ผมเข้าใจผิดมาตลอดว่าเราทำเกษตรเก่งกว่าชาวบ้าน เพราะประเทศพัฒนาแล้วส่วนใหญ่ก็จะเลิกโฟกัสการผลิตในภาคเกษตรไปแล้ว เพราะกำไรน้อย ปรากฏผมเข้าใจกลับตาลปัตร
ไทยไม่ติดท็อป 10 ประเทศส่งออกอาหารด้วยซ้ำไป และประเทศที่พัฒนามากๆ ก็ยิ่งส่งออกอาหารมาก เพราะภาคเกษตรก็พัฒนาตามไปด้วย มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ไม่ต่างกับภาคอุตสาหกรรม
สหรัฐฯ จีน แคนาดา ชนะเราก็โอเค เพราะพื้นที่มหาศาล แต่เนเธอร์แลนด์ เล็กกว่าเรา 12 เท่า (ไทย 513,120 sq km, เนเธอร์แลนด์ 41,543 sq km) แต่กลับส่งออกมากกว่าเรา 3 เท่า แถมเกษตรกรเค้าก็ไม่ได้เป็นฟาร์มใหญ่มโหฬารแบบสหรัฐฯ เป็นฟาร์มเล็กๆเหมือนกัน แต่ใช้เทคโนโลยีสูง (Precision agriculture) ทำให้ผลิตได้มากกว่าเรา แต่ใช้น้ำและสารเคมีแค่เสี้ยวเดียวเมื่อเทียบกับเรา
แม้เราจะมีมูลค่าส่งออกอาหารอันดับ 11 แต่เกษตรกรเรากลับจนและเป็นหนี้มากขึ้นเรื่อยๆอยู่ดี เพราะยิ่งทำยิ่งขาดทุน เพราะยังใช้วิธีเดิมที่ใช้มาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย
เนเธอร์แลนด์ทำไงถึงทำให้เกษตรกรมีประสิทธิภาพขนาดนั้น ดูคลิปสั้นๆนี้ youtu.be/vUmP8Tli-Mc
TLDR: มีมหาลัยเกษตรที่ดีที่สุดในโลก ลงทุนวิจัยเกษตรมหาศาล และให้ทุนเกษตรกรที่ต้องการปรับโครงสร้างของตัวเอง (แทนที่จะรับจำนำ)
โพสต์ก่อนผมตั้งประเด็นว่าเกษตรกรไทยเปลี่ยนแปลงตัวเองช้า ตอนนี้ผมได้คำตอบแล้วว่า ไม่ใช่เขาไม่เชื่อว่าเทคนิคใหม่มันดี แต่การเปลี่ยนแปลงมันเสี่ยง เพราะมันต้องใช้เงินลงทุน เมื่อไม่มีเงินอยู่แล้ว มันก็เลยไม่เกิด ทางเดียวที่มันจะเกิด คือรัฐบาลช่วยเรื่องนี้ สอนเขาและให้ทุนเขาเปลี่ยนแปลงตัวเอง แทนที่จะใช้เงินมหาศาลทุกปีไป subsidize ราคาแล้วสูญไปเปล่าๆเป็นแสนล้าน