กูจัจองตี้ฮองเฮา ว่าน่าสนดีมีใครแนะนำได้ไหม
Last posted
Total of 1000 posts
กูจัจองตี้ฮองเฮา ว่าน่าสนดีมีใครแนะนำได้ไหม
>>598 กูตามไปอ่านตยมา ชื่อเรื่องแม่งไม่ชวนอ่านเลย แต่ภาษาลื่นไหลดี อ่านไม่หงุดหงิด สนุกเลยละ เหมือนรวมฮิตพล้อตคุ้นๆที่ลงตัว เช่นคุณชายสามแต่งสีจัดๆ ตามสไตล์ตัวรองที่เด่นๆเพี้ยนๆ
ชายสี่หมี่เกี๊ยว พระเอกก็น่าหวีด แต่มาเขียนมุมฝั่งพระเอกกูเบื่ออ่านเรื่องซ้ำย้อนมุมมองมาก แล้วมันทำลายความลึกลับของพระเอกในใจกู55 ถึงไม่ชอบตรงนี้แต่เขาเขียนดีนะคลายปมที่คนอ่านก็แอบเดาได้แหละ ในเล่มจะมีมุมมองชายสี่อีกมั้ย
ทำไมเงียบงี้วะ เพื่อนโม่งช่วงนี้มีนิยายเรื่องไหนแนะนำมะ อยากอ่าน
>>569 กูไปอ่านตามคำแนะนำมึงมาแล้ว...กูชอบนะ
>>571 มันเป็นเรื่องที่พระเอกหน้าสวยเว้ย และแต่งงานกับนางเอกแล้ว มีลูกด้วยกันสองคน ครอบครัวรักกันดี เรื่องนี้พระเอกนางเอกเหมือนตัวประกอบที่เป็นตัวเด่น เพราะคนเด่นและน่าจะเป็นกุญแจสำคัญของเรื่องจริงๆ คือแม่ท่านหญิงโฉมงามนั่น ซึ่งกูคาดว่านางอาจจะย้อนเวลามา แล้วก็มีทั้งฮ่องเต้ทั้งองค์ชายมาหลงรักนาง มันก็เป็นพล็อตที่ไม่ค่อยเห็นอ่ะนะเพราะคนเด่นคนสวยไม่ใช่นางเอกแต่เป็นท่านหญิงกับสามีนาง นางเอกไม่ซูนางทำเป็นแค่ขายชามั้ง ส่วนพระเอกคนนี้น่าจะซูและเป็นคนสวยหลงเมีย ภาษาดีเลยล่ะสำหรับกู คาดว่าคนเขียนน่าจะหาข้อมูลมาในระดับหนึ่งเลย อย่างตอนชงชาด้วยแก้วหยกที่บอกว่าใช้ได้ครั้งเดียวนั่น มีคำผิดบ้าง แต่คนเขียนอัพช้า
กูก็พยายามจะหานิยายมาแนะนำนะ แต่เรื่องที่พอใช้ได้จนถึงเรื่องที่จัดว่าดีก็ถูกแนะนำไปหมดแล้ว คุ้ยหาตามตำหนักเก่าพอได้อยู่ ตะกี้กูลองไปหาเรื่องใหม่จากพวกติดท็อป เปิดมาเรื่องแรกก็เจอแบบข้างล่าง ใครอยากรู้ว่าเรื่องอะไรไปหาอ่านเอง กูไม่ลงชื่อ
คนเขียนออกตัวว่าเพิ่งหัดเขียน ก็ต้องมีข้อผิดพลาดบ้างตามประสามนุษย์ ขอร้องอย่าทำลายกำลังใจเพียงแค่แตกต่างทางความคิด
ตะ...ตะ...แต่
บทแรก >>> "คุณหนู หนีไป อั๊ก ๆ"
บทที่สอง>>> มีคำเตือนว่าระดับความรุนแรงค่อนข้างมาก พออ่านลงไปก็เจอ แคว๊ก!! แคว๊ก!! แคว๊ก!! (เสียงเสื้อผ้านางเอกขาด โดนข่มขืน)
ด้วยความเห็นใจมือใหม่หัดเขียน กูจะไม่ตัดสินจากซาวด์เอฟเฟคสองบทแรก เลยข้ามไปอ่านบทล่าสุดเลยดีกว่า
บทที่สามสิบแปด>>> "เจ้ามันต่ำช้า! เจ้าฆ่าพี่ชาย.....ฟิ้ว!" ตามมาด้วย "อ๊ากกกกกกกๆ อ๊ากกกกกกกกกกกๆ" (เสียงร้องของชายหกคนที่โดนลงโทษ)
กูจะไม่ทำลายกำลังใจคนเขียน เพราะกูเป็นคนขี้วงวาร แต่ว่าน้องเอ๊ย ซาวด์เอฟเฟคไม่ใช่คำตอบของเหตุการณ์ตื่นเต้นเสมอไป
สรุป>> ไม่มีเรื่องใหม่มาแนะนำว่ะ
กูไม่ค่อยกล้าต่อว่านิยายที่คนเขียนใจบางอะนะ เว้นแต่ว่ามีชื่อสำนักพิมพ์ดังมาแปะอยู่หลังชื่อนิยายแล้ว กูก็จะขอต่อว่าบ้าง แต่ว่ากูเปิดอ่านเรื่องท็อปเรียงกันมา ทุกเรื่องออกตัวหมดเลยว่าเพิ่งหัดเขียนหรือเขียนเล่น ๆ ไม่คิดไรมาก ไม่ชอบก็กดปิด ทุกคนใจบางกันหมดเลย จนกูชักสงสัยว่า ถ้ามีคนไปบอกว่าน้อง ๆ ซาวด์เอฟเฟคของน้องทำลายซีนอารมณ์ของเรื่อง พี่อ่านเจอ "แคว๊กๆ" พี่นึกว่าเป็ดบินมาช่วยนางเอกพอดี น้องน่าจะสะกดไม้เอกไม้โทให้มันถูกนะ อักษรต่ำไม่ใช้ไม้ตรี ถ้ากูไปบอกงี้ เขาก็จะว่ากูไปทำลายกำลังใจ เดี๋ยวจะเลิกเขียน น้ำตาตกในมากมาย กูแปลกใจว่าคนเหล่านี้ไม่ได้ผ่านโรงเรียนมาหรือไงวะ ไม่ใช่จะบอกว่าเรียนมาไม่ดีนะ แต่จะบอกว่าไม่เคยโดนครูดุเหรอวะ เกิดมาไม่เคยโดนติเพื่อก่อเลยเหรอ ทำไมใจบาง ต้องเขียนป้องกันตัวเองมากมาย แล้วชาตินี้มึงจะพัฒนาภาษาไทยได้ไง กูไม่พูดถึงพัฒนาความเป็นนักเขียนหรอกนะ เพราะบางคนเขียนเป็นงานอดิเรกช่วงปิดเทอม แต่ว่าใจคอมึงจะออกตัวห้ามคนติแบบนี้ในทุกสิ่งที่มึงทำเลยเหรอ มึงอายุน้อยกว่าเจ็ดขวบกันเหรอ ถึงนึกว่าเพิ่งทำครั้งแรกแล้วห้ามติ งี้มึงจะเรียนรู้กันได้ไงวะ
ลอปอ กูไม่เคยติใครแรงนะ กูเป็นคนใจดีชิบหาย แต่กูก็ยังกลัวการติเพื่อก่อในนิยายเด็กดีอยู่ดีว่ะ
>>609 เห็นด้วยมาก นข.บางคนติไม่ได้เลยโกรธปึงปังเป็นวรรคเป็นเวร โดนติเรื่องภาษาที่ใช้หรือพิมพ์ผิดสะกดผิดอะไรก็ดราม่าได้หมด แล้วอย่างนี้จะพัฒนาตัวเองไปต่อได้ยังไง เจออย่างนี้ในเด็กดีสามสี่เรื่องหลังๆเลยไม่ได้เข้าไปอ่านอีกเลย ขัดใจภาษาวัยรุ่น
ปอลอ กูแทบไม่เคยเม้นติใครหรอกนะ เพราะมักจะเห็นมีคนช่วยเม้นติชมอยู่แล้วในเรื่องที่กูก็คิดว่านข.น่าจะปรับเปลี่ยน แต่เจอคำตอบนข.หลายๆคนแล้วก็เลิกอ่านดีกว่า เพราะคิดว่านข.คงไม่สามารถพัฒนาตัวเองไปได้มากกว่านั้นละ
>603 กูว่าที่อ่านได้แบบน่ารักๆเพลินๆก็เสน่หานวลนางว่ะ ถึงเรื่องก่อนนางเอกนางจะเทพทรูแมรี่ซูเกินก็เถอะ
มีนิยายมาแนะนำ อิเวร บุปผาเหนือมังกร คำผิดเยอะชิบหายตายหอง เยอะเหมือนคนเขียนไม่เคยใส่ใจภาษาไทยมาก่อน ผิดตั้งแต่คำโปรย หน้าข้อมูลเบื้องต้น ยันเนื้อหา กูแวะเข้าไปอ่านแค่บทแรก ถ้าเว้นวรรคถี่ชิบหายแล้ว คำผิดมีถี่ชิบหายยิ่งกว่า ผิดตั้งแต่คำง่าย ๆ ความเอาใจใส่เป็นศูนย์
กูหงุดหงิด ติดท็อปได้ไง คนอ่านทนอ่านได้ไง เห็นคำผิดแล้วอยากจับคนเขียนมาเรียนภาษาไทยใหม่(แต่กูไม่สอน!) สัส
กูอ่านชะตาพ่าย นางร้าย พลอตน่าสนใจดี เล่มแรกน่าสนใจอยุ่เล่ม 2 ที่เปิดผ่านๆ มันจะเริ่มกลับมาน่าสนใจอีกทีตอนไหน
กูอ่านไม่เกต ว่า จู่ๆ ทำไมนางจะร้าย นางจะส่งเสริมให้คู่นั้นรักกัน ทำไมไทเฮาถึงไม่ชอบพนะเอก มีเยอะที่สงสัย
>>612 มึงใจเย็นๆ นะ กูไปดูมาแล้วหงุดหงิดเหมือนกัน โอ๊ยยยยผิดตั้งแต่คำโปรยยันเนื้อหา
การติดท็อปดด. ไม่ได้การรันตีความสนุก ทุกวันนี้กูเลือกค้นจากการอัพล่าสุดแล้วไล่ๆ อ่าน คนเขียนดีทำการบ้านมีเยอะ แต่อาจไม่ใช่แนวนิยม เรื่องบุปปานี่ก็อัพทุกวันไง คนเปิดเยอะ ติดท็อปง่าย
นิยายที่กูชอบอ่านทำไมคนเขียนแมร่งไม่ค่อยอัพวะ กูล่ะเศร้ากว่าจะเรื่องที่ถูกใจก็ต้องรออีก แมร่ง
>>612 มึงไปว่าซะขนาดนี้ เดี๋ยวคนเขียนน้อยใจปิดเรื่องไป คนก็จะว่าโม่งใจแคบใจบาปหยาบช้า ไม่เปิดรับสิ่งใหม่ ถถถถถ
นิยายติดท็อปบางรุ่นก็โอ เป็นพวกคนเขียนที่เขียนมานานแล้วและมีคนติดตามเป็นฐาน แต่บางรุ่นก็อย่างที่เห็น รุ่นปัจจุบันนี้ต่ำกว่ามาตรฐานชนิดที่ว่าน่าตกใจ กูไปย้อนดูท็อปมาอีกที เรื่องบุปผาควักไข่ของโม่งมีสนพ.คว้าไปตีพิมพ์แล้ว เห็นมะ ควักไข่จนมีคนซื้อ แล้วจะพิมพ์ให้มันถูกทำไมวะ พิมพ์ผิดเข้าตากรรมการมากกว่า กูล้อเล่นอะนะ เด๋วมาอ่านแล้วน้อยใจชอกช้ำกูจะบาปหนา อย่าคิดมาก ขอให้ขายดี แต่ช่วยพัฒนาด้านภาษาไทยก็จะดีต่อตัวมึงเอง เวลาคนอ่านที่มีคุนตะพาบไปอ่านจะได้ไม่สะดุด แล้วจะได้เอามาอวยในนี้
กูก็ด้วยเรื่องที่กูอ่านคนเขียนอัพน้อยและช้าเลยยากแหละมึงที่จะเข้าท้อป จะไปสู้คนที่เขียนรัวๆไม่ดูสี่ดูแปดไม่ทานคำผิด เขียนอัพได้เสมอทุกวันได้ยังไง
กูเคยอ่าน นขบ่นว่าเวลาจะได้ตีพิมพ์ โดนสั่งแก้มากมาย บางทีแทบจะทั้งเรื่อง บางทีเปลี่ยนบางส่วนของเรื่องด้วย เงินก็ได้น้อย
สู้ทำอีบุ้คเองดีกว่า ตั้งสนพเองก็ได้ รีไรท์ตามที่ตัวเองเห็นสมควร
ฝั่งคนอ่านอย่างกูก็อดด่า สนพไม่ได้ว่าทำไมไม่คัดงานดีๆ หรือ ช่วยปรับตคุณภาพให้สมมาตรฐาน
กูว่านิยายออนไลน์ประกอบด้วยนักเขียนมือใหม่เยอะ แต่นักเขียนที่อยากพัฒนาตัวเองอย่างจริงจังมีน้อย ส่วนใหญ่อยากเขียนก่อนให้ได้คนอ่านเยอะๆ เขียนตามๆเค้าไปก็ไม่น้อย เขียนกากๆผิดๆก็มีคนอ่านเยอะแยะ เวลาใครติก็บอกใจบาง
กูว่ามันคือวิกฤตการอ่านเขียนแห่งชาติ ถ้าสนพมืออาชีพไม่เข้มแข็งมีจุดยืน คนอ่านก็จะอ่านของคุณภาพต่ำไปเรื่อยจนเคยชิน และคิดว่านี่คือโอเคแล้ว คนอ่านรุ่นใหม่ๆที่อยากขยับมาเขียนนิยายก็จะเริ่มที่มาตรฐานแบบนี้
>>619 กูจะเหลาให้ฟัง ถ้างานดีมีคนตามจริง เงินที่ได้จากสำนักพิมพ์กับทำเองต่างกันเยอะมาก คนเขียนมือเก่าที่เขียนมาสักหน่อยอาจจะพอประเมินได้เลยหันไปทำเองกันมากกว่า ที่สำคัญคือเงินค่าต้นฉบับบางที่มันไม่รู้จะได้เมื่อไหร่ ไม่รู้แก้งานแล้วคนตรวจจะตรวจทันไหม แก้แล้วจะออกมาดีไหม สำนักพิมพ์เองก็เอาความคิดตัวเองเป็นที่ตั้งเหมือนกัน แล้วบางทีก็คิดผิด แบบเก่าของคนเขียนสนุกกว่าอยู่แล้ว แก้ไปแก้มาออกหนังสือไม่ทันงาน บางทีอาจจะได้เงินช้ากว่าเดิมเพิ่มไปอีก 6 เดือน 1 ปี คนเขียนอยากจะรอไหมก็ไม่
คนเขียนมือดีสมัยก่อนเลิกเขียนไปเยอะเพราะระบบสำนักพิมพ์แบบนี้แหละที่ทำให้คนเขียนอยู่ไม่ได้ ส่งไปแล้วเปลี่ยนสำนักพิมพ์ก็อาจโดนแบนบอกเป็นมารยาท ส่งพิจารณา 3 เดือน ผ่านแล้วยังต้องรอแก้งานกันไม่รู้กี่เดือน แทนที่จะเอาเวลาไปเขียนเรื่องใหม่ต้องเอามาแก้งาน เงินที่ได้ก็ไม่ได้มากอะไร สู้ทำเองไม่ได้ สมัยนี้หลายคนที่ทำเองเขาจ้างพิสูจน์อักษรมาช่วยกันเยอะแล้ว ลองเปิดเล่มทำมือของบางคนดูมีชื่อคนพิสูจน์อักษรด้วย มาตรฐานบางทีก็ไม่ได้แตกต่างจากสำนักพิมพ์มากเพราะพิสูจน์อักษรบางคนก็คนจากสำนักพิมพ์นั่นแหละ หนังสืออาจจะแพงกว่าเพราะทุนสูง แต่ทำแบบนี้ไม่ต้องไปเสียเวลาแก้งานสามเดือนหกเดือน ไม่ต้องไปรอพิจารณา เอาเวลาไปเขียนไปวางโครงเรื่องใหม่ได้ทันที
ส่วนการแก้ปัญหาเรื่องคำผิด กูว่าจริงๆ ควรจะเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างพิสูจน์อักษรกับคนเขียน นักเขียนมือใหม่หลายคนมีปัญหาเรื่องภาษา แต่ให้เขาไปแก้เองจนหมดเล่ม เปิดดูทีละคำว่าคำไหนผิดคำไหนถูกมันเสียเวลาเยอะมากแล้วจะมีพิสูจน์อักษรไปทำไม การทำงานตรงนี้พิสูจน์ตรวจแล้วเห็นคำไหนผิดบ่อยก็ส่งกลับไปแจ้งคนเขียน งานคราวหน้ารู้แล้วก็ผิดน้อยลงแล้ว หรือคนไหนถูกจองตีพิมพ์ พิสูจน์ก็ตรวจต้นฉบับในเว็บก่อนเลยก็ได้ ส่งคำที่ผิดบ่อยไปบอกนักเขียน มือใหม่มีประสบการณ์มากเข้าก็ดีขึ้นเองไม่ใช่รอให้เขารู้เองแบบนั้นเสียเวลาฉิบหาย งานสำนักพิมพ์ต้องช่วยกัน ถ้าให้อะไรๆ ก็คนเขียนจัดการ เขาไม่ออกไปทำเองก็แปลกแล้ว
สำนักพิมพ์ที่มีทุนพอจะซื้องานเขียนสร้างสรรค์ดี ๆ ไปตีพิมพ์ได้คือสำนักพิมพ์ใหญ่ที่มีเงินหนา มีหนังสือที่ขายได้มากมายในมือ แต่สำนักพิมพ์ประเภทนี้จะมาช่วยอุ้มหนังสือทุกประเภทมันก็ไม่ไหว ต้นทุนทำหนังสือบ้านเราพอ ๆ กับของฝรั่ง เพราะเราต้องสั่งกระดาษของเขา เครื่องจักรก็ของเขา แต่พอทำออกมาแล้วต้องตั้งราคาถูกกว่าเขาสามเท่าเป็นอย่างน้อย ยิ่งถ้าไปทุ่มกับปก นักวาดมีฝีมือ ก็ยิ่งแพงเข้าไปใหญ่ คนไทยที่มีกำลังซื้อหนังสือมีอยู่จึ๋งเดียวถ้าเทียบกับคนทั้งประเทศ ดูสิสมัยนี้เหลือพิมพ์แค่ห้าร้อยเล่มก็ยังมี จากสามสี่ปีที่แล้วที่ว่าพิมพ์น้อยสุดก็พันเล่ม
งานเขียนจากพวกมือใหม่ความจริงจะให้ดีควรมีมืออาชีพช่วยรีไรต์ให้ แต่ทีนี้ตัวเงินมันน้อยไง เขียนเองทำขายเองแล้วยังต้องจ้างคนมารีไรต์ ถ้าคนรีไรต์เก่งจริง ๆ เขาก็คงไม่คิดแค่สี่ห้าพันหรอก เพราะงานมันหนักเกือบเท่าเขียนเอง ไหนจะต้องรีไรต์ให้เป็นภาษาของผู้เขียนอีกด้วย สรุปว่างานหนังสือไทยมันตกต่ำลงไปเรื่อย ๆ ก็เพราะตัวเงินนี่แหละว่ะ งานทำมือที่ทำออกมาได้ดีจริงมีน้อยมาก งานทำมือที่ได้เงินง่ายคือเล่นกับกระแส อันไหนกระแสดีก็ต้องรีบเขียนรีบขาย สำนักพิมพ์หลายแห่งก็มาเล่นกับกระแสเหมือนกัน ที่โม่งด่า ๆ กันว่างานห่วยเอาไปพิมพ์ได้ไง นั่นแหละสำนักพิมพ์ต้องการกระแส พิมพ์แค่พันเล่ม ได้เงินไว ๆ แล้วถ้าฟลุคมีคนซื้อเยอะก็สบาย ถ้าไม่ฟลุกก็ไม่เจ็บตัวมาก เพราะมีกระแสอยู่แล้ว อาจจะพอได้ทุน บางทีคนเขียนอยากตีพิมพ์มาก เขาให้เซ็นสัญญาแบบไหนก็ยอม ประเภทให้เงินตามจำนวนเล่มที่ขายได้ รับเงินทีละไม่กี่พัน สำนักพิมพ์ไม่ต้องเจ็บตัว ไม่ต้องทุ่มเงินให้นักเขียนทันทีที่พิมพ์เสร็จ
กูว่างานขายตามเว็บแบบที่เด็กดอยทำเนี่ยดีที่สุดแล้วสำหรับหน้าใหม่ที่อยากได้เงินค่าขนม ถ้ามีคนอ่านเยอะก็ไปขายเมบ แต่โอกาสพัฒนาตัวเองมันจะยากเพราะไม่มีมือาชีพมาแนะนำให้ ไม่มีบรรณาธิการ นอกจากจะกล้าลงทุนจ้างบรรณาธิการมาช่วย ช่วงแรกอาจจะไม่ได้กำไรเลยเพราะเอาไปจ่ายให้บรรณาธิการหมด แต่มันคือความรู้ไง ต่อไปถ้าเก่งขึ้นก็ไม่ต้องมีบรรณาธิการช่วยแล้ว
งานหนังสือที่ผ่านมา เห็นนักเขียนดังๆทำบู้ทขายเองแล้ว สนพ.คงหนาวเหมือนกัน
>>623 สนพ ทั้งหลายจะได้ปรับปรุง เพิ่มส่วนแบ่งให้นักเขียนมากขึ้นและพยายาม "คง" เนื้อหาเดิมของนักเขียนเดิมไว้ กูว่าเหตุผลส่วนนึงที่นักเขียนหันไปทำมือเองคือสนพ ปรับให้เปลี่ยนเนื้อหานี่ละ ถ้าไม่เกินจะทน ก็น่าจะปล่อยผ่านได้ ไม่งั้นถ้ารีไรท์ตามสนพ บอกเนื้อหามันก็ไม่ออริจินอลสิ ที่สำคัญกูคิดเนื้อหามาหลายปี อยู่ๆ บอกให้เปลี่ยน ให้กูเขียนใหม่เลยง่ายกว่าป่ะ บางทีมันเป็นจุดสำคัญของเรื่องด้วย เปลี่ยนทีแทบจะรื้อเรื่องทิ้ง
>>623 ไม่ใช่แค่สำนักพิมพ์หนาว แต่นักเขียนที่ขายเองก็หนาวเหมือนกัน เพราะงานหนังสือมันต้องลงทุนลงแรงก่อนเป็นสามสี่เดือนกว่าจะได้ซักเล่ม แล้วที่เขียนออกมาก็ใช่ว่าจะขายดีขายหมดเร็วทุกเล่ม นักเขียนดังมีฐานหนังสือที่พิมพ์ซ้ำ พอจะกินเปล่าได้อยู่ แต่ก็ต้องผลิตงานใหม่เหมือนกัน ถ้าลงมาทำธุรกิจเองแล้วเวลาเขียนหนังสือก็มีน้อยลง นักเขียนเยอะเลยที่ไม่เข้าใจงานพิมพ์ ต้องมานั่งศึกษา ทำเสร็จแล้วต้องโปรโมตเอง ไม่มีสำนักพิมพ์ทำให้เหมือนแต่ก่อน แล้วต้องรับหน้าเองเต็ม ๆ เวลามีข้อติ ปกไม่สวย กระดาษไม่ดี กาวไม่ดี เล่มโน้นสวยกว่า ถ้าขายออนไลน์ก็ต้องห่อ ต้องส่ง ต้องขนไปไปรษณีย์ ทุกอย่างเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาทั้งนั้น
อ่าสหญิงสาวเฝ้าสุสาน สนุกดี เสียดาย เดาเรื่องง่ายไปหน่อย
ไม่รู้กูคิดไปเองเปล่านะ นิยายท็อปบางเรื่องตอนอยู่ในเด็กดีนี่ดังชิบหาย แต่พอออกเล่ม กระแสในกลุ่มที่เขาคุยกันแม่งมีแบบพล็อตยืดบ้าง ไม่สนุกบ้าง หรือไม่ก็บางเรื่องคือกระแสเงียบไปเลย เช่น เมียกระโดดกำแพง(ที่พวกเราตอดๆ กัน)
แต่ท็อปบางเรื่องก็ดังตลอดแหละ อย่างพวกจอมนางเคียงฯ เสี่ยวมาวมาว อะไรพวกนั้น
นี่พูดเฉพาะแค่ที่ติดท็อปนะ ถ้าเรื่องที่ไม่ติดท็อปแต่กระแสเล่มดีและแรงชิบหายกูว่าหญิงสาวเฝ้าสุสานว่ะ
ตอนนี้ในดด.มีเรื่องไหนที่พออ่านได้บ้างแบบไม่เสียอารมณ์กับคำผิดหรือเสียงเอฟเฟกต์เป็ดร้อง
ไม่ได้เข้านานเลยหลังจากปิดซ่อม ดีใจที่กลับมาเจอกัน
>>593 เรื่องตลกตอนนี้แนะนำ "ไถเฟิง", "ฝ่าบาท หม่อมฉันเป็นนกฮูก" (คนเขียนลำนำขนนก+บันทึกลับมหาดเล็ก), "คู่มือการใช้ชีวิตข้ามภพ" ไม่ถึงกับก๊าก แต่ก็ตลกๆ ดี (คนเขียนคู่มือนางกำนัล), "สามชาติสามภพ อภินิหารลูกแก้วมังกร" เรื่องนี้ประชดประชันสุดฤทธิ์ อย่างฮา (คนเขียนเรื่องหญิงดาว)
>>609 ฮาก๊ากเลย เป็ดมาช่วย ซาวด์เอ็ฟเฟ็กต์เยอะดี
>>617 กูแปลกใจเรื่องคู่มือนางกำนัล ไม่ยักมีสนพ.มาติดต่อไปพิมพ์ กูว่าเค้าเขียนดีนะ
ตอนนี้ที่ติดตามอยู่
อันดับ 1 ในดวงใจยกให้ ซื่อจื่อ ใครจะอ่านรีบๆ อ่าน เค้าจะปิดตอนแล้ว
ภาษาดี เรื่องราวสนุกชวนลุ้น คาดไม่ถึง มีแทรกมุกตลกเป็นระยะ และที่น่าแปลกคือเป็นนิยายที่แทบไม่มีเลิฟซีนเลย
อื่นๆ
มู่กั๋ว จะปิดตอนแล้วเหมือนกัน, จารนางในหมื่นพันดารา ภาษาดี เนื้อเรื่องอาจจะมีงงๆ บ้าง แต่ก็โอเคอยู่, หย่งเหิง, เหนือลิขิตรัก, พี่ใหญ่...ข้าไม่ชอบคนผู้นี้, หงส์สะบัดปีก, หนึ่งข้า หนึ่งอ๋อง, ลือเล่ห์นำรัก, หยุนซิงเย่, ชายาบัญชารัก (เรื่องนี้ไม่มีอะไรมาก เน้นความหวานฟินของพระเอกนางเอกที่โตมาด้วยกัน อ่านแล้วก็อิจฉา)
ไว้เจอไรแล้วจะมาแนะนำใหม่
>>630 ไม่ทันซะแล้ว กูรีบเปิดไปอ่านซื่อจื่อ แต่เขาปิดตอนแล้ว ภาษาดี๊ดีแบบนี้ไม่เคยติดท็อป ขอให้ขายดิบขายดีแล้วกันว่ะ นิยายเรื่องอื่นที่มึงบอกมา กูเคยอ่านเกือบหมดเลย แต่บางเรื่องหยุดไปแพร้บเพราะเยอะเกิน เดี๋ยวค่อย ๆ ไปเก็บให้หมด
จารนางในหมื่นพันดารา ยังไม่เคยเห็น ต้องไปลองอ่านซะหน่อย นิยายพวกนี้ที่มึงว่ามาควรติดท็อปแทบทั้งนั้นนะกูว่า ถ้าการติดท็อปมันมีข้อแม้ว่าต้องใช้ภาษาที่ดีและถูกต้องอะนะ
เอ่อ กูทำผิดกฎไรอะ ทำไมถูกลบข้อความ แนะนำนิยายไม่ได้เหรอ
ง่ะ กูคือ 630 ตะกี้รีเฟรชแล้วไม่ขึ้น นึกว่าโดนลบ ขออภัย
>>602 ยังอยู่มั้ยวะโม่ง ไปซื้อสองเล่มมาอ่านจบยัง 55555 นี่ไม่ได้ตามมู้นี้เท่าไหร่ ซอรี่ จริงๆ กูอ่านนานแล้ว จำไม่ได้ว่ายังมีมุมมองคุณชายสี่อีกมั้ย แต่ลางๆ จำได้ว่าอาจจะมีตอนบทท้ายๆ มีมุมมองรัชทายาท สั้นๆ นอกนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นนางเอก จริงๆ กูว่าถ้าไม่ชอบก็อ่านข้ามได้ อย่างตัวอดีตชาติที่เป็นแม่ทัพปีศาจ กระต่าย กระรอกซัมติง กูพลิกผ่านเลย รู้สึกไม่จำเป็นกับพล็อตมากเท่าไหร่ และขัดกับอารมณ์-โฟลว์ของการดำเนินเรื่องในภพชาตินี้มาก
แนะนำอีกเรื่องนึงใน ดด. ที่อ่านเพลินๆ เรื่องข้าข้ามมิติมาเป็นตัวประกอบ ภาษาโอเค เนื้อเรื่องดีกว่าพวกท็อปๆ เยอะเลย
>>631 แปลกใจเช่นกัน ภาษาดี เรื่องสนุก ทำไมคนอ่านน้อย หรือเพราะเป็นเรื่องที่นางเอกมาเข้าร่างผู้ชาย หรือเพราะไม่มีเลิฟซีนวะ แต่เค้าเขียนสนุกนะ
ไปหาตราบชั่วฟ้าดินสลายที่มีโม่งแนะนำ แต่ดันไปเจออีกเรื่อง ตราบที่ดอกเหมยยังเบ่งบาน เฮ้ย งานดีนะ ภาษาดีเลยแหละ
เขียนค่อนข้างละเอียด อ่านแล้วนึกภาพตามได้ แต่คนที่ชอบการเดินเรื่องฉับไวอาจจะไม่ชอบตรงนี้
แต่บางช่วงก็เหมือนอ่านนิยายแปลจีนสไตล์ฝรั่ง ซึ่งตรงนี้กูอาจคิดไปเอง ไม่ใช่ในแง่ไม่ดีนะ ประมาณว่าเป็นลักษณะการคิดหรือการบรรยายที่ไม่ค่อยเจอในนิยายจีน
>>636 ตราบดอกเหมย กูตามไปอ่านแล้ว ภาษายังไม่เข้าที่ แต่นับถือคนเขียนที่มีความพยายามปรับปรุง มองออกเลยว่าเขาค่อย ๆ แก้ ตั้งใจทำงาน เขาเขียนในหน้าแรกว่าเพิ่งหัดเขียน กำลังแก้ไขให้ดีขึ้น แล้วก็ไปเรียนวิธีทับศัพท์จีน ตรงนี้กูขอตบมือให้อย่างแรง คนเราเขียนยังไม่ดีเรื่องแรก เรื่องต่อไปจะต้องดีขึ้นถ้าพัฒนาตัวเอง กูเห็นเขาเขียนจบไปแล้วตั้งหกสิบบท มียอดคนติดตามเยอะใช้ได้ แต่คนเม้นท์น้อยไปนิด คงเป็นเพราะเล่าเรื่องเรื่อย ๆ หรือเปล่า แต่ตรงนี้ไม่ต้องใส่ใจหรอก คนอ่านเด็กดีส่วนใหญ่ชอบเรื่องเร็ว ๆ ซู ๆ มาตรฐานงานต่ำ งานควักไข่ควักนมเลยขึ้นท็อปเร็ว
สวัสดี สวีดัด กูตามอ่านคำวิจารณ์ของนิยายกูมาตั้งแต่เรื่องแรกจนตอนนี้เรื่องที่สองวางแผงมาสักพักแล้ว
ขอบอกว่าอ่านแล้วหงอยแดกจ้า 55555 อันนี้คือฟีลลิ่งล้วนๆ
แต่แม่งโคตรมีประโยชน์ คือกูเสียใจแต่กูต้องรับฟัง แว๊บแรกกูอารมณ์แบบปกป้องตัวเองอ่ะ ไม่อยากscroll down ชิทททท กูหวั่นไหว กูแต่งห่วย ฮือ สักพักสงบลงกูเลยตั้งใจอ่านใหม่ตั้งแต่ต้น กรอกหัวตัวเองว่าถ้ากูเอาแต่ปลอบตัวเองว่าไม่เป็นไร ยังไงก็มีแฟนๆ ที่ชอบงานกู กับแค่คนในโม่งกูไม่ต้องแคร์มันก็พอได้อยู่หรอก แต่กูเป็นพวกsensitiveที่ชอบเอาชนะ ไม่ได้หมายถึงไปเอาชนะคนอื่นนะ หมายถึงเอาชนะตัวเอง ทำให้ดี ให้สำเร็จให้ได้ ไม่งั้นกูตายตาไม่หลับแน่นอน บางความเห็นกูตบมือให้เลย คือติแล้วกูเอามาปรับได้ แก้ไขได้ กูขอบคุณมา ณ ที่นี้ด้วย
เรื่องสำนวนนี่กูฉับฉน (ขออนุญาตใช้การเขียนผิดเพื่อออกเสียงให้ได้ฟีล) คือมีคนชมว่าสำนวนกูดี อ่านแล้วจีน เหมือนอ่านมกร. (กูพิมพ์ตามนักอ่านวิจารณ์นะ ไม่ได้อวยตัวเอง กูสาบาน T^T คำชมเล่นกูซะยืดไปสามวันเจ็ดวัน) แต่ในเมื่อบอกจุดเจาะจงลงมาว่ากูไม่แม่นเรื่องความหมายศัพท์กูก็จะพัฒนาและละเอียดถี่ถ้วนมากขึ้น เรื่องเว้นวรรคกูกราบขออภัยจริงๆ กูก็อปจากneo office มาลงแล้วแม่งทะเลาะกับเด็กดีตลอด ไอ้ที่ต้องเว้นดันติดเป็นพืด ไอ้ที่ไม่ต้องเว้นดันเว้นเป็นช่วงๆ พับผ่าเถอะ บางทีกูหมดแรงนั่งเคาะใหม่ กูเลยลงไปเลยเพราะคิดว่าตอนตีพิมพ์มันไม่มีปัญหาอยู่แล้ว (คำว่ามักง่ายลอยมาแปะหน้าผาก)
ด้านคาแร็กเตอร์ตัวละคร ด้วยกูอาจยังติดสไตล์น้ำเน่าเห็นเงาจันทร์อยู่ทำให้มันไม่โอเค กูจะแก้ไขให้ได้เพราะกูไม่ชอบนิยายที่อ้างเวลาตัวละครคิดหรือตัดสินใจไม่สมจริงว่าเป็นแค่นิยายจะเอาอะไรมากเหมือนกัน คือไม่ได้หมายถึงไม่ชอบแฟนตาซีไรงี้นะ หมายถึงว่ามันต้องเรียลในเหตุการณ์หรือกรอบของเรื่องประมาณนั้น
ประการที่สอง กูฝากเฉาะเรื่องนี้หน่อย คือถ้ามันยังไม่ถือว่าพัฒนากว่าเรื่องก่อนๆ ในแง่ของสำนวน กูจะได้ทำอะไรสักอย่างกับตัวเอง จะรีไรต์อะไรก็ว่ากันไป https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=1762966
// มาถึงตรงนี้รู้เลยสินะกูเป็นใคร แง้ แต่กูต้องการความตรงไปตรงมา กูไม่อยากย่ำอยู่กับที่ กูปวดใจเวลาคนเขาไม่รีวิวนิยายกูแต่รีวิวของคนอื่นทั้งที่ออกใกล้ๆ กัน (ขี้อิจฉา!) พิมพ์มายาวเหยียด เออ กูแม่งทะเยอทะยานหวะ 555555 ขอบคุณมาก
เรื่องที่ให้ลิ้งค์ไปใครเฉาะก็ได้นะ กูลงไปห้าตอน มันยังบอกทิศทางเรื่องไม่ได้แต่กูอยากให้ช่วยเฉาะสำนวนเพราะมันเป็นปัญหาหลักของเสิ่นเจิ้น
>>639 กูยังไม่กดลิงค์นิยายมึง ไม่รู้ว่ามึงเขียนนิยายเป็นยังไง แต่กูอ่านนิยายทั้งไทย จีน (ภาษาจีน) จีนแปลไทย ฝรั่ง กูขอบอกในฐานะคนที่อ่านภาษาจีนได้ ถ้ามึงโดนติสำนวนว่าไม่จีน ดูไท้ยไทย แต่ไม่ได้โดนติเรื่องใช้ภาษาไทยผิดความหมาย มึงจงเชิดใส่เลย เพราะแม้แต่งานจีนเอง ก็ไม่จำเป็นต้องแปลออกมาให้มันจีน มันขึ้นอยู่กับคนแปลว่าอยากให้ออกมาเป็นไทยแค่ไหน คนที่มักติงานเขียนของนักเขียนไทยว่าไม่จีน เป็นเพราะติดสำนวนจีน แต่เขาก็ไม่เข้าใจว่าคนอ่านอีกเป็นจำนวนมาก ต้องการอ่านสำนวนที่เข้าใจง่ายในภาษาไทย เพราะฉะนั้น เรื่องสำนวนจะไท้ยไทยหรือจี๊นจีนจึงเป็นความชอบ ความนิยม ไม่ใช่เรื่องที่มึงต้องใส่ใจ
ข้อสอง มึงพิมพ์มาลงแล้วเว้นวรรคไม่ตรง เคาะยาก เหนื่อย ปวดหมอง มึงก็หาโปรแกรมใหม่ที่มันเข้ากับกับเด็กดีได้สิวะ เท่านี้ชีวิตมึงก็จะมีความสุข ไม่ต้องอับอายใครว่ามึงเว้นวรรคไม่เป็น ในเมื่อมึงบอกว่าเขียนจนวางแผงมาสองเรื่องแล้ว มึงก็มีความรู้นี่ว่าการจัดหน้าที่สวยงามช่วยทำให้คนเกิดความประทับใจได้ยังไง แม้มันจะเป็นนิยายเว็บ เพราะมันทำให้มึงดูเป็นคนใส่ใจ๊ใส่ใจ ใคร ๆ ก็รัก ถถถถถถ
ช้อสาม สไตล์น้ำเน่าเห็นเงาจันทร์ กูไม่เห็นว่ามีอะไรผิด เพราะนิยายจีนประเภทดอกบัวรักชาติปางก่อน ม่านประเพณีศรีต้าหมิง อะไรเทือกนี้มันก็เน้าเน่า ก็เห็นดูกันจนจอแตก ถ้านิยายมึงมีคนอ่านพอเพียงอย่างที่มึงต้องการ มึงก็อย่าได้แคร์ มึงทำงานด้านนี้ มึงรู้นี่ว่าความต้องการคนเรามันหลากหลาย ทำงานสนองนี้ดคนกลุ่มนึงได้ แต่สนองคนอีกกลุ่มไม่ได้ เรื่องธรรมดา ญาญ่าสวยกว่ากูกว่ามึงแน่นอนก็ยังโดนด่าว่าดำ
ประการที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ขี้เกียจนับ ถ้ามึงอยากได้ใจคนอ่านนิยายจีนแปล หรืออยากเข้าถึงวัฒนธรรมจีน มึงก็อ่านวรรณกรรมจีนให้มากขึ้นอีก ถ้าอ่านภาษาจีนไม่ออก ลองอ่านงานแปลของหลินโหม่ว กูไม่ได้บอกว่างานเขาดีกว่าคนอื่น แต่งานเขาแปลแล้วมันมีกลิ่นภาษาจีนเยอะ ซึ่งกูไม่ได้บอกว่าควรเป็นอย่านั้น สำหรับกู มันยังไม่ดี มันทะแม่งเมื่อกลายเป็นไทย แต่กูอ่านภาษาจีนออก กูเลยรู้ว่าเขาแปลมายังไง แต่หลายคนอ่านไม่ได้ก็มี บอกว่าอ่านไม่รู้เรื่อง เหนื่อย ปวดหัว ถ้ามึงศึกษาจากงานเขา มึงจะเข้าใจจังหวะภาษาจีนมากขึ้น โดยที่มึงไม่ต้องไปทำตาม กูไม่แนะนำ เพราะมันเป็นภาษาที่ถอดความโดยคงความเป็นจีนไว้มาก จนถึงมากเกินไป
ประการแถม คนจีนชอบพูดสำบัดสำนวนตลอดเวลา เปรียบเทียมคำคมโน่นนี่ การนำเสนอนิยายจึงต้องมีสิ่งนี้แทรกเรื่อย ๆ แบบไม่ดูยัดเยียด แต่เป็นภาษาปากในชีวิตประจำวัน คนจีนชอบประชด กระแนะกระแหน แบบเดียวกับคนไทย แต่ด้วยวัฒนธรรมที่ต่าง จึงมีเรื่องด่าคนละเรื่อง ถ้ามึงศึกษาตรงนี้เพิ่ม มึงก็จะเห็นเองแหละ
ไว้ว่างแล้วกูจะไปเฉาะสำนวนนะ ตอนนี้ขอบึ่งมอไซไปซื้อของกินก่อน
>>639 มาให้กำลังใจและคำแนะนำเล็กน้อย
เรื่องที่เขียนๆ มาถือเป็นเสิ่นเจิ้นระดับดีนะ คือดีกว่าอีกหลายร้อยเรื่องในเว็บ
ภาษาโดยรวมดี การดำเนินเรื่องลื่นไหล เนื้อหาอ่านได้ฟินๆ เพลินๆ แนวมกร. ชอบเรื่องพี่ใหญ่
กลับไปอ่านที่โม่งเฉาะ เออ เค้าพูดถูกเรื่องการใช้คำผิดความหมาย
จะแนะนำให้เปิดพจนานุกรมมันคงลำบากเนาะ เพราะคนเขียนก็ไม่รู้ว่าคำไหนไม่ถูก จะเปิดเช็คทุกคำก็ไม่ไหว
เอาเป็นว่าคำไหนที่รู้สึกไม่แน่ใจก็ลองเช็คพจฯ ดูหน่อยละกัน อย่าลังเลแล้วฟันธงเองโดยไม่ค้น
แต่อย่างนึงนะ ถ้าอ่านหนังสือดีๆ มาเยอะ มันจะสะดุดได้เลย จะรู้สึกว่าคำนี้ในประโยคนี้มันแปลกๆ
นักเขียนอาจต้องไปเพิ่มทักษะด้วยการอ่านนิยายไทย
ส่วนสำนวนจีนๆ ก็คงต้องไปซึมซับจากนิยายจีน
>>639 ยินดีด้วยที่นิยายวางแผงถึงสองเรื่อง ขอให้ขายดิบขายดี และมีเรื่องต่อๆ ไป
ขอชื่นชมที่เอาคำติไปพัฒนาตนเองให้ดีขึ้น ไม่จมอยู่กับที่
กดเข้าไปดูที่เอาลิงค์มาลงไว้แล้ว แต่ยังไม่มีเวลา ว่างๆ จะเข้าไปลองอ่าน แล้วจะกลับมาวิจารณ์ให้นะจ๊ะ
อันนี้นอกเรื่อง เลื่อนๆ ดู กูเคยอ่านแค่เรื่องเดียวคือชะตาฝันมั่นรักเองว่ะ แต่ไม่วิจารณ์ละกันเพราะไม่ใช่เรื่องที่มึงต้องการให้วิจารณ์ จบ.
>>640 โอย ม่านประเพณีศรีต้าหมิง ชอบบบบบ ขอบคุณมาก เอาเรื่องเว้นวรรคก่อน กูจัดย่อหน้าเรียบร้อยนะ มีแต่เรื่องเว้นวรรคที่ชั่วร้าย คือใช้macแต่มันไม่ได้ให้เวิร์ดมา มันมีแต่โปรแกรมที่ติดมากับเครื่องหนะ ตอนนี้ก็กำลังจะไปอัพเครื่อง เดี๋ยวจะสอยพี่เวิร์ดมาลงนะ ชีวิตจะได้ดี๊ดีและไม่มีปัญหากับเด็กดี ขอบคุณสำหรับคำแนะนำในย่อหน้าแรกมาก ได้กำลังใจ คือจะว่าไงดี เหมือนเออ ได้สติ...กูต้องปรับปรุงแต่ต้องเข้าใจในจุดนี้ไม่งั้นกูอาจถูกครอบงำหมกมุ่นกับเรื่องสำนวนจีนสำนวนไทยจนนิยายไม่ไปถึงไหน
กูอ่านนิยายจีนแปลมานานพอสมควร แต่อาจติดสำนวนไทยแบบที่คนเขาว่ากันก็คงเพราะมันเป็นสำนวนตัวกูเองนี่แหละ (อันนี้ไม่ได้จะกวนคนอื่นที่วิจารณ์นะ) แต่เหมือนนิยายแปลที่อ่านคนเขียนคือคนจีน กูอาจสำบัดสำนวนได้ยังไม่เท่าเจ้าของภาษา จะพยายามต่อไป ขอบคุณมากที่เสียสละมาพิมพ์ ขับมอไซดีๆ อย่าลืมใส่หมวก
ปล. ญาญ่าสวยกว่ากูก็ได้ กูคนละสไตล์ กูว่ากูคล้ายคิมเบอลี่
>>641 ขอบคุณมาก สะดุดประโยคนี้ 'ถ้าอ่านหนังสือดีๆ มาเยอะ มันจะสะดุดได้เลย' เพิ่งสำนึกได้ว่าช่วงหลังมาตะบี้ตะบันอ่านแนวจีนทั้งแท้ทั้งเทียมอย่างเดียวเลย ลืมนักเขียนฝีมือดีๆ ไปเยอะ ไม่ได้การ ต้องรีบไปขุดรุ่นเดอะที่เคารพมาอ่านแล้ว ต่อจากนี้คงระวังเรื่องการใช้คำผิดความหมายมากขึ้น
>>642 ขอบคุณมาก ที่ตั้งใจพัฒนาก็เพราะกลัววันหนึ่งถ้าไม่ดีขึ้นจะไม่มีใครอ่านอีก (ทำหน้าเศร้าน้ำตาปริ่ม) ถ้าว่างเมื่อไหร่ก็อัญเชิญ เรื่องที่ให้ลิ้งค์ไว้วิจารณ์จัดเต็มได้เลยนะ
>>643 อาจยังไม่หวือหวาพอให้คนเอามารีวิว ไม่เป็นไรๆ พยายามต่อไป ขอบคุณมาก
ใครอ่านลิ้งค์ที่ให้ไว้แล้วมาสับ เฉาะ ปอก เจาะ ทุบ อะไรได้ตามสบาย เดี๋ยวจะกลับมาอ่าน ขอบพระคุณอีกครั้ง
กูเคยอ่านเพียงรักสลักใจของมึง ซึ่งกูถือว่าสำนวนดี ภาษาลื่นไหล ไม่มีอะไรให้รำคาญ
แต่ช่วงกลางค่อนมาปลายเรื่องกูว่ามันติดจะขายฟินมากไป เรื่องมันไม่ไปไหนกูเลยมีความเบื่อๆ กูว่าความฟินกระชับๆก็ทำได้ ที่สำคัญมันน่าจะทำให้เรื่องไปข้างหน้า ผ่อนบ้างแต่มากๆไปมันเฝือ และเบาบางแต่นี่เป็นรสนิยมส่วนตัวของกูผู้ชาด้านกับความฟินไปแล้ว แค่เป็นหนึ่งความเห็นละกัน
เรื่องนี้กูอ่านไปตอนนึง กูยังไม่เจออะไรให้สับมาก สำนวนก็ได้มาตรฐานงานสร้างปกติของมึง ซึ่งกูว่าดี โอ้ยย พอโม่งมึงแตกกูพิมพ์มึงกูแล้วกระดากนิ้ว
เอาเป็นว่า เรื่องน่าติดตาม กูขอให้มึงกำพล๊อตให้แน่น อย่าเผลอไหลผ่อนอารมณ์นานไป เพราะปูconflict ส่อไปทางเข้มจ้นกว่าเรื่องเดิม กูเอาใจช่วย เดี๋ยวกูจะไปอ่านต่อ
>>639 ขอโทษด้วย เราไม่นิยมอ่านนิยายใน net แต่เห็นวางแผงเป็นเล่มตั้ง 2 เล่ม....บอกตามตรงปกติ ไม่อ่านนิยายเสินเจิ้น (ความจริงคืออ่านแหละ แต่ไม่รอด ยังไม่เคยเจอที่ถูกใจ....ลองหลายเล่มละ แต่อ่านจบและชื่นชมแค่เรื่องเดียว ) แต่ แต่ พอเห็นนักเขียนที่ต้องการคอมเม้นท์จริงใจ จากนักอ่าน ....บอกเลยว่าอยากหนับหนุน เผื่อว่าจะได้ช่วยเป็นกระดาษทราย ช่วยขัด ตัด แต่ง ได้มีเพชรเม็ดงาม มาให้เราได้เสียตังค์ (อย่างสุขใจ) ^ ^
ไว้เร็ว ๆ นี้จะหามาอ่านนะ แต่คงไม่รีวิวใน โม่ง เพราะมีพื้นที่ส่วนตัวใน blog ไว้รีวิวหนังสืออยู่ละ
>>645 นี่ก็รู้สึกกระดากเหมือนกัน มีน้องที่สนิทเตือนว่า พี่เล่นกูมึงเลยเหรอคะ ทำไมไม่แทนตัวว่าเราก็พอ โม่งแตกนักอ่านเขารู้แล้วสงสารเขา 55555 บอกน้องไม่ทันแล้วววว พี่เผลอเผยดาร์กไซด์ไปแล้ว (ขำๆ ไม่ได้ดาร์กอะไรหรอก) เรื่องนี้จะกำพล็อตให้แน่น ฉีกกฎตัวเองที่ปกติชอบแต่งแบบมีราชวงศ์อ้างอิง อันนี้สมมุติเองใหม่เลยทีเดียว คงต้องค่อยๆ ถีบเรือเป็ดไปแบบช้าๆ แจวรัวๆ แบบเรื่องอื่นไม่ได้ มาฟังคำวิจารณ์ในนี้แม้ตอนแรกแอบจุกแต่จะเอาไปปรับปรุงเรื่องที่กำลังจะลงมือเขียนได้ ดีๆ ขอบคุณมาก ได้อีกจุดละ ต้องผ่อนหนักผ่อนเบาพวกซีนฟินๆ ไม่ให้เฝือเกินไป
>>646 ถ้ารีวิวเสร็จแล้วหรือมีความคิดเห็นอยากติชมอะไร รบกวนช่วยหาทางสะกิดบอกเราด้วยนะคะ จะส่งข้อความลับในเด็กดีหรืออินบ็อกซ์เพจก็ได้ เราอยากฟัง ขอบพระคุณมากเลย
คือนี่แอบเกร็ง พูดมึงกูแต่กับเพื่อนที่สนิทจริงๆ 555555 ใครทราบแล้วว่าเราเป็นใครอย่าเพิ่งตกใจนะ ฮืออออ
>>639 กูคือโม่งเฉาะผู้ใจดี ความจริงในโม่งมันไม่ควรมีชื่อ แต่เวลาเฉาะกูจะใส่ไว้ เพราะคนตามอ่านจะได้รู้ว่าโม่งเฉาะเน้นแบบไหน ใครไม่ชอบนิยายสไตล์เดียวกับกูจะได้ไม่หลงไปอ่าน รู้สึกว่าโม่งตอดมันก็จะใจดีเหมือนกัน แต่เดี๋ยวนี้ไม่เห็นมา
กูข้ามพวกคำโปรยกับการตกแต่งไปเลยนะ เพราะมึงเป็นนักเขียนแล้ว มีผลงานแล้ว มึงรู้ดีว่าควรทำยังไง แล้วมึงก็เป็นคนเปิดใจมากด้วย กล้าเข้ามาขอคำแนะนำจากคนกลุ่มน้อย
มาที่บทนำ กูข้ามเรื่องสำนวน เพราะมึงมีสำนวนเป็นของตัวเองแล้ว และมันไม่ใช่สำนวนที่ต้องติ แต่แน่นอนว่ามันคือสำนวนที่ค่อนข้างไทย รวมทั้งบทสนทนาด้วย แต่กูย้ำอีกทีว่าไม่ใช่ข้อเสีย ถ้ากลุ่มคนอ่านของมึงชอบก็คือใช้ได้ แต่คนชอบงานจีนที่มีกลิ่นอายจีนก็จะเบ้ปากรัว ๆ สิ่งที่กูคิดว่ามึงทำดีได้มากกว่านี้คือ เลิกเขียนประโยคยาว ๆ ติดกันเป็นพืด อย่างเช่น
“จางเยี่ย...” เด็กหญิงหลังโต๊ะหนังสือตัวเตี้ยพึมพำชื่อของเด็กรับใช้ข้างกายคนใหม่ก่อนพยักหน้า “ใช้ชื่อเดิมนั่นละ...”
ประโยคแบบนี้อ่านรู้เรื่องมั้ย อ่านรู้เรื่อง แต่มันมีคำขยายรุงรังมากมายเกินจำเป็น ใช้แค่ “จางเยี่ย...” เด็กหญิงพึมพำก่อนจะพยักหน้า “ใช้ชื่อเดิมนั่นละ...” แค่นี้ก็พอแล้ว เพราะจากประโยคของมึงบรรทัดนี้ คนอ่านรู้อยู่แล้วว่าเด็กหญิงพึมพำอะไร ไม่จำเป็นต้องขยายความเลยว่าพึมพำชื่อเด็กรับใช้ข้างกายคนใหม่ แล้วถ้ามึงอยากให้รู้ว่าเด็กหญิงอยู่หลังโต๊ะหนังสือตัวเตี้ย มึงควรอธิบายไว้ก่อน หรืออธิบายออกมาทีละนิด ไม่ใช่มาใส่ในประโยคคำพูดที่ต้องการความต่อเนื่อง ทำให้ไม่เห็นความสำคัญว่าประโยคนี้ต้องการอะไร คนอ่านลืมไปหมดแล้ว เจอประโยคแบบนี้แล้วอ่านเหนื่อย และทำให้คนข้ามสิ่งที่มึงเขียนไปด้วย เพราะมันเยอะเกิน
มึงมีประโยคแบบนี้เต็มไปหมด เหมือนมึงติดว่าต้องขยายความ ยกตัวอย่างเพิ่มอีกเช่น
ชายวัยห้าสิบปีเศษท่าทางกระฉับกระเฉงทำความเคารพคุณหนูใหญ่ของตนก่อนชำเลืองมองไปยังเด็กชายเนื้อตัวมอมแมมซึ่งนั่งอยู่ที่พื้น
จูหรงเยี่ยซึ่งตามมาสมทบกับเจ้านายของตนและบ่าวไพร่คนอื่นแล้วลอบมองสตรีในชุดสีน้ำเงินเข้มท่าทางกระวนกระวายก้าวมาทางนี้
อย่างที่กูบอก อ่านรู้เรื่องมั้ย อ่านรู้เรื่อง แต่มันรุงรัง มันไม่เน้นความสำคัญในประโยคนั้น ทำให้งานเยิ่นเย้อเกิน
ยาวแล้ว กูไม่อยากเขียนยาวเกินไป เรื่องสำคัญที่กูอยากบอกมึงอีกอย่างคือแนวคิดของคนจีนโบราณ คนจีนโบราณมีเรื่องของชนชั้นเหมือนคนไทยโบราณ มึงเริ่มต้นด้วยการที่พระเอกมากับขบวนค้าทาส แต่ใช้การค้าแพรพรรณขนสัตว์บังหน้า ความจริงแล้วการค้าทาสยุคโบราณมันไม่ต้องปกปิด นอกจากมึงไปกวาดต้อนคนในปกครองของคนอื่นมาขาย ชนชั้นทาสมีค่าเท่าหมูหรือวัวควาย การค้าแพรพรรณต่างหากที่อาจจะต้องปกปิด เพราะราชสำนักหลายยุคผูกขาดสินค้าประเภทนี้ แต่นิยายมึงสร้างอาณาจักรขึ้นมาใหม่ กูถือว่าผ่าน เพราะมึงจะเซ็ตติ้งให้อะไรสำคัญกว่าย่อมได้หมด กูเพียงแต่บอกไว้ในแง่ความเป็นจีน
อีกกรณี ตอนคุณหนูมาซื้อทาส สั่งให้เอาน้ำให้ทาสกิน แล้วพ่อค้าคิดว่า ผู้ดีชอบแสดงน้ำใจพร่ำเพรื่อ ตรงนี้ก็เป็นหลักการคิดแบบไทยปัจจุบัน เพราะจีนโบราณมีชนชั้นชัดเจนอย่างที่กูบอก ทาสมีค่าเท่าหมูหมา ผู้ดีหรือคนรวยจะไม่แสดงน้ำใจพร่ำเพรื่อต่อทาสจนถึงขนาดพ่อค้าเก็บมาคิด เพราะถ้าใครทำแบบนั้นจะดูประหลาด หรือไม่ก็จะถูกยกย่องเป็นตำนาน คนส่วนใหญ่ไม่ทำ วิธีคิดของคนโบราณกับคนปัจจุบันต่างกัน มึงเอาน้ำใจในปัจจุบันไปใช้กับคนโบราณ มันก็จะไม่ใช่ รวมทั้งกรณีคุณหนูมาเลือกซื้อทาสเองด้วย มันเป็นไปไม่ได้เลย แต่เรื่องแบบนี้มึงจะมองข้ามไปก็ได้ มึงสามารถใช้จินตนาการให้เหนือความจริงได้ กูแค่บอกให้ฟังเฉย ๆ [พอดีกูนึกถึงเรื่อง Roots ที่เป็นซีรีย์ทาสคนดำ นั่นแหละ แนวคิดโบราณเป็นแบบนั้นทุกชาติ เจ้านายอาจจะรักทาสชิบหาย ไปไหนไปด้วยกัน แต่ถ้าทาสทำผิดหรือทำให้ไม่พอใจขึ้นมา เจ้านายสามารถตีทาสหรือทำทารุณโดยไม่รู้สึกอะไร เพราะค่าของคนมันไม่เท่ากัน มึงต้องนึกถึงจุดนี้ด้วยถ้าต้องการให้สมจริงแบบโบราณ แต่มึงไม่จำเป็นต้องแก้นะ กูบอกแล้ว]
พอดีกว่า เอาไว้คนอื่นมาเฉาะมาสับมั่ง อ้อ "ฟูเหริน" ต้องเขียนแบบนี้ ไม่ใช่ฟู่เหริน (จริง ๆ ต้องอ่านฟู้เหริน แต่มึงสะกด "ฟูเหริน" ก็ใช้ได้ เพราะราชบัณฑิตวางหลักให้ใช้แบบนั้น)
กูแค่อยากบอกว่า ในบอร์ดนี้มีกระทู้แชร์เทคนิคนักเขียน และในบอร์ดwebnovel มีกระทู้นักเขียนนิยายเสิ่นเจิ้น
>>648 ขอบพระคุณเป็นอย่างมาก เรื่องทาสนี่เบิกเนตรกูมาก อันนี้คุยกันเฉยๆ นะ กูว่ากูเก็ตประโยคนี้ 'เจ้านายอาจจะรักทาสชิบหาย ไปไหนไปด้วยกัน แต่ถ้าทาสทำผิดหรือทำให้ไม่พอใจขึ้นมา เจ้านายสามารถตีทาสหรือทำทารุณโดยไม่รู้สึกอะไร' เหมือนกับที่เคยอ่านนิยายหรือดูหนังบางเรื่องมา คือแม่งดูโคตรเมตตาทาสหรือบ่าวตัวเองแต่บทไม่ถูกใจขึ้นมา...เช่น ท่านอ๋องคนหนึ่งมีคนสนิท คนสนิทนี้ติดตามมาตั้งแต่เด็กรู้ใจกันสุดชีวิต อยู่มาวันหนึ่งพระเอกเจอนางเอกแล้วคนสนิทเกิดทำอะไรบางอย่างพลาดซึ่งมีผลกระทบไปถึงนางเอก น้ำใจและความเมตตาจะอันตธารไปอย่างรวดเร็วเพราะพระเอกจะดีร้ายก็มองนางเอกสำคัญกว่า ดังนั้นไอ้คนสนิท เอ็งโดนนนนน!!!
อันนี้กูเข้าใจนะ เหมือนที่อ่านนิยายจีนบางครั้งตัวเอกชอบโอ๋และเข้าข้างทาสหรือคนใช้ตัวเองมากๆ มันก็คือการใช้จิตใจของคนสมัยนี้แต่ง ไม่ว่าจะจีนหรือไทย แบบเหมือนสงสารเมตตาตัวละครที่ด้อยฐานะกว่างี้ ที่กูสรุป นิยายจีนโบราณบางเรื่องมันก็คือความคิดของคนปัจจุบันที่เซ็ตติ้งโบราณ บางเรื่องแม่งน้ำเน่า แต่ก็แล้วไง น้ำเน่าไม่มีอะไรเสียหาย แค่สิ่งที่กูต้องจับให้ได้คือเรื่องไหนสามารถดึงเอามุมมอง บรรทัดฐานการตัดสินใจ และreactionของคนสมัยก่อนได้กลมกล่อมที่สุด ซึ่งกูพลาดตรงนี้ กูอาจใส่หลักสามเชื่อฟัง ใส่พิชัยสงคราม ใส่ประเพณีนู่นนี่นั่น แต่ก็แม่งเหมือนคนทำเค้กที่คิดว่าเค้กอร่อยแน่เพราะกูใส่ไข่ตามสูตร แต่กูดันไม่ใส่ใจจะร่อนแป้งให้ละเอียด ไม่เลือกนมยี่ห้อดีๆ ออกมามันกินได้ แต่มันไม่ดีเท่าที่ควรจะเป็น กูจะไปปรับปรุงให้ดีเรื่องมุมมองพวกนี้
เรื่องภาษา อันนี้เล่มแรกกูโดนบก.เตือนว่าใช้คำซ้ำหนักมาก โดยเฉพาะคำว่า ที่ ซึ่งกูเปิดนิยายแปลของหลายๆ ค่ายมาอ่าน เออ เว้ย เขาใช้แต่ไม่เยอะขนาดกูจริงๆ ทำไมกูต้องติด'ที่'อะไรขนาดนี้ แล้วพอมึงบอกว่าเนี่ย กูชอบดับเบิ้ลขยายความประโยคจนมันยาวเหยียดเป็นพืด ระฆังในหัวกูสั่นเลย มันก็คือสาเหตุหนึ่งที่กูชอบใช้คำว่า'ที่' (ไม่นับคำเชื่อมอื่นๆ อีก) เพราะกูต้องวนมาขยายไปขยายมา กูคิดว่ามันคือการทำให้คนอ่านเห็นภาพ แต่ก็นั่นหละ ใช้บ้างไม่เสียหาย ใช้เยอะๆ มันเฝือและยืดยาว กูจะแก้ไขความเยอะของตัวเอง 55555 เรื่องฟูเหรินเดี๋ยวกูรีไรต์ใหม่แล้วแก้
เรื่องสำนวน อันนี้กูจะพยายามให้มันสมดุล คือแน่นอนแม่งต้องมีหลุดไทยบ้างอะกูพนัน T-T แต่กูรู้ว่ากูทำได้ดีกว่านี้ เหมือนเวลากูอ่านวายจีนกับวายตะวันตกแล้วกูแยกได้ มันมีกลิ่นอายของมันเอง กูบอกเลยว่าเรื่องต่อไปที่จะส่งสนพ.อาจจะยังคงมีสำนวนติดไทยอยู่เพราะกูดันมาเจอโม่งเฉาะช้าไป ฮืออออ แต่ก็ยังดี กูกำลังลงมือเริ่มเรื่องใหม่ เอาไปแก้ได้ทัน ขอบคุณมาก
>>649 เข้าใจๆ 555555 ตอนแรกกระดากเหมือนกัน เดี๋ยวคนต้องรู้ว่าเราเป็นใคร แต่ปกติภาพลักษณ์ก็ไม่มีอยู่แล้วเลยไปปล่อยกับสายลม แง้
>>652 https://fanboi.ch/webnovel/5295/recent/ แหล่งรวมนักเขียนนิยายเสิ่นเจิ้น
ไม่งั้นก็กดตรงขีดสามชั้นด้านบนสุดอะ ตรงแถบแดงๆ
มันจะโชว์กระทู้หัวข้อต่างๆ เข้าไปที่ Literature แล้วก็เลือกเข้าไปตามสบาย
กูว่ารวมๆแล้ว ห้องนึงมุมคนอ่าน ทั้งเฉาะทั้งสับทั้งโวยได้ถึงใจกว่าเมนท์ที่อื่นเพราะไม่มีดราม่าตามมาเท่ามึงไปเมนท์ในบอร์ดนิยาย แต่กูพบว่าที่นี่ด่าอย่างจริงใจ ชมอย่างเชื่อถือได้มาก นักเขียนต้องหุ้มเกราะให้พร้อมแล้วเข้ามาจะได้ประโยชน์กลับไป อีกห้องคือมุมคนเขียนที่ปรึกษาหาทางพัฒนาตัวเอง ซึ่งต่อให้กูด่างานเสินเจิ้นบ่อยๆ แต่ห้องนี้ก็ทำให้กูชื่นชมคนที่ไม่รู้แต่ไม่ได้มั่วไปก่อน ยังพยายามที่จะหาวิธีการปรับปรุง กล้ามาถาม ซึ่งมีโม่งใจดีไปตอบให้เยอะแยะ แหม่ โม่งลิทนี่ดีจริงๆ ฮิๆ
>>648 โม่งเฉาะมึงคิดถึงกูหรา
ส่วนเรื่องตะวันกล้าฯ >>639 กูเห็นด้วยกับโม่งเฉาะ ขอเสริมนิดนึง เอาแค่บทนำพอนะ
- คำว่า "มิ" ถึงแม้จะมีความหมายว่า "ไม่" และทำให้บรรยากาศดูโบราณขึ้น แต่การใช้ติด ๆ กันมันดูขัดตาพิกล จะเปลี่ยนไปใช้ทั้ง "มิ" และ "ไม่" ในเวลาเดียวกันมันก็กระไรอยู่ แล้วแต่นักเขียนแล้วกันว่าจะคิดยังไง
- คำว่า "หาก" จริง ๆ ตามพจนานุกรมไม่ได้มีความหมายว่า "แต่" เลย [(๑) ก. โบราณใช้เป็นกริยาช่วยหมายความว่า พึง, ควร, เช่น “อันไตรโลกย์หากบูชา” = อันไตรโลกย์พึงบูชา. (๒) ว. จาก, แยกออกไปอีกส่วนหนึ่ง, เช่น ออกหาก ต่างหาก. (๓) สัน. ถ้า, แม้, เช่น หากเธอมาฉันก็จะรอ (๔) สัน. เผอิญ เช่น หากอักนิฏฐ์พรหมฉ้วย พี่ไว้จึงคง (ตำนานเรื่องศรีปราชญ์), หากเดชพระจอมจุมพลป้องบไภยันต์ (บุณโณวาท)]
แล้วกูก็ยังไม่เคยพบในหนังสือหลักภาษาไทยว่ามีการใช้คำว่า "หาก" เป็นคำสันธาน/คำเชื่อมความขัดแย้ง (ถ้าใครเจอรบกวนบอกบุญ) งงนิดหนึ่ง เพราะนักเขียนส่วนใหญ่ก็ชอบใช้คำว่า "หาก" แทนคำว่า "แต่" มันคงฟังดูโบราณขึ้นมั้ง แล้วก็น่าแปลกด้วยที่คนส่วนใหญ่อ่านแล้วก็เข้าใจว่า "หาก" สามารถมีความหมายเป็น "แต่" ได้ แปลกดี
- "เสียงใสนั่นติดแหบเล็ก ๆ ก่อนจูหรงเยี่ยวัยสิบเอ็ดปีได้ยินเสียงร้องห้ามปรามวี้ดว้ายของสตรีจนอื้ออึง" ตรงนี้ต้องอ่านซ้ำอยู่หลายรอบว่าใจความของประโยคนี้คืออะไร เหมือนที่โม่งเฉาะว่านั่นแหละ ตัดคำขยายออกหน่อย ย้ายเรื่องการบรรยายอายุของจูหรงเยี่ยไปไว้ที่อื่นก็น่าจะทำได้
- "เมื่อลืมตาขึ้นมองก็พบดวงตาคู่คมซึ่งกำลังจ้องมองมา" นี่คือตัวอย่างของประโยคที่ควรตัดคำว่า "ซึ่ง" ทิ้ง ถ้าเหลือแค่ "เมื่อลืมตาขึ้นก็พบดวงตาคู่คมกำลังจ้องมองมา" แค่นี้ใจความก็ยังเท่าเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แถมยังกระชับกว่าประโยคเดิมอยู่หน่อยหนึ่ง
- "เนิ่นนานดั่งชั่วกัปชั่วกัลป์" เอาตามตรงนี่เป็นคำเปรียบเทียบตามปกติของไทยเลย ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจีนเขาเชื่อเรื่องกัปกัลป์มั้ย แล้วคำเปรียบเทียบความนานของจีนแบบนี้เขาใช้กันมั้ย คิดว่าบางทีอาจลองหาสำนวนจีนที่ใช้เปรียบเรื่องระยะเวลานาน ๆ มาใช้ น่าจะให้ความเป็นจีนได้มากกว่า
- ส่วนตัวแล้วกูชอบย่อหน้าสุดท้าย ตรง "หลายสิบปีจากนี้ผู้คนเล่าขานฯ" เป็นพิเศษ
ป.ล. อักษรต่ำไม่สามารถใช้กับไม้ตรีได้ เพราะมันไม่สามารถอ่านออกเสียงได้ เช่น วี๊ด ต้องใช้ว่า "วี้ด", มั๊ย ต้องใช้ว่า "มั้ย" << ในกรณีภาษาพูดน่ะนะ
>>657 กูคิดถึงเวลามึงตอดแล้วขำดี กูจะได้ตามไปอ่าน
คนเขียนนิยายตะวันกล้าฯกูมองว่าพัฒนาได้มาก ไม่ใช่พัฒนาได้เพราะมาถามโม่ง เพราะโม่งแม่งก็มีโม่งดีโม่งเลว โม่งด่าเอามันไม่สร้างสรรค์ก็เยอะ ด่าไม่มีเหตุผล ด่าผิด ๆ ถูก ๆ ก็เห็นออกบ่อย แต่ที่จะไม่มีคือโม่งประจบ โม่งเลีย ส่วนใหญ่นิยายที่โม่งชมมักจะดีจริง แต่สนุกหรือไม่สนุกถูกใจคนก็เป็นอีกเรื่อง
คำว่า "มิ" ที่โม่งตอดพูดถึง มันมาจากการที่รูปประโยคจีนมีปฏิเสธซ้อนปฏิเสธ เช่น "มิอาจไม่กระทำ" คนแปลจีนยุคนั้นเลยใช้คำว่า "มิ" เพื่อไม่ให้มีคำว่า "ไม่" ซ้ำกันในประโยคเดียว คำว่า มิทราบ มิควร มิกล้า มิบังอาจ จึงพลอยพบบ่อยในนิยายจีน แต่ของไทยโบราณเองก็ใช้เหมือนกัน เช่น มิได้รังเกียจเดียดฉันท์ กูเห็นด้วยกับโม่งตอดว่า มีได้ แต่ให้ระวัง อย่าใช้จนเฝือ นิยายจีนแปลยุคใหม่ลดคำเหล่านี้ลง บางคนบอกว่าฟังดูไม่โบราณ แต่กูมองว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงมิติใหม่ อีกหน่อยคำว่า "ข้า เจ้า" อาจจะกลายเป็น "กระผม คุณ" แม้แต่นิยายยุคราชวงศ์ถังก็เป็นได้ เพราะความโบราณของภาษามันจะขยับไปเรื่อย ๆ
>>659 มึงไปเอามาจากไหนนนนน กูก็ว่าทำไมนิยายที่อ่านปีหลังๆมานี่คนใช่คำว่าหากแทนคำว่าแต่กันเยอะจัง หากนู่นหากนี่ แต่ไม่เห็นมีเงื่อนไขมีผลของเงื่อนไขเลย สรุปคือมีหลายคนคิดว่า หาก = but นี่เอง ตายๆๆๆๆ ภาษาไทย แถมบางทีใช้แต่ในเนื้อความที่มันไม่ขัดแย้งกันไปอี๊กกก สิ้นหวังแล้ว orz
>>657 ขอบพระคุณมากที่ไปอ่านและมาบอก ฟีลตอนเขียนแล้วอ่านทวน กับฟีลเขียนทิ้งไว้แล้วกลับไปอ่านอีกครั้งมันต่างกันจริงๆ อย่างประโยค "เมื่อลืมตาขึ้นมองก็พบดวงตาคู่คมซึ่งกำลังจ้องมองมา" คือกูอ่านถึงแค่นี้กูรู้เลยว่ามึงจะบอกให้กูตัดอะไร 5555 แล้วทำไมตอนอ่านทวนเอง ณ เวลานั้นมันลื่นไปได้ก็ไม่รู้ เดี๋ยวไปจัดการต้องกลับไปสแกนกรรมเรื่องนี้อีกรอบ
เรื่อง 'หาก' เป็นอย่างที่ว่ามาจริง เรื่องมันเป็นมางี้...เมื่อก่อนจะใช้คำว่า แต่ แต่ แต่ และ แต่ นานๆ ไปรู้สึกมันซ้ำ บางครั้งparaphraseให้มันเป็นประโยคขัดแย้งในตัวแล้วก็ยังไม่โอ คราวนี้อ่านนิยายไปเรื่อยๆ พบว่ามีการใช้'หาก'เพื่อเป็นตัวทำให้กลายเป็นประโยคขัดเหมือน but จึงนำมาใช้กัน ซึ่งกูรับมาด้วยอีกคน(เหงื่อตก) ถ้าไม่นับในบทนำของตะวันกล้าหรือบางครั้งที่หยิบมาใส่แทนแต่ กูคุ้นเคยกับการใช้'หาก'แทน'ถ้า'
สำหรับย่อหน้าสุดท้าย แต้งกิ้วหลายๆ
>>658 ขอบคุณมาก กูมาเก็บเกี่ยวเอาคำวิจารณ์ไปสแกนความผิดของตัวเองแล้วแก้อีกครั้ง
กุเพิ่งรู้เนี่ยแหละว่ามีคนใช้หากแทนแต่ด้วย นี่คือกุรอดใช่ไหมที่อ่าน ๆ มาแล้วไม่เคยเจอ
กูว่า
กูยังพิมพ์ไม่จบมือลั่น
กูว่าต่อนะ คนเขียนทานเองยังไม่พอ มึงควรหาคนอ่านให้มึงอีกชั้น เพราะเขียนเองมันก็ไหลออกมาตามธรรมชาติและสไตล์ตัวเอง มันสแกนกรรมไม่รอบหรอก ให้คนอื่นอ่านทาน แล้วค่อยมาพิจารณาว่าควรปรับไม่ปรับตรงไหน สนพถึงมี บก และพิสูจน์อักษร เอ้ะ เดี๋ยวนี้ยังมีอยู่มั้ย
>>665 สำนักพิมพ์ที่ทำงานได้มาตรฐาน มีบรรณาธิการและมีพิสูจน์อักษร แค่บรรณาธิการคนเดียวถ้าเก่งจริงก็สามารถเรียบเรียงให้ใหม่ได้ด้วย ช่วยแก้ให้ได้ บรรณาธิการบางคนอาจไม่ถนัดช่วยแก้ แต่รู้ว่างานดีหรือไม่ดี แนะนำได้ ถ้านักเขียนใหม่ได้บรรณาธิการอย่างแรกจะโชคดีมาก
สแกนกรรมให้ได้ผล ต้องทิ้งงานไว้ระยะนึงเลยแล้วมาอ่านใหม่ ไม่รีบส่งสำนักพิมพ์ แต่เขียนเรื่องใหม่ไปก่อน แล้วค่อยย้อนมาอ่านเรื่องเก่า จะเห็นเองเลยว่าฝีมือเราตอนนั้นยังไม่ดี เพราะคนเรามันเก่งขึ้นในทุกวัน ถ้าเขียนทุกวัน อ่านทุกวัน ทักษะจะดีขึ้น กลับไปแก้งานตัวเองได้ นักเขียนที่ไม่จำเป็นต้องรีบส่งรีบเอาเงิน ถ้าทำแบบนี้ได้ รอไประยะนึงแล้วกลับไปอ่านแล้วแก้ไข งานมึงจะพัฒนามากเลย
>>665 >>666 สำนักพิมพ์มีคนไม่พอต้องมีเวลาให้ด้วย บางทีให้เวลาพิสูจน์อักษรทำงานน้อย วันสองวันงี้ตรวจทานต้นฉบับก็หลุดกันประจำ แต่ถ้าหลุดมาน้อยๆ ก็รับได้อยู่
ส่วนบรรณาธิการนี่เห็นต่างหน่อย นักเขียนใหม่ถ้ามีแบบบอกได้ว่างานดีหรือไม่ดีแนะนำให้น่าจะดีกว่า นักเขียนที่เริ่มขายแล้วกับยังไม่ขายกรอบความคิดต่างกันอยู่ คนขายแล้วจะเริ่มคิดถึงยอดขายกันมากขึ้น มองหาปัญหาว่าเกิดจากอะไรตรงไหน มองความต้องการนักอ่านมากขึ้น ซึ่งไม่ใช่ไปมองพวกคอมเมนต์ในนิยายอะไรแบบนั้นหรอกนะ แต่ถ้าคนขายแล้วเขาจะเริ่มจับได้เอง ส่วนคนยังไม่ขายก็จะออกแนวเขียนแบบที่อยากเขียน ที่คิดว่ามันดี แต่จะให้ผ่านสำนักพิมพ์มันต้องดูว่างานมันขายด้วยหรือเปล่า ส่วนการเรียบเรียงบรรณาธิการแต่ละคนก็มีแนวทางทำงานของตัวเอง บางคนไม่เหมาะกับนิยายแนวหนึ่ง จากงานที่สนุกกระชับเปลี่ยนเป็นเนิบช้าน่าเบื่อแทนก็มี อันนี้กูว่าดวงด้วยอย่าไปคิดว่างานสำนักพิมพ์ทำแล้วออกมาดีหมด คนเขียนต้องลองทวนเองบางทีนักเขียนหน้าใหม่ทวนแล้วก็สงสัยตัวเองว่าตัวเองผิดหรือเปล่า อันนี้ต้องลองพยายามตัดอคติออกแล้วอ่านอย่างเป็นนักอ่านดู
แต่ถ้าใช้เวลากับงานเขียนมาก แนะนำว่าอย่าคิดไปเป็นนักเขียนอาชีพ เขียนเป็นจ็อบรองเป็นงานอดิเรกก็พอ เพราะเงินจะหมุนไม่ทันนะ
>>667 เห็นด้วยเรื่องบรรณาธิการ บางคนจะพิจารณาเนื้อเรื่องทั้งหมดและแนะนำจุดบกพร่องหรือจุดที่ควรจะเสริม แต่บางคนก็ดูแค่เรื่องภาษา พวกการใช้คำถูกความหมายรึเปล่า ไรงี้
เคยได้ยินเรื่องของคนนึง ไปเสนอหลายสนพ. มีแห่งนึงพร้อมจะตีพิมพ์มาก แต่อีกแห่งนึงบก.วิจารณ์ซะนักเขียนเสียเซลฟ์ คือต้องรื้อเขียนใหม่หมด ไม่รู้ป่านนี้เขียนใหม่หรือว่าเลิกเขียนไปแล้ว
ก็แล้วแต่จะพิจารณากันอะนะ เห็นบางคนก็ไม่ง้อสนพ. ทำอีบุ๊คขายเอง
ว่าแต่ใครช่วยยกตัวอย่างประโยคที่ใช้คำว่า หาก ในความหมายว่า แต่ มาหน่อยได้มะ นึกไม่ออก
>>669
>>670
อืม กูคิดออกที่เคยเจอมารูปประโยคประมาณนี้
บีหนึ่งมองเห็นโกโก้ครั้นช์วางอยู่บนโต๊ะ หากไม่สามารถเอื้อมไปหยิบได้เพราะตัวเตี้ยเกินไป (โปรดอย่าสนใจบีหนึ่งกับโกโก้ครั้นช์)
หรือ บีสองมองหน้าพี่ชายด้วยความเย้ยหยัน หากในใจลึกๆ ยังคงแอบเวทนาเขา ซึ่งในกรณีนี้ 'หาก' คือ 'แต่' เพราะถ้าหากคนเขียนทราบว่า 'หาก' มีความหมายว่า 'ถ้า' จะไม่เขียนออกมาในรูปแบบนี้ เพราะมันจะกลายเป็น...บีสองมองหน้าพี่ชายด้วยความเย้ยหยัน ถ้าในใจลึกๆ ยังคงแอบเวทนาเขา
ซึ่งมันไม่เมคเซ้นส์
คำว่า หากแต่ว่า มันมีปะวะ
เรื่อง หาก กับ แต่ นี่ถกกันได้ข้ามวันเลยนะ 55555
สองกระทู้นี้น่าสนใจ https://pantip.com/topic/31711374 กับ https://pantip.com/topic/33704511
คือ "หาก" นี่นอกจากจะมีความหมาย "ถ้า" "แต่" (ตามที่เราคุย ๆ กัน) ในกระทู้สองยังใช้ในความหมาย "และ" อีกด้วยว่ะ ซึ่งกูเจอมาหมดเลย บางทีอาจจะใช้มาแล้วด้วยซ้ำมั้ง
ตอนนี้กูยังไม่เคยอ่านบทความหรืออ่านใครพูดถึงเรื่องนี้นะ แต่ถ้าไม่ลืมจะถามผู้รู้ละมาบอก
เออ อีกคำหนึ่ง "กระนั้น" [ว. นั้น, ดังนั้น, อย่างนั้น.] ก็เจอว่าใช้ในความหมาย "แต่" เหมือนกันนะ เช่น เขาหิวมาก กระนั้นเขากลับขี้เกียจลุกไปหาอะไรกิน
ซึ่งถ้ามองแบบเคร่ง ๆ ก็น่าจะเป็นการใช้คำผิดความหมาย หรือถ้ามองแบบอะลุ่มอล่วยมันก็จะเหมือนเป็นวิวัฒนาการของภาษา ที่ภาษามีการเปลี่ยนแปลงความหมายหรือเกิดความหมายใหม่ขึ้นมาอะ หรือไม่ก็อาจต้องมองความหมายตามบริบท กูก็ไม่ชัวร์
กูคิดว่าลักษณะการใช้ 'หาก' ที่เพี้ยนไปจากความหมายเดิมเป็นลักษณะวิวัฒนาการทางภาษาอย่างนึงเหมือน >>680 ซึ่งถ้ากูจำไม่ผิด เค้าเรียกว่าการแปรทางภาษามั้ง ถ้ามีโม่งภาษาศาสตร์อยู่ในนี้อาจช่วยได้ (กูเรียนนานละ ลืม) การแปรทางภาษาแบบนี้มีอยู่อีกหลายคำและหลายแบบมึง ทั้งแบบความหมายเปลี่ยน หรือแบบหน้าที่ทางไวยากรณ์เปลี่ยน เช่น 'กับ' หรือ 'ด้วย' สองคำนี้มีการแย่งชิงหน้าที่ทางไวยากรณ์กันมานานมาก มีงานวิจัยของ ดร.คนนึงที่เค้าเคยมาบรรยายพิเศษให้กูฟังเค้าศึกษาเรื่องนี้อยู่ กูคิดว่า 'หาก' สามารถปล่อยได้บ้างกรณีที่ไม่ทำให้บริบทรอบข้างเปลี่ยนความหมาย หรือตัวมันเองใช้แบบไม่มีความสลักสำคัญอะไร หรืออีกกรณีนึงคือคนส่วนใหญ่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงทางภาษาของมันได้ แบบไม่รู้สึกว่าการใช้หากในลักษณะของ 'แต่' ผิดปกติ(ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาอีกมาก)
>>680 คำว่า "กระนั้น" กูมองว่ามันถูกใช้ในความหมายของ "ถึงกระนั้น" เพราะในภาษาปาก คำว่า "ถึงอย่างนั้น" จะถูกตัดคำว่า "ถึง" ออกไป แล้วพูดแค่ "อย่างนั้น" เช่น ประโยคที่มึงยกมา "เขาหิวมาก กระนั้นกลับไม่ลุกไปหาของกิน" ถ้าพูดด้วยภาษาปาก เราจะพูดว่า "ไอ้ต๊อบหิวจนน้ำลายหยดติ๋ง ๆ อย่างนั้นแม่งยังไม่ลุกไปหาอะไรกิน"
ตัวอย่างอื่น
พี่โป๊ปเตี้ย (ถึง) อย่างนั้นกูยังรัก
เป่าเปาน่าเอ็นดู (ถึง) อย่างนั้นยังโดนด่าว่าหมวย
เสิ่นเจิ้นเรื่อง "กุ้ยเฟยอภินิหารระดับพลังโคตรเพชร" เขียนดีมาก (ถึง) อย่างนั้นกลับขายไม่ออก
มึงจะเห็นว่ามันถูกนำมาใช้โดยตัดคำว่า "ถึง" ออก ใช้อย่างนี้จนชินปาก โดยไม่ได้หมายความแค่ "อย่างนั้น" เพราะถ้าใช้ในความหมายแค่ "อย่างนั้น" จะไม่จำเป็นต้องมีประโยคย่อยมาแสดงความขัดแย้ง เช่น ฉันชอบกระโปรงอย่างนั้น ผมอ่านหนังสืออย่างนั้น แม่กูชอบพูดอย่างนั้น แต่ถ้าใช้ในความหมาย "ถึงอย่างนั้น" มันต้องมีอะไรมาเพิ่มให้รู้ว่าทำไม โดยที่ตัดคำว่า "ถึง" ออกไป แทบไม่มีใครพูด "ถึง" เลยมั้งกูว่า
มีนิยายเสิ่นเจิ้นสนุดๆแนะนำบ้างป้ะ อยากลอวอ่านนิยายดีๆที่คนไทยแต่งบ้าง
>>683 เอาตอนนี้ที่อ่าน
คู่มือข้ามภพ ในเด็กดวก สนุกดี ประชดนิยายทะลุมิติอีกที
ฝ่าบาทหม่อมฉันเป็นนกฮูก กูชอบคนนี้เขียน ภาษากระชับ ไม่เวิ่น
ส่วนที่พิมพ์เป็นเล่มแล้ว
กูมี่เอิน กูซื้อมาดอง เคยอ่านในเวป เรื่องจริงจังดี เลยโดดเด้งขึ้นมา คุณชาย ข้าตระหนกจนผมร่วง (กูเกลียดชื่อ เลยยังไม่ได้ซื้อ แต่ลองอ่าน ตย กูว่าดีอ่านได้ แต่มึงไปลองอ่านก่อน
>>683 สนุกหรือไม่สนุกต้องพิจารณาเอง ไปลองอ่านก่อนซักบทสองบท เพราะเดี๋ยวจะมีคนมาด่าคนแนะนำว่าไม่สนุกเลย แนะนำมาได้ไง
ถ้าเอาภาษาที่ใช้ได้ ไม่เบียว เท่าที่โม่งชม ๆ กันมาก็มี หญิงสาวเฝ้าสุสาน คุณชายข้าตระหนกจนผมร่วงแล้ว มู่กั๋วหวางโฮ่ว พระสนมขย่มวัง อินซื่อ อะ เท่านี้ก่อน มีหลากหลายพอแล้ว ที่เหลือรอคนอื่นมาบอก
>>685 สนมขย่มวังนี่โนจ้ะ กูพูดถึงในแง่ความกาวตลอด ส่วนภาษา ตรรกะ วัฒนธรรม หรืออะไรที่มีสาระคือมึงเททิ้งไปได้เลยสำหรับเรื่องนี้
กูสปอยล์ง่าย ๆ เลยนะ
.
.
.
.
.
- นางเอกชอบเล่นไฮโล(หรือเล่นพนันซัมติง)กับไทเฮา ไทเฮามีของกี่อย่างคือเอามาจ่ายหมด
- นางเอกขี่ควายไปช่วยฮ่องเต้กลางสนามรบ
- นางเอกเหมือนจะทำอาหารให้ฮ่องเต้กินละขี้แตก แย่งกันเข้าห้องน้ำทั้งคู่
.
.
.
.
.
ประมาณนั้นอะ กาว+กัญชาล้วน ๆ ไม่มีสาระผสม
คุณชายข้าตระหนกกูอ่านแล้วไม่สนุก กูว่าพล็อตอ่อนไป
ขอบใจเพื่อนโม่งมากๆ อ่านแล้วจะมาลองรีวิวบ้างนะ55555555
>>688 >>689 พล็อตแบบไหนถึงไม่อ่อนวะ
อันนี้ถามจากใจจริง ไม่ได้ประชด คือ เดาไม่ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น หรือพล็อตไม่ซ้ำ หรือพล็อตซับซ้อน ตัวละครฉลาดไรงี้รึป่าว ถึงเรียกว่าไม่อ่อน
ตอนนี้กูตามเรื่องเดียวคือ ซื่อจื่อ ซึ่งจบแล้ว กำลังหาเป้าหมายใหม่
ส่วนตัวกูเบื่อพล็อตซ้ำๆ แมรี่ซูเกินเหตุ นางเอกมีแต่คนรุมรักแบบไม่มีเหตุผล เมื่อก่อนเคยชอบแต่เดี๋ยวนี้กูลำไยว่ะ
ใครมีอะไรแนะนำบ้างช่วงนี้ ขอแบบคำผิดไม่บานเบอะ ภาษาไม่วิบัติมากนัก (อย่างเพค่ะ ฮ้องเต่ ไรงี้ไม่ไหว เสียรม) พระเอกนางเอกไม่ซูเว่อร์ ไม่ฮาเร็มไร้เหตุผล (ถ้ามีเหตุผลกูรับได้ แนววังหลัง แนวเจาะเวลาหาจิ๋นซี กูอ่านได้ ไม่ใช่ล้มทับกันได้เสียเลยกูรับไม่ไหวว่ะ) จะแนวดราม่า จะฮาไร้สาระ จะฟินๆ ได้หมด
>>691 สำหรับกูนะ พล็อทอ่อนหมายถึงเหตุผลมันไม่เอาไหน ไม่ใช่แค่เสิ่นเจิ้น นิยายจีนหลายเรื่องก็พล็อทอ่อน แบบแย่งชิงกันแทบตายแล้วสุดท้ายไม่เห็นมีอะไร แยกย้ายกันไปบวช หรือแบบพระเอกนางเอกถูกเซ็ทตอนต้นเรื่องว่าฉลาดมาก ไหวพริบเพียบ แต่โดนปั่นหัวง่ายมาก เดาได้ว่าเรื่องจะต้องนำไปสู่การเข้าใจผิด
แต่คำว่าพล็อทอ่อนของกูก็ไม่ได้แปลว่าจะแย่ทุกครั้ง บางทีคนเขียนเขียนสนุก ดีเทลแม่งน่าสนใจ มันก็น่าอ่านทั้งที่เราเดาได้ทั้งเรื่องนั่นแหละ
พล็อตซ้ำซาก ผูกเรื่องง่ายๆ เดินเรื่องน่าเบื่อ ไม่มีเหตุผล เดาทางได้ ไร้ความแปลกใหม่ จำพวกอ่านแล้วหาว วางๆหยิบๆ กูโยนไปหมวดบทอ่อนไม่สนุกหมดอ่ะ ไม่เกี่ยวกับความฉลาดของตัวละคร ถึงตัวละครจะโง่มากแต่ถ้าเดินเรื่องให้สนุกได้กูก็ไม่รังเกียจ
พวกมึงอย่าหลงไปอ่านซูเหมยxxx นะกูอ่านได้สองสามบทก็เลื่อนไปอ่านบทหลังๆ เชี่ยเอ๊ยยยย ส่งเสียงอ๊ากกกกก กรี๊ดดดด อ๊ากกกกก แล้วก็จบ? บทหนึ่งมีประโยคนี้ประมาณสี่ห้าครั้ง จำนวนตัวอักษรเท่ากันเป๊ะๆ อนึ่งราว copy วาง บทตัวร้าย ร้านได้งี่เง่ามาก ในบรรดานิยายท็อปหมวด อดีต ปัจจุบัน อนาคต กูบ่นเรื่องนี้ที่สุดแล้ว เชี่ย! กูอ่านแล้วปวดหัว พยายามเปิดใจแล้วนะเว้ยแต่ไม่ไหวจริงๆ กูอยากรีวิวแบบละเอียดนะ แต่เหอะๆ พวกมึงลองอ่านดู จะได้กุมขมับเหมือนกู แต่ถ้าเลือกได้ก็เปิดผ่านเถอะ
>>688 ตอนแรกคิดว่าอ่านไปเพลินๆ นะ เพราะคนเขียนภาษาดี นึกว่าอ่านนิยายเบาๆ ขำๆ แต่อ่านไปเรื่อยๆ ดราม่าว่ะ ไม่อ่อนนะ
ไปอ่านเรื่องนึง ยอดวิวเป็นแสน ยอดเฟ้บเป็นหมื่น แต่ภาษาและเนื้อหาเหมือนเด็กเขียน งงว่าทำไมคนชอบกันขนาดนั้น
อย่าถามว่าเรื่องอะไร เพราะอ่านไปสองบทก็เคลียร์เมมเรียบร้อย
>>695 ถ้าเรื่องนั้นดำเนินตามสูตรเป๊ะ แบบตายแล้วมาเข้าร่างคุณหนูที่รอแต่งงาน เมียแม่ทัพที่ผัวเกลียดชังกำลังจะเขียนใบหย่า มีน้องสาวเป็นคุณหนูผู้แสนดีแต่ความจริงคิดร้าย หรือเป็นพระสนมตำหนักเย็นโดนประทานผ้าแพร หรือมาเข้าร่างนางร้ายที่มีจุดจบอนาถ แล้วนางเอกไม่สนใจพระเอก มีสกิลหมอ สกิลทำกับข้าว สกิลขายของ ยอดวิวยอดเฟ้บจะขึ้นเร็วแบบไม่ถึงสิบตอนก็ติดท็อปได้ ไม่ต้องเขียนให้แตกต่างไปจากนี้ ใช้การตายแบบเดิม ๆ การฟื้นแบบเดิม ๆ เหมือนใช้เทมเพลทเดียวกันแล้วเติมคำลงในช่องว่าง นั่นคือนิยายติดท็อป ไม่ต้องระวังเรื่องภาษาคำผิดอะไรด้วย กูเห็นมานักต่อนัก เห็นทีไรก็ขำกลิ้งว่ะ
>>694 มึงมาเตือนไม่ทัน กูเข้าไปอ่านมาแล้ววววว ตอนแรกๆ ก็นึกว่าคล้ายๆ กับนิยายแนวแก้แค้นทั่วไป ที่ไหนได้เลือดสาดกระจายมาพร้อมกับเสียงกรีดร้อง อ๊ากกกกกกก ย๊ากกกกกกก เต็มไปหมด แถมมีพาร์ทวายด้วยนะเออ
จะว่าแย่มันก็ไม่ได้แย่มาก ดีกว่าติดท็อปบางเรื่องด้วยซ้ำ ถ้าคนแต่งเรียบเรียงตัวอักษรบรรยายให้สละสลวยได้ดีกว่านี้มันก็คงโอเคขึ้น มั้งนะ
จะติเยอะๆ ก็ตรงคาแรคเตอร์พระเอกนี่แหละ ทั้งเลี่ยนทั้งน่าเบื่อไม่มีมิติ เหมือนเขียนมาเพื่อเป็นป๋าสายเปย์ก็เปย์แหลก ไม่สมเหตุสมผลใดๆ กับที่บอกว่าเป็นฮ่องเต้ของแคว้นที่ยิ่งใหญ่เลย ดูเด็กน้อยแปลกๆ
จริงๆ มันก็มีที่ขัดใจอื่นๆ อีกแต่ไม่ได้เข้าไปอ่านแล้วเลยบอกได้แค่นี้
>>694 กูก็นึกว่าเรื่องไหน พอเปิดไปชักคุ้น ๆ กูเคยเห็นแล้วนี่หว่า เปิดบทแรก เคร้ง ๆ ซั๊บ ๆ ใช่เลย อันนี้กูเห็นด้วยกับ >>697 ว่าคนแต่งมีโอกาสปั๊ดตะนา ต้องหัดเรียบเรียงให้ดี ลดความเวิ่นเว้อจากการบรรยาย แล้วก็ตัดซาวด์เอ็ฟเฟ็คให้หมด อั๊ก ๆ อ๊ากกกก ๆ ซั๊บ ๆ หัดสะกดไม้เอกไม้โทให้ถูก จะจัดว่าเป็นนิยายมือใหม่ที่พอใช้ นี่ไปเห็นอั๊ก ๆ อ๊ากก ๆ แล้วขำก่อน อ่านไม่ได้อารมณ์
อันนี้กูสงสัย สมรสพระราชทานจากฮ่องเต้นี่...ให้เป็นอนุได้เหรอวะ คือกูสงสัย ปกติกูเคยอ่านแต่สมรสพระราชทานให้มีศักดิ์เป็นเมียเอกเท่ากัน คือกูติดใจเพราะฮ่องเต้เป็นคนมอบไง...สงสัยเฉยๆ เพื่อนโม่งคนไหนรู้วานแถลงไขให้กูที
>>700 อันนั้นคือมอบให้บรรดาท่านอ๋อง องค์ชายเฉยๆ นี่ใข่ไหมวะ? กูเคยอ่านเจอบ่อยๆ
>>702 เรื่องเดียวกับที่มึงคิดแน่ๆ 555 ชื่อเรื่องเป็นภาษาไทยคำเดียว
>>703 ขอบคุณมึงมาก กูก็เข้าใจแบบนั้นมาตลอดนะ แต่พพอมาเจอสมรสพระราชทานให้เป็นอนุนี่กูก็งงในงงจ้าาาา
แล้วอีกอย่างที่กูเข้าใจอ่ะนะ ปกติไม่ใช่ใครจะทูลขอสมรสพระราชทานได้นี่ใช่ไหมวะ? อย่างน้อยต้องขุนนางขั้นสูงพอตัว หรือไม่ก็พวกท่านอ๋อง องค์ชาย ตไแหน่งอาลักษณ์ธรรมดาๆ นี่ไม่น่าจะขอสมรสพระราชทานได้นะ
พวกมึงอยากเพิ่งลำไยกูนะ กูสงสัยอ่ะ ไม่เคยอ่านเจอไง พอกูอ่านเจอกูเลยมีคำถาม แถมเจอในนิยายที่กำลังจะตีพิมพ์ด้วย
>>704 สมรสพระราชทานให้ชาวบ้านก็ได้ขึ้นกับคิงจะให้หรือไม่ให้ ไม่ใช่ต้องยกลูกหลานราชนิกูลให้ขุนนางหรือแม่ทัพอย่างเดียว ชาวบ้านทั่วไปก็ขอได้อย่างใกล้ๆ ในไทยเองก็พวกดาราแต่งงานกันก็มีขอสมรสพระราชทานได้แต่ที่ไม่ขอกันเคยถามผู้ใหญ่นะ ถ้าขอแล้วห้ามหย่าเพราะหย่าจะหักหน้าเจ้าภาพก็คือคิง (แต่ดาราในไทยคู่หนึ่งดันหย่า) เหมือนขอพระราชทานเพลิงศพ (ในไทย) มีชาวบ้านเยอะที่ขอได้แต่ไม่ขอกันเพราะระเบียบมันยุ่งทั้งชุดที่แต่งมารับพระเพลิง ค่าใช้จ่ายเก็บศพจะกว่าระเบียบคำขอจะผ่าน ในเรื่องจีนโบราณเองก็มีกรณีนักศึกษาชาวบ้านยากจนรักกับลูกคุณหนูร่ำรวยแต่พ่อแม่กีดกัน ฮ่องเต้เสด็จประพาสทราบเรื่องก็ประทานพิธีให้พ่อแม่ฝ่ายหญิงก็ขัดไม่ได้ต้องยกลูกสาวให้แล้วภายหลังนักศึกษาก็สอบได้เป็นบัณฑิตรับราชการ
สมรสพระราชทานจีนไทยไม่เหมือนกัน ของไทยที่เห็นปัจจุบันคือจัดการกันเองหมดทุกอย่างแล้วกราบทูลขอ เหมือนให้เจ้าช่วยเป็นประธานเพื่อความเป็นสิริมงคล แต่สมรสพระราชทานของจีนโบราณแปลว่าฮ่องเต้จัดการเพราะเห็นชอบ ส่วนใหญ่คือลูกหลานของฮ่องเต้เองหรือเด็กในปกครองที่ฮ่องเต้อุปถัมภ์ไว้ ไม่ใช่ฮ่องเต้เที่ยวไปจัดการการแต่งงานของลูกหลานขุนนาง เพราะจีนมีธรรมเนียมว่าพ่อแม่คือคนจัดการ พ่อแม่เป็นคนหาเจ้าบ่าวเจ้าสาวให้ลูก ฮ่องเต้ก็ต้องเคารพธรรมเนียมนี้ด้วย คนที่ฮ่องเต้จะจัดการให้ไปแต่งงานกับใครได้ก็ต้องเป็นลูกหลานฮ่องเต้เองหรือคนที่ฮ่องเต้ชุบเลี้ยงไว้ คนที่อยู่ในคอนโทรลว่างั้น แล้วถ้าฮ่องเต้จัดให้แต่งก็ต้องเป็นเมียหลวงเท่านั้น อย่างที่จัดให้เป็นอนุนั่นคือแบบได้เชลยศึกมาหรือเป็นลูกหลานขุนนางที่ทำผิด กลายเป็นบ่าวในวัง อาจจะพระราชทานไปบ้าง เพราะถือว่ากลายเป็นคนต่ำศักดิ์แล้ว ก็ให้ไปเป็นอนุ
>>706 สมรสพระราชทานไทยสมัยก่อนก็คล้ายๆ จีนป่ะ อย่างหนังเรื่องสุริโยทัย ตอนปราบกบฏเสร็จสิ้น แต่งตั้งพระมหาธรรมราชาขึ้นครองพิษณุโลก ก็พระราชทานพระวิสุทธกษัตรีย์ให้เป็นพระมเหสี อันนี้เรียกเมียพระราชทาน เหมือนอย่างเรื่องขุนช้างขุนแผน เมียพระไวย สร้อยฟ้ากับศรีมาลาก็ศักดินาพอๆ กัน สร้อยฟ้าจะสูงกว่าหน่อยเพราะเป็นเมียพระราชทาน แต่ศรีมาลาเป็นเมียกลางเมือง ย่าขอให้ แต่งก่อนเป็นเมียหลวง
เพื่อนโม่งทั้งหลาย มีใครรีวิว เกิดเป็นองค์ชายต้องคิดให้ได้แบบนางสนมได้บ้าง
คือเห็นคำโปรยแล้วอยากถอยแต่กลัวพลาด เล่มนึงหลายตังอยู่
กราบล่วงหน้า
>>708 กูซื้อมาเพราะคำโปรยเหมือนกัน แต่กูไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ มันฮาไม่สุด เบาสมอง กูจำเนื้องเรื่องไม่ค่อยได้แล้ว
.
.
.
.
.
มันเป็นเรื่องที่มีองค์ชายสามคน ซึ่งองค์ชายทั้งสามต่างก็เหลวไหลไม่เอาไหนในสายตาคนภายนอก ฮ่องเต้เลยให้คนพานางเอกมาช่วยดัดนิสัยลูกชาย โดยให้นางเอกปลอมตัวเป็นองค์หญิง แต่บังเอิญว่าพวกองค์ชายตอแหลทั้งๆ ที่เก่งมาก แล้วก็มีเรื่องต่างๆ ตามมา คนที่เทพทรูที่สุดในเรื่องคือฮองเฮานั่นล่ะ ส่วนพระเอก...ก็หนึ่งในองค์ชายสามคนนั่นล่ะ
.
.
.
.
.
กูไม่เคยคิดว่าเรื่ององค์ชายคิดได้อย่างนางสนมเป็นเรื่องตลกเลย มันมีจังหวะเดินเรื่องที่จงใจให้ตลก ทุกคนทำท่าทางตลกกันหมด ฮ่องเต้ ขันที องค์ชาย แบบทุกอย่างจงใจให้มันตลก แต่มันไม่ได้ขำเลยสำหรับกู แต่คนอ่านแล้วขำมากก็มีเยอะแยะ จะถูกจริตใครแค่ไหนต้องลองอ่านเองดีที่สุด กูยกตัวอย่างนิยายจีนดัง ๆ แล้วกัน อย่างอุ้ยเซี่ยวป้อ ถ้าใครอ่านแล้วขำกับความคิดพระเอก ความทุลักทุเลเวลาพระเอกมันจะรอดพ้นอันตราย อันนั้นจะเป็นตลกคนละอย่างกับเรื่ององค์ชายคิดได้อย่างนางสนม กูไม่ได้เอาสองเรื่องนี้มาเปรียบเทียบกันในแง่วรรณกรรมนะ เพราะอุ้ยเซี่ยวป้อฝีมือกิมย้ง เอาคนอื่นไปเทียบยาก แต่กูหมายถึงแง่ตลกขบขัน อุ้ยเซี่ยวป้อไม่ได้เขียนออกมาแบบจงใจตลก แต่อ่านแล้วขำออกมาเอง แต่เรื่ององค์ชายคิดอย่างนางสนมนี่จะบรรยายทุกอย่างแบบจงใจ หกล้มหกลุกอลเวงอะไรแบบนั้นแหละ แล้วแต่คนชอบว่ะ เขาน่าจะยังลงให้อ่านตอนแรก ๆ อยู่นะ ลองอ่านดูเลย เผื่อเข้าทาง
>>712 กราบ ขอบคุณเพื่อนโม่ง กูอ่านอุ้ยเสี่ยวป้อไม่รอด อาจเป็นเพราะกูเกลียดผู้ชายกะล่อน แต่มังกรหยกกูอ่านครบทุกภาค อ่านได้หลายรอบด้วย แต่ไม่ชอบพระเอกซักคน กูมีความงงตัวเองเหมือนกัน โง่ก็รำคาญ กะล่อนก็ไม่ชอบ แต่ใครๆก็บอกว่าอุ้ยเสี่ยวป้อนี่เป็นสุดยอดของกิมย้งแล้ว ไว้มีโอกาสจะลองลุยดูอีกรอบ
>>713 ไม่เคยอ่านงานของราชานกฮูก พอดีเปิดเจอในเว็บเพราะไปส่องอีกเรื่องนึง แต่เจอเรื่องนี้ สะดุดชื่อเรื่อง คำโปรยน่าสนดี
กูลองอ่านงานราชานกฮูกเรื่องเดียว เรื่ององค์ชายเป็นนางสนมนี่แหละ สำนวนเขาใช้ได้ แต่มันเป็นเรื่องตลกแบบไทย ๆ เราที่มีเซ็ตติ้งเป็นจีน กูว่าน่าจะถูกจริตนักอ่านที่ชอบตลกแบบเน้นท่าทาง การบรรยายถือว่ามีคุณภาพ แล้วการใส่ซาวด์เอฟเฟ็คก็เหมาะสมกับธีมเรื่อง ใจกูคิดว่ามากไป แต่พอมันเป็นธีมตลก กูมองว่าไม่ขัดตา คนที่ชอบใส่ซาวด์เอฟเฟ็คพร่ำเพรื่อดูเป็นตัวอย่างได้ ถ้าเรื่องมันตลกแบบไม่ต้องการสาระ ไม่ต้องการอารมณ์หน่วง ใส่ซาวด์แล้วมันจะดูอลเวงดี แต่บางคนไปใส่ซาวด์ซะรกในซีนดราม่า (ฮือ ๆ ๆ ๆ เปรี้ยง ๆ ๆ ฟุบ ๆ ๆ อั๊ก ๆ อ๊ากกกก ๆ ๆ) ถ้าน้ำตานางเอกหยดลงมาคงเขียนว่า แหมะ ๆ แปะ ๆ ๆ ๆ แล้วพระเอกก็มาซับน้ำตานางเอกดังซูม ๆ จร๊วบ ๆ วิ้ง ๆ ๆ กูชอบเปิดดูนิยายพวกนี้เวลาอารมณ์เสียว่ะ มันจะทำให้โลกสดใส ฮาทันที
กูพึ่งสอยมือสองพระสนมฮาขย่มpalace กูแทบปาทิ้ง ไม่สนุกเลยว่ะ
นางเอกพระเอกและตัวประกอบพยายามตลกสุดฝืน กูอ่านแล้วเครียดแทนที่จะรู้สึกว่ามันเป็นนิยายฮา
อ่านจินหวังเฟย
รุ้สึกเฟล ทำไม จินอ๋อง ถึง ปญอ ได้ ขนาดมาขโมยฉากบังลม ? หลังจากนี้มันจะสนุกไหม
กูว่านิยายที่เขียนให้ตลกได้ต้องใช้ฝีมือนะ ไม่ใช่นักเขียนทุกคนจะเขียนตลก ต่อให้เป็นชั้นครูก็เถอะ มันเป็นเรื่องเฉพาะทาง คนที่เขียนตลกได้มีอะไรนิดนึงแม่งก็ตลกแล้ว เหมือนคนเล่าเรื่องตลกอะ เรื่องเดียวกันแต่บางคนเล่าไม่ตลกเลย นิยายที่ลงเด็กดอยแล้วมีคนขำมากมายมึงเอามาเป็นบรรทัดฐานไม่ได้ เพราะมาตรฐานการอ่านของคนกลุ่มใหญ่ที่นั่นมันค่อนข้าง 'ง่าย' อย่างที่พวกมึงเคยบอกว่าเรื่องที่พล็อทเหมือนกันเปี๊ยบแต่คนเฟ้บเยอะตลอดกาลนั่นแล เขียนแบบเดิมจะมีคนอ่านมากกว่า แต่เวลาพิมพ์ขายถ้ามันไม่ได้มาตรฐานของคนซื้อหนังสือ มันก็จะโดนด่าอย่างที่เห็น คนก็เลยฝังใจว่าเสิ่นเจิ้นห่วย ไอ้ที่ไม่ห่วยก็มีแต่มันมีน้อยไง
เสิ่นเจิ้นที่พวกมึงว่าตลกพอใช้ได้มีอะไรบ้างวะ กูเห็นวนอยู่เรื่องสองเรื่อง เอาแค่ที่พอใช้ได้ก็พอ ถูกจริตหรือไม่ค่อยว่ากัน
ว่าแต่มีหิ้งโม่งหรือชั้นหนังสือแนะนำไว้บ้างไหมสำหรับเสิ่นเจิ้น บางทีคนถามก็เรื่องเดิมๆ นี่แหละแต่หารีวิวไม่เจอ เผื่ออยากอุดหนุนคนไทยบ้าง
>>722 หอตำราโม่งจีน(เก๊) Ver. beta ไม่พอใจก็ไปแต่งเองสิ >> https://drive.google.com/open?id=1P5itSLfxuYZrmvEnHBfXWZBMmCR0QJJvds8Pdg45BMM
>> รวมลิสต์นิยายเซิ่นเจิ้นที่เพื่อนโม่งร่วมสับ/ความเห็นหลังอ่าน/ความเห็นเกี่ยวกับสำนวนภาษาในการแต่ง/พล็อตเรื่องแรงบันดาลใจ สามารถเพิ่มเติมความคิดเห็นได้เรื่อยๆ
ตอนขึ้นตำหนักที่ 4 ไม่มีใครเอาไปแปะไว้อ่ะ ลองเข้าไปดูๆ เอาเลยเพื่อนโม่ง แต่ไม่ได้อัพเดทสักพักแล้วมั้งนะ
>>722 เรื่องสาวจอมคลั่ง, เมื่อคุณหนูใหญ่แต่งงาน, ฝ่าบาท หม่อมฉันเป็นนกฮูก ของคนเขียนคนเดียวกัน มีฮาหลายตอน แต่ไม่ใช่ธีมของเรื่องนะ
ถ้าแนวตลกเลยก็แนะนำ ไถเฟิง สำนวนภาษาดีนะ ไม่เมากาว
อ้อ ล่าสุดเรื่อง สามชาติสามภพ อภินิหารลูกแก้วมังกร อันนี้ตลกเพราะเสียดสีพวกพล็อตซ้ำๆ
ป.ล. ไม่ไหวกับพระสนมขย่มเหมือนกัน อ่านแล้วไม่ตลก เนื้อเรื่องก็ไม่ไหว คนที่ชอบก็คงชอบไปเลยมั้ง
สามชาติสามภพ ลูกแก้วมังกร อันนี้เหมาะกับคนชอบนิยายเสียดสี จะตลกตรงความคิดนางเอก แต่คนไม่ชอบเสียดสีอาจจะไม่ชอบก็ได้ เป็นนิยายที่อ่านเพลินได้เรื่อย ๆ ภาษาใช้ได้ มันจะเป็นสำนวนแบบจีน ๆ ปนสมัยใหม่ แล้วเขียนให้เป็นยุคโบราณ จะมีคำหยาบบ้าง แล้วแต่คนชอบ นางเอกจะคิดแบบเดียวกับการะเกดบุพเพสันนิวาส ออกตึ่งโป๊ะแบบนั้น ต่างจากสนมขย่มวังที่จะเขียนแบบทุกอันจงใจให้ตลกหมดเลย มันก็เลยมีตลกบ้างไม่ตลกบ้าง แต่คนเส้นตื้นคงตลกนั่นแหละ คือถ้าใครชอบก็ชอบ ใครไม่ชอบก็บายทันที สองเรื่องนี้ยอดเฟ้บยอดวิวห่างกันเป็นปีแสง เพราะนักอ่านเด็กดอยจะชอบอย่างหลังมากกว่า
>>728 คนแต่งเรื่องนี้เคยแต่งพังพล็อตโอโตเมะ นิยายไทยฮิตๆมาแล้ว ตัวละครเรื่องนี้คือดึงมาจากสองเรื่องที่ว่า ถ้าเคยอ่านของเขาทุกเรื่องแล้วชอบจะฮามาก จะเก็ตมุกเยอะขึ้น
.
.
.
.
.
นิยายที่ตัวเอกทะลุไปอ้างอิงมาจากนิยายวายที่นางเอกเรื่องหญิงดาวเคยอ่าน
.
.
.
.
.
กูชอบนะเพราะแม่งตลกแบบเสียดสีอ่ะ ใครอ่านนิยายมาเยอะๆจะแบบเออแม่งมีแต่พล็อตงี้จริงๆ ไม่ได้ฮาตึ่งโป๊ะถาดฟาดหัว
สามชาติลูกแก้วมังกร กับ สนมขย่ม นี่คนละตลาดเลย
ถ้าเปรียบเทียบ สนมขย่ม เหมือนตลกคาเฟ่ ก่อนบ่ายคลายเครียด ถูกใจตลาดคนไทย มุกตีหัวเตะก้น ขี่ควายออกรบ เหมาะกับคนชอบอ่านอะไรสบายๆ ไม่คิดมาก แต่พวกไม่ชอบแนวนี้คือมันจะไม่ขำ (ส่วนตัวแล้วรู้สึกอ่านเพลินๆ เหมือนดูก่อนบ่าย)
ลูกแก้วมังกรเหมือนตลกหน้าตายแนวโน๊ตอุดม มุกจะเหน็บๆ จิกกัด ต้องคนอ่านนิยายมาพอสมควรถึงจะเก็ตมุก บางคนไม่ชอบแนวเสียดสีจะไม่ชอบแนวนี้ มันก็เหมือนคนไม่ถูกจริตกับทอล์คโชว์ก็มี
อย่างหญิงดาว(ขอผิดห้องนิดนึง)ต้องคนอ่านเน่าไทยหรือเคยดูละครน้ำเน่ามาก่อนถึงจะขำ ถ้าคนไม่เคยอ่านเน่าไทยมาเลยอาจไม่เก็ต กลุ่มที่ชอบจะเป็นพวกเบื่อเน่าไทย
กูเพิ่งไปอ่านสามชาติลูกแก้วมังกรมา แม่งสนุกชิบหาย กูชอบ55555555 นอนอ่านรวดเดียวยันตีสี่เลยอ่ะ
>>734 นางร้ายโอโตเมะ(เกมจีบหนุ่ม)มันระบาดในห้องรักแฟนตาซี คือ top 20 เป็นเรื่องแนวนี้หมด แนวนางเอกเก่งทะลุไปเป็นนางร้ายในเกมจีบหนุ่ม คนเขียนเลยเอามาทำใหม่ ไม่เชิงประชดซะทีเดียวแต่ทำอีกรูปแบบ แทนที่จะปักธงพระเอกในเกมจีบหนุ่มกลับหาทางกำจัดออกจากชีวิตตัวเอง แนวมันจะสวนทางกับเรื่องที่ติดท็อปในนั้นเรื่องอื่น
(จริงเรื่องนี้เคยติดท็อปหมวดนั้นอันดับต้นๆ แต่จบปิดตอนไปแล้ว)
ปล. กูหมายถึงในเด็กดอย
กูไม่ทันอ่าน ตอนปีใหม่เขาเปิดอีกรอบกว่าจะรู้ก็สัปดาห์ให้หลังแล้ว ฮือ
>>740 >>741 กู739เอง ขอนอกเรื่องอีกรอบ กูขอระบายนิดนึงอัดอั้นมาเป็นปี
ตอนกูตามเรื่องนั้นอยู่ กูต้องอ่านอย่างเจียมเนื้อเจียมตัวมาก เป็นนักอ่านเงามุดอยู่ในซอก ลูกหาบฝ่ายตรงข้ามทั้งเยอะกว่า ทั้งแม่งโคตรดุ ช่วงดราม่าสามเส้า คอมเม้นต์อย่างกับสงครามกลางเมือง กูไม่กล้าโผล่หน้าเลยไปแจม กลัวระเบิดลง สงสารพระเอกของกู?มากที่โดยรุม
กูได้ระบายละ ตายตาหลับพร้อมกับเรือจม ๆ
>>742 เขาคงไม่เปิดใหม่แล้วมั้ง อาจจะมี ebook ไม่แน่ใจเหมือนกัน
โม่งที่เคยแนะนำตราบที่ดอกเหมยยังเบ่งบานกับตราบชั่วฟ้าดินสลายมา กูอ่านไปแล้วสองสามบทเออ กูชอบนะสำนวนน่าติดตามทั้งคู่เลย แต่กูยังอ่านไม่จบ สามชาติลูกแก้วมังกรเดี๋ยวกูจะไปตามอ่าน อ้อ อีกอย่างเพื่อนโม่งเอ๋ยยยยย กูเพิ่งเช่าชะตะพ่ายฯ มาอ่าน คิดถูกแล้วที่กูไม่ซื้อ ใครบ่นว่าคนเขียนตามกระแสวาย...กูแค่อยากบอกว่าพวกมึงเข้าใจผิดแล่ววววว พวกมึงต้องได้อ่านตอนพิเศษในเล่ม แมร่งเอ๊ยยยยยย
.
.
.
.
.
ไม่วายนะจ๊ะ ท่านเทพสามตาเป็นอดีตร่างเทพผู้หญิงจ้าาาา ที่จริงแล้วเป็นผู้หญิงนะจ้ะ
.
.
.
.
.
กูตามไปอ่านสามชาติลูกแก้วมาละ นึกถึงรัชทายาทเสิ่นเจิ้นขึ้นมาทันที พวกมึงไม่แต่งต่อกันแล้วหรา อุตสาหฺนั่งคิดพล๊อตไว้อย่างดิบดี
พวกมึงจะคุยนิยายไทยก็ไปห้องนิยายไทยสิ กูเห็นขอนอกเรื่องนิดนึงมาหลายรีพลายแล้ว นี่ตำหนักเสิ่นเจิ้นนา
มีใครชอบมู่กั๋วหวางโฮ่วมั้ยวะ เห็นจะพิมพ์กับคำต่อคำ กูว่าจะรอให้ออกเป็นหนังสือแล้วค่อยไปดู
>>752 ใจ ๆ ๆ กูกะลังเล็งจะสอยหลายเรื่อง ทั้งเสิ่นเจิ้นทั้งแปล เพราะนิยายที่ซื้อมารอบเก่าอ่านหมดแล้ว เพิ่งอ่านชันสูตรจบ ว่าจะหันมาอ่านนิยายรัก ๆ ประโลมใจ สลับกันไป อ่านศิษย์ชั่วจบแล้วด้วย แต่มันไม่หวานมาก อยากได้น้ำตาลอย่างแรง อีกอันที่กูเล็งคือคู่ขย้ำบัลลังก์ ไม่รู้ดีปะ สองเล่มเลย ถ้าดีจริงกูอ่านได้ ยาวแค่ไหนก็ไหว
>>753 กู 752
เรื่องนี้พล็อตหลวม ไม่ค่อยมีไร พระเอกสายเปย์สุดๆ นางเอกมึนๆ เน้นฟินตลอดเรื่อง แต่ชดเชยด้วยภาษา เรียกว่าดีมากเมื่อเทียบในบรรดาเซินเจิ้นในเว็บ เอาว่าสำหรับกูที่เรื่องมากพอสมควร ให้เรื่องนี้ผ่าน
ขอนอกเรื่อง
งานหนังสือที่ผ่านมาถอยแปลจีนเยอะมาก หลังทะลายกองดอง กูชอบแค่บันไดหยกงาม กับ สารทวสันต์
อาหนาน(อ๋องสักอย่าง อ่านเสร็จลืมชื่อ) ลิขิตด้ายแดง หอยทาก และอื่นๆ ที่คนอวยกันเยอะๆ คืออ่านจบวางเลยอ่ะ ไม่ได้ว่าไม่ดี แต่มันเฉยๆมาก
ที่อยากปาทิ้งคือแปลงผัก (ถอยตั้งแต่รอบ ตค) อ่านเซินเจิ้นดีๆยังคุ้มกว่า
อย่างว่า ความชอบคนไม่เหมือนกัน
อาจารย์ชั่ว กำลังเล็งอยู่เหมือนกัน
แปลงผักกูอ่านของเพื่อน โชคดีมาก อ่านไปสามบทแรกเฉย ๆ แต่พออ่านต่อ อืม ดีแล้วที่ไม่ซื้อ ประหยัดเงินไปได้ เกือบไปแล้ว เพราะชื่อเรื่องมันน่ารัก แต่สารทวสันต์กูชอบ กูชอบนิยายที่แน่น ๆ แต่เพื่อนกูหลายคนไม่ชอบ บอกว่ามึน กูเลยด่าไปว่าพวกมึงยังอ่านไม่เก่งพอ ตัวละครแม่งโคตรน่ารัก คาร์ดีงามมาก เพราะฉะนั้นกูว่ากูคงไม่ซื้อนิยายพล็อทหลวม งั้นรอไปก่อน ถึงจะอยากอ่านนิยายรัก แต่กูไม่ชอบพล็อทหลวม ถ้าไม่มีจริง ๆ ก็จะไปอ่านเซียนเซียต่อว่ะ
อาจารย์ชั่วเรื่องมันเล่าเรื่อย ๆ เหมือนไม่มีอะไร แต่มันไม่หลุด คิดตามนางเอกไปก็ขำดี กูว่าเป็นนิยายอ่านเรื่อย ๆ ที่ไม่น่าเบื่อ
แปลงผักกับอจ.ชั่วมันจีนแท้มั้ยวะ กูนึกว่าเข้าตำหนักผิด
กูตามไปอ่านหอตำราโม่งจีน เรื่องไหนชมละสั้นเชียวนะพวกมึง เรื่องไหนด่าละยาว ถถถถถถ กูจะไปดูมู่กั๋วหวางโฮวนี่แหละว่ามีใครเขียนชมหรือด่าบ้าง แต่ไม่มี
ลูกแก้วกูชอบฮองเฮาสุด รองมาคือจอทยุทธ์สามวิญญาณวาย ส่วนนางมารทำระเบิดแม่งไม่หนุกอะมันโหดไปมั้งกูเลยไม่ชอบ
มู่กั๋วเขียนดีนะ หวังว่าจะขายดี ความสนุกแล้วแต่คน รีบไปอ่านเองก่อนจะปิดตอนจะได้รู้ว่าควรซื้อหรือเปล่า ใจกูคิดว่าดีกว่าเรื่องจีนแท้หลายเรื่อง แต่กูเองไม่ชอบแนวนี้นะ กูชอบแบบชิงไหวชิงพริบมาก ๆ เจ้มจ้น ๆ พาร์ทการเมือง แต่ก็อ่านของเขาได้ คิดว่าคงรีไรท์จนสำนวนดีขึ้นอีก เดาเอานะ
กูติดลูกแด้วมังกรมากกกกกอ่ะ ปกติกูอำม่อ่านเส
นเจิ้นแต่เรื่องนี้ยกให้ เสพความกาวล้วนๆ ชอบแนวนี้5555
กูนี่ทีมฮองเฮาเต็มตัว พาร์ทฮองเฮานี่อ่านวนไปหลายรอบละ ชอบความเพ้อของนาง ชอบสนมเฉินตอนนางหลุดแอ๊บด้วย555 รองมาก็ศิษย์พี่ ส่วนคุณหนูสี่แม่มฮาร์ดคอร์ไปหน่อยว่ะ
กูขอพื้นที่นิดนึง
ใครปิดมู้ตำหนักจีน เปิดตำหนักใหม่ด้วย
ตอนแรกก็เฉยกับพาร์ทชุ่ยชุ่ย แต่พอหมอเทวดาหญิงออกมาเริ่มป่วงละ กูว่า 5555
กูขอพื้นที่นิดอีกคน
>>773 มึงๆ ช่วยกูด้วย รึคนอื่นจะกรุณาช่วยก็จะขอบคุณมากๆ .กราบล่วงหน้า
>>>/literature/5783/
เรื่องที่พวกมึงแนะนำว่าดีปิดตอนหมดเลย อินซื่อ มู่กั๋วหวางโฮ่ ฝ่าบาทหม่อมฉันเป็นฮูก เหลือลูกแก้วมังกรให้อ่าน อะฮึก ๆ ๆ
กูแนะนำ ไถเฟิง ฮาน้องๆ ลูกแก้ว
หนึ่งข้า หนึ่งอ๋อง ก็ดีนะ แต่ฮาเร็ม
เรื่องอื่นๆ ก็มี หยุนซิงเย่
สามภพดั่งดวงใจก็น่ารักดี
ชายาบัญชารักเน้นหวานน้ำตาลหยด มีเรื่องคู่รองมาให้ฮาๆ บ้าง
จารนางในพันหมื่นดาราก็เคอยู่นะ
Ky เพื่อนโม่งทั้งหลาย รบกวนหน่อย มีใครเคยรีวิวท่านหญิงในกระจกไว้บ้างไหม หรือใครเคยอ่านบ้าง โอป่าว ขอแบบสปอยล์ แนวๆทวิภพเลยไหม ทะลุไปได้ไหม กำลังคิดจะเปย์แต่ลังเลอยู่
กราบล่วงหน้า
>>779 เรื่องติดท็อปนี่พูดยากว่ะ เจอเรื่องนึงข้ามภพอะไรนี่แหละ ภาษายังไม่ดี สำนวนไม่ปะติดปะต่อ เนื้อเรื่องโดดๆ แต่ขอโทษ ยอดวิวยอดเฟ้บเยอะ (ติดท็อปป่าวไม่รู้)
คนเขียนบอกว่าไม่ใช่คนไทย แต่กูว่าเขียนได้พอกับนักเขียนในเด็กดี (ที่ไมได้เขียนดีมากนัก) อันนี้ชมนะ ไม่ใช่เจ้าของภาษาแต่เขียนได้ขนาดนี้
เนื้อเรื่องคล้ายกับบุปผาผลัดกลีบ ประมาณว่าแต่งเข้าไปแล้วโดนใส่ร้ายจนต้องระเห็จออกมาจากบ้านสามี แล้วอิสามีก็คงจะมาตามตื๊อทีหลังมั้งนะ
บุปผาภาษาดีกว่า แต่ยอดน้อยกว่า
ส่วนชายา จำตอนแรกไม่ได้แล้ว แต่มันเป็นเรื่องรุ่นลูกของเรื่องภู่ภมร ก็เลยมาตามอ่าน แต่รุ่นลูกไม่ดราม่าเท่ารุ่นแม่ เน้นหวานฟิน หวานจนน่าหมั่นไส้
ปกติกูไม่คิดมาก ถ้าภาษาดีไม่สะดุดเท่าไหร่ก็จะอ่านไปได้เรื่อยๆ
อ่านบุปผาเหมือนกัน จะว่าภาษาดีก็ไม่ขนาดนั้นอะ อ่านแล้วบางทียังมีสะดุด แต่น่าจะเพราะแต่งไปลงไป รีไรท์แล้วน่าจะดีกว่านี้
คนอ่านส่วนใหญ่ผู้หญิง เรื่องมันสนองความต้องการเบื้องลึกในใจ มีคนมาทำไม่ดี/ทำให้แค้น ตามง้อบอกผิดไปแล้ว คนอ่านแฮปปี้และอินหนักมาก อัปต่อเนื่องด้วย อันดับเลื่อนขึ้นเร็วดี
>>782 เจอไล่ก็ปิดเหมือนกันว่ะ นิยายมีเยอะ ไม่จำเป็นต้องง้ออะไรขนาดนั้น
>>783 >>784 >>782 เข้าไปส่องมาละ เริ่มต้น ภาษาใช้ได้นะ แต่เปิดมาแค่ 10 ตอน ยอดแฟบแค่นี้ก็เยอะละ อีกแป๊บอาจจะติดท็อปก็ได้ แนวกระแสอยู่ ดูมีแวว
แปะไว้ ค่อยไปตามอ่าน
ไม่ชอบพวกเรียกร้องเหมือนกัน บอกว่ายอดวิวต้องถึงเท่านี้ ยอดเม้นท์เท่านี้แล้วจะอัปต่อ มันควรต้องเป็นความสมัครใจไหม
แต่นั่นแหละ คนอยากอ่านก็ต้องเอาใจคนเขียน
กูขอบ่นหน่อย มันมีนักเขียนอยู่ในกลุ่มนิยายจีนกลุ่มหนึ่งในเฟซ โปรโมตนิยายตัวเองเก่งมาก ฮาร์ดเซลมาก ทุกโพสต์จะต้องมีงานขายนิยายตัวเองไม่ก็ขายนามปากกาตัวเองตลอด ล่าสุดก็แต่งนิยายเอาใจแอดมิน แม่ง เอาเวลามาขายงานพวกนี้ไปพัฒนาฝีมือดีกว่าปะ จากที่กูอ่านเสิ่นเจิ้นมากูจัดงานของคนนี้ไว้แถว ๆ เกือบฐานพีระมิดเลยจ้า รำคาญโว้ย
>>788 นิยายพลอทเดิมที่เป็นพลอทยอดนิยมมีคนอ่านเยอะตลอด ถ้าไปเปิดนิยายในรักกินใจรักหวานแหววแล้วนางเอกมีลูกติดท้องผัวทิ้งกลับมาเป็นสาวสวยแก้แค้นก็มีโอกาสขึ้นไว พลอทเดิมเขียนตามสูตรจะได้วิวเยอะเป็นปกติ นิยายที่มีพลอทแตกต่างได้คนอ่านยาก คนติดท็อปคนนึงบอกกูว่าถ้าเริ่มด้วยฉากเยจะได้เฟบเร็วมาก เขียนสั้น ๆ ลงถี่ ๆ มีเย และมีฉากผัวกับแม่ผัวทำร้ายจะได้คนอ่านเป็นพันเลยในตอนแรก ๆ แล้วทีนี้มึงก็จะขึ้นท็อปสบาย
>>790 ถ้าเป็นคนนั้นกูพอเข้าใจ งานคุณภาพไม่ถึงมาตรฐานสำหรับกู แต่บังเอิญมีคนอ่านที่ต้องการคุณภาพระดับนั้นเยอะ ก็นะ ทางของเขาว่ะ กูเคยไปลองอ่าน เห็นคนชอบมากในบทที่กูว่ามันไม่มีอะไรเลย แต่ถ้าพูดในแง่วิจารณ์ไปก็จะว่าดูถูก จิตตกไปอีก กูไม่ชอบเห็นคนเสียอกเสียใจเลิกเขียน ที่จริงเวลาวิจารณ์งานก็ไม่เคยคิดดูถูกอะไรเลย ว่าไปตามเนื้อผ้า เหมือนกินลูกชิ้นแป้งกับลูกชิ้นเนื้อล้วน อย่างแรกมันหาง่ายดีมีขายเยอะ ราคาถูก กูก็กินเป็นบางครั้ง ลูกชิ้นเนื้อล้วนมันแพง คนกินก็น้อยไปตามสภาพ แต่คนเราบางทีไม่รู้ตัวว่าขายลูกชิ้นแป้งหรือลูกชิ้นเนื้อล้วนอยู่เท่านั้น ก็เลยกรี๊ดเวลาโดนวิจารณ์
>>790 อ่านตัวย่อปุ๊บเก็ตเลยหวะ
>>791 อันนี้จำได้แม่น โคตรพีค เขาบอกรู้สึกยังไงถ้านิยายที่ตัวเองแต่งได้ขึ้นท็อปพร้อมกันสองเรื่อง
เอาจริงๆ เห็นคนวิจารณ์งานเขาว่าให้คะแนนภาษา C- เจ้าตัวรีบเข้าไปเม้นต์ตอบเลยว่าเป็นภาษาแบบอ่านง่าย วัยรุ่น พอคนวิจารณ์บอกว่าพล็อตมันไม่สมเหตุสมผลนางก็บอกว่าเน้นหวาน ฮ่องเต้อยู่ในห้องทั้งวัน หืมมมม 55555 ไปเลยไปให้สุดน้อง
มีใครอ่าน ตายกี่ครา บ้าง ไปอ่านแล้วสนุกดี แนวกินเด็ก
ป.ล. ถึงโม่งที่แนะนำกุหลาบพิษ อันนี้ไม่เรียกว่าเสิ่นเจิ้นใช่มะ ไปอ่านมาละสนุกแฮะ ปวดใจ
>>797 กุหลาบพิษ กูว่าไม่เสิ่นเจิ่นนะ แต่นอกเรื่องเอามาคุยกันได้ กูไม่ถือ
เรื่องตายอีกครา ที่แนะนำมานี่ไปส่องมาละ ไม่แน่ใจว่าเป็นโม่งอยากคุยหรือว่า นข. อยากได้คำวิจารณ์เองหรือเปล่า (ใช่หรือไม่ใช่ กูไม่ถือเช่นกัน ส่งเรื่องมาก็ไปส่องให้ และสับให้ก็ได้)
.
.
.
.
.
อ่านคร่าวๆเป็นแนวทะลุมิติ จากนักฆ่า+ผู้รอบรู้ด้านพิษ และปรุงยา + พระเอกทนทุกข์จากพิษสารพัดอย่าง
พล็อตค่อนข้างมาตรฐาน พระเอกสายมาร(คาดว่าจะเย็นชาแบบพระเอกจอมมารและเปย์นางเอกสุดๆ) ไม่ค่อยแปลกใหม่ แต่คนอ่านก็มีเยอะ ขึ้นกับความสามารถในการดึงคนเข้ามาอ่านของนักเขียน
แนวออกแฟนตาซีจีนไม่ใช่สายกำลังภายใน พระเอกเทพ(มาร) นางเอกเทพ ช่วงแรกๆให้ความรู้สึกคล้าย ๆ จอมเวทโลลิ แต่อันนั้นกลับกันนางเอกเด็กกว่า
ภาษา มีคำผิดนิดหน่อย เทียบใน ดด เรียกว่าน้อยละ แค่หลุดๆมา เช่น สังเกตุ (ไม่ได้ตั้งใจอ่านมาก เห็นคำผิดน้อย) การบรรยายเรื่อยๆ คือไหลลื่นพอสมควรแต่ไม่ค่อยดึงดูด เน้นบรรยายสกิลเทพในการปรุงยาของนางเอก แรกๆความรู้สึกว่าสำนวนไม่ค่อยจีน อารมณ์คล้ายๆแฟนตาซีฝรั่งในฉากจีนมากกว่า ตอนหลังๆสำนวนเริ่มจีนมากขึ้นมาบ้างละ แต่กลายเป็นว่าให้ความรู้สึกคล้าย enchantress amongst alchemists
และอาจจะมีสัตว์เทพตามมา(รึเปล่า)
.
.
.
.
สรุป จัดว่าโอเค ภาษาลื่นไหลพอสมควร แต่เนื้อเรื่องยังไม่ค่อยดึงดูด คล้ายๆกับเรื่องอื่นๆมากเกินไปทำให้ไม่ค่อยมีเอกลักษณ์
ไม่ได้บอกว่าลอกนะ ย้ำ ไม่ได้แปลว่าลอก (อย่าดราม่า กูไม่ได้บอกว่าเขาลอก)
แต่นิยายแนวๆนี้มันค่อนข้างซ้ำ เรื่องนั้นคล้ายเรื่องนี้ เรื่องนี้มีส่วนคล้ายเรื่องโน้น ต้องขึ้นกับว่าพอเรื่องเดินมากขึ้นคนเขียนจะหาจุดเด่นให้มันต่างกับเรื่องที่เคยมีคนอื่นๆเขียนได้ไหม เพราะตอนนี้ตอนยังน้อยอยู่ แค่เริ่มเรื่อง ต้องรอดูต่อไป
เป็นกำลังใจให้คนเขียนซึ่งไม่รู้จะเข้ามาอ่านหรือเปล่าละกัน
ขอโทษ พิมพ์ผิด ตายกี่ครา...
>>798 ลองไปอ่านตาม ตายกี่ครา ขอชมอีกคนว่าคำผิดมีน้อย คำที่เห็นผิดคิดว่าเป็นการพิมพ์พลาดมากกว่าที่จะไม่รู้จักตัวสะกด ชมคนเขียนว่าใส่ใจใช้ได้ แต่ข้อผิดพลาดของมือใหม่ (คนเขียนบอกไว้เองว่าเพิ่งลองเขียน) ก็คือมุมมองในการบรรยาย ตอนปฐมบทบรรยายด้วยคำว่าฉัน มันต้องเป็นมุมมองของตัวเอก แต่พอโดนทำร้าย มุมมองกลายเป็นเธอ หญิงสาว โน่นนี่ ตรงนี้ต้องกลับไปแก้ไขใหม่ และภาษายังไม่นิ่ง อย่างที่โม่งข้างบนบอก บรรยายในสำนวนแฟนตาซีฝรั่ง แต่แล้วก็หลุดกลับมาที่สำนวนจีนเป็นระยะ เช่น ไร้ หาใช่ ตรงนี้รีไรต์ปรับแก้ได้ไม่ยากเลย อาจจะรอเขียนไปอีกเยอะ ๆ จนพลังแก่กล้าแล้วจะเห็นเอง เอาเป็นว่าขอชมมือใหม่ที่เขียนได้เท่านี้ มีแวว มุ่งมั่นต่อไป อย่าหยุด อย่างอน อย่าน้อยใจ
อีกเรื่องที่พบบ่อยมากในนักเขียนใหม่ที่ภาษายังไม่แน่น คือใช้คำผิดความหมาย เช่น สิ่งต่าง ๆ รอบกายเริ่มเลอะเลือน ตรงนี้ต้องใช้ว่า ลางเรือน เรือนลาง อะไรก็เลือกเอาเอง เพราะคำว่าเลอะเลือนแปลว่าฟั่นเฟือน เช่น ความจำเลอะเลือน ยกตัวอย่างอีกจุดในกรณีเดียวกันคือ ผิวพรรณขาวผ่องดุจใยไหม เอาใยไหมมาขยายความขาวผ่อง ถามว่าได้ไหม มันก็อาจจะได้ แต่มันไม่รับกัน เพราะใยไหมมันขยายให้รู้สึกถึงความเนียนนุ่ม ละเอียด ใยไหมไม่ได้เกี่ยวอะไรกับความขาวผ่อง ถ้าเขียนว่า ผิวพรรณละเอียดดุจใยไหม อันนี้คือถูกต้องร้อยเปอร์เซ็นต์ หรือผิวพรรณขาวผ่องดุจหิมะ ขาวดุจงาช้าง อะไรก็ว่าไป มือใหม่มักจะใส่คำเข้ามาตามที่เคยเห็นจากงานเขียนคนอื่น แต่ลืมนึกไปว่าถ้าเอามาประกอบกันเป็นวลีหรือประโยคแล้วมันต้องรับกันด้วย
แค่นี้แหละจ้า
>>798 >>800 ขอบคุณมาก ชอบการสับ/เฉาะ/วิเคราะห์ของเหล่าเพื่อนโม่ง
ไม่ว่าจะเรื่องไหนๆ นะ ถ้านักเขียนมาอ่านก็จะนำไปปรับปรุงเรื่องของตัวเองได้
กูคือคนที่พูดถึงเรื่องนี้ เป็นนักอ่านมาตรฐานต่ำ อ่านได้แทบทุกเรื่อง เหมือนคนลิ้นจระเข้น่ะ กินได้ทุกอย่าง
เรื่องไหนที่อ่านแล้วไม่เฟ้บคือไม่ไหวจริงๆ
ตายกี่ครานี่ชอบเพราะภาษาค่อนข้างลื่น เนื้อเรื่องน่าสนุก มันก็คล้ายหลายเรื่องแหละ แต่ก็ยังอ่านได้โอเคอยู่
หรือเพราะกูไม่ค่อยรู้จักเรื่องที่นางเอกแก่กว่าพระเอกหว่า เลยรู้สึกว่าแปลกใหม่
ใครมีเรื่องอื่นๆ แนะนำอีกมั้ย
อ่านคู่มือข้ามภพของคนเขียนคู่มือนางกำนัลแล้วผิดหวังนิดหน่อย มันไม่ค่อยจีนเลยละ ภาษาบรรยายแนวเด็กดีทั่วไป ต่างจากคู่มือนางกำนัลที่กูว่าเขียนได้ดี ภาษาดี บรรยายดี
มึงงงง กูเพิ่งมาอ่าน บุปผาเลี่ยมเพ็ด อ่านไปได้นิดหน่อยแล้วก็พอใช้ได้นะ แต่เห็นว่านข.จะปิดตอนแล้ว กูอ่านตามไม่ทัน
พวกมึงอ่านกันยัง คิดไงกันบ้างวะ
ช่วงนี้หน้าท๊อปสิบก็มีแต่คำว่า"บุปผา"ว่ะ มาสามบุปเลย แต่ที่ตามอ่านตอนนี้ก็บุปผาผัดกลีบ ขึ้นท๊อปไปแล้วตามคำทำนาย นิยายพล๊อตตลาดผัวโง่ ๆ กับเมียปากจัด ตีกันก็มันส์ดี ภาษาจัดว่าดีกว่านักเขียนเด็กดีทั่วไป แต่ตอนมันน้อยไปหน่อยทำกูค้างชิบหาย
กูกำลังหัดเขียนนิยาย แล้วไปเจอกลุ่มหนึ่ง มีคนมาถามว่าเรื่องนี้สนุกไหม บางคนบอกสนุก บางคนบอกไม่สนุก กูไม่ค่อยอะไรเท่าไร แต่เจอคนหนึ่งตอบว่า ลุ้นฉากอุ่นเตียงจนเบื่อ < เบื่อ? เพราะไม่มีฉากอุ่นเตียง เอิ่ม...บอกไม่ถูกอะ คือต้องมีฉากอุ่นเตียงเยอะๆ ไรงี้เหรอเนื้อเรื่องถึงสนุกสนาน
>>814 ปล่อยไป คนอ่านมีจุดประสงค์ในการอ่านต่างกัน ถ้าเขาไม่ชอบนิยายเพราะไม่มีฉากนั้นแล้วเลิกอ่าน ก็แค่ว่ามันไม่ถูกจริต การอ่านกับการเขียนบางทีก็เหมือนการหาคนที่ชอบอะไรๆ คล้ายกันนะ ส่วนที่บอกสนุกหรือไม่สนุกเพราะอย่างอื่นก็ต้องดูแล้วปรับแก้กันไปให้งานดีขึ้น
แต่เออ บางทีก็หงุดหงิดแหละ คือมันไม่มีก็ไม่มีมะ อยากอ่านก็ไปหานิยายที่มันมี จบ
มันมีคนเยอะมากที่อ่านเฉพาะฉากอย่างว่า ไม่อย่างนั้นยอดวิวนิยายบางเรื่องจะไม่มีทางถล่มทลายอย่างที่เห็น กูจำไม่ได้แล้วว่าเรื่องอะไร เหมือนโดนสับในโม่งแล้วกูตามไปอ่าน เปิดมาฉากแรกนางเอกหลงมิติไปโดนเสียบอยู่พอดี บรรยายถึงดุ้นของพระเอก (มั้ง) แค่ตอนแรกก็มีคนเมนท์ไปแล้วเป็นพัน คนอ่านกลุ่มนี้ก็จะตามล่านิยายที่คาดว่าน่าจะมีฉากที่ตัวชอบ ถ้าไม่มีก็ผิดหวัง ถ้านักเขียนมัวแต่สนใจนักอ่านพวกนี้ก็ต้องเปลี่ยนแนวเรื่องไปเลย เยๆๆๆๆๆ อย่างเดียว ไม่ต้องมีเนื้อหาก็ได้ แต่ถ้ารักจะเขียนเรื่องที่มีเนื้อหาก็ต้องใจแข็ง อย่าไปสนว่ะ
มีเรื่องที่ใกล้จบแล้วแนะนำไหม
กุเพิ่งอ่านสโลว์ไลฟ์จบ ก็โอเคนะ ตรรกะในเรื่องรับได้ ถึงจะรู้สึกว่าความรักแมวของพระเอกโอเว่อร์ไปหน่อย พล็อตก็โอเคเทียบกับอีกหลายๆเรื่อง
>>817
แนวนี้ที่กูนึกออกที่ติดท็อปดด.
ก็เปิดมาฉากแรกนางเอกที่เป็นนักฆ่าโดนยาพิษร้ายแรง ต้องรักษาด้วยการเย หนึ่งพันวัน ต้องกับคนคนเดียวด้วยนะ
นางเอกไม่ตาย ก็ช้ำในแหละว้า โดนเยทุกวันสามปีกว่า
5555
แล้วพระเอกต้องอึดถึกทนแค่ไหน ไปไหนก็ต้องหิ้วไปด้วยไม่งั้นพิษกำเริบตาย
>>822 เยทุกวันเพื่อรักษาชีวิต กูว่าไหวอยู่นา อย่างน้อยก็กูนี่แหละไหว ถถถถถ ดีกว่าตายว่ะ แต่ถ้าต้องเยวันละพันครั้งอันนี้ค่อยสยอง พลอทแบบที่มึงว่ามานี่มันก็ขำดีนะ ถ้าเขียนให้ดีมันก็ดีได้ แต่พวกที่บรรยายฉากเยแบบดุ้นฉ่ำกลีบชุ่ม บีบนมบีบไข่กันโอ๊ว ๆ อ๊า ๆ สำหรับกูมันหมดรสชาติว่ะ กูเพิ่งเจอนิยายตีพิมพ์เรื่องนึงที่พูดคำว่ากลีบกับมังกรสามสี่ย่อหน้าติดกัน บรรยายแบบเดิม ๆ สำหรับกูแล้วมันไม่ทำให้เกิดความหื่นหรือความสุขในการอ่านเลย ห่วยมาก
>>822 ขอพิกัดด้วย เรื่องไรอ่ะ จะไปส่อง
>>823 วันละพันครั้ง ผช คงตายก่อนพิษกำเริบ
เรื่องไหนมีฉากเย คนมุงกันมาก
ข้าร้าย
.
.
.
.
.
นี่เคยส่องบทแรกๆ แต่เทไป จำไม่ได่ว่าเพราะไร น่าจะไม่ใช่แนว จำได้แต่ฉากแรกเปิดมา ก็นั่นแหละ ได้กันเลย นอ. ทะลุมิติมาตอนนั้นพอดี
สงสารเจ้าของร่างเดิมมาก อุตส่าห์วางแผนลากพระเอกขึ้นเตียง ดันตาย???? ปล่อย นอ.ชุบมือเปิบ????
.
.
.
.
.
เห็นพิมพ์แล้ว คนคงชอบกันเยอะ
>>827
ลืมแล้วว่ะ มันนานมากแล้ว แต่กูพึ่งเคยเจอระยะเวลาหนึ่งพันวัน ไง
ปกติ ร้อยวันก็เยอะแล้วนะ 555555
กูจำได้ว่านางเอกเจอพิษนี่
เลยเข้ากระโจมพระเอกที่เป็นแม่ทัพ (เคยเจอ รู้จักกัน จำไม่ได้ว่าสนิท หรือเป็นคู่หมั้นอะไรประมาณนี้หรือเปล่า)
>>825 มรึง ใจคอจะให้เยทั้งๆที่เป็นเมนส์ด้วยเหรอว่ะ แค่เป็นก็จะลุกไม่ขึ้นแล้ว 55555
>>823 ก็ประมาณนั้นแหละกูเลยไม่ได้อ่าน
กูว่าพวกมึงเปลี่ยนประเด็นเถอะ เข้ามาอ่านแล้วกูจะหมกมุ่นตามนักอ่านคลั่ง 18+ ไปอีกคนละเนี่ย 555555
สปอยมู่กั๋วหวางโฮ่วให้หน่อยจิ พอดีเห็นโม่งแนะนำเลยลองไปตามอ่าน สนุกดีน่าจะซื้อเก็บ แต่อยากรู้เฉินเฮ่ากับหลิวหลิวคู่กันเปล่า อยากรู้มากก
>>835 แฮ่ม กูขอค้านหน่อยนะ กูไม่โอกับมู่กั๋วเท่าไร แต่กูไม่ได้ชอบแนวหนักไปเลยหรือเบาไปเลยนะมึง ความไม่ชอบของกูคือ
.
.
.
.
.
กูรำนางเอกอ่ะมึง เป็นมาตั้งแต่เสี่ยวหวางเฟยแล้ว กูรู้สึกว่าเขาเขียนคาร์นางเอกไม่นิ่งเท่าไรว่ะ บรรยายนางเอกงกนางเอกร้าย สุดท้ายกูอ่านจบยังมานั่งงงเลยนางเอกแสบตรงไหนวะ แต่เรื่องนั้นยังไม่เท่ากับตอนจบเสี่ยวหวางเฟย กูยอมรับว่ากูเหวอนะมึง ปูเรื่องมายิ่งใหญ่ จบที่ใช้เส้นมังกรแก้ปัญหา กูเลยไม่ค่อยแฮปปี้กับการวางปมและคลายปมของเขาน่ะ
.
.
.
.
.
แต่บ่นไปแล้วก็รู้สึก หรือจะเป็นปัญหาที่กูเองวะเนี่ย เอาเป็นว่ามึงลองอ่านดูไม่กี่บท ถ้ามึงแฮปปี้ก็จัดโลด
เสี่ยวหวางเฟย มู่กัษวหวงโฮ่ว เรื่องหน้าจะเป็น xxxไทเฮาป่าววะ
>>835 >>836 เรื่องนี้กูว่าเริ่มเรื่องเปิดปมดี เดินเรื่องโอเค แต่ท้ายๆ ปิดแบบรวบรัด ทำให้พล็อตที่วางมาหลวมไปเลย
.
.
.
.
.
อะไรคือหาสมบัติ จบที่นางเอกสลบ พระเอกเปย์ พอฟื้นก็แต่งงาน HAppy
แล้วที่หาสมบัติกันแทบตาย ไหนวางแผนนั่นนี่ ไหนปมเจ้าของร่างเดิมที่ถูกหักหลัง
คือชอบที่เปิดปมไว้ต้นเรื่อง แต่ตอนจบ รู้สึกว่าจบแบบนี้เลยนะ ง่ายจุงเบย
.
.
.
.
.
แต่กูโอเคกับภาษาการบรรยาย มุกตลก ชดเชยกันไป รวมๆแล้วชอบมากกว่าเสิ่นเจิ้นเรื่องอื่นที่ขายๆ
ชอบมากกว่าเสี่ยวหวางเฟยด้วย เรื่องนั้นจบอย่างที่ 836 ว่า ตอนแรกกูคิดจะสอย แต่อ่านจนจบแล้วเปลี่ยนใจ
แต่คิดว่าจะซื้อมู่กั๋ว สนับสนุนนักเขียน คาดว่าเคื่องต่อๆไปคงดีขึ้นเรื่อยๆ เป็นกำลังใจให้เค้าผลิตงานดีๆออกมา
>>836 ค้านได้ตามสบายเลย กู 835 เอง กูบอกไปแล้วว่ากูไม่ชอบแนวนี้ กูอ่านได้นิดเดียวก็เลิก รู้สึกว่ามันกลาง ๆ ไม่ได้ถูกใจและไม่ได้เกลียด กดดูบทหลัง ๆ ก็ไม่ชอบ กูเลยบอกไม่ได้ว่าเนื้อเรื่องดีหรือไม่ดี พอดีกูชอบนิยายหนัก ๆ มีพาร์ทการเมืองมากกว่าพาร์ทความรัก แต่ที่กูเชียร์ก็เพราะกูเห็นว่าเขาเขียนได้โอเคในแง่ภาษา กูเลยหนับหนุน อีกอย่างที่ช่วยเชียร์ก็เพราะคนอ่านมันเยอะไง ติดท็อปด้วย ห้องนี้ห้องเสิ่นเจิ้นเลยช่วยเชียร์แค่นั้น
>>836 >>838 กู 833 กูอ่านมูกั๋วแล้วรู้สึกนางเอกเรื่องเสี่ยวหวางดูเป็นนางร้ายลาสบอสมากอะ เรื่องเสี่ยวหวางกูอ่านแล้วไม่โอเท่าไร เฉยทั้งนางเอกพระเอก แถมพล็อตมันดูเดาออก พอรู้ว่านางเอกคนนี้โดนรุมชอบกูยิ่งไม่อยากอ่าน555
ถ้างบกูเหลือในงานหนังสือก็คงไปซื้อมูกั๋วแหละ อ่านเพลินๆแก้เครียด
แต่ที่จริงกูเชียร์หลิวหลิว(กูนึกถึงซังซังน้อย) อยากรู้ว่านางจะคู่กะใคร นึกว่าจะรู้กันในเล่มมูกั๋วซะอีก
เสิ่นเจิ้นที่ขมวดปมดี ๆ ไม่แผ่วปลายมีมั้ยวะ กูไม่ได้เรื่องมากนะ ขนาดจีนแปลที่ดีตั้งแต่ต้นจนจบยังหายาก ส่วนใหญ่ต้นดีปลายแผ่ว เสิ่นเจิ้นจะมีที่แน่นดีทั้งเรื่องด้วยหรา
กูไปอ่านสามชาติลูกแก้วมังกรมาแล้ว โอ๊ยฮาฉิบหาย กาวในกาว สงสัยหน่อยว่า นายแม๊คที่กลายเป็นท่านจอมยุทธ์นี้คือแม๊คเดียวกับแฟนเพื่อนของหญิงดาวป่าวว่ะ
ลูกแก้วมังกร เอ็นดูฮองเฮาและทีมของนาง ตอนล่าสุดอย่างกาว สงสารนางเมิ่ง ส่วนทีมอื่นมีให้เพียงความเวทนา 555555
ตกลง ip เหมือนเดิม กูไม่ได้นิ้วลั่น 848ไม่ใช่กู
คลุมโม่งมุดดินจากไปด้วยความเขิน
ธูปราคะก็ต้องมา 555555555 เออน้องเฉินก็ลีลาได้อยู่นะเว้ยยตอนโดนยา
ลูกแก้วมังกรเอาจริงกูชอบทุกตอน แต่อยากให้เครดิตนังชุ่ยหน่อย คือโคตรparodyนางเอกเถื่อนๆเย็นชาๆแต่พระเอกหลงหัวปักหัวปำได้ดีมาก กูคนนึงล่ะที่ไม่ชอบนางเอกสไตล์นี้ พออิชุ่ยเถื่อนแบบเถื่อน พระเอกตายห่าไปก็ไม่สน พระเอกก็ยังจะรักอีก กุขำ ล้อเลียนสัส55555
KY มีใครอ่านลู่เอินปะ
เป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนอ่านเยอะนะ พล็อตเหมือนจะทั่วไป แต่พฤติกรรมและคำพูดตัวละครนี่ชวนงง มึน อึน
ทำให้รู้ว่ามีคนชอบอ่านอะไรแปลกๆ เข้าใจยาก เยอะเหมือนกัน
หมายถึงว่าไม่ใช่แนวตลาด อ่านง่ายน่ะ
เพิ่งอ่านลู่เอิน ช็อค คนแต่งเพิ่งจะม.4 แต่แบบความคิดลึกซึ้ง เทามากกกกก หายากนะเนี่ย
>>872 กู 871 นะ อันนี้คือช็อคจริง กูเดาว่าอย่างน้อยคนแต่งต้องมีประสบการณ์ชีวิตมาระดับหนึ่งอ่ะถึงจะสามารถแต่งอะไรที่เทาๆ แบบนี้ได้ เด็กวัย 15???? ทำไมเด็กสมัยนี้เป็นผู้ใหญ่กว่ากูสมัยก่อนอีกวะ ขนาดกูว่ากูตอนนั้นก็โตกว่าเพื่อนแล้วแต่ความคิดให้มันเทา มันซับซ้อนแบบนี้ยังไม่ถึงขั้นเลย
เก่งเว่อร์ของแท้ ตอนนั้นกูมากสุดแค่ยังเริ่มๆ อ่านนิยายแนวผู้ใหญ่ของแจ่มเอง น้องแม่งอัพเกรดกว่ากูไปอย่างเยอะอ่ะ
อ่านลูเอิ่นมาตามที่พวกมึงบอก มีภาษาบางจุดงงๆเหมือนเปลี่ยนมุมมองสามเป็นมุมมองสอง ตรงคำพูดช่วงแรกๆที่อ่านนี้ไม่รู้เลยว่าใครพูด หลังๆเลยพอจับหลักได้ ว่ามีเครื่องหมายจบประโยคแล้วแต่ยังคนพูดคนเดิม
แต่ถ้าในเรื่องพล็อตนี้ชอบ ดีสุดๆคือเรื่องคาร์ ค่อยๆเผยคาร์กับปมมาเรื่อยๆได้ดีนะ ไม่ยัดบทว่าคนนู้นคนนั้นฉลาดไปดื้อๆ อาจจะดูอวยนิดๆแต่ก็ไปรอด แถมแต่ละคนนี้มนุษย์สุดๆ เห็นแก่ตัวได้น่าตรบมือมาก
มาดัน มู้หล่นไปจากห้องลิทละ ช่วงนี้มีไรแนะนำบ้างป่าว ไม่มีไรอ่าน
นอกจากเรื่องที่แนะนำกันไปด้านบนแล้วก็ไม่มี พยายามอ่านเรื่องอื่นแล้วแต่ไม่รอดว่ะ
มารอด้วยคน
ทมยันตีก็แต่งนิยายเรื่องในฝันตั้งแต่ 13-14 เองมั้ง กิ่งฉัตรก็แต่งนิยายตั้งแต่ยังเรียน บางคนมีแววตั้งแต่เด็กๆ
ลือเล่ห์นำรัก เห็นว่าเขียนใหม่ เรื่องนี้ดีป่าว ใครเคยอ่านของเก่าบ้าง เทียบแล้วเป็นไง
แต่เห็นของใหม่เพิ่งมา 8 ตอนเลยยังไม่อยากอ่าน ปกติเป็นพวกดองแล้วอ่านรวดเดียวอะ
ส่วนตอนนี้นั่งอ่านนางไห 31257 ก็ดูเฮฮาดี แต่คำผิดมีประปรายในระดับรับได้ ขัดใจสุดก็ 'หวี๋' คือ 'หวี' เป็นเสียงจัตวาอยู่แล้ว ไม่ต้องเพิ่มรูปมา
>>881 เคยอ่านตอนก่อนเขียนใหม่ ก็ดีนะ ภาษาดี ลือ-ข่าวลือ
บุปผาผลัด ขึ้นท็อปไปแล้วจริงๆ ตามที่มีโม่งคาดการณ์ไว้
ส่วนเรื่องอื่นๆ อ่านเจอ ดาวเคราะห์ร้าย ก็ใช้ได้นะ แต่โหดหน่อย
หลันเอ๋อ ของคนเขียนเรื่องชายาต่างๆ
อ้อ ของคนเขียนจอมนางเคียงหทัยก็สนุกดี เรื่องใหม่ชื่อคล้ายๆ เดิม
กลียุคแห่งแคว้น เรื่องนี้น่าสนใจ แต่เดินเรื่องช้า
ky ถามหน่อยสิ พวกมึงคิดว่าจีนเสิ่นเจิ้นนี่มันจะมีกระแสไปอีกนานมั้ย หรือว่าใกล้จะหมดกระแสแล้ว กูว่าตอนนี้ก็เริ่มดรอปๆ ไปมั่งแล้วนะ หรือว่าเพราะกูไม่ค่อยได้ตามนิยายนักเขียนไทยวะช่วงนี้
ไม่ใช่อะไร เมื่อก่อนนี่เด้งหน้าฟีดกูรัวๆ เดี๋ยวนี้ดูเงียบๆ พิกล
ถ้าเคยคุยกันประเด็นนี้ไปแล้ว ก็ชี้เป้าให้กูหน่อยแล้วกัน เดี๋ยวกูไปตามอ่านก็ได้
แปลจีน เสิ่นเจิ้นมาแรง ไม่ใช่เพราะคนเบื่อนิยายไทยเหรอ เรื่องกระแสมันเป็นวงจร อย่างแนว รรเวทมนตร์ แนวเกมออนไลน์
เรื่องที่เคยตามๆอยู่ ตอนนี้เหมือนจะโดนเทเลย
กลยุทธรอดตาย
เฉินซี
นข.หายไปสักพักละ ลุ้นอยู่ว่าจะกลับมาอัพป่าว
บางเรื่องก็จบปิดตอน ช่วงนี้ โม่งสับก็ไม่มี แถมมู้เด็กดีมีแต่จับผิดม้าจนไม่มีใครมาอวยนิยาย
>>891 สองเรื่องนั้นส่องมาละ แล้วที่แหวกหัวทิ่มคือไร แหวกไม่จริง หรือแหวกเกินไปจนเข้าไม่ถึง
กูชอบสามภพนะ น่ารักดี ทะลุมิติไปเป็นแม่ทัพสวรรค์แต่ดันโดนพิษเลยมักจะกลายร่างเป็นมังกือน้อย
ดาวเคราะห์ร้าย เปิดเรื่องด้วยยุคปัจจุัน บก.คนนึงปฏิเสธงานเขียนแล้วโดนนักเขียนมาฆ่าถึงห้อง
แล้วเรื่องก็เปิดมาใหม่เป็นย้อนยุค พูดถึงเด็กผู้หญิงคนนึงที่โดนรังแกแต่เด็ก
แล้วเอาคืนพลาดทำให้พี่สาวคนละแม่ตาย โดนแม่เลี้ยงอุ้มฆ่า แต่เอาตัวรอดกลับมาได้ ทีนี้โหดเลย
ก็ไม่รู้ว่าเป็นนักเขียนทะลุมิติมาเกิดรึเปล่า แล้วบก.จะกลับชาติมาด้วยมั้ย
เปิดไปส่องดาวเคราะห์ร้ายละ น่าสนใจ แต่ตอนยังน้อย กะรอ 20++ตอนก่อน ค่อยกลับไปอ่าน
ประสบการณ์โดนเทมันเจ็บปวด
กุเบื่อตัวเองอ่ะ
นิยายกูติดท๊อปนะ แต่เม้นน้อยมากกกก น้อยจนกูไม่เข้าใจว่ามีคนเม้นแค่นี้ทำไมติดอันดับได้
กูอ่านเม้นจากคนอ่านบ้าง ไม่งั้นกูก็เดาไม่ออกว่าชอบไม่ชอบกัน กูเคยคิดว่าช่างแม่ง เขียนๆลงๆไปเหอะ ไม่ต้องสนใจ แต่อ่านตอนนึงเม้นสองเม้น พอเขียนอ้อนขอเม้น กูได้เพิ่มอีกสองเม้น
กูนอย กูไม่อยากขู่ขอเม้นเพราะกูก็ไม่ชอบให้ใครมาขู่ให้กูเม้น แต่แบบนี้ก็ไม่ไหววะ กูควรจะทำไงดีวะมึง
คิดไปคิดมา กูคงยังเขียนไม่ดีพอ เฮ้อ
>>896 เป็นกำลังใจให้ ช่วงนี้น่าจะเพราะดราม่าเยอะ เม้นท์ไม่ถูกใจก็มี นข แจกมาม่า นักอ่านเงาเลยเยอะ
ติดท็อปแปลว่าคนชอบเยอะไง อย่าคิดมาก
ปอลอ มาสารภาพ กูก็นักอ่านเงา เคยเม้นท์ให้แต่2-3เรื่องเอง ที่แนวไม่กระแส ไม่ค่อยมีใครเม้นท์ เลยหยอดสักหน่อย ให้กำลังใจ แต่เรื่องติดท็อปไม่เคยเม้นท์เพราะคิดว่าคนอ่านเยอะคนเม้นท์เยอะละ
เรื่องขู่ขอเม้น>>896 อย่าทำเลย เคยเทนิยายบางเรืีองเพราะคข.บอกว่าจะอัพเพิ่มเมื่อยอดวิวเท่านั้น ยอดเม้นท์เท่านี้ เลิกอ่านของคนนั้นทุกเรื่องเลย ทั้งที่ภาษาดี พล็อตดี
แต่ถ้าเสพติดเม้นทีจริงแนะนำว่าลองดูเรืองที่เม้นทเยอะ
ส่วนใหญ่มันต้องมีความพีค ไม่ก็จบตอนแบบค้าง
อีกอย่างถ้าตอนสั้นไป เรื่องยังไม่เดิน ไม่มีไรจะเม้นท์ให้ว่ะ
>>896 เรื่องติดท็อป แปลว่ามึงมีคนอ่านแต่ละตอนไม่ต่ำกว่าสองพัน แต่มึงบอกว่าได้แค่เม้นสองเม้น กูคิดว่าน้อยเกินไปจริง ๆ ว่ะ กูเคยติดท็อป มันต้องได้ไม่ต่ำกว่าห้าสิบเม้น น้อยสุดแล้วก็สามสิบ ถ้าให้เดา เรื่องของมึงเป็นแบบนี้หรือเปล่า แต่ละตอนสั้นไป (จนไม่มีจุดให้เม้น) เรื่องค่อนข้างเหมือนนิยายเรื่องอื่น (จนเดาได้) มึงไม่ได้เอาความพีคมาไว้ย่อหน้าท้าย (ย่อหน้าหลังสุดของมึงเป็นแบบเบลอ ๆ คนอ่านเลยลืมย่อหน้าแรกที่พีคไปแล้ว) คือถ้ามึงมีเม้นบางตอนสูง บางตอนต่ำ กูยังว่าปกติ แต่นี่มึงว่าแต่ละตอนมีเม้นสองเม้น พอเขียนขอได้เพิ่มอีกสองเม้น มันผิดปกติสำหรับนิยายติดท็อปจีนนะ ถ้าเป็นหมวดอื่นบางหมวดอาจจะธรรมดา กูเห็นนิยายติดท็อปหมวดอื่นแล้งเม้นมาก แต่หมวดจีนคนอ่านจะอิน ยิ่งเรื่องติดท็อปนี่ไม่น่าเป็นไปได้เลย แต่ยังไงกูก็ให้กำลังใจมึงนะ อย่าไปขอเม้น แต่ลองปรับเอาความพีคลงย่อหน้าสุดท้าย เพิ่มสีเพิ่มไข่มั่ง สู้ ๆ เว้ย
ขอบใจมากนะพวกมึง กุจะพยายาม
>>896 บางทีก็ไม่รู้จะเมนต์ไรนะ กูเป็นนักอ่านอย่างเดียว เงาบ้างไม่เงาบ้าง จะเมนต์ว่า รอตอนต่อไป อยู่ทุกตอนก็กระไร
หรือถ้าเมนต์แค่ ขอบคุณ นักเขียนพอใจไหม
แต่ที่ไม่ค่อยชอบคือนักเขียนบ่นหรืออ้อนว่าไม่ค่อยมีคนเมนต์ ถ้าบ่นแล้วได้เมนต์เพิ่ม ก็แสดงว่าเค้าเมนต์ให้ตามที่ขอ ไม่ได้เมนต์จากใจปะ
อย่างที่เพื่อนโม่งบอก มันต้องมีจุดอะไรให้เมนต์ในตอนนั้น ไม่จำเป็นต้องตัดจบตอนแบบค้างคาก็ได้นะ แต่ให้มันมีเรื่องมีราวอะไรที่คนอ่านอยากจะด่า/ชม/กรี๊ดตัวละคร
มีเรื่องติดท็อปเรื่องนึงในอดีต นักเขียนเขียนแบบอ่านแล้วรู้เลยว่าเรียกยอดเมนต์ จงใจสร้างเรื่องให้พระเอกหรือนางเอกถูกทำร้ายแบบตายแหงๆ
แต่อ่านแล้วก็รู้ไงว่ามันไม่จริง
คือมันไม่เนียนอะ แล้วก็เรียกเสียงกรีดร้องจากคนอ่านได้มากมายจริงๆ แต่กูเลิกอ่านของคนนี้ไปเลย
กูว่าคอมเม้นนี่แ้ลวแต่หมวดด้วยจริงๆ อย่างนิยายจีนก็อาจจะถือว่าเม้นเยอะแล้ว อย่างกูมาจากแนวฟิคคือเม้นเยอะมาก พอมาเขียนแนวที่ไม่ใช่ฟิค เม้นหดสัดๆ สุดท้ายกูกลับไปเขียนฟิคเหมือนเดิม คอมเม้นมีผลต่อจิตใจการเขียนต่อของกูอ่ะ แบบจริงๆกูไม่ได้ตั้งใจจะหยุด แต่ว่าเรื่องไหนมีคอมเม้นหรือมีคนแทคให้เยอะๆ เวลาเข้าไปอ่านมันก็เหมือนมีแรงขึ้นมา คือหลายครั้งมากๆที่กูไถแทคฟิคตัวเองแล้วก็ลุกขึ้นมาเขียนเลย นั่นแหละจ่ะ แต่จะเม้นหรือไม่ มันก็เป็นสิทธิของคนอ่านแหละ
คือพอดีกูไปเห็นนิยายจีนที่คนไทยเขียนที่กำลังจะออก
กูก็เข้าไปอ่านคำโปรย พออ่านคำโปรยจบกูนึกถึงเรื่องของท่านยายซานเซิงเลยว่ะ
นางเอกเป็นเป็นก้อนหิน พระเอกเป็นแม่ทัพบนสวรรค์ถูกสั่งให้ลงไปเกิด 7 ชาติเพื่อเรียนรู้เรื่องรักบนโลกมนุษย์
อันนี้คือเรียกว่าได้แรงบันดาลใจใช่ไหมวะ ...
ปล. มีใครเคยอ่านแล้วบ้างเนื้อเรื่องเป็นยังไง ช่วยมาเล่าหน่อย
ถามแล้ว นักเขียนบอก แรงบันดาลใจมาจาก >สามชาติสามภพป่าท้อสิบหลี่
ไปดูมาสองตอนแบบคร่าวๆเลยนะ น่าจะมิกซ์สามเรื่องว่ะ ไม่ใช่แรงบันดาลใจป่าท้ออย่างเดียว ตัวละครมีชื่อกับลักษณะบางอย่างคล้ายๆในนิยายถังชี นางเอกเป็นก้อนหินแบบท่านยายแต่เป็นเซียนบนสวรรค์เลย ลงมาเกิดชาติแรกเป็นสัตว์คล้ายๆ 7 ชาติภพ ดูจะเอาโครงหลักมาแล้วใส่รายละเอียดใหม่เอง
ไม่ใช่ไปแบ่งพล็อต 7 ชาติแล้วไปพ้องกับเรื่องอื่นว่ะ ชาติที่เป็นหมา แล้วมีนักพรตหรือพระมาบอกว่าเป้นปีศาจต้องกำจัดเนี่ย ท่านยายผสม 7 ชาติชัดๆ
หากินง่ายดีว่ะสมัยนี้ มีเส้นบางๆกั้นระหว่างแรงบันดาลใจกับเอาพลอตที่เคยอ่านมายำๆกันเป็นเรื่องใหม่ที่อ่านแล้วเดจาวูทุกๆสิบบรรทัด
ไม่ชอบก็ไม่ต้องซื้อ หาว่าเขายำเนี่ยพวกมึงเขียนได้รึเปล่า เสิ่นเจิ้นเรื่องไหนบ้างไม่ยำวะ จะด่าก็ด่าให้ครบทุกเรื่องสิ ทำไมต้องจับผิดเรื่องนี้เรื่องเดียว คนเปิดประเด็นต้องการอะไร ถามนักเขียนจนได้คำตอบแล้วยังไม่พอใจอีกเหรอ
เอ้า ที่นี่เค้าก็สับทุกเรื่องแหละถ้ามีคนมาเปิดประเด็น
มึงอยากสับเรื่องไหนอีกที่ยำเรื่องอื่นมา แล้วไม่เนียน ทำให้คนอ่านจำได้เยอะแยะ จนอ่านไปเดจาวูไป มึงก็เปิดประเด็นมาสิ
ทำไมอยู่ๆกูก้อนึกถึงเรื่องนิยายรักอลเวงที่นางเอกบอกว่า อันป่าย่อมมีนกทุกชนิด อันหนังสืออ่านมากเข้าย่อมเจอขยะทุกประเภท
เอ๊ะ แต่ถ้าเป็นห่วงหนังสือจะขายไม่ออก มึงไม่ต้องกังวล คนที่เคยอ่านสามเรื่องนี้มา พออ่านคำโปรย เค้าก็ไม่ซื้ออยู่แล้ว ไม่ใช่targetของเล่มนี้อยู่ดี
เอ่อ....สับหนังสือ=ดิสเครดิตเหรอเนี่ย ตรรกะแบบจงหยวนใช่มั้ยเนี่ย
มีคนมาถามก็ไม่แปลกปะวะ ชื่อเรื่องตัดท่อนมาขนาดนั้น ตอนกูเห็นในเฟสตอนแรกยังชะงักเลย ชื่อนี่มันท่านยาย+เจ็ดชาติชัดๆ อะไรๆก็ว่าโม่งดิสเครดิต โถๆๆๆๆ
ไม่ซื้อ = ห้ามถาม สินะ อุ๊อิ๊
อีเหี้ยยย แรงบัลดาลใจหรือเอาเนื้อหานิยายทั้งสามเรื่องมาดัดแปลงเรียบเรียงใหม่ สัส จะเล่นกันแบบนี้ใช่มะ 7ชาติ3ภพ
คนเปิดประเด็นอ่านแล้วได้กลิ่นท่านยายกะ7ชาติเลยมาถามคนอื่นว่าคิดเหมือนกันมั้ย เค้ายังไม่ฟันธงว่าลอกแน่ๆถ้าคิดว่านักเขียนไม่ได้ลอกและเนื้อเรื่องดีจริง ก็ไม่ต้องกังวลเรื่งยอดขายแทนนักเขียนหรอก หรือถ้ามึงอ่านจนจบแล้วก็มาแจกแจงประเด็นว่าไม่เหมือนยังไง แต่ถ้าลอกหรือได้แรงบันดาลใจหนักเกินไปก็น่าจะไปสะกิดเตือนนักเขียนหน่อยนะ
ถามไม่ได้หรอวะ ได้คำตอบจาก นข. แล้วก็มาคุยกันต่อไม่ได้หรอวะ ..
คนเค้าเอามาคุย ถกกันต่อไม่ได้หรอวะ
ทำไมตรรกะ "ไปว่าเค้า ตัวเองเขียนได้รึเปล่า" มันมาอีกแล้วล่ะ
ที่นี่คุย สับ วิเคราะห์วิจารณ์นิยายจีนเสิ่นเจิ้น ก็ถูกแล้วไม่ใช่เหรอ
ถ้าสะเทือนใจง่ายก็อย่าเข้ามาอ่านเลย
กูคนนึงไม่ใช่นักเขียน จะสับๆๆๆนิยายใครกูก็เขียนไม่เป็น แล้วกูก็ไม่บังอาจเขียนเพื่อมาเอาเงินชาวบ้าน ถ้ากูยังเขียนไม่เป็น
แต่กูคือคนที่จะควักเงินซื้อหรือไม่ซื้อ กูมีสิทธิ์วิพากษ์วิจารณ์งานเขียนที่กูเสียเงินไปให้ หรือ สงสัยว่ากูควรจะซื้องานระยำลอกชาวบ้านดีมั้ย
เจ้าตัวมาเองหรือเปล่า พอโดนสับเลยทนไม่ได้
เจ้าตัวมาเองมั้งเนี่ย
ว่าแต่สนพ.ที่จะออกนั่นชื่อไม่คุ้นเลย นักเขียนตั้งชื่อแล้วทำขายเองปะวะ หรือสนพ.ใหม่ ถึงได้มีคนมาเต้นเหยงๆเดือดร้อนกลัวขายไม่ออก เพราะปรงบันดาลใจอย่างหนัก ประหนึ่งก๊อป 3 เรื่องมามิกซ์กัน
โม่งคนกลุ่มน้อย มึงอย่ากลัวไปเลยว่าจะขายหนังสือไม่ออก กูเห็นที่โม่งด่า ๆ ก็ออกตีพิมพ์ขายได้มีถมไป ที่โม่งชมแต่ยังค้างเติ่งไม่มีสำนักพิมพ์เอาไปพิมพ์ก็เยอะ โม่งเป็นแค่สังคมนักอ่านคุยกัน ถ้ามึงรับไม่ได้ก็ไม่ควรเข้ามา เขายังไม่ได้ด่าคนเขียน แค่มาถามกันว่ามีกลิ่นนิยายเรื่องอื่นมั้ย ต่อให้เป็นงานทมยันตีก็เคยถูกตั้งคำถามแบบนี้มาแล้ว แล้วอย่าไปว่าเสินเจิ้นเรื่องอื่นแบบเหมา เพราะคนที่เขาเขียนเองไม่ได้ลอกไม่ได้ยำนิยายแปลก็มีถมเถ ถ้าอยากแย้งว่านิยายของตัวไม่เหมือนใครก็พูดไปด้วยเหตุผล ถ้าคนในนี้ว่ามึงแบบไม่มีเหตุผลก็แย้ง มันจะทำให้หนังสือดูน่าเชื่อถือ นิยายที่เขียนเหมือนกันน่ะมี เหมือนกันโดยไม่ลอกก็มีจริง แต่รายละเอียดมันจะต่าง กลิ่นมันจะต่าง การนำเสนอจะไม่เหมือน เรื่องแบบนี้นักอ่านมองออก ถ้าจะห้ามคนอื่นไม่ให้พูดถึงนิยายมึง ก็อย่าพิมพ์และอย่านำลงเผยแพร่ ของแบบนี้มันมีสองด้าน ต่อให้มึงเขียนนิยายดี มึงก็ยังจะได้ทั้งคำชมและคำด่า (จากคนที่คิดว่านิยายไม่สนุก ไม่ตรงใจ) แต่ถ้ามึงทำห่วย มึงจะได้คำด่าคำสาปแช่งมากมาย ต้องเข้าใจเรื่องนี้ด้วย ถ้าไม่ได้ลอกเรื่องอื่นมาก็อย่าดิ้น มั่นหน้ามั่นโหนกต่อไป แต่ถ้าลอกหรือยำมาก็จงละอายแก่ใจถ้าจะนำไปขาย เพราะชื่อเสีย ๆ จะติดอยู่กับมึงตราบนานเท่านาน
กูก็บอกอยู่ว่ามีเส้นบางๆกั้นระหว่างแรงบันดาลใจกับยำ คนมาวือนี่หัวร้อนเหมือนเจ้าตัวมาเอง ตรรกะกลัวเขาขายดีเลยวิจารณ์นี่ไปพักนะ กูไปมีส่วนได้ส่วนเสียกับการขายหนังสือเมื่อไหร่วะ ถ้าเอาตรรกะนี้ไปขึ้นศาลนี่มึงแพ้กราวรูดเลยนะ เวทมาก
>>941 ตรรกะขายดีเลยวิจารณ์นี่กูต้องมองบนหลายตลบ เพราะโม่งแม่งไม่ได้มีอิทธิพลอะไรขนาดน้าน ขนาดห้องจีนแปลด่านิยายจงหยวนกันไม่เว้นแต่ละวัน ค่ายนั้นมันก็ยังขายได้ มีกระแสตลอด ถ้านักเขียนมาหัวร้อนเพราะโดนโม่งวิจารณ์ กูว่าเอาเวลาไปเขียนนิยายแบบไม่ยำของคนอื่นดีกว่านะ มึงว่ามั้ย
จอมนางเคียงหทัยโคตรยำใหญ่ยังขายดีเทน้ำเทท่า พิมพ์ซ้ำตั้งหลายครั้งนาจา
นักเขียนมาแถลงแล้วนะมึง สงสัยจะเป็นคนที่มาเกรี้ยวกราดคนนั้นจริง ๆ ว่ะ
จบเอกมโน โทจินตนาการกันทั้งนั้น ยังไม่ได้อ่านก็หาว่ายำ ไม่มีหลักฐานก็เที่ยวหาว่าคนนั้นคนนี้เป็นนักเขียน ใจมีแต่อคติ เขาชี้แจงยังไงก็ไม่ฟัง
>>947 มึงอยากจะปกป้องนักเขียน มึงควรปกป้องเขาด้วยการชี้แจ้งว่าไม่เหมือนยังไง ต่างตรงไหนค่ะ มึงมาเหวี่ยงใส่คนที่เขาสงสัย กูรู้สึกไม่ชอบ นข ของมึงขึ้นมาทันทีเลยค่ะ ถ้า นข มีงานใหม่อีก ต่อให้นิยายดีแค่ไหน กูจะไม่แลเลยค่ะ เพราะกูอคติกับนักเขียนไปแล้ว
แต่ถ้าในกรณีที่มึงเป็น นข มึงไม่ได้ทำผิด มึงแค่เปิดใจ แล้วชวนเพื่อนโม่งไปลองซื้อหนังสือมึงอ่าน มันจะดีกว่ามึงมาเหวี่ยงแค่ไหน ตั้งสติค่ะ มึงทำตัวไม่น่ารักค่ะ แม้ว่ามึงจะไม่ได้ยำอย่างที่มึงบอก แต่กูก็บายแล้วค่ะ มึงบอกให้คนอื่นเปิดใจอ่าน แต่มึงใจแคบ ไม่เปิดใจรับคำวิจารณ์
ตามไปอ่านแถลงมาแล้ว ถ้านางเอกเป็นหมาซะเป็นส่วนใหญ่ มันจะพ่วงโฮ่งเต้มาอีกเรื่องมั้ยวะเนี่ย
อ้าว ที่กูบอกไปว่ามันเหมือนกับตอนเซียนก้อนเมฆมาเกิดเป็นเสือล่ะ ถึงไม่ได้copy&paste แต่ลักษณะมุมมองการบรรยาย ช่างบังเอิ๊ญ บังเอิญ มีกลิ่นอายเดียวกัน
ไม่ได้แขวะเรื่องชื่อเรื่องเลยนะเธอ ไม่ได้ว่านางเอกห้ามเป็นเซียนก้อนหินด้วย
ตาม>>940 ว่าเลย ถ้าคิดว่าไม่ได้ลอกคัดดัดแปลงก็ทำต่อไป นิยายสนุกคนเขาก็ซื้ออ่าน แต่ถ้าลอกจริงๆ วันดีคืนดีดังขึ้นมาโดนแหกนี่ก็อย่าแปลกใจนะ
วันก่อนเห็นมู้นึงบอกว่าคนอ่านแบ่งชนชั้นระหว่างเสิ่นเจิ้นและจีนแท้ กูอยากบอกบางคนยิ่งยี้นิยายเสิ่นเจิ้นเพราะแรงบันดาลใจที่เข้มข้นเกินไปหรือไม่ก็มีความเป็นไทยมากไปในนิยายเซตติ้งจน ในกรณีนี้เข้าข่ายข้อแรก แล้วการที่แฟนขับแบบมึงมาเกรี้ยวกราดใส่คนอื่นแบบนี้ มันจะทำให้คนยิ่งยี้โดยเฉพาะเข้าไปใหญ่
ปล.กูยังพยายามโลกสวยคิดว่ามึงเป็นแฟนขับพันธ์ุแท้ที่เป็นห่วงเป็นใยยอดขายแทนนข.และสนพ.
^อ่า... ทำไมกูพิมพ์ผิดเยอะแบบนี้
กูเป็นคนนึงที่จัดนิยายเสิ่นเจิ้นไว้ทีหลังสุดในกอง พยายามหลายรอบแล้ว ถ้าไม่สำนวน/ภาษาแย่เกิน ก็เรื่องบนเตียงเยอะเกิน แล้วก็ยังมีประเภทที่ก็อปเรื่องนั้นเรื่องนี้มาต่อกันเป็นเรื่องของตัวเอง อ่านๆไปก็จะรู้สึกคับข้องว่าฉากนี้เหมือนเคยอ่านที่ไหน อุตส่าห์แต่งนิยายได้ทั้งทีน่าจะมีความสามารถอยู่บ้างแต่ทำไมต้องไปเอาของคนอื่นมาก็ไม่รู้
>>957 ถ้าแบ่งชนชั้นจริง กูสายจีนแท้ แต่ก็อ่านเสิ่นเจิ้นบ้างประปราย กูเห็นเรื่องนี้ในกรุปสักพักแล้ว กูยังเคยไปกดส่งหัวใจอยู่เลย5555
ณ ตอนนั้นกูยังคิดว่าน่าสนใจ ถึงแม้ว่ากลิ่นจะคล้าย แต่พูดเลยตอนนี้ ไม่ได้ยี้เสิ่นเจิ้น ถ้ามีดีกูก็อ่าน แต่กูยี้นักเขียนแล้ว เพราะว่าแฟนคลับแม่งโคตรเกรี้ยวกราด กลัว
>>960 ขออนุญาตต่อ นานๆ กูจะเข้ามาตำหนักนี้ที เข้ามาเมื่อวานก็ได้เรื่องเชียว
และในคำชี้แจงนั้นที่กูเพิ่งนึกออก นักเขียนบอก ไม่มีส่วนใดเหมือนทั้งสามเรื่องที่ว่ามาเลยค่ะ!
ถึง แฟนขับที่น่ารักของนักเขียน ข้อความนี้ข้อความสุดท้ายแล้วค่ะ เป็นเรานะมีแฟนขับบบบบ แบบนี้รักตายเลย
>>949 ก็ไม่ได้บอกว่าต้องเอามาจนจบทุกหน้า แต่ตรงส่วนที่คนสงสัยถ้าอธิบายได้มันก็เป็นผลดีกะหนังสือ ถึงจะมีโม่งที่อคติกับหนังสือไปแล้ว (ซึ่งในมุมกู เค้าก็อคติเพราะออกตัวปกป้องแรงแบบไม่มีเหตุผลซัพพอร์ตนี่แหละ) ส่วนใหญ่ก็พร้อมจะยอมรับฟังนั่นแหละ โม่งมีเหตุผลนะมึง แต่ในเมื่อมึงเลือกจะออกตัวแบบนี้แล้ว ก็ช่วยไม่ได้
กูยังไม่ได้ไปอ่านเรื่องที่คุยกันข้างบน แต่พอมีคนบอกว่านางเอกเป็นเซียน (แต่เป็นก้อนหินหรือไง) มาเกิด กูก็นึกถึงสามชาติผูกพันซึ่งมันเป็นนิยายดัง มีคนชอบท่านยายมากมาย ถ้าคนเขียนเสินเจิ้นเรื่องนี้ไม่ได้ลอกไม่ได้ยำ บังเอิญเป็นหินเหมือนกัน มันก็ควรจะมีที่มาที่ไปที่อธิบายได้ เพราะนางเอกเป็นก้อนหินแล้วลงมาเกิดนี่มันไม่ได้มีบ่อย ถ้าเป็นดอกไม้ต้นไม้ก็ยังพอว่า แต่ได้ยินแค่นางเอกเป็นก้อนหินกูก็นึกถึงท่านยายเท่านั้น ไม่ได้คิดว่าจะต้องลอกหรือไม่ลอก คนเขียนเองก็ต้องรู้ว่าถ้าตัวเองเขียนอะไรที่มันมีต้นตอเหมือนนิยายดัง ถึงเนื้อเรื่องจะไม่เหมือนกัน มันก็ต้องมีคนสงสัยเป็นธรรมดา ถ้าเนื้อในไม่เหมือน คนอ่านมันก็จะพูดกันเองแหละว่าไม่เหมือน ลองคิดดูว่าถ้ามีใครเขียนนิยายเรื่องใหม่ให้นางเอกหลุดเข้าไปในอดีตแล้วไปเจอพี่หมื่น คนก็ต้องถามกันว่าเหมือนบุพเพสันนิวาสมั้ย ต่อให้เนื้อเรื่องจะเป็นคนละแนวก็เถอะ ถ้าไม่เหมือน คนก็จะพูดกันว่ามันไม่เหมือน มันก็แค่นั้น ถ้านักเขียนยืนยันว่าไม่เหมือน ไม่ลอกไม่ยำ ก็แค่ชี้แจงว่าเหมือนแค่ตรงที่เป็นก้อนหินค่ะ เพราะดิฉันก็อยากให้นางเอกเป็นก้อนหิน มันขำดี เนี่ย เรื่องง่ายอย่าทำให้ยาก ยิ่งชี้แจงดี มีเหตุผล ก็จะได้ใจคนอ่านไปเยอะเลย พอตามไปอ่านแล้วไม่ใช่ยำจริง ๆ ก็จะยิ่งมีคนเชียร์
นักเขียน เวลาเขียนเรื่องก็เป็นอาร์ติสท์ แต่ถ้าขายเรื่องขึ้นมาเมื่อไหร่ ถึงจะมีสำนักพิมพ์ทำให้ แต่ตัวนักเขียนก็ต้องเป็นพ่อค้าแม่ค้าที่ดีด้วย พ่อค้าหน้าบึ้ง วีน เหวี่ยง ถามอะไรก็ตอบไม่ได้ คนซื้อมันก็หด ต่อให้อนาคตมีออกมาขายอีกกี่เรื่อง แบบไม่ยำ ไม่ลอก คนก็ยังย้อนมาพูดถึงเรื่องเก่า รักจะมาทางนี้ต้องไม่แถ ในโม่งเคยมีนักเขียนตีพิมพ์มาถามความเห็นด้วยซ้ำ เพราะเขาอยากพัฒนางานให้คนชอบมากขึ้น อันนั้นสิคนจริง โม่งก็ตอบตามจริง แล้วยังตามไปอ่านงานเขากันเต็ม ๆ
>>948 เค้าแนะนำดีนะ
แฟนขับ (ใช่ไหม) ไม่น่าใจร้อนออกตัวปกป้องแรงขนาดนั้น
นักเขียนอาจไม่ได้ยำ แต่คนอ่านอ่านแล้วนึกถึงเรื่องนั้นเรื่องนี้ไง
จะบอกว่าคนอ่านมโนเอง ก็ไม่ใช่ปะ มันก็ต้องมโนจากเรื่องที่นักเขียนเขียนมานั่นแหละ
ก่อนหน้านี้มีคุยกันถึงนิยายเรื่องที่เปิดมาคล้ายเต้าหู้ ในนี้ก็แค่ เออ เหมือนเลย กลิ่นชัด คุยๆ กันไป 4-5 เรป จบ
เรื่องนี้ก็เหมือนกัน คงไม่ยาวขนาดนี้ถ้าไม่มีใครออกตัว
ออกตัวแรงจนกูคิดว่าเจ้าตัวมาเองเลย
แต่ต่อให้มีคนแหกว่านิยายเรื่องนี้plagiarismยังไง นขจีนคงไม่ลงมาฟ้องร้องด้วยอยู่ดีล่ะนะ น่าเสียดาย
เฮ้ย ในฐานะคนที่กำลังก่อร่างสร้างตัวอยู่ที่เสิ่นเจิ้นเหมือนกัน การที่นักเขียนคนหนึ่งทำให้คนอ่านหลายคนที่เขานี้เสิ่นเจิ้นอยู่แล้ว ยิ่งไม่อยากอ่านเข้าไปใหญ่นี่โคตรไม่แฟร์เลยนะ TvT
กูก็เป็นคนหนึ่งนะที่อ่านนิยายจีนแล้วก็อยากเขียน ได้แรงบันดาลใจมาเต็มๆ ซึ่งกูสามารถพูดได้เต็มปากเหมือนกันว่ากูได้แรงบันดาลใจ อิผี ! กูชอบตัวร้ายกับพระรอง แล้วแม่งไม่เคยสมหวังสักเรื่อง อย่างนิยายรักอลเวงอย่างนี้ก็ทำกับศิษย์พี่ของกูได้ลงคอ แต่ไม่ กูไม่ได้แค่แซดกับศิษย์พี่ กูชอบความติสท์ของท่านอ๋องด้วยอ่ะ
นั่นแหละมึง กูถึงตัดสินใจว่า สักวันกูต้องให้ท่านอ๋องเป็นพระเอก พระเอกกูต้องเป็นอ๋องที่ความจริงแล้วติสท์แตก เป็นศิลปินแต่เสือกเกิดมาผิดยุค จับตัวหญิงงามมา แต่คนรักของหญิงงามที่เคยเป็นเพื่อนกันกลายเป็นประมุขเลยมาไล่ฆ่าฮี
เนี่ย กูเซ็ตติ้งไว้แบบนี้ โคตรเหมือนนิยายรักอลเวงเลย ว่ามะ แต่ทีนี้ถ้ากูจะให้อ๋องเป็นพระเอก กูก็จะหานางเอกใหม่ให้ (ในใจกูก็แอบกรี๊ดพระเอกเรื่องนั้นน่ะ เลยปล่อยนางเอกให้ฮีไป) กูก็ต้องมาสงสัย ทำไมท่านอ๋องกูจะชอบผู้หญิงอีกคนได้วะ แล้วเดี๋ยวก่อน พื้นเพอ๋องกูนี่ลูกเต้าเหล่าใคร ทำไมเขาถึงชอบงานศิลป์แบบนี้ ทำไมมีพรสวรรค์ นอกจากกินเงินไปวันๆยังทำมาหาแดกอะไรอีก ไหนจะบ้านนางเอกและอีก ฯลฯ
เชื่อมะ คิดไปคิดมา เรื่องนี้จะแทบไม่มีอะไรเกี่ยวพันหรืออะไรกับนิยายรักอลเวงอีก นอกจากความเลิฟๆของกูที่ชูป้ายไฟเชียร์ท่านอ๋องสุดชีวิต ที่จะถ่ายทอดมาเป็นนิยายเรื่องใหม่เพื่อชดเชยน้ำตาของกูที่เสียไป พร้อมบอกว่าท่านอ๋องเพคะ มีความสุขได้เลยเพคะ เดี๋ยวเรื่องที่เหลือคนเขียนเคลียร์เอง
สรุป พิมพ์มายืดยาว กูแค่อยากยกตัวอย่าง สำหรับกูนี่คือแรงบันดาลใจ กูได้มาจากที่กูชอบนิยายเรื่องหนึ่งมาก แต่นิยายเรื่องนั้นไม่ใช่ของกู เมื่อกูจะเขียน กูชอบคนนั้น กูก็ต้องลงลึกไปอีกยิ่งกว่าสโตรกเกอร์ของผู้ชายที่กูจะเขียน แล้วมันก็จะกลายเป็นไม่มีคนสองคนที่เหมือนกันเปี๊ยบในโลก แล้วคนที่ไม่เหมือนกันเลย ก็ไม่มีทางสร้างฉากสร้างสถานการณ์ที่เหมือนกันได้ ก็แค่นั้นเอง
ขอบคุณที่ให้กูโปรโมทตัวเอง เสียดายเรื่องนี้กูยังไม่ได้เขียนเลยโปรโมทให้อ่านต่อไม่ได้
ราคาตั้ง 429 ราคาจองไม่รวมส่ง 399 มีกี่หน้าเนี่ย55
>>976 ถ้าไม่ได้เคยแต่งฟิคมาก่อน แล้วมีแอนตี้กูก็คงไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้คือฟิคดีๆนี่เอง แต่ว่าเจ้าของผลงานเขาไมมายด์ไง ใช่มะ มีสองเรื่องแหนะที่รู้ว่าเป็นนิยายที่มาจากการผันตัวของฟิคชั่นทไวไลน์
แต่น่าสนนะ อ๋องโรคจิตนั่นได้เป็นพระเอก แต่มันเอาดะ เห็นผญเป็นทั้งศิลปะแล้วก็วัตถุนี่สิ จะทำให้กลายเป็นพระเอกได้จริงๆหรอ ที่ตายในเรื่องก็สมควรแล้วนะ 555
>>974 มึงกำลังพยายามบอกว่านี่คือ Fan-fiction หรือเปล่ามึง
เพราะถ้าถามว่ามันเป็น Fiction หรือเรื่องที่เขียนเองหรือเปล่า กูก็ต้องตอบว่าใช่แหละ
>>975 >>977 ขอบคุณในความสนใจ แต่กูยังหานางเอกให้ท่านอ๋องไม่ได้นี่แหละมึง ลองเขียนๆดูทำนางเอกวิ่งร้องไห้หนีไปคน เพราะรู้สึกว่าสวยสู้งานศิลปะฮีไม่ได้ อีกคนมีแนวโน้มจะฆ่าท่านอ๋องของกูคามือ กูเลยพักมือไว้ก่อน แล้วดองท่านอ๋องยาวมาจนป่านนี้ ส่วนตัวร้าย เขียนมากูก็ยังหาคนที่จะร้ายกว่าฮีไม่ออก
สรุปคือสักวันที่ท่านอ๋องจะเป็นพระเอกคงอยู่ห่างไปอีกพักใหญ่ๆ
กูว่าต้องได้นางเอกชีวิตผ่านความลำบากมาหมดแล้ว ทำเหี้ยอะไรใส่ก็ไม่กระเทือน จะให้ดีต้องมีรสนิยมทางศิลปะเป็นศูนย์ ให้ท่านอ๋องแม่งเสียเซลฟ์
อ้อ ใกล้1000แล้วนอย่าเมนท์กันเพลิน
กูแม่งนั่งขำอยู่คนเดียว เพื่อนโม่งโคตรสามัคคีกันคิดพล็อต
Ky คิดถึงรัชทายาทเสิ่นเจิ้น โม่งคนเขียนจะกลับมาเขียนใหม่ป่าว
กูว่าคนเขียนท่านอ๋องเวลาจะเขียนมึงอย่ามาบอกโม่ง เขียนแอบ ๆ ของมึงไป ไม่งั้นโม่งตามไปคิดพล็อท มึงตายแน่ ถถถถถถ
ใช่ ไม่งั้นกูยุต่อ เชี่ยๆแบบท่านอ๋อง ต้องโดนฆ่าแล้วเสือกไปทะลุมิติ โดนต้อนไปเป็นเดวิด แบบนู้ดไข่จิ๋วให้ไมเคิล แองเจโล่
กูคือโม่งเขียนอ๋องที่ยังไม่ทันจะได้เขียน แต่ก็ถูกพวกมึงย่ำยีท่านอ๋องของกูจนขนาดนี้แล้ว
พวกมึงมีความแค้นอะไรกับท่านอ๋องของกูกันแน่เนี่ย ดูแต่ละคนพร้อมใจให้ท่านอ๋องของกูตายบัดซบกว่าเดิมอีก TvT
พวกมึงใครจะตั้งตำหนักใหม่ อย่าลืมแปะลิงค์ตำหนักเก่า กับสารบัญที่เม้นต์แรกด้วยเด้อ
ตำหนัก 5 >>>/literature/5898/
เปิดวอร์เล็ก ๆ กันจนหมดตำหนัก ปกติร้างคอด ๆ ถถถถ ปิดตำหนัก เชิญเสด็จไปเจิมตำหนักใหม่
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.