กูบ่นนักอ่าน อย่าหัวร้อนในนี้นะคะซิส กูแค่อยากบ่น
Last posted
Total of 246 posts
กูบ่นนักอ่าน อย่าหัวร้อนในนี้นะคะซิส กูแค่อยากบ่น
ถุงขั้นต้องตั้งมู้ใหม่เลยเหรอคะซิส นมัสการนะคะ
เอ้า มึงมีอะไรจะบ่นก็ว่ามา
นี่คือกระทู้ระบายนักอ่านเหรอ ดี กูก็อยากระบายบ้าง555555555
เคยเปิดพรีนิยายเรื่องนึง มีคนพรีมาสองร้อยกว่าคน พอเอาเข้าจริงคนโอนมาแค่แปดสิบคน อีกร้อยกว่าคนนั่นหายเงียบไปกับสายลมจ้า กูว่าทุกคนน่าจะเคยเจอแบบนี้นะ
โดนบอกว่าอยากอ่านมากๆ แต่ไม่อยากเสียตัง เสียใจจัง ไม่อ่านละ
ต้องทำไงวะ
กุสะเทือนใจมาก
เคยเจอนักอ่านประเภทนี้มั๊ย
1. หนังสือออกช้า หรือเลื่อนออกก็มาโวยวายตีโพยตีพายด่าสนพ.เสียๆหายๆ สุดท้ายออกมาบอกว่าไม่เคยซื้อ มีแต่หาของฟรีอ่าน
2. หนังสือออกแล้วแต่สายส่งส่งไปตจว.ช้า ก็ออกมาโวยวายด่าว่าไม่เห็นใจคนตจว. กว่าจะได้อ่านของฟรีก็มีให้โหลดอ่านแล้ว จะเสียเงินซื้อไปทำไม อ่านของฟรีเลยดีกว่า
กูงง เดี๋ยวนี้นักอ่านเป็นไรกันไปหมด ออกช้าก็บ่นด่า ออกแล้วกระจายของช้าก็ด่า บางคนถึงขั้นสาปส่งให้สนพ.เจ๊งไปเลยด้วยซ้ำ แล้วที่ออกมาบ่นแล้วบอกว่าจะอ่านของฟรีกันคือไรวะ แม่งละเมิดลิขสิทธิ์ชัดๆ ทำไมเดี๋ยวนี้นักอ่านรอกันไม่ได้คือกูไม่เข้าใจจริงๆ หรือเคยชินกับอ่านรวดเดียวจนจบแบบพวกที่ออกจบแล้วค่อยมาอ่านไรงี้เหรอวะ ไม่เคยเจอที่แบบสองสามปีเล่มออกทีบ้างเหรอวะ
ทู้ดักปะวะ กูมาดักเผือกอย่างเดียว กูไม่ใช่นข.นะ นักอ่านธรรมดาๆ เนี่ยแหละ นักอ่านบางคนเยอะไปจริงๆ วะ จะเอาอย่างนู้น จะเอาอย่างนี้
ปล.ถ้าตีความแล้วไปเผือกนข. ผิดคนนี่เขาซวยเลยนะ วอนขาเผือกใจเย็นๆ
นักอ่านเราน่ารัก เราไม่รู้จะบ่นอะไร
เออ แต่ก็มีอย่างนึงว่ะ เล่าสู่กันฟังขำๆ นะ มันมีครั้งนึง เราหยุดลงนิยายไปพักนึงเพราะญาติผู้หญ่เข้า ICU ออกจาก ICU ก็รักษาตัวเป็นเดือนเลย ต้องดูแลใกล้ชิดอะ พอต้องดูแลญาติผู้ใหญ่เราเลยไม่ว่างเขียนนิยาย เพราะเราเองก็ต้องทำงานอื่นด้วย เชื่อไหม จากที่นิยายมีแต่คนโหวตเห็นด้วยกับบทวิจารณ์ห้าดาว เจอคนมายกนิ้วลงรัวๆ เลยจ้ะ ทั้งๆ ที่ราก็บอกไปแล้วนะ ว่าเราต้องดูแลญาติ ไม่ได้หายไปไม่แจ้งอะไร
>>7 เคสสยบฟ้าก็ถือเป็นความผิดของสนพ.ส่วนหนึ่งละ ตอนแรกบอกเดื่อนละเล่ม ต่อมาเดือนเว้นเดือน แต่บางเดือนก็เว้นไป 2 เดือน พึ่งมีดราม่าออกช้าไปก็เว้นไปอีก 3 เดือน คนไม่ด่าสิแปลก ถึงเขาจะมีเหตุผลดีแค่ไหนก็เถอะ
ในกระทู้นิยายจีนส่วนใหญ่เข้าข้างคนแปลและสนพ. แต่ถ้ามองตามมาตราฐานทางธุรกิจ ไม่ว่าจะมุมไหนสนพ.ก็ "ล้มเหลว" เต็มๆ โดยเฉพาะคนแปล คิดง่ายๆ ว่าถ้ามีลูกน้องมาเสนอโปรเจคใหญ่ และจำเป็นต้องคุมงานเอง แต่บอกว่านี่เป็น "งานอดิเรก" ทำเฉพาะตอนที่ว่างเท่านั้น เจ้านายคนไหนไม่ปาแม็กใหญ่ใส่หน้ากูก็ปรบมือชมแล้ว
ถึงพวกที่มาโวยนี่ก็เล่นใหญ่จริง แต่ถ้าไม่นับพวกที่โหลด PDF คนที่ออกมาพูดก็เพราะชอบเรื่องนี้ทั้งนั้น ถ้าออกช้ายังไงก็ไม่หือไม่อือ กูว่าก็ไม่ต่างจากกวางมูสหสม. ได้แต่รอเข้าป้อนอย่างเดียว แล้วต้องสำนึกบุญคุณคนแปลด้วย
ปล. ถ้าเรื่องนี้มีแค่ 10 เล่มจบกูเชื่อว่าจะไม่มีดราม่าแบบนี้
>>11 โนวๆ กูไม่พูดถึงเคสสยบฟ้าหรอก เพราะเคสนั้นสนพ.ผิดเต็มๆที่ไม่ตุนสต็อกไว้ก่อน แต่มันมีอีกหลายเคสไงที่สนพ.โดนด่าเพราะเลื่อนออกบ้าง ออกไม่ตรงวันที่ประกาศบ้าง กระจายของช้างี้ เดี๋ยวนี้ส่วนใหญ่นะพอสนพ.ขอเลื่อนออกหน่อยนักอ่านก็เริ่มด่ากันละแล้วมักจะมีตบมาว่าไม่อุดหนุนหรอกรอโหลดอ่านฟรีอย่างเดียว กูแบบไปต่อไม่ถูกเลย
ขอบ้างนักอ่านผู้ประเสริฐ เมื่อไรพวกมันจะเลิกเมนต์ "อัพ" "เมื่อไรจะอัพ" "ถ้าไม่อัพจะเลิกอ่านแล้ว" "ทำไมไม่อัพซะที" บราๆๆๆ ทั้งที่กูก็เขียนไว้ว่าอัพทุกวัน...(ตรู๊ด...) มีพีคสุดทำกูระเบิดกูเพิ่งกดอัพงาน เชี่ย ไม่ถึง 5 นาทีมีเมนต์มาเลย "อัพตอนใหม่(เลขตอนต่อจากที่เพิ่งอัพ)ซะทีสิ" แม่งเอ๊ย... คิดว่านักเขียนเสกงานขึ้นมาได้เหรอวะ
เหนื่อยใจนักอ่านรุ่นใหม่นิสัยมารยาทแย่จริงๆ พอได้อะไรที่ไม่พอใจก็ขู่เลิกอ่าน บางคนไล่ให้ไปตายเลิกเขียนเลย ทำเหมือนคนที่ลงผลงานติดหนี้ต้องชดใช้ให้ จิกกัดด่าเป็นขยะไม่ได้คิดถึงใจเขาใจเราเลย
>>11 เคสสยบฟ้า กูขอบอกว่าโมโหเฮียมาก ตอนแรกรับปากไว้ดิบดี จาก 1 เดือน จะเป็น 2 เดือน ตอนนัั้นก็ดราม่าไปทีหนึ่งแล้ว
คนอ่านก็ทำใจกันไปว่า โอเค 2 เดือนก็ 2 เดือน แม่งเป็นคนบอกเองด้วย คนอ่านก็ตกลงรอก็รอ
พอมาเจอเลื่อนเป็น 3 เดือน ด้วยเหตุผลเดิม เพิ่มเติม กูว่าเพราะงานหนังสือด้วยวะ ถึงเฮียมันจะบอกว่า ไม่ใช่ๆ ยอดเท่าเดิม มีงานหรือไม่มีงานก็ตาม บลาๆ กระบวนการทำหนังสืออย่างนั้นอย่างนี้
แต่กูดูจากสิ่งที่ผ่านมา เดือนหนึ่งมึงก็ออกได้ทัน งานนี้คนแปลโดนโยนเป็นหนังหน้าไฟ เพราะงานหนังสือนั่นแหละ สยบฟ้าฯ ตอนนี้ถือเป็นหัวที่ทำยอดขายดีมาก
เคยเจอแบบเมนต์เหมือนเดิมติดกันทุกตอนเหมือนปั่นมั้ยอะ กูเคยเจอแบบ "ขอบคุณนะ" "สนุก" ติดกันสิบๆ ตอนยังกะก็อปวาง ไม่รู้ต้องการอะไร
>>18 เจอนักอ่านไร้มารยาทจนท้อ จิกด่ามาก แบบเขียนมานานแล้วยังสะดุ้งกับนักอ่านรุ่นนี้ (หยุดเขียนไปหลายปีแล้วมาลงงานใหม่ คนที่อ่านจะเป็นนักอ่านกลุ่มใหม่แล้ว) เจอแบบนี้ทำให้อยากเลิกลงแล้วเขียนเก็บไว้เองหรือไม่ก็อัพขายไปเลย
>>21 ใจเขาใจเรานะ ถ้าเป็นนักเขียนลงงานในเน็ตก็ต้องอยากได้คอมเมนต์จากนักอ่าน มันไม่ยากเกินไปหรอกถ้าอ่านตอนนั้นแล้วจะทิ้งข้อความไว้บ้าง แต่ถ้าเจอนักเขียนที่เรียกร้องคอมเมนต์หรือโหวตมากๆ ก็ไม่ไหวเหมือนกันจะเลิกตามอ่านเรื่องนั้นมากกว่า
กูเจอมาทุกรูปแบบ จนสตรองแล้ว ตอนนี้ใครจะเร่งจะด่า จะงอแง กูไม่คิดมากละ เวลากูออกเล่มขอแค่ช่วยอุดหนุนกูก็พอ สำหรับพวกที่บอกว่าจะไม่อุดหนุน พวกนี้ไม่ใช่ผู้สนับสนุนของกูอยู่แล้ว ไม่ได้ขอแดก ไม่แคร์ พวกมึงรายที่นอยด์เพราะนักอ่านก็สตรองๆ กันไว้นะ
พอหัวใจมึงด้านชา มึงจะยิ้มรับเงินทั้งน้ำตา(เวลาโดนด่า)แบบกู
>>25 ระวังไม่ให้พลาดก่อนกดโพสอยู่ ส่วนใหญ่จะตั้งให้เห็นแต่คนที่สนิทมากๆ เห็น ไม่งั้นไม่ไหวเหมือนกันนะ เก็บกดอยู่คนเดียวมันจะทำให้บ้าง่ายๆ
นักอ่านไร้คุณภาพเยอะมากจริงๆ เกลียดมากพวกที่มาพากย์เป็นฉากๆ เหมือนบังคับให้เราเขียนตามนั้นพอไม่ใช่ก็ออกมาด่าแรงๆ แล้วก็ชักชวนให้คนอื่นๆ เลิกอ่านแล้วซื้องานเราด้วย เหนื่อยใจ
เซ็งพวกนักอ่านที่ไม่อ่านฉากอธิบายเรื่องว่ะ บรรยายให้รู้เรื่องว่าจะดำเนินเรื่องยังไง สถานการณ์ตัวละครอื่นทำอะไรอยู่ แม่งพิมพ์เมนต์กลับมาน่าเบื่อไม่น่าอ่านเลยไว้ให้หมดช่วงมีพระเอกออกค่อยอ่าน เชี่ยยยยยยยยย แล้วตอนถัดไปก็พิมพ์บอกอ่านไม่รู้เรื่องตัวนี้ออกมาเมื่อไร ตัวละครทำอะไรกัน เชี่ยยยยยยยยมากกกกกกกกกกกก
เดี๋ยวนี้คนอ่านอ่านแต่ฉากพระเอกกับนางเอกเย่กันฉากอื่นๆ เปิดข้ามหมด ขนาดบ.ก.ยังบอกให้ใส่ฉากเย่กันเยอะๆ เลย ถ้าคนอ่านอยากอ่านแต่ฉากแบบนี้ซื้อพวกปกขาวเลยดีกว่านะมีให้อ่านเต็มๆ ไม่มีฉากอื่นมาคั่นให้เสียอารมณ์
กูสงสัยว่า นักอ่านที่เลยวัยรุ่น ยังมีคนมาทวงนิยายแบบทุเรศๆ แบบนี้อยู่รึเปล่า ตามความเข้าใจของกูส่วนมากที่อ่านนิยายในเน็ตนี่คือตั้งแต่วัยมหาลัยลงไป เพราะถ้าทำงานแล้วคงไม่ค่อยมีเวลาอะ พฤติกรรมมันถึงได้แย่แบบนั้น แต่ไม่รู้ว่ากูเข้าใจถูกไหม ถ้าไม่ถูกช่วยบอกกูหน่อยนะ
พวกเด็กอารมณ์รุนแรง ปากดี เม้นท์จัด กำลังช่วยอัดฉีดทางเน็ตสูงชอบแชร์โฆษณางานให้ แต่ไม่ซื้อเอาแต่ของฟรีเป็นหลัก
กูเจอเกรียนนักอ่านคนนึงเว่ย ชอบส่งข้อความลับมาบอกกูว่าพระเอกต้องงี้ๆๆ ปักธงงั้นๆๆ ทำไมไม่เยะน้องสาวเพื่อน ฯลฯ จนกูรำคาญ มีวิธีบล็อกมันป่าววะ กูรำคาญมาจริงๆ อะไรของแม่งวะ
ระบายหน่อย เขียนนิยายที่พระเอกกับนางเอกชัดเจน แนวแฟนตาซีนะ แต่พระเอกไขว้เขวกับนางรองนิดหน่อย
แฟนคลับออกมาเมนต์กึ่งๆ ไม่พอใจว่าอยากให้คู่นางเอก
คือมันคู่กันนั่นแหละแต่ไม่อยากสปอยล์ กลัวคนอ่านถอดเฟบด้วย ทำไงดี
จะเขียนมีนางเอกหนึ่งเดียว ก็ต้องรักคนเดียว
จะเขียนควบสอง ก็ต้องเขียนควบสองให้ชัดเจนไปเลย
สมัยนี้คนอ่านเค้ากลัวลงเรือผิดลำ ถ้าไม่งั้นก็เหมาไปเลยแบบนิยายจีนราชสำนัก
ตอนนี้อยากต่อยปากคนอ่านมาก แม่งจะเหี้ยไปถึงไหนไม่ได้ง้อให้มาอ่านเลยเสือกทวงบุญคุณฉิบหายว่าเพราะมันนะถึงมีคนอ่าน
ถ้างั้นก็เขียนแล้วอ่านคนเดียวดีมั๊ย
ทำใจ กับนักอ่านทำใจ ทำใจ อยากด่าคืนก็ต้อง ยิ้มแล้วก็ "ค่ะ/ครับ" เขาเป็นเทวดานางฟ้ากันทั้งนั้น
เข้ามาอ่านมู้นี้ละช้ำว่ะ เราลงนิยายไปสิบกว่าตอนแล้วไม่มีคอมเม้นเลยซักเม้น รีไรท์ก็ทำมาแล้วก็ยังกริบ อันไหนไม่โอก็เขียนใหม่หมดและค่อนข้างมั่นใจว่าตอนนึงเขียนยาวพอสมควรเลยนะ ต่ำสุดก็4000คำ แล้วก็วางพลอตไว้หมดแล้วด้วยไม่ใช่เขียนแบบไหลไปเรื่อย คือที่เขียนนี่ก็แค่อยากเขียนแหละแล้วเขียนไปแต่ละตอนก็ตั้งใจมากด้วยแต่ไม่มีคนมาเม้นตอบโต้เลยสักนิดนี่นานๆไปมันก็มีเฟลบ้างอะ
พยายามหาวิธีต่างๆนะ ทั้งวาดรูปเรียกแขก เพลงหน้าบทความก็ลบทิ้งเพราะกลัวคนรำคาญ พยายามอัพช่วงค่ำๆที่คนอ่านกันเยอะๆ มีช่วงพูดคุยกะนักเขียนท้ายตอนแต่ทั้งหมดทั้งมวลก็ยังคงเงียบกริบว่ะ โผล่มากดเฟบคนสองคนละก็เงียบไม่มีไรเคลื่อนไหว
แม่งไม่อยากจะอะไรหรอกแต่ก็มีเฟลมีท้อบ้าง คือเราขาดอะไรไปวะ ควรทำไงดีอะ TT_TT
ปล.นิยายแบบแอดเวนเจอร์ไปเรื่อยๆ มีมิตรภาพแต่ไม่มีรัก
>>50 ตอบยาก มึงลงนิยายถูกเว็บหรือเปล่า อย่าถ้ามึงลงเรื่องปกติในธัญวลัยไม่มีใครสนใจหรอก ที่นั่นต้องเรตหนักๆ หรือถ้าไปลงเรื่องที่หนักในเด็กดีมันก็ไม่มีคนอ่านอีก ลงเยอะไม่ได้แปลว่าคนจะตามนะต้องอาศัยลงถี่ครั้ง 2-4 A4 อย่าเกินกว่านี้ ตอนยาวเกินไปคนไม่อ่านอีก เน้นวนเพราะช่วงที่คนอ่านเยอะคนอื่นก็วนนิยายเยอะเหมือนกันยิ่งในเด็กดีนิยายมันเยอะมาก ปกไม่สวย คนก็ไม่สนใจแล้ว ลองลงหลายๆ ที่แล้วเปิดเพจนักเขียนเองให้มีจุดที่คนอ่านจะตามข่าวมึงได้ตลอด สำคัญมึงต้องทนกว่ากูจะมีคนอ่านตามด่ากูเขียนตลอด 5 ปีนะ ปีแรกๆ ร้างตบยุงเหมือนกัน
>>51 ลงในเด็กดีอะ ลงแทบทุกวันไม่ก็วันเว้นวันอะไรงี้ แล้วแบบนี้แปลว่าเราลงเยอะไปหรอ นี่ชอบเอาไปคิดว่าเหมือนหนังสือที่บทนึงมันจะยาวๆ555 คือเราอะจริงจังกะเรื่องนี้แล้วก็ไม่ได้อยากไปแต่งใหม่ มันจะพอเป็นไปได้ป่าววะถ้าเกิดว่าแต่งไปเรื่อยๆคนมันจะเยอะขึ้นเพราะมันมีอะไรให้อ่านยาวขึ้น หรือว่าเค้าวัดกันตั้งแต่ต้นเรื่อง ถ้าต้นเรื่องกริบเป็นไปได่สูงว่าหลังจากนั้นจะกริบเหมือนกัน
คือเราไปเห็นพวกนิยายที่ตอนเยอะกว่าเรามากๆแต่คนเม้นน้อยๆก็มีอะ เราก็แอบหวั่นใจว่าจะเป็นแบบนั้น อยากจะมีโมเมนต์ได้คุยเล่นอะไรกันนักอ่านมั่งจังเลยว่ะ กูได้แต่ไปอ่านเรื่องของคนอื่นละอิจฉาที่นักอ่านมาคุยด้วย มาวิเคราะห์เนื้อเรื่องบลาๆ เอาจริงๆสำหรับเรานะแค่คำว่ารออัพอยู่นะก็ดีใจละTT TT แบบนี้มันเหมือนกูพูดคนเดียวไม่มีใครฟัง
ถึงนักอ่านทุกคนเลยละกัน อยากจะบอกว่าคอมเม่นเนี่ยมีผลต่อกำลังใจจริงๆนะ ตอนแรกเราเขียนนี่ฮึดมากเขียนรัวเพราะคิดว่าเรื่องเรามันก็น่าจะสนุกดีอยากให้คนอื่นได้อ่านด้วย พยายามแทรกรายละเอียดต่างๆลงไปด้วย แต่พออัพๆไปหลายตอนยังคงกริบไฟนี่แทบจะมอดหมดเลย
แต่ก็วางพลอตไว้แล้วอะนะยังไงก็คงเขียนให้จบ หวังว่าจะมีใครสักคนเห็นสิ่งที่เราทำบ้าง
ดราม่าไปเปล่าวะ5555
ได้ยินมาว่าเดี๋ยวนี้นิยมตอนสั้น อัพเร็ว คำผิดไม่สน เบียวได้ยิ่งดีนะ
ถ้าไม่ได้แต่งแนวกระแสก็เขียนไปเรื่อยๆก่อนถือเป็นการฝึกฝีมือกับสะสมฐานคนอ่าน ถ้าสี่สิบตอนขึ้นไปแล้ว คนอ่านยังน้อยหรือน้อยกว่าเดิมก็ลองอ่านทวนตั้งแต่ต้นจนจบว่ามันสนุกหรือเปล่า ถ้ารู้สึกว่าไม่สนุกหรือเฉยๆก็ควรหาจุดแก้ไขเพื่อดึงคนอ่านแล้วก็รีไรท์ คือบอกได้แค่กว้างๆน่ะนะเพราะไม่รู้ว่ามันเป็นที่สำนวนการบรรยาย คาร์ หรือพล๊อต กันแน่
// หลักเสริม ตอนนึงสัก 1500-2000 คำ ก็โอเคนะ เพราะคนในเน็ตเน้นเร็วมากกว่าแถมอ่านเยอะๆในตอนนึงมันทำให้ล้าไว
// โฆษณา ลองแปะตามบอร์ดหรือกลุ่มที่เขาอนุญาตแต่อย่าถี่เกินไปล่ะ
//หาร้านวิจารณ์หรือคนวิจารณ์จะช่วยเสริมนิยายเราให้ดูน่าอ่านขึ้น
// ช่วง talk แรกๆก็เหมือนจะพูดคนเดียวนะ แต่พอลงไปเรื่อยๆ คนเขาจะกล้าพูดกับเราเองแหละ 555
อย่าท้อ ลงไปเรื่อยๆ จนกว่าคนจะเห็นความต่อเนื่อง หลายคนไม่อ่านเพราะคิดว่าแต่งไม่จบแน่ๆ เยอะ ถ้าลงจนจบได้ คนอ่านเห็นขึ้นตอนจบหลายคนจะสนใจตามอ่านย้อนหลัง เรื่องต่อไปจะสบายใจเพราะคนอ่านมั่นใจว่าคนเขียนเขียนจบ
อย่างข้างบนบอกเน้นตอนสั้นๆ ใช้วิธีแบ่งเป็นตอนย่อยๆ คนอ่านจะตามมากกว่าอ่านยาวๆ เพราะถ้าอ่านบนมือถือตัวหนังสือเล็ก (มาก) อ่านได้ไม่ทน
>>52 เองนะ ขอบคุณทุกคนมาก เราก็ไม่ได้จะหยุดเขียนหรอกหรอก จะเขียนให้จบเนี่ยแหละแค่เฟลบ้างท้อบ้างตามประสา อยากถามคนอื่นว่านิยายเราสนุกมั้ยก็ไม่รู้จะไปถามใครเลยปรับปรุงไม่ถูก อยากลงนิยายในนี้ให้คนช่วยวิจารณ์เหมือนกันแต่ก็ไม่อยากเผยตัว
ถ้าใครคิดว่าสะดวกช่วยดูนิยายให้หน่อยส่งเมลล์มาหาเราแล้วกัน แค่ทักมาเฉยๆก็ได้เดี๋ยวเปิดวาร์ปให้ zjrn_@outlook.com เป็นแนวผจญภัย+ดราม่า อยากได้คนช่วยวิจารณ์มากเว้ย เมลล์ลับก็ได้แบบไม่ต้องเปิดเผยตัวอะแล้วสับมาตรงๆเลย
กูเกลียดไอ้พวกคนอ่านชอบเมนท์คำหยาบชิบหาย ถ้ามันบอร์ดปิดหรือบอร์ดเฉพาะอย่างโม่งแม่งจะเถื่อนก็เถื่อน แต่นี่เว็บสาธารณะเสือกด่าห่าเหวขึ้นมึงกูด่านักเขียนเป็นสัตว์ก็มี แจ้งแบนแม่งหลายทีก็มีตัวใหม่โผล่ออกมาเรื่อยๆ กูสงสารนักเขียนชิบหายจะพิมพ์ด่าตอบก็ไม่ได้
เรื่องแฟนตาซีผจญภัยไม่ออนไลน์นี่ยังมีคนอ่านอยู่ไหมว่ะ เด็กดี
>>59 กูอ่าน ถ้าดี
บอกตรง ๆ ธีมต่างโลกกูแทบไม่อ่านเลย กูรู้สึกมันไม่มีอะไรนอกจากให้พระเอกไปสร้างฮาเร็มต่างโลก แถมกูรู้สึกว่าคนแต่งเรื่องแนวนี้มันเด็กมากๆๆ ประมาณว่าถ้าอายุเฉลี่ยแนวอื่นมันประมาณ 15-16 แนวต่างโลกเหมือนจะแต่งกันตอน 12-13 อะ พล็อตมีแต่รูโหว่ แถมกลวง+ก็อปพล็อตชาวบ้าน นิยายก็มีแต่คำผิด แนวออนไลน์ยังมีนิยายดี ๆ เหมือนเพชรในกองกรวดให้ขุดเจอบ้าง แต่แนวต่างโลกกูอ่านมา 10 เรื่องห่วย 10 เรื่อง จนกูเห็นคำว่าต่างโลกกูก็ไม่เปิดแล้ว กูตามแต่เจ้าแม่เรย์กะ แต่นั่นมันเรื่องแปล....
>>61 กูนึกถึงสมัยนิยายเด็กไทยแต่งเพิ่งบูม แนววรร.เวทก็พอกัน ลอก เอ๊ย ได้แรงบันดาลใจมาจาบารามอสทั้งนั้น ช่วงนั้นรร.เวทตั้งกี่สิบกี่ร้อยรร.เปิดกันเต็มไปหมด พอจะหาพลอตอื่นที่ไม่ใช่รร.ก็ต้องมาดูอีกทีว่าโอมั้ย เฮ้อ เหนื่อยมากตอนนั้น พอแนวเกมออนไลน์มากูก็เลิกอ่านแฟนตาซีเด็กเขียนไปละ ก็โชคดีไป กูโตแล้วด้วยแหละ อ่านแล้วไม่อิน 555
>>62 แนวโรงเรียนเวท มาจากแฮรี่ ไม่ใช่หรอกวะ
ช่วงนั้นบารามอสแต่งอยู่พอดี เลยได้ออกก่อนคนอื่น ที่พอเรื่องหลังๆ มากระแสมันตกแล้วในแนวโรงเรียนเวท ก็เลยหมดยุค
แต่แรงบันดาลใจคนแต่งคนอื่นมาจากแฮรี่มากกว่า เป็นยุคบูมที่สุดของแฟนตาซีพอดี
ส่วนตอนนี้มาแนวเกมส์ กับ เกิดใหม่
รอเปลี่ยนเจน กันอีกรอบ
กูขอเข้ามาระบายหน่อย นิยายที่กูเขียนมีคนตามอ่านเยอะพอสมควร เลยทำทวิต ทำเพจไว้ ตอนแรกๆกูก็มีความสุขนะ ตอบข้อความ คุยเล่นกับนักอ่าน แต่หลังๆมันเหี้ยมากว่ะ เจอนักอ่านโรคจิต กูลงนิยายแต่ละตอนแล้วชอบติ กูคอมมิชชั่นจ้างคนวาดตัวละครก็มาบอกว่ามันคิดว่าตัวนี้ไม่น่าจะหน้าตาแบบนี้ ต้องทำท่านี้ ต้องตัวใหญ่กว่านี้ หล่อกว่านี้ คืออิเหี้ย กูเป็นคนแต่ง กูมโนตัวละครตัวเองได้ไม่ใช่เอาที่มันคิดเป็นตัวตั้งตัวตีรึเปล่าวะ ที่สำคัญคือมึงลามไปถึงทวิต แอดทวิตกูแล้วเมนชั่นมาติทุกวันไม่ว่ากูจะทำห่าอะไร กูเปิดดูในทวิตมันร้อยกว่าทวิต มีแต่เมนชั่นมาด่ากูทั้งนั้น กูรู้สึกเหมือนมีแอนตี้เป็นของตัวเองเลยว่ะเหี้ย กูเปิดทวิตเข้าไปจะตอบข้อความนักอ่าน เจออินี่เมนชั่นมาติกูหมดอารมณ์ทันที บางวันหงุดหงิดเมนส์มา จะปั่นนิยายเจออินี่ไฟกูมอดไม่ลงแม่งแล้ว รู้สึกบั่นทอนโคตรๆ กูโคตรเกลียดมันเลย ไม่รู้เป็นเหี้ยอะไรกับกูนักหนา กูอยากไล่มันไปไม่ต้องมาอ่านนิยายของกูแต่ทำเหี้ยอะไรนอกจากยิ้มแล้วครับ/ค่ะ แบบที่โม่งบนๆว่า กูเอาไประบายให้เพื่อนฟัง เพื่อนก็บอกให้ทำใจ อย่าไปสน แต่จะไม่สนได้เหรอวะในเมื่อมันก็คือฟี้ดแบค รู้สึกไปแล้ว จิตตกไปแล้ว มันจะจบแค่บอกว่าอย่าสนใจ ให้ทำใจได้เหรอ กูบ่นลงทวิตก็หาว่ากูพูดไม่ดี กูเงียบก็เหมือนตัวเองจะเป็นประสาท แล้วกูต้องปล่อยมันเหยียบย่ำต่อไปรึไง สัส
//จบการบ่น ขอบคุณโม่งสำหรับที่ระบาย
กูแต่งนิยาย แต่แต่งไม่จบสักเรื่อง
มีตอนต้น กะตอนท้าย ตรงกลางไม่มี........
แถมจบไม่ลงอีกต่างหาก
>>68 กูคิดว่ากูเข้าใจมึงนะ ทำมาหากินแบบนี้ก็ต้องวางตัวหน่อย มึงต้องรักษาภาพพจน์ด้วย อิห่า ต้นฉบับก็ต้องเขียนให้ถูกใจ นิสัยก็ต้องเอาให้คนอ่านถูกจริต ถ้ามึงใช้โซเชี่ยลมีเดียคนอ่านก็จะตามหาอย่างงี้แหละ แล้วพอเขาตามไปเจอมึงจะปลดปล่อยตัวเองโพสต์อะไรไม่คิดไม่ได้เลย ระวังตัวทุกฝีก้าว
กูพูดตรงๆ แบบไม่อาย กูต้องพบจิตแพทย์ก็เพราะความกดดันจากคนอ่านนี่แหละ ไม่ได้จะโทษหรือว่าไม่ดีนะ แต่บางทีคนอ่านก็ลืมคิดไปรึเปล่าว่ากูกับมึงก็คน จะเอาให้ได้ดั่งใจทุกอย่าง กูทำให้ไม่ได้ป่ะวะ แล้วกูก็ต้องกินต้องใช้ กูไปแอบอ่านที่คนอ่านเค้าคุยกันเรื่องด่านักเขียนที่เขียนงานขายหาว่าหาเงินกับคนอ่านกูบึนปากเลยจ้ะ ก็กูก็บอกแต่แรกแล้วไหมว่ามันอาชีพของกู กูก็ต้องขอขายแดกบ้างสิ ให้กูแจกฟรีหมดกูจะเอาข้าวที่ไหนแดกต่อชีวิตมาเขียนนิยายให้อ่าน
ถ้าหนักมากๆ ไม่ต้องอายนะมึง เพื่อนนักเขียนกูหาหมอกันหลายคน หลายคนไม่ได้เป็นนักเขียนอย่างเดียวด้วย
ถามว่าทำไมต้องหาหมอ ก็เพราะแบกความเครียดโคตรพ่อโคตรแม่เครียดแบบนี้นี่แหละ
เชื่อกูไหม ถ้าเราไปบ่นแบบนี้นะ เดี๋ยวก็จะมีคนถาม ลำบากนักทำไมไม่ไปทำมาหากินอย่างอื่น หึหึ
กูเคยเจอมาแล้วค่ะ
ส่วนกูมีแต่ตอนท้ายกะกลาง เริ่มเรื่องไม่ได้ว่ะ คือพล็อตน่ะมี แต่ไม่รู้จะเขียนไง เห้อม
กูแต่งนิยายภาคอดีตแบบลื่นปรืดๆ แต่พอมาภาคปัจจุบันกูติดแหงก แต่งไม่ไป ติดมาเกือบปีแล้วว่ะ
กูกำลังงงห้องนี้ต่างจากห้อง >>>/literature/3442/ ยังไง
ขอบ่นบ้าง นอยพวกประกาศแล้วว่าหยุดอัพงานแล้วดันไม่ยอมอ่านประกาศอีก จะไม่ให้อ่านหนังสือสอบบ้างเหรอไง แปะบอกแล้วว่าต้องไปต่างจังหวัดกับติดสอบจะหยุดเขียนยาวเลยยังมาโพสทวงอยู่ได้ เลิกอ่านไปเลยเหอะ
>>81 ถ้ามาเป็นแบบมึงว่ากูก็จะขอบใจคนอ่าน ถ้าพิมพ์บอกประมาณ เข้าใจ รออ่านต่อ รีบมานะ พวกนี้กูเข้าใจว่าเขากำลังรอ แต่มันด่าจะให้กูดีใจที่มันด่ากูเหรอ หาว่ากูขี้เกียจไม่รับผิดชอบ พวกปากแรงด่าพ่อแม่กูว่าพ่อแม่กูไม่รู้จักเลี้ยงให้กูตรงต่อเวลา (สำนวนถ่อยกว่านี้) บางคนอวัยเพศมาเลย กูควรดีใจใช่มั้ย
กูแคปรูปมาก็รู้เลยสิว่าเรื่องอะไร โม่งกูแตก กูก็โดนด่าอีก กูดัดสำนวนบางส่วนมาโพสเผื่อมีรี้ดเดอร์กูอยู่โม่งด้วย
- ห่า หยุดไม่บอก แม่งก็ค้างไปดิ << ประกาศไปแล้ว
- รอตั้งนานไม่อัพ วนเข้ามาดูหลายรอบแล้วนะ เสียเวลารอ
- จะอัพไหมเนี่ย ไม่อัพก็บอกล่วงหน้านะคะ รอแล้วไม่อัพ งั้นก็เลิกอ่านก็ได้ค่ะ
- โตแล้วทำไมต้องให้คนอื่นมาทวงว่าอัพยัง
- กว่าจะมาแต่ละตอนช้าแล้วยังต้องให้รออีก << กูอัพตรงเวลาทุกอาทิตย์นะโว้ย
- ไม่อัพก็ไม่อ่านแม่งแล้ว
- เดี๋ยวนี้อัพไม่ตรงเวลาเลย << กูประกาศหยุดครั้งที่สอง , ครั้งแรกกูสอบกูก็ประกาศว่าหยุด
- พ่อแม่ไรเตอร์ไม่เคยสอนให้รู้จักหน้าที่เหรอ
- ถ้าคิดไม่ออกก็เลิกเขียนเถอะคะ
- อัพจบแล้วค่อยมาอ่าน บายย 555555555
กูเอาไปคุยกับพ่อแม่กูแล้ว กูได้บทสรุปกูจะไปแปะป้ายเลิกอัพทีละตอน ต่อไปทำอีบุ๊คอย่างเดียวแม่งเลย
>>86 ตอกกลับไม่ได้เลยถึงจะภาษาดีแค่ไหนก็ตาม เถียง 1 คน มันจะกระจายไปหลายคนแล้วคนเขียนจะมีแต่เสียชื่อคนอ่านพวกนี้ไม่มาสนใจหรอกว่างานคนเขียนจะขายได้หรือเปล่า คนเขียนจะรู้สึกอะไร คนอ่านพวกนี้แค่เปิดมาต้องมีให้อ่านแล้วก็ด่าทุกอย่างที่ไม่พอใจ แล้วนักเขียนก็ไม่มีทางเขียนให้ถูกใจทุกคนได้ เดี๋ยวก็จะมีคนนี้ไม่ชอบแบบนั้น คนนั้นไม่ชอบแบบนี้ >>85 มาบ่นในนี้ก็บ่นไปเหอะ ดีกว่าไปทะเลาะแล้วจะยิ่งมีแต่พัง ข้ามๆ ไปเหอะ
ความจริงอยู่ห้องนี้ก็น่าจะเข้าใจคนอ่านนะไม่ว่างานจะออกมาดีแค่ไหนคนอ่านก็ด่า แขวะ แซะ กัด จิก ได้ทุกอย่างที่อยากจะเมาท์ดูกระทู้ทั้งนั้นในนี้ก็น่าจะพอเข้าใจพฤติกรรมคนอ่าน ไม่ด่าที่นิยายก็มาด่าในบอร์ดต่างๆ แบบนี้
https://www.dek-d.com/board/view/3731759/
คิดว่าไงกันบ้าง
กูขอมองบนกับ คห.34 มึงเขียนพระเอกแบบที่อยากให้โดนด่า แต่พอพระเอกถูกด่ามากเข้า มึงกลับนอยด์ซะงั้น
มึงงงงงงง มีนักอ่านเทวดาแล้ว มีนักเขียนเทวดาบ้างมั้ยวะ กุเคยเจอนะ เห็นเขาเพิ่งเริ่มหัดเขียน กุก็แนะนำเขาดีๆ แม่งตั้งเตตัสด่ากุเฉย กุผิดทีเสือกใช่มั้ย กุเลยไม่ค่อยเม้นท์สักเท่าไหร่ว่ะเสียความรู้สึก อันนี้คือในมุมมองกุนะ
พวกมึง กูเครียดและอยากผ่อนคลายอยากเที่ยวเพราะสมองตันคิดห่าอะไรไม่ออก อยากเปลี่ยนบรรยากาศการทำงานว่ะ มีใครพอจะช่วยแนะนำที่พักที่สามารถปั่นต้นฉบับได้แบบสงบๆบ้างไหม กูไม่ขออะไรมากแค่หญ้าเขียวๆ กับต้นไม้และไวไฟไว้ส่งงาน
นี่แหละมู้ที่กูใฝ่ฝัน เจอนักอ่านเหี้ยๆแล้วปวดกบาล ขอสิงหน่อย
อีเหี้ย อ่านแล้วหัวร้อน ยิ่งบรรทัดสุดท้ายนะ โอ้ยอยากตบปาก https://www.dek-d.com/board/view/3748486/
>>92 มาหนองคายไหมหรือไกลไป555 อยากได้อารมณ์ก็นั่งรถไฟอีสานมรรคามา (ได้อารมณ์ตรงไหน? ชื่อนี่ละเก๋ๆ) ในเมืองมีที่เที่ยวไม่มาก มีวัดเยอะทำบุญก็ถือว่าสะเดาะเคราะห์กับคนอ่านแย่ๆไป555 แต่เราแนะนำให้พักนอกเมือง พวกท่าบ่อ ศรีเชียงใหม่ สายธรรมชาติแกก็ขึ้นไปสังคมเลย ก็เลือกรีสอร์ทพักเอาตามสบาย แนะนำโขง อาย รีสอร์ทอยู่ศรีเชียงใหม่ (ไม่โฆษณาไปกว่านี้เพราะเขาก็ไม่จ่ายตังค์ให้เราอยู่ดีชิชิ) เบื่อ ๆ อยากได้แสงสีนั่งรถตู้เข้าไปอุดรก็ได้ สำคัญที่สุดถ้าจะนั่งรถทัวร์ของที่นี่อย่านั่ง ชา...ทัวร์ เพราะแม่งมีแมลงสาป(แช่ง) เป็นฝูงแต่ถ้าเพื่อนโม่งอยากได้ประสบการณ์แปลกใหม่ไม่ว่ากันนะ
ปล.ไม่เกี่ยวกับมู้เท่าไหร่ขอโทษด้วย
เวลาเห็นนักอ่านดิ้น และด่าเวลาทำเนื้อเรื่องให้ค้างคานี้ก็สะใจดีนะ เกือบติดเป็นนิสัยแล้วรู้สึกซาบซ่านมากๆ
กูเป็นนักอ่านนะ มีนักเขียนคนนึงในเด็กดอยเขียนฟิคแล้วกูไปตามเป็นคนแรก ๆ เห็นเค้าบ่นว่าไม่มีคำวิจารณ์ อยากได้คำวิจารณ์ กูก็คิดว่าเอาวะ เค้าอยากได้ ลองให้คำวิจารณ์หน่อย ดีกว่าอ่านของเค้าเฉย ๆ กูเลยไปถามว่า ต้องการวิจารณ์แบบซอฟท์ ๆ หรือตรงไปตรงมา เค้าตอบว่าวิจารณ์หนัก ๆ เลยน้อง กูก็เลยเขียนไปตามที่คิด ประมาณว่าดีพอใช้แต่ว่าเร่งเรื่องไปหน่อย บทสนทนาอ่านไม่รู้ว่าเป็นใคร เพราะมักจะเรียงบรรทัดผิด อ่านแล้วต้องเดาตลอดว่าใครพูดอยู่ เท่านั้นแหละ เลิกเขียนเลยเว้ย แล้วเขียนบอกด้วยว่าไม่มีคำชมไม่รู้จะเขียนไปทำไม กูเลยอึ้งเลย เลิกวิจารณ์โดยเด็ดขาด ทำตัวเป็นนักอ่านผู้สงบเสงี่ยมต่อปาย
>>101 กูเข้าใจมึงนะ เมื่อก่อนเพื่อนเขียนนิยายลงเด็กดี ขอให้วิจารณ์ให้หน่อย แต่กูลืมถามไงว่าจะเอาตรงๆ หรือ อ้อมๆ กูใส่ตรงๆ ไปเลย มาย้อนคิดตอนนี้ กูรู้สึกเหมือนเพื่อนจะเคืองกูนิดๆ ว่ะ แต่มันไม่ใช่สายนักเขียนตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เลยไม่มีปัญหาเท่าไหร่ กูพึ่งนึนึกได้ตอนนี้เองว่าจะวิจารณ์อะไรใคร ต้องหาจุดที่ควรชม และหาจุดที่ควรติ จะได้มีกำลังใจและแก้ข้อผิดพลาดได้ เหมือนที่สนพ เขาทำกัน
>>101 >>102 โอ๋ๆนะพวกมึง ไม่เป็นไรนะ มึงอยากวิจารณ์ก็วิจารณ์ต่อก็ได้ เพราะอย่างกูในฐานะนักเขียน กูถือว่าทั้งคำวิจารณ์กับคอมเม้นต์เป็นอย่างเดียวกันนะมึง คือเป็นสิ่งที่บอกว่าคนอ่านเขาอ่านรู้เรื่องแค่ไหน อ่านแล้วรู้สึกยังไง กูจะได้รู้ว่ากูเขียนไปแล้วคนอ่านเข้าใจป่ะ แล้วเข้าใจแค่ไหนว่ะ นี่สิถึงจะสำคัญ
แต่ถึงพูดไปงั้น กูก็ไม่มีทั้งคอมเม้นต์ทั้งคำวิจารณ์เลยอ่ะมึง T-T
>>104 >>105 ฮือ ขอบคุณพวกมึงมากนะ ใจกูก็พอเข้าใจอ่ะ ว่ากูเขียนช้าอัพช้า บวกกับเดินเรื่องแม่งก็ช้าอีก นิยายกูถ้าลงสักสี่ซ้าห้าหน้าเรื่องมันจะเหมือนไม่ค่อยขยับไปไหนไง ตอนหนึ่งของกูก็เลยประมาณ 11 - 13 หน้า A4 แบบไม่เว้นบรรทัด ซึ่งกว่าจะเขียนได้หมดตอนได้อัพบางทีล่อไปร่วมเดือนอ่ะ
กูเข้าใจเหตุผล แต่บางทีก็ก็นอยด์ๆเหมือนกัน เลยยิ่งเขียนช้าไปอีก แม่มมมมมม
Topic has reached inactivity threshold.
Please start a new topic.
Be Civil — "Be curious, not judgemental"
All contents are responsibility of its posters.