nameless Fanboi Posted ID:yhPwjOmWPr

>>825 ได้ดิ ถ้ามี toeic ุ650+ เสริมๆซักหน่อยสบายๆ ประสบการณ์ help desk ก็พอช่วยได้ จะหางานสาย tech ต้องหน้าด้านเข้าไว้ อย่าไปคิดว่าตัวเองไม่เก่ง ให้บริษัทตัดสินเองว่าเก่งไม่เก่ง กูจบเกรด 2.3 มายังลุยสบายๆ

827 Nameless Fanboi Posted ID:rwdkArnAmw

>>826 ขอบใจมากมึง มีกำลังใจละ ส่วนโทอิคตอนนี้มีอยู่ 700 พอดี น่าจะไหว

828 Nameless Fanboi Posted ID:LNsOsK9oxG

>>825 กูมีคำถาม help desk นี่มึงทำที่ บ.ไหนวะ? เหมือนแอบชิลล์จังวะ

829 Nameless Fanboi Posted ID:rwdkArnAmw

>>828 กูเป็นเอาท์ซอสแห่งหนึ่งแถวบางรัก วันๆ คอยรับเคสเข้ามาอย่างเดียว ซึ่งเดือนนึงมีไม่ถึง 10 เคส บางทีไปนั่งเฉยๆ แม่งทั้งเดือนกินเงินเดือนไปวันๆ เฉยๆ เหมือนไปนั่งตากแอร์ฟรี ส่วนใหญ่ไปนั่งเล่นเกม ดูหนัง

830 Nameless Fanboi Posted ID:rk6a3SxMyp

>>829 เชี่ยดีจังวะ แล้วที่จะมาเขียนโค้ดนี่เพราะเงินเหรอ

831 Nameless Fanboi Posted ID:rk6a3SxMyp

>>825 อ่อมึงบอกไว้ในนี้แล้วนี่ ถ้าเริ่มใหม่กุว่าเลือกสายที่อยากทำก่อน frontend/backend/mobile/data engineer หรืออื่นๆ ยังไม่รู้ หรืออะไรก็ได้ อยากทำบริษัทสตาร์ทอัพหรือบริษัทใหญ่ จะได้มาเลือกภาษากันว่ามึงควรเลือกฝึกตัวไหนเพื่อไปถึงจุดหมาย จริงๆมันก็มีตัวที่ general อยู่แต่บางสายมันมีตัวที่เหมาะเฉพาะอยู่น่ะ จะได้หางานง่ายๆ

ไม่ก็ทำ low code มั้ย อาจจะเหมาะกับมึงนะ

832 Nameless Fanboi Posted ID:rwdkArnAmw

>>831 ขอบใจมากมึง จะเอาคำแนะนำมึงไปใช้ดู

833 Nameless Fanboi Posted ID:IqrWFw3/ML

ล่าสุด บ.เทคแบงก์เขียวออกมาเปิดงานรับคนเข้าทำงานละ มีโม่งตัวไหนเคยไปทำงานมาไหมวะ? มันดีหรือไม่ดี?

834 Nameless Fanboi Posted ID:IpwJqIlRvc

>>833 เห็นบอกจะทำให้เป็นบ.เทคที่ดีที่สุดใน sea แต่กูไม่เห็นเค้าลางเลยว่ะ

835 Nameless Fanboi Posted ID:sEDuHIVB7i

>>834 บริษัทเทคโนโลยี "ด้านการเงินและธนาคาร" ที่ดีที่สุดใน SEA

836 Nameless Fanboi Posted ID:c+c9Jdxv78

>>834 วิสัยทัศน์มันกูไม่สนหรอก ที่กูสนคือรายได้ กับสไตล์การทำงานมากกว่า ถ้าเข้าไปเก็บ ปสก. จะได้ไรกลับมาบ้างไหมวะ? เห็นเคยได้เจอว่าที่นี่แม่งไม่ได้สนวุฒิจบด้วย ถ้ามีผลงานให้ดูก็ทำงานกับเค้าได้ จริงหรือจ้อจี้วะ

837 Nameless Fanboi Posted ID:JkRG6EMmsI

>>836 ป.หก รับไหมครับ

838 Nameless Fanboi Posted ID:IpwJqIlRvc

>>835 ไม่มีคำว่าการเงินและธนาคารนะ https://www.marketingoops.com/media-ads/event/kbtg-set-the-big-goal-top-regional-tech-company/

Best tech company

839 Nameless Fanboi Posted ID:hSO7IVbCsT

>>838 อ้าว แสดงว่าแบงก์เขียวจะแตกไลน์ทำ บ.เทคล้วนไปอีกสายนึงเหรอ?

840 Nameless Fanboi Posted ID:mnVeawhfAY

>>839 ก็บ.เดิมนั่นแหละ แต่จะดีที่สุดในแง่ที่แข่งกับทุกบ.เทค ไม่จำกัดว่าแค่ในสายการเงิน (shopee gojek grab foodpanda binance)

ซึ่งกูไม่เห็นเค้าลางว่ะ

841 Nameless Fanboi Posted ID:rRi0peJjoU

พวกมึงรุ้ไหม เวลา site ต่างๆ รับ outsource programmer พวกนี้จ่ายให้บริษัทต้นสังกัดเท่าไหร่
แล้วต้นสังกัดเค้ารู้เงินเดือนเราไหม
เช่น เราขอเงินเดือน 50k site ลูกค้า ต้องบวกให้ต้นสังกัดอีก 100% ต้นสังกัดได้รับจากลูกค้ามา 100k
หรือ... ปกติเค้าจ่ายให้ระดับ 100k ++ ตามประสบการณ์ แล้วต้นสังกัดมาเจรจากับเราอีกที ว่าเราจะได้เท่าไหร่

842 Nameless Fanboi Posted ID:Vvk+omO7KE

>>841 ปกติที่กูเจอมาคือเงินเดือนเราต้นสังกัดเป็นคนให้ ลูกค้าไม่เกี่ยว
ลูกค้าต้องจ่ายเงินค่าใช้งาน programmer ให้ต้นสังกัดอีกที ซึ่งกว่าจะผ่านประบวนการวางบิลนู่นนี่อาจจะกินเวลานานหลายเดือน
ต้นสังกัดควรจะจ่ายเงินเดือนมึงตามเดือนที่ทำงาน แต่ถ้าเจอที่ๆต้องรอลูกค้าจ่ายก่อนแล้วถึงจ่ายเงินเดือนพนักงานทีหลังนี่ควรเลี่ยง
การเจรจาเงินเดือนคือเราเจรจากับต้นสังกัด แล้วต้นสังกัดเค้าจะไปคิดเองอีกทีว่าคุ้มไม่คุ้มสำหรับเค้า
โดยมีเรื่องเงินที่ได้จากลูกค้าเป็นปัจจัยหลัก แต่อาจจะมีปัจจัยอื่นๆเสริมเช่นต้องมีอุปกรณ์ให้มั้ย อะไรพวกนี้ด้วย

843 Nameless Fanboi Posted ID:fN9AmAuUsH

เงียบเลยว่ะ พวกมึงไปคุยกันที่ไหนวะ

844 Nameless Fanboi Posted ID6:3L7oVOsksk

>>843 มึงคิดว่าโปรแกรมเมอร์คุยกับคนด้วยเหรอวะ

845 Nameless Fanboi Posted ID:yDMgki/iw1

>>844 คุยสิ ไม่เคยทำ scrum เหรอ

846 Nameless Fanboi Posted ID:w.XKpPyfwL

>>845 scrum งานไทยทำได้ด้วยเหรอ เหอๆ

ที่ข้าพเจ้าเคยเจอมา แผนงานกำหนด 1 เดือน ลูกค้าส่งของมาช้าสุดท้ายโดนเร่งให้เสร็จภายใน 3 วันนี่เรื่องปรกติมาก

โปรเจ็คราคา 5 ล้าน เนื้องานมีทั้ง web + app ออกแบบระบบจาก 0 ทีมงานมี sale 1 หน่อ พกโปรเกม่อนไป 1 ตัว ปิดงานภายใน 4 เดือน แถมเวลาทำจริง นับดูแล้วเดือนเดียว

Full Stack คือ Full Stack จริงๆ นอกจาก code โปรแกรมได้แทบทุกภาษาที่ลูกค้าอยากได้ set cloud ได้ ดีไซน์ได้ ทำ automation test ได้ แล้วยังคุยต่อรองกับลูกค้า + หา supplier ได้ แถมยังขายงานแทน sale ได้ด้วย อ๋อ ทำบัญชีได้ด้วยนะ lol

847 Nameless Fanboi Posted ID6:oj0SMh+cif

>>846 กูไปทำเน็ตเวิร์กคุยกับสายไฟแล้วก็ตู้เซิฟเวอร์ดีกว่า

848 Nameless Fanboi Posted ID6:UzjR5vRKJx

https://twitter.com/noeysavitta/status/1566396437977796608
อ่านแล้วถอนหายใจ

849 Nameless Fanboi Posted ID6:GiXTtSf309

>>848 อ่านแล้วเหมือน how to เอาไป cer ไปหลอกสมัครงานกับบริษัท start up อ่ะใส่ไปมั่วยัน cer ของ it support แบบ visual desktop เพื่อ -.-

PM ที่ทำเป็นแค่นั้นไร้ประโยชน์ ฝั่งเอกสาร+แผนงานอะไรพวกนี้ ปรกติบริษัททีมขนาดเล็ก sale มันทำได้หมดอ่ะ หรือถ้าบริษัทใหญ่หน่อยก็โยนให้ AE

อ่อ แล้ว agile ไม่ใช่เรื่องยิ่งใหญ่อะไร ไปใช่ตัวง่ายๆ แบบ monday จัดตารางเอาก็ได้

ส่วนคุยกับลูกค้าไปลากโปรแกรมเมอร์ไปหน้างานก็ได้ งานที่ต้องปรับแต่งพวกนี้ลูกค้ามักเตรียมงานมาระดับหนึ่งอยู่แล้ว ส่งมาประชุมร่างแผนกันเดี๋ยวเดี๋ยวจบ ไม่ต้องเสียเวลามาก

850 Nameless Fanboi Posted ID:oDA/YQ/hIB

>>833 ตอบตอนนี้ทันมั้ยวะ บ ลูกของแบงเขียว ว่ากันจริงๆ กุว่าระดับบนๆ เก่งอยู่ แต่ถ้ามึงเข้าไปเป็นลูกมือทำงาน internal เนี่ย codebase ก็ไม่เลวร้าย แต่ก็ไม่ถึงกับดี management ค่อนไปทางแย่ จริงๆ อาจจะขึ้นกับทีมด้วยแหละ แต่กุไม่ดีขนาดนั้น ส่วนตัวไม่เคยทำแบงม่วง (ที่เป็น บ เทคนะ) แต่เท่าที่รู้คือแบงม่วงจ่ายดีกว่าแบงเขียวพอสมควร assume ตำแหน่งเดียวกัน

สรุปคือ ถ้าเลือกได้ ไปแบงม่วงดีกว่า

>>822 Agoda, Accenture, Omise, Big4, KBTG, SCB, SCB10X, SCB Tech, Bitkub, G-Able, Rabbit, Refinitiv, Capco, Finnomena, Line, Wongnai, VMWare และ Startup tech อื่นๆ ที่กุเคยสัมภาษณ์อีก 4-5 ที่ที่กุจำชื่อไม่ได้แล้ว จริงๆ ที่พูดมาทั้งหมดนี่ เกิน 35k หมดเลยด้วยซ้ำ ไม่ใช่แค่ 30k อาจจะยกเว้น Rabbit กับ SCB แต่พ้อยคือ บ ที่พร้อมจ่ายให้ new grad เกิน 30k ตอนนี้คือมีเยอะมาก อย่าง Agoda, Accenture, KBTG, SCB นี่เพื่อนที่จบรุ่นเดียวกันกับกุคืออยู่ใน บ พวกนั้นไปละ 30-40% กุค่อนข้างพูดได้เต็มปากว่าเฉลี่ยเงิน dev อยู่ที่ 30k ต้น กุอาจจะ echo chamber ในกลุ่ม elite ของกุเองก็ได้ แต่ถ้าเอา echo chamber ในกลุ่ม elite กุนี่ เงิน start new grad อยู่ที่ 40k+ ด้วยซ้ำมั้ง

851 Nameless Fanboi Posted ID:oDA/YQ/hIB

>>850 แท็กผิด ต้องแท็ก >>813

เสริมอีกนิดคือข้อมูลกุอาจจะไม่อัพเดทแล้วด้วยซ้ำ เพราะที่ว่ามาทั้งหมดนี่ ข้อมูล 2 ปีก่อน เพราะงั้นยังไงกุก็คิดว่าเงินเดือน new grad swe ในไทยยังไงเฉลี่ยก็อยู่ที่ 30k+ ถ้ามึงมี ปห เรื่องหางานที่ได้เงินดีๆ กุว่ามึงหา agent ให้เขาช่วยหางานให้มึงอะ ตอนที่กุจะย้ายงานก็ใช้ agent เนี่ย ที่กุบอก startup 4-5 ที่ นั่นก็จาก agent หางาน

จะบอกว่ากุเป็น outliner ก็คงไม่ใช่ เพราะกุรู้จักคนที่เป็น outliner จริงๆ พวกนั้นเขาเงินไม่ได้ start หลักหมื่นกันหรอก แฮะๆ

852 Nameless Fanboi Posted ID:8e7s78+n1s

กำลังจะได้ agoda เรียกเท่าไหร่ดีวะ junior ปสก 2 ปี

853 Nameless Fanboi Posted ID:psj2Ri1VmP

ปกติทริคคือ ไม่บอกว่าตัวเองอยากได้เท่าไหร่ แต่เป็นถาม hr ว่า range เท่าไหร่ แต่นี่คือเทคนิคที่ใช้ใน ตปท ว่ะ กุไม่รู้ว่าใช้ในไทยได้มั้ย

854 Nameless Fanboi Posted ID6:.E7BeeLtc6

ที่เก่ากู 32 เองไง คือถ้า 40 45 มันก็ถือว่าอัพเกรดได้ละ แต่กูก็ได้ยินว่าที่นี่จ่าย new grad 50 ตั้งแต่ปี 63 กูก็เลยสงสัยว่าหรือกูควรเรียก 50 เลย

855 Nameless Fanboi Posted ID:HJaEHbDIM4

>>853 ยากมาก คนไทยแม่งด้านจะเอาให้ได้

856 Nameless Fanboi Posted ID6:YYiWfb8ulq

ทำงาน 6 วันต่อวีคในฐานะโปรแกรมเมอร์นี่คือเรื่องปกติไหมวะ?

857 Nameless Fanboi Posted ID6:GRLOM+bJo5

>>856 ไม่นะ กูกับเพื่อนไม่มีใครเคยเจอ แต่เคยได้ยินว่าโปรแกรมเมอร์ที่ต้องอยู่ตามโรงงานมีที่ต้องทำ 6 วันอยู่

858 Nameless Fanboi Posted ID6:obY3leBIJE

>>856 ผิดปรกติ ถึงโปรแกรมเมอร์บางคนจะบอกว่าทำงาน 7 วันก็ตาม แต่พวกนั้นมันทำช่วงปิดงาน project ไม่ทันมากกว่า แล้วได้โอที เวลาช่วงหมด project ด่วน ก็กลับไปโหมด 5 วันธรรมดา

ถ้าให้เดางานถ้าทำ 6 วัน อันนี้กึ่งๆ support แล้วล่ะ แล้วก็น่าจะอยู่พวกบริษัทไทย - จีน รุ่นเก่าที่เอาเปรียบพอสมควร อย่าไปทำเลย บริษัทพวกนี้ เงินเดือนปรับขึ้นยากมาก

859 Nameless Fanboi Posted ID6:eYYPGzDG3S

ผิดปกติมากๆ มาตรฐานที่ถูกต้องคือ 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ เกินนั้นโอทีเท่านั้น ออกเหอะไปอยู่บริษัทเอาเปรียบงั้นอะ ขยันผิดที่เจริญยากนะมึง

ปล. ยังไม่มีใครแนะนำเงินเดือนอโกด้ากูเลย

860 Nameless Fanboi Posted ID:78Ewfhmkqa

>>857-859 ขอบคุณพวกมึงมาก ที่ถามอ่ะ ทุกวันนี้อยากทำงานสายนี้มานานหลายปีละแต่ปัญหาคือ
-กูต้องจำใจมาทำสายงานที่ตัวเองไม่ได้อยากมาทำแต่ต้องทำเพื่ออยู่รอด แล้วมีประสบการณ์ก็เถอะ ต่อยอดไปไกลได้แบบสายงานนี้เลยถ้าไปสุดทาง แต่ปัญหามีอยู่ว่ามันบั่นทอนร่างกายมาก แบบว่าใช้แรงงานด้วย ใช้สมองด้วยแบบเป็นเวลา8-9ชม. ไม่ใช่นั่งโต๊ะทำงานนะ

-ปัญหาที่กูมั่นใจละว่าอยู่ในวงการนี้ไม่นานคือ กูมองหน้างานบางจังหวะไม่ออก บางจังหวะก็ต้องรู้จักแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าให้ได้เท่าที่จะทำได้ แล้วมองไม่ออกจริงๆถ้าไม่มีคนมาชี้แนวให้ว่าต้องทำยังไง ต้องพลิกแพลงแบบไหน ซึ่งต้องมองหน้างานให้ออกนี่คือต้องแบบนาทีเดียวก็ต้องปิ้งเลยว่าทำแบบนี้ละคิดถูกแน่ๆ ซึ่งกูก็ทำผิดซ้ำๆซากๆนะ คนในวงการนี้ก็.....ให้โอกาสเป็นหลักหน่วยได้แหละ บางคนกับบางที่คือไม่ให้เลยก็มี กูเลยมั่นใจว่าใครๆไม่ชอบกูก็เพราะข้อเสียกูข้อนี้ ซึ่งลังเลไม่น้อยเลยว่าต่อให้เรียนdata structures เรียน problem solving skillsมาแน่นปั๊ก ฝึกโจทย์มาเยอะๆก็ตามแล้ว มาทำตรงนี้จริงๆมันจะช่วยอะไรได้บ้างไหม ถ้าไม่มี กูคงไม่พยายามมาเส้นทางงานโค้ดดิ้งแล้ว หรือมาก็หวังไว้ว่ามากับพวกที่ใช้เวลาคิดสักระยะได้บ้าง ไม่ใช่งานที่หวังแนวทางภายใน45วินาทีตลอดเว

861 Nameless Fanboi Posted ID:u4..vfLWbg

พี่โม่งกูเรียนวิศวะไฟฟ้ากำลังอยู่ เเต่ไปๆมาๆอยากไปทำงานสายคอม、โปรแกรมมิ่งเเทนว่ะ อยากรู้ว่าสายนี้มันเริ่มต้นเงินเดือนเท่าไร เพดานเท่าไร เเล้วพวกกากๆต่ำกว่าaverageเงินเดือนเท่าไร อยากรู้ทั้งเพดานล่างเพดานบน วิศวะไฟฟ้านี่กูรู้เเค่ว่าเพดานล่างไปทำโรงงานได้เเค่17k-18kเอง

862 Nameless Fanboi Posted ID:JFe8Q+qtdS

>>861 วิดวะโรงงานก็ตามนั้น ถ้ามึงเป็นแค่วิดวะความสามารถทั่วๆไปไม่ได้โดดเด่น ไม่ได้ภาษาที่สาม เงินเดือนแทบไม่ต่างกะคนที่จบตรีสายอื่น จะดีหน่อยเวลามีโอทีให้ทำ

863 Nameless Fanboi Posted ID:u4..vfLWbg

เเล้วพูดถึงโปรเเกรมเมอร์อะ พวกวิศวะคอม ฐานต่างกันเยอะปะหรือเฉลี่ยaverage เพดานส่วนใหญ่รายได้มักเท่าไรกัน

864 Nameless Fanboi Posted ID:T3GxlbsnBB

recruit ที่หางานให้กู recruit คนระดับ 200k เป็นว่าเล่นอะ

ในไทยมีแหละถ้ามึงเก่งพอ ถึง 200k มากกว่านั้นไปตปท ดีกว่า เข้า FAANG ให้ได้

865 Nameless Fanboi Posted ID:0Qt68CLVQ9

ทำยังไงไม่ให้โดนกองprทับตายว่ะโม่ง รีวิวไปเดี๋ยวก็มีอันใหม่เข้ามา เหลือเวลาให้มานั่งเขียนโค้ดของตัวเองไม่กี่%ต่อวันเอง

866 Nameless Fanboi Posted ID:1rzp6pgTCk

>>864 บริษัทไหน?

867 Nameless Fanboi Posted ID6:2eZLxfTJZj

>>861 เพดานล่างของสายคอมต่ำกว่านะ เพราะเพดานล่างสาวคอม มันคืองาน support ช่อมคอมลงโปรแกรมธรรมดาพวกนี้เงินเดือนพอกับพนักงานทั่วไป เพราะใครก็ทำงานได้

ส่วนสายโปรแกรมมิ่งเพดานล่างไกล้เคียงกับวิดวะโรงงาน อาจจะต่ำกว่าหน่อย แต่มันเรียนเปลี่ยนภาษาเปลี่ยนเครื่องมือ up เงินเดือนง่ายกว่า

868 Nameless Fanboi Posted ID6:9BZwuSvM.r

>>866 เค้าไม่ได้บอกบริษัท แต่ recruitor มาจาก Micheal Page

869 Nameless Fanboi Posted ID:3B996OcFBO

ช่วงนี้ขาขึ้นสายเทคฯอ่ะนะ เงินเดือนหลักแสนถ้าเป็นบ.ต่างชาติในไทยนี่ไม่แปลกเลย ยิ่งเป็นระดับ head หรือ cto เงินเดือนสามแสนยังได้

870 Nameless Fanboi Posted ID6:cwqkam3EYG

ถ้าแบบ >>846 เงินเดือนแสน+ กูไม่แปลกใจ

871 Nameless Fanboi Posted ID6:9BZwuSvM.r

ไม่นะ อันนี้ head แผนกเฉยๆ ไม่ใช่แบบ full stack

อีกที่ ทีกูเจอมา อันนี้ recruit หาให้กูคือ senior middleware บ.เทคที่เป็นซับ บ.ไฟแนนซ์อีกที จากยุโรป นี่ก็ 65-70k แล้ว ขนาดแค่ Senior

872 Nameless Fanboi Posted ID:RQL9.VQu6O

>>861 พูดถึงแค่เงินเดือน new grad นะ เพดานล่างเท่าที่กุรู้ของสาย dev น่าจะแถวๆ 17-18k มั้ง เอา dev จริงๆ ไม่ใช่ it support นะ อาจจะมีต่ำกว่านั้น แต่ค่อนข้างน้อย
เพดานบนนี่ สุดแท้แต่ความสามารถมึงอะ ถ้ามึงเข้า agoda ในไทยได้ start น้อยสุดก็ 50k/เดือน หรือถ้ามึงเก่งภาษาแล้วเข้า shopee/faang สคป ได้ ก็ start +-100k sgd/year

873 Nameless Fanboi Posted ID:e5CP5YVEgv

>>868 ถ้าฟังแค่จาก recruiter ส่วนใหญ่โม้ทั้งนั้น ชอบเอา budget มาล่อ 100k 200k พอสนใจจริงๆมันก็ถาม current salary แล้วบวกให้นิดเดียวเท่านั้นแหละ ไว้ถ้าได้ offer เท่านั้นจริงๆแล้วมาบอกด้วยละกันว่าบริษัทไหน

874 Nameless Fanboi Posted ID:IQhbbbcjxb

https://twitter.com/we_esc/status/1575720477511004162?s=20&t=ujTV9Vzv0mUOlhd4Qy4JAQ
หึๆ

875 Nameless Fanboi Posted ID:VFL9NrDP/b

>>874 แบบ Genshin ดิ
ล่มปั๊ป กลับมา แจก Primoge
ดูก็โอเคกัน 555

พวก unicorn ยังแจกเงิน แจกคูปองส่วนลด ดึงคนได้
แบงค์แจกมันผิดกฎแบงค์ชาติปะวะ

876 Nameless Fanboi Posted ID6:8ibxBR29tW

>>873 100 200 จริงมั้ยไม่รู้ แต่เค้าเคยเสนอ 70 มาให้ กูไปสัมก็ได้ถึง 70 จริงนะ
ยังไงเค้าก็ต้องดันต้องเชียร์ให้สุดจริงปะ เพราะรายได้เค้าก็ตามมูลค่า candidate

>>872 17 18 นี่ล่างแบบ กูว่าอย่าเสียเวลาไปทำเหอะ อย่างน้อยก็ต้อง 25 หวะจริงๆ

877 Nameless Fanboi Posted ID:ZnEeC.VNIJ

>>876 เชียร์ไป สุดท้ายแม่งก็ตามลูกค้าอยู่ดี พวกนี้ขอฐานเงินเดือนเก่าทั้งนั้น แล้ว 70 กับ 200 มันคนละเรื่องกันว่ะ กูยังสงสัยอยู่เลยว่าในไทยมันมี 200 สักกี่ที่ถึงขนาดบอกว่าได้เป็นว่าเล่น

878 Nameless Fanboi Posted ID6:8ibxBR29tW

>>877 Head of Devops 250k
Several Front/Back upto 100k
Head of Engineering 220k
Devops 170k
Cloud Eng 140k

อันนี้เท่าที่กูเห็นจากโพสเค้าคนเดียว และน่าจะคนละบอ คนละโพสิชั่น
ถามว่าชัวร์มั้ย กูก็ให้สัก 50-50 ละกัน
หลายตำแหน่งมันบอกว่า open for expat และ expat มันหวังเลขนี้เป็นปกติอยู่แล้ว

ถ้าไปดูตามบอร์ดนี่ พวกฝรั่งแม่งนินทากันเลยว่า ได้ offer 120k จาก agoda ให้ relocate มาไทยแล้ว "น้อย"

แปลได้ว่าบอที่หวังจะดึง expat มาไทยนี่กูว่า่น่าจะต้องจ่าย 150 ขึ้น

879 Nameless Fanboi Posted ID6:aZ+xD+Y0Xz

อยู่ดีๆก็เจอบัคที่มั่นใจว่าเคยแก้ไปแล้วครั้งนึง ลอง reproduce หลายรอบก็เป็นตลอด
แล้วไปดู log แล้ว log debug ที่เคยใส่ไว้มันไม่ออก
ลองไปไล่โค้ด เลยนึกได้ว่า log debug พวกนั้นกูลบไปแล้ว เพราะคิดว่าไม่น่าได้ใช้อีก
พอลองใส่กลับเข้าไปแล้ว build ใหม่ reproduce ไม่ได้แล้ว WTF มาก

880 Nameless Fanboi Posted ID6:f+JX5cxnyV

https://twitter.com/danqing_liu/status/1576997489529344001?s=46&t=6GKm_Z0wB2Jvlvjmcf8oBw&fbclid=IwAR3iPI5kPIJLef_Kp1r-IMtPP6i_i0GiXfCZaTkoNzdX0J_NjFYy5NC3Df8

881 Nameless Fanboi Posted ID:Wlv.jyT/p0

>>878 มึงตกคำว่า max ไปนะ ไอ้พวกนี้เห็นเต็ม linkedin มันก็แค่ลงเรียกความสนใจเท่านั้นเอง เหมือนเดิม ไว้มึงลองไปสมัครเองก็จะรู้ ได้จริงเท่านั้นแล้วค่อยมาโม้ว่ะ

882 Nameless Fanboi Posted ID6:7brghyhu/q

200k มันก็น่าจะมีแหละแต่ก็ต้องระดับเฮด หรือ สเปเชียลลิสมากๆนะแหละ
กุซีเนียร์ธรรมดาก็เกิน 100k มาได้พอควรอยู่นะ

883 Nameless Fanboi Posted ID6:kvuQxSwNgT

ต่อจากโพสที่แล้ว โพสนี้จะพูดถึงว่า Culture ของ Facebook แย่ยังไงถึงทำให้ตัดสินใจลาออก แต่ในทางตรงข้ามทำไมก็ยังเชื่อว่า Facebook ก็ยังจะสามารถจ้าง Engineer เก่งๆได้

หมายเหตุ: บางอันอาจจะเว่อร์ไปหน่อย และไม่จริงในหลายๆทีม แต่อันนี้รวบรวมจากที่ประสบพบเองและที่ฟังมา

สิ่งที่ไม่ชอบ:
1) การตัดสินว่าใครจะได้เลื่อนขั้น ใครจะโดนไล่ออก แทบจะวัดด้วยอย่างเดียวคือ impact
- ซึ่ง impact เนื่องจากมันเป็น OKR ก็คือต้องวัดได้ เพราะฉะนั้นคุณจะแบบไม่ช่วยใครอะไรทั้งสิ้นก็ได้ เขียน code ห่วยยังไงก็ได้ hacky ยังไงก็ได้ (ตราบใดที่ยังมีคนกด code review ผ่านให้) แต่ถ้าคุณทำสิ่งที่วัดได้นั้นให้มันดี improve metrics ได้ ด้วยวิธีใดๆก็ตาม คุณก็จะได้เลื่อนขั้น แต่ในทางตรงข้าม ถ้าคุณเขียน code ได้ดีแต่ไม่มี metrics รองรับ คุณก็จะไม่ได้ promote และอาจจะโดน PIP + ไล่ออกในไม่ช้า
- ได้ข่าวว่าบางคน manager บอกมาเลยว่า "ถ้าทีมอื่นให้ช่วยทำอะไร อย่าไปช่วยเค้า การช่วยทีมอื่นจะไม่ช่วยให้คุณได้เลื่อนขั้น"

2) ไม่มี ownership code ที่ชัดเจน​
- ในหลายๆบริษัทเช่น Quora ทุกอย่างจะมี DRI หรือพูดง่ายๆคือเจ้าของ Code ที่คอยดูแล แต่ที่ Facebook แทบทุกอย่างอาจจะมีทีมที่ดูแล แต่ทีมก็อาจจะใหญ่มาก หรือหลายๆส่วนก็คือไม่มีเจ้าของเลย การที่มีเจ้าของร่วมเยอะๆและไม่มีคนต้องรับผิดชอบ ทำให้ทุกคนไม่มีใครแคร์ว่าของมันจะดีมั้ย ยิ่งคุณภาพของ code เป็นสิ่งที่วัดไม่ได้ง่ายๆ ยิ่งไม่มีคนสนใจ เพราะสนใจไปก็ไม่มี "impact" แม้ว่า Facebook แกนหนึ่งในการพิจารณาก็คือ engineering excellece แต่เอาเข้าจริง อะไรที่วัดไม่ได้ คนก็จะไม่สนใจ เพราะมันไม่มีผลอะไรกับชีวิต

3) ความคาดหวังว่า Senior Engineer จะต้อง lead project ทั้งในทาง technical และ non technical
- สิ่งที่สำคัญที่จะทำให้ได้เลื่อนขั้นโดยเฉพาะจาก Senior -> Staff++ ที่ Facebook คือคุณจะต้อง lead project ขนาดใหญ่ขึ้น scope กว้างขึ้น แต่ถ้าของมันก็มีอยู่เท่าเดิมจะเกิดอะไรขึ้น? สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือทุกคน ตั้งตัวเองเป็นหัวหน้า คอยสั่ง คอยกดดันให้คนอื่นทำทุกสิ่งที่ตัวเองสัญญาไว้ใน OKR เพื่อที่ตัวเองจะได้ promote ไปเรื่อยๆ กลายเป็นว่าทุกคนอยากสั่งคนอื่น แต่ไม่มีใครอยากทำอะไร
- "เพราะการทำอะไรหนะ มันเป็นงาน E3-E4 แต่การสั่งชาวบ้านหนะมันเป็นงานของ E5+"

4) manager ไม่มีหน้าที่กันเราจากทีมอื่น
- ในที่อื่นๆที่เคยทำมาปกติถ้ามีคนมาสั่งเราในงานที่ไม่เกี่ยวข้อง manager มักจะช่วยปกป้องเรา หรือไปเคลียกับคนอื่นให้ แต่ที่ Facebook ที่พบมาคือ manager ไม่มีความเข้าใจด้าน technical และไม่มีความคาดหวังที่จะต้องเข้าใจด้วยซ้ำ (เป็น people management ล้วนๆ) เพราะฉะนั้นเค้าก็จะแบบเหมือนเป็นที่ปรึกษาชีวิตแบบได้แต่บอกแบบ "สู้ๆนะ" แต่ช่วยอะไรแทบไม่ได้ พอรวมกับข้อ (3) ก็ยิ่งแย่ไปกันใหญ่

5) code quality นรกมาก
- อาจจะไม่น่าเชื่อ แต่ส่วนตัวเชื่อว่าบริษัทอื่นๆแม้แต่บริษัทเล็กๆในไทยก็น่าจะ code quality ดีกว่าใน Facebook ซึ่งแย่เพราะไม่มีใครแคร์ ถ้าเปิด code Facebook ดูจะเห็นความก็อปแปะ ทุกอย่างเละแทะมาก
- "แต่จะสนใจไปทำไมหละ ตราบใดที่ยังมี impact เราก็ได้ promote ยิ่ง code ไม่มี ownership ด้วยก็ไม่ใช่หน้าที่เราในการไปทำให้มันดีขึ้น"

6) สิ่งที่เรียนรู้ไม่สามารถนำไปใช้ในงานต่อไปได้
- ข้อนี้จริงๆอาจจะเป็นบริษัทใหญ่ๆแทบทั้งหมด คือ tool/abstraction ต่างๆ ของ Facebook คือมีของตัวเองหมด เพราะฉะนั้นถ้าย้ายงานก็เหมือนที่เรียนรู้ไปแบบศูนย์เปล่า คือคนอาจจะบอกว่า concept ต่างๆมันก็เอาไปใช้ในงานต่อๆไปได้ แต่คือมันก็คงได้สักแบบ 20% อะไรงี้มั้ง ซึ่งแบบการเรียนรู้อะไรก็รู้สึกเสียเวลาเปล่ามากๆ

===

แล้วทำไมยังเชื่อว่า Facebook ก็ยังจะสามารถจ้าง Engineer เก่งๆได้
1) รวย
- ข้อนี้จริงๆสำคัญแทบจะที่สุดในโลกทุนนิยม Facebook จ่ายได้ไม่อั้น จ้างคนเก่งๆได้ไม่จำกัดมาทำงานโง่ขนาดไหนก็ได้ อยากได้อะไรก็เปย์ๆๆ แล้ว benefit perk อื่นๆก็สู้กับทุกคนได้หมดจริงๆ ไม่ใช่แค่เงินเดือน แต่ประกันสุขภาพ ออฟฟิศและอื่นๆ ก็สู้ได้จริงๆ

2) ชื่อเสียง
- เอาจริงๆใน FAANG Facebook ก็น่าจะเป็นอันที่ชื่อเสียงด้าน engineer ดูดีเป็นอันดับต้นๆ การมีชื่อ Facebook แปะก็มีคนสนใจมากมาย ไปทำอะไรต่อในอนาคตก็ง่ายจริงๆ

3) culture fit
- สิ่งที่เป็นข้อเสียที่ว่ามาทั้งหมด ความวุ่นวายแบบนี้ก็คงมีคนชอบแหละ ยิ่งคนที่อยู่ใน Facebook มาตั้งแต่จบใหม่ก็อาจจะไม่รู้สึกว่าที่ว่ามาเป็นปัญหาอะไรด้วยซ้ำ เผลอๆถือว่าเป็น feature ของบริษัท เพราะถ้าแบบ exploit ตรงนี้ได้ก็เจริญก้าวหน้ารัวๆได้เลย E6-E7 ไม่ไกลเกินเอื้อม แต่ส่วนตัวอยู่แบบนี้ไม่ได้จริงๆ

884 Nameless Fanboi Posted ID:7izA/Pi.l7

200k ถ้าเป็นสาย devops นี่ยังไงก็มีถึงว่ะ สายนี้แม่งหาคนเก่งๆได้น้อยชิบหาย ต่อให้มีตังบางทีก็จ้างไม่ได้เพราะไปติดทำกับที่อื่นอยู่แล้ว

885 Nameless Fanboi Posted ID6:21EiP1B6jo

devops นี่ด้วยความที่งานมันความรับผิดชอบสูง+ต้องทำนอกเวลา บางคนทำได้ก็ไม่อยากทำด้วย
บ. เก่ากู devops ระดับเทพคนนึงถึงขนาดยอมลาออกแบบลดเงินเดือนไปเป็น dev ธรรมดาที่อื่น

886 Nameless Fanboi Posted ID6:FqzL44b/Rd

ทำงานวันละ 18 ชมอาทิตย์ละ 7 วัน จะเข้าห้องน้ำหรือนอน มีสะดุ้งจะโทรมาหรือเปล่าวะ แบบนี้ก็ไม่ไหวนะ

887 Nameless Fanboi Posted ID6:N0iVvPSzlk

>>885 devops ....มันเทียบได้กับfull stack developerเลยไหมวะ?

888 Nameless Fanboi Posted ID6:f7ZIUMHbhG

>>886 ใช้งานเยี่ยงทาสแบบนี้ ไม่แปลกใจว่าทำไมเปลี่ยนงานไปเป็นแฮ๊กเกอร์เรียกค่าไถ่กันหมด

889 Nameless Fanboi Posted ID:PjVgCf5IAc

>>885 devops หรือ sre วะนั่นมีทำนอกเวลาด้วย

890 Nameless Fanboi Posted ID:7kG6ir2X2m

>>881 กูก็บอกแล้วว่าถ้าบอจะดึง expat มันก็ต้องจ่ายราคานี้ปะวะ

มึงคิดว่าคนขาวมันจะยอมrelocateมาอยู่ประเทศเหี้ยนี่ด้วยเงิน 100k หรอ

891 Nameless Fanboi Posted ID6:3HBmMPIKLT

>>889 ในไทยเรื่องทำนอกเวลาฉุกละหุก ประเภทโทรมาให้แก้บักนอกเวลาช่วงที่พึ่งรันโปรดักส์เป็นเรื่องปรกตินะ ตำแหน่งโปรแกรมเมอร์ธรรมดาเนี่ยล่ะ โดยเฉพาะงานที่ไปเกี่ยวข้องกับเงินๆ ทองๆ แทบต้องเผื่อเวลาไว้เลยว่าวันหยุดไม่ได้ไปไหนแน่ๆ ต้องพร้อมรับสายตลอดเวลา

892 Nameless Fanboi Posted ID:gwjFGUqKA7

>>891 devops มีเรื่องอะไรให้ฉุกละหุก?

893 Nameless Fanboi Posted ID:O/D/tqpHi0

มีใครทำงานwork from homeบ้างปะ กูอยากรู้ว่าถ้าจัดโต๊ะคอมเเล้วปิดไฟรอบข้าง ชอบไฟสลัวๆ เเต่ติดไฟเเค่หน้าโต๊ะคอม,หน้าจอพอ
เเบบนี้มีผลเสียไหมกับสายตา หรือมีโคมไฟ ,การจัดโต๊ะทำงานเเบบไม่ได้เปิดไฟบนเพดานบ้างไหม กูรู้สึกชอบความมืดๆสลัวๆ อยู่เเล้วสมองเเล่นอะ

894 Nameless Fanboi Posted ID:mP5WQtKiU+

https://www.youtube.com/watch?v=X34ZmkeZDos

895 Nameless Fanboi Posted ID6:QAo1LC49rf

https://www.blognone.com/node/131247
มีใครรู้อะไรมั่งป่ะ มีแต่คนคอมเม้นว่า อืม ข้างในน่าจะปัญหาเยอะสินะ

896 Nameless Fanboi Posted ID6:8GeIAW2Ool

>>892 migrate server cicd พัง job ใหม่ที่ดีพลอยมีปัญหา สารพัดจะเลือกเลยมึง

897 Nameless Fanboi Posted ID6:bimD5QWAAF

who the fuck need jira these day.

898 Nameless Fanboi Posted ID6:/MlTRHxHVG

https://m.youtube.com/watch?t=91&v=x2-rSnhpw0g&feature=youtu.be

899 Nameless Fanboi Posted ID6:/MlTRHxHVG

>>898 Visualising software architecture with the C4 model - Simon Brown, Agile on the Beach 2019

900 Nameless Fanboi Posted ID6:A0ffCJ3s2K

ไปช่วยชี้ทางสว่างให้คนในบอร์ดเกมส์เลิกเล่นเกมส์กันเถอะ https://fanboi.ch/game/8282/
มาเขียนโปรแกรมดีกว่าเยอะเลย

901 Nameless Fanboi Posted ID:aOGNrZYYMI

>>900 เขียนโปรแกรมปั้มเงินให้หน่อยครับ ผมจะได้เลิกเล่น

902 Nameless Fanboi Posted ID:gg/auc80h+

คุณอ๊บแกมีเรื่องทุกวันเลยหรอ ทำไมสามารถมีเรื่องมาโพสเรื่องในกลุ่มได้ตลอด ดูเจนโลกดี หรือมันเป็นเรื่องปกติของคนที่เป็น CEO

903 Nameless Fanboi Posted ID:ItHFV+7.P+

>>902 วันๆอีตานี่ทำมาหากินกับอะไรวะ? เขียนโปรแกรมให้ลูกค้ากลุ่มไหน สงสัยมาก คือ ถ้าแบบแค่เรียนไรสักอย่างให้บรรลุละไปออกงานสอน ขายคอร์ส แล้วค่อยมารับงานนี่มันทำได้จริงๆกูจะลองก็อปตามมั่งดิ๊

904 Nameless Fanboi Posted ID6:2SVILLiWIg

https://monkeytype.com/

905 Nameless Fanboi Posted ID6:m3L/LM.2Rb

เห็นมีกระทู้เกี่ยวกับโปรแกรมเมอร์ แต่เราไม่ใช่นะ แต่ตอนนี้เรางงกับโปรแกรมของทางบริษัทนิดหน่อย คือบริษัทจะเป็นการหาข้อมูล การเก็บข้อมูล จากสื่อต่างๆ พวกรายการทีวี เว็บไซต์ นิตยสาร หนังสือพิมพ์ คือจะตามเก็บข้อมูลจำเพาะบางอย่างทั้งหมดที่ไปลงตามสื่อทุกอย่าง ทีนี่มันมีปัญหาตรง นิตยสาร และ นสพ. คือทางบริษัทจะมีโปรแกรมตัวนึง เอาไว้ใช้ ก๊อปปี้ตัวหนังสือ ตัว text ออกมาจากไฟล์สแกน ไฟล์ภาพ อะไรแบบนั้นอ่ะ สมมติ มีแผ่นป้ายโฆษณานึง หรือพวกแผ่นป้ายโครงการก่อสร้าง ทางบริษัทไปถ่ายมาเป็นภาพ ส่งภาพเข้าโปรแกรม มันก็จะได้ตัวหนังสือที่เห็นทั้งหมดในภาพออกมาจัดเก็บเป็นข้อมูล หรือพวก นสพ. มีข่าวอสังหานึง ก็สแกนจากนสพ.มา เอาภาพที่สแกนเข้าโปรแกรม ก็จะได้เนื้อหาข่าวนั้นมาทั้งหมด ทีนี้จู่ๆ ไม่รู้มันเกิดอะไร โปรแกรมมันอ่าน text ออกมาเพี้ยนบ้าง บางทีอ่านแค่บางบรรทัดบ้าง เลยทำให้มีปัญหาเวลาจัดเก็บ ต้องมานั่งตรวจ ไม่พอ ถ้ามันขาดๆ หรือเนื้อหาผิดเพี้ยน ต้องมานั่งตามพิมพ์ให้มันถูก แต่ก่อนมันเคยเป็นแบบนี้มาบ่อยๆ เหมือนกันนะ แต่ทางโปรแกรมเมอร์บริษัทก็แก้ไขอัปเดต font หรืออะไรนี่ล่ะให้มันไม่มีปัญหามาตลอด แบบ แก้แปปๆ ก็อ่านค่าได้ปกติ ทีนี้ จู่ๆมันก็เกิดแบบนั้นขึ้นอีก เป็นแบบนี้จนมาจะเกือบปีแล้ว คือทางบริษัทต้องรับสมัครคนมานั่งพิมพ์ คีย์ text เพิ่มเลยอ่ะ แล้วตัวโปรแกรมก็ไม่มีแก้ไขอะไรเหมือนแต่ก่อน เพราะโปรแกรมเมอร์ทีมเดิมออกไปแล้ว พวกที่มาใหม่ก็บอกว่า เดี๋ยวแก้ เดี๋ยวแก้ แล้วก็บอกว่าเป็นงานยาก ต้องใช้เวลาเป็นปี คือ หลายคนก็งง เพราะ คนก่อนทำ ก็แปปๆ ใช้งานได้ปกติ
คือ เราซึ่งไม่มีความรู้ด้านโปรแกรมเมอร์อะไรนะ อยากรู้ว่า มันยาก มันใช้เวลานานจริงมั้ย เห็นแผนกนั้นไม่ได้ทำงานอะไรเท่าไรเลย เห็นลงไปนั่งกินกาแฟข้างล่างกันจนหมดเวลางานก็กลับเกือบทุกวัน ก็เลยสงสัย

906 Nameless Fanboi Posted ID:.9oLdI5Dfx

>>905 ยาวหน่อยแต่อ่านให้จบนะ

เวลาเป็นปี = เอางี้โปรแกรมเมอร์เป็นงานกับไม่เป็นงาน ค่าจ้างแพงกับค่าจ้างถูก มันต่างกันตรงนี้น่ะ ตอบแบบนี้เข้าข่ายไม่อยากทำ หรือทำไม่เป็นเลยมั่วให้นานแล้วจะได้ไม่ต้องทำมากกว่า

ส่วนวิธีต้อง update font ไปเรื่อย อันนี้เดาว่าโปรแกรมทำมานานแล้ว สมัยก่อนยังไม่มี Machine learning มันต้องคอย updage font ตามเรื่อยๆ แต่มันไม่ใช่เอา font ใส่ได้เลยต้องไปยัดโปรแกรมแปลงอีกรอบ คนใหม่หาไม่เจอเลยโบ้ยมั่วซั่ว

ถ้ายังเหลือโค้ดเก่าอยู่ ปรับปรุงระบบใหม่แบบไม่ต้องแก้ซ้ำบ่อยๆ มันทำได้อยู่ อาจจจะมีค่าใช้จ่ายนิดหน่อย ไปใช้ API จาก third party จบไม่ต้องคอย update font ตามเรื่อยๆ ด้วย google ก็ได้ มันมีตัว clound vision api ให้ใช้เพียงแต่ต้องจ่ายค่าบริการรายเดือนนิดหน่อย ยังไงก็ถูกกว่าจ้างคนมีคีย์อ่ะ

ส่วนถ้าไม่มีงบ หรืออยากลองทำด้วยตัวเองดูก่อน เอางี้ google drive มันแปลงรูปเป็น text ได้นะ เอารูปใส่ google drive คลิกขวาเปิดด้วย google docs มันก็แปลงรูปเป็น text อัตโนมัติ ไม่ต้องมานั่งคีย์ ถ้าไม่เข้าใจก็ลองดูนี่ https://www.iphonemod.net/change-file-picture-to-text.html
* ปล.แต่ไงต้องตรวจทานเอาหน่อยกันพลาดนะ

907 Nameless Fanboi Posted ID6:m3L/LM.2Rb

>>906 ถึงจะไม่ค่อยเข้าใจในบางเรื่องแต่ก็ขอบคุณมากๆ ตอนนี้กำลังคุยกับคนในบริษัทหลายๆคนอยู่ว่าจะเอาเรื่องนี้ไปพูดกับข้างบนเกี่ยวกับพฤติกรรมคนนี้ยังไง เห็นยกโน๊ตบุ๊กลงไปร้านกาแฟข้างล่างบอกว่าเอาไปเขียนโค๊ดแก้เรื่องโปรแกรมตัวนี้ตั้งหลายเดือนล่ะไม่เห็นเสร็จซะที

908 Nameless Fanboi Posted ID6:m7PaXqQvH5

>>905 กูไม่เคยทำโปรแกรมแนวๆนั้น แถมไม่ได้เจอหน้าหรือพูดคุยโปรแกรมเมอร์คนนั้น ไม่ได้เห็นโค้ดหน้างาน ก็คงตอบได้แค่กลางๆนะ
กูแชร์ความคิดเห็นของกูจากที่อ่านเป็นข้อๆละกัน มันมีประเด็นย่อยๆจุกจิกเยอะ แล้วกูไม่รู้จะเรียงยังไง

- ไอ้ปัญหาคนเก่าออกแล้วคนใหม่เข้ามาแทนแก้ของเดิมไม่ได้เป็นปัญหาคลาสสิคของวงการนี้อยู่แล้ว ซึ่งมันก็เกิดได้จากหลายสาเหตุประกอบกัน
มีทั้งปัญหาที่เกิดจากคนเก่า เช่นวางโครงไว้ไม่ดี ไม่ยืดหยุ่น ไม่ทำอะไรอย่างที่ควรจะทำจนคนมาทีหลังทำความเข้าใจได้ยาก ปัญหาที่การส่งต่อความรู้จากคนเก่าไปให้คนใหม่ไม่ดี ไม่มีเอกสารทิ้งไว้ให้ ปัญหาที่คนใหม่มันไม่มีความรู้หรือไม่เก่งจริงๆ แต่เวลาเกิดปัญหาคนใหม่มักจะซวย เพราะภาพที่คนเห็นมันคือคนใหม่ทำงานไม่ได้
- เรื่องต้องใส่ font เข้าไปเนี่ย กูแค่รู้สึกว่ามันฟังดูแปลกๆ เดาว่ามันอาจจะไม่ใช่การใส่ font เข้าไปจริงๆ แต่เค้าอธิบายแบบง่ายๆให้คนนอกเข้าใจ เนื้องานที่ต้องทำอาจจะมีอะไรมากกว่านั้น แล้วสำหรับรูปที่มันมีปัญหาตอนคนใหม่เข้ามาแล้วมันอาจจะแก้ยากกว่าจริงๆก็ได้
- เป็นไปได้มั้ยว่าปัญหาบางส่วนอาจจะเกิดจากรูปที่ป้อนเข้าไปช่วงหลังๆด้วย เช่นรูปเบลอ สแกนมาความละเอียดไม่ชัดเท่าของเก่า โปรแกรมที่เคยอยู่ของมันดีๆเลยทำงานได้ไม่ดีเท่าเดิม
- ถ้าแก้ของเก่ามันยาก อาจจะเพราะเทคโนโลยีหรือแนวทางเดิมที่วางไว้มันไม่ดีก็ตาม ลองยอมให้รื้อทิ้งทำใหม่มั้ย บางทีดูเหมือนยากและเปลืองกว่า แต่เป็นผลดีกว่าในระยะยาวก็ได้
- เรื่องที่บอกว่านานแล้วไม่ทำซะทีเนี่ย จากที่อ่านกูเดาว่าโปรแกรมเมอร์ไม่ได้ดูแค่ระบบนี้ แต่น่าจะมีงานอื่นๆด้วย ถ้าเป็นแบบนี้ก็ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการลำดับความสำคัญของงานด้วยว่าใครเป็นคนจัด เค้าให้อันนี้อยู่ต่ำเพราะมองว่าไม่แก้มันก็มีทางออกด้วยการกรอกมือไปก่อนรึเปล่า แล้วมีงานอื่นที่มันสำคัญกว่าเข้ามาตลอดจนไม่ได้เอาอันนี้มาทำซักที ถ้ามึงเดือดร้อนก็ต้องไปเจรจากับคนจัดลำดับว่าให้เค้าเลื่อนลำดับงานนี้ขึ้นมาได้มั้ยเอา
- เรื่องไปนั่งร้านกาแฟมันก็เป็นได้ทั้งนั่งในออฟฟิซแล้วมีคนมาถามหรือขอให้ทำนู่นนี่จนไม่มีสมาธิทำต้องหนีไปทำที่อื่น หรือจริงๆไปนั่งอู้งานให้ไกลหูตาไกลตาคนอื่น

909 Nameless Fanboi Posted ID6:VoxQEwFJuk

เอาเรื่องบ่นไปเมื่อวาน วันนี้อัปเดท ใช้งานได้ปกติแล้ว

910 Nameless Fanboi Posted ID6:pv0f/4yxxt

https://youtu.be/m8Icp_Cid5o
system design

911 Nameless Fanboi Posted ID6:pv0f/4yxxt

https://www.youtube.com/watch?v=xpDnVSmNFX0&list=PLMCXHnjXnTnvo6alSjVkgxV-VH6EPyvoX

912 Nameless Fanboi Posted ID:itjCoMoDQa

https://narunc.medium.com/เงินถูกดูดหายหมดบัญชี-จริงๆแล้วเกิดอะไร-ยังไง-a070fee9e1c7

https://www.blognone.com/node/132272

บทความเกี่ยวกับเรื่องแฮคดึงเงินจากแอพธนาคารที่เป็นข่าวบ่อยๆ ที่ตอนแรกกูก็งงว่าในทางเทคนิคมันทำยังไง
เจอ 2 อันนี้อธิบายได้ดี เห็นน่าสนใจเลยมาแชร์

913 Nameless Fanboi Posted ID6:h/ZDRFd8f7

เรื่องเล่าโปรแกรมเมอร์ ตอน "จากติดลบสู่ โปรแกรมเมอร์ 100 ล้าน"
สวัสดีเพื่อนๆ ทุกคนครับ วันนี้ขอพาทุกท่านย้อนเวลากลับไป 7 ปีก่อน
วันนั้นเพื่อนผมคนหนึ่งซึ่งเป็นเจ้าของบริษัท ซอฟแวร์เฮ้าส์แห่งนึง
ได้ทักมาหาพูดคุยกันตามปกติ แล้วตบท้ายด้วยเรื่องราวน่าสนใจกับไอเดียใหม่ของเขา นั่นคือ การทำระบบร้านค้าออนไลน์ แบบจัดการออเดอร์จาก woo, magento ในที่เดียว แม้จะมีเป็นสิบเว็บ ก็จัดการแค่จุดเดียวจบ
ตอนนี้ได้เงินจากนักลงทุนมาแล้วก้อนนึงเล็กๆ 2 ล้าน
...
ในนาทีนั้นยอมรับเลยว่าผมมองไม่เห็นว่ามันคืออะไร ก็แค่ระบบจัดการออเดอร์ไปต่อ API ของ Woo, Magento ไม่มีตรงไหนว้าวเลย
...
และแล้ววันเวลาผ่านไป
1 ปีนับจากวันนั้น เขาได้เริ่มสร้างตัวเว็บออกมาเป็นเรื่องเป็นราว ใช้งานได้ระดับนึง แต่มันก็ยังขาดทุนนะ คือยังไม่ทำกำไรนั่นล่ะพูดง่ายๆ งบที่มีก็เผาหมดสิ้นไปแล้วเรียบร้อย
เอาจริงๆ นะเงิน 2 ล้านจ้างคนเขียนโปรแกรมแค่ 1-2 คนกับ SA, Designer 1 คนนี่ก็แทบจะหมดละ ยังต้องมาจ่ายค่าโสหุ้ยต่างๆ อีกสารพัดในออฟฟิศ มันไม่แปลกอะไรเลยที่เงินจะหมดสิ้นไปก่อนทำกำไร
ผมก็หัวเราะในใจ เห็นมะ กรูว่าแล้วไหมล่ะ อีกหน่อยแม่มเจ้งแน่ไอ้โปรเจคนี้ เขาเจ้งกันเยอะแยะพวกสตาทอัพ ไม่ดูข่าวบ้างหรือไง เห้อ
...
เพื่อนผมไปขอเงินนักลงทุนเพิ่มอีก ก็คนเดิมนั่นล่ะเขาลงเงินมาอีกก้อนนึง คราวนี้ได้มา 10 ล้าน คงเพราะเขาเห็นตัวเลข user ที่เข้ามาใช้ระบบ กับได้เห็นตัวงานแล้วว่ามันใช้ได้จริงๆ ทำออกมาได้ ไม่ใช่การเอาเงินไปเผาเล่น
วันเวลาผ่านไปอีก 1 ปี
ก็ยังขาดทุนอยู่อีก (คือไม่มีกำไร) และเงินก็หมดไปพร้อมกองกำลังทีม Dev เต็มออฟฟิศ ผมเคยไปเยี่ยมเยือนที่ออฟฟิศช่วงนั้น เห็นมีกันเยอะนะ น่าจะราว 20-30 คน ทีมการตลาด ทีมเซลด้วย แล้วก็ทีมเทรนนิ่งลูกค้า
...
แต่แล้วผ่านไปอีกปี ถ้าผมจำตัวเลขไม่ผิดนะ โปรเจคนี้ก็ยังคงขาดทุน (ไม่มีกำไร) 3 ปีรวด รู้สึกจะติดลบไปหลายล้านเลยแหละ
ในหัวผมคิดเลยว่าคงมีแต่คนบ้าเท่านั้นล่ะ ที่เล่นเสียแล้วเสียอีกก็ยังจะลงไปเล่น รอให้หมดตัวก่อนหรือไงถึงจะเลิก
...
วันเวลาของเขามาถึงแล้ว
ในปีต่อมาของโปรเจคนี้ฐานลูกค้าแน่นเข้าเรื่อยๆ โปรดักเองก็มีฟังชั่นเยอะมากขึ้น มีทั้งพวก Sale Page, E-Commerce ต่อกับ Lazada, Shoppee ต่อกับ PEAK Account, Flow Account, Zort, และอื่นๆ เรียกว่าเกาะทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับโลกการซื้อขายออนไลน์
โยงไปถึง Facebook Page, Live และอะไรอีกเต็มไปหมด
นั่นล่ะฮะท่านผู้ชม กำไรของปีที่ 4 ฟาดไป 20 กว่าล้าน
และในปีต่อๆ มาก็โดดไปเรื่อยๆ 35 ล้าน 50 ล้าน และไปจนหลักร้อยล้าน
...
แต่ก่อนไปกรุงเทพ ผมจะได้แวะหาเพื่อนคนนี้เป็นประจำ
ดื่ม กินเที่ยว ด้วยกันเสมอ แต่ตอนนี้เขากลายเป็นคนร้อยล้าน ที่ไม่มีเวลาได้คุยกันอีก และผมเข้าไม่ถึงตัวเขาแล้ว หวังใจว่าสักวันเราจะได้พบกันในบรรยากาศเก่าๆ ที่เคยได้สนุกสนานแบบเป็นกันเอง
เรื่องราวของเพื่อนคนนี้สอนให้ผมรู้ว่า
โลกของการทำธุรกิจ แพ้ 10 ครั้งไม่เป็นไร ขอแค่เพียงชนะหนเดียวก็คุ้มแล้ว
และอีกหนึ่งบทเรียนที่ได้รับ
มันไม่ได้สำคัญหรอกว่าเราหมัดหนักแค่ไหน
แต่สำคัญว่าเรารับหมัดได้หนักและนานแค่ไหนต่างหาก
...
ทิ้งท้าย
ผมขอแสดงความยินดีกับความสำเร็จของเพื่อนคนนี้
ถ้าหากเขามาอ่านบทความนี้ ก็จะรู้ว่าผมเขียนเรื่องราวของเขาอยู่
อยากบอกกับนายว่า นายคืออีกหนึ่งแรงบันดาลใจให้เราต่อสู้ยามท้อ
ความสำเร็จที่นายพิสูจน์ให้เราได้เห็นกับตา
มีค่ากว่าพวกตำราเรียน หรือคำสวยๆ จากไลฟ์โค้ชเป็นร้อยเท่า
ขอบคุณกับเบียร์ทุกขวดที่เคยเลี้ยง
ขอบคุณเรื่องราวที่นายไม่ได้เล่า แต่เราเห็นด้วยตัวเอง
นาทีนี้ ขอยอมรับและคารวะจากใจ อย่างไร้ข้อกังขาทุกประการ
นายไม่ได้เป็นแค่โปรแกรมเมอร์ที่เก่ง
แต่นายเป็นผู้บริหาร นักการตลาด ที่เก่งมากๆ คนหนึ่ง
...
กำแพงเมืองจีนไม่ได้สร้างในวันเดียวฉันใด
ความฝันอันยิ่งใหญ่ก็ไม่ได้สร้างกันในวันเดียวฉันนั้น

เอาบทความดีๆ จากอาจารย์ท่านนึงมาฝากจวั๊ฟ

914 Nameless Fanboi Posted ID6:pvueAm8rmw

วันนี้มีประชุมใหญ่ประจำปีของบริษัท แล้วมีพูดเรื่องนวัตกรรม แต่ละเรื่องที่พูดยังวนเวียนอยู่กับเรื่อง เงินคริปโต NFT Metaverse กันอยู่เลย
คืออยากโชว์ว่าตามเทรนด์ก็ช่วยอัพแพทช์กันหน่อยเถอะ ชาวบ้านชาวช่องเค้าถอนสมอหนีเรื่องพวกนี้กันไปถึงไหนแล้ว
ที่หนักสุดคือคนนึงออกมาพูดชื่นชมนวัตกรรมเครื่องตรวจเลือดของ Elizabeth Holmes คือเค้านอนหลับไปหลายปีแล้วเพิ่งถูกปลุกให้ขึ้นมาพูดหรอ

915 Nameless Fanboi Posted ID:rgBpuxR1tH

สวัสดีครับ มีพี่ๆเพื่อนๆคนไหนพอจะแนะนำเกี่ยวกับ bootcamp ของ Generation Thailand หน่อยได้ไหมครับ หารีวิวมาหลายที่แล้วก็ไม่เจอ เห็นเปิดมา 4 ครั้งแล้ว มันดีไหมครับ

916 Nameless Fanboi Posted ID:+xm8VM0x8x

รู้สึกหมดไฟจริงจังว่ะ จากตอนแรกแค่ขี้เกียจทำงาน ตอนนี้งานอดิเรกเขียนโปรแกรมเล่นๆที่แต่ก่อนทำได้ไม่มีเบื่อก็ขี้เกียจทำซะแล้ว

917 Nameless Fanboi Posted ID6:JUnAoBteqF

อัพเดตชีวิตตอนนี้ อายุ 30 แล้ว อยากหางานประจำ อยู่ยาวเกษียณ ตอนนี้ทำ outsource บริษัท finance, banking อยุ่ ได้แค่เกือบๆ 70k เอง (เหมือนที่นี่เงินเดือนที่เค้าให้ได้ใกล้ตันแล้ว แล้วเงินนี้มันน้อยไปไหมถ้าเทียบกับพวกนาย ประสบการณ์ 6 ปีครึ่ง) เอายังไงกับชีวิตดี พี่ พนง ประจำ ที่เคยทำงานด้วยกันที่ลาออกไป ก็แนะนำว่า เรามาสายนี้ก็ไปสาย finance banking ต่อไปเถอะ เงินดี พวกนายคิดว่าไงบ้าง
ไม่ได้มาบอร์ดนี้นาน

918 Nameless Fanboi Posted ID6:8vGILSXzZk

>>917 ไหนๆก็มาทางนี้แล้วถ้าไม่รังเกียจก็ทำสายนี้ต่อก็ได้มั้ง
ถ้าไม่ชอบความเรื่องเยอะของแบงค์ เดี๋ยวนี้ก็มีที่ๆเค้าปรับเปลี่ยนแนวทางแล้ว หรือไม่ก็ไปอยู่บริษัทลูกของแบงค์แทนได้
เปลี่ยนเป็นประจำแล้วเรื่องเงินเดือนอย่าดูแค่ตัวเลข อย่าลืมเทียบปัจจัยอื่นๆด้วย
อย่างสวัสดิการ โบนัส (ซึ่งเอาจริงๆแม่งก็เอาแน่นอนไม่ค่อยได้) ความหนักของงาน โอกาสเติบโต ฯลฯ

919 Nameless Fanboi Posted ID6:mSi2.ixq3V

โม่งกุถามหน่อย
อุปกรณ์ iot ที่กุใช้อยู่มันมีให้เลือกส่งค่าเป็น json โดยใช้ https protocol
ถ้ากุอยากจะอ่านค่าที่ส่งไปต้องทำยังไงบ้าง

920 Nameless Fanboi Posted ID:XrBQTfIqX6

>>917 ต้องไปหางานทำต่างประเทศที่ค่าแรงสูงกว่าไทยมากๆ เพื่อที่ทำงาน 10ปี แล้วหอบเงินมาใช้ในไทย 20ปี นอกนั้นก็คิดไม่ออกแล้ว

921 Nameless Fanboi Posted ID6:NWCS5Bt9VF

เพื่อนโม่ง ในนี้มีใครทำงาน/มีเพื่อนทำงานสาย IT ในบริษัทรถไฟฟ้า B*S,M*T มั่งปะ อยากรู้ว่าเงินเดือนกับสภาพแวดล้อมเป็นไงมั่ง เห็นเขาเปิดรับสมัครอยู่ อยากไปลอง แต่ก็อยากได้ข้อมูลไว้เตรียมตัวด้วย

922 Nameless Fanboi Posted ID:UaxpfpcVUq

>>917 ถ้าเรื่องเงินเดือนว่าน้อยไปมั้ย กูตอนนี้ทำมา 2 ปี 50k อะ ถ้าดูเรตขึ้นเงินเดือน 6 ปีก็คงเท่ามึงคือ 70k ซึ่งตอนนี้เงินเดือนกูสูงสุดในกลุ่มกูนะ คิดว่าไม่น้อยเลย อายุ 30 salary 70k เนี่ย

923 Nameless Fanboi Posted ID6:.C02oWYIIl

kbtg ดีไหมพี่โม่ง

924 Nameless Fanboi Posted ID6:r83pJtXV9V

>>923 มาเขียน Golang กัน

925 Nameless Fanboi Posted ID:MXm5QvsA1m

>>922 กุ 917 เอง ตอน ปสก 2 ปี ออกมาเปน os กุยัง 38k อยุ่เลย ตอนนั้นทำงานประจำเริ่มต้น ได้น้อย (เพราะกุไม่ค่อยเด่นหรือโปรไฟล์ไม่ค่อยดี) พอย้ายมา outsource เลยพึ่งเริ่มขยับ

926 Nameless Fanboi Posted ID:nbQiiQaVC4

ต้องทำงานกับคนแผนกอื่นที่ตำแหน่งและอายุก็ไม่ได้น้อยแล้ว แต่ต้องมาเถียงกับมันเพราะมันไม่เข้าใจว่า empty string กับ null ไม่เหมือนกัน กูจะบ้าตาย

927 Nameless Fanboi Posted ID6:BQe2DczZAj

กุอยากรุ้พวกหา โปรแกรมเมอร์ที่ใน กลุ่ม job for thai programmer เช่น salary up to 100k 120k 150k มันเอาโปรแกรมเมอร์ไปทำไมวะ โค้ดเฉยๆ ทำทุกอย่าง เป็น lead, senior หรืออะไร ทำไม

928 Nameless Fanboi Posted ID6:ffBOzsL+bu

>>927 ลองเข้าไปดูต้นทางสิงาน recruit ทั้งนั้นแหละ หามาหลายคนแล้วกรองๆ จับส่งให้ บริษัทที่ต้องการด่วนอีกที และถ้าเงินเดือนให้สูงผิดปรกติให้เข้าใจไว้ก่อนมักเป็น contract ที่เช็นไว้รัดกุมมาก ถ้าว่ากันง่ายๆ คนมาพัฒนา software มันถูกกว่าจ้างบริษัทข้างนอกทำให้ไง แล้วก็ระวังไว้หน่อยว่าถ้าชื่อโนเนมก็ one for all ไปประชุม แล้วทำทุกอย่างเองเลยจนส่งงาน รวมทั้ง present เองด้วย ไม่ต้องมี lead senior อะไรทั้งนั้น

929 Nameless Fanboi Posted ID6:gnhCLgGHR5

กุรุ้สึกตันๆกับงานที่ทำอยู่
ทุกวันนี้ทำเกี่ยวกับพวก iot ดูทั้ง hardware พวก sensor gateway router, software ก็พวก database api dashboard
มันพอจะไปต่อทางไหนได้อีกไหมวะ

930 Nameless Fanboi Posted ID6:Yck3U.hDc2

พี่โม่ง น้องทำงานมาปีครึ่ง ยังไม่มีโบ ไม่มีปรับเงินเดือน ย้ายเลยดีไหม หรืออยู่ต่ออีกหน่อย

931 Nameless Fanboi Posted ID:T8M43ZlUnF

>>930 ย้ายเถอะ ปีครึ่งไม่มีโบ ปกติครบ 1 ปีต้องมีโบแล้วนะ หรือไม่ก็ปีนิดๆ หรือไม่ก็ควรเฉลี่ยโบมาให้หน่อยถ้าอายุงานยังไม่ครบ อ่อ เงินเดือนด้วย ครบ 1 ปี มันควรจะปรับได้แล้วนะ ลองคุยกับทาง hr ดุก่อน แต่อย่าใจอ่อน เสียเวลา

932 Nameless Fanboi Posted ID:D5Ui3WIOC4

>>930 จากความเห็นส่วนตัวกู อันนี้บริษัทที่มึงอยู่ไม่เข้าท่าแล้วล่ะ หาทีใหม่ด่วนๆ

ลักษณะนี้มันต้องมีปัญหาภายในแหงๆ แบบผลประกอบการย่ำแย่ มันถึงไม่มีการปรับอะไรขึ้นเลย มึงรีบโดดออกมาเถอะ

933 Nameless Fanboi Posted ID6:cdkcnblpn8

>>931 >>932 จบิงด้วย น้องเพิ่งทำงานมางานแรกเลยไม่รู้ว่าแบบนี้ปกติไหม เดี๋ยวลองหางานใหม่ดูละ ข่อม

934 Nameless Fanboi Posted ID:Ed6CaUsvts

ขอ how to ทำงานกับ ux/ui แบบไม่ให้หงุดหงิดหน่อย

935 Nameless Fanboi Posted ID:KJm14qBgy9

https://twitter.com/Grady_Booch/status/1697450877676892455?s=20
LMAO

936 Nameless Fanboi Posted ID:JW+eaNVsBy

https://twitter.com/flaviocopes/status/1700085401740861867?s=20
😂

937 Nameless Fanboi Posted ID6:bEe5ZQZRha

อย่าหาว่าโม่งสอน ไม่ต้องเสียเวลาไปเรียนหรอกคอร์สเทสเตอร์ไรพวกนี้ ส่งไปกี่บ.เขาก็ไม่เอา คอร์สขายฝันหลอกคนจบไม่ตรงสายย้ายงานไปไอที หมดค่าคอร์สเรียนเป็นหมื่นได้ใบเซอร์มาแต่สมัครงานไปหลายที่เขาก็ไม่เอา โดนตอกกลับมาว่ารับแค่คนจบตรงสายอยู่ดี

938 Nameless Fanboi Posted ID:JzFDcBU4EF

>>937 สมมติว่าจบราดพัดแต่ตรงสายนี่แม่งก็ยังมีโอกาสกว่าจบไม่ตรงสายย้ายไปไอทีอีกเหรอวะ?

939 Nameless Fanboi Posted ID6:Sa68/aHI+v

>>938 ปกติสัมภาษณ์ไม่ดูผิวเผินแค่จบที่ไหนมาหรอก สายนี้โดยมาก (ย้ำว่าโดยมากนะ) ไม่ได้สนใจเรื่องวุฒิมากมายอะไรด้วย
มันต้องให้ทำข้อสอบ ถามทดสอบความรู้ ความสามารถ ดูทัศนคติก่อนถึงจะเทียบว่าได้จะเลือกคนไหน
แต่ปัญหาคือเด็กจบมหาลัยไม่ดังแล้วเป็นเด็กจบใหม่อีก กับคนย้ายสายที่เอา cer คอร์สขายฝันมาแปะ
มันก็มีสิทธิที่ resume จะโดนเขี่ยออกตั้งแต่ยังไม่สัมภาษณ์สูงทั้งคู่เลย
แล้ววงการนี้มักไม่รับเด็กจบใหม่กันด้วย ส่วนมากเค้าอยากเลือกคนที่มีประสบการณ์ประมาณนึงแล้วมากกว่า

940 Nameless Fanboi Posted ID6:R4ctD/xL1k

>>939 จะบอกว่าไม่ต้องเรียนจบก็ได้ กูเอาประสบการณ์อย่างเดียว ถ้างั้นทำไมพวกที่โดนไล่ออกอายุเกิน 30 แม่งก็ไม่เอาอยู่ดี แต่จะเอาอายุ 20ปี ประสบการณ์ 5-10ปีขึ้นไป คือมึงจะรับเด็กที่ไม่เรียนหนังสือ แล้วทำงานตั้งแต่อายุ 10-15ปี เรอะ??????

941 Nameless Fanboi Posted ID:5kJDl7aZg9

>>940 ใช่ ไม่รู้หรอว่าวงการนี้เค้ารับแต่คนมี passion กัน ไม่ใช่ที่ของพวกปลอมเปลือกเรียนคอร์สขายฝันมาหวังรวยทางลัดหรอกนะ

942 Nameless Fanboi Posted ID6:R4ctD/xL1k

>>941 เอาเด็กมีพาสชั่นมา ไม่มีวุฒิ พออายุ 30 แม่งก็ต้องไปคอร์สปลอมเปลือกอยู่ป่ะ เพราะเรียนไม่จบ สุดท้าย ก็ต้องไปหลอกเด็กมีพาสชั่นฝูงใหม่มารึไง

943 Nameless Fanboi Posted ID:5kJDl7aZg9

>>942 คิดว่าวงการนี้คนอายุ 30 ที่มีผลงานติดตัวต้องมาหาวุฒิแปลว่ามึงไม่รู้อะไรไม่ก็เคยทำงานแต่กับบริษัทกากๆแล้วล่ะ

944 Nameless Fanboi Posted ID6:R4ctD/xL1k

>>943 บริษัทส่วนใหญ่ก็บริษัทกากทั้งนั้นแหละ หรือจะบอกว่าไม่มีวุฒิ แต่ประสบการณ์อย่างเดียว 20-30ปี จ้างเลย เดือนละแสน(ถึงป่ะวะ????) งี้น่ะเหรอ

945 Nameless Fanboi Posted ID:5kJDl7aZg9

>>944 อ่า เครๆ อยากเชื่อแบบนั้นต่อไปก็ตามใจมึงละกัน

946 Nameless Fanboi Posted ID:Mkq7MlVLYL

พวกบูชาใบปริญญาหลุดมาจากไหนวะ 🤮

947 Nameless Fanboi Posted ID6:MgWksXSUjb

https://twitter.com/remino/status/1702108812873011316?s=20
เรื่องแค่นี้ต้องดราม่าเลยเรอะ กูเห็นแอค htmx ก็ชอบเล่นมุกอะไรแบบนี้อยู่แล้ว
ไม่แน่ใจว่าฝั่ง bun ไม่เก็ทว่าเป็นแค่มุกเล่นเอาฮาเลยดราม่า หรือจริงๆรู้อยู่แล้วแต่ก็จะดราม่าอยู่ดี

948 Nameless Fanboi Posted ID6:7.gqEwMEU2

>>944 ไอที มันมีหลายสาขา ถ้าพวก network / system ที่ทำแบบเป๊ะๆ มีรูปแบบตายตาย พวกนี้ใบเซอร์มีค่าในการพิจารณา มากกว่าวุฒิ
คือวุฒิมันจะพิจารณายังไง ในเมื่อวิชาที่เรียนอยู่กับงานที่ใช้มันไม่ตรงกันเลย (ยกเว้นส่วนภาษา)

ส่วนโปรแกรมเมอร์ อันนี้เนื่องจากภาษา กับเครื่องมือ มันเปลี่ยนบ่อย แล้วโปรแกรมมันแตกเป็นหลายรูปแบบ ทำเกม ทำเวป ธรุกิจ โรงงาน โรงแรม บัญชี ทำเครื่องมือ ระบบอัตโนมัต ระบบขนส่ง..... etc ดังนั้นวิธีคัดคนฝั่งโปรแกรมเมอร์ถ้าเคยมีพอร์ทงานอะไรคล้ายๆ กัน ก็รับมาทำแค่นั้นแหละ หรือถ้าหาไม่ได้จริงๆ ก็ทำข้อสอบในส่วนระบบที่คิดว่าต้องใช้เอา

ส่วนซัพพอร์ต อันนี้ฐานต่ำสุด มึงประกอบคอมลง windows ได้ เข้าหัว lan ได้หน่อยก็รับ แถมวุฒิไม่ต้องใช้ด้วย พวกนี้เน้นถูกเป็นหลัก
และส่วนมากพวกนี้ก็ไม่ได้ทำตลอดชีพหรอก ทำได้ซักพักมักหนีไปสอบ network / system เอาทีหลัง

949 Nameless Fanboi Posted ID6:GdhDONvKrz

https://twitter.com/java/status/1704127335983644701
Java LTS ใหม่ออกแล้ว ที่ออฟฟิซ service เก่าๆบางตัวยัง Java 8 อยู่เลย 555

950 Nameless Fanboi Posted ID6:n+EbBRQRd4

>>946 สวัสดีครับครูพรี่บีม

951 Nameless Fanboi Posted ID:ID2Xo1UgKi

งานสาย DevOps มีอนาคตแค่ไหน กูไม่ชอบและพยายามจะหนีแต่ก็หนีไม่รอด ทำงานที่ไหนเขาตำแหน่งอะไรก็ลากกูมาทำอยู่ดี จนตอนนี้ชื่อตำแหน่งกลายเป็น DevOps ไปแล้ว, head hunters ก็ทักมาแต่ตำแหน่ง senior devops engineer เอาดีไปเลยดีไหม

952 Nameless Fanboi Posted ID6:NdGjc9C6X9

สัมภาษณ์เส้นทางชีวิต ก่อนจะมาเป็น Software Engineer ที่ Google Switzerland (Part 1)
https://www.youtube.com/watch?v=GDjqr8klJOA

953 Nameless Fanboi Posted ID:XCYRgVmB0s

WFH ก็ดีอย่างนึง บางวันกุปวดหัว เปื่อยๆ ถ้างานไม่เยอะ หรือไม่รีบเท่าไหร่ก็พอได้พักบ้างแบบไม่ต้องใช้วันลา แต่มา recovery ทีหลัง หลังจากหายป่วยเพื่อให้งานเสร็จทัน

954 Nameless Fanboi Posted ID6:ixr76hQ.O1

มีใครเคยทำระบบแนวๆที่ต้องมี notification คล้ายๆที่มีในพวก SNS บ้างมั้ย
สงสัยว่าเวลาเก็บข้อมูลลงว่า notification ของ user แต่ละคนใครมี notification อะไรบ้าง อันไหนเห็นไปแล้วหรือยังไม่เห็นนี่มันเก็บกันแบบไหน
ถ้าเก็บลง Database ดื้อๆมันน่าจะเยอะมากจน query ช้าเป็นคอขวดของระบบ

955 Nameless Fanboi Posted ID:YZqJu1ygXm

จากที่หลายคนไปเจอมีม ว่ามีเดฟทำรายได้วันละ 100,000 โดยการทำงานละ 100 บาท ทำแค่วันละ 1,000 งาน ก็ได้ละวันละแสน
ถามว่าเป็นไปได้ไหม
ในหลักการปกติ เป็นไปได้ยากเพราะแต่ละงานใช้เวลาเขียนเยอะ
แต่ถ้าเราใช้แนวคิดใหม่ สร้างงานเดียวพอ ขายสัก 100 บาท เหมือนกัน แต่ขายคนได้ 1,000 คนในวันเดียว (ได้นะ เช่น แอพ หรือพวก SAAS) พวกนี้ เพียงแค่ว่ามันก็ไม่มีอะไรการันตีหรอกว่าคุณจะได้แบบนี้ทุกวัน
เรื่องของรายได้มัน dynamic อยู่แล้ว คนทำงานสายนี้เขารู้กันหมด
คำถามก็เลยกลายเป็นว่า ตกลงมันเป็นไปได้ หรือไม่ได้กันแน่
คำตอบคือมันเป็นไปได้ แต่ว่าคุณจะต้องสร้างอะไรบางอย่างให้มีคนอยากโหลด และยอมจ่ายเงินให้สิ่งนั้นวันละ 1,000 คน คนละ 100 บาท
หรืออาจจะปรับใหม่ ขาย 1,000 บาท ให้คน 100 คน (เออ ค่อยดูเหนื่อยน้อยลงหน่อย)
เรามองกันว่าพันบาทแพงไปไหม สำหรับผมนะ ไม่แพง ผมเองเคยซื้อแอพ ซื้อเซอวิส ซื้อโปรแกรมบางอย่างแพงกว่านี้ด้วยซ้ำ เช่น โปรแกรมอัดวีดีโอ ผมซื้อ 4,000 กว่าบาท หรือแอพพวก ToDoList, Mail Service และอื่นๆ ในราคาแพงกว่า 1,000 บาท
ลองดูครับ
ไอเดียเล็กๆ เป็นไปได้เสมอ แค่มองหาจุดขายให้เจอ
วันละ 100,000 ก็เดือนละ 3 ล้าน ปีนึง 36 ล้าน
ไปส่องรายได้ บ. เทคกันใน DBD มีคนทำได้เยอะแยะเลย ถ้านึกไม่ออก ไปดูของ อ. เล็ก แห่ง CodeMobiles ครับ เจ้านั้นเขาก็ทำรายได้อยู่ประมาณนี้
ขออนุญาตินะครับท่านเทพ อ. เล็ก เพราะข้อมูลพวกนี้ไม่ได้เป็นความลับอะไร ก็เลยขออ้างอิงหน่อย
แล้วก็มีอีกเยอะแยะหลายเจ้าเต็มไปหมด บางเจ้าเขาทำรายได้วันละ 1,000,000+ ก็มี อันนั้นเราจะไม่พูดกันละกันเนาะว่าเจ้าไหน

956 Nameless Fanboi Posted ID6:4OcShq+ZZx

>>954 ไม่ช้า เก็บลง db ธรรมดาเนี่ยล่ะ อย่าพึ่งไปโทษระบบ กฏง่ายๆ เวลาเขียน query update ยิงครั้งเดียว อย่าไป loop

957 Nameless Fanboi Posted ID:ulkxXslT3D

>>955 ตู้เต่าบินไง เดือนนึง วันนีงคนต้องกด100แก้วอย่างต่ำไม่งั้นยกตู้ออก

958 Nameless Fanboi Posted ID6:b3aC19.ZjH

>>957 บางจุดก็ไม่ถึงก็ไม่ยกหรอก ถ้ามีแนวโน้มยอดเพิ่มเรื่อยๆ ก็อยู่ต่อ หรือถ้ายังไม่มีที่ลงใหม่ก็อยู่ต่อเหมือนกัน

959 Nameless Fanboi Posted ID:TGUyr9rkca

จะไปลงวิทย์คอมของ มสธ เอาวุฒิดีมั้ยพี่โม่งแนะนำหน่อย แต่หนังสือแต่ละเล่มเนื้อหาทำไมมันเยอะนักวะ https://readonline.ebookstou.org/flipbook/22069/mobile/index.html#p=1

960 Nameless Fanboi Posted ID6:b3aC19.ZjH

>>959 น้ำ น้ำ water everywhere แถมอธิบายเรื่องง่ายเป็นเรื่องยาก ไม่รวมที่ว่าต้องเปิดย้อนไปย้อนมา
มึงไปเปิด youtube ค้น queue data structure พวกนี้อธิบายรู้เรื่องกว่า คลิปยาวไม่น่าจะถึง 10 นาทีดีด้วย

961 Nameless Fanboi Posted ID6:Fy678g9a1x

>>959 เห็นคำว่าเอาวุฒิเลยไม่แน่ใจว่าอันนี้คือมึงอยู่ ม.6 กำลังจะเข้ามหาลัย
หรือทำงานแล้ว แต่อยู่สายอื่นแล้วอยากย้ายมาทำ IT
หรือเขียนโปรแกรมเป็นอยู่แล้ว แต่อยากได้วุฒิมาเพิ่มความน่าเชื่อถือเวลาหางาน

เรื่องหนังสือเรียนกูว่าจะหนังสือไทยหรือของนอกมันน้ำเยอะเป็นปกติอยู่แล้วอ่ะ
ถ้าเน้นรู้เรื่องแนะนำว่าหาตามเว็บที่มีให้อ่านฟรี / tutorial วีดีโอบน youtube ดีกว่าอ่านหนังสือเรียนพวกนี้เยอะ
และนำแนะว่าอยากให้อ่านภาษาอังกฤษมากกว่า สำหรับคนไม่ได้ภาษาแรกๆมันก็ฝืนหน่อย แต่เดี๋ยวก็ดีขึ้นเอง
เพราะในการทำงานจริงมันต้องหาข้อมูลด้วยภาษาอังกฤษตลอกเวลา เอกสารก็เป็นภาษาอังกฤษ
ถ้าเรียนด้วยภาษาไทยมันจะงงคำศัพท์ และมีปัญหาอื่นๆตามมา และทำให้การทำงานติดขัดมาก

962 Nameless Fanboi Posted ID:8Ydvjbim96

>>961 อยู่สายอื่นว่ะ แต่สนใจพวกเขียนโปรแกรมเป็นงานอดิเรก

963 Nameless Fanboi Posted ID:8Ydvjbim96

>>961 เพิ่มเติมนิด ภาษาอังกฤษกูไม่มีปัญหาอ่าน Stackoverflowได้ เขียนโปรแกรมภาษา C พวกรีเคอร์ซีฟเป็น เข้าใจการทำงานของพอยเตอร์ IO ไม่มีปัญหา แต่พวกสายงานนี้ไม่แน่ใจวุฒิจำเป็นแค่ไหนไง เคยได้ยินมาบางคนเขาดูGithubโดยไม่สนวุฒิด้วยซ้ำ

964 Nameless Fanboi Posted ID6:BqItPAcE1Q

>>963 วุฒิจำเป็นแค่ไหนนี่กูคิดว่าก็ไม่เท่าไหร่ แต่ของแบบนี้มันก็แล้วแต่ที่ด้วย
มันจะยากเป็นพิเศษตอนหางานแรกที่เค้าจะรับคนไม่มีทั้งใบปริญญาและประสบการณ์การทำงานนี่แหละ
ต้องหาที่ๆใจกว้างประมาณนึง ยินดีสอนงานคน และทำให้คนรับเค้าเชื่อว่ามึงทำงานได้โดยไม่มีทั้ง 2 อย่างนี้ให้ได้
ซึ่งเวลาสมัครงานมีโอกาสที่ไม่ถูกเรียกสัมตั้งแต่แรก เลยจบตั้งแต่ไม่มีโอกาสได้โชว์ความสามารถ
แต่การมีโปรเจคส่วนตัวไปแปะใน resume มันก็ช่วยทำให้ดูดีขึ้นอยู่แล้ว ถ้ามีโอกาสก็ลองทำอะไรเล่นๆแล้วแปะไปเพิ่มดู

965 Nameless Fanboi Posted ID6:yPEeeIuP7G

>>962 เรียนแล้วช่วยโครตเยอะ ตอนเข้าไปทำงานใหม่ๆ ดึงข้อมูล ทำรายงานน่าเบื่อชิบหาย พอไปฝึกเรียนเขียน python m vba code หลังจากนั้นสบายๆเป็นแบบ auto งานไม่ซ้ำซ้อน แถม kpi มี km ผ่าน lv5

966 Nameless Fanboi Posted ID6:yPEeeIuP7G

หรือเบื่อๆ ฝึกเขียน malware หรือ trojan ก็สนุก เอาไปปล่อยใน discord
https://www.blackbox.chat/

967 Nameless Fanboi Posted ID:AbMUIU1tl5

>>965 พวกนี้ดู udamy เอาไวกว่า แล้วฐานข้อมูลที่ใช้เรียนกับทำงานจริง ไม่เหมือนกันซะทีเดียว เพราะ ในห้องเรียนมักไม่สอน การออกแบบฐานข้อมูลขนาดใหญ่

968 Nameless Fanboi Posted ID:xUbnUeCfud

>>967 จากประสบการณ์ส่วนตัวกูคิดว่ามันน้อยที่ที่จะต้อง design Database ใหญ่ๆ
ถ้าไม่นับพวกงานสาย data ที่ต้องเรียนเรื่องพวกนี้มาเฉพาะอยู่แล้ว
แต่ก็คิดเหมือนกันว่าเรียนจากคอร์สออนไลน์ดีๆนี่ดีกว่าการไปอ่านหนังสือเรียน หรือเรียนมหาลัย โดยเฉพาะถ้าไม่มีปัญหาเรื่องจะเอาวุฒิ

969 Nameless Fanboi Posted ID:pCR8qggH9W

รู้สึก project manager นี่แม่งหาคนพอดีๆยากจังวะ เจอประเภทไม่ใส่ใจ (เสือก) มากเกินไป ก็เป็นประเภทไม่ทำห่าอะไรเลย

970 Nameless Fanboi Posted ID6:g.lgK00oNU

มีใครทำบ.ต่างชาติที่ไม่มี hq ในไทยบ้าง ได้ยินว่าภาษีโหดกว่าทำบ.ที่มีสาขาในไทยนี่จริงรึเปล่า

971 Nameless Fanboi Posted ID6:yWReR3Yo1H

>>970 เรทปรกติ บริษัทบัญชีไม่คำนวณภาษีพลาดหรอก

972 Nameless Fanboi Posted ID:MZn1XDasVx

.....

973 Nameless Fanboi Posted ID6:2TrtGQi021

พี่โม่งคนไหนเคยมีประสบการณ์ title ไม่ตรงงานที่ทำไหม กำลังสงสัยว่าตัวเองกำลังถูกลิมิตเงินเดือนด้วย title: developer ทำดา แต่ทุกวันนี้เขียน ai/ml อะ แปลกป่ะ

974 Nameless Fanboi Posted ID6:vvLhrRWJrf

>>973 ai / ml มันจะเอาอะไรมากก็ dev อ่ะจะโวยทำไม. ฐานเงินเดือนมันอยู่กับบริษัทที่ทำงาน ถ้ามีฝีมือจริงก็ย้ายงานใหม่หาที่จ่ายหนักกว่าเก่าไม่ยาก

975 Nameless Fanboi Posted ID:M5HZm+QTAz

>>969 เห็นข้อความนี้แล้วกูอยากจะร้องไห้ เพราะตอนนี้กูเจอประเภทหลังอยู่ ไม่เห็นทำห่าไรเลยอ่ะ มีแต่ถามว่าตอนนี้กูทำอะไรอยู่ แต่ถึงรับรู้ไปมันก็ไม่เข้าใจอยู่ดีกว่ากูทำอะไรอยู่ คือสรุปตำแหน่งนี้มันมีไว้ทำไมวะ ? รู้สึกเหมือนแม่งทำนาบนหลัง dev ยังไงก็ไม่รู้ หรือกูเจอคนเหี้ย

976 Nameless Fanboi Posted ID:ShY8F49Sum

DEV ที่กูเคยเจอไร้ประโยชน์กว่า AI อีก

977 Nameless Fanboi Posted ID:1AF2pGlIpH

>>975 หลักๆ เลยตำแหน่งนี้เอาไว้คุยอย่างเดียว ไม่ว่ากับกับลูกค้า คุยกับเซล ทำงานกึ่ง AE หา Supplier ติดต่อปริษัท server / service / license ต่อรองกำหนดส่ง ประสานงานข้ามสาขา จัดคิวงาน

ไอ้ตำแหน่งนี้ไม่ต้องมีก็ได้ถ้า Dev ทำงานพร้อมคุยได้ตลอดวัน

กูเคยทำควบ PM กับ Dev นะ สรุปคือไม่รอดจ้า ประสาทจะแดกเอา ระชุมทั้งวันอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ เพราะต้องผ่านลูกค้าประสาทแดก Supplier ห่วยแตกนั่นแหละ ได้มาทำงาน Dev ได้ทำเอาตอนทุ่มนึงตอนนั้นก็คิดอะไรไม่ออกแล้ว สุดท้ายต้องโอนงาน PM ไปให้คนอื่นแทน

ปล. เวลาทำงานส่วนมากมันก็บ่นว่างานกูหนักสุดทุกคนนั่นแหละ เพราะมันมองเห็นแค่งานตัวเองไง เอาแบบ Sale ก็ได้ถ้าดูผ่านๆ ไอ้นี่งานไม่หนักเลยได้ยอดได้เงินเพิ่มและ บริษัทก็โอ๋มากไม่ต้องเข้างานก็ได้ แต่ถ้าลองไปทำจริงจะรู้ว่าเครียสชิบหาย บุคคลิกบางคนนี่ไม่เหมาะทำไม่ได้

978 Nameless Fanboi Posted ID:XZCgfSCS7y

>>977 กูคือคนที่บ่นนะ ขยายความเพื่อความเคลียร์ละกันว่าไอ้งานคุย+ทำเอกสารตาม process ของบริษัท ซึ่งเป็นหน้าที่ของมันโดยตรงมันยังไม่ทำเลย เฉไฉโยนให้คนอื่นคุยแทน/ทำแทน มีคนเหลืออดไปจี้ในที่ประชุมว่าแต่นี่มันหน้าที่มึงนะมันยังหน้าด้านหาข้ออ้างไม่ยอมทำเลย ส่วนถามว่าทำไมไม่ฟ้องผู้ใหญ่ คือนึกภาพบริษัทใหญ่มากๆ แถมในโปรเจคคือคนทีมไหนก็ไม่รู้มีเป็นสิบทีม ไม่รู้จะฟ้องใคร ฟ้องผู้ใหญ่ไปก็ดูเป็นคนขี้ฟ้องเปล่าๆอีก

979 Nameless Fanboi Posted ID:oP5UYlaN8W

>>977 PM ที่กูเจอไม่ทำอะไรเลยอ่ะมึง ไม่ต้องติดต่ออะไรด้วย ซึ่งจริง ๆ ต้องทำเอกสารนะแล้วก็ต้องช่วยทีมตัดสินใจในบางเรื่อง แล้วทีมกูก็เล็กมากมันไม่ต้องมีก็ได้อ่ะ เอา dev มาเพิ่มยังทำให้งานออกมาเยอะกว่าอีกอ่ะแต่ไม่เอา เอาคนไม่รู้ห่าอะไรมาเป็น PM ก็ไม่ได้เพิ่ม productivity ทีมอะไรอยู่ดี สรุปคือกูเห็นด้วยกับมึงตรงที่ว่าถ้า dev พร้อมคุยก็ไม่ต้องมีก็ได้ แต่ถ้าทีมใหญ่ stakeholder เยอะก็ควรมีอ่ะ มันจะทำให้การทำงานราบรื่นขึ้นมาก ๆ แต่ถ้ามีแล้วเหมือนไม่มีไม่ต้องมีดีกว่า

>>978 มึงเจอคนเหมือนกูเลยนะ คนที่กูเจอก็โยนแม่งตลอด เบลมเก่งเป็นที่หนึ่ง งานตัวเองไม่ทำไรเลยดีแต่พูดอย่างเดียว พูดทีก็ถามว่า dev จะเสร็จเมื่อไหร่ ทำไมอันนี้ไม่เสร็จ ทำไมอันนี้บอกเวลาเลยไม่ได้ แต่ไม่เคยคิดจะเข้าใจห่าไรเลย ลอยตัวเหนือทุกอย่าง กูก็อยากถามมากว่าจะมีไว้ทำไม แบบที่ดี ๆ ก็คงมีมั้ง แต่กูโชคร้ายไม่เจอ ดันเจอพวก free rider

980 Nameless Fanboi Posted ID6:ho.J2Trk39

Complex System, Emergent

981 Nameless Fanboi Posted ID:etL4CdN6X+

นอกเรื่องหน่อยเพื่อนโม่ง กูจะไปสาย FullStack ยุคนี้เวบมันมีโฮสเจ้าใหนดีๆบ้างสำหรับเวบแอป
แล้ว docker / kuber aws เรียนตัวใหนดี หางานในไทย
แล้วเวบขนาดใหญ่ lazada shopee nocnoc ใช้ตัวใหน
มือใหม่เปิดโลกทำเวบจ้า

982 Nameless Fanboi Posted ID:etL4CdN6X+

คือกูจะทำ demo project webapp + mobile + backend กะทำไว้ต่อยอดเป็น pitching project ด้วยเลย
แต่กูโง่เรื่องเวบมาก เพราะบ้านไม่รวย สมัยเรียนค่าโฮสแพงๆไม่มีจ่าย ทำได้แค่พวกโมบาย ตอนนี้มีตังแล้ว หน้าใหม่หัด FS

983 Nameless Fanboi Posted ID:uYcXOHyxqV

>>981 แค่หัดลง docker เครื่องตัวเอง กับเขียน code dev งานเอาให้รอดก่อน hosting เอาไว้ท้ายๆ เลย และหัดใช้งาน git ด้วย

984 Nameless Fanboi Posted ID:uYcXOHyxqV

>>981 แค่หัดลง docker เครื่องตัวเอง กับเขียน code dev งานเอาให้รอดก่อน hosting เอาไว้ท้ายๆ เลย และหัดใช้งาน git ด้วย

985 Nameless Fanboi Posted ID6:i5JOvFVwKe

>>981 มือใหม่ทำเว็บ หรือ มือใหม่หัดเขียนโค้ด

ตอนแรก ลง ngrok ไปก็พอ แล้วแก้ url เอาเรื่อยๆ

986 Nameless Fanboi Posted ID6:nzKgSTg+2P

กึ่งๆโดนบังคับให้มาเป็น team lead แล้วรู้สึกไม่ค่อยชอบเลยว่ะ อยากทำงานนั่งเขียนโค้ดเงียบๆ ไม่ต้องยุ่งคนอื่นเกินจำเป็น
ไม่อยากมาเข้าประชุม ทำดีไซน์ ทำสไลด์ บรีฟงานน้อง ตรวจงานน้อง คุยกับคนทีมอื่นแล้ว...

987 Nameless Fanboi Posted ID:apcVfXQ8T/

>>983 กูมีคำถามนะ ทำไมในThe odin projectแม่งแนะนำให้ใช้แมคเลยวะ? จริงๆถ้าจะไปสายงานนี้ใช้โน้ตบุ๊คทั่วๆไปก็ได้ไหม? แล้วสำหรับคนงบน้อยแบบ>>982 นี่ถ้าเริ่มไปสอยคอมCPU gen8-9 สภาพมือสองมาใช้เรียนจริงๆจังๆมันยังได้ไหมวะ?

988 Nameless Fanboi Posted ID6:j/XNP4NnPW

>>987 ก่อนจะมางอแง มึงลองสมัครแล้วเข้าไปอ่านก่อนเถอะโยม
ตัวที่ใช้งานมันก็แค่ตัวติดตั้งนะ สมมุติ html / css / javascript มึงก็ไปใช้ codepen เขียนบนเว็ปได้เลย กะอีแค่เปิดเว็ปอะไรก็ได้มือถือ table ได้หมด

ส่วน requirement มันคืกกรณี run บนเครื่อง ส่วนเหตุผลมันก็เขียนบอกว่าไม่อยากยุ่งยากเสียเวลาไล่เพราะแต่ละเครื่องชอบลงเหี้ยอะไรไว้หลากหลายต้องมา support พวกโง่งอแง config มั่วซั่วไป Mac / Linux จบๆ อย่างน้อยก็ไม่มีอะไรไปป่วนระบบมัน กรณีใช้ Win ก็ลง Virtual Machine รัน Linux ไปดิ

ปล. อยากให้สอนส่วนติดตั้งบน win ตรงๆ เริ่มต้นด้วยพื้นฐาน แล้วถ้ามึงเป็น newbie ด้วย กูแนะนำให้มึงไปซื้อ course udemy เหอะ

989 Nameless Fanboi Posted ID:.MfIHOZR.8

hello พี่โม่ง ว่าจะเรียนโทไอที เรียนที่ไหนดีครับ เล็ง ลาดบังกะ มศว ไว้อยู่

990 Nameless Fanboi Posted ID6:vHVDGhGIYS

>>988 แล้วทัมมัยต้องลงเรียน udemyให้เสียตังค์ด้วยวะ ในเมื่อThe odin project มันฟรี

991 Nameless Fanboi Posted ID:Kg8d9sZuG7

เห็นมีคุยกันเรื่อง front end สายเว็บ สงสัยว่าเวลาพวกมึงจะเลือก framework นี่เลือกจากอะไร
แล้วเคยรู้สึกว่าตัวเองเลือกผิด ต้องมาเริ่มเรียนรู้ใหม่หมดจนเสียเวลาเสียโอกาสบ้างมั้ย
คือกูเป็น backend แล้วเวลาฟังคนเป็น front end สายเว็บ คุยกันแล้วรู้สึกเหนื่อยแทน
ทั้ง framework เลือกผิดชีวิตเปลี่ยน กับเทรนด์ที่แม่งเปลี่ยนกันเป็นว่าเล่น

992 Nameless Fanboi Posted ID6:/pBnWBy9PB

>>991 มองแนวกว้างดูไม่ว่าภาษาไหน หรือจะวาดกระดาษ concept responsive ภาษาไหนก็เหมือนกันหมด ส่วนที่เหลือถ้าพวก web / app ยิ่งง่าย ให้ยึดหลัก html css ธรรมดาที่เหลือมันแค่ตัวช่วย (บางที framework เสือกช้ากว่าเขียนดิบ) วางโครงได้ที่เหลือ animation มันแค่แฟชั่น แฟนซี เอาจริง timing ถ้ามึงเคยเขียนเกมนี้หมูเข้าปาก

ส่วน backend web ช่วงหลัง ส่วนตัวแล้วถ้าไม่ใด้ทำอะไรบ้าบอคอแตก กูใช้ wordpress ปิดงานซะส่วนมากว่ะ เพราะถ้าใช้ framework เป็นทางการ รู้สึกเปลือง ในเมื่อส่วนที่จะใช้เดี๋ยวนี้มันมีให้ครบหมดแล้ว ต่อ firebase / cronjob / ap / แบ่งระดับ account มันทำได้หมด เลยใช้อะไรที่ปิดงานไวดีกว่า

993 Nameless Fanboi Posted ID6:PXG.HTyggQ

https://twitter.com/htmx_org/status/1742643471369019458
🤣

994 Nameless Fanboi Posted ID:4yxJgPtDpX

Agoda เปนไงบ้างพี่โม่ง รีวิวหน่อย

995 Nameless Fanboi Posted ID:6fpD1U2C7Y

มีใครเคยสัม lseg/abacus/techx บ้างอ่ะ อยากรู้สัมเป็นไงบ้าง

996 Nameless Fanboi Posted ID6:QGbUbH6n7S

>>>/tech/18177/

997 Nameless Fanboi Posted ID6:E+Li.7s9e8

เราจะวิจารณ์หรือด่า Solution ได้ยังไงถ้าเรายังไม่เข้าใจเลยว่าเขาจะแก้ปัญหาอะไร
สมัยก่อนคนหลายคนวิจารณ์ Go ว่าห่วยเพราะไม่มี Generic โดยไม่เข้าใจว่า Go มันออกแบบมาเพื่อเน้นแก้ปัญหาอะไร คือเขาต้องการ System programming language ที่มี Dev productivity ที่ดีและ Learning curve ต่ำ เขาก็เลยไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนั้นจนมันมาหลังๆ
สมัยนี้เห็นคนบ่นว่าเว็บ Complex กว่าทำ UI สมัยก่อน แต่ไม่ได้เข้าใจว่า Web app เดี๋ยวนี้มันมี Brand identity ที่ต้องใส่เข้าไปในแต่ละเว็บไซต์หรือแม้แต่เว็บแอพ ลองทำ ปุ่ม Label Textbox ที่แบบต้องได้สีได้ลุคแอนด์ฟีลที่ใช่ที่เข้ากับ Brand identity ในสมัยที่เรามี Winform ดิ เหนื่อยมากนะ
(นี่ผมยังไม่นับเรื่อง Interactivity นะ เว็บเดี๋ยวนี้กรอกฟอร์มเป็น Wizard แบบสมัยก่อนไม่ได้แล้วนะ)
บางคนอาจจะเถียงกลับว่า UI ที่ดีควรล้อเข้ากับ Native อะไรที่อยู่บนแมคก็ควรมี Look & Feel แบบแมค อะไรบนแอนดรอยด์ต้องเป็นตาม Guideline ของแอนดรอยด์ดิวะ ทำไมคนสมัยนี้ UX ทำตามใจแบรนด์ตัวเองหมดไม่เคารพแพลตฟอร์มเลย
อันนี้คือข้อแตกต่างระหว่างโจทย์ที่ว่า
"เราให้ความสำคัญกับปัญหานี้เยอะไปมั้ยทำไมเราต้องมาบ้าเรื่องทำ Custom UI ที่ตรงกับแบรนด์ Identity ขนาดนี้ มันใช่มั้ยเนี่ยที่จะเอาปัญหานี้มาเป็นจุดโฟกัสของงานแล้วสร้างเฟรมเวิร์คเยอะแยะไปหมด"
กับ
"ปํญหานี้ที่เราเลือกมาแล้วว่าจะแก้ เราจะสร้าง Custom UI ให้ได้แล้วเนี่ย เราได้สร้าง Solution ที่ดีสมเหตุสมผลมั้ย มัน Unnecessary bloat, ไร้ประสิทธิภาพและซับซ้อน complex เกินไปมั้ย"
เนี่ยเป็นข้อแตกต่างที่ชัดเจนมาก คำถามแรกคือ Design question ส่วนคำถามที่สองคือ Problem solving question สองโจทย์นี้เป็นโจทย์คนละระดับกันเลย มันเอามาปนกันแล้วจะงงไปหมด

998 Nameless Fanboi Posted ID6:E+Li.7s9e8

มันเหมือนคุณวิจารณ์ว่าค้อนแม่งแย่เพราะเอามาใช้ตีลูกปิงปองแล้วมันตีไม่เป็นโดนเลยเงี้ย มันไม่ได้เว้ย เออ คุณไม่สนใจเรื่องตอกตะปูสนใจแต่เรื่องตีปิงปองก็ไม่ผิดอะไรนะ แต่วิจารณ์ค้อนในกรอบที่ราวกับว่าคนสร้างและใช้ค้อนเขาไม่ได้อยากตอกตะปูแต่อยากตีปิงปองเนี่ยมัน..... ผิดที่ผิดทางไปหมด
ในซอฟต์แวร์นี่เจอบ่อยมากที่คนใช้เลนส์แบบฉันอยากจะตีปิงปองเลยวิจารณ์ทุก Design decision ราวกับว่าทุกๆ System ออกแบบมาตีปิงปอง
"Go ไม่มี Generic ไม่มี Type system ที่ดี กาก" โปรแกรมเมอร์ที่คิดว่าโลกนี้ Type safety เท่านั้นคือปัญหาที่สำคัญ
"Ruby on Rails ช้า กาก" โปรแกรมเมอร์ที่คิดว่า Machine performance เท่านั้นคือปัญหาที่สำคัญ
(ซึ่งแปลกไอ้แนวคิดแบบที่ว่าปัญหาที่กูสนใจเท่านั้นคือปัญหาสำคัญของโลกนี้ที่ทุกระบบต้องออกแบบโดยใส่ใจสิ่งนี้เป็นที่สุดนะเว้ย เจอบ่อยในโปรแกรมเมอร์ต่างชาติมากกว่าไทยแฮะ ถ้าจะมีอะไรที่คิดว่าโปรแกรมเมอร์ไทยโดยเฉลี่ยทำได้ดีกว่าก็เรื่องนี้)
"Modern web development สมัยนี้มัน Bloat และซับซ้อนไปหมด" เนี่ยเจอคนที่วิจารณ์อย่างเข้าใจว่า Modern tooling มันมีไว้แก้ปัญหาอะไรน้อยมากๆ คือผมก็คิดว่า Modern tooling มันมีอะไรให้พัฒนาได้เยอะและก็มีข้อให้ติเยอะมากเลยนะ
แต่เจอแบบ "ทุกคนควรกลับมาทำ DOM Manipulation เพราะมันเร็วกว่าเปลืองทรัพยากรน้อยกว่าและไม่ซับซ้อน" อันนี้คือดูไม่เข้าใจไปเลยว่านี่มันค้อนตอกตะปู ไม่ใช่ไม้ปิงปองเว้ย

999 Nameless Fanboi Posted ID6:E+Li.7s9e8

คือผมคิดว่าเราจำเป็นจะต้องเข้าใจว่า
1. Design กับ Problem solving มันเป็นโจทย์คนละแบบ การเลือกปัญหาที่ใช่ กับการแก้ปัญหาที่เลือกมาแล้ว มันคือโจทย์คนละอย่างกันเลย ถ้าไม่เข้าใจว่ามันคนละเรื่องก็จะมองหรืออ่าน Solution แบบผิดเพี้ยนไปหมด ยังไม่ต้องพูดถึงการวิจารณ์
2. การเลือกปัญหาให้มันทำผ่านการเข้าใจว่ามนุษย์เรามี Unmet need อะไรบ้างที่เป็นไปได้
3. ความสามารถในการเข้าใจ Empathize กับ Unmet need ที่ "ตัวฉัน" รู้สึกเฉยๆ เป็นทักษะสำคัญที่ต้องมีในการทำงาน Design Software, Solution and Architecture มากกกก มากกว่าที่หลายคนอาจจะตระหนักรู้ (อย่างเช่นหลายคนที่ทำงาน low-level ก็มีที่มองว่าไอ้พวกที่มันโอดร้องว่าอยากได้เครื่องมือที่ช่วยทำงานง่ายขึ้น ต้องการ Garbage collector มันก็แค่คนขี้เกียจไม่มีทักษะในการจัดการเมมโมรี่! เราต้องทำของที่ไวสิวะแล้วต้องเข้าใกล้ Machine level ให้มากที่สุดสิวะ! อันนี้ก็คือขาดสามารถในการ Empathize ไปเลย)
เลือกปัญหามาแก้ถูก บางทีทำงานไม่ตรงเป๊ะลูกค้ายังเซ็นผ่านเลย เลือกปัญหาผิดมาแก้ ตรงตามสโคปในสัญญาทุกตัวอักษรยังไฝว้กันได้เลย (ผมไม่ตัดสินละกันว่าอันนี้ดีหรือไม่ดี แต่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง)
นั่นแหละที่สอน Humanistic architecture ก็คือตั้งใจจะ Address เรืองนี้ เป็นคอร์สที่ผมอยากสอนที่สุด คิดเอาเองว่ามีประโยชน์กับโปรแกรมเมอร์ที่พร้อมรับ อย่างน้อยผมก็พบว่าสำหรับตัวเองมันเป็นแกนกลางการทำงานของผมเลย
บางคนอ่านคอร์สและอ่านรีวิวอาจจะงงว่าเรื่องแบบจิตวิทยา การเข้าใจตัวเอง การเข้าใจคุณค่าและพื้นฐานของความต้องการมนุษย์ มันเกี่ยวข้องกับ Software architecture design ยังไง งาน Software Architecture มันน่าจะเรียนเรื่องแบบ Distributed system, database, horizontal scaling, idempotency, design pattern อะไรพวกนี้ไม่ใช่เหรอ
ผมคิดว่ามันเกี่ยวอย่างที่สุดแล้ว เกี่ยวแบบคือ Step 0 ในระดับรากฐานที่สุดเลย คุณเลือกปัญหาอะไรมาแก้ก่อนล่ะ ปัญหาระบบล่ม? ปัญหาต้นทุน? ปัญหาฟีเจอร์ออกช้า? หรือไม่เลือกอะไรเลยออกแบบไปเรื่อยเปื่อย? ถัดมา คุณ Trade อะไรทิ้งไป ลดความสำคัญของปัญหาอะไรลงไปบ้าง
นี่อ่ะคือแกนกลางของงานออกแบบ Architecture ชัดๆ
ทั้งทักษะการ Problem solving และทักษะการ Design มันสำคัญทั้งคู่ แต่ที่สำคัญเลย มันเป็นคนละทักษะกันครับ และถ้าไม่เข้าใจ คิดว่าโลกซอฟต์แวร์มีชุดปัญหาชุดเดียวเท่านั้นที่สำคัญ (เช่นระบบไม่ล่มบ้างล่ะ ความมี Resource efficient บ้าง ต้นทุนการรันอินฟรา ความปลอดภัยขั้นเทพบ้าง) คุณจะไม่สามารถเห็นคุณค่าของ Solution หรืองานออกแบบที่ออกแบบมาแก้ปัญหาที่คุณไม่ได้เลือกได้เลย
ในประเทศไทยผมยกและซูฮกให้พี่เดฟไปแล้วเรื่องการสอนทักษะ Problem solving ผมว่าผมสอนได้ทั้งไม่ดีและไม่ลึกเท่าแกหรอก ให้แกดีกว่า
(ถ้าพี่ผ่านมาอ่านแล้วอยากให้ Tag บอกได้ เผื่อให้คนตามไปดูพี่ออกคอร์ส)
ผมอยากเสริมจุดที่ผมว่านักพัฒนาหลายคนมองข้ามคือจุดของงาน Design เวลามีคนความต้องการขมุกขมัวที่อึดอัดไปหมดจนพร้อมจ่างเงินมากมาย เราจะออกแบบว่า Concrete problem ที่ช่วยเยียวยาความต้องการนั้นได้คืออะไรนะ
แล้วจากจุดนั้น จึงทำการ Problem solving ต่อไป
(นี่เริ่มมาจากฟังคลิปใหม่ของ Theo ที่นั่ง Defend web development จากพวก "ปรมาจารย์ด้าน Performance" ต่างๆ ที่นั่งด่าว่าทำเว็บสมัยนี้มัน Bloat มัน Complex ช้าไปหมดมีแต่เครื่องมือไร้สาระแก้ปัญหาไร้สาระ ก็แบบ...​.. ของขึ้นอ่ะนะ เข้าอกเข้าใจในโจทย์กันก่อนดีมั้ยคะ)
มันมีหลายภาษาและหลาย Solution design ที่ผมกล้าพูดว่ามันออกแบบมาโคตรดีและงดงามจัดๆ แต่ผมไม่ชอบ เพราะมันไม่ได้แก้ชุดของ Problem ที่ผมคิดว่า Matter ในประสบการณ์ส่วนตัว ผมก็สามารถซาบซึ้งในความสวยงามของมันได้ และเลือกใช้มันได้เวลาที่ต้องการอ่ะครับ

1000 Nameless Fanboi Posted ID6:PAtS71F8yK

1000

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.