นายเอ็มมานูเอล มาครง (Emmanuel Macron) ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ได้อนุมัตินโยบายการเกณฑ์ทหารฝรั่งเศส ซึ่งเป็นการนำระบบการเกณฑ์ทหารกลับมาใช้อีกครั้ง หลังจากการเกณฑ์ทหารถูกยกเลิกไปตั้งแต่ปีพ.ศ. 2539 โดยที่นายฌัก ชีรัก (Jacques Chirac) ประธานาธิบดีฝรั่งเศสในขณะนั้น เป็นผู้ดำเนินการยกเลิกระบบการเกณฑ์ทหาร
.
การเกณฑ์ทหาร ถือเป็นนโยบายที่นายมาครง เคยกล่าวไว้ในช่วงของการหาเสียงเลือกตั้งปีพ.ศ. 2560 ซึ่งวัยรุ่นชาวฝรั่งเศสทุกคน ทั้งชายและหญิง อายุ 16 ปีบริบูรณ์ มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง จะต้องเข้ารายงานตัวกับกองทัพฝรั่งเศส และเข้ารับการฝึกทหารเป็นระยะเวลาหนึ่งเดือน
.
ในรายงานระบุว่า แผนการฝึกทหารและหน้าที่ของทหารเกณฑ์ใหม่ จะเป็นรูปแบบผสมผสานของ “พลเรือนและกองทัพ” แต่มีการคาดการณ์ว่า การฝึกทหารเกณฑ์ฝรั่งเศสที่จะมีขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ น่าจะเป็นการฝึกทหารอย่างหนักและเคร่งครัดมากกว่าการฝึกแบบผสมผสาน
.
นโยบายการเกณฑ์ทหารฝรั่งเศส จะเริ่มทดลองใช้เป็นครั้งแรกในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2562 หลังจากที่ว่างเว้นการเกณฑ์ทหารมานานถึง 23 ปี ซึ่งแผนการทดลองการเกณฑ์ทหารชุดแรก จะมีวัยรุ่นชายหญิงเข้าประจำการกับกองทัพฝรั่งเศสประมาณ 3,000 คน โดยที่แผนการเกณฑ์ทหารชุดแรก 3000 คน จะต้องใช้งบประมาณสูงถึง 1,000 ล้านยูโร หรือประมาณ 36,000 ล้านบาท
.
การนำระบบเกณฑ์ทหารกลับมาใช้อีกครั้งในฝรั่งเศส นายมาครงมีจุดประสงค์เพื่อให้วัยรุ่นชาวฝรั่งเศสได้รับการฝึกฝนระเบียบวินัย โดยประธานาธิบดีฝรั่งเศสได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “วัยรุ่นชาวฝรั่งเศสทุกคนจะได้รู้จักการใช้ชีวิตแบบทหาร เพื่อให้ประชาธิปไตยของเราเกิดความสามัคคีและเพื่อให้เกิดการปรับตัวในการอยู่ร่วมกันในสังคม”
.
นอกจากนั้นแล้ว ผู้ที่ผ่านการเกณฑ์ทหารในช่วงอายุ 16 ปี แล้วสนใจที่จะสมัครเป็นทหารประจำการเมื่ออายุย่างเข้า 18 ปี ก็จะได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล ในการบรรจุเป็นทหารประจำการกองทัพฝรั่งเศส โดยประธานาธิบดีฝรั่งเศสคาดหวังว่า ภายในพ.ศ. 2567 จะมีวัยรุ่นฝรั่งเศสเข้ารับการฝึกทหารมากกว่า 800,000 คน
.
แต่ก็เป็นที่แน่นอนว่า การที่นายเอ็มมานูเอล มาครง นำนโยบายเกณฑ์ทหารกลับมาใช้อีกครั้ง ก็ย่อมมีทั้งผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย โดยที่บางคนมองว่า เป็นนโยบายที่เหมาะสมสำหรับวัยรุ่นที่ต้องได้รับการฝึกฝนระเบียบวินัย แต่บางคนก็มองว่าไม่ควรใช้ระบบการเกณฑ์ที่เป็นการบังคับ ควรเป็นการสมัครใจเหมือนที่ผ่านมาถึงจะดี และบางคนก็มองในส่วนของงบประมาณ 1,000 ล้านยูโรที่อาจจะสิ้นเปลืองมากเกินไป
.
แต่ยังมีการวิเคราะห์ที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งก็คือ การนำระบบเกณฑ์ทหารกลับมาใช้อีกครั้ง อาจเป็นการเตรียมความพร้อมในการสร้างกองทัพสหภาพยุโรป (EU Army) และจุดนี้น่าจะเป็นนัยยะทางการเมืองที่แท้จริงของนายมาครง ในการดำเนินนโยบายเกณฑ์ทหารฝรั่งเศส
.
การวิเคราะห์ดังกล่าวยังสอดคล้องกับคำพูดของประธานาธิบดีฝรั่งเศส ที่กล่าวไว้ก่อนถึงเทศกาลคริสต์มาสที่ผ่านมาว่า จำเป็นจะต้องมี “กองทัพยุโรป” เพื่อปกป้องผลประโยชน์ในภูมิภาคนี้ เพราะรัฐบาลสหรัฐฯภายใต้การบริหารงานของนายโดนัลด์ ทรัมป์ จะหันไปปกป้องประเทศของตนเอง มากกว่าปกป้องพันธมิตรเช่นในอดีต
.
นอกจากนั้นแล้ว นางอังเกลา แมร์เคิล (Angela Merkel) ยังเห็นด้วยกับท่าทีของนายมาครง ที่พยายามผลักดันการสร้างกองทัพ EU โดยที่เยอรมันและฝรั่งเศสเป็นสมาชิกหลักของสหภาพยุโรป ที่พยายามอย่างมากในการสร้างกองทัพ EU ในขณะที่สมาชิกสหภาพยุโรปบางประเทศปฏิเสธที่จะเข้าร่วมกับกองทัพ EU
#มิตรสหายท่านหนึ่ง