Fanboi Channel

โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 7th quotes

Last posted

Total of 1000 posts

1 Nameless Fanboi Posted ID:JxTeBqhN6j

มู้เก่า
https://fanboi.ch/lounge/1161 โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง
https://fanboi.ch/lounge/2603/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 2nd quotes
https://fanboi.ch/lounge/3016/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 3rd quotes
https://fanboi.ch/lounge/3530/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 4th quotes
https://fanboi.ch/lounge/4357/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 5th quotes
https://fanboi.ch/lounge/5233/ โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 6th quotes

2 Nameless Fanboi Posted ID:Hg8P/CX/I/

โคตรเท่อะ นักศึกษาวิศวกรรมการบิน พระจอมเกล้าลาดกระบัง
#วิทยาลัยอุตสาหกรรมการบินนานาชาติ
ค่าเทอมๆละ 440,000฿ จบปีแรก เงินเดือนๆละ 60,000฿ ทำงานปีที่ 2 ง/ด 100,000฿ เป็นกัปตัน ง/ด 150,000฿ ขึ้นไป (ชั่วโมงบิน 1,000ชม.) 2 ปี คืนทุนค่าบำรุงการศึกษา คุ้มค่าจริงๆ
เรียนวิศวกรรมการบินที่ลาดกระบัง ได้ใบอนุญาตการบินพาณิชย์ วิศวกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิศวกรรมการบินและมีวุฒิป.ตรีอีกสาขา คือวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาการขนส่งทางอากาศ (Logistics)
(ได้ฝึกบิน 200 ชม.แน่ะ)
บอกเลยว่าทำงานสนุกมาก
นักบินสมาร์ททุกคน
ปี 4 รุ่นแรกมี 21 คน
ปี 3 ,ปี 2 มีรุ่นละ 40 คน
ปี 1 มี 80 คน
รับได้สูงสุดถึงรุ่นละ 120 คน
ปี 4 ปีสุดท้ายต้องไปเรียนที่ชุมพร กินนอนที่นั่น ฝึกวินัย ตื่นตีห้า กินข้าวเช้า 07:00น. เริ่มเรียน 09:00น. ฝึกบินวันละ 3 ชม.ต่อคน มีครูฝึกดูแลตลอด 24 ชม.
#วิทยาลัยอุตสาหกรรมการบินนานาชาติ
#KMITL
#พระจอมเกล้าลาดกระบัง

3 Nameless Fanboi Posted ID:sTA1WAGSGh

>>2 มหาลัยชั้น 3 ยี้

4 Nameless Fanboi Posted ID:xODFwX.Q6B

>>3 ชั้นสามเหรอวะ ชั้นสี่ดิ

6 Nameless Fanboi Posted ID:J/juI9ACPf

ข่าวพักหลังๆที่คนตีกัน ผัวเมียไล่ยิงกัน ทะเลาะกันแบบใช้อาวุธเลือดอาบ
ผมเห็นพลเมืองดีช่วยเข้าไปห้ามทุกข่าวเลยนะ
มีข่าวนึง ที่กระบะเมายาบ้าลงไปใช้คัตเตอร์ฟันแท็กซี่เมาสุรา สาหัสไป 2 คน
ชาวบ้านแถวนั้นคนหนึ่งที่ลงไปห้ามและเอาผ้าก็อตไปทำแผลให้ คือ "ผู้หญิง" ครับ
โห...หัวจิตหัวใจเธอสุดยอด

จากข่าวเหล่านั้นที่ผมดูจะจะกะตา ผลก็คือต่างฝ่ายต่างแยกกันแบบไม่มีใครฆ่าใครตาย
และทุกข่าวไม่มีพลเมืองดีตายสักคน

คือคุณจะอ้างเรื่องพลเมืองดีตาย มันก็จริงครับ แต่มันน้อย
แต่ผมกำลังนำเสนออีกด้านว่า เข้าไปแล้วเรื่องจบด้วยดีก็มีเยอะ
มองให้รอบด้านด้วย อย่าเสนอด้านที่ตัวเองพอใจ แล้วมาชี้นำสังคมว่าต้องเป็นแบบนั้น

แล้วใครจะเลือกช่วยไม่ช่วย มันคือทางเลือกของแต่ละคน
แต่อย่ามาหาพวก เพื่อเข้าข้างตัวเองเลย

สังคมมันแย่เพราะคนเสนอแต่ด้านแย่ๆเพื่อปกป้องความอ่อนแอตัวเองนี่แหละ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

7 Nameless Fanboi Posted ID:0Ea52IQydL

มีใครเรียกร้องสิทธิ์จดทะเบียนสมรสระหว่างคนกับสัตว์ละยังคะ? เราต้องเปิดโอกาสให้คนกลุ่มนี้ด้วยรึเปล่า? อะไรยังไง? นับวันกูยิ่งมี character ของพวกอนุรักษ์นิยมไปทุกที ๆ ๆ ๆ เรื่องจดทะเบียนคนในสายเลือดเดียวกันมันไม่เมกเซ้นส์ในทางวิทยาศาสตร์อะมึง แมงมันรังเดียวกันยังแยกกันออกเลยตัวผู้ตัวเมียออกคนละรอบเพราะกลัวเย็ดกันเองจนสูญพันธุ์ คนที่มีความคิดความอ่านมากกว่าแมงมันแม่งจะให้เอากันเองอย่างถูกกฎหมาย บ้าไปแล้ว
#มิตรสหายมีงูท่านหนึ่ง

8 Nameless Fanboi Posted ID:QhuiFdnNgS

ทำงานให้ตั้งใจ แต่อย่าอิน!

เรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับคนข้างตัวผมครับ คือเค้าตั้งใจทำงานมากๆ มากจนอินเข้าไปในงาน ต้องทำให้เสร็จ เวลาก็น้อย คนที่ขอไปก็ไม่ได้สักที งานก็ต้องทำคนเดียว แบกรับความกดดันไว้คนเดียว กลับบ้านนี่ถ้าไม่ขาก่ายหน้าผาก ก็สลบเหมือดไปเลย เพราะทำงานเหนื่อยมากๆ ที่แย่ที่สุดคือ สุขภาพจิตเริ่มเสีย เพราะตัวเองทำงานไม่ได้ดีอย่างที่คนอื่นคาดหวัง ไม่ได้ดีอย่างที่เจ้านายต้องการ ทำงานก็ไม่เสร็จ งานที่ออกไปก็ไม่สมบูรณ์เพราะไม่มีเวลามากพอ ที่หนักที่สุด ก็คือ สุขภาพ เรื่องออกกำลังกายคือ ลืมไปได้เลย แล้วพักผ่อนก็น้อย สุขภาพ ก็แย่ลงเรื่อยๆ จนท้ายที่สุด ไปกระทบคนรอบข้าง เพราะการใช้ชีวิต การคิด การกระทำ เปลี่ยนไปจากเดิมหมดเลย

แบบนี้ผมคิดว่า อินเกินไป ซึ่งเป็นเรื่องที่ส่งผลที่แย่มากกว่าดี ผมก็เคยเป็นคนที่อินมากเกินไปกับงานมาแล้วเช่นกัน ทำให้ผมเข้าใจคนเหล่านี้เป็นอย่างดี จนกระทั่งวันที่ผมมองอีกมุมหนึ่ง แล้วได้มองกลับไป ก็พบว่า ตัวเองไม่น่าอินเกินไปเลย เพราะว่าการอินเกินไป ทำให้ งานออกมาไม่ดี คนรอบข้างก็ไม่อยากคุยด้วย (หงุดหงิดตลอด) การใช้ชีวิตก็เพี้ยนไปหมด กระทบสุขภาพ ผมก็ งง ตัวเองเหมือนกัน ว่าเราจะไปอินขนาดนั้นทำไม (เมื่อวันที่เราตาสว่างแล้ว)

ทางออกเหรอครับ ทำงานอย่างตั้งใจ ทำให้ดีที่สุดเท่าที่เราทำได้ และถ้าเกินกว่าขีดจำกัด ก็ต้องปล่อยวางบ้าง เหมือนเราขับรถยนต์ เราเร่งสุดคันเร่งเลย จนเครื่องร้อนมากเกินขีดจำกัด ถ้าเราไม่ผ่อน หม้อน้ำระเบิด เครื่องพังแน่นอน ดังนั้นเราเป็นคน เราก็มี limit เหมือนกัน เราจึงต้องรู้จักหย่อนบ้าง แต่ถ้าหย่อนบ้างแล้ว งานมันจะได้รับผลกระทบแน่นอน ให้เราเตรียมแผนรองรับเลย ก็คือ รีบแจ้งคนที่เกี่ยวข้อง ให้หาคนเข้ามาเสริมเราด่วน เพราะเราจะไม่ไหวแล้ว หรือว่า แจ้งไปเลย ว่าเราทำได้เพียงเท่านี้ ถ้าเกินกว่านี้ จะต้อง ทำนั่น เพิ่มนี่ จ้างโน่น ก็ว่ากันไป (นี่คือสิ่งที่เราควรทำจริงๆต่างหาก ไม่ใช่ทนทำงานต่อไปหน้ามือตามัว) คือเราไม่ได้จะทิ้งงานไปเฉยๆ แต่เราก็หาทางออกมาแล้วเหมือนกัน และคนที่เกี่ยวข้องก็ต้องช่วยเราด้วย แต่ถ้าทำแบบนี้แล้ว ไม่มีใครช่วย ก็ลองปล่อยไปเลยจริงๆ ดูครับ ว่ามันจะเป็นอย่างไร

เชื่อผมว่า ทุกบริษัทจะมีกลไกเยียวยาความผิดพลาดต่างๆอยู่แล้วแน่นอน ถ้ามันไม่ใหญ่ ไม่ใช่เรื่องเสียหายร้ายแรง ไม่มีปัญหาหนักใจแน่นอนครับ ต้องลองดูครับ

เชื่อผมครับ ว่า ตั้งใจทำงาน แต่อย่าอิน ลงตัวที่สุด

9 Nameless Fanboi Posted ID:QhuiFdnNgS

ฝ่ายชายอายุ 18 ขวบ "เพิ่งรู้จักฝ่ายหญิงกันแค่ 2 เดือน" เจอกันใน FB เลยนัดเย็ดกันขำๆ ใส่ถุงยาง พอเย็ดเสร็จ ฝ่ายชายก็เลิกติดต่อกับฝ่ายหญิง เพราะมีแฟนอยู่แล้ว

ต่อมา ฝ่ายหญิงก็มาบอกว่า "ชั้นท้องกับเธอนะ เธอต้องแต่งงานกับชั้น" โดยฝ่ายหญิงบอกว่า "ไม่ต้องออกค่าสินสอดให้ก็ได้" ฝ่ายชายจึงยอมแต่งด้วย แต่พอถึงวันแต่ง ฝ่ายหญิงกลับเรียกค่าสินสอดเป็นแสน ฝ่ายชายจึงหนีไป

พอฝ่ายหญิงรู้ว่าเจ้าบ่าวหนี ก็ยังจัดงานแต่งงานต่อ พอรับซองจากแขกเสร็จแล้ว เจ้าสาวก็ขึ้นเวทีบอกแขกว่า เจ้าบ่าวหนีไปแล้ว จบข่าว

ปล. พ่อเจ้าบ่าว อายุ 36 ขวบ จ้ะ

10 Nameless Fanboi Posted ID:VvzYBZrOOc

พ่อเจ้าบ่าว 36
เจ้าบ่าว 18

= พ่อเยดแม่ตอน 18

11 Nameless Fanboi Posted ID:GwBwUHemIo

>>10 17ย่าง18 หักช่วงท้องด้วย

12 Nameless Fanboi Posted ID:SLZt.iTqnJ

เดี๋ยวนี้เวลาพูดถึงชื่อ ขรรค์ชัย ก็มักนึกถึงภาพที่ว่าเป็นเจ้าของมติชน เป็นแบบผู้ยิ่งใหญ่ในวงการนสพ. ส่วนสุจิตต์ คนก็มักติดภาพเจ้าพ่อแห่งการแหก ไม่ว่าจะเรื่องคนไทยไม่ได้มาจากเทือกเขาอัลไต จารึกหลัก 1 ไม่ใช่ของพ่อขุนราม สุโขทัยไม่ใช่ราชธานีแห่งแรก ฯลฯ แต่ในมุมของความเป็นนักเขียนตั้งแต่หนุ่มนี่งานคลาสสิกแกมีเยอะ ที่ว่าคลาสสิกนี่เพราะหลายๆเล่มถ้าฉีกปกออกแล้วอ่านโดยไม่รู้ว่าเขียนมานานหลายสิบปีแล้ว ก็อาจนึกว่าเป็นเรื่องแต่งใหม่ เพราะเหตุการณ์ยังวนลูปเดิมให้ได้เห็นกัน

ตัวอย่างงานของขรรค์ชัยที่เห็นได้ชัดมาก คือ ชานหมากนอกกระโถน เรื่องพระสงฆ์องคเจ้าที่เรายกมือไหว้อะไรทำนองนั้น ควรหามาอ่าน ลองเทียบกับเหตุการณ์เมื่อไม่นานมานี้ที่ชวนให้สังคมตั้งคำถามกับวงการผ้าเหลืองอย่างที่รู้ๆกัน

ส่วนสุจิตต์ ก็แน่นอนว่าต้องเป็น หนุ่มหน่ายคัมภีร์ ที่พระเอกกระทำการขบถต่อระบบโซตัสในมหาวิทยาลัย เล่มนี้พิมพ์แล้วพิมพ์อีกก็ยังขายได้ แล้วดูทุกวันนี้ยังมีข่าวบ้าๆบอๆรุ่นพี่ทำร้ายรุ่นน้องม้ามแตก น่าเวทนา

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

13 Nameless Fanboi Posted ID:4.mSUN9hlZ

เบื้องหลัง จม. อีลอนต้องมายอมขอโทษเรื่องพีโด้

Elon,

I’m writing on behalf of investors who believe in you and your mission to accelerate the globe’s adoption of sustainable energy. Your track record as a visionary is unprecedented, and I also recognize the intangibles of your leadership – building a culture of walking through walls and inspiring a workforce to a level I have not seen in over 20 years of covering tech.

However, continued success requires investor support. In order to realize your mission, Tesla needs access to capital and the confidence of investors.

Over the last 6 months, there have been too many examples of concerning behavior that is shaking investor confidence. In my view, your outburst at analysts on the March 2018 earnings call, your ongoing frustration with short sellers and the media, your June email exchange with the saboteur, and your confrontation on Twitter with cave diver Vern Unsworth each raised flags with investors.

The exchange with Vern Unsworth crossed the line. I suspect you would agree given you deleted the string from Twitter, but it will take more than that to regain investor confidence.

Your behavior is fueling an unhelpful perception of your leadership – thin-skinned and short-tempered.

Thankfully, the road to regaining investor confidence is well traveled. It starts with an apology. Then, focus your message on your progress toward achieving Tesla’s mission. You might consider taking a Twitter sabbatical. Twitter might keep Tesla in the news but it won’t help continued improvements in production and product.

Also, ignore the short sellers. During my time as an analyst I have observed that when companies aggressively engage with short sellers, they lose. The best way to beat them is not with words, but actions that drive the stock higher.

It’s hard to imagine the responsibility and strain of managing several world-changing companies, but I’m confident that this letter represents the view of investors and customers who want to see you succeed. Listening to the herd is rarely how the world changes, but in this scenario I hope you’ll consider the opinion of your supporters and do your best to improve.

Respectfully,

Gene Munster

Disclaimer: We actively write about the themes in which we invest: virtual reality, augmented reality, artificial intelligence, and robotics. From time to time, we will write about companies that are in our portfolio. Content on this site including opinions on specific themes in technology, market estimates, and estimates and commentary regarding publicly traded or private companies is not intended for use in making investment decisions. We hold no obligation to update any of our projections. We express no warranties about any estimates or opinions we make.

Tesla

14 Nameless Fanboi Posted ID:NrNDzlwcrz

"ในสายตาของ เรนฮาร์ด กรินเดล และผู้สนับสนุนของเขา ผมเป็นคนเยอรมันเมื่อเราชนะ แต่เป็นแค่คนอพยพเมื่อเราแพ้"

15 Nameless Fanboi Posted ID:.KhOPN8/sh

>>14 และเป็นเจ้าของไม้เอลเดอร์เมื่ออยู่ในแฮรี่

16 Nameless Fanboi Posted ID:co5ZHENrjD

>>14 กูอ่านquoteนั้นนี่เศร้าเลยว่ะ เออซิล(ö มันไม่ได้อ่านว่า o เลิกเล่นมุขเบอร์10ได้ล่ะ เสร่อชห) มันสะท้อนว่าปัญหาเหยียดเชื้อชาติลึกๆยังไม่ไปไหน ขนาดเค้าอยู่มารุ่น3จนความจริงไม่คิดแล้วว่าอินี่เป็นเติร์ก(กูคนจีนแท้ อยู่มารุ่น3กูก็เชื้อชาติไทยเลยนะเพราะพ่อแม่เกิดในไทย) บอลโลกที่ตกรอบถ้าด่าก็ควรด่าทุกคนอ่ะไม่ใช่เออซิลคนเดียว

17 Nameless Fanboi Posted ID:iSKBtI599c

>>14 อยากให้ระลึกไว้ว่าคนเยอรมันครั้งนึงก็เคยมั่วนิ่มว่าตัวเองเป็นคนโรมันอ่ะครับ

18 Nameless Fanboi Posted ID:IToa4iBlUp

>>16 อี๋เจ๊ก

19 Nameless Fanboi Posted ID:m9m4QzpxQW

https://www.youtube.com/watch?v=TNJaQIGnwew

20 Nameless Fanboi Posted ID:mlQacy0fQx

#โครงการห้องสมุดเฌอปราง เป็น #ความสิ้นคิด ที่ผมไม่เคยคิดว่าจะได้เห็นอะไรที่น่าสมเพชได้ขนาดนี้ครับ

ฝ่ายการตลาดของวงครับ คุณควรที่จะให้คุณเฌอปรางปฏิเสธการใช้ชื่อของเธอ และควรมอบหมายให้ตั้งชื่อเพื่อเป็นอนุสรณ์แก่เจ้าของโครงการที่เป็นผู้ระดมทุนเองทั้งหมดต่างหาก

คุณกำลังทำการตลาดได้อย่างไร้จรรยาบรรณที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็น #คุณสร้างภาพจำให้กับเด็กๆในโรงเรียน ว่าไอดอลผู้นี้มีคุณูปการแก่โรงเรียนทั้งๆที่มันไม่ใช่เรื่องจริงเลยแม้แต่นิดเดียว

คุณพึงระลึกไว้นะครับว่า #คุณเฌอปรางเธอไม่ได้ทำอะไรเลย นอกจากเต้นโชว์วับๆแวมๆแล้วทำการตลาดมาแพ็คเกจขายในชื่อ #ความพยายาม เพื่อสะกดจิตโอตะร่วมกับการตั้งกฎเกณฑ์ไร้สาระของทางวง โก่งราคาให้คนที่หลงใหลมาทุ่มเงินจ่ายแก่สินค้าที่ระลึกราคาถูกให้พวกคุณขายฟันกำไร

เงินสร้างห้องสมุดที่ได้มาจากการขายสินค้าทำกำไร เป็นน้ำพักน้ำแรงของเจ้าของโครงการทั้งสิ้น

การที่คุณยินยอมให้ใช้ชื่อ "เฌอปราง อารีย์กุล" และอวดอุตริผิดมนุษย์ช่วยกันแชร์ให้เป็นกระแสไวรัล มันคือการที่ #คุณกำลังพยายามขยายกลุ่มลูกค้าแห่งใหม่ โดยใช้เด็กๆในโรงเรียนต่างจังหวัดที่ขาดทุนทรัพย์เป็นฐานกำลังตลาด

#คุณกำลังทำให้เด็กๆซึมซับวัฒนธรรมไอดอล ที่หลายฝ่ายรวมถึงผมกังขาว่าเป็นการทำเด็กผู้หญิงให้เป็นวัตถุทางเพศของกลุ่มชายหนุ่มที่มากด้วยวัยวุฒิ

ผมสมเพชเวทนาครับกับการที่โครงการดีๆอย่างการสร้างห้องสมุดให้แก่โรงเรียนชนบท กลับกลายว่าจะต้องมีวาระแอบแฝงเป็นการตลาดของวัฒนธรรมไอดอล ให้แนวคิดสุดอนาถนี่ซึมซับอยู่ในจิตใต้สำนึกของเด็กๆที่เค้าไม่มีโอกาสได้รับรู้ข้อวิจารณ์ถึงวัฒนธรรมนี้เลย

ถ้าจะเปรียบเปรยไปให้สุดโต่ง เหมือนใครอยากจะอุตริสร้างห้องสมุดอุทิศให้หญิงสาวดาวยั่วที่ตนหลงเสน่ห์ โดยใช้ชื่อดาวโป๊หรือดาราที่เป็นนางบำเรอของเสี่ยๆนางนั้นมาเป็นชื่อห้องสมุดให้เด็กๆเรียนรู้

#มันสมควรไหมครับ?

ประเทศนี้มันมาถึงกลียุคขนาดว่าคนทำโครงการดีๆ ต้องเซ็นเซอร์หน้าตา ชื่อเสียงเรียงนาม เพื่ออุทิศความดีที่ตัวเองทำให้กับไอดอลที่เต้นและทำการตลาดให้เขาหลงเสน่ห์แล้วหรอครับ?

คุณต้องเริ่มคิดขีดเส้นได้แล้วนะครับว่าคุณจะผลักดันวัฒนธรรมไอดอลนี่ให้ไปถึงไหน

สำหรับผมแล้ว คุณข้ามเส้นไปมากตั้งแต่กรณียินดีโปรโมตข่าวยินยอมให้ คุณ รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธุ์ เสนอนำรูปคุณเฌอปรางขึ้นไปร่วมกับการทดลองในอวกาศ โดยไม่สนใจว่าเป็นโครงการทดลองทางวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยของรัฐที่ไม่ควรมีปัจจัยด้านการตลาดเข้ามาเกี่ยวข้อง

จนกระทั่งถึงวันนี้ คุณได้ทดสอบเส้นมาตรฐานจริยธรรมอีกเส้นหนึ่งเกี่ยวกับการทำการตลาดกับโรงเรียนและเด็กๆที่ขาดโอกาส

#วันนี้คุณได้ข้ามเส้นกั้นแห่งจริยธรรมทางธุรกิจใดๆไปอย่างสมบูรณ์แล้วครับ

การกระทำทั้งหมดนี้คือความสิ้นคิดไร้สติโดยสิ้นเชิงของผู้สนับสนุนวัฒนธรรมไอดอล

#รวมถึงตัวไอดอลเองที่คิดไม่ได้
#ไม่ฉลาดเฉลียวเหมือนที่คุยไว้ครับ

รศ.ดร.เจ็ดแมงดา เอาเชอมาทำพันธุ์

21 Nameless Fanboi Posted ID:RmbDfjR0XG

>>17 เป็นคน (โฮลี) โรมัน

22 Nameless Fanboi Posted ID:skxgVlRBt.

>>21
>Holy
>Roman
>Empire

23 Nameless Fanboi Posted ID:i3x/S8+zR5

>>20 กูตกข่าวว่ะเรื่องรี้มีลิ้งไหม?

24 Nameless Fanboi Posted ID:vjSEri9V7N

อนุรักษ์นิยมกะโหลกกะลา พูดอยู่นั่นแหละว่าเสรีภาพและประชาธิปไตยเป็นของฝรั่ง
ทำไมไม่พูดบ้างว่าพุทธศาสนาเป็นของอินเดียไม่เหมาะกับไทย

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

25 Nameless Fanboi Posted ID:.FdFCjjIZQ

>>20 สรุปประเด็นคืออะไรวะกูงง เอาชื่อคนมาตั้งห้องสมุดก็มีเยอะแยะ

26 Nameless Fanboi Posted ID:06E/8gFk2N

>>24 ต... แต่พระพุทธเจ้าเป็นคนไทยนะ

27 Nameless Fanboi Posted ID:/oqZrU.sot

>>24 "พุทธ" แบบประเทศเรานี่มันออกอ่าวจากของเดิมไปไกลมากแล้วนะ มากเสียจนเป็นอะไรไปแล้วก็อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน 55555+

28 Nameless Fanboi Posted ID:ag5HdIO9Ub

>>27 พุทธ์เหี้ยไรอะไปขูดต้นไม้ จุดธูปขอหวยกับบ่อขี้วะ 555

29 Nameless Fanboi Posted ID:jZw/2zJ42F

พุทธแต่ในบัตรประชาชนมากกว่า ประเทศเราแม่งเหมือนเหี้ยอะไรก็ได้ที่ไหว้ขอโชคขอลาภขอสาปแช่งได้พวกก็พร้อมนับถือหมด

30 Nameless Fanboi Posted ID:PKD.4a+bGr

#บ่น ประโยคพูดประมาณว่า...
- เห็นหน้าตาดี ไม่คิดว่าจะนิสัยแบบนี้
- สวย ๆ อย่างนั้นทำไมสร้าวเรื่องใหญ่โตแบบนี้
- หล่อระดับดาราขนาดนั้น ไม่คิดว่าจะสันดานต่ำ
- โหงวเฮ้งดูดี ไม่คิดว่าจะเป็นแบบนั้น
- หน้าตาก็ใช้ได้ ทำไมถึงไปโกงชาวบั้นแบบนั้น
- เขาก็พยายามเทคแคร์ ดูแลรับส่งนะ แต่หน้าตาไม่ผ่านมาตรฐาน ที่บ้านเขาไม่ชอบก็คงไม่ให้แต่งหรอก
ฯลฯ

คือแบบ พวกมึงก็มองคนจากภายนอก ไม่พ้นหน้าตาและรูปลักษณ์นั่นแหละ แต่ปากก็บอกว่า “มองคนที่จิตใจ” อ่ะ โคตรน่ารังเกียจ... =_= ถ้าจะมองคนไม่พ้นจากตรงนั้นอย่าสะเออะบอกว่ามองคนที่จิตใจ...

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

31 Nameless Fanboi Posted ID:Ht1iH/hkfL

>>30 เวลาได้ยินข่าวก็จะได้ยินแบบนี้นะ ครูสาว(สวย)บนดอยแสนใจดี พ่อค้าหนุ่ม(หล่อ)ใจบุญ สาว(สวยเซ็กซี่)ใจงามช่วยคนยากไร้

32 Nameless Fanboi Posted ID:zT5GKvmknT

>>29 กูเห็นที่มีรูปศาสนาเบค่อน ตอนนี้มันเปลี่ยนได้ตามใจยังวะ บัตรหมดอายุรอบหน้ากูจะไปเปลี่ยนศาสนาในบัตรมั่ง

33 Nameless Fanboi Posted ID:+xtf65KHcJ

ตกลงกับมยุรีว่าจะไม่จัดงานแต่งงาน
มันเปลือง
จดแค่ทะเบียนสมรสก็พอ

และถ้าเราจะจดทะเบียนสมรส ก็ขอให้เป็นวันที่ 25 มิถุนายน
เพราะวันที่เราตกลงคบกัน
คือ...มนุษย์เรามันไม่ควรมีวันสำคัญเยอะขนาดนั้นป่ะวะ
ถ้าเราเลือกได้ ก็กรุ๊ปๆ ให้มันเป็นระเบียบหน่อย
(หมดกันความโรแมนติค)

มารู้ตัวกันอีกที ลืมกันทั้งคู่
จบ.

งั้น...เลื่อนไปอีกวันละกัน อย่างน้อยก็ยังยึดวันที่ 25 อยู่
วันจดทะเบียนจึงกลายเป็น วันที่ 25 กรกฏาคมนั่นเอง

ครบรอบ 7 ปี จดทะเบียนสมรสแล้ว

รักมยุรีนะ

รูปถ่ายโดยพี่ bickboon ที่อยู่ดีๆ ก็ต้องมาเป็นสักขีพยานในวันนั้น 5555

34 Nameless Fanboi Posted ID:+xtf65KHcJ

ภาษาแรกที่ต้องเรียนรู้คือ ภาษาคณิตศาสตร์ แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเรียน BADS โดยไม่ใช้ภาษาคณิตศาสตร์ เพราะพวก Model และ Algorithms ต่างๆ ก็ใช้คณิตศาสตร์เป็นพื้นฐานทั้งสิ้น
ภาษาที่สอง คือ ภาษาสถิติ ฐานของ BADS ยังไงก็ต้องรู้สถิติเป็นอย่างดี ต้องรู้ลึกซึ้ง เข้าใจศัพท์ เข้าใจทฤษฎี เข้าใจเหตุผล ดังนั้น BADS ต้องเรียนสถิติ ต้องมี Statistical literacy สูงมาก
ภาษาที่สาม คือ ภาษาคอมพิวเตอร์ ต้องเรียน Programming language ที่ใช้ใน BADS อย่างน้อยก็ควรเรียนภาษาที่ใช้จัดการกับข้อมูล เช่น SQL หรือ Hadoop ซึ่งจัดการกับข้อมูลแบบมีมีโครงสร้างและไม่มีโครงสร้าง ส่วน R นั้นเป็นภาษาโปรแกรมมิ่งทางสถิติซึ่งน่าจะอยู่ไปอีกยาวๆ เพราะเป็น freeware และมี package ให้ใช้ฟรีเยอะมาก ส่วน Python นั้นจะเป็นภาษามาตรฐานสำหรับ Machine learning และ artificial intelligence อย่างน้อยๆ ก็น่าจะทำงานกับภาษาเหล่านี้ได้
ภาษาที่สี่ คือ ภาษาธุรกิจ และแน่นอนว่าการบัญชีเป็นภาษาธุรกิจ BADS ที่ดีต้องเข้าใจ flow ของบัญชี จะช่วยให้เข้าใจว่าข้อมูลไหลจากที่ไหนไปที่ไหนในหน่วยงาน ความรู้ศัพท์บัญชีจะช่วยให้อ่านงบการเงินได้เข้าใจ คนเรียน BADS ควรเข้าใจหลักการบัญชีเบื้องต้นและอ่านงบการเงินได้ เข้าใจผังบัญชี
ภาษาที่ห้า คือ ภาษาอังกฤษ เพราะโลกของ BADS เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วมาก หากไม่มีการติดตามความรู้ใหม่ๆ จากต่างประเทศ จะตกยุคและทำงานไม่ได้จริงอย่างรวดเร็ว การอ่านภาษาอังกฤษได้เป็นการเปิดพรมแดนแห่งความรู้ของ BADS
ภาษาที่หก คือ ภาษากฎหมาย อย่าคิดว่าไม่สำคัญ เพราะเวลาไปตกลงทำงานกัน ต้องอ่านสัญญาเป็น ต้องร่าง MOU ข้อเสนอทางการเงิน ข้อเสนอทางเทคนิค ต้องเข้าใจกฎหมายเรื่องทรัพย์สินทางปัญญา เข้าใจเรื่องสิทธิส่วนบุคคล และประเด็นอื่นๆ อีกมาก
ภาษาที่เจ็ด คือ ภาษาคน คนในวงการ BADS และ IT และสถิติ มีชื่อเสียงเลวร้ายว่าพูดและสื่อสารกับคนอื่นนอกวงการไม่ค่อยรู้เรื่อง ภาษานี้จำเป็นมาก เพราะทำให้ BADS ซึ่งต้องติดต่อขอความรู้มือ นำเสนอ โน้มน้าว คนจำนวนมาก ตั้งแต่ CEO จนถึงเจ้าหน้าที่ลงข้อมูล หากพูดไม่รู้เรื่องแล้ว Actionable knowledge ที่พยายามสร้างมาจาก BADS ก็จะไม่มีคุณค่าอะไรเลย นอกจากนี้ทักษะในการเขียน ทักษะในการนำเสนอ ก็สำคัญมากเช่นกัน
ทั้งหมดนี้ เรียนรู้ได้ และทำงานเป็นทีมได้เช่นกัน แต่คนเราควรพัฒนาตนเองตลอดเวลา อะไรที่ยังไม่รู้ก็สามารถศึกษาเพิ่มเติมเพื่อนำมาเติมเต็มในส่วนที่เราขาดไป

35 Nameless Fanboi Posted ID:TSV8EdSX1U

>>25 กูจับใจความได้ว่า ฌ ไม่ควรได้รับเกียรติให้เอาชื่อไปตั้งเป็นห้องสมุดอะ ถ้าเทียบกับคนที่ออกทุนบริจาคซึ่งควรได้รับตรงนั้นมากกว่า

>>32 ศาสนาแปลกๆ กูไม่แน่ใจนะ แต่ส่วนตัวกูตอนทำบัตรครั้งล่าสุดเมื่่อไม่กี่ปีนี้ ช่องศาสนากูเอาออกละ คือขีดละไม่ได้ใส่อะไรไว้ จนท.อำเภอก็ทำหน้างงๆ นิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร

36 Nameless Fanboi Posted ID:R42x3KrBV7

หรือจริงๆ เราควรจะ fork ราชบัณฑิตได้แล้ว จะได้มี alternative standard ที่ไม่บ้า

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

37 Nameless Fanboi Posted ID:PcpJ8MX6JE

ต่อไปเป็นข่าวต่างประเทศ

ที่หลุยเซียนาประเทศสหรัฐอเมริกาเกิดน้ำท่วม
ทำลายบ้านของนักพูดคริสเตียน
ผู้ซึ่งบอกว่า
"พระเจ้าส่งภัยพิบัติทางธรรมชาติ มาเพื่อลงโทษพวกเกย์"

https://www.independent.co.uk/news/world/americas/christian-home-destroyed-flood-tony-perkins-natural-disasters-gods-punishment-homosexuality-a7196786.html

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

38 Nameless Fanboi Posted ID:xkGn1XVMV4

ฟังเสวนาที่ธรรมศาสตร์แล้ว ผมอารมณ์ขึ้นหน่อยๆ อยากจะย้ำประเด็นเกี่ยวกับการเมืองที่ผมพูดมาตลอดซ้ำๆ แต่ผมคิดว่ามิตรสหายเสรีนิยมทั้งหลายไม่เข้าใจ และคิดว่าผมบ้า

คือคุณไม่มีทางเป็นประชาธิปไตยได้ ถ้าคุณไม่มีเปลี่ยนชุดความคิดพื้นฐานของชนชาติใหม่

ตอนผมอยู่ในคุก ผมใส่ชุดนักโทษ ผมอยู่ในสภาพตกต่ำแบบประมาณว่าครึ่งมนุษย์ อีกนิดนึงจะเป็นสัตว์ ผู้คนต้องหาคำอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นกับผม เมื่อคนที่ไม่รู้จักผมมองเห็นผม เขามีท่าทีผิดไปจากเวลาที่ผมใส่ชุดปรกติ พวกนักโทษต้องหาคำอธิบายสภาวะนี้ของตัวเอง

ผมพบว่ามันมีชุดความคิดพื้นฐานของสังคมสองชนิด เรียกว่าแบบตลาดล่าง กับแบบตลาดบนก็แล้วกัน
.
.
.
แบบตลาดล่างคือ ระบบชุดความคิดแบบวาสนา

คือ ถ้าคุณเกิดมาวาสนาดี ชีวิตคุณจะดีเป็นแพ็คเกจ รวย หล่อ มีอำนาจ มีคนนับหน้าถือตา ถ้าคุณวาสนาไม่ดีก็จะตรงกันข้าม

ทั้งหมดเป็นผลที่มาจากสภาวะความดีที่คุณเคยทำมา เป็นตัวกำหนดคุณภาพวิญญาณของคุณ

หมายความว่าสภาวะภายนอก ทั้งฐานะ หน้าตา รูปร่าง โชค สะท้อนมาจากคุณภาพของดวงวิญญาณภายใน

ถึงขั้น พูดด้วยซ้ำว่าพวกนักโทษเป็นวิญญาณที่ควรจะเป็นสัตว์ แต่มาเกิดในร่างมนุษย์

โดยตรรกะคือ ถ้าคุณเป็นคนดี คุณไม่เกิดมาจนหรอก แต่ถ้าคุณเกิดมาจน โง่ ก็แสดงว่าคุณทำกรรมมา

แสดงว่าสภาพทุกข์ทั้งหลายที่เป็นอยู่ ก็เป็นผลมาจากสิ่งที่คุณเคยทำมา

คนอยู่ในคุก ก็เป็นเพราะกรรมอะไรบางอย่าง ไม่ชาตินี้ก็ชาติก่อน

ไม่ว่าคุณจะโดนอะไร ก็เป็นผลที่คุณต้องได้รับจากสิ่งที่คุณทำ

คุณจะมาเรียกร้องความเท่าเทียม โซเชียลเวลแฟร์ห่าอะไร กรรมคุณทำเองทั้งนั้น ก้มหน้ารับไปดิ

ต่อให้คุณประท้วงว่า ไอ้สัส กูแค่ซวย เพื่อนก็จะมานั่งด่าซ้ำว่ามึงต้องทำกรรมอะไรมาแน่ๆ เลยซวยแบบนี้ ระบบกรรมมันไม่ผิดพลาดหรอกเว้ย

ผมโคตรเกลียด เวลานักโทษปลอบผมว่า "อย่าคิดมา คิดเสียว่าชดใช้กรรม" เท่ากับมานั่งด่าว่า ผมต้องทำอะไรสักอย่างผิดมาในอดีต ไม่ชาตินี้ก็ชาติก่อนดีๆนี่เอง

ในทางกลับกัน ถ้าคุณเกิดมารวย ไม่มีเหตุผล นั่นก็เป็นสิ่งที่คุณสมควรได้รับแล้ว เพราะเป็นผลบุญจากชาติที่แล้ว

คุณไม่จำเป็นต้องรู้สึกว่าคุณได้อภิสิทธิ เพราะนี่คือผล จากสิ่งที่คุณทำในอดีตเอง เหมือนปลูกพืชแล้วกินผลของพืชที่ตัวเองปลูก พวกเขาไม่คิดว่าตัวเองดวงดี เกิดมามีเงิน เพราะมันเป็นผลของชาติที่แล้วที่ตัวเองลงทุนไว้

เมื่อคิดแบบนี้ ถ้าคุณเป็นคนเกิดมารวย เรื่องอะไรคุณจะต้องไปช่วยคนเลว?

โอเค บางทีคุณอาจจะคิดที่จะทำบุญ เพื่อผลในอนาคต

แต่ก็มีความคิดว่าทำบุญกับคนดี ได้บุญมากกว่าทำบุญกับคนบาป บางคนพูดว่าถ้าช่วยคนเลว แล้วคนเลวกินข้าวเราเอาแรงไปทำเลวเราก็ได้บาป

มีครั้งหนึ่งตอนที่ผมบอกว่าผมเอาของเยี่ยมไปแบ่งให้นักโทษที่มันไม่มีแม้แต่แปรงสีฟันจะแปรง เสื้อก็ไม่มีใส่ แต่คนมาเยี่ยมผมไม่พอใจ บอกว่า เขาอยากเอาให้ผมไม่ใช่เอาให้พวกนักโทษ

ผมถามว่า แล้วผมกับนักโทษคนอื่นมันต่างกันยังไง

เขาบอกว่า เพราะผมไม่ได้ทำอะไรผิด แต่นักโทษคนอื่นทำผิดจริงๆ

ผมบอกว่า ผมเนี่ย มีของเต็มล็อกเกอร์จนมันเน่าแล้ว แต่คนอื่นไม่มีกิน เพราะผมเป็นคนดี ส่วนคนอื่นเป็นคนเลวเนี่ยนะ

ถ้าเราแบ่งคนพวกนี้แต่แรกตั้งแต่ตอนมันยังอยู่ข้างนอก มันก็ไม่ต้องไปปล้นคนอื่นกิน แล้วก็ไม่ต้องมาอยู่ในคุก มันจะเข้าใจว่าคนในสังคมเป็นเพื่อนมัน ไม่ใช่ศัตรูที่ต้องแย่งชิง

แต่เราไม่ทำ แล้วต้อนมันจนมุม พอมันมาอยู่ในคุก ก็ต้องรู้สึกอีกว่า สังคมกระทืบเหยียบซ้ำ ไหนๆมันก็เลวแล้ว ทำไมต้องสนใจคนดี โลกแบ่งเป็นสองส่วน โลกของคนดีมีวาสนา กับคนเลว ด้อยวาสนา

ในฐานคิดแบบนี้ คุณจะบอกคนพวกนี้ได้ยังไงว่าคนมันเท่ากัน

ขนาดพวกคุณเรียกตัวเองว่าฝ่ายประชาธิปไตยแท้ๆ นักโทษธรรมดา กับนักโทษการเมืองยังไม่เท่ากันเลย

แล้วคุณจะบอก คนที่คิดว่าตัวเองเกิดมามีวาสนาได้ยังไง ว่าคุณก็เท่ากับคนที่มันนอนอยู่ตามข้างถนน ไม่ได้ไปโรงเรียน

ชุดความคิดแบบแบบตลาดล่างนี้ ไม่มีทางนำไปสู่ความคิดว่าคนเท่ากัน

เพราะคนแบ่งลำดับชั้นตามวาสนา

รากฐานของประชาธิปไตยคือคนเท่ากัน ถ้าสังคมเราคิดแบบนี้ไม่มีทางเกิดประชาธิปไตย
.
.
.
ชุดตลาดบนคือ เผด็จการโดยธรรม

พวกชนชั้นกลางมีการศึกษาอาจจะปฏิเสธเรื่องชั้นวาสนาจากกรรม แต่แบ่งชั้นคนจากความดี

มีคนดี กับคนเลว

คิดว่า คนเลวในสังคมมีมาก คนดีมีน้อย

ประชาธิปไตยคือเสียงส่วนใหญ่ ปกครองส่วนน้อย

คนเลวมีมากกว่าคนดี ประชาธิปไตยก็ย่อมให้คนเลวปกครองคนดีเรื่อยไป

ฐานคิดแบบนี้ไม่มีทางนำไปสู่ประชาธิปไตยได้

พวกนี้จะเรียกร้องเผด็จการโดยคนดี และปฏิเสธระบบเสียงข้างมากไปตลอดกาล
.
.
.

(มีต่อ)

39 Nameless Fanboi Posted ID:xkGn1XVMV4

(ต่อจาก >>38 )

ผมนั่งคิดเรื่องนี้อยู่ในคุก

จะทำยังไงถึงจะเปลี่ยนชุดความคิดสองชุดนี้ของคนไทยได้

คือคุณดูถูกศาสนาไม่ได้ มันคือสถาบันการสร้างวาทกรรมพื้นฐานของสังคม เหมือนลง OS คอมพิวเตอร์

ผมไม่คิดว่ามันเป็นแก่น สารัตถะ ของ "พุทธแท้" แต่มันครอบงำสังคมไทยอยู่

คุณต้องมีชุดคำอธิบายจากมุมของศาสนาพุทธใหม่ เพื่อที่จะบอกว่า "คนเท่ากัน" และเพื่อที่จะให้ระบบเสียงข้างมากเป็นไปได้

ผมรู้สึกว่า สมมุติผมคิดได้ ในฐานะนักฆารวาสผมจะทำอะไรได้

จะเอาอะไรไปสู้กับความคิดตลาดรากที่ฝังรากอยู่กับคนที่ไปจุดธูปขอหวย รอวาสนา กับตลาดบนที่มีพุทธทาส มีท่าน ว.

ผมรู้สึกว่ามันยากมาก เราต้องการ มาร์ติน ลูเธอร์ เวอร์ชั่นพุทธ จะต้องต่อสู้ จะต้องโดนกระทืบอีกเท่าไหร่

ทางนี้ผมไม่ไหว ขอฝากให้หลวงพี่พระมหาไพรวัลย์
.
.
.
ผมคิดถึงเส้นทางเดินแบบเอธิสเหมือนกัน ผมจะเปลี่ยนความคิดจากฐานรากของสังคมโดยที่ยังเป็นเอธิสได้มั้ย

แต่ยากว่ะ

ผมพูดตรงๆ ต่อหน้าความตาย ต่อหน้าความสิ้นหวัง คุณจะไปบอกคนที่นอนอยู่ข้างถนนยังไงให้เชื่อว่าคนเท่ากัน ในฐานะเอธิส

แม้แต่ตัวผมเองที่อยู่ในคุกตอนนั้น ยังเอาจิตใจตัวเองไม่รอดเลย มันแตกสลายชิบหาย จะเอาอะไรไปให้ความหวังคนอื่น

ผมคิดถึงเรื่องเล่าของอาจารย์มหาลัยของผมที่ออกจากป่า มาเห็นเด็กขายพวงมาลัยตอนตัวเองขับรถอยู่ แล้วต้องร้องไห้กลางสี่แยกไฟแดง ว่า "ขอโทษน้อง พี่พยายามเต็มที่แล้ว"

มนุษย์ไม่ใช่อะไรที่แข็งแรงขนาดนั้น เราแบกไว้ไม่ได้ขนาดนั้น
.
.
.
โซลูชั่นของผมคือ ผมย้ายค่ายง่ายกว่า

เปลี่ยนจากแอนดรอย ไปใช้แอปเปิล ทีเดียวจบ คือสมัยยุคกลางมันก็เคยเป็นไม่ต่างกันแหละ ทางนี้คิดมากให้แล้ว จ่ายไปด้วยเลือดและเปลวไฟไปช่วงเวลา 400 ปี โดนเผากันมาจนคิดมาจบแล้ว พัฒนาการมาพร้อมสังคม

จนได้ชุดความคิดว่า พระเจ้าสร้างคนมาเท่ากัน คนบาปกันหมด พวกคิดว่าตัวเองดีกว่าคนอื่นต่างหากที่เป็นพวกหน้าไหว้หลังหลอก สภาวะความไม่เท่าเทียมมันเกิดจากบาป และหน้าที่ของมนุษย์คือการซ่อมสังคมให้กลับไปดีอย่างที่มันควรเป็น เรามีหน้าที่ทำงานสร้างสรรค์สิ่งใหม่ กระจายทรัพยากร ช่วยเหลือคนยากไร้ ทำให้คนกลับใจ

คนเท่ากัน ทุกคนมี 1 เสียงเท่ากัน ใครมีปัญญา ก็กลับไปอ่านย่อหน้าเมื่อกี้ใหม่

ใครมาพูดว่าธรรมาธิปไตย ตัวเองศีลธรรมดีกว่าคนอื่น ก็ด่าไปว่า "ไอ้พวกฟาริสี"

พอผมตัดสินใจ เลือกทางนี้ ผมช่วยทุกคนใครว่ามันจะทำให้ผมเดือดร้อน อะไรผมก็บอกว่า "กูเป็นคริสเตียน พระเจ้าบอกให้กูทำงี้ ก็เลยต้องทำแบบนี้ เป็นเหตุผลทางศาสนา"

โลกรอบๆตัวเรามันเปลี่ยนไป

คนที่รับไปก็ช่วยทำงานเล็กๆน้อยๆตอบกลับ

นักโทษที่เซฟยาใส่แผลไว้ใช้คนเดียวก็แบ่งยาให้คนอื่น

คนก็ไม่ต้องทะเลาะกัน แย่งทรัพยากรไปเก็บไว้คนเดียว เพราะเรารู้ว่าคนอื่นไว้ใจได้ รู้ว่าเพราะคนอื่นช่วยเรา เราก็เลยช่วยคนอื่นได้

เขาไม่ได้ทำดีกับเรา แต่ทำดีกับมนุษย์คนอื่นต่อไปอีกด้วย

คุกเป็นสังคมจำลองขนาดเล็ก ถ้าเราทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ เราก็จะเปลี่ยนสังคมขนาดใหญ่ได้

มนุษย์ไม่มีสูงหรือต่ำ ทุกคนสูงค่าเท่ากันหมด แค่บางคนยังไม่เข้าใจ
.
.
.
เพื่อนของผมเตือนว่าผมไม่ควรพูดเรื่องนี้ เดี๋ยวจะไปออฟเฟนท์ชาวบ้าน

แต่ผมเชื่อแบบนี้ ทำแบบนี้ ของผมจริงๆ

งานของผมก็คืออธิบายซ้ำๆว่า "พระเจ้าสร้างคนมาเท่ากัน" ผมก็พูดอยู่แค่นี้มาตลอดเท่านั้นเอง

ต่อให้จนผมตายก่อน ยังไม่สำเร็จ พระเจ้าก็ยังอยู่ เรื่องพวกนี้มันก็เขียนไว้ในไบเบิล เดี๋ยวก็มีคนมาต่อ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

40 Nameless Fanboi Posted ID:4oC8Dbiqw4

ฟางเส้นสุดท้าย ก่อนโดดจากชั้น 8

ตอนแรกคิดว่าแกคิดสั้น แต่พอฟังเรื่องของพี่ศุภชัย ทัฬหสุนทร ที่โดดชั้น 8 อาคารศาลอาญา บอกเลยว่าไม่ใช่คิดสั้น แต่คิดมาแล้ว คิดมายาวๆ คิดจนแค้น แค้นจนไม่มีทางออก

แค้นกระบวนการยุติธรรม และฟางเส้นสุดท้ายคือคำพิพากษา "ยกฟ้อง"

ผมคุยกับน้าของ "ธนิต" หรือเต้ ผู้เสียชีวิต เล่าว่าหลังจากที่เต้ ถูกแทงตาย ชะตากรรมของทุกคนในครอบครัวก็เปลี่ยนแปลงไป

โดยเฉพาะ "ศุภชัย" ผู้เป็นพ่อ

พ่อต้องลาออกจากงานเพื่อมาตามคดีลูกชาย หลังเกิดเหตุไปรับศพที่นิติเวช รพ.ตำรวจ ไปหาเสื้อผ้าลูก ปรากฎว่าหาไม่เจอ ทั้งที่เสื้อผ้าจะเป็นหลักฐานว่าเต้ถูกแทงด้วย อาวุธอะไร และอาจจะมีดีเอ็นเอ คนร้ายอยู่ที่เสื้อ

มีดของกลางก็หาไม่เจอ

พ่อของเต้ เดินหน้ารวบรวมข้อมูลต่างๆ ด้วยตัวเอง ไปหากล้อง วงจรปิดเอง ไปหาภาพถ่าย ช่วงเวลาที่ลูกและคนร้ายอยู่ในจุดเกิดเหตุ จนรวบรวมเป็นเอกสารเป็นพันๆหน้า

ที่ผมทึ่งกว่านั้นคือ พ่อเต้ มักจะไปที่ศาลบ่อยๆ เพื่อไปฟังการพิจารณาคดีที่มีความใกล้เคียงกับคดีลูกชาย อย่างคดี 6 โจ๋ แทงชายพิการ ร้านขนมปัง น้าบอกว่าศุภชัย ไปฟังแทบทุกนัด

มันคือความพยายามของผู้เป็นพ่อ

ชาวบ้านคนหนึ่งที่ไม่รู้กฎหมาย พยายามสุดชีวิต แล้ววันหนึ่งมาพบว่าคดีลูกตัวเอง ไม่มีหลักฐานอะไรเอาผิดคนร้ายเลย

ผมถึงคิดว่าเหตุการณ์ที่ศาลวันนั้น ไม่ใช่เรื่อง"คิดสั้น" หรืออารมณ์วูบไหว แต่เป็นความคับแค้นที่สุมในอกมาเป็นเวลายาวนาน โดยมีคำพิพากษา "ยกฟ้อง" เป็นฟางเส้นสุดท้าย

อย่าให้พี่เขาตายฟรี!!!

41 Nameless Fanboi Posted ID:yXJnv8XVTc

>>40 ถ้าแกโดดช้ากว่านี้วันเดียว สงสัยคงไปกราบวันอยู่บำรุงช่วยกูที

42 Nameless Fanboi Posted ID:O1B28u9U6f

>>38 , >>39 กูเคยคิดเล่นๆ ทำนองชื่นชมหลักการของศาสนาคริสต์แบบทำนองนั้นเหมือนกันนะ เสียดายกูไม่ค่อยอินกับความเชื่อเรื่องพระเจ้า เลยไม่ได้เข้ารีต (บอกตรงๆ กูเบื่อ 2 ชุดความคิดกระแสหลักในสังคมไทย อย่างที่ว่ามานั่นมากๆ)

>>41 และถ้าพี่วันช่วยได้ สังคมไทยจะนิยมศาลเตี้ยมากขึ้นกว่าเดิม เข้าใกล้ Fail State ไปอีก 1 Step

43 Nameless Fanboi Posted ID:egPd3EWu8o

>>38-39 สะดุดตรงกระมหาไพรวัลย์ บอกตามตรง ไอ้แว่นนี่แม่งก็เกาะรากหญ้าไม่ต่างจากว.เกาะชนชั้นกลางหรอก ตลกชิบหาย หวังพึ่งไอ้โล้นนี่ หวังให้ทักกี้เปลี่ยนเป็นคริสต์ยังง่ายกว่าเลย

>>42 กว่าคริสต์จะมาเป็นแบบทุกวันนี้ก็ผ่านมาเยอะ ถ้าคนไทยปซะว่าพุทธในไทยไม่ใช่พุทธ (ในพระไตรฯ) คนคริสต์ที่ไม่ใช่คาทอลิคก็แซะได้ละว่าคริสต์ทุกวันนี้ไม่ใช่คริสต์ (ในไบเบิ้ล) เพราะความคิดคนเท่ากันไม่ได้อยู่ในไบเบิ้ลมาแต่แรก เอาง่ายๆ ว่าในไบเบิ้ลยอมรับการมีทาสมาตั้งแต่สมัยพระเยซู พวกที่ทำให้ไม่มีทาสในสาระบบคริสต์ก็คือพวกเควกเกอร์ แต่โดยตัวไบเบิ้ลแล้วทาสไม่ใช่สิ่งผิด แล้วแบบนี้คนจะเท่ากันได้ไง

44 Nameless Fanboi Posted ID:lB1AVBtSr1

ในมุมนึง คนไม่อยากถูกแบ่งแยกชนชั้น แต่ในอีกมุม คนก็ต้องการความรู้สึกที่พรีเมี่ยม ไม่แมส ลิมิเต็ดอิดิชั่น แสดงออกว่าเหนือกว่าใคร เป็นคุณค่าทางจิตใจในแบบที่คนอื่นยากจะเข้าถึง ในเชิงการตลาดแล้ว จะมีการแบ่งระดับกลุ่มลูกค้าตามปัจจัยหลักๆ เช่น รายได้ เอาจริงๆ เราหนีการถูกแบ่งแยกได้ยาก

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

45 Nameless Fanboi Posted ID:k+eERG5fTV

>>42 ใช่ทุกวันนี้ คาทอลิก ก็โดนแซะจะตายว่าไม่ใช่คริสต์จริง ถ้าเรื่องปรับตามสังคมและวัฒนธรรมคาทอลิกนี่น่าจะปรับตัวเป็นต้นๆเลยนะ ในพวกนิกายคริสต์ทั้งหลายแหล่ แต่แบบ มอร์มอน ก็ไม่ไหวอ่ะเคร่งเกิ๊นแล้วก็มุมมองแบบไปปรับเปลี่ยนเลย

46 Nameless Fanboi Posted ID:O1B28u9U6f

>>45 ไม่ใช่โปรเตสแตนท์หรอวะที่ดูทันสมัยกว่า

47 Nameless Fanboi Posted ID:PhWo.hUK/h

>>46 โปรแตสแตนท์มีชเป็นสิบสาย พวกที่เคร่งจัดๆก็มีเยอะ

48 Nameless Fanboi Posted ID:NpcOejr1MT

Orthodox Christian = One true religion

49 Nameless Fanboi Posted ID:t0yr3O8ghl

บทความนี้ อ.ธเนศ เขียนแต่ฝ่ายรัฐไปหน่อยในเรื่องสนับสนุนทรัมป์ และเขียนถึงแต่ฝ่ายใต้ไปหน่อยในเรื่องทาส เลยกลายเป็นว่าทำให้ผู้อ่านรู้สึกว่าศาสนาสนับสนุนการกดขี่ฝ่ายเดียว

แท้จริง เหตุผลของการเอาไบเบิลมาอ้างของ รมว.ยุติธรรม สหรัฐ ก็เนื่องจากโบสถ์ของอเมริกัน เอาไบเบิลมาอ้างเพื่อช่วยเหลือผู้อพยพก่อน ฝ่ายรัฐเลยเอาไบเบิลมาอ้างตอบโต้

แต่พอบทความออกมา อ่านแล้วกลายเป็นเข้าใจว่า ศาสนาถูกใช้เพื่อสนับสนุนฝ่ายที่ไม่ดีทางเดียว ทั้งๆที่จริงๆแล้ว มันก็ถูกใช้ทั้งสองทาง

จริงๆตัวบทความก็พูดแหละว่ามันเป็นความแตกแยกระหว่างการแสดงความเห็นต่อคำภีร์ระหว่างสองฝ่าย แต่มีการอธิบายขยายความเพียงข้างเดียว

เหมือนในเรื่องทาสก็เป็นความแตกต่างในการอธิบายคำภีร์ของฝ่ายเหนือกับใต้ (ซึ่งเป็นเรื่องปรกติของโปรแตสแตนท์แบบอเมริกัน) เพียงแค่ตัวบทความยกตัวอย่างแต่การตีความของฝ่ายใต้ ซึ่งเป็นฝ่ายที่เอาเข้าจริงแล้วแพ้เสียด้วย

แต่ตัวบทความก็ไม่ได้พูดถึงว่าพวกฝ่ายเหนือ กับ การรณรงค์เลิกทาสที่มีสำเร็จในอังกฤษไปแล้วในช่วงเวลานั้น ก็อ้างไบเบิลเหมือนกันนั่นแหละ (โดยเฉพาะจดหมาย เฟโลโมน) ผู้ที่เรียกร้องสิทธิชาวแอฟริกันอเมริกันต่อจากนั้น ก็ทำโดยขบวนการศาสนา มาร์ติน ลูเธอร์คิง ก็เป็นศาสนจารย์แท้ๆ

กลายเป็นว่าผู้อ่านก็จะได้ข้อมูลฝ่ายเดียว จนไปจำว่าศาสนาสนับสนุนทาสอย่างไร แต่ไม่รู้เลยว่าศาสนาได้ยกเลิกทาสอย่างไร

ความจริงแล้ว พวกสนับสนุนทาสก็อ้างทุกอย่างที่เป็นประโยชน์ได้เพื่อสนับสนุนทาส พวกเอธิสฝ่ายใต้เองก็อ้างทฤษฎีวิวัฒนาการเพื่อสนับสนุนการใช้ทาส โดยบอกว่าคนขาววิวัฒนาการมาจากลิงไปไกลกว่าคนดำมีปัญญามากกว่าเจริญกว่าเช่นกัน

กลายเป็นว่าสิ่งใดที่ประเสริฐของโลกก็เป็นผลงานของขบวนมนุษยนิยมแบบอศาสนา ส่วนอะไรที่เลวร้ายก็เป็นผลงานของศาสนาอันค่ำครึไป

https://www.the101.world/jeff-sessions-and-the-bible/

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

50 Nameless Fanboi Posted ID:ataLXloRJt

>>49 ตามนั้นละ คัมภีร์เล่มเดียวตีความยังไงก็ได้

51 Nameless Fanboi Posted ID:DXKPNP19X/

>>49 ชอบประโยคสุดท้ายมาก โดนใจจริงๆ

52 Nameless Fanboi Posted ID:CjRLm0enB3

I wouldn’t be concerned about Russian meddling in US elections.

Be concerned about Deep State social media companies like Facebook and Twitter meddling in US elections.

Zuckerspy and Jack the Ripper are doing 100 times more harm to democracy than all foreign meddlers combined.

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

53 Nameless Fanboi Posted ID:DLef8ZWbeV

>>52 พวกซ้ายอเมริกายอมรับไม่ได้ที่ทรัมป์ชนะไปจนต้องโทษรัสเซีย
ไม่มีทางหรอกที่รัสเซียมันจะมายุ่งการเลือกตั้งได้ ที่ทรัมป์ชนะมีแค่สองอย่าง แคมเปญทรัมป์ฉลาดกว่าที่คนคิด ก็ฮิลลารี่โง่กว่าที่คนคิด

ฮาสัส

https://www.youtube.com/watch?v=jdP8TiKY8dE&ab_channel=ProjectVeritas

54 Nameless Fanboi Posted ID:NfbXkegCj0

>>53 ไม่คิดว่า คนเกือบ50% ของประเทศมันอาจจะคิดแบบทรัมป์ก็ได้นะเว้ย
คือตัวเองมีปัญหาทำงานยาก เจอปัญหาคนอพยพ เจอแรงงานผิดกฏหมายแย่งงานจนคิดว่าการกีดกันแบบเป็นรูปธรรมแบบทรัมป์มันพูดไว้เป็นสิ่งที่ถูกก็ได้

55 Nameless Fanboi Posted ID:ItAr6Es594

>>53 คนมันไม่เอาอีฮิลลารี่บ้าสงคราม เลือดเย็น ยอมเลือกคนบ้ามาบริหารดีกว่าเข้าสงครามอีกรอบ

56 Nameless Fanboi Posted ID:rBppym.+h6

สาเหตุที่กูไม่ฟังเพลงสากลเพราะเวลาวงดนตรีไทยไปก็อปงานเขามา ฟังแล้วจะได้ฟิน ไม่ต้องรู้ว่านั้นคืองานก็อป
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

57 Nameless Fanboi Posted ID:UU1Y.tSmsY

>>54 คนเลือกทรัมป์จำนวนไม่น้อยคือ "รากหญ้าผิวขาว" พวกนี้ไม่ได้ ปย. จากการค้าเสรีหรือโลกาภิวัฒน์ เห็นว่าเปิดเสรีมากตัวเองยิ่งลำบาก สินค้าก็เจอต่างชาติตี งานก็เจอต่างชาติแย่ง (ระดับล่างเจอเม็กซิโก ระดับกลางเจอจีนเจอเกาหลี)

อารมณ์อังกฤษออกจาก EU คนรุ่นใหม่โหวตอยู่ แต่คนรุ่นเก่าโหวตออก

58 Nameless Fanboi Posted ID:lPlsC1V0Ab

>>57 อีกส่วนคือคนรุ่นใหม่สนใจการเมืองผ่านคีย์บอร์ด ออกไปเลือกตั้งจริงไม่สน

59 Nameless Fanboi Posted ID:PIbROls.D1

>>58 Brexitคือแบบนั้นเลย คนรุ่นใหม่เย้วๆกันในทวีต ทำแฮชแทค

คนรุ่นเก่ายันไม้เท้าไปจุดลงคะแนน ตรงนั้นไม่มีหัวบลอนด์หัวดำสักคน มีแต่หงอกกับล้าน

พอผลออกมา พวกผมเต็มหัวก็พากันอัดคลิปร้องไห้ลงโซเชียล คนแก่ก็จิบชาดูข่าวไป

ฮาดี

60 Nameless Fanboi Posted ID:ZoNa08ddE3

>>59 กูว่ามันก็ไม่แน่หรอกว่า Brexit โหวตอยู่แพ้เพราะคนหนุ่มสาวจะไม่ได้มาลงคะแนนจริงๆ
พวกนี้อาจจะเป็นคนกลุ่มน้อยที่เสียงดังเพราะเข้าถึง social network มากกว่าคนแก่เฉยๆก็ได้

61 Nameless Fanboi Posted ID:kCz.VneD+.

ที่ว่าคนรุ่นใหม่ไม่ออกไปเลือกตั้งนี่เอาข้อมูลมาจากไหนวะ

62 Nameless Fanboi Posted ID:bXtBuGXYHX

https://www.youtube.com/watch?v=0ADFO45K_Y4

ถ้ากูไม่เคยดูคลิปสาวจีนหน้าผี แต่งหน้ากลายเป็นนางฟ้า กูคงติดตามคนนี้ได้อย่างสนิทใจแล้ว

63 Nameless Fanboi Posted ID:lPlsC1V0Ab

>>61 กูเคยเห็นจากexitpollที่สำรวจประชากรด้วยง่ะ

64 Nameless Fanboi Posted ID:LV0/oTltGw

>>58 , >>59 แม่ง! ทำไมมันเหมือนแถวนี้ที่มีคนบ่นเลยวะ ว่าคนรุ่นใหม่ได้แต่แซะการเมืองในโซเชียล แต่คนที่ออกไปเจ็บจริงตายจริงบนถนนมีแต่วัยกลางคนขึ้นไปทั้งนั้น ทั้ง 2 สีเลย

65 Nameless Fanboi Posted ID:P0EbGSccIA

คนรุ่นเก่ากว่า ไม่เล่นโซเชี่ยล
ส่วนพวกในโซเชี่ยลคือพวกคอยจูงจมูกคนอื่น

66 Nameless Fanboi Posted ID:GJzM0x0alT

พวกมึงก็ดูเซเลปเพจหลักล้านในไทยดิ พวกชี้นำสังคังแต่ไม่เคยออกมาเดินน้ำหน้าใครเขาเลย
ตอนหมูป่าก็ก็อปแปะแชะข่าวรัวๆ

67 Nameless Fanboi Posted ID:e6.H2txErq

It’s really difficult for me to find women who actually want to spend time with me let alone have sex with me. The major reason is because I’m in a wheelchair. I can’t imagine that’s a turn on for most women. For this reason, I hire prostitutes on a regular basis. I only started doing it 4 months ago. I didn’t want to get to my 27th birthday and still be a virgin so I hired a prostitute. I had thought about it a lot before but I chickened out every time. I’ve done it every two weeks since then. I would much prefer to have a wife/girlfriend but I don’t think it’s in the cards. I know it’s desperate and they probably look down at me like I’m some creep and it’s also kind of disrespectful or whatever but it makes me feel less unattractive and less alone.

68 Nameless Fanboi Posted ID:S.YV4ehqBD

>>67 หวัดดีครับ Lieutenant Dan

69 Nameless Fanboi Posted ID:KJySYINZki

>>66 เขาบอกโซเชียลมีเดียคือแนวรบของคนรุ่นใหม่อะนะ

70 Nameless Fanboi Posted ID:je9oKMm0e2

อยู่มา 4000 ปี แบบจีน คือเปลี่ยนชื่อจาก เซี่ย ซาง โจว ฉิน ฮั่น ซิง จิ้น สุ่ย ถัง ซ่ง หยวน หมิง ชิง โดนมองโกลมาบุกยึด แพ้สงครามฝิ่น แถมสุดท้ายยังล้มราชวงศ์มาเป็นคอมมิวนิสท์ กล้าเรียกตัวเองเป็นประเทศจีนสี่พันปีนี่น่าจะอายไต้หวันบ้าง

คือ EU ยังมีความอายอยู่บ้างถึงไม่ได้ใช้ชื่อโรม ตอนสมัยที่เรียกตัวเองว่าจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์นั่นน่ะโคตรน่าอายเลย นั่นคือสมัยที่ฝรั่งมันยังมีความคิดเหมือนจีน คือคิดว่าจักรวรรดิเกรโคโรมันในอดีตนี่ช่างยิ่งใหญ่ ยุโรปรวมตัวกันไม่แตกแยก แล้วก็เลยโหยหาและพยายามรวมยุโรปให้กลับไปเป็นหนึ่งเดียว

เป็นความคิดระดับพื้นฐานของพวกอนุรักษ์นิยมโหยหาอดีตเท่านั้นเอง

ไอ้ความคิดว่าการอยู่ยืนยงมายาวนานคือความน่ายกย่องน่ะฝรั่งมันก็เคยเป็น แต่มันเป็นแล้วมันไม่เจริญมันถึงได้เลิก ไม่ว่าจะเป็นออตโตมานเป็นตุรกี กรีกเป็นกรีซ โรมันเป็นอิตาลี่ วัฒนธรรมที่ส่งต่อกับมาคนรุ่นหลังก็ได้รับและเชิดชู แต่การไปติดความยิ่งใหญ่ในอดีตมายกหางตัวเองในปัจจุบันน่ะมันดักดาน และนั่นคือสิ่งที่จีนกำลังเป็นอยู่ รวมถึงไอ้ประเทศแถวนี้ที่ดิ้นว่าเรามีประวัติศาสตร์อันยาวนานมาตั้งแต่เทือกเขาอัลไตด้วย

คือปัจจุบันหาดีไม่ค่อยได้เลยต้องไปเอานิทานอดีตที่สวยงามมาปลอบใจว่าเราอยู่มานาน แก่กว่า อาวุโส ยังไงก็ต้องมีดีถึงอยู่มานานขนาดนี้
ซึ่งนั่นไม่ใช่ความคิดที่ฝรั่งสมัยใหม่มันคิดกัน เพราะความอาวุโสจริงๆมันไม่ได้เกิดประโยชน์อะไร ความรู้ความคิดความสามารถในปัจจุบันต่างหากที่สำคัญต่อมนุษยชาติ

สมัยที่จิ๋นซีฮ่องเต้รวมแผ่นดินเจ็ดก๊กนั่นคนทั้งเจ็ดก๊กก็ไม่ได้ไปมุดหีหมาที่ไหนนะ และหลังจากสิ้นจิ๋นซีแผ่นดินแตกออกเป็นอีกไม่รู้กี่ก๊ก ที่ได้เป็นฮ่องเต้ก็ไม่ใช่ราชวงศ์เดิม ที่แยกตัวออกไปอิสระแล้วโดนตีกลับมาทีหลังก็มาก ไอ้ที่ตีกลับมาเป็นมองโกลก็มี แผ่นดินจีนแถบตะวันตกทุกวันนี้มันมาจากที่คนมองโกลไปตีมาด้วยซ้ำ แล้วจีนก็มาเคลมเป็นจีน ทั้งที่คนจีนมีเชื้อมองโกลไม่รู้กี่ %

ไร้สาระ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

71 Nameless Fanboi Posted ID:e6.H2txErq

ผมตอบในฐานะนายจ้าง เคยสัมภาษณ์น้องๆที่จบ code star ไม่ต่ำกว่า 20 คน บอกเลยครับว่า พื้นฐานไม่แข็งครับ ได้แค่overview พอลองถามลึกๆจะตอบไม่ได้ ก็เข้าใจนะครับระยะเวลาสั้นเนื้อหาแน่นย่อมยากสำหรับคนทั่วๆไป แต่ก็ดูที่ความพยายามมากกว่าครับ ส่วนเงินเดือนที่ให้ก็เท่ากับเด็กจบใหม่ครับ

72 Nameless Fanboi Posted ID:e6.H2txErq

ผมเรียนมาเหมือนกันครับ คอร์ส javascript ราคา 20k ++ บอกตรงๆตอนแรกไม่มีพื้นเลย เรียนไป งงกว่าเดิม สอนเร็วมาก ไม่บอกที่มาที่ไป เหมือนไปเรียน เอาชิมลาง สุดท้ายต้องกลับมาเรียน คอร์ส web dev ของ udemy ได้ความรุ้มากกว่าเยอะ แค่ 300 เอง เพราะฉะนั้นเรียนใน udacity กับ udemy ดีกว่าครับ เสียดายตังมาก

73 Nameless Fanboi Posted ID:Ar7CJOO8CD

>>70
>ตุรกี
>ยุโรป

choose one

74 Nameless Fanboi Posted ID:BYOZrAn8a1

>>70 มิตรสหายท่านนี้สงสัยเจอนักท่องเที่ยวจีนกดขี่

75 Nameless Fanboi Posted ID:5RhCWmaR3v

>>70 กูเป็นคนนึงที่ไม่ค่อยอินกับพวกอวยประวัติศาสตร์จีนเวอร์ๆ แต่ก็รู้สึกว่า quote นี้มีส่วนแปลกๆเยอะ
- EU ไม่เคลมตัวเองเป็นโรมันอยู่แล้ว เพราะดูจากอาณาเขตโรมันมันกินช่วงยุโรปใต้ แอฟฟริกาตอนบน กับขอบๆเอเชีย ถ้าเคลมตัวเองเป็นโรมันก็จะดูประหลาด แถมประเทศทางเหนือขึ้นไปคงไม่อินด้วย
- HRE เคลมตัวเองเป็นโรมันกูว่าก็ไม่เกี่ยวกับเรื่อโหยหาอดีตเท่าไหร่ มันเป็นการที่คนเผ่าเยอรมันรวมหัวกับโป๊ปเสริมบารมีให้พวกตัวเองมากกว่า
- เขตแดนของจีนมีเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาจริง ถึงจะมีการเปลี่ยนราชวงศ์ตัว แต่วัฒนธรรมตรงนั้นมันก็สืบทอดต่อๆกันมาจริงนะ
- ฝรั่งก็ไม่ได้ตัดใจไม่โหยหาอดีตกันหมดหรอก

76 Nameless Fanboi Posted ID:qKbrsVajrb

>>75 +1 กูว่าเหมือนพยายามหาประเด็นมาแขวะประเทศแถวๆ นี้ซะมากกว่า

77 Nameless Fanboi Posted ID:TXEaAAR0DV

>>69 เอาแต่พูดเอาพิมพ์แต่ไม่ลงมือทำสุดท้ายมันก็แพ้เขาอยู่วันยันค่ำน่ะแหล่ะ แล้วก็เพราะแบบนี้ไง ทรัมป์ กับ Brexit ถึงชนะเลิศ แต่อีกนัยนึงก็ดีเหมือนกัน พวกโบราณที่พูดจริงทำจริงมันยังน่าเชื่อถือกว่าพวกเด็กกะโปกที่ดีแต่ลมตดอ่ะนะ

78 Nameless Fanboi Posted ID:v/ve1giFon

>>77 เห็นด้วย ดูไอ้จ่าเป็นตัวอย่างได้ สังคมที่ลากคนมาด่าในเน็ตสำเร็จความใคร่ทางคุณธรรม=SJWเนี่ยแหละ

79 Nameless Fanboi Posted ID:7tRPNQYieT

>>70 อยากแซะประเทศตัวเองเลยต้องโยงแม่น้ำฮวงโหมาแพล่มเหรอครับ

#มิตรสหายรู้ดีท่านหนึ่ง

80 Nameless Fanboi Posted ID:gjojYzR2VP

ถ้าความจริงแล้ว ไอดอลที่มึงคามิโอชิ มีควย มึงจะทำไง?
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

81 Nameless Fanboi Posted ID:PevUOGZCrZ

“Hard times create strong men. Strong men create good times. Good times create weak men. And, weak men create hard times.”

82 Nameless Fanboi Posted ID:wP8PQ1FExO

ถ้าความจริงแล้ว ไอดอลที่มึงคามิโอชิ ยัดไวเบรเตอร์ไว้ที่จิ๊มิ้ตอนขึ้นแสดง มึงจะทำไง?
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

83 Nameless Fanboi Posted ID:8Qho9dWWv1

ถ้าความจริงแล้ว ไอดอลที่มึงคามิโอชิ โทรศัพท์​คุยกับแฟนหลังจากแสดงเสร็จ​ มึงจะทำไง?

84 Nameless Fanboi Posted ID:1TAY4khCo.

ถ้าความจริงแล้ว ไอดอลที่มึงคามิโอชิ แอบแฝงตัวอยู่ในโม่งแล้วเนียนด่าคุ มึงจะทำไง?

85 Nameless Fanboi Posted ID:SBGtvxXQe5

คุณเชื่อในมนุษย์ขนาดไหน?

คนคิดว่ามนุษย์มีโอกาสขนาดไหนที่จะตัดสินใจขโมย?

มีเกมส์ที่ผมกับหุ้นส่วนชอบเล่นกันตอนรับพนักงานใหม่ คือการพนันกันว่าพนักงานคนนี้จะโกงหรือเปล่า

วิธีการตัดสินใจจะรับหรือไม่รับพนักงานใหม่ของผมคือ

ให้พนักงานรับออเดอร์ และรับเงินด้วยตัวเอง และส่งเงินต่อ โดยพนักงานจะไม่ได้ถือเงินยาวๆ ไม่ได้นับเงินทั้งหมด

ทีนี้ ในมุมมองพนักงานจะคิดว่า ผมเช็คว่า ยอดขายที่เขาจด กับเงินที่ส่ง มันตรงกันหรือเปล่า - ถ้าตรงแสดงว่าเขาทำถูกต้อง

คุณจะทำอย่างไร ถ้าคิดว่านายจ้างของคุณ เช็คด้วยการนับยอดขายกับเงินให้ตรงกัน? ในขณะที่คุณเป็นคนแจ้งยอดขาด และเป็นคนส่งเงินขึ้นไปเอง

เริ่มรู้สึกมั้ยว่า คุณโกงได้ ด้วยการเก็บเงินไว้เอง แล้วไม่แจ้งยอด

สมมุติว่า ถ้าบางคนซื้อ 5 ชิ้น คุณแจ้ง 4 ส่งเงินมา 4 ก็อมเงินไว้ รวมตลอดวันคุณขายได้ 102 แต่แจ้งว่าขายได้ 100 ชิ้น ชิ้นละ 50 บาท แล้วส่งเงินไป 5000 = คุณก็จะอมเงินไว้ได้ 100 บาท

แต่... แน่นอนว่า ผมมีการเซ็คซ้อนไปอีกโดยที่ตัวพนักงานไม่รู้ว่าผมเช็ค และไม่รู้ว่าทำอย่างไร - ดังนั้นถ้าแจ้งยอดไม่ตรง หรือเงินหายผมจะรู้

เกมส์คือ มีคนจำนวนมากขนาดไหนกันนะ ที่คิดจะโกง

ถ้าคุณไม่โกง คุณจะได้งาน ซึ่งได้เงินเรื่อยๆยาวๆ แต่ถ้าคุณโกงก็มีโอกาสโดนจับได้

มากกว่าครึ่งหนึ่งของพนักงานใหม่ ขาดยอดจะขาดไปชิ้นสองชิ้น เงินจะหายไปเล็กๆน้อยๆ เท่ากับยอดที่ขาดพอดี - เอาล่ะ ถ้าเงินหาย แต่ยอดครบ แสดงว่าอาจจะทอนผิด ลืมเก็บเงินอะไรพวกนี้ - ถ้าเงินครบแต่ยอดหายแสดงว่าลืมจด เคสพวกนี้เกิดจากสะเพรา ฝึกกันได้ - แต่ถ้าเงินหาย และยอดหายเท่ากันโอกาสไม่รายงานยอดและจงใจอมสูง

พวกนี้คิดว่าตัวเองจีเนียส ที่หาทางโกงได้ แล้วคิดว่าผมไม่รู้แน่ๆ ไม่มีใครคิดเลยว่ามันจะเป็นกับดัก
.
.
.
ส่วนใหญ่ผมแพ้ เพราะเป็นผู้จัดการ ต้องจ่ายส่วนที่หายให้หุ้นส่วนที่มาทำบัญชี

พวกนี้จะตอดกันแค่ ชิ้นสองชิ้น ไม่เกินนั้น ผมก็จ่ายพนันไป ร้อยกว่าบาท

ส่วนพนักงานที่โกงไม่รู้หรอก ผมก็บอกแค่ว่า "อื้อ เดี๋ยวถ้าจะจ้าง พรุ่งนี้จะโทรไปนะ" แล้วก็ไม่โทร
.
.
.
น่าสนใจคือ หนึ่งคนจะโกงกันในหลักชิ้นสองชิ้น เป็นไปได้ว่าคิดว่าถ้าเยอะจะโดนจับได้ แน่นอนว่าผมไม่ปล่อยให้มีโอกาสต่อไป

สอง พนักงานพาทไทม์ที่เป็นนักศึกษา แทบไม่มีใครคิดจะโกงเลย ถ้ามีก็คือทอนผิด หรือลืมจดยอด ซึ่งพอถามก็จะจ่ายเงินทดแทนส่วนที่ตัวเองทอนผิด

เป็นไปได้ว่า พวกนี้ไม่ได้ขาดเงินขนาดนั้น ชั่งน้ำหนักว่าศักดิศรีหรือคุณธรรมอะไรบางอย่างของตัวเองมีคุณค่ามากกว่าเงินหลักร้อยบาท

เรากำลังเล่นเกมส์กับศักดิศรี และความขาดแคลน สำหรับแต่ละคนเส้นมันอยู่ตรงไหนกันนะ เงินเท่าไหร่ถึงจะขายศักดิศรีได้

ผมคิดถึงการทดลองให้ขนมเด็ก

เอามาชเมโล่ให้เด็กในห้องเรียน ถ้ารอถึงคาบหน้าโดยไม่กิน จะได้เพิ่มอีก 1 อัน

สำหรับบางคน ชีวิตอาจจะไม่มั่นคง จึงรีบกินเล็กกินน้อยเอาสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

ส่วนบางคนรู้แล้ว ก็เลือกเอางานรอยาวๆไป
.
.
.
ผมเชื่อในมนุษยน้อยมาก คือคนไม่โกงมันก็มี แต่เรารอแรนด้อมไม่ได้ว่าคนที่ทำงานกับเราจะโกงหรือไม่โกง

การมีระบบตรวจสอบที่คอยควบคุมไว้ ช่วยได้มากกว่า

นักศึกษาเอง ถ้าระบบมันหลวมมาก วันหนึ่งเขาเกิดร้อนเงิน ถ้าเห็นว่าโกงได้ง่ายๆแล้วไม่โดนจับ ผมว่ามันเสี่ยงและยั่วยวนเกินไป ระบบที่เข้มงวดมีไว้ช่วยให้เขาคิดว่า "เฮ้ยไม่ได้นะ ถ้าเราทำจะโดนจับได้" ในวันแบบนั้น

ขนาดผมยังไม่กล้าเป็นผู้จัดการเอง ตรวจบัญชีเองเลย กลัววันหนึ่งร้อนเงินจะเอาเงินร้านมาหมุนก่อน เลยต้องให้หุ้นส่วนเป็นคนเช็คบัญชีถือเงิน

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

86 Nameless Fanboi Posted ID:J8bK1sL6pB

>>85 เกือบดีละ ถ้าไม่ติดตรงไอ้การทดลองมาชเมลโล่ซักอย่างของมึงเนี่ย อันนั้นมันคือการลงทุน ซึ่งมุมมองแต่ละคนไม่เหมือนกันอยู่แล้ว

87 Nameless Fanboi Posted ID:A2lUEkCE.z

A genie comes to a pole. Three wishes will be fullfilled.
Wish 1: Poland should invaded by china and than they should retreat.
Wish 2:look at wish 1.
Wish 3: look at wish 2
The genie: Why do you want 3times invaded by china and why they should retread?
Pole; They have to go 6times through russia.

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

88 Nameless Fanboi Posted ID:03oNSAUqEJ

พี่โจวว่ายิ่งเราพูดถึงคนกรุงเทพมากๆ เราก็ยิ่งไปหมกมุ่นกับความเป็นกรุงเทพมากเกินไป น้องๆ น่าเอาตำบลหรืออำเภอฮาๆ บักเสี่ยวๆ มาเสวนากันบ้างนะครับ ส่วนพี่โจวนั้นทั้งดวงใจมันมอบไปให้กับสาวตำบลเสือเฒ่า อำเภอเชียงยืน จังหวัดมหาสารคาม ไปเสียแล้ว . .
การได้เห็นคนพูดถึง "ความยุติธรรม" "ความเป็นธรรม" "ความเท่าเทียม" ในเฟสบุ๊คโอ่อ่าใหญ่โต บางครั้งเราเกร็งๆ ถ้าไปเจอตัวจริงเขาเราจะวางตัวยังไง มาตรฐานคนเหล่านี้น่าจะสูงพอๆ กับมหาตมะ คานธี เนลสัน แมนเดลา อัลไลเทือกเนร้แน่ๆ อ่ะครับ- -"

89 Nameless Fanboi Posted ID:mi5yu/FDeD

ปี 2018 แล้วยังเชื่อโต๊ะอิหม่ามมากกว่าหมอ เวลาป่วยมัวแต่ไล่ญิณ ด่าคนไม่นับถือศาสนาตัวเองว่ากาเฟร์ กดขี่คนด้วยฮิญาปตั่งต่างอยู่อีกหรอคะ อ่อๆ
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

90 Nameless Fanboi Posted ID:nvaJsuD.D5

i though bdsm stood for buddhism
#มิตรสหายท่านหนึ่ง

91 Nameless Fanboi Posted ID:PByo5ivVXp

เรียนมาเยอะแต่ไม่ละหมาดใบปริญญา​ที่ได้มาก็ไม่มีค่าอะไร
#มิตรสหาย​ท่าน​หนึ่ง​

92 Nameless Fanboi Posted ID:X0UEuu8XLC

Childhood - sneaking from home to go to parties.
Adulthood - sneaking from parties to go home.

#มิตรสหายท่าน​หนึ่ง​

93 Nameless Fanboi Posted ID:8PzkPc+Yxu

Q: ตอนนี้จิตวิญญาณธรรมศาสตร์อยู่ที่ไหน

A: อยู่ที่รามคำแหง ทั้งตลาดวิชา เรียนแบบเปิด ค่าเรียนถูก เปิดโอกาสให้คนทุกชั้น ตำราอ่านฟรี กระจายการศึกษา

อะไรที่ อ.ปรีดีคิดไว้ให้ธรรมศาสตร์ ตอนนี้อยู่รามหมดละ

อธิการยังเลือกตั้งได้เป็นมหาลัยเดียวเลย

94 Nameless Fanboi Posted ID:jmStM9K9YQ

แต่ธรรมศาสตร์มีเสรีภาพทุกตารางนิ้วนะ!!!

#มิตรสหายท่าน​หนึ่ง

95 Nameless Fanboi Posted ID:lgZaJ8Pozl

เสรีจน อ.ต้องหนีไปปารีสเลย

96 Nameless Fanboi Posted ID:Mvu3+l72Tr

เสรี ขนาดเขียนเรื่องแต่งกับสายเลือดเดียวกันยังโดนแซะเลย

97 Nameless Fanboi Posted ID:Woc78ZSA5O

เห็นสาวๆ กรี้ดเรื่องเบิร์นนิ่งมากๆ พี่โจวจึงได้เขียนบทหนังเรื่อง "เบิ้มนิ่ง" เอาไว้ พลอตเรื่องคือตัวเอกชื่อเบิ้ม แล้วเมียมีชู้แต่แกก็ไม่ว่าอัลไล อยู่เฉยๆ นิ่งๆ ของแกไปอ่ะครับ

#มิตรสหายท่าน​หนึ่ง

98 Nameless Fanboi Posted ID:bkdcFQ8nr1

>>96 คนเขียนเป็นคนม.นเรศวรแต่มาเสวนาที่ธรรมศาสตร์ ไอ่ควาย

99 Nameless Fanboi Posted ID:dZQYZ1/uCE

เสรีเลยหนีไปวาด trap ในเฟสกับปลาทองแล้วครับ

100 Nameless Fanboi Posted ID:GO7Tmc.gWi

ผมไม่รู้ว่าปกม. ที่เก่งที่สุดในไทยเป็นใคร แต่ปกม. ที่เก่งมาร์เก็ตติ้งที่สุดในไทยนี่ ผมยกให้เค้าเลย จะมีปกม. สักที่คนในกรุ๊ปสมาคมที่มีเม้นและไลค์เยอะเท่าพี่เค้าอีก

101 Nameless Fanboi Posted ID:GqZ1REcThe

หาเมียให้ได้ก่อนมั้ย?

#มิตรสหายมีเมียท่านนึง

102 Nameless Fanboi Posted ID:+naIffNGs4

หาผัวแทนได้ไหม ?

#เมียของมิตรสหายท่านหนึ่ง

103 Nameless Fanboi Posted ID:ZFk6gVrQoF

อยากมีเมียต้องรวย
อยากรวยต้องมีหน้าที่การงานดี ๆ
อยากมีหน้าที่การงานดี ๆ ต้องมีความสามารถสูง ๆ
อยากมีความสามารถสูง ๆ ต้องมาเรียนเขียนโปรแกรมกับโค้ดสตาร์

104 Nameless Fanboi Posted ID:LloTaEUJOy

โค้ดสตาร์ควยไรเจอกับหยงสตาร์ไหมสัส
ขอให้ผีหยงไปหักคอมึง

105 Nameless Fanboi Posted ID:Klkr2LBPNJ

ไปเรียนโค๊ดสตาร์แล้วผมจะใช้สแตนด์ได้มั้ยครับ

106 Nameless Fanboi Posted ID:OrRGc4+bdJ

ต้องมีปานรูปดาวที่ต้นคอก่อน

107 Nameless Fanboi Posted ID:jfrZUlWoTq

>>106 เอาลูกธนูจิ้มเอาก็ได้นะ

108 Nameless Fanboi Posted ID:axCP/yMDZy

ให้ดิโอไซ้ซอกคอดู

109 Nameless Fanboi Posted ID:TummyP9847

ถ้าเราไม่มีศาสนา นรกก็เป็นแค่ชื่อน้ำพริก
เจริญพร 🔥

#มิตรสหายท่าน​หนึ่ง

110 Nameless Fanboi Posted ID:00Pa641EgB

BNK นี่เค้าจ่าย ... package ตอนจบการศึกษาไหมนะ

111 Nameless Fanboi Posted ID:MayLY/GjIy

Women fuck who they want, men fuck who they can.

Men marry who they want, women marry who they can.

112 Nameless Fanboi Posted ID:ttuQ62GxYf

All of his soldiers are only numbers to us, but imagine walking out of Greece with Alexander on a campaign, leaving your wife and children, conquering Anatolia, Egypt, Mesopotamia, the entire Persia, parts of India... and finally hearing you're going back home. No army can stop you now. You're going to see your family again.
... and then you die of thirst crossing a fucking desert, because Alexander thought it would be a fun detour.

#มิตรสหายท่าน​หนึ่ง

113 Nameless Fanboi Posted ID:ohzsCYgzpJ

เมื่อวานนี้เพื่อนอเมริกันของผมมีแชร์วัตถุโบราณของเผ่ามายันแห่งเม็กซิโกที่เป็นรูปหล่อโบราณ มีหน้าเป็น QR code และว่ากันว่ามันเป็นหลักฐานของอารยธรรมต่างดาวหรือการย้อนเวลา ตรงนี้้ เดี๋ยวข่าวลือนี้ก็คงเข้ามาไทย ดังนั้นก็ขอถือโอกาส Debunk ไว้ก่อนเลยละกัน

สำหรับรูปหล่อดังกล่าว ถ้าสังเกตนิด จะพบว่าเงาของส่วนหัวมันมีความโค้งผิดจากไอ้หน้าเหลี่ยม (ที่หมายถึงหน้ามันเหลี่ยมและไม่ได้หมายถึงคนหน้าเหลี่ยมแต่อย่างใด) ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามันน่าจะเป็นการแต่งรูป

นอกจากนี้ รูปหล่อหน้า QR code ที่ว่า มีคนแกะโค้ดออกมา พบว่าลิงค์ไปที่เพจของบริษัท Altech แห่งเม็กซิโก ซึ่งเป็นเพจที่ขายอุปกรณ์ไฟฟ้าสำหรับโรงงาน ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าถ้าคนมันจะย้อนเวลา มันจะอุตส่าห์ทำ QR โค้ดเป็นเวบเพจของบริษัทขายอุปกรณ์ไฟฟ้าโรงงานทำแป๊ะอะไร มันก็ได้แต่สันนิฐานว่า นี่คงเป็นการตลาดไวรั่ลอย่างหนึ่ง เพราะยังไม่มีใครสอบถามไปยัง www.altechmexico.com ว่า QR code ของเวบมันกลายเป็นไวรั่ลไปได้อย่างไร แต่ บางที มันอาจเป็นการแสดงถึงความยิ่งใหญ่ของเม็กซิโกในอนาคต ที่เป็นผู้สามารถส่งมนุษย์ย้อนเวลาไปในอดีตแล้วสร้างอารยธรรมแอซแทคมายันได้ แม้อารยธรรมมายันที่แสนจะรุ่งเรืองด้วยเทคโนโลยีจากอนาคตนี้จะล่มสลายด้วยฝรั่งสเปนพร้อมปืนกิ๊กก๊อกในยุคศตวรรตที่ 16 ก็ตาม

ดูการแกะ QR code สุดเมพนี้ได้ที่
https://www.metabunk.org/decoded-statue-with-a-qr-code-head.t6728/

#มิตรสหายท่าน​หนึ่ง

114 Nameless Fanboi Posted ID:Vb9EWg7Z64

บางคนบอกว่า การพึ่งพาคนอื่นตลอดทำให้เราสบาย แต่สำหรับ #ครูพี่แอน การพึ่งพาคนอื่น*โดยไม่จำเป็น* ทำให้พี่แอนรู้สึกอึดอัด ใครรู้สึกเหมือนกันมั้ยคะ? มันจึงสำคัญมากที่เราต้องมีความรู้ความสามารถประดับตัวไว้ให้มากที่สุด เพราะการพึ่งพาตัวเองได้ และได้เป็นที่พึ่งพาของคนที่เรารักเช่นครอบครัว คือสิ่งที่น่าภาคภูมิใจที่สุดในชีวิต ❤️
cr. ครูพี่แอน @annwarinn www.instagram.com/annwarinn

115 Nameless Fanboi Posted ID:O5vAYeospJ

*Muslims rape and abuse children*
Oxford university students : i sleep
*Orange man visits UK*
Oxford university students : real shit?

116 Nameless Fanboi Posted ID:E+Y/4/6bgA

ตั้งองค์กรตรวจสอบซับซ้อน สาเหตุความเสื่อมของราชวงศ์หมิง

เห็นข่าวปฏิรูปตำรวจ โดยจะตั้งองค์กรพนักงานสอบสวนขึ้นมาแยกต่างหากจากตำรวจ และให้อัยการมีส่วนร่วมทำคดี แล้วก็ประหวัดถึงความเสื่อมในระบบราชการของจีนในยุคราชวงศ์หมิง (1368-1644) ขึ้นมา

นักประวัติศาสตร์ที่ศึกษาความเป็นไปของจีนในยุคจักรวรรดิ ต่างลงความเห็นว่า ความเสื่อมทรุดของต้าหมิงนั้น มาจากระบบราชการที่ซ้ำซ้อน เหลื่อมทับ และมีผู้มีอำนาจตรวจสอบหลายชั้นเกินไป จนสุดท้ายไม่มีใครเป็นผู้รับผิดชอบที่แท้จริง เพราะแต่ละฝ่ายเล่นการเมืองแย่งชิงอำนาจ ไม่มีใครสนใจความเดือดร้อนของราษฎรโดยแท้จริง

เมื่อแรกตั้งรวมชาติ จูหยวนจางหมิงไท่จู่ มองเห็นว่า ตนเองถีบตัวขึ้นมาจากชนชั้นสามัญเป็นฮ่องเต้ เกรงว่าผู้อื่นสะสมอำนาจได้จะใฝ่ฝันตั้งตนเป็นใหญ่ ภายหลังตั้งรัฐบาลหนานจิง สามเสนาหกกรมแล้ว จึงได้บัญชาตั้งหน่วยองครักษ์เสื้อแพร 錦衣衛 (จิ้นอี้เว่ย) เป็นหน่วยราชองครักษ์ส่วนพระองค์ มีหน้าที่สืบสวนและจับกุมขุนนางที่ประพฤติมิชอบ นอกเหนือจากกรมอาญาและเจ้าหน้าที่ตรวจสอบอีกชั้นหนึ่ง แต่ไม่นานนัก หน่วยองครักษ์เสื้อแพรก็กลายเป็นตำแหน่งที่จะมอบให้แก่ผู้กใล้ชิดหรือญาติสนิทของฮองเฮา รับสินบนปล้นขุนนางเป็นที่น่าหวั่นเกรงของผู้บริสุทธิ์

ภายหลังในรัชสมัยของพระเจ้าหยงเล่อ (1402-1424) ชิงบัลลังก์จากพระภาคิไนยจักรพรรดิเจี้ยนเหวิน ทรงไม่ไว้วางใจผู้บัญชาการและเจ้าหน้าที่เหนือล่างในหน่วยองครักษ์เสื้อแพรที่เข้ามาสวามิภักดิ์ จึงทรงบัญชาให้ตั้งหน่วยค่ายตะวันออก 東廠 (ตงฉ่าง) โดยให้ขันทีวังในเป็นผู้บังคับบัญชาหน่วยงานรายงานต่อพระองค์ ให้อำนาจเจ้าหน้าที่ตงฉ่างจับกุมคุมขังราษฎรและขุนนางชั้นล่าง ก่อนจะให้องครักษ์เสื้อแพรสอบสวนต่ออีกทอด

แต่ขันทีผู้บังคับบัญชาค่ายซีฉ่าง นานไปก็หลงในอำนาจ ก่อความเดือดร้อน รับเงินสินบนข่มขี่ผู้บริสุทธิื ตั้งตนเป็นใหญ่ขึ้นแย่งอำนาจกับผู้บัญชาการองครักษ์เสื้อแพรและเสนาบดีเน่ยเก๋อ อาศัยว่าตนเข้าเฝ้าใกล้ชิดฮ่องเต้เพ็ดทูลชี้นำได้ ก่อความพินาศในเหตุการณ์ที่หมิงอิงจงจักรพรรดิเจิ้งถงยกทัพหมิงไปพ่ายแพ้ที่ป้อมถูมู่ ก็เพราะขันทีหวังเจิ้นแห่งค่ายตงฉ่างเพ็ดทูลจนฮึกเหิมไม่ดูศักยภาพทหาร

(ต่อเม้นล่าง)

117 Nameless Fanboi Posted ID:E+Y/4/6bgA

(ต่อจาก >>116 )

ในรัชสมัยจักรพรรดิหมิงเสียนจงเฉิงฮว่า อำนาจของค่ายตงฉ่างในเงื้อมมือขันทีก็หยั่งรากลึกยากจะคลอน แม้เป็นฮ่องเต้ก็สั่งการได้ไม่ทั่วถึง องครักษ์เสื้อแพรอยู่ในมือวั่นทง พี่ชายของวั่นกุ้ยเฟยชายาองค์โปรด จักรพรรดิเฉิงฮว่าได้แต่งตั้งหน่วยงานใหม่ คือ ค่ายตะวันตก 西廠 (ซีฉ่าง) มาคานอำนาจกับค่ายตะวันออกและองครักษ์เเสื้อแพรอีกต่อหนึ่ง โดยให้ขันทีคู่พระทัยที่สนิทสนมมาตั้งแต่ครั้งยังมิได้เป็นฮ่องเต้ อย่างวังจื๋อ เป็นผู้บัญชาการ

อนิจจา ค่ายซีฉ่างก็ไม่ได้ทำตัวแตกต่างจากค่ายตงฉ่าง ล้วนแล้วแต่ประพฤติตนเอาใจผู้มีอำนาจในราชสำนักทั้งฝ่ายหน้าฝ่ายใน มิได้แยแสสนใจความเดือดร้อนราษฎร รับสินบนปิดปากคดีน้อยใหญ่ไม่ถึงพระเนตรพระกรรณ จนในท้ายที่สุดก็ถูกยุบไปครั้งหนึ่ง

รัชศกหงจื่อหมิงเสี้ยวจง การยุบค่ายซีฉ่างและลดอำนาจค่ายตงฉ่าง จำกัดการกระทำขององครักษ์เสื้อแพร ให้อำนาจหน่วยงานสามเสนาหกกรมทำงานเต็มที่ไม่ละเว้นเห็นแก่หน้าผู้ใด ทำให้ประชาราษฎรมีความสุขความเจริญเฟื่องฟู และยิ่งเมื่อพระองค์มีจางฮองเฮาเป็นพระมเหสีเพียงองค์เดียว ทำให้ไม่ต้องไว้หน้าอวยยศให้แก่พระญาติฝ่ายใน เสนาอำมาตย์จึงทำงานได้เต็มที่ นับเป็นยุครุ่งเรืองครั้งสุดท้ายของต้าหมิง

ในรัชศกเจิ้งเต๋อ หมิงอู่จงฮ่องเต้ ไทเฮาฮองเฮาและสนมต่างพาญาติของตัวเองมาเสนอให้เป็นขุนนางในราชสำนัก การบริหารงานแผ่นดินกลับมาเหลวแหลก เสนาผู้ใหญ่ทัดทานไม่เกิดประโยชน์ นอกจากจะเกิดการฟื้นอำนาจของค่ายตงฉ่าง ตั้งซีฉ่างกลับมาใหม่ เจิ้งเต๋อฮ่องเต้ยังจัดตั้งค่ายภายใน 内廠 (เน่ยฉ่าง) เพื่อกำกับตรวจสอบฝ่ายตรวจสอบอีกทอดหนึ่งเข้าไปอีก

ความเหลวแหลกเลอะเทอะของการตรวจสอบหลายลำดับชั้นฝ่ายหนึ่งก็จ้องจับผิดอีกฝ่ายหนึ่งนี้เอง ทำให้ขุนนางอำมาตย์ไม่เป็นอันทำราชการช่วยราษฎร เพราะกลัวจะถูกจับผิดฟ้องร้อง ทางที่ดีขูดรีดราษฎรเอาเงินส่งส่วยผู้บัญชาการค่ายตรวจสอบเหล่านี้ไม่ให้มีเรื่องกับตนเอง แล้วอยู่อย่างฟุ้งเฟ้อสบายไปวันๆ ย่อมดีกว่า

ระบบราชการของต้าหมิงจึงเสื่อมลงเป็นลำดับ รัชศกเทียนฉีขันทีโฉดเว่ยจงเสียนแห่งค่ายตงฉ่างครองอำนาจ ราษฎรอดอยากแร้นแค้นถูกรีดนาทาเร้น เอาใจออกห่างราชวงศ์หมิงแซ่จู เมื่อหลี่จื้อเฉิงชูธงกบฎก็พากันเข้าร่วมหมดสิ้น แผ่นดินหมิงก็ล่มสลายเปิดโอกาสให้เผ่าแมนจูชิงอำนาจครองจงหยวนเมื่ออู๋ซานกุ้ยเปิดด่าน เหมือนผลไม้ที่สุกงอมจนเน่าร่วงลงจากต้น จักรพรรดิฉงเจิ้นแขวนพระศอต่ายในวังต้องห้าม สิ้นชาติสิ้นแผ่นดินแต่นั้นเอง

การแก้ไขปรับปรุงทำงานของหน่วยงานสืบสวนสอบสวนให้ความเป็นธรรมแก่ราษฎร จึงมิใช่การตั้งหน่วยงานมาซ้อนทับเพิ่มขึ้นเป็นหน่วยงานอิสระหลายลำดับไปเรื่อยๆ เพราะยิ่งหน่วยงานมาก มีผู้บังคับบัญชามาก ก็มีเขตอำนาจซ้อนทับกันมาก แต่ละคนแข่งดีชิงตำแหน่งอำนาจเป็นใหญ่ แล้วใครจะสนใจความเดือดร้อนที่แท้จริงของผู้มาร้องทุกข์?

ปัญหาที่ควรแก้คือสภาพความเป็นอยู่ของพนักงานสอบสวน รายได้ที่ต้องมากพอที่จะดำรงศักดิ์ศรี ภาระงานที่เกลี่ยกระจาย ใช้คนที่ทำงานเป็น ให้เครื่องมือที่เพียงพอ และไม่ก้าวก่ายการทำงานของเจ้าหน้าที่ ผู้ใหญ่ไม่ใช้อำนาจบีบปิดบังหรือเร่งคดีตามอำเภอใจ ลงโทษคนทุจริตให้รางวัลคนสุจริตชัดเจน ความยุติธรรมจึงเป็นความยุติธรรมโดยไม่ต้องสิ้นเปลืองงบประมาณตั้งหน่วยงานใหม่ให้เกิดปัญหาซ้อนอีกหลายหน

แก้ปัญหาย่อมต้องแก้ที่ต้นรากใหญ่ ถ้าไม่แก้ต้นรากความอยุติธรรมของผู้ใหญ่ ตั้งหน่วยงานมากเท่าไรก็ยิ่งเร่งความล่มสลายของแผ่นดิน ไม่ต่างจากต้าหมิงอันยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์จีน

ไม่เชื่อก็ลองไปดูการทำงานขององค์กรอิสระเปลืองงบมหาศาลตั้งแต่ รธน. 40 ดู ว่าทำงานคุ้มค่าสักหน่วยงานหรือยัง?

#มิตรสหายท่าน​หนึ่ง

118 Nameless Fanboi Posted ID:fP58+iDmDt

แถลงข่าว "ทลายแก๊งเกย์ ซื้อบริการทางเพศเด็กผู้ชาย 12 - 16 ขวบ" มีทั้งดารา ไฮโซ อาจารย์ ข้าราชการ ฯลฯ
คือ กูพูดเป็นครั้งที่ 100 แล้ว ว่ามันผิดที่เย็ดกับเด็ก มันเป็นกฏหมายสากล เค้าห้ามปรามกันทั้งโลก มันจะไม่มีปัญหาเลย ถ้ามึงซื้อคนอายุ 20 30 40
แต่คนไทยเนี่ย (ทั้งชายแท้ หญิงแท้ ทั้งเกย์ กะเทย) ไม่รู้เป็นห่าไรกัน จะเย็ดกับเด็กให้ได้ ชอบกันจัง เด็กตัวผอมๆ เสียงเพิ่งแตก หมอยเพิ่งขึ้นเนี่ย พอได้แล้วก็อวด ป่าวประกาศอย่างภูมิใจว่ากูได้เย็ดกับเด็ก เรียกตำรวจมาจับตัวเองกัน

119 Nameless Fanboi Posted ID:0cLe4rzgYL

>>118 มึงลองไปถามแบบนี้กับISISมั่งดิ ไม่รู้เป็นห่าไรชอบหีอีแมะนมเล็กๆ ใส่ผ้าคลุม แล้วต้องเป็นพวกต่างศาสนาเอาเข้ามาขู่เข็ญให้นับถือศาสนาตัวเองแล้วเย็ดๆหลังจากนั้นก็อวดอย่างภาคภูมิใจว่าหีอิมพอร์ตพร้อมบูชาอัลเลาะห์จนเมกาต้องมาบอมบ์ใส่

120 Nameless Fanboi Posted ID:PyNh4eUTRv

A: ผมละเบื่อพวกคลั่งชาติที่จะเอาความเป็นไทยแท้ยัดไปในทุกสิ่งทุกอย่าง แม้แต่ผัดกระเพาพวกนี้ยังจะเอาความเป้นไทยยัดเข้าไปอีก ฐฐฐฐฐฐฐ พวกนี้ไม่รู้บ้างเลยว่าทุกสิ่งอย่างในโลกยุคปัจจุบันมันมีการผสมกลมกลืนไหลลื่นข้ามวัฒธรรมไปหมดแล้วอ่ะครับ

B: อืมมม พูดได้น่าฟังครับ แล้วเอ๊ะนั่นคุณจะรีบไปไหนอ่ะครับ

A: อ่อ พอดีผมนัดเพื่อนไปกินอาหารญี่ปุ่นอ่ะครับ ร้านที่จะไปนี่เชฟเขามาจากญี่ปุ่นเลย

121 Nameless Fanboi Posted ID:Yh7sJDKN/.

เจมี่ โอลิเวอร์ทำแกงเขียวหวาน ใส่ขิงกับมะนาว แบบนี้มันไม่ใช่ไทยแท้ ทำให้ถูกหน่อยซิไอ้ฝรั่ง
ขอตัวแปปนะ ต้องไปกินพาสต้าคาโบนาร่า เพิ่งสั่งพ่อครัวให้ใส่ครีมเป็นพิเศษ ผมชอบ

-มิตรสหายท่านนึง

123 Nameless Fanboi Posted ID:w8FWJh3LsZ

>>122 อะไรของมึงวะ เห่อหมอยเหรอ

124 Nameless Fanboi Posted ID:/Ix8F9L5jn

>>123 ก็นี่กระทู้มิตรสหายท่านหนึ่ง เลยก๊อป quote มาแชร์ว่ามีแง่มุมอย่างนี้อยู่ในสังคม

125 Nameless Fanboi Posted ID:GgmwHtjB.n

>>124 ก็นั่นแหล่ะที่เห่อหมอย คือกูรู้แง่มุมนี้อยู่แล้วและคิดว่าไม่จำเป็นต้องเอามาลง เหมือนมึงเพิ่งเปิดโลกแล้วอยากอวดอะ

126 Nameless Fanboi Posted ID:9xLM.4M1Ev

>>125 บางคนก็ไม่รู้ไงครับ

127 Nameless Fanboi Posted ID:A2ddcRs9Hp

มึงก็อุตส่าห์เถียงกับโทรลเนอะ

128 Nameless Fanboi Posted ID:i84qvpVeB4

อ่าวนี่โทรลเหรอ 555

129 Nameless Fanboi Posted ID:YKlUV0fQrj

ทุยก็ได้

130 Nameless Fanboi Posted ID:a5zx31HQ5.

>>124 quote ของมิตรสหายเห่อหมอยที่เพิ่งรู้ว่ามีแง่มุมนี้ในสังคม

131 Nameless Fanboi Posted ID:fBtJsC2RcV

Mindset จอมคนยุคเซนโกคุ

โอดะ โนบุนากะ บอกว่า “ถ้านกไม่ยอมร้องเพลง ข้าจะฆ่ามันให้หมด”

โอดะ เป็นบุคคลที่มีความเด็ดขาด แข็งกร้าว และน่าหวาดกลัวแก่บริวารของเขาเป็นอย่างมาก ในตอนที่เขาก้าวเข้าเกียวโต เพื่อสนับสนุน โชกุน อาชิคางะ เขาออกกฏที่ไม่เคยมีมาก่อน เรียกกันว่า "กฏหนึ่งเรียว" หมายถึง เงินแม้แต่เรียวของราษฏร ก็ห้ามยุ่ง ใครปล้น กดขี่ข่มเห่งประชาชน จะต้องถูกประหารแม้เป็นเงินแค่น้อยนิดก็ตาม แสดงให้เห็นถึงความเด็ดขาดของแนวคิดจอมคนท่านนี้

โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ บอกว่า “ถ้านกไม่ยอมร้องเพลง ข้าจะสอนให้มันร้องให้ได้”

ฮิเดโยชิเคยกล่าวว่า "หากเขาไม่ยอมร่วมมือ จงเกลี่ยกล่อมเขา " ในประวัติศาสตร์ ฮิเดโยชิเป็นนักเจรจาที่ยอดเยี่ยม เขามีผลงานเกลี่ยกล่อมกับหลายตระกูล ไม่ว่าจะเผื่อการร่วมมือกันหรือการสงบศึก เช่น ตระกูลไซโต้ ตระกูลโมริ หรือแม้แต่ โตกุงาว่า ก็ตาม ความเป็นผู้นำของเขา ทาคิกาว่า คาสุมาสึ ยังให้การยอมรับว่าเหมาะสมเป็นผู้รับช่วงต่อเจตนารมณ์ของโอดะ

โตกุกาว่า อิเอยาสุ บอกว่า “ถ้านกไม่ยอมร้องเพลง ข้าจะเฝ้ารอคอยให้มันร้อง”

อิเอยาสุขึ้นชื่อในเรื่องความอดทน เขารอจนกว่า ฮิเดโยชิ เสียชีวิต จึงเข้ายึดอำนาจ เขาเริ่มจากการย้ายฐานอำนาจไปให้ไกลจากเกียวโต จากแคว้นมิคาวะ ย้ายสู่แคว้นมูซาชิ ฐานอำนาจของโฮโจ สั่งสมกำลังรอเวลา ตอนที่ ฮิเดโยชิตัดสินใจรุกรานเกาหลี อิเอยาสึ ก็หลีกเลี่ยงที่จะส่งกำลังไปรบด้วย จุดนี้เองเพื่อเก็บแรงไว้ใช้ในงานใหญ่นั้นเองครับ

ยังมีคำกล่าวอีกว่า ชายสามคนทำขนม " โอดะ นวดแป้ง ฮิเดโยชิ นึ่งจนสุก ส่วน โตกุงาว่า เป็นคนกิน "

และคนสุดท้าย

ผู้นำท่านนึงแถว ๆ แดนสารขันกล่าวว่า " ถ้านกไม่ยอมร้องเพลง จะบอกว่า " เป็นความผิดของรัฐบาลที่แล้ว ผมไม่เกี่ยว

132 Nameless Fanboi Posted ID:D3ICBZxqFW

>>131 เปลี่ยนจาก แมวจับหนูเป็นนกร้องเพลง แล้วเรอะ

ต่อไปคงเคลมโจโฉเป็นคนคิดอีก

133 Nameless Fanboi Posted ID:QNv1Yi/3OD

แดกเหล้าทางตูดจะเมาเร็วกว่าแดกทางปาก

#มิตรสหายตูดแหกไปแล้วท่านหนึ่ง

134 Nameless Fanboi Posted ID:9FdBQB0HSQ

>>133 เอามาจากการ์ตูนอ่ะดิกูรู้

135 Nameless Fanboi Posted ID:QYQTKSwDHs

>>132 วลีนี้มีมานานแล้วนะ เปรียบเทียบนกกับ 3 คนนี้

ส่วนแมวที่มึงบอกคงหมายถึงแมวสีอะไรจับหนูได้คือแมวดีของเติ้งสินะ จริงๆ นั่นเป็นสุภาษิตเก่าแก่เสฉวน เติ้งไม่ได้คิดเอง และไม่ได้เกี่ยวกับโจโฉเลย

136 Nameless Fanboi Posted ID:D3ICBZxqFW

>>135 มีติ่งโจโฉเคลมว่าโจโฉพูด อีกอันก็ ขยันแต่โง่ให้ประหาร

137 Nameless Fanboi Posted ID:agfYnSvgzx

>>131 พวกอวยโจรแคระลอกวัฒนธรรมเจ๊ก ยี้

138 Nameless Fanboi Posted ID:fBtJsC2RcV

>>137 วัฒนธรรมจีนโบราณแม่งสูญพันธุ์ไปหมดแล้วสัส เหลือแต่เจ๊กขากถุยไร้อารยะเพราะเหมาควยตุงนี่ล่ะ

140 Nameless Fanboi Posted ID:jt1hTomCc0

https://www.facebook.com/DailyMail/videos/229750531056791/

รุนแรงขึ้นทุกวันครับ
การที่คนคนไหนจะเลือกทานหรือไม่ทานอะไร
ควรเป็นสิทธิ์ที่เค้าจะได้เลือกอย่างเสรี
ถ้าคุณมีความเห็นว่ามันไม่ดี ไม่ควร คุณก็ต้องไปรณรงค์กับผู้บริโภค
ว่ากันด้วยเหตุด้วยผล ไม่ใช่ผ่าเข้าไปในพื้นที่ของอีกฝ่ายแบบระรานกัน
มันเป็นความงมงายแบบที่กำลังกลายเป็นลัทธิ
และโซเชียลมีเดีย เป็นช่องทางการปลุกระดม
และแม้แต่การให้ข้อมูลเท็จอย่างเป็นระบบ
เทคโนโลยี่เป็นสิ่งดี แต่มนุษย์นับวันจะเจริญไม่ทันเทคโนโลยี่
และนับวันจะถูกเทคโนโลยี่เข้าครอบงำ
หรือตกเป็นเครื่องมือของคนที่ฉลาดกว่า

ในกรณีนี้ ยังมีเรื่องของการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง
เพราะเมื่อการรณรงค์ไม่ค่อยได้รับการตอบรับแบบที่พวกเค้าต้องการ
การรณรงค์จึงเริ่มฮาร์ดคอร์ขึ้นเรื่อยๆ
ข้ออ้างเรื่องอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์เป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่
เป็นของทุนใหญ่ และมีอำนาจในการล็อบบี้รัฐบาล บิดเบือนกลไกต่างๆ
ถูกยกขึ้นมาเป็นข้อโจมตี
ซึ่งถามว่าจริงไหม มันก็มีความจริงอยู่ครับ
แต่ทว่า ... อุตสาหกรรมการเกษตรที่เป็นพืชผักผลไม้
ไม่มีอิทธิพลของทุนใหญ่ที่ใช้อิทธิพลเข้าครอบงำหรือ ???

ผมไม่มีอคติอะไรกับคนที่เป็นวีแกน
ตัวผมเองก็พยายามจะทานพืชให้มากอยู่เสมอเพราะมันดีกับร่างกาย
ปริมาณโปรตีนที่ผลิตได้ในโลก นับวันก็จะไม่พอ
ไม่ทันกับปริมาณประชากรที่เพิ่มขึ้นอยู่แล้ว
แต่มนุษย์เองบริโภคเนื้อสัตว์มานานก่อนวัฒนธรรม
ก่อนเราจะเป็นมนุษย์ด้วยซ้ำ ...
รูปแบบฟันของเราตลอดสายวิวัฒนาการ
เป็นหลักฐานยืนยันทางวิทยาศาสตร์ที่แย้งไม่ได้
การจะบังคับคนทั้งโลกให้ไม่ทานเนื้อสัตว์
คงไม่สามารถเกิดได้ในชั่วพริบตาอย่างที่ใครบางคนต้องการแน่นอน

#มิตรสหายท่าน​หนึ่ง

141 Nameless Fanboi Posted ID:QYQTKSwDHs

>>136 มึงต้องแคร์พวกติ่งโง่ๆ ด้วยเหรอ

142 Nameless Fanboi Posted ID:Y9VRbhyEw0

A: ผมเอารถคันละล้านกว่าไปรับสาวๆ ไม่มีใครยอมขึ้นรถผมสักคนอ่ะครับ

B: เอ๊ะ เป็นพวกรถ EV ปลั๊กอินรึป่าวอ่ะครับ สาวๆ เลยไม่มั่นใจ

A: ป่าวครับ ป่าวครับ รถเทรลเลอร์อ่ะครับ

B: วะวะว่ะหว่ายยย

143 Nameless Fanboi Posted ID:+jqnJXBRf+

>>138 ไต้หวันแม่งคุณภาพกว่าจริงๆ เฉลี่ยแล้วดูฉลาดกว่ามากๆด้วย จีนแม่งเป๋สัด ตอนยุคคอมมิวนิสต์

144 Nameless Fanboi Posted ID:vYzLFWEsYQ

Democracy is two wolves and a lamb discussing what to have for dinner.

Liberty is a well-armed lamb.

145 Nameless Fanboi Posted ID:bf.7yrnNdQ

>>144 KKona Clap

146 Nameless Fanboi Posted ID:PbNVd48C9z

>>143 ไต้หวันแม่งติ่งโจรแคระ...

147 Nameless Fanboi Posted ID:ClM9UspqzL

ไต้หวันก็เหมือนสิงคโปร์นั่นแหละ

148 Nameless Fanboi Posted ID:WZCZCip0EK

>>138
มีอารยะแต่สิ้นชาติพวกมรึงจะเอาอะไรครัช

149 Nameless Fanboi Posted ID:4E8Ar0UvJw

อ่านความเห็นหลายๆคนที่ทำงานด้านแบบ Software Infrastructure ที่ไทย ว่าแบบงานด้านนี้ 1) ระบบอะไรต่างๆล่มก็ไม่มีทางรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ 2) ถ้าเว็บไม่ล่มก็ไม่มีใครว่ารู้ว่าสำคัญยังไง 3) ทำดีก็ไม่มีใครรู้เสมอตัว แล้วรู้สึกแปลกๆ
.

คือตอนนี้นับตั้งแต่ทำงาน Infra อยู่ที่ Quora (เลขล่าสุดคือเว็บมีคนใช้เดือนละ 200 ล้านคน เป็นเว็บที่คนเข้ามาสุดอันดับ 90 ของโลกตาม Alexa Rank) [1] มาก็ 2 ปีกว่าๆละ ย้ายมาทีม Infra เพียวๆเมื่อประมาณ 4 เดือนก่อน ทีมเก่าก็ทำ backend ลึกๆซึ่งก็ใกล้เคียง Infra มากๆ ก็ไม่เห็นจะรู้สึกว่ามันจะเป็นอะไรแบบนั้นเลย
.

จริงอยู่ที่ว่างานพวกนี้มันอาจจะดูเหมือนมีดวงมาเกี่ยวข้องเยอะอยู่ เพราะมันมีปัจจัยภายนอกเช่นถ้าเรามี Server, EC2/GCP instances หรืออะไรก็ตามอยู่เยอะมากๆ มันก็ต้องมีสักอันที่อยู่ดีๆก็พังบ้าง หรือแม้กระทั้งก็อาจจะมีอะไรที่อยู่นอกเหนือการควบคุมเรามากๆไปเลยเช่น service ชาวบ้านที่เราต้องใช้พังอะไรแบบนี้ แต่คือของพวกนี้มันก็ประเมิน back of envelope calculation อะไรแบบนี้ได้อยู่ รวมถึงถ้าเราเคยมีประสบการณ์ว่าอะไรมีปัญหามาก่อนแล้วเขียน service postmortem ไว้ก็สามารถเอา incident report เก่าๆมาดูได้ว่าอะไรเกิดบ่อยแค่ไหน มีผลกระทบอะไรบ้าง คือสุดท้ายมันก็ไม่กันได้ทั้งหมดหรอก แต่คือของแบบนี้สุดท้ายมันก็วัดได้ เช่น ถ้าพังครั้งเดียวมันก็อาจจะสุดวิสัย แต่ถ้าพังบ่อยๆเรื่องเดิมๆหลายๆครั้งเนี่ย มันก็น่าจะมีทางป้องกันอะไรสักอย่างได้แหละ เพราะสุดท้ายมันก็เป็นเรื่องของ probability หรือ risk assessment ไม่ใช่ว่าจะเป็นเพราะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ดลบัลดาลให้ server ล่มสักหน่อย
.

ส่วนเรื่องที่ว่าถ้าเว็บไม่ล่มก็ไม่มีใครรู้ว่างาน infra สำคัญยังไงนี่ก็ยิ่งแปลก เพราะการสื่อสารให้คนที่ไม่ได้ทำงานในด้าน infra ฟัง ทั้งกับ software engineers ที่ทำด้านอื่นๆ หรือแม้กระทั้งกับพวก management เองส่วนตัวก็รู้สึกว่าสำคัญมากๆ คือการที่เค้าจ้าง infrastructure engineer มาคนนึงเนี่ย เค้าก็ต้องอยากรู้อยู่แล้วมั้ยว่าเรามีประโยชน์อะไร เพราะฉะนั้นเนี่ยการมีอยู่ของทีม infrastructure ก็ควรจะมี goal มี SLAs/SLOs (Service Level Agreement/Objective) ที่ชัดเจนเช่นว่าจะทำให้ services ที่มีอยู่ reliable ขนาดไหน เร็วขนาดไหน ลดค่าใช้จ่ายลงได้ขนาดไหน maintain ง่ายขึ้นมั้ย แล้วก็ใครหรือทีมไหนต้องมีส่วนรับผิดชอบ ต่อ goal หรือ SLA อันไหนบ้าง ซึ่งถ้ามีกำหนดชัดเจนแล้วถ้าเราทำได้ตามนั้นก็คือ impact แล้วปะ แต่ถ้าไม่มี goal หรือ metrics อะไรที่สามารถสื่อสารกับคนนอกทีมได้ นี่ก็ดูน่าจะมีปัญหาแล้วนะ
.

แล้วก็คือถ้าจะทำ project อะไรสักอย่างส่วนตัวคิดว่า ROI (Return of investment) ของ project สำคัญมากๆ ทุกอย่างที่ทำต้องระบุได้ว่าทำแล้วจะช่วยบริษัทได้ยังไง มีผลต่อ high-level goals ของทีมและของบริษัทยังไง บางงานถ้าตัวเองไม่เชื่อว่ามี ROI ต่อบริษัทจริงๆ ถึง manager สั่งให้ทำปกติก็เถียงกลับไปด้วยซ้ำ หรือถ้าถึงยังไงก็ต้องทำด้วยความจำเป็นอื่นๆถ้ามีงานที่รู้สึกว่า ROI สูงกว่าก็ไปทำอันนั้นแทนก่อน ซึ่ง ROI เนี่ยก็เหมือนเดิมคือบางอย่างมันก็บอกไม่ได้ 100% หรอก อย่างเช่นในทาง infrastruture พวก realibility หรือ security อะไรพวกนี้ที่มันเป็นเรื่องของของที่เป็นความเสี่ยง (คือแบบถ้าไม่ทำก็อาจจะไม่เกิดอะไรที่ไม่ดีขึ้นก็ได้) แต่มันก็ควรคำนวนหรือคาดการได้อยู่ดีมั้ย ส่วนตัวคิดว่าถ้าทำงานแล้วไม่สามารถระบุ ROI ของของที่ทำได้เนี่ยนอนอยู่บ้านเล่นเฟสยังดีกว่า
.

สุดท้ายคือเรื่องทำดีไม่มีใครรู้ อันนี้ก็แปลก คือปกติเนี่ยถ้าเราทำอะไร แทบจะมี rule of thumb เลยว่าเราต้อง quantify หา impact ของงานให้ได้ แม้กระทั่งการหา impact นั้นอาจจะใช้เวลา 50%-100% ของเวลาที่ทำงานด้วยซ้ำ (คือใช้เวลาอีกเท่าของเวลาที่ทำงานจริงๆ) สำหรับการทำงานในองค์กรแล้วเราถือคติว่า "ทำดีไม่มีใครรู้ = ไม่ทำ" เพราะฉะนั้นยิ่งถ้าทำอะไรที่มี impact เยอะๆ ยิ่งต้องให้คนรู้มากๆ ส่งเมล์มันให้หมดทั้งทีม หรือถ้าสิ่งที่เราทำมันสำคัญจริงๆก็ส่งมันทั้งบริษัทไปเลย
.

อันนี้จะเรียกว่าการเมืองในที่ทำงานหรืออะไรก็ตามใจ แต่ลองมองมุมบริษัทดู เค้าจ้างมาทำไม แล้วเค้าจะวัดผลเรา ขึ้นเงินเดือนเรา เลื่อนขั้นเรายังไงถ้าไม่รู้ว่างานที่เราทำมีผลอะไรบ้าง เราในที่นี้คือทั้งตัวเราเอง แล้วก็ทั้งทีมของเราด้วย
.

สรุปคือจะทำอะไรไม่ว่าจะ infra, backend, frontend อะไรก็เถอะถ้ามี goal ชัดเจน สื่อสารกับชาวบ้านดีๆ ประเมินความเสี่ยงดีๆเนี่ย มันก็ควรจะสามารถคาดการณ์อะไรได้ไม่มากก็น้อย แล้วเวลาทำดีคนก็จะรู้ได้ด้วยถึงเว็บจะไม่ล่ม จบ
.

[1] แต่ทุกอย่างในโพสนี้ความเห็นส่วนตัว ไม่เกี่ยวข้องกับบริษัทแต่อย่างใด

#มิตรสหายท่าน​หนึ่ง

150 Nameless Fanboi Posted ID:uQvBUpx/MR

>>149 กูนึกว่ามึงจะมาโฆษณา code star สัส หลงอ่านตั้งยาว

151 Nameless Fanboi Posted ID:g7goiwerkg

>>150 ถ้าจะโฆษณาหลอกควายมันไม่เริ่มด้วยด้านมืดของอาชีพโปรแกรมเมอร์หรอก

152 Nameless Fanboi Posted ID:NgHbfu3CSD

>>150 น้องคนนี้วุฒิมัธยม 6 เรียน JavaScript ได้ 3 วัน เขียนโค้ดบน Codility ได้คะแนนเต็ม 100 ในการเขียนครั้งแรก ผมแอบดูอยู่นอกห้อง เขียนเก่งแบบนี้ได้งาน 100% ครับ

เรียนที โค้ดสตาร์ ไม่ต้องมีพื้นฐาน หรือ ประสบการณ์ทำงานอะไรทั้งสิ้นครับ การเขียนโค้ดเป็นทักษะ เหมือนกับการเล่นดนตรี ที่ต้องฝึกซ้อมให้ชำนาญ อยากเรียนเขียนโค้ดเหมือนเล่นเปียโน เล่นกีตาร์ สมัครครั้งเดียว มาเรียนได้จนกว่าจะได้งานประจำเงินเดือน 30,000 บาทขึ้นไป

153 Nameless Fanboi Posted ID:i7mzG0hzOH

>>152 น้องคนนั้นเข้าทีล่ะใช้ได้ทีเดียว น้องคนนี้ก็อึ๋มทำพวกเราสุดเสียว ขาวสวยหมวยเซ็กส์หุ่นเธอปราดเปรียวได้เคี้ยวเมื่อไหร่จะกินให้อิ่มหลายวัน

154 Nameless Fanboi Posted ID:.G1hqPMMGU

>>153 ความเมามันโลมเร้าในจิต ทำเราให้เสียสติสิ้นคิด วางแผนกับเพื่อนใจวิปริต ยานอนหลับใครมี ใส่เหล้าให้เธอ

155 Nameless Fanboi Posted ID:./VLFCvT7j

ท่านผู้บริหารครับ ตอนนี้เราสร้าง Brand Awareness ได้สำเร็จแล้ว ตอนนี้ผู้ใช้เว็บโม่งจำนวนมากรู้จักสถาบันของเราแล้วครับ

156 Nameless Fanboi Posted ID:+kW96jkxXS

>>155

P A M P E T T

https://imgur.com/a/9ychSWV

157 Nameless Fanboi Posted ID:./VLFCvT7j

เคยเจอกรณีที่มีผู้กระทำความผิดหลายคน
เจ้าของคดีบอกว่าถ้าใครมอบตัวจะกันไว้เป็นพยานและไม่เอาผิด
ส่วนใครหนีจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

มีส่วนน้อยที่มามอบตัว และได้รับคำยืนยันว่าจะไม่มีความผิดใดๆ
2 เดือนต่อมา คนที่มามอบตัวโดนแจ้งข้อหา
ส่วนคนที่หนียังกินอิ่ม นอนหลับอย่างสบายใจ

เพราะ.......อะไรคะ
ไม่มีสัจจะ ในหมู่โจรงั้นเหรอ

158 Nameless Fanboi Posted ID:KQohAMq0F2

>>157 คดีหลายอย่างเป็นอาญาแผ่นดิน อัยการไม่สั่งฟ้องไม่ได้ถือว่าละหน้าที่

159 Nameless Fanboi Posted ID:r5+8MRWOlt

วันแม่อย่าลืมบอก milf แม่นะคะ

- มิตรสหายสาวแว่นท่านนึง

160 Nameless Fanboi Posted ID:LzSxERH6rD

เพื่อน ๆ ครับ เคยสังเกตหรือไม่ครับว่าคนที่มีอายุมาก ๆ ยิ่งมากเท่าไร จะยิ่งติดเชื้อง่ายเท่านั้น คนที่มีอายุมาก พอเจอเชื้อหวัดเข้าหน่อย ก็อาจปอดบวมแล้ว เข้าโรงพยาบาลแล้ว เพื่อนผมท่านหนึ่งแค่โดนแมลงกัดธรรมดา ๆ อยู่ในห้อง ICU เป็นเดือนเลย

ทำไมหนอ ทำไม

มีงานวิจัยพบว่าคนเรา พออายุ 20 ขึ้นไปโดยประมาณ ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายจะทำงานมีประสิทธิภาพลดลงปีละ 2-3% นั่นเองครับ สมมติว่าเริ่มลดที่อายุ 20 พอเราอายุ 21 ก็จะเหลือแค่ 98% เป็นอย่างมาก พออายุ 22 ก็จะเหลือแค่ 96% หากอายุ 60 จะเหลือแค่อย่างมากที่สุด 20% เท่านั้นครับ ไม่ต้องนับต่อนะครับ

เพราะฉะนั้นไม่น่าประหลาดใจครับว่าทำไมเราเป็นกุ้งยิง เป็นงูสวัด เป็นหวัดบ่อยขึ้น พร้อม ๆ กับอายุที่เพิ่มขึ้นของเรา เพราะระบบภูมิคุ้มกันมันทำงานไม่ดีเหมือนเดิมนั่นเองครับ

แต่ไม่ต้องวิตกไปครับ งานวิจัยบอกว่าการออกกำลังกายที่สม่ำเสมอและหนักพอเพียง ช่วยป้องกันไม่ให้ระบบภูมิคุ้มกันของเราเสื่อมลงได้นะครับ ผมเน้นนะครับ ช่วยป้องกัน ไม่ได้ช่วยชลอนะครับ

งานวิจัยพบว่าคนอายุ 80 ที่ออกกำลังกายมาอย่างต่อเนื่อง (กรณีนี้ปั่นจักรยาน) จะมีระบบภูมิคุ้มกันที่เหมือนกับเด็กอายุ 20 ปีครับ

รู้แบบนี้แล้วรออะไรครับ เริ่มต้นด้วยวิดพื้นแบบ US Navy SEAL เลยครับ จัดไป 20 ครั้ง ปฎิบัติ!

161 Nameless Fanboi Posted ID:LzSxERH6rD

มึงเอาจริงได้แล้ว

พ่อแม่ไม่ได้รอมึงไปตลอดนะเว้ย

ใช่มึงยังเด็ก

แต่พ่อแม่อ่ะนับถอยหลังทุกวัน

รุ่นพี่คนนึง
พูดออกมาในวงที่เรากำลังนั่งคุยกัน

เค้าดูมีอารมณ์เล็กน้อย

เค้าแก่กว่าพวกผม10ปีได้

ณ ตอนนั้นเค้าน่าจะ30นิดๆ

ส่วนเรากำลังกำลังจะเข้าวัยทำงาน

ก่อนหน้านั้น
รุ่นพี่คนนี้พูดขึ้นว่า...
รีบๆสำเร็จ
รีบๆทำ

"รีบๆสร้างตัว"

"อย่าช้าแบบกู"

เพื่อนคนนึงในวงพูดว่า

"จะรีบไปไหนพี่?"

"ผมเรียนมา20ปีขอชิลๆหน่อยเด๊ะ"

"พักสักปี2ปี"

เพื่อนอีกคนก็บอก....

"ไว้30ค่อยว่ากัน"

"ระหว่างนี้ทำงานค้นหาตัวเองไปก่อน"

รุ่นพี่อีกคนพูดว่า...

ถ้ามันค้นหาตัวเองจริงๆก็ดี
แต่ถ้าเอ็งคิดชิลแบบนี้แต่แรก
มันก็จะเฉื่อย

แล้วเอ็งเป็นคนแบบไหน
เอ็งก็จะรู้สึกสบายใจ
ที่จะคุยกับคนแบบเดียวกัน

ไม่นาน
เอ็งก็ถูกดึงดูดไปรวมกับคนแบบนั้น
แล้วนั่นก็คือสังคมเอ็ง
สังคมที่เฉื่อยเหมือนกัน

พอไปทำงานรวมกัน
มันก็เฉื่อยทั้งกลุ่ม
แล้วเอ็งก็ชินกับสภาพแบบนั้น
ไม่นานเอ็งก็หมดพลัง

แต่จริงๆเอ็ง
สามารถตั้งใจได้ตั้งแต่วันนี้นะ

"ทำไม่ตั้งเป้าไปเลยว่าจะสำเร็จไว"

"ยุคนี้มันมีinternet
คนสำเร็จได้ไวกว่ายุคก่อนเยอะ"

"ไม่ตั้งไว้25ตั้งตัวได้เลี้ยงดูพ่อแม่
30ก็สบาย"

"เอ็งไปตั้งไว้แก่กว่านี้ค่อยมาคิดใหม่
แล้วตอนนั้นจะไปตั้งตัวได้เมื่อไหร่
ขนาดตอนมีแรงเอ็งยังไม่ทำเลย?

โอ้ยพี่พูดเรื่องงานอะไรนักหนา
เครียดนะเว้ย
เพิ่งเรียนจบ
ยังเด็กอยู่เลย(เค้าพูดพร้อมหัวเราะ)

รุ่นพี่พูดสวนขึ้นมาทันที
ใช่มึงอะเด็ก
แต่พ่อแม่มึงนับถอยหลังทุกวัน

มึงรอได้
แต่พ่อแม่มึงรอได้รึเปล่าล่ะ?

รุ่นพี่คนนี้พูดเงียบๆ
แต่ดูรู้ว่าเค้าไม่พอใจ

แล้วหลังพูดเสร็จ
จากที่เค้าตั้งใจจะกลับอยู่แล้ว
เค้าก็เดินไปขึ้นรถออกไปเลย

พี่.....เป็นไรว่ะ(เพื่อนผมคนนึงพูดขึ้น)

ทำไมเค้าต้องเครียดขนาดนั้นว่ะ

เค้าแช่งพ่อแม่ผมทำไม(เพื่อนคนแรกพูด)

รุ่นพี่คนนึงพูดกลับมาว่า.....

มึงอย่าไปโกรธพี่มึงเลย
มึงก็รู้พี่มึงลึกๆหวังดี

มันsensitiveเรื่องนี้แหละ
ก่อนที่มันจะมีธุรกิจมีชีวิตดีๆอย่างที่มึงเห็น
มันก็ชิล
มันก็คิดแบบมึง

ตั้งแต่เรียนจบ-อายุ25
มันก็ชิลๆใช้ชีวิตนี่แหละ
แต่พอวันนึงมันรู้ว่าแม่เป็นโรคร้าย
มันหยุดทุกอย่างเลย

มันตั้งใจทำงานสร้างตัว
สร้างธุรกิจ
มีเงินรักษาแม่บ้างไม่มีบ้าง
ก็เข้าเอกชนบ้าง
หลังๆก็รัฐบาลบาลอย่างเดียว

จนเกือบ30แม่มันก็เสีย
ในวันที่แม่เสีย
มันยังวิ่งทำงานอยู่ต่างจังหวัดเลยวันนั้น

มึงอย่าโกรธพี่มึงเลย
พี่มึงรักพวกมึงนะ
ไม่งั้นมันจะพูดให้เอ็งเกลียดขี้หน้ามันทำไม?
มันมีเหตุผลอะไร?

วันนั้นคำของเค้า....

"เราอ่ะรอได้"

แต่พ่อแม่รอได้ป่าวล่ะ?

"จะมั่นใจได้ไงว่ะว่ารอได้?"

ผมกลับบ้านเลยวันนั้น
เขียนเป้าหมายว่าจะเลี้ยงแม่ได้
ภายใน1ปี
นั่งคิดเรื่องนี้อยู่นาน

162 Nameless Fanboi Posted ID:LzSxERH6rD

แล้วเวลาก็ผ่านไป

ทุกอย่างที่จางไป

ต่างคนต่างแยกย้าย

ไม่กี่ปีต่อมา

วันนึงเพื่อนก็โทรมาผม

และเย็นอีกวัน...

ผมก็ไปงานศพของแม่เพื่อน
คนที่เคยอยู่ในวงวันนั้น

แม่ของเพื่อนประสบอุบัติเหตุบนถนน

มันด่วนมาก

ผมไม่รู้จะพูดอะไร...

ไม่รู้จะปลอบเพื่อนยังไง!

เพื่อนคนนั้นบอกผมว่า....

"บ้านที่คิดจะซื้อให้แม่ก็ยังไม่ได้ซื้อ"

"ยังไม่เคยพาแกไปเที่ยวดีๆกินดีๆเลย"

"กูไม่คิดว่ามันจะเร็วขนาดนี้หว่ะ"

เค้าพูดไปมองรูปแม่ไป

น้ำตาซึม....

เค้าพูดกับผมว่า....

กูไม่รู้ ไม่รู้เลยจริงๆ...

"มันเร็วเกินไป"

แล้วก็พูด วนไปวนมาแบบนั้น

ผมนึกถึงเคสรุ่นพี่เมื่อหลายปีก่อน

ที่เค้าเตือนและหงุดหงิด
ก่อนเดินออกจากวงไป
ณ ตอนนั้นผมเริ่มเข้าใจว่าทำไมเข้าโมโห
และรู้ส่าทำไมพวกเราไม่ควรโกรธเค้า

ตรงกันข้ามเรากลับต้องขอบคุณเค้า
ที่ยอมถูกพวกเราเกลียด
"เพื่อให้เราคิดได้"

ผมคิดว่ามันคงไม่มีใครเฉื่อย
กับชีวิตได้หรอก...

ผมคิดในใจว่าถ้าทุกคนตะหนักว่า
"พ่อแม่อาจจะไปวันไหนก็ได้"

และอาจจะมีเวลาไม่กี่วัน
"ให้เราได้อยู่กับเค้า"

ผมเชื่อทุกคนไม่มีทางเฉื่อย
แต่คงทำให้ดีที่สุด
พยามทุกวิธีทางแน่นอน

"ใช่มึงอะเด็ก"
แต่พ่อแม่มึงนับถอยหลังทุกวัน

มึงรอได้
"แต่พ่อแม่มึงรอได้รึเปล่าล่ะ?"

(เค้าพูดพี่เค้าผุดขึ้นในหัว)

"มันเร็วเกินไป"

(เสียงของเพื่อนพูดประโยคนี้อยู่ข้างๆ)

1ในDreamlistของผมตอนเรียนจบคือ
ผมหาเงินเลี้ยงแม่ให้ได้ในวันนึง

แต่1ในข้อนึงของdreamlist
ที่ผมเขียนเพิ่มขึ้นมาคือ

ไม่ใช่แค่เลี้ยงแม่ได้ในวันนึง
แค่ผมจะต้องสำเร็จให้ไวที่สุดด้วย

เพราะเราไม่รู้ว่า
วันไหนเค้าจะไม่อยู่กับเรา
ก็ทำให้ไวที่สุด
แล้วใช้เวลากับเค้าให้คุ้มค่า

"ใช่มึงอะเด็ก"
แต่พ่อแม่มึงนับถอยหลังทุกวัน

มึงรอได้
"แต่พ่อแม่มึงรอได้รึเปล่าล่ะ?"

จริง!
(ผมคิดตามคำพูดนั้น)

และจริงๆเราไม่รู้เลย
ใครจะไปวันไหน
หรือาจจะเป็นตัวเราก็ได้
แล้วถ้าเราไปล่ะ?

พ่อแม่เราจะอยู่ยังไง?

เค้าจะอยู่ดีหรือเปล่า?

นับแต่วันนั้นชีวิตผมไม่เคยท้ออีกเลย
ตอนจะท้อ
ตอนเหนื่อย
ตอนอยากจะผลัดผ่อนการลงมือทำออกไป

"ใช่มึงอะเด็ก"
แต่พ่อแม่มึงนับถอยหลังทุกวัน

มึงรอได้
"แต่พ่อแม่มึงรอได้รึเปล่าล่ะ?"

คำพวกนี้ผุดขึ้นมาตลอด
หลายปี
จนชีวิตดำเนินมาถึงวันนี้
ผมค่อนข้างพอใจ

ผมเชื่อว่า
วันนี้ผมทำได้ดีระดับนึง
ได้ดูแลแม่ดีอย่างที่ตั้งใจ
ผมคิดว่าตัวผมทำได้โอเค

และจะยิ่งดีขึ้นไป
เพราะแม่คือพลังใจให้ผมดีขึ้น

จริงๆวันนี้เป็นวันดี
ผมไม่ได้อยากพูดเรื่องนี้
ให้คนที่อ่านรู้สึกไม่ดี
จริงๆไม่อยากนำมาเล่าเลยด้วยซ้ำ
ผมต้องโทษทุกคนด้วยถ้าผมพูดเรื่องนี้
แล้วทำให้บางท่านคนกระทบอารมณ์?

แต่เมื่อวานมีคนถามผมว่า

ผมทำยังไง
ผมถึงกล้าตั้งเป้าหมายใหญ่ๆ

แล้วผมทำยังไง
เวลาผมมีเป้าหมายแล้ว
ไม่ท้อ ไม่เหนื่อย
และเป็นมืออาชีพลุกขึ้นไปทำได้ตลอดเวลา
แม้จะไม่มีอารมณ์ในบางครั้ง

จากคำถาม
ที่ตอนแรกผมคิดว่าน่าจะไม่เล่าเรื่องนี้
แต่คิดไปคิดมา

เรื่องนี้มันตรงคำถาม
และมันคือสิ่งที่ผมคิด
แล้วเปลี่ยนชีวิตผมมาแล้ว

ก็น่าจะเป็นความจริงที่เป็นประโยชน์

ก็ควรจะพูดมัน...

ผมนึกย้อนหลัง
ย้อนกลับไป
ก่อนที่จะมาเป็นทุกวันนี้

ผมนึกถึงอะไรที่ทำให้ผมเป็นคนแบบนี้
ผมเริ่มเปลี่ยนตอนไหน?
และอะไรทำให้ผมตั้งเป้าหมายใหญ่
ตั้งแต่เรียนจบเลย

และอะไรที่ทำให้ผมfocus
มันได้ตลอดเวลา

ผมนึกย้อนหลังไปเรื่อยๆ...

"มันเร็วเกินไป"
(เสียงของเพื่อนผมในงานแม่ของเค้า)

"ยังไม่ได้ทำอะไรให้แม่เลย"
"ไม่คิดว่ามันจะเร็วขนาดนี้"
(เสียงเพื่อนพูดวนไปวนมาตลอดงาน)

"ใช่มึงอะเด็ก"
แต่พ่อแม่มึงนับถอยหลังทุกวัน

มึงรอได้
"แต่พ่อแม่มึงรอได้รึเปล่าล่ะ?"

(เสียงของรุ่นพี่ก่อนที่เค้าจะ
เดินฉุนเฉียวออกจากวงไป)

A10(เอเท็น)
Prince of Sales
"สังคมแห่งความเป็นไปได้"

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.