ในอนาคตด้วยเทคโนโลยีสำคัญสองอย่างคือ bio-engineering และ AI มนุษย์จะถูกแบ่งเป็นสองกลุ่มอย่างชัดเจนคือ
[]1[] มนุษย์ธรรมดาที่ไร้ประโยชน์ (useless class ) เนื่องจากแรงงานทั้งหลายถูกหุ่นยนต์เข้ามาทำงานแทน จะเหลือแต่งานค่าจ้างถูกๆเท่านั้น ในปัจจุบันมีคำกล่าวว่า ถ้าอยากเล่นหมากรุกให้ชนะ ให้ใช้ AIช่วย แต่ถ้าอยากทำความสะอาดกระดานหมากรุกให้ใช้คนทำ แต่ในอนาคต หุ่นยนต์จะทำได้ดีและถูกกว่าคนทั้ง เล่นหมากรุก (งานใช้สมอง) และ ทำความสะอาดกระดานหมากรุก (งานใช้แรงงาน)
[] 2 [] กลุ่มคนที่เป็น superhuman คนที่สามารถเข้าถึงทรัพยากร และมี power ในการปกครองทั้งหมด คนกลุ่มนี้ในไทยน่าจะเรียกว่าเจ้าสัวต่างๆ มีความสามารถทั้ง ด้านการเงินและการปกครองเพราะครอบครองทุน ทั้งหลาย (การลงทุนในเทคโนโลยี bio-engineer และเทคโนโลยี AI ในด้านหนึ่งจะเหมือนกับการลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าที่แม้ลงทุนสูงมากในช่วงแรก(จนคนทั่วไปไม่มีปัญญาทำได้) แต่หลังจากที่เทคโนโลยีอยู่ตัวแล้ว คนอื่นจะทำมาแข่งด้วยลำบาก(มีลักษณะของสินค้าทุน และมี barrier to entry )และการเพิ่มลูกค้าไม่ได้เพิ่มต้นทุนเท่าไรนัก เหมือน ไฟฟ้าในแง่ที่ว่าเมื่อมีบ้านใหม่เข้ามา การไฟฟ้าก็ไม่ได้เสียต้นทุนในการต่อไฟไปบ้านนั้นมากนัก (ถ้าไม่ใช่บ้านบนภูเขา) เช่นเดียวกัน เมื่อมี AI แล้วมันจะไม่ใช่ว่า ต้องลงทุน AI สำหรับ product ที่แตกต่างกันแต่ AI เองสามารคประยุกติ์ไปได้อย่างหลากหลาย ผมคิดว่าจะเกิด บริษัท tech giant ไม่กี่บริษัทในประเทษหนึ่งๆเท่านั้น ซึ่งเจ้าของบริษัทเหล่านี้จะกลายเป็น superhuman
แล้วสิ่งนี้จะทำให้เกิดอะไรขึ้น ต้องทำความเข้าใจก่อนอีกเรื่องหนึ่งคือ ความเท่าเทียมกันของมนษย์และสิทธิมนุษยชนล้วนเกิดจาก ความสามารถในการต่อรองของชนชั้นแรงงานที่มีอำนาจมากขึ้นในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม ซึ่งต้องพึ่งพาแรงงานในการผลิตอย่างสูง ก่อนหน้านี้ ในยุคที่มนุษย์เริ่มรวมกันตัวเป็นเมือง คนที่มีอำนาจไม่ใช่คนทั่วไปแต่เป็นเจ้าของกองทัพ หรือเหล่ากษัตริย์ และจักรพรรดิในอดีต เพราะความสามารถในการรบและบัญชาการกองทัพ ที่มีค่าในการกำหนดความอยู่รอดของเมืองในยุคนั้น คนทั่วไปถูกทำให้เหมือนทัพย์สิน เมื่อรบชนะก็กวาดต้อนไปเป็นแรงงานของอีกเมืองหนึ่ง หาได้มีความเท่าเทียมหรือสิทธิมนุษยชนไม่ การปฏิวัติอุตสาหกรรมทำให้แรงงานที่มีทักษะเป็นสิ่งจำเป็น จึงทำให้อำนาจต่อรองของชนชั้นแรงงานสูงขึ้น แต่ในยุค AI และหุ่นยนต์ แรงงานทั้งทางร่างกายและทางสมองจะไม่ใช่สิ่งจำเป็นอีกแล้ว จึงทำให้อำนาจต่อรองของชนชั้นแรงงานหายไป เรียกร้องโบนัสเหรอ ออกแล้วเปลี่ยนระบบการผลิตเป็นหุ่นยนต์แทน เฉกเช่นทุกวันนี้ที่ประเทศประชาธิปไตยทำให้ประชาชนเชื่อว่าตัวเองมี freewill ในการเลือกผู้แทนและเสียงของตัวเองมีความหมายแต่แท้ที่จริงแล้วท่ามกลางตัวเลือกมากมายเหล่านั้นที่ประชาชนมีสิทธิ์เลือก ล้วนนำไปสู่ ผลลัพธ์ที่เป็นไปได้ไม่กี่ทางที่ชนชั้นนำได้เลือกไว้แล้วและจะยิ่งเข้มข้นขึ้นอีกหลังจากที่AI และหุ่นยนต์ ถูกใช้งานอย่างแพร่หลาย คนจะเหลือหนึ่งสิทธิ์หนึ่งเสียงที่ไร้ค่า
ความอยู่รอดของมนุษย์ ทั่วไปคือความเมตตาจาก superhuman ที่ต้องการคงความหลากหลายของเผ่าพันธ์มนุษย์ ประเทศอย่างสวีเดน ฝรั่งเศษ นิวซีแลนด์ ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานเรื่องรัฐสวัสดิการ รัฐสวัสดิการของประเทศเหล่านี้อาจจะคงอยู่ได้อีกหลายทศวรรษ แต่ประเทศทุนนิยมจ๋าอย่างอเมริกา จะใช้โอกาสนี้จัดการกับปัญหาต่างๆ แต่เมื่อเกิดภัยพิบัติร้ายแล้ว ชนชั้นนำก็พร้อมจะถีบ useless class ลงจากเรือโนอา เพื่อเอาตัวเองรอดไว้ก่อน
====
แปะไว้เผื่ออันที่มีโฆษณาโดนลบ