นายกูแม่งไปรับงานที่ตัวเองไม่มีความสามารถมากพอ เหตุผลที่ได้งานนี้ก็เพราะสนิทกับคนญี่ปุ่นที่เป็นผู้ว่าจ้าง และช่วงนี้มันมีโควิดคนญี่ปุ่นเลยบินเข้ามาทำงานในไทยไม่ได้ นายกูเลยได้งานไปแบบงงๆ
เริ่มงานวันแรกงานล่าช้าไปอย่างงดงามตามที่กูคาด เพราะนายกูไม่ถนัดงานประเภทนี้อยู๋แล้วแต่เสือกไปรับมา วันที่สอง งานคืบหน้าไปได้ดีเพราะผู้รับเหมา บ. อื่นเขาเข้ามาทำงานวันนี้งานเลยเสร็จไวมาก วันที่สามงานก็เสร็จไวเหมือนวันที่สอง วันที่สี่กับวันที่ห้า สาหัสสัดๆ เพราะนายกูเป็นหัวหน้าคุมงานแต่เสือกให้คำแนะนำคนงานไม่ได้ คุยโทรศัพท์อย่างต่ำวันละสองชั่วโมงเพื่อปรึกษากับคนญี่ปุ่น บอกให้คนงานหยุดทำงานก่อน ส่วนตัวเองไปคุยโทรศัพท์ คุยเป็น ชม. ก็ยังไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงต่อดี พวกคนงานก็เซ็งเพราะเขาอยากทำงานให้เสร็จ และทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจว่าตัวเองแก้ปัญหาได้แต่เสือกถูกห้ามไม่ให้ทำ
(วันที่สองกับวันที่สามงานไปได้ดีเพราะฟังคำแนะนำของผู้รับเหมารายอื่น วันสี่กับวันที่ห้าเป็นควยไรไม่รู้อยากโชว์พาว?เลยออกคำสั่งเองทุกอย่าง แต่ด้วยความกากไม่รู้งาน งานก็เดินแบบเอื่อยเฉื่อย กูก็โมโหให้คำแนะนำไปก็เสือกไม่ฟัง)
สรุป กูเบื่อนายกูชิบหายเลยว่ะ เคยเถียงเรื่องปัญญาอ่อนที่สุดเลยคือตอนที่เติมน้ำมัน มันมีข้อความโฆษณาว่าถ้าเติม B20 ครบ ... บาท จะได้น้ำขวดใหญ่สองขวด แม่งไม่เข้าใจนึกว่ารถกำลังเติมน้ำมัน B20 อยู่ กูก็อธิบายไปดิครับ ว่านี่ครับมันมีข้อความว่ากำลังเติม E20 อยู่ และดูที่หัวจ่ายก็รู้แล้วว่ารถเติมน้ำมันอะไรอยู่ แม่งก็หงุดหงิดที่ตัวโชว์โง่ หาเหตุผลปัญญาอ่อนบอกว่า " ถ้ามีข้อความที่่มีคำว่า B20 คนอาจจะงงว่ากำลังเติมอะไรอยู่" กูก็บอกไปอีก ก็บอกแล้วว่ามันมีข้อความว่า "กำลังเติม E20 อยู่" (ผิดที่แม่งเป็นยุ่นเลยอ่านไทยไม่ออก) แม่งก็ปัญญาอ่อนอืก บอกกูว่าเอ๊ะรู้จักน้ำมัน B20 ด้วยเหรอ .... กูนี่แบบ กูเถียงกับควายอยู่ป่าววะ ถ้าไม่รู้เรื่องก็หุบปากและปล่อยให้ Staff คนไทยทำงานไปเหอะ งานเหนื่อยยังต้องมาเจอนายปัญญาอ่อนอีก