เกิดอะไรขึ้นกับเด็กยุคนี้?
.
เหตุการณ์ที่เจอเวลามาสมัครงาน
.
#ตอนเมล์มาสมัครงาน
(1) พิมพ์ชื่อ “สมัครงาน” และ cc หลายบริษัท (ช็อคแปป)
(2) น้อง “fwd” resume การสมัครงาน แบบเอ่อ ให้พี่รู้เลยว่าน้องสมัครหว่านๆ และไม่ได้ตั้งใจสมัครบริษัทไหนเป็นพิเศษ
(3) ส่งอีเมลแบบจ่อหัว “สมัครงาน” แล้วทางบริษัทจะทราบมั้ยคะว่าตำแหน่งไหน...แนวแบบต้องเปิดไฟล์หรือดูชื่อไฟล์ถึงจะรู้เอง
(4) แนบไฟล์ประวัติ Zip file บริษัทเปิดแล้ว error แล้วเค้าจะเรียกน้องสัมภาษณ์มั้ย
(5) ส่งมาว่าสมัครงาน น้องจะไม่ เรียนใครหรือ dear ใครหน่อยหรอคะ เค้าจะได้รู้ว่าต้องสื่อสารกับตำแหน่งไหนและใคร
(6) แนบไฟล์ผลงานมา “คร่าวๆ” แปลว่า ถ้าน้องทำงานกับพี่ก็จะ ร่างๆ คร่าวๆ ใช่มั้ยคะ กลัวเลย เลยไม่กล้าเรียกสัมภาษณ์
.
#ตอนตอบการสัมภาษณ์
(1) บอกว่าอยากทำงานบริษัทนี้ แต่ไม่รู้ว่า”บริษัททำอะไรบ้าง หรือตอบ Core Business ได้อย่างฉะฉาน?
(2) วางกระเป๋าหลุยส์บังหน้าผู้ให้สัมภาษณ์...สมัครตำแหน่งเงินเดือน 25,000 บาท พี่รู้ว่าน้องมีสตางค์ แต่ถ้าน้องไปพบลูกค้าพี่ แล้ววางกระเป๋าหลุยส์บังหน้าเค้าขณะพรีเซ้นต์ เค้าอาจไม่ซื้อ services พี่
(3) โทรมาขอเลื่อนวัน ส่วนใหญ่จะไม่ให้โอกาสที่สอง เพราะไม่ให้ความสำคัญตั้งแต่ day 1 แปลว่ามาทำงานบริษัทก็จะไม่ให้ความสำคัญกับงาน
(4) โทรมาถามทางบริษัท (น้องคะ google มี แปลว่าน้องไม่แสวงหาก่อนที่จะทำอะไร)
(5) แต่งตัวแบบอยู่บ้านมาสัมภาษณ์ คือ น้องไม่ต้องแฟชั่นโชว์ค่ะ แต่น้องต้อง represent บริษัทเวลาเจอลูกค้า การแต่งตัวชิวๆอาจจะไม่ใช่ตั้งแต่ job description
(6) น้องบอกชอบคนสัมภาษณ์ ชื่นชมมากแบบไปกูเกิลชื่อคนสัมภาษณ์มาแล้ว แต่เรียกชื่อจริงคนให้สัมภาษณ์ผิด (2 หน...) ในทางบุคคลไม่คิดติดใจอะไรก็จริง ผู้ให้สัมภาษณ์ชอบน้องมาก แต่ถ้าไปเรียกชื่อลูกค้าผิด ลูกค้านอยด์ มันจะทำให้บริษัทเสียหายได้ คือ แสดงถึงความไม่รอบคอบ ถ้าในงานไม่ต้องการความรอบคอบ ผู้ให้สัมภาษณ์ควรจะให้น้องผ่าน
.
.
นี่แค่น้ำจิ้มนะคะ
.
การ screen คนเพื่อเรียกสัมภาษณ์ เดี๋ยวนี้เค้าดูกันตั้งแต่ส่ง application/resume/cv เลย ว่า manner /etiquette น้องเป็นยังไง และอย่าแปลกใจถ้าน้องไม่ถูกเรียก ไม่ใช่บริษัทมันไม่เห็นความดีของน้อง แต่เป็นเพราะน้องไม่พยายามหาวิธีเข้าใจว่าน้องต้อง”ปรับปรุง”อะไรเพื่อให้บริษัทต้องการต่างหาก
.
สถาบัน สอนวิชามากมาย แต่ไม่สอนวิธีสมัครงานให้ฉลาด หรือ สอบสัมภาษณ์ให้ผ่าน (บางที่อาจมีสอนประปราย ดีใจกับน้องๆด้วย) หรือ บางที่ก็ไม่มีหรอก สอนทำงานอย่างไรให้เรียกว่า “ทำงานเป็น และเจ้านายชม”หรือ “ทำตัวให้เป็นที่ต้องการของตลาด”
.
ตอนทีมพี่อายุเท่าน้อง ทีมพี่แค่ผ่านมาก่อน ผิดมาก่อน ถูกก่อน เลยอยากช่วยน้อง ไกด์น้อง แบบที่พี่ไม่เคยถูกไกด์
.
#หากคุณคือน้องน้อย
ถ้าคุณคือ “คนที่อยากให้บริษัทเลือก” และอยากเป็นที่ต้องการของตลาด พี่มั่นใจว่า ทีมเราสามารถปั้นให้ น้อง”สามารถเลือก”บริษัทได้ แถมมี skill digital และ”ทำงานเป็น”
.
Project The Work by TeC เป็น start up ที่ขอ disrupt “painpoint” ในการสร้างกองทัพเด็กสู้งาน เป็นงาน และพร้อมเข้าทำงานในยุคดิจิทัล มี e-Business, e-commerce และ Digital mindset
.
เราจะเปิดสอน
- Digital marketing career
- e-Commerce career
- Graphic For Online marketing career
- social media content & content creator career
- app & web programmer career
- super multi-tasking (แนวๆ Management trainee ที่เข้าใจ e-Business เติบโตเป็น Head/manager)
.
เรากำลังตั้งครรภ์กันอยู่ คลอดเดือนกุมภาพันธุ์ 62 ใครอยากสมัคร ทิ้งเมลไว้ ใน comment ค่ะ! สำหรับ Students ปี 4 และ First jobbers อายุไม่เกิน 25 ปี
.
#หากคุณเป็นบริษัท
ในอีก way นึง ถ้าคุณเป็นบริษัท ที่เบื่อกำกับหาเด็กที่”เป็นงาน” และอยากได้เด็ก”เป็นงาน” เข้าทำงานและเครื่องสตาร์สติดเลย เป็นหมด ทั้ง word,excel,ppt, computer literacy ยัน internet savvy และ leadership + problem solving + think beyond just assignment ก็ขอให้ทิ้งเมลไว้ เราจะเชิญมาเป็นบริษัทที่มีสิทธิ์คัดเด็กเก่งไปทำงาน มีนาคม 2562 (คณะกรรมการ The Work ขอสงวนสิทธิ์ในเงื่อนไข)
.
#หากคุณคือมหาวิทยาลัยหรือสถาบันการศึกษา
อยากส่งเด็กเข้า Project หลังไมค์ได้เลยค่ะ
.
และจะมีเปิดตัวคณะกรรมการ The Work ที่แซ่บ และจะเขย่าวงการ #พบกับเราเร็วๆนี้ เปิดตัวเดือน มกราคม 2562
.
เรา”ตั้งใจ”สร้างโอกาส ให้เด็กมีงานทำมากขึ้น เพราะสถิติการตกงานของเด็ก ทำเราใจตกตาตุ่ม อกสั่นขวัญหาย
.
เรา”จะไม่เก็บเงิน”แม้แต่บาทเดียวกับเด็ก
.
เราจะเก็บเงินกับ sponsor (55555)
อยากดังก็มาบู๊กับเรา #TheWorkByTeC เร็วๆนี้ค่ะ 😉
.
ปล.เอาตัวอย่างสมัครงานที่พบเจอมาโชว์ เด๋วจะหาว่าไม่มีหลักฐาน