Fanboi Channel

โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 7th quotes

Last posted

Total of 1000 posts

1 Nameless Fanboi Posted ID:JxTeBqhN6j

มู้เก่า
https://fanboi.ch/lounge/1161 โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง
https://fanboi.ch/lounge/2603/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 2nd quotes
https://fanboi.ch/lounge/3016/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 3rd quotes
https://fanboi.ch/lounge/3530/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 4th quotes
https://fanboi.ch/lounge/4357/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 5th quotes
https://fanboi.ch/lounge/5233/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 6th quotes

2 Nameless Fanboi Posted ID:Hg8P/CX/I/

โคตรเท่อะ นักศึกษาวิศวกรรมการบิน พระจอมเกล้าลาดกระบัง
#วิทยาลัยอุตสาหกรรมการบินนานาชาติ
ค่าเทอมๆละ 440,000฿ จบปีแรก เงินเดือนๆละ 60,000฿ ทำงานปีที่ 2 ง/ด 100,000฿ เป็นกัปตัน ง/ด 150,000฿ ขึ้นไป (ชั่วโมงบิน 1,000ชม.) 2 ปี คืนทุนค่าบำรุงการศึกษา คุ้มค่าจริงๆ
เรียนวิศวกรรมการบินที่ลาดกระบัง ได้ใบอนุญาตการบินพาณิชย์ วิศวกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิศวกรรมการบินและมีวุฒิป.ตรีอีกสาขา คือวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาการขนส่งทางอากาศ (Logistics)
(ได้ฝึกบิน 200 ชม.แน่ะ)
บอกเลยว่าทำงานสนุกมาก
นักบินสมาร์ททุกคน
ปี 4 รุ่นแรกมี 21 คน
ปี 3 ,ปี 2 มีรุ่นละ 40 คน
ปี 1 มี 80 คน
รับได้สูงสุดถึงรุ่นละ 120 คน
ปี 4 ปีสุดท้ายต้องไปเรียนที่ชุมพร กินนอนที่นั่น ฝึกวินัย ตื่นตีห้า กินข้าวเช้า 07:00น. เริ่มเรียน 09:00น. ฝึกบินวันละ 3 ชม.ต่อคน มีครูฝึกดูแลตลอด 24 ชม.
#วิทยาลัยอุตสาหกรรมการบินนานาชาติ
#KMITL
#พระจอมเกล้าลาดกระบัง

3 Nameless Fanboi Posted ID:sTA1WAGSGh

>>2 มหาลัยชั้น 3 ยี้

4 Nameless Fanboi Posted ID:xODFwX.Q6B

>>3 ชั้นสามเหรอวะ ชั้นสี่ดิ

6 Nameless Fanboi Posted ID:J/juI9ACPf

ข่าวพักหลังๆที่คนตีกัน ผัวเมียไล่ยิงกัน ทะเลาะกันแบบใช้อาวุธเลือดอาบ
ผมเห็นพลเมืองดีช่วยเข้าไปห้ามทุกข่าวเลยนะ
มีข่าวนึง ที่กระบะเมายาบ้าลงไปใช้คัตเตอร์ฟันแท็กซี่เมาสุรา สาหัสไป 2 คน
ชาวบ้านแถวนั้นคนหนึ่งที่ลงไปห้ามและเอาผ้าก็อตไปทำแผลให้ คือ "ผู้หญิง" ครับ
โห...หัวจิตหัวใจเธอสุดยอด

จากข่าวเหล่านั้นที่ผมดูจะจะกะตา ผลก็คือต่างฝ่ายต่างแยกกันแบบไม่มีใครฆ่าใครตาย
และทุกข่าวไม่มีพลเมืองดีตายสักคน

คือคุณจะอ้างเรื่องพลเมืองดีตาย มันก็จริงครับ แต่มันน้อย
แต่ผมกำลังนำเสนออีกด้านว่า เข้าไปแล้วเรื่องจบด้วยดีก็มีเยอะ
มองให้รอบด้านด้วย อย่าเสนอด้านที่ตัวเองพอใจ แล้วมาชี้นำสังคมว่าต้องเป็นแบบนั้น

แล้วใครจะเลือกช่วยไม่ช่วย มันคือทางเลือกของแต่ละคน
แต่อย่ามาหาพวก เพื่อเข้าข้างตัวเองเลย

สังคมมันแย่เพราะคนเสนอแต่ด้านแย่ๆเพื่อปกป้องความอ่อนแอตัวเองนี่แหละ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

7 Nameless Fanboi Posted ID:0Ea52IQydL

มีใครเรียกร้องสิทธิ์จดทะเบียนสมรสระหว่างคนกับสัตว์ละยังคะ? เราต้องเปิดโอกาสให้คนกลุ่มนี้ด้วยรึเปล่า? อะไรยังไง? นับวันกูยิ่งมี character ของพวกอนุรักษ์นิยมไปทุกที ๆ ๆ ๆ เรื่องจดทะเบียนคนในสายเลือดเดียวกันมันไม่เมกเซ้นส์ในทางวิทยาศาสตร์อะมึง แมงมันรังเดียวกันยังแยกกันออกเลยตัวผู้ตัวเมียออกคนละรอบเพราะกลัวเย็ดกันเองจนสูญพันธุ์ คนที่มีความคิดความอ่านมากกว่าแมงมันแม่งจะให้เอากันเองอย่างถูกกฎหมาย บ้าไปแล้ว
#มิตรสหายมีงูท่านหนึ่ง

8 Nameless Fanboi Posted ID:QhuiFdnNgS

ทำงานให้ตั้งใจ แต่อย่าอิน!

เรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับคนข้างตัวผมครับ คือเค้าตั้งใจทำงานมากๆ มากจนอินเข้าไปในงาน ต้องทำให้เสร็จ เวลาก็น้อย คนที่ขอไปก็ไม่ได้สักที งานก็ต้องทำคนเดียว แบกรับความกดดันไว้คนเดียว กลับบ้านนี่ถ้าไม่ขาก่ายหน้าผาก ก็สลบเหมือดไปเลย เพราะทำงานเหนื่อยมากๆ ที่แย่ที่สุดคือ สุขภาพจิตเริ่มเสีย เพราะตัวเองทำงานไม่ได้ดีอย่างที่คนอื่นคาดหวัง ไม่ได้ดีอย่างที่เจ้านายต้องการ ทำงานก็ไม่เสร็จ งานที่ออกไปก็ไม่สมบูรณ์เพราะไม่มีเวลามากพอ ที่หนักที่สุด ก็คือ สุขภาพ เรื่องออกกำลังกายคือ ลืมไปได้เลย แล้วพักผ่อนก็น้อย สุขภาพ ก็แย่ลงเรื่อยๆ จนท้ายที่สุด ไปกระทบคนรอบข้าง เพราะการใช้ชีวิต การคิด การกระทำ เปลี่ยนไปจากเดิมหมดเลย

แบบนี้ผมคิดว่า อินเกินไป ซึ่งเป็นเรื่องที่ส่งผลที่แย่มากกว่าดี ผมก็เคยเป็นคนที่อินมากเกินไปกับงานมาแล้วเช่นกัน ทำให้ผมเข้าใจคนเหล่านี้เป็นอย่างดี จนกระทั่งวันที่ผมมองอีกมุมหนึ่ง แล้วได้มองกลับไป ก็พบว่า ตัวเองไม่น่าอินเกินไปเลย เพราะว่าการอินเกินไป ทำให้ งานออกมาไม่ดี คนรอบข้างก็ไม่อยากคุยด้วย (หงุดหงิดตลอด) การใช้ชีวิตก็เพี้ยนไปหมด กระทบสุขภาพ ผมก็ งง ตัวเองเหมือนกัน ว่าเราจะไปอินขนาดนั้นทำไม (เมื่อวันที่เราตาสว่างแล้ว)

ทางออกเหรอครับ ทำงานอย่างตั้งใจ ทำให้ดีที่สุดเท่าที่เราทำได้ และถ้าเกินกว่าขีดจำกัด ก็ต้องปล่อยวางบ้าง เหมือนเราขับรถยนต์ เราเร่งสุดคันเร่งเลย จนเครื่องร้อนมากเกินขีดจำกัด ถ้าเราไม่ผ่อน หม้อน้ำระเบิด เครื่องพังแน่นอน ดังนั้นเราเป็นคน เราก็มี limit เหมือนกัน เราจึงต้องรู้จักหย่อนบ้าง แต่ถ้าหย่อนบ้างแล้ว งานมันจะได้รับผลกระทบแน่นอน ให้เราเตรียมแผนรองรับเลย ก็คือ รีบแจ้งคนที่เกี่ยวข้อง ให้หาคนเข้ามาเสริมเราด่วน เพราะเราจะไม่ไหวแล้ว หรือว่า แจ้งไปเลย ว่าเราทำได้เพียงเท่านี้ ถ้าเกินกว่านี้ จะต้อง ทำนั่น เพิ่มนี่ จ้างโน่น ก็ว่ากันไป (นี่คือสิ่งที่เราควรทำจริงๆต่างหาก ไม่ใช่ทนทำงานต่อไปหน้ามือตามัว) คือเราไม่ได้จะทิ้งงานไปเฉยๆ แต่เราก็หาทางออกมาแล้วเหมือนกัน และคนที่เกี่ยวข้องก็ต้องช่วยเราด้วย แต่ถ้าทำแบบนี้แล้ว ไม่มีใครช่วย ก็ลองปล่อยไปเลยจริงๆ ดูครับ ว่ามันจะเป็นอย่างไร

เชื่อผมว่า ทุกบริษัทจะมีกลไกเยียวยาความผิดพลาดต่างๆอยู่แล้วแน่นอน ถ้ามันไม่ใหญ่ ไม่ใช่เรื่องเสียหายร้ายแรง ไม่มีปัญหาหนักใจแน่นอนครับ ต้องลองดูครับ

เชื่อผมครับ ว่า ตั้งใจทำงาน แต่อย่าอิน ลงตัวที่สุด

9 Nameless Fanboi Posted ID:QhuiFdnNgS

ฝ่ายชายอายุ 18 ขวบ "เพิ่งรู้จักฝ่ายหญิงกันแค่ 2 เดือน" เจอกันใน FB เลยนัดเย็ดกันขำๆ ใส่ถุงยาง พอเย็ดเสร็จ ฝ่ายชายก็เลิกติดต่อกับฝ่ายหญิง เพราะมีแฟนอยู่แล้ว

ต่อมา ฝ่ายหญิงก็มาบอกว่า "ชั้นท้องกับเธอนะ เธอต้องแต่งงานกับชั้น" โดยฝ่ายหญิงบอกว่า "ไม่ต้องออกค่าสินสอดให้ก็ได้" ฝ่ายชายจึงยอมแต่งด้วย แต่พอถึงวันแต่ง ฝ่ายหญิงกลับเรียกค่าสินสอดเป็นแสน ฝ่ายชายจึงหนีไป

พอฝ่ายหญิงรู้ว่าเจ้าบ่าวหนี ก็ยังจัดงานแต่งงานต่อ พอรับซองจากแขกเสร็จแล้ว เจ้าสาวก็ขึ้นเวทีบอกแขกว่า เจ้าบ่าวหนีไปแล้ว จบข่าว

ปล. พ่อเจ้าบ่าว อายุ 36 ขวบ จ้ะ

10 Nameless Fanboi Posted ID:VvzYBZrOOc

พ่อเจ้าบ่าว 36
เจ้าบ่าว 18

= พ่อเยดแม่ตอน 18

11 Nameless Fanboi Posted ID:GwBwUHemIo

>>10 17ย่าง18 หักช่วงท้องด้วย

12 Nameless Fanboi Posted ID:SLZt.iTqnJ

เดี๋ยวนี้เวลาพูดถึงชื่อ ขรรค์ชัย ก็มักนึกถึงภาพที่ว่าเป็นเจ้าของมติชน เป็นแบบผู้ยิ่งใหญ่ในวงการนสพ. ส่วนสุจิตต์ คนก็มักติดภาพเจ้าพ่อแห่งการแหก ไม่ว่าจะเรื่องคนไทยไม่ได้มาจากเทือกเขาอัลไต จารึกหลัก 1 ไม่ใช่ของพ่อขุนราม สุโขทัยไม่ใช่ราชธานีแห่งแรก ฯลฯ แต่ในมุมของความเป็นนักเขียนตั้งแต่หนุ่มนี่งานคลาสสิกแกมีเยอะ ที่ว่าคลาสสิกนี่เพราะหลายๆเล่มถ้าฉีกปกออกแล้วอ่านโดยไม่รู้ว่าเขียนมานานหลายสิบปีแล้ว ก็อาจนึกว่าเป็นเรื่องแต่งใหม่ เพราะเหตุการณ์ยังวนลูปเดิมให้ได้เห็นกัน

ตัวอย่างงานของขรรค์ชัยที่เห็นได้ชัดมาก คือ ชานหมากนอกกระโถน เรื่องพระสงฆ์องคเจ้าที่เรายกมือไหว้อะไรทำนองนั้น ควรหามาอ่าน ลองเทียบกับเหตุการณ์เมื่อไม่นานมานี้ที่ชวนให้สังคมตั้งคำถามกับวงการผ้าเหลืองอย่างที่รู้ๆกัน

ส่วนสุจิตต์ ก็แน่นอนว่าต้องเป็น หนุ่มหน่ายคัมภีร์ ที่พระเอกกระทำการขบถต่อระบบโซตัสในมหาวิทยาลัย เล่มนี้พิมพ์แล้วพิมพ์อีกก็ยังขายได้ แล้วดูทุกวันนี้ยังมีข่าวบ้าๆบอๆรุ่นพี่ทำร้ายรุ่นน้องม้ามแตก น่าเวทนา

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

13 Nameless Fanboi Posted ID:4.mSUN9hlZ

เบื้องหลัง จม. อีลอนต้องมายอมขอโทษเรื่องพีโด้

Elon,

I’m writing on behalf of investors who believe in you and your mission to accelerate the globe’s adoption of sustainable energy. Your track record as a visionary is unprecedented, and I also recognize the intangibles of your leadership – building a culture of walking through walls and inspiring a workforce to a level I have not seen in over 20 years of covering tech.

However, continued success requires investor support. In order to realize your mission, Tesla needs access to capital and the confidence of investors.

Over the last 6 months, there have been too many examples of concerning behavior that is shaking investor confidence. In my view, your outburst at analysts on the March 2018 earnings call, your ongoing frustration with short sellers and the media, your June email exchange with the saboteur, and your confrontation on Twitter with cave diver Vern Unsworth each raised flags with investors.

The exchange with Vern Unsworth crossed the line. I suspect you would agree given you deleted the string from Twitter, but it will take more than that to regain investor confidence.

Your behavior is fueling an unhelpful perception of your leadership – thin-skinned and short-tempered.

Thankfully, the road to regaining investor confidence is well traveled. It starts with an apology. Then, focus your message on your progress toward achieving Tesla’s mission. You might consider taking a Twitter sabbatical. Twitter might keep Tesla in the news but it won’t help continued improvements in production and product.

Also, ignore the short sellers. During my time as an analyst I have observed that when companies aggressively engage with short sellers, they lose. The best way to beat them is not with words, but actions that drive the stock higher.

It’s hard to imagine the responsibility and strain of managing several world-changing companies, but I’m confident that this letter represents the view of investors and customers who want to see you succeed. Listening to the herd is rarely how the world changes, but in this scenario I hope you’ll consider the opinion of your supporters and do your best to improve.

Respectfully,

Gene Munster

Disclaimer: We actively write about the themes in which we invest: virtual reality, augmented reality, artificial intelligence, and robotics. From time to time, we will write about companies that are in our portfolio. Content on this site including opinions on specific themes in technology, market estimates, and estimates and commentary regarding publicly traded or private companies is not intended for use in making investment decisions. We hold no obligation to update any of our projections. We express no warranties about any estimates or opinions we make.

Tesla

14 Nameless Fanboi Posted ID:NrNDzlwcrz

"ในสายตาของ เรนฮาร์ด กรินเดล และผู้สนับสนุนของเขา ผมเป็นคนเยอรมันเมื่อเราชนะ แต่เป็นแค่คนอพยพเมื่อเราแพ้"

15 Nameless Fanboi Posted ID:.KhOPN8/sh

>>14 และเป็นเจ้าของไม้เอลเดอร์เมื่ออยู่ในแฮรี่

16 Nameless Fanboi Posted ID:co5ZHENrjD

>>14 กูอ่านquoteนั้นนี่เศร้าเลยว่ะ เออซิล(ö มันไม่ได้อ่านว่า o เลิกเล่นมุขเบอร์10ได้ล่ะ เสร่อชห) มันสะท้อนว่าปัญหาเหยียดเชื้อชาติลึกๆยังไม่ไปไหน ขนาดเค้าอยู่มารุ่น3จนความจริงไม่คิดแล้วว่าอินี่เป็นเติร์ก(กูคนจีนแท้ อยู่มารุ่น3กูก็เชื้อชาติไทยเลยนะเพราะพ่อแม่เกิดในไทย) บอลโลกที่ตกรอบถ้าด่าก็ควรด่าทุกคนอ่ะไม่ใช่เออซิลคนเดียว

17 Nameless Fanboi Posted ID:iSKBtI599c

>>14 อยากให้ระลึกไว้ว่าคนเยอรมันครั้งนึงก็เคยมั่วนิ่มว่าตัวเองเป็นคนโรมันอ่ะครับ

18 Nameless Fanboi Posted ID:IToa4iBlUp

>>16 อี๋เจ๊ก

19 Nameless Fanboi Posted ID:m9m4QzpxQW

https://www.youtube.com/watch?v=TNJaQIGnwew

20 Nameless Fanboi Posted ID:mlQacy0fQx

#โครงการห้องสมุดเฌอปราง เป็น #ความสิ้นคิด ที่ผมไม่เคยคิดว่าจะได้เห็นอะไรที่น่าสมเพชได้ขนาดนี้ครับ

ฝ่ายการตลาดของวงครับ คุณควรที่จะให้คุณเฌอปรางปฏิเสธการใช้ชื่อของเธอ และควรมอบหมายให้ตั้งชื่อเพื่อเป็นอนุสรณ์แก่เจ้าของโครงการที่เป็นผู้ระดมทุนเองทั้งหมดต่างหาก

คุณกำลังทำการตลาดได้อย่างไร้จรรยาบรรณที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็น #คุณสร้างภาพจำให้กับเด็กๆในโรงเรียน ว่าไอดอลผู้นี้มีคุณูปการแก่โรงเรียนทั้งๆที่มันไม่ใช่เรื่องจริงเลยแม้แต่นิดเดียว

คุณพึงระลึกไว้นะครับว่า #คุณเฌอปรางเธอไม่ได้ทำอะไรเลย นอกจากเต้นโชว์วับๆแวมๆแล้วทำการตลาดมาแพ็คเกจขายในชื่อ #ความพยายาม เพื่อสะกดจิตโอตะร่วมกับการตั้งกฎเกณฑ์ไร้สาระของทางวง โก่งราคาให้คนที่หลงใหลมาทุ่มเงินจ่ายแก่สินค้าที่ระลึกราคาถูกให้พวกคุณขายฟันกำไร

เงินสร้างห้องสมุดที่ได้มาจากการขายสินค้าทำกำไร เป็นน้ำพักน้ำแรงของเจ้าของโครงการทั้งสิ้น

การที่คุณยินยอมให้ใช้ชื่อ "เฌอปราง อารีย์กุล" และอวดอุตริผิดมนุษย์ช่วยกันแชร์ให้เป็นกระแสไวรัล มันคือการที่ #คุณกำลังพยายามขยายกลุ่มลูกค้าแห่งใหม่ โดยใช้เด็กๆในโรงเรียนต่างจังหวัดที่ขาดทุนทรัพย์เป็นฐานกำลังตลาด

#คุณกำลังทำให้เด็กๆซึมซับวัฒนธรรมไอดอล ที่หลายฝ่ายรวมถึงผมกังขาว่าเป็นการทำเด็กผู้หญิงให้เป็นวัตถุทางเพศของกลุ่มชายหนุ่มที่มากด้วยวัยวุฒิ

ผมสมเพชเวทนาครับกับการที่โครงการดีๆอย่างการสร้างห้องสมุดให้แก่โรงเรียนชนบท กลับกลายว่าจะต้องมีวาระแอบแฝงเป็นการตลาดของวัฒนธรรมไอดอล ให้แนวคิดสุดอนาถนี่ซึมซับอยู่ในจิตใต้สำนึกของเด็กๆที่เค้าไม่มีโอกาสได้รับรู้ข้อวิจารณ์ถึงวัฒนธรรมนี้เลย

ถ้าจะเปรียบเปรยไปให้สุดโต่ง เหมือนใครอยากจะอุตริสร้างห้องสมุดอุทิศให้หญิงสาวดาวยั่วที่ตนหลงเสน่ห์ โดยใช้ชื่อดาวโป๊หรือดาราที่เป็นนางบำเรอของเสี่ยๆนางนั้นมาเป็นชื่อห้องสมุดให้เด็กๆเรียนรู้

#มันสมควรไหมครับ?

ประเทศนี้มันมาถึงกลียุคขนาดว่าคนทำโครงการดีๆ ต้องเซ็นเซอร์หน้าตา ชื่อเสียงเรียงนาม เพื่ออุทิศความดีที่ตัวเองทำให้กับไอดอลที่เต้นและทำการตลาดให้เขาหลงเสน่ห์แล้วหรอครับ?

คุณต้องเริ่มคิดขีดเส้นได้แล้วนะครับว่าคุณจะผลักดันวัฒนธรรมไอดอลนี่ให้ไปถึงไหน

สำหรับผมแล้ว คุณข้ามเส้นไปมากตั้งแต่กรณียินดีโปรโมตข่าวยินยอมให้ คุณ รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธุ์ เสนอนำรูปคุณเฌอปรางขึ้นไปร่วมกับการทดลองในอวกาศ โดยไม่สนใจว่าเป็นโครงการทดลองทางวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยของรัฐที่ไม่ควรมีปัจจัยด้านการตลาดเข้ามาเกี่ยวข้อง

จนกระทั่งถึงวันนี้ คุณได้ทดสอบเส้นมาตรฐานจริยธรรมอีกเส้นหนึ่งเกี่ยวกับการทำการตลาดกับโรงเรียนและเด็กๆที่ขาดโอกาส

#วันนี้คุณได้ข้ามเส้นกั้นแห่งจริยธรรมทางธุรกิจใดๆไปอย่างสมบูรณ์แล้วครับ

การกระทำทั้งหมดนี้คือความสิ้นคิดไร้สติโดยสิ้นเชิงของผู้สนับสนุนวัฒนธรรมไอดอล

#รวมถึงตัวไอดอลเองที่คิดไม่ได้
#ไม่ฉลาดเฉลียวเหมือนที่คุยไว้ครับ

รศ.ดร.เจ็ดแมงดา เอาเชอมาทำพันธุ์

21 Nameless Fanboi Posted ID:RmbDfjR0XG

>>17 เป็นคน (โฮลี) โรมัน

22 Nameless Fanboi Posted ID:skxgVlRBt.

>>21
>Holy
>Roman
>Empire

23 Nameless Fanboi Posted ID:i3x/S8+zR5

>>20 กูตกข่าวว่ะเรื่องรี้มีลิ้งไหม?

24 Nameless Fanboi Posted ID:vjSEri9V7N

อนุรักษ์นิยมกะโหลกกะลา พูดอยู่นั่นแหละว่าเสรีภาพและประชาธิปไตยเป็นของฝรั่ง
ทำไมไม่พูดบ้างว่าพุทธศาสนาเป็นของอินเดียไม่เหมาะกับไทย

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

25 Nameless Fanboi Posted ID:.FdFCjjIZQ

>>20 สรุปประเด็นคืออะไรวะกูงง เอาชื่อคนมาตั้งห้องสมุดก็มีเยอะแยะ

26 Nameless Fanboi Posted ID:06E/8gFk2N

>>24 ต... แต่พระพุทธเจ้าเป็นคนไทยนะ

27 Nameless Fanboi Posted ID:/oqZrU.sot

>>24 "พุทธ" แบบประเทศเรานี่มันออกอ่าวจากของเดิมไปไกลมากแล้วนะ มากเสียจนเป็นอะไรไปแล้วก็อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน 55555+

28 Nameless Fanboi Posted ID:ag5HdIO9Ub

>>27 พุทธ์เหี้ยไรอะไปขูดต้นไม้ จุดธูปขอหวยกับบ่อขี้วะ 555

29 Nameless Fanboi Posted ID:jZw/2zJ42F

พุทธแต่ในบัตรประชาชนมากกว่า ประเทศเราแม่งเหมือนเหี้ยอะไรก็ได้ที่ไหว้ขอโชคขอลาภขอสาปแช่งได้พวกก็พร้อมนับถือหมด

30 Nameless Fanboi Posted ID:PKD.4a+bGr

#บ่น ประโยคพูดประมาณว่า...
- เห็นหน้าตาดี ไม่คิดว่าจะนิสัยแบบนี้
- สวย ๆ อย่างนั้นทำไมสร้าวเรื่องใหญ่โตแบบนี้
- หล่อระดับดาราขนาดนั้น ไม่คิดว่าจะสันดานต่ำ
- โหงวเฮ้งดูดี ไม่คิดว่าจะเป็นแบบนั้น
- หน้าตาก็ใช้ได้ ทำไมถึงไปโกงชาวบั้นแบบนั้น
- เขาก็พยายามเทคแคร์ ดูแลรับส่งนะ แต่หน้าตาไม่ผ่านมาตรฐาน ที่บ้านเขาไม่ชอบก็คงไม่ให้แต่งหรอก
ฯลฯ

คือแบบ พวกมึงก็มองคนจากภายนอก ไม่พ้นหน้าตาและรูปลักษณ์นั่นแหละ แต่ปากก็บอกว่า “มองคนที่จิตใจ” อ่ะ โคตรน่ารังเกียจ... =_= ถ้าจะมองคนไม่พ้นจากตรงนั้นอย่าสะเออะบอกว่ามองคนที่จิตใจ...

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

31 Nameless Fanboi Posted ID:Ht1iH/hkfL

>>30 เวลาได้ยินข่าวก็จะได้ยินแบบนี้นะ ครูสาว(สวย)บนดอยแสนใจดี พ่อค้าหนุ่ม(หล่อ)ใจบุญ สาว(สวยเซ็กซี่)ใจงามช่วยคนยากไร้

32 Nameless Fanboi Posted ID:zT5GKvmknT

>>29 กูเห็นที่มีรูปศาสนาเบค่อน ตอนนี้มันเปลี่ยนได้ตามใจยังวะ บัตรหมดอายุรอบหน้ากูจะไปเปลี่ยนศาสนาในบัตรมั่ง

33 Nameless Fanboi Posted ID:+xtf65KHcJ

ตกลงกับมยุรีว่าจะไม่จัดงานแต่งงาน
มันเปลือง
จดแค่ทะเบียนสมรสก็พอ

และถ้าเราจะจดทะเบียนสมรส ก็ขอให้เป็นวันที่ 25 มิถุนายน
เพราะวันที่เราตกลงคบกัน
คือ...มนุษย์เรามันไม่ควรมีวันสำคัญเยอะขนาดนั้นป่ะวะ
ถ้าเราเลือกได้ ก็กรุ๊ปๆ ให้มันเป็นระเบียบหน่อย
(หมดกันความโรแมนติค)

มารู้ตัวกันอีกที ลืมกันทั้งคู่
จบ.

งั้น...เลื่อนไปอีกวันละกัน อย่างน้อยก็ยังยึดวันที่ 25 อยู่
วันจดทะเบียนจึงกลายเป็น วันที่ 25 กรกฏาคมนั่นเอง

ครบรอบ 7 ปี จดทะเบียนสมรสแล้ว

รักมยุรีนะ

รูปถ่ายโดยพี่ bickboon ที่อยู่ดีๆ ก็ต้องมาเป็นสักขีพยานในวันนั้น 5555

34 Nameless Fanboi Posted ID:+xtf65KHcJ

ภาษาแรกที่ต้องเรียนรู้คือ ภาษาคณิตศาสตร์ แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเรียน BADS โดยไม่ใช้ภาษาคณิตศาสตร์ เพราะพวก Model และ Algorithms ต่างๆ ก็ใช้คณิตศาสตร์เป็นพื้นฐานทั้งสิ้น
ภาษาที่สอง คือ ภาษาสถิติ ฐานของ BADS ยังไงก็ต้องรู้สถิติเป็นอย่างดี ต้องรู้ลึกซึ้ง เข้าใจศัพท์ เข้าใจทฤษฎี เข้าใจเหตุผล ดังนั้น BADS ต้องเรียนสถิติ ต้องมี Statistical literacy สูงมาก
ภาษาที่สาม คือ ภาษาคอมพิวเตอร์ ต้องเรียน Programming language ที่ใช้ใน BADS อย่างน้อยก็ควรเรียนภาษาที่ใช้จัดการกับข้อมูล เช่น SQL หรือ Hadoop ซึ่งจัดการกับข้อมูลแบบมีมีโครงสร้างและไม่มีโครงสร้าง ส่วน R นั้นเป็นภาษาโปรแกรมมิ่งทางสถิติซึ่งน่าจะอยู่ไปอีกยาวๆ เพราะเป็น freeware และมี package ให้ใช้ฟรีเยอะมาก ส่วน Python นั้นจะเป็นภาษามาตรฐานสำหรับ Machine learning และ artificial intelligence อย่างน้อยๆ ก็น่าจะทำงานกับภาษาเหล่านี้ได้
ภาษาที่สี่ คือ ภาษาธุรกิจ และแน่นอนว่าการบัญชีเป็นภาษาธุรกิจ BADS ที่ดีต้องเข้าใจ flow ของบัญชี จะช่วยให้เข้าใจว่าข้อมูลไหลจากที่ไหนไปที่ไหนในหน่วยงาน ความรู้ศัพท์บัญชีจะช่วยให้อ่านงบการเงินได้เข้าใจ คนเรียน BADS ควรเข้าใจหลักการบัญชีเบื้องต้นและอ่านงบการเงินได้ เข้าใจผังบัญชี
ภาษาที่ห้า คือ ภาษาอังกฤษ เพราะโลกของ BADS เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วมาก หากไม่มีการติดตามความรู้ใหม่ๆ จากต่างประเทศ จะตกยุคและทำงานไม่ได้จริงอย่างรวดเร็ว การอ่านภาษาอังกฤษได้เป็นการเปิดพรมแดนแห่งความรู้ของ BADS
ภาษาที่หก คือ ภาษากฎหมาย อย่าคิดว่าไม่สำคัญ เพราะเวลาไปตกลงทำงานกัน ต้องอ่านสัญญาเป็น ต้องร่าง MOU ข้อเสนอทางการเงิน ข้อเสนอทางเทคนิค ต้องเข้าใจกฎหมายเรื่องทรัพย์สินทางปัญญา เข้าใจเรื่องสิทธิส่วนบุคคล และประเด็นอื่นๆ อีกมาก
ภาษาที่เจ็ด คือ ภาษาคน คนในวงการ BADS และ IT และสถิติ มีชื่อเสียงเลวร้ายว่าพูดและสื่อสารกับคนอื่นนอกวงการไม่ค่อยรู้เรื่อง ภาษานี้จำเป็นมาก เพราะทำให้ BADS ซึ่งต้องติดต่อขอความรู้มือ นำเสนอ โน้มน้าว คนจำนวนมาก ตั้งแต่ CEO จนถึงเจ้าหน้าที่ลงข้อมูล หากพูดไม่รู้เรื่องแล้ว Actionable knowledge ที่พยายามสร้างมาจาก BADS ก็จะไม่มีคุณค่าอะไรเลย นอกจากนี้ทักษะในการเขียน ทักษะในการนำเสนอ ก็สำคัญมากเช่นกัน
ทั้งหมดนี้ เรียนรู้ได้ และทำงานเป็นทีมได้เช่นกัน แต่คนเราควรพัฒนาตนเองตลอดเวลา อะไรที่ยังไม่รู้ก็สามารถศึกษาเพิ่มเติมเพื่อนำมาเติมเต็มในส่วนที่เราขาดไป

35 Nameless Fanboi Posted ID:TSV8EdSX1U

>>25 กูจับใจความได้ว่า ฌ ไม่ควรได้รับเกียรติให้เอาชื่อไปตั้งเป็นห้องสมุดอะ ถ้าเทียบกับคนที่ออกทุนบริจาคซึ่งควรได้รับตรงนั้นมากกว่า

>>32 ศาสนาแปลกๆ กูไม่แน่ใจนะ แต่ส่วนตัวกูตอนทำบัตรครั้งล่าสุดเมื่่อไม่กี่ปีนี้ ช่องศาสนากูเอาออกละ คือขีดละไม่ได้ใส่อะไรไว้ จนท.อำเภอก็ทำหน้างงๆ นิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร

36 Nameless Fanboi Posted ID:R42x3KrBV7

หรือจริงๆ เราควรจะ fork ราชบัณฑิตได้แล้ว จะได้มี alternative standard ที่ไม่บ้า

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

37 Nameless Fanboi Posted ID:PcpJ8MX6JE

ต่อไปเป็นข่าวต่างประเทศ

ที่หลุยเซียนาประเทศสหรัฐอเมริกาเกิดน้ำท่วม
ทำลายบ้านของนักพูดคริสเตียน
ผู้ซึ่งบอกว่า
"พระเจ้าส่งภัยพิบัติทางธรรมชาติ มาเพื่อลงโทษพวกเกย์"

https://www.independent.co.uk/news/world/americas/christian-home-destroyed-flood-tony-perkins-natural-disasters-gods-punishment-homosexuality-a7196786.html

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

38 Nameless Fanboi Posted ID:xkGn1XVMV4

ฟังเสวนาที่ธรรมศาสตร์แล้ว ผมอารมณ์ขึ้นหน่อยๆ อยากจะย้ำประเด็นเกี่ยวกับการเมืองที่ผมพูดมาตลอดซ้ำๆ แต่ผมคิดว่ามิตรสหายเสรีนิยมทั้งหลายไม่เข้าใจ และคิดว่าผมบ้า

คือคุณไม่มีทางเป็นประชาธิปไตยได้ ถ้าคุณไม่มีเปลี่ยนชุดความคิดพื้นฐานของชนชาติใหม่

ตอนผมอยู่ในคุก ผมใส่ชุดนักโทษ ผมอยู่ในสภาพตกต่ำแบบประมาณว่าครึ่งมนุษย์ อีกนิดนึงจะเป็นสัตว์ ผู้คนต้องหาคำอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นกับผม เมื่อคนที่ไม่รู้จักผมมองเห็นผม เขามีท่าทีผิดไปจากเวลาที่ผมใส่ชุดปรกติ พวกนักโทษต้องหาคำอธิบายสภาวะนี้ของตัวเอง

ผมพบว่ามันมีชุดความคิดพื้นฐานของสังคมสองชนิด เรียกว่าแบบตลาดล่าง กับแบบตลาดบนก็แล้วกัน
.
.
.
แบบตลาดล่างคือ ระบบชุดความคิดแบบวาสนา

คือ ถ้าคุณเกิดมาวาสนาดี ชีวิตคุณจะดีเป็นแพ็คเกจ รวย หล่อ มีอำนาจ มีคนนับหน้าถือตา ถ้าคุณวาสนาไม่ดีก็จะตรงกันข้าม

ทั้งหมดเป็นผลที่มาจากสภาวะความดีที่คุณเคยทำมา เป็นตัวกำหนดคุณภาพวิญญาณของคุณ

หมายความว่าสภาวะภายนอก ทั้งฐานะ หน้าตา รูปร่าง โชค สะท้อนมาจากคุณภาพของดวงวิญญาณภายใน

ถึงขั้น พูดด้วยซ้ำว่าพวกนักโทษเป็นวิญญาณที่ควรจะเป็นสัตว์ แต่มาเกิดในร่างมนุษย์

โดยตรรกะคือ ถ้าคุณเป็นคนดี คุณไม่เกิดมาจนหรอก แต่ถ้าคุณเกิดมาจน โง่ ก็แสดงว่าคุณทำกรรมมา

แสดงว่าสภาพทุกข์ทั้งหลายที่เป็นอยู่ ก็เป็นผลมาจากสิ่งที่คุณเคยทำมา

คนอยู่ในคุก ก็เป็นเพราะกรรมอะไรบางอย่าง ไม่ชาตินี้ก็ชาติก่อน

ไม่ว่าคุณจะโดนอะไร ก็เป็นผลที่คุณต้องได้รับจากสิ่งที่คุณทำ

คุณจะมาเรียกร้องความเท่าเทียม โซเชียลเวลแฟร์ห่าอะไร กรรมคุณทำเองทั้งนั้น ก้มหน้ารับไปดิ

ต่อให้คุณประท้วงว่า ไอ้สัส กูแค่ซวย เพื่อนก็จะมานั่งด่าซ้ำว่ามึงต้องทำกรรมอะไรมาแน่ๆ เลยซวยแบบนี้ ระบบกรรมมันไม่ผิดพลาดหรอกเว้ย

ผมโคตรเกลียด เวลานักโทษปลอบผมว่า "อย่าคิดมา คิดเสียว่าชดใช้กรรม" เท่ากับมานั่งด่าว่า ผมต้องทำอะไรสักอย่างผิดมาในอดีต ไม่ชาตินี้ก็ชาติก่อนดีๆนี่เอง

ในทางกลับกัน ถ้าคุณเกิดมารวย ไม่มีเหตุผล นั่นก็เป็นสิ่งที่คุณสมควรได้รับแล้ว เพราะเป็นผลบุญจากชาติที่แล้ว

คุณไม่จำเป็นต้องรู้สึกว่าคุณได้อภิสิทธิ เพราะนี่คือผล จากสิ่งที่คุณทำในอดีตเอง เหมือนปลูกพืชแล้วกินผลของพืชที่ตัวเองปลูก พวกเขาไม่คิดว่าตัวเองดวงดี เกิดมามีเงิน เพราะมันเป็นผลของชาติที่แล้วที่ตัวเองลงทุนไว้

เมื่อคิดแบบนี้ ถ้าคุณเป็นคนเกิดมารวย เรื่องอะไรคุณจะต้องไปช่วยคนเลว?

โอเค บางทีคุณอาจจะคิดที่จะทำบุญ เพื่อผลในอนาคต

แต่ก็มีความคิดว่าทำบุญกับคนดี ได้บุญมากกว่าทำบุญกับคนบาป บางคนพูดว่าถ้าช่วยคนเลว แล้วคนเลวกินข้าวเราเอาแรงไปทำเลวเราก็ได้บาป

มีครั้งหนึ่งตอนที่ผมบอกว่าผมเอาของเยี่ยมไปแบ่งให้นักโทษที่มันไม่มีแม้แต่แปรงสีฟันจะแปรง เสื้อก็ไม่มีใส่ แต่คนมาเยี่ยมผมไม่พอใจ บอกว่า เขาอยากเอาให้ผมไม่ใช่เอาให้พวกนักโทษ

ผมถามว่า แล้วผมกับนักโทษคนอื่นมันต่างกันยังไง

เขาบอกว่า เพราะผมไม่ได้ทำอะไรผิด แต่นักโทษคนอื่นทำผิดจริงๆ

ผมบอกว่า ผมเนี่ย มีของเต็มล็อกเกอร์จนมันเน่าแล้ว แต่คนอื่นไม่มีกิน เพราะผมเป็นคนดี ส่วนคนอื่นเป็นคนเลวเนี่ยนะ

ถ้าเราแบ่งคนพวกนี้แต่แรกตั้งแต่ตอนมันยังอยู่ข้างนอก มันก็ไม่ต้องไปปล้นคนอื่นกิน แล้วก็ไม่ต้องมาอยู่ในคุก มันจะเข้าใจว่าคนในสังคมเป็นเพื่อนมัน ไม่ใช่ศัตรูที่ต้องแย่งชิง

แต่เราไม่ทำ แล้วต้อนมันจนมุม พอมันมาอยู่ในคุก ก็ต้องรู้สึกอีกว่า สังคมกระทืบเหยียบซ้ำ ไหนๆมันก็เลวแล้ว ทำไมต้องสนใจคนดี โลกแบ่งเป็นสองส่วน โลกของคนดีมีวาสนา กับคนเลว ด้อยวาสนา

ในฐานคิดแบบนี้ คุณจะบอกคนพวกนี้ได้ยังไงว่าคนมันเท่ากัน

ขนาดพวกคุณเรียกตัวเองว่าฝ่ายประชาธิปไตยแท้ๆ นักโทษธรรมดา กับนักโทษการเมืองยังไม่เท่ากันเลย

แล้วคุณจะบอก คนที่คิดว่าตัวเองเกิดมามีวาสนาได้ยังไง ว่าคุณก็เท่ากับคนที่มันนอนอยู่ตามข้างถนน ไม่ได้ไปโรงเรียน

ชุดความคิดแบบแบบตลาดล่างนี้ ไม่มีทางนำไปสู่ความคิดว่าคนเท่ากัน

เพราะคนแบ่งลำดับชั้นตามวาสนา

รากฐานของประชาธิปไตยคือคนเท่ากัน ถ้าสังคมเราคิดแบบนี้ไม่มีทางเกิดประชาธิปไตย
.
.
.
ชุดตลาดบนคือ เผด็จการโดยธรรม

พวกชนชั้นกลางมีการศึกษาอาจจะปฏิเสธเรื่องชั้นวาสนาจากกรรม แต่แบ่งชั้นคนจากความดี

มีคนดี กับคนเลว

คิดว่า คนเลวในสังคมมีมาก คนดีมีน้อย

ประชาธิปไตยคือเสียงส่วนใหญ่ ปกครองส่วนน้อย

คนเลวมีมากกว่าคนดี ประชาธิปไตยก็ย่อมให้คนเลวปกครองคนดีเรื่อยไป

ฐานคิดแบบนี้ไม่มีทางนำไปสู่ประชาธิปไตยได้

พวกนี้จะเรียกร้องเผด็จการโดยคนดี และปฏิเสธระบบเสียงข้างมากไปตลอดกาล
.
.
.

(มีต่อ)

39 Nameless Fanboi Posted ID:xkGn1XVMV4

(ต่อจาก >>38 )

ผมนั่งคิดเรื่องนี้อยู่ในคุก

จะทำยังไงถึงจะเปลี่ยนชุดความคิดสองชุดนี้ของคนไทยได้

คือคุณดูถูกศาสนาไม่ได้ มันคือสถาบันการสร้างวาทกรรมพื้นฐานของสังคม เหมือนลง OS คอมพิวเตอร์

ผมไม่คิดว่ามันเป็นแก่น สารัตถะ ของ "พุทธแท้" แต่มันครอบงำสังคมไทยอยู่

คุณต้องมีชุดคำอธิบายจากมุมของศาสนาพุทธใหม่ เพื่อที่จะบอกว่า "คนเท่ากัน" และเพื่อที่จะให้ระบบเสียงข้างมากเป็นไปได้

ผมรู้สึกว่า สมมุติผมคิดได้ ในฐานะนักฆารวาสผมจะทำอะไรได้

จะเอาอะไรไปสู้กับความคิดตลาดรากที่ฝังรากอยู่กับคนที่ไปจุดธูปขอหวย รอวาสนา กับตลาดบนที่มีพุทธทาส มีท่าน ว.

ผมรู้สึกว่ามันยากมาก เราต้องการ มาร์ติน ลูเธอร์ เวอร์ชั่นพุทธ จะต้องต่อสู้ จะต้องโดนกระทืบอีกเท่าไหร่

ทางนี้ผมไม่ไหว ขอฝากให้หลวงพี่พระมหาไพรวัลย์
.
.
.
ผมคิดถึงเส้นทางเดินแบบเอธิสเหมือนกัน ผมจะเปลี่ยนความคิดจากฐานรากของสังคมโดยที่ยังเป็นเอธิสได้มั้ย

แต่ยากว่ะ

ผมพูดตรงๆ ต่อหน้าความตาย ต่อหน้าความสิ้นหวัง คุณจะไปบอกคนที่นอนอยู่ข้างถนนยังไงให้เชื่อว่าคนเท่ากัน ในฐานะเอธิส

แม้แต่ตัวผมเองที่อยู่ในคุกตอนนั้น ยังเอาจิตใจตัวเองไม่รอดเลย มันแตกสลายชิบหาย จะเอาอะไรไปให้ความหวังคนอื่น

ผมคิดถึงเรื่องเล่าของอาจารย์มหาลัยของผมที่ออกจากป่า มาเห็นเด็กขายพวงมาลัยตอนตัวเองขับรถอยู่ แล้วต้องร้องไห้กลางสี่แยกไฟแดง ว่า "ขอโทษน้อง พี่พยายามเต็มที่แล้ว"

มนุษย์ไม่ใช่อะไรที่แข็งแรงขนาดนั้น เราแบกไว้ไม่ได้ขนาดนั้น
.
.
.
โซลูชั่นของผมคือ ผมย้ายค่ายง่ายกว่า

เปลี่ยนจากแอนดรอย ไปใช้แอปเปิล ทีเดียวจบ คือสมัยยุคกลางมันก็เคยเป็นไม่ต่างกันแหละ ทางนี้คิดมากให้แล้ว จ่ายไปด้วยเลือดและเปลวไฟไปช่วงเวลา 400 ปี โดนเผากันมาจนคิดมาจบแล้ว พัฒนาการมาพร้อมสังคม

จนได้ชุดความคิดว่า พระเจ้าสร้างคนมาเท่ากัน คนบาปกันหมด พวกคิดว่าตัวเองดีกว่าคนอื่นต่างหากที่เป็นพวกหน้าไหว้หลังหลอก สภาวะความไม่เท่าเทียมมันเกิดจากบาป และหน้าที่ของมนุษย์คือการซ่อมสังคมให้กลับไปดีอย่างที่มันควรเป็น เรามีหน้าที่ทำงานสร้างสรรค์สิ่งใหม่ กระจายทรัพยากร ช่วยเหลือคนยากไร้ ทำให้คนกลับใจ

คนเท่ากัน ทุกคนมี 1 เสียงเท่ากัน ใครมีปัญญา ก็กลับไปอ่านย่อหน้าเมื่อกี้ใหม่

ใครมาพูดว่าธรรมาธิปไตย ตัวเองศีลธรรมดีกว่าคนอื่น ก็ด่าไปว่า "ไอ้พวกฟาริสี"

พอผมตัดสินใจ เลือกทางนี้ ผมช่วยทุกคนใครว่ามันจะทำให้ผมเดือดร้อน อะไรผมก็บอกว่า "กูเป็นคริสเตียน พระเจ้าบอกให้กูทำงี้ ก็เลยต้องทำแบบนี้ เป็นเหตุผลทางศาสนา"

โลกรอบๆตัวเรามันเปลี่ยนไป

คนที่รับไปก็ช่วยทำงานเล็กๆน้อยๆตอบกลับ

นักโทษที่เซฟยาใส่แผลไว้ใช้คนเดียวก็แบ่งยาให้คนอื่น

คนก็ไม่ต้องทะเลาะกัน แย่งทรัพยากรไปเก็บไว้คนเดียว เพราะเรารู้ว่าคนอื่นไว้ใจได้ รู้ว่าเพราะคนอื่นช่วยเรา เราก็เลยช่วยคนอื่นได้

เขาไม่ได้ทำดีกับเรา แต่ทำดีกับมนุษย์คนอื่นต่อไปอีกด้วย

คุกเป็นสังคมจำลองขนาดเล็ก ถ้าเราทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ เราก็จะเปลี่ยนสังคมขนาดใหญ่ได้

มนุษย์ไม่มีสูงหรือต่ำ ทุกคนสูงค่าเท่ากันหมด แค่บางคนยังไม่เข้าใจ
.
.
.
เพื่อนของผมเตือนว่าผมไม่ควรพูดเรื่องนี้ เดี๋ยวจะไปออฟเฟนท์ชาวบ้าน

แต่ผมเชื่อแบบนี้ ทำแบบนี้ ของผมจริงๆ

งานของผมก็คืออธิบายซ้ำๆว่า "พระเจ้าสร้างคนมาเท่ากัน" ผมก็พูดอยู่แค่นี้มาตลอดเท่านั้นเอง

ต่อให้จนผมตายก่อน ยังไม่สำเร็จ พระเจ้าก็ยังอยู่ เรื่องพวกนี้มันก็เขียนไว้ในไบเบิล เดี๋ยวก็มีคนมาต่อ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

40 Nameless Fanboi Posted ID:4oC8Dbiqw4

ฟางเส้นสุดท้าย ก่อนโดดจากชั้น 8

ตอนแรกคิดว่าแกคิดสั้น แต่พอฟังเรื่องของพี่ศุภชัย ทัฬหสุนทร ที่โดดชั้น 8 อาคารศาลอาญา บอกเลยว่าไม่ใช่คิดสั้น แต่คิดมาแล้ว คิดมายาวๆ คิดจนแค้น แค้นจนไม่มีทางออก

แค้นกระบวนการยุติธรรม และฟางเส้นสุดท้ายคือคำพิพากษา "ยกฟ้อง"

ผมคุยกับน้าของ "ธนิต" หรือเต้ ผู้เสียชีวิต เล่าว่าหลังจากที่เต้ ถูกแทงตาย ชะตากรรมของทุกคนในครอบครัวก็เปลี่ยนแปลงไป

โดยเฉพาะ "ศุภชัย" ผู้เป็นพ่อ

พ่อต้องลาออกจากงานเพื่อมาตามคดีลูกชาย หลังเกิดเหตุไปรับศพที่นิติเวช รพ.ตำรวจ ไปหาเสื้อผ้าลูก ปรากฎว่าหาไม่เจอ ทั้งที่เสื้อผ้าจะเป็นหลักฐานว่าเต้ถูกแทงด้วย อาวุธอะไร และอาจจะมีดีเอ็นเอ คนร้ายอยู่ที่เสื้อ

มีดของกลางก็หาไม่เจอ

พ่อของเต้ เดินหน้ารวบรวมข้อมูลต่างๆ ด้วยตัวเอง ไปหากล้อง วงจรปิดเอง ไปหาภาพถ่าย ช่วงเวลาที่ลูกและคนร้ายอยู่ในจุดเกิดเหตุ จนรวบรวมเป็นเอกสารเป็นพันๆหน้า

ที่ผมทึ่งกว่านั้นคือ พ่อเต้ มักจะไปที่ศาลบ่อยๆ เพื่อไปฟังการพิจารณาคดีที่มีความใกล้เคียงกับคดีลูกชาย อย่างคดี 6 โจ๋ แทงชายพิการ ร้านขนมปัง น้าบอกว่าศุภชัย ไปฟังแทบทุกนัด

มันคือความพยายามของผู้เป็นพ่อ

ชาวบ้านคนหนึ่งที่ไม่รู้กฎหมาย พยายามสุดชีวิต แล้ววันหนึ่งมาพบว่าคดีลูกตัวเอง ไม่มีหลักฐานอะไรเอาผิดคนร้ายเลย

ผมถึงคิดว่าเหตุการณ์ที่ศาลวันนั้น ไม่ใช่เรื่อง"คิดสั้น" หรืออารมณ์วูบไหว แต่เป็นความคับแค้นที่สุมในอกมาเป็นเวลายาวนาน โดยมีคำพิพากษา "ยกฟ้อง" เป็นฟางเส้นสุดท้าย

อย่าให้พี่เขาตายฟรี!!!

41 Nameless Fanboi Posted ID:yXJnv8XVTc

>>40 ถ้าแกโดดช้ากว่านี้วันเดียว สงสัยคงไปกราบวันอยู่บำรุงช่วยกูที

42 Nameless Fanboi Posted ID:O1B28u9U6f

>>38 , >>39 กูเคยคิดเล่นๆ ทำนองชื่นชมหลักการของศาสนาคริสต์แบบทำนองนั้นเหมือนกันนะ เสียดายกูไม่ค่อยอินกับความเชื่อเรื่องพระเจ้า เลยไม่ได้เข้ารีต (บอกตรงๆ กูเบื่อ 2 ชุดความคิดกระแสหลักในสังคมไทย อย่างที่ว่ามานั่นมากๆ)

>>41 และถ้าพี่วันช่วยได้ สังคมไทยจะนิยมศาลเตี้ยมากขึ้นกว่าเดิม เข้าใกล้ Fail State ไปอีก 1 Step

43 Nameless Fanboi Posted ID:egPd3EWu8o

>>38-39 สะดุดตรงกระมหาไพรวัลย์ บอกตามตรง ไอ้แว่นนี่แม่งก็เกาะรากหญ้าไม่ต่างจากว.เกาะชนชั้นกลางหรอก ตลกชิบหาย หวังพึ่งไอ้โล้นนี่ หวังให้ทักกี้เปลี่ยนเป็นคริสต์ยังง่ายกว่าเลย

>>42 กว่าคริสต์จะมาเป็นแบบทุกวันนี้ก็ผ่านมาเยอะ ถ้าคนไทยปซะว่าพุทธในไทยไม่ใช่พุทธ (ในพระไตรฯ) คนคริสต์ที่ไม่ใช่คาทอลิคก็แซะได้ละว่าคริสต์ทุกวันนี้ไม่ใช่คริสต์ (ในไบเบิ้ล) เพราะความคิดคนเท่ากันไม่ได้อยู่ในไบเบิ้ลมาแต่แรก เอาง่ายๆ ว่าในไบเบิ้ลยอมรับการมีทาสมาตั้งแต่สมัยพระเยซู พวกที่ทำให้ไม่มีทาสในสาระบบคริสต์ก็คือพวกเควกเกอร์ แต่โดยตัวไบเบิ้ลแล้วทาสไม่ใช่สิ่งผิด แล้วแบบนี้คนจะเท่ากันได้ไง

44 Nameless Fanboi Posted ID:lB1AVBtSr1

ในมุมนึง คนไม่อยากถูกแบ่งแยกชนชั้น แต่ในอีกมุม คนก็ต้องการความรู้สึกที่พรีเมี่ยม ไม่แมส ลิมิเต็ดอิดิชั่น แสดงออกว่าเหนือกว่าใคร เป็นคุณค่าทางจิตใจในแบบที่คนอื่นยากจะเข้าถึง ในเชิงการตลาดแล้ว จะมีการแบ่งระดับกลุ่มลูกค้าตามปัจจัยหลักๆ เช่น รายได้ เอาจริงๆ เราหนีการถูกแบ่งแยกได้ยาก

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

45 Nameless Fanboi Posted ID:k+eERG5fTV

>>42 ใช่ทุกวันนี้ คาทอลิก ก็โดนแซะจะตายว่าไม่ใช่คริสต์จริง ถ้าเรื่องปรับตามสังคมและวัฒนธรรมคาทอลิกนี่น่าจะปรับตัวเป็นต้นๆเลยนะ ในพวกนิกายคริสต์ทั้งหลายแหล่ แต่แบบ มอร์มอน ก็ไม่ไหวอ่ะเคร่งเกิ๊นแล้วก็มุมมองแบบไปปรับเปลี่ยนเลย

46 Nameless Fanboi Posted ID:O1B28u9U6f

>>45 ไม่ใช่โปรเตสแตนท์หรอวะที่ดูทันสมัยกว่า

47 Nameless Fanboi Posted ID:PhWo.hUK/h

>>46 โปรแตสแตนท์มีชเป็นสิบสาย พวกที่เคร่งจัดๆก็มีเยอะ

48 Nameless Fanboi Posted ID:NpcOejr1MT

Orthodox Christian = One true religion

49 Nameless Fanboi Posted ID:t0yr3O8ghl

บทความนี้ อ.ธเนศ เขียนแต่ฝ่ายรัฐไปหน่อยในเรื่องสนับสนุนทรัมป์ และเขียนถึงแต่ฝ่ายใต้ไปหน่อยในเรื่องทาส เลยกลายเป็นว่าทำให้ผู้อ่านรู้สึกว่าศาสนาสนับสนุนการกดขี่ฝ่ายเดียว

แท้จริง เหตุผลของการเอาไบเบิลมาอ้างของ รมว.ยุติธรรม สหรัฐ ก็เนื่องจากโบสถ์ของอเมริกัน เอาไบเบิลมาอ้างเพื่อช่วยเหลือผู้อพยพก่อน ฝ่ายรัฐเลยเอาไบเบิลมาอ้างตอบโต้

แต่พอบทความออกมา อ่านแล้วกลายเป็นเข้าใจว่า ศาสนาถูกใช้เพื่อสนับสนุนฝ่ายที่ไม่ดีทางเดียว ทั้งๆที่จริงๆแล้ว มันก็ถูกใช้ทั้งสองทาง

จริงๆตัวบทความก็พูดแหละว่ามันเป็นความแตกแยกระหว่างการแสดงความเห็นต่อคำภีร์ระหว่างสองฝ่าย แต่มีการอธิบายขยายความเพียงข้างเดียว

เหมือนในเรื่องทาสก็เป็นความแตกต่างในการอธิบายคำภีร์ของฝ่ายเหนือกับใต้ (ซึ่งเป็นเรื่องปรกติของโปรแตสแตนท์แบบอเมริกัน) เพียงแค่ตัวบทความยกตัวอย่างแต่การตีความของฝ่ายใต้ ซึ่งเป็นฝ่ายที่เอาเข้าจริงแล้วแพ้เสียด้วย

แต่ตัวบทความก็ไม่ได้พูดถึงว่าพวกฝ่ายเหนือ กับ การรณรงค์เลิกทาสที่มีสำเร็จในอังกฤษไปแล้วในช่วงเวลานั้น ก็อ้างไบเบิลเหมือนกันนั่นแหละ (โดยเฉพาะจดหมาย เฟโลโมน) ผู้ที่เรียกร้องสิทธิชาวแอฟริกันอเมริกันต่อจากนั้น ก็ทำโดยขบวนการศาสนา มาร์ติน ลูเธอร์คิง ก็เป็นศาสนจารย์แท้ๆ

กลายเป็นว่าผู้อ่านก็จะได้ข้อมูลฝ่ายเดียว จนไปจำว่าศาสนาสนับสนุนทาสอย่างไร แต่ไม่รู้เลยว่าศาสนาได้ยกเลิกทาสอย่างไร

ความจริงแล้ว พวกสนับสนุนทาสก็อ้างทุกอย่างที่เป็นประโยชน์ได้เพื่อสนับสนุนทาส พวกเอธิสฝ่ายใต้เองก็อ้างทฤษฎีวิวัฒนาการเพื่อสนับสนุนการใช้ทาส โดยบอกว่าคนขาววิวัฒนาการมาจากลิงไปไกลกว่าคนดำมีปัญญามากกว่าเจริญกว่าเช่นกัน

กลายเป็นว่าสิ่งใดที่ประเสริฐของโลกก็เป็นผลงานของขบวนมนุษยนิยมแบบอศาสนา ส่วนอะไรที่เลวร้ายก็เป็นผลงานของศาสนาอันค่ำครึไป

https://www.the101.world/jeff-sessions-and-the-bible/

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

50 Nameless Fanboi Posted ID:ataLXloRJt

>>49 ตามนั้นละ คัมภีร์เล่มเดียวตีความยังไงก็ได้

51 Nameless Fanboi Posted ID:DXKPNP19X/

>>49 ชอบประโยคสุดท้ายมาก โดนใจจริงๆ

52 Nameless Fanboi Posted ID:CjRLm0enB3

I wouldn’t be concerned about Russian meddling in US elections.

Be concerned about Deep State social media companies like Facebook and Twitter meddling in US elections.

Zuckerspy and Jack the Ripper are doing 100 times more harm to democracy than all foreign meddlers combined.

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

53 Nameless Fanboi Posted ID:DLef8ZWbeV

>>52 พวกซ้ายอเมริกายอมรับไม่ได้ที่ทรัมป์ชนะไปจนต้องโทษรัสเซีย
ไม่มีทางหรอกที่รัสเซียมันจะมายุ่งการเลือกตั้งได้ ที่ทรัมป์ชนะมีแค่สองอย่าง แคมเปญทรัมป์ฉลาดกว่าที่คนคิด ก็ฮิลลารี่โง่กว่าที่คนคิด

ฮาสัส

https://www.youtube.com/watch?v=jdP8TiKY8dE&ab_channel=ProjectVeritas

54 Nameless Fanboi Posted ID:NfbXkegCj0

>>53 ไม่คิดว่า คนเกือบ50% ของประเทศมันอาจจะคิดแบบทรัมป์ก็ได้นะเว้ย
คือตัวเองมีปัญหาทำงานยาก เจอปัญหาคนอพยพ เจอแรงงานผิดกฏหมายแย่งงานจนคิดว่าการกีดกันแบบเป็นรูปธรรมแบบทรัมป์มันพูดไว้เป็นสิ่งที่ถูกก็ได้

55 Nameless Fanboi Posted ID:ItAr6Es594

>>53 คนมันไม่เอาอีฮิลลารี่บ้าสงคราม เลือดเย็น ยอมเลือกคนบ้ามาบริหารดีกว่าเข้าสงครามอีกรอบ

56 Nameless Fanboi Posted ID:rBppym.+h6

สาเหตุที่กูไม่ฟังเพลงสากลเพราะเวลาวงดนตรีไทยไปก็อปงานเขามา ฟังแล้วจะได้ฟิน ไม่ต้องรู้ว่านั้นคืองานก็อป
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

57 Nameless Fanboi Posted ID:UU1Y.tSmsY

>>54 คนเลือกทรัมป์จำนวนไม่น้อยคือ "รากหญ้าผิวขาว" พวกนี้ไม่ได้ ปย. จากการค้าเสรีหรือโลกาภิวัฒน์ เห็นว่าเปิดเสรีมากตัวเองยิ่งลำบาก สินค้าก็เจอต่างชาติตี งานก็เจอต่างชาติแย่ง (ระดับล่างเจอเม็กซิโก ระดับกลางเจอจีนเจอเกาหลี)

อารมณ์อังกฤษออกจาก EU คนรุ่นใหม่โหวตอยู่ แต่คนรุ่นเก่าโหวตออก

58 Nameless Fanboi Posted ID:lPlsC1V0Ab

>>57 อีกส่วนคือคนรุ่นใหม่สนใจการเมืองผ่านคีย์บอร์ด ออกไปเลือกตั้งจริงไม่สน

59 Nameless Fanboi Posted ID:PIbROls.D1

>>58 Brexitคือแบบนั้นเลย คนรุ่นใหม่เย้วๆกันในทวีต ทำแฮชแทค

คนรุ่นเก่ายันไม้เท้าไปจุดลงคะแนน ตรงนั้นไม่มีหัวบลอนด์หัวดำสักคน มีแต่หงอกกับล้าน

พอผลออกมา พวกผมเต็มหัวก็พากันอัดคลิปร้องไห้ลงโซเชียล คนแก่ก็จิบชาดูข่าวไป

ฮาดี

60 Nameless Fanboi Posted ID:ZoNa08ddE3

>>59 กูว่ามันก็ไม่แน่หรอกว่า Brexit โหวตอยู่แพ้เพราะคนหนุ่มสาวจะไม่ได้มาลงคะแนนจริงๆ
พวกนี้อาจจะเป็นคนกลุ่มน้อยที่เสียงดังเพราะเข้าถึง social network มากกว่าคนแก่เฉยๆก็ได้

61 Nameless Fanboi Posted ID:kCz.VneD+.

ที่ว่าคนรุ่นใหม่ไม่ออกไปเลือกตั้งนี่เอาข้อมูลมาจากไหนวะ

62 Nameless Fanboi Posted ID:bXtBuGXYHX

https://www.youtube.com/watch?v=0ADFO45K_Y4

ถ้ากูไม่เคยดูคลิปสาวจีนหน้าผี แต่งหน้ากลายเป็นนางฟ้า กูคงติดตามคนนี้ได้อย่างสนิทใจแล้ว

63 Nameless Fanboi Posted ID:lPlsC1V0Ab

>>61 กูเคยเห็นจากexitpollที่สำรวจประชากรด้วยง่ะ

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.