"เรื่องฝุ่น pm 2.5 นี่เอามาสอนเรื่องสุขภาพได้เยอะเลย
- Social determinants of health ชัดเจนมากๆ ปัจจัยสังคม/สิ่งแวดล้อมส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพจริงๆแบบอยากจะหลุดมจากผลกระทบก็ต้องย้ายประเทศกันเลยทีเดียว
- เรื่องสุขภาพเป็นประเด็นสาธารณะ เป็นสิ่งที่สังคมต้องรับผิดชอบร่วมกัน ไม่ใช่สิ่งที่ปัจเจกคนใดคนหนึ่งจะรับผิดชอบกันเองได้ รัฐบาลมีส่วนสำคัญมากที่ต้องทำหน้าที่ตอบสนองปัญหาสุขภาพ การดูแลตัวเองของประชาชนไม่ช่วยให้ปัญหามันดีขึ้น
- ความเหลื่อมล้ำด้านสุขภาพมีอยู่จริง เราอยู่ในเมืองที่มีฝุ่นเหมือนกัน แต่เราได้รับผลกระทบไม่เท่ากันตามต้นทุนที่เรามี คนที่ทำงานในอาคารกับพี่ๆที่ทำงานกลางแจ้ง คนที่มีเงินซื้อฟอกอากาศ ซื้อหน้ากากกันฝุ่นอันละเกือบร้อย กับคนที่แค่จะได้รับข่าวสารคำเตือนยังยาก คนที่มีรถส่วนตัวกับคนที่ต้องนั่งรถเมล์ นี่คือความเหลื่อมล้ำที่จับต้องได้ มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
- ประชาธิปไตยนั้นสำคัญ อันนี้ไม่ได้พูดเวอร์ๆ ถ้าเป็นรัฐบาลปกติป่านนี้มีม๊อบไปแล้ว จะดีจะชั่วยังไงรัฐบาลก็ต้องตอบสนองเสียงของประชาชนบ้าง ไม่อย่างนั้นก็สอบตกแน่ๆ แต่ปัจจุบันนี่ลองไปประท้วงดูอาจจะโดนจับเอาง่ายๆ การตอบสนองต่อวิกฤติก็เชื่องช้าและไม่เข้าท่าแบบระบบราชการ
- กลไกตลาดมีอยู่จริง เครื่องฟอกอากาศ/มาสก์ขาดตลาด ซับพลายน้อยดีมานด์สูง ราคาพุ่ง ไม่ต้องตั้งคำถามเรื่องจริยธรรมอะไร มือใครยาวสาวได้สาวเอา
ฯลฯ"
#มิตรสหายท่านหนึ่ง