Fanboi Channel

โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 7th quotes

Last posted

Total of 1000 posts

1 Nameless Fanboi Posted ID:JxTeBqhN6j

มู้เก่า
https://fanboi.ch/lounge/1161 โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง
https://fanboi.ch/lounge/2603/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 2nd quotes
https://fanboi.ch/lounge/3016/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 3rd quotes
https://fanboi.ch/lounge/3530/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 4th quotes
https://fanboi.ch/lounge/4357/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 5th quotes
https://fanboi.ch/lounge/5233/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 6th quotes

2 Nameless Fanboi Posted ID:Hg8P/CX/I/

โคตรเท่อะ นักศึกษาวิศวกรรมการบิน พระจอมเกล้าลาดกระบัง
#วิทยาลัยอุตสาหกรรมการบินนานาชาติ
ค่าเทอมๆละ 440,000฿ จบปีแรก เงินเดือนๆละ 60,000฿ ทำงานปีที่ 2 ง/ด 100,000฿ เป็นกัปตัน ง/ด 150,000฿ ขึ้นไป (ชั่วโมงบิน 1,000ชม.) 2 ปี คืนทุนค่าบำรุงการศึกษา คุ้มค่าจริงๆ
เรียนวิศวกรรมการบินที่ลาดกระบัง ได้ใบอนุญาตการบินพาณิชย์ วิศวกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิศวกรรมการบินและมีวุฒิป.ตรีอีกสาขา คือวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาการขนส่งทางอากาศ (Logistics)
(ได้ฝึกบิน 200 ชม.แน่ะ)
บอกเลยว่าทำงานสนุกมาก
นักบินสมาร์ททุกคน
ปี 4 รุ่นแรกมี 21 คน
ปี 3 ,ปี 2 มีรุ่นละ 40 คน
ปี 1 มี 80 คน
รับได้สูงสุดถึงรุ่นละ 120 คน
ปี 4 ปีสุดท้ายต้องไปเรียนที่ชุมพร กินนอนที่นั่น ฝึกวินัย ตื่นตีห้า กินข้าวเช้า 07:00น. เริ่มเรียน 09:00น. ฝึกบินวันละ 3 ชม.ต่อคน มีครูฝึกดูแลตลอด 24 ชม.
#วิทยาลัยอุตสาหกรรมการบินนานาชาติ
#KMITL
#พระจอมเกล้าลาดกระบัง

3 Nameless Fanboi Posted ID:sTA1WAGSGh

>>2 มหาลัยชั้น 3 ยี้

4 Nameless Fanboi Posted ID:xODFwX.Q6B

>>3 ชั้นสามเหรอวะ ชั้นสี่ดิ

6 Nameless Fanboi Posted ID:J/juI9ACPf

ข่าวพักหลังๆที่คนตีกัน ผัวเมียไล่ยิงกัน ทะเลาะกันแบบใช้อาวุธเลือดอาบ
ผมเห็นพลเมืองดีช่วยเข้าไปห้ามทุกข่าวเลยนะ
มีข่าวนึง ที่กระบะเมายาบ้าลงไปใช้คัตเตอร์ฟันแท็กซี่เมาสุรา สาหัสไป 2 คน
ชาวบ้านแถวนั้นคนหนึ่งที่ลงไปห้ามและเอาผ้าก็อตไปทำแผลให้ คือ "ผู้หญิง" ครับ
โห...หัวจิตหัวใจเธอสุดยอด

จากข่าวเหล่านั้นที่ผมดูจะจะกะตา ผลก็คือต่างฝ่ายต่างแยกกันแบบไม่มีใครฆ่าใครตาย
และทุกข่าวไม่มีพลเมืองดีตายสักคน

คือคุณจะอ้างเรื่องพลเมืองดีตาย มันก็จริงครับ แต่มันน้อย
แต่ผมกำลังนำเสนออีกด้านว่า เข้าไปแล้วเรื่องจบด้วยดีก็มีเยอะ
มองให้รอบด้านด้วย อย่าเสนอด้านที่ตัวเองพอใจ แล้วมาชี้นำสังคมว่าต้องเป็นแบบนั้น

แล้วใครจะเลือกช่วยไม่ช่วย มันคือทางเลือกของแต่ละคน
แต่อย่ามาหาพวก เพื่อเข้าข้างตัวเองเลย

สังคมมันแย่เพราะคนเสนอแต่ด้านแย่ๆเพื่อปกป้องความอ่อนแอตัวเองนี่แหละ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

7 Nameless Fanboi Posted ID:0Ea52IQydL

มีใครเรียกร้องสิทธิ์จดทะเบียนสมรสระหว่างคนกับสัตว์ละยังคะ? เราต้องเปิดโอกาสให้คนกลุ่มนี้ด้วยรึเปล่า? อะไรยังไง? นับวันกูยิ่งมี character ของพวกอนุรักษ์นิยมไปทุกที ๆ ๆ ๆ เรื่องจดทะเบียนคนในสายเลือดเดียวกันมันไม่เมกเซ้นส์ในทางวิทยาศาสตร์อะมึง แมงมันรังเดียวกันยังแยกกันออกเลยตัวผู้ตัวเมียออกคนละรอบเพราะกลัวเย็ดกันเองจนสูญพันธุ์ คนที่มีความคิดความอ่านมากกว่าแมงมันแม่งจะให้เอากันเองอย่างถูกกฎหมาย บ้าไปแล้ว
#มิตรสหายมีงูท่านหนึ่ง

8 Nameless Fanboi Posted ID:QhuiFdnNgS

ทำงานให้ตั้งใจ แต่อย่าอิน!

เรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับคนข้างตัวผมครับ คือเค้าตั้งใจทำงานมากๆ มากจนอินเข้าไปในงาน ต้องทำให้เสร็จ เวลาก็น้อย คนที่ขอไปก็ไม่ได้สักที งานก็ต้องทำคนเดียว แบกรับความกดดันไว้คนเดียว กลับบ้านนี่ถ้าไม่ขาก่ายหน้าผาก ก็สลบเหมือดไปเลย เพราะทำงานเหนื่อยมากๆ ที่แย่ที่สุดคือ สุขภาพจิตเริ่มเสีย เพราะตัวเองทำงานไม่ได้ดีอย่างที่คนอื่นคาดหวัง ไม่ได้ดีอย่างที่เจ้านายต้องการ ทำงานก็ไม่เสร็จ งานที่ออกไปก็ไม่สมบูรณ์เพราะไม่มีเวลามากพอ ที่หนักที่สุด ก็คือ สุขภาพ เรื่องออกกำลังกายคือ ลืมไปได้เลย แล้วพักผ่อนก็น้อย สุขภาพ ก็แย่ลงเรื่อยๆ จนท้ายที่สุด ไปกระทบคนรอบข้าง เพราะการใช้ชีวิต การคิด การกระทำ เปลี่ยนไปจากเดิมหมดเลย

แบบนี้ผมคิดว่า อินเกินไป ซึ่งเป็นเรื่องที่ส่งผลที่แย่มากกว่าดี ผมก็เคยเป็นคนที่อินมากเกินไปกับงานมาแล้วเช่นกัน ทำให้ผมเข้าใจคนเหล่านี้เป็นอย่างดี จนกระทั่งวันที่ผมมองอีกมุมหนึ่ง แล้วได้มองกลับไป ก็พบว่า ตัวเองไม่น่าอินเกินไปเลย เพราะว่าการอินเกินไป ทำให้ งานออกมาไม่ดี คนรอบข้างก็ไม่อยากคุยด้วย (หงุดหงิดตลอด) การใช้ชีวิตก็เพี้ยนไปหมด กระทบสุขภาพ ผมก็ งง ตัวเองเหมือนกัน ว่าเราจะไปอินขนาดนั้นทำไม (เมื่อวันที่เราตาสว่างแล้ว)

ทางออกเหรอครับ ทำงานอย่างตั้งใจ ทำให้ดีที่สุดเท่าที่เราทำได้ และถ้าเกินกว่าขีดจำกัด ก็ต้องปล่อยวางบ้าง เหมือนเราขับรถยนต์ เราเร่งสุดคันเร่งเลย จนเครื่องร้อนมากเกินขีดจำกัด ถ้าเราไม่ผ่อน หม้อน้ำระเบิด เครื่องพังแน่นอน ดังนั้นเราเป็นคน เราก็มี limit เหมือนกัน เราจึงต้องรู้จักหย่อนบ้าง แต่ถ้าหย่อนบ้างแล้ว งานมันจะได้รับผลกระทบแน่นอน ให้เราเตรียมแผนรองรับเลย ก็คือ รีบแจ้งคนที่เกี่ยวข้อง ให้หาคนเข้ามาเสริมเราด่วน เพราะเราจะไม่ไหวแล้ว หรือว่า แจ้งไปเลย ว่าเราทำได้เพียงเท่านี้ ถ้าเกินกว่านี้ จะต้อง ทำนั่น เพิ่มนี่ จ้างโน่น ก็ว่ากันไป (นี่คือสิ่งที่เราควรทำจริงๆต่างหาก ไม่ใช่ทนทำงานต่อไปหน้ามือตามัว) คือเราไม่ได้จะทิ้งงานไปเฉยๆ แต่เราก็หาทางออกมาแล้วเหมือนกัน และคนที่เกี่ยวข้องก็ต้องช่วยเราด้วย แต่ถ้าทำแบบนี้แล้ว ไม่มีใครช่วย ก็ลองปล่อยไปเลยจริงๆ ดูครับ ว่ามันจะเป็นอย่างไร

เชื่อผมว่า ทุกบริษัทจะมีกลไกเยียวยาความผิดพลาดต่างๆอยู่แล้วแน่นอน ถ้ามันไม่ใหญ่ ไม่ใช่เรื่องเสียหายร้ายแรง ไม่มีปัญหาหนักใจแน่นอนครับ ต้องลองดูครับ

เชื่อผมครับ ว่า ตั้งใจทำงาน แต่อย่าอิน ลงตัวที่สุด

9 Nameless Fanboi Posted ID:QhuiFdnNgS

ฝ่ายชายอายุ 18 ขวบ "เพิ่งรู้จักฝ่ายหญิงกันแค่ 2 เดือน" เจอกันใน FB เลยนัดเย็ดกันขำๆ ใส่ถุงยาง พอเย็ดเสร็จ ฝ่ายชายก็เลิกติดต่อกับฝ่ายหญิง เพราะมีแฟนอยู่แล้ว

ต่อมา ฝ่ายหญิงก็มาบอกว่า "ชั้นท้องกับเธอนะ เธอต้องแต่งงานกับชั้น" โดยฝ่ายหญิงบอกว่า "ไม่ต้องออกค่าสินสอดให้ก็ได้" ฝ่ายชายจึงยอมแต่งด้วย แต่พอถึงวันแต่ง ฝ่ายหญิงกลับเรียกค่าสินสอดเป็นแสน ฝ่ายชายจึงหนีไป

พอฝ่ายหญิงรู้ว่าเจ้าบ่าวหนี ก็ยังจัดงานแต่งงานต่อ พอรับซองจากแขกเสร็จแล้ว เจ้าสาวก็ขึ้นเวทีบอกแขกว่า เจ้าบ่าวหนีไปแล้ว จบข่าว

ปล. พ่อเจ้าบ่าว อายุ 36 ขวบ จ้ะ

10 Nameless Fanboi Posted ID:VvzYBZrOOc

พ่อเจ้าบ่าว 36
เจ้าบ่าว 18

= พ่อเยดแม่ตอน 18

11 Nameless Fanboi Posted ID:GwBwUHemIo

>>10 17ย่าง18 หักช่วงท้องด้วย

12 Nameless Fanboi Posted ID:SLZt.iTqnJ

เดี๋ยวนี้เวลาพูดถึงชื่อ ขรรค์ชัย ก็มักนึกถึงภาพที่ว่าเป็นเจ้าของมติชน เป็นแบบผู้ยิ่งใหญ่ในวงการนสพ. ส่วนสุจิตต์ คนก็มักติดภาพเจ้าพ่อแห่งการแหก ไม่ว่าจะเรื่องคนไทยไม่ได้มาจากเทือกเขาอัลไต จารึกหลัก 1 ไม่ใช่ของพ่อขุนราม สุโขทัยไม่ใช่ราชธานีแห่งแรก ฯลฯ แต่ในมุมของความเป็นนักเขียนตั้งแต่หนุ่มนี่งานคลาสสิกแกมีเยอะ ที่ว่าคลาสสิกนี่เพราะหลายๆเล่มถ้าฉีกปกออกแล้วอ่านโดยไม่รู้ว่าเขียนมานานหลายสิบปีแล้ว ก็อาจนึกว่าเป็นเรื่องแต่งใหม่ เพราะเหตุการณ์ยังวนลูปเดิมให้ได้เห็นกัน

ตัวอย่างงานของขรรค์ชัยที่เห็นได้ชัดมาก คือ ชานหมากนอกกระโถน เรื่องพระสงฆ์องคเจ้าที่เรายกมือไหว้อะไรทำนองนั้น ควรหามาอ่าน ลองเทียบกับเหตุการณ์เมื่อไม่นานมานี้ที่ชวนให้สังคมตั้งคำถามกับวงการผ้าเหลืองอย่างที่รู้ๆกัน

ส่วนสุจิตต์ ก็แน่นอนว่าต้องเป็น หนุ่มหน่ายคัมภีร์ ที่พระเอกกระทำการขบถต่อระบบโซตัสในมหาวิทยาลัย เล่มนี้พิมพ์แล้วพิมพ์อีกก็ยังขายได้ แล้วดูทุกวันนี้ยังมีข่าวบ้าๆบอๆรุ่นพี่ทำร้ายรุ่นน้องม้ามแตก น่าเวทนา

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

13 Nameless Fanboi Posted ID:4.mSUN9hlZ

เบื้องหลัง จม. อีลอนต้องมายอมขอโทษเรื่องพีโด้

Elon,

I’m writing on behalf of investors who believe in you and your mission to accelerate the globe’s adoption of sustainable energy. Your track record as a visionary is unprecedented, and I also recognize the intangibles of your leadership – building a culture of walking through walls and inspiring a workforce to a level I have not seen in over 20 years of covering tech.

However, continued success requires investor support. In order to realize your mission, Tesla needs access to capital and the confidence of investors.

Over the last 6 months, there have been too many examples of concerning behavior that is shaking investor confidence. In my view, your outburst at analysts on the March 2018 earnings call, your ongoing frustration with short sellers and the media, your June email exchange with the saboteur, and your confrontation on Twitter with cave diver Vern Unsworth each raised flags with investors.

The exchange with Vern Unsworth crossed the line. I suspect you would agree given you deleted the string from Twitter, but it will take more than that to regain investor confidence.

Your behavior is fueling an unhelpful perception of your leadership – thin-skinned and short-tempered.

Thankfully, the road to regaining investor confidence is well traveled. It starts with an apology. Then, focus your message on your progress toward achieving Tesla’s mission. You might consider taking a Twitter sabbatical. Twitter might keep Tesla in the news but it won’t help continued improvements in production and product.

Also, ignore the short sellers. During my time as an analyst I have observed that when companies aggressively engage with short sellers, they lose. The best way to beat them is not with words, but actions that drive the stock higher.

It’s hard to imagine the responsibility and strain of managing several world-changing companies, but I’m confident that this letter represents the view of investors and customers who want to see you succeed. Listening to the herd is rarely how the world changes, but in this scenario I hope you’ll consider the opinion of your supporters and do your best to improve.

Respectfully,

Gene Munster

Disclaimer: We actively write about the themes in which we invest: virtual reality, augmented reality, artificial intelligence, and robotics. From time to time, we will write about companies that are in our portfolio. Content on this site including opinions on specific themes in technology, market estimates, and estimates and commentary regarding publicly traded or private companies is not intended for use in making investment decisions. We hold no obligation to update any of our projections. We express no warranties about any estimates or opinions we make.

Tesla

14 Nameless Fanboi Posted ID:NrNDzlwcrz

"ในสายตาของ เรนฮาร์ด กรินเดล และผู้สนับสนุนของเขา ผมเป็นคนเยอรมันเมื่อเราชนะ แต่เป็นแค่คนอพยพเมื่อเราแพ้"

15 Nameless Fanboi Posted ID:.KhOPN8/sh

>>14 และเป็นเจ้าของไม้เอลเดอร์เมื่ออยู่ในแฮรี่

16 Nameless Fanboi Posted ID:co5ZHENrjD

>>14 กูอ่านquoteนั้นนี่เศร้าเลยว่ะ เออซิล(ö มันไม่ได้อ่านว่า o เลิกเล่นมุขเบอร์10ได้ล่ะ เสร่อชห) มันสะท้อนว่าปัญหาเหยียดเชื้อชาติลึกๆยังไม่ไปไหน ขนาดเค้าอยู่มารุ่น3จนความจริงไม่คิดแล้วว่าอินี่เป็นเติร์ก(กูคนจีนแท้ อยู่มารุ่น3กูก็เชื้อชาติไทยเลยนะเพราะพ่อแม่เกิดในไทย) บอลโลกที่ตกรอบถ้าด่าก็ควรด่าทุกคนอ่ะไม่ใช่เออซิลคนเดียว

17 Nameless Fanboi Posted ID:iSKBtI599c

>>14 อยากให้ระลึกไว้ว่าคนเยอรมันครั้งนึงก็เคยมั่วนิ่มว่าตัวเองเป็นคนโรมันอ่ะครับ

18 Nameless Fanboi Posted ID:IToa4iBlUp

>>16 อี๋เจ๊ก

19 Nameless Fanboi Posted ID:m9m4QzpxQW

https://www.youtube.com/watch?v=TNJaQIGnwew

20 Nameless Fanboi Posted ID:mlQacy0fQx

#โครงการห้องสมุดเฌอปราง เป็น #ความสิ้นคิด ที่ผมไม่เคยคิดว่าจะได้เห็นอะไรที่น่าสมเพชได้ขนาดนี้ครับ

ฝ่ายการตลาดของวงครับ คุณควรที่จะให้คุณเฌอปรางปฏิเสธการใช้ชื่อของเธอ และควรมอบหมายให้ตั้งชื่อเพื่อเป็นอนุสรณ์แก่เจ้าของโครงการที่เป็นผู้ระดมทุนเองทั้งหมดต่างหาก

คุณกำลังทำการตลาดได้อย่างไร้จรรยาบรรณที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็น #คุณสร้างภาพจำให้กับเด็กๆในโรงเรียน ว่าไอดอลผู้นี้มีคุณูปการแก่โรงเรียนทั้งๆที่มันไม่ใช่เรื่องจริงเลยแม้แต่นิดเดียว

คุณพึงระลึกไว้นะครับว่า #คุณเฌอปรางเธอไม่ได้ทำอะไรเลย นอกจากเต้นโชว์วับๆแวมๆแล้วทำการตลาดมาแพ็คเกจขายในชื่อ #ความพยายาม เพื่อสะกดจิตโอตะร่วมกับการตั้งกฎเกณฑ์ไร้สาระของทางวง โก่งราคาให้คนที่หลงใหลมาทุ่มเงินจ่ายแก่สินค้าที่ระลึกราคาถูกให้พวกคุณขายฟันกำไร

เงินสร้างห้องสมุดที่ได้มาจากการขายสินค้าทำกำไร เป็นน้ำพักน้ำแรงของเจ้าของโครงการทั้งสิ้น

การที่คุณยินยอมให้ใช้ชื่อ "เฌอปราง อารีย์กุล" และอวดอุตริผิดมนุษย์ช่วยกันแชร์ให้เป็นกระแสไวรัล มันคือการที่ #คุณกำลังพยายามขยายกลุ่มลูกค้าแห่งใหม่ โดยใช้เด็กๆในโรงเรียนต่างจังหวัดที่ขาดทุนทรัพย์เป็นฐานกำลังตลาด

#คุณกำลังทำให้เด็กๆซึมซับวัฒนธรรมไอดอล ที่หลายฝ่ายรวมถึงผมกังขาว่าเป็นการทำเด็กผู้หญิงให้เป็นวัตถุทางเพศของกลุ่มชายหนุ่มที่มากด้วยวัยวุฒิ

ผมสมเพชเวทนาครับกับการที่โครงการดีๆอย่างการสร้างห้องสมุดให้แก่โรงเรียนชนบท กลับกลายว่าจะต้องมีวาระแอบแฝงเป็นการตลาดของวัฒนธรรมไอดอล ให้แนวคิดสุดอนาถนี่ซึมซับอยู่ในจิตใต้สำนึกของเด็กๆที่เค้าไม่มีโอกาสได้รับรู้ข้อวิจารณ์ถึงวัฒนธรรมนี้เลย

ถ้าจะเปรียบเปรยไปให้สุดโต่ง เหมือนใครอยากจะอุตริสร้างห้องสมุดอุทิศให้หญิงสาวดาวยั่วที่ตนหลงเสน่ห์ โดยใช้ชื่อดาวโป๊หรือดาราที่เป็นนางบำเรอของเสี่ยๆนางนั้นมาเป็นชื่อห้องสมุดให้เด็กๆเรียนรู้

#มันสมควรไหมครับ?

ประเทศนี้มันมาถึงกลียุคขนาดว่าคนทำโครงการดีๆ ต้องเซ็นเซอร์หน้าตา ชื่อเสียงเรียงนาม เพื่ออุทิศความดีที่ตัวเองทำให้กับไอดอลที่เต้นและทำการตลาดให้เขาหลงเสน่ห์แล้วหรอครับ?

คุณต้องเริ่มคิดขีดเส้นได้แล้วนะครับว่าคุณจะผลักดันวัฒนธรรมไอดอลนี่ให้ไปถึงไหน

สำหรับผมแล้ว คุณข้ามเส้นไปมากตั้งแต่กรณียินดีโปรโมตข่าวยินยอมให้ คุณ รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธุ์ เสนอนำรูปคุณเฌอปรางขึ้นไปร่วมกับการทดลองในอวกาศ โดยไม่สนใจว่าเป็นโครงการทดลองทางวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยของรัฐที่ไม่ควรมีปัจจัยด้านการตลาดเข้ามาเกี่ยวข้อง

จนกระทั่งถึงวันนี้ คุณได้ทดสอบเส้นมาตรฐานจริยธรรมอีกเส้นหนึ่งเกี่ยวกับการทำการตลาดกับโรงเรียนและเด็กๆที่ขาดโอกาส

#วันนี้คุณได้ข้ามเส้นกั้นแห่งจริยธรรมทางธุรกิจใดๆไปอย่างสมบูรณ์แล้วครับ

การกระทำทั้งหมดนี้คือความสิ้นคิดไร้สติโดยสิ้นเชิงของผู้สนับสนุนวัฒนธรรมไอดอล

#รวมถึงตัวไอดอลเองที่คิดไม่ได้
#ไม่ฉลาดเฉลียวเหมือนที่คุยไว้ครับ

รศ.ดร.เจ็ดแมงดา เอาเชอมาทำพันธุ์

21 Nameless Fanboi Posted ID:RmbDfjR0XG

>>17 เป็นคน (โฮลี) โรมัน

22 Nameless Fanboi Posted ID:skxgVlRBt.

>>21
>Holy
>Roman
>Empire

23 Nameless Fanboi Posted ID:i3x/S8+zR5

>>20 กูตกข่าวว่ะเรื่องรี้มีลิ้งไหม?

24 Nameless Fanboi Posted ID:vjSEri9V7N

อนุรักษ์นิยมกะโหลกกะลา พูดอยู่นั่นแหละว่าเสรีภาพและประชาธิปไตยเป็นของฝรั่ง
ทำไมไม่พูดบ้างว่าพุทธศาสนาเป็นของอินเดียไม่เหมาะกับไทย

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

25 Nameless Fanboi Posted ID:.FdFCjjIZQ

>>20 สรุปประเด็นคืออะไรวะกูงง เอาชื่อคนมาตั้งห้องสมุดก็มีเยอะแยะ

26 Nameless Fanboi Posted ID:06E/8gFk2N

>>24 ต... แต่พระพุทธเจ้าเป็นคนไทยนะ

27 Nameless Fanboi Posted ID:/oqZrU.sot

>>24 "พุทธ" แบบประเทศเรานี่มันออกอ่าวจากของเดิมไปไกลมากแล้วนะ มากเสียจนเป็นอะไรไปแล้วก็อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน 55555+

28 Nameless Fanboi Posted ID:ag5HdIO9Ub

>>27 พุทธ์เหี้ยไรอะไปขูดต้นไม้ จุดธูปขอหวยกับบ่อขี้วะ 555

29 Nameless Fanboi Posted ID:jZw/2zJ42F

พุทธแต่ในบัตรประชาชนมากกว่า ประเทศเราแม่งเหมือนเหี้ยอะไรก็ได้ที่ไหว้ขอโชคขอลาภขอสาปแช่งได้พวกก็พร้อมนับถือหมด

30 Nameless Fanboi Posted ID:PKD.4a+bGr

#บ่น ประโยคพูดประมาณว่า...
- เห็นหน้าตาดี ไม่คิดว่าจะนิสัยแบบนี้
- สวย ๆ อย่างนั้นทำไมสร้าวเรื่องใหญ่โตแบบนี้
- หล่อระดับดาราขนาดนั้น ไม่คิดว่าจะสันดานต่ำ
- โหงวเฮ้งดูดี ไม่คิดว่าจะเป็นแบบนั้น
- หน้าตาก็ใช้ได้ ทำไมถึงไปโกงชาวบั้นแบบนั้น
- เขาก็พยายามเทคแคร์ ดูแลรับส่งนะ แต่หน้าตาไม่ผ่านมาตรฐาน ที่บ้านเขาไม่ชอบก็คงไม่ให้แต่งหรอก
ฯลฯ

คือแบบ พวกมึงก็มองคนจากภายนอก ไม่พ้นหน้าตาและรูปลักษณ์นั่นแหละ แต่ปากก็บอกว่า “มองคนที่จิตใจ” อ่ะ โคตรน่ารังเกียจ... =_= ถ้าจะมองคนไม่พ้นจากตรงนั้นอย่าสะเออะบอกว่ามองคนที่จิตใจ...

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

31 Nameless Fanboi Posted ID:Ht1iH/hkfL

>>30 เวลาได้ยินข่าวก็จะได้ยินแบบนี้นะ ครูสาว(สวย)บนดอยแสนใจดี พ่อค้าหนุ่ม(หล่อ)ใจบุญ สาว(สวยเซ็กซี่)ใจงามช่วยคนยากไร้

32 Nameless Fanboi Posted ID:zT5GKvmknT

>>29 กูเห็นที่มีรูปศาสนาเบค่อน ตอนนี้มันเปลี่ยนได้ตามใจยังวะ บัตรหมดอายุรอบหน้ากูจะไปเปลี่ยนศาสนาในบัตรมั่ง

33 Nameless Fanboi Posted ID:+xtf65KHcJ

ตกลงกับมยุรีว่าจะไม่จัดงานแต่งงาน
มันเปลือง
จดแค่ทะเบียนสมรสก็พอ

และถ้าเราจะจดทะเบียนสมรส ก็ขอให้เป็นวันที่ 25 มิถุนายน
เพราะวันที่เราตกลงคบกัน
คือ...มนุษย์เรามันไม่ควรมีวันสำคัญเยอะขนาดนั้นป่ะวะ
ถ้าเราเลือกได้ ก็กรุ๊ปๆ ให้มันเป็นระเบียบหน่อย
(หมดกันความโรแมนติค)

มารู้ตัวกันอีกที ลืมกันทั้งคู่
จบ.

งั้น...เลื่อนไปอีกวันละกัน อย่างน้อยก็ยังยึดวันที่ 25 อยู่
วันจดทะเบียนจึงกลายเป็น วันที่ 25 กรกฏาคมนั่นเอง

ครบรอบ 7 ปี จดทะเบียนสมรสแล้ว

รักมยุรีนะ

รูปถ่ายโดยพี่ bickboon ที่อยู่ดีๆ ก็ต้องมาเป็นสักขีพยานในวันนั้น 5555

34 Nameless Fanboi Posted ID:+xtf65KHcJ

ภาษาแรกที่ต้องเรียนรู้คือ ภาษาคณิตศาสตร์ แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเรียน BADS โดยไม่ใช้ภาษาคณิตศาสตร์ เพราะพวก Model และ Algorithms ต่างๆ ก็ใช้คณิตศาสตร์เป็นพื้นฐานทั้งสิ้น
ภาษาที่สอง คือ ภาษาสถิติ ฐานของ BADS ยังไงก็ต้องรู้สถิติเป็นอย่างดี ต้องรู้ลึกซึ้ง เข้าใจศัพท์ เข้าใจทฤษฎี เข้าใจเหตุผล ดังนั้น BADS ต้องเรียนสถิติ ต้องมี Statistical literacy สูงมาก
ภาษาที่สาม คือ ภาษาคอมพิวเตอร์ ต้องเรียน Programming language ที่ใช้ใน BADS อย่างน้อยก็ควรเรียนภาษาที่ใช้จัดการกับข้อมูล เช่น SQL หรือ Hadoop ซึ่งจัดการกับข้อมูลแบบมีมีโครงสร้างและไม่มีโครงสร้าง ส่วน R นั้นเป็นภาษาโปรแกรมมิ่งทางสถิติซึ่งน่าจะอยู่ไปอีกยาวๆ เพราะเป็น freeware และมี package ให้ใช้ฟรีเยอะมาก ส่วน Python นั้นจะเป็นภาษามาตรฐานสำหรับ Machine learning และ artificial intelligence อย่างน้อยๆ ก็น่าจะทำงานกับภาษาเหล่านี้ได้
ภาษาที่สี่ คือ ภาษาธุรกิจ และแน่นอนว่าการบัญชีเป็นภาษาธุรกิจ BADS ที่ดีต้องเข้าใจ flow ของบัญชี จะช่วยให้เข้าใจว่าข้อมูลไหลจากที่ไหนไปที่ไหนในหน่วยงาน ความรู้ศัพท์บัญชีจะช่วยให้อ่านงบการเงินได้เข้าใจ คนเรียน BADS ควรเข้าใจหลักการบัญชีเบื้องต้นและอ่านงบการเงินได้ เข้าใจผังบัญชี
ภาษาที่ห้า คือ ภาษาอังกฤษ เพราะโลกของ BADS เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วมาก หากไม่มีการติดตามความรู้ใหม่ๆ จากต่างประเทศ จะตกยุคและทำงานไม่ได้จริงอย่างรวดเร็ว การอ่านภาษาอังกฤษได้เป็นการเปิดพรมแดนแห่งความรู้ของ BADS
ภาษาที่หก คือ ภาษากฎหมาย อย่าคิดว่าไม่สำคัญ เพราะเวลาไปตกลงทำงานกัน ต้องอ่านสัญญาเป็น ต้องร่าง MOU ข้อเสนอทางการเงิน ข้อเสนอทางเทคนิค ต้องเข้าใจกฎหมายเรื่องทรัพย์สินทางปัญญา เข้าใจเรื่องสิทธิส่วนบุคคล และประเด็นอื่นๆ อีกมาก
ภาษาที่เจ็ด คือ ภาษาคน คนในวงการ BADS และ IT และสถิติ มีชื่อเสียงเลวร้ายว่าพูดและสื่อสารกับคนอื่นนอกวงการไม่ค่อยรู้เรื่อง ภาษานี้จำเป็นมาก เพราะทำให้ BADS ซึ่งต้องติดต่อขอความรู้มือ นำเสนอ โน้มน้าว คนจำนวนมาก ตั้งแต่ CEO จนถึงเจ้าหน้าที่ลงข้อมูล หากพูดไม่รู้เรื่องแล้ว Actionable knowledge ที่พยายามสร้างมาจาก BADS ก็จะไม่มีคุณค่าอะไรเลย นอกจากนี้ทักษะในการเขียน ทักษะในการนำเสนอ ก็สำคัญมากเช่นกัน
ทั้งหมดนี้ เรียนรู้ได้ และทำงานเป็นทีมได้เช่นกัน แต่คนเราควรพัฒนาตนเองตลอดเวลา อะไรที่ยังไม่รู้ก็สามารถศึกษาเพิ่มเติมเพื่อนำมาเติมเต็มในส่วนที่เราขาดไป

35 Nameless Fanboi Posted ID:TSV8EdSX1U

>>25 กูจับใจความได้ว่า ฌ ไม่ควรได้รับเกียรติให้เอาชื่อไปตั้งเป็นห้องสมุดอะ ถ้าเทียบกับคนที่ออกทุนบริจาคซึ่งควรได้รับตรงนั้นมากกว่า

>>32 ศาสนาแปลกๆ กูไม่แน่ใจนะ แต่ส่วนตัวกูตอนทำบัตรครั้งล่าสุดเมื่่อไม่กี่ปีนี้ ช่องศาสนากูเอาออกละ คือขีดละไม่ได้ใส่อะไรไว้ จนท.อำเภอก็ทำหน้างงๆ นิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร

36 Nameless Fanboi Posted ID:R42x3KrBV7

หรือจริงๆ เราควรจะ fork ราชบัณฑิตได้แล้ว จะได้มี alternative standard ที่ไม่บ้า

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

37 Nameless Fanboi Posted ID:PcpJ8MX6JE

ต่อไปเป็นข่าวต่างประเทศ

ที่หลุยเซียนาประเทศสหรัฐอเมริกาเกิดน้ำท่วม
ทำลายบ้านของนักพูดคริสเตียน
ผู้ซึ่งบอกว่า
"พระเจ้าส่งภัยพิบัติทางธรรมชาติ มาเพื่อลงโทษพวกเกย์"

https://www.independent.co.uk/news/world/americas/christian-home-destroyed-flood-tony-perkins-natural-disasters-gods-punishment-homosexuality-a7196786.html

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

38 Nameless Fanboi Posted ID:xkGn1XVMV4

ฟังเสวนาที่ธรรมศาสตร์แล้ว ผมอารมณ์ขึ้นหน่อยๆ อยากจะย้ำประเด็นเกี่ยวกับการเมืองที่ผมพูดมาตลอดซ้ำๆ แต่ผมคิดว่ามิตรสหายเสรีนิยมทั้งหลายไม่เข้าใจ และคิดว่าผมบ้า

คือคุณไม่มีทางเป็นประชาธิปไตยได้ ถ้าคุณไม่มีเปลี่ยนชุดความคิดพื้นฐานของชนชาติใหม่

ตอนผมอยู่ในคุก ผมใส่ชุดนักโทษ ผมอยู่ในสภาพตกต่ำแบบประมาณว่าครึ่งมนุษย์ อีกนิดนึงจะเป็นสัตว์ ผู้คนต้องหาคำอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นกับผม เมื่อคนที่ไม่รู้จักผมมองเห็นผม เขามีท่าทีผิดไปจากเวลาที่ผมใส่ชุดปรกติ พวกนักโทษต้องหาคำอธิบายสภาวะนี้ของตัวเอง

ผมพบว่ามันมีชุดความคิดพื้นฐานของสังคมสองชนิด เรียกว่าแบบตลาดล่าง กับแบบตลาดบนก็แล้วกัน
.
.
.
แบบตลาดล่างคือ ระบบชุดความคิดแบบวาสนา

คือ ถ้าคุณเกิดมาวาสนาดี ชีวิตคุณจะดีเป็นแพ็คเกจ รวย หล่อ มีอำนาจ มีคนนับหน้าถือตา ถ้าคุณวาสนาไม่ดีก็จะตรงกันข้าม

ทั้งหมดเป็นผลที่มาจากสภาวะความดีที่คุณเคยทำมา เป็นตัวกำหนดคุณภาพวิญญาณของคุณ

หมายความว่าสภาวะภายนอก ทั้งฐานะ หน้าตา รูปร่าง โชค สะท้อนมาจากคุณภาพของดวงวิญญาณภายใน

ถึงขั้น พูดด้วยซ้ำว่าพวกนักโทษเป็นวิญญาณที่ควรจะเป็นสัตว์ แต่มาเกิดในร่างมนุษย์

โดยตรรกะคือ ถ้าคุณเป็นคนดี คุณไม่เกิดมาจนหรอก แต่ถ้าคุณเกิดมาจน โง่ ก็แสดงว่าคุณทำกรรมมา

แสดงว่าสภาพทุกข์ทั้งหลายที่เป็นอยู่ ก็เป็นผลมาจากสิ่งที่คุณเคยทำมา

คนอยู่ในคุก ก็เป็นเพราะกรรมอะไรบางอย่าง ไม่ชาตินี้ก็ชาติก่อน

ไม่ว่าคุณจะโดนอะไร ก็เป็นผลที่คุณต้องได้รับจากสิ่งที่คุณทำ

คุณจะมาเรียกร้องความเท่าเทียม โซเชียลเวลแฟร์ห่าอะไร กรรมคุณทำเองทั้งนั้น ก้มหน้ารับไปดิ

ต่อให้คุณประท้วงว่า ไอ้สัส กูแค่ซวย เพื่อนก็จะมานั่งด่าซ้ำว่ามึงต้องทำกรรมอะไรมาแน่ๆ เลยซวยแบบนี้ ระบบกรรมมันไม่ผิดพลาดหรอกเว้ย

ผมโคตรเกลียด เวลานักโทษปลอบผมว่า "อย่าคิดมา คิดเสียว่าชดใช้กรรม" เท่ากับมานั่งด่าว่า ผมต้องทำอะไรสักอย่างผิดมาในอดีต ไม่ชาตินี้ก็ชาติก่อนดีๆนี่เอง

ในทางกลับกัน ถ้าคุณเกิดมารวย ไม่มีเหตุผล นั่นก็เป็นสิ่งที่คุณสมควรได้รับแล้ว เพราะเป็นผลบุญจากชาติที่แล้ว

คุณไม่จำเป็นต้องรู้สึกว่าคุณได้อภิสิทธิ เพราะนี่คือผล จากสิ่งที่คุณทำในอดีตเอง เหมือนปลูกพืชแล้วกินผลของพืชที่ตัวเองปลูก พวกเขาไม่คิดว่าตัวเองดวงดี เกิดมามีเงิน เพราะมันเป็นผลของชาติที่แล้วที่ตัวเองลงทุนไว้

เมื่อคิดแบบนี้ ถ้าคุณเป็นคนเกิดมารวย เรื่องอะไรคุณจะต้องไปช่วยคนเลว?

โอเค บางทีคุณอาจจะคิดที่จะทำบุญ เพื่อผลในอนาคต

แต่ก็มีความคิดว่าทำบุญกับคนดี ได้บุญมากกว่าทำบุญกับคนบาป บางคนพูดว่าถ้าช่วยคนเลว แล้วคนเลวกินข้าวเราเอาแรงไปทำเลวเราก็ได้บาป

มีครั้งหนึ่งตอนที่ผมบอกว่าผมเอาของเยี่ยมไปแบ่งให้นักโทษที่มันไม่มีแม้แต่แปรงสีฟันจะแปรง เสื้อก็ไม่มีใส่ แต่คนมาเยี่ยมผมไม่พอใจ บอกว่า เขาอยากเอาให้ผมไม่ใช่เอาให้พวกนักโทษ

ผมถามว่า แล้วผมกับนักโทษคนอื่นมันต่างกันยังไง

เขาบอกว่า เพราะผมไม่ได้ทำอะไรผิด แต่นักโทษคนอื่นทำผิดจริงๆ

ผมบอกว่า ผมเนี่ย มีของเต็มล็อกเกอร์จนมันเน่าแล้ว แต่คนอื่นไม่มีกิน เพราะผมเป็นคนดี ส่วนคนอื่นเป็นคนเลวเนี่ยนะ

ถ้าเราแบ่งคนพวกนี้แต่แรกตั้งแต่ตอนมันยังอยู่ข้างนอก มันก็ไม่ต้องไปปล้นคนอื่นกิน แล้วก็ไม่ต้องมาอยู่ในคุก มันจะเข้าใจว่าคนในสังคมเป็นเพื่อนมัน ไม่ใช่ศัตรูที่ต้องแย่งชิง

แต่เราไม่ทำ แล้วต้อนมันจนมุม พอมันมาอยู่ในคุก ก็ต้องรู้สึกอีกว่า สังคมกระทืบเหยียบซ้ำ ไหนๆมันก็เลวแล้ว ทำไมต้องสนใจคนดี โลกแบ่งเป็นสองส่วน โลกของคนดีมีวาสนา กับคนเลว ด้อยวาสนา

ในฐานคิดแบบนี้ คุณจะบอกคนพวกนี้ได้ยังไงว่าคนมันเท่ากัน

ขนาดพวกคุณเรียกตัวเองว่าฝ่ายประชาธิปไตยแท้ๆ นักโทษธรรมดา กับนักโทษการเมืองยังไม่เท่ากันเลย

แล้วคุณจะบอก คนที่คิดว่าตัวเองเกิดมามีวาสนาได้ยังไง ว่าคุณก็เท่ากับคนที่มันนอนอยู่ตามข้างถนน ไม่ได้ไปโรงเรียน

ชุดความคิดแบบแบบตลาดล่างนี้ ไม่มีทางนำไปสู่ความคิดว่าคนเท่ากัน

เพราะคนแบ่งลำดับชั้นตามวาสนา

รากฐานของประชาธิปไตยคือคนเท่ากัน ถ้าสังคมเราคิดแบบนี้ไม่มีทางเกิดประชาธิปไตย
.
.
.
ชุดตลาดบนคือ เผด็จการโดยธรรม

พวกชนชั้นกลางมีการศึกษาอาจจะปฏิเสธเรื่องชั้นวาสนาจากกรรม แต่แบ่งชั้นคนจากความดี

มีคนดี กับคนเลว

คิดว่า คนเลวในสังคมมีมาก คนดีมีน้อย

ประชาธิปไตยคือเสียงส่วนใหญ่ ปกครองส่วนน้อย

คนเลวมีมากกว่าคนดี ประชาธิปไตยก็ย่อมให้คนเลวปกครองคนดีเรื่อยไป

ฐานคิดแบบนี้ไม่มีทางนำไปสู่ประชาธิปไตยได้

พวกนี้จะเรียกร้องเผด็จการโดยคนดี และปฏิเสธระบบเสียงข้างมากไปตลอดกาล
.
.
.

(มีต่อ)

39 Nameless Fanboi Posted ID:xkGn1XVMV4

(ต่อจาก >>38 )

ผมนั่งคิดเรื่องนี้อยู่ในคุก

จะทำยังไงถึงจะเปลี่ยนชุดความคิดสองชุดนี้ของคนไทยได้

คือคุณดูถูกศาสนาไม่ได้ มันคือสถาบันการสร้างวาทกรรมพื้นฐานของสังคม เหมือนลง OS คอมพิวเตอร์

ผมไม่คิดว่ามันเป็นแก่น สารัตถะ ของ "พุทธแท้" แต่มันครอบงำสังคมไทยอยู่

คุณต้องมีชุดคำอธิบายจากมุมของศาสนาพุทธใหม่ เพื่อที่จะบอกว่า "คนเท่ากัน" และเพื่อที่จะให้ระบบเสียงข้างมากเป็นไปได้

ผมรู้สึกว่า สมมุติผมคิดได้ ในฐานะนักฆารวาสผมจะทำอะไรได้

จะเอาอะไรไปสู้กับความคิดตลาดรากที่ฝังรากอยู่กับคนที่ไปจุดธูปขอหวย รอวาสนา กับตลาดบนที่มีพุทธทาส มีท่าน ว.

ผมรู้สึกว่ามันยากมาก เราต้องการ มาร์ติน ลูเธอร์ เวอร์ชั่นพุทธ จะต้องต่อสู้ จะต้องโดนกระทืบอีกเท่าไหร่

ทางนี้ผมไม่ไหว ขอฝากให้หลวงพี่พระมหาไพรวัลย์
.
.
.
ผมคิดถึงเส้นทางเดินแบบเอธิสเหมือนกัน ผมจะเปลี่ยนความคิดจากฐานรากของสังคมโดยที่ยังเป็นเอธิสได้มั้ย

แต่ยากว่ะ

ผมพูดตรงๆ ต่อหน้าความตาย ต่อหน้าความสิ้นหวัง คุณจะไปบอกคนที่นอนอยู่ข้างถนนยังไงให้เชื่อว่าคนเท่ากัน ในฐานะเอธิส

แม้แต่ตัวผมเองที่อยู่ในคุกตอนนั้น ยังเอาจิตใจตัวเองไม่รอดเลย มันแตกสลายชิบหาย จะเอาอะไรไปให้ความหวังคนอื่น

ผมคิดถึงเรื่องเล่าของอาจารย์มหาลัยของผมที่ออกจากป่า มาเห็นเด็กขายพวงมาลัยตอนตัวเองขับรถอยู่ แล้วต้องร้องไห้กลางสี่แยกไฟแดง ว่า "ขอโทษน้อง พี่พยายามเต็มที่แล้ว"

มนุษย์ไม่ใช่อะไรที่แข็งแรงขนาดนั้น เราแบกไว้ไม่ได้ขนาดนั้น
.
.
.
โซลูชั่นของผมคือ ผมย้ายค่ายง่ายกว่า

เปลี่ยนจากแอนดรอย ไปใช้แอปเปิล ทีเดียวจบ คือสมัยยุคกลางมันก็เคยเป็นไม่ต่างกันแหละ ทางนี้คิดมากให้แล้ว จ่ายไปด้วยเลือดและเปลวไฟไปช่วงเวลา 400 ปี โดนเผากันมาจนคิดมาจบแล้ว พัฒนาการมาพร้อมสังคม

จนได้ชุดความคิดว่า พระเจ้าสร้างคนมาเท่ากัน คนบาปกันหมด พวกคิดว่าตัวเองดีกว่าคนอื่นต่างหากที่เป็นพวกหน้าไหว้หลังหลอก สภาวะความไม่เท่าเทียมมันเกิดจากบาป และหน้าที่ของมนุษย์คือการซ่อมสังคมให้กลับไปดีอย่างที่มันควรเป็น เรามีหน้าที่ทำงานสร้างสรรค์สิ่งใหม่ กระจายทรัพยากร ช่วยเหลือคนยากไร้ ทำให้คนกลับใจ

คนเท่ากัน ทุกคนมี 1 เสียงเท่ากัน ใครมีปัญญา ก็กลับไปอ่านย่อหน้าเมื่อกี้ใหม่

ใครมาพูดว่าธรรมาธิปไตย ตัวเองศีลธรรมดีกว่าคนอื่น ก็ด่าไปว่า "ไอ้พวกฟาริสี"

พอผมตัดสินใจ เลือกทางนี้ ผมช่วยทุกคนใครว่ามันจะทำให้ผมเดือดร้อน อะไรผมก็บอกว่า "กูเป็นคริสเตียน พระเจ้าบอกให้กูทำงี้ ก็เลยต้องทำแบบนี้ เป็นเหตุผลทางศาสนา"

โลกรอบๆตัวเรามันเปลี่ยนไป

คนที่รับไปก็ช่วยทำงานเล็กๆน้อยๆตอบกลับ

นักโทษที่เซฟยาใส่แผลไว้ใช้คนเดียวก็แบ่งยาให้คนอื่น

คนก็ไม่ต้องทะเลาะกัน แย่งทรัพยากรไปเก็บไว้คนเดียว เพราะเรารู้ว่าคนอื่นไว้ใจได้ รู้ว่าเพราะคนอื่นช่วยเรา เราก็เลยช่วยคนอื่นได้

เขาไม่ได้ทำดีกับเรา แต่ทำดีกับมนุษย์คนอื่นต่อไปอีกด้วย

คุกเป็นสังคมจำลองขนาดเล็ก ถ้าเราทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ เราก็จะเปลี่ยนสังคมขนาดใหญ่ได้

มนุษย์ไม่มีสูงหรือต่ำ ทุกคนสูงค่าเท่ากันหมด แค่บางคนยังไม่เข้าใจ
.
.
.
เพื่อนของผมเตือนว่าผมไม่ควรพูดเรื่องนี้ เดี๋ยวจะไปออฟเฟนท์ชาวบ้าน

แต่ผมเชื่อแบบนี้ ทำแบบนี้ ของผมจริงๆ

งานของผมก็คืออธิบายซ้ำๆว่า "พระเจ้าสร้างคนมาเท่ากัน" ผมก็พูดอยู่แค่นี้มาตลอดเท่านั้นเอง

ต่อให้จนผมตายก่อน ยังไม่สำเร็จ พระเจ้าก็ยังอยู่ เรื่องพวกนี้มันก็เขียนไว้ในไบเบิล เดี๋ยวก็มีคนมาต่อ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

40 Nameless Fanboi Posted ID:4oC8Dbiqw4

ฟางเส้นสุดท้าย ก่อนโดดจากชั้น 8

ตอนแรกคิดว่าแกคิดสั้น แต่พอฟังเรื่องของพี่ศุภชัย ทัฬหสุนทร ที่โดดชั้น 8 อาคารศาลอาญา บอกเลยว่าไม่ใช่คิดสั้น แต่คิดมาแล้ว คิดมายาวๆ คิดจนแค้น แค้นจนไม่มีทางออก

แค้นกระบวนการยุติธรรม และฟางเส้นสุดท้ายคือคำพิพากษา "ยกฟ้อง"

ผมคุยกับน้าของ "ธนิต" หรือเต้ ผู้เสียชีวิต เล่าว่าหลังจากที่เต้ ถูกแทงตาย ชะตากรรมของทุกคนในครอบครัวก็เปลี่ยนแปลงไป

โดยเฉพาะ "ศุภชัย" ผู้เป็นพ่อ

พ่อต้องลาออกจากงานเพื่อมาตามคดีลูกชาย หลังเกิดเหตุไปรับศพที่นิติเวช รพ.ตำรวจ ไปหาเสื้อผ้าลูก ปรากฎว่าหาไม่เจอ ทั้งที่เสื้อผ้าจะเป็นหลักฐานว่าเต้ถูกแทงด้วย อาวุธอะไร และอาจจะมีดีเอ็นเอ คนร้ายอยู่ที่เสื้อ

มีดของกลางก็หาไม่เจอ

พ่อของเต้ เดินหน้ารวบรวมข้อมูลต่างๆ ด้วยตัวเอง ไปหากล้อง วงจรปิดเอง ไปหาภาพถ่าย ช่วงเวลาที่ลูกและคนร้ายอยู่ในจุดเกิดเหตุ จนรวบรวมเป็นเอกสารเป็นพันๆหน้า

ที่ผมทึ่งกว่านั้นคือ พ่อเต้ มักจะไปที่ศาลบ่อยๆ เพื่อไปฟังการพิจารณาคดีที่มีความใกล้เคียงกับคดีลูกชาย อย่างคดี 6 โจ๋ แทงชายพิการ ร้านขนมปัง น้าบอกว่าศุภชัย ไปฟังแทบทุกนัด

มันคือความพยายามของผู้เป็นพ่อ

ชาวบ้านคนหนึ่งที่ไม่รู้กฎหมาย พยายามสุดชีวิต แล้ววันหนึ่งมาพบว่าคดีลูกตัวเอง ไม่มีหลักฐานอะไรเอาผิดคนร้ายเลย

ผมถึงคิดว่าเหตุการณ์ที่ศาลวันนั้น ไม่ใช่เรื่อง"คิดสั้น" หรืออารมณ์วูบไหว แต่เป็นความคับแค้นที่สุมในอกมาเป็นเวลายาวนาน โดยมีคำพิพากษา "ยกฟ้อง" เป็นฟางเส้นสุดท้าย

อย่าให้พี่เขาตายฟรี!!!

41 Nameless Fanboi Posted ID:yXJnv8XVTc

>>40 ถ้าแกโดดช้ากว่านี้วันเดียว สงสัยคงไปกราบวันอยู่บำรุงช่วยกูที

42 Nameless Fanboi Posted ID:O1B28u9U6f

>>38 , >>39 กูเคยคิดเล่นๆ ทำนองชื่นชมหลักการของศาสนาคริสต์แบบทำนองนั้นเหมือนกันนะ เสียดายกูไม่ค่อยอินกับความเชื่อเรื่องพระเจ้า เลยไม่ได้เข้ารีต (บอกตรงๆ กูเบื่อ 2 ชุดความคิดกระแสหลักในสังคมไทย อย่างที่ว่ามานั่นมากๆ)

>>41 และถ้าพี่วันช่วยได้ สังคมไทยจะนิยมศาลเตี้ยมากขึ้นกว่าเดิม เข้าใกล้ Fail State ไปอีก 1 Step

43 Nameless Fanboi Posted ID:egPd3EWu8o

>>38-39 สะดุดตรงกระมหาไพรวัลย์ บอกตามตรง ไอ้แว่นนี่แม่งก็เกาะรากหญ้าไม่ต่างจากว.เกาะชนชั้นกลางหรอก ตลกชิบหาย หวังพึ่งไอ้โล้นนี่ หวังให้ทักกี้เปลี่ยนเป็นคริสต์ยังง่ายกว่าเลย

>>42 กว่าคริสต์จะมาเป็นแบบทุกวันนี้ก็ผ่านมาเยอะ ถ้าคนไทยปซะว่าพุทธในไทยไม่ใช่พุทธ (ในพระไตรฯ) คนคริสต์ที่ไม่ใช่คาทอลิคก็แซะได้ละว่าคริสต์ทุกวันนี้ไม่ใช่คริสต์ (ในไบเบิ้ล) เพราะความคิดคนเท่ากันไม่ได้อยู่ในไบเบิ้ลมาแต่แรก เอาง่ายๆ ว่าในไบเบิ้ลยอมรับการมีทาสมาตั้งแต่สมัยพระเยซู พวกที่ทำให้ไม่มีทาสในสาระบบคริสต์ก็คือพวกเควกเกอร์ แต่โดยตัวไบเบิ้ลแล้วทาสไม่ใช่สิ่งผิด แล้วแบบนี้คนจะเท่ากันได้ไง

44 Nameless Fanboi Posted ID:lB1AVBtSr1

ในมุมนึง คนไม่อยากถูกแบ่งแยกชนชั้น แต่ในอีกมุม คนก็ต้องการความรู้สึกที่พรีเมี่ยม ไม่แมส ลิมิเต็ดอิดิชั่น แสดงออกว่าเหนือกว่าใคร เป็นคุณค่าทางจิตใจในแบบที่คนอื่นยากจะเข้าถึง ในเชิงการตลาดแล้ว จะมีการแบ่งระดับกลุ่มลูกค้าตามปัจจัยหลักๆ เช่น รายได้ เอาจริงๆ เราหนีการถูกแบ่งแยกได้ยาก

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

45 Nameless Fanboi Posted ID:k+eERG5fTV

>>42 ใช่ทุกวันนี้ คาทอลิก ก็โดนแซะจะตายว่าไม่ใช่คริสต์จริง ถ้าเรื่องปรับตามสังคมและวัฒนธรรมคาทอลิกนี่น่าจะปรับตัวเป็นต้นๆเลยนะ ในพวกนิกายคริสต์ทั้งหลายแหล่ แต่แบบ มอร์มอน ก็ไม่ไหวอ่ะเคร่งเกิ๊นแล้วก็มุมมองแบบไปปรับเปลี่ยนเลย

46 Nameless Fanboi Posted ID:O1B28u9U6f

>>45 ไม่ใช่โปรเตสแตนท์หรอวะที่ดูทันสมัยกว่า

47 Nameless Fanboi Posted ID:PhWo.hUK/h

>>46 โปรแตสแตนท์มีชเป็นสิบสาย พวกที่เคร่งจัดๆก็มีเยอะ

48 Nameless Fanboi Posted ID:NpcOejr1MT

Orthodox Christian = One true religion

49 Nameless Fanboi Posted ID:t0yr3O8ghl

บทความนี้ อ.ธเนศ เขียนแต่ฝ่ายรัฐไปหน่อยในเรื่องสนับสนุนทรัมป์ และเขียนถึงแต่ฝ่ายใต้ไปหน่อยในเรื่องทาส เลยกลายเป็นว่าทำให้ผู้อ่านรู้สึกว่าศาสนาสนับสนุนการกดขี่ฝ่ายเดียว

แท้จริง เหตุผลของการเอาไบเบิลมาอ้างของ รมว.ยุติธรรม สหรัฐ ก็เนื่องจากโบสถ์ของอเมริกัน เอาไบเบิลมาอ้างเพื่อช่วยเหลือผู้อพยพก่อน ฝ่ายรัฐเลยเอาไบเบิลมาอ้างตอบโต้

แต่พอบทความออกมา อ่านแล้วกลายเป็นเข้าใจว่า ศาสนาถูกใช้เพื่อสนับสนุนฝ่ายที่ไม่ดีทางเดียว ทั้งๆที่จริงๆแล้ว มันก็ถูกใช้ทั้งสองทาง

จริงๆตัวบทความก็พูดแหละว่ามันเป็นความแตกแยกระหว่างการแสดงความเห็นต่อคำภีร์ระหว่างสองฝ่าย แต่มีการอธิบายขยายความเพียงข้างเดียว

เหมือนในเรื่องทาสก็เป็นความแตกต่างในการอธิบายคำภีร์ของฝ่ายเหนือกับใต้ (ซึ่งเป็นเรื่องปรกติของโปรแตสแตนท์แบบอเมริกัน) เพียงแค่ตัวบทความยกตัวอย่างแต่การตีความของฝ่ายใต้ ซึ่งเป็นฝ่ายที่เอาเข้าจริงแล้วแพ้เสียด้วย

แต่ตัวบทความก็ไม่ได้พูดถึงว่าพวกฝ่ายเหนือ กับ การรณรงค์เลิกทาสที่มีสำเร็จในอังกฤษไปแล้วในช่วงเวลานั้น ก็อ้างไบเบิลเหมือนกันนั่นแหละ (โดยเฉพาะจดหมาย เฟโลโมน) ผู้ที่เรียกร้องสิทธิชาวแอฟริกันอเมริกันต่อจากนั้น ก็ทำโดยขบวนการศาสนา มาร์ติน ลูเธอร์คิง ก็เป็นศาสนจารย์แท้ๆ

กลายเป็นว่าผู้อ่านก็จะได้ข้อมูลฝ่ายเดียว จนไปจำว่าศาสนาสนับสนุนทาสอย่างไร แต่ไม่รู้เลยว่าศาสนาได้ยกเลิกทาสอย่างไร

ความจริงแล้ว พวกสนับสนุนทาสก็อ้างทุกอย่างที่เป็นประโยชน์ได้เพื่อสนับสนุนทาส พวกเอธิสฝ่ายใต้เองก็อ้างทฤษฎีวิวัฒนาการเพื่อสนับสนุนการใช้ทาส โดยบอกว่าคนขาววิวัฒนาการมาจากลิงไปไกลกว่าคนดำมีปัญญามากกว่าเจริญกว่าเช่นกัน

กลายเป็นว่าสิ่งใดที่ประเสริฐของโลกก็เป็นผลงานของขบวนมนุษยนิยมแบบอศาสนา ส่วนอะไรที่เลวร้ายก็เป็นผลงานของศาสนาอันค่ำครึไป

https://www.the101.world/jeff-sessions-and-the-bible/

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

50 Nameless Fanboi Posted ID:ataLXloRJt

>>49 ตามนั้นละ คัมภีร์เล่มเดียวตีความยังไงก็ได้

51 Nameless Fanboi Posted ID:DXKPNP19X/

>>49 ชอบประโยคสุดท้ายมาก โดนใจจริงๆ

52 Nameless Fanboi Posted ID:CjRLm0enB3

I wouldn’t be concerned about Russian meddling in US elections.

Be concerned about Deep State social media companies like Facebook and Twitter meddling in US elections.

Zuckerspy and Jack the Ripper are doing 100 times more harm to democracy than all foreign meddlers combined.

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

53 Nameless Fanboi Posted ID:DLef8ZWbeV

>>52 พวกซ้ายอเมริกายอมรับไม่ได้ที่ทรัมป์ชนะไปจนต้องโทษรัสเซีย
ไม่มีทางหรอกที่รัสเซียมันจะมายุ่งการเลือกตั้งได้ ที่ทรัมป์ชนะมีแค่สองอย่าง แคมเปญทรัมป์ฉลาดกว่าที่คนคิด ก็ฮิลลารี่โง่กว่าที่คนคิด

ฮาสัส

https://www.youtube.com/watch?v=jdP8TiKY8dE&ab_channel=ProjectVeritas

54 Nameless Fanboi Posted ID:NfbXkegCj0

>>53 ไม่คิดว่า คนเกือบ50% ของประเทศมันอาจจะคิดแบบทรัมป์ก็ได้นะเว้ย
คือตัวเองมีปัญหาทำงานยาก เจอปัญหาคนอพยพ เจอแรงงานผิดกฏหมายแย่งงานจนคิดว่าการกีดกันแบบเป็นรูปธรรมแบบทรัมป์มันพูดไว้เป็นสิ่งที่ถูกก็ได้

55 Nameless Fanboi Posted ID:ItAr6Es594

>>53 คนมันไม่เอาอีฮิลลารี่บ้าสงคราม เลือดเย็น ยอมเลือกคนบ้ามาบริหารดีกว่าเข้าสงครามอีกรอบ

56 Nameless Fanboi Posted ID:rBppym.+h6

สาเหตุที่กูไม่ฟังเพลงสากลเพราะเวลาวงดนตรีไทยไปก็อปงานเขามา ฟังแล้วจะได้ฟิน ไม่ต้องรู้ว่านั้นคืองานก็อป
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

57 Nameless Fanboi Posted ID:UU1Y.tSmsY

>>54 คนเลือกทรัมป์จำนวนไม่น้อยคือ "รากหญ้าผิวขาว" พวกนี้ไม่ได้ ปย. จากการค้าเสรีหรือโลกาภิวัฒน์ เห็นว่าเปิดเสรีมากตัวเองยิ่งลำบาก สินค้าก็เจอต่างชาติตี งานก็เจอต่างชาติแย่ง (ระดับล่างเจอเม็กซิโก ระดับกลางเจอจีนเจอเกาหลี)

อารมณ์อังกฤษออกจาก EU คนรุ่นใหม่โหวตอยู่ แต่คนรุ่นเก่าโหวตออก

58 Nameless Fanboi Posted ID:lPlsC1V0Ab

>>57 อีกส่วนคือคนรุ่นใหม่สนใจการเมืองผ่านคีย์บอร์ด ออกไปเลือกตั้งจริงไม่สน

59 Nameless Fanboi Posted ID:PIbROls.D1

>>58 Brexitคือแบบนั้นเลย คนรุ่นใหม่เย้วๆกันในทวีต ทำแฮชแทค

คนรุ่นเก่ายันไม้เท้าไปจุดลงคะแนน ตรงนั้นไม่มีหัวบลอนด์หัวดำสักคน มีแต่หงอกกับล้าน

พอผลออกมา พวกผมเต็มหัวก็พากันอัดคลิปร้องไห้ลงโซเชียล คนแก่ก็จิบชาดูข่าวไป

ฮาดี

60 Nameless Fanboi Posted ID:ZoNa08ddE3

>>59 กูว่ามันก็ไม่แน่หรอกว่า Brexit โหวตอยู่แพ้เพราะคนหนุ่มสาวจะไม่ได้มาลงคะแนนจริงๆ
พวกนี้อาจจะเป็นคนกลุ่มน้อยที่เสียงดังเพราะเข้าถึง social network มากกว่าคนแก่เฉยๆก็ได้

61 Nameless Fanboi Posted ID:kCz.VneD+.

ที่ว่าคนรุ่นใหม่ไม่ออกไปเลือกตั้งนี่เอาข้อมูลมาจากไหนวะ

62 Nameless Fanboi Posted ID:bXtBuGXYHX

https://www.youtube.com/watch?v=0ADFO45K_Y4

ถ้ากูไม่เคยดูคลิปสาวจีนหน้าผี แต่งหน้ากลายเป็นนางฟ้า กูคงติดตามคนนี้ได้อย่างสนิทใจแล้ว

63 Nameless Fanboi Posted ID:lPlsC1V0Ab

>>61 กูเคยเห็นจากexitpollที่สำรวจประชากรด้วยง่ะ

64 Nameless Fanboi Posted ID:LV0/oTltGw

>>58 , >>59 แม่ง! ทำไมมันเหมือนแถวนี้ที่มีคนบ่นเลยวะ ว่าคนรุ่นใหม่ได้แต่แซะการเมืองในโซเชียล แต่คนที่ออกไปเจ็บจริงตายจริงบนถนนมีแต่วัยกลางคนขึ้นไปทั้งนั้น ทั้ง 2 สีเลย

65 Nameless Fanboi Posted ID:P0EbGSccIA

คนรุ่นเก่ากว่า ไม่เล่นโซเชี่ยล
ส่วนพวกในโซเชี่ยลคือพวกคอยจูงจมูกคนอื่น

66 Nameless Fanboi Posted ID:GJzM0x0alT

พวกมึงก็ดูเซเลปเพจหลักล้านในไทยดิ พวกชี้นำสังคังแต่ไม่เคยออกมาเดินน้ำหน้าใครเขาเลย
ตอนหมูป่าก็ก็อปแปะแชะข่าวรัวๆ

67 Nameless Fanboi Posted ID:e6.H2txErq

It’s really difficult for me to find women who actually want to spend time with me let alone have sex with me. The major reason is because I’m in a wheelchair. I can’t imagine that’s a turn on for most women. For this reason, I hire prostitutes on a regular basis. I only started doing it 4 months ago. I didn’t want to get to my 27th birthday and still be a virgin so I hired a prostitute. I had thought about it a lot before but I chickened out every time. I’ve done it every two weeks since then. I would much prefer to have a wife/girlfriend but I don’t think it’s in the cards. I know it’s desperate and they probably look down at me like I’m some creep and it’s also kind of disrespectful or whatever but it makes me feel less unattractive and less alone.

68 Nameless Fanboi Posted ID:S.YV4ehqBD

>>67 หวัดดีครับ Lieutenant Dan

69 Nameless Fanboi Posted ID:KJySYINZki

>>66 เขาบอกโซเชียลมีเดียคือแนวรบของคนรุ่นใหม่อะนะ

70 Nameless Fanboi Posted ID:je9oKMm0e2

อยู่มา 4000 ปี แบบจีน คือเปลี่ยนชื่อจาก เซี่ย ซาง โจว ฉิน ฮั่น ซิง จิ้น สุ่ย ถัง ซ่ง หยวน หมิง ชิง โดนมองโกลมาบุกยึด แพ้สงครามฝิ่น แถมสุดท้ายยังล้มราชวงศ์มาเป็นคอมมิวนิสท์ กล้าเรียกตัวเองเป็นประเทศจีนสี่พันปีนี่น่าจะอายไต้หวันบ้าง

คือ EU ยังมีความอายอยู่บ้างถึงไม่ได้ใช้ชื่อโรม ตอนสมัยที่เรียกตัวเองว่าจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์นั่นน่ะโคตรน่าอายเลย นั่นคือสมัยที่ฝรั่งมันยังมีความคิดเหมือนจีน คือคิดว่าจักรวรรดิเกรโคโรมันในอดีตนี่ช่างยิ่งใหญ่ ยุโรปรวมตัวกันไม่แตกแยก แล้วก็เลยโหยหาและพยายามรวมยุโรปให้กลับไปเป็นหนึ่งเดียว

เป็นความคิดระดับพื้นฐานของพวกอนุรักษ์นิยมโหยหาอดีตเท่านั้นเอง

ไอ้ความคิดว่าการอยู่ยืนยงมายาวนานคือความน่ายกย่องน่ะฝรั่งมันก็เคยเป็น แต่มันเป็นแล้วมันไม่เจริญมันถึงได้เลิก ไม่ว่าจะเป็นออตโตมานเป็นตุรกี กรีกเป็นกรีซ โรมันเป็นอิตาลี่ วัฒนธรรมที่ส่งต่อกับมาคนรุ่นหลังก็ได้รับและเชิดชู แต่การไปติดความยิ่งใหญ่ในอดีตมายกหางตัวเองในปัจจุบันน่ะมันดักดาน และนั่นคือสิ่งที่จีนกำลังเป็นอยู่ รวมถึงไอ้ประเทศแถวนี้ที่ดิ้นว่าเรามีประวัติศาสตร์อันยาวนานมาตั้งแต่เทือกเขาอัลไตด้วย

คือปัจจุบันหาดีไม่ค่อยได้เลยต้องไปเอานิทานอดีตที่สวยงามมาปลอบใจว่าเราอยู่มานาน แก่กว่า อาวุโส ยังไงก็ต้องมีดีถึงอยู่มานานขนาดนี้
ซึ่งนั่นไม่ใช่ความคิดที่ฝรั่งสมัยใหม่มันคิดกัน เพราะความอาวุโสจริงๆมันไม่ได้เกิดประโยชน์อะไร ความรู้ความคิดความสามารถในปัจจุบันต่างหากที่สำคัญต่อมนุษยชาติ

สมัยที่จิ๋นซีฮ่องเต้รวมแผ่นดินเจ็ดก๊กนั่นคนทั้งเจ็ดก๊กก็ไม่ได้ไปมุดหีหมาที่ไหนนะ และหลังจากสิ้นจิ๋นซีแผ่นดินแตกออกเป็นอีกไม่รู้กี่ก๊ก ที่ได้เป็นฮ่องเต้ก็ไม่ใช่ราชวงศ์เดิม ที่แยกตัวออกไปอิสระแล้วโดนตีกลับมาทีหลังก็มาก ไอ้ที่ตีกลับมาเป็นมองโกลก็มี แผ่นดินจีนแถบตะวันตกทุกวันนี้มันมาจากที่คนมองโกลไปตีมาด้วยซ้ำ แล้วจีนก็มาเคลมเป็นจีน ทั้งที่คนจีนมีเชื้อมองโกลไม่รู้กี่ %

ไร้สาระ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

71 Nameless Fanboi Posted ID:e6.H2txErq

ผมตอบในฐานะนายจ้าง เคยสัมภาษณ์น้องๆที่จบ code star ไม่ต่ำกว่า 20 คน บอกเลยครับว่า พื้นฐานไม่แข็งครับ ได้แค่overview พอลองถามลึกๆจะตอบไม่ได้ ก็เข้าใจนะครับระยะเวลาสั้นเนื้อหาแน่นย่อมยากสำหรับคนทั่วๆไป แต่ก็ดูที่ความพยายามมากกว่าครับ ส่วนเงินเดือนที่ให้ก็เท่ากับเด็กจบใหม่ครับ

72 Nameless Fanboi Posted ID:e6.H2txErq

ผมเรียนมาเหมือนกันครับ คอร์ส javascript ราคา 20k ++ บอกตรงๆตอนแรกไม่มีพื้นเลย เรียนไป งงกว่าเดิม สอนเร็วมาก ไม่บอกที่มาที่ไป เหมือนไปเรียน เอาชิมลาง สุดท้ายต้องกลับมาเรียน คอร์ส web dev ของ udemy ได้ความรุ้มากกว่าเยอะ แค่ 300 เอง เพราะฉะนั้นเรียนใน udacity กับ udemy ดีกว่าครับ เสียดายตังมาก

73 Nameless Fanboi Posted ID:Ar7CJOO8CD

>>70
>ตุรกี
>ยุโรป

choose one

74 Nameless Fanboi Posted ID:BYOZrAn8a1

>>70 มิตรสหายท่านนี้สงสัยเจอนักท่องเที่ยวจีนกดขี่

75 Nameless Fanboi Posted ID:5RhCWmaR3v

>>70 กูเป็นคนนึงที่ไม่ค่อยอินกับพวกอวยประวัติศาสตร์จีนเวอร์ๆ แต่ก็รู้สึกว่า quote นี้มีส่วนแปลกๆเยอะ
- EU ไม่เคลมตัวเองเป็นโรมันอยู่แล้ว เพราะดูจากอาณาเขตโรมันมันกินช่วงยุโรปใต้ แอฟฟริกาตอนบน กับขอบๆเอเชีย ถ้าเคลมตัวเองเป็นโรมันก็จะดูประหลาด แถมประเทศทางเหนือขึ้นไปคงไม่อินด้วย
- HRE เคลมตัวเองเป็นโรมันกูว่าก็ไม่เกี่ยวกับเรื่อโหยหาอดีตเท่าไหร่ มันเป็นการที่คนเผ่าเยอรมันรวมหัวกับโป๊ปเสริมบารมีให้พวกตัวเองมากกว่า
- เขตแดนของจีนมีเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาจริง ถึงจะมีการเปลี่ยนราชวงศ์ตัว แต่วัฒนธรรมตรงนั้นมันก็สืบทอดต่อๆกันมาจริงนะ
- ฝรั่งก็ไม่ได้ตัดใจไม่โหยหาอดีตกันหมดหรอก

76 Nameless Fanboi Posted ID:qKbrsVajrb

>>75 +1 กูว่าเหมือนพยายามหาประเด็นมาแขวะประเทศแถวๆ นี้ซะมากกว่า

77 Nameless Fanboi Posted ID:TXEaAAR0DV

>>69 เอาแต่พูดเอาพิมพ์แต่ไม่ลงมือทำสุดท้ายมันก็แพ้เขาอยู่วันยันค่ำน่ะแหล่ะ แล้วก็เพราะแบบนี้ไง ทรัมป์ กับ Brexit ถึงชนะเลิศ แต่อีกนัยนึงก็ดีเหมือนกัน พวกโบราณที่พูดจริงทำจริงมันยังน่าเชื่อถือกว่าพวกเด็กกะโปกที่ดีแต่ลมตดอ่ะนะ

78 Nameless Fanboi Posted ID:v/ve1giFon

>>77 เห็นด้วย ดูไอ้จ่าเป็นตัวอย่างได้ สังคมที่ลากคนมาด่าในเน็ตสำเร็จความใคร่ทางคุณธรรม=SJWเนี่ยแหละ

79 Nameless Fanboi Posted ID:7tRPNQYieT

>>70 อยากแซะประเทศตัวเองเลยต้องโยงแม่น้ำฮวงโหมาแพล่มเหรอครับ

#มิตรสหายรู้ดีท่านหนึ่ง

80 Nameless Fanboi Posted ID:gjojYzR2VP

ถ้าความจริงแล้ว ไอดอลที่มึงคามิโอชิ มีควย มึงจะทำไง?
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

81 Nameless Fanboi Posted ID:PevUOGZCrZ

“Hard times create strong men. Strong men create good times. Good times create weak men. And, weak men create hard times.”

82 Nameless Fanboi Posted ID:wP8PQ1FExO

ถ้าความจริงแล้ว ไอดอลที่มึงคามิโอชิ ยัดไวเบรเตอร์ไว้ที่จิ๊มิ้ตอนขึ้นแสดง มึงจะทำไง?
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

83 Nameless Fanboi Posted ID:8Qho9dWWv1

ถ้าความจริงแล้ว ไอดอลที่มึงคามิโอชิ โทรศัพท์​คุยกับแฟนหลังจากแสดงเสร็จ​ มึงจะทำไง?

84 Nameless Fanboi Posted ID:1TAY4khCo.

ถ้าความจริงแล้ว ไอดอลที่มึงคามิโอชิ แอบแฝงตัวอยู่ในโม่งแล้วเนียนด่าคุ มึงจะทำไง?

85 Nameless Fanboi Posted ID:SBGtvxXQe5

คุณเชื่อในมนุษย์ขนาดไหน?

คนคิดว่ามนุษย์มีโอกาสขนาดไหนที่จะตัดสินใจขโมย?

มีเกมส์ที่ผมกับหุ้นส่วนชอบเล่นกันตอนรับพนักงานใหม่ คือการพนันกันว่าพนักงานคนนี้จะโกงหรือเปล่า

วิธีการตัดสินใจจะรับหรือไม่รับพนักงานใหม่ของผมคือ

ให้พนักงานรับออเดอร์ และรับเงินด้วยตัวเอง และส่งเงินต่อ โดยพนักงานจะไม่ได้ถือเงินยาวๆ ไม่ได้นับเงินทั้งหมด

ทีนี้ ในมุมมองพนักงานจะคิดว่า ผมเช็คว่า ยอดขายที่เขาจด กับเงินที่ส่ง มันตรงกันหรือเปล่า - ถ้าตรงแสดงว่าเขาทำถูกต้อง

คุณจะทำอย่างไร ถ้าคิดว่านายจ้างของคุณ เช็คด้วยการนับยอดขายกับเงินให้ตรงกัน? ในขณะที่คุณเป็นคนแจ้งยอดขาด และเป็นคนส่งเงินขึ้นไปเอง

เริ่มรู้สึกมั้ยว่า คุณโกงได้ ด้วยการเก็บเงินไว้เอง แล้วไม่แจ้งยอด

สมมุติว่า ถ้าบางคนซื้อ 5 ชิ้น คุณแจ้ง 4 ส่งเงินมา 4 ก็อมเงินไว้ รวมตลอดวันคุณขายได้ 102 แต่แจ้งว่าขายได้ 100 ชิ้น ชิ้นละ 50 บาท แล้วส่งเงินไป 5000 = คุณก็จะอมเงินไว้ได้ 100 บาท

แต่... แน่นอนว่า ผมมีการเซ็คซ้อนไปอีกโดยที่ตัวพนักงานไม่รู้ว่าผมเช็ค และไม่รู้ว่าทำอย่างไร - ดังนั้นถ้าแจ้งยอดไม่ตรง หรือเงินหายผมจะรู้

เกมส์คือ มีคนจำนวนมากขนาดไหนกันนะ ที่คิดจะโกง

ถ้าคุณไม่โกง คุณจะได้งาน ซึ่งได้เงินเรื่อยๆยาวๆ แต่ถ้าคุณโกงก็มีโอกาสโดนจับได้

มากกว่าครึ่งหนึ่งของพนักงานใหม่ ขาดยอดจะขาดไปชิ้นสองชิ้น เงินจะหายไปเล็กๆน้อยๆ เท่ากับยอดที่ขาดพอดี - เอาล่ะ ถ้าเงินหาย แต่ยอดครบ แสดงว่าอาจจะทอนผิด ลืมเก็บเงินอะไรพวกนี้ - ถ้าเงินครบแต่ยอดหายแสดงว่าลืมจด เคสพวกนี้เกิดจากสะเพรา ฝึกกันได้ - แต่ถ้าเงินหาย และยอดหายเท่ากันโอกาสไม่รายงานยอดและจงใจอมสูง

พวกนี้คิดว่าตัวเองจีเนียส ที่หาทางโกงได้ แล้วคิดว่าผมไม่รู้แน่ๆ ไม่มีใครคิดเลยว่ามันจะเป็นกับดัก
.
.
.
ส่วนใหญ่ผมแพ้ เพราะเป็นผู้จัดการ ต้องจ่ายส่วนที่หายให้หุ้นส่วนที่มาทำบัญชี

พวกนี้จะตอดกันแค่ ชิ้นสองชิ้น ไม่เกินนั้น ผมก็จ่ายพนันไป ร้อยกว่าบาท

ส่วนพนักงานที่โกงไม่รู้หรอก ผมก็บอกแค่ว่า "อื้อ เดี๋ยวถ้าจะจ้าง พรุ่งนี้จะโทรไปนะ" แล้วก็ไม่โทร
.
.
.
น่าสนใจคือ หนึ่งคนจะโกงกันในหลักชิ้นสองชิ้น เป็นไปได้ว่าคิดว่าถ้าเยอะจะโดนจับได้ แน่นอนว่าผมไม่ปล่อยให้มีโอกาสต่อไป

สอง พนักงานพาทไทม์ที่เป็นนักศึกษา แทบไม่มีใครคิดจะโกงเลย ถ้ามีก็คือทอนผิด หรือลืมจดยอด ซึ่งพอถามก็จะจ่ายเงินทดแทนส่วนที่ตัวเองทอนผิด

เป็นไปได้ว่า พวกนี้ไม่ได้ขาดเงินขนาดนั้น ชั่งน้ำหนักว่าศักดิศรีหรือคุณธรรมอะไรบางอย่างของตัวเองมีคุณค่ามากกว่าเงินหลักร้อยบาท

เรากำลังเล่นเกมส์กับศักดิศรี และความขาดแคลน สำหรับแต่ละคนเส้นมันอยู่ตรงไหนกันนะ เงินเท่าไหร่ถึงจะขายศักดิศรีได้

ผมคิดถึงการทดลองให้ขนมเด็ก

เอามาชเมโล่ให้เด็กในห้องเรียน ถ้ารอถึงคาบหน้าโดยไม่กิน จะได้เพิ่มอีก 1 อัน

สำหรับบางคน ชีวิตอาจจะไม่มั่นคง จึงรีบกินเล็กกินน้อยเอาสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

ส่วนบางคนรู้แล้ว ก็เลือกเอางานรอยาวๆไป
.
.
.
ผมเชื่อในมนุษยน้อยมาก คือคนไม่โกงมันก็มี แต่เรารอแรนด้อมไม่ได้ว่าคนที่ทำงานกับเราจะโกงหรือไม่โกง

การมีระบบตรวจสอบที่คอยควบคุมไว้ ช่วยได้มากกว่า

นักศึกษาเอง ถ้าระบบมันหลวมมาก วันหนึ่งเขาเกิดร้อนเงิน ถ้าเห็นว่าโกงได้ง่ายๆแล้วไม่โดนจับ ผมว่ามันเสี่ยงและยั่วยวนเกินไป ระบบที่เข้มงวดมีไว้ช่วยให้เขาคิดว่า "เฮ้ยไม่ได้นะ ถ้าเราทำจะโดนจับได้" ในวันแบบนั้น

ขนาดผมยังไม่กล้าเป็นผู้จัดการเอง ตรวจบัญชีเองเลย กลัววันหนึ่งร้อนเงินจะเอาเงินร้านมาหมุนก่อน เลยต้องให้หุ้นส่วนเป็นคนเช็คบัญชีถือเงิน

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

86 Nameless Fanboi Posted ID:J8bK1sL6pB

>>85 เกือบดีละ ถ้าไม่ติดตรงไอ้การทดลองมาชเมลโล่ซักอย่างของมึงเนี่ย อันนั้นมันคือการลงทุน ซึ่งมุมมองแต่ละคนไม่เหมือนกันอยู่แล้ว

87 Nameless Fanboi Posted ID:A2lUEkCE.z

A genie comes to a pole. Three wishes will be fullfilled.
Wish 1: Poland should invaded by china and than they should retreat.
Wish 2:look at wish 1.
Wish 3: look at wish 2
The genie: Why do you want 3times invaded by china and why they should retread?
Pole; They have to go 6times through russia.

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

88 Nameless Fanboi Posted ID:03oNSAUqEJ

พี่โจวว่ายิ่งเราพูดถึงคนกรุงเทพมากๆ เราก็ยิ่งไปหมกมุ่นกับความเป็นกรุงเทพมากเกินไป น้องๆ น่าเอาตำบลหรืออำเภอฮาๆ บักเสี่ยวๆ มาเสวนากันบ้างนะครับ ส่วนพี่โจวนั้นทั้งดวงใจมันมอบไปให้กับสาวตำบลเสือเฒ่า อำเภอเชียงยืน จังหวัดมหาสารคาม ไปเสียแล้ว . .
การได้เห็นคนพูดถึง "ความยุติธรรม" "ความเป็นธรรม" "ความเท่าเทียม" ในเฟสบุ๊คโอ่อ่าใหญ่โต บางครั้งเราเกร็งๆ ถ้าไปเจอตัวจริงเขาเราจะวางตัวยังไง มาตรฐานคนเหล่านี้น่าจะสูงพอๆ กับมหาตมะ คานธี เนลสัน แมนเดลา อัลไลเทือกเนร้แน่ๆ อ่ะครับ- -"

89 Nameless Fanboi Posted ID:mi5yu/FDeD

ปี 2018 แล้วยังเชื่อโต๊ะอิหม่ามมากกว่าหมอ เวลาป่วยมัวแต่ไล่ญิณ ด่าคนไม่นับถือศาสนาตัวเองว่ากาเฟร์ กดขี่คนด้วยฮิญาปตั่งต่างอยู่อีกหรอคะ อ่อๆ
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

90 Nameless Fanboi Posted ID:nvaJsuD.D5

i though bdsm stood for buddhism
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

91 Nameless Fanboi Posted ID:PByo5ivVXp

เรียนมาเยอะแต่ไม่ละหมาดใบปริญญา​ที่ได้มาก็ไม่มีค่าอะไร
#มิตรสหาย​ท่าน​หนึ่ง​

92 Nameless Fanboi Posted ID:X0UEuu8XLC

Childhood - sneaking from home to go to parties.
Adulthood - sneaking from parties to go home.

#มิตรสหายท่าน​หนึ่ง​

93 Nameless Fanboi Posted ID:8PzkPc+Yxu

Q: ตอนนี้จิตวิญญาณธรรมศาสตร์อยู่ที่ไหน

A: อยู่ที่รามคำแหง ทั้งตลาดวิชา เรียนแบบเปิด ค่าเรียนถูก เปิดโอกาสให้คนทุกชั้น ตำราอ่านฟรี กระจายการศึกษา

อะไรที่ อ.ปรีดีคิดไว้ให้ธรรมศาสตร์ ตอนนี้อยู่รามหมดละ

อธิการยังเลือกตั้งได้เป็นมหาลัยเดียวเลย

94 Nameless Fanboi Posted ID:jmStM9K9YQ

แต่ธรรมศาสตร์มีเสรีภาพทุกตารางนิ้วนะ!!!

#มิตรสหายท่าน​หนึ่ง

95 Nameless Fanboi Posted ID:lgZaJ8Pozl

เสรีจน อ.ต้องหนีไปปารีสเลย

96 Nameless Fanboi Posted ID:Mvu3+l72Tr

เสรี ขนาดเขียนเรื่องแต่งกับสายเลือดเดียวกันยังโดนแซะเลย

97 Nameless Fanboi Posted ID:Woc78ZSA5O

เห็นสาวๆ กรี้ดเรื่องเบิร์นนิ่งมากๆ พี่โจวจึงได้เขียนบทหนังเรื่อง "เบิ้มนิ่ง" เอาไว้ พลอตเรื่องคือตัวเอกชื่อเบิ้ม แล้วเมียมีชู้แต่แกก็ไม่ว่าอัลไล อยู่เฉยๆ นิ่งๆ ของแกไปอ่ะครับ

#มิตรสหายท่าน​หนึ่ง

98 Nameless Fanboi Posted ID:bkdcFQ8nr1

>>96 คนเขียนเป็นคนม.นเรศวรแต่มาเสวนาที่ธรรมศาสตร์ ไอ่ควาย

99 Nameless Fanboi Posted ID:dZQYZ1/uCE

เสรีเลยหนีไปวาด trap ในเฟสกับปลาทองแล้วครับ

100 Nameless Fanboi Posted ID:GO7Tmc.gWi

ผมไม่รู้ว่าปกม. ที่เก่งที่สุดในไทยเป็นใคร แต่ปกม. ที่เก่งมาร์เก็ตติ้งที่สุดในไทยนี่ ผมยกให้เค้าเลย จะมีปกม. สักที่คนในกรุ๊ปสมาคมที่มีเม้นและไลค์เยอะเท่าพี่เค้าอีก

101 Nameless Fanboi Posted ID:GqZ1REcThe

หาเมียให้ได้ก่อนมั้ย?

#มิตรสหายมีเมียท่านนึง

102 Nameless Fanboi Posted ID:+naIffNGs4

หาผัวแทนได้ไหม ?

#เมียของมิตรสหายท่านหนึ่ง

103 Nameless Fanboi Posted ID:ZFk6gVrQoF

อยากมีเมียต้องรวย
อยากรวยต้องมีหน้าที่การงานดี ๆ
อยากมีหน้าที่การงานดี ๆ ต้องมีความสามารถสูง ๆ
อยากมีความสามารถสูง ๆ ต้องมาเรียนเขียนโปรแกรมกับโค้ดสตาร์

104 Nameless Fanboi Posted ID:LloTaEUJOy

โค้ดสตาร์ควยไรเจอกับหยงสตาร์ไหมสัส
ขอให้ผีหยงไปหักคอมึง

105 Nameless Fanboi Posted ID:Klkr2LBPNJ

ไปเรียนโค๊ดสตาร์แล้วผมจะใช้สแตนด์ได้มั้ยครับ

106 Nameless Fanboi Posted ID:OrRGc4+bdJ

ต้องมีปานรูปดาวที่ต้นคอก่อน

107 Nameless Fanboi Posted ID:jfrZUlWoTq

>>106 เอาลูกธนูจิ้มเอาก็ได้นะ

108 Nameless Fanboi Posted ID:axCP/yMDZy

ให้ดิโอไซ้ซอกคอดู

109 Nameless Fanboi Posted ID:TummyP9847

ถ้าเราไม่มีศาสนา นรกก็เป็นแค่ชื่อน้ำพริก
เจริญพร 🔥

#มิตรสหายท่าน​หนึ่ง

110 Nameless Fanboi Posted ID:00Pa641EgB

BNK นี่เค้าจ่าย ... package ตอนจบการศึกษาไหมนะ

111 Nameless Fanboi Posted ID:MayLY/GjIy

Women fuck who they want, men fuck who they can.

Men marry who they want, women marry who they can.

112 Nameless Fanboi Posted ID:ttuQ62GxYf

All of his soldiers are only numbers to us, but imagine walking out of Greece with Alexander on a campaign, leaving your wife and children, conquering Anatolia, Egypt, Mesopotamia, the entire Persia, parts of India... and finally hearing you're going back home. No army can stop you now. You're going to see your family again.
... and then you die of thirst crossing a fucking desert, because Alexander thought it would be a fun detour.

#มิตรสหายท่าน​หนึ่ง

113 Nameless Fanboi Posted ID:ohzsCYgzpJ

เมื่อวานนี้เพื่อนอเมริกันของผมมีแชร์วัตถุโบราณของเผ่ามายันแห่งเม็กซิโกที่เป็นรูปหล่อโบราณ มีหน้าเป็น QR code และว่ากันว่ามันเป็นหลักฐานของอารยธรรมต่างดาวหรือการย้อนเวลา ตรงนี้้ เดี๋ยวข่าวลือนี้ก็คงเข้ามาไทย ดังนั้นก็ขอถือโอกาส Debunk ไว้ก่อนเลยละกัน

สำหรับรูปหล่อดังกล่าว ถ้าสังเกตนิด จะพบว่าเงาของส่วนหัวมันมีความโค้งผิดจากไอ้หน้าเหลี่ยม (ที่หมายถึงหน้ามันเหลี่ยมและไม่ได้หมายถึงคนหน้าเหลี่ยมแต่อย่างใด) ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามันน่าจะเป็นการแต่งรูป

นอกจากนี้ รูปหล่อหน้า QR code ที่ว่า มีคนแกะโค้ดออกมา พบว่าลิงค์ไปที่เพจของบริษัท Altech แห่งเม็กซิโก ซึ่งเป็นเพจที่ขายอุปกรณ์ไฟฟ้าสำหรับโรงงาน ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าถ้าคนมันจะย้อนเวลา มันจะอุตส่าห์ทำ QR โค้ดเป็นเวบเพจของบริษัทขายอุปกรณ์ไฟฟ้าโรงงานทำแป๊ะอะไร มันก็ได้แต่สันนิฐานว่า นี่คงเป็นการตลาดไวรั่ลอย่างหนึ่ง เพราะยังไม่มีใครสอบถามไปยัง www.altechmexico.com ว่า QR code ของเวบมันกลายเป็นไวรั่ลไปได้อย่างไร แต่ บางที มันอาจเป็นการแสดงถึงความยิ่งใหญ่ของเม็กซิโกในอนาคต ที่เป็นผู้สามารถส่งมนุษย์ย้อนเวลาไปในอดีตแล้วสร้างอารยธรรมแอซแทคมายันได้ แม้อารยธรรมมายันที่แสนจะรุ่งเรืองด้วยเทคโนโลยีจากอนาคตนี้จะล่มสลายด้วยฝรั่งสเปนพร้อมปืนกิ๊กก๊อกในยุคศตวรรตที่ 16 ก็ตาม

ดูการแกะ QR code สุดเมพนี้ได้ที่
https://www.metabunk.org/decoded-statue-with-a-qr-code-head.t6728/

#มิตรสหายท่าน​หนึ่ง

114 Nameless Fanboi Posted ID:Vb9EWg7Z64

บางคนบอกว่า การพึ่งพาคนอื่นตลอดทำให้เราสบาย แต่สำหรับ #ครูพี่แอน การพึ่งพาคนอื่น*โดยไม่จำเป็น* ทำให้พี่แอนรู้สึกอึดอัด ใครรู้สึกเหมือนกันมั้ยคะ? มันจึงสำคัญมากที่เราต้องมีความรู้ความสามารถประดับตัวไว้ให้มากที่สุด เพราะการพึ่งพาตัวเองได้ และได้เป็นที่พึ่งพาของคนที่เรารักเช่นครอบครัว คือสิ่งที่น่าภาคภูมิใจที่สุดในชีวิต ❤️
cr. ครูพี่แอน @annwarinn www.instagram.com/annwarinn

115 Nameless Fanboi Posted ID:O5vAYeospJ

*Muslims rape and abuse children*
Oxford university students : i sleep
*Orange man visits UK*
Oxford university students : real shit?

116 Nameless Fanboi Posted ID:E+Y/4/6bgA

ตั้งองค์กรตรวจสอบซับซ้อน สาเหตุความเสื่อมของราชวงศ์หมิง

เห็นข่าวปฏิรูปตำรวจ โดยจะตั้งองค์กรพนักงานสอบสวนขึ้นมาแยกต่างหากจากตำรวจ และให้อัยการมีส่วนร่วมทำคดี แล้วก็ประหวัดถึงความเสื่อมในระบบราชการของจีนในยุคราชวงศ์หมิง (1368-1644) ขึ้นมา

นักประวัติศาสตร์ที่ศึกษาความเป็นไปของจีนในยุคจักรวรรดิ ต่างลงความเห็นว่า ความเสื่อมทรุดของต้าหมิงนั้น มาจากระบบราชการที่ซ้ำซ้อน เหลื่อมทับ และมีผู้มีอำนาจตรวจสอบหลายชั้นเกินไป จนสุดท้ายไม่มีใครเป็นผู้รับผิดชอบที่แท้จริง เพราะแต่ละฝ่ายเล่นการเมืองแย่งชิงอำนาจ ไม่มีใครสนใจความเดือดร้อนของราษฎรโดยแท้จริง

เมื่อแรกตั้งรวมชาติ จูหยวนจางหมิงไท่จู่ มองเห็นว่า ตนเองถีบตัวขึ้นมาจากชนชั้นสามัญเป็นฮ่องเต้ เกรงว่าผู้อื่นสะสมอำนาจได้จะใฝ่ฝันตั้งตนเป็นใหญ่ ภายหลังตั้งรัฐบาลหนานจิง สามเสนาหกกรมแล้ว จึงได้บัญชาตั้งหน่วยองครักษ์เสื้อแพร 錦衣衛 (จิ้นอี้เว่ย) เป็นหน่วยราชองครักษ์ส่วนพระองค์ มีหน้าที่สืบสวนและจับกุมขุนนางที่ประพฤติมิชอบ นอกเหนือจากกรมอาญาและเจ้าหน้าที่ตรวจสอบอีกชั้นหนึ่ง แต่ไม่นานนัก หน่วยองครักษ์เสื้อแพรก็กลายเป็นตำแหน่งที่จะมอบให้แก่ผู้กใล้ชิดหรือญาติสนิทของฮองเฮา รับสินบนปล้นขุนนางเป็นที่น่าหวั่นเกรงของผู้บริสุทธิ์

ภายหลังในรัชสมัยของพระเจ้าหยงเล่อ (1402-1424) ชิงบัลลังก์จากพระภาคิไนยจักรพรรดิเจี้ยนเหวิน ทรงไม่ไว้วางใจผู้บัญชาการและเจ้าหน้าที่เหนือล่างในหน่วยองครักษ์เสื้อแพรที่เข้ามาสวามิภักดิ์ จึงทรงบัญชาให้ตั้งหน่วยค่ายตะวันออก 東廠 (ตงฉ่าง) โดยให้ขันทีวังในเป็นผู้บังคับบัญชาหน่วยงานรายงานต่อพระองค์ ให้อำนาจเจ้าหน้าที่ตงฉ่างจับกุมคุมขังราษฎรและขุนนางชั้นล่าง ก่อนจะให้องครักษ์เสื้อแพรสอบสวนต่ออีกทอด

แต่ขันทีผู้บังคับบัญชาค่ายซีฉ่าง นานไปก็หลงในอำนาจ ก่อความเดือดร้อน รับเงินสินบนข่มขี่ผู้บริสุทธิื ตั้งตนเป็นใหญ่ขึ้นแย่งอำนาจกับผู้บัญชาการองครักษ์เสื้อแพรและเสนาบดีเน่ยเก๋อ อาศัยว่าตนเข้าเฝ้าใกล้ชิดฮ่องเต้เพ็ดทูลชี้นำได้ ก่อความพินาศในเหตุการณ์ที่หมิงอิงจงจักรพรรดิเจิ้งถงยกทัพหมิงไปพ่ายแพ้ที่ป้อมถูมู่ ก็เพราะขันทีหวังเจิ้นแห่งค่ายตงฉ่างเพ็ดทูลจนฮึกเหิมไม่ดูศักยภาพทหาร

(ต่อเม้นล่าง)

117 Nameless Fanboi Posted ID:E+Y/4/6bgA

(ต่อจาก >>116 )

ในรัชสมัยจักรพรรดิหมิงเสียนจงเฉิงฮว่า อำนาจของค่ายตงฉ่างในเงื้อมมือขันทีก็หยั่งรากลึกยากจะคลอน แม้เป็นฮ่องเต้ก็สั่งการได้ไม่ทั่วถึง องครักษ์เสื้อแพรอยู่ในมือวั่นทง พี่ชายของวั่นกุ้ยเฟยชายาองค์โปรด จักรพรรดิเฉิงฮว่าได้แต่งตั้งหน่วยงานใหม่ คือ ค่ายตะวันตก 西廠 (ซีฉ่าง) มาคานอำนาจกับค่ายตะวันออกและองครักษ์เเสื้อแพรอีกต่อหนึ่ง โดยให้ขันทีคู่พระทัยที่สนิทสนมมาตั้งแต่ครั้งยังมิได้เป็นฮ่องเต้ อย่างวังจื๋อ เป็นผู้บัญชาการ

อนิจจา ค่ายซีฉ่างก็ไม่ได้ทำตัวแตกต่างจากค่ายตงฉ่าง ล้วนแล้วแต่ประพฤติตนเอาใจผู้มีอำนาจในราชสำนักทั้งฝ่ายหน้าฝ่ายใน มิได้แยแสสนใจความเดือดร้อนราษฎร รับสินบนปิดปากคดีน้อยใหญ่ไม่ถึงพระเนตรพระกรรณ จนในท้ายที่สุดก็ถูกยุบไปครั้งหนึ่ง

รัชศกหงจื่อหมิงเสี้ยวจง การยุบค่ายซีฉ่างและลดอำนาจค่ายตงฉ่าง จำกัดการกระทำขององครักษ์เสื้อแพร ให้อำนาจหน่วยงานสามเสนาหกกรมทำงานเต็มที่ไม่ละเว้นเห็นแก่หน้าผู้ใด ทำให้ประชาราษฎรมีความสุขความเจริญเฟื่องฟู และยิ่งเมื่อพระองค์มีจางฮองเฮาเป็นพระมเหสีเพียงองค์เดียว ทำให้ไม่ต้องไว้หน้าอวยยศให้แก่พระญาติฝ่ายใน เสนาอำมาตย์จึงทำงานได้เต็มที่ นับเป็นยุครุ่งเรืองครั้งสุดท้ายของต้าหมิง

ในรัชศกเจิ้งเต๋อ หมิงอู่จงฮ่องเต้ ไทเฮาฮองเฮาและสนมต่างพาญาติของตัวเองมาเสนอให้เป็นขุนนางในราชสำนัก การบริหารงานแผ่นดินกลับมาเหลวแหลก เสนาผู้ใหญ่ทัดทานไม่เกิดประโยชน์ นอกจากจะเกิดการฟื้นอำนาจของค่ายตงฉ่าง ตั้งซีฉ่างกลับมาใหม่ เจิ้งเต๋อฮ่องเต้ยังจัดตั้งค่ายภายใน 内廠 (เน่ยฉ่าง) เพื่อกำกับตรวจสอบฝ่ายตรวจสอบอีกทอดหนึ่งเข้าไปอีก

ความเหลวแหลกเลอะเทอะของการตรวจสอบหลายลำดับชั้นฝ่ายหนึ่งก็จ้องจับผิดอีกฝ่ายหนึ่งนี้เอง ทำให้ขุนนางอำมาตย์ไม่เป็นอันทำราชการช่วยราษฎร เพราะกลัวจะถูกจับผิดฟ้องร้อง ทางที่ดีขูดรีดราษฎรเอาเงินส่งส่วยผู้บัญชาการค่ายตรวจสอบเหล่านี้ไม่ให้มีเรื่องกับตนเอง แล้วอยู่อย่างฟุ้งเฟ้อสบายไปวันๆ ย่อมดีกว่า

ระบบราชการของต้าหมิงจึงเสื่อมลงเป็นลำดับ รัชศกเทียนฉีขันทีโฉดเว่ยจงเสียนแห่งค่ายตงฉ่างครองอำนาจ ราษฎรอดอยากแร้นแค้นถูกรีดนาทาเร้น เอาใจออกห่างราชวงศ์หมิงแซ่จู เมื่อหลี่จื้อเฉิงชูธงกบฎก็พากันเข้าร่วมหมดสิ้น แผ่นดินหมิงก็ล่มสลายเปิดโอกาสให้เผ่าแมนจูชิงอำนาจครองจงหยวนเมื่ออู๋ซานกุ้ยเปิดด่าน เหมือนผลไม้ที่สุกงอมจนเน่าร่วงลงจากต้น จักรพรรดิฉงเจิ้นแขวนพระศอต่ายในวังต้องห้าม สิ้นชาติสิ้นแผ่นดินแต่นั้นเอง

การแก้ไขปรับปรุงทำงานของหน่วยงานสืบสวนสอบสวนให้ความเป็นธรรมแก่ราษฎร จึงมิใช่การตั้งหน่วยงานมาซ้อนทับเพิ่มขึ้นเป็นหน่วยงานอิสระหลายลำดับไปเรื่อยๆ เพราะยิ่งหน่วยงานมาก มีผู้บังคับบัญชามาก ก็มีเขตอำนาจซ้อนทับกันมาก แต่ละคนแข่งดีชิงตำแหน่งอำนาจเป็นใหญ่ แล้วใครจะสนใจความเดือดร้อนที่แท้จริงของผู้มาร้องทุกข์?

ปัญหาที่ควรแก้คือสภาพความเป็นอยู่ของพนักงานสอบสวน รายได้ที่ต้องมากพอที่จะดำรงศักดิ์ศรี ภาระงานที่เกลี่ยกระจาย ใช้คนที่ทำงานเป็น ให้เครื่องมือที่เพียงพอ และไม่ก้าวก่ายการทำงานของเจ้าหน้าที่ ผู้ใหญ่ไม่ใช้อำนาจบีบปิดบังหรือเร่งคดีตามอำเภอใจ ลงโทษคนทุจริตให้รางวัลคนสุจริตชัดเจน ความยุติธรรมจึงเป็นความยุติธรรมโดยไม่ต้องสิ้นเปลืองงบประมาณตั้งหน่วยงานใหม่ให้เกิดปัญหาซ้อนอีกหลายหน

แก้ปัญหาย่อมต้องแก้ที่ต้นรากใหญ่ ถ้าไม่แก้ต้นรากความอยุติธรรมของผู้ใหญ่ ตั้งหน่วยงานมากเท่าไรก็ยิ่งเร่งความล่มสลายของแผ่นดิน ไม่ต่างจากต้าหมิงอันยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์จีน

ไม่เชื่อก็ลองไปดูการทำงานขององค์กรอิสระเปลืองงบมหาศาลตั้งแต่ รธน. 40 ดู ว่าทำงานคุ้มค่าสักหน่วยงานหรือยัง?

#มิตรสหายท่าน​หนึ่ง

118 Nameless Fanboi Posted ID:fP58+iDmDt

แถลงข่าว "ทลายแก๊งเกย์ ซื้อบริการทางเพศเด็กผู้ชาย 12 - 16 ขวบ" มีทั้งดารา ไฮโซ อาจารย์ ข้าราชการ ฯลฯ
คือ กูพูดเป็นครั้งที่ 100 แล้ว ว่ามันผิดที่เย็ดกับเด็ก มันเป็นกฏหมายสากล เค้าห้ามปรามกันทั้งโลก มันจะไม่มีปัญหาเลย ถ้ามึงซื้อคนอายุ 20 30 40
แต่คนไทยเนี่ย (ทั้งชายแท้ หญิงแท้ ทั้งเกย์ กะเทย) ไม่รู้เป็นห่าไรกัน จะเย็ดกับเด็กให้ได้ ชอบกันจัง เด็กตัวผอมๆ เสียงเพิ่งแตก หมอยเพิ่งขึ้นเนี่ย พอได้แล้วก็อวด ป่าวประกาศอย่างภูมิใจว่ากูได้เย็ดกับเด็ก เรียกตำรวจมาจับตัวเองกัน

119 Nameless Fanboi Posted ID:0cLe4rzgYL

>>118 มึงลองไปถามแบบนี้กับISISมั่งดิ ไม่รู้เป็นห่าไรชอบหีอีแมะนมเล็กๆ ใส่ผ้าคลุม แล้วต้องเป็นพวกต่างศาสนาเอาเข้ามาขู่เข็ญให้นับถือศาสนาตัวเองแล้วเย็ดๆหลังจากนั้นก็อวดอย่างภาคภูมิใจว่าหีอิมพอร์ตพร้อมบูชาอัลเลาะห์จนเมกาต้องมาบอมบ์ใส่

120 Nameless Fanboi Posted ID:PyNh4eUTRv

A: ผมละเบื่อพวกคลั่งชาติที่จะเอาความเป็นไทยแท้ยัดไปในทุกสิ่งทุกอย่าง แม้แต่ผัดกระเพาพวกนี้ยังจะเอาความเป้นไทยยัดเข้าไปอีก ฐฐฐฐฐฐฐ พวกนี้ไม่รู้บ้างเลยว่าทุกสิ่งอย่างในโลกยุคปัจจุบันมันมีการผสมกลมกลืนไหลลื่นข้ามวัฒธรรมไปหมดแล้วอ่ะครับ

B: อืมมม พูดได้น่าฟังครับ แล้วเอ๊ะนั่นคุณจะรีบไปไหนอ่ะครับ

A: อ่อ พอดีผมนัดเพื่อนไปกินอาหารญี่ปุ่นอ่ะครับ ร้านที่จะไปนี่เชฟเขามาจากญี่ปุ่นเลย

121 Nameless Fanboi Posted ID:Yh7sJDKN/.

เจมี่ โอลิเวอร์ทำแกงเขียวหวาน ใส่ขิงกับมะนาว แบบนี้มันไม่ใช่ไทยแท้ ทำให้ถูกหน่อยซิไอ้ฝรั่ง
ขอตัวแปปนะ ต้องไปกินพาสต้าคาโบนาร่า เพิ่งสั่งพ่อครัวให้ใส่ครีมเป็นพิเศษ ผมชอบ

-มิตรสหายท่านนึง

123 Nameless Fanboi Posted ID:w8FWJh3LsZ

>>122 อะไรของมึงวะ เห่อหมอยเหรอ

124 Nameless Fanboi Posted ID:/Ix8F9L5jn

>>123 ก็นี่กระทู้มิตรสหายท่านหนึ่ง เลยก๊อป quote มาแชร์ว่ามีแง่มุมอย่างนี้อยู่ในสังคม

125 Nameless Fanboi Posted ID:GgmwHtjB.n

>>124 ก็นั่นแหล่ะที่เห่อหมอย คือกูรู้แง่มุมนี้อยู่แล้วและคิดว่าไม่จำเป็นต้องเอามาลง เหมือนมึงเพิ่งเปิดโลกแล้วอยากอวดอะ

126 Nameless Fanboi Posted ID:9xLM.4M1Ev

>>125 บางคนก็ไม่รู้ไงครับ

127 Nameless Fanboi Posted ID:A2ddcRs9Hp

มึงก็อุตส่าห์เถียงกับโทรลเนอะ

128 Nameless Fanboi Posted ID:i84qvpVeB4

อ่าวนี่โทรลเหรอ 555

129 Nameless Fanboi Posted ID:YKlUV0fQrj

ทุยก็ได้

130 Nameless Fanboi Posted ID:a5zx31HQ5.

>>124 quote ของมิตรสหายเห่อหมอยที่เพิ่งรู้ว่ามีแง่มุมนี้ในสังคม

131 Nameless Fanboi Posted ID:fBtJsC2RcV

Mindset จอมคนยุคเซนโกคุ

โอดะ โนบุนากะ บอกว่า “ถ้านกไม่ยอมร้องเพลง ข้าจะฆ่ามันให้หมด”

โอดะ เป็นบุคคลที่มีความเด็ดขาด แข็งกร้าว และน่าหวาดกลัวแก่บริวารของเขาเป็นอย่างมาก ในตอนที่เขาก้าวเข้าเกียวโต เพื่อสนับสนุน โชกุน อาชิคางะ เขาออกกฏที่ไม่เคยมีมาก่อน เรียกกันว่า "กฏหนึ่งเรียว" หมายถึง เงินแม้แต่เรียวของราษฏร ก็ห้ามยุ่ง ใครปล้น กดขี่ข่มเห่งประชาชน จะต้องถูกประหารแม้เป็นเงินแค่น้อยนิดก็ตาม แสดงให้เห็นถึงความเด็ดขาดของแนวคิดจอมคนท่านนี้

โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ บอกว่า “ถ้านกไม่ยอมร้องเพลง ข้าจะสอนให้มันร้องให้ได้”

ฮิเดโยชิเคยกล่าวว่า "หากเขาไม่ยอมร่วมมือ จงเกลี่ยกล่อมเขา " ในประวัติศาสตร์ ฮิเดโยชิเป็นนักเจรจาที่ยอดเยี่ยม เขามีผลงานเกลี่ยกล่อมกับหลายตระกูล ไม่ว่าจะเผื่อการร่วมมือกันหรือการสงบศึก เช่น ตระกูลไซโต้ ตระกูลโมริ หรือแม้แต่ โตกุงาว่า ก็ตาม ความเป็นผู้นำของเขา ทาคิกาว่า คาสุมาสึ ยังให้การยอมรับว่าเหมาะสมเป็นผู้รับช่วงต่อเจตนารมณ์ของโอดะ

โตกุกาว่า อิเอยาสุ บอกว่า “ถ้านกไม่ยอมร้องเพลง ข้าจะเฝ้ารอคอยให้มันร้อง”

อิเอยาสุขึ้นชื่อในเรื่องความอดทน เขารอจนกว่า ฮิเดโยชิ เสียชีวิต จึงเข้ายึดอำนาจ เขาเริ่มจากการย้ายฐานอำนาจไปให้ไกลจากเกียวโต จากแคว้นมิคาวะ ย้ายสู่แคว้นมูซาชิ ฐานอำนาจของโฮโจ สั่งสมกำลังรอเวลา ตอนที่ ฮิเดโยชิตัดสินใจรุกรานเกาหลี อิเอยาสึ ก็หลีกเลี่ยงที่จะส่งกำลังไปรบด้วย จุดนี้เองเพื่อเก็บแรงไว้ใช้ในงานใหญ่นั้นเองครับ

ยังมีคำกล่าวอีกว่า ชายสามคนทำขนม " โอดะ นวดแป้ง ฮิเดโยชิ นึ่งจนสุก ส่วน โตกุงาว่า เป็นคนกิน "

และคนสุดท้าย

ผู้นำท่านนึงแถว ๆ แดนสารขันกล่าวว่า " ถ้านกไม่ยอมร้องเพลง จะบอกว่า " เป็นความผิดของรัฐบาลที่แล้ว ผมไม่เกี่ยว

132 Nameless Fanboi Posted ID:D3ICBZxqFW

>>131 เปลี่ยนจาก แมวจับหนูเป็นนกร้องเพลง แล้วเรอะ

ต่อไปคงเคลมโจโฉเป็นคนคิดอีก

133 Nameless Fanboi Posted ID:QNv1Yi/3OD

แดกเหล้าทางตูดจะเมาเร็วกว่าแดกทางปาก

#มิตรสหายตูดแหกไปแล้วท่านหนึ่ง

134 Nameless Fanboi Posted ID:9FdBQB0HSQ

>>133 เอามาจากการ์ตูนอ่ะดิกูรู้

135 Nameless Fanboi Posted ID:QYQTKSwDHs

>>132 วลีนี้มีมานานแล้วนะ เปรียบเทียบนกกับ 3 คนนี้

ส่วนแมวที่มึงบอกคงหมายถึงแมวสีอะไรจับหนูได้คือแมวดีของเติ้งสินะ จริงๆ นั่นเป็นสุภาษิตเก่าแก่เสฉวน เติ้งไม่ได้คิดเอง และไม่ได้เกี่ยวกับโจโฉเลย

136 Nameless Fanboi Posted ID:D3ICBZxqFW

>>135 มีติ่งโจโฉเคลมว่าโจโฉพูด อีกอันก็ ขยันแต่โง่ให้ประหาร

137 Nameless Fanboi Posted ID:agfYnSvgzx

>>131 พวกอวยโจรแคระลอกวัฒนธรรมเจ๊ก ยี้

138 Nameless Fanboi Posted ID:fBtJsC2RcV

>>137 วัฒนธรรมจีนโบราณแม่งสูญพันธุ์ไปหมดแล้วสัส เหลือแต่เจ๊กขากถุยไร้อารยะเพราะเหมาควยตุงนี่ล่ะ

140 Nameless Fanboi Posted ID:jt1hTomCc0

https://www.facebook.com/DailyMail/videos/229750531056791/

รุนแรงขึ้นทุกวันครับ
การที่คนคนไหนจะเลือกทานหรือไม่ทานอะไร
ควรเป็นสิทธิ์ที่เค้าจะได้เลือกอย่างเสรี
ถ้าคุณมีความเห็นว่ามันไม่ดี ไม่ควร คุณก็ต้องไปรณรงค์กับผู้บริโภค
ว่ากันด้วยเหตุด้วยผล ไม่ใช่ผ่าเข้าไปในพื้นที่ของอีกฝ่ายแบบระรานกัน
มันเป็นความงมงายแบบที่กำลังกลายเป็นลัทธิ
และโซเชียลมีเดีย เป็นช่องทางการปลุกระดม
และแม้แต่การให้ข้อมูลเท็จอย่างเป็นระบบ
เทคโนโลยี่เป็นสิ่งดี แต่มนุษย์นับวันจะเจริญไม่ทันเทคโนโลยี่
และนับวันจะถูกเทคโนโลยี่เข้าครอบงำ
หรือตกเป็นเครื่องมือของคนที่ฉลาดกว่า

ในกรณีนี้ ยังมีเรื่องของการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง
เพราะเมื่อการรณรงค์ไม่ค่อยได้รับการตอบรับแบบที่พวกเค้าต้องการ
การรณรงค์จึงเริ่มฮาร์ดคอร์ขึ้นเรื่อยๆ
ข้ออ้างเรื่องอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์เป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่
เป็นของทุนใหญ่ และมีอำนาจในการล็อบบี้รัฐบาล บิดเบือนกลไกต่างๆ
ถูกยกขึ้นมาเป็นข้อโจมตี
ซึ่งถามว่าจริงไหม มันก็มีความจริงอยู่ครับ
แต่ทว่า ... อุตสาหกรรมการเกษตรที่เป็นพืชผักผลไม้
ไม่มีอิทธิพลของทุนใหญ่ที่ใช้อิทธิพลเข้าครอบงำหรือ ???

ผมไม่มีอคติอะไรกับคนที่เป็นวีแกน
ตัวผมเองก็พยายามจะทานพืชให้มากอยู่เสมอเพราะมันดีกับร่างกาย
ปริมาณโปรตีนที่ผลิตได้ในโลก นับวันก็จะไม่พอ
ไม่ทันกับปริมาณประชากรที่เพิ่มขึ้นอยู่แล้ว
แต่มนุษย์เองบริโภคเนื้อสัตว์มานานก่อนวัฒนธรรม
ก่อนเราจะเป็นมนุษย์ด้วยซ้ำ ...
รูปแบบฟันของเราตลอดสายวิวัฒนาการ
เป็นหลักฐานยืนยันทางวิทยาศาสตร์ที่แย้งไม่ได้
การจะบังคับคนทั้งโลกให้ไม่ทานเนื้อสัตว์
คงไม่สามารถเกิดได้ในชั่วพริบตาอย่างที่ใครบางคนต้องการแน่นอน

#มิตรสหายท่าน​หนึ่ง

141 Nameless Fanboi Posted ID:QYQTKSwDHs

>>136 มึงต้องแคร์พวกติ่งโง่ๆ ด้วยเหรอ

142 Nameless Fanboi Posted ID:Y9VRbhyEw0

A: ผมเอารถคันละล้านกว่าไปรับสาวๆ ไม่มีใครยอมขึ้นรถผมสักคนอ่ะครับ

B: เอ๊ะ เป็นพวกรถ EV ปลั๊กอินรึป่าวอ่ะครับ สาวๆ เลยไม่มั่นใจ

A: ป่าวครับ ป่าวครับ รถเทรลเลอร์อ่ะครับ

B: วะวะว่ะหว่ายยย

143 Nameless Fanboi Posted ID:+jqnJXBRf+

>>138 ไต้หวันแม่งคุณภาพกว่าจริงๆ เฉลี่ยแล้วดูฉลาดกว่ามากๆด้วย จีนแม่งเป๋สัด ตอนยุคคอมมิวนิสต์

144 Nameless Fanboi Posted ID:vYzLFWEsYQ

Democracy is two wolves and a lamb discussing what to have for dinner.

Liberty is a well-armed lamb.

145 Nameless Fanboi Posted ID:bf.7yrnNdQ

>>144 KKona Clap

146 Nameless Fanboi Posted ID:PbNVd48C9z

>>143 ไต้หวันแม่งติ่งโจรแคระ...

147 Nameless Fanboi Posted ID:ClM9UspqzL

ไต้หวันก็เหมือนสิงคโปร์นั่นแหละ

148 Nameless Fanboi Posted ID:WZCZCip0EK

>>138
มีอารยะแต่สิ้นชาติพวกมรึงจะเอาอะไรครัช

149 Nameless Fanboi Posted ID:4E8Ar0UvJw

อ่านความเห็นหลายๆคนที่ทำงานด้านแบบ Software Infrastructure ที่ไทย ว่าแบบงานด้านนี้ 1) ระบบอะไรต่างๆล่มก็ไม่มีทางรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ 2) ถ้าเว็บไม่ล่มก็ไม่มีใครว่ารู้ว่าสำคัญยังไง 3) ทำดีก็ไม่มีใครรู้เสมอตัว แล้วรู้สึกแปลกๆ
.

คือตอนนี้นับตั้งแต่ทำงาน Infra อยู่ที่ Quora (เลขล่าสุดคือเว็บมีคนใช้เดือนละ 200 ล้านคน เป็นเว็บที่คนเข้ามาสุดอันดับ 90 ของโลกตาม Alexa Rank) [1] มาก็ 2 ปีกว่าๆละ ย้ายมาทีม Infra เพียวๆเมื่อประมาณ 4 เดือนก่อน ทีมเก่าก็ทำ backend ลึกๆซึ่งก็ใกล้เคียง Infra มากๆ ก็ไม่เห็นจะรู้สึกว่ามันจะเป็นอะไรแบบนั้นเลย
.

จริงอยู่ที่ว่างานพวกนี้มันอาจจะดูเหมือนมีดวงมาเกี่ยวข้องเยอะอยู่ เพราะมันมีปัจจัยภายนอกเช่นถ้าเรามี Server, EC2/GCP instances หรืออะไรก็ตามอยู่เยอะมากๆ มันก็ต้องมีสักอันที่อยู่ดีๆก็พังบ้าง หรือแม้กระทั้งก็อาจจะมีอะไรที่อยู่นอกเหนือการควบคุมเรามากๆไปเลยเช่น service ชาวบ้านที่เราต้องใช้พังอะไรแบบนี้ แต่คือของพวกนี้มันก็ประเมิน back of envelope calculation อะไรแบบนี้ได้อยู่ รวมถึงถ้าเราเคยมีประสบการณ์ว่าอะไรมีปัญหามาก่อนแล้วเขียน service postmortem ไว้ก็สามารถเอา incident report เก่าๆมาดูได้ว่าอะไรเกิดบ่อยแค่ไหน มีผลกระทบอะไรบ้าง คือสุดท้ายมันก็ไม่กันได้ทั้งหมดหรอก แต่คือของแบบนี้สุดท้ายมันก็วัดได้ เช่น ถ้าพังครั้งเดียวมันก็อาจจะสุดวิสัย แต่ถ้าพังบ่อยๆเรื่องเดิมๆหลายๆครั้งเนี่ย มันก็น่าจะมีทางป้องกันอะไรสักอย่างได้แหละ เพราะสุดท้ายมันก็เป็นเรื่องของ probability หรือ risk assessment ไม่ใช่ว่าจะเป็นเพราะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ดลบัลดาลให้ server ล่มสักหน่อย
.

ส่วนเรื่องที่ว่าถ้าเว็บไม่ล่มก็ไม่มีใครรู้ว่างาน infra สำคัญยังไงนี่ก็ยิ่งแปลก เพราะการสื่อสารให้คนที่ไม่ได้ทำงานในด้าน infra ฟัง ทั้งกับ software engineers ที่ทำด้านอื่นๆ หรือแม้กระทั้งกับพวก management เองส่วนตัวก็รู้สึกว่าสำคัญมากๆ คือการที่เค้าจ้าง infrastructure engineer มาคนนึงเนี่ย เค้าก็ต้องอยากรู้อยู่แล้วมั้ยว่าเรามีประโยชน์อะไร เพราะฉะนั้นเนี่ยการมีอยู่ของทีม infrastructure ก็ควรจะมี goal มี SLAs/SLOs (Service Level Agreement/Objective) ที่ชัดเจนเช่นว่าจะทำให้ services ที่มีอยู่ reliable ขนาดไหน เร็วขนาดไหน ลดค่าใช้จ่ายลงได้ขนาดไหน maintain ง่ายขึ้นมั้ย แล้วก็ใครหรือทีมไหนต้องมีส่วนรับผิดชอบ ต่อ goal หรือ SLA อันไหนบ้าง ซึ่งถ้ามีกำหนดชัดเจนแล้วถ้าเราทำได้ตามนั้นก็คือ impact แล้วปะ แต่ถ้าไม่มี goal หรือ metrics อะไรที่สามารถสื่อสารกับคนนอกทีมได้ นี่ก็ดูน่าจะมีปัญหาแล้วนะ
.

แล้วก็คือถ้าจะทำ project อะไรสักอย่างส่วนตัวคิดว่า ROI (Return of investment) ของ project สำคัญมากๆ ทุกอย่างที่ทำต้องระบุได้ว่าทำแล้วจะช่วยบริษัทได้ยังไง มีผลต่อ high-level goals ของทีมและของบริษัทยังไง บางงานถ้าตัวเองไม่เชื่อว่ามี ROI ต่อบริษัทจริงๆ ถึง manager สั่งให้ทำปกติก็เถียงกลับไปด้วยซ้ำ หรือถ้าถึงยังไงก็ต้องทำด้วยความจำเป็นอื่นๆถ้ามีงานที่รู้สึกว่า ROI สูงกว่าก็ไปทำอันนั้นแทนก่อน ซึ่ง ROI เนี่ยก็เหมือนเดิมคือบางอย่างมันก็บอกไม่ได้ 100% หรอก อย่างเช่นในทาง infrastruture พวก realibility หรือ security อะไรพวกนี้ที่มันเป็นเรื่องของของที่เป็นความเสี่ยง (คือแบบถ้าไม่ทำก็อาจจะไม่เกิดอะไรที่ไม่ดีขึ้นก็ได้) แต่มันก็ควรคำนวนหรือคาดการได้อยู่ดีมั้ย ส่วนตัวคิดว่าถ้าทำงานแล้วไม่สามารถระบุ ROI ของของที่ทำได้เนี่ยนอนอยู่บ้านเล่นเฟสยังดีกว่า
.

สุดท้ายคือเรื่องทำดีไม่มีใครรู้ อันนี้ก็แปลก คือปกติเนี่ยถ้าเราทำอะไร แทบจะมี rule of thumb เลยว่าเราต้อง quantify หา impact ของงานให้ได้ แม้กระทั่งการหา impact นั้นอาจจะใช้เวลา 50%-100% ของเวลาที่ทำงานด้วยซ้ำ (คือใช้เวลาอีกเท่าของเวลาที่ทำงานจริงๆ) สำหรับการทำงานในองค์กรแล้วเราถือคติว่า "ทำดีไม่มีใครรู้ = ไม่ทำ" เพราะฉะนั้นยิ่งถ้าทำอะไรที่มี impact เยอะๆ ยิ่งต้องให้คนรู้มากๆ ส่งเมล์มันให้หมดทั้งทีม หรือถ้าสิ่งที่เราทำมันสำคัญจริงๆก็ส่งมันทั้งบริษัทไปเลย
.

อันนี้จะเรียกว่าการเมืองในที่ทำงานหรืออะไรก็ตามใจ แต่ลองมองมุมบริษัทดู เค้าจ้างมาทำไม แล้วเค้าจะวัดผลเรา ขึ้นเงินเดือนเรา เลื่อนขั้นเรายังไงถ้าไม่รู้ว่างานที่เราทำมีผลอะไรบ้าง เราในที่นี้คือทั้งตัวเราเอง แล้วก็ทั้งทีมของเราด้วย
.

สรุปคือจะทำอะไรไม่ว่าจะ infra, backend, frontend อะไรก็เถอะถ้ามี goal ชัดเจน สื่อสารกับชาวบ้านดีๆ ประเมินความเสี่ยงดีๆเนี่ย มันก็ควรจะสามารถคาดการณ์อะไรได้ไม่มากก็น้อย แล้วเวลาทำดีคนก็จะรู้ได้ด้วยถึงเว็บจะไม่ล่ม จบ
.

[1] แต่ทุกอย่างในโพสนี้ความเห็นส่วนตัว ไม่เกี่ยวข้องกับบริษัทแต่อย่างใด

#มิตรสหายท่าน​หนึ่ง

150 Nameless Fanboi Posted ID:uQvBUpx/MR

>>149 กูนึกว่ามึงจะมาโฆษณา code star สัส หลงอ่านตั้งยาว

151 Nameless Fanboi Posted ID:g7goiwerkg

>>150 ถ้าจะโฆษณาหลอกควายมันไม่เริ่มด้วยด้านมืดของอาชีพโปรแกรมเมอร์หรอก

152 Nameless Fanboi Posted ID:NgHbfu3CSD

>>150 น้องคนนี้วุฒิมัธยม 6 เรียน JavaScript ได้ 3 วัน เขียนโค้ดบน Codility ได้คะแนนเต็ม 100 ในการเขียนครั้งแรก ผมแอบดูอยู่นอกห้อง เขียนเก่งแบบนี้ได้งาน 100% ครับ

เรียนที โค้ดสตาร์ ไม่ต้องมีพื้นฐาน หรือ ประสบการณ์ทำงานอะไรทั้งสิ้นครับ การเขียนโค้ดเป็นทักษะ เหมือนกับการเล่นดนตรี ที่ต้องฝึกซ้อมให้ชำนาญ อยากเรียนเขียนโค้ดเหมือนเล่นเปียโน เล่นกีตาร์ สมัครครั้งเดียว มาเรียนได้จนกว่าจะได้งานประจำเงินเดือน 30,000 บาทขึ้นไป

153 Nameless Fanboi Posted ID:i7mzG0hzOH

>>152 น้องคนนั้นเข้าทีล่ะใช้ได้ทีเดียว น้องคนนี้ก็อึ๋มทำพวกเราสุดเสียว ขาวสวยหมวยเซ็กส์หุ่นเธอปราดเปรียวได้เคี้ยวเมื่อไหร่จะกินให้อิ่มหลายวัน

154 Nameless Fanboi Posted ID:.G1hqPMMGU

>>153 ความเมามันโลมเร้าในจิต ทำเราให้เสียสติสิ้นคิด วางแผนกับเพื่อนใจวิปริต ยานอนหลับใครมี ใส่เหล้าให้เธอ

155 Nameless Fanboi Posted ID:./VLFCvT7j

ท่านผู้บริหารครับ ตอนนี้เราสร้าง Brand Awareness ได้สำเร็จแล้ว ตอนนี้ผู้ใช้เว็บโม่งจำนวนมากรู้จักสถาบันของเราแล้วครับ

156 Nameless Fanboi Posted ID:+kW96jkxXS

>>155

P A M P E T T

https://imgur.com/a/9ychSWV

157 Nameless Fanboi Posted ID:./VLFCvT7j

เคยเจอกรณีที่มีผู้กระทำความผิดหลายคน
เจ้าของคดีบอกว่าถ้าใครมอบตัวจะกันไว้เป็นพยานและไม่เอาผิด
ส่วนใครหนีจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

มีส่วนน้อยที่มามอบตัว และได้รับคำยืนยันว่าจะไม่มีความผิดใดๆ
2 เดือนต่อมา คนที่มามอบตัวโดนแจ้งข้อหา
ส่วนคนที่หนียังกินอิ่ม นอนหลับอย่างสบายใจ

เพราะ.......อะไรคะ
ไม่มีสัจจะ ในหมู่โจรงั้นเหรอ

158 Nameless Fanboi Posted ID:KQohAMq0F2

>>157 คดีหลายอย่างเป็นอาญาแผ่นดิน อัยการไม่สั่งฟ้องไม่ได้ถือว่าละหน้าที่

159 Nameless Fanboi Posted ID:r5+8MRWOlt

วันแม่อย่าลืมบอก milf แม่นะคะ

- มิตรสหายสาวแว่นท่านนึง

160 Nameless Fanboi Posted ID:LzSxERH6rD

เพื่อน ๆ ครับ เคยสังเกตหรือไม่ครับว่าคนที่มีอายุมาก ๆ ยิ่งมากเท่าไร จะยิ่งติดเชื้อง่ายเท่านั้น คนที่มีอายุมาก พอเจอเชื้อหวัดเข้าหน่อย ก็อาจปอดบวมแล้ว เข้าโรงพยาบาลแล้ว เพื่อนผมท่านหนึ่งแค่โดนแมลงกัดธรรมดา ๆ อยู่ในห้อง ICU เป็นเดือนเลย

ทำไมหนอ ทำไม

มีงานวิจัยพบว่าคนเรา พออายุ 20 ขึ้นไปโดยประมาณ ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายจะทำงานมีประสิทธิภาพลดลงปีละ 2-3% นั่นเองครับ สมมติว่าเริ่มลดที่อายุ 20 พอเราอายุ 21 ก็จะเหลือแค่ 98% เป็นอย่างมาก พออายุ 22 ก็จะเหลือแค่ 96% หากอายุ 60 จะเหลือแค่อย่างมากที่สุด 20% เท่านั้นครับ ไม่ต้องนับต่อนะครับ

เพราะฉะนั้นไม่น่าประหลาดใจครับว่าทำไมเราเป็นกุ้งยิง เป็นงูสวัด เป็นหวัดบ่อยขึ้น พร้อม ๆ กับอายุที่เพิ่มขึ้นของเรา เพราะระบบภูมิคุ้มกันมันทำงานไม่ดีเหมือนเดิมนั่นเองครับ

แต่ไม่ต้องวิตกไปครับ งานวิจัยบอกว่าการออกกำลังกายที่สม่ำเสมอและหนักพอเพียง ช่วยป้องกันไม่ให้ระบบภูมิคุ้มกันของเราเสื่อมลงได้นะครับ ผมเน้นนะครับ ช่วยป้องกัน ไม่ได้ช่วยชลอนะครับ

งานวิจัยพบว่าคนอายุ 80 ที่ออกกำลังกายมาอย่างต่อเนื่อง (กรณีนี้ปั่นจักรยาน) จะมีระบบภูมิคุ้มกันที่เหมือนกับเด็กอายุ 20 ปีครับ

รู้แบบนี้แล้วรออะไรครับ เริ่มต้นด้วยวิดพื้นแบบ US Navy SEAL เลยครับ จัดไป 20 ครั้ง ปฎิบัติ!

161 Nameless Fanboi Posted ID:LzSxERH6rD

มึงเอาจริงได้แล้ว

พ่อแม่ไม่ได้รอมึงไปตลอดนะเว้ย

ใช่มึงยังเด็ก

แต่พ่อแม่อ่ะนับถอยหลังทุกวัน

รุ่นพี่คนนึง
พูดออกมาในวงที่เรากำลังนั่งคุยกัน

เค้าดูมีอารมณ์เล็กน้อย

เค้าแก่กว่าพวกผม10ปีได้

ณ ตอนนั้นเค้าน่าจะ30นิดๆ

ส่วนเรากำลังกำลังจะเข้าวัยทำงาน

ก่อนหน้านั้น
รุ่นพี่คนนี้พูดขึ้นว่า...
รีบๆสำเร็จ
รีบๆทำ

"รีบๆสร้างตัว"

"อย่าช้าแบบกู"

เพื่อนคนนึงในวงพูดว่า

"จะรีบไปไหนพี่?"

"ผมเรียนมา20ปีขอชิลๆหน่อยเด๊ะ"

"พักสักปี2ปี"

เพื่อนอีกคนก็บอก....

"ไว้30ค่อยว่ากัน"

"ระหว่างนี้ทำงานค้นหาตัวเองไปก่อน"

รุ่นพี่อีกคนพูดว่า...

ถ้ามันค้นหาตัวเองจริงๆก็ดี
แต่ถ้าเอ็งคิดชิลแบบนี้แต่แรก
มันก็จะเฉื่อย

แล้วเอ็งเป็นคนแบบไหน
เอ็งก็จะรู้สึกสบายใจ
ที่จะคุยกับคนแบบเดียวกัน

ไม่นาน
เอ็งก็ถูกดึงดูดไปรวมกับคนแบบนั้น
แล้วนั่นก็คือสังคมเอ็ง
สังคมที่เฉื่อยเหมือนกัน

พอไปทำงานรวมกัน
มันก็เฉื่อยทั้งกลุ่ม
แล้วเอ็งก็ชินกับสภาพแบบนั้น
ไม่นานเอ็งก็หมดพลัง

แต่จริงๆเอ็ง
สามารถตั้งใจได้ตั้งแต่วันนี้นะ

"ทำไม่ตั้งเป้าไปเลยว่าจะสำเร็จไว"

"ยุคนี้มันมีinternet
คนสำเร็จได้ไวกว่ายุคก่อนเยอะ"

"ไม่ตั้งไว้25ตั้งตัวได้เลี้ยงดูพ่อแม่
30ก็สบาย"

"เอ็งไปตั้งไว้แก่กว่านี้ค่อยมาคิดใหม่
แล้วตอนนั้นจะไปตั้งตัวได้เมื่อไหร่
ขนาดตอนมีแรงเอ็งยังไม่ทำเลย?

โอ้ยพี่พูดเรื่องงานอะไรนักหนา
เครียดนะเว้ย
เพิ่งเรียนจบ
ยังเด็กอยู่เลย(เค้าพูดพร้อมหัวเราะ)

รุ่นพี่พูดสวนขึ้นมาทันที
ใช่มึงอะเด็ก
แต่พ่อแม่มึงนับถอยหลังทุกวัน

มึงรอได้
แต่พ่อแม่มึงรอได้รึเปล่าล่ะ?

รุ่นพี่คนนี้พูดเงียบๆ
แต่ดูรู้ว่าเค้าไม่พอใจ

แล้วหลังพูดเสร็จ
จากที่เค้าตั้งใจจะกลับอยู่แล้ว
เค้าก็เดินไปขึ้นรถออกไปเลย

พี่.....เป็นไรว่ะ(เพื่อนผมคนนึงพูดขึ้น)

ทำไมเค้าต้องเครียดขนาดนั้นว่ะ

เค้าแช่งพ่อแม่ผมทำไม(เพื่อนคนแรกพูด)

รุ่นพี่คนนึงพูดกลับมาว่า.....

มึงอย่าไปโกรธพี่มึงเลย
มึงก็รู้พี่มึงลึกๆหวังดี

มันsensitiveเรื่องนี้แหละ
ก่อนที่มันจะมีธุรกิจมีชีวิตดีๆอย่างที่มึงเห็น
มันก็ชิล
มันก็คิดแบบมึง

ตั้งแต่เรียนจบ-อายุ25
มันก็ชิลๆใช้ชีวิตนี่แหละ
แต่พอวันนึงมันรู้ว่าแม่เป็นโรคร้าย
มันหยุดทุกอย่างเลย

มันตั้งใจทำงานสร้างตัว
สร้างธุรกิจ
มีเงินรักษาแม่บ้างไม่มีบ้าง
ก็เข้าเอกชนบ้าง
หลังๆก็รัฐบาลบาลอย่างเดียว

จนเกือบ30แม่มันก็เสีย
ในวันที่แม่เสีย
มันยังวิ่งทำงานอยู่ต่างจังหวัดเลยวันนั้น

มึงอย่าโกรธพี่มึงเลย
พี่มึงรักพวกมึงนะ
ไม่งั้นมันจะพูดให้เอ็งเกลียดขี้หน้ามันทำไม?
มันมีเหตุผลอะไร?

วันนั้นคำของเค้า....

"เราอ่ะรอได้"

แต่พ่อแม่รอได้ป่าวล่ะ?

"จะมั่นใจได้ไงว่ะว่ารอได้?"

ผมกลับบ้านเลยวันนั้น
เขียนเป้าหมายว่าจะเลี้ยงแม่ได้
ภายใน1ปี
นั่งคิดเรื่องนี้อยู่นาน

162 Nameless Fanboi Posted ID:LzSxERH6rD

แล้วเวลาก็ผ่านไป

ทุกอย่างที่จางไป

ต่างคนต่างแยกย้าย

ไม่กี่ปีต่อมา

วันนึงเพื่อนก็โทรมาผม

และเย็นอีกวัน...

ผมก็ไปงานศพของแม่เพื่อน
คนที่เคยอยู่ในวงวันนั้น

แม่ของเพื่อนประสบอุบัติเหตุบนถนน

มันด่วนมาก

ผมไม่รู้จะพูดอะไร...

ไม่รู้จะปลอบเพื่อนยังไง!

เพื่อนคนนั้นบอกผมว่า....

"บ้านที่คิดจะซื้อให้แม่ก็ยังไม่ได้ซื้อ"

"ยังไม่เคยพาแกไปเที่ยวดีๆกินดีๆเลย"

"กูไม่คิดว่ามันจะเร็วขนาดนี้หว่ะ"

เค้าพูดไปมองรูปแม่ไป

น้ำตาซึม....

เค้าพูดกับผมว่า....

กูไม่รู้ ไม่รู้เลยจริงๆ...

"มันเร็วเกินไป"

แล้วก็พูด วนไปวนมาแบบนั้น

ผมนึกถึงเคสรุ่นพี่เมื่อหลายปีก่อน

ที่เค้าเตือนและหงุดหงิด
ก่อนเดินออกจากวงไป
ณ ตอนนั้นผมเริ่มเข้าใจว่าทำไมเข้าโมโห
และรู้ส่าทำไมพวกเราไม่ควรโกรธเค้า

ตรงกันข้ามเรากลับต้องขอบคุณเค้า
ที่ยอมถูกพวกเราเกลียด
"เพื่อให้เราคิดได้"

ผมคิดว่ามันคงไม่มีใครเฉื่อย
กับชีวิตได้หรอก...

ผมคิดในใจว่าถ้าทุกคนตะหนักว่า
"พ่อแม่อาจจะไปวันไหนก็ได้"

และอาจจะมีเวลาไม่กี่วัน
"ให้เราได้อยู่กับเค้า"

ผมเชื่อทุกคนไม่มีทางเฉื่อย
แต่คงทำให้ดีที่สุด
พยามทุกวิธีทางแน่นอน

"ใช่มึงอะเด็ก"
แต่พ่อแม่มึงนับถอยหลังทุกวัน

มึงรอได้
"แต่พ่อแม่มึงรอได้รึเปล่าล่ะ?"

(เค้าพูดพี่เค้าผุดขึ้นในหัว)

"มันเร็วเกินไป"

(เสียงของเพื่อนพูดประโยคนี้อยู่ข้างๆ)

1ในDreamlistของผมตอนเรียนจบคือ
ผมหาเงินเลี้ยงแม่ให้ได้ในวันนึง

แต่1ในข้อนึงของdreamlist
ที่ผมเขียนเพิ่มขึ้นมาคือ

ไม่ใช่แค่เลี้ยงแม่ได้ในวันนึง
แค่ผมจะต้องสำเร็จให้ไวที่สุดด้วย

เพราะเราไม่รู้ว่า
วันไหนเค้าจะไม่อยู่กับเรา
ก็ทำให้ไวที่สุด
แล้วใช้เวลากับเค้าให้คุ้มค่า

"ใช่มึงอะเด็ก"
แต่พ่อแม่มึงนับถอยหลังทุกวัน

มึงรอได้
"แต่พ่อแม่มึงรอได้รึเปล่าล่ะ?"

จริง!
(ผมคิดตามคำพูดนั้น)

และจริงๆเราไม่รู้เลย
ใครจะไปวันไหน
หรือาจจะเป็นตัวเราก็ได้
แล้วถ้าเราไปล่ะ?

พ่อแม่เราจะอยู่ยังไง?

เค้าจะอยู่ดีหรือเปล่า?

นับแต่วันนั้นชีวิตผมไม่เคยท้ออีกเลย
ตอนจะท้อ
ตอนเหนื่อย
ตอนอยากจะผลัดผ่อนการลงมือทำออกไป

"ใช่มึงอะเด็ก"
แต่พ่อแม่มึงนับถอยหลังทุกวัน

มึงรอได้
"แต่พ่อแม่มึงรอได้รึเปล่าล่ะ?"

คำพวกนี้ผุดขึ้นมาตลอด
หลายปี
จนชีวิตดำเนินมาถึงวันนี้
ผมค่อนข้างพอใจ

ผมเชื่อว่า
วันนี้ผมทำได้ดีระดับนึง
ได้ดูแลแม่ดีอย่างที่ตั้งใจ
ผมคิดว่าตัวผมทำได้โอเค

และจะยิ่งดีขึ้นไป
เพราะแม่คือพลังใจให้ผมดีขึ้น

จริงๆวันนี้เป็นวันดี
ผมไม่ได้อยากพูดเรื่องนี้
ให้คนที่อ่านรู้สึกไม่ดี
จริงๆไม่อยากนำมาเล่าเลยด้วยซ้ำ
ผมต้องโทษทุกคนด้วยถ้าผมพูดเรื่องนี้
แล้วทำให้บางท่านคนกระทบอารมณ์?

แต่เมื่อวานมีคนถามผมว่า

ผมทำยังไง
ผมถึงกล้าตั้งเป้าหมายใหญ่ๆ

แล้วผมทำยังไง
เวลาผมมีเป้าหมายแล้ว
ไม่ท้อ ไม่เหนื่อย
และเป็นมืออาชีพลุกขึ้นไปทำได้ตลอดเวลา
แม้จะไม่มีอารมณ์ในบางครั้ง

จากคำถาม
ที่ตอนแรกผมคิดว่าน่าจะไม่เล่าเรื่องนี้
แต่คิดไปคิดมา

เรื่องนี้มันตรงคำถาม
และมันคือสิ่งที่ผมคิด
แล้วเปลี่ยนชีวิตผมมาแล้ว

ก็น่าจะเป็นความจริงที่เป็นประโยชน์

ก็ควรจะพูดมัน...

ผมนึกย้อนหลัง
ย้อนกลับไป
ก่อนที่จะมาเป็นทุกวันนี้

ผมนึกถึงอะไรที่ทำให้ผมเป็นคนแบบนี้
ผมเริ่มเปลี่ยนตอนไหน?
และอะไรทำให้ผมตั้งเป้าหมายใหญ่
ตั้งแต่เรียนจบเลย

และอะไรที่ทำให้ผมfocus
มันได้ตลอดเวลา

ผมนึกย้อนหลังไปเรื่อยๆ...

"มันเร็วเกินไป"
(เสียงของเพื่อนผมในงานแม่ของเค้า)

"ยังไม่ได้ทำอะไรให้แม่เลย"
"ไม่คิดว่ามันจะเร็วขนาดนี้"
(เสียงเพื่อนพูดวนไปวนมาตลอดงาน)

"ใช่มึงอะเด็ก"
แต่พ่อแม่มึงนับถอยหลังทุกวัน

มึงรอได้
"แต่พ่อแม่มึงรอได้รึเปล่าล่ะ?"

(เสียงของรุ่นพี่ก่อนที่เค้าจะ
เดินฉุนเฉียวออกจากวงไป)

A10(เอเท็น)
Prince of Sales
"สังคมแห่งความเป็นไปได้"

163 Nameless Fanboi Posted ID:LzSxERH6rD

"ไม่ใช่เรื่องแปลกยกฟ้องหมอนิ่ม โดยวิเคราะห์จากคนไม่เห็นสำนวน
เนื่องจากคดีนี้มือปืนกับคนขี่รถ รับสารภาพว่าก่อเหตุจริง โดยซัดทอดไปที่คนจ้างวานฆ่าคือ ทนายอี๊ด

แต่ทนายอี๊ดปฏิเสธว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง หากเป็นดังนี้ พยานหลักฐานอย่างมากก็ถึงแค่ตัว ทนายอี๊ดเท่านั้น
กลับกันหากทนายอี๊ดรับสารภาพแล้วซัดทอดผู้บงการตนมาอีกที แบบนี้คงไม่รอดกันหมด

ศาลพิจารณาจากพยานหลักฐานในสำนวน คดีนี้แม่หมอนิ่มรับสารภาพ และน่าจะมีสาเหตุโกรธเคืองกับคนตาย
ก็สามารถลงโทษจำคุกตลอดชีวิตได้ ส่วนจริงๆแล้วใครจะเป็นผู้บงการ ไม่มีใครรู้นอกจาก 2-3 คน
คือหมอนิ่ม แม่หมอนิ่ม และทนายอี๊ดแค่นั้น ศาลไม่สามารถใช้ความรู้สึกตัดสินคดีได้
แม้บางครั้งอาจจะรู้ว่าใครเป็นคนทำ แต่คือเรื่องนอกสำนวน ไม่สามารถนำมาประกอบดุลพินิจได้

ผมบอกเลยเรื่องเอ็กซ์ ถ้าจะถึงหมอนิ่ม ทนายอี๊ดคนกลางเท่านั้นต้องรับสารภาพ
เพราะมือปืนจริงๆ ไม่ได้เจอหมอนิ่มแน่นอน แล้วจะเอาหลักฐานอะไรมาลงโทษได้”

ที่มา เพจเฟซบุ๊ก “ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ”

164 Nameless Fanboi Posted ID:vfot4NzGpX

>>162 มึงลืมขายคอร์สตอนจบนะ

165 Nameless Fanboi Posted ID:3brW3MKvFa

>>161 พล่ามเหี้ยไรมึง

166 Nameless Fanboi Posted ID:yHLHOk+Vfc

Java เป็นภาษาคอมพิวเตอร์ที่นิยมใช้ในองค์กรขนาดใหญ่ เช่น ธนาคาร โรงพยาบาล สายการบิน และธุรกิจชั้นนำทั่วไป เรียนที่ *** มาเรียนซ้ำได้ฟรีจนกว่าจะทำเป็นหรือได้งานประจำเงินเดือน 30,000 บาทขึ้นไป

สมัครเรียนได้ที่นี่ ***

- ทุกคอร์สเน้นความเข้าใจ คิดและเขียนโค้ดได้เอง เนื้อหาบทเรียนมาจากธนาคารในเมืองไทย รวมถึงคอร์สระดับโลกของ Harvard CS50
- ทุกคอร์สสอนถึง Algorithm ที่ควรรู้ก่อนสัมภาษณ์งาน Recursion, Divide & Conquer, Dynamic Programming, Memoization, Big O
- ทุกคอร์สต้องหัดทำจริงในห้องเรียน ไม่ต้องกลับไปงงที่บ้าน หัดสร้าง Ecosystem ด้วย Cloud ของ Google, สร้างฐานข้อมูล SQL, และทำ Web Service

เปิดสอนทุกเดือนมาตลอด 3 ปีกว่า โดยมืออาชีพจบสายตรงจากจุฬา ได้ประกาศนียบัตร Advanced Java จาก MIT เคยสมัครงานและทำงานในเมืองไทยและต่างประเทศ สอนสดทุกรอบ ที่ศูนย์การค้าแอมพาร์ค จุฬา ๕

มาเรียนซ้ำได้ฟรีจนกว่าจะเข้าใจ หรือได้เงินเดือนตามที่ต้องการ อย่าลืมนำคอมพิวเตอร์ส่วนตัวมาเรียน ไม่มีเรียนออนไลน์ ไม่ต้องมีประสบการณ์ทำงาน ไม่ต้องมีพื้นฐาน ไม่ต้องเก่งคณิตศาสตร์ ไม่มีงานกลุ่มให้ไปนั่งทำที่ร้านกาแฟ ความสามารถเป็นเรื่องเฉพาะตัว การเขียนโค้ดต้องใช้ทักษะ ต้องฝึกฝน เหมือนการเล่นดนตรี หัดบ่อยๆ หางานทำได้ทุกคน สอบถามเพิ่มเติมได้ที่นี่ ****

#ใครก็โค้ดได้ #AnybodyCanCode
#รวมญาติได้ไม่อายใคร #เรียนเข้าใจได้งานชัวร์ #รู้ตัวเดียวใช้ไปอีกนาน

#ล้มเหลวจากไหนเริ่มใหม่ได้ที่นี่
#เรียนซ้ำได้ฟรีจนมีงานประจำ
#หางานทำง่ายมีรายได้มั่นคง

#เพื่อครอบครัวเพื่อคนรักเพื่ออนาคต
#ForFamilyForLoverForFuture

สำหรับคนที่เขียน Java ได้ สามารถส่ง Résumé มาได้ตลอดเวลาที่ *** งานประจำเงินเดือน 30,000 ขึ้นไปรออยู่ ไม่ต้องมีประสบการณ์ก็สมัครได้

167 Nameless Fanboi Posted ID:yHLHOk+Vfc

เรื่องเล่า....

การที่เราทำงานเป็น headhunter ในพื้นที่ไหนนานๆ เราจะได้เห็นวงจรของธุรกิจแบบภาพรวมค่อนข้างกว้างและบางครั้งก็ค่อนข้างลึก เห็นการขึ้นลงของธุรกิจ ผ่านการเข้าออกของคน เห็นการวางกลยุทธ์เพื่อตอบรับแผนธุรกิจที่วางกลไกที่ค่อนข้างเลือดเย็นไว้... ซึ่งคนที่อยู่ในวงจรนั้นหลายคนมากๆแทบไม่เอะใจเลย จนปัญหามาถึงตัว

เช่นอุตสาหกรรมยานยนต์ ที่ตอนนี้ผ่านช่วงตกต่ำมาแล้วกำลังจะกลับหัวไปทิศทางบวกมากขึ้น (หรอ) ก่อนหน้านี้ยุคเฟื่องฟูของตลาดแรงงานในอุตสาหกรรมนี้ โอทีกระจุย โบนัสกระจาย ย้ายงานกันเพื่อปรับฐานกันสนุกสนาน หลายคนคิดว่ารายได้ตรงนี้จะอยู่ตลอดไป กู้บ้าน กู้รถ นั้นนี้เต็มไปหมด หลายบริษัทลงทุนเพิ่ม เปิดโรงงานใหม่ ขยายการผลิตกันเพียบ มีโรงงานเปิดใหม่หลายที่ ทุ่มเงินเพื่อดึงตัวคนจากคู่แข่งโดยไม่สนราคาตลาด วิศวกร ผุ้จัดการ เหมือนเจอเหมืองทอง รีบวิ่งเข้าใส่กันอุตลุต เพราะเชื่อว่าโอกาสดีมาถึงแล้ว โดยไม่รู้เลยว่า เขาวางหมากกันไว้ยังไง

ผ่านไปปีกว่าๆระบบลงตัวหลายๆอย่างเริ่มเข้าที่ อุตสาหกรรมเริ่มนิ่งไปและค่อนข้างจะดิ่งลงเนื่องจากหลายปัจจัย ก็ถึงเวลาของการ "ปรับฐาน" หรือ "ปรับโครงสร้าง" พวกที่จ้างกันมาเกินราคตลาด เกินกระบอกก็โดนเลิกจ้างบ้าง แย่หน่อยก็โดนบีบออกโดยนโยบายใหม่ โดนตัดโอที ลดโบนัส เพื่อลดต้นทุนระยะยาว และเพิ่มกำไร ผู้สมัครหลายคนที่เราเคยพูดคุยด้วย บางครั้งเคยเตือนด้วยซ้ำ โทรกลับมาหาให้ช่วยหางานให้หน่อย... แต่ถึงตอนนั้น ตอนที่ตลาดขาลง มันไม่มีใครรับคนเพิ่มแล้วครับ นอกจากประคองตัว แล้วราคาที่คุณรับกันที่ล้นตลาด ก็ไม่มีที่อื่นเขาจ้างนอกจากคุณจะยอมลดค่าตัวตนเองลง

ตลกร้าย ตรงที่ลดค่าตัวไม่ได้ เพราะ สร้างภาระไว้กันเต็มแล้ว ผู้สมัครบางคนรับเงินเดือนเกินกว่าราคาตลาดไปหลายหมื่นไม่รวมโอที กู้บ้าน กู้รถ กู้เงินแต่งงาน โดยพึ่งพารายได้จาก "โอที" และ "โบนัส" เอาง่ายๆคือฐานเงินเดือน 70,000 นี้หมดไปกับผ่อนบ้าน รถ บัตร แล้วต้องทำโอหาตังซื้อข้าว เติมน้ำมัน จ่ายค่าไฟ.... ที่นี้ทำไงละ ดราม่าจึงบังเกิด นั่งสัมภาษณ์ไปก็เหมือนละครชีวิต T ^ T

ผู้จัดการหลายๆคน เข้าไปก็โดนการเมืองบีบออก ทำนอง "เสร็จนาฆ่าโค เสร็จศึกฆ่าขุนพล" ต้องหางานตอนแก่ บวกกับอุตสาหกรรมขาลง บางคนจนตอนนี้ยังตกงานอยู่เลย เพราะยิ่งโต ตำแหน่งสูงยิ่งหางานยาก ตกงานกันร่วมสองสามปีจนถึงตอนนี้ก็ยังมี

หลายๆคนไม่รู้ว่าที่เขาจ่ายแพงไม่ใช่เพราะคุณเก่ง เขาจ่ายเพราะเอาคุณมาทำงานระยะสั้น เขาวางแผนไว้แต่แรกแล้วว่าเขาจะเอาคุณออก เพราะมันล้นกระบอกเงินเดือนเขา...

ทั้งหมดข้างต้นบางคนอาจจะมองว่ามันเป็นเหตุสุดวิสัย ใครจะรู้
แต่บอกเลยครับว่า มันไม่ใช่เหตุสุดวิสัย มันเกิดจากความไม่รอบคอบในการหาข้อมูลก่อนจะตัดสินใจย้ายงาน เพราะ ประมาท จากการพูดคุยทำให้รู้ว่าหลายๆคนตอนไปสัมภาษณ์ หรือ ก่อนจะตัดสินใจย้ายงานจะสนใจแค่

"ตำแหน่งอะไร"
"เงินเดือน สวัสดิการเท่าไร"
"โบนัสเยอะไหม"
"ทำงานกี่วัน"
"งานยากไหม"

ส่วนมากแทบจะไม่มีคนสนใจเลยว่า

"บริษัทมีแผนการทำอะไรในอนาคต"
"ดีลกับที่ไหน Project ที่มาของรายได้กี่ปี"
"เงินเดือนที่จ่ายกับราคาตลาดมันสมเหตุสมผลไหม"

เหมือนจะย้ายเข้าบ้านแต่ไม่เคยทำความเข้าใจก่อนเลยว่าบ้านที่เราจะย้ายเข้าเป็นยังไง จะพังไหม โดนยึดหรือเปล่า

เปรียบกับการลงทุนก็เหมือนซื้อหุ้นตามเขา หรือ ซื้อหุ้นแบบไม่อ่านงบ ไม่ดูกราฟ....

ตอนนี้ อุตสาหกรรมยานยนต์เริ่มกระเตื้อง จากที่แต่ก่อนคนหนีออก บ่นกันระงมตอนนี้หลายๆก็อยากโดดเข้ามาหาความเจริญกับตรงนี้

ไม่ผิดครับ

ถ้าคุณเตรียมตัวมาดี วางแผนดี พัฒนาตัวเองตลอด และมองรอบด้านไว้แล้ว

ไม่ใช่เอาเงินเป็นที่ตั้ง เพราะ เขาจ่ายได้ เขาก็เลิกจ่ายได้ (ง่ายมากด้วย)

ย้ายงานเพื่อเพิ่มความสามารถเป็นหลัก เรื่องเงินเป็นรองครับ เพราะสุดท้าย วิ่งหาเงินมากๆ ความสามารถตามไม่ทัน คุณจะไม่โต ไม่ก็ตายเพราะเงินนี้แหละ

โอที กับ โบนัส นี้มันกับดักชีวิตชัดๆ > <

168 Nameless Fanboi Posted ID:rYMPmyHgxs

เคยได้ยินคุณหนูดีพูดบ่อยๆในวิทยุเรื่องความดีงามของการเป็นวีแกน พอพูดด้วยเหตุและผลมันก็เข้าท่านะ ประกอบกับตอนนี้ในตู้เย็นมีแต่ฟักทองกับแครอท แม่ผมเคยบอกว่าให้เอาน้ำมันมะกอก เกลือ พริกไทย โรยแล้วเข้าเตาอบ ก็กินได้แล้ว โอกาสการทดลองวีแกนของผมมันก็มา เนื่องจากฟอยล์อลูมิเนียมมันหมด ผมก็เลยเอาน้ำมันหมูทาถาดแล้ววางฟักทองกับแครอทลงไป ตามด้วยเกลือและพริกไทย อบไป 40 นาทีก็รู้สึกว่า เฮ้ย มันใช้ได้เลยนะ ตัวฟักทองกรอบนอกนุ่มในเหมือนกำลังกินเฟร้นช์ฟรายส์อยู่เลย แครอทก็หวานดี และนี่คือการทดลองเป็นวีแกนครั้งแรกของผมครับ

-มิตรสหายท่านหนึ่ง

169 Nameless Fanboi Posted ID:LywNecQHh4

>>167 วงการมือถือก็งี้เลย จบใหม่ให้ 40000

170 Nameless Fanboi Posted ID:iPCzqqeAv/

ทุกวันนี้เวลาผมเครียดหรือเหนื่อยจากการทำงาน
ผมไม่ดูรายการตลกตามยูทูวป์หรือทีวีอีกต่อไปแล้ว

ผมหันมาดูไลฟ์เฮียแกแทนครับ

คือ วิถีเฮียแกจะมีประมาณนี้
ตื่นมาบ่ายๆ ให้อาหารหมา
แดกข้าวในครัว ทอดไข่ จุดเทียน ไลฟ์สด ขากถุย
ซักพักด่ากราด ด่าแม่งหมด หมาเหมอเมีย
ด่าเหนื่อย

โพสรูปทำบุญ
โพสเสร็จไลฟ์อีกรอบ ด่าอีกรอบ

ด่าเสร็จ ออกมาเดินเล่น พร้อมบรรยายสรรพคุณตัวเอง

เดินเล่นเสร็จ พาไปดูพระชั้น2 พร้อมบรรยายสรรพคุณตัวเอง

ดูพระเสร็จ มาห้องครัว แดกทอดไข่ ไลฟ์สด
สูบซิก้า ขากถุย
แล้วก็ด่าใหม่อีกรอบ พร้อมเปิดรับบริจาคโครงการอะไรของแกไม่รู้

ซักพักโพส ขายคู่น้ำดื่มโลโซกับเครื่องดื่มโลโซ(หาแดกยากมาก กูว่ามีขายเฉพาะแค่ที่บ้านแกอ่ะ 5555+)

โพสเสร็จ นอน บ่ายเจอกัน

สรุปในรอบเดือนนี้ เฮียกูวนลูปแค่ในบ้านนี่ล่ะ ไม่ได้ออกไปไหนหรอก หลอนอยู่ในบ้าน
5555555+

171 Nameless Fanboi Posted ID:YmJ8NVm3hl

แฟนเพจถามมาคือ มีกลุ่มศาสนิกไทยอะไรสักอย่างไปขึ้นป้ายขู่นักท่องเที่ยวต่างชาติว่า รูปปั้นของศาสนาไทยไม่ได้มีไว้เป็นของตกแต่ง ฉะนั้นการแสดงการเคารพรูปพวกนี้ถือเป็นเรื่องสามัญสำนึก เสร็จแล้วก็ใส่ข้อกฎหมายหมิ่นศาสนาที่มีโทษจำโทษปรับไว้บนป้ายด้วย

ผู้เขียนก็เห็นนานแล้วและไม่สบายใจมาตลอด นอกจากมันคุกคามเสรีภาพแล้ว มันยังเป็นการเอากฎหมายมาขู่โดยที่ไม่เป็นความจริง

ในเมืองไทยนักท่องเที่ยวสามารถซื้อพระพุทธรูปเอากลับไปตั้งโชว์ที่บ้านเป็นเครื่องประดับตกแต่งกันได้ทั้งนั้น คนไทยทำขายกันเยอะแยะ ไม่เคยมีใครถูกจับถูกฟ้อง ไม่ต้องไปแอบตัดหรือแอบซื้อ ประเทศอื่นในเอเชียก็ทำกันเยอะแยะ จะมีปัญหาบ้างก็ที่พม่า

สรุปก็คือเป็นป้ายขู่ที่โกหก ...โดยเอกชน

#มิตรสหายท่าน​หนึ่ง

172 Nameless Fanboi Posted ID:n9mPYnipZc

ซาอุอ้างว่าแคนาดาแทรกแซงกิจการภายใน แต่หลักฐานที่ออกมาทางสำนักข่าวๆต่างมันโคตรเล็กน้อยมาก คือมีแค่ทวีตจากทางแคนาดา ที่อยากให้ซาอุปล่อยตัวนักกิจกรรมเคลื่อนไหวทางด้านสิทธิมนุษยชนนี่แหละ ซึ่งเป็นเรื่องปกติมากที่ประเทศค่ายประชาธิปไตยเขาต้องทำ ต้องเรียกร้องกัน

แต่การโต้ตอบกลับของซาอุนั้น รุนแรงผิดปกติ บ้าคลั่งมาก ทั้งยุติการค้าขาย ส่งทูตกลับ หยุดเที่ยวบินจากแคนาดา

นี่มันบ้ามากเลย เป็นการกระทำของกลุ่มคนที่หลงตัวเองอย่างมาก ไม่คิดถึงคนตัวเล็กตัวน้อยไม่ต่างกับที่เคยทำกับกาต้าร์
ซาอุส่งคนของตัวเองไปเป็นนักศึกษา ไปรับความรู้ที่แคนาดาอยู่ตอนนี้เป็นพันๆคน รวมถึงพวกนักศึกษาแพทย์ด้วย(ญาติผมเอง) เท่ากับว่า คุณมึงต้องตัดอนาคตพวกเขาในแคนาดา แล้วไปขัดจังหวะความก้าวหน้าของเขาเพราะทวีตไม่กี่อัน

ซึ่งผมไม่เชื่อหรอก ว่าเพราะแค่ทวีต ผมว่าแม่งไฟเขียวเมกา ที่ช่วงนี้ก็มีปัญหากับแคนาดาเรื่อง trade war อีกนั่นหล่ะ

นิสัยของอาหรับซาอุนี่มันทะนงตนจนไร้เหตุผลจริงๆนะ ถ้าใครเคยทำงานกับซาอุระดับสูงๆแบบผมจะรู้ ว่าหลายคนเห็นตัวเองวิเศษสูงส่ง ต้องได้รับสิทธิพิเศษอยู่ตลอดจึงจะพึงพอใจ ตัวเองต้องสำคัญกว่าคนอื่น ไม่ยอมอยู่ในกฎในเกณฑ์ ไม่ humble เป็นอย่างนี้กันตั้งแต่เป็นนักศึกษา แล้วระดับที่ทำงานเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ถืออำนาจอยู่ในมือจะขนาดไหน

#มิตรสหายท่าน​หนึ่ง

173 Nameless Fanboi Posted ID:JE8hIuXp+N

As I grow older I've learned some stereotypes exist for a reason.
#มิตรสหายท่าน​หนึ่ง

174 Nameless Fanboi Posted ID:grcyyTV5MB

>>172 อ่านๆมานึกว่าจะมีดี สุดท้ายก็กลัวเมกาขี้ขึ้นหัวอีกคน เชิญไปTnewsครับ

ซาอุมันทำเป็นเรื่องใหญ่แค่มันจะเบ่งกล้ามโชว์แข่งกับอิหรานแค่นั้นแหละ(แข่งกันว่าใครเป็นมุสซี่ที่เก่งกว่า ซุนนีหรือชีอะห์) หลังจากอิรานขู่เมกาแล้วโดนทรัมป์ตบกลับด้วยทวิตเตอร์ ซาอุเลยจะโชว์เก๋าให้มุสซี่ทั่วโลกเห็นว่าตัวเองเทพกว่าอิราน สามารถขู่ตะวันตกแล้วไม่โดนสวนได้ แคนาดาเป็นเป้าเพราะประเทศลิเบอรัลแถมผู้นำติ๋มๆ เลยจัดไป แค่นั้นเอง

175 Nameless Fanboi Posted ID:KjgRih0b4c

https://shanghai.ist/2018/08/09/thailand-airports-open-new-vip-lanes-for-chinese-tourists-but-not-for-visitors-from-hk-or-taiwan/

“ตม.ไทยเปิดเลนพิเศษให้เฉพาะนักท่องเที่ยวจีน ส่วนนักท่องเที่ยวจากฮ่องกงและไต้หวันต้องใช้เลนทั่วไปเฉกเช่นชาติอื่นๆ
ปรากฏว่าชาวฮ่องกงและชาวไต้หวันกลับชอบใจ พวกเขาบอกว่าไม่เคยมีความสุขเท่านี้มาก่อน ดีใจที่ไม่ต้องอยู่เลนเดียวกับพวกแผ่นดินใหญ่”

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

176 Nameless Fanboi Posted ID:CwBXodsJ.m

ไม่ซื้อหนังสือสำนักพิมพ์ “อมรินทร์” มานานแล้ว และยิ่งแน่ใจว่าจะไม่ซื้อจากสำนักพิมพ์นี้เด็ดขาด เนื่องจากมีการพิมพ์ "ไอน์สไตน์พบ พระพุทธเจ้าเห็น" โดยทันตแพทย์สม สุจีรา มาไม่ต่ำกว่า 87 ครั้งแล้ว (ปัจจุบันน่าจะ 90+) หนำซ้ำยังมีการออกเล่มใหม่จากผู้เขียนคนเดิมมาอีก

หนังสือเล่มนี้บิดเบือนทั้งวิทยาศาสตร์และศาสนาพุทธ ทำให้ประชาชนได้รับความรู้ผิดๆ บั่นทอนปัญญาผู้อ่านเป็นวงกว้าง และทางสำนักพิมพ์ก็รับทราบแล้วตั้งแต่ปี 2010 แต่ผลประโยชน์นั้นสำคัญกว่าความรู้

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

177 Nameless Fanboi Posted ID:FBxQauXlAw

>>172 เจ้าของโควทนี้บอกว่าญาติเป็นคนซาอุที่ไปเรียนในแคนาดา แสดงว่าตัวของเจ้าของโควทแม่งต้องเป็นมุสลิมด้วยแน่ๆ

เหม็นหัวควยครับ ขออนุญาตไม่ถือว่าโควทนี้เป็นความเห็นของมนุษย์นะ

178 Nameless Fanboi Posted ID:BoyOl8lO.c

โครงการ 一带一路 หรือ one belt one road
.
1.คนจีนเค้าไม่ทำทางให้พวกเราเดินนะครับ เค้าทำทางให้คนจีนด้วยกันเดิน อย่าไปเข้าใจว่า เป็นเส้นทางสายไหมเป็นทางสากลใช้ฟรี มันเป็น 中国路 เป็นทางที่เค้าสร้างมาให้คนในประเทศเดินออกไปข้างนอก คนอื่นมาใช้ ต้องมีค่าใช้ทาง เสียแตกต่างกันไป
.
2.แรกเริ่มเดิมทีการสร้างเส้นทางสายไหมก็ทำเพื่อขยายอำนาจ ประกาศศักดาราชศักดิ์ ของอาณาจักรของจีนโบราณอยู่แล้ว คือเป็นงี้มานานแล้่ว การที่เราคิดว่าเค้าใจดีต้องการจะแบ่งปัน คิดน้อยไป จีนคือชาติที่มี trader's gene ชนิดที่ถ้าฝรั่งไม่มีปืนใหญ่ เรือรบ ฝิ่น คือ ฝรั่งจะแพ้คนจีนแน่นอน
.
3.เส้นทางสมัยโบราณ มีแค่น้ำทะเล ทางบกก็ใช้กองคาราวานการค้า บนแผ่นดินตะวันออกกลางโบราณ ไม่มีใครครอบครองเส้นทางการค้าได้เบ็ดเสร็จ ต่างจากโลกยุคใหม่ที่จีนมีทั้ง ทางรถไฟ ทุนล่องหน ทุนยักษ์ใหญ่ พ่อค้าจีนกองทัพมด สินค้าจีนสารพัด นักท่องเที่ยว ธุรกิจข้ามชาติ ซึ่งขอบเขตของการครอบครองทุกอย่างมันเป็นไปได้ สำหรับจีน
.
4.เราต้องยอมรับว่า จีนมองว่า เรื่องอำนาจนำทางเศรษฐกิจ สำคัญกว่า การทหาร แต่ก็ไม่ได้ละเว้นเรื่องความมั่นคง และความพยายามที่จัดการความมั่นคงทั้งภายใน ภายนอก รอบๆประเทศของตนอย่างแข็งขัน โดยความพยายามนั้นไม่เคยลดละ กุทำตรงนี้ไม่ได้ก็ไปทำที่อื่น ทำไปเรื่อยๆ จนกว่าจะได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
.
4.5. ตอนที่จีนเริ่มเส้นทางสายไหมไปยังเอเชียกลาง (ประเทศสถานลงท้ายทั้งหลาย) ไม่คิดแค่วางรางรถไฟอย่างเดียว ยังรวมไปถึงการเข้าไป secure เสถียรภาพทางการเมืองในประเทศเหล่านั้นด้วย เพราะจีนมองว่าประเทศเหล่านี้การเมืองยังไม่มั่นคง(ผมก็ไม่รู้ว่าไม่มั่นคงยังไง เพราะออกข่าวน้อยมาก) พอแก้ปัญหาให้เค้าได้ ก็ยกตนเป็นผู้มีบารมีได้
.
(ต่อเม้นล่าง)

179 Nameless Fanboi Posted ID:BoyOl8lO.c

(ต่อจาก >>178 )

5.โครงการไหนขัดแย้งกับชาวบ้าน เช่น ระเบิดแ่ก่งแม่น้ำโขงหรือยึดหมู่เกาะสแปรตลีย์ในทะเลจีนใต้ ถ้าทำต่อได้ ก็ทำเรื่อยๆ ถ้าทำไม่ได้ก็ถอยแล้วบอกว่า เราแคร์ในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศนะ ปีใหม่ที่ผ่านมา จีนยกเลิกระเบิดแก่งเชียงของ โดยบอกว่า "ให้ของขวัญปีใหม่กับคนไทยกับลาว" ?? การยกเลิกกลายเป็นการให้ของขวัญซะงั้น แล้วหันไปลุยเรื่องโครงสร้างพื้นฐานในลาวต่อ รอให้เรื่องเงียบ ค่อยทำต่อเนียนๆหรือดีลลับกับรัฐบาลไปเลย กว่าจะรู้ก็โครงการเสร็จไปละ
.
6.โครงการเส้นสายไหมใหม่ตามทางจีนประกาศแล้ว คือ การตั้งกองทุนให้กู้ยืมเพื่อพัฒนาประเทศ ขนาดล้านๆเหรียญยูเอสเพื่อเอาไปปล่อยกู้ให้ประเทศรอบข้างเอาไปทำทางมาเชื่อมกับจีน (อารมณ์ประมาณแผนการณ์มาแชล ที่อ้างว่าฟื้นฟูยุโรป แตจริงๆคือการเข้ามาเซทระบบที่พังเพราะสงครามให้ใหม่) โดยที่เลือกได้ว่าจะให้จีนทำให้หรือจะทำเอง แต่ถ้าให้จีนทำให้จะมีสิทธิประโยชน์นี่นั่นโน่นตามมา สนใจ สนดีลเลย ด้วย "เงื่อนไขของเรา" คนงานพร้อม เครื่องจักรพร้อม เริ่มงานได้ในไม่กี่เดือน
.
7.หลายๆประเทศมันเลยตกเป็นทาส-สัญญาทางเศรษฐกิจของจีนเพราะดันไปดีลตามเงื่อนไขของเค้า ตั้งแต่ลาว กัมพูชา มาเลเซีย ศรีลังกายังต้องขอประนอมหนี้ เพราะโดนโขกดอกเกิน ถ้าไม่เสียดอกก็เสียสภาพนอกอาณาเขตไม่ก็เสียทั้งคู่ คือมีได้ประปรายที่เหลือเสีย ในหลายๆโครงการต้องใช้ทรัพยากรของจีน ในกรณีนี้ประเทศทั้งหลายคนพึ่งระลึกอยู่เสมอว่า กู้เงินจีนมา จบสวยๆไม่มีหรอก
.
8.กรณีศึกษาดาวเด่น ของการประนอมหนี้ ก็ศรีลังกานี่เจ็บปวด ใช่ว่าทุกประเทศจะ "พัฒนาประเทศ" แบบจีนได้ จีนมีกำลังภายใน ประชากรมหาศาล ตลาดขนาดใหญ่ที่ขยายได้เรื่อยๆ กำลังซื้อของคนในชาติที่ผูกกันด้วยระบอบระเบียบแบบคอมมิวนิสต์ลูกผสมทุนนิยม แข็งแกร่งแบบที่หาอะไรเทียบไม่ได้ เวลาจีนสร้างสาธารณูปโภค อาคาร ศูนย์การค้า มันก็เล่นใหญ่ได้ เพราะยังไงก็มีคนมาซื้อ ไม่ซื้อเดินหลงมาก็ยังได้ ร้อยโครงการ จะเจ๊งซักสามสิบก็ยังยิ้มได้
.
9.เท่าที่เห็นกับตา สถานีรถไฟจีน ถ้าเอามาเรียงติดกันห้าสถานีขนาด ประมาณสุวรรณภูมิแล้ว เล่นใหญ่เพื่อคนจำนวนมาก ดูดคนได้เสมอๆเพราะคนมันเยอะ ถ้าไม่ยอมมาใช้ก็บังคับให้มา มีเมืองเล็กเมืองหนึ่งในฝูเจี้ยน ชาวบ้านไม่ยอมใช้สถานีรถไฟที่ทางการสร้างให้ ทางการเลยแกล้ง ยุบสายรถออกนอกเมืองและทำทางเข้าเมืองให้ไม่เสร็จอยู่นั่นน่ะ เพื่อให้ชาวบ้านยอมขึ้นรถไฟแทน จนทุกวันนี้ชาวบ้านไม่เอาถนนก็ได้ เค้าถึงทำถนนให้ แบบนี้ก็มีนะคุณ
.
10. ต่างกับศรีลังกาที่กู้เงินมาสร้างสนามบิน ท่าเรือ โดยให้จีนจัดการเบ็ดเส็ด แต่การท่องเที่ยวในประเทศ เศรษฐกิจยังไม่ดี คนก็ไม่ใช้เงิน ไม่จับจ่าย ที่นี้เจ๊งทีก็กลายเป็นโกโก้ครั้นซ์เลยพูดกันง่ายๆว่า คนยังไม่พอมีพอกิน คุณภาพชีวิตไม่ดี เค้าก็ไม่เที่ยวไม่จับจ่าย หรอกครับ บางทีเอาจีนมาเป็นตัวแบบก็ใช่ว่าจะไปเลียนแบบเค้าได้ หากเกิดปัญหาขึ้นมา เค้าจัดการได้แล้วเราล่ะ
.
11.สิ่งที่พึงระวังของเส้นทางสายไหมนี้มันมีเยอะมาก ถ้าจะมีใครซักคนที่ออกมาต้านการขายชาติแล้วยังไม่ฉิบหายตายห่าไปก่อนในอดีต พวกคุณตรวจสอบการทำโครงการต่างๆที่ทางเราทำกับจีนด้วย ผมจะดีใจมากครับ
.
รูปภาพจาก http://www.geopolitika.hu/en/2018/02/13/five-issues-worth-noticing-on-the-one-belt-one-road-initiative/

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

180 Nameless Fanboi Posted ID:2Io99oGGGn

>>175 ทำไมกูขำวะ ทั้งที่มันเหยียด...(ขนาด ฮ่องกง,ไต้หวัน ยังรังเกียจไม่อยากโดนรวมกับเจ๊ก)

181 Nameless Fanboi Posted ID:.t1zE6Q2ED

สองสามวันนี้คงมีหลายคนได้ผ่านตาโพสต์เกี่ยวกับ “THAI Select” กันบ้างไม่มากก็น้อย
_____________________________________________

ใครไม่เคยเห็นสรุปความคร่าวๆคือทางรมต.กระทรวงพานิชย์เดินหน้าดันตราสัญลักษณ์ Thai Select เพื่อเป็นการจำแนกอาหาร”ไทยแท้”ออกจากอาหารไทยที่รสชาติผิดเพี้ยน โดยวิธีการทำงานของ Thai Select คือทางคณะกรรมการจะมีเกณฑ์การให้คะแนนโดยแบ่งเป็น

รสชาติ 30 คะแนน/วัตถุดิบ 20 คะแนน/Food safety 20 คะแนน/รายการอาหาร 10 คะแนน/การตกแต่งและบรรยากาศ 10 คะแนน/การบริการ 10 คะแนน

โดยร้านที่ได้คะแนนต่างกันก็จะได้ระดับของ Thai Select ที่ต่างกันไป โดยในที่นี้ยังมีการออกป้าย Thai Select Unique นั่นคือร้านที่มีอัตลักษณ์ท้องถิ่นเด่นชัด จำแนกออกมาอีกตัว
_____________________________________________

หลายคนเห็นด้วยเพราะมองว่าจะเป็นการผลักดันคุณภาพอาหารไทยให้ดีขึ้น พร้อมช่วยทำให้คนไทยมองเห็นคุณค่าของการใช้วัตถุดิบดีมีคุณภาพมากขั้น

หลายคนยี้และเราเป็นหนึ่งในคนที่ยี้นโยบายนี้

อันที่จริงบ้านเรามี Thai Select มานานแล้ว แต่มาในรูปแบบของป้ายเชลล์ชวนชิม หมึกแดง ทั้งนี้ป้ายเหล่านี้มีเพื่อการันตีผู้กินว่ากำลังจะได้กินอาหารอร่อยซึ่งรับประกันโดยนักชิมมีชื่อ ซึ่งสุดท้ายจะจริงไม่จริงก็ตามแต่ใครคาดเดา แต่ป้ายเหล่านี้ไม่เคยออกมาจากหน่วยงานรัฐบาลอันเป็นผู้กำหนดทิศทางในการดำเนินนโยบายของประเทศ ยิ่งไปกว่านั้นป้ายพวกนั้นไม่เคยแบ่งแยกและกีดกันความเป็น”ไทย”
_____________________________________________

ทำไม Thai Select ถึงเป็นปัญหา?

ข้อที่ 1) การออกใบการันตีโดยรัฐสร้างพื้นที่ที่เอื้อให้เกิดผลประโยชน์ทับซ้อน เอื้อต่อการคอร์รัปชั่น โดยอย่างยิ่งจากบริษัทใหญ่ที่มีสิทธิ์มีเสียงในการเอาป้ายไปติดที่ผลิตภัณฑ์ของตน บังคับให้เจ้าของกิจการร้านอาหารต้องใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการคัดสรรเพื่อเอาคะแนนจากรัฐ

ข้อที่ 2) การตีกรอบวัฒนธรรมคือการสร้างความแตกแยก เมื่อมีการตีกรอบสิ่งที่เป็นไทย แล้วสิ่งที่อยู่นอกกรอบที่ตีไว้หล่ะ นั่นคือไม่ใช่ไทยอย่างนั้นหรือ แล้วหากจะบอกว่าเหมาะสมแล้วที่เลือกอุ้มชูสิ่งที่เป็นไทย แล้วความเกณฑ์เป็นไทยนั่นเอาใครและอะไรมาตัดสิน แล้วเมื่อรัฐเข้ามามีบทบาทเองก็นั่นแหละโยงเข้าไปที่ข้อ1คือผลประโยชน์ทับซ้อน และอย่าลืมว่าอาหารคือความนิยมส่วนบุคคล แล้วรัฐมายุ่มยามกับความเป็นส่วนตัวของประชาชน มันใช่เรื่องหรือไม่

ข้อที่ 3) ข้อสุดท้ายที่น่ากลัวที่สุด นั่นคือวิธีการคิดนโยบายของรัฐที่มุ่งเน้นแค่บังคับและควบคุม แต่ไม่ได้เอื้อผลประโยชน์ให้กับการดำรงชีพของประชาชน นโบาย Thai Select บังคับให้ผู้ประกอบการต้องลงทุนมากขึ้นเพื่อเข้าเกณฑ์ของรัฐ แต่รัฐไม่ได้เสนอทางออกหรือทางช่วยเหลือเพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถที่จะก้าวไปสู่จุดนั้นได้ ทั้งที่รัฐสามารถเลือกที่จะเอาเงินภาษีที่มาลงกับนโยบายนี้ ไปอบรมความรู้ให้แก่ผู้ประกอบการเกี่ยวกับการทำอาหารที่ถูกสุขลักษณะ หรืออบรมเกษตรกรให้ใช้เทคโนโลยีเพื่อเข้ามาพัฒนาผลผลิต การออกกฏมันง่าย ยิ่งออกกฏชุ่ยๆที่ไม่คิดหน้าคิดหลังยิ่งง่ายมาก
_____________________________________________

สุดท้ายเราต้องมาตั้งคำถามกับตัวเองว่า รัฐบาลไทยอยากจะทำให้ประชาชนเชื่องถึงขั้นควบคุมว่าเราจะต้องเอารสชาติเข้าปากกันแล้วหรือยังไง แล้วทำไมเรื่องส่วนตัวมันถึงกลายเป็นเรื่องของรัฐไปได้ ไม่เข้าใจเลยจริงๆ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

182 Nameless Fanboi Posted ID:pxnPrxi/ai

>>181 เขาไม่บังคับนิ ใครอยากได้ก็ไปติดต่อเอา กูละเบื่อมิตรสหายโพสต์โมเดิร์นกับเรื่องอาหารจริงๆ ไร้สาระเกินบรรยาย

นโยบายนี้ในต่างประเทศจะส่งเสริมผู้ประกอบการด้วยการเป็นตัวแทนปรัสานเรื่องเงินกู้กับแหล่งวัตถุดิบด้วย ที่บอกว่าไม่ช่วยคือแม่งด่าไม่ดูไรเลยไง

183 Nameless Fanboi Posted ID:JCiaZaAMW+

พื้นที่ที่ไม่เปิดโอกาสให้เกิดความผิดพลาด ย่อมเป็นพื้นที่ที่ไม่สนุกและเกิดสิ่งสร้างสรรค์ได้น้อยมาก ห้องผ่าตัด หรือ ห้องนักบิน เป็นตัวอย่างที่ดี .... เพราะแถวๆนั้นเป็น Controlled Environment ซึ่งที่ปลายอีกด้านกับ Creative Environment ผลที่เกิดจากความผิดพลาดนั้นร้ายแรงเกินกว่าจะเอามาลองผิดลองถูกได้ และเราเอาของสองอย่าง Controlled-Creative มารวมกันไม่ได้ ดังนั้นเมื่อต้องทำงานในห้องผ่าตัดอย่าคาดหวังความสนุก เราจะผิดหวังอย่างรุนแรง ห้องผ่าตัดไม่ได้ผิด ดังนั้นให้ดูดีๆว่าเราอยู่ตรงไหน

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

184 Nameless Fanboi Posted ID:.t1zE6Q2ED

Plastic Love

https://youtu.be/3bNITQR4Uso

นั่งทำงานเปิดเพลงจาก Youtube ไปเรื่อยๆ อยู่ดีๆก็เจอเพลงน้ีครับ

เป็นเพลงฟังธรรมดาๆ ไม่มีอะไร แต่ไม่รู้ทำไม มันถึงติดใจแปลกๆ พอฟังแล้วมันจะเรื่อยๆ ติดลูป

เฮ้ย นี่มันเพลงของใครกันเนี่ย??

พอกดไปดูปรากฎว่าเป็นเพลงของ มาริยะ ทาเกะอุชิ - ใครวะ

ไปค้นดู มันเป็นเพลงที่มาจากปี 1984 ครับ มันข้ามเวลามาหลอนเราจาก 34 ปีก่อน ก่อนที่ผมจะเกิดซะอีก

นี่เราโดนไอดอลเมื่อ 34 ปีก่อน ตกไปซะแล้ว

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

185 Nameless Fanboi Posted ID:94+1Ifgkfe

>>184 มึงอาจจะชอบแนว future funk ลองฟังแนวๆนี้ ดูไหม

https://www.youtube.com/watch?v=5s3HfIuof38&t=102s

https://www.youtube.com/watch?v=DbHa-pllnDU&t=579s

186 Nameless Fanboi Posted ID:RbLXSuuXwW

>>184 กูไม่เชื่อว่ามิตรสหายท่านนี้บังเอิญเจอ เพลงนี้เป็นมีมมาชาตินึงแล้วในเน็ตนอกเพราะอัลกอริทึมท่อแนะนำเพลงนี้ให้คนที่เปิดเพลงweebบ่อยมาก

กูว่ารู้เรื่องมีมจากนอกเลยคันอยากแพร่ในไทยเลยโม้ว่าบังเอิญเจอมากกว่า

187 Nameless Fanboi Posted ID:dmzeDUaV3x

ทาเคอุจิ มาริยะ ดังจะตายห่า ไม่รู้จักนี่คือกากอะ

188 Nameless Fanboi Posted ID:1O1NGO2jjC

กูฟังครั้งเเรกตอนประมาณปี 2005มั้ง เจ๊เเกออกอัลบั้มremasteredมา
ไม่รู้เหมือนกันทำไมเเม่งมาบูมเป็นmemeในช่วงปี 2017 -2018 นี่ งงชิบหาย

189 Nameless Fanboi Posted ID:Q1yIuu.ACP

"มันมีมุกตลกแบบหนึ่งของปัญญาชนฝ่ายก้าวหน้า ประมาณว่ามีคนๆ หนึ่งป่วยแล้วหลับยาวไป 10 ปี พอตื่นขึ้นมาเลยพบกับเรื่องชวนตกตะลึงต่างๆ นานา

ผมว่ากรณีล่าสุดนี้ก็เป็นเรื่องน่าตกตะลึงเรื่องหนึ่งได้เลยนะครับ เพราะ 10 กว่าปีที่แล้ว สศจ.วิจารณ์นิธิรายวัน พอผ่านไป 10 กว่าปี สศจ.วิจารณ์เสก โลโซรายวัน"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

190 Nameless Fanboi Posted ID:Az8sAoweo7

คุยเรื่องเพลงด้านบนกูเห็นมันมีแนลที่เปิดเพลงแนว japanese city pop ทั้งวันไม่ใช่เหรอ

https://www.youtube.com/watch?v=ZBvuBg5ZVrE

191 Nameless Fanboi Posted ID:V7qaw/gnvI

>>189 มึงหมิ่นพระบิดาแห่ง critical thinking ได้ไงวะ

192 Nameless Fanboi Posted ID:t.ET6y/B1i

>>191 ไม่ใช่เลยอะ สศจ ไม่ใช่บิดาแห่ง CT แน่ๆ CT ต้องรับฟังคนอื่นและนำไปใช้งานได้จริง

193 Nameless Fanboi Posted ID:mC/AtxmlkY

คนติดยาละเมอเพ้อแม่งยังเอามามโน โยงมั่วๆเป็นตุเป็นตะ
เจียมแม่งเจียมจริมๆ

194 Nameless Fanboi Posted ID:J+YGdY4vi9

ถ้าได้ message จากลูกค้า ว่า

"Bug หายนะค่ะ"

คงหน้าซีด .... จนกระทั่งได้ข้อความต่อมาว่า

"ขอบคุณมากนะค่ะ"

195 Nameless Fanboi Posted ID:V7qaw/gnvI

>>192 งั้นเป็นพระบิดาแห่งกระดูกสันหลังก็ได้

197 Nameless Fanboi Posted ID:5bPIaD6T7N

>>196 This is so cool.

198 Nameless Fanboi Posted ID:K56LJkJhDI

>>189 ผมอ่านแล้วเครียด ขอตัวไปสูบบุหรี่แป๊ป

200 Nameless Fanboi Posted ID:6+ycJ45oCe

Girls kiss eachother on the lips all the time but I accidentally suck my homie dick one time and I'm gay
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

201 Nameless Fanboi Posted ID:Tgom1Y/N2l

CODESTAR หัวควยหลอกแดกตัง

202 Nameless Fanboi Posted ID:yRPd01+W74

โทษนะ ทำไมตอนกูสมัครธนาคารไม่เห็นมีสอบโค้ดห่าเหวอะไรเลย

203 Nameless Fanboi Posted ID:dVGQgvre1l

กูนี่ท่องโค้ด fizzbuzz รอเลยครัย

204 Nameless Fanboi Posted ID:1u9Am6/+Ds

ในขณะที่เด็กสมัยนี้เห็นพี่เสกเป็นมีม เป็นตัวตลกที่เอามาล้อเลียน

แต่ในช่วงชีวิตนึง จะมีใครรู้ไหมนะ ว่าพี่คนนี้เคยขึ้นไปถึงระดับเทพเจ้าของวัยรุ่นไทยทั้งประเทศยุคนึงเลย

ย้ำว่าทั้งประเทศจริง ๆ ไม่ใช่ครองใจแค่เด็กแวนซ์ หรือเด็กช่าง

นั่นล่ะฮะคือความเปลี่ยนแปลง

ความเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่แน่นอนที่สุด ที่เราต้องเจอ

ตอนนี้ผมเข้าใจละว่ทำไมแม่ผมถึงย้ำนักหนา ให้ฝึกสมาธิ เจริญสติบ่อย ๆ ดูแลตัวเอง เข้านอนแต่หัวค่ำ

แก่ไปไม่ไลฟ์สด

ลองนึกภาพผมอายุสัก 50 แล้วมานั่งไลฟ์เฟซ ด่าหัวหน้ากิลด์ ด่าพวกที่เล่นบอทดิ

ไอ้ที่เขียนหนังสือมาตลอดชีวิต แม่งจบเลยนะ 5555

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

205 Nameless Fanboi Posted ID:lx3YnNWWLt

>>204 ถ้าเสกเป็นเทพเจ้ายุคนั้น บังโตกูก็เป็นทานอสอ่ะสัส

206 Nameless Fanboi Posted ID:uB5G4mTt3l

>>204 ระดับเทพเจ้าของวัยรุ่นไทยทั้งประเทศนี่ยุคไหนวะ อวยเว่อเกิ๊น

207 Nameless Fanboi Posted ID:lx3YnNWWLt

>>206 ต้องบอกว่าเป็นบระเจ้าของเหล่าเด็กแว้นซ์และพวกช่างกลอาชีวะตะหาก

208 Nameless Fanboi Posted ID:HG6XJiJHYx

"เท่าที่อ่านประวัติคนประสบความสำเร็จหลายคน จุดร่วมที่เหมือนกันคือ
- ความเชื่อว่าสิ่งที่ฝันนั้นเป็นจริงได้ (แม้จะไม่มีใครเชื่อหรือเข้าใจ)
- และมุ่งมั่นทำมันจนสำเร็จ (แม้จะต้องลองผิดลองถูกนับครั้งไม่ถ้วน)"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

"เท่าที่อ่านประวัติคนประสบความสำเร็จหลายคน จุดร่วมที่เหมือนกันคือ
- ประสบความสำเร็จ"

#มิตรสหาย Sirn

211 Nameless Fanboi Posted ID:PK+QtqcJ0o

ฝันอยากอมควยพี่เสกมานานตั้งแต่อายุ14 ตอนนี้ยังรับคนอมเพิ่มมั้ย

212 Nameless Fanboi Posted ID:xN3Ojn9NAy

http://www.patheos.com/blogs/progressivesecularhumanist/2018/08/catholic-priests-ran-child-porn-ring-out-of-pittsburgh-diocese/

จากคำตัดสินของศาลรัฐเพนซิลวาเนียได้ระบุว่า กลุ่มบาทหลวงคริสต์คาทอลิกในเมืองพิซเบิร์ก สหรัฐ ที่ทำการล่วงละเมิดทางเพศเด็กชายจำนวนมาก ไม่เพียงแต่ล่วงละเมิดเท่านั้น แต่ยังมีพฤติกรรมซาดิสต์ด้วย มีทั้งการเฆี่ยน ข่มขืน และใช้ความรุนแรง

ล่าสุด ทางวาติกันแถลงการณ์ประนามนักบวชที่เพนซิลวาเนียกลุ่มนี้แล้ว

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

213 Nameless Fanboi Posted ID:T7S9StWzXe

>>184 กูรู้จักจาก youtube เหมือนกันว่ะ แล้วพึ่งมารู้ที่หลังว่าเป็นไอดอล+มีม
อ่านโม่งแล้วรู้สึกว่ากูหลังเขาสินะ 5555

214 Nameless Fanboi Posted ID:8CG.tgtZtm

Boy meets girl
Boy falls in love
Girl doesn't

215 Nameless Fanboi Posted ID:CvQVMEHJMU

>>214 Girl has a dick

216 Nameless Fanboi Posted ID:+2U6IDpeLd

>>215 Girl is better with dick

217 Nameless Fanboi Posted ID:+2U6IDpeLd

Life pro tip: if you're in a coffee shop and want to go to toilet but don't want to left your belongings unattended, just ask the person sitting next to you to look over it. This way you have to trust only one person instead of trusting everyone in that coffee shop.

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

218 Nameless Fanboi Posted ID:5895TMM0s9

>>217 แกล้งทำเป็นเข้าห้องนำ้แล้วเฝ้าของอยู่ห่างๆเพื่อรอจับโจรดีกว่า

219 Nameless Fanboi Posted ID:2sBQUDeest

ประเด็นสุดท้ายที่อยากฝากคือ คนที่ต้องการจะท้าทายลัทธิเสรีนิยมใหม่ต้องกลับไปสู้ในเรื่องคุณค่าทางสังคม เพราะว่าเสรีนิยมใหม่มีแนวคิดยึดโยงกับคุณค่าแบบตะวันตก ไม่ว่าจะเป็นเสรีภาพ ความเสมอภาค ความเจริญมั่งคั่ง ใครบ้างจะไม่ต้องการสิ่งเหล่านี้ มันเป็นสิ่งที่มนุษย์ควรจะได้ แต่บังเอิญว่าคนและประเทศที่สามารถทำให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้จริงมีแต่ประเทศตะวันตก เพราะเขาเป็นคนคิดค้นเทคโนโลยี แล้วเข้ามาหาทรัพยากรในประเทศนอกตะวันตก เพื่อกลับไปสร้างความร่ำรวยให้ประเทศตะวันตก ถ้าจะสู้กับเสรีนิยมใหม่ก็ต้องสู้กันในระดับโลกทัศน์ว่าคุณค่าแบบตะวันตกทั้งหลายนั้นยังอยู่ไหม ยังถูกต้องชอบธรรมไหม เพราะทุกอย่างที่มาพร้อมกับคุณค่าแบบตะวันตกมีคำถามตามมาหมดว่าจริงไหม และเราต้องแลกกับอะไรบ้าง คนจำนวนหนึ่งต้องถูกกีดกัน พื้นที่ทางสังคมบางส่วนต้องเสียไปเพื่อให้ความเชื่อแบบตะวันตกอยู่ต่อไปอย่างนั้นหรือ ที่พูดแบบนี้ไม่ได้หมายความว่าให้เรากลับมายึดถือคุณค่าแบบตะวันออก ให้เป็นพุทธ ขงจื่อ เพราะแบบนั้นก็ไม่รอดอีกเหมือนกัน

220 Nameless Fanboi Posted ID:wlJDA9XxAT

>>216 ... inside.

221 Nameless Fanboi Posted ID:YPGAtU8mCf

รีวิวป็อปคอร์น รส (ไม่เป็น)สัปปะรด

เป็นคนที่มาดูหนังทีต้องควักตังอย่างต่ำๆก็เกือบพันบาท
ไหนจะราคาตั๋วที่นับวันจะแสนแพง ไหนจะค่าป็อปคอร์นที่แพงระดับแม่เย็ด แต่แม่งก็เหงาปากไง เผื่อมึงเจอหนังเหี้ยๆแล้วเผลอด่ากลางโรงจะเป็นการเสียมารยาท ควรหาอะไรอุดปากบ้าง ก็ป็อปคอร์นนี่แหละคือคำตอบ

แต่เพราะเป็นคนไม่ชอบป็อปคอร์นรสเค็ม และชอบที่จะลองอะไรใหม่ๆ เห็นที่โรงนี้มีป็อปคอร์นรสสัปปะรด ก็เลยลองซะหน่อย

“เอาป็อปคอร์นรสอะไรดีครับ”
“เอารสสัปปะรดครับ”

เขร้!!! พนักงานทำหน้าตกใจ เหมือนเปิดโฟโต้เซ็ทสุ่มแล้วเจอรูปเฌอปราง

“ละ เลือกได้สองรสนะครับ”

อะไรวะ...ก็กูอยากแดกรสสัปปะรดไง กูอยากสัมผัสกลิ่นอายของความฮาวาน่า กูอยากมีโมเมนต์ความฮาวายเอี้ยนระหว่างชม Girls Don’t Cry กูผิดตรงไหน

“ว่าไงครับ เอารสอะไร”
“เอารสปราปริก้าก็ได้!!!”

กูเสียงแข็งด้วยความโกรธ

หยิบมา เห็นความเหลืองที่เคลือบกับป็อปคอร์นกูก็แอบกลัวนิดๆ แต่เอาวะ ชีวิตมันต้องลองสิ เกิดมาชาตินึงดูพี่เสกไลฟ์เยี่ยวโชว์ได้ ทำไมกูจะแดกป็อปคอร์นรสสัปปะรดไม่ได้วะ

พอหยิบมากินชิ้นนึง โอ้โหวววววว ชีวิตนี้นอกจากการผิดพลาดที่เลือกสุขุมพันธ์มาเป็นผู้ว่ากทม.ก็การเลือกอีป็อปคอร์นรสสัปปะรดนี่มาแดกแหละครับ นอกจากกลิ่นที่แม่งเปรี้ยวและสีที่เหลืองเหมือนเยี่ยวพี่เสกตอนแกไลฟ์ช่วงตี 5 กูก็นึกไม่ออกว่ามันจะสัปปะรดทำไม มันเหมือนแยมสัปปะรดหมดอายุที่กูลืมเอาทิ้งแล้วเสือกหยิบมันมาดม

กูรู้สึกผิดหวังมาก ผิดหวังในความขิงของกูที่มั่นใจว่ามันต้องอร่อย นี่เมียก็งอนว่ามึงซื้ออะไรมาให้กูกิน แล้วนางก็หยิบป็อปคอร์นรสปาปริก้ากินแล้วสั่งให้กูกินป็อปคอร์นรสห่านี่คนเดียวห้ามแตะอีกรส นี่กูต้องแดกมันทั้งน้ำตา ไม่ใช่แค่น้องๆที่ร้องไห้ ตอนนี้กูก็ร้องด้วย

กูอยากเห็นหน้าคนอนุมัติอีป็อปคอร์นรสชาตินี้ มึงไม่กลัวเวลาคนแดกแล้วแม่งไม่อร่อยแล้วบ่นว่า “โอ้โหอิเหี้ย ป็อปคอร์นไม่แม่งเป็นสัปปะรด” เลยเหรอวะ

สรุปใครชอบก็ลองได้ แต่สำหรับกูคงเป็นครั้งสุดท้ายที่จะกินมัน ขอโทษด้วยนะเจ้าข้าวโพดที่เลือดเกิดมาเป็นป็อปคอร์นที่อาบความเหนียวด้วยรสชาติแบบนี้

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

222 Nameless Fanboi Posted ID:/d49Qk7.Md

>>220 what if it is not your dick...

223 Nameless Fanboi Posted ID:AohXATic+2

BNK48 : GIRLS DON’T CRY ในสายตาคนที่ไม่ใช่โอตะ 6/10
.
ก่อนอื่นต้องบอกว่างานสัมภาษณ์เชิงสารคดีของเต๋อ นวพล ยังเฉียบเหมือนเดิม แต่การประติดประต่อร้อยราวเรื่องราว จะด้วยความที่มีคนถูกสัมภาษณ์เยอะมาก และมันมีแต่เด็กๆที่อาจจะอ่อนอ้อยเรื่องวัยวุฒิ ตลอดจนประสบการณ์ชีวิตมันก็เลยทำให้แก่นของเรื่องมันไม่มีอะไรมาก นอกจากความรู้สึก เจ็บปวด ความรู้สึกดีใจ หัวเราะร้องไห้ มันจะออกมาแบบซื่อๆใสๆ แต่เต๋อก็ไม่ได้ทำให้คนรู้จัก BNK48 ได้มากไปกว่าวงที่ซื้อเฟรนไชส์มาจากญี่ปุ่น ที่พยายามเข้ามาสร้างวัฒนธรรมไอดอลในเมืองไทย ที่มีเพลงคุ๊กกี้เสี่ยงทายเป็นเพลงฮิต ผมอาจจะไม่ได้มีความรู้สึกลบกับน้องๆในวงเลย ตรงกันข้าม บางคนผมก็เอ็นดู บางคนผมก็เห็นแล้วสะเทือนใจ นี่คือเด็กวัย 12-22 ที่ต้องเข้ามาอยู่ในวัฏจักรของธุรกิจไอดอล ที่แทบจะไม่ได้ขายความสามารถอะไรเลย แต่ไม่ต่างอะไรจากเครื่องจักรผลิตเงินให้เจ้าของวงด้วยซ้ำ
.
เต๋อ เล่าเรื่องราวขอ BNK48 : GIRLS DON’T CRY ผ่านบทสัมภาษณ์น้องๆในวง BNK48 ซึ่งแน่นอนว่า เต๋อยังคงฝีไม้ลายมือคงลาดลายในการนำเสนอได้อย่างดีเยี่ยม แต่ด้วยความที่วงมันมีสมาชิก 26 คน แม้วง BNK48 จะเป็นวงที่ดังมาก แต่เราก็ต้องยอมรับว่าเรารู้จักแค่ เฌอปรางค์ กับ อร สองคนเอง นอกจากนั้นอาจจะมีผ่านๆหูก็ มิวสิค ปัน ไข่มุก อะไรพวกนี้ นึกหน้าออกแค่ไข่มุก ส่วนที่เหลือจำหน้าไม่ได้แล้ว คือการสัมภาษณ์คน 30 คนให้เด่นเท่ากันมันเป็นไปไม่ได้ เต๋อเองก็เลือกที่จะไปโฟกัสคนที่ไ่ม่ได้เป็น 1 ใน 16 เซ็มบัตสึ พาพวกเราไปสัมผัสความรู้สึกของคนผิดหวังที่ไม่ได้เลือกไปเป็นนักร้องนำ ซึ่งเอาเข้าจริงๆ สาระ ที่เต๋อนำเสนอเกือบสองชั่วโมงเนี่ย 80% มันวนไปวนมาอยู่กับความผิดหวัง ความพยายาม ความพยายามไม่พอ ความนิยม เราจะได้ฟังแต่คนผิดหวังออกมาตัดพ้อว่าไม่ได้เป็นเซ็มบัตสึเพราะตัวเองไม่ฮิตไม่ดัง แต่ตัวเองก็พยายามแล้ว เอะอะๆก็เฌอปรางค์ สารคดีมันเลยวนไปวนมาอยู่กับที่ ไม่มีอะไรใหม่ นอกจากสารคดีทำให้เราได้รู้ว่า วง BNK48 แทบจะไม่ได้คัดคนที่ความสามารถเลย และไม่ได้ดคนที่ความพยายามด้วย แต่เลือกคนจากความนิยมมากกว่า ซี่งนั่นแหละ คือนักธุรกิจ
.
สิ่งที่ดูแล้วได้จากสารคดีเรื่องนี้มันไม่ได้ทำให้ผมรู้จัก BNK มากขึ้น แต่มันทำให้ผมเกิดคำถามว่า ไอดอลคืออะไร น้องๆพวกนี้คือไอดอลจริงๆเหรอ ผมเคยดูเรื่องราวของ AKB48 แล้วชื่นชมสมาชิกในวงคนนึงที่ชื่อ มารีโกะ เธอมาจากการไปแคสไม่ผ่าน แล้วไปเป็นเด็กเสริฟในบริษัท จนได้เข้าไปใหม่ และเป็นตัวสำรอง และได้ขึ้นมาเป็นเซ็มบัตสึ ได้เป็นกัปตัน เธอผ่านการซ้อมที่หนักและมีพัฒนาการ แต่ของไทย ของในสารคดี เราไม่เห็นว่าเต๋อจะให้เราได้เห็นว่าเด็กๆ BNK48 มีพัฒนาการอะไรนอกจากการแต่งหน้า ทรงผม ส่วนความสามารถผมไม่แน่ใจว่าวงนี้เน้นไหม เพราะจากดูในสารคดี เหมือนสองปีจะเน้นซิงเกิ้ลสองสามเพลงแล้วโชว์ตัววนไป เลยไม่รู้ว่าพวกน้องๆร้องเพลงเพราะแค่ไหน
.
(มีต่อ)

224 Nameless Fanboi Posted ID:AohXATic+2

(ต่อจากเม้นบน)

คำถามที่มันผุดขึ้นในหัวอีกเช่นกันก็คือธุรกิจวง BNK48 มัน สารคดีไม่ได้กล่าวถึง แต่ผมอยากตั้งคำถามว่า สัญญา 6 ปี กับการที่เด็กๆต้องดร็อปเรียนมาซ้อม มาทัวร์คอนเสิร์ต มันทำให้ชีวิตช่วงวัยเรียนเค้าสูญเสียไปรึเปล่า เด็กคนนึงบอกว่า หนูไม่มีเพื่อนในมหาวิทยาลัยเลย มีเพื่อนคือคนในวงนี่แหละ แต่ในเวลาเดียวกัน ด้วยความหลากหลายของวัยในวง และความจริงที่น่าเจ็บปวดคือในวงก็ต้องแข่งกัน ชิงดีชิงเด่นกัน สภาพจิตใจของน้องๆพวกนี้จะเป็นอย่างไร หรือการที่ต้องมานั่งปรับลุ๊ค เปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อเอาใจแฟนคลับ โดยที่ตัวเองไม่ได้เป็นตัวของตัวเองเนี่ย การทำอะไรแบบนี้มันจะเรียกว่าไอดอลได้อย่างไร ในเมื่อทำอะไรก็ต้องแคร์ความนิยมตลอดเวลาแบบนี้ การที่ต้องมานั่งแคร์ให้คนอื่นมารักจนไม่เป็นตัวของตัวเองแบบนี้มันจะเป็นไอดอลได้ยังไง
.
ฟุตเตจตอนออดิชั่นเด็กๆเป็นอะไรทีผมสะเทือนใจ เด็กๆพวกนี้ตอนมาออดิชั่น บางคนเป็นธรรมชาติมาก ใสมาก แต่พอมาอยู่ในวงกลับต้องกลายมาเป็นคนแบ๊วๆ เพื่อเอาใจโอตะ ตัวอย่างที่ชัดที่สุดคือ ไข่มุก ตอนมาออดิชั่นคง 18 เธอพูดจามีวุฒิภาวะดีมาก แต่ตอนนี้ 20 แล้ว เธอคือคนที่เรียกกบไสไม้ว่า อ๊บอ๊บไสไม้ และสารพัดคลิปคุณไข่ เราชอบดูแอ้คติ้งคุณไข่เพราะเธอแบ๊วดีน่ารัก แต่ความจริงเธอต้องแสดงจนบุคลิกภาพบิดเบี้ยวไปได้ขนาดนี้ เอาจริงๆมันน่าหดหู่ใจนะครับ ( *****สำหรับประเด็นคุณไข่ ผมต้องขอโทษด้วยแล้วกัน คือผมเขียนลงไปชื่นชมตอนเธอออดิชั่นว่ามีวุฒิภาวะปกติ แต่เพิ่งทราบจากเพื่อนๆแฟนคลับคุณไข่ว่าจริงๆคุณไข่ชอบพูดจาแบ๊วๆแบบนี้เป็นความชอบของคุณไข่จริงๆไม่ได้แอ๊บเบ๊วเพื่อเอาใจโอตะ ยังไงก็ต้องขออภัยด้วยครับ )
.
เสียดายที่สารคดีไม่ยอมบอกเราว่า เม็ดเงินค่าตอบแทนของเด็กในวงทั้งๆที่เป็นซัมบัตสึและไม่ได้เป็นนั้นพวกเธอมีรายได้เฉลี่ยเท่าไหร่ การรับงานพรีเซนเตอร์ถ่ายแบบ ได้ค่าตัวเท่าไหร่ โดนหักเท่าไหร่ เพราะหลายเรื่องเรามีความรู้สึกว่า การเป็น BNK48 มันแทบกลืนกินชีวิตเด็กพวกนี้ไปเกือบทั้งชีวิตเลย อย่างตอนที่เฌอปรางค์บอกว่าเธอเข้าวงมาตอน 20 สัญญา 6 ปี แสดงว่าในช่วงอายุเลข2 ของเธอ เธอจะต้องอยู่กับตรงนี้มากกว่าครึ่ง สิ่งทีเธอได้มันจะคุ้มเสียรึเปล่า
.
ผมอยากจะบอกว่า BNK48 : GIRLS DON’T CRY ถ้าเทียบกับงานเต๋อที่ผ่านๆมา มันน่าผิดหวังนะครับ 6/10 คือคะแนนเมื่อเทียบกับผลงานคุณเต๋อเอง เพราะผมว่าเอาจริงๆคุณเต๋อน่าจะทำได้ดีกว่านี้ สำหรับเรื่องนี้ก็คะแนนตามนี้ ตามเนื้อผ้า เขียนด้วยความซื่อสัตย์ต่อความรู้สึก ให้ตามนี้ครับ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

225 Nameless Fanboi Posted ID:eQzQDmswrS

>>223-224 ป้อบคอร์นสับประรดอร่อยไหม

226 Nameless Fanboi Posted ID:.f1RC/L7Vw

>>224 ขอวาร์หน่อย อยากเห็นคอมเมนต์

227 Nameless Fanboi Posted ID:JJBdltOngI

>>224 ( *****สำหรับประเด็นคุณไข่ ผมต้องขอโทษด้วยแล้วกัน คือผมเขียนลงไปชื่นชมตอนเธอออดิชั่นว่ามีวุฒิภาวะปกติ แต่เพิ่งทราบจากเพื่อนๆแฟนคลับคุณไข่ว่าจริงๆคุณไข่ชอบพูดจาแบ๊วๆแบบนี้เป็นความชอบของคุณไข่จริงๆไม่ได้แอ๊บเบ๊วเพื่อเอาใจโอตะ ยังไงก็ต้องขออภัยด้วยครับ )

กูขรรม โดนไอ้เหี้ยโอตะตัวเหม็นถล่มจนต้องยอมมาขอโทษ ควายเอ้ย

228 Nameless Fanboi Posted ID:hRuXMroNxq

>>227 แค่นี้ก็นึกภาพออกละว่าคอมเม้นที่เหลือแม่งจะเละเทะระดับไหน

229 Nameless Fanboi Posted ID:elT5ujJy9f

>>227 อาจจะโดนพวกโอตะสืบหาตัวเจอแล้วตามไปรุมล้อมบ้านแล้วชูจักกะแร้กดดันให้ขอโทษ

230 Nameless Fanboi Posted ID:uL.JjPSl3z

ฉลองโอกาสที่ยอดไลค์เพจ 777 พอดีต้องขอขอบคุณที่ตามงานกันมานะคะ อย่างที่บอกเอาไว้แต่ต้นเพจนี้อัพเดทบ้างไม่เขียนบ้างตามโอกาสเพราะเพจนี้สร้างไว้เพื่อแชร์เรื่องวิชาการรอบๆตัวกับเกล็ดทั่วไป แล้วก็เพิ่มทักษะการเขียนภาษาไทยของผู้เขียนเอง วันนี้ขอแชร์เรื่องเบาๆ (ที่ไม่ใช่วิชาการแบบหนักๆ) แล้วกันนะคะ

Crazy Rich Asians (CRA) เป็นหนังที่ไม่มีใครไม่พูดถึงตอนนี้ที่อังกฤษยังไม่เข้านะคะ แต่ได้อ่านหนังสือมาแล้วก็ไม่มีอะไรเป็นแนวหนังรักตลกๆแต่มีข้อคิดเยอะ เหตุผลที่หนังเรื่องนี้ได้รับความสนใจมากเป็นเพราะเป็นหนังฮอลลีวู๊ดฟอร์มยักษ์ที่มีตัวแสดงเป็นคนเอเชียทั้งหมด เรื่องสุดท้ายน่าจะเป็น Joy Luck Club ปีค.ศ 1993 (25 ปีมาแล้ว) โดยเน้นเนื้อหาเป็นเรื่องเกี่ยวกับคนเอเชียล้วนๆ

CRA มีความน่าสนใจคือเจาะบทบาทความเป็น Asian American และ Asian หรือผ่านตัวละครนางเอก Constance Wu ดาราสาวชาวอเมริกันเชื้อสายจีนที่แสดงเป็น Asian American กับพระเอกที่เป็น Asian เต็มๆแต่โตเมืองนอกและเป็นลูกของมหาเศรษฐีสิงคโปร์แสดงโดยลูกครึ่งมาเลยเชื้อสายอีบันและอังกฤษ Henry Golding

แม้ว่าจะมีคนชมมากเพราะการเสนอเนื้อหาและตัวละครไม่ติดปัญหา "ฟอกตัวละครให้ขาว" (white washing) หรือคือการที่มีการดัดแปลงเนื้อเรื่องจากเนื้อหาที่เป็นคนผิวสีให้คนขาวมาแสดงแทนที่เป็นปัญหาสุดคลาสสิกของวงการหนังฮอลลีวู๊ด แต่ก็โดนค้านกลายๆว่าทำไมทำให้สิงคโปรมีแต่คนจีน หรือต้องเอาลูกครึ่งมาเป็นพระเอกเหรอสุดท้ายคนที่จะหล่อพอก็ต้องมีเลือดฝรั่งอยู่ดี

มุมมองนี้อยู่ที่ใครมองค่ะ จะอธิบายคร่าวๆเรื่องอัตลักษณ์ความเป็นเอเชีย สำหรับแฟนเพจที่ตามมาเรื่อยๆจะรู้ว่า แอดมิน "ไทย" แบบเลือดจีนน้อย เลือดมอญบ้างแขกบ้างใต้บ้างไทบ้าง หน้าตาเลยเอนๆเอียงกระเดียดออกไปให้คนเข้าใจผิดว่าเป็นชาวข้างประเทศบ่อยๆ เคยนั่งเถียงกับเจ้าหน้าที่ไทยที่หาว่าปลอมบัตรประชาชนและแท๊กซี่สิงคโปร์ที่ยืนยันว่าโกหกไม่ใช่คนไทยชนิดคนขับพักจอดเพื่อค้นรูป "คนไทย" ในมายาคติออกมายืนยันกันเลยทีเดียว แล้วความที่มากกว่าครึ่งชีวิตก็ใช้เวลาอยู่ต่างประเทศเลยมีพฤษติกรรมที่อาจจะไม่ได้ "ไทยสมัยนิยม" นักแต่ถามว่า "ฝรั่ง" (ตามมายาคติคนเอเชีย) มั้ยคงบอกว่าเฉพาะเรื่องชีวิตการทำงานกับพฤติกรรมการกินบางอย่างค่ะ แต่ CRA เป็นหนังที่คนที่ตกอยู่ระหว่างกลางแบบแอดมินจะรู้สึกว่านี่แหละหนังที่รอคอยมานานแสนนานทำไมถึงเพิ่งมีนะ

ทำไมหรือคะ? เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ทำให้คนที่ผมไม่ทอง ตาไม่สีอ่อน วัฒนธรรมยังไงก็ชอบทานข้าวหรือทานอาหารรสจัด ดูไม่
1) เป็นตัวตลกที่ตายเร็ว
2) อัจฉริยะทางวิทยาศาสตร์และเลข (และอาจตายเร็ว)
3) เป็นเพื่อนหรือฉากประกอบข้างๆ
4) เป็นเจ้าพ่อ เจ้าแม่ ตัวร้ายถือดาบไล่ฆ่าใคร
5) เป็นคนไร้ความสามารถที่ขี้อายหรือตรงกันข้ามพยายามเป็นฝรั่ง
6) คนยากจนที่เดือดร้อนรอฝรั่งที่เป็นตัวเอกมาช่วย

ถ้าพูดถึงการสื่อถึงตัวละครผู้ชาย
CRA ท้าทายมายาคติที่ว่า ผู้ชายเอเชียไม่หล่อไม่มีเสห่น์ไม่ได้เรื่องเนิร์ดขี้อาย ไม่เป็นผู้ชายพอดูเป็นผู้หญิง ไม่ก็เลวหยาบคายกดขี่ผู้หญิง (แล้วก็มีตัวละครฝรั่งมาช่วยไป) ฯลฯ

ถ้าพูดถึงการสื่อถึงตัวละครผู้หญิง
CRA มอบมิติผู้หญิงปกติทั่วไปที่มีหลายมุม ไม่ใช่สาวเอเชียในมายาคติของฝรั่ง ที่เป็น (รวมๆแต่ไม่ครบทุกข้อแล้วแต่คน) สาวเรียบร้อยขี้อายแม่บ้านแม่เรือน เก่งดีพร้อม ไม่ก็ขอเชิญคำพูดของอดีตสมาชิกสภาอังกฤษที่กลายมาเป็นประเด็นใหญ่ที่บอกว่า "ผู้หญิงพวกนี้ข้างนอกเรียบร้อยแต่เป็นผู้หญิง___จัดทุกคน" ผู้หญิงเอเชียเป็นเด็กน่ารักมีความเป็นการ์ตูนญี่ปุ่น (ต้องชูสองนิ้ว) เป็นเทพีสามูไร ถ้าเป็นผู้หญิงตะวันออกกลางหรืออินเดียถ้าไม่ลงกล่องเดียวกันกับสาวอีกทั้งทวีปก็โดนหาว่าโง่โดนกดขี้ ผู้หญิงเอเชียบูชาผู้ชายตะวันตก ฯลฯ ไม่ขอบรรยายนะคะอาการเหล่านี้เราเรียกว่า

Stereotype แปลว่า การเหมารวม ส่วนใหญ่เกิดเพราะ
1 หนังฮอลลีวู๊ดนั้นแหละตัวดีไม่เชื่อลองหาบทที่สาวไทยเล่นถ่ายทอดผ่านหนังฝรั่งมาดูสิคะ
2 มายาคติโดนสร้างเมื่อเรื่องเล่าที่มีผลขยายเยอะเป็นเรื่องเดิมๆซ้อนๆกัน

(ต่อเม้นล่าง)

231 Nameless Fanboi Posted ID:uL.JjPSl3z

( ต่อจาก >>230 )

เมื่อเป็นแบบนี้ผู้หญิงเอเชียคือ "เหยื่อ" แบบหนึ่งในสังคมโลกที่มีผู้ชายฝรั่งไม่น้อยที่มีอาการ Yellow Fever แปลตรงๆคือไข้เหลือง เป็น Fetish ในการมองผู้หญิงเอเชียเป็นวัตถุที่แสดงความคลั่งไคล้ทางเพศแบบหนึ่ง เหมือนกับผู้หญิงเอเชียจินตนาการเรื่องนิสัยผู้ชายตะวันตกและเหมารวมค่ะ เรื่องการเหมารวมนี่พูดแล้วยาว

เรื่องนี้ทำให้เกิดปรากฏการณ์ Pick Up Artist บนยูทูปหรือกลุ่มผู้ชายชาวยุโรปตะวันตกและอเมริกันที่ไปใช้ชีวิตในเอเชีย สร้างชื่อเสียงและรายได้จากการถ่ายวีดีโอตัวเองเพื่อสอนเทคนิคการ "หลอกสาวเอเชีย" ตามห้างต่างๆพร้อมทั้งเชิญชวนว่าใครหาแฟนไม่ได้ให้มาเอาผู้หญิงเอเชียเพราะผู้หญิงเอเชียหลอกง่าย

ดังนั้น CRA ที่ถ่ายทอดความเป็นคนสมัยใหม่ของคนเอเชียออกมาจึงเป็นปรากฏการณ์ทางสังคมที่กำลังต่อสู้กับมายาคติต่อคนเอเชียที่มีมาเกือบสามร้อยกว่าปี (ฝรั่งเริ่มดูถูกคนเอเชียเมื่อประมาณคริสตวรรษ์ที่ 17 เป็นต้นมาเนื่องจากเศรษฐกิจและศาสนารุ่งเรืองในยุโรป)

สำหรับคนที่เป็นคนเอเชียเลยที่เติบโตในกรอบสังคมที่มีคนเอเชียเป็นหมู่มากจะไม่เคยผ่านเรื่องที่หลายๆคนที่เป็น Asian American (อเมริกันเชื้อสายเอเชีย) British Asian (อังกฤษเชื้อสายเอเชีย) หรือ Third Culture Asian (คนเอเชียที่มีหลากวัฒนธรรมในตัว) ต้องเจอยามที่โตมาในสังคมที่คนขาวเป็นใหญ่คือปัญหาเรื่อง bullying หรือการกลั่นแกล้งแบบคุกคาม ผ่านการเหยีดสีผิว วัฒนธรรม ภาษา หรือความเชื่อ การแก้ปัญหาของเด็กกลุ่มนี้จะพยายามเป็นฝรั่งแต่ถ้าครอบครัวเป็นครอบครัวที่ค่อนข้าง Traditional หรือประเพณีนิยม เด็กส่วนใหญ่จะมีปัญหาเรื่องอัตลักษณ์ ในอังกฤษมีการพบว่าเด็กที่กลายเป็นกลุ่มหัวรุนแรงทางศาสนามักผ่านประวัติการโดนกลั่นแกล้งหรือขัดแย้งรุนแรงเรื่องอัตลักษณ์ของครอบครัวกับสิ่งแวดล้อมของสังคมและโรงเรียน มันเกี่ยวกับความมั่นใจด้วยนะคะในฐานะคณะกรรมการที่ดูแลสวัสดิภาพของนักศึกษาที่นี่ทำให้ได้เห็นว่าบางครั้งเด็กหลายชาติพันธุ์ขาดความมั่นใจกับเรื่องง่ายๆแค่เรื่องการติดต่อและถามงาน วิธีแก้คือสังคมต้องช่วยกันลดทัศนคติที่ผิดๆออกไป

หลายครั้งที่ความเป็นเอเชียถูกใช้เป็นเพียงวัตถุ "ประดับ" จินตนาการของมายาคติความเป็นเอเชียโดยสังคมตะวันตก เช่นการเอาเสื้อคลุมนอนมาใส่เป็นกีโมโนสำหรับงานเลี้ยงหรือการเอาตะเกียบเสียบผม ซึ่งข้อแตกต่างในบริบทการบริโภควัฒนธรรมนั้นคือเมื่อสิ่งเหล่านี้อยู่บนตัวของชาวตะวันตกมันถูกมองว่าในทางบวกแต่คนเอเชียที่สวมใส่สิ่งเหล่านี้กลับดูเป็นของแปลกและเป็นปัจจัยให้มีการล้อเลียน ปรากฏการณ์ยืมวัฒนธรรมไปเพื่อเลือกบริโภคในแง่รูปลักษณ์ผิวเผินนี้เรียกว่า cultural appropriation หรือการยืมเอาวัฒนธรรมไปใช้ในเชิงผิดวัตถุประสงค์ในลักษณะที่เจ้าของวัฒนธรรมไม่สามารถทำได้หรือไม่ทำ

ดังนั้นคนเชื้อสายเอเชียจึงมักมองบางสิ่งว่าการคุกคามหรือล้อเลียนทางวัฒนธรรมมากกว่าคนเอเชียที่ไม่ได้มีประวัติของการเป็นชนกลุ่มน้อยในสังคมตะวันตก เช่น งานนิทัศการที่ Metropolitan Museum โดยเอากีโมโนดัดแปลงจากภาพของ Monet มาลงแสดงได้รับการตอบรับที่ดีในญี่ปุ่น แต่ชาวอเมริกันเชื้อสายญี่ปุ่นกลับออกมาประท้วงด้วยเหตุผลว่างานดังกล่าวเป็น Cultural Appropriation เหตุผลคือคนอเมริกันเชื้อสายญี่ปุ่นนั้นมีประวัติการโดนกีดกันทางสังคมทำให้ต้องแลกวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ของตนเพื่อเข้าได้กับสังคมอเมริกัน แต่ในทางกลับกันวัฒนธรรมญี่ปุ่นกลับกลายเป็นเครื่องประดับที่สวยงามและงานศิลปะบนร่างกายของผู้หญิงตะวันตก จริงๆแล้ว Monet เป็นงานช่วงที่ความคิดแนว Orientalism หรือบูรภาคดีศึกษารุ่งเรือง เคยเขียนเรื่องนี้ไว้นานแล้วตามไปอ่านได้นะคะ

https://www.facebook.com/econoarchaeology/posts/1692517447744168?__tn__=K-R

ไม่ว่าหนังเรื่องนี้จะมีข้อเสียตรงที่อาจจะแสดงถึงความหลากหลายไม่พอหรือมีหลายอย่างที่ไม่มีความเป็นสิงคโปร์ แต่หนังเรื่องนี้คือปรากฏการณ์ที่น่าจับตามองเพราะทั้งหนังและหนังสือที่ขายดีมากๆในกลุ่มผู้หญิงตะวันตก (!) เพราะมันคือหนังที่เป็นตัวแทนของโลกาภิวัฒน์ในเชิงบวกด้านความเทียมของความหลากหลายวัฒนธรรม

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

232 Nameless Fanboi Posted ID:tfjhG/.HMj

พี่ที่รู้จักทำงานในโรงงานรองเท้าของไทยแห่งหนึ่ง คิดค้นยางที่ทำให้ร้องเท้าคงทนอยู่ได้เป็นสิบๆปี แต่ทาง บ. เขาไม่เอาครับ เพราะถ้าคนซื้อไปสิบปีแม่งไม่ซื้ออีกเลย แล้วจะขายใคร? ก็เลยต้องลดคุณภาพให้ยางเสื่อมภายใน 4 ปีแทน

- มิตรสหายท่านหนึ่ง

233 Nameless Fanboi Posted ID:55DqjNRHhX

>>230-231 มิตรสหอยท่านนี้พยายามผลักดันมุมมองที่ว่าเอเชียนอเมริกันเป็นผู้เคราะห์ร้ายจังวะ พวกเอเชียนในสังคมฝรั่งนี่แม่งตัวเหยียดเลย ไม่เชื่อไปค้นชื่อSarah Jeongเอาได้ ด่าคนขาวอย่างเหี้ย เหี้ยที่ขนาดว่าถ้าเปลี่ยนคำว่า'คนขาว'เป็น'คนดำ'ในทวิตแม่ง มึงโดนไล่ออกจากงานแถมไม่มีใครจ้างตลอดชีวิตแน่นอน แต่อีนี่รอดแถมโดนจ้างโดยNew York Timesเพราะแม่งเป็นผญเอเชียนไง

234 Nameless Fanboi Posted ID:tfjhG/.HMj

หนังที่ >>230-231ยกมามันมองให้ลึกซึ้งขนาดนั้นจริงดิ แค่ดูตัวอย่างกูก็รู้สึกว่าเหมือนนิยายเซลฟ์อินเสิร์ทธรรมดา ๆ

235 Nameless Fanboi Posted ID:6zw8neIMOW

>>231 ยี้ไอ้ Cultural Marxist

236 Nameless Fanboi Posted ID:sHOdDOsJwn

>>230-231 ผมขอประกาศแบนเรื่องนี้ เนื่องจาก cast ตัวแสดงโดยใช้เชื้อชาติและสีผิวเป็นเกณฑ์ครับ #ริฮานน่าต้องเป็นนางเอก

237 Nameless Fanboi Posted ID:Tp+/FGd/.g

โรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่งในอินโดนีเซียถูกวิจารณ์อย่างหนักจนผู้จัดงานต้องออกมาขอโทษ หลังมีภาพว่าเด็กนักเรียนแต่งกายด้วยเครื่องแบบเหมือนกับไอซิสและถือปืนไรเฟิลปลอม เดินขบวนพาเหรดวันประกาศอิสรภาพเมื่อวันเสาร์ที่ 18 ส.ค.
.

ภาพถ่ายขบวนพาเหรดที่จัดขึ้นในเมืองโปรโบลิงโก ทางชวาตะวันออก เป็นรูปขบวนเด็กหญิง 15 คนเดินบนถนน สวมชุดคล้ายกับชุดนิกอบ คลุมหน้าด้วยผ้าสีดำ ถือกระดาษแข็งที่ตัดเป็นรูปปืน
.

อินโดนีเซียเป็นประเทศที่มีประชากรนับถือศาสนาอิสลามมากที่สุดในโลก ผู้อำนวยการโรงเรียนอธิบายเหตุผลว่า “ธีมที่เราเลือกคือความยากลำบากของศาสดาในการสร้างศรัทธาและการอุทิศตัวต่ออัลเลาะห์” และบอกว่าที่เลือกแต่งตัวแบบนี้เพราะใช้ข้าวของเหลือจากปีก่อนเพื่อประหยัดเงิน
.

แต่ก็มีผู้ตั้งคำถามในทวิตเตอร์ว่า “ไม่มีใครถือปืนไรเฟิลในยุคของศาสดา ครูไม่รู้ประวัติศาสตร์หรือพยายามจะหลบเลี่ยงการตำหนิ” บางคนบอกว่า “เห็นได้ชัดว่าเมล็ดพันธุ์แห่งไอซิสหยั่งรากลงแล้ว”
.

โรงเรียนการ์ติกาตั้งอยู่ในเขตทหาร การเดินขบวนพาเหรดจัดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา หลังวันครบรอบวันประกาศอิสรภาพเมื่อ 17 ส.ค.
.

ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลกล่าวขอโทษอย่างสุดซึ้งและแสดงความสำนึกผิดต่อเรื่องเครื่องแต่งกาย รวมทั้งกล่าวว่า ไม่ได้พยายามที่จะปลูกฝังความรุนแรงให้กับเด็กอนุบาล
.

“เราไม่ได้คิดถึงผลกระทบ สิ่งสำคัญคือการมีส่วนร่วมในขบวนพาเหรด เด็กๆ มีความสุขจากการใช้สิ่งของที่มีอยู่” ผู้อำนวยการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบีบีซี
.

ขณะที่แถลงข่าวกับสื่อมวลชน ผู้บัญชาการกองทัพโปรโบลิงโกกล่าวว่า ขบวนพาเหรดมีความตั้งใจที่จะให้ความรู้กับเด็กๆ ในเรื่อง “ความยากลำบากของศาสนาอิสลาม” ไม่ได้เจตนาจะส่งเสริมลัทธิหัวรุนแรงทางศาสนา (religious radicalism)
.

“ในฐานะที่เป็นผู้บัญขาการซึ่งดูแลโรงเรียนแห่งนี้ ผมขอโทษ เป็นเรื่องที่ไม่ได้เจตนา”
.

ภาพถ่ายและคลิปวิดีโอของขบวนพาเหรดกลายเป็นไวรัลในโซเชียลมีเดีย วันเดียวกับที่มีการเปิดการแข่งขันเอเชียนเกมส์ครั้งที่ 18 ซึ่งอินโดนีเซียเป็นเจ้าภาพ ข่าวขบวนพาเหรดยังไปถึงรัฐสภาอินโดนีเซีย ซึ่งโฆษกรัฐสภากล่าวว่า เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม
.

“การสั่งให้เด็กๆ สวมผ้าคลุมหน้าสีดำ และถือปืนปลอมไปมาสร้างการรับรู้ที่ผิด การทำแบบนี้สามารถทำลายความคิดของเด็กๆ ได้”
.
.

ที่มา:
https://www.theguardian.com/world/2018/aug/20/kindergarten-dresses-children-as-jihadists-for-parade-in-indonesia
https://www.straitstimes.com/asia/se-asia/kindergarten-in-indonesia-dresses-children-as-armed-jihadis-for-parade-sparks-backlash
https://www.theaustralian.com.au/news/world/apology-after-indonesian-kindergarten-parades-preschoolers-as-jihadists/news-story/4a73f1ccd5d95e80031300ab96f92c34

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

238 Nameless Fanboi Posted ID:zVJIq5s4KM

>>230-231 เพจนี้พูดเรื่แงเศรษฐศาสตร์ดีนะ แต่มีความคิดแบบ progressive มากไปหน่อยในบางเรื่อง

239 Nameless Fanboi Posted ID:P2r8KEaFqI

>>230 Channel สาวเอเชีย อวดผัวฝรั่งเยอะแยะ แถมบางคนมีลักษณะ self hatred ด้วย คนไทยก็เป็นเยอะแต่ไม่รู้ตัว
กูค่อนข้างเปิดกว้างนะ ใครจะชอบไรก็ชอบไป แต่กูไม่ชอบพวกชี้นำ ทุกวันนี้ฝรั่งมาไทยเยอะ ก็เพราะ สาวไทย crave white cock จริงมั้ยหละ

240 Nameless Fanboi Posted ID:VvVAQbW5SP

Liberal Art เป็นคณะขยะ เพราะศิลปะแบบ Liberal Art มันไม่มีจริง มีแต่เจตนารมณ์ที่เป็นจริง จะวรรณกรรม ปฏิมากรรม จิตรกรรม นาฏกรรม สถาปัตยกรรม ยันงานทางวิศวกรรมก็เอามาใช้ในการสื่อความเป็น Liberal ได้ เพราะมันเป็น Political ideal คณะทั้งคณะมันจึงเป็นการสอนลัทธิการเมืองให้นักศึกษาวิชาศิลปะเท่านั้นเอง

ด้วยประการนี้ เราจะทำคณะ Liberal Sciences, Liberal Mathematics, Liberal Biology, Liberal Engineering, Liberal Accounting ก็ทำได้ง่ายๆ แฝงการปลูกฝังลัทธิลิเบอรั่ลเข้าไปก็เป็น Liberal ห่าเหวอะไรก็ได้แล้ว

ถ้ากวนตีนมาก็แค่เตะออกไป เพราะที่ว่ามาไม่ใช่ว่าผมคิดเอง คนในวงการศิลปะหลายคนก็ว่างี้ แม้แต่ในพวกคนที่ถูกยกเป็น Liberal Artist เอง เพราะคนพวกนี้เขาศึกษาศิลปะ ขโมยจนสร้างเป็นงานของตัวเอง และสามารถใช้ภาพและเทคนิคต่างๆสื่อทุกอย่างได้ช่ำชอง แค่เพราะตัวเขาเอาความสามารถนี้มาใช้สื่อ Political ideal ของตัวเอง เฉพาะขณะนั้น เขาถึงเป็น Liberal Artist เป็น Artist ที่เป็นลิเบอรั่ล และต่อสู้เพื่อเป็นอิสระจากอะไรบางอย่าง แม้แต่จากการครอบด้วยลัทธิทุนนิยม

มันมีผลงานขยะที่แค่วาดภาพแบบ Contrash ปลุกระดม ทำสีสดดิบ แล้วบอกว่านี่คือ Liberal Arts ซึ่งมันไม่ใช่ ภาพวาดเป็นแค่ภาพวาดถ้าศิลปินไม่ได้มีอุดมคติ มีภาวะความคิดของตัวเอง งานเขียน ภาพ ปฏิมากรรมก็อาจเป็นแค่สินค้าขายหาเงิน

คำว่า Liberal รากศัพท์ของมันเป็นการ Liberate เป็นอิสระจากกรอบเดิม ลิเบอรั่ล อาจเป็นการฉีกหาอิสระจากกรอบทหาร กรอบกฎหมาย กรอบศาสนา กรอบเสรีนิยมหรือสังคมนิยม แม้แต่กรอบความคิดอคติว่าศิลปะ หรืออะไรๆต้องมีแค่นี้ การฉีกกรอบภาวะโลกเป็นศูนย์กลางของกาลิเลโอก็เรียกว่าเป็นการ Liberate ได้ จากพวกอนุรักษ์นิยมทางศาสนา มันกว้างกว่าคำว่าลิเบอรั่ลง่อยๆที่ใช้ในไทยเยอะ

มันมีเรืองจริงที่ยากจะกล่าว มีเด็กปัจจุบันวาดได้แต่สีเลอะๆแล้วเรียกตัวเองเป็นศิลปินแอบสแตรก หรือแอบสแตรกชั่น พวกห่านี่วาดรูปสเก๊ทช์คนยังไม่ได้ พวกศิลปินที่เป็นศิลปิน Abstract อย่างปิกัสโซ่ เขาวาดภาพปรกติก็ได้ แต่เขาศึกษาผ่านมาแล้วและมาถึงจุดนี้ พวกขยะที่แค่วาดๆเขี่ยๆไม่เป็นทำได้แค่ภาพเลอะๆแล้วอ้างตัวเป็นศิลปินแอบสแตรก เลยไม่วาดภาพอย่างอื่น ก็เหมือนพวกที่ไปเรียนคณะ Liberal Art นี่ละ คือไปจับเอาฟอร์มเอารูปแบบโดยข้ามพัฒนาการของฝีมือยันจิตวิญญาณมาเพื่อเอามาผลิตสินค้ากากๆขายหากิน

#เพื่อนกูเอง

#ทั่นผู้จัดการติดเกม

-----------------------

ป.ล. เจ้าตัวมาบอกแล้วหล่ะว่าเขียนผิด ที่ถูกต้องเขียนว่า Liberation Art แต่ช่างเถอะ พลาดไปแล้วก็เลยตามเลยก็แล้วกันนะ 555555

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

241 Nameless Fanboi Posted ID:x0pyb0MXFi

>>240 ที่มันตั้งชื่อว่าLiberal Art เพราะมันไม่ใช่Practical Artที่เอาไปใช้ประกอบอาชีพโว้ย
Liberal Art มันเป็นที่รวมสาขาวิชาที่ตะวันตกตั้งแต่กรีกโบราณเชื่อว่าเป็นทักษะจำเป็นสำหรับชีวิตประจำวันของมนุษย์ในสังคมที่พัฒนาแล้ว(Grammar,Literature,Critical Thinking)

คณะอื่นมันเอาไว้ใช้สอนวิชาชีพ แบบพูดชื่อคณะมาก็รู้แล้วว่าอยากเป็นอะไรตอนจบ(Law,Med etc.)

มิตรสหายมึงจะแซะลิเบอร่าน แต่โง่พอๆกับลิเบอร่านเลยวะ

242 Nameless Fanboi Posted ID:qqC2g+.BO3

Artes Liberales
แปลว่าศาสตร์ของคนว่างไม่ต้องทำมาหากิน มีไวยยากรณ์ วาทศิลป์ เรขาคณิต พีชคณิต ดาราศาสตร์ ดนตรี กับ ตรรกวิทยา เขาเรียนเพื่อให้เป็นคนคิด คนตัดสินใจ ไม่ใช่คนทำ เรียนที่ Universitas Magistrorum et Scholarium-ชุมชนของอาจารย์และศิษย์ มาตั้งแต่ คศ.1100

ส่วนศาสตร์ของคนทำมาหากิน ลงมือ วาด แกะ ก่อ ฉาบ ฯลฯ เขาเรียก Artes Serviles แปลว่า ศาสตร์ของผู้รับใช้ เรียนกันตาม Guild เป็นระบบฝึกงาน พ่อแม่ฝากฝังกับตัวช่างที่เป็นอาจารย์

ต่อมายูนิแวร์ซิตาส ก็กลายมาเป็นUniversity บ้านเมืองมีเสรีใครใคร่เรียนได้เรียน แต่มหาวิทยาลัยที่มีมาตรฐานเขายังยึดรูปแบบเมื่อครั้ง1000ปีก่อนเพื่อทำให้ศิษย์เป็นปัญญาชนจะได้ไม่ให้ความเห็นสตึแบบนี้

ที่เรียนไหนเขาเน้นแต่วิชาบางวิชา ในประเทศที่เจริญเขาจะไม่เคลมตัวเองเป็นยูนิแวร์ซิตาส เขาเรียกตัวเองว่า Institute ออกใบประกาศชื่อDiploma มาจากDiplomatis แปลว่าจดหมายแนะนำตัวที่สืบทอดมาจากระบบGuildดั่งเดิม ซึ่งก็มีเกียรติพอๆกัน

Bachelor มาจาก Bacca(ลูกเบอรี่)laureus(มงกุฎแบบนักกีฬาโรมัน)แปลว่ามงกุฎผลเบอรรี่ ลูกเบอรรี่แทนผลของการศึกษา เป็นเครื่องหมายของแชมป์

ส่วน Doctor ละตินแปลว่าครู Master แปลว่าหัวหน้า ทั้งหมดมันมาจากระบบการเรียนแบบยูนิแวร์ซิตาส

โลกสมัยใหม่ เราทำวิชาที่ไม่เคยอยู่ในยูนิแวร์ซิตาส มาทำให้ซับซ้อนจนเป็นที่ยอมรับให้สอนได้ในยูนิแวร์ซิตาส ซึ่งเป็นผลมาจากการปฏิวัติวิทยาศาสตร์ แต่เขาก็ยังต้องสอนวิชาLiberal art จะได้แยกออกว่าใครเรียนในยูนิแวร์ซิตาส ใครไม่ใช่

243 Nameless Fanboi Posted ID:icyNV.DmUb

>>241 ตามนี้แหละ Liberal ในที่นี้มันไม่ได้หมายถึงแนวคิดทางการเมือง อนุร่านแม่งโง่พอๆกับลิเบอร่านที่มันด่าๆเลย

244 Nameless Fanboi Posted ID:qBOIi3QnTh

>>233 อย่างน้อยก็ยังดีกว่าดันคนดำเหมือนฮอลลีวูดทุกวันนี้นะมึง

245 Nameless Fanboi Posted ID:1HWaOYocqb

>>240 ขำชิบหาย จะแซะเค้า เขียนมาซะยาวเหยียด ตกม้าตายตั้งแต่เข้าใจว่า Art ที่ว่าคือศิลปะแล้ว

246 Nameless Fanboi Posted ID:6z0rxzAMqh

บาง ม. สาขาวิทย์ได้ BA นะไม่ใช่ BS

247 Nameless Fanboi Posted ID:D1AvK+yoKU

ชายแท้ ถูกบอกว่าเป็นเกย์ จะโกรธ และจะฟ้องหมิ่น
เกย์บางคน ถูกบอกว่าเป็นเกย์ จะโกรธ และฟ้องหมิ่น
แต่ถ้าเกย์ ถูกบอกว่าเป็นชายแท้ จะไม่โกรธ และไม่ฟ้องหมิ่น

แค่นี้ก็สะท้อนอะไรได้หลายอย่างแล้วล่ะ

248 Nameless Fanboi Posted ID:yVKs8DEcZX

>>244 อเมริกา เอะอะเหี้ยอะไรก็คนดำ
คนไอริชโดนเหยียด โดนใช้แรงงานอย่างกับทาส ไม่มีใครร้องถ้าออสการ์ไม่มีเมกันเชื้อสายไอริชอยู่ในนั้น
พวกพื้นเมืองเมกัน โดนฆ่าโดนกักกัน ไม่มีใครร้องถ้างานออสการ์ไม่มีคนพื้นเมือง

แต่ถ้างานออสการ์คนดำไม่ได้ซักรางวัลนะมึงเฮ๊ย ดิ้นกันพราดๆ

249 Nameless Fanboi Posted ID:/FBC.aFumh

ถ้ามีคนบอกให้นายทุนคนดำไปแจกรางวัลกันเอง จะโดนรุมทึ้งหารือเปล่า

250 Nameless Fanboi Posted ID:4XmNQFODu4

>>248 ก็คนดำมันเคยเป็นทาสอะนะ กูว่ามึงเลิกเห่อหมอยด่าคนดำได้และ ถ้ามึงไม่ได้ First-hand experience กะพวกนี้มาก
ถ้าจะด่าจะล้อ ล้อพม่า อีสาน ใต้ ยังจะดูเข้าท่ากว่า

251 Nameless Fanboi Posted ID:c8R.3P5fMi

การเล้าโลมที่ดีควรทำ13นาทีขึ้นไป
แล้วค่อยๆสอดใส่ช้าๆไม่ต้องรีบไม่งั้นเดี๋ยวมึงจะเสร็จก่อนผู้หญิง5นาที
หลังบิ้วมา5นาทีก็เร่งจังหวะ3นาที ฟินแน่นอน

https://m.pantip.com/topic/31883472

252 Nameless Fanboi Posted ID:vQq5Vp59CE

>>250 คนดำแท้ๆ อิมพอร์ตจากแอฟริกา เหี้ยจริงๆมึง กูนี่ประสบการณ์ตรงแบบตรงๆ เลย ห่าราก

253 Nameless Fanboi Posted ID:6Su4BZ3ZTb

>>250 พม่า อีสาน ใต้ จะล้อทำไมวะ ในเมื่อไม่ได้มีวีรกรรมเยอะแบบคนดำ จริงๆกูจะไม่อะไรเลยนะถ้าเรื่องพวกนี้มันไม่ลามเข้าสื่อบันเทิงต่างๆที่กูเสพอ่ะนะ

254 Nameless Fanboi Posted ID:E/3z7C2xQa

เมื่อส่งเปเปอร์

อักษรจุฬา: นิสิตคลานเข้าไปส่งให้อาจารย์แล้วกราบ
ศิลปศาสตร์ มธ : นักศึกษาเข้าไปส่งเปเปอร์ แต่อาจารย์ไม่อยู่ เพราะหนีไปฝรั่งเศส

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

255 Nameless Fanboi Posted ID:1HWaOYocqb

>>253 เรื่องสื่อบันเทิงนี่กูเห็นด้วย โวยวายเก่งชิบหาย ถ้าจะบอกว่าคนดำเคยเป็นทาส เป็นผู้ถูกกระทำนี่กูว่าชนพื้นเมืองในเมกันไม่โดนหนักกว่าเรอะ หรือเพราะเป็นกลุ่มเล็กๆ เลยไม่มีสิทธิ์มีเสียงกะเค้า

256 Nameless Fanboi Posted ID:5gbmpROLCX

ทั้งนี้ ประชากรมนุษย์ยุคใหม่หรือโฮโม เซเปียนส์ในปัจจุบันทั้งหมด เว้นแต่ผู้มีเชื้อสายแอฟริกัน ล้วนมีดีเอ็นเอของมนุษย์โบราณนีแอนเดอร์ทัลปะปนอยู่เล็กน้อย

นี่อาจเป็นสาเหตุที่คนดำต้องถูกโอ๋​ เพราะไม่ว่าจะไอริชหรือเนทีฟอเมริกันหรือเอเชี่ยน​ ก็นับได้ว่าเป็นคนเหมือนกัน​ แต่คนดำนั้นนับว่าต่างเผ่าแปลกแยกออกไป​

257 Nameless Fanboi Posted ID:bpo3MVNim1

>>254 จุฬาบ้านพ่องมึงคลานเข่า

258 Nameless Fanboi Posted ID:8AspqqJgp3

>>256 มี DNA นีแอนเดอร์ทัลปนอยู่มันก็ไม่ได้ทำให้พิเศษตรงไหนนี่หว่า นีแอนเดอร์ทัลนี่เป็นเผ่าพันธุ์ที่ด้อยกว่าด้วยซ้ำ

259 Nameless Fanboi Posted ID:ULW5aEE/iQ

คนดำคืออารยันที่แท้จริง

260 Nameless Fanboi Posted ID:tPA2kbhted

>>259 we wuz hitler n shiet

261 Nameless Fanboi Posted ID:5gbmpROLCX

>>258 หมายถึง​ว่าคนทั้งโลกมีเชื้อสายร่วมกันไง เว้นแต่คนดำ​ เพราะงั้นคนดำมันเลยแปลกแยก​ เลยต้องได้รับการโอ๋เป็นพิเศษ

262 Nameless Fanboi Posted ID:WTWYHo68tN

ลองซ้อม rm -rf ในเครื่อง production ดูครับ เราจะลืมเรื่องราวเก่าๆ ไปได้ชั่วขณะ ได้ผลดีกว่ากินเหล้าเบียร์อีกครับพี่
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

263 Nameless Fanboi Posted ID:FTTSXnhVRG

"Girls Don’t Cry (2018): aka Capitalist Horror Story แนะนำทุกคนดูจริงๆ

- คนพูดถูกที่เตือนๆมาว่า ดูแล้วเธอจะเกลียดระบบ BNK

- เราดูแล้ว จริง เราเกลียดระบบอย่างรุนแรงมาก

- ปูเป้ เธอได้แอร์ไทม์สะใจแล้ว จงเผา BNK ให้หมดเกลี้ยง เธอเป็นพลังปฏิวัติ เธอเป็นความความหวังของทุกคนนะ

- คือก่อนดูสารคดี เราไม่ชอบ “ไอเดีย” ของ AKB/BNK ที่เป็นการแปลงเด็กผู้หญิงมัธยมให้เป็น product สำหรับผู้ใหญ่บริโภค (ต้องยอมรับว่าถึงแม้ว่าคนที่ชอบวงเหล่านี้มีความหลากหลาย เรารู้กันอยู่ว่าผู้บริโภค big spender หลักคือใคร) แต่ในที่สุดก็รู้สึกวัทเอเว่อร์อ่ะ เด็กหญิง เด็กชาย ผู้ใหญ่ ทุกคนก็ถูกแปลงเป็น product สำหรับผู้บริโภคสื่อบันเทิงอยู่แล้วปะ

- ดูสารคดีแล้ว ความ fucked up ของ product นี้มันลึกกว่าที่คิดเยอะ product ไม่ใช่แค่น้องๆที่หน้าตาน่ารักหลากหลาย appeal นะ product สำหรับผู้บริโภคจริงๆแล้วคือ process ของน้องที่แข่งขันกันเอง ล้มลุกคลุกคลาน เปิดตัวเองต่อการโจมตีโดยคนแปลกหน้า เจอกับ trauma และ depression โดยไม่มีความช่วยเหลือ แบบที่ โ ค ต ร จะไม่มีความจำเป็นและน่าจะ damaging ชิบหายวายวอด เพียงเพื่อได้ภาพและ experience “ความพยายาม” มาขายผู้บริโภคที่ฟินกับการเติบโตของน้อง

- เราอยากให้มีคนมอบเครื่องมือเพื่อช่วยให้น้องๆเข้าใจได้มากขึ้นว่า ระบบที่เค้าอยู่ยังไงก็สร้างมาด้วยคน ข้อจำกัด กฎเกณฑ์ ฯลฯ เป็นสิ่ง artificial ทั้งสิ้น ไม่มีอะไรเลยที่บอกว่าต้องมี 30 คน, ต้องมีระบบ senbatsu, ต้องมีเพียง 16 คนใน senbatsu, ต้องหมดหวังกันขนาดนี้เวลาไม่ได้รับเลือกแค่ละครั้งถึงแม้ว่าจะอยู่กันไปอีกตั้ง 6 ปี, ต้องมีโน่นนี่นั่นอีกมากมายที่สร้างความกดดัน ความซึมเศร้า มันไม่มีความจำเป็นอะไรทั้งสิ้น มันมีเพียงคนกลุ่มหนึ่งที่นั่งลง สร้างระบบนี้ขึ้นมา เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคและทำให้เกิด product (คือตัวน้องและความล้มลุกคลุกคลานของน้อง) ขึ้นมา ในแบบที่เค้าต้องการให้เป็นเป๊ะๆ

- ความฝันของน้องๆ เกิดขึ้นได้ในรูปแบบที่ healthy กว่านี้เยอะ เราเชื่อว่าคนที่อยากดัง คนที่อยากเต้นรำร้องเพลงกำลังถูก exploit ให้สร้าง product ในแบบที่ทำร้าย labourer ด้วยกันเองอย่างไม่จำเป็นเลย ทั้งๆที่executive และนายทุนทั้งหลาย มีทรัพยากรที่จะสร้างระบบที่ไม่ใช่อย่างงี้ แต่เค้าเลือกที่จะสร้างและ implement ระบบนี้เพื่อเป็น product แบบ high engagement ให้กับผู้บริโภค (ที่ผู้บริโภคไม่ได้ specifically ขอนะ แต่ผู้ผลิตก็ทำให้เกิด need และตลาดใหม่ขึ้นมา)

- สรุป: marxist revolution คือคำตอบของ BNK และมิตรสหายปูเป้จะเป็นคนที่ทำให้เกิดขึ้น"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

264 Nameless Fanboi Posted ID:Kidpz2xgao

>>263 หนังต่อต้านระบบ BNK กำกับโดยโอตะ BNK ถถถถ แม่งนึกว่าตัวเองเป็น Victor Hugo รึไงวะสัส

265 Nameless Fanboi Posted ID:rpHBzhHW8G

>>263 ฝากบอกมิตรสหายท่านนี้ด้วยทีหลังถ้าเงี่ยนอยากพิมพ์ eng ขนาดนั้นก็จัด eng มาทั้งบทความเลยก็ได้ครับ ไม่ต้องเกรงใจ

266 Nameless Fanboi Posted ID:Sf.BJk7rDw

Overheard in Starbucks:

"So in our team I see that everyone were concentrating on what is on their screen and there were less talk going on in the office. I may suggest now that we do regular meetings so we could talk more."

My condolences to whoever in this guy's team.

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

267 Nameless Fanboi Posted ID:O1+RVYj9W5

>>265
"Girls Do not Cry (2018): aka Capitalist Horror Story recommends everyone really look.

- people were warned that. She will hate the BNK system.

- We see, we really hate the system very violently.

- Crabs she has air time, then burned BNK completely. She is a revolutionary force. She is the hope of everyone.

- Before watching the documentary, we did not like the "idea" of AKB / BNK transforming middle school girls into adult products. It must be admitted that although people like these bands are diverse. We all know who the big spender is.) But finally, it feels so perfect. Every adult girl is transformed into a product for consumers.

- Look at the documentary, the fucked up of this product is much deeper than the idea of ​​a product. Not only that, you look cute. A variety of products for consumers is actually a process of competition. Tasmanian Turns yourself into attack by strangers with trauma and depression, without the help of the illusion of needing to be damaging and disappearing just to get the picture and experience the "effort" to sell. Consumption at the Finn with the growth of the younger.

- We want to give people the tools to help them understand more. There are only 30 people in the system, there are only 16 people in senbatsu. Not been selected once, even if it was 6 years ago, there are so many more that put pressure on depression, it does not need anything. It was only a group of people sitting down. Create this system In response to the consumer and cause the product (the younger brother and Tasmanian) in the way he wants to be.

- dream of you This is a very healthy way to do it. People who want to dance and sing are being exploited to create a product that hurts the labourer with each other unnecessarily. In spite of the executive And the capitalists. There are no resources to create a system. But he chose to create and implement this system as a high-engagement product for consumers. (The consumer does not specifically ask for it, but the manufacturer makes a need and a new market.)

- Conclusion: Marxist revolution is the answer of BNK and friends, the crab is the one who makes it happen. "

# One friend

268 Nameless Fanboi Posted ID:Kidpz2xgao

>>267 กูหวังว่ามึงจะเล่นมุกเอาไปใส่กูเกิ้ลนะ เพราะถ้า​ recommends everyone really look. เนี่ยมันออกจาจากฝีมือการแปลของมึงเอง​ มึงก็ไม่ควรไปอวดภาษาอังกฤษกับใครอะ

269 Nameless Fanboi Posted ID:tAHY6kp6Kb

>>267 เฟลตั้งแต่ประโยคแรกเลยนะมึง 5555

270 Nameless Fanboi Posted ID:vIEFNbWbUh

>>268 ก็ google น่ะสิวะ มันแปลได้ขนาดนี้แล้วนะ ไม่เชื่อมึงลองเอาไปใส่ดูดิ

271 Nameless Fanboi Posted ID:29/1ZWzhyc

>>267 แปล "มิตรสหายท่านหนึ่ง" ว่า "One friend"...
Heresy...

272 Nameless Fanboi Posted ID:1oUT.Sejcu

เสียเงินแทบหมดตูด ถูกตุ๊ดคาบไปแดก

#มิตรสหายอ้วนท่านหนึ่ง

273 Nameless Fanboi Posted ID:tAHY6kp6Kb

>>271 จริงๆเขาใช้คำว่าอะไรนะ ใช่ anonymous ปะ เหมือนกูเคยเห็น

274 Nameless Fanboi Posted ID:9WawHCPFDq

>>273 comrade, anonymous comrade

275 Nameless Fanboi Posted ID:gLHmK./V4j

UCSD มหาวิทยาลัยดัง เปิดสอน Algorithm ที่สำคัญ นั่นคือ Divide & Conquer, Greedy และ Dynamic Programming ไม่มีเวลามาเรียนที่ *** ลองไปเรียน Online ที่นี่ได้เลยครับ เรียนจบแล้วส่งใบสมัครงานมาได้ตลอดเวลา งานประจำเงินเดือน 30,000 บาทขึ้นไป รออยู่ครับ

https://www.edx.org/course/algorithmic-design-techniques-uc-san-diegox-algs200x

276 Nameless Fanboi Posted ID:NU2.k8kK9L

มีคนบอกถ้าไทยเงินเฟ้อแบบเวเนซุเอล่า จะทำเศรษฐกิจพอเพียง ปลูกผักเลี้ยงสัตว์

ได้แต่นั่งกลั้นขำ อิบ้าเงินเฟ้อขนาดนั้นขโมยขโจรเต็มบ้านเต็มเมือง มันคงจะใจดีไม่ปล้นผักหรอกมั้ง

277 Nameless Fanboi Posted ID:V/EOsTcVE4

>>276 ต้องทำแบบซิมบับเว ไม่มีโจรขโมย เพราะไม่มีอะไรให้ปล้นทั้งประเทศ ต้องไปจับหนูแดกกัน

278 Nameless Fanboi Posted ID:GZ4n8bokX0

ยากว่ะประเทศเทยมันเป็นประเทศเกษตรกรรมแบบครบวงจรเลย ต่อให้ปิดประเทศไม่ต้องค้าขายกับเมืองนอกประชาชนก็ไม่อดอยาก น้ำท่าก็อุดมสมบูรณ์
แค่จะล้าหลังหน่อยแค่นั้น ช่วงวิกฤติเศรษฐกิจเราถึงฟื้นได้ไวไงเพราะแค่ตัดการซื้อจากต่างประเทศดุลการค้าก็พุ่งกระฉูดแล้ว แถมไม่เดือดร้อนเพราะคนยังมีกินมีใช้ปัจจัย4ได้ แต่แบบเวเนซูเอล่านี่เกษตรกรรมไม่มีเลย มันตัดการค้าจากต่างประเทศไม่ได้ ไม่นำเข้าก็คือไม่มีแดกตายอย่างเดียว แต่บางคนที่ชอบไปเที่ยวเมืองนอกอาจลำบากหน่อยเพราะไม่มีตังให้ใช้แบบเข้าใกล้อินฟินิตี้แค่นั้น

279 Nameless Fanboi Posted ID:SJ/xU2qh+G

>>276 https://prachatai.com/journal/2018/08/78400

ประชาไทช่วงนี้ท็อปฟอร์มมาก ไหนจะบทสัมภาษณ์ของอาจารย์ปวิน
แต่ก็อดคิดในใจไม่ได้ว่า อะไรบางอย่างที่เคยมีมันเปลี่ยนไปแล้ว
ถ้าบทความที่วิจารณ์เศรษฐกิจพอเพียงชิ้นนี้ ออกมาเร็วกว่านี้ซัก 10ปี
ประชาไทคงเจอม็อบคนคลั่งบุกไปปิดสำนักข่าว

แต่ตอนนี้ขนาดวิจารณ์ตรงๆแรงๆ ก็ไม่มีใครลุกขึ้นมาด่าคนวิจารณ์

280 Nameless Fanboi Posted ID:gfFS2p68e3

>>279 ถ้าตามๆข่าว ท่านใหม่ เน้นลงทุนมากๆเลยนะ

281 Nameless Fanboi Posted ID:ax+UvAWCdq

>>279 มันเปลี่ยนยุคแล้วไง

>>278 เพราะ GDP ไทยอยู่นอกระบบมากเกินไปต่างหาก ประมาณ 50% ได้ พอระบบล่ม มันถึงดูดซับเข้ามาได้

282 Nameless Fanboi Posted ID:vFGosx.ort

>>279 ยี้ประชาไท อวยแม้วอีกล่ะ
เคสระบอบทักษินมันสนับสนุนให้คนเป็นหนี้ ถ้าหนี้จากการลงทุนก็ว่าไปอย่างเสือกเป็นหนี้เพื่อซื้อของฟุ่มเฟือยก็ชิบหายสิ

283 Nameless Fanboi Posted ID:ZlZlx3RZds

เจียมล้มเส้นเลือดในสมองแตกจริงเหรอวะ

284 Nameless Fanboi Posted ID:SJ/xU2qh+G

>>283 จริง อ่านจากข่าวแล้วน่าห่วง น่าจะอัมพาทครึ่งซีก

285 Nameless Fanboi Posted ID:+VLgMd/5x7

>>283 ขอให้พระสยามเทวาธิราชช่วยปกป้องสศจ.ด้วย

286 Nameless Fanboi Posted ID:w.QtDYAbXo

>>279 เหอะๆ ไอ้พาร์ทศก พอเพียงกูก็เห็นด้วยอยู่หรอกนะ แต่พอวกไปอวยแม้วละก็ได้แต่มองบน

287 Nameless Fanboi Posted ID:Aw9c5kGKbd

ตรงไหนที่อวยแม้ววะ

288 Nameless Fanboi Posted ID:HltQ7UqOqz

"I'm going to Tokyo.... to know defeat."

289 Nameless Fanboi Posted ID:jn4UMypUw1

>>285 พระสยามเทวาฝากมาบอกว่าฝีมืออั๊วะเอง

290 Nameless Fanboi Posted ID:7wrhmjXW5U

“ไปอ่านเรื่องเวเนซุเอลาที่ตอนนี้เงินเฟ้อถึง 80,000เปอร์เซ็นต์นั่นคือ ถ้าคนเวเนฯมีเงินฝากในธนาคารอยู่ 8 แสนบาท อยู่ดีๆเงิน 8 แสนบาทที่เคยซื้อรถยนต์ได้เป็นคัน ก็กลายเป็นซื้อก๋วยเตี๋ยวได้แค่ 2 ชาม

สาเหตุที่เป็นแบบนี้เห็นว่า เป็นเพราะมีผู้นำเผด็จการที่แพ้เลือกตั้งก็ไม่ยอมแพ้ ไปใช้ตุลาการภิวัฒน์ทำให้คู่แข่งที่ชนะเลือกตั้งมีความผิด แล้วฝ่ายเผด็จการก็อยู่ในอำนาจต่อ แล้วบริหารห่วยไม่ได้เรื่อง คุ้นๆไหมเหตุการณ์แบบนี้

แล้วเวเนซุเอลาก็มีรายได้หลักจากน้ำมัน ที่รัฐเผด็จการไปยึดกิจการจากเอกชน แล้วเอามาบริหารเองเป็นกิจการของรัฐ

แต่การบริหารดันบริหารแบบรถไฟไทย กับ การบินไทย คือ ขาดทุนทั้งปี แต่ผู้บริหารและพนักงานที่มีแต่พวกพ้องเส้นสายกันเองพากันล่ำซำถ้วนหน้า

แล้วรัฐบาลที่เป็นเผด็จการไม่ชนะเลือกตั้ง ต้องมาเอาใจประชาชนด้วยการแจก ด้วยการให้สงเคราะห์ประชาชนแบบไม่เกิดการผลิต ไม่ก่อให้เกิดรายได้ คงเหมือนที่แจกเงินคนจน 1,500-3,000บาทหรือ แจกผ่านบัตรคนจน 300-500 ต่อเดือน นั่นแหละ

แหล่งรายได้หลักมาจากน้ำมันเพียงอย่างเดียว พอราคาน้ำมันตกต่ำ รายได้ที่เคยเอามาแจกก็หดหาย กิจกรรมการผลิตอื่น รายได้อื่นก็น้อยไม่พอค่าใช้จ่าย จนไม่มีเงินจ่ายเงินเดือนเจ้าหน้าที่รัฐ รัฐบาลดันไปพิมพ์เงินเข้าไปในระบบ ไปซ้ำเติมทำให้เงินเฟ้อ จนค่าเงินเหลือไม่ต่างจากเศษกระดาษ

หลายคนก็บอกว่า ที่เป็นแบบนี้เพราะนโยบายประชานิยม แจกเงินให้สวัสดิการกับประชาชนจนเคยตัว จนเศรษฐกิจประเทศพัง แล้วก็โยงว่า ถ้าไทยยังเป็นประชานิยมอยู่ก็อาจล่มจมแบบนี้ก็ได้ คือจะโยงหาประชานิยมกับทักษิณนั่นแหละว่าง่ายๆ

โดยที่ไม่รู้จริงๆและไม่เคยศึกษาว่า ในยุคทักษิณไม่เคยมีนโยบายไหนที่ให้เงินชาวบ้านฟรีๆเลย

อย่างกองทุนหมู่บ้านก็ต้องยืมและใช้คืนพร้อมดอกเบี้ย เพียงแต่การบริหารให้ชาวบ้านบริหารกันเอง และ ให้ชาวบ้านเข้าถึงแหล่งทุนได้ง่ายขึ้น

จำนำข้าวก็ต้องมีการผลิต มีการทำนา มีข้าวถึงเอามาจำนำแลกเงินได้

แต่ที่เห็นแจกฟรีก็คือ ประชารัฐของรัฐบาลเผด็จการ คสช.นี่แหละ ที่แจกเงินคนจนครั้งแรกคนละ 1,500-3,000 บาท แล้วก็มาแจกผ่านบัตรคนจน 12 ล้านคนอยู่ในทุกวันนี้ ที่แจกแล้วไม่เกิดการผลิตเหมือนที่เวเนซุเอลา

องค์ประกอบของประเทศเรา หากการบริหาร การปกครองยังคงเดินไปแบบนี้ และมีโซ่ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีล่ามประเทศไว้แบบนี้ต่อไป

ภาพคนไทยอพยพไปพึ่งประเทศข้างเคียง เหมือนเวเนซุเอลาอพยพไปอาศัยบราซิลในตอนนี้อาจจะเกิดขึ้นได้

แต่ไม่รู้เพื่อนบ้านเขาจะต้อนรับไหม เพราะกับเพื่อนบ้านก็ฝังหัวคนไทยด้วยประวัติศาสตร์เกลียดชัง จนไปดูถูก ไปเหยียดเพื่อนบ้านเขาไปทั่ว”

มิตรสหายท่านหนึ่ง

291 Nameless Fanboi Posted ID:AxidaocFUo

>>290 ครึ่งแรกดีนะ แต่ครึ่งหลังไม่ไหว

292 Nameless Fanboi Posted ID:+7PTSrgpGF

>>290 มิตรสหายมึงน่าจะโยงมาแซะประเทศตัวเองก็ช่วยแม่นๆหน่อย

ความชิบหายเวเนญเริ่มตั้งแต่ นโยบายประชานิยมของซาเวช ที่ทำให้ชนะเลือกตั้งถล่มทลาย
พอซาเวชตายก็มีทายาทนอมินีสืบทอดต่อ

กองทุนหมู่บ้านกู้ไปซื้อโทรศัพท์ มอไซต์มาแว้นท์ ใช้โครงการให้พวกตัวเอง
จำนำข้าวก็โกงกันชิบหายเอาข้าวขายไปแล้วมาเวียนขายซ้ำแดกเรื่อยๆ
แทปเลตเจ๊งเละเทะให้เด็กใช้เป็นหนูทดลองจนเป็นพวกสมาธิสั้นกันเพียบ

ส่วนตัวใหญ่ๆในเวเนซุเอล่า ชิงแลกเงินหอบหนีไปอยู่เมืองนอกกันหมดแล้ว

293 Nameless Fanboi Posted ID:xSRvURH3si

>>278 เหอะ ไม่มียา ไม่มีปุ๋ย ไม่มีเชื้อเพลิง

ก็อาจรอดได้แหละ แต่คนต้องหายไปซักครึ่งค่อนประเทศ

294 Nameless Fanboi Posted ID:AxidaocFUo

>>293 ยา ปุ๋ย เชื้อเพลิง ไทยผลิตเองได้หมดนะ แต่จำนวนไม่พอแค่นั้นละ แต่ถ้าเทียบกับเวเนที่ถึงขั้นไม่มีกิน ไทยยังไงก็ดีกว่าจริงๆ

295 Nameless Fanboi Posted ID:xSRvURH3si

"I hate the gooks. I will hate them as long as I live." - John McCain

296 Nameless Fanboi Posted ID:tX6wY7R6M9

พลวัตทางสังคมการเมืองของประเทศฝรั่งเศสนั้นมีมาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน ปลายเดือนมิถุนายน 2561 รัฐสภาของที่นั่นจุดประเด็นสำคัญสะเทือนไปทั่วโลกอีกครั้ง เมื่อมีมติให้ถอนคำว่า ‘เชื้อชาติ’ (race) ออกจากกฎหมายรัฐธรรมนูญ และเปลี่ยนมาใช้คำว่า ‘เพศภาวะ’ (gender) แทนที่คำเดิม

บนถ้อยสันนิษฐานของหลายฝ่ายว่า การเปลี่ยนแปลงคำศัพท์คำนี้คงเป็นจุดเริ่มต้นครั้งใหญ่ต่อการขจัดวิธีคิดเรื่องแบ่งแยกเชื้อชาติ พฤติกรรมดูถูกเหยียดหยาม รวมไปถึงการเลือกปฏิบัติที่ไม่เท่าเทียมในทุกกรณีของสังคมฝรั่งเศส การถอดคำว่า ‘เชื้อชาติ’ ออกจากรัฐธรรมนูญครั้งนี้ คือการพร้อมสดับเสียงเพื่อนมนุษย์ ผู้ที่ครั้งหนึ่งเคยถูกประทับตราแล้วว่า ‘เป็นคนอื่น’

โดยรัฐสภาฝรั่งเศสเชื่อว่า การแบ่งแยกคนผิวขาว คนผิวดำ คนเอเชีย คนอาหรับ ไม่มีอยู่ในประเทศของพวกเขา เพราะแนวความคิดเรื่องเชื้อชาติในทวีปยุโรปนั้น ล้วนได้รับรับอิทธิพลมาจากแนวคิดของนาซีเยอรมันแทบทั้งสิ้น

เมื่อคำว่าเชื้อชาติกำลังถูกลบเลือนไป ย่อมทิ้งคำถามคาใจมากมายเป็นแน่ ข้ามจากประเทศที่รุ่มรวยทางศิลปะและเป็นต้นกำเนิดขนมปังบาแก็ต มายังอีกฟากฝั่งหนึ่งของโลก ประเทศที่ผู้นำชอบบ่นว่าตนทำงานหนัก และผู้คนนิยมถามกันเองว่า “คนไทยหรือเปล่า” แนวคิดทำนองนี้ยังเต็มไปด้วยความดุดัน เข้มข้น คนจำนวนไม่น้อยรู้สึกหวาดหวั่น ระคนกริ่งเกรง ข้อถกเถียงแบบนี้ถูกวางลงบนโต๊ะเมื่อใด วงแตกเมื่อนั้น

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

297 Nameless Fanboi Posted ID:E/Bb.Yq2Tv

>>296 ปัญญาอ่อน​ ยังไงๆก็ต้องแบ่งเชื้อชาติ​ เอาให้หยาบที่สุดก็ขาว​ ดำ​ น้ำตาล​ เหลือง​ ของมันต้องมี​ เวลาเกิดคดี​ ตำรวจจะได้ตีวงแคบตามจับคนร้ายได้ถูก​ ว่าแม่งผิวสีอะไร​ เพศอะไร​

298 Nameless Fanboi Posted ID:QICJEfAS9J

>>296
พอดีทีมแชมป์โลกแม่งแอฟริกันเกินครึ่งทีม
เอมบัปเป้แม่งก็ลูก Refugee ยอมๆกันไป

299 Nameless Fanboi Posted ID:1gnDcWT0Bh

คนดำตอนนี้ยังจนอยู่ ต่อไปถ้าเป็นรุ่นที่สามรุ่นปู่กับรุ่นพ่อสร้างตัวมาได้ในระดับนึง เกิดมามีฐานะคราวนี้ได้เปรียบชาวบ้านเลย ทั้งฐานะทางบ้าน ทั้งอานาโตมี่ ควยก็ยาว

300 Nameless Fanboi Posted ID:.JVf/79E9x

>>296 "โดยรัฐสภาฝรั่งเศสเชื่อว่า การแบ่งแยกคนผิวขาว คนผิวดำ คนเอเชีย คนอาหรับ ไม่มีอยู่ในประเทศของพวกเขา เพราะแนวความคิดเรื่องเชื้อชาติในทวีปยุโรปนั้น ล้วนได้รับรับอิทธิพลมาจากแนวคิดของนาซีเยอรมันแทบทั้งสิ้น"

ถ้ามิตรสหายไม่ตู่ประโยคนี้ขึ้นมาเอง สภาฝรั่งเศสก็โง่ชิบหาย

ไม่รู้ประวัติศาสตร์แถวบ้านตัวเองว่าเมื่อก่อนแนวคิดเรื่องเชื้อชาติได้รับความนิยมแพร่หลายในยุโรปแบบที่เป็นเรื่องปกติ ไอ้แนวคิดEugenicนี่ก็คนอังกฤษคิด

รู้ว่ามีhate bonerกับนาซี แต่ใช้หัวบ้างเหอะ

301 Nameless Fanboi Posted ID:Kvy4u6lnel

>>300 ให้อภัยพวกแม่งเหอะ เจอidentity politicsชกใต้เข็มขัดอยู่ทำอะไรเลยออกมาดูโง่ๆ พอใกล้สิ้นชาติแล้วเดี๋ยวก็รู้ตัวเองแหละ

302 Nameless Fanboi Posted ID:QICJEfAS9J

>>301
ฝรั่งเศษโดนนาซีฆ่าไปเยอะ เมืองก็ชิบหายหมด
ถ้าไม่ได้ต่างด้าวมาอยู่เป็นแรงงานให้สิ้นชาติไปแล้วเหมือนกันว่ะ

303 Nameless Fanboi Posted ID:VY9iMbEzCr

คนดำในฝรั่งเศสนี่ส่วนมากเป็นคนจนแบบในอเมริการึเปล่าวะ

304 Nameless Fanboi Posted ID:IDZq5WHszj

>>302 สมัยนั้นฝรั่งเศสรอดได้เพราะแผนมาแชลกับ EEC วะ ไม่เกี่ยวกับแรงงานคนดำหรือมุสซี่เลย

305 Nameless Fanboi Posted ID:92ujNiv.jG

ตอนนาซีบุกยึดฝรั่งเศสตอนนั้นมีคนดำอยู่ในฝรั่งเศสไหม มันพูดถึงคนดำบ้างไหมวะ ทีพวกยิวยังส่งไปค่ายกันเยอะเลยนี่หว่า

306 Nameless Fanboi Posted ID:3.fcuirUP1

>>305 ไล่ฆ่ายิวแล้วมันไปเกี่ยวกับคนดำยังไงวะ

307 Nameless Fanboi Posted ID:92ujNiv.jG

กูสงสัยไงว่ามีกรณีนาซีทำระยำกับคนดำด้วยไหม

308 Nameless Fanboi Posted ID:1kLtXwnRIe

เพื่อนเป็นข้าราชการ บอกว่ากระทรวงฯ ออกกฎการลดใช้กระดาษ
...แล้วก็ต้องทำเปเปอร์รายงานการลดใช้กระดาษ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

309 Nameless Fanboi Posted ID:YAsQdQAK8S

>>307 ถ้าเข้าใจไม่ผิด ผิวสีไม่ได้ถูกจัดอยู่ในกลุ่มต้องถูกกวาดล้างเหมือนยิว
ส่วนมากที่โดนกวาดต้อนไปคือเชลยสงครามเป็นหลัก แต่ถูกปฏิบัติแย่กว่านักโทษผิวขาวเพราะถือว่าเป็นพวกชนชั้นต่ำกว่าอารยันน่ะ

310 Nameless Fanboi Posted ID:tKiRRi9Snv

อาการหนึ่งของคนไข้ที่เป็นนิ่วอุดตันในท่อไตคือมักจะทำให้คนไข้ปวดจุกท้องปวดหลังเรื้อรัง บ่อยครั้งถ้าไม่ได้รักษาหรือว่าปล่อยทิ้งไว้นานๆ ก็จะทำให้ไตบวม การทำงานของไตแย่ลง มีการติดเชื้อหรืออาจเป็นหนองในกรวยไต มีไข้เป็นๆ หายๆ เรื้อรัง...
.
คนไข้หลายๆ คนก็เข้าใจว่าตนเองปวดเมื่อยตัวจากกล้ามเนื้ออักเสบ ก็พยายามหาซื้อยาลดปวดมาทาน เมื่อไม่ดีขึ้นก็เริ่มหายาต้มยาหม้อมาทาน พร้อมกับการนวดร่วมกันไป... แต่รักษาเท่าไหร่อาการปวดก็ไม่หายไปสักที
.
...สุดท้ายเลยเริ่มนึกถึงเรื่องทางไสยศาสตร์ เริ่มคิดว่าตนเองอาจจะโดนเล่นของ โดนญิน/ชัยตอน (ซาตาน) ทำร้าย, เพราะท้องก็ปวด ไข้ก็มี อาเจียน/กินไม่ได้ เบื่ออาหาร แถมบางครั้งก็หนาวสั่นสะท้านทั้งตัว อาการเหมือนคนโดนผีเข้า (ซึ่งการไข้หนาวสั่น - fever with chill เป็นอาการหนึ่งของโรคกรวยไตอักเสบ)
.
เมื่อคิดว่าเป็นเรื่อง "การโดนของ" คนไข้หรือญาติๆ ก็เลยเริ่มมองหาเครื่องรางของขลัง (ในพื้นที่ 3 จว. ก็จะเรียก "อาซีมัต")... ที่น่าเศร้าใจกว่านั้น คนไข้บางส่วนก็ใช้อาซีมัตและกระบวนการทางไสยศาสตร์อยู่หลายวัน จนคนไข้ที่กำลังติดเชื้อในกรวยไต ไข้หนาวสั่น ก็เริ่มอาการแย่ลงจากภาวะติดเชื้อเข้ากระแสเลือด และช็อค (septic shock) ตามมา... (ถ้าไม่รีบให้การรักษาที่ถูกต้องหลังจากนี้ คนไข้ส่วนใหญ่จะเสียชีวิต!)
.
คนไข้อีกบางส่วน (ที่ยังสวมใส่อาซีมัตไว้ตลอด) ที่อาการอาจจะยังไม่รุนแรงมากนัก และมารักษาที่ รพ. หรือแม้กระทั่งคนไข้บางคนที่หลังจากทำการรักษาเรื่องติดเชื้อดีขึ้นแล้วและทำการผ่าตัดเอาก้อนนิ่วที่อุดท่อไตออก จนอาการหายดี... สุดท้ายก่อนจะกลับบ้าน พอหมอบอกว่า "อาการดีขึ้นแล้ว เอาอาซีมัตออกได้หรือยัง?"...
.
...คนไข้บางคนก็ตอบกลับมาว่า...
"ตะปอลาบอมอ, มีเตาะปากาดูลู... ตาโก๊ะยาดีมูลาลาฆี".

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

311 Nameless Fanboi Posted ID:bzHFAdg/97

ทางเข้าออก BTS นี่มีแยกบัตรด้วยนะ งงกันไปหมด ถามว่าป้ายบอกอยู่ตรงไหน บอกเลยอยู่ตรงทางออก สนุกกันไปเลย ใครคิดนะ
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

312 Nameless Fanboi Posted ID:aNoxgUaDTP

>>309 กวาดล้างหมด คนพิการ ยิปซี คนดำ ฯลฯ ทุกพวกที่นาซีเห็นว่าเป็นมนุษย์ที่ด้อยกว่าโดนกำจัดหมด แต่เน้นยิวมากกว่า

313 Nameless Fanboi Posted ID:8+e6x8IrZ9

รู้สึกว่าอ้วนขึ้นจนเสื้อฟิตแล้ว ทางแก้มี 2 ทาง

1. ออกกำลังกายและคุมอาหารอย่างจริงจังซึ่งน่าจะใช้เวลา 1 เดือน
2. ออกไปซื้อเสื้อใหม่ ใช้เวลาครึ่งวัน

น่าจะรู้กันอยู่ว่าคนฉลาดๆ เขาจะเลือกทางไหน

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

314 Nameless Fanboi Posted ID:UXficAf6Tk

กุแค่รู้สึกขยะแขยง mindset ของพวกมึงเวลาอยู่หลังคีย์บอร์ดแล้วน่าขยะแขยงขนาดไหน ไม่ให้เกียรติเพศหญิงขนาดไหน บางคนอาจจะแค่คิดว่าเล่นๆ ขำๆ สุดท้ายก็ให้ทำแค่ปล่อยเบลอ
ถ้าพวกมึงแค่คิดว่ามีเงินสนับสนุนแล้วจะทำอะไรยังไงก็ได้ กุก็สงสารคนร่วมด้อมพวกมึงแล้วว่ะ ที่ต้องมาเจออะไรอย่างนี้

315 Nameless Fanboi Posted ID:4.gLXDjE3W

"มีตัวอย่างและเรื่องเล่ามากมายเกี่ยวกับ นักกีฬาระดับโลก ที่มาจากความยากจน ที่ถูกนำเสนอผ่านสื่อ ตั้งแต่อดีตนถึงปัจจุบัน…

เนื้อหาเหล่านี้ บางครั้งก็สามารถสร้างแรงบันดาลใจ ชวนฝันให้กับคนรุ่นต่อไป ให้เกิดความรู้สึกว่า ตัวเองมีต้นทุนสูงกว่าคนกีฬาคนนั้นๆ และสามารถประสบความสำเร็จได้เหมือนกัน หากลุกขึ้นมาทำ

เป็นคอนเทนต์ลักษณะเดียวกับ เรื่องราวของมหาเศรษฐี ที่เคยเป็นคนยากจนมาก่อน ย่อมได้รับความสนใจจากผู้รับสารมากกว่า เรื่องราวของมหาเศรษฐี ที่บริหารเก่ง สืบทอดกิจการธุรกิจจากบรรพบุรุษ ถ้าอธิบายในมุมของ สังคมศาสตร์ ไอเดียที่ว่ามานั้นเป็น แนวคิดแบบ เสรีนิยมใหม่ (Neoliberalism)

ที่ต้องการสร้างมายาคติให้ คนเข้ามาอยู่ในระบบอุตสาหกรรม ผ่านความเชื่อที่ว่า ทุกๆคนสามารถรวยได้ โลกนี้มีโอกาสให้กับทุกๆคน โดยเลือกที่จะหยิบยกเรื่องราวที่มีโอกาสเกิดขึ้นน้อยมากๆ มาพูดถึงซ้ำๆ มากกว่าเรื่องของ คนจำนวนมากที่ตกหล่น ล้มเหลว หายไประหว่างทาง"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

316 Nameless Fanboi Posted ID:8tJunMQJCL

>>315 แบบนี้ ขอหวยบ้านเราก็นับเป็น Neoliberalism สิว่ะ
ขูดต้นไม้ จุดธูปไหว้ซาก ขอเลขเด็ดกันไม่รู้กี่ร้อยคน ถูกกัน 2-3 คน ที่เหลือโดนแดกเรียบก็เอาไปลือกันแล้วว่า ศักดิ์สิทธิ์ๆ

317 Nameless Fanboi Posted ID:eObTe740e+

-- การอ่านหนังสือนี่มันกลายเป็นลัทธิไปตั้งแต่เมื่อไหร่ แฟนฉันเป็นนักเขียน เขาชอบพูดว่า "ถ้าโลกนี้ไม่มีใครอ่านหนังสือเลย มนุษย์เราคงตกหลุมรักกันยากขึ้น" โหย โคตรลึกซึ้ง หนุ่มสาวกรี๊ดกร๊าด หนังสือพิมพ์เอาไปพาดหัว เสียดาย ฉันไม่เคยได้ยินคำพูดนี้มาก่อน ไม่งั้นชาตินี้ฉันคงไม่แตะต้องหนังสือเลย เพื่อความปลอดภัย ฉันจะไม่แก้ผ้าด้วย จะได้ไม่ต้องมาแดกยากล่อมประสาทกลั้วแอลกอฮอล์ตอนตีสี่แบบนี้ "ถ้าโลกนี้ไม่มีใครแก้ผ้าเลย มนุษย์เราคงตกหลุมรักกันยากขึ้น" ทำไมฟังดูไม่ลึกซึ้งเลยวะ --

#มิตรสหาย Dorothy Parker

318 Nameless Fanboi Posted ID:QF4O/bY/tv

ผิดหวัง แนนโน๊ะ

319 Nameless Fanboi Posted ID:+Go4CSgvWD

" ในsocial network การด่าประยุทธ์นี่น่าจะปลอดภัยกว่าด่าเฌอปราง"

- มิตรสหายท่านหนึ่ง

320 Nameless Fanboi Posted ID:uqlhAqf4J8

"เออ !! มื้อวานอยู่ดีๆกะมีคนโทรมาหาผม น่าจะเป็นพวกขายประกันภัยรถยนต์นี่แหละจากนั้นเค้าก้อถามผม..

ประกัน : เออพี่คะพี่ขับรถอยู่รึป่าวคะ

ผม : ป่าวหรอกมีพนักงานขับให้คับ

ประกัน : ไม่ทราบว่ารถคุณ ได้ทำประกันหรือยังคะ

ผม : ( เปลี่ยนจากพี่เป็นคุณละ ) คิดในใจ

ประกัน : แล้วรถคุณราคาเท่าไรคะ

ผม : ประมาณ 6 ล้าน น่าจะทำแล้วหล่ะ

ประกัน : เออท่านคะ ไม่ทราบว่ารถที่ท่านนั่งเป็นรถอะไรคะ

( นั่นพอรู้เรานั่งรถราคา 6 ล้านเปลี่ยนจากคุณเป็นท่านทันที ) คิดในใจ

ผม : นครชัยแอร์ครับ แม่งวางหูใส่ผมดังปังเลย ผมก็งง เอ้านี้กุผิดหรอ ไรของมันวะ ??"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

321 Nameless Fanboi Posted ID:8CHuNiRIUb

ข่าวล่าสุดเรื่อง #ยุบภาควิชา โดยประชาไทครับ
.
https://prachatai.com/journal/2018/08/78474
.
หลังจากที่เงียบไปนาน เพราะรอให้มหาวิทยาลัยมีระเบียบออกมาเป็นลายลักษณ์อักษร ตอนนี้ความคืบหน้าล่าสุดคือ มหาวิทยาลัยได้แก้ระเบียบประกาศที่ออกมาให้ "หน่วยงาน" ที่มีสถานะเป็นหน่วยงานก่อนการออกประกาศ ให้คงสถานะหน่วยงานได้ตามเดิมหรือจะเปลี่ยนตามระเบียบนี้ก็ได้ ส่วนหน่วยงานที่จะตั้งใหม่ ให้เปลี่ยนไปตามระเบียบนี้
.
นั่นแปลว่าภาควิชา "ทั้งหมด"ในมหาวิทยาลัย ยังคงสามารถมีสถานะเป็นหน่วยงานได้นั่นเอง
.
เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว แต่ละภาควิชาในคณะของผมได้ส่งแบบฟอร์ม เพื่อขอยืนยันสภาพเป็นภาควิชาหรือปรับเป็นสาขา ปรากฏว่า แม้ภาควิชาปรัชญาจะเป็นภาควิชาเดียวที่ต่อสู้เรียกร้องในเวลานั้นให้มหาวิทยาลัยทบทวน(ซึ่งมีหลายภาควิชา ในคณะอื่นๆที่ลุกขึ้นมาต่อสู้ด้วยในภายหลังและให้กำลังใจ ต้องขอบคุณไว้ ณ ที่นี้) แต่ปรากฏว่า ภาควิชาเกือบทั้งหมดในคณะอักษรศาสตร์ ทั้งที่เคยแสดงความเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยต่างยืนยันเป็นภาควิชาเกือบทั้งนั้น ซึ่งเราก็ไม่ได้ว่าอะไร แม้เขาจะไม่ขอบคุณสักคำก็ตาม
.
อนึ่งก่อนที่เรื่องนี้จะจบลง โดยเหลือเพียงขั้นตอนรอการอนุมัติจากทางมหาวิทยาลัย ซึ่งผมและอาจารย์พิพัฒน์คงจะได้ปลดป้าย "สาขา" ออกจากภาควิชาอย่างเป็นทางการเสียที
.
ผมขอบันทึกอีกสักนิด แม้จะดูเหมือนเป็นความขัดแย้งภายใน แต่ผมคิดว่า เรื่องนี้เป็นเรื่อง "สามัญสำนึก" และคุณธรรม(ที่ชอบพูดกันนักหนา)ที่ผมมีความอึดอัดคับข้องใจมาตลอด คือมีบางภาควิชาในคณะอักษรศาสตร์ ซึ่งยืนยันหนักเน้นว่าการลดสถานะเป็นสาขานั้น เป็น "เสียสละ"ช่วยเหลือคณะและได้ไตร่ตรองมาดีแล้ว โดยภาควิชาดังกล่าวได้โต้แย้งผมอย่างขันแข็งในที่ประชุม แต่การณ์เป็นว่า ในอาทิตย์ที่แล้ว ภาควิชานั้นได้ส่งเรื่องขอเป็น "ภาควิชา"เช่นเดียวกับภาควิชาปรัชญา ผมได้รับการสอนจากผู้ใหญ่มาว่า อะไรที่เราคิดดีแล้ว เราควรยืนยันตามนั้น และอะไรที่เราไม่เห็นด้วย เราก็ไม่ควรรับผลประโยชน์จากสิ่งที่เราไม่เห็นด้วย แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญ เพราะคนเราก็อาจเปลี่ยนใจได้ แต่มันก็พิสูจน์ว่า การเป็นภาควิชา แตกต่างจากการเป็นสาขาแน่นอน มิฉะนั้นท่านจะเลือกเป็นภาควิชาทำไม ทำไมจึงไม่ยืนยันเป้นสาขาตามเดิม
.
อีกทั้งมีอาจารย์ในภาควิชานั้นคนหนึ่ง ในช่วงแรกของเรื่องนี้ ได้แสดงความเห็นในทางลบต่อการเรียกร้องของผมและอาจารย์พิพัฒน์ โดย ใช้คำเรียกภาควิชาปรัชญาว่าเป็น "บ้านต้นเพลิง" ทำนองว่า ภาควิชานี้ทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้น ผมคิดว่า หากท่านมีสามัญสำนึก ว่า ไอ้ "บ้านต้นเพลิง"ที่ท่านเรียก หรือความวุ่นวายทั้งหลาย ได้ให้ประโยชน์แก่หน่วยงานที่ท่านสังกัดเพียงใด ท่านควรขอโทษต่อภาควิชาของผม มิใช่ตัวผมหรืออาจารย์พิพัฒน์ แต่หากท่านจะไม่ขอโทษ ผมก็ไม่ได้ว่าหรือจะไปเรียกร้องอะไร ขอแค่ท่าน "รู้สึก" อะไรบ้างโดยเฉพาะเมื่อท่านเห็นป้าย "ภาควิชา" ของท่านเอง ไม่รู้ผมขอมากไปไหม
.
เมื่อภาควิชาได้รับการอนุมัติจัดตั้งอย่างเป็นทางการแล้ว ผมจะได้มาแจ้งด้วยความชื่นชมยินดีต่อไป ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้กำลังใจและติดตามมาโดยตลอดนะครับ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

322 Nameless Fanboi Posted ID:6bUT.hWjt7

วันนี้บังเอิญได้ไปเจอเพื่อนสมัยเรียนมหาลัย ตอนอยู่มหาลัยปกติเห็นมันชอบไปร่วมกิจกรรมช่วยชนกลุ่มน้อย สนับสนุนสิทธิคนชายขอบ เลยแย็บถามมันไปว่าคิดยังไงกับเรื่องที่พม่าละเมิดหลักสิทธิมนุษยชน ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์โรฮิงญา เพื่อนคนนั้นหัวเราะ บอกว่าสิทธิมนุษยชนมีไว้ปกป้องมนุษย์เท่านั้น มุสลิมไม่เกี่ยว

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

323 Nameless Fanboi Posted ID:BKc4Vv0/W6

>>322
In 1967, Polish mercenary Rafal Ganowicz was asked what it felt like to take a human life. He replied: "I don't know, I've only ever killed communists"

324 Nameless Fanboi Posted ID:ghEhg2llnm

>>322 >>323 เจอคอมมี่กับมุซซี่ต้องตีใครก่อน

325 Nameless Fanboi Posted ID:78FvbJgja4

ตีเจ้าหนี้ก่อน

326 Nameless Fanboi Posted ID:UMNX.3huUQ

>>324 ตียิวก่อน มันเป็นต้นตอความชั่วร้ายทุกอย่าง

327 Nameless Fanboi Posted ID:f7fJXKsYZ5

#บ่น คือรู้สึกว่าประเทศไทยเรามีเรื่องให้รู้สึกว่ามันตกต่ำหรือดักดานอยู่บ่อยมาก แต่ก็ไม่คิดว่าทุกวันที่อ่านข่าว มันจะ “Break new low” ได้ทุกวันอ่ะ...

CP รุกคืบทุกด้าน => ทุกคนเฉย ทั้ง ๆ ที่สมัยก่อนยังด่ากันแหลก

เขมรเหยียดไทย => นี่มันความโสมมร่วมในภูมิภาค ตอนไทยเราจะเบี่ยงประเด็นปลุกระดม เราแทบจะเหยียดรอบด้านไปทั้งพม่า ลาว เขมร เวียดนาม เหยียดไปหมดทุกด้าน เป็นความโสมมและต่ำตมอันเท่าเทียมกันดั่งวัฒนธรรมร่วมในภูมิภาค แต่ต่างพยายามหาอะไรดี ๆ มายกเป็นของตนเสียหมด

ไม่รับรอง eSports => เอาที่สบายใจ ตราบเท่าที่ทัศนคติ “เกมสร้างความรุนแรง” และ “เกมมันของเด็กเล่น” (คิดเอาละกันว่าชุดความคิดสองอันนี้มันขัดกันขนาดไหน) ยังคงฝังในกะโหลกกลวง ๆ ของผู้มีอำนาจ ให้ตายก็ไม่ได้ผ่านหรอก

อนุมัติงบ 3 ล้านล้าน => สมัยก่อน ๆ 2 ล้านล้าน บอกเป็นหนี้ยังลูกบวช ถ้าโงหัวมาดูปริมาณความฉิบหายที่วางไว้ตอนนี้นี่คาดว่าเหลนบวชแล้วอาจจะยังไม่หมด แต่เสือกอมนกหวีดและเลิกสนใจการเมือง

เพิ่มงบยาสูบ => แต่รณรงค์สุขภาพ อืม เยี่ยม

รับรางวัลบัตรทอง => นั่นหน้าหรือผนังเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์

เชิญดารามารายการขยะ => การที่คอนเท้นขยะจนต้องเอาดารามาดึงเรตติ้งเป็นเรื่องปกติของ Propaganda น่ะ ไม่ต้องไปว่าดาราอะไรมากหรอก สภาพนี้นอกจากดาราสลิ่มที่จะหน้าบานแล้ว คนอื่นก็คงไม่กล้าออกตัวหรอก งานของดารามันผูกกับภาพลักษณ์ อะไรก็ช่างที่มันทำลายฐานลูกค้าส่วนใหญ่ เขาคงไม่ทำหรอก

เด็กโดนซ้อมตายในค่ายทหาร => ของเก่าที่ Hit New Low ทุกครั้งที่มีข่าว “แต่เรายังเชื่อใจทหาร” ทั้ง ๆ ที่ระบบโสมมเบอร์นี้ตั้งแต่ต้นเนี่ยนะ ไม่ต้องไปคิดเลยว่าข้างบนจะฟอนเฟะขนาดไหน

ให้ความรู้สึกแบบเอาที่สบายใจเลย ตอนมันล้มระเนระนาด ตรูจะอยู่ดูความฉิบหายไปด้วยกันนี่แหละ แล้วจะคอยกรอกหูมันทุกวัน กรอกมันเข้าไปจนวันที่มันตายเพราะความเหี้ยที่ทำเอาไว้น่ะ...

อึดอัด บอกเลย...
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

328 Nameless Fanboi Posted ID:Np9LPGIykM

>>327 3 ล้านๆ มันงบประมาณแผ่นดิน ไม่ใช่เงินกู้แบบยิ่งลักษณ์

โรงงานยาสูบคือย้ายที่ ไม่ได้เพิ่มงบ

E-Sport 2 หน่วยงานไม่คุยกันเอง หน่วยนึงสนับสนุน อีกหน่วยนึงไม่

กูก็สิ้นหวังสิ้นหวังกับมิตรสหายท่านนี้เหมือนกัน

329 Nameless Fanboi Posted ID:O0RpvWn7Yx

CP รุกคืบทุกด้าน => ช่างแม่ง

เขมรเหยียดไทย => ช่างแม่ง

ไม่รับรอง eSports => ช่างแม่ง

อนุมัติงบ 3 ล้านล้าน => ช่างแม่ง

เพิ่มงบยาสูบ => ช่างแม่ง

รับรางวัลบัตรทอง => ช่างแม่ง

เชิญดารามารายการขยะ => ช่างแม่ง

เด็กโดนซ้อมตายในค่ายทหาร => ช่างแม่ง

##มิตรสหายท่านสอง

330 Nameless Fanboi Posted ID:muouKepgdu

ขนาดกูตามดูTIทุกปี ยังคิดเลยว่าE-sports มันอยู่ในมือบริษัท อยากให้ใครชนะหรือแพ้แค่ออกแพทช์มาก็เรียบร้อยแล้ว มันจะกลายเป็นกีฬามาตรฐานโลกได้ไงวะ

TI3 Alliance ชนะรวดเพราะทีมแม่งไม่ได้สู้กับทีมฝั่งตรงข้าม ทีมแม่งสู้กับgame mechanic
หลังTI3 ออกแพทช์มา แพทช์เนิร์ฟฮีโร่ที่แม่งเล่นเก่ง เนิร์ฟวิธีการเล่น ขี้ใส่Allianceจนแม่งกลายเป็นทีมชั้นสองอยู่จนถึงตอนนี้เนี่ย

ปล่อยให้อีสปอร์ตมันจัดกันในวงบริษัท-ผู้เล่นพอแล้วเหอะ ไม่ต้องไหลไปสังคมภายนอกหรอก

331 Nameless Fanboi Posted ID:E1iSF7Hx0m

>>330 ไอ้จ่าเทียบด้วยนะว่าหมากรุกไม่ใช่กีฬาเหรอ ก็ไม่ใช่นะสิ โคตรเสล่อ

332 Nameless Fanboi Posted ID:g1Ef1R1j2M

กูมองหมากรุก เป็น เกมชนิดหนึ่ง
มีจัดแข่งการ์ด กูก็มอง เป็น เกมชนิดหนึ่ง

ไอ้ esport ก็แค่ศัพท์ทางการตลาดของนายทุนไว้ล่อคนวะ

333 Nameless Fanboi Posted ID:xnb3saze2S

Esport มันโกงยังไงวะ ในเมื่อกติกาอาจไม่ยุติธรรม ก็เลยจัดให้มีหลายๆแมตช์ ก็ถูกแล้วหนิ งงหวะ

334 Nameless Fanboi Posted ID:HDFzYZJnZv

กูไม่ได้มีปัญหาอะไรกับ esport แต่ยังมีบางข้อที่กูกังวลอยู่ เพราะของพวกนี้มันมีความแตกต่างอย่างชัดเจนกับกีฬาทุกประเภทที่จัดขึ้นในปัจจุบัน คือความเป็นเจ้าของในตัวกีฬา

กีฬาทุกชนิดบนโลกใบนี้ไม่มีใครเคลมว่าเป็นเจ้าของนะมึง อย่างมากก็เคลมว่าเป็นต้นตำหรับ เป็นผู้คิดค้น อะไรทำนองนี้ อย่างฟุตบอลเงี้ย จีนพยายามเคลมว่าตัวเองเตะมาก่อน อังกฤษก็บอกว่าฟุตบอลสมัยใหม่มาจากประเทศมัน แต่ไม่มีใครมาบอกเลยว่า เฮ้ย ถ้ามึงอยากเตะฟุตบอล มึงต้องจ่ายตังมาให้กูก่อนนะเว้ย มึงถึงจะเตะได้ fifa ก็แค่องค์กรหนึ่งของฟุตบอลที่คนให้การเชื่อถือ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามึงจะต้องไปขออนุญาตฟีฟ่าก่อนถึงจะเตะฟุตบอลได้

แต่เกมเนี่ยแม่งมีเจ้าของ ถามว่าถ้ามึงจะเล่น DOTA มึงสามารถเล่นเองได้โดยไม่มี blizzard ไหม ถ้ามึงอยากเล่นเค้าเตอร์ มึงเล่นได้โดยไม่ต้องมี Valve ไหม คำตอบคือไม่ได้ใช่ปะ เพราะบริษัทที่ถือสิทธิมันผูกขาด ถ้ามึงอยากเล่น มึงก็ต้องเอาเงินไปให้มัน มึงอยากจัดแข่งขัน มึงก็ต้องทำผ่านแพล็ตฟอร์มของมัน วันดีคืนดีมันอยากจะปิดเกม มันก็ปิดไป ไม่มีใครเอามาเล่นในที่แจ้งได้อีก

และกูก็สงสัยว่า ทำไมแม่งจะต้องกระเหี้ยนกระหือรือจัดให้เกมเป็นกีฬานักวะ เป็นแค่การแข่งขันธรรมดาๆ ไม่ได้เหรอ แบบแข่งขันกินชิงรางวัลอะไรงี้ กูไม่เห็นว่าจะมีใครได้ประโยชน์จากการที่เกมถูกจัดเป็นกีฬาเลยสักคน เว้นแต่บริษัทเกมที่จะหาแดกตังได้เพิ่มขึ้นอะนะ

335 Nameless Fanboi Posted ID:Q3/IV+gELG

Esport ก็แค่กลุ่มก้อนของผลประโยชน์
มันไม่เป็นกีฬาตั้งแต่บริษัทอยากเนิฟ อยากบัฟ อะไรก็ทำละ

336 Nameless Fanboi Posted ID:muouKepgdu

>>331
"อ้วนดิ้นเรื่องอีสปอร์ตโดนไม่นับเป็นกีฬาอีกละ

แบบนี้ถ้าอ้วนรู้ว่าชาติที่อ้วนเลียไข่อย่างชาวเกาะยุ่นเขาไม่นับการเล่นเกมเป็นกีฬา(ขนาดโชกิที่แม่งนับถือคนเล่นเก่งๆเป็นเซ็นเซย์กันยังไม่นับเป็นกีฬา) อ้วนจะด่าว่าล้าหลังไหมนะ

https://www.reddit.com/r/DotA2/comments/99pfwr/mara_creator_of_the_mara_cup_in_japan_is_a/e4pk2bg "

โม่งท่านนึง

337 Nameless Fanboi Posted ID:rckO7AzMDy

มึงคิดซะว่าเป็น แคทตากอรี่ใหม่ ที่ไม่ใช่กีฬาฝึกฝนร่างกายให้แข็งแรงแล้วกัน คือเป็นของแปลกใหม่บัญญัติมาให้คนแข่งกันเพื่อจะส่งเสรอมให้คนสนใจเกมส์นั้นๆแล้วกัน

ถ้ามึงคิดจะโยงกับกีฬามันก็ไม่ใช่ไง มันก็บอกอยู่ว่า esport

338 Nameless Fanboi Posted ID:dGM8lCdDfS

ทำไมต้องเป็น sport มึงเรียกว่าแข่งเกมส์จะ trigger ไหม

339 Nameless Fanboi Posted ID:o.Ijm0/p6f

>>335 อีกและ มึงเคยดูแข่งดอทแข่งCSปะวะ

340 Nameless Fanboi Posted ID:mdKYbxZ1l.

"โรคหลายบุคลิก (Dissociative Identity Disorder, DID)"
.
ในวันที่โรคซึมเศร้าและไบโพล่าร์ถูกพูดถึงและได้รับการยอมรับมากขึ้นตามเวลา แต่ความจริงยังมีโรคทางจิตอีกหลายชนิดที่เกิดขึ้นกับมนุษย์อยู่ทั่วโลก และยิ่งเรารู้จักอาการเหล่านี้มากขึ้น เราก็จะยิ่งเข้าใจมนุษย์คนอื่นมากขึ้น วันนี้เราเลยจะแอบเอาโรคนี้มาเล่าให้ฟังกัน "โรคหลายบุคลิก (DID, MPD)"
.
อาการของโรคนี้ดูหลุดออกมาจากหนัง Sci-Fi มาก ชื่อตรงตามโรคเลย ผู้ป่วยโรคนี้จะ "มีหลายตัวตนอยู่ภายในร่างเดียวกัน" และแต่ละตัวตนนั้นแยกขาดจากกันโดยสิ้นเชิง มีชื่อ เพศ รูปร่างเป็นของตัวเอง มีความทรงจำแยกจากกัน
.
ในรายละเอียด จริง ๆ แล้วผู้ป่วยจะมีบุคลิกหลักซึ่งเป็นเจ้าของร่างที่แท้จริงอยู่เรียกว่า Host และมีตัวตนอื่น ๆ อีกอย่างน้อย 1 ตัวตน (แต่โดยปกติจะมีเป็นสิบ) และเราเรียกตัวตนเหล่านั้นว่า Alter
.
โดยแต่ละช่วงเวลา จะมีเพียง 1 ตัวตนที่ครอบครองร่างอยู่ และเมื่อร่างเจอสถานการณ์อะไรบางอย่างที่เป็นตัวกระตุ้น สมองจะเกิดการ "Switch" กลายเป็นตัวตนอื่นภายในไม่กี่วินาที และคน ๆ นั้นจะเปลี่ยนไปกลายเป็นอีกคนไปเลย ทั้งนิสัย การพูด สำเนียง ท่าเดิน แม้กระทั่งความทรงจำ ฯลฯ
.
ในแง่ความทรงจำ Host จะไม่มีความทรงจำในสิ่งที่ Alter ทำเลย แต่ Alter จะมีความทรงจำของตัวตนหลัก (Host) อยู่ ซึ่งเงื่อนไขตรงนี้ทำให้คนป่วยโรคนี้อาจจะทำอะไรแปลก ๆ ไปโดยไม่รู้ตัว เช่น อยู่ดี ๆ ห้องครัวก็สะอาดเอี่ยมทั้ง ๆ อยู่คนเดียวและตัวเองก็ไม่ได้ทำความสะอาด ซึ่งก็พบในภายหลังว่า Alter เป็นคนทำ (ดีจัง)
.
แต่ในแง่ร้าย ๆ ก็มีได้เหมือนกัน เช่น Alter ไปก่ออาชญากรรม ขโมยของยันข่มขืน แต่ Host ไม่รู้เลยว่าร่างตัวเองไปทำอะไรมา ซึ่งเราพบอยู่ในหลายคดีดังเหมือนกัน
.
ถ้าอยากรู้ว่าการ Switch เป็นยังไง และความทรงจำทำงานยังไง อันนี้มีผู้ป่วย DID อัดวีดีโอลง YouTube ให้ดูอยู่หลายคลิปเหมือนกัน แต่อันที่ชัดและเข้าใจง่ายคืออันนี้ https://www.youtube.com/watch?v=YRYz-uN_Rn4 นาทีที่ 14:20 ลองกดดู ในวีดีโอ Alter เป็นคนเริ่มอัดวีดีโอเพื่อเล่าเรื่องของตัวตนตัวเอง แล้วพอผ่านไป 15 นาที Host (Chloe) ก็ถูก Switch คืนพร้อมกับสภาพงง ๆ ว่า เฮ้ย ใครถ่ายวีดีโอ จำอะไรไม่ได้เลย เลยต้องไปกรอวีดีโอดูว่าพูดอะไรไปบ้าง มหัศจรรย์ดี
.
สำหรับต้นเหตุของอาการนี้ถึงจะยังไม่เป็นที่แน่ชัด แต่พบว่ามีการเชื่อมต่อกับ "ประสบการณ์อันเลวร้ายในวัยเยาว์" เช่น หลายคนถูกพ่อแม่ทำร้ายแต่เด็ก บางคนถูกข่มขืนตอนอายุไม่กี่ขวบ และความเลวร้ายนั้นทำให้สมองเกิดการแบ่งแยกตัวตนและความทรงจำออกจากกันเพื่อป้องกันตัว Host ออกจากเรื่องเลวร้ายที่เคยประสบ
.
ผลที่เกิดขึ้นคือคนที่ป่วยอาการนี้มักจะสูญเสียความทรงจำในวัยเด็ก ซึ่งไม่ใช่อะไร มันไปอยู่กับ Alter และถูกขังไว้ที่ตัวตนนั้น ส่วน Host จะจำอะไรไม่ได้
.
โรคนี้เพิ่งได้รับการนิยามเมื่อไม่กี่สิบปีที่ผ่านมานี้เอง มีการถกเถียงมานานมากว่าเป็นโรคจริง ๆ หรือคน ๆ นั้นแค่แสดงตบตา จึงเกิดการพิสูจน์ Activity ทางสมอง พบว่าตอน Switch เป็นแต่ละตัวตน สมองและร่างกายมีการทำงานเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด จึงเป็นการพิสูจน์แล้วว่าโรคนี้มีอยู่จริง ที่เหลือคือต้องทำความเข้าใจ
.
ถึงแต่ละตัวตนจะมีความทรงจำแยกกัน แต่เอาเข้าจริงแล้ว ตัวตนเหล่านั้นล้วนถูกสร้างขึ้นมาจากตัว Host ทำให้จริง ๆ แล้ว Host มักจะรู้จักตัวตนของ Alter ว่าหน้าตารูปร่างนิสัยเป็นอย่างไร และเข้าไปพบและพูดคุยกันได้ในจิตใจของตัวเอง (แฟนซีมั้ย) โรคนี้รักษาได้ด้วยการสะกดจิตเพื่อรวมตัวตนทั้งหลายเข้าด้วยกัน และส่วนใหญ่จะดีขึ้นได้เองเมื่อผ่านอายุ 40 ปีไป
.
สมองเราเป็นสิ่งมหัศจรรย์ มนุษย์ยังเข้าใจสมองเพียงน้อยนิดเท่านั้น สิ่งหนึ่งที่มนุษย์ทุกคนควรตระหนักคือ เมื่อมีใครทำอะไรแปลก ๆ อย่าเพิ่งไปตัดสินอะไรเค้า อย่าเอาไม้บรรทัดที่บิดเบี้ยวของตัวเองไปวัดอะไรคนอื่นแม้แต่ครั้งเดียว เพราะจริง ๆ แล้วทุกสิ่งอาจไม่ได้เป็นอย่างที่คุณคิดเลยแม้แต่น้อย
.
YouTuber ที่เป็นโรค DID ที่เราชอบคือ Chloe ลองไปกดดูเพลิน ๆ ได้ จะได้เข้าใจโรคนี้มากขึ้นครับ https://www.youtube.com/channel/UC6kFD5xIFvWyLlytv5pTR1w

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

341 Nameless Fanboi Posted ID:4.xEQEhFNM

>>330 >>335 ไอ้ที่พวกมึงว่ามานี่วงการแข่งกีฬาปกติก็มีนะ กูนึกถึงเมื่อ 2 ปีก่อนที่เขาด่า aiba กัน

342 Nameless Fanboi Posted ID:1lX.eOfw7g

กู335 คือมองไงกันให้เป็นกีฬาวะ ที่กูจะสื่อคือมันเป็นสิ่งที่มีเจ้าของ มีสิทธิ์ผูกขาด วันดีคืนดีบริษัทขาดทุน ปิดบริษัท ปิดเกม แล้วที่คุณๆทั้งหลายนั่งเล่น นั่งฝึกกันเนี่ย จะเหลืออะไรวะ

343 Nameless Fanboi Posted ID:o86h1bCS6c

มึงมอง Ragnarok Online
เคยมีการจัดแข่งในไทย
จัดแข่งกับต่างชาติ
ยุคนั้นมีใครอวยเป็น E-sport ไหม

สุดท้าย Server ปิด lol

344 Nameless Fanboi Posted ID:qtBU3zaVg3

>>343 มันไม่ได้ปิดเพราะห่วยมันปิดเพราะความกากของบริษัท

แต่เอาจริงๆ ค่ายใหม่ก็ยังกาก แถมกากกว่าค่ายเก่า RIP

345 Nameless Fanboi Posted ID:28.6yWBhlS

ทำไมประเด็นเหมือนค้างมาจากคากิวะ แย้งด้วยแพทเทิร์นเดียวกันเลย เมื่อคืนกูโต้ประเด็นผูกขาดเนี่ยกลับไปว่า "รู้จักเซิฟเถื่อนมั้ยครับ" แล้วมันก็เงียบไป
คือเกม multiplayer ตีกันที่ตัวเกมมัน balance มาดีและมีแฟนพันธุ์แท้เล่นกันมาตั้งแต่ก่อนจะมีคำว่า e-sport จนถึงทุกวันนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของงานแข่งเกมสเกลระดับประเทศ มันมีว่ะ ทั้ง pc และ console คือแข่งแต่ละทีไม่ต้องพูดถึงเรื่องซัพพอร์ตจากทางเจ้าของลิขสิทธิ์เลยนะ เซ็ตติ้งกันเองหมด แต่ถ้าบริษัทมันยังไม่เจ๊งก็ยังต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์เวลาจัดงานแข่งอยู่ดี แต่นั่นก็อีกเรื่องนึง
ถ้ามึงจะมาถกต่อได้กูจะดีใจมาก >>342

346 Nameless Fanboi Posted ID:4d2mzHH.MD

>>345 รู้จักเซิฟเถื่อนไหมครับ ถถถถถถถถถถถ ไอ้ควาย กูไม่ใช่ 342 นะ แต่เห็นตรรกะมึงแล้วขรรม

มึงเข้าใจคำว่าเถื่อนไหม เถื่อนอะสัส แบบหลบๆ ซ่อนๆ เล่น มึงไม่สามารถจัดแข่งได้ ถ้าเจ้าของลิขสิทธิ์ไม่อนุญาต มึงจะฝึกกันไปทำไม ในเมื่อในโลกนี้ไม่มีการแข่งขันไหนให้มึงเล่น เว้นแต่แข่งกันเองในร้านเกมหน้าปากซอย (ถ้ามีไอ้บ้าหน้าไหนจัดการแข่งขันบนดิน ก็จะต้องเสี่ยงกับการโดนบริษัทที่ถือสิทธิฟ้อง) อย่าง starcraft เงี้ย บางคนฝึกกันมาร่วม 20 ปี ถ้าจู่ๆ บริษัทแม่งเกิดบ้าสั่งปิดเกมขึ้นมา ที่มึงฝึกมาทั้งหมดเนี่ยไร้ประโยชน์ไปเลยนะ

ถ้าอยากจะให้เป็นกีฬาจริง บ.เกม จะต้องเปิด free access ให้ทุกคน ไม่เคลมสิทธิเหนือตัวเกม ไม่เคลมสิทธิเหนือการแข่งขัน (จะจัดแข่งเองก็ได้ แต่ต้องไม่ปิดกั้นเจ้าภาพคนอื่น ถ้ามีคนอยากจัด) ทำได้ไหมล่ะ ถถถ

347 Nameless Fanboi Posted ID:qtBU3zaVg3

เถื่อนก็จบแล้ววะไม่มีคุณค่าให้เสวนาด้วย จะคุยไรกันอยู่บนพื้นฐานที่ควรทำดีกว่าครับ

348 Nameless Fanboi Posted ID:WveppMdNp3

>>345 เขาเงียบไปเพราะขี้เกียจเถียงกะตรรกะขาดๆของมึงรึเปล่า ไม่ได้เงียบเพราะมึงชนะ

ของเถื่อนมันจะมีLegitimacyอะไรวะ แข่งระดับโลกไม่ว่าอะไรมันต้องมีแบคใหญ่ๆมาเพื่อให้งานมันมีLegitimacy

349 Nameless Fanboi Posted ID:28.6yWBhlS

>>346-348 "คือเกม multiplayer ตีกันที่ตัวเกมมัน balance มาดีและมีแฟนพันธุ์แท้เล่นกันมาตั้งแต่ก่อนจะมีคำว่า e-sport จนถึงทุกวันนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของงานแข่งเกมสเกลระดับประเทศ มันมีว่ะ"
"มันมีว่ะ"
"มันมีว่ะ"
พวกมึงอ่านเจอคำว่าเถื่อนแล้วตอบเลยเหรอวะ - -a

350 Nameless Fanboi Posted ID:8xK2jTwscr

>>349 "มันมีว่ะ" ของมึงนี่คือเกมอะไร บอกแค่มันมี มันมี แต่ไม่เคยชี้ให้ชัด นี่มันทัวร์นาเมนต์เกมหรือผี

แต่ถึงมี ถ้ามึงไปเปิดพอร์ตโฟลิโอของโปรเพลเยอร์ไม่ว่าเกมไหน มันมีใครเอาทัวร์นาเมนต์ที่กลุ่มแฟนเกมจัดกันเองมาลงในพอร์ตไหม ก็ไม่ เพราะมันไม่legitไง

แทนที่จะอธิบายจุดประสงค์ของตัวเองให้ชัดขึ้นเพื่อจะแย้ง ดันทำเป็นโควทย้ำๆแซะ แบบนี้กูรู้แล้วว่าทำไมคนที่ถกด้วยกะมึงถึงเงียบไป คงไม่อยากเสียเวลากับปัญญาอ่อน

351 Nameless Fanboi Posted ID:p6AmGV8LEN

นึกภาพ ROV เข้าโอลิมปิก

รัฐบาลจีนให้ Tencent จัดการ nerf ฮีโร่ถนัดทีมคู่แข่งอะครับ

esport ไหมละมึง

DOTA2 ไม่ถูกเอาใส่ใน Asian Games จัดทัวร์เกมใหญ่สุดในโลกได้ครับ
#มิตรสหายท่าน1

352 Nameless Fanboi Posted ID:bw4251aNbO

>>350 ถ้าอยากรู้ชื่อเกมก็ถามตรงๆถึงจะเรียกว่าสนทนา
https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_Super_Smash_Bros._Melee_tournaments

353 Nameless Fanboi Posted ID:xoh.Nzbpex

เหตุผลส่วนหนึ่งที่หมากรุกเป็นกีฬา มีการจัดแข่งในโอลิมปิกเพราะว่าสมาคมหมากรุกมันไม่เคยประกาศบัฟม้า เนิร์ฟเรือ รีเวิร์คขุน ขายสกินเบี้ยไรงี้อ่ะครับ
พวกมึงลองนึกดูนะ เรือแม่งโดนเนิฟ เหลือเดินได้แค่ทีละสามช่อง ม้าเดินเป็นตัวแอลลากยาวสุดกระดานอะ
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

354 Nameless Fanboi Posted ID:bw4251aNbO

กีฬาระดับโลกไม่เคยมีปัญหาแก้กติกามั่วซั่วเลยครับ https://www.sanook.com/sport/105501/

355 Nameless Fanboi Posted ID:gmkO6GqakJ

ความจริงผู้ชายเราน่าจะช่วยลดความเสี่ยงแก่ผู้หญิงในการถูกคุกคามทางเพศได้ด้วยการพูดคุยดีๆ อ่ะครับ เช่นถ้าเราเจอผู้หญิงแต่งตัวโป๊เราก็ไปบอกเทอว่า “คุณแต่งตัวแบบนี้มันได้กระตุ้นให้ผมเกิดอารมณ์ทางเพศ จนอวัยวะเพศของผมแข็งตัว ซึ่งมันเป็นเรื่องเกี่ยวกับประสาทวิทยาของสมอง เราจะไม่ตัดสินกัน เพราะไม่มีใครถูกใครผิด แต่อาจจะมีผู้ชายบางส่วนที่เมื่อเกิดอารมณ์ทางเพศแล้วอาจจะกระทำรุนแรงต่อตัวผู้หญิงที่ทำให้เขาเกิดอารมณ์โดยตรง หรือไปทำร้ายผู้หญิงที่อ่อนแอกว่า เรื่องนี้เราควรมาหาทางออกร่วมกันในการป้องกันอ่ะครับ”

การรณรงค์แบบนี้แหล่ะครับที่จะช่วยหาทางออกให้สังคม ซึ่งพี่โจวก็ยังไม่รู้ว่าทางออกนั้นมันมีรูปร่างหน้าตาอย่างไรเหมือนกัน

ไม่มีใช้คำแรงๆ ดาร์คๆ ฮึดฮัดๆ ตามสมัยนิยมของร๊อคสตาร์ปัญญาชนเลย แต่มองทะลุถึงปัญหาแบบลุ่มลึกมากๆ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

356 Nameless Fanboi Posted ID:cNQju6pK2q

>>345 นี่342เอง
อันนี้ส่วนตัว กูขอถามก่อน คากิ คือไรอะ เว็บไหนอะ ขาหมูเหรอ กูไม่รู้จักอะ

357 Nameless Fanboi Posted ID:cNQju6pK2q

เอาเรื่องเซิฟเถื่อนก่อนละกัน ถ้าต้องการให้อีสปอร์ตมันเป็นกีฬาที่มีการแข่งขัน อันดับแรกเลยคือมันต้องเป็นทางการและถูกกฎหมาย แค่คำว่าเถื่อนก็ไม่ถูกละ
แต่กูแย้งตัวเองเลยละกัน ถ้าเปลี่ยนคำพูดจากเซิฟเถื่อนเป็นเซิฟเวอร์ฝึกซ้อม มันจะโอเคขึ้น เพราะพวกกีฬาอาชีพเขาก็มีพวกฝึกแบบไม่ถูกกติกาสากลเช่นพวกเทนนิสเดี่ยวเล่นกับคู่เล่นกัน
แต่ถึงไงมันก็วนกลับมาเหมือนเดิมอะ เซิฟเถื่อนมันใช้ฝึก ใช้เล่นได้ แต่ใช้แข่งไม่ได้ ถ้าจะแข่งกันก็ต้องไปขอบริษัทเกมอยู่ดี
มันไม่ใช่กีฬาที่ได้รับการรองรับ มันเป็น การแข่งขันที่ได้รับการยอมรับ ตะหาก

358 Nameless Fanboi Posted ID:cNQju6pK2q

ต่อไป ถ้าจะบอกว่ามันเป็นกีฬา โอเคในเชิงภาษากูก็เถียงไม่ได้หรอก มันอาจไม่ใช่ในเมื่อวานหรือวันนี้ แต่ภาษาดิ้นได้ ถ้าคนจำนวนมากใช้กันจนความหมายเดิมเลือนหายไป(ทั้งเชิงเพิ่มและลด) มันก็จะมีความหมายตามนั้นจริงๆ แต่ในเชิงสังคมละ กีฬาจะเป็นกีฬาได้คือสังคมยอมรับว่ามันเป็นกีฬา ถ้าจะบอกว่าคนส่วนใหญ่ยอมรับว่ามันเป็นกีฬา แค่นี้ยังไม่ถือว่าสังคมยอมรับ เพราะมันไม่ใช่สัญญาประชาคม มันเป็นแค่ความเห็นของคนหมู่มาก(ที่ไม่รู้ว่าจะเป็นหมู่มากจริงหรือเป็นหมู่น้อยถ้าเทียบกับคนไม่ออกเสียง)

359 Nameless Fanboi Posted ID:cNQju6pK2q

สุดท้ายละ esport ในตอนนี้ไม่ใช่กีฬา แต่อนาคตก็ไม่แน่ หากเขาสามารถลบคำโต้แย้งในสังคมได้ เอาง่ายๆ ปืนผลิตได้ครั้งแรกปีไหน ก่อนหน้านั้นไม่มีกีฬายิงปืนด้วยเหตุผลง่ายๆ คือยังไม่รู้วิธีผลิตปืน esport ก็คล้ายกัน ถ้าในอนาคตสามารถทำให้มันเป็นกลาง เป็นสากล ได้รับการยอมรับทางสังคม มันก็เป็นได้ แต่สำหรับตอนนี้ กูมองเป็นกีฬาไม่ได้วะ ถ้ามันยังเป็นสิ่งที่มีเจ้าของทางกฎหมาย
ปล1. ไม่พูดเรื่องบาลานซ์นะ ขก.แล้ว อ้อแล้วก็เกมแนวmoba ถ้ามันเลือกตัวละครเดียวกันในเกมเดียวกันไม่ได้ มันไม่มีทางบาลานซ์หรอก
ปล2. ไปอ่านพวกสมัชชา องค์กรโลกเถียงกันดู สนุกโครต
ปล3. กูมาแล้ว มึงดีใจยัง 555

360 Nameless Fanboi Posted ID:9+Ar41O9eU

>>352 มึงมั่วอีกละ Super Smash Bros Melee ที่มึงเอามาอย่างมั่นนี่ไม่ได้จัดโดยแฟนๆแบบที่มึงอ้างโว้ย ในนั้นมีOrgจัดทั้งนั้น

Evo พ่อมึงแฟนๆจัด

361 Nameless Fanboi Posted ID:GBOMt6cCm/

esport มันก็ต้องดูว่าแฟนเยอะพอไหมถ้าเยอะพอก็ได้เป็น

362 Nameless Fanboi Posted ID:Rw5lNjAe7M

ฟีเจอร์นี้ดีนะครับ นั่งใน Starbuck เปิด Air Drop ไว้นะครับ แล้วกดแจกภาพ MEME รูปดอกไม้สีเหลือง เขียนใต้ภาพว่า "สวัสดีวันจันทร์" อย่าง FIN

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

363 Nameless Fanboi Posted ID:qwQcii/MmB

หลายปีก่อน ถ้าจะพบปะรู้จักใครแล้วมีการแนะนำความคิดทางการเมืองของคนคนนั้นว่าไม่ฝักใฝ่ประชาธิปไตยพี่โจวจะกลัวเป็นพิเศษเลย เสียวๆ ว่าจะหนีบระเบิดมารึเปล่าอัลไลทัมนองนั้น - -"

มาช่วงเนร้ถ้ามีการแนะนำตัวว่าอยู่ฝ่ายประชาธิปไตย ก็จะรีบสวัสดีและร่ำลาเขาเลยอ่ะครับ บอกว่ามีธุระรีบไปไม่พร้อมสนทนาและสานสัมพันธ์ด้วย

เพราะหลังจากที่พี่โจวได้เปิดใจให้ลุงป้อม ลุงตู่ ลุงกำนันสุเทพ และพระอาจารย์พุทธอิสระแล้วก็พบว่าพวกแรกที่กล่าวไปนี่ดูง่ายไม่ซับซ้อนทำไร ทำอัลไลก็จะทำแบบที่เขาพูดเขาคิด แม้จะไม่ได้รักความเป็นธรรมอัลไลมาก แต่ก็มีความจริงใจในการคบหากันเป็นแบบมนุษย์ปุถุชนคนธรรมดามากกว่าพวกหลังอ่ะครับ - -"

#ช่วงพี่โจวมิตรแท้กปปสนายทุนขุนศึกอนุรักษ์นิยมและลัทธิเสรีนิยมใหม่

364 Nameless Fanboi Posted ID:R..M1g6eEj

#ช่วงเสียงจากโฆษกวัดอ้อน้อย

คนรุ่นใหม่หลายคนที่ต่อต้านอำนาจนิยม อาจจะอกหักแนวๆ "หนีจากโซตัสที่คร่ำครึมาเจอการจัดรูปขบวนของฝ่ายเสรีชนรุ่นพี่"

แต่ถ้าน้องๆ เปิดใจรับคำสอนของท่านพุทธอิสระละก็ ... เราจะคิดเสียว่าทั้งหมดทั้งสิ้นชีวิตเรานั้นมันเป็นเรื่องบุญเรื่องกรรมเก่าอ่ะครับ ^^

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

365 Nameless Fanboi Posted ID:51iSa0gWPH

เมื่อเช้านั่งรถปอพ คนญี่ปุ่นข้างๆหันมาถามเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า สายนี้ผ่านคณะอักษรไหมครับ นี่ก็เลยตอบกลับเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า ผ่านค่ะ อยู่จุฬาฯอีกฝั่ง เขาทำหน้าตกใจ โห เรียนภาษาญี่ปุ่นด้วยหรอครับ เอ้า คือพี่ถามมาเป็นญี่ปุ่นใส่คนไทยอะค่ะ พี่หวังจะได้รับคำตอบภาษารัย อันนยองฮาเซโยหรอ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

366 Nameless Fanboi Posted ID:IHDeZXOu3i

คนอื่นอาจจะมองงานพัฒนาโปรแกรมแบบนี้

"Web แบบ Agoda ยากตรงไหน มีไม่กี่หน้าเอง ก็แค่เอาค้นๆ ข้อมูลมากองๆ กันให้คนเลือก"

"Web แบบ Google ยากตรงไหน มีไม่กี่หน้าเอง ก็แค่ค้นๆ เอาข้อมูลมากองๆ กันให้คนดู"

"App แบบ Instagram ยากตรงไหน เล็กนิดเดียว ตอนแรกเห็นว่าใช้คนแค่ไม่กี่คนเองก็ทำได้แล้ว แป๊บเดียวด้วย"

และ ฯลฯ ที่เคยได้ยินมา

ลองดูตามนี้บ้างไหมครับ ถ้านักพัฒนาซอฟต์แวร์อย่างเราเอา Mindset เดียวกันนี้มามองอาชีพอื่นๆ ที่ท่านๆ อาจจะทำๆ อยู่บ้าง

"ขายของยากตรงไหน ก็แค่เอาของมากองไว้ให้คนซื้อ แล้วนั่งรอคิดเงิน"

"เป็นหมอยากตรงไหน ก็แค่คุยๆ กับคนไข้ แล้วก็จ่ายยา"

"เป็นเภสัชยากตรงไหน ก็แค่ดูใบสั่งยาแล้วก็หยิบยาให้"

"เป็นพ่อครัวยากตรงไหน ก็แค่เอาเครื่องปรุงมาใส่ๆ ตามสูตรอาหาร"

"เป็นครูยากตรงไหน ก็แค่เปิดหนังสือแล้วอ่านให้คนฟังตามนั้น"

"เป็นนักดนตรียากตรงไหน ตัวโน๊ตมันก็มีไม่กี่ตัว เล่นๆ เดี๋ยวก็ได้"

"เล่นบอลยากตรงไหน ก็แค่เคาะกันไปมา ให้มันเข้าประตู"

"เป็นตากล้องยากตรงไหน ก็แค่กดชัตเตอร์"

"เล่นหุ้นยากตรงไหน ก็แค่ขายที่กำไรเยอะสุด"

อีก ฯลฯ

ทุกท่านที่ทำงานนั้นๆ อยู่ อาชีพนั้นๆ อยู่ ก็คงไม่ชอบ ปฏิเสธ และอาจจะเถียงทำนองว่า "มันมีรายละเอียดมากกว่านั้นเยอะ" จนไปถึงเดือดกันขนาดที่ "อย่ามาดูถูกอาชีพฉันนะ" และ "คนไม่เข้าใจก็แบบนี้แหละ"

ซึ่ง "ท่านพูดถูกครับ"

และที่สำคัญ อะไรที่เป็นประสบการณ์ ที่เป็น skill ... ยิ่งดูมัน "effortless" (คล่องแคล่ว เร็ว เนียนตา ดูเหมือนง่ายๆ) เท่าไหร่ มันยิ่ง "ยาก" เท่านั้น

ลองเลี้ยงบอลให้เหมือน Messi (Messi-J ก็ได้) สิครับ ... ลองทำแผลคล่องๆ เย็บสวยๆ ไม่มีรอยเหมือนหมอบางคนสิครับ ... ลองทำอาหารแบบเพลินๆ ตาเหมือนพ่อครัวบางคนสิครับ (แค่ห่อเกี๊ยวก็พอเนอะ)

มันยากใช่ไหมล่ะครับ ... สิ่งที่เราเห็น กับประสบการณ์ที่คนเหล่านั้นต้องใช้เพื่อให้ได้สิ่งนั้นมาแบบนั้น

มันก็แบบเดียวกันล่ะครับ

เรื่องขายของ ก็ให้แม่ค้าเค้าตัดสินใจว่ามันควรจะขายเท่าไหร่ เพราะเขาก็ต้องคิดให้เขาอยู่ได้ ความยากอยู่ตรงไหนเขาก็รู้ดี แต่ละคนก็ต่างกัน

เรื่องรักษาคนไข้ ก็ให้หมอเค้าเป็นคนประเมิน เราอย่าไปเก่งแข่งหมอ

.....

เรื่องเขียนโปรแกรม พัฒนาโปรแกรมก็เช่นกันครับ ไม่มีความแตกต่างเท่าไหร่นักหรอก รายละเอียดที่มองจากภายนอกไม่เห็น (แม้แต่คนในวงการด้วยกันเอง ถ้าไม่เคยสัมผัสก็ใช่ว่าจะมองเห็นหรือเข้าใจ มันแล้วแต่ประสบการณ์ของแต่ละคนด้วย)

ทุกอาชีพ ทุกงาน มีรายละเอียดต่างกันครับ

จบด้วยคำว่า "Mutual Respect" หรือ "ความเคารพซึ่งกันและกัน" ครับ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

367 Nameless Fanboi Posted ID:RTbGZHPc/X

เมื่อคืนก่อน ดูซีรี่ย์ปัญญาอ่อนเรื่อง เขา เธอ และอีกคน ที่ดูเพราะชอบอ๊อฟ ปองศักดิ์ ก็เท่านั้น เนื้อเรื่องคือ คู่เกย์เป็นแฟนมา 7 ปี แต่อีกคนกลับหันไปชอบผู้หญิงด้วย แล้วเอาเข้ามาอยู่ในบ้าน กลายเป็นสามคนผัวเมีย แน่นอนมันย่อมเกิดความวุ่นวาย ตามสไตล์ของละครแบบนี้ และการกำหนดให้อ๊อฟเล่นบทกะเทยขี้วีนตามสเตอริโอไทป์ เอาละ ที่ขำคือ ตอนจบซีรี่ย์ อยู่ดีๆ อีวอก็ปรากฏตัว แล้วก็เทศนาด้วยคำพูดเก๋ๆ นางบอกว่า ความสัมพันธ์แบบนี้ไม่เรียกว่าสัมพันธ์ภาพ แต่เรียกว่า สัมพันธ์พลาด มากกว่า โอ้ยอีนี่ อีพ่อขุนรามกลับชาติมาเกิด ประดิษฐ์คำใหม่ได้ตอแหลจริงๆ

..ที่อยากจะพูดก็คือ ในโลกแห่งความจริง แม้ว่ามันจะดูแปลก แต่ความสัมพันธ์สามคนผัวเมียมันมีอยู่ และหลายกรณี เค้าก็อยู่กันได้ นี่ไม่ได้พูดผ่านเลนส์ศีลธรรมนะ เพราะในโลกแห่งความรักและเซ็ก ศีลธรรมเป็นแฟคเตอร์ที่ไร้ความหมายมาก

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

368 Nameless Fanboi Posted ID:o.jbttJUFL

พูดตรง ๆ สิ่งที่ฝ่ายซ้ายจัดกำลังทำกันอยู่ทุกวันนี้ คือสิ่งที่ค่อย ๆ กัดกินและบ่อนทำลายตัวพวกเขาเองอย่างช้า ๆ (และอาจเร็วขึ้นทีละนิด)

เป็นการผลักไสประชาธิปไตยที่พวกเขาใฝ่ฝันและเชื่อมั่นให้ยิ่งห่างไกลเกินเอื้อมเข้าไปอีก เหมือนตวงช้อนไล่ตักเม็ดมะนาวในถ้วย ยิ่งตวงเร็วเท่าไหร่ น้ำก็ยิ่งแหวกให้เม็ดมะนาวลอยหนีช้อนไปเท่านั้น

ยิ่งกรณีเฌอปรางที่เกิดขึ้นในระยะนี้ ยิ่งเป็นการเดินตามเกมของรัฐบาล คสช. ที่ต้องการดิสเครดิทกลุ่มคนที่ต่อต้านเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ให้สบายยิ่งขึ้นไปอีก ด้วยการทำลายตัวเอง ดิสเครดิทตัวเอง โดยตัวเอง เพื่อตัวเอง

นี่ยิ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงความล้มเหลวทางระบบความคิด ที่มีแต่ปลูกฝังความเกลียดชังถ่ายเดียว แต่ไม่มีกลยุทธ์และความเข้าใจในธรรมชาติของสิ่งต่าง ๆ เลย

ถือว่าไปช่วยสร้างความชอบธรรมทางอ้อมให้เผด็จการ และอาจส่งผลให้ผู้คนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ อาจพลอยไปเห็นความดีงามของระบอบเผด็จการเอาเสียด้วยซ้ำ

#อ่อนเพลีย #ละเหี่ยใจ
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

369 Nameless Fanboi Posted ID:mgouvu5YT9

หางางวิจัยทางจิตวิทยาดันเจอ บทความวิจัย "การไล่ผีในไนจีเรีย"

โดยคุณ​ Shaykh Luqman Jimoh (ไม่รู้ต้องอ่านว่าอะไร) พึ่งเขียนปี 2014 นี่เอง

เป็นงานเชิงคุณภาพ บรรยายถึงลักษณะของการไล่ผี ในสามศาสนาคือศาสนาพื้นถิ่นของชาวโยรุบา อิสลาม และคริสต์

ที่น่าสนใจคือสำหรับศาสนาท้องถิ่น จะอธิบายเหตุของการถูกผีเข้าว่าเป็นการโดนคำสาป โดยหมอผีที่ชั่วร้าย พูดง่ายๆคือการโดนของนั่นเอง ดังนั้นการจะรักษาได้จะต้องใช้หมอผีปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ที่มีวิชามากกว่า พวกนี้จะต้องไปฝึกเป็นลูกศิษย์กูรูดังหลายปี

(น่าสนใจว่าอาคมโยรุบา กับไทย เนี่ย อะไรมันจะขลังกว่ากัน น่าทำหนังแนวรวมจอมขมังเวทย์โลก)

ของอิสลาม เชื่อว่าผีคือปีศาจที่เรียกว่า "ญิน" มักจะเป็นวิธีที่สืบทอดตามสายตระกูล ต้องฝึกหลายปี และบางทีอาจจะต้องมีการไปเรียนมาจากต่างประเทศเช่นอินเดีย (ทำไมไม่ไปซาอุ?) ด้วย

ขั้นตอนการไล่ผีจริง ผมอ่านของโยรุบา ไม่รู้เรื่อง เพราะมันต้องใช้ทั้งยาสมุนไพร และอุปกรณ์อะไรหลายอย่างที่ชื่อเป็นภาษาท้องถิ่น

ส่วนของอิสลาม งานวิจัยให้ความเห็นว่าน่าจะเป็นการศึกษาเพิ่มเติมกันเองจากการอ่านงานนักศาสนศาสตร์ของอิสลาม และผสมกับความเชื่อท้องถิ่นของโยรุบา

มีการถือศีลอด อธิษฐาน สวดบทสวดของกุรอ่าน ซึ่งน่าจะพอเดากันได้

แต่ที่พิเศษคือมีการใช้สมุนไพรทำเป็นกำยานให้สูดดมเพราะเชื่อว่ามีฤทธิ์ไล่ปีศาจ มีแบบทำพิธีให้อ่านคาถาในน้ำทุกวัน 21 วัน น่าจะเป็นการชำระล่างอะไรสักอย่าง

มุสลิมบางสายมีการเฆี่ยนญินให้ออกจากร่างด้วย แต่จะไม่เฆี่ยนใบหน้าเพราะเชื่อว่าศาสดามูฮัมหมัดสั่งห้ามไว้

ของคริสต์ (ผมคิดว่ามันคงเข้ามาทีหลัง เลยไม่ได้ผสมกับความเชื่อดั่งเดิม) แบ่งความเข้าใจของการไล่ผีออกเป็นสองกลุ่ม

กลุ่มแรกคือ คาทอลิก และ แองลิกัน (เนื่องจากเคยเป็นอาณานิคมอังกฤษจึงมีโบสถ์แองลิกันเยอะ)

ผู้ที่จะทำพิธีไล่ผีของ คาทอลิก และ แองลิกัน ได้จะต้องเป็นบาทหลวง ที่ได้รับการอนุมัติจากบิช็อปเท่านั้น

มีรายงานการถูกผีเข้าน้อยกว่ากลุ่มอื่น นักวิจัยคาดว่าเป็นเพราะกระบวนการก่อนการไล่ผีมันยุ่งยาก จะต้องถูกส่งไปโรงบาลเพื่อวินิจฉัยอาการทางจิตก่อน เรื่องจึงมักจะจบในโรงบาล

นอกจากนั้นยังมีคำสอนว่า "คนที่ได้รับการไถ่บาปโดยพระคริสต์แล้วไม่มีทางถูกผีเข้า" (ผมคิดว่าน่าจะเป็นวาทกรรมที่ถูกเผยแพร่ในอัฟริกาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ)

การไล่ผีของ คาทอลิก และ แองลิกัน จะใช้การอธิษฐานในนามของพระบิดา พระบุตร พระวิญญาณฯ กางเขน (ซึ่งปรกติบาทหลวงจะติดตัวอยู่แล้ว) อาจใช้กางเขนใหญ่ หรือรูปของพระคริสต์เชื่อว่าทำให้ผีกลัว อาจมีการใช้น้ำมนตร์ หรือน้ำมันมะกอกพรมด้วย - สำหรับคาทอลิกอาจใช้บทสวดในนามของเทวทูต หรือนักบุญด้วย

กลุ่มที่สองของคริสต์คือคริสตจักรโปรแตสแตนท์อื่นๆ (โดยเฉพาะพวกเพนตาคอส) ซึ่งพึ่งมาเผยแพร่ใหม่ในช่วง 50 ปี ที่ผ่านมา

โปรแตสแตนท์สายเพนตาคอสเชื่อว่าการถูกผีเข้ามีสองแบบ

แบบแรกคือแบบที่เสียสติควบคุมตนเองไม่ได้ไปเลย เป็นการที่ปีศาจเข้าสิ่ง จึงจะใช้ "การไล่ผี" (exorcism)

อีกแบบ เชื่อว่าพฤติกรรมเลวร้ายต่างๆ เช่นติดเหล้า บุหรี่ ยาเสพติด โกรธง่าย ฯลฯ​ มาจากวิญญาณชั่วด้วย จึงมีการ "ขับผี" แบบนี้ด้วย

เพนตาคอสเชื่อว่าทุกคนขับผีได้ แต่บางคนจะมีของประทาน(คือพรสวรรค์)เป็นพิเศษทำให้ทำได้ผลดีมากกว่า

เชื่อว่าการอธิษฐาน ด้วยการวางมือ ออกเสียงพูด หรืออาจจะพูดภาษาลิ้น ซึ่งออกมาจากพระวิญญาณจะทำให้ไล่ผีไปได้ อาจมีการใช้เสียงเพลงด้วย

ในการขับผีพฤติกรรมไม่ดี อาจทำเป็นปรกติทุกอาทิตย์ มีการกลิ้ง ดิ้นกันเป็นปรกติ

ส่วนพวกโดนผีเข้า จะใช้วิธีจัดทีมเพื่อไปอธิษฐานไล่ผี (exorcism)

น่าเสียดายที่งานไม่ได้มีสถิติที่แน่นอนเขียนในนั้นมาด้วย เราเลยไม่รู้ว่าจริงๆแล้วไนจีเรียมันมีอาการผีเข้าเยอะขนาดไหน

แต่เป็นบทความวิจัยที่อ่านสนุก ทำให้รู้สึกว่าเราไม่ได้อยู่คนเดียวบนโลก

ในสนใจไปหาอ่านได้นะครับ ชื่อ : Exorcism Practices in South-West Nigeria: A Comparative Analysis

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

370 Nameless Fanboi Posted ID:bRV2MauIYE

เข้าห้องน้ำออฟฟิศ อ่าว เจอคนในออฟฟิศเข้าพร้อมกันพอดี เสร็จธุระก็เดินออกจากห้องน้ำด้วยกัน พร้อมเม้ามอยนินทาเจ้านายไปสุดทาง

กำลังจะเข้าประตูออฟฟิศ พนักงานอีกคนเดินสวนออกมาพอดี ปกติจะโอเย่ๆ เม้ามอยไง เอ่อ วันนี้มาแปลก ไมหน้านิ่งๆ ยิ้มแห้งๆ วะ

เข้าประตูออฟฟิศปุ๊บ ระหว่างกำลังเอี้ยวตัวกลับเพื่อปิดประตูนั้น.. เจ้านายเดินตามหลังมาติดๆ ระยะประชิดไม่เกิน 2 ก้าว..

#เรื่องหลอนวันศุกร์

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

371 Nameless Fanboi Posted ID:IVjNjYBbhT

กรณีที่หลายคนวิจารณ์ #เฌอปราง ไม่ถือว่าเป็น ‘cyberbullying’ ในความเห็นของผม เพราะคนที่ทำ “cyberbullying” หรือใช้เครื่องมือทางอินเตอร์เน็ตเพื่อคุกคาม ข่มขู่คนอื่น มักทำแบบหลบซ่อนตัว หรือการปลอมเป็นคนอื่นก่อนปฏิบัติการ และเป็นการกระทำด้วยเจตนาให้เกิดความเสียหาย

การที่คนออกมาวิจารณ์ #เฌอปราง ซึ่ง ๆ หน้านั้น ไม่เป็น cyberbullying แต่เป็นการวิพากษ์วิจารณ์ “บุคคลสาธารณะ” ซึ่งย่อมทำได้ในทุกสังคมที่เจริญแล้ว

กรณี #เฌอปราง ผมติดใจอยู่อย่างเดียวคือ #โรงเรียรนทางเลือก ไม่ได้ทำให้คนมีจุดยืนทางการเมือง หรือมีวุฒิภาวะมากกว่าโรงเรียนแบบอื่น ๆ เลย ถ้าใครบอกว่าน้องเขาอายุยังน้อย โปรดตระหนักด้วยว่า

- Karl Marx เขียน The Communist Manifesto ตอนอายุ 30 ปี

- ปรีดี พนมยงค์ เปลี่ยนแปลงการปกครองอายุ 32 ปี

- Che Guevara เข้าร่วมการปฏิวัติคิวบาอายุ 31 ปี

หมายเหตุ ที่เขียนว่า ‘Internet Bully’ น่าจะไม่ถูกหลักไวยากรณ์ เพราะ ‘bully’ ถ้าเป็น noun หมายถึง “คน” ที่รังแกคนอื่น ถ้าจะใช้ในรูป verb ก้ต้องใส่ ing เข้าไป เป็น ‘bullying’ กรณีนี้ถ้าผู้เขียนบทความ “Internet Bully!! เมื่อเฌอปราง BNK48 ถูกคุกคามทางอินเตอร์เน็ต” จะใช้คำว่า ‘Internet Bully’ ก็ควรเขียนว่า Internet Bullies!! มากกว่าเพราะเขาพาดพิงถึง “หลายคน”

อีกอย่าง โดยทั่วไปเขานิยมใช้ ‘cyberbullying’ มากกว่า “internet bullying”

http://genonline.co/2018/09/06/internet-bully-bnk48/

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

372 Nameless Fanboi Posted ID:IVjNjYBbhT

>>371 เอาคนที่เรียนจบโรงเรียนค่าเทอมปีละเกือบสองแสน มาเป็นพรีเซ็นเตอร์พูดเรื่องความเสมอภาคทางการศึกษา #เฌอปราง

#มิตรสหายท่านเดียวกัน

373 Nameless Fanboi Posted ID:1oed7SDU.M

>>372 แล้วทำไมท่านฌ​ ถึงเข้าวิดอินเตอมหิดลวะ​ ไม่เก็ต​ บ้านเขาอยู่แถวนั้นรึ​ ทำไมไม่เข้าฬ

374 Nameless Fanboi Posted ID:PmmkMTp5rw

>>373 เข้าไม่ได้

375 Nameless Fanboi Posted ID:pzxYXTggZJ

“ถามเราง่ายๆว่า
งานโปรโมต คสช. ปฏิเสธได้มั้ย?
คำตอบคือ ได้ค่ะ.

บ้าหรอ ได้ได้ยังไง. เป็นมึงมึงกล้ามั้ย?
เป็นกูหรอ กูก้อกล้าสิ วิธีตอแหลมี108.
แต่เค้าไม่ได้จ้างกูเนอะ จบปะ?

ทีนี้พวกที่ไม่ปฏิเสธ มีแค่2อย่างค่ะ
1. หน้าเงิน (แถมเงินน่าจิน้อย)
2. หน้าเงินและโง่
2.1 โง่ในการรับงานที่กะหลั่ว โปรดักชั่นส้นตีน
2.2 โง่ที่ไร้เดียงสาทางการเมืองและความยุติธรรมทางสังคม

ถามกูว่า ทำไมถึงบอกว่า ปฏิเสธได้หรอ
ก้อมึงดูสิ มีดาราไปกี่คน และมีตัวท้อปอีกกี่คนที่ไม่ได้ไป. ทำไมไม่จ้างดาวิกา อารยา ธงไชย ล่ะ
คนพวกนี้ ริพิ้วเทชั่น ดีกว่า เบลล่า บีน้ำทิพย์ เยอะ.
เพราะคนมันแพง คนมันตอแหลอะไรเพื่อเลือกงานที่ดีที่สุดให้ตัวเองได้ไง.

การมาบอกว่า ดาราที่มึงรักไม่มีทางเลือกไม่รู้สึกสมเพชสติปัญญาตัวเองหรอ?

และที่เค้าด่า เชอปราง กันเยอะนะ
เพราะ
1. เสือกโดนโอตะสถาปนาเป็นซ้ายเป็นสาวฉลาดเป็นความฝันความหวังเป็นนายกหญิง

2. เสือกอยู่ในวงเดียวกับ อีอ๊บใสไม้

จบปะ อิดอก เรื่องง่ายๆต้องให้พูดเยอะขนาดนี้
แถวบ้านเรียกโง่.

ใครบอกเป็นการแสดงหีแตดอะไรกุไม่สนนะ
เพราะการแสดงที่สร้างความชอบธรรมให้กับความอยุติธรรมในสังคมน่ะ มันมีความเหี้ยเกิดขึ้นจริง.
นึกถึงพ่อแม่มึงที่ทำมาหาแดกฝืดเคือง
นึกถึงตัวมึงเองที่ติดฝนตอนเย็นเลิกงานในอินฟราสตรั้กเจ้อที่ห่วยแตก
นึกถึงเพื่อนๆหลายคนที่เป็นซึมเส้า จากภาวะเศรษฐกิจที่กดดันทางอ้อม ลามผ่านทางครอบครัว และความกดดันเรื่องหน้าที่การงานฐานะสังคม.
ถ้านึกแล้วรู้สึกว่า ไม่เห็นลำบากอะไรสักอย่างแบบกู ค่อยมาโชว์แถแถ่ดๆแทนศิลปินที่เธอรักนะคะ.”

#มิตรสหาย กราบ 10 ที

376 Nameless Fanboi Posted ID:0+7a8DuxYd

>>375 มิตรสหายที่ลงรูในแคนาดาสินะ

377 Nameless Fanboi Posted ID:MyHZj5S4Gs

วันนี้แอดได้หนังสือใหม่มาเล่มนึงชื่อว่า 📚 "Maths in bite-sized chunks" 📚 เปิดอ่านบทแรกก็เจอเลย เห้ยยยย คำถามดี คิดไม่ถึง! (คิดไม่ออกด้วย 555 😵😵😵) เลยหยิบมาฝากให้ลองคิดกันเล่นๆดูค่ะ เผื่อเอาไปเล่นกับเพื่อนๆ กัน ..... คิดก่อนค่อยเลื่อนไปดูคำตอบนะคะ 👀😣
...
...
...
...
...
...
...
...
...
...
...
...
...
...
...
...
...
...
...
...
...
...
...
...
คำตอบก็คือออออออ
...
...
...
...
...
...
...
...
...
...
...
...
...
วิธีการที่จะแสดงให้เห็นว่าทุกคนจะได้เข้าพักแน่นอน ก็คือ
...
...
1️⃣ ทำการย้ายแขกที่เข้าพักอยู่แล้วทุกคน ไปยังห้องพักใหม่ โดยนำหมายเลขห้องพักเดิมคูณด้วย 2 ---> ทำให้แขกที่เข้าพักอยู่ทุกคนพักในห้องเลขคู่เท่านั้น!!!!
...
...
2️⃣หมายความว่า "ห้องเลขคี่" ทุกห้องก็จะว่าง!!! เพื่อที่จะนำแขกที่รอคิวอยู่เข้าพักได้!!!
...
...
🎉🎉🎉 เอ้าาาา! ง่ายเฉยยยเลย แค่นี้ก็จะแสดงให้เห็นได้แล้วว่า แขกทุกคนจะต้องได้เข้าพักในห้องที่ไม่ซ้อนทับกันแน่นอน!!
V
V
V
V
V
ปัญหาในลักษณะนี้เรียกว่า "Hilbert Problems" ถูกนำเสนอเป็นครั้งแรกในงาน The international Congress of Mathematicians โดยนักคณิตศาสตร์ชาวเยอรมันที่ชื่อว่า คุณ "David Hilbert" ซึ่งได้แสดงให้ทุกคนในที่ประชุมเข้าใจว่า concept of infinity นั้นไม่ได้ยากอย่างที่คิด และสามารถช่วยแก้ปัญหาในชีวิตประจำวันได้อีกหลายรูปแบบนั่นเองค่ะ
...
...
ใครสนใจอยากฟังเรื่องของ Hilbert Problems เพิ่มเติม ตามไปฟัง Ted Ed ในลิงก์ด้านล่างได้เลยค่ะ
...
...
📌 https://www.youtube.com/watch?v=Uj3_KqkI9Zo
...
...
AlgoAddict

378 Nameless Fanboi Posted ID:pzxYXTggZJ

>>377 มึงลืมแปะคำถามไอควาย

379 Nameless Fanboi Posted ID:0+7a8DuxYd

น้องเฌอในทัศนะข้าพเจ้า

มีคนวิพากษ์วิจารณ์น้องเฌอปราง
หรือดารานักร้องที่มาเป็นพืธีกรให้รายการของรัฐบาลอย่างกว้างขวาง

ในฐานะที่เคยคลุกคลีกับวงการทีวีมาพอควรอยากบอกว่า

1 การเอานักร้อง ดารามาเป็นพรีเซนเตอร์ให้รัฐบาล มีมานานแล้ว

2 รัฐบาลทุกยุคก็ใช้วิธี “ขอความร่วมมือ” หรือพูดตรงๆคือมี ใบสั่ง แกมบังคับ ให้บรรดาเจ้าของดารานักร้องในสังกัดต้องร่วมมือ

3 บริษัทที่มีดารานักร้องในสังกัดก็ทำธุรกิจ ไม่มีใครอยากขัดแย้งกับรัฐบาล

4 เมื่อรัฐบาลสั่งมาให้เอาดารานักร้องไปช่วยเพิ่มเรทติ้ง จึงปฏิเสธไม่ได้ ต้องเล่นไปตามบท

5 เมื่อเล่นตามบทแล้วก็ต้องพูดตามสคริปต์ คือเชียร์รัฐบาล ไม่ว่าจะชอบหรือไม่ก็ตาม

6 ดารานักร้องไม่มีสิทธิ์จะแสดงออกอย่างที่ต้องการ เพราะทุกอย่างคือธุรกิจ เพราะฉะนั้นสิ่งที่พวกเขาและเธอพูดออกมาจึงไม่ใช่ความเห็นส่วนตัว. ไม่เหมือนดารานักร้องที่ขึ้นเวทีการเมืองเมื่อหลายปีก่อน

7 หากจะวิจารณ์ ก็ควรวิจารณ์รัฐบาลที่ไร้น้ำยา ต้องโหนเด็ก โหนดารานักร้อง ไร้ราคาจริงๆ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

380 Nameless Fanboi Posted ID:HNlDk3t1OO

>>379 แถสัส

381 Nameless Fanboi Posted ID:cyJaRpB8E0

Protip for Chrome users: to improve your security when using Google Chrome, uninstall it and use a browser that’s not from a company which makes its money from spying on you 24/7

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

382 Nameless Fanboi Posted ID:OBmH9nsnHA

เงี่ยนว่ะ

#มิตรสหายท่านสอง

383 Nameless Fanboi Posted ID:tObnaC/7DZ

>>379 กูขำ

384 Nameless Fanboi Posted ID:uRqMvaFVKg

>>381 literally does not exist

385 Nameless Fanboi Posted ID:oXmWcShkmr

ว่าด้วยเฌอปรางที่เข้าไปรับงานช่วยโปรโมต คสช.
.
อันที่จริง ตอนแรกว่าจะไม่พูดอะไรในประเด็นนี้ เพราะไม่ได้นิยมชมชอบอะไรใน BNK รู้สึกเฉยๆมาโดยตลอด จนเห็นบทความของ genonline ว่าด้วย Internet Bully กรณีเฌอปราง ซึ่งพูดพาดพิงถึงผม เลยอยากแสดงความคิดเห็นเรื่องนี้เสียหน่อย
.
1. อย่างที่เรารู้กัน ว่าระบอบของ คสช. คือระบอบเผด็จการ เป็นระบอบที่ได้มาจากการยึดอำนาจ จนส่งผลให้บรรดาสิทธิต่างๆของประชาชนถูกกระเทือน เราได้เห็นการคุกคาม การดำเนินคดีต่างๆมากมายในศาลทหารและศาลพลเรือน ย่อมเป็นสิ่งที่รู้ทั่วไปว่าระบอบการปกครองที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้รับการยอมรับ ขนาดที่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ เองก็ยังยอมรับว่า ตัวเองมาอย่างไม่ถูกต้อง นี่ยังไม่นับว่าความไม่ถูกต้องเหล่านี้ยังมีแง่มุมอื่นๆที่เกี่ยวพันธ์กับการทุจริตคอรัปชั่น ตลอดจนความพยายามที่จะสืบทอดอำนาจที่กำลังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ในปัจจุบัน
.
2. ผมไม่คาดหวังว่าคนรุ่นใหม่ หรือคนทั่วๆไป จะต้องมี spirit ทางการเมืองในระดับที่เท่าเทียมกันทุกคน เราต่างรู้ดีว่าที่ประเทศไทยมาถึงจุดนี้ก็เพราะ spirit ของสังคมไทยโดยรวมยังห่างไกลจากจุดที่จะออกมาต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยอีกมาก ดังนั้นความคาดหวังต่อคนแต่ละคนในเรื่องนี้ ก็ต้องพิจารณาถึงฐานะ การศึกษา อายุด้วย ว่าเราจะเรียกร้อง spirit ในเรื่องนี้มากแค่ไหน
.
3. อย่างคนที่มีการศึกษา อายุเกิน 20 ปี กำลังศึกษาในชั้นมหาวิทยาลัย การจะคาดหวังกับคนที่อยู่ในสถานะเช่นนี้ย่อมมีความแตกต่างกับคนที่อายุต่ำกว่า 15 ปี ที่เรียนอยู่เพียงชั้น ม.2 ผมคิดว่าสำหรับคนที่เรียน และมีอายุที่มากกว่าย่อมถูกคาดหวังความรู้สึกนึกคิดมากกว่าเป็นธรรมดา ยิ่งเมื่อพิจารณาต่อไปว่า เฌอปรางเองเรียนมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศ บรรลุนิติภาวะแล้ว ความคาดหวังที่จะเข้าใจสังคม(อย่างน้อยในระดับนึง) ย่อมมีมากกว่าเด็กอายุ 14 ปี จึงมีมากกว่าเป็นธรรมดา ซึ่งส่วนตัวผมเอง กับคนที่เรียนมหาวิทยาลัย ผมจะเรียกร้องต่อคนเหล่านี้มากเป็นพิเศษ เพราะคุณควรรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ยิ่งหากนับต่อไปว่าเฌอปรางเองไม่ใช่นิสิตนักศึกษาธรรมดา หากแต่มีโอกาสสัมพันธ์อยู่ในโลกที่มีความสำคัญทางธุรกิจ และต้องรับแรงกดดันมากเป็นพิเศษ เฌอปรางจึงต้องมีรู้ความเข้าใจ รู้ว่าอะไรเป็นอะไรมากกว่าคนอื่นด้วย ความคาดหวังแบบนี้ หากจะเกิดขึ้นก็คงไม่ใช่เรื่องที่ผิดแปลกอะไร ดังนั้นผมคิดว่าการเรียกร้องให้เฌอปรางไม่เข้าไปเกลือกกลั้วกับอำนาจเผด็จการ โดยใช้ความคาดหวังที่มากกว่าปกติทั่วไปจึงไม่ใช่เรื่องผิดแปลกอะไร อย่างน้อยๆเราสามารถพูดได้ว่า เฌอปรางรู้แน่ๆว่าสิ่งที่ตัวเองทำกำลังส่งเสริมภาพลักษณ์ของเผด็จการอยู่
.
4. บางคนอาจจะบอกว่า แล้วเฌอปรางจะมีทางเลือกอะไร เขาก็ต้องรับงานบริษัทที่เป็นเจ้านายของเขาอยู่ดี เรื่องนี้ผมเข้าใจ และมีความเห็นใจเฌอปราง แต่ผมก็เห็นว่า เฌอปรางไม่ใช่ และไม่ควรทำตัวเป็นเพียงหมากตัวหนึ่งที่ไม่มีความรู้สึกนึกคิด เฌอปรางย่อมรู้ดีว่าอะไรถูกอะไรผิด เฌอปรางย่อมรู้ว่าการเข้าไปมีบทบาทช่วยโปรโมทรัฐบาลเผด็จการย่อมได้รับผลประโยชน์อื่นๆตามมาด้วยเช่นกัน ดังนั้นในแง่นี้เฌอปรางเองก็ต้องมีส่วนรับผิดชอบต่อการเข้าไปมีส่วนร่วมกับ คสช. ด้วย ซึ่งหากเฌอปรางรู้สึกไม่อยากรับงานนี้ เฌอปรางก็จำเป็นที่จะต้องต่อสู้กับตัวบริษัทที่เป็นนายจ้างของตัวเองด้วย ไม่ใช่ปล่อยให้เหล่าโอตะต่อสู้กับบริษัทของคุณเพียงลำพัง ผมเชื่อว่าหากเฌอปรางยืนหยัดทำในสิ่งที่ถูกต้องแล้ว เหล่าโอตะที่เป็นแฟนคลับของคุณย่อมสนับสนุนคุณต่อไป เพราะเหล่าโอตะเขาชอบในตัว Member ไม่ใช่บริษัทหรอก ผมเชื่อจริงๆว่าเหล่าโอตะพร้อมจะยืนหยัดอยู่เคียงข้างคุณเสมอ ไม่ว่าคุณจะยังคงเป็นไอดอลหรือไม่ก็ตาม
.
5. สุดท้ายนี้ ผมหวังว่า จะไม่เห็นเฌอปรางถ่ายรายการของ คสช. อีกต่อไป การเข้าร่วมกับเผด็จการในวันนี้ของคุณจะเป็นตราบาปสำหรับตัวคุณเอง คุณยังต้องอยู่ในประเทศนี้อีกนาน จุดประสงค์ที่ผมตั้งสเตตัสนี้ ส่วนหนึ่งอยาก Empower ให้เฌอปรางยืนหยัดทำในสิ่งที่ถูกต้อง ผมรู้สึกเสียใจทุกครั้งที่เห็นคนรุ่นพวกเราต้องไปรับใช้เผด็จการ เราต่างรู้ดีว่าอะไรคือสิ่งที่ถูก และสิ่งที่ผิด ผมหวังว่าในฐานะที่อยู่ร่วมรุ่นกับเฌอปราง ไม่อยากเห็นเฌอปรางผิดพลาดไปมากกว่านี้ อย่าให้ประวัติศาสตร์ต้องจดจำวงไอดอลของเมืองไทยกลายเป็นกระบอกเสียงของรัฐเผด็จการเลย หวังว่าสเตตัสนี้เฌอปรางจะได้อ่าน

---------
อ่านบทความที่กล่าวเสี้ยมผม http://genonline.co/2018/09/06/internet-bully-bnk48/

386 Nameless Fanboi Posted ID:oXmWcShkmr

พยากรณือากาศ ตรงเด้อ ภายใน 1 วัน หรือไม่ใกล้ไม่ไกล
ไม่ใช้ซินแสขี้ก๊อป ถือกระดาษเขียนประโยคกากๆตลาดล่างที่ก๊อปตามเน็ตแล้วยืนถือทำหน้าโง่ๆ ถ่ายรูปลงเฟส

387 Nameless Fanboi Posted ID:l3QEaWy9jQ

>>385
ปัญญาอ่อนชิปหาย

388 Nameless Fanboi Posted ID:UJxzZWb/lu

สำหรับกู ตราบใดที่ไม่รู้ชัดเจนว่าการทำผิดของใครคนหนึ่งเป็นไปด้วยความเต็มใจล้วนๆ ไม่ได้เกิดจากแรงบังคับหรือกดดันใดๆ ไม่ว่าทางตรงกับทางอ้อม กูจะไม่ตำหนิใดๆ คนคนนั้นทั้งสิ้น

ความรักตัวกลัวตายสำหรับกูไม่ใช่เรื่องผิดและเป็นสิทธิ์ของแต่ละบุคคล ต่อให้มึงเป็นผู้กล้า มึงก็ไม่มีสิทธิ์เรียกร้องให้คนอื่นต้องไปเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายกับมึงด้วย

และจะยิ่งน่าละอายถ้าตัวเองไม่ใช่ผู้กล้าแล้วไปต่อว่าคนอื่นที่เขาก็กลัวเหมือนกัน!!!

389 Nameless Fanboi Posted ID:TCx8KNc78+

อุดมการณ์หลังคอมอะครับ

390 Nameless Fanboi Posted ID:pe.k3Tc+Rh

อ้าว สรุปก็รู้กันดีนี่หว่า ว่าไอ้ตูปมันพร้อมกำจัดคนที่ไม่ตามมัน

391 Nameless Fanboi Posted ID:TCx8KNc78+

แต่ในฐานะคนรุ่นใหม่ น้องควรจะมีอุดมการณ์และกล้าที่จะปฎิเสธมากกว่านี้ครับ

392 Nameless Fanboi Posted ID:0cQ49+TUUB

>>390 ถ้ามันกำจัดจริง พวก voice tv โดนไปนานแล้ว จะไปกลัวอะไรขนาดนั้น ถ้าไม่เล่นหิ้ง ยังไงมึงก็ไม่โดนไรมากหรอก

393 Nameless Fanboi Posted ID:DVBDy8mqqs

>>385 สนับสนุนเผด็จการแล้วผิดตรงไหนวะ ทุกคนต้องชอบประชาธิปไตยเหมือนมึงเหรอควาย

394 Nameless Fanboi Posted ID:CcegKUeJRS

>>393 ก็กูไม่ได้เลือกตั้งอะ ไอ้ควาย เบียดเบียนกูอีก

395 Nameless Fanboi Posted ID:bQEmA5QK3+

พวกอยากเลือกตั้งนี่ส่วนใหญ่เป็นคนที่ใช้อนิเมเป็นรูปโปรไฟล์ทั้งนั้นอ่ะครับ

396 Nameless Fanboi Posted ID:tw5Jkow1bE

พวกลิเบอร่าน ปากอ้างว่าตัวเองคือพวก เสรีนิยมหัวก้าวหน้า เป็นฝ่ายซ้ายรุ่นใหม่ รักและเคารพเสรีภาพ ประชาธิปไตยคือความดีงามสูงสุด
สิทธิมนุษยชนและการแสดงออกขั้นพื้นฐานคือรากฐานแห่งความเป็นประชาธิปไตย
พวกอนุรักษ์นิยมคือตัวถ่วงความเจริญ และเป็นอุปสรรคในการสร้างประเทศที่เป็นเสรีนิยมเฉกเช่นตะวันตก
แต่ทุกๆอย่างที่กล่าวมาข้างต้นจะอันตธานหายไปทันทีเมื่อลิเบอร่านได้เจอกับสลิ่ม
"น่าจับพวกสลิ่มไปรมแก๊สให้หมด"
"ไม่ กูว่าน่าจับแขวนกับต้นไม้แล้วเอาเก้าอี้ฟาดมากกว่า"
"ไม่ ผมว่า พวกสลิ่มควรถูกทำหมันให้หมดจะได้ไม่เกิดประชากรชั้นตํ่าแบบนี้ออกมาอีก"
สิทธิความเป็นมนุษย์ของคุณจะหายไปทันทีและคุณจะถูกพวกลิเบอร่านเหล่านี้ยัดเยียดให้คุณเป็น "สลิ่ม" ในบัดดลถ้าคุณไม่เห็นด้วย หรือทำอะไรที่ไม่ถูกใจหรือขัดความคิดเห็นสถุนตํ่าๆที่ยกมาข้างต้นของพวกลิเบอร่าน พวกลิเบอรร่านชอบพล่ามถึงสิทธิเสรีภาพอันสวยงาม
แต่มักจะไม่รับฟังสิทธิของผู้อื่น ใครที่คิดต่างไปจากลิเบอร์ร่านจะถูกเรียกว่า สลิ่ม หรือ พวกโง่ ไม่ฉลาด และไม่มีอารยะเท่าพวกตน
แม้ว่าคุณจะเกลียดทั้งลิเบอร่านและสลิ่ม แต่ก็นั้นแหละ ต่อให้คุณบอกลิเบอร่านว่าไม่ใช่สลิ่ม ลิเบอร่านก็จะยังคงยัดเยียดให้คุณเป็นสลิ่มต่อไป
"เราเป็นเสรีชน เราจะเปลี่ยนประเทศนี้ให้เป็นอารยะและเจริญเฉกเช่นตะวันตก
เราเคารพสิทธิมนุษยชน มนุษทุกคนควรมีเสรีภาพขั้นพื้นฐานที่จะ พูด จะคิด หรือแสดงออกทางการเมืองได้อย่างเสรีโดยที่ไม่มีดาบปลายปืน
มาจ่อคอหอย
หมดยุคเผด็จการแล้วทุกท่าน เราคือเสรีนิยม เราพร้อมรับฟังความคิดเห็นของเพื่อนมนุษย์ทุกท่านและพาประเทศก้าวออกจาโคลนตมตรงนี้เสีย"
แต่ก่อนอื่น เราควรเอาพวก สลิ่ม และพวกโง่ทุกตัวที่เห็นต่างจากพวกเราไปขึ้นกิโยตินเสียให้หมด ประเทศเราจะได้หมดพวกสลิ่มโง่ คอยขัดความเจริญและประเทศเราจะได้รุ่งเรืองอารยะเฉกเช่นนานาประเทศ
เราขอยํ้าอีกครั้งหนึ่งว่า เราคือเสรีนิยม และมนุษย์ทุกคนควรได้แสดงออกทางความคิดเห็นอย่างเสรีภายใต้ประเทศใหม่ของเราไม่ว่าผู้นั้นจะเคยเป็นอะไรมาก่อน
ก่อนอื่นขอเบิกตัวเหล่าสลิ่ม และพวกโง่ที่เห็นต่างจากลิเบอรร่านขึ้นลานกิโยตินโดยพลัน !
ติกตาร์เตอซ็องกีแน โรแบสปิแย ทรราช เผด็จการกระหายเลือด บิดาแห่งลิเบอร่านของโลก ไม่ได้กล่าวเอาไว้
โม่งควยพวกเหี้ยลิเบอร์ร่าน ลิเบอร่านพ่อตายไอเหี้ย ได้กล่าวเอาไว้เอง
ควย all ลิเบอร่าน และ โม่งลิเบอร่านหน้าหีทุกตัว

397 Nameless Fanboi Posted ID:Z1Z3bDp606

>>396 Fallacy of relative to absoluteอ่ะครับ ไปทำการบ้านมาใหม่นะ

398 Nameless Fanboi Posted ID:1Q9Mxku0eY

>>396 พิมเหนื่อยมั้ย

399 Nameless Fanboi Posted ID:srpywyJsid

เพจหนังที่ดีต้องไปดูหนังห่วยแล้วมารีวิวให้ลูกเพจ
แต่ราชาเพจหนังอย่างผม ขอเชื่อรีวิวเพจอื่นละกันนะครับ ไม่ดูละกัน

#มิตรสหายแอดมินเพจหนังท่านหนึ่ง

400 Nameless Fanboi Posted ID:cSZJ6TlNaN

พี่เบิร์ดไม่ยักถูกถามหาอุดมการณ์ต่อต้านเผด็จการมั่งแหะ ร้องเพลงมาหลายซิงละ

401 Nameless Fanboi Posted ID:njI2lsTun0

ผม อะนะ รักประเทศนี้จะตายไป กลุ่มทุนที่ใหญ่กว่า สายป่านมากกว่า

สามารถ เอารัดเอาเปรียบ และทำลายคู่แข่งราย ย่อยๆได้ เพราะไม่มีกกหมายคุมครอง เหมือนต่างประเทศ

ต่างประเทศมี กฎหมายคุ้มครองการผูกขาด อย่างถ้าเอา ค้าปลีกขนาดใหญ่ มาซื้อ ค้าส่งขนาดใหญ่ละก็

กกหมายมีข้อห้ามไว้ ห้ามทำ ถ้าทำโทษหนัก ถึงขั้นผู้บริหารต้องติดคุกกันเลยทีเดียว
แต่ที่เมืองไทยไม่มี ใครใคร่ค้าค้า ใครใคร่ .. โกงๆ ใครอย่างผูกขาดกินรวบเชิญตามสบาย

นิละ เมืองของเรา การค้าเสรีจริงๆ จริงซะยิ่งกว่าจริงอีก..

เมืองนอก ในยุโรปที่พัฒนาแล้ว เป็นประชาธิปไตย ยังไม่เสรีเท่าประเทศนั้นเลย

ขอบคุณ ที่ให้โอกาส อั๊วว ผม ได้กอบโกย เอากำไร จนติดอันดับเศรษฐีโลก

ผมรวยติดอันดับโลกนะ แต่ผมอะ จ่ายภาษี น้อยกว่าคนกินเงินเดือนบางบริษัทซะอีก..

นิละเค้าเรียกว่า ทุนนิยมผูกขาดครองโลกสยบพิภพโลกา สไตล์เจ้าสัว

402 Nameless Fanboi Posted ID:kCwkoPfEnY

ผมเห็นข่าวจีนกวาดล้างสัญลักษณ์ศาสนาเพราะอาจทำให้เกิดความแตกแยกในอัตลักษณ์

คนจำนวนหนึ่งคอมเมนท์ว่าจริงๆถ้ากฎหมายเข้มแข็งมีแค่นั้นก็พอแล้ว แต่มันจริงหรือเปล่าที่ "แค่กฎหมายก็พอแล้ว"?

ตอนอยู่ในเรือนจำ ผมคิดเรื่องนี้เหมือนกันนะ

มันมีเคสของคนขับรถคนหนึ่ง ชนคน สิ่งที่เขาเผชิญในจิตใจคือ

A เหยียบซ้ำให้ตาย
B หนี
C ลงไปช่วย

คิดแบบเป็นเหตุเป็นผล
ถ้าเลือก A โอกาสถูกจับได้จะน้อยที่สุด
ถ้าเลือก B มีโอกาสหนีได้ แต่ผู้เคราะร้ายก็อาจจะจำได้
ถ้าเลือก C ถูกจับแน่นอน แต่อาจน้อยหน่อยเพราะไม่หนี

คนที่ผมเจอเลือก B

เหตุผลคือไม่อยากติดคุก เลยไม่เลือก C แต่ไม่กล้าเลือก A เพราะกลัวบาปกรรม

กฎหมายเป็นการทำงานแบบเป็นเหตุเป็นผล ให้คนกลัวที่จะไม่ทำผิดเพราะกลัวถูกลงโทษ

แต่ "บาปกรรม" นั้นเป็นความเชื่อทางศาสนา

น่าสนใจว่าคนขับรถนี้กลัวบาปกรรม มากกว่ากลัวโทษทางกฎหมาย เพราะ "เชื่อ" ว่ามันหลบเลี่ยงยากกว่ากฎหมาย เอาล่ะ เขาไม่ใช่นักบุญพอจะยืดอกเดินลงไปมอบตัว แต่ก็ป้องกันไม่ให้เขาฆ่าปิดปาก (ทั้งๆที่ถ้าคิดแบบเครื่องจักรแล้วทางนั้นดีที่สุด)

ในทางกลับกัน เราเห็นคลิปจำนวนมากพวกถอยรถกลับมาเหยียบเด็กซ้ำ ประเทศไหนก็รู้กัน

มันมีเคสในจีนหลายเคสเกิดขึ้นซ้ำๆกัน ประเภทว่ารถชน แล้วมีคนไปช่วยคนถูกจน ปรากฎว่าไปถึงโรงบาลคนถูกชนไม่มีเงินจ่ายค่าหมอเลยบอกว่าคนที่ช่วยมาเป็นคนชน ศาลดันตัดสินว่าคนที่พามาผิดจริง เพราะด้วยเหตุผลว่าถ้าไม่ใช่คนชนคงไม่มาช่วย - จากนั้นมาเลยกลายเป็นว่าพอเห็นคนถูกรถชนจะปล่อยตายตรงนั้นแหละ หรือไม่ถ้าช่วยก็ต้องประกาศว่า "เป็นพวกคุณเป็นพยานให้ผมนะ ว่าผมไม่ใช่คนชน มาช่วยเฉยๆ"

ผมคิดว่าเขามีทางแก้ปัญหาศีลธรรมในแบบของเขา มั้งนะ

ในสังคมที่ดีเนี่ย คนเราไม่มีศาสนาได้ แต่ไม่มีศีลธรรม ไม่มีจริยธรรม ไม่มีethics ไม่ได้

คนต้องมีอะไรบางอย่างโปรแกรมไว้ว่า ถึงจะฆ่าคนแล้วได้ผลดีก็จะไม่ทำ ถ้าช่วยคนแล้วได้ผลเลวร้ายก็จะยอมทำ - อะไรสักอย่างที่แข็งแกร่งกว่าการคิด +- ด้วยเหตุผล เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว

สมมุติว่าถ้าสังคมไร้ระบบระเบียบอะไรทั้งสิ้น คิดว่าโลกนี้ป่าเถื่อนโดยสิ้นเชิง การทำดีส่วนมากให้ผลลบกับตัวผู้ทำ ส่วนการทำเรื่องเลวร้ายมักจะได้ผลบวกกับตัวผู้ทำเอง (ถ้าเราเอาสิ่งที่เรามีให้คนที่หิวเราจะมีน้อยลง / ถ้าเราทำร้ายแย่งชิงจากผู้อื่นที่อ่อนแอกว่าเราจะมีมากขึ้น) สังคมจึงต้องการบางสิ่งเพื่อให้คนยอมทำดีแม้จะเสียเปรียบ และยอมอดใจที่จะไม่ทำเลวแม้ว่าจะได้ประโยชน์เห็นๆ

กฎหมายมันเป็นแค่บัญญัติและการลงโทษโดยรัฐ ซึ่งมันอาจหลบเลี่ยงได้เมื่อรัฐไม่เห็น หรือไม่ก็วิธีบางอย่าง เช่นใต้โต๊ะ พ่อรวย เส้นใหญ่ ฯลฯ

กฎหมายอย่างเดียวนั้นไม่ได้สมบูรณ์ทุกเรื่อง กฎหมายบังคับใช้ไม่ได้ทุกที่ทุกเวลา มันไม่ได้มาเสือกถึงขนาดห้ามแซงคิว หรือให้เราพูดกับคนอื่นอย่างอ่อนโยน ให้เราเสียสละเพื่อคนที่มีน้อยกว่า ให้เราช่วยเหลือคนยากจน

จิตใจที่จะไม่ทำสิ่งเลวร้ายไม่ว่าจะได้รับบทลงโทษโดยรัฐหรือไม่ และจิตใจที่มุ่งจะทำสิ่งดีต่อผู้อื่นแม้ว่าจะต้องเสียผลประโยชน์จากการทำสิ่งดี จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นด้วย

ไม่ว่าจะสร้างด้วยศาสนา หรือวิธีสอนให้มีเหตุผล หรืออะไรก็ตาม

มามองบ้านเรา เอาล่ะ ความเชื่อวัฒนธรรมเก่าบางอย่างมันห่วย แต่ผมไม่คิดว่าการปฏิวัติวัฒนธรรมเผามันให้หมดจะดี ก็ต้องค่อยๆปรับเปลี่ยน ปฏิรูปกันไป

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

403 Nameless Fanboi Posted ID:c5leN79tJr

“ไท” เป็นชื่อของกลุ่มชนที่ใช้ภาษาตระกูลไท รวมถึงกลุ่มชนบางส่วนในภาคอีสานของอินเดีย (อาหม) ที่ปัจจุบันมิได้พูดภาษาตระกูลไทแล้ว และชาวไทยในประเทศไทย ก็เป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่ใช้ภาษาตระกูลไทเช่นกัน ซึ่งเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ประเทศ “สยาม” กลายมาเป็นประเทศ “ไทย” ด้วยจอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นต้องการเปลี่ยนเพื่อให้สอดคล้องกับ “เชื้อชาติ” ของคนในประเทศ

คำแถลงต่อสภาในปี พ.ศ. 2482 ของจอมพล ป. หรือพลตรี หลวงพิบูลสงคราม ตามยศถาบรรดาศักดิ์ในขณะนั้น ถึงเหตุที่ต้องเปลี่ยนชื่อประเทศมีอยู่ว่า

“…นามประเทศของเราที่ใช้เรียกกันอยู่ทุกวันนี้ ก็ได้ด้วยความเคยชิน หรือได้จดจำเรียกกันต่อๆ มา และได้พยายามให้เจ้าหน้าที่ค้นในทางประวัติศาสตร์ก็ไม่ปรากฏว่า ใครเป็นคนที่ได้ตั้งขึ้นคราวแรก และตั้งแต่ครั้งใดก็ไม่ทราบ เป็นแต่ว่าเราได้เรียกมาเรื่อยๆ เรียกว่าประเทศสยาม และคำว่า ประเทศสยามนั้น ก็มักจะใช้แต่ในวงราชการ และนอกจากนั้นก็ในวงของชาวต่างประเทศเป็นส่วนมาก ส่วนประชาชนคนไทยของเราโดยทั่วไป เฉพาะอย่างยิ่งตามชนบทด้วยแล้ว เราจะไม่ค่อยใช้คำว่า ประเทศสยาม เราใช้คำว่าไทย…”

“…การที่เราได้เปลี่ยนให้ขนานนามว่า ประเทศไทยนั้น ก็เพราะเหตุว่าได้พิจารณาดูเป็นส่วนมากแล้วนามประเทศนั้น เขามักเรียกกันตามเชื้อชาติของชาติที่อยู่ในประเทศนั้น เพราะฉะนั้นของเราก็เห็นว่าเป็นการขัดกันอยู่ เรามีเชื้อชาติเป็นชาติไทย แต่ชื่อประเทศของเราเป็นประเทศสยาม จึงมีนามเป็นสองอย่าง ดังนี้ ส่วนมากในนานาประเทศเขาไม่ใช้กัน…”

อีกเหตุผลสำคัญของจอมพล ป. ที่ “สยาม” จำต้องเปลี่ยนเป็น “ไทย” ก็เพราะเกรงว่า หากยังคงชื่อสยามไว้ ภายหลังอาจมีชนชาติอื่นอพยพเข้ามามากขึ้นแล้ว “ประเทศสยาม” อาจถูกชนชาตินั้นๆ อ้างเอาได้ว่า ประเทศนี้เป็นของตน

อย่างไรก็ดี คำแถลงของจอมพล ป. ไม่ได้บอกถึงเหตุผลว่าทำไมคำว่า “ไทย” ใน ชนชาติไทยที่ตนอ้างถึงจึงต้องมี “ย” ด้วย

แต่เบาะแสอันเป็นสาเหตุนั้น ปรากฏอยู่ในบทความ “เนื่องด้วยประวัติศาสตร์ชาติไทย” โดย สมภพ ภิรมย์ อดีตอธิบดีกรมศิลปากรที่กล่าวว่า ก่อนจะมีตกลงใช้คำว่า “ไทย” เป็นชื่อประเทศแทนคำว่า “สยาม” นั้น ได้มีการถกเถียงกันในสภามาก่อน โดยผู้ที่สนับให้ใช้คำว่า “ไทย” มี “ย” เป็นผู้ชนะในการลงมติไปด้วยคะแนนเสียง 64 ต่อ 57 ด้วยเหตุผลว่า

“ไทย มี ย เปรียบเหมือนผู้หญิงที่ดัดคลื่นแต้มลิปสติค เขียนคิ้ว ส่วนไทย ไม่มี ย เปรียบเหมือนผู้หญิงที่งามโดยธรรมชาติ แต่ไม่ได้ตกแต่ง’ จาก น.ส.พ. สุภาพบุรุษ 30 กันยายน 2482 (จากหนังสือชุดประวัติศาสตร์ไทย “เมืองไทยสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2” โดย แถมสุข นุ่มนนท์ หน้า 33)”

ด้วยเหตุผลดังกล่าวทำให้ สมภพกล่าวว่าตน “รู้สึกงงและจะขับขันก็ทำไม่ได้ถนัดได้เพียงปลงอนิจจัง” ก่อนกล่าวว่า การจะใช้คำว่า “ไท หรือ ไทย” นั้น “ควรต้องอาศัยหลักภาษาศาสตร์ หลักอักษรศาสตร์ และหลักนิรุกติศาสตร์ เป็นข้อพิจารณาเป็นข้อตัดสินตกลงใจทางวิชาการ มิใช่การออกเสียงเอาชนะกันในสภาผู้แทนราษฎร”

ภายหลังการเปลี่ยนชื่อประเทศ ราชบัณฑิตยสถานจึงได้บัญญัติความหมายของคำว่า “ไท” และ “ไทย” ไว้ในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2493 โดยให้คำว่า “ไท” แปลว่า “ไทย” ได้หนึ่งความหมาย และ “ผู้เป็นใหญ่” ในอีกหนึ่งความหมาย ส่วนคำว่า “ไทย” แปลว่า “ชื่อประเทศและชนชาติที่อยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้…; ความมีอิสระในตัว, ความไม่เป็นทาส;…”

ซึ่งการให้ความหมายของราชบัณฑิต ดูจะขัดกับความรู้สึกคนทั่วไปที่มักใช้คำว่า “ไท” แทนความหมายถึงการมีอิสรภาพ และการไม่เป็นทาสมากกว่า คำว่า “ไทย”

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

404 Nameless Fanboi Posted ID:pNo1kLp9ci

e-sport จะเป็นกีฬาหรือไม่เป็นกีฬาต่างกันยังไง
ในเมื่อใครๆก็อยากไป ti กับ blizzcon อยู่ดี
เหมือนเป็นนักบาสก็อยากไป nba มากกว่าโอลิมปิกปะวะ
มีแข่ง ได้ตังค์ก็พอละปะ ก็เป็นกีฬาหรือไม่ก็ช่างหัวมันเถอะ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

405 Nameless Fanboi Posted ID:1tScn.AhWj

เช้านี้อ่านเจอบทวิจัยชิ้นนึงอธิบายถึงบางอาการพวกเราเป็นกันบ่อย ๆ คือการที่รู้สึก "หมดแรง-หมดไฟ" กับการทำงาน

.

คำถามที่เขาตั้งขึ้นมาคือ Energy ที่รู้สึกว่ามันหายไปนั้นเกิดขึ้นจากอะไร?
ทำไมพวกเราถึงต้องหาวิธี Recharge ตัวเอง?
ทำไม Recharge แล้วบางคนถึงรู้สึกดีขึ้น? บางคนก็ไม่ต่างกัน?

.

คำตอบสั้น ๆ คืออาการที่เรียกว่า Ego Depletion ซึ่งมักจะเกิดหลังจากที่เรา "ชนเพดานของตัวเอง" ซ้ำ ๆ ... อาการจะคล้ายกันกับพวกเราหลายคนที่ทำการบ้านเลขไปนิดหน่อยแล้วหมดสภาพ แต่ถ้าเปลี่ยนให้ไปเล่นฟุตบอลละก็ทำได้ทันที ... หรือตัวอย่างอื่นอาจจะเป็นพวกเราบางคนที่เหนื่อยหน่ายกับการฝึกในยิมแล้วหนีไปห้องสมุดดีกว่า

.

การ "ชนเพดาน" เกิดขึ้นได้กับทุกคน เพราะกิจกรรมของมนุษย์มีหลายด้าน ... เราอาจจะปาร์ตี้ได้ทั้งคืน ทั้งเต้นทั้งคุยไม่ยอมหมดแรงเสียที แต่ประชุมแค่ไม่กี่ชั่วโมงแล้วรู้สึกว่าร่างกายอ่อนเปลี้ยเพลียแรงขึ้นมา ... นี่เป็นการชนเพดานที่เราตั้งเอาไว้ด้วยความเคยชิน ยิ่งเราพูดว่าเราไม่ชอบคณิตศาสตร์เราก็จะเจอเพดานนี้ทันทีที่เริ่มทำโจทย์คณิตศาสตร์ พอเราเจอการติดขัดเนื่องจากเราไม่ชำนาญในเรื่องนี้ (เพราะไม่ได้ทำบ่อย ๆ ) ... ตรงนี้เป็นจิตวิทยาที่ร่างกายเราสั่งงานอัตโนมัติ เพราะจิตเบื้องลึกของเราบอกว่า "เราทำไม่ได้หรอก ไปหาอย่างอื่นทำเหอะ"

.

สิ่งที่จะตามมาคือ สมองจะเริ่มสั่งให้เรา "วน" กลับไปที่การอ่อนแรง เพราะคราวที่แล้วเรา Rewards ร่างกายด้วยการเลิกทำเพื่อให้ไม่เครียด ... ครั้งต่อมาก็เลิกทำแล้วไปเปิดอะไรสนุก ๆ ดูคลายเครียด ... ร่างกายเลยเรียกร้องทันทีทุกครั้งที่ชนเพดาน

ไอ้ตอนที่เรา Rewards ในจังหวะนี้ด้วยการไปหาอะไรที่สนุกกว่านี้มาทำ หรือ Relax ซักเล็กน้อยด้วยกาแฟหรือดูหนังซักเรื่อง ... ร่างกายจะจำว่าได้รางวัล ถ้าเกิดเหตุนี้อีกมันสั่งให้เราอ่อนเปลี้ยเพลียแรงอีกเมื่อเราชนเพดานเดิมนี้ในวันต่อมา

.

การที่เราหลายคนต้องไปหากาแฟหวาน ๆ เย็น ๆ กินทุกครั้งที่เราชนเพดานก็คือการที่สมองบอกให้เรา "ถอย" ออกมาจากการทำงานที่เราคิดว่าตัวเองทำไม่ได้หรือทำได้ไม่ดีโดยที่เราไม่รู้ตัว ... และถ้าเราไม่สู้จนแก้โจทย์ได้สำเร็จ เราก็จะถอยอัตโนมัติแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก ...

.

ปัญหาก็คือ เรายังทำไม่เสร็จแล้ว Rewards ตัวเอง ... ไอ้ตรงนี้ร่างกายจะได้รับ Dopamine หรือที่เราเอามาเรียกกันว่าเป็นการ "โด๊ป" นี่แหละ ... ร่างกายจะรู้สึกดีมากเมื่อได้รับโดปามีน แต่ปัญหาคือมันได้มาง่ายและส่งผลรุนแรง มันจึงเป็นฮอร์โมนที่มีฤทธิ์เหมือนยาเสพติด เมื่อได้แล้วต้องได้เรื่อย ๆ เมื่อได้เล็ก ๆ ซ้ำกันหลายครั้งก็ต้องได้ใหญ่ขึ้น ... เป็นเหตุผลว่าในเวลาไม่นานเราต้องอัดตัวเองด้วยยาที่แรงกว่ากาแฟ นั่นก็คือการออกไปเที่ยวหรือที่เราเรียกว่า "ค้นหาตัวเอง" เพื่อเป็น Rewards ครั้งใหญ่ ... สิ่งที่ตามมาคือ Loop ที่ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ แต่เราก็ยังไม่สามารถทะลุเพดานออกไปได้เสียที

.

คนรุ่นใหม่ที่มีอาการ Ego Depletion นี้เยอะ ๆ ก็เพราะเรามี Rewards ให้เลือกกันเยอะมากในทุกวันนี้ ... ผู้ใหญ่ที่ชอบบอกว่าเด็กเดี๋ยวนี้ไม่อดทน ไม่โฟกัสก็เพราะว่าตอนรุ่นเขาทำงานนั้นมี Rewards ให้เลือกน้อยกว่าทุกวันนี้ เขาเลยถูกบังคับไปโดยปริยายว่าต้องแก้ปัญหาให้เสร็จ

.

เรื่องนี้น่าสนใจมาก ... เอาไว้ผมจะรีเสิรช์ให้เยอะขึ้นอีกหน่อยแล้วจะเขียนอธิบายยาว ๆ อีกทีสำหรับเรื่องเหล่านี้

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.