Fanboi Channel

(Light Novel) พูดคุยและวิจารณ์ รูปเล่ม LN สนพ. และร้านค้า Vol.20

Last posted

Total of 1000 posts

1 Nameless Fanboi Posted ID:oX8Z3NAnEz

>>>/animanga/13469/ พูดคุยฝั่งมังงะ Vol.21
>>>/lightnovel/15410/ จับฉ่าย LN Vol.17
>>>/lightnovel/2463/ แจกสปอย & ถามหาสปอย LN

>>>/lightnovel/5634/ Vol.1
>>>/lightnovel/5810/ Vol.2
>>>/lightnovel/5916/ Vol.3
>>>/lightnovel/6076/ Vol.4
>>>/lightnovel/6203/ Vol.5
>>>/lightnovel/6470/ Vol.6
>>>/lightnovel/6754/ Vol.7
>>>/lightnovel/6995/ Vol.8
>>>/lightnovel/7829/ Vol.9
>>>/lightnovel/8215/ Vol.10
>>>/lightnovel/8828/ Vol.11
>>>/lightnovel/9699/ Vol.12
>>>/lightnovel/10896/ Vol.13
>>>/lightnovel/11464/ Vol.14
>>>/lightnovel/12340/ Vol.15
>>>/lightnovel/12879/ Vol.16
>>>/lightnovel/13811/ Vol.17
>>>/lightnovel/15134/ Vol.18
>>>/lightnovel/15932/ Vol.19

1) รูปเล่ม LN: การแปล กระดาษ เข้าเล่ม ดีไซน์ปก
2) สำนักพิมพ์: เรื่อง LC ข่าวของ สนพ. และ ข่าววงในที่เกี่ยวข้องกับวงการ LN
3) ร้านค้า ร้านขายส่ง ร้านมือสอง: ร้านไหนขายเท่าไร ลดยังไง และคนขาย
4) ebook: หนังสือ ebook แมกกาซีนออนไลน์ แพลทฟอร์มและ app

*คำเตือน*
- สำหรับเรื่องของ "ข่าววงในที่เกี่ยวข้องกับวงการ LN" กรุณาฟังหูไว้หู ก่อนที่จะเลือกเชื่อ หรือไม่เชื่อ ข่าวใดๆก็ตามที่เผยแพร่ในห้องนี้

2 Nameless Fanboi Posted ID:wzvPhz9XQR

เรื่องที่ว่า คนซื้ออีบุ้คมากๆที่แอพไหนแล้ว จะไม่ค่อยอยากย้ายแอพนี่จริงไหม

3 Nameless Fanboi Posted ID6:HyibRmhxBZ

>>2 มองว่าก็เหมือนหนังสือเล่ม คงไม่มีใครชอบเอาหนังสือเล่ม 1 ไว้ชั้นหนังสือโต๊ะทำงาน เอาเล่ม 2 ไปใว้ในห้องนอน เอาเล่ม 3 ไปกองไว้หลังบ้านหรอก ต่อให้เป็นกลุ่มเฉพาะเรื่องการเอาหนังสือไปกองไว้ที่เดียวมันหาง่าย

ส่วนในแอพมันจะมีความฟินฟ่วงเข้ามาด้วย เพราะมันเห็นปกรวมกันเยอะๆ ที่เดียว แล้วถึงจะลงช้าหน่อย ก็รอได้เพราะไอ้ที่ซื้อมาก็ยังอ่านไม่หมดหรอก ซื้อดองไว้บาน

4 Nameless Fanboi Posted ID:W1YugmN/xw

>>2 ไม่ค่อยอยากย้ายแอพจริง

แต่การมีแอพเพิ่ม ก็ไม่ได้เป็นภาระมากอะไร เอาเป็นว่า ถ้ามันexclusive อีกแอพหนึ่งเท่านั้นไม่ขายที่อื่น ก็ยอมลงแอพเพิ่ม แต่ถ้า ลงขายทั้งสองแอพ หรือลงล่าช้าหน่อยแอพนึง(time exclusive) ก็อาจจะรอ แล้วซื้อที่แอพหลัก

แต่ก็ใช่ว่าอนาคตจะไม่มีทางย้าย ถ้ามีแอพใหม่ที่ดีกว่าสุดๆ เช่นมีหนังสือใหม่หลากหลายมากกว่า ฟีเจอร์ดีกว่า ก็ทยอยๆย้ายค่ายได้

อย่าลืม แอพก็แค่คลิกไม่กี่วินาที ไม่ได้ยุ่งยากอะไร แบบการตั้งชั้นหนังสือใหม่

5 Nameless Fanboi Posted ID:fOfCoDgxjw

คือปีนี้น่าจะกำไร 350 ลบ ใน7 ปี คิดว่ามีโอกาสที่กำไรจะกลายเป็น 3500ลบไหม ถ้าต่อไปยังเป็นเจ้าเดียวที่โดดเด่นในตลาด?

6 Nameless Fanboi Posted ID:aVBHFiV0lb

เฮียใช้ปล่อยหุ้นในเวนเจอร์ฟันด์หมดแล้ว ห่วงอะไรอีก ?

7 Nameless Fanboi Posted ID:v+1ivKm/Xa

>>5 ถ้าจะเอากำไร 3500 ลบ อันนี้ต้องขายดีกว่าเว็ป marketplace shopping online เจ้าดังอีกนะ

8 Nameless Fanboi Posted ID:rkCKMb+/6A

>>6 อันนี้สื่อถึงอะไรรึ

9 Nameless Fanboi Posted ID:9B0L7SzKYB

ถ้ากิจการมีอนาคต founder จะไม่ทิ้งง่ายๆ

10 Nameless Fanboi Posted ID6:bTljMIurd6

ช่วงนี้ LP กับ FP ไปกินอะไรมารึเปล่า แข่งกันทุบไหดอง ลากแพกลับรัวๆ

11 Nameless Fanboi Posted ID:zCktC/DiOV

>>9 มันโตเร็วๆแบบเดิมยาก แต่ก็ค่อยๆโตได้ ยังไม่โดนdisrupt ง่ายๆ

ช่วงก่อนมันโตไวมากเพราะช่วงโควิท ตอนนี้เปิดงานหนังสือได้ ก็ทำให้โตช้าลง แต่คนเคยซื้อebook แล้วติดใจ ก็ไม่กลับไปหนังสือเล่มหรอก ยกเว้นเรื่องขายแพงกว่าแบบเล่มกับบางค่าย

เจ้าของเดิมขายทำกำไรก็เป็นเรื่องปกติ startup ที่ไหนก็ขาย เพราะขยายเองได้ยาก หาทุนได้ไม่เยอะเท่านลท.อื่น และถ้าจะยกตัวอย่างc-เอ็ด ก็ขายดีเป็นสิบปีก่อนจะเข้ายุคเสื่อมถอยของหนังสือเล่ม

12 Nameless Fanboi Posted ID:9B0L7SzKYB

>>11 ดูการกระจายหุ้นหลัง IPO สิ
เวนเจอร์ที่เฮียใช้ถืออยู่ที่ฮ่องกง ขายทิ้งเกลี้ยง
เหลือแต่เวนเจอร์ฝั่ง COL

13 Nameless Fanboi Posted ID:n+TZrjJ/j/

ไพเรทเด็กหนวดตอนนี้มี 44 เจ้า
ยุคบูมสุดขีดสินะ

14 Nameless Fanboi Posted ID:o2saXLPskt

>>13 มีเยอะแต่ถ้ายอดขายไม่ได้ดีเท่าไรก็เรียกว่าบูมไม่ได้หรอกมั้ง กูก็สงสัยเหมือนกันว่าธุรกิจแบบนี้มันจะทำกำไรได้ซักเท่าไรเชียว กลุ่มลูกค้าวงแคบมากๆ

15 Nameless Fanboi Posted ID:n+TZrjJ/j/

ดู OC ออกคินนิคุแมน 38 เล่มรวดใส่กล่อง 5 พัน
ก็คงไปรอดอยู่
แต่ทำไมมึงไม่ทำต่อจาก 39 ไป 70 วะ

16 Nameless Fanboi Posted ID:XcdRC0YnFk

>>15 ไม่ใช่ว่าเจ็งจาก 38เล่มแรกนะ 555

17 Nameless Fanboi Posted ID:qGcQhaJX19

กำไรปีนี้ ทำไว้สูงอยุ่นะ 350 สงสัยว่าปีแรกที่เข้า ipo จะทำได้สูงกว่านี้ไหมนี่สิ ประเด็นหลักๆเลย

18 Nameless Fanboi Posted ID:KCdt16vQmT

>>17 เฮียใช้ทิ้งแล้ว ถึงไม่ถึงก็ไม่สนละ

19 Nameless Fanboi Posted ID6:5QkMQQahqM

>>12 เวนเจอร์ที่ฮ่องกงมันก็ของ COL นิ มึงจะพูดให้งงไปทำไม
ส่วนขายหุ้นทำยังกะล่มสลาย ในเมื่อทางเทคนิคแล้ว COL ก็ถือว่าเป็นเจ้าของมาตั้งนานแล้ว เฮียใช้เดิมถือไม่ถึง 10% ด้วยซ้ำ

สรุปคือ แค่ปล่อยหุ้นที่เหลือให้ COL แค่นั้น พูดยังกะจะปิดบริษัท

20 Nameless Fanboi Posted ID:L8cdIsTaH3

>>19 มึงมั่วละ
ก่อนหน้า ipo มีเวนเจอร์สองตัวที่ฮ่องกง
อันนึงของ COL อีกอันของเฮียใช้
หลัง ipo เฮียใช้ขายเวนเจอร์ของตัวเองที่ฮ่องกงเกลี้ยง
เหลือแต่เวนเจอร์ของ COL

21 Nameless Fanboi Posted ID:L8cdIsTaH3

>>19 เฮียใช้ถือไม่ถึง 10 % กูละขำ
มึงไปดูเวนเจอร์ที่ฮ่องกงก่อน มันมีสองตัวโว้ย

หลัง ipo เหลือ ไม่ถึง 10 แน่นอน เพราะเฮียหอบเงินไปแล้ววว

22 Nameless Fanboi Posted ID:ehrT6Z.yTJ

>>21 ของเบรน? อันนี้เอามาทำ IPO ไว้เพิ่มทุนอยู่แล้ว ต่ำกว่า 5% อีก แล้วไม่ใช่ของเฮียใช้ 100% ด้วยซ้ำ แถมสุดท้ายก็ยังถืออยู่ 9%

สรุปก็แค่เอาหุ้นมาเปิด IPO เพิ่มทุน แค่นั้นแหละ ขำทำยังกะเรื่องใหญ่ อ๋อ COL ก็ขายด้วยแต่ถือเกิน 50%

23 Nameless Fanboi Posted ID:L8cdIsTaH3

>>22 ของ founder ไง
หลัง IPO ทิ้งเกลี้ยงละ จากเดิม 40 % เหลือไม่ถึง 18 %
COL เท่าเดิม

24 Nameless Fanboi Posted ID:L8cdIsTaH3

ถ้าดีจริง founder ไม่ทิ้งง่ายๆ ยกเว้นโดนบีบ
กำเงินไปทำใหม่แบบเฮียตัน

25 Nameless Fanboi Posted ID:ehrT6Z.yTJ

>>23 มั่ว 40% เอามาจากไหนวะ เบรนมี 5% ที่เหลือถือกันสองคนรวม 20%

หลังเปิด ipo สองคนเหลือ คนละ 9%

แล้วเดิมที ก็แทบจะเรียกว่า เป็นของ COL มาหลายปีแล้ว

26 Nameless Fanboi Posted ID6:5QkMQQahqM

>>24 Dropbox, Disqus, Scribd, Reddit พวกนี้ Founder ขายทิ้งหมดทุกตัว เป็นเรื่องที่ Start Up ทุกที่คล้ายกันหมด ขายให้เจ้าที่ใหญ่กว่า

27 Nameless Fanboi Posted ID:zswakuD4or

startup มันวางแผนธุรกิจไว้เพื่อขายหุ้นให้เจ้าใหญ่อยู่แล้วปะวะ เพราะเจ้าของเองมันไม่มีเงินทุนมากพอที่จะขยายเองหมด และพวก venture เองมันก็หวังทำกำไรจากการขายหุ้นด้วยเช่นกัน ยกเว้นventureเจ้าใหญ่มากๆที่จะถือยาวๆเอง

28 Nameless Fanboi Posted ID:FC8.NbUz5.

ช่วงโควิกทำฐานรายได้สูงไปละ กำไรก็ด้วย สงสัยว่าต่อไปนี้จะไปได้ไกลเท่าไร จริงๆนะ

29 Nameless Fanboi Posted ID:rpnD58ZcKb

>>27 มึงมองเฮียใช้เป็นเวนเจอร์เรอะ

30 Nameless Fanboi Posted ID:IO2rs+GcvY

เอปล่อยของรอบงานหนังสือลงร้านช้าจังรอบนี้ แต่เห็น ebook จะมา 24 นี้ แสดงว่าจะเข้าพร้อมกันเลยงั้นสิ?

31 Nameless Fanboi Posted ID:rpnD58ZcKb

>>30 ก็เห็นทยอยปล่อยตั้งแต่สามอาทิตย์ก่อนแล้ว มึงไม่ได้ตามตัวพวกนั้นสินะ

32 Nameless Fanboi Posted ID:hPVZS.3DtK

คือก็เอาใจช่วยพี่ๆทั้งคู่อ่ะนะครับ แต่ใจนึงก็ยังสงสัย ว่าปัจจับแวดล้อมรอบด้าน มันจะเอื้ออำนวยให้ยอดขายทุกปีมันเพิ่มขึ้นไปได้ไกลขนาดไหน กี่ปีกัน

33 Nameless Fanboi Posted ID:rpnD58ZcKb

>>32 วิธีการก็คือหาเล่มใหม่ๆ เข้าไปเรื่อยๆ ถ้าอัตราเพิ่มลดลง รายได้ก็จะเริ่มลดลง
มึงคงไม่ซื้อซ้ำ
e book คงไม่เปลี่ยนปกบ่อยๆ

34 Nameless Fanboi Posted ID:hPVZS.3DtK

>>33 มันมี สองเงื่อนไขที่จะได้ไปต่อ
1.จำนวนคนใช้อีบุ้คเจ้านี้ต้องเพิ่มขึ้น อันนี้คือต้องแน่ใจนะว่าช่วงโควิกที่ผ่านมาเนี่ย ไม่ใช่ว่าจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้นมาจนเพิ่มไม่ได้อีกแล้ว

2.มูลค่าการซื้อต่อหัวต้องเพิ่มขึ้นจากปีก่อน แน่ใจนะว่าคนจะยอมจ่ายหนักขึ้นกว่าปีก่อนเพื่อชื้ออีบุ้คจากเจ้านี้

35 Nameless Fanboi Posted ID:Q3L5wZ/ALI

กรูว่ามันไม่โตแบบก้าวกระโดด แต่มันก็โตนะ ตลาดไทยยังมีช่องว่างebookเยอะ

อย่าลืม เด็กรุ่นใหม่ใช้ipad เรียนหนังสือระดับมหาลัย เท่าที่เห็นจากม.รัฐใหญ่ๆ กันแทบจะ 100% แล้วเด็กมัธยม ก็เริ่มจะมีกันเยอะ เด็กเล็กๆที่บ้านพร้อม ก็โตมาด้วยtablet กันด้วยซ้ำ

มันเป็นพื้นฐานให้คนหันมาซื้อebook ง่ายขึ้น

ที่ยังขาดคือนิยายแปลฉบับยาวๆ ต้องไปจีบสนพ.เอามาลงเพิ่ม ตอนนี้มีแต่เครืออ. ที่ลงเยอะๆ(ในมุมของกรูนะ นิยายบางสายอาจจะลงเยอะอยู่แล้ว) รวมไปถึงหนังสือสายวิชาการในไทย ยังแทบไม่มีลง (ไม่นับพวกpdf นอก) แต่ก็อีกนั่นแหละ จะทำยังไงให้สนพ.ยอมเอามาลง เพราะบางเจ้ายังยึดติดการพิมพ์แบบกระดาษเป็นหลัก แอนตี้ebookซะเองก็มี

36 Nameless Fanboi Posted ID:hPVZS.3DtK

>>35 คือถ้ามันทำกำไรแบบ new high ไม่ได้ในทุกปี สุดท้ายราคาหุ้นจะตก สุดท้ายก็ซวย แพทเทรินธุรกิจแนวนี้ต้องดูกำไรรายไตรมาศเลยด้วยซ้ำ

37 Nameless Fanboi Posted ID6:JCBTtzSY83

>>34 บริษัท IT ขอให้มีเงิน มันสามารถสร้างบริการใหม่ แบบไม่เกี่ยวธรุกิจเดิมได้เลย ไม่ต้องโฟกัสที่จะหาเงินจากบริการหนังสืออย่างเดียวก็ได้

ถ้า project ทำเงินรายได้หลักนิ่ง ซัก dev ออกมาฟอร์มทีมเล็ก r&d ปั่น start up project ใหม่เปิดบริการต่อ ทำเป็นวงจรหาเงินแบบวนลูปไปเรื่อยได้

38 Nameless Fanboi Posted ID:WWwCyXWVnY

โจทย์คือมึงซื้อแล้วไม่ซื้อซ้ำ เช็คได้ด้วยว่าซื้อหรือยัง
วิธีการหารายได้คือ ถ้าไม่หาคนใหม่มาเพิ่ม ก็ต้องหาเรื่องใหม่มาใส่

39 Nameless Fanboi Posted ID:rSUi93KtOu

>>38 คือเรื่องที่มาอัดใหม่เยอะๆเนี่ย ถ้าเป็นนิยาย อาจมีลุ้น แต่ถ้าหวังจากการ์ตูนญี่ปุ่น เราว่ายากมาก

40 Nameless Fanboi Posted ID:WWwCyXWVnY

นี่ไง founder มันถึงชิ่งไง

41 Nameless Fanboi Posted ID:dShF7nTtm+

>>36 อส new high ทุกปีมันหุ้นปั่นแล้ว
มันก็มีcycle ของมันดิ จะ sustain ได้แค่ไหน อย่าลืมว่าตอนนี้น่าจะเจ้าใหญ่สุด

หนังสืออีกเยอะยังไม่ลงebook กรูนี่โคตรอยากอ่านนิยายจีน แต่sxx คงหวงมาก

42 Nameless Fanboi Posted ID:lzsezSMrxr

>>41 เข้าใจเรื่องหุ้นรึป่าววะ ก่อนจะมาฉอดๆเนี่ย
Com7 เข้าตลาด 2558 กำไร new high ทุกปี อันนี้คือหุ้นปั่นรึ?

43 Nameless Fanboi Posted ID:Vw6z8XHC1n

>>42 com7 ปีนี้น่าจะลดแล้ว ส่วนปีน่าผลประกอบการ น่าจะลดกว่าปีนี้อีก กำไรจาก hw หายไปบานเพราะเหมืองแตกเรียบร้อย

44 Nameless Fanboi Posted ID:BmisDUE.7D

>>41 ถ้าปั่นก็ต้องบอกว่า
เนี่ยกิจการแห่งอนาคต คนกำลังมา
อ่าน ebook หมดแล้ว ใครซื้อเล่ม
เจ้าอื่นตามไม่ทันหรอก บลาๆๆ
คือมึงต้องสร้างสตอรี่ปั่นให้ได้

45 Nameless Fanboi Posted ID:AjaYO2V04E

เจ้าอื่นบอกเปิดโกดังเลหลัง
แต่มีเจ้าหนึ่ง บอกว่า เปิดโกดัง (เลหลัง?) ระดมทุนซื้อ LC ใหม่

46 Nameless Fanboi Posted ID:2f6U2Xg.O7

>>45 เจ้าไหนวะที่เปิดเลหลังช่วงนี้

47 Nameless Fanboi Posted ID:O6Ebr+NI+S

เดือนหน้าเจอกัน

48 Nameless Fanboi Posted ID6:QV7Zgv8B/l

นกย่างต่อสัญญาหนอนหนังสือเฉย

49 Nameless Fanboi Posted ID:Fl0SmG8PZs

>>48 หนอนหนังสือคือ?

50 Nameless Fanboi Posted ID:VIxVoo8.nW

>>49 本好きの下剋上

51 Nameless Fanboi Posted ID:HeM6EnZwue

นักสปอยคนนั้นทีบอกว่าแพแล้ว เปิดโดเนทแปลสปอยทำไงละ

52 Nameless Fanboi Posted ID6:cuA6gGTYJn

A เริ่มขาย LN ebook แพงกว่าปกแล้ว จะเอาตามพี่หยามเรอะ
ร้านอาหารต่างโลก ebook 360 เล่ม 320 เว็ป A 300
***แต่ถ้าคุณซื้อตอนนี้กับผ่านฟ้าเราขายแค่ 288 บาท เท่านั้นๆ !!!

สรุป กูซื้อเล่มเอามาแสกนเองก็ได้วะ ถูกกว่ากด ebook 25% เลยสึด

53 Nameless Fanboi Posted ID:TS3jWkXIPa

>>52 ราคาแม่งแปลกๆ
ขุนนางชั่ว ebook 250 เล่ม 390 เว็ป A 350
เวอร์จิ้นโร้ด ebook 300 เล่ม 320 เว็ป A 300

มีทั้งถูกกว่าโคตรๆ ราคาเท่ากัน ราคาแพงกว่า เป็นที่ค่า LC ต่างกันเยอะปะวะ

54 Nameless Fanboi Posted ID:Z2w2Xx/Hg6

เหมือนราคา e book ของ A เป็น fix price ว่ะ ไม่ขึ้นกับราคาตัวเล่ม 100 150 200 250 300 และอันใหม่ 390

55 Nameless Fanboi Posted ID:JgatBn2iyO

topten โพล kono อยู่กับนกย่างเกือบหมดเลย

56 Nameless Fanboi Posted ID:WCTFlAhFS6

คิดว่ายังไงกันรึ เป็นไปได้ไหมที่อีกสองปี ราคาการ์ตูน จะกลายเป็นเล่มละ 150 ไลท์โนเวลขึ้นไปเป็น 400

57 Nameless Fanboi Posted ID:JZRFJjWq7l

ยังไงก็ได้เพราะกุไม่ได้ซื้อของไทยนานแล้ว

58 Nameless Fanboi Posted ID6:UoAQcClY1D

400 รับไม่ได้หว่ะ ไปซื้ออิ้งอ่านเอาดีกว่าเล่มละ 170-200

59 Nameless Fanboi Posted ID6:WdReR/K3eN

>>56 สองปี ตอนนั้นกูว่าน่าจะอ่าน LN ยุ่นได้มั้ง ตอนนี้เรียนมาปีกว่ามังงะก็พออ่านได้แต่ช้าหน่อย

60 Nameless Fanboi Posted ID:z9cWSdo/X4

>>56 ไม่ต้องรอ การ์ตูนของนกย่างไป 150 แล้ว
ของหนึ่งเดียวก็ใกล้ๆ 200 แล้ว
เพดานของ 2 ปีข้างหน้าคงเป็น การ์ตูนปกติ = 250
การ์ตูน BB = 350
LN ไซส์นกย่าง = 450
LN ไซส์เล็ก = 350
Ebook การ์ตูน = 200
Ebook LN = 350

61 Nameless Fanboi Posted ID:z9cWSdo/X4

ลืม
ไพเรทการ์ตูน = 500-700

62 Nameless Fanboi Posted ID6:WdReR/K3eN

>>61 ถ้าใช้มาตรฐานนี้ไพเรท art book น่าจะไป 4,000

63 Nameless Fanboi Posted ID:djsSpLZ+ie

>>59 จะไปอ่านเถื่อน raw ยุ่นแทนเหรอวะ

เล่มเกาะ มันแพงกว่าเล่มไทยโดยส่วนใหญ่อยู่แล้ว ยกเว้นพวกพิมพ์กระดาษแย่ๆ หรือลดราคา/บุฟเฟต์

64 Nameless Fanboi Posted ID6:rQMmConlAM

>>63 แท้สิ ebook ก็ซื้อผ่าน bookwalker ไง โปรลดราคายังกะสตีม พวกลด 30% นี่คือปรกติมาก
และต่อให้ไม่ลด ราคา LN ญี่ปุ่นที่บ้านเราเอามาขยายเล่มใหญ่ถูกกว่าเยอะนะตกเล่มละ 700 เยน = 180 บาทบ้านเรา

ส่วนมังงะ 450-700 เยน อันนี้ราคาไกล้กับของไทยแล้วนะ แต่โปรลดเยอะกว่า แล้วไม่ต้องปวดหัวกับนักเกร็งด้วย

65 Nameless Fanboi Posted ID:03OuQowxvl

LN เกาะ

ขนาด Bunko (A6) 700 เยน = 180 บาท
ขนาด Tank (B6) 1200 เยน = 310 บาท

66 Nameless Fanboi Posted ID:lc1k5G/r6w

ถามอย่างนะ ไลทโนเวลแพงขนาดนี้ ทำไมถึงซื้อ พวกที่ซื้อส่วนใหญ่ไม่มีครอบครัว ไม่กะแต่งงาน อะไรแบบนี้รึ

67 Nameless Fanboi Posted ID:gSUMSVpAqq

>>66 กลุ่มโนบิตะจะซื้อเฉพาะเรื่องดัง แล้ววนขาย

กลุ่มซูเนโอะ ซื้อแบบไม่สนราคา

และใช่ ประเทศไทยมีคนรวยกว่าที่คิดนะ หุ้นกู้เกรดโนเนม B มีขายแทบทุกเดือน เปิดที 2-3 หมื่นล้าน จิงขั้นต่ำแสนนึง แต่หมดไวยังกะจอง ps5 ขนาดแบบจำกัดจำนวนซื้อยังหมดไวสัด -__-

68 Nameless Fanboi Posted ID:X4B5mMr9+K

แนว romance นี่พีคแล้วใช่มั้ย พวกพออ่านได้นี่โดนตัดจบเล่มสองเพียบเลย

69 Nameless Fanboi Posted ID:C03FYR0G/i

>>64 ก็บอกแล้วว่ายกเว้นโปรลดราคา อส เมบ บ้านเราโปรตอนลดพวกเล่มแรกๆ มันก็ลด 50-70% เหมือนกัน ปกติมันจะลดจากปก 20-30% แต่บางค่ายขายแพงกว่าแบบเล่ม ก็ไม่ซื้อ

แบบเล่มบนเกาะมันมีแบบกระดาษถูกๆ บางๆเปื่อยๆ อันนี้บางทีถูกกว่าเล่มไทย ของไทยมันแพงส่วนหนึ่งเพราะค่าlc ค่าแปล และใช้กระดาษเกรดกลางๆ บางเล่มก็เกรดดี ขยายไซส์ก็ส่วนหนึ่ง อัพราคากันไป และพูดตรงๆสมัยLN ฮิตๆ ปกเล่มละร้อยต้นๆก็มีเยอะแยะกระดาษดีกว่าของเกาะแถมขายถูกกว่าซะอีก(ค่ายที่พิมพ์อบต/ลพ แรกๆ)มันเพิ่งเริ่มแพง ตอนขาลงแบบนี้แหละ

พวกเล่มมาตรฐานพอๆกับที่บ้านเราพิมพ์กรูกดสุ่มๆใน Amazon jp แบบเล่มมัน 1320เยน(รวมvat 10% ด้วยดิ) ก็เล่มละ 300 กว่าบาท แต่บ้านเราแบบเล่ม ขายเล่มละ 259 บาท ถูกกว่าอยู่ดีนะ(ตัวอย่างคือรูดี้) อีกอย่างช่วงนี้เยน มันลงเทียบUSD มากกว่าบาท มันเลยดูเหมือนถูกลง ถ้าเทียบต้องเทียบช่วง 0.3

>>37 คนไทย 1 % ถือครองความมั่นคั่ง หรือมีทรัพย์สินรวม 66.9% ของทรัพย์สินรวมทั้งประเทศ ไทยมันความเหลื่อมล้ำสูงอันดับต้นๆของโลก บางทีดูของแพงมากๆขายดีไม่ได้หรอก แต่ใช่ว่าคิดว่าจะเจาะตลาดคนรวยได้ก็ขายได้ มันไม่ง่ายขนาดนั้น ส่วนใหญ่มันก็เครือข่ายเดียวกัน

>>68 LN แนวความรักมันสู้นิยายแท้ๆไม่ได้หรอก มันใส่โมเอะ กับโลลิหรือแฟนตาซีมาเหมือนมังงะ แต่plotหลักมันยังสู้นิยายแท้ๆไม่ได้อะ เขียนยาวๆแล้วล่มกันหมด

70 Nameless Fanboi Posted ID:djRTS.ri.N

>>69

> (รวมvat 10% ด้วยดิ)

ถ้าสั่งมาไทยไม่โดน vat จะรวมทำไม

71 Nameless Fanboi Posted ID:KHLmXdTKVo

>>70 มันรวมมาตั้งแต่ต้นทาง

72 Nameless Fanboi Posted ID:djRTS.ri.N

>>71 ถ้าสั่งส่งมาที่อยู่ไทยมันไม่คิดภาษา ไปลองใหม่เลย ถ้าสั่งส่งไปในญี่ปุ่นแล้วเทนโซต่อมาอ่ะโดน

73 Nameless Fanboi Posted ID:djRTS.ri.N

ภาษีสิ ภาษาอะไรวะ

74 Nameless Fanboi Posted ID6:kL4YjgYMtm

>>73 หนังสือมันไม่เสียภาษีจะหนีทำไม กรณีสั่ง amz มันก็เวฟภาษีคืนให้

75 Nameless Fanboi Posted ID6:kL4YjgYMtm

แต่ถ้าอ่านยุ่นออกพวก LN เล่มเล็ก ถ้าเรื่องไหนเก่าหน่อยแนะนำให้ลองไปส่องร้านมือสองก่อนดีกว่า เพราะอาจจะเจอราคาถูกเชี้ยๆ อยู่ ราคาแบบมึงเอามาขายเพราะไม่อยากเสียค่าทิ้งขยะเรอะ 22 เล่ม 1200 เยนอะไรแบบนี้

76 Nameless Fanboi Posted ID:djRTS.ri.N

เดี๋ยว งงแล้ว สรุปหมายถึงภาษีฝั่งไหน

1. สั่งจาก Amazon JP หรือร้านอะไรที่ส่งนอกประเทศได้ จะไม่โดนภาษีญี่ปุ่น 10% (ถ้าเลือกที่อยู่ตปท.มันจะแสดงราคาไม่รวมภาษีอัตโนมัติ แต่ถ้าเลือกที่อยู่ในญี่ปุ่นมันจะแสดงแบบรวมภาษี) แล้วปกติก็ไม่โดนฝั่งไทยด้วย

2. แต่ถ้ามึงสั่งไปลงเทนโซ แบบนั้นอ่ะโดน 10% ตั้งแต่ต้นทาง แต่เข้าไทยก็ไม่ควรโดนอะไร

77 Nameless Fanboi Posted ID6:kL4YjgYMtm

>>73 โทษตอบผิด - -"

78 Nameless Fanboi Posted ID:KHLmXdTKVo

ระหว่างของหมดรัวๆ กับพิมพ์เพิ่มรัวๆ คุแม่งแห่ไปซื้อของหมดรัวๆ ก่อน

79 Nameless Fanboi Posted ID:ZkIGbdhqdp

คือ ดูจากตอนนี้
ยอดขาย ebook ต่อปี น่าจะตันแล้วรึยังนะ
คือช่วงโควิก นั้นน่าจะพีคสุด ของยอดขายebook ต่อปีแล้วนะ

80 Nameless Fanboi Posted ID6:dXdEJ/QisW

>>79 ถ้าเป็น ln มังงะ ยอดจะเพิ่มกว่านี้ได้อีกเยอะ เยอะกว่าโควิตด้วยได้หลายเท่าด้วย ปัจจัยตอนนี้อยู่ที่ สนพ. มากกว่า ถ้าไม่มีอะไรมาขายยอดจะมาจากไหน หรือถ้ากวนตรีนออกช้าเหมือนแพแบบพี่หยาม 6 เดือนบ้าง ปีครึ่งบ้าง ยอดมันจะเพิ่มได้ไง

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นตัวที่ทำยอดหลักๆ ของ ebook น่าจะเป็นนิยายรัก นิยาย Y มากกว่ามั้ง พวกนี้แค่ยอด like ก็ปาไปหลักพันแล้ว

81 Nameless Fanboi Posted ID:TY6B6cKpgs

75 หน้ามีสาระกว่าโกนหนวดทั้งเรื่อง

[Digital Lover (Nakajima Yuka)] Wakeari Shoujo to Dousei Seikatsu DLO-11 | Living Together with a Runaway Girl DLO-11 [English] [Team Rabu2]

82 Nameless Fanboi Posted ID:HDjX1AWJKk

>>80 ถ้าลงครบทุกปก ยอดมันจะเพิ่มได้ยังไง ถ้าไม่มีคนใหม่ๆ เข้ามาเพิ่ม
ดังนั้นก็ต้องสร้างกระแสว่านี่คืออนาคต

83 Nameless Fanboi Posted ID6:iivqsZZu3a

>>79 กูก็รู้สึกว่ามันพ้นจุดพีคไปแล้วนะตอนนี้ ดูจากการที่หนังสือมือสองราคาตก ปล่อยยากขั้น ลิมิตอัพราคาไม่ค่อยได้ ส่วนฝั่ง meb ยอดรีวิวก็ไม่คึกคักเท่าเดิม

แต่ยังห่างไกลกับยุคมืดวงการก่อนโควิดแน่ๆละ

84 Nameless Fanboi Posted ID:HDjX1AWJKk

>>83 แต่ลิมิทหมดทุกอย่าง แถมมีลิมิทรูปแบบเดิมๆ แค่เปลี่ยนหน้าปกออกใหม่ทุกเดือนนะเฮ้ย

85 Nameless Fanboi Posted ID6:iivqsZZu3a

>>84 ให้โอกาสมึงเช็คดูใหม่ว่าหมดทุกอย่างจริงไหม แล้วอย่าให้เห็นนะว่าที่หมดในเว็บแล้วไปโผล่งานหนังสือรอบหน้า

86 Nameless Fanboi Posted ID:HDjX1AWJKk

>>85 ก็เห็นหมดทุกอย่าง เหลือตัวไหนรึ ถ่ายรูปมาดูสิ

87 Nameless Fanboi Posted ID6:ThUQS4GK2c

>>86
https://www.phoenixnext.com/book-series/arya-san.html
https://www.phoenixnext.com/book-series/saenai-boku-ga-kimi.html
https://www.phoenixnext.com/book-series/tobioriru-chokuzen.html
https://www.phoenixnext.com/book-series/ichioku-nen-button.html
https://www.phoenixnext.com/book-series/classroom-of-the-elite/ln.html
https://www.phoenixnext.com/book-series/shin-no-nakama.html

88 Nameless Fanboi Posted ID6:XvmoRj0TLb

ดูแบบนี้ง่ายกว่า
https://www.phoenixnext.com/pre-order.html

เท่าที่สังเกตที่ยังมีของมันของเดือน ตค. ที่กะปั้มไปขายในงานหนังสือ แล้วไม่ทัน ถ้าตัดที่เดือนกันยาถ้าไม่นับรวมเรื่องที่กะปั้มไปขายงานหนังสือ ก็ถือว่าขายดีแหละ

89 Nameless Fanboi Posted ID:HDjX1AWJKk

>>88 เห็นไหมละ ว่ายังขายได้
5555555555555555555555555555555555555

90 Nameless Fanboi Posted ID:FXm2ghx96d

พวกมึง กูทำงานเป็นรีคูดเตอร์สายไอที
กูได้ยินมาว่าเว็บขายอีบุ๊กของสนพ.เขียว ที่เพิ่งเปิดตัว 2-3 ปี กำลังจะปิดวะ แล้วอีบุ๊คที่พวกมึงซื้อจะทำไงวะ

91 Nameless Fanboi Posted ID:FXm2ghx96d

พวกมึง กูทำงานเป็นรีคูดเตอร์สายไอที
กูได้ยินมาว่าเว็บขายอีบุ๊กของสนพ.เขียว ที่เพิ่งเปิดตัว 2-3 ปี กำลังจะปิดวะ แล้วอีบุ๊คที่พวกมึงซื้อจะทำไงวะ

92 Nameless Fanboi Posted ID:J+PafmTkT1

สุดท้ายแล้ว หุ้นจะเป็นไง มันก็ขึ้นกับความสามารถของผู้บริหาร กับปัจจัยหลายๆอย่างอ่ะนะ

93 Nameless Fanboi Posted ID:CYs1ERtsL/

>>91 มันแยกบริษัทออกมาต่างหากนะ ปิดบริษัทรึ

94 Nameless Fanboi Posted ID:Gxo3kXUdjc

อ้าว ไหนว่า อีบุ๊คคือทางรอด

95 Nameless Fanboi Posted ID:7wP2j5HRE+

>>93 ที่กูรู้มานะ ไล่ทีมเว็บออกทั้งทีม 10 คน ไล่แบบปุ๊ปปั๊บ ถ้าทีมทำเว็บไซต์ไม่อยู่เว็บล่ม แอปพัง ก็แย่ดิวะ อีบุ๊คหาย

96 Nameless Fanboi Posted ID6:dXdEJ/QisW

ปรกติแล้วไม่มีบริษัทไหนที่รู้ตัวว่าจะปิดตัวภายใน 2-3 ปีได้นะ

ส่วนมากรู้ตัวว่าไปต่อไม่ได้ก็ปิดเลยแหละ ไม่บ้าพอเอาเงินมาละลายทนขาดทุนต่อเนื่องได้หลายปีหรอก

97 Nameless Fanboi Posted ID6:mEJoknYSom

>>95 ถ้าพูดถึงตัวเว็ปแบบนี้ แค่ซีเนียร์ full stack คนเดียวมันก็ปั่นจบไม่กี่เดือนได้นะ ถ้าไม่ใช้ซีเนียร์พวก server ให้บริษัทดูแล host ที่มีบริการดูแลให้ได้รวมแล้วก็ถูกกว่าจ้างประจำแหละ ถ้ารับมา 10-20 คน อันนี้บ้าเกินรับมาขนาดนี้ก็มานั่งเล่นอ่ะ จำนวนนี้สำหรับ startup มันทำเว็ป marketplace ขนาดกลางค่อนไปทางใหญ่ได้เลย

ถ้าไม่ได้รับมาเผื่อขยายแสดงว่ารับมั่ว กะจะทำ project อะไรต่อ แล้วเข็นไม่ขึ้นก็ปลดออกตัดขาดทุนแหละ เพราะพวกนี้แต่ละคนเงินเดือนใช่ว่าจะน้อย แล้วโยคไปทำงานอื่นในบริษัทไม่ได้

ส่วน app ถ้าไม่ได้ไปทำอะไรประหลาด ใช้ภาษาเดียวกับตัวที่ทำเว็ปได้ ส่วน ebook reader ไม่มีอะไรแปลกแค่อย่าชุ่ย เวลาคำนวน layer ก็พอ

98 Nameless Fanboi Posted ID:8/bNptrpAF

>>95 เห้ยๆ ก็ปิดตัว มันต้องปล่อยไฟล์ให้โหลดบ้างละ กูรูอีบุคเคยกล่าวไว้

99 Nameless Fanboi Posted ID6:Yu1JtCu8sQ

>>95 ถามให้แน่ใจ อันนี้เว็บหรือแอพนะ คือต้องไม่ลืมว่าลืมว่าเว็บกล่องมันมีตัวเล่มขายด้วย เขาโยกส่วนขายรูปเล่มทางออนไลน์ตามมาอยู่กับบริษัทใหม่หมด

เทแอพพอเป็นไปได้ แต่เททั้งเว็บเนี่ยไม่วุ่นตายเลยรึ

100 Nameless Fanboi Posted ID:vBV76wKyhY

>>98 ไม่ได้มาจากกุรูที่ไหน คนที่บอกคือ meb ตอนที่มีคนไปสัมภาษณ์เจ้าเดียว

ส่วนเจ้าอื่นก็ตัวใครตัวมัน ตอนเปิดใหม่ๆ ตัวกล่อง คนรีวิวเรื่องนี้ไปนานแล้วว่าเจ้านี้ไม่ล็อกอินอ่านไม่ได้นี่หว่า

101 Nameless Fanboi Posted ID:8/bNptrpAF

>>100 ครับ
ใช่คนที่กำลังชิ่ง ขายหุ้นออกใช่ไหม

102 Nameless Fanboi Posted ID:eKAUkLdxEt

"ผมมันหุ้นส่วนน้อย ทำอะไรได้"
อ่ะ ซ้อมๆ

103 Nameless Fanboi Posted ID:8/bNptrpAF

ตอนนี้ผมมันหุ้นส่วนน้อยฮะ ไม่ถึง 10 % ก็ไม่รู้ว่าเจ้าของใหม่จะคิดยังไงนะฮะ ผมคงเข้าไปยุ่งมากไม่ได้
กุช่วยหาทางลง

104 Nameless Fanboi Posted ID:BeoA/.hUUd

ถ้าไล่ทีมออก ก็น่าจะไปทั้งแอป ทั้งเว็บป่าววะ

105 Nameless Fanboi Posted ID:eKAUkLdxEt

ประเด็นคือบริษัทมีคนเยอะขนาดนั้นเรอะ

106 Nameless Fanboi Posted ID:vBV76wKyhY

>>104 ไม่นะเว็ปถ้าไม่ทำอะไรมันก็ใช้ได้ไม่พัง ที่ต้องทำคือจ่ายเงินต่ออายุ host ไปเรื่อย ไม่งั้นบริษัทที่ไม่มี it ที่ไปจ้างทำเว็ปก็ขายไม่ได้กันหมดดิ

ส่วน app ที่ต้องทำก็จ่ายค่าบริการรายปี กับเอา app มา build ใหม่เวลามัน update รอบใหญ่เวลาเปลี่ยน ui นานๆ ที เต็มที่ก็ปีละครั้ง ซึ่งตรงนี้ถ้าทำไม่เป็นจ้าง freelance เอาได้ ทำไม่นานนะ

107 Nameless Fanboi Posted ID:09xBT7RKRc

>>100 ตอแหลมาก อย่างมากก็คืนเงิน ขืนปล่อยไฟล์ก็ผิดข้อตกลงกับสำนักพิมพ์โดนเล่นงานตายห่า

108 Nameless Fanboi Posted ID:wNWPrEneYW

>>107 อย่าพูดเสียงดัง เดี๋ยวพวกอวยอีบุ๊คจะรู้ตัวว่าโดนต้ม

109 Nameless Fanboi Posted ID:RDaP6P2Irb

>>107 เอ่อ ทำได้สบายนะแบบไม่ละเมิดนะ file ติด DRM เปิดได้ผ่าน app อย่างเดียว. ถ้าไม่ดูแลต่อก็เปิด open source ฝั่งตัว app จบ ส่วนเช็คจำกัดจำนวนการใช้งานใช้โปรโตคอล IOT ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ server เลยก็ได้ ให้คนในระบบที่เหลือคอย prove กันเอง หรือถ้าไม่แก้อะไรจะต่อ server ไปเรื่อยก็ได้เหมือนกัน ปรับลดขนาดหน่อยก็เหลือจ่ายเดือนละไม่กี่เท่าไหร่ ตั้งให้หักบัตรไว้จะจ่ายกี่ปีก็ได้

>>95 ส่วนข่าวลืออันนี้ แปลกใจว่ามั่วปล่าววะบริษัทกล่องมันไม่น่าจะใช้คนขนาดนั้นนะ ขนาดบริษัททำเว็ปขายเอง บางที่ทีมเว็ปยังมีคนทำงานไม่ถึงสิบคน แล้วตะหงิดๆ ตรง 2-3 ปี ? เวอร์ไปเต็มที่ ขาดทุนซักครึ่งปีก็ไม่อยู่แล้ว

อันที่เป็นไปได้คือ ลดต้นทุนแล้ว move ไปรวมกับ บ.แม่ เพราะค่า server มันไม่ได้แพงอะไร แล้วระบบถ้ามันนิ่งแล้วถ้าลดต้นทุน แค่เหลือคนคอย support update หลังบ้าน ซักคนสองคนก็พอ

110 Nameless Fanboi Posted ID:+K1cZbexV.

จะไล่ใครก็ไล่ไป อย่าให้ ebook กูปลิวนะ

111 Nameless Fanboi Posted ID:09xBT7RKRc

>>109 ตั้งไว้หักบัตรอะไรไม่ใช่คนปกติจ่ายค่าไฟ ถ้านิติบุคคลมันไม่มีแล้วไม่มีรายได้เข้าแล้วจะไปหักจากไหนใครจะเป็นเจ้าภาพ
เปิด open source ได้เหรอ ระบบ DRM มันทำเองเหรอ
จะเปลี่ยนแปลงวิธีการเช็คก็ต้องจ้างคนมาทำจ้างคนมาดูแลระบบอยู่ดีไม่งั้นก็ไม่ต่างกับปล่อยทิ้ง

112 Nameless Fanboi Posted ID:JFBEwZOeiJ

มันมีความเสี่ยงทั้งเรื่องเจ๊ง และยอดรายได้เลยจุดพีคไปแล้ว
เอาเรื่องเจ๊งก่อน ถ้ามึงแถว่า COL มีเป็นแสนล้านไม่เจ๊งแน่ๆ แต่โลคัลไทยที่ถือ LC ละ เจ๊งไหม
ถ้าเจ๊ง LC มันไหลกับไปที่ชาวเกาะ e book ก็ทำต่อไม่ได้นะจ๊ะ หรือมึงอยากเสี่ยงเป็น ebook ไพเรท ?
บริษัทในตลาด แถมมีเป็นแสนล้าน กล้าทำ ?
เรื่องรายได้ กุเห็นด้วยว่าเลยจุคพีค หลังจากนี้ยอดเพิ่มเพราะปกใหม่ๆ กับลูกค้าใหม่ๆ
ตัวไหนจะไหลเข้าระบบมากกว่ากัน ?
ซึ่งคงช้าพอๆ กันแล้ว
นี่แหละ เฮียใช้ถึงทิ้ง ฉลาดๆ แบบมัน อยู่กับข้อมูลทั้งวัน ทำไมจะไม่เห็นเทรนด์วะ ?

113 Nameless Fanboi Posted ID:RDaP6P2Irb

>>111 ก็ย้ายไป IOT ไม่ต้องใช้ server ใช้เครื่องใครก็ได้ที่ต่อเน็ตให้เช็คกันเอง แล้วเครื่องที่เหลือในระบบมัน prove สิทธิ์กันได้โดยซิงค์เป็นเสียงข้างมากกัน hack หรือ attack โกงได้ด้วย ก็เหมือนย้าย db ไปไว้บนโปรโตคอลใหม่แค่นั้น

ส่วน DRM มันไม่ได้แจกรายตัวอยู่แล้ว DRM ตัว master key เหมือนทุกวันนี้ตัวเดียวไม่ได้ gen ใหม่ทุกครั้ง

114 Nameless Fanboi Posted ID:vBV76wKyhY

>>112 เจ้าไหนเจ๊งก็ไม่ได้หมายความว่าโหลดไม่ได้นิ แค่ถอดออกหน้าร้านแค่นั้น ที่ผ่านมา sic vbk มันก็ถอดออกไปหลายเรื่อง แต่คนซื้อไปแล้วยังโหลดมาอ่านได้ปรกติ

115 Nameless Fanboi Posted ID:vBV76wKyhY

>>111 บริษัทในเครือ col มันมีตั้งกี่บริษัท กะอีแค่ฐานข้อมูล เอาไปฝากแปะไว้หน่อยก็ได้

116 Nameless Fanboi Posted ID:Uk+DeFz15b

>>109 มึงต้องถามว่า "มีคนแค่นี้เองหรอ" มากกว่า ถ้ามี 10 แสดงว่าเว็บกล่องต้องมีส่วนให้สต๊าฟหลังบ้านทำงานด้วยรึเปล่า แล้วคนอื่นแผนกอื่น มันมีกี่คนวะ
อันนี้กูคิดคร่าวๆ นะมีเว็บ มีแอป มีอีบุ๊ค มีตอบคำถามหลังบ้านที่ค่อยรับตีน มีรับเคลม ไหนจะแอดมินหลังบ้านค่อยใส่สินค้าอีก
มันดูใหญ่กว่าที่คิดอีกนะ ถ้าทำขนาดนี้เว็บมีโปรแกรมเมอร์ 10 คน กูว่าธรรมดา

117 Nameless Fanboi Posted ID:JFBEwZOeiJ

>>116 ดูจากงบที่ส่งกระทรวง
คาดว่ามีคนงานไม่เกิน 15 คน
ยกเว้นมึงจ่ายค่าแรงเป็นรายวัน แล้วซุกเป็นต้นทุนอื่น

118 Nameless Fanboi Posted ID6:bIb0Xym5Ql

>>116 งาน support หนังสือเล่ม มันไม่เกี่ยวกับโปรแกรมเมอร์เลยนี่หว่า แล้วแอปกับเว็ปโปรแกรมเมอร์คนเดียวทำได้ กูทำอยู่ software house ระบบประมาณนี้รวมแอพเริ่มจาก 0 เฉลี่ยถ้าทำคนเดียวก็ 4-6 เดือนได้นะ ถ้างานแค่นี้ใช้โปรแกรมเมอร์ทำกันเป็น 10 มึงจะเปิดอาลีบาบาเรอะ

119 Nameless Fanboi Posted ID:s/ZxtVel3C

นอกจากเป็นโปรแกรมเมอร์ มึงต้องนั่งแพ็คหนังสือด้วย

120 Nameless Fanboi Posted ID:3WKuPurx1x

ถ้าเทียบกับ jib ที่ว่าจะipoปีหน้า อันไหนน่าสนใจกว่ากันนะ

ส่วนตัวมองว่าทางสายอุปกรณ์คอมอุตสาหกรรมก็อิ่มตัวสุดๆพอกัน

121 Nameless Fanboi Posted ID:bgKLtOOqk+

hw คอมกว่าจะราคาดีอีกรอบก็ 2025-2026
ตอนนี้ก็ซึมยาวไปก่อน

122 Nameless Fanboi Posted ID:3WKuPurx1x

ธุรกิจมือถือเนี่ย น่าจะ อิ่มตัวสุดๆแล้วใช่มะ คือไม่น่าจะโตไปได้มากกกว่านี้ละ

Posts limit exceeded

Topic has reached maximum number of posts.

Please start a new topic.

Be Civil — "Be curious, not judgemental"

  • FAQs — คำถามที่ถามบ่อย (การใช้บอร์ด การแบน ฯลฯ)
  • Policy — เกณฑ์การใช้งานเว็บไซต์
  • Guidelines — ข้อแนะนำในการใช้งานเว็บไซต์
  • Deletion Request — แจ้งลบและเกณฑ์การลบข้อความ
  • Law Enforcement — แจ้งขอ IP address

All contents are responsibility of its posters.