Fanboi Channel

โม่งมิตรสหายท่านหนึ่ง 5th quotes

Last posted

Total of 1000 posts

971 Nameless Fanboi Posted ID:Nv7ZOZnKK

บ้าจะโหนการเมืองมีเหี้ยอะไรก็โยงมั่วๆแม่งหมดแหละ สมองสมองไปหมด

972 Nameless Fanboi Posted ID:m96pTlLPL

ไม่นะกูแค่จะสื่อว่า กูเข้าใจว่าอะไรที่ผ่านมาในชีวิตกู เป็นของที่ฮิตกันทั่วโลก ที่จริง มันแค่คนส่วนเดียวเอง ที่จริงแค่พวก จีน ,อินเดีย มันก็เยอะมากไปแล้ว แต่กูไม่เข้าใจเขา ขนาดกาแฟ-ชา กูยังนึกว่ากาแฟคนนิยมกว่าชาเลย

973 Nameless Fanboi Posted ID:XZKiZsRg3

"ล่าสุดเจอ Salman Khan เจ้าของ Kahn Academy พยากรณ์รูปแบบตลาดการศึกษา การสมัคร และการรับคนเข้าทำงานจะเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือในอีก 10 ปีข้างหน้า
.
ก่อนไปต่อ Salman Khan คือใคร?
.
Salman Khan เป็นนักศึกษาอัจฉริยะ ผู้แตกฉานหลากหลายศาสตร์ที่มีสอนในสถาบันการศึกษาและเขานำมันมาสอนต่อแบบเร่งรัดในเว็บไซต์ของเขา ที่สำคัญเขาสอนฟรี แต่หลังจากสอนฟรีไปเป็นปี ๆ โดยไม่มีรายได้ เขาก็เริ่มจะไปต่อไม่ไหว
.
แต่เพราะสิ่งที่เขาทำมันดีมากจนปล่อยให้ตายห่าไปไม่ได้ ผู้คนจากทั่วโลกจึงเริ่มบริจาคเงินเพื่อให้แพลทฟอร์มของเขาสามารถ Operate ต่อได้
.
ผู้สนับสนุน กลุ่มแรก ๆ คือ Bill Gates แห่ง Microsoft อัดเงินให้ Khan ทันที 50 กว่าล้านบาท และตลอดเวลา 7 ปีที่ผ่านมา Bill Gates สนับสนุนเงินให้เขาแล้วกว่า 300 ล้านบาท! นอกจากนั้น Google ก็ยังเข้ามาร่วมสนับสนุนเงินและให้ใช้ระบบ Google Cloud ในการโฮสต์เว็บไซต์และข้อมูลต่าง ๆ
.
นี่คือคร่าว ๆ ของ Salman Khan ซึ่งจะเรียกว่าเป็นต้นแบบของ Online Academy กลุ่มแรก ๆ ของโลก (ไม่ใช่คอร์สออนไลน์ทั่วไปแบบ Undemy นะครับ แต่เป็น สถาบันการศึกษา เพราะเขาสอนเนื้อหาที่เป็น ศาสตร์วิชาการ และ วิทยาการ)
.
เกริ่นยาว อ่ะ ไปต่อ Salman Khan ออกมาเล่าผ่าน Quora ผมนำมาสรุปบรรยายสไตล์ CEO
.
1. การศึกษาเฉพาะทางจะมาแรง การเรียนจับฉ่ายจะหมดไป
Khan เล่าว่าระบบการศึกษาในระบบปัจจุบันยังยึดตามกฏเมื่อ 200 ปีก่อน คือ บังคับเรียนหลาย ๆ วิชา และต้องสอบให้ผ่านตามเกณฑ์ หากไม่ผ่าน ไม่ได้ไปต่อ หรือไม่มีสิทธิลงเรียนวิชานู่นนี่นนั่นอะไรก็ว่าไป
.
แต่เพราะเทคโนโลยีก่อเกิดแพลทฟอร์มการศึกษาทางเลือกมากมาย ทำให้คนสามารถมุ่งไปเรียนสิ่งที่อยากเรียน อยากรู้ และอยากเป็นได้ทันทีแล้วเอาให้สุดในจุดที่ยืน ยกตัวอย่าง ที่กูเกิ้ลประกาศหลักสูตร Google IT Support Professional Certificate เขาบอกเลยว่า ไม่ต้องมีพื้นฐานใด ๆ ก็เรียนได้ ออกใบรับรอง สมัครงานได้ เป็นต้น
.
2. วุฒิการศึกษาในระบบหมดราคา เพราะเอกชนจะออกวุฒิกันเอง

ระบบการศึกษาตลอด 200 ปีที่ผ่านมาโฟกัสที่การยัดเยียดการเรียนรู้ให้มากที่สุด เน้นจำนวนชั่วโมงเรียนเยอะ ๆ ๆ ๆ ๆ ยิ่งเยอะยิ่งดี แต่ไม่ได้ห่าอะไรที่จะเอาไปทำงานได้ และ Khan บอกนี่คือเหตุผลที่ บริษัทในอเมริกา (รวมถึงไทย) ต้องจัดให้มีการสอบเข้าสมัครทำงานด้วยข้อสอบและวิธีวัดผลของบริษัทนั้น ๆ แยกต่างหาก เพราะวุฒิจากการศึกษาในระบบมันวัดผลไม่ได้
.
Khan พยากรณ์ว่าในอีก 10 ปี บริษัทเอกชนที่ได้รับการนับถือระดับสากล (อาทิ Google, Microsoft เป็นต้น) จะกลายเป็นสถาบันการศึกษาเสียเอง พวกเขาสร้างหลักสูตร และออกใบวุฒิบัตรได้ และไม่ใช่แค่นั้น วุฒิบัตร จากเอกชนจะได้รับการยอมรับจากเอกชนด้วยกันมากกว่าจากสถาบันการศึกษาแบบดั้งเดิม (ส่วนปรากฏการณ์นี้ในไทยอาจต้องบวกเพิ่มไปอีก 5-10 ปีกว่าจะแพร่หลาย)
.
3. ในอนาคต คนจะทำงานก่อนเรียนทีหลัง

Khan บอกว่าปัจจุบัน (ในอเมริกา) คนจบจากสถาบันการศึกษาแบบดั้งเดิมตกงานเพิ่มขึ้นในอัตราเร่ง วุฒิการศึกษาอย่างเดียวไมพอ แต่ประวัติผลงาน หรือ พอร์ตโฟลิโอในการทำงานจริงเป็นสิ่งสำคัญ
.
จริง ๆ ปัญหานี้เป็นกันหลายประเทศรวมถึงไทย วุติเป็นเอกสารประกอบการสมัครงาน แต่ถามว่าบอกอะไรนายจ้างเกี่ยวกับผู้สมัครได้ไหม... ก็ไม่ค่อยได้ --- ส่วนบริษัทขนาดเล็กนิยมดึงตัวคนรู้จักมาทำงานเพราะมีข้อมูลและรู้ว่าคนนี้ทำได้จริง เป็นต้น ฯลฯ
.
ฉะนั้น หากใบรับรองเฉพาะทางจากเอกชนสามารถใช้สมัครเข้าทำงานได้ ผู้เรียนจะสามารถเรียนจบหลักสูตรใน 1 ปี (แทนที่จะเรียน 4 ปีรวด) แล้วทำงานเพื่อสร้างพอร์ตประสบการณ์ แล้วเก็บหลักสูตรขั้นสูง (ในสาขาที่ตนทำงาน) คู่กันไป ทำให้ คุณวุติ และ ประสบการณ์ ทำงานจริงโตคู่กันไปและอัพ Career path และฐานเงินเดือนอย่างเป็นรูปธรรม
.
สรุป
.
วันนี้เราเริ่มได้ยินคนจบปริญญาตรี ทำงานวุติ ปวช ปวส หรือจบโท เอาวุติตรีไปสมัครงาน ส่วนตัวผมเป็นคนหนึ่งที่สมัย จบ ม.6 แต่ได้ทำงานในตำแหน่งที่รับคนจบ MBA เป็นต้น เหล่านี้เป็นปรากฏการณ์ที่น่าสนใจ
.
หากแนวโน้มของอนาคตเริ่มจะเป็นเช่นนี้ ธุรกิจการศึกษาใดไม่ว่าจะเปิดมากี่ 100 ปี หากไม่ปรับเปลี่ยนเพื่อตอบโจทย์คนในอนาคตก็น่าจะเสื่อมความนิยมใน 10-20 ข้างหน้า
.
ส่วนคนที่ยังยึดติดอยู่กับความเชื่อทางการศึกษาแบบเดิม ๆ เรียนเยอะ ๆ เรียนสูง ๆ เรียนไปเรื่อย ๆ สุดท้ายพวกเขาก็จะคอยถามตัวเองว่า เรียนตั้งนาน เรียนก็เก่ง ทำไมไม่มีใครรับกูเข้าทำงานเลย"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

974 Nameless Fanboi Posted ID:r34dT3LvZ

>>972 มึงก็เข้าใจถูกแล้ว ถ้าวัดทั่วโลกกาแฟก็มีคนนิยมกว่า แต่มึงต้องคิดว่า แค่จีน+อินเดีย 2 ประเทศนี้จำนวนประชากรมันคือ 1/3 ของโลก เพราะงั้นถ้าขายแค่จีน+อินเดีย ก็เกินพอแล้ว (ชานี่อังกฤษก็นิยมด้วย)
เหมือนกับที่บอกว่าภาษาจีนมีคนใช้มากที่สุดในโลก เพราะเอาฝรั่งพูดอังกฤษทุกประเทศมารวมกันยังมีจำนวนคนไม่เท่าคนจีน

975 Nameless Fanboi Posted ID:8bVN98kfw

>>974 แต่การเมืองท่อนท่ายนี่โคตรเสล่อไม่ได้เกี่ยวไรเลยไง บ้าการเมืองขึ้นสมองสุดๆ

976 Nameless Fanboi Posted ID:q8va7Jvm+

salman khan นี่เป็นญาติทางไหนของ genghis khan หรอครับ

977 Nameless Fanboi Posted ID:HQdDd3PGx

"ก็ขาดข้อมูลความรู้ด้วยส่วนหนึ่ง ความรู้ทางวัฒนธรรมด้วยส่วนหนึ่ง ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจส่วนหนึ่ง

ถ้าเอาพวกชนชั้นกลางธรรมดาๆ ในเมืองที่เหยียดตาสีตาสาเข้ากรุงครั้งแรกแล้วใช้รถไฟฟ้าไม่เป็น ไปเจอลูกอีลีทของจริงแบบที่ไปหลายประเทศ มีประสบการณ์ใช้ชีวิตหลากหลาย มีเพื่อนนานาชาติ พูดได้หลายภาษา วางตัวได้ไม่เคอะเขินแล้วจะรู้สึกว่าโลกของตัวเองหดแคบเล็กลงเหลือเกิน

เพราะยุคต่อไป คนรวยจะสั่งสมความรวยทางวัฒนธรรมครับ ที่ละเมียดลุ่มลึก ไอ้พวกชนชั้นแรงงานก็กินแมสๆ เสพเร็ว แดกด่วนต่อไป

ถึงได้บอกชนชั้นครึ่้งๆ กลางๆ ที่แอนตี้ซ้ายว่ายังไงก็ต้องลงเรือลำเดียวกับคน ตจว ที่โปร ปชต เสือกไปสนับสนุนม็อบอีลีทคิดว่าเป็นพวกเดียวกับเขา เหอะๆ เขาจัดพวกมึงไว้อยู่คนละเกรดกับเขาหรอก มันแค่ต้องการยืมมือชนชั้นกลางให้ดูจำนวนเยอะๆ อ้างความชอบธรรมโค่น รบ คนจนเรียกร้องอะไรไม่ได้ ได้แต่มีชีวิตแบบทำงานงกๆ รอชีวิตดับปลิวไป ไม่มีสิทธิ์แสวงหาสุนทรียะให้กับชีวิต จากที่กูสัมผัสเพื่อนๆ มานะ ดูรู้เลยว่าบางคนน้อยเนื้อต่ำใจคุณภาพชีวิต เดี๋ยวนี้คนแยกเกรดกันด้วยความสามารถและเวลาที่ใช้ในการเดินทางออกไปหาประสบการณ์

ทำไมไม่คิดว่าถ้าพลเมืองบ้านเราความเหลื่อมล้ำน้อย มีเงินพอ และสวัสดิการจ้างงานที่เคารพวัันลาพักร้อนยาว เดินทางไปเสพสุนทรียะจากหลายๆ มุมทั่วโลก บ้านเราจะต่อยอดความรุ่มรวยทางวัฒนธรรมได้อีกขนาดไหน หันไปไหนมาไหนเจอแต่คนฉลาด มีรสนิยม

ถ้าเลือกได้เขาก็คงอยากซึมซับประสบการณ์ที่มันละเอียดกว่าหาดที่เต็มไปด้วยขยะ รีสอร์ททาสีฉูดฉาดเกินงาม หรือ่ถายรูปนั่งม้านั่งคู่กับป้ายตัวอักษรสีมั่วๆ ไม่มีการจัดวางองค์ประกอบศิลป์ ทั้งคนเที่ยวและคนจัดการสถานที่เที่ยวคงขาดแรงบันดาลใจพอๆ กัน"

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

978 Nameless Fanboi Posted ID:Sq/oM.WWP

>>975 เอ่อ...การเมือง???

979 Nameless Fanboi Posted ID:8bVN98kfw

>>978 มึงอ่าน>>967 ประโยคท้ายสุด

ที่จริงไทยเราตอนนี้แทบจะ division ล่่างสุด เผด็จการทหารคุม ไม่เคยไปบอลโลก

แล้วหาความเชื่อมโยงกับประโยคก่อนหน้านี้นะ แม่งโคตรจะเกี่ยวกันเลย

980 Nameless Fanboi Posted ID:DHn+p4+rF

>>977 ชนชั้นกลางบ้านเราแตกคอกันอะ กูพยายามนึกอยู่นะว่าอ่านเจอจากไหนสักแห่งนี่แหละ เขาบอกว่าชนชั้นกลางไทยกลุ่มแรก (ที่หมายถึงสลิ่ม หรือเชียร์ คสช.-รังเกียจประชาธิปไตย) ถ้าไม่ใช่คนที่โตเอง ก็เป็นลูกคนที่โตในยุคก่อนทักษิณ (2544) คือได้ดิ้นรนเองหรือเห็นพ่อแม่ดิ้นรนจนยกระดับตัวเองถีบจากชนชั้นล่างขึ้นมาได้ โดยไม่มีนโยบายรัฐบาลหนุนเลย

(โม่งทั้งหลายใครรู้บอกที ช่วงยุคทศวรรษ 2520-ทศวรรษ 2530 ที่เศรษฐกิจโตมากๆ ก่อนฟองสบู่แตกปี 2540 ที่เกิดชนชั้นกลางจำนวนมากมาไล่สุจินดาตอนพฤษภาทมิฬ 2535 พวกนี้เกิดกันเองรัฐไม่ได้ช่วยจริงป่าววะ)

ชนชั้นกลางไทยกลุ่มนี้เลยติดกับสำนึกที่ว่า "คนเราเกิดอย่างไรต่ำแค่ไหนก็เจริญได้ถ้าไม่งอมืองอเท้า" คือไม่เชื่อเรื่องความเหลื่อมล้ำ ไม่เชื่อว่าต้องได้แต้มต่อจากรัฐบาล ซึ่งต่างจากชนชั้นกลางกลุ่มใหม่ที่เกิดขึ้นหลังยุคทักษิณขึ้นครองอำนาจ คนกลุ่มนี้ไม่ต้องดิ้นรนแบบเสี่ยงๆ เหนื่อยๆ เท่าชนชั้นกลางกลุ่มแรก แต่มีคุณภาพชีวิตดีขึ้น เลยมองเห็นว่าการเมืองแบบจับต้องได้มันเป็นอย่างไร

จริงๆ ในม็อบทั้งเหลืองและแดงก็มีชนชั้นกลางทั้งคู่นั่นแหละ แต่แตกต่างที่มา ชนชั้นกลางเหลืองหรือสลิ่มมักเป็นพวกหนุ่มสาวออฟฟิศหรือเจ้าของกิจการที่ภาพลักษณ์หรูๆ หน่อย แต่ชนชั้นกลางแดงเป็นพ่อค้าแม่ค้ารายย่อย พวก Food Truck หรือพวกร้านข้าวห้องแถว หรือพวกชาวนาชาวไร่ที่มีที่ดินเยอะพอควร อะไรแบบนั้น แต่ชนชั้นกลางฝั่งแดงมันดูบ้านๆ ดิบๆ ไงเลยโดนชนชั้นกลางฝั่งเหลืองเหยียดเป็นรากหญ้าไป ก็ดราม่ามาจนวันนี้แหละ กลางเหลืองกลางสลิ่มก็บอกกลางแดงเอาเปรียบสังคมเพราะจ่ายภาษีน้อยกว่า ดิ้นรนน้อยกว่าแต่รัฐอุ้มจนโตได้ ส่วนกลางแดงก็บอกกลางเหลืองกลางสลิ่มเป็นพวกใจแคบอยากกดหัวคนจนไม่ให้ตีตื้นขึ้นมาเทียบชั้นตัวเองที่พยายามจะไปเป็นคนรวยแต่ไปไม่ถึง

981 Nameless Fanboi Posted ID:PNSlxBFux

ลิเบอร่านเอฟวี่แวร์

982 Nameless Fanboi Posted ID:e.W1NdKdm

คือถ้ามันเดือดร้อนขนาดไม่มีจะแดกแบบนั้นจริงๆมึงก็เจอแบบ จีน สมัย ตาเหมา ไง บรรดานักปกครองที่มีรอยหยักในสมองมันเลยพยายามไม่ทำให้ประชาชนยากจนถึงขั้นไม่มีจะแดก ไม่งั้นไอ้ที่จะตายก็พวกบนๆน่ะแหล่ะ -*-

983 Nameless Fanboi Posted ID:tgx3ODwvF

>>980 ชนชั้นกลางตอนนั้นขยายตัวพร้อมกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ จะพูดว่ารัฐไม่มีส่วนก็ไม่ได้ เพราะรัฐไปจับมือกับญี่ปุ่นหลัง Plaza Accord โยกฐานการผลิตมาไทยจำนวนมาก จนพูดได้ว่าชนชั้นกลางยุคนั้นเกิดจากการลงทุนของญี่ปุ่น

แต่โดยพื้นฐานแล้วสมัยนั้นมีการแข่งขันสูงจากทั้งธุรกิจไทยและต่างชาติ คนที่รอดคือคนที่ปากกัดตีนถีบด้วยตัวเองจริงๆ ลองไปดูประวัติเจ้าสัวแต่ละคนสิ โตมาด้วยตัวเองทั้งนั้น ต่อให้พูดว่าได้ดีเพราะเศรษฐกิจโต แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะรวยนิ คนที่ล้มเหลวก็มีเยอะ

อีกจุดนึงที่กูมองคือเจ้าสัวมักเป็นคนจีน ชื่อก็บอกอยู่อะนะ และชนชั้นกลางก็เป็นคนจีนจำนวนมาก พวกนี้เชื่อมั่นในการดิ้นรนของตนมากกว่ารัฐ เป็นระบบคิดจากประวัติศาสตร์จีน การไม่เชื่อใจรัฐและหาทางฉกฉวยในทุกโอกาศ เป็นแรงผลักดันและแนวคิดเบื้องกลังคนกลุ่มนี้ด้วย

984 Nameless Fanboi Posted ID:tgx3ODwvF

>>982 ที่คนเจอทุกวันนี้ภาษาธุรกิจคือขาดทุนกำไร คือไม่ได้จนจริงๆ แค่สุขสบายน้อยลง ลำบากมั้ย ก็ลำบาก แต่ตายมั้ย ส่วนใหญ่ก็ไม่ตาย เมืองไทยนะอดได้ทุกอย่าง แต่อดตายนะไม่มีทา ขอทานพิการทั้งตัวยังไม่อดตายเลย

ภูมิศาสตร์และสภาพสังคมวัฒนธรรมไทยทำให้แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีคนอดตาย ทั้งการผลิตอาหารส่วนเกินอย่างล้นเหลือจนแทบไม่มีทางเกิดทุกภิขภัย แนวคิดการบริจาคและความเกื้อกูลกัน อย่างแถวบ้านกูจะมีร้านหมี่เกี๊ยวที่คอยให้อาหารคนบ้าเพราะสงสารอยู่ ถ้าคนไทยขี้สงสาร ไม่มีทางเห็นคนอดตายได้หรอก และในเมื่อมีอาหารเหลือเฟือ ความมีเมตตาจิตก็จะยังมีต่อไปเรื่อยๆ นั่นละ

985 Nameless Fanboi Posted ID:C0zG16kTi

>>983 กูนี่นึกถึงยิวเลย ประวัติศาสตร์มีแต่ความโหดร้าย ดังนั้น 1.ต้องรวมเป็นกลุ่มเป็นก้อนช่วยเหลือกัน 2.ไม่ฆ่าก็ถูกฆ่า ฉะนั้นต้องชิงลงมือก่อน

จีนมีสมาคมลับยิวก็มี จีนค้าขายเก่งยิวก็เก่ง

986 Nameless Fanboi Posted ID:e.W1NdKdm

>>985 มันก็ปกติอ่ะนะ มันต้องผจญลำบากก่อนถึงจะเก่ง ที่สำคัญคือเจ็บแล้วต้องจำ

987 Nameless Fanboi Posted ID:.TlHdKK5J

>>980
มันมีทั้งชนชั้น ที่อยากถีบประเทศให้เหมือนประเทศเจริญแล้ว (ทำตามกม. มีวินัย รักสะอาด เอาตัวรอดเองได้)
กับชนชั้น ทำอะไรตามใจคืนไทยแท้ (จ่ายใต้โต๊ะ ภาษีไม่จ่าย ผิดกม.แต่สะดวกกู กูลำบากต้องช่วยกันสิ เจ้าของวลีรังแกคนจน)

988 Nameless Fanboi Posted ID:jTEI/wV7g

"People give us millennials a lot of shit but the baby boomers and Gen X in Congress can't keep our government running, and Gen Z is eating Tide Pods for likes on YouTube."

989 Nameless Fanboi Posted ID:OKAyyKkCe

https://www.youtube.com/watch?v=7bUVjJWA6Vw

เพิ่งรู้ว่า ระบบเมทริกส์ เกิดพร้อมการปฏิวัติในฝรั่งเศส โลกก่อนหน้านั้นวุ่นวายมากทุกที่มีหน่วยวัดของตัวเอง มีความพยายามจะสร้างระบบกลางหลายครั้งแต่ก็ล้มไป จนฝรั่งเศสทำให้ดูก่อนโดยบอกว่า เราจะไม่เปลี่ยนแค่ระบบการปกครองนะ เราจะเปลี่ยน วิถีความเป็นอยู่ของคน เช่นจัดตารางปฏิทินใหม่ สร้างหน่วยวัดกลาง โดยของทั้งหมดนี้ทำเพื่อให้ทุกๆอย่างเป็นธรรม แน่นอนมันวุ่นวายและเจ็บปวดมากเพราะมันคือ "change" อย่างไรก็ตามหลังจากผ่านพ้นความวุ่นวายไปได้โลกก็เริ่มเห็นว่ามันดีและหันมาใช้อย่างกว้างขวาง ของบางอย่างก็ต้องมี คนนำที่เด็ดเดี่ยวและเด็ดขาดนะ ถ้าใจไม่เด็ดเดี่ยวคงต้องกลับไปวุ่นวายแบบเดิม

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

990 Nameless Fanboi Posted ID:4GF6MfdZL

>>989 บังคับให้ประชาชนทำตามโดยไม่สนเรื่องความเดือดร้อนของประชาชน ไม่ลิเบอรอลเลยครับ

#มิตรสหายท่านหนึ่ง

991 Nameless Fanboi Posted ID:.2ZazAFhO

>>990 ใช่ครับๆ ดูอย่างอเมริกาแดนแห่งเสรีสิ ไม่เห็นต้องไปสนใจระบบเมตริกซ์หัวควยนี่เลย แผล่บๆ

992 Nameless Fanboi Posted ID:6yLpdYXYz

ลิเบอร่านมาดิ้นกันเต็มเลยว่ะ

993 Nameless Fanboi Posted ID:R0868ieo/

วิ่งควายกันให้เต็มมู้หน่อยเร็ว กระทู้ใหม่แม่งตั้งละ

994 Nameless Fanboi Posted ID:H.mLMK9YE

วิ่งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง

995 Nameless Fanboi Posted ID:1Xyam2p+4

ดุ๊กดิ๊กดีดๆดิ้นๆ นั่นคือ ลิเบอร่านไงล่ะ!!

996 Nameless Fanboi Posted ID:D+lZcCGTn

ร่านพ่องคิดเป็น%

997 Nameless Fanboi Posted ID:84vz.1ioB

เดี๋ยวบลัสแม่ง

998 Nameless Fanboi Posted ID:tYUieSxTQ

วิ่งกันยังไงให้ไม่เต็มซักทีวะ

999 Nameless Fanboi Posted ID:F/3ebwGrQ

กูรอ last shot อยู่ แต่ไม่เป็นไรยกให้คนอื่นก็ได้วะ

1000 Nameless Fanboi Posted ID:9QwmCpDsh

ปิดมู้

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.