Last posted
Total of 1000 posts
สมัยนั้นสยามไม่ได้เป็น 1 เดียว มีหลายหัวเมือง แต่ยกอยุธยาเป็นใหญ่ พิษณุโลกขัดแย้งกับอยุธยาเพราะไม่ส่งกองทัพมาช่วยรบพม่า พิษณุโลกเลยเข้ากับพม่ามาตีกรุงศรีแล้วปกครองอยุธยาแทนพม่า ผลัดราชวงศ์จากสุพรรณภูมิเป็นสุโขทัย
พระนเรศวรกู้เอกราชจากพม่า แล้วปกครองทั้งพิษณุโลกและอยุธยาในฐานะราชวงศ์สุพรรณภูมิ พระองค์มีเชื้อพิษณุโลกทางพ่อ และอยุธยาทางแม่ จะถือว่ามีสิทธิปกครองทั้ง 2 เมืองก็ได้
ควรเข้าใจอย่างนึงว่าการแบ่งราชวงศ์เป็นอู่ทอง สุพรรณภูมิ สุโขทัย เป็นคนสมัยใหม่ตั้ง สมัยนั้นไม่แน่ว่าจะแบ่งแบบนี้
>>478 ก็กู้จริง ที่เป็นกบฏก็เป็นจริง ตีแตกไปแล้วก็เป็นเมืองขึ้น อยุธยาก็ส่งบรรณาการไปให้หงสา ตัวพระนเรศวก็ไปอยู่พม่าตั้งนาน เขาก็เลี้ยงไว้เป็นตัวประกัน อย่าบุกกูนะไม่งั้นลูกมึงตาย บุเรงนองก็เจ๋งจริง ไม่มีใครกล้ากบฏตอนบุเรงนองยังอยู่ รอจนเปลี่ยนคนค่อยกบฏกัน
คือเรียกกบฏมันก็เป็นคำที่ดูเลว ให้คิดสภาพว่า ลูกพี่อ่อนแอลง กูก็อยากเป็นใหญ่ มีโอกาสก็ตีแม่งเลย
หรืออยากให้เขาสำนึกบุญคุณแบบกวนอูไม่ฆ่าโจโฉ เขาเลี้ยงไว้ตั้งนาน ไม่หือไม่อือละกัน ส่งบรรณาการไปเรื่อยๆ อะไรแบบนี้
ถ้าบุเรงนองเกิดเร็วกว่านี้สัก 150ปี แล้วขยับพม่ามาอยู่บนๆระว่างจีนกับอินเดียคงสนุกพิลึก เจอทั้ง ติมูร์ ทั้ง จูหยวนจาง
เรื่องกู้เอกราชกูคิดว่ามันเป็นการความคิดยุคล่าอาณานิคมเอาไปใส่ในเหตุการณ์ยุคนั้นมากกว่า
อาจจะเป็นการเข้าใจผิดหรือสร้างเรื่องเล่าปลุกใจคนให้รักชาติก็ว่าไป
ตามที่กูเข้าใจคือยุคนั้นมันคือมีอาณาจักรเล็กๆเยอะมาก บางครั้งเรียกให้เข้าใจง่ายๆว่าหัวเมืองนั่นแหละ
พออาณาจักรใหญ่ๆไหนมีอำนาจอาณาจักรเล็กรอบข้างก็ต้องยอมตามเพื่อความอยู่รอด
วันไหนอาณาจักรใหญ่เสื่อมอำนาจอาณาจักรเล็กที่เคยยอมก็ไม่อยากอยู่ใต้อำนาจเป็นปกติ
ตอนบุเรงนองขึ้นครองราชใหม่ๆพวกเมืองที่พระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้เคยไปตีไว้ก็ไม่ยอมรับอำนาจบุเรงนองกัน ต้องไปไล่ตีกันใหม่
อย่างเรื่องราชวงศ์สุโขทัยคือมาจากเมืองพิษณุโลกซึ่งเป็นอาณาจักรทางเหนือของอยุธยาที่อยู่ใต้อำนาจอยุธยามานานแล้ว
พอพม่ามาตีแล้วแพ้เลยต้องยอมสวามิภักดิ์ ต่อมาช่วยพม่าตีอยุธยาก็เลยได้ปกครองอยุธยาต่อ
(จริงๆมันควรนับว่าพิษณุโลกกลืนอยุธยามากกว่ารึเปล่าหว่า?)
แต่ก็เป็นกลุ่มคนที่ใช้ภาษาในกลุ่มภาษาไทเหมือนกัน ซึ่งเป็นของที่มักใช้แยกแยะว่าในอดีตคนกลุ่มไหนเป็นกลุ่มชนชาติเดียวกัน
มันไม่ใช่แบบ ประเทศ A ตีประเทศ B เสร็จแล้วมาบอกว่าตอนนี้ตัวเองแพ้แล้วนะต่อไปต้องทำตามคำสั่งประเทศA แล้วยกทัพกลับ
ที่จริงคือ A มันจะเอาทุกอย่างที่มีค่าขนกลับไปหทดและส่งคนจาก A มาคุมกิจการที่ทำแล้วได้เงินของB ด้วย เรียกว่าไม่ต้องได้ผุดได้เกิดอีกเลย
กูไม่เน้นเรื่องฆ่าข่มขืน ไรพวกนี้นะ แต่บ้านเราเองเคยมีการจับเจ้าลาวมาตัดหัวล้างเท้าด้วย
จะว่าไปกูแปลกใจนะที่บุเรงนองเป็นคนนำทัพตีอยุธยาแตกแท้ๆ แต่ดันเป็นกษัตริย์พม่าคนเดียวที่ไม่ได้ถูกเขียนถึงในพงศาวดารไทยแบบแย่ๆ แถมให้ความเคารพกันด้วยซ้ำ
กระทู้นี้ ลิเบอร่านหายไปไหนหมดวะ
เสียกรุงครั้งทึ่สองก็ใส่สีเยอะ พอศึกษาฝั่งพม่าได้ความว่าพม่าวางแผนปกครองแบบเสียกรุงครั้งแรกนั่นล่ะ ไม่ได้เผาทำลายขนสมบัติทำลายวัดวาด้วย คือ พม่านี่โคตรพุทธกว่าไทยนะ เผาวัดลอกทองนี่ไม่ใช่แล้ว
แต่กษัตริย์ตายก่อน ทัพใหญ่เลยต้องยกกลับไปทำศึกภายในพร้อมกับกวาดต้อนคนไป (อันนี้กูถือว่าเรื่องปกติยุคนั้นนะ เพราะหลังตั้งกรุงเทพก็ไปกวาดต้อนคนหัวเมืองมาอยู่เหมือนกัน) ทิ้งทหารไว้รักษากรุงนิดเดียว
กว่าจะกลับมาทำสงครามเก้าทัพได้ไทยก็ฟาร์มจนเกิดแล้ว เลยปิ๋ว
อยุธยาที่เห็นเละเทะนี่คือขนทรัพยากรไปสร้างกรุงธนกับกรุงเทพน่ะ
คงประมาณ
สุโขทัย-อยุธยาตอนต้น ยังนับถือแนวๆขอม-พรามหม์ มากกว่า
v
หลังเสียกรุง พุทธศาสนาเติบโตแทน (ประกอบกับเริ่มมีฝรั่งเอาคริสต์เข้ามา ศาสนาพุทธเลยยิ่งแข่งกันโตเข้าสู้)
ลิเบอร่านดิ้นกันใหญ่เลยว่ะ
>>493 สุโขทัยพุทธโตมากนะ พระพุทธรูปทองคำสมัยนั้นถือเป็นงานชิ้นเอกของภูมิภาคนี้เลย อยุธยาพุทธก็โต แต่ยังไม่เท่าพราห์มจนราชวงศ์สุพรรณภูมิของพระเณรศวร พอสมัยพระณารายณ์พระมีอำนาจมากจนพระองค์ต้องเอาคริสต์เข้ามาข่ม แต่ก็ไม่มีผลอะไร คริสต์แทบไม่โตในไทย พอหมดยุคนั้นก็หายไปจนหมอบลัดเลย์เข้ามานั่นละ
>>491 ตาม>>494 ศัตรูตัวฉกาจของพม่าคือจีน ไทยอาจถือว่าเป็นคู่ต่อสู้ แต่ไม่ใช่คู่แค้นแบบไทยมองพม่า จีนนั่นละถึงจะเป็นคู่แค้นของพม่า
การที่ไทยส่งของขวัญไปให้จีนสมัยก่อนนี้เป็นไปได้ไหมว่าจะเล็งเรื่องยุให้จีนตีพม่า (เผอิญจีนมีเปลี่ยนราชวงศ์บ่อยเลยอาจมีส่งข่าวไปแล้ววืด)
กูคิดเอาเองนะเรื่องบุเรงนองไม่ได้พูดถึงแย่ๆเพราะบันทึกประวัติศาสตร์ยุคนั้นถ้าเกิดก็ต้องสมัยราชวงศ์สุโขทัยแล้ว
ซึ่งราชวงศ์สุโขทัยบุเรงนองแต่งตั้งมาเป็นกษัตริย์อยุธยา แถมบุเรงนองมีนโยบายค่อนข้างผ่อนปรนต่อประเทศราชด้วย
ยิ่งมาสมัยนันทบุเรงเข้มงวดกับประเทศราชมากจนเป็นหนึ่งในสาเหตุให้อาณาจักรแตก เลยยิ่งส่งเสริมภาพลักษณ์ให้บุเรงนองดูเป็นคนดีมากขึ้น
เห็นพวกมึงคุยกันแล้วเลยลองไปไล่อ่านเล่นๆ เจอเรื่องกบฏปัตตานียุคพระมหาจักรพรรดินี่
ทำให้รู้ว่าเรื่องความแตกต่างทางวัฒนธรรมที่คนมุสลิมไม่กินหมูมันทำให้คนทะเลาะกันได้ตั้งแต่ยุคโน้นเลยทีเดียว
"หลังสงครามช้างเผือก มุซาฟาร์ ชาฮฺ สุลต่านแห่งปัตตานี ยกทัพมาช่วยกรุงศรีอยุธยา เมื่อกองทัพปัตตานีมาถึงปากแม่น้ำเจ้าพระยา ปรากฏว่ากองทัพพม่าได้ล่าถอยออกไปแล้ว สุลต่านมุซาฟาร์ ชาฮฺได้นำกองทัพชาวมลายูเข้าไปพักในกรุงศรีอยุธยา ในระหว่างที่พักอยู่ในกรุงศรีอยุธยานั้นได้เกิดความขัดแย้งขึ้นระหว่างกองทัพมลายูปัตตานีกับกองทัพกรุงศรีอยุธยาเรื่องกินหมู จึงได้เกิดการสู้รบกันขึ้น สุลต่านมุซาฟาร์ ชาฮฺ นำกองทัพเข้ายึดพระราชวังได้ สมเด็จพระมหาจักรพรรดิจึงต้องเสด็จหนีไปที่เกาะมหาพราหมณ์แล้วจึงรวบรวมกำลังเข้าตีตอบโต้ กองทัพปัตตานีต้องถอยร่นออกมาถึงปากอ่าว สุลต่านมุซาฟาร์ ชาฮฺ สิ้นพระชนม์ขณะยกทัพกลับพระศพถูกฝังไว้ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณปากอ่าว"
>>499 ver. วัน วลิต เนื้อเรื่องต่างกันหน่อย https://www.silpa-mag.com/club/art-and-culture/article_10497
>>497 อยุธยาใช้กลยุทธ์ให้มอญกับพม่าตีกันอยุธยาจะได้ปลอดภัย ถ้าช่วงไหนพม่าเก่งก็ไปเข้าข้างมอญ ถ้าช่วงไหนมอญเก่งก็เข้าไปช่วยพม่า แต่เจออลองพญารวมประเทศสำเร็จก็เลยได้มาตีกันตรง ๆ ฝ่ายนู้นเลยมีประสบการณ์รบสูงกว่าอยุธยาที่นั่งบนภูเขาดูเสือตีกัน จริง ๆ เราก็สร้างความแค้นไว้ให้เขาเหมือนกัน
ขออนุญาตถามหน่อย ช่วงสมัยรัชกาลไหนที่สงบสุขสุด ไม่ค่อยมีสงครามบ้าง? (ขอตั้งแต่ช่วงร.1-ร.5พอนะ) แล้วสงบเพราะอะไร? (นี่คาดว่าเป็นร.2เพราะเห็นพวกวรรณกรรมเยอะ...)
>>502 คร่าวๆก็
ช่วง ร.1 พม่ายกมาตีไทยแล้วแพ้ซะมาก แพ้แบบที่ว่าทำให้พม่าอ่อนลงไปเอง ลงทุนไปเยอะแล้วเจ๊ง
ตั้งแต่ร.2 ไป อังกฤษก็เข้ามาแล้ว แถมพม่าก็การเมืองภายในแย่งชิงอำนาจกันเองเลยยิ่งถอยหลังหนักเข้าไปอีก
กรณีไทยเปลี่ยนจากสงบเพราะพม่ากลายเป็นระวังโดนฝรั่งยึดประเทศแทน พวกส่งเรือปิดอ่าว ยุหัวเมืองให้กบฎ หาเรื่องไถ่เงิน สารพัด
ช่วงพม่าเสียชาติให้อังกฤษนี้ก็เริ่มเอาโรฮิงญามาพอดี
เลยไม่แปลกใจว่าทำไมคนพม่าถึงเกลียดค่อนข้างหนัก เพราะมันจะจี้ใจดำเรื่องแพ้อังกฤษราบคาบไปด้วย(ขนทหารเป็นแสน ไปรบแพ้ทหารหลักพัน)
แต่ที่ฮานิดหน่อยก็โดนไทยรับอังกฤษยกทัพมาตุ๋ยป้อม ggez ด้วย ตอน ร.4 พม่าโดนอังกฤษบี้จนถึงขนาดต้องส่งมาขอให้มาเป็นพันธมิตรไทย(
>>502 ถ้าใช้สงครามวัด ต้อง ร.4 เพราะ 1 - 3 ยังมีสงครามภายนอก แต่ร.4 อย่างมากก็ขุนโจรก่อความไม่สงบ ร.5 วุ่นวายมากเพราะทำสงครามรวมประเทศ แล้วโดนล่าอาณานิคม
ที่ร. 4 สงบก็ตาม>>503 พม่ายกทัพมาไทยครั้งสุดท้ายร. 3 พอร.4 ฝั่งพม่าสมัยพระเจ้าธีบอเปรี้ยวจัด ไปฟัดกับอินเดียของอังกฤษ เจอยึดเมืองเลย ตอนแรกกะเอาล้านนาไปด้วย แต่ตอนนั้นอังกฤษไปเอาไม่ไหว แถมไทยยังไม่แสดงท่าที อังกฤษก็ไม่อยากหาเรื่องยุ่งยากเพิ่ม
พอสมัยร. 5 ล้านนาเห็นว่ายังไงก็ต้องหาที่พืึ่ง แถมพึ่งพม่าแบบสมัยก่อนไม่ได้แล้ว เลยมารวมกับไทยดีกว่า เพราะรอบด้านล้านนา ไทยเป็นดินแดนเดียวที่มีักำลังกล้าแข็งสุด และพอจะยันกับฝรั่งได้ แต่กว่าจะรวมได้ก็นานพอดู
แต่ในยุค ร.5นี่บ้านเราแก้ทางได้ทันนะ คือไปเจริญไมตรีกับรัสเซีย หาทางผูกมิตรปรองดอง แต่พอราชวงศ์โรมานอฟโดนล้มล้างไปช่วงเข้าใกล้สงครามโลกเลยต้องเอาใจยุ่นทุกอย่าง
พม่าก็เล่นการฑูตเหมือนกันแต่เสือก noob ไปยกตกเสมอพี่ควีนวิคตอเรียเลยพัง
ยกตนมั้ง
รู้สึกจะส่งจดหมายไป เรียกควีนว่า น้องสาว หรือไงเนี้ยแหล่ะ อย่าไปเชื่อมากกับเรื่องเล่าเลย บางทีมันก็แปลผิด บางทีก็ใส่ไข่ เรื่องจริงคือฝรั่งมันโลภอยู่แล้วเปิดช่องให้มันรู้ว่าเราอ่อนแอ มันก็หาเรื่องเอาเปรียบเราอยู่แล้ว
https://en.wikipedia.org/wiki/Hephaestion
กูเข้าใจแล้วว่าทำไมบางคนถึงตีความว่าอเล็กซานเดอร์เป็นเกย์ คือกูคิดว่ามันคงเป็นวัฒนธรรมของยุคนั้นมากกว่า
แต่พี่แกนี่รักเพื่อนได้เวอร์ชิบหายมาก ยิ่งเป็นยุคนั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่ารักมากกว่าเมียแน่นอน
>>513 นอกจากเพื่อนแล้ว ก็มีม้านี่ละที่รักมากกว่าเมีย รักม้าชิบหาย ม้าตายก็สร้างเมืองเพื่อจะตั้งชื่อตามม้า
อีกสาเหตที่ตีความว่าเกย์ คงเพราะไม่เคยเย็ดพร่ำเพรื่อมั้ง จับเชลยเปอร์เซียสวยๆได้ก็พูดชมว่าสวย แล้วก็เดินผ่านไป บางคนเลยนึกว่าเป็นเกย์ แต่บางคนก็บอกว่าอริสโตเติลสอนมาว่าความใคร่โดยไม่มีความรักเป็นเรื่องไม่ดี อเล็กเชื่อฟังครูเลยไม่เย็ดนอกสมรส(แต่งงานสามครั้งแน่ะ)
เขาว่าตอนยึดเปอร์เซียโปลิสเจอ ทาสหนุ่มคนนึง(คู่ขากษัตย์ดาริอุส)แล้วให้ไอ้หนุ่มนี่รับใช้ใกล้ชิดกว่าเพื่อนสนิทอีก แต่กูว่าตอนอยู่เปอร์เซียคงใช้ไอ้หนุ่มนี่เป็นล่ามหรือ เป็นคนอธิบายธรรมเนียมเปอร์เซียเฉยๆก็ได้ว่ะ
ทำศึกสงครามไปอยู่ต่างเมืองไกลๆ ยังไงม้ากับทหารร่วมศึกร่วมตายกันมา ก็ควรไว้วางใจได้มากที่สุดนั่นแหละ
ดาริอุสก็เกย์อีกคนหรอวะเนี่ย...
น่าจะเป็นเรื่องปกตินะสำหรับสมัยก่อน
มีหนุ่มคู่ขาคนสนิท ไว้เป็นทั้งองครักษ์ ใช้งาน เย็ดตูด
เอาผู้หญิงไป ปกป้องตัวเองก็ลำบาก แรงน้อยใช้งานได้จำกัด มีเมนเย่ไม่ได้ ท้องมาภาระอีก
คนไม่คิดมากก็ไปหาหญิงเย็ดแพร่พันธ์เอาตามเมืองที่บุกยึดแบบเจงกิสข่าน
พวกมีศักดิ์ไม่เย็ดมั่วๆก็คงแบบ alexander
ประเทศจีนสมัยก่อน ยศทางทหารมีไรมั่งวะ กุเจอแต่ภาษาอังกฤษ ไม่รู้จะแปลไทยยังไง เค้าเรียกยังไง บางเล่มแม่งเรียกทับศัพท์จีนไปเลย ตั้งแต่พวกเหนือแม่ทัพลงมาถึงทหารเกณฑ์เนี่ย
กับพวกทำงานในพระราชวังขุนนางไรเนี่ยเค้าเรียกข้าราชการแมะ เขาเรียกว่าอะไรมั่งวะ มีใครพอรู้หนังสือที่รวมรวมการบ้านเมืองจีนสมัยก่อนบ้างแมะ แบบไม่ทับศัพท์นะ
ทำไมตะวันออกกลางไม่โดนยึดเป็นเมืองขึ้นเพราะตะวันตกอยากได้น้ำมัน
หรือเพราะรัฐแถวนั้นแข็งแกร่งมาก่อนมีน้ำมันอยู่แล้ว พอขายน้ำมันได้เลยไม่โดนยึด
เดา
มุสซี่อยู่เฉยๆมันจะตีกันเองแต่ถ้าฝรั่งมุสซี่จะเกาะกลุ่มกันเป็นครูเสด
เอาเป็นว่าไปยึดประเทศมีทรัพยากรเห็นชัดเจนมันดีกว่าประเทศมีแต่ทะเลทราย
หลัง ww2 ก็เริ่มประกาศเอกราชกันเลยไม่มีกำลังพอไปยึดแล้วล่ะแถมมะกันก็เป็นพี่ใหญ่สั่งมา
ใครบอกว่าไม่โดนเป็นเมืองขึ้น หลังWW I ประเทศฝั่งพันธมิตรจัดการเอาเมืองขึ้นเก่าของออตโตมันมาแบ่งกันไป อังกฤษเรียกเมืองพวกนี้ว่าเป็น"Protectorate" ทางทฤษฎีคือพวกนี้จะปกครองในประเทศเอง แต่อังกฤษจะควบคุมเรื่องนโยบายต่างประเทศและการป้องกันประเทศ แต่ในความจริงแล้วอังกฤษมีอิทธิพลมากกว่านั้น
ยุคล่าอาณานิคมนี่น้ำมันสำคัญมากรึยัง ที่ไปล่านี่น่าจะเล็งทรัพยากรพวกเหล็ก เหมืองแร่ ไม้ อัญมณี มากกว่ารึเปล่า
ยัง เพราะยังใช้ถ่านหินกับน้ำมันวาฬอยู่(วาฬโดนล่าปีละล้านกว่าตัวเพื่อเอาน้ำมัน) ตะวันออกกลางนอกจากคลองสุเอชกับน้ำมัน(ยังไม่ค้นพบและไม่มีประโยชน์ให้ใช้ในตอนนั้น) แถบไม่มีทรัพยากรให้ใช้เลย แถมออตโมมันยังคุมแดนดินอยู่ ถึงจะอ่อนแอแต่ก็ไม่มีใครอยากจะสู้เพื่อดินแดนเปล่าๆแถมจะต้องมาระแวงประเทศอื่นมาลอบกัดชิงดินแดนไปอีก สงครามโลกครั้งที่ 1 เลยเป็นโอกาสทองแบ่งเค้กกัน
สมัย Colonial ตอนแรกหาทรัพยากร ตอนหลังหาตลาดมากกว่า อย่างอินเดียถูกสั่งห้ามผลิตเกลือและแปรรูปฝ้าย ให้รับจากอังกฤษอย่างเดียว ทำให้อุตสาหกรรมของอินเดียล่มสลาย
กูเล่นศิวิไลเซชั่นกูรู้สึกว่า กังหันน้ำหรือลมเนี่ยคือตัวทำให้มนุษย์ชาติพัฒนาได้อย่างรวดเร็วมากเลย ทำให้มนุษย์รู้จักใช้อุปกรณ์กลไกลที่มีความซับซ้อน โดยใช้พลังงานอย่างอื่นช่วย
เหมือนกับในหนังโอดัสซี่ที่ลิงตัวแลกหยิบขอนไม้หรือกระดูกมาใช้ หลังจากนั้นสมองเริ่มพัฒนาจากสัตว์ป่ากินขี้ปี้นอนกลายเป็นรู้จักใช้อุปกรณ์เครื่องทุ่นแรง
https://www.youtube.com/watch?v=lGE44Fn3yEI
ทฤษฏีสมคบคิดว่ามาซิโดเนียโบราณไม่ใช่กรีก
แต่พอมาซิโดเนียได้เป็นใหญ่ยุคอเล็กซานเดอร์นักประวัติศาสตร์กรีกเลยบิดเบือนความจริงเพื่อให้กรีกดูดี
แล้วประวัติศาสตร์ที่กรีกเขียนก็สืบทอดต่อมาถึงปัจจุบันจนคนเข้าใจกันว่ามาซิโดเนียโบราณเป็นกรีกกลุ่มนึง
พวกมึงว่าเชื่อถือได้แค่ไหนวะ
>>532 ทำไมกูรู้สึกว่ามันก็แค่ทฤษฏีสมคบคิดลอยๆหว่า
คนมาซิโดเนียปัจจุบันนั่นแหละพยายามเกาะมาซิโดเนียโบราณ
ซึ่งมาซิโดเนียโบราณมันก็ชัดเจนว่าเป็นกรีกไม่ได้เกี่ยวอะไรกับประเทศมาซิโดเนียปัจจุบัน
ปล. พวกที่เคยรุ่งเรื่องในยุคโบราณแถวนั้นแต่ละประเทศปัจจุบันเห็นแล้วส่ายหัว พอกันทั้งกรีก มาซิโดเนีย อิตาลี อิหร่าน ตุรกี
เอาความรุ่งเรื่องในอดีตมาโม้ไปก็เท่านั้น
อิตาลี่เก่งนะเว้ย ฝีมือออกแบบ แฟชั่น, เครื่องจักร ,เครื่องมือ รถ ,อุตสาหกรรมหนัก,มีครบเลย ด้านเอนเตอเทนก็มีท่องเที่ยว,ประวัติศาสตร์, วรรณกรรม,ศิลปะ, เด่นๆเพียบ
เครื่องมือช่างจากอิตาลี่ บ้านกูมีเยอะเลยแหล่ะขนาดลูกลอยในถังปั้มน้ำต้องของอิตาลี่ถึงจะทนสุด
เยอรมันคือชาติที่พัฒนาอาวุธปืนดังๆของโลก จริงมั้ยวะ
แล้วแต่ยุคมั้งต้องระบุด้วย
แต่กูเคยอ่านว่ายุคเซนโกคุ ญี่ปุ่นเคยมีปืนมากกว่าทั้งยุโรปรวมกัน แสดงว่าญี่ปุ่นยุคนั้นเป็นยุคสงครามลุกเป็นไฟ
ประเทศจีนกับญี่ปุ่น ในประวัติศาสตร์ ประเทศไหนเลวกว่ากัน
แล้วแต่มุมมองคน
ไปถามคนธิเบต,อุยกูร์.,อินเดีย,มองโกเลีย,รัสเซียตอนใต้ มันคงไม่ตอบว่าญี่ปุ่นหรอก
ส่วนญี่ปุ่นโจทย์เยอะ. เกาหลี,จีน,ฟิลิปปินส์,อินโด,คนที่เพิร์ลฮาเบอร์. คีย์เวิร์ดให้ไปอ่านเอง Unit 731≥เอาซ์วิชของเยอรมัน,Rape of Nanking
ญี่ปุ่นWWII เหี้ยจริงเพราะระบบมันสั่งต่อๆกันมาจนคนล่างๆในระดับปฏิบัติงานคิดว่า มนุษย์คนอื่นไม่ใช่คนแบบมัน ไร้เมตตาว่างั้นก็ได้
ตอนนี้สากลยึดหลักว่า ปฏิบัติกับคนอื่นให้เท่าเทียมกับตนเอง ถ้าไม่มีความรักให้ฝ่ายตรงข้าม
คนเรามันจะกล้าทำอะไรก็ได้ทำร้ายเขา=เป็นความโหดร้ายที่สุดที่โลกไม่ยอมรับ
กูเทียบนะ แบบผู้คุมคุก ซ้อมนักโทษจนตาย, เอานักโทษไปเปิดตูดเรียงเป็นปีรามิดแล้วถ่ายรูป (ที่มีรูปทหารหญิงอเมริกันจับนักโทษอิรัคไปถ่ายรูป)
ทหารพม่า ไล่ต้อนโรฮิงญา
ก่อการร้ายไทย วางระเบิดคนไม่รู้อิ่โหน่อิ่เหน่
จับคนไปทดลอง เชื้อโรคแบบเยอรมัน,ญี่ปุ่น
เอาคนไปข่มขืน ที่ญี่ปุ่นทำกับจีน,เกาหลี
ระดับความเสียหายมันไม่เท่ากันหรอกบางทีก็ถึงตายใช่ป่ะ แต่สมมุติมึงเป็นคนจิตใจอ่อนแอมาก แล้วกูไซโคมึงว่าไปตายซะ โลกไม่ต้องการมึง. แล้วมึงไปตายจริงๆ คนอื่นเขาก็มองว่ากูเหี้ยเหมือนกันเพราะ กูทำร้ายจิตใจมึงอย่างแสนสาหัสไง
กูเลยเทียบว่าตัดสินว่าเลวได้ไง. นิยามกูคือ คนเลว=ไร้เมตตา,ไม่มีความรักแบบเท่าเทียมให้ผู้อื่น
ให้กูนิยามแบบว่าเลวจริงๆนะ
คือพวกที่ใส่ร้ายปลุกปั่นให้คนนึง ไปฆ่าอีกคนนึงได้ว่ะ
พวกฮิตเลอร์, สตาลิน อะไรพวกนี้มันยังเปิดเผยตัว
แต่อย่างไอ้เหี้ยที่ตะโกน P ดี ฆ่า (10-2)
หรือไอ้พวกที่พูด เผาเลย p่น้0v
พวกโจรโพก ผ้าเหลือง
พวกใส่ม่อห้อม แต่สั่งลูกน้องไปเผากองฉลาก
พวกใส่เสื้อYellow บอกจะไปกู้ชาติ แต่ตัวเองกู้ธนาคารแล้วไม่บอกผู้ถือหุ้น
พวกเหี้ยนี่ เลวด้วย เป็นอีแอบด้วย
คือเลวก็ไม่ดีอยู่แล้ว ถ้าโกหกด้วย นี้ยิ่งกว่าเลวอีก
ในเรื่องสามก๊ก ถ้าต้องมีพระเอกซักคนนี่ จูล่งถือว่าเป็นพระเอกมั้ย เอาแบบเป็นกลางไม่ต้องเข้าข้างก๊กไหน
>>547 แล้วแต่มุมมองคนว่ะ
แต่ถ้า ก่อสงครามแล้วจบ เริ่มใหม่มาดี ก็โอเค
ถ้าก่อสงครามจบ แล้วเริ่มสงครามใหม่ เริ่มสงครามใหม่ แบบนี้ไม่ใช่ละ มึงเป็นคนโหดร้าย
ศาสตร์ของคนดีที่ฆ่าไม่เลี้ยงคือ ตัดสินฆ่าเพื่อให้สิ่งเก่าๆมันจบ แล้วจะได้เริ่มใหม่เป็นของดีกว่าเก่า
เหมือนมีต้นข้าวที่ออกรวงแล้วเกี่ยวข้าวแล้ว เราก็ต้องตัดต้นนั้นไถกลบ เพื่อเอาเมล็ดมาปลูกใหม่ในฤดูกาลถัดไป
กูเทียบคือของเก่ามันมีของดีคือเมล็ด แต่ถ้าไม่เหลือของดีแล้ว มึงจะเก็บไว้ทำไม
>>548 เข้าใจผิดล่ะ ความหมายกูคือสันดานมนุษย์มักพลาญทรัพยากรธรรมชาติแบบไม่ปรานีปราศัยเบียดเบียนสิ่งมีชีวิตอื่นแบบไม่แยแส คนที่แคร์มีแต่มันส่วนน้อย ทีนี้คนเรายิ่งนานวันยิ่งอายุยืน คนก็ขยันผลิตกันขึ้นมาเรื่อยๆแค่ไอ้ที่มีอยู่ยังใช้ทรัพยากรกันแบบทิ้งๆขว้างๆถามว่า โลกเรามันจะเหลืออะไรถ้ามันไม่มีการฆ่าฟันเกิดขึ้น?
มันเป็นไปไม่ได้ที่เราจะไปคุมกำเนิดหรือให้ความรู้คนได้หมดและอัตราการพลาญมันมากกว่าอัตราการสร้าง กูเลยบอกว่ายังไงมันก็หนีการฆ่าฟันไม่พ้นอยู่ดี ตะวันออกกลางคือตัวอย่างที่ดี
>>549 เรื่องทรัพยากร ต่อคน มันมีคำตอบแล้วนะคือคุมกำเนิด และ คนไทยก็อยู่ฝั่งที่ทำสำเร็จด้วย ณ ตอนนี้
คือคุมจำนวน ประชากร ได้พอกับ เทคโนฯ ที่ช่วยซัพพอร์ตคน. มีงานให้, มีอาหารพอ,มีน้ำประปา,ไฟฟ้า พอใช้ มีหมอเกือบๆจะพอด้วยซ้ำ ,มีที่อาศัยพอ
กูว่ามันแปลกตรงที่ ประเทศไหนคุมกำเนิดเก่งมันจะดูดีมากๆ. ดูจีนดิ่บางเขตยอมให้มีลูกได้คนเดียวเอง แต่ระยะยาวยังศึกษาอยู่นะว่ามันจะดีตลอดไปหรือเปล่า เพราะยังไม่เคยเห็นตัวอย่างประเทศที่คนรุ่นเยาว์แบกคนแก่มากๆจะเป็นไง เมื่อก่อนไม่เกิน คนหนุ่มมันก็เอาคนแก่ไปทิ้งกลางป่าอ่ะนะ
เอสกิโมบอกว่า คนแก่จะกัดเส้นเอ็นที่ใช้เย็บชุดกันหนาวถ้ากัดไม่ขาดก็บอกให้ลูกหลานพาไปส่งกลาง ทุ่งน้ำแข็ง.
ตอนนี้กูไม่รู้ว่าเอสกิโม จะมีธรรมเนียมแบบนี้ป่าวนะ แต่กูประทับใจที่มีอีกธรรมเนียมคือ ถ้าล่าได้ต้องเอาเหยื่อไปแบ่งให้ทุกคนในหมู่บ้าน. เป็นกฏที่แบ่งปันสุดยอด เผ่าเขาถึงอยู่ในที่หฤโหดขนาดนี้ได้. มันหนาวคนก็ต้องการอาหารให้พลังงานเยอะกว่าคนอยู่ที่ปกติด้วยซ้ำ แต่เขาไม่อดตายเพราะเขาแบ่งกัน
แต่ถ้ามึงจะคุยเรื่อง ลดจำนวนประชากร
ไม่ต้องพึ่งมือมนุษย์หรอก
โรคใหม่ๆ ที่ระบาดหนักๆแล้วตายเยอะ มีแล้ว เพียงแต่ผลิตเซรุ่ม,วัคซีนทัน
ถ้ามันมีตัวไหนระบาดเร็วกว่ากำลังผลิตวัคซีน วันนั้นงานเข้าแน่นอน
มึงนึกดูว่าแค่ไข้หวัดใหญ่คนยังตาย หนึ่งในสาม ในยุโรป. กาฬโรค อหิวาห์. สมัยรัตนโกสินทร์ยังเจอเลย
แล้วของโหดๆแบบ. อีโบล่า,ไข้หวัดนก, ซาส์. แบบเนี้ย.
ถ้าคนมันเยอะเกินจริงๆ มันต้องไม่พอกิน,แล้วผลิตยาไม่ทันไปด้วย
ประเทศที่คนหนุ่มแบกคนแก่น่าจะหายากอ่ะนะเพราะจริงๆแล้วคนแก่ก็ใช่ว่าจะไร้ประโยชน์หรือทำอะไรไม่ได้เลยอย่างที่หลายๆคนคิด บางคนเป็นรายได้หลักของบ้านด้วยซ้ำ ส่วนประเทศที่สัดส่วนคนแก่มากกว่าคนหนุ่มน่าจะได้เห็นจาก ญี่ปุ่น เป็นประเทศแรก
วันนี้กูอ่านในพันทิป
มีคนบอกอายุ 45 มีเมีย ไม่มีลูก
บอกว่าถ้าเกษียณ เร็วขายกิจการทุกอย่างจะได้เงิน 9-10ล้าน
ถ้ากลับบ้านไปก็ไม่อยากทำงานแล้ว. แต่ถ้าไม่ทำงานทั้งผัวเมียภาระเลี้ยงคนแก่ จะตกอยู่บ้านนี้แน่
งานอดิเรกก็ไม่มี, เรื่องจะไปท่องเที่ยวกับเมียก็ไม่ค่อยชอบไปท่องเที่ยวด้วย
กูว่ามันทะแม่งๆว่ะ ลูกไม่มี ไม่อยากเลี้ยงคนแก่ด้วย. คือแบบจะจบกันแค่นี้เลยป่าววะ ถ้าคิดว่าสองคนแก่แล้วจะหวังว่าให้ใครเลี้ยงล่ะ. มีเงินก็เถอะ
กูว่า มีคนคิดอย่างนี้เยอะแต่ไม่กล้าพูดออกมาและกูก็นึกไม่ออกด้วยว่า เขาอยู่กันยังไงเพราะกูโตมากับครอบครัวใหญ่
มีหลักสิบล้านก็ไม่พอหรอก
ค่าครองชีพมันพุ่งขึ้นตลอด
อย่างสักสมัย 30 ปีก่อนยังบอกมีฝากธนาคารแค่หลักล้านก็อยู่จนแก่ตายได้ เดี๋ยวนี้ไม่ใช่ล่ะ
กลับมาที่ ปวศ. โฟกัสแค่ ยุครัตนโกสินทร์พอ ที่เมืองไทยมีสถิติไหมว่า คนต้องมีเงินเก็บเท่าไหร่ถึงจะอยู่ดีมีสุขเหมือนวันสุดท้ายที่ทำงาน เกษียณแล้วไม่ต้องเขียม
แบ่งให้อธิบาย เป็น ร.123 ยุคต้น, 456ยุคกลาง ,789 ปัจจุบัน และให้เดา ยุคร.10 ต้องแยกกรณีที่มีทายาท กับไม่มีทายาทด้วย
ใครอยากแจมไม่ต้องอธิบายทุกยุค เอาเจาะแค่ยุคเดียว มีลูก -ไม่มีลูกก็ได้
ภูมิภาคเอเซียอาคเนย์นี่ไม่มีประวัติศาสตร์การรบที่เน้นใช้กลศึกแบบพลิกล็อคจนเอามาทำหนังหรือนิยายได้เลยเหรอวะ
อยู่ใกล้ๆจีนแท้ๆ แต่ไม่ค่อยได้ยินประวัติศาสตร์เกี่ยวกับเสธ.เก่งๆ สมัยโบราณของแถบนี้เลยว่ะ
>>559 ตอบมีจดหมายเหตุว่าตอน ร.1 มีกบฏคนจีนเพราะ เข้ามาขายแรงงานแล้วโดยนายจ้างกดขี่เกินไป ทางเมืองหลวงส่งไปปราบก็แพ้หลายครั้งจนเจ้าคุณคนสุดท้ายให้แต่งทัพใหม่ ไปแกล้งแพ้แล้วถอยเข้าชายป่าติดกับแม่น้ำ พอกองทัพจีนกบฏ มาถึงริมน้ำก็เจอเรือปืนใหญ่ยิงถล่ม เจ้าคุณเลยได้เลื่อนยศ
มีทั้งโดนเผาไปแล้วกับบอกปากเปล่าไม่มีการบันทึกเพราะกลัวหลุดไปสปอยให้ข้าศึกรู้
>>563 เออสามก๊กเนี่ย กูเคยคิดยะว่าศึกแต่ละครั้งมันอลังการมากไปรึเปล่า กองทัพมีเป็นหมื่น(ถือว่าเยอะแล้วในสมัยโบราณ) แต่เสือกแพ้กองทัพหลักพันเพราะอีกฝ่ายมีกุนซือเทพ แล้วในสามก๊กมีแบบนี้เยอะมาก ประเภทขนกองทัพไปให้กุนซืออีกฝั่งถล่มโชว์ความเป็นกุนซือเทพ ทั้งที่เทคโนโลยีสมัยนั้นไม่น่าฆ่าคนได้ทีละมากๆ เต็มที่ก็เอาธนูระดมยิงจากจุดได้เปรียบ
อีกเรื่องที่ติดใจคือฉางผิง ทำไมมันฝังกลบคนเป็นหมื่นง่ายจัง ประวัติศาสตร์จริงมันเท่าไรกันแน่
>>566 เป็นไปได้สิ เพราะสมัยนั้นจีนก็ปฏิวัติเกษตรกรรมได้แล้ว จำนวนประชากรพรุ่งพรวดสุดๆ
>>565 สาเหตุการตายในกองทัพที่แพ้คือเหยียบกันตายมากกว่า สู้กันอย่างมากก็ฆ่ากันได้ไม่ถีง 20% หรอก
ส่วนฉางผิงคือมันเป็นเชลยไม่มีอาวุธ คนก็น้อยกว่า น่าจะพูกมัดติดกันไว้ด้วย คิดดูสิ นาซีไม่กี่สิบคนยังคุมยิวเป็นหมื่นในค่ายกักกันได้ ทำใมคนมากกว่าแบบกองทัพฉินจะคุมไม่อยู่
ตัวเลขกองทัพเป็นล้านสมัยนั้นมันเวอร์ไปหล่ะ ยังไงก็จัดการเรื่อง supply line กะ chain of command ไม่ได้ถ้ามีคนขนาดนั้น แถมบางสมรภูมิดูคนลองไปดูของจริงแล้วยังไงก็อัดคนขนาดนั้นลงไปไม่ได้
เคสนี้มีศึกใหญ่สุดท้ายที่อเล็กซานเดอร์สู้กับเปอร์เซียอีกอัน
สารคดีอันนึงบอกว่าไปดูพื้นที่จริงแล้วเป็นไปไม่ได้ที่เปอร์เซียจะมีทหารมากเท่าในบันทึกกรีก
บันทึกน่าจะใส่จำนวนทหารเปอร์เซียเยอะกว่าความเป็นจริงไป 3-5 เท่าได้เลย
ก็ไม่รู้ว่าเกิดจากการประเมินพลาดหรือจงใจเขียนใส่สีตีไข่ให้อเล็กซานเดอร์ดูยิ่งใหญ่กว่าความเป็นจริง
มีใครชอบแนวโบราณสถานบ้างปะครับ แบบผมชอบพวกปราสาทขอมก็จะตื่นเต้นทุกทีเวลาไปเจอที่ใหม่ๆโดยเฉพาะที่ที่ยิ่งไปยากยิ่งว้าว
มันทำให้เห็นภาพจริงๆว่าเมื่อก่อนขอมนี่เฟื่องฟูจริงอะไรจริง ทั้งอาณาเขต จำนวนปราสาท การก่อสร้าง งานแกะ
แล้วมันสนุกเวลานึกว่าเมื่อก่อนมันเป็นยังไง ผ่านเวลามายังไงจนมารกร้างแบบนี้และคนที่มาเจอคนแรกจะรู้สึกยังไงน้า
ถ้าเจอพื้นที่คอขวด พวกทัพเล็กชนะทัพใหญ่มันก็เป็นไปได้อยู่เพราะไอ้แถวหน้าทัพใหญ่แม่งซวยสุด
ตอน มาเซโดเนียVS.เปอร์เซียกูรู้สึกว่า อเลกซี่ ใช้กองทัพฟาแลงซ์ หอกยาวกับโล่เป็นหลัก ส่วนเปอร์เซียมีรถศึกกับธนู อเลกปล่อยให้ปีกนึงเจาะทะลุ แล้วปีกนี้มันมุ่งไปตีแต่ทัพสเบียง แล้วทัพที่แตกมันกลับมารวมตัวกันโฟกัสใส่ทัพหลวง
อเล็กซานเดอร์ใช้ทัพม้าพุ่งเฉียงไปด้านข้าง ทำท่าจะตีโอบปีกซ้ายเปอร์เซีย ทำให้ทัพเปอร์เซียพยายามขยายปีกตัวเองเพื่อไม่ให้โดนโอบ จนตรงกลางบางลง ทัพม้าของอเล็กซานเดอร์เลยบุกทะลวงไปจนถึตัวดาไรอุสได้ พอดาไรอุสหนีออกจากสนามรบก็เป็นอันว่าเปอร์เซียแพ้แล้ว
กูว่าที่ชนะมันก็ทุกปัจจัยผสมกันแหละ ทั้งการเลือกที่ตั้งค่าย การมีหอกยาวกว่า การคิดวิธีให้ทหารราบหยุดรถศึกได้ ฝีมือทหาร การวางแผนเดินทัพม้าไปตีแม่ทัพศัตรู
ครบรอบวันสมเด็จพระเจ้าตากสินพอดี ชวนคุย
ถ้าตอนนั้นไม่มีพระเจ้าตากสินไม่ไปตีหัวเมืองทั้งหลายคืนมา สยามจะเป็นยังไง เป็นแค่ส่วนหนึ่งของพม่า?
พม่าบอกกูไม่ได้มาเพื่อ occupy กูมา sack เฉยๆ
กูว่าพม่ามาเพื่อ occupy นะ แต่ปัจจัยหลายอย่างไม่เอื้อเลยกลายเป็นอย่างที่เห็นมากกว่า
Occupy for our .but rohinja is other.
>>585 ในวิกิไทยเรื่องนี้ครบนะ มีหลักฐานอ้างอิงหมด เพราะศึกษามากันแทบจะทะลุแล้ว
https://th.wikipedia.org/wiki/การเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สอง
ในนี้บอกไว้เลยว่าพระเจ้าเอกาทศรสยอมเป็นประเทศราชแล้ว แต่พม่าไม่รับ พอบุกเข้ามาได้ยึดทรัพย์และเทครัวกลับพม่าไปเป็นจำนวนมาก ตอนแรกอาจมีความตั้งใจจะปกครองจริง แต่กองทัพจีนบุกทำให้ทิ้งแผนนี้ไป
ถ้าถามว่าพม่าเคยคิด occupy มั้ย ตอบว่าคิด แต่พวกนี้ก็ตั้งใจทำลายกรุงศรีเหมือนกัน ด้วยเหจุผลทางเศรษฐกิจ ตอนนั้นกรุงศีเป็นหนึ่งในเมืองท่าที่มั่งคั่งที่สุดในโลกก็ว่าได้ ไทยรวยจากการค้ามากๆ พม่าสู้เรื่องการค้าไม่ได้ เลยทำลายทิ้งไป กะว่าไม่มีคู่แข่งแล้วจะสบาย แต่จีนเข้ามาแทรกก่อน
จริงๆ ก็มีถกเถียงด้วยว่ากองทัพที่พม่าทิ้งไว้ไม่ได้มีหน้าที่ปกครอง แต่มีหน้าที่ปล้นมากกว่า เพราะตอนทำสงครามได้ทำลายล้างและปล้นชิงไปจนทำให้บ้านเมืองล่มสลาย พม่าน่าจะรู้ตัวว่าปกครองไม่ได้ คือถ้าตั้งใจมาปกครองก็ควรรักษาบ้านเมืองบ้าง แต่นี่ปล้นไม่ยั้งเลยไง
ตอนสงครามเก้าทัพ กูนึกภาพแบบ พม่าสั่งทัพ ออค,กอบลิน,โทรล, ไฮออค,อุรุคไฮ จำนวนมหาศาลบุก. แล้วฝั่งเรามีกุนซือที่ย้อนเวลามาจัดทัพไทยไปต้านเลยว่ะ. แถมเมพขนาดทำให้ไทยชนะด้วยอีกต่างหาก
ขอถามเรื่องระบบฟิวดัสหน่อยสิ
-ถ้านอกจากพวกขุนนางยศต่างๆแล้วเป็นทาสติดที่ดินกับพวกเสียภาษี กูเข้าใจถูกมะ? แล้วพวกเสียภาษีเนี้ยเขามีที่ดินเป็นของตัวเองเหรอ แล้วถ้ามีพื้นที่เยอะมากๆเนี้ยถือเป็นพวกมียศ(มาควิส บารอน ...)เลยได้ไหม?
-อัศวินเนี้ยต่างกับทหารไหม แล้วอัศวินมีสิทธิพิเศษอะไรบ้าง ชอบเห็นในนิยายพวกเชื้อพระวงศ์หรือลูกขุนนางไปเป็นอัศวิน เลยสงสัยว่าถ้าได้ยศหรือเงิน คนพวกนั้นก็มีแล้วจะเป็นไปทำไม
วานผู้รู้ช่วยตอบ พอดีเขียนนิยายแนวยุโรป แต่หาข้อมูลไม่ค่อยเจอ+ไม่ค่อยเข้าใจ หรือถ้าใครมีเว็บแนวนี้แนะนำจะดีมาก
>>589 ประเด็นนี้น่าสนใจมากนะมึง ว่าเพราะอะไรไม่ว่าจะชาติพันธุ์ใดๆมาอยู่ไทยก็คิดว่าตัวเองเป็นคนไทยทั้งหมด โดยเฉพาะจีนนี่ไม่ว่าอยู่ไหนก็ยังคิดว่าตัวเองเป็นคนจีนอยู่ แต่พออยู่ไทยเอาแค่รุ่นเดียวก็พูดจีนกันไม่เป็นแล้ว ดีไม่ดีเผลอๆถ้าฝรั่งกะคนดำเข้ามาแบบอยู่แบบเดียวกะคนจีนอาจจะคิดว่าตัวเองก็เป็นไทยเหมือนกันก็ได้
>>593 1. ระบบฟิวดัลแบ่งหยาบๆได้เป็น King > Lords > Knights > Peasants ซึ่งสิ่งหลักในความสัมพันธ์ของระบบฟิวดัลคือที่ดิน(fief)
King จะให้ที่ดิน(และPeasantsในที่ดิน)กับ Lords เพื่อให้Lordsส่งกำลังทหารและภาษีกลับมา
Lords จะให้ที่ดินกับKnights โดยอัศวินที่ได้รับเลือกจากขุนนางให้ถือที่ดินในเขตของตนจะต้องตอบแทนให้กับขุนนางโดยการสู้ในกองทัพ
LordsและKnightsจะให้Peasantsทำการเกษตรเพาะปลูกเก็บเกี่ยวในที่ดิน ผลผลิตบางส่วนจะโดนเก็บเป็นภาษี และเจ้าของที่ดินมีหน้าที่ปกป้องPeasantsของตนและควบคุมกฎหมาย
อนึ่ง Peasantsไม่ใช่ทาส แปลเป็นไทยคงได้ว่าไพร่ ไม่มีส่วนร่วมในเรื่องการเมืองแต่โดยทั่วๆไปจะได้รับการยอมรับว่ามีสิทธิในระดับนึงและสมควรได้รับการปฎิบัติอย่างยุติธรรมจากลอร์ด
อสอง Merchants(พ่อค้า) และ Artisans(ช่างฝีมือ) อยู่นอกระบบฟิวดัลเพราะไม่มีที่ดินมาเกี่ยว พวกนี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในเมือง(Peasantsจะอยู่ในVillageหรือHamlet)และทำธุรกิจของตนเองไปและจ่ายภาษีหรือค่าเช่าที่ให้เจ้าของที่ดิน
2. อัศวินต่างจากทหารธรรมดา ตอนแรกอัศวินเป็นแค่ทหารม้าเกราะหนัก แต่พอเวลาผ่านไปก็เริ่มมีความสำคัญขึ้นจนกลายเป็นคลาสนึงของสังคมขึ้นมา ยศอัศวิน(Knighthood)กลายเป็นสิ่งที่ต้องได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ ทหารม้าเกราะหนักที่ไม่มียศอัศวินจะถูกเรียกว่าMan-at-armsไป และอัศวินมีโค้ดการปฎิบัติตนเรียกว่าChivalryอย่างเช่นต้องปกป้องผู้ที่อ่อนแอกว่า ห้ามโกหก etc. อะไรแบบนี้ การที่ขุนนางบางส่วนอยากเป็นอัศวิน เพราะอิเมจจากChivalry codeทำให้อัศวินดูเป็นฮีโร่ มันเป็นPrestigeที่มากับยศอัศวินทำให้ขุนนางเป็นกัน
ประมาณนั้น ถ้าอยากเขียนนิยายแนวๆนี้แนะนำให้ไปลองอ่านนิยายยุคกลางดีๆดู ที่อ่านง่ายที่สุดน่าจะเป็นชุด A song of ice and fire ของปู่GRRM หรือถ้าตั้งใจจริงๆก็ไปอ่านThe Canterbury Tales เป็นหนังสือที่เขียในยุคกลางเลย
>>594 นโยบายชาตินิยมตั้งแต่สมัยจอมพล ป. ยังใช้มาจนถึงปัจจุบัน ที่สำคัญที่สุดก็หนังสือเรียนเนี่ยแหละที่ใช้มาจะ 100ปีแล้วไม่เคยเปลี่ยน(หรือจะมองว่าไม่เคยพัฒนาก็ได้) ล้างสมองเด็กรุ่นต่อๆไปว่ามึงเป็นคนไทย คนไทยเทพ คนไทยต้องสามัคคีกัน เพราะงั้นพวกเด็กรุ่นที่เกิดมาแล้วเรียนหนังสือด้วยหนังสือเรียนแบบไทยๆก็จะมีแนวคิดแบบชาตินิยม กูเป็นคนไทย มึงเป็นคนไทย มึงเป็นพวกกู เราเป็นพวกเดียวกัน
นัยหนึ่งมันก็ดีที่สร้างชาติ รวมชาติได้ แต่อีกนัยมันก็จะมีความเหี้ยเกิดขึ้นมา อย่างเช่น ในโลกออนไลน์จะเจอประจำ "ใครเป็นคนไทยบ้าง"
>>594 ไม่น่าจะเป็นไปได้นะ กูว่าตรงนี้เรื่องชาติพันธุ์มีส่วนสำคัญมาก
คนไทย-จีน มันเป็นเอเชียที่ผิวสีไม่ต่างกัน และ นโยบายรัฐไทย ยอมรับจีนมาแต่ครั้งบรรพกาลแล้ว นับเป็นมิตรยอมค้าขายด้วยมานาน ทำให้คนจีนที่มาอยู่ไทยยอมรับความเป็นไทยได้
แต่ฝรั่งไม่ใช่ว่ะ นอกจากชาติพันธุ์ไม่เหมือนกันแล้ว แรกเริ่มเดิมทีฝรั่งไม่ยอมรับคนเอเชียกับคนดำด้วย ต่อให้เดี๋ยวนี้เอาเรื่องเสรีชนมาอ้าง ความเป็นจริงก็ยังเกิดการปฏิบัติไม่เท่าเทียมกันอยู่ดี โดนไปสองข้อพวกฝรั่งเลยทำให้คนต่างชาติคิดว่าตัวเองเป็นชาติเดียวกับแผ่นดินไม่ได้
อย่าว่ากระนั้นเลยพวกคนแขกที่อยู่ในไทยมานานไม่ต่างจากคนจีนคนจีน มึงจะเห็นว่าพวกนี้ก็ไม่ได้คิดหรือทำตัวว่าเป็นคนไทยเหมือนกัน เพราะชาติพันธุ์เป็นหลักเลยล่ะ
เรื่องไทยที่ไม่มีปัญหาด้านเชื้อชาติ กูยกเครดิตให้จอมพล ป. กับคนที่สานต่อในยุคต่อๆ มานะ คือสมัยจอมพล ป. เรามีนโยบายชาตินิยม ที่แม่งเหมือนเยอรมันสัสๆ (ไม่เชื่อไปหาอ่าน Mein Kampf ที่ฮิตเลอร์เขียนไว้ตอนยังไม่ดัง ยังไม่ขึ้นเป็นผู้นำ คือจะบอกว่าความเป็นเยอรมันคืออะไร) แต่เราต่างจากเยอรมันตรงที่เรา "ยึดขนบแบบแผน ไม่ได้ยึดเชื้อชาติ" คือเราไม่เคยยกเชื้อชาติใดสูงว่าชาติใดอะ เราบอกแต่ว่าความเป็นไทยคืออะไร ต้องทำตัวยังไง 1 2 3 4 ... ใครที่ทำตามนั้นได้เรานับเป็นคนไทยหมด ให้โอกาสเท่าเทียม จะเห็นว่าคนอีสาน คนเหนือ คนใต้ เดิมทีเขามีชาติพันธุ์ของเขานะ แต่ถ้าทำตามแบบแผนไทยๆ (สำคัญที่สุดคือพูดอ่านเขียนภาษาไทย "แบบกรุงเทพ" ชัดเจน) ได้ก็มีโอกาสเป็นใหญ่เป็นโต ทุกวันนี้เราก็เลยจะเห็นนายทหารนายตำรวจ เห็นข้าราชการระดับสูงๆ มาจากทั่ว ปท. อะ กูยังเคยคิดเล่นๆ เลยว่าถ้าลุงหนวดแกไม่บ้าเชื้อชาติ บ้าความเป็นอารยัน แต่บอกว่าคนเยอรมันคือ ... 1 2 3 4 เผลอๆ พี่แกชนะสงครามไปแล้ว เพราะตีเมืองไหนก็ได้สาวกเพิ่ม (ดูอย่างบางศาสนาก็ได้ เขาขยายอิทธิพลด้วยวิธีนี้แหละ ยึดหลักว่าเมื่อท่านเปลี่ยนศาสนาท่านก็คือพวกเดียวกับเรา)
แต่ถึงไม่มีปัญหาเชื้อชาติ แต่อีกมุมมันก็มีปัญหาการกลืนวัฒนธรรม ถ้ามึงไปถามพวกลิเบอรัล มันจะหยิบเรื่องนี้มาตีไทยบ่อยๆ เพราะมองว่าการกดดันให้คนเชื้อสายอื่นๆ (พม่า ลาว มอญ เขมร จีน มลายู ฯลฯ) ที่อยู่ในไทยต้องเรียนภาษาไทย ต้องใช้ภาษาไทยให้ได้ดีเพื่อแลกกับการได้เป็นใหญ่เป็นโต มีความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน มันส่งผลให้วัฒนธรรมอื่นถูกมองว่าต่ำกว่า เช่น การเอาสำเนียงอีสาน สำเนียงใต้มาล้อเลียนในรายการตลก อะไรแบบนี้แหละ
แต่อยู่ในประเทศไหนก็ต้องเรียนภาษาประเทศนั้นมันผิดเหรอวะ หรือจะทำตัวเป็นต่างชาติชูคอแต่ไม่มีใครเข้าใจภาษา
อยู่ชาติเดียวกันก็ควรใช้ภาษาเดียวกันว่ะ เพราะภาษาคือจุดแรกของการแบ่งแยกเลย
ไม่เขียนภาษาเดียวกันซักวันมันจะอยู่ร่วมกันไม่ได้
>>607 กูเดาว่ามันคงหมายถึงสมัยก่อนนั่นแหละ มันจะมียุคนึงที่ภาษาจีนโดนแบนจากประเทศไทย เพราะรัฐบาลมองว่าใครรู้ภาษาจีนอาจจะไปนำเข้าลัทธิคอมมิวนิสต์จากจีนแดงมา (ไทยเรารบกับคอมมี่จีนแดงนะ ไม่ใช่คอมมี่รัสเซีย พรรคคอมฯ ไทยก็สนับสนุนโดยจีนแดงอะ) คนจีนเลยต้องเรียนภาษาไทย หลายคนแปลงแซ่ให่้เป็นนามสกุล (ส่วนใหญ่พวกนามสกุลยาวๆ อะ เชื้อสายจีนทั้งนั้น) แต่ในเวลาเดียวกัน มาเลเซียไม่ได้ทำแบบเราไง
ภาษาจีนเพิ่งกลับมาบูมแค่สิบกว่าปีนี้เองนะ แต่ก่อนภาษาที่ 3 ที่เปิดสอนตาม ร.ร. ถ้าไม่ใช่ฝรั่งเศสก็ญี่ปุ่นอะ
ไม่ใช่ว่าประเทศเรานี้ถูกกดดันให้รวมประเทศจากสยาม เป็นไทยหรอกเหรอ
เหนือมีล้านนา ใต้ก็มีอีกอย่าง อีสานก็อีกอย่าง
คนไทยเป็นหนึ่งเดียวกันได้เพราะมันอาศัยนโยบายชาตินิยมแบบเน้นวัฒนธรรมและภาษา จุดนี้สำคัญมากนะมึงเพราะมันคือสิ่งที่ทำให้ชาติเป็นชาติจริงๆ
ชาตินิยมแบบพวก ฮิตเล่อร์ กับ ไอ้ยุ่น นี่มันออกแนวชาตินิยมแบบสิ้นคิดและอันตราย
พวกมุซซี่สายหัวรุนแรงไปที่ไหนก็เรื้อนหมดล่ะมึง
เรื่องจะขี้โม้ว่าชาติไทยนี้ดีหนักหนา ใครมาอยู่ก็อยากเป็นไทยนี่ต้องมาดูคอนเซปแต่ละคนก่อนมั้งว่าระดับไหนถึงจะเรียกว่ากลมกลืนเป็นไทยของมึง ถ้าแค่บอกออกสื่อว่า ไอแอมไทย แล้วคือคนไทยกูว่าชาติไหนในโลกที่มีคนต่างชนชาติไปอยู่แล้วมีทายาทตั้งแต่รุ่นสองลงไปอยู่เขาก็บอกตัวเองเป็นคนชาตินั้นทั้งนั้นล่ะ แต่ถ้าระดับประเพณีวัฒนธรรมดั้งเดิมเปลี่ยน จนรับของเจ้าของแผ่นดินมาใช้ ในไทยนอกจากคนจีนแล้วกูว่าก็ไม่เห็นชาติอื่นนะ ไม่นับพวกเชื้อสายจางจนไม่เหลือเค้าแล้วนะพวกนั้นมันไม่รู้ว่าตัวเองเป็นไกจินด้วยซ้ำ
คือไม่ตีกันมันก็ดี แต่กูก็แอบรู้สึกว่ามันย้อนแย้งนิดๆเพราะคำว่าไทยมาจากชื่อเผ่าไท
แต่คนที่ภูมิใจซาบซึ้งน้ำหูน้ำตาไหลว่าตัวเองเป็นคนไทยนี่ก็ไม่ใช่คนเผ่าไทซะเยอะ
จริงๆแล้วประเทศเรามันคือประเทศ"สยาม"อ่ะนะ แต่ต้องเปลี่ยนชื่อเป็น ไทยแลนด์ แบบตะแบงศัพท์กับเปลี่ยนธงชาติเพื่อเอาใจ พี่กันฯ
ไทยมีปัญหาชาติพันธุ์น้อยเพราะ
1 กระบวนการกลืนชาติมันเริ่มตั้งแต่สมัยร.5 การเอาวัฒนธรรมสุโขทัยเป็นภาพตัวแทนของวัฒนธรรมที่รุงเรืองของไทย ส่งออกธรรมยุตไปทั่วไประเทศไปสู้กับนิกายท้องถิ่น ปราบชาติพันธุ์อื่นๆอย่าง การปราบกบฎผีบุญ กบฎเงี้ยว จับครูบาล้านนามาลงโทษ
2 ไทยไม่ได้ตกเป็นอาณานิคมเลยไม่โดนเสี้ยมให้กลุ่มชาติพันธุ์ในประเทศเกลียดกันเหมือนประเทศอื่นๆ และต่างขาติไม่ได้เข้ามาสร้างความแตกแยก อย่าง ลาวโดนมะกันเสี้ยมให้ม้งแยกประเทศ
3 นโยบายสร้างชาติจากส่วนกลางของจอมพลป. ที่ไม่ให้พูดหรือเขียนภาษาถื่นเลย และพวกขบวนทางการเมืองในต่างจังหวัดส่วนใหญ่เป็นคอมไม่ได้ชูเรื่องชาตพันธุ์ พอมาถึงตอนนี้เลยชาวบ้านก็คิดว่าตัวเองเป็นคนไทยแท้ไปหมดแล้ว แล้วพอจะรื้อฟื้นเรื่องนี้ก็เป็นการชูเชิดอัตลักษณ์ท้องถื่นเท่านั้น
จะมีกรณีภาคใต้เท่านั้นที่รุนแรง เพราะเป็นอิสลามมีความอนุรักษ์นิยมสูงและการแพร่กระจายของขบวนการก่อการร้ายอิสลามที่ทำให้มีกระบวนการต่อต้านเป็นตัวเป็นตนขึ้นมา
กูรู้สึกว่าชาตินิยมไทยมันดูเปลือกแปลกๆว่ะ
แบบอวยประเทศไทยคนไทยซะเวอร์ เอาประเทศตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาล
ใครพูดกระทบหน่อยนี่จะเป็นจะตายกัน
แต่ดันบ้าเที่ยวเมืองนอก เรียนต่อเมืองนอก ใช้ของนอกกัน
สินค้าคนไทยทำราคาถูกคุณภาพดีๆก็ทำเป็นรังเกียจกัน เหมาว่าห่วยไปหมด กูล่ะไม่เข้าใจ
สินค้าไทยมึงรู้ต้นทุน
มันเลยมีเคสอย่าง ไข่เจียวเจ๊ไฝ คั่วไก่เยาวราช ให้ด่าว่าแพงกัน แต่ค่าฝีมือแม่งไม่คิด
ไม่รู้กูคิดไปเองรึเปล่ากูว่าคนไทยหน้าตาดีแม่มมีเยอะจังวะไปไหนเจอแต่คนหน้าตาดี
ข้าวเปล่าเจ้ไฝจากละเท่าไหร่บอกกูที
มันก็ต้องดูด้วยว่าแดกเป็นแดกไม่เป็น ถ้าเป็นอย่างไอ้อ้วนเบาหวานก็แดกไม่เป็นหรอก สักแต่แดกลงท้องอย่างเดียว
ดาวมิชลินไม่ได้รับประกันความอร่อยสำหรับทุกคน แต่มันรับประกันคุณภาพ อย่างน้อยมันก็น่าเชื่อถือกว่าโม่งที่ไหนก็ไม่รู้
ดาวมิชลินกับร้านพวกนี้กูว่าคล้ายเคสซูชิจิโร่อ่ะที่ได้ 3 ดาวแล้วฝรั่งอวยกันไส้แตก แต่ดันไม่ติด Top 10 ร้านซูชิในโตเกียวสำหรับคนญี่ปุ่น
บางทีกรรมการก็ไม่มีโอกาสได้ลองร้านที่ไม่ดังมาก + รสนิยมไม่เหมือนคนท้องถิ่น
เอาแบบผัดไทยไหม ฝรั่งชอบแต่คนไทยเฉยๆ
https://pantip.com/topic/37203945
ผัดไทประตูผีได้ bib gourmand กูก็ไม่เชื่อลิสนี้แล้วว่ามันเข้ากับลิ้นกูได้ กูอาจแดกไม่เป็นก็ได้แต่แม่งโคตรธรรมดาสำหรับกูจริงๆ ให้ไปรอแย่งแดกแบบนั้นแล้วรสไม่โดนซักนิดกูเข็ดว่ะ
>>636 ซูชิจิโร่แดกยากจะตายห่าจะไปติด top ของยุ่นได้ไง ที่รีวิวในพันทิพต้องจองล่วงหน้าลุกค้าต้องพักโรงแรม5ดาวถึงจองได้บลาบลา ไมใช่เดินพกตังเข้าไปแล้วนั่งแดกได้ทันที
ฝีมือการทำซูชิก็ส่วนนึงแต่ปัจจัยส่วนใหญ่มาจากวัตถุดิบร้านไหนประมูลได้ของดีที่ตลาดปลาไปย่อมอร่อยแน่นอนเชื่อกูกูอ่านเจ้าหนูซูชิมา
ขอย้อนกลับไปชื่อประเทศนิดนึง จริงๆการเปลี่ยนชื่อประเทศจากสยามเป็นไทยถึงจะยึดหลักแนวคิดเผ่าพันธ์นิยมจากฟาสซิสก็จริง
แต่มันเป็นการเปิดกว้างรับความแตกต่างมากกว่าเดิมรึเปล่า เพราะสยามคือไทยกลางอย่างเดียว
แต่ไทยเฉยๆจะกว้างกว่าเพราะใช้รวมไทยเหนือ ไทยอีสาน ไทยใต้ด้วย
>>641 กูว่าคล้ายๆท่านผู้นำต้องการสวิทต์ในการบอกคนในชาตว่าเราจะเปลี่ยนไป เริ่มด้วยการเปลี่ยนชื่อว่ะ (แต่มีสตอรี่รองรับนิดหน่อยว่าชนชาติไท มันยิ่งใหญ่อะไรแบบนี้)
ถ้าเป็นธุรกิจก็คือการ รีแบรนดิ้ง ด้วยการเปลี่ยนชื่อแบบ ออเรนจ์เปลี่ยนเป็น ทรู เหล้าเก่าขวดเก่า แต่ติดฉลากใหม่
เคยเห็นมีนักวิชาการคนนึงออกมาเรียกร้องว่าควรเปลี่ยนชื่อประเทศกลับเป็นสยามเพื่อไม่ให้คนที่ไม่ใช่คนไทรู้สึกว่าถูกแบ่งแยก
คือกูลองหาๆก็เจอว่าสยามคือไทยกลาง ซึ่งถ้ายึดตามความหมายจริงๆสยามก็ต้องแคบกว่าไทยสิ งงๆว่ะ
ไม่แน่ใจว่ามีหลายทฤษฏีหรือนักวิชาการคนนี้พลาดจริงๆ แต่เรื่องแค่นี้ไม่น่าพลาดกันนะ
กูเจ๊ก 3/4 ย่าเป็นคนรังสิต กูไม่สนอะไรหรอก แต่กูเป็นคนประเทศนี้ เรียนรด. ประเทศนี้ จำเป็นขึ้นมากูก็ต้องเข้ากรมกองไปปกป้องอธิปไตยประเทศนี้แหล่ะ
เรื่องชื่อประเทศถ้ามันเป็นสากลไปแล้วอย่าไปพยายามกระแด่ะเปลี่ยนกลับเลย
ไม่งั้น กูต้องเปลี่ยนไปเรียก จงหัว(จีน) นิฮง(ญี่ปุ่น) ด้วยไหม
>>648 ที่จริงเรียกทุกประเทศตามที่เค้าเรียกตัวเองแบบนั้นก็น่าจะดีนะ ดูหลากหลายดีแถมเป็นการเคารพวัฒนธรรมแต่ละชาติช่วย
แต่จริงๆกูว่าคนส่วนใหญ่ก็ใช้ตรรกะ"รู้จักครั้งแรกในชื่อไหนก็เรียกชื่อนั้นตลอด"นั่นแหละ ไม่มีใครยอมเปลี่ยนหรอก เหมือนตอนโปเกมอนโกออกมาแล้วมีคนพยายามเรียกร้องให้เรียกโค่ยคิงว่ามาจิคาร์พไง ถ้ามึงเรียกมันว่าโค่ยคิงมาตลอดชีวิตจะยอมเรียกมาจิคาร์พตามสากลมั้ย
ชื่อประเทศกูเฉยๆแต่กูอยากให้เปลี่ยนธงนะ ใช้รุปช้างดูดีออกแถบสีแม่งโคตรไม่มีเอกลักษณ์
เวลาให้เด็กนักเรียนวาดรูปธงชาติจะลำบากมาก
ถ้าทุกวันนี้เป็นช้างอยู่กูว่าโคตรเท่เลยว่ะ
ออกกฏหมายให้ออกแบบธงใหม่ทุกปี ลิขสิทธ์ช้างสามารถแปลงไปแปลงมาได้แบบหุ่นเขียวแอนดรอยด์ กูว่าเท่สัดๆ
กูกลับว่าใช้รูปช้างมันดูรกๆว่ะ ใช้แบบปัจจุบันนี่ดีแล้ว เรียบๆ หรืออย่างน้อยเปลี่ยนเป็นสัญลักษณ์เป็นอย่างอื่นอะไรก็ได้ แต่เอารูปช้างไปแปะลงบนธงเลยมันดูยังไงๆอยู่
กลับมาใช้ธงช้างนี่มีปัญหาคนวาดธงเพียบแน่
แต่ละความคิด คนไทยรึเปล่าวะ เฮ้อ
มึงอยากวาดชินจังช้างน้อยลงบนธงล่ะสิ
Thailand meme !
มึงพูดยังกะธงชาติตามเสาสมัยก่อนโน้นมันเป็นเสาจอ LED
สมัยนี้กูเห็นคนที่โมเมเอาผลงานคนอื่นมาเป็นผลงานของตัวเองจนกลายเป็นดราม่าเยอะแยะ
กูเลยสงสัยว่าเป็นไปได้มั้ยว่าคนดังในประวัติศาสตร์บางคนนี่อาจจะแค่ขโมยผลงานคนอื่นมาด้านๆก็ได้
MAXIMUM POWAH!
เอดิสันแม่งแค่ได้เปรียบกว่าตรงที่มันเป็นอเมริกัน
แต่กุก้คิดว่าเทสลาเก่งกว่าอยุ่ดีนะ
เรื่องเก่งกูว่าพอกัน แต่เอดิสันมันทำเงินเก่งกว่า
เทสล่านี้ตกอับจนมีปัญหาทางจิตเลย
แต่ตอนดีเบท AC-DC กูให้คะแนนเทสล่า
Edison = Great Merchant (same as Steve Jobs)
Tesla = Great Scientist
เอดิสัน กับสตีฟ จอบ แล้วก็บิลเกต คือ นักพัฒนานักปรับปรุง กูก็ว่าพวกมึงอคติกันเกินไป ที่พวกเขามีชื่อก็มีผลสำเร็จของพวกเขาจริงนิ ถ้าบอกว่าไม่ใช่ก็เอาหลักฐานมาพิสูจน์
>>676 สตีฟ จ๊อบส์ มีบทบาทในทาง Marketing ชัดเจน ซึ่งไม่ได้เหมือนกับ บิล เกตส์ เลย
ยกตัวอย่าง Apple I กับ Apple II จ๊อบส์ก็ไม่ได้มีส่วนในการพัฒนา https://www.blognone.com/node/72130
จ๊อปมันเหมือนเป็นผู้ประสานงานมากกว่าว่ะ คือคุยกับเนิร์ด สร้างของเจ๋งๆมาตอบสนอง คนใช้,คนออกแบบได้เพราะ มันคุยสองฝ่าย ถามเนิร์ดว่ามีอะไรเจ๋งๆพัฒนาได้ เทคโนฯไหนน่าสนใจ แล้วมาแมทช์กับ คนใข้ที่ต้องการดีไซน์, การใช้ง่าย
สมัยคนใช้เครื่องแมคอินทอชเพราะระบบเทียบสีจอกับสิ่งพิมพ์มันแม่นยำ พวกทำงานกราฟฟิคจะชอบแมคฯ พวกฟอนต์ พวกดีไซน์ใช้ง่ายนี้จ๊อปผลักดันให้เกิดขึ้นมา
ผมไม่ได้เลือกความรุนแรง แต่ความรุนแรงเลือกผม ชีวิตนี้คนคำนวณไม่เท่าฟ้าลิขิต เฮ้ออ
พยายามแก้ต่างให้เอดิสันด้วยการเอาจ๊อบส์ไปเทียบกับเกตส์
kek
นี่มึงไม่รู้จริงอ่ะ ว่าไอ้ตานี่สองคนไปขโมยอะไรมาจากxerox จนไอ้ตาเกตยังเคยแขวะจ๊อปเรื่องมันขโมยก่อนเลย
โจรทั้งนั้น เอดิสัน เกตต์ จ๊อบ ไม่ต้องพยายามอ้างหรอก
เกตส์เรียกขโมยได้เหรอวะ
เบสิคก็เขียนกันเอง
ดอสก็ซื้อต่อเอามาขายIBM
หรือหมายถึงขโมยGUIที่จ๊อบไปขโมยมาอีกที?
ไปดู microsoft แล้วบอกกูที ว่างานออริจินอล ของบริษัทนี้คืออะไร
สงสัยว่าทำไมคนทั่วไปมองว่าอิตาลีเป็นประเศที่เป็น successor ของโรมัน
ถึงโรมันจะมีจุดเริ่มต้นมาจากแถวๆนั้นแต่นับเวลาช่วงที่ผ่านมา
โดยเฉพาะหลังโรมันตะวันตกล่มสลายพื้นที่แถวอิตาลีอยู่นอกเขตของโรมันมานานมาก
หรือแค่เพราะว่ามีกรุงโรมเป็นเมืองหลวงเฉยๆ
>>686 ก็มันรับอะไรที่เป็นโรมันมาหลายอย่าง ทั้งอาหารการกินและวัฒนธรรม จริงๆ มันต้องแยกว่าสืบทอดเรื่องอะไร แต่ถ้าพูดโดยองค์รวมอิตาลี่ก็สืบทอดโรมันมามากกว่าประเทศอื่นนั่นละ
จริงๆ สืบทอดก็ใช่ว่าต้องเหมือนกันนะ ดูอย่างจีนก็ได้ วัฒนธรรมตั้งแต่ยุคเริ่มแรกไล่มาจนทุกวันนี้มึงคิดว่ามีอะไรเหมือนเดิมมั่งละ แม้แต่ภาษายังไม่เหมือนกันเลย แต่ใครกล้าบอกบ้างละว่าจีนทุกวันนี้ไม่ได้สืบทอดมาจากเหยียนตี้
โรมันล่มเพราะตอนหลังมัน diversity เกิน
กูรอดูยุโรปกะเมกาอยู่เนี่ย โง่ชิบ ไม่ยอมเรียนรู้ประวัติศาสตร์
>>692 ไม่เชิงนะ ว่ากันตามตรงคือระบบเศรษฐกิจมันล้มเหลวมากกว่า พวกทหารพอไม่ได้ค่าจ้างก็เริ่มกระด้างกระเดื่อง จนมาจบที่พวกคนเถื่อนบุกเข้ามานี่ละ
ที่ต้อง Diversity ก็เพราะต้องการลดค่าใช้จ่าย เทียบกับการเอาแรงงานต่างด้าวเข้ามานั่นละ ถึงจะมีส่วนให้โรมันล่ม แต่สาเหตุหลักๆ คือเศรษฐกิจแย่และผู้ปกครองเหลวแหลกเป็นสำคัญ
>>694 ตอนที่โรมันเจริญมีเงินจ่ายพวกนี้ทำตัวดีกว่าคนโรมันแท้ๆ อีกนะ เพราะไม่มีสิทธิทางการเมือง (ยกเว้นจะเป็นทการมา 20 ปี) แต่ะพอไม่มีเงินจ่ายและไม่มีสิทธิทางการเมืองเลยมีปัญหา อีกทั้งคนโรมันก็ไม่อยากเป็นทหาร กองทัพคนเถื่อนเลยมากกว่าทหารโรมัน ปัญหาเลยหนักขึ้นอีก แต่กองทัพโรมันก็กระด้างกระเดื่องเพราะไม่มีค่าจ้างเหมือนกัน
Diversity เป็นปัจจัยหนึ่งจริง แต่มีสาเหตุมาจากเศรษฐกิจและการปกครองล้มเหลว ถ้ามันยังดีแบบสมัยแรกๆ ทุกอย่างก็ไม่มีปัญหาหรอก พวกคนเถื่อนกลายเป็นคนโรมันก็เยอะ เพราะมีเงินจ่ายค่าจ้าง แต่รุ่นหลังไม่มีเงินจ่ายค่าจ้าง พวกนี้เลยไม่ทนเหมือนรุ่นก่อนๆ
ถ้าไม่มีแดรก มึงจะทนไหมล่ะ
มันเป็นช่วงหน่ะ แต่พวกฮาน มันเข้ามาตีทางตะวันออกด้วย ทำให้ชนเผ่า กอธ แถวเยอรมัน อพยพหนีพวกขี่ม้า พอเข้ามาตอนแรกโรมัน เสนอว่าจะให้พวกนี้เป็นทหารรับจ้างไง แต่ตัวแทนที่ไปดูแลมันยัดยอดเยอะ ตั้งกฏนู้นนี่เอาเปรียบผู้อพยพ จะยึดอาวุธเขาด้วย ซื้ออาหารก็ต้องซื้อแพงผ่านตัวแทน จนพวกกอธ มันคิดว่าไม่มีอะไรจะเสีย เพราะอยู่ก็โดนริดรอนอำนาจ มันก็ต้องวัดดวงกับโรมันนั้นแหล่ะ
Diversity ในโรมันมันเป็นเรื่องเลี่ยงไม่ได้รึเปล่า จุดกำเนิดมันเล็กนิดเดียว แล้วขยายตัวมาจนใหญ่มาก มันก็ต้องมีคนหลากหลายอยู่แล้ว
เอาไปเทียบกับ diversity แบบยุโรปรับผู้อพยพได้ไง
diversity มันมีผลอยู่แล้วอ่ะนะ แต่หลักๆที่มันเป็นปัญหาสำหรับ โรมัน เลยคือมันขยาย อาณาจักร เร็วเกิน+ย่อยวัฒนธรรมและปั่นกระบวนการล้างสมองไม่ทัน ตอนที่ยังไม่มีปัญหาหนักมากมันก็พอไปได้แต่พอปัญหามันเกิดก็ชิบหายทันที
ตั้งแต่แยกโรมันตะวันออกมาโรมันตะวันตกก็รู้ชะตาแล้ว เพราะโรมันตะวันออกกุมเส้นทางการค้ากับเอเชียไว้ เมื่อสูญเสียเส้นทางการค้าส่วนนี้ไป โรมันตะวันตกก็รับภาระทางการเงินไม่ไหว
แต่ถ้าพวกฮันไม่มาบุก มันก็อาจไปต่อได้เรื่อยๆ ละ จักรวรรดิระดับนี้ถ้าไม่มีศัตรูบุกมามักอยู่ได้จนกว่ามันจะไม่ไหวจริงๆ นั่นละถึงจะล่มไปเอง
>>698 ยุโรปตอนนั้นไม่มีทรัพยากรให้กอบโกยด้วย เพราะยังเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อนไร้อารยะธรรม ค้าขายไม่ดีแบบเอเชียกะแอฟริกา ถ้ายุโรปมีทรัพยากรเยอะๆ โรมันก็อาจจะอยู่รอดได้นะ
มีคลิปยูทู้ปอยู่เล่าตั้งแต่ ตั้งโรมจนจบที่ โรมันตะวันตกล่มน่ะ แต่กูว่าคนทำสารคดีชุดนี้ชอบดราม่าว่ะ ประเด็นคือตอนที่ โรมันไปรับ วิสิกอธ เข้ามาพวกสภามันบอกให้เจรจารับมาเป็นทหารรับจ้าง แล้วฑูตที่ส่งไปก็สัญญาอย่างดีเลยว่ารบชนะจะให้ เงินให้ที่ดินทำกิน พอรบชนะจริงแม่งเบี้ยวเขาดื้อๆเลย ทั้งๆที่ศึกนั้นเป็นศึกชิงบัลลังค์ มันเอาคนนอกอย่างวิสิกอธ มาช่วยชิงอำนาจด้วย พวกหัวหน้าเผ่าวิสิกอธเลยฉุนสุดๆเพราะหวังว่าอย่างน้อยต้องได้ที่ดินทำกิน คนของตัวเองก็ตายเพราะศึกของคนอื่น ถ้าไม่ได้ของตอบแทนก็ทำอาชีพเดิมนั่นแหล่ะ คือปล้นคนอ่อนแอที่มีตัง กูว่าหัวหน้าเผ่าคงคิดว่า 50/50 นั่นแหล่ะ ไม่ปล้นก็โดนลูกน้องแทงตายแหงๆ พาไปรบแล้วไม่ได้รางวัลอะไรซักอย่าง เลยวัดดวงกับโรมัน ซึ่งก็โป๊ะแตกว่ากองทัพที่คิดว่าเข้มแข็งที่จริงอ่อนแอมาก วิสิกอธเลยปล้นสนุกเลย
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าอย่าเบี้ยวสัญญากับคนถืออาวุธ
https://www.youtube.com/watch?v=mQ3L1VhVF2I
กูว่าเราควรดูเป็นตัวอย่างจะได้ไม่ต้องซ้ำรอยเดิมเขาก็พอว่ะ
กูว่าการดูประวัติศาสตร์เป็นตัวอย่างมันต้องดูหลายๆด้านแล้วเอาบริบทอื่นๆของเหตุการณ์และยุคสมัยที่เกิดขึ้นมาประกอบด้วย
ขนาดกูไม่เห็นด้วยกับการรับอพยพของยุโรปยังรู้สึกเลยว่า เม้นต้นเรื่องที่บอกว่าโรมันล่มเพราะ diversity แล้วยุโรปกับอเมริกาไม่รู้จักดูเป็นตัวอย่าง
นี่มันแค่เอาหนึ่งในสาเหตุมาตีความด้านเดียวเข้าข้างตัวเองโดยไม่ดูอะไรอย่างอื่นประกอบเลย
กูว่ามันต่างกันแบบถ้าเราเคารพ สิทธ์มนุษย์ชาติ พื้นฐาน
1. เราเคารพกัน บ้านเราอยู่ตรงนี้ มีกฏของเรา ความเชื่อของเรา แต่บ้านเขาอยู่อีกจุด เขามีกฏของเขา ความเชื่อของเขา
2. เราคิดว่าบ้านเขาเท่าเทียมเรา เลยยอมให้เขาเข้ามาอาศัยในบ้านเราได้
กูว่าแบบ 2. แม่ง cuck ว่ะคือคนละวัฒนธรรม แล้วทำตัวกระแด่ะไปเองเปิดรับคนนอกเข้ามาแบบไม่ได้กรองอะไรเลย มันไม่ปลอดภัยหรอก แถมคนใหม่แบบมุสลิมสุดโต่งมันไม่ได้มีความคิดแบบ เข้ามามาอยู่ที่ใหม่น้องปรับตัวให้เข้ากับเจ้าบ้าน มันเอาความเชื่อของมันมาเบียดคนอื่น แบบรวมตัวลงชื่อว่าจะตั้งมัสยิด แล้วไปขอให้บาร์ท้องถิ่นไม่ขายเหล้าเพราะกลัวเยาวชนตัวเองไปดื่ม ต่อไปจะลงชื่อไม่ให้ขายหมูใกล้มัสยิดป่าววะ
คือกูเทียบกับตอนก๋งกูที่เป็นคนไหหลำ อพยพมาน่ะ มาแบบเป็นพลเมืองชั้นรองในไทยเลยอยู่เจียมเนื้อเจียมตัวจะตาย เพราะไม่มีสิทธ์อะไรเท่าไหร่ แกบอกอยู่เมืองไทยก็ต้องทำตัวให้เหมือนคนไทย ส่งลูกไปเรียนโรงเรียนไทย
ตั้งมัสยิด จริงๆก็ไม่โอเคนะ
กูไม่รู้ว่ามันมีบัญญัติอะไรไหมที่ ต้องเปิดเสียงสวดดังตอนตีสี่ทุกวัน
ในสายตากู มัสยิดที่เปิดเสียงดัง=สปอร์ โคโลนีของZurg คือมึงตั้งมัสยิดได้ปุ้บก็เปิดเสียงดังๆแม่งทุกวัน ใครทนไม่ไหวก็ออกไป จะได้ให้มุสลิมกลุ่มกูซื้อที่ดินถูกๆ
ที่ตรังก็เคยมีชุมชนประท้วงไม่ให้ตั้งมัสยิดนะเพราะกระทบคนรอบข้างจริงแต่กูไม่รู้ว่าเรื่องจบแล้วตกลงกันยังไง
ถ้ารับคนอพยพมามากๆ จะมีผลกระทบพวก สัดส่วนกำลังทหารไหมวะ แบบมีสงครามใหญ่พอดี ลูกหลานเราไปรบกันเยอะเลยส่วนลูกหลานมุสซี่ไม่นิยมเข้าเกณฑ์ทหาร แล้วเกิดมันรวมตัวมาเรื้อนแนวหลังนี่วุ่นวายชิบหายเลยนะ
กูอดอคติไม่ได้ว่าคนมุสลิมมีความคิดเอาความเชื่อตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาล
และไม่ค่อยจะประนีประนอมกับคนต่างศาสนา (หรือศาสนาเดียวกันต่างนิกายก็ด้วย) น้อย
ไม่รู้ว่าถ้าปล่อยให้มันไปจนสุดทางแบบยุคกลางยุโรปแล้วคนจะคิดเองได้เลิกบ้ากันมั้ย
มันจะฆ่ากันตายจนเหลือลัทธิเดียว แบบเหี้ยกับเหี้ยสู้กัน เหี้ยหนึ่งตาย เหี้ยหนึ่งอยู่คู่ฟ้าดิน
ปกติเห็นเวลาสืบว่าคนกลุ่มไหนมีรากเดียวกันเค้ามักดูที่ภาษาใช่ป่ะ
ทีนี้กูสงสัยว่าที่ว่าคนฝรั่งเศสเป็นเผ่าเดียวกับคนเยอรมันแต่แยกตัวออกมานี่คือดูจากบันทึกประวัติศาสตร์หรอ
เพราะภาษาฝรั่งเศษอยู่ใกล้กลุ่มภาษาอิตาลีมากกว่าเยอรมัน แล้วการใช้ภาษาที่เปลี่ยนไปใกล้อิตาลีนี่เพราะอิทธิพลโรมันรึเปล่า
https://en.wikipedia.org/wiki/French_language
https://en.wikipedia.org/wiki/German_language
>>712 ดูกันหลายอย่าง ภาษาก็ส่วนนึง แต่ไม่ใช่ทั้งหมด
หลังการล่มสลายของโรมัน ดินแดนฝรั่งเศส เยอรมัน อิตาลี่ พื้นที่ 3 ประเทศนี้ถูกปกครองด้วยคน 3 เผ่า ไม่ใช่เผ่าเดียวกันซะทีเดียว ฝรั่งเศสคือพวกแฟรงค์ ภาษาฝรั่งเศสปัจจุบัยมีรากฐานจากภาษากอลและภาษาแฟรงค์ แต่ก็ตามที่มึงบอก ภาษาฝรั่งเศสรับภาษาละตินมาเยอะเหมือนกัน
ขอถามด้วย กูสงสัยว่ายศสำหรับกษัตริย์ยุโรปนี่มันแยกกันยังไงว่ากษัตริย์คนไหนจะได้ยศอะไร
เทียบกับแถวนี้แล้วกูงงๆ เพราะแถวนี้กษัตริย์ก็คือกษัตริย์เลย
แต่ยุโรปมันแบ่งกันเยอะมากไล่ลงมามี King, Archduke, Grand Prince, Grand Duke, Prince, Duke
ซึ่งแบบนี้มันก็ไม่มีใครอยากเป็นกษัตริย์ยศต่ำรึเปล่า?
อีกเรื่องคือตำแหน่ง Emperor เห็นว่าโดยนิยามคือนับว่าต้องปกครองมากกว่า 1 ชาติ ซึ่งขอบเขตคำว่าชาติยุคโบราณมันก็ไม่ค่อยชัด
แต่ตัวอย่างกษัตริย์ที่ปกครองมากกว่า 1 ชาติแบบชัดๆอย่าง Alexander ยังเรียกเป็น King เฉยๆเลย
หรือว่าในยุคปัจจุบันกษัตริย์ญี่ปุ่นปกครองญี่ปุ่นชาติเดียว แต่เรียก Emperor
ส่วน Queen Elizabeth โดยรัฐธรรมนูญถือเป็นประมุขของทั้งอังกฤษ แคนาดา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ฯลฯ เยอะมาก ทำไมยังเป็นแค่ Queen เฉยๆ?
เรื่องนี้อธิบายยาว จะลองใล่ให้ที่ละอัน
อันนี้มึงเข้าใจผิดนิดนึง King คือ King ที่เหลือไม่ใช่ Duke คือเชื้อพระวงศ์ที่มี Fief/ที่ดินศักดินา King คืออยู่สูงสุดตามลำดับชั้น Feudal แต่อำนาจไม่แน่ว่าต้องมากที่สุด ตำแหน่งที่เห็นพวกนี่้สืบทอดมานานจนเลือนลางและหลายอันก็ไม่ได้อยู่ใต้ King เดิมแล้ว แต่เนื่องจากตั้งตนเป็น King ไม่ได้เลยใช้ตำแหน่งเดิมไป ตามธรรมเนียม King ต้องให้ Pope แต่งตั้ง ดังนั้นที่เลื่อนขั้นไม่ได้ก็เพราะแบบนี้ละ
Emperor ตามธรรมเนียมยุโรปมักจะใช้ฐานันดรแรกเป็นหลัก อย่าง Queen Victoria of Great Britain - Empress of India คือเป็นราชินีอังกฤษก่อน และเป็นจักรพรรดินีของอินเดียอีกอัน ของ Alexander ก็ไม่ได้เป็นแค่ King of Macedonia แต่เป็น Pharaoh of Egypt, King of Persia, Lord of Asia ด้วย ส่วนที่ไม่เรียกว่า Emperor ก็เพราะไม่อยากเรียกเองมั้งไม่มีใครบอกได้
QE 2 ที่ไม่ได้เป็น Empress เพราะไม่ได้ปกครอง Kingdom อื่น เลยไม่นับเป็น Empress ส่วนญี่ปุ่นนี่เล่นแง่ เพราะสมัยที่ใช้คำนี้อ้างว่าดินแดนวะ (ญี่ปุ่น) มีผู้ปกครองหลากหลาย ทั้งเจ้าเกาะ ราชาภูเขา ฯลฯ แต่ราชวงศ์ยามาโตะปราบพิชิตพวกนี้ได้ จึงนับเป็น Emperor แต่ศัพท์ที่ใช้คือ 天皇 แปลตรงตัวว่า Heaven Emperor เพราะถือว่าสืบเชื้อสายมาจากเทพเจ้า
อีกกรณีนึงก็จีน ตามหลักจีนไม่มี King อื่นใต้ปกครอง เพราะอำนาจทั้งหมดอยู่ที่ฮ่องเต้ ถึงบางครั้งจะมีอ๋องที่ถือเป็น King ที่ฮ่องเต้มอบที่อำนาจให้ก็เถอะ แต่ฮ่องเต้จีนถือว่าตัวเองเป็นเจ้าโลก King ทั่วโลกอยู่ใต้บัญชาสวรรค์ของจีน ดังนั้นจึงเรียกตัวเองว่า Emperor และ King อื่นใดในโลกจึงด้อยกว่าหมดโดยอัตโนมัจิ แม้จะไม่ได้สวามิภักดิก็ตาม
ฮ่องเต้ คือ เอาคำ อ๋อง กับคำ เต้ มารวมกัน เคลมว่าตอนนี้กูใหญ่สุด อะไรแบบนี้ป่าววะ
ถามคำจำกัดความของคำว่า Empire หน่อยดิ่ กูเข้าใจว่าเป็นแคว้นที่มีกำลังทหารเข้มแข็งเลยไปยึดแคว้นข้างเคียงให้มารวมเป็นดิน ประเทศราชว่ะ เลยมีคำว่าจักร์วรรด์ กับจักรพรรด์ ตามมา
จีน นี่แทนที่จะบอกว่ายึดแคว้นเอามาเป็นประเทศราชน่าจะบอกว่าเป็นการผนวกรวมชนิดกลืนชาติกันเลยมากกว่านะ
>>716 เปล่า ฮ่องเต้/หวงตี้ 皇帝 ส่วนอ๋อง/หวาง 王 คนละตัวกัน
นิยามก็ประมาณนั้น ราชาเหนือราชาทั้งหลาย King of Kings เอามาจากพวกเปอร์เซีย อันนี้ไปค้นมาดู จริงๆ Alexander ก็เป็น Emperor นะ เพราะยึดครองตำแหน่ง King of Kings จากพวกเปอร์เซียมา แต่่เรียกว่า Basileus ton Basileon แทน ความหมายเดียวกันละ
จีนกูว่ามันก้ำกึ่ง เพราะแต่ละแคว้นก็เป็นกลุ่มคนที่รับอิทธิพลจากราชวงศ์โจวมา ทำให้มีวัฒนธรรมคล้ายกันอยู่แล้ว
อาจจะมีความต่างในเรื่องหน่วยวัด หน่วยเงิน อยู่บ้าง
พวกชื่อตำแหน่งในวัฒนธรรมที่ต่างกันบางทีมันก็เทียบกันตรงๆยาก การแปลว่าตำแหน่งไหนจะเป็น King หรือ Emperor
บางทีมันก็อาศัยปัจจัยอื่นอย่างเช่นขนาดดินแดนใต้ปกครองมาเปรียบเทียบด้วย
และหลายครั้งการตั้งตัวให้มีตำแหน่งใหม่อะไรพวกนี้มันเป็นการทำเพื่อผลทางการเมือง
ชื่อตำแหน่ง Emperor มาจาก Imperator ของโรมัน
ทำให้กษัตริย์ยุคโบราณแถบนั้นที่มาก่อนโรมันถึงโดยฐานะจะเป็น Emperor ก็จะไม่ค่อยเรียกด้วยคำว่า Emperor
อย่างเช่น Alexander จริงๆก็ถือเป็น Emperor เพียงแต่มักเรียกว่า Great King บางทีก็ย่อเป็น King เฉยๆ
เหมือนที่ข้างบนบอกคือรับต่อมาจากตำแหน่ง Great King ของ Persia ซึ่งถือว่าเทียบเท่า Emperor
บางครั้งใช้คำแปลภาษาอังกฤษว่า King of Kings หรือ High King แทน
ที่เรียกกันว่า Alexander the Great ก็มาจากชื่อตำแหน่ง Great King นี่แหละ
ส่วนจีนกับญี่ปุ่นอันนี้กูไม่ค่อยชัวร์ แต่เวลาแปลเป็นภาษาอังกฤษแปล ฮ่องเต้/หวงตี้ = Emperor, อ๋อง/หวาง = King
concept ชื่อตำแหน่ง Emperor ของญี่ปุ่นผูกกับการเป็นผู้รับบัญชาสวรรค์คล้ายกับจีน ซึ่งกูเข้าใจว่ารับอิทธิพลจีนมา บวกกับหวังผลการเมืองเพื่อแสดงว่าตัวเองยิ่งใหญ่ด้วย
พอความหมายของคำคล้ายกันพอฮ่องเต้แปลอังกฤษว่า Emperor คำว่า Tennō ก็เลยแปลว่า Emperor ตาม
ถึงจะปราบพวกชนเผ่านต่างๆแล้วขึ้นเป็นผู้ปกครองจริงๆถ้าเทียบกันแล้วสเกลดินแดนใต้ปกครองแล้วมันห่างกับจีนมาก กูมองว่า Emperor ญี่ปุ่นเรียก Emperor เพราะการเมืองมากกว่า
เคสอังกฤษ อันนี้กูเข้าใจว่าไม่อยากเรียกตัวเองว่า Empire เพราะด้วยสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนไป
ตัวผู้ปกครองก็เลยต้องมีตำแหน่งเป็น Queen ไม่ใช่ Empress
เทียบกับแถวนี้ถึงรบชนะแล้วปกครองอาณาจักรอื่น แต่ไม่ได้มีการคิดคำเรียกใหม่ขึ้นมาใหม่สำหรับตำแหน่งตัวเองกัน เวลาแปลก็เลยใช้คำว่า King เฉยๆ
อย่างเช่นบุเรงนองก็เรียก King แต่เวลาอ้างอิงกับอาณาจักรใต้ปกครองจะใช้คำว่า Emperor เพื่อให้รู้ว่าเป็นคนที่ปกครองเหนือกษัตริย์ของอาณาจักนั้นอีกที
เช่นเป็น King of Burma แต่เป็น Emperor of Siam
ฮ่องเต้มีอำนาจก็จริงแต่พวกกำหนดระบอบการปกครองประเพณีวิธีปฏิบัติ คือพวกปราชญ์เมธีตะหาก
ราโอ พอจะเป็น Emperor ได้ไหมวะ
เอาเป็นว่าแต่ละช่วงเวลา ,คนละวัฒนธรรมเขาเรียกต่างกันแล้วแต่จะแต่งตั้ง เคลมกันเองมากกว่า
แต่พอแปลเป็น อังกฤษ เขาก็ เรียกKing ,บ้าง Emperor บ้างตามที่เขาคิดว่าคล้ายของเขาที่สุด
แต่กูมองว่าพวกที่เรียกจักร์พรรดิ์ทั้งหลายที่ไทยเรัยกกัน มันจะเรียกให้ กับพวกที่มีกำลังทหารเข้มแข็ง ไปตีเมืองอื่นใช้กำลังปกครอง
อย่างอเลกซานเดอร์ อยู่มาเซโดเนีย ก็คงเรียก King นั่นแหล่ะ พอมายึดเปอร์เซีย อียิปต์ มันก็เคลมเป็น The great
>>723 คำว่าฮ่องเต้มีมาก่อนจริง แต่นับคนที่มีอำนาจการปกครองทั้งจีนจริงๆเริ่มที่จิ๋นซีซึ่งเคลมตัวเองเป็นฮ่องเต้
แล้วตำแหน่งนี้ถูกใช้ต่อมาเรื่อยๆ เลยทำให้คำว่าฮ่องเต้เหมาะกับการแปลว่า Emperor แล้ว
เพื่อให้มันสอดคล้องกัน เลยทำให้คนที่มีตำแหน่งเป็นฮ่องเต้ก่อนจิ๋นซี เวลาแปลชื่อตำแหน่งเป็นภาษาอังกฤษก็ต้องใช้คำว่า Emperor ตามไปด้วยเฉยๆ
>>725 คำว่าฮ่องเต้/หวงตี้ 皇帝 พึ่งมีเมื่อสมัยจิ๋นซีเองนะ ประดิษฐ์คำใหม่ขึ้นมาเลย
โอรสสวรรค์ /= ฮ่องเต้/หวงตี้ เมื่อก่อนโอรสสวรรค์ใช้กับโจวหวางเท่านั้น ต่อมาจิ๋นซีรวมแผ่นดินได้ จึงถือว่ารับอานัติสวรรค์=โอรสสวรรค์ต่อมาจากราชวงศ์โจว ต่อมาคนเลยรวมฮ่องเต้ว่าเป็นโอรสสวรรค์ แต่เมื่อก่อนมันไม่ได้หมายถึงฮ่องเต้ มันหมายถึงโจวหวัง
กูนึกภาพไม่ออกว่ะว่ามันรวมแผ่นดินได้ยังไง 2000 กว่าปีที่แล้วพาหนะที่เร็วที่สุดมีแค่เรือ ม้าเร็ว พิราบสื่อสาร เวลาเมืองชายแดนต่อต้่นกว่าเมืองหลวงจะรู้นี่กินเวลาเป็รสัปดาห์ หรือถ้ามองอีกอย่างต่อให้เมืองชายแดนไม่เอาด้วย ส่วนกลางก็ไม่น่าเดือดร้อนอะไร กว่าจะส่งส่วยก็นานสื่อสารก็ลำบาก
เวลาสื่อสาร มันมีม้าไว้คอยเปลี่ยนผลัดเมืองต่อเมืองมั้ง ยุคนั้นอาณาเขตน่าจะไม่ใหญ่เท่าปัจจุบันด้วย
ตอนกูไปเที่ยวแถวโขง กูยังคิดเลยว่า มีแม่น่ำใหญ่ขนาดนั้นมันต้องทุ่มขนาดไหนวะถึง จะยกทัพไปตีลาว,เขมร หรือตรงข้ามไปพวกเขมร กับลาวมันจะข้ามมาตีฝั่งไทยทำไม คือคนจะทุ่มงบมันต้องคิดแล้วว่า ต้องมีอะไรให้คุ้มจากทุนที่เสีย ไม่คุ้มไม่สู้ แต่มันก็เกิดมาแล้วว่าชอบเปิดวอร์กันตักตวงผลประโยชน์ ไม่ก็เป็นเรื่องการเมืองว่ะ แบบไทยหนุนชนกลุ่มน้อยทางพม่า พม่ารู้ว่าไทยยุ พอปราบชนกลุ่มน้อยได้เลยกะจัดหนักไทย แบบนี้ก็เคยเกิดมาแล้ว
>>729 ข้อดีของแผ่นดินจีนอย่างนึงคือที่ราบเยอะ (จะราบลุ่มหรือราบสูงก็เถอะ) ผลคือม้าเคลื่อนที่สะดวก การเดินทางด้วยม้าเร็วจึงง่าย แต่ละเมืองแต่ละอำเภอจะมีสถานีเปลี่ยนม้าด้วยนะ ม้าวิ่งถึงจุดพักก็เปลี่ยนตัวใหม่ ตัวเก่าก็เอาไปพักให้หญ้าให้น้ำดูแลอย่างดี อย่างที่ >>730 บอกละ การขยายอาณาจักรเลยง่ายและเร็ว ต่างจากแถวๆ อาเซียนที่ภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นป่าดงดิบ อย่าว่าแต่ม้าเร็ว แค่กองคาราวานรถม้าก็เดินทางลำบาก สมัยรัชกาลที่ 4 ที่ 5 ก่อนจะมีรถไฟ การเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปเชียงใหม่นี่ต้องล่องแม่น้ำทวนขึ้นไปใช้เวลาเป็นเดือนอะ แถวนี้เลยไม่มีอาณาจักรใหญ่ที่สุดแบบรวมศูนย์ มีแต่เมืองใหญ่บ้างเล็กบ้าง เมืองไหนใหญ่หน่อยแข็งหน่อยเมืองอื่นๆ ก็สวามิภักดิ์ส่งบรรณาการให้ แต่เมืองใหญ่นั้นก็ไม่ได้ส่งคนของตัวเองมาปกครอง แต่แถวนี้จะมี 3 พวกที่ผลัดกันแข็งผลัดกันอ่อน คือพม่า , ไทย แล้วก็เวียดนาม ถึงกระนั้นอาณาจักรของคน 3 พวกนี้ก็ไม่ได้สงบตลอด วันไหนเมืองหลักไม่เข็มแข็งเมืองอื่นๆ ก็พร้อมแยกตัว
ปล.จีนมีอาณาเขตใหญ่ขนาดนี้ต้องขอบคุณราชวงศ์ชิง (แมนจู) นะ เพราะขยายอำนาจลงใต้ไกลจรดพม่า ตะวันตกไกลถึงเอเชียกลางเพราะยึดซิงเกียงได้ (ที่มีปัญหากับมุสลิมอุยกูร์ตอนนี้นี่แหละ) เหนือก็แบ่งดินแดนมองโกลเก่ากับรัสเซีย (มองโกเลียเลยอาภัพไป เหลือดินแดนนิดเดียวแถมไม่ติดทะเลอีกต่างหาก)
>>731 แถวนี้มีสำนวนว่า "เก็บผักใส่บ่า เก็บข้าใส่เมือง" คือที่ดินมีเยอะแต่คนมีน้อย การไปตีเมืองอื่นๆ คือไปกวาดต้อนคนมาเป็นแรงงาน ไพร่บ้างทาสบ้างก็ว่ากันไป ที่ประเทศไทยมีคนหลายเชื้อชาติก็แบบนี้แหละ เราไม่มีไทยแท้ คือมาในฐานะเชลยก็จริง แต่อยู่ไปรุ่นสองรุ่นก็กลมกลืนเป็นพลเมืองสยามไปหมดละ
ก่อนสมัยจอมพล ป. เป็นนายก ยังมีกฎหมายส่งเสริมให้ประชาชน "หักร้างถางพง" อยู่เลยนะ คือใครบุกเบิกป่าเปลี่ยนสภาพเป็นไร่นาสวนได้ รัฐก็ให้กรรมสิทธิ์ที่ดินตรงนั้นไปเลย ตอนนั้นประชากรไทยมีแค่ 10 ล้านคนมั้งถ้าจำไม่ผิด จอมพล ป. ถึงขนาดรณรงค์ให้คนมีลูกกันเยอะๆ กระทั่งเรามาเปลี่ยนนโยบายเป็นคุมกำเนิดช่วงทศวรรษ 2510s นี่แหละ สมัยจอมพลถนอมเริ่มมีคำว่า "วางแผนครอบครัว" เกิดขึ้น แล้วคนไทยก็คุมกำเนิดกันจนวันนี้เราบ่นๆ กันละว่าจะมีแต่คนแก่เต็มประเทศเพราะเด็กเกิดน้อยลงทุกปีๆ
>>732 ที่ราบเยอะ..... มึงต้องไม่เคยดูแผนที่จีนแน่ๆ
>>729 การรวบอำนาจของจีนครั้งแรกที่จิ๋นซีทำได้เพราะประหารชนชั้นสูงต่างแคว้นไปเยอะ อำนาจเลยรวมศูนย์ช่วงนึง ต่อมาพอราชวงศ์ฮั่นจำเป็นต้องแบ่งปันอำนาจให้ขุนนางและตระกูลใหญ่เรื่อยมา พอถึงจุดหนึ่งฮ่องเต้ก็เป็นได้แค่สัญลักษณ์อย่างตอนท้ายราชวงศ์ฮั่นที่มี 3 ก๊กนั่นละ แล้วก็เป็นแบบนี้มาเรื่อยๆ จนพระนางบูเช็กเทียนชำระสะสางระบบทั้งหมด ให้อพนาจทั้งหมดในแผ่นดินมาจากฮ่องเต้ ทำให้หลังจากนั้นละที่จีนกลายเป็นอำนาจรวมศูนย์เรื่อยมา
มีคำกล่าวว่าสมัยถังขุนนางเข้าร่วมกับฮ่องเต้ปกครองแผ่นดิน หลังจากพระนางบูเช็กเทียน ขุนนางรับมอบอำนาจจากฮ่องเต้บริหารแผ่นดิน
>>734 OK กูเข้าใจผิด คือไม่รู้จะใช้คำว่าอะไรอะ คือแผ่นดินจีนมันโล่งๆ อะ ไม่ค่อยมีป่าดงดิบออก ออกเป็นท้องทุ่งมากกว่า ทัพม้าเลยเดินทางสะดวก จนมีการประชดว่าที่สุโขทัยรอดทัพมองโกล ได้ตั้งอาณาจักรเพราะดินแดนสุวรรณภูมิเป็นป่าดงดิบทัพม้าของถนัดมองโกลที่บุกไปไกลถึงยุโรปใช้การแถวนี้ไม่ได้
เจอไข้ป่า พอตายกันเยอะหน่อยเลยล้มเลิกการยึดน่ะ แถมมีที่ปรึกษาบอกคนแถวนี้มันเถื่อนยึดมาก็ไม่ได้อะไร ใช้นโยบายผูกมิตรจะได้ประโยชน์มากกว่า
อยากชนะมองโกล = ต้องรบในน้ำ
มองโกลเจอน้ำแล้วไปไม่เป็น ทั้งคามิคาเซ่ยุ่น ทั้งแม่น้ำบักดั่งของเวียดนาม แพ้เละ
ถึงไปตีตะวันตก ที่ม้าวิ่งง่าย ปราศจากเชื้อโรคสินะ
ตำนานเวียดนามมีฮีโร่ นักประดิษฏ์ สอนทำกับดักจนสู้มองโกลได้ว่ะ
มีตำนานจนถึงยุค สงครามเวียดนามเลยนะเว้ย เขาทำหนังสือแจกทหารพรานให้ทำกับดักจากวัสดุหาง่ายตั้งหลายแบบ ทหารจีไอยึดเอกสารไปโชว์พิพิธภัณฑ์ด้วย
ในสมัยโบราณระบบการศึกษาของจีนนี่ดีที่สุดเลยใช่ป่ะ สอนให้เด็กเรียนตัวอักษรจีน เทคโนโลยีกระดาษก็ดีกว่าที่อื่นของโลก แถมมีการสอบแข่งขันเข้ารับราชการ แต่ทำไมยุคต่อมาจีนดูจะไม่ค่อยมีพัฒนาการอะไรที่สู้ฝั่งยุโรปได้เลย ทั้งที่ฝั่งนั้นถอยหลังไปช่วงยุคมืดที่ศาสนาครอบงำสังคม นักวิทยาศาสตร์ห้ามเสนออะไรนอกรีต
>>742 สุดโต่งไปอีกทางไง
1.ปั่นกระแสว่าคนเก่งคือคนแต่งกาพย์กลอนได้เพราะๆ การสอบเข้ารับราชการไม่ใช่ว่ามึงจะเขียนด้วยภาษาธรรมดาๆ นะ ต้องเขียนเป็นกลอนให้สัมผัสลงกันได้อะ คือมึงจะเก่งดาราศาสตร์ คณิตศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ ฯลฯ ก็ทำไป แต่ถ้ามึงไม่แม่นโคลงกลอนด้วยมึงหมดสิทธิ์รับราชการ
2.ดูหมิ่นการพัฒนาพื้นฐานที่สุดแบบการเกษตรหรือการทหาร คนสอบได้บัณฑิต (เป็นตั๋วใบแรกก่อนไปสอบเข้าราชการ) มักจะถือตัวไม่ยอมทำนาทำไร่ บอกเป็นอาชีพใช้แรงไม่สง่างาม ทหารก็เหมือนกัน ถึงจะมีตำแหน่งจอหงวนบู๊ มีแม่ทัพนายกอง แต่สังคมจีนโบราณให้ค่าคนกลุ่มนี้ต่ำกว่าบัณฑิตฝ่ายบุ๋นเสมอ ทั้งที่ 2 เรื่องนี้สำคัญที่สุดในการพัฒนาประเทศในยุคโบราณ เกษตรกรกับทหารในสังคมจีนโบราณเลยมีคำตัดพ้อเสมอว่าเป็นคนการศึกษาน้อยเมื่อสนทนากับบัณฑิต
3.คนจีนชอบเก็บความรู้เป็นความลับ เอาง่ายๆ ก็ที่เห็นในนิยายกำลังภายในทั้งหลาย วิชาลับคัมภีร์หลอก มีธรรมเนียมปิดกั้นเยอะแยะเพื่อไม่ให้คนนอกล่วงรู้ ต่างกับตะวันตกที่สอนกับแบบ Mass พอสอนกันไปมามันก็เกิดการพัฒนาต่อยอดไปเรื่อยๆ ทั้งที่จีนมีกระดาษและการพิมพ์มาก่อนฝรั่งตั้งนาน ฝรั่งนี่เพิ่งเจริญแบบก้าวกระโดดเอาในยุคที่กูเต็นเบิร์กทำเครื่องพิมพ์ออกมานี่เอง
>>742 ศึกษาโดยรวม ใช่ แต่ถ้าด้านการอ่านออกเขียนได้โลกอิสลามดีกว่า เพราะระบบตัวอักษรจำง่ายกว่า และมีการส่งเสริมให้คนทุกระดับชั้นรู้หนังสือ เพื่อเอาไว้อ่านอัลกุร์อ่านด้วยตนเองได้ ภาษาอิสลามจึงเป็นภาษาสากลภาษาแรกๆ ของโลก เพราะใช้กันระดับ International จริงๆ
ส่วนที่ว่าทำใมถึงล้าหลัง เชื่อกันว่ามี 2 สาเหตุหลัก
1) ปฏิวัตุอุตสาหกรรมไม่ได้เนื่องจากความขัดแย้งด้านการปกครองภายใน ทั้งจากสมัยหมิงและชิง
2) ยุโรปพัฒนาความรู้ทางวิทยาศาสตร์แบบ Empriricalism ได้ก่อน และใช้เป็นแนวทางหลักของการพัฒนาวิทยาศาสตร์ในปัจจุบัน หนังสือเศรษฐศาสตร์หลายเล่มอ้างถึงจุดนี้อยู่
ว่ากันตามตรง จีนไม่ได้ด้อยพัฒนาหรือล้าหลังขนาดนั้น แม้แต่ช่วงปลายศ.ที่ 19 จีนก็ยังล้ำหน้าในบางด้าน แต่ยังไงก็สู่ตะวันตกไม่ได้อยู่ดี
แต่เรื่องสงครามก็มีส่วน สมัยชิงจีนยิ่งใหญ่กว่าประเทศโดยรอบมาก แม้แต่รัสเซียยังสู้ไม่ได้ ทำให้ไม่เกิดการแข่งขันเป็นเวลานาน อีกทั้งจีนชอบเอาเงินไปทุ่มให้อะไรที่ไม่พัฒนา อย่างการสร้างวังหยวนหมิงหยวนที่งามล้ำ แต่เชื่อกันว่าใช้งบพอๆ กับ GDP จีนทั้งปี แทนที่จะเอาไปสร้าง Infrastructure ดีๆ
>>744 แต่พูดกันตามตรง วิทยาการเกษตรของจีนก็ไม่ได้ล้าหลังยุโรปนะ จนถคงยุโรปสร้างปุ๋ยยูเรียได้ก่อน WW I นั่นละถึงจะมีวิทยาการเกษตรและผลผลิตต่อไร่เหนือจีน ก่อนหน้านั้นตั้งแต่จิ๋นซีจีนนำมาตลอด
ส่วนวิทยาการทางทหารจนถึงสมัยเฉียนหลงก็ไม่แพ้ยุโรป สู้กับรัสเซียยังชนะ แต่เนื่องจากปืนไฟถูกควบคุมอย่างเข้มงวดเฉพาะราชสำนัก และไม่เปิดรับวิทยาการจากยุโรป ทำให้เมื่อปืนไฟพัฒนาจากการแข่งในยุโรป จีนเลยล้าหลังไปเลย
กูมองว่าตอนคนเห็นปืนครั้งแรก คงอยากแบนว่ะ คือมันง่ายเกินไปที่จะฆ่าคน สอนให้คนไม่เป็นเลยมาประทับปืน ฝึกเล็ง ลั่นไกได้ก็จบละยิงถูกเป้า โอกาสตายสูง แต่โลกมันไปทางนั้นไงขัดแย้งกันคนอยากชนะมันก็ไม่สนกฏ แบนปืนในประเทศได้แต่ภายนอกเขามีกันหมด สุดท้ายก็เลิอกวิธีสร้างอาวุธให้รุนแรงเท่าๆกับเขาเพื่อป้องกันอยู่ดี
เทกซัสแม่งเจ๋ง สะพายปืนยาวโชว์เลย
https://fanboi.ch/lounge/2338/recent/#bottom
ว่ากันด้วยเทคนิคและยุทธศาสตร์
กองทัพ US ตอนนี้มีใครสามารถชนะได้บ้าง
ให้เงื่อนไขว่าโดนเปิดก่อนด้วยอ่ะ
แท็กผิด
>>>/lounge/2338/450
ถ้าเอาให้น่ากลัวสุดสมัยก่อนคือ เรือดำน้ำบรรทุกหัวรบนิวเคลียร์ที่อยู่ตรงขั้วโลกเหนือ ตรวจจับก็ยาก ถ้ามันรอดมาได้ก็ยิงหัวรบยี่สิบ-สามสิบหัว ในเวลานิดเดียวเอง
ทุกวันนี้เทือกเขาคุนลุ้นจีนสำรวจทั่วยังวะสงสัย
เมกา รัสเซีย จีน ประเทศมันใหญ่ทั้งนั้น ไม่มีใครกล้าเปิดก่อนง่ายๆ หรอก เพราะจะยิงให้เละทุกเมืองพร้อมกันน่ะยาก แต่ถ้าพังแค่บางเมือง คนยิงก่อนก็เจอถล่มกลับ สุดท้ายเละกันหมด สู้เอาผู้เชี่ยวชาญทางเศรษฐกิจ สังคมวัฒนธรรม ไปปั่นกระแสชาติเล็กๆ ทั้งหลายให้เข้าข้างตัวเอง รบแทนตัวเองดีกว่า สงครามสมัยใหม่ก็แบบนี้ทั้งนั้น
ยุให้ตกใจจะได้ซื้ออาวุธ กูไป
*ตายหยั่งเขียด
กูมีเรื่องนึงคาใจมาตั้งแต่เด็กละ เวลาเรียนวิชาสายสังคมชอบสอนกันว่าศาสนากรีกโบราณเป็นวิทยาศาสตร์ยุคแรกเริ่ม
เหตุผลเพราะเป็นการพยายามอธิบายปรากฏการณ์ธรรมชาติ แต่ด้วยข้อจำกัดของความรู้คนโบราณเลยตีความว่าเป็นฝีมือเทพเจ้า
คือให้ตายยังไงกูก็ไม่รู้สึกว่าการโบ้ยสิ่งที่ตัวเองไม่เข้าใจเป็นเพราะเทพเจ้าโดยไม่มีหลักฐานประกอบจะเรียกว่าเป็นวิทยาศาสตร์ได้เลย
หรือต่อให้ยอมรับว่าการคิดแบบนี้เป็นวิทยาศาสตร์ได้ ทำไมศาสนายุคโบราณอื่นๆถึงไม่ได้รับการยอมรับแบบเดียวกัน
เทียบกับที่คล้ายกันก็อย่างเช่นศาสนาของพวกไวกิ้งมีธอร์เป็นเทพเจ้าสายฟ้า เหมือนที่ศาสนากรีกโบราณมีซุส
การอธิบายปรากฏการณ์ฟ้าร้องฟ้าผ่าของสองศาสนานี้มาในรูปแบบคล้ายกันมาก
ทำไมไม่มีใครบอกว่าศาสนาไวกิ้งเป็นวิทยาศาสตร์ยุคแรกเริ่มเพราะพยายามอธิบายเรื่องฟ้าร้องฟ้าผ่าเลย
>>766 กูจำได้แค่ว่าโรงเรียนกูตอนเด็กสอนมาแบบนี้น่ะ
แต่ลอง search ดูแล้ว หาข้อความแบบนั้นไม่เจอ มันโดนกลบด้วยเรื่องเรื่องปรัชญาและวิทยาศาสตร์กรีกหมด
พอโตขึ้นมาเคยได้ยินอาจารย์สอนด้านวรรณคดีในอเมริกาพูดแบบนี้อยู่ทีนึง แกพูดเลยว่าศาสนากรีกโบราณไม่ใช่ศาสนา
กูก็แบบมีเทพเจ้า มีพิธีกรรม องค์ประกอบครบขนาดนี้จะไม่มเป็นศาสนาได้ยังไงวะ
>>767 ถ้ากรีกโบราณไม่ใช่ศาสนา ฮินดูก็ไม่ควรเป็นศาสนา เพราะองค์ประกอบเดียวกันเลย
>>768 ที่บางคนมองว่าพุทธไม่ใช่ศาสนา เพราะไม่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไง แม้แต่พิธีกรรมจริงๆ ก็ไม่มี อย่างเข้าพรรษาแรกเริ่มพระพุทธเจ้าก็แค่บอกพระสงฆ์ว่าช่วง 3 เดือนนั้นอยู่กับที่นะไม่ต้องไปไหนไกลๆ จะได้ไม่ต้องเผลอไปเหยียบพืชผลในไร่นาชาวบ้าน มีแค่นั้นแหละ แม้แต่วัดยุคนั้นก็ปลูกสร้างกันง่ายๆ ผ้าทำจีวรยังไปเอาผ้าห่อศพมาทำเลย พิธีกรรมใหญ่โต ศาสนสถานทั้งหลายที่เรารู้จักกันนี่มาเกิดเอายุคหลังพระพุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้วทั้งนั้น
พวกที่บอกว่าพุทธไม่ใช่ศาสนาก็แค่พยายามยกให้ความเชื่อของตัวเองสูงกว่าคนอื่นว่ะ
คนคริสต์กับคนมุสลิมที่อ้างว่าความเชื่อของตัวเองไม่ใช่ศาสนาแต่เป็นสัจธรรมก็มีนะ
ถ้ากูตั้งศาสนาคนลดน้ำหนัก
มีหลักการคือ งดบริโภคไขมัน ,น้ำมันพืช น้ำตาล ฟาสต์ฟู้ดเบเกอรี่ ออกกำลัง นอนเร็ว ตื่นเช้า
แล้วมีการเลือกตัวแทนศาสดา วาระละสี่ปีได้ไหมวะ แบบเป็นไอดอลว่าลดน้ำหนักแบบมีสุขภาพดีได้
ข้อห้าม พวกไปผ่าตัดดูดไขมัน กินยากดประสาทลดความอ้วน ก็มีด้วย
พิธีเล่นเวท สถานที่ฟิตเนส
กล้ามขึ้นหนึ่งมัด บรรลุไปหนึ่งขั้น
กูว่าคงเพราะไวกิ้งมันเป็นคนเถื่อนมั้ง ไม่ได้มีอารยธรรมเมือง อย่างมองโกลเองก็มีเทพเจ้าของเขา แต่ใครรู้จักบ้างล่ะ? เพราะเป็นเผ่าเร่ร่อนกลางทุ่ง ไวกิ้งเองก็นิยมล่องเรือเป็นโจรสลัด ทั้งคู่มีภาพเป็นคนเถื่อนเหมือนกัน เป็นนักรบโหดๆ เหมือนกัน
อย่างตะวันออกกลางนี่เปอร์เซีย (อิหร่าน) ก็เป็นอารยธรรมที่มีชื่อเสียงพอๆ กับกรีก โรมัน อินเดีย จีน เพราะเป็นสังคมเมือง มีความเป็นอารยะ ดังนั้นคนอิหร่านจะเคืองถ้าไปเรียกเขาเป็นอาหรับ เพราะยุคเปอร์เซียเรืองอำนาจ อาหรับยังแตกเป็นไม่รู้กี่เผ่า ขี่อูฐเร่ร่อนกลางทะเลทรายอยู่เลย แต่เผ่าพวกนี้ก็มีเทพของเขา จนนบีมูฮัมหมัดรวมทุกเผ่าเข้าด้วยกันด้วยคำว่าอิสลามนี่แหละอาหรับถึงเริ่มมีอารยธรรมเป็นเรื่องเป็นราว
หรือแถวบ้านเรา สิ่งที่เรียกว่า "ผี" ก็คือเทพเจ้านั่นแหละ แต่แถวนี้มันกึ่งชนเผ่า ไม่ได้มีอารยธรรมเลิศหรูอะไร เลยไม่ถูกยกขึ้นเทียบอาณาจักรใหญ่ๆ ที่ว่า
กูอยากพูดเรื่องที่คิดมานานแล้วว่ะว่า ตำนานสร้างเมืองทั้งหลายแหล่ มันจะชอบแบบเจ้าเมืองใช้ลูกเจ้าเล่ห์ หรือใช้ลูกเล่นเอาชนะศตรู แล้วเป็นเรื่องเล่าต่อๆกันมา มากกว่าตำนานที่แบบยกพลไปตีเมืองนี้ ที่ชนะเพราะคนเยอะกว่าแม่ทัพแรงเยอะกว่า
อย่างของฝรั่งก็มีกรุงทรอย ที่แตกเพราะกลม้าไม้, เอเธนตั้งชื่อเพราะ โปเซดอนกับอาเธน่าพนันกันเสกของ โปเซดอนเสกม้า อาเธน่าเสก ต้นมะกอก
ของไทยจะมีตำนานล้านนาที่ไปสร้างเมืองแล้ว คนท้องถิ่นจะขอแต่งกับเจ้าเมืองหญิง แล้วเจ้าเมืองหญิงใช้เล่ห์ ให้หมวกที่ตัดจากผ้านุ่ง ให้กินหมากจิ้มประจำเดือน หลอกล่อให้มนต์เสื่อม เพราะฝั่งนู้นมีท่าไม้ตายพุ่งหลาวไกลทำลายเมืองได้เลยต้องหลอกจนอำนาจอิทธฤทธ์เสื่อม
กูว่าคนมันก็เลี่ยงๆว่ะ ที่จะสอนว่าถ้าสู้ไม่ได้จริงๆก็ต้องใช้เล่ห์กลเอาตัวให้รอด เอาให้ชนะไว้ก่อน ใครแม่งจะไปทื่อๆตรงๆ ไปท้า1-1ตีชิงเมืองกันทุกครั้งวะ อย่างอินเดียมีรามเกียรต์ กับมหาภารตะที่ มันก็เห็นอยู่ว่าหลอกล่อกันบ่อยๆ
อีกเรื่องคือตำนาน ฟีนีเชี่ยน มันเดินเรือไปตั้งเมืองใหม่แล้วตกลงกับเจ้าถิ่นว่าจะซื้อที่เท่าแผ่นหนังผืนหนึ่ง พอเขาตกลงก็เอาแผ่นหนังมาตัดเป็นเส้นเล็กบางเฉียบ ให้มันยาวเป็นวงใหญ่ๆแล้วเอาเส้นหนังไปครอบพื้นที่ชายฝั่งได้มาเยอะ
ศรีธนนชัยเคยเอาเงินอีแป่ะเดียวซื้อเมล็ดพันธ์ บอกคนขายว่าอีแป่ะเดียวแลกเมล็ดหนึ่งนิ้ว ก็อมนิ้วตัวเองแล้วเอานิ้วจุ่มกระสอบเมล็ด ติดน้ำลายขึ้นมาเยอะ
เคยได้ยินฝรั่งที่ศึกษาด้านวรรณคดีพูดแบบนี้เหมือนกัน ความเห็นกูเลยคือคนที่พูดเรียนมาทางสายศิลป์ ไม่ใช่สายวิทย์
บางทีเค้าอาจจะแค่อินมาก แล้วไม่ได้มีความเข้าใจหลักการพื้นฐานวิทยาศาสตร์เลยคิดไปเองแบบนั้นมากกว่า
จริงๆพวก Folk religion มันก็มีอะไรแบบนี้เหมือนกันหมดนั่นแหละ แต่วรรณคดีกรีกมันดัง เลยถูกหยิบมาพูดถึงก่อน
ส่วนที่ดังก็เพราะกรีกเคยขยายอิทธิพลไปไกลเพราะอเล็กซานเดอร์ แล้วโรมันซึ่งเป็นรากฐานของยุโรปปัจจุบันก็รับอายธรรมกรีก
ศาสนาของพวกไวกิ้งโบราณถึงจะคล้ายกรีกแต่ในแง่วรรณคดีก็ไม่ได้ดังเท่า และในยุคโบราณก็ไม่ได้มีการเผยแพร่ไปให้ชนชาติอื่นเหมือนกรีก
>>779-780 เคยไปเที่ยวทัวร์ประวัติศาสตร์แถวทางเหนือแล้วไกด์ที่เป็นนักประวัติศาสตร์พูดเรื่องนี้ให้ฟัง
ตำนานพระนางจามเทวีเหมือนเป็นการแสดงอำนาจเหนือคนพื้นเมืองที่แพ้สงครามน่ะ
เรื่องแฝงนัยยะว่าอีกฝ่ายรบเก่งแค่ไหนก็แพ้ เพราะเป็นแค่คนเถื่อนไม่มีสมอง ฝ่ายตัวเองเป็นคนมีอารยะ มีสมอง คู่ควรกับการเป็นผู้ปกครอง
รามเกียรติ์เองก็คล้ายกัน เคยอ่านเจอว่ายักษ์กับลิงเป็นตัวแทนของชนพื้นเมืองอินเดียสองกลุ่มที่อยู่ด้วยกันมา ก็มีขัดแย้งกันบ้าง
มนุษย์ = ชาวอารยันที่เข้ามารุกราน, ลิง = คนพื้นเมืองกลุ่มที่ยอมสวามิภักดิ์, ยักษ์ = คนพื้นเมืองกลุ่มที่ไม่ยอมสวามิภักดิ์
พอจบสงครามชาวอารยันชนะได้เป็นชนชั้นปกครอง
พวกที่ยอมสวามิภักดิ์ก็เป็นได้แค่ข้ารับใช้ แต่สถานะพอโอเคหน่อย ส่วนยักษ์ที่แพ้สงครามก็คือสถานะต่ำไปเลย
กูขอแก้โม่งบนแปป
*โพไซดอนเสกน้ำพุให้ชาวเมืองไม่ใช่ม้า แม่งเปนเทพเจ้าแห่งน้ำ ไม่ใช่อาบอบนวด ถึงเสกม้า555(heeeeeeeeee)
**เรื่องที่เอาอมนิ้วแล้วจุ่มเมล็ดพันธุ์นั่นมันมะกะโท คนนี้ยังมีคุณธรรมบ้าง เหี้ยจริงคือศรีธนญชัย มันขอที่เท่า’แมวดิ้นตาย’ ล่ะเอาแมวแข็งแรงๆตัวนึง ลากไปทั่วเมือง ที่เท่าแมวดิ้นตายแม่งเลยใหญ่ชิบหาย(เรื่องนี้กูว่าเหี้ยมาก คือกูทาสแมว แค่แมวกูโดนแมวตัวอื่นกัดนี่กูก็เจ็บแทนล่ะT T)
>>784 โพไซดอนเป็นเทพแห่งม้าด้วย ฮีสร้างม้าขึ้นมาจากฟองคลื่น ถ้ามึงอ่านนิยายเพอร์ซี่แจ็คสันจะเห็นว่าพระเอกที่เป็นลูกโพไซดอนมันคุยกับม้าได้ แต่ฮีสร้างม้าตอนไหนแล้วแต่ละตำนาน
บางเรื่องบอกว่าฮีสร้างม้าตอนจีบดีมีเตอร์
แต่ส่วนใหญ่บอกว่าสร้างตอนแข่งกับอาธีน่านี่แหละ ตอนแรกโพไซดอนสร้างน้ำพุน้ำเค็มอาธีน่าเลยชนะได้เมืองไปและจะไล่โพไซดอนไม่ให้มีวิหารในเมือนเอเธนส์ โพไซดอนเลยสร้างม้าเป็นสินบนให้ชาวบ้าน
ไหนๆแล้วขอต่ออีกหน่อย ตำนานกรีกบางสำนวนบอกว่าม้าบินเพกาซัซเป็นลูกของโพไซดอนกับนางอัปสรเมดูซ่าที่ยังไม่ทันคลอด แต่เมดูซ่าไปทะเลาะกับอาธีน่าจนโดนสาปให้เป็นปีศาจกอร์กอนไปก่อนเลยไม่ได้คลอด กว่าจะได้ออกมาเป็นตัวก็ตอนผู้กล้าเพอร์ซีอุสไปฆ่าเมดูซ่า
และลูกของโพไซดอนกับนางอัปสรอีกหลายๆตัวก็มีลักษณะกึ่งม้าเหมือนกัน
สรุปว่าที่นอกเรื่องมานานคือกูจะสื่อว่าโพไซดอนเป็นเทพแห่งม้าด้วย แล้วก็เป็นเทพแห่งทะเล คุมทุกอย่างในทะเลไม่ใช่แค่น้ำ
>>787 กุเคยอ่านตอนเมดูซ่าถูกสาบ คือเมดูซ่าไม่ได้มีเรื่องกับอาธีน่านิแต่นางถูกโพไซดอนข่มขืนในวิหารของอาธีน่า อาธีน่าเลยหาว่านางหมิ่นเกียรติเลยสาบนางแม่งเบย กูว่าแม่งโครตไม่แฟร์
แล้วตะก่อนกูเล่นควิซตอบคำถามได้เป็นอาธีน่าอทพแห่งความปัญญาแต่พอมาเห็นแต่ละอย่างที่นางทำแบบตรรกะป่วยๆ กูรู้สึกว่า อีบิชนี่กูควรดีใจที่เหมือนมึงมั้ย 55555
อย่างนึงที่สงสัยแล้วพี่น้องของเมดผุซ่านี่มาจากไหน นางโดนสาปคนเดียวทำไมอยู่ๆมีพี่น้องอีกสองมาด้วยอ่ะ
แต่แบบเทพทำตัวกวนตีนขนาดทำไมคนยังนับถือพวกแม่งอีกวะ ซุส โพไซดอนฮาเดส แม่งสามพี่น้องอาชญากรชัดๆ ข่มขืนทุกคน ไม่เห็นมีใครบอกว่าเทพปัญญาอ่อนไปนับถือทำไม
กูอยากรู้ไมน์เซ็ทคนสมัยนั้นอ่ะ
ก็เหมือนกวนอูที่แม่งไม่ได้มีดีไรเลยนอกจากสู้เก่งแล้วถูกยกมาให้เป็นเทพเจ้าเพราะเรื่องการเมือง
>>795 อ่ะกูหามาให้
https://www.gotoknow.org/posts/27113
คนจีนแม่งไหว้พร่ำเพรื่อเทพเจ้าเห้งเจียเป็นต้น แม่กูไหว้เจ้าเห้งเจียกูบอกว่ามันเป็นแค่ตัวละครให้วรรณกรรมจะไปกราบไหว้ทำไมกูก็โดนแม่กูด่าประจำ 555
เรื่องเอาฮาในประวัติศาสตร์มันก็เยอะนะ
อย่าง ตอนฝรั่งเศสมันก่อกำแพงมาโนต์ แบบยืนยันเลยว่า นาซีบุกเข้ามาแนวนี้กันได้100% ที่ไหนได้ แม่งเข้าทางเบลเยี่ยม GG EZ เลยทีเดียว
นาซีตอนนั้นมันคงเอาเป็นโจ้กเล่ากันสนุกสนาน
ใช้วิศัยทัศน์ คนปัจจุบัน มาตัดสินเรื่องในอดีตไม่ได้ไม่จำเป็นต้องไปบอกว่า ถูก,ผิด เราแค่เรียนรู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้างก็พอแล้ว
ไอ้เรื่อง โปเซดอนข่มขืน เมดูซ่าในวิหาร อาเธน่า
ก็ชัวร์แหล่ะที่มัน ทำอะไรโปโซดอนไม่ได้ เลยต้องตีวัวกระทบคราด สาบคนใกล้เคียง เป็นเรื่องปกติที่ทุกวันนี้ก็เป็นแบบนี้
>>812 ถ้าพวกเทพกรีก กูว่าเพราะคนมันคิดว่าเทพมีอภิสิทธ์เหนือกว่าคนธรรมดาเยอะ คนธรรมดาแตะต้องไม่ได้ เพราะเทพมันก็มี รักโลภโกรธหลง ไม่ได้เมตตามนุษย์อะไรนักหนา ถ้าทำผิดใจนิดหน่อยเทพสาปเลย
อินเดียคนที่ซวยเพราะ ฤาษีสาปก็คล้ายๆกัน คือ อยู่ดีดีมึงโดนสาปเลย แล้วเป็นแบบนั้นเลย แก้คำสาปก็ยาก ขอฏีกาให้แก้คำสาปก็ไม่ได้
อาธีน่า เกิดจากหัวซุส ถ้าแถแบบวิทยาศาสตร์ก็
ซุสอาจมี 2 เพศ แล้วคงอุตริ ช่วยตัวเองจนท้อง เลยได้อาธีน่าออกมา
เกิดมามียีนด้อยอัดเต็มเหนี่ยวเพราะเยดกันเอง เลยเกิดมาเหมือนเด็กเอ๋อ
แต่ดันมีศักดิ์สายเลือดทางตรง คนเลยให้ความเคารพ พยายามแถว่าที่ทำตัวแปลกนั้นต้องฉลาดมากแน่ๆ
>>814 อันนี้กูเคยอ่านเจอ คือตอนแรกซุสเคยมีเมียเป็นนางไททันแห่งการครุ่นคิด(ก็ญาติพ่อมันนั่นแหละ) แต่อีนางนี่มีพลังทำนายอนาคตแล้วเสือกปากสว่าง พอท้องอาธีน่าอีนี่ก็เห็นนิมิตแล้วไปบอกซุสว่าทารกคนนี้จะเป็นเทพีที่แข็งแกร่งมาก แต่ลูกคนถัดไปจะเป็นลูกชายที่แข็งแกร่งกว่าอาธีน่าขึ้นไปอีกขั้นแล้วมันจะร่วมมือกันฆ่าซุสชิงบัลลังค์(เหมือนที่ซุสกับพี่ๆรุมฆ่าพ่อ) ซุสได้ยินงั้นเลยแดกเมียที่ท้องอยู่เข้าไปทั้งตัว เมียที่เป็นไททันกากๆตาย แต่อาธีน่าที่เป็นตัวอ่อนในท้องมันเป็นอมตะเลยรอดแบบเป็นพลังงานความคิดในหัวซุส พอมันมีพลังมากพอก็กระซิบหลายๆอย่างใส่หัวซุสจนซุสปวดหัวหนักมากเรียกเฮเฟสตัสมาผ่าเปิดกะโหลก(เป็นวิธีรักษาแบบโบราณ) ผ่าแล้วก็ได้อีอาธีน่าออกมา
เพราะแม่มันเป็นไททันแห่งการครุ่นคิด และตัวมันโตมาในความคิดของซุสอาธีน่าเลยได้เป็นเทพีแห่งปัญญา
แต่โดยส่วนตัวกูว่าชีวิตบัดซบขนาดนี้อาธีน่าจะเพี้ยนๆก็ไม่แปลกว่ะ
ด้านดีก้อคือแจกบัฟให้คนที่บูชาไงพวกมึง ส่วนด้านร้ายๆเอาไว้นินทากันให้สนุกปาก
ขนาดเทพอินเดียสเกลพลังโคตรเวอร์ก็ยังทำตัวเหมือนคนเลย ก็คนสร้างเทพอ่ะนะ จะให้ไม่เหมือนได้อย่างไร
กูไม่ได้ว่าเหมือนกับคนจนแยกไม่ออกนะ เป็นแง่แบบ ศีลธรรมของคนไม่ได้เป็นกรอบให้เทพเจ้า
และพระเจ้าก็ไม่ได้ดีบริสุทธ์ แบบไม่เคยทำร้ายใคร
เทพอินเดียนี่มีข้อบกพร่องทั้งนั้น เพราะแม้แต่ตรีมูรติก็เป็นแค่ภาคแยกของปรมาตมันอีกที เลยไม่มีใครดีพร้อมกว่าใคร ในทางกลับกัน เพราะทุกคนเป็นชิ้นส่วนที่มาจากปรมาตมันเหมือนกัน เลยสามารถอัพตบะให้มีฤทธิ์สาปได้กระทั่งตรีมูรติก็มีมาแล้ว
>>812 คือว่าไมน์เซ็ตของคนสมัยก่อน กับสมัยนี้มันไม่เหมือนกัน
ไมน์เซ็ตของมึงคือกระบวนการคิดที่ได้รับการขบคิดและพัฒนามาแล้วกว่า 2000 ปี มึงเลยตัดสินว่าไอ้อะไรแบบนั้นมันเป็นเรื่องที่ผิด
แต่สมัยก่อนยังไม่มีใครมากำหนดว่าอะไรผิดอะไรถูก อะไรควรไม่ควร เพราะงั้นไอ้การทำแบบนั้น มันเลยเป็นเรื่องที่ถูกต้อง ยอมรับได้ในยุคเมื่อ 2000 ปีที่แล้ว
ในปัจจุบันก็มีความคิดยุคเก่าที่หลงเหลืออยู่ อย่างเช่นมุสลิม บางครอบครัวที่เคร่งมากๆ ถ้าลูกจะไปนับถือศาสนาอื่น มันถึงขั้นตัดพ่อตัดลูกกันเลย คนศาสนาอื่นมามองก็จะมองว่า ไอ้เนี่ยเป็นเรื่องผิด ไม่ถูกต้อง แต่คนในครอบครัวเขามองว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้อง สมควรแล้ว
สรุปคือไมน์เซ็ตของคนยุคเก่าไม่ได้แปลว่านิยมความเหี้ย แต่เขาคิดว่าไอ้เรื่องที่เขาทำมันคือความถูกต้อง เพราะความถูกต้องของคนเขา กับความถูกต้องของมึงมันคนละอย่างกัน
บางเรื่องคนจากวัฒนธรรมนึงก็ไปเสือก กับอีกวัฒนธรรมเองก็มีเยอะแยะ พอเป็นเรื่องขึ้นมาจริงไม่ ดันกลายเป็นว่ามันแค่หาเรื่องจุดชนวนเพื่อเอาเปรียบไปยึดที่ดินทรัพย์สินเขาซะงั้น
>>824 งั้นแปลว่าคนสมัยก่อนไม่ได้มีความคิดหรือความรู้สึกที่ว่า "จะไปยอมก้มหัวให้คนเหี้ยๆทำไมหรือไอ้เหี้ยนี่ทำไรไม่มีเหตุผล" เลยใช่มะ
คือไม่ได้มองว่าเองมีสิทธิ์เท่าเทียมอะไรพวกนี้
ยอมเชื่อฟังไม่ค่อยมีความคิดต่อต้าน ถ้าอย่างนี้กูพอเข้าใจละเพราะปัจจุบันก็ยังมีคนแบบนี้ให้เห็นอยู่เหมือนกัน
มีคนบอกว่า
ถ้าท้องอิ่ม บางคนก็ยอมทิ้งศักดิ์ศรี
ถ้าปลอดภัย ก็ยอมทิ้งอิสระ
แต่ถ้าระบบปกครองแย่งไปทั้งเรื่อง ท้องอิ่ม,ความปลอดภัย จะมีคนบอกว่า เอาศักดิ์ศรีและอิสระ มาล้มระบบปกครอง
>>827 ฤๅษีสนัตกุมาร เป็นลูกพระพรหม พระพรหมสั่งให้เป็นประชาปตี(คือให้ไปมีลูกมีหลานเป็นต้นตระกูลใหญ่ๆ)แต่ดื้อ ไม่ยอม จะบำเพ็ญเพียรอย่างเดียว พระพรหมเลยสาปให้เป็นเด็กไปตลอด เลยสาปพระพรหมกลับว่าหมกมุ่นเรื่องมีลูกนักต่อไปก็เอาลูกตัวเองมาทำเมีย
พอพระพรหมสร้างพระสรัสวตีมาก็หลงจนเอามาทำเมียจริงๆ แถมยังหวงคองมองตลอดจนเดือดร้อนพระศิวะต้องทำลายหน้าที่5ของพระพรหมด้วย
ฤๅษีภฤคุสาปพระนารายณ์ ตอนเทวาสุรสงคราม พระศุกร์ คุรุของฝ่ายอสูร(เป็นลูกชายฤๅษีภฤคุด้วย)กำลังไปเรียนมนตร์สัญชีวนีจากพระศิวะอยู่ เลยบอกให้ลูกศิษย์ตัวเองไปหลบที่อาศรมของฤๅษีภฤคุ ปรากฏว่าพระอินทร์ตามมาเจอเลยเข้ามาหาเรื่อง แต่ภรรยาฤๅษีภฤคุใช้ฤทธิ์ป้องกันพวกอสูรไว้ พระอินทร์เลยไปฟ้องพระนารายณ์ พระนารายณ์ขว้างจักรออกไป ปรากฏว่าจักรไปตัดคอภรรยาฤๅษี ฤๅษีรู้เลยเลยสาปให้พระนารายณ์ต้องอวตารเป็นมนุษย์แล้วพลัดพรากจากคนรัก ชาติที่เป็นพระรามเลยต้องพรากจากนางสีดา(อันนี้เล่าในคัมภีร์มัสยาปุราณะ)
ฤๅษีภฤคุ(อีกแล้ว)ไปเข้าเฝ้าพระศิวะ ปรากฏว่าพระศิวะกำลังintercourseกับเจ้าแม่อย่างโจ๋งครึ่มกลางตำหนัก(ไม่ใช่ในที่ลับ)โดยไม่สนใจต้อนรับฤๅษีเลย ฤๅษีเลยสาปให้พระศิวะไม่มีรูปเคารพ ใครจะบูชาพระศิวะต้องบูชาลึงค์แทน
แฉลบบาเรีย
แต่ดูว่าเรามาไกลเกินกว่าถกเรื่อง ประวัติศาสตร์แล้วว่ะ
>>836 พระศิวะสนใจผู้หญิงอยู่คนเดียวคือพระอุมา(หรือเจ้าแม่กาลี แล้วแต่ว่าอยู่ในภาคไหน)หรือชื่ออินเดียว่าเจ้าแม่ปาราวตี
>>838 มึงเห็นฐานสี่เหลี่ยมที่ใช้ตั้งศิวลึงค์ตามวิหารมั้ย นั่นเรียกว่าโยนีเป็นสัญลักษณ์แทนปากทางเข้าช่องคลอด สรุปว่าศิวลึงค์ที่เห็นๆกันอยู่เป็นเหมือนภาพX-rayของตอนที่intercourse(เพราะไอ้ฤาษีนั่นมีตาวิเศษมองทะลุได้ทุกอย่าง) และบางครั้งโยนีก็ถูกบูชาแทนเจ้าแม่ด้วย
>>838 พระวิษณุขอเจรจาให้หลีกแล้วเมียฤาษีไม่ยอม พระวิษณุเลยฆ่าทิ้ง คือไม่ถึงกับจงใจฆ่าแต่ก็ไม่ใช่ว่าอุบัติเหตุ
กูว่าบางเกร็ดของอินเดียมันก็ไม่kanon(เรื่องหลัก) เพราะมันช่วยกันแจ่งเติมขึ้นมาว่ะ
อย่างที่มันบอกเอาพระพุทธเจ้าไปเป็นปางที่เก้าของพระนารายด์ เราก็นึกว่าดีใช่ป่ะ ที่แท้มันบอกว่าถึงยุคเสื่อมมากนารายด์เลยอวตารมาเป็นนายของคนบาป ห่มจีวรเหลืองเพื่อนำทางพวกหลงผิดไปเจอกับความชิบหายหมด สรุปคือมึงเขียนไม่กี่บรรทัดกลายเป็นคนนับถือพุทธ ผิดหมดเลย คนอยากขึ้นสวรรค์ต้องนับถือฮินดูเดิมๆนะครับ หน้าชาไหมล่ะมึง ถ้าคนอินเดียมันบอกพระพุทธเจ้าคือนารายณ์ปางเก้ามึงก็ไม่ต้องไปขัดมันหรอก แต่ไม่จำเป็นที่เราจะพูดเอง
พวกมึงว่าจริงเปล่าวะที่เคยมีคนพูดว่า ถ้าไม่มีอเล็กซานเดอร์กรีกก็จะเป็นแค่อารยธรรมโลกโบราณอันนึงที่มาแล้วก็ไป
ไม่ได้ถูกพูดถึงหรือเอามาศึกษามากในโลกปัจจุบันแบบที่เป็นอยู่
>>844 ไม่จริง
นอกจากอเล็กซานเดอร์แล้วกรีกมันยังมีพวกPhilosophers,นักวิทยาศาสตร์,นักคณิตศาสตร์,นักประวัติศาสตร์,ปาฏิมากรรม,วิศวกรรม แถมยังเป็นจุดเริ่มต้นประชาธิปไตยอีก
ถ้าจะเอาเรื่องสงคราม ถึงไม่มีอเล็ก กรีกก็ยังมีสงครามที่โด่งดังที่สุดในโลกยุคโบราณอยู่ อย่างPeloponnesian Wars(สงครามเอเธน-สปาร์ตาร์ เป็นสงครามยุคโบราณที่มีการศึกษามากที่สุดในโลก มีการเขียนหนังสือเกี่ยวกับสงครามนี้มาตั้งแต่หลังสงครามจบใหม่ๆจนถึงปัจจุบัน)
พอดีหลักฐานมันเหลือเยอะกว่าเพื่อนแล้วฝรั่งมันก็อ่านออกด้วยเลยเป็นเรื่องที่ศึกษากันง่ายเป็นสากลน่ะ
พวกตำนานเทพฮินดูแม่งเหมือนเครื่องมือการครอบงำวัฒนธรรมว่ะไม่ต่างจากกรณีกวนอูนั่นแหละแต่ฮินดูมันเล่นกันมาเป็นทอดๆต่อๆกันมาเรื่อยๆ บางยุคบอกตนนี้เทพสาดมาอีกยุคมีตนนี้เทพกว่า มาอีกยุคไอ้ที่ผ่านมาเป็นแค่ขี้เล็บของอีกตน อ่านๆไปบางทีก็นึกถึงการ์ตูนจัมป์ที่มุกออกทะเล เนื้อเรื่องขัดกันเองมีตัวเก่งกว่าโผล่มาเรื่อยๆเปลี่ยนตัวเอกตามใจกู แต่เสือกมีคนติดตามเป็นสาวกเยอะแยะ
ก็มันแต่งเพิ่มเรื่อยๆมึงจะเอายังไงล่ะ คนโบราณตายไปแล้วจะมาเถียงกับคนแต่งใหม่ได้ไหม?
>>849 เกี่ยวอะไรกับเอายังไงวะ ก็แค่วิธีครอบงำของอินเดียมันคือการแต่งมโนเรื่องใหม่ทับของเก่าแค่นั้นนิ ถ้าเทียบกับกวนอูของจีนอันนั้นคือทำของใหม่ให้ดังกว่ากลบของเก่า
แล้วมันมีอะไรให้เอาอะไรยังไงของมึงวะ ไม่เห็นจะมีอะไรขัดแย้งเลย
ถ้าว่ากันเรื่องคนแต่งต้นตาย คนแต่งเดิมตายแล้วเถียงไม่ได้นี่ไร้สาระมากเลยนะเพราะกว่าคนจะเชื่อเรื่องเล่าเป็นจริงๆจังๆนี่ปกติก็น่าจะเกินช่วงชีวิตคนแล้ว ซึ่งคนแต่งดั้งเดิมคงตายหมดแล้วเรื่องเล่าพวกนี้มันผ่านการเล่าปากต่อปากต่างหากถึงเกิดกลุ่มสาวกความเชื่อได้ ถ้ามึงจะหาคนมาเถียงก็ต้องเป็นกลุ่มผู้นับถือนั่นแหละ
กรูยังงงกับพวกเง็กเซียนฮ่องเต้ทำไมถึงมีพระยูไล คือพวกมหายานมันเอาพุทธศาสนาไปผูกกับตำนานเทพถ้องถิ่นของจีนรึไง
แล้วพวกเทวดาเซียนนี่เริ่มกราบไหว้กันราชวงศ์ไหน
มีสุริยเทวบุตรกับจันทิมเทวบุตรโดนอสุริทราหูจับ อธิษฐานขอให้บุดด้าเป็นที่พึ่ง บุดด้าเลยบอกให้อสุรินทราหูปล่อย อสุรินทร์ราหูเลยไปฟ้องอสุรินทเวปจิตติอีกต่อด้วยนะ
มีถึงขั้น เข้าพรรษาแล้วจะปลีกตัวไปโปรดธรรม ที่สวรรค์เลยนะมึง แล้วพอออกพรรษาจะเสด็จกลับจากสวรรค์ เลยต้องทำบุญใส่บาตรด้วยข้าวต้มมัด
#กูไม่รู้กูฟังเขามา
แล้วไอ้พวกมโนทฤษฎีควอนตัมมาโยงกับเรื่ององคุลีมาลนี่เรียกอะไรดีวะ หลอกคนให้เป็นควาย?
ศาสนาพุทธ มีเทพนี่ความรู้ใหม่กูเลยว่ะ บ่องตง 5555
กูแว่วๆมาว่าที่พระพุทธเจ้าบังคับเข้าพรรษาเนี่ยเพื่อให้พระสงฆ์อยู่กับที่อย่าไปซนเดินเล่นเดี๋ยวก่อเรื่องวุ่นวายหรือเหยียบพืชผักเดือดร้อนชาวบ้านเหมือนโดนกักบริเวณอ่ะ 5555
พุทธกุว่าตัวดีนิกายย่อยเป็นร้อยเเดี๋ยวบูชาโน่นเดี๋ยวบูชานี่ สาขาย่อยสาาหน้าปากซอยจะอุปโลกเทพเจ้าขี้โม้ขึ้นมาไม่น่าจะแปลกอะไร เพราะเทพเจ้าไหนๆแม่งก็แต่งเรื่องกันมาทั้งนั้น
มึงลองดูช่องดาวเทียม ดูของศักศิษดิ์เยอะชิบหาย
>>867 ก็ตามนั้นแหล่ะ ส่วนไอ้หลายนิกายมันเพราะช่วงนึง พุทธ มันแพร่หลายจาก ธรรมะ เลยกลายเป็น ธรรม(โม้) ไปซะหมด
ส่วนตัวกูมองว่า ศาสนา ทั้งหลายแม่งคล้ายกันตรง ศาสดาผู้ตั้ง แม่งเซ็งระบอบการปกครองช่วงนั้นเลยพยายามหาอะไรที่มันดีกว่ามาแทนที่ แต่พอคนตั้งเท่งทึงปุ๊บ ไอ้บรรดาลูกหาบก็เอาคนตายมาใส่อภินิหารปั๊บ ไปๆมาๆเลยแทบจะจังไรกว่าไอ้ระบบการปกครองที่คนตั้งแม่งเซ็งๆอีก
อยากรู้เรื่องประวัตศาสตร์มืดที่คนรุ่นลูกหลานไม่อยากพูดถึงบ้าง
เมกัน อินเดียแดง
ญี่ปุ่น นานกิง
ไทย ล้านนา
เกาหลี เวียดนาม
เท่าที่อยู่ในหัวกูมีเท่านี้เองง่ะ
>>871 เมกาฯ นี่ขยันเพิ่มประวัติมืดให้ตัวเองทุกปีเหอะ 555 ของ ไทย เราก็มีบางช่วงที่ไปรวมหัวกับ เมกาฯ ไปรุกรานเพื่อนบ้านแต่พลาดเกือบโดนเขาเอาคืนจนชิบหายดีว่าได้ จีน ช่วยไว้ทัน อ้อ ก่อนที่ โลกตะวันตก จะครองโลก พม่า ก็นักเลงโตแถวเรานี่ล่ะ ขยันรุกรานชาวบ้านเขาไปทั่ว
>>871 ปวศ.มืดของไทยนี่ต้องยุคคอมมิวนิสต์ ลอง search คำว่า "ถีบลงเขา เผาถังแดง" ดู พูดง่ายๆ มันคือการล่าแม่มดนี่แหละ แต่เปลี่ยนคำว่าแม่มดเป็น "คอมมิวนิสต์" คนรุ่น 40-50 ปีก่อน ใครวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล มีเรื่องกับข้าราชการ หรือแม้แต่การประท้วงเรียกร้องสวัสดิการแรงงานกับนายจ้าง มึงเตรียมโดนยัดข้อหาคอมมิวนิสต์ได้เลย (สหภาพแรงงานที่คนยุุคเราๆ คุ้นเคย มันก็มีรากมาจากสังคมนิยมนั่นแหละ) ไม่ติดคุกก็โดนอุ้มหาย
เรื่องนี้เป็นตลกร้ายด้วยนะ สาธารณูปโภคหลายๆ อย่าง รวมถึงการพัฒนาเศรษฐกิจที่เราอยู่กันมาถึงวันนี้ (แล้วก็มาติดเพดานกับดักรายได้ปานกลาง) เกิดขึ้นเพราะการไล่ที่ชาวบ้านนะ แล้วสมัยก่อนนี่คือไล่จริง ค่าเวนคืนจ่ายบ้างไม่จ่ายบ้าง คำว่าสิทธิมนุษยชน สิทธิชุมชน พวกนี้ปรากฏครั้งแรกในรัฐธรรมนูญฉบับ 2540 นี่เอง เราเลยเห็นชาวบ้านเชื่อ NGO มากกว่ารัฐบาล เพราะเขาฝังใจจากเรื่องเก่าๆ บาดแผลเก่าๆ ที่ว่า
ของไทยที่คนไม่ค่อยรู้กัน คือนครวัดว่ะ
คนไทยชอบดิ้นเรื่องพม่าตีกรุง แต่สยามแม่งไปตีนครวัด นครธม กวาดต้อนคน ปล้น เผาซะจนหนึ่งในเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลกตอนนั้น(มีประชากรเป็นล้าน)เหลือแค่กองหินร้าง
มั่วเรื่องนครวัดแล้ว มันเป็นแบบราชาครองราชย์นานเลยทำอนุสรณ์ใหญ่โตได้แต่ รัชกาลต่อมามันอ่อนแอ ราชวงศ์นี้เลยล่มไปเอง
>>875 มันมีทั้งสองอย่างรวมกันว่ะ ชัยวรมันที่7นี่คือสุดยอดยุคทองละ หลังจากยุคนี้ขอมก็อ่อนกำลังลงด้วยปัจจัยเรื่องกษัตริย์อ่อนแอ(มีการกวาดล้างกันสองรัชกาลติดกัน รอบแรกชัยวรมันที่8 ฮินดูไศวะนิกายกวาดล้างพุทธมหายาน แล้วอินทรวรมันที่3 พุทธเถรวาทกวาดล้างฮินดู)ประกอบกับภัยแล้งเพราะเป็นช่วงlittle ice ageพอดี จักรวรรดิขอมเลยเสื่อมถอย พวกที่เคยเป็นประเทศราชก็แยกตัวกันหมด แต่เมืองพระนครยังเป็นเมืองใหญ่อยู่ดี
จนมาสมัยต้นอยุธยานี่แหละที่ไปตีเมืองพระนครสองรอบแล้วเผาเมืองปล้นสมบัติกับเทวรูปสำคัญๆมาเก็บไว้หมด
ต่อมาเทวรูปบางส่วนก็โดนปล้นไปอังวะ แล้วก็ไปอยู่อังกฤษต่อ
>>875 ตีได้ก็เก่งเกิน ตอนนั้นที่เมืองพระนครมีคนเป็นล้านๆนั่นเก่งมาก สยามยกทัพไปยังไม่ถึงนครวัดก็แพ้แล้ว ก่อนถึงนครวัดมันถึงมีจังหวัดชื่อเสียมราฐ(เสียมเรียบ) มาจากคำว่า สยามแพ้ราบเรียบ
หลังจากนั้นนครวัดถึงค่อยหมดยุคทอง เดากันว่าก็คงเป็นภัยแล้งนั่นแหละ คงแล้งเหี้ยๆขนาดอยู่ไม่ได้คนก็หนีหมด อ่อนแอจนอยุธยาขึ้นมาเป็นใหญ่ได้ อยุธยาตอนไปตีเอานครวัดก็ไม่เหลือคนอยู่แล้ว
ประเทศไทยพัฒนาทุกวันนี้เป็นเพราะอเมริกานะ
คือเพิ่งมาเจริญช่วง จอมพลสฤษดิ์ที่อเมริกากลัวไทยเป็นคอมมิวนิส เลยให้งบมาสร้างประเทศ แล้วไม่ใช่แค่กทม แต่ภาคกลางก็เจริญเพราะได้งบทำถนนเยอะ
ยุคนั้นมีญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ เวียดนามใต้ ไทย ที่อเมริกาหนุนทุกอย่างแบบจัดหนักจัดเต็ม ทั้งลงทุนสร้างถนน ทั้งให้ทุนหนุ่มสาวหัวดีไปเรียนใน ม.ดังๆ ของอเมริกา ทั้งช่วยด้านอาวุธ-ฝึกทหาร หลักๆ ก็เพื่อให้คนไทยเคยชินกับวัฒนธรรมทุนนิยมเสรีแบบอเมริกัน จะได้ไม่ไปหลงใหลคอมมิวนิสต์
ส่วนใครจะนำมาต่อยอดได้แค่ไหนก็แล้วแต่ผู้นำละนะ ตอนนี้ก็เห็นๆ กันอยู่ว่าเวลาผ่านไปชาติไหนเป็นไงบ้าง
>>878 ไอ้ที่มึงบอกว่าช่วงยุคคนเป็นล้านนั่นไม่ถึง มึงมั่ว จริงๆจำนวนประชากรแค่ราวๆ 6-7 แสน หรืออาจน้อยกว่านั้นอีกนิดนึงแต่ถึงอย่างนั้นก็ยังเป็นเมืองใหญ่อยู่ดี แถมช่วงที่พีคๆคน6-7แสนนั่นคือช่วงยุคทองรุ่งเรืองถึงขีดสุดก่อนจะถึงช่วงโรยรา ศัตรูตัวฉกาจของขอมไม่ได้มีแค่อยุธยาในช่วงตอนที่ตัวเองกำลังเสื่อมโทรมเท่านั้น แต่ศัตรูหลักคู่แค้นร่วมฟ้าดินของขอมพระนครจริงๆแล้วคือพวกอาณาจักร จามปา หรือ จาม ที่อยู่อาศัยอยู่ในบริเวณเขมรใต้กับเวียดนามใต้ โดยจามปานี่แม่งรับศึกสองด้านเลย คือด้านเหนือรบกับพวกไดเวียดที่อยู่ทางเหนือแล้วตอนช่วงขาลงของชนชาติตนเองก็มาเปิดศึกกับพวกขอมที่กระหนาบมาทางใต้อีก จนมีอยู่ครั้งนึง ตอนปี พ.ศ. 1720 หลังจากก่อนหน้านั้นโดน ชัยวรมันที่2 ผู้สร้างนครวัด ตีเมืองหลวงพวกจามปาแตกจนเกือบสิ้นชาติ ผ่านไปหลายปีรวบรวมไพร่พลมาเอาคืนพวกขอมได้ถึงขนาดยกพลขึ้นบกอาณาจักรพวกขอมได้แล้วทำการบุกตะลุยและปล้นสะดมเผาทำลายเมืองพระนครของพวกขอมซะยับเยิน ทำให้พวกขอมนี่ถึงกับเป๋จนเสื่อมอำนาจไปพักนึง โชคร้ายสัสๆพวกจามปาเสือกเผด็จศึกพวกขอมไม่ได้เด็ดขาดจนผ่านไปหลายปีเกิดกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ ชัยวรมันที่7 ขึ้นครองบังลังค์แล้วทวงหนี้เลือดกับพวกจามปาคืนจนจามปาแม่งสิ้นชาติเลยสัส เสียดายตอนนั้นเป็นช่วงขาลงของพวกจามปา เพราะมัวแต่ทะเลาะกันเองแถมเสียกำลังหลักและขุนพลเก่งๆไปกับการรบกับพวกไดเวียดทางเหนือไปเยอะแล้ว แถมสุดท้ายโดนผนวกเป็นส่วนหนึ่งกับขอมด้วย จบเห่เลยสัส เพราะงั้นการที่มึงบอกว่าอยุธยาตีได้ก็เก่งเกินนั้นไม่จริงวะ พวกจามปาขนาดขาลงยังเอาซะพวกขอมเป๋จนเกือบโดนล้ม ถ้าไม่มีสุริยวรมันที่7นี่กูว่าเผลอๆ ขอมโดนพวกจามปาแหกหี จนสิ้นชาติไปแล้ว เผลอๆตอนนี้เขมรอาจต้องเปลี่ยนชื่อเป็น จามปาด้วยซํ้า
ถ้าคุยเรื่อง ปวศ. อย่าเอาเรื่องสมมุติมาคุยด้วยเพราะมันคิดแตกไปได้เป็นสิบรูท
พวกสมมุติแบบถ้า What if มันมีบ่อยแบบ ถ้านโปเลียนไม่แพ้รัสเซีย ถ้าเยอรมันไม่เปิดศึกที่อียิปต์
คิดไปก็ปวดกบาลเปล่า เราคุยแค่เรื่องจริงพอแล้ว
อ่านเจอว่าเมืองพระนครตอนนั้นไม่ช้าก็เร็วยังไงต้องจบอยู่แล้ว
เพราะเข้าภาวะ little ice age +แล้งสัส ระบบชลตายสนิท ราชวงศ์อ่อนแอ
การมาของอยุธยาแค่เป็นตัวเร่งให้จบเร็วขึ้นเท่านั้น
ล้านนาไม่ได้เป็นอาณาจักรเดียว แต่เป็นกลุ่มเมืองที่เจ้าเมืองเป็นเครือญาติกันเฉยๆ บางเมืองก็ยอมร่วมกับสยามโดยดี แต่บางเมืองก็พยายาม”ฟื้นสยาม”เป็นระยะ ทั้งในระดับอีลีททั้งในระดับพื้นบ้าน
รัฐบาลสยามตอนนั้นก็กดหัวล้านนาใช่น้อยอยู่ ตัดถนนผ่ากลางวัดที่เชียงใหม่มั่ง รื้อวัดแสนข้าวห่อเพื่อสร้างคุกตรงข้ามพระธาตุหริภุญไชยที่ลำพูนมั่ง ไม่นับที่รื้อหอคำแล้วสร้างคุกทับนะ
ถ้าทำแค่ที่สองที่ยังพอจะว่าไม่ได้ตั้งใจ แต่เล่นทำมันทุกเมืองนี่ก็ออกจะเห็นชัด
ปวศ. มืดไทยมีเยอะนะมึงอย่างตอนให้ช่วยรณรงค์รักษาพลังงานปิดไฟทั่วประเทศไง
>>887 - อยากแสดงแสนยานุภาพไปตีเชียงตุง เลยบังคับเกณฑ์เชียงหใม่เป็นทัพหน้า พอทัพหลวงขึ้นมาถึงเชียงใหม่ก็รีดเอาเสบียงซ้ำอีก
- พอตั้งมณฑลเทศาภิบาลก็มาเก็บภาษีซ้อนกับภาษีจารีตแยกต่างหาก แต่แทนที่จะเก็บภาษีตามรายได้/อัตราการผลิตจริงก็ใช้วิธีให้นายอากรประมูลภาษี แล้วมาไล่เบี้ยกับคนในพื้นที่(เมื่อก่อนในกรุงเทพก็ใช้ระบบประมูลภาษีนั่นแหละ แต่เลิกไปเพราะไม่มีประสิทธิภาพ)
- ทางสงฆ์ก็ให้นิกายพื้นบ้านที่อยู่มาตั้งนานแล้วเป็นนิการเถื่อน พระที่มีพรรษาพอจะเป็นอุปัชฌาย์ได้แล้วแต่ไม่ยอมขึ้นกับส่วนกลางก็ไปตีตราว่าเป็นอุปัชฌาย์เถื่อน พระที่บวชกับอุปัชฌาย์กลุ่มนี้ก็ว่าเป็นพระเถื่อนให้จับสึกแล้วบวชใหม่
เพราะแถวนี้มันอุดมสมบูรณ์เกินไปรึเปล่า เลยไม่มีชาวบ้านออกมาต่อต้านผู้ปกครองเหมือนฝั่งตะวันตก
>>892 ตามนั้น แถบอินโดจีนนี่ไม่เคยมีรายงานความอดอยากแบบจริงๆ จังๆ เลยนะ คืออุดมสมบูรณ์มากเรื่องของกิน
แล้วก็เป็นเหตุผลเดียวกับที่คนแถบนี้ไม่มีระเบียบวินัยใน DNA (สิงคโปร์นี่ผ่าเหล่าผ่ากอไปจากเพื่อนๆ อาเซียน) เพราะอุดมสมบูรณ์เกินไป ปลูกพืชเลี้ยงสัตว์ได้่ง่ายๆ ทั้งปี การเกษตรจึงไม่ต้องวางแผน ไม่ต้องกักตุนอาหารอย่างตะวันตก
ถ้าแผนพัฒนาเศรษฐกิจบ้านเราเลื่อนออกไปซัก5ปี เราจะเป็นไงตอนนี้
กูสงสัยว่านักประวัติศาสตร์สายชาตินิยมพยายามสร้างความเชื่อเรื่องคนไทยอพยพลงมาจากแถบเทือกเขาอัลไตเพื่ออะไร
คือกูไม่ค่อยเห็นภาพว่าถ้าคนไทยมาจากอัลไตแล้วมันทำให้คนไทยหรือประเทศไทยดูดีขึ้นได้ยังไงบ้าง
>>898 วาทะนี้เหมือนสร้างสมัยจอมพลป. ปะ เหมือนว่าต้องการสร้างภาพลักษณ์ให้คนไทยเป็นชาติรักสงบ โดนชาติอื่นไล่ที่ลงใต้มาเรื่อยๆจนกระทั่งโดนต้อนสุดขอบทะเลถึงได้ลุกขึ้นมาสู้ตอบ(ท่อนในเพลงชาติ"รักสงบ แต่ถึงรบไม่ขลาด" นั่นแหละ) อีกอย่างนึกคือปลุกสำนึกความเป็น"ชาติเดียวกัน"ด้วยมั้ง
KY กูน่าจะถามถูกห้องนะ
กูอยากรู้ว่าหลังWWII ที่เยอรมนีแพ้ย่อยยับ คนเยอรมันโดนเหยียดหรือมองอย่างดูถูกรังเกียจจากชาติอื่นปะว่าแบบ อิพวกนาซี พวกฆาตกร ไรงี้ หรือไม่งั้นมันมีชาติไหนในยุโรป(ย้ำว่าในยุโรป)ที่มันเหยียดกันเองประมาณไทยเหยียดประเทศเพื่อนบ้านลาวเมียนมาร์กัมพูชาปะ
Ky กูไปนั่งอ่านแท็กละครบุพเพสันนิวาสในทวิต แล้วไปเจอคนนึงบอกว่ากรุงศรีอยุธยาไม่ได้แตก พระเจ้าตาก ร.1-ร.3เป็นกษัตริย์กรุงศรี คือมันถูกจริงๆเหรอวะ
>>907 กูก็ไม่เชื่อ กูว่ามันดูแหม่งๆอะ แล้วพอนางบอกว่า สุโขทัยโดนอยุธยาตีเมือง กับถ้าพระเจ้าตาก หรือ ร.1 ไม่ใช่กษัตริย์อยุธยา แล้วจะไปกู้เมืองทำไม กูมั่นใจเลย มั่วสัด
แต่เห็นลบทวิตไปล่ะ แล้วมาบ่นถึงคนที่เอาข้อมูลมาแย้งนางประมาณว่า พอเอาข้อมูลอะไรมาบอกก็ไม่ยอมรับ เอาแต่ยึดในตำราที่เรียนมา
เออกูคนเดียวกับอิ906นั่นนะ
>>903 https://youtu.be/Rv1yZ6tq3mY
ตามนี้เลยมึง
เมื่อก่อนมันเหยียด รัสเซียกันเพราะ เป็นชุมชนล้าหลัง เป็นพวกตัดไม้กับหาของป่าน่ะ จนถึงยุคโรมตะวันออกล่มนู้นเลย ที่ทายาทส่งไปแต่งกับราชวงศ์รัสเซียถึงจะนับญาติกัน
>>910 อันนี้คือทหารสัมพันธมิตรในยุคที่แม่งแบ่งเบอร์ลินเปน4ส่วนช่ะ
ขอบคุณเพื่อนโม่งทุกคน ความจริงกูจะถามเอาข้อมูลไปเขียนนิยายแหละ กะจะให้ตัวละครแม่งเป็นคนเยอรมันเกิดซักยุค50-60(อิยุคที่มันแบ่งตะวันออก-ตะวันตกกันอะ). เลยต้องการไรที่historical accuracyหน่อย ส่วนเชื้อชาติอื่นนี่ก้เอาไว้เปนวิทยาทาน
ตอนWWII มีดราม่ากันหลายวาระ มันก็คิดว่าถ้าหมดเยอรมันอาจจะต้องฉะกับรัสเซียอีกรอบก็ได้ด้วยนะเว้ย
สตาลินมันเป็นคนคิดเข้าข้างตัวเองด้วยว่า คนฝั่งมันสูญเสียเยอะสุดต้องได้ผลประโยชน์เยอะสุดด้วย กำลังโกรธเต็มที่เพราะตอนที่โต้กลับ เยอรมัน มีการทุ่มกำลังใส่รัสเซีย แต่โดนดักข่าวได้ รัสเซียก็รับมือทัน แต่สูญเสียเยอะมาก
สตาลินมันคิดว่าฝั่งตะวันตก จงใจปล่อยให้เยอรมันฉะกับรัสเซียแบบโดดเดี่ยว จะได้ล้มกันทั้งคู่
จนถึงตอนนี้ พวกยุโรปตะวันออกนี่มันเจริญยังวะถัดจากเช็ค,สโลวาเกีย,ฮังการี ประเทศถัดๆไป ความรู้สึกแบบมันเป็นประเทศเลื้อนๆไงไม่รู้
มีรัสเซียเป็นชาติมหาอำนาจนี่มันพอช่วยให้ภาพลักษณ์ของพวก slav ดูดีขึ้นในสายตาคนยุโรปตะวันตกมั้ย
ยาก พวก Slav ก็ยังทำตัวเถื่อนๆ เหมือนเดิมอะ ดูจากพวกคลิปในยูทูปก็ได้ ออกจะภูมิใจด้วยซ้ำ
ปล.อารมณ์พวกคนดำหรือว่าเม็กซิกันในอเมริกาที่พยายามโชว์แต่งตัว โชว์ออกท่าออกทางเถื่อนๆ มั้ง (คนไทยก็รับการแต่งตัวเขามาไม่น้อยนะ บอกเท่ดี)
กุว่าSlavแม่งก็เหมือนNiggaน่ะแหละ แค่สีซีดกว่าเฉยๆ
เออพอพูดขึ้นมากูก็สงสัย คำว่า slav นี่ถือว่าเป็น racist word ป่าววะ สมมติว่ากูไปเรียกคนรัสเซียที่อาจจะรู้จักแต่ไม่สนิทว่าสลาฟแบบน้ำเสียงไม่ได้ฟังดูจงใจเหยียดนี่เขาจะโกรธป่าววะ หรือไม่ก็ลองให้คนพูดเป็นคนเมกันอะไรประมาณนี้
ไม่น่าเหยียดนะ กูก้เห็นมันขึ้นแบบ slavic languageไรงี้
เออถามหน่อย สลาฟนี่คือเปนทาสตอนไหน หรือเปนชื่อเรียกเฉยๆ
>>924 slav ตอนแรกเป็นชื่อที่ใช้เรียกกลุ่มตัวเอง แปลประมาณว่า"ผู้ที่พูดภาษาเดียวกัน" (คล้ายๆกับ"ไทย"แปลว่า"free people")
แต่พอโดนจับเป็นทาสบ่อยๆคำนี้เลยโดนพวกwestern europeใช้เรียกทาสโดนเฉพาะพวกฝรั่งเศส(ซึ่งถ่ายทอดไปยังอังกฤษจนเกิดเป็นคำว่าslave)
พวกslavโดนจับเป็นทาสครั้งใหญ่เพราะพวกมุสซี่Ottoman turksบุกมา แต่คนไม่สนใจกับเพราะเป็นคนขาว เวลาพูดถึงทาสก็ดิ้นกันแค่นิกก้าผิวดำ
กูคิดว่าเรื่องมันเป็นแบบ ฝั่งตะวันตกมันปฏิวัติ อุตสาหกรรมได้แล้วรุ่งเรืองฝั่งตะวันออกคงมี ข้ามมาทำงานบ้างและด้วยความที่เป็นคนการศึกษาน้อย วัฒนธรรมไม่เหมือนกัน คนท้องถิ่นมันก็มองคนมาใหม่ว่าชอบเรื้อน มันก็เหยียดอยู่ลึกๆว่า คนฝั่งตะวันออกมันด้อยกว่าว่ะ
ทำไมกุคิดว่ายุโรปตะวันออก(ยกเว้นรัสเซีย)ที่มันไม่เจริญ จน เผลอๆแย่กว่าไทยจนถึงทุกวันนี้ มันมาจากการที่แม่งเปนคอมมิวนิสไปทั้งแถบ เจอสงครามกลางเมือง(จนมันแตกยูโกสลาเวียเปน6ประเทศ) เลยฟื้นตัวไม่ทันนี่แหละ
ดูพวกคลิปรวมพวกสลาฟทำอะไรเพี้ยนๆบน youtube แล้วก็ฮาดีนะ แต่ถ้าต้องไปอยู่ที่แบบนั้นจริงๆคงไม่ค่อยฮา
โดยเฉพาะพวกเอารถไม่สมประกอบมาวิ่งบนถนนกับเล่นอะไรแผลงๆตอนขับรถนี่มีเยอะมาก
https://www.youtube.com/watch?v=Q5UZMVlXeDU
https://www.youtube.com/watch?v=Wyj3Aumy4mM
ประเทศแถวนั้นเหมือนดังเรื่องคนเพี้ยนๆกับคอมมี่ แต่ดูพวกวีดีโอโปรโมทประเทศที่ทำออกมาพรีเซ้นด้านดีๆมันก็ดูดีอยู่นะ
https://www.youtube.com/watch?v=55tu3kTyHRU
https://www.youtube.com/watch?v=qDjt1GM59Ec
สลาฟนี่คือชื่อเรียกรวมๆของยุโรตะวันออกงี้หรอ คือมันมีประเทศไรย้างอ่ะ
ชื่อเผ่าพันธ์ด้วย หน้าตาแบบรัสเซีย ยูเครน
ไหนๆก็ไหนๆแล้ว เล่านิดนึงว่าในโปแลนด์มีตำนานว่าในยุคโบราณที่ชนเผ่าสลาฟยังพูดภาษาเดียวกันแล้วอยู่ด้วยกันเป็นกลุ่มใหญ่
เกิดภาวะประชากรหนาแน่นกับขาดแคลนอาหาร ชนเผ่าสลาฟกลุ่มนึงเลยอพยพแยกตัวออกมา นำโดยสามพี่น้อง เล็ค เช็ค และรุส
พอเดินทางมาถึงจุดนึง สามพี่น้องตกลงกันไม่ได้ว่าจะไปไหนต่อเลยแยกทางกันไปกับคนของตัวเอง
กลุ่มของเช็คไปทางตะวันตก กลายเป็นคนเช็ค
กลุ่มของรุสไปทางตะวันออก กลายเป็นคนรัสเซีย
กลุ่มของเล็คเดินทางขึ้นเหนือ ไปเจอนกอินทรีสีขาวตัวนึงตัดกับฉากหลังฟ้าสีแดงตอนพระอาทิตย์ตก แล้วเลือกอยู่ที่นั่นกลายเป็นคนโปแลนด์
นกอินทรีสีขาวกับพื้นหลังสีแดงก็เลยกลายเป็นสัญลักษณ์ของโปแลนด์
เรื่องโปร์แลนด์ หลังสงครามโลกครั้งที่สอง เคยโดนรัสเซียยึดครองหรือเปล่าวะ เพราะมีช่วงนึงมันล่อกันว่า ชาวโปร์แลนด์มันล้าหลังสุดๆ
>>942 หลังWW2 สตาลินเอาทหารโซเวียตไปวางไว้ในโปแลนด์ ทางUSไม่อยากเริ่มสงครามครั้งใหม่หลังww2เลยกำหนดในการประชุมYaltaว่าโปแลนด์จะจัดตั้งรัฐบาลชั่วคราวก่อนจะมีการเลือกตั้งจริง สตาลินเลยยื่นข้อเสนอว่ารบ.ที่ตั้งมาจะต้องเป็นมิตรกับโซเวียต เพราะสงครามโลกทั้งสองครั้งรัสเซียโดนบุกผ่านโปแลนด์ตลอด USกับUKยอมเพราะไม่อยากเริ่มสงครามกับussr
ทำไมกูอ่านแล้วรู้สึก เดจาวูกับ กรณีไครเมีย
โปแลนด์นี่เกือบสิ้นชาติมากี่รอบแล้ววะ โดนgangbangตลอด
โปแแลนด์นี่กูอ่านประวัติประเทศแล้วโคตรสงสาร มีแต่โดนชาติมหาอำนาจผลัดกันมารุมทึ้ง
ทำไมกูนึกถึงเกาหลี สมัยโบราณโดนจีนบีบ สมัยใหม่หน่อยเจอญี่ปุ่นข่ม ต่อมายังเจอแบ่งประเทศเป็น 2 อีก
เห็น ปูติน แถลงเรื่องอาวุธชนิดใหม่ที่ยิงได้รอบโลกแล้วดันคิดไปเรื่อยเปื่อยจนฉุกคิดได้ว่า เออ มนุษย์เรานี่มันพัฒนาถึงขนาดไปเหยียบดวงจันทร์ได้ตั้งแต่ 50 ปีที่แล้ว เทคโนโลยีก็ต๊อกต๋อยกว่านี้แยะ ทำไมป่านฉะนี้เรายังไม่มีโคโลนี่ในดาวดวงอื่นอีกฟะ? สงสัยมัวแต่บ้าสงครามกันจนลืมพัฒนาด้านอื่นหรือไงหว่า?
มันก็ ทดลองอยู่เรื่อยนะ แต่ถ้ามีสัญญาณอะไรบอกว่า โลกอยู่ไม่ได้ หรือดวงจันทร์มี สินแร่แพงสุดๆ เมื่อไหร่กูว่า มันก็แย่งกันไปว่ะ
งานนี้อาจมีเอกชนไปได้ก่อนรัฐบาลด้วยซ้ำ
ตามนั้นละ สมัยสงครามเย็นนี่ทุ่มงบกันเพราะศักดิ์ศรีล้วนๆ เลย ทั้งเมกาทั้งรัสเซีย แต่พอหมดสงครามเย็น นาซ่ายังโดนตัดงบ สงสัยไม่คุ้มมั้ง
ตอนนั้น อเมริกันมันเหลือเงินเยอะมั้ง กูเห็นสถิติที่ GDP มันเพิ่มช่วงWWII แล้วกูกลัวอเมริกามากเลยว่ะ คือเกณฑ์คนหนุ่มไปสงคราม ผู้หญิงเข้าทำงานโรงงาน ผลผลิตมันเยอะมาก คงเงินเหลือเยอะน่ะ พอมีข่าวว่ารัสเซียมันทำนู่นนี่โครงการอวกาศ ตัวเองก็ต่องทำบ้างไม่ให้น้อยหน้า
พอฝั่งรัสเซียมันล่ม ก็คงไม่ต้องรีบทำแข่งกันมั้ง
ตอนนี้แข่งกันปั่นอาวุธแทน กำไรงามกว่าชัดเจน
>>949 คือมึงโดนเขาหลอกซะเปื่อยไงว่ามนุษย์เรามุ่งหาความก้าวหน้าให้มนุษยชาติจริงๆ
คือเมื่อ 50 ปีก่อนที่เมกา รัสเซียมันขยันส่งคนไปอวกาศเพราะว่ามันอยู่ในยุคสงครามเย็น ตอนนั้นมันคุ้มค่าเงินเพราะเป็นการแสดงให้ฝ่ายตรงข้ามเห็นว่ากูได้คุมเชิงอยู่บนอวกาศแล้วนะ คิดดูว่าแค่เครื่องบินคุมบนอากาศได้ก็ได้เปรียบมากขนาดไหน นึกถึงว่าคนสมัยก่อนที่ยังไม่มีใครไปถึงอวกาศ ได้เห็นว่ามีคนคุมอวกาศได้แล้ว แม่งจะกลัวขี้หดขนาดไหน สมัยนี้คุมเชิงด้วยนิวเคลียประหยัดกว่าเยอะ มันก็ไม่ทำกันแล้ว
มาถึงยุคนี้ เรื่องอวกาศมันต้องใช้เงินเยอะ สังเกตุดูได้ว่าหลังๆ nasa ก็ไม่ค่อยมีผลงานอะไร คงไม่มีใครอยากเอางบให้เยอะ เพราะไม่มีผลตอบแทนอะไรคุ้มค่ากลับมา ยิ่งคนเมกามันเรื่องมากกว่าพวกมึงเยอะ เอาเงินไปทำเรื่องไร้สาระมากๆคนมันจะยอมที่ไหน
เอาสมมติว่าพรุ่งนี้รัฐบาลไทยออกมาบอกว่า จะเก็บเงินพวกมึงทุกคน คนละ 10,000 บาท ทุกเดือนเป็นเวลาปีนึง เพื่อส่งคนไปเหยียบดวงจันทร์เทียบเท่าเมกาบ้าง เก็บจริงเมื่อไร พรุ่งนี้รัฐสภาโดนเผาได้เลยมั้ง
อยากให้มีการสำรวจจริงๆจังๆต้องรอคนเงินโคตรเหลือแบบ elon musk กว่าจะมีคนแบบนี้ออกมาได้ 100 ปีมีสักคนนึง
ประกาศว่าดวงจันทร์มีหินต้านแรงโน้มถ่วง(Avatar) หรือมีสินแร่ที่ให้พลังงานมหาศาลดูดิ่ พรุ่งนี้เอกชนแม่งตั้งบริษัท ทำโครงการไปขุดเหมืองทันทีเลย
ถ้าลิฟวงโคจรเกิดได้ก็อาจได้เห็นนะ กูว่าแม่งแทบเป็นอย่างเดียวเลยมั้งที่จะทำให้การบุกเบิกอวกาศพอจะเป็นจริงได้ แต่พวกนักวิจัยก็ยังไม่รู้จะสร้างยังไงนี่สิ
สหายโม่ง ความสัมพันธ์ทรัมป์กับปูติน หรือ เมกากับรัสเซัย ยังไงกันแน่
ช่วงตอนเลือกตั้ง รัสเซียก็ถูกแฉว่ามีส่วนพัวพันกับการเลือกตั้งทําให้ทรัมป์ชนะ ซึ่งหลายๆคนก็ออกความคิดเห็นว่า ปูตินก็อยากให้ทรัมป์เป็นปธนเพราะทรัมป์แม่งเสร่อ + ความสัมพันธ์รัสเซียกับเมกาจะได้กลับมายั่งยืน (ตอนโอบามา-ปูตินนี่กัดกันตั้งแต่ซีเรีย ยูเครน ฯลฯ ถึงกระทั่งช่วงท้ายๆโอบามาไล่ทูตรัสเซียออก) ซึ่งทรัมป์ก็ได้โทรศัพท์ไปหาปูตินเลยในเรื่องความสัมพันธ์//แต่สํานักงานทรัมป์บอกว่าปูตินเป็นคนโทรมา -*- // แต่ตั้งแต่เรื่องเปิดตัวขีปนาวุธใหม่ของรัสเซีย แม่งก็เหมือนมาเปิดวอร์กับมะกันเลย แต่การให้คําสําพาตปูติน นางก็บอกประมาณว่า”พวกที่คิดว่าจะเกิดภาวะสงครามเย็น มึงใช้ส้นตีนส่วนไหนคิด กูเปิดตัวอาวุธใหม่เพื่อจะมากําจัดผู้ก่อการร้ายโว้ย” แต่สื่อมะกัน+กระทรวงต่างประเทศมะกันก็ให้แง่ลบกับเหตุการณ์นี้ ว่ารัสเซียละเมิดสนธิสัญญากําจัดอาวุธ แล้วก็มีข่าวส่งออกอาวุธให้ยูเครนอีก
สำนักข่าวส่วนใหญ่ไม่ชอบทรั้มป์ อะไรโยงดิสเครดิตได้โยงมั่วหมดแหละ
เอาแค่ข่าวปลอมเลือกตั้งจากรัสเซียแม่งก็พยายามขุกอยู่ได้ทั้งทีเลือกตั้งจบไปนานแล้ว
เข้าไปส่องทวิตนังทรัมป์ช่วงนี้ก็พล่ามแต่เรื่องtradeแฮะ 🤔
>>961 นักข่าวเมกาฯ มันเกลียด ทรั้มป์ และ รัสเซีย ถือเป็นศัตรูตัวแสบสุดของ เมกาฯ เพราะงั้นอะไรไม่พอใจแม่มโทษ รัสเซีย หมดแหล่ะ ในความเป็นจริงก็คือจะแฮ๊คระบบเลือกตั้ง เมกาฯ จากภายนอกนั้นมันเป็นไปไม่ได้เลย มีได้แค่พวกคนในเล่นกันเองเท่านั้น
ปล.ปูติน บอกจะเชือดพวกก่อการร้ายมันก็คือการวอร์กับ เมกาฯ ดีๆนี่เองแหล่ะเพราะ เมกาฯ กับ ซาอุฯ คือป๋าดันของไอ้พวกนี้
แล้วทรัมป์นี่คิดยังไงกับปูตินวะ
กูสนใจซาอุมากกว่า เหมือนจะพยายามลบภาพมุสลิมสายเคร่งให้ได้ ไหนจะยกเลิกกฎห้าม ผญ ขับรถ , ห้าม ผญ เข้าสนามกีฬา ตอนนี้มีอนุญาตให้เปิดโรงหนังได้ แถมยังทุ่มงบด้านท่องเที่ยว สร้างพวกโรงละคร-ฮอลคอนเสิร์ตไรพวกนี้ นี่ของที่โดนแบนมาตลอดเป็นสิบๆ ปีทั้งนั้นนะ
โปรดิวเซอร์อาวุโสCNNโดนแอบถ่ายตอนเผลอพูดว่าเรื่องรัสเซียเป็นข่าวที่กุมาเพื่อกระตุ้นเรตติ้งและเพื่อจะเอาคืนทรัมป์ที่เรียกซีเอ็นเอ็นว่าเฟคนิวส์ แต่พวกเกลียดทรัมป์ก็งับเบ็ดง่ายๆ อมเรื่องนี้ไม่ปล่อย เอะอะอะไรก็พ่นรัสเซียๆ
https://www.youtube.com/watch?v=jdP8TiKY8dE&ab_channel=veritasvisuals
แล้วก็ไม่มีทางที่รัสเซียจะช่วยให้ทรัมป์ชนะได้หรอก การที่ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งมีแค่สองอย่าง หนึ่งคือฮิลลารี่โง่เกินกว่าที่คนคิด สองคือทรัมป์ฉลาดกว่าที่คนคิด
ป้าฮิลฯ มั่นเกินไปคิดว่าแค่เอาใจพวก cuck กูก็นอนมาแน่เลยนอนแผ่คาที่ไปแทนและลองฟังนโยบายช่วงหาเสียงของทั้งคู่แล้วเอามาเทียบกันกูว่าก็ไม่แปลกที่ ทรั้มป์ มันจะได้ อีกอย่างคือดันเสือกบอกว่าจะวอร์กับ ปูติน ด้วย โอบาม่า ก็เพิ่งจะเสียหมาไปแหมบๆอีนี่ก็จะหาเหาใส่หัวอีกแล้ว คนเลยยี้กัน
ป้าฮิลฯ ก็แค้นฝังหุ่น ทรั้มป์ กับ ปูติน(กูเกี่ยวไรวะ?) มาตั้งแต่บัดนั้น
ชนชั้นกลางเมกาชอบเดโมแครตไม่ใช่หรอ พวกนี้ไม่มีปัญหากับ Globalization แต่ที่มีปัญหาคือรากหญ้าผิวขาว พวกลูกทุ่งๆ ตนงานระดับล่างๆ นี่แหละ เน้นที่ผิวขาวด้วยนะ เพราะ Globalization กระทบพวกตัวเองที่เจอแย่งงานทั้งจากคนผิวสี คนเอเชีี่ยน แถมเจอผู้อพยพอีก เลยเลือกทรัมป์แม่งเลย
ระบบเลือกตั้งปธน.อเมริกามันไม่ใช่ 1 คน 1 โหวตด้วย แล้วทรัมป์ดันได้คะแนนในรัฐใหญ่เยอะเลยชนะเลือกตั้ง
ทั้งที่จริงๆแล้วนับจำนวนคนโหวตจริงๆคนโหวตฮิลลารี่เยอะกว่า ไม่รู้ว่าทรัมป์ตั้งใจหรือแค่บังเอิญ
ยุ่นแม่งเอาพวกจักรพรรดิไปวาดเป็นโดโป๊ตั้งเยอะ ไมไม่มีใครtriggerเลยวะ555
ถ้ามีคนเขียนล้อเลียนกับหิ้งไทย ถ้าถามกูกูก็ต้องตอบ ไม่ตลกสิ่ ปฏิกริยาปกติ
แต่มองโกลตอนยิ่งใหญ่นี่แม่งใหญ่คับโลกเลยจริงๆนะ
ประเทศเอเชียที่พยายามทำ culture export โฆษณาประวัติศาสตร์ประเทศตัวเองซะเวอร์วังอย่างญี่ปุ่น เกาหลี นี่เทียบไม่ติดเลย
เราต่อสู้ทางอุดมการณ์เพื่ออุดมการณ์นั้นจริงๆหรือ
อยากปิดมู้
ชาตินี้ไม่เคยลองปิดมู้เบย
นี่เป็นมู้ประวัติสาสงั้นต้องหาอะไรมาปิดมู้ดีๆ
ต้องเป็นอะไรที่รีเรทกับมู้ และมีประโยชน์ต่อผู้โม่งอ่าน
งั้นปิดด้วยRare Nazi Footage แล้วกัล
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.