Last posted
Total of 1000 posts
>>419 ถึงมันจะแฟนตาซี แต่แฟนตาซีที่ดีก็ควรมีเหตุผลไงมึง กูคิดเหตุผลแฟนตาซีออกเรื่องดึงความรักไปแทนที่งี้ แต่ถ้าลองมองแบบความเป็นจริง "ความรัก" มันไม่ใช่แค่ความรู้สึกเดี่ยวๆที่จะเอาอะไรมาวัดหรือมองมันเป็นก้อนเดียวได้
ความรักเกิดจากอะไรได้บ้าง ความชอบ ความใกล้ชิด ความไว้วางใจ ความผูกพัน ความหลงใหล จะบอกว่าโวลดี้ไม่มีทั้งหมดนี่มันก็ไม่ใช่อะ อย่างน้อยๆมันมีความชอบความหลงใหลในศาสตร์มืดและสลิธีริน เอฟรี่ติงงูละ
ดังนั้น"ความรัก" ที่โวลดี้ไม่มี มันน่าจะหมายถึงแค่ความรู้สึกแบบรักหนุ่มสาว(คำอธิบายให้เห็นภาพเฉยๆ ไม่เกี่ยวกะเพศนะ) หรือเป็นaromanticแบบนี้มากกว่าปะนะ?
>>417 เพิ่งเห็นห้องฟุคุยเรื่องนี้เหมือนกัน ถ้าตัดหลักความเป็นจริงออก ป้าน่าจะใช้หลักของการแลกเปลี่ยนละมั้ง เพื่อจะได้ความรักจากพ่อ ก็ต้องเสียลูกอะไรแบบนี้? กูว่าแบคกราวน์ตัวละครไม่ค่อยเมคเซนส์ว่ะ เหมือนป้าวางไว้ให้โวลเดอมอร์เกิดมาเพื่อเป็นตัวร้ายอย่างเดียวเลย
>>417 กูว่าที่โวลดี้มันไม่มีความรักเพราะไม่เคยได้ความรักจากใครว่ะ ไม่ใช่เพราะยาเสน่ห์ดึงความรักออกไปจากตัวหรอก ที่มันรักชอบศาสตร์มืดหรืองูเพราะมันภูมิใจในสายเลือดของสลิธีรีนในตัวมันไง เป็นเครื่องบอกความสูงส่งกับยิ่งใหญ่ โดยนิสัยหลงตัวเองของโวลดี้ มันชอบที่ตัวเองจะอยู่เหนือคนอื่น เป็นคนพิเศษ เหมือนกลบปมด้อยเรื่องพ่อเป็นมักเกิ้ลที่พ่อมดรังเกียจแล้วมันต้องมาอยู่ในบ้านเด็กกำพร้าโทรมๆจนๆ
กูว่าโวลดี้มันมองความรักไร้ค่าเพราะแม่เลือกที่จะทิ้งความยิ่งใหญ่ของสลิธีรีนแล้วไปคว้ามักเกิ้ลมาทำผัว สุดท้ายก็ต้องตายไปแบบอนาถา มันเลยเลือกที่จะไม่เชื่อในความรักไง แล้วก็ไม่ไว้ใจใครเพราะมันเห็นว่าคนอื่นโง่เง่ากว่ามันไปหมดทุกคน ที่กูว่ามันไว้ใจนากินีเพราะนากินีเป็นสัตว์ประจำบ้านสลิ มันเชื่อมต่อถึงนากินีได้ด้วยภาษาพาร์เซล อารมณ์แบบ...มีแค่เธอคนเดียวบนโลกที่เข้าใจฉัน แล้วนากินีก็ไม่ทรยศแบบมนุษย์ด้วย
>>422 อุ๊ย แล้วใครกันล่ะที่fallacy ใช้วิธีกดสถานะของคนอื่นลง degradeคนอื่นแทนที่จะพูดคุยกันเฉพาะเรื่องที่ใช้เหตุผลถกเถียง
>>423 อันนี้กูพูดถึงเพราะว่ามีคนบอกว่ามันเป็นfactอะมึง ที่ว่าโวลดี้เกิดมาจากยาเสน่ห์เลยไม่มีความรัก ซึ่งกูก็ไม่โอเคที่จะใช้เหตุผลนี้อธิบายนิสัยโวลดี้ เพราะกูก็ตีความโวลดี้แบบมึงเลย
>>425 ทวิต แต่กูไม่ปักใจเชื่อเพราะกูไม่เคยอ่านเจอ กูเลยไปค้นแล้วเจอบทสัมภาษณ์ป้าโจว่ะ
Q: How much does the fact that Voldemort was conceived under a love potion have to do with his inability to understand love is it more symbolic?
J.K. Rowling: It was a symbolic way of showing that he came from a loveless union -- but of course, everything would have changed if Merope had survived and raised him herself and loved him.
สรุปคือแม่งแฟนๆตีความผิดไปเองเฉย
มึงเขียนเรื่องอะไรวะ นักเขียนแฮร์จิน บอกกูทีกูจะได้ไม่ซื้องานมึง ทัศนคติพังพินาศเหลือเกิน
>>427 กูก็อยากถาม แต่กลัวไปกันใหญ่
>>412 มึงเอาแต่ว่าคนอื่นอ่านไม่แตก เลเวลต่ำ ไม่มีความสามารถในการวิเคราะห์ แล้วมึงอ่านแตกรึเปล่าวะว่าเขาพูดเรื่องอะไรกัน
มึงแยกให้ออกก่อน คนที่เขาพูดเรื่องจืดจาง ไม่อิน รู้สึกโดนยัดเยียดเนี่ย มันเกี่ยวอะไรกับวางไม่วางวะ ต่อให้มึงแปะป้ายชื่อว่าคนนี้นางเอกตั้งแต่เล่มแรก แต่มึงเขียนให้คนอ่านมีอารมณ์ร่วมกับมึงไม่ได้ จะวางแผนมากี่สิบเล่ม มันก็จบที่คำว่าไม่อินกับยัดเยียดอยู่ดี
เปลี่ยนเรื่องเหอะ เถียงกันทำไม สุดท้ายก็ปี้กันมีลูกสามไปแล้ว
ขอต่ออีกนิดนึง แล้วกูจะไม่เถียงเรื่องแฮร์จินละ ขี้เกียจคุยกับ hater
สำหรับกูนะ ยิ่งบอกว่าป้าวางพลอตมาแล้วยิ่งแย่เลยอะ นี่วางแล้วเรอะ คนอ่านครึ่งนึงไม่รู้สึกนี่คนเขียนต้องถามตัวเองแล้วว่าพลาดตรงไหน วางมาแล้วยังไงวะ ไม่เปิดโอกาสสร้างความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครเลย อย่างน้อยให้เห็นว่าสนิทกันกว่านี้ก็ยังดี อันนี้คนอ่านได้แต่เติมเรื่องเข้าไปเองว่าความสัมพันธ์ off screen คงจะเป็นงี้ๆๆๆๆ นะ มันแปลว่าป้าสอบตกเรื่องการวางแพลนเรื่องแบบโคตรๆ เลยว่ะ
>>432 พล็อตส่วนใหญ่ที่มึงยกมาก็มโนเข้าข้างตัวเองทั้งนั้น และมีแต่มุมจินนี่อย่างเดียว คนแย้งว่าไม่มีมุมแฮรี่มึงก็หูทวนลมไม่ตอบ ย้ำแต่ฝั่งจินนี่ ไม่ก็บอกว่าตอนนั้นไม่เหมาะจะเขียนเรื่องความรักต่อจินนี่
พูดตามตรงนะ หลักฐาน?ที่มึงว่ามา กูอ่านไงก็ไม่เชื่อว่าป้าวางมาแล้วแบบตายตัว
>>432 มึงอะเหมารวมทุกคนที่มาแย้งมึงว่าเป็น Haters
บางคนเขามาบอกว่าเขาไม่อินเฉยๆ อย่างกูก็พูดแค่ไม่มีโมเม้นหมายถึงคนอ่านไม่รู้สึกว่าสิ่งที่ป้าใส่มามันคือโมเม้นของสองคนนี้
มึงกลับไปย้อนอ่านดูดีๆก่อนจะว่าคนอื่นแถ มีกี่คนวะที่พูดว่าป้าไม่วางพล็อต กูเห็นมึงไล่เถียงกับทุกคนที่ไม่อินไม่รู้สึกถึงโมเม้นของมึงอะ
>>433 พูดง่ายนี่หว่า งั้นแย้งมาสิว่าไม่เชื่อยังไง ไม่ใช่สักแต่พูดว่าไม่เชื่อๆ แต่ไม่แสดงเหตุผลอะไรสักอย่าง
>>434 ก็ต่อจากข้อบนนั่นแหละ พอมันเถียงเรื่องสัญลักษณ์ไม่ได้ ก็จะเริ่มแถไปเรื่องไม่อิน แล้วก็ mentioned มาเหมือนจะแย้งกู จนกูต้องย้ำประเด็นไปตั้งหลายรอบนั่นไงว่าจะอินหรือไม่อินมันไม่เกี่ยวกับโครงเรื่องของป้าเลย
จากนั้นพอจนตรอกสุดๆ ก็จะอวดว่าตัวเองกำลังจะมีงานตีพิมพ์นะโว้ย อย่าเถียงกู ดูซิว่ากูเก่งขนาดไหน บิบิ สมเพช
กูก็เชื่อว่าป้าวางพล็อต แต่วางแล้วไม่อิน วางแล้วเหี้ยกูก็ไม่โอเคจ้า
เรื่องนี้ทำให้กูนึกถึงนิยายอีกเรื่อง Sookie Stackhouse ซีรีส์ 13 เล่มที่คนอ่านแม่งลุ้นพระเอกกันตั้งนาน 13 ปี แต่พอเล่มจบมาปุ๊บทุกคนด่ารัว ๆ
เซ็ตติ้งมีพวกอมนุษย์นะ หลัก ๆ คือแวมไพร์กับ shifter (มันไม่ได้มีแค่มนุษย์หมาป่า แต่มีหลายประเภทสัตว์มาก ๆ) ผู้ชายหลัก ๆ มี แวมไพร์ บิล อีริค (หัวหน้าแวมแถวนั้น) shifter แซม (เจ้านาย) ควิล ฯลฯ
1-3 นางเอกเป็นแฟนกับ บิล แวมไพร์ จบเล่มสามเลิกกัน (คนอ่านช๊อคพอควรเพราะส่วนมากเชื่อว่าบิลเป็นพระเอก แต่ก็มีบางส่วนแอบดีใจเพราะเชียร์อีริคมากกว่า)
4 อีริคความจำเสื่อม กิ๊กกับนางเอกช่วงนั้น
5 ไม่มีไรมาก ผู้เล่มนี้เป็นตัวเปลี่ยนผ่าน
6-8 แฟน ควิล (ผู้ที่ไม่มีใครเชื่อเลยว่าเป็น the one ของนางเอก)
9-12 แฟนอีริค ซึ่งเป็นคนที่คนอ่านชิปเยอะสุดแล้ว บทเยอะโคตร ๆ ออกตัวแรงโคตร ๆ นางเอกแฮปปี้โคตร ๆ
13 เลิกกับอีริค แต่งกับแซมตอนจบดื้อ ๆ ทั้ง ๆ ที่ ก่อนนี้ 12 เล่มแม่งเป็นตัวประกอบที่นางเอกไม่เคยมองเป็นผู้ชายด้วยซ้ำ อาการเหมือนจินนี่เด๊ะ แต่หนักกว่าเพราะมันนิยายรัก ความพีคคือคนเขียนแม่งบอกตั้งแต่เล่มแรกเลยว่าปักธงพระเอกไว้แล้วตั้งแต่เล่มแรก แต่เสือกเขียนให้พระเอกเป็นตัวจืดจางเนี่ยนะ คนอ่านเฟลหนักมาก
ส่วนตัวกูเชียร์แฮรี่ลูน่า กับครัมเฮอร์ ว่ะ ล่มทั้งคู่
นึกถึงเมื่อสองสามปีก่อนที่มีคนคุยเรื่องคู่ชิปอื่นในเรื่องแล้วมีโม่งมาโวยวายว่าพวกมึงชิปไม่ได้ ป้าไม่ได้แต่งอย่างงั้น มึงห้ามชิป!!!!!! มากๆ เลยว่ะ ถ้าจะบอกว่าคนเดียวกันก็ไม่แปลกใจ มีความสุขก็ทำต่อไปน้า กูไปมู้อื่นละ toxic เกิน
มันมีคนแยกแยะไม่ได้เนอะ ว่าตัวเองใช้fallacyโจมตีประเด็นอื่นที่ไม่เกี่ยวกับเนื้อหาที่ถกเถียงก่อน พอเจ้าตัวแย้งเพื่อคัดง้างข้อโจมตีตรงนั้นก็หาว่าเขาจนตรอก อืม🤔
ก่อนอื่นต้องแยกประเด็นก่อนว่า
1 ป้าวางพล็อตมาแล้วหรือไม่ได้วาง
2 ป้าเขียนคู่แฮร์รี่จินนี่ได้ convincing แค่ไหน
คนที่ไม่อินแฮร์รี่จินนี่ไม่ค่อยมีปัญหากับข้อแรกหรอก เพราะป้าจะวางพล็อตมาก่อนแล้วหรือไม่มันไม่ได้สำคัญอะไรเลย ต่อให้ป้าวางแผนให้คู่กันมาตั้งแต่แรกเริ่ม ปัญหามันก็อยู่ตรงที่ป้าเขียนชักจูงให้คนอ่านจำนวหนึ่ง (กูไม่ระบุละกันว่าจำนวนมากหรือน้อย) คล้อยตามความสัมพันธ์ของคู่นี้ไม่ได้ ไม่ว่าจะยกหลักฐานมาแค่ไหนคนไม่คล้อยตามมันก็ไม่คล้อยตามอ่ะมึง ยากตรงไหนวะ จะดึงดันให้คนอื่นอินตามให้ได้ไปเพื่ออะไร ทุกคนต้องคิดเหมือนมึงรึไง
พูดถึงคู่ชิป กูเสียดายชาร์ลีว่ะ ไม่น่าบ้ามังกรกว่าบ้าสาวเลย
เออ กูไม่อินคู่นี้นะ แต่กูคิดว่าป้าวางตัวจินนี่มาละ แต่ที่กูไม่เข้าใจเลยคือคู่อื่นป้าแมร่งเขียนให้อินได้ สเนปลิลลี่ บิลเฟลอร์ เฮอร์รอน(แม้จะไม่ชอบ) แม้แต่ลูปินกูยังพอได้ๆ
กูแบบไม่อินคู่แฮรี่จินนี่พอๆกับไม่อิน ท่านลอร์ดกับเบลล่าเลยนะเว้ย เข้าใจแต่ไม่อิน
พวกมึงต้องไปลองเล่นเกม hogwarts mystery ได้อยู่ปีเดียวกับชาร์ลีฝรั่งกรี้ดกันหนักมาก เฮียแกพูดเป็นนัยๆเหมือนจะชวนไปร่วมตระกูล 5555
ถ้าเปิดเดทกูว่าชาร์ลีฮ็อตสุด
แฟนแฮร์รี่ก็แก่ๆกันทั้งนั้นแหละมึง น้องๆหลานๆกูวัยมัธยมไม่เห็นมีใครสนใจแฮร์รี่สักคน
อายุกูบรรลุนิติภาวาะปีนี้ก็แก่เหรอวะ สะเทือนใจ....
ไม่รู้ว่าเพราะสังคมกูไม่ค่อยมีคนชอบอ่านหนังสือหรือเปล่าแต่กูหาเพื่อนที่ชอบอ่านหนังสือตอนว่างเหมือนกันยากมาก (มีคนให้เหตุผลว่าตอนเรียนก็อ่านหนักแล้ว ว่างก็อยากทำอะไรที่ไม่ใช่อ่านหนังสือ) กูเคยพกนิยายไปอ่านระหว่างรอบัสกับเพื่อนแล้วโดนบอกว่าเนิร์ดจังแล้วหลังจากนั้นก็เหมือนเป็นส่วนเกินกลุ่มเลยไม่กล้าเอาหนังสือไปอ่านในที่สาธารณะอีกเลย
แต่มีเพื่อนที่ชอบอ่านนิยายเหมือนกันคนหนึ่งนะก็แฮปปี้ดี ตอน hang out คือไปร้านหนังสือเจอกันอีกทีตอนจ่ายเงินแล้วไปนั่งอ่านที่cafe เป็นความสัมพันธ์ที่สบายใจมากๆ
ยุคทองของนิยายและหนังแฟนตาซีมันผ่านไปแล้วจริงๆ นัานแหละ คิดแล้วก็สะเทือนใจ
แต่แนวทางการอ่านกูก็เปลี่ยนไปเยอะเมื่อโตขึ้นนะ เดี๋ยวนี้กูอ่านแฟนตาซีไม่ได้เลย อ่านแล้วรู้สึกเบียว แต่ยังอ่านแฮร์รี่ได้อยู่ ย้อนอ่านกี่ครั้งก็ยังสนุก หรือจริงๆกูไม่ได้ชอบแนวแฟนตาซีแต่แรกวะ มาคิดๆดูแล้วก็ไม่ได้อ่านแนวนี้เยอะเท่าไหร่ด้วย พวกนิยายแนวเลียนแบบแฮร์รี่ที่คนไทยฮิตเขียนกันอยู่ยุคนึงกูอ่านแล้วไม่สนุกสักเรื่อง
เดี๋ยวนี้ต้องขายนิยายyoung adultให้เด็กเห่อหมอยต่อต้านผู้ใหญ่อ่าน ฟินๆกันไป ถ้าจะดังก็จับไปทำหนังแล้วเอาดาราวัยรุ่นเกรดบีมาแสดง
ez money
ปล. ป้าหาแดกกับนิยายใหม่ไม่ได้ ต้องมาหาแดกกับแฮร์รี่ต่อ แต่ลุงจอร์จกูไม่ทำห่าอะไรมาแปดปีละสัส กลัวแม่งหัวใจวายตายก่อนเขียนเสร็จจริงๆ
วรรณกรรมเยาวชนแฟนตาซีกูชอบของอีเนสบิต แต่หาซื้อไม่ค่อยได้เลย
ขอโทษนะทุกคน ผิดกระทู้
>>458 กูว่าแฮร์รี่มีองค์ประกอบหลักสองอย่างที่ทำให้กูและเด็กๆ ทั่วโลกวางไม่ลง
1 แม่มดพ่อมดเป็นความฝันของเด็กๆ เกือบทุกคน ต้องมีสักครั้งละวะที่คิดว่าอยากใช้เวทมนตร์ได้จัง แฮร์รี่มันคือตัวตนของเด็กทุกคน ได้รู้ว่าเวทมนตร์มีจริง แล้วไปเรียนรู้อะไรใหม่ๆ เหมือนเราได้สัมผัสโลกแห่งเวทมนตร์นั้นเอง
2 เส้นแบ่งระหว่างโลกเรากับโลกแห่งเวทมนตร์มันกลืนกัน หลายคนเลยคิดว่าฮอกวอร์ตต้องมีจริง แล้วก็เลยอินมาก
เรื่องอ่านซ้ำหลายรอบ กูอ่านเล่มสามซ้ำจนมุมเละมาก (ไม่ได้ห่อปก ยังเด็กอยู่ ยังไม่บ้าหนังสือมากเท่าทุกวันนี้) ตอนนั้นอยู่ช่วงรอเล่มสี่ออก กูอ่านเล่มสามซ้ำหลายรอบมากๆๆๆ ตอนกินข้าวก็อ่าน นี่ยังไม่ได้ซื้อเล่มใหม่เลย กะว่าถ้าได้ชุดใหม่ จะเอาชุดเก่าไปบริจาค
กูชอบเล่ม 4 สุด ฟีลเหมือนกีฬาสี อินมาก 555555
>>458 กูว่าที่แฮร์รี่มีelementของนิยายสืบสวนนี่บังเอิญล้วนๆ เพราะตอนป้าจะไปเขียนสืบสวนจริงจังอย่างซีรีย์Cormoran Strike แม่งเจ๊งบ๊งไม่เป็นท่า
ตอนแรกทำห้าวใช้นามปากกาRobert Galbraithเพราะคิดว่าฝีมือฉันเทพยังไงก็ขายได้ แต่พอขายไม่ได้ ไม่มีใครสน ก็ออกมาเปิดข่าวว่าป้าเขียนเองนะจ๊ะ แค่นั้นติ่งป้ากับบริษัทต่างๆก็กรูกันมาเลียแตดตรึม
เออกุว่าเล่มสี่สนุกสุดเหมือนกัน มันขยายโลกเวทมนตร์ออกไปเยอะดี มี element แฟนตาซีแบบคลาสสิกๆ เยอะ (มังกร นางเงือก เขาวงกต) แล้วจบค้างคากำลังดีแบบที่กุชอบด้วย
>>462 กุชอบที่โลกเวทมนตร์ในเรื่องมันรวมอยู่กับโลกความจริงนี่แหละ มันเลยจินตนาการต่อได้ง่ายดี ส่วนพวกนิยายแฟนตาซีแบบสร้างโลกตัวเองขึ้นมาเลย ถ้าไม่เขียนให้ละเอียดขนาดโทลคีนหรือ GRRM นี่กุจะอินได้ยากมาก 5555
สำหรับกูกลับชอบเล่มสามว่ะ อาจจะเป็นเพราะกูชอบลูปินมากที่สุดในเรื่องมั้ง ขนาดบทมีไม่เท่าไหร่ก็นี่กรี๊ดแล้วกรี๊ดอีก ห่ะ ชายผู้มีปมงี้ ตอนสุดท้ายเสือกตายอีก ป้าทำร้ายกูมากอ่ะ กับเล่ม 7 เพราะมันไม่อยู่ในฮอกวอตส์แล้วไง ดูโตสุดแล้ว
กูชอบเล่ม 1 กับ 4 เล่ม 1 มันเป็นการแนะนำโลกของแฮร์รี่ ทุกอย่างดูน่าตื่นตาตื่นใจหมดแบบเราหลุดเข้าไปในโลกผู้วิเศษแบบเดียวกับแฮร์รี่อะ เล่ม 4 ก็คือการขยายจักรวาลออกไปประเทศอื่นๆ แล้วก็มีอะไรคลาสสิคๆในแนวแฟนตาซีแบบที่ >>466 ว่าว่ะ แถมตอนท้ายก็ดาร์กด้วย เซดริกตายงี้ โวลดี้คืนชีพงี้ โดนหลอกโดยน้ำยาสรรพรสงี้ กูรู้สึกว่าป้าเขียนเก่ง กูอ่านได้ตลอดไม่เบื่อเลย
กูเฉยๆ กับเล่ม 1 อาจจะเป็นเพราะมันดูเด็กน้อยไปหน่อยมั้ง แต่ใช่นะ เปิดโลกจริงๆ
เล่ม 4 ก็ดีงาม แต่คือบทโรงเรียนอื่นมันน้อยไง กูเลยเฉยๆ แต่เซดดริกนี่...เบื่อพ่อมัน แล้วใครจะคิดว่าพ่อมันจะมาเป็นตัวยุ่งในเด็กต้องสาปอีก เอาเข้าไป 555
>>468 กูชอบเล่ม 3-6 มากที่สุด เล่ม 3 ชอบที่เล่นกับประเด็นเรื่อง time-travel เล่ม 4 อินกับประเด็นความสัมพันธ์ของเพื่อน ๆ เล่ม 5 ทำให้กูกลายเป็นแฟนตัวยงของเรื่องนี้ ส่วนเล่ม 6 ทำให้กูนอนร้องไห้ทั้งคืนเพราะครูใหญ่จากไป เหมือนมันไปกระตุ้นอารมณ์อะไรสักอย่างในใจกู น้ำตาไหลพรากๆ เลยว่ะ แต่ยังไงก็อ่านได้ทุกเล่มแหละว่ะ
กูชอบ 2-4 สุดว่ะ เล่มหนึ่งมันดีตรงได้เปิดโลกเวทมนต์ แต่เนื้อหามันน้อยไปหน่อย ไม่ค่อยมีประเด็นอะไร ส่วน 5-7 กูว่าเนื้อหามันหนักไปหน่อย กูเกลียดเล่มห้าแรกๆ มาก อีอีโม ลำไย ช่วงเล่มหกก็จะรำคาญดัมเบิลดอร์หน่อยๆ ว่ะ อินแค่ตอนตาย นอกนั้นคือ อะไรของลุ้งงง ทั้งโลกนี่มันไม่มีใครเก่งหรือทำอะไรได้เท่าแฮร์รี่เลยเหรอวะ ทำไมโยนทุกอย่างมามห้เด็ก 16 อะ รู้สึกว่าเกินเบอร์ ความชอบกูเลยจบที่เล่มสี่เนี่ยแหละ
เหมือนกูอ่านแฮร์รี่ตอนยังเด็ก กูเลยไม่ค่อยชอบเล่ม5 แล้วก็พาลรู้สึกว่าเล่ม 6 เล่ม7 ก็ไม่สนุกเท่าเล่ม 1-4
คือเหมือนเล่ม 5 เป็นจุดพลิกโทนเรื่องสำหรับกูอะ มันซีเรียสมากขึ้น ดาร์กมากขึ้น เป็นผู้ใหญ่มากขึ้นจนกูในตอนนั้นตามไม่ทัน แถมซิเรียสกูตายอีก จะล้องห้าย
แต่เล่ม1-4 นี่กูชอบมาก มันผจญภัย แฟนตาซีดีสุดๆ เป็นโทนเรื่องแบบที่เด็กๆน่าจะชอบ
ตอนนี้กูโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ว่าจะลองเอาเล่ม 5-7 มาอ่านซ้ำอีกรอบ คือคิดว่ากูน่าจะเข้าใจ+อินได้มากขึ้น
>>473 มึงร่างแยกกูชัดๆ กูชอบ 1-4 แต่อ่าน 5 แล้วรู้สึก อะไรวะ?? แต่พอเป็นเวอร์ชั่นหนังแล้วสลับกันนะ กูไม่ชอบหนังภาค 1-4 เลย แต่กลับชอบหนังตั้งแต่ภาค 5 เป็นต้นไปมากๆ อาจเป็นเพราะความคาดหวังไม่เท่ากันด้วยมั้ง พอไม่ค่อยชอบหนังสือภาค 5-7 แล้วเลยดูหนังได้สนุกกว่าภาคแรกๆที่ชอบหนังสือมาก
ของกูจบตั้งแต่ซีเรียสตาย ตายแบบ ห่านนน อะไรวะ กูเอือมสุด
"ฉันเพิ่งขอโชไปงานด้วย" แฮร์รี่พูดอย่างหงอยๆ "แล้วเธอก็บอกฉัน"
จู่ๆ จินนี่หยุดยิ้ม
ล.4 น.455
>>475 เออ ตอนกูอ่านเจอว่าซิเรียสตายกูนี่อ่านทวนใหม่เลยเผื่อกูอ่านผิด คือกูไม่ได้ชอบซิเรียสนะ แต่มาเจอตัวละครที่คาดว่าจะเป็นคนช่วยซัพพอร์ตแฮร์รี่ตายไปกูก็ช็อคเหมือนกัน แถมตายกระทันหันด้วย ไม่มีลางหรืออะไรที่จะส่อว่าซิเรียสตายมาก่อนเลยด้วยซ้ำ
>>478 เมินๆมันไปเหอะ คาดว่าในกระทู้คนที่อวยอีจืดจางก็มีอยู่คนเดียวนั่นล่ะ นอกนั้นเขางงกันหมดว่าอีนี่มันมาจากไหน
ซีเรียสตายกูไม่ไรมากเพราะซีเรียสก็ไม่เชิงดีหมดทุกอย่าง แต่ก็แอบกรอกตากับมิสเตอร์พอตเตอร์ ที่กูงงคือไอ้ประตูโค้งนั่นคือไร ไม่คิดไปเอาศพกลับหรา? อ่านไปทั่วก็งง สุดท้ายปลง กองปริศนาก็ปริศนาสมชื่อเนอะ
กู 482 นะ โทษทีรีบไปหน่อย ไอ้ประตูบานนี้โคตรอันตรายเลยนิ เห็นว่าผ่านเข้าไปตายลูกเดียว ศพเศิพไม่ต้องหา กระทรวงก็ไม่ปิดกั้นดีๆ หน่อยวะ เกิดมีคนมาทะเลาะกันสู้กันแล้วพลาดท่าก็ตายลูกเดียว
เล่ม5ตอนซิเรียสตายกูไม่อินอะไรเลยเพราะอิประตูโค้งเนี่ย
แบบ ล้มใส่ประตู แล้วก็บาย ตายแล้วนะ เฮ้ย ง่ายๆงี้เลยเหรอ บรรยายไม่กี่บรรทัดแล้วก็ต้องเปลี่ยนฉาก
โดยสถานการณ์มันก็ใช่ที่จะไม่มีอารมณ์อาลัย ต้องเอาตัวรอดก่อน แต่พอใส่การตายซิเรียสแบบนี้กูเลยไม่อินเลยแม้แต่นิดเดียว
รู้สึกว่าไอ้ประตูนั่นมันคือประตูมรณะ กั้นระหว่างโลกคนเป็นกับโลกคนตาย เป็นสิ่งที่กองปริศนาศึกษาอยู่ ซิเรียสโดนเบลาทริกซ์ยิงคาถาใส่แล้วตกลงไปในโลกคนตาย ศพมันคงผ่านไปอีกมิติเลยมั้ง
กูว่าเจเคบรรยายฉากตายปุบปับมากอะ ยิ่งเล่ม 7 นะ บางคนตายไปแล้วกูยังไม่ทันรู้เลย แต่มันก็ไม่ฟูมฟายดีนะ ไม่ต้องบิ๊วอะไรมากมาย ตายก็คือตาย
กูรู้สึกว่าการตายในแฮร์รี่นี่มันเหมือนกับการที่ตัวละครตายในGoT(ฉบับซีรีย์)เลย มีการตายสำคัญๆไม่กี่อัน(ในแฮรรี่คือซิเรียสกับดัมเบิลดอร์ ในGoTซีรีย์คือที่ลุงมาร์ตินเขียน) ที่เหลือเป็นcheap shock valueกระชากคนดู แถมท้ายเล่มเจ็ดเหมือนป้าแกมีเช็คลิสต์ตัวละครที่จะให้ตายเลยรีบๆเขียนฆ่าให้จบๆไปจะได้ติ้กช่องว่าฆ่าแล้ว
การตายแบบสำคัญๆในเรื่องแบบที่ไม่นับเรื่องพ่อแม่ที่ตายในตอนต้นกูว่าก็มีซีเรียส ดัมเบิลดอร์ สเนป ด็อบบี้ เซดริก ห้าคนนี้คือคนที่ตายแล้วมีอิมแพคต่อแฮร์รี่มากที่สุด มีผลต่อเนื้อเรื่อง เป็นจุดหักเหเปลี่ยนแปลงชีวิต นอกนั้นก็ตายเพราะป้ากันคนครหาว่าฝั่งพระเอกตายน้อยเกินแบบเฟร็ด ลูปิน ท็องส์ ตายเพราะกูอยากฆ่าทิ้งอะไรแบบนี้น่ะ
แฮร์รี่จะมีเกมลง ps4 แล้วนะพวกมึง กราฟฟิคแจ่มดี กูชอบ
ก็ป้ารู้ไงว่าคนอ่านคิดวิเคราะห์ไม่เป็น แค่เรื่องแฮร์จินก็ดูไม่ออก ก็เลยต้องเขียนป้อนให้ถึงปาก แบบคนนี้ตายแล้วนะ จบนะ ไม่ต้องงง
แต่เรื่องแฮร์จินนี่ตลกสัส พวกที่รับไม่ได้แม่งก็เป็นเพราะไปชิบคู่อื่น แล้วไม่จบอย่างที่หวังเท่านั้นเอง
แฮร์รี่ต้องไม่เคยชักว่าวแน่ๆ เพราะป้าไม่ได้เขียนบอกไว้สินะ โถๆๆๆ ป้านี่เขียนห่วยจริงๆ แต่งเรื่องเกี่ยวกับเด็กผู้ชายวัยรุ่น แต่เสือกไม่มีฉากชักว่าว
กูไปคุ้ยข้อมูลเกมแฮร์รี่มา เห็นว่าจะแบ่งออกเป็น 8 สายนะ เราเป็นนักเรียนปีห้า แล้วก็เลือกบ้านเองได้ สำรวจโลกพ่อมดได้ คาบเรียนก็ตามที่พวกแฮร์รี่เรียนเลย มีประลองเวท มีขี่ไม้กวาด งุ้ย กูอยากเล่น
>>499 ภาพสวยจริงมึง เวทมนต์ก็อลังการดี ลองคุ้ยด้วยคำว่า harry potter game เลย
>>503 สือถือสำหรับกูคือน่าเบื่อ กูเล่นไปอยากเจอหนุ่มสลิธิ(จะเอาทำผัว)แต่เหมือนจะเสือกเจอว่าต้องเล่นถึงปีสาม(กูเล่นถึงปีสอง) และกูทนยัยเมร่าไม่ไหวแล้วมึง ถ้าVRได้เสียตังเท่าไรกูก็ยอมแลกกับการให้กูได้ตบ ไม่มีปัญหากับกราฟฟิคเพราะเข้าใจว่าต้องทำให้สเปกไม่สูง แม้จะแอบหงุดหงิดที่น้องXกูไม่ได้รันภาพไฮโซๆ
กูดูไม่ทัน footage มันมีอะไรบ้างเหรอ
>>503 สปอยเกมมือถือต้องใส่จุดมั้ยวะ ใครยังเล่นไม่ถึงกูขอโทดนะ
เรื่องคือพี่ชายของmcโดนไล่ออกแล้วหายตัวไป พอเราเข้าเรียนก็เจอว่ามีคำสาปกำลังแพร่จาก cursed vault วิธีแก้คือต้องเข้าไปทำตามเงื่อนไขแต่ละอันน่ะ มันมีปีละอัน คำสาปแตกต่างกัน ในนั้นก็จะมีเบาะแสเรื่องพี่กับเรื่อง vault ถัดไป ดัมเบิลดอร์ก็มาแนวเดิมคือบอกไม่ให้ mc เข้าไปยุ่งพวกอาจารย์จะจัดการเอง แต่สุดท้ายพอเราแก้คำสาปเสร็จก็จะโดนดุๆขู่ๆแล้วแจกร้อยแต้มเป็นอันจบปี ตอนนี้มันเปิดเรื่องมาถึงปีห้ายังไม่อัพเดทต่อ
นอกจากเราจะต้องเข้าไปยุ่งทุกเรื่องตามประสา mc แล้วตัวmc เองก็มีนิมิตกับพี่ชายคล้ายๆว่าพี่อยู่ใน vault อันสุดท้าย จะต้องหาพี่ให้เจอให้ได้อะไรเทือกนั้น
ตัว MC อยู่ปีเดียวกับชาร์ลีและท็องส์ เล่นๆไปก็เจอบิล เพอร์ซี่ ริต้า ล่าสุดพ่อเซดริกเพิ่งออกมาขิงลูกตัวเองให้ mc ฟังซึ่งก็ทำฝรั่งโอดกันหลายคน แต่ส่วนใหญ่เห็นตั้งตารอแฝดวีสลีย์มากกว่า ที่มาเล่นกันนี่กูว่าเพราะอยากเจอตัวละครในหนังสือมากกว่าไม่ได้อยากไขปริศนาหรอก
>>508 มันเป็นไซด์สตอรี่เพิ่งอัพเดทเข้ามา พ่อเซดริกมาอวดลูกแล้วบอกให้รอเจอได้ ต้องชอบลูกมันแน่ใครๆก็ชอบ
กูเล่นถึงปี5แล้วเลยไม่รู้สึกอะไรตอนมันบอกว่าเซดริกจะมาตอน mc อยู่ปีหก แต่เห็นคนอื่นบอกว่าจริงๆเป็นสตอรี่ปี1 ถ้าเป็นงั้นจริงแปลว่าพ่อเซดริกเอาลูกอายุ 6 ขวบมาอวดเด็ก 11
กูเคยเล่นนะ แต่เลิกไปเพราะรำคาญระบบอะไรหลายๆอย่าง เช่นตอนพลังงานหมดแม่งขึ้นหน้าต่างให้เติมด้วยเพชร ถ้าเผลอกดพลาดไปกดตกลงแม่งตัดเพชรทันทีไม่ถามซ้ำ บางทีก็บั๊กเติมพลังงานให้กูเองแบบที่ไม่ได้กดอะไรเลย ระบบการเล่นก็น่ารำคาญ อีโรเวนน่ารำคาญ อีเมอรูล่าก็น่ารำคาญ ชุดในเกมก็เห่ยสะบัด แฟชั่นห่าอะไรของมึง กางเกงเขียวตัดแปะด้วยเศษผ้าสีม่วง เสื้อแดงแปร๊ดไรงี้ ได้ที่พอดูเป็นผู้เป็นคนหน่อยก็ต้องใช้เพชรซื้อ แต่ก็เห่ยอยู่ดีว่ะ
นี่ตัวอย่างเกมแฮร์รี่ที่กูไปเจอมา ใช่อันเดียวกันมั้ย หรือมีอันอื่นอีก
https://www.facebook.com/GreanGamingTH/videos/2013238865449242/UzpfSTEwMDAwMjUwMTM0NzYzNToyNjg1MjU1MzA0NjM4MDY/
ถ้าเกมใหม่มันเป็นโอเพ่นเวิร์ดจริง แล้วให้เล่นเป็นนักเรียนในฮอกวอร์ต มันจะมีอะไรให้มึงทำวะนอกจากเดินดุ่ยๆในโรงเรียน เดินเข้าป่าต้องห้าม ไปฮอกมี้ด
อยากเล่นเป็นพ่อมดผู้ใหญ่ แบบ เป็นสมาชิกของภาคีนกฟีนิกซ์ช่วงเล่มเจ็ด ต้องคอยเดินทางทำภารกิจให้กลุ่มแบบลับๆ มีสู้โน่นนี่บ้าง ยังจะดีซะกว่าอีก
จากคลิปมันก็มีปรุงยา ประลองเวทย์ ไล่ฆ่าก๊อบลินอยู่นะ คงไม่หยุดแค่เดินเล่นในโรงเรียนหรอก น่าจะมีภารกิจให้แอบออกไปข้างนอกเยอะอยู่
>>515 ถ้าขายตอนแฮรี่เพิ่งบูมกูว่าทำในรร.ดีกว่า เพราะเด็กวัยรุ่นจะได้self-insertกันง่ายหน่อย แต่ขายตอนนี้ กูเห็นด้วยว่าทำพ่อมดผู้ใหญ่เหอะ ติ่งแฮรี่แม่งโตกันหมดแล้ว แถมทำผู้ใหญ่มันจะเปิดโอกาสให้ไปที่ไม่เคยไปมาก่อนด้วย ไม่มีกรอบจำกัดว่าต้องฮอกวอร์ตอย่างเดียว
ปล. พวกผู้วิเศษมันมีstrip clubป่ะวะ
กูอยากให้ผสมๆกันว่ะ ทั้งในฮอกวอตส์แล้วก็ออกไปโลกภายนอก ถ้า open world นี่จะมีไปอเมริกาหรือทวีปอื่นๆด้วยมั้ยวะ หรือจะเป็นหลังจากเราจบการศึกษาแล้วภาคต่อค่อยออกไปท่องโลก
กุอยากให้เริ่มตั้งแต่ปีหนึ่ง เล่นไปเรื่อยๆขึ้นปีสูงเรียนจบทำงานแบบเดอะซิมผสมสกายริม
พอตตี้รักจินนี่ พอตตี้ร๊ากกกกกกกกกกกกกจินนี่
จริงๆ กูก็อยากให้มีนะ ถ้าจะให้สร้างเกมเป็นโลกเวทมนต์วัยทำงานคงใหญ่ไปมั้ง ทั้งต้องไปคุยกับป้า ออกแบบสถานที่ต่างๆ ใหม่อีก ถ้าสร้างแค่อยู่ในโรงเรียนมันยังพอมีโครงจากหนังกับหนังสืออยู่แล้ว
แต่กูก็อยากให้เราเลือกเล่นเป็นเจ้าหน้าที่กระทรวงได้นะ กูอยากเล่นเป็นมือปราบมาร หรือไม่ก็ทำงานในกองปริศนาน่ะ อยากรู้เรื่องประตูโค้งหรือไม่ก็พวกลูกแก้วพยากรณ์
อ่านเจอว่าเมอร์ลินเรียนฮอกวอตส์อยู่บ้านสลิธีรีน แต่ฮอกวอตส์เนี่ยมันก่อตั้งมาในยุคหลังของเมอร์ลินไม่ใช่เหรอวะ คือเมอร์ลินแม่งตายไปหลายร้อยปีแล้วฮอกวอตส์เพิ่งตั้ง ป้าแกเมาไทม์ไลน์อะไรป่ะ
>>524 ถ้าจะเอาข้อมูลล่าสุดฮอกวอร์ตตั้ง990 AD เมอร์ลินเกิด 980 AD (late 10th - early 11th century)
แต่ ถ้าจะเอาตามก่อนหน้านี้ ไม่เคยมีบอกชัดในหนังสือว่าตั้งเมื่อไหร่ หมวกคัดสรรมันก็บอกแค่ว่าเป็นพันปีมาแล้ว แต่ไม่บอกเวลาชัดเจน
ลูกสาวเรเวนคลอพูดว่าซ่อนรัดเกล้าไว้ที่อัลบาเนีย คิงดอมออฟอัลบาเนียก่อตั้งในช่วงปี12th century ลูกสาวเรเวนคลอต้องเคยเรียนที่ฮอกวอร์ตก่อนจะขโมยของแม่หนีไป(เพราะเป็นผีประจำบ้านต้องเคยอยู่บ้านนั้น) แสดงว่าถ้าเอาจากหลักฐานพวกนี้ฮอกวอร์ตตั้งช่วงปี 10th - 11th
แต่มีระบุไว้ว่า ลูกสาวเรเวนคลอตายช่วงปี 11th ตายก่อนที่Kingdom of Albaniaจะเกิด แล้วรู้ได้ไงว่าตรงนั้นเรียกตอนนี้ว่าอัลบาเนีย
สรุป ป้าอ่อนโหลยโท่ยเรื่องเวลา การวางไทม์ไลน์และประวัติศาสตร์จริง นึกอยากเขียนอะไรก็เขียน อยากลบอันไหนก็ลบ อยากretconอันไหนก็ทำแล้วแต่เมนส์ป้าแก
ปล. โคตรไม่เมกเซนส์ที่นักเรียนฮอกวอร์ตจะดังกว่าผู้ก่อตั้ง พ่อมดใช้ชื่อเมอร์ลินอุทานเหมือนที่มักเกิ้ลอุทานOh my god มีเหรียญรางวัลตั้งตามชื่อเมอร์ลิน แสดงว่าเมอร์ลินต้องมีคนเคารพโคตรเยอะ แต่ผู้ก่อตั้งฮอกวอร์ตนี่ไม่มีเครื่องหมายอะไรที่แสดงว่าคนrespectในระดับนั้นเลย เป็นไปได้สองอย่าง หนึ่งคือเมอร์ลินคือพ่อมดที่เทพที่สุดในโลก เทพที่สุดในประวัติศาสตร์จนถึงตอนนี้ในระดับที่ดัมเบิลดอร์เป็นแค่ขี้ผงถ้าเทียบกัน สองคือตอนแรกที่ป้าเขียนตั้งใจจะให้เมอร์ลินมาก่อนพวกอ้ายมาสี่คน แต่ตอนหลังจับเมอร์ลินยัดสลิธีรินเพราะจะโชว์ว่าเนี่ย สลิธีรินก็มีคนดีๆนะจ๊ะ ยกโทษให้ป้าเถอะที่ป้าเหมารวม stereotypeสลิธีรินว่าเป็นบ้านตัวเหี้ย
>>525 ตามตำนานแล้วคิงอาเธอร์อยู่ในยุคศตวรรษที่ 6 เมอร์ลินก็ต้องอยู่ด้วยเพราะเป็นพ่อมดคู่บัลลังก์ แต่ฮอกวอตส์นี่น่าจะตั้งราวๆศตวรรษที่ 10 ห่างจากเมอร์ลินไปหลายร้อยปี กูว่าเหตุผลที่จับยัดก็คงตามมึงนั่นล่ะที่ป้าแม่งเขียนให้สลิมีแต่เด็กเหี้ย เลยต้องใส่ใครก็ได้มากอบกู้ภาพลักษณ์ของสลิหน่อย แบบเมอร์ลินที่ใครๆก็รู้จักอะนะ
จะให้แถว่าเมอร์ลินเคยเป็นอาจารย์ของสลิธีรีนมาก่อน เลยได้แนวคิดของเมอร์ลินมาเป็น motto ของบ้าน แบบนี้กูว่าน่าจะโอเคกว่ามาจับเมอร์ลินยัดเป็นนักเรียนบ้านสลิธีรีนอีก หรือมันจะมามุกแถแบบนี้ได้วะ ถือว่าเมอร์ลินเป็นคนของสลิธีรีนเหมือนกัน
บางทีกูก็อยากจำfactsแค่ที่มีในหนังสือ โตขึ้นเห็นป้าแกแก้factsจักรวาลงานตัวเองจนเละเทะกูละเพลียใจ
ยิ่งเขียนยิ่งเละ ทำลายงานด้วยตัวเอง นี่ล่ะมั้งหลายคนถึงเลือกที่จะจบแค่ตามที่ตั้งใจไว้ คือจบแค่ไหนแค่นั้น ไม่มีต่อ
เขียนเละยังไม่แปลกใจเท่าไร เหมือนสร้างงานใหม่ที่ดีกว่าเดิมไม่ได้เลยต้องเกาะของเก่าหาแดก
แต่เรื่อง PC SJW นี่กูสงสัยจริงๆว่าป้าแกเป็นจริงๆ หรือสร้างกระแสเอาใจคนกลุ่มนี้
บ้าาาาาา พวกมึงอะ ป้าจะมั่วได้ไงวะ ของแบบนี้ป้าเค้าก้อต้องวางแผนมาแร้ววววววววสิวะ! วางแผนเก่งทุกอย่างอะ ทัมมัยมั่ยเชื่อจัยป้าเรย
กูก็งงๆเรื่องเมอร์ลินมาเป็นลูกศิษย์บ้านสลิได้ไงวะ ตำนานประเทศป้าเองแท้ๆยังมั่วได้อีกเหรอ น่าจะเขียนว่าเมอร์ลินเป็นอาจารย์สอนผู้ก่อตั้งทั้งสี่และริเริ่มแนวความคิดให้สี่คนนั้นก่อตั้งโรงเรียนยังจะเมคเซนส์กว่าให้มาเป็นลูกศิษย์อีก
กูขอ ky หน่อย กูเพิ่งกลับไปอ่านแฮร์รี่อีกครั้งเริ่มจากเล่ม 5 (เล่ม 7 กูอ่านซ้ำบ่อยสุดละ รองลงมาก็เล่ม 3) คือไงดีอ่ะ กูว่ากูไม่ชอบมอลลี่ว่ะ ไม่เชิงไม่ชอบ...ยังไงดี เอางี้ละกัน กูร่ายเป็นข้อๆ ดีกว่า
1. กูไม่ชอบมอลลี่แซะซิเรียส ตอนเล่ม 5
คือนางเหมือนปกป้องแฮร์รี่มากเกินไป แล้วก็มาเย้ยซิเรียสว่าเนี่ย เพราะหุนหันพลันแล่นเลยไม่คู่ควรจะเป็นพ่อทูนหัวของแฮร์รี่ (คือความหมายที่นางว่าออกแนวแบบเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี แล้วก็เอาแฮร์รี่เป็นตัวแทนเจมส์) คือเป็นแม่เพื่อนอ่ะ ต้องก้าวก่ายขนาดนั้นเลยเหรอ นั่นลูก-พ่อทูนหัวกัน แล้วรู้จักกันดีมั้ย...กูว่าตอนสงครามรอบก่อนก็ไม่น่ารู้จักกันมากเท่าไหร่ เพราะถ้ารู้จักซิเรียสก็ต้องรู้จักเจมส์ แล้วก็ต้องเล่าอะไรต่อมิอะไรให้แฮร์รี่ฟังมากกว่านี้ คือไม่รู้จักเค้า ตัดสินเค้าไปก่อนแล้วงั้นงี้ กูว่าซิเรียสน่ะทรีทแฮร์รี่เหมือนแฮร์รี่โตแล้ว แต่มอลลี่เหมือนกักแฮร์รี่ไว้ให้เป็นเด็ก แถมยังไม่พอ ยังเลยมาถึงเฮอร์ไมโอนี่อีก (แต่ประเด็นเฮอร์นี่กูพออนุโลมเรื่องว่าเฮอร์อยู่ในปกครองของมอลลี่ตอนอยู่ในภาคี) กูนี่อยากบอกว่า ป้า ป้าเกินไปละ เกินไปละจริงๆ นะ
2. ตอนเรื่องเฟลอร์
เรื่องนี้กูไม่ได้เฟลแต่มอลลี่ แต่กูเฟลจินนี่กับเฮอร์ด้วย (กับเฮอร์กูพอเข้าใจพอยท์นาง เพราะอิรอนก็หลงซะ กูติ่งเฮอร์ 555) แต่มอลลี่กับจินนี่คือแม่ผัวกับน้องผัวตัวร้ายเลยนะเว้ย คือสมมุติถ้าบิลไม่โดนทำร้ายอ่ะ กูว่ามอลลี่ไม่เปิดใจจนแล้วจนรอด กูไม่เข้าใจจริงๆ นะว่าทำไมต้องจงเกลียดจงชังนางขนาดนั้น มีการหาหญิงใหม่ให้ลูกด้วย แม่ง กูนึกว่ากำลังอ่านพล็อตละครเย็นบ้านเรา คือเฟลอร์นอกจากฟรุ้งฟริ้งของนาง สวยของนางแล้วยังไง นางเป็นวีล่าไง เป็นสายเลือดที่แบบ...ไงดีอ่ะ มีเสน่ห์ของตัวเองอ่ะ มันทำให้ผู้หญิงด้วยกัน (ตัวละครหญิงในเรื่อง) หมั่นไส้เลยงี้? นางเก่งนะ อย่างว่านางเป็นถึงตัวแทนโรงเรียนก็คงไม่ใช่เล่นๆ หรือเพราะนางเป็นต่างชาติ แต่พวกนี้ถ้าหัวก้าวหน้าพอที่จะรับคนที่เกิดจากมักเกิ้ลได้ ทำไมรับต่างชาติไม่ได้? ดีนะที่อย่างน้อยๆ ก็แยกบ้านกันอยู่ ไม่งั้นพอหมดความซึ้งก็คงกลับมาแฟ่ดๆ ใส่ลูกสะใภ้ตามเคย กูจำได้ว่าจินนี่เคยว่าแม่ตัวเองไม่ชอบเฟลอร์ และนางตอบว่าไม่ได้ไม่ชอบแต่เฟลอร์ไม่ติดดินหรืออะไรทำนองนั้น (กูยังอ่านทวนไม่ถึงเล่ม 6) คือแค่นี้จริงดิ กูว่าไม่ใช่อ่ะ
พูดเลยถึงจินนี่ก็ขอจินนี่หน่อยละกัน คือเรื่องล้อเลียนเฟลอร์นี่แหละ อยากถามว่านี่นางเอกของเรื่องนะ นางเอกที่หนังสือบรรยายว่าเป็นสาวป๊อบ สวย เก่ง เข้มแข็งชนิดที่ไม่เคยร้องไห้ให้แฮร์รี่เห็นมาก่อน จะเกิดบ้าอะไรขึ้นมาถึงไปล้อเลียนเขา (ขณะเดียวกันก็ย้อนแย้งมาก ล้อเลียนเฟลอร์ แต่ปกป้องลูน่า อินางจะเอายังไงกันแน่จ๊ะ?)
เรื่องรักลูก กูว่ามอลลี่รักลูกแน่ล่ะ แต่มันรักแบบไหน แล้วนิสัยจริงๆ ของมอลลี่นี่...มนุษย์ป้าใช่ไหมเนี่ย อย่างน้อยๆ ก็แนวมนุษย์แม่ผัวแน่นอนเลย
>>534 กูว่ามอลลี่แม่งนับแฮร์รี่เป็นลูกชายตัวเองไง เพื่อนลูกที่สนิทกับทุกคนในครอบครัว แถมยังสงสารที่เสียพ่อแม่ไป เลยคิดว่าแฮร์รี่เป็นลูกอีกคนนึงของบ้านวีสลีย์ แล้วทีนี้ในสายตาพ่อแม่ ลูกๆทุกคนก็เป็นเด็กอยู่เสมอน่ะ เลยปกป้องและจุ้นจ้านมากไป
แต่เฮอร์...กูว่ามอลลี่ก็ไม่ได้ชอบนะ ตอนเป็นข่าวกับแฮร์รี่ มอลลี่ยังเย็นชาใส่เลย แถมให้ขนมแค่ตามมารยาทอีก ที่แฮร์รี่กับรอนได้ขนมชิ้นใหญ่มาก แต่เฮอร์ได้ขนาดเท่าไข่ไก่ อารมณ์ตอนนั้นของมอลลี่คงแบบนังผู้หญิงนี่เป็นใคร มาสนิทกับลูกชายฉันได้ไง ออกแนวแม่หวงลูกชายแบบไม่มีเหตุผลว่ะ แบบเดียวกับบิลและเฟลอร์เลย นางคงคิดว่าเฟลอร์สวยขนาดนั้น ดีขนาดนั้น คงคบเล่นๆมั้ง เลยจะกันออกไปจากชีวิตลูกชายนาง แถมยังเป็นชาวต่างชาติอีก ส่วนจินนี่อาจจะหมั่นไส้ความสวยและดีของเฟลอร์ จะมีหยิ่งๆเชิดๆบ้างก็ตอนเป็นตัวแทน แต่นิสัยรวมๆก็ถือว่าโอเค กูว่าเฟลอร์ก็ไม่ได้ทำอะไรผิดนะ นางก็มีล่องลอยสวยๆตามประสาครึ่งวีล่า สองแม่ลูกนี่ตั้งแง่กันเอง
ส่วนที่ปกป้องลูน่านี่ทำเอากูคิดนะว่านางหมั่นไส้เฟลอร์เพราะเฟลอร์เป็นระดับที่สูงกว่านาง สาวสวยที่หนุ่มมองเหลียวหลัง เป็นตัวแทนก็ต้องเก่งอยู่แล้ว แถมยังมาเกาะแกะพี่ชาย แต่ลูน่าคือตัวตนที่อยู่ระดับต่ำกว่านางไง สาวเพี้ยนไม่ค่อยมีใครคบ โดนบุลลี่ประจำ พอนางไปปกป้องอาจจะรู้สึกดีก็ได้
เฟลอร์นางเป็นคนเวิ่นเว้อและเยอะด้วยป่ะ มอลลี่กับจินนี่เลยรำคาญ แถมไปสวีทกับลูกเขาต่อหน้าแม่คงรู้สึกตงิดๆอะ ปกติแม่ก็จะหวงลูกชายในระดับหนึ่งอยู่แล้ว พอเป็นสาวคนที่แม่ไม่ยอมรับ มันเลยต่อต้านน่ะ
>>535 "แต่เฮอร์...กูว่ามอลลี่ก็ไม่ได้ชอบนะ ตอนเป็นข่าวกับแฮร์รี่ มอลลี่ยังเย็นชาใส่เลย" แต่ตอนหลังที่เฮอร์คบกับรอน มอลลี่รู้แต่ไม่ได้ว่าอะไร ไม่ได้เย็นชาใส่ ถ้ากูเป็นเฮอร์คงงงแบบอะไรวะ กูไม่ควรคบกับแฮร์รี่ แต่กับกับลูกนางได้เหรอ เหมือนรักแฮร์รี่ โอ๋แฮร์รี่มากกว่ารอน
พวกมึงนี่อ่านหนังสือไม่แตกกันจริงๆว่ะ ถถถถ
ที่มอลลี่ไม่ชอบเฮอร์ตอนนั้นไม่ใช่เพราะมีข่าวกับแฮร์รี่อย่างเดียว แต่เพราะริต้าเอาไปเขียนให้ดูเหมือนเฮอร์ไล่จับแฮร์รี่ หว่านสเน่ห์ ใช้ยาใช้คาถาอะไรงี้ มอลลี่หลงเชื่อบทความในแม่มดรายสัปดาห์เลยไม่พอใจไง
ส่วนเรื่องเฟลอร์ก็ไม่มีไรมาก มอลลี่เป็นแบบแม่ผัว เห็นว่าบิลกับเฟลอร์คบกันได้แปปๆก็จะแต่งละ เลยไม่ชอบ จินนี่กับเฮอร์ก็คงหึง ไม่ชอบที่เฟลอร์เกาะแกะแฮร์รี่กับรอน และจากความทรงจำของกู มอลลี่ก็ไม่เคยพยายามหาผู้หญิงใหม่ให้บิลนะ กูเดาว่ามึงคงสับสนเรื่องท็องส์สิใช่ไหม ที่จินนี่บอกว่ามอลลี่พยายามชวนมากินข้าวที่บ้าน อันนั้นจินนี่แม่งคิดไปเองโว้ย เขาจะจับคู่กับลูปินต่างหาก
กุว่ามอลลี่นางก็คือมนุษย์แม่ธรรมดาอะ จู้จี้ over-protective จนน่ารำคาญ มีมุมแบบชอบข่าวซุบซิบ เชื่อข่าวโคมลอยต่างๆ (กุว่าแม่ๆ ป้าๆ พวกเราหลายคนก็เป็น) คือมันเป็นข้อเสียในระดับที่กุเข้าใจได้ ซึ่งกุชอบที่นางเป็นตัวละครแบบนี้นะ มันดูมีมิติดี ไม่ใช่เป็นคุณแม่สมบูรณ์แบบ เข้าใจลูกเข้าใจเด็กไปทุกอย่าง
ตอนเล่ม 5 ที่นางเถียงกับซิเรียส แฮรี่ก็เข้าข้างซิเรียสสุดๆ เพราะเห็นว่าซิเรียสเป็น idol เป็น rebel เป็นตัวละครเท่ๆ อยากให้แฮรี่ออกไปร่วมต่อสู้ด้วย แล้วสุดท้ายเป็นไงล่ะ แฮรี่ก็ยังไม่โตพอที่จะรับผิดชอบอะไรหลายๆ อย่างได้เองจริงๆ (วู่วามจนพาเพื่อนทั้งแก๊งไปติดกับ ทำซิเรียสตายอีก) ส่วนตัวกุมองว่าทั้งมอลลี่ทั้งซิเรียสก็มีส่วนผิดทั้งคู่ว่ะ คือมอลลี่มองว่าแฮรี่เป็นเด็กน้อยต้องปกป้อง ส่วนซิเรียสมองแฮรี่เป็นตัวแทนเจมส์ สนับสนุนให้แหกกฎออกไปสู้แบบผู้ใหญ่ทั้งที่อายุก็แค่ 15 เอง
ส่วนจินนี่กับเฟลอร์ กุมองว่าเฟลอร์นางก็บุคลิกชวนน่าหมั่นไส้จริงๆ คนอ่านส่วนใหญ่ก็น่าจะเพิ่งจะรู้สึกดีกับนางมากขึ้นตอนจบเล่ม 6 ที่นางเปิดใจออกมา หลังจากนั้นบุคลิกนาง (อย่างตอนปลอมเป็นแฮรี่แล้วบอกบิลว่าอย่ามองชั้นนะ ชั้นน่าเกลียด) เลยกลายเป็นความฮาไป
ที่มอลลี่กับจินนี่หมั่นไส้เฟลอร์ก็เป็นเพราะท่าทางการวางตัวนางล้วนๆ ไม่ได้เกี่ยวกับเชื้อชาติอะไรเลย
>>534 กุว่ามึงคิดเยอะไป ถ้าเทียบสถานะทางสังคมกัน กุว่าเฟลอร์เหนือกว่าจินนี่เยอะนะ บ้านก็น่าจะรวยกว่า มาจากโรงเรียนไฮโซ ผู้ชายก็สยบแทบเท้าหมด อย่างที่บอกว่าจินนี่หมั่นไส้เฟลอร์เพราะบุคลิกสองคนนี้ต่างกันมาก คนละเรื่องกับที่คนบุลลี่ลูน่าเลย
กูว่าที่จินนี่กับมอลลี่ไม่ชอบนางเพราะเป็นคนเยอะกับเวิ่นเว้อนั่นล่ะ นางดูล่องลอยในอากาศกับความเพ้อฝันอะไรซักอย่างของนางตลอด แถมยังดูเหมือนจะยึดเอาตัวเองเป็นที่ตั้งไม่ค่อยนึกถึงคนอื่นเท่าไหร่ด้วย แต่เรื่องเชื้อชาติเกี่ยวมั้ย กูว่าถึงจะไม่ใช่เรื่องหลักแต่ก็มีส่วนนะ เพราะคนอังกฤษกับคนฝรั่งเศสก็มีธรรมเนียมปฏิบัติตัวไม่เหมือนกัน การวางตัวบางอย่างของเฟลอร์คงไปขัดหูขัดตาสองแม่ลูกนั่น ตอนแฮกริดอกหักจากมาดามมักซีมยังพูดเลยว่าอย่าไปยุ่งกับคนต่างชาติพวกนั้น กูรู้สึกว่าป้าโจก็ชาตินิยมเหมือนกันนะ
>>537 เป็นแบบนี้กูว่าก็ไม่แปลกที่รอนมันจะคิดว่าแม่มันรักแฮร์รี่ อยากได้แฮร์รี่เป็นลูกชายมากกว่ามัน
มอลลี่ก็คือคาร์ป้าข้างบ้านนั้นแหละ ส่วนจินนี่ มันจะนิสัยเสียบ้างก็ไม่เห็นแปลก กูว่าตลคในแฮร์รี่ทุกตัวมีนิสัยบางอย่างที่กูไม่โอเคหมดคนละนิดละหน่อย แต่พอคิดว่าคนเรามันก็งี้แล้วก็รับได้นะ
ป้าเขียนให้ผู้หญิง"""ฝั่งดี"""ในเรื่องไม่ชอบเฟลอร์เพราะตัวป้าเอง เชื่อดิ
เหมือนที่เขียนให้คนเกลียดแพนซี่ ไม่ให้แพนซี่ได้กับเดรโกตอนจบเพราะตอนเด็กๆป้าแกโดนเด็กผู้หญิงแบบแพนซี่บูลลี่
ส่วนเฟลอร์ กูว่าป้าแกหมั่นไส้/อิจฉาผู้หญิงแนวๆนี้เลยเขียนใส่รมณ์ตัวเองลงไปเต็มที่
ป้าแกself-insertเยอะนะ อย่างกูว่ารสนิยมผู้ชายของป้าแกคือbeta male ดูจากการที่ให้insertตัวเองได้กับรอน ดูจากNewtเป็นบีต้า กับผัวตัวจริงป้าแกอีก
>>542 กุว่ามึงเอาหนังหรือฟิคมาปนแล้วรึเปล่า หนังสือแทบไม่ได้ให้รายละเอียดตัวละครแพนซี่เลยนะ นอกจากนิสัยแย่ & หน้าตาไม่ได้ดีแค่นั้นเอง กุรู้สึกว่านางเริ่มป๊อบขึ้นมาเพราะคนที่รับบทในหนังภาคสามหน้าตาดี + แฟนๆ เอาไปแต่งเติมกันเองซะมากกว่า
ส่วนตัวละครฝั่งสลิธิรินอย่างเดรโกหรือสเนปนี่ก็ไม่ได้ดูดีแบบในหนังเลย เดรโกคือเด็กบุลลี่หน้าเสี้ยมๆ ส่วนสเนปนี่ก็ซกมก ฟันเหลือง โมโหร้าย ไม่ได้ออกแนวขรึมๆ คูลๆ อย่างในหนัง แต่แฟนๆ เอาไปมโนกันต่อเองว่าสองคนนี้ดูเท่ดูดี (กุถึงได้คิดว่า การ "ได้กับเดรโก" ในหนังสือนี่มันไม่มีอะไรน่าอิจฉาเลย นอกจากเรื่องบ้านรวย)
>>534 ข้อ 1 ถ้าดูกันตามจริง สถาณะพ่อทูลหัวของซีเรียสก็ไม่ได้ทำให้มีความรู้จักกันดีขนาดนั้นนะ ผูกพันกว่าก็คงใช่ แต่มอลลี่รู้จักแฮรี่ตั้งเล่ม 1 เวลาอยู่ด้วยกันก็มากกว่า ซีเรียสโผล่มาเล่ม 3 อยู่ก็ไม่ค่อยอยู่ด้วยกัน เทียบความสนิท มอลลี่ยังใกล้ชิดกว่าอีก
>>545 กูคุ้นๆ ว่าแฮรี่เคยบรรยายว่าเดรโก้หน้าตาดีนะ แต่คือแฮรี่มันเด็กผู้ชาย แถมยังเป็นคนที่ไม่ชอบหน้า หล่อแค่ไหนคงไม่ชมหรอก แล้วการแคสต์นักแสดงนี่ป้าดูแลเองหมด ซึ่งกูเชื่อฝีมือป้าตอนนั้นกว่าตอนนี้ ว่าใกล้เคียงอิมเมจของป้ามากที่สุดแล้วด้วย
อันที่จริงกูไม่แปลกใจนะที่เดรโกไม่ได้กับแพนซี่ กูว่าเดรโกมองว่าการที่แพนซี่ชอบตัวเองเป็นส่วนนึงของอีโก้ตัวเอง แบบว่าภูมิใจแบบเด็ก ๆ ที่มีสาวมาปลื้มตัวเอง ความรู้สึกแบบนี้จะพัฒนาเป็นความรักได้มั้ย กูว่าถ้าเป็นเดรโกตอนเล่ม 5 ยังพอเป็นไปได้ แต่ช่วงเล่ม 6 เดรโกมันรับความรับผิดชอบแบบเกินตัวไปมาก (ถูกลอร์ดสั่งให้ฆ่าดัมเบิลดอร์โดยมีครอบครัวตัวเองเป็นตัวประกันงี้) กูรู้สึกได้ว่ามันโตขึ้นมากในเล่ม 7 ซึ่งในเล่มสุดท้ายฉากที่แพนซี่โผล่มา กูรู้สึกว่านางยังโตไม่เท่าเดรโกอ่ะ ยังดูมีความเป็นเด็กน้อยสูงมาก วิธีการมองโลกของนางไม่มีทางตามเดรโกทันแล้ว ณ จุด ๆ นี้ ต่อให้ป้าอยากเขียนให้นางคู่กับเดรโกมันก็ฝืนธรรมชาติเกินไป
เรื่องมอลลี่กับซีเรียส กูว่ามอลลี่มีความเป็น mother figure มากกว่า คือยังไงมึงก็รักเคารพแบบผู้ใหญ่ แต่มันไม่สนิทใจเท่าซีเรียสที่วางตัวตัวเองเป็น เพื่อน + พี่ชาย มากกว่าเป็นพ่อไง
>>547 ป้าน่าจะทำเรื่องสั้นของเดรโกแยกเลยนะ ท่าทางจะน่าอ่านแต่ขอเล่มเล็กๆ พอ ช่วงหลังตอนกดดันทำให้ตัวละครเปลี่ยนเป็นคนดีได้ มันต้องมีอะไรให้ถึงจุดจริงๆ
แต่ของตัวร้ายสุดๆ อย่างลอร์ด กูก็อยากอ่านอีก เพราะอยากรู้ว่าจิตใจมันบิดเบี้ยวขนาดไหน ถึงโตมาเป็นแบบนี้ กูว่าลอร์ดกับแฮร์ตอนเด็กชีวิตคงคล้ายๆ กัน แต่ลอร์ดเลือกไม่คบเพื่อนเอง เลยจมจ่อมอยู่กับความบ้าคลั่งคนเดียว
คนที่ถูกบรรยายชัดๆแบบไม่ต้องเดาว่าหน้าตาดีก็มีโวลดี้ตอนยังเป็นนักเรียน กรินเดวัล ซิเรียส เฟลอร์ เซดริก ลิลลี่ เฮอร์ตอนฟันหดแล้ว ส่วนที่เกินความคาดหมายกูไปมากคือท็องส์ กูนึกว่าจะมาแนวนักร้องพังค์ร็อคผมชมพูข้างนึง ผมม่วงข้างนึงซะอีก อีกคนคืออัมบริดจ์นี่ล่ะ กูว่าหน้าตาแม่งดูดีเกิน ไม่ค่อยจะเหมือนคางคกแบบที่บรรยายไว้ตรงไหน
>>530 ถ้าอยากรู้ระดับความ sjw ของคนเขียน มึงต้องดูในตัวผลงาน ซึ่งกุกล้าบอกเลยว่าป้านี่ค่อนไปทาง white supremacist ด้วยซ้ำ คือป้าแกอาจจะไม่ได้ฮาร์ดคอร์อะไรมาก แต่ความคิดแบบอวยคนขาวอวยยุโรปมันสื่อออกมานิดๆ ในตัวละครกับเซ็ทติ้งของเรื่องเอง (เช่นการที่ตัวหลักทั้งหมดเป็นคนขาว ต้นกำเนิดของเวทมนตร์เทพๆ หรือไม้กายสิทธิ์มาจากยุโรป บลาๆ)
ซึ่งจุดเหล่านี้ sjw ฝรั่งหัวรุนแรงเขามองออกกันหมดแล้ว 55555 ถ้ามึงไปดูทวิตเตอร์คนพวกนี้ ไม่มีใครเขานับป้าเป็นพวกเดียวกันหรอก มีแต่จะด่าว่าเป็น racist, homophobic, transphobic (อันหลังมาได้ไงไม่รู้ ขี้เกียจไปค้น) ด้วยซ้ำ
>>545 มึงพูดถูก โดยเฉพาะสเนปเนี่ยตัวซกมกเลย ไม่ได้คูลๆ หยิ่งๆ แบบในหนัง
กูว่าคนในมู้นี้ส่วนใหญ่แม่งน่าจะเน้นดูหนังมากกว่า ประมาณอ่านหนังสือผ่านๆ หรืออ่านแต่จับใจความอะไรไม่ค่อยได้ แล้วไปสนใจฟิคคู่ชิบนั่นนี่แทน ถึงไม่แปลกใจที่มีคนมาพูด fact ผิดๆ โยงนั่นนี่แบบมั่วๆ เหี้ยสุดคือบอกว่าแฮจินไม่มีโมเมนต์ ทั้งๆที่ป้าแม่งก็ปูมาตลอด (ในหนังสือ ถ้าใครดูหนังอย่างเดียวก็คงงง)
อ้อ เพิ่มเติมหน่อย พวกที่บอกว่าป้าแคสนักแสดงเอง เพราะงั้นนักแสดงต้องตรงอิมเมจเนี่ยควายสัส ก็เห็นๆกันอยู่ว่าป้าแคสมาแต่เด็กๆหน้าตาดี อย่างแฮร์รี่เงี้ย ในหนังสือไม่ได้น่ารักใสๆแบบแดเนียลตอนอายุ 10-11 หรอกนะ คงมีแต่เนวิลล์มั้งที่ใกล้เคียงหน่อย
และรู้ไหมว่าแดเนียลเนี่ยแพ้คอนแทคเลนส์ เลยเปลี่ยนตาให้เป็นสีเขียวตามหนังสือไม่ได้ แต่ป้าก็ยังเลือกคนนี้อยู่ดี ทั้งๆที่เรื่องตาเขียวเนี่ยเป็นจุดสำคัญจุดหนึ่งของเรื่องเลย
กูอ่านหนังสือและดูหนัง และก็ยังยืนยันคำเดิมว่าแฮร์จินไม่มีโมเมนต์ที่จะเชื่อว่าทำไมคู่นี้รักกัน มีแต่ฝั่งจินนี่หลงรักข้างเดียว
นักแสดง ถ้าไม่น่ารักหน้าตาดีหน่อย ใครจะไปดู มันก็แค่นั้นแหละ อย่างพวกสเนป แฮกริดก็หน้ามีเอกลักษณ์ คนจะได้จำง่ายๆ
กูเบื่อประเด็นแฮร์จินแล้ว ขนาดมีคนพูดประเด็นอื่นก็ยังจะโยงกลับมาให้ได้ ต้องทำไงมึงถึงจะพอใจอ่ะ ถ้ากูบอกว่าป้าเขียนซะกูเชื่อสุดหัวใจว่าแฮร์รี่รักจินี่มากๆมึงจะพอใจได้ยัง กูจะได้ไปรีไอดีมาช่วยเหลือมึง
>>559 กูก็ว่างั้นนะ แต่ทำไมโม่งอวยจินนี่มันถึงบอกแฮร์จินมีโมเมนต์งั้นงี้ ทั้งที่ในหนังสืออีจินนี่มันโผล่มาเล่มละไม่ถึงสามหน้าด้วยซ้ำมั้ง แถมเป็นโมเมนต์ที่ไม่มีความสำคัญอะไรเลยกับเนื้อเรื่อง เหมือนคุยกับตัวประกอบที่เดินผ่านมาแล้วจากไป จนกูก็ไม่รู้ว่าแม่งเอาตรงส่วนไหนมาคิดได้ว่าป้าโจปูมาให้นางเป็นคู่ไอ้หัวสายฟ้าจริงๆ แต่เอาเหอะ คนที่อวยนางคงมีมึงคนเดียวนั่นล่ะเพราะนอกนั้นเขาก็งงกันหมดว่าอีนี่มาจากไหนวะ
กูก็ยังยืนยันอีกครั้งว่ามึงก็ปล่อยมันพล่ามไปคนเดียวเถอะ ไม่มีคนคุยด้วยเดี๋ยวแม่งก็ไปนั่งเหงาที่อื่นเองอะ ไม่ต้องไปเถียงกะมันให้รกมู้ว่ะ กูกล้าพูดเลยว่าอีโม่งที่ด้าคนอื่นเรื่องอ่านหนังสือไม่แตก อ่านไม่จับใจความหรือดูหนังมากกว่าก็มันเองเนี่ยแหละ ผีบ้าอยู่คนเดียวทั้งมู้ ไม่เหนื่อยบ้างรึไง อีเก่งที่สุดในโลก อีเห็บหมดใต้หมอนเจเค
ก็อ่านหนังสือไม่แตกแล้วสะเออะมามโนมั่วซั่ว พอโดนย้อนก็เถียงแก้ไม่ได้ทำได้แต่ดิ้น จะไม่ให้รู้สึกสมเพชได้ยังไง
ทั้งมู้ก็มีโม่งดิ้นอยู่ตัวเดียวเรื่องนั้น
หรือมันคือแอนตี้แฮร์จินที่วางแผนให้คนเกลียดแฮร์จินยิ่งกว่าเดิมวะ เพราะยิ่งมันพยายามอวยยิ่งได้ผลตรงข้าม
ทำไมกูรู้สึกว่าคนทำเวอร์ชันหนังถึงเกลียดรอนวะ
ในหนังสือ รอนมันมีจุดเด่นที่ช่วยทีมตรงที่มันเป็นคนเดียวในกลุ่มที่โตมากับโลกพ่อมด เลยรู้เรื่องที่คนอื่นไม่รู้ แม้แต่เฮอร์ก็ไม่รู้
แต่ในหนัง กลายเป็นว่าเฮอร์รู้หมดเลยจ้า รอนกูเลยโดนลดขั้นไปเป็นตัวโจ๊ก
ตอนโดนมัลฟอยเรียกว่าเลือดสีโคลนครั้งแรก ในหนังสือเฮอร์กับแฮร์รี่เฉยๆแต่รอนโมโหเพราะรู้ว่ามันคืออะไร ในหนังเฮอร์ปิดหน้าวิ่งไปร้องเพราะรู้อยู่แล้ว
แถมภาคหลังๆ โมเมนต์ที่รอนมีcommon senseหรือพูดอะไรฉลาดๆในหนังสือ พวกนี้โดนย้ายไปอยู่ที่เฮอร์หมดในหนัง รอนเวอร์หนังภาคหลังๆโดยเฉพาะเจ็ดเลยไม่มีเหี้ยอะไรเลยนอกจากขี้บ่นและโจ๊กบ้างบางครั้ง
>>572 ปกติรอนมันก็ไม่ได้ฉลาดอยู่แล้วนี่มึง จะออกแนวเป็นตัวคลายเครียดของกลุ่มมากกว่า
แต่กูงงนะว่ารอนเล่นหมากรุกเก่ง แต่ผลที่ออกมานี่แม่ง.... มันต้องคิดวิเคราะห์เก่งดิ คิดล่วงหน้าไปหลายตา อย่างน้อยก็ต้องมีความสุขุมรอบคอบบ้าง กลายเป็นทำอะไรดูโง่ไปซะหมด แล้วความสามารถนี้ทำไมปรากฎแค่ภาคแรกแล้วหายไปเลยวะ หรือแค่อยากมีซีนให้รอนโชว์ความสามารถเล่นหมากรุก ไม่งั้นจะไม่มีความสามารถอะไรเลยแบบเพื่อนทั้งสอง
เล่นหมากรุกเก่งแต่ชีวิตจริงทำแต่อะไรโง่ๆก็มีเยอะแยะ แบบหนังประวัติแชมป์หมากรุกโลกที่โทบี้ แมคไกว์เล่น เป็นแชมป์โลกนะ แต่เหวี่ยงวีนอารมณ์ร้ายมาก ตัวจริงก็กลายเป็นโฮมเลสแล้วตายไปทั้งๆแบบนั้น
ที่กูงงมากกว่าคือรอนมันพูดภาษาพาร์เซลเปิดห้องแห่งความลับได้นี่ล่ะ ถึงจะบอกว่าแว่นมันละเมอพูดบ่อยๆ แต่รอนมันรู้เหรอว่าแว่นมันพูดแล้วแปลว่าอะไร ถ้าให้บอกว่าเพราะบาสิลิสก์ตาย เวทมนต์ที่คุ้มครองห้องแห่งความลับเลยเสื่อมสลายไปด้วยจะเข้าท่ากว่าให้รอนไปทำเสียงฟืดๆใส่กำแพงหินอีก
#เอ็กซ์เป็กโตพาโตรนุม
กูขอจัดให้อีโม่งแฮจินเป็นโทรลละ พูดซ้ำไปซ้ำมาเหมือนหุ่นยนต์ นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่กูจะพูดถึงมัน
กูเคยเห็นกระทู้ถกเรื่องรอนพูดภาษาพาร์เซลได้ไงในพันทิป มีคนถามเรื่องนี้กับป้าโจเหมือนกัน รู้สึกป้าแกจะบอกภาษาพาร์เซลมันเรียนกันได้แบบดัมเบิลดอร์พูดภาษาเงือกน่ะ แล้วรอนก็ไม่ได้เข้าใจความหมาย แค่เลียนเสียงเพราะได้ยินแว่นพูดบ่อย แต่กูก็รู้สึกแม่งไม่เมคเซนส์อยู่ดี เล่มหนึ่งแม่งโครตย้อนแย้งไปมามากมาย อย่างตอนต้นเรื่องห้ามนักเรียนเข้าป่าเพราะอันตรายถึงชีวิต แต่โดนทำโทษให้เข้าป่าไปกับแฮกริดเฉย แล้วแฮกริดแม่งก็นะ.... แยกเด็กออกเป็นสองกลุ่มอีก มันบ้าป่ะ นี่เด็กปีหนึ่งนะเว้ย ไปเจอตัวอะไรก็ไม่รู้ที่ฆ่าสัตว์ตาย มันคิดเรื่องความปลอดภัยบ้างป่ะเนี่ย
>>576 เมื่อไหร่มึงจะจบประเด็นแฮร์จินซักที เขาไปเรื่องอื่นกันเป็นชาติแล้วมึงยังจะลากเข้าประเด็นเหี้ยนี่อีก ถ้ามึงเป็นคนชิปคู่นี้จริง ทำแบบนี้ไม่มีใครเขาอยากชิปหรือเห็นดีเห็นงามกับเหตุผลมึงหรอก มีแต่จะรำคาญอยากให้มึงไปให้พ้นๆด้วยซ้ำ แต่ถ้ามึงคือเฮทเตอร์มาปั่นให้คนเกลียดคู่นี้ ขอบอกเลยว่ามึงทำสำเร็จ จากที่กูเฉยๆกลายเป็นกูเกลียดคู่นี้เพราะมึงคนเดียวเลยนะ ดีใจมั้ยล่ะ
เรื่องความไม่สมเหตุสมผลในแฮร์รี่แม่งมีอะไรให้คุยตั้งเยอะ อย่างเรื่องที่โวลดี้มันคิดว่ามันเข้าถึงห้องต้องประสงค์ได้คนเดียวเลยเอาของไปซ่อน แต่จากข้าวของในห้องนั้นมันก็บอกได้ว่ามีคนตั้งเยอะเข้าห้องได้ ก่อนหน้าโวลดี้มันไม่มีใครเข้ามาเลยเหรอวะ มันถึงได้คิดว่ารู้คนเดียว
เรื่องร่องรอยก็ฟังดูแปลกๆ สรุปแล้วกระทรวงเวทมนตร์รู้หรือไม่รู้ว่าพ่อมดแม่มดอายุไม่ถึงเกณฑ์เป็นคนเสกคาถา
>>586 มันน่าจะตรวจจับเฉพาะมักเกิ้ลบอร์นหรือบ้านที่อยู่ในครอบครัวมักเกิ้ลรึเปล่านะ เหมือนมีไว้เพื่อป้องกันความลับรั่วไหลเฉยๆ บ้านผู้วิเศษไม่น่าจะตรวจ เพราะปกติมอลลี่ก็ใช้เวทดูแลบ้านอยู่แล้วนี่นา แถมลูกบางคนก็โตพอจะใช้เวทมนตร์ได้แล้วอีก ขืนต้องตรวจทุกบ้านคงไม่ต้องทำอะไรละ
ประเด็นเรื่องร่องรอยที่กูพูดใน >>584 คือ มันไม่น่าจะเป็นความลับอะไรเลย เพราะคนที่จัดการเรื่องนี้คือ กอง (หรือแผนก) ตรวจสอบการใช้เวทมนตร์ในทางที่ไม่ถูกต้อง ที่อยู่ภายใต้กองบังคับควบคุมกฎหมายเวทมนตร์ แปลว่าคนที่ทำงานอยู่ในกองนี้สมควรจะรู้หมดว่าไอ้เรื่องร่องรอยเนี่ยแม่งเชื่อถือไม่ได้ อย่างอาเธอร์ วีสลีย์ต้องรู้แน่ว่าลูกๆ ของเขาสามารถใช้เวทมนตร์ในบ้านได้ แต่เรื่องนี้ป้าอาจแถว่า ถึงอาเธอร์จะรู้ แต่ก็คงไม่บอกลูกๆ เพราะไม่อยากให้วุ่นวาย แต่ลูเซียส มัลฟอยล่ะ กูมั่นใจมากๆ ว่าระดับลูเซียสแม่งรู้แน่ๆ ว่าลูกตัวเองสามารถใช้เวทมนตร์ในบ้าน (หรือในตรอกไดแอกอน) ได้โดยที่กระทรวงไม่มีทางตรวจเจอ และระดับลูเซียสแม่งคงไม่คิดปกปิดเรื่องนี้กับเดรโกแน่ๆ
>>589 ว่าไปกูอยากดูหนังที่เด็กเรเวนคลอเป็นตัวนำว่ะ เหมือนนิวท์กับสัตว์วิเศษอะ อยากเห็นการชิงไหวชิงพริบแบบหักเหลี่ยมโชว์สกิลเด็กเรเวนคลอ แนวๆสืบหาพ่อมดที่ทำฆาตกรรมแบบตรวจสอบร่องรอยไม่ได้ แล้วให้ลุ้นว่าใครเป็นคนร้ายเงี้ย หนังสเกลเล็กๆไม่ต้องยิ่งใหญ่มากก็ได้ แต่เท่าที่อ่านในพอตเตอร์มอร์เหมือนพวกเรเวนคลอนี่จะออกแนวเนิร์ดหรือไม่ก็อัจฉริยะสติเฟื่องกันซะส่วนใหญ่ แต่กูก็อยากเห็นแบบที่ว่ามาจริงๆนะ
ในเรื่องก็บอกไม่ใช่เหรอ ว่าพ่อแม่พยามปิดลูก เพื่อไม่ให้ลูกใช้เล่นๆ เพราะกลัววุ่นวายจากความซน
>>584 ไม่รู้ มันตรวจแค่ว่ามีร่ายเวทย์มั้ย แต่ถ้าอยู่ในบ้านพ่อมดแม่มดก็ปล่อยผ่านไป
>>589 ในเรื่องกึ่งๆ แถว่าผู้วิเศษต้องใช้เวทย์ผ่านไม้กายสิทธิ์เท่านั้นนะ พลังถึงจะเสถียร แต่ Pottermore ดันบอกว่าผู้วิเศษสายแอฟริกาใช้เวทย์ได้จากปางมือ
>>592 น่าจะเฮอร์ ตอนที่พูดเรื่องไม้กายสิทธิ์ของแฮรี่เสกคาถาสู้โวลดี้ได้เองตอนเล่ม 5 ไม่ก็พูดเรื่องไม้เอลเดอร์ แต่มันหมายความว่าใช้ทุกอย่างเป็นสื่อได้หมดมากกว่านะ ไม่ได้หมายความว่าร่ายเองได้
เรื่องไม้เอลเดอร์ในหนังก็อีกประเด็น คือแม่งเห็นไม้โต้งๆ ขนาดนั้นไม่รู้ได้ไงวะว่าเป็น (กิ่ง) ไม้เอลเดอร์ ไม้คนอื่นยังเอามาขัดมาเหลาให้เป็นแท่ง อีนี่ในหนังแม่งกิ่งไม้ตรงๆ เลย ทำใมไม่มีใครรู้ตัวกันวะ
>>593 เข้าใจว่าดัมเบิ้ลดอร์ก็ทำไม่ได้ เล่ม 7 ที่สเนปหนีไปทางหน้าต่าง มักกอนนากัลยังแซะเลยว่าตกไปไม่ตายหรอก เขามีไม้กายสิทธิ์ ไม่เหมือนตอนดัมเบิ้ลดอร์
รู้สึกว่าในวัฒนธรรมใช้ไม้ ต้องเก่งระดับดัมเบิลดอร์-โวลด์มั้งนะ ถึงจะร่ายแบบไม่ใช้ไม้ได้อย่างแม่นยำ
ในหนังสือ ถ้าจำไม่ผิดตอนที่ดัมเบิลดอร์ไปหาทอมในโรงเลี้ยงเด็กไม่ได้ใช้ไม้ในการจุดไฟเผาตู้เสื้อผ้าทอม
ทอมตอนเด็กก็ไม่ใช้ไม้ในการไต่หน้าผาลงไปที่ถ้ำริมทะเล (กูนับว่าเป็นการใช้เวทย์แบบโฟกัสละกัน ไม่เหมือนแฮร์รี่ที่เสกกระจกหายแบบไม่ตั้งใจ)
ปล. ในหนังสือมีพ่อมดที่เทพที่สุดอยู่นะเออ ไม่ใช้ไม้คนกาแฟแถมอ่านหนังสือสตีเฟน ฮอว์คกิ้งอีก เทพ เทพ เทพ
https://i.imgur.com/37s3kYF.gif
>>594 เขาคิดว่าเป็นลวดลายไม้มั้ง เพราะไม้ลายแปลกๆก็มีอยู่ตั้งเยอะ
แต่กูก็สงสัยประเด็นที่ทุกคนดูตกใจมากที่โวลดี้มันบินได้แบบไม่ต้องใช้ไม้กวาด โลกเวทย์มนต์มันไม่มีคาถาทำให้เหาะเหินเดินอากาศได้เรอะ แนวๆเอาคาถาวิงกาเดียมเลวีโอซ่ามาผสมกับคาถาอื่นๆน่ะ หรือไม้กวาดก็เป็นอุปกรณ์ช่วยเหาะเพียงอย่างเดียวของพ่อมด
มือไปโดนปุ่มส่ง ยังพิมพ์ไม่จบ
ไม้กวาดก็เป็นอุปกรณ์ช่วยเหาะเพียงอย่างเดียวของพ่อมด เหมือนที่ไม้กายสิทธิ์ก็เป็นสื่อกลางใช้พลังเวทย์แค่อย่างเดียวของพ่อมดน่ะ
>>579 ต้องเข้าใจก่อนว่าเล่มหนึ่งป้าเขียนด้วยอารมณ์แบบนิทานเด็กอะ สังเกตสำนวนการบรรยายต่างๆ จะมีการแทรกมุกตลก (อารมณ์คนเขียนล้อความเพี้ยนของโลกเวทมนตร์ของตัวเอง) อยู่ตลอด เนื้อหาหลายตอนก็ไม่สนใจตรรกะใดๆ (เอาหมาสามหัวมาไว้ในโรงเรียน เลือกป้องกันของสำคัญด้วยการสร้างด่านเหมือนเกมทั้งที่มันมีเวทมนตร์ป้องกันต่างๆ ที่ชัวร์กว่านั้นเยอะ ลงโทษเด็กด้วยการให้เข้าป่า หรือบวกคะแนนให้บ้านพระเอกชนะแบบดื้อๆ) แต่เอาตัวรอดไว้ได้เพราะสำนวนการเขียนมันออกแนวกึ่งเล่นกึ่งจริง เลยอ่านผ่านไปได้แบบไม่ซีเรียสมาก ทีนี้พอเล่มหลังๆ มันออกโทนซีเรียส เวทมนตร์อะไรต่างๆ ต้องมีกฎชัดเจน ความเพี้ยนในเล่มหนึ่งมันเลยยิ่งโดดออกมาแบบเห็นได้ชัด
>>588 กุเข้าใจว่ากฎเรื่องเสกคาถานี่มันเอาไว้ใช้เพื่อคุมพวกมักเกิ้ลบอร์นเป็นหลักว่ะ คือพวกบ้านพ่อมดก็อาจจะมีละเมิดกันบ้าง แต่กระทรวงก็ปล่อยๆ ไปเพราะตรวจจับลำบาก ให้เป็นหน้าที่พ่อแม่อบรมลูกกันเอง
เออ อีกเรื่องที่ไม่เมคเซนส์คือไม้กายสิทธิ์ของรอนในภาคแรกไง ที่บอกว่าได้ไม้เก่ามาจากบิล (หรือชาลี? น่าจะบิลนะ) เห็นบอกว่าบิลใช้จนขนหางยูนิคอร์นเกือบจะโผล่ทะลุออกมาจากปลายไม้ มันจะเป็นไปได้ยังไงวะ ไม่ใช่ดินสอนะโว้ย แล้วไหนบอกว่าไม้กายสิทธิ์มันเป็นของคู่มือพ่อมดไง ทำไมมียกให้คนอื่นด้วยเนี่ย
นั่นดิ โอลิแวนเดอร์บอกว่าจะไปเอาไม้คนอื่นมาใช้ มันก็ใช้ได้ไม่ดีเท่ากับไม้ที่เกิดมาเพื่อเป็นของเราน่ะ แต่รอนใช้ไม้คนอื่นแบบยกให้กันได้ง่ายๆเลยนี่นะ ยิ่งตอนหลังมาเจอกฎเรื่องไม้สวามิภักดิ์เจ้าของใหม่ หรือไม้จะต่อต้านถ้าไม่ใช่เจ้าของไปจับต้อง อย่างเสื่อมสภาพไปเอง หรือปิดตายตัวเองไม่ยอมให้ใช้งาน กูก็รู้สึกว่าที่รอนใช้ไม้เก่าของพี่มันไม่เกิดอะไรขึ้นเรอะ
ในเรื่องก็มีคนเอาไม้กายสิทธิ์ของคนอื่นมาใช้บ่อย มัลฟอยก็เอาของแม่ตัวเองมาใช้ กรณีนี้ถ้าเอาตามลอจิคของโอลิแวนเดอร์ คือเจ้าของคนเก่าส่งมอบไม้ต่อให้ ไม้เลยยอมรับ หรือการมีสายเลือดเดียวกันก็ได้ ไม้ของเฟลอร์มีเส้นผมของวีร่าเพราะเฟลอมีเชื้อสายวีร่า ไม่ของรอนตกทอดจากพี่ พี่ยกไม้ให้ มันน่าจะเข้ากันได้ดีกว่า
>>603 ต้องดูว่าไม้/แกนกลางอะไรด้วยปะ เหมือนจะมีไม้หนึ่งที่จะยอมเปลี่ยนเจ้าของถ้าคนใหม่เก่งกว่าคนเดิม ของกูไม้แอช+ขนยูนิคอร์นก็จะซื่อสัตย์ต่อเจ้าของคนแรกมากสุดแล้วถ้าเปลี่ยนเจ้าของไปเรื่อยๆไม้จะตรอมใจตาย
(เขินจุง อายุก็บรรลุนิติภาวะแล้วยังอินกับควิซหลอกเด็กไม้กายสิทธิ์อีก)
แต่ไม้ส่วนใหญ่ก็มีเขียนว่าซื่อสัตย์ จงรักภักดีต่อเจ้าของกันเกือบหมดอะ กูว่ามันน่าจะขึ้นอยู่กับความยินยอมของไม้ต่อเจ้าของคนใหม่มากกว่า ถ้าไม้ยอมรับเจ้าของคนใหม่ คนนั้นก็จะใช้งานได้ไม่มีปัญหารัย
กุเข้าใจว่าการส่งมอบความเป็นเจ้าของไม้มันมีสองแบบ คือส่งให้แบบเต็มใจ กับสู้เจ้าของเก่าชนะแล้วใช้กำลังแย่งมา
จำได้ว่ามัลฟอยก็บอกนะว่าไม้ของแม่นี่ก็ใช้ได้ (คือแม่ก็เต็มใจมอบให้แหละ) แต่ก็ใช้ไม่คล่องเหมือนของเดิม
อย่างไม้รอนในเล่มแรกๆ ก็คงพอใช้การได้แต่ไม่ได้ดีมาก ถ้าอยากได้ไม้ที่ตรงกับตัวเองจริงๆ ต้องไปให้โอลิแวนเดอร์เลือกให้
ประเด็นเรื่องไม้กายสิทธิ์อันแรกของรอน มันไม่ได้เกี่ยวกับใช้ได้หรือใช้ไม่ได้เลย แต่มันอยู่ที่ว่าทำไมบิลถึงได้ยกไม้กายสิทธิ์ให้รอนต่างหาก คือบิลก็แก่กว่ารอนสักประมาณไม่ถึง 10 ปีเองปะ แล้วไม้กายสิทธิ์เนี่ยปกติเขาใช้กันตลอดชีวิตไม่ใช่เหรอ มันจะเสื่อมจะพังอะไรเร็วขนาดนั้น ไม่เมคเซนส์เลย
กรณีเดรโกเอาไม้ของแม่มาเนี่ยคนละเรื่อง เพราะเดรโกจำเป็นต้องใช้ไม้ แล้วไม่มีช่างทำไม้กายสิทธิ์แล้ว กูว่าป้าแม่งทำให้รอนดูจนเกินจริง ถึงบ้านวีสลีย์จะไม่ได้ร่ำรวย แต่รอนก็มีพี่ชายตั้งเยอะแยะ พวกเสื้อคลุมก็ใช้ของพี่ได้ หนังสือเรียนก็ใช้ต่อจากพี่ได้ กะอีแค่ไม้กายสิทธิ์ใหม่อันเดียว (ซึ่งเป็นของสำคัญสำหรับพ่อมดแม่มด) จะซื้อใหม่ให้ลูกไม่ได้เหรอ
>>608 ว่าไปกูก็สงสัยนะ ตอนจินนี่เข้าเรียนก็ไม่เห็นจะมีบอกว่าได้ของเก่าจากพี่ๆ เห็นแต่ไปซื้อร้านมือสองทั้งนั้น แต่ไม้น่าจะเป็นของใหม่ที่เข้ากับตัวเอง ของลูกคนอื่นๆไม้ก็คงเป็นของใหม่เหมือนกัน เพราะเฟร็ดกับจอร์จหรือเพอร์ซี่ก็ไม่มีบอกว่าได้ของเก่าของคนอื่นมั้ย แต่รู้สึกเพอร์ซี่ได้ของใหม่แทบทุกปีเพราะฮีได้เป็นพรีเฟคหรือสอบได้ที่ดีๆไรเงี้ย แต่ไหงรอนได้ของโละทุกสิ่งจากพี่ๆคนเดียว แบบนี้ก็สมควรให้รอนมันคิดว่าพ่อแม่ไม่ค่อยรักมันเท่าไหร่นะ 55555555555555
>>609 ตอนรอนได้เป็นพรีเฟ็ค จำได้ว่ามอลลี่พูดดีใจประมาณว่าลูกชายทุกคนได้เป็นหมดเลย แล้วแฝดก็แกล้งโกรธว่าพวกผมเป็นลูกคนข้างบ้านเรอะ
เอาจริงๆแฝดมันควรจะน้อยใจมากกว่ารอนอีกนะ โดนแม่ด่าเช้าเย็น แต่เพราะนิสัยสองคนนี้มันสบายๆเลยไม่มายด์แม่บ่น แต่รอนมันขี้น้อยใจ ถึงคนรอบข้างไม่ว่าอะไรก็คิดไปเองตลอด
>>610 เพราะรอนมันอยู่ในจุดที่มันคิดว่าด้อยกว่าคนอื่นด้วยมั้ง แถมไม่มีอะไรโดดเด่นเลย หน้าตาธรรมดา การเรียนงั้นๆ ฐานะยากจน เฟร็ดกับจอร์จถึงจะโดนแม่ด่าเช้าเย็น แต่สองคนนี้ก็เด่นดังและเป็นจุดสนใจ เป็นชีวิตแบบที่รอนน่าจะอยากเป็น มันเลยน้อยอกน้อยใจไปซะหมดทุกเรื่องเวลามีใครได้ดีกว่าตัวเอง
ไม้กายสิทธิ์อันละแค่ 7 แกลเลียนเอง ซื้อให้ลูกหน่อยเถอะ
สังคมฝรั่งเขาไม่มีการมาให้เงินทองพ่อแม่ตอนทำงานใช่มะ บ้านวีสลีย์ยังดูจ๊นจน ขนาดพี่ๆเรียนจบไปสองคน หรือเฟร็ดกับจอร์จเปิดร้านก็ยังจนเหมือนเดิม
ไอ้เรื่องใช้ของต่อจากพี่ๆพวกเมิงไม่โดนกันหรอวะ
บ้านกูฐานะกลางๆไม่เคยขัดสน แต่มีพี่หลายคนและกูดันเป็นคนสุดท้องสมัยเด็กๆใช้ของต่อจากพี่ตลอด กูยังเคยใส่เสื้อเนตรนารีแขนยาวถึงศอก กระโปรงยาวถึงแข้งเลย รองเท้านักเรียน ไม้บรรทัด กล่องดินสอ บางอันแม่งไม่ต้องวนก็ได้กูยังต้องใช้เลย ส่วนพี่กูแม่งก็ซื้อใหม่
>>620 ทีแรกกูก็สงสัยนะว่าไอ้รอนมันจะมีปมน้อยใจหรือขี้อิจฉาอะไรนักหนาวะ แต่เห็นการทรีตลูกของมอลลี่กูก็ไม่แปลกใจว่ะ สิ่งที่ไอ้รอนได้ตลอดคือของเหลือที่เขาไม่เอาแล้วถึงได้ตกมาถึงมัน แต่กับพี่น้องคนอื่นๆถึงจะได้มือสองบ้างหรือเก่าบ้าง แต่ก็มีของใหม่มาถึงมือตลอด อย่างเพอร์ซี่ที่ได้นกฮูกใหม่ เครื่องแบบใหม่ตอนได้เป็นพรีเฟค หรือตอนจินนี่จะเข้าเรียน มอลลี่ยังกลุ้มๆเรื่องค่าใช้จ่ายว่าจะไปหาเสื้อคลุมกับหนังสือตามร้านมือสอง แต่ไม้ก็ได้ใหม่นะ ส่วนรอนไม่เคยได้อะไรใหม่ๆเลย เป็นกูก็น้อยใจอยู่นะ
>>616 ไม้กายสิทธิ์ตอนหลังๆที่มีLoreเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างไม้กับพ่อมด มีที่ไม้แฮร์รี่ร่านคาถาเอง ทำให้กูมองว่ามันเป็นของใช้ส่วนตัวอย่างกางเกงในหรือแปรงสีฟันนะ ไม่มีใครเขาน่าจะรับมาใช้กันหรอกถ้าไม่มีทางเลือกจริงๆ แต่ตอนต้นเรื่องป้าคงจะไม่คิดลึกขนาดนี้เลยเขียนๆไปให้รอนใช้ไม้พี่ เนวิลล์ใช้ไม้พ่อ ก็ตามประสาป้าอ่ะ อยากใส่อะไรก็ใส่ ค่อยแถๆเอา
ปล. โควทของป้าตอนมีคนถามเรื่องรอนใช้ไม้พี่
"J.K. Rowling: As established by Ollivander, a wizard can use almost any wand, it is simply that a wand that chooses him/her will work best. Where there is a family connection, a wand will work a little better than a wand chosen at random, I think."
สัสป้า มึงเป็นคนเขียนยังจะมี"I think"อีกเรอะ มึงเขียนตามใจก็บอกมาเท้อ
ปล. Source : http://www.accio-quote.org/articles/2007/0730-bloomsbury-chat.html
ร่านคาถา...ทำไมกูมีภาพแปลกๆลอยมาในหัว
>>622 ก็ตามนั้นล่ะ เรื่องไม้กายสิทธิ์วิทยาเนี่ยป้าแกคงเพิ่งมาวางกฎให้มันในเล่มหลังๆ ที่ให้รอนใช้ไม้พี่ก็คงเพราะจะโชว์ความจน
แต่เรื่องไม้พ่อของเนวิลล์เนี่ยอาจแถได้นะ ประมาณว่าที่ตอนแรกเนวิลล์ใช้คาถากากเป็นเพราะไม้ไม่ยอมรับใช้เขาอย่างเต็มที่ (เพราะพ่อแพ้พวกเลสแตรงจ์) แต่หลังจากที่โชว์ความกล้าอะไรทำนองนั้น ไม้ก็ค่อยยอมรับใช้
ky กูว่าเริ่อง fantastic นี่ดังจริงจังแน่ๆ เพราะพี่กูผู้ไม่อ่านแฮร์รี่ ไม่ดูหนังแฮร์รี่ ยังบอกว่าน่าสนุก 5555555
>>627 มันผูกเรื่องง่ายๆ ให้คนดูสนุกแบบไม่ต้องใช้สมองขบคิดมาก ก็จับคู่พระเอกนางเอกให้ชัดเจนไปเลย พวกที่ชิบคู่อื่นก็จะได้อยู่เงียบๆ ไป ไม่ต้องมางง ถามว่าอ้าวนิวท์คู่กับอีนี่ได้ยังไง ป้าแกคงเข็ดตอนที่มีปัญหาคนไม่ชอบหน้าจินนี่อะ ป้าคงเซ็งแบบ กูวางแผนมาซะดิบดี เสือกมีพวกอ่านหนังสือไม่แตกมาบอกว่าจับยัด ไม่มีโมเมนต์ซะงั้น ถถถ
แฮร์จินเรียลที่สุดในโลกเล้ยยยย
กูอยากให้ป้าออกหนังสือแบบแฮร์รี่ ไม่เอาบทละคร กูอยากฟินกับบทบรรยายมากกว่า อีกอย่างกูว่าป้าเขียนมุกตลกเสียดสีเก่งนะ เวลาแฮร์รี่หรือใครก็ตามด่าในเรื่องนี่ทั้งฮาและเจ็บไปในเวลาเดียวกัน อย่างมัลฟอยที่ด่าเนวิลล์ว่าถ้าแกมีสมองเป็นทอง แกคงจะจนกว่าวีสลีย์ซะอีก ด่าทีเดียวได้สองดอกคือจะด่าเนวิลล์ว่าโง่ และด่ารอนว่าจนไปพร้อมๆกัน กูนี่แบบ...มัลฟอยแม่งเทพว่ะ 5555555555
>>633 กูก็จำเล่มไม่ได้เหมือนกัน แต่คุ้นๆว่าฉากนี้มันเป็นฉากหลังจากที่เนวิลล์โดนมัลฟอยหรือสเนปนี่ล่ะบุลลี่มา แล้วพวกแฮร์รี่บอกให้เนวิลล์ลุกขึ้นสู้ บอกว่าเนวิลล์มีค่ามากกว่ามัลฟอยรวมกันสิบคน เนวิลล์เจอมัลฟอยเลยเถียงไปด้วยคำนี้ กลายเป็นโดนด่ากลับมาสองเด้ง 555555555
>>633 เล่ม 1 ตอนควิดดิชนัดฮัฟเฟิลพัฟเจอกริฟฟินดอร์ มีเรื่องกันบนอัฒจันทร์ เริ่มแรกคือมัลฟอยแขวะทีมกริฟฟินดอร์ว่า เลือกเอาแต่คนน่าสงสารมาเล่น อย่างแฮร์รี่ไม่มีพ่อแม่ พวกวีสลีย์ไม่มีเงิน แล้วก็กระทบเนวิลล์ว่า เนวิลล์ควรจะไปอยู่ในทีมด้วยนะ เพราะไม่มีสมอง
เรื่องแค่นี้ยังจำไม่ได้ ก็ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมมาโวยวายไม่เข้าใจเรื่องแฮร์รี่จินนี่ ถถถ
>>639 ก็ไม่เห็นจำเป็นต้องอินเลยนี่ จะบอกว่าป้าเขียนบทรักห่วยก็ตามสะดวก แค่จะบอกว่าถ้าเป็นคนที่อ่านแบบเก็บรายละเอียดสักหน่อย ก็น่าจะเข้าใจได้ง่ายๆ ว่าป้าปูคู่จินนี่แฮร์รี่ไว้ตั้งแต่แรกแล้ว
กูไม่ได้เจาะจงด่ามึงคนเดียวหรอกนะ แต่เลื่อนไปอ่านเม้นใกล้ๆกันเห็นคนจำฉากเดรโกตีวัวกระทบคราดไม่ได้แล้วละเหี่ยใจ จะจำเป็นฉากๆ ไม่ได้เนี่ยไม่ว่ากันหรอก แต่ถ้าเคยอ่าน (ไม่ใช่แค่เปิดผ่านๆ หาฉากฟินจิกหมอนอย่างเดียว) มันก็น่าจะจำได้ปะว่าอยู่ในเล่ม 1
เนี่ยแหละคือจุดที่น่าปวดหัวของพวกที่มายืนกระต่ายขาเดียวว่าป้าจับยัดจินนี่มาให้คู่กับแฮร์รี่ คือใจคอพวกมึงจะอ่านกันแต่แบบฉากรักๆ อย่างในแฟนฟิคที่ชอบเขียนๆ กันอย่างเดียวไง ถามกันอยู่นั่นแหละว่าทำไมแฮร์รี่ถึงเพิ่งมาชอบจินนี่ตอนเล่ม 6 ทำไมไม่ชอบกันมาก่อน โถไอ้ห่า ก็เห็นๆ กันอยู่ว่าแฮร์รี่แม่งซื่อบื้อเรื่องความรักจะตาย และนิยายเรื่องนี้ก็ไม่ได้โฟกัสที่เรื่องรักกุ๊กกิ๊กหนุ่มสาวขนาดนั้นไหมล่ะ อย่าเอาแฟนฟิคคู่ชิบคู่จิ้นมาเป็นบรรทัดฐานสิ
>>642 เก่งจังเลย
พอดีกูไม่ได้เอาไว้ใช้สอบหรือทำมาหากินหนะ เลยจำไม่ได้จริงๆ ขอโทษมึงด้วยนะ
พวกมึงนี่มันแย่จริงๆ ว่ะ ป้าเค้าก็เขียนไว้อยู่ จะมาองมาอินมาจินตนาการเองเพิ่มทำไมวะ ของแบบนี้แค่จำแล้วทำความเข้าใจตามตัวอักษรเป๊ะๆก็พอแล้ว อารมณ์ความรู้สึกไรพวกมึงเนี่ย ไร้สาระ
โม่งที่จำไม่ได้ว่าฉากนั้นอยู่ตรงไหน เล่มไหน ไม่จำเป็นต้องเป็นโม่งคนเดียวกับที่บอกว่าไม่อินกับแฮร์จิน
การที่โม่งแฮร์จินฟาดงวงฟาดงาหาว่าทุกคนไม่อินแฮร์จินนี่มันต้องเป็น complex อย่างนึงแล้วว่ะกูว่า เหมือนมองคนทั้งโลกเป็นศัตรูที่ไม่ร่วมอินแฮร์จินไปกับมันอ่ะ
กูอเมซิ่งมากที่มีคนอวยอีจืดด้วย คืออีนี่ก็ไม่เคยทำคุณงามความดีอะไรให้เรื่องนี้มาก่อน โมเมนต์ก็มีแค่ติ่งตามกรี๊ดโอปป้าไปวันๆ จะหนังหรือหนังสือก็หามีความสำคัญไม่ เป็นแค่ส่วนเสริมกระจี๊ดริดขนาดที่ตัดบทออกก็ไม่ได้รู้สึกว่าเรื่องนี้ขาดอะไรไป ขนาดมีประสบการณ์โดนลอร์ดไร้ดั้งสิงก็ยังช่วยอะไรบักแว่นไม่ได้ซักอย่าง ถ้าไม่ใช่น้องรอนคงมีคนลืมไปแล้วว่าอีนี่มันใครวะ
>>648 เหมือนเคย จะอินไม่อิน ชอบไม่ชอบ ก็เรื่องของมึง แต่ยังไงมันก็ไม่ได้เปลี่ยนเรื่องที่ว่าป้าวางแผนคู่นี้มาตั้งแต่แรกแล้ว ไม่ว่ามึงจะพยายามใส่ความขนาดไหนก็ตาม
และจริงๆ บทของจินนี่ก็ไม่ได้น้อยอะไรขนาดนั้น เป็นตัวเคลื่อนเรื่องตั้งเล่มนึงเต็มๆ ยังว่าน้อยอีกเหรอ ถถถ ระวังโดนคำสาปปีศาจค้างคาวนะมึง
>>649 อือๆ ป้าวางตัวจินนี่มาตั้งแต่ต้นจ้ะ สองคนนี้คือเดสตินี่ คือพรหมลิขิตบันดาลชักพาจ้ะ กูเชื่อให้มึงแล้วนะโอเค้//เสกคำสาปสะกดใจใส่ตัวเอง
ดังนั้นเวลาเขาคุยเรื่องอื่นกันก็หยุดโยงไปหาคู่นี้ได้แล้ว มันน่ารำคาญ การที่มึงมาพูดถึงเรื่อยๆก็ไม่ได้จะมีคนชอบคู่นี้มากขึ้นหรอก มีแต่จะทำให้เขาเกลียดกับหมั่นไส้มากขึ้นเท่านั้นล่ะ
>>650 มึงจะเกลียดก็เรื่องของมึง กูห้ามความเกลียดใครไม่ได้หรอก และเอาตามตรงกูก็ไม่ได้อะไรกับจินนี่xแฮร์รี่มากนักหรอก สำหรับกูแฮร์รี่แม่งจะคู่กับใครก็ได้ จะไม่มีเมียก็ได้ จะตายตอนจบก็ได้ แล้วแต่ป้าเลย ซึ่งพอกูเห็นป้าให้แฮร์รี่คู่กับจินนี่ กูก็แบบ เออ โอเค เมคเซนส์นะ น้องสาวเพื่อน เจอกันมาตั้งแต่เด็ก ฝ่ายหญิงก็ชอบแฮร์รี่มาตั้งนานแล้วด้วย ก็ไม่คิดว่ามีปัญหาอะไร
จนกระทั่งมาเจอพวกเพ้อไม่เอาจินนี่เนี่ยแหละ ไม่เอาจินนี่ก็ไม่ว่าอะไรนะ อยากจะชิบแฮร์รี่กับคนอื่นก็เรื่องของมึง แต่ถึงขั้นมาใส่ไฟว่าป้าจับจินนี่ยัดเป็นนางเอกแบบงงๆ เนี่ยกูรับไม่ได้เลย คือไอ้เหี้ย พวกมึงอ่านหนังสือไม่แตกจริงๆ เหรอวะว่ามันก็มีเส้นเรื่องของมันอยู่ ไม่ใช่จู่ๆ ก็สร้างตัวละครที่ไหนไม่รู้มาให้คู่กับแฮร์รี่ เออ ถ้าแฮร์รี่แม่งทำโรมิลด้า เวน ท้อง แล้วต้องแต่งงานกันสิ แบบนี้จับยัดจริง
และจากที่มาอ่าน คห. ในนี้ ก็ทำให้กูเข้าใจได้ว่าพวกมึงคงอ่านหนังสือไม่แตกจริงๆนั่นแหละ ประมาณอ่านรอบนึง (หรือไม่อ่าน ดูหนังเอาอย่างเดียว) จากนั้นก็ไปตามแฟนฟิคที่เขียนเกี่ยวกับคู่ชิบที่ตัวเองชอบ ก็เลยจำเรื่องราวได้แบบมั่วๆ มโนเข้าข้างตัวเองกันไปแบบเพี้ยนๆ
เฮ้อ คนที่เกินเยียวยาแม่งเป็นงี้นี่เอง
>>657 คาถานี่กูไม่แน่ใจ แต่กูจำฉากที่ปู่ดัมกับซลักฮอร์นหันหลังชนกันซ่อมของในบ้านได้อยู่ กูเป็นพวกซุ่มซ่ามอ่ะ 555
ไหนๆ ก็ไหนๆ ฝาก ky ด้วย กูอยากรู้ระบบเลือกพรีเฟ็คกับประธานนักเรียน (หรือหัวหน้านักเรียนนะ?) คือพรีเฟ็คเลือกตอนปี 5 ใช่มะ แล้วเป็นไปอีกปีคือปี 6 ปธ.นร. นี่เลือกปี 7 ถูกมะ งั้นแสดงว่าบ้านหนึ่งๆ ก็จะมีพรีเฟ็ค 4 (ช 2 ญ 2 จากปี 5 และ 6) กูเข้าใจถูกมะ? เอ๊ะ แล้วถ้าเลือก ปธ นร ตอนปี 7 แสดงว่าพรีเฟ็คจะหมดวาระตอนปี 7 สินะ?
โม่งแฮร์จินอ่านแฮร์รี่ได้แตกฉานที่สุดในโลก แต่อ่านภาษามนุษย์ทั่วไปไม่เข้าใจ เหอๆๆๆ บัวใต้ตมมันเป็นอย่างงี้นี่เอง
กูว่าจะเมินมันหลายทีละ แต่ไม่ว่าจะคุยประเด็นอะไรแม่งก็ลากมาแฮร์จินอยู่ได้ กูเลยคันมือยิบๆอดแซะไม่ได้ทุกที ฮือ กูขอโทษทุกคนที่มันลากมาประเด็นนี้ทีไรกูก็เล่นไปกับมัน กูจะพยายามเมินให้ได้จริงๆละ
มา กูเบี่ยงประเด็นให้
ในเล่ม 7 ที่น้องดัมเบิลดอร์โดนมักเกิ้ลทำร้ายจนเสียสติเนี่ย มันทำอีท่าไหนถึงเป็นแบบนั้นวะ ส่วนตัวกูคิดว่าโดนข่มขืนว่ะ เพราะกูก็นึกไม่ออกนอกจากเรื่องนี้จริงๆว่าอะไรที่แรงมากพอจะทำลายเด็กคนนึงให้เป็นบ้าไปได้อะ
แต่การข่มขืนมันก็เป็นการแสดงอำนาจอย่างนึงนะ ไม่แน่ว่าพวกมักเกิ้ลพวกนั้นเกิดซ้อมเด็กจนนึกกลัวหรือไม่ก็อยากข่มให้รู้ว่ากูไม่กลัวมึงหรอกอีเด็กประหลาด เลยจัดการซะ
พ่อมดจับครอบครัวมักเกิ้ลห้อยหัวในเล่มสี่ ป้าแค่mentionตอนหลังว่าแค่ลบความจำแล้วปล่อยไป
มักเกิ้ลบูลลี่น้องดัมเบิลดอร์ ป้าย้ำนักย้ำหนา เมนชั่นตลอดที่มีโอกาส
ป้าแม่งpro-wizardนี่หว่า จะเห็นใจมักเกิ้ลแค่ตอนมีเฮอร์มาเกี่ยวข้องด้วยเพราะเป็นself-insertป้าเอง
กูก็คิดว่าข่มขืน คือเสียสติไปเลยเนี่ยมันต้องทำร้ายจิตใจตรงๆ เลยด้วย คิดถึงน้องผึ้งในล่าอะไรประมาณนั้น #และเพอร์ซิวาลก็กลายเป็นสร แต่ป้าเลี่ยงที่จะไม่พูดตรงๆ แค่นั้นเอง
กูก็คิดว่าถูกข่มขืนนะ ไม่ใช่แนวหื่นกระหายดักฉุดผู้หญิงเข้าพงหญ้า แต่เป็นการแสดงอำนาจให้รู้ว่ากูอยู่เหนือกว่า อาจจะไม่ได้ใช้หรรมสอดใส่โดยตรง แต่เอาอย่างอื่นมาทิ่มแทนแบบพวกไม้หรืออะไรซักอย่างที่เป็นแท่งยาวๆ
กูไม่อยากคิดว่าน้องโดนข่มขืนเลย แต่อะไรที่มันจะร้ายแรงขนาดนั้น ขนาดทำให้น้องระเบิดพลังจนปั่นป่วนได้ แต่ในเมื่อป้าไม่ได้พูดออกมาตรงๆ กูก็ขอแกล้งโง่คิดว่าน้องโดนทำร้ายจิตใจอย่างเดียวพอ สงสารน้อง
แหม เรื่องหีๆควยๆนี่มโนกันเก่งจริงๆ ขนาดป้าเล่าผ่านๆ แบบแทบไม่มีอะไรยังจะคุ้ยมาเข้าข้างตัวเองให้ได้ ทีเรื่องอย่างแฮจินที่ป้าใส่สัญลักษณ์มาเต็มเรื่องนี่เสือกมองไม่ออก ถถถ
พวกมึงว่าอาหารในฮอกวอตซ์อะไรอร่อยสุดวะ
กูติดตากับคำว่าน้ำฟักทองมาก แต่น้ำฟักทองในหัวกูก็คิดออกแค่ซุปฟักทองว่ะ
ปล่อยมันไป~ อย่างที่เป็น~
แต่เพราะเรื่องนี้ แอรีอานนาเลยกลายเป็นออบสครูเรียลด้วยใช่มะ พวกที่มีเวทมนต์แต่ไม่ยอมใช้ แต่ก็เอาออกไปจากตัวไม่ได้เหมือนกัน เลยขัดๆกันอยู่ข้างใน พอปล่อยออกมาก็พังพินาศน่ะ
>>672 ตอนเรียนมัธยม วิชาเสรีกูเข้าเรียนวิชาแกะสลัก (ตามเพื่อน) ต้องแกะฟักทองลูกโตๆ คว้านไส้มันออกมา
หลังจากนั้นมากูก็ไม่เคยชอบฟักทองเลย เหมือนดมมาแล้วทั้งชีวิต แต่แดกฟักทองทอดได้นะ เอาสิ
ตอนอ่านว่าน้ำฟักทองอร่อย กูงี้คือ สตันท์เลย...ไม่เข้าใจอ่ะ ไม่เข้าจายยยยยย 5555
>>672 กูเคยจินตนาการว่าบัตเตอร์เบียร์มันต้องอร่อยมากแน่ๆว่ะ แต่พอกูไปลองกินที่ยูนิเวอร์แซลมาแม่ง....แก้วนึงก็เล็กๆนะ แต่กูใช้เวลาเป็นชั่วโมงกว่าจะกินหมด มันเหมือนกินรูทเบียร์ผสมน้ำตาลและเนยว่ะ เป็นอะไรที่กูไม่ชอบเอามากๆ ฟีลลิ่งตอนกูกินโค้กวานิลาครั้งแรกแม่งกลับมาเลย ตอนนั้นกูก็อยากอ้วกออกเหมือนกัน 55555
เห็นฟักทองแล้วกูนึกถึงแต่ฟักทองแกงบวด 555 นึกถึงการตกแต่งด้วยฟักทองฮัลโลวีน แล้วควักเนื้อออกมากิน
กูอยากลองกินพวกลูกอมแปลกๆในเรื่องดูว่ะ แบบลูกอมกรด ลูกอมรสแมลงสาบราวๆนี้ ไม่ได้ชอบนะ แต่แค่อยากลองว่ารสชาติเป็นไง แต่กูเคยลองเยลลี่เบอร์ตี้บอตต์แล้ว รสอ้วกแม่งคืออ้วกเลยจริงๆ เคี้ยวๆไปสามสี่ครั้งทนกระเดือกลงคอไม่ไหวต้องไปคายทิ้ง 55555555
>>674 กูชอบฟักทองนะมึง ซุปฟักทองก็ชอบมาก แต่กูจินตนาการไม่ออกว่าน้ำฟักทองใส่แก้วกินกันเป็นเครื่องดื่มจะรสชาติประมาณไหน555
>>675 เออว่ะ ในหนังสือบรรยายบัตเตอร์เบียร์เอาไว้น่าอร่อยมาก แต่ของยูนิเวอร์แซลเฉยมาก กูว่าพวกสูตรของร้านน้ำในไทยอร่อยกว่าเยอะ เคยกินร้านนึงเขาใส่เป็นชากับฟองเนยอะ เรียกบัตเตอร์เบียร์แต่เป็นชานะ555 หอมๆมันๆแล้วเป็นชาหวาน(ไม่มาก)ตัดเลี่ยนดีกว่ากันเยอะ
พวกของกินโลกผู้วิเศษน่าสนใจเยอะ แต่พวกลิขสิทธิ์ที่ขายกันดันทำไม่ค่อยอร่อยเลย5555
กูเคยซื้อกบช็อคโกแลตมากินตอนมันเข้าไทยใหม่ๆ หวานแสบคอมาก กินไปไม่กี่คำก็ยกให้คนอื่น โครตเสียดายเงินเลยตอนนั้น กูอุตส่าห์เก็บค่าขนมทั้งอาทิตย์ซื้อกินเชียวนะ T_T
ไอบ้าเอ้ยยย นับถือความสามารถในการโยงเก่งนี้ 55555
กูดูแฮรรี่แล้วสงสัยว่าทำไมวอลเดอมอร์มันถึงหน้าแบนจังวะ หางหนอนมันทำอะไรทำไมหน้าจอมมารเป็นอย่างงั้นอ่ะ
โอ๊ยกูยอมแล้วสัส555555555 หาเรื่องใหม่มาคุยกับกูที กูอุตส่าห์หนีมาอาหารแล้วนะ
อ้าว กูชอบบัตเตอร์เบียร์ 55555 กูอยู่ในเมืองที่มียูนิเวอร์แซลเลยไปกินประจำ กูว่าฟองมันอร่อย หวานๆดี แต่เท่าที่ไปกับเพื่อนก็ไม่ค่อยเจอคนชอบเท่าไหร่ สงสัยกูชอบกินหวานอยู่แล้วเลยชอบมาก
ว่าแต่แจ้งแอดมินแบนโม่งแฮร์จินได้มั้ยวะ กูว่าเข้าข่ายโทรลแล้วนะแบบนี้
ตอนแรกกูว่ามึงมีเหตุผลนะ ตอนนี้กูว่ามึงเยอะไปป่ะ พวกกูมาเรื่องบัตเตอร์เบียร์แล้ว มึงโยงกลับไปทำไม ไม่ได้เกี่ยวอะไรกันเลย
กูลองแจ้งแบนใน meta ไปละ ถ้าแอดมินปล่อยผ่านก็ทำใจหน่อยนะทุกคน
จริงๆเมินมันก็ง่ายนะ โผล่มาทีมีซิกเนเจอร์ แฮร์จิน ตัวเองรู้รอบแตกฉานหนังสืออยู่คนเดียว เป็นไปได้ว่าแอดมินจะแนะนำให้เมินอะเพราะมันไม่ได้โทรลหนักขั้นสแปม ห้องอื่นๆก็มีโทรลขาประจำแอดมินก็แนะนำให้เมินงี้
เรื่องจมูกโวลเดอมอร์ จะโยงไปแฮร์จินยังไงได้บ้างวะ 555555
แจ้ง meta ไหมล่ะมึง เถียงไม่ได้แจ้งเมต้า เทพสัส คงเก็บกดกันมากสินะ เรื่องแฮจินคงไม่รู้จะไปฟ้องให้ถอดถอนกับใคร เพราะเป็น official ตอนนี้เลยได้โอกาสมาแจ้งแบนคนที่สนับสนุนแฮจินแทน
แหม ทำไปได้
มึงสนับสนุนแฮร์จินแน่เหรอวะ ทำตัวล่อตีนแบบนี้บ้านกูเรียกแอนตี้ 555555555
ใจร้อน กดส่งเร็วไปนิด กูว่ามึงเรียกร้องความสนใจ อยากให้คนมาคุยมาด่าด้วย จะได้รู้สึกดีว่ามีคนสนใจกูนะ
>>699 มึงนี่ก็อีกตัว ฟังนะ กูไม่ได้สนับสนุนใครทั้งนั้น มึงจะชิบใครก็ชิบไป ไม่ได้หนักหัวกูเลย แต่เรื่องแฮจินนี่มันชัดเจนมากๆ ว่าป้าได้วางแผนมาก่อนแล้ว จากสัญลักษณ์ต่างๆ ที่กูได้ชี้แจงไปก่อนหน้า
กลับกันด้วยซ้ำำ ต้องบอกว่าพวกที่ชิบคู่อื่นแล้วมาดิ้นๆใส่กูนี่แหละโทรล จู่ๆก็มาโมเมพูดว่าแฮจินไม่มีโมเมนต์ เรียกจินนี่เป็นอีจืดจางไม่มีบทบ้างล่ะ กูถามจริงๆ เถอะ จินนี่เนี่ยไม่มีบทเหรอวะ เป็นตัวละครรองที่เด่นพอสมควรเลยนะเว้ย เผลอๆ จะเด่นกว่าเนวิลล์อีก
ลืมบอก กูไม่ได้ชิปคู่ไหนทั้งนั้นแหละ ทำไมต้องคิดว่าคนที่บ่นรำคาญมึงเป็นคนที่ชิปคู่อื่นวะ กูก็แค่รำคาญ คนจะคุยเรื่องน้องดัมเบิลดอร์ เรื่องไม้ เรื่องจมูกโวลดี้ มึงก็ทู่ซี้ลากมาเรื่องเดิมอยู่ได้ กูเลยด่ามึงเพราะกูรำคาญ เข้าใจมั้ย กูรำคาญ มันไม่ได้เกี่ยวกับคู่ชิปห่าเหวอะไรของมึงเลยโว้ย
เพิ่งนึกได้ที่โม่งแฮร์จินเคยบอกว่าเป็นนักเขียน โชคดีนะกูเลิกอ่านนิยาย/ฟิคที่คนไทยเขียนไปแล้ว เลยรอดพ้นจากผลงานของคนประสาทแดกพรรค์นี้
>>706 คนอื่นเขาก็ก้าวข้ามเรื่องคู่ชิปไปแล้วนะ แม่งก็โยงมาหาคู่ชิปมันอยู่ได้ ปากบอกไม่สนใจ ไม่ได้อะไรมากมายกับคู่นี้ แต่ตามด่าตามเถียงคนไม่เห็นด้วยรัวๆ นี่ขนาดไม่อินนะเนี่ย ถ้าอินสงสัยคงมีข่าวคนสติไม่ดีบุกฆ่าปาดคอชิปเปอร์ดับอนาถในบ้านเพราะชิปคู่ไม่ตรงกันแหงๆ 5555555555
ปล่อยเบลอเพื่อนโม่ง
กูที่ถามเรื่องจมูกโวลดี้นะ กูสงสัยต่อถ้าเกิดมันกลับมาแบบใช้ฮอรครักซ์มันจะดีขึ้นปะวะ แบบตอนทอมภาคสองงี้
กูก็แค่ชอบชาชีสมากกว่าบัตเตอร์เบียร์แค่เนี้ย กูก็กลายเป็นคนอ่านหนังสือไม่แตกแล้วอะ กูเสียใจมากเลยมึง
>>716 กูว่ามันน่าจะบันเทิงไปอีกแบบ
ก็ทอมภาค2มันเป็นเสี้ยววิญญาณ ถ้ามันกินวิสลีย์เข้าไปได้หมดจริง ในทางทฤษฎีมันน่าจะ"เต็ม" ปะ
กูเห็นภาพเป็นฮอร์ครักซ์ทอมขึ้นมามีชีวิตของตัวเอง แล้วก็ตีกะโวลดี้ซะเองว่ะ5555
ก็พื้นฐานมันทะเยอทะยานไม่ยอมใคร ต่อให้เป็นเสี้ยววิญญาณก็ไม่ยอมวิญญาณหลักหรอก กลายเป็นโวลดี้ตีกับตัวเองในอดีตงี้555
(ยกเว้นว่าวิญญาณที่กินไปมันจะส่งหาโวลดี้ต่อโดยตรงอะนะ)
>>725 ตรงนี้กูก็ยังคิดอยู่ ว่าฮอร์ครักซ์มันดึงเสี้ยววิญญาณออกไปใส่ วิญญาณหลักก็ควรอ่อนแอลงปะ? แล้วเวลาผ่านไปมันก็ค่อยๆฟื้นตัว วิญญาณในฮอร์ครักซ์ก็แกร่งขึ้นด้วยไรงี้ แล้วมันมีสายใยโยงกัน ความแข็งแกร่งโวลดี้เลยmultiply
แต่กูก็ยังคิดอยู่ดีว่าชิ้นไดอารี่ทอมมันน่าจะเยอะกว่าเพื่อนเลยออกมาเป็นตัวได้ ละเสียชิ้นนี้น่าจะอิมแพคสักหน่อย
(แต่ชิ้นไหนๆก็ไม่เท่านากินีหรอก)
>>723 ในหนังสือฮอร์ครักซ์โดนทำลายโวลดี้มันก็ไม่ได้รู้สึกอะไรนะ เหมือนตัดขาดออกไปจากกันแล้ว ไม่ได้เชื่อมถึงกัน แต่ที่มันรีบไปตรวจที่ซ่อนทั้งหลายเพราะมันรู้แล้วว่ามีคนตามทำลายฮอร์ครักซ์ที่เป็นความลับของมันอยู่ ก่อนหน้านั้นตั้งนานไม่ไปตรวจเช็ค ปล่อยให้พวกแฮร์รี่กำจัดทิ้งไปได้ตั้งหลายชิ้น แต่ในหนังทำให้เห็นว่าโวลดี้เจ็บตอนฮอร์ครักซ์โดนทำลาย เหมือนวิญญาณยังเชื่อมถึงกันอยู่
กฎเวทมนต์ ถ้าฆ่าคนวิญญาณจะถูกฉีกออกมา พ่อมดมืดเลยพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสเอาวิญญาณตรงนี้มาใส่สิ่งของเป็นฮอครักซ์
งั้นวิญญาณเนวิลล์จะถูกฉีกไหม แม่งตัดหัวผู้หญิงนิ
เรื่องนากินีกูว่าน่าคิด ถ้านากินีตอนโดนตัดคอกลายสภาพเป็นงูโดยสมบูรณ์แล้ว ไม่เหลือจิตใจของมนุษย์อีก เนวิลล์จะยังถือว่าเป็นฆาตกรรึเปล่า
>>728 กูว่าฮอร์ครักซ์น่าจะมีเงื่อนไขการทำที่มันยุ่งยากซับซ้อนพอสมควรนะ แค่เดินดุ่ยๆไปร่ายอะวาดาใส่ชาวบ้านชาวช่องไม่น่าจะทำฮอร์ครักซ์ได้ ไม่งั้นพวกผู้เสพความตายหรือคนใช้คาถาฆ่าคนก่อนหน้านี้ก็มีฮอร์ครักซ์กันเป็นโหลแล้วดิ อาจจะต้องเคลียร์เงื่อนไขอะไรบางอย่างไปด้วยตอนสร้างก็ได้ แต่เงื่อนไขอะไรที่นอกจากฆ่าคนกูก็ไม่รู้เหมือนกัน คงเป็นคาถาหรือจิตใจมุ่งมั่นที่จะแบ่งวิญญาณมั้ง
เรื่องเนวิล กูว่า ไม่รู้ ไม่เจตนา น่าจะไม่ฉีกว่ะ
ถ้าเทียบกัน น่าจะเอาเคสนี้เทียบได้ ตอนนั้นที่ปู่ดัมบอกสเนปว่าให้ฆ่าตัวเองแทนเดรโก เพราะป้องกันไม่ให้เดรโกวิญญาณฉีกขาดหรือทุกทำลาย (จำเวิร์ดดิ้งเป๊ะๆ ไม่ได้) แล้วสเนปก็ถามว่า แล้ววิญญาณมันล่ะ ปู่ก็บอกว่าสเนปเป็นคนเดียวที่รู้ว่าวิญญาณตัวเองจะฉีกขาดไหมถ้าทำให้ปู่ที่จะตายอยู่แล้วไปสบาย (อารมณ์ทำ mercy killing อ่ะ) กูว่าสเนปวิญญาณยังสมบูรณ์เพราะเจตนาไม่ใช่การเอาชีวิต และปู่เองก็ยอมด้วย คงประมาณนั้น
>>733 ในหนังสือมีบอกเรื่องฮอครักซ์แฮร์รี่ด้วยนี่ ที่ดัมเบิลดอร์บอกว่าเกิดจากตอนโวลไปฆ่าพ่อแม่แฮร์รี่แล้ววิญญาณที่หลุดออกมาเข้าไปสิงในแฮร์รี่อะ ตอนนั้นโวลไม่น่าจะตั้งใจทำฮอครักซ์ป่าว อ่านแล้วก็งงๆว่าตกลงการทำฮอครักซ์มันยุ่งรึไม่ยุ่งวะ แฮร์รี่ถึงกลายเป็นฮอครักซ์โดยไม่ตั้งใจได้
>>736 ถ้าจะมโนหน่อยก็คงบอกได้ว่า ตอนนั้นวิญญาณของจอมมารอ่อนแอมากแล้ว พอทำการฆาตกรรมใหญ่ขึ้นรัวๆ +กับฆ่าแม่ที่ปกป้องลูก ก็เลยทำให้วิญญาณที่เปราะบางทนไม่ไหว ขาดหลุดออกมาจากร่าง แล้วเข้าไปสิงในสิ่งมีชีวิตเดียวที่อยู่ใกล้ที่สุด
อันนี้ต้องใช้จินตนาการหน่อย แถช่วยป้านี่มันก็ลำบากเหมือนกันนะ ถ้าป้าเขียนให้โมเมนต์มันชัดๆ แบบเรื่องแฮร์รี่จินนี่ ก็น่าจะมีตัวอย่างยกขึ้นมาให้มันเคลียร์กว่านี้
>>737 แฮรี่ไม่ใช่ฮอครักซ์แท้ไง คือปู่ดัมใช้คำว่า you're a horcrux he didn't intend to make เพื่อให้เห็นภาพ แต่เอาตามความจริงคือวิญญาณโวลดี้มันเข้าไปเกาะตัวแฮรี่แบบกาฝาก ไม่ได้ผ่านขั้นตอนแบบตอนทำฮอครักซ์ปกติ แฮรี่เลยมีความเชื่อมโยงกับจิตใจโวลดี้ (ฮอครักซ์ปกติต้องตัดขาดจากวิญญาณหลักแบบสมบูรณ์) แล้วเวลาเจอกันก็จะเจ็บแผลเป็น เพราะวิญญาณโวลดี้ในตัวพยายามจะกลับไปรวมกับวิญญาณหลัก โดยออกไปทางเดียวกับที่มันเข้ามา (อันนี้ป้าบอกในเว็บ ช่วงเล่มเจ็ดออกมั้ง)
กุมองว่าเคสโวลดี้ทำแฮรี่เป็นฮอครักซ์นี่มันมี condition เป็นเหตุบังเอิญหลายอย่างรวมกัน คือ 1. โวลดี้ฉีกวิญญาณตัวเองหลายรอบจนวิญญาณตอนนั้น unstable มาก 2. ร่างโวลดี้โดนคาถาสะท้อนกลับทำลายหมด เศษวิญญาณที่กระจายออกมาเลยไม่มีที่ไป และ 3. แถวนั้นไม่มีสิ่งมีชีวิตอื่นให้วิญญาณไปเกาะ นอกจากแฮรี่คนเดียว
แต่ตราบใดที่ไม่มีการเสกคาถาแบบถูกขั้นตอน แฮรี่ก็จะยังเรียกว่าเป็นฮอครักซ์ของแท้ไม่ได้ (ของแท้คือแฮรี่ต้องมองเข้าไปในหัวโวลดี้ไม่ได้เลย)
>>739 กูจำได้รางๆว่าตอนเล่ม 7 แปลไทยออกใหม่ๆก็โดนด่าเรื่องนี้ เพราะกูเคยเห็นกระทู้ด่าเบาๆในพันทิปอยู่ว่าแปลออกมาได้โครตแข็งทื่อ แล้วก็มีคนมาตอบว่าสนพ.รีบแปลมากเพราะจะให้ออกเร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ แถมกระจายงานไปให้นักแปลหลายคนแล้วมาเกลาสำนวนเอา ว่าจะขุดมาให้ดูแต่ไม่รู้กระทู้มันหายไปไหนแล้ว
>>745 ขอโทษทีละกัน ตอนอ่านมันเป็นความรู้สึกแบบ อีกแล้วเหรอวะ น่ารำคาญเหี้ยๆ
ว่าไปกูซื้อหนังสือสัตว์มหัศจรรย์เล่ม 1 มากูยังไม่ได้อ่านเลย คือกูอ่านเด็กต้องสาปที่เป็นบทละครแล้วอ่านไม่รอดว่ะ ยิ่งมาเจอเนื้อหาที่โครตเละเทะยิ่งไปกันใหญ่ ในเล่มของนิวท์นี่มันโอเคมั้ยวะ กูจะได้ฤกษ์แกะซีลออกมาอ่านซักที
มึงลองมองอีโม่งแฮจินเป็นตัวตลกดิ เหมือนโทรลคุงห้องวายอ่ะ พอมองเป็นตัวตลกราคาถูกแล้วก็รู้สึกว่าไม่ควรถือเป็นอารมณ์อะไร โบราณว่าอย่าถือคนบ้าน่ะ
นอกจาก 7 เล่มหลักกับ 3 เล่มเสริม (สัตว์วิเศษ ควิดดิช และบีเดิล) กูไม่ค่อยอยากจะให้ค่าอะไรกับงานเขียนของป้า (ในชุดแฮร์รี่) เท่าไหร่ เพราะแม่งเป็นการเอาของเก่ามาหากิน ตีความขยายเพิ่มเอง อย่างเรื่องในพอตเตอร์มอร์เงี้ย เอาแบบเนื้อๆ มันก็พอเสริมได้เป็นเกร็ดนะ แต่พอป้าแม่งพยายามจะเล่าเรื่องหลังจากที่แฮร์รี่ปราบโวลเดอมอร์ได้ (ไม่นับตอนไปส่งลูกที่สถานีรถไฟในเล่มหลัก) แม่งกลายเป็นอะไรตลกๆ ทุกที อย่างการแข่งขันควิดดิช world cup 2014 อะไรงี้ ไม่ต้องไปพูดเรื่องเด็กต้องสาปที่แม่งเอาเฮอร์เป็นคนดำ อัลบัสไปอยู่สลิธีรินเลย ไม่เมคเซนส์เหี้ยๆ เขียนเอาใจ sjw ชัดๆ
คือมันเห็นชัดๆ ว่าป้าแกไม่ได้วางแผนให้เรื่องมันเดินต่อไปแบบนี้ คือถ้าเป็นแบบเรื่องแฮร์รี่กับจินนี่ คนอ่านที่มีสมองเขาก็ยังเก็ตได้ไงว่า เออ อินไม่อินไม่รู้นะ แต่มันมีการปูเนื้อเรื่องมาก่อนจริง ไม่ได้ยัดมั่วๆแบบให้ลูกแฮร์รี่ไปเรียนสลิธีรินซะงั้น
กูว่ามองข้ามมันไปเหอะไอ้โทรลแฮร์จิน เพราะมันน่ารำคาญ แค่มันอ้าปากเรื่องแฮร์จินซ้ำไปซ้ำมาเหมือนแผ่นเสียงตกร่องก็ไม่ควรค่ากับการใส่ใจแล้ว แล้วมาเจอคำว่าขยะฟุนี้ชัดเลย ความคิดเห็นแบบนี้น่าจะมีอยู่ตัวเดียวในบอร์ดโม่งนี่ล่ะ ดังนั้นเราไม่ควรไปเสวนากับกองขยะนะมึง
กุโอเคกับพวกเกร็ดเสริมในพอตเตอร์มอร์นะ มันเหมือนรวมแบ็คสตอรี่กับเซ็ตติ้งบางอย่างที่ป้าแพลนไว้แต่ไม่ได้เล่าในหนังสือ ถึงบางอย่างกุจะคิดว่าไม่ค่อยดีก็เถอะ แต่เด็กต้องสาปนี่กุส่ายหัวรัวไม่ อ่านยังไงแม่งก็เหมือนแฟนฟิคเหี้ยๆ อ่ะ นอกจากสกอเปียสที่เขียนมาเป็นเด็กดีโคตรๆ แล้ว กุรำคาญตัวละครอื่นแม่งทุกตัวในเรื่องเลย
เด็กต้องสาปที่กูทนอ่านจบได้เพราะพ่อลูกมัลฟอยว่ะ บ้านนี้น่ารัก เหมือนจะชดเชยที่ภาค 7 มีชีวิตแย่ๆยังไงไม่รู้ แต่บ้านพอตเตอร์นี่ดิ่งเหวมาก แฮร์รี่รักลูกไม่เท่ากัน อารมณ์แปรปรวนผีเข้าผีออก ห้ามอัลบัสคบลูกมัลฟอย ขู่มักกอนนากัล และอีกหลายอย่างที่มันสวนทางกับภาคหลัก ไม่รู้ป้าให้ผ่านมาได้ไง หรือแค่เห็นเฮอร์เป็นคนดำก็รีบอนุมัติเพื่อเอาใจ sjw แล้ว
>>757 >>759 แต่กูไม่ค่อยชอบแฮะ รู้สึกเหมือนบางเรื่องก็ไม่จำเป็นจะต้องเล่าก็ได้ หรือบางเรื่องคือต้องไปตามดูในพอตเตอร์มอร์เองถึงจะเข้าใจได้มากขึ้น ถ้าป้าคิดว่ามันสำคัญก็น่าจะใส่ไปในเรื่องเลย ไม่งั้นก็ไม่พูดถึงเลยก็ได้มั้ง มันทำให้กูรู้สึกเหมือนป้าไม่ยอมจบจักรวาลนี้ แล้วยิ่งป้าสักแต่จะใส่อะไรเพิ่มแบบไม่สนความสมเหตุสมผลกับเส้นเรื่องหลักที่วางมาตอนแรกเลยมันยิ่งดูพังอะ
กุว่าพวกเกร็ดใน pottermore ก็โอเค อย่างน้อยก็อ่านฟรี ถึงจะมีแปลกๆ บ้างก็ไม่หงุดหงิดไรมาก
ตลกตรงญี่ปุ่นมี รร ชื่อเสร่อสัส แต่แฟนด้อมญี่ปุ่นไม่มีใครด่า เอาแต่วาดแฟนอาร์ตกันรัวๆ ไม่แปลกเลยถ้าป้าจะเอาใจเอเชียอยู่ประเทศเดียว 555555 (แต่กุเชื่อว่า หนัง ฟตตบ ภาคหลังๆ สตูดิโอต้องขอให้ป้าเขียนเอาใจจีนเยอะขึ้น)
ส่วนเด็กต้องสาปนี่กุลบออกจากหัวไปแล้ว 55555 คือกุเกลียดสุดที่บทมันทำร้ายตัวละครหลายตัวมากๆ อย่างการให้เซดริกกลายเป็นตัวร้ายเพราะโดนคนล้อ หรือการเขียนให้สเนปเป็นโคตรฮีโร่ เอาใจคน romanticize สเนปลูกเดียว (ส่วนตัวกุมองว่า สเนปเป็นตัวละครที่ป้าเขียนได้ดีสุดเพราะมันเทาแบบเทาจริงๆ จนป่านนี้แฟนด้อมฝรั่งที่ชอบกลับเกลียดสเนปก็ยังตีกันอยู่เลย)
>>760 กูว่าบางเรื่องป้าแกมาคิดได้ทีหลังนะแล้วค่อยมาเพิ่ม ส่วนที่คิดแล้วไม่ได้ใส่ในหนังสืออาจจะเพราะว่าถ้าใส่มันจะยาวไป (บางเรื่องก็อธิบายซะยาวเลย)
>>761 ที่ป้าเอาใจญี่ปุ่น กูคิดว่าเรื่องการตลาดด้วยแหละ เผื่อไว้เรื่องการทำฟิกเกอร์ การ์ตูน อะนิเมะ ขยายฐานตลาด อะไรแบบนี้เพราะญี่ปุ่นมีความ "โอตาคุ" ที่สุดในโลก คือชอบอะไรก็ทุ่มเทสะสมมาก ถ้าต่อไปป้าแกเอาใจจีน กูว่าคงได้เงินอีกหลาย เพราะจีนคนเยอะ คนจีนชอบและสะสมเกี่ยวกับแฮร์รี่เพิ่มขึ้นอีก 1% ก็ได้เงินอีกหลายแล้ว
>>761 ก็ญี่ปุ่นนี่ถิ่นติ่งแฮร์รี่เลยอ้ะ แถมเป็นประเทศที่ถ้าชอบก็จะทุ่มเทแบบถวายหัวและไม่ค่อยละเมิดลิขสิทธิ์ กำลังซื้อสูงมาก ออฟฟิศเชียลออกอะไรมาก็ซื้อ ถึงชื่อโรงเรียนจะบับแวร่ "ที่นี่มีเวทย์มนต์" แต่กูว่าคนญี่ปุ่นคงดีใจที่ประเทศตัวเองได้มีส่วนร่วมในจักรวาลแฮร์รี่ว่ะ
กุยอมใจพวกมึงจริงๆนะที่กล้าอ่านอีเด็กต้องสาป คือ... แค่ตามข่าวที่ออกมาก็น่าจะรู้กันอยู่แล้วนี่เนอะว่ามันไม่น่าจะใช่ canon
ต่อให้กุรักเรื่องนี้มากแค่ไหน ป่านนี้ก็ยังไม่คิดจะไปซื้อมาอ่าน
และเอาจริงๆจักรวาล fantastic beast กุยังไม่ค่อยอยากจะยอมรับเลย เพราะรู้สึกว่ามันมากไป เอาแค่เกร็ดเสิรมใน pottermore พอ
กูว่าถ้านิวท์จบ น่าจะมีหนังมาต่ออีก อาจจะเป็นเรื่องของสี่ผู้ก่อตั้งหรือเมอร์ลินเข้าเรียนฮอกวอตส์ก็ได้นะ
ทำใจเถอะ จักรวาลมันทำเงินได้เยอะขนาดนี้ ต่อให้ป้าเลิกแต่ง สักวันก็อาจจะมีเปิดให้นักเขียนคนอื่น + คนทำหนังและซีรี่ส์มาละเลงกันเหมือน Star Wars นั่นแหละ
ky ถ้าแฮร์รี่ไม่ได้คู่กับจินนี่ มึงว่าใครคืออันดับที่ 2 ในใจเจเควะ แล้วในใจมึงอยากให้แฮร์รี่คู่กับใคร
>>764 เหมือนป้าเคยออกมาตอบในทวิตว่า Canon นะ แต่เอาจริงๆ ก็อ่านทุกอย่างแหละ แค่เด็กต้องสาปนี่มันเหี้ยเกินเยียวยา แค่แถเอาพวกความนิยมดีกลับมาเฉยๆ ส่วนเรื่องพอตเตอร์มอร์กุว่าแทบจะแบ่งได้สองส่วนเลยนะ คือส่วนที่ป้าคิดไว้ก่อนแล้วอย่างพวกประวัติตัวประกอบ กับพวกที่แต่งทีหลังอย่างเรื่องเมกา ซึ่งส่วนแรกอ่ะดี แต่พวกแต่งเพิ่มนี่ meh
>>770 เนื้อเรื่องเมกากูว่าก็โอเคนะ มีพวกกลุ่มล่าแม่มดที่เอาไปอิงกับเหตุการณ์ซาเล็ม มีออบสคูเรียล หนังก็มาแนวสตีมพังค์หน่อยๆแบบที่กูชอบด้วย ฉากร่ายเวทย์ซ่อมเมืองกูว่าก็เท่ดี มันให้ฟีลแบบ เออ พ่อมดมืออาชีพเขาเป็นแบบนี้ สรุปคือกูชอบ ชอบนิวท์ เป็นคาแรคเตอร์ที่น่ารัก ดูสมเป็นเด็กฮัฟเฟิลพัฟเอามากๆเลย
พูดถึงอเมริกาแล้ว คาถาที่ใช้ในอเมริกาหรือประเทศอื่นๆจะเหมือนที่อังกฤษมั้ยวะ แบบพวกเอกซ์เปลลิอามัส หรือเป็นคำอื่นแต่ได้ผลแบบเดียวกัน
กูมาช้าไปมั้ย กูเคยซื้อน้ำฟักทองที่ USJ กิน ขวดน่ารักมาก ฝาเป็นฟักทองของเล่น แต่น้ำรสแปลกๆ เปรี้ยวๆ หน่อย สีส้มใสๆ ไม่ได้หวานข้นแบบซุปฟักทอง
วันก่อนเห็นพวกมึงคุยถึงน้ำฟักทองกัน วันนี้กูเจอร้านนึงขายน้ำฟักทองด้วย(เป็นน้ำนะ ไม่ใช่ซุป) เสียดายที่กูรีบ ไม่งั้นจะลองซื้องลองดู
USJ มีไอติมถ้วยรสบัตเตอร์เบียร์ด้วยนะ เลี่ยนน้อยกว่าแบบน้ำ ใครไปต้องลอง ขายอยู่ตรงรถเข็นหน้าห้องน้ำ
>>772 คาถาโซนยุโรปน่าจะคล้ายๆ กัน (มาจากภาษาละติน) คาถาของเมกา (ที่ใช้ไม้กายสิทธิ์) ก็มาจากพ่อมดยุโรปเพราะงั้นคงไม่ต่างกันมาก ส่วนทวีปอื่นอย่างแอฟริกา (ที่ร่ายด้วยมือเปล่า) หรือเอเชียคงไม่เหมือน
ซึ่งถ้าป้าเขียนให้นิวท์ไปลุยแอฟริกาหรือเอเชียจริง กุว่าป้าควรจ้างผู้รู้ภาษามาช่วยออกไอเดียว่ะ ป้าคิดเองคือออกมาเสร่อแน่ๆ 5555
>>776 น้ำฟักทองผิดจากที่กุคิดเหมือนกัน แต่ก็โอเคนะสดชื่นดีพอดื่มได้ โดยรวมกุว่าอร่อยกว่าบัตเตอร์เบียร์ ถ้าออกแนวหวานๆ ข้นๆ กุคงเลี่ยน
พูดถึงเด็กต้องสาป มีใครคิดเหมือนกุมั่งว่าสกอเปียสนี่โคตรจะไม่สลิธีรินเลย
ไม่ได้จะว่าเด็กสลิต้องเหี้ยนะ แต่สกอเปียสนี่ดูฮัฟเฟิลพัฟมากกว่าเยอะเลย
>>771 พูดถึงเรื่องซาเลมแล้ว ตอนอ่านครั้งแรกที่แฮร์รี่ทำการบ้านแล้วรู้เลยว่าตอนนั้นป้าแม่งยังไม่PC SJWเท่าตอนนี้ ป้าบอกว่าวิชฮันท์ส่วนใหญ่คือพ่อมดแม่มดแกล้งทำว่าเจ็บ เห็นเป็นเรื่องฮาเรื่องสนุก แต่ป้าละเว้นซาเลมไว้ที่นึงเพราะเป็นเหตุการณ์ใหญ่เลยเขียนให้ตายจริงเจ็บจริง
ถ้าเป๋นป้ายุคปัจจุบันเขียนคงเขียนให้เป็นเรื่องคอขาดบาดตายทุกที่ ไม่มีเล่นๆ
>>783 พวกพ่อมดแม่มดในอังกฤษกับยุโรปมั้งที่เห็นเป็นเรื่องสนุก คนมีหน้าที่จับมาเผาก็มักเกิ้ล แถมจับมั่วๆไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อมดตัวจริง นานๆทีตัวจริงจะโดนจับอีกต่างหาก แต่ในเมกามันมีการล่าจริงจัง มีพวกจับพ่อมดแม่มดไปประหารจริงจังด้วยฝีมือพวกเดียวกันเอง อาจจะร่ายคาถาอะไรซักอย่างที่ทำให้ขัดขืนไม่ได้ พอโดนฆ่าก็ตายจริงไปเลย กลายเป็นเรื่องคอขาดบาดตายขึ้นมาเพราะจับถูกตัว แถมยังต้องอยู่แบบหลบๆซ่อนๆเพราะกลัวถูกเปิดเผย ความกดดันมันผิดกันกับพวกที่อยู่ยุโรปเลยทำเป็นเรื่องเล่นๆไม่ได้...กูเดาว่างี้นะ
>>785 ไม่แน่ว่าตอนนั้นป้าก็คิดว่าให้เป็นเรื่องขำๆ ด้วยความที่อายุคนอ่านและอายุพระเอกมันคือวัยเด็กวัยรุ่นใกล้เคียงกัน เลยออกมาแนวนิยายเด็ก ผู้วิเศษทำอะไรก็ได้อยู่แล้ว มองให้เป็นเรื่องเล่นๆขำๆไป แต่พอนิยายดังขึ้น ความนิยมมากขึ้น คนอ่านก็โตขึ้นตามวัย ก็ต้องใส่อะไรจริงจังและความยุ่งยากซับซ้อนเข้ามาให้รู้ว่าไม่ใช่เรื่องเล่นๆอีกต่อไปนะจ๊ะ แถมเป็นการเอาใจ sjw ไปด้วยในตัว
>>787 แต่กูว่าการที่ลูกไม่เหมือนพ่อแม่หรืออยากจะแยกตัวมันดูเมคเซนส์เหมือนกันนะ ตอนอัลบัสถ้ามันเขียนให้ดูว่าทำใมอัลบัสถึงเป็นสลิธีลีนคนอาจจะยอมรับได้มากกว่านี้ อย่างแสดงความฉลาดมีไหวพริบ การปรับตัวตามสถาณะการณ์ การปรุงยา อะไรพวกนี้มันยังดูดีกว่าจับยีดลงไปเฉยๆ อีก
>>788 อย่างแสดงความฉลาดมีไหวพริบ การปรับตัวตามสถาณะการณ์ การปรุงยา พวกนี้บ้านอื่นก็เป็นได้นะ ทำไมถึงเหมารวมว่าเรื่องพวกนี้เป็นลักษณะเฉพาะของสลิธีรินล่ะ
ขนาดเนวิลล์ยังอยู่กริฟตามที่บ้านเลย ครอบครัววิสลีย์ก็อยู่กริฟกันทั้งครอบครัว แบล็กก็อยู่สลิ ต้องแตกต่างขนาดซีเรียสนั่นแหละถึงจะโดดข้ามไปกริฟ ตระกูลพอตเตอร์นี่ก็กริฟกันทั้งโคตรเหมือนกัน แถมฉากจบของเล่ม 7 อัลบัสยังกลัวนักกลัวหนาว่าจะต้องไปอยู่สลิ จนแฮร์รี่ต้องมาปลอบว่าให้ไปดีลกับหมวกคัดสรรเอาเอง มันรับฟังแน่ อัลบัสจึงค่อยคลายกังวล
แต่จู่ๆในเด็กต้องสาป แม่งเสือกให้อัลบัสไปอยู่สลิทั้งอย่างนั้น ระยำไหมล่ะมึง
>>792 ตอนแรกๆ คงคิดว่าให้คนดีอยู่ร่วมกับคนไม่ดีได้ แต่จริงๆ แล้วมันต้องมีคนดีที่โดนติดป้ายว่าเป็นคนไม่ดีบ้าง แต่เพราะพวกตัวเอกไม่ไปคบกับฝั่งสลิเลยไง แล้วป้าก็ไม่หาตัวดีๆ ฝั่งสลิให้มามีบทบ้าง เลยกลายเป็นว่าฝั่งสลิแม่งถูกเหมารวมว่า "ร้าย" หมด
เห็นตอนหลังบอกว่าเมอร์ลินก็สลินิ
กูไม่อ่านเด็กต้องสาปเพราะมองว่ามันเขียนมาเพื่อเล่นละครเป็นหลัก ควรดูแบบละครมากกว่าอ่าน ได้แต่หวังลมๆแล้งๆว่าสักวันจะได้ไปดู ว่าแต่มันยังเล่นอยู่ป่าววะ
กูเฉยๆกับการที่อัลบัสจะไปอยู่สลิ ตอนแรกหมวกก็จะส่งพ่อมันไปสลิเหมือนกัน แต่แฮร์รี่มันกลัวที่จะต้องไปสลิจากการเป่าหูของรอนและคนรอบข้างที่แม่งบิลด์ซะแบบว่าบ้านนี้มีแต่คนเลว แต่จากบทสนทนาพ่อส่งลูกไปสลิ ถ้าเจอสกอเปียสบนรถไฟแบบที่แฮร์รี่เจอรอน อัลบัสอาจจะเปิดใจว่าอยู่สลิก็ไม่ได้เลวร้ายไปซะหมดแบบที่ใครเขาว่าก็ได้
ป้าฝังความคิดมาตั้งแต่เล่มแรกแล้วว่าสลิเจ้าเล่ห์แสนกล ง่ายๆก็คือออกแนวตัวโกง แล้วคนในบ้านก็มีแต่คนหยิ่งๆเชิดๆเลือดบริสุทธิ์เป็นหลัก จะมากลับลำตอนหลังกูว่ามันสายไปหน่อยนะ ตอนเด็กๆกูอ่านละอินนะ แต่พอโตมาก็คิดได้ว่ารร.บ้าอะไรคัดแยกคนแบบนี้ ทำเหมือนเด็กห้องคิงห้องบ๊วยแต่เปลี่ยนจากเกรดเป็นนิสัย
>>798 กูว่าการคัดเด็กเข้าสลิตอนรุ่นแฮร์รี่กับก่อนหน้านั้นแม่งประหลาดมากอะ มันคัดจากอะไรวะ นิสัยเจ้าเล่ห์หัวสูงก็ไม่น่าใช่ ดูจากพวกโง่ระดับแครบกอยล์ยังอยู่สลิได้ ถ้าบอกว่าคัดจากพวกเลือดลริสุทธิ์อย่างเดียวแม่งไม่คนน้อยไปเหรอวะ ยิ่งตอนหลังใส่บทคนดีๆ ก็มีอยู่ในสลิก็ยิ่งทำให้รู้สึกชัดเจนเข้าไปใหญ่ว่าป้าสร้างบ้านนี้มาเป็นตัวร้ายล้วนๆ อะ โรงเรียนที่ไหนแม่งจะเอาเด็กเลวไปรวมกันวะ ไม่ใช่สถานกักกันซะหน่อย
KY ด้วยความอดไม่ไหว
กูอ่านคำว่า SJW ทีไร ชื่อสมเจียมลอยมาในหัวทุกที
//คนบาปเองค่าาาา
>>807 อะไรของมึง กูบอกว่ากูเฉยๆเรื่องที่อัลบัสจะอยู่สลิ มันอาจจะมีเหตุการณ์อะไรเป็นตัวแปรให้อัลบัสเปิดใจมองบ้านนี้ใหม่ระหว่างเดินทางไปโรงเรียนก็ได้ เช่นว่าเจอสกอเปียสนิสัยดีเลยคุยกันถูกคออยากเป็นเพื่อนด้วยประมาณนั้น เหมือนที่แฮร์รี่เจอรอนบนรถไฟไง
กูว่าถ้าไอ้แฮร์รี่มันไม่เจอมัลฟอยทำตัวแย่ใส่ในร้านเสื้อผ้า หรือแฮกริดกับรอนไม่บิลด์ว่าบ้านนี้มีแต่เด็กเหี้ย มันคงไม่ต่อต้านตอนหมวกจะส่งไปสลิหรอก และทุกอย่างมันก็ไม่แน่ไม่นอนซักหน่อยที่ว่าทั้งโครตเหง้าศักราชจะต้องอยู่ผูกขาดกับบ้านใดบ้านหนึ่งไปตลอด หมวกมันก็คัดแยกตามแอดติจูดหรือทัศนคติเข้าบ้านนี่หว่า
ดัมเบิลดอร์ก็บอกแฮร์รี่มีคุณสมบัติที่ซัลลาซาร์อยากได้ในตัวนักเรียนที่ลงมือคัดเลือกเองด้วย นอกจากพูดภาษาพาร์เซลได้ด้วยวิญญาณโวลดี้ในตัว หมวกมันเจอนิสัยที่ซัลลาซาร์ชอบ ในจุดนี้ก็ไม่แปลกที่มันจะอยากส่งแฮร์รี่ไปสลิเหมือนกัน
กูว่าแฮร์รี่มีนิสัยสลิธิริน เพราะก็ทะเยอทะยานพอสมควร อารมณ์แบบพวกนศหัวก้าวหน้าไปสลิคงได้เป็นแกนนำกลุ่มเท่าเทียมทางสายเลือดเหมือนเฮอร์ กูชอบประเด็นที่หมวกตอบรับคำขอเลือกบ้านเพราะแสดงว่าแท้จริงแล้วผู้ก่อตั้งก็ไม่ได้เข้มไรมากขนาดนั้นว่าคนโน้นต้องอยู่โน้นนะ อยู่นี่นะ แค่เพราะคนส่วนใหญ่ไม่กล้าที่จะแสดงความต้องการออกมา และเชื่อกันมาอย่างนั้น แฮร์รี่แหวกโดยการเลือกด้วยตัวเอง กูว่านี้เป็นสิ่งที่ทำให้ดึงดาบกริฟได้ ถ้าแฮร์รี่เลือกสลิและสลิธิรินมีดาบกูก็มั่นใจว่าเด็กแว่นก็จะดึงดาบสลิได้เหมือนกัน ส่วนตัวกูเกลียดตัวละครที่หมกมุ่นกับคำพยากรณ์มาก ดับเบิลดอเลยเป็นตัวละครที่กูไม่ชอบ
ส่วนอัลบัสไม่ว่าหมวกจะบอกบ้านไหนกูว่าสุดท้ายน้องเขาจะเลือกเองไม่เหมือนที่แฮร์รี่เลือกกริฟเพราะรอน อัลบัสไม่ได้มีข้อจำกัดเหมือนรุ่นพ่อ สุดท้ายกูว่าน้องเหมาะกับสีเหลืองมาก น้องต้องเลือกฮัฟแน่นอน!!! จำหวั่ยฮัฟสิของจริง!
>>810 ถูกต้องครับ เพราะอย่างนั้นแฮร์รี่จินนี่คือคู่ที่ป้าวางมาตั้งแต่แรกแล้ว และเป็นคู่หลักที่แท้จริงของเรื่องนี้ ส่วนคนที่อวยคู่อื่นคือพวกขี้มโน พยายามยัดเยียดสิ่งที่ผิดสู่สังคม สมควรไปตายให้หมดครับ
ปล. สมเพชความคิดมึงมากอะ ใจคอจะเสพอย่างเดียว ไม่หัดคิดวิเคราะห์บ้างเหรอวะ ถึงว่าสิว่าทำไมวงการวรรณกรรมมันถึงเตี้ยลงสาละวันเตี้ยลงอยู่แบบนี้ เพราะนักอ่านแม่งไร้สมอง คิดห่าอะไรเกินกว่าที่เขียนบอกไปตรงๆ ไม่ได้ (แต่พอเป็นเรื่องที่ตัวเองไม่ถูกใจ ต่อให้เขียนตรงๆ แม่งก็รับไม่ได้อยู่ดี เอาแต่ใจชิบหาย)
เหมือนจะมีแฟนฟิคที่แฮรี่เรียนที่สลิอยู่นะ จำได้ว่าเคยอ่านตั้งแต่ตอนอยู้ห้อง Sub นิสัยออกไปทางมัลฟอย แต่ร้ายกว่า ฉลาดกว่า เสือผู้หญิง?กว่า และโหดกว่า พูดง่ายๆ ว่าเหมือนโวลดี้เวอร์ชั่นไม่สร้างฮอร์ครักซ์ ไม่ฆ่าคน ไม่อยากครองโลกแบบวายร้าย อ่านแล้วบางอย่างก็ขัดๆ แต่บางทีก็เห็นด้วยว่าถ้าไปอยู่สลิ แฮรี่ก็คงจิสัยแบบนี้ละ
ปล. แฟนฟิคฝรั่งนะ จำชื่อไม่ได้เหมือนกัน
กูว่าตอนแรกป้าก็เขียนให้กริฟเป็นพระเอก สลิธเป็นผู้ร้ายชัดๆนั่นแหละ ตอนแรกแฮร์รี่มันมาแนววรรณกรรมเด็กไง พระเอกสีขาวมาเลย ผู้ร้ายก็ดำมาเลย สลิธตอนแรกๆมันเลยดูชั่วไปหมด ป้าคงเพิ่งมาคิดได้ทีหลังว่าควรจะให้ผู้ร้ายดูเทาๆมากกว่า หลังๆสลิธเลยดูเลวน้อยลง
จริงๆการคิดว่าบ้านไหนต้องนิสัยยังไงมันก็เป็นการ stereotype นะ หลังๆตัวละครแม่งเยอะแยะไปหมด แต่ละบ้านมันก็มีคนทุกแบบแหละ อัลบัสมันจะไปอยู่บ้านไหนก็ไม่แปลกหรอก คนเขียนบทกำหนดมา
จริงๆกูว่าถึงแฮร์รี่ไม่โดนเป่าหูเรื่องสลิธมาก่อนหมวกก็เลือดให้แฮร์รี่อยู่กริฟอยู่ดีว่ะ ที่บอกว่าถ้าอยู่สลิธแล้วจะรุ่งกูว่าก็แค่แหย่ อีกอย่างเฮอร์น่าจะอยู่เรเวนมากกว่าป่ะวะ
>>820 อย่าไปพูดแบบนี้กับไอ้ >>810 เชียว ป้าบอกว่าดำก็คือดำ เขียนไว้ชัดๆ เหรอว่าขาว ถถถถ
ล้อเล่นนะ จริงๆ ป้าแม่งเขียนไว้นั่นแหละว่าเฮอร์ผิวคล้ำขึ้นจากการไปฝรั่งเศสในเล่ม 3 เพราะงั้นก็อนุมานได้ว่าผิวของเฮอร์น่าจะขาว ถถถ แต่ก็นะ ไอ้เหี้ยนั่นคงตีความไม่ออกหรอก ป้านี่แย่จริงๆ ทำไมไม่เขียนไว้ตรงๆ เลยนะ ไม่สงสารครึ่งคนครึ่งลิงที่ยังวิวัฒนาการไม่สมบูรณ์บ้างเลย
>>824 โง่ในโง่ 1. กูไม่เคยบอกว่าจินตนาการนอกกรอบไม่ได้ 2. มึงแยกแม้กระทั่งประเด็นหลักของเรื่องไม่ได้ด้วยซ้ำ เรื่องแฮจินเนี่ยป้าเขียนไว้ตรงๆ + มีสัญลักษณ์บางอย่างสอดแทรกไว้ในเรื่อง ส่วนเรื่องที่หมวกคัดสรรเสนอให้แฮร์รี่ไปสลิเนี่ย ป้าไม่ได้เขียนไว้ตรงๆ แต่มีบางอย่าง เช่นเรื่องที่แฮร์รี่พูดภาษาพาร์เซลได้ จนดัมเบิลดอร์มาเฉลยในตอนท้ายๆ ว่าส่วนหนึ่งของจอมมารที่อยู่ในตัวของแฮร์รี่ ทำให้แฮร์รี่มี skill นี้ เลยพอจะอนุมานได้ว่า อ้อ คงเพราะหมวกคัดสรรสัมผัสได้ถึงส่วนหนึ่งของโวลเดอมอร์ในตัวของแฮร์รี่ มันเลยเสนอขึ้นมาอย่างนั้นไง
มึงใจเย็นๆ นะ ค่อยๆ ไตร่ตรองดูว่า การ "คิดเองเออเอง" กับการ "คิดตามเหตุและผล" มันต่างกันยังไง
แต่ก็นั่นแหละ กูก็ไม่ค่อยหวังอะไรกับครึ่งลิงครึ่งคนอย่างมึงหรอกนะ คือถ้าสมองมึงเป็นทอง มึงก็จนกว่าวีสลีย์ซะอีกอะ ถถถ
>>825 กูไม่ได้สนับสนุนแฮจินในรูปแบบเดียวกับที่พวกมึงพยายามจับคู่ชิบให้แฮร์รี่แล้วเอาไปติ้วหีกัน อย่างที่บอกคือแฮร์รี่จะเป็นยังไงก็ช่าง แต่ในเมื่อป้าปูมาให้คู่กับจินนี่แล้ว กูก็โอเค แล้วก็เอามาชี้แจงให้พวกมึงดูไงว่าป้าได้สอดแทรกสัญลักษณ์ที่จะส่งให้จินนี่เป็นนางเอกไว้ที่ตรงไหนบ้าง
แต่ก็นะ ที่นี่แม่งมีแต่ขยะฟุกับพวกอ่านหนังสือไม่แตกอะ เหมือนสีซอให้ควายฟัง พูดอะไรไปมันก็เข้าหูควายทะลุหูหมาหมด
keyword : อ่านไม่แตก ป้าวางมาแล้ว ดูแต่หนัง ขยะฟุ
>>829 ทำไมกูต้องออกไปอะ กูชอบแฮร์รี่พอตเตอร์ กูมีความคิดเห็นของกู และห้องนี้ใครๆ ก็เล่นได้ มึงไม่ใช่เจ้าของ และกูก็ไม่ได้ทำอะไรผิดแค่กูคิดไม่ตรงกับมึงเท่านั้น ขนาดพวกมึงโชว์ควายกันตั้งหลายรอบ ประมาณว่าเรื่องพื้นฐานยังจำผิด เรื่องหลักๆ ยังจำไม่ได้ กูยังไม่เคยไล่พวกมึงให้เลิกเล่นโม่งเลย อย่างเก่งก็แค่ไล่ให้ไปตายแค่นั้น
>>830 กูไม่ไล่มึงหรอก แต่ขออย่างนึง เวลาคนเค้าคุยประเด็นอะไรกัน มึงอย่าวกไปเรื่องอื่นได้ปะ มันทำให้ประเด็นที่คุยกันอยู่หลุดไปเพราะคนอื่นหันมาด่ามึงแทนเนี่ย เค้าคุยเรื่องอะไรกันก็คุยแค่เรื่องนั้นพอ ส่วนแฮร์จินเค้าคุยกันจบไปนานแล้ว อยากคุยเรื่องนี้ก็เปิดประเด็นใหม่ขึ้นมา
>>832 กูมีสิทธิที่จะยกประเด็นอะไรขึ้นมาพูดก็ได้ ตราบใดที่มันยังเกี่ยวข้องกับแฮร์รี่พอตเตอร์ ถ้ามึงไม่อยากคุยก็เมินกูไป ทำได้ไหมล่ะ เหมือนจะไม่ได้นะ ถถถถถ เพราะมึงถูกจี้ใจดำจากประเด็นที่กูพูดไง คือมึงไม่อยากจะยอมรับว่ากูพูดถูก แต่มึงก็หาเหตุผลดีๆ มาแย้งไม่ได้ สุดท้ายก็ออกมาดิ้นพรวดพราดกันแบบนี้
เลิกพูดเรื่องกูเถอะ เปลี่ยนมาเป็นเรื่องเบาสมองก็ได้ เดี๋ยวถ้ามีประเด็นอะไรสนุกๆ กูก็จะกลับมาคุยด้วยใหม่
ทุกคน จำไว้นะว่า "ถ้ามึงไม่อยากคุยก็เมินกูไป" จากนี้เราจะทำแบบนี้กันนะ อย่าไปเถียงเรื่องนี้อีก จะได้ไม่ต่อความยาวสาวความยืด
>>834 ว่าแต่มึงดูว่างดีนะ กูเข้ามากระทู้นี้ทีไรเจอมึงตลอดเลย ขนาดกูไม่ได้เข้ามาหลายวันละ 555555
กูมีเรื่องข้องใจอย่างนึง คือรอบตัวกูเนี่ย คนอินกับแฮร์รี่จะเป็นรุ่นที่อายุพอๆกับแฮร์รี่หรือแก๊งนักแสดงนำ หรือไม่ก็โตกว่านั้น แต่รุ่นเด็กๆที่ยังอินแฮร์รี่เนี่ย กูไม่ค่อยเจอละ เด็กมัธยมสมัยนี้ยังอินแฮร์รี่มั้ยวะ กูอยากรู้
>>836 ตอนเล่มสามสี่ออกอายุกูพอๆ กับแฮร์รี่เลยล่ะ สมัยนั้นกูโคตรตื่นเต้นกับการเฝ้ารอแฮร์รี่มาก ได้เล่มใหม่มาอยากอ่านให้จบ แต่ไม่อยากเอาไปโรงเรียน (หวง) อ่านตอนกินข้าวจ้า 555 อ่านทุกเช้าเลย (กูจำไม่ได้แล้วว่าทำไมอ่านไม่จบในวันเดียว) แต่เป็นหนึ่งอาทิตย์ที่มีความสุขมาก
กูว่าที่เด็กรุ่นใหม่ไม่อินกับแฮร์รี่เพราะมันมีอะไรให้เลือกอ่านเยอะ นิยายจีน นิยายแปลเด็ดๆ ออกมากันจนอ่านไม่ทัน
มีอะไรให้เลือกดูเยอะ หนัง ยูทูป ซีรีย์จีน ฝรั่ง เกาหลี ญี่ปุ่น เล่นเกม
กูเด็กกว่าเอมม่าปีนึง เพื่อนกูต่อให้ไม่ติ่งอะไรเลยก็เคยดูแฮร์รี่กันทั้งนั้น เล่นมุกแฮร์รี่แล้วไม่มีทางไม่เก็ทอ่ะ แต่เคยถามน้องม.5 ว่าเคยดูหรืออ่านมั้ย น้องบอกว่าเคยดูผ่านๆ ไม่เคยอ่าน ไม่สนใจ เพื่อนๆก็ไม่มีใครอินกันเลย
ของแบบนี้มันต้องต่อกระแสไปเรื่อย ๆ ขยายจักรวาลเอาอย่างstar war STAR Trek กูไม่เคยดูมาดูเพราะหนังภาคใหม่ออก แฮร์รี่ยากหน่อยเพราะไม่ใช่บทหนังสดแต่เป็นบทหนังจากหนังสือดีใจมากที่ป้ายอม
กูว่าแฮร์รี่ก็พอถือเป็นงานคลาสสิคได้ เหมือนlotr titanic ถามเด็กรุ่นใหม่ก็คงไม่ค่อยรู้จักกันแล้ว เพราะกระแสมันหายต้องรอของใหม่มาโชว์ แต่ขึ้นว่าของคลาสสิคยังไงก็ต้องมีคนหาดูคงไม่มากเพราะกระแสนิยมมันเปลี่ยนแต่ยังไงนิยายYAพ่อมดก็ยังมีน้อยมากหนังยิ่งไม่ต้องพูดถึง แฮร์รี่ทั้งเจ็ดเล่มปัจจุบันยังติดอยู่ในamazon chartมาตลอดติดมา72สัปดาห์ละ แถมติดทุกเล่มด้วย มันต้องปลุกกระแสไปเรื่อย ๆ เหมือน Hobbit ของlotr
นี่กูก็รอLOTRแบบซีรี่ย์อยู่ว่าอยู่ยังไงช่วงไหน อยากเห็นยุครุ่งเรืองของมิดเดิลเอิธ
ปล.กูอยากให้ป้าเจาะรุ่นลูกจัง แต่ก็เข้าใจเพราะมันเสี่ยง T.T คงได้แต่ย้อนอดีตไปเรื่อย ๆ ไม่แน่หมู่เราอาจได้ดูท้าวลอร์ดแบบมีจมูก อิอิ
>>836 กูเคยทำงานรีโนเวทห้องสมุดให้โรงเรียนแล้วมีคุยๆกับบรรณารักษ์บ้างเรื่องนี้ ด้วยความที่กูติ่งแฮร์รี่เลยถามว่าเด็กสมัยนี้เขายังชอบอ่านมั้ย เขาบอกว่านานๆจะมีคนยืมไปอ่านซักทีเพราะเล่มมันหนา เด็กสมัยนี้ไม่ค่อยชอบเข้าห้องสมุดอ่านหนังสือกันหรอก ฟังแล้วก็แอบนึกถึงความหลังสมัยกูอยู่มัธยมแล้วยังไม่มีปัญญาซื้อ ต้องต่อคิวลงชื่อจองหนังสือ ซึ่งกว่าจะได้อ่านแม่งก็เป็นเดือน จนกูเก็บเงินซื้อเองยังได้อ่านไวกว่า ตอนนี้แฮร์รี่แม่งนอนอยู่บนชั้นไม่มีใครมาหยิบไปอ่านเลย ก็เศร้าอยู่นะ แต่บรรณารักษ์ก็ติ่งแฮร์รี่เหมือนกูเลยได้เม้ากันยาว 5555555555555555555
>>842 จริง ตอนแฮร์รี่ออกเล่มห้า ห้องสมุดที่ร.ร.ซื้อมาต่อคิวยาวรออ่านกันเป็นเดือนๆ ส่วนกูสั่งสนพ ค่ะ 5555 ไม่ต้องแย่งใคร ตอนได้รับที่บ้านโคตรดีใจอ่ะ ขนาดต้องจ่ายตังนะ
สมัยก่อนแต่ละเล่มมีของแถมด้วยนะ กูยังมีอยู่ทุกวันนี้ สภาพเดิม ของเล่มสามเยินหน่อยเพราะเป็นที่คั่นและกูอ่านเล่มสามบ่อยสุด เล่มสี่จำของแถมไม่ได้ว่ะ เล่มห้าเหมือนจะเป็นสมุดโน้ตที่ไม่มีอะไรเลยนอกจากคำว่าแฮร์รี่ ภาคห้า (สนพ โคตรไม่ลงทุนเลย) เล่มหกมียาทำโชคดี เล่มเจ็ดแถมตำรารึเปล่าวะ
ใครสะสมตั้งแต่เล่มแรกบอกกูหน่อยว่าของแถมเล่มหนึ่งกับสองคืออะไร
โอเคกูค้นเจอเองละ 555 แต่สงสัยว่ากูจะจำผิดเองเพราะของแถมบางชิ้นมันไม่น่าประทับใจ ส่วนตัวคือกูชอบยาโชคดีมากๆ เหมือนหลุดออกมาจากในเรื่อง ตอนนั้นสนพ เตือนนักอ่านว่าอย่ากินด้วย
http://wellcomebook.lnwshop.com/product/608/รวมชุด-quotharry-potter-แฮร์รี่-พอตเตอร์-ฉบับปกอ่อนปกลายดั้งเดิมของแถมประจำเล่มquot-7-เล่มจบ-j-k-rowling
ตอนนั้นกูมีแทบทุกอันยกเว้นหมวกตอนเล่มแรก แต่ตอนนี้ของหายไปหมดตั้งแต่ตอนย้ายบ้าน
น้ำตาจะไหล คนรุ่นราวคราวเดียวกันทั้งนั้น กูทันยุคสไลธีริน แฮกริด เฮอร์ไมนี่ด้วยนะเว้ย 55555555 พวกของแถมหนังสือกูทำหายไปหมดละ เป็นเด็กไม่รักษาของ หนังสือก็เยินมาก ตอนเด็กๆกูชอบพับมุมหนังสืออ่ะ มาเปิดดูอีกทีแล้วอยากย้อนเวลากลับไปตีมือตัวเองฉิบหาย แต่กูคิดอยู่ว่าอยากซื้อยกชุดใหม่แบบสภาพดีๆ ไว้รอเจอพิมพ์ใหม่ปกโดนๆก่อน
นิยายส่วนใหญ่ กุว่ายังไงกระแสมันก็เงียบไปตามกาลเวลาว่ะ ของคลาสสิกอย่าง LOTR หรือนาร์เนีย ถ้าไม่มีคนเอามาทำหนังทำซีรี่ส์ใหม่เป็นพักๆ เด็กรุ่นใหม่ส่วนใหญ่ก็ไม่รู้จักหรอก ยิ่งเด็กสมัยนี้อ่านจอโทรศัพท์มากกว่าอ่านหนังสือด้วย (อันนี้พูดถึงในบ้านเรานะ สังคมฝรั่งกุไม่รู้)
ในอนาคตกุว่าเด็กรุ่นใหม่น่าจะจำภาพแฮรี่ได้จากหนังมากกว่าเพราะมันเสพง่าย หนังก็มีงานคอสตูมกับดีไซน์ที่ค่อนข้างเด่น คนจำได้เยอะ แล้วก็ศัพท์เฉพาะอย่าง มักเกิ้ล ที่ใช้กันเยอะจนคนที่ไม่สนแฮรี่ก็ยังรู้จักเลย อีกอย่างก็มีพวกสวนสนุกที่เป็นการขยายแบรนด์แบบสำเร็จมากๆ
พูดถึงเรื่องการแบ่งบ้านฮอกวอตส์ จริงๆ เล่ม 1 อะเป็นเล่มที่รวมตรรกะเพี้ยนๆ นับไม่ถ้วนเลย แต่คนอ่านตอนนั้นยังเด็กก็ไม่มีใครสงสัยอะไร กุนี่ยอมรับเลยว่าอ่านแล้วสะใจมากที่สลิธิรินแพ้ สมัยเด็กกุก็อยากเห็นฝ่ายดีชนะฝ่ายร้าย เอาเด็กนิสัยเสียมากองรวมกันในบ้านเดียวแล้วให้มันแพ้ไปซะ กุชอบมาก 55555 กลับกัน ถ้าป้าคิดระบบบ้านแบบสมเหตุสมผล ทำให้เรื่องมันซับซ้อนกว่านี้ ตัวกุตอนนั้นอาจจะอ่านไม่สนุกก็ได้
เห็นพวกมึงคุยกันแล้วเลยลองไปหาดูบ้างว่าหนังสือฉบับพิมพ์ครั้งแรกเป็นยังไงกันบ้างแล้ว ด้วยเหตุผลอะไรซักอย่าง ทำให้เล่มภาคหกกูเยินสุด แต่เล่มภาคห้ากูนิ้งสุด
งงสัส
มาคิดๆ ดูแล้ว ยังดีที่ในภาคหนัง เรื่องแฮร์รี่กับจินนี่เนี่ยยังไม่ชัดมาก คนก็เลยไปบูลลี่จินนี่ในหนังสือแทน ไม่เหมือนกับคนที่เล่นเป็นโชแชง ที่ได้เข้าคู่กับทั้งแฮร์รี่ ทั้งเซดริก เลยโดนบูลลี่ ถถถ นี่กูไม่อยากจะคิดเลยนะว่า ถ้าในหนังแม่งเก็บเรื่องของโชครบ คนแม่งจะเกลียดโชกันขนาดไหน ฮอตที่สุดในโรงเรียนแล้วมั้ง ได้ผู้ชายดีๆ ตลอดเลย
ทำไมซีเรียสถึงติดคุกอัซคาบันได้วะ ตรามารก็ไม่มี แถมสเนปก็มาเข้าเป็นพวกดัมเบิลดอร์ก่อนหน้าที่โวลดี้จะมาฆ่าพวกพอตเตอร์ ทำไมสเนปไม่บอกล่ะว่าหางหนอนทรยศ
แล้วทำไมดัมเบิลดอร์ถึงไม่สงสัยบ้างเลยว่า ทำไมซีเรียสที่แตกหักกับตระกูลของตัวเอง แถมยังโคครซี้กับเจมส์ถึงหักหลังเพื่อนได้ คืออย่างน้อยๆก็น่าจะต้องมาถามปะ ไม่ใช่ปล่อยให้ติดคุกอยู่เป็นสิบปี
>>855 ช่วงซิเรียสโดนจับนั่นเป็นยุคของเคราช์ปะ ที่เน้นสร้างความนิยมด้วยการเอาผู้ต้องสงสัยยัดคุกรัวๆ แบบไม่ต้องไต่สวนให้ละเอียด ซิเรียสก็ไม่ได้ปฏิเสธเพราะหมดอาลัยตายอยากไปแล้ว (ตอนนั้นคือซิเรียสเข้าใจว่าหางหนอนระเบิดตัวตายไปแล้ว ทุกคนก็เข้าใจว่าหางหนอนตายกันหมด) ซิเรียสเริ่มคิดอยากแหกคุกเพราะบังเอิญเห็นสแคบเบอร์ในหน้าหนังสือพิมพ์
เรื่องสัจจะเซรุ่ม ในเล่มหกมั้งมีบอกไว้ว่ามันไม่ใช่วิธีที่เชื่อได้เสมอไป เพราะพ่อมดที่เก่งๆ ก็ต้านอำนาจน้ำยาได้ หรือต่อให้ใช้เพนซิฟดูความจำ ก็อาจจะมีการสร้างความทรงจำปลอมหรือตัดต่อใหม่ได้อยู่ดี
>>852 กุก็โอเคกับคนที่เล่นเป็นโชแชงนะ ดูน่ารักแบบคนปกติอะ ถ้าเอาคนสวยเว่อร์ๆ แบบไอดอลจีนเกาหลีมาเล่นนี่คงดูขัดๆ แน่
เห็นพวกที่ด่าๆ กันสมัยนั้นก็เด็กผู้หญิงที่อยากจูบแดเนียลเองกันทั้งนั้น 55555
แต่คิดๆ ดูก็ดีที่สมัยนั้นยังไม่มีโซเชียล ไม่งั้นคนเล่นโดนดราม่าถล่มทลายแน่
เรื่องผู้รักษาความลับ รู้สึกในPottermoreป้าจะเขียนเสริมไว้ว่าพอเป็นแล้ว ต่อให้ใช้ครูซิโอหรือคาถาควบคุมจิตก็ไม่สามารถเอาความลับออกมาได้ แล้วซิเรียสกลัวอะไรถึงให้ปีเตอร์เป็นวะ
หรือป้าจะย้อนแย้ง ลบงานตัวเองทิ้งเขียนใหม่อีกแล้ว
>>863 "the secret can only be given up voluntarily"
https://www.pottermore.com/writing-by-jk-rowling/secret-keeper
สรุป ถ้าคนเป็นไม่ให้แบบเต็มใจ ยังไงก็เอาออกมาไม่ได้
>>859 ซิเรียสบอกว่าเคร้าช์สั่งให้ส่งเข้าอัซคาบันโดยไม่มีการไต่สวน ส่วนดัมเบิลดอร์บอกว่าดัมเบิลดอร์ยืนยันกับกระทรวงว่าซิเรียสเป็นผู้รักษาความลับ
ตอนนั้นซิเรียสเองก็ไม่ได้คิดหนีด้วย กูว่านอกจากรู้สึกผิดที่ทำเจมส์ตายแล้วอีกอย่างคือรู้ว่าตัวเองไม่ผิดอะ คงไม่คิดว่าจะถึงขนาดไม่ได้รับการไต่สวนด้วย
ky กูจำได้ว่าเล่มเจ็ดออกตอนกูอยู่ป.3 เรื่องเด็กยุคใหม่ยังอ่านแฮร์รีี่มั้ยกูก็บอกไม่ถูก เพื่อนรุ่นเดียวกับกูตอนมัธยมในกลุ่มมี10+กว่าคนไม่มีใครอ่านแฮร์รี่ (ที่ตลกคือไปเจอเพื่อนแฟนที่เป็นติ่งแฮร์รี่ (เพื่อนแฟน4-5คนมีติ่งแฮร์รี่คนเดียว) เลยคุยกันถูกคอจนกลัวว่าเพื่อนจะหึงกุหรือเปล่า) แต่พอมามหาลัยดันเจอคนที่เป็นแฟนแฮร์รี่เยอะจนตกใจหรือเพราะสังคมมันใหญ่ขึ้นก็ไม่รู้
แต่ยืนยันได้ว่าเด็กยุคใหม่ไม่ค่อยเข้าห้องสมุดกันแล้ว เศร้าใจ T_T
กูฝันมาตลอดว่าโตขึ้นอยากมีโมเม้นท์อ่านหนังสือหัวฟูอยู่ห้องสมุดแล้วมีหนุ่มฮอตแบบครัมที่เข้าห้องสมุดแค่เพราะอยากเจอ ฮืออออออ (ถึงแม้เอาเข้าจริงกูก็คงชอบคนที่ชอบอ่านหนังสือเหมือนกันอยู่ดี)
แฮร์รี่รู้ตัวว่าตัวเองชอบจินนี่ ก็ตอนที่ได้เห็นจินนี่กับดีนจูบกันแบบต่อหน้าต่อตา เลยเกิดความหึงหวงขึ้นมา กูว่ามันก็แฟร์ดีออกนะ ประมาณว่าก่อนหน้านี้มีโชอยู่ในใจ และจินนี่ก็ไม่ได้มีประเด็นอะไรกับผู้ชายอื่น (รู้ว่าไปเดต แต่ไม่ได้มาทำอะไรบัดสีต่อหน้า) ก็เลยยังไม่รู้สึกตัว
>>866 กูชอบคู่ครัมเฮอร์มากเลย หนุ่มป๊อบแต่จริงๆขี้อาย ไม่รู้จะเข้าหาสาวยังไงเลยไปนั่งแอบมองเขาในห้องสมุดทุกวัน กว่าจะได้คุยกันก็ตั้งนาน ฉากสอนออกเสียงชื่อก็น่ารักดี แล้วเฮอร์ยังเป็นคนสำคัญที่ถูกเอาลงไปใต้น้ำให้ครัมไปช่วยด้วย กูชอบอะไรแบบนี้มากกกก แต่ก็นะ ป้าแกเผาเรือกูทิ้งไปตอนจบเล่ม 4 แล้ว//ยักไหล่
>>867 แฮร์รี่กับรอนมารู้ว่าตัวเองชอบอีกฝ่ายตอนเห็นผู้หญิงไปเดตกับคนอื่นต่อหน้าต่อตาทั้งคู่เลย
ป้าโจชอบผู้ชายไทป์ซื่อบื้อปะวะ ทำไมตัวละครชายหลายคนดูช้ากับเรื่องนี้กันจัง
>>866 กูก็ชอบบ แต่กูก็ชอบคู่รอนเฮอร์ กูชอบที่รอนเปลี่ยนไปหลายอย่างเพราะเฮอร์ ประทับใจสุดคือตอนรอนบอกให้ปล่อยเอลฟ์ในเล่ม7ออกจากในครัว แอบคิดว่าถ้าเป็นรอนคนเก่าคงไม่นึกถึงเลย
เฮอร์เป็นself-insertป้า เลยเดาได้ว่าแฟนตาซีป้าคงจะเป็นมีหนุ่มฮอตAlphaมาติด แต่ป้าชอบผู้ชายBetaเลยเขียนให้ได้กะรอนแทน
ดูผัวคนปัจจุบันป้าก็ได้ หน้าตาอย่างBeta
ky กูไม่เข้าใจอ่า alpha beta คืออิหยังหว่า
ส่วนกูยังคงเดรเฮอร์ แฮร์ลู 5555
กูได้ทั้งคู่ทั้งครัมเฮอร์ เดรเฮอร์ว่ะ มันมีความกาวที่ต่างกัน 5555555
ครัมอ่ะน่ารักนะ แต่โมเม้นท์มันมาเร็วไปเร็วเกิ้น กูยังไม่ทันคิด เรือแม่งล่มไปแล้ว ส่วนเดรก็งั้นแหละ กูเป็นแนวชอบพระเอกมีปม 55555
ลืมพิมพ์ กดส่งเร็วไปหน่อย กูก็ไม่ชอบเวลารอนงี่เง่านะ แล้วกูว่ารอนเวลาอยู่กับเฮอร์คงอึดอัดในใจลึกๆ เพร่ะรอนกูว่ามันเป็นคนอยากได้รับการยอมรับ แต่เฮอร์นี่ต่อให้ยอมรอนเท่าไหร่ นางก็มีความเด่นที่รอนกดนางไม่ลงแน่ๆ ลักษณะในตัวมันขัดกันอยู่ ขนาดเอ็มม่ายังบอกเลยนี่ว่าแต่งกันจริงต้องใช้นักจิตฯ แน่ๆ คู่นี้
อ้อ อันนี้กูนอกเรื่องหน่อย ที่พวกมึงเคยว่าป้าไม่กล้าจิ้นหรือจับคู่แฮร์ลูเพราะคาร์ของลู หมายความส่าไงวะ คือโมเม้นท์สองคนนี้อิมแพตบคเยอะมากอ่ะ
ทางนี้ชอบรอนเฮอแฮะ อาจเพราะรอนดูงี่เง่าใส่เฮอหลายครั้ง และทำตัวไม่ดีก็จริง แต่กลับเข้าถึงกูได้ง่ายกว่า ครัม กับ เดร รู้สึกแนวอ่านนิยายเป็นพระเอกในฝันอ่ะ แต่ก็ชอบโมเม้นนะ ตอนเฮอเป็นคู่เต้นรำให้ครัมกูกรี๊ดมาก แต่ก็ก๊าวที่ได้เห็นรอนเงิบและหึงเฮอโดยไม่รู้ตัวไปด้วยน่ะ 555+ ส่วนเดรเฮอเคยหวีดตอนเล่มสอง แบบแนวตบจูบแต่พออ่านไปความเหยียดเรื่องเลือดสีโคลนมันลึกจนกูรู้สึกคบกันไม่ไหวแหงถ้าเดรโกไม่เปลี่ยนมาในทางที่ดีขึ้นซึ่งกว่าจะมาช่วงนั้นปาไปเกือบจบ ไม่ก็ต้องไปแฟนฟิคเด็กต้องสาปที่อัพเกรดฝั่งสลิธีรินเลย55
>>885 เอิ่ม..เท่าที่กูอ่านมาคือนักแสดงชอบตัวลูน่ามากเลยลงทุนบินจากไอร์แลนด์ไปคัดตัว(ตอนนั้นภาคสองออกแล้ว) ด้วยความที่เป็นแฟนตัวลูน่าอยู่แล้วอินเนอร์เลยได้แสดงดีจนต้องเพิ่มบทให้ อะไรคือป่วย?
คาร์ลูน่านี้บทไม่เยอะเท่าไรนะในหนังสือ มึงโดนความสวยของนักแสดงล่อลวงอะเอาจริง ถ้ามึงอ่านหนังสือมาก่อนมึงจะรู้สึกว่าลูน่าเป็นเด็กไม่เต็มเต็งที่อัจฉริยะ มีเสน่ห์ตรงความออทิสติก
เหมือนกัน เอาตรงๆ น้องแม่งได้ใจกูตั้งแต่บอกแฮร์รี่เรื่องเธสตรอลละ ตอนนั้นกูแบบ น้องมาเหนือมาก นิ่งๆ ยิ้มมุมปาก (ในความคิดกู) แล้วถึงนางจะดูฝันๆ บ้าๆ แต่นางจิตใจดีนะ เท่าที่อ่านนางไม่สนใครจะแกล้ง ไม่สนใครจะว่า นางแค่มุ่งมั่นในสิ่งที่นางคิด คือเป็นคนที่คูลมากเลยนะ
>>883 อันนี้จริงว่ะ ถ้าว่ากันตามตรง ด้วยนิสัยของเฮอร์ไมโอนี่ควรจะคบกับคนเก่งและมั่นใจในตัวเองว่ะ กูก็เลยรู้สึกว่าจะครัมหรือเดรโกก็น่าจะไปได้ทั้งนั้น สองคนนี้เป็นมาสายแบบ อาจจะไม่ได้เก่งวิชาการเท่าเฮอร์ แต่อยู่คู่กันแล้วจะไม่เสียความเป็นตัวเองหรือโดนความเก่งของเฮอร์กดข่มไว้แบบไม่รู้ตัวน่ะ
>>891 +1 กูชอบคู่นี้ตรงในช่วงเวลาที่แฮร์รี่สูญเสียซิเรียสไป ลูน่าสามารถเข้าใจแฮร์รี่และรับฟังความเจ็บปวดเขาได้ เป็นซึนหนึ่งที่กูชอบมาก ตอนอ่านจบใหม่ๆ กูก็อดเก็งไม่ได้ว่าลูน่าเพิ่งมาเล่มนี้และใส่บทมาเยอะมาก หรือว่าคนจะได้คู่กับแฮร์รี่จริงๆ เพิ่งมาปรากฏในเล่มนี้วะ จนมาเล่ม 6 โอเค กูกาวไปเอง 5555555555555
พวกที่ชอบเดรโกxเฮอร์ไมโอนี่เนี่ยรู้เลยว่าเน้นดูหนังมากกว่าอ่านนิยาย ในนิยายเดรโกแม่งเด็กสปอยเหี้ยๆ ไม่หล่อ และไม่ได้มีโมเมนต์น่าเอาใจช่วยอะไรจนกระทั่งบ้านมันเริ่มตกต่ำในเล่มหก
>>887 ก็ป่วยจริงนิ
https://en.m.wikipedia.org/wiki/Evanna_Lynch
she was hospitalised and her family consulted with the book's publisher and the hospital. Lynch then was allowed to leave for an hour and collect a signed copy of the book
แต่จะเชื่อว่าป้ายกบทรึเปล่าก็อีกเรื่อง
ในเรื่องนอกจากรอนเฮอร์ เฮอร์ครัม ก็มีแฮร์ลูกับแฮร์จินที่จบคู่ไหนกูก็โอ ลูน่าเหตุผลเหมือน >>892
แฮร์จินกูชอบตั้งแต่เล่มหนึ่งที่แฮร์รี่รู้ว่าจินนี่เป็นใครแม้ไม่มีใครบอก แฮร์รี่รู้จักจินนี่เพราะมอลลี่ดุจินนี่ตอนก่อนเข้าชานชาลา9 3/4 ตอนอยู่บนรถไฟรอนก็บอกแค่ว่าตัวเองมีพี่ชายห้าคนแล้วพอเจอบ้านวีสลีย์อีกทีตอนจบปีหนึ่ง แฮร์รี่ก็ยังจำจินนี่ได้แม้ไม่มีใครแนะนำจินนี่เลย (ชอบตอนแฮร์รี่มองมอลลี่กับจินนี่จนรถไฟออกไปไกลละมองไม่เห็นสองคนนี้อีกด้วย ตอนเด็กๆอ่านฉากนี้ก็ไม่ได้คิดอะไร คิดแค่ว่าแฮร์รี่มองเฉยๆ พอมาอ่านตอนโตขึ้นกูสะเทือนใจฉากนี้อ่ะ แฮร์รี่คงอยากให้ตัวเองมีครอบครัวมายืนส่งตอนขึ้นรถไฟแล้วรอจนกระทั่งรถไฟออกแบบที่มอลลี่กับจินนี่ทำให้ลูกและพี่ชายตัวเอง)
ละก็ชอบที่ตอนเล่ม2 เวลาจินนี่ทำอะไรเปิ่นๆเพราะเขินแฮร์รี่ นังเห็นแต่ก็ทำเป็นมองข้ามไปอ่ะ กูว่าน่ารักดี ละตอนที่จินนี่ที่เขินแฮร์รี่จนทำตัวไม่ถูกแต่ตอนแฮร์รี่โดนมัลฟอยพูดจาไม่ดีใส่ก็ก้าวออกมาปกป้อง กูแบบ เห้ออ หนูรู้กกกตัวแค่นี้เอง
เลยคอยดูตลอดว่าคู่นี้มันจะมีพัฒนาการไปยังไงมั้ย แต่ตอนจินนี่เริ่มเดทกูแอบใจเสียนะว่าคงไม่มีหวังแล้ว 555
อีกอันที่ชอบมากคือตอนแฮร์รี่โมโหแล้วรอนกับเฮอร์(ที่อยู่กับแฮร์รี่มานานและสนิทกับแฮร์รี่มากกว่าจินนี่)กลัวไม่กล้าเข้าไปคุยด้วยแต่จินสามารถ manage ได้ อันนี้กูself-insertอ่ะว่าถ้าจะมีใคร คนนั้นควร handle the best and the worst ได้
(อย่าเพิ่งด่านะ กูเห็นคนด่าแฮร์จินเยอะจนกลัว) กูว่าคู่นี้แรกๆที่ไม่มีอะไรมากเพราะแฮร์รี่ก็พยายามเว้นระยะห่างเพราะเห็นจินนี่ทำตัวไม่ถูกตอนอยู่ใกล้ตัวเอง จินนี่ก็เขินแฮร์รี่แล้วก็ตอนแรกคงชอบแฮร์รี่ในฐานะฮีโร่มากกว่า พอเห็นแฮร์เริ่มชอบโชเลยตัดใจ แฮร์รี่เห็นจินไปเดทกับคนอื่นก็คงเริ่มเบาใจ พอสองคนนี้หายเกร็งกันก็เหมือนมารู้จักกันอีกรอบในฐานะจินนี่ที่เป็นน้องสาวเพื่อนและคนร่วมต่อสู้ในกด. และแฮร์รี่ในฐานะเด็กผู้ชายคนหนึ่งไม่ใช่เด็กชายผู้รอดชีวิต แฮร์รี่ก็ได้เห็นจินในมุมที่ตัวเองไม่เคยสังเกต จินนี่ก็ได้รู้ว่าฮีโร่ที่ตัวเองชอบมากๆก็เป็นมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งมีด้านดีและแย่ เลยชอบคู่นี้มาก เหตุผลมีแค่นี้จริงๆ
ทำไมเฮอร์ไม่ได้กับครัม น่าจะเป็นเพราะว่าป้าบอกทางอ้อมว่าถึงชั้นจะสวยและฉลาด(ป้าหลงตัวเอง) ชั้นก็ไม่ตื้นเขินเหมือนพวกเด็กผู้หญิงคนอื่นที่คอยกรี๊ดกร๊าดสปอร์ตสตาร์นะยะ
สรุป รอนเลยเป็นเหมือนหมาให้เฮอร์(ตัวป้าเองทางอ้อม)จูงไปมาเพื่อที่จะอวดความเป็นผู้ใหญ่(maturity)กับความเหนือกว่าด้านสติปัญญา(intelligence superiority)
ป้าสร้างควิดดิชมาเหมือนคนไม่เคยดูกีฬา กีฬาห่าอะไรไม่มีกำหนดเวลา ไม่มีกำหนดแต้มชนะวะ อย่างที่เขียนในหนังสือควิดดิชว่ามีแมตช์ที่แข่งกันเป็นสัปดาห์แต่ซีกเกอร์ยังจับสนิชไม่ได้สักที ฟังดูยังไงก็ไม่เมคเซนส์
ทีแรกคิดว่าเฮอร์เป็นนางเอก แต่กุชิบรอนเฮอร์มาตั้งแต่อ่านเล่มแรกๆที่สองคนเล่นหมากรุกกันแล้วว่ะ เหมือนว่าเฮอร์กะรอนเลือกที่จะใช้เวลาเงียบๆด้วยกัน (ช่วงนั้นคิดว่าตัวเองเมากาวหนัก 555) ตอนเล่ม4ที่รอนหึงนี่ฟินมาก ส่วนครัมกรูอ่านแล้วทำไมกรูได้อิมเมจว่าฮีไม่ค่อยมีไหวพริบวะ เหมือนจะทื่อๆบ้าพลัง
ตอนดูหนังชิบเฮอร์เดร รู้สึกว่าแคสมัลฟรอยด์มาได้โดนใจมาก เด็กผมทอง ดูผู้ดี
>>901 อย่าว่าแต่กำหนดเวลาเลย เรื่องความปลอดภัยไม่เห็นจะมีซักอย่าง ฝนตกหนักก็เล่นกันทั้งอย่างนั้น ลูกบลัดเจอร์คลั่งแปลกๆ ก็ไม่มีคนสงสัย ยังปล่อยให้เล่นจนเกิดเรื่องได้เลย
>>904 ครัมก็ดูไม่ค่อยฉลาดจริงๆ แหละ 5555555 กูรู้สึกว่าป้าสร้างคาร์แรคเตอร์ครัมแบบพวกนีกกีฬาเมกันฟุตบอลไรงั้นอะ หล่อ เล่นกีฬาเก่ง แรงดี ฮอตในหมู่ผู้หญิง แต่จะดูไม่ค่อยฉลาดเท่าไหร่ วิธีจีบหญิงก็สไตล์แบบ ถ้าเป็นสาวๆ คนอื่นจะต้องเขินจนตกหลุมรักแน่นอน ไรงี้
>>897 เพิ่ม กูก็ชอบที่สองคนนี้จำกันได้แม้ไม่มีใครแนะนำอย่างเป็นทางการเหมือนกัน จินนี่เจอแฮร์รี่แค่ตอนแฮร์รี่มาถามวิธีเข้าไปชานชาลาที่9เศษ3ส่วน4 แล้วพอเจอแฮร์รี่อีกทีตอนเล่มสองที่แฮร์รี่ไปบ้านโพรงกระต่าย เห็นแวบเดียวก็จำได้ว่าสมาชิกคนใหม่ที่นั่งอยู่ในบ้านคือใคร แวบเดียวจริงๆ ลงบันไดมาแล้วเจอแฮร์รี่ จินนี่ก็เขินจนวิ่งกลับห้องตัวเอง (กูเข้าใจว่ารูปภาพของแฮร์รี่ตอนโตคงยังไม่แพร่หลายในสมัยนั้น ข่าวเกี่ยวกับแฮร์รี่ที่มีน่าจะตอน12ปีที่แล้ว(นับจากเล่มสอง)แล้วรูปประกอบคงเป็นรูปบ้านมากกว่ารูปคน)
เพิ่มเติมฉากที่บอกว่าแฮร์รี่จำจินนี่ได้ตอนจบปีหนึ่ง พวกแฮร์รี่ลงจากรถไฟแล้วแฮร์รี่ได้ยินเด็กผู้หญิงพูดว่า “There he is, mum, look.” ประโยคถัดมาบรรยายว่า It was Ginny Weasley.
ยืนยันตามที่ >>897 บอก เล่มหนึ่งไม่มีใครแนะนำตัวจินนี่กับแฮร์รี่แต่แฮร์รี่ก็รู้และจำได้ว่าเด็กคนนี้คือจินนี่ถึงแม้จะผ่านปีการศึกษานั้นไปโดยไม่มีเรื่องจินนี่เข้ามาเกี่ยวอีกเลย
(เรื่องที่น่าสนใจจากปีหนึ่ง: ตอนแฮร์รี่เลือกฝั่งที่นั่งบนรถไฟ แฮร์รี่เลือกนั่งตรงที่ที่เขาสามารถแอบมองและแอบฟังครอบครัววีสลีย์ที่คุยกันอยู่บนชานชาลาได้ และแม้เด็กผู้ชายบ้านวีสลีย์จะขึ้นรถไฟมาหมดแล้ว แฮร์รี่ก็ยังมองมอลลี่และจินนี่อยู่จนกระทั่งลับตา)
กูไม่รู้ว่ามี clear evidence(s) ว่าความรู้สึกชอบในเชิงหนุ่มสาวของแฮร์รี่ที่มีต่อจินนี่พัฒนาไปตอนไหนมั้ย(ไม่นับที่จู่ๆก็ปุ๊บปั๊บมาตอนเล่มหก) แต่เท่าที่อ่านกูคิดว่าแฮร์รี่สังเกตการกระทำ สีหน้าท่าทางของจินนี่อยู่ตลอดเหมือนกัน แค่ไม่ได้จดจ่ออยู่กับความคิดนั้นนานๆ
(จากเล่มสอง แฮร์รี่ถามจินนี่ว่าไปฮอกวอร์ตปีนี้เหรอ จินนี่พยักหน้าตอบแล้ว “…put her elbow in the butter dish. Fortunately no one saw this except Harry,”)
แล้วปกติพอเป็นเรื่องโช แฮร์รี่จะไม่เหลือความคิดไว้ให้เรื่องอื่นเท่าใด แต่ตอนเล่มสี่ แฮร์รี่เล่าให้รอนฟังว่าขอโช แชงไปงานเต้นรำแล้วโชบอกว่าไปกับเซดริกแล้ว ก็มีบทบรรยายว่า Ginny had suddenly stopped smiling. ทั้งที่เรื่องเล็กน้อยแบบนี้ไม่ต้องเอามาใส่ก็ได้ (แต่โอเค ป้าอาจจะแค่อยากเล่าถึงการกระทำของตัวละครรอบๆ ณ เวลานั้น ให้ครบถ้วน)
แต่ที่กูสงสัยมากกว่าคือตอนเล่ม1~4ก่อนเหตุการณ์งานเต้นรำ มันมีฉากไหนที่บอกว่ารอนกับเฮอร์ไมนี่ชอบกันมากกว่าเพื่อน แฮร์รี่ถามปาราวตีว่าจะเป็นคู่ไปงานเต้นรำด้วยได้ไหม แล้วพอพูดถึงคู่ของรอน ปาราวตีก็พูดว่า “What about Hermione Granger?” พวกมึงคิดว่าปาราวตีพูดเพราะเห็นรอนกับเฮอร์ไมนี่อยู่ด้วยกันบ่อยหรือเพราะสองคนนี้แสดงออกว่าชอบกันแล้วคนอื่นรู้(ยกเว้นแฮร์รี่)แต่ทั้งสองคนยังไม่รู้ตัว?
>>906 ขอบคุณมากที่แสดงเหตุผลให้คนพวกนี้ได้รู้ครับ เรื่องที่มึงตั้งข้อสงสัยน่ะกูยกมาหมดแล้ว แต่แม่งปิดหูปิดตากันไม่ยอมฟัง อ้อ ยังมีเรื่องหลังจากที่รอนพยายามยัดเยียดให้จินนี่ไปกับแฮร์รี่ แต่จินนี่บอกว่าเนวิลล์ชวนไปแล้ว จากนั้นจินนี่ก็เศร้า เดินจ๋อยหายไปเลย คงคิดในใจประมาณว่าไม่น่าตอบตกลงเนวิลล์
แต่เดี๋ยวไอ้พวกรับความจริงไม่ได้แม่งก็จะมาดิ้น บอกว่านี่เป็นแค่โมเมนต์ของจินนี่ฝ่ายเดียวเท่านั้น พยายามจะให้ไปหาโมเมนต์ที่แฮร์รี่แสดงออกมาแบบชัดๆ ให้ได้ว่าชอบจินนี่ก่อนเล่ม 6 โดยไม่พยายามคิดเลยว่า ตอนนั้นในใจแฮร์รี่มีแต่โชเท่านั้น จะให้ไปคิดเรื่องจินนี่จริงจังได้ไง และก่อนเล่ม 6 จินนี่แม่งยังไม่ 15 เลยนะ ใจคอมึงจะให้แฮร์รี่เคลมน้องเพื่อนที่ยังไม่แตกเนื้อสาวเต็มที่เลยเหรอ
น่าสงสารคนรับความคิดเห็นคนอื่นไม่ได้จัง
การเป็นคนเปิดกว้างไม่ได้หมายความว่าจะต้องรับฟังและเห็นด้วยกับความคิดเห็นไร้ตรรกะและไม่มีเหตุผลใดๆ มารองรับนอกจากความชอบส่วนตัวหรอกนะ
ไม่ได้อ่านนานแล้วเลยจำช่วงรอนเฮอไม่ค่อยได้ว่ะ แต่ตอนอ่านมันรู้สึกนะว่ารอนเฮอ ถ้าหนังสืออยู่กับตัวคงเปิดได้ คือบางคนอาจจะรู้สึกมันเป็นเฟรนด์โซน แต่อย่างฉากที่มัลฟอยเรียกเฮอว่าเลือดสีโคลนครั้งแรก และรอนพยายามสาปมัลฟอย (แล้วคาถาย้อนใส่ตัวเองแทน) กูชอบโมเม้นรอนเฮอตอนนั้นนะ พอเล่มสามก็ตีกันเรื่องครุชแชงส์กับแสครบเบอร์ ฉากคืนดีกันของสองคนนี้กูประทับใจอยู่พวกนี้น่ะ แล้วก็ตอนเล่ม 4 ที่ชวนเต้นรำแล้วรอนกับแฮร์รี่ช้อคที่ครัมชวนเฮอ สำหรับกูมันเป็นโมเม้นที่รอนเริ่มมองเฮอในฐานะผู้หญิง มากกว่าเพื่อนแล้วน่ะนะ คือมันจะคลุมเครือว่ามองเป็นเพื่อนก็ได้ แต่พอจากเพื่อนมาเป็นแฟนกูว่ามันน่ารักดีน่ะ ถึงเล่ม 6 จะรู้สึกป้าพยายามใส่เรื่องรักๆ เยอะไปหน่อยก็เหอะ กูชอบแบบเล่มแรกๆ ที่มีโมเม้นระหว่างเรื่องเป็นระยะมากกว่า555+
>>915 ว้าววว มโนเข้าข้างตัวเองว่าด่าคนอื่นเขาเสียหมาเลยเหยอออ ไม่คิดเหรอว่าเขาไม่อยากคุยกับมึงอีกต่อไปแล้วเป็นเพราะเบื่อและจะทำเมินๆมึงไปซะเพราะมึงมันน่ารำคาญ และเท่าที่กูจำได้ว่ามึงโผล่มาในกระทู้ทีไรก็ไม่เคยมีเรื่องดีๆแบบที่ >>906 เมนท์นะ มีแต่ไล่ด่าว่าคนอื่นเขาอ่านหนังสือไม่แตก ป้าวางไว้แล้ว แฮร์จินๆตลอดจนทำให้คนอื่นเขาเอือมเวลาเห็นมึงโผล่ออกมา กลายเป็นสิ่งไม่พึงประสงค์ในกระทู้ไปน่ะ
ใจเย็นๆกันนะ
>>908 ฉากนี้มันเป็นสิ่งที่แน่นอนอยู่แล้ว เล่มสี่จินนี่ยังไม่ move on จากแฮร์รี่เลยนะ จะเสียดายโอกาสที่ตัวเองเกือบจะเป็นคู่ควงให้แฮร์รี่แต่ก็เป็นไม่ได้เพราะตอบรับคำขอของเนวิลล์ไปก่อนก็ไม่แปลก มันไม่ได้บอกว่าแฮร์รี่สนใจจินนี่เลย จินนี่ไม่ใช่ตัวเลือกแรกๆที่แฮร์รี่จะนึกถึงด้วยซ้ำ แฮร์รี่ตอนเล่ม4-5 สนใจแต่โช แชงคนเดียว
Clear evidence ที่บอกว่าแฮร์รี่ observe จินนี่อยู่ตลอดคือตอนแฮร์รี่อยู่ปีห้า (จินนี่อยู่ปีสี่และเริ่มออกเดตกับคนอื่น) เฮอร์ไมนี่บอกรอนว่าจินนี่เดตกับไมเคิล คอร์เนอร์ รอนช็อคเพราะคิดว่าจินนี่ยังชอบและรอแฮร์รี่อยู่ ส่วนแฮร์รี่(ที่ขณะนั้นกำลังคิดถึงโช)พูดว่า “‘So that’s why she talks now?’ he asked Hermione. ‘She never used to talk in front of me.’”
การที่แฮร์รี่สังเกตได้ว่าจินนี่เริ่มพูดคุยกับแฮร์รี่บ้างแล้วถือว่าแฮร์รี่ใส่ใจในการกระทำและความรู้สึกของจินนี่มากพอจะรับรู้ได้ถึงความเปลี่ยนแปลง
และในเล่มห้าจะสังเกตได้ว่าจินนี่ไม่ประหม่าตอนเจอแฮร์รี่และสามารถเป็นตัวของตัวเองได้แล้ว เล่มห้าจินนี่(ปีสี่)ออกเดตกับสองคนคือไมเคิลและดีน แค่สองคนอาจจะบอกไม่ได้ว่าจินนี่ฮอตหรือเปล่า แต่ตอนจินนี่อายุ 13 (อยู่ปีสาม) ก็ถูกเนวิลล์ขอไปงานเต้นรำด้วยแล้ว (อาจจะเพราะเป็นน้องสาวเพื่อน but someone notices her as a girl, เฮอร์ไมนี่บอกว่าไมเคิลและจินนี่ “…met at the Yule Ball and got together at the end of last year,”)
ส่วนคำถามว่าทำไมแฮร์รี่ถึงชอบจินนี่ อันนี้ตอบยากนะ แต่กูคิดว่าแฮร์รี่ชอบจินนี่เพราะ sense of humour คล้ายกัน
เรื่องความสวย แฮร์รี่เจอคนสวยอย่างเฟลอร์ โชแต่ก็ไม่ได้ชอบเหมือนที่ชอบจินนี่(ระดับที่ไม่เห็นหน้าแต่แค่ได้ดูชื่อเธอบนแผนที่ตัวกวนก็ยังดี -จากเล่ม7)
เข้าใจว่าชอบโชเพราะเรื่องควิดดิชและสวยแต่พอใช้เวลาด้วยกันก็ไปไม่รอด ตอนไปเดตกันที่ร้านมาดามพุดดิฟุต แฮร์รี่ก็อึดอัด
ส่วนเรื่องแบ่งเบาภาระ เรื่องนี้เฮอร์ไมนี่ก็ทำได้และได้เห็นมาตลอด แต่อย่างที่คอมเม้นต์ข้างบนบอกรอนและเฮอร์ไมนี่ไม่สามารถรับมือแฮร์รี่ตอนโมโหได้ดีนัก Clear evidence คือเล่มห้า จินนี่ดึงสติแฮร์รี่ตอนโมโหได้ และฉากที่แฮร์จินกินขนมในห้องสมุด ช่วงนั้นแฮร์รี่กำลังคิดมาก ก่อนหน้านั้นเฮอร์ไมนี่ถามแฮร์รี่แล้วว่า “What’s wrong?” แฮร์รี่ไม่บอก แต่จินนี่ทำให้แฮร์รี่เปิดเผยเรื่องที่อยู่ในใจตอนนั้นได้ในท้ายสุด ตอนแรกแฮร์รี่ก็ปฏิเสธที่จะบอกจินนี่เหมือนกันนะแต่สุดท้ายก็พูดออกมา ตรงนี้ค่อนข้างชัดว่าจินนี่มีวิธีรับมือตอนแฮร์รี่ตอนดาวน์ดีกว่าคนอื่น
สังเกตว่าแฮร์รี่ชอบอยู่กับคนตลก ในเล่มสี่ แฮร์รี่กับรอนทะเลาะกัน เฮอร์ไมนี่เป็นเพื่อนสนิทแฮร์รี่ก็จริงแต่ตอนอยู่กันสองคน “Harry liked Hermione very much, but she just wasn’t the same as Ron. There was much less laughter, and a lot more hanging around in the library when Hermione was your best friend.”
กูว่าการได้อยู่กับคนที่ทำให้หัวเราะได้คงเป็นเหตุผลที่ทำให้แฮร์รี่ตกหลุมรักจินนี่
ในเล่ม 3-5 ที่มีฉากที่แฮร์รี่และจินนี่เก็ตเรื่องตลกคล้ายกันอยู่
เล่ม 3 ตอนเพอร์ซี่เจอเพเนโลพีและแต่งองค์ทรงเครื่องตัวเอง “Ginny caught Harry’s eye and they both turned away to hide their laughter”
เล่ม 5 ตอนอยู่โรงพยาบาล เจอกิลเดอรอย
“‘Hasn’t changed much, has he?’ Harry muttered to Ginny, who grinned.”
ตอนเฮอร์ไมนี่พยายามคุมตัวเองให้เห็นด้วยกับลูน่าเรื่องสนอร์แค็กเขาย่น
“Ginny caught Harry’s eye and looked away quickly, grinning.”
เล่ม 6 ไม่แน่ใจว่าที่แฮร์รี่ตลกนี่ bias เพราะชอบจินนี่หรือเปล่า แต่ตอนที่สถานการณ์ตึงเครียดจินนี่ทำให้แฮร์รี่ขำได้ ขอยกตัวอย่างอันเดียวพอ
(ทีมควิดดิชกริฟฟินดอร์กำลังเครียดเพราะรอนเล่นได้ไม่ดี)
“And Ginny, don’t call Ron a prat, you’re not the captain of this team -‘
‘Well, you seemed too busy to call him a prat and I thought someone should -”
Harry forced himself not to laugh.
ตอนท้ายเล่มหก จินนี่บอกว่าเธอ move on จากแฮร์รี่แต่ไม่เคย give up เฮอร์ไมนี่แนะนำว่าให้ลองเป็นตัวของตัวเองเผื่อแฮร์รี่จะ notice พอมองย้อนกลับไปก็อาจจะเป็นเหตุผลที่มีน้ำหนักพอว่าทำไมก่อนหน้านี้แฮร์รี่ถึงไม่เคยสนใจจินนี่เลย เพราะจินนี่ไม่สามารถแสดงตัวตนออกมาได้เต็มที่(คนสวยที่ตลก เก่งและฉลาดด้วย)
>>918 กูก็ไม่เคยชิพแฮร์จินนะ แต่เหตุผลที่มึงยกมานี่ดีกว่าไอ้โทรลนั่นเยอะมากๆๆๆๆเลย เพราะไอ้ห่านั่นแม่งยกมาแต่ฉากอะไรก็ไม่รู้ เช่นแฮร์รี่ขอโชไปงานแล้วจินนี่หุบยิ้ม ซึ่งมันไม่ได้บ่งชี้แม้แต่นิดว่าแว่นมันเริ่มชอบอย่างที่ไอ้โทรลแฮร์จินมันกล่าวอ้าง พอมึงมาชี้แจงดีๆแบบผู้ดีและสุภาพแม่งรีบมากระดิกหางดิ๊กๆสนับสนุนเชียว ทั้งที่เมื่อก่อนแม่งยกแต่เหตุผลแบบตรรกะพิการจนคนเขาเอือมระอากันแท้ๆ ไม่ได้มีความเป็นเหตุเป็นผลแบบมึงเลยแม้แต่น้อย พออ่านของมึงแล้วก็แบบ...เออ ก็เป็นรายละเอียดเล็กๆน้อยๆแบบเอาใจใส่ดีเนอะ เสียแต่ว่ามันเป็นเรื่องที่เล็กมากกกกกกกกกก แถมบางเบาแบบคนจับสังเกตได้ยากด้วย เพราะแว่นมันก็โฟกัสแค่แป๊บเดียวแล้วไปสนใจอย่างอื่นต่อ ไม่เหมือนบางเรื่องที่แว่นมันสนใจต่อเนื่อง ฉากที่มึงว่าเลยดูไม่มีความสำคัญเท่าไหร่ คนก็เลยมองข้ามไป
>>922 โอ๊ยกูขรรม ยิ่งพูดยิ่งโชว์ควาย ไอ้ที่แฮร์รี่ชวนโชแล้วจินนี่หุบยิ้มน่ะ โม่งคนนี้เขาก็ยกตัวอย่างเหมือนกูโว้ย ดู >>906
แต่ตอนเล่มสี่ แฮร์รี่เล่าให้รอนฟังว่าขอโช แชงไปงานเต้นรำแล้วโชบอกว่าไปกับเซดริกแล้ว ก็มีบทบรรยายว่า Ginny had suddenly stopped smiling. ทั้งที่เรื่องเล็กน้อยแบบนี้ไม่ต้องเอามาใส่ก็ได้ (แต่โอเค ป้าอาจจะแค่อยากเล่าถึงการกระทำของตัวละครรอบๆ ณ เวลานั้น ให้ครบถ้วน)
ถถถถถ ควายเอ๊ย
พวกมึงงงงง กูขอเถอะ เมินมันไป มันจะพิมพ์อะไรก็ปล่อยให้มันพูดคนเดียว กูรำคาญเต็มทีแล้ว คุยกันอยู่ดีๆก็ต้องมีโทรลนี่แทรกมาฉอดใส่ พวกเราอัพสกิลอิกนอร์กันสักที เห็นมันมาทีไรก็มีคนหลงไปต่อปากต่อคำกับมันตลอด มันเลยมาเย้วๆอยู่ได้แบบนี้
เออ เมินๆมันไปเหอะ กูรำคาญแล้ว อย่าไปต่อปากต่อคำกับมันเลย เสียสุขภาพจิตและทำลายบรรยากาศการสนทนาหมด
กูชอบตอนวิเคราะห์ฉากนะ เล็กๆ น้อยๆ แต่มี "อะไร" กูไม่ได้อ่านแฮร์รี่มาหลายปีละ ตั้งแต่อ่านเล่มเจ็ดจบก็หยุดเลย ไปอ่านอย่างอื่นต่อ กองดองเยอะ 555 เพราะงั้นถ้ากูพูดอะไรผิดก็ขออภัยล่วงหน้า
ชอบอ่านเล่มไหนกันมากสุด กูชอบเล่ม 3 ฮอกมี้ดน่าไปมาก อ่านแล้วอยากลองกินบัตเตอร์เบียร์เลย แล้วก็มีจุดที่ทำให้เห็นว่าเฮอร์ก็มีวิชาที่ไม่ใช่เหมือนกัน ชอบแผนที่ตัวกวนด้วย แก๊งพ่อโคตรเจ๋งเลยที่ทำขึ้นมาได้ แต่กูก็แอบคิดว่าทำไมแผนที่มันเก่งจังวะ รู้ชื่อคนทุกคนเลย
เห็นว่า Beast 2 กำลังจะมา ช่อง mono 29 ก็เอากระแสน่าดู เอาแฮร์รี่มารีรันทุกภาครอบสองแล้ว
>>932 กูชอบเล่ม 4 มันได้กลิ่นอายแฟนตาซีมากกว่าเล่มอื่นๆ มีมังกร เขาวงกต ประลองเวทย์ แถมยังรวมเอาชีวิตวัยรุ่นไฮสคูลงานพรอมวัยว้าวุ่นอะไรเข้าไว้ด้วยกันอีก ตอนโวลดี้คืนชีพมากูก็ตกใจนะเพราะมันมาเร็วจริงๆในความคิดกู แล้วก็เซ่นสังเวยเซดริกกับมักเกิ้ลตอนต้นเรื่องไปแล้ว ก่อนหน้านั้นจะเจอเรื่องอะไรก็ตาม แต่ไม่มีใครตายเลยไง ทุกอย่างคลี่คลายไปในทางที่ดีและแก้ปัญหาได้ตลอด พอมีคนมาตายต่อหน้าแฮร์รี่ก็รู้สึกตกใจเพราะโทนเรื่องมันเปลี่ยนแล้ว ไม่ใช่หนังสือวัยรุ่นพ่อมดผจญภัยแบบใสๆอีกต่อไป และแฮร์รี่คงรู้สึกผิดแบบเป็นตราบาปติดตัวไปตลอดชีวิตที่บอกให้เซดริกแตะถ้วยพร้อมกันกับมัน ตอนท้ายๆก็หักมุมด้วย คนที่ไว้ใจสุดท้ายร้ายที่สุด อะไรประมาณนี้
>>919 5555555 อาจจะเป็นไปได้ แต่นี่คิดว่ารอน insecure and gloomy กว่าจินนี่มากๆ แฮร์รี่ชอบอยู่กับรอนก็จริงแต่ความ insecurity and gloominess ของรอนก็ทำให้สองคนนี้มีปัญหากันบ่อย แฮร์รี่คงชอบคนที่สดใสและเป็น emotionally support ได้มากกว่า
จินนี่โตไวกว่ารอนเยอะเลย มีประสบการณ์ถูกครอบงำและเฉียดตายตอน 11 ขวบ ถ้าไม่ใช่คนที่มีจิตใจเข้มแข็งพอควรเรื่องหนักขนาดนี้ก็อาจจะทำให้กลายเป็นคนขี้กลัวเลยก็ได้ แต่จินนี่สามารถ overcome เรื่องนี้ได้
แล้วตั้งแต่อายุ 14 ปีก็ร่วมสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับพวกแฮร์รี่มาตลอด ตอนจินนี่อายุ 15 (ปีห้า, เล่มหก) แฮร์รี่บอกเลิกเพราะต้องทำภารกิจ จินนี่รับมือกับสถานการณ์ตอนนั้นได้ดี ไม่งอแงไม่งี่เง่าแต่เข้าใจและซัพพอร์ตให้แฮร์รี่ทำในสิ่งที่แฮร์รี่อยากไปทำ (ตอนจินนี่กลับมาเรียนที่ฮออกวอร์ต จินนี่ก็สานต่อปณิธานของแฮร์รี่ในการต่อต้านศาสตร์มืดอีกเหมือนกัน ความศีลเสมอกันของคู่นี้อาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้ยังคบกันต่อหลังจากปราบโวลเดอมอร์เสร็จ)
อันนี้กาวไปหน่อยแต่พอดีเมื่อกี้ฟัง End game ของเทย์เลอร์แล้วนึกถึงความสัมพันธ์คู่แฮร์รี่กับจินนี่ขึ้นมา
“Knew her when I was young
Reconnected when we were little bit older”
“For all your beautiful traits, and the way you do it with ease
For all my flaws, paranoia, and insecurities”
ว่าแล้วก็อยากชวนเล่น มีใครมี theme song ของคู่ที่ตัวเองชอบไหม อยากลองฟังดู
จินนี่evolveจากbeta fangirlไปเป็นalpha bitchเฉย
จากเด็กขี้อายกลายไปเป็นคนที่เฉ่งพี่ๆได้หมด
ได้เชื้อแม่ รึว่าเพราะอยากเข้าใกล้แฮร์รี่วะนั่น
พอจินนี่อัพเกรตกูรู้สึกว่ารอนกลายเป็นน้องเล็กสุดในบ้านไปแทน
ทำไมกูถึงรู้สึกว่าไอ้โม่งแฮจินเหี้ยๆ ตัวแรก กับอีกคนหนึ่งที่มาพูดสุภาพๆ แม่งคือคนเดียวกัน เพียงแค่เปลี่ยนลุคมาให้พวกเราเขววะ
กูจะไม่ยึดติดตัวบุคคลไว้ก่อน ถ้าเป็นคนเดียวกันแล้วพูดจาน่าฟังขึ้นกูก็รับได้นะ
>>943 กูเฉยๆกับเรื่องคู่ชิปหรือตัวบุคคล ใครจะชิปอะไรก็ชิปไป แต่ละเรือมันก็มีโมเมนต์ชวนชิปอยู่แล้ว กูชอบเวลามาอ่านโมเมนต์ที่ชาวเรือคู่นั้นๆแชร์ความรู้สึกกัน มันก็น่ารักดี เป็นบรรยากาศการสนทนาที่มุ้งมิ้งๆ เล่าว่าทำไมถึงชิปคู่นี้ มันก็ดูเป็นการเก็บรายละเอียดที่พลาดไป อย่างที่คนเรือแฮร์จินมาตอบแบบสุภาพๆกูก็รู้สึกว่าเออ คู่นี้ก็มีโมเมนต์แบบนี้เนอะ พอชี้ช่องให้เห็นและอธิบายดีๆกูก็ว่าเป็นโมเมนต์ที่น่ารักดีนะสำหรับเรือนี้
แต่ที่กูไม่ชอบคือการด่ากราดและกดหัวคนอื่นว่าโง่หรืออ่านหนังสือไม่แตกนี่ล่ะ เห็นละเบะปากมองบนรัวๆ ฉลาดล้ำเลิศมาจากไหนจ๊ะ บอกว่าตัวเองเปิดกว้างแต่ใครคิดไม่เหมือนแม่งก็ไปด่าหยาบๆคายๆทุกคำพูดนี่โครตย้อนแย้ง ใจแคบชิบหาย
อืม... กูยืนยันได้ว่าคนละคน คนชอบแฮร์จินไม่ได้มีคนเดียวนะ
ปกติกูไม่ได้อยู่บอร์ดนี้ ตอนที่ทะเลาะกันเรื่องแฮร์จินช่วงแรกๆ กูขี้เกียจเข้ามาร่วมวง พอเห็นคอมเม้นต์แฮร์จินอีกทีประมาณลำดับที่800กว่าเลยเข้ามาพูดสิ่งที่กูคิดบ้าง เพราะกูก็เริ่มชอบแฮร์จินจากตรงนั้นเหมือนกัน
ถ้าจะเหมารวมว่าคนที่พูดถึงแฮร์จินเป็นคนเดียวกันหมดแค่เปลี่ยนสไตล์การพิมพ์กูก็คิดว่ามึงอคติกับแฮร์จินแล้วแหละ
ถ้าจะดราม่าว่า 'พูดตอนไหนว่าอคติกับแฮร์จิน' ขอตีความตรง 'แค่เปลี่ยนลุคมาให้พวกเราเขววะ' ว่าการที่มีคนแจกแจงรายละเอียดความสัมพันธ์ของแฮร์รี่กับจินนี่ทำให้หลายคนในนี้เริ่มเห็นว่าระหว่างทางที่เรื่องดำเนินไปก็มีโมเม้นต์ของแฮร์รี่และจินนี่โผล่มาเป็นระยะๆ แม้จะน้อยมากจนคนไม่ค่อยสังเกต ทำให้คนที่ไม่อินแฮร์จินเริ่มเขว มึงก็เลยสงสัยว่าจะใช่คนเดียวกันแค่เปลี่ยนบุคลิกหรือเปล่า
แต่ก็นะ ในเมื่อไอดีเปลี่ยนทุกวันและโม่งทุกคนก็นิรนาม ถ้าจะคิดว่ากูแกล้งเป็นคนอื่นสลับมาพิมพ์ก็ได้แหละ
But honestly why would I do that tho? It's fucking tired, being someone else.
ป้าบอกว่าหนัง Fantastic Beasts ภาคหน้า จะไปเมืองใหม่ที่ไม่ได้อยู่ในอเมริกากับยุโรป
คิดว่าจะเป็นที่ไหนวะ? ถ้ามาเอเชียนี่กุว่าญี่ปุ่นมีโอกาสสูง (แฟนด้อมญี่ปุ่นโคตรภักดี ส่วนป้าก็อวยญี่ปุ่นอยู่แล้วด้วย) หรือไม่ก็จีน เพราะหนังภาคแรกก็ประสบความสำเร็จในจีนอยู่ ภาคสองก็อุตส่าห์ใส่สัตว์ประหลาดจีนเข้าไปในเรื่องด้วย
แต่ถ้ามาเอเชียช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 อาจจะมีประเด็นดราม่าเยอะ ไม่แน่ว่าป้าอาจจะเลี่ยง เขียนให้ไปอเมริกาใต้หรือแอฟริกาแทน
(เอาจริงๆ กุอยากเห็นโลกเวทมนตร์โซนเอเชียมาก ถึงจะมีโอกาสสูงที่ป้าจะรีเสิชไม่ดีแล้วเขียนอะไรเสร่อๆ ออกมาก็ตาม 55555)
>>950 ถ้าป้าจะเข้าตลาดเอเชีย ต้องระวังทวีตเตอร์และเพลาๆเรื่องSJWลงบ้าง
เกิดป้าจะไปตีตลาดยุ่น แต่ดันเมามันทวีตด่ายุ่นเรื่องComfort Woman ก็ซวยไป ขายไม่ออก
จะทำแฟนทาสติคในเอเชีย เดี๋ยวก็โดนติ่งสายSJWด่าเรื่องป้าเขียนให้นิวท์เป็นWhite Savoirอีก
แต่กูเดาว่าน่าจะไปจีน ฮอลลีวูดช่วงนี้เลียไข่จีนอย่างเยอะ หนังเหี้ยอะไรก็ตามต้องยัดนักแสดงจีนมาบูสต์ยอดขายในจีน ถ้าทำแฟนทาสติคในจีนนี่ได้ใช้นักแสดงจีนเยอะแน่นอน
ทำไมกูไม่อยากให้มาเอเชียวะ 555555 ไปแถวตะวันออกกลางมั้ย หรือแอฟริกาไปเลยก็ได้ แอฟริกาดูลึกลับน่าสนใจออก
>>955 นั่นดิ ถ้ามาไทยจะได้เห็นมักกะลีผลป่ะ สาวสวยที่เกิดจากต้นไม้ ผ่านไปเจ็ดวันก็เหี่ยวเป็นคุณยายหงำเหงือก หรือนี่ไม่ใช่สัตว์แต่เป็นพืช
แต่ทางฝั่งเอเชียถ้าไม่นับญี่ปุ่นที่ป้าให้ใช้ไม้กายสิทธิ์ร่ายคาถากันไปแล้ว ฝั่งเอเชียตะวันออกกูว่าน่าจะร่ายเวทย์มือเปล่ากันล้วนๆเลยนะ พนมมือท่องคาถา โอม นะโมบลาๆอะไรแบบนั้น
คงเป็นจีนล่ะ เป็นประเทศเดียวที่จับประวัติศาสตร์มาเล่นได้โดยไม่ต้องกลัวดราม่า แถมมีกลุ่มลูกค้าอยู่ด้วย
>>958 ถ้าเทียบกับแถวบ้านเรา กูว่าฮอร์ครัสดูกระจอกไปเลยว่ะ ทำผีดิบ บูชายัญมนุษย์ เล่นของ เอาวิญญานมาขังให้กัดกินกันเอง เรื่องศพเด็กร้อยศพไม่กี่ปีก่อนยังหลอนอยู่เลย เอเซียศาสตร์มืดน่าจะรุ่งเรือง
พอโตขึ้นอ่านวิธีทำฮอร์ครัสแล้วตลก กูก็เข้าใจแหละว่าเป็นเยาวชน แต่พอโตขึ้นมาคิด ๆ ดู ถ้าคนทำเป็นพวกไม่รู้ผิดชอบชั่วดี คิดว่าฆ่าคนคือเรื่องปกติไม่สะทกสะท้าน จะทำยังไงว่ะจะสร้างทีก็ต้องเข้าวัดทีไรงี้หรอ
>>961 แต่กูว่าไม่นะ ไสยศาสตร์กับเวทมนตร์มันดูไปกันคนละทางแบบสิ้นเชิงเลยว่ะ ในประเทศโซนเอเชียแบบนี้ ถ้ามันจะมีโรงเรียนขึ้นมาจริงๆ น่าจะสอนพวกไสยศาสตร์ เล่นของ หรือถ้าสายสว่างหน่อยก็พวกมนตร์ที่เรียนกับพระอาจารย์ต่างๆ เงี้ย แต่ทีนี้แต่ละกลุ่มพื้นที่มันก็น่าจะมีจุดเด่นที่ต่างกันแล้วแอบสอนกันลับๆ แยกเป็นสำนัก ไม่น่าจะรวมกันเป็นโรงเรียนได้แบบทางยุโรปว่ะ
กูคิดว่าป้าแม่งไม่มีความรู้อะไรเกี่ยวกับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถ้าจะมาทำหนังหรือเขียนถึงจริง สุดท้ายแม่งก็คงจะออกมาเป็นโรงเรียนหรือสำนักแบบพิลึกๆ เพราะงั้นอย่ามาทำให้วุ่นวายเลย
KY พวกมึงคิดว่าไง https://twitter.com/alltimemoviesyt/status/1052197478970388480?s=21
กูรู้สึกผิดนิดหน่อยที่แวบแรกคิดไปว่าอย่าให้ป้ามาเจอเล้ยเดี๋ยวโยงทฤษฎีนั่นนู่นนี่เพิ่มไปอีก🤦♂️
โทษๆ กดส่งไปก่อน กูเห็นด้วยตรงโวลเดอมอร์เหมือนพี่ชายคนโต แต่คนอื่นๆกูไม่แน่ใจเลยอยากมาฟังคนอื่นว่าคิดไงกันบ้าง
>>965 ถ้าจะเอาliteraly แฮร์รี่กับทอมเป็นญาติกันแน่นอนไม่ต้องเดาไม่ต้องทฤษฏี เป็นกันผ่านทางสายเลือดสามพี่น้อง(คนกลาง-ก๊อน,คนเล็ก-พอตเตอร์) แต่นี่สเนปไม่ชัวร์ว่าตระกูลปรินซ์ของแม่มันเก่าแก่แค่ไหน
ถ้าจะเอาเชิงสัญลักษณ์ กูว่าดัมเบิลดอร์ควรจะเป็นน้องคนกลางมากกว่า เพราะใช้หินเหมือนกัน ฆ่าตัวตายเหมือนกัน(สั่งสเนป)
แต่กูว่าป้าแกไม่มีปัญญาเขียนเชิงสัญลักษณ์ได้ลึกขนาดนั้นหรอก แฟนๆเอามาปะติดปะต่อกันเองมากกว่า ดูจากสัญลักษ์อื่นๆในเรื่องของป้าแม่งโคตรพื้นๆ งู=ชั่ว สิงโต=กล้า กะโหลก=ความตาย etc.
>>967 มึงตอบแค่ ประโยคนี้ก็พอ "ก็แล้วแต่จะตีความอะนะ"
"แต่มึงมาผิดที่แล้วล่ะ คนที่นี่เขาไม่ชอบตีความกัน เน้นเข้าใจตามตัวอักษร ถ้าป้าไม่ยืนยัน = มโน คิดไปเองหมดทุกเรื่อง" ประโยคที่เหลือมึงจะแซะคนอื่นเขาทำไม เขาก็คุยกันดีๆ อยู่ หรือถ้ามึงคิดว่าเขาตีความไม่ตรงกับที่มึงคิดก็อธิบายสิ
ทำไมถึงต้องทำให้มู้มัน toxic ขึ้นเรื่อยๆ ด้วยวะ คุยกันดีๆ ไม่ได้ ต้องแขวะกันไปกันมา คนที่เค้าเปิดประเด็นหรือคุยกันดีๆ ที่ไหนจะอยากคุยด้วยอะ กัดกันเก่งยิ่งกว่าหมา
รู้สึกกันมั้ยว่าแฮร์รี่เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดเนื้อกระดาษมันยังไงไม่รู้ ชอบกระดาษแบบเวอร์ชั่นแรกๆ มากกว่า
อีโม่งแฮจินว่างมากจริงเว้ย ทำเป็นบอกเกลียดคนที่นี่ แต่เอาเข้าจริงก็สิงอยู่ตลอดเวลา ซึนเดเระนี่หว่า 55555555
>>979 พูดแบบนั้นไม่ถูก อย่าลืมว่าตระกูลพ่อมดน่ะเกี่ยวดองกันหมด โดยเฉพาะพวกเลือดบริสุทธิ์ ก่อนที่จะมาเป็นตระกูลก๊อนท์ ตระกูลพอตเตอร์ พวกนี้ก็คงเกี่ยวข้องกับตระกูลเพฟเวอร์เรลไม่ทางใดก็ทางหนึ่งมาก่อน ไอ้ตระกูลพอตเตอร์เนี่ยอาจพอโยงได้ว่าเกี่ยวข้องกับอิกโตนัส (หรืออิกโนตัสวะ) น้องชายคนสุดท้อง เพราะว่าตอนจบของนิทานคือ ไอ้น้องชายคนนี้เนี่ยได้มอบผ้าคลุมให้กับลูกหลาน ผิดกับไม้เอลเดอร์ที่พี่คนโตถูกฆ่าตาย ชิงกันไปชิงกันมาจนไม่รู้ว่าใครเป็นใคร และหินชุบวิญญาณ ที่ก็ไม่รู้ว่าใครได้รับเป็นมรดกต่อจากพี่คนรอง
แต่ก็นะ อย่าไปวิเคราะห์อะไรให้มันมากเลย เดี๋ยวจะมีคนมาด่าว่ามโน อันไหนที่ป้าไม่ได้เขียนตรงๆ คือคิดไปเองอีก ถถถ
เออดี แซะกันไปแซะกันมา สนุกจังเว้ยยยย
มองข้ามมันไปให้หมดก็สิ้นเรื่อง ไปต่อล้อต่อเถียงมันยิ่งได้ใจ
มีใครสะสมแฮร์รี่เวอร์ชั่นล่าสุดมั้ย ออกมาแต่ละเล่มสี่สีสวย ราคาสูงมาเลย
อ่านที่ >>810 เขียนสิ "อันนี้เรียกว่าคิดเองเออเองจ้ะ เผื่อไม่รู้ ถ้าอะไรที่ป้าไม่ได้บอก มันก็คือมโนทั้งนั้นแหละมึง"
แล้วจะไม่ให้เดือดได้ยังไง กูพิมพ์อะไรไปกูยกเหตุผล ยกเนื้อหาขึ้นมาประกอบตลอดทั้งนั้น ถ้ามึงจะไม่เห็นด้วยก็ยกเหตุผลขึ้นมาแย้งสิ ไม่ใช่มาด่าบทวิเคราะห์ของคนอื่นเขาว่ามโน โดยที่ไม่ได้แนบเหตุผลมาเลยว่ามโน คิดเองเออเองที่ตรงไหน ทำแบบนี้ก็เท่ากับด่าทุกคนที่พยายามวิเคราะห์เนื้อเรื่องว่ามโนทั้งนั้น สันดาน
เถียงกันหลาว ไม่จบไม่สิ้นสัดทีไปnetwatchไหม กูเพิ่งอุ่นๆ จากการบินไทยมา ช่าตเปรตจริ๊งงงง
>>984 กูไม่ได้สนของปัจจุบันอะใช้รุ่น 20 ปีป่ะ กูแอบมองที่รุ่นที่เป็นสัญลักษณ์บ้านอยู่ชอบขอบสีจัดจ้าน ไม่รู้ว่าจะมีครบเจ็ดเล่มป่าว ตอนนี้พยายามเก็บอีบุ๊คกับ audio เวอร์ชั่น ป้ายังอุตส่าห์ออก kindle in motion ที่มีภาพเคลื่อนไหวมาอีก! Audible ของภาคใหม่ก็จะออกอีกแล้วเจคอบเป็นคนอ่านแต่เหมือนจะมีนักแสดงคนอื่นมาทอล์คด้วย คิดถึงเสียงเซ็กซี่ของน้องแล้วกูระทวยย(...)
ปล. กูยังฟัง history of magic ไม่จบที ป้าควรเห็นใจกระเป๋ากูบ้าง
หลานสาวของอิกโนตัสแต่งเข้าตระกูลพอตเตอร์ ในพอตเตอร์มอร์มีประวัติของตระกูลพอตเตอร์แบบเต็มๆ เลย
>>989 พูดถึงฉบับภาพประกอบสี่สีใช่มะ กูนึกว่าตัวเองมาตอบ เก็บเฉพาะภาษาอังกฤษและซื้อที่บูทศูนย์หนังสือจุฬาทุกเล่มเหมือนกันด้วย แต่กูซื้อเล่มสามมาแล้วนะ 555
ส่วนฉบับฉลองครบปี เปลี่ยนปกสารพัดสีไม่ได้เงินกูอะ โดยเฉพาะปกบ้านภาคละ4เล่ม อห. การตลาดเหี้ยมมากแต่ละเล่มมีเนื้อหาเพิ่มที่ไม่เหมือนกันอีก กูยอมไม่รู้ก็ได้อะ ให้ซื้อหมดนี่ล้มละลายพอดี
ฉบับภาพประกอบสี่สีกุชอบนะ ปกติกุว่าคนวาดปก & ภาพประกอบแฮรี่ส่วนใหญ่นี่สไตล์ไม่ถูกใจกุเท่าไหร่เลย (ยกเว้นของบางประเทศที่กุไม่มีปัญญาซื้อ) แต่ภาพประกอบของ Jim Kay นี่กุชอบ ชอบที่ดีไซน์ทุกอย่างต่างจากหนังแบบชัดเจน แล้วทำให้เรื่องมีบรรยากาศแฟนตาซีเซอร์เรียลแบบนิทานๆ ดี
แต่เล่ม 3 กุว่าภาพประกอบแอบน้อยไปหน่อย เหมือนมีเวลาวาดน้อยลงด้วยเลยต้องลดจำนวนภาพ ไม่รู้เล่ม4-5 จะเป็นยังไง
กูเห็นกระทู้ใกล้เต็มแล้วเลยตั้งให้
กุญแจนำทาง >>>/literature/6175/
วิ่งๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
มาช่วย
ตีความ = มโน คิดเองเออเอง
Topic has reached maximum number of posts.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.